LOTTO สื่อรัก #คนบ้าหวย2018 *** แจ้งข่าวค่ะ 11/03/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: LOTTO สื่อรัก #คนบ้าหวย2018 *** แจ้งข่าวค่ะ 11/03/2019  (อ่าน 67118 ครั้ง)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เกือบแล้ว เกือบแล้วไอ้น้ำ เกือบจะลุกจากเตียงไม่ได้ 7 วันละ 5555555555   :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ชวนไปสวนน้ำจะแอบเหล่เป้าผู้กองละซิ  :hao7:

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โอ้ยยย คิดภาพตามรันต์ไปแล้วนะเนี่ย อิอิ

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter



งวดสามสิบแปด บอกอะไรไม่เคยฟัง


            “แม่จ๊ะ ฉันขอถามอะไรหน่อย” น้ำฝนเอ่ยถามมารดา หลังอาหารมื้อเย็น สมาชิกของครอบครัวต่างมานั่งพร้อมหน้ากันอยู่บริเวณหน้าโทรทัศน์อันเป็นที่นั่งประจำของแม่น้อย

            “อะไรวะ” แม่น้อยถาม มือก็กดรีโมทหารายการทีวีดูไปเรื่อย

            “เรื่องพี่น้ำกับผู้กองน่ะจ้ะ”

            “ทำไมวะ ข้าก็อนุญาตแล้วไง” แม่น้อยบอก กดจนหมดช่องแต่ไม่มีรายการไหนน่าดู นางจึงกดปิดโทรทัศน์เสียเลยแล้วหันมามองบุตรสาวตรงๆ เสียที

            “ก็ใช่..แต่มันง่ายไปหรือเปล่าแม่”

            “ใช่” น้ำเห็นด้วยกับคำพูดของน้ำฝน

            “ตอนนั้นแม่ดูเดือดร้อนยิ่งใหญ่มาก จะตัดแม่ตัดลูก แล้วพอครอบครัวของพี่ปรานต์มา แม่ก็อนุญาตง่ายๆ นี่เลยเหรอจ๊ะ บอกตรงๆ ฉันทั้งงง ทั้งอึ้งไปหมด”

            “ใช่” น้ำยังพูดคำเดิม

            “งั้นเปลี่ยนใจ ไม่อนุญาตละ” แม่น้อยกลับคำ

            “อ้าว” สองพี่น้องพูดพร้อมกันออกมา

            “ไม่ได้นะแม่ อนุญาตแล้วก็ต้องตามนั้นสิ” น้ำรีบพูดต่อ

            “ใช่จ้ะ เป็นผู้ใหญ่แล้วจะมาพูดกลับไปกลับมาไม่ได้นะแม่” น้ำฝนย้ำ

            “สองพี่น้องนี่ ทำมาเป็นพูดดี ประเดี๋ยวเขกหัวให้ทั้งคู่” แม่น้อยพูดพลางทำท่าจะยกมือมาเขกหัวอย่างที่พูดจริงๆ น้ำฝนกับไอ้น้ำรีบถอยห่างออกมา

            “ฉันถามจริงๆ นะแม่ ทำไมล่ะ” น้ำพูดด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน บอกให้รู้ว่ามันกำลังจริงจัง

            “ข้าอนุญาตแล้ว เอ็งไม่ดีใจหรือ ถึงได้ถามข้าเซ้าซี้อยู่แบบนี้” แม่น้อยถามกลับ

            “ดีใจสิ ฉันดีใจมาก แต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงเปลี่ยนใจ”

            “ข้าไม่ได้คิดจะกีดกันเอ็งกับผู้กองแต่แรกอยู่แล้ว”

            “ห๊ะ!!?” สองพี่น้องประสานเสียงพร้อมกันอีกครั้งด้วยความ งง ไม่คิดกีดกันแต่จะตัดแม่ตัดลูกเนี่ยนะ

            “ตกใจ?”

            “จ้ะ ตกใจมาก ของมาก มากที่สุด” น้ำบอก

            “ฟังให้ดีล่ะ ข้าจะพูดครั้งเดียว” แม่น้อยบอก สองพี่น้องนั่งนิ่งเตรียมฟังหน้าสลอนอย่างตั้งใจ

            “ข้าแกล้งเล่นบทร้ายไปแบบนั้นเองแหละ”

            “แม่!!!!!” น้ำตะโกนเสียงดังลั่นทั่วบ้าน

            “เบาๆ สิวะ มืดค่ำข้างบ้านเขาเข้านอนหมดเร็ว เดี๋ยวได้ลุกมาด่าแม่หรอก”

            “ด่าแม่ก็ด่าไปสิ ไม่ได้ด่าฉันนี่” น้ำบอกด้วยความฉุน

            “เอ้า โกรธข้ารึ”

            “มันน่าโกรธไหมล่ะ แม่เล่นแรงมากเลยนะ” น้ำบอก

            “แม่เล่นเกินไปอะ แม่ก็เห็นพี่น้ำเศร้าเวอร์” น้ำฝนพูดย้ำอีกคน

            “อ้าว ทีนี้ล่ะมาโกรธข้า ไม่คิดว่า แอบรักกัน คบกัน แล้วให้ข้ามารู้มาเห็นทีหลังบ้างล่ะ ข้าไม่ควรโกรธมากกว่าหรือ” ถึงคราวแม่น้อยพูดบ้าง

            “...”

            “ข้าไม่เคยยุ่งชีวิตของเอ็งเลย ใช่ไหมเจ้าน้ำ ไม่ว่าเอ็งจะเลิกกับแฟนอกหักกลับบ้านมา ลาออกจากงาน หรือเลือกเรียนอะไร มีสักครั้งไหมที่ข้าจะด่าหรือห้ามเอ็งว่าอย่าทำอย่างนั้นอย่างนี้”

            “ไม่เคยจ้ะ”

            “ข้ายอมรับว่าการที่เอ็งมารักมาชอบผู้ชายมันทำให้ข้าเครียดและตกใจไม่น้อย ข้าเอาแต่คิดเรื่องของเอ็ง นอนไม่หลับก็หลายคืนเพราะห่วงเอ็ง รอให้เอ็งมาพูดกับข้า แต่เอ็งก็ไม่บอก จนข้าต้องเห็นเอง”

            “ขอโทษจ้ะ ฉันกลัวแม่รับไม่ได้อะ ก็เลยกะว่าหาจังหวะดีๆ แล้วค่อยบอก แต่แม่จับได้เสียก่อน”น้ำยกมือไหว้พลางบอกหน้าสลด

            “ข้าก็เสียใจเหมือนกัน ที่ลูกมีความลับอะไรก็ไม่บอก” แม่น้อยบอกพลางหันหน้าไปอีกทาง น้ำใจเสียเพราะคิดว่าแม่น้อยอาจจะร้องไห้ออกมา ก็เลยรีบโผเข้าไปกอดแม่น้อย

            “ฉันขอโทษ ขอโทษแม่จริงๆ ต่อไปฉันมีอะไรจะบอกแม่ทุกอย่าง” น้ำกอดแม่ ละล่ำละลักพร่ำบอกแม่ไม่ให้เสียใจ

            “กอดข้าทำไมเนี่ย ข้าไม่ได้จะร้องไห้โว้ย” แม่น้อยหัวเราะเสียงดังกับท่าทีบุตรชาย

            “อ้าว”

            “คิดเหรอว่าข้าจะโกรธเอ็งได้ลงคอ ยายฝนก็ด้วย ฮึ ข้าคิดอยู่ค่อนคืนจะเอาคืนเอ็งอย่างไรดี แล้วข้าก็ได้แผนนี้มา ฮ่าๆ”

            “แม่เล่นใหญ่มากอะ” น้ำฝนพูด

            “เออ มันเรียกอะไรนะ รัชดาเตอร์ๆ ไรอะ”

            “รัชดาลัย เธียเตอร์จ้ะ” น้ำบอก

            “นั่นล่ะๆ ข้าเลยต้องให้สมจริง”

            “ตีบทแตกรับตุ๊กตาทองไปเลยจ้ะ” น้ำฝนอดค่อนขอดมารดาไม่ได้ เธอเชื่อเลย

            “ถ้างั้นแม่ตั้งใจจะแกล้งฉันตั้งแต่แรกสินะ”

            “อย่าเพิ่งใส่ร้ายข้า มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด ที่ข้าทำไปส่วนหนึ่งก็หวังดีกับเอ็งด้วย”

            “ยังไงอะ” ไอ้น้ำกำลังจะถามแต่ไม่ทันน้ำฝนที่ชิงถามตัดหน้า

            “เอ็งมั่นใจได้อย่างไรว่าผู้กองเขาจะจริงจังกับเอ็ง ขนาดชายหญิงยังมีปัญหา แล้วความรักแบบของเอ็งน่ะ แน่ใจได้อย่างไรกัน ข้าเลยอยากให้พวกเอ็งได้ห่างกันดูบ้าง ดูสิว่ามันเข้มแข็งพอไหม แล้วผู้กองน่ะ ถ้าเจออุปสรรคแค่นี้แล้วถอดใจก็แสดงว่าเขาไม่ได้คิดจะจริงจังกับเอ็งสักเท่าไหร่”

            “...”

            “แล้วดูไม่ทันไร เอ็งยังไม่มั่นใจในตัวเขาเลย”

            “แม่รู้ได้ไง” น้ำถามเพราะตั้งแต่ที่มีปัญหากัน เขาไม่เคยพูดกับแม่เลย แค่จะพูดกันยังนับคำได้ด้วยซ้ำ

            “นี่ใคร ดูหน่อย นี่แม่เอ็งนะ ไม่รู้ได้ไงวะ” แม่น้อยบอกอย่างภูมิใจ

            “รู้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้” ไอ้น้ำท้า

            “เฮอะ เอ็งไป กรุงเทพฯ หนนั้นเจออะไรล่ะ ถึงได้ทำหน้าเซ็งอย่างกับคนหมดอาลัยตายอยากขนาดนั้น ทำเหมือนผู้กองเขาไปแต่งงาน”

            “...”

            “ข้าพูดถูกล่ะสิ”

            “แม่ใครเนี่ย โคตรเก่งอะ” น้ำฝนสมทบทั้งที่ยังไม่รู้ว่าแม่น้อยเดาถูกไหม

            “เอ็งไปเจอมาอะไรฮึ”

            “ฉันเห็นผู้กองกับแฟนเก่าเขาอะ”

            “แค่นั้นเอ็งก็ทุกข์แล้วเหรอวะ ทำไมไม่เข้มแข็งหน่อย แฟนเก่าจะเจอกันมันก็ไม่แปลกหรอก” แม่น้อยเตือนสติ

            “เขาเหมือนกลับมาคบกัน”

            “คิดเองเป็นตุเป็นตะน่ะสิ เอ็งน่ะ ต้องถามให้มากรู้ไหม ความรักมันตั้งอยู่บนความเชื่อใจ ถ้าระแวงแล้วยังปิดปากเงียบ มันจะสั่นคลอน น้ำฝนเอ็งก็ฟังไว้ด้วย ถึงจะไม่มีแฟนตอนนี้ก็จำที่ข้าสอนไว้”

            “ฉันจะไปถามเขาได้อย่างไรล่ะแม่ ตอนนั้นก็เลิกกันอยู่นี่”

            “ก็ยิ่งเลิกกันเอ็งไม่ควรเก็บมาคิดมาก เพราะถ้าเอ็งไม่ได้อยากเลิกเอ็งต้องพยายามหน่อย ข้ารู้ว่าวันนั้นข้าพูดแรงให้เอ็งเลือกระหว่างข้ากับผู้กอง แต่ถ้าเอ็งอยากรักกับผู้กองจริงๆ เอ็งควรจะลงมือทำอะไรบ้างเหมือนกัน ไม่ใช่รอแต่ฝ่ายนั้นฝ่ายเดียว”

            “ถูกของแม่จ้ะ ฉันเองกลับไม่ได้ทำอะไรเลย” น้ำบอก เขาเอาแต่โทษผู้กองเต็มๆ แต่ลืมนึกไปว่า ตัวเองเลือกที่จะเศร้าแล้วอยู่เฉยโดยไม่ทำอะไรเลย

            “แล้วนี่เคลียร์กันหรือยัง”

            “เรียบร้อยแล้วจ้ะ”

            “ดีแล้ว มีอะไรต้องถามต้องคุยกัน อย่าเก็บไปคิดเอง”

            “จ้ะ แม่”

            “อีกอย่างหนึ่ง จริงๆ ข้าก็ตั้งใจว่าถ้าผู้กองไม่มาหาเอ็ง ข้าก็ตั้งใจจะพูดกับเอ็งว่าข้าอนุญาตแล้วอยู่พอดี”

            “ทำไมล่ะ”

            “ก็ยายฝนน่ะสิ มันชอบเอาเรื่องเอ็งมากรอกหูข้าอยู่เรื่อย คราวนั้นก็บอกเอ็งพูดเบื่อโลก ไม่อยากอยู่ ข้าก็ใจเสียสิ” แม่น้อยสารภาพ

            “อ่อ.. ได้ผลจริงด้วย” น้ำพูดลอยๆ

            “อะไรวะ”

            “ก็ฉันรู้ว่ายายฝนมันต้องเอาเรื่องฉันไปเล่าให้แม่ฟังแน่ๆ ก็เลยพูดไปแบบนั้นล่ะจ้ะ เผื่อว่าแม่จะได้เห็นใจฉันไวๆ”

            “หนอย ไอ้น้ำ เอ็งก็ไม่เบานะนั่น”

            “พอกันจริงๆ แม่ลูกคู่นี้” น้ำฝนหัวเราะ

            “เอ็งก็ด้วย ยายฝน ร้ายนักชอบสรรหาคำมาเป่าหูข้า” แม่น้อยคาดโทษ

            “สรุปว่าเราสามคนควรได้รางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมสินะ” น้ำฝนบอก

            “ไม่ใช่แค่เราสามคนหรอก ยายฝน” แม่น้อยยิ้มอย่างมีเลศนัย

            “ใครอีกล่ะแม่” น้ำฝนถามกลับด้วยความสงสัย ก็มีกันแค่นี้จะมีใครอีกได้

            “ทางบ้านผู้กองไง ก็เล่นใหญ่ไม่แพ้พวกเราหรอก หึหึ”

            “นี่ฉันจะเชื่อใจใครได้บ้าง” น้ำฝนถึงกับตาโตเมื่อรู้ความจริง

            “นี่แม่” น้ำเรียกหลังจากที่เหตุการณ์ผ่านพ้นไปด้วยดี ทุกอย่างถูกเฉลยออกมา

            “อะไรวะ”

            “ฉันรักแม่นะ” น้ำบอก

            “ฉันก็รักแม่นะ” น้ำฝนพูดบ้าง

            “พูดอะไรของพวกเอ็ง ขนลุกไปหมด” แม่น้อยโบกมือปัดไปมา ทำท่าเหมือนรำคาญสองคนนี้เสียเต็มประดา

            “ดีใจล่ะสิ คนสวย แน่ะๆ จะยิ้มก็ยิ้มมาเลย ไม่ต้องเขิน พี่น้ำไม่ว่าอะไรหรอก” น้ำพูดเย้ามารดา

            “เออ..ข้าก็รักพวกเอ็ง”

            “...” สองพี่น้องได้แต่นั่งยิ้มกับคนปากแข็งกว่าจะพูดออกมาได้

            “ง่วงแล้ว ข้าไปนอนล่ะ ปิดประตูดีๆ ล่ะ” แม่น้อยเตรียมเลี่ยงเข้าห้องนอน

            “จ้ะแม่” น้ำฝนรับคำ

            “อ้อ เกือบลืม”

            “อะไรเหรอ” น้ำถามกลับ

            “กลางดึกกลางดื่น ไม่ใช่ว่าแอบเปิดประตูแล้วไปหาลูกเขยข้าล่ะ” แม่น้อยพูดจบก็รีบเข้าห้องนอนไปทันที ได้ยินเสียงน้ำฝนพูดไล่หลัง

            “โอ๊ะ ลูกเขยยย เต็มปากเต็มคำจริง” น้ำฝนแซว

            “แม่..พูดอะไรเนี่ย ฉันต่างหากที่เป็นลูกเขย”

            “พี่น้ำก็..พี่ปรานต์เขาก็เป็นผู้ชาย ก็ต้องเป็นลูกเขยเหมือนพี่นั่นแหละ”

            “เออ..”

            “ตัวเองดูก็รู้ว่าเป็นสะใภ้แท้ๆ ยังอยากจะเป็นลูกเขย” น้ำฝนพูดเบาๆ กับตัวเอง

            “เอ็งว่าอย่างไรนะ ยายฝน”

            “เปล๊า ฉันไปปิดประตูบ้านก่อนนะจ๊ะ” น้ำฝนปฏิเสธแล้วรีบลุกไปทำอย่างที่บอก น้ำจึงลุกขึ้นบ้างแล้วเข้าไปนอนในห้องของตัวเอง

            “นอนหรือยังครับ” น้ำได้ยินเสียงแอพพลิเคชั่นสีเขียวดังเลยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู พอเห็นชื่อคนที่ถามมาก็แอบอมยิ้มโดยไม่รู้ตัว

            “ยังอะ เพิ่งคุยกับแม่เสร็จ แล้วผู้กองล่ะครับ ยังไม่นอนเหรอ”

            “พี่นอนไม่หลับ”

            “หืม?” น้ำมองนาฬิกาในมือถือพบว่าเป็นช่วงสองทุ่มเท่านั้นเอง ยังไม่ดึกมากสำหรับคนกรุง “หาอะไรทำสิครับ”

            “ไม่มีอะไรทำเลย”

            “แล้วคุณพ่อคุณแม่ล่ะครับ”

            “แยกกับพี่แล้วล่ะ ส่งพวกท่านกลับโรงแรมแล้ว”

            “ผู้กองอยู่ไหนครับ” น้ำอ่านข้อความในแชทแล้ว สัมผัสได้ว่า คนในนั้นน่าจะอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่โรงแรม

            “ข้างนอก”

            “ข้างนอกน่ะที่ไหนครับ”

            “แถวๆ โรงแรม” น้ำสังหรณ์ใจ เขาค่อยๆ แง้มหน้าต่างห้องนอนของตัวเองออกไป ก็เจอแสงไฟเล็กๆ วาบอยู่ข้างล่าง เกือบจะคิดว่าเป็นผีแล้วเชียว ดีนะที่ตั้งสติได้ทันก่อน

            “ข้างนอกที่ผู้กองอยู่ คงมีหมาสองตัวมานั่งเฝ้าด้วย” น้ำพิมพ์กลับไป

            “ฮ่าๆ ถูกจับได้เสียแล้ว”

            “เดินอ้อมมาหน้าบ้านหน่อยครับ”

            “ครับ” ผู้กองไม่ถามอะไร ทำตามคำบอกของน้ำแต่โดยดี


            น้ำกดปิดหน้าจอแล้วออกจากห้องไป เจอน้ำฝนกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่


            “ฝน เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอกหน่อย” น้ำบอกอีกฝ่ายด้วยเสียงไม่ดังนัก โชคดีที่มีเสียงโทรทัศน์ช่วยกลบเสียงของตนเอง

            “ลูกคนนี้ แม่เพิ่งบอกอยู่หยกๆ ว่าดึกดื่นอย่าเปิดประตูลงไปหาผู้ชาย” น้ำฝนทวนคำพูดพร้อมกับใช้น้ำเสียงของมารดา

            “เออ แป๊ปเดียวเองน่า ไปนะ” น้ำบอกถึงจะเขินนิดหน่อยที่น้องสาวรู้ทัน แต่มันก็ต้องหน้าด้านเดินต่อไป

            “เดี๋ยวก่อนพี่น้ำ” ขาที่กำลังจะเดินหยุดชะงักลง

            “อะไร”

            “คืนนี้กลับบ้านหรือเปล่า”

            “ถามอะไรแปลกๆ  ก็ต้องกลับสิวะ” น้ำพูดแต่ก็รู้สึกเหมือนตัวเองหน้าร้อนเห่ออย่างไรก็ไม่รู้

            “แน่ใจ?” น้ำฝนถามย้ำ

            “แน่สิ”

            “ฉันล็อคบ้านดีกว่า แล้วถ้ากลับมาจริงก็โทรมาบอกฉันดีกว่า”

            “ไม่เอาๆ เดี๋ยวเอ็งก็ต้องตื่นมาอีก”

            “ไม่ต้องห่วงฉันหรอกน่า แต่ฉันน่ะห่วงบ้าน เผื่อพี่ไม่กลับ บ้านก็เปิดทิ้งไว้น่ะสิ” น้ำฝนเงียบกลืนน้ำลายไปอึกหนึ่งก่อนจะพูดต่อด้วยสายตาเป็นประกาย “แม่ตื่นเช้ามากนะ ถ้าตื่นมาเห็นประตูบ้านไม่ล็อคล่ะก็ แม่จับได้แน่”

            “....” น้ำเงียบเพราะถูกต้องอย่างที่น้ำฝนบอก

            “เอาไงๆ” น้ำฝนเร่ง

            “อย่าลืมล็อคบ้านด้วยล่ะ” น้ำบอกแล้วรีบเดินไปที่ประตู

            “ก็แค่นั้นเอง ทำท่าเยอะ” น้ำฝนยิ้มก่อนจะเร่งเสียงโทรทัศน์ให้ดังขึ้นอีก รอจนพี่ชายออกจากบ้านไปแล้ว จึงลุกขึ้นไปล็อคประตูลงดังเดิมพร้อมลดเสียงโทรทัศน์ลงให้ดังเท่าเก่า

            “ทำไมไม่อยู่ที่โรงแรมล่ะครับ” น้ำลงจากบันไดบ้านมาก็ถามผู้กองเป็นคำแรก

            “อยากเจอ คิดถึง” ผู้กองบอกพลางจับมือของไอ้น้ำ

            “คิดถึงอะไรเนี่ยเพิ่งแยกกันตอนเย็นเอง”

            “แค่นั้นก็นานพอที่จะคิดถึงแล้ว” น้ำยิ้ม จะบอกว่ามันเขินก็คงใช่ ใครจะรู้ว่าผู้กองก็ช่างหยอด ช่างพูดกับเขาเป็นเหมือนกัน

            “เวอร์จริง” น้ำว่าอีกฝ่ายเพื่อปิดความรู้สึกของตัวเอง

            “ไม่คิดถึงพี่เหรอไง”

            “ถามอะไรเนี่ย...ว่าแต่ผู้กองมายังไง ผมไม่เห็นได้ยินเสียงรถ”

            “พี่จอดรถไว้ไกลเลยล่ะ กลัวแม่น้อยจะว่า เกรงใจแม่น้อย”

            “แล้วเดินมามืดๆ เนี่ยเหรอ งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อันตรายนะครับ วันหลังมาจอดหน้าบ้านนะ อย่าไปจอดไกลๆ อีก” น้ำบอกด้วยความเป็นห่วง


            “ตกลงครับ แม่น้อยล่ะ” ผู้กองไม่ปฏิเสธเพราะรู้เจตนาของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

            “เข้านอนแล้วครับ”

            “อ่อ..เข้านอนเร็วจัง” ผู้กองพูดจบก็เหมือนนึกขึ้นได้ “ลืมไป แม่น้อยคงไปเข้าสวนแต่เช้าสินะ”

            “ไปครับ ผมเดินไปส่งที่รถ”

            “พี่ยังไม่อยากกลับ แล้วไม่ต้องไปส่งพี่หรอก ถ้าน้ำไปส่ง พี่ก็จะห่วงน้ำจนวนรถกลับมาส่งแล้วแม่น้อยตื่นเพราะเสียงรถอีก” ผู้กองบอก

            “แล้วใครบอกพี่ปรานต์ว่าผมไปส่งแล้วจะกลับบ้านล่ะ” น้ำพูดเสร็จก็เดินนำออกไปทันที

            “น้ำ..” ผู้กองอยากเรียกอีกฝ่ายเสียงดังแต่ก็กลัวแม่น้อยจะตื่นขึ้นมา

            “รถอยู่ไหน เร็วสิครับ”

            “ทางนี้ ตามพี่มา” ผู้กองยิ้มก่อนจะคว้ามือของไอ้น้ำอย่างรวดเร็ว


ตอนนี้คนเดินนำกลายเป็นคนตามอีกฝ่ายไปเสียแล้ว




==============================================


เด็กไม่รักดี!!! จับตีเสียให้เข็ด


ปล เรื่องนี้จบอยู่ที่ 40 ตอน อย่างนั้น อีกสองตอนก็จบแล้วน้า

ติด Tag ได้เลยค่ะ #LOTTOสื่อรัก #คนบ้าหวย2018

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
แอบหนีไปกับผู้ชายเสียแล้วน้องน้ำ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ไอ้น้ำใจแตกกกกกกก

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โอ้โหน้ำ ตามผู้กองไปอย่างไวเลยน้าาา รีบกลับมาให้ทันก่อนแม่น้อยตื่นล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
น้ำๆๆๆจะหนีตามเขาหนอออ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
นี่น้ำมันอ้อยผู้กองนิหว่า 5555

ตีๆๆๆๆๆ :z13: :z13: :z13:

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่ไหวแล้วพ่ะะ NCต้องมาละโว้ยยยยยย เยสสส ดีจายย

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แม่ก็รู้ทันพูดดักไว้แล้ว แต่น้ำก็หนีไปหาผู้กองจนได้ มีน้องสาวเป็นใจอีกต่างหาก ชอบครอบครัวนี้จริงๆ

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter


งวดสามสิบเก้า ในที่สุด...


สิ้นเสียงประตูห้องพักในโรงแรมปิด ร่างของไอ้น้ำถูกดันให้แนบชิดกับประตูบานนั้น


‘สี่สองเก้า’ อืม มันเหลือบมองและจำไว้อยู่ในใจ


“พะ..พี่...เดี๋ยวนะ..ใจเย็นก่อน” มันพูดกระท่อนกระแท่น อาศัยจังหวะที่ริมฝีปากเป็นอิสระจึงพอจะพูดออกมาแต่ละคำได้

“ครับ?” คนตรงหน้าทำท่าเหมือนจะรับฟัง แต่มันกลับไม่สอดคล้องกับการกระทำเอาเสียเลย

“เฮ้ย” ร่างของไอ้น้ำ ถูกพาดขึ้นบ่าโดยไม่รู้ตัว อารามตกใจมันร้องเสียงหลงเพราะกลัวตกลงมา ดวงตาของมันเห็นเพียงพื้นพรมของโรงแรมเท่านั้น


ก็พอรู้ล่ะนะ ว่าผู้กองคงจะแข็งแรงกว่าเขา ช่วงที่มาประจำการอยู่ที่นี่ เขามักจะได้เห็นตำรวจพากันวิ่งไปรอบๆ หมู่บ้านเพื่อออกกำลังกายหรือเตรียมความพร้อมให้กับร่างกาย และการผ่อนคลายในการวิ่งที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นเสียงเพลงที่พร้อมเพรียงกันทั้งหมู่คณะ มันเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างตื่นตาตื่นใจให้กับคนพบเห็นไม่น้อย


ถึงแม้ว่าจ่าสมคิดและจ่าสมหมายจะทำหน้าเหยเกทุกครั้งที่จะต้องพาร่างสมบูรณ์พุงพลุ้ยออกวิ่ง


ทั้งหมดที่กล่าวมา ก็ไม่คิดว่าอีกคนจะยกร่างของไอ้น้ำได้สบายๆ แบบนี้ต่างหาก


ใจลอยคิดไปไกล รู้สึกตัวอีกที แผ่นหลังของมันก็สัมผัสเข้ากับเตียงนุ่มของห้องเข้าเสียแล้ว คนที่อุ้มมันมาวางร่างของไอ้น้ำลงบนเตียงไม่เบานักเพราะพื้นที่วางก็ไม่ใช่ของแข็งจนกลัวว่ามันจะเจ็บปวด


ผู้กองปรานต์ทิ้งร่างทับลงมาบนตัวไอ้น้ำ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้เทน้ำหนักลงที่คนข้างใต้เสียงหมด แขนข้างถนัดของ  ผู้กองนั้นค้ำยันอยู่บนเตียงนุ่มนั้นเอาไว้ ส่วนมือข้างที่ไม่ถนัดก็จัดการเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าของไอ้น้ำให้มันออกไปพ้นทาง อวดใบหน้าขาวๆ อย่างเต็มที่


ใบหน้าคมก้มลงเข้ามาใกล้ ไอ้น้ำทำอย่างที่เคยทำ เป็นอย่างที่เคยเป็น มันหลับตารอรับรสสัมผัสของอีกฝ่าย แต่รอจนแล้วจนรอดความรู้สึกดังกล่าวนั้นก็ไม่มาเยือนเสียที จนมันต้องลืมตาขึ้นมามองว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไอ้น้ำเห็นสีหน้าของผู้กองดูแปลกๆ


ทว่าในจังหวะที่มันจะเปิดปากถาม ปรานต์ก็พูดขึ้นมาเสียก่อน


“ปกติพี่ไม่เคยต้องขอ แต่พี่ไม่รู้ว่ากับน้ำต้องยังไง” ปรานต์กำลังพูดอะไรบางอย่างที่ไอ้น้ำไม่เข้าใจ


“ครับ?”

“ถ้าพี่จะขอจากน้ำ...” ผู้กองเว้นจังหวะนิดหนึ่งก่อนจะพูดต่อด้วยสีหน้าลำบากใจ “ได้ใช่ไหม หรือต้องรอแม่น้อยอนุญาตก่อน”


‘ขออะไร’ ไอ้น้ำจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ทิ้งเวลาสักครู่ หน้าของมันก็ร้อนเห่อขึ้นมาอย่างปกปิดไม่มิด เมื่อมันเข้าใจในความหมายนั้น

‘จะมาขออะไรตอนนี้เนี่ย’


“โตขนาดนี้แล้ว ไม่ต้องรอแม่อนุญาตแล้วมั้ง” มันตอบ

“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า?”

“คิดเอาเองบ้างไม่ได้หรือไง” มันเขินปากเกินกว่าจะบอกว่ามันตกลงเลยแสร้งพูดเฉไฉไปเรื่อย

“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็จะคิดอย่างที่อยากคิด” ผู้กองบอกพร้อมกับก้มหน้าเข้ามาใกล้มันอีกครั้ง

“เดี๋ยว!” มันเอ่ยห้ามเสียงดัง

“อะไรครับ”

“ผมมีเงื่อนไขข้อเดียว”

“เอาสิ ต่อให้น้ำมีกี่ข้อพี่ก็จะไม่ปฏิเสธ” ไอ้น้ำยกยิ้มมุมปากก่อนจะบอกอีกฝ่ายไป

“ผมไม่ขออะไรมาก ขอแค่ผู้กองต้องยอมเป็นของไอ้น้ำคนนี้นะ ให้ผมจัดการเอง” นายนทีมันไม่กล้าบอกว่าจะให้ผู้กองเป็นเมียมัน ถึงแม้คำนี้จะไม่ใช้กับผู้ชายก็จริง แต่ก็นั่นแหละ ถ้าตามปกติ ถ้ามันคบกับผู้หญิงคนอื่น ท้ายที่สุด คนนั้นก็ต้องเป็นเมียของมันไม่ใช่หรือไง


ผู้กองหยุดคิดไปสักเล็กน้อยก่อนจะยิ้มตอบมันและพูดว่า “ได้สิครับ” ไอ้น้ำยิ้มร่าด้วยความปลื้มปริ่ม แม่น้อยจะต้องดีใจที่สุดท้ายมันก็พาลูกสะใภ้เข้าบ้านได้สำเร็จ เดี๋ยวกลับไปพรุ่งนี้มันค่อยไปทาบทามเรื่องสินสอดกับอีกฝ่ายทีหลังก็แล้วกัน


พี่น้ำสัญญา พี่น้ำจะรับผิดชอบทุกการกระทำครับ!!


“คราวนี้ผู้กองก็ลงไปนอนดีๆ ได้แล้ว เดี๋ยวผมจัดการเอง” ไอ้น้ำพูด ด้วยความตื่นเต้นมันจึงไม่เห็นอากัปกิริยาของผู้กองที่เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ


ชายหนุ่มยิ้มให้ไอ้น้ำเต็มที่ “ก่อนจะเป็นของพี่น้ำคนดี ให้พี่ได้ปรนนิบัติพี่น้ำก่อนดีไหม”


“หืม ยังไง”

“ก็ให้พี่เริ่มก่อนแล้วน้ำค่อยสานต่อในตอนท้ายไงครับ ไม่ดีเหรอ” ผู้กองยื่นข้อเสนอ

“อ่อ..” มันคิดครู่เดียวก็บอก “ก็ได้ ถ้าหากผู้กองอยากดูแลพี่น้ำก่อน” มันคิดก็ดีเหมือนกัน
เก็บแรงไว้จัดการอีกฝ่ายในตอนจบ จะได้โชว์ฝีมือ



ผู้กองยิ้มอีกแล้ว ไอ้น้ำคิด คนตรงหน้าเขามันยิ้มบ่อยไปไหม หรือว่าดีใจที่จะตกเป็นของไอ้น้ำคนนี้ เอาเถอะ ยิ้มก็ดีแล้ว ผู้กองยิ้มแล้วน่ามองจะตาย ดูดีไปหมด


มันเอื้อมมือไปแตะแก้มของผู้กอง ก็ไม่เคยคาดคิดว่าสุดท้าย มันจะได้คนคนนี้มาครอง จากครั้งแรกที่เจอกันเกือบถูกอีกฝ่ายค้นตัว เกือบจะติดคุก ความรู้สึกที่ไม่ค่อยถูกชะตาสักเท่าไหร่เพราะอีกฝ่ายมาทำให้เส้นทางการเดินหวยของมันต้องสั่นคลอน ติดขัดไปหมด


แต่เพราะเหตุการณ์จากหวยไม่ใช่หรือ ที่มันได้รับการดูแล การเห็นใจและการปลอบโยนจากผู้กอง


ดีใจ ที่เป็นคนนี้


ดีใจ ที่มันได้รักคนนี้ และเขาก็รักมัน


ผู้กองเห็นท่าทางของน้ำนิ่งไป เขาไม่รู้ว่าตอนนี้น้ำกำลังคิดอะไรอยู่ นอกจากมือที่แนบอยู่ทางแก้มด้านขวาของเขา ปรานต์จับมือข้างนั้นออกมาแล้วจูบลงที่กลางฝ่ามือ


ถึงจะดูเป็นคนช่างโวยวาย เหมือนไม่สนใจอะไร แต่จริงๆ แล้ว เด็กชายนทีของเขาใจดี เห็นใจและอ่อนโยนต่อผู้อื่นมากทีเดียว ภายนอกดูเป็นคนเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว แต่ในใจลึกๆ กลับคิดมาก หวาดกลัวอยู่ไม่น้อย


ขอบคุณคำสั่งจากเบื้องบนที่ทำให้เขาได้ย้ายมาที่นี่ ได้มาเจอคนที่นี่


และเจอคนคนนี้


ปรานต์ก้มหน้าลงไปจูบหน้าผากคนข้างใต้ กว่าจะได้กลับมาเจออีกครั้งก็ยากเหลือเกิน ส่วนหนึ่งก็เพราะเกิดจากเขาที่ไม่สามารถเลือกความรักโดยละทิ้งหน้าที่ได้ทันที ต้องรอเวลาทุกอย่าง ร้อนใจแค่ไหนก็ทำตามใจไม่ได้


อย่างน้อยโชคดีก็ยังอยู่ข้างเขาที่น้ำไม่ใช่คนเหลาะแหละ และเลิกรักเขาไปในทันที พูดตามตรงก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวรอเขาหรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ตัดใจจากเขา และโชคของเขายังดีมากกว่าเดิมที่น้ำเป็นคนที่ค่อนข้างจะปากตรงกับใจในความรู้สึกเลยทำให้ทุกอย่างนั้นง่ายขึ้น


ถึงจะมีอายบ้างตามประสา แต่มันก็น่ารักดีนะ


ผู้กองจูบไล่ละลงจากหน้าผากมาที่จมูกโด่งที่ได้รูปพอดีรับกับใบหน้า จนมาบรรจบกับริมฝีปากที่บวมเจ่อเล็กน้อยจากแรงบดจูบจากเขาก่อนหน้านี้ เขาเดินหน้าไปเรื่อยไม่เร่งรัด ไม่ยัดเยียดเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายตกใจ ทุกอย่างมันควรจะสวยงามและอิ่มเอมไปพร้อมกัน


มือข้างที่ยังว่างอยู่ ค่อยๆ ดึงเสื้อออกไปให้พ้นตัวของไอ้น้ำ และดูเหมือนว่าเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ร่างกายที่ไม่ผอมไม่อ้วนจนเกินไปนัก อาจจะมีเนื้อหนังบ้างนิดหน่อย ตามวิถีคนขี้เกียจออกกำลังกาย จดจ้องอยู่แต่หน้าคอมพิวเตอร์มากกว่าออกไปนอกบ้าน คนนี้กำลังนอนมองหน้าเขา


ปรานต์หยัดตัวขึ้นมามองน้ำให้เต็มตา รูปร่างแบบนี้ เขาชอบ แต่ต่อให้น้ำจะรูปร่างแบบไหน เขาก็คงชอบอยู่ดี เมื่อมีความรักแล้วเวลามองทุกอย่างก็จะดูลำเอียงไปหมด ถึงจะเคยเห็นร่างกายของอีกฝ่ายตั้งแต่ตอนที่เขาเคยไปอาศัยนอนที่ห้องของเจ้าตัวบ้าง ได้เพียงแค่เคยเห็น และแม้จะเคยสัมผัสก็ยังสัมผัสผ่านเสื้อผ้าอยู่ดี แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสผิวของอีกฝ่ายใต้ร่มผ้าตรงๆ


หลังจากมองร่างกายของอีกฝ่ายจนพอ เขาโน้มตัวลงเข้าไปหาอีกฝ่ายอีกครั้ง ใจ กดจูบลงไปที่สันกรามของเจ้าตัว น้ำหดคอเล็กน้อย คงจะจักจี้หรือไม่อีกฝ่ายคงไม่คุ้นกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น เรื่อยไล่ลงมาถึงไหปลาร้าคู่สวย น้ำของเขากลับเงยหน้าราวกับหายใจติดขัด ผู้กองยกยิ้ม นั่นล่ะคือสิ่งที่เขาพอใจ


และไอ้น้ำคนอยากเป็นสามีนั้นมันก็ไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เข็มขัดและกระดุมกางเกงของมันได้ถูกปลดออกไปแล้วเพราะมันมัวแต่หลงเพลิดเพลินในรสสัมผัสจากอีกฝ่าย


สัมผัสจากด้านล่างแทบจะทำให้ไอ้น้ำเกือบลืมตัว มันเหมือนได้ยินเสียงแก้วในหูลั่นเปรี๊ยะ ขาของมันขยับไปมาเหมือนถูกไฟร้อนเผา ความรู้สึกจากจุดนั้น มันรู้จักว่าคืออะไร มันก็เหมือนเวลาที่มันอยู่คนเดียวและดูแลน้องชายไปพร้อมกัน แต่เมื่อมันผ่านจากมือผู้กองแล้วมันรู้สึกดีกว่ามาก


ให้ตายสิ ความรู้สึกแบบนี้ ช่างดีเหลือเกิน


ดวงตาของมันพร่าเบลอ ราวกับล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ มันไม่เคยขึ้นไปบนนั้นหรอก แต่ก็อนุมานเอา เห็นภาพมัวๆ ของคนตรงหน้า เดี๋ยวสิ ในขณะที่มันไม่เหลือผ้าผ่อนติดตัวแล้ว แต่ผู้กองยังอยู่ในชุดหล่อเต็มยศแบบนี้ ไม่ได้ เอาเปรียบกันชัดๆ นี่นา มันสะกดกลั้นอารมณ์จากด้านล่าง พยายามยืดตัวขึ้นไปจับชายเสื้อผู้กอง หวังจะดึงเสื้อออกไปให้พ้นตัวอีกฝ่ายเหมือนกับตัวเอง       ผู้กองก็เหมือนจะเข้าใจ ถอดเสื้อนั้นเองกับมือ น้ำยิ้มอย่างพอใจเพราะมันไม่ต้องพูดอะไรมากมาย


ปราการถัดไป นายนทีหรี่ตาลงเล็กน้อย พร้อมกับเลื่อนมือลงบริเวณกางเกงของผู้กอง มือมันสั่นเล็กน้อยตอนที่ปลดหัวเข็มขัดของอีกฝ่าย มันทำอยู่พักใหญ่ก็ไม่สำเร็จเสียที เข็มขัดแบบไหนกันเนี่ย ปลดยากชะมัด มันคิดอย่างเซ็งๆ แต่ก็เหมือนผู้กองจะรู้ใจมันอีกแล้ว อีกฝ่ายเป็นคนจัดการเข็มขัดให้
 

สบายจัง ไม่ต้องทำไรเลย น้ำคิดในใจ


น้ำได้ใจ มันพร้อมแล้วที่จะดึงกางเกงอีกฝ่ายลงมาเฉกเช่นเดียวกับมัน หวังว่าจะได้โยนกางเกงของผู้กองลงไปกองที่ปลายเตียงเหมือนกับของมันบ้าง แต่ในเมื่อตัวของผู้กองกึ่งเอนตัวเข้าหา กึ่งคุกเข่าอยู่แบบนี้ ดูจะยากแฮะ ทำไงดี มันครุ่นคิด แต่คิดไปก็คิดไม่ออกเพราะความรู้สึกด้านล่างก็ยังท่วมท้น อีกทั้งริมฝีปากของมันก็ถูกสำรวจจนไม่เหลือช่องว่างอะไรแล้ว


จะไม่ให้มันไม่เตลิดได้อย่างไรกัน


“ถอดสิครับ” จังหวะที่มันเบือนหน้าหนีมาจากผู้กองได้ มันก็รีบพูด

“ได้สิ” น้ำได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาจากผู้กองก่อนจะตามมาด้วยดวงไฟที่ถูกปิด เหลือเพลงแสงสว่างจากห้องน้ำที่ทะลุผ่านจากกระจกฝ้ามาลางเลือนเหลือเกิน แสงจากตรงนั้นมันแค่ช่วยพอให้มองเห็นว่าห้องน้ำอยู่ไหน แต่ไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดอื่นๆ ให้ชัดได้เลย


ขัดใจ


“ปิด..ไฟ..ทำไม” เสียงมันกระท่อนกระแท่น ขาดๆ เกินๆ น้ำได้แต่แปลกใจมันก็คิดว่าพูดเป็นปกตินะแต่ทำไมเสียงถึงขาดห้วงแบบนั้น ไม่เข้าใจ

“ปิดดีกว่า”

“มองไม่เห็นอะไรเลย”

“พี่กลัวน้ำอาย” ผู้กองบอก แต่ตอนนี้สมองของนทีมันประมวลผลไม่ทันหรอก มันลืมไปว่า เขาเห็นของมันจนหมดแล้ว มันอายไม่ทันแล้วล่ะ

“เหรอ”

“อีกอย่าง พี่เองก็อายเหมือนกัน” น้ำแทบจะขาดใจ ว่าที่ภรรยาของเขาเขินอายเพราะกลัวเขาเห็นร่างกาย ไม่เป็นไรนะคนดี ครั้งหน้าพี่น้ำจะทำให้พี่ปรานต์ลืมตัวลืมอายไปเอง

“ก็ได้ครับ”


เมื่อมองไม่เห็นอะไร ก็รู้สึกราวกับถูกปิดตา ไม่ว่าจะถูกผู้กองจับตรงไหน มันก็ตื่นเต้นไปกับร่องรอยนั้นอยู่ตลอดเวลา อารมณ์ของมันกำลังจะพุ่งสูงจนแทบจะทนไม่ไหว แต่แล้วผู้กองก็หยุดมือลง มันแทบอยากจะจัดการต่อด้วยตัวเองแต่ก็ถูกผู้กองดึงมือไว้เสียก่อน น้ำฮึดฮัดที่ถูกขัดใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้กองถึงชอบหัวเราะนัก


“เด็กดี รอพี่แป๊ปหนึ่งนะ” ผู้กองเรียกน้ำไว้ก่อนจะผละตัวออกมา น้ำนอนนิ่งตามคำขอ มันได้ยินเสียงกุกกักเหมือนเสียงรูดซิบของกระเป๋า ได้ยินเสียงสวบสาบเหมือนกระดาษห่ออะไรบางอย่าง มันมองไม่เห็น มันไม่รู้ว่าผู้กองกำลังทำอะไร และมันก็ได้ยินเสียงเปิดฝาขวดอะไรสักอย่างอีกเช่นเดียวกัน ก่อนจะได้ยินเสียงฝานั้นปิดลง

“อย่าเกร็งนะรู้ไหม” ผู้กองบอก เดี๋ยวๆ เกร็งทำไม


ความเย็นวาบกระทบเข้ากับด้านหลังของไอ้น้ำ มันขยับหนีตามสัญชาตญาณ ไม่บอกก็รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง


คนโกหก ไหนว่าจะยอมเป็นของพี่น้ำไง


“อย่าหนีพี่สิครับ อย่ากลัวพี่”

“ผู้กองหลอกผมทำไม” น้ำพูดด้วยความไม่พอใจ

“พี่หลอกอะไรครับ”

“ก็ไหนบอกว่ายอมเป็นของผมไง แล้วนี่อะไรอะ ถึงผมจะไม่เคยแต่ผมก็รู้นะว่าพี่กำลังทำอะไร”

“พี่หวังดีกับน้ำ”

“หวังดีอะไร” ถ้ามันลุกขึ้นไปตอนนี้ผู้กองจะโกรธไหม

“ก็เพราะว่าน้ำไม่เคย พี่จะสอนน้ำให้ดูเป็นตัวอย่างไงครับ” ไอ้น้ำได้ยินก็คิดอีกครั้ง

“...”

“และพี่สัญญา พี่จะไม่บอกใคร”

“จริงนะ”

“พี่จะเป็นของพี่น้ำครับ”

“ครั้งเดียวนะ” น้ำบอกอีกฝ่าย

“ครับ” ผู้กองรับปาก

“งั้นก็ได้” น้ำยอมตกลงเพราะมันก็ไม่อยากให้จบแบบนี้เหมือนกัน อุตส่าห์ไม่กลับบ้านคืนนี้ ถ้ายังคว้าน้ำเหลวกลับไป ขายหน้าแย่



และการปลอมประโลมขวัญที่กระเจิงไปของไอ้น้ำก็ถูกปลุกปั่นขึ้นมาอีกครั้ง ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกอีกฝ่ายล่อลวงให้ติดกับจนดิ้นไม่หลุด จนเมื่อความเจ็บเข้ามาในตัวของมัน ไอ้น้ำคิดว่ามันน่ารอดแน่ๆ มันได้ยินเสียงทุ้มพูดปลอบให้มันหายใจเข้าลึกๆ ให้มันอย่ากลัว แต่คำพูดพวกนั้นไม่เข้าหูเลย


นอกจากคำพูดของวรันต์ที่เคยบอกมันไว้ผ่านทางโทรศัพท์



“ที่สำคัญ เขาน่ะอึดมาก คืนหนึ่งสี่ห้ารอบก็ไม่พอ กลางคืนถึงเช้า เช้าถึงเย็น จนนายอาจจะตายคาเตียงเลยก็ได้ เตือนแค่นี้แหละ ขอให้โชคดี”



ไอ้น้ำหน้าซีดในความมืด


ทำอย่างไรดี


มันยังไม่อยากตายคาเตียงโว้ย!!






.
.
แสงในยามเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านสีขาวเข้ามากระทบกับดวงตาที่ยังหลับอยู่บนเตียง น้ำนอนหันหน้าไปทางแสงสว่างบวกกับความคุ้นเคยที่ตื่นเช้าเป็นปกติตามแม่น้อยนั้นจึงรู้สึกตัวก่อน มันผงกหัวขึ้นมาจากหน้าอกที่มันหนอนหนุนอยู่ทั้งคืน คิ้วเข้มเรียงสวยขมวดปมทันทีที่สติกลับคืนมา


นอนท่านี้ไปได้ไงวะ


จำได้ว่าหลังจากที่ผู้กองยังเมตาตาเขาบ้างเมื่อจบรอบสอง ก็พากันเข้าห้องน้ำไปและเมื่ออาบน้ำเรียบร้อยผู้กองก็นอนกอดเขาจากทางด้านหลังไม่ใช่หรือไง เพราะเมื่อคืนปิดไฟมืดทำให้มันไม่เห็นอะไรเลย เช้าวันนี้จึงเห็นอะไรชัดเจน จริงแล้วตัวผู้กองก็ขาวเหมือนกันนะเนี่ย ขาวพอกันๆ กับเขาเลย เอ หรือผู้กองจะขาวกว่านะ ปกติเห็นแต่ผิวสีจากแขนที่พ้นขอบเสื้อมามีสีคล้ำแดดนิดๆ คงเพราะตากแดดล่ะมั้ง จริงด้วย สีผิวสองสีตัดกันเลย


“มาเตือนด้วยความหวังดี ตามประสาคนรักเก่าเพราะว่าตรงนั้นของผู้กองน่ะใหญ่มาก”


จู่ๆ ในหัวก็แล่นคิดย้อนไปถึงคำพูดของวรันต์อีกครั้ง น้ำกลอกตาไปมา บ้าชะมัด นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่


ไอ้น้ำขยับตัวอย่างลำบาก แต่ความอยากรู้ของมันไม่สามารถยับยั้งความลำบากเหล่านั้นได้ ขอดูนิดเดียวน่า เมื่อวานไม่เห็นอะไรเลย ผู้กองคงไม่ว่าอะไรหรอก มือไวเท่าความคิดมันค่อยๆ เปิดผ้าห่มออกดูแล้วรีบปิดมันลงอย่างรวดเร็ว


ฉิบหาย ยัดเข้าไปได้อย่างไรวะ


ถึงว่าเมื่อคืนต้องปิดไฟ ไอ้น้ำขอสาบานเลยว่าถ้ามันเห็นสภาพโตเต็มวัยของผู้กองในยามสว่างล่ะก็ ให้ตายอย่างไร มันก็ไม่มีวันยอม

“แอบดู เดี๋ยวคิดค่าปรับเลย” คนที่คิดว่ากำลังหลับกลับพูดขึ้นมา น้ำสะดุ้งโหยงแต่ต้องเก็บอาการให้นิ่งไว้ให้มากที่สุด

“หวงเหรอครับ” แกล้งพูดกลบเกลื่อน

“ไม่หรอก ถ้าน้ำอยากดู มากแค่ไหนพี่ก็ไม่ว่า” ผู้กองบอกอย่างใจป้ำ

“อาบน้ำเถอะครับ เดี๋ยวไปส่งผมที่บ้านที”

“ได้ครับ กินข้าวเช้ากับพี่ก่อนไหม”

“แล้วคุณพ่อคุณแม่?” น้ำถาม

“อืม ท่านก็ต้องมากินพร้อมกับเราด้วยสิ”

“งั้น ไม่เอาอะ”

“ทำไมล่ะ เป็นอะไร”

“จะให้ผมบอกแม่พี่ว่าไงอะ จู่ๆ อยากมากินข้าวเช้ากับพี่งี้เหรอ ไม่เอาอะ”

“อาย?”

“แหงสิ”

“ท่านไม่แซวหรอกน่า คนรักกันมาหากัน ไม่เห็นแปลก”


และท้ายที่สุดไม่ว่าผู้กองจะหว่านล้อมอย่างไร ไอ้น้ำก็ยืนกรานจะกลับท่าเดียว จนเมื่อรถยนต์แล่นมาจอด มันก็รีบลาผู้กองแล้วรีบเดินขึ้นบ้านไปอย่างรวดเร็ว ผู้กองพอเห็นว่าน้ำขึ้นบ้านปลอดภัยแล้ว จึงออกรถไปอย่างเงียบๆ เช่นกัน เพราะถ้าเขาขึ้นไปทักแม่น้อยตอนนี้ เด็กชายนทีของเขาต้องโกรธเขาแน่นอน

“ไปไหนมาแต่เช้า” ไอ้น้ำชะงัก ขาที่กำลังจะก้าวข้ามประตู้ห้องไปแล้ว ต้องถอยกลับออกมา


จะรอดพ้นอยู่แล้ว มันขัดใจที่ผิดแผน


“เอ่อ...ไปข้างนอกมาอะแม่”

“งั้นเหรอ”

“จ้ะ แล้วแม่กำลังจะไปสวนเหรอ”

“เออ กับข้าวกับปลาอยู่ในตู้ หิวก็ไปอุ่นมากินล่ะ”

“จ้ะ แม่”

“ข้าไปล่ะ”



น้ำโล่งใจที่แม่ไม่พูดทักอะไรมาก มันเข้าไปในห้องนอนสำเร็จแล้ว แต่แล้วในจังหวะที่มันกำลังจะปิดประตู หูมันก็ผึ่งได้ยินเสียงมารดาดังขึ้นมาอีกระลอก

“พูดจนปากถึงหู ว่าอย่าแอบไปหาลูกเขยข้า ที่ไหนได้ คล้อยหลังข้าไปนิดเดียว กลับมาอีกทีตอนเช้า”


“งามหน้าไหมล่ะ” น้ำได้ยินเสียงมารดาก็หน้าซีด เพราะกลัวอีกฝ่ายจะโกรธ


แต่ประโยคต่อมามันก็ยิ้มกว้างที่ไม่ได้ถูกแม่น้อยโกรธจริงๆ “ไอ้ลูกไม่รักดี เห็นผู้ชายดีกว่าคำพูดแม่” แม่น้อยพูดพลางทำเสียงร้องไห้เล็กน้อยเป็นพิธีก่อนจะเดินลงจากไป

แม่น้อยน่ารักสำหรับเขาเสมอ


แต่กระนั้นเมื่อมันปิดประตูห้องนอน พร้อมกับค่อยๆ ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล มันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก


มันไม่กล้านั่ง


ฝืนนั่งลงบนรถยนต์ผู้กองมาตั้งนาน จะแสดงท่าทางให้ผู้กองเห็นก็จะหาว่าไอ้น้ำอ่อนแอ ไม่มีวันเสียหรอก


ทำไมไม่มีใครบอกเลย ว่าครั้งแรกมันจะเจ็บแบบนี้!!




==============================================


เจ้าน้ำ ไม่เคยทันผู้กองเล้ยยยยย

ปล ตอนหน้าจบแล้วค่าาา


ติด Tag ได้เลยค่ะ #LOTTOสื่อรัก #คนบ้าหวย2018


ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

 :hao7:ไอ้น้ำเอ๊ยย

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โถๆๆ พี่น้ำจ๊ะไหนว่าจะพาสะใภ้มาฝากแม่น้อยไง ทำไมถึงได้ลูกเขยมาแทนล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ว่าไงน้ำ กลายเป็นสะใภัเสียเองนะ แหม..เชื่อผู้กองว่าจะสอนให้ว่าทำอย่างไร เป็นไงละ อิอิอิ
 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :mc4: จะสงสารดีไหมน๊าา เคยทันอะไรพี่เขาบ้าง น้องน้ำค่ะแนะนำให้ทำใจเลยจ้า  :m20:
 :L2:  :pig4:  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
 :m20: จะหาลูกสะใภ้ให้แม่น้อยหรือน้องน้ำ :jul3:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
55555 น่ารักไปหมดเลนยยยยตลกตรง
แอบดูของผู้กองเนี่ยล่ะน้ำเอ้ยย

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เพราะน้ำไม่เคย พี่จะสอนให้ดูเป็นตัวอย่าง... :hao6: 55555555555 สงสาร

ไอ่น้ำ เอ็งเป็นเมียผู้กองโดยสมบูรณ์แล้วล่ะ !!!
แล้วอย่าริคิดจะไปเป็นหลัวเค้าอีกนะ  :impress2:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ชะโดใหญ่ หัวแตก แหวกว่ายน้ำ
พุ่งทะยาน ตระหง่านง้ำ ย้ำที่หัว
มโหฬาร บานสะพรั่ง ทั่วทั้งตัว
ใครมาเห็น ต้องร้องกลัว ยั้งยั่วพลัน

เจ้างามสรรพ แต่ดับไฟ ไยจะเห็น
มือสัมผัส ฟัดกระเด็น เป็นหุนหัน
รู้ชำแรก แทรกแก่นกาย ย้ายไม่ทัน
ขึ้นสวรรค์ ฝันลอยล่อง มุดคล่องจริง

#เจ้าแม่ตะเคียนทอง
อิอิ

+1 ให้พี่ปรานต์#ของผู้กองเค้าดีจริงๆ

#น้องน้ำได้ปั๋วแล้ว
ถูกใจคนอ่าน ฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
อ่านยังไงก็อดสมน้ำหน้าไม่ได้
กลัวผีไม่พอ ยังซื่อจนเซ่ออีก น้ำเอ้ยยยยยย
เอาเหอะ … ยอม ๆ พี่ผู้กองไปซะเหอะ

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter


งวดสุดท้าย


หลังอาการฟื้นตัวของไอ้น้ำ สุดสัปดาห์ก็วนมาอีกครั้ง น้ำมีนัดกับผู้กองจะนำชุดไทยสวยๆ ไปถวายเจ้าแม่ตะเคียน ผัดผ่อนก็หลายครั้งแล้ว กลัวแม่ตะเคียนจะเสียใจ ครั้งนี้มันเลยมายืนเลือกชุดอยู่ในร้านค่อนข้างนานทีเดียว

“ซื้อไปถวายเจ้าแม่เหมือนเดิมเรอะ” คนขายเอ่ยทัก

“จ้ะ เลื่อนมาหลายทีแล้ว เดี๋ยวเจ้าแม่จะโกรธ” น้ำอธิบาย มือก็ยังเลือกสีชุดไปเรื่อย

“สนใจชุดไหนล่ะ ไอ้น้ำ”

“ยังไม่รู้เลยจ้ะ ฉันไม่ค่อยถนัดเลย หลายชุดเหลือเกิน ตาลาย” น้ำสารภาพ มันแยกสี แยกแบบไม่ได้หรอก ชุดไหนๆ ก็เหมือนกันหมด

“ให้เจ๊ช่วยเลือกไหมล่ะ”

“เอาสิจ้ะ แนะนำฉันมาเลย” น้ำยิ้มรับความหวังดี

“เดี๋ยวเจ๊หยิบแบบใหม่มาให้ดู เพิ่งมาเมื่อวาน ยังไม่ได้แขวนเลย” นางหายเข้าไปหลังร้านอยู่ครู่หนึ่งก็เดินออกมาพร้อมกับชุดไทย สไบเฉียงสีต่างๆ สองสามสี


น้ำรับมาแล้วมองสลับกับชุดไทยที่แขวนอยู่บนราวไปมาอย่างใช้ความคิด


“แยกออกไหมล่ะ”

น้ำยิ้มแหย พลางบอกว่า “ไม่ออกเลยจ้ะ”

“นี่ เอ็งดูตรงนี้ สไบตรงนี้จะมีลายด้วย เหมือนชุดเวลาใส่ออกงาน ส่วนชุดไทย จะเรียบๆ เหมือนชุดอยู่บ้าน” เจ๊เจ้าของร้านพยายามอธิบายอย่างง่ายๆ ให้ไอ้น้ำฟัง

“อืม เห็นเจ้าแม่กี่ที กี่ทีก็มีแต่สไบธรรมดาแบบอยู่บ้าน” น้ำคิดพลางพูดกับตัวเอง

“เอ็งว่าไงนะ”

“เปล่าจ้ะ งั้นเอาชุดออกงานอย่างเจ๊ว่า สักสองชุด เอาสีอะไรก็ได้ที่ผู้หญิงเขาชอบเลย ส่วนชุดอยู่บ้าน เอามาสามชุดจ้ะ เจ๊เลือกสีเลยเหมือนเดิม” มันสั่งเสร็จเตรียมจะควักเงินแล้วนึกขึ้นได้อีก

“อ้อ..เจ้ ไม่เอาสีชมพู” น้ำพยายามระลึก สีที่มันเคยเห็นอยู่สองสามครั้ง สีชมพูน่ะ มันแน่ใจ แต่มันออกเข้มหน่อยๆ คงใช่ล่ะมั้ง “สีชมพูบานเย็นจ้ะ แม่ตะเคียนเขาใส่บ่อยแล้ว ฉันกลัวจะเบื่อเอา” เจ๊เจ้าของมองหน้าไอ้น้ำ คันปากอยากถามเหลือเกินว่ามันรู้ได้อย่างไรว่าแม่ตะเคียนใส่จนบ่อย


แต่อนิจจาบางอย่างไม่รู้จะดีกว่ารู้


“นี่จ้ะ แล้วเอ็งจะถือไปอย่างไร ตั้งหลายชุด” เจ๊ถามหลังจากจ่ายเงินเสร็จสรรพเตรียมจะแยกย้าย

“นั่นสิ ฉันก็ลืมไป”

“เดี๋ยวพี่ช่วยถือไปไว้ในรถ” เหมือนได้ยินเสียงเจ้าชายขี่ม้าขาว ถึงจะเป็นแค่การแก้ปัญหาชุดไทย แต่ไอ้น้ำในช่วงที่กำลังหลงนั้น ไม่ว่าผู้กองจะทำอะไรมันก็เห็นดีเห็นงามไปหมด


ผู้กองเดินเข้าไปในร้านแล้วช่วยไอ้น้ำถือชุดสไบออกมา เพราะครั้งนี้ซื้อมากกว่าปกติ ไอ้น้ำเลยขอแบ่งมาถือเองสักสองชุด พร้อมกับใช้มืออีกข้างรองชุดเอาไว้ไม่ให้ชายผ้าถุงละพื้นดินจนเลอะ

“มาถึงนานยังครับ” น้ำเริ่มถามเมื่อรถออกตัวมาได้ครู่หนึ่ง

“สักพัก พี่แวะเข้าไปบ้านเราก่อน เจอน้ำฝนกำลังเล่นกับด่างกับปุยอยู่หน้าบ้าน”

“อ่อ” น้ำครางรับในลำคอ คาดว่าคงเป็นน้ำฝนเองล่ะที่บอกว่าเขาอยู่ไหน


“ไปหาเจ้าแม่ตะเคียนเลยไหม” ผู้กองถามขึ้นบ้าง

“ไม่อยากไปเลย” ผู้กองหันมามองน้ำเล็กน้อยเพราะเข้าใจความรู้สึกของคนหวาดกลัวได้ดี

“พี่ไปด้วย ไม่มีอะไรต้องกลัว”

“ขอแค่พี่ปรานต์ไม่ทิ้งผมไว้คนเดียวก็พอ”

“พี่เคยทำด้วยเหรอ” ผู้กองย้อนถาม

“ไม่รู้ครับ บอกเผื่อไว้ก่อน”

“พี่ไม่มีทางทิ้งน้ำหรอกน่า อย่าห่วงไปเลย”


นั่งมาในรถเงียบๆ กันอีกสักพักก็ถึงจุดหมายที่ทั้งคู่ต้องมา ผู้กองดังเครื่องก่อนจะลงจากรถเพื่อมาเตรียมชุดไทยให้อีกฝ่ายก่อนระหว่างที่รอคนดีของเขาตั้งสติเตรียมใจ เตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ข้างหน้านี้

“มาเถอะ พี่ถือเอาชุดมาให้หมดแล้ว”

“คะ..ครับ” น้ำรับคำเสียงเบา เหงื่อเริ่มผุดพรายหน้าผากบ้างเล็กน้อย พลางก้าวลจากรถ มือก็เกาะแขนผู้กองไว้แน่น ราวกับว่าชั่วชีวิตนี้มันจะไม่ยอมให้มือของมันหลุดออกจากแขนของผู้กองได้เป็นอันขาด

“ไม่เป็นไร” ผู้กองคอยปลอบอีกฝ่าย


น้ำไม่ได้เกลียดแม่ตะเคียน ข้อนี้เขารู้ดี แต่ความกลัวของคนเรา มันก็เป็นอีกเรื่อง ห้ามกันไม่ได้


“แม่..แม่ตะเคียนจ้ะ..ฉันเอาชุดไทยมาถวาย รอบนี้ฉันเอามาถวายให้หลายชุดเลย” น้ำพูดขึ้นเมื่อหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเรือไม้เก่า ส่วนผู้กองที่ไอ้น้ำยอมปล่อยให้แขนให้เป็นอิสระนั้นก็นำชุดไทยไปแขวนแทนคนขี้กลัว

“คนขายบอกว่ามีทั้งชุดใส่ไปงาน แล้วก็ชุดอยู่บ้านด้วย หวังว่าแม่ตะเคียนคงจะชอบนะจ๊ะ” น้ำอธิบายเพิ่มเติม


‘อุ๊ย เกือบมาไม่ทัน ขอโทษทีจ้ะ ฉันเผลอหลับไปหน่อย’เสียงเย็นดังขึ้นอีกแล้ว ไอ้น้ำผวา โผเข้าเกาะแขนผู้กองทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ เด็กชายนทีของผู้กองคงกำลังเผชิญหน้ากับเสียงของแม่ตะเคียนเป็นแน่


‘ไหนดูหน่อยซี สวยๆ ทั้งนั้นเลย แบบนี้ก็ชอบ ชุดนี้ก็ชอบ ชอบทุกชุดเลย’น้ำเสียงของแม่ตะเคียนเต็มไปด้วยความดีใจที่มีชุดใหม่ๆ

“ชอบใช่ไหมจ๊ะ” น้ำกลั้นใจถามออกไป

‘ชอบจ้ะ ชอบมาก พ่อน้ำของฉันรู้ใจฉันที่สุด’

“เจ๊เจ้าของร้านเขาเลือกให้” น้ำรีบปฏิเสธเพราะกลัวแม่ตะเคียนจะเข้าใจผิด

‘ไม่เป็นไรจ้ะ ถึงพ่อน้ำไม่ได้เลือกเองแต่ก็ไปนำมันมาให้ฉันเอง’แม่ตะเคียนยังพูดอย่างอารมณ์ดีเช่นเดิม

“ฉันกลับก่อนนะ”

‘เดี๋ยวสิพ่อ อะไรกันเพิ่งมาครู่เดียว จะกลับแล้วเหรอ’

“หมดธุระฉันแล้วนี่นา”

‘อยู่คุยกับฉันก่อนสิจ๊ะ’นางเอ่ยชวน

“ไม่เอาอะ”

‘เถิดหนาพ่อ ครู่เดียวก็ยังดี ฉันเหงา ไม่มีคนคุยด้วยเลย’แม่ตะเคียนขอร้องคนหนุ่มตรงหน้า

“ก็คุยกับผู้กองสิ” ผู้กองได้ยินชื่อตัวเองก็หันมามองน้ำอย่างไม่ไว้ใจ

‘โธ่ พ่อน้ำก็รู้ดีว่าฉันคุยกับพ่อรูปหล่อสูงใหญ่ได้ซะทีไหนกันเล่า’

“ทำไมกันล่ะ ทำไมต้องคุยกับฉันได้คนเดียวด้วย” น้ำครวญ

‘สมัยนี้เขาเรียกอะไร อ่อ..ใจของเราไม่คลิ๊กกันไงจ๊ะ’

“รู้คำสมัยนี้กับเขาด้วย”


‘ก็ต้องมีเรียนรู้ไว้บ้าง เวลามีคนมาขออะไรจะได้เข้าใจไม่ผิด’แม่ตะเคียนบอก

“หลวงพ่อจะพาแม่ตะเคียนไปที่ไหนเหรอ”

‘พ่อน้ำรู้มาจากไหนจ๊ะ’

“หลวงพ่อบอกมาน่ะ วันก่อนตอนตักบาตร”

‘ฉันยังไม่รู้เรื่องเลยจ้ะ’

“มีเรื่องที่แม่ตะเคียนไม่รู้ด้วยเหรอ”

‘แน่นอนสิจ๊ะ ฉันคาดเดาชะตาตัวเองไม่ได้หรอกจ้ะ’แม่ตะเคียนบอกเสียงเศร้า

“ไม่เสียใจนะ ฉันจะหาโอกาสทำบุญให้แม่ตะเคียนบ่อยๆ แล้วกัน” น้ำพยายามหาทางออกให้ตัวเองและดีกับแม่ตะเคียนมากที่สุด

‘ขอบใจนะจ้ะ พ่อน้ำคนดีของฉัน’

“เอ่อ..” น้ำชะงักจะรับคำก็กลัวจะเป็นคนของแม่ตะเคียนไปจริงๆ

‘เอาล่ะๆ ฉันไม่กวนคู่รักข้าวใหม่ปลามันแล้ว’

“พูดอะไรเล่า ไม่ใช่สักหน่อย”

‘หึหึ ฉันแค่ไม่รู้เรื่องตัวเอง แต่ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อน้ำหรอกนะจ๊ะ’

“ไม่มีอะไรทั้งนั้นล่ะ ฉันกลับล่ะ แล้วจะทำบุญไปให้”

‘ขอบใจจ้ะ อย่าลืมว่ามีปัญหาอะไร มาบอกให้ฉันช่วยได้ทุกเมื่อเลยนะจ๊ะ เรื่องของพ่อน้ำ สำหรับฉันแล้ว ฉันยินดีช่วยทุกเรื่อง’แม่ตะเคียนบอกอย่างคนใจกว้าง

‘ขอบใจแม่ตะเคียนเหมือนกัน เรื่องที่ช่วยฉันกับผู้กองด้วยนะ’น้ำบอกแม่ตะเคียนในใจเสร็จแล้วจึงกระตุกแขนคนข้างๆ “กลับกันเถอะครับ”

“อืม”




.
.
“อะไรกันลูกคนนี้ ทำไมไม่ให้ผู้กองเขาพักอยู่ที่นี่ล่ะ คนเขาอุตส่าห์มาหายังให้เขาไปนอนโรงแรมในเมืองอีก”      แม่น้อยบ่นไอ้น้ำเสียยกใหญ่ที่มารู้หลังทานอาหารเสร็จว่าผู้กองได้จองที่พักเป็นโรงแรมในเมืองสำหรับค้างคืนไว้เรียบร้อยแล้ว

“นั่นสิ คนเป็นแฟนกันแท้ๆ ยังให้ไปนอนที่อื่น” น้ำฝนเข้าผสมโรง

“ไม่เป็นไรหรอกน่าแม่ ให้เขามาพักบ่อยๆ มันจะดูไม่ดี เดี๋ยวคนแถวนี้จะมาว่าแม่ได้” น้ำบอกพยายามพูดเสียงเรียบให้ทุกอย่างดูเย็นเข้าไว้

“วัวหายล้อมคอกหรือไง” น้ำฝนประชดใส่พี่ชาย

“ใคร๊ ใคร มันกล้าพูด ลองไอ้ อีที่ไหนปากมากสิ ข้าจะตามไปด่าให้ถึงหน้าบ้าน กล้าดีอย่างมาว่าลูกเขยข้า” แม่น้อยถามอย่างหาเรื่อง

“แม่..ไม่ใช่ลูกเขยสิ เขาจะว่าฉันกับแม่ ไม่ใช่ผู้กองหรอก” น้ำส่ายหน้าเล็กน้อย ตกลงใจคอจะไม่ห่วงลูกชายคนนี้ใช่ไหม

“ถ้าคนนอกมันจะมาว่าเอ็งหรือข้า ก็ช่างหัวมันเถิด ข้าไม่เห็นจะสนใจ แต่ถ้ามาด่าผู้กองล่ะก็ ข้าไม่ยอมแน่”


น้ำเหลือบตามองเพดานเล็กน้อย สรุปแม่รักผู้กองมากกว่าลูกชายที่แม่เบ่งออกมาอย่างเขาใช่ไหมเนี่ย


“คราวหน้าคราวหลังก็ให้ผู้กองเขาพักที่นี่” แม่น้อยสั่ง

“แม่...”

“เอ็งกลัวอะไร กลัวคนจะมานินทาพวกเราหรือไอ้น้ำ ไม่ทันแล้วล่ะ เขารู้กันหมดตั้งแต่ที่เอ็งตามผู้กองไปนอนที่โรงแรมแล้ว ข้าไม่จับเอ็งมัดแล้วตีก็ดีเท่าไหร่แล้ว” ไอ้น้ำกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

“ยุคสมัยไหนแล้ว แม่ก็พูดเหมือนจะเฆี่ยนตีฉันอย่างนั้นแหละ”

“เออ ข้าเพิ่งดูละครมา ก็ว่าจะทำตาม” แม่น้อยว่าติดตลก

“แม่..” น้ำเรียกก่อนจะถามออกไปกล้าๆ กลัวๆ “จริงเหรอที่แม่บอกว่าคนเขารู้กันหมดแล้ว”

“พี่น้ำก็เชื่อแม่ไปได้ จะมีใครรู้ถ้าไม่ป่าวประกาศน่ะ แม่พูดไปอย่างนั้นเองแหละ” น้ำฝนเฉลย ทำให้ไอ้น้ำค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย

“ทำตามที่ข้าสั่ง ให้ผู้กองมาพักที่นี่ เพราะสิ่งที่ข้าต้องกลัวหรือกังวลมันหมดไปตั้งแต่คืนที่เอ็งไปกับเขาแล้วโว้ย” แม่น้อยประชดเสียงดัง

“แม่ก็..” น้ำขยับเข้าไปบีบนวดแขนขาเอาใจแม่น้อย

“อะไรเล่า” นางแสร้งหดขาหนีไม่ให้ลูกชายมาถูกเนื้อตัว

“แม่อย่าโกรธฉันสิ”


“โกรธอะไร เปล๊า ไม่โกรธเลย เอ็งโตแล้ว” แม่น้อยพูด

“ก็แม่พูดเหมือนโกรธ”

“พี่น้ำนี่วัวสันหลังหวะจริงๆ ดูไม่ออกหรือไงว่าแม่แกล้งเล่น ฉันก็พอเข้าใจว่าความรักมันทำให้คนตาบอด แต่ไม่คิดว่าจะตาบอดถาวรดูอะไรไม่ออกเอาเสียเลย” น้ำฝนได้ทีรีบถล่มทับพี่ชาย แต่ไอ้น้ำรอบนี้ไม่พลาดมันรีบเขกหัวของน้ำฝนจนเกิดเสียงดัง

“โอ๊ยย เจ็บนะพี่น้ำ”

“ดี เจ็บจะได้จำ พี่เอ็งนะไอ้ฝน เดี๋ยวเถอะ” เป็นแม่น้อยที่คราวนี้เข้าข้างลูกชาย

“เรื่องเรียนยายฝนที่กรุงเทพฯ จะพักที่ไหนยังไง” แม่น้อยถามเรื่องใหม่

“ฉันยังคิดอยู่เลยจ้ะ ใจหนึ่งก็อยากให้พักที่เดิมที่ฉันอยู่ แต่อีกใจคุณแม่ผู้กองเขาก็อยากให้น้ำฝนไปอยู่ที่นั่น”

“เขาก็คงเอ็นดูทั้งเอ็งและยายฝนนั่นแหละ” แม่น้อยบอก

“แล้วแม่ว่าไง ฉันควรจะไปดีไหม น้ำฝนล่ะ” น้ำถามความเห็น

“ฉันยังไงก็ได้” น้ำฝนบอกเพราะกรณีนี้จริงๆ แล้วเธอไม่มีสิทธิ์เสียงเลยด้วยซ้ำ แค่พี่ชายของเธอต้องกลับไปกรุงเทพฯ เพื่อดูแลเธอ ก็ต้องขอบคุณอีกฝ่ายมากแล้ว

“จากที่เดิมที่พักมันค่อนข้างไกลจากมหา’ลัย ยายฝนอยู่ไม่น้อย ปีหนึ่งเรียนก็เยอะ รับน้อง กิจกรรมต่างๆ ก็เยอะ น้ำฝนไม่ได้อยู่หอ ไปกลับจะดึกและอันตราย แต่ถ้าไปพักกับที่บ้านผู้กอง ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง น้ำฝนก็ถึงบ้านอย่างปลอดภัย” น้ำลำดับความคิดออกมา

“ข้าก็เกรงใจบ้านนั้นเขาเหมือนกัน เอ็งลองเลียบๆ เคียงๆ ถามเขาดูอีกทีก็แล้วกัน ดูปฏิกิริยาเขาด้วยล่ะ ว่าเขาชวนตามมารยาทหรือตั้งใจจริงๆ จะพักที่ไหนข้าก็ไม่ว่าหรอก ขอแค่เป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับพวกเอ็งทั้งคู่ก็พอ” แม่น้อยพูดด้วยความเป็นห่วง กรุงเทพพฯ อันตรายน้อยเสียเมื่อไหร่กันล่ะ

“จ้ะแม่” น้ำรับคำ

“แล้วพรุ่งนี้จะพาผู้กองเขาไปไหนหรือเปล่าล่ะ” แม่น้อยชวนคุยไม่ได้คาดหวังคำตอบอะไรในคำถามนั้นอยู่แล้ว

“ไม่ล่ะจ้ะ”

“อืม พาเขาไปเที่ยวบ้างก็ดี เมื่อก่อนมาประจำอยู่ที่นี่ก็ไม่ค่อยได้ไปไหนไม่ใช่หรือ”

“จ้ะ ไว้คราวหน้านะ”

“คราวหน้าให้เขานอนที่นี่” แม่น้อยสำทับอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้น บอกเป็นนัยว่าเตรียมจะไปเข้านอน “พวกเอ็งก็รีบเข้านอน โดยเฉพาะไอ้น้ำ เพราะพรุ่งนี้ข้าว่า ลูกเขยข้าคงมาแต่เช้านั่นล่ะ”


เช้าวันต่อมา ปรานต์มาหาน้ำแต่เช้าอย่างที่แม่น้อยคาดการณ์เอาไว้จริงๆ ชายหนุ่มพยายามไม่ให้เช้าเกินไปนักเพราะเกรงใจ แต่ที่ผิดคาดคือเมื่อมาถึงเขาก็ไม่เจอน้ำอีกแล้วกลับเจอน้ำฝนเช่นเคยและได้รับคำตอบว่าวันนี้เป็นวันหวยออก และน้ำคงไปแถวตลาด เขาตัดสินใจจอดรถยนต์ไว้ที่บ้านของน้ำก่อนจะเดินเท้าไปยังจุดหมายที่ได้รับมา


ผู้กองเดินมาเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน หวนนึกถึงครั้งแรกที่มาที่นี่ มีแต่ความไม่เข้าใจว่าการที่เขาไม่ร่วมมือทำความผิด นี่คือสิ่งที่เขาได้รับตอบแทนมาหรือ ได้รับความเจ็บปวดในใจที่ต้องเลิกรากับคนรักเก่า ถึงจะไม่ได้รักอีกฝ่ายเท่าเดิม แต่ความรักมันก็ยังมีหลงเหลืออยู่ มีแต่ความเป็นห่วงที่ต้องจากที่บ้าน พ่อกับแม่ที่ห่วงเขา พอๆ กับที่เขาเป็นห่วงพวกท่าน


ลึกๆ แล้ว เขาอยากบอกกับทุกคนว่าเขาไม่ได้อยากจะย้ายมาเลย แต่เขาก็หลีกเลี่ยงหน้าที่ของตนเองไม่ได้ แต่ในความโชคร้าย ก็มีความโชคดีเสมอ ที่นี่ทำให้เขาได้เจอคนคนหนึ่ง ที่สะพานข้ามไปตลาดตรงนี้ ครั้งแรกที่เราเจอกัน


ผู้กองอดยิ้มไม่ได้ กับเหตุการณ์ที่เจอน้ำครั้งแรก เจ้าตัวมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด แววตาหลุกหลิก ไม่ต้องเป็นตำรวจหรือผู้เชี่ยวชาญใดๆ ก็คงประเมินได้อย่างแน่นอนว่ามันมีอะไรผิดปกติ

“เดี๋ยว ไอ้หนู” คำพูดที่เคยพูดเมื่อครั้งหนึ่งกลับมาอีกครั้ง เมื่อผู้กองมาถึงสะพานแล้วเห็นคนคุ้นตากำลังจะเดินผ่านเขาไป

“หือ? เรียกฉันเหรอ....ลุง” คำตอบกวนๆ ที่เคยถามก็ถามอีกฝ่ายไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ปรานต์ไม่ได้รู้สึกฉุนอะไรแล้ว เขากำลังขำกับบทละครที่เด็กชายนทีชวนเขาเล่น

“ใช่..จะไปไหน” ปรานต์ถามอีกฝ่าย

“จะไปไหนแล้วทำไมต้องตอบลุงด้วยล่ะ ประชาชนที่หมู่บ้านนี้ก็มีสิทธิ์เสรีภาพไปไหนมาไหนได้ทั้งนั้น”

“ตอบเฉไฉ ไม่ตรงประเด็น มีอะไรปิดบังเจ้าหน้าที่ตำรวจใช่หรือเปล่า” ปรานต์สาวเท้าเข้าไปใกล้

“ไม่มี” รอบนี้ไม่มีความขลาดกลัวใดๆ มีแต่ความกล้าหาญพร้อมจะท้าทาย

“ค้นตัวหน่อยก็แล้วกัน” ปรานต์ตัดบทคว้าร่างของไอ้น้ำเข้ามาใกล้ แล้วเริ่มทำการตรวจค้นทันที ส่วนน้ำของเขาก็ยืนนิ่งให้เขาค้นตัวเช่นกัน


เจ้าตัวคงมีแผนอะไรแน่นอน ปรานต์คิดในใจแต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา


เขาค่อยๆ ค้นตัวอีกฝ่ายตามตัวแต่ก็ไม่พบอะไร แต่คนถูกค้นตัวที่ไหนถึงยืนล้วงกระเป๋าแบบนี้กันล่ะ ปรานต์ดึงมือของอีกฝ่ายออกจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ แล้วแทนที่ด้วยมือของเขาเอง

“นี่อะไร โพยหวยงั้นเหรอ” เขาคีบกระดาษใบจิ๋วนั้นออกมาพร้อมกับชูให้คนตรงหน้าเห็น ไอ้น้ำไม่ได้มีทีท่ากังวลแล้วยังยิ้มกว้างอีก


มันน่านัก เขาบอกให้เลิกเดินโพยหวยแล้วไม่ใช่หรือไง


“จับไปนอนในคุกสักทีดีไหม” ปรานต์ขู่

“เอาสิ ถ้าเป็นโพยหวยจริงล่ะก็ จะจับผมไปนอนในคุกหลายๆ คืนก็ได้นะ” นอกจากไม่กลัวคำขู่แล้วยังท้าเขากลับอีกด้วย


ปรานต์คลี่กระดาษแผ่นนั้นออก ใบหน้ายากเกินกว่าที่น้ำจะคาดเดาได้ว่า อีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรที่ได้เห็นมัน เจ้าตัวยืนนิ่งอ่านกระดาษแผ่นนั้นอยู่พักใหญ่ก็พับกระดาษลงดังเดิม พลางเก็บลงกระเป๋ากางเกงของตัวเองแทนเสียเอง

“จะยังจับอยู่ไหม”

“จับสิ..”


น้ำเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย เงยหน้ายิ้มกว้างให้ผู้กองพลางพูดคำที่ขัดกับรอยยิ้มเหลือเกิน “ใจร้าย”

“ยังไงก็คงต้องจับน้ำไว้ ปล่อยให้ไปยิ้มกับคนอื่นแบบนี้เห็นทีจะไม่ไหวแล้ว” ผู้กองบอกเสียงพร่า

“เลยจะจับเข้าคุกสินะ”

“ใช่ คุกของพี่คนนี้แหละ เข้ามาแล้ว ออกไม่ได้ รู้ไหม”

“ต่อให้มีคนมาประกันตัว ผมก็จะไม่ยอมออกจากคุกของพี่หรอก”

“แน่นอน เพราะพี่ก็จะไม่ให้ใครเข้ามาประกันตัวน้ำเช่นกัน”


 
จบ


==============================================

จบแล้วค่ะ
อยู่ด้วยกันมาหลายเดือนเลย

จุดเริ่มต้นจากหวย จบลงที่แม่ตะเคียน แฟนคลับเจ้าแม่เยอะมากเลยค่ะ
ครั้งแรกไม่มั่นใจเลยว่าจะแต่งแนวนี้ได้ไหม เพราะพื้นฐานของเขม
ไม่ได้เป็นคนตลกและกวนอย่างไอ้น้ำหรือแม่น้อยเลย
ก็พยายามอย่างเต็มที่ให้ทุกคนได้หัวเราะ ได้เฮฮา ได้ผ่อนคลายจากการเรื่องนี้

ไม่แน่ใจว่าจะกลับมาแต่งแบบนี้ได้อีกไหม เพราะดูเหมือนจะง่าย
แต่สำหรับเขม การเขียนคอเมดี้ ไม่ง่ายเลย
และถ้าไม่คอเมดี้ ก็ขอให้เป็นฟีลกู๊ดเนาะ (แถไปเรื่อย)
><

ดีใจที่ทุกคนชอบ ดีใจที่ทุกคนได้อ่านเรื่องนี้นะคะ
ดีใจมากๆ เลย มีแต่คำว่าดีใจเต็มไปหมด

เวลาที่เห็นคอมเมนท์หรือแทกในทวิตดีใจมากๆ เช่นกันค่ะ

สุดท้ายขอบคุณทุกคนเลยนะคะ ไม่ว่าจะคนที่แวะผ่านมาเฉยๆ
หรือจะแวะแล้วพูดคุย
ก็ยินดีและขอบคุณทั้งหมดเลยค่ะ

จริงๆ มีเรื่องที่อยากบอกอีกมากมาย แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน

ติชมได้เสมอนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ปล เจอกันเรื่องหน้านะคะ อาจจะฉีกแนวไปบ้าง
แต่ก็อยากให้ลองได้อ่านค่ะ

ปล สอง เขมแต่งตอนพิเศษ สำหรับเรื่องนี้ไว้ ห้าตอน
รวมแม่ตะเคียนที่ลงในเวบไปแล้วด้วยค่ะ
หาก สุดท้ายไม่ได้รวมเล่ม เขมจะเอามาลงให้อ่านกันนะคะ

บุญรักษาและรักเสมอค่ะ


ติด Tag ได้เลยค่ะ #LOTTOสื่อรัก #คนบ้าหวย2018



ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เราก็เป็นแฟนคลับเจ้าแม่เหมือนกัน 555
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆ อ่านแล้วยิ้มตามตลอดเลยรอเรื่องต่อๆไปจ้า

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
น้ำ คนหลงแฟน

 :L2: :L1: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด