สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27  (อ่าน 134100 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ซับซ้อนซ่อนเงื่อนไปหมด

ออฟไลน์ Mafiaziip

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
คือพ่อก็รู้เรื่องมาตลอด แถมเป็นแผนของพ่อด้วย นี่เข้าใจถูกป่ะ แทบจดผังแล้วอ่ะ ใครเอ่ยถึงใคร โค้ดเนมก็มี โอ๊ยยยยยยยยยยย ซับซ้อนไปอีก แต่ตรงที่พ่อพูดถึงขิมคือ ยิ่งสงสารขิมเลยอ่ะ  :hao5: :hao5: :hao5: ยังไงก็เอาใจช่วยขวัญละ ธนิกด้วยจะขัดใจแม่ยังไง ฮือออออออออออ  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
สรุปเรื่องนี้ใครร้ายกว่าใคร
ทั้งร้ายทั้งรักอย่างนี้ก็ได้เหรอ เรื่องมันชักจะวุ่นวายไปกันใหญ่

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
หูยยยย นี่แทบอยากจะลุกขึ้นปรบมือดังๆกับจุดพลุฉลอง ในที่สุดพี่นิกก็ลุกขึ้นสู้แล้ว ถึงจะไม่ได้สู้เองแต่ยืมมือคนอื่นสู้ก็ถือว่าสู้เหมือนกัน ส่วนมิสเตอร์ทีนี่ยิ่งอ่านก็ยิ่งคิดว่าใช่พี่โม แต่....ธนวัฒน์ชื่อนี้เข้ามาแบบใสซื่อมันเลยรู้สึกแปลก ยิ่งเรียกพี่นิกว่าพระอาทิตย์ยิ่งทำให้เราเขว เอ๊ะ หรือคนนี้คือมิสเตอร์ทีตัวจริงกันแน่นะ โอ้ย ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง ยิ่งงงก็ยิ่งสงสัย เรื่องนี้หนักหนากว่าไร้พ่ายนักตรงที่ไม่สามารถเชื่อใจใครได้เลย

ออฟไลน์ Babyboys

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
มิสเตอร์ที = ธนวัฒน์?? :katai1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
กับพี่นิกนี่เหมือนทั้งรักทั้งเกลียดอ่ะ เกลียดความไม่เด็ดขาด

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หึยยยยยยยยยยยยยย คือ ณ ตอนเนี้ย มองไม่เห็นหนทางที่เรื่องมันจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งเลย ไม่อยากจะเชื่อว่าในช่วงสถานการณ์การที่บีบคั้นระยะเวลาเพียงเล็กน้อยจะทำให้ขวัญพัฒน์เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้อ่ะ ตั้งแต่อ่านมาตั้งแต่ตอนแรกไม่เคยคิดเลยว่าขวัญจะร้าย จะขี้ยั่วได้ถึงขนาดนี้ ความรักแม่งเปลี่ยนแปลงคนได้จริงๆอ่ะ เอ้าสิ แตกเป็นแตก

ธนิกเหมือนเตรียมการต่างๆไว้เพื่อวางมือจากอำนาจที่เคยต้องการในอดีตแล้ว แม้กระทั่งขวัญเองธนิกก็ดูยอมจะปล่อยมือเพื่อให้ขวัญได้มีชีวิตที่สงบสุข(?) ธนิกต้องการรื้อคดีการตายของขวัญข้าวกับแจ้งข้อหาเรื่องที่ขิมโดนทำร้ายใช่ไหม แสดงว่าต้องการเอาผิดแม่ตัวเองแล้ว?

แขไขอยู่ฝ่ายเดียวกับพ่อใช่ไหม ดั้งนั้นเลยส่งจอยไปคอยเป็นหูเป็นตาดูแลขวัญ แต่น้าลีเหมือนจะไม่ใ่ช่น้าแท้ๆของขวัญพัฒน์ น่าจะเป็นคนที่ชอบแม่ของขวัญพัฒน์มากๆจนยอมเลี้ยงลูกของ ผญ ที่ตัวเองรัก เขมรัตน์เลยมองว่าลีลาเป็นคนคล้ายๆศัตรูหัวใจ(?) เลยสั่งเก็บลีลา แต่ทำไมถึงมาฆ่าเอาตอนที่ขวัญโตแล้วล่ะ ทำไมปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาขนาดนี้?  แต่ตอนนี้ก็เคลียร์แล้วว่าทำไมขิมถึงมีรูปตอนก่อนน้าลีจะตาย เพราะขิมเอามาจากมิสเตอร์ที(ที่ตอนนั้นกำลังคั่วกันอยู่) แล้วมิสเตอร์ทีก็อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่น้าลีกำลังจะตาย

สรุปคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องบ้าๆนี้คือเขมรัตน์ ที่แต่งเมียรักอย่างธนิษฐาแต่ก็ยังไปเป็นชู้กับขวัญข้าว ทำให้เกิดดราม่าเลือดข้นคนจางอยู่ในขณะนี้ :hao6: บ้าไปแล้ววววววว กลายเป็นว่าตอนนี้จะด่าใครเลวก็ด่าได้ไม่เต็มปาก เพราะแต่ละคนที่ทำร้ายคนอื่นต่างก็มีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น ที่ทำไปก็เพราะต้องการปกป้องตัวเองและเพื่อปกป้องคนที่ตัวเองรัก แต่เพราะการกระทำมันส่งผลร้ายต่อคนอื่นไง เลยแยกไม่ออกว่าทำเพราะอยากให้คนที่ตัวเองรักได้สิ่งที่ตัวเองคิดว่าดี หรือเพราะเห็นแก่ตัว ให้ตัวเองได้พอใจกับสิ่งที่ทำลงไปแม้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้คนที่ตัวเองรักเสียใจก็ตาม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2018 11:52:10 โดย BitterCucumber »

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
นี่ใช่ขวัญพัฒน์วินตอนต้นเรื่องจริงดิ อัพเวลความยั่วขึ้นสูงมาก ทุกคนมีหลายด้าน มีหลายปมเกิน จะโกรธคุณธนิกแต่ก็โกรธไม่ลง :mew5:

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 23


“มึงอยู่ไหนธนิก” เสียงเข้มจัดของปฐพีดังมาตามสายจนธนิกต้องรีบรุดไปที่ระเบียงเพื่อพูดคุยกับเพื่อนรัก ไม่อยากรบกวนเวลานอนของขวัญพัฒน์ที่ยังคงหลับใหล

“อยู่กับขวัญ” ธนิกตอบตามตรง เขาเท้าแขนกับระเบียงพลางทอดมองภาพทิวทัศน์เมืองใหญ่ยามใกล้รุ่ง “มีอะไรวะไอ้โม โทรมาเกือบตีสี่”

“นิ่มรัวแชทมาหากูตั้งแต่ตีสอง เพราะเขาโทรหามึงไม่ติด ไลน์ก็ไม่อ่าน” ปฐพีพูดเสียงเครียด “มึงเป็นเหี้ยอะไรอีกกูถามจริง”

ธนิกขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังถ้อยคำ “แป๊บ เช็กก่อน” เขาลดโทรศัพท์มือถือลงแล้วเปิดเช็กเบอร์โทรเข้าโทรออกรวมไปถึงโปรแกรมแชทที่ปฐพีพูดถึง “ไม่มีนะไอ้โม”

“น้องขวัญคงบล็อกเบอร์กับไลน์นิ่มในเครื่องมึงแล้ว” ปฐพีว่า ในขณะที่ธนิกหลุดหัวเราะ “ไม่ใช่เรื่องตลกไอ้ห่า เดี๋ยวแม่เจ้าประคุณผีเข้า น้องตายคามือแน่”

“ขวัญแม่งมีอะไรมาให้กูตื่นเต้นตลอดเลยว่ะ น้องโคตรได้ใจกูเลยโม กูไม่เคยรู้สึกกับใครอย่างนี้มาก่อนจริงๆ” ธนิกยกมือขึ้นลูบใบหน้าแต่ก็ยังลบรอยยิ้มไปไม่ได้ “ทำไงดีวะ กูติดน้อง หลงน้องจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ทั้งเด็ด ทั้งเผ็ด ทั้งน่ารัก ทุกอย่างอยู่ในตัวขวัญพัฒน์คนเดียว”

“แล้วขวัญพัฒน์คนเดียวนี่ก็กล้าบวกกับนิ่มด้วย มึงรู้ไว้ว่าน้องส่งรูปตอนพวกมึงเอากันไปให้นิ่มดู ไอ้ขิมมันยังไม่กล้าเลย นิ่มก็เลยรัวแชทมาหากูอย่างกับคนบ้าจนกูแทบไม่ได้นอน”

คำบอกเล่าของปฐพีทำเอาธนิกกลั้นขำไว้ไม่อยู่ เขาคงเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ “เหี้ยเอ้ย เมียกูแสบใช่เล่น แล้วทำไมมึงไม่ได้นอน ปิดแจ้งเตือนไปก็หมดเรื่อง ไม่ต้องสนใจ”

“เออน่า” น้ำเสียงของปฐพีแปร่งไปเล็กน้อย พร้อมกันนั้นธนิกก็ได้ยินเสียงประหลาดจากปลายสาย เป็นเสียงเตียงที่ลั่นเอี๊ยดๆ และเสียงครางแผ่วเบา “เหี้ย แป๊บนึง”

“ไปทำธุระให้เสร็จก่อนไป ไว้ค่อยคุย”

“ไม่เป็นไร เรื่องมึงสำคัญกว่า” ปฐพีว่า ธนิกได้ยินเสียงขลุกขลัก เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่โทรคุยกับปฐพีตอนดึก เหมือนเจ้าเพื่อนยากมีกิจกรรมเข้าจังหวะทุกวัน แล้วแต่ช่วงเวลา ซึ่งธนิกไม่เคยก้าวก่าย ปฐพีเป็นแบบนี้มานานแล้ว หนุ่มโสดตัวคนเดียว ไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนและไม่เคยเห็นปฐพีควงใครคนไหนมาหลายปีแล้ว แต่ก็รู้นั่นแหละว่ามันมีคนของมัน โดยที่ธนิกก็ไม่เคยถาม ถือคติที่ว่าเพื่อนไม่เล่าก็คือยังไม่พร้อมจะเปิดตัว “แล้วตกลงยังไง มึงจะอยู่กับขวัญแล้วปล่อยกูดูไอ้เด็กขิมให้เหรอวะ”

“ช่วยหน่อยละกัน”

“กูก็มีธุระของกูมั้ย มึงไม่กลับมาดูมันเองวะ”

“ไม่” ธนิกปฏิเสธเสียงแข็ง “กูจะอยู่กับขวัญ กูลางานแล้วด้วย จะขังตัวเองอยู่ในห้องกับขวัญสองคน”

“เดี๋ยวๆ” ปฐพีเบรกแทบไม่ทัน “มึงจะทำอะไรอีก”

“กูตัดสินใจแล้วว่ะโม” ธนิกบอกอย่างหนักแน่น “กูจะคุยกับแม่เรื่องนิ่ม กูจะไม่แต่ง”

ปฐพีเงียบไป ธนิกได้ยินเสียงเตียงลั่นอย่างรุนแรงและเสียงหวีดร้องครวญครางเมื่อสนามรักร้อนระอุขึ้น เขาลดโทรศัพท์มือถือลง รอคอยให้เพื่อนซี้จัดการธุระให้เสร็จสิ้น คงเข้าช่วงสุดท้ายแล้ว เวลาบนหน้าจอยังคงเดินไป แต่ปลายสายปิดเสียงไปเรียบร้อย เขาจึงรอเกือบสิบนาทีกว่าที่ปฐพีจะกลับมาในสายอีกครั้ง

“โล่ง” ปฐพีบอกเสียงหอบเล็กน้อย “ว่าแต่เรื่องที่จะไม่แต่ง มึงพูดจริงเหรอวะ”

“อืม ฝืนไม่ไหวว่ะ เมื่อก่อนยังพอได้ แต่ตอนนี้กูมีขวัญ กูไปแต่งกับใครไม่ได้จริงๆ” ธนิกยอมรับอย่างหมดท่า ตอนนี้ไม่มีมาด ไม่มีฟอร์มใดๆ ให้ต้องรักษา เมื่ออยู่กับปฐพี ธนิกก็คือธนิก คนที่เปิดเผยตัวตน “แล้วถ้าแม่จะทำขวัญ กูคงต้องทำอะไรบ้าง”

“มึงเลือกน้องเหรอธนิก”

“อืม ไม่อยากปล่อยมือขวัญแล้ว”

“คิดดีแล้วเหรอ” ปฐพีถามย้ำ “ไม่กลัวจะเป็นเหมือนครั้งไอ้ขิมเหรอ คราวนี้ก็จะทิ้งทุกอย่างเพื่อขวัญอีกแล้วเหรอวะ”

“กลัว” ธนิกยอมรับ “แต่กูกลัวการไม่มีน้องมากกว่า มึงรู้มั้ยตอนที่กูเห็นภาพที่น้องเอากับคนอื่น กูหมายถึง...คนที่หน้าเหมือนน้อง เอากันในบ้านของกู บนเตียงของกู กูเหมือนจะตายให้ได้ มันจุก หายใจไม่ออก แน่นไปหมด ทรมานจนกูอยากเอาปืนไปยิงน้องแล้วยิงตัวกูตายตามไป กูแม่ง...โคตรไม่ไหวเลยตอนนั้น แต่อีกใจกูก็ยังเชื่อใจ กูคิดว่าน้องมีเหตุผลที่ต้องทำ กูรอน้องอธิบาย แต่น้องปล่อยกูรอ ตอนนั้นกูเอาแต่คิดว่ากูคงทำผิดกับน้องมาก น้องไม่แคร์กูเหมือนเดิม คงไม่อยากรอกูแล้ว สารพัดความรู้สึกอัดอยู่ในหัว”

“ธนิก แต่มึงเข้าใจใช่ไหมว่ามันไม่ง่าย การ์ดเชิญแจกไปแล้ว งานเริ่มเตรียมไปกว่าครึ่งแล้ว ทางฝั่งครอบครัวนิ่มจะว่ายังไงถ้ายกเลิกกลางครัน” ปฐพีเตือนสติของคนที่กำลังยืนอยู่บนความรู้สึกแทนที่จะเป็นเหตุและผล เขารู้ดีว่าถ้าเป็นเรื่องของขวัญพัฒน์แล้ว ธนิกจะกลายเป็นเด็กหนุ่มริรักขึ้นมาทันที

“ไม่ยกเลิกตอนนี้ วันงานกูก็ไม่ไปอยู่ดี” ธนิกไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อน เขาเตะเหตุและผลทิ้งไปตั้งแต่เมื่อวาน ตั้งแต่ที่รอขวัญพัฒน์ด้วยความทรมานอยู่หน้าบ้านของตัวเอง รอให้คนน่ารักออกมาหา ออกมาอธิบายโดยที่ตัวเขาไม่กล้าเหยียบเข้าไปในบ้าน เพราะกลัวภาพที่เห็นจะเป็นจริง กลัวว่าจะได้กลิ่น กลัวว่าจะเข้าไปเจอขวัญพัฒน์นอนกกกอดอยู่กับคนอื่น “แบบนั้นนิ่มคงเสียหน้ามากกว่า”

“เฮ้อ…” ปฐพีถอนหายใจมาตามสาย “กูต้องเหนื่อยกับมึงไปถึงไหน”

“เป็นเพื่อนกันแล้วก็ต้องเหนื่อยกับกูไปตลอดชีวิตนั่นแหละ”

“ซื้อทิ้งได้มั้ยคำว่าเพื่อนกับมึงเนี่ย ไม่มีประโยชน์อะไรต่อชีวิตกูเลยไอ้สัด”

“ขายแพงนะ มึงจะซื้อเหรอ”

“เท่าไรก็ว่ามา กูรวย”

ธนิกหัวเราะ “รวยก็รอเลี้ยงกูละกัน อีกหน่อยถ้ากูไม่เหลืออะไร มึงเตรียมซัพพอร์ตกูได้เลย”

“กลัวอะไรวะ น้องมันซัพพอร์ตมึงได้”

“ให้กูเกาะเมียกินเหรอ”

“เป็นแมงดาก็เท่ไม่หยอก”

“พ่อมึงเถอะไอ้โม” ธนิกสบถ ก่อนจะถอนหายใจออกมา “กลัวก็แต่แม่จะคิดสั้นอีก กูคงบาปหนากว่านี้ถ้าทำให้แม่ฆ่าตัวตายครั้งแล้วครั้งเล่า เขามีแค่กูคนเดียว ไม่รู้ทำไมใครๆ ก็อยากตายเพราะกู บาปจนไม่รู้จะบาปยังไง”

“มึงไม่ผิด” ปฐพีคือคนที่คอยอยู่ข้างๆ คือคนที่บอกธนิกเสมอว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย “ตอนไอ้ขิม มันก็เลือกทำเอง คนอ่อนแอก็แพ้ไปดิวะ มึงจะมารู้สึกผิดทำไม”

“แต่กูใจร้ายกับขิมก่อน”

“มันนอกใจมึงก่อนไอ้ธนิก” ปฐพีเสียงกร้าว “มันนอนให้คนอื่นเอาตั้งกี่ครั้ง หักหลังมึง สวมเขาให้มึง ปากบอกว่ารักมึงแต่สุดท้ายก็มีคนอื่น พอมึงทิ้งก็กรีดข้อมือเรียกร้องความสนใจให้มึงกลับไปหา”

“แต่วันนั้นกูไม่ได้ไป กูยังรู้สึกผิดกับขิมมาจนทุกวันนี้”

“แม่มึงก็จะตายมั้ย กินยาไปเกือบยี่สิบเม็ดเพราะกลัวมึงกลับไปหาไอ้ขิม เรื่องนี้มึงก็ไม่ผิดอีกเหมือนกัน แม่มึงก็อีกคนนั่นแหละ อ่อนแอก็แพ้ไปโว้ย! ถ้าจะมีใครผิดก็กูนี่แหละ ที่ช่วยอะไรมึงไม่ได้สักอย่าง” ปฐพีว่าอย่างเหลืออด ไม่ชอบใจเลยที่ธนิกจมอยู่กับความรู้สึกที่บั่นทอนตัวเอง

“มึงจะผิดได้ไง วันนั้นถ้ามึงไม่ไปช่วยขิมให้ กูคงบวชไม่สึกไปแล้ว”

“มึงจะบวชได้ไง มึงไม่มีศาสนา” ปฐพีตัดบทเสียงเฉียบจนธนิกหัวเราะออกมา

“เออ ก็จริง แต่ตอนนี้กูมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจแล้วเว้ย” ธนิกบอกอย่างอวดๆ “ลัทธิน้องขวัญ มีน้องขวัญเป็นศาสดา”

“อีกนิดนะ อีกนิดกูจะโทรเรียกคนไปรับมึงไปบำบัดแล้วไอ้สัด”

“อืม กูต้องบำบัดแล้วว่ะ โคตรติดแล้ว” ธนิกสารภาพด้วยรอยยิ้มเหนื่อยอ่อน “โดนรีดน้ำจนตัวจะแห้ง”

“น้องทำอะไรมึง” ปฐพีถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “เล่ามาไอ้เวร เปิดประเด็นให้กูเสือกแล้วต้องให้กูเสือกให้สุด”

ธนิกเผลอหายใจสะดุดเมื่อนึกถึงความเร่าร้อนของขวัญพัฒน์ ใบหน้าขาวเริ่มแดงก่ำ ก่อนจะสบถลั่นเมื่ออวัยวะกลางกายตื่นตัว “มึง...กูแบบแค่คิดก็จะไม่ไหว น้องแม่งให้กูนอนเฉยๆ แล้วใช้ปากให้ ตั้งแต่ห้องทำงาน แล้วก็ในรถ พอขึ้นคอนโดฯ มา ทุกที่ในห้องอะ น้องทำให้กูคิดถึงแต่ตอนทำกับน้อง ใช้ปากเก่งฉิบหาย กูไม่เคยรู้มาก่อน แล้วทำแต่แบบที่กูชอบ นิ้ว ลิ้น ปาก พลิ้วไปหมด เอวนี่ยิ่งพลิ้ว ไม่มีแล้วน้องขวัญคนใสๆ ของกู”

“เด็ดไม่เด็ด”

“โคตรแบบโคตรๆ เด็ด” ธนิกบอกด้วยน้ำเสียงของเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจ เขาเล่าทุกเรื่องในชีวิตให้ปฐพีฟัง จึงไม่คิดกระดากอาย เรื่องที่เล่าก็รู้กันอยู่สองคน ไม่มีใครเอาไปโพนทะนา สองเพื่อนซี้เป็นแบบนี้มานานแล้ว “ปกติกูก็รักก็หลงฉิบหายอยู่แล้ว มาเจอแบบนี้กูตายไปเลย ไม่แต่งกับใครหน้าไหนทั้งนั้น เมียเด็ดขนาดนี้”

“โอ๊ย น้อออ พร่ำเพ้ออย่างกะเพิ่งเคยได้กัน” ปฐพีว่าอย่างหมั่นไส้มาตามสาย

“ได้น่ะเคยได้แล้ว แต่เพิ่งเคยถูกน้องกิน แม่ง...แล้วเจ็ดวันต่อจากนี้ กูต้องขึ้นสวรรค์อีกกี่รอบวะ เจอกูอีกครั้งถ้ากูผอมไม่ต้องทักว่าป่วยนะ น้ำคงหมดตัว”

“ไอ้สัดธนิก มึงมันคนกาม” ปฐพีต่อว่า แต่ธนิกทำแค่หัวเราะร่วน “แล้วจะให้กูจัดการยังไงกับนิ่ม”

“ตามมึงเห็นสมควรละกัน อย่าเพิ่งให้มายุ่งวุ่นวายกับกู เดี๋ยวกูไปเคลียร์เองทีหลัง ขออยู่กับขวัญก่อน”

“ตัวเองหนีไปมีความสุขแล้วโยนทุกข์ให้กูทุกที” ปฐพีว่าอย่างเหนื่อยใจ

“เพื่อนก็มีไว้อย่างนี้แหละ”

“ด่าชั่วกูก็ยังรู้สึกไม่สาสม!”

“มึงเถอะ กับคนที่นอนให้มึงเอาน่ะ เมื่อไหร่จะเปิดตัวสักที” ธนิกวกกลับเข้าเรื่องของปฐพี “หลายปีแล้วนะคนนี้ ได้ยินแต่มึงบอกว่าเด็ด ไม่เคยได้เห็นตัวจริง กลัวอะไรอยู่วะ”

“ไม่ได้กลัว แต่กูไม่ได้จริงจังไงไอ้สัด” ปฐพีบอกเสียงเรียบ “เอากันมาหลายปีแต่มันก็แค่นั้นปะวะ”

“แค่นั้นไม่จริงน่ะสิ พ่อมึงบังคับแต่งงานอยู่ทุกวัน ถ้าไม่ติดอะไรก็ไม่แต่งไปล่ะ”

“ชีวิตกู กูเลือกเองครับ” ปฐพีบอกอย่างเท่ๆ “อีกอย่าง...แต่งไปก็ปัญหาเยอะ กูเลิกเอามันไม่ได้ ไม่อยากสวมเขาให้ใคร”

“นี่ไง มึงจริงจังแล้ว”

“มันไม่ใช่อย่างนั้น” คนไม่ยอมรับปฏิเสธอย่างอ่อนใจ “มันซับซ้อนนิดหน่อย อย่ามารู้เรื่องกูเลย เอาเรื่องมึงให้รอด”

“ไม่รอดไม่เป็นไร ตายคาอกน้องขวัญก็ยอม” ธนิกพูดติดตลก แต่ปฐพีสบถดังลั่นมาตามสาย “เออ...มึง แล้วเป็นไง เรื่องมือปืนที่ยิงน้องกับพวกที่บุกขึ้นคอนโดฯ ขิม เป็นใครวะ”

“เรื่องมือปืนที่ยิง มันโดนฆ่าก่อนโดนจับ ตำรวจสาวถึงตัวได้แล้ว หนีไปกบดานที่สุโขทัย แต่ไปไม่ทัน โดนเก็บก่อน ส่วนพวกที่บุกขึ้นคอนโดฯ ไอ้ขิม กูว่าน่าจะเป็นคนของนิ่ม กูเช็กมือถือไอ้ขิมแล้ว มันคุยกับ X เค้นถามมันมันบอกไม่รู้จักว่าเป็นใคร X ส่งรูปตอนที่มันวิ่งไปจูบมึงที่ร้านกาแฟมา แล้วก็ด่ากราดมัน มันก็ด่าตอบ โต้กันไปโต้กันมานั่นแหละ แต่ตอนที่มันคบกับมึง ไอ้ X อะไรนี่ก็โผล่หัวมาไม่ใช่เหรอ แล้วมันก็โดนน้ำร้อนสาดหลัง”

“มึงจำแม่นนะ กูจำแทบไม่ได้” ธนิกกล่าวชื่นชม “ไอ้ X นี่รู้ว่าเป็นนิ่ม แต่คนสั่งจริงๆ อาจจะเป็นแม่กู”

“เออ คิดเหมือนกัน น้องไม่อยู่บ้านก็น่าจะมีแค่มึงกับแม่มึงที่รู้ ขนาดน้องหายไปไอ้คนเฝ้ามันยังไม่รู้เลยไอ้ห่า”

ธนิกถอนหายใจแรง “มึงว่าเส้นกั้นระหว่างคำว่ากตัญญูกับอกตัญญูอยู่ตรงไหนวะ”

“ไม่รู้ว่ะ เพราะกูก็คนบาป”

“ทำไมกูไม่คบเพื่อนดีๆ ก็ไม่รู้เนี่ยไอ้โม คบคนชั่วอย่างมึงตอบไรไม่ได้เลย” ธนิกแสร้งพูด แต่ปฐพีด่ากราดมาตามสายจนต้องยกโทรศัพท์มือถือออกห่าง ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรกลับไปก็ได้ยินเสียงประตูกระจกเลื่อนเปิดออก

“พี่นิกค้าบ” น้ำเสียงออดอ้อนของขวัญพัฒน์ดังขึ้นใกล้ๆ “คุยกับใคร ทำไมไม่ไปนอนกอดน้อง”

“พี่นิกคุยกับไอ้โมครับคนดี” ธนิกบอกเสียงนุ่ม ขยับเข้าไปหาขวัญพัฒน์ที่ยกมือขึ้นกอดเอวเขาไว้หลวมๆ แล้วซุกหน้ากับอกกว้างของเขา “นอนไม่หลับเหรอ”

“หลับไปแล้ว แต่สะดุ้งตื่น” ขวัญพัฒน์บอกเสียงอ่อน คลอเคลียเหมือนลูกแมวน้อยจนหัวใจของธนิกอ่อนยวบ “พี่นิกไปนอนกล่อมน้องหน่อย น้องนอนไม่หลับถ้าไม่ได้กอดๆ”

แม่ง...อยากรังแกคนง่วงนอน

“จูบพี่นิกก่อน เดี๋ยวพาไปนอนเลยครับ”

ขวัญพัฒน์เด็กดีว่านอนสอนง่าย บอกให้จูบก็จูบ ริมฝีปากเล็กดูดงับกลีบปากหนาพลางใช้ฟันขาวขบกัด พอธนิกแลบลิ้นให้ก็ดูดกินราวกับเด็กน้อยหิวเยลลี่ พอกินอิ่มแล้วก็มองตาปรือ “ง่วงแล้วค้าบ”

“แป๊บ” ธนิกบอกแล้วยกโทรศัพท์มือถือขึ้น “มึง กูไปนอนก่อนนะ เจ็ดวันจากนี้กูจะปิดโทรศัพท์ ไม่ต้องห่วง”

“ไอ้สัด นึกว่าตายห่าคาอกน้องไปแล้ว” ปฐพีว่าพลางถอนหายใจใส่ธนิก “เอาไงก็เอา แต่มึงคงรู้นะว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น”

“เออ เตรียมใจแล้ว ไปละมึง โชคดี”

“อืม โชคดี บอกตัวเองเถอะมึง”

ธนิกวางสายจากปฐพี ก่อนจะก้มลงมองคนในอ้อมกอดที่กำลังเงยหน้าขึ้นมองเขาตาแป๋ว “ตาใสเชียว ไม่ง่วงแล้วเหรอ”

“มันจะสว่างแล้วอะ จะตีห้าแล้วอยู่ดูพระอาทิตย์ขึ้นกับพี่นิกดีกว่า” ขวัญพัฒน์บอกเสียงงัวเงียเล็กน้อย แต่ดวงตาคู่สวยยังเปล่งประกายน่ามอง ดูไม่เหมือนคนง่วงนอนเลยสักนิด “แต่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นทำอะไรดีน้า”

“น้องขวัญอยากทำอะไรล่ะครับ”

“กินพี่นิกที่ระเบียง” ขวัญพัฒน์ว่าพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปาก มือบางลูบไล้กายหนา ไล่ตั้งแต่อกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ไต่ระดับลงมาถึงหน้าท้องเป็นลอนสวย แวะคลึงนิ้วที่แอ่งสะดือแล้วหายลับไปในกางเกงนอน

ธนิกเกร็งตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกมือเล็กกอบกุมแกนกาย เขากัดฟันข่มอารมณ์ที่เริ่มโหมกระหน่ำ “น้องขวัญ” เสียงของธนิกขาดห้วง เขาเชิดหน้าขึ้นเมื่อถูกริมฝีปากบางเล่นงาน ผิวกายแต่ละส่วนถูกดูดกัด ขวัญพัฒน์ขี้เล่น ใช้ปากเล็กเล่นไปซะทุกส่วน บางทีก็กัดกล้ามเนื้อของเขาจนขึ้นรอยฟัน

“พี่นิกอร่อย” ขวัญพัฒน์มองเขาตาฉ่ำ แลบลิ้นเล็กเลียผิวแก้มของเขาแล้วลากลงมาที่ลำคอพลางนิ้วเรียวก็ค่อยๆ เกี่ยวขอบกางเกงของเขาลงต่ำจนเผยให้เห็นแกนกายแข็งขืนที่ถูกซ่อนไว้ ขวัญพัฒน์แสร้งทำตาโต ปัดนิ้วลากผ่านส่่วนที่เปรอะไปด้วยน้ำใส “น้องขวัญกินได้มั้ย”

“จัดการเลยที่รัก” ธนิกเอ่ยอนุญาต เขาเฝ้ารอให้ขวัญพัฒน์กลืนกินแทบจะขาดใจ แต่ริมฝีปากของขวัญพัฒน์ยังไปไม่ถึงจุดหมาย คนชอบยั่วแวะเวียนตรงจุดนั้นจุดนี้ เล่นจนสติของเขาเกือบกระเจิงหาย ลิ้นเล็กหมุนวนที่เม็ดทับทิม สลับสับเปลี่ยนไปมา ก่อนจะวนที่แอ่งสะดือของเขาพลางลากลิ้นไปตามกล้ามเนื้อเป็นลอน ดูดชิมจนเกิดรอยไปหลายรอย แล้วจากนั้นก็ลากผ่านลงไป เขามองตามพลางเผลอกลั้นหายใจเมื่อริมฝีปากของขวัญพัฒน์เคลื่อนผ่านลงไป ลิ้นเล็กแค่แลบเลียมาแตะส่วนหัวแล้วลงไปให้ความสนใจกับส่วนอื่น

“น้องขวัญ...” ธนิกพูดได้เท่านั้นก็เชิดหน้าขึ้นเมื่อริมฝีปากปากครอบครองหนึ่งลูกแห่งความกระสันเข้าเต็มคำ ขวัญพัฒน์ตัวแสบเล่นงานเขาซะจนอยู่หมัด คนตัวเล็กดูดกลืนเข้าไปในปาก หายวับไปหลายวินาทีพอๆ กับที่เขากลั้นหายใจตามพร้อมกันนั้นมือเล็กก็ขยับเข้ามากอบกุมแกนกายบวมเบ่งที่ไม่ได้รับการสัมผัส มือของขวัญพัฒน์ขยับขึ้นลงในขณะที่ริมฝีปากก็สู้ไม่ถอย

“พี่นิกกางขาแล้วย่อตัวลงหน่อย” ขวัญพัฒน์สั่ง ริมฝีปากวาววับไปด้วยความชุ่มฉ่ำ ผิวหน้าขาวแดงก่ำ ดวงตาปรือปรอยอย่างน่าย่ำยี “อือ แบบนั้น”

“อะ...ซี๊ดดด..ด น้องขวัญ” ธนิกจะขาดใจแล้ว ขวัญพัฒน์อ้าปากงับตรงจุดเดิมก่อนจะแลบเลียจุดเชื่อมระหว่างเส้นทางแล้วทำสิ่งที่เขาไม่คาดคิด ลิ้นเล็กปรนเปรอช่องทางข้างหลังของเขา ความรู้สึกสุขสมเต็มตื้นอยู่ในใจ เมื่อขวัญพัฒน์ปรนเปรอเขาอย่างต่อเนื่อง “ขวัญ พี่...จะ”

ขวัญพัฒน์ส่งยิ้มให้ รอยยิ้มยั่วทำให้ธนิกอยากจะจับคนตัวเล็กกว่าลงโทษ แต่เพราะอยากรู้ว่าจะถูกกินอย่างไรต่อไปจึงได้แต่เฝ้ารอแล้วเขาก็ต้องครางลั่นเมื่อจู่ๆ ริมฝีปากเล็กก็ครอบครองแกนกายของเขาเข้าไปในปากจนเกือบหมด ในโพรงปากของขวัญพัฒน์คับแน่นและอุ่นร้อน ลิ้นของขวัญพัฒน์ก็ตวัดชิมของเขาอย่างเชี่ยวชาญเหลือเกิน เขาเผลอขยับสะโพก กระทุ้งเข้าหาความอุ่นนุ่มจนส่วนปลายดันกับกระพุ้งแก้ม ขวัญพัฒน์ส่งเสียงอึกอักแต่ก็ยังขยับศีรษะตามจังหวะของเขา

พระอาทิตย์ใกล้ขึ้นเต็มทีแล้วแต่ธนิกไม่อาจให้ความสนใจได้ ตอนนี้เขาสนใจแค่ขวัญพัฒน์ที่นั่งคุกเข่าตรงหน้าและกำลังกินเขาอย่างถึงใจ สะโพกของเขาขยับรัว ครางต่ำยาวนานเมื่อกระตุกสั่นอยู่ในโพรงปากของขวัญพัฒน์

“อาา..า ขวัญ ที่รักครับ ฮึ่มม สุดจริงคนดีของพี่” เขาชมเมื่อขวัญพัฒน์ยังคงดูดกินน้ำรักของเขา ริมฝีปากเล็กช่วยรีดเค้นให้ออกมาทุกหยาดหยดและตอนนี้ยังช่วยทำความสะอาดโดยการลากลิ้นขึ้นลง

ภาพนี้สวยยิ่งกว่าพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าเสียอีก









Friday, 03:40 AM

K. : ขิม

เขมินทรา: ใคร

K. : อย่าโง่ไอ้สัดน้อง กูเอง

เขมินทรา: ไอ้สัดพี่ มึงเหรอ เหี้ย เงียบหายไปสองวัน กูนึกว่ามึงตายไปแล้ว

K. : กูยังไม่ตายไอ้น้องโง่ แต่ไม่ได้เล่นมือถือ

เขมินทรา: แล้วนี่มึงเล่นอะไรวะ

K. : มือถืออีกเครื่อง เครื่องหลักเอาใส่ตู้คล้องแม่กุญแจกับมือถือพี่นิกไปแล้ว

เขมินทรา: นี่มึงเอาจริงเหรอ กูนึกว่ามึงพูดเล่น แล้วพี่ธนิกแม่งก็บ้าไปกับมึงด้วย

K. : กูก็ตกใจเหมือนกันนั่นแหละที่เขาตกลง แล้วมึงเป็นไงบ้าง

เขมินทรา: เหี้ยมากไม่อยากจะพูด กูติดแหง็กอยู่ในบ้านเนี่ย อย่างกับนักโทษ ขยับตัวทีก็อึดอัด ไม่กล้าขี้กล้าเยี่ยวเลยจ้า มีกล้องเยอะเกินไปมั้ย บ้านหรือคุกกูแยกไม่ออกแล้ว

K. : เออ ทนๆ ไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีละ

เขมินทรา: มีน่ะมี แต่พี่โมของมึงจัดการเรียบร้อย

K. : ยังไงวะไอ้ขิม เกิดอะไรขึ้นกับมึง

เขมินทรา: อีพี่นิ่มมันเข้ามาในบ้าน บุกมากระชากหัวกูลงจากเตียงเลย กูเมาขี้ตา ยังอึ้งๆ อยู่ มันเอาเพื่อนของมันมาด้วย ดูโอ้นรกฉิบหาย แต่พี่โมของมึงมันมาพอดี กูก็เลยรอด

K. : มันทำอะไรมึงบ้าง บอกกู

เขมินทรา: ตบ แต่เพื่อนผู้ชายมันชกปากกูแตกอะ ใส่ยาแล้วยังไม่หาย หน้ากูระบมหมด นี่ก็เจ็บเลยนอนไม่หลับ

K. : อินิ่มอิเหี้ย มันต้องเจอกู

เขมินทรา: ไอ้สัดพี่มึงสู้คนเหรอ

K. : กูนักเลงเก่า แต่กูไม่ตบผู้หญิง หมาหมู่กูไม่สู้ แต่ตัวตัวกูไหว

เขมินทรา: กูก็ไม่ทำผู้หญิง แต่โดนตบแล้วมึนก็เลยสวนหมัดอิผู้ชายไม่ทัน โดนหมัดมันไปทีกูล้มกลางอากาศไปเลย แล้วอิพี่นิ่มก็ขึ้นคร่อมตบกูรัวอย่างกับฝึกตบวอลเล่ย์

K. : บอกมิสเตอร์ทีไปเก็บมัน อีคุณนิ่มมันต้องเจอสักทีอะ แม่พี่นิกให้ท้ายมัน มันก็เลยกล้า รหัสเข้าบ้านก็รู้ พี่นิกบอกว่าแม่พี่นิกบอกมัน กูว่าธนิษฐานี่ควรโดนสักทีเหมือนกัน เหี้ยไรกับชีวิตลูกนักหนา

เขมินทรา: เออ มึงก็ระวังหน่อยนะ แม่ผัวมึงอะใช่เล่น โรคจิต มันกลับมาละนี่ มึงเอาลูกมันไปกก มันตามฆ่ามึงแน่

K. : มันจะฆ่ามึงก่อนถ้ามึงไม่แสดงเป็นกูให้แนบเนียน กูมีประโยชน์กับมันอยู่ ตราบใดที่มึงเป็นกูแล้วอยู่ในบ้านหลังนั้น มันไม่ทำอะไรมึงหรอก กลัวนักก็บอกมิสเตอร์ที มันจัดการให้มึงได้

เขมินทรา: มิสเตอร์ทีไม่สนใจกูไอ้สัดพี่ กูโดนรุมมันพูดแค่ว่าสมน้ำหน้าด้วยซ้ำ แม่งเอ้ย คิดแล้วแค้น

K. : แค้นอิคุณนิ่ม?

เขมินทรา: มิสเตอร์ทีมึงอะ แล้วมึงจะทำยังไงต่อ เพื่อนกูก็ไลน์มาถามว่าทำไมไม่ไปมหาลัย ตอนนี้คือตัวกูหายสาบสูญอะ มึงทำไรอยู่กันแน่วะไอ้ขวัญ

K. : ทำให้พี่นิกเป็นของกู

เขมินทรา: ยังไง?

K. : เหมือนที่มิสเตอร์ทีทำกับมึง กูทำแบบนั้นแหละ ละเอียดทุกขั้นตอน ทุกพื้นที่ผิวสัมผัสไม่ให้พลาด ตอนนี้เหลือบนหลังตู้ที่ยังไม่ได้ปีนขึ้นไปลอง

เขมินทรา: เดี๋ยวนะไอ้พี่เหี้ย ที่มึงขอให้กูเล่านี่...มึงเอาไปใช้กับพี่ธนิกเหรอ เวรรรร กูหมดคำจะพูด มึงกล้าขนาดนั้นได้ยังไง

K. : คิดถึงหน้าธนิษฐาดิ้นตายตอนลูกไม่รักแล้วความกล้ากูแม่งเกินล้านเปอร์เซ็น

เขมินทรา: เดี๋ยวมันก็มามุขเดิมเชื่อกูเถอะ ฆ่าตัวตายซ้ำๆ มุขเก่าแต่ใช้ได้ผลทุกครั้ง ฆ่าจริงด้วยนะแต่ไม่เคยตายสักที กูก็งงมากว่าดวงมันดีหรือหมอเก่ง ทีแม่พวกเราแม่งครั้งเดียวไปแล้วไปลับ

K. : เออ เรื่องนี้ มึงบอกใช่ปะว่ามึงเจอแม่ก่อนตาย

เขมินทรา: อืม สภาพแย่มาก เจอตอนกูอยู่มอห้า มีคนพากูไปเจอ เป็นผู้หญิงรุ่นน้องแม่ เขาบอกว่ามีคนอยากเจอ คนนั้นจะไม่ไหวแล้ว อยากเจอครั้งสุดท้าย คือสภาพแม่ถ้ามึงเห็น ต่อให้ไม่รักไม่ผูกพันมึงก็ต้องร้องอะไอ้ขวัญ แผลเต็มตัว หน้าช้ำ หัวแตก แม่กรีดข้อมือตัวเองแต่ไปส่งโรงพยาบาลทัน หมอก็ช่วยยื้อไว้ได้ แต่แม่ก็เสียเลือดมาก ช้ำในด้วยก็เลยอยู่ต่อไม่ไหว

K. : ตอนที่มึงเจอวินาทีแรก มึงรู้มั้ยว่าเป็นแม่

เขมินทรา: ไม่ว่ะ คนพาไปเขาไม่ได้บอกอะไรก่อน แล้วพอแม่ตายเขาก็บอกว่านี่แหละแม่แท้ๆ ของกู

K. : ธนิษฐามันแค้นอะไรขนาดนั้นวะ

เขมินทรา: ตอนมันทรมานกู มันบอกว่าแม่เป็นเมียน้อย ให้ท่าพ่อ อ่อยพ่อ ทำลายชีวิตครอบครัวของมัน มันโกรธที่พ่อไม่ให้อะไรมันเลยทั้งๆ ที่มันเป็นเมียถูกต้องตามกฎหมาย แล้วกูก็จะแย่งลูกมันไปอีก

K. : พ่อมึงก็ใช่ย่อยนะไอ้ขิม สามวันก่อนกูเจอคุณแขไข เขาจะดีจะร้ายไม่รู้แหละ แต่ก็ดูไม่อะไรกับพวกเรา แล้วเขาก็บอกว่าพ่อมึงอะฆ่าน้ากู แม่ง นอกจากสร้างปัญหาให้กูแล้วยังทำร้ายน้าลี เอาจริงกูไม่นับญาติได้มั้ย จะบาปปะวะ

เขมินทรา: พ่อกูก็พ่อมึงไอ้ขวัญ ไม่ต้องยัดเยียด แล้วเขาก็ยกมรดกให้มึงคนเดียว ควรเป็นพ่อมึงอะ

K. : ถามกูสักคำยังว่ากูอยากได้มั้ย

K. : พูดถึงเรื่องมรดก คุณแขไขเขาไม่ได้จะไฟท์อะไรกับกูว่ะ เขาแค่ไม่ยอมให้ธนิษฐาได้ไป แต่ถ้ากูยังจะให้พี่นิก ก็ตามเวรตามกรรมกู

เขมินทรา: ถามจริงไอ้สัดพี่ มึงจะให้พี่ธนิกจริงเหรอ คืออย่างที่กูบอกมึงตั้งแต่แรกว่ากูไม่เห็นด้วย พี่ธนิกได้ก็เหมือนธนิษฐาได้ มันคงกระพือปีกแรงเลยอะ ขนาดว่ายังไม่ได้อะไรก็กร่างซะขนาดนี้

K. : เออน่า กูจัดการทุกอย่างไว้ให้แล้ว กูไม่ได้โง่เหมือนมึงจ้าไอ้ขิม ถ้ากูไม่ฉลาดกูไม่เกิดก่อนมึงหรอก ไม่ต้องกังวลอะไร นั่งสวยๆ รอเรื่องจบไป ที่เหลือกูชนเอง

เขมินทรา: มึงทำอะไรแผลงๆ หรือเปล่า เดี๋ยวก็ตายไม่รู้เรื่องนะเว้ยไอ้ขวัญ กูไม่มีชุดดำไปงานมึงนะ อีกอย่าง...ตอนนี้กูเหลือแค่มึงคนเดียว อย่าทิ้งกูนะไอ้สัดพี่ กูชินกับการด่ามึงไปแล้ว

K. : เพื่อนกูก็อยู่ มึงไม่เหงาหรอกน่า ไอ้แนนมันเป็นคนดี ต่อให้มันจะเขม่นมึงแต่เพราะมึงปากหมาใส่กูไง แต่มันไม่ได้เกลียดอะไรมึงหรอกนะ กูไม่อยู่ก็ไปช่วยมันเลี้ยงลูก ใกล้คลอดแล้ว ลูกมันคงน่ารัก ซื้อของเล่นกับของรับขวัญให้หลานด้วยล่ะ กูสัญญากับไอ้แนนแล้วว่าจะซื้อสร้อยทองให้

K. : 089786XXXX นี่เบอร์พี่จอย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมึงโทรหาเขา บอกว่าเป็นน้องกูนะไอ้ขิม

เขมินทรา: มึงจะสั่งเสียทำหอกอะไร กูใจไม่ดี

K. : พูดเผื่อๆ ไว้ไง กูเอาลูกธนิษฐามากกนะเว้ย มันรู้คงได้แหกอกกูแน่

เขมินทรา: ศึกแม่ผัวนี้ใหญ่หลวงนัก ศึกอิเมียมโนก็ใหญ่หลวงเช่นกัน พูดแล้วเจ็บแผลขึ้นมาทันที

K. : หมากัดใช่ไหมแบบนี้ นี่เธอเกลียดชังฉันมากหรือเธอ

เขมินทรา: มึงก็ยังเล่นกับกูเนอะ ไอ้ห่าพี่ มิสเตอร์ทีจะมา กูไปก่อนละ

K. : มันยังไม่เลิกยุ่งกับมึงอีกเรอะ

เขมินทรา: เปล่า กูบอกว่ากูกำลังจะตาย มันเลยมา

K. : ไอ้น้องโง่เอ้ยยยย! กูจะด่ามึงยังไงดี! ตอนคลอดมึงลืมเอาสมองมาด้วยเหรอ ไอ้ขิม! ไอ้น้องเวร

เขมินทรา: อย่าด่ากูเยอะ กูโดนตบเพราะมึงส่งรูปให้อิพี่นิ่มนะ สำนึกด้วย ไปแล้ว!




ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17

ผมแทบอยากจะปาโทรศัพท์มือถือทิ้งเพราะความหัวร้อน ถ้าไม่ติดว่ามันจะทำให้คุณธนิกตื่นขึ้นมาล่ะก็ ไอ้ซัมซุงในมือไม่รอดแน่

เขมินทราไม่ฉลาด แต่จะว่ามันอย่างนั้นก็ไม่ได้เพราะบางทีผมก็ทำอะไรไม่คิด เราใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความรู้สึกมากกว่าเหตุผลจนบางครั้งก็ลืมที่จะคิดถึงผลที่ตามมา อย่างตอนนี้ผมอยู่กับคุณธนิกแบบยี่สิบสี่ชั่วโมงเข้าวันที่สามแล้ว ซึ่งถ้าถามว่าดีมั้ย สำหรับผมมันก็ดีมาก แต่ผมกังวลหลายอย่าง มันเหมือนกำลังเล่นกับไฟที่ไม่รู้จะเผาตัวเองตายวันไหน

ผมยกมือขึ้นลูบศีรษะคุณธนิกพลางกดจูบลงบนหน้าผากลาดของเขา เขาหลับค่อนข้างลึกเพราะความเหนื่อยอ่อน วิธีการในนรกของมิสเตอร์ทีสำหรับเขมินทราเป็นแบบไหน ผมก็เอามาใช้กับคุณธนิกแบบนั้น แต่เชื่อไหมว่าคุณธนิกไม่คิดว่ามันเป็นนรก เพราะเขาเต็มใจ เราเหมือนอยู่บนสวรรค์ด้วยกัน สามวันของเราหอมหวานเกินจะบรรยาย ยี่สิบสี่ชั่วโมงเต็มอิ่มจุใจ ผมชอบการที่ได้ใช้เวลาอยู่กับเขา หยอกล้อกันแล้วจบที่เราสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ทุกพื้นที่ในห้องนี้ไม่มีตรงไหนที่ไม่ใช่สวรรค์ของเรา อย่างที่ผมบอกกับเขมินทราว่าเหลือแค่หลังตู้เสื้อผ้าเท่านั้นที่ยังไม่ได้ลองทำ

ผมงัดทุกกลเม็ดมาใช้ ลองที่ได้อ่านๆ มาบวกกับประสบการณ์ตรงจากเขมินทรา ผมชอบให้มันเล่าให้ฟังเพราะจะได้ให้มันระบายออกมา ไม่อยากให้มันเก็บเอาไว้เพราะอย่างน้อยก็มีผมคอยรับฟัง แต่วิธีการของมิสเตอร์ทีก็เด็ดดวงมากจริงๆ คุณธนิกไปไหนไม่รอดทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านมาแค่สามวัน เขานั่งห่างผมไม่ค่อยได้ มือไม้ต้องเลื้อยมาตลอด มันเหมือนว่าเขากำลังถูกมอมเมา โดยที่ผมก็ยอมรับว่าผมมอมเขาจริงๆ

“ตื่นได้แล้วครับที่รัก” ผมกระซิบข้างหูเขา เวลาตีสี่กว่าๆ แบบนี้ผมมักจะปลุกเขาขึ้นมาและเขาก็ลืมตาขึ้นอย่างว่าง่ายแม้จะมีสีหน้าอิดโรย “ไปรอดูพระอาทิตย์กัน”

“ตัวแสบจะให้พี่ได้ดูพระอาทิตย์จริงๆ ไหมวันนี้” เขาถามเสียงแหบต่ำ ใบหน้าหล่อเหลาโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด “หรือจะทำอะไรอีก”

“อืม...ขอคิดก่อน” ผมอมยิ้มมองเขาที่มองตอบกลับมาด้วยสายตารักใคร่ “จะกินพี่นิกแบบไหนดีน้า”

ผมชอบกินเขา เป็นความชอบที่เพิ่งค้นพบว่าชอบเอามากๆ แต่วิธีการกินของผมมีหลายวิธี กินแบบละเมียดละไม กินแบบตะกละตะกลาม หรือกินแบบที่คิดว่าจะได้กินอาหารมื้อสุดท้ายก่อนโลกจะแตก เขาไม่เคยขัดใจผม ถ้าบอกว่าให้นอนเฉยๆ เขาก็จะทำตามนั้น เราทำเรื่องน่าอายอย่างถึงที่สุดที่คู่รักจะทำกันได้ แต่ผมแน่ใจว่าเรื่องน่าอายนี้จะติดอยู่ในความทรงจำของเขาไปอีกนานเท่านั้น

“แล้วน้องขวัญชอบแบบไหนครับ” คุณธนิกถามอย่างสุภาพราวกับบริกรที่พร้อมเสิร์ฟอาหารชั้นเลิศ

“แบบเช้าวันแรกก็ดี อากาศที่ระเบียงเย็นสบาย หรือตอนกลางวันบนโต๊ะกินข้าว แยมสตรอเบอร์รี่บนตัวพี่นิกหวานสุดๆ” ผมคลี่ยิ้มให้เขาพลางทวนเหตุการณ์หวานล้ำที่ผ่านมาให้ฟัง ในขณะที่เขามีสีหน้าดื่มด่ำไปกับจินตนาการในหัว “พี่นิกมองไปตรงนั้นสิครับ ในครัวที่เราทำอาหารด้วยกัน กว่าจะได้กินข้าว พี่นิกกินน้องขวัญจนอิ่ม”

“น้องขวัญก็กินพี่” เขาย้อนกลับเสียงพร่า “ทั้งที่หน้าประตูห้อง ผนังตรงนั้น หลังโซฟา หรือแม้แต่บนพนักโซฟา แทบจะทุกที่ในห้องนี้ น้องขวัญไม่เคยหยุดกินพี่เลย”

“น้องขวัญกินเพราะพี่นิกอร่อย” ผมยิ้มใส่ตาเขา จับผ้าห่มดึงออกเพื่อให้เห็นร่างหนาน่ากินของคุณธนิก เขาเปลือยเปล่าไม่ต่างจากผม เราแทบจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เพราะใส่แค่ไม่กี่นาทีก็ถอด แต่ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะไปสุดปลายทาง เราแค่หยอกเล่นกัน แค่สัมผัสให้เกิดความคุ้นชิน แค่สัมผัสให้จดจำว่าตรงนี้ บริเวณนี้ มือของใครเป็นเจ้าของ เราแทบไม่ห่างกัน อาบน้ำก็อาบน้ำด้วยกัน กินข้าวก็กินด้วยกัน เราสอดประสานกันแทบทุกช่วงเวลา ผมจึงพอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขมินทราถึงถูกล่อลวงได้ง่ายๆ เพราะผมก็เริ่มที่จะนึกชอบอะไรทำนองนี้ ยิ่งตอนที่เราสร้างความแปลกใหม่ให้รสชาติรักก็ยิ่งเพิ่มความหฤหรรษ์และความตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ “แต่เช้านี้ดูพระอาทิตย์จริงๆ ครับ น้องขวัญไม่ซนแล้ว”

“งั้นไปทำของกินรอชมพระอาทิตย์กันมั้ย” คุณธนิกลุกขึ้นนั่งพิงหลังกับหัวเตียง ในขณะที่ผมส่งเสื้อกับกางเกงบอลให้เขาใส่ “แซนวิชกับชาร้อนๆ หอมๆ โอเคหรือเปล่าน้องขวัญ”

“โอเคเลยครับพี่นิก” ผมยิ้มตาหยีให้เขาในขณะที่เขายื่นมือมายีหัวแล้วช่วยกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่ผมกำลังใส่อยู่ให้ “น้องขวัญขอแซนวิชทูน่านะค้าบบบ”

คุณธนิกพยักหน้าพลางคลี่ยิ้มกว้าง เขาลงจากเตียงแล้วเดินไปที่ครัวเล็กๆ ที่อยู่อีกมุมของห้อง ส่วนผมก็เดินตามหลังเขาไปติดๆ

คอนโดฯ ของเขมินทราห้องนี้ไม่ได้กว้างมากนัก แต่ก็จัดแบ่งเป็นสัดส่วน มีอยู่สามโซนด้วยกันก็คือส่วนของห้องนอน ส่วนของห้องนั่งเล่นและส่วนของห้องครัว สำหรับห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัวและมีระเบียงขนาดพอเหมาะไว้รับลม มีโต๊ะทรงกลมเล็กๆ กับเก้าอี้สองตัวที่สามารถนั่งจิบชาหรือจิบกาแฟยามเช้าตรงนั้นได้ แต่ที่ห้องนี้ไม่ค่อยมีของตกแต่งอะไรมาก เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าคอนโดฯ ของไอ้แฝดน้องมันมีอยู่หลายที่ ซึ่งก็เป็นกิจการของพ่อเลี้ยงมัน ที่นี่ก็เพิ่งจะมาอยู่ก็ตอนที่ผมบอกให้หาที่อยู่ให้ มันเตรียมของไว้ให้ขนาดนี้ก็ดีเท่าไรแล้ว

คุณธนิกจัดการเปิดตู้เย็นเพื่อหาวัตถุดิบทำแซนวิช พวกของทำกับข้าวก็ได้คนของไอ้แฝดน้องจัดหามาให้ ผมกับคุณธนิกจึงไม่อดตายต่อให้ไม่ออกจากห้องไปให้ผู้คนเห็นหน้าเลยก็ตาม

“พี่นิกไม่ใส่มะเขือเทศได้ป่าว” ผมต่อรองเมื่อเห็นเขาเริ่มหั่นมะเขือเทศลูกโต เอาจริงคือไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใส่ในอาหาร ผมไม่ชอบมะเขือเทศ อยากจะบอกว่าแพ้เหมือนที่ไอ้แฝดน้องแพ้ถั่ว แต่ความจริงแล้วผมกินได้สบายมากแค่รู้สึกแขยงกับรสชาติของมัน

“กินไปเถอะน้องขวัญ” คุณธนิกตอบอย่างใจร้าย ผมจึงย่นจมูกใส่เขาแล้วหันมาสนใจกับน้ำในกาต้มน้ำต่อ “เรื่องอื่นนี่เก่งไม่ต้องสอน แต่กินมะเขือเทศแค่นี้ทำอิดออด”

“ก็มันไม่อร่อย รสชาติประหลาด แหยะๆ ในปากไม่กล้าเคี้ยว”

“คิดว่ากินผลไม้สิ บางคนกินเล่นได้ด้วยซ้ำ” คุณธนิกว่าพลางวางมะเขือเทศหั่นแว่นบนขนมปังโฮลวีท “น้องขวัญคิดว่าเป็นผักหรือเปล่าก็เลยไม่กล้ากิน”

“ผมกินผักนะพี่นิก” ผมแย้ง รู้สึกเหมือนโดนใส่ร้ายเพราะตลอดทั้งชีวิตวัยรุ่นของขวัญพัฒน์คนนี้ไม่จอดแค่กับผักใบเขียว "ผักคะน้าขมๆ ก็กิน อะไรที่ว่าขมผมกินได้สบายมาก แต่ไม่ชอบมะเขือเทศ”

“งั้นเดี๋ยววันนี้ตอนจดรายการของที่ต้องซื้อให้เพิ่มน้ำมะเขือเทศเข้าไปเลยนะ”

“พี่นิกจะฆ่าผมเหรอ” คนใจร้ายใจดำ คิดจะฆ่าคนด้วยน้ำมะเขือเทศ!

“จะจับกรอกปากวันละสองกล่อง”

“น้องจะโกรธพี่นิกกกกก!!”

คุณธนิกหัวเราะ ไม่เกรงกลัวต่อคำขู่ “โกรธไปเถอะ พี่ไม่ง้อครับ น้องขวัญคนดื้อต้องโดนขัดใจบ้าง”

“ง้ะ” ผมทำหน้างอแล้วเข้าไปกอดเอวเขาไว้หลวมๆ ก่อนจะไถศีรษะกับต้นแขนของเขา ท่าพิฆาตแบบนี้คุณธนิกตายมานักต่อนัก “พี่นิกอย่าแกล้งน้อง”

“เรานี่นะ” คุณธนิกถอนหายใจเหนื่อยอ่อน เขาก้มจูบหน้าผากผมแล้วบอกเบาๆ “รู้ว่าทำแบบนี้พี่จะตามใจก็ทำอยู่เรื่อย”

“คนฉลาดคือขวัญพัฒน์ ฮิฮิ”

“งั้นคนฉลาดก็มาช่วยพี่นิกทำแซนวิชครับ ไปยืนหน้างออยู่หน้ากาต้มน้ำ มันคงง้อเราได้หรอก มือพี่เข้าเฝือกอ่อนอยู่ด้วย เสร็จช้า น้องขวัญมาหั่นมะเขือเทศ ปอกหอมใหญ่ แล้วไปล้างผักกาดหอมนะ”

ผมเบ้ปากใส่เมื่อเขาหันหลังให้ “ใช้เก่งจังเลย!”

“เป็นเมียพี่ต้องขยัน”

“โอ้โห รู้สึกอยากทำขึ้นมาทันที พี่นิกรอแป๊บ น้องขวัญจะเตรียมทุกอย่างตามสั่งภายในสิบนาที!”

“ฮ่าๆ ๆ เรานี่นะ” ชอบจัง...ชอบเวลาที่คุณธนิกหัวเราะ “งั้นพี่ไปชงชาให้”

“มันจะขมมั้ยพี่นิก” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ “ผมไม่เคยมีฟีลลิ่งจิบชายามเช้ามาก่อนเลย ไม่เคยกินด้วยอะ กินแต่ชานมเย็นสีส้มๆ แก้วละสิบห้าบาท อร่อยมาก”

“ซื้อมาให้เมื่อวานมีชามะลิ เอิร์ลเกรย์กับอิงลิชเบรคฟาสต์ น้องขวัญชอบบ่นว่านอนไม่หลับ พี่ก็เลยให้เขาซื้อชามาให้ ที่จริงอยากได้คาโมมายล์แต่น่าจะลืมซื้อ” คุณธนิกแจกแจงให้ฟัง เขาทำหน้าครุ่นคิดเพียงครู่แล้วพูดขึ้นอีกว่า “เอาแบบนี้ถ้าชอบชานมเย็น น้องลองกินอิงลิชเบรคฟาสต์ใส่นมดูไหม”

“ได้เลยครับ พี่นิกว่าดีผมก็ว่าดี แล้วพี่นิกจะกินอะไรอะ”

“เอิร์ลเกรย์ครับ ฝ่านมะนาวลงไปด้วย จะได้สดชื่น”

ผมพยักหน้าหงึก “อ๋อๆ ปกตินึกว่าชอบกินกาแฟ แต่ก็ชอบชาด้วยเหรอเนี่ย”

“ชอบนะ ถ้าวันไหนไม่ต้องทำงานพี่ก็จะไม่กินกาแฟ”

“ถึงว่าสิ เพราะชอบชานี่เอง ก่อนหน้านี้ถึงได้ชอบทำเย็นชา”

คุณธนิกยื่นมือมาผลักหัวผมสองทีติด “เกี่ยวเหรอน้องขวัญ”

“ไม่เกี่ยวก็ได้จ้า ว่าแต่นี่ต้องใส่เหรอ ผมเคยเห็นติดมากับถาดพิซซ่าบ่อยๆ” ผมชูขวดเครื่องปรุงไม่คุ้นเคยให้คุณธนิกดู เพราะตอนนี้กำลังจัดการผสมทูน่ากับมายองเนส

“ออริกาโน่น่ะ เพิ่มความหอม ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ก็ได้”

“งั้นไม่ชอบมะเขือเทศก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ใช่ป่าว อะ เอาออกเลย เกะกะ”

“ไม่เนียนครับ” เขาทำตาดุพลางหยิบมะเขือเทศที่ผมหยิบออกวางลงไปใหม่ “เอาอย่างนี้ กินมะเขือเทศหมดพี่มีรางวัลให้”

“โอ้โห งานนี้วิญญาณนักล่ารางวัลต้องเข้าสิงน้องขวัญแล้วล่ะ” ผมตาเป็นประกาย “ว่ามาเลยพี่นิก รางวัลอะไรครับ”

“ให้ขออะไรก็ได้จากพี่หนึ่งอย่าง” ชอบซะจริงๆ คนใจป๋า นิสัยเสี่ยเนี่ย!

“บ้าน รถ ที่ดิน คอนโดฯ หรืออะไรก็ได้ใช่มั้ยครับ”

“ได้” เขาตอบพลางยักคิ้วให้ “แต่ขอบ้านนี่ต้องกินห้าลูกอย่างต่ำ กินสดๆ ด้วยนะ”

“ทำไมงั้นอะ” แค่คิดว่าต้องยัดมะเขือเทศห้าลูกเข้าปากแบบสดๆ ผมก็จะอ้วกแล้ว คงเป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมเลยทีเดียว

“รางวัลใหญ่ข้อแลกเปลี่ยนก็เยอะตามไงน้องขวัญ” สมกับเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ไม่ยอมเสียเปรียบเลยจริงๆ

ผมย่นจมูก รู้สึกว่าเกมครั้งนี้ไม่หมูอย่างที่คิดเอาไว้แล้ว “งั้นเปลี่ยนของรางวัลดีกว่า”

“หืม” เขาเลิกคิ้วน้อยๆ “เปลี่ยนเป็นอะไร”

“ไม่เอาบ้าน ไม่เอารถ ไม่เอาของแพงๆ แต่ถ้าจะให้พี่นิกบอกรัก ผมต้องกินมะเขือเทศทั้งไร่เลยหรือเปล่าครับ”

เห็นความยากเย็นของการได้ยินคำว่ารักจากปากเขาไหม! นั่นแหละผมเปรียบกับการกินมะเขือที่ผมไม่ชอบทั้งไร่ แต่ต่อให้กินเข้าไปทั้งไร่ก็ยังต้องมาลุ้นว่าเขาจะพูดให้ได้ยินหรือเปล่า

ชีวิตรักนี้ลุ้นกว่าหวยรัฐบาลได้ยังไง!

“เอ...ยังไงดีนะ” เขาอมยิ้มมองมา “แน่ใจเหรอว่าฝืนกินได้ทั้งไร่”

“ก็อย่าให้ถึงขนาดนั้นมั้ย”

“ใจเย็น รีบร้อนไปทำไม พี่มีเวลาให้ขวัญทั้งชีวิต”

ผมคลี่ยิ้มกว้าง “เนี่ย ก็เป็นซะแบบนี้”

ไม่ฟังก็ได้...ขนาดไม่มีคำว่ารักยังเขินแทบบ้า ถ้ามีขึ้นมา...ผมคงล้มกลางอากาศ ฟินจนตายไปถึงชาติหน้าแล้ว

“พี่นิกไปกันนน เสร็จแว้ววว”

แซนวิชทูน่าง่ายๆ เรียบๆ เสร็จสิ้นเรียบร้อยและตอนนี้ชาหอมๆ ในแก้วชาก็ส่งควันหอมฉุ่ยให้รู้สึกผ่อนคลาย เราช่วยกันยกของไปวางบนโต๊ะทรงกลมที่ระเบียง คุณธนิกถือถาดแซนวิชด้วยมือข้างเดียวในขณะที่คนมือใช้การได้ทั้งสองข้างอย่างผมจัดการยกของร้อน แอบดมกลิ่นแล้วหอมมาก ผ่อนคลายจนอยากจะหลับตาแล้วล้มตัวลงนอน ทว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะได้เห็นแสงแรกของวันแล้ว ผมดูเวลาพระอาทิตย์ขึ้นในโปรแกรมพยากรณ์อากาศก็แจ้งว่าพระอาทิตย์จะขึ้นตอนตีห้าสี่สิบห้านาที ตอนนี้นอกจากจะกัดแซนวิชและจิบชาไปพลางๆ แล้วยังต้องภาวนาให้ไม่มีเมฆมาบังแสงอาทิตย์แรกของวันด้วย

“ตอนนี้ดีมากเลยเนอะขวัญ” คุณธนิกพูดขึ้นหลังจากที่เราต่างฝ่ายต่างก็จัดการอาหารเช้าของตัวเอง เขาพิงหลังสบายๆ กับพนักเก้าอี้แล้วเหม่อมองไปยังภาพเบื้องหน้า “อยากอยู่กับขวัญแบบนี้ไปจนแก่เลย”

ผมไม่รู้จะพูดอะไร เพราะไม่มีถ้อยคำไหนจะบอกเขาได้ ความปรารถนาของเขาห่างไกลจากจุดที่พวกเรายืน เส้นทางของพวกเราทอดยาวจนเห็นจุดจบ ที่จุดนั้นเกิดทางแยกสองทาง ซึ่งมันหมายความว่าผมและเขาต่างก็มีทางของตัวเอง

“สถานีรถไฟนั้นยังมีอยู่จริงมั้ย”

นั่นสินะ...

“แล้วถ้ายังมีอยู่จริงขวัญยังรอพี่ที่ชานชาลาอยู่หรือเปล่า”

แสงอาทิตย์แรกของวันเริ่มปรากฎแก่สายตา สีทองอ่อนๆ ค่อยๆ ไล่โทนจนกระจายไปทั่วท้องฟ้า

“หรือตั้งแต่วันนั้น ขวัญพัฒน์ที่จับมือพี่ไว้ได้ตายไปแล้ว”

ผมเงยหน้าขึ้นสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามนี้พลางมองฝูงนกที่เริ่มบินออกหากิน

“ผมเป็นอมตะครับพี่นิก” ผมบอกพลางยื่นมือไปกุมมือเขาไว้ “แต่สถานีรถไฟนั้นอาจจะไม่มีตั้งแต่แรก”

ถ้อยคำในประโยคสุดท้ายของผมเป็นเพียงเสียงรำพึงท่ามกลางเสียงของธรรมชาติ ผมไม่แน่ใจว่าเขาได้ยินไหม แต่การนิ่งเฉยพร้อมกับรอยยิ้มที่แต้มบนใบหน้าหล่อเหลานั้นทำให้ผมเดาทางไม่ออก

คุณธนิกครับ ผมในตอนนี้น่ะ...มีความสุขมากจริงๆ นะ

ไม่ต้องมากไปกว่านี้ก็ได้ แค่นี้...ก็พอแล้วครับ









วันที่สี่และวันที่ห้าสำหรับผมกับคุณธนิกยังคงราบรื่นดี แต่เราไม่ค่อยมีกิจกรรมสยิวด้วยกันสักเท่าไร คงเพราะแท้จริงแล้วผมกับคุณธนิกไม่ได้กระสันอยากมากขนาดนั้น บางทีเราทั้งคู่ก็แค่พอใจที่จะนอนจัับมือกันดูหนังอยู่หน้าทีวีหรือบางทีก็แค่นั่งจิบชาพูดคุยกันที่ระเบียง สุขใจกับแค่การสัมผัสกันเล็กๆ น้อยๆ ผมว่าการที่ได้กอด ได้จูบหรือได้หอมแก้มแค่เท่านี้ก็ทำให้รู้สึกดีได้ไม่ยาก ผมจึงค่อนข้างแปลกใจที่ระหว่างมิสเตอร์ทีกับเขมินทราหักโหมกันได้ขนาดนั้น

“พี่นิกครับ” ผมเอ่ยเรียกคนตัวหอมที่ใจดีให้ผมนั่งพิงอกกว้างๆ ดูแสงอาทิตย์สุดท้ายของวันนี้ เรานั่งกันตรงธรณีประตูซึ่งกั้นระหว่างระเบียงกับห้องนอน เขานั่งซ้อนอยู่ด้านหลังและให้ผมนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้าง

“หืม” เขาขานรับ

“พี่นิกเบื่อไหมครับ” ห้าวันแล้วที่ขังตัวเองอยู่ในห้องกับผม นอกจากคนที่ซื้อของเข้ามาให้แล้วเราสองคนก็ไม่พบเจอคนอื่น

“ไม่นะ อยู่กับขวัญสนุกมาก” เขาตอบพร้อมรอยยิ้ม “ขวัญล่ะ เบื่อมั้ย”

“ไม่ครับ” ผมปฏิเสธพลางลูบแขนแกร่งที่โอบตัวผมอย่างแผ่วเบา “แปลกดีเหมือนกัน ผมชอบมากกว่าเบื่อซะอีก ขนาดสองวันมานี้ไม่ได้เล่นกับพี่นิก แบบ...ผมหมายถึงแบบนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าหมดมุขนะครับ ผมยังเหลือลูกเล่นอีกเยอะ รับรองพี่นิกไม่เบื่อแน่นอน แต่ก็นั่นแหละ ตอนนี้แค่อยากอยู่กับพี่นิกแบบเสื้อผ้าครบชิ้นบ้าง”

เขาหัวเราะ เป็นเสียงหัวเราะที่ผมต้องยิ้มตาม “พี่ยังไงก็ได้ แค่ได้อยู่กับขวัญ จะไม่ทำอะไรเลยก็ได้ เพราะให้พี่มองหน้าขวัญทั้งวันพี่ก็ไม่เบื่อ ขวัญใส่อะไรก็น่ารัก ไม่ใส่ก็เซ็กซี่ดี แบบไหนพี่ก็โอเค”

“เราเป็นคนรักกันหรือเปล่านะ”

“ถ้าใจบอกใช่ก็ใช่” เขาตอบกำกวมจนผมอ้าปากงับต้นแขนเขาอย่างหมั่นไส้ “ไปเปิดไฟมั้ย ห้องเริ่มมืดแล้ว”

“ไม่เอา อยู่แบบนี้ดีกว่า” ผมรั้งเขาที่ทำท่าจะลุก ไม่อยากห่าง แค่ไม่กี่วินาทีที่เดินไปกดสวิทช์ไฟก็เหมือนนานเป็นชาติ เพราะอย่างนั้นอยู่แบบนี้ก็ได้ มืดแค่ไหนแต่แค่อ้อมกอดของคุณธนิกก็ทำให้รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย “พี่นิกว่าถ้าคนไม่ได้รักกัน การที่เขายังอยู่ด้วยกัน เขาอยู่เพราะอะไรครับ”

“แต่ละคนก็มีเหตุผลไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างเหตุผลครับน้องขวัญ บางคนอาจอยู่เพราะเซ็กส์ บางคนอาจอยู่เพราะความผูกพันหรือบางคนอาจอยู่เพราะความเหงา มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่มีใครบนโลกต้องการที่จะอยู่คนเดียว ต่อให้เก่ง ให้แข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ยังต้องมีเพื่อน มีคู่คิด มีคนคอยเตือนสติให้คำปรึกษา” เขาตอบน้ำเสียงเรียบเรื่อยพลางลูบศีรษะของผมไปด้วย

“ผมถามเรื่องพี่นิกกับขิมหน่อยได้มั้ย” ผมเอ่ยลองเชิง ที่เมื่อเห็นเขาไม่ว่าอะไรจึงถามต่อ “ตอนคบกันเป็นยังไงครับ พี่นิกคบกับขิมสี่ปี การที่อยู่ด้วยกันมานานแบบนั้นเพราะรักหรือเปล่าครับ”

“มันเป็นความรู้สึกดีครับน้องขวัญ ช่วงระยะเวลาหนึ่งพี่ก็เคยคิดว่ามันเป็นความรัก แต่ตอนเจอเรากลับชัดเจนว่าไม่ใช่” เขาตอบพลางถอนหายใจ ราวกับว่าการหวนนึกถึงอดีตทำให้เขาเหนื่อยเอามากๆ “พี่คบกับขิมสี่ปี สองปีแรกมันดีมาก อาจจะไม่เหมือนคู่อื่นๆ ที่ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนอย่างที่พี่อยู่กับขวัญในตอนนี้หรือก่อนหน้านี้ พี่กับขิมเป็นเหมือนแค่คนที่เจอกันเฉพาะเวลาที่ว่าง แต่ก็พูดคุยกันทางโทรศัพท์ตลอด ถ้าอยากเจอมากๆ ก็แค่หาเวลาอยู่ด้วยกัน นัดเจอกันที่คอนโดฯ ของพี่ อาจเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์หรือเป็นวันธรรมดาที่พี่ขี้เกียจไปทำงาน เพราะเหตุผลหลายอย่างทำให้เป็นมากกว่านั้นไม่ได้ หลักๆ ก็มาจากตัวพี่เองด้วย แต่ตอนนั้นก็รู้ว่าขิมรู้สึกกับพี่มากๆ แต่ความรู้สึกพี่ไปไม่ถึง มันหยุดอยู่แค่การอยากเจอเป็นครั้งคราว แต่ไม่ได้อยากอยู่ด้วยไปตลอด”

“พี่นิกเบื่อเหรอครับ”

“ครับ” เขายอมรับตามตรง “เป็นความรู้สึกแบบว่าไม่เจอก็ไม่ทุรนทุราย อยู่ด้วยก็เฉยๆ บางทีก็เบื่อด้วยซ้ำ พี่สนุกกับการทำงานมากกว่าที่จะคิดเรื่องความรัก ตอนนั้นกำลังพยายามพิสูจน์ตัวเองอยู่ด้วย วันไหนพี่เหนื่อยมากๆ พี่ก็ไม่อยากเจอ วันหยุดก็อยากใช้เวลาอยู่คนเดียว ช่วงนั้นคงเป็นช่วงที่พี่ตีตัวออกห่าง พี่ก็ยังรู้สึกผิดกับขิมมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้าพี่บอกกับขิมตั้งแต่แรกก็คงไม่ยืดเยื้อ ในเมื่อสิ่งที่ขิมต้องการจากพี่ พี่ให้ขิมไม่ได้ สองปีหลังที่คบกันก็เนือยๆ ตอนนั้นเกิดเรื่องขึ้นกับขิมด้วยนั่นแหละ”

ผมพยักหน้าเข้าใจเพราะรู้ว่าเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นกับเขมินทรา “แต่พี่นิกก็บอกเลิกขิมใช่ไหมครับ เพราะจับได้ว่าขิมนอกใจ”

“เรื่องขิมนอนกับคนอื่นพี่รู้ก่อนหน้านั้นนานแล้ว รู้ตั้งแต่แรกๆ เลยมั้ง ใครจะไม่รู้ถ้าอีกฝ่ายจงใจทิ้งถุงยางอนามัยใช้แล้วให้เห็นขนาดนั้น มันก็เจ็บใจนะ เหมือนโดนหยามหน้า แต่ไม่มีอะไรชัด พี่ไม่อยากทะเลาะก็เลยทำไม่เห็นไป ก็คบกันมาเรื่อยๆ แต่อะไรที่มันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่” เขาหยุดพูดไปนิดหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลงแล้ววางคางเกยไหล่ผม “สองปีหลังพี่ไม่นอนกับขิม ไม่ได้แตะต้องตัว เจอกันน้อยลงจากที่น้อยอยู่แล้ว บางเดือนก็ไม่ได้เจอ แค่โทรถามว่ายังอยู่ดีมั้ย เป็นยังไงบ้าง ส่วนขิมก็ดูจะรู้สึกกับพี่น้อยลง เวลาเจอกันก็ไม่ได้ดูมีความสุขเหมือนเดิม ไม่ได้พูดกันตรงๆ แต่ก็จับความรู้สึกได้”

“ตอนนั้นพี่นิกมีคู่หมั้นยัง”

“มีแล้ว” เขาตอบพลางกดจมูกลงบนแก้มของผมราวกับต้องการเอาใจ “อย่าทำหน้าบึ้ง เราถามพี่เองนะ”

“ก็มันอดหงุดหงิดไม่ได้ คุณนิ่มนี่อยู่ในชีวิตพี่มานานแค่ไหนกัน”

“ตั้งแต่นิ่มสามสี่ขวบมั้ง เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกันไว้ แต่เพราะไม่ใช่คู่หมั้นที่พี่เป็นคนเลือกเอง พี่ก็ถือว่าพี่มีโอกาสทำความรู้จักกับคนอื่น สถานะพี่อาจจะไม่ว่างแต่หัวใจพี่ยังว่าง” เขาว่าพลางคลี่ยิ้มเล็กน้อย “นั่นเมื่อก่อนนะ เพราะตอนนี้ไม่ว่างแล้ว”

“เหรอพี่นิกเหรอ” ผมย้อนถามด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปหอมแก้มเขาแรงๆ ถือเป็นการลงโทษที่พูดดีเกินไป “แล้วทำไมบอกเลิกขิมอะพี่ ที่พี่เล่ามาก็เหมือนจะคบกันต่อได้นี่”

“เหมือนคบต่อได้แต่มันฝืนนะขวัญ อีกอย่างยิ่งขิมคบกับพี่ก็ยิ่งโดนทำเรื่องไม่ดี สองปีหลังเพลาลงบ้างเพราะขิมมีคนดูแล แต่การปล่อยให้ยืดเยื้อก็ไม่เป็นผลดีต่อขิม คบกันทั้งที่ไม่รู้สึกต่อกันไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอกน้องขวัญ แต่ขิมไม่ยอมรับว่าไม่รักพี่แล้ว พี่นัดเคลียร์ขิมไม่ยอมเคลียร์ ความผูกพันของคนที่คบกันมามันทำให้หวงสถานะขึ้นมาได้เหมือนกัน พี่เข้าใจขิมนะเพราะพี่ก็ใจหายถ้าจะบอกเลิก แต่ตอนนั้นพี่เจอคนที่พี่สนใจ นั่นแหละที่ทำให้รู้ว่าไปต่อไม่ได้แล้ว” เรื่องของความรู้สึกเป็นเรื่องที่ซับซ้อน แม้ผมจะรับฟังจากปากของคุณธนิกแต่ผมก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมด “แต่พี่ก็อยากจบดีๆ นะ เลิกแล้วก็ยังอยากคุยในฐานะอื่นได้ แต่มันจบได้ไม่สวยอย่างที่คิด วันนัดเคลียร์แล้วขิมไม่มา พี่ก็เลยไปหาที่คอนโดฯ พี่มีคีย์การ์ด คิดว่าโทรหาขิมก็คงไม่ยอมพบเลยไปรอที่ห้อง แล้วก็เห็นขิมกับคนนั้นนัวกันเข้ามาตั้งแต่หน้าประตู พี่อยู่ในครัวพอดีตอนนั้น ไม่ได้อยู่ที่ที่สองคนนั้นเห็น ถ้าเห็นคงตกใจน่าดู พี่ก็เลยรอจนสองคนนั้นทำธุระเสร็จ พออีกฝ่ายกลับไปแล้วพี่ก็เคลียร์กับขิม”

“งั้นพี่นิกก็เห็นเหรอครับ...เห็นคนนั้นด้วยเหรอ” ผมถามด้วยความตกใจ หันมองหน้าคุณธนิกแล้วก็ยังเห็นว่าเขายังคงยิ้ม

คุณธนิก...เป็นคนแบบไหนกันแน่นะ รู้อยู่แล้วแต่ยังยิ้มออกเหรอ

“อืม เห็นสิ” เขาตอบพลางหัวเราะในลำคอ “ตาพี่ไม่ได้บอดนะขวัญ เห็นทั้งภาพทั้งเสียง อย่างกับดูหนังโป๊”

“แล้วพี่นิก...พี่นิกไม่เสียความรู้สึกเหรอครับ”

“ไม่เหลือ แต่ทำไงได้ ถ้าพี่ทำไม่รู้ไม่เห็น ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมนี่ จริงไหม” ผมเห็นแล้วว่ารอยยิ้มบนหน้า มันไม่ถึงดวงตาของเขาเลย “พี่ไม่ชอบจบความสัมพันธ์กับใคร ยิ่งถ้าสำคัญ ไม่มีทางเลยที่พี่จะตัดขาดได้”

“ผมควรปลอบพี่ยังไงดี”

“ยิ้มก็พอ เวลายิ้มจนตาหยีพี่ชอบมาก”

ผมยิ้มให้เขา พยายามยิ้มกว้างๆ แต่ก็นั่นแหละ ตอนนี้ยิ้มไม่ค่อยออก เป็นไปได้อยากลบความทรงจำให้เขาเสียด้วยซ้ำ แต่ทำไม่ได้จึงเปลี่ยนประเด็น “เอ้...เดี๋ยวน้า พี่นิกว่าพี่นิกเจอคนที่สนใจเหรอ”

“อืม”

“บอกได้ป่าว”

“ไม่ได้” เขาตอบทันที “บอกก็รู้สิ”

“ใครรู้”

“คนที่พี่สนใจ”

ครับ...คุณธนิกจะรู้ไหมครับว่าผมไม่ได้โง่ แม่ง...เก่งทำให้เขินจังวะ ทั้งหน้าทั้งหูคงแดงไปหมดแล้ว ดีที่มืดก็เลยไม่โดนล้อ

“คุณนิ่มเหรอ”

“งั้นมั้ง” คำตอบของเขาทำให้ผมยกกำปั้นขึ้นทุบ ก่อนจะหยิกเขาแรงๆ เขานิ่วหน้าพลางเอาคืนด้วยการกัดที่แก้มกับที่คอของผม เราต่อสู้กันอยู่นานก่อนจะหยุดหอบหายใจพักเหนื่อยโดยไม่รู้ผลแพ้ชนะ แต่ผมว่าผมแพ้นะ ยิ่งโดนเขากอดอยู่อย่างนี้ยิ่งแพ้เข้าไปใหญ่

“ไม่ชอบคุณนิ่ม” ผมบอกกลบเกลื่อนอาการเก้อเขินของตัวเอง “นิสัยไม่ดี”

“เราก็แสบพอกันไม่ใช่เหรอ”

“แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใครมั้ย” ผมย้อนหน้ายุ่ง “ชอบทำตัวเป็นหมาแม่ลูกอ่อนไล่กัดคนอื่นไปทั่ว ส่วนพี่นิกก็ทำตัวขัดอกขัดใจ น่ารำคาญ ยอมเขาไปซะหมด”

“ไม่อยากให้ขวัญมีปัญหาเพิ่ม ถามว่าพี่รู้มั้ยว่านิ่มทำอะไร พี่ก็รู้ แต่จัดการเด็ดขาดได้ไหม มันก็ยาก”

“งั้นถามหน่อย ที่พี่นิกใจร้ายกับผม พี่นิกอยากตัดปัญหาให้ผมหรืออยากตัดผมออกจากชีวิต”

ผมได้ยินเขาถอนหายใจ ก่อนที่เขาจะซุกหน้าลงบนซอกคอของผมแล้วตอบงึมงำ “ไม่บอก”

“ตีนะ”

“เดี๋ยวขวัญโกรธพี่”

“อ้อ รู้ละ” ผมว่าแล้วหยิกที่แขนเขาอีกหลายๆ ที จนเขาร้องเบาๆ แต่ก็เอาคืนด้วยการดูดคอผมจนเสียวแปล๊บ “อื้อออ พี่นิก ไม่ต้องเลยนะครับ”

“อย่าโกรธกันเลย” เขาพูดเสียงอ้อน “ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก แต่ขวัญก็เห็นแล้วนี่ว่าพี่ไปไหนไม่รอด ไปไกลยังไงก็ยังวกกลับมาหาขวัญ”

“มาๆ หายๆ น่าตบให้คว่ำ”

“ขอโทษครับ” เขาว่าเสียงอ่อย “พี่นิกขอโทษนะ”

“แล้วจากนี้...จะหายอีกป่าว”

“อยากให้ไปมั้ย” ผมตั้งคำถามแท้ๆ แต่พอโดนย้อนถามกลับตอบเขาไม่ได้ “งั้นพี่เปลี่ยนคำถาม ตอนนี้ที่อยู่ด้วยกัน น้องขวัญมีความสุขไหมครับ”

“มากๆ”

“อืม แค่นี้ก็พอแล้ว”

ในความเป็นไปไม่ได้ของชีวิตที่ผมพบเจอมา คุณธนิกก็เป็นอีกหนึ่งความเป็นไปไม่ได้นั้น ไม่เหมือนกับตอนที่ผิดหวังเพราะไม่มีเงินซื้อของเล่นใหม่ๆ ไม่เหมือนกับตอนที่ร้องไห้เสียใจเพราะคนที่จากไปไม่ฟื้นคืน ความเป็นไปไม่ได้พวกนั้นผมทำใจยอมรับได้ แต่กับคุณธนิก ไม่ว่าจะทำอย่างไร คิดปลอบตัวเองและเตรียมใจไว้แค่ไหน...ผมก็ทำใจยอมรับไม่ได้จริงๆ

คุณธนิกครับ ขอบคุณที่เป็นความสุขของผมนะ

...............TBC...................


 :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ขวัญจะจัดการเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรนะ  :hao4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตะจบยังไงน้ออออออ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
สำหรับเราในตอนนี้ ธนิกน่าสงสารที่สุดอะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อยู่ด้วยกันมาขนาดนี้แล้วคุณธนิกก็ยังไม่บอกรักน้องขวัญซักทีเนอะ  :hao3:

ออฟไลน์ Mafiaziip

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
พี่ธนิกรู้ ...  :a5: :a5: :a5: :a5:

กอดนะพี่  :กอด1: :กอด1: สตรองเกินไปแล้ว

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
หลังจาก 7 วัน แล้ว จะออกไปพบกับความจริงอะไรบ้างนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย :sad4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
กรุ่นๆ  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
พีคมากที่เรื่องซัยซ้อนพวกนี้ทุกคนในเกมส์​นี้ต่างค่อยๆรู้ตัวตนตัวละครเป็นอย่างดี​ นิกเก่งมากที่ทำเหมือนไม่มีอะ​ไร​เกิดขึ้นได้​ โมไม่รู้สึกอะไรกับขิมจริงๆหรอ

ออฟไลน์ Babyboys

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
หรือ โม คือ มิสเตอร์ที ??

รู้อยู่แล้วว่าต้องเสียใจ แต่ไม่ได้ช่วยให้เสียใจน้อยลงเลย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เหมือนคุณธนิกโดนทุกทางเลย TT
ไม่มีพันธมิตรอื่นนอกจากนี้แล้วเหรอ
หนักหนาเหลือเกิน

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
โอ้ววว อิพี่นิกรู้ว่ามิสเตอร์ทีคือใครงั้นหรอ
เรื่องนี้เกินคาดหมดเลยแฮะ เดาทางไม่ถูก
แต่มิสเตอร์ทีนี่พี่โมแหง

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ตอนนี้เหมือนการบอกใบ้กลายๆว่ามิสเตอร์ทีคือโมแน่ๆ แต่...นี่ก็ยังกลัวนักเขียนสับขาหลอกอยู่ แล้วถ้าสุดท้ายคนที่โมมีอะไรด้วยมาตลอดคือนิ่มนี่คงอึ้งยิ่งกว่าอึ้งอะ แต่ตอนนี้ที่น่าอึ้งกว่าคือพี่นิกรู้ว่ามิสเตอร์ทีเป็นใครนี่สิ คือแบบ...โอ้โหหหพี่นิกทำได้ยังไงคือรู้อยู่แล้วแท้ๆแต่ทำเฉย ทำเหมือนไม่มีอะไร นี่อ่านแค่นี้ยังรู้สึกอึดอัดแทนอะ เฉลยเถอะว่ามิสเตอร์ทีเป็นใครแน่ระหว่างพี่โมกับธนวัฒน์

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ทำไมจุดจบเรื่องนี้เรารู้สึกว่าคุณธนิกจะไม่รอดวะ  :m15:
แรกๆ ก็เกลียดแหละ ทำน้องขวัญเจ็บ
แต่ตอนนี้ สงสารคุณธนิกที่สุดละ

สวัสดีครับคุณธนิก :call:

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ทุกอย่างมันชี้ชัดว่ามิสเตอร์ทีคือโม!!! ถ้าพลิกเป็นคนอื่นได้อีกคือยอมใจ5555 แต่เอาจริงคุณธนิกรู้ว่าตลอกว่าใครแถมสนิทกันขนาดนั้นอีก ยอมใจคุณเขาเลยนะ  อันนี้อยากชมคนเขียนเป็นพิเศษเรื่องนึง คือคนเขียนเก่งมากในการมำให้เรารักหรือเกลียดตัวละครหนึ่งในตอนแรกและทำให้ตอนหลังเรารู้สึกตรงกันข้าม จากรักเป็นเกลียด เกลียดเป็นรัก คือพลิกเก่งงงงง

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
โลกด้านนอกเป็นยังไงบ้างนะ

ในขณะที่ในห้องมีแต่สีชมพู

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
สถานการณ์นิ่งสงบเหมือนก่อนพายุจะมาเลยค่ะ มันคงจะมาตอนหน้าแน่ๆ

นี่ดีใจนะ ตอนแรกกลัวว่าพอขวัญเผยมุมแสบๆร้ายๆยั่วๆออกมา พี่ธนิกจะชอบแค่ประเดี๋ยวแล้วก็คิดถึงขวัญคนซื่อคนเดิมมากกว่า จนพาลทำให้รู้สึกว่าขวัญเปลี่ยนไป ไม่ใช่คนเดิมที่เคยรัก โล่งใจมากที่พี่ธนิกก็ชอบขวัญในมุมนี้เหมือนกัน

แต่กลัวใจขวัญอ่ะ เหมือนยอมปล่อยแล้ว ปลงจากธนิกแล้ว เราสงสารพี่ธนิกจัง ธนิกจะปล่อยมือจากทุกอย่างเพื่อที่จะอยู่กับขวัญ แต่ขวัญจะยกทุกอย่างให้ธนิกแล้วไปจากชีวิตพี่งี้อ่อ :sad4:

พี่ธนิกรู้ด้วยว่าคนที่เป็นชู้กับขวัญคือใคร แต่ไม่พูดเพราะเป็นคนสำคัญที่ไม่อยากสูญเสียไป คงชัดเจนเเล้วแหละว่ามิสเตอร์ทีคือพี่โม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-10-2018 11:44:49 โดย BitterCucumber »

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เมื่อไหร่ทุกคนจะหลุดจากวังวนนี้สักที
ทรมานแทน  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด