" หลงละเมอเพ้อรัก " [YAOI][#47 ความรักของครอบครัว][END](25/6/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: " หลงละเมอเพ้อรัก " [YAOI][#47 ความรักของครอบครัว][END](25/6/63)  (อ่าน 49069 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสัยอินแสดงเก่งกว่าหมอกแน่ๆ  :hao3:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่หมอกเหรอจะสู้อินได้ เหอะ!!! :m16:

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
หมอกน่าตบ พอๆกับหนูหมี่เลย

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

จากคาแรกเตอร์ที่ผ่านมาจนถึงตอนล่าสุด

ยังไงก็อยากให้เป็น เปอร์อิน มากกว่าที่จะเป็น หมอกอิน

แต่ก็นะ  เพิ่งแค่ไม่กี่ตอน  ยังบอกอะไรไม่ได้มากหรอก

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
พี่เปอร์น่ารักเกินไปแล้ววว /ชูป้ายไฟพี่เปอร์

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
แอบเชียรเปอร์ ส่วนหมอกนี่ จะรักอินตอนไหน จะหันมาสนใจอินมั่งมั้ย? อินเปิดใจให้เปอร์เถอะ

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
เหอะๆ ทีมเปอร์  :katai5: ไม่ชอบอิพี่

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
เพ้อ บทที่ 6 สองหนุ่มอันตราย


การแสดงจบลงแล้ว ผมและพี่ๆ ทุกคนต่างพากันขึ้นมาขอบคุณบรรดาผู้ชมที่ด้านหน้าเวที เสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือยังคงดังกึกก้อง ผมมีความสุขมาก ผมทำมันได้ อย่างที่ทุกคนคาดหวังไว้

พวกเราโค้งลงให้บรรดาคนดูเพื่อขอบคุณที่เป็นกำลังใจ ผมส่งยิ้มให้ผู้คนที่ตะโกนเรียกชื่อผม แต่ขณะที่กำลังโบกมือให้ทุกๆ คนนั้น สายตาของผมก็เหลือบมองเห็นคนคนหนึ่งในฝูงชน ผมนิ่งชะงัก จ้องมองคนที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นในค่ำคืนนี้

พี่หมอก...

ผมค่อยๆ ยิ้มกว้างอย่างดีใจ ผมดีใจมาก ผมส่งยิ้มและโบกมือต่อไปให้ทุกคนในโรงละคร แต่สายตาของผมนั้น ก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่พี่หมอกตลอดเวลา สีหน้าของพี่หมอกนั้นมีแต่ความประหลาดใจ และกำลังจ้องมองผมเช่นกัน

"ไปอิน ฉลองกัน" เมื่อลงจากเวทีแล้ว สิ่งแรกที่ผมโดนก็คือ ผมถูกกอด ถูกอุ้ม ถูกดึงทึ้งไปมา ทุกคนเอ็นดูผมมาก และวันนี้ผมทำได้ดีมากจริงๆ

"ทำได้ดีมากน้องชาย"

"พระเอกดาวรุ่งในอนาคต"

ผมยิ้มกว้างให้พวกพี่ๆ วันนี้ผมมีความสุขเหลือเกิน

และผมที่กำลังพูดคุยอยู่กับพี่ๆ ในชมรมนั้น อยู่จู่ๆ ก็มีเสียงปรบมือแทรกขึ้นมา

"สุดยอดด บราโว่" ทุกคนในชมรมอึ้งชะงัก และมองผู้ที่ก้าวเข้ามาในห้องแบบไม่เกรงใจใคร

"ที่นี่คนนอกห้ามเข้านะครับ" ผมพูดยิ้มๆ และเดินเข้าไปหาคนมาใหม่ แต่เมื่อผมยิ่งเดินเข้าไปใกล้นั้น ก็เพิ่งสังเกตว่าพี่เปอร์ไม่ได้มาคนเดียว ยังมีคนอีกคนเดินตามเข้ามา และมองไปรอบๆ ห้องอย่างสนใจ

เสียงฮือฮาเล็กๆ เริ่มดังขึ้น เพราะว่าในมหาวิทยาลัย แห่งนี้ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก พี่หมอก...

"แสดงได้ดีมากเลยนะครับ ผมกับเพื่อนประทับใจมาก" พี่เปอร์พูดพลางคว้าคอพี่หมอกมากอด ซึ่งถึงแม้ว่าพี่หมอกจะไม่ได้พูดอะไรและกำลังทำหน้าเหม็นเบื่อ แต่ผมก็มีความสุขมาก

"ก็ต้องยกความดีความชอบให้ตัวหลักของเราครับ" พี่หนึ่งหัวหน้าชมรมพูดและเดินมากอดคอผม

"พูดอะไรแบบนั้นครับ ทุกคนก็เล่นดีหมดแหละ" นี่เป็นความจริง เพราะพวกเราทุกคนตั้งใจ ทุกอย่างถึงออกมาได้ดี

"เห็นแบบนี้แล้วอยากจะเผาไอ้แว่นบ้านั่นจริงๆ" ไม่พูดเปล่า ไอ้พี่เปอร์จ้องมองใบหน้าของผมพลางเดินไปที่โต๊ะเพื่อหยิบแว่นขึ้นมา ซึ่งผมที่เห็นแบบนั้น ก็รีบไปตะครุบแขนคนจุ้นจ้านทันที

"อย่ายุ่งนะ" ผมแย่งแว่นตาของผมคืนมาและซ่อนไว้อย่างหวงแหน ท่ามกลางเสียงหัวเราะของพี่ๆ

"ชอบมานั่งตัดพ้อว่าตัวเองไม่หล่อ ก็ทำตัวจืดชืดเองแท้ๆ" พวกพี่ๆ ได้ทีก็แซวกันใหญ่

"เรื่องของผมน่า" ผมพูดอย่างอายๆ พลางแอบเหลือบมองคนที่ยืนอยู่มุมห้อง และผมก็ต้องประหลาดใจ เพราะคนคนนั้นก็จ้องมองมาที่ผมเหมือนกัน

หลังจากนั้น พวกเราก็ตกลงกันว่าจะไปกินเลี้ยงฉลองกันที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่ง ผมรีบโดดขึ้นรถพี่แก้วทันทีที่เห็นพี่เปอร์ทำท่าจะลากผมไปขึ้นรถตัวเอง จ้างให้ก็ไม่ไปหรอก ผมยังอายุน้อย ยังไม่อยากตายเลยสักนิด

ผมไม่รู้ว่าพี่หมอกจะมาด้วยไหม เพราะว่าหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ผมก็ไม่เห็นพี่เขาอีก แต่พี่หมอกคงไม่สนใจมาหรอก ผมรู้ดีและไม่อยากหวังไกล

ไม่นานพวกเราก็มาถึงร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับมหา'ลัย ผมลงจากรถพี่แก้ว และรีบบึ่งไปจับจองที่นั่งพลางเดินเลือกตักอาหารทันที พวกเรานั้นมากันยี่สิบกว่าคนได้ เรียกได้ว่าแทบจะถล่มร้านเลยทีเดียว

"คนนั้นดาราป่ะ"

"หล่อโคตรๆ โอปป้าจ๋าสุดๆ"

ผมมองสาวสองคนที่กำลังซุบซิบกันอยู่ข้างๆ ผม ขณะที่ผมกำลังตักเต้าหู้อยู่ ดาราที่ไหนมานะ คนถึงได้ซุบซิบกันขนาดนี้

และทันทีที่ผมหันไปมองด้านหลังนั้น เต้าหู้ในมือผมก็แทบจะหลุดกระเด็นหวือไปทันที

พี่หมอก...นี่พี่มาได้ไงเนี่ย

"มึงไปตักเนื้อ กูจะไปตักของทอด" ไม่ไกลจากผมนัก พี่เปอร์เดินมากอดไหล่พี่หมอกไว้ และออกคำสั่งด้วยใบหน้ากวนๆ

ผมรีบหันหลังกลับ เดินฉิวหลบเลี่ยงสองคนนั้น ให้ตายสิผมจะกินลงไหม ทำไมพี่ถึงมาที่นี่ด้วย ไอ้ความตื่นเต้นและประหม่าสุดๆ นี้ ตอนแสดงบนเวทีกลับไม่มากเท่า ผมนี่น่าจะอาการหนักแล้ว

"อะไรเรา หนีพี่อีกแล้วนะ" ดูเหมือนการหลบหนีของผมจะไม่เป็นผล มือยาวๆ ของพี่เปอร์ คว้าผมเอาไว้ได้ซะก่อน

"ผมเปล่านะ" ผมปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น พลางเหลือบมองพี่หมอกที่ไม่ได้สนใจพวกเรา แต่กำลังก้มลงตักผักอยู่

"เดี๋ยวพี่เลี้ยงเองนะ ค่าอาหารเราน่ะ" ผมส่ายหน้าทันทีที่พี่เปอร์พูดแบบนั้น

"ผมมีคนเลี้ยงครับ นี่ชมรมผม"

"เหรอ งั้นก็ได้ แต่เอาอะไรไปฝากแม่อินด้วยสิ เดี๋ยวขากลับแวะซื้อกัน" ผมหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"ผมกับแม่ไม่ได้ลำบากอะไรครับ ขอบคุณมาก" ผมรู้ว่าพี่เปอร์หวังดี แต่ผมแค่ไม่ชอบ สายตาที่มองผมเหมือนกับสงสารหรือเวทนาแบบนั้น

"เอาไปวาง" เสียงพี่หมอกแทรกขัดขึ้น และผักใบเขียวพูนๆ สารพัดชนิด ก็ถูกยื่นมาใส่หน้าพี่เปอร์

ผมได้ทีเดินเลี่ยงสองคนนั้นออกมา ขณะที่ยังได้ยินเสียงสองคนนั้นเถียงกันเรื่องเนื้อกับผัก ผมเห็นผู้คนดูสนใจพี่หมอกมากๆ ผมนึกว่าพี่หมอกจะไม่ชอบมาร้านแบบนี้ซะอีก

ผมเดินกลับมาที่โต๊ะตัวยาวที่พวกเราชมรมการแสดงเหมาเอาไว้ และนั่งลงตรงข้ามกับพี่แก้ว

"ไปตักถึงไหนมาเราน่ะ" พี่แก้วบ่นผมทันทีที่ผมหายไปนาน

"ผมหาของไม่เจออ่ะ" ผมแก้ตัวและเริ่มตักกินของทอดในจาน

"นี่ พี่ถามหน่อยสิ" พี่แก้วหยุดย่างเนื้อและมองผมแบบสงสัยจริงๆ

"ครับ อะไรเหรอ"

"ไอ้สองหล่อนั่นอ่ะ สนิทกับเราเหรอ" ผมเลิกคิ้วทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น

"ไม่เลยครับ ไม่สนิทเลย" จริงๆ ผมอยากให้เป็นแบบนั้นมาก โดยเฉพาะพี่หมอก

"พี่ว่าเราอย่าไปยุ่งกับสองคนนั้นมากเลยนะ แต่ละคนชื่อเสียงแย่ๆ ทั้งนั้น" ผมขมวดคิ้วพลางทำหน้าตาอยากรู้เต็มที่

"ยังไงเหรอครับ"

"พี่ก็ไม่รู้ว่าจริงไหม แต่หมอกน่ะ เจ้าชู้มาก" ผมหัวเราะเหอะ เบาๆ อันนั้นผมรู้ดี

"แล้วก็อีกคนน่ะ รู้สึกจะเป็นเกย์ด้วยนะ" ผมที่กำลังคีบลูกชิ้นเข้าปากก็ชะงักทัน เกย์ งั้นเหรอ พอคิดดูดีๆ แล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูง

"เป็นเกย์ไม่ดีเหรอครับ" ผมถามพี่แก้ว

"อ๋อ ไม่ใช่แบบนั้น แต่พี่จะบอกว่า เพื่อนกันก็มักจะนิสัยคล้ายกัน พี่แค่เป็นห่วงเรานะ" ผมที่ได้ฟังคำอธิบายก็ยิ้มให้พี่แก้วทันที

"พวกเขาไม่เกี่ยวกับผมหรอกครับ" ผมพูดให้พี่แก้วสบายใจ

"ใครจะไปรู้ล่ะ อินของพี่น่ารักจะตาย" พี่แก้วพูดพลางดึงแก้มผม น่ารักอะไรกันละครับ น่าลักไปฆ่านี่เข้าท่าหน่อย

ผมหันไปมองพี่หมอกกับพี่เปอร์ที่นั่งอยู่ด้วยกัน เยื้องไปทางด้านหลังของโต๊ะผม ทั้งสองคนคงไม่กล้าเข้ามาร่วมด้วยเพราะไม่ได้อยู่ชมรมการแสดง แต่ก็ยังแอบตามมานะ อะไรของเขากันนะ โดยเฉพาะพี่หมอกที่ผมไม่เข้าใจเลย แต่อาจเป็นเพราะพี่เปอร์ชวนละมั้ง คงเป็นแบบนั้นนั่นแหละ

"อิน ไปเอาน้ำให้หน่อย" พี่แก้วยื่นแก้วเปล่าให้ ซึ่งผมก็ลุกขึ้นบริการทันที

ผมเดินถือแก้วสองใบเดินไปตักน้ำแข็ง และหันมากะจะกดน้ำ แต่ก็ชนเข้ากับคนคนหนึ่งพอดี

"ข.ขอโทษครับ" ผมรีบละล่ำละลักพูดเพราะน้ำแข็งหกกระจายเต็มพื้น และที่ตกใจหนักกว่านั้นก็คือ คนที่ผมชนคือพี่หมอก

"ดูทางซะมั่ง" พี่หมอกทำหน้าเซ็งๆ พลางปัดเศษน้ำแข็งออกจากเสื้อ

"ครับ ขอโทษนะครับ" ผมก้มหัวขอโทษอีกครั้ง และพยายามจะเดินเลี่ยงไป

"หลังจากนี้ ก็ว่างใช่ไหม" ผมที่ได้ยินก็หยุดเดินต่อ และหันกลับไปหาคนที่พูด

"ครับ" ผมกดอาการตื่นเต้นเอาไว้ พยายามไม่ให้มือสั่น

"หกโมงเย็นทุกวัน มาช่วยต่อบทหน่อย มีค่าจ้างให้ ไม่ใช้งานฟรีๆ หรอก" พี่หมอกพูดอย่างรวดเร็วและทำท่าจะเดินกลับ

"เรื่องเงิน ไม่เป็นไรหรอกครับ" ผมรีบปฏิเสธทันที แค่พี่หมอกอยากให้ผมช่วยนี่ก็เป็นเรื่องดีสุดๆ อยู่แล้ว

"จะจ้าง" พี่หมอกหันกลับมาพูดเน้นๆ ใส่ผม ใบหน้าและท่าทีแสดงออกว่าไม่ให้ผมเถียง

ผมพยักหน้า และแอบยิ้มเมื่อพี่หมอกเดินไปแล้ว

"มีเรื่องอะไรให้ยิ้มเล็กยิ้มน้อย" ผมตกใจจนน้ำแข็งแทบจะกระจายอีกรอบ เพราะคนบ้าที่โผล่พรวดเข้ามากอดคอผมอีกแล้ว

"ปล่อยผมเลยนะ" ผมพ่นลมหายใจออกจมูก และจ้องตาบอกคนบ้าว่าให้ไปไกลๆ

"โธ่ ใจร้ายกับพี่อีกละ" ไอ้ปากงุ้ยๆ ที่ดูงอนๆ นั่นไม่เข้ากับตัวโตๆ ของคนทำเลยสักนิด ผมหัวเราะหึ ออกมาในลำคอและจ้องมองคนตรงหน้า พิจารณาดูตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกทีและนึกถึงสิ่งที่พี่แก้วพูด

"พี่ชอบผู้ชายเหรอ" ผมถามออกไปตรงๆ เป็นคำถามที่เสี่ยงเจ็บตัวมาก แต่ก็โล่งใจทันทีที่พี่เปอร์ยิ้มออกมา

"เราก็เหมือนกันสินะ" ราวกับเป็นคำถามฆ่าตัวตาย ผมตกใจก้าวถอยหลัง และทำหน้าตื่นจนพี่เปอร์ตกใจตาม

"เดี๋ยวๆ ไม่ต้องตกใจ" พี่เปอร์รีบพูดและอมยิ้มอย่างมีเลศนัย พลางยื่นหน้ามาพูดใกล้ๆ ให้เสียงเบาลง "พี่รู้ ว่าพวกเราเหมือนกัน พี่ไม่เอาไปป่าวประกาศหรอก และพี่ก็ไม่สนว่าใครจะพูดเรื่องของพี่ เพราะพี่ไม่เคยปิดบังว่าพี่เป็นเกย์" ผมเริ่มรู้สึกใจเย็นลง และจ้องมองคนตรงหน้าอย่างจริงจัง ผมกังวล เพราะผมกลัวว่าตัวเองจะแสดงออกมากเกินไป

"พี่รู้ได้ยังไง" ผมถามเสียงเบา มองคนที่ดูวันนี้จะเจ้าเล่ห์มากกว่าที่เคย

"พูดตรงๆ นะ" พี่เปอร์พูดเสียงเบาราวเสียงกระซิบ ทำให้ผมต้องตั้งใจฟังมากขึ้น "ความจริง พี่ก็ไม่รู้หรอก แต่ดูจากที่อินตกใจขนาดนี้ ก็แปลว่าใช่" ผมที่ได้ฟังคำตอบนั้นก็แทบอยากจะชกไอ้บ้านี่สักหมด นี่ผมกำลังโดนหลอกให้สารภาพสินะ

"นิสัยไม่ดี" ผมพูดอย่างคาดโทษ ทำเอาพี่เปอร์เริ่มหัวเราะออกมา "ผมไปดีกว่า ไม่อยากคุยด้วยแล้ว" เบื่อคนหัวเราะกวนประสาท ผมทำตาโตดุมากกว่าเก่าและตั้งท่าเตรียมหนีอย่างรวดเร็ว

"พี่สนใจเรานะ" เท้าของผมหยุดชะงักอีกครั้ง และครั้งนี้หน้าขึ้นสีจนเกินจะรับได้

"ไม่รับรู้" ผมพูดและเดินหนีออกมาทันที คนบ้า อยู่ๆ มาพูดอะไร สนใจงั้นเหรอ คนแบบนั้นเชื่อได้หรือเปล่าไม่รู้

ผมกลับมานั่งที่โต๊ะ และเหลือบมองไอ้พี่เปอร์ที่ยังคงจ้องมองผมด้วยแววตากวนซะเหลือเกิน ผมใจเต้นตึกตัก เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดแบบนี้กับผม ไอ้พี่บ้านั่นพูดจริงเหรอ ไม่ใช่หรอกมั้ง คงโดนแกล้งอีกตามเคย

หลังจากกินเสร็จ ผมเก็บของ และบอกลาพวกพี่ๆ เพื่อที่จะกลับบ้าน ผมไม่กล้าให้พี่แก้วไปส่งเพราะคนละทางกัน เลยกะว่าจะไปโบกรถแท็กซี่ ซึ่งตอนนี้ก็ดึกพอสมควรแล้ว ป่านนี้แม่น่าจะบ่นผมหูชาแน่ๆ

ผมเดินออกมาจากร้าน มองหารถแท็กซี่ที่กำลังแล่นผ่านไปมา แต่ก็ยืนมาสักพักหนึ่งแล้ว รถที่ว่างก็ไม่มาสักที

"อิน" เสียงเรียกจากด้านหลังตามมาด้วยท่อนแขนที่ทั้งหนาและหนัก ผมหันขวับมองคนที่มากอดคอผมอีกแล้ว ไอ้พี่บ้านี่ทำอย่างอื่นไม่เป็นจริงๆ "กลับด้วยกันนะ" ผมหรี่ตาลงและแกะแขนหนาๆ นั่นออก ไม่มีทางซะหรอก

"ไม่เอาอ่ะ ผมกลัวตาย" ผมพูดและมองหาแท็กซี่ต่อไป

"ใครบอกว่าไปรถพี่" พี่เปอร์พูดและเพยิดหน้าไปอีกทิศทางหนึ่ง ซึ่งเมื่อผมหันไปมองนั้น ก็พบว่ามีคนคนหนึ่งยืนอยู่ที่รถยนต์สุดหรูด้วยใบหน้าบึ้งตึง

ผมควบคุมสีหน้าไม่ให้ดูตื่นเต้นเกินไปเมื่อมองไปที่พี่หมอก ผมยังไม่ได้เตรียมใจเลย ผมไปด้วยได้จริงๆ งั้นเหรอ ผมกรามแข็งทื่อด้วยความตื่นเต้น แต่ดูเจ้าของรถ จะไม่ค่อยเต็มใจนัก

"เร็วๆ" พี่หมอกเรียกผมหรือพี่เปอร์ก็ไม่แน่ใจ และขึ้นไปนั่งบนรถทันที

ผมที่เห็นแบบนั้น ก็ค่อยๆ เดินตามพี่เปอร์ไปที่รถคันนั้น ผมยืนมอง แต่ก็ไม่กล้าขึ้นไป วันนี้ผมนั้นช่างโชคดีอะไรแบบนี้นะ

"ขึ้นไปเลย" พี่เปอร์เปิดประตูรถด้านหลัง ออกแรงผลักผมเบาๆ ให้เข้าไปนั่ง และตัวเองก็ลงมานั่งตาม

"มึงมานั่งข้างหน้า กูไม่ใช่คนขับรถ" เสียงพี่หมอกทั้งดังและคุกคาม ดูอารมณ์เสียจริงจังเมื่อพี่เปอร์มานั่งข้างผม

"ขี้บ่นจังเลยนะมึงเนี่ย กูอยากนั่งกับน้อง" พี่เปอร์พูดพลางทิ้งตัวลงพิงเบาะและหลับตา ไม่สนใจที่พี่หมอกกำลังด่าเลยสักนิด

ผมมองคนสองคนที่กำลังเหมือนทำสงครามประสาท พี่หมอกยังคงไม่ออกรถ และทำหน้าเหมือนอยากฆ่าคนเบาะหลังให้ตาย

"คือว่า..." ผมกลัวที่จะทำลายความเงียบนี้ แต่พี่หมอกก็ยังคงดูไม่ยอม เป็นเพราะผมหรือเปล่านะ ผมไม่ควรขึ้นมาบนนี้ใช่ไหม

"นั่งเฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไร" พี่เปอร์ล็อกตัวผมไว้ และยังคงนั่งอย่างสบายใจ ผมเหลือบมองพี่หมอกที่จิ๊ปากทุกๆ สองวิ ทุบพวงมาลัยสองครั้งและเริ่มออกรถไป "เห็นไหม ยังไงมันก็ยอม จริงๆ มันใจอ่อนจะตาย" พี่เปอร์ป้องปากกระซิบผม ซึ่งผมว่ามันไม่น่าใช่การกระซิบ แต่เป็นนินทาซึ่งๆ หน้าเลยมากกว่า

พอเป็นแบบนี้ ผมก็รู้สึกทั้งเกรงใจและรู้สึกดี ผมได้รู้อะไรใหม่ๆ อีกแล้ว พี่เปอร์บอกว่าพี่หมอกเป็นคนใจอ่อน นั่นแปลว่าพี่ก็ใจดีใช่ไหม หรือว่ามันจะคนละความหมายกัน

"ถ้าไม่ใช่บ้านหมี่ กูไม่ไปหรอก" พี่หมอกพูดและเหยียบคันเร่งแรงขึ้น ผมที่ตอนแรกก็ยิ้มนั้น ตอนนี้ค่อยๆ หุบยิ้มลงช้าๆ นั่นสินะ พี่ไม่มีทางอยากไปส่งผมอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะบ้านหลังนั้น มีคนที่พี่รักอยู่

ผมกล้ำกลืนน้ำตาที่หลั่งรินอยู่ในใจ พี่จะรู้ไหมว่า คำพูดของพี่นั้น มันทำให้ผมเจ็บปวดเหลือเกิน

"อินอยู่บ้านหมี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่" ผมที่นั่งซึมอยู่นั้น พี่เปอร์ก็ถามขึ้นทำลายความเงียบ

"ตั้งแต่เด็กครับ พ่อทิ้งผมกับแม่ พวกเราก็เลยไม่มีที่ไป" ผมพูดและมองปลายเท้าของตัวเอง

"อิน ถ้าอยากทำงานบอกพี่นะ บ้านพี่ทำธุรกิจหลายอย่าง มาทำงานกับพี่ก็ได้"

"ขอบคุณครับ แต่ผมมีสิ่งที่อยากทำแล้ว" ผมพูดด้วยใบหน้าหม่นเศร้า และเหลือบมองดูคนด้านหน้า

ความฝันของผม ถึงแม้จะยังดูห่างไกลนัก แต่ผมก็หวังว่าสักวัน อาจมีสักวัน ที่พวกเราจะได้แสดงคู่กัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2020 16:08:16 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ติดตามจ้า
 :L2: :pig4: :L2: :pig4: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ต้องมีวันนั้นแน่ๆอิน เปลี่ยนใจชอบเปอร์ตอนนี้ยังทันนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ยังไงก็เชียร์เปอร์อิน  เพราะยังมองไม่เห็นว่าหมอกอินจะมีความเป็นไปได้

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
แอบเชียร์พี่เปอร์ พี่เปอร์ของน้องง   :impress2: ขำตรงนี้
          " พี่สนใจเรานะ เป็นรับใช่ไหม " โอ้ยย ถามตรงเกิ๊น  :laugh:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เอาจริงๆพี่เปอร์ดู้ไร้พิษภัยนะ

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
เปอร์ก็เหมือนจะดูแลดีนะ แต่กวนๆไปหน่อย หมอกระวังจะมาเปลี่ยนใจทีหลังไม่ได้นะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ฮันแน่ มีแอบใจเต้นกับคำพูดเปอร์ด้วยอ่ะ
 แต่จากนี้ไป อินจะไปไกล้ชิดกับหมอกแล้วนะ

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
เพ้อ บทที่ 7 จุดเปลี่ยนของความรู้สึก


ถึงแม้ว่าคำพูดบางคำของพี่หมอกจะทำร้ายจิตใจของผม แต่ค่ำคืนนี้ ก็ถือว่าเป็นคืนที่ดีเหลือเกิน พี่หมอกมาดูการแสดงของผม ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าพี่เขาตั้งใจมาดูหรือเปล่า แต่มันก็ทำให้ผมดีใจมาก ผมได้เข้าใกล้พี่หมอกมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ และพี่หมอกก็ยังเอ่ยปากบอกให้ผมไปช่วยซ้อมบททุกเย็นอีก ผมยังหวังอะไรมากกว่านี้ได้อีกเหรอ แค่นี้มันก็ดีสำหรับผมมากแล้ว ดีมากจริงๆ

ผมยังคงอยู่บนรถ นั่งเงียบๆ ฟังพี่หมอกกับพี่เปอร์ที่กำลังคุยกัน ผมมองไปรอบๆ ภายในรถที่แอร์เย็นฉ่ำ ฟังเสียงเพลงคลอเบาๆ ผมนึกฝัน ว่าถ้าหากผมได้มีโอกาสนั่งอยู่บนรถกับพี่หมอกสองต่อสอง มันจะดีสักแค่ไหนกันนะ

ไม่นานรถพี่หมอกก็จอดลงที่หน้าบ้านของหมี่ ซึ่งเมื่อผมค่อยๆ ลงจากรถ ก็พบว่าหมี่กำลังเดินออกมาจากตัวบ้าน และวิ่งมาหาพี่หมอกที่เพิ่งลงจากรถเช่นกัน

"พี่หมอกกก มาได้ยังไงคะเนี่ย แล้วเมื่อเย็นหนีหมี่ไปไหนก็ไม่รู้" หมี่ทำเป็นมองไม่เห็นผมและทำตัวอ้อนแฟน เธอแต่งตัวด้วยชุดนอนบางเบา ขาสั้นจนน่าใจหาย

"พี่บอกแล้วไง ว่ามีนัดกับเพื่อน แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้ลงมา" พี่หมอกโอบเอวเธอไว้หลวมๆ ผมพยายามไม่มองภาพตรงหน้ามากนัก ภาพที่ต่อให้ทำใจยังไงก็เจ็บปวดอยู่ดี

"แหม ก็หมี่เตรียมจะนอนแล้วนี่คะ"

"เฮ้ออ ถ้าเปลี่ยนเป็นอินใส่ อะไรๆ คงดีกว่านี้เยอะ" พี่เปอร์เอี้ยวตัวมากระซิบผม ทำเอาผมตาโตค้าง ไอ้พี่บ้านี่พูดอะไรของเขากันนะ

"ผมไปดีกว่า ขอบคุณนะครับ" ผมก้มหัวขอบคุณพี่เปอร์ และพี่หมอกที่ไม่ได้สนใจมองผม

"น้องอิน ฝันดีนะ" ผมเหลือบมองพี่เปอร์ และเดินหนีไปทางหลังบ้าน

ผมไม่รู้ว่าพี่เปอร์พูดจริงหรือเปล่าเรื่องที่ว่าสนใจผม ผมนั้นไม่เคยมีแฟนมาก่อน เพราะผมไม่ค่อยสนใจสุงสิงกับใครจนถึงขั้นชอบพอกันได้ จะมีก็แต่รุ่นพี่ที่คณะที่คุยกับผม แต่ก็ไม่เคยมีใครบอกว่าชอบผมสักที และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ หัวใจผมมีเพียงพี่หมอกเท่านั้น ผมควรจะทำยังไงดีนะ ถ้าสิ่งที่พี่เปอร์พูด เป็นเรื่องจริง


ในรุ่งเช้าของวันถัดไป ผมออกจากบ้านแต่เช้า และมุ่งหน้าไปที่มหา'ลัยเหมือนเช่นเคย ตอนนี้หมี่ไม่ต้องการคนขับรถอีกแล้ว ผมจึงมามหา'ลัยด้วยรถเมล์ และมานั่งอยู่ที่โต๊ะไม้หินอ่อนแถวๆ คณะ รอเวลาที่จะต้องเข้าเรียน

ที่นี่ดูร่มรื่นและมีนักศึกษาเดินไปมาเยอะแยะเต็มไปหมด ผมมองผู้คนที่เดินผ่าน หลายๆ คนเหมือนจะจำผมได้ และส่งยิ้มให้ผม การแสดงของผมเมื่อคืนคงจะถูกใจคนหลายคนเลยทีเดียว ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

"นั่งรอใครอยู่เหรอ" ผมสะดุ้งทันทีที่รู้สึกถึงความเย็นที่ข้างแก้ม และก็คงไม่มีใครอื่น ที่จะชอบแกล้งผมแบบนี้

"มันเย็นนะครับ" ผมเช็ดแก้มตัวเอง และมองพี่เปอร์อย่างคาดโทษ

"ดื่มสิ พี่ซื้อมาให้" คนพูดนั่งลงข้างๆ ผม ยื่นนมมาให้หนึ่งกล่อง

"ขอบคุณครับ" ผมว่าผมคงปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว เลยรับไว้แต่โดยดี ผมดื่มนมที่พี่เปอร์ซื้อมาให้ และมองผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่อ

"แล้วเรื่องที่พี่บอกว่าสนใจ ได้เก็บไปคิดบ้างไหม" ผมที่ไม่ทันตั้งตัวก็พ่นนมพรวดออกมา ไม่คิดว่าพี่เปอร์จะพูดเรื่องนั้นต่อจริงๆ เริ่มประหม่าทำตัวไม่ถูกซะแล้ว

"แน่ะเขินล่ะสิ น่ารักจัง"

"ไม่ได้เขินซะหน่อย" ผมพูดแก้ตัว เหลือบมองคนที่กำลังยิ้มกวน "ผม...ดูออกง่าย ว่าเป็น...จริงๆ เหรอ"

"ไม่ใช่แบบนั้นหรอก" พี่เปอร์ที่เห็นผมเริ่มถามจริงจังก็เลิกหัวเราะ ขยับตัวมานั่งใกล้ผมมากขึ้น "พี่เดาเอาจริงๆ" พอได้ยินแบบนี้ ก็เริ่มเบาใจลงเล็กน้อย

"ถ้าผมบอกพี่ตอนนี้ ว่าผมไม่ได้เป็น พี่จะยังเชื่อไหม" ผมพูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจ ผมมันโง่จริงๆ ที่ทำท่าทางให้พี่เปอร์จับได้ ทำไมถึงไม่ยอมปฏิเสธจนถึงที่สุดกันนะ "ความจริง ผมไม่อยากให้ใครรู้ เพราะถ้าแม่รู้ แม่ก็คงจะผิดหวังมาก" ผมพูดและทำหน้าเศร้า

"แม่อินไม่รู้หรอก ถึงอินจะเป็นแฟนพี่ เวลาอยู่ด้วยกันก็เหมือนเพื่อนกันนั่นแหละ"

"อ๋อ แบบนี้นี่เอง..." ผมพยักหน้าหงึกๆ และเหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในประโยคมันแปลกๆ "เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน" ผมลุกขึ้นยืนตกใจเลิ่กลั่กไปหมด และพี่เปอร์ก็กำลังหัวเราะจนตัวงอ

"พี่ล้อเล่น" พี่เปอร์ยังคงหัวเราะลั่น หนอย ไอ้บ้านี่

"อย่าล้อเล่นสิครับ เรื่องแบบนี้" ผมทำหน้าบึ้ง

"หืมมมม หรือว่าอิน อยากให้เป็นเรื่องจริงจัง" คนพูดยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้

"เปล่า ไม่ใช่" ผมพูดปฏิเสธและหลบสายตาของพี่เปอร์

"อินไม่ได้รังเกียจพี่ใช่ไหม" พี่เปอร์พูดถามผมจริงจัง

"ทำไมต้องรังเกียจ" พี่เปอร์ก็ฉีกยิ้มทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

พวกเรานั่งลงอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าผมควรทำยังไงกับคนคนนี้ แต่บางทีการมีพี่เปอร์อยู่ก็ไม่ได้ถือว่าแย่ซะทีเดียว พี่เขาดูเป็นคนดี และใจดีกับผม ที่สำคัญ พวกเรามีรสนิยมแบบเดียวกัน

"พี่เปอร์" ผมเรียกพี่เปอร์เบาๆ ผมอยากลองถามความเห็นจากคนประเภทเดียวกัน

"ครับ" พี่เปอร์ตอบรับผมเสียงหวานจ๋อย

"พี่เคย...หลงรักผู้ชายแท้ๆ ไหม" ผมอึกอัก และถามต่อไป "จะเป็นไปได้ไหม ที่พวกเขาจะชอบคนแบบเรา" พี่เปอร์ที่ได้ฟังคำถาม ตอนแรกก็ยิ้ม แต่ตอนนี้ค่อยๆ หุบยิ้มลง

"เคยชอบไหมก็คงจะเคย แต่ถ้าจะให้พวกนั้นมาชอบก็คงเป็นไปได้ยาก" คำตอบที่ชัดเจนหนักแน่นนั้นทำให้ผมรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ถามออกไป รู้สึกไร้เรี่ยวแรงกำลังใจ

"มัน เป็นไปไม่ได้เลยสินะ" ผมพูดเบาๆ กับตัวเอง

"คนพวกนั้นน่ะ ถึงวันนึงเขาจะหลงมาหาเรา แต่สักวัน เขาก็จะกลับไปในที่ของเขา เพราะงั้น อย่าไปเสียเวลาเลย"

"นั่นสินะ" ผมเอง ก็คิดไว้แบบนั้น มันไม่มีทางหรอก แค่จะให้เขาหลงมา ก็ไม่มีทางแล้ว จะคิดให้มากมายไปทำไม ผมหัวเราะอย่างขื่นขมในใจ

"รักคนที่เขารักเราดีกว่านะ ยิ่งถ้าเขาเป็นเหมือนพวกเราด้วย" คำพูดของพี่เปอร์นั้นราวกับมีแรงจูงใจมหาศาล ผมจ้องมองคนข้างๆ แววตาของพี่เขาดูจริงจังและจริงใจ หรือว่าผม ควรจะ...

"ไอ้เปอร์ ไม่เข้าเรียนหรือไง" เสียงที่สามที่แทรกขึ้นนั้นทำให้ผมสะดุ้งตกใจ และเมื่อยิ่งหันไปแล้วพบว่าเป็นพี่หมอก ผมก็แทบขาอ่อนทันที นี่พี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ หรือว่า...ได้ยินทั้งหมด ตั้งแต่ต้น

ผมพูดไม่ออก ได้แต่ยืนขึ้นช้าๆ มองดูปฏิกิริยาและสีหน้าที่ดูเย็นชาของพี่หมอก นี่ผม ทำพลาดไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม

"อ่อ แล้วอีกอย่าง นายน่ะ ไม่ต้องไปที่คอนโดแล้วนะ มีคนอื่นช่วยแล้ว" พี่หมอกพูดกับผมแทบจะเรียกว่ามองด้วยหางตา และเดินจากไปทันทีอย่างรวดเร็ว ผมทรุดตัวนั่งลงที่เดิม มันจบแล้วสินะ พี่หมอกเกลียดผมแล้วจริงๆ แค่ดูจากสายตา ก็รู้แน่ชัดแล้ว

"อิน พี่บอกไว้เลยนะ ว่าถ้าคนที่เราชอบคือไอ้หมอก ตัดใจซะ ไอ้หมอกมันเป็นคนยังไงพี่รู้ดี"

ผมไม่ได้พูดอะไรออกไป มันจบจริงๆ แล้วสินะ ผมคงไม่มีวันได้เข้าใกล้พี่อีก ผมมันโง่จริงๆ

ผมขอตัวแยกจากพี่เปอร์ และเดินเข้าเรียนด้วยความหมองเศร้า ผมก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ พี่หมอกเท่านั้น แต่ผมก็ทำทุกอย่างพังไปหมด ต่อไปนี้พี่หมอกคงจะไม่ยอมเข้าใกล้ผมอีกแล้ว และผมจะต้องทนเห็นสายตาของพี่ สายตาที่แสดงออกว่ารังเกียจคนแบบผม ผมจะทำยังไงต่อไปดี

ผมน้ำตารินไหลอยู่ในหัวใจ การถูกคนที่รักเกลียดนั้น มันคงไม่มีอะไรเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกแล้ว

ช่วงพักกลางวันนั้น ผมหลบเลี่ยงโรงอาหารของคณะ และเดินไปที่ที่ไกลกว่า ผมไม่รู้ว่าผมกำลังจะไปที่ไหน แต่ผมก็เดินต่อไป และนั่งลงแถวสวนหย่อมในส่วนที่ไม่ค่อยมีใครเข้าไป

ผมนั่งลงเงียบๆ และฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยความเหนื่อยอ่อน ผมไม่กล้าสู้หน้าพี่หมอกอีกแล้ว จะมีที่ไหนที่ทำให้พวกเราไม่ต้องพบกันอีก จะมีที่ไหนที่ผมจะไม่ต้องเห็นสีหน้าแววตาที่แสนเย็นชานั้น

ผมหัวเราะเบาๆ ให้กับความโง่เขลาของตัวเอง ถึงจะคิดแบบนั้น ถึงผมนะหนีพี่ในโลกความเป็นจริงนี้ได้ แต่ผมก็หนีพี่ ที่อยู่ข้างในหัวใจของผมไม่ได้อยู่ดี

ผมมองหน้าจอมือถือของผมอย่างเหม่อลอย มือของผมมันขยับไปเอง ผมไม่รู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไร ผมกดเข้าไปที่หน้าอินสตาแกรมของพี่หมอก และกดส่งข้อความเข้าไปในนั้น

[ผมขอโทษครับ ผมรักพี่...]

ผมอยากจะหยุดแล้ว ที่ตรงนี้มันคงไม่ใช่ที่สำหรับผม ขอบคุณนะครับ พี่เป็นกำลังใจของผมเสมอมา มันจะเป็นรักแรกและรักที่ผมจดจำมากที่สุดในชีวิต

ผมกดส่งข้อความและจ้องมองมันอยู่อย่างนั้น ผมเลื่อนมือขึ้นไปดูข้อความเก่าๆ ที่ผมเคยส่งให้พี่หมอก มันมีเยอะมากมาย ผมคงเป็นเหมือนคนโรคจิต ที่พยายามทักหาคนที่ตัวเองชอบ ทั้งๆ ที่เขาไม่สนใจแม้แต่จะอ่านเลยก็ตาม

ทุกๆ ข้อความที่ผมเลื่อนดู ยังไม่ถูกอ่าน ตั้งแต่เมื่อหลายปีที่แล้วจนถึงวันนี้ ข้อความที่ผมส่งไปเกือบทุกวัน ผมมันน่าสมเพช น่ารังเกียจ ผมอยากจะลบข้อความเหล่านี้ ผมทุกอย่าง ลบให้หมดทุกสิ่งหัวใจ

มือของผมยังคงเลื่อนดูข้อความด้วยความเคยชิน แต่มือผมที่กำลังเลื่อนลงมาดูข้อความล่าสุดนั้น ในตอนนี้ก็มีบางสิ่งเปลี่ยนไป และมันทำให้ผมใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้

ผมมองดูข้อความในไดเรคนั้น และเห็นสัญลักษณ์รูปดวงตาอยู่ข้างใต้ข้อความของผม พี่หมอก กำลังดูข้อความของผมงั้นเหรอ

Rrrr Rrrr

เหมือนกับเป็นการยืนยันว่าพี่หมอกได้รับรู้ถึงข้อความของผม เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น และเบอร์โทรที่เด่นหราอยู่บนจอนั้น ก็คือคนที่ทำให้หัวใจผมปั่นป่วนขนาดนี้

"ฮ..ฮัลโหล..."

"โรคจิตสินะ" คำพูดแรกที่ได้ยินทำให้ผมแทบไม่สามารถพูดอะไรต่อได้อีก แต่เมื่อคิดว่านี่อาจเป็นโอกาสสุดท้าย ถ้าหากจะได้พูดกับพี่หมอกเป็นครั้งสุดท้าย ผมก็อยากจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

"ผมขอโทษครับ ผมไม่เคยคิดไม่ดีกับพี่เลย ผมแค่ได้เจอพี่ ได้อยู่ใกล้ๆ พี่ผมก็พอใจแล้ว ผมไม่เคยคิดมากกว่านั้นจริงๆ" ผมพูดอธิบายอย่างรวดเร็ว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่หมอกจะเข้าใจ

"เหรอ แล้วไอ้เปอร์ล่ะ ไปนอนกับมันมาหรือยัง" ผมแทบน้ำตาร่วงทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"ผมไม่ได้ชอบพี่เปอร์" ผมพูดเสียงสั่น

"ไม่ได้ถามเรื่องนั้น ไม่อยากรู้"

"ผมขอโทษ" ผมที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ก็ได้แต่พูดขอโทษพี่หมอกอยู่ร่ำไป

"อยากเจองั้นเหรอ" ผมฟังพี่หมอกพูด ดูเหมือนพี่เขากำลังหัวเราะน้อยๆ "วันนี้หกโมงเย็นที่คอนโด อย่าให้พูดซ้ำ" ผมกำมือถือในมือแน่น ผมไม่เข้าใจว่าเป็นแบบนี้ได้ยังไง ผมฟังผิดไปหรือเปล่า

"ให้ผม...ไปเจอเหรอครับ" ผมถามทวนอีกครั้ง เพราะอาจจะฟังผิดไป

"บอกว่าอย่าให้พูดซ้ำ" เสียงตะคอกของพี่หมอกช่างดุดันและรุนแรง แต่ว่าใบหน้าของผมก็กลับผุดรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มแห่งความดีใจ

"ครับ ผมจะรีบไปนะ" ผมพูดตอบรับ และพี่หมอกก็ตัดสายไปทันที

ผมยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ความรู้สึกของผมตอนนี้มันตีกันไปหมด แบบนี้แปลว่าพี่หมอกไม่ได้รังเกียจผมแล้วใช่ไหม พี่ยกโทษที่ผมแอบชอบพี่ใช่หรือเปล่า ผมดีใจมาก ที่อย่างน้อย ผมก็ยังอยู่ใกล้ๆ พี่ได้ ผมขอแค่เพียงเท่านี้ก็พอ

ตกเย็นวันนั้น ผมมองนาฬิกาที่บอกเวลาห้าโมงกว่าแล้ว ผมรีบโบกแท็กซี่เพื่อไปที่คอนโดของพี่หมอกทันที ถึงตอนนี้ชมรมการแสดงจะยังไม่มีงานอะไร แต่ผมก็ต้องไปช่วยพี่ๆ ทำงาน และทำความสะอาดโรงละคร แถมยังมีประชุมยิบย่อยอีก ผมจึงออกมาช้า และต้องรีบเร่งขนาดนี้

ไม่นานผมที่วิ่งลงจากแท็กซี่ วิ่งไปหานิติบุคคลให้เปิดประตู วิ่งขึ้นลิฟต์ และวิ่งมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องพี่หมอกทันเวลาพอดี ผมหอบหายใจอยู่หน้าประตู กระชับกระเป๋าเป้ของผม และกดกริ่งสีดำเบาๆ

แกร่ก

เสียงประตูที่เปิดออก ทำให้ผมค่อยๆ ผลักประตูเข้าไป ถอดรองเท้า และเดินไปตามทางเดินเพื่อไปยังโถงนั่งเล่นตรงกลาง ผมหายใจเข้าออกช้าๆ พยายามจะไม่ตื่นเต้นจนเกินไป

และเมื่อผมมาถึงโถงตรงกลางนั้น ก็พบว่าคนที่เรียกผมมา กำลังนั่งอยู่ที่โซฟา และกำลังจิบของเหลวสีอำพันในมือ

"ช้าไป 2 นาที" พี่หมอกนั่งสบายๆ อยู่บนโซฟาด้วยชุดคลุมอาบน้ำ เงยหน้ามองดูนาฬิกาที่วางอยู่บนชั้น

"ขอโทษครับ แต่ผมมีประชุมชมรม"

พี่หมอกหันมาจ้องมองผม ทำให้ผมรู้สึกทำตัวไม่ถูก ผมควรจะพูดอะไรดีนะ ผมพยายามทำตัวปกติ และเดินเข้าไปหาพี่หมอก พลางนั่งลงที่โซฟาอีกตัว

"ใครสั่งให้นั่ง" พี่หมอกพูดทันทีที่ผมนั่งลง ทำให้ผมรีบกระเด้งตัวลุกขึ้น "ต่อไปถ้าไม่สั่งก็ห้ามทำอะไร"

"ครับ ขอโทษครับ แต่จะเริ่มเลยดีไหม ผมกลับดึกไม่ได้" ผมยืนอยู่ข้างๆ โซฟาพี่หมอก มองดูพี่เขาค่อยๆ จิบเหล้าในมือ การที่พี่หมอกให้เขามาที่นี่ คงไม่มีอะไรนอกจากช่วยเป็นคู่ซ้อมบทให้

"เหรอ ถ้างั้นก็กลับไปสิ แล้วไม่ต้องกลับมาอีก" คำพูดของพี่หมอกทำให้ผมตกใจ ผมรีบเดินเข้าไปใกล้พี่หมอกอย่างลืมตัวและนั่งลงข้างๆ โซฟานั้น เหมือนกำลังขอร้อง

"พี่หมอก ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แค่ผมต้องกลับไปช่วยแม่ทำงาน"

"ทำตัวน่าสงสาร" ผมส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"ผมเปล่า" พี่หมอกหัวเราะหึในลำคอ และลุกขึ้นจากโซฟา

"เอาล่ะ จะเริ่มก็เริ่ม" พี่หมอกเดินไปวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ และหันมาเรียกผมให้เดินตามไปใกล้ๆ ผมค่อยๆ ลุกขึ้น และเดินตามไปอย่างว่าง่าย กลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากเส้นผมที่ยังคงเปียกชื้นของพี่หมอกทำให้ผมเสียสมาธิเล็กน้อย พี่หมอกจ้องหน้าผมเหมือนจะบอกว่าผมเข้าใกล้เกินไป ผมเลยเดินถอยออกมาอีกสองก้าว

"แล้ว บทล่ะครับ"

"ไม่ต้องห่วง วันนี้ไม่มีบทให้อ่านหรอก" ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"คือแล้ว ต้องทำยังไงเหรอครับ" ผมยังคงถามสิ่งที่สงสัยต่อไป

"อิน นายชอบฉันใช่หรือเปล่า" ผมอึกอักทันทีกับคำถามนั้น ผมไม่เข้า พี่เขาจะถามทำไมถ้าตัวเองก็รู้ดี "พูดสิ" ผมจ้องมองพี่หมอก คนตรงหน้าเหมือนกำลังสนุกที่ได้เห็นปฏิกิริยาของผม

"ผมรักพี่" นี่เป็นความจริง และไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บซ่อนเอาไว้อีกแล้ว

"เหรอ แล้วเวลานายช่วยตัวเอง..." ผมชะงัก และรู้สึกตกใจกับคำถามที่กำลังได้ยิน "นายคิดถึงฉันใช่ไหม" ผมหลบสายตาพี่หมอก นี่พี่กำลังเล่นอะไรกัน ทำไมถึงถามเรื่องแบบนั้น

ผมไม่ได้พูดอะไรออกมา เรื่องแบบนั้นจะให้ผมพูดได้ยังไง ผมเริ่มอาย และก็กลัวมากเช่นกัน

"หูหนวกหรือไง" ผมสะดุ้งน้อยๆ และยังคงก้มหน้าต่อไป เสียงของพี่หมอกดูแข็งขึ้น เหมือนกับกำลังพยายามคาดคั้นเอาคำตอบ

"พี่ถามไปทำไม"

"ก็แค่ตอบมา" พี่หมอกยังคงคาดคั้น พี่ต้องการอะไรกันแน่นะ

"ครับ ผมคิดถึงพี่...เวลา..ทำ" ผมคิดว่าสิ่งที่พี่หมอกกำลังอยากได้ยิน มันคงจะเป็นคำสารภาพของผม ถ้าผมโกหก พี่หมอกอาจจะยิ่งโกรธผมก็ได้

"น่าขยะแขยงนะว่าไหม" แววตาของผมสั่นระริก ผมพยายามข่มใจไว้ ผมรู้ดีว่าจะพี่หมอกจะพูดอะไรแบบนี้ คงไม่มีผู้ชายคนไหนดีใจหรอก ที่ถูกเอาไปจินตนาการตอนช่วยตัวเอง

"ผมขอโทษ" ผมกัดฟันพูด ถูกทำร้ายด้วยคำพูดขนาดนี้ แต่หัวใจผมก็ยังทนได้ บางทีผมก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน

"อยากเห็น" ผมที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยก็เงยหน้าขึ้น จ้องมองพี่หมอกอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

"ผมทำไม่ได้" ผมพูดและส่ายหน้าไปมา

"งั้นก็ออกไปสิ ไม่ได้มัดไว้ใช่ไหม ประตูอยู่ทางนั้น"

"พี่หมอก.." ผมเรียกพี่หมอกอย่างอ่อนแรง นี่มันไม่มากไปหน่อยเหรอ

"ถ้านายชอบฉันจริงๆ ก็ต้องทำได้ทุกอย่างสิ" ผมที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้แต่นิ่งอึ้ง นี่เป็นการพิสูจน์ความรักงั้นเหรอ หรือว่าพี่ต้องการให้ผมอับอายแค่นั้น ผมจ้องมองนัยน์ตาของคนตรงหน้า คนใจร้ายที่พูดอะไรแบบนี้ออกมาได้หน้าตาเฉย แต่ว่าแล้วทำไม ทำไมผมถึง...

ผมมองหน้าพี่หมอก สลับกับทางเดินที่นำไปสู่ทางออก ตลอดหลายปีมานี้ ผมแทบไม่รู้เลยว่าพี่จะเป็นคนใจร้ายแบบนี้ แต่ว่าทำไมล่ะ ทำไมหัวใจที่ไม่รักดีของผมถึงยังลังเล ทำไมผมถึงไม่รีบหนีออกไป

และในที่สุดผมก็ตัดสินใจเลือก ผมค่อยๆ ถอยหลัง เดินมาจากตรงนั้น และหย่อนตัว นั่งลงบนโซฟา

ผมมือสั่นเทา และไม่ได้มองโฟกัสที่จุดใด นี่เป็นสิ่งที่ยากมาก เรื่องบ้าๆ แบบนี้ผมจะทำมันตอนนี้ได้ยังไง แต่ว่า ถ้าผมไม่ทำ ผมก็คงจะต้องเสียพี่ไป ผมคงไม่ได้เจอพี่อีกแล้ว ผมมันต้องบ้าไปแล้วจริงๆ

ผมคลายมือตัวเองที่จับกันไว้แน่น ตั้งสมาธิและค่อยๆ แตะลงที่เข็มขัดของตัวเอง ผมก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า ผมไม่อยากเห็นว่าพี่หมอกกำลังทำสีหน้าแบบไหน

ผมค่อยๆ ปลดเข็มขัดสีเข้มออก รูดซิปลงช้าๆ และเลื่อนมือเข้าไปยังส่วนอ่อนไหวที่ยังคงหลับใหลอยู่ภายใน ผมหลับตาลง ขยับมือสัมผัสมันเหมือนที่ผ่านมา

แต่ผมนั้นกำลังสับสน ความรู้สึกแย่ๆ กำลังถาโถมราวระลอกคลื่น ขณะที่ผมกำลังทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้ ผมพยายามตั้งสมาธิ ผมพยายามนึกถึงคนตรงหน้า แต่ว่า มันไม่ใช่เลย ผมทำมันไม่ไหวจริงๆ

"ทำอะไรของนาย" ผมชะงักมือทันทีที่พี่หมอกพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

"ผ..ผมไม่มีอารมณ์" ผมพูดและหยุดมือค้างเอาไว้ข้างใน อย่างนั้น ส่วนล่างของผมมันไม่ตื่นตัวขึ้นมาเลยสักนิด เพราะผมเครียดมากและผมอายสายตาของพี่หมอกที่กำลังจ้องมองอยู่

"เหอะ เป็นนักแสดงไม่ใช่เหรอ เรื่องแค่นี้คงไม่ยากไปหรอกมั้ง" ผมชะงักและกระเถิบถอยหลังทันทีที่เห็นว่าพี่หมอกกำลังเดินเข้ามาใกล้ และดูเหมือนจะใกล้มากเกินไป

"มันไม่เหมือนกัน" ผมไม่อยากแสดงเป็นคนอื่นเมื่ออยู่ตรงหน้าพี่ นี่คือความรู้สึกจริงๆ ของผม

"ตัวจริงอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่บอกไม่มีอารมณ์" พี่หมอกยืนอยู่ข้างหน้าตัวผม กำลังจ้องมองผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด ผมหลบสายตานั้นและถอนมือออกจากส่วนอ่อนไหวของผม และทำท่าจะใส่เข็มขัดให้เรียบร้อยตามเดิม

"ใครสั่งให้หยุด" ผมหยุดมือลง และตกใจทันทีที่เห็นมือของพี่หมอกนั้น กำลังแกะเชือกที่มัดกันของเสื้อคลุมอาบน้ำออก

พี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่ ทำไมพี่ถึงได้ทำแบบนี้

​​

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2020 16:09:40 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
เลวมากก เรียกพี่เปอร์มาด้วนค่ะ ลากเพื่อนเธอกลับไปเลย :fire:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

คือแบบว่า  คนอ่านก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ว่าเปอร์เลว, ร้าย แต่ทำไมการกระทำดีกว่าแกฟะ หมอก  o12

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
มะอาววววว
เค้าทีมเปอร์
อิพี่หมอกอย่าข่มเหงน้อง ห้ามๆๆๆๆๆๆๆ
 :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ไอ้พี่หมอก  หึ้ยย เกลียดมันนน :m16:
แอบหงุดหงิดอินด้วย  ไม่ยอมหนีออกมาแถมยังยอมทำอะไรบ้าๆอีก  :z3:  :ling1:  :katai1:
พี่เปอร์อยู่ไหนน มาช่วยน้องเดี๋ยวนี้นะะ

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
อิน อินต้องมีสติ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ใครกันแน่ที่โรคจิต

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อินต้องยอมทำขนาดนี้เพื่อนคนที่ชอบเลยเหรอ
เราว่าไม่โอเคนะ เปอร์พูดถูก รักคนที่รักเราดีกว่า

ออฟไลน์ Gloomy Sunday

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-3
    • Fanpage : Gloomy Sunday Tk.
เพ้อ บทที่ 8 การตัดสินใจที่ถูกต้อง


ผมยังคงนั่งอยู่ด้วยความงุนงง มองดูพี่หมอกที่แก้ปมรัดชุดคลุมอาบน้ำออก เผยให้เห็นว่าร่างกายที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดคลุมนั้น มีเพียงกางเกงชั้นในขาสั้นสีเข้มที่ปกปิดจุดอันตรายไว้

"จะทำ หรือไม่ทำ" ผมละสายตาจากสิ่งตรงหน้า แต่พี่หมอกก็ยังคงไม่ลดละที่จะสั่งผมต่อไป

"ผมไม่อยาก" ผมเบาๆ หลบสายตาและพยายามไม่มองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

"เหอะ งั้นก็ได้" ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกโล่งใจ แต่ว่าทันทีทันใดนั้น คางของผมก็ถูกจับไว้ พี่หมอกใช้มือข้างหนึ่งบีบคางผม และข้างหนึ่งถอดแว่นตาของผมออก

"พี่จะทำอะไร" ผมอยากจะยื้อดึงแว่นไว้ แต่ว่าผมก็ช้าไป ตอนนี้ผมมองไม่เห็นหน้าพี่หมอกเลยด้วยซ้ำ ทุกอย่างมันพร่ามัวไปหมด

"ไม่รู้หรือแกล้งโง่ ว่าจะให้ทำอะไร" ผมถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น ถ้าสิ่งที่ผมคิดนั้นไม่ผิด พี่หมอกคงต้องการให้ผม...

"ผมทำไม่เป็น" ผมเอียงใบหน้าหลบมือที่เหมือนคีมเหล็กของพี่หมอก ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำอะไรแบบนี้เลย

"อิน" เสียงเรียกชื่อที่ดูอ่อนโยนนั้น ทำให้ผมเริ่มรู้สึกโอนอ่อน ผมชอบเวลาที่พี่เรียกชื่อผม แต่ก็ไม่ได้อยากทำเรื่องแบบนี้ "ทำไมถึงต้องลังเล นี่เป็นความฝันสูงสุดของพวกแฟนคลับไม่ใช่เหรอ" พี่หมอกพูดต่อไป และจะเห็นได้ไม่ชัด แต่ผมก็รู้ว่าพี่หมอกกำลังทำหน้าแบบไหน พี่กำลังดูถูกความรู้สึกของผม

"ถ้างั้นผมก็คง ไม่เหมือนใคร ผมไม่ได้ต้องการ อะไรแบบนี้"

"งั้นเหรอ" พี่หมอกปล่อยมือจากคางของผม ใบหน้าราวกับครุ่นคิดอะไร ผมรู้สึกโล่งใจมากขึ้น เมื่อพี่หมอกเดินห่างออกไปจากผม เดินไปหยุดยืนอยู่ที่กระจกใสบานใหญ่

"กลับไป" ผมหัวใจสั่นไหวเล็กๆ ผมอยากให้พี่หมอกเข้าใจการกระทำของผม

"พี่โกรธผมใช่ไหม" คำถามของผมทำให้พี่หมอกหัวเราะออกมา ผมรู้สึกแย่มาก แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว

"นายไม่มีค่าพอหรอก" นั่นสินะ ผมมองพี่หมอกที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อม แต่ก็เหมือนยิ่งไกลห่างออกไป 

"พี่หมอก" ผมเรียกพี่หมอกอย่างอ่อนแรง ผมต้องทำยังไง ผมถึงจะมีค่าพอสำหรับพี่

"ทำไม หรือจะเปลี่ยนใจ" พี่หมอกหันมายกยิ้มมุมปาก ทำไมกันนะ เรื่องที่พี่ต้องการ มันมีแค่เรื่องแบบนี้งั้นเหรอ

"พี่อยากนอนกับผมจริงๆ เหรอ" ผมถามพี่หมอกด้วยสีหน้าจริงจัง แต่สิ่งที่ผมพูดออกไปนั้น ก็มีแต่จะทำให้พี่หมอกหัวเราะมากขึ้น

"นายนี่ ใช้ได้เลยนะ หลงตัวเองเหรอ" พี่หมอกยังคงหัวเราะ และมองผมแบบไม่อยากจะเชื่อ

"ผมไม่ได้หลงตัวเอง แต่ว่าพี่ ทำเหมือนต้องการแบบนั้น" ผมถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ

"ต้องการแบบนั้น แค่ให้ใช้ปากให้เนี่ยนะ" พี่หมอกหัวเราะขำอีก พลางนั่งลงที่โซฟา "เฮ้ออ ขอโทษนะถ้าทำให้คิดไปไกล แต่ฉันแค่สงสัย ว่าทำไมไอ้เปอร์ถึงติดใจนัก" อ๋อ แบบนี้เองสินะ

"ผมไม่เคยนอนกับพี่เปอร์ ไม่คิดจะทำด้วย" ผมตอบอย่างหนักแน่น

"เหรอ งั้นก็อีกไม่นานหรอก ระวังตัวไว้ให้ดี นายยังไม่รู้จักมันดีพอ"

"ไม่มีทาง เป็นแบบนั้น" สำหรับผมแล้ว ณ ตอนนี้ พี่เปอร์เหมือนจะดูเชื่อใจได้มากกว่าพี่หมอก

"ก็แล้วแต่นะ ไม่ได้บังคับให้เชื่อ เพราะฉันไม่ชอบบังคับขืนใจใคร"

ผมรู้สึกอึดอัด ความรู้สึกภายในใจของความกำลังตีกันไปหมด ผมต้องการพี่หมอกหรือเปล่า แน่นอนว่าในชีวิตคนคนนึง ที่แอบรักคนคนนึง การได้เข้าใกล้หรือได้แตะต้องนั้น มันเหมือนกับความฝันที่เป็นจริงเลยล่ะ แต่...ในหัวใจของผมมันก็ร่ำร้องอีก ว่าถ้าผมทำแบบนั้น แค่เพียงสักครั้ง ความรู้สึกผิดจะติดตัวผมไป ผมจะกลายเป็นคนไร้ค่า ไม่ต่างจากผู้หญิงที่พลีกายถวายตัวให้

"งั้นผม กลับได้แล้วใช่ไหม" ผมตัดสินใจ ว่าผมจะไม่เป็นของเล่นของใคร ผมคิดว่า นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว

พี่หมอกไม่ได้พูดอะไร ผมจึงก้มหัวให้พี่หมอกเป็นเชิงบอกลา หยิบกระเป๋า และเดินไปตามทางเดินเพื่อออกไปที่ประตู

"อิน" เสียงเรียกเบาๆ ทำให้เท้าของผมหยุดลง พี่หมอกยืนอยู่ด้านหลังของผม พี่เขาเดินตามผมมา และเรียกเพื่อหยุดผมเอาไว้

"อยากดูห้องข้างบนไหม" พี่หมอกไม่ได้รอคำตอบ แต่ค่อยๆ หันหลังเดินไป นำทางขึ้นไปที่ชั้นลอยด้านบน

ผมไม่อาจหักห้ามใจที่จะไม่ตามไปได้ ผมค่อยๆ วางกระเป๋าลงช้าๆ เดินตามพี่หมอกขึ้นไปอย่างว่าง่าย ไปยังห้องที่เป็นเหมือนเขตหวงห้าม ที่แม้แต่รายการต่างๆ พี่ก็ไม่ยอมให้ขึ้นไป

ที่ด้านบนนั้นเป็นระเบียงชั้นลอยที่มีของประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มีแสงไฟสีส้มบนพื้นเรียงรายเป็นทางเดิน มีต้นไม้สีเขียววางประดับ มีโซฟาที่ดูน่านั่งวางอยู่หันหน้าเข้าหากระจกมองวิว และมีห้องอัดเสียงที่เป็นห้องกระจกอยู่ในมุมในสุด

ผมยืนอยู่ที่ระเบียงนอกห้อง มองดูพี่หมอกที่นั่งลงและครอบหูฟังใส่เอาไว้ ผมไม่กล้าที่จะเข้าไป ผมรู้สึกว่าที่ได้ขึ้นมาถึงขนาดนี้ก็ดีสุดๆ แล้ว แต่ดูเหมือนพี่หมอก จะไม่ได้คิดแบบนั้น...

"ทำอะไร เข้ามาสิ" พี่หมอกกวักมือเรียกผม ให้เดินเข้าไปหา

ผมค่อยๆ เดินไปช้าๆ เข้าไปในห้องที่พี่หมอกนั่งอยู่ และกำลังเลื่อนปรับเครื่องมือตรงหน้าไปมา พี่หมอกนั้นถึงจะมาเอาดีด้านการแสดง แต่ดูเหมือนจริงๆ พี่เขาชอบร้องเพลงมากกว่า ถึงได้มีห้องแบบนี้เอาไว้

"สวยมากเลยครับ" ผมพูดและมองไปรอบๆ อย่างสนใจ "ผมเคยฟังพี่ร้องเพลงอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อน" ผมพูดต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าพี่หมอกกำลังจ้องมองผมอยู่

"เหรอ จำไม่เห็นได้" พี่หมอกเหมือนไม่ได้ใส่ใจสิ่งที่ผมพูด

"แต่ผมจำได้นะ จำได้แม่นมาก" ผมยิ้มภูมิใจ แต่พี่หมอกกลับหัวเราะ

"มีอะไรให้น่าติดตาม ผลงานก็ไม่ได้ดีเด่อะไร" ผมรู้สึกไม่สบายใจเลยที่พี่หมอกพูดถึงตัวเองแบบนั้น

"พี่มีความสามารถ และหลายคนก็ชอบพี่มากๆ ผลงานก็มีเยอะแยะ" แล้วผมจะแก้ตัวให้ทำไมเนี่ย

"ใช่ ผลงานที่ไม่ดัง"

"อย่าพูดแบบนั้นสิ" ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกราวกับเรื่องก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเลย พี่หมอกแค่ต้องการลองใจผมหรือไงนะ

"นายเป็นใครถึงมาห้าม" ผมมองพี่หมอกที่พูด แต่สีหน้ากลับเหมือนกำลังขำมากกว่า

"ผมเป็นแฟนคลับของพี่" ผมพูดและยิ้มให้พี่หมอก ทำไมกันนะ ผมรู้สึกราวกับได้เข้าใกล้พี่มากขึ้น


รุ่งเช้าวันต่อมา ผมตื่นแต่เช้าเพื่อช่วยแม่ทำงานบ้าน ชดเชยที่เมื่อคืนกลับมาดึก และเพราะวันนี้คุณหนูของเราอยากทานข้าวเช้าที่บ้าน ซึ่งมันแปลกมาก ปกติหมี่จะไม่ทานข้าวเช้า หรือเรียกได้ว่าแทบไม่ทานอาหารที่บ้านเลย เพราะเธอชอบออกไปสังสรรค์กับเพื่อน เมื่อแม่บอกว่าให้ผมช่วยเป็นลูกมือในวันนี้ ผมถึงได้แต่สงสัยว่าหรือเธออาจจะไม่สบาย

ผมและแม่ที่ทำกับข้าวเรียบร้อย ก็ยกเข้าไปในโถงห้องอาหารของบ้านใหญ่ ผมจัดจานจัดเรียงทุกสิ่งอย่างที่ควรจะเป็น ผมสงสัย ว่าอาหารเช้านี้มันดูไม่เยอะไปเหรอสำหรับคนเพียงคนเดียว เพราะมีกับข้าวหลายอย่างมาก แต่ละอย่างก็น่ากินทั้งนั้น

ผมที่จัดโต๊ะเรียบร้อยแล้วก็กลับไปที่บ้านเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปมหา'ลัย วันนี้คาบบ่ายก็ว่าง ผมคงจะแวะไปชมรมได้ไวขึ้น และไม่รู้ว่าวันนี้พี่หมอกจะให้ผมเข้าไปที่คอนโดอีกหรือเปล่านะ

ผมที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เดินลัดสวนเพื่อจะไปหน้าบ้าน  แต่ผมที่กำลังเดินอยู่นั้น ก็ถูกแม่เรียกเอาไว้ซะก่อน

"อินลูก ช่วยยกน้ำให้คุณหมี่กับแขกหน่อย" ผมเดินไปหาแม่และขมวดคิ้วทันที แขกงั้นเหรอ ก็ว่าทำไมอาหารถึงเยอะนัก

ผมรับถาดน้ำจากแม่ และค่อยๆ เดินเข้าไปยังโถงทานข้าวนั้น และก็เป็นไปอย่างที่ผมคิด ผมมองหมี่ที่กำลังตักกับข้าวให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม ซึ่งก็ไม่มีใครอื่นนอกจาก...

"พี่หมอกคะ อร่อยไหม" ผมเดินเข้าไปช้าๆ และวางแก้วน้ำ รินน้ำให้คนทั้งสอง

ถึงผมจะเข้ามาใกล้คนทั้งสองขนาดนี้ แต่พี่หมอกก็เหมือนเดิม ไม่ได้สนใจหรือมองผมเลยด้วยซ้ำ พี่หมอกตอนนี้กลับกลายเป็นพี่หมอกคนเดิมอีกแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็เริ่มใจดีกับผมมากเลยทีเดียว

"ขอบใจอิน เมื่อวานไปซ้อมบทให้พี่หมอกใช่ไหม เป็นไงบ้าง" หมี่ถามผม และหันไปมองพี่หมอกที่หยุดมือลง

"ก็ไม่มีอะไร แค่ซ้อมธรรมดา" พี่หมอกมองผมราวกับกลัวผมจะพูดอะไรมากเกินไป ซึ่งผมรู้ดี ไม่ต้องให้พี่มากังวลอะไรหรอก

"อืมๆ ไปได้ละ" หมี่ทำมือไล่ให้ผมออกมา ซึ่งผมก็รีบออกมาอย่างรวดเร็ว

ผมนั่งรถเมล์ตามเดิม นั่งเท้าคางเหม่อมองออกไปนอกกระจกด้วยความหม่นหมอง ผมไม่รู้เลยว่าตัวผมควรจะทำอะไรต่อไป ยิ่งเห็นสองคนนั้นอยู่ด้วยกัน หัวใจผมก็คอยแต่บอกให้ผมถอยออกมา หรือผมควรพอสักที

ผมก้มลงมองหน้าจอมือถือของผม และเลื่อนเข้าไปที่อินสตาแกรมของคนที่ผมแอบรักเช่นเดิม พี่หมอกนั้นยิ้มแย้มเสมอเวลาอยู่ต่อหน้ากล้องหรือคนอื่น และมักจะใจดีกับแฟนคลับในงานอีเว้นท์ต่างๆ แต่กับผมนั้นไม่ใช่เลย แบบเมื่อคืนนั้นหายากมาก เพราะพี่หมอกชอบดุผมมากกว่า ตัวตนของพี่ แท้ที่จริงแล้วเป็นยังไงกันแน่นะ

ถูกใจ 36,728 คน

mok77  My Super Girl. @mudxmee

ผมมองรูปพี่หมอกที่ถ่ายคู่กับหมี่ ทั้งสองคนนั้นกำลังยิ้มกว้างอย่างมีความสุข รูปนี้เพิ่งถ่ายเมื่อเช้านี้เองสินะ เพราะผมจำได้ว่าฉากหลังคือห้องนั่งเล่นของบ้าน

ผมนี่มันงี่เง่า ผมรู้ตัวเองมาตั้งแต่แรกแล้วว่ามันไม่มีหวัง แต่พอได้เข้าใกล้พี่ ก็เผลอคิดว่าอาจจะเป็นไปได้ แล้วยังไงล่ะ ถึงจะได้เข้าห้องนั้นแล้วมันยังไงอีกล่ะ เพราะมันก็อาจจะได้แค่นั้น ผู้หญิงหลายๆ คนที่เข้าหาพี่หมอกก็อาจจะได้เข้าไปเหมือนกัน อินเอ๋ย จะหยุดโง่...ได้หรือยัง

"เอ้าๆ เหม่อขนาดนั้นเดี๋ยวก็เลยป้ายหรอก!" ผมสะดุ้งทันที และมองหาต้นตอของเสียงที่ดังขึ้นมา แต่นี่มันบนรถเมล์นะ

ผมหันมองรอบๆ รถเมล์ด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น และในที่สุด ผมก็เจอต้นตอของเสียง คือไอ้พี่บ้าที่กำลังบิดรถบิ๊กไบค์อยู่ข้างๆ รถเมล์อย่างน่าหวาดเสียวนี่เอง

"ทำบ้าอะไรน่ะ" ผมโผล่หัวออกไป และตะโกนสู้แรงลม

ไอ้พี่เปอร์ดูจะไม่สะทกสะท้าน ขับเข้ามาใกล้และเปิดกระจกหมวกกันน็อคขึ้นส่งยิ้มหวานจ๋อย วันนี้พี่เขาใส่เสื้อกล้ามสีดำข้างในเสื้อช็อปอีกที ความเร็วของรถทำให้เสื้อช็อปนั้นปลิวพลิ้วไหวตามแรงลม

"ไปด้วยกันไหม!" พี่เปอร์ตะโกนถามผม และบิดรถตามอย่างไม่ลดละ ห้ามลอกเลียนแบบนะ ไม่งั้นอาจกลายเป็นปลาหมึกบดได้ และตอนนี้คนขับรถเมล์ก็ดูกำลังหัวเสียกับไอ้เด็กแว้นนี้มาก ผมถึงได้แต่หลบหนีสายตาอาฆาตของผู้โดยสารและจำใจลงจากรถอย่างช่วยไม่ได้

"ทีหลังอย่าทำอะไรแบบนี้อีกนะ" ผมหน้ามุ่ยใส่พี่เปอร์ที่หน้าตาไม่สำนึกผิดแม้แต่น้อย

"ครับเจ้าหญิง ไปกันยัง" ผมหน้าหงิกไปใหญ่ที่ได้ยินแบบนั้น เจ้าหญิงบ้านแป๊ะแกสิ

ผมขึ้นมานั่งซ้อนพี่เปอร์อย่างไม่เต็มใจ แต่อีกไม่ไกลก็จะถึงมหา'ลัยแล้วคงไม่เป็นไร แต่ผมที่คิดแบบนั้นก็แทบอยากจะงับหูคนขับ เพราะทันทีที่ออกตัวก็แทบยกล้ออีกแล้ว แถมยังเบิร์นล้อโชว์ชาวบ้านให้เขาด่าเล่นไปอีก

ผมรีบโดดลงจากรถทันทีที่มาถึงจุดหมาย และฟาดไอ้พี่เปอร์อีกยกใหญ่ โทษฐานที่ทำให้ตกใจ

"ไง" ผมชะงักมือทันทีที่ได้ยินเสียงจากด้านหลัง และก็พบว่าคนที่กำลังเดินเข้ามาหาพี่เปอร์ก็คือพี่หมอกนั่นเอง

"ได้คู่ขาใหม่ถูกใจไหม" มือของผมเปลี่ยนเป็นกำหมัดทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

"ผมขอตัวก่อนนะ" ผมบอกพี่เปอร์ และเดินหนีออกมา

ผมรีบเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปยังตึกเรียนรวม ผมไม่ชอบคำพูดนั้นของพี่หมอกเลย ถ้าไม่รักผม ก็อย่าผลักไสผมให้คนอื่นได้ไหม พี่จะใจร้ายกับผมไปถึงเมื่อไหร่กัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2020 16:11:11 โดย Gloomy Sunday »

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
เพลียอินจริงๆ เกลียดหมอกด้วย อยากเอา2คนนี้มัดรวมกันไปโยนทิ้ง
รักพี่เปอร์คนเดียว พี่เปอร์ยังคงน่ารักทุกฉากที่ออก 5555

ออฟไลน์ Kuayyai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
แอบไม่ชอบใจอินตอนที่พี่หมอกบอกให้ช่วยตัวเอง
คือแบบ เฮ้อ ถึงเขาไม่ชอบ
เราก็ไม่ควรจะลดคุณค่าตัวเอง
แต่ก็ยังดี ที่ยังไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น..

อีกเรื่องทำไมรู้สึกแอบสงสารพี่เปอร์ล่วงหน้าเลย

ออฟไลน์ Kuayyai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
แต่การดำเนินเรื่องสนุกมากเลย
ขอให้ผู้แต่งมาต่อบ่อยๆ นะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เด๋วนะ มันมีตอนไหนในเรื่องที่บอกว่านังหมอกเป็นพระเอกบ้างนะ จำไม่ได้นิ งั้นให้เปอร์เป็นพระเอกเถอะ  :katai3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด