สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27  (อ่าน 145087 ครั้ง)

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ขิมเด็กเปรต โรคจิต
คุณเคคุณทีนี่ใครกันนะ

ออฟไลน์ lovenine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คิดถึง หลง นะลูก คนดี ย่อมได้รับ ผลดี สู้ๆนะ ขวัญ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงง :ling1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
น้องขวัญสู้ๆ ว่าแต่ มิสเตอร์ทีกับเคคือใคร

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ต้องแบบนี้แหละขวัญอย่าไปยอม o13 ตอนท้ายนี่อะไรอ่ะ ใครคือ K กับ T อยากอ่านต่อ :ling1:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
K เหมือนจะเป็นพี่นิก(ของขวัญพัฒน์) ส่วน T ใครก็ยังไม่รู้ รู้แต่ว่า เขมินทราเธอโป๊ะแตกแล้วค่าา ไม่ได้ชอบมีพี่ชาย ใจตรงกันแล้วขวัญพัฒน์  เดินหน้าสู้ต่อไปนะน้องขวัญคิดซะว่าแค่คนหน้าเหมือนกัน ที่บังเอิญมาเจอกันแล้วหาเรื่องให้เราปวดหัวเท่านั้นเอง 555555 / เขมินทรา นางดูร้ายเนอะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
คุณเค คุณที และคุณเขาที่ยังรอไหว เป็นใครกันบ้างนะ  :m21:

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
เดาว่า
K คือขวัญ
T  คือธนวัตร
คนที่รอคือพ่อมั้งคะ  แต่โห ถ้างี้จริงนี่ขวัญอย่างร้ายยยยย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
แชทช่วงท้าย สงสัยมากๆ

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ทำไมเรารู้สึกว่า K นี่คือขวัญ เอาแล้วววววไง
ยังไงก็ดูแลสุขภาพด้วยนคะ  :pig4: :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yanggi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เผลอๆ พลิกล็อก คุณ k คือขวัญ  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ mamotic

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ทำไมอ่านๆ แล้วรู้สึกอยากให้พี่น้องได้กันเอง   :hao7:

ออฟไลน์ owlkapam

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
K คือ  ขวัญแน่นวลเลยอ่ะ
มาต่อได้แล้วค่ะ   รอลุ้นมากๆ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
K&T ...เขาเป็นใครหนอออ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ทำไมเราคิดว่าน้องขวัญก็มีความลับ  :hao5:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เดี๋ยวนะคะ ขออนุญาตคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนอ่านตอนต่อไป
เหมือนจะมีการดริฟเกิดขึ้น /พนมมือ

ออฟไลน์ aumaim0621

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เดานะคะ ว่า Kนี่คือน้องขวัญแน่ๆเลย แต่กับTนี่น่าจะเป็นคนของพ่อ?

แบบ..ถ้าใช่น้องขวัญจริง คือพีคมาก ไม่รู้สิ เราว่าน้องก็พยายามตั้งใจให้คุณธนิกรักตัวเองเหมือนกันง่ะ

น้องขุดหลุมเตรียมฝังคุณธนิกแล้วแน่นอน

ถ้าใช่คือเราสะใจมากกกกก ทุกคนดูแบบดูถูกน้องทำเหมือนน้องเป็นลูกไก่ในกำมือ หึหึ

ปล.เผื่อใจไว้30%ล่ะกัน กันหน้าแหก ฮาาา

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ได้โปรดดดดดมาต่ออออ พลีสสสสสสสสสสสสสส

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 15



“มึงแปลกไปนะ” ไอ้แนนเริ่มบทสนทนาขึ้นหลังจากที่ผมมานอนแกร่วอยู่บ้านของมันตั้งแต่เมื่อบ่าย มันกำลังทำตัวเป็นว่าที่พ่อลูกอ่อนที่ดีโดยการซักผ้าให้กับภรรยาสุดที่รัก ซึ่งตอนนี้ผมก็ออกมานั่งเฝ้ามันขยี้ชุดคลุมท้อง “ไม่ต้องหลบตากูไอ้ขวัญ กูเป็นเพื่อนมึงมากี่ปี แค่นี้ทำไมจะดูไม่ออกวะ”

“แล้วกูแปลกยังไง” ผมย้อนถาม ช่วยขยับตะกร้าผ้าให้ไอ้แนนได้หยิบจับสะดวก “กูก็เป็นกูเหมือนเดิมมั้ย”

“เหมือนมึงมีเรื่องให้คิดมาก”

“โถ...ไอ้แนน ถึงกูจะโง่ แต่ก็ขอพื้นที่ให้สมองกูได้ทำงานบ้าง” ผมถอนหายใจแรงใส่ไอ้เพื่อนที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวน “เหนื่อยๆ ว่ะ กูแม่งไม่ชอบโกหกใครมึงก็รู้ แต่ทุกวันนี้เหมือนต้องเขียนบทให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลา”

“ปีชงก่อนอายุ 25 ก็มาว่ะ” ไอ้แนนว่าเสียงกลั้วหัวเราะ มันออกแรงขยี้ราวกับสิ่งที่กำลังขยี้อยู่ตอนนี้คือหน้าเมียรัก รู้หรอกว่ามันแค้นเคืองที่โดนใช้งาน แต่ใจมันรัก มันก็ยอมหยุดงานครึ่งวันมาดูแล

ตำแหน่งผัวทาสแห่งปีคงต้องยกให้มัน...

“ชงเข้มด้วยไอ้สัด กูนี่ประสาทจะกิน”

“แล้วมึงเอาไงต่อวะ”

“ก็เท่าที่ได้แหละ เดี๋ยวจบเรื่องก็แยกย้าย กูแม่งไม่เคยอยากได้อะไรเลย แต่ดันต้องมาวุ่นวายด้วย พวกคนรวยนี่โลภมากเนอะมึง ไอ้ที่มีอยู่ ชาตินี้ทั้งชาติก็กินไม่หมดแล้ว ยังจะอยากได้เพิ่ม” ผมไม่เคยเข้าใจความรู้สึกอยากได้อยากมีของคนที่กำลังแก่งแย่งของที่ไม่ใช่ของตัวเองตั้งแต่แรก ถึงตอนเด็กๆ ผมจะอยากได้รถบังคับคันใหญ่ๆ เป็นของขวัญวันเกิดหรือพอโตขึ้นหน่อยก็อยากได้รถจักรยานสวยๆ ไว้ขี่เล่น แต่ความรู้สึกอยากได้ของผมคงเทียบไม่ได้กับความรู้สึกโลภของกลุ่มคนที่ผมกำลังเจอ

“เรื่องเงินมันไม่เข้าใครออกใครเว้ยมึง ขนาดลูกยังฆ่าพ่อแม่เพื่อสมบัติได้ แล้วทำไมญาติพี่น้องจะฆ่ากันไม่ได้วะ”

“กูไม่นับญาติได้มั้ยล่ะ มีแต่ร้ายๆ ทั้งนั้น เหอๆ” ผมหัวเราะเสียงแห้ง เหมือนเป็นเรื่องตลกร้ายในชีวิตที่ต้องมารับรู้ว่าญาติพี่น้องที่เพิ่งจะรับรู้ว่ามีตัวตนบนโลกนั้นไม่ได้เป็นมิตรอย่างที่ควรจะเป็น “แต่คุณธนิกเขาดีกับกูนะ แบบ...เขาดียิ่งกว่าคนเป็นญาติแท้ๆ กูอีกอะ”

“จ้า มึงก็ไลน์มาอวดกูทุกวัน เล่าเรื่องเขาทุกวัน นี่ยังจะไม่เลิกอวดอีกเรอะ”

“อยากให้เพื่อนใส่ใจ ฮิฮิ”

ไอ้แนนหัวเราะพลางสะบัดฟองในมือมาโดนเสื้อของผม แต่มันไม่สำนึก ไม่ขอโทษแถมยังทำหน้าสะใจด้วยซ้ำ “เออ เห็นมึงมีความสุขก็ดีแล้วว่ะ แต่ถามจริงแบบมึงห้ามมองเขาด้วยสายตาแห่งรัก เขาดีกับมึงมากใช่ไหม”

“อืม มากๆ” ผมก็ไม่รู้จะบรรยายให้ไอ้แนนเข้าใจถึงความใจดีของคุณธนิกยังไง เพราะสิ่งต่างๆ ที่เขาทำให้ มันก็แค่เรื่องธรรมดาของคนที่อยู่บ้านเดียวกัน แต่นั่นแหละ...สำหรับผมคือเรื่องที่พิเศษ คือเรื่องที่ทำให้อบอุ่นหัวใจ “ที่เขาทำให้กูมันไม่จำเป็นต้องทำเลยเว้ยแนน เขาจะใจร้ายมากกว่านี้ก็ได้ ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องใส่ใจ ไม่ต้องดูแลกูเลยก็ได้ แต่เขาก็ทำว่ะ เขาพากูไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านป้านีเพราะคิดว่ากูชอบกิน ที่จริงกูแหละที่บอกว่าก๋วยเตี๋ยวร้านป้าอร่อยมาก กูโตมากับก๋วยเตี๋ยวร้านป้าเลย แล้วร้านป้าแม่งก็เพิงหมาแหงนอะมึง บ้านแบบบ้านมากๆ แต่เขาก็นั่งกินกับกูได้ ไม่บ่นสักคำ เวลากูอยากไปไหนเขาก็พาไป ถ้าเขาไม่ว่างก็ให้คนขับรถของเขาพาไป มีหนังสือการ์ตูนสนุกๆ ก็ซื้อมาให้อ่าน ตอนเช้ากับตอนเย็นก็ทำกับข้าวให้กิน สอนกูทำนั่นทำนี่ มึงก็รู้ว่ากูง่อยหลายๆ เรื่องเพราะน้าลีทำให้ตลอด เรื่องเรียนเขาก็ถามกูบ่อยๆ ว่าจะเรียนอะไร เขาจะส่งกูเรียน คือ...มันเยอะมากเลยนะที่เขาทำให้ มึงคิดว่ากูจะไหวมั้ยล่ะ...จะห้ามตัวเองไม่ให้รักเขาไหวมั้ย”

“กูว่ากูพอจะเข้าใจ” ไอ้แนนยอมหยุดมือที่กำลังขยี้ผ้าแล้วเงยหน้าขึ้นมองผม “และกูรู้เลยว่ามึงแย่แน่ๆ ถ้าต้องไปจากเขา”

“แล้วกูทำอะไรได้บ้างวะ” ผมรู้ตอนจบดี แต่ระหว่างที่กำลังจะเดินทางไปถึงตอนนั้น ผมก็ยังหวังจะมีความสุขกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างทาง “กูทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากทำให้เขาได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ แล้วมึงว่า...เขาจะมีความสุขจริงๆ มั้ยวะ”

ไอ้แนนถอนหายใจ มันคงลำบากใจที่จะให้คำตอบกับคำถามของผม แต่ต่อให้มันไม่พูดอะไรออกมาผมก็ได้คำตอบอยู่ดี เพราะผมรู้จักคุณธนิกยิ่งกว่าที่ไอ้แนนรู้จัก

“กูโคตรอยากบอกเขาเลยว่าทิ้งทุกอย่างแล้วไปด้วยกัน แต่แบบนั้นมันก็คงเห็นแก่ตัวมากไป เพราะเขามีที่ที่เหมาะกับเขาอยู่แล้ว กูไม่ควรทำให้เขาลังเล”

“ต่อให้ที่ตรงนั้นจะไม่ใช่ความสุขของเขาเหรอวะ” ในที่สุดไอ้แนนก็ถามหลังจากที่ไม่ยอมให้คำตอบกับผม แต่คำถามของมันก็เป็นคำตอบได้แล้วว่ามันกับผมคิดไม่ต่างกัน “มองจากนอกโลกยังรู้ว่าคุณธนิกคิดยังไงกับมึง”

“อาจจะคิดกับเขมินทราก็ได้ กูหน้าเหมือนคนรักเก่าเขาขนาดนี้” ผมพูดติดตลก แต่ไอ้แนนไม่ขำไปด้วย

“เชื่อกูเถอะว่าคนนิสัยอย่างน้องมึงทำให้เขาหลงหัวปักหัวปำเหมือนมึงไม่ได้หรอก คนโง่จริงกับคนแกล้งโง่มันมีเสน่ห์ต่างกัน”

“มึงกำลังด่ากูอยู่ป่าววะ”

“ชมไอ้สัด กูชม” ไอ้แนนยืนกรานเพราะผมเตรียมง้างเท้าจะเตะมันแล้ว “แต่นั่นแหละ คนอย่างคุณธนิกคงไม่เลือกความสุขของตัวเองหรอกว่ะ ระหว่างแม่ของเขากับมึง เขาก็ต้องเลือกแม่อยู่แล้ว”

“โห...ไอ้ห่าแนน เอากูไปเปรียบแบบนั้นก็แพ้หลุดลุ่ยดิวะ”

“หรือมึงจะเถียงล่ะ เพราะถ้าเป็นมึง ให้เลือกระหว่างน้าลีกับเขา มึงก็เลือกน้าลีอยู่แล้ว”

“ก็จริง” ผมยอมรับอย่างจนด้วยความรู้สึก “ชีวิตแม่งยากเนอะ กูไม่น่าเข้าไปยุ่งเลย วันที่เห็นไอ้วันกับไอ้ทิวขโมยกระเป๋าตังค์เขาวันนั้น กูน่าจะปล่อยไป ไม่น่าทำตัวโง่เป็นพลเมืองดี”

“แน่ใจเหรอที่พูด”

ผมส่ายหน้า ยิ้มอย่างอ่อนใจกับความรู้ทันของไอ้แนน “ไม่ว่ะ ยังไงก็อยากพูดคุยกับเขาสักครั้งอยู่ดีนั่นแหละ...ก็กูมองเขามาตั้งนานแล้วนี่หว่า”

“แล้วมึงจะไม่บอกอะไรเขาหน่อยเหรอวะไอ้ขวัญ” ไอ้แนนถามหยั่งเชิง มันเลิกคิ้วมองมา “อย่างน้อยก็ไม่ต้องเหนื่อยเขียนบทให้ตัวเอง เรื่องโกหก...ถ้าอยู่กับมันมากๆ สักวันมึงจะแยกไม่ออกว่าเรื่องไหนจริงหรือเรื่องไหนโกหก มีคนไม่น้อยที่สร้างเรื่องโกหกแล้วอินไปกับมันจนหลุดออกมาไม่ได้ คุณธนิกเขาให้ใจมึงเท่าไรกูไม่รู้ เขาอาจจะมีเรื่องที่โกหกมึงอยู่ก็ได้ แต่กูว่าคงไม่มากเท่าที่มึงกำลังโกหกเขาหรอกว่ะ”

“อะ...ยังเคืองกูไม่หายสินะ”

“งั้นกูถามหน่อยว่าเป็นมึง มึงโกรธไหม ถ้าวันนั้นกูไม่ได้ไปร้านกาแฟที่มึงนัดกับแฝดนรกของมึงไว้แล้วไม่บังเอิญเจอคนที่มึงนัดหลังจากนั้น กูจะรู้อะไรเกี่ยวกับมึงบ้าง” สีหน้าราบเรียบของไอ้แนนทำให้ผมเดาอารมณ์ไม่ออก แต่น้ำเสียงของมันก็ขุ่นเคืองเอาการ “กูอยู่กับมึงมาตั้งกี่ปี กูเป็นเพื่อนที่มึงหวังจะให้เป็นคนจัดงานศพให้ เป็นเพื่อนคนเดียวที่จะร้องไห้ในวันที่มึงจากไป มึงให้ความสำคัญกับกูขนาดนี้ แต่กลับไม่เคยบอกอะไรกูเลย มาจนถึงวันนี้มึงก็ยังไม่อธิบายอะไรให้ฟัง ทั้งๆ ที่มึงบอกว่ากูติดร่างแหไปด้วย ชีวิตกู ลูกเมียกูอีก เนี่ย...แต่มึงก็ยังเงียบ กูควรรู้มั้ยว่าตอนนี้ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู คุณธนิกก็ต้องรู้ไหมว่าตอนนี้คนที่เขากำลังปกป้องเป็นยังไงกันแน่”

ผมไม่เคยต้องการที่จะเป็นต้นเหตุของปัญหา ไม่เคยต้องการให้ใครได้รับอันตรายจากปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะตัวผม ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ในเมื่อทั้งน้าลีและไอ้หลง ผมก็รักษาไว้ไม่ได้ มาตอนนี้ไอ้แนน เพื่อนเพียงคนเดียวก็ต้องเดือดร้อน ผมเกลียดคนโลภที่ตามืดบอด เพราะไม่เคยสนวิธีการใดๆ

ผมมองไอ้แนนที่กำลังรอคอยคำตอบจากผม อยากจะขอโทษมันเป็นร้อยๆ ครั้ง แต่รู้ว่ามันคงไม่ได้อยากฟังคำขอโทษ ไอ้แนนเพื่อนผมให้ใจกับผมเต็มร้อย แต่เป็นผมเองที่ไม่เคยให้ใจกับใครเต็มร้อยเลยสักครั้ง “กูไม่ได้จะปิดบังอะไรมึงนะ แต่กูไม่รู้ว่าจะบอกยังไง เพราะกูก็ไม่รู้มาตลอด น้าลีไม่เคยบอกอะไร ขนาดเรื่องที่กูมีแฝดกูก็เพิ่งรู้ตอนที่มึงมาบอกว่าเจอคนหน้าเหมือนกู แต่มีเรื่องเดียวที่กูไม่เคยบอกมึงก็แค่เรื่องที่ทุกปีกูจะต้องไปเจอกับคนคนหนึ่ง กูจะได้เจอเขาตอนวันเด็กกับวันเกิดของเขา เป็นการเจอกันในที่เดิมๆ ก็คือสวนสาธารณะใกล้หมู่บ้าน ตอนแรกก็เหมือนเรื่องบังเอิญ แต่พอโตขึ้นกูก็รู้แหละว่าเป็นความตั้งใจ กูไม่ได้บอกใครเพราะคิดว่าเป็นคนรักของน้าลี มึงเข้าใจปะ...ความรู้สึกเหมือนน้ากูไปเป็นชู้กับเขา กูก็เลยไม่เคยบอกมึง กูเห็นเขาเอาเงินให้น้าทุกครั้งที่เจอ น้าก็รับบ้างไม่รับบ้าง น้าบอกว่าจะใช้เงินเขาเฉพาะตอนฉุกเฉินเท่านั้น”

ไอ้แนนมีสีหน้างงงัน มันนิ่งฟังโดยไม่ได้พูดขัด แต่ผมต้องหยุดพักเพราะเรียบเรียงเรื่องในหัว ความทรงจำลางเลือนในแต่ละปีที่ได้พบกับคนที่คิดว่าเป็นคนรักของน้าลีนั้นไม่ค่อยมีอยู่ในหัวเท่าไร

“แต่กูเพิ่งมารู้ว่าที่จริงเขาไม่ใช่ชู้รักของน้า” ผมรอไอ้แนนประมวลผล สุดท้ายมันก็อ้าปากค้างเหมือนกับตอนที่ผมได้รู้เรื่องราว “เขาเป็นพ่อกู มิสเตอร์ทีที่เราเจอวันนั้นเขาบอกแบบนี้ วันนั้นเขาเอาโทรศัพท์ของน้าลีมาให้กูด้วย เขาบอกว่าเขาเก็บไปก่อนที่ตำรวจกับมูลนิธิฯ จะมาถึงบ้าน”

“ทำไมทำแบบนั้นวะ...”

“ไม่รู้ว่ะ กูไม่ได้ถาม”

“โง่อีกไอ้ห่า มึงควรถามมั้ย ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะมาเก็บมือถือคนตายไว้” ไอ้แนนมีสีหน้าบึ้งตึง มันคงไม่ได้ดั่งใจเท่าไร “แล้วมึงไว้ใจเขาเหรอวะ ท่าทางเหมือนคนพึ่งพาไม่ได้ ยังจะมาทำเรื่องน่าสงสัยอีก”

“ไม่ว่ะ กูไว้ใจใครไม่ได้สักคน” ผมยักไหล่ตอบปฏิเสธ “แต่มันไม่ใช่เรื่องสำคัญไอ้แนน กูไม่สนหรอกว่าเขาจะไว้ใจได้แค่ไหน ต่อให้ถามว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ไปทำไม พอเขาตอบมา กูก็ไม่เชื่อเต็มร้อย เพราะงั้นไม่จำเป็นต้องถามให้เกิดประเด็น ปวดหัวเปล่าๆ ที่กูสนใจก็แค่ว่าเขาเลือกข้างใคร”

“อะ ไอ้ห่า กูเริ่มปวดหัวกับมึงละ” ไอ้แนนขมวดคิ้วมุ่น “สรุปมาง่ายๆ เลยว่ามิตรหรือศัตรู”

“กึ่งๆ” คำตอบของผมทำเอาไอ้แนนตวัดตามอง ถ้าไม่ติดว่ามือของมันเลอะผงซักฟอกมันคงเข้ามาบีบคอผมแล้ว “เราเป็นมิตรกันเพราะเป้าหมายเหมือนกัน แต่เราก็เป็นศัตรูหัวใจกันด้วย”

“เดี๋ยวนะ...”

“ตราบใดที่กูอยากให้คุณธนิกสมหวัง มิสเตอร์ทีก็คือมิตรของกู มึงเก็ทมั้ย”

“กูว่ากูพอจะเก็ทแล้ว”

“นั่นแหละ...ความรักของกูเทียบกับเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”

มิสเตอร์ทีคือชื่อที่ผมใช้เรียกพันธมิตรเพียงหนึ่งเดียวในตอนนี้ เขาปรากฎตัวขึ้นครั้งแรกที่ร้านกาแฟ คล้อยหลังเขมินทราแค่สิบนาที วันนั้นตอนที่กำลังลุกจากเก้าอี้เพื่อเดินไปสมทบกับไอ้แนนที่สูบบุหรี่รออยู่ เขาก็เข้ามาทัก มาพร้อมกับเรื่องราวมากมายที่คนอย่างผมจำเป็นต้องรู้ เขาบอกว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อเขาก็ได้ เขาไม่ได้บังคับ เพราะต่อให้ผมจะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไรก็ไม่มีผลกับตัวเขาอยู่แล้ว แต่ที่เขามาพบกับผมก็เพราะเขมินทรา เขารู้ว่าครั้งนั้นผมเจอกับเขมินทราเป็นครั้งที่สอง สีหน้าของเขากังวลเล็กน้อยเมื่อพูดถึงแฝดน้องของผม ตอนนั้นผมไม่ปักใจเชื่ออะไรมาก มาจนถึงตอนนี้ผมก็ไม่ได้เชื่อเขามากขึ้น ทว่าเรื่องเดียวที่ผมเชื่อก็คือความรู้สึกที่มิสเตอร์ทีมีต่อคุณธนิก เราเลือกข้างเหมือนกัน เราไม่ได้เลือกข้างแม่ของคุณธนิก ไม่ได้เลือกข้างคุณแขไข ไม่ได้คิดจะช่วยเหลือเขมินทรา เราแค่เลือกสิ่งที่คุณธนิกจะมีความสุขและเลือกสิ่งที่คุณธนิกควรจะได้ เป้าหมายของผมกับมิสเตอร์ทีมีแค่นั้น

‘ผมร้ายกับคนทั้งโลกได้เพื่อเขา คุณล่ะคิดเหมือนผมไหม’ นั่นคือคำพูดของมิสเตอร์ทีในวันนั้น

‘ผมอาจจะไม่ได้คิดเหมือนคุณซะทีเดียว แต่ผมต้องการความสงบของผมคืน ผมไม่ชอบเรื่องแบบนี้ ถ้าจบได้เร็วเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น ไม่มีใครควรเสี่ยงกับของที่เอาติดตัวไปตอนตายไม่ได้ ยกให้ผมผมก็ไม่เอาเพราะผมไม่มีความสามารถพอ แล้วถ้าผมมีสิทธิ์จะให้ใคร คนคนนั้นก็คือคุณธนิก’ และนั่นคือคำตอบของผม

‘งั้นมาร่วมมือกับผมไหม คุณไม่ต้องเชื่อใจว่าผมจะไม่ทรยศคุณก็ได้ แต่คุณเชื่อได้ว่าผมจะไม่มีวันทรยศธนิก’

ข้อเสนอของมิสเตอร์ที เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนและผมก็ตกลงอย่างไม่ลังเล

‘ได้ ผมร่วมมือเพราะเป้าหมายเราเหมือนกัน งั้นผมขอความมั่นใจหน่อยว่าถ้าคุณเกิดหึงหวงขึ้นมา ผมจะไม่ซวยก่อนที่เรื่องจะจบ’

‘อย่าห่วงเลย น้องชายฝาแฝดของคุณก็ยังอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ แล้วคุณจะกลัวอะไร’

‘ผมกลัวก็เพราะว่าคุณธนิกรู้สึกกับผมมากยิ่งกว่าเขมินทรา’

มิสเตอร์ทีหัวเราะ ผมจ้องมอง ไม่ได้ฝืนหรือเสแสร้ง เขาหัวเราะเพราะอาจจะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่ผมก็ได้แค่เดา

‘เขาจะรู้สึกอย่างไรไม่เกี่ยวกับผมหรอก ผมแค่รู้สึกกับเขาแล้วก็คอยมองเขาอยู่ห่างๆ เพราะเรื่องของผมกับเขามันเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณได้อยู่กับเขาก็ดูแลเขาให้ผมด้วย ทำให้เขายิ้ม ทำให้เขามีความสุข ทำได้ก็จะขอบคุณมาก แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าทำให้เขาทุกข์ใจก็พอ อย่าห่วงว่าผมจะหึงหวงแล้วทำอันตรายคุณ คุณห่วงว่าผมจะทำร้ายคุณเพราะคุณทำร้ายเขาดีกว่านะ’

‘อย่าห่วงเลยครับ ผมอาจจะรักเขาไม่นานเท่าคุณ แต่ผมก็อยากให้เขามีความสุขเหมือนกัน ถึงตอนจบเขาอาจจะเสียใจเพราะผม แต่ถึงตอนนั้นก็เป็นหน้าที่คุณนะ รับไม้ต่อจากผมที’

‘ดีลครับ ต้องการอะไรก็บอกผมได้ ใช้เครื่องที่ผมให้ไปติดต่อมา มันเหมือนเครื่องของคุณ ธนิกจะได้ไม่ต้องสงสัย เพราะถ้าเขารู้ว่าคุณติดต่อกับผมคงเป็นเรื่องใหญ่’

‘ครับ’

บทสนทนาของผมกับมิสเตอร์ทีจบลงแค่นั้น เราแยกย้ายกันไปคนละทาง ตอนที่มิสเตอร์ทีออกจากร้านไป ไอ้แนนที่นั่งอยู่โต๊ะไม่ไกลจากโต๊ะที่ผมนั่งก็เข้ามาแตะที่ไหล่ ผมไม่รู้หรอกว่ามันเข้ามาตอนไหนและได้ยินอะไรบ้าง รู้แค่สีหน้าของมันนิ่งเฉยจนผิดสังเกต เพิ่งมาแน่ใจเอาตอนนี้เองว่ามันก็ได้ยินมากพอควรถึงได้ออกอาการขุ่นเคืองเพราะคิดว่าผมมีความลับปิดบัง

“แล้วทีนี้เอาไงล่ะ จะไม่มีใครเข้ามาเพิ่มอีกแล้วใช่มั้ย เผยตัวออกมาทุกคนหรือยัง” ไอ้แนนถามขึ้นหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเงียบอยู่นาน มันหันกลับไปขยี้ผ้าต่อแล้ว แต่ปากก็ยังคงถาม

“กูยังไม่ได้เจอคุณแขไข แม่ของคุณธนิกก็ยังไม่เห็น ที่เกรี้ยวกราดอยู่ก็มีแค่แฝดน้องของกู ขิมจ้างคนมาตามกูทุกฝีก้าวเลยไอ้ห่า ส่งรูปส่งข้อความมาขู่ว่าจะอุ้มกูตลอด แต่บอกคุณธนิกแล้ว เขาคงจัดการให้เพราะสามสี่วันมานี้ก็ไม่เห็นใครมาป้วนเปี้ยนที่บ้าน กูถึงออกมาหามึงได้”

เอาจริงๆ ผมก็ประสาทจะกินกับเขมินทรา แต่การที่อีกฝ่ายเผยตัวออกมาเพราะความหึงหวงก็ทำให้ผมโล่งใจมากกว่าการยิ้มแย้มต่อหน้าแล้วถือมีดซ่อนไว้ข้างหลัง เจ้าน้องชายฝาแฝดเหมือนเด็กที่คอยตะโกนโหวกเหวกมากกว่าจะลงมือทำได้จริง ทว่าผมก็ไม่ควรประมาท เพราะผมยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำได้มากแค่ไหน การตายของน้าลีกับไอ้หลงทำให้ผมไม่กล้าคิดว่าก็แค่เด็กเล่นกัน ในเมื่อไม่สามารถหยั่งลึกเข้าไปในจิตใจของใครได้ ผมไม่ตั้งคำถามด้วยเพราะผมรู้ว่าผมไม่เชื่อคำตอบของใคร แม้ผมจะคิดว่ามิสเตอร์ทีน่าจะรู้ แต่ก็นั่นแหละ...ผมไม่ถามและมิสเตอร์ทีไม่ได้พูดถึง เขาไม่พูดแม้จะทำเหมือนรู้ทุกความเคลื่อนไหวตลอดหลายปีที่น้าลีมีชีวิตอยู่จนกระทั่งเมื่อน้าจากไปซึ่งเขาอาจจะเป็นคนที่พบศพคนแรกด้วยซ้ำ โทรศัพท์มือถือของน้าก็อยู่กับเขา

แต่ผมรู้แล้วจะได้อะไร...นั่นแหละคือที่ผมกังวลกับความคิดของตัวผมเอง

“จะต้องเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่วะ คือกูก็ไม่ได้อยากจะแช่งให้พ่อมึงตายหรอกนะ แต่ถ้ายังโดนปั่นประสาทอยู่อย่างนี้มึงได้ตายก่อนพ่อมึงแน่ ดีไม่ดีตายไปแล้ว พอพินัยกรรมเปิดออกมา อ้าว ไม่มีชื่อมึง มึงตายฟรีเลยนะไอ้ขวัญ”

คำพูดของไอ้แนนทำเอาผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะถ้าเป็นอย่างที่ไอ้แนนพูดจริงมันก็เรื่องตลกร้ายดีๆ นี่เอง “กูก็คิดงั้นว่ะมึง แล้วกูก็ไม่คิดเลยนะว่าพ่อจะยกทุกอย่างให้กู มึงดูสิขนาดตัวกูเขายังไม่เลี้ยงเลย ปล่อยให้อดๆ อยากๆ น้ากูก็ต้องทำงานหนัก ไหนจะเรื่องแม่กู ไม่เห็นเขาทำอะไรได้สักอย่าง รวยซะเปล่า แล้วพอกูโตมาเป็นหนุ่มแข็งแรงสุขภาพดีเสือกมาโยนปัญหาให้กูอีก กูคิดอย่างนี้บาปมั้ยวะ”

“กลัวอะไรแค่บาป ขามึงอยู่นรกไปข้างแล้วตั้งแต่แดกยางลบกูตอนประถม” ไอ้แนนทำหน้าหงุดหงิด มันคงกำลังคิดถึงยางลบกลิ่นสตรอเบอร์รี่ของมัน “แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะได้กลับมาขี่วินกับกู พวกพี่แจ้บ่นหามึงทุกวัน”

“คงรอเปิดพินัยกรรม นั่นก็หมายถึงตอนที่พ่อกูตาย” ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ รู้สึกบาปอยู่ในใจเพราะหวังให้เรื่องมันจบในเร็ววัน “กูอยากจะเซ็นไม่รับมรดกเหมือนขิม แต่ถ้ากูทำแบบนั้น คุณธนิกอาจจะไม่ได้อะไรเลย มันเสี่ยงหลายๆ อย่าง ความเป็นไปได้มีเยอะมากเหมือนที่มิสเตอร์ทีบอก ขิมคงไม่อยู่เฉย ไหนจะคุณแขไข แต่ถ้ากูได้แล้วยกให้เขา คือชัวร์สุด”

“ถามจริงนะไอ้ขวัญ มึงไม่อยากได้เงินเหรอวะ”

“อยาก” ผมตอบในทันทีโดยไม่มีความลังเล “แต่กูไม่อยากได้ทั้งหมด เข้าใจไหมว่ากูก็อยากสบาย ใครบ้างวะจะอยากลำบาก กูว่ากูกับคุณธนิกวินทั้งสองฝ่าย คือถ้ากูได้ แต่กูดูแลไม่รอด สุดท้ายก็เป็นศูนย์ แต่ถ้ากูได้แล้วยกให้เขา คุณธนิกพาไปรอด มันก็โอเค เพราะยังไงเขาก็ไม่มีทางให้กูลำบากอะ กูเชื่อว่าเขาเป็นคนแบบนั้น แล้วมึงลองคิดภาพว่าคุณแขไขได้ เขมินทราได้ กูก็ศูนย์เลยนะ ไม่มีใครมาตามดูแลด้วย คงไม่เจียดให้กูสักแดงหรอก แต่ถ้าเป็นคุณธนิก กูอยากเรียนก็คงได้เรียน อยากได้อะไรเขาก็คงให้ จบเรื่องแล้วขอเงินเขาไปตั้งตัวสักก้อนมันไม่ยากเลยนะ”

“มึง” ไอ้แนนมองหน้าผมด้วยความชื่นชม “มึงโตแล้วว่ะไอ้ขวัญ กูปลื้มใจแทนน้าลีที่ในที่สุดมึงก็คิดได้”

“เวอร์ไอ้สัด กูก็คิดได้มาตลอดมั้ยล่ะ” ผมทำหน้าหน่าย รู้สึกเหมือนโดนชมแกมโดนด่า

“แต่มึงคิดไม่ได้อยู่เรื่องนะ”

“อะไร”

“เรื่องที่ควรช่วยกูซักผ้า ไอ้ห่า มาชวนคุยจนแดดจะหมดอยู่แล้ว ผ้าเมียกูยังเต็มตะกร้า! มานี่ มาช่วยกู!”

เวร...ตำแหน่งผัวทาสของไอ้แนนกำลังเผื่อแผ่มาถึงผม แม้จะก่นด่ามันอยู่ในใจแต่ก็ต้องมาช่วยมัน เพราะเพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อน ยึดถือคติที่ว่ามีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน แต่ตอนมีสุขกับเมียไม่เคยจะเรียกผมร่วมแจม! ทีซักผ้าล่ะใช้กูจังเลย!!

ผมกับไอ้แนนช่วยกันขยี้ผ้าอย่างเมามัน สุดท้ายก็ช่วยกันจนแล้วเสร็จ บรรยากาศเดิมๆ กลับมาอีกครั้งหลังจากที่ผมต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่กับคุณธนิก ผมไม่เคยได้ซักผ้าเองจนเกือบลืมวิธีซัก เสื้อผ้าที่ผมใส่ตอนนี้ทั้งสะอาด ทั้งหอมแถมยังรีดเรียบไร้รอยยับ คุณภาพชีวิตแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก ทว่าผมก็ยังชอบช่วงชีวิตก่อนหน้านี้อยู่ดี ไม่ใช่ว่าอยู่กับคุณธนิกแล้วแย่ ผมกลับคิดว่ามันเป็นความฝันเสียด้วยซ้ำและเพราะมันเป็นความฝันถึงได้คอยระแวงว่าเมื่อไหร่จะถูกปลุกให้ตื่น การรับรู้ว่ามันจะคงอยู่ไม่นานมันทำให้ทรมานมากกว่าที่จะคิดว่าควรมีความสุขไปกับมัน





คุณธนิก: ขวัญครับ ทำอะไรอยู่





ข้อความจากคุณธนิกขึ้นโชว์บนหน้าจอในเวลาเกือบบ่ายสามโมง ผมเหลือบมองในขณะที่กำลังนั่งทอดอารมณ์หลังออกแรงซักผ้ากับไอ้แนนที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านเช่าของมัน





ขวัญพัฒน์: นั่งเล่นกับไอ้แนนครับ ฝนกำลังทำของแกล้มให้ รางวัลจากการช่วยไอ้แนนซักผ้า

คุณธนิก: ดื่มเหรอ

ขวัญพัฒน์: ค้าบ

คุณธนิก: อืม





คำตอบสั้นๆ เหมือนเขากำลังไม่พอใจ แต่ผมกลับยิ้มกว้าง แค่คำว่าอืมของเขาก็ทำให้หัวใจเต้นแรงแล้ว ผมคงเป็นเอามากจริงๆ เห็นไอ้แนนเบ้ปากใส่ด้วย มันให้ความใส่ใจแค่ไม่กี่วินาทีก็กลับไปสนใจกับการปอกเปลือกมะม่วงต่อ เดี๋ยวคงได้กินมะม่วงน้ำปลาหวาน แค่คิดก็เปรี้ยวปากน้ำลายสอ... อยากให้คุณธนิกมาลองกินด้วยกัน แต่ก็นึกภาพตอนที่เขากินมะม่วงน้ำปลาหวานไม่ออก เพราะเบ้าหน้าของคุณธนิกเหมาะกับการนั่งอยู่ในภัตราคารกับอาหารราคาแพงเท่านั้น





ขวัญพัฒน์: ทำงานเป็นไงบ้างครับวันนี้ เหนื่อยมั้ย

คุณธนิก: เหนื่อยครับ ยิ่งขวัญไม่อยู่บ้านพี่ก็ยิ่งเหนื่อยมากกว่าเดิม

ขวัญพัฒน์: อ้าว ทำไมอย่างนั้นล่ะครับ

คุณธนิก: เป็นห่วงจนเหนื่อย ไม่มีสมาธิทำอะไรแล้ว ท้อใจมาก

ขวัญพัฒน์: เป็นงั้นไป นึกว่าดีแล้วซะอีกที่ไม่ต้องคอยดูภาพจากกล้องวงจรปิด

คุณธนิก: ดีตรงไหน ไม่ได้เห็นหน้าขวัญตั้งหลายชั่วโมง

ขวัญพัฒน์: แง้ว พูดเหมือนคนโรคจิตเลย คุณธนิกน่ากลัว

คุณธนิก: คนโรคจิตที่ไหนกัน แค่เป็นคนคิดถึงขวัญเท่านั้นเอง

ขวัญพัฒน์: พี่นิกปากหวาน

คุณธนิก: อยากฟังเป็นเสียง ขนาดพิมพ์มาแค่นี้ใจพี่ยังสั่น

ขวัญพัฒน์: คืนนี้เรียกให้ฟังนะครับ :)

คุณธนิก: แทบจะอดใจรอไม่ไหว งั้นพี่ไปรับนะ เลิกงานแล้วจะรีบไปหา

ขวัญพัฒน์: เจอกันที่บ้านก็ได้นะครับ จะได้ไม่ต้องลำบากมา

คุณธนิก: ไม่เอาครับ ขวัญอย่าดื้อ ต้องเชื่อฟังพี่

ขวัญพัฒน์: ได้ค้าบ เชื่อฟังทุกอย่างเลย

คุณธนิก: น่ารักจังวะ

ขวัญพัฒน์: น่ารักแล้วรักป่าว

คุณธนิก: ขวัญรู้คำตอบพี่ดี

ขวัญพัฒน์: รู้ดีว่าไม่รัก

คุณธนิก: ครับ เข้าใจก็ดีแล้วตัวดื้อ

ขวัญพัฒน์: ค้าบ :)

คุณธนิก: ทำงานต่อละ

ขวัญพัฒน์: สู้น้า เป็นกำลังใจให้

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: เซลฟี่พร้อมมินิฮาร์ทให้พี่นิก

คุณธนิก: เป็นคนหรือกาแฟเนี่ยเรา ทำพี่ใจสั่นไม่หยุดเลย

ขวัญพัฒน์: เป็นทุกอย่างให้พี่นิกครับ อยากให้เป็นอะไรก็เป็นให้ทั้งนั้นแหละ

คุณธนิก: ขวัญ

ขวัญพัฒน์: ครับ?

คุณธนิก: พี่ไม่รักขวัญ ไม่รักเลยนะครับ พูดจริงๆ

ขวัญพัฒน์: ค้าบบบบ รู้แล้ววว

คุณธนิก: ถ้ารู้แล้ว คืนนี้ก็ทำให้พี่รักด้วยนะ

ขวัญพัฒน์: ขออนุญาตนอนบ้านไอ้แนนละกันครับ บายยย

คุณธนิก: 555 ตัวดื้อของพี่ น่าจับตีว่ะ





“ไอ้ขวัญ ทำไมทำหน้าอย่างกับคนเมากาว” ไอ้แนนยื่นมือมาผลักหัวผม ก่อนมันจะจัดการเก็บกวาดเปลือกมะม่วงไปทิ้งใต้ต้นมะม่วงที่ยืนต้นเป็นร่มเงาบังแดดยามเย็นให้ “มึงฟินอะไรของมึงฮึ”

“คุณธนิกบอกว่าไม่รักกู” ผมบอกสาเหตุของอาการเมา ส่วนไอ้แนนทำหน้างงหนัก

“เขาบอกไม่รักแล้วทำไมต้องดีใจขนาดนี้ มึงบ้าปะเนี่ย”

“เออ กูคงบ้าจริงๆ แหละ คุณธนิกแม่ง...พูดคำว่าไม่รักยังไงให้คนอื่นเขินได้วะ”

“กูว่าคงมีแต่มึงอะที่เขิน เป็นคนอื่นร้องไห้ไปแล้ว”

“กูคงพิเศษสินะ”

“เรื่องมึงเถ๊อะ” ไอ้แนนทำหน้าหมั่นไส้ใส่ผม ก่อนจะจัดการคีบน้ำแข็งใส่แก้วเปล่า วันนี้จะได้ร่ำสุราตั้งแต่ยังไม่มืดค่ำเพราะผมมีเวลาไม่มาก ฝนเมียของไอ้แนนก็ใจดีไม่บ่นไม่ว่าสักคำแถมยังอาสาทำของแกล้มให้ด้วย ตอนนี้คงกำลังทำยำวุ้นเส้นหมูสับให้อยู่ในครัว “มึงชงละกัน เดี๋ยวเข้าไปดูฝนก่อน”

“เออๆ เดี๋ยวชงให้เข้มๆ”

“อย่าเข้มมาก กูจะเมาไม่ได้ เมียกำลังท้องกำลังไส้ เกิดเมาหลับไปแล้วเกิดอะไรขึ้นมา กูคงเสียใจไปทั้งชีวิต”

“โอเคครับ รู้เรื่องเลยเพื่อน ไม่ต้องห่วง จะชงบางที่สุดจนมึงแทบไม่ได้กลิ่นเหล้า”

“งั้นก็เอาน้ำเปล่าให้กูแดกเถอะไอ้ห่า”

“เอาใจไม่ถูก ตามใจไม่ทัน วู้! เกิดเป็นเพื่อนมึงนี่ลำบากจริงๆ”

ไอ้แนนยิ่งกว่าคนมีประจำเดือน ตั้งแต่เมียมันท้องมาก็ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย แต่ผมก็บ่นไปอย่างนั้น เพราะการได้เป็นเพื่อนกับมันคือเรื่องดีๆ อีกเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตของผม เหมือนๆ กับที่ช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตผมได้อยู่กับคุณธนิก




[ต่อด้านล่าง]





ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนเด็กๆ ผมเคยชอบเรื่องราวในนิทาน เรื่องของสัตว์นิสัยดี เรื่องของเจ้าหญิงกับเจ้าชาย เรื่องในโลกแห่งจินตนาการที่ตอนจบมักจะมีความสุขเสมอและในตอนนี้ผมก็ยังคงชื่นชอบ น้าลีมักจะบอกในตอนจบทุกครั้งว่านิทานเรื่องที่อ่านไปนั้นให้ข้อคิดอย่างไรหรือเราได้อะไรจากมันบ้าง แต่น้าลีไม่อยู่บอกผมแล้ว ถ้าหากนิทานเรื่องที่ผมกำลังอ่านนี้จบลง เมื่อตอนจบมาถึงผมคงต้องหาคำตอบเอาเอง

ทั้งตอนจบของนิทานและอะไรบ้างที่ผมได้กลับคืน...ผมต้องหาให้เจอ

แต่เรื่องที่ผมกำลังอ่านอาจจะไม่มีเจ้าชายและเจ้าหญิง

“เมาเหรอครับขวัญ หน้าแดงเชียว”

คุณธนิกไม่ใช่เจ้าชาย

“เปล่าครับ ผมไม่ได้เมา”

ส่วนผมก็ไม่ใช่เจ้าหญิง

“คนเมามักจะบอกว่าตัวเองไม่ได้เมา”

หรือถ้าเขาเป็นเจ้าชายจริงๆ

“งั้นคนเมาขออ้อนหน่อยได้มั้ยครับ”

แต่ผมน่ะ...ไม่ใช่เจ้าหญิงของเขา

ผมเป็นเพียงแค่ชายขอทานที่บังเอิญเดินผ่านมาเจอเจ้าชายที่กำลังพลัดหลงหาทางกลับปราสาทไม่ได้

ผมเป็นเพียงแค่คนที่จะพาเจ้าชายกลับไปในที่ที่เขาอยู่เพื่อที่เจ้าชายจะได้ครองปราสาทและคู่กับเจ้าหญิง

โลกของเจ้าชายกับโลกของขอทานไม่อาจเป็นโลกใบเดียวกัน อาจมีบ้างที่โลกของเราโคจรเข้าใกล้

ทว่าสุดท้าย...เราก็จะถูกเหวี่ยงไปคนละทิศละทาง

อ่า...ผมอาจจะกำลังเพ้อเจ้อกับโลกของจินตนาการเพราะกำลังเมา ฤทธิ์เหล้าหงส์ทองที่ร่ำกับไอ้แนนไปเมื่อตอนค่ำยังติดอยู่ปลายลิ้น คงไม่แปลกหากผมจะคิดเรื่อยเปื่อยไปบ้าง

“หืม” คุณธนิกเลิกคิ้วพลางเผยรอยยิ้มน่ามอง เขาจ้องผม เราสบตากันในระยะที่ใกล้เกินความจำเป็น ภายในรถยนต์ของเขามีเพียงแค่แสงจากเสาไฟข้างทางเท่านั้นที่ให้แสงสว่าง “มองพี่ตาเยิ้มแบบนี้อันตรายนะ”

“อันตรายยังไงเหรอครับพี่นิก” ผมยิ้ม ยกมือขึ้นไล้ไปตามสันกรามของเขา “ต่อตัวหรือต่อใจ”

“ขวัญพัฒน์” เขาเรียกชื่อผมเสียงพร่า แววตาของเขาเหมือนคนกำลังสะกดกลั้น “อย่าเล่นแบบนี้”

“พี่นิก”

“อย่า...”

เขาหลับตา สูดหายใจเข้าลึกและผ่อนออกอย่างรวดเร็ว แต่เพราะเขาหลับตาเขาถึงไม่เห็นว่าผมขยับเข้าใกล้เขามากแค่ไหน

“พี่นิก...” ผมเรียก อยากให้เขาได้ยินถ้อยคำที่เขาอยากฟัง “พี่นิกจูบผมหน่อยครับ”

ผมรู้ตอนจบ แต่ผมชอบระหว่างทาง หากตอนจบมันเลวร้าย ผมก็จะเก็บเกี่ยวระหว่างทางให้ดีที่สุด การสร้างความผูกพันต่อความสัมพันธ์ที่รู้จุดจบไม่ใช่เรื่องดี แต่อย่างน้อยในช่วงเวลาหนึ่งผมก็อยากจะมีความทรงจำดีๆ ที่สามารถหวนนึกถึงได้และทำให้ยิ้มออกมา แน่ล่ะว่า...ในตอนนั้นผมอาจจะไม่ได้ยิ้ม อาจจะกำลังร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย

แต่แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ...ให้ขอทานได้เป็นคนของเจ้าชาย

“ขวัญรู้ใช่มั้ยว่าถ้าขวัญเอ่ยปากขอ พี่จะไม่หยุดแค่จูบ”

“ครับ ไม่หยุดก็ได้”

คุณธนิกยกมือลูบใบหน้า ความกังวลของเขาปรากฎชัด แววตาวูบไหวเมื่อเขาลืมตาขึ้นมองผม เขาเบือนหน้าหนีแล้วหันไปซบหน้ากับพวงมาลัยรถ แต่ผมดึงตัวเขาให้หันมา รั้งคอหนาให้ใบหน้าที่มีแต่ความกังวลนั้นซบลงที่ไหล่

“ดีแล้วเหรอแบบนี้” เขาถามเสียงแผ่วพร้อมกับกัดลงที่ไหล่ของผม “ขวัญจะทนได้จริงๆ เหรอถ้าวันหนึ่งระหว่างเราจะไม่เหมือนเดิม พี่ห่วง...พี่กลัวว่าขวัญจะไม่ไหว พี่ต้องอดทนแค่ไหนขวัญรู้มั้ย พี่อยากกอด อยากจูบ อยากทำให้ขวัญเป็นของพี่ แต่สุดท้ายพี่ต้องปล่อยขวัญไป”

เขา...คือคนที่พูดคำว่าไม่รักแต่สามารถทำให้ผมเขินได้ เขาคือคนที่เป็นห่วงและกังวลเรื่องของผมเสมอ คำพูดของเขาทำให้ผมใจเต้นแรงทุกครั้ง แต่ก็เป็นคำพูดของเขาอีกเหมือนกันที่ทำให้หัวใจของผมไม่อยากเต้นอีกต่อไป

“พี่มีคนของพี่แล้ว”

ถ้อยคำของเขายืนยันว่าผมเป็นของเขาไม่ได้

เจ้าชายต้องคู่กับเจ้าหญิง...ไม่ใช่ขอทาน

“ครับ” ไอ้แนนต้องทำโล่มามอบให้ผมกับการเขียนบทอันเยี่ยมยอดให้ตัวเอง หัวใจของผมเจ็บแต่ผมก็ยังสามารถยิ้มรับกับการตัดสินใจของเขาได้ “ขอโทษที่ผมทำให้คุณธนิกลำบากใจอีกแล้ว ผมคงเมามากเกินไป ไม่ดีเลย...”

“อย่าดื่มอีกนะ”

“คร้าบบบ”

“งั้นกลับกันเถอะ ขวัญจะได้พักผ่อน”

ผมเป็นเจ้าหญิงไม่ได้ แม้จะเผลอวาดฝันถึงรถฟักทองกับรองเท้าแก้วของซินเดอเรลล่า แต่ในความเป็นจริง นางฟ้าที่มาช่วยก็ยังคงมีแค่ในโลกของนิทาน





“โม กูไม่ไหวแล้วมึง” น้ำเสียงของธนิกราวกับคนที่กำลังถูกขังอยู่ในห้องแห่งความทรมาน เขากำโทรศัพท์มือถือของตัวเองแน่น เส้นเอ็นหลังมือขาวปูดโปนจากการออกแรง “กูพาน้องหนีไปได้ไหม”

“แป๊บ มึงใจเย็นก่อน” ปฐพีว่าด้วยน้ำเสียงร้อนรน ธนิกได้ยินเสียงขลุกขลักจากปลายสาย ไม่แน่ใจว่าเพื่อนซี้ของเขากำลังทำอะไร แต่สักพักก็กลับมาพูดสายด้วยได้ “มา พูดมา เป็นอะไรอีก กูออกมาที่ระเบียงแล้ว พร้อมฟัง”

“ขวัญแม่ง...อันตรายต่อใจกูมากเลยว่ะ” ธนิกบอกอย่างหมดท่า เขายืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงอย่างหวังให้อากาศเย็นสบายและสารนิโคตินที่กำลังอัดเข้าร่างกายได้ช่วยผ่อนคลายความเครียดของเขาลงได้บ้าง “วันนี้น้องเมา แล้วก็ขอให้กูจูบ กูแทบอยากพุ่งเข้าหา แต่เหมือนที่คอกูมีโซ่ล่ามเอาไว้ กูเข้าหาน้องไม่ได้”

“ฟังกูนะไอ้เพื่อนเวร” น้ำเสียงของปฐพีเคร่งขรึมมาตามสาย “กูเตือนมึงหลายครั้งว่าอย่าทิ้งสิ่งที่ทำมาทั้งหมดเพื่อคนคนเดียว แล้วทำไมมึงยังเป็นอย่างนี้”

“เป็นมึงทนไหวมั้ยไอ้โม พวกกูอยู่ด้วยกันทุกวัน ตื่นนอนก็เจอหน้า กินข้าวด้วยกันแทบทุกมื้อ ก่อนนอนถ้าไม่ได้กอดไม่ได้หอมก็นอนไม่หลับ ในห้องกูมีแต่กลิ่นน้อง กูไม่เคยหลงใครขนาดนี้...กูต้องทำยังไงวะถึงจะทนไหว”

ขวัญพัฒน์อยู่ในชีวิตประจำวันของธนิกมากเกินไป เขาจะโทษใครได้นอกจากตัวเขาเองที่อนุญาตให้คนน่ารักคนนี้เข้ามามีผลต่อหัวใจ แค่เพราะไม่รู้ว่าจะอันตรายมากขนาดนี้ แค่เพราะไม่รู้ว่าหัวใจตัวเองไม่ได้แกร่งพอที่จะต้านทานได้

“ธนิก มึงเข้าใจใช่ไหมว่าถ้าแม่มึงรู้ น้องตายแน่ มึงจำเรื่องที่เกิดกับขิมไม่ได้เหรอวะ” ปฐพีเตือนสติคนที่กำลังฟุ้งซ่านเพราะอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง “กูถามมึงหน่อยว่ามึงเป็นขนาดนี้ ไม่ห้ามใจตัวเองเลยสักนิด แล้วมึงพร้อมที่จะสู้กับแม่มึงเหรอ สุดท้ายถ้าเรื่องมันเกิดขึ้น มึงก็ต้องเลือกข้างแม่มึงใช่ไหมล่ะ เหมือนอย่างที่มึงทิ้งขิมมันไว้อย่างนั้น”

สีหน้าของธนิกบิดเบี้ยว ความทรงจำที่ไม่อยากนึกถึงผุดขึ้นมาในห้วงความคิด ภาพซ้อนทับระหว่างเขมินทราและขวัญพัฒน์ทำให้เขาจุกแน่นหน้าอก ถ้าหากภาพนั้นเกิดขึ้นอีกและคนคนนั้นคือขวัญพัฒน์ เขาจะเลือกทิ้งไว้อย่างที่เคยทำกับเขมินทราหรือไม่ คำตอบก็แน่ชัดอยู่แล้วว่า...

“กูทิ้งขวัญไม่ได้ไอ้โม” ธนิกบอกเสียงสั่น “ถ้าขวัญต้องเป็นอะไรไป...กูก็ขอไม่อยู่ซะดีกว่า”

“มึงหนักแล้วล่ะ” ปฐพีบอกอย่างกังวลใจ “แค่ไม่นานก็ทำให้มึงเป็นขนาดนี้ได้ กูไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าขวัญหักหลังมึงขึ้นมาจริงๆ ถึงวันนั้นแล้วมึงจะเป็นยังไง”

“ขวัญไม่ทำ”

น้ำเสียงแข็งกร้าวของธนิกทำเอาเพื่อนซี้คู่สนทนาถึงกับถอนหายใจแรง “โอเค งั้นกูรู้แล้วล่ะว่าต้องทำยังไง คนเดียวที่จะดึงมึงกลับได้กูจะตามเขามาให้”

“ไอ้โม...อย่าเพิ่ง” ธนิกอ้อนวอน “ขอต่อเวลาอีกหน่อยได้ไหม”

“ไม่ได้แล้วว่ะเพื่อน” ปฐพีบอกเสียงเรียบ “นิ่มต้องรู้แล้วล่ะว่าควรกลับมาแต่งงานกับมึงสักที”

“กูขอเวลา”

ธนิกรู้ว่าเขาเองเป็นคนใจอ่อน ถ้าไม่มีมารดาคอยตีกรอบ ไม่มีเพื่อนอย่างปฐพีคอยห้ามปราม เขาก็คงไม่เป็นเขามาจนถึงทุกวันนี้ จุดที่เขายืนมีผู้ไม่หวังดีอยู่รายล้อม หากลำพังแค่ตัวเขาเองคงจะต่อกรได้ยาก แต่แค่เรื่องนี้...แค่เรื่องของขวัญพัฒน์ที่เขาอยากจัดการเอง อยากเป็นคนตัดสินใจว่าควรจะจบความสัมพันธ์ที่เป็นอันตรายต่อหัวใจของเขาเมื่อไหร่ ทว่าปฐพีกลับรู้ดียิ่งกว่าเขาว่าเขาจะไม่มีวันจบความสัมพันธ์นี้ลงได้ นอกจากจะต้องตายตามกันไป

“ไม่ได้ไอ้ห่า อาการมึงโคม่าหนักจนต้องรีบรักษา” ปฐพีไม่อ่อนข้อ เขาทำหน้าที่เตือนสติธนิกมาหลายปีและยังจะทำได้ดีต่อจากนี้ด้วย “มึงแค่กำลังหลง คนที่มึงรักจริงๆ ก็คือนิ่ม ก็เหมือนกับที่มึงหลงขิม มึงเป็นคนที่อยู่ใกล้ใครก็หวั่นไหวกับเขาไปหมด ยิ่งตรงกับที่ชอบมึงก็ยิ่งไม่ยอมห้ามใจ แต่อย่าลืมว่านิ่มคือผู้หญิงที่คบกับมึงมานาน เขาเป็นทั้งแฟน เป็นทั้งเพื่อน และก็เป็นว่าที่ภรรยาของมึง เขาจะเป็นคนในครอบครัวของมึง มีลูกให้มึงและสนับสนุนมึงได้ แม่ของมึงก็จะหายห่วง ทุกอย่างจบแบบแฮปปี้ นั่นคือแพลนที่เราวางกันเอาไว้ เรื่องระหว่างทางมันเป็นแค่รายละเอียดเล็กน้อย อย่ายกขึ้นมาเป็นข้อสำคัญหรือประเด็นหลัก เพราะมันเป็นไปไม่ได้”

ธนิกเริ่มเข้าใจแล้วว่าถ้อยคำตัดพ้อของขวัญพัฒน์ที่เคยพูดกับเขา ถ้อยคำที่บอกว่าแค่เกิดมาก็ผิดแล้วนั้นเขารู้สึกได้ว่ามันเป็นจริงก็ตอนนี้ ตอนที่ปฐพีย้ำถึงความเป็นไปไม่ได้ระหว่างเขากับขวัญพัฒน์

“อย่าเงียบไอ้ห่า” เสียงของปฐพีดังขึ้นแทรกความคิดที่ไหลเอื่อยเหมือนสายน้ำ “มึงก็แค่ต้องยอมรับความจริง เจ็บแค่นี้ไม่ถึงกับตาย”

“แต่กูเหมือนจะตายเลยว่ะ” ธนิกเถียงเสียงเบา “กูทำไม่ได้ไอ้โม”

“มึงทำได้ อย่าอ่อนแอไอ้เวรเอ้ย! จะทำให้กูเป็นห่วงไปถึงไหน ยังไม่รบจริงด้วยซ้ำแต่ก็ทำท่าจะแพ้”

“กูแพ้เพราะคนนั้นคือขวัญ”

“พอ!” ปฐพีว่าเสียงดังลั่น ธนิกแน่ใจว่าเสียงของมันคงปลุกยามหน้าหมู่บ้านให้วิ่งหน้าตาตื่นมาหา “ทำตามที่กูบอกเถอะ มันดีที่สุดแล้ว อีกอย่างมึงก็รู้สึกดีกับนิ่ม แคร์นิ่ม รีบๆ แต่งกันไปก่อนความรู้สึกจะไม่เหลือแล้วจะกลายเป็นการฝืนใจ”

“รู้สึกดีกับรู้สึกรักมันไม่เหมือนกันนะเว้ย กับนิ่มมันคือหน้าที่ของคู่หมั้น”

“งั้นก็ทำตามหน้าที่ของคู่หมั้น อย่าเทเขาแค่เพราะคนที่กำลังหลง”

ธนิกถอนหายใจแรง เขานึกอยากเตะไอ้เพื่อนยากที่ชอบพูดแทงใจดำสักหลายร้อยครั้ง เอาให้กระดูกมันหักทิ่มปอดจะได้รู้สึกเจ็บแนนหน้าอกเหมือนอย่างที่เขากำลังรู้สึกบ้าง

“โม มึงไม่ชอบขวัญเหรอวะ ทำไมไม่สนับสนุนกู”

“เพราะชอบนั่นแหละ น้องเป็นคนดี กูไม่อยากให้เกิดเรื่องเหมือนที่เกิดกับขิม ไม่อยากให้มึงดึงน้องเข้ามามากกว่านี้ พอเรื่องทุกอย่างจบ น้องควรไปมีชีวิตที่ดี ไม่ใช่อยู่เหมือนตายทั้งเป็นแค่เพราะความรู้สึกของคนที่อยู่กับน้องไม่ได้” ปฐพีตอบกลับด้วยเสียงที่แฝงด้วยความห่วงใย “เราวางทุกอย่างไว้ดีแล้วเพื่อน มึงได้ในสิ่งที่มึงอยากได้ จากนั้นก็แต่งงานกับนิ่ม แม่มึงแฮปปี้ จบอย่างมีความสุข กูเชื่อว่านิ่มจะทำให้มึงมีความสุขได้”

“มึงเชื่ออย่างนั้นเหรอ” ธนิกถาม หากปฐพีอยู่ตรงหน้าคงเห็นว่าแววตาของเขาสั่นไหวมากแค่ไหน “ทำไมกูเห็นแต่ตอนจบที่กูอยู่เหมือนคนตายทั้งเป็น”

“มึงแค่คิดไปเอง ตอนนี้มึงกำลังเอาตัวเองหมุนรอบขวัญ มึงก็เลยมองตอนจบเป็นแบบนั้น แต่มึงลองถอยออกมา...เพราะถ้ามึงไม่ถอยก็จะมีมึงคนเดียวที่ติดอยู่ในนั้น ขวัญพัฒน์ไม่ได้อยู่กับมึงด้วย น้องถอยออกไปมองมึงอยู่ห่างๆ ตั้งนานแล้วนะธนิก ถ้าเผื่อมึงไม่รู้”

“มึงก็ขยี้เก่งเกินไอ้โม กูจะตายเพราะมึงก่อนนี่แหละ”

“เอาน่า...ตายเพราะกูกูก็ยังใจดีทำศพให้ แต่ตายเพราะคนอื่นมึงตายอย่างหมาข้างถนนเลยนะ เชื่อกูเพื่อน แล้วจะดีเอง”

“แล้วกูต้องบอกขวัญยังไงวะ น้องจะร้องไห้มั้ย”

“ทุกคนมีวิธีหยุดร้องไห้ได้เอง มึงไม่ต้องห่วงแล้วก็ไม่ต้องเสร่อไปปลอบน้อง”

ธนิกทรุดตัวลงนั่งบนพื้น เขาหันหลังให้กับท้องฟ้ายามราตรี พิงแผ่นหลังกับราวระเบียงแล้วมองเข้าไปในห้องนอนที่ขวัญพัฒน์กำลังอยู่ในห้วงนิทรา “กูต้องใจร้ายแล้วใช่ไหม”

“อืม ต้องทำแล้ว”

“โม” ธนิกร้องเรียกเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้าง พอปลายสายขานรับเบาๆ เขาจึงพูดต่อ “กูไม่มีทางเลือกอื่นเลยเหรอ”

“มี แต่มึงทิ้งแม่ได้ไหม”

“ทิ้งไม่ได้พอๆ กับที่ทิ้งขวัญไม่ได้”

“ความสำคัญของขวัญพัฒน์เหมือนหุ้นบริษัทกูตอนนี้เลยว่ะ พุ่งขึ้นเร็วฉิบหาย แต่ตอนร่วงก็เจ็บหนักเอาการ”

ธนิกยกมือขึ้นขยี้ศีรษะ เขาก้มหน้าลง แนบหน้าผากกับหัวเข่าที่ชันขึ้น “งั้น...ฝากดูแลน้องด้วยนะ อย่าให้น้องร้องไห้คนเดียว”

“ได้ กูจะดูแลให้”

“ทำกับข้าวให้น้องด้วย น้องชอบกินข้าวผัดกุนเชียง อาหารง่ายๆ น้องชอบทั้งนั้นแหละ พาน้องไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านป้านีด้วย เวลาน้องเบื่ออาหาร น้องจะชอบกินก๋วยเตี๋ยวร้านป้านี น้องติดรสชาติ แต่กูก็ว่าอร่อยดี อ้อ...น้องชอบกินแพนเค้กที่กูทำให้ สตรอเบอรี่น้องชอบมาก มึงต้องไปฝึกทำ”

“กูทำไม่เป็นเว้ย! แต่จะพาออกไปแดกข้าวละกัน ของหวานก็จะจัดเต็มให้”

“เออ...แล้วก็ระวังคนของเขมินทรา อย่าให้น้องคลาดสายตา พาไปห้างก็ตามประกบดีๆ น้องชอบหลงทาง น้องบอกว่าไม่ค่อยได้เดินห้าง ไม่รู้จักที่ทางเท่าไร แต่น้องขับวินมอเตอร์ไซค์ รู้ทางลัดดียิ่งกว่ากู ไปไหนกับน้องก็ถามน้องได้”

“โอเค”

“อีกอย่าง...น้องชอบอ่านการ์ตูน หาเรื่องใหม่ๆ มาให้น้อง วันพีชออกเล่มใหม่ต้องไปซื้อมานะมึง โคนันด้วย ตอนนี้ก็กำลังเรียนทำขนม กูส่งไปเข้าคอร์สกับให้ดูผ่านยูทูป อ้อ...ระวังตอนน้องเข้าครัว อย่าให้มีแผลโดนไฟลวก แล้วก็...”

“พอๆ” ปฐพีรีบเบรกก่อนที่ธนิกจะพล่ามมากกว่านี้ “ธนิกครับ กูถามจริงนะมึงเข้าคอร์สเลี้ยงลูกมาเรอะไอ้เพื่อนเวร มึงทำให้ขนาดนี้ไม่กลัวน้องเป็นง่อยรึไงวะ เชี่ย แม่มึงต้องน้ำตาไหลถ้ารู้ว่ามึงดูแลคนอื่นเป็น”

“นอกจากน้ำตาไหลแล้วแม่จะมาแหกอกขวัญด้วย อย่าให้แม่รู้เรื่องพวกนี้ไอ้สัด”

“เฮ้อ” ปฐพีถอนหายใจอย่างรู้สึกเหนื่อยแทนเพื่อน “กูบอกตรงๆ เลยนะว่ากูทำได้ไม่ถึงครึ่งของมึงแน่ๆ แต่จะพยายามทำให้”

ไม่อยากให้ใครดูแล...ธนิกได้แต่ค้านอยู่ในใจ เพราะรู้ว่าใครก็ทำไม่ได้เศษเสี้ยวของเขา ขวัญพัฒน์เป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย ทำอะไรให้นิดหน่อยก็ยิ้มตาหยีดีใจราวกับได้ของรางวัลที่ล้ำค่า ทั้งที่ก็เรื่องเล็กน้อย บางครั้งก็เป็นเรื่องธรรมดาอย่างเช่นทำกับข้าวให้กิน แค่นั้นขวัญพัฒน์ก็มีความสุขแล้ว ทว่า...ต่อให้เรียบง่ายแบบนั้นแต่ธนิกก็รักษาความสุขของคนน่ารักไว้ได้ไม่นาน

“โม” หลังจากที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยปากเรียก

“อะไรอีกวะ” ปฐพีถามด้วยน้ำเสียงกึ่งรำคาญกึ่งอ่อนใจ

“อย่าลืมส่งรูปขวัญให้กูด้วยนะ” ธนิกบอกความต้องการ “รายงานกูด้วย”

“เออๆ” รับคำอย่างเสียมิได้ “กูจะถ่ายให้ทุกท่วงท่าเลยครับ จะถ่ายตอนอาบน้ำให้ด้วย”

“ตีนกูนี่” ธนิกว่าเสียงดุ “อย่าทำอะไรน้อง น้องเป็นเมียกูแล้ว”

“ครั้งเดียว” ปฐพีแก้เสียงกวน

“แค่ครั้งเดียวกูก็นับ” คนถูกกวนยืนกรานเสียงหนักแน่น “ครั้งเดียวไม่รู้ลืม"

“กับคนอื่นเป็นสิบเป็นร้อยท่าไม่พูดอย่างนี้”

“ไม่ได้ชื่อขวัญพัฒน์ก็แย่หน่อยครับ”

“ก็เพราะชื่อขวัญพัฒน์นี่แหละครับก็เลยแย่”

“เอาเงินไปลงทุนเปิดบริษัทผงซักฟอกนะ ขยี้เก่งไอ้เหี้ย”

ปฐีส่งเสียงหัวเราะมาตามสาย “ไปนอนได้แล้วไป รีบไปกอดเติมพลัง ถ้านิ่มกลับมาเมื่อไหร่ เวลาของมึงหมดลงเมื่อนั้น”

“อืม ขอบใจนะเว้ยไอ้โม มึงแม่งเพื่อนตายกูจริงๆ”

“ก็คบกันอยู่แค่นี้ มีอะไรก็โทรมา กูไม่รับก็ไลน์มา โอเคไหม”

“เออๆ”

หลังจากวางสายจากปฐพี ธนิกก็กลับเข้าห้องนอน เขานั่งลงบนเตียงอย่างระมัดระวังเพราะกลัวว่าจะรบกวนคนที่นอนหลับไปแล้ว แต่พอเตียงยวบลงเล็กน้อย ขวัญพัฒน์ก็ลืมตาตื่น

“นานจัง” คนน่ารักวางพลางขยับเข้าใกล้ เกยศีรษะกับตักของธนิกแล้วเงยหน้าขึ้นมอง “คุยกับใครเหรอครับ”

“ไอ้โมน่ะ” เขาตอบพลางยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มสีดำเข้ม “พี่ทำให้ตื่นเหรอ”

“เปล่าครับ ผมตื่นก่อนสักพักแล้ว” ขวัญพัฒน์ขยับตัวลุกขึ้น จ้องมองดวงตาสีดำขลับของเขาด้วยความสนใจ “คุยเรื่องเครียดกันเหรอครับ สีหน้าคุณธนิกแย่มากเลย”

“ก็...เครียด”

“ถ้ากอดจะหายมั้ย”

“แค่ยิ้มให้ก็หายแล้ว”

ขวัญพัฒน์ยิ้มจนตาหยี เห็นฟันขาวซี่เล็กๆ เรียงตัวสวยตัดสีกับกลีบปากสีชมพูอ่อนสุขภาพดี ริมฝีปากของขวัญพัฒน์คือต้นแบบของคำว่าริมฝีปากบางอย่างแท้จริง แต่กลับนุ่มนิ่มราวกับเยลลี่เมื่อได้สัมผัส

“ยิ้มอะไรขนาดนั้นครับ”

“มีความสุข” ขวัญพัฒน์ตอบเสียงอ้อน “แค่คุณธนิกอยู่ตรงหน้า ผมก็มีความสุขแล้วครับ”

“แล้วถ้าพี่หายไป...จะยิ้มได้มั้ย” เป็นคำถามที่ธนิกกลั้นใจรอฟังคำตอบ “ขวัญจะร้องไห้หรือเปล่า”

“ไม่ครับ” ขวัญพัฒน์ส่ายหน้า “คุณธนิกอยู่ในใจของผม ผมเห็นคุณธนิกจากในนี้” มือบางยกขึ้นทาบอกข้างซ้าย “เพราะฉะนั้นอย่าห่วงเลยครับว่าผมจะร้องไห้”

“พี่คงเก่งได้ไม่เท่าขวัญ”

“คุณธนิกเก่งมากสำหรับผม เป็นคนเก่งของผมครับ”

“หนีไปด้วยกันมั้ย” ความปรารถนาในใจเพียงอย่างเดียวถูกพูดออกไป

ขวัญพัฒน์ทำหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมา “เอาสิครับ แล้วจะหนีไปที่ไหนกันดี”

“ที่ไหนก็ได้ ที่ไกลๆ จากที่นี่” ธนิกบอกเสียงแผ่ว “อีกสองวันเก็บของนะ พี่เคลียร์งานเสร็จแล้วเราไปกันเลย”

“ตื่นเต้นแล้ว เก็บตอนนี้เลยได้มั้ยครับ”

“เอาสิ พี่ช่วยนะ ช่วยกันเก็บจะได้นอนเร็วๆ อยากนอนกอดขวัญแล้ว”

“ค้าบบ ได้เลยยย"

หากในตอนจบไม่สมหวังเหมือนอย่างในนิทาน ก็คงไม่มีใครคิดอยากจะเป็นเจ้าชายกันหรอก

ขอเป็นแค่คนธรรมดาที่ได้อยู่กับคนที่รักก็เพียงพอแล้ว



..........................To be continue..........................

กลับมาจากนรกแล้วค่าาาา เคลียร์งานหมดแล้ววววว มาต่อแล้วนะคะ ขอโทษที่ให้รอนานค่าาาาาาาา

มาแล่นเรือไปด้วยกันนนน  :กอด1: :กอด1:

เอาใจช่วยพี่นิกน้องขวัญด้วยนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
รู้สึกท้องอืด กับเบาหวานและความดัน :mew5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เส้ามากกกกก สงสารใครดีแต่คุณธนิกหลงขสัญสุดๆ555555555 อาการหนักมากกกกกก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อ่านตอนมิสเตอร์ทีแล้วงงๆ
เพื่อนโมเพื่อนแนนนี่ดีจริงๆ กู๊ดเฟรนด์

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
หนีไปด้วยกันเถอะ สงสารราร

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 574
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
Mr.T น่าสงสัยจัง
รู้ว่าขวัญเจอพ่อทุกปี แสดงว่าแอบตามขวัญมานานแล้ว
หรือแอบตามพ่อขวัญ
แอบชอบคุณธนิกแล้วทำไมถึงรู้เรื่องขวัญ แล้วยังเป็นคนแรกที่เจอศพน้าลี รู้ว่าขวัญแอบนัดกับขิม
ตอนนี้สงสัยพี่โมนิดๆว่าน่าจะเป็นMr.T
*รู้เรื่องMr.T แล้วรู้สึกผิดกับคุณธนิกเลย เหมือนร่วมกันปกปิดคุณเขา อ่านแล้วมันอินค่ะ
 
ตอนพูดเรื่องหนี ขวัญเหมือนรู้อยู่แล้วเลยว่ากำลังจะต้องแยกจากคุณธนิก สงสารทั้งสองคน แต่คุณธนิกน่าจะอาการหนัก

คนที่ฆ่าน้าลี ฆ่าหลง น่าจะยังไม่ปรากฏตัวในเรื่อง รึเปล่านะ

   :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2018 21:04:13 โดย tasteurr »

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ท้องอืดกับมาม่าที่มีปมน่าสงสัยอีกหลายอย่าง​

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
น้ำตาคลอเลย สงสารทั้งขวัญทั้งพี่นิก
รักที่ไม่สามารถเลือกได้ :ling1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด