*...-+-...-+-เพื่อนพ่อ (อินทัช+คายัค)-+-...-+-...*-ตอนพิเศษ-ยอมรับ 1-10-18 ||P.8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *...-+-...-+-เพื่อนพ่อ (อินทัช+คายัค)-+-...-+-...*-ตอนพิเศษ-ยอมรับ 1-10-18 ||P.8  (อ่าน 45031 ครั้ง)

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-10-2018 16:44:29 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: *...-+-...-+-เพื่อนพ่อ-+-...-+-...* ||24-5-18|| P.1
«ตอบ #1 เมื่อ24-05-2018 21:13:40 »

รอ   

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1

บทนำ





 "ถ้าเกิดฉันเป็นอะไรไป นายรับคายัคไปเลี้ยงได้ไหม?"



"ได้สิ สัญญา"






    ช่วงที่ผู้คนบางตาภายในร้านกาแฟ จู่ๆอินทัชที่นั่งพักจากการรับลูกค้า คำสัญญาของเพื่อนที่พูดก็แวบเข้ามาในหัว


    อินทัช คือ เพื่อนรักของ สาริน สมัยตั้งแต่เรียนอนุบาล ทั้งสองสนิทกันมาก และตลอดเวลาที่เป็นเพื่อนกัน ยามสารินมีปัญหาหรือไม่สบายใจ อินทัชจะรู้ข่าวคราวจากเพื่อนอยู่เสมอ

 

     จนกระทั่งวันหนึ่งที่อินทัชไม่รู้ว่าสารินไปแอบคบผู้หญิงตอนไหน รู้ข่าวอีกที สารินเผลอทำผู้หญิงท้องซึ่งคบกันได้เพียงสี่เดือนเท่านั้น ต่อมาจึงต้องรีบจัดงานแต่งกันใหญ่โต และเมื่อถึงวันที่ภรรยาของสารินคลอดลูก เธอได้ขอหย่าขาดจากกัน และไม่คิดจะเอ่ยปากรับเลี้ยงลูกชายที่เพิ่งเกิดมาแต่อย่างใด



      สารินเข้าใจดี ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้รักลูกและสารินเองก็ไม่ได้รักเธอเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะช่วงที่ทั้งสองมีลูกกันยังอยู่ในวัยเรียนด้วยซ้ำ สารินไม่คิดแค้นเคืองใดๆ กลับเต็มใจที่จะเลี้ยงลูกคนเดียว



     จากนั้นมา สารินไม่ได้เรียนต่อ ซึ่งประเด็นนี้เองทำให้เขาทะเลาะกับแม่อย่างหนัก ส่วนพ่อของสารินนั้นได้เสียชีวิตไปได้ระยะหนึ่งแล้ว



    สารินจึงต้องเลี้ยงคายัคเพียงลำพังและให้เวลากับการเลี้ยงลูกอย่างเต็มที่ ช่วงปีแรกของการเลี้ยงลูกให้เติบโต สารินเหนื่อยสายตัวแทบขาด นอนก็แทบไม่ได้นอน ต้องมานั่งอุ้มลูกยามร้อง เปลี่ยนผ้าอ้อมยามดึกก็บ่อยจนชิน แต่สารินไม่เคยบ่นหรือโทษโชคชะตาที่เขาต้องกลายเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว



      สารินเต็มใจและรักลูกคนนี้มาก

     

     ลูกที่เขารักสุดหัวใจและตั้งชื่อตามกิจกรรมที่สารินและอินทัชชื่นชอบสมัยโดดเรียนไปเที่ยวทะเล



     การพายเรือคายัค



     หลายปีผ่านมา ที่สารินเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ก็มีแต่อินทัช เพื่อนที่ไม่เคยทอดทิ้งกัน วันใดที่สารินไม่มีเงินซื้อผ้าอ้อม หรือ ซื้อนมให้ลูก อินทัชจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้และแวะเวียนไปเล่นกับคายัคเสมอ



    จนเวลาผ่านไปถึงวันหนึ่ง วันที่สารินพูดประโยคคล้ายร่ำลา ถัดมาไม่ถึงสัปดาห์ สารินก็เสียชีวิต



     ซึ่งปีที่สารินตาย คายัคก็อายุได้เจ็ดขวบ เพิ่งเข้าชั้นประถมพอดี อินทัชทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนด้วยการรับคายัคมาเลี้ยง โดยขออนุญาตจากน้องสาวสารินในสมัยนั้นเธอเองก็เพิ่งจะอายุสิบเจ็ดปี ในตอนนั้น แม่ของสารินก็มาเสียชีวิตตามพ่อและสารินไป



      แม้ในตอนนั้น อินทัชเองจะเพิ่งอายุยี่สิบสามปี แต่เพราะเห็นคายัคมาตั้งแต่เด็ก และก็สงสารอยู่ลึกๆ อินทัชจึงเต็มใจดูแลคายัคอย่างสุดความสามารถ



     ครอบครัวของอินทัชมีฐานะกว่าสาริน เพราะทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ การที่อินทัชจะต้องดูแลคายัคโดยไม่ได้ทำงานและไม่มีรายได้เข้ามานั้น จึงต้องขอกู้เงินจากพี่ชายที่ยังใจดีให้ยืม เพราะรู้เหตุผล หากอินทัชไม่มีพื้นฐานทางบ้านที่พอมีจะกิน อินทัชคงไม่สามารถเลี้ยงคายัคได้แน่



    ตอนแรกอินทัชปวดหัวและเหนื่อยกับคายัคพอสมควร เพราะเป็นเด็กที่ซนมาก และแล้วก็ได้บาดแผลของความซนที่อินทัชและคายัคเองก็คงไม่ลืม มันเป็นตอนที่คายัคเล่นพัดลม จับฝาครอบพัดลมให้หันตามใจตัวเอง จนฝาพัดลมหลุดโดนใบพัดที่ยังหมุนอยู่จนใบพัดแตก เศษใบพัดลมเสี้ยวหนึ่งกระเด็นมาปาดจมูกคายัคจนเลือดอาบ ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลและเย็บกว่าสิบเข็ม


   เหตุนั้นนั่นเอง เลยทำให้คายัคมีรอยแผลเป็นที่สันจมูก และตั้งแต่วันนั้น ความซุกซนของคายัคก็ลดน้อยถอยลงและเชื่อฟังอินทัชมากขึ้น



    การมีคายัคเข้ามาในชีวิต ทำให้อินทัชขอพี่ชายย้ายมาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว ด้วยการซื้อบ้านของตัวเองในช่วงที่คายัคเข้าสู่โรงเรียนมัธยมต้น


     เงินที่เคยกู้พี่ชาย ช่วงที่เลี้ยงคายัค ตอนนี้ อินทัชคืนพี่ชายจนครบถ้วน และยังมีธุรกิจเล็กๆเป็นร้านกาแฟที่ใช้พื้นที่ของบ้านชั้นล่างทั้งหมด มาปรับตกแต่งใหม่ให้สอดคล้องกับธรรมชาติ เนื่องจากเดิมทีบ้านที่อินทัชซื้อไว้ มีต้นไม้ต้นใหญ่อยู่ก่อนแล้ว เขาจึงปลูกดอกไม้เพิ่มเติม หาเฟอร์นิเจอร์ต่างๆให้ดูเข้าที


     พื้นที่ของบ้านบางส่วนที่ถูกดัดแปลงมาเป็นร้านกาแฟทำให้ได้ขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป รองรับลูกค้าได้ราว 25-30 ที่นั่ง มุมหนึ่งของร้าน อินทัชยังรับเสื้อและผ้าคลุมไหล่มัดย้อมสีครามจากทางภาคเหนือมาขายสำหรับผู้ที่สนใจสไตล์นี้อีกด้วย


   อินทัชมีความสุขกับชีวิตตอนนี้ แต่จะมีบ้างที่ปวดหัว ยามที่พี่ชายมาเยี่ยมเยียนก็มักบ่นหรือตำหนิอินทัชเสมอว่า เอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงให้เป็นภาระ และเมื่อไหร่จะมีครอบครัวของตัวเองหรือได้แต่งงานสักที



    อินทัชก็เบื่อที่ต้องตอบแบบเดิมว่าเขาพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ การมีร้านกาแฟและการได้ดูแล



    ...ตัวน้อย...





    ชีวิตของอินทัชสนุกที่มีเด็กซนอยู่ข้างๆ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้บรรจงทำกาแฟแต่ละแก้ว แม้ว่าร้านกาแฟของอินทัชจะหลบอยู่ในซอย ไม่ได้อยู่ริมถนน ไม่ใช่ร้านกาแฟเชิงธุรกิจจ๋าที่ขึ้นห้าง แต่คนก็นิยมมานั่งจนลูกค้าหลายคนกลายเป็นลูกค้าขาประจำกันก็มากมาย



    อินทัชคิดว่าคงเป็นความสงบร่มรื่นที่หาได้ยากในกรุงเทพล่ะมั้ง



    ด้วยการตกแต่งที่สวยและผู้คนไม่พลุกพล่าน จึงมีบ้างที่คนสนใจติดต่อขอเช่าพื้นที่จัดทำเวิร์คช็อป บ้างก็ทำเป็นพื้นที่ประชุมนอกสถานที่กันบ้างแล้วแต่โอกาส อินทัชเลยมีรายได้มาไม่ขาดมือ

   
     อินทัชเปิดร้านกาแฟเพราะชอบดื่มกาแฟและชอบมองอิริยาบถของผู้คนที่ได้มานั่งดื่มด่ำ จิบกาแฟในร้านกาแฟแห่งนี้ บ้างก็นั่งทำงานเป็นกลุ่ม หยิบแล็ปท็อปขึ้นมาวางคุยงานจริงจัง บ้างก็พักผ่อนหย่อนคลายด้วยการอ่านหนังสือคนเดียว หรือไม่ก็นั่งสวีทหวานกับแฟนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถ่ายรูปคู่กัน จนอินทัชหุบยิ้มไม่ได้


     สิ่งเหล่านี้ มันคือความสุขเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ชีวิตของอินทัชมีความหมายมากขึ้น


     เวลานึกถึงหวนอดีต อินทัชก็มักรู้สึกภูมิใจตัวเอง จากคนที่ไม่เคยมีลูกมาก่อน กลับต้องมาเป็นคุณพ่อจำเป็นตั้งแต่วัยหนุ่ม จนวันนี้ เรื่องราวก็ผ่านมาแล้วเกือบสิบปี อินทัชเองอายุย่างเข้าสามสิบสองปี ส่วนคายัคเองก็โตเป็นหนุ่ม เรียนระดับมอปลายแล้ว


    ขณะที่อินทัชหวนคิดถึงอดีตนั้น...




"สวัสดีครับ อาทัช"
เขาหลุดออกจากภวังค์หันไปมองเด็กหนุ่มที่ยกมือไหว้สวัสดี ก่อนจะท้าวคางมองอินทัชนอกเคาน์เตอร์


"ทำไมวันนี้ ตัวน้อยกลับเร็ว"


"อาทัช อย่าเรียกตอนมีคนอยู่เยอะนะ ผมอายเขา"




   คายัคหน้ามุ่ย อินทัชแต้มยิ้มบางๆ เขายังมองคายัคเป็นเด็กอยู่เสมอ


    ครู่หนึ่งอินทัชเหลือบมองแผลเป็นตรงสันจมูกของคายัค แม้ว่าตอนนี้ มันจางจนแทบมองไม่เห็น


"ก็ได้ ทีนี้ตอบอาได้หรือยัง?"



"อาทัชไม่เคยสนใจผมเลย วันนี้ผมสอบไงครับ อาทิตย์หน้าผมก็ปิดเทอมแล้ว"

"อ้อ! ขอโทษที"



   คายัคกวาดตามองร้านกาแฟ Intouch Cafe' เพื่อดูลูกค้าว่ามีใครมองมาหรือเปล่า ก่อนจะวิ่งเข้าไปด้านในเคาน์เตอร์ แล้วสวมกอดอาทัช



    อาจเป็นเพราะตั้งแต่โตมา ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม คนที่คายัคเห็นว่ายังอยู่ข้างๆกัน ก็คือ อาทัช คายัคเลยรักอาทัชยิ่งกว่าใคร


     คายัครู้ดีว่าอาทัชไม่ใช่พ่อแท้ๆของเขา แต่การมีอาทัชเข้ามาในชีวิต ทำให้คายัคไม่เคยรู้สึกเลยว่า เขาเป็นคนขาดแคลนความรัก


     ถ้าคายัคสามารถดูแลตัวเองได้ดี มีงานมีการทำเมื่อไหร่ คายัคสัญญากับตัวเองว่าเขาจะดูแลอาทัชเช่นกัน และจะไม่มีวันอกตัญญูต่ออาทัชแน่ๆ



"โตแล้วนะ ยังทำตัวเป็นเด็กอีก"


"ถ้าโตจริงๆ ทำไมอาทัชยังเรียกผมตัวน้อยล่ะ"



"นี่อาต้องพยายามเข้าใจเด็กวัยนี้สินะ เถียงได้ทุกคำจริงๆ"



"ใช่ครับ อาทัช เพราะผมโตแล้วมีความคิดเป็นของตัวเอง"



"ก็ได้ๆ อาทัชก็เบื่อจะเถียงกับตัวน้อยแล้วเหมือนกัน"



"เย้! อ้อ...อาทัช ถ้าสอบเสร็จแล้ว ผมพาเพื่อนมาฉลองและทำอะไรกินที่นี่ได้ไหม?"



"ได้สิ"


"อาทัชต้องกินกับพวกเพื่อนๆผมด้วยนะครับ"



"ไม่มีปัญหา บอกล่วงหน้าแล้วกัน อาจะออกไปซื้อของสดมาเก็บไว้"



"ได้เลย ขอบคุณนะครับ"




    หลังจากที่คายัคขึ้นไปเก็บกระเป๋า เล่นเกมส์ได้สักพัก ได้เวลาปิดร้าน คายัคลงมากินข้าวเย็นกับอาทัช จัดการอาหารกันเสร็จเรียบร้อย คายัคก็ช่วยล้างจาน และทำความสะอาดอุปกรณ์พวกที่ชงกาแฟต่างๆ ส่วนอินทัชก็เก็บกวาดทำความสะอาดร้านและเอาขยะไปทิ้ง


    ราวสามทุ่มครึ่งที่ต่างฝ่าย ต่างอาบน้ำเสร็จ คายัคกระโดดขึ้นเตียงที่มีอาทัชนอนอยู่บนเตียงก่อนแล้ว


   แม้จะโตจนเข้าสู่วัยแตกเนื้อหนุ่ม แต่คายัคก็ยังชอบนอนเตียงเดียวกับอาทัช เขาอาจจะชินมาตั้งแต่เด็กหรือไม่ก็คงอยากได้ความอบอุ่นจากอาทัชเสมอ


    กลายเป็นว่า ห้องที่อินทัชทำให้คายัคไว้อยู่ก็กลายเป็นห้องร้าง ซึ่งจะมีที่เวลาคายัคทำการบ้านดึกๆก็จะไป แต่นับครั้งได้



    คายัคสวดมนต์เสร็จ ทิ้งตัวลงนอนสวมกอดอาทัชจากด้านหลัง



ฟึ่บ!



"คายัค ทำอะไรน่ะ"


"กอดไง อาทัชอย่าบ่นได้ไหม?"


"แต่เราโตแล้วนะ"


"ก็ผมอยากกอดนี่นา"


"เรานี่จริงๆเลย"


"พ่อผมก็ตาย แม่ผมก็ไม่มี อาทัชอย่าดุผมเลยนะครับ"


     เมื่อคายัคใช้มุกนี้ทีไร ไม่เคย ไม่ได้ผล คายัคยิ้มกรุ้มกริ่มที่อาทัชสงบลงในทันที


     คายัคกอดแน่น จนสังเกตได้จากเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ อาทัชคงทำงานเหนื่อยถึงหลับง่ายดายขนาดนี้


   เด็กหนุ่มยิ้ม ขณะขยับตัวเข้าไปใกล้อาทัชกว่าเดิม ส่วนล่างของคายัคสัมผัส ถูไถบั้นท้ายของอาทัช



"เชี่ย"



   เด็กหนุ่มสบถขึ้นมา เมื่ออยู่ดีๆลูกชายตื่นตัวตอนดึกเช่นนี้


    คายัคปล่อยมือจากการกอดอาทัช กลับมาพลิกนอนตัวตรง เด็กหนุ่มตัวแข็ง แต่จากนั้นเขาค่อยๆเลื่อนมือลูบแก่นกายตัวเองที่นูนพองขึ้นผ่านเนื้อผ้ากางเกงนอน


    คายัคคิดว่าเขาเป็นหนุ่มแล้ว ฮอร์โมนคงพุ่งพล่าน แต่คายัคไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดแรงกระตุ้นทางเพศกับอาทัชได้



"อาทัชครับ อาทัช"


   คายัคเรียกแล้วอาทัชไม่ขาน คายัคคิดว่าอาทัชน่าจะหลับสนิท


   คายัคตัดสินใจเอื้อมมือไปด้านหน้าคนอายุมากกว่า ลูบไล้ไปตรงเป้ากางเกงของอาทัช อวัยวะเพศของอาทัชยังคงอ่อนตัว แต่สิ่งที่คายัคสัมผัสได้คือความรู้สึกของเขาเองต่างหากที่พอสัมผัสจุดยุทธศาสตร์อีกฝ่าย มันกลับกระตุ้นอารมณ์ของคายัคเองจนรู้สึกข้างในร่างกายของตนเองร้อนวูบวาบ ช่วงล่างก็ปวดหน่วงหนึบและแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ



"กูเป็นอะไรวะ"



     คายัคพูดในใจ กัดปากและตัดสินใจลุกจากเตียงไปห้องน้ำ ยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกเงา ก่อนจะกดตาลงต่ำดูลูกชายตัวเองที่แข็งขึ้นจนเขารู้สึกอัดอัด


      สุดท้าย คายัคทนไม่ไหว ตัดสินใจดึงกางเกงขายาวลงถึงหน้าขา มือหนาค่อยๆลูบคลำ ก่อนจะกำแก่นกายของตัวเองแน่นรูดขึ้น รูดลงเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ โดยขณะนั้น คายัคกลับจินตนาการและนึกถึงแต่ใบหน้าของอาทัชอยู่เต็มหัว..





.............................................

สวัสดีค่ะ
มาพบกับนิยายเรื่องใหม่กันค่ะ อยากเขียนแบบนี้ พอดี ชอบคนรักกันแบบอายุห่างกันมากๆอะค่ะ 555



   อย่าปล่อยให้เวลาของคุณสูญเปล่า เรามีนิยายที่จบแล้ว

  สามารถอ่านเพื่อความบันเทิงเริงใจ หรืออยากอ่านฆ่าเวลาที่รอใครสักคน

  ก็อ่านได้ตามลิงค์ด้านล่างนะคะ

[/b]

 ..*ขอผมได้รัก*..
https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57256.0


||*...สวัสดี▪นายพล▪ คนธรรมดา...*|| 
https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60981.0#msg3664500


+..▪..+"แสง.สุด.ท้าย"+..▪..+
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61787.0


▪▪▪อมยิ้มสื่อรัก▪▪▪ (ใกล้จบ)
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66461.0


 :z1: :กอด1: :mew1:

ด้วยรักและขอบคุณ

 rinyriny


 

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เจิม

เพราะว่ารักแท้หรือแค่ใกล้ชิด

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ปีนเกลียวววว ฮึฮึ
 


ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 1 สับสน




    หกโมงเช้าของวันถัดมา

   คายัคอาบน้ำ แต่งชุดนักเรียนเรียบร้อยเดินลงมาข้างล่างเห็นอาทัชเตรียมอาหารให้อยู่

    เพียงแค่เห็นหน้า คายัคก็รู้สึกผิดที่ดันจินตนาการหน้าอาทัชตอนสำเร็จความใคร่ คายัครู้สึกสับสน จึงอยากใช้เวลาอยู่กับตัวเองก่อน 


"ไปเรียนก่อนนะครับ อาทัช"

"เดี๋ยวสิ ตัวน้อย อาทำข้าวเช้าให้แล้ว ทำไมไม่อยู่กินก่อนล่ะ"

"วันนี้นัดเพื่อนกินโจ๊กแถวโรงเรียนแล้วครับ"

"ทำไมไม่บอกอา ถ้างั้นก็ตามใจแล้วกัน"

"ครับ สวัสดีครับอาทัช"




    คายัคสะพายกระเป้าเป้ขึ้นบ่า เดินออกจากร้านกาแฟทั้งๆที่ยังคิดเรื่องเดิมในหัว



    ทำไมคายัคถึงมีอารมณ์ทางเพศกับผู้ปกครอง มันไม่ควรจะเกิดขึ้น คายัคพยายามเข้าใจว่า การรู้สึกดีแบบนี้ อาจเป็นเพราะความใกล้ชิดสนิทกันก็อาจเป็นไปได้


   ยืนรอรถโดยสารประจำทางด้วยความสงสัยคาใจ กระทั่งรถมา ขึ้นไปบนรถ ก็ยังคงครุ่นคิดไม่จบไม่สิ้น จนกระทั่งถึงที่หมาย คายัคตัดสินใจเดินดุ่มๆไปหาเพื่อนห้องเดียวกันแต่อยู่กันคนละแก็งค์


    คายัครู้ดีว่า เบล ชอบมาโรงเรียนแต่เช้า และเบลมีรสนิยมที่ชอบผู้ชาย ซึ่งเพื่อนๆก็รู้กันทั่ว คายัคจึงหวังจะให้เบลนี่แหละช่วยไขข้อสงสัย


   ถึงห้อง มองสอดส่องหาเบล ก่อนจะวางกระเป๋าสะพายลงบนที่นั่งของตัวเอง และเดินไปหา เบลที่นั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่


   แลซ้าย แลขวา ให้มั่นใจว่าตอนนี้ในห้องมีแค่คายัคกับเบลสองคนจริงหรือไม่ จากนั้น คายัคสะกิดเบล


"เบล"

"อ้อ!...หวัดดีคายัค"
เบลวางหนังสือการ์ตูนที่อ่าน ก่อนจะหันมาหาผู้มาใหม่

"ขอนั่งด้วยคนสิ"

"นึกไงวันนี้มาคุยกับเบล"


   คายัคเลิกคิ้วขึ้นสูง มองคนถามแต่ไม่สบตา


"เราอยากถามว่าเบลมีแฟนยัง?"


   เบลเงยหน้ามองชะงักๆ ยิ้มมุมปาก ก่อนจะส่ายหน้า คายัคดึงเก้าอี้ให้เข้าไปใกล้อีกหน่อย


"ถ้ายัง? เราขอจูบเบลได้ปะ"

"หาา...จะ...จะบ้าหรอคายัค นี่มันในโรงเรียนนะ" เบลก้มหน้ามองมือตัวเองที่บีบกันแน่น

"เออน่า...ให้เราได้ลองนะ เราอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง"


   เบลเม้มปากแน่น ช้อนตามองคายัค ส่วนคายัคอยากรู้ใจตัวเองเร็วๆว่าที่ปั่นป่วนอยู่ตอนนี้มันเป็นเพราะอะไร


    ไม่รอให้เบลตอบ คายัคดึงไหล่เบลให้เข้ามาพร้อมโน้มตัวไปใกล้ ประกบจูบเบลทันที


   คายัคขบเม้มริมฝีปากล่าง ดึงดูดเบาๆ เขาสัมผัสได้ว่ามันตื่นเต้น แปลกใหม่ แต่ไม่รู้สึกถึงกับมีอารมณ์ร่วมหรืออยากสานต่ออะไรกับเบลทั้งสิ้น

   และแล้ว...



"เชี่ย...ไอ้ยัค"



   ทั้งสองผละจากกัน คายัคหันหลังไปตามเสียงก็เห็นเพื่อนสนิทหนึ่งในแก็งค์ของเขาเข้ามาเห็น

  บอล ตาโต คงจะช็อคและตกใจพอสมควร


"มึงจูบเบล มึงชอบไอ้เบลหรอวะ?"


   ไม่ตอบเพื่อน แต่หันกลับมามองเบลที่นั่งหน้าแดงจัดราวกับลูกมะเขือเทศ คายัคบีบไหล่เบลก่อนบอก


"ขอบคุณนะเบล"



   ลุกพรวด และก้าวยาวๆไปล็อคคอบอลให้ออกจากห้องเรียน


"หิวข้าว ไปโรงอาหารเป็นเพื่อนกูหน่อย"

"เฮ้ย! มึงตอบกูมาก่อน"



   คายัคเงียบมองหน้าเพื่อน โชคดีที่เป็นบอลที่เห็น อย่างน้อยเพื่อนคนนี้ก็เก็บความลับได้ดีพอสมควร


"ถึงโรงอาหารก่อน แล้วกูจะเล่า"


   ตลอดการเดินไปโรงอาหาร เหมือนคายัคจะได้คำตอบแล้วว่า คายัครู้สึกกับอาทัชมากเกินกว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครอง

    คายัคชอบอาทัชแบบคู่รัก

    มันจะเป็นไปได้หรอวะ?

    กระทั่ง ถึงโรงอาหาร คายัคสั่งผัดฟักทองกับพะแนงหมูราดข้าว เดินไปร้านน้ำ สั่งน้ำแดงและนมเย็นให้เพื่อน


    ได้ทุกอย่างเรียบร้อย ประคับประคองทั้งเครื่องดื่มและจานข้าว วางลงบนโต๊ะอาหาร ทิ้งตัวลงนั่ง ยังไม่ทันจะตักข้าวเข้าปาก คนที่คาดหวังจะได้คำตอบก็รีบรบเร้า


"มึงยังไม่ตอบกูเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้ามึงไม่บอกกูจะบอกเพื่อนในกลุ่มให้หมด"


"เหมือนกูจะชอบอาตัวเองว่ะ"


    คายัคตอบคนละอย่างกับที่เพื่อนต้องการ แต่นั่นก็ทำให้เพื่อนช็อคได้อีกรอบ


"แค่กๆๆ...เ..ชี่...ย"


    คายัคมองหน้าเพื่อนที่สำลักเส้นก๋วยเตี๋ยวจนรีบดูดนมเย็นอึ้กๆ


"มึงพูดอะไรนะ กูขอชัดๆ"

"กูคิดว่ากูชอบอาทัช ชัดยัง?"


   เพื่อนคายัคทุกคนรู้อยู่แล้วว่าอาทัชไม่ใช่พ่อ และเขาก็ไม่อายที่จะบอกใครว่า ณ ปัจจุบัน คายัคไร้พ่อและแม่

   อาจเป็นเพราะคายัคได้เพื่อนสนิทที่ดี เลยไม่มีใครดูถูกหรือล้อปมด้อยเรื่องนี้


"เชี่ย ชอบรุ่นใหญ่เลยหรอวะ? รุ่นๆเราก็มีเยอะแยะ ทำไมไม่สนใจ ส้ม กิ๊ฟ พลอย แนน..."

"กูไม่ตลก"

"เออๆๆ ขอโทษ ว่าแต่กูเพิ่งนึกขึ้นได้ มึงเป็นตุ๊ดหรอวะ?"


    คายัคเงียบ นั่นสิ เขาเป็นอะไร? ก่อนหน้านี้ ก็ยังชอบมองผู้หญิงน่ารักๆ ผิวขาวๆอยู่เลย แต่จากการโดนตัวอาทัชเมื่อคืนและลูกชายตื่นตัว จู่ๆ คายัคก็ไม่อยากมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย


"กูไม่รู้ แต่...กู..."

"มึงอาจจะสับสนในชีวิตเพราะมึงยังไม่มีแฟนเลยคิดไปว่ามึงชอบอาทัช เอางี้ไหม? เดี๋ยวกูช่วยติดต่อกิ๊ฟห้องเก้าให้ คนดังระดับชั้นมอสี่เลยนะมึง! หน้าตาอย่างมึง จีบติดอยู่แล้ว"


"ไอ้บอล มึงฟังกูนะ กูไม่คิดชอบใครตอนนี้ กูแค่อยากรู้ตัวกูมากกว่าว่ากูเป็นอะไร เมื่อคืนกูนอนกับอากู แต่กูรู้สึกแปลกๆ วันนี้ กูเลยคิดว่ากูอาจเป็นแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นๆหรือเปล่า เลยตัดสินใจจูบเบล แต่แม่งเอ้ย! กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับเบลว่ะ?"


"เฮ้ย! ใจเย็นก่อน อาจไม่ใช่ก็ได้ ถ้ามึงอยากรู้จริงๆ งั้นมึงลองทำอะไรแบบที่คู่รักเขาทำกันอะ จูบ หอมอะไรแบบนี้ ถ้ามึงใจสั่น หรือตื่นเต้นเป็นไปได้ที่มึงจะชอบอามึงจริงๆ"



    คายัคถอนหายใจยาว เขายังไม่ได้บอกเพื่อนว่า ก่อนหน้านี้ คายัคถึงกับนึกหน้าอาทัชตอนช่วยตัวเองมาแล้ว


   แต่ความคิดเพื่อนก็น่าสนใจ เพราะโดยปกติคายัคก็แค่กอดอาทัชแสดงความรักความผูกพันแบบผู้มีพระคุณ ถ้าจะลองปฏิบัติแบบอื่นๆ ก็อาจทำให้คายัคชัดเจนในความคิดก็ได้


   หลังจากวันนี้ที่สอบเสร็จไปสามวิชา คายัคแย้มกับเพื่อนในกลุ่มว่า ถ้าสอบเสร็จหมดทุกวิชาแล้วให้ไปกินเลี้ยงที่บ้านของคายัคกัน ทุกคนส่งเสียงเฮยกใหญ่ จากนั้น บอลก็เป็นตัวตั้งตัวตีชวนเพื่อนๆไปเล่นเกมส์ต่อที่บ้านของติ๊ก เพื่อนในกลุ่มอีกคน


   คายัคตอบปฏิเสธ เพราะยังฟุ้งซ่าน เขาอยากได้คำตอบให้ตัวเองที่ชัดเจนกว่านี้ก่อน จึงรีบกลับบ้า หวังจะทำตามคำแนะนำของเพื่อน


  เมื่อเด็กหนุ่มถึงร้านกาแฟ ระหว่างเดินเข้าไปหาอาทัช ก็เห็นว่าวันนี้ มีลูกค้าเยอะพอสมควร


   คายัคเดินไปหาอาทัชที่เคาน์เตอร์ ยกมือไหว้อาทัช


"สวัสดีครับ อาทัช มีอะไรให้ผมช่วยไหม?"

"ตัวน้อยมาพอดี ช่วย.."

"คายัคครับ อาทัช"


"อ้อ! ขอโทษ คายัคช่วยเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟโต๊ะไม้ยาวด้านนอกที"

"ครับ!"


   คายัคใส่ผ้ากันเปื้อนของร้าน วางแก้วกาแฟทั้งสามแก้วลงบนถาดก่อนจะเดินไปยังโต๊ะตามคำบอกของอาทัช ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าผู้หญิงวัยรุ่นตอนปลาย


    คายัคเสิร์ฟพร้อทบอกชื่อเครื่องดื่มแต่ละเมนู จังหวะที่วางแก้วสุดท้าย ได้ยินประโยคสำคัญพอดี


"แหม! ร้ายนะแก มาเป็นลูกค้าประจำเพราะชอบเจ้าของร้านนี่เอง"



ปึก!


    สามสาวที่จับกลุ่มคุยกันชะงัก หันมามองคายัคด้วยความไม่พอใจ


"น้องคะ วางกระแทกแบบนี้ได้ยังไง ไม่มีมารยาท ถ้าไม่มีใจด้านงานบริการก็ไม่ต้องมาเสิร์ฟค่ะ กลับบ้านไปซะ"

"ขอโทษ" คายัคตอบห้วน

"น้องไปเรียกเจ้าของร้านมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ"

"เฮ้ย! แกไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั้ง"
คายัคมองเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่ปรามคนที่ต่อว่า ซึ่งเธอลุกขึ้นยืนชี้หน้าคายัคแล้ว


      คายัคหมดความอดทน สวนกลับอย่างวัยรุ่นเลือดร้อน


"หึๆ...ที่ให้เรียกเพราะอยากเห็นหน้าเจ้าของร้าน เลยเอาเรื่องนี้มาอ้างหรือเปล่าครับ? ป้า!"
   

"อร้าย อีเด็กเวร!"


"ขอโทษครับ มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าครับ?"


    คายัคสะดุ้ง เมื่อมือเย็นเฉียบจับเข้าที่ข้อมือ เด็กหนุ่มหันไปมองอาทัชยืนหน้าเสีย




***1.1***

นั่นสิ? คายัคชอบอาทัชหรือเปล่า? 555

เป็นกำลังใจให้พวกเขาด้วยนะคะ


ฝากติดตามเรื่อง อมยิ้มสื่อรัก ด้วยนะคะ ตอนหน้าก็จบแล้วค่ะ


https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66461.60

ขอบคุณมากค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2018 20:55:30 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

คายัคต้องชอบอาทัชสิ 

แต่ชอบแบบไหน  ต้องรอผลพิสูจน์  อิอิ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องคายัคสู้ๆ นะครับ รู้สึกยังไงกับอาทัชก็บอกไปเลย ^^

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
สนุกติดตามจ้า

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 1 สับสน (2)




"รับเด็กคนนี้มาทำงานได้ยังไงคะ ไร้มารยาทมากๆ"


"เอ่อ!...ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมไม่แน่ใจว่า หลานของผมทำอะไรให้ แต่ผมจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง ผมให้สิทธิ์คุณผู้หญิงมากินเครื่องดื่มฟรีตลอดเดือนนี้เลยนะครับ"


    ตอนอาทัชบอกสถานะของคายัคว่าเป็นใครรวมถึงยื่นข้อเสนอให้ คายัคเห็นผู้หญิงคนนี้ชะงักงัน


"อาทัช!..เข..."


"เงียบ! คายัค"


"กินฟรีเดือนหนึ่งนี่น้อยไปหรือเปล่าคะ? กับความรู้สึกที่เสียไป"


"ถ้าอย่างนั้น คุณผู้หญิงต้องการเท่าไหร่ดีครับ"


"รำคาญมนุษย์ป้าจริงๆเลยว่ะ"


 "คายัค เข้าไปในร้าน"


   อินทัชไล่คายัคทันทีก่อนเรื่องบานปลาย พร้อมคุยข้อเสนอกับลูกค้าที่มีปัญหา สรุปว่า หญิงสาวตัดสินใจรับคำขอโทษและชดเชยด้วยการดื่มกาแฟฟรีสองเดือน


    อินทัชรับคำและจะจดบันทึกให้เป็นลูกค้าในกรณีพิเศษ อินทัชขอตัว ก้าวยาวๆเข้าร้าน กวาดตามองจนทั่ว ก็ไม่เห็นคายัคอยู่ชั้นล่าง คาดว่าน่าจะขึ้นไปชั้นบนแล้ว


"คายัคเป็นอะไร ปกติไม่เคยเสียมารยาทกับลูกค้านี่หน่า"


   อินทัชบ่นพร้อมถอนหายใจ โดยปกติร้านของเขาไม่มีลูกจ้าง พอเจอคายัคสร้างเรื่องก็เหนื่อยเพิ่มขึ้น


    เวลาผ่านไป จนกระทั่งหกโมงเย็น ใกล้เวลาปิดร้าน คายัคถึงเดินลงมาเข้าไปข้างในเคาน์เตอร์บาร์หาอาทัชอย่างรู้สึกผิด


"อาทัช ผมขอโทษ" ก้มหน้าบอก


     อินทัชมองคายัคแล้วไม่นึกโกรธกลับแปลกใจในการกระทำมากกว่า


"ถ้าตัวน้อยไม่อยากเสิร์ฟก็บอกอาตรงๆ อาไม่ว่าหรอก แต่ไม่ควรไปใส่อารมณ์กับลูกค้าแบบนั้น"


"ไม่ใช่ผมไม่อยากเสิร์ฟ ผมอยากช่วยอาทัชมากครับ แต่ผม...."


"แล้วมันเป็นเพราะอะไรที่ทำให้คายัคอารมณ์เสีย เฮ้อ! เด็กสมัยนี้ เป็นยังไงกันนะ อาเอาใจไม่...ถู......"


     อินทัชพูดยังไม่จบ คายัคโพล่งขึ้น


"ก็ผู้หญิงคนนั้นชอบอาทัชอะ"


    อินทัชอึ้งไปนิด แล้วตอบกลับ


"นี่ คายัคกลายเป็นคนชอบยุ่งเรื่องคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่? คายัคไม่ควรแอบฟังคนอื่นคุยกันนะ"


     คายัคเสียใจที่อาทัชต่อว่า หรืออาทัชชอบลูกค้าผู้หญิงคนนั้น


"อาทัชว่าผม เพราะอาทัชชอบผู้หญิงคนนั้นใช่ไหมครับ?"

"ตัวน้อย อาบอกเหรอว่าชอบลูกค้าคนนั้น ตีความผิดแล้วมาพูดส่งๆแบบนี้ได้ยังไง นี่ชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ ตัวน้อยเป็นอะไร? พูดตรงๆมาเลยดีกว่า"

"ผม...ไม่ชอบให้คนอื่นมาชอบอาทัช"


   คายัคอึดอัดจึงพูดออกไป อินทัชใจหายที่ได้ยินแบบนั้น


"หมายความว่าไง คายัคต้องการให้คนอื่นเกลียดอาเหรอ?"


    คายัคก้มหน้า เพราะหาคำตอบมาอธิบายไม่ได้ ในขณะที่ต่างฝ่ายต่างเงียบ...



"ขอโทษนะครับ ยังสั่งได้อยู่ใช่ไหมครับ?"


   อินทัชที่นั่งปรับความเข้าใจกับเด็กหนุ่ม หันไปมองลูกค้าที่มาใหม่พร้อมส่งยิ้มให้


"ได้ครับ รับอะไรดีครับ"

"คาปูชิโน่เย็น หวานน้อย กินนี่ครับ"

"รับอย่างเดียวนะครับ ทั้งหมดแปดสิบบาทครับ"


    คายัคนั่งมองลูกค้าหน้าหล่อที่จ้องอาทัชไม่วางตาแถมอมยิ้มก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่


   คายัคจิ้ปากเบาๆ ไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร? ทำไมเห็นใครต่อใครทำดีกับอาทัชก็ยิ่งขวางหู ขวางตาอย่างบอกไม่ถูก


    หรือคายัคจะชอบอาทัชแบบคู่รักกันจริงๆ


    หลังจากลูกค้าละจากเคาน์เตอร์ไปหาที่นั่ง คายัคนั่งมองอาทัชบรรจงทำกาแฟในทุกขั้นตอน จนมาถึงตอนที่อาทัชเทกาแฟใส่แก้วที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง คายัคเดินไปประชิดตัว


"เดี๋ยวผมไปเสิร์ฟให้"

"ไม่ต้อง เดี๋ยวอาไปเสิร์ฟเอง"

"ให้ผมแก้ตัวนะครับ อาทัช"

"ดื้อจริงๆ แล้วอย่าไปทะเลาะกับเขาล่ะ"

"ครับ"



  คายัครับแก้วและเดินออกไปเสิร์ฟผู้ชายคนนั้น เสร็จแล้วเดินกลับมา


"เห็นไหม? ผมก็เสิร์ฟได้"

"ครับ ดีแล้ว"

"อาทัชไม่โกรธผมใช่ไหม?"
คายัคกลัวว่าอาทัชจะโกรธและไม่รักคายัคอีก เพราะเติบโตมาคายัคมีเพียงอาทัชคนเดียวในชีวิต


"ไม่หรอก แต่อย่าทำให้อาเหนื่อยใจบ่อยๆนะ"

"ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ทำอีก"

"ดีมาก ถ้างั้น คายัคช่วยทะยอยเอาแก้วไปล้างให้อาหน่อย..ปะ..."

"ได้ครับ"
คายัคยิ้มกว้างอย่างดีใจที่เห็นสีหน้าอาทัชดีขึ้น เด็กหนุ่มเดินไปล้างแก้วตามคำสั่ง

    คายัคล้างแก้วเสร็จเรียบร้อยเดินถือถาดออกมา ก็เห็นผู้ชายคนเดิมยืนคุยกะอาทัชอย่างอารมณ์ดี

   เดินเข้าไปในเคาน์เตอร์บาร์ แอบได้ยินสองคนคุยกัน


"ขอโทษนะครับ ที่มาซะใกล้เวลาปิดร้าน ไว้ผมจะมาใหม่ ผมชักติดใจฝีมือการทำกาแฟของคุณแล้วสิ"

"ขอบคุณมากเลยนะครับ"

"อ้อ...ขอโทษนะครับ คุณชื่ออะไรครับ"

"ผมชื่ออินทัชครับ"


"ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อภูมินะครับ"



    คายัคจ้องเขม็งและหงุดหงิดอีกรอบ เมื่อผู้ชายคนนั้น แนะนำตัวเองแถมพูดว่าจะกลับมาใหม่

    มั่นใจว่าติดใจรสชาติกาแฟ? ไม่ได้ติดใจอาทัชไปอีกคนล่ะ?



"ทำไมหน้าบึ้งแบบนั้นล่ะตัวน้อย อาใช้ให้ไปล้างแก้วแค่นี้เอง" เมื่ออินทัชผละจากลูกค้าก็ขมวดคิ้วมุนเมื่อเห็นใบหน้าเด็กหนุ่ม


"ไม่มีอะไรครับ อาทัชรีบเก็บร้านเถอะ ผมหิวข้าว"

"วันนี้อยากออกไปกินข้างนอกไหม?"

"อาทัชไม่เหนื่อยหรอ?"

"เหนื่อย แต่อาอยากให้คายัคอารมณ์ดี"


    เพียงแค่อาทัชพูดเช่นนั้น คายัคดีใจจนหายหงุดหงิดเป็นปลิดทิ้ง


"จริงนะ เย้!...กินๆ ผมอยากกินร้านวิไลวรรณโภชนา"

"ได้สิ ถ้างั้นคายัคต้องช่วยอาทำความสะอาดให้เสร็จไวๆนะ"


"ได้เลย"


   คายัคดีใจรีบจับไม้กวาดมาทำความสะอาดจนทั่วทุกซอกทุกมุม เช็ดโต๊ะ จัดเก้าอี้ให้เป็นระเบียบ และไม่นานทั้งสองก็ช่วยกันทำความสะอาดจนเสร็จสิ้น
   
   อินทัชขับไปยังร้านข้าวต้มโต้รุ่งที่ตัวน้อยอยากกิน

   ถึงร้านแล้ว อินทัชพาคายัคเดินเข้ามานั่งในโซนกลางๆของร้าน


"หืม...กลิ่นหอมจัง ผมทนไม่ไหวแล้ว"


   อินทัชหัวเราะมองเด็กหนุ่มโบกไม้ โบกมือเรียกพนักงานให้รีบเอาเมนูมาอ่าน


"สั่งเลยนะ อากินได้หมด"


    คายัคพยักหน้า พลิกดูเมนูอาหารก็พาลน้ำลายไหล ดูเมนูอาหารแต่ละหน้าก็อยากจะชี้นิ้วสั่งเอามันทั้งหมด เหมือนว่าความหิวจะเข้าครอบงำเด็กหนุ่มจนหน้ามืดตามัว


"พี่ครับ เอาผัดคะน้าน้ำมันหอย ไข่เจียวหมูสับ ซุปเปอร์ตีนไก่ แขนงปลาเค็ม ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ทอดมันกุ้ง....แล้วก็...."

"เดี๋ยวๆ ตัวน้อย เรามากันแค่สองคนนะ"


    คายัคมองอาทัชที่ร้องห้าม


"แหะๆ...ก็ผมหิวอะ เอ่อ...พี่ครับเอาข้าวสวยสามจาน น้ำเปล่า น้ำแข็งสองแก้ว แค่นี้ครับ"


    พยักหน้าตามคำทวนรายการอาหารของพนักงาน คายัคยื่นเมนูคืนแล้วท้าวคางหันมาจ้องอาทัชยิ้มๆ


"ผมดีใจนะที่อาทัชไม่โกรธผม"

"อาไม่รู้จะโกรธตัวน้อยไปทำไม"


   คายัคมองหน้าอาทัชแล้วยิ้มไม่หุบ


"อ้อ!...อาทัชครับ อาทิตย์หน้าแล้วนะที่เพื่อนผมจะมากินเลี้ยงฉลองสอบเสร็จน่ะ"

"เหรอ? อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?"

"อาหารซี้ฟู้ด ผมจำได้ว่าอาทัชทำน้ำจิ้มซีฟู้ดได้แซ่บมากกกกก"


    อินทัชขำคายัคที่ลากเสียงยาว


"ได้สิ มากันกี่คน อาจะได้เตรียมของได้ถูก"

"ห้าคนครับ"

"โอเคครับ"

"อาทัช"

"หืม?"


    คายัคมีคำถามที่อยากถามต่อแต่ไม่กล้า จึงได้แต่เงียบ


"ไม่มีอะไรครับ"


    จังหวะนั้น มีสายเรียกเข้ามาจากเครื่องมือสื่อสารของอาทัช เจ้าตัวจึงลุกขึ้นไปคุยที่อื่น


    คายัคควักโทรศัพท์มาเล่นบ้าง ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ข้อความไลน์หาเพื่อน


Read
21.45
ไอ้บอล นอนรึยัง? กูเครียดเรื่องอากู แม่งสับสน กูจะทำยังไงดีวะ?




                     Read
                     21.47                 
                     ก็บอกไปแล้วไง กอด จูบ ลูบคลำอะ
                     เข้าใจไหมวะ?  มึงหยุดความสับสน                   
                   ในตัวมึงก่อน และจินตนาการ
                  ไปเลยว่าอาทัชเป็นแฟนมึงแล้ว
                  และปกติ การเป็นแฟนกัน ต้องทำ
                  อะไรบ้าง มึงก็ทำไปเลย



Read
21.50
เออๆ  กูจะลองดู ขอบใจมึงนะ เชี่ยเอ้ย! ทำไมกูอ่อนขนาดนี้วะ?



                     Read
                     21.55
                     ว้ายยยย!...ไอ้อ่อน!..555 เอาน่า
                     ถ้ามึง
                     อยากเล่นรุ่นใหญ่ ใจต้องนิ่ง
                     ลองแล้วได้ ไม่ได้ยังไงบอกกูด้วย
                     กูลุ้น
                     อยู่ ถ้าได้ก็ดี มึงจะได้มีคนสอน
                     มึงเรื่องเซ็กซ์ไง โห...ไม่อยาก
                    จะคิดภาพเลยว่ะ มึงแม่งต้องโตไวแน่



Read
22.00
มึงคิดเชี่ยอะไรอยู่ ลามกใช่ไหม? หยุดเลย กูยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจากนี้จะเป็นยังไง เฮ้อ! ช่างมันๆ แล้วมึงก็อย่าเพิ่งบอกใครนะ ให้กูแน่ชัดในตัวเองก่อน ถ้าชัวร์แล้วกูจะบอกเพื่อนเอง



                  Read
                  22.02
                  ได้ จัดไป!


Read
22.05
ขอบใจมากมึง


 
                    Read
                   22.10
                   โอเค





      พออาทัชเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ คายัครีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง



"คุยกับใครน่ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่"

"ค...ครับ อ้อ ไอ้บอลน่ะ อาทัชก็เคยเห็นตอนไปงานผู้ปกครอง"


    อินทัชพยักหน้า ไม่นาน อาหารก็มาเต็มโต๊ะ ทั้งสองก็ตักอาหารกินกันไม่พูดไม่จา อาจด้วยเพราะความหิวจัด


     สักพักใหญ่ๆ ที่ทั้งสองจัดการ อาหารตรงหน้าไม่มีเหลือ คายัคยิ้มแก้มปริ เพราะได้กินอาหารที่อร่อยและได้อยู่กับอาทัช


    จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยก็เดินทางกลับบ้าน


    ถึงที่หมาย อินทัชและคายัคอาบน้ำกันคนละห้อง


    วันนี้ คายัคอาบน้ำเสร็จก็เข้ามาแต่งตัวที่ห้องของตัวเอง เดินไป-เดินมาอย่างคนวิตก เพราะเอาเข้าจริงๆ คายัคเกิดใจปลาซิวขึ้นมา


"ถ้าทำแบบนั้น แล้วอาทัชไม่ชอบจะทำไงวะ"

"ถ้าอาทัชไม่พอใจแล้วโกรธกูขึ้นมา ไม่พูดกับกูอีกต่อไปล่ะ"

"ถ้าอาทัชรับไม่ได้แล้วไล่ออกจากบ้าน"

"ถ้า.....โอ้ยยย! เอาไงดีวะเนี่ย..."



    คายัคเปลี่ยนจากเดินวนรอบห้องเป็นทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียง ยกมื้อขยี้ผมจนยุ่งเหยิง


    คายัคกลัวและกังวลมากเกินไป


    ใช่...เป็นใครก็คงกลัว

    เพราะการเริ่มลงมือทำอะไรครั้งแรก มักน่ากลัวเสมอ...
    แต่ถ้ายิ่งกลัวเมื่อไหร่ ใจก็ต้องกล้ามากขึ้นเท่านั้น



"เอาวะ เป็นไง เป็นกัน"



   คายัคตัดสินใจเดินกลับไปห้องอาทัช

   หมุนลูกบิดประตู เปิดออกกว้างก็เห็นห้องมืดสนิท อาทัชคงเพลียเช่นเคย เพราะหลับไม่รอคายัคอีกแล้ว

   คายัคเดินก้าวช้าๆอย่างระมัดระวัง คลำทางปีนขึ้นเตียง เด็กหนุ่มนั่งพนมมือสวดมนต์บทอิติปิโสและบทพาหุงก่อนหลับ

   สวดจนจบบท คายัคแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงเสร็จสิ้น ก็ล้มตัวลงนอน

   และแล้ว คำพูดเพื่อนก็แวบเข้ามาในหัวได้ตรงจังหวะพอดิบ พอดี..


'มึงก็จินตนาการไปเลยว่า อาทัชเป็นแฟนมึงแล้ว และปกติการเป็นแฟนกัน ต้องทำอะไรบ้าง มึงก็ทำไปเลย'



...............................





อา rinyriny ว่าหนูคายัคมีใจให้เขาตั้งแต่ไม่อยากให้คนอื่นมาชอบอาทัชแล้วลูก  (ทำตัวเป็นเด็กหวงของเล่นไปได้นะเราอะ)
55555
:o8: :o8: :m20: :m20: :m20: :m20:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-05-2018 21:27:52 โดย rinyriny »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อยากรู้จัง  นู๋คายัคจะทำอะไร ๆ กับอาทัชแบบไหนน้อ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แสดงความเป็นเจ้าของไปเล้ยย

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
บทที่ 2  ชอบเด็กไหม?



   




     คายัคใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก มือไม้สั่น เพราะตั้งแต่โตมา คายัคยังไม่เคยมีแฟนและไม่รู้จะต้องเริ่มยังไง


   เวลานี้ คายัคต้องรื้อฟื้นวิชาเพศศึกษาที่อาศัยครูพัก ลักจำจากการดูหนังเรทสิบแปดบวกมาจนตาแฉะ มันอาจช่วยเขาได้ในเวลานี้ 


   เด็กหนุ่มกระเถิบตัวไปใกล้อาทัชจนแผ่นอกแนบชิดแผ่นหลังคนอายุมากกว่าและวาดมือไปกอดเอวอาทัช


    กอดจนได้รับไออุ่นอีกฝ่าย คายัคยังนิ่ง เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะใจเต้นแรงขนาดนี้


     คายัคตื่นเต้นจัดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของตัวเองเป่ารดต้นคออาทัชอยู่ เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายก่อนจะค่อยๆกดจมูกลงตรงซอกคอ จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆของครีมอาบน้ำบนตัวของอีกฝ่าย  ทำไมกัน? ทั้งๆที่ใช้ครีมอาบน้ำยี่ห้อเดียวกัน แต่พอมันมาอยู่บนตัวของอาทัช คายัคกลับรู้สึกถึงความแตกต่าง มันกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของเด็กหนุ่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ


     ยิ่งใบหน้าซุกลงตรงซอกคอของอาทัช คายัครู้สึกถึงไอร้อนมาจากร่างกายของตัวเอง เด็กหนุ่มค่อยๆเลื่อนริมฝีปากไปทางบนใบหน้าของอีกฝ่าย


    คายัคหอมแก้มอาทัชสำเร็จ และดูเหมือนว่า คายัคได้เปิดประตูแห่งความกล้า จนเอาชนะความกลัวได้แล้ว


   เมื่อมีครั้งแรก ย่อมมีครั้งต่อมา พอคายัครู้ว่า ตัวเองกล้าหอมแก้มอาทัชได้ คายัคกลับไม่ยอมหยุดแค่นั้น เด็กหนุ่มเลื่อนริมฝีปากมาหยุดที่ซอกคอและไม่ได้ใช้แค่ริมฝีปากแตะแล้วลากผ่าน เขากลับขมเม้มผิวกายหนักๆ ดึงดูดอย่างชอบใจ ใช้ลิ้นเลียวนตรงส่วนที่ได้สร้างรอยสีแดงกุหลาบไว้ ขณะที่มือของตัวเองก็เริ่มซุกซน ลูบไล้ไปตามสีข้าง ส่วนโค้งเว้าของอาทัช ก่อนจะเลื่อนมือไปวางลงบนเป้ากางเกงของอีกฝ่าย ลูบคลำเค้นคลึงอย่างชอบใจและใคร่รู้

    จนกระทั่ง...


ฟึ่บ!


"คายัคทำอะไรน่ะ"


   อินทัชพลิกตัวหันมาผลักคายัคจนเด็กหนุ่มกระเด็นเกือบตกเตียง เขาเอื้อมมือไปเปิดไฟตรงหัวเตียง และหันกลับไปมองเด็กหนุ่มที่นั่งหน้าเหวอ


"คายัครู้ตัวไหมว่าทำอะไรอยู่?"


   คายัคเม้มปากแน่น ไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวอะไร


"รู้ครับ...ผมขอโทษอาทัช ผมแค่รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป"

"เปลี่ยนไป คายัคเป็นอะไร?"

"ผมกำลังมีความรักครับ"

"ห้ะ?"

"ใช่ครับ ผมเลยลองทำกับอาทัช คือ ผม..."

"ตัวน้อยมีแฟนแล้วหรอ?"

"ไม่มีครับ แต่..."



    อินทัชตาโตตกใจ จะขยับไปใกล้ เด็กหนุ่มกลับร้องเสียงหลง


"อาทัช อย่าเข้ามา"


     คายัคคว้าหมอนปิดช่วงล่างด้วยความอายเนื่องจากตอนนี้ อาวุธคู่กายได้ตื่นตัวเต็มที่

     คายัคนั่งกำหมอนแน่น


"ตัวน้อยทำกับอา นั่นหมายความว่า ตัวน้อยไม่ได้ชอบผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ?"

"มั้งครับ ทำไมอาทัชต้องว่าผมด้วยล่ะ มันแปลกตรงไหนที่ผมจะมีความรัก แล้วถ้าเป็นผู้ชายมันผิดมากหรอไง?"


"ใจเย็นสิตัวน้อย อาไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่แปลกใจ ทำไมตัวน้อย...ช่างมันเถอะ"


     อินทัชสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นกับคายัค การกระทำเมื่อสักครู่ มันไม่ต่างกับการเล้าโลมแฟนก่อนจะเผด็จศึกอย่างไรอย่างนั้น
   

    อินทัชเงียบ และเป็นคายัคที่พูดขึ้นอีกครั้ง


"อาทัชโกรธผมหรอ?"

"เปล่า อาไม่ได้โกรธ แต่อาแค่คิดว่าตัวน้อยยังเด็กเกินกว่าจะมีแฟน อาก็ไม่อยากห้ามหรอก ถ้าตัวน้อยอยากมีก็มีเถอะ"


      ได้ยินเพียงว่าไม่ได้โกรธ คายัคก็พุ่งถามประเด็นที่เจ้าตัวอยากรู้




"ถ้าอาทัชไม่โกรธผม จากนี้ไป ผมขอทำแบบเมื่อกี้กับอาทัชอีกได้ไหม?"

"หาา!...ตัวน้อยพูดอะไรออกมา ตัวน้อยมีแฟนก็ไปทำกับแฟนสิ จะมาทำกับอาทำไม...แล้วอีกอย่าง..."


      อินทัชพูดไม่ทันจบ


"ผมไม่มีแฟน ผมแค่มีความรัก อาทัชไม่เข้าใจรึไงเล่า"
คายัคหงุดหงิดที่อาทัชไม่เข้าใจ

"เฮ้อ...อาไม่คิดเลยว่า ตัวน้อยจะมีความรักเร็วขนาดนี้ สงสัยท่าจะยาว ถ้างั้นนอนก่อนเถอะ อาเพลีย พรุ่งนี้ค่อยคุยแล้วกัน"

"ครับ ถ้างั้นคืนนี้ ผมไปนอนห้องผมแล้วกัน"


    คายัคบอกอาทัช พร้อมลุกจากเตียงเดินไปห้องนอนของตัวเอง


    คายัคถอนหายใจ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดีต่อจากนี้ พอใจมันกล้าหาญชาญชัยจน จุดประกายต่อมอารมณ์ทางเพศได้ คายัคชักติดใจ อยากชิม ลิ้มรสอาทัชมากขึ้นเรื่อยๆ


    คายัคนอนก่ายหน้าผากอย่างคนคิดมากอยู่บนเตียง พร้อมพึมพำคำพูดสุดท้ายก่อนหลับตา


"ผมไม่สนแล้วว่าอาจะมองผมยังไง แต่จากนี้ ผมจะจีบอาทัช"








.................




    เช้าวันถัดมา  อินทัชอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเดินไปเปิดประตูห้องนอนเด็กหนุ่มก็ไร้ร่างคนนอนอยู่แล้ว ขมวดคิ้วสงสัย ทำไมคายัคไปโรงเรียนเร็วอย่างน่าประหลาดใจ


"อะไรกัน ไม่กินข้าวเช้าสองวันแล้วนะ"


     อินทัชรู้สึกว่าช่วงนี้คายัคทำตัวแปลกๆ ทั้งไปโรงเรียนเช้าผิดปกติ ไหนจะยังเรื่องเมื่อคืน

     อินทัชเพิ่งนึกได้รีบปรี่ไปสำรวจต้นคอตัวเองตรงหน้ากระจกเงา


"เฮ้ย!" อินทัชยื่นหน้าเข้าไปใกล้กระจกมากกว่าเก่า เขาไม่คิดว่าการที่เด็กหนุ่มมาซุกซอกคอเขาเหมือนคืนจะจงใจทำให้เกิดรอยจ้ำเด่นชัดขนาดนี้


"ตัวน้อยเล่นอะไรเนี่ย แล้วเราจะกล้ารับลูกค้าได้ยังไง" อินทัชเป็นผู้ชายไม่มีหรอกพวกรองพื้นปกปิดสิวหรือริ้วรอยอะไรแบบนั้น เขาเดินไปเดินมาจนตัดสินใจเปลี่ยนจากเสื้อยืดธรรมดามาเป็นเสื้อคอเต่า


       เปลี่ยนเสื้อตัวใหม่เสร็จเรียบร้อยก็มาทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงครุ่นคิดเรื่องคายัค


      หรืออินทัชมองผิดไป คายัคไม่ได้เด็กเหมือนเมื่อก่อน คายัคโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับอินทัชก็มองว่าคายัคยังเด็กอยู่ดี คายัคเพิ่งมีอายุ 16 ปีเท่านั้น มันเร็วเกินไปที่ตัวน้อยจะมีแฟน


     อินทัชฟุบหน้าจนติดหัวเข่า คงถึงเวลาที่อินทัชต้องยอมรับความจริงว่าเด็กช่วงวัยว้าวุ่น การมีความรักสำหรับเขาคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่


     เงยหน้าขึ้นมาพ่นลมหายใจก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง


"เฮ้อ!...ต้องเปิดใจให้ตัวน้อยมีแฟนแล้วสินะ"

 
      เลี้ยงคายัคมาตั้งแต่เด็กจนโต อินทัชเห็นวิวัฒนาการการเปลี่ยนแปลงและรับมือได้มาโดยตลอด แต่สิ่งที่ทำให้อินทัชทำใจยากจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงคือรู้ว่าคายัคกำลังมีความรัก


      อินทัชบอกไม่ถูก แต่รู้แค่ว่าตอนนี้ เขาใจหาย..
 


     


     เที่ยงวัน ของวันเดียวกัน ทางฝั่งโรงเรียนของคายัค

 
      หลังจากที่สอบเสร็จในตอนเช้า กลุ่มเพื่อนของคายัคก็เดินไปยังโรงอาหารเพื่อกินข้าวมื้อกลางวัน เพียงแต่หนนี้ ไร้ร่างคายัคที่อยู่ในกลุ่ม


     เมื่อเพื่อนๆของคายัคได้อาหารตามต้องการแล้ว ทุกคนก็นั่งกินกัน มีติ๊กที่จับอาการผิดปกติของเพื่อนได้จึงเอ่ยถามบอลเพราะเห็นช่วงนี้ คายัคและบอลดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษ





"ไอ้ยัคมันเป็นอะไรวะ ทำไมไม่ยอมกินข้าวเที่ยงกับพวกเรา"

"เพราะมันไม่หิวไง มึงก็ถามได้"

"กวนตีนนะมึง นึกว่าพวกมึงมีเรื่องอะไรที่ไม่บอกพวกกูซะอีก"

"มึงนี่หลอนหรอ? ไอ้ติ๊ก แค่ไอ้ยัคไม่กินข้าวด้วย ก็คิดเป็นตุเป็นตะไปได้"


"กูมีเซ้นส์"

"ไอ้ติ๊กหยุดพูดแล้วกินข้าวเถอะน่า อย่าไปสนไอ้ยัคมันเลย"
โมทย์ เพื่อนในกลุ่มอีกคนเอ่ยขึ้น ทำให้ติ๊กเงียบและกินข้าวต่อไปจนหมดไม่เหลือ


   หลังจาก จัดการอาหารกันเสร็จสิ้น พวกเพื่อนของคายัคเดินกลับไปยังโต๊ะม้าหินที่คายัคนั่งอยู่เพียงลำพัง

   
"ชู่ววว์ เบาๆนะพวกมึง"


   เมื่อใกล้ถึงตัวเด็กหนุ่ม คนขี้แกล้ง อย่างติ้กแอบย่องเบาไปหาคายัคจากด้านหลัง หวังจะแย่งโทรศัพท์เพื่อน


หมับ!


"เฮ้ย!..."


     ติ๊กคว้าโทรศัพท์คายัคได้สำเร็จ และแอบส่องบนหน้าจอมือถือก็ต้องตาโต



"เชี่ย! มึงอ่านอะไรอยู่วะ? "6 ข้อมัดใจ แฟนวัยสามสิบอัพ"


"เฮ้ย! เอาโทรศัพท์กูคืนมา"

   
    คายัควิ่งไล่ติ๊กที่กระโดดเหยงๆ ชูโทรศัพท์ขึ้นสูง


"ง่อววววว์ วู้วววว์ เดี๋ยวนี้ ไอ้ยัคแม่งไม่ธรรมดาเว้ย!...นิยมวัตถุโบราณก็ไม่บอก มีแฟนเป็นคนแก่ด้วย...ใครวะ?...หรือว่า อาจารย์ยุวดี?"


"ป้ามึงสิ กวนตีน เอาคืนมานะเว้ย"


"บอกกูมาก่อน ไม่งั้นกู ไม่คืน"

"มึงก็คืนๆไอ้ยัคมันไปเถอะน่า ไร้สาระว่ะ"
บอลช่วยพูดให้คายัคสุดฤทธิ์


"มึงนี่ก็อีกคน ปกป้องไอ้ยัคจังนะ มีความลับกับกูชัวร์"


"ไม่มี้!!"
บอลเสียงสูงแแล้วรีบยกสองมือเหนือหัว


"แหนะ ไอ้เชี่ย!...เสียงสูงเชียว"


"เอามา...นะ" คายัควิ่งไล่และกระโดดเพื่อจะคว้าโทรศัพท์จากเพื่อน

"เล่นเป็นเด็กไปได้ คืนๆไอ้ยัคไปซะไอ้ติ้ก กูรำคาญ"


     โมทย์ ผู้เงียบขรึมเอ่ยปาก ทำให้ติ้กเบะปาก มองบนทันที เพราะโมทย์เป็นคนพูดน้อย หากได้พูดเมื่อไหร่แสดงว่าเหลืออด ติ๊กไม่อยากหือจึงคืนโทรศัพท์ให้คายัค เพราะในบรรดาเพื่อนฝูง ติ๊กกลัวโมทย์มากที่สุด


"เออกูสืบเองก็ได้วะ"
 
 
   คายัครับโทรศัพท์มาก็พ่นลมหายใจยาว รีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงนักเรียน

   จังหวะที่ ติ้ก โมทย์ แคน เก่ง เดินนำหน้าไปเพราะบ่ายนี้ยังเหลือสอบอีกวิชา

   คายัคคว้าปกเสื้อนักเรียนของบอลให้หยุดเพื่อเดินช้าลงกว่าคนอื่น


"มึงบอกพวกมันแล้วหรอ?"

"ยัง"


"ชัวร์นะ"

"เออ!...สิวะ มึงเห็นกูเป็นคนยังไงไอ้ยัค ว่าแต่เมื่อคืนเป็นไงบ้างวะ"

"ได้คำตอบว่ะ"


"ว่า..."

"กูชอบอาทัชแบบแฟน ตอนนี้พยายามหาข้อมูลอยู่ จะจีบเขาทั้งที ข้อมูลกูต้องแน่น"

"ขนาดนั้นเลย? ทำไมวะ? คนแก่มันต่างจากพวกเรามากเลยเหรอ? โอ้ย! ไอ้ยัค มึงตบหัวกูทำไม?"


"เมื้อกี้กูก็โมโหทีนึงแล้วตอนไอ้ติ๊กเรียก มึงก็เหมือนกัน ห้ามเรียกแฟนกูว่าแก่ ให้เรียกว่า...รุ่นพี่...อาทัชเพิ่งอายุสามสิบต้นๆเอง ยังน่าฟัดอยู่เลย"


"เดี๋ยวๆนะไอ้ยัค มึงนี่มโนแจ่มเนอะ ยังไม่ทันจะจีบ ทึกทักว่าเขาเป็นแฟนมึงแล้ว? แหม่!...เพื่อนกูนี่มันเด็ดดวงจริงๆ"


"อ้าวทำไมอะ ก็มึงบอกเองไม่ใช่หรอว่าให้กูจินตนาการว่าอาทัชเป็นแฟนกู นี่ไง!... กูมโนเต็มที่เลย"



"เฮ้อ! เพื่อนกูแม่งอาการหนัก พอๆ... สรุปเมื่อคืนถึงขั้นมีอะไรกันหรือเปล่าวะ?"


"หยาบคาย ไม่มีเว้ย แค่หอมแก้ม พอกูรู้ใจตัวเองกูก็หยุดทำ"


     คายัคบอกความจริงกับเพื่อนไม่หมด ในความเป็นจริงน่ะหรอ? แทบไม่อยากหยุดเลยด้วยซ้ำ


"อ้าว แล้วอามึงไม่สงสัยหรอวะ"

"อากูหลับ"
คายัคโกหก


"ถ้างั้นก็ดี แล้วคิดจะบอกพวกไอ้ติ้กเมื่อไหร่?"

"อาจจะหลังวันที่พวกมึงไปบ้านกู เพราะถ้ารู้ก่อน ไอ้ติ้กแซวจนอาทัชรู้แน่"

"เออ เอาให้มึงพร้อม ดีใจด้วยมึง จากนี้ก็บุกเลย"

"ขอบใจมึงมากเลย ไอ้บอล"

"อ้าว!...เพื่อนกันก็ต้องช่วยกันสิวะ"


     คายัคอมยิ้มเดินกอดคอบอลไปยังห้องสอบ เห็นทีวันนี้ เด็กหนุ่มคงยิ้มแบบนี้ไปทั้งวัน






****1.1****




หนูคายัคจ๋า ฮอร์โมนหนูคงจะพุ่งพล่านมากสินะ 55555
เอาใจช่วยเด็กอยากข้ามรุ่นหน่อยนะคะ

น้องเขายังไม่เคยมีแฟนเลยเถอะ มีแต่คนมาจีบ มาคุยมากกว่า

ขอบคุณนักอ่านมากมายค่ะ
:katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2018 22:13:53 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เหมือนว่าอาทัชก็มีใจทางชู้หนุ่มให้กับนู๋คายัคตัวน้อยเช่นกันน้า

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ถูกเรียกตัวน้อยนี่  ยังกะเคะเลยนะคายัค
ต้องทำให้อาเปลี่ยนการเรียกให้ได้ก่อน

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1

บทที่ 2 ชอบเด็กไหม? (2)


 


   หลังจากสอบเสร็จ คายัคยังไม่รีบกลับเพราะต้องมีเวลาสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง ตอนนี้เพื่อนทั้งหกคนนั่งรวมตัวอยู่หน้าโรงภาพยนตร์ เพื่อรอดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ ในระหว่างที่นั่งรอ ส่วนใหญ่ก็ดูดเป๊ปซี่ จ้วงป๊อปคอร์น และจู่ๆ ติ้กก็โพล่งขึ้น


"กูรู้แล้วนะไอ้ยัค ว่ามึงมีความลับอะไร"


  คายัคหันขวับไปทางบอล ที่เจ้าตัวก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธรัว


"อ..อะไรของมึง" คายัคหน้าซีดเผือก


"เดี๋ยวนี้ ไวไฟนะมึง?"


"มะ...มึงอย่าทำเป็นลับลมคมใน พูดมาเลยดีกว่า"


"มึงไปจูบไอ้เบลตอนไหนวะ? ทำไมพวกกูไม่รู้เรื่องเลย มึงชอบไอ้เบลหรอ?"



        คายัคโล่งใจที่ไม่ใช่เรื่องอาทัช แต่ก็ตกใจอยู่ไม่น้อยที่ติ๊กไปรู้เรื่องเบลจากไหน


"มึงรู้ได้ไง" คายัคตกใจรีบถามกลับเพราะคายัคย้ำกับบอลแล้วว่าห้ามบอกใคร


"กูได้ยินเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มไอ้เบลนั่นแหละกระดี๊กระด๊า ดีใจที่มึงจูบเบล"


   คายัคตบหน้าผากดังป๊าบ ไม่คิดว่าความอยากรู้อยากลองของคายัคเองจะทำพิษ?


"เฮ้อ! เบลนะเบล กูจูบเบลจริงแต่กูไม่ได้ชอบเบล"

"ถ้างั้นคายัครีบเคลียร์เถอะ แคนได้ยินมาเหมือนกันว่าผู้หญิงพวกนั้นคิดว่าคายัคชอบเบล เตรียมจะช่วยเบลวางแผนจะชวนคายัคไปเที่ยวแล้วด้วย"
คายัคมองหน้าแคนที่เสริมด้วยหน้าตาตื่น


    แคน เป็น เพื่อนในกลุ่มที่ตัวเล็กที่สุดถ้าเทียบกันแล้วความสูงของแคนก็ราวๆหนึ่งร้อยห้าสิบห้าเซนติเมตรเห็นจะได้ ความสูงของแคนบวกกับหน้าตาที่น่ารัก เรียบร้อย และพูดจาไพเราะกว่าใคร จึงไม่แปลกใจที่เวลาแคนเดินไปไหนต่อไหนกับกลุ่มพวกเขา จะได้รับการทะนุถนอมมากที่สุด
     

"ฉิบ....หา..." คายัคสบถแต่กลืนคำนั้น


    เฮ้อ! มีเรื่องเข้ามาได้จังหวะจริงเชียว แต่คายัคคงหาทางเคลียร์กับเบลทีหลัง เพราะเบลอาจไม่สำคัญเท่าใครบางคนที่รอคายัคอยู่ที่บ้าน



"เออ ขอบใจนะน้องแคนและติ้กที่มาบอก"

"ไอ้ยัค กูบอกแล้วนะว่า กูเรียกน้องแคนได้คนเดียว"
ติ๊กโพล่งขึ้นมา คายัคขำ เขารู้ดีเป็นที่สุด เพราะติ๊กพูดย้ำถึงเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ แต่ด้วยความโรคจิต คายัคชอบแหย่ให้เพื่อนอารมณ์เสีย เพราะมันสะใจดี


    ติ๊กชอบทำตัวราวกับงูจงอางหวงไข่ หวงแคนทั้งๆที่ไม่ได้เป็นแฟนกับเขาเลยสักนิด


    คายัคละสายตาจากเพื่อน มองหน้าแคนที่แม้จะมีชื่ออยู่ในบทสนทนา แต่เจ้าตัวกลับเงียบ ไม่หือ ไม่อือ ทั้งยังเม้มปากแน่น ก้มหน้ามองพื้นอย่างเดียว


    เมื่อถึงเวลาที่ภาพยนตร์เข้าฉาย ทุกคนต่างเดินเข้าโรงหนังเพื่อเสพความบันเทิง เริงรมย์  ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงที่ทุกคนเดินออกมาจากโรงด้วยอารมณ์ที่ค้างคาจนอดจะเอามาพูดต่อกันข้างนอกไม่ได้


    คุยไป เดินไปจนถึงหน้าห้างสรรพสินค้าต่างก็ร่ำลาแยกย้ายกันกลับบ้าน มีเพียงบอลที่กลับกับคายัคเนื่องจากบ้านอยู่ทางเดียวกัน เมื่อทั้งสองขึ้นรถแท็กซี่ได้ไม่นาน บอลก็ถามขึ้น




"ไอ้ยัค?"


"อะไร?"



"ถ้า...กูจะจีบแคน มึงว่าไงวะ?"


"เชี่ย! บอล"


"ทำไมอะ กูไม่เหมาะกับแคนหรอ?"


"ไม่! อย่างแรง น้องแคนน่ารัก เรียบร้อย ซึ่งตรงข้ามกับมึงมาก มึงแม่งเกเร ไม่เอาไหน เรียนไม่เก่ง"


"อย่าเพิ่งตลกดิ กูขอความคิดเห็นจริงๆ กูชอบแคนมานานแล้วนะมึง เพียงแต่ก่อนหน้านี้ที่กูเฉยๆ เงียบๆ เพราะไม่อยากให้ใครแซว แต่หลังๆกูไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่ไอ้ติ้กทำตัวเป็นหมาห้วงก้างแคนทั้งๆที่แคนไม่ใช่แฟนมันด้วยซ้ำ"



    คายัครู้สึกผิดทันที ที่จะเล่นมุกใส่ เพื่อนกลับไม่ขำแถมจริงจังเกินอายุไปอีก



"ถ้ามึงบอกชอบแคนนานแล้ว ทำไมตอนนี้ เพิ่งมาบอกกู"

"อาจเป็นเพราะกูเห็นมึงบอกเรื่องของอามึงมั้ง มึงไว้ใจกูถึงกับกล้าบอกเรื่องสำคัญขนาดนี้ กูเลยบอกมึงบ้าง"



   คายัคหัวเราะในลำคอ ถ้าบอลไม่เห็นตอนที่คายัคจูบเบล นาทีนี้ คายัคก็คงไม่มีทางได้ล่วงรู้ความลับเรื่องที่บอลชอบแคนเหมือนกัน


"ก่อนมึงบอกแคน กูจะลองตะล่อมถามติ้กว่ามันชอบแคนด้วยหรือเปล่า? เพราะกูก็ไม่รู้หรอกว่าที่แม่งหวง มันอาจจะหวังในตัวแคนอยู่ลึกๆก็ได้"


"เฮ้อ! กูก็ไม่อยากชอบแคนหรอกนะเพราะรู้ทั้งรู้ว่าเป็นเพื่อนกัน แต่ความรู้สึกมันห้ามกันได้ที่ไหนวะ.... เออ...ไอ้ยัค กูถามอะไรหน่อยดิ มึงว่ากูกับไอ้ติ้กใครเหมาะกับแคนมากกว่ากันวะ"



    คายัคอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะทั้งสองก็คือเพื่อนของเขา

    แต่อย่างไรก็ตาม คายัคไม่สามารถตอบได้เพราะคายัคไม่ใช่แคน


    มันก็หมือนกับการตั้งคำถามว่า ระหว่าง กินส้มตำคู่น้ำเปล่า กับกินส้มตำคู่โค้ก อันไหนได้ความฟินมากกว่ากัน


    เชื่อว่าถามร้อยคนก็คงให้คำตอบและเหตุผลต่างกัน เพราะแต่ละคนมีรสนิยมชมชอบและสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน

   คายัคถอนหายใจ ตบบ่าเพื่อนสองสามที


"ขอโทษนะ กูตอบไม่ได้จริงๆว่ะ มึงต้องลองจีบแคนดู แล้วให้แคนเป็นคนให้คำตอบมึงน่าจะดีกว่า"


"เฮ้อ!...ถ้าถึงวันที่กูตัดสินใจจะจีบแคนจริงๆ มึงช่วยกูด้วยนะ ไอ้ยัค"

"แน่นอน เพื่อนกันก็ต้องช่วยกันสิวะ"
คายัคตอบคำเดียวกับที่บอลเคยบอกคายัค เมื่อช่วงกลางวัน หันมองเพื่อนที่ส่งยิ้มฝืนๆเหมือนเหนื่อยล้า


"ขอบใจว่ะ"



     ตอนนี้ บอลเงียบและเบือนหน้าหนีไปนอกหน้าต่างรถ คายัคใจหาย ไม่เคยเห็นบอลเป็นแบบนี้ เหมือนบอลจะไม่ได้เล่นๆกับแคนซะด้วย คายัคสัมผัสได้ว่าเพื่อนเขาเอาจริง


     กระทั่งแท็กซี่จอดตรงปากทางเข้าหมู่บ้านของบอล และเพื่อนสนิทได้ลงจากรถไป รถยนต์ก็เคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่สอง


     ระหว่างทาง คายัคฆ่าเวลาด้วยการกดเข้าเว็บไซต์พิซซ่า เพื่อดูเมนูไปพลางๆ เนื่องจากอาทัชบอกว่าจะรอกินพิซซ่าด้วยกัน


      สักครู่ใหญ่ๆ ก็ถึงที่หมาย ซึ่งเป็นช่วงเวลาปิดร้าน  คายัคลงจากรถ ผลักประตูกระจกใสบานใหญ่เข้าไปก็ชะงักเมื่อเห็นลูกค้าคนที่เคยบอกว่าจะกลับมาใหม่ ได้กลับมาอีกครั้งตามปากว่า แถมดูสนิทสนมเกินหน้า เกินตากว่าลูกค้าทั่วไป เนื่องจาก ลูกค้าคนนั้นช่วยอาทัชกวาดพื้นทำความสะอาด


    คายัคไม่พอใจเท่าไหร่ที่ใครหน้าไหนก็ไม่รู้มาสนิทกับอาทัชเทียบเท่าตัวเอง
 
 
"สวัสดีครับ อาทัช"

"อ้าว!...ตัว...น้...เออะ...คายัคมาแล้วเหรอ?"
เพียงคายัคส่งสายตาพิฆาต อินทัชเปลี่ยนสรรพนามทันทีเมื่อรู้ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย

"ไหว้คุณภูมิด้วยสิ" คายัคยกมือไหว้และรีบเดินไปประชิดตัวอาทัชพูดเสียงลอดไรฟัน


"ทำไมเขายังอยู่ครับ"


"คุณภูมิเห็นอาเก็บกวาดร้านคนเดียว เลยมาช่วย"


"แต่เขาเป็นลูกค้า จะมาช่วยทำไม"

"อาก็บอกไปแบบนี้เหมือนกัน เดี๋ยวค่อยคุยเถอะคายัค ทำแบบนี้ก็ไม่ต่างกับเรานินทาเขาอยู่"


      คายัคหันไปบอกด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร


"พี่กลับไปเถอะครับ ผมช่วยอาผมได้"


"ถ้างั้น ผมกลับก่อนนะครับ"

"ขอบคุณคุณภูมิมากเลยนะครับ เกรงใจจัง ทำแบบนี้ ผมคงต้องยกให้เป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์แล้วล่ะมั้ง"
คายัคมองหน้าอาทัชที่ส่งยิ้มให้ลูกค้าหน้าใหม่ แล้วหงุดหงิดใจอย่างไรชอบกล


"ถ้าผมไม่ได้อยากเป็นแค่ลูกค้าล่ะครับ?"


"คุณภูมินี่อารมณ์ขันจังเลยนะครับ"
คายัคมองอาทัชที่ชะงักไปนิด ก่อนจะรีบต่อบททันควัน


     คายัคทนไม่ไหวตัดสินใจโพล่งขึ้น


"กลับบ้านดีๆนะครับและต้องขอบคุณมากเลยที่พี่มาช่วย อ้อ..อาทัชที่ว่าจะรอกินพิซซ่าพร้อมผมนี่ อาทัชอยากกินพิซซ่าหน้าอะไรดีครับ เราสั่งชุดโปรโมชั่นสำหรับสองคนดีไหม ผมว่าน่าจะคุ้มกว่านะ"


     คายัคเน้นเสียงหนักคำว่า "สำหรับสองคน" พร้อมชำเลืองมองอีกฝ่ายที่ยืนชะงัก



"ดูท่าจะหิวกัน ผมไปก่อนนะครับคุณอิน"


"เหอะเหอะแปลกจัง! ผมไม่ค่อยคุ้นคนเรียกชื่อผมว่าอินเท่าไหร่ ปกติถ้าไม่เรียกชื่อเต็มก็จะเรียกลงท้ายอย่างทัชมากกว่า"


"ดีแล้วครับ ผมไม่ชอบเรียกเหมือนใคร ไว้พรุ่งนี้ผมจะมาใหม่นะครับ"


"ครับ โชคดีนะครับคุณภูมิ"

"ครับ"



    คายัคถอนหายใจฟึดฟัด แสดงอาการเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน คนบ้าอะไร หน้าด้าน หน้าทนยังจะกล้ามาร้านกาแฟได้อีก
 

    หลังจากที่ลูกค้าคนนั้นพ้นร้านจนลับตา คายัคเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงนักเรียน กอดอก มองหน้าอาทัชด้วยความขุ่นเคือง


     แค่คายัคกลับบ้านดึกวันเดียว ก็มีอะไรเปลี่ยนไปหลายอย่าง ทั้งมีคนใหม่มาช่วยทำความสะอาดร้าน อาทัชก็มาแต่งตัวดีเป็นพิเศษ เห็นทุกทีใส่แต่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ มาวันนี้ใส่คอเต่าสีดำอย่างกับสตีฟ จ๊อปส์


"ที่อาทัชแต่งตัวดูดี อย่าบอกนะว่าเพื่อไอ้ลูกค้านั่น"

"ตัวน้อยพูดจาอะไรแปลกๆ"

"ก็แล้วทำไมวันนี้อาทัชแต่งตัวดีผิดหู ผิดตาล่ะครับ"



"เป็นอะไร? โมโหหิวเหรอตัวน้อย ที่อาต้องแต่งตัวแบบนี้มันเพราะใครกันล่ะ ฮึ?" อินทัชโน้มตัวลงต่ำ ใช้นิ้วจิ้มปลายจมูกเด็กหนุ่ม คายัครีบคว้ามืออาทัชมาจับไว้แน่น


"อาพูดเหมือนจะว่าผม"


"ก็เมื่อคืนตัวน้อยเล่นอะไร รู้ไหมว่ามันเป็นรอยน่ะ อายังไม่ได้เคลียร์เรื่องที่ตัวน้อยมีความรักเลยนะ"



"อาทัชไม่ต้องรู้หรอกน่า รู้แค่ว่าผมกำลังจะจีบคนๆหนึ่ง ซึ่งอีกไม่นาน ผมต้องได้เขามาเป็นแฟนแน่ๆ"



   อินทัชใจกระตุกที่คายัคพูดแบบนั้น


"อาไม่เคยเห็นตัวน้อยมุ่งมั่นอะไรเท่านี้มาก่อน รักวัยเด็กมันไม่เหมือนตอนโตนะ อย่ารักสนุกมากเกินไปล่ะ"


"ผมจริงจังและไม่ได้คิดว่า ความรักครั้งนี้มันจะเป็นแค่เรื่องสนุกหรือขำๆ"


"เฮ้อ! เถียงตลอด อาจะคอยดูแล้วกัน คายัคสั่งพิซซ่าเถอะ อาเอาพิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยน ขอแป้งหนาหนุ่มนะ ส่วนอีกถาดคายัคเลือกเลย"



    อินทัชรู้ดีว่าถ้าสั่งพิซซ่าทีไร ต้องสั่งสองถาด เพราะแค่คายัคคนเดียวก็กินถาดนึงได้เต็มๆ

     อินทัชปล่อยให้คายัคได้ทำการสั่งอาหารออนไลน์ ส่วนเขาเองขอตัวไปล้างมือ และเคลียร์อุปกรณ์การทำกาแฟอีกนิดหน่อย
 

   สี่สิบห้านาทีที่พิซซ่ามาบริการส่งถึงที่ คายัคถือเข้ามาในร้านและค่อยๆวางพิซซ่าสองถาด ไก่นิวออร์ลีนผสมไก่บาร์บีคิว สไปซี่ และ ขนมปังกระเทียมลงบนโต๊ะ


    แค่เห็นอาหารวางเต็มโต๊ะก็ดูละลานตาชวนน้ำลายสอ แถมท้องเริ่มร้อง ทั้งสองไม่รีรอ รีบนั่ง ขณะที่อินทัชเปิดกล่องพิซซ่า กำลังจะหยิบชิ้นพิซซ่าฮาวายเอี้ยน


"ผมทำให้ครับ อาทัชใส่อะไรบ้าง? ซอสมะเขือเทศ พริกป่น ผงออริกาโน่?"


    อินทัชขมวดคิ้วมองเด็กหนุ่ม ก่อนตอบ


"อาใส่หมดเลย แต่ขอใส่ซอสมะเขือเทศสองซองครับ"

"ได้ครับ"



     คายัคพยักหน้า ใช้กรรไกรตัดซองซอสมะเขือเทศ พริกป่นและผงออริกาโน่ทุกอย่าง บรรจงเทโรยหน้าพิซซ่าแล้วยื่นให้อาทัชกับมือ


"ทำอะไรผิดมาหรือเปล่า ทำดีกับอาแปลกๆ?"



"ผมรู้ว่าอาทัชเหนื่อย ผมก็แค่อยากเป็นฝ่ายดูแลอาทัชบ้าง"


"ปากหวานนะเรา เฮ้!....ตัวน้อยจะทำอะไร?"
หลังจากจบคำชม คายัคยื่นปากไปใกล้อินทัชจนเขาต้องถามอีกรอบ


"ก็อาทัชบอกผมปากหวาน อาทัชยังไม่เคยชิมสักหน่อย แล้วรู้ได้ไงว่าหวาน ผมเลยยื่นปากไปหาให้อาทัชได้ชิมจริงๆไงเล่า โอ้ย...อาทัชเจ็บนะ" คายัคลูบหน้าผากตัวเอง ที่อาทัชตีมาได้ไม่มีออมแรงสักนิด


"กวนประสาท"



    คายัคเอียงคอยิ้มมุมปาก ไม่สะทกสะท้านในคำดุด่า ตั้งหน้า ตั้งตา กินพิซซ่าของตัวเองบ้าง

    คายัคกินหมดไปชิ้นหนึ่งแล้วก็ถามอาทัชที่กำลังงับขนมปังกระเทียม


"อาทัช เคยมีแฟนไหม?"


    อินทัชเงยหน้ามอง


"เคยสิ ก็ก่อนจะมาเลี้ยงตัวน้อยนี่แหละมีอะไรหรือเปล่า? ทำไมอยู่ดีๆถึงถาม"

"ผมอยากรู้ไม่ได้หรอ? แล้วปกติอาทัชชอบคนแบบไหนหรอครับ?"

"อาโตขึ้น ก็มีมุมมองที่เปลี่ยนไป อาชอบคนที่มีนิสัยใจคอเข้ากันได้ ไม่เห็นแก่ตัว พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเพื่อกันและกัน และอยู่เคียงข้างได้ทั้งยามสุข ยามทุกข์"


"แสดงว่าตอนนี้ อาทัชไม่ชอบคนที่หน้าตาแล้วหรอครับ? ส่วนใหญ่ที่พูดมาก็เป็นลักษณะนิสัยหมดเลย"

"ก็ประมาณนั้นมั้ง"



"แล้วตอนที่อาทัชมีแฟน เขาอายุเท่าไหร่หรอครับ?"

"มากกว่าอาประมาณสามปีได้"


"โห! จริงหรอครับ แล้วถ้าตอนนี้ล่ะ อาทัชคิดจะชอบเด็กไหม?"


"หืม! อาสามสิบกว่าแล้ว คงไม่น่าจะมีเด็กมาชอบวัยนี้หรอกมั้ง"
  คายัคมองหน้าอาทัชที่เวลาคุยเรื่องความรัก อาทัชดูจะเขินๆ อาจเป็นเพราะโดยปกติ เราสองคนไม่เคยแลกเปลี่ยนความคิดหรือทัศนคติทางด้านความรักกันเท่าไหร่


"แล้วถ้ามีล่ะครับ? อาจะคบไหม?"


"ไม่รู้สิ ต้องดูก่อนว่าเด็กที่ว่าอายุเท่าไหร่ ห่างกันมากไหม? เพราะต้องดูนิสัยใจคออีกทีด้วย"



"เด็กอายุสิบหกน่ะครับ"


"แค่กๆๆ...อะอื้มมม..อะแฮ่ม!" อินทัชรีบดูดน้ำเปล่าแก้อาการติดคอ


"คายัคพูดอะไรน่ะ มะ...หมายถึงใคร?"


"ก็...หมายถึงเด็กทั่วไปน่ะครับ"
คายัคยิ้มขำกับอาการคนตรงหน้าที่สำลักอาหารจนหน้าแดง หูแดง


"อ...เอ่อ..ตอบยาก ถ้าได้ลองคุย ลองเจอหน้ากัน อาอาจจะชอบก็ได้ อาว่าเราเปลี่ยนเรื่องคุยกันไหม?"




"ทำไมล่ะครับ ผมว่าเรื่องนี้น่าสนใจดีออก ถ้างั้น คำถามสุดท้ายก็ได้ ตอนนี้ อาทัชไม่มีแฟน อาทัชเหงาไหมครับ?"

"ไม่เหงา เพราะอามีตัวน้อยไงครับ"
อินทัชรีบตัดบทแต่ยอมรับว่าที่พูดก็เป็นความจริงและไม่อยากให้คายัครู้สึกน้อยใจ ฟากคายัคยิ้มแก้มปริ


"จริงนะ"

"ครับ"

"ถ้างั้น จากนี้ อาทัชจะไม่มีวันเหงาอีกต่อไป เพราะผมจะทำทุกอย่างให้อาทัชมีความสุขเอง"

[/b]
   
    คายัคว่าจบรีบลุกขึ้นไปฝั่งตรงข้าม โน้มตัวลงต่ำเอียงหน้าไปหอมแก้มข้างขวาของอีกฝ่าย


"ตัวน้อย ปากเลอะซอสแล้วมาหอมแก้มอาเนี่ยนะ อึ้ย! สกปรก ซกมก"


    คายัคยิ้มกว้างอย่างไม่รู้สึกผิด เพราะ ไม่ว่าคายัคจะทำตัวให้น่าดุด่าว่ากล่าวขนาดไหน อาทัชก็แค่บ่นแต่ไม่เคยขึ้นเสียงหรือว่ากล่าวเสียๆหายๆโดยการใช้ถ้อยคำหยาบคาย

    คายัคดึงกระดาษทิชชูเปียกมาเช็ดปากตัวเอง ก่อนจะดึงอีกแผ่นเพื่อเช็ดแก้มอาทัชอย่างเบามือ จากนั้น คายัคกดจมูกลงไปหอมแก้มที่เดิมอีกครั้ง


"สะอาดแล้วครับ"


   คายัคผละและเดินกลับมานังที่นั่งของตัวเอง แต่อาทัชดันลุกพรวด



"อารู้สึกว่าหน้ามันยังเหนียวๆ อาไปห้องน้ำก่อน แล้วอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ ซกมกจริงๆเลยเราเนี่ย!"


   คายัคเอียงคอ ยิ้มมุมปาก แล้วกัดพิซซ่าชิ้นใหม่อย่างมีความสุข




........................................................

 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่า

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ดูแววแล้ว อาหลานน่าจะใจตรงกันนะเนี่ย  อิอิ


ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
อ้อมไปอ้อมมา ระวังภูมิคาบอาไปก่อนนะคายัค 

ส่วนตัวว่าอินทัช ปฏิเสธคนไม่เป็น  ดูเป็นคนที่ขี้กลัว เหมือนไม่ค่อยทันคนจากกรณีของลูกค้าผู้หญิง แล้วก็เรื่องภูมิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1


บทที่ 3  เด็กหวงของ








    สิบเอ็ดโมง ของวันอาทิตย์


    หลังจาก คายัค ถามเรื่องความรักของอาทัชเมื่อไม่กี่วันก่อน คายัคก็ไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก และเด็กหนุ่มยังไม่เผยความรู้สึก เพราะตั้งใจรอหลังวันกินเลี้ยงสอบเสร็จก่อน ช่วงนี้ คายัคเลยแค่หยอดความชอบลงไปทีละนิดๆ

 
    อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย คายัคเดินลงมาด้วยความเริงร่า แต่พอสายตามองไปตรงเคาน์เตอร์ ก็ต้องชะงักกลางคัน เมื่อเห็นลูกค้าคนเดิมมาแต่หัววัน และยืนคุยกับอาทัชยกยิ้มอย่างน่าหมั่นไส้




    คายัคยืนหลบมุมพลางคิดแผนตรงตีนบันได ว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ชายคนนั้นไปไกลๆจากอาทัช



    แต่แล้ว คายัคสังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง



"อาทัช ผมลงมาแล้วครับ..."
เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงเริงร่าเดินเข้าไปหาอินทัชข้างในเคาน์เตอร์ อินทัชละสายตาจากภูมิ หันไปพูดเสียงเบา



"คายัค สวัสดีคุณภูมิด้วย" 



    คายัคกลอกตา ก่อนจะฝืนยิ้ม ยกมือไหว้คุณภูมิ ซึ่งดูเหมือนว่าลูกค้าคนนี้จะพิเศษกว่าคนอื่นไปหน่อยแล้ว



     จังหวะนั้น คายัคเดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนออกมาจากตู้เก็บของเหนือศรีษะ เมื่อได้มา เด็กหนุ่มเดินไปประชิดตัวคนอายุมากกว่า



"ขอโทษนะครับ อาทัช"



ฟึ่บ



      ร่างผอมยืนซ้อนหลังอาทัชเพื่อสวมผ้ากันเปื้อนให้อาทัชจากศรีษะ ก่อนจะดึงเชือกตรงเอวผ้ากันเปื้อนมัดเป็นปมด้านหลัง เสร็จแล้วคายัคไม่วายแกล้งจัดผ้ากันเปื้อนด้านหน้าให้เข้าที่ด้วยท่าทีอ้อยอิ่ง



     มุมที่ภูมิเห็นจึงไม่ต่างอะไรกับการที่คายัคกอดอินทัชอยู่



"อาทัชนี่ขี้ลืมจัง ผมต้องมาใส่ผ้ากันเปื้อนให้แบบนี้ทุกวันเลยนะครับ"



     บอกอย่างยิ้มๆ ก่อนจะเหลือบมองคนด้านนอกเคาน์เตอร์ที่ชะงัก คายัคยิ้มมุมปากพลางยักคิ้วอย่างคนเหนือกว่า มันจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร



"ขอบคุณครับคายัค เอ่อ..คายัคช่วยออกไปซื้อของให้อาที่เซเว่นหน่อยสิ"
อินทัชดูสถานการณ์เหมือนจะไม่ค่อยดี รีบตัดบททันที



"ได้ครับ อาทัชจะเอาอะไรบ้าง"



"เอานมจืดสองขวด ไข่ไก่หนึ่งแผง"



      อินทัชแค่หาเรื่องให้เด็กหนุ่มออกไปข้างนอก เขาผละจากคายัคไปตรงที่คิดเงิน ดึงลิ้นชักเก็บเงินออกมา คายัคยังไม่วายเดินตามไปยืนซ้อนหลัง ด้วยตัวคายัคที่เตี้ยกว่าอินทัชราวสิบเซ็น เด็กหนุ่มจึงเขย่งแล้ว...

 

ฟอด!

 

"คายัคทำอะไร อามีลูกค้านะ"
อินทัชใช้หลังมือลูบแก้มตัวเอง และหันไปดุเด็กหนุ่มที่ยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน

 

"ค่าเดินออกไปข้างนอกครับ"



      คายัครับเงินมาแล้วรีบวิ่งออกไปนอกร้านทันที ยังดีที่ตอนนี้ ไม่มีลูกค้าคนอื่น อินทัชส่งยิ้มแห้งให้ภูภูมิ เมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของความอึดอัดและกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก



"พอดีหลานเขาติดผมพอสมควร เราเลยแสดงความรักกันแบบนี้เป็นเรื่องปกติน่ะครับ" อินทัชรีบแก้ตัว

 

"แน่ใจหรอครับ? ผมว่าการกระทำของหลานคุณอินดูเหมือนเด็กหวงของมากกว่า"



"เอ่อ....คือ..."

 

"หลานคุณอินอายุเท่าไหร่ครับ?"

 

"สิบหกครับ ไม่มีอะไรหรอกครับคุณภูมิ แค่คายัคยังเด็ก เลยไม่ค่อยรู้จักกาละเทศะเท่าไหร่"

 

"คนที่เลี้ยงมา มักมองว่าคนที่อยู่ภายใต้การปกครองเป็นเด็กในสายตาอยู่เสมอ แต่มุมมองคนนอกอย่างผม ผมว่าไม่เด็กแล้วนะครับ"


 

      อินทัชยืนเงียบและหน้าชาที่อีกฝ่ายโต้กลับได้รู้สึกเจ็บแสบนิดๆ



"คุณอินเป็นคนใจดีและน่ารัก ใครๆก็หวงเป็นธรรมดา ผมอาจก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวคุณอินมากเกินไป ผมขอโทษ หากทำให้คุณอินไม่สบายใจเกี่ยวกับ "หลานคุณ"



 

    อินทัชมองหน้าคนที่ตั้งใจเน้นคำว่าหลานอย่างที่อินทัชสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจสื่อความหมายให้ได้ตระหนัก

 

"ดีแล้วครับที่คุณภูมิบอก บางที ผมก็ไม่รู้ ขอบคุณนะครับ"

 

"ผมว่าคุณอินเป็นคนฉลาดนะ คุณอินอาจรู้ก่อนที่ผมบอกอยู่แล้วก็ได้...แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้กับทุกๆเรื่องมากกว่า ถ้างั้นก็ดี ผมถือโอกาสบอกเรื่องของผมให้ชัดเลยแล้วกัน ผมชอบคุณอินนะครับ"



      อินทัชมองหน้าภูภูมินิ่งๆ



"ขอบคุณนะครับ ที่คุณภูมิชอบผม แต่ผม...."



"อย่าเพิ่งปิดโอกาสกันเลยดีกว่าครับ ของแบบนี้ ไม่ให้เวลาพิสูจน์หน่อยหรือ?"



       เจ้าของร้านยืนเม้มปากแน่นเป็นเส้นตรง ก่อนจะค่อยๆเผยรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฎแก่สายตาคนที่เพิ่งบอกชอบในไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา



"เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ"



"ผมว่าผมกลับก่อนดีกว่า เผื่อคุณอินจะผ่อนคลายได้บ้าง เห็นทีวันนี้ คุณอินน่าจะมีเรื่องให้คิดเยอะพอสมควร"



      ภูภูมิยิ้มมุมปากแต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้อินทัชหนักใจ ก่อนจะหวนไปนึกถึงเด็กในปกครอง



"ครับ คุณภูมิ"



     ลูกค้าที่ไม่ได้อยากเป็นแค่ลูกค้าหมุนตัวเดินไปยังประตูกระจกใสบานใหญ่เพื่อกลับไปตามที่บอก ทิ้งให้เจ้าของร้านทิ้งตัวลงนั่งพักที่เก้าอี้อย่างคนหมดแรง



    ถัดมายังเหตุการณ์นอกร้าน ราวสิบนาที หลังจาก คายัคซื้อของให้อาทัชเสร็จเรียบร้อย เขาก้าวเดินออกจากร้านสะดวกซื้อด้วยรอยยิ้มของคนมีความสุข แต่จังหวะนั้น คายัคเห็นลูกค้าคนนั้นลงจากรถยนต์ และกำลังเดินสวนเด็กหนุ่มเพื่อเข้าเซเว่น อีเลฟเว่นพอดิบ พอดี



    คายัคมองหน้าอีกฝ่ายที่เดินใกล้เข้ามาด้วยความฉงนว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจมาเจอะกันแน่



    จังหวะที่เดินสวนกัน



"สิ่งที่นายคิดจะทำอยู่ มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก"



หมับ!



   ได้ยินเต็มสองรูหู คายัคกระชากไหล่อีกฝ่ายทันที



"หมายความว่าไง"



"ก็หมายความตามที่พูด แล้วอย่าคิดจะต่อยฉันหน้าเซเว่นล่ะ เห็นแก่หน้าผู้ปกครองนายบ้าง"



      พออีกฝ่ายพูดดักคอ มือที่กำหมัดแน่น หวังจะหวดหมัดเข้าเบ้าหน้าอีกฝ่าย เป็นอันคลายลงและสะกดอารมณ์ บอกตัวเองให้ใจเย็น และรีบดิ่งกลับร้านกาแฟทันที



      กระทั่ง เดินเข้ามาในร้าน คายัคก็ยังครุ่นคิดคำของอีกคน ยอมรับว่าสูญเสียความมั่นใจไปอยู่เหมือนกัน



     เด็กหนุ่มเดินยังไม่ทันจะเข้าไปข้างในเคาน์เตอร์ ก็โดนอาทัชใช้ให้ไปเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กลุ่มผู้ชายวัยรุ่นนอกร้านเสียก่อน คายัควางถุงที่ซื้อของให้อาทัชลงบนเคาน์เตอร์และรับถาดเครื่องดื่มไปเสิร์ฟ



     บริการเสร็จแล้ว คายัคเดินไปหาอาทัชทันที





"อาทัชครับ ผมไม่ชอบลูกค้าคนนั้น"



"ทำไม?"



"เขามาจีบอาใช่ไหม?"



"ไม่ใช่หรอกครับ เขาไม่ได้มาจีบอา"
อินทัชส่งยิ้มบางเบาให้แก่หนุ่มน้อย



"อาทัชโกหกผม"


 

   อินทัชหยิกแขนคายัคไม่แรงนัก





"เห็นอาเป็นคนยังไงกัน อาไม่ได้โกหก"



"ผมจะเชื่อ แต่จะเป็นไปได้ไหมถ้าอาทัชไม่รับลูกค้าคนนั้น?"


"คงไม่ได้หรอก มันคืองานของอานะครับ ตัวน้อยต้องเข้าใจอานะ"

 

    คายัคจำคำสัญญาได้ว่าจะไม่ทำอาทัชเหนื่อยหรือไม่สบายใจ



"ก็ได้ครับ"


"แต่ถ้ามันมีเหตุการณ์ที่ตัวอาและต้วน้อยเริ่มไม่สบายใจไปมากกว่านี้ อาจะทบทวนดูอีกที"



     บางที อินทัชอาจไม่รู้ตัวว่าเขาพยายามปกป้องคายัคมากเกินไป ฟากคายัคฟังอาทัชพูดเอาใจ เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง


"ขอบคุณครับ"



"อ้อ! อีกเรื่อง ตอนนี้ คายัคโตแล้ว คายัคไม่ควรหอมแก้มอาอีกและอย่าทำแบบนั้นต่อหน้าลูกค้า เข้าใจไหม?"



"ทำไมครับ? บางทีผมก็สับสนกับคำบอกของอาทัชนะ ไม่ว่าผมจะทำอะไรก็ตาม อาทัชจะว่าผมเรื่องอายุตลอด พอผมทำอย่างนึง อาทัชก็บอกผมว่าโตแล้ว ไม่ควรทำ แต่พอผมทำอีกอย่าง อาทัชก็บอกว่า ผมยังเด็ก สรุปแล้วผมต้องทำตัวยังไงครับ"



     อินทัชชะงัก ก่อนจะลูบศรีษะเด็กหนุ่ม

   
"อาขอโทษ อาผิดเองที่ทำให้คายัคสับสน ช่วงนี้ อามีเรื่องให้คิดเยอะน่ะ"


"แล้วทำไมอาต้องคิดเยอะครับ มันพอมีอะไรที่ผมจะช่วยอาทัชได้ไหม?"



     อินทัชอมยิ้มเมื่อเด็กหนุ่มมองมาด้วยแววตามุ่งมั่น เขาไม่ตอบคำเด็กหนุ่ม เพราะแม้แต่ตัวเองตอนนี้ อินทัชก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนให้กับทุกๆเรื่อง


 

   


***1.1***



มันดูเหมือนจะง่ายแต่มันไม่ง่าย เพราะมันดันมีอายุมาเกี่ยวนี่แหละค่ะ (แหะๆๆ)
เอาเป็นว่าส่งกำลังใจให้ทั้งคู่กันดีกว่าเนอะ...

ขอบคุณมากค่ะ
:z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-06-2018 00:25:27 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ถ้าภูมิไม่ท้วงคุณอาคงไม่คิดมาก คายัคเองก็ระวังเรื่องเบลจะมามัดตัวให้ยุ่งเหยิงไปมากกว่านี้ล่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ตาม

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ใครหนอจะเป็นผู้พิชิตใจอินทัชได้น้า

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เราเชียร์คายัค คายัคสู้ๆ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1

บทที่ 3  เด็กหวงของ(2)







    และแล้ววันฉลองสอบเสร็จก็มาถึง

 

      เวลาทุ่มเศษๆ นายชลธารหรือคายัคพาบรรดาเพื่อนๆไปร้านกาแฟ แต่ด้วยสภาพตอนนี้ ทุกคนนั่งบนรถแท็กซี่ด้วยสภาพเบียดเสียดและแออัด เพราะยัดถึงเจ็ดคนแถมเบลมาด้วย และด้วยขนาดที่นั่งจำกัด เบลจึงต้องนั่งตักคายัค ซึ่งคายัครีบใช้จังหวะนี้ เคลียร์ปัญหาและบอกย้ำกับเบลเลยว่า คายัคไม่ได้ชอบเบลแบบแฟน เบลเสียใจแต่ก็พยายามจะเข้าใจมากขึ้น

 



"เบล อารมณ์ดีเชียวนะ"

 

    คายัคอยากจะต่อยหน้าเพื่อนสักทีเมื่ออยู่ดีๆติ๊กก็แซวขึ้น แต่ด้วยการนั่งตอนนี้ แค่หายใจยังลำบาก



"มึงเงียบก็ไม่มีใครว่ามึงเป็นใบ้"

 

     คายัคอุตส่าห์จบปัญหากับเบลไปแล้ว แต่การที่ติ๊กแซวแบบนี้ คายัคก็ไม่อยากให้เบลคิดว่าตัวเองมีความหวัง

 

"ทำมาว่ากู ลึกๆก็ชอบใช่ไหม? ไอ้ยัค"

 



    ขณะที่ทั้งสองยังเถียงกันไม่จบ มีเสียงใครคนหนึ่งแทรกขึ้น



"แคนนั่งตักเราได้นะ"

 

     ทุกสายตาพุ่งไปหาบอลโดยไม่ได้นัดหมาย ฟากบอลเห็นเบลนั่งไม่เต็มก้นแถมตัวลีบเล็กจนจะแนบไปกับประตูรถ จึงเอ่ยถาม

 

"ไม่เป็นไร แคนนั่งได้...อ้ะ..." คนถามเหมือนไม่ได้สนใจจะเอาคำตอบ เพราะบอลสอดแขนเข้าใต้รักแร้คนตัวเล็กเพื่ออุ้มขึ้นมานั่งบนตัก

 

"ไอ้บอล ทำเหี้ยอะไร"




   ติ๊กตวาดอย่างฉุนๆ ฟากแคนทำตัวไม่ถูก ก้มหน้า ปากสั่น พยายามจะดันตัวเองลงจากตักของบอล แต่บอลกลับกระชับเอวแคนแน่น

 

"ทำไมมึงต้องคอยแกว่งเท้าหาเสี้ยนวะไอ้ติ๊ก ก็มันเบียดขนาดนี้ จะเป็นไรไป หุบปากเป็นไหม? กูรำคาญ"

 

   ติ๊กอ้าปากหวังจะสวนกลับโมทย์ แต่ทำได้แค่เงียบ และฮึดฮัด เพียงแค่โมทย์จ้องมองอย่างเอาเรื่อง

 

    บอลกลั้นยิ้มสะใจที่โมทย์ช่วยเป็นกระบอกเสียงแทนตัวเอง

 

"ยิ่งแคนเกร็ง เรายิ่งหนัก แคนทำตัวตามสบายได้เลยนะ"
บอลบอกแคน

 

"อ่า...ห๊ะ!.."

 

   แคนพยักหน้าและตอบเสียงแผ่ว ฟากบอลใช้โอกาสนี้แนบหน้าลงไปกับแผ่นหลังของคนตัวเล็กและกอดรัดร่างเล็กแน่น

 

    บอลยิ้มอย่างมีความสุข และบอลไม่สนใจแล้วว่าติ๊กจะมองยังไง เพราะจากนี้ บอลจะเดินหน้ารุกหนักและบอกความในใจให้แคนได้รู้สักที

 

    เวลาผ่านไปได้สักพักที่รถแท็กซี่จอดเทียบหน้าร้านกาแฟ นายชลธารพาเพื่อนลงจากรถ อาจเป็นเพราะเพื่อนๆของคายัคยังไม่เคยมีใครมาเหยียบที่นี่ ทุกคนจึงดูตื่นเต้น


"โห! บ้านคายัค เจ๋งไปเลย แคนก็จำได้อยู่ว่าคายัคเคยบอกว่าบ้านเป็นร้านกาแฟ แต่ไม่คิดว่าจะสวยและร่มรื่นขนาดนี้"

 


    เหมือนเด็กเห่อของเล่นใหม่ แคนกวาดตามองรอบๆร้านกาแฟอย่างตื่นตา ตื่นใจ

 
"แคนมาอีกบ่อยๆก็ได้นะ อาเราใจดี"

 

"แหงอยู่แล้ว แคนชอบมาก วันหลังแคนจะพาพี่ชายแคนมาด้วยนะ เพราะพี่แคนก็ชอบดื่มกาแฟเหมือนกัน"

 

"ได้เลย"

 

    แคนยังไม่หยุดกวาดสายตามองทุกซอกทุกมุมของร้านอย่างตื่นเต้น ในขณะที่เดินตามหลังเพื่อนเข้าร้านกาแฟเพื่อไปไหว้อาทัช ทุกคนเคยเห็นหน้าค่าตาอาทัชมาแล้วจากการไปประชุมผู้ปกครองหรือกิจกรรมของโรงเรียน

 
"สวัสดีครับ อาทัช"  ทุกคนพูดพร้อมเพรียงกัน

 

"อาจัดที่นั่งไว้ข้างนอกน่ะ ไปนั่งรอก่อนนะครับ เดี๋ยวอาเอาของไปให้"

 

"มีอะไรให้พวกผมช่วยไหมครับ" บอลถาม

 

"ไม่เป็นไรครับ ไปนั่งกันเถอะ"

 

      ทุกคนเออออแล้วไปนั่งรอตรงโต๊ะยาวที่อินทัชจัดให้ โดยมีอุปกรณ์ต่างๆอย่างหม้อต้มสุกี้ และตะแกรง เตาถ่านวางไว้เรียบร้อย

 
      คายัคไม่ได้ตามเพื่อนไป เพราะอยากอยู่ช่วยอาทัชจัดเตรียมของต่างๆ ขณะที่คายัครับถาดวัตถุดิบมาถือ

 

"ตัวน้อยถามเพื่อนซิ ว่าอยากกินเครื่องดื่มอะไรกันบ้าง อาจะได้ทำให้"

 

"อาทัชอยากโชว์ฝีมือใช่ไหมล่ะ?"

 

       คายัคแซวอาตัวเอง อินทัชตีแขนเด็กหนุ่ม

 

"พูดมาก ตัวน้อยก็กินน้ำเปล่าแทนแล้วกัน"

 

"โห! แซวนิดแซวหน่อยไม่ได้เลยนะครับ ผมอยากินช็อคโกแลตเย็นฝีมืออาทัช เพราะอาทัชทำอร่อยที่สุดในโลก"


"เว่อร์จริงๆ ไปได้แล้วครับ"



      คายัคยิ้มขำ เดินถือถาดไปวางที่โต๊ะและเดินกลับเข้ามาอีกรอบเพื่อบอกเมนูเครื่องดื่มของเพื่อนๆกับอินทัช

 

      คราวนี้ คายัคออกมาพร้อมกาน้ำซุปและถาดอาหารซีฟู้ดส์ โดยอินทัชไล่ให้เด็กหนุ่มมานั่งกับเพื่อน หากอินทัชทำเครื่องดื่มเสร็จ ก็จะตามออกไป

 

    ตอนนี้เพื่อนๆเด็กหนุ่มร่วมแรงร่วมใจจัดแจงเทของสดลงหม้อต้ม ส่วนเก่งที่เชี่ยวชาญการจุดเตาถ่าน ก็มาทำตรงส่วนนี้

 

   ทุกคนสนุกสนานกับการได้ลงมือช่วยกันทำอะไรเล็กๆน้อยๆ คนที่ถนัดลวกต้มก็ทำหน้าที่ตรงนั้นไป ส่วนคนที่ถนัดปิ้งย่างก็รอถ่านร้อนพร้อมเตรียมวางกุ้งและปลาหมึกชิ้นโต

 

     คายัคเว้นที่ว่างให้อาทัชนั่งใกล้กันตรงหัวโต๊ะ ส่วนที่นั่งอีกข้างๆของคายัคเป็นบอลและเพื่อนคนอื่นไล่เรียงกันไป

 

     ไม่นานเท่าไหร่นักที่อินทัชทำเครื่องดื่มเสร็จก็ออกมาเสิร์ฟให้ทุกคน

 
"อาทัชทำช็อคโกแลตเย็นอร่อยมากเลยครับ ไม่หวานไป แคนชอบ"
คายัคมองแคนที่เครื่องดื่มยังไม่ทันจะวาง แคนก็รับมาดูดจนหมดไปเกือบครึ่งแก้ว ดูๆแล้ว  แคนไม่เหมือนเพื่อน แต่เหมือนเป็นน้องชายคายัคมากกว่า แคนชอบทำตัวน่ารักเสมอ ไม่แปลกที่บอลจะหลงใหลได้ปลื้ม

 

"แคนก็มาอีกสิครับ เดี๋ยวอาเลี้ยงเอง" อินทัชยิ้มพร้อมเอ่ยเสียงนุ่มละมุน

 
"แคนมาแน่นอนครับ แคนบอกคายัคแล้ว อาทัชใจดีจังเลย แคนอิจฉาคายัคจัง"



    คายัคลอบมองอาทัชแล้วยิ้มมุมปาก เพียงเห็นอาทัชมีรอยยิ้มได้แบบนี้ก็สบายใจ เด็กหนุ่มไม่พูดอะไร เอาแต่นั่งยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า

 

      ผ่านไปสิบห้านาทีที่ของในหม้อต้มสุกได้ที่ ส่วนหมวดปิ้งย่างต้องรออีกนิด

 

      จังหวะนั้น...

 

      ใต้โต๊ะที่ไม่มีใครสามารถเห็นได้  มีมือของเด็กหนุ่มวางมือลงบนหลังมืออินทัชบีบกระชับเบาๆและถาม

 
"อาทัชเอาอะไรบ้างครับ ผมตักให้"

 
"ไม่เป็นไรครับ คายัคกินเถอะ ไม่ต้องห่วงอา อาตักเองได้"

 

"อาทัชตักไม่ถึงหรอกครับ มันไกล ถ้างั้นผมตักมาเผื่อให้นะครับ"

 

     คายัครู้ว่าหม้อต้มอยู่ไกลจากตรงที่อาทัชนั่งจึงอาสาคว้าถ้วยของอาทัช โน้มตัวไปตักเนื้อสัตว์และผัก รวมถึงเห็ดหอมมาให้อาทัชจนเต็มถ้วย

 
"ขอบคุณครับ" อินทัชมองคายัคที่ส่งยิ้มกว้าง

 

"มึงตักให้เบลบ้างสิ"

 

      หันขวับมองติ๊กอย่างไม่พอใจ ว่าจะพูดแบบนี้ให้มันได้อะไร



"เบลตักเองได้อยู่แล้วเนอะ"
คายัคถามเบลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

 
"เบลก็ตักไม่ถึงเหมือนกัน"



     คายัคถอนหายใจอย่างนึกรำคาญ หยิบถ้วยเบลมาตักให้แล้ววางตรงหน้าของเบล

 

"เออหัดเอาใจคนที่ชอบมึงบ้าง" ติ๊กยังเล่นมุกเดิม จนคายัคอ้าปากจะด่า แต่ดูเหมือนว่าแคนคงสังเกตเห็น


"ติ๊กอยากได้อะไรไหมครับ? แคนจะตักให้"

 

      คายัคนั่งกำหมัดแน่น พยายามสงบอารมณ์ แล้วจังหวะที่เด็กหนุ่มข่มความโกรธ อินทัชลุกขึ้นพรวด

 

หมับ!

 

    คายัคใจหายที่เห็นอาทัชลุกหนี จังหวะนั้น คายัคจับมืออาทัชให้หยุดเท้าและโพล่งเสียงดัง


"อาทัช ผมไม่ได้ชอบหรือเป็นแฟนเบลอย่างที่อาทัชเข้าใจนะครับ"

 
"หืม?..มาบอกอาทำไม อายังไม่ได้ว่าอะไรเลย ปล่อยอาก่อนครับ อาจะไปเอาของในตู้เย็นมาเพิ่มให้" อินทัชยิ้มบางเบาและลุกจากโต๊ะเข้าไปในร้าน

 

     ไม่รู้ว่า ตัวเองเป็นอะไร จู่ๆก็นึกกลัวอาทัชจะเข้าใจผิด จึงรีบบอกอย่างร้อนตัว



ครืด ครืด

 

      เครื่องมือสื่อสารของคายัคสั่น เด็กหนุ่มควักออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียนและก้มมองดู
 

Read

20.45

ท่าทางที่มึงแสดงออกเมื่อกี้ โคตรมีพิรุธเลยไอ้ยัค กูว่าเพื่อนคงรู้แล้วล่ะ

 

      คายัคมองหน้าบอลที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกวาดตามองเพื่อนทั้งโต๊ะที่พอเห็นคายัคมองก็หลุบตา ก้มหน้ากินอาหารในถ้วยของตนเองกันต่อ

 

Read

20.48

ช่างแม่งแล้วว่ะบอล กูแค่ไม่เข้าใจไอ้ติ้กมันจะพูดทำเชี่ยไรนักหนา กูอุตส่าห์เคลียร์กับเบลแล้ว

 

   คายัคจบปัญหากับเบลแล้วก็จริง แต่ยอมรับว่า คายัคก็ยังไม่ได้บอกเพื่อนว่าเคลียร์ปัญหานี้แล้ว

 

Read

20.52

ถ้ามึงไม่แคร์และคิดจะเปิดเผยอยู่แล้ว กูก็เห็นด้วย จัดเต็มไปเลย แต่ตอนนี้ใจเย็นๆก่อนอย่าใช้อารมณ์และแดกซะ



 

    คายัคเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋า แล้วตบบ่าบอล พร้อมเอ่ยขอบใจ ทำให้คนรอบโต๊ะงุนงงไม่รู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกันก่อนหน้า

 

    เวลาผ่านไป อาหารทยอยสุก จนเด็กๆเริ่มกินไม่ทัน ท่ามกลางมื้ออาหารตอนนี้ เป็นแคนที่ชวนอาทัชคุยเป็นส่วนใหญ่  ทำให้บนโต๊ะอาหารกลับมารื่นเริงและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้ง  ทุกคนตั้งใจฟังในขณะที่ปากก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย


     แคนเป็นเด็กช่างเจรจา คายัคมองแคนที่ดูตั้งใจฟังอาทัชเป็นพิเศษ สังเกตได้ว่าแคนถูกชะตากับอาทัชเข้าแล้ว  แม้ว่าก่อนหน้านี้ แคนอาจเจอะอาทัชมาบ้าง แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะที่สนทนาได้นานๆขนาดนี้ รอบนี้ แคนเลยดูสนใจเรื่องราวของอาทัชที่เล่าเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องชีวิตวัยเรียนตอนมัธยม มหาวิทยาลัยของอาทัช รวมถึงเรื่องการเลี้ยงดูของคายัคเองด้วย

 

     คายัคยิ้มมุมปากอย่างดีใจที่เพื่อนทุกคนชอบอาทัช แน่ล่ะ...ถ้าเราชอบใครสักคน เราก็อยากให้เพื่อนๆชอบคนที่เราชอบเช่นกัน

 

       จังหวะที่อินทัชเล่าเรื่องตัวเอง คายัคลอบมองอาทัชตบแขน ตีขาตัวเองตลอดเวลา เด็กหนุ่มลุกจากโต๊ะเข้าบ้าน ไม่กี่นาทีถัดมา คายัคเดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งยองๆที่พื้นข้างขาอินทัช
 

  ฟึด ฟึด..   ฟึด ฟึด..

 

    อินทัชชะงัก และหยุดบทสนทนา ก้มลงมองเด็กหนุ่มที่ฉีดสเปรย์กันยุงที่ขาให้

 

"ยุงกัดแล้วทำไมไม่บอกผม"

 

"มะ...มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่อาต้องบอก"

 

"ผมบอกแล้วไงว่าผมจะเป็นฝ่ายดูแลอาทัชบ้าง" คายัคลุกขึ้นจากพื้น กลับมานั่งที่ตัวเอง ก่อนจะจับมืออาทัชให้ยืดแขนเพื่อฉีดสเปรย์กันยุงอีกตำแหน่ง
 

"คายัคพอแล้ว ขอบคุณนะ"

 

   คายัคยิ้มไม่พูดอะไร ก่อนจะล้างมือด้วยน้ำเปล่าแล้วกินต่อ

 
    คายัคไม่รู้ตัวเลยว่า การแสดงออกของคายัค ทำให้เพื่อนๆทุกคนคันปากอยากถามเป็นอย่างมากว่านี่คงไม่ใช่แค่อา-หลานดูแลกันแล้วแน่ๆ



   และเหตุการณ์นี้ คนที่ดูเสียใจมากที่สุดเห็นจะเป็นเบลที่สังเกตการกระทำของคายัคมาโดยตลอด และจากนั้น เบลก็กินอะไรไม่ลงอีกเลย

 

    กว่าสองชั่วโมงที่เด็กๆ จัดการอาหารกันอิ่มจนพุงกาง ก่อนกลับบ้านทุกคนพร้อมใจช่วยกันล้างจาน เก็บกวาดทำความสะอาดพื้นที่ที่รับประทานด้วยความเต็มใจ กระทั่งเรียบร้อยแล้ว อินทัชและคายัคเดินมาส่งเพื่อนที่เตรียมขึ้นรถแท็กซี่



"แคนขอเป็นหลานอาทัชอีกคนได้ไหมครับ?"
แคนเดินมาประชิดตัวแล้วเอ่ยเสียงจริงจัง

 

"ได้สิครับ อาชอบเด็กน่ารักอยู่แล้ว" อินทัชบอกแคนอย่างอารมณ์ดี จู่ๆคายัคคว้ามืออาทัชมาจับ จนทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว


"แล้วผมล่ะครับ อาทัชชอบผมบ้างไหม?"

 

"หืม? คายัคเป็นหลานอาก็ต้องชอบอยู่แล้วสิครับ เลี้ยงมาจนโตขนาดนี้"

 

"ไม่ใช่ชอบอย่าง...ที่"

 

"พวกกูกลับแล้วนะ" บอลแทรกพร้อมขยิบตา คายัคเอียงคอมองอย่างไม่เข้าใจ


     และน่าแปลกคนที่ไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นหรือคิดจะถามอะไรอย่างเก่ง กลับก้าวเดินเข้ามาตบบ่าคายัคแล้วกระซิบข้างหู


"เหนื่อยน้อยนะ ถ้ามึงคิดจะข้ามรุ่น"

 

    เก่งยิ้มอย่างมีเลศนัย คายัคพยักหน้าแกนๆกลับไป ที่เขาทำทุกอย่างในวันนี้ แสดงว่าเพื่อนคงรู้หมดแล้ว



    ยืนโบกมือลาเพื่อนที่แยกย้ายไปขึ้นแท็กซี่สองคัน คายัคหันหลังกลับหันไปเจอะสายตาที่จ้องมองอยู่ก่อน
 

"หลังๆมานี้ คายัคแปลกไปนะ"


"หรอครับ ผมไม่รู้ตัวเลย"

 

"เหมือนจะดูมุทะลุ หุนหันพลันแล่น และมีความคิดเป็นของตัวเองมากกว่าแต่ก่อน"

 

"แล้วอาทัชรับได้ไหม?"

 

"ได้สิ"
 

"เพราะอาทัชเป็นคนแบบนี้ไง ถึงมีแต่คนรักอาทัช อ้อ...ผมปิดเทอมแล้ว ฉะนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ผมอยู่ช่วยอาทัชได้ตลอดเลยนะ"

 

"ดีมากครับ"

 "ผมเหนียวตัวและเหม็นหัวตัวเองมาก ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ. วันนี้ ผมนอนห้องผมนะครับอาทัช"

 

"ได้ครับ"

 

       คายัครีบวิ่งขึ้นไปอาบน้ำเพราะรำคาญตัว แต่พออาบน้ำเสร็จ คายัคนึกว่าสมองจะโล่งได้บ้าง กลับมีแต่เรื่องอาทัชเต็มหัว


       อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ คายัคหย่อนกายลงนั่งปลายเตียง  ถ้าขนาดเพื่อนๆยังดูออกว่า คายัคชอบอาทัชมากกว่าอา-หลาน วันนี้ คายัคตัดสินใจจะบอกอาทัชแล้วเหมือนกัน เผื่อจะหายอึดอัดใจได้บ้าง



     แต่...


"เอาไงดีวะ บอกแบบไหนให้อาทัชไม่ตกใจ"
 

"ผมชอบอาทัชครับ อาทัชชอบผมไหม?"
 

"ผมจีบอาทัชได้ไหมครับ?"
 

"อาทัชก็อยู่กับผมมานาน เรารู้ใจกัน ถ้างั้นผมขอเป็นแฟนกับอาทัชนะ"
 

"ผมโตพอที่จะดูแลอาทัชครับ"

 
"ห่าเอ้ย!...นี่กูต้องมานั่งพูดคนเดียวแบบนี้ อีกนานเท่าไหร่วะ เมื่อไหร่กูจะกล้าๆสักที โอ้ยๆปวดหัวโว้ยยย..."

 

    คายัคหงายหลังทิ้งทั้งตัวนอนแผ่หราบนเตียง ขยี้ผมตัวเองอย่างหาทางออกไม่ได้ เพราะในหัวมีแต่เรื่อง


อาทัช

อาทัช


อาทัช



    หยุดคิดเรื่องการบอกความในใจของอาทัช แต่ก็ยังมีเรื่องอื่นแวบเข้ามาจนได้ เรื่องของรอยยิ้มอาทัช เรื่องตอนที่คายัคเคยได้กอด เคยจูบซอกคอและได้สัมผัสจับน้องชายของอาทัช
 

      จู่ๆ คายังเด้งตัว ลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์มือถือ ปิดไฟ และปีนขึ้นไปบนเตียงนั่งพิงพนักเตียง ถอดกางเกงบ็อกเซอร์ กดเข้าเว็บโป๊ หวังจะระบายความอึดอัดที่มีอยู่ในใจและความปั่นป่วนภายในร่างกายด้วยการช่วยตัวเอง

       
 

"อ้าาาา ซี้ดดส์ อ้ะ อ้า อ้ะ อ้ะ"

 

       เด็กหนุ่มหลับตานั่งนึกหน้าอาทัชและจินตนาการว่ามือที่กำน้องชายของคายัคอยู่คือมือของคนที่เขาชอบ


      จังหวะที่มือกำแท่งร้อนรูดขึ้น-รูดลงช้าๆ เด็กหนุ่มใจสั่นและเสียวซาบซ่าน เมื่อจินตนาการเป็นใบหน้าของอาทัช คายัคเริ่มเร่งจังหวะให้เร็วกว่าเดิม หอบหายใจถี่ ลืมตาอีกทีมาดูภาพเคลื่อนไหวที่กำลังเล่นบทรักอย่างต่อเนื่อง แม้ตาจะจ้องดูคลิปที่นักแสดงเป็นใครก็ไม่รู้เปลื้องผ้ามีเซ็กซ์กัน แต่ในหัวสมองของคายัคยังคงมีแต่อาทัชไม่จางหาย



 "โอ่ยยยย...ซี้ดด"


     คายัคหลุดครางเสียงต่ำ กัดปากแน่นด้วยความเสียวกระสัน นาทีนี้ หัวใจเต้นแรงรัวจนน่ากลัว ในกายร้อนวูบวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า


     แต่แล้ว....
 

ฟึ่บ!


   แสงไฟในห้องนอนคายัคสว่างวาบ และตามด้วยเสียง




"ตัวน้อยนอนหรือยังครับ? อ้ะ... / เฮ้ย! อาทัช!"





.......................................






ทำไมหนูไม่ล็อกประตูล่ะลูก (5555)
.
คิดว่าจากนี้ ควรจะเป็นคายัคหมดอารมณ์สุข-นอนหลับ หรือวิ่งไปหาอาทัชดีน้า 555

.
ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2018 23:16:29 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อุต้ะ

เหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรน้อ  หุหุ

ออฟไลน์ เดช สายลม

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอๆๆๆๆๆๆตอนต่อไปนะคับ  :mew3:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ตัดได้ค้างมาก

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
อาทัชน่ารัก อย่าดราม่าเลยยยยยย เรารักฟิลกู้ดดดด  ส่วนแคนน้องไม่เหมาะกับใครคะ แต่ป้าว่า บอล กับ ติณเหมาะกันค่ะ  ฮิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด