[รับxรับ] กุ หลาบ แดง กับ แมว ขาว UP! ✿ chapter 20 (END.) (23.12.61)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [รับxรับ] กุ หลาบ แดง กับ แมว ขาว UP! ✿ chapter 20 (END.) (23.12.61)  (อ่าน 90425 ครั้ง)

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :katai2-1: :katai2-1:
นิแร่ะ ที่รอคอย..
เทอต้องสลับกันดูแล นะ..
อิอิ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อันดาใช้กุหลาบแทนความรู้สึกในทุกๆวันเหรอคะ ครบตามจำนวนที่ตั้งไว้แล้วขอเป็นแฟนไรงี้?  หวังว่าคงไม่มีใครมาทำให้ผิดใจกันอีกนะ
 :o8: น่ารักมาค่ะเป็นเรื่องที่ 2 ที่อ่าน รับxรับ สนุกมาก :pig4:

ออฟไลน์ 14th-friedegg

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ฉากโคมไฟนี่แซ่บ กันทุกตอนเลย
อ่อยยยย

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ไม่รู้เพราะบรรยากาศของตัวละครรึเปล่าที่ทำให้อ่านเรื่องนี้ทีไรแล้วคิดว่าเป็น ญxญ ทุกที

ออฟไลน์ Bk borz.

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตามๆรอตอนต่อไป.

ออฟไลน์ carpe_diem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-2

✿ c h a p t e r 9




โดยปกติแล้วหากเป็นวันเสาร์ที่ไม่มีเรียนอันดาจะตื่นอย่างน้อยสิบโมงหรือไม่ก็สิบเอ็ดโมงเพราะอยากนอนให้เต็มอิ่ม จาริญเองก็ชอบที่จะนอนกลิ้งไปมาเล่นสมาร์ทโฟนอยู่บนเตียงในวันหยุดที่ไม่ต้องเร่งรีบออกไปไหนเช่นกัน แต่วันนี้เสียงคุยโทรศัพท์ปลุกให้อันดาตื่นขึ้นมาในเวลาแปดโมงเช้า




จาริญกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง แต่เพราะไม่ได้ปิดประตูเลยทำให้คนบนเตียงได้ยินบทสนทนาที่ร่างบางพูดคุยกับปลายสายไปด้วย




“แม่โทรมาปลุกจูนแต่เช้าด้วยเรื่องแค่นี้เองเหรอ คิดว่ามีอะไรสำคัญเสียอีก”




อันดาได้ยินร่างบางทำปากยื่นบ่นใส่ปลายสาย และพอจาริญหันมาเจอเห็นว่าเขาตื่นแล้วขาเรียวเลยเดินกลับเข้ามาในห้อง นั่งลงบนเตียงให้มอร์นิ่งคิสอย่างเช่นทุกเช้า โดยที่มือยังคงถือโทรศัพท์ค้างอยู่ อันดาไม่ได้กวนนอกจากกอดคนน่ารักไว้หลวมๆจากด้านหลัง เกยคางกับไหล่บางฟังแมวน้อยคุยโทรศัพท์กับคุณแม่




“ฮื่อ จูนบ่นไปงั้นแหละ ยังไงก็จะลับไปกินฝีมือของแม่อยู่แล้ว คร้าบ ไว้เจอกันนะ” จาริญทำเสียงจุ๊บๆใส่ผู้เป็นแม่อย่างน่ารักก่อนจะกดวางสาย พอโยนโทรศัพท์ออกห่างจากตัวได้ก็พลิกตัวกลับมากอดคนที่ยังหน้ามึนเพราะตื่นไม่เต็มตาไว้ เลยกลายเป็นว่านั่งกอดกันกลมอยู่บนเตียง




“คุณแม่โทรมาเหรอ”




“ช่าย ~ แม่จะทำแตงโมกับปลาแห้งเลยโทรมาชวนเราไปกินล่ะ”




เห็นเบอร์ของมารดาโทรมาแต่เช้าตอนแรกจาริญตกอกตกใจคิดไปว่าจะมีใครที่บ้านเป็นอะไรหรือเปล่า แต่พอรับสายปรากฏว่าแม่โทรมาเพื่อจะเรียกเขาให้กลับบ้านเพราะเรื่องของกินเท่านั้นเอง




“แตงโมกับปลาแห้งคืออะไร ?”




“ก็แตงโมกินกับปลาแห้ง ร้อนๆแบบนี้กินแล้วสดชื่น”




อันดาฟังและพยักหน้าตามถึงจะนึกภาพไม่ออกก็ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบปีเขาไม่เคยได้ยินชื่อของกินที่ว่านั่นมาก่อนด้วยซ้ำ




“อันไปด้วยกันนะ เราบอกแม่แล้วว่าจะมีเพื่อนไปด้วย”




“เราไปด้วยจะไม่เป็นอะไรเหรอ ที่บ้านจูนมีใครบ้างอ่ะ”




ใบหน้าสวยฉายแววกังวลเล็กน้อย อันหาเป็นคนเข้าหาผู้ใหญ่ไม่ค่อยเก่งมาแต่ไหนแต่ไร กลัวว่าจะไปเผลอทำตัวไม่น่ารักให้พ่อกับแม่ของจาริญไม่พอใจเข้าน่ะสิ




“มีพ่อแม่เรา แล้วก็มีน้องชาย แต่ไม่รู้ว่าน้องจะกลับบ้านหรือเปล่านะ เพราะปกติมันอยู่หอ”




“พ่อจูนดุไหม”




จาริญหลุดขำออกมากับคำถามนั้น นิ้วเล็กเกี่ยวเอาเส้นผมยุ่งๆของอันดาขึ้นไปทัดหูให้ก่อนจะตอบ




“ไม่ดุหรอก รับรองว่าไม่โดนเอาปืนไล่ยิงแน่นอน ถึงพ่อจะมีลูกซองก็เถอะ”




“ขอบคุณนะ สบายใจขึ้นม๊ากมากเลย ไม่กลัวแล้วเนี่ย”




อันดาแกล้งพูดประชด เล่นกันอยู่บนเตียงอีกพักหนึ่งก่อนจะสลัดความขี้เกียจออกเพื่อลุกจากเตียงไปทำธุระส่วนตัว ราวหนึ่งชั่วโมงต่อมาก็อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยกันทั้งคู่ จาริญตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนจะออกจากห้อง ไม่ลืมที่จะกระเตงเจ้าลูน่าไปด้วยเพราะไม่อยากทิ้งแมวอ้วนจอมวุ่นวายให้อยู่ตัวเดียว




“เจ้าอ้วนนั่งเบาะหลังเลยนะ ห้ามนั่งตักจูน” อันดาเปิดประตูเบาะหลังสำหรับเปอร์เซียตัวขาว ในตอนแรกจาริญอิดออดเพราะอยากจะอุ้มลูกรักให้นั่งด้วยกันที่เบาะข้างหน้ามากกว่า




“ให้ลูน่านั่งกับเราไม่ได้เหรอ นั่งข้างหลังลูกจะเมารถ”




“แต่เราแพ้ขนลูน่า จูนห่วงแต่ลูกไม่ห่วงอันบ้างเหรอคะ”




จาริญพ่ายแพ้ทุกทีเวลาที่อันดาแทนตนเองด้วยชื่อ ร่างบางพยักหน้าและยอมวางเจ้าลูน่าลงที่เบาะหลัง ไม่ลืมที่จะวางตุ๊กตาตัวโปรดของมันไว้ด้วย




อยู่ด้วยกันมาสามเดือนกว่าแล้ว แทบจะรู้จักกันดีทุกเรื่อง ตั้งแต่ทะเลาะกันคราวก่อนเขาและอันดาก็ไม่เคยมีเรื่องผิดใจกันอีกเลย เราพูดคุยกันด้วยเหตุผลมากขึ้น ต่างคนต่างใจเย็นมากขึ้นเช่นกัน ปรับตัวเข้าหากันได้ดีจนระหว่างเราแทบไม่มีช่องว่างใดๆ




ถึงแม้จะอยู่ด้วยกันทุกวันแทบจะตลอดเวลาแต่จาริญไม่เคยเบื่อเลย กลับกันหากไร้เงาอันดาอยู่ข้างกายมันทำให้เหงาจนอยากจะร้องไห้ออกมา ช่วงสัปดาห์ก่อนที่อันดามีงานของมหาวิทยาลัยต้องนอนค้างที่คณะสองคืน เขาจำได้ว่าตนเองโทรไปร้องไห้บ่นว่าคิดถึงกับอันดาทุกคืน




ส่วนรายนั้นก็ติดเขาหนึบเป็นตังเมเหมือนกัน ถ้าวันไหนจาริญมีเรียนแต่อันดาไม่มี บางครั้งอีกฝ่ายถึงกับไปนั่งรอด้วยซ้ำ จนเพื่อนของเขาแต่ละคนสนิทกับอันดากันไปหมดแล้ว




บางคนก็ถามแล้วถามอีกว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน จาริญไม่เคยตอบได้แต่ยิ้มๆเพราะมันไม่สำคัญเท่ากับเขาและอันดารู้ดีที่สุดว่าเราอยู่ในสถานะใด




อันดาบอกว่าตอนนี้เราเป็นความสุขของกันและกัน และจาริญก็เห็นด้วย 




“จูน ~ เหม่ออะไรอยู่ เราเรียกตั้งหลายครั้งแล้ว”




คนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆสะดุ้งเมื่อมือเรียวสะกิดแขนเรียก จาริญส่ายหน้าจนเส้นผมปลิว




“เราก็คิดนู่นคิดนี่ไปเรื่อย”




“ขอแซนวิชหน่อย หิว”




อันดาบุ้ยปากไปยังตะกร้าที่ใส่กล่องอาหารบนตักของจาริญ เพราะออกจากห้องมาแต่เช้าเลยไม่ทันได้ทานข้าวจาริญเลยทำแซนวิชง่ายๆกับน้ำส้มคั้นใส่ขวดมาไว้ทานระหว่างทาง เพราะกว่าจะถึงบ้านที่อยู่แถบชานเมืองก็คงใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง




ร่างบางหยิบแซนวิชทูน่าออกมาอย่างระมัดระวัง ยื่นส่งให้อีกฝ่ายแต่อันดากลับขมวดคิ้วใส่




“ป้อนหน่อย ขับรถอยู่กินเองไม่ได้”




“เยอะสิ่ง”




จาริญบ่นแต่ก็ยอมป้อนให้ คอยชะเง้อมองเบาะหลังไปด้วย พอเห็นว่าลูน่าหลับอยู่ก็เบาใจ ไม่อย่างนั้นคงร้องแง้วๆอยากจะมานั่งข้างหน้า วุ่นวายพอๆกันทั้งอันดาทั้งลูน่าเลย




“พอเลี้ยวแยกข้างหน้าแล้วก็ตรงไปเลยใช่ไหม” เพราะจำทางไปบ้านของจาริญที่อีกฝ่ายบอกก่อนออกมาจากคอนโดไม่ได้แล้วเลยถามเพื่อความแน่ใจ ร่างบางอือรับและจ่อหลอดน้ำส้มมาที่ปากของอันดา




“ขับไปเรื่อยๆแล้วจะมีทางแยกอีกให้เลี้ยวซ้ายจะเป็นทางเข้าหมู่บ้าน”




คนฟังพยักหน้ารับรู้ นิ้วเรียวดันแว่นตากันแดดให้เข้าที่เล็กน้อย สีหน้าจริงจังเวลาขับรถของอันดาทำให้จาริญละสายตาไม่ได้ทุกที




อันดาเป็นคนหน้าตาดี ทั้งสวยและมีเสน่ห์ มีแรงดึงดูดทั้งต่อเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ใช่แค่ผู้ชายที่มองอันดาจนเหลียวหลัง ผู้หญิงก็มองแบบไม่วางตาเหมือนกัน บางทีอยากควงแขนไว้แน่นๆและตะโกนบอกว่าอันดาเป็นของเขา แต่ก็แค่คิดเพราะเขาขี้อายเกินกว่าจะทำอะไรแบบนั้นได้




“มองอะไร”




“มองคนสวย”




จาริญตอบหน้าตาเฉย คำตอบของเขาคงจะทำให้อันดาเขิน แก้มขาวๆถึงได้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ปากก็บ่นมุบมิบไปเรื่อย เห็นแล้วอยากจะแกล้งจาริญเลยวางมือลงบนหน้าขาภายใต้กางเกงยีนส์ของอีกฝ่ายพลางลูบเบาๆ




“วันนี้เราขอทำนะ”




“ไม่เอา ครั้งก่อนเธอก็ทำ”




อันดาปัดมือบางออก ปฏิเสธจะให้จาริญเป็นฝ่ายทำเพราะครั้งล่าสุดที่มีอะไรกันเจ้าคนน่ารักนิสัยไม่ดีรังแกเขาจนลุกจากเตียงไม่ขึ้นไปตั้งครึ่งวัน เดี๋ยวนี้ดื้อใหญ่แล้วแถมยังเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก พยายามจะหลอกล่อให้เขาอยู่ข้างล่างตลอด




เป็นแมวดีๆไม่ชอบริอยากจะเป็นเสือ มันน่าจับตีก้นเสียให้เข็ด




“ล้อเล่นเฉยๆหรอก อย่าทำหน้าดุสิ น่ากลัวอ่ะ”




จาริญเห็นหน้าดุๆแล้วทั้งขำทั้งเอ็นดู มือบางเอื้อมไปบีบแก้มนิ่มเบาๆแต่อันดาร้องโอดโอยเหมือนเจ็บมากมายอย่างน่าหมั่นไส้




“โอ๊ยๆ เจ็บค่ะเธอ ปล่อยก่อนๆ จะเสยรถคันข้างหน้าแล้วเนี่ย”




“เว่อร์ตลอด นั่นๆซอยเข้าหมู่บ้าน จะเลยแล้ว”




มัวแต่เล่นกันจนเกือบขับรถผ่านทางเข้าหมู่บ้านเสียแล้ว อันดาชะลอรถแทบไม่ทัน เผลอเบรกเอี๊ยดจนลูน่าสะดุ้งตื่นร้องเมี๊ยวเสียงดังเพราะตกใจ




“โอ๋ๆ ลูน่าไม่ตกใจนะลูก มาๆจูนอุ้มนะ” จาริญปลดเข็มขัดนิรภัยออกและย้ายตนเองข้ามไปยังเบาะหลังทั้งที่รถยังเคลื่อนอยู่ อันดาเลยฟาดก้นกลมเข้าให้เสียหนึ่งทีตามด้วยน้ำเสียงดุๆ




“ทำแบบนี้มันอันตรายนะจูน!”




“มีอันดาอยู่ด้วยทั้งคนเราไม่กลัวหรอก”




 จาริญพูดเสียงใส ยิ้มตาหยีให้อีกต่างหาก อันดาได้แต่ถอนหายใจพลางส่ายหน้าน้อยๆ ดื้อจริงๆเลยสิน่าเจ้าแมวตัวแสบ






*****





รถสีขาวคันสวยจอดเทียบหน้าบ้านจัดสรรที่มีต้นไม้ร่มรื่นและสนามหญ้าสีเขียวมองแล้วสบายตา จาริญอุ้มลูน่าลงมาจากรถเดินนำเข้าไปในบ้านก่อน อันดาจัดการล็อครถและหอบผลไม้ที่แวะซื้อจากซุปเปอร์มาเก็ตเดินตามไปติดๆ ร่างเพรียวบางถอดแว่นตากันแดดเหน็บไว้ที่เสื้อขณะก้าวเข้ามาในบ้าน




“พ่อจ๋า แม่จ๋า ~” ส่วนเจ้าของบ้านปล่อยเจ้าแมวอ้วนลงก่อนจะเรียกหาคุณพ่อคุณแม่แล้วเดินหายไปทางหลังบ้าน อันดาวางตะกร้าผลไม้ลงบนโต๊ะและถือวิสาสะนั่งรอที่โซฟา ครู่ต่อมาจาริญก็เดินกลับออกมาพร้อมควงแขนหญิงวัยกลางคนที่ใบหน้ายังมีเค้าความสวยมาด้วยกัน




“นี่อันดาครับแม่”




อันดาลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะยกมือไหว้เธออย่างมีมารยาทเมื่อจาริญแนะนำเขาให้มารดารู้จัก ผู้อาวุโสรับไหว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน




“สวัสดีจ้ะ ได้ยินน้องจูนพูดถึงหนูบ่อยๆ หน้าตาสวยน่ารักเชียว” คุณรวีวรรณเอ่ยชมเพื่อนของลูกชาย จาริญเคยพูดถึงเพื่อนคนนี้ให้เธอฟังบ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นผ่านทางโทรศัพท์หรือมาที่บ้านครั้งก่อนๆ เพิ่งเคยได้เห็นตัวจริงก็คราวนี้ ช่างเป็นเด็กผู้ชายที่สวยเหมือนผู้หญิงในสายตาของคนแก่อายุย่างเข้าเลขห้าอย่างเธอ




“ขอบคุณครับ คุณแม่เองก็ยังสวยมากๆอยู่เลย” อันดายิ้ม ชมเปาะให้คุณรวีวรรณหัวเราะชอบใจ




“ปากหวานชมคนแก่ แล้วนี่เจอพ่อเราหรือยัง” ประโยคหลังเธอหันไปถามลูกชาย จาริญส่ายหน้า




“ยังเลย จูนคิดว่าพ่ออยู่กับแม่ในครัว”




“รายนั้นอยู่ในสวนตั้งแต่เช้าแล้ว วุ่นวายกับกุหลาบของเค้านั่นแหละ”




คุณแม่ของจาริญพูดไปยิ้มไป อันดารู้แล้วว่าจูนได้ความสดใสกับรอยยิ้มสวยๆมาจากใคร ถอดแบบจากคุณแม่มาทุกกระเบียดนิ้วเลย




“งั้นจูนไปหาพ่อนะ ป่ะ อันดา” จาริญคว้ามือเรียวให้เดินตามมาทางหลังบ้าน สวนเล็กๆของคุณพ่อเต็มไปด้วยดอกกุหลาบดอกเล็กบ้างใหญ่บ้างหลากหลายสีคละกัน อันดามองอย่างตื่นเต้นเพราะชอบดอกกุหลาบอยู่แล้วเป็นทุนเดิม




“กุหลาบเต็มไปหมดเลย สวยจัง”




“พ่อชอบดอกกุหลาบน่ะ ปลูกแล้วก็ตัดแจกเพื่อนบ้าน ความสุขเค้าล่ะ” จาริญบอกให้ฟัง ก่อนจะเดินเข้าไปหาบิดาที่ก้มๆเงยๆตัดดอกกุหลาบใส่ตะกร้าอยู่




“จ๊ะเอ๋! พ่อจ๋า”




ชายวัยกลางคนในชุดลำลอง เส้นผมที่มีสีขาวแซมเล็กน้อยจัดเซ็ตทรงอย่างดีตกใจจนแทบหงายหลัง พอยืนขึ้นได้ก็ทำเสียงดุใส่ลูกชาย




“กรรไกรเกือบตัดนิ้วพ่อแล้วไหมล่ะ เจ้าลูกคนนี้”




“ฮื่อ จูนขอโทษ เนี่ยๆ แต่จูนพาเพื่อนมาด้วยน๊า”




จาริญดึงแขนอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ อันดายิ้มให้คุณพ่อพร้อมทั้งยกมือไหว้ ผู้เป็นพ่อรับไหว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นกัน ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของจาริญใจดีมากในความรู้สึกของอันดา




“แล้วเราพาเพื่อนออกมาข้างนอกทำไม แดดมันร้อนเข้าบ้านเถอะลูก”




“ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่ดอกกุหลาบพวกนี้คุณพ่อปลูกเองเหรอครับ สวยจังเลย” อันดาก้าวลงมาในแปลงกุหลาบของคุณพ่อ สะดุดตากับดอกกุหลาบสีแดงดอกโตที่กำลังเบ่งบานอยู่บนต้นของมัน




“ใช่แล้ว งานอดิเรกของพ่อน่ะ ชอบดอกกุหลาบหรือเปล่าเรา”




“ชอบครับ ให้อันช่วยตัดนะครับคุณพ่อ”




จาริญถูกลืมเสียแล้วเพราะคุณพ่อเขากำลังสอนอันดาตัดดอกกุหลาบจากต้นอย่างจริงจัง เห็นแบบนั้นเลยปล่อยให้คนชอบดอกไม้คุยกันไปส่วนตนเองกลับเข้ามาช่วยคุณแม่ในครัว พอเห็นว่าลูกชายกลับเข้ามาคนเดียวคุณรวีวรรณเลยถาม




“หนูอันดาไปไหนแล้ว ?”




“อยู่ในสวนกับพ่อแน่ะ ช่วยพ่อตัดกุหลาบอยู่ คุยกันถูกคอ”




ผู้เป็นแม่พยักหน้า มองลูกชายตัวดีกำลังล้างมืออยู่ที่อ่างล้างจานเพื่อจะช่วยเธอยกอาหารกลางวันออกไปตั้งโต๊ะ พร้อมกับแตงโมปลาแห้งของโปรดของเจ้าตัว




“เพื่อนของน้องจูนคนนี้น่ารักดีนะ”




“ครับ ?”




จาริญเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเพราะอยู่ๆแม่ก็พูดขึ้น สายตาที่มองตรงมายังเขาฉายแววล้อเลียนอะไรบางอย่าง และจาริญก็รู้เสียด้วยว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่




“คบกันมานานหรือยังกับหนูอันดาน่ะ”




“จะบ้าเหรอแม่ ไม่ใช่แฟน เป็นเพื่อนกัน”




ร่างบางรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธยกใหญ่ มารดาหรี่ตามองอย่างจับผิด เธอหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างรู้ทัน




“แม่ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ที่ถามว่าคบกันมานานหรือยังก็หมายถึงคบแบบเพื่อน ร้อนตัวจริงๆลูกฉัน”




“แม่แกล้งจูนอ่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว!”




จาริญมองค้อนใส่ ยกจานอาหารเดินฉับๆออกไปข้างนอก คุณรวีวรรณมองตามด้วยรอยยิ้ม เธอผ่านโลกมาตั้งเท่าไหร่แล้วมองปราดเดียวก็รู้ว่าเด็กทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อน ทั้งสายตาของจาริญที่มองเด็กหนุ่มคนนั้นและสายตาของอีกฝ่ายที่มองลูกชายของเธอก็เช่นกัน




มันเต็มไปด้วยความรักและความสุขจนคนนอกอย่างเธอยังมองออกได้ง่ายๆ






*****





บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกลางวันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ตามประสาพ่อแม่ที่จะดีใจเมื่อลูกกลับมาหา อาหารมื้อนี้เลยอร่อยมากกว่าทุกมื้อที่ผ่านมา อันดาหัวเราะเมื่อคุณพ่อคอยยิงมุกตลกๆเป็นระยะ ครอบครัวของจาริญอบอุ่นจนทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งในครอบครัวไปด้วย




หลังจากทานอาหารเสร็จและช่วยคุณแม่ล้างจานเรียบร้อยจาริญก็พาเขาขึ้นมาบนห้อง ห้องนอนของคนน่ารักน่ารักเหมือนเจ้าของไม่มีผิด บนเตียงมีตุ๊กตาวางอยู่เต็มไปหมด หรือแม้กระทั่งในตู้ก็ยังมีตุ๊กตาทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ตั้งโชว์หลายสิบตัว




“ตัวนี้เหมือนจูนเลย” อันดาหัวเราะนั่งลงบนเตียงพร้อมทั้งหยิบตุ๊กตาตัวหนึ่งขึ้นมา จาริญมองตามแล้วแยกเขี้ยวใส่ คว้าตุ๊กตาสัตว์ตัวใหญ่สีน้ำตาลอมเทามีนอแหลมออกมาจากมือของันดาแล้วฟาดใส่เต็มแรง




“นิสัยไม่ดี เหมือนเธอน่ะสิ!”




“โอ๋ๆ เค้าล้อเล่น ไม่ทำหน้างอสิคะ”




อันดาฉุดมือบางให้นั่งลงบนตัก จมูกโด่งสวยแตะลงบนหลังคอขาวเบาๆ จาริญเอียงคอหลบเพราะจั๊กจี้ พอดิ้นไปดิ้นมาเลยกลายเป็นว่าพากันล้มลงบนเตียงด้วยกันทั้งคู่ จาริญที่นอนทับอยู่บนตัวของอีกฝ่ายตีไหล่บางเต็มแรงเมื่ออันดาจับมือให้ลงไปจับขอบกางเกง




“อันดา คนลามก!”




“เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่จะเอาของให้”




มือเรียวจับมือของจาริญไว้เพื่อไม่ให้ชักมือหนี คนน่ารักขมวดคิ้วเมื่อลองคลำๆขอบกางเกงผ่านชายเสื้อยืดสีดำที่อันดาใส่อยู่และพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมบางอย่าง




“ใส่อะไรไว้ในกางเกง ?”




“เธอลองเปิดดูสิ”




จาริญมองอย่างไม่ค่อยไว้ใจนักแต่ก็ยอมขยับตัวลงต่ำเพื่อเลิกเสื้อยืดของอีกฝ่ายขึ้นมาถึงหน้าท้อง ผิวขาวๆของอันดาตัดกับสีแดงสดของดอกกุหลาบที่ก้านบางส่วนโผล่ออกมาจากขอบกางเกง จาริญหน้าแดงเพราะภาพตรงหน้าเซ็กซี่ยิ่งกว่าปกหนังผู้ใหญ่เสียอีก




“เล่นอะไรเนี่ย เอาไปใส่ไว้ตอนไหน”




“ตอนเดินขึ้นบันได กลัวเธอเห็น”




อันดาซ่อนดอกกุหลาบที่ขอคุณพ่อมาตอนช่วยตัดกุหลาบใส่ตะกร้าเก็บไว้ในกระเป๋า พอขึ้นมาบนห้องเลยแอบเสียบไว้ในขอบกางเกง คิดว่าจะให้จาริญเอาดอกกุหลาบดอกนี้ออกไปจากตัวเขาด้วยตนเอง




“เธออ่ะชอบเล่นอะไรก็ไม่รู้”




“ดอกนี้ดอกที่เท่าไหร่แล้ว ตอบแล้วเอามันออกไปสิ”
 



จาริญทำท่าครุ่นคิด มือบางลูบไปตามขอบกางเกงยีนส์อย่างเชื่องช้า นิ้วขาวลูบแผ่วเบาบริเวณใต้สะดือแกล้งให้หน้าท้องแบนราบหดเกร็ง




“จูน อย่าแกล้ง”




“อืม…ดอกกุหลาบดอกที่เก้าสิบห้า”




คนน่ารักตอบ ทำท่าจะหยิบดอกกุหลาบออกมาจากขอบกางเกงของคนที่นอนอยู่บนเตียง แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจ ใบหน้าหวานก้มลงมาใกล้จนลมหายใจอุ่นๆเป่ารินรดผิวเนื้อขาวจัด มือเรียวของอันดายกขึ้นมาจิกไหล่บางไว้ทันที




“อ๊ะ…จูน ฮื่อ…อย่าซน” เอวบางแอ่นขึ้นเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากของจาริญจูบที่หน้าท้องและยังแกล้งขบเม้มเบาๆ อันดาหายใจไม่ทั่วท้องเอาเสียเลยตอนที่ปากนุ่มลากผ่านไปทั่วผิวเนื้อเหมือนอยากจะแกล้ง กว่าที่คนตัวเล็กกว่าจะคาบดอกกุหลาบออกไปจากขอบกางเกงของเขาได้ก็ทำเอาเหงื่อซึมเต็มหน้าผากไปหมด




จาริญหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นใบหน้าแดงๆของคนสวย มือบางแกว่งดอกกุหลาบไปมาก่อนจะเขี่ยมันเบาๆที่แก้มของคนที่เพิ่งยันตัวลุกขึ้นมานั่ง




“ชอบวิธีการให้ดอกกุหลาบของอันดาวันนี้จัง”




ไม่รู้ว่านั่นคือคำชมหรือเปล่าแต่อันดาถึงกับตีหน้ายุ่ง คิดจะแกล้งจาริญเล่นเพราะคิดว่าคนน่ารักต้องหน้าแดงแน่ๆกับวิธีการให้ดอกกุหลาบที่เขาคิดเอาเองว่าชวนเขินเป็นที่สุด แต่กลับกลายเป็นตนเองเสียเองที่ต้องมานั่งหน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหู




จาริญน่ะชักจะร้ายกาจขึ้นทุกวันจริงๆ





ก๊อก ก๊อก




เสียงเคาะประตูเรียกให้ทั้งสองคนหันไปมองพร้อมกัน ก่อนที่เจ้าของห้องจะเดินไปเปิดประตู ส่วนอันดาที่นั่งอยู่บนเตียงจัดเสื้อผ้าของตนเองให้เรียบร้อยพลางชะเง้อมองว่าจาริญคุยกับใครอยู่




“แม่บอกว่าพี่จูนพาเพื่อนมาเที่ยวบ้านด้วย”




“อ๋อ ใช่ อันมานี่แป๊บนึง” จาริญหันกลับมาเรียก ร่างเพรียวบางเลยก้าวลงจากเตียงเดินเข้ามาหา ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองผู้มาใหม่ที่ยืนค้ำประตูห้องอยู่ เด็กหนุ่มร่างสูงที่อันดาคุ้นหน้าเป็นอย่างดี




“จะแนะนำให้รู้จักนะ…”




เสียงของจาริญไม่เข้าหูอีกต่อไปแล้วเมื่อภาพตรงหน้าที่อันดาเห็นมีเพียงคนที่ยืนอยู่ข้างหลังของร่างบางเท่านั้น สีหน้าของจิณณ์ฉายชัดว่าตกใจไม่น้อย เสียงทุ้มเรียกชื่อเขาออกมาโดยที่จาริญยังไม่ทันได้บอกด้วยซ้ำว่าเขาชื่ออะไร




“พี่อันดา…”




tbc.



เปิดตัวน้องจิณณ์ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้5555
เอามากระตุ้นพี่จูนกับสร้างความวุ่นวายเล็กๆ
#กุหลาบแดงกับแมวขาว

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ถ้าโจทย์เก่าอันดานี่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยนะ :z2:

ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
กรี๊ดดด ทำไมถึงรู้จักอันดาด้วยนะนี่
แต่กรี๊ดหนักมากตอนที่อันดาบอกว่าจูนห่วงแต่ลูกไม่ห่วงอัน
เขินทุกทีเวลาสองคนนี้พูดจาแบบนี้ใส่กัน

คุณแม่น่ารักจังเลย ><
แซวน้องจูนแบบนี้ ไฟเขียวมาแน่นอน
รอตอนต่อไปนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เราชอบเรื่องนี้นะ แต่อ่านทีไรแล้วรู้สึก ญ x ญ จริง ๆ บรรยายกาศเรื่องงี้ คำแทนตัวงี้ ความสนิทสนมหรือการเล่นกันของอันกับจูนงี้ รู้สึก ญ ญ จริง ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
ให้ดอกกุหลาบกันทุกวันดีจัง :L2:

แอบหื่นทุกตอนเลย :z1:

สงสารจะเป็นคู่กรณีกับอีนดา :ling3:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องชายจูนเป็นอะไรกะอันดางั้นเหรอ    :hao4:

ออฟไลน์ praewypn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอไม่ม่าน้าา งืออ ถ้าผิดใจกันก็เคลียร์กันหวานๆเยย ฮี่ๆ  :mew2: :o8: 

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ม่ายยยยยยย!...ยังหวานไม่พอเลยอย่าเพิ่งงานเข้าอันสิ :ling1:
ครอบครัวอบอุ่นจัง

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ๊ยยยยยยย สั้นแต่ได้ใจความค่ะ ฟินนนนนนนนนน ค่ะ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :z3: :z3:
ยังไงๆๆ.. อันดาาาา..

ออฟไลน์ carpe_diem

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-2

✿ c h a p t e r 10




จาริญมองทั้งสองคนสลับกันเพราะไม่คิดว่าน้องชายของตนและอันดาจะรู้จักกันมาก่อน ในตอนแรกจิณณ์ตกใจที่เห็นอันดา แต่หลังจากนั้นก็ยิ้มกว้างเหมือนดีใจ รีบปรี่เข้ามาจับมือร่างเพรียวบางยกใหญ่ แต่อันดาเบี่ยงตัวหลบและเดินเข้ามาหลบหลังจาริญ




“จินกับอันรู้จักกันเหรอ ?”




“ไม่…”




“ผมเคยจีบพี่อันดา”




อันดาถึงกับกุมขมับเมื่อไอ้เด็กเวรนั่นโพล่งออกมา กำลังจะปฏิเสธว่าไม่รู้จักกันแต่ยังช้ากว่าจิณณ์ที่พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงจนน่ายันโครมเข้าให้สักที




“อ๋อ แฟนเก่าสินะ” จาริญพยักหน้ายิ้มๆ แต่สายตาที่มองอันดากลับทำให้เสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก มือเรียวแตะแขนคนน่ารักเบาๆแต่โดนสะบัดออก




“ไม่ใช่นะจูน…”




“พี่อันดาโคตรใจร้ายเลยว่ะ หลังจากคืนนั้นพี่ก็หายไปเลย ผมขอไลน์ขอเบอร์ก็ไม่ยอมให้ เลยไม่รู้จะไปตามหาพี่ได้ที่ไหน โชคดีจังที่มาเจอกันวันนี้ พรหมลิขิตชัดๆเลยว่าป่ะครับ”




จิณณ์ยังคงพูดต่อไปด้วยรอยยิ้ม ประโยคสองแง่สองง่ามชวนคิดไปไกลทำให้อันดาอยากจะด่าไอ้เด็กตรงหน้าเหลือเกิน ติดที่ว่ามันเป็นน้องของจาริญเขาเลยเกรงใจ




“จินดูอยากคุยกับเธอนะ ไปคุยกับน้องสิ”




“ไม่เอา”




อันดาซุกหน้าลงกับแผ่นหลังบาง หลบเลี่ยงจะพูดคุยกับเด็กหนุ่มที่ทำเหมือนสนิทกันนักหนา ทั้งที่ความจริงแล้วเคยนั่งดื่มด้วยกันที่ผับแค่ครั้งเดียว แต่จิณณ์บอกว่าอยากจีบเขาแถมยังขอเบอร์โทรศัพท์และขอไลน์ไว้ติดต่อเสร็จสรรพ แต่เพราะตอนนี้นเขาคบกับภูผาอยู่เลยไม่ได้ให้ไป แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรกับอีกฝ่ายด้วย




แค่นั่งดื่มด้วยกันเฉยๆจากนั้นก็แยกย้าย ใครจะคิดว่าเด็กนี่มันจะจำฝังใจและดันโผล่มาเจอกันอีกครั้งในฐานะน้องชายของจาริญอีก




“คนสวยใจร้ายอีกละ”




“เงียบไปเลยไอ้เด็กเวร”




เพราะเป็นคนปากไวอยู่เป็นทุนเดิม อันดาเลยแหวเข้าให้ จิณณ์ถึงกับเบะปากหันไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชาย จาริญไม่อยากจะยุ่งด้วยเลยโบกมือก่อนจะเดินหนี




“เชิญคุยกันตามสบายนะ เราจะลงไปข้างล่าง”




“เธออออ ~”




อันดาเรียกและกำลังจะเดินตามไป แต่มือใหญ่ๆของจิณณ์ก็คว้าข้อมือไว้ก่อน พอเลิกคิ้วใส่มันก็ยิ้มหวานชวนหงุดหงิดมาให้




“ปล่อยพี่จูนไปเถอะ อยู่คุยกับผมก่อนนะ”




“ไม่มีอะไรต้องคุย นายกำลังจะทำให้จูนเข้าใจผิดนะ”




จิณณ์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือออก ถึงอันดาจะทำหน้าดุเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อเขาก็ตาม




“เข้าใจผิดว่า ?”




“ก็เข้าใจผิดว่าพี่กับนายเคยเป็นอะไรกันน่ะสิ งอนไปแล้วมั้งป่านนี้”




อันดาจิ๊ปาก อยู่ด้วยกันจนรู้ไส้รู้พุงหมดแล้วว่าอาการเดินหนีของจาริญคือขั้นแรกของการงอน ถ้าไม่รีบง้อและอธิบายให้เข้าใจคงได้งอนยาวแน่ๆ




“แล้วทำไมพี่จูนต้องงอนพี่ด้วย”




“เพราะพี่กับจูนคบกันอยู่ เข้าใจยัง!”




เด็กหนุ่มร่างสูงขมวดคิ้วอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะคิดว่าอันดาโกหกเขาเพื่อพยายามจะหลบเลี่ยงมากกว่า




“พูดเป็นเล่น ตลกน่าพี่”




“หน้าพี่เหมือนกำลังพูดเล่นเหรอ”




จิณณ์ทำหน้าเลิ่กลั่กเมื่อเจอสีหน้าและน้ำเสียงจริงจังของอีกฝ่ายเข้าไป เลยได้แต่กลืนน้ำลายลงคอก่อนจะถามซ้ำ




“สรุปคือพี่กับพี่จูนเป็นแฟนกัน ?”




“ยังไม่ใช่แฟน แค่คบกัน”




คำตอบนั้นไม่ได้ทำให้จิณณ์หายข้องใจ แต่ยิ่งทำให้งงหนักเข้าไปใหญ่อีกต่างหาก ตอนนี้เรื่องของพี่ชายและคนสวยตรงหน้าชักจะน่าสนใจขึ้นมาแล้วสิ




“ไม่ใช่แฟนแล้วคบกันแบบไหนวะพี่”




“คบกันแบบเอากัน เลิกถามสักทีได้ป่ะ” อันดาตอบไปตรงๆเพราะเริ่มหงุดหงิด จิณณ์ทำหน้าเหวอ ได้ยินสบถคำหยาบออกมาแว่วๆด้วย




“ถอยไปดิ๊ เกะกะ พี่จะไปหาจูน”




ร่างเพรียวบางดันไหล่คนตัวสูงกว่าให้หลีกทางและเดินลงมายังชั้นล่างของบ้าน เห็นจาริญนั่งปอกผลไม้อยู่กับคุณแม่ที่โซฟา อันดานั่งลงข้างๆจาริญ ส่วนคุณแม่นั่งอยู่ที่โซฟาอีกตัว




“คุยกับจินเสร็จแล้วเหรอ”




“เราไม่ได้คุยอะไรเลย อยากอยู่กับจูนมากกว่า”




อันดาพูดอ้อนๆ ใบหน้าสวยซุกเข้าหาไหล่บางอย่างลืมตัว แต่พอนึกขึ้นได้ว่าคุณแม่กำลังมองอยู่เลยรีบผละออกมาด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย หญิงวัยกลางคนยิ้มบางพร้อมทั้งลุกขึ้นจากโซฟา




“คุยกันตามสบายนะจ๊ะเด็กๆ แม่จะขึ้นไปพักผ่อนเสียหน่อย” เธอเดินเลี่ยงออกมาปล่อยให้เด็กๆอยู่กันตามลำพัง เห็นจิณณ์ทำท่าจะเดินเข้าไปกวนพี่ๆเลยดึงแขนไว้




“มานี่เลยเราน่ะ ขึ้นไปนวดให้แม่หน่อย”




“โหย แม่อ่ะ”




จิณณ์ร้องโอดครวญ แต่ใครจะกล้าขัดใจแม่ เลยได้แต่เดินคอตกตามหลังไปอย่างไม่มีทางเลือก




ฝ่ายอันดาเมื่อสบโอกาสอยู่กับจาริญตามลำพังเลยทั้งกอดทั้งหอมคลอเคลียไม่ห่าง เพราะคุณพ่อออกไปข้างนอกเมื่อก่อนหน้านี้เลยกล้าถึงเนื้อถึงตัวอีกฝ่าย ไม่อย่างนั้นคงได้แต่นั่งห่างกันคนละฝั่งโซฟาเพราะกลัวปืนของคุณพ่อจะลั่นใส่เอา 




“เธอจ๋า ที่รัก” อันดาสวมกอดร่างบาง แนบหน้าลงกับไหล่ของจาริญ คนน่ารักอือรับในลำคอมือก็คว้านเมล็ดเงาะออกจากเนื้อสีขาวใสอย่างคล่องแคล่ว




“จูนทำอะไรคะ ?”




“คว้านเงาะ”




เสียงหวานที่ตอบมานั้นห้วนจนอันดาไปต่อไม่ถูก นิ่งใส่แบบนี้เพราะอยากได้คำอธิบาย อันดากำลังเรียบเรียงคำพูดในหัวว่าจะเริ่มยังไงดี จริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่ได้สำคัญอะไรเลย แทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยเกิดขึ้น แต่ถ้ามันทำให้จาริญสบายใจเขาก็พร้อมที่จะเล่าให้ฟัง




“อันกับน้องชายของจูนไม่เคยเป็นอะไรกันนะ”




“แต่จินบอกว่าเคยจีบอัน”




เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิดว่าจาริญเก็บเอาคำพูดของเด็กนั่นมาคิดจนได้ มันน่าเลาะฟันออกมาให้หมดปากจริงๆจะได้ไม่ต้องพูดจาพล่อยๆอีก




“น้องแค่จะขอจีบแต่ตอนนั้นเราคบกับพี่ภูผาอยู่”




“เหรอ เสน่ห์แรงจังนะ”




จาริญพูดยิ้มๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่อันดาไม่รู้ว่าหมายความว่ายังไงกันแน่ กำลังพูดด้วยอารมณ์ปกติหรือกำลังประชด




“เธอ ~ เค้ากลัวแล้วนะ”




“กลัวอะไร ?”




ร่างบางถามพลางหัวเราะ เห็นสีหน้าเป็นกังวลของอันดาแล้วอดขำไม่ได้จริงๆ ไหนจะท่าทางหูลู่หางตกนั่นอีก เหมือนลูน่าเวลาที่เขาจับได้ว่าแอบเอาไหมพรมมาเล่นหรือไม่ก็เล่นกระดาษทิชชู่หมดม้วนจนกระจายเต็มห้องไม่มีผิด




“ฮื่อ เธอดุเราอ่ะ”




“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย เราจะดุเธอทำไม”




จาริญขำจริงๆนะกับท่าทางหงอๆ อันดาคงจะกลัวเขาโกรธถึงได้สงบเสงี่ยมกว่าปกติ แต่จาริญไม่ใช่คนไร้เหตุผลถึงขนาดจะชวนทะเลาะด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาและอันดาผ่านจุดที่ทะเลาะกันหนักที่สุดมาแล้ว เลยไม่อยากกลับไปเจอกับความรู้สึกแบบนั้นอีกเพราะมันแย่มากจริงๆ




“เรากลัวจูนจะคิดมากเรื่องที่น้องพูด”




“จินมันเป็นพวกขี้โม้ พูดอะไรแต่ละอย่างเชื่อถือได้แค่สิบเปอร์เซ็นต์”




พออีกฝ่ายพูดมาแบบนั้นอันดาเลยพอจะยิ้มออก ใบหน้าสวยที่เกยอยู่บนไหล่บางตามความเคยชินเริ่มขยับเข้าใกล้มากกว่าเดิมเพื่อกดจมูกลงบนแก้มนุ่ม




“เค้ารักเธอคนเดียวนะ รักมากๆจนมองคนอื่นไม่ได้แล้ว”




“พูดอะไรลิเกมากเลยอันดา”




จาริญส่ายหน้ากับคำพูดคำจาที่นับวันจะชวนเลี่ยนมากขึ้นทุกที แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มแฉ่งถูแก้มไปมากับแก้มของเขา




“ศุกร์หน้าไปเที่ยวทะเลกันไหม ไปเย็นวันศุกร์แล้วกลับวันอาทิตย์”




คนน่ารักฟังแล้วพยักหน้าตาม จะว่าไปแล้วยังไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันสองคนแบบจริงจังเลย นอกจากเดินห้าง ดูหนังอะไรเทือกๆนั้น และอีกอย่างจาริญไม่ได้ไปเที่ยวทะเลนานมากแล้วด้วย เกือบสามปีเห็นจะได้แล้วมั้ง




“เอาสิ แต่ไปใกล้ๆก็พอ อาจจะเป็นหัวหินหรือไม่ก็พัทยา”




“หัวหินดีไหม คุณอาเรามีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่นั่น จะได้ไม่ต้องเสียเงินเช่าโรงแรม”




อันดาคิดไว้เสร็จสรรพแล้วว่าจะพาแมวน้อยไปที่ไหนและอยากจะทำอะไรบ้าง เขาอยากมีช่วงเวลาดีๆกับจาริญในสถานที่ๆอีกฝ่ายเคยบอกว่าชอบ เจ้าคนตัวเล็กชอบทะเลแต่เขายังไม่มีโอกาสได้พาไปสักที คราวนี้เป็นโอกาสดีเพราะว่างตรงกันทั้งคู่




“ชอบคนรวยจังเลย” จาริญพูดติดตลก อันดาหมั่นเขี้ยวเลยงับปลายจมูกรั้นเล่นเบาๆ ก่อนจะหอมหน้าผากอย่างรักใคร่




“เราเลี้ยงจูนได้ตลอดชีวิตเลยนะ”




“ให้มันจริง”




มือบางโยกศีรษะของอีกฝ่ายและเงยหน้าขึ้นรับจูบหวานที่ประทับลงมา อันดาแตะริมฝีปากไว้แบบนั้นชั่วครู่ก่อนจะผละออกมายิ้มให้




“รักจูนนะ”




“เราก็รักอันดา”




คำบอกรักที่เคยได้ฟังอยู่ทุกวันยังคงหอมหวานเช่นเคย ช่วงเวลาเหล่านี้ของเราสองคนเต็มไปด้วยความสุข ไม่ขอให้เวลาแห่งความสุขคงอยู่ตลอดไปเพราะคงเป็นไปไม่ได้ แต่พียงแค่มีกันและกันแบบนี้ไปเรื่อยๆในแต่ละวันเท่านั้นก็พอแล้ว





*****





เสียงของสายฝนที่ตกกระหน่ำอยู่ข้างนอกทำให้เจ้าแมวตัวอ้วนซุกตัวเข้าหาตักของจาริญเป็นพัลวัน ลูน่ากลัวฝนตก กลัวฟ้าร้อง กลัวทุกอย่างที่เสียงดัง จาริญนั่งอยู่บนพื้นคอยลูบหัวลูบหลังเจ้าขนฟูไม่ห่าง ต้องรอให้ฝนซาลงกว่านี้ลูน่าถึงจะสงบลง ไม่ก็ต้องเอานอนบนเตียงด้วย แต่ก็ไม่ได้อีกเพราะอันดาแพ้ขนแมว




เพราะฝนตกหนักตั้งแต่หัวค่ำเลยโดนคุณแม่รั้งตัวให้นอนค้างที่บ้าน จาริญยังไม่ทันได้พูดอะไรแต่คนที่ชิงตอบตกลงกลับเป็นอันดา โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่า อยากจะทำความรู้จักกับครอบครัวของจาริญให้มากที่สุด




เหตุผลน่ารักๆแบบนั้นทำให้จาริญไม่กล้าขัดอะไร ถึงจะมีช่วงหนึ่งที่ฝนหยุดตกไปแล้วแต่อันดาก็ยืนยันว่าจะค้างที่นี่ และพอก้าวขึ้นมาบนห้องนอนเท่านั้นฝนก็ตกลงมาอีกระลอก




“จูน ไดร์เป่าผมอยู่ไหนอ่ะ” อันดาออกมาจากห้องน้ำทั้งผมเปียกๆ น้ำหยดลงพื้นจนน่ากลัวว่าจะเหยียบแล้วลื่นเข้า จาริญเห็นเลยอดที่จะดุไม่ได้




“ทำไมเธอไม่เช็ดผมก่อน พื้นเปียกหมดแล้ว เดี๋ยวก็ลื่นล้มหรอก”




“ขี้เกียจเช็ด”




จาริญส่ายหน้าใส่คนดื้อ อันดาเป็นโรคขี้เกียจเช็ดผมเหมือนเขาไม่มีผิด ถ้าไม่คอยทำให้ก็คงจะนอนหลับไปทั้งผมเปียกๆแบบนั้น บ่นอยู่ในใจพลางเดินเข้าไปล้างมือในห้องน้ำและกลับออกมาหยิบไดร์เป่าผมที่อยู่ในลิ้นชักด้านล่างของตู้เสื้อผ้า




“มานั่ง จะเป่าผมให้”




อันดานั่งลงที่ปลายเตียงให้ร่างบางเป่าผมที่เปียกซ่ก จาริญถือไดร์เป่าผมด้วยมือข้างหนึ่งส่วนอีกข้างถือผ้าไว้คอยเช็ดจะได้แห้งไวๆเพราะตอนนี้เกือบจะห้าทุ่มแล้ว เขาชักจะเริ่มง่วง อันดาเองก็คงจะง่วงเหมือนกันเพราะแอบเห็นว่าหาวตั้งหลายรอบ




“อันดานั่งดีๆ อย่าสัปหงก” จาริญดุเพราะอีกฝ่ายเอนศีรษะไปซ้ายทีขวาที อันดาที่กำลังจะหลับกลางอากาศรู้สึกตัวเลยกลับมานั่งตัวตรงอีกครั้ง




“จูนเบื่อหรือเปล่าที่ต้องคอยดูแลเรา”




“ทำไมถามแบบนั้น”




จาริญถามกลับพร้อมทั้งปิดไดร์เป่าผมและวางลงข้างๆตัว ใช้ผ้าเช็ดเส้นผมสีดำที่แห้งสนิทดีแล้วเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะพาดผ้าขนหนูชื้นน้ำไว้กับพนักเก้าอี้




“ถามเฉยๆ เราไม่ได้เรื่องสักอย่าง จูนต้องคอยปลุกตอนเช้า ทำอาหารให้กิน ดูแลเราแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆน้อยๆ”




“ไม่เบื่อหรอก เพราะเราเต็มใจ” มือบางลูบเส้นผมนุ่มมือเบาๆ ไม่เคยคิดว่าการดูแลอันดาเป็นความลำบากหรือน่าเบื่อเลย เขาเต็มใจที่จะทำ ไม่ว่าจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆหรือว่าเรื่องใหญ่ก็ตาม




“จูบหน่อย” อันดาพูดอ้อนๆ อีกฝ่ายอมยิ้มและก้มหน้าลงมาใกล้ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรมากไปกว่าริมฝีปากที่แตะกันแผ่วเบาจาริญก็รีบผละออกไปเพราะเสียงร้องของลูน่า




“เมี๊ยววว!”




“โอ๋ๆ ลูน่า ~ จูนขอโทษน๊า”




เจ้าแมวตัวอ้วนที่ถูกทิ้งให้นอนบนเบาะนอนตัวเดียวเรียกร้องความสนใจขึ้นมา ทั้งที่ฝนข้างนอกก็เริ่มซาลงแล้วแต่ลูน่าก็ยังร้องไม่หยุด ไม่ได้กลัวอะไรหรอกแต่คงอยากจะให้จาริญสนใจมากกว่า แต่ถ้าลูน่าดื้อแบบนี้ทั้งคืนก็คงจะไม่ได้นอนกันสักที




“ลูน่า เงียบเดี๋ยวนี้” อันดาไม่ใช่คนรักสัตว์ถึงขนาดจะมานั่งโอ๋ทั้งคืน ตอนนี้เขาง่วงมากและจาริญก็ควรจะมานอนได้แล้วเหมือนกัน




“อย่าดุลูก”




“วางลูน่าไว้บนเบาะแล้วขึ้นมานอนได้แล้ว”




จาริญอยากจะอุ้มลูกรักขึ้นไปนอนบนเตียงด้วย แต่ความเป็นห่วงเพราะอันดาแพ้ขนสัตว์มีมากกว่า เลยตัดใจวางลูน่าลงในเบาะนุ่ม ลูบหัวเบาๆและจุ๊บหนึ่งที รอจนแน่ใจว่าลูน่ากำลังจะเคลิ้มหลับถึงได้ปิดไฟและย้ายตนเองมาที่เตียง อันดากอดคนตัวเล็กกว่าไว้เมื่อจาริญขยับตัวเข้ามาในอ้อมกอด




“ช่วงนี้ลูน่าอารมณ์ไม่ค่อยดี บางครั้งก็ซึมๆ เราคิดว่าลูกอาจจะเหงา” จาริญว่า เป็นกังวลกับอาการของลูน่าในระยะหลังนี้ไม่น้อย อันดาพยักหน้าเป็นเชิงว่ากำลังฟังอยู่ แม้ว่าจะหลับตา




“อันว่าเราหาเพื่อนให้ลูน่าดีไหม น้องแมวตัวเล็กๆ”




“ก็ดี




อันดาตอบงึมงำเพราะกำลังจะหลับอยู่รอมร่อ จาริญเห็นแบบนั้นเลยบิดแก้มคนที่จะชิงหลับหนีกันไปก่อน




“เธออ่ะ ฟังเราอยู่ไหมเนี่ย”




“ฟังค่ะฟัง”




ถึงจะบอกว่าฟังอยู่แต่ไม่คิดจะลืมตาขึ้นมองกันเลย จาริญถอนหายใจเล็กน้อย ยอมจบบทสนทนาไว้แค่นั้นเพราะสงสารคนง่วง ร่างบางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้ทั้งตนเองและอีกฝ่าย อันดาชอบสะบัดผ้าห่มออกกลางดึก ตื่นมาเข้าห้องน้ำทีไรต้องห่มผ้าให้ใหม่ทุกที




อยู่ให้จาริญดูแลแบบนี้ไปตลอดเลยนะอันดา เพราะที่เป็นอยู่ตอนนี้มันดีมากจริงๆ




tbc.



เรื่องนี้อาจจะดราม่าสุดแค่อันดาไม่ยอมขอน้องแมวเป็นแฟนสักที5555
#กุหลาบแดงกับแมวขาว

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ grimace

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
ยังไม่เป็นแฟนก็ยังไม่เป็นค่ะ :o8:
แต่บอกรักกันงุ้งงิ้งงุ้งงิ้งไปหมด
น่ารักอะไรขนาดนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
น่ารักดีจัง :กอด1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
 o13 o13


มันต้องคุยกันแบบนี้มันถึงจะดี  อย่างอแงใส่กัน  อิอิ

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ให้ฟีลมุ้งมิ้ง หวานๆละมุนๆมาก อ่านแล้วแบบ แงงงงงง เธอคะ ทำไมน่ารักจังคะ แงงงงงงงง

ออฟไลน์ AnnAnnAnn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอน้องเป็นแฟนได้แล้วอันๆ :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ praewypn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักฉุดๆเยย ขอเป็นแฟนได้แล้วน้าา งืออ   :o8: :o8:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ขนาดนี้แล้ว อันก็ขอจูนเป็นแฟนเลยเหอะท

เอ๊ะ. หรือจะขอตอนไปทะเล.   :hao3:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ยังไม่ได้เป็นก็เหมือนเป็นแล้วล่ะเราว่า

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ยังน่ารักกันเหมือนเดิม รอการขอเป็นแฟนของทั้งสองคนค่ะ :-[

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แม้ นึกว่า จะได้กินมาม่า ซะแร้ววว.. 55+

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
น่ารักกันจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด