สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27  (อ่าน 134086 ครั้ง)

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
อยากให้เซ็นให้มันจบๆไปแล้วต่างคนต่างอยุ่ซะ ไม่ต้องมาดูแลหรอก ดูแลตัวเองได้  เป็นเรื่องที่เดา ยากเหลือเกิน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ยยยมันจะอะไรขนาดนี้ นิสัยไม่ดีเลยคุณธนิก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อ้าวๆ....... อยู่ๆความเลวร้ายของขิมก็โผล่ออกมา   o22
ไหนบอกให้ขวัญตีสนิท ตอนนี้แสดงความหวงก้างแล้ว  :m16:
โกรธเกรี้ยวที่ขวัญมาอยู่บ้านธนิก
และส่อพิรุธ มารู้เรื่องหมาไอ้หลงของขวัญด้วยได้ไง   :fire:
หรือขิม อยู่เบื้องหลังการตายของน้าลี  :angry2: :angry2: :angry2:

ให้รู้สึกว่าธนิก รู้สึกกับขวัญมากกว่าที่บอก
อาจเพราะเห็นขวัญซื่อๆ ไม่เจ้าเล่ห์ รู้มาก เหมือนขิมละมั้ง  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
สงสารขวัญ โดนกดดันทุกทางเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มีแต่คนน่ากลัวทั้งนั้น  :ling3:

ออฟไลน์ parn11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
สงสารขวัญ ตอนไม่มีว่าแย่ พอมีแย่กว่าเดิม

ออฟไลน์ มาเมโกมะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ติดตามเรื่องนี้นะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ธนิก ตั้งใจหรือแอคติ้งก็ไม่รู้ รู้แค่ว่า ที่พูดและแสดงออกมา มัน-เลว-มาก

ขิม ไม่ว่าจะเดาทางไหน? ก็ชัดว่าไม่ได้มาดีแน่ ขนาดขวัญยังรู้สึกเลย ปรับปรุงแผนด่วนนะขิม

สงสารขวัญ  :hao5:  อดทนนะลูกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
เขมร้ายอ่ะมีแต่สัญญาณ​อันตรายเต็มไปหมด​ น้องหลงเหมือนอยู่ในดงระเบิดเลย

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อยากให้ขวัญสู้ อดทน อย่าให้พวกมันได้สิ่งที่ต้องการ รับมรดกคนเดียวไปเลย แต่ลำพังขวัญคงไม่มีปัญญาทำอะไรได้ อยากให้มีใครสักคนมาช่วยขวัญจัง

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 เห้อออ ปล่ยอขวัญไปเห้อะทั้งสองคน ยิ่งอ่านยิ่งสงสารเจอแต่คนน่าปวดหัว
คุณธนิกไม่หือไม่อือไม่ปฏิเสธเรื่องขิมกับเรื่องที่ตั้งใจมาหลอกขวัญ
แต่ก็วอแวขวัญแปลกๆนะ หรือคุณธนิกจะชอบขวัญจริงๆ??!!!
แต่ตั้งใจให้ขวัญเข้าใจไปอย่างนั้นเพราะเหตุผลบางอย่าง?!!!!! :hao7:
คุณธนิกกับขิมเค้ากำลังวางแผนแก้แค้นไรกันอยู่ปะ ตอนนี้รู้สึกไม่ไว้ใจขิมมากกว่าอีก55555

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ซับซ้อนซ่อนเงื่อนสุดๆ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ชีวิตช่างเลวร้ายอะไรอย่างนี้ สรุปญาติของตัวเองนี่ไม่มีใครดีเลย
พอจะมีดีก็แค่เพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก
คำพูดคุณธนิกก็ช่างเฉือดเฉือดเหลือเกินต้องการแต่ตัว แต่ไม่ต้องการหัวใจ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สงสารขวัญ :katai1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มีแต่คนร้ายๆ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
น้องขวัญต้องเข้มแข็งขึ้น และฉลาดขึ้น เรามั่นใจ !!!

ออฟไลน์ ppnplg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ก็ดีที่ธนิกพูดมาเลยว่าต้องการแค่ร่างกายไม่ใช่หัวใจ อย่างน้อยธนิกมันก็ร้ายเปิดเผยอะ
แต่ขิมเนี่ย ไม่รู้จะมาทางไหนเลย


ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณธนิกเห็นแก่ตัวมากกว่า เปิดเผยมากกว่า

ขิมเจ้าเล่ห์มากกว่า ลึกลับมากกว่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ถ้าแผลของแนนไม่ใช่เพราะรถล้ม แต่เป็นเพราะหลงนี่ละก็ ขวัญก็ไปบวชเหอะ โลกนี่อยู่ยากเกินไป

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อะไรเนี่ย มีใครพูดความจริงกันบ้างไหมนะ
ตอนนี้กลัวแนนตายอย่างเดียวเลย

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 11



“ไปกินข้าว” เสียงของคุณธนิกเรียกให้ตื่นจากภวังค์ เขามายืนเท้าเอวอยู่ใกล้ๆ มีความหงุดหงิดเจืออยู่ในสีหน้าเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าส่งเสียงเรียกมากี่ครั้งแล้ว เพราะผมกำลังคิดจนหัวแทบระเบิด เสียงของเขาก็เลยเหมือนเสียงที่ดังมาจากที่ไกลๆ

“ครับ กินข้าวเหรอครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมองเขา “ผมยังไม่หิวเลย”

“เป็นอะไรไป เห็นเอาแต่นั่งเงียบ” เขาตั้งคำถามพลางนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน

ผมอยู่ในห้องนั่งเล่น นั่งอยู่ตรงนี้มานานหลายชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่คุณธนิกไปส่งไอ้แนนที่บ้านจวบจนเขากลับมาในอีกสี่ชั่วโมงให้หลังและกระทั่งเขาทำอาหารเย็นเสร็จ ซึ่งน่าจะเป็นเมนูง่ายๆ ที่เขาทำได้ ผมไม่เรื่องมากอยู่แล้ว ทำอะไรให้กินก็ถือว่าเป็นพระคุณ แต่ตอนนี้ยังไม่อยากยัดอะไรลงไปในท้องเพราะกลัวว่าจะขย้อนออกมาหมด

รูปถ่ายนั้นยังคงติดตาและฝังลงไปในความนึกคิด รูปที่มีน้าลีถูกจับมัดข้อมือข้อเท้า นั่งพิงอยู่กับประตูห้องน้ำของบ้านเช่าที่พวกเราเคยอาศัยอยู่ด้วยกัน ในรูปนั้นมีผู้ชายสามคนท่าทางนักเลงกำลังถือปืนเล็งไปที่น้า เขมินทราบอกผมว่าเป็นรูปที่ถูกถ่ายในวันที่น้าลีเสียชีวิต วันนั้นผมไปขับวินรับลูกค้าตามปกติ กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำแล้ว เพราะแวะกินเหล้าบ้านไอ้แนนด้วย ตอนกลับไปถึงบ้านก็มีคนยืนออกันอยู่หน้าบ้านเหมือนวันที่ไอ้หลงถูกทำร้าย ภาพจำที่ซ้อนทับกันทำให้ผมหลับตาลงด้วยความปวดร้าว ผมเป็นคนโง่ที่ไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆ วันนั้นกว่าจะมีคนไปพบน้าลีล้มอยู่ในห้องน้ำก็มืดค่ำแล้ว ลุงแดงบอกว่าเห็นที่บ้านไม่เปิดไฟ ประตูก็เปิดอ้าไว้ ไอ้หลงที่อยู่ในบ้านก็เอาแต่เห่าเสียงดัง ลุงก็เลยเข้าไปดูแล้วก็พบไอ้หลงกำลังเดินวนรอบน้าลีที่นอนจมกองเลือดอยู่ในห้องน้ำ ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานว่าเกิดจากโรคประจำตัวกำเริบ ทำให้น้าทรงตัวไม่อยู่แล้วล้มหัวฟาดพื้น กะโหลกศีรษะร้าว มีเลือดออกปากและจมูกเป็นจำนวนมาก คดีครั้งนั้นจึงถูกปิดไปเพราะเป็นอุบัติเหตุ ลุงแดงและผมถูกเรียกไปสอบปากคำในฐานะผู้พบศพคนแรกและญาติของผู้ตาย ตอนนั้นผมไม่ติดใจสงสัยอะไรเลย สภาพศพของน้าไม่ได้มีความผิดแปลก ให้คิดว่ามีคนเข้ามาทำร้ายก็คิดไม่ลง เพราะบ้านผมก็ไม่ได้มีทรัพย์สินเงินทองให้มาขโมย ทั้งพวกเรายังไม่มีศัตรูที่ไหน แต่ใครจะไปรู้ว่าตัวผมคือตัวซวยของคนรอบข้าง ผมน่ะมีศัตรูมาตั้งแต่ยังอยู่ในท้องของแม่เสียด้วยซ้ำ

แค่คิดว่าน้าลีต้องตายเพราะตัวผม หัวใจของผมก็เจ็บปวดมากขึ้นไปอีก

“ขวัญพัฒน์ เป็นอะไรไป” คุณธนิกถามย้ำอีกครั้ง สีหน้าของเขาในตอนนี้เจือไปด้วยความห่วงใย “ไม่สบายเหรอ”

“ผมปวดหัวครับ ขอขึ้นไปนอนพักนะครับ” ผมอยากจะขอหลบอยู่ในห้องนอนเพื่อร้องไห้ออกมาเงียบๆ เพียงคนเดียว

“กินข้าวกินยาก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่เอามาให้ รอเดี๋ยวนะ” คุณธนิกพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นเดินไปที่ครัว ผมจะร้องห้ามก็ไม่ทัน

คุณธนิกก็เป็นอีกคนที่เข้าใจยากและอันตราย เขาประกาศตัวแล้วว่าเป็นศัตรู แต่ตอนนี้เราผูกมิตรชั่วคราวเพื่อผลประโยชน์ ทว่าบางครั้งเขาก็ทำตัวไม่เหมือนศัตรูเลย เขาดูแลและเอาใจใส่ผมเป็นอย่างดี ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำ เขาก็ยังทำเรื่องชวนให้เข้าใจผิดแบบนี้ เมื่อเช้าก็พูดจาใจร้าย แต่พอตกเย็นก็มาทำดีด้วย แม้ว่าผมจะไม่อยากรู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว แต่บางทีก็อดที่จะใจเต้นแรงด้วยไม่ได้

ในอีกห้านาทีต่อมาคุณธนิกก็กลับมาพร้อมโจ๊กคัพที่วางบนถาดเงินซึ่งในนั้นมีกระปุกยาพารากับน้ำเปล่าหนึ่งแก้ววางอยู่ด้วย เขาถือถาดมาวางลงตรงหน้า “กินแบบนี้ไปก่อนนะ ป่วยกะทันหันแบบนี้ทำของดีๆ ให้ไม่ทัน”

“ไม่ต้องหรอกครับ ผมกินอะไรก็ได้ โจ๊กนี่ก็ดีมากแล้ว เมื่อก่อนเวลาผมป่วยผมก็อยากให้น้าลีซื้อมาทำให้กินเหมือนกัน แต่พวกเราไม่มีเงิน พวกเราน่ะลำบากถึงขนาดที่ว่าบางวันก็ไม่มีข้าวกินเลย”

ตอนอยู่มอต้นผมเคยคิดหนีออกจากบ้านเพราะไม่อยากอยู่เป็นภาระของน้าลี ผมไปหลบอยู่ที่บ้านร้างในซอยถัดจากบ้านเช่าของผม ทั้งน้าลีและไอ้หลงออกตามหากันแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ผมจำเรื่องในตอนนั้นดี เพราะเมื่อหาผมเจอน้าที่มักจะชอบลงโทษเวลาผมดื้อกลับไม่โกรธเลยแม้แต่น้อย น้าเอาแต่ร้องไห้แล้วก็พูดว่าขอโทษ น้าเข้าใจผิดว่าผมทนอยู่กับความลำบากไม่ไหวก็เลยหนีออกจากบ้าน ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย

ผมก็แค่ไม่อยากเป็นภาระ...ผมคิดเท่านั้นจริงๆ

“ร้องไห้ทำไมขวัญ” คุณธนิกใช้นิ้วเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ “ปวดหัวมากเหรอ”

ผมพยักหน้า ไม่สามารถพูดบอกสิ่งที่กำลังคิดให้เขาฟัง เพราะคุณธนิกไม่ใช่คนที่ผมไว้ใจได้ เขาน่ะเป็นแค่คนที่มีผลประโยชน์เอื้อต่อกันและใจร้ายมากๆ คนหนึ่งเท่านั้น

“กินโจ๊กอีกสักคำแล้วค่อยกินยา”

ความอ้างว้างและความโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้นในใจ ยาพาราที่เพิ่งกินเข้าไปก็ไม่สามารถบรรเทาลงได้ หัวใจของผมเจ็บ มันเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเอาแต่คิดว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี ทั้งที่ผมก็แค่อยากมีชีวิตปกติสุขเหมือนอย่างคนอื่นๆ แต่ผมกลับต้องมาอยู่ในบ้านที่ราวกับเป็นห้องขัง หวาดระแวงว่าจะมีใครสักคนมาทำร้าย และยังต้องคอยต่อสู้กับผู้คุมใจร้ายอย่างคุณธนิก เหตุผลที่ผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปนั้นแทบไม่มีเลย ความจริงถ้าผมตายไปก็คงดีกับทุกคน ผมไม่ควรเกิดมาด้วยซ้ำ ผมควรจะหายไปซะที...









“ขวัญ...ขวัญ!” ธนิกร้องเสียงดังลั่น แค่เพียงไม่กี่นาทีที่เอาแก้วน้ำและถ้วยกระดาษไปไว้ในอ่างล้างจาน พอกลับมาดูอาการคนป่วยก็เห็นว่ากำลังทำเรื่องไม่เข้าท่า ขวัญพัฒน์กำลังเทยาเม็ดสีขาวออกจากกระปุกจนเต็มกำมือและเอาเข้าปากอย่างรวดเร็ว เขาสาวเท้าเข้าไปอย่างรีบเร่ง ปัดมือนั้นออก บังคับให้คนที่กำลังน้ำตานองหน้าคายสิ่งที่พยายามกลืนเข้าไปออกมา เขาทุบที่หลัง ถือวิสาสะสอดนิ้วเข้าไปในโพรงปาก กวาดเอาของที่อาจจะตกค้างอยู่ในนั้นออกมา ก่อนจะยกร่างของคนที่เอาแต่ร้องไห้ไปที่ห้องน้ำ

ขวัญพัฒน์ตัวสั่นเทา ไม่ดิ้นขัดขืน เอาแต่นั่งเงียบอยู่ในอ่างอาบน้ำพลางปล่อยให้น้ำตารินไหลลงมาไม่ขาดสาย

“เป็นอะไรไป! ทำเรื่องบ้าๆ แบบนั้น!” คนร้อนใจเอาแต่ตะคอก มือใหญ่ที่กำลังใช้น้ำเย็นเข้าลูบใบหน้าของเด็กหนุ่มนั้นสั่นเทาไม่แพ้กัน “จะตายไม่ได้...ขวัญห้ามตาย ได้ยินพี่พูดมั้ย!”

“ผมไม่อยากอยู่แล้ว” น้ำเสียงของขวัญพัฒน์ทำเอาคนฟังสั่นไหวไปทั้งใจ เด็กหนุ่มปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น หวังให้หัวใจที่ถูกบีบรัดนั้นคลายแรงลงบ้าง

“ขวัญต้องอยู่” ธนิกบอกเสียงเข้ม สองแขนโอบรั้งตัวคนตัวเล็กกว่าเข้าหา อ้อมกอดที่แข็งกระด้างของเขารัดแน่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ใครจะตายก็ช่าง แต่ขวัญตายไม่ได้”

“ผมจะเซ็นทุกอย่างให้ก่อนตายครับ ผมไม่ลืมสัญญาของเรา” คนในอ้อมกอดบอกด้วยเสียงสั่นเครือ “คุณธนิกให้ผมตายนะครับ”

“เด็กโง่!” เขาตะคอก ความปวดร้าวแล่นริ้วเข้ามาในใจ “พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษ”

“ผมจะทำยังไงดีครับ ถ้าทุกคนที่ผมรักต้องมาตายเพราะผม ผมจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไม”

“อยู่เพื่อพี่...ตั้งแต่ที่ขวัญรับข้อเสนอของพี่ ขวัญก็มีหน้าที่ที่ต้องอยู่เพื่อพี่แล้ว เข้าใจมั้ย”

“ผมไม่...”

“บ้วนปากก่อนนะ เดี๋ยวพี่พาไปนอน”

ฆาตกรที่ชั่วร้ายที่สุดก็คือความคิด บางครั้งเจ้าความคิดนี้ก็นำพาความสุขมาให้ แต่บางครั้งก็กลายเป็นเหมือนฆาตกรโรคจิตที่เอาแต่ใช้อาวุธแหลมคมแทงเข้าไปที่หัวใจไม่ยั้ง ขวัญพัฒน์นั้นปล่อยให้ความคิดของตัวเองกลายร่าง จมจ่อมอยู่กับมันแล้วกล่อมตัวเองให้ติดอยู่ในวังวนนั้น เด็กหนุ่มที่ไม่ประสาจึงถูกจัดการได้ง่ายๆ

ธนิกอุ้มร่างของเด็กหนุ่มไว้ในอ้อมแขน เขาตัวสูงกว่าไม่มาก แต่กำลังวังชานั้นคงมีมากกว่าหลายเท่า ขวัญพัฒน์มองเขาในขณะที่เขาพาเดินขึ้นไปยังชั้นสอง เดินตรงไปยังสุดทางโดยเลยผ่านห้องของขวัญพัฒน์ไป เขาพาไปที่ห้องนอนใหญ่ เปิดประตูเข้าไปในนั้นแล้ววางขวัญพัฒน์ลงบนเตียงหนานุ่ม

“พี่จะไม่ปล่อยให้ขวัญอยู่คนเดียว” เขาบอกด้วยเสียงหนักแน่น กดจูบลงมาที่ขมับ ในขณะที่ขวัญพัฒน์หลับตารับสัมผัสจากเขา “เอาล่ะทีนี้ คุยกันหน่อยมั้ย”

ขวัญพัฒน์ส่ายหน้า พลิกตัวไปอีกทาง แต่มือใหญ่กลับรั้งที่ไหล่แล้วพาให้กลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง “ต่อจากนี้ขวัญต้องบอกพี่ทุกเรื่องที่ขวัญกำลังคิดหรือรู้สึก ต่อให้พี่จะไม่ใช่คนที่หวังดีกับขวัญเต็มร้อย แต่พี่แน่ใจว่าพี่เป็นคนเดียวที่ไม่อยากให้ขวัญตาย”

“แล้วคุณธนิกบอกผมได้มั้ยครับว่ามีใครบ้างที่คิดกำจัดผม” ขวัญพัฒน์สบตากับเขาตามตรง โดยที่เขาก็ไม่หลบเลี่ยง ใบหน้าของเขาสงบอย่างที่จ้องมองมา ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ ให้ตีความได้แม้แต่น้อย

“ไม่ใช่เรื่องที่ขวัญต้องรู้”

“บอกไม่ได้เหรอครับ” ขวัญพัฒน์ยิ้มหยัน “เพราะคนคนนั้นคือแม่ของคุณธนิกเหรอครับ คุณธนิกถึงไม่บอกผมว่าปิศาจชั่วที่ทำลายครอบครัวผมเป็นใคร ทั้งแม่ที่ให้กำเนิดผม ทั้งน้าลี แล้วก็ไอ้หลง ถูกปิศาจตนนั้นจัดการไปทีละคน”

ข้อความจากเขมินทรานั้นยังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของขวัญพัฒน์ แม้ทุกครั้งที่คุยกันแล้วเด็กหนุ่มจะทำการลบบทสนทนา ทว่าข้อความนี้เป็นข้อความเดียวที่จำได้ไม่ลืม ขวัญพัฒน์อ่านมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับคนถูกหมัดหนักๆ จนหัวสมองมึนงง





เขมินทรา: แม่ของพี่ธนิกฆ่าแม่ของพวกเรา แล้วนังนั่นก็ฆ่าน้าลีที่เลี้ยงพี่มาด้วย เพราะน้าลีคิดจะพาพี่ไปหาพ่อ นังนั่นก็เลยกำจัดน้าลีให้พ้นทาง





ขวัญพัฒน์ไม่ได้ตอบข้อความกลับไป ปัดความสงสัยที่เขมินทรารู้ความเป็นไปของตัวเองเพราะความคิดเอาแต่มุ่งตรงไปที่การตายของน้าผู้เป็นที่รัก

“พี่ไม่รู้” ธนิกบอกเสียงเรียบ “พี่ไม่รู้หรอกว่าแม่ของพี่ทำอะไรลงไปบ้าง อาจจะใช่หรืออาจจะไม่ใช่ ขวัญไม่ควรกล่าวหาใครโดยไม่มีหลักฐาน แต่พี่อยากถามว่าขวัญรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”

“ผมจะรู้มาจากไหนไม่สำคัญหรอกครับ”

“สำคัญสิ...สำคัญมาก” เขาสบตากับขวัญพัฒน์ ความจริงจังแฝงอยู่ทุกคำที่เขาพูด “แต่พี่ว่าพี่พอเดาได้ว่าใครเป็นคนพูด เจอกันแล้วใช่ไหม”

“เจออะไรครับ”

“ขิม” น้ำเสียงของเขาเย็นชาเมื่อเอ่ยชื่อนี้ “ขวัญเจอแล้วใช่ไหม”

ขวัญพัฒน์ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ตั้งใจเอาความเงียบเป็นคำตอบ เด็กหนุ่มเบือนสายตาหลบ ฟันขาวเผลอกัดริมฝีปากล่าง แต่ก็ถูกนิ้วของคนตั้งคำถามเกลี่ยออกให้

“พี่อยากให้ขวัญรู้ไว้นะ จะเชื่อหรือไม่พี่ไม่บังคับ แต่คนอีกคนที่อยากให้ขวัญตายก็คือขิม”

ขวัญพัฒน์ถอนหายใจออกมา “เหรอครับ แม้แต่น้องชายของผมก็อยากให้ผมตายเหรอ”

“อืม”

“แล้วคุณธนิกล่ะครับ คุณธนิกอยากให้ผมตายมั้ย”

“พี่พูดไปแล้ว”

“ผมอยากฟังอีกครั้ง”

“ไม่พูด”

“พูดหน่อยนะ”

“อย่าอ้อนเลย” เขาก้มลงให้ใบหน้าของพวกเขาอยู่ในระยะประชิด “พี่ไม่พูดหรอก แต่พี่อยากให้ขวัญให้สัญญาว่าจะไม่ทำร้ายตัวเองอีก”

“ผมไม่เคยคิดจะตายหรอกครับ แต่วันนี้มันชั่ววูบไปหน่อย ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ ผมจะมีชีวิตอยู่ไปจนกว่าจะได้ยกทุกอย่างให้คุณธนิกครับ”

“ดีมาก” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของขวัญพัฒน์ ความอ่อนโยนนี้แผ่กระจายโอบล้อมคนทั้งสองเอาไว้ “ขวัญมีหน้าที่ต้องอยู่เพื่อพี่แล้ว”

“ครับ” ขวัญพัฒน์พยักหน้า ใบหน้านั้นแดงก่ำเพราะสัมผัสอ่อนโยนจากเขา “คุณธนิกจะทำมั้ยครับคืนนี้ ผมเตรียมใจแล้วครับ”

“ไม่ล่ะ” เขาปฏิเสธ “พี่อยากให้ขวัญพักผ่อน ไว้พร้อมเมื่อไหร่เราค่อยมามีความสุขด้วยกัน”

“คุณธนิกจะพาขึ้นสวรรค์เหรอครับ”

“ให้ขวัญตัดสินเองดีกว่าว่าจะเป็นนรกหรือสวรรค์”

“ต้องเป็นนรกแน่เลย เพราะคุณธนิกเป็นซาตาน”

เขาเป็นซาตานที่ใจร้าย แต่บางทีก็อ่อนโยนผิดวิสัยซาตาน

“หลอกด่าพี่เหรอ” เขาถามเสียงกลั้วหัวเราะ “แต่อยากด่าก็ด่าไปเถอะนะ พี่ไม่แคร์”

“หน้าด้านมากๆ ครับ ชอบเลย”

“ชอบคนหน้าด้านเหรอ”

“ครับ ยิ่งหนาแบบปูนซีเมนต์ที่ไม่สะเทือนต่ออะไรเลยนี่ผมยิ่งชอบครับ ชั่วได้ใจดี ไอดอลครับ”

“พี่จะถือเป็นคำชม เอาล่ะตอนนี้พี่จะไปอาบน้ำ ขวัญจะรอหรือหลับไปก่อนก็ได้ แต่...” เขายกมือขึ้นชี้หน้าขวัญพัฒน์ ทำราวกับกำลังสั่งสอนเด็กอนุบาลที่ชอบเล่นซน “ห้ามทำอะไรไม่เข้าท่า เอ...หรือจะจับมัดมือมัดเท้าไว้ดี”

“ผมไม่ทำอะไรหรอกครับ” ขวัญพัฒน์รีบพูด “ผมสาบานครับคุณธนิก”

“ไหนมาจูบสาบาน” เขาก้มหน้าลงไปใกล้อีกครั้ง “จูบหน่อยครับ”

ขวัญพัฒน์จึงต้องผงกหัวขึ้นแล้วจูบที่ริมฝีปากของเขาเบาๆ มันเป็นการจูบที่รวดเร็วหรือเรียกได้ว่าแค่เอาริมฝีปากแตะกันอย่างผะแผ่วเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับโยกศีรษะขวัญพัฒน์ไปมาอย่างพอใจ

“เห็นมั้ย เวลาขวัญไม่ดื้อพี่ก็เป็นคนใจดี”

“ผมจะไม่ดื้อครับ” ขวัญพัฒน์บอกเสียงหนักแน่น แม้จะเห็นว่าเขาอารมณ์ดีแล้วแต่ก็ยังไม่กล้าถามออกไป เอาแต่ลังเลจนเขาดีดหน้าผากเข้าให้

“มีเรื่องอะไรจะพูดงั้นเหรอ”

“เอ่อ...คือว่าพรุ่งนี้ ผมอยากขอออกไปข้างนอก”

“ไปข้างนอกเหรอ” เขามีสีหน้าครุ่นคิด “ไปทำไม ที่ไหน แล้วไปกับใคร”

“ผมต้องตอบทั้งหมดเลยเหรอครับ”

“ต้องตอบครับ เป็นเรื่องจำเป็น”

“ที่ร้านกาแฟในห้างครับ ผมมีนัดกับไอ้แนน ผมอยากพามันไปกินกาแฟแพงๆ เพราะว่าตอนนี้ผมมีเงินแล้ว คุณธนิกให้เงินผมไว้ตั้งหนึ่งพันบาท ผมก็อยากจะออกไปเที่ยว...” ขวัญพัฒน์โกหกเขาซะแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อเรื่องที่เขาพูดเกี่ยวกับเขมินทรา แต่ก็ไม่อยากฟังความข้างเดียว แม้เขมินทราจะมีอะไรหลายอย่างให้ชวนสงสัย แต่ขวัญพัฒน์ก็ยังอยากไปพบ ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะชวนเพื่อนซี้ไปเป็นเพื่อนด้วย หากเกิดอะไรขึ้นก็คงช่วยกันสู้ได้

ข้อมูลการตายของน้าลีสำคัญกับขวัญพัฒน์มากที่สุดในตอนนี้และก็อยากจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเขมินทราต้องการอะไรกันแน่

ขวัญพัฒน์ไม่ได้คิดว่าตัวเองฉลาดที่จะไปล้วงคองูเห่าเพื่อหาความจริง แต่การไม่ทำอะไรเลยแล้วรออยู่แค่ในบ้าน มีธนิกคอยปกป้อง เด็กหนุ่มก็ไม่รู้อีกเช่นกันว่าท้ายที่สุดแล้วจะต้องเจอกับอะไร อาจจะถูกหักหลังเมื่อเขาได้สิ่งที่ต้องการทั้งหมดแล้วก็ได้ ตอนนี้จึงต้องคอยคิดหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง เพราะหากพบว่าแท้จริงแล้วตัวเองยืนอยู่ผิดข้าง ขวัญพัฒน์ก็คงไม่เหลือแม้แต่ชีวิต

“ได้สิ พี่จะขับรถไปส่ง แล้วจะกลับกี่โมงก็โทรมาบอก จะให้ลุงกล้วยไปรับ” ธนิกเอ่ยปากอนุญาต แววตาดำขลับนั้นมองสำรวจใบหน้าขวัญพัฒน์ เห็นร่องรอยคำโกหกคำโตอยู่เต็มไปหมด แต่เขาก็ยังอนุญาต

“ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ต้องลำบากหรอก ผมจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปครับ”

“มันเสี่ยงเกินไป มอเตอร์ไซค์นี่เป็นของอันดับหนึ่งที่สามารถทำให้ตายด้วยอุบัติเหตุได้ เคยขี่อยู่ดีๆ แล้วถูกสิบล้อพุ่งชนมั้ยล่ะ”

“ถ้าผมเคยผมจะมาอยู่ตรงนี้เหรอครับ” ขวัญพัฒน์ถามพลางคิดภาพสยอง “คงเหลือแต่ชื่อไปแล้ว”

“เพราะงั้นพี่ถึงจะไปส่ง”

“ผมนั่งแท็กซี่ก็ได้ครับ”

“เคยเจอแท็กซี่ทุบหัวกลางทางแล้วขว้างทิ้งในพงหญ้ามั้ย”

ขวัญพัฒน์ยิ้มแหย “คุณธนิกคิดมากเกินไปแล้ว กลางวันแสกๆ ไม่มีใครทำเรื่องไม่ดีหรอก”

“คนเราน่ะตายได้ง่ายๆ เลยนะขวัญ อย่าประมาทดีกว่า พี่ไปส่งดีแล้วล่ะ”

“แต่ว่า...”

“ขวัญบอกพี่ว่าไง ขวัญบอกว่าจะไม่ดื้อ”

ขวัญพัฒน์พรูลมหายใจ “ก็ได้ครับ”

“น่ารัก” เขาหยิกแก้มพลางคลี่ยิ้มให้ “พี่ชอบเวลาขวัญน่ารัก”

ขวัญพัฒน์ปัดนิ้วเขาออกจากแก้ม แล้วพลิกตัวไปอีกทาง ไม่อยากให้เขาเห็นหน้าแดงๆ ในตอนนี้ ขวัญพัฒน์ไม่ชอบที่ตัวเองแสดงความรู้สึกออกทางสีหน้าโดยไม่สามารถควบคุมได้ ในขณะที่เขามีสีหน้าที่อ่านไม่ออก แต่ขวัญพัฒน์กลับถูกเขาอ่านได้ขาด

“ขวัญครับ” เขากระซิบ จมูกโด่งเป็นสันของเขาคลอเคลียที่ใบหู “เรื่องเมื่อเช้าพี่ขอโทษนะ ถ้าขวัญสัญญาว่าจะไม่ดื้อกับพี่ พี่ก็สัญญาว่าจะไม่ทำเรื่องแย่ๆ กับขวัญอีก จนกว่าข้อตกลงของเราจะจบลง พี่จะเป็นคนที่ปกป้องและดูแลขวัญนะครับ หันหน้ามาหอมแก้มให้รางวัลพี่หน่อยสิ”

“ไม่ล่ะครับ ผมจะนอนแล้ว”

“ขวัญพัฒน์” เพราะเขาเรียกชื่อด้วยเสียงอ้อนๆ ขวัญพัฒน์จึงยอมหันหน้าไป แต่เขารออยู่แล้ว ราวกับรู้ว่าหากรออยู่ในระยะใกล้แบบนี้ ริมฝีปากของพวกเขาจะต้องสัมผัสกัน “ให้คิดว่าในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน พี่เป็นแฟนของขวัญก็ได้”

“ผมไม่คิดหรอกครับ เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริง” ขวัญพัฒน์เม้มริมฝีปาก ไม่ยอมให้ปลายลิ้นที่กำลังแลบเลียรุกล้ำเข้ามาได้

ธนิกละความพยายาม ผละใบหน้าออกเล็กน้อย แล้วประสานมือเข้ากับมือของคนปากแข็ง ความอุ่นวาบจากฝ่ามือแผ่กระจายอยู่ในใจของขวัญพัฒน์ ในขณะที่เจ้าของความอุ่นนี้กระซิบเสียงพร่าถามว่า “อยากให้เป็นเรื่องจริงเหรอ”

“ไม่ครับ” ขวัญพัฒน์ตอบในทันที แม้น้ำเสียงจะแผ่วเบามากแค่ไหนก็ตาม

“ดีแล้ว ขวัญคิดแบบนั้นก็ดี อย่าคิดอะไรกับพี่เลย เพราะพี่เป็นคนใจร้าย” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ สำทับความใจร้ายของตัวเขาด้วยจูบที่ดุดัน ริมฝีปากของขวัญพัฒน์ถูกบดขยี้ ในโพรงปากถูกลิ้นของเขาเข้าสำรวจ ควานหาความหวานอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะผละออกไปเพียงครู่ให้คนที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวได้พักหายใจ “พี่รักขวัญไม่ได้ แต่พี่พาขวัญไปขึ้นสวรรค์ได้”

“ไปอาบน้ำเถอะครับ” ขวัญพัฒน์ยกมือขึ้นโอบใบหน้าหล่อเหลาของเขาเอาไว้ “ผมเข้าใจคุณธนิกดีแล้วล่ะ อย่าพูดย้ำอีกเลยนะครับ”

“ทำไม...คำพูดของพี่ทำให้ขวัญเจ็บเหรอ”

“ผมเจ็บครับ” ขวัญพัฒน์ตอบรับตามตรง แววตาอ้อนวอนมองเขาราวกับกำลังขอความเมตตา

“งั้นเราจะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว ขวัญก็อย่าดื้อกับพี่นะ เราจะมีความสุขด้วยกัน”

“ขายฝันเก่งจังครับ”

“นั่นสินะ พี่ก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองเก่ง”

ในตอนนี้ขวัญพัฒน์ปรารถนาเพียงสิ่งเดียวนั่นก็คือการลืมเลือนใบหน้าของเขา คำพูดของเขา และรอยยิ้มของเขา หากมีใครทำความปรารถนานี้ให้เป็นจริงได้ ไม่ว่าคนคนนั้นต้องการสิ่งใด ขวัญพัฒน์ก็จะพยายามหามาให้

“พรุ่งนี้เรายังจะคุยกันดีๆ แบบนี้อีกมั้ยครับ”

เขายิ้มกว้าง มองขวัญพัฒน์ด้วยความเอ็นดู “ถ้าขวัญไม่ทำเรื่องจนพี่หงุดหงิด พรุ่งนี้พี่จะพูดหวานๆ กับขวัญทั้งวัน”

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ครับ แค่ปกติก็พอ”

“ไม่ได้หรอก พี่ชอบพูดหวานๆ กับขวัญ แล้วพรุ่งนี้พี่จะปลุกขวัญด้วยจูบหวานๆ ด้วยนะครับ เป็นบริการเสริมพิเศษ ปลอบใจกับเรื่องวันนี้”

“พรุ่งนี้เลยเหรอครับ” ขวัญพัฒน์เอียงคอมอง แววตาอ้อนจนคนถูกมองแทบทนไม่ไหว “วันนี้เลยได้มั้ย”

“ขวัญพัฒน์” เขาร้องเรียกอย่างยอมแพ้ ก่อนจะยอมมอบจูบหวานๆ ให้ก่อนเวลา เขาพรมจูบไปทั่วใบหน้าของขวัญพัฒน์ แตะริมฝีปากลงผะแผ่วและอ้อยอิ่ง เน้นย้ำตรงนั้นตรงนี้แล้วมาหยุดที่ริมฝีปาก เขาเริ่มจากการละเลียดชิมริมฝีปากล่าง ลิ้นของเขาเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้ ขวัญพัฒน์มองเขาด้วยหัวใจที่เต้นรัวแรง สองแขนที่ไม่คิดผลักไสก็ยกขึ้นโอบรอบลำคอหนา

“พอแล้วครับ” ขวัญพัฒน์อาศัยจังหวะที่ริมฝีปากของเขาผละห่างออกไปพูดขึ้นมา “พรุ่งนี้ค่อยทำใหม่นะ”

“พอแล้วเหรอ” เขาจ้องมองมาด้วยความเสียดาย แต่เมื่อขวัญพัฒน์พยักหน้าเขาก็ไม่เซ้าซี้ต่อ “งั้นนอนนะครับ ฝันดีนะ”

“ครับ คุณธนิกก็อาบน้ำแล้วรีบๆ มานอนนะครับ”

“พี่จะรีบมานอนข้างๆ ขวัญเลย”

ธนิกรับปาก แล้วเขาก็หายไปอาบน้ำเกือบครึ่งชั่วโมง ขวัญพัฒน์อ่านหนังสือรอเขา เลือกหยิบเอาหนังสือจากตู้หนังสือในห้องมาหนึ่งเล่ม เป็นหนังสือการ์ตูนที่เขาสะสมไว้ ขวัญพัฒน์แน่ใจว่าเขาคงไปขนมาจากห้องที่บ้านที่เขาเคยอยู่แน่ เพราะมีร่องรอยการอ่านไม่ต่ำกว่าสองครั้ง ไม่ใช่เป็นหนังสือเล่มใหม่ที่แค่ซื้อมายัดๆ ใส่ตู้ไว้

ขวัญพัฒน์ใช้เวลาอ่านแค่เพียงไม่นานก็ต้องยอมแพ้ โบกมือลาเข้าสู่นิทราไปเรียบร้อย ทั้งที่เนื้อเรื่องก็สนุกแต่คงเป็นเพราะเหนื่อยอ่อนจากการคิดวุ่นวายมาทั้งวันแถมยังร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนก็เลยทำให้หลับไปได้ง่ายๆ

ธนิกออกจากห้องน้ำ เขาสวมกางเกงนอนเพียงตัวเดียว เดินมาที่เตียงก็เห็นว่าขวัญพัฒน์หลับไปแล้ว เขาผ่อนลมหายใจพลางนั่งลงเคียงข้าง มือใหญ่ยกขึ้นลูบศีรษะของเด็กหนุ่มอย่างใจลอย

“เป็นเด็กที่โชคร้ายจริงๆ”

ภาพที่ขวัญพัฒน์กำลังกินยาทั้งกำมือนั้นยังติดตา ธนิกยกมือขึ้นลูบใบหน้า เขาไม่เคยคิดว่าเด็กหัวอ่อนคนนี้จะคิดเรื่องตายขึ้นมา แม้จะเดาได้ว่าอีกไม่นานหลายๆ อย่างคงบีบบังคับเจ้าตัวให้เป็นไปในทางนั้น แต่เขาก็มั่นใจว่าจะปกป้องเพื่อไม่ให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น

ปกป้อง...พูดให้ใครฟังก็มีแต่คนต้องหัวเราะ คนอย่างเขาน่ะหรือจะปกป้องลูกชายของเมียน้อยที่ทำให้มารดาของเขาต้องเจ็บช้ำใจมาจนถึงทุกวันนี้ แต่เพราะขวัญพัฒน์ไม่มีพิษไม่มีภัย เด็กนี่ไม่ผิดอะไรเลย ทั้งที่หน้าตาเหมือนกันมากแต่นิสัยกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เด็กแฝดอีกคนนั่นต่างหากตัวปัญหา แต่มารดาของเขาก็ไม่ไว้วางใจขวัญพัฒน์

[ต่อด้านล่าง]

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ครืด...ครืด...ครืด...

โทรศัพท์มือถือที่สั่นกราวอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงทำให้ธนิกสะดุ้งเล็กน้อย คงเพราะกำลังจ้องมองใบหน้ายามหลับใหลของขวัญพัฒน์ราวกับต้องมนต์สะกด เขาจึงตกใจแค่กับเสียงสั่นเบาๆ ของโทรศัพท์มือถือ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์โทรเข้า ก่อนจะรีบรับสายทันที

“ครับแม่ กลับมาเมื่อไหร่ครับ”

[เมื่ออาทิตย์ก่อน] น้ำเสียงของธนิษฐายังคงเย็นชาแม้ว่ากำลังพูดกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน [ลูกล่ะเป็นยังไงบ้าง ไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องเลยหรือไง]

“พรุ่งนี้จะเข้าไปครับ”

[แล้วเด็กนั่นเป็นยังไงบ้าง มันยอมทำตามข้อเสนอของลูกไหม]

เด็กนั่นที่ธนิษฐาถามถึงนั้นกำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวอยู่ในตอนนี้

“รับครับ ขวัญไม่มีปัญหาอะไรเลยครับแม่ ขวัญพูดง่าย เป็นเด็กดีมากๆ ครับ”

[ตอนลูกเจอเขมินทราแรกๆ ก็พูดแบบนี้ แล้วเป็นยังไง ลูกของงูพิษก็ยังคงเป็นงูพิษ คราวนี้ถ้าลูกใจอ่อนอีก เราจะไม่เหลืออะไร ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเขมรัตน์ให้เอาไปบริจาคการกุศลยังดีซะกว่ายกให้ลูกของนังนั่น แม่ไม่อยากให้สายเลือดชั่วๆ ได้ทุกอย่างที่แม่สร้างมากับมือไปง่ายๆ]

“ผมทราบครับแม่ ผมเข้าใจครับ” ธนิกบอกเสียงแผ่ว “งั้นเรื่องของขวัญพัฒน์ แม่ปล่อยให้ผมจัดการนะครับ ผมรับปากว่าขวัญจะไม่สร้างความยุ่งยากให้แม่แน่นอนครับ”

[แม่จะรอดู] น้ำเสียงของปลายสายนั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง [แล้วแม่ก็หวังว่าลูกจะไม่ทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง รู้มั้ยว่าเวลาคนเรามีความรู้สึกมากเกินไป ความล้มเหลวจะตามมา ลูกคงจะไม่หลงรักขวัญพัฒน์เหมือนที่เคยรู้สึกกับเขมินทราหรอกนะ]

ธนิกนิ่งงันไปกับคำถาม มือที่ลูบศีรษะของคนขี้เซาก็หยุดชะงัก เขาชักมือกลับแล้วกำหมัดแน่น “ไม่หรอกครับ ต่อให้หน้าเหมือนกัน...แต่ก็มีอีกหลายอย่างที่ไม่เหมือน”

เขมินทราน่ะช่างอ้อนและเอาอกเอาใจ ทั้งฉลาด รู้ทันคน แต่ขวัญพัฒน์นั้นทั้งทึ่ม ทั้งซื่อบื้อ เอาใจก็ไม่เก่ง คำพูดคำจาก็ทื่อจนน่าขัน ทว่าหัวใจของเขากลับสั่นไหวทุกครั้งที่ถูกแววตาซื่อๆ นั้นมอง ถูกคำพูดทื่อๆ นั้นปลุกเร้า ขวัญพัฒน์ไม่เหมือนเขมินทราเลยสักนิด แต่คนที่เด่นชัดอยู่ในใจของเขาก็ยังคงเป็นเขมินทราอยู่ไม่จางหาย เป็นความเด่นชัดที่มีแต่ความร้ายกาจ ไม่มีแม้แต่ความเสน่หา ทั้งๆ ที่จำแทบไม่ได้แล้วว่ารูปร่างของเขมินทราเป็นอย่างไร เด็กคนนั้นไม่มาให้เจออีกเลย หายไปราวกับสลายตัวไปกับอากาศ

[ดีแล้วล่ะ] เสียงจากปลายสายเรียกสติของธนิกให้กลับคืน [ถ้าลูกบอกแบบนั้นแม่ก็สบายใจ ลูกน่ะยังต้องแต่งงาน มีหลานให้แม่]

“ครับแม่”

[ลูกเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่แม่รักและพอจะตั้งความหวังได้ อย่าทำให้แม่ผิดหวังนะธนิก]

“ไม่ครับ ผมไม่มีทางทำให้แม่ผิดหวัง”

ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยเห็นรอยยิ้มของมารดา ภาพที่เห็นจนชินตาคือภาพที่มารดานั่งร้องไห้เงียบๆ คนเดียวในห้องนอน ความเจ็บช้ำจากผู้ชายที่รักทำให้มารดาของเขาตั้งแง่กับผู้ชายทุกคนบนโลกใบนี้ ยกเว้นก็เพียงลูกชายเพียงคนเดียว

[แล้วตอนนี้ลูกพาเด็กนั่นไปอยู่ที่ไหน]

“คอนโดฯ ของผมครับ”

[อ้อ…บ้านเช่านั่นอยู่ไม่ได้แล้วเหรอ]

“อยู่ไม่ได้แล้วครับ เอ่อ...แม่ครับ ผมมีเรื่องอยากถาม” ความลังเลเกิดขึ้นในใจแค่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจถามสิ่งที่อยากรู้ “แม่ได้ส่งคนไปที่บ้านเช่าของขวัญพัฒน์หรือเปล่าครับ”

[แม่ไม่ได้ทำ] ธนิษฐาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่แฝงความจริงจังอยู่ในนั้น [ลูกขอให้ไม่ต้องยุ่ง แม่ก็ทำตามสัญญา]

“เป็นคนของอาแขรึเปล่าครับ”

[ไม่น่าใช่ แขไขคงอยากเจอหลานของมันที่ยังใช้มือเซ็นเอกสารได้ คงไม่โง่ส่งมือปืนไปหรอก อีกอย่างเขมรัตน์ก็อาจจะยังอยู่ไปจนถึงกลางปีหน้า ขืนฆ่าเด็กนั่นตายตอนนี้ มันก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี แต่ถ้าเขมรัตน์อยู่ได้อีกไม่เกินสามเดือนก็ไม่แน่นักหรอก]

“แม่จะทำอะไรเหรอครับ” ธนิกถามด้วยอย่างร้อนใจ “ผมว่าพ่อยังอยู่ก็ดีแล้วนะครับ ยังไงตอนนี้บริษัทก็ยังเป็นของเรา เพราะแม่เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าพ่อยังไม่ตาย พินัยกรรมนั่นก็ไม่มีความหมายอะไรเลย”

[ธนิก...อย่าห่วงเลยลูก แม่ไม่ทำอะไรหรอก ลูกคิดว่าแม่จะใจร้ายใจดำฆ่าคนได้ลงคอเลยหรือ]

“ผม…”

[ลูกน่ะแค่จัดการลูกของนังขวัญข้าวก็พอแล้ว เรื่องอื่นอย่าคิดเลย ปล่อยให้แม่จัดการเอง แต่จำไว้นะลูก ลูกของงูพิษต่อให้มันทำเชื่องแค่ไหน ยังไงก็ยังเป็นงูอยู่ดี ระวังด้วยนะ]

“ครับ”

ธนิษฐาขอตัววางสายไปแล้ว โดยทิ้งถ้อยคำให้ลูกชายได้ขบคิด ธนิกจ้องมองคนที่เป็นลูกของงูพิษ มองอย่างไรก็ไม่เห็นความร้ายกาจจากใบหน้าที่กำลังหลับใหลนี้ได้เลย

ขวัญพัฒน์น่ะเป็นเด็กดี แม้จะดื้อไปบ้าง แต่ก็จริงใจเปิดเผย เขาไม่เคยรู้จักมารดาของขวัญพัฒน์ ผู้หญิงที่ชื่อขวัญข้าวคนนั้นจะมีนิสัยอย่างไรก็ยากจะคาดเดา เขารู้แต่เพียงว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่ทำให้มารดาของเขาต้องเจ็บช้ำใจ มารยาที่เจ้าหล่อนมีก็ใช้หลอกล่อเขมรัตน์ พ่อเลี้ยงของเขาให้เผลอมีสัมพันธ์ด้วย แต่เขาไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เขายังเด็กมากในตอนนั้นและรับฟังทุกอย่างจากมารดาที่มักจะร้องไห้แล้วพร่ำสาปแช่งหล่อนกับลูกในท้อง เขาจึงไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วมารดาของขวัญพัฒน์คืองูพิษหรือไม่ หากตัดสินจากขวัญพัฒน์แล้วก็มีแต่ความลังเล เพราะเด็กคนนี้เป็นลูกแกะไม่ใช่งูพิษ

“ขวัญครับ” เขาปัดปรอยผมที่ปรกหน้าผากให้พ้นทางก่อนจะบรรจงประทับริมฝีปากลงไป

“อื้อ...” เสียงของคนนอนที่ถูกกวนใจร้องท้วงเล็กน้อย แต่ตายังคงหลับพริ้ม

“พี่ทำเรื่องไม่ดีตั้งหลายเรื่อง แต่ทำไมยังมองพี่ด้วยสายตาแบบนั้น”

ขวัญพัฒน์เป็นคนที่รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกทางสีหน้าให้ได้เห็นจนหมด ยิ่งแววตาของเจ้าตัวยิ่งสื่อความหมาย ธนิกทำเรื่องไม่ดี ทำเรื่องที่อภัยให้ไม่ได้ไปตั้งหลายครั้งแต่ขวัญพัฒน์ก็ยังมองมาด้วยแววตาที่ไร้ความเกลียดชัง

“ขวัญต้องเกลียดพี่รู้มั้ยครับ ต้องเกลียดพี่นะ ต้องเกลียดพี่ให้มากๆ”

“ไอ้...หลง” ขวัญพัฒน์ครางงึมงำ น้ำตาซึมชื้นออกทางหางตา ธนิกใช้นิ้วโป้งเกลี่ยออกให้อย่างเบามือ

“ฝันร้ายอยู่สินะ”

แม้จะสงสารมากเพียงใดที่ก็ช่วยเหลือมากไปกว่านี้ไม่ได้ ธนิกรู้ดีว่าต่อจากนี้คงไม่มีคืนใดที่ขวัญพัฒน์จะได้นอนหลับฝันดีเลยสักคืน แต่เขาจะจับมือไว้อย่างนี้ ลูบศีรษะปลอบโยนไปจนกว่าฝันร้ายนี้จะหายไป หวังว่าคงจะช่วยบรรเทาความทุกข์ใจของลูกแกะตัวนี้ลงได้บ้าง

“คุณธนิกครับ ขอบคุณนะครับ เค้กอร่อยจังเลยครับ ผมชอบครับ เค้กที่คุณธนิกเลือกให้อร่อยที่สุดในโลกเลยครับ”

เพราะความใจดีมีแค่ในความฝัน ความจริงในบางครั้งก็ยังมีเรื่องที่โหดร้ายจนยากจะรับไหว ในความฝันของขวัญพัฒน์ที่หมุนเวียนเปลี่ยนเรื่องสลับไปมา กลับมีอยู่หลายครั้งที่ได้ไปนั่งดื่มกาแฟหอมๆ และทานเค้กแสนอร่อยกับคุณธนิกที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งท่ามกลางธรรมชาติ ได้ยินเสียงนกร้อง เสียงน้ำไหล คุณธนิกในฝันนั้นยิ้มแย้มอ่อนโยน คอยเอาอกเอาใจและมักจะมอบจูบที่แสนหวานให้ไม่รู้เบื่อ

ทว่าคุณธนิกคนนั้นไม่ได้มีอยู่บนโลกแห่งความจริง









ผมมีนัดกับเขมินทราตอนบ่ายโมง แต่คุณธนิกต้องเข้าบริษัทตอนเช้าเพราะมีประชุม ผมจึงต้องติดรถเขาไปด้วย เพราะจะให้เขาวนไปวนมาระหว่างบ้านกับบริษัทก็คงไม่ดี เสียเวลาและเสียค่าน้ำมัน

“หลับสบายมั้ย” เขายื่นนมมาให้ผม แทนที่จะเป็นกาแฟ

“สบายครับ” ผมตอบ รับแก้วนมมาจากเขา “ผมอยากดื่มกาแฟบ้าง เอาแบบทรีอินวันน่ะครับ อร่อยแล้วก็ถูกด้วย”

“มันเรียกว่ากาแฟเหรอ หรือแค่ใส่กลิ่นกาแฟลงไปเฉยๆ”

“กาแฟสิครับ มันมีหลายสูตรนะ บางซองก็ขม บางซองก็หวาน”

คุณธนิกคงเติบโตมาโดยไม่รู้รสชาติของกาแฟแบบซองทรีอินวันสินะ เพราะคนอย่างเขาคงเคยกินแต่กาแฟสด ถ้าถึงขนาดมีเครื่องชงกาแฟอยู่ในบ้านก็คงไม่ใช่เล่นแล้ว ส่วนไอ้เครื่องนั่นน่ะผมใช้ไม่เป็นหรอกครับ มีแต่อุปกรณ์ทรงแปลกๆ ก็เลยไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน

“น้ำตาลเยอะ ไม่ดีต่อสุขภาพ ดื่มนมน่ะดีแล้ว”

ผมย่นจมูกใส่เขา “นมก็มีน้ำตาลนะ ผมเคยเรียนมา”

“งั้นมานี่มา มาดื่มนมพี่ นมพี่ไม่มีน้ำตาล สูตรหวานแต่น้ำตาลน้อยมาก” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม ล็อกคอผมเข้าใกล้

“ไม่เอาครับไม่เอา ผมดื่มแค่นมนี่ก็พอครับ” ผมปฏิเสธ รีบขืนตัวออก “เล่นอะไรก็ไม่รู้”

เขาหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเดินไปจัดการปิ้งขนมปังแล้วก็ทอดไข่ดาว ไม่นานนักอาหารเช้าของเราสองคนก็พร้อมเสิร์ฟ เรายืนกินกันที่เคาน์เตอร์ในครัวอย่างไม่พิถีพิถัน เขากินเร็วมาก กัดแค่สองคำขนมปังก็หมดแล้ว คงชินกับชั่วโมงเร่งด่วน ไม่เหมือนกับผมที่เช้าๆ อย่างนี้ต้องเขาไปซื้อซาลาเปาในเซเว่นแล้วก็จะนั่งชิวกินบนรถมอเตอร์ไซค์เพื่อรอรับลูกค้า

“คุณธนิกครับ ถ้าให้ผมไปด้วยจะให้ผมไปรอที่ไหนครับ คือผมจะไปกินกาแฟกับไอ้แนนตอนบ่ายโมง” ผมกำลังกังวลกับเรื่องนี้ เพราะเขาไม่ให้ไปรอที่ซุ้มวิน ทั้งที่ผมยืนยันแล้วว่าจะไปรอกับไอ้แนน พอบ่ายโมงก็จะไปที่ร้านกาแฟกันเลย แต่เขาไม่ยอม เขาให้เหตุผลง่ายๆ ว่าเขาเป็นห่วงเวลาผมไม่อยู่ในสายตา คำพูดน่ะหวานมากๆ ครับ แต่พอมาจากคุณธนิกแล้วผมก็เชื่อไม่ลง

“ห้องทำงานพี่ไง ขวัญไปรอที่นั่นได้”

“ไม่เอาหรอกครับ ผมไม่อยากเดินเข้าบริษัทของคุณธนิก คนคงสงสัยกันใหญ่ถ้าผมไปรอที่นั่น งั้นผมนั่งรอที่ป้อมยามกับพี่เปี๊ยกก็ได้นะครับ”

“ร้อนจะตาย” เขาเริ่มขมวดคิ้ว คงระเบิดออกมาแน่ถ้าผมยังยึกยักไม่ทำตาม “ไปรอที่ห้องทำงานของพี่นั่นแหละ ใครจะสงสัยก็ช่างหัวมัน บอกไปเลยว่าเป็นเด็กพี่”

“เด็กคุณธนิก” ผมทวนคำ เลิกคิ้วขึ้นสูง “หมายถึงเด็กที่แบบ...”

เขาเหมือนจะรู้ความหมายที่ผมต้องการจะพูด จึงรีบบอก “แฟน...พูดคำว่าแฟนก็ได้”

“แต่คุณธนิกมีคู่หมั้นแล้ว” ขืนบอกไปว่าเป็นแฟน ผมก็กลายเป็นพวกหน้าด้านแย่งแฟนคนอื่นน่ะซี

“งั้นบอกไปเลยว่าเป็นเมียน้อย”

“หาาา”

เขาหัวเราะพลางโยกหัวผมไปมา “ล้อเล่นน่า...บอกไปว่าเป็นน้องชายคนสนิทก็แล้วกัน”

น้องชายคนสนิท...ใครฟังก็คงจะคิดว่าเป็นคู่นอนไม่ต่างจากคำอื่นหรอก หรือผมจะคิดมากไปคนเดียว เพราะคำว่าน้องชายคนสนิทอาจจะไม่ได้มีความหมายแฝง มีแต่คนที่ไม่บริสุทธิ์ใจต่างหากที่เอาแต่คิด แต่มันช่วยไม่ได้นี่...ก็ผมน่ะโดนเขาจูบ โดนเขากอด แล้วเราก็เคยทำกันมาแล้วด้วย

“จะดีเหรอครับ” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ แต่เขากลับยักไหล่สบายๆ

“ดีสิ แต่คงไม่มีใครกล้าถามหรอก ไปกับพี่จะกลัวอะไร” เขาคงเป็นเจ้านายที่ในเวลางานต้องดุมากแน่ๆ ถึงไม่มีใครกล้าหือกับเขา “พี่ไม่ให้ใครมากวนใจขวัญหรอกน่า”

“ผมไปรอกับพี่จอยได้มั้ย พี่จอยบัญชีน่ะครับ” ในบริษัทของเขาที่ทำงานอยู่ในตึกก็มีแค่พี่จอยเท่านั้นที่ผมรู้จัก อยากจะใช้โอกาสนี้ไปคุยกับพี่จอยด้วยที่คราวนั้นไม่ได้ไปส่งที่หน้าตึก ต่อให้ไอ้แนนจะอธิบายให้แล้ว แต่ผมก็กลัวว่าพี่จอยจะไม่เข้าใจ ผมรู้จักกับพี่จอยมานานก็ไม่อยากจะมีเรื่องหมางใจต่อกัน

“ก็ได้นะ คุณจอยเขามีห้องทำงานส่วนตัว ขวัญไปรอกับคุณจอยก็ได้”

“ดีจัง ขอบคุณครับ”

คุณธนิกยิ้มแล้วทำแก้มป่อง “ไหนรางวัล”

ผมลังเลเพียงครู่ จากนั้นก็เขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อหอมแก้มเขา ยังไม่ทันจะได้ยืนพื้นเต็มเท้า เขาก็หอมกลับมา หอมไม่พอยังจะให้จูบมาด้วย

“ผมต้องโดนคู่หมั้นของคุณธนิกแหกอกเข้าสักวันแน่ครับ”

“เขาไม่ทำหรอกน่า” คุณธนิกบอกเสียงกลั้วหัวเราะ “คนสวยน่ะใจดีทุกคน”

“สวยมากมั้ยครับ”

“อยู่ในระดับที่ไม่มีใครกล้าจีบ เพราะสวยเกินไปล่ะมั้ง”

เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินคุณธนิกพูดถึงคู่หมั้นของเขา “เธอชื่ออะไรเหรอครับ”

“ชื่อนิ่ม มาจากคำว่านุ่มนิ่ม แก่กว่าขวัญสักหกปีได้”

แก่กว่าผม งั้นเธอก็อายุ 27 ย่าง 28 ปี ผมอยากรู้จังเลยนะว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแบบไหน หน้าตายังไง

“คุณนิ่มตรงสเปคของคุณธนิกมั้ยครับ”

“ก็ตรงนะ ค่อนข้างดีทีเดียว”

“แล้ว...เอ่อ แล้วจะแต่งงานกันเมื่อไหร่เหรอครับ”

คุณธนิกทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย “นั่นสินะ...รอฝ่ายหญิงเขาพร้อมล่ะมั้ง ตอนนี้เขาเรียนต่อ ปีหน้าก็คงจบแล้ว”

ถ้าตอนนั้นผมยังคงติดแหง็กอยู่กับเขา แล้วงานแต่งของเขาผมควรจะไปร่วมอวยพรหรือเปล่า ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ ผมจะยินดีกับเขาได้มั้ยนะ

“คุณธนิกบินไปหาบ้างมั้ยครับ แล้วเวลาคิดถึงทำยังไง”

“ก็บินไปบ้าง ส่วนเวลาคิดถึงก็โทรหา แต่ไม่ได้โทรหาเลย เพราะไม่คิดถึง” ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น เพราะผมอ่านสีหน้าของเขาไม่ออก แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ผมก็ไม่เกี่ยวด้วยอยู่ดี

“อ๋อ...ครับ” ผมตอบได้แค่นั้น เพราะนึกคำพูดไม่ออก เขามองมาแล้วยกมือขึ้นลูบหัวผม

“ถ้ารู้ว่าเจ็บแล้วจะถามทำไมล่ะ” รอยยิ้มของเขาราวกับกำลังปลอบประโลม “เด็กโง่”

“ผมไม่เจ็บแล้วครับ ผมตัดใจจากคุณธนิกได้แล้ว”

“ดีๆ ทำได้ดีมาก”

เราต่างก็ยิ้มให้แก่กันแม้จะรู้แน่แก่ใจว่าไม่ได้พูดความจริง ผมโกหกตัวเองเพราะไม่อยากยอมรับ ส่วนเขาก็รู้ว่าผมโกหกแต่ก็ยังแกล้งเชื่อ

คุณธนิกครับ...ผมน่ะต่อให้ตัดใจไม่ได้ แต่ผมก็จะไม่ก้าวเข้าไปหาคุณธนิกหรอกครับ ผมอยากใช้สิทธิ์ของคนแอบรักโดยที่ไม่ไขว่คว้าหาโอกาสในการครอบครองและกำลังรอให้ความรักครั้งนี้มัันเลือนหายไปตามกาลเวลา ผมหวังว่าวันหนึ่งคุณธนิกจะกลายเป็นแค่ใครสักคนที่ผมไม่รู้จัก เป็นแค่เพียงเงาจางๆ ในเศษเสี้ยวของความทรงจำที่ผมไม่นึกจำ

...............To be continue...........

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณธนิกใจร้ายมากๆๆๆ สงสารขวัญ ฮืออออออออ เรื่องจะจบยังไงน้อ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ขอขเ้ามาติดตามด้วยคน เสียใจที่เห็นเรื่องนี้ช้า

เอาใจช่วยขวัญ ทั้งจน ทั้งซื่อ ทั้งหัวเดียวกระเทียมลีบ สงสารมาก รันทด คนเขียนอย่าใจร้ายสิ :ling3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
เรื่องนี้กี่ตอนจบคะ ขนาดอ่านแค่คอมเม้นยังรู้สึกสงสารขวัญเลยอ่ะ ถ้าเรื่องยาวขวัญไม่ช้ำในตายก่อนหรออออ แค่ล่ะเรื่องของคุณสนัฟมีแต่เรื่องใสใสเหมือนวิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ทั้งนั้น มันจะต้องมีสักคนที่กระอักเลือดเพราะรักทุกเรื่องเลย  :sad4:

ออฟไลน์ Babyboys

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
ไม่ต้องพูดอะไร แต่เราอยู่ข้างขวัญเสมอนะ :mew2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด