สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27  (อ่าน 137430 ครั้ง)

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เพิ่งจะได้มาตามอ่านทัน ตอนนี้เหมือนคุณธนิกลอยลำเลยอะ แค่ทุกข์ใจกับเรื่องต้องแต่งงานกับเรื่องขวัญเอง แต่ทางขวัญนี่สิต้องรับมือกับสารพัดศัตรูที่เข้ามาใครเป็นใครบ้างไว้ใจไม่ได้เลย เรื่องโดนยิงนี่ตอนแรกก็สงสัยมิสเตอร์ทีนะ แต่อีกใจก็สงสัยนิ่มและโมเหมือนกัน แอบคิดด้วยว่าที่พ่อตัดชื่อขิมออกเพราะคงคิดว่าอย่างขิมคงรับมือความร้ายกาจต่างๆไม่ได้แน่เลยต้องเปลี่ยนมือมาที่ขวัญเอง อ่านๆไปก็อยากให้ขวัญร้ายสุดๆไปเลยเหมือนกันนะเนี่ยเอาให้พวกศัตรูหน้าเหวอไปเลย

ออฟไลน์ aumaim0621

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไม่สงสารคุณธนิกเลยนะเอาจริงๆ เราไม่ชอบคนที่ให้ความหวังคนอื่นเลย รู้ว่ารักแต่รักไม่ได้ ก็อย่าเข้ามาในชีวิตใครเขาเลย ไปอยู่กับคุณนิ่มเถอะะะะ แต่งงานได้รับมรดกมีเงินใช้เย๊อะเยอะ ชิ

ออฟไลน์ pim14

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ถ้าคุณธนิกแต่งกับนิ่มจริงๆ ขอเปลี่ยนพระเอกได้มั้ยคะ คนน่ารักอย่างขวัญ ไม่น่าจะต้องมารอรับของเหลือจากยัยนิ่มนะคะ ถ้าคิดว่าจะไปนอนกะผู้หญิงแล้วค่อยเทิร์นมาหานายเอกของเรา อย่างนี้ก็ไม่ใช่บทพระเอกแระ ชริ รอหาพระเอกใหม่ค่าาาา

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
จะไม่เดาอะไรทั้งนั้น ใครๆก้ไม่น่าไว้ใจ แต่เอ็นดูพี่น้องตัวขออะ ชอบเวลาที่พวกนางคุยกัน เหมือนเห็นถาพแมวสองตัวแง้วๆใส่กัน น่ารัก5555555555555 อยากกอดน้องขวัญ เข้าใจความน้องอะว่าไม่ได้อยากได้อยากมีอะไรเลย น้องแค่อยากกลับไปขับวิน คุณพ่อได้โปรดรับรู้ด้วย!!

ออฟไลน์ vermilion

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เกือบลืมไปแล้วว่าเคยหวานกันขนาดไหน  :o12:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พึ่งตามอ่านทัน ไว้ใจใครไม่ได้เลยเรื่องนี้ อ่านด้วยฟีลระหวาดระแวงตลอดเวลา ถามว่าใครน่าสงสารสุดในเรื่องคงต้องตอบว่าคนอ่านล่ะค่ะ ต้องล่มงานแต่งให้ได้นะ ชอบเวลาสองพี่น้อง ข คุยกัน รักแบบร้ายๆดี คนนึงมั่นเพราะมาก่อน อีกคนมั่นหน้าเพราะเป็นคนปัจจุบัน เกลียดกันจริงๆมั้ยก็ไม่รู้ แต่น่าจะหมั่นไส้กันจริงๆ คุณธนิกตอนคุยกะพี่โมคือแบบ เป็นเราก็หลงอะ แล้วน้องขวัญจะห้ามใจตัวเองยังไงให้ไหววะ น้องขวัญตอนเป็นมิสเตอร์เคอยู่กับมิสเตอร์ทีนี่โคตรจะร้ายเลย มีพกปืนอีก ทุกคนดูวร้ายยๆ เป็นกำลังใจให้ค่า รีบๆมาต่อนะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 19



“หายไปไหนมา!!” เสียงทุ้มแข็งกร้าวดังลั่นเข้าสู่โสตประสาทเมื่อผมเปิดประตูบ้านได้เพียงไม่กี่วินาที ผมผงะถอยหลังทันทีที่เจ้าของเสียงเดินตัดจากห้องครัวมาสู่โถงทางเดินด้วยความรวดเร็ว เขาก้าวยาวๆ เข้ามาใกล้ มือหนาแข็งแรงทั้งสองข้างบีบต้นแขนของผมแน่น

“คุณธนิกใจเย็นก่อนครับ” ผมบอกเขาเสียงแผ่ว เบ้ปากเพราะความเจ็บที่ต้นแขน ดวงตาของคุณธนิกแดงก่ำ ใบหน้าเครียดขรึมอย่างคนที่ซ่อนพายุอารมณ์ไว้ข้างในทำให้ผมรู้สึกกลัวเขาเล็กน้อย

“หายไปทั้งวันแล้วกลับมาพร้อมกับแผลที่ตาซ้าย!! มึงเคยคิดถึงความรู้สึกของคนที่เขาเป็นห่วงมึงบ้างมั้ยขวัญพัฒน์!!” เขาตะคอก แรงบีบยิ่งเพิ่มขึ้นจนผมต้องร้องท้วง

คุณธนิกโกรธมาก โกรธอย่างที่ผมไม่เคยเห็นเขาโกรธรุนแรงแบบนี้มาก่อนเลย สายตาดุจัดที่มองมาบอกได้ว่าถ้าเขาลงมือเฆี่ยนตีผมได้เขาคงทำ

“คุณธนิกครับผมเจ็บแขน” ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ บอกเขาเสียงอ้อนให้เขาคลายแรงก่อนจะยกมือขึ้นกราบแนบอกกว้างของเขาที่สะท้อนขึ้นลงตามแรงโทสะ “ขอโทษนะครับ ผมเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล เพราะเมื่อตอนบ่ายโดนกระจกบาด แผลมันลึกมากก็เลยต้องไปเย็บ”

คุณธนิกนิ่งเงียบ เขาคงกำลังพยายามระงับโทสะของตัวเอง มือที่บีบต้นแขนของผมคลายแรงลงแล้ว แต่สีหน้าของเขายังไม่ดีขึ้น ยังคงเครียดขรึมไร้รอยยิ้ม ผมควรทำตลกบ้าบอให้เขายิ้มไหม แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ผล กลัวว่าจะแย่ยิ่งกว่าเดิม เพราะฉะนั้นที่ดีที่สุดคงต้องยืนให้เขาจ้องมองอยู่อย่างนี้ แม้ว่าตอนที่โดนดวงตาคมกริบของเขาสำรวจ หัวใจของผมจะเต้นแรงมากจนแทบจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอก

สายตาของคุณธนิกไม่เคยอ่อนโยนต่อหัวใจของเด็กหนุ่มสุขภาพดีอย่างผมเลย

“พี่ห่วงแทบบ้ารู้มั้ย” ในที่สุดหลังจากที่ผ่านไปเกือบห้านาทีเขาก็พูดขึ้นมาพร้อมกับรั้งตัวผมเข้าไปในอ้อมแขน “ไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน ติดต่อก็ไม่ได้ ครั้งสุดท้ายที่รปภ. หน้าหมู่บ้านเห็นก็ตอนเช้าที่ออกไปกินโจ๊ก ขวัญคิดบ้างมั้ยว่าในระหว่างที่หายไปพี่ต้องทรมานกี่ชั่วโมง ถ้าอยากฆ่าพี่ให้ตายก็แค่เอามีดมาแทงพี่ แต่อย่าทำแบบนี้อีก พี่ทรมานจนเหมือนจะตายจริงๆ”

“ผมไม่ได้หายไปไหนนะครับ” ผมพูดพลางผละออกจากอ้อมกอดของเขาเพื่อให้เขาได้เห็นแววตาสำนึกผิด “ผมก็เที่ยวเล่นแถวนี้ ไม่ได้ไปไหนไกลเลย”

“เพิ่งโดนยิงมานะ” คุณธนิกเสียงดุขึ้นมาทันที “แผลก็ยังไม่หายดีแต่ยังกล้าออกไปเที่ยวเล่นเหรอขวัญ”

“พวกพี่ๆ ก็อยู่กันนี่ครับ” ผมรีบพูดก่อนที่เขาจะหัวร้อนไปมากกว่านี้ “คนที่คุณธนิกส่งมาเขาก็ทำหน้าที่ได้ดี ผมก็เลยอุ่นใจ เที่ยวได้สบายมาก”

“ถ้าทำได้ดีทำไมถึงตอบพี่ไม่ได้ว่าขวัญหายไปไหน”

ผมส่ายหน้าพลางตอบ “ไม่รู้สิครับ ผมออกไปในช่วงที่พี่เขาเปลี่ยนกะกันล่ะมั้ง”

“แล้วทำไมไม่บอกใครไว้ ทุกคนตามหาขวัญ ไม่มีใครได้กินข้าว ขวัญทำทุกคนเดือดร้อน”

“ขอโทษครับ ผมไม่ทันได้บอก เลือดไหลอาบแก้มให้วิ่งกลับมาที่บ้านผมคงเลือดออกหมดตัวก่อนพอดี ขอโทษจริงๆ นะครับ คุณธนิกให้พวกพี่ๆ ไปกินข้าวนะ ผมก็แค่ไปเที่ยวเล่นแถวนี้เองแล้วก็โดนกระจกบาด แต่แผลลึกเลย” เอาล่ะ...ผมรู้สึกเหนื่อยจริงๆ แล้วนะกับการที่ต้องสร้างเรื่องมาโกหกเขา การคิดเรื่องราวในขณะที่ถูกสายตาคมกริบของเขารีดเค้นความจริงนั้นเป็นเรื่องที่ยากพอๆ กับข้อสอบคณิตศาสตร์สมัยมอปลายที่ทำเอาผมติดศูนย์เกือบจะเรียนไม่จบ “ผมก็เลยโบกแท็กซี่ไปเย็บแผลที่โรงบาล แล้วก็เพิ่งได้กลับมานี่แหละครับ”

“เหรอ” คุณธนิกย้อนถามเหมือนไม่เชื่อ ก่อนจะถามถึงต้นตอของเรื่องที่ผมลอบกลืนน้ำลายลงคอ “แล้วไปโดนกระจกบาดที่ไหน”

“ใกล้ๆ นี่แหละครับ พอดีกำลังเดินเล่นแล้วมีเด็กเตะฟุตบอลมาอัดกระจกหน้าต่าง กระจกก็เลยแตกแล้วเศษมันกระเด็นมาโดน เฉี่ยวตาซ้ายไปนิดเดียว” รู้อยู่แล้วว่าฟังไม่ขึ้น รู้อยู่แล้วว่าเหลวไหลทั้งเพ แต่ตอนนี้สมองที่เหนื่อยล้าของผมคิดได้เท่านี้จริงๆ และก็ตามคาด คุณธนิกไม่เชื่อ

“กระจกหน้าต่างที่ไหนใกล้ทางเดิน ก่อนพี่จะซื้อบ้านหลังนี้ พี่สำรวจทั่วแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรอย่างที่ขวัญพูด”

“ผมเหนื่อยแล้วครับ” ผมจงใจพูดเปลี่ยนประเด็น ให้เขารู้ไปเถอะว่าโกหก แต่ถ้าผมไม่สารภาพเสียอย่าง เขาก็จะรู้แค่ว่าผมโกหกนั่นแหละไม่ได้รู้รายละเอียดไปมากกว่านั้น “เจ็บแผลด้วย อยากนอนแล้ว”

คุณธนิกถอนหายใจออกมา สีหน้าของเขาเหมือนอยากบีบกะโหลกผมให้บี้แบนคามือแต่สุดท้ายก็พยักหน้ายอมความ “อืม งั้นก็ไปพักผ่อนเถอะ แต่ก่อนอื่นไปกินข้าวนะ พี่ทำไว้ให้”

“ไม่เห็นต้องลำบาก”

“ไม่ได้ลำบากอะไร”

“แน่ใจเหรอครับ” ผมเลิกคิ้วแล้วมองสบตากับเขา “แน่ใจเหรอว่ามาหาผม มาทำกับข้าวให้อย่างนี้ คุณธนิกไม่ได้ลำบากใจ”

“ไปกินข้าวขวัญพัฒน์” เขาเลี่ยงสบตาพร้อมกับออกคำสั่ง

“งั้นไปกินด้วยกันสิครับ พี่โมกลับดึกทุกวัน พอตื่นก็ออกไปแต่เช้า ผมก็เลยต้องกินข้าวคนเดียวทุกที”

คุณธนิกส่ายหน้า แววตาของเขากลับมาเย็นชาอีกครั้ง “พี่จะกลับแล้ว ที่แวะมาดูเพราะเราหายไปก็เท่านั้น”

เฮ้อ...ผมก็พอเข้าใจอยู่หรอกนะที่เขาแสดงท่าทีแบบนี้ แต่ถ้าโดนบ่อยๆ ก็ไม่ไหวมั้ยวะ

“ครับ” ผมเหนื่อยจะรั้ง ไม่รู้ว่าวันนี้ต้องพูดว่าเหนื่อยอีกกี่ครั้งถึงจะสมกับความเหนื่อยที่ได้รับ ออกไปบู๊กับไอ้พวกหน้าเหี้ยมยังไม่เหนื่อยเท่ากับเจอคุณธนิกแค่ไม่กี่นาทีเลย “กลับดีๆ นะ”

ตอนนี้ที่ผมต้องการก็แค่ต้องการพัก...พักยาวๆ พักให้สมกับที่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นกับชีวิตในช่วงนี้และมันคงจะดีหากได้พักพิงไหล่ของคนที่ผมรัก ไหล่กว้างๆ ของเขาคงช่วยให้หายเหนื่อยได้มากกว่าหมอนใบใหญ่บนเตียงเดี่ยวขนาดคิงไซส์ที่ผมต้องนอนเพียงลำพัง

ผมเดินไปที่โต๊ะกินข้าว ข้าวผัดกุนเชียงที่ผมชอบวางอยู่บนนั้น ความเหงาเข้าจู่โจมเมื่อผมต้องนั่งลงบนเก้าอี้และตักข้าวผัดฝีมือของคุณธนิกเข้าปาก รสชาติยังเหมือนเดิม กุนเชียงที่หั่นก็พอดีคำ จำนวนชิ้นเท่ากับวันแรกที่ได้ลิ้มลอง ไม่มีขาดไม่มีเกินแต่อาจจะเป็นผมเองที่รู้สึกไม่เหมือนเดิมกับของโปรด

เพราะตอนนี้ผมเริ่มเกลียด...ข้าวผัดกุนเชียง

ครืดดด

เสียงขาเก้าอี้ครูดกับพื้นดังขึ้นใกล้ๆ ยังไม่ทันได้เงยหน้ามองเงาของร่างสูงก็พาดลงบนจาน ผมก้มหน้านิ่งค้างอยู่อย่างนั้น ไม่ได้รู้สึกดีใจที่เขานั่งอยู่ตรงหน้าเพราะในใจเอาแต่ตะโกนว่า...อีกแล้วเหรอวะ กลับมาแล้วก็ต้องไปอีกใช่ไหม แล้วความรู้สึกของผมจะต้องถูกเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงไปจนถึงเมื่อไหร่

ผมไม่อยากร้องไห้เลย เพราะน้ำตาอาจจะทำให้แผลจากเศษกระจกบาดแสบขึ้นมา แต่อย่างที่บอก...วันนี้ผมเหนื่อยมากจริงๆ เหนื่อยจนผมควบคุมตัวเองได้ไม่ดีพอ

“ไม่อร่อยเหรอ” น้ำเสียงของเขาเป็นเหมือนมีดที่ค่อยๆ กรีดซ้ำลงบนแผลเดิม

“ครับ” ผมรับคำสั้นๆ ก่อนจะพยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่นไปมากกว่านี้เพื่อบอกเขาว่า “ไม่อร่อยแล้วเพราะผมไม่ชอบข้าวผัดกุนเชียง”

“อืม ขอโทษนะ” เชื่อเหรอครับกับคำโกหกของผม “งั้นก็...อย่าฝืนกินเลย”

ผมโกหกเก่งขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณธนิก หรือเพราะสำหรับคุณธนิกแล้ว...ความชอบของคนเรามันเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ

“ไม่กลับแล้วเหรอครับ” ผมเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเขายังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม “หรือมีธุระอะไรจะคุยกับผมอีก”

“ไม่มี”

“งั้นก็รีบกลับไปหาคุณนิ่มสิครับ”

“นิ่มรอได้”

เป็นคุณนิ่มนี่ดีจังนะครับ ทีผมน่ะรอแทบตาย ยังมาพูดง่ายๆ ว่าให้เลิกรอ ผมน่ะรอเก่งยิ่งกว่าคุณนิ่มอีกแต่ดูเหมือนว่าคุณธนิกจะลำเอียงเสียแล้ว

“อ๋อ...ครับ” อย่างผมก็พูดได้แค่นี้แหละ “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

คนรอมันท้อ ผมก็พอรู้ แต่ไม่คิดว่าจะท้อขนาดนี้ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้บอกให้รอแล้วนะแต่เป็นผมเองที่ดันทุรัง ก็คงต้องรับผิดชอบความรู้สึกของตัวเองให้ได้

ผมกลับขึ้นบนห้อง อย่างแรกเลยคือต้องเช็ดตัว เสร็จแล้วจะได้มานอนแผ่บนเตียงสบายๆ สักที ตั้งแต่โดนยิงมาก็ยังไม่ได้สัมผัสกับน้ำแบบเต็มตัว ตรงท่อนบนได้แต่เช็ดๆ ถูๆ อ่อนโยนกับบริเวณใกล้แผลผ่าตัดประหนึ่งส่วนที่บอบบางที่สุดในร่างกาย ส่วนท่อนล่างก็ทำความสะอาดตามปกติ พอจัดการธุระเรียบร้อยก็เดินตัวปลิวออกจากห้องน้ำ แต่ความคิดว่าจะนอนแผ่บนเตียงเป็นอันพับไปเมื่อเจ้าของเตียงอีกคนปรากฎตัวอยู่ในห้อง

ผมเผลอถอนหายใจออกมา อยากจะจับคุณธนิกเขย่าแล้วถามนักว่า มึงจะเอายังไง!

แต่นั่นแหละ...ใครจะไม่กล้า

“นอนด้วยนะ”

วันนี้ไม่รู้ต้องทำหน้าเหวอไปกี่ครั้งหรือต่อให้ก้าวข้ามวันใหม่ก็จะมีเรื่องเหวอๆ แบบนี้เกิดขึ้นไม่หยุด

“คุณนิ่มรอไม่ใช่เหรอครับ” ผมก็ไม่ได้อยากยกประเด็นนี้มาพูด แต่ผมคงต้องเตือนสติเขาแล้วว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

“ขวัญก็รอ” คำตอบของเขาทำให้ผมแค่นยิ้ม

“สงสารเหรอ”

ถ้าสงสารก็ไสหัวไป! วันนี้ผมไม่ได้ใจดีหรอกนะ! ครับ...ผมก็แค่เกรี้ยวกราดอยู่ในใจ

“เปล่า”

“แล้วอะไร” ไม่หรอก...ผมไม่เรียกว่าการขึ้นเสียง เพราะผมก็แค่หงุดหงิดมากจนเผลอกระแทกเสียงถามก็เท่านั้น “จะเอายังไงก็พูดมา วันนี้ผมเหนื่อยครับคุณธนิก เห็นแผลที่ตาผมมั้ย ถ้าเห็นก็ปล่อยผมนอนพัก ผมไม่อยากเล่นกับคุณธนิกแล้ว พูดมาตรงๆ เลยว่าต้องการอะไร ถ้าไม่พูดคุณก็ออกไปครับ ออกไปแล้วไม่ต้องกลับมาอีก”

เขาเงียบ...เขาเงียบอีกแล้ว

รถไฟขบวนนั้นที่ผมขึ้นไม่ทันคงไม่ได้แค่ไม่รอผม แต่คงเอาความชัดเจนของคุณธนิกไปด้วย

“โอเคครับ ถ้าคุณธนิกไม่พูด ผมไปเอง”

ไอ้แนนได้ยินต้องลุกขึ้นยืนแล้วปรบมือให้ผมกับประโยคเท่ๆ แบบนี้ แต่ความจริงแล้วผมก็แค่จะไปนอนห้องอื่น เพราะผมต้องการพัก ต้องการเยียวยาตัวเองให้พร้อมที่จะสู้ใหม่ ผมหันหลังเดินไปที่ประตูแต่ไม่ทันจะจับลูกบิดด้วยซ้ำ ตัวของผมก็ถูกรั้งเข้าไปในอ้อมกอด เขากอดผมจากทางด้านหลัง เกยคางกับไหล่ของผมพร้อมกับที่แขนทั้งสองข้างกระชับรอบเอวผมแน่นขึ้น

“น้องขวัญ” เขาเปิดโหมดแฟนกันวันเดียวด้วยวลีต้องห้ามอีกแล้ว ส่วนผมก็ใจสั่นอย่างคนไม่เคยหลาบจำ “น้องขวัญครับ พี่นิกขอโทษ”

“อย่ามาอ้อนนะ” ผมพยายามดุเขา แต่หางเสียงกลับอ่อนลงอย่างน่าสมเพช สุดท้ายเมื่อถูกเขาซุกไซ้หนักเข้าก็แพ้ทาง ผมปล่อยให้เขากอด พอเขาจูงมือมาที่เตียงก็ตามเขามาเหมือนควายเชื่องๆ ตัวหนึ่ง

ไม่แปลกใจที่ไอ้แฝดน้องนรกด่าผมว่าหน้าโง่ เพราะร่างโง่ของผมมันน่าด่าจริงๆ

คุณธนิกนั่งลงปลายเตียง ดึงตัวผมให้นั่งลงบนตักพลางกอดเอวผมไว้หลวมๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็ซุกซบที่แผ่นหลังของผม นานเกือบสิบนาทีที่เราปล่อยให้เวลาเคลื่อนผ่านไปโดยไร้บทสนทนา มีเพียงการสัมผัสเท่านั้นที่แสดงถึงความคิดถึงในยามนี้

ผมต้องปรับอารมณ์ ต้องเค้นเอาไอ้ขวัญร่างน่ารักออกมา แม้หัวใจจะเหนื่อยล้าแต่ผมก็ยังต้องการเขา คุณธนิกไม่ใช่คนดีวิเศษวิโสอะไรหรอก แต่เขาดีในแบบที่ผมชอบ และเขาเป็นในแบบที่ผมรัก เหตุผลที่ผมยังคงยอมหลับหูหลับตาก็มีเท่านี้

ไปกันครับ...ไปสู่ประตูนรกด้วยกัน

“ยอมแล้วเหรอ” ผมกระซิบถามคนที่เอาแต่กอดเอาแต่ซุกราวกับไม่เจอะเจอกันมาแรมเดือน “จะเลิกเมินผมแล้วใช่มั้ย”

“เคยเมินหรือไง” คุณธนิกย้อนถามอย่างน่าหมั่นไส้จนผมต้องหยิกที่แขนเขาไปหนึ่งที “โอ๊ย! น้องขวัญ หยิกพี่ทำไม”

“หมั่นไส้พี่นิก” ผมบอกพลางขยับเปลี่ยนท่านั่ง จากนั่งซ้อนตักเป็นหันหน้าเผชิญกันแทน

“พี่ชอบท่านี้” เขาว่าตาเป็นประกาย กลีบปากหนาก็คลี่ยิ้มกรุ้มกริ่ม น่าแปลกใจที่เขาเปลี่ยนอารมณ์ได้เหมือนนักแสดงที่ผู้กำกับตะโกนสั่ง คัท! จากบทบาทหนึ่งสู่อีกบทบาทหนึ่งทันที

“ทำไมครับ” ผมเอียงคอถามแล้วยกมือขึ้นโอบรอบคอเขา ในขณะที่มือของเขาก็รั้งเอวของผมเข้าแนบชิด “ของพี่นิกเข้าลึกเหรอ”

“อื้ม”

“อยากเข้ามั้ย”

“ที่สุด”

“เหรอครับ” ผมอมยิ้ม ส่งสายตาเชิญชวนแล้วบดสะโพกยั่วยวนเขา “แต่ผมไม่ให้ วันนี้ผมเหนื่อย”

“ไปทำอะไรมาครับ” เขาถามเสียงนุ่ม “ซนตอนพี่นิกไม่อยู่เหรอ”

“ก็พี่นิกไม่มาดูแล น้องจะซนก็ไม่แปลก”

“งั้นพี่นิกขอตีนะครับ เพราะน้องขวัญซน”

วิธีตีของคุณธนิกนอกจากผมจะไม่เจ็บแล้วยังรู้สึกมวนท้อง ริมฝีปากที่ดูดดึงกลีบปากล่างของผมนั้นดุดันจนอยากร้องขอเวลานอก ผมเผลอหลุดครางเมื่อลิ้นของเขารุกล้ำเข้ามาในโพรงปาก หลายต่อหลายครั้งที่ถูกสำรวจก็ไม่เคยทำให้คุ้นชินกับสัมผัสวาบหวามนี้ ริมฝีปากของเราบดเบียดเข้าหากันในขณะที่มือหนาของเขาก็ขยำสะโพกของผมไม่หยุด

“คิดถึงครับ” เขากระซิบเสียงพร่าเมื่อผละริมฝีปากออกห่างจากริมฝีปากของผมเล็กน้อย “พี่คิดถึงน้องขวัญ”

“คิดถึงแล้วทำไมใจร้ายล่ะครับ” ผมถามพลางไล้นิ้วไปตามอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา ความหนันแน่นที่สัมผัสได้นั้นทำให้อยากก้มลงไปกัดให้จมเขี้ยว แต่ผมอดใจไว้ ผมจะปล่อยให้ตัวเองถูกยั่วด้วยกล้ามแน่นๆ ไม่ได้ “พี่นิกเลือกคนอื่น เห็นคนอื่นสำคัญกว่าผม แล้วยังมาบอกว่าไม่ต้องรอ...”

“รู้มั้ยว่าพี่ก็เจ็บ” เขาสารภาพอย่างหมดท่า “ไม่ได้อยากพูดเลย”

“แล้วใครบังคับ” ให้โอกาสพูดครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ยังคิดจะเล่นบทคนปากแข็ง เอาจริงๆ ผมโกรธเขาผมก็ไม่ผิดนะ แต่นั่นแหละ...ผมโกรธเขาลงเหรอ ขวัญพัฒน์คนนี้จะทำอะไรคุณธนิกได้ “ผมบอกแล้วว่าอยู่กันสองคนเราก็เป็นเหมือนเดิม แต่พี่นิกก็ไม่ฟัง แล้วเป็นไง สุดท้ายก็ซมซานกลับมา”

“ใช้คำว่าซมซานเลยเหรอน้องขวัญ” เขาย่นจมูกใส่ผม ดูไม่ชอบใจกับคำที่ได้ยินเท่าไร แต่ก็แค่คนที่ไม่ยอมรับความจริง หลุดมาดขนาดนี้ ดูก็รู้ว่าทนไม่ไหวแล้ว

“อีกนิดจะบอกว่าคลานเข่าเข้าหาผม อาการลงแดงเพราะขาดขวัญพัฒน์รุนแรงเหลือเกิน” ผมหยอกเย้า เห็นใบหูเขาเป็นสีแดงก็ยิ่งได้ใจ “ทนได้กี่วันเองครับหื้ม”

“ไม่รู้ รู้แค่ว่าถ้าไม่ได้กอดวันนี้พี่ตายแน่ๆ”

อยากอัดเสียงไปให้ไอ้ขิมฟัง มันจะได้เลิกคิดว่าคนอย่างผมมั่นหน้าสักที! หึ! บอกแล้วไงว่าคุณธนิกหนีผมไม่รอด

“ยังอยากแต่งงานอยู่ป่าว” ผมถามลองเชิง เห็นเขาชะงักไปเพียงครู่ อ้อมแขนเผลอคลายแรงแต่ผมเบียดตัวเข้าหา “ถ้ายังอยากแต่งงั้นคืนเข้าหอมาอยู่กับผมได้มั้ย"

แววตาของเขาวูบไหว กลีบปากหนาเม้มแน่นก่อนคลายตัวแล้วให้คำตอบ “ครับ พี่จะมาอยู่กับน้องขวัญ”

ไม่ต้องฉุด ไม่ต้องลาก ไม่ต้องลักพาตัวและไม่ต้องมีใครตาย เพราะหัวใจของคุณธนิกไปไหนไม่ได้แล้ว และผมคิดว่าอีกสองเดือนกว่าๆ ต่อจากนี้ คงไม่ต้องพึ่งแรงของเขมินทราผมก็ทำให้งานแต่งของเขาล่มได้อย่างแน่นอน ด้วยกรณีที่เจ้าบ่าวไม่เข้าร่วมงานแต่ง

ความหลงใหลเปลี่ยนนิสัยคนมานักต่อนัก...

“เอามั้ย” ผมเสนออย่างไม่กระดากอาย “ให้รางวัล”

“แต่น้องเหนื่อย” เขาว่าพลางยกมือขึ้นลูบหัวผมอย่างแผ่วเบา “ขอนอนกอดเฉยๆ ก็พอ”

“พี่นิกน่ารัก”

“แล้วรักพี่มั้ย”

“บอกได้เหรอ” ผมเอียงคอถามเขา ถ้าไอ้แนนเห็นคงต้องถามว่าคอผมเป็นเหี้ยไรนักหนา แต่นั่นแหละ ท่วงท่าแห่งการแอทแทค เจอท่านี้เข้าไปคุณธนิกไม่รอดหรอก เพราะผมเคยเห็นเขมินทราทำแล้วน่ารัก คนที่หน้าเหมือนกันอย่างผมทำก็คงไม่ต่าง

“พี่อยากฟัง” เขาจูบที่แก้มของผมพลางกระซิบ “บอกให้พี่มั่นใจทีว่าพี่เลือกไม่ผิด”

คงยากใช่ไหมกว่าที่เขาจะมาอยู่ตรงหน้าผมในตอนนี้ คงต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เลือกถูกแล้วครับ...ดีแล้วที่เลือกผม

ดีแล้วที่ก้าวข้ามเส้นอันตรายเข้ามา...

“รัก” ผมบอกเสียงหนักแน่น “รักพี่นิกครับ รักมากๆ”

“เป็นทุกอย่างให้พี่ได้ใช่มั้ย”

“อื้ม ทุกอย่างเลยครับแด๊ดดี๊” ผมขยิบตาพลางยิ้มกว้างให้กับเขาที่ก็ยิ้มกว้างตอบกลับมาเช่นกัน “เนี่ย...ง่ายแค่นี้เอง เห็นมั้ยมีความสุขจะตาย ดีกว่าเมินผม”

“พี่มีเหตุผลของพี่”

“เหตุผลของคนใจร้าย” ผมต่อประโยคให้แต่เขาส่ายหน้า

“เหตุผลของคนที่เป็นห่วงน้องขวัญครับ” เขาแย้งได้อย่างดีเยี่ยมเพราะทำให้หัวใจของผมทำงานหนักอีกแล้ว “ชีวิตพี่ก็อย่างที่เห็น ไม่มีอิสระ พี่ทำอะไรไม่ได้มากนักกับเรื่องนี้ ตอนที่ขวัญโดนยิงต่อหน้าต่อตาพี่ พี่ก็รู้แล้วว่าพี่ปกป้องขวัญไม่ได้ แล้วต่อจากนี้จะเป็นยังไงต่อก็ไม่รู้”

“ผมดูแลตัวเองได้ครับ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องห่วงหรือปกป้องผมมากไปกว่านี้ ทำเท่าที่ทำได้ก็พอครับพี่นิก” ผมไม่ได้เก่ง แต่ผมไม่อยากให้เขาเหนื่อย ไม่อยากให้มาคอยกังวลใจกับเรื่องของผมจนไม่เป็นอันทำอะไร ตอนที่เรื่องนี้เริ่มขึ้นผมก็คิดแบบนี้มาจนตอนนี้ความคิดของผมก็ยังไม่เปลี่ยน “เราสัญญากันไว้แล้วไงที่สถานีรถไฟวันนั้น เวลาของผมหยุดเดินตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แค่รอพี่นิกกลับมาหมุนนาฬิกาต่อ เพราะฉะนั้นผมไม่มีทางผิดสัญญากับพี่นิกหรอก”

“งั้นสัญญากับพี่อีกข้อ”

“หืม”

“ห้ามตาย”

ผมหัวเราะกับข้อสัญญาที่เขากำหนด แต่สีหน้าของคุณธนิกจริงจัง แววตาของเขาที่ทอดมองมาอย่างรอคอยคำตอบนั้นทำให้ผมไปไม่เป็น แต่คำสัญญาที่ทำได้ยากอย่างนี้ ผมไม่ค่อยกล้าให้ โชคชะตามักเล่นตลกเสมอ ความเอาแน่เอานอนในชีวิตไม่มีอยู่จริง แล้วผมจะกล้าสัญญาได้ยังไง “อะไรกันครับ ของแบบนี้ห้ามได้ด้วยเหรอ”

แม้ผมจะทำทีตลกแต่เขาก็ยังพูดเสียงหนักแน่น “สัญญากับพี่”

ผมนิ่งไปเพียงครู่ก่อนจะยอมความ “อ่าๆ ได้ครับ จะพยายามนะ”

“ถ้าผิดสัญญา ชาติหน้าก็อย่าได้เจอกัน”

“รุนแรงต่อใจเหลื๊อออเกินนน”

“อย่าทำเป็นเล่น พี่จริงจังนะน้องขวัญ” เขาบอกเสียงเครียดพลางยกมือทั้งสองข้างโอบแก้มของผมไว้ “พี่ยังอยากเห็นโลกในอีกสิบหรือยี่สิบปีข้างหน้าที่เราอยู่ด้วยกัน อยากเห็นขวัญประสบความสำเร็จในชีวิต อยากอยู่ในงานรับปริญญา อยากอยู่เป็นกำลังใจให้ตอนทำงาน เวลาเครียดหรือเหนื่อยพี่ก็อยากคอยอยู่ข้างๆ ในอนาคตของพี่มีขวัญอยู่ในนั้น เพราะฉะนั้นอย่าทำให้พี่ผิดหวังนะครับ”

ผมยิ้มให้เขา แต่ความรู้สึกเศร้ากลับพัดกระหน่ำเข้ามาในใจ เพราะอนาคตที่ผมมองเห็นไม่มีคุณธนิกอยู่ในนั้น ในอีกสิบหรือยี่สิบปีข้างหน้าโลกของเราคงเหวี่ยงออกจากกันแล้ว เขากลับไปอยู่ในโลกของเขา ส่วนผมก็กลับไปใช้ชีวิตปกติของตัวเองตามเดิม ใช้ชีวิตที่มีแต่การรอคอยไม่สิ้นสุด...รอคอยให้โลกของเราเข้าใกล้กันอีกครั้ง รอคอยรถไฟขบวนนั้นที่ออกวิ่งไป...ให้กลับมาเทียบชานชาลาตามเดิม

“พูดเหมือนขอผมแต่งงานเลย” ผมแสร้งเขิน กลบเกลื่อนความเศร้าด้วยรอยยิ้ม “แต่บอกไว้ก่อนว่าสินสอดผมแพงมาก”

“เท่าไรบอกมา” เขาถามทันที “ตอนนี้พี่จ่ายไหว”

“เอ้า! นี่จะขอผมแต่งงานจริงน่ะ” ผมเบิกตาโตแล้วทุบไหล่ของเขาอย่างมีจริต “บ้าน่าาา ไม่ทันตั้งตัว”

“ไม่ขอละ ลีลา” เขาทำหน้าเอือมใส่ แต่ดูก็รู้ว่าแกล้งเพราะแอบเหลือบมองผม ผมจึงหอมแก้มเขาไปหนึ่งที

“ได้แล้วค่าสินสอด” ผมบอกพลางยักคิ้วให้เขา “หนึ่งหอมก็พอ ไม่คิดแพงสำหรับพี่นิกคนเดียว”

สีหน้าของคุณธนิกดูจะไม่ไหวแล้ว เขาคงอดทนมากเพราะเมื่อผมพูดจบเขาก็ฟัดแก้มของผมอย่างรุนแรง ผมได้แต่ดิ้นขอความเมตตาแต่เขาไม่หยุด เขาใช้ไรหนวดถูกับแก้มของผม ยิ่งห้ามก็ยิ่งทำ จนสุดท้ายก็ปล่อยให้เขาทำตามใจแล้วนั่งหอบบนตักเขาอย่างหมดท่า

“พี่นิกขี้แกล้ง”

“แกล้งเมียตัวเองไม่ผิดกฎหมาย”

“หื้ออ โมเมเก่ง ใครเมียพี่นิก”

“น้องขวัญไง” เขาใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของผม “คนที่น่ารักเก่งคนนี้ครับ”

เหมือนอย่างที่เขมินทราพูดไว้ไม่ผิด ตอนที่อยู่ด้วยกัน...มันดีมากจนไม่คิดว่าวันหนึ่งจะไม่มีเขา

“ใช่ป่าว”

แต่ผมต้องเริ่มเกมแล้ว...

“ยิ่งกว่าใช่”

และก่อนเริ่มผมต้องเคลียร์ทุกอย่างให้ไม่เกิดความค้างคา

“รู้ได้ไงว่านี่ไม่ใช่คุณขิมปลอมตัวมา” ผมยิ้มซื่อถาม ในขณะที่เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถามกลับ “ก็ผมรู้น้าว่าคุณขิมเขาสวมรอยเป็นผมไปหาพี่นิก”

“แล้วยังไง”

“ไม่คิดจะเล่าเหรอครับ หรือว่ามันเป็นความลับ”

“ไม่ใช่ความลับ แต่ไม่รู้จะบอกทำไม ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”

ผมเผลอถอนหายใจใส่เขา ที่จริงตอนรู้จากปากเขมินทราผมก็อดที่จะกังวลไม่ได้ ยอมรับว่าหัวร้อนแทบไฟลุก แต่เพราะไอ้น้องโง่มันสวมรอยเป็นผมจนมันโดนยิง ผมจึงโกรธมันได้ไม่นานแล้วก็ไม่ได้ถามรายละเอียดว่าเจอแล้วยังไงต่อ เขาจำไม่ได้แล้วทำอย่างไรต่อบ้าง

“ไม่สำคัญแต่ผมก็อยากรู้”

คราวนี้เป็นฝ่ายเขาที่ถอนหายใจใส่ผม ก่อนจะเริ่มเล่า “ก็ไม่มีอะไรมาก ขิมมาหาที่บริษัท ฝากเลขาฯ มาบอกพี่ว่ารออยู่ร้านกาแฟ พี่ก็เลยรีบลงไป ตอนนั้นว่าจะลงไปดุเพราะคิดว่าเป็นขวัญเกเรหนีเที่ยวมาหาพี่ แต่พอไปเจอก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ขวัญ”

“ทำไมครับ”

“ขิมผอมกว่า”

ผมสบถออกมา พร้อมทั้งก่นด่าในใจอีกยาวเหยียด แต่ที่ออกเสียงก็แค่คำสั้นๆ ถึงอย่างนั้นก็ถูกเขาบีบปากลงโทษข้อหาพูดไม่เพราะ นี่ถ้าได้ยินผมพ่นสิงสาราสัตว์กับไอ้แนน ปากผมคงโดนบีบจนระบม

“ที่จริงก็ไม่ใช่แค่นั้น” คุณธนิกหยุดพูดแล้วมองหน้าผม “เพราะพอเจอพี่ ขวัญคนนั้นวิ่งเข้ามาจูบ”

ผมผุดลุกขึ้นจากตักของคุณธนิกทันที แต่เขารั้งเอวผมไว้ เราต่อสู้กันอีกเล็กน้อยสุดท้ายผมก็หยุดดิ้น หัวใจของผมหล่นหายไปอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ตั้งแต่ที่ได้ยินคำว่าจูบแล้ว

“อย่างนี้ไงถึงไม่อยากเล่าให้ฟัง พอเล่าแล้วน้องขวัญก็โกรธพี่”

“ไม่ได้โกรธ” ผมปฏิเสธจากใจจริง “แค่พูดไม่ออกแล้วก็เสียใจนิดหน่อย”

“ตอนนั้นพี่ไม่ทันตั้งตัว”

“ข้ออ้างเถอะพี่นิก” หัวใจของผมกลับเข้าที่แล้ว แต่มันเต้นในจังหวะเหนื่อยล้าเต็มที “ไม่มีทางที่พี่จะตั้งตัวไม่ทัน ที่จริงพี่รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่านั่นไม่ใช่ผม ร้านกาแฟแพงๆ แบบนั้นผมไม่เคยเข้าไปถ้าพี่ไม่เลี้ยง บริษัทนั่นเป็นไปได้ผมก็ไม่เคยคิดจะไป ต่อให้อยากเจอพี่ผมก็รอพี่กลับมาที่บ้าน ตอนนั้นพี่รู้ว่าเป็นขิม แล้วพี่ก็ลงไปเพราะอยากเจอใช่ไหม”

ความเงียบคือคำตอบของเขาและเป็นความทรมานของผม

แต่ผมรู้ดีว่าความรู้สึกนี้จะหายไปเมื่อตื่นขึ้น ผมจะโอเคกับมันและมีความสุขไปกับเขาอีกครั้ง ทว่า...ไม่ใช่ตอนนี้

“ถ้าพี่ยังคิดถึง ผมไม่ว่าหรอกครับ ไม่มีสิทธิ์ว่าอะไรพี่ทั้งนั้นแต่แค่บอกผมตรงๆ อย่าให้ผมรู้เอง บอกผมให้ผมได้เตรียมใจบ้าง ขิมอยู่ในชีวิตของพี่ตั้งสี่ปี พี่คงลืมไม่ได้ง่ายๆ เพราะเป็นแบบนั้นผมถึงมีโอกาสมากขนาดนี้”

ผมหยุดตัวเองไม่ได้ หลุดปากพูดสิ่งที่อยู่ในห้วงคิดตลอดเวลาที่อยู่กับเขามาจนหมด ผมไม่พูดไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดอะไร ครั้งแรกที่เรามีเซ็กส์ด้วยกันชื่อของขิมก็ยังตามหลอกหลอนผม ภาพที่คนทั้งคู่รักกันผมก็มีเป็นอัลบั้มไว้ดูให้เจ็บใจเล่น ใบหน้าที่เหมือนกันกับผมที่เขาซุกซบ จูบดูดดื่มที่คนในรูปได้รับ แต่คนคนนั้นไม่ใช่ผม ผมควรจะรู้สึกยังไงวะ ควรจะทำใจแล้วลืมมันไปอย่างนั้นเหรอ...

“ขอโทษครับพี่นิก วันนี้ผมเหนื่อยเกินไปแล้ว”

ผมคงไม่ไหวแล้วจริงๆ สำหรับวันนี้ ไม่น่าหาเรื่องถามขึ้นมาเลย ทั้งๆ ที่คืนนี้ควรจะได้นอนหลับฝันดีเป็นคืนแรกหลังจากที่เดี้ยงเข้าโรงพยาบาล

“ถ้าวันนี้ขวัญไม่โอเค ให้พี่ไปนอนอีกห้องมั้ย” เขาถาม ในขณะที่ผมเสมองไปทางอื่น ผมอยากบอกว่าต่อให้ผมไม่โอเคแต่ผมก็ไม่อยากให้เขาไปไหน ทว่า...เขาเอ่ยปากขึ้นมาอย่างนี้ก็คงอยากไปเองล่ะมั้ง “แต่พี่อยากให้ขวัญรู้ไว้ว่าไม่ใช่เพราะขิม แต่เพราะขวัญที่เป็นขวัญ เป็นคนน่ารัก เป็นเด็กดีของพี่ ถ้าไม่ใช่ขวัญพี่ก็คงไม่รู้สึกมากขนาดนี้”

คำว่ารักคงพูดยากมากหรือความรู้สึกที่ว่าไม่ใช่ความรู้สึกรักกันแน่ ขนาดเขมินทรายังได้ยินคำว่ารักจากเขา แล้วผมล่ะ...คนที่เขาบอกว่ารู้สึกด้วยมากขนาดนี้ เคยฟังชัดๆ หรือยัง

“ครับ พรุ่งนี้ทุกอย่างจะโอเค วันนี้ผมขอโทษนะครับ”

“อืม”

คำตอบก็คือ...ไม่เคย


ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17


01:20 AM

ขวัญพัฒน์: ตายยัง

เขมินทรา: ไม่ถามหมารับใช้ของมึงล่ะว่าทำอะไรกับกู

ขวัญพัฒน์: มิสเตอร์ทีเขาจัดการตามเหมาะสม แล้วมึงก็ยังไม่ตาย จะโวยวายทำไม

เขมินทรา: ไอ้พี่เหี้ย มึงทักมาหาเรื่องกูใช่ไหม

ขวัญพัฒน์: เปล่า กูมีข้อเสนอ

เขมินทรา: คิดว่ากูจะรับข้อเสนอมึงเหรอ คนที่ไม่เคยช่วยกูอย่างมึงอะ

ขวัญพัฒน์: ข้อเสนอของกูมึงคงอยากรับจนตัวสั่นแน่

เขมินทรา: ว่ามาสักที

ขวัญพัฒน์: เปลี่ยนตัวกับกู

เขมินทรา: ห้ะ?

ขวัญพัฒน์: ตามนั้น

เขมินทรา: มึงเป็นบ้าอะไรไอ้สัดพี่ อย่าบอกนะว่าจะให้กูไปล่อเป้า มึงนี่มันเป็นพี่ที่ระยำที่สุดในโลกเลยไอ้ขวัญ มึงกะฆ่ากูให้ตาย

ขวัญพัฒน์: กูเกลียดมึงไอ้ขิม แต่ไม่เคยคิดจะฆ่า ไม่เหมือนมึงที่ป่วนกูจนประสาทจะกิน สำเหนียกตัวเองก่อนจะว่ากู

เขมินทรา: ไม่อยากเถียงกับคนอย่างมึง แล้ว...มึงจะให้กูทำอะไร

ขวัญพัฒน์: ไม่ต้องทำอะไร เป็นอย่างที่มึงเป็นนั่นแหละ ส่วนกูจะลองเป็นมึงดูบ้าง

เขมินทรา: มึงทะเลาะกับพี่ธนิกใช่มั้ย

ขวัญพัฒน์: เสือก

เขมินทรา: ไอ้ขวัญ มึงยื่นโอกาสให้กูเองนะ แล้วถ้ามึงต้องเสียใจ จะมาโทษกูไม่ได้

ขวัญพัฒน์: มึงก็มีความสุขดูบ้าง แล้วถ้ามึงได้โอกาสนั้น กูก็แค่ต้องยอมรับ

เขมินทรา: มึงเป็นไรมากมั้ย ทำดีกับกูอย่างกับจะหลอกกูไปฆ่า

ขวัญพัฒน์: มึงจะเอาไม่เอา ตอบมาคำเดียว

เขมินทรา: เออ แล้วเมื่อไหร่

ขวัญพัฒน์: พรุ่งนี้เย็น เตรียมข้อมูลของมึงไว้ให้กู

เขมินทรา: แล้วของมึงล่ะ

ขวัญพัฒน์: ไม่มี มึงเป็นมึงอย่างที่เป็น ไม่ต้องสวมรอย แล้วก็หาที่ปลอดภัยให้กู ขอการรักษาความปลอดภัยสูงสุด คอนโดฯ พ่อเลี้ยงมึงมีหลายโครงการ เลือกที่มันใกล้บริษัทพี่นิกให้กูด้วย

เขมินทรา: มึงเรื่องมากจังวะ

ขวัญพัฒน์: กูจะตายไม่ได้ มึงเข้าใจมั้ย

เขมินทรา: แล้วถ้ากูโดนสอยระหว่างที่เป็นมึงอยู่ล่ะ

ขวัญพัฒน์: ถือว่าฟาดเคราะห์ ไปรอกูที่นรกก่อนละกัน

เขมินทรา: อยากด่าทั้งหมดที่อยู่ในใจแต่ก็ขี้เกียจพิมพ์ สรุปว่ากูตกลง

ขวัญพัฒน์: อืม พรุ่งนี้เจอกันตอนเย็น

เขมินทรา: พี่

ขวัญพัฒน์:?

เขมินทรา: ขอบใจที่ช่วยไว้แล้วก็เรื่องพี่ธนิกด้วย

ขวัญพัฒน์: เออ





ผมวางโทรศัพท์มือถือลงข้างตัวแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้อง การหยิบยื่นโอกาสให้เขมินทราไม่ได้อยู่ในหัวของผมตั้งแต่แรกเพราะความจริงผมก็แค่เห็นแก่ตัวอยากลองเสี่ยงดู ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงติดอยู่ในใจของผมไปตลอดชีวิต แต่ผมก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดีที่ควรทำ ผมไม่ควรเล่นกับความรู้สึก เพราะไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบไหนก็ต้องมีคนเจ็บ ทว่าผมต้องการความชัดเจน ผมจะได้รู้ว่าควรเดินหมากต่ออย่างไร ในเมื่อผมไม่ได้มีแค่อดีตอย่างเขมินทราที่ต้องก้าวข้าม แต่ยังมีคุณนิ่มที่เป็นปราการด่านหน้าและคุณธนิษฐาที่เป็นปราการหลัก ผมจึงต้องเลือกวิธีนี้และอย่างน้อยหากว่าผลลัพธ์ออกมากลายเป็นผมที่เจ็บ ไอ้น้องนรกนั่นคงมีความสุขเหมือนคนอื่นๆ ได้บ้าง

ผมน่ะ...ไม่เป็นไรอยู่แล้ว ผมเยียวยาตัวเองได้ดีกว่าคนอื่น

ผม...ยิ้มเก่ง

อีกอย่าง...นอกเหนือจากเรื่องนี้ผมก็อยากจะรู้ว่าชีวิตของเขมินทราเป็นแบบไหน อยากรู้ว่าคนที่หน้าเหมือนผมอีกคนใช้ชีวิตมาอย่างไรและอยากรู้ว่าหากลองก้าวออกจากเซฟโซนของขวัญพัฒน์ ผมจะได้เจอโลกอย่างที่ขวัญพัฒน์ไม่เคยได้เจอไหม ผมคิดว่าผมไม่ได้ห่วงใยไอ้แฝดนรกของผมหรอก ความรู้สึกลึกซึ้งต่อกันก็ไม่น่าจะมี คงเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่อยากรู้จัก อยากเข้าใจมากกว่าล่ะมั้ง

ก๊อกๆ ๆ

ประตูห้องนอนถูกเคาะเบาๆ ก่อนจะถูกเปิดเข้ามา ผมเหลือบตามองไปที่ประตูก็เห็นคุณธนิกที่สวมเพียงแค่กางเกงนอนขายาวตัวเดียว เขาก้าวยาวๆ มาที่เตียงในขณะที่ผมทำทีไม่สนใจ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเพื่อเบนสายตาออกจากกล้ามอกแน่นๆ ของเขา

“พี่นอนไม่หลับถ้าไม่ได้นอนกับขวัญ ขอพี่นอนด้วยคน” เขาพูดแบบนั้นก่อนจะล้มตัวนอนข้างๆ ผม แล้วแขนยาวทั้งสองข้างก็ดึงผมเข้าไปกอด

“หลายคืนที่ผ่านมายังนอนได้” ผมว่าเขา ดิ้นขัดขืนให้รู้ว่าไม่ได้เต็มใจให้กอด

“นอนได้แต่ไม่หลับ” เขาแย้ง กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น “ยิ่งคืนนี้...ยิ่งหลับไม่ลง”

ผมหยุดนิ้วที่กำลังไถหน้าจอ ก่อนจะวางโทรศัพท์มือถือลงแล้วหันหน้าไปพูดกับเขาอย่างจริงจัง “นอนเถอะครับ”

“แต่ขวัญโกรธพี่”

“ผมแค่เหนื่อย ไม่ได้โกรธอะไรเลย”

หรือต่อให้โกรธผมก็ไม่ได้โกรธเขา ผมโกรธตัวเองมากกว่าที่หลุดการควบคุม

“ไม่ได้โกรธงั้นก็เชื่อใจกันได้ไหม”

คำว่าเชื่อใจควรใช้กับคนที่รักกัน ไม่ใช่กับคนที่บอกรักเขาฝ่ายเดียวอย่างผม

ผมไม่ได้ให้คำตอบ แต่เลือกหลับตาลง ตอนนี้วิธีหนีที่ดีที่สุดก็คือหนีไปอยู่ในความฝัน ฝันที่แม้จะเจอเขาอยู่ที่นั่น แต่ก็เป็นเขาที่จับมือผมไว้แน่นและยิ้มหัวเราะไปด้วยกัน ไม่ใช่เขาที่เต็มไปด้วยพันธนาการและลังเลที่จะมีความสุขไปด้วยกันกับผม









เช้าตรู่ของอีกวันไม่ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยความสดใส คำพูดที่บอกว่าพอตื่นเช้ามาแล้วทุกอย่างจะโอเคมันไม่เป็นจริงตามนั้น ผมตื่นมาอย่างเดียวดายบนเตียงที่มีร่องรอยว่าเคยมีใครอีกคนนอนอยู่ข้างๆ ทว่าพอควานมือหาก็พบเพียงแค่ที่นอนเย็นชืด คุณธนิกไม่ได้อยู่ในห้องน้ำ ผมจัดการธุระส่วนตัวแล้วลงมาข้างล่างก็ไม่เจอ ไม่มีข้อความอะไรบอกไว้

ดีเนอะ...นึกจะไปก็ไป นึกจะมาก็มา

ผมเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบนมกล่องใหญ่มาเทใส่แก้วพร้อมกับฉีกซองขนมปังไส้ถั่วแดง อาหารเช้าของผมง่ายๆ แค่เท่านี้ แต่ในขณะที่กำลังมีความสุขกับถั่วแดงหวานๆ เสียงแจ้งเตือนจากโปรแกรมสนทนาก็ดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูพลางขมวดคิ้วเพราะชื่อบัญชีที่ไม่คุ้นเคยส่งรูปมาให้ มันดูผ่านการแจ้งเตือนไม่ได้ถึงต้องตัดใจวางขนมปังแล้วเข้าดูอย่างจริงจัง

หวังว่าคงไม่ใช่รูปเรียกน้ำยามเช้าที่เคยมีคนในกรุ๊ปไลน์หนังชีวิตส่งมาให้ผมดูหรอกนะ ไม่อย่างนั้นได้ฮึ่มแต่เช้าแน่





07:30 AM

X: Send a photo.

X: Send a photo.

X: Send a photo.

X: Send a photo.

X: มีความสุขในนรกดีไหม ขวัญพัฒน์ :)





เข้าใจความรู้สึกของการถูกตบจนหน้าชาก็ตอนนี้ แม้ว่าผมจะไม่เคยถูกตบเลยก็ตาม แต่มันชาจริงๆ รูปแรกที่คุณธนิกกับคุณนิ่มนั่งยิ้มให้กันในร้านข้าวต้มยามเช้าเหมือนมือซ้ายของ X ฟาดลงบนหน้าผม รูปที่สองที่คนทั้งคู่กำลังวิ่งออกกำลังกายด้วยกัน เหมือนมือขวาซัดเข้าที่ใบหูจนได้ยินเสียงวิ้งและอีกสองรูปที่คนสองคนกำลังยิ้มอย่างมีความสุขด้วยกันเหมือนหมัดหนักๆ เข้าที่สันกรามทั้งสองข้าง





ขวัญพัฒน์: นรกวันนี้ดีทีเดียวครับ อากาศกำลังร้อนได้ที่ น้ำในกะทะทองแดงก็อบอุ่นดีพอควร

X: แล้วต้นงิ้วล่ะจ๊ะ หนามยังแหลมคมอยู่มั้ย

ขวัญพัฒน์: มาปีนด้วยกันสิครับ จะได้รู้ ว่าแต่คุณ X เป็นบ่าวจากเรือนคุณหลวงที่ไหนครับเนี่ย

X: อะไร

ขวัญพัฒน์: ช่างยุแยง เสี้ยมเก่ง ผมชื่นชมมาก ฝีมือถ่ายรูปก็ดี๊ดี ชัดทุกรูป อย่างกะจ้างช่างภาพมาแอบถ่ายตัวเอง มุมดีเหลือเกิน

X: ปากดีเข้าไปเถอะมึง

ขวัญพัฒน์: ก็ปากดีแบบนี้ไง พี่นิกก็เลยติดใจ ว้าาา แย่จัง เมื่อคืนก็ซมซานกลับมาซุกเราทั้งคืน คงมีคนนอนแห้งเหี่ยวอยู่แน่เลยยย

X: ร่าน!

ขวัญพัฒน์: เฮ้อออ ไอ้เราก็ว่าเราเด็ดพอตัวนะ เอวก็พลิ้ววว

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

X: มึง!!! มึงต้องไม่ตายดี!

ขวัญพัฒน์: อกแตกตายไปเลยเด้อ ถ้ามีรูปอนุบาลแค่นั้นอย่ามาอวด กูไม่สะเทือน ดูรูปกูก่อนสิ จะเก็บเอาไปเป็นกรณีศึกษาก็ได้นะ ไม่หวง ไม่เห็นหน้าสักรูปแต่คงรู้นะว่ารอยสักแบบนั้นมีพี่นิกสักคนเดียว ลิมิเต็ดมากผัวคนนี้ รักกกเพราะกล้ามแน่นและแซ่บมาก

X: มึงมันร่าน มั่ว! น้องมึงก็อีกคน ไอ้แฝดนรก! กูจะส่งพวกมึงไปอยู่ด้วยกันที่นรก หลุดจากคนน้องก็มาคนพี่ พวกมึงมันสัมภเวสี ชอบลักกินของชาวบ้าน

ขวัญพัฒน์: แล้วไง อย่างน้อยกูกับน้องก็ได้กิน แล้วมึงล่ะ ได้กินเขาหรือยัง หรือว่าแห้งจนใยแมงมุมขึ้นแล้ว

ขวัญพัฒน์: ว่าไงคุณนิ่ม มึงได้กินหรือยัง :)

X: มึงพูดอะไรของมึง

ขวัญพัฒน์: ถ้าไม่ใช่คุณนิ่มก็เพื่อนคุณนิ่มเหรอหรือคนรู้จักคุณนิ่มหรือองครักษ์พิทักษ์ใจคุณนิ่ม เอ๊ะๆ ๆ ยังไงดี

ขวัญพัฒน์: แต่ไม่ว่ามึงจะเป็นใคร กูบอกไว้ตรงนี้ พี่นิกไม่แต่งงานกับใครหน้าไหนทั้งนั้น เขาเป็นของกู

ขวัญพัฒน์: ของกู

ขวัญพัฒน์: ของกู

ขวัญพัฒน์: ของกู

ขวัญพัฒน์: ของกู

ขวัญพัฒน์: ของกู

ขวัญพัฒน์: ของกู

ขวัญพัฒน์: ของกู

ขวัญพัฒน์: ของกู

ขวัญพัฒน์: ของกู

ขวัญพัฒน์: อ้าว...ไม่อ่านเลย บล็อกแล้วเหรอ ขี้ขลาดจังวะ





ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากร้ายใส่ใคร แต่สถานการณ์ทุกอย่างมันบังคับ ผมชอบความสงบ ไม่วุ่นวาย โกรธแค้นใครก็ไม่เคยทำได้นาน ปกติผมก็ปล่อยเบลอไปอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมอยู่เฉยให้ใครรังแก





ขวัญพัฒน์: พี่นิก อยู่ไหน

ขวัญพัฒน์: ออกไปทำไมไม่บอก

ขวัญพัฒน์: เป็นผีเหรอ แว๊บไปแว๊บมา

ขวัญพัฒน์: กินโจ๊กกับว่าที่เจ้าสาวเสร็จแล้วก็มาคุยกันหน่อย

ขวัญพัฒน์: Send a photo.

ขวัญพัฒน์: นอนเปลือยรออยู่นะครับ





ผมวางโทรศัพท์มือถือแล้วหยิบขนมปังไส้ถั่วแดงขึ้นมากินต่อ รูปที่ผมส่งไปนั้นผมถ่ายไว้นานแล้ว ทำใจกล้านานเลยแต่คิดว่าคงได้ใช้ แล้วก็ใช่จริงๆ ถ้าเรียกผีต้องจุดธูป งั้นการเรียกคุณธนิกก็ต้องใช้รูปหื่นกามแบบนี้แหละ





คุณธนิก: ลบรูปซะน้องขวัญ

คุณธนิก: ทำอะไรไม่คิดอีกแล้วนะ ถ้ามีคนแฮคเครื่องขึ้นมารูปเราคงว่อนเน็ต

ขวัญพัฒน์: ว้าว ตอบแล้ว

คุณธนิก: ทำแต่เรื่องที่พี่คาดไม่ถึงนะเรา แล้วใครถ่ายให้

ขวัญพัฒน์: ใครสักคนที่พี่นิกไม่รู้จัก ใครสักคนที่อาจจะได้ตัวผมเหมือนที่พี่นิกได้

คุณธนิก: พี่จะโกรธแล้วนะขวัญ ทำไมทำแบบนี้วะ

ขวัญพัฒน์: คิดว่าผมไม่โกรธเหรอตอนนี้ พี่ไประรื่นกับเขาแล้วไม่บอกผมสักคำ

คุณธนิก: รู้ได้ยังไง

ขวัญพัฒน์: ไม่สำคัญหรอก แล้วถามแบบนี้พี่นิกคิดจะปิดผมเหรอ

คุณธนิก: พี่ไม่อยากทะเลาะด้วยนะขวัญ อย่างี่เง่าให้มาก

ขวัญพัฒน์: โอ้โห...ถึงกับต้องแคปหน้าจอเก็บไว้เตือนใจตัวเองเลย

คุณธนิก: ขอโทษครับ พี่หงุดหงิด

ขวัญพัฒน์: พี่นิกยังไม่ตอบคำถามผม

ขวัญพัฒน์: ทำไมถึงไม่บอกว่าไปกับเขา เขีียนโน๊ตไว้ก็ได้ โพสอิทก็มีอยู่ในห้อง ไลน์ก็มีไม่พิมพ์บอกไว้ล่ะ

ขวัญพัฒน์: หรือตอนเช้าสมองไม่ทำงาน ปล่อยเขาลากเขาจูงไปไหนก็ได้

คุณธนิก: นิ่มมาหาที่บ้านแล้วพี่จะมีเวลาบอกเราตอนไหน นี่ก็เพิ่งได้มือถือคืน

ขวัญพัฒน์: อะไรวะ ยอมเขาอะไรขนาดนั้น ทีผมจะยุ่งกับมือถือพี่ พี่ยังไม่ยอม แต่ทำไมเขาทำได้

คุณธนิก: ขวัญ พี่กำลังจะแต่งกับเขานะ มันเป็นเรื่องที่เขาทำได้ สิทธิ์ของเขา

ขวัญพัฒน์: รู้ครับ ไม่ต้องย้ำ





ผมถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วผ่อนออกมาอย่างแรง เจ็บแปลบที่ใจแต่หัวร้อนมากกว่า สิทธิ์ของเขาเหรอวะ งั้นสิทธิ์ของผมก็คงมีแค่ตอนที่อยู่กันสองคนแค่นั้นใช่ไหม

เวรเอ้ย! ผมเลือกทางนี้เองแท้ๆ แต่เสียการควบคุมอีกแล้ว





คุณธนิก: เรื่องเมื่อคืนก็ยังไม่ได้เคลียร์ ตอนนี้จะทะเลาะกับพี่อีกเหรอขวัญ ทีละเรื่องมั้ย ไหนบอกจะมีความสุขด้วยกันไง

ขวัญพัฒน์: แล้วผมเลือกอะไรได้บ้างครับ มีสิทธิ์เหมือนคุณนิ่มเหรอ

คุณธนิก: ขวัญมีสิทธิ์ทุกอย่าง แต่พี่ขอให้ใจเย็นลงหน่อย เมื่อก่อนขวัญเป็นเด็กน่ารักกว่านี้

ขวัญพัฒน์: ยิ้มแห้งเลย น่ารักหรือหน้าโง่ก็แยกไม่ออกแล้ว ดีที่มีคนด่าผมว่าหน้าโง่บ่อยๆ ก็เลยรู้ตัว

ขวัญพัฒน์: เจ็บดีนะครับ รักคนอย่างพี่นิกเนี่ย

ขวัญพัฒน์: แล้วเอาไงครับ จะกลับมาหาผมมั้ย

คุณธนิก: ตอนเย็นนะ พี่จะส่งนิ่มกลับบ้านแล้วเข้าบริษัทเลย

ขวัญพัฒน์: ฟีลลิ่งชู้รักมาเต็มอะ เจอกันตอนพี่เงี่ยน พี่เหงา พี่ว่างงี้เหรอ

คุณธนิก: ถ้าไม่หยุดประชดพี่ พี่จะไม่คุยกับขวัญแล้วนะ

คุณธนิก: ไปสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะครับ

ขวัญพัฒน์: ผมชักอยากทุบสถานีรถไฟทิ้งแล้วเปลี่ยนมันเป็นสนามบินแล้วสิ

ขวัญพัฒน์: พี่ไม่รู้หรอกครับว่าคนอย่างผมถ้าหมดความอดทนแล้วจะเป็นยังไง

ขวัญพัฒน์: พี่จะขึ้นเครื่องบินไปกับคนอื่นก็ได้ แต่บอกผมก่อน ผมคือคนสำคัญของพี่ไม่ใช่เหรอ แล้วมองไม่เห็นหัวผมแบบนี้ พี่รู้นะครับว่าผมมีปัญญาซื้อเครื่องบินไปชนกับพี่ได้

ขวัญพัฒน์: อย่าบังคับให้ผมต้องทำแบบนั้นเลย เพราะผมยังอยากเป็นขวัญพัฒน์ที่น่ารักของพี่

คุณธนิก: ขวัญขู่พี่เหรอ ปีกกล้าขาแข็งอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ขวัญพัฒน์: ทิ้งคุณนิ่มไว้ที่นั่นแล้วกลับมาหาผมครับพี่นิก

ขวัญพัฒน์: เพราะถ้าพี่ไม่มาตอนนี้ ผมจะไม่อยู่คุยกับพี่แล้วนะ





ผมก็ขู่ไปอย่างนั้น ทำจริงจังไม่ได้สักอย่าง แต่ที่ว่าจะไม่อยู่คุยแล้วผมพูดจริง เพราะเย็นนี้ต้องส่งไม้ต่อให้เขมินทรา ฉุกละหุกไปหน่อย ถึงอย่างนั้นมันจะผ่านไปด้วยดี ที่ห่วงก็มีแค่ว่าผมดันสร้างเรื่องปากดีกับ X ไปซะได้ ไม่รู้ไอ้น้องโง่มันจะโดนลูกหลงไปด้วยมั้ย แต่คนอย่างมันคงไม่ตายง่ายๆ ว่าแต่ตอนนี้ผมควรทำอะไรต่อ นอกจากนั่งเคี้ยวขนมปังไส้ถั่วแดงโง่ๆ ที่กินมาเป็นชาติแล้วก็ยังไม่หมดลูกนี้ ผมควรทำอะไรอีก...

สมองมันตื้อๆ เบลอๆ ภาพตรงหน้าพร่าเลือน ตอนเด็กคงไม่ค่อยได้กินปลาผมถึงได้ไม่ฉลาดสักที แค่...น้ำตาก็ยังควบคุมไม่ได้ ไส้ถั่วแดงหวานๆ ถึงได้เค็มไปหมด

ทำยังไงน้ำตาจึงจะหยุดไหล...

นอกจากเช็ดมันออกจากใบหน้าแล้วผมทำอะไรได้บ้าง

พออยู่คนเดียวแล้วน้ำตาก็ไหลลงมาดื้อๆ ถ้าน้าลีอยู่ผมคงบอกน้าว่าไม่ไหว ถ้าไอ้หลงอยู่ผมคงบ่นกับมันทุกเรื่องที่อยู่ในใจและถ้าไปหาไอ้แนนตอนนี้ได้ ผมคงจะกอดมันแน่นๆ แล้วร้องไห้กับอกกว้างๆ ของมัน

แต่ผมสู้อยู่คนเดียว เหนื่อยจนแทบไม่ไหวแล้ว

“ขวัญ” เสียงเรียกของคุณธนิกทำให้ผมรีบปาดน้ำตาออกจากใบหน้า กลืนก้อนสะอื้นลงคอ ก้มหน้าอยู่อย่างนั้นจนแน่ใจว่าไม่มีน้ำตาสักหยด

“มาเร็วดีนะครับ” ผมยิ้มให้เขา แต่สีหน้าของเขาดูไม่ยินดีกับรอยยิ้มของผม

“ร้องไห้ทำไม” เหมือนเป็นคำถามโง่ๆ ที่ทำให้หัวใจของผมเหนื่อยมากขึ้น เขาเหมือนเด็กที่ตบหัวผมจนผมร้องไห้แล้วถามผมว่าร้องไห้ทำไม คำตอบชัดอยู่แล้วแต่ก็ยังถาม ผมจึงไม่ตอบ

แต่ในขณะที่คิดว่าพอเถอะ ผมควรพอสักที อ้อมกอดของเขาก็กลายเป็นตัวฉุดผม

“ไหวมั้ย” และแค่เขาถาม

แค่นี้เอง...ผมก็พร้อมจะตอบเขากลับไปว่า “ไหวครับ”

“รู้ไว้นะ ไม่มีใครสำคัญไปกว่าขวัญนะครับ”

ยกเว้นแม่ของพี่

“อย่าคิดมาก”

ผมทำไม่ได้

“เชื่อใจพี่”

ผมทำไม่ได้

“เข้าใจพี่”

ผมทำไม่ได้

“แล้วก็รอพี่นะครับ”

ผมยิ้มให้เขา “ครับ”

“พี่จะกลับไปหาขวัญที่สถานีรถไฟแล้วเราจะขึ้นรถไฟไปด้วยกัน”

โกหก ก็แค่คำโกหก

“ครับ นึกว่าจะต้องเผาสถานีรถไฟทิ้งซะแล้วสิ”

“อย่านะครับเด็กดื้อ ไม่งั้นเราจะรอพี่ที่ไหนล่ะ บอกว่ารอแล้วก็ต้องรอนะขวัญ ห้ามผิดคำพูด”

“ถ้าจะมีใครผิดคำพูด คนนั้นจะไม่ใช่ผมแน่นอนครับ”

ตอนที่ผมกำลังท้อ ตอนที่ผมกำลังเหนื่อย แต่เขา...มาทันเวลาทุกที

ไฟแช็คกับน้ำมันเชื้อเพลิงในมือของผมจึงถูกโยนทิ้งไป

ชานชาลาแห่งนั้นจึงยังคงมีขวัญพัฒน์ในร่างโง่ที่ผมทิ้งไว้ตรงนั้นตามเดิม

..................To be Continue.......................


ถึงร้ายก็รักนะเกเรยังไงก็รักนะ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
สามีกากแห่งปี 2018 ได้แก่ คุณธนิก
ทำไมเป็นพระเอกที่รู้สึกว่าไม่มีความพยายามจะปกป้องคนที่รักเลย เทียบกับพระเอกคนก่อนๆ อย่าง ป๋าพ่าย ที่ถึงจะปากร้าย แต่ก็ปกป้องนังเพี้ยน (ทั้งที่นังเพี้ยนไม่ได้บองบางน่าถนอมเลย)​หรือจะพระเอกบื้อๆ อย่างเฮียทอง ก็ยังยอมทำทุกอย่างเพื่อชงโค

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ทิ้งไปเถอะหลัวแบบนี้  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :เฮ้อ: แต่ละคน

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ทำอะไรสักอย่างสิคะคุณธนิก แฝดจะสลับตัวกันแล้วเนี่ย xนี่คือคุณนิ่มรึคุณแม่ ร้ายมากเลยนะ แต่ไม่แซ่บเท่าน้องขวัญ ชอบขวัญเวอรชั่นร้ายๆจังเลย อย่าไปร้องไห้บ่อยนะน้อง

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณธนิกคือแบบพักก่อนนน จะต้องพิมพ์ว่าสงสารน้องขวัญอีกกี่ตอน เหนื่อยแล้วนะคนใจร้าย

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พระเอกที่ขี้ขลาดและกาก และuseless 2018

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
โอ้ย!!! ชอบบบบบบบ
ชอบขวัญร่างเกรี้ยวกราด  o13 o13

ออฟไลน์ hunhan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เหนื่อยนะ เอาจริง
ถ้าไม่พยายามที่จะรักษาแต่อยากเก็บเอาไว้ก็ไม่ต้องทำค่ะ ชอบพี่ธนิกมากนะตอนนั้นพี่เขาเก่งและรักน้องขวัญมาก
ตอนนี้ก็ยังคงรักเช่นกันแต่ฉันก็เหนื่อยแต่เพราะคำว่ารักน้องขวัญมันค้ำคอนี้แหละน้องจึงทน
ไม่ได้อยากให้วันที่หมดความอดทนมาถึงแต่ถ้ามันเหนื่อยมากจริงๆฉันก็จะไป

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เรื่องนี้มีแต่คนเก่งๆ ยกเว้นคนเดียวพระเอก :z2:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
รอบตัวพี่นิกมีใครดีบ้าง ใส่หน้ากากกันทุกคน นัวคุณนิ่มน่าจะไม่นิ่มตามชื่อซะแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โหยยยยยย อิธนิก! ผัวเลว2018!  แกนี่มันโคตรของโคตรความเห็นแก่ตัวเลย เอียงคอทำหน้าแบ๊วสู้กับมันต่อไปน้องขวัญ อย่าไปถอย ถึงธนิกมันจะเลวยังไง มันก็ยังเป็นผัวน้อง  เสียทองเท่าหัวอย่าไปยอมเสียผัวเราให้ใคร สู้ๆ!!

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
นูปแห่งปีได้แก่ คุณธนิก กากเกิ๊นนนน ปล่อยให้คนรักตัวเองสู้อยู่คนเดียว แสรดดดดดดด ไม่ว่าขิมหรือขวัญด็น่าสงสารที่ต้องมารักคนแบบนี้   (-_-)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ชิปขวัญขิมแล้วค่ะ ลาก่อนคุณธนิก สวัสดีค่ะ  :call:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ขวัญร่างเกี้ยวกราดคือดี ซัดให้หมอบไปเลยน้องขวัญ :katai4:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ตัวละครลับจะเยอะเกินไปแล้ว นี่ขวัญต้องสู้รบกับใครไปถึงไหนเรื่องราวถึงจะจบสักที แต่ตอนนี้คิดว่าดีแล้วที่ขวัญสลับตัวกับขิมน่ะให้ขวัญถอยออกมามองจากมุมนอกบ้างอาจจะเห็นและคิดอะไรได้ง่ายขึ้นแต่ก็กลัวขิมโดนลูกหลงอยู่จากการที่ขวัญปะทะกับ X ยอมรับเลยว่าจากการอ่านสองตอนมานี้เรารู้สึกดีกับขิมเยอะกว่าก่อนมาก ชอบที่เวลาพี่น้องเขาคุยกันอารมณ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดอะ

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
โถ่ขวัญญญญญญญ  โอ้ย พระเอกเรื่องนี้ไม่ได้เรื่องเลยยยยยยย ขวัญ ขิม นิ่ม ลงทุนกว่า สู้กว่าในทุกๆด้าน ยิ่งถ้าไม่มีโมนะ ธนิกยิ่งไม่ได้เรื่องเข้าไปใหญ่ โว้ย ปวดหัว

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พี่นิกคนกาก 2018 ที่นางโลว์เทคด้้้้้้้้วยเพราะกากเป็นทุนเดิมและเป็นต้นทุนที่สูงมาก หงุดหงิดค่ะ ไปเปิดเครื่องดูดฝุ่นเล่นดีกว่า บั๊ยยส์

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ทำไมเหมือนคุณธนิกเป็นคนโลเลจัง

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เราว่าคนที่ร้ายที่สุดต้องเป็นนิ่มแน่เลย
พี่นิกคนกากแห่งปี
ขวัญตัดใจได้ไหมอะ สงสาร

ออฟไลน์ Ezi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุณธนิก หลอกขายฝันให้น้องขวัญตลอดเวลาเลย
อยากทำแบบน้องขวัญ เขย่าให้หัวหลุด แล้วถามว่า มึงจะเอายังไง!!!  :angry2: :z6:

อ่านไป ใจก้วูบไป จะเลิกอ่านมันก็ทำม่ายด๊ายยยย

ขอบคุณที่มาต่อทุกวันนะคะ ไหว้ย่อ  :call:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด