สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สวัสดีครับ! คุณธนิก ตอนพิเศษ 06/11/2018 Page 27  (อ่าน 133496 ครั้ง)

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

เขมินทรา: หรือถ้าไม่อยากไป เราสลับตัวกันมั้ย

ขวัญพัฒน์: จะดีเหรอ

เขมินทรา: นั่นสินะ อาจจะไม่ดีหรอก

ขวัญพัฒน์: ขิมอยากเจอคุณธนิกเหรอ ยังคิดถึงเขาใช่มั้ย

เขมินทรา: เปล่า ไม่อยากเจอ ไม่ได้คิดถึงอะไรด้วย ผมเกลียดเขาจะตาย ไม่อยากไปเจอหน้าหรอก

ขวัญพัฒน์: อืม งั้นพี่ไปนะ คืบหน้ายังไงจะบอก

เขมินทรา: ครับ ยังไงไลน์บอกด้วยนะ เป็นห่วง

ขวัญพัฒน์: รับทราบครับ

เขมินทรา: อย่าไว้ใจเขา อย่าให้เขาแตะต้องตัวพี่นะครับ

ขวัญพัฒน์: จะพยายามนะ



เฮลโลววว นี่เป็นห่วงหรืออยากไปเองพูดซิ ไปๆมาๆหมาหวงก้างเสียละม้าง กลัวเขาตกหลุมรักขวัญเข้าจริงๆ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
สักวันขวัญต้องฉลาดขึ้น เราเชื่ออย่างนั้น
พี่รักขวัญนะ ขวัญต้องสู้ !! :m31:

 o13 o13 o13

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นแหละ

คุณธนิกพาความยุ่งยากมาให้ขวัญทำไม

ใครมาดีมาเลวก็ไม่รู้

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 8

การตีสนิทและทำให้คุณธนิกไว้ใจโดยที่ตัวผมไม่หลงมัวเมาไปกับความอ่อนโยนของเขานั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ เลย เพราะคุณธนิกมีทักษะเฉพาะตัว โดยเฉพาะเรื่องการเอาอกเอาใจหรือการทำตัวโรแมนติกต่อคนที่เขาบอกว่ารัก ผมจึงต้องระมัดระวังหัวใจของตัวเองให้ดี ส่วนผมจะรู้ได้อย่างไรว่าได้ทำคำขอของเขมินทราลุล่วงนั้น เจ้าน้องชายของผมได้บอกไว้ว่า หากวันใดที่คุณธนิกเอ่ยปากจะพาไปพบพ่อของเขาที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาร่วมหลายเดือน วันนั้นก็คือวันที่ผมทำได้สำเร็จ แต่ผมคิดนะว่าผมคงไม่เก่งพอที่จะเข้าไปอยู่ในหัวใจของเขาอย่างที่เขมินทราเคยทำได้ อย่างมากผมก็เป็นแค่เงาหรือภาพซ้อนทับเท่านั้น ตัวตนของผมจริงๆ แล้วไม่ได้มีความพิเศษอะไรต่อหัวใจของคุณธนิกเลย

แค่ผมคิดแบบนี้ก็เจ็บขึ้นมา แล้วผมจะทนอยู่ข้างเขาได้นานยังไงไหววะ! นี่ถ้าผมฉลาดได้สักครึ่งของไอ้แนนล่ะก็ ผมคงจะหาคำตอบให้กับตัวเองง่ายกว่านี้

คิดเรื่องนี้ทีไรปวดหัวทุกทีเลย น้าลีบอกผมเสมอว่าผมไม่เหมาะกับเรื่องเครียดๆ ให้ยิ้มเข้าไว้ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็ต้องยิ้ม นิ้วชี้ทั้งสองข้างจึงแตะที่มุมปากแต่ละมุมแล้วยกขึ้น

ยิ้มสู้กับปัญหา! นั่นคือวิธีทางที่ดีที่สุดสำหรับคนโง่อย่างผม

“ทำไมมานั่งทำหน้าตลกอยู่หน้าบ้าน” เสียงของคุณธนิกทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมคงจะคิดเพลินไปหน่อย รู้ตัวอีกทีเขาก็มายืนยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า

“มาเร็วจังเลยครับ” ผมยกโทรศัพท์มือถือขึ้นดูนาฬิกา เพิ่งหกโมงครึ่ง เมื่อกี้เขาไลน์มาบอกว่าติดประชุมยังไม่เลิก แต่กลับมาถึงเร็วกว่าปกติ “ผมนึกว่าคุณธนิกจะมาตอนทุ่มกว่าๆ เห็นบอกว่าติดประชุม”

“เลิกแล้วครับ พอเลิกแล้วก็มาหาขวัญเลย ไม่อยากให้รอนาน”

“งั้นคุณธนิกก็ต้องรอก่อนแล้วล่ะครับ ตอนนี้ไอ้หลงยังไม่กลับมาเลย”

ผมมานั่งรอไอ้หลงอยู่หน้าบ้านนานแล้ว เพราะพอกลับมาก็ไม่เจอไอ้หมาเพลบอยของผม มันคงไปเดินเตร่อยู่ที่ซอยบ้านเศรษฐีอีกแน่ๆ คิดว่าเดี๋ยวมันก็กลับมาเพราะได้เวลาข้าวเย็นแล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มาสักที

“ได้สิ พี่นั่งรอเป็นเพื่อน” คุณธนิกนั่งลงเคียงข้างผม ไม่กลัวว่ากางเกงสีดำที่ตัดจากผ้าเนื้อดีของเขาจะเปื้อนฝุ่น

“ลุกก่อนครับ” ผมบอก อดไม่ได้ที่จะใส่ใจ “เดี๋ยวผมปัดให้ กางเกงจะได้ไม่เปื้อน”

เขายิ้ม ไม่ยอมลุก “กางเกงเปื้อนก็ซักได้ มือขวัญไม่ได้มีไว้ปัดฝุ่นให้พี่สักหน่อย”

มือของผมถูกเขากุมไว้ ก่อนริมฝีปากของเขาจะจรดลงบนหลังมือของผมเบาๆ “มือของขวัญมีไว้จับมือพี่ต่างหาก”

ไอ้เชี่ยแนน! มึงต้องผลิตยาห้ามใจเต้นแรงให้กูแล้ว!!

“ทำไมหน้าแดง เขินพี่เหรอ”

“เปล่าครับ ผมแค่ไม่ชิน”

“เสียดาย คิดว่าทำแบบนี้ขวัญจะเขินแล้วแท้ๆ” คุณธนิกหัวเราะอารมณ์ดี ก่อนจะยกมือขึ้นโยกหัวผมไปมา “เย็นนี้ขวัญอยากกินอะไรครับ พี่จะทำให้”

“ทำให้...หมายถึงจะทำกับข้าวให้กินเหรอครับ” ผมมองเขาอย่างไม่เชื่อ คนระดับคุณธนิกนี่นะเข้าครัวเป็น ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะขนาดคนไม่มีจะกินอย่างผมยังทำได้แค่ทอดไข่กับต้มมาม่า อาศัยว่าโตมาด้วยก๋วยเตี๋ยวร้านป้านีและกับข้าวฝีมือน้าลีเท่านั้น

“ใช่สิ หรือขวัญให้ทำอย่างอื่นล่ะ” แววตากรุ้มกริ่มของคุณธนิกบอกความนัยที่ผมเข้าใจได้ว่าเขาหมายถึงทำอะไร

“คิดให้พ้นเรื่องใต้สะดือหน่อยเถอะครับ”

“ฮ่าๆ ๆ” เขาหัวเราะเสียงดัง แววตาชอบใจปิดไม่มิด “ขวัญเป็นคนแรกเลยนะที่พูดกับพี่อย่างนี้”

“แล้วคนอื่นพูดยังไงล่ะครับ เขาบอกให้ทำ ทั้งๆ ที่โดนลวนลามอยู่น่ะเหรอ”

“ลวนลาม” คุณธนิกทวนคำ แล้วก็หัวเราะขึ้นมาอีก กว่าเขาจะหยุดได้ก็ใช้เวลาเกือบหนึ่งนาที “ตายๆ ขวัญรู้ตัวซะแล้วว่ากำลังโดนพี่ลวนลาม”

“ผมต้องรู้สิ” ผมย่นจมูกใส่เขา รู้สึกหงุดหงิดนิดๆ ที่เขาเอาแต่หัวเราะ

“กลับมาเรื่องทำกับข้าวดีกว่านะ” เขาว่าเสียงนุ่มขึ้นมา ทำไมถึงชอบใช้น้ำเสียงที่ทำให้ใจสั่นอย่างนี้ด้วยก็ไม่รู้ “พี่ทำกับข้าวเป็นแค่ไม่กี่อย่าง เพราะทำเป็นแค่ของที่ตัวเองชอบกิน”

“งั้นคุณธนิกก็คงทำของที่ผมอยากกินไม่เป็นหรอกครับ”

“มันเป็นของพิศดารเหรอ” คำถามของเขาแฝงไปด้วยความกวน “หรือเป็นของที่ไม่มีอยู่บนโลกมนุษย์”

“มันก็ต้องเป็นของที่คนกินได้สิครับ”

“อ้าว...ขวัญเป็นคนเหรอ” เขายังคงกวนไม่เลิก แต่พอผมกำลังจะยกมือทุบเข้าที่ไหล่ เขาก็รวบมือของผมไว้แล้วต่อความว่า “พี่นึกว่าเป็นเทวดาตัวน้อยๆ จะบอกว่านางฟ้าก็คงลิเกมากไปเนอะ”

“เทวดาก็ลิเกมากๆ”

“ก็คงจริง” เขายอมรับ หน้าแดงเล็กน้อย “แต่ขวัญของพี่ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ นะ”

ขวัญของพี่ ขวัญของพี่! ผมน่ะ...ผมน่ะไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้จะได้ยินคำที่หวานจับใจขนาดนี้ แต่ตอนที่เขาอยู่กับเขมินทรา เขาก็ปากหวานอย่างนี้สินะ ใช่ไหมล่ะ...ไม่ใช่แค่กับผมคนเดียวหรอก

“คิดอะไรอยู่เหรอ สีหน้าไม่ดีเลย”

“ผม…” ผมไม่อยากอยู่ใกล้คุณธนิกอีกแล้ว ถ้าผมขอไม่เชื่อคำพูดของเขมินทราจะได้ไหม ผมไม่แกร่งพอที่จะอยู่กับเขาโดยที่ไม่คิดอะไรได้ แต่ถ้าผมไม่ร่วมมือ ผมก็จะอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆ น่ะเหรอ ไอ้แนนจะมีอันตรายจริงๆ หรือเปล่า

“ขวัญครับ”

“ผมเป็นห่วงไอ้หลงครับ มันยังไม่กลับมาเลย” ผมยิ้มกลบเกลื่อน บอกปัดไปอีกเรื่องที่ไม่อยู่ในความคิด ยังไงขอผมคุยกับน้องชายอีกสักครั้ง คงต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้แน่ๆ

“ออกไปตามหามั้ย รออยู่ที่นี่ก็ไม่รู้เมื่อไหร่หลงจะกลับมา หรือว่าปกติจะกลับมาเวลานี้อยู่แล้ว” เขาถามพลางยิ้มอย่างใจดี ไม่ได้ทำหน้ารำคาญแล้วบอกให้ผมทิ้งไอ้หลงไว้และไปกับเขา

“ไอ้หลงมันกลับบ้านไม่เป็นเวลาหรอกครับ ยิ่งช่วงสืบพันธุ์มันจะหายออกจากบ้านเกือบสัปดาห์ มันน่ะชอบไปทำหมาบ้านคนอื่นท้อง แต่ก็ดีที่ไม่ต้องไปตามรับผิดชอบลูกๆ ของมัน”

“หลงเจ้าชู้เนอะ” คุณธนิกว่าแล้วหัวเราะ “แต่พี่ไม่เจ้าชู้นะ อย่างนี้จะรักพี่มากกว่าหลงได้รึยัง”

“โหยย ไม่หรอกครับ ผมน่ะชอบคนเจ้าชู้”

“แปลกคน”

“คุณธนิกก็แปลกที่มาชอบผม คนรวยๆ ดีๆ มีอีกเยอะ ดันเอาวินมอเตอร์ไซค์อย่างผมเป็นแฟนซะได้”

คราวนี้คุณธนิกไม่ยิ้มเหมือนอย่างเคย แววตาและสีหน้าของเขานั้นเริ่มมีริ้วความไม่พอใจ “ถ้าพูดแบบนี้กับพี่อีก พี่จะโกรธนะ”

“หรือมันไม่จริงล่ะครับ มันแปลกจริงๆ นี่นา”

“ขวัญ” เสียงของเขาลอดไรฟัน ดูเหมือนเขากำลังพยายามระงับโทสะ “ใครจะดูถูกขวัญก็ให้เขาพูดไป แต่ขวัญห้ามดูถูกตัวเอง จะวินมอเตอร์ไซค์หรือลูกคนรวยที่ไหน ถ้าพี่รัก พี่ก็คบได้ทั้งนั้น พี่ก็ไม่ใช่คนวิเศษวิโสมาจากไหนหรอก พี่ก็คนธรรมดาเหมือนขวัญนั่นแหละ”

“แต่คุณธนิกรวย”

“พ่อแม่พี่ต่างหากที่รวย ถ้าไม่มีพวกท่าน พี่ก็แค่ไอ้กระจอกคนหนึ่ง”

ผมยกมือขึ้นแตะข้อศอกเขาเบาๆ “ผมขอโทษครับ คุณธนิกอย่าพูดแบบนี้เลยนะ”

“เห็นไหม เวลาพี่ดูถูกตัวเอง ขวัญก็ยังไม่ชอบเลย อย่าพูดแบบนี้อีกนะครับ เพราะเวลาขวัญพูดในสิ่งที่คนฟังเขาไม่ได้คิด คนฟังเขาจะรู้สึกแย่ไปด้วย”

“ครับ ผมขอโทษครับ”

คุณธนิกคลี่ยิ้มพลางยกมือขึ้นลูบศีรษะของผมเบาๆ “ภูมิใจในตัวเองเถอะนะ เพราะพี่ภูมิใจมากๆ ที่ได้เป็นแฟนขวัญ”

จะเป็นอะไรไหมนะถ้าผมจะยิ้มกว้างๆ ให้เขา คำพูดของเขาทำให้ผมรู้สึกเต็มอิ่มในใจ เมื่อนานมากแล้วที่ผมเคยร้องไห้อยากได้จักรยานเหมือนอย่างเพื่อนคนอื่นๆ ในซอย แต่น้าลีไม่มีเงินซื้อคันใหม่ให้ ที่ให้ผมได้ก็แค่จักรยานคันเก่าที่ลุงแดงบ้านข้างกันไปรับซื้อของเก่ามาได้ น้าลีขอซื้อมาในราคาที่ถูกแสนถูกและนำไปซ่อมให้สามารถขี่ได้ในราคาไม่กี่ร้อยบาท ทว่าของเก่ายังไงก็ไม่เหมือนของใหม่ ตอนนั้นผมยังเด็ก ผมอายมากที่จะต้องขี่มันไปโรงเรียน พวกไอ้วันก็ล้ออยู่ตลอดที่ผมมีแต่ของเก่าๆ ใช้ มานึกเสียใจก็ตอนนี้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะพูดขอบคุณน้าลี ไม่ใช่ทำท่าปั้นปึ่งใส่จักรยานคันเก่าคันนั้น

“คุณธนิกเห็นจักรยานคันนั้นมั้ยครับ นั่นนะเคยเป็นจักรยานที่ผมใช้ตอนเด็กๆ” ผมชี้ให้คุณธนิกดูจักรยานเก่าสนิมเขรอะที่จอดฝุ่นจับรวมกับขยะรีไซเคิลอย่างอื่น “ผมอายทุกครั้งที่ต้องขี่มันไปโรงเรียน มันไม่มีเกียร์ปรับระดับได้เหมือนจักรยานรุ่นใหม่ๆ เอาไปอวดเพื่อนในห้องก็ไม่ได้ มีแค่ไอ้แนนคนเดียวที่บอกว่าเท่มาก แต่ผมว่าไอ้แนนมันรสนิยมแปลกมากกว่า ผมไม่เคยภูมิใจกับของที่ผมมีเลย เพราะมันทั้งเก่า ทั้งไม่สวย เป็นของมือสองที่น้าลีหามาให้ ผมเพิ่งมานึกได้ตอนนี้เองว่าของทุกอย่างที่ผมมี น้าลีจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเก็บเงินซื้อให้ผม แต่ตอนนั้นผมก็ทำตัวไม่ดีเลย”

“น้าลีคงรักขวัญมาก” น้ำเสียงของคุณธนิกอ่อนโยนจนผมต้องเอียงศีรษะไปซบที่ไหล่ของเขา ในขณะที่นิ้วมือซึ่งไม่ผ่านการใช้งานหนักจึงไม่สากเท่ากับนิ้วของไอ้แนนกำลังบรรจงเช็ดน้ำตาที่ไหลออกจากหางตาของผมให้เบาๆ “แต่ขวัญก็เป็นเด็กดีตอบแทนน้าแล้วนะ ขวัญเติบโตมาโดยไม่นอกลู่นอกทาง แค่นั้นน้าลีก็ภูมิใจในตัวขวัญมากแล้ว”

“มีใครเคยบอกคุณธนิกมั้ยครับว่าคุณธนิกปลอบได้เก่งมากเลย”

“ไม่มี” เขาบอกพลางจูบที่ขมับของผม “เพราะพี่ปลอบขวัญคนเดียว”

คุณธนิกชอบที่จะทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนสำคัญ ผมอยากให้ถ้อยคำนี้ไม่ใช่การโกหก อยากให้มีความเป็นจริงในคำพูดของเขาบ้าง

“แล้วคุณขิมล่ะครับ คุณธนิกไม่เคยปลอบเขาเหรอ”

“ไม่เคย” เขาตอบแทบจะในทันที “พี่กับขิมไม่ค่อยมีช่วงเวลาแบบนี้ด้วยกันหรอก”

“ทำไมล่ะครับ”

“เพราะเราไม่เคยจริงใจต่อกันเลย เราคบกันเพราะเหตุผล แล้วเราก็เลิกกันเพราะเหตุผล ไม่มีความรู้สึกไหนที่เกิดขึ้นกับขวัญจะเหมือนความรู้สึกของพี่ในตอนนั้น”

“ผมเชื่อได้ใช่มั้ยครับ”

“ไม่ต้องก็ได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องจำเป็นของเรา ความรู้สึกของเราที่มีต่อกันต่างหากที่จำเป็น”

“ปากหวานจริงๆ”

“รู้ได้ยังไงว่าหวาน ขวัญชิมแล้วหรือยัง”

“งั้นไปชิมที่บ้านคุณธนิกดีกว่าครับ รอไอ้หลงกลับมาเราคงไม่ต้องกินข้าวกันพอดี”

“นั่นสินะ งั้นคืนนี้ขวัญไม่ต้องค้างกับพี่ก็ได้ พี่รู้ว่าขวัญไม่อยากทิ้งหลงหรอก เที่ยงคืนพี่จะมาส่งนะ”

“ครับ"

ถ้ามันเป็นเรื่องโกหก มันก็คงเป็นเรื่องโกหกที่ทำให้หัวใจของผมเต้นแรง

คุณธนิกลุกขึ้น ยื่นมือมาให้ผมจับ ผมจับมือเขาแล้วลุกขึ้นยืนเคียงข้าง แล้วจากนั้นเราก็เดินไปหน้าปากซอยซึ่งเขาบอกว่าจอดรถทิ้งไว้ที่นั่น

“ทำไมใจถึงขนาดที่จอดบีเอ็มไว้หน้าซอยมืดๆ อย่างนี้ล่ะครับ ไม่กลัวรถโดนกรีด โดนขโมยบ้างเหรอ”

“ไม่กลัว ไม่ใช่รถพี่”

“ฮ่าๆ ๆ แล้วเอารถใครมาล่ะครับ”

“ลูกพี่ลูกน้องน่ะ แล้วไล่มันกลับกับลุงกล้วย”

“คุณธนิกใจร้ายจัง”

“พี่ใจร้ายกับคนทั้งโลกแหละ แต่พี่จะใจดีกับขวัญแค่คนเดียว”

“ขอเถอะครับ ไม่หยอดสักชั่วโมงสองชั่วโมงนะ”

คุณธนิกหัวเราะ ดูเหมือนจะไม่ยอมทำตามคำขอ เพราะตลอดทางที่นั่งรถไปที่บ้านเขา เขาก็หยอดคำหวานให้ฟังจนหูตาพร่าเลือน เกือบจะเชื่อสนิทใจไปแล้ว แต่คำพูดของไอ้แนนและเขมินทรายังคงเป็นแนวป้องกันให้หัวใจของผมอย่างดี

บ้านของคุณธนิกไม่ใช่บ้านหลังใหญ่อย่างที่คิดไว้ มันเป็นบ้านเดี่ยวในโครงการบ้านที่ผมเคยเห็นในโฆษณาแต่ก็ไม่ได้เล็กตามขนาดบ้านทั่วไป บริเวณรอบบ้านนั้นร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งตระหง่านริมรั้ว สวนสวยถูกจัดตกแต่งไว้อย่างดีบ่งบอกถึงการเอาใจใส่ดูแลจนมีหญ้าสีเขียวขจีขนาดนี้ ผมเคยเห็นบ้านเศรษฐีบางบ้านที่มีพื้นที่พอจะมีสนามหญ้าก็ยังไม่มีความสวยเท่านี้เลย แต่บ้านในโครงการก็เหมือนกันแทบทุกหลัง จะมีแตกต่างบ้างหากบ้านไหนมีการต่อเติม บ้านของคุณธนิกอยู่หลังที่ห้านับจากปากทางเข้าที่มีพี่รปภ. คอยตรวจบัตรคนเข้าออก

“บ้านสวยจังครับ”

“ขวัญชอบมั้ย”

“ชอบครับ ชอบสนามหญ้าแล้วก็ต้นไม้ต้นนั้น ถ้าผูกชิงช้าไว้คงนั่งเล่นสบายเลย”

“ไว้จะหาชิงช้ามาผูกให้นะ”

“ไม่ต้องหรอกครับ” ผมรีบพูด รู้สึกเป็นบทสนทนาที่จะก่อเกิดอะไรบางอย่างก็เลยต้องหยุดไว้ “ว่าแต่ไม่มีใครอยู่เลยเหรอ”

“ไม่มีหรอก บ้านนี้มีพี่อยู่คนเดียว แต่ถ้าขวัญกับหลงมาอยู่ด้วยก็จะมีคนอยู่สองคนกับหมาอีกหนึ่งตัว”

“เดี๋ยวนะครับ ก็ไหนคุณธนิกบอกว่าจะพาไปที่บ้าน...”

พอเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาแล้วผมก็เข้าใจได้ทันที

“ชวนมาดูขวัญก็ไม่ยอมมานี่ครับ มาอยู่บ้านเดียวกันพี่จะได้อุ่นใจ แต่ขวัญก็ไม่ยอม”

“ร้ายมาก หลอกกันได้”

คุณธนิกเดินมาโอบเอวผมจากทางด้านหลัง เขาหอมแก้มของผมอย่างเอาใจ “หลอกเพราะรักนะ”

“ผมไม่เชื่อคุณธนิกแล้ว”

“โธ่”

“แล้วนี่ผมจะได้กินข้าวมั้ยครับ มันเป็นบ้านที่เข้าอยู่ได้เลยรึเปล่า”

“ตอนนี้ก็พอเข้าอยู่ได้ เพื่อนพี่ตกแต่งให้ใกล้จะเสร็จแล้ว ยังเหลือเก็บรายละเอียดที่ห้องพระกับห้องนอนแขก แต่เป็นห้องที่เราไม่ได้ใช้ ขวัญสบายใจได้ ห้องครัวน่ะพร้อมแล้วล่ะ เตียงนอนก็พร้อมมากๆ”

ผมส่ายหน้าระอา ยังไงซะคุณธนิกก็คิดแต่เรื่องจะกินผม “อยู่ไปคนเดียวเถอะครับ ผมไม่มาอยู่ด้วยหรอก”

“พี่จะรอจนขวัญใจอ่อน”

“ผมเป็นคนใจแข็งมากๆ”

“คนใจแข็งที่หัวใจเต้นแรงเวลาถูกกอดน่ะเหรอ”

ผมตีที่แขนของเขา ได้ยินเขาหัวเราะชอบใจแล้วก็ยิ่งหมั่นไส้ “ว่าแต่มีเพื่อนบ้านหรือยังครับ บ้านข้างๆ นี่มีคนอยู่ไหม”

“ยังไม่มีนะ แต่เพื่อนพี่บอกว่ามีคนจ่ายมัดจำไว้แล้ว คงเข้ามาอยู่เร็วๆ นี้”

“ถ้าเป็นคนดีๆ ก็ดีนะครับ มีเพื่อนบ้านจะได้ไม่เหงา”

“ไม่ดีหรอก ถ้าขวัญไปหลงเสน่ห์คนข้างบ้านพี่จะทำยังไงล่ะ”

“ทำใจสิครับ”

เขากัดที่แก้มผม “นี่แน่ะ ทำใจเหรอ”

“เจ็บนะ”

“ไม่คุยด้วยแล้ว เดี๋ยวขวัญชวนพี่ทะเลาะ เข้าบ้านกันเถอะครับ”

คุณธนิกชวนเข้าบ้านด้วยการจับจูงมือผมให้เดินตาม บ้านสมัยนี้ก้าวไกลจนถึงขนาดสั่งเปิดปิดไฟด้วยโทรศัพท์มือถือได้แล้ว ผมกับคุณธนิกจึงไม่ต้องเดินคลำทางให้ลุ้นว่าจะเดินชนอะไร พวกเราเดินผ่านประตูบ้านที่เปิดด้วยการคีย์รหัสและสแกนลายนิ้วมือ ผมมองด้วยความทึ่งจัด เพราะเมื่อคิดถึงเทคโนโลยีที่นำมาใช้แล้วราคาของบ้านหลังนี้คงไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ที่ทำให้ทึ่งมากกว่านั่นก็คือรูปถ่ายในกรอบขนาดใหญ่ที่ติดฝาผนัง มันเป็นรูปผมที่กำลังนั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ที่ยังผ่อนไม่หมด เสื้อวินสีส้มนั่นแหละที่ทำให้ผมแน่ใจว่าไม่ใช่รูปของเขมินทรา พื้นหลังที่เห็นก็เป็นหน้าบริษัทของคุณธนิก ข้างๆ นั่นก็คือป้อมยามของพี่เปี๊ยก รูปนี้เป็นรูปที่ผมชูสองนิ้วและฉีกยิ้มให้กับกล้อง

“นี่มันรูปที่พี่เปี๊ยกถ่ายไว้นี่ครับ”

“อ๋อ ใช่แล้ว เป็นรูปเดียวที่พี่มี พี่ขอจากพี่เปี๊ยกมา ที่จริงคิดอยู่ว่าบริษัทควรจะมีสวัสดิการแจกโทรศัพท์มือถือที่กล้องชัดๆ ให้กับรปภ. คนละเครื่อง ไม่อย่างนั้นคงได้รูปขวัญที่ชัดกว่านี้”

“ทำไมคุณธนิกต้องเอารูปผมมาติดไว้ด้วยล่ะครับ”

“เวลาออกจากบ้านจะได้มีกำลังใจไง”

ใบหน้าของผมร้อนผ่าวไปหมด กี่ครั้งกันนะที่คุณธนิกเล่นงานหัวใจของผมให้เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง “รูปนี้มันตลกจะตาย ดูเสล่อยังไงไม่รู้ ไม่ค่อยมีใครชูสองนิ้วถ่ายรูปแล้วครับ”

“แต่พี่ชอบนะ ดูซื่อๆ จริงใจดี”

“ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ไปทำกับข้าวกับเถอะครับ หิวๆ ๆ ๆ”

ถัดจากโถงทางเดินก็เป็นห้องนั่งเล่นที่มีเพดานยกสูง รอบด้านเป็นกระจกใสที่มีผ้าม่านสีน้ำตาลเข้มปิดไว้ โซฟาสีน้ำตาลที่น่าจะทำมาจากหนังแท้ก็ตั้งวางเป็นชุดขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง อีกด้านมีตู้หนังสือที่สูงจรดเพดาน แต่ตอนนี้ยังคงว่างเปล่า ไม่มีหนังสือเลยสักเล่ม

“ตรงนั้นพี่ยังไม่ได้ให้ช่างมาติดทีวี” คุณธนิกชี้ไปยังผนังว่างโล่งไม่ไกลจากตู้หนังสือ “ส่วนตู้นั้นก็จะเอาหนังสือจากที่บ้านมา ให้ขวัญไว้อ่านเล่น พี่สะสมหนังสือการ์ตูนด้วยนะ ส่วนที่เป็นผนังอีกด้านพี่เปลี่ยนให้เป็นกระจก กันทุกอย่างแม้กระทั่งกระสุนปืน ใช้อะไรทุบก็ไม่มีทางแตก เวลาขวัญมานอนอ่านหนังสือตรงนี้จะได้เห็นสวนสวยๆ ข้างนอกด้วย”

“คิดเผื่อไปถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ”

“ต้องคิดสิ จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนี่นา”

อยากให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมไม่อยากให้เรื่องที่คุณธนิกพูดมาทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องโกหกเลย

“พี่เตรียมห้องนอนไว้ให้ขวัญด้วยนะ ถ้าวันไหนขวัญเบื่อหน้าพี่ ขวัญก็หนีไปนอนห้องนั้นได้เลย หรือเวลาโกรธพี่ ขวัญก็หลบไปอยู่ที่นั่นได้ แค่ห้ามออกไปไหนก็พอ”

ผมฟังเขาพูดจนเกือบเคลิ้ม เขาชี้ให้ดูตรงนั้นตรงนี้ แล้วก็เล่าให้ฟังถึงความคิดของเขาไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็มาหยุดที่ห้องครัวซึ่งพร้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง

“เอาล่ะทีนี้ สั่งอาหารมาได้เลยครับ” คุณธนิกค้อมหัวราวกับบริกรที่กำลังต้อนรับลูกค้าเข้าสู่ร้านอาหารชั้นเลิศ

“คุณธนิกแน่ใจเหรอครับว่าจะทำได้”

“ขอฟังเมนูก่อนละกัน”

ผมคิดนิดหน่อย ก่อนจะบอกว่า “ข้าวผัดครับ ข้าวผัดไข่ธรรมดา ถ้ามีกุนเชียงใส่กุนเชียงด้วยก็ได้ครับ”

คุณธนิกชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมา “โล่งใจ พี่ก็นึกว่าจะยากกว่านี้ แต่ขอดูของก่อน เพื่อนพี่มันซื้อไว้ให้ ไม่รู้มันยัดอะไรไว้ในตู้บ้าง”

“คุณธนิกมีเพื่อนที่ดีมากเลยนะครับ ดูเหมือนเขาจะทำให้ทุกอย่างเลย”

“ต้องทำสิ มันอยากขายบ้านให้พี่จนตัวสั่นล่ะนะ”

คำพูดของเขาทำให้ผมหัวเราะ ผมเอาแต่นึกภาพพนักงานขายที่ตื้อขายบ้านในโครงการพร้อมกับรับประกันว่าจะให้บริการอย่างดีเยี่ยม “แพงมั้ยครับบ้านหลังนี้”

“ตอนแรกไม่แพง แต่พอตกแต่งแล้วแพงมากๆ”

“แค่ค่ากระจกก็แพงมากแล้วครับ”

“นั่นสิ แต่พี่อยากให้ขวัญอยู่ในบ้านที่ปลอดภัย”

“บ้านไหนที่มีคุณธนิกก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั่นแหละครับ”

“เป็นเด็กที่พูดจาใจร้ายจัง ไม่มีกุนเชียงแฮะ ข้าวก็ไม่มี รอแป๊บนะ พี่โทรบอกเพื่อนก่อน”

“เดี๋ยวครับ... ไม่ต้อง” ผมจะห้ามก็ไม่ทัน เพราะคุณธนิกยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรแล้ว

“เออ กูเอง มึงซื้อของยังไงไม่มีอะไรให้ทำแดกสักอย่าง มีแต่มาม่าเต็มตู้ แล้วบ้านไหนบอกให้เอามาม่าใส่ตู้เย็น ไปซื้อของมาให้กูเลย เออๆ เอาไข่ไก่ ข้าว กุนเชียง แล้วซื้อขนมอะไรมาก็ได้ จะให้ขวัญกินรองท้อง อืมๆ รีบๆ มา”

ผมเพิ่งเคยเห็นคุณธนิกคุยกับคนอื่นนอกจากผม พอคู่สนทนาไม่ใช่ผมแล้วเขาก็คุยปกติได้นี่นา ออกจะกระโชกโฮกฮากด้วยซ้ำไป “เวลาคุยกับเพื่อนไม่เห็นปากหวานเลย”

“จะหวานได้ไงครับ ไม่ได้คุยกับแฟนนี่นา” นั่นไง พอกลับมาคุยกับผมก็เสียงหวาน “ขวัญรอก่อนนะ เดี๋ยวเพื่อนพี่ซื้อของเข้ามาให้”

“ครับ ผมรอได้ ยังไม่ค่อยหิวหรอก”

“งั้นระหว่างนี้ไปดูห้องนอนกันมั้ย”

ผมเหล่ตามอง ดูไม่น่าไว้ใจเท่าไรเลย “แค่ดูนะครับ”

“แค่ดูครับ หรือขวัญคิดว่าพี่จะทำอะไร”

ผมไม่ตอบ เพราะกลัวว่าตอบไปแล้วจะเข้าตัวก็เลยเดินตามแรงจูงของคุณธนิกที่พาเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของบ้าน พอชะโงกหน้าลงมองก็จะเห็นห้องนั่งเล่นชั้นล่างเป็นรูปวงกลมขนาดใหญ่ ทำเอานึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าผมจะมาใช้ชีวิตอยู่ในที่สวยๆ แบบนี้ได้ยังไง

[ต่อด้านล่าง]

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
“ตรงนั้นเป็นห้องพระ ยังตกแต่งไม่เสร็จ ถ้าขวัญมาอยู่ที่นี่ ขวัญเอารูปน้าลีมาไว้ในห้องนั้นนะ ให้น้ามาอยู่ด้วยกัน” คุณธนิกชี้ไปยังห้องด้านซ้ายมือซึ่งเขาไม่ได้เปิดให้ดูแต่พาเดินผ่านไปยังอีกห้อง “นี่เป็นห้องส่วนตัวของขวัญ พี่ตกแต่งไว้ให้แล้วล่ะ ไม่รู้ขวัญจะชอบมั้ย ถ้าไม่ชอบค่อยปรับเปลี่ยนทีหลังได้ แต่งบจำกัดนะ เพราะพี่ใช้เงินเก็บไปเกือบหมดแล้ว”

“โหย ไม่สปอร์ตเลย”

“ขอเก็บเงินอีกนิดครับ”

ผมหัวเราะกับท่าทีของเขา “ผมไม่มาอยู่หรอกครับ ขอบคุณคุณธนิกนะครับที่ทำให้ถึงขนาดนี้ แต่ผมยังชอบบ้านเช่าของผมอยู่”

“ก็บอกแล้วว่าพี่จะรอจนขวัญใจอ่อน งั้นห้องนี้ยังไม่ดูนะ ไว้ขวัญมาอยู่จะได้เห็นตอนนั้นเป็นครั้งแรก เวลาอะไรที่เป็นครั้งแรกจะน่าประทับใจมาก”

“นั่นสินะครับ”

“เหมือนที่พี่เป็นครั้งแรกและจูบแรกของขวัญ พี่นอนไม่หลับไปครึ่งเดือน”

“โม้แล้วครับ เพิ่งเป็นเรื่องไม่กี่วันก่อนไม่ใช่เหรอ”

“อ้าว จริงด้วย แต่เหมือนนานมากเลยนะ”

ผมทุบไหล่เขาเบาๆ ก่อนจะเดินตามไปยังห้องนอนใหญ่ เป็นห้องที่มีประตูไม้โอ๊คบานใหญ่หนักๆ หนึ่งบาน ทั้งห้องตกแต่งด้วยโทนสีสบายตากับเฟอร์นิเจอร์เข้าชุดกัน มีเตียงนอนขนาดคิงไซส์วางตรงกลางห้อง ผ้าม่านสีครีมบดบังหน้าต่างแต่ละบาน ใกล้กันนั้นมีโซฟาเบดน่านอนอยู่หนึ่งตัว

“ห้องนอนของเรา เตียงใหญ่ขนาดนี้ขวัญคงไม่ใจร้ายให้พี่นอนคนเดียว”

“ผมใจร้ายครับ”

“ขวัญพัฒน์” เขาครางเสียงอ่อน ทำหน้าอ้อน “พี่กลัวผียิ่งกว่าหลงซะอีก”

“ไม่ได้ผลหรอก อย่ามาหลอกผมเลย”

เขาหัวเราะ ก่อนจะพาผมไปที่ระเบียงห้องที่ถูกแบ่งกั้นด้วยกระจกบานใหญ่ ที่ระเบียงมีไม้ประดับปลูกในกระถางวางไว้ตามมุม สายลมเย็นกำลังพัดใบของมันให้ลู่ไปตามลม ผมยืนมองภาพบรรยากาศอันเงียบสงบก่อนจะถูกเขาสวมกอดจากทางด้านหลัง

“ถ้าขวัญมาอยู่กับพี่ เราจะได้มองท้องฟ้าด้วยกันทุกคืน”

ผมแกล้งทำหูทวนลมกับน้ำคำหวานของเขาพลางมองลงไปด้านล่าง “มีสระว่ายน้ำด้วยเหรอครับ”

“อืม แต่พื้นที่จำกัดก็เลยไม่กว้างมาก หลงชอบว่ายน้ำมั้ย พามันมาว่ายน้ำก็ได้”

“มันไม่ชอบครับ แต่ผมชอบ”

“งั้นลองเลยมั้ย พี่มีกางเกงว่ายน้ำ...”

“เดี๋ยวนะครับ ทำไมคุณธนิกเตรียมพร้อมล่ะ”

“เพราะพี่อยากเห็นขวัญใส่กางเกงว่ายน้ำ”

“ผมมีพุงนะ”

“วันนั้นไม่มีนี่ หุ่นดีจะตาย กอดกำลังดี”

ผมอ้วนกว่าเขมินทรา เจ้าน้องชายของผมน่ะผอมบางกว่า แบบนั้นต่างหากที่จะเรียกว่าหุ่นดี ส่วนผมที่ไม่เคยออกกำลังกาย ชอบกินแต่ของมันๆ ของหวานๆ ก็ไม่รอดพ้นการมีพุงหรอก

“ตอนนี้อะไรผมก็ดีหมดแหละครับ ลองเบื่อกันดูสิ แค่หายใจก็ยังผิดเลย”

“ไม่มีเรื่องอย่างนั้นเกิดขึ้นกับเราหรอก”

“มีสิครับ คนเราเปลี่ยนกันได้ทั้งนั้น”

“บางเรื่องขวัญก็ดื้อมากๆ เลย แต่พี่จะทำให้เห็นเองว่ายังมีคนที่ไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ อยู่”

ผมเผลอกัดริมฝีปากของตัวเอง เพราะสิ่งที่กำลังคิดทำให้หัวใจเจ็บแปลบ “งั้นตอนนี้คุณธนิกก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากคุณขิมสิครับ ถ้าคุณธนิกเปลี่ยนไม่ได้ง่ายๆ”

แขนที่โอบเอวผมไว้คลายออกไป ก่อนที่มือของคุณธนิกจะจับไหล่ของผมให้หันหน้าไปเผชิญกัน “ทำไมเอาแต่พูดถึงขิม ขวัญจะลืมเรื่องที่พี่ทำไม่ดีไปไม่ได้เหรอ”

ผมหลบตาเขา ไม่กล้ามองตามตรง “คุณธนิกรักเขานี่ครับ”

“มันไม่เคยเป็นความรัก ระหว่างพี่กับขิมไม่มีความรู้สึกแบบนั้นอยู่”

ผมจะเชื่อใครได้ ระหว่างเขมินทรากับคุณธนิก ทั้งสองคนพูดกันคนละอย่าง น้องชายของผมเหมือนจะรักคุณธนิกมาก แต่คุณธนิกกลับพูดว่ามันไม่ใช่ความรัก หรือจะเป็นเพราะเขาแค่อยากหลอกผมเท่านั้นเอง

“แล้วทำไมถึงเผลอเรียกชื่อเขาตอนที่เรากำลังทำกันล่ะครับ”

“เพราะขวัญเหมือนเขามากยังไงล่ะ พี่อยู่กับขิมมาหลายปี พี่ยอมรับก็ได้ว่ามันเป็นความเคยชินที่เผลอเรียกออกไป แต่ขวัญจะไม่ให้โอกาสพี่เลยเหรอ”

“ผมเหมือนถึงขนาดไหนกันถึงทำให้เผลอเรียกออกมาได้ งั้นไม่ใช่เพราะผมเหมือนหรอกเหรอ คุณธนิกถึงชอบผม”

“ขวัญครับ” เขาก้มหน้าลง ให้ใบหน้าของเราใกล้ชิดกัน “ขวัญเหมือนเขาจนถ้าขวัญเจอเขาขวัญอาจจะตกใจ แต่พี่ไม่อยากให้ขวัญไปยุ่งเกี่ยวด้วย”

“ทำไมเหรอครับ”

“มันยากที่จะอธิบาย แต่พี่อยากให้ขวัญรู้ว่าขวัญเหมือนเขาแค่ภายนอก ตัวตนของขวัญต่างหากที่พี่ชอบ แค่ได้พูดคุยกันพี่ก็รู้แล้วว่าขวัญไม่เหมือนใคร”

เขาโกหกมึงอยู่แน่ๆ ไอ้ขวัญ มึงอย่าหลงเชื่อ ผมจำลองเสียงของไอ้แนนขึ้นในหัว “เหรอครับ”

“ขวัญไม่เชื่อพี่ก็ไม่เป็นไร” เขาว่าด้วยท่าทางอ่อนใจ แววตามีความตัดพ้อเล็กน้อย แต่ไม่นานก็คลี่ยิ้มออกมา “ไม่เชื่อใครง่ายๆ ก็ดีแล้ว พี่จะได้ไม่ต้องห่วง”

“แม้ว่าผมจะไม่เชื่อคุณธนิกด้วยเหรอครับ”

“อืม บางทีพี่ก็พูดเอาใจขวัญไปอย่างนั้น เพราะพี่อยากให้ขวัญเป็นของพี่เร็วๆ” ใบหน้าของเขาขยับเข้าใกล้มาอีกนิด “ทำหน้าสงสัยเหรอ เหตุผลของพี่ก็เป็นแค่เหตุผลของคนลามกที่ชอบชิมความหวานของขวัญเท่านั้นเอง”

ผมปล่อยให้ริมฝีปากของเขาทาบทับลงมาโดยไม่ถอยห่าง คุณธนิกบอกว่าชอบชิมความหวาน ผมจึงให้เขาตักตวงจนพอใจ แค่จูบสองจูบคงไม่เป็นไร แนวป้องกันของผมยังไม่สั่นคลอนลงหรอก

“ขวัญของพี่หวานมากจริงๆ” เขากระซิบเสียงพร่า บดจูบลงมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนริมฝีปากของผมที่ถูกดูดดุนนั้นรู้สึกเจ็บเล็กน้อย ทว่าการผลักไสเขาออกห่างนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากเหลือเกิน แต่แล้วระฆังหมดยกก็ดังขึ้น

ติ๊งต่อง!

เสียงออดสุดคลาสสิกดังขึ้นให้ได้ยิน คุณธนิกค่อยๆ ผละออกห่าง ความเสียดายปรากฎบนใบหน้า “พี่จะอดใจไว้ ตอนนี้ขวัญต้องกินข้าวก่อน ลงไปข้างล่างกันเถอะครับ”

ผมพยักหน้า เดินตามลงไปชั้นล่าง คุณธนิกบอกให้ผมรอที่ครัว ส่วนเขาเดินไปเปิดประตู ไม่นานก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังขึ้นที่โถงทางเดิน อีกไม่กี่วินาทีต่อมาชายร่างสูงพอๆ กับคุณธนิกก็ปรากฎตัวให้เห็น เขาหอบหิ้วเอาถุงจากซุปเปอร์มาด้วย ผมจึงรีบเข้าไปช่วย

“มาครับผมช่วย”

“เป็นเด็กดีนี่หว่า” เขาหันไปพูดกับคุณธนิกด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม แต่คุณธนิกแยกเขี้ยวขู่มาให้พลางส่งสายตาบางอย่างและดูเหมือนพวกเขาจะรู้กันอยู่สองคน “โอเคๆ "

“ขวัญ นี่เพื่อนพี่ ชื่อโม” คุณธนิกแนะนำ ผมจึงรีบยกมือไหว้ เพราะยังไงก็คงอายุมากกว่าผม

“สวัสดีครับ ผมชื่อขวัญครับ”

“สวัสดีครับน้องขวัญ” พี่โมยิ้มให้อย่างเป็นมิตร พลางวางถุงที่ถืออยู่ลงบนเคาน์เตอร์ “ว่าแต่จะทำอะไรกินกัน กูกินด้วยได้มั้ยธนิก ไม่เคยมีบุญปากกินกับข้าวฝีมือมึงสักที”

“ไม่ได้” คุณธนิกตวัดตามอง

“น้องขวัญ พี่อยู่ด้วยได้มั้ยครับ”

“เอ่อ...ผมว่าพี่ถามคุณธนิก”

“ฮ่าๆ ๆ” อยู่ๆ พี่โมก็ระเบิดหัวเราะออกมา “ไม่เหมือนเด็กนั่นนะ ถ้ากูถามแบบนี้คงเอามีดแทงกูไปแล้ว หึหึ”

“อย่าพูดมากไอ้โม จะกินด้วยก็ไปรอที่อื่น อย่ามาเกะกะในนี้”

“ทำเป็นเข้มเนอะ” พี่โมหันมาคุยกับผม “ขวัญอย่าไปยอมมันมากล่ะ ไอ้นี่มันเผด็จการ เดี๋ยววันดีคืนดีมันจับเราขังไว้แต่ในห้อง ระวังตัวไว้ด้วย”

“จริงเหรอครับ” ผมพอจะนึกภาพคุณธนิกทำแบบนั้นได้อยู่หรอก และคิดว่าคนอย่างเขาคงทำได้จริงๆ

“ไอ้โม! พูดอะไรของมึง ขวัญเชื่อคนง่ายอยู่ด้วย”

“ฮ่าๆ ๆ พี่โมล้อเล่นนะครับ มันไม่ใจร้ายแบบนั้นหรอก เวลามันขังมันก็ให้ออกไปเดินเล่นในบ้านบ้างครับ โอเคๆ ไม่พูดแล้ว ไปรอที่ห้องนั่งเล่นนะ”

พี่โมเดินหัวเราะอารมณ์ดีออกจากครัวไปแล้ว ในขณะที่คุณธนิกเอาแต่เสยผมด้วยความหงุดหงิด

“คุณธนิกครับ เด็กนั่นที่ว่าน่ะใครเหรอ”

“ไอ้โมมันก็พูดไปเรื่อยเปื่อย ขวัญมานี่สิครับ มาช่วยพี่ทำกับข้าว”

แม้ว่าผมจะสงสัย แต่คุณธนิกไม่มีทีท่าจะตอบคำถาม เด็กนั่นจะหมายถึงเขมินทราน้องชายของผมหรือเปล่า หรือหลังจากเลิกกันแล้ว คุณธนิกจะคบกับคนอื่นอีก ผมก็ไม่อาจรู้ได้ ไว้ค่อยไปถามกับพี่โมทีหลัง พี่โมดูจะเป็นคนคุยด้วยง่ายกว่าคุณธนิก แต่ก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่าเขาจะยอมบอกเรื่องที่ผมอยากรู้ไหม

“อดได้กินขวัญหลังมื้อเย็นเลย ไอ้โมต้องอยู่เป็นก้างจนดึกแน่ๆ” คุณธนิกบ่น เขาบ่นไปด้วยหั่นกุนเชียงไปด้วย ส่วนผมที่กำลังซาวข้าวก็อดยิ้มไม่ได้

“ดีแล้วครับที่พี่โมอยู่ ผมไม่อยากถูกกิน”

เห็นคุณธนิกเพิ่มแรงหั่นกุนเชียงแล้วผมก็ทำได้แค่หัวเราะ มองดูเผินๆ ก็เหมือนคนไม่มีพิษไม่มีภัย ถ้าไม่มีคดีมอมยาจนผมเสียตัว ผมก็อาจจะมองว่าเขาเป็นคนดีขึ้นมาก็ได้ ไหนจะคำพูดของเขมินทราที่บอกว่าเขาเป็นจอมโกหก ทุกอย่างที่เขาแสดงออกมาในวันนี้ถ้ามันเป็นเรื่องโกหกจริงๆ ผมก็คงไม่มีอะไรจะไปสู้กับคนที่แสดงเก่งขนาดนี้ได้แล้ว

“คุณธนิกครับ”

“ว่าไงครับ”

“ข้าวผัดไข่นี่นอกจากใส่ไข่แล้วจะใส่ใจลงไปด้วยหรือเปล่าครับ” ผมขยับเข้าไปใกล้ตัวเขาแล้วเขย่งเท้าเล็กน้อยเพื่อหอมแก้มเขาเบาๆ “ผมอยากกินหัวใจคุณธนิก”

“บอกว่าไม่อยากถูกกินแต่ก็ยั่วพี่” คุณธนิกแยกเขี้ยวใส่ “ถอยไป พี่ถือมีดอยู่นะ เดี๋ยวก็ได้แผลหรอก”

“พออยากถูกกินก็โดนไล่”

“ขวัญพัฒน์ ไอ้เด็กบ้า”

ผมค่อยๆ เห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยจะได้เห็นทีละเล็กละน้อย ปกติแล้วคุณธนิกจะเอาแต่ยิ้ม แต่วันนี้ผมเห็นเขาทำหน้าโกรธ ผมเห็นเขาทำหน้าไม่พอใจ สีหน้าตอนที่คุยกับเพื่อนก็ไม่เหมือนที่คุยกับผม แล้วไหนจะตอนนี้ที่เขาเหมือนพี่ชายที่คอยดุ แล้วปากก็พร่ำบ่นที่ผมยั่วตอนเขาถือมีด

นี่ไอ้แนน...ถ้าเป็นมึง มึงจะป้องกันหัวใจจากคนแบบคุณธนิกยังไงดีวะ เพราะแค่ไม่กี่วันกูก็ทำท่าจะแพ้แล้ว หากว่านานกว่านี้คงแย่แน่ๆ





ขวัญพัฒน์: ขิม ผมไม่ทำแล้วได้มั้ย ผมคิดว่าผมทำไม่ได้หรอก

เขมินทรา: ทำไม? เกิดอะไรขึ้นเหรอ เขาทำเรื่องไม่ดีกับพี่เหรอ

ขวัญพัฒน์: เปล่า เพราะเขาทำดีมากต่างหาก

เขมินทรา: เขาทำไม่ใช่เพราะชอบพี่หรอก เขาก็แค่ทำไปอย่างนั้น

ขวัญพัฒน์: เหรอ

เขมินทรา: อย่าไปหลงเสน่ห์เขา เขาน่ะอันตรายนะ แล้วถ้าพี่ไม่ทำ พี่เองที่เดือดร้อน ผมน่ะมีคนของพ่อบุญธรรมปกป้องอยู่แล้ว แต่พี่ไม่มีใครนะพี่ขวัญ แค่ทำให้พี่ธนิกไว้ใจแล้วให้เขาพาไปพบพ่อของเขา มันไม่ยากหรอก

ขวัญพัฒน์: แต่สำหรับพี่มันยาก

เขมินทรา: พี่อาจจะยังไม่เข้าใจ อาจจะคิดว่าผมพูดเล่น

ขวัญพัฒน์: ไม่ใช่อย่างนั้นนะขิม

เขมินทรา: งั้นผมก็ไม่รู้ด้วยแล้วนะ

ขวัญพัฒน์: โอเคๆ พี่จะคิดดูอีกที

เขมินทรา: ดีครับ พี่แค่ทำเรื่องง่ายๆ แล้วเรื่องยากๆ ผมจะทำเอง อีกอย่าง...พี่ธนิกเขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบพี่หรอก เขาก็แค่ทำดีด้วยเพราะหวังอะไรบางอย่างก็แค่นั้น พี่อย่าคิดมากเลยครับ

ขวัญพัฒน์: พี่รู้ว่าเขารักขิม พี่รู้เรื่องนั้นดี

เขมินทรา: ครับ

ขวัญพัฒน์: ไว้พี่จะไลน์หาพรุ่งนี้นะ

เขมินทรา: ไม่กลับบ้านเหรอครับ จะค้างกับพี่ธนิกเหรอ

ขวัญพัฒน์: เปล่า ไม่ค้าง กลับครับ คุณธนิกจะไปส่ง เขาไม่ยอมให้นั่งแท็กซี่กลับ

เขมินทรา: อะฮะ งั้นถึงบ้านแล้วบอกผมด้วยนะครับ ผมจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง

ขวัญพัฒน์: ได้ครับ

ผมรู้สึกได้ว่าเขมินทราไม่ชอบใจกับการที่ผมอยู่กับคุณธนิกสักเท่าไร คงเพราะเจ้าตัวยังรักคุณธนิกอยู่แต่กลับปากแข็ง ไม่ยอมรับความรู้สึกที่ตัวเองมี ทำให้ผมสงสัยว่าระหว่างพวกเขาเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้ต่อไม่ติดกันได้มากขนาดนี้

.................To be continue...................

 :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4:

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นค่า  :o8: :o8:

ออฟไลน์ BChampa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่น่าไว้ใจทั้งคู่ แต่เลือกเชื่อคุณธนิกมากกว่า รู้สึกขิมมีอะไรแปลกๆ ต้องอันเชิญเพี้ยนมา ขวัญสู้คนเดียวไม่ไหวหรอก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ไม่น่าไว้ใจทั้งคู่มากกว่าเดิม  :hao4:

ออฟไลน์ มุมิมิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ในเรื่องนี้ไว้ใจหลงสุดละ555555

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ก็ยังไม่เชื่อคุณธนิกอยู่ดีแต่ที่มากกว่าก็ขิมนี่แหละ ย้ำอยู่นั่นว่าคุณธนิกไม่ได้รักขวัญ คือหวงก้างสินะดูก็รู้ว่ายังรักคุณธนิกอยู่และคงยืมมือขวัญให้ทำงานให้ และจากการบอกเล่าของโมขิมนี่จะเหมือนรักและหวงคุณธนิกมากจนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้เลยรึเปล่า คิดอยู่ว่าแผลที่ข้อมือนี่ขิมอาจเป็นคนทำเองก็ได้ สัมผัสความโรคจิตของขิมได้ในตอนนี้

ออฟไลน์ Babyboys

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
ทำไมเรารู้สึกเชื่อคุณธนิกมากกว่าขิมอ่ะ :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ไม่น่าไว้ใจทั้งหมดเลย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ทำไมเรารู้สึกเชื่อคุณธนิกมากกว่าขิมอ่ะ :katai4:

คิดเหมือน
ขิมดูจะหมาหวงก้างนะ
เหมือนหลอกใช้ขวัญ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ทำมาเนียนหลอกถามขวัญ​นะเขา​ ฉันไม่ชอบเธอเลยจริงๆ​ ไม่ใช่ว่าหมาหวงก้างใช่มั้ย​

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
หรือว่าคุณธนิกจะเป็นคนดีและจริงใจกับขวัญจริงๆ  :hao7:
งงไปหม้ดด แต่ที่อ่านมาก็ยังไม่ค่อยรู้สึกนะ
อาจเป็นเพราะเล่าจากมุมมองของขวัญด้วย
เห้อออ งงสับสนไปไม่ถูก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ใครมาดีมาร้ายหว่า

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ถ้าไม่มีความระแวงอยู่ในใจ ไม่รู้อันไหนเรื่องจริงเรื่องหลอก
ตอนนี้คุณธนิกจะเป็นแฟนที่โครตน่ารักเลย

ติดใจตรงระบบความปลอดภัยของบ้านคุณธนิก
ทำไว้เพื่อปกป้องน้องขวัญไหม
แต่คุณธนิกรู้ได้ยังไงว่าน้องตกอยู่ในอันตราย

แล้วที่บอกว่าคบกับขิมเพราะเหตุผล ไม่ได้รักกัน
แต่มีอะไรกันเหรอคะ คุณธนิก!!!!!  :katai4:

ส่วนขิมก็ไม่น่าไว้ใจเหมือนเดิม
ทำไมถึงให้คนของพ่อดูแลขวัญด้วยไม่ได้
ที่คุยกันขิมก็ดูไม่แคร์ขวัญเลย
 :o211: :o11: :confuse:
 
:pig4:

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
จู่ๆ ขิมก็มาหาแบบรู้ตำแหน่ง แสดงว่ารู้เรื่องอะไรมาก่อนแล้วใช่มั้ย? เล่าเรื่องออกมาเป็นฉากๆแล้วก็มีจุดที่น่าสงสัยอยู่ไม่น้อย เราเชื่ออย่างที่แนนพูดนะว่าถ้ามีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องคนที่เป็นสายเลือดเดียวกันก็ฆ่ากันได้ แถมยังไม่ได้โตมาด้วยกันแบบนี้อีก ขวัญต้องระวังตัวมากๆ

ส่วนพี่ธนิก มาตอนนี้เราเริ่มสับสนแล้วว่าพี่ธนิกชอบขวัญจริงๆหรือแค่หลอก บางพฤติกรรมของธนิกดูไม่เสแสร้งเลย อย่างตอนหน้าแดงที่หน้าบ้านขวัญ โกรธตอนที่ขวัญดูถูกตัวเอง คิดเรื่องห้องในบ้านมาอย่างดีว่าขวัญจะใช้ชีวิตแบบไหนในบ้าน แถมเรื่องกระจกที่กันกระทั่งกระสุนอีก(หรือจะมีคนมาตามฆ่าขวัญจริงๆอย่างที่ขิมพูด?) แถมยังให้เพื่อนรู้ว่าขวัญคือใครด้วย หลายสิ่งหลายอย่างที่เห็น ณ ตอนนี้ทำให้เราเริ่มลังเลว่า หรือพี่เขาชอบขวัญจริงๆ? แต่ก็ยังติดเรื่องที่พูดชื่อขิมตอนมีอะไรกัน(ถึงจะบอกว่าเคยชิน แต่ก็ไม่น่าจะพูดออกมาหลายครั้งนะ?) ติดเรื่องที่บอกว่าขวัญเสียงเหมือน แถมให้เรียกพี่เฉพาะตอนเอากันนั่นอีก ขนาดเราสับสนขนาดนี้ แล้วขวัญจะสับสนขนาดไหน ยิ่งชอบเค้าอยู่ด้วยอ่ะ ขวัญต้องมีสติมากๆนะ เหมือนเดินอยู่บนถนนที่เต็มไปด้วยตะปูและถ่านไฟร้อน ถ้าเดินไม่ระวังหรือเผลอเบลอไปเชื่อทั้งขิมและธนิกง่ายๆก็คงจะเจ็บตัวมากอยู่ เล่าให้แนนฟังเยอะๆนะลูก มีคนที่เชื่อใจได้ช่วยคิดมันจะดีกว่าคิดหัวเดียวอยู่แล้ว สู้ๆขวัญ!!!!!!



ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
มันดูแปลก ๆ นะ ทำไมขิมจะต้องเน้นการเจอพ่อคุณธนิก
แล้วทำไมคุณธนิกจะต้องทำบ้านที่มีกระจกกันกระสุนด้วย
อย่างน้อยปรึกษาแนนก็ไม่เสียหลายนะ อย่าหลงเชื่อใครง่าย ๆ

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
เชื่อแนนมากกว่าใคร เพื่อนที่ดี ขิมนี่อ่านก็รู้และว่าไม่ได้หวังดีต่อขวัญจริงๆ เหมือนหลอกใช้ยังไงก็ไม่รู้ แต่คุณธนิกก็ยังไม่แน่นอนว่าจะเชื่อได้ ต้องดูกันไป รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :katai4: :mew1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เชื่อใครดี ขิมดูสตอเบอรี่ไปเลย
คุณธนิกถึงขั้นทำห้องกระจกกันกระสุนให้ อันนี้ก็ไม่น่าปกติ
เพื่อนคุณธนิกก็คงรู้จักขิม แสดงว่าขิมน่าจะเป็นคีย์รึเปล่า
แล้วหลงไปติดสาวบ้านไหลอยู่ละลูกเอ้ยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่ากลัวทั้งคู่่่เลย ขิมนี่หลอกใช้ขวัญแน่ๆ แต่คุณธนิกนี่รู้สึกแบบรักจริงนะ แต่มีเรื่องปิดบังอยู่ ขวัญเอ๊ย หนีไปเถอะ อันตรายทั้งคู่
 

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ยังไม่เชื่อใครละกัน

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
ไม่หน้าไว้ใจทั้งคู่อะ

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
 :m31: สับสนไปหมดแล้ว
ห่วงขวัญกับหลง :serius2:

ออฟไลน์ Tpoltiw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คนแต่งต้องหลอก จวกใส้ เราอีกแน่เลย.    มาโปรดก็แล้ว. รักเสมอก็อีก. ไร้พ่ายอีก.   เรากลัวเธอ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ไม่เชื่อ ทั้งสองฝ่าย  ขิมน่าจะร้ายกว่าธนิก  คิดว่าน่าจะมีวาระซ่อนเร้นเหมือนกัน น่าจะพอๆกัน 

ใจยังอยากให้ธนิกเป็นพระเอก  ฉะนั่นอาจจะมีอะไรปกปิด แต่ไม่น่าที่จะร้ายแรงขนาดขิง

แต่ถ้าแนนดริฟท์นะ   เรานี่จะเฟลไปอีก 3 ชาติ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ยิ่งอ่่านยิ่งหวาดระแวง แต่ดูคุณธนิกน่าเชื่อกว่าขิมนะ
ขิมดูเหมือนจิตเวชหน่อยๆ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เชื่อใครได้มั้ง งง ใน งง :ling1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ฮึ่ม เงื่อนงำเยอะจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด