สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27  (อ่าน 134090 ครั้ง)

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
คุณธนิก!!! ชื่อคุณโชว์หราเป็นชื่อเรื่องขนาดนี้ จะตายได้ยังไง
น้องขวัญถ่ายรูปยั่วเผาส่งไปเลย จะฟื้นไม่ฟื้น ห้ะ!!

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รู้จักคุณธนิก เราเคยบอกว่าเขาคือคนที่ควรได้ความรักมากที่สุดจนถึงตอนนี้เราก็ยังคิดแบบนั้น เขาเป็นคนที่เราพยายามโกรธแต่โกรธจริงๆไม่ลงสักที ใจเราบอกว่าคุณธนิกไม่ตายหรอก แต่ที่กลัวคือตื่นขึ้นมาแล้วจำใครไม่ได้ กลัวประโยค "สวัสดีครับคุณธนิก"จะเป็นประโยคทักทายเพื่อทำความรู้จักกันใหม่ของน้องขวัญกับเขา ส่วนน้องขิมเราว่าคงมีความสุขแล้วเนอะ ขนิษฐาได้บทเรียนราคาแพงไปคงไม่ทำเรื่องแล้วนะ ส่วนเขมรัตน์...ตอนนี้เขาได้บทเรียนหรือผลตอบแทนสมกับสิ่งที่ทำหรือยังน่ะ เหลือน้องขวัญที่จะมีความสุขแบบออฟฟิเชียลเมื่อไหร่? ตอนหน้าเนอะ55555

ปล.แนนคือยิ่งกว่าเพื่อน พี่คนโตของของแฝด เป็นยิ่งกว่าพ่อขวัญอีก รักพี่เพื่อนแนน♡

ออฟไลน์ Mafiaziip

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
อยากกอดขวัญพัฒน์แรง ๆ ฮือออออออออ นี่อินตามไปหมดแล้วอ่ะ  :hao5: :hao5: :sad4: :sad4:

เจ็บปวดแบบทรมานมาก อ่านไปหยุดไป  :ling1: น้องขิมโชคดีที่ไม่เป็นไรแล้ว ต่อไปขอให้มีแต่ความสุขนะ แข็งแรงไว ๆ  :กอด1:

ขอให้พี่นิกปลอดภัย จะได้ขึ้นรถไฟไปเที่ยวพร้อมน้องขวัญนะพี่  :mew2:

ตอนหน้าก็จบแล้ว OMGGGGGG  :serius2:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
นั่งเปิดเครื่องดูดฝุ่นรอพี่นิกนะ

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอยย หน่วงมากก

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ไรท์จ้า.. เราอ่านวน รอ พี่นิก ทั้งวันอ่ะ
 :katai1:
มาเร็วน้าาา  :hao5:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
รอ  :z2:
 :z3:

 :z10:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
จะหมดแรงตามขวัญแล้วขอให้ฟื้นนะคุณธนิกอย่าให้ขวัญต้องอยู่แบบนี้เลย :monkeysad: :impress3:

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 27 (End)



“โทรมมาเลยนะไอ้ห่า กูบอกแล้วไงว่าก่อนมาหาลูกสาวกูให้โกนหนวดด้วยไอ้เวร” ไอ้แนนกำลังบ่นผม ตอนนี้มันกลายเป็นพ่อลูกอ่อนอย่างเต็มตัว เมื่อก่อนฝนอาจจะบ่นเก่งแต่ตอนนี้ไอ้แนนบ่นเก่งยิ่งกว่า มันบ่นทุกเรื่องในชีวิต สากกะเบือยันเรือรบและที่มันบ่นมากที่สุดก็คือเรื่องของผม บ่นไปด้วยซักผ้าอ้อมลูกไปด้วย บันเทิงดีเหมือนกันแต่เอาเข้าจริงก็อยากให้บ่นให้น้อยลงหน่อย ไม่อย่างนั้นฝนอาจจะขอหย่ากับมันแล้วพาน้องนาย ลูกสาววัยหนึ่งปีกับอีกหนึ่งเดือนหนีไปก็ได้

“ไม่มีเวลาไง” ผมแก้ตัว แต่ก็ไม่ใช่คำแก้ตัวซะทีเดียวเพราะตารางชีวิตของผมก็ไม่ว่างจริงๆ “ช่วงนี้ยุ่งกับงานศพด้วย แต่อีกสองวันก็เผาแล้ว หลังจากนี้คงยุ่งน้อยลงหรืออาจจะยุ่งมากขึ้นก็ไม่รู้”

ไอ้แนนเหลือบตามองผม มันเสร็จจากการซักผ้าอ้อมก็มาล้างขวดนมต่อ “มึงโอเคใช่ไหม”

“ไม่โอเคแล้วทำอะไรได้วะ” ผมถามกลับ ยกมือคลายปมเนคไทออกเล็กน้อย “ยังไงก็ต้องยอมรับให้ได้”

“ดีแล้วที่คิดได้แบบนี้”

ผมพยักหน้า ก่อนจะหลบตาพิงหัวกับกรอบประตู “ผ่านมาปีกว่าๆ แล้วเหรอวะ แต่กูยังรู้สึกเหมือนผ่านมาแค่สองสามวัน”

“ไปนอนดีๆ ไปไอ้ห่า อดนอนมาอีกแล้วสิเนี่ย” ไอ้แนนออกปากไล่ “ไปนอนกับลูกกูไป นอนกลางวันอยู่อะตอนนี้ ใบหน้าตอนนอนของลูกกูคงช่วยบรรเทาจิตใจคนบาปหน้าโจรอย่างมึงได้บ้าง รับรองว่าเห็นแล้วหลับสนิท แก้มยุ้ยๆ เป็นยานอนหลับชั้นเยี่ยม”

“แค่ไม่โกนหนวดมึงกล่าวหากูว่าเป็นโจรเลยเหรอวะ”

“ก็ดูสภาพ แฝดน้องของมึงเปล่งปลั่งอย่างกะแดกพระอาทิตย์เข้าไปทั้งลูก แต่มึงนี่เหมือนอมเมฆสีอึมครึมเข้าไปทั้งก้อน” ไอ้แนนเปรียบเทียบซะผมเห็นภาพ เพราะไม่ผิดจากที่มันพูด เขมินทราแฝดน้องของผมตอนนี้มีแค่เรื่องเดียวที่ทำให้มันเศร้าได้ก็คืออาหารมื้อที่กินอยู่ไม่ถูกปาก นอกนั้นชีวิตของมันแฮปปี้จนน่าถีบ

ตอนนี้ผมอยู่กับมันที่คอนโดฯ หลังจากมันออกจากโรงพยาบาลก็ย้ายไปอยู่ด้วยกัน เพราะผมอยู่ในบ้านของคุณธนิกไม่ไหว แม้บ้านหลังนั้นจะเป็นชื่อของผม แต่ผมจะไม่กลับไปจนกว่าเจ้าของบ้านอีกคนจะกลับมา แม้ความหวังจะริบหรี่เต็มที แต่นั่นแหละ ผมก็มีชีวิตหนึ่งปีกว่าๆ ด้วยความหวังลมๆ แล้งๆ ของผม ร้องไห้บ้าง นอนไม่หลับบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้อย่างทุลักทุเล

“ไอ้ขิมมันก็มีความสุขของมันนั่นแหละ ส่วนกูจะมีเรื่องกลุ้มใจบ้างก็ไม่แปลก” ผมไหวไหล่ตอบอย่างไม่ใส่ใจกับสายตาห่วงใยของไอ้แนน

“พูดถึงมัน มันเลิกตบตีไอ้พี่โมหรือยังเถอะ วันก่อนไอ้พี่โมอุ้มมาเยี่ยมลูกกู เห็นมันทั้งถีบทั้งตบเวลาไอ้พี่โมขัดใจ” ไอ้แนนถาม ส่วนผมหลุดหัวเราะทันทีเพราะคำถามของมันทำให้นึกถึงเรื่องตลกของสองคนนั้นขึ้นมา

“ไอ้ขิมบอกว่ามันจะทำไปอีกสองปี แต่มันก็บ่นบ่อยๆ ว่าขี้เกียจแสดงละครแล้ว กูก็บอกให้มันเฉลยให้จบๆ ไป แต่มันก็ดื้อ พอเวลาที่พี่โมมันกลับ ไอ้ห่าขิมแม่งลุกมาวิ่ง คึกยิ่งกว่าคนติดม้า ถ้าตำรวจบุกคอนโดฯ นี่มันต้องสงสัยไม่เสพก็ขายว่ะ ดึกๆ ลำบากกูนี่ต้องไปเป็นเพื่อนมันวิ่งออกกำลังกาย กูโคตรอยากถามพี่โมว่ามันไม่สงสัยเหี้ยไรเลยเหรอ ปกติคนเดินไม่ได้ แข้งขาก็ต้องลีบปะวะ แบบไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อ แต่ขาไอ้ขิมคือถอดตีหัวคนตายได้ ใหญ่ยิ่งกว่าขาโต๊ะสนุ๊ก มันแดกดุด้วย พี่โมก็ตามใจไม่ขัด ดูแลดีอย่างกับน้องกูเป็นง่อยที่มือ ป้อนได้ป้อน เคี้ยวได้คงเคี้ยวให้แล้ว”

“ดูมึงมีความอิจฉา” ไอ้แนนยิ้มเย้ย “อยากมีแบบนั้นบ้างก็หาสักคน มึงจะมาเหี่ยวเฉาอย่างนี้ไม่ได้แล้ว”

“จะให้กูไปเอาใครที่ไหนวะ” ผมก็รู้แหละว่าไอ้แนนห่วง แต่การอยู่คนเดียวในตอนนี้ผมก็ไม่ได้เดือดร้อน ผมโอเคกับทุกอย่าง โอเคกับการพูดคุยอยู่ฝ่ายเดียว โอเคกับแค่ได้มองแล้วก็จับมือเขาไว้ บางเวลาที่ท้อและเครียดมากๆ ผมก็แค่มองเขาอยู่เงียบๆ “กูมีความสุขในแบบของกูแล้วไอ้แนน มึงไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องเหงาเรื่องเงี่ยนก็มีบ้าง”

“อย่าบอกกูนะว่ามึงไปช่วยตัวเองต่อหน้า... ไอ้ขวัญ!!! มันไม่ใช่อย่างที่กูคิดใช่ไหม!”

“ไอ้สัด!” ผมถึงกับต้องลุกไปตบหัวเรียกสติไอ้แนนหนึ่งที จนขวดนมลูกสาวมันหลุดจากมือตกไปในน้ำดังจ๋อม “เรื่องแบบนั้นก็ทำในที่ส่วนตัวดิวะ รูปเขาในมือถือกูก็เยอะแยะ”

“แต่ไม่ปฏิเสธสินะว่าทำ มึงนี่มัน...คนจัญไร”

“กูก็ผู้ชายไหมล่ะ เวลาไอ้ขิมกับพี่โมมันจิ๊จ๊ะกัน กูก็อยากทำกับแฟนกูบ้าง” ผมว่าพลางถอนหายใจ ไอ้แฝดนรกของผมมันชอบแรดไม่ดูเวลาและสถานที่ หรือบางทีมันก็ไม่รู้ว่าผมกลับจากโรงพยาบาลมาเร็วกว่าปกติ ผมบอกใช่ไหมว่าพี่โมตามใจมันทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่ต้องใช้ปากให้ “พี่โมแม่งก็โง่ว่ะ นอกจากไม่สังเกตอะไรแล้ว ยังไม่สงสัยว่าทำไมไอ้ขิมมันร่อนเอวเก่ง”

“พวกมึงนี่มันคู่พี่น้องจัญไร ถ้ากูไม่รู้ว่าเคยพรากจากกันมายี่สิบกว่าปี กูคงคิดว่าพวกมึงอยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต”

ผมหัวเราะกับคำพูดของไอ้แนนโดยไม่โต้เถียง ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกแล้วยืดตัวบิดขี้เกียจ ผมรู้สึกเมื่อยไปทั้งตัว เพราะใช้เวลานั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วยนานเกินไป

ชีวิตประจำวันของผมมักจะวนเวียนอยู่แค่ไม่กี่ที่ หลักๆ ก็ที่โรงพยาบาล รองลงมาก็บ้านของไอ้แนนเพราะอยากมาเล่นกับลูกสาวของมัน ที่เหลือก็ที่...มหาวิทยาลัย

ใช่ครับ...ผมเข้าเรียนแล้วเมื่อครึ่งปีก่อน เป็นครั้งแรกที่ผมใส่ชุดนักศึกษาและคนแรกที่ผมใส่ไปให้ดูก็คือคุณธนิก ผมเอาชุดนักศึกษาที่เขาซื้อให้มาใช้แล้ว แต่กลับร้องไห้จนแขนเสื้อเปียกไปหมดเพราะเขาใจร้าย...ไม่ตื่นขึ้นมาดู

คุณธนิกผอมลงมาก แทบไม่เหลือคราบคนหนุ่มสุขภาพดี ไม่เหมือนในนิทานเจ้าหญิงนิทราที่ต่อให้หลับไปนานแค่ไหนแต่สภาพก็ยังสวยสดงดงาม นิทานมันก็ยังเป็นนิทาน เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ที่มีปาฏิหาริย์ มีพรจากนางฟ้า แต่ในความเป็นจริงแล้วผมกลับต้องทนมองร่างกายของเขาทรุดโทรมลงทุกวัน ผมมักจะใช้เวลาอยู่กับเขาในห้องพักผู้ป่วย มองดูการเปลี่ยนแปลง เล่านั่นนี่ให้ฟังโดยไม่ท้อใจแม้จะไม่มีเสียงใครตอบกลับมา ทุกเช้าและเย็นจะต้องทำกายภาพบำบัดให้เขา หากวันไหนผมติดธุระ พี่โมจะเข้าไปดูแลแทน ส่วนคุณธนิษฐาเธอมาไม่ค่อยไหวแล้ว การตรอมใจของผู้หญิงอายุค่อนข้างเยอะทำให้สภาพร่างกายเจ็บป่วยจนตอนนี้เธอลุกจากเตียงไม่ไหวแล้วเช่นกัน

“ไอ้ขวัญ เหม่ออีกแล้วนะมึง” เสียงของไอ้แนนปลุกผมจากภวังค์ “กูถามได้ยินไหม”

“ถามไรวะ”

“ถามว่าคุณธนิกเป็นไงบ้าง” ไอ้แนนทำหน้าหงุดหงิดใจ

“ก็เหมือนเดิม แต่เพิ่งผ่าตัดเลือดคั่งอีกจุดไปต้นเดือน เลยได้มาลุ้นอีกที” ผมบอกแล้วขยับศีรษะไปทางซ้ายและขวาเป็นการกายบริหารไปในตัว “แต่มีหวังแหละ คราวนี้กูหวังมากหน่อย เคยมีเคสของคุณธนิกที่รักษาได้เหมือนกัน หมอเจ้าของไข้เขาก็ช่วยเขียนจดหมายไปหาหมอที่เยอรมัน คือถ้าที่เยอรมันรับเคส กูก็พร้อมบิน สภาพร่างกายคุณธนิกตอนนี้ก็โอเคกับการเดินทางนานๆ กูอาจจะไปเรียนที่นู่นเลย แต่ก็ยังกังวลอยู่ว่ามีแค่เงินแต่ไม่มีสมองจะรอดมั้ย กูยิ่งโง่ๆ ภาษาอยู่ แค่แบบ...มีเงินอะ จะทำอะไรก็ได้”

“มึงเป็นคนรวยอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” ไอ้แนนทำหน้าหมั่นไส้เสียเต็มประดา ถ้าไม่ติดว่ามันกำลังขัดจุกนม มันคงลุกมาตบตีผมแล้ว

“นั่นสิวะ” ผมย้อนถามเสียงกลั้วหัวเราะ “นี่ขนาดยังไม่อ่านพินัยกรรมนะ แม่งรวยไม่รู้เรื่องแล้ว รถเวฟกูที่ขายได้นี่เศษเงินไปเลย”

“น่าหมั่นไส้จริงๆ ไอ้ห่าเอ้ย!”

ผมหลิ่วตาเพื่อให้ไอ้แนนเพิ่มความหมั่นไส้ยิ่งขึ้น “กูจะเป็นเด็กนอกแล้วนะ กลับมาอีกทีกูจะหยิ่งให้มึงดู”

“เออ หยิ่งได้หยิ่งไปเถอะ แต่อย่าหวังว่ากูจะให้มึงอุ้มลูกกูอีก”

“อย่าเอาเรื่องนี้มาขู่กูไอ้แนน มึงก็รู้ว่ากูไม่สู้ ตอนนี้หลานเป็นสิ่งเยียวยาจิตใจอย่างเดียวที่กูมีอยู่”

“ไอ้สัด เล่นใหญ่ไปเพื่อ” ไอ้แนนทำหน้าปลงๆ ใส่ผม “แต่มึงเข้มแข็งอย่างนี้ก็ดีแล้วล่ะ อยู่กับมันได้ก็ดีแล้ว หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูก็คิดว่ามึงคงทำใจได้ในระดับหนึ่ง”

“ไม่รู้ดิ” ผมส่ายหน้าอย่างไม่มั่นใจ “กูไม่ได้คิดว่าเขาจะไม่อยู่ ในฝันของกูก็ยังเห็นเขา ฝันเรื่องเดิมซ้ำๆ ในฝันจนกระทั่งตื่นกูได้แต่หวังว่าสักวันตัวกูจะรั้งเขาไว้ได้หรืออาจจะได้ขึ้นรถไฟไปกับเขา ไม่ใช่นั่งรออยู่ที่ชานชาลาคนเดียว ภาพในฝันของกูจบแค่นั้นตลอด จนกูรู้สึกว่าแค่หลับตาลงก็ไม่ใช่จะหนีความทรมานพ้น มันทรมานทุกลมหายใจเลยว่ะไอ้แนน แต่กูก็ยังต้องหายใจต่อ แล้วถ้าเขาไม่อยู่ กูก็ไม่รู้แล้วว่าจะเป็นยังไงต่อจากนี้”

“อย่าคิดสั้นก็พอ ปล่อยให้ชีวิตมันดำเนินต่อ มันอาจจะยาก แต่มึงคิดสิว่าสักวันทุกคนก็ต้องไป ไปช้าหรือเร็ว ถ้าเขาต้องไป ก็แค่ให้เขาไปรอมึงก่อน ให้เขาได้รอมึงบ้าง จนกว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง จนกว่าจะได้อยู่ด้วยกัน เชื่อกูไอ้ขวัญ”

“ตั้งแต่มีลูก มึงก็พูดอะไรดีๆ มากขึ้น” ผมมองหน้าไอ้แนนอย่างซึ้งใจ “ขอบใจนะเว้ยที่ไม่ตัดเพื่อนกับกูตั้งแต่ที่กูแดกยางลบสตรอเบอร์รี่ของมันตอนนั้น”

“พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ รวยแล้วก็ซื้อมาคืนเลยไอ้ห่า ซื้อมาให้ลูกสาวกู”

“บอกแล้วไงว่าอุปกรณ์การเรียนและเรื่องเรียนทุกอย่างกูจะเป็นทุนให้ลูกมึงเอง” ผมบอกอย่างหนักแน่นเพราะตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว “ลูกมึงต้องได้เรียนโรงเรียนดีๆ นะเว้ย กูไม่อยากให้ไปอยู่โรงเรียนอย่างที่เราเคยอยู่ แม่งต้องเจอพวกไอ้วันกับไอ้ทิวแกล้งทุกวัน ขืนให้ลูกไปอยู่แบบนั้นได้โดนเปิดกระโปรง ดึงผมเปียเล่นแน่ๆ”

“มึงก็เวอร์เกิน”

“ไม่เวอร์ มีกำลังก็ส่งเสริมให้ถึงที่สุด ยังไงกูกับแฟนก็ไม่มีลูก น้องกูถ้าไล่ให้มันมีเมียคงชักดิ้นชักงอตาย ให้กูเป็นพ่อทูนหัวลูกมึงนั่นแหละ ไม่สิ กูต้องเป็นแม่ เพราะพี่นิกจะเป็นพ่อ เขาเป็นผัวกู”

“มึงนี่มัน...” ไอ้แนนคงหมดคำพูดจะต่อว่าผม มันจึงได้แต่แยกเขี้ยวมาให้

ผมหัวเราะเยาะมันก่อนจะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นดู ลุงกล้วยส่งข้อความมาบอกว่าอยู่หน้าปากซอยแล้ว

“กูไปก่อนนะ จะไปโรงพยาบาลก่อนไปวัด วันนี้พวกบอร์ดบริหารไปกันครบทุกคนด้วย คุณแขไขบอกให้กูไปทำความรู้จัก” ผมบอกลาไอ้แนน รู้สึกเบื่อหน่ายทันทีเมื่อคิดว่าต้องใส่หน้ากากเข้าสังคมและงานนี้ก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นงานศพของคุณเขมรัตน์ พ่อแท้ๆ ของผมเอง

ถามว่ารู้สึกอะไรไหม ก็มีบ้างครับแต่นิดเดียว เพราะเขาก็ป่วยมานานแล้ว มาทรุดลงหลังจากที่ได้เคลียร์กันไม่นาน จากนั้นก็แย่มาเรื่อยๆ แล้วก็เพิ่งจากไปเมื่อสี่วันก่อน คนที่ร้องไห้จนตาบวมก็มีเขมินทราแฝดน้องของผม มันเป็นคนอ่อนไหวง่าย ในขณะที่ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละครับ ไม่ได้อินไปกับมัน ส่วนคนที่เหลือก็ตามนั้น เสียใจบ้างแต่ไม่มีใครฟูมฟาย คุณแขไขก็ดูจะทำใจไว้ล่วงหน้า อย่างที่บอกว่าไม่ใช่การจากไปปุบปับ ทุกคนมีเวลาเตรียมใจ คุณธนิษฐาไม่ได้มางาน เธอดูจะทรุดหนักลงตั้งแต่ที่คุณเขมรัตน์อยู่แต่ในห้องซีซียู จนตอนนี้ผ่านงานศพมาสี่วันแล้วเธอก็ยังไม่สามารถมาร่วมงานได้ ผมไม่เคยไปเยี่ยมเธอหรอกนะครับ แต่ก็รู้ข่าวจากพี่โมที่เป็นคนดูแลเธอมาตลอด

หากคิดถึงคุณธนิษฐาก็ต้องคิดถึงคุณนิ่ม ผู้หญิงคนนี้หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ซึ่งผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เธอไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศหลังจากจบคดีความ พ่อแม่ของเธอมาขอโทษพวกผมด้วยตัวเอง ในขณะที่ลูกสาวยังดื้อแพ่ง นี่แหละครับ พ่อแม่รังแกฉัน แต่ผมก็เข้าใจว่าไม่มีใครอยากเห็นลูกของตัวเองเข้าคุก ไม่ว่าลูกจะดีหรือจะร้ายแค่ไหน ยังไงก็เป็นลูก กระบวนการทางกฎหมายนั้นผมไม่รู้ ไม่ได้ติดตาม แต่รู้อีกทีเธอก็ไม่อยู่ประเทศไทยแล้ว เขมินทราจึงทำได้แค่สาปส่งให้เครื่องบินที่เธอนั่งตกทะเล แต่พอมาคิดได้ว่ามีผู้โดยสารคนอื่นอยู่ด้วยก็ไขว้นิ้วแทบไม่ทัน เปลี่ยนมาแช่งให้เดินลงจากบันไดเครื่องบินแล้วตกจากส้นสูงหัวกระแทกพื้นแทน

นั่นแหละครับ ไอ้แฝดนรกของผมมันก็บ้าๆ บอๆ แบบนั้น ถามว่ามันแค้นไหมมันก็แค้น แต่ให้จริงจังอยากเอาคืนไหมมันก็ไม่อยากเสียเวลาชีวิตไปมากกว่านี้ เพราะตอนนี้พวกเราก็มีความสุขกันดีแล้ว

เรื่องราวต่อจากนี้ก็ให้เป็นเรื่องของอนาคตก็แล้วกัน อาจไม่ได้สมบูรณ์แบบหรือสวยงามอย่างที่หวังเอาไว้ แต่ผมเชื่อว่าแค่เราพอใจ เราก็สามารถยิ้มอย่างมีความสุขได้









แปดเดือนต่อมา...

Friday, 03:40 PM

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: สถานีรถไฟห้าชั้นที่เบอร์ลินเล่นงานผมอีกแล้ว พี่นิกต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่าผมหลงทาง

ขวัญพัฒน์: แต่ผมมาที่นี่ร้อยครั้งแล้วนะ! ทำไมยังหลงทางอยู่ก็ไม่เข้าใจ

ขวัญพัฒน์: คุณวัฒน์บอกว่าถ้าเป็นพี่นิกก็ต้องหลงแน่ๆ รู้ไหมว่าเขานินทาพี่ให้ผมฟังเยอะแยะ

ขวัญพัฒน์: ตื่นมาแล้วต้องตีเขาแรงๆ เลยนะ นอกจากจะชอบนินทาพี่นิกแล้วเขาก็ไม่ยอมกลับประเทศไทยสักที

ขวัญพัฒน์: คุณแขไขจิกเขาทุกวัน แต่เขาก็เอาผมกับพี่ไปอ้าง บอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อน แต่ความจริงเขาเที่ยวทุกวัน วันก่อนเขาไปมิวนิคมาด้วย มีรูปสวยๆ เยอะเลย ผมเก็บไว้ให้แล้ว ไว้เรามาดูด้วยกันนะ ไม่สิ ไว้เราไปถ่ายด้วยกันดีกว่า

ขวัญพัฒน์: วันนี้ภาษาเยอรมันของผมก็ไม่คืบหน้า ทำยังไงถึงจะเก่งเหมือนพี่นิก ผมคงเป็นคนเดียวในคลาสที่โง่มากๆ ผมฟังไม่เข้าใจเลย ภาษาอังกฤษก็งูๆ ปลาๆ ท้อแล้ว

ขวัญพัฒน์: แต่พอดูรูปของพี่นิกผมก็มีกำลังใจ เวลาเห็นพี่นิกยิ้มเหมือนพลังงานจะล้นอยู่ในอกผม คุณวัฒน์บอกว่าผมเวอร์อีกแล้ว พี่นิกต้องจัดการเขาให้ผมด้วยนะ!

ขวัญพัฒน์: อ้อ...คุณวัฒน์บอกว่าพี่นิกพูดภาษาฝรั่งเศสได้ด้วย เวลาพูดคงเท่ไม่หยอกเลยใช่ไหมครับ

ขวัญพัฒน์: ผมอยากฟังพี่นิกพูดจัง เสียงทุ้มๆ คงเซ็กซี่น่าดู ฮื้อออ คิดถึงอีกแล้ว จะรีบกลับนะครับ





ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
สองสัปดาห์หลังจากนั้น...

Monday, 01:30 AM

ขวัญพัฒน์: เมื่อเช้าหมอ Ralph บอกว่าทุกอย่างดีหมดเลย ความดัน การเต้นของหัวใจ รอยรั่วที่ปอดปิดสนิทแล้วด้วย ผมลุ้นมากตอนที่ถอดเครื่องช่วยหายใจ พี่นิกรู้มั้ย...ผมกลัวจริงๆ นะ ผมได้แต่ภาวนาขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี จนถึงตอนนี้ผมก็ยังนอนไม่หลับ

ขวัญพัฒน์: พี่ผอมลงมากเลยนะครับ ขอโทษนะที่ใช้แชทของพี่เป็นไดอารี่มาเกือบสองปีแล้ว แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดี

ขวัญพัฒน์: ต่อให้พี่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้ แต่ผมก็ยังคิดถึงพี่แทบบ้า

ขวัญพัฒน์: พี่นิกครับ ถ้าผมรู้ว่าผมจะรักพี่มากขนาดนี้ วันนั้นผมไม่พูดอะไรแบบนั้นออกไปแน่ๆ

ขวัญพัฒน์: ผมไม่น่าหาเรื่องทรมานตัวเองเลย ผมแม่ง...เหมือนจะตายอยู่ทุกวัน แต่เพราะผมยังสามารถเห็นพี่ได้ ผมก็คิดว่าดีแล้วล่ะ แค่นี้เอง ผมไม่เป็นไร

ขวัญพัฒน์: ผม...โอเค

ขวัญพัฒน์: วันนี้ตอนที่เปลือกตาของพี่ขยับ อ่า ผมจะเรียกยังไงดีนะ แต่ผมเห็นเหมือนพี่กำลังจะลืมตา ผมตื่นเต้นมากเลยนะ เกือบจะยิ้มแล้ว แต่มันก็แค่อาการกล้ามเนื้อกระตุก จากที่จะยิ้ม น้ำตาผมก็ไหลลงมาดื้อๆ

ขวัญพัฒน์: ผมท้อแล้วนะครับพี่นิก แต่พอเห็นหน้าพี่ ผมคิดว่าผมอาจจะยังท้อได้มากกว่านี้อีก เพราะงั้นผมก็ยังไหว

ขวัญพัฒน์: ผมลืมถามเลยว่าผมตัดเล็บโอเคไหม ปกติแล้วไม่เคยตัดให้ใครเลย กลัวตัดเข้าเนื้อแล้วทำให้เจ็บ

ขวัญพัฒน์: ลืมบอกอีกเรื่อง ผมพี่นิกยาวแล้วน้า ไม่หัวโล้นแล้ว ผ่าตัดครั้งนี้แผลนิดเดียวเอง หมอ Ralph บอก โอเคๆ ผมก็ฟังออกแค่นั้นแหละครับ เพราะนอกนั้นเขารัวภาษาเยอรมัน ดีที่คุณวัฒน์แปลให้ฟังได้ เห็นเซ่อๆ แบบนั้นแต่ผมก็เพิ่งรู้ว่าเขาเรียนปอตรีกับปอโทที่มิวนิค พูดไม่ได้ฟังไม่ออกก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วเนอะ

ขวัญพัฒน์: ผมนอนแล้วดีกว่า จะจุ๊บๆ พี่นิกด้วยนะ ฝันดีนะครับพี่นิกของน้องขวัญ





สองเดือนหลังจากนั้น...

Saturday, 10:30 AM

ขวัญพัฒน์: วันนี้ไอ้แนนส่งรูปน้องนายมาให้ดู น้องนายลูกสาวมันน่ะพี่นิก นายที่มาจากชื่อคุณนาย ตลกไอ้แนนที่ตั้งชื่อลูกเหมือนประชดเมีย แต่ทีแรกน่ะตั้งใจว่าถ้าเป็นผู้ชายจะให้ชื่อเจ้านาย พอเป็นผู้หญิงก็ให้ชื่อคุณนายซะเลย

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: แก้มน่าหยิกใช่ม้า เหมือนแก้มน้องขวัญที่พี่นิกชอบหยิกเลยยย

ขวัญพัฒน์: ไอ้แนนไปเยี่ยมแม่ของพี่มาด้วย แต่มันไม่ได้ถ่ายรูปมานะ

ขวัญพัฒน์: มีหลายๆ เรื่องเกิดขึ้นระหว่างที่พี่นอนหลับไป ถ้าตื่นมาแล้วย้อนอ่านด้วยนะ ผมเล่าไว้เยอะมาก แชทนี้เก็บย้อนหลังไว้ได้ไม่นาน แต่ผมเก็บเป็นรูปภาพไว้ให้พี่แล้ว ไม่ต้องห่วง ผมรอบคอบเสมอ ฮิฮิ

ขวัญพัฒน์: พี่นิกรู้มั้ย ที่ผมต้องพิมพ์ใส่แชทพี่อย่างนี้ เพราะผมหวังนะ

ขวัญพัฒน์: หวังว่าสักวันข้อความที่ผมส่งถึงพี่ จะขึ้นอ่านสักครั้ง

ขวัญพัฒน์: วันนี้อากาศแย่ ขมุกขมัวแต่เช้า

ขวัญพัฒน์: ผมมาเดินเที่ยวที่ย่าน Alexanderplatz ของกินเพียบเลย แต่ผมไม่ได้กินสักอย่าง ผมถ่ายรูปเก็บไว้แล้ว ไว้เรามากินด้วยกันนะ ผมรอกินครั้งแรกพร้อมพี่นิก

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Fernsehturm อยู่ในเขต Mitte คุณวัฒน์บอกว่าขึ้นไปชมวิวบนนี้ได้ ไว้เราไปด้วยกัน ขึ้นไปบนนี้คงเข้าใกล้สวรรค์อีกนิด แต่เอ๊ะ อยู่กับพี่นิกก็ขึ้นได้หรือเปล่านะ อุ่ยยย

ขวัญพัฒน์: ผมทะลึ่งอีกแล้ว ขอโทษนะครับ

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: นาฬิกาโลกกกก นาฬิกาใหญ่ขนาดนี้ซื้อเวลาอยู่กับพี่นิกไปอีกร้อยปีได้ไหมนะ

ขวัญพัฒน์: พี่นิกครับ

ขวัญพัฒน์: ...

ขวัญพัฒน์: ...

ขวัญพัฒน์: ...

ขวัญพัฒน์: รออยู่นะครับ

ขวัญพัฒน์: สัญญาของเรา พี่ไม่ลืมใช่ไหมครับ

ขวัญพัฒน์: สถานีรถไฟตอนแปดโมงตรง ผมยังรออยู่ที่นั่น

ขวัญพัฒน์: อย่าลืมมารับผมนะครับ

ขวัญพัฒน์: จะครบสองปีแล้วนะ พรุ่งนี้ก็จะครบสองปีแล้วที่พี่นอนอยู่แบบนั้น

ขวัญพัฒน์: ขอโทษนะครับที่นานขนาดนี้แล้ว แต่บางครั้งผมก็ยังร้องไห้ ยิ้มไม่ได้อย่างที่พี่ชอบมองสักที

ขวัญพัฒน์: ผมน่ะ...

ขวัญพัฒน์: ไม่ได้รอเก่งขนาดนั้นนะครับ





ผมเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ตามเดิม บางทีการเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีหม่นๆ คงดีกว่าก้มหน้าอยู่กับแชทที่ไม่มีการตอบกลับ ไม่ว่าผมจะเดินมาไกลแค่ไหน แต่หัวใจของผมก็ยังอยู่ที่เขา

ผมมองไปรอบตัว ใครจะคิดว่าชีวิตวินมอเตอร์ไซค์อย่างผมจะมาไกลถึงเยอรมัน ไม่รู้อะไรสักอย่างแต่ก็ยังมาได้ ทว่าจนป่านนี้ก็ยังเข้าเรียนไม่ได้เลย เพราะความยากทางด้านภาษา ตอนนี้ก็ได้แค่เรียนภาษาไปพลางๆ ถ้าถามว่าผมมาที่นี่ได้ยังไงก็คงต้องยกความดีความชอบให้คุณแขไขที่จัดการธุระให้ โดยมีคุณธนวัฒน์เป็นล่ามและไกด์ส่วนตัว เพราะเขาอยู่เยอรมันมาหลายปี ยิ่งขาเที่ยวอย่างเขาแล้วคงซอกแซกไปเกือบทั่วประเทศแล้วมั้ง แต่ดีครับ เวลาที่นึกเบื่อๆ ก็มีเขาเป็นเพื่อนเที่ยว

ส่วนเรื่องที่ประเทศไทยผมให้คุณแขไขจัดการให้จนกว่าผมจะพร้อม พินัยกรรมของคุณเขมรัตน์ถูกอ่านหลังจากที่เขาเสียชีวิตได้หนึ่งเดือนและก็เป็นไปตามอย่างที่พี่โมบอก ตำแหน่งเก้าอี้ประธานยังคงรอคุณธนิกไปบริหารโดยตอนนี้คุณแขไขรักษาการแทน ในขณะที่ทรัพย์สินอื่นๆ เป็นของผมกับเขมินทรา แน่ล่ะว่าผมเป็นพี่ก็เลยได้เยอะกว่า หุ้นของคุณเขมรัตน์ส่วนใหญ่เป็นชื่อผม แต่ไอ้แฝดนรกมันไม่ได้อิจฉา มันบอกว่าแค่มีผัวรวยมันก็ไม่ต้องรวยก็ได้ ผมเกือบถีบหน้ามันไปแล้ว แต่ติดที่ว่ามันยังแสดงละครนั่งอยู่บนรถเข็น ก็เลยยังปรานีอยู่บ้าง ทั้งๆ ที่อยากยันมันให้ตกจากรถเพื่อเปิดเผยความจริง ไม่รู้จะเล่นโง่ๆ แช่งตัวเองไปทำไม ในเมื่อพี่โมมันรู้อยู่แล้วว่าความจริงเป็นยังไง แต่นั่นแหละ ปล่อยมันเถอะ เรื่องของมัน ผมบ่นจนไม่รู้จะบ่นอะไรแล้ว

นอกจากเรื่องพินัยกรรมเรื่องอื่นก็ราบรื่น ไอ้แนนก็เป็นพ่อลูกหนึ่งที่ยุ่งหัวฟู ตอนนี้นอกจากขับวิน เลี้ยงลูกแล้วมันยังเรียนกฎหมายที่มหาลัยเปิดแห่งหนึ่งควบคู่ไปด้วย ผมบอกมันว่าถ้าเรียนจบจะจองตัวให้เป็นทนายประจำตัวผม ซึ่งมันก็ไฟลุก ตั้งอกตั้งใจเรียน บอกว่าถ้าเรียนจบแล้วขอเงินเดือนเยอะๆ พูดอย่างไม่อายว่าจะเกาะผมแดกไปตลอดชีวิต ซึ่งผมก็ชิวมาก เกาะได้เกาะไปเถอะ แค่เพื่อนคนเดียว ผมเลี้ยงไหว คนอย่างผมไม่มีภาระอะไรอยู่แล้ว ส่วนคุณธนิษฐา ก็สุขภาพแข็งแรงขึ้นมาก ผมไม่ค่อยได้ทราบเรื่องของเธอเท่าไร แต่พี่โมก็บอกเองว่าเธอโอเคขึ้นแล้วและตอนนี้กลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเก่าของเธอ ในพินัยกรรมของคุณเขมรัตน์ระบุว่ายกบ้านที่เคยอยู่กินด้วยกันให้เป็นชื่อของเธอกับเงินอีกก้อนใหญ่ ทว่า...เธอไม่แตะต้องเลย

หากถามผมว่าพอใจกับบทสรุปนี้ไหม ผมก็ตอบได้ว่าพอใจแล้ว คนผิดอาจจะไม่ได้จบลงที่การนอนอยู่ในคุกให้กฎหมายจัดการเสมอไป เพราะบางทีสำหรับคนบางคน ต่อให้ไปนอนอยู่ในคุกก็ยังถือว่าให้เข้าไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเสียด้วยซ้ำ เปลืองข้าวแดงแกงร้อนเสียเปล่าๆ แต่การอยู่ด้วยความรู้สึกผิดต่างหากที่เหมือนการจองจำอย่างแท้จริง อย่างไรเสียกฎแห่งกรรมก็คงไม่หนักน้อยกว่ากฎหมายหรอกหรือบางทีก็อาจจะหนักมากจนแทบไม่ติดกันเลยก็ได้

ผมกลับมาที่โรงพยาบาลหลังจากที่เดินเตร่อยู่สักพัก วันนี้คุณธนวัฒน์ไม่ได้กลับมาด้วยเพราะเขาจะไปเที่ยวกับเพื่อนต่อ ผมจึงนั่งรถไฟกลับมาเพียงลำพัง กลับมาถึงห้องพักผู้ป่วยก็เหมือนเช่นเคย เงียบเหงาและน่าหดหู่

โรงพยาบาลในเยอรมันไม่ได้เสียงดังหนวกหู อย่างโรงพยาบาลที่คุณธนิกรักษาตัวอยู่นี้ก็ออกจะวังเวงเสียด้วยซ้ำ คนที่นี่ส่วนใหญ่แล้วเวลาเจ็บป่วยก็จะไปคลินิคเสียมากกว่า จะไม่ค่อยเห็นคนไข้ที่ป่วยหัวตัวร้อนวอร์คอินมาที่โรงพยาบาลหรอกครับ กว่าจะทำเรื่องมารักษาที่นี่ได้ก็ยากพอสมควร ค่ารักษาที่หากไม่มีประกันสุขภาพแล้วแม้แต่เจ้าของหุ้นในบ่อน้ำมันอย่างผมก็ยังหน้ามืดไปเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร เม็ดเงินก็มีค่าเท่านี้ล่ะครับ ซื้อความสุขและยื้อชีวิต ต่อให้ต้องหมดตัวผมก็ไม่เกี่ยง อาชีพวินมอเตอร์ไซค์ยังรอผมอยู่ที่ปลายทางเสมอ

ผมนั่งลงบนเก้าอี้พลางเปิดเพลงที่มีแต่ท่วงทำนองช้าๆ หวานๆ ให้คุณธนิกฟัง ดนตรีบำบัดคงช่วยให้เขาผ่อนคลายได้บ้าง

เวลานี้ที่ประเทศไทยคงประมาณสี่โมงเย็น เวลาที่นั่นเร็วกว่าที่เยอรมันห้าชั่วโมง ไอ้แฝดน้องของผมคงว่างแล้วมันจึงรัวแชทมาเหมือนทุกวันที่ทำ

เขมินทรา: สัสดีตอนเช้า ที่นู่นสิบเอ็ดโมงแล้ว มึงกินข้าวยังไอ้สัดพี่

ขวัญพัฒน์: แดกละ ขนมปังไส้กรอก มึงล่ะ เมื่อเช้ากินไร

เขมินทรา: โจ๊กหมูเด้ง ว่าแต่มึงกินขนมปังเยอะไปละ รวยแล้วก็หัดเข้าร้านอาหารบ้าง สะตงสเต็กก็แดกๆ เข้าไป

ขวัญพัฒน์: รวยไม่รวยไม่เกี่ยว มันเกี่ยวตรงที่กูสั่งไม่เป็น คุยไม่รู้เรื่องเว้ย

เขมินทรา: สมองอย่างมึงควรอยู่แค่ที่ประเทศไทยอะไอ้ห่า ไปต่างประเทศมึงกินแต่อาหารขยะจนตายแน่ๆ

ขวัญพัฒน์: เรื่องของกูจ้า

เขมินทรา: ควายเอ้ย กูไม่น่าเสียเวลาพูดกับคนอย่างมึง

ขวัญพัฒน์: ไว้กูจะถามไอ้คุณวัฒน์ละกันว่าเวลาสั่งสเต็กต้องพูดยังไง

เขมินทรา: มึงเรียนภาษามาหลายเดือนแล้วนะไอ้ขวัญ มันไม่ได้สักนิดเลยเรอะ

ขวัญพัฒน์: ได้หน้าลืมหลัง สมองกูไม่เหลือไว้จดจำเรื่องมีสาระแบบนี้

เขมินทรา: พ่อต้องร้องไห้ที่ยกสมบัติให้คนอย่างมึง มึงต้องพาฉิบหายล่มจม คนอย่างมึงควรจมบ่อน้ำมันหรือไม่งั้นก็โดนเครื่องบินชนให้หายโง่ซะ

ขวัญพัฒน์: ถือหุ้นน้อยกว่ากูก็แย่หน่อยนะ หึ

เขมินทรา: กูเกลียดมึ้งงงง

ขวัญพัฒน์: เอาน่า ไม่ต้องห่วง พี่นิกฉลาดอยู่แล้ว ช่วยกูได้ทุกเรื่องแน่นอน ส่วนกูก็นอนกินเงินปันผลสบายๆ ไป

เขมินทรา: พี่ธนิกรู้ว่ามึงจะต้องโขกสับแน่ๆ ถึงได้แกล้งนอนนานๆ ไม่ฟื้นสักที

ขวัญพัฒน์: งั้นกูจะทำงานหนักๆ เอง ไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ แต่ฟื้นมาสักทีเถอะ กูพูดคนเดียวจนจะเป็นบ้าแล้ว

เขมินทรา: มึงไม่พูดคนเดียวมึงก็เป็นบ้า ว้ายยย

ขวัญพัฒน์: ออกสาวไอ้ห่า เดี๋ยวกูถีบหน้าหงาย

เขมินทรา: ง่ะ ชอบใช้กำลังกับกู แล้วนี่พี่นิกเป็นไงมั่ง ผ่าตัดครั้งที่แล้วดีมากๆ เลยนี่ใช่ไหม

ขวัญพัฒน์: ดีมาก ไม่มีเลือดคั่งแล้ว ทุกวันนี้อาการก็ไม่ได้แย่ ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้วด้วย ดีหมดแล้วแหละ ติดอยู่อย่างเดียว ถ้าฟื้นขึ้นมาจะเหมือนเดิมมั้ย ยังต้องลุ้น

เขมินทรา: ดีแล้วๆ ได้ยินแบบนี้ก็เบาใจ ยังไงก็แฟนเก่า กูก็ห่วง

ขวัญพัฒน์: ไม่พิมพ์มาแล้วนิ้วมึงจะด้วนเหรอไอ้สัด อย่าให้กูบินกลับไทย จะตบให้หัวหลุด

เขมินทรา: เกรี้ยวกราดใส่น้องทำไม น้องก็แค่อาลัยอาวรณ์

ขวัญพัฒน์: กูจะแคปแชทไปให้ไอ้พี่โม

เขมินทรา: ทำเลยๆ กูอยากโดนหึง อยากโดนเล่นบทจำเลยรัก ตบจูบ ตบกระแทก

ขวัญพัฒน์: มึงคึกแต่เช้านะ ไปโดนตัวไหนมา

เขมินทรา: ก็โดนเยอะอยู่ ฟินๆ ทั้งนั้น

ขวัญพัฒน์: น้ำเดินตลอดว่างั้น ไอ้สัดน้องมึงอย่ามาเกทับกู ไปไหนก็ไป เรียนจบก็ขยันทำงานซะ

เขมินทรา: อือ เดี๋ยวเย็นจะออกไปดินเนอร์กับแตงโม บอกมันก่อน มันต้องอุ้มกูไปอาบน้ำ ฮิฮิ

ขวัญพัฒน์: จัดอีกกี่ดอก

เขมินทรา: ดอกเดียวก็พอ แต่ดอกใหญ่ๆ ไปละ ไว้อยากหาเรื่องไร้สาระทำจะทักไปหามึง

ขวัญพัฒน์: กูจะบล็อกมึงไอ้ขิม เพราะมึงแม่งตัวไร้สาระไอ้สัด อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์!






เป็นสีสันของชีวิตไปแล้วที่ต้องได้ด่าเขมินทราทุกเช้า ไอ้แฝดนรกมันก็ชอบสรรหาเรื่องมาให้ด่า เวลาคุยกับผมมันทั้งแรดทั้งปากร้าย แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าแตงโมของมันจะปากแข็ง ปากหนัก พูดอย่างทำอีกอย่าง จนบางทีก็น่าเหนื่อยใจแทน

ผมยิ้มให้ตัวเองอยู่สักพัก มันเป็นความรู้สึกที่อยู่ดีๆ ก็อยากยิ้ม เพราะคนรอบข้างผมในตอนนี้มีความสุขกันหมดแล้ว เหลือแค่ผม...เหลือแค่ผมคนเดียวที่ยังคงทรมานอยู่ตรงนี้

“คุณธนิกครับ” ผมเรียกเขาเป็นล้านๆ ครั้ง แต่ผมไม่เคยรู้ว่าเขาได้ยินบ้างไหม ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะขานรับกลับมา ผมทำได้เพียงแค่เรียกหา ฟุบหน้าลงกับแขนตัวเองอยู่ข้างๆ เขาอย่างนี้ “ผมควรจะทำยังไงดี...ผมไม่เคยรู้เลยว่าการรอคอยใครสักคนจะทรมานอย่างนี้”

ผมก็แค่ปากเก่งไปอย่างนั้น ก็แค่คำพูดของคนที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็ง รอได้เหรอ...รอไปตลอดชีวิตก็ได้งั้นเหรอ มันก็แค่เรื่องตลกที่ผมพูดออกไปและไม่เคยหัวเราะกับเรื่องนี้เลยสักครั้ง

ผมร้องไห้ออกมาเงียบๆ ก็แค่อยากระบายออกมา แต่พอผมเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าซีดเซียวของเขากลับมีน้ำตาไหลลงมาเช่นกัน

ทำไมยังมีแค่เราที่ต้องเจ็บปวดอยู่แบบนี้...

ทำไมกันนะ...คำถามของผมเมื่อไหร่จะได้คำตอบเสียที

ผมเช็ดน้ำตาให้เขาอย่างเบามือ “ผมยังรออยู่นะครับคุณธนิก”

ผมดึงมือเขามากุมไว้พลางกดจูบลงบนหลังมือของเขาเบาๆ “ยังรอที่จะได้พูดทักทายคุณธนิก”

น้ำตาของผมรินไหลลงบนหลังมือของเขา “ยังรอที่จะพูดคำว่าสวัสดี”

หยดแล้วหยดเล่า “ยังรอที่จะบอกว่ารัก”

แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้น ผมอาจจะพูดได้แค่ว่า “สวัสดีครับคุณธนิก”

ถ้าเขาลืมตาขึ้น...และรับรู้ว่าคำว่าสวัสดีจากผม มันหมายความถึงการรอคอยที่จะพบเจอเขาอีกครั้ง

รอคอยที่จะได้พูดทักทายเพื่อต่อด้วยคำบอกรักที่ผมรู้สึกอยู่ทุกขณะลมหายใจ

ตอนนี้เรารู้สึกถึงกันอยู่ใช่ไหม รับรู้ใช่ไหมว่าเรายังอยู่ด้วยกันตรงนี้

คุณธนิกครับ...

พี่นิกครับ...

ผมน่ะ...

ผมอาจจะไม่เคยพูดเลยว่าความดีใจที่สุดในชีวิตของผมคืออะไร ผมอาจจะไม่เคยรับรู้ถึงมันเลยก็ได้ว่าความสุขที่สุดของผมคือสิ่งไหน แต่ตอนนี้...ผมรู้แล้วว่าเมื่อการรอคอยสิ้นสุด ความดีใจที่สุดก็เกิดขึ้นกับผม ความสุขที่ปลิวหายไปกับขบวนรถไฟที่ออกวิ่งโดยไม่รอกลับมาแล้ว แค่เพียงเปลือกตาที่ปิดสนิทของคนที่รักที่สุดในชีวิตค่อยๆ ขยับทีละน้อย

เชื่อไหม...ว่าผมทำได้แค่เพียงร้องไห้

เชื่อไหม...ว่าผมพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

จิตใจที่อ่อนล้าของผมได้เวลาหยุดพักแล้ว หลังจากที่มันเหนื่อยล้ามานานจนแทบหมดแรง

ผมไม่รู้หรอก...ว่าตอนนี้ผมฝันอยู่หรือไม่ แต่แค่มือของเขาขยับตอบรับการบีบของผม แค่ตาของเราสบกันอยู่ตอนนี้ จะให้เป็นแค่ความฝันก็ได้ เพราะหากเป็นความฝัน มันจะเป็นฝันดีในรอบสองปีของผม

ฝันที่ไม่ใช่การมองแผ่นหลังของเขาขึ้นรถไฟไปเพียงลำพัง แต่จะเป็นฝันที่เขาหันหลังกลับมาแล้วคว้ามือผมไปจับไว้ บอกด้วยเสียงหนักแน่นพร้อมรอยยิ้มกว้างว่า ‘ไปด้วยกันนะ’

นี่...เป็นฉากจบที่สวยงามได้ใช่ไหม

แม้จะเป็นฉากจบในห้องพยาบาลสีจืดชืด คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นยา แสงแดดสีจางที่ส่องฝ่าเมฆสีขมุกขมัวผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ทุกองค์ประกอบในตอนนี้ไม่ได้สวยงามเลย ทว่า...ผมกลับพบความสวยงามมากยิ่งกว่า

ความสวยงามในแววตาของเขา แววตาที่อยากบอกความรู้สึกกับผมมากมาย ในขณะที่ผมก็อยากจะบอกเขาเหมือนกัน พอเรียบเรียงแล้วก็มีแต่ความรู้สึกที่ตีกันวุ่นในหัว สุดท้ายก็แค่เลือกคำพูดเรียบง่ายมาพูดกับเขา

“สวัสดีครับคุณธนิก”

ผมยิ้มให้กับเขา แม้เขาจะทำได้เพียงขยับเปลือกตา แต่นั่นก็คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมได้รับ ทว่าอีกไม่นานหรอกที่เขาจะตอบผมกลับมาเช่นกันว่า





‘สวัสดีครับขวัญพัฒน์ ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งนะ’





คำทักทายที่เรียบง่ายแต่ในบางทีก็มีความหมายมากมายต่อใจคนฟังเพราะบางคนแค่คำพูดว่า สวัสดี ก็เหมือนการเริ่มต้นของความรักที่รอคอยมานานแสนนาน เหมือนกับผม...ที่รอเขามานานเหลือเกิน





‘สวัสดีครับคุณธนิก จากนี้มามีความสุขไปด้วยกันนะครับ’









End


สวัสดีค่ะคนอ่านทุกท่าน เราพาทุกคนมาถึงตอนจบแล้วนะคะ สำหรับสวัสดีครับคุณธนิก เราอยากเขียนเรื่องนี้ในมุมที่มองทุกอย่างเป็นสีเทา ไม่มีใครดีที่สุดหรือเลวที่สุด มีแต่คนที่รักตัวเองที่สุด เห็นแก่ตัว เห็นแก่ความต้องการของตัวเองจนลืมที่จะมองว่าคนรอบข้างนั้นเป็นอย่างไร คุณธนิกพระเอกของเราคงน่าขัดใจไปบ้าง น้องขวัญคนดีก็น่ารักเรี่ยราดไปบ้าง แต่ให้อภัยกันนะคะ

 :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณที่ต้อนรับเราอย่างอบอุ่น ทั้งๆ ที่เราหายไปนานมาก ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็น ทุกๆ กำลังใจที่มีให้กัน เราหวังนะคะว่าเรื่องนี้จะเป็นอีกเรื่องที่ทำให้คนอ่านสนุกสนานไปกับเรา เศร้าไปกับเรา ยิ้มไปกับเรา

ขอบคุณมากค่ะ



เราเปิดจองพี่นิก ไปจับจองกันได้นะคะ ที่เพจของเราเลยค่ะ Snufflehp


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-10-2018 20:57:23 โดย Snufflehp »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
การรอคอยที่มาถึงจุดหมายซะทีนะน้องขวัญ

ออฟไลน์ Babyboys

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
อยากให้มีภาคต่ออออ งื้อออ คิดถึงพี่นิก :mew6:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
จบแล้วว ฮืออ
การรอคอยสิ้นสุดแล้วนะ
สิบตอนพิเศษขอพี่ธนิกเอวดุเยอะๆน้า ฮ่าๆ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คาดหวังกัยตอนพิเศาในเล่มมากๆ รอ555555
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ♡♡♡♡

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สวัสดีค่ะ พี่นิก หนูก็ยินดีมากที่ได้พบกับพี่นิกอีกครั้ง #น้ามตาไหล :hao5: ต่อไปนี้อยากให้พี่มีความสุขมากๆนะคะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เราสิ้นหวังไปแล้ววว เผื่อใจไว้ทุกทาง เห็นแบบนี้แล้ว ก็สวัสดีอีกครั้งนะคะคุณธนิก  :katai2-1:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ยินดีต้อนรับกลับมานะพี่นิก หมดเคราะห์หมดโศกกัรไปซะที และยังยืนยันว่าชอบความแฝดระหว่างขวัญกับขิมมาก ถ้าได้โตมาด้วยกันคงได้สนิทกันมากกว่านี้

ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะเป็นเรื่องที่หม่นๆเทาๆ เดาอะไรได้ยากและน่าติดตามมากจริงๆ สำหรับเราเรื่องนี้เหมือนเป็นการผสมกันระหว่างมาโปรดและไร้พ่ายแต่เครียดกว่าหน่อยๆ พอจบแล้วแบบนี้ก็แอบคิดถึงเหมือนกันแล้วหลังจากนี้เราจะอ่านอะไรล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
แงงงงงง  เปนชีวิตที่หนักมาก   มีความสุขซะมีเนอะ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
การรอคอยที่ยาวนาน

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
"สวัสดีคุณธนิก" นี่คือขวัญพูดจริงๆแล้วใช่ไหม
ไม่ใช่แค่ซ้อมใช่หรือเปล่า ถ้าจริงคือดีใจด้วยนะ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :pig4: :pig4: :pig4: ยินดีที่กลับมานะคุณธนิก

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เราดีใจที่คุณ Snufflehp เลือกที่จะเป็นหมอ
ไม่ได้เลือกที่จะเป็นฆาตกร 55555555555
งืออออออแฟนเราฟื้นขึ้นมาซะที กรี๊ด !! กรี๊ด !! กรี๊ด !! :z3:

กราบสวัสดีครับ! คุณธนิก  :call:  :call:

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากอ่านตอนพิเศษอะงื้ออออออออออออออออ ดีใจกับนุ้งขวัญด้วยน้าาสสรักๆๆ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เราไม่อยากให้จบแค่นี้ อยากให้พี่ธนิกกับขวัญได้มีความสุขมากกว่านี้ :pig4:

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตานี่ว่าคนน่าสงสารสุดในเรื่องก็คือคนที่มีชื่อในชื่อเรื่องนี้ เป็นคนที่เหมือนจะดูคุมเกมไว้ในช่วงแรกๆแต่สุดท้ายเป็นคนเจ็บปวดที่สุดธนิกคือผู้ชายน่าสงสารคนนึงเลย ส่วนขวัญรอเก่งมากรอเก่งจริงๆและการคอยก็สมหวังละนะขอให้ชีวิตต่อจากนี้ของทั้งสองคนมีแต่สุขและสมหวังสักทีหลังจากเจ็บปวดมากเยอะ แต่คู่ที่เราชอบสุดในเรื่องคือคู่ของมิสเตอร์ทีกับขิม งื้ออออออออมันดีมากแบบเป็นความรักในความเกลียดของในความรักอีกทีสุดท้ายแล้วพี่โมก็ตกหลุมหนูขิมจนได้เราชอบคู่นี้มากกัดกันเก่งแต่จริงๆต่างหลงรักกันและกันเราเชื่อว่าตลอดหลายปีพี่โมอยู่กับขิมไม่ใช่แค่เพระคำสั่งหรือทำเพื่อธนิกแต่มันเป็นความรักที่แม้ทำลงไปโดยไม่รู้ตัว อยากอ่านตอนพิเศษคู่โมขิมมากค่ะปามาทีเราพร้อมรับมากกกกเอ็นดูคู่นี้ชอบความเกี้ยวกราดของหนูขิม ขอบคุณสำรหับเรื่องราวดีๆนะคะมันดีมากกกกก และสวัสดีนะคะคุณธนิกฟื้นขึ้นมาแล้วสักที

ออฟไลน์ enas290843

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไปสุดมากกกกกก คุณธนิกหายไวๆนะคะ รอวันที่สวัสดีน้องขวัญอยู่นะ อยากให้มีตอนพิเศษค่า ต้องคิดถึงแน่ๆ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
จะได้มีความสุขกันจิงๆสักทีนะพี่นิกน้องขวัญ ดีใจด้วยจิงๆ ฮืออออ :katai2-1: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด