จบแล้ว-(Fantasy/Y) Royal quest ภารกิจรักกับคุณอัศวินซื่อบื้อ (Ch.พิเศษ2)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จบแล้ว-(Fantasy/Y) Royal quest ภารกิจรักกับคุณอัศวินซื่อบื้อ (Ch.พิเศษ2)  (อ่าน 46988 ครั้ง)

ออฟไลน์ KPMwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เขียนแบบนี้ครั้งแรกกลัวจะสื่ออารมณ์ไม่ได้ใส่เมโลดี้มาบิ้วหน่อยละกัน

https://youtu.be/T81VosqjBzc

Chapter 17 Dear master

ท้องฟ้ามืดมิดยามค่ำคืนมีเมฆก้อนบางๆตัดผ่าน หมู่ดาวมากมายส่องแสงระยิบระยับ เงาพระจันทร์เสี้ยวกระทบพื้นน้ำไหลเอื่อยๆของลำธารกว้าง เสียงน้ำไหลคลอเบาๆไปกับเสียงต้นหญ้าสีกัน ลมเย็นๆพัดโชยกระทบผิวจนต้องกระชับเสื้อนอกให้แน่นขึ้น บรรยากาศช่างเปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน

ผมล้มตัวลงนอนบนพื้นหญ้าข้างลำธารใหญ่ของหมู่บ้าน สายตาทอดไปบนท้องฟ้าที่มีหมู่ดาวมากมาย ชวนให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ตั้งแต่อาจารย์ของผมตัดสินใจลงหลักปักฐานที่นี่ ที่ตรงนี้คือที่ๆผมมักจะออกมานั่งเพื่อเปิดช่องว่างให้อาจารย์ได้อยู่กับภรรยาของท่าน ไม่สิ…ตั้งแต่ท่านกำลังเกี้ยวพานคุณลินดา หรือจะใช้คำว่าเกาะแกะดี ฮ่าๆๆ

ผมจำต้องเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 12 ปี ทั้งๆที่เตรียมตัวออกมาดีระดับนึง อีกทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเพราะมีถุงมือเวทและสายรัดข้อมือเวทฟื้นฟูติดตัวออกมาด้วย ผมกลับอยู่รอดได้แค่ 3 วัน อาหารหมด หาเพิ่มก็ไม่ได้ หินเวทก็ใช้พร่ำเพรื่อ สุดท้ายผมเกือบตกเป็นอาหารของพวกหมาป่า ขณะที่ผมกำลังนอนรอความตายจากคมเขี้ยวของหมาป่าที่กระโจนเข้ามาใส่นั่นเอง ลูกธนูปริศนาพุ่งเจาะกะโหลกหมาป่าตัวนั้น พรานป่าร่างสูงปราดเปรียวสมส่วนผมดำยาวปรากฏตัวขวางหน้าผมไว้

ซิดคือคนที่ช่วยชีวิตผมไว้ ตอนแรกท่านจะพาผมไปส่งที่หมู่บ้านใกล้ๆ แต่พอทราบว่าผมไม่มีบ้านหรือใครให้กลับไปหาแล้ว ท่านจำใจรับผมเป็นลูกศิษย์

“ข้าจะสอนวิธีเอาตัวรอดให้ จากนั้นก็ตัวใครตัวมัน” นั่นคือคำอนุญาตให้ติดตามท่านได้

ผมออกติดตามท่านไปทุกหนทุกแห่ง เรียนรู้วิธีหาของป่า การเก็บสมุนไพร พฤติกรรมสัตว์ป่าและมอสเตอร์หลากชนิด การแกะรอย การต่อสู้และการเอาตัวรอด แม้แต่เรื่องการใช้เวทมนต์ที่ท่านใช้ไม่เป็น ท่านก็ใช้ประสบการณ์ที่ท่านพบเจอมาคิดวิธีใช้งานให้ รู้ตัวอีกทีก็ผ่านมา 4 ปีแล้ว เป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ ท่านคือคนที่เติมเต็มความกระหายการผจญภัยของผม ท่านคือโลกทั้งใบของผม

“มาแอบนอนตรงนี้เหมือนเดิมเลยนะ รอส” เสียงทุ้มต่ำทักขึ้นจากข้างหลัง เล่นเอาผมสะดุ้ง อาจารย์ซิดนั่นเอง

“อาจารย์มาทำอะไรหรอครับ”

“มีเรื่องอยากคุยด้วย ไม่มีโอกาสให้ได้คุยกันดีๆสักที”

<จะโดนขุดเรื่องอะไรมาดุอีกมั้ยเนี่ย> ผมรีบดีดตัวลุกขึ้นมานั่งเมื่ออาจารย์นั่งลงข้างๆผม

“จะเริ่มยังไงดี…” แสงอ่อนๆของพระจันทร์ทำให้เห็นว่าอาจารย์มีสีหน้าประหม่า

“…”

“ข้าขอโทษ”

“…? เรื่องอะไรหรอครับ” ผมงง งงมากด้วย

“เรื่องที่ทำให้เจ้าอึดอัดจนเจ้าต้องปลีกตัวออกไป”

“แหม…แค่นั้นเองไม่เห็นจะมีอะไรเลย ก็อาจารย์เริ่มสร้างครอบครัวแล้วหนิครับ ผมก็ต้องกางปีกออกโบยบินเองบ้าง”

“ข้ารู้ว่าเจ้าคิดกับข้ามากกว่าศิษย์กับอาจารย์”

“มันก็ปกตะ…หะ หา!” ผมโพล่งออกมาแล้วกระเด้งตัวหนีด้วยความตกใจ เห้ย! นี่ตั้งตัวไม่ทันจริงๆนะเนี่ย “ก...ก็ท่านดูแลผม…มะ…มาตลอดนี่ครับ ท่านก็...หม...เหมือนพ่อของผม” ผมรีบกลั้นหายใจอธิบายจนลิ้นพันกัน เสียงตะกุกตะกัก

“เจ้ารักข้าใช่ไหม รอส” อาจารย์หันมามองผมด้วยสีหน้าจริงจัง

“หะ… ปะ…ปละ…เปล่านะ” ผมโบกไม้โบกมือปฏิเสธพันลวันโชคดีจริงๆที่คืนนี้แสงน้อยไม่งั้นท่านคงเห็นว่าผมหน้าแดงหมด

“ไม่ต้องมาโกหก เจ้าหน้าแดงหมดแล้วเนี่ย” โว้ยยยย อยากจะหนีไปโดดน้ำตาย สายตาพรานป่าต้องเห็นอยู่แล้วสินะ

“…” ผมเอามือปิดหน้าแล้วหันหนี

“ข้าขอโทษที่ไม่รู้ตัวให้มันเร็วกว่านี้ นี่ถ้าลินดาไม่มาคุยด้วยหลังจากที่เจ้าไปแล้วข้าก็คงไม่ทันสังเกต ข้าล้มเหลวในฐานะอาจารย์จริงๆ”

“…” ผมมีคำพูดมากมายจุกอยู่ในอก แต่ไม่รู้ว่าจะเรียบเรียงออกมายังไง ได้แต่ก้มหน้าลงมองเงาสะท้อนดวงจันทร์ที่ลำธาร

<มันไม่เป็นอะไรจริงๆครับ ผมเข้าใจ> คือสิ่งที่ผมอยากจะพูด

“ข้าขอโทษที่ละเลยเจ้า ซ้ำร้ายยังให้เจ้าเป็นสื่อกลางให้อีก” ท่านคงหมายถึงเรื่องที่ให้ผมเอาของขวัญไปส่งให้คุณลินดาทุกครั้งหลังออกล่าเสร็จ

จู่ๆดวงตาผมก็รู้สึกร้อนผ่าว ไม่เอาน่า มันผ่านมาแล้ว เราจะไม่ร้องไห้ให้กับเรื่องนี้แล้ว คือสิ่งที่ผมบอกกับตัวเองตั้งแต่วันที่ก้าวออกมา ภาพที่ผมนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ที่นี่คนเดียวซ้อนทับกลับขึ้นมา

“และข้าก็ขอโทษที่ไม่สามารถเป็นคนรักให้กับเจ้าได้…”

“พอแล้ว!!” ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมพุ่งตัวเข้าไปกอดท่านไว้ น้ำใสๆไหลรินออกจากดวงตา “ฮึก…พอแล้ว ท่านไม่ต้องขอโทษอะไรแล้ว” เสียงของผมสั่นเครือ

“…” ท่านเอาแขนมาโอบตัวกอดผมไว้แนบอก

“ฮึก…ผมเข้าใจดี ผมเข้าใจดีว่า…ฮึก…ไม่สามารถฝืนใจใครได้ ผมจึงขอเดินออกมาเอง” ผมสะอื้นจนตัวสั่น มีอ้อมกอดอุ่นๆของอาจารย์ประคองผมไว้ ท่านขยี้หัวผมเบาๆ

“เพราะเรื่องนี้ใช่ไหม เจ้าถึงลงเอยด้วยการไปเข้าร่วมกลุ่มโจรกลุ่มนั้น”

“…” ผมไม่ตอบอะไร ได้แต่พยักหน้าเบาๆ

ผมใช้ประกาศกิลที่รวมคนไปที่ตอนใต้เพื่อสำรวจดันเจี้ยนเป็นข้ออ้างในการแยกตัวออกมา ช่วงเวลาที่ผมเศร้าโศกเสียใจอยู่นั่นเอง ผมได้รู้จักกับชายคนหนึ่ง เขาเข้ามาตีสนิทผม ให้ความเป็นกันเองกับผม และเป็นคนแรกที่สอนให้ผมรับรู้ความสุขทางกาม ผมคิดว่านั่นคือความรัก ใช่...มันคือความคิดที่ไร้เดียงสา ผมมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งแฝงตัวมาขโมยของ แต่เพื่อความรักแล้ว ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับรสกามของเขา ผมยอมปล้นขบวนสินค้า ขโมยของมีค่าจากพวกขุนนาง เหลือเพียงการฆ่าคนที่ผมยังทำไม่ได้

“เห้อ ข้าเองก็เอะใจที่เจ้าไปเป็นหัวขโมยได้ ทั้งๆที่เจ้าเป็นคนที่จิตใจอ่อนโยนแท้ๆ เจ้าต้องไปคลุกคลีกับคนแย่ๆพวกนั้นเพราะข้า ข้านี่เป็นอาจารย์ที่แย่จริงๆ”

“ไม่หรอกครับ ผมผิดเอง” มันไม่ใช่ความผิดของอาจารย์เลย เป็นผมที่อ่อนแอต่างหาก

“ถึงข้าจะเป็นคนที่เจ้าต้องการไม่ได้ แต่ข้าก็อยากให้เจ้าได้อยู่กับคนดีๆนะ รอส” ท่านกระชับอ้อมแขนเพื่อส่งผ่านความห่วงใยมาให้ผม ความอบอุ่นที่ผมโหยหามาตลอด ความอบอุ่นที่ไม่เคยมีชายคนไหนที่ผมหลับนอนด้วยให้ได้

“ขอบคุณนะครับ ที่ยังเชื่อมั่นในตัวผม” ผมเองก็กระชับกอดตอบกลับไป มันอบอุ่นต่อหัวใจผมเหลือเกิน

“เอาล่ะ เลิกร้องไห้ได้แล้ว เจ้าเด็กน้อย กลับกันเถอะ” ท่านอาจารย์ของผมกล่าวพร้อมเอานิ้วปาดน้ำตาที่ขอบตาของผมอย่างอ่อนโยน

<ขอบคุณท่านจริงๆที่รับผมเป็นศิษย์ไว้ และขอบคุณโชคชะตาที่ให้ผมได้พบท่าน>

………………………………………….

รุ่งเช้า ณ ประตูทางเข้าหมู่บ้านเครสเซนต์

“พวกผมไปละนะครับ อาจารย์” ผมลาซิดและลินดาที่เดินออกมาส่ง

“ขอบคุณที่ดูแลและให้ที่พักครับ” เร็กซ์โค้งคำนับขอบคุณ

“ด้วยความยินดีจ่ะ” คุณลินดามอบรอยยิ้มอบอุ่นให้

“อาหารของคุณบินดาอร่อยมากเลยครับ”

“ฮ่าๆ แหม ปากหวานแบบนี้แวะมาทานอีกได้เลยนะ เร็กซ์”

“เจ้าแวะมาได้เสมอนะ รอส ที่นี่ก็เหมือนบ้านของเจ้า” อาจารย์ซิดเดินเข้ามาเอามือลูบหัวผม “แล้วก็นี่...” ท่านโยนถุงบางอย่างใส่หน้าผมจนผมต้องรีบยกมือมารับไว้

“นี่มัน...” ถุงเงิน หนักซะด้วย

“ค่าตอบแทน”

“หวา ผมมาช่วยนิดเดียวเอง แถมยังมีนักผจญภัยพวกนั้นด้วย”

“รับๆไปเหอะ ชาวบ้านเค้ารวบรวมมาตอบแทน”

“งั้นก็ขอบคุณครับ”

ผมกับเร็กซ์ขึ้นม้าแล้วเริ่มออกเดินทางต่อ พวกเราโบกไม้โบกมือร่ำลาทุกคน

“อย่าไปก่อเรื่องอีกล่ะ ไม่งั้นข้าตามไปเก็บกลับมาแน่ๆ” ท่านตะโกนทิ้งท้ายมา

“ไม่รับประกันหรอกนะครับ ฮ่าๆๆ” ผมตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มยียวน

“ผมไม่ให้ไปก่อเรื่องหรอกครับ วางใจได้” เร็กซ์ตะโกนแทรกขึ้น

“หะ!!!” ผมต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจ อะไรของเจ้านี่เนี่ย


......................................................


ช่วงเที่ยงๆ ณ ทางเดินในป่าเอเดนฝั่งเหนือ

“เจ้าไม่คิดอยากเข้าเรียนในโรงเรียนเวทมนต์บ้างหรอ ข้าพอมีเส้นสายฝากเจ้าได้นะ” จู่ๆเร็กซ์ก็ถามขึ้นมาหลังจากที่พวกเราเริ่มเดินเข้าป่ามาได้สักพัก ผมเดินนำหน้า ถัดมาเป็นเร็กซ์ที่จูงบังเหียนเจ้าฟรีดอยู่

“ทำไมถึงถามขึ้นมา”

“เจ้ามีความสามารถ ถ้าไปร่ำเรียนเวทมนต์ให้เชี่ยวชาญล่ะก็ สามารถออกไปช่วยเหลือผู้คนได้มากมายเลยนะ”

“ตอนนี้ข้าว่าข้าก็ช่วยเหลือผู้คนอยู่นะ”

“ทำในสังกัดราชการจะได้มีเกียรติไง”

“ให้ข้ากลับไปเรียนอีกน่ะหรอ ไม่เอาหรอก”

“ว่าไงนะ”

“ปะ..เปล่า ข้าหมายถึงให้ไปเรียนเพื่อไปเป็นสุนัขรับใช้ วิ่งไปวิ่งมาตามคำสั่งนะหรอ ไม่เอาล่ะ ข้าชอบเลือกงานตามความพอใจและเงื่อนไขที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า มีอิสระดี” ผมอธิบาย

<เกือบหลุดออกไปแล้วมั้ยล่ะ>

“หนอย! เรียกให้มันดีๆหน่อย เจ้าไปเอามาจากไหน แล้วทำไมจะไม่เหมาะกับความสามารถล่ะ ปกติคนจ่ายงานก็มักจะเลือกงานที่เหมาะอยู่แล้ว” มันเถียงผมต่อ

“ก็พอได้ยินมาบ้าง แล้วงานที่เจ้าว่ามันทั่วถึงพื้นที่ห่างไกลแบบนี้มั้ยล่ะ” ผมโต้กลับไป

“...” เร็กซ์เงียบไป ไม่ใช่แค่เสียงพูดแม้แต่เสียงฝีเท้าก็หายไป

ผมนึกแปลกใจแล้วหันกลับไปดู เห็นฟรีดกำลังเดินไปดอมดมดอกไม้ใกล้ๆทางเดิน โดยมีเร็กซ์หยุดยืนดูอยู่ เมื่อผมสังเกตดีๆว่าเป็นดอกไม้รูประฆังคว่ำมีกลีบดอกสีเหลืองทองผมก็ต้องผวาแล้วรีบไปดึงฟรีดให้ออกห่าง

“อย่าไปเข้าใกล้นะ” ผมรีบแย่งสายจูงจากมือเร็กซ์แล้วดึงม้าออกห่าง ขืนโดนเกสรมันเข้าล่ะยุ่งแน่

“ทำไม มีพิษหรอ” อัศวินถามด้วยความสงสัยก่อนจะช่วยดึงม้าออกมาแล้วออกเดินต่อ

“ดอกฮอร์นีเลีย (Hornylia) น่ะ จะว่าพิษก็ไม่ใช่ สมุนไพรก็ไม่เชิง” ผมตอบแบบส่งๆ ปกติดอกนี่จะอยู่แต่ป่าเอเดนฝั่งใต้ แต่จะมีข้ามมาบ้างก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ แค่ไม่นึกว่าจะมาถึงต้นทางเข้าแบบนี้

“มันทำอะไรได้หรอ”

“ข้าว่าเจ้าไม่อยากรู้หรอก แค่อย่าไปโดนเกสรมันเข้าละกัน” อันที่จริงแค่ชื่อก็น่าจะพอเดาได้ละนะ แต่ลืมไปว่ามันใสซื่อเกินไป


...................................................................

ประกาศ : เนื่องจากผู้แต่งจะเดินทางไปธุระ 2 อาทิตย์ โดยไม่ได้พกโน้ตบุ๊คไปทำให้อาจจะลงตอนต่อไปไม่สะดวกนัก แต่เพราะมันเป็นตอนที่ 18 เลยไม่อยากให้มันขาดไปนาน ยังไงอาจจะลงให้แบบไม่ได้จัดรูปหน้าไปก่อนแล้วค่อยกลับมาแก้ตอนกลับมาแล้วนะครับ

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ




ออฟไลน์ KPMwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ที่ว่าแปลกๆ คือ ทั้งสองคนเคมีมันดูไม่น่าจะเข้ากันได้เลย แต่พออยู่ด้วยกัน สู้ด้วยกันกลับรู้สึกว่ามันลงตัว แต่ละคนเติมสิ่งที่ขาดให้กัน ซึ่งก็คือแปลกในทางดีน่ะเอง  :hao3:

ขอบคุณค้าบบ เขียนแล้วคนอ่านเข้าใจสิ่งที่จะสื่อแล้วรู้สึกดีมากก

ตอนที่ 15.2 - การต่อสู้เริ่มประสานกันได้ดีแล้ว ต่างจากตอนบู๊ปกป้องคาราวานพ่อค้าละ

ตอนที่ 16 - แอบมีโม้เม้นต์กันนิดๆ

ตอนที่ 16.2 - เหมือนจะได้กลิ่นดราม่า.... // บู๊มาเหนื่อยๆก็หาผู้ชายแล้วหรอรอส! ควรเอาอย่างเร็กซ์ที่นอนพักผ่อนอยู่บ้านบ้าง 5555

ขอบคุณที่อัพค่ะ  :pig4:

Ross : ฮือ ทำไมมีแต่คนคิดว่าผมคิดแต่เรื่องผู้ชาย
ผู้แต่ง : นายมันคนบาปไง

ขอบคุณที่ติดตามครับ

:pig4:


ขอบคุณที่ติดตามครับ

:pig4:


ขอบคุณที่ติดตามครับ

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ตามมาสักพักแล้ว สนุกดีค่ะ เวลาราอ่านไม่ได้จิ้นไปขนาดถึงบาร่า แต่ดีแล้วบาร่าเกินไปเราจะขนลุก5555 เอาพอดีๆ

ปล.ตอนที่แล้วมีคำผิดว่า "หน้ากลัว>>>น่ากลัว เขียนคำหลังนะคะ" จริงๆเรื่องพิมพ์ผิดเราไม่ได้ติดใจอะไรขนาดนั้น แต่ใช้ผิดนี่อยากให้แก้ไขนะคะ เป็นกำลังใจให้ ติดตามจ้า

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ว่าละเชียว ศิษย์ อาจารย์คู่นี้มันมีความรู้สึกต่อกันลึกไปกว่านั้น

ออฟไลน์ Aeflizm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มาต่ออีกนะคะ รอออออ

ออฟไลน์ KPMwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ขออภัยที่การจัดบรรทัดค่อนข้างแย่เพราะทำใน tablet เดี๋ยวกลับจากธุระจะไปใช้โน้ตบุ๊คจัดใหม่ครับ

Chapter 18 The golden flower of Eden

เวลาบ่ายๆ กลางป่าเอเดน

   แมกไม้สูงใหญ่หนาทึบจนบดบังท้องฟ้าเกือบจะมิด มีเพียงแสงแดดรำไรลอดผ่านมาให้พวกเราพอจะรู้เวลา อย่างที่เคยเกริ่นไปบ้างแล้ว ป่าเอเดนเป็นป่าทึบที่มีพรรณไม้หลากชนิด ป่าถูกลำธารแบ่งออกเป็นสองฝั่งคือฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ฝั่งเหนือมีถนนตัดผ่านเพื่อเป็นเส้นทางการค้า เป็นเขตที่ปลอดภัย ส่วนฝั่งใต้นั้นเต็มไปด้วยพรรณไม้อันตราย แต่สมุนไพรดีๆก็มักจะต้องเก็บจากเขตนั้น พวกเราเดินทางมาสองวันแล้ว เหลือแค่พักกลางแจ้งอีกคืนก็จะถึงเมืองเอนเดลอน ปราการรักษาชายแดนของประเทศเทอร์ร่า อยากไปนอนบนที่นอนนุ่มๆเต็มแก่แล้ววว


เป็นช่วงเวลาสองวันที่ราบรื่นที่สุดตั้งแต่ผมเริ่มเดินทางกับเจ้าหมอนี่ นอกจากจะไม่มีปัญหาอะไรมารบกวนระหว่างเดินทางแล้ว พวกเรายังแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆด้วยกัน ทั้งเรื่องการผจญภัยหาของป่า สำรวจดันเจี้ยนและปราบมอนสเตอร์ของผม หรือเรื่องภารกิจต่างๆของเร็กซ์ ไม่ว่าจะเป็นการตามจับโจรป่าและกำจัดมอนสเตอร์ที่มารุกรานชาวบ้านในเขตปกครองของตระกูล เจ้าเร็กซ์นี่จริงๆก็มีประสบการณ์ปราบมอนสเตอร์มาบ้าง แต่ยังไม่มากเท่าผม และผมก็ไม่วายถามเรื่องที่ผมอยากรู้...


“นี่ๆ ว่ากันว่าพวกนักเรียนอัศวินอาบน้ำร่วมกันจริงใช่ป่ะ”

“อือ ใช่”

“แล้วทุกคนนี่คือล่ำบึกกล้ามเป็นมัดใช่ป่ะ” ถึงผมจะไม่ได้ชอบพวกวัยรุ่นอ่อนประสบการณ์บนเตียง แต่ถ้าโดนเหล่าชายชาติทหารแก้ผ้าล้อมรอบนี่ก็คงฟินน่าดู

“นี่ไม่ต้องมาคิดลามกเลย ถึกเป็นควายทั้งนั้น ไม่มีอะไรน่าดูหรอก” มันเอ็ดผมเสียงดุ แถมยังมองผมด้วยสายตาระอา

“แสดงว่ามอง ๆ อยู่บ้างอ่ะดิ” ผมแกล้งถามกลับเล่นๆ

“ชินแล้ว” มันตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย โหย...ไม่สนุกเลย

“แล้วที่ว่ามีพิธีกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอัศวินหล่ะ”

“หมายความว่ายังไง” เร็กซ์ถามกลับด้วยน้ำเสียงแปลกใจ

“ก็แบบขัดดาบร่วมกันหรือให้กันงี้”

“ขัดดาบก็ขัดในโรงเก็บอาวุธสิ จะมาในห้องอาบน้ำทำไม”

“...” โอ้ว มาย ก้อดดดด!!! มันไม่เข้าใจผมจริงดิ ผมอ้าปากค้าง

“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่ายังไง”

“ข้าหมายถึงช่วยสำเร็จความใคร่ให้กัน” เอาวะ พูดอ้อมๆ ไม่เก็ทใช้คำตรงๆ ก็ได้

มันหน้าแดงขึ้นมาทันที

“จะ...เจ้าพูดอะไรน่ะ จะบ้าหรอ ขืนไปทำแบบนั้นก็โดนดาบจริงๆฟันหัวแบะพอดี” อัศวินหนุ่มละล่ำละลักพ่นคำพูดออกมารวดเดียว หน้าแดงไปถึงหู

“โห้ววว”

“โหว อะไร เลิกคิดอะไรลามกได้แล้ว” มันตะคอกเสียงแข็ง

แต่ไม่ทันที่จะได้แกล้งมันต่อ ผมก็ต้องหยุดเพราะ...

“ช่วยด้วยยยยยย” เสียงหวีดแหลมดังขึ้นจากในป่า เป็นเสียงหญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือ

เราสองคนมองหน้ากัน เร็กซ์โยนสายบังเหียนมาให้ผม

“ข้าจะนำไปก่อน รีบตามมา” ออร่าสีฟ้าห่อหุ้มขาทั้งสองข้าง มันพุ่งทยานตัวออกไป

“เฮ้ย เดี๋ยว...” แต่ไม่ทันแล้ว มันลับตาไปในหมู่ไม้เสียแล้ว

อย่างที่กล่าวไปตอนแรกป่าเอเดนตอนใต้อันตรายกว่าตอนบนมาก ผลีผลามเข้าไปแบบนี้อาจจะไม่ได้กลับออกมาอีก

........................................................


ผมกับเจ้าฟรีดวิ่งลัดเลาะไปตามต้นไม้สูงใหญ่จนถึงลำธารที่ใช้แบ่งเขตป่า

“ฟรีด รอที่นี่นะ” เพราะน้ำลึกพอสมควรผมจึงสั่งให้ม้ารอที่นี่

“ฮรี้..” มันร้องตอบรับ คงเพราะอยู่ร่วมกันมาสัปดาห์นึงแล้วมันถึงยอมเชื่อฟังผมอยู่บ้าง

ผมกระโดดลัดเลาะไปตามโขดหินจนข้ามฝั่งมาได้แล้วออกวิ่งต่อ เสียงร้องขอความช่วยเหลือเงียบไปแล้ว ผมอาศัยร่องรอยที่เร็กซ์ทิ้งไว้เพื่อตามมันต่อ

“ฮึก ๆ ๆ ฮือ” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหญิงสาวดังมาจากหลังพุ่มไม้ใกล้ๆ ผมพุ่งตัวแหวกมันออกแล้วก็ต้องแปลกใจกับภาพที่เห็น

“คุณปลอดภัยแล้ว” เร็กซ์กำลังนั่งกอดปลอบประโลมหญิงสาวผมยาวสีเขียวเข้ม ดวงตาสีเขียวมรกต ร่างเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ใดๆปกปิด

“ฮือออ ขอบคุณท่านมาก” นางเกาะเกี่ยวร่างของเร็กซ์แน่น ศีรษะซบอกกว้างของอัศวินหนุ่ม มือหนึ่งล้อมโอบคอ อีกข้างกอดเอวหนาไว้

“เกิดอะไรขึ้น” เร็กซ์ซัก

“คะ…คือ ฉันจำอะไรไม่ได้เลย ตื่นมาก็อยู่กลางป่าแล้ว” นางตอบเสียงเบา

“โดนลักพาตัวอย่างนั้นเหรอ”

“ฉะ..ฉัน คือ…ใช่โดนลักพาตัว โดนพาตัวมา” นางตอบเสียงตะกุกตะกัก

<อืม...แปลกแฮะ>  ผมเริ่มเอะใจแล้วสำรวจรอบๆปล่อยให้เร็กซ์ซักไซร้ต่อไป

“คุณมาจากที่ไหน เดี๋ยวพวกเราจะพาคุณไปส่งเอง”

“คือ…ฉันซาบซึ้งในบุญคุณของท่านมาก ได้โปรดให้ฉันได้ตอบแทนด้วยเถิด” หญิงสาวเลื่อนมือทั้งสองข้างขึ้นไปประคองใบหน้าของชายหนุ่มไว้ก่อนโน้มตัวขึ้นไปเพื่อประกบริมฝีปาก ดวงตาทั้งสองข้างของเร็กซ์เบิกกว้างก่อนจะผงะถอยหลังไปเสี้ยววินาทีก่อนที่ริมฝีปากจะสัมผัสกัน หล่อนไม่รอช้าออกแรงผลักให้ชายหนุ่มหงายหลังไปแล้วตามขึ้นคร่อม

“อ๊ะ เดี๋ยวก่อนสิคุณ คุณจะทำอะไร” มันส่งเสียงลนลาน แล้วตั้งกาดเมื่อแม่สาวผมเขียวก้นหน้าลงไปเพื่อที่จะจูบ

“ฉันไม่มีอะไรติดตัวเลย ให้ฉันตอบแทนด้วยร่างกายเถอะนะ นะๆ” นางร่อนเอวบดคลึงไปบนลำตัวของเร็กซ์ช้าๆเป็นจังหวะ สองมือบีบหน้าอกขาวโตของตนเข้าหากันให้นูนเด่นยิ่งขึ้น พร้อมเสียงคราง “อืออาห์” เบาๆยั่วยวน

<อ้อ อย่างนี้นี่เอง> ในที่สุดผมก็เอะใจได้เมื่อเห็นบางอย่างที่ข้อเท้าของหล่อน

<น่าจะสนุกแฮะ ขอยืนดูอีกสักหน่อยละกัน> ผมคิดและหัวเราะในลำคอเบาๆ

“เดี๋ยวก่อนสิคุณ หยุดก่อน ผมเป็นอัศวินต้องช่วยคนเดือดร้อนอยู่แล้ว ไม่ต้องตอบแทนก็ได้” เร็กซ์กล่าวด้วยน้ำเสียงลนลาน ใบหน้าแดงก่ำไปหมด หญิงสาวพยายามปลุกปล้ำอัศวินหนุ่มอย่างไม่ลดละ เขาคว้าข้อมือทั้งสองข้างของหล่อนไว้ได้แล้วพลิกตัวขึ้นมาคร่อมนางแทน มือสองข้างกดมือหญิงสาวไว้เหนือศีรษะ

<โอ้...ท่าล่อแหลมซะด้วย ไหนดูซิว่าจะยังไงต่อ>

“แฮ่กๆ” เสียงลมหายใจหนักๆของอัศวินร่างใหญ่ดังมาถึงนี่ “รอสมาช่วยทำให้นางหยุดที” มันร้องขอความช่วยเหลือจากผม

“เอาหน่า ถ้านางต้องการจริงๆ เจ้าก็สนองให้สักหน่อยสิ” คำตอบผมเล่นเอามันหน้าเสีย

<ฮ่าๆๆ เจ้านี่นี่มันไก่อ่อนจริงๆ ดูสารรูปสิ> ผมแทบจะกลั้นขำไม่อยู่ มีผู้หญิงมีถวายตัวให้แล้วยังนิ่งอยู่

“อื้อ…ท่านอัศวิน โปรดแทงข้าด้วยดาบประจำกายของท่านด้วย อ้า..” นางครวญครางบิดร่อนไปมาใต้ร่างของชายหนุ่ม แอ่นตัวขึ้นไปแนบดอกไม้กลีบงามกับดาบเล่มใหญ่ของเร็กซ์

“เห้ย คุณ เบาๆ ผมไม่ทำอะไรคุณทั้งนั้น”

“คิก ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ” ผมหลุดหัวเราะในที่สุด ไม่ได้ขำจนน้ำตาเล็ดแบบนี้มานานแล้ว ผมรู้อยู่แล้วแหละว่าเกิดอะไรขึ้น แค่อยากดูเฉยๆว่าคุณชายจะทำยังไง

ผู้หญิงคนนี้เป็นร่างจำแลงของมิมิคพอด (Mimic pod) เป็นมอนสเตอร์จำพวกวัชพืช มอนสเตอร์ชนิดนี้มีสามแบบคือ ล่าเนื้อ หรือล่าพลังเวท หรือทั้งสองอย่าง ตัวข้างหน้าผมเป็นจำพวกที่สอง ใช้ร่างจำแลงมาล่อหลอกเหยื่อให้คลุกคลีด้วยเป็นเวลานานๆเพื่อดูดพลังเวท แล้วอะไรจะหลอกล่อชายหนุ่มได้ดีไปกว่าร่างของหญิงสาวสวย ผมรู้เพราะสังเกตพฤติกรรมแปลกๆและเส้นใยเหมือนรากต้นไม้ที่เท้าของหล่อน

แต่ก่อนอาจารย์ของผมเคยใช้เจ้าพวกนี้เป็นที่ระบายอารมย์ด้วยซ้ำเพราะพวกระดับต่ำๆแบบนี้มักดูดพลังได้ไม่มาก กว่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิตก็นู่น…ต้องคลุกคลีกัน 3-4 วัน บางครั้งผมรู้สึกสงสารพวกมันที่ถูกอาจารย์ใช้งานอย่างหนักก่อนกำจัดทิ้ง แต่ตอนนี้ถ้ามันจำแลงเป็นร่างผู้ชายแบบที่ผมชอบผมก็อาจจะทำแบบเดียวกันก็ได้ ฮ่า ๆ ๆ

<เอาหละ ได้เวลาช่วยคุณชายละ> ผมเปิดใช้งานหินเวทสีแดงเพื่อหลอกล่อมัน ร่างของหญิงสาวหยุดชะงักแล้วหันมาหาผมทันที

การดูดพลังเวทจากสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากและใช้เวลา แต่ถ้าเป็นพลังเวทบริสุทธิ์ที่สถิตในหินเวทมนต์ละก็ พวกมันสามารถเก็บเกี่ยวจนวิวัฒนาการไปอีกขั้นเลยก็ได้

“พลังเวท” นางพึมพำด้วยสายตาเลื่อนลอย “หะ…หินพลังเวท” ร่างกายนางเริ่มบิดไปมาแบบที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ ใบหน้าบิดเบี้ยวแล้วแหวกออกเป็นแนวตั้งกลายสภาพเป็นกลีบดอกไม้สองกลีบที่มีฟันแหลมคมซี่เล็กๆเรียงรายเต็มไปหมด ของเหลวเหนียวหยดย้อยสภาพหน้าขยะแขยง

เร็กซ์อ้าปากทำหน้าเหวอ ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น คงจะช็อคจนขยับไม่ได้

“เฮ้ยยยยย”

มิมิคพอดลุกขึ้นแล้วเหวี่ยงร่างอัศวินหนุ่มหายไปในพุ่มไม้รกทึบ ไม่รู้ว่าเพราะเผลอหรือเพราะโดนดูดพลังไปจนอ่อนแรงลง แต่ช่างเหอะ เดี๋ยวจัดการเจ้านี่เสร็จแล้วค่อยไปเก็บกลับมา ร่างเนื้อผิวเนียนขาวกลายสภาพเป็นเนื้อไม้สีเขียว มันพุ่งตรงมาหาผม

“ส่งมา…ส่งหินเวทมา…เอาพลังเวทมา” มันคำรามเสียงดัง มิมิคพอดเงื้อแขนที่กลายเป็นเถาวัลย์ขึ้นเพื่อเข้าจับผม

ชั่วขณะก่อนที่เถาวัลย์นั้นจะสัมผัสตัวผมเบี่ยงตัวหลบเพียงเล็กน้อยแล้วยื่นมือเข้าไปหาใบหน้าสองกลีบของมัน ที่มันต้องล่อหลอกเหยื่อเพราะความสามารถในการต่อสู้ของมันแย่มาก
พรึบ! เปลวเพลิงสีแดงฉานพ่นออกจากฝ่ามือผมลุกท่วมศัตรู

“กรี๊ดดดดด” เสียงเล็กแหลมร้องอย่างเจ็บปวด มันล้มลงไปดิ้นทะลนทุลายในกองเพลิง

ฟู่ๆๆๆๆ เพื่อความแน่ใจ ผมพ่นไฟเข้าไปเพิ่มจนร่างมันสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน พวกวัชพืชมักจะตายยากเพราะมันแตกกิ่งหนีไปได้ง่าย ผมต้องมั่นใจจริงๆว่าถอนรากถอนโคนมันหมด

เมื่อผมแน่ใจว่าเรียบร้อยแล้วผมจึงเดินแหวกพุ่มไม้พงหญ้าเข้าไปหาเร็กซ์ ผมยิ้มร่าอย่างอารมย์ดีเพราะแค่นึกภาพมันเมื่อครู่ก็ขำจนท้องแข็งแล้ว

แต่ผมก็ต้องหุบยิ้มทันทีเมื่อแหวกพุ่มไม้ไปเจอเร็กซ์

มันกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางดงดอกไม้ทรงระฆังคว่ำสีเหลืองทอง เนื้อตัวเปื้อนเกสรสีทองของดอกไม้ไปทั้งตัว

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ทำดีมากเจ้าดอกไม้!  :hao7:

ออฟไลน์ KPMwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
18.2


“เกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่คืออะไร” เร็กซ์ลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัวจนเกสรฟุ้งกระจายไปหมด

<โอ ไม่> ผมรีบดึงเสื้อขึ้นมาปิดจมูกและปาก ขืนโดนเกสรไปด้วยจะยิ่งแย่

“มิมิคพอดหน่ะ มันพยายามดูดพลังเวทจากเจ้า” ผมเริ่มก้าวถอยห่าง

“นี่เจ้ารู้ตัวแล้วทำไมถึงยังปล่อยให้มันเล่นงานข้า หา!” มันพุ่งเข้ามาหาผมพร้อมยกมือจะบีบคอผม ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความโกรธ รึเปล่า?

“อย่าพึ่งเข้ามาใกล้ข้า” ผมรีบกระโดดออกห่างทันที มันทำหน้าสงสัย

“อะไร ทำไมถึงทำท่าทางกลัวขนาดนั้น แล้วปิดหน้าปิดตาทำไม” มันเดินเข้ามาใกล้อีก

“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ” ผมชี้นิ้วออกคำสั่งเสียงดังจนเร็กซ์ทำหน้าแปลกใจ “ตอนนี้ เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง”

“ถามทำไม ก็ปกติดี แต่ก็รู้สึกวูบวาบแปลกๆแฮะ”

“เอาแล้วไง”

“…”

“เจ้าจำดอกไม้ที่ข้าเตือนได้มั้ย”

“อืม ไอ้ดอกไม้สีทองๆนั่นน่ะเหรอ” มันว่าแล้วสำรวจรอบตัว “เห้ย นี่มันที่เจ้าให้ระวังนี่” เร็กซ์โพล่งเสียงดังเมื่อรู้ตัว

“เห้อ…” ผมเอามือกุมขมับถอนหายใจส่ายหน้า จะทำยังไงกับมันดีเนี่ย

“ข้าโดนเกสรมันไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น” อัศวินทำหน้าเสีย เริ่มโวยวาย

ดอกฮอร์นีเลียเป็นสมุนไพรที่พบได้ทั่วไปในป่าเอเดนฝั่งใต้ ฤทธิ์เกสรของมันคือกระตุ้นอารมย์ทางเพศให้กับสิ่งมีชีวิตที่สูดดมเข้าไป ผู้เคราะห์ร้ายจะวิ่งพล่านจนกว่าจะหาคู่ผสมพันธ์ได้ ส่งผลให้เกสรกระจายไปได้ไกลและบางครั้งเมล็ดพันธ์ก็ติดออกไปขยายพันธ์ในที่ห่างไกลด้วย นักปรุงยาหัวดีนำผลนี้ไปทำยาปลุกอารมย์ทางเพศให้กับเหล่าชายสูงวัย แน่นอนว่าขายได้เป็นกอบเป็นกำ ที่จำเป็นต้องผ่านการปรุงก่อนเพราะ เกสรจะออกฤทธิ์ได้ไม่นานหลังฟุ้งออกจากดอก และแบบสดๆใช้เวลานาน 15-20 นาที หลังรับเข้าร่างกายจึงจะเริ่มออกฤทธิ์ มันไม่ทันใจผู้ใช้

ผมอธิบายให้มันฟังขณะวิ่งนำไปที่ลำธารที่เจ้าฟรีดรออยู่ เร็กซ์ตามผมมาด้วยสีหน้าเจื่อนๆคงวิตกกับความรู้สึกที่เริ่มคุกกรุ่นในตัว ใบหน้าเริ่มแดง เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดออกมาที่ขมับ เสียงลมหายใจดังฟืดฟาด มือเริ่มรั้งคอเสื้อออกเพื่อระบายความร้อน

“เอาล่ะ ถอดชุดออกแล้วลงไปแช่น้ำล้างตัวซะ น้ำเย็นๆน่าจะช่วยให้สงบลงบ้าง ทำใจให้สบายๆแล้วกัน เดี๋ยวข้าไปหาสมุนไพรมาแก้ฤทธิ์ให้” ผมจัดแจงสั่ง น้ำเย็นๆน่าจะช่วยรรเทาได้บ้าง

“…” มันทำตามอย่างว่าง่าย คงไม่อยากคลั่งไปปลุกปล้ำผู้หญิงที่ไหนเข้า

“ฟรีด เฝ้านายแกให้ดีๆด้วย อย่าให้หนีไปฉุดผู้หญิงที่ไหนเข้า เข้าใจมั้ย”

“ฮรี้ๆ” เออดี ฉลาดมาก เจ้าม้าเดินไปอยู่ใกล้ๆนายมัน
ผมข้ามกลับไปฝั่งใต้แล้วออกวิ่งเข้าป่า จริงๆแล้วไม่มียาแก้ฤทธิ์หรอก แต่ผมจะหาสมุนไพรที่มีฤทธิ์นอนหลับแรงๆให้มันนอนหลับไปจนกว่ามันจะสงบลง ผมวิ่งพลางสอดส่องหาดอกไม้สีเขียวที่มักขึ้นตามเถาวัลย์บนต้นไม้สูง

“อ๊ะ! นั่นไง” เมื่อเห็นเป้าหมายผมก็ปีนขึ้นต้นไม้ ด้วยเวลาประมานนี้ผมน่าจะกลับไปทัน ผมเอื้อมมือผมไปคว้าดอกไม้ที่ผมต้องการ

วืด…ชั่วอึดใจก่อนที่มือผมจะสัมผัสกลีบดอกสีเขียวนั้น ทุกอย่างก็ดำมืดลง แขนขาผมอ่อนแรง ร่างกายล่วงหล่นลงไปตามแรงโน้มถ่วง

“แกร็งๆ ๆ ” ท่ามกลางบรรยากาศอันมืดมิด สายโซ่สีทองวาววับเข้าโอบล้อมรอบตัวผม

“เห!” รู้สึกตัวอีกทีผมก็โผล่มานอนข้างต้นไม้ริมลำธาร แขนสองข้างถูกยกสูงเหนือศีรษะ

“กริ๊กๆ” เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้นเมื่อผมขยับแขน ผมถูกโซ่ล่ามไว้กับต้นไม้!!

เมื่อผมเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกตะลึงจนลืมหายใจ!!
ร่างเปลือยเปล่าของเร็กซ์ยืนจังก้าถือโอทธ์คีปเปอร์อยู่หน้าผม อาวุธประจำกายขนาดใหญ่กลางลำตัวผงาด ปูดโปนไปด้วยเส้นเลือดพร้อมเข้าโรมรันฟันแทง ผิวกายและใบหน้าของชายหนุ่มแดงก่ำ ดวงตาหยาดเยิ้มคู่นั้นจ้องผม ราวกับราชสีห์กำลังจับจ้องอาหารอันโอชะของมัน

“รอส…ข้าทนไม่ไหวแล้ว” เสียงมันแหบพร่า สิงโตหนุ่มปักดาบลงข้างตัว แล้วย่างกรายเข้ามาหาผม
อึก…ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่เสียงดัง เมื่อครู่ผมยังหัวเราะที่มันไปปลุกปล้ำกับผู้หญิงอยู่เลย ทำไมเหตการณ์ถึงกลับตาลปัตรกลายเป็นผมลงมาอยู่ใต้ร่างของมันได้เนี่ย

“จะ…ใจเย็นๆก่อนเร็กซ์ อ๊ะ”

เจ้าสิงโตหมอบตัวลงมาคร่อมผมไว้ มันใช้หน้าแข้งทับขาทั้งสองข้างไว้ มือหนึ่งกดไหล่ให้เหยื่อของมันนอนราบลงไป อีกข้างสอดเข้ามาใต้เสื้อ มือหยาบกร้านร้อนๆลูบไล้ไปตามหน้าท้องของผม สัมผัสนั้นทำให้ผมสั่นสะท้าน ลมหายใจเริ่มติดขัด

“อาห์..เนื้อเนียนดีจริงๆด้วย” มันส่งเสียงครางพึงพอใจเมื่อได้สัมผัสเนื้อของผม เร็กซ์ลากมือเลิกเสื้อของผมสูงขึ้นไปจนไปติดกับเกราะอ่อนที่ผมใช้ปกปิดช่วงอกไว้

“รอส…ข้าต้องการเจ้าเหลือเกิน” สองมือพยายามแกะเกราะของผมออก

ไม่ได้การล่ะ ก่อนที่ผมจะเตลิดไปกว่านี้ผมต้องหาทางหยุดมัน ถึงผมจะไม่คิดอะไรมากกับการหลับนอนกับผู้ชาย แต่เจ้านี่เป็นเพื่อนผมนะ ผมไม่อยากให้มองหน้ากันไม่ติดในภายหลัง โธ่..รู้แบบนี้ผมไม่น่าเผามิมิคพอดนั่นไปเลย

<เอาวะ โดนช๊อตสักหน่อยน่าจะหยุดมันได้> ผมเพ่งสมาธิไปที่หินสีเหลืองเพื่อจะใช้เวทสายฟ้า

กริ๊กๆ สายโซ่เข้ารัดมือซ้ายของผมแน่นขึ้นจนปวดไปหมด หินเวทมนต์ไม่ยอมทำงาน

<บ้าหน่า ดาบนี้ผนึกพลังเวทได้ด้วยเหรอ> โว้ยยย..ยิ่งเกลียดดาบนี่เข้าไปอีก แต่นี่ไม่ใช่เวลามาคิด ผมกำลังจะโดนดาบอีกเล่มของมันแทงอยู่แล้ว
แคว้กกก!!! เจ้าสิงโตหมดความอดทนฉีกเกราะอ่อนที่ทำจากหนังผมออกเป็นชิ้นๆ

“เฮ้ย นั่นไม่ใช่ถูกๆนะ”

<เอาไงดีๆ ๆ ๆ> ผมคิดจนหัวหมุนไปหมด เร็กซ์ลากอุ้งมือร้อนมาที่อกขึ้นลงสลับไปมากับลำคอ มันยิ้มร่าพอใจ ผมเริ่มจะคล้อยตามไปกับสัมผัสของมัน

“ฟรีด มาช่วยกันหน่อยสิ อ่าวเห้ย จะเดินหนีไปไหน” ม้าขาวเดินสะบัดตูดหนีผมไปแล้ว นี่มันจงใจช่วยนายของมันนี่หว่า

“ไอ้ม้าทรยศ อุ๊บ” ริมฝีปากร้อนกดลงมาปิดปากผมไว้ เจ้าสิงโตกดริมฝีปากแช่ไว้เช่นนั้นเนิ่นนาน นานจนผมกระพริบตาปริบๆ

<เฮ้ย...นี่เรียกจูบหรอ ปากประกบกันเฉยๆไม่เรียกจูบนะ>

เจ้าสิงโตผละออกแล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปซุกไซร้ที่คอผมแทน ลมหายใจอุ่นของมันทำให้ผมเสียววาบไปถึงสันหลัง

“อ๊ะ เร็กซ์ อืมมม” ผมครางไปกับสัมผัสของมัน หรือว่าผมจะยอมมันดี ถึงจะจูบห่วยก็เถอะ

กึ๊ด!!

“โอ้ยย” ผมร้องลั่น มันกัดโผมมม เจ้าสิงโตนี่มันกัดคอผม ไม่รู้ว่ามันจงใจหรือไม่ แต่ที่แน่ๆแรงขนาดนั้นเป็นรอยฟันแน่ๆ

แคว้ก!!

เมื่อทิ้งร่อยรอยจนเป็นที่พอใจแล้ว สิงโตหนุ่มก็ฉีกกางเกงผมออกแล้วเอื้อมไปคว้าขวดบางอย่างข้างศีรษะของผม กลิ่นน้ำมันนวดสนุมไพรฟุ้งออกมาทันทีที่มันเปิดขวดแล้วชะโลมน้ำมันไปทั่วอาวุธ มันจับขาผมแยกออก มือข้างหนึ่งยกขาพาดบ่า อีกข้างกอบกุมดาบเล่มโตเอาปลายร้อนๆมาจ่อไว้ที่ช่องทางของผม ผมหน้าซีดทันทีเมื่อรูว่าอะไรจะเกิดขึ้น

“ร…เร็กซ์เดี๋ยวก่อน เจ้าจะใส่มันทั้งๆแบบนั้นไม่ได้นะ” ถึงผมจะผ่านสมรภูมิบนเตียงมาเยอะแล้ว แต่ด้วยขนาด ถ้าไม่เตรียมการก่อนผมแย่แน่ ผมออกแรงดิ้น

“รอส…นิ่งๆสิ” เจ้าสิงโตคำรามอย่างหงุดหงิด พร้อมเรียกสายโซ่ออกมาพันขาผมไว้แน่น แน่นจนเจ็บทำให้ไม่มีแรงสู้ต่อ ถึงผมเคยอยากลอง BDSM แต่แบบนี้ไม่ได้อยู่ในหัวผมเลย ให้ตายสิ

“เร็กซ์ ปล่อยก่อน ข้ายอมเจ้าดีๆก็ได้ อ๊า” ผมร้องครางเมื่อมันกดปลายดาบชำแรกเข้ามาในตัวผม

“ซี้ด…ในตัวเจ้าอุ่นมากเลย เป็นของข้าเถอะนะ…รอส” เจ้าสิงโตผู้หน้ามืดตามัวไม่ฟังอะไรทั้งนั้น มันส่งเสียงซี้ดซ้าดพร้อมออกแรงกดอาวุธประจำกายเข้ามาลึกขึ้นเรื่อยๆ

กรอด!!

ผมกัดฟันกรอดๆ แหงนหน้าขึ้นเพื่อระบายความคับแน่นและความเจ็บปวด ผมรับรู้ได้ถึงทุกคืบความยาวที่สอดแทรกเข้ามาในตัวผม ปกติคู่ที่ผมนอนด้วยจะมีขนาดมาตรฐาน นานๆจะเจอพวกเกินค่าเฉลี่ยแบบนี้สักครั้ง แต่พวกเขาจะรู้วิธีที่ทำให้ผมมีความสุขได้โดยไม่ต้องเจ็บแบบนี้

“อาห์…รอส มันแน่นมากเลย ซีดส์…อย่าเกรงสิ…เดี๋ยวก็รู้สึกดีเอง” มันพูดเสียงกระเส่าเมื่อใส่เข้ามาได้ครึ่งลำ

“…” ผมจุกจนเถียงไม่ออก ได้แต่คิดต่อว่ามัน

<เดี๋ยวก็ดีเองพ่องสิ ไปจำบทพูดนี้มาจากไหน สอบตกตั้งแต่เล้าโลมแล้วมันจะไปรู้สึกดีได้ยังไงฟระ>

เจ้าสิงโตเอามือสองข้างมาจับไว้ที่เอวผมไว้มั่น

“ฮึบ” มันโถมน้ำหนักตัวเข้ามากดดาบแทงเข้ามาตัวผมจนสุด

“อึก…อ๊า” ผมร้องด้วยความเจ็บปวด ตาลายไปหมด เหงื่อผุดขึ้นมาเต็มสองขมับ หน้าอกผมกระเพื่อมเป็นจังหวะถี่ๆหวังระบายความทรมานออกมา

“ซี้ดส์.. รอส มันดีรู้สึกมากเลย…ข้า…อ่ะ…อึก….อืม” สิงโตหนุ่มโถมทับร่างลงมาแนบตัวผมแล้วกอดผมแน่นจนกระดูกลั่น จมูกซุกมาที่ซอกคอ ร่างกายของมันกระตุกเป็นจังหวะ

<อย่าบอกนะว่า…>

“อัก…อึก…อื้อ…กึ้ด” มันร้องครางไม่เป็นภาษาแล้วฝังเขี้ยวลงมาที่บ่าซ้ายของผม

“อึก” ผมกัดฟันทนเจ็บปนกระสันต์ ดาบเล่มโตของมันในตัวผมกระตุกหงึกๆพร้อมความรู้สึกอุ่นวาบไปทั่วช่องท้อง

“ฮะ…แฮ่กๆ” เสียงหอบถี่ๆพร้อมลมหายใจร้อนๆของมันรดอยู่ที่หูของผม เมื่อแรงกระตุกหยุดลง เจ้าสิงโตก็ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงมาทับผมไว้แล้วนิ่งไป

“หะ” ผมอุทานแปลกออกมาเบาๆ ทำไมจู่ๆมันถึงนิ่งไปแบบนี้

“…”

“ระ…เร็กซ์” ผมเรียกมันด้วยน้ำเสียงกระเส่า แรงกระตุก เสียงคำรามและลมหายใจร้อนๆเมื่อครู่ทำให้เครื่องผมเริ่มติดขึ้นมาบ้าง

“…zzz”

“ฮะ…เฮ้ย…เร็กซ์”

“zzz”

“ไอ้เจ้าบ้า ตื่นเดี๋ยวนี้นะ เจ้าจะปล่อยข้าค้างแบบนี้ไม่ได้นะ”

“คร่อก”

“เร็กซัส ตื่นนนน”

อีกสาเหตุหนึ่งที่ต้องมีการปรุงเกสรของดอกฮอร์นีเลียก่อนก็เพราะมันไม่ได้เสริมความอึดความทนแม้แต่อย่างใด หากเป็นพวกเรือล่มปากอ่าวหรือนกกระจอกไม่ทันกินน้ำก็ต้องใช้ยาสูตรพิเศษแทน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-08-2018 13:21:47 โดย KPMwolf »

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอย พ่อไก่อ่อน แถมชิงหลับไปก่อนอีกตะหาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Aeflizm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารน้อง 5555555

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :laugh: เห็นใจมือใหม่หน่อยสิ55555 รอตอนต่อไปปป :hao7:

ออฟไลน์ KPMwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ประกาศ : พึ่งกลับจากต่างประเทศยัง Jetlag อยู่เลย อาจจะลงต่ออีกที่อาทิตย์หน้านะครับ สมองตื้อไปหมดคิดบทพูดไม่ออก

ตามมาสักพักแล้ว สนุกดีค่ะ เวลาราอ่านไม่ได้จิ้นไปขนาดถึงบาร่า แต่ดีแล้วบาร่าเกินไปเราจะขนลุก5555 เอาพอดีๆ

ปล.ตอนที่แล้วมีคำผิดว่า "หน้ากลัว>>>น่ากลัว เขียนคำหลังนะคะ" จริงๆเรื่องพิมพ์ผิดเราไม่ได้ติดใจอะไรขนาดนั้น แต่ใช้ผิดนี่อยากให้แก้ไขนะคะ เป็นกำลังใจให้ ติดตามจ้า

555 ผมบรรยายตัวละครหลวมๆกะให้ไปจินตนาการเอาเอง ชอบแบบไหนตามสะดวกเลยครับ
แก้คำผิดแล้วครับ ปกติไม่พลาด แถมอ่านทวนหลายรอบ สงสัยคงเบลอ ตาลาย

:pig4:

ขอบคุณที่ติดตามครับ

ว่าละเชียว ศิษย์ อาจารย์คู่นี้มันมีความรู้สึกต่อกันลึกไปกว่านั้น

หุหุ ปูมาสักพักละ

มาต่ออีกนะคะ รอออออ

ขอบคุณที่ติดตามครับ

ทำดีมากเจ้าดอกไม้!  :hao7:

บังเอิญ จริงๆนะ

โอย พ่อไก่อ่อน แถมชิงหลับไปก่อนอีกตะหาก

สอบตกหมด 555

สงสารน้อง 5555555

Ross : น้องโดนทำร้ายยยย

:laugh: เห็นใจมือใหม่หน่อยสิ55555 รอตอนต่อไปปป :hao7:

Ross : ไม่ชอบมือใหม่เพราะแบบนี้แหละ หึ

ออฟไลน์ Nocto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ดราม่าที่ว่ากับอาจารย์นี่เอง นึกว่าจะดราม่าครอบครัว

รอสถูกทิ้งซะแล้ว 555 เป็นไงละ แกล้งเร็กซ์ดีนัก

 :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :m20: กากสุดๆ ยิ่งกว่าระดับเตรียมอนุบาลก็เร็กซ์นี่ล่ะ  :jul3:

ออฟไลน์ KPMwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Chapter 19 Unchain


แสงอาทิตย์ของดวงตะวันที่อยู่กลางศีรษะไม่ส่งผลให้อากาศร้อนนักเพราะวันนี้มีเมฆมาก กอบลมพัดเย็นๆส่งผลให้การเดินทางไปเมืองเอนเดลอนนั้นสะดวกสบาย เห็นทิวทัศน์ของกำแพงเมืองอยู่ลางๆ อีกไม่นานก็จะถึงเมืองแล้ว มันควรจะเป็นวันที่ดี แต่หัวผมนั้นร้อนไปหมดแล้ว

<ค้าง ๆ ๆ ๆ>

“นี่รอส ขึ้นม้ามาเถอะข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก” เจ้าอัศวินทำเสียงอ่อยๆ ขณะขี่ม้าตามหลังผมมา

“...” ผมเดินนำหน้า ก้าวเท้าฉับๆไม่สนอะไรทั้งนั้น

“รอส...ข้าขอโทษ” คำขอโทษครั้งที่ 100 แล้วมั้ง

<ค้าง ๆ ๆ ๆ ค้างโว้ยยย>

ผมไม่ฟังเสียงใดๆ ก้าวต่อไปเรื่อยๆหวังจะไปถึงเมืองให้เร็วที่สุด ทันทีที่ก้าวเข้าเขตกำแพงเมืองผมจะรีบพุ่งไปที่ร้านโลนลี่วู๊ด (Lonely wood) ทันที ร้านแบบเดียวกับร้านไก่สีทองนั่นแหละ เข้าไปปุปนะ ผมจะหลับหูหลับตาลากหมีตัวไหนก็ตามเข้าไปหลังร้านทันที
แต่เร็กซ์ก็ต้องมาขัดห้วงความคิดของผมลงเมื่อมันหมดความอดทนกับบรรยากาศอึดอัดนี้แล้วเร่งฝีเท้าเจ้าฟรีดมาขวางหน้าผม

“รอส!!! มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน” มันเรียกผมเสียงแข็ง “ข้าบอกแล้วไงว่าข้าจะรับผิดช...”

“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ!!!” ผมตะคอกกลับ

“...”

“ข้าก็บอกแล้วไงว่าข้าไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องให้ชายที่นอนด้วยมารับผิดชอบ มันเหตุสุดวิสัย เลิกตอแยสักที” ว่าแล้วเบี่ยงตัวหลบม้าที่ขวางทางอยู่

“รอส!!!” มันยังคงเรียกผม

“ถ้ายังไม่เงียบ พ่อจะเผาทั้งคนทั้งม้าเลยคอยดู แกก็ด้วยฟรีด รู้เห็นเป็นใจนายแกซะเหลือเกิน” ผมชี้หน้าทั้งคนทั้งม้าด้วยมือซ้ายที่สวมถุงมือเวท โดยเฉพาะเจ้าม้าขาวนี่ มันจงใจปล่อยให้นายมันชำเราผมชัดๆ...ฮึย


……….


คืนก่อน


หลังจากมันเสร็จกิจไปก็ฟุบหลับไปบนตัวผม ปล่อยให้ผมอารมณ์ค้างเติ่งอยู่คนเดียว ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ซ้ำร้ายโซ่ที่มัดแขนทั้งสองข้างและขาข้างหนึ่งก็ไม่คลายออก ยังคงพันธนาการผมไว้ให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เออ...ความหมายนั้นแหละ กว่าจะใช้ขาข้างเดียวพลิกตัวหนักๆของมันลงไปได้ก็แทบแย่แล้ว แถมยังต้องมารู้สึกไม่สบายตัวเพราะสิ่งตกค้างจากมันอีก โหย...จะเยอะไปไหน นี่มันไม่ได้ปล่อยมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย!!!

กว่าคุณชายจะฟื้นก็ปาไปนู่นพระอาทิตย์ตกไปแล้ว โชคดีเรือหาย ที่ไม่มีตัวอะไรโผล่มาจับพวกเราสองคนกินเป็นมื้อเย็น คงเป็นเหยื่อที่จับกินง่ายที่สุด และเป็นการตายที่อุบาทที่สุดที่ผมจะนึกได้

เมื่อมันตื่นแล้วไล่เรียงเหตุการณ์ได้มันก็ทำหน้าเหวอ รีบแก้โซ่ให้ผมแล้วพยายามจะช่วยผมลุกขึ้นอย่างลนลาน ผมเลยขอบคุณมันด้วยลูกถีบเข้ายอดอกไปทีนึงจนมันหงาย เสื้อผ้าผมขาดกระจุย แขนขาผมเป็นรอบช้ำจากโซ่ไปหมด ที่คอและบ่าเป็นรอยฟัน ช่องทางผมปวดหนึบๆ ดีนะที่มีพลังเวทฟื้นฟูเลยพอจะบรรเทาปวดไปได้บ้าง โชคดีอีกอย่างที่สถานที่ที่เกิดเหตุอยู่ริมลำธารทำให้ผมสามารถล้างเนื้อล้างตัวได้ทันที

“รอส...ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” มันกล่าวขณะตามลงมาล้างตัวข้างๆผม

“เออ” ผมตอบแบบส่งๆไปขณะล้างคราบของมันออก

“เจ้าอย่าโกรธข้าเลยนะ” อ้อมแขนแกร่งพยายามโอบกอดผม

“เออ” ผมเบี่ยงตัวหลบห่างจากมัน

“เจ้าพูดอะไรอย่างอื่นบ้างสิ”

“เออ”

“เจ้าไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะรับผิดชอบเจ้าเอง” มันยกกำปั้นทุบอกเพิ่มความหนักแน่น

“หุบปาก” ความอดทนของผมขาดผึง

“…”

“อย่าทำเหมือนข้าเป็นผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องมีคนมารับผิดชอบ เจ้าไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้น อย่าพูดถึงมันอีก” ผมตะคอกเสียงดัง แค่ได้กันถือเป็นเรื่องปกติมากสำหรับผม เจ้านี่มาอึกอักทึกทักขอรับผิดชอบอะไรไร้สาระยิ่งทำให้ผมรำคาญ แถมยังเป็นเซ็กซ์ที่ด่างพล้อยที่สุดในชีวิตของผมด้วย ผมไม่อยากจะนึกถึงมันอีก

“…” เร็กซ์หน้าจ๋อยไม่พูดอะไรอีก

หลังจากผมล้างตัวและแต่งตัวด้วยชุดสำรองชุดสุดท้ายเสร็จก็แยกย้ายกันพักผ่อนโดยไม่สนใจมันและไม่พูดอะไรกันอีก


……….


ปัจจุบัน


ใช้เวลาไม่นานพวกเราก็พ้นกำแพงเมืองเข้าสู่เอนเดลอนเสียที เมืองขนาดใหญ่ห้อมล้อมด้วยกำแพงหินสูงมหึมาเพื่อปกป้องชายแดน ภายในมีด่านตรวจเต็มไปด้วยทหาร เมื่อผ่านเข้าไปได้จึงเป็นบ้านเรือนน้อยใหญ่ ตามทางเดินแออัดไปด้วยร้านค้าและผู้คน

ประเทศของเราไม่ได้มีสงครามใดๆมานานมากแล้ว อีกทั้งยังเป็นเส้นทางค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน บ้านเมืองตามชายแดนแบบนี้จึงสงบสุขและมีผู้คนมากมาย พ้นจากเขตเขาทางตะวันออกไปจะเป็นทะเลทรายผืนใหญ่

เมื่อผ่านจากถนนเส้นหลักมาได้ก็เข้าเขตโรงเตี๊ยมที่ผู้คนไม่แน่นนัก

“เร็กซ์ เจ้าไปจองที่พักและเก็บของก่อนได้เลย ข้าขอตัวก่อน” ผมจัดแจงสั่งแล้วเดินแยกออกมา ไม่ไหวแล้ว…เดี๋ยวเสร็จกิจแล้วค่อยกลับมาหามันอีกที ผมเดินเลี้ยวเข้าตรอกมืด

หมับ!!!

เจ้าอัศวินคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อผมแล้วรั้งไว้แทบหงาย

“จะไปไหน” มันพูดเสียงเรียบ

“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า” ผมพยายามตะเกียกตะกายออกจากการจับกุมของมัน แต่มือมันนั้นบีบแน่นมาก

“จะไปที่แบบนั้นอีกแล้วใช่ไหม”

“เออ ก็ใช่น่ะสิ”

“ไม่ได้!! ข้าไม่อนุญาติ” สายตาเร็กซ์จริงจังขัดกับสีหน้าเหนื่อยหน่ายของผม

“อีกแล้วหรอ ข้าว่าเราตกลงกันเรื่องนี้ไปแล้วนะ” ผมตอกกลับด้วยน้ำเสียงรำคาญอย่างที่สุด ก็ไหนว่าจะไม่ยุ่งเรื่องนี้ไง นี่ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงนะ

“ตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้ว ข้าไม่ให้เจ้าไป”

“…!” อะไรของใคร ตลกละ

“ถ้าเจ้ามีความต้องการจริงๆ…เดี๋ยวข้าทำให้” หน้าเร็กซ์แดงขึ้นมาจางๆ สายตาเบือนไปทางอื่น เมื่อมันพูดว่าจะทำให้ เสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

“ไม่เอาโว้ยยยย ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว” ผมตะโกนกลับเสียงดังจนเร็กซ์ตกใจ หันหน้าลอกแลกสำรวจผู้คยที่เดินห่างๆรอบๆ

“นี่ เบาๆหน่อยสิ” มันว่า

“ไม่!!! นกกระจอกยังไม่ทัน…อื้อๆ” มันยกมือปิดปากผมแล้วผลักเข้าตรอกไปเมื่อมีหญิงสาวกลุ่มนึงหันมาทางเราแล้วซุบซิบกัน

“ชู่ว์ เงียบๆ” มันดันผมเข้ามาลึกจนแน่ใจว่าไม่มีผู้คนแล้ว

ผมดิ้นหลุดจากมือมันในที่สุดแล้วหันหน้าไปเผชิญหน้า นี่โมโหแล้วนะ

“เลิกทำตัววุ่นวายสักที เร็กซ์”

“ข้าไม่ได้วุ่นวาย ข้าจริงจังนะ”

“เหอะ…จริงจังงั้นเหรอ แค่ได้กันครั้งเดียว ข้าไม่ถือว่าเป็นของใครหรอกนะ” ผมตะคอกกลับพร้อมพยายามขยับตัวออกห่าง แต่อีกฝ่ายไวกว่าคว้าไหล่ผมทั้งสองข้างแล้วดันหลังติดกำแพงไม่ให้หนีไปไหน

“หยุดนะรอส ข้าไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”

เปรี้ยะๆ ๆ

เสียงกระแสไฟฟ้าไหลเวียนที่มือข้างซ้ายผมส่งสัญญาณให้อัศวินรีบกระโดดถอยออกห่าง

“ข้าไม่ได้ต้องการคุย ข้าต้องการระบาย” ผมเล็งมือซ้ายไปเฉียดๆลำตัวมัน ควบคุมให้พลังอ่อนที่สุด

ปิ้ว!!!

สายฟ้าพุ่งออกจากมือผมเข้าชนกำแพงหินจนเป็นรอยไหม้สีดำวงเล็กๆ ผมต้องการยิงขู่เท่านั้น แต่เร็กซ์หลบฉากออกไปตามสัญชาตญาณ

“นี่เจ้ากล้าทำร้ายข้าเหรอ” มันกล่าวพร้อมเอามือแตะที่ด้ามดาบ

กริ๊กๆ ๆ

สายโซ่สีทองปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าเกี่ยวรัดมือและลำตัวของผมไว้จนขยับไม่ได้ หินสายฟ้าผมดับลงแต่ไม่ได้กลายเป็นสีเทา พลังเวทผมโดนผนึกอีกแล้ว ผมกัดฟันแน่นเจ็บใจ

“รอส…สงบจิตสงบใจลงก่อน” เจ้าอัศวินเดินเข้ามาใกล้แล้วเอามือลูบแก้มของผมเบาๆ

“เข้าที่พักกันเถอะ ถึงเวลาที่เราต้องคุยกันจริงๆจังๆสักที” มันกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือไล่ไปถึงไรผม แต่ผมสะบัดหน้าออก

“จริงๆจิงๆบ้างล่ะ เป็นของเจ้าบ้างล่ะ เลิกพล่ามอะไรบ้าๆออกมาสักที”

“ข้าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้นะ โดยเฉพาะกับเจ้า”

“ลืมภารกิจของตัวเองไปแล้วเหรอไง” มืออัศวินชะงักกลับ ดวงตาเบิกกว้างตระหนักบางอย่างได้

“…”

“ไหนบอกไงอัศวินที่ดีต้องไม่วอกแวกไง แล้วนี่ทำอะไรอยู่” ผมหน้ามืดตามัวไปหมดแล้ว พ่นคำพูดออกมาโดยไม่แม้แต่จะคิด ขอแค่ไล่มันออกไปได้ก็พอ

“…” มันนิ่งเงียบหลบตามองต่ำลงไป ไม่ยอมสบสายตาผมเหมือนทีแรก

“เห็นข้าเป็นอะไร ดอกไม้ริมทางให้เจ้าได้ปู้ยี้ปู้ยำเล่นๆเหรอไง…”

“มะ…ไม่ใช่นะ” มันตอบเสียงเบา

“…แล้วพองานทุกอย่างจบลงเจ้าก็ทิ้งมันเหมือนเศษขยะอย่างนั้นเหรอ”

ตู้ม!!!

เศษหินจากกำแพงในตรอกแตกกระจายเป็นชิ้นๆ หมัดขวาของเร็กซ์จมหายไปในหลุมที่กำแพงจนมิดมือ เวทมนต์ที่ห่อหุ้มแขนเข้มข้นจนคล้ายกระแสไฟฟ้าไหลเวียนไปมา

“ข้าบอกแล้วไงว่าไม่ใช่!!!” มันตะคอกกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ แววตาเกรี้ยวกราดจับจองมาที่ผม ลมหายใจลึกๆหนักๆทำให้เห็นว่ามันพยายามระงับอารมย์ของมันอย่างเต็มความสามารถ เป็นสภาพที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

“...”

“ไม่…ข้าไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาด” เสียงเบาๆลอดออกมา

“เจ้าหวังเกียรติยศไม่ใช่เหรอ แล้วการได้แต่งงานกับองค์หญิงคือเกียรติสูงสุดต่อเจ้าแล้ววงศ์ตระกูลไม่ใช่เหรอ” ถึงผมจะตกใจจนชะงักกับพละกำลังของมันไปบ้าง แต่ก็ยังพูดต่อ

แววแต่โกรธเกรี้ยวคลายหายไป กลับฉายความผิดหวังออกมา มันเบือนหน้าหนี กัดฟันแน่น หลบตามองต่ำอีกครั้ง

“ไม่ต้องมาเตือน...เรื่องนั้นหรอก” อัศวินกล่าวลอดไรฟันออกมา

“แล้วเจ้าจะผูกมัดการข้าแบบนี้ไว้ทำไม” เสียงผมเบาลง ลึกๆเริ่มรู้สึกแปลกๆ

“ชิ” อัศวินหนุ่มส่งเสียงไม่พอใจก่อนจะกลับหลังหันเดินออกไป สายโซ่รอบตัวผมเริ่มสลายเป็นละอองสีทองเล็กๆ ต่างจากทุกครั้งที่จะหายไปสู่ความว่างเปล่า

“เจ้า…เป็นอิสระแล้ว” มันหันกลับมาเล็กน้อย พอให้ผมเห็นเพียงใบหน้าและดวงตาฝั่งเดียว แล้วจึงออกเดินต่อไปยังทางออกของตรอก

“…” ผมไม่ได้กล่าวอะไร ผมได้แต่บิดนวดข้อมือไปมาพร้อมความรู้สึกแปลกๆที่แววตานั้นทิ้งไว้

“ขอบคุณมากนะ...ที่ช่วยเหลือมาตลอด” คือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่เร็กซ์จะลับตาผมไป

ในหัวผมโล่งไปหมดเมื่อสติที่ขาดไปเพราะความโกรธกลับมา ผมหยุดยืนอยู่นิ่งราวกับต้องมนต์สะกด…

...สะกดด้วยความรู้สึกผิดต่อสายตาและน้ำเสียงอันเศร้าสร้อยนั้น


ออฟไลน์ Aeflizm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ Nocto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ้มายก็อด แย่แล้ว แตกหักกันแล้ว รอสจะเป็นยังไงละทีนี้ จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรอ ?

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โถ่ เรื่องของเรื่องอีน้องโกรธที่ตัวเองค้างเพราะความอ่อนด๋อย  :laugh:

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อึมครึมๆ รอตอนต่อไป อยากอ่านแล้ววววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ KPMwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ดราม่าที่ว่ากับอาจารย์นี่เอง นึกว่าจะดราม่าครอบครัว

รอสถูกทิ้งซะแล้ว 555 เป็นไงละ แกล้งเร็กซ์ดีนัก

 :pig4:

 :oo1: :oo1: :oo1: กรรมติดจรวดมากมาย 555

:m20: กากสุดๆ ยิ่งกว่าระดับเตรียมอนุบาลก็เร็กซ์นี่ล่ะ  :jul3:

จะเล่นเรื่องความใสต้องไปให้สุด
นี่ปราณีมากแล้วนะ ถ้าคุณจันจากจันดารานี่ครั้งแรกเรือล่มปากอ่าวเลยนะ

โอ้มายก็อด แย่แล้ว แตกหักกันแล้ว รอสจะเป็นยังไงละทีนี้ จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรอ ?

ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก ขอเวลาคิดหน่อย

โถ่ เรื่องของเรื่องอีน้องโกรธที่ตัวเองค้างเพราะความอ่อนด๋อย  :laugh:

อ่อนแล้วไม่เจียมตัว 555

อึมครึมๆ รอตอนต่อไป อยากอ่านแล้ววววว

ใจเย็นจร้า ขอเก็บรายละเอียดอีกนิดนะครับ

ออฟไลน์ KPMwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Chapter 20.1 A Thief’s story

<หงุดหงิดโว้ย>

ผมนอนอารมณ์เสียอยู่บนม้านั่งกลางจตุรัสเล็กๆ มันเป็นสวนหย่อมเล็กๆกลางทางจบของทางเดินห้าแยก มีบ่อน้ำอยู่ตรงกลาง รอบๆเป็นพื้นที่ให้นั่งเล่น มีต้นไม้ให้ร่มเงากระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด เหมาะกับการนั่งพักผ่อน...ตรงข้ามกับผมในตอนนี้ที่หงุดหงิดมาก

หงุดหงิดกลุ่มลุงแก่ๆที่อยู่อีกฟากกำลังวิพากษ์วิจารณ์หญิงสาวที่เดินผ่านไปมา

หงุดหงิดอีเด็กสองคนที่วิ่งเล่นส่งเสียงดังอยู่ไม่ไกล

หงุดหงิดรูปปั้นของชายร่างเปลือยเปล่าที่ยื่นมือขึ้นไปจับเทวดาตัวน้อยที่โบยบินรอบๆกลางบ่อน้ำ ทำไมหงุดหงิดกับรูปปั้นน่ะหรอ ก็ปั้นกะดออันเล็กเท่านิ้วก้อย ไม่เข้าใจพวกศิลปินจริงๆว่าทำไมไม่ทำอันใหญ่ๆแบบที่ฟาดปากแตกได้

แล้วก็หงุดหงิดตนเองที่เอาแต่นอนเอกขเนกอยู่ตรงนี้

ณ เวลานี้จริงๆแล้วผมควรจะนอนครางอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มให้พวกเขาได้ตักตวงความสุขจากร่างของผม ยิ่งพวกเขาเร่าร้อนเท่าไหร่ผมก็ยิ่งชอบ มันควรจะเป็นแบบนั้นแท้ๆ ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะปลดปล่อยอารมณ์ที่ค้างคาจากเมื่อวานแท้ๆ แต่เพราะเหตุการณ์เมื่อครู่ อารมณ์ความอยากของผมก็หดหายไปหมด

“โว้ยยยย” ผมร้องเสียงดังเพื่อระบายความอัดอั้น แล้วลุกขึ้นนั่ง

“ลูกๆ มานี่เร็ว อย่าไปใกล้คนบ้า” เด็กสองคนนั้นรีบวิ่งกลับไปหาแม่แล้วเดินจ้ำหายไป

<ไม่ได้บ้าเฟ้ย แค่ใกล้จะบ้า> ความคิดในหัวผมตีกันยุ่งไปหมดแล้ว

เสียงหนึ่งก็ว่าดีแล้ว อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดกับเจ้านั่นเลย

อีกเสียงหนึ่งก็ว่าน่าสงสารจัง คุณอัศวินโดนหักอกซะแล้ว หา!!...หักอกเหรอ

ใครจะไปคิดล่ะว่าคำว่าจริงจังของเจ้าบ้านั่นคือจริงจังแบบจริงๆ ด้วยความโมโหผมกะจะแค่ไล่ๆมันไปก็เท่านั้นเอง ไม่ได้คิดว่าจะมีปฏิกิริยา
ตอบกลับแบบนั้นสักหน่อย นึกว่าคำว่า “จะรับผิดชอบ” เป็นแค่คำพูดสวยหรูให้มันดูดีเท่านั้น

- ข้าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้นะ โดยเฉพาะกับเจ้า -

คำพูดนี้ของมันยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของผม มันต้องการจะสื่ออะไร พึ่งรู้จักกันแค่อาทิตย์กว่าๆเอง แถมยังอยู่ในช่วงการทดสอบคัดเลือกรัชทายาทด้วย พูดแบบนั้นออกมามันจะดีเหรอ ?

“ทำไมเราต้องแคร์มันด้วย” ผมถามตัวเองพร้อมทอดสายตาไปยังท้องฟ้าสีครามปนส้ม

ผมล่ะเกลียดความใจง่ายของตนเองจริงๆ อยู่ด้วยแปบเดียวก็เริ่มให้ความสำคัญกับคนๆนั้นแล้ว อาจารย์ซิดคือคนแรกที่ผมได้อยู่ด้วยจนคิดเลยเถิดเกินไป สุดท้ายผมก็ต้องมาเสียใจเองเพราะท่านไม่ได้เป็นแบบผม ต่อมาก็โจรนั่นที่รู้จักกันไม่ถึงเดือนก็โดนมันล่อหลอกไป เพราะแบบนี้แหละผมถึงเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวตลอดตั้งแต่ได้รับบทเรียนจากเจ้าหัวหน้าโจรนั่น เคน (Cain) คือชื่อของเขา

…………………………………………..

เมื่อสองปีก่อน ผมได้เข้าร่วมเควสสำรวจดันเจี้ยนที่ตอนใต้ใกล้ๆเมืองเบลลาเดีย ที่นั่นคือที่ๆผมได้รู้จักกับมีนา หล่อนเข้ามาตีสนิทผมอย่างรวดเร็วเพราะในกลุ่มเกือบ 20 คน มีคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแค่สองคน มีนาเป็นหญิงสาวแก่แดดที่มากฝีมือตั้งแต่อายุ 17 ปี คุยกันแค่ไม่กี่วันก็แทบจะลากผมเข้าห้องแล้ว ตอนนั้นผมยังใสๆอยู่ปฏิเสธแทบไม่ทัน แล้วก็นางจับได้ว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิง เราเลยกลายเป็นเพื่อนสนิทกันแทน

หลังจากนั้นผมก็ได้รู้จักกับคุณเคน หนุ่มร่างใหญ่วัยสามสิบกลางๆ ไว้หนวดไว้เคราพองาม ร่างสูงใหญ่ราวกับหมี เพราะแบบนี้ล่ะมั้งสเป็คของผมเลยเป็นหมีมาตลอด ฮ่าๆๆ

เมื่อทางสะดวกเคนก็เข้ามาตีสนิทแบบถึงเนื้อถึงตัว ตอนแรกผมก็ไม่ได้เล่นด้วย ยังคงสงวนท่าทีไว้อยู่เพราะยังรักอาจารย์ซิดอยู่ แต่ยัยมีนาดันคอยชงอยู่ตลอดจนผมเริ่มใจอ่อน แต่ก็ยังไม่ยอมขึ้นเตียงกับเขา สุดท้ายสิ่งที่ทะลายกำแพงของผมได้คือการที่คุณเคนกระโดดมารับลูกธนูของพวกสเกลเลตั้ล (Skeletal) แทนผมจนได้รับบาดเจ็บ แม้จะไม่ใช่บาดแผลฉกรรจ์ สามารถให้พวกจอมเวทย์ขาวปิดแผลได้ แต่ผมก็รู้สึกผิดมาก คอยดูแลเขาไม่ห่างระหว่างพักฟื้น และช่วงเวลานั้นเองที่ผมตกเป็นของเขา มันเป็นอะไรที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อน เป็นบทรักที่เร่าร้อนมาก มากจนเลือดสาด แต่ไม่ใช่จากผมนะ แต่เป็นแผลของคุณเคนที่เปิดขึ้นมาใหม่

ช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่พวกเราสำรวจดันเจี้ยนด้วยกันเป็นช่วงที่ผมมีความสุขมาก จนกระทั่งงานจบลงผมก็ได้รับรู้ว่าคุณเคนเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรแฝงตัวมาขโมยสมบัติ ก่อนที่เขาจะหนีไปกับลูกน้อง เขาชักชวนผมไปด้วย ผมตอบตกลงโดยไม่ลังเล และเข้าร่วมกลุ่มโจรนั้น เหตุผลหนึ่งเพราะพวกเขาอ้างว่าเป็นโจรคุณธรรม ขโมยของไปแจกจ่ายให้ผู้ยากไร้

ผมเข้าร่วมการปล้นหลายครั้ง ในช่วง 4-5 เดือนที่เข้าร่วม และด้วยความสามารถที่โดดเด่นของผมทำให้ได้รับฉายา “หัวขโมยแห่งเบลลาเดีย” มา เป็นเหมือนมาสคอตให้กับกลุ่ม และช่วงนั้นผมก็ได้เรียนรู้รสกามหลากรูปแบบ หลากสถานที่เช่นกัน

จุดแตกหักที่ทำให้ผมตาสว่างคือเมื่อคุณเคนต้องการให้ผมฆ่าคน ลูกของพ่อค้าที่เราแอบไปขโมยของมาพบเห็นพวกเราที่จุดนัดพบเข้า เคนต้องการให้ผมปิดปากมันซะ แต่ผมทำไม่ได้ เขาจึงเห็นว่าผมเป็นภาระและทิ้งผมเป็นนกต่อให้พวกทหารและอัศวินจับ โชคดีที่มีนาช่วยผมออกมาได้

เพื่อเป็นการไถ่โทษ ผมสร้างข้อตกลงว่าจะตามจับเคนกลับมาให้ได้แล้วผมจะยอมมอบตัว แต่ลูกชายของพ่อค้าเสนอว่าจะช่วยล้างความผิดให้ทดแทนบุญคุณที่ไว้ชีวิต ผมกับมีนาจึงออกแกะรอยตามหากลุ่มโจรของเคน

และในคืนที่ผมตามพวกเขาเจอนั่นเองคือวันที่ผมได้รับรู้รสชาติของชีวิตข้อหนึ่ง รสชาติของการถูกหักหลัง มันเป็นคืนที่ฝนตกหนักกลางป่าทึบ ผมลำพังเพียงคนเดียวสามารถจัดการโจรทั้งกลุ่มลงได้ด้วยเวทสายฟ้าในพื้นที่ที่ชุ่มไปด้วยน้ำ เหลือเพียงเคนที่ไม่ได้หมดสติไป ส่วนมีนากลับไปตามพวกทหารมาให้

คุณเคนพูดพร่ำถึงความรักและอ้อนวอนให้ผมปล่อยพวกเขาไป ช่วงเวลาที่ผมลังเลนั่นเอง ใบมีดแหลมคมก็พุ่งเฉียดลำคอผมไป!!! ผมเกือบเสียท่า เคนเยาะเย้ยผมด้วยถ้อยคำต่ำช้ามากมาย มันไม่เคยมีความรักตั้งแต่แรก เป็นแค่การเสพสมกันให้ทั้งสองฝ่ายพอใจเท่านั้น เขาสนใจผมที่ความสามารถที่นำมาใช้ประโยชน์ได้ แต่ไม่เคยรักผมเลย

- อย่าคาดหวังในความรักหากไม่ต้องการเสียใจภายหลัง -

มันคือคำสอนสุดท้ายของเขาก่อนที่จะพุ่งตัวเข้ามาพร้อมดาบในมือที่พร้อมสังหาร สายน้ำก่อตัวเป็นกำแพงน้ำแข็งหยุดคมดาบที่หมายปลิดชีพนั้นไว้ น้ำตามพื้นดินไหลเข้าโอบล้อมร่างนั้นไว้เป็นลูกบอลน้ำขนาดใหญ่ที่มีชายร่างใหญ่อยู่ข้างใน ผมมองเขาทุรนทุรายด้วยสายตาว่างเปล่า อีกไม่นานเจ้าโจรนี่จะขาดอากาศหายใจตาย...

ทว่ามีนากลับมาดึงสติผมไว้ทัน หล่อนบอกว่ามันไม่คุ้มที่มือผมจะเปื้อนเลือดคนแบบนี้ ผมมีดีกว่าคนพวกนี้มาก และมันก็ได้ผล ผมไว้ชีวิตเขา แต่ก็ขังสมาชิกทุกคนนั้นไว้ในกรงน้ำแข็งก่อนที่พวกทหารจะมาถึง ผมและมีนาหนีไปด้วยกันเพื่อเก็บตัวกบดานรอให้ทางลูกของพ่อค้าจัดการเรื่องให้เสร็จ

ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นผมก็เปลี่ยนไป ผมหลับนอนกับผู้ชายง่ายๆจนเป็นเรื่องปกติ หลายครั้งที่ผมอยู่กับใครด้วยนานๆ ผมก็อยากที่จะสามสัมพันธ์ต่อด้วย แต่สุดท้ายคำพูดของคุณเคนที่ผมไม่ปักใจเชื่อตอนแรกก็กลายเป็นความจริงที่เลี่ยงไม่ได้ ผมผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า จนผมเลือกที่จะเปลี่ยนคู่นอนเรื่อยๆ เดินทางคนเดียวหรือเข้าปาร์ตี้เป็นช่วงเวลาที่สั้นที่สุดเพราะผมไม่อยากจะผูกพันกับใครอีก...

...ไม่อีกจนกระทั่งได้เดินทางกับเร็กซ์

ออฟไลน์ Nocto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มีอดีตอย่างนี้นี่เอง ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ด้านคุณอัศวิน จะทำยังไงกับการทดสอบคัดเลือกรัชทายาทกันนะ ?

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
พอเข้าใจได้กับเรื่องที่รอสไม่เชื่อใจที่จะตกลงใจกับใครคนใดคนหนึ่งอ่ะนะ

แต่เรื่องที่เคนเอาตัวออกมารับธนูตามความรู้สึกของเราแล้วมันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ ยิ่งเป็นโจรด้วยแล้วก็ดูไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่ ไม่น่าเอาตัวเองไปเสี่ยงขนาดนั้น  :m28:

ออฟไลน์ KPMwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
มีอดีตอย่างนี้นี่เอง ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ด้านคุณอัศวิน จะทำยังไงกับการทดสอบคัดเลือกรัชทายาทกันนะ ?

รอติดตามครับ อิอิ

:mew2: :mew2:

ขอบคุณที่ติดตามครับ

พอเข้าใจได้กับเรื่องที่รอสไม่เชื่อใจที่จะตกลงใจกับใครคนใดคนหนึ่งอ่ะนะ

แต่เรื่องที่เคนเอาตัวออกมารับธนูตามความรู้สึกของเราแล้วมันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ ยิ่งเป็นโจรด้วยแล้วก็ดูไม่ค่อยสมเหตุผลเท่าไหร่ ไม่น่าเอาตัวเองไปเสี่ยงขนาดนั้น  :m28:

อ่า...เพราะว่าเป็นเรื่องเล่าย่อๆเลยไม่ลงรายละเอียดเยอะนัก ตอนแรกวางว่าจะเขียนใน Theif's quest แต่พอคิดไปคิดมาคงกลายเป็นแนว"ทาสสวาทโจรป่า"เลยล้มไปดีกว่า งั้นบอกในนี้เลยละกันเพราะคงไม่มีส่วนในเรื่องอีกแล้ว

ผมเคยเห็นพล๊อตหนังหลายเรื่องที่จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องไหนบ้าง ชอบให้ตัวร้ายเข้ามาช่วยตัวเอกก่อนเพื่อเรียกความไว้วางใจก่อนจะหลอกใช้ ถึงแม้จะบาดเจ็บแต่ก็ไม่ใช่การบาดเจ็บที่สาหัตนัก เพราะอาจจะใช้แขน ใช้ไหล่มารับก็ได้ ชุดเกราะก็มีลดความลึกบาดแผลได้ จึงเป็นการเข้าช่วยที่คำนาณไว้แล้วว่าตรูไม่เจ็บหนักเกินไปหรือไม่ตายแน่ๆ

เคนเล็งเห็นความสามารถของรอสว่าไม่เหมือนใครจึงอยากได้มาเป็นลูกน้อง อีกทั้งตัวเอกรูปร่างหน้าตาโอเค และยังดูจิตใจเปราะบางและใสซื่อเลยดึงมาเป็นพวกด้วยวิธีจีบเป็นเมีย ลงทุนเจ็บตัวเพิ่มอีกนิดถือว่าคุ้มค่า

อีกอันหนึ่งที่อาจะไม่สมเหตุสมผลคือทำไมเคนพุ่งใส่นายเอกทั้งๆที่รู้ความสามารถ มีดเล่มแรกที่ซัดไปอาบพิษที่ทำให้พลังเวทย์ในตัวแปรปรวน แต่เพราะเคนไม่เข้าใจวิธีใช้เวทของนายเอกว่าใช้จากหิน ไม่ได้ใช้จากร่างตนเอง พิษจึงไม่ได้ผลและพลาดท่าในที่สุด

ไม่รู็จะยัดลงไปในเรื่องยังไงไม่ให้ยาวไป ลงอธิบายในนี้ละกันนะครับ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ทะเลาะกันซะละ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ KPMwolf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Chapter 20.2

“เจ้านี่มันมีอะไรดีบ้าง” ผมกอดอกนั่งถามตัวเอง

เจอกันวันแรกก็อัดผมซะน่วมแถมยังทำสัญญาขโมยอิสรภาพของผมไปอีก...แต่มันก็ช่วยให้ผมหนีออกมาได้นะ...แต่ๆ ๆ ที่หนีไม่รอดเพราะมันไม่ใช่เหรอ

มันชอบทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังจนผมเกือบแย่...แต่เจ้านั่นมีฝีมือมากเลยนะจัดการโจรนั่นและเอลเดอร์วิวโลห์ได้ตัวต่อตัวแบบสบายๆเลย ผมยอมรับว่าเซนส์ด้านการต่อสู้มันดีมาก อาจจะดีและมั่นใจจนแทบไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังเลยด้วยซ้ำ

เจ้าอัศวินนี่ใสซื่อบริสุทธิ์มากๆ ๆ ๆ เลยนะ มากจนเกินไปด้วยซ้ำ...แต่หุ่นมันแซ่บมากเหมือนกันนะ เสียดายเมื่อวานโดนล่ามเลยไม่ได้จับ…

หะ!!! เดี๋ยวนะ

และมันก็มีของยาวใหญ่มากเลยนะ...แต่ๆ ใช้งานไม่ได้เรื่องมันก็เสียของนะโว้ย...แต่มันก็ฝึกกันได้นะ อีกเสียงในหัวดังขึ้น

“เฮ้ย” สงสัยผมจะบ้าจริงๆแล้ว ขนาดอุทานตกใจกับเสียงในหัวของตัวเอง

มันจะชอบผู้ชายจริงๆรึเปล่าก็ไม่รู้ อาจจะแค่เผลอไปตามอารมณ์ก็ได้...แต่ก็...กลับไปอ่านแต่ของข้อเมื่อครู่สิ

ที่สำคัญคุณชายต้องไปแต่งงานกับองค์หญิงนะ...

...แค่การคัดตัวเฉยๆ ถ้าตกรอบก็ไม่ต้องแต่งป่ะ

“...” ผมเริ่มจะกลัวความคิดของตนเองมากขึ้นแล้วล่ะ

อัศวินคนนี้เป็นจริงจังกับหน้าที่จะตาย ไม่ยอมล้มโต๊ะหรอก...แต่มันก็ยอมออกนอกเส้นทางให้ผมนะ...แล้วเพราะเหตุนี้ผมถึงให้สัญญากับมันว่าจะพาไปป่าจันทรา

อ่า...ใช่เราสัญญาไว้แล้วนี่หน่า

“นี่เจ้าหนุ่ม ไปโดนของร้านไหนมา แบ่งปันกันบ้างสิ” เสียงชายแก่ร่างท้วมผมขาวทั้งหัวดังขึ้นเรียกสติผมกลับมา

“อะ...อะไรนะครับ” ผมถามด้วยความมึนจากการตบตีกันในหัวของตัวเอง

เขาเอานี้ชี้วนไปที่คอของตนเอง

“...!!!” ผมเอามือไปลูบต้นคอของผมโดนรอยแดงช้ำที่หลงเหลืออยู่ก็ทำให้นึกขึ้นได้

“ไปโดนเสือสาวร้านไหนกัดมา บอกหน่อยสิ ข้าอยากโดนบ้าง” เขากล่าวพร้อมทำหน้าหื่นกามน้ำลายไหล จนผมต้องทำหน้าระอาตอบกลับไป

“จะดีหรอลุง เดี๋ยวก็หัวใจวายตายก่อนหรอก” เฒ่าแล้วไม่เจียมตัวเลยเหรอไง

“ฮ่าๆ ๆ ๆ เอาสิ ตายคาอกสาวสวยคงดีไม่น้อย เร็วๆเจ้าหนุ่ม ร้านไหน”

ผมส่ายหน้าเหนื่อยใจ แต่ด้วยความรำคาญกะตัดปัญหาให้จบๆไป ผมจึงลุกขึ้นเดินไปกระซิบข้างๆหูลุงคนนั้นว่า

“นี่ไม่ใช่รอยเสือสาวครับ...แต่เป็นรอยสิงโตหนุ่ม”

แล้วผมก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับไปมอง

...................................

“นี่ครับของที่ท่านสั่งไว้ ขอบคุณที่อุดหนุนครับ” เสียงพ่อค้าร่างท้วมแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยผ้าเนื้อดีขอบคุณผมเมื่อผมจ่ายเงินค่าชุดเดินทางใหม่ของผมให้

ปกติผมจะเตรียมเสื้อผ้าสำรองไว้ชุดเดียวเพื่อสะดวกในการเดินทาง ไม่พะลุงพลังจนเกินไป แต่ก็มีพร้อมใช้งาน ชุดผมขาดกระจุยไปชุดหนึ่งเมื่อวานพร้อมเกราะหนังของผม ผมเลยจัดการหาซื้อเพิ่ม

เสื้อแขนกุดสวมไว้ชั้นหนึ่งทับด้วยเกราะเบาที่ทำจากหนังปิดเฉพาะช่วงอก เกราะเหล็กมีน้ำหนักมากเกินไปทำให้ผมเคลื่อนที่ได้ไม่สะดวกนัก ถ้าจะใช้โลหะชนิดเบาก็มีราคาสูงเกินไป แล้วจึงทับอีกชั้นด้วยเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาว กางเกงผ้าขายาวเก็บชายไว้ในรองเท้าบูท ชุดเดินปกติที่ผมชอบใช้ เบา เดินทางสะดวก ไม่ร้อน ให้การป้องกันระดับหนึ่ง และถอดง่าย

หมายถึงร้อนก็ถอดแค่แจ็คเก็ตออกนะ

อีกกิจกรรมช่วยให้อารมณ์สงบลงได้คือการเสียเงินซื้อของ ผมเดินทางตลอดเวลาทำให้ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดหลายข้อก่อนจะใช้จ่าย ได้คิดเรื่องอื่นๆช่วยให้หัวโล่งขึ้นมาได้บ้าง รู้ตัวอีกทีก็มืดพอดี พอกำลังจะก้าวเท้าออกจากร้านเท่านั้นแหละฝนเจ้ากรรมก็กระหน่ำลงมาทันที

ปกติผมไม่อะไรมากนะ แต่นี่ชุดพึ่งซื้อใหม่ไงเลยไม่อยากเปียก

“ท่านนักผจญภัยสนใจผ้าคลุมของเราไหมครับ น่าจะเหมาะกับท่าน” เสียงพ่อค้าทักผมระหว่างที่กำลังรอให้ฝนซาลง
“มันเหมาะยังไงเหรอ” เอาไงเอากัน ทนฟังคำโฆษณาสักหน่อยดีกว่าตากฝนออกไป

“เนื้อผ้าชนิดพิเศษแบบที่ใช้ในเขตทะเลทราย กันแดดกันลมได้ดี ระบายอากาศได้ทำให้ไม่ร้อน ลงน้ำยาสูตรเฉพาะทำให้กันน้ำกันฝนได้ อีกทั้งยังทนทาน สามารถประยุกต์ใช้ได้หลายอย่าง ทั้งปูห่มนอน ผูกเป็นเปล หรือห่อสัมภาระ โอ้พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก น่าจะเหมาะกับนักผจญภัยที่ชอบเดินทางเช่นท่าน” เขาอธิบายสรรพคุณยาวเหยียด

“อืม...” ผมทำเสียงพินิจ ลังเล แต่อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้

“เราสั่งตัดให้เป็นฮู้ดอีกทั้งยังมีผ้าไว้ปกปิดหน้าจากลมด้วยหากท่านสั่งซื้อตอนนี้...”

“โอเคๆ ซื้อครับ” ผมตัดรำคาญ ราคาก็สมน้ำสมเนื้อกับกับคำอ้าง ถ้ากันฝนได้จริงๆผมจะได้สวมออกไปเลยก่อนที่จะโดนเสนอขายอีก

......................................

“อืม ใช้ได้แฮะ” ผ้าคลุมสีเทายาวถึงข้อเท้ากันฝนได้ดีมาก ผมดึงฮู้ดคลุมหัวพร้อมผ้าปิดปากเหลือแต่ลูกกะตาเพื่อกันลมกรรโชกของพายุฝนที่จู่ๆก็เทมาอย่างรุนแรงแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

เอาล่ะ อารมณ์ดีขึ้นแล้วถึงเวลาต้องไปตามหาคุณชายแล้วล่ะ ถ้าปล่อยเรื่องเมื่อวานผ่านไปยังไงเราก็ช่วยเหลือกันมาพอสมควร ผมควรจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้

ว่าแต่จะไปตามหามันที่ไหนดี ผมถามตนเองขณะเดินฝ่าฝนเข้าเขตที่โรงเตี๊ยม เมืองก็กว้าง เขตที่พักมีมากมายจะตามหามันยังไงดีเนี่ย เริ่มจากแถวๆที่แยกกับมันก่อนแล้วกัน

เพล้ง!!! โครม!!!

ร่างใหญ่ของชายร่างอ้วนหัวล้านลอยทะลุกระจกโรงเตี๊ยมข้างหน้าผมไปกระแทกพื้นอย่างจัง เขาเอามือกุมจมูกและปากของตัวเองไว้แน่น ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธและความเจ็บปวด น้ำฝนไหลชะเลือดจนย้อมเสื้อสีขาวกลายเป็นสีแดงจางๆ

สงสัยจะทะเลาะวิวาทกัน...

“บะ...บอสครับ” ชายผอมแห้งอีกสองคนพุ่งตัวออกมาจากทางประตูเข้าประคองหัวหน้าของพวกตน

“หนอยเจ้าหนุ่มนี่” หัวหน้ามันสบถ

“ถ้าสอนมารยาทดีๆไม่ชอบ แบบนี้คงต้องเจ็บตัวกันหน่อยล่ะ” เสียงที่คุ้นเคยดังออกมาพร้อมร่างหนากำยำในชุดลำลองก้าวออกมาจากประตูร้าน รอยยิ้มอวดดีเปื้อนอยู่บนใบหน้าของชายผมสีดำสนิท เขาทำท่าหักข้อนิ้วดัง กร๊อบแกร๊บ

ไม่ทันตั้งตัวผมก็หามันเจอแฮะ

“ฝากไว้ก่อนเถอะ ข้าเอาคืนแน่” ชายอ้วนตะโกนก่อนที่จะฝ่ากลางสายฝนหนีไปพร้อมกับลูกน้อง

“เป็นอะไรรึเปล่า” ผมเดินไปทักเร็กซ์จากข้างหลัง

หมับ!!!

“เจ้าเป็นใคร อยากโดนด้วยเหรอไง ฮะ” มันกระชากคอเสื้อผมเข้าไปใกล้พร้อมชูหมัดขู่ใส่หน้าผม มันคงจำผมไม่ได้เพราะปิดหน้าปิดตาอยู่

ใบหน้าของเขาแดงจัด สีหน้าหาเรื่องพร้อมจะชกต่อย ผมต้องรีบยกสองมือขึ้นยอมแพ้ มันแค่นลมหายใจออกมาใส่หน้าผมจนผมได้กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ก่อนจะผลักผมจนเซ

ผมได้แต่กระพริบตาปริบๆมองแผ่นหลังกว้างเดินหายไปในร้าน

“เจ้านี่มันเมานี่หว่า!!!”

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เมาเพราะมาดื่มย้อมใจน่ะซี สบโอกาสจับกินแล้ว เอาเลยๆ

ออฟไลน์ Nocto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณอัศวินเริ่มออกนอกลู่นอกทาง (?)

ตลกความคิดที่ตีกันในหัวของรอส 555

 :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด