สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27  (อ่าน 134079 ครั้ง)

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฮือออออ สงสารน้องขิมมากเลย  :hao5: :hao5:
อยากให้น้องรอดปลอดภัยและก็กลับมามีความสุขจริงๆได้ซักที
น้องบอบช้ำมามากพอแล้ว  :o12:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น้องขิมเด็กโง่ของแม่ ฮือๆๆ

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เขาไม่รักก็รักตัวเองสิ ไม่ใช่ทำตัวเป็นคนบ้าแบบนี้นิ่ม เขาไม่รักเขาไม่ผิดนะ ยูแพ้ก็ดูแลตัวเองไปทำแบบนี้โคตรขี้แพ้ จะมาอ้างว่ารักเขามาเป็นสิบปีแล้วไง เขาไม่รักก็รู้อะ รู้ทุกอย่างแต่ยังทำตัวไร้ค่า สมเพชอะนิ่ม  สงสารขิมมาก ขอให้น้องไม่เป็นไรแล้วจบเรื่องนี้ไปสักที ให้ขวัญกับขิมไปอยู่ในที่ที่จะมีความสุขจริงๆ ได้ถูกรักและดูแลจากใครที่เขาพร้อมจะดูแลไม่ก็อยู่กันสองคนไปเลยยยยย

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
อยากให้น้องขิมรอด​ คุณพ่อเขมราชควรออกโรงมาจัดการปกป้องลูกๆได้แล้ว​ ช่วยทำตัวเป็นพ่อหน่อย​ สงสารน้องขิมมากๆ​ อยากฆ่าน​ิ่มให้ค่อยๆทรมานจนตายบ้าง​ เกลียด

ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ใจฉันนนน
ขิมอยู่กับขวัญก่อนนะรักกันให้ดูหน่อยนะ

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
 :hao5:  สงสารขิม

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
อึดอัดมากก หน่วงสุดๆไปเลยยย :ling1:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
โมจริงๆด้วย

อีรุงตุงนังมากเรื่องนี้

น้องขิมต้องปลอดภัยนะ พี่ขวัญผ่านมาแล้ว ขิมก็ต้องผ่านมาได้เหมือกันนะ รุ้ไหม

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 25



ขณะเดียวกัน...

ธนิกกำลังเคาะนิ้วกับพวงมาลัยรถระหว่างฟังเสียงสัญญาณจากโทรศัพท์มือถือ เขากำลังต่อสายถึงมารดา แต่กดโทรไปสองครั้งแล้วก็ยังไม่มีการตอบรับ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม เขารออยู่นานจนสัญญาณเกือบจะตัดอัตโนมัติ สุดท้ายก็มีเสียงตอบรับ

“แม่ครับ” ธนิกเอ่ยเรียกปลายสายทันที “แม่อยู่ไหนครับตอนนี้”

“ลูกสนใจด้วยเหรอว่าแม่อยู่ที่ไหน” ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ “สนใจด้วยเหรอว่าแม่คนนี้จะเป็นยังไงหลังจากที่ลูกทำเรื่องงี่เง่าลงไป บอกแม่สิธนิกว่าแม่ควรจะรู้สึกยังไงที่ลูกของแม่รักคนอื่นมากกว่าแม่”

“อยู่ไหนครับ” เขาถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นจากมารดา “ผมกำลังจะไปหาครับแม่ รอผมนะ”

“ไม่ต้องมา” ธนิษฐาบอกเสียงเครือ “ไม่ต้องมาธนิก แม่ไม่อยากเจอลูก ไม่อยากเจอคนที่แม่รักมากกว่าชีวิตตัวเองแต่กลับหักหลังแม่ ทั้งที่แม่ไว้ใจ ทั้งที่ให้ทุกอย่าง แต่ลูกกลับเห็นลูกของนังนั่นสำคัญกว่า ลูกเลือกมัน เพราะฉะนั้นตอนนี้แม่ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่กับลูกแล้ว”

“อยู่ที่บ้านของเราใช่ไหมครับ” เสียงเข้มถามด้วยความร้อนรน “ผมกำลังไปนะ รอผมก่อน รอผมก่อนนะครับแม่”

ธนิกรู้ดีว่ามารดาของเขาจะทำอะไร หลังจากร้องไห้ฟูมฟายตัดพ้อชีวิตแล้วคงเลือกที่จะจบชีวิตของตัวเองลง ธนิษฐาเป็นแบบนี้เสมอหากพลาดหวังจากสิ่งที่ต้องการ หลายต่อหลายครั้งที่มารดาทำร้ายตัวเองเพื่อให้เขาเป็นดั่งใจหวัง หัวใจของเขาเจ็บปวดทุกครั้งที่ช่วยเหลือไม่ได้ ทำได้แค่พยายามประคับประคอง คอยอยู่เคียงข้าง คอยเดินตามเส้นทางที่มารดาขีดไว้ให้เพราะไม่อยากทำให้ผิดหวัง ไม่อยากทำให้เสียใจ ทว่าราวกับเป็นการรักษาที่ผิดวิธี เหมือนยิ่งทำกลับยิ่งแย่ แย่ต่อตัวมารดาเองและแย่ต่อเขาด้วย เพราะไม่มีใครฝืนทนได้นาน ยิ่งเมื่อเจอเส้นทางของตัวเอง การให้ฝืนทนเดินไปตามเส้นทางอื่นก็เหมือนกับเดินบนทางที่โรยด้วยเศษแก้ว ถูกความแหลมคมทิ่มตำให้รู้สึกเจ็บตลอดเวลา แล้วเขาผิดเหรอที่ไม่อยากเจ็บปวดอีกต่อไป ผิดมากจนกลายเป็นคนอกตัญญูใช่ไหมที่อยากเดินไปบนทางที่ตัวเขาจะมีความสุข

ธนิกเหมือนคนต้องสาป เป็นคำสาปร้ายจากคนที่ให้ชีวิตกับเขา พอเลือกที่จะถอนคำสาปก็กลับกลายเป็นต้องสูญเสียไป ทั้งๆ ที่ไม่เคยอยากจะสูญเสียใครไปแม้แต่คนเดียว

“ไม่ต้องมานะลูก แม่เหนื่อยแล้ว ไม่อยากอยู่รบกวนชีวิตลูกอีกแล้ว ขอแม่พักก่อนนะครับ แม่รักลูกนะ” ธนิษฐาบอกเสียงแผ่วมาตามสาย คำอำลากรายๆ ทำให้ธนิกร้อนรน เขาเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งความเร็วให้ไปได้ทันเวลา

กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็เป็นแบบนี้ วนเวียนไม่จบไม่สิ้น เขาต้องทนเห็นมารดาทำร้ายตัวเองไปอีกกี่ครั้ง ถ้าหากวงจรนี้จบลงได้โดยที่ไม่ต้องสูญเสียก็คงจะดีไม่น้อย แต่คำภาวนามักจะไม่เป็นจริง ความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่าวนเวียนเข้ามาหาไม่ให้ได้พัก

“ผมขอโทษครับแม่ ผมกำลังจะไปหา แม่รอเจอผมก่อน ถ้าแม่อยากจะไป เราไปด้วยกันนะครับ แม่อยู่คนเดียวไม่ได้ ไม่มีผมแม่ต้องเหงามากแน่ๆ เพราะฉะนั้นรอผมก่อนนะ” ธนิกพยายามเกลี้ยกล่อม เขาขับเลี้ยวเข้าซอยมาแล้ว อีกไม่กี่ร้อยเมตรก็จะถึงจุดหมาย

ธนิษฐาเงียบอยู่นาน ธนิกได้ยินเพียงแต่เสียงร้องไห้ที่ดังมาตามสาย หัวใจของเขาปวดหนึบ ความรู้สึกผิดท่วมท้นแต่หากให้ย้อนเวลากลับไปได้ เขาก็คงจะทำเหมือนเดิม คงจะเลือกทางเดินที่มีขวัญพัฒน์ ลูกชายของผู้หญิงที่มารดาเกลียดชังคนนั้น

“ก็ได้...แม่จะรอ แม่รอธนิกอยู่ที่เดิมนะลูก ที่ที่เราเคยอยู่ด้วยกันสองคน บ้านที่เป็นของเราจริงๆ รีบมานะ”

“ครับ ผมกำลังจอดรถ” ธนิกสูดหายใจเข้าเต็มปอด เข้าเลี้ยวรถเข้าจอดในซองก่อนจะรีบรุดไปที่ประตูลิฟต์

บ้านที่ธนิษฐาพูดถึงคือเพนเฮาส์ชั้นบนสุดของโรงแรมที่บิดาแท้ๆ ของธนิกเป็นเจ้าของ เขาเคยอยู่กับมารดาที่นี่ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองคนแม่ลูกก่อนที่มารดาจะแต่งงานใหม่ ธนิษฐามักจะมาที่นี่ในเวลาที่มีเรื่องทุกข์ใจ บางครั้งก็ขลุกตัวอยู่หลายวันโดยมีธนิกอยู่ด้วยไม่ห่าง สองแม่ลูกกับความทรงจำแห่งความสุขในบ้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นเทียนหอม ธนิกยังจำได้ดีถึงรอยยิ้มสวยๆ บนใบหน้ารูปไข่ของมารดา รอยยิ้มที่เลือนหายไปเพราะความไม่รู้จักพอของเขมรัตน์

ธนิกมาถึงหน้าประตู เขากดรหัสปลดล็อคแล้วเปิดเข้าไปพบกับโถงทางเดินที่ยังคงหอมอบอวลด้วยกลิ่นเทียนหอม มารดาของเขาคงจุดไว้ เปลวเทียนวูบไหวเมื่อเขาเดินผ่าน กลิ่นหอมอบอวลทำให้ผ่อนคลาย เขาเดินมาที่กลางห้อง ตะโกนเรียกหาแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ได้ยินเพียงเสียงสะอื้นไห้จากในห้องนอนเก่าของเขา

“แม่ครับ” เขาเอ่ยเรียกเสียงแผ่วเมื่อเห็นว่ามารดานั่งอยู่บนเตียงของเขา เตียงขนาดสามฟุตครึ่งของเด็กชายธนิก “ผมมาแล้ว”

ธนิษฐาปาดน้ำตาออกจากใบหน้าพลางเงยขึ้นมองบุตรชาย หล่อนคลี่ยิ้ม สองแขนยกขึ้นกางกว้างเพื่อรอรับร่างสูงใหญ่เข้าสู่อ้อมแขน “กลับมาหาแม่ได้สักที”

ธนิกกอดร่างบางของมารดา ผิวกายหอมสะอาดของธนิษฐายังคงอบอุ่น ก่อนหน้านี้เขากลัวจับใจว่าจะมาไม่ทันแล้วได้พบแต่ร่างเย็นชืด มารดาของเขาเป็นคนตัวผอมบาง ผมสีดำยาวตรงและมักสวมเดรสสีขาวเป็นเอกลักษณ์ ทว่าหลังจากที่แต่งงานกับเขมรัตน์ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป จากคนที่เคยยุ่งอยู่แต่ในครัว อบขนมหรือทำอาหารแสนอร่อยให้เขากิน เปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่ต้องทำงานในออฟฟิศ จับปากกาเซ็นเอกสารมากกว่าจับตะหลิวลงมือทำของโปรดให้ลูกชาย การแต่งกายก็เปลี่ยนไป จากเดรสสีขาวที่ชอบใส่ก็มีแต่ชุดทำงานสีดำเรียบหรู ผมยาวตรงถูกรวบตึงเกล้าเป็นมวยไว้ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มกลับเคร่งเครียดแทบตลอดเวลา จากเคยยืนเคียงกันอบคุกกี้ในครัวกลับต้องฟาดฟันในห้องประชุม

เปลี่ยนไปหมดจนแทบไม่เหลือ...

ทว่าธนิกก็ยังคงจดจำมารดาคนเดิมได้ ภาพรอยยิ้มสวยๆ นั้นไม่เคยหายไปจากใจ มารดาที่เลี้ยงดูเขามาเพียงลำพังหลังจากหย่าร้างกับบิดาแท้ๆ ของเขาที่ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว โรงแรมแห่งนี้ก็เป็นของภรรยาคนใหม่ มีแต่เพียงเพนเฮาส์ที่ได้รับสิทธิ์ให้เป็นเจ้าของนี้เท่านั้น จนเมื่อมารดาแต่งงานครั้งใหม่กับเขมรัตน์ ทั้งธนิกและธนิษฐาก็ย้ายออกไป ปล่อยให้เพนเฮาส์แห่งนี้กลายเป็นแค่สถานที่ในความทรงจำ ยามที่เหนื่อยล้าก็มักจะแวะมาเติมพลังใจด้วยกันเพียงสองคน

“บอกแม่ได้ไหมธนิกว่าทำไมถึงทำเรื่องที่รู้อยู่แล้วว่าแม่จะเสียใจ” ธนิษฐาเอ่ยถาม หล่อนยกมือลูบศีรษะลูกชายที่กอดเอวหล่อนไว้หลวมๆ

“ผมขอโทษครับ” ธนิกกล่าวขอโทษ เขามองสบตากับมารดา เห็นความเสียใจสะท้อนในดวงตานั้นแล้วก็รู้สึกได้ว่าแค่คำขอโทษคงไม่พอ แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ขอโทษ “ผมรู้ว่าที่ทำไปแม่จะต้องเสียใจ แต่ผมฝืนตัวเองไม่ได้ ผมรักขวัญพัฒน์ครับแม่”

“ทั้งที่แม่ก็เตือนลูกตั้งแต่แรกแล้ว” ธนิษฐารู้จักลูกชายของตัวเองดีกว่าใคร หล่อนรู้นิสัยของธนิก รู้ว่าธนิกจะต้องใจอ่อนและหลงรักลูกชายของขวัญข้าวในสักวัน ถึงอย่างนั้นก็ยังเชื่อว่าสุดท้ายแล้วธนิกจะเลือกอยู่ข้างหล่อน แต่ในครั้งนี้ความเป็นจริงกลับเป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับ ลูกชายของหล่อนไม่ได้อยู่ข้างหล่อนอีกต่อไป “ขอได้ไหมธนิก ลูกจะรักใครก็ได้ ไม่ต้องแต่งงานกับหนูนิ่มก็ได้ แต่ขออย่างเดียว แค่ลูกชายของนังขวัญข้าว แค่ลูกของนังนั่น อย่าเลือกมัน อย่ารักมัน ตัดขาดจากมันเพื่อแม่ได้ไหม”

“ขอโทษครับแม่”

คำขอโทษที่เหมือนคำปฏิเสธทำให้ธนิษฐากรีดร้องอยู่ในใจ แพ้อีกแล้ว...หล่อนต้องแพ้ให้มันอีกแล้ว “ทั้งๆ ที่ลูกก็รู้น่ะเหรอว่าแม่ของมันทำอะไรไว้บ้าง ผู้หญิงแพศยาที่ชอบลักกินขโมยกิน คนที่ทำให้แม่ต้องตกนรกทั้งเป็น รู้แบบนั้นก็ยังจะรักลูกของมันเหรอธนิก”

“คนละคนกันนะครับแม่ ขวัญพัฒน์เป็นเด็กดี น้องน่ารัก ไม่มีพิษมีภัยกับใคร”

“ลูกกำลังตาบอด! ลูกกำลังโดนมันหลอกธนิก!” ธนิษฐาเสียงกร้าวขึ้นมาทันที จากสีหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่ที่ได้เจอลูกชายกลับมาบิดเบี้ยวเพราะแรงโทสะ “เชื่อแม่เถอะ ลูกนังงูพิษ ยังไงก็เป็นงูพิษ มันเป็นลูกแกะไม่ได้หรอก ถ้ารักแม่ก็ทำเพื่อแม่บ้าง”

“ผมเชื่อแม่มาตลอดทั้งๆ ที่ผมก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ผมก็ยังหลับหูหลับตา แม่คิดว่าเพราะอะไรล่ะครับ” ธนิกผละออกห่างมารดาแล้วมองสบตาอย่างไม่หลบเลี่ยง “เพราะผมรักแม่มากไงครับ แต่เหมือนความรักของผมจะยิ่งทำให้แม่เป็นแบบนี้ พอแล้วไม่ได้เหรอครับ ปล่อยทุกอย่างไปแล้วอยู่กันแค่สองคนเหมือนเดิม เมื่อก่อนไม่ต้องมีเงินทองมากมายเราก็ยังอยู่กันได้ ตอนนี้ผมก็โตแล้ว แม่อยู่กับผม ผมไม่ปล่อยให้แม่ลำบากแน่ๆ ผมเลี้ยงแม่ได้ ความสามารถผมก็มี ไม่ต้องทำงานบริษัทพ่อก็ได้ เป็นพนักงานบริษัทอื่นก็ได้ เราจะไม่ลำบากกันหรอกครับ แค่แม่ยอมปล่อยสิ่งที่ไม่ใช่ของเราไปแล้วกลับมาเป็นแม่คนเดิมของผม”

ธนิกยื่นมือไปกุมมือผอมบางของมารดาไว้แล้วบีบเบาๆ เขาไม่ได้ต้องการเงินทอง ไม่เคยต้องการมาตั้งแต่แรก ที่ต้องพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายก็เพราะอยากให้มารดาที่เขารักมีความสุข มารดาที่ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้เขาสบาย “ผมจะทำงานเก็บเงินเปิดร้านขนมให้แม่ดีไหมครับ ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนแม่ชอบทำขนมมาก อบเค้กอบคุกกี้ให้ผมกินบ่อยๆ เราทำร้านเล็กๆ ก็ได้แม่จะได้ไม่เหนื่อย ข้างร้านก็ทำแปลงดอกไม้ที่แม่ชอบ”

ธนิษฐาเม้มริมฝีปาก หล่อนมองใบหน้าของบุตรชาย จากเด็กตัวผอมที่ตามติดไม่ห่าง บัดนี้กลายเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ไหล่ที่เคยเล็กจนหล่อนคิดว่าหากมีอะไรมากระทบก็คงหักได้ง่ายๆ แต่มองดูตอนนี้แล้วกลับกว้างและดูแข็งแรง ความแข็งแรงที่คงสามารถแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ได้

“ถ้าแม่ยอมหยุด ลูกจะเลิกยุ่งกับลูกของนังนั่น ตัดขาดจากมันได้ไหม จะเลิกรักมันได้หรือเปล่า”

คำถามของมารดาทำให้ธนิกเงียบงันไปชั่วครู่ แต่รอยยิ้มยังคงระบายบนใบหน้าหล่อเหลา “ให้ผมเลิกรักผมคงทำไม่ได้หรอกครับ ตัดขาดจากขวัญพัฒน์ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายเหมือนกัน แต่...แม่ไม่ต้องห่วงครับ น้องไม่เลือกผมหรอก”

“ธนิก...” สีหน้าเจ็บปวดของคนที่เป็นดั่งดวงใจทำให้ธนิษฐาอดเจ็บปวดไปด้วยไม่ได้ “ทำไมต้องรักมันมากขนาดนั้น”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ” เรื่องของความรู้สึก หากยับยั้งได้ด้วยเหตุและผลคงไม่มีคนที่ต้องเจ็บปวด ทั้งที่รู้ว่าไม่ควรรักแต่เผลออีกทีก็พร้อมจะทิ้งตัวลงกับพื้นให้เหยียบย่ำแล้ว

ธนิษฐาเจ็บไปทั้งใจราวกับได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่ซ้อนทับ ใบหน้าของเขมรัตน์ในยามที่สารภาพกับหล่อนว่ามีผู้หญิงคนอื่นก็มีสีหน้าเหมือนกับธนิก คำตอบที่มีแต่คำว่าไม่รู้ดังก้องในหัว กรีดหัวใจของหล่อนให้เกิดบาดแผล เรื่องราวเมื่อครั้งเก่าก่อนย้อนเข้ามาในความคิดให้รู้สึกเจ็บช้ำ

ธนิษฐากับเขมรัตน์เป็นคู่รักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายแต่แล้วจังหวะเวลากลับทำให้ต้องพรากจาก เขมรัตน์ขอเลิกราแล้วไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ เหตุผลที่ตัดความสัมพันธ์ก็เพราะครอบครัวของเขมรัตน์ไม่ยอมรับธนิษฐา เขาขอเลิกในวันที่หล่อนไปส่งเขาขึ้นเครื่อง ไม่มีเวลาให้เตรียมตัวเตรียมใจ บอกเลิกแล้วก็หนีกันไปเท่านั้น หล่อนต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าที่จะเริ่มต้นใหม่ แต่รักครั้งต่อมาก็ไม่ได้เหมือนรักครั้งเก่า ธนิษฐาแต่งงานและอยู่กินกับพ่อของธนิกแค่สองปีก็เลิกรากันเพราะไม่อาจฝืนกันต่อ ตอนนั้นหล่อนเพิ่งคลอดธนิกได้ไม่นานแต่ก็ยังตัดสินใจที่จะจบความสัมพันธ์และเลี้ยงดูธนิกเพียงลำพัง หล่อนกับพ่อของธนิกเลิกรากันด้วยดี แม้แต่ตอนที่อีกฝ่ายแต่งงานใหม่หล่อนก็ไปร่วมแสดงความยินดีด้วยในฐานะเพื่อน ทุกอย่างในชีวิตของหล่อนราบรื่น เลี้ยงลูกชายเพียงคนเดียวลำบากอยู่บ้างแต่พ่อของธนิกให้ค่าเลี้ยงดูพร้อมกับส่งพี่เลี้ยงมาช่วยเหลือ มาหาลูกชายบ้างเป็นครั้งคราว ทว่าพักหลังๆ ภรรยาใหม่ไม่พอใจ ต่างฝ่ายจึงต่างตกลงที่จะไม่พบเจอกันอีก ธนิษฐาเข้าใจดีถึงความหึงหวง หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีกันแค่สองคนแม่ลูก จนเมื่อเขมรัตน์กลับมา เขากลับมาพร้อมกับนำพาความรู้สึกของหล่อนมาด้วย เขาไม่พอใจอยู่บ้างที่หล่อนแต่งงานแล้วมีลูกติด แต่เขาก็บอกว่าเขารับได้และขอหล่อนแต่งงาน ทั้งที่ควรรู้ตั้งแต่ตอนนั้นว่าการอ่านหนังสือเล่มเดิม อย่างไรก็ต้องจบแบบเดิม แต่เพราะไม่รู้ ไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งเขาจะนอกใจ

หลังจากแต่งงานธนิษฐาก็พาลูกชายไปอยู่กับเขมรัตน์ เขาไม่ยอมให้หล่อนทำงาน หล่อนจึงอยู่บ้าน เป็นภรรยาที่ดี ดูแลปรนนิบัติเขา โดยไม่เคยระแคะระคายว่าเขาจะมีใคร เขมรัตน์มักจะกลับบ้านดึกดื่นหรือบางทีก็หายไปหลายวัน เขาอ้างเรื่องงานเสมอ ซึ่งเป็นข้ออ้างที่หล่อนบ่นอะไรเขาไม่ได้ พอเขาบอกแบบนั้นหล่อนก็มีแต่ต้องเข้าใจและเชื่อเขา แม้จะมีผู้หวังดีส่งรูปของเขากับผู้หญิงคนอื่นมาให้ดู แต่หล่อนก็ไม่ปริปากถาม คอยปลอบตัวเองว่าเขาอาจจะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แต่ไม่ว่าอย่างไรหล่อนก็คือที่หนึ่ง จนเมื่อเขาพาผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบ้าน ผู้หญิงที่ชื่อขวัญข้าวที่เขาแนะนำว่าเป็นเลขาฯ ให้หล่อนทำความรู้จักไว้ ตอนนั้นไม่ได้เอะใจ เขาอ้างว่ากลัวหล่อนเหงาก็เลยหาเพื่อนมาให้ ซึ่งขวัญข้าวก็เป็นเพื่อนที่ดี ขวัญข้าวเป็นผู้หญิงเรียบร้อย พูดน้อยแต่เป็นคนที่คุยกันถูกคอ รสนิยมเหมือนกันจึงไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย หล่อนรักขวัญข้าวเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด ขวัญข้าวชอบขนมที่หล่อนทำ ชอบอาหารทุกอย่างที่หล่อนทำให้ มักจะยิ้มตาหยีทุกครั้งที่ได้เจอ เกือบสี่ปีที่ธนิษฐาให้ใจ รักและเอ็นดู ไม่เคยหึงหวงที่เขมรัตน์กับขวัญข้าวไปไหนมาไหนด้วยกัน เพราะขวัญข้าวรายงานให้ฟังตลอด คอยเป็นหูเป็นตาให้ หล่อนจึงเบาใจ อีกทั้งเขมรัตน์ก็ไม่ได้มีเรื่องผู้หญิงอื่นมาให้กังวล เขากลับบ้านตรงเวลา พอถามว่าทำไมทำตัวดี เขาก็ตอบติดตลกว่ากลัวขวัญข้าวรายงานหล่อน

ตอนนั้นกล้าพูดได้เลยว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก หล่อนมีสามีที่ดี มีลูกชายที่น่ารักและมีน้องสาวที่ให้ใจไปเกินร้อย แต่ช่วงเวลาที่ดีมันคงอยู่ได้ไม่นาน ธนิษฐาสังเกตเห็นความผิดปกติของขวัญข้าว น้องสาวที่น่ารักของหล่อนมักจะใจลอยราวกับมีเรื่องที่คิดไม่ตก บางทีก็ร้องไห้ออกมาโดยที่หล่อนก็ไม่ทราบสาเหตุ ทั้งห่วงทั้งเป็นกังวล ขวัญข้าวผอมลง หมดสติบ่อยและอาเจียนแทบตลอดเวลา หล่อนจึงดูแลไม่ห่างเพราะขวัญข้าวตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน กลัวเป็นอะไรไปแล้วช่วยเหลือไม่ทัน

“ขอโทษนะคะพี่ ขอโทษค่ะ”

ขวัญข้าวมักจะพร่ำพูดกับหล่อนทั้งน้ำตา ตอนนั้นเข้าใจว่าขอโทษที่ทำให้หล่อนลำบากต้องดูแล แต่ความเข้าใจของหล่อนผิดทั้งหมดเมื่อหลังจากนั้นอีกสามเดือนอาการป่วยของขวัญข้าวก็เริ่มชัด ผู้หญิงรูปร่างดีแต่หน้าท้องกลับนูนขึ้นมาจนผิดสังเกตนั้นกลายเป็นข้อครหาของคนในบริษัท ข่าวลือหนาหูว่าขวัญข้าวตั้งครรภ์กับท่านประธานมาถึงหูธนิษฐาราวกับไฟลามทุ่ง แต่มันก็แค่ข่าวลือ หล่อนไม่เคยปักใจเชื่อ หล่อนรู้ว่าขวัญข้าวตั้งครรภ์ตั้งแต่แรกแล้วแต่ก็เลือกที่จะปิดปากเงียบ ไม่อยากถามให้น้องสาวของหล่อนต้องเสียใจไปมากกว่านี้เพราะเข้าใจไปเองว่าฝ่ายชายคงไม่รับผิดชอบ ในเมื่อแม้แต่ตอนที่คบหากันหล่อนก็ไม่รู้ ไม่เคยรู้จักแฟนของขวัญข้าวเลย ทั้งที่เชื่อถึงขนาดนั้น เข้าใจถึงขนาดนั้นแต่สุดท้ายธนิษฐากลับเป็นแค่คนโง่คนหนึ่ง

“แม่ครับ” เสียงเรียกของธนิกทำให้ธนิษฐากระพริบตาไล่น้ำใสๆ ที่คลอหน่วยให้เลือนหาย “เป็นอะไรไปครับ”

“คิดถึงเรื่องเก่าๆ น่ะลูก” ธนิษฐาคลี่ยิ้ม แววตาเศร้าสร้อย “แม่เป็นแม่ที่ไม่ดีหรือเปล่าครับธนิก”

“สำหรับผมแล้ว แม่เป็นแม่ที่ดีมากครับ” ธนิกยิ้มพร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาออกจากแก้มของมารดา “ผมขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง ผมอ่อนแอ ปกป้องแม่ไม่ได้ ช่วยแม่ก็ไม่ได้ ผมเอาแต่มองหาแม่คนเดิมของผมแล้วละเลยแม่ในตอนนี้ ขอโทษนะครับที่ผมไม่ทำอะไรเลย”

ธนิกทำเพียงแค่มอง เขายืนมองอยู่ห่างๆ โดยไม่เข้าไปใกล้ ไม่ส่งเสริมแต่ก็ไม่ห้ามปราม เพราะเอาแต่ติดอยู่กับภาพแผ่นหลังบางของมารดาที่กำลังอบคุกกี้ให้เขาท่ามกลางกลิ่นเทียนหอมที่อบอวลอยู่ในห้อง

“แม่ก็ขอโทษ” ธนิษฐาเอ่ยเสียงแผ่ว “ขอโทษที่ทำให้ลูกเจ็บ ขอโทษที่ทำให้เหนื่อยมาตลอด”

“งั้นตอนนี้...” หยุดพูดไปเสียอย่างนั้น เพราะรู้สึกยากเหลือเกินที่จะพูดออกมา แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยผ่านไปอีก “ไปมอบตัวกันนะครับ ไอ้วัฒน์บอกผมเมื่อเช้าว่าแม่แทงคุณเขมรัตน์... ตอนนี้ทุกคนอยู่ที่โรงพยาบาล”

“ธนิก แม่น่ะเกลียดเขานะ แต่ก็รักเขาด้วย ต่อให้อยากทำให้เจ็บแค่ไหน แม่ก็ไม่ทำ” ธนิษฐาบอกพลางยิ้มหยันด้วยความสมเพชตัวเอง “มันเป็นเรื่องโกหก เป็นแค่เรื่องโกหกที่จะพาลูกของขวัญข้าวไปเจรจาโดยไม่มีลูกก็เท่านั้น”

“อะไร...นะครับ” น้ำเสียงของธนิกแปร่งไปทันที เขามีสีหน้าตกตะลันก่อนจะซีดขาว

“ไม่ต้องห่วงหรอก มีแค่โมกับนิ่มแล้วก็ทนายที่ไปคุย ไม่มีคนอื่น แม่รับรองได้”

“ทำไมทำเรื่องแบบนี้อีกแล้วครับ” ธนิกถามเสียงเข้ม แววตาเจ็บปวดผิดหวังมองผู้ให้กำเนิด “แม่หลอกผม...กี่ครั้งแล้วครับที่ผมต้องเจออะไรแบบนี้”

“ธนิก...นั่นเป็นเรื่องก่อนที่แม่จะได้คุยกับลูก ตอนนี้แม่จะหยุดแล้ว พอแล้วล่ะ เราไปอยู่ด้วยกันสองคน มีแค่แม่กับลูกนะ ขอโทษนะลูก”

“ผมจะเชื่อแม่ได้ยังไงครับ ผมโดนหลอกมากี่ครั้ง โดนหลอกแค่เพราะผมรักแม่ แม่เอาตัวคนที่ผมรักไปอย่างนั้น คำว่าเจรจาของแม่มีขอบเขตแค่ไหน ต้องทรมานจนกว่าจะตายไหม หรือให้อยู่อย่างตายทั้งเป็น”

ธนิษฐากุมมือของลูกชายไว้ “เชื่อแม่อีกสักครั้ง ครั้งสุดท้ายก็ได้ลูก ตอนนี้ไปด้วยกัน ไปคุยกับโม ไปหยุดทุกอย่างด้วยกันนะครับ แม่ขอโทษอีกครั้งที่ทำเรื่องแย่ๆ แบบนี้อีกแล้ว จะโกรธแม่หลังจากนี้ก็ได้ แต่ตอนนี้น่าจะทันนะ”

“ขอให้ทันอย่างที่แม่พูดเถอะครับ"

ธนิกรีบรุดออกจากโรงแรม เขามาพร้อมมารดาที่ยืนกรานจะมาด้วย ยื้อยุดกันอยู่นานแต่เพราะไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้จึงต้องเลยตามเลย ในระหว่างที่กำลังเดินทางก็พยายามติดต่อหาธนวัฒน์แต่ไอ้เด็กนั่นไม่ยอมรับสาย พอลองโทรหาปฐพีและขวัญพัฒน์ก็ปิดเครื่อง ทุกคนที่น่าจะอยู่ด้วยกันในสถานที่นัดเจรจานั้นไม่มีใครติดต่อได้เลยสักคน มิสคอลจากลุงกล้วยคนขับรถที่ขึ้นก่อนหน้านี้เป็นสิบๆ สาย พอโทรกลับไปก็ไม่มีคนรับ

ธนิกร้อนใจ เขาเร่งความเร็วรถแต่สิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดมากกว่าการติดต่อใครไม่ได้ก็คือการที่รถของเขาติดอยู่ท่ามกลางการจราจรที่แสนวุ่นวาย จากโรงแรมถึงโครงการบ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างของปฐพีนั้นห่างกันคนละมุมเมือง ไปด้วยความเร็วสูงสุดก็ยังคงต้องใช้เวลาเกือบยี่สิบนาที บวกกับการจราจรในตอนนี้ก็คงต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมง

ไม่ทัน...อาจจะไม่ทันแล้วก็ได้

ในห้วงคิดของธนิกตอนนี้มีแค่ขวัญพัฒน์ ความกลัวเกาะกุมจิตใจ ภาพที่ขวัญพัฒน์ล้มลงในอ้อมกอดของเขาฉายซ้ำไปมาไม่หยุด ไม่เอาอีกแล้ว...ไม่อยากเห็นภาพแบบนั้นอีกแล้ว


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
“ธนิก เสียงโทรศัพท์น่ะลูก” ธนิษฐาเตือนลูกชายที่ดูเหมือนสมาธิจะไม่ได้จดจ่ออยู่กับสิ่งใดนอกจากท้องถนนในยามนี้ “แม่กดรับให้นะ”

ธนิกพยักหน้าและเมื่อมือผอมบางของมารดากดรับสาย เสียงของลุงกล้วยคนขับรถก็ดังขึ้นผ่านสปีกเกอร์โฟน

“คุณธนิกครับ อยู่ที่ไหนครับตอนนี้” น้ำเสียงของลุงกล้วยเคร่งเครียด

“กำลังขับรถครับ ลุงกล้วยอยู่ที่ไหน อยู่กับน้องขวัญหรือเปล่าครับ แล้วไอ้วัฒน์มันไปมุดหัวที่ไหน” ธนิกถามอย่างร้อนรน มีคำถามมากมายอัดแน่นอยู่ในหัวของเขา

“คุณขวัญไปกับรถพยาบาลแล้วครับ คุณโมก็ไปด้วยกัน ส่วนผมอยู่กับตำรวจจัดการเรื่องคุณนิ่ม” ลุงกล้วยรายงานแต่ก็ต้องรีบพูดเมื่อได้ยินเสียงของเจ้านายสบถดังลั่น “คุณขวัญปลอดภัยดีครับ แต่แฝดอีกคนยังไม่รู้ว่าเป็นยังไง ผมไม่ได้ตามไปด้วย”

“ขิมเหรอครับ...ขิมเป็นอะไรครับ”

“โดนแทงครับ คุณนิ่มเป็นคนทำ ตอนนี้ตำรวจกำลังคุมตัวไปโรงพัก คุณธนิกไปที่โรงพยาบาลเลยนะครับ ตอนนี้รถพยาบาลกำลังออกไปได้ไม่นาน”

“ครับลุง ขอบคุณมากครับ”

ลุงกล้วยวางสายไปแล้ว ในห้องโดยสารจึงกลับมาเงียบอีกครั้ง ก่อนที่ธนิษฐาจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา “แม่ไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนี้”

“แม่คิดครับ” ธนิกสวนขึ้นทันที “ถ้าแม่ไม่คิดแม่ไม่ให้นิ่มไปกับไอ้โม แม่รู้นิสัยของนิ่มดีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ห้าม ผมถามหน่อยเถอะครับว่าทำไมถึงเอาความแค้นไปลงที่สองคนนั้น แม่รู้ไหมครับว่าถ้าเป็นไปได้พวกเขาก็ไม่ได้อยากเกิดมา แต่เลือกอะไรได้ไหม พวกเขาเลือกไม่ได้ ทุกอย่างเพราะพวกผู้ใหญ่ทั้งนั้น น้องทั้งสองคนไม่ผิดอะไรเลย น้องต้องพรากจากกัน ไปคนละทิศละทาง ไม่เคยได้รู้จักพ่อแม่ของตัวเอง คนหนึ่งก็อยู่กับพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง โดนแม่เลี้ยงทำร้ายตลอดเพราะได้รับความรักจากสามีของเธอมากเกินไป กลัวว่าพ่อเลี้ยงจะเคลมลูกเลี้ยงของตัวเอง ส่วนอีกคนก็อยู่อย่างอดๆ อยากๆ ขับวินเลี้ยงตัวเองไปวันๆ ของกินดีๆ ไม่เคยได้กิน เสื้อผ้าสวยๆ ไม่เคยได้ใส่เหมือนคนอื่นเลยสักครั้ง พวกเขาเลือกอะไรไม่ได้เลยนะครับแม่ แต่ต้องมารับทุกอย่างที่พวกผู้ใหญ่สาดใส่ให้ แล้วผู้ใหญ่ที่ใจร้ายที่สุดคนหนึ่งก็คือแม่ที่ผมรัก เพราะแบบนี้...พอผมได้รับความรักจากน้อง ผมจึงทรมานใจมากกว่ามีความสุข ยิ่งผมรักน้องมากเท่าไร ผมยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น”

“แม่เข้าใจแล้วธนิก...แม่เข้าใจแล้ว ขอโทษนะลูก ขอโทษจริงๆ” ธนิษฐาปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มเพราะลูกชายของหล่อนกำลังทุกข์ทรมานจากการกระทำของหล่อน

ธนิกไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้น เขาจมอยู่ในความคิดจนขับมาถึงโรงพยาบาลที่ลุงกล้วยส่งโลเคชั่นมาให้ ทันเห็นท้ายรถพยาบาลที่เปิดเสียงไซเรนเพื่อขอทางขับเข้าไปที่ทางเข้าอย่างเร่งด่วน รถคันนั้นจอดลงที่หน้าตึกอุบัติและฉุกเฉิน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลสองสามคนรีบเข้าปฏิบัติหน้าที่ เตียงคนไข้เลื่อนลงจากรถและถูกเข็นเข้าไปทันที ธนิกเห็นขวัญพัฒน์และปฐพีแล้ว ทั้งสองคนหน้าซีดเผือดและทั้งเนื้อทั้งตัวเประไปด้วยเลือดที่คงจะเป็นเลือดจากแผลถูกแทงของเขมินทรา เขารีบรุดเข้าไปหาพร้อมกับมารดา ทว่าขวัญพัฒน์หันมาเจอเขาก่อน ร่างผอมแยกตัวจากปฐพีที่ตามติดเตียงคนไข้ไป จากนั้นจึงก้าวเท้าเข้ามาหา ตรงเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าที่ไม่ใช่ขวัญพัฒน์ แววตาเยียบเย็นมุ่งร้าย

“สะใจหรือยังคุณธนิษฐา” ขวัญพัฒน์หยุดยืนอยู่ตรงหน้าธนิก แต่แววตาจับมองที่ผู้หญิงร่างบาง “ผมคิดอยู่เชียวว่าถ้าคุณไม่มาดูผลงานตัวเอง ผมคงจะบุกไปหาคุณถึงที่”

“น้องของเธอ...” ธนิษฐาจ้องมองสายตาของเด็กหนุ่มแล้วก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างหวาดวิตก “เขมินทราเป็นยังไงบ้าง”

“ไม่ตายหรอก มันจะอยู่ได้อีกนาน” ขวัญพัฒน์ตอบเสียงแข็งกร้าว “อย่าอกแตกตายไปก่อนล่ะครับ”

“ขวัญ พี่ว่าเข้าไปข้างในก่อนดีกว่าไหม ตอนนี้ไปอยู่หน้าห้องฉุกเฉินกัน...”

“อย่ามาใกล้” ขวัญพัฒน์ตัดบท มองตาขวาง “อย่าพาแม่ของคุณมาใกล้น้องของผม คุณธนิก”

“ขวัญ…” ธนิกเอ่ยเรียกแต่ก็พูดไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ เมื่อเห็นสายตาว่างเปล่าของขวัญพัฒน์ที่จ้องมองมา

“รีบเตรียมเงินประกันตัวแม่ของคุณดีกว่าหรือจะพาหนีไปเลยก็ได้ เพราะอีนิ่มโดนจับ มันคงซัดทอดว่าแม่ของคุณสั่งให้มันทำ” ขวัญพัฒน์เผยรอยยิ้มเย็น “อ้อ...ถ้ามีเงินนะครับ ตอนนี้พวกคุณสองแม่ลูกจะไม่เหลืออะไรแล้วนี่ แย่หน่อยนะครับคุณธนิษฐา ที่สุดท้ายลูกชายของคุณก็เลือกจะทิ้งทุกอย่างเพื่อผม ดูสิ...พยายามกันมาแทบตาย สุดท้ายก็เป็นได้แค่นี้ แค่หมาขี้แพ้”

“ขวัญพัฒน์” ธนิษฐาเรียกเสียงเฉียบ “ถ้าจะเกลียดก็เอาความเกลียดมาลงที่ฉัน ฉันเป็นคนทำร้ายน้องของเธอเอง ธนิกไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย”

“ไม่เกี่ยวเหรอครับ” ขวัญพัฒน์เลิกคิ้วพลางยิ้มเยาะ “รู้แต่ไม่ยอมห้าม รู้แต่ก็ปล่อยให้คุณทำเรื่องร้ายๆ ใส่คนอื่น ผมเรียกการกระทำแบบนี้ว่าสมรู้ร่วมคิด ลูกชายของคุณจะรักใครได้คุณธนิษฐา เขาเก่งแต่เดินตามคุณต้อยๆ สั่งให้หันซ้ายก็หัน เชื่องดีจริงๆ ขนาดตอนนี้ก็ยังพาคุณมาเยาะเย้ยผมกับน้อง แทนที่จะพาคุณไปส่งตำรวจให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่เขาก็ไม่ทำ สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะเข้าข้างคุณ ถ้าอย่างนั้นก็อยู่กับแม่ไปตลอดชีวิตนะ เพราะปกป้องได้แค่แม่ของตัวเอง ส่วนคนอื่นจะเป็นยังไงก็ช่างหัวมัน เวลาสำคัญไม่เคยอยู่ หายหัวทุกที”

ธนิกยืนรับฟังโดยไม่โต้เถียง คำพูดของขวัญพัฒน์เหมือนมีดแหลมคมจ้วงแทงหัวใจของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ฉันขอโทษ” ธนิษฐาบอกเบาๆ “เรื่องที่มันเกิดขึ้นเป็นความผิดของฉันเอง เกลียดฉันได้เท่าที่เธออยากเกลียด ฉันจะรับผิดกับเรื่องที่ฉันทำ แต่กับธนิก เธอไม่ควรพูดกับเขาแบบนี้ขวัญพัฒน์ อย่าทำร้ายเขาแค่เพราะเกลียดฉัน”

“ผมไม่รับคำขอโทษของคุณ” ขวัญพัฒน์บอกอย่างเย็นชา “คำขอร้องของคุณผมก็ไม่รับคุณธนิษฐา ผมไม่เคยคิดแค้นใคร จนถึงเมื่อวานนี้ผมก็ยังไม่คิดแค้นคุณต่อให้คุณจะเป็นคนที่ทรมานแม่ของผม จะเป็นคนที่ทรมานน้องชายของผม ผมไม่แค้นเลย แต่ตอนนี้ผมยอมรับเลยว่าผมอยากให้คุณตายๆ ไปซะ ตายไปพร้อมกับความแค้นบ้าบอของคุณ ความแค้นที่ผมกับน้องไม่ได้รู้อะไรด้วยเลย ถ้าอยากขอโทษผม ไปตายให้ผมดูทีนะครับ”

“ขวัญ!” ธนิกเรียกเสียงเข้ม เขาจ้องมองคนรักราวกับไม่เคยเห็น ขวัญพัฒน์ที่เขารู้จักไม่ใช่คนร้ายกาจแบบนี้ “พี่เข้าใจว่าตอนนี้ขวัญรู้สึกยังไง แต่อย่าเพิ่งให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล”

“คนอย่างคุณธนิษฐาใช้เหตุผลได้ด้วยเหรอ” ขวัญพัฒน์ยิ้มเยาะ “แล้วอย่ามาพูดว่าเข้าใจผมคุณธนิก คุณไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกที่กำลังจะสูญเสียคนสำคัญ”

ขวัญพัฒน์ในตอนนี้คงลืมไปแล้วว่าวันนั้นที่สถานีรถไฟ ธนิกมีสีหน้าแบบไหน น้ำตาบนใบหน้าหล่อเหลานั้นก็คงลางเลือนในความทรงจำ เพราะแม้แต่คำว่ารักที่ได้บอกไปก่อนขวัญพัฒน์จะหมดสติจนถึงวินาทีนี้ก็ไม่มีทีท่าจำได้

“ว่ายังไงล่ะคุณธนิษฐา ผมรอชมคำขอโทษอย่างจริงใจจากคุณอยู่นะ” น้ำเสียงของขวัญพัฒน์ดังเรียบเรื่อย “คุณชอบขู่ฆ่าตัวตายนี่ คงคิดออกนะว่าควรจะตายแบบไหน แต่ผมก็ยังสงสัยว่าคนเห็นแก่ตัวอย่างคุณจะกล้าทำจริงๆ ไหม หรือเก่งแค่ขู่ให้ลูกชายยอมทำตัวเชื่องๆ ด้วยเท่านั้น มุขเก่าๆ แต่ก็ได้ผลทุกครั้งนี่นะ” ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มหยัน จ้องมองธนิกด้วยแววตาที่ยากจะตีความ “ทั้งที่ผมมั่นใจแล้วเชียวว่าทำให้หลงหัวปักหัวปำได้ คาดไม่ถึงอยู่หรอกที่ยอมขัดคำสั่งคุณเพื่อผม แต่สุดท้ายเขาก็เลือกอยู่ข้างคุณ เสียดายที่ผมยอมเปลืองตัวไปฟรีๆ ตั้งหลายวัน แกล้งปั้นหน้ายิ้มจนเมื่อย ลงทุนทำอะไรขยะแขยง แต่เวลานึกถึงความทุรนทุรายของคุณเวลาที่รู้ว่าลูกชายที่น่ารักติดอยู่ในบ่วงของผม ฝืนใจยังไงก็ต้องทำ”

“พอได้แล้วขวัญพัฒน์” ธนิษฐาเอ่ยเตือน หัวใจของคนเป็นแม่แทบสลายเมื่อเห็นลูกชายยืนนิ่งงัน สีหน้าของธนิกเต็มไปด้วยความเจ็บปวด คำคนฆ่าคนให้ตายทั้งเป็นได้ ยิ่งจากคนที่รักแล้วคงยิ่งทำให้ทุกข์ทรมานราวกับตกอยู่ในนรกขุมที่ลึกที่สุด “หยุดพูดสักที ฉันขอร้อง”

“สีหน้าของคุณตอนนี้ ผมชอบมากจริงๆ นะคุณธนิษฐา เจ็บปวดมากเหรอครับ” ขวัญพัฒน์ไม่ได้มองไปที่ธนิก เพราะเอาแต่มองผู้หญิงใจร้ายตรงหน้าด้วยความสะใจ “เจ็บปวดเพราะอะไรกันนะ เพราะลูกชายที่รักนักรักหนากำลังเจ็บปวดเหรอ แต่ช่วยไม่ได้นะครับเพราะลูกชายคุณเลือกที่จะเชื่อผมเอง น่าสมเพชอะไม่รู้ว่าเชื่อไปได้ยังไงว่าผมจะให้ทุกสิ่งที่ต้องการ เป็นความผิดคุณนะที่เลี้ยงเขามาแบบนี้ ทั้งหลอกง่าย โดนจูงจมูกง่าย พอหลงผมมากๆ ก็ยอมทิ้งสิ่งที่ต้องการเพื่อบูชาความรัก ทั้งๆ ที่ผมก็เตือนแล้วว่าอย่ารักผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่าทิ้งทุกสิ่งเพื่อผม แต่ดูเขาสิ” ขวัญพัฒน์หัวเราะในลำคอ “กลายเป็นไอ้หน้าโง่เลยนะครับ”

เพียะ!!

มือของธนิษฐาตวัดลงบนแก้มของขวัญพัฒน์ เด็กหนุ่มหน้าหันไปตามแรงตบ แต่ก่อนที่จะได้เอาคืนก็ถูกมือแข็งแรงของร่างสูงยับยั้งไว้แล้วผลักออกห่าง ขวัญพัฒน์จ้องมองธนิกที่ยืนบังธนิษฐาเอาไว้ด้วยสายตาจะกินเลือดกินเนื้อ

“อยากเอาคืนก็ทำกับพี่” ธนิกบอกเสียงเรียบ ก่อนจะหน้าหันไปตามแรงชก

ผลัวะ!

กำปั้นหนักๆ ของขวัญพัฒน์ปะทะกับสันกราม ธนิกเซไปด้านหลังในขณะที่ธนิษฐาจับแขนของลูกชายเอาไว้ไม่ให้เสียหลัก ก่อนหล่อนจะตวัดตามองไปที่ขวัญพัฒน์

“เป็นไงครับ ตบผมอีกได้นะ ตบอีกผมก็จะชกลูกคุณอีก ยังไงซะลูกของคุณก็ไม่ทำร้ายผมอยู่แล้ว” ขวัญพัฒน์เหยียดยิ้มด้วยแววตามุ่งร้าย “เพราะเขารักผมมาก รักจนยอมเชื่อว่าผมจะรักเขาที่เป็นลูกชายของคนอย่างคุณ เวลาแสดงบทว่าต้องรักต้องหลงเขานี่ ผมสะอิดสะเอียนจริงๆ ต้องปั้นหน้าเป็นเด็กดี หัวเราะแล้วก็ทำท่าปัญญาอ่อน เรียกเขาว่าพี่นิกๆ ผมแทบอ้วก”

“อยากให้ฉันตายใช่ไหม” ธนิษฐาเอ่ยเสียงแปร่งเพราะพยายามกลบเกลื่อนความสั่นไหวในใจ หล่อนทนมองต่อไปไม่ได้แล้ว เด็กหนุ่มตรงหน้าทำให้หล่อนแพ้ราบคาบ ไม่ต้องใช้อาวุธใดๆ มาขู่ทำร้าย ไม่ต้องทรมานร่างกายให้เจ็บปวด แต่แค่วาจาก็ทำให้หล่อนเหมือนตายทั้งเป็น ตายเพราะความทุกข์ทรมานของลูกชายอันเป็นที่รัก “ถ้าฉันตาย...เธอจะรักเขาได้ไหมขวัญพัฒน์”

“ลองดูก่อนสิครับ” ขวัญพัฒน์เอ่ยตัดบท “ลองดูเผื่อผมจะมีความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมาบ้าง”

“ได้...ถ้ามันพอจะชดใช้ให้ได้บ้าง ถ้ามันพอจะมีทางบ้าง ฉันจะ...”

“พอแล้วครับ” ธนิกยื่นมือไปจับข้อมือบางของมารดา “ไปกันเถอะครับ ผมไม่เป็นไรครับแม่”

ฉากจบไม่ได้สวยงามอย่างที่หวัง แม้จะเจ็บปวดแต่ธนิกก็ยอมรับ เขารู้ถึงความเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะจบลงแบบนี้

ขวัญพัฒน์ก็คงเจ็บปวดไม่น้อยเพราะแม้จะเอ่ยถ้อยคำทำร้ายกันออกมา ทำราวกับไม่แยแสแต่ก็กลบความสั่นไหวของแววตาไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นจึงไม่ยอมมองมาที่เขาเลย มารดาของเขาคงเชื่อแต่เขาที่รู้จักขวัญพัฒน์ดีไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว แต่รู้ว่าไปต่อไม่ได้แล้วจึงไม่แย้งเพื่อเป็นการเหนี่ยวรั้ง

พี่เข้าใจ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ ดูแลตัวเองด้วยนะ

“ขอให้ขิมปลอดภัย ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องห่วง ใครทำผิดก็ว่ากันไปตามผิด พี่จะพาแม่ไปพบตำรวจเอง งั้น...พี่ไปก่อนนะ”

มีความสุขด้วยนะน้องขวัญ

ขวัญพัฒน์หันหลังกลับ เขาพอใจแล้วที่ได้เห็นสีหน้าทุรนทุรายของธนิษฐา พอใจแล้วที่ได้เห็นว่าคนใจร้ายแบบหล่อนก็สามารถเจ็บปวดได้ เกมโอเวอร์แล้ว ธนิษฐาแพ้ให้เขาแล้ว แพ้โดยที่ไม่ต้องลงแรงไปมากกว่านี้ แต่ทำไมในชัยชนะครั้งนี้ไม่ได้ทำให้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งในตอนที่ธนิษฐายอมรับข้อเสนอที่จะตาย เขาก็ไม่ได้รู้สึกดีใจ

คุณธนิกครับ เจ็บมากไหมครับ

ผมขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ นะที่ฉากจบของเรา

...มันไม่ได้สวยงามอย่างที่หวังเอาไว้

ขวัญพัฒน์เงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วมองตรงไปข้างหน้า ก้าวขายาวๆ เพื่อตรงไปหน้าห้องฉุกเฉิน ทุกย่างก้าวมั่นคง ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงหวีดร้องดังลั่น หัวใจของขวัญพัฒน์กระตุกวูบ ขาที่กำลังก้าวหยุดอยู่กับที่พลางหันหลังกลับไปมอง

ที่ถนนหน้าโรงพยาบาลมีผู้คนมุงกันอยู่เป็นจำนวนมาก ขวัญพัฒน์ไม่ได้หยุดคิดสงสัยแต่กลับก้าวขาออกวิ่ง เพราะเขาเห็น...เห็นธนิษฐาอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ยืนอยู่กลับมีหล่อนเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่กับพื้น ร้องไห้ราวกับจะขาดใจ เสียงสะอื้นไห้ของหล่อนเป็นเพียงเสียงเดียวที่ก้องอยู่ในหัวเมื่อขวัญพัฒน์ไปถึง ไม่ว่าผู้คนบริเวณรอบข้างจะพูดคุยเสียงดังแค่ไหน ขวัญพัฒน์ก็ไม่ได้ยิน เขายืนนิ่ง นิ่งงันราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน เสียงร้องไห้ของธนิษฐากรีดหัวใจของเขาให้เป็นแผลเหวอะหวะ ตอกย้ำว่าภาพที่เขาเห็นตรงหน้าเป็นความจริง

ธนิกนอนอยู่บนพื้น ร่างสูงใหญ่ของเขานอนราบไปกับพื้นถนน เลือดสีแดงฉานจากบริเวณศีรษะของเขาไหลเป็นทาง เขาไม่ขยับเขยื้อน มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่เคลื่อนไหว อกกว้างสะท้อนขึ้นลงช้าๆ ตามจังหวะการหายใจที่ราวกับจะช้าลงทุกขณะ ขวัญพัฒน์มองเขา จ้องมองเขาราวกับไม่เคยพบเคยเห็น ร่างผอมบางยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน ไม่กล้าเข้าไปใกล้ ทั้งที่อยากคุกเข่าลงตรงหน้าเขา ดึงเขามากอดไว้ แต่กลับก้าวขาไม่ออก เขานอนอยู่ไม่ไกลจากรถกระบะสี่ประตูที่จอดกีดขวางการจราจรในขณะนี้ ข้างกันนั้นมีธนิษฐานั่งสะอื้นไห้ พร่ำบอกคำขอโทษซ้ำๆ

“ไม่เจ็บใช่ไหมครับแม่” เสียงของเขาแผ่วเบาราวกับเป็นเสียงกระซิบที่ลอยมาตามลม ลมที่หอบเอาความเศร้าพัดพาเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว “ครั้งนี้ผมมาทันใช่ไหม”

ธนิษฐากรีดร้องราวกับสัตว์ที่บาดเจ็บ ในขณะที่ขวัญพัฒน์ก็รู้สึกไม่ต่างกัน หัวใจปวดหน่วงคล้ายกับกำลังจะหยุดเต้นเสียเดี๋ยวนั้น

“ต่อจากนี้...อย่าทำร้ายตัวเองอีกนะครับแม่” มุกปากของธนิกยกขึ้นเล็กน้อย “มีความสุขได้แล้วนะ”

ความสุขหน้าตาเป็นแบบไหน ขวัญพัฒน์ที่ยืนอยู่ตรงนี้หาคำตอบไม่ได้ ทั้งที่ไม่กล้าเข้าไปใกล้แต่สายตาของธนิกก็ยังหาเขาเจอและทั้งที่ม่านน้ำตาทำให้ภาพตรงหน้าพร่าเบลอ แต่กลับอ่านปากของเขาที่ขยับโดยไร้เสียงได้

รัก...

รักมาก...

ที่จริงแล้ว...นี่อาจจะเป็นแค่เรื่องโกหก ที่จริงแล้ว...ฉากจบคือสถานีรถไฟในวันนั้น ที่จริงแล้ว...พวกเขาจับมือกันขึ้นรถไฟไปแล้ว ไม่มีใครรอที่ชานชาลา การรอคอยที่ไม่จบไม่สิ้นนั้นเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ พวกเขาอยู่บนนั้น...อยู่บนขบวนรถไฟที่ไม่มีสถานีปลายทาง ไม่มีผู้โดยสารคนอื่น มีเพียงพวกเขาที่อยู่บนขบวนรถไฟที่วิ่งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยกัน


................TBC...................

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ตัวต้นเรื่องยังนอนสบายอยู่

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เป็นไงล่ะ ความแค้น เจ็บปวดมากไหมล่ะทุกคน  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ไม่อยากตัดสินว่ามครควรหรือไม่ควรตายหรอก แต่ถ้าต้องเลือกให้ใครสักคนตายก็ให้เป็นเขมรัตน์กับขนิษฐาเถอะ ต้นเหตุความห่าเหวทั้งหมดก็สองคนนี้

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
อ่านจบแล้วนั่งร้องไห้ เจ็บไปหมดทั้งใจ
ตอนที่บอกว่าขวัญคงลืมไปแล้ว
ความเจ็บปวดของธนิกในวันนั้น คือไม่ไหว  :sad2:

อยากให้คุณธนิกฟื้นมาแล้วได้ใช้ชีวิตเรียบง่าย
 ทำอาหารเอง ว่างๆก็วาดรูป ได้เดินตามทางตัวเอง

อย่าให้คุณธนิกกับขิมตายเลยนะคะ
 ถ้าใครจะตายก็ให้เป็นเขมรัตน์เถอะ


ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เป็นตอนที่เหมือนจะเป็นบทสรุปทุกอย่างแต่ก็ไม่ใช่ ธนิษฐายอมง่ายกว่าที่คิดนะทั้งๆที่ร้ายมาเยอะแท้ๆหรือเพราะเห็นพี่นิกต้องเจ็บปวดเลยยอมลงให้ เรื่องทุกอย่างมันเริ่มมาจากเขมรัตน์แท้ๆ ทำไมทุกคนต้องมาทนทุกข์แล้วตัวต้นเรื่องแค่นอนป่วยอยู่ละ ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ดราม่าเข้มข้นมากพ่อคุณเอ๊ย :katai1:

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เห้อออออออเหนื่อยใจจจจสงสารจับใจเลยแง ต้องมีใครสะกคนที่มีความสุขนะคะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
บีบคั้นหัวใจ

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทำไมเป็นงี้อ่าาา  :sad4:
ขอให้คุณธนิกปลอดภัยเถอะ  :hao5:
โกรธเกลียดแค้นกันไปมาแบบนี้ไม่มีอะไรดีเลย เฮ้อออ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
ตอนนี้บอกไม่ได้แล้วว่าอยากให้ใครอยู่หรืออยากให้ใครตาย  :katai1: :katai1: :katai1: สมองเบลอไปแล้วอะ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :m15:  ร้องไห้ เราร้องไห้หนักมาก

ฟื้นสิคุณต้องฟื้นนะคุณธนิก ถ้าคุณตาย ฉันจะไปสวัสดีใคร
..สวัสดีครับคุณขวัญ
...สวัสดีครับคุณโม
....สวัสดีครับลุงกล้วย
.....สวัสดีครับคุณนิ่ม ???!!? (อินี่ฉันยิ่งไม่อยากสวัสดี)

ฉันจะสวัสดีครับ! คุณธนิกเท่านั้น
ฟื้นมาเดี๋ยวนี้ !!!  :m15: :m15:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2018 20:23:23 โดย yodrak »

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เพราะผู้ชายมักมาก(เขมรัตน์) กับผู้หญิงอ่อนแอ(ขวัญข้าว)
เรื่องทุกอย่างมันเลยเป็นแบบนี้ ธนิษฐาต้องมาแค้้นเพราะ
ถูกคนที่รักทั้งสองคนหักหลังพร้อมๆกันและด้วยกัน

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เจ็บกันถ้วนหน้า นิยายคุณ สนฟ. ไม่เคยเบามือให้คนอ่านเลย / หันไปหายาดม

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ผู้ใหญ่ ทำไมต้องมาลงกับเด็ก

ออฟไลน์ Babyboys

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
บีบคั้นหัวใจจริงๆ...

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เคลียร์ไปหนึ่งน้องขิมรีบฟื้นแล้วมาบอกว่าไม่รับคำขอโทษจากอิพี่โมนะคะ เกลียด

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ผลสุดท้ายก็ต้องเจ็บกันทุกคน
เพราะรักมาก เพราะแค้นมาก
เพราะความไม่พอใจในสิ่งที่ตนมีจึงทำให้เป็นแบบนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด