งวดสามสิบหก แบบนี้ก็ได้เหรอ
“......อายุวัณโณ สุขัง พลัง” คำสวดให้พรของหลวงพ่อดังขึ้นอยู่หัว
“สาธุ เจ้าค่ะ/ครับ หลวงพ่อ” เสียงประสานดังขึ้นพร้อมกันอยู่หน้าบ้าน มีสมาชิกประกอบแม่น้อย ไอ้น้ำและยายฝน ที่กำลังนั่งคุกเข่า พนมมือจรดหัวจรดเกล้า รับศีลรับพร ขอสิ่งดีๆ เข้าสู่ชีวิต
วันนี้ แม่น้อยลุกขึ้นมาทำกับข้าวเพื่อมาตักบาตรตั้งแต่เช้าตรู่ และปลุกลูกทั้งสองคนให้ลุกขึ้นมาใส่บาตรโดยพร้อมเพรียงกันทั้งครอบครัว
“ลูกสาวของโยมน้อย ปีนี้อยู่ชั้นอะไรแล้วล่ะ”
“ม.หกแล้วเจ้าค่ะ จะเข้ามหา’ลัย ปีหน้านี้แล้ว” แม่น้อยตอบด้วยความนอบน้อมสำรวมในกิริยา
“ตั้งใจเรียน จบมาแล้วก็หางานทำ อย่าเกียจคร้าน แม่เขาจะได้ไม่เป็นห่วง” หลวงพ่อสอนน้ำฝน
“ค่ะ หลวงพ่อ”
“แล้วนี่ ลูกชายคนโตใช่ไหม ไอ้น้ำหรือ”
“เจ้าค่ะ ไอ้น้ำเจ้าค่ะ” แม่น้อยเป็นฝ่ายตอบอีกเช่นเคย
“โตเป็นหนุ่มแล้ว หน้าตาเค้าโครงไม่ค่อยเหมือนทางพ่อเขา เหมือนทางโยมน้อยเสียมาก”
“เจ้าค่ะ ใครๆ ก็ว่าไอ้น้ำ มันหน้าตาเหมือนอิฉัน”
“เด็กผู้ชายเหมือนแม่ โบราณว่าไม่อาภัพ”
“ขอให้เป็นตามโบราณว่าไว้เถิดเจ้าค่ะ” แม่น้อยยกมือไหว้จรดหัวอีกครั้ง
“ตอนนี้ทำงานทำการอยู่ที่นี่ไหนล่ะ โยม” หลวงพ่อสอบถามไอ้น้ำ แต่มันกลับไม่รู้เรื่องจนแม่น้อยสะกิดที่แขน มันจึงรีบลนลานตอบ
“ไม่ได้ทำครับ ผมเพิ่งลาออกจากงานที่กรุงเทพฯ มา”
“อย่างนั้นหรือ คนหนุ่มสาวก็แบบนี้...ทางโลกบางทีก็ทำให้คนเราทุกข์โศกได้เสมอ..” หลวงพ่อมองไอ้น้ำนิ่งก่อนจะพูดต่อ “เมื่อจิตใจปลอดโปร่งดีขึ้นแล้ว จงกลับไปทำงานดังเช่นเดิม อย่างน้อยก็เพื่อตัวเราเอง อย่าให้แม่เขาต้องคอยเป็นห่วง”
“ครับ”
“เรื่องอะไรที่มันหนักใจ จงอย่ากังวลจนเกินไป ทุกอย่างมีทางออกเสมอ”
“ครับ” น้ำรับคำ
“คนดีผีคุ้มน่ะ รู้จักไหม” หลวงพ่อพูดยิ้มๆ ไอ้น้ำรู้สึกเย็นวาบที่หลังขึ้นมาทันที
“เขาคอยช่วยอยู่เสมอ หมั่นทำบุญให้เขาบ่อยๆ ล่ะ อย่าไปกลัวเขาเลย อีกไม่นานอาตมาก็จะพาเขาไปแล้ว เอาล่ะ...ไปก่อนนะโยม” หลวงพ่อทิ้งท้ายเป็นความนัยไว้เพียงเท่านี้ก็ออกเดินบิณฑบาตต่อ
“เอ่อ...ครับ”
“สาธุเจ้าค่ะ” แม่น้อยกับน้ำฝนพูดพร้อมกัน เหลือเพียงไอ้น้ำที่ยังตกใจคำพูดของหลวงพ่ออยู่
“หลวงพ่อ ท่านพูดแบบนั้น หมายถึงอะไร ไอ้น้ำเอ็งเข้าใจหรือเปล่า” แม่น้อยถามพลางเก็บข้าวของที่ใส่บาตรตอนเช้า เพื่อเอาขึ้นไปล้างบนบ้าน
“ไม่รู้สิแม่” มันไม่แน่ใจจึงเลือกตอบไปแบบนั้น
“อ้าว อะไรอย่างนั้นวะ แล้วบ้านผู้กองเขาจะมากี่โมง จะกินข้าวที่นี่ไหม ข้าจะได้ไปทำอาหารเตรียมไว้”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ เขามากันสายๆ สักสิบโมง สิบเอ็ดโมงนู่นแหละ” น้ำบอก
“งั้นหรือ อืม เอ็งสองคนไปอาบน้ำอาบท่ากันได้แล้ว เดี๋ยวเขามาจะหาว่าลูกบ้านนี้ขี้เกียจ ตื่นสาย น้ำท่าไม่อาบ หมดกัน ขายไม่ออกพอดี” แม่น้อยบ่นเร็วๆ ก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัว
“จ้ะ” น้ำฝนตอบรับ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มทั้งอาการที่กลั้นขำสุดขีด สายตาคู่สวยจ้องมองมาที่หน้าพี่ชาย
“อะไร ยิ้มอะไร” ไอ้น้ำถามน้องสาวเสียงเบาเพราะกลัวแม่ได้ยิน
“เห็นคนจะมีผัว ก็เลยดีใจ”
“ผัว เผอ ไรวะ ตบปากเลย เด็กนี่ ปากเสีย” น้ำตั้งท่าจะตบปากน้องจริงๆ แต่ก็ตามเคย น้ำฝนหลบได้อย่างคล่องแคล่ว
“ไม่พูดละ รู้ว่าอาย เอาเป็นว่า เห็นคนจะออกเรือนก็เลยดีใจแทนละกัน” น้ำฝนพูดรัวเร็วออกมา ก่อนจะวิ่งปรูดหายเข้าไปในห้องนอนของตัวเองอย่างรวดเร็ว จนไอ้น้ำด่าไล่หลังไม่ทัน
.
.
“บ้านแม่น้อย นี่น่าอยู่เสียจริง ร่มรื่นมาก ลมพัดเย็นตลอดเวลาเลย ใช่ไหมคะคุณ” คุณหญิงเอ่ยถามความเห็นสามี ก่อนจะหันไปถามแม่น้อยต่อว่า “จะว่าอะไรไหม หากพี่จะขอแวะมาเที่ยวที่นี่บ่อยๆ” คุณหญิงทักทายอีกฝ่ายเป็นประโยคแรกเมื่อขึ้นเรือนมา
“สวัสดีครับ” ทางด้านผู้กองก็ยกมือไหว้เจ้าของบ้าน แม่น้อยพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการรับรู้ท่าทีจากผู้กอง นางอยากมีพิธีรีตองมากกว่านี้ แต่ก็ต้องตอบมารดาของผู้กองก่อน
“ตามสบายเลยจ้ะ ฉันยินดี เชิญนั่งก่อนจ้ะ” แม่น้อยทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี ออกปากเชิญแขกเหรื่อให้ลงนั่งอย่างเรียบร้อย น้ำฝนก็รู้หน้าที่ยกน้ำออกมาต้อนรับโดยไว
“ขอบใจจ้ะ แล้วหนูน้ำล่ะจ๊ะ แม่น้อย” คุณหญิงถามหาอีกคน
“ยังอยู่ในห้อง เห็นว่ามีงานด่วนเข้ามา เดี๋ยวฉันให้ยายฝนไปตาม” แม่น้อยตอบ พลางบอกกับบุตรสาว “ยายฝนไปตามพี่เขาให้ออกมาได้แล้ว ผู้ใหญ่มาถึงกันแล้ว” ซ้ำกระซิบบอกบุตรสาวอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงที่เบาบางต่อว่า
“รีบไปบอกมันเลย ให้ผู้ใหญ่มารอมันไม่ดี งานอะไรให้หยุดมือไว้ก่อน”
“จ้ะ แม่” น้ำฝนรับคำ
“ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่เป็นไร พี่รอได้” คุณหญิงตอบแม่น้อย และเบนสายตาเหลือบมองไปยังบุตรชายของตน ที่กำลังจ้องมองประตูบานหนึ่งของบ้านด้วยความรอคอย
ความจริงแล้ว คุณหญิงไม่จำเป็นต้องปฏิเสธความตั้งใจของแม่น้อยเลยด้วยซ้ำ แต่เธออยากจะให้ลูกชายของเธอรออีกสักหน่อย เพราะเธอไม่รู้ว่าภายใต้เบื้องหลังประตูนั้น หนูน้ำของเธอ กำลังทำงานด่วนอย่างที่บอก หรือกำลังคิดไตร่ตรองคิดอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่า ปฏิกิริยาของเด็กคนนั้นตั้งแต่เมื่อคืน ทำให้เธอไม่ค่อยสบายใจ
“ระหว่างรอหนูน้ำ...เรามาคุยเรื่องสำคัญกันเลยดีไหม” คุณหญิงเอ่ยปากถาม
“คุณแม่..” ปรานต์ห้ามมารดาเพราะกลัวจะเป็นการเร่งรัดอีกฝ่ายมากจนเกินไป
“คุณหญิง.... รอให้น้ำเขาออกมาก่อนไม่ดีกว่าหรือ” สามีคุณหญิงก็เห็นด้วยกับบุตรชาย เอ่ยปากห้ามปรามภรรยาคู่ชีวิตด้วยเหมือนกัน
“ไม่เป็นไรจ้ะ จะช้าหรือเร็ว ก็คงเลี่ยงไม่ได้แล้ว เข้าเรื่องเลยก็ได้” แม่น้อยบอก
“แม่น้อยนี่ตรงไปตรงมาดีจัง พี่ชอบ เอาล่ะ เริ่มเลยนะ จะได้ไม่เสียเวลา” คุณหญิงยิ้มชอบอกชอบใจ ท่าทีนิสัยของแม่น้อยแบบนี้ หนูน้ำคงได้มาจากแม่พอสมควรเลย
“หน้าที่ของผู้ใหญ่ ควรจะเกิดขึ้นหลังจากที่ เด็กๆ ตกลงกันได้” คุณปราชญ์ เกริ่นก่อนจะเว้นระยะสักนิดหนึ่ง มองไปที่แม่น้อยกับน้ำฝน ที่รับฟังอย่างสงบด้วยสีหน้าเรียบเฉย จึงพูดต่อ “แต่เพราะมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด พวกเราจึงตัดสินใจมาที่นี่ ต้องขอโทษ คุณน้อยอีกครั้งที่ทางเรามาโดยพลการ เสียมารยาท ไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า” ถึงคุณหญิงจะเคยพูดขอโทษในทำนองนี้มาแล้ว แต่ครั้งนี้หัวหน้าครอบครัวคิดว่าควรที่จะพูดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
“ผมเองก็แก่จนหัวดำเป็นหัวขาวจนหมดหัวแล้ว จริงๆ แล้วไม่ได้อยากจะเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องของเด็กๆ เลยแม้แต่น้อย ปรานต์เองก็บอกผมกับคุณหญิงอย่างชัดเจนแล้วก็ตามว่าเขาอยากจะจัดการเรื่องราวทั้งหมดด้วยตัวเอง แต่เราก็อดทนไม่ไหว” คุณปราชญ์อธิบาย เขาเคารพการตัดสินใจของบุตรชาย ให้พูดกันตามตรงคงเป็นคุณหญิง ภรรยาของเขามากกว่าที่ร้อนรนจนทนไม่ไหว กลัวจะเสียว่าที่ลูกสะใภ้ไป
“ผมรู้ว่าเรื่องความรักระหว่างเพศเดียวกันมันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะรับได้ง่าย แต่อยากจะให้เห็นใจเด็กทั้งสองคนด้วยครับ ถึงเขาจะรักชอบเพศเดียวกัน แต่เขายังเป็นคนดีของสังคม เป็นลูกคนเดิมของพวกเราเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”
“จ้ะ” แม่น้อยรับคำเพียงสั้นๆ
“หมายความว่าอย่างไรจ๊ะ”
“หมายความว่าอนุญาตจ้ะ”
“ห๊ะ!?” สามเสียงประสานพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายเพราะคำตอบของแม่น้อยที่เหนือการคาดหมายเป็นอย่างมาก
‘บทจะง่าย ทำไมง่ายงี้วะ’ น้ำฝนคิดพลางลอบมองสีหน้ามารดาที่ยังนิ่งไร้ความรู้สึก
“จริงเหรอครับ แม่น้อย” ผู้กองที่เพิ่งดึงสติกลับมาได้รีบถามซ้ำทันที
“จริงจ้ะ” คราวนี้ว่าที่แม่ยายยิ้มหวานให้กับผู้กองอย่างเต็มที่ จนปรานต์คิดว่าเขากำลังฝันไปหรือเปล่า
“แล้วทำไมตอนนั้น..” เขากำลังอยากจะถามย้อนไปว่าแล้วเหตุการณ์นั้นที่แม่น้อยถึงขั้นจะตัดแม่ตัดลูกนั่นล่ะ
ทำไมตอนนี้เหมือนกับเป็นหนังคนละม้วน คนละแผ่นอย่างนั้นไปได้
“ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า แม่น้อยอนุญาตให้ตาปรานต์และหนูน้ำคบกันแล้วใช่ไหมจ๊ะ” คุณหญิงแทรกขึ้นมา นางพูดทวนความต้องการอีกครั้งเพราะกลัวจะเข้าใจผิดพลาดหรือไม่ตรงกัน
“ใช่จ้ะ” แม่น้อยยิ้มยืนยัน
“เย่!!” น้ำฝนดีใจถึงกับตะโกนออกมาอย่างลืมตัว ทุกสายตาจึงมองไปที่เธอเพียงจุดหมายเดียว “เอ่อ..ขอโทษค่ะ หนูดีใจมากไปหน่อย” น้ำฝนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเขินอาย
“ไม่เป็นไร พี่ก็ดีใจ...ดีใจมาก” ผู้กองยิ้มให้น้ำฝนพร้อมบอกความรู้สึกของตนเอง
“ขอบคุณครับแม่น้อย” ผู้กองหนุ่มบอกแม่น้อยด้วยรอยยิ้มทั่วใบหน้า คาดว่าให้อีกฝ่ายหุบยิ้มคงจะยากเต็มที
“ขอบใจจ้ะ/ขอบใจนะ” สามีภรรยากล่าวขอบคุณแม่น้อยพร้อมกัน
“พี่ขอถามหน่อยได้ไหม ทำไมแม่น้อยจึงเปลี่ยนใจล่ะ นี่พี่เตรียมหาคำพูดมาหว่านล้อมแม่น้อยตั้งครึ่งค่อนคืนเลยนะเนี่ย” คุณหญิงถามอย่างอารมณ์ดี
“ก็อย่างที่พี่พูดแหละจ้ะ ฉันไม่อยากให้ลูกเสียใจ ยิ่งเมื่อวาน ถึงแม้ไอ้น้ำจะไม่ได้คิดสั้น แต่ฉันก็กลัวจริงๆ จ้ะ ถ้ามันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันคงรู้สึกผิดและเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ” แม่น้อยตอบ
“หนูน้ำเข้มแข็งไม่คิดสั้นง่ายๆ หรอก ใช่ไหมจ๊ะ น้ำฝน” คุณหญิงถามน้องสาวของหนูน้ำ เห็นท่าทางดีใจของน้ำฝนที่แสดงออกนอกหน้าชัดเจนขนาดนั้น ดูท่าว่าพี่น้องคู่นี้น่าจะสนิทกันพอควร
“ใช่จ้ะ พี่น้ำอะ ละครเยอะ”
“ละครอะไรเหรอ” คุณหญิงถามอย่างไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไรค่ะ หนูก็พูดไปเรื่อย พี่น้ำไม่มีวันคิดสั้นหรอกค่ะ” เธอยืนยัน
“แบบนี้ก็เบาใจเหลือแค่รอหนูน้ำออกมาฟังข่าวดีใช่ไหม” คุณหญิงถามโดยไม่ได้ระบุเจาะจงว่าถามใคร จึงไม่มีใครตอบ นอกจากรอยยิ้ม
“อืม..ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเรียบร้อยลงตัว ได้เวลาทำหน้าที่ของผู้ใหญ่จริงๆ เสียที” คุณปราชญ์พูดขึ้นท่ามกลางวงสนทนา
“อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะจ๊ะ แม่น้อย ..เรื่องหนูน้ำน่ะ แม่น้อยจะคิดสินสอดเท่าไหร่ อะไร อย่างไร ว่ามาได้เลยจ้ะ ฉันยินดี ไม่เกี่ยง” คุณหญิงบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง
“เอ่อ...เรื่องนั้น” แม่น้อยไปต่อไม่ถูกเพราะว่านางไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน
“ไม่ครับ” ไม่ใช่เสียงคุณปราชญ์ และเสียงผู้กองปรานต์ แต่กลับเป็นไอ้น้ำที่เปิดประตูออกมาจากห้องนอนของมันมาปฏิเสธเองต่างหาก
“น้ำ/หนูน้ำ/ไอ้น้ำ/พี่น้ำ/พ่อน้ำ” ยิ่งกว่าการประสานเสียงครั้งไหนๆ ทุกคนต่างพร้อมใจกันเรียกชื่อของมัน
“ครับ” น้ำเดินออกมาจากห้องแล้วลงนั่งข้างๆ น้องสาว
“งานเสร็จแล้วหรือ” ผู้กองถาม
“ครับ” น้ำตอบสั้น มันไม่อยากบอกหรอกว่างานน่ะมันเสร็จไปตั้งแต่ครอบครัวของผู้กองเดินทางมาถึงบ้านเขาแล้ว แต่ที่มันยังไม่ออกมาเพราะใจหนึ่งมันก็กลัวคำตอบของมารดา ส่วนอีกใจหนึ่งมันก็อยากจะขอคิดอีกสักหน่อย มันไม่แน่ใจ
เรื่องระหว่างผู้กองกับคุณวรันต์ ตราบใดที่มันไม่มั่นใจ มันก็ไม่กล้าที่จะเดินหน้าต่อ
“ออกมาพอดีเลย แม่น้อยอนุญาตเรื่องของหนูน้ำกับตาปรานต์แล้วนะจ๊ะ” คุณหญิงบอกอีกฝ่ายด้วยความดีใจ
“ครับ ผมได้ยินจากในห้องแล้ว” น้ำตอบ มันยิ้มรับเพียงเล็กน้อย “ขอบคุณนะจ๊ะ แม่” แต่จังหวะที่ไอ้น้ำหันไปบอกแม่ มันหันไปกอดแม่น้อยเต็มแรง ยิ้มกว้างกับไหล่ของแม่ เรื่องผู้กองกับวรันต์ก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่แม่อนุญาตในความรักของมันกับผู้กองก็อีกเรื่องหนึ่ง มันจะไม่ดีใจได้อย่างไร
“เจ็บโว้ย ข้าเจ็บ” แม่น้อยบอกพลางตีแขนบุตรชายที่แกล้งกอดนางแน่นขนาดนั้น คนอื่นๆ ที่เห็นต่างพากันหัวเราะกับพฤติกรรมของแม่ลูกคู่นี้ น่าเอ็นดูไม่หยอก
“แล้วที่ว่าไม่ คือไม่อะไรจ๊ะ หนูน้ำ” คุณหญิงถาม
“เรื่องสินสอด รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ ด้วยครับ ผมคิดว่าค่อยพูดถึงเรื่องนี้กันทีหลังดีกว่า”
“รออะไรล่ะ” สามีคุณหญิงเป็นฝ่ายถามบ้าง
“รอจนกว่าผมจะแน่ใจ”
“อ้าว อะไรเนี่ย” น้ำฝนพูดออกมา คดีพลิกกลายมาเป็นคนที่ทำตัวเซ็งโลก หน้าไม่รับแขกมาหลายเดือนอย่างพี่ชายของเธอไปได้
“แน่ใจอะไร” ผู้กองถาม เพราะเขาแน่ใจเสียยิ่งกว่าแน่ว่าระหว่างเขากับน้ำนั้นรู้สึกตรงกัน
“แน่ใจในตัวผู้กองครับ” น้ำตอบ
“หึๆ ไอ้ลูกชาย พิสูจน์ตัวเองหน่อยละกัน ก็อย่างว่าล่ะนะ หายหัวไปเป็นเดือนๆ จู่ๆ กลับมาขอเขา เขาคงยอมง่ายๆ ล่ะ เล่นตัวเยอะๆ นะพ่อหนุ่ม”
“พ่อ ทำไมเปลี่ยนข้างกันง่ายๆ แบบนี้ล่ะครับ” ผู้กองมองบิดา รู้สึกเหมือนตัวเองถูกโยนทิ้งเอาไว้กลางทาง
“เอาใจช่วย อย่าให้เสียชื่อลูกพ่อล่ะ” บิดาตบบ่าให้กำลังใจบุตรชายสองสามทีพอเป็นพิธี
“เอาล่ะ ไหนๆ ก็วันนี้ฤกษ์ดี อากาศก็ดี ไปเดินเล่นกัน ดีไหมคะคุณ” คุณหญิงชวนสามี
“ก็ดีเหมือนกัน ออกกำลังบ่อยๆ ด้วยการเดินก็น่าจะดี”
“ถ้าอย่างนั้น แม่น้อยพาพี่ไปดูสวนอีกหน่อยสิจ๊ะ พี่ชอบมากเลย” คุณหญิงยิ้มบอกแม่น้อยแล้วหันไปพูดกับน้ำฝน “น้ำฝนพาป้าไปเที่ยวสวนหน่อยนะจ๊ะ”
“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวหนูเป็นไกด์ท้องถิ่นให้เองค่ะ” น้ำฝนยิ้มรับ อย่างน้อยเธอก็ฉลาดพอที่จะเดาได้ว่าคุณหญิงอยากเปิดโอกาสให้ผู้กองและพี่ชายของเธอปรับความเข้าใจกันหรือพิสูจน์อะไรกันก็ว่าไป
“อ้าว..แล้วเรื่องการไปตลาดน้ำล่ะครับ” น้ำถาม เขาจำได้ว่าคุณหญิงบอกให้เขาพาไปเที่ยวในวันนี้
“ไปกับพี่เขานะลูก แม่ร้อนอะ ไม่อยากเดินเบียดเสียดกับคนอื่น” คุณหญิงตอบ
เมื่อสักครู่นี้ คุณหญิงเพิ่งพูดว่าอากาศดี ทำไมกลายเป็นอากาศร้อนไปแล้วล่ะ ไอ้น้ำคิดในใจ
“ขอฉันไปเปลี่ยนชุดสักประเดี๋ยวนะจ๊ะ” แม่น้อยบอกพลางลุกหายเข้าไปในห้อง ทีแรกเธอไม่ได้คิดไปไหน แต่เพราะมีแขกจึงแต่งตัวออกมาต้อนรับ หากเมื่อมีความเปลี่ยนแปลง นางจึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมาะสม ส่วนน้ำฝนแต่งตัวพอที่จะไปสวนได้อยู่แล้ว เธอจึงนั่งรออยู่ที่เดิม
.
.
“ปรานต์ดูแลน้องด้วยล่ะ” คุณหญิงบอกแกมขู่บุตรชายไว้ก่อนจะเดินลงจากบ้านไป
ถอดความนัยออกมาได้ว่าอย่าทำให้แม่เสียหน้าล่ะ เจ้าตัวดี
“เหลือแค่เราสองคนแล้ว อยากจะต่อว่าอะไรพี่ก็พูดมาเลยครับ” ผู้กองพูดขึ้นหลังจากที่ ครอบครัวของเขาและของน้ำพากันเดินลงไปจากบ้านสักพัก
“ต่อว่า?” น้ำยืนมองผู้กองอยู่กลางบ้านหลังจากที่ไปส่งพวกพ่อๆ แม่ๆ ทั้งหลายเมื่อสักครู่นี้
“น้ำมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่แน่ๆ หรือจริงๆ แล้วโกรธที่พี่หายเงียบไป หืม?” ผู้กองใช้นิ้วเกลี่ยแก้มขาวอย่างเบามือแต่ไอ้น้ำก็เลือกเบี่ยงทั้งหน้าและตัวเพื่อหลบเลี่ยง
มันกำลังเล่นตัว ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้น ไอ้น้ำคิดว้าวุ่นในใจ ก็แค่ยังไม่สะดวกใจนิดหน่อย ภาพผู้กองกับวรันต์ยังติดตาอยู่เลย
“คิดว่าผมต้องโกรธหรือเปล่า” มันพูดเสียงนิ่ง พยายามเก็บอาการ ผู้กองไม่ลดละคว้ามือของมันขึ้นมาจับไว้ข้างหนึ่ง
“เรื่องที่พี่หายเงียบไป พี่ก็อธิบายไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วไม่ใช่หรือ เรายังโกรธอะไรพี่อีก ไหนบอกพี่หน่อยสิครับ ไม่บอกพี่ก็ไม่รู้นะ” ผู้กองบอกเสียงนุ่ม มองหน้ามันด้วยดวงตาที่อ่อนโยน มือก็ยังจับมือไอ้น้ำเขี่ยเล่นไปมา
เจอสายตาแบบนั้น น้ำเสียงแบบนั้น โอ๊ย ไอ้น้ำอยากตาย มันอยากจะตะโกนใส่หน้าผู้กองว่า เออ ช่างมัน วรันต์ก็ช่าง ใครก็ช่าง มันจะจับผู้กองทำเมียเวลานี้แหละ
ไม่อยากทนแล้วโว้ย
“ผม..ผม” แต่เอาเข้าจริง มันเป็นแค่คนปากดี ทำได้แค่ตะกุกตะกัก ติดอ่างแม้กระทั่งคำพูดของตัวเอง
“พูดมาสิครับ” ผู้กองได้ใจ อาศัยจังหวะไอ้น้ำสติแตกแหกกระเจิงก้มหน้าลงไปใกล้ พูดเสียงกระซิบติดชิดริมฝีปากของอีกฝ่าย
“เรื่องคุณ..” น้ำรวบรวมสติให้กลับมา ตั้งใจเค้นคำพูดออกไป
“เรื่องอะไรครับ” ผู้กองถามซ้ำ ดวงหน้าเคลื่อนเข้าใกล้มากว่าเดิมอีก ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเลือนแล้ว ไอ้น้ำหลับตาปี๋
“คุณวรั...” มันพยายามพูดชื่อให้จบ
“จูบกันดีกว่า เดี๋ยวค่อยบอกพี่ทีหลังแล้วกันว่าโกรธพี่เรื่องอะไร”
‘อ้าว เฮ้ย’ แบบนี้ก็ได้เหรอ
==============================================
ตอนหน้า พักเนื้อเรื่องหลักสักครู่ เขมจะพาทุกท่านไปพบกับบบบบบบบ
ตอนพิเศษ !!
ใช่แล้วค่ะ ตอนพิเศษ
แต่จะพิเศษยังไง มารอวันอังคารด้วยกันนะคะ
ติด Tag ได้เลยค่ะ #LOTTOสื่อรัก #คนบ้าหวย2018