LOTTO สื่อรัก #คนบ้าหวย2018 *** แจ้งข่าวค่ะ 11/03/2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: LOTTO สื่อรัก #คนบ้าหวย2018 *** แจ้งข่าวค่ะ 11/03/2019  (อ่าน 71102 ครั้ง)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ถึงไม่เลิก ไม่ตั้งใจ ก็เหมือนเลิก
เห็นบานเบิก ลููบหัว กลัวใครเห็น
เจอรักเก่า ไม่เน่าแล้ว มันจำเป็น
รีบจอดรถ กอดแน่นเน้น ไม่เว้นวาย

แสนอ่อนโยน นุ่มละมุน กระตุ้นรัก
ยังน่ารัก ทักทายอยู่ ไม่รู้หาย
ยังจำจด กำหนดไว้ จนวันตาย
ความกระหาย รายล้อมอยู่ คู่กับตัว

คนหนึ่งเศร้า เคล้าน้ำตา อยากจากโลก
แต่อีกคน กลับโบยโบก โยกยิ้มหัว
กลัวอะไร ก็ไม่เท่า ใจเมามัว
ต่อหน้าดี ลับหลังชั่ว มั่วหลายใจ

#ทีมน้องน้ำ#บอกไว้เลย#หล่อรวยแล้วไง#รักแต่ไม่คิดจะทำอะไรให้มันดีขึ้นเลย
#จ๊าดดดดดง่าวผู้กองหัวฟวย
 :z6:

+1 ฮับคนแต่ง เราแวะเข้ามาเยี่ยมเรื่องนี้ทุกวันเลย ฮิฮิ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
สงสารน้องน้ำ แต่ว่าผู้กองไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือ
แต่ก็นะ ผู้กองก็ไม่อยากให้แม่น้อยเสียใจ
แต่อีกคนก็ โอ้ยยยย บรรยายไม่ถูก
ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อให้นะ
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เรามารอเธอที่หน้าเล้าทุกวันเลย
ซิก..ซิก

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter

งวดสามสิบสาม งวดนี้เจ๊จัดให้


            กลับมาจากกรุงเทพฯ ได้เป็นสัปดาห์แล้ว แต่ไอ้น้ำก็ยังมีท่าทีซึมเศร้าเหมือนเดิม ไม่ร่าเริง เอาแต่เก็บตัวอยู่ในบ้าน แต่วันนี้ไม่รู้อะไรดลใจมัน ไอ้น้ำถึงเปิดประตูห้องออกมาด้วยชุดที่พร้อมจะไปออกไปข้างนอกอย่างไรอย่างนั้นแหละ สร้างความแปลกใจให้กับแม่น้อยที่กำลังดูข่าวทางโทรทัศน์อยู่มากโข


            “แต่งตัวจะไปไหนวะ ไอ้น้ำ” นางรีบทักถามก่อนลูกชายตัวดีจะเดินลงบันไดบ้านไป

            “อ้าว แม่อยู่บ้านเหรอ” น้ำชะงักค้างอยู่ตรงประตู ออกมาจากห้องเมื่อสักครู่นี้ มันแน่ใจว่าไม่เห็นใครอยู่ในบ้านเลย

            หรือว่าจริงๆ แล้ว มันไม่ได้รับรู้สิ่งรอบข้างเลยต่างหาก

            “เออ สิวะ เอ็งเดินดุ่มๆ ข้าเรียกเกือบไม่ทัน แล้วนี่จะไปไหน”

            “ฉันตั้งใจจะเข้าไปตลาดสักหน่อย ยายฝนบอกฉันหลายวันก่อนแล้วว่าร้านในตลาดเขามีชุดไทยใหม่ๆ มาหลายชุด เลยกะจะไปเลือกเสียหน่อยจ้ะ” น้ำบอก

            “ข้านึกว่าไปเลือกมาแล้ว”

            “ยังเลยจ้ะ”

            “ทำอะไรอยู่ ถึงไม่ได้ไป” แม่น้อยพูดออกไปแล้วก็ชะงัก พลางโบกมือไล่ “เอ้า จะรีบไปก็ไปสิ แล้วจะกลับมากินข้าวเที่ยงไหม ข้าจะได้อุ่นไว้ให้ก่อนออกไปสวน”

            “กลับจ้ะ ฉันไปก่อนนะแล้วจะรีบไปรีบมา”

            “อืม เดินไปก็ระวังๆ หน่อยล่ะ รถราเริ่มเยอะขึ้นทุกวัน” แม่น้อยพูดด้วยความเป็นห่วง แต่ในความเป็นจริง ถนนในหมู่บ้าน แทบไม่มีรถวิ่งผ่านเลยด้วยซ้ำ

            “จ้ะแม่” น้ำบอกแล้วเดินลงจากบันไดบ้านไปทันที



            น้ำออกเดินมุ่งหน้าไปยังตลาด จิตใจของเขาแทบไม่ได้สนใจเส้นทางที่เท้าของตนนั้นก้าวเดิน ในหัวสมองกับจิตใจมันคอยจะคิดถึงแต่เรื่องของผู้กองและภาพของอีกฝ่ายกับวรันต์ ความสนิทสนมที่เขาได้เห็นในวันนั้น มันทำให้ใจของเขา นั้นหดหู่เพิ่มขึ้น



            เพราะวรันต์ใช่หรือเปล่า ที่ทำให้ผู้กองตัดใจจากเขาไปได้อย่างง่ายดาย ใบหน้ายิ้มแย้มดูมีความสุข นั่นคือสิ่งที่   ผู้กองต้องการทั้งหมด ถูกต้องใช่ไหม


            มือข้างขวายกมือปาดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว เขาอยากจะเลิกร้องไห้กับความรู้สึกนี้แล้ว แต่ทำไมมันถึงทำไม่ได้ ทำไมเขาถึงทำไม่ได้เหมือนกับตอนที่เลิกกับเจน ทำไมครั้งนี้มันกลับเจ็บปวดมากกว่าเดิม ยิ่งพยายามหยุดร้องไห้แค่ไหน น้ำตามันยิ่งไหลออกมา


            น้ำตาทะลักออกมาเป็นสาย ไอ้น้ำเริ่มมองไม่เห็นทาง มันเลยเลือกหาที่พอจะนั่งได้แถวนั้น เพื่อสงบจิตสงบใจของมันให้ดีกว่านี้สักหน่อย แล้วค่อยไปตลาดตามความตั้งใจทีแรก


            ไม่รู้ว่านั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้ไปนานเท่าไหร่ ตอนนี้น้ำตาที่มันร่วงหล่นลงมาจึงเหือดแห้งไปแล้ว น้ำนั่งมองสายตาที่ไหลเอื่อยไปเรื่อยๆ น้ำในคลองเล็กค่อนข้างใสสะอาด เพราะคนในหมู่บ้านพยายามรณรงค์ไม่ให้ทิ้งน้ำเสียลงคลอง น้ำมองปลาตัวเล็กใหญ่ แหวกว่ายกันอย่างสบายใจ เพราะติดกับเขตวัด จึงไม่มีใครกล้าเข้ามาจับปลาหรือตกปลาบริเวณนี้


            ‘ไม่สบายใจหรือจ๊ะ หน้าเศร้าเชียว’ เสียงเย็นเยียบดังขึ้นข้างตัว


            “อืม”


            ‘เรื่องผู้กองรูปหล่อใช่ไหม’


            “อืม”


            ‘เขาไปก็ไม่ลา เสียใจแย่เลยเนาะ’


            “อืม มากเลยล่ะ” น้ำตอบคำถามไปเรื่อยโดยไม่รู้ตัว


            ‘ไม่เป็นไรนะพ่อน้ำ ให้ฉันช่วยดีไหม’


            “ขอบใจมากนะ แต่เรื่องนี้คงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะ” น้ำบอกอีกฝ่ายอย่างปลงตก


            ‘ฉันอยากช่วยจริงๆ นะ ถึงฉันจะไม่สมหวังกับพ่อน้ำ แต่ฉันก็หวังดีให้พ่อน้ำมีความสุขกับแฟนนะจ๊ะ’


            “อดีตแฟนต่างหาก เขากลับไปคบกับแฟนเก่าแล้ว” พูดออกไปด้วยอารมณ์ที่ร้อนรุ่ม


            ‘จริงเหรอ พ่อน้ำรู้ได้อย่างไร’


            “ข้าเห็นมากับตา หน้าผู้กองงี้บานเป็นจานเชิง ยิ้มทีแทบจะเห็นฟันครบสามสิบสองซี่เลยล่ะมั้ง”


            ‘โอ้ อย่างนั้นเลยเหรอ’ เสียงที่ยังคงเยือกเย็น หัวเราะออกมาทำเสียงเหมือนไม่เชื่อที่ไอ้น้ำพูด


            “ข้าไม่ได้โกหกนะ” น้ำแค่นเสียงบอก


            ‘แล้วทำไมตอนนั้นไม่แสดงออกตัวไปเลยล่ะจ๊ะ ว่าผู้กองเป็นของพ่อน้ำ’


            “จะทำได้อย่างไรกันล่ะ คนเลิกกันแล้ว” น้ำบอกถึงจะโมโหอีกฝ่ายอยู่บ้างแต่ความเศร้าในใจก็จางหายไป


            ‘แน่ใจเหรอ ว่าเลิกกันแล้ว’


            “แน่ใจ ผู้กองเป็นฝ่ายบอกก่อนด้วยซ้ำ”


            ‘ฉันหมายถึงพ่อน้ำไม่รู้จริงๆ เหรอว่าแท้จริงแล้วเลิกหรือไม่’


            “ตอนนี้ไม่ว่าจะเลิกจริงหรือปลอม มันก็คือเลิก โอเคนะ”



            น้ำตัดบทเพราะอย่างไรเขาก็ไม่ได้ผู้กองคืนมาหรอก ต่อให้ได้ผู้กองคืนมาจริงก็ยังติดปัญหาเรื่องแม่น้อยอยู่ดี ความรักของพวกเขามันช่างเป็นเส้นขนาน ไร้ทางบรรจบ



            ประหนึ่งโรมิโอ จูเลียต



            ขวัญ..เรียม


            หรือจะเป็นโกดำและครูกิ๋ว ในสะพานรักสารสินดี



            น้ำขยี้หัวตัวเอง ฟุ้งซ่านไปกันใหญ่ เรื่องราวตำนานเหล่านั้น คนทั้งคู่รักกันจริง แต่คู่ของเขาคงไม่ใช่อย่างนั้นกระมัง เขามีแต่สามวันจากนารีเป็นอื่น นี่เขาไม่ใช่ผู้หญิง ผู้กองยังเป็นอื่นเหมือนกัน คิดแล้วมันน่าจะผูกคอตายใต้ต้นถั่วงอกจริงๆ


            ‘ฮ่า...ฮ่า’ เสียงหัวเราะของผู้หญิงดังขึ้นมา น้ำขมวดคิ้ว


             “หัวเราะอะไรอะ”


             ‘ฉันหัวเราะพ่อน้ำน่ะ คิดอะไรเลื่อนเปื้อนจริงๆ เลย’


             “รู้ได้ไงว่าฉันคิดอะไร”


             ‘ขนาดหวย ฉันยังรู้ล่วงหน้าได้เลย นับประสาอะไรกับใจมนุษย์ ฉันรู้ ฉันเห็นจ้ะ’


             “ขนาดนั้นเลย โม้หรือเปล่า” น้ำตอบขันๆ


            ‘เอาเถอะจ้ะ พ่อน้ำตอนนี้จิตใจไม่ปกติ เดี๋ยวรู้ตัวเมื่อไหร่ก็จะเข้าใจฉันเอง’


             “พูดอะไรของเอ็ง”


            ‘ให้ฉันช่วยเถิดจ้ะ เชื่อมือฉัน รับรองพ่อจะสมหวังแน่นอน’


             “จะทำให้เรื่องมันยุ่งขึ้นล่ะสิไม่ว่า” น้ำพูดด้วยความไม่เชื่อ


             ‘ไม่ลองไม่รู้ จริงไหมจ๊ะ’


             “ไม่ต้องหรอก อะไรมันจะเกิดก็ให้มันเป็นไป ถ้าผู้กองต้องกลับมาเพราะคนอื่น ข้าก็ไม่ชอบหรอก”


            ‘จริงสินะ ไม่ภูมิใจ’


             “ใช่ เกียติยศศักดิ์ศรีและความภูมิใจ กินไม่ได้แต่มันสำคัญเว้ย” น้ำกล่าวมุ่งมั่น


             ‘เห็นด้วยจ้ะ เป็นลูกผู้ชายจงยึดมั่นในเกียรติของตนไว้ให้มากนะจ๊ะ’ เสียงหญิงสาวบอก ไอ้น้ำพยักหน้าหงึกหงักรับฟัง ‘อุ้ย อยู่นั่นเอง’ ทันใดนั้น เสียงเย็นๆ เสียงเดิมก็ส่งเสียงตกใจเหมือนเจออะไรบางอย่าง


             “อะไรเหรอ”


             ‘เชือกเส้นนั้นจ้ะ ไปตกอยู่ตรงนั้นได้อย่างไรกัน อีกนิดก็จะตกคลองกลายเป็นขยะ’  น้ำมองตามที่หญิงสาวว่าก็พบเชือกยาวประมาณหนึ่งเมตร หนาประมาณสักนิ้วสองนิ้วตรงริมตลิ่งพอดี


            “ของใครอะ รู้ไหม” น้ำถาม


            ‘ของฉันเองจ้ะ อย่างไรฉันวานพ่อน้ำไปหยิบให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ’  ถึงไอ้น้ำจะสงสัยไปบ้างว่าทำไมอีกฝ่ายไม่ไปเก็บเอง แต่ก็ไม่จริงจังอะไรนัก มันลุกขึ้นจากท่าน้ำแล้วไปหยิบเชือกเส้นนั้นขึ้นมา


           “ให้เอาไปไว้ไหน”


           ‘เอาไปคล้องกับกิ่งไม้ตรงนั้นทีจ้ะ’ น้ำมองมือขาวชี้ไปที่กิ่งไม้ที่อยู่สูงจากพื้นเกือบสองเมตรได้


           “สูงจัง”


           ‘พ่อน้ำก็เหวี่ยงเชือกข้ามไปสิจ๊ะ’


           “อย่างนี้เหรอ” น้ำลุกทำตามที่หญิงสาวบอกอย่างตั้งใจ มันกระโดดขึ้นจากพื้น พลางเหวี่ยงปลายเชือกข้ามกิ่งไม้นั้นไป


           ‘ใช่จ้ะ ใช่ พ่อน้ำเก่งมากเลย’ หญิงสาวเอ่ยชม ตอนนี้สาบเชือกคล้องยังกิ่งไม้เรียบร้อยแล้ว


          “แค่นี้ใช่ไหม”


          ‘ยังจ้ะ ขืนปล่อยไว้แบบนั้น เดี๋ยวมันจะปลิวตกลงมาอีก อย่างไรฉันอยากให้พ่อผูกปลายเชือกทั้งสองข้างเข้าด้วยกันหน่อยได้ไหมจ๊ะ’


          “ได้ เอาเงื่อนตายเลยไหม จะเอาไปใช้งานทีหลังหรือเปล่า”


          ‘เงื่อนตายเลยจ้ะ หลายๆ ทบหน่อยนะจ๊ะ จะได้รับน้ำหนักไหวจ้ะ’


          “น้ำหนักอะไร เดี๋ยวเอาของมาถ่วงเหรอ”


          ‘ประมาณนั้นจ้ะ’


          “อะ เสร็จแล้ว” น้ำบอกอย่างไม่จำเป็น


          ‘ขอบใจจ้ะ แล้วทีนี้ก็...’ หญิงสาวหยุดเงียบปล่อยให้ไอ้น้ำสงสัย


          “ทีนี้อะไรอะ”


          ‘พ่อน้ำเอาหน้าไปใกล้ๆ ห่วงนั้นหน่อยสิจ๊ะ’


          “ทำไปทำไมอะ” มันสงสัย


          ‘เถอะจ้ะ ฉันหวังดีกับพ่อนะ เชื่อฉันหน่อย’


           “อืมๆ ก็ได้” น้ำค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เชือกนั้น ถึงจะไม่เข้าใจแต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาทำแบบนี้เหมือนกัน


           “ไอ้น้ำ!! เอ็งทำอะไร”


           “หนูน้ำ!!”


           “น้ำ!!”



            สามเสียงดังขึ้นพร้อมกัน น้ำจับไม่ได้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร แต่มันตกใจที่ตนเองถูกเรียกชื่อเสียงดัง มันเลยปล่อยมือจากเชือก แล้วดันลืมว่าคอของมันหลุดเข้าไปในบ่วงเชือกแล้ว


           “แค่ก..แค่ก” เสียงคนที่สามวิ่งเข้ามาอุ้มน้ำให้สูงขึ้นจนหลุดจากบ่วงเชือกนั้น

           “ขอบคุณครับ” น้ำบอกอีกฝ่ายเมื่อเท้าของตนแตะถึงพื้น

            “ทำอะไรของเอ็ง หา ไอ้น้ำ จะทำให้ข้าอกแตกตายเลยใช่ไหม ไอ้ลูกบ้า ไอ้เด็กไม่รู้จักคิด” แม่น้อยสาวเท้าเข้ามาหาบุตรชายอย่างรวดเร็วพลางกระหน่ำกำปั้นน้อยๆ ลงบนไหล่ไอ้น้ำไม่ยั้ง

            “อะไรเนี่ย แม่เป็นไร ฉันทำอะไรให้แม่โกรธล่ะ ถึงตีฉันแบบนี้” น้ำลูบแขนป้อยๆ ระหว่างที่แม่น้อยหยุดพักเพื่อหายใจ

            “เอ็งคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย โกรธข้าใช่ไหมหรือเกลียดข้าที่ไม่ทำให้ความรักเอ็งสมหวัง” แม่น้อยร่ำไห้ออกมา ใจนางเกือบจะแหลกสลาย เมื่อเห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนกำลังจะผูกคอตาย


            ทุกอย่างมีทางออก ทำไมไม่คุยกับนาง ทำไมถึงคิดสั้นแบบนี้


            “แม่หยุดร้องไห้ก่อน ฉันไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายสักหน่อย ฉันก็แค่ทำตามที่..” น้ำหยุดแล้วหันไปมองรอบๆ เขาไม่เห็นใครนอกจาก สามเสียงที่เรียกเขา

            “ทำตามอะไร บอกข้ามาเดี๋ยวนี้”

            “ช่างมันเถอะจ้ะ ฉัน..ฉันผิดเอง” น้ำบอกแม่ เขาสูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอด พลางลำดับความคิด


           ฉิบหาย!! แม่ตะเคียนใช่ไหม


            ‘ฮ่าๆ ฉันเองจ้ะ เชื่อฉันแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น’


            ‘แม่ตะเคียนหลอกฉันอีกแล้วเหรอ’


            ‘เปล่าสักหน่อย นี่กลางวันแสกๆ เป็นไงจ๊ะ ฉันสวยไหม ชุดสไบที่ใส่มาก็จากพ่อน้ำเลย จำได้ไหม’


            ‘จำได้จ้ะ สวยจ้ะ แม่ตะเคียนสวยมากเลยจ้ะ’
           
           
            ‘อา ดีจัง มีผู้ชายหล่อๆ มาชม ฉันคงอายุยืนไปอีกพันปีเลยทีเดียว’
           

            “ไอ้น้ำเป็นอะไรของเอ็ง ตัวแข็ง เหงื่อซึมเชียว” แม่น้อยพูดพลางจับแขนลูกชาย แต่มันก็นิ่งไม่ไหวติง “หรือมันจะตกใจจนไม่มีสติไปแล้ว ไอ้น้ำ!! ไอ้น้ำ!!” แม่น้อยก็พลอยตกใจไปด้วย นางรีบเขย่าแขนบุตรชายอีกครั้งอย่างรุนแรง ปากก็เรียกชื่อไอ้น้ำไปด้วย หวังจะให้สติกลับมา
           
            “ผมขอคุยกับน้ำหน่อยได้ไหมครับ แม่น้อย” ผู้กองขออนุญาต

            “อืม” แม่น้อยบอกพลางถอยออกมาอยู่ทางด้านหลัง

            “น้ำ ได้ยินเสียงพี่หรือเปล่า” ผู้กองเข้าไปพูดกับคนตรงหน้า

            “...”

            “คุยกับแม่ตะเคียนอยู่หรือไง พี่อยู่นี่แล้ว เลิกกลัวได้แล้ว”


            ‘นั่นไง ผู้กองคนหล่อมาง้อแล้ว ฉันไม่กวนแล้วนะจ๊ะ แต่คราวหน้าอย่าลืมซื้อชุดสวยๆ มาฝากฉันอีกนะจ๊ะ พ่อ’           แม่ตะเคียนบอกพร้อมกับดีดนิ้วให้ไอ้น้ำมีสติ


            ใช่ว่าเจ้าแม่ตะเคียนจะไม่รู้ว่าไอ้น้ำพ่อรูปหล่อกลัวผีแค่ไหน แล้วคราวนี้มาคุยกับนางที่ไม่ใช่มนุษย์อยู่นานสองนาน แถมพูดคุยแบบเห็นหน้าค่าตา ออพชั่นเสริมแบบจัดต้องได้อีกพักใหญ่ แค่ยืนนิ่งอยู่ได้ก็ประหลาดมากเต็มที ไม่ช็อคตายไปเสียก่อน ก็บุญแค่ไหนแล้ว

            “น้ำ นี่พี่ปรานต์เองจำได้ไหม”

            “ผ..ผู้กอง..ผู้กองตัวจริง?” น้ำตกใจที่คนตรงหน้าเป็นผู้กอง หรือเขาจะคิดถึงอีกฝ่ายมากจนเห็นภาพหลอน มันยกมือขยี้ตาทั้งสองข้างเต็มแรง

            “พอได้แล้ว ตาช้ำหมด นี่พี่เอง”

            “ผู้กอง ตะกี้นะ แม่ตะเคียน ผมเห็นแม่ตะเคียนด้วย โอย แล้วคุยกับแม่ตะเคียนนานมาก โอ๊ย ไม่รู้ตัวเลย ผมจะเป็นบ้าไหม” น้ำโผเข้ากอดผู้กองอย่างเต็มแรง ละล่ำละลักบอกกับไหล่ของอีกฝ่าย


             แม่น้อยเห็นภาพบุตรชายพุ่งเข้าหาผู้กองก็ยกมือทาบอกแทบไม่ทัน โถ ลูกชายข้า... ส่วนทางด้านคุณหญิง มารดาของผู้กองนั้นกลับยิ้มแก้มแทบปริอย่างพึงพอใจ

            “ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไร ขวัญเอ๊ยขวัญมานะ” ปรานต์ลูบศีรษะเพื่อปลอบประโลมและเรียกขวัญของอีกฝ่ายให้กลับคืนมา


            ไม่ได้กอดคนในอ้อมกอดนี้นานแค่ไหนแล้ว


            “แล้วผู้กองมาได้ไง มาทำไมอะ ไม่ใช่ว่าทิ้งผมไปแล้วเหรอ กลับไปก็ไม่บอก รู้ไหมผมน้อยใจมากเลยนะ ทำแบบนี้ได้ไง”

            “อย่าเพิ่งโกรธพี่ได้หรือเปล่า ตอนนี้ไม่ใช่มีแค่เราสองคนนะ แม่น้อยก็อยู่ที่นี่นะน้ำ”

            “จริงดิ!?” ฉิบหายกำลังสอง ไอ้น้ำตกใจผละออกมาจากอ้อมกอดนั้นทันที

            “เออ แม่ ตะ..ตะกี้ไม่มีอะไรนะ ฉะ..ฉันกลัวผีเฉยๆ” น้ำอธิบายตะกุกตะกัก ใครเห็นเหตุการณ์ก็รู้ว่า คำพูดของมันน่ะฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย

            “เออ ไปคุยที่บ้าน”

            “แล้วแม่มาที่นี่ได้ไง”

            “ข้าสิต้องถามเอ็งมากกว่า บอกว่าจะไปตลาด ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ รีบกลับบ้านก่อน มีอะไรไปคุยกันที่นั่น เห็นไหมว่าผู้ใหญ่ คุณพ่อ คุณแม่ของผู้กอง เขายืนรอเอ็งนานแล้ว”

            “อะไรนะแม่” น้ำตกใจ มันมองเลยไปอีกนิดก็เจอพ่อแม่ของผู้กองเข้าจริงๆ “สวัสดีครับ คุณแม่ เอ่อ..ท่านนั้นคงเป็นคุณพ่อของผู้กอง สวัสดีครับ แล้วก็ขอโทษด้วยครับ” น้ำรีบยกมือไหว้ ทั้งทักทายและขอโทษในคราวเดียวกัน

            “ไม่เป็นไรจ้ะ”

            “ท่านมาได้อย่างไร” น้ำกระซิบถามคนตรงหน้าเสียงเบา

            “กลับบ้านก่อนอย่างที่แม่น้อยบอก แล้วน้ำจะเข้าใจเอง”

            “มันเรื่องอะไรกันเนี่ย”

            “กลับบ้านก่อน”

            “ก็คนอยากรู้อะ” น้ำกระตุกเสื้อตรงเอวของผู้กอง

            “บอกแล้วไง กลับบ้านก่อน”

            “ขัดใจจริงๆ”

            “ถ้าไม่กลับ ก็คุยกับแม่ตะเคียนไปละกัน” ผู้กองพูดจบก็เดินออกไปทันที


            “เฮ้ย ได้ไง ไม่เอา รอก่อน รอผมด้วย อย่าทิ้งกัน!” น้ำตะโกนไล่หลัง กระวีกระวาดรีบตามอีกฝ่ายไป




            ‘ฮ่า..ฮ่า.. ขอให้สมหวังนะจ๊ะพ่อน้ำ’ และเสียงเย็นก็ดังขึ้น ไอ้น้ำรีบสับขาถี่เพื่อเพิ่มความเร็ว




===================
ในเมื่อไม่ทันใจ แม่ตะเคียนเลยจัดให้ค่ะ น่ารักจริงๆ เลยนะเจ้าคะ

ปล ค่อยๆ เฉลยแต่ละเหตุการณ์และการกระทำของแต่ละคนไปเนาะ ใจเย็นๆ กันน้า

ติด Tag ได้เลยค่ะ #LOTTOสื่อรัก #คนบ้าหวย2018


ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 o13  ต้องจัดชุดใหญ่ถวายจ้า เอาชุดสวยๆ ด้วย แม่ตะเคียนทำดีมากจ้า รับรองอยู่ไปอีกหลายพันปีเลย ฉันไหว้จ้า  :call:
เอาเป็นมาสู่ขอ เอ้ยมาเคลียกันเน๊าะ แต่งเมื่อไร เราจะไปตัดชุดรอ  :mc4:

น่ารักทั้งผู้แต่ง ตัวละครทุกคนจ้า  :กอด1:  :pig4:  :mew1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 :ling1: :ling1: :ling1:
แต่กะดีใจ
จะได้รักกันแล้ว
สงสารน้ำ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ไม่ว่าคน หรือว่าผี ก็มีหลอก
คนหลายใจ ไปกลับกลอก บอกชิ่งหนี
แม่ตะเคียน นี่เฮี้ยนจริง กลับเป็นดี
เอาจริงแล้ว คนหรือผี ดีกว่ากัน

ชิสสสสสสสส..ลำไยไม่หายเว้ยยยยยยยย#ผู้กองหัวฟวย

+1 ให้แม่ตะเคียนทอง คนแต่งคนดี อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ตอนนี้แม่ตะเคียนเด่นสุดๆ น่ารักมาก ที่ทำให้น้ำสมหวัง
 :L2: :L2:

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
#FCเจ้าแม่ตะเคียน +1 ไปเลยค่ะเจ้าแม่ สมกับที่รอมานาน

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
เจ้าแม่ตะเคียนทำดีมากๆเจ้าค่ะ แม่น้อยต้องยอมรับแล้วล่ะ

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
กดบวกให้แม่ตะเคียนเลยจร้าา :call:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
เเม่ตะเคียนสื่อรักๆ
โอ้ยยยยย น่่รักอ่ะนิยายอะไร

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ชอบแม่ตะเคียนอ่ะ หาคู่ให้นางที

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่ปรานต์พาพ่อกับแม่มาขอหนูน้ำแน่เลย......งื้อออออ  :-[

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :m32:
ขอหวยงวดหน้าต่อเลยได้ไหม

แม่ตะเคียนทองคนงาม
อิอิ

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter


งวดสามสิบสี่ ช่วงแม่ๆ ปรับทุกข์


            “ทานน้ำกันก่อนจ้ะ” แม่น้อยยกน้ำออกมาแจกจ่ายแขกที่ไม่ได้รับเชิญทั้งสามคน

            “ขอบใจจ้ะ” คุณหญิงเอื้อมมือไปรับโดยปราศจากท่าทีรังเกียจกับแก้วน้ำพลาสติกธรรมดา

            “นั่งพักกันไปก่อนนะจ๊ะ ฉันขอคุยกับไอ้น้ำสักครู่” พูดจบแม่น้อยก็ลากบุตรชายเข้าไปในห้องของไอ้น้ำอย่างรวดเร็ว

            “แม่..พาฉันเข้ามาในห้องทำไม”

            “เอ็งเรียกพวกเขามาที่นี่กันรึ” แม่น้อยถามด้วยความไม่พอใจ

            “เปล่านะจ๊ะ ฉันไม่รู้เรื่องเลย นี่ก็ตั้งใจจะถามแม่เหมือนกัน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

            “เปล่าแน่นะ” แม่น้อยชี้หน้า

            “ฉันสาบานเลยก็ได้ ไม่ได้มุสาแม่จริงๆ” น้ำยกมือชูสามนิ้วทำท่าประกอบ

            “เออ...ไม่ใช่ก็ไม่ใช่”

            “เรื่องมันอย่างไรอะแม่”

            “ข้าก็ไม่รู้ คล้อยหลังเอ็งไปครู่ใหญ่ ผู้กองก็พาพ่อแม่เขาขึ้นมาบนบ้าน คงตั้งใจมาคุยเรื่องเอ็ง ยังติดต่อกันอยู่หรือ” แม่น้อยมองไอ้น้ำนิ่ง

            “ไม่เลยจ้ะ ตั้งแต่เหตุการณ์ตอนนั้น...” น้ำตั้งใจละคำทิ้งไว้ เขาไม่อยากเอ่ยถึงมัน “ผู้กองและฉันก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย แม้คำเดียวก็ไม่เคย”

            “แล้วจะมาหาทำไม”

            “ฉันก็ไม่รู้จ้ะ” น้ำบอกด้วยความซื่อ เพราะมันก็ไม่รู้จุดประสงค์นี้จริงๆ

            “เฮ้อ...” แม่น้อยถอนหายใจพลางนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ตัว

            “แล้วแม่กับผู้กอง ทำไมถึงไปท่าน้ำหน้าวัดได้ล่ะ ไหนจะคุณพ่อคุณแม่ของผู้กองเขาอีก”

            “เขามารอเอ็งสักพักใหญ่ เลยเที่ยงก็แล้ว เอ็งก็ยังไม่กลับมา ข้าเป็นห่วงตั้งใจจะไปตาม แต่พวกเขาก็อยากไปพร้อมกัน”

            “แล้วไม่ขับรถไปล่ะ”

            “ข้ารึ เป็นข้าอย่างนั้นหรือที่อยากให้เป็นแบบนั้น” แม่น้อยทำหน้าเหนื่อยจะอธิบาย

            “จ้ะ ไม่ใช่แม่ ก็ไม่ใช่”

            “เขาอยากไปเดินชมท้องทุ่งของคนบ้านนอก”

            “ฉันว่า..เราควรออกไปก่อนดีไหมจ๊ะ จะได้ไม่เสียมารยาท”

            “มันเสียไปตั้งแต่ทีแรกแล้วเว้ย..แต่เอาเถอะ ออกไปกันได้แล้ว” แม่น้อยบ่นแต่ก็ยอมลุกไปเปิดประตูแล้วออกไปหาแขกที่กำลังนั่งรอ

            “ขอโทษที่ให้รอนะจ๊ะ” แม่น้อยกล่าวตามมารยาทที่ทิ้งแขกไว้ตามลำพัง

“พี่ก็สงสัยมาตั้งนานว่าหนูน้ำหน้าตาน่ารักเหมือนใคร พอเจอแม่น้อย ก็รู้คำตอบเลย” คุณหญิงเอ่ยชม

“เอ่อ..ขอบใจจ้ะ ว่าแต่คุณทั้งหลายมีธุระอะไรกับฉันหรือว่าไอ้น้ำมันหรือจ๊ะ” แม่น้อยเริ่มเปิดประเด็นถามทันที

            “ก่อนอื่น พี่ต้องขอโทษด้วยที่เสียมารยาทมาโดยไม่ได้บอกกล่าวนะจ้ะ แม่น้อย” คุณหญิงเลือกใช้คำพูดที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเองกับอีกฝ่ายมากที่สุด

            “ไม่เป็นไรจ้ะ อย่างไรก็มากันแล้ว”

            “ถ้าอย่างไรเราลงไปเดินกันข้างล่าง คุยกันตามประสาผู้หญิงดีไหมจ๊ะ” คุณหญิงเอ่ยชวน น้ำรีบมองที่มารดาของตนทันที กลัวว่าแม่น้อยจะโวยวาย แต่ไม่น่าเชื่อว่า แม่น้อยจะทำเพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินลงบันไดบ้านไปพร้อมคุณหญิง

            “เรื่องเด็กๆ บางทีก็ทำให้คนเป็นแม่ไม่สบายใจใช่ไหม” คุณหญิงเริ่มพูดบ้าง “หลายต่อหลายอย่าง บางครั้งก็ไม่ได้อยากยื่นมือเข้าไป แต่ก็ทนลูกเจ็บปวดไม่ไหว”

            “จ้ะ” แม่น้อยรับคำแล้วนิ่งฟัง

            “ตาปรานต์กลับบ้านไปงวดนี้ ซึมลงผิดหูผิดตา ถามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมบอก ทีแรกพี่ก็คิดว่าคงเครียดเรื่องงาน เพราะถูกย้ายกลับกะทันหัน จนไม่ได้เจอกับหนูน้ำ แต่นี่ผ่านไปเป็นเดือนก็ยังอาการเหมือนเดิม พี่เองก็อดเป็นห่วงไม่ได้ หนูน้ำคงมีอาการนี้เหมือนกันใช่ไหมจ๊ะ แม่น้อย”

            “ฉัน...”

            “พี่เข้าใจจ้ะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมรับ” คุณหญิงพูดด้วยความเห็นใจ

            “คุณหญิงไม่เข้าใจหรอก ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าไอ้น้ำมันจะชอบผู้ชาย”

            “หนูน้ำไม่ใช่แฟนคนแรกของตาปรานต์ ตอนนั้นที่พี่รู้เรื่องจากปากลูกชายว่าเขาชอบผู้ชาย มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พี่อยากจะยอมรับเช่นกัน แล้วทำไมพี่จะไม่เข้าใจว่าแม่น้อยคิดอย่างไรกับเรื่องนี้”

            “....”

            “พี่เชื่อว่าหัวอกคนเป็นแม่ คงอยากเห็นลูกๆ ของเรามีความสุข มีครอบครัวที่ดี มีลูกที่น่ารัก และเราก็ขอแค่มีโอกาสอุ้มหลานสักคนหนึ่งก็พอ”

            “แล้วไอ้น้ำมันจะมีความสุขได้อย่างไร ในเมื่อมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง” แม่น้อยยืนกรานตามความคิด

            “ความสุขก็คือความสุขไม่ใช่หรือ คนเราตัดสินความสุขจากอะไรหรือแม่น้อย เวลาเราถูกหวย เราก็มีความสุขใช่ไหม ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเราเล่นหวยใต้ดิน ผิดกฎหมาย มันก็ไม่ถูกต้อง แล้วทำไมเรายังมีความสุขล่ะ”

            “...” แม่น้อยไม่ตอบ คำพูดของคุณหญิงฟังดูแปลกๆ เกี่ยวอะไรกับหวย แต่ก็ถูกของคุณหญิงล่ะนะ ถูกหวยก็มีความสุข แม่น้อยได้แต่คิดในใจ

            “พี่เคยทุกข์ใจมากที่รับรู้เรื่องของตาปรานต์ เคยไม่ยอมรับ เคยไล่ตะเพิดลูกชาย แต่พอเห็นเขาเจอกับเหตุการณ์อกหักหลายๆ ครั้งเข้า พี่กลับมาคิดได้ว่าตาปรานต์คงจะโชคร้ายเรื่องความรัก แค่ไม่รักผู้หญิง ก็กลายเป็นไม่ถูกต้องอย่างที่แม่น้อยคิดนั้นมากแล้ว แค่คนที่จะรักเขาสักคน ยังไม่มีเลย แล้วครอบครัวยังไม่รักเขาอีกหรือ พี่เจ็บที่ใจมากกว่าอีกจ้ะ ที่รู้ว่าลูกจะไม่มีความสุข” คุณหญิงพูดเสียงเรียบแต่ลึกๆ ก็แฝงไปด้วยความเสียใจ

            “....”

            “พี่เลยไม่อยากให้แม่น้อยต้องเสียใจกับอดีตที่เราทำร้ายความรู้สึกลูกชายโดยไม่ตั้งใจ”

            “ถึงอย่างนั้นก็เถอะจ้ะ ฉันก็ลำบากใจจริงๆ”

            “ถ้าเพราะลูกชายพี่เป็นผู้ชาย เอาอย่างงี้ดีไหม ให้ตาปรานต์เป็นผู้หญิงเสียเลย” คุณหญิงพูดติดตลก

            “โธ่ คุณหญิงก็พูดอะไรก็ไม่รู้ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”

            “เรียกพี่เถิดจ้ะ ถึงพี่จะแก่กว่าแม่น้อยสิบกว่าปี แต่ก็ยังอยากเป็นพี่จ้ะ” คุณหญิงยิ้มกว้างให้แม่น้อย ทุกอย่างที่นางทำคือความจริงใจและหวังว่ามันจะส่งผลให้แม่น้อยใจอ่อนลงบ้าง

            “จ้ะ คุณพี่” แม่น้อยกลัวว่าเรียกพี่เฉยๆ จะดูสนิทสนมเกินไป นางจึงเพิ่มคำนำหน้าไว้

            “จริงๆ แล้ว ตาปรานต์ก็ค้านพี่ไม่ให้เข้ามาวุ่นวายเรื่องนี้หรอกเพราะกลัวแม่น้อยลำบากใจแต่พี่เองก็ทนไม่ได้” คุณหญิงมองออกไปที่ทุ่งนากว้างแล้วพูดต่อ “ที่พี่มาก็อยากจะขอร้องให้แม่น้อยเข้าใจและขอความกรุณายอมรับความรักของทั้งคู่ด้วย พี่ไม่สบายใจที่เห็นลูกเป็นอย่างนี้ พอเห็นหนูน้ำ พี่ก็คิดว่าหนูน้ำก็คงเสียใจทุกข์ใจไม่น้อยกว่าตาปรานต์เช่นกัน”

            “....”

            “แต่ถ้าแม่น้อยทำใจยอมรับไม่ได้จริงๆ พี่ก็จะบอกให้ปรานต์เขาตัดใจจากหนูน้ำเสีย และพี่คงเสียดายเพราะพี่ชอบหนูน้ำมากๆ เลยล่ะจ้ะ ตาปรานต์มีแฟนกี่คน ก็สนใจแค่เงินกับอาชีพของเขาเท่านั้น มีหนูน้ำนี่แหละจ้ะที่พี่เบาใจ”

            “แฟน ผู้กองก่อนหน้านี้ก็เป็นผู้ชายหรือจ๊ะ”

            “ใช่ ผู้ชายทั้งนั้น สมัยนี้โลกเปลี่ยนไป แม้แต่ผู้ชายก็ยังอยากจะจับผู้ชายที่มีเงินเหมือนกัน”

            “แล้วคุณหญิง...เอ๊ย..คุณพี่ก็ไม่ว่าหรือที่คนพวกนั้นไม่หวังดี”

            “พี่ไม่ชอบแล้วทำอย่างไรได้ ชีวิตเป็นของเขา ถึงเราจะให้เป็นคนคลอดเขาออกมาก็จริง เราก็แค่ให้กำเนิด แต่ไม่สามารถเลือกชีวิตให้เขาได้”

            “แต่คนพวกนั้นไม่หวังดี”

            “พี่รู้ แต่ปรานต์ก็โตแล้ว เขาย่อมรู้ดีว่าอะไรควรและไม่ควร หนูน้ำเองก็เช่นกันใช่ไหมจ๊ะ”

            “ปกติ ฉันก็ไม่ค่อยเข้าไปยุ่มย่ามชีวิตมันหรอก”

            “คิดเสียว่าเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตของน้ำสิ แม่น้อย เผื่อว่าจะทำให้สบายใจขึ้น”

            “ถ้ามันคิดง่ายอย่างงั้นก็ดีสิจ๊ะ” แม่น้อยตอบ เรื่องจิตใจมันบังคับได้ง่ายเสียเมื่อไหร่

            “ฉันฝากให้แม่น้อยคิดดูนะจ๊ะ เรื่องของเด็กๆ”

            “จ้ะ”

            “หวังว่าจะเป็นข่าวดีนะ”

            “ผู้กองๆ ...” น้ำสะกิดเรียกคนข้างๆ

            “ครับ?”

            “มาที่นี่กันทำไมอะ”

            “เดี๋ยวก็รู้”

            “เดี๋ยวก็รู้อะไรอีก ทำไมรู้เลยไม่ได้ แล้วนี่แม่กับคุณแม่คุยอะไรกันนานสองนาน ลงไปตามดีไหม” น้ำบอกอย่างเป็นห่วง

            “ที่พูดเนี่ยอยากรู้หรือว่าห่วงจริงๆ”

            “รู้ทันไปหมด” บ่นพึมพำกับตัวเอง “แต่เป็นห่วงจริงๆ นะ มันนานเกินไปแล้ว” น้ำบอก

            “พ่อหนูนี่ ช่างคุยเหมือนกันนะ” คุณพ่อของผู้กองพูดขึ้นมากลั้วด้วยน้ำเสียงหัวเราะ

            “เอ่อ..ขอโทษครับ” น้ำหดคอลง เขาลืมไปว่า ที่ตรงนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เขากับผู้กองตามลำพัง

            “ไม่ ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย ได้ยินแต่ชื่อ เพิ่งจะเคยเห็นตัวจริงวันนี้”

            “พ่อชอบไหมครับ”

            “ถามพ่อได้อย่างไร แม่แกนู่น ถูกใจเขาเป็นหนักหนา ไม่งั้นไม่ดิ้นรนมาที่นี่ด้วยตัวเองหรอก”

            “...” น้ำนิ่งฟัง เพื่อปะติดปะต่อเรื่องราว

            “ผมบอกแม่แล้วว่าไม่เป็นไร” ปรานต์บอกอย่างอ่อนใจ

            “แกคงไม่อยากให้เขาคิดว่าแกเป็นเด็ก เอะอะอะไรก็หาเรื่องฟ้องผู้ใหญ่ แต่แกก็รู้นิสัยแม่แก ห้ามเขาไม่ได้หรอก ยิ่งถูกใจลูกสะใภ้ขนาดนี้ แม่แกไม่ยอมรามือง่ายๆ”

            “...” น้ำฮึดฮัดอยากจะเถียงคุณพ่อของอีกฝ่ายมาก เขาไม่ใช่ลูกสะใภ้สักหน่อย เขาจะเป็นลูกเขยต่างหาก

            “ก็จริงนี่ครับ อีกปีสองปีผมก็จะสามสิบแล้ว แต่พอมีปัญหายังให้พ่อแม่มาเคลียร์อยู่เลย” ปรานต์พูดอย่างขัดใจ น้ำมองอีกฝ่ายก็ลอบยิ้ม นานๆ จึงจะได้เห็นมุมเป็นเด็กของผู้กองบ้าง

            “อย่าไปคิดอย่างนั้น ถ้าเราเจรจาสำเร็จ ก็ถือเสียว่ามาสู่ขอไปเลย ไม่ดีหรือไง”

            “...” น้ำตกใจแต่ยังตะครุบปากได้ทัน


สู่ขอ!? วอท สู่ขออะไร ไม่ได้ เขาจะเป็นคนยกสินสอดไปสู่ขอผู้กองเอง มันไม่ถูกต้อง


“ถ้าแม่เขาคุยสำเร็จ พ่อน้ำย้ายไปอยู่กับพ่อไหม” คุณพ่อเบนสายตาหันมาถามไอ้น้ำ

“เอ่อ...ผม..คุณลุง” น้ำไม่รู้จะตอบอีกฝ่ายว่าอย่างไรดี เขายังไม่เคยคิดไปถึงขั้นนั้นเลย จะว่าไป...แค่ขั้นแรกยังก้าวข้ามผ่านไปไม่ได้เลย

            “น่าน้อยใจจริงๆ เรียกแม่เขาว่าคุณแม่ ทีกับพ่อเรียกคุณลุง” คุณพ่อส่ายหน้าเบาๆ ด้วยความน้อยใจ

            “ขะ..ขอโทษครับ คุณพ่อ” น้ำรีบยกมือขอโทษอีกฝ่ายทันที

            “พ่อน้ำน่ารักเหมือนกันนะปรานต์” คุณพ่อหันไปยิ้มให้บุตรชายก่อนจะมองเลยมาทางไอ้น้ำ
อีกรอบ “ว่าอย่างไรล่ะ ไปอยู่กับพ่อไหม”

            “ผม...”

            “พ่อก็อย่าเพิ่งไปเร่งน้ำได้ไหมครับ ไม่รู้ว่าแม่น้อยจะตอบว่าอะไรเลยด้วยซ้ำ”

            “ก็ถามเผื่อไว้ก่อนไง” คุณพ่อพูดอย่างอารมณ์ดี

            “ทีหลังเถอะครับ” ปรานต์ตัดบท



             ระหว่างนั้นหญิงสาวสองคนก็กลับขึ้นมาบนบ้านพอดี คุณหญิงนั่งพักพลางยกแก้วน้ำขึ้นจิบ ใบหน้ามีเหงื่อเกาะบ้างประปราย แก้มแดงเล็กน้อย ผู้กองมองมารดาและเดาว่าคงเดินไปไกลพอสมควร

             “เหนื่อยหรือเปล่าครับ” ผู้กองถามมารดา

             “ไม่เลยจ้ะ ไม่เลย ที่นี่สวยมาก อากาศก็ดีมากๆ แม่ชอบจ้ะปรานต์ แม่ชอบที่นี่” คุณหญิงบอกอย่างตื่นเต้น

             “เดินไปถึงไหนกันมาหรือ” สามีของคุณหญิงเอ่ยถาม

             “ก็ไปตรงแถวสวนของแม่น้อยค่ะ มีผลไม้หลายชนิดเลย”

             “อย่างนั้นหรือแม่น้อย” คนถามหันไปถามแม่น้อยด้วยราวกับจะขอคำยืนยัน

             “ใช่จ้ะ”

             “ขอบใจแม่น้อยมากนะ แล้วได้ความว่าอย่างไร รีบบอกเลยนะจ๊ะ พี่รอฟังข่าวดี”

             “จ้ะ” แม่น้อยตอบ

             “อะไรหรือครับแม่” ผู้กองถามมารดา

             “ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ”

             “อ่า..ครับ” ปรานต์เลือกไม่เซ้าซี้มารดา คิดว่าคุณแม่ของเขาคงอยากจะพูดเมื่ออยู่ตามลำพังเสียมากกว่า

             “เอ..พี่คุ้นว่าแม่น้อยมีลูกสาวด้วยไม่ใช่หรือจ๊ะ แล้วนี่ไปไหนล่ะ”

             “ไปโรงเรียน่ะจ้ะ อีกประเดี๋ยวคงจะกลับมาแล้ว”

             “จริงสิ พี่ก็ลืมไป วันนี้ไม่ใช่วันหยุดนี่นา พี่ก็ร้อนใจเลยให้ตาปรานต์ลางานเร่งด่วน” คุณหญิงยกแก้วน้ำดื่มอีกอึกก่อนจะพูดต่อ “อย่างไรดีล่ะ วันนี้เราไปกินข้าวด้วยกันดีไหม”

             “ขอโทษจ้ะ แต่อย่าดีกว่า ฉันมีเรื่องอีกนิดหน่อยที่ต้องการจัดการต่อ” แม่น้อยบอกพลาง    ขอลุแก่โทษ

             “เหรอ ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นก็ส่งหนูน้ำไปเป็นตัวแทนได้ไหม” คุณหญิงบอก

             “แม่...” น้ำเรียกแม่น้อยเสียงเบา พลางดูสีหน้าของมารดาเพื่อหยั่งเชิง

             “เรื่องนั้นก็แล้วแต่ไอ้น้ำมันเถิดจ้ะ ถ้ามันอยากไปฉันก็ไม่ห้าม”

             “หนูน้ำ ไปกินข้าวกับแม่นะ แม่คิดถึง” เมื่อได้ยินคำอนุญาต คุณหญิงก็หันมารุกไล่ไอ้น้ำทันที

             “ผม...”

            “ไปกินข้าวกับแม่นะ” คุณหญิงชวนซ้ำ

            น้ำทำท่าลำบากใจ เหตุผลหลักก็คือแม่น้อย ถึงนางจะอนุญาตแล้วก็ตามแต่ไอ้น้ำก็ไม่กล้าอยู่ดี

            “ถ้าเอ็งอยากไป ข้าก็ไม่ว่าหรอก” แม่น้อยบอกบุตรชายเสียงเรียบเพื่อให้ไอ้น้ำเบาใจ

            “ขอบคุณจ้ะแม่” มันบอกมารดา พลางหันไปทางคุณแม่ว่าที่แม่ยายในอนาคตของมันทันที “ไปครับ” ไอ้น้ำฉีกยิ้มกว้างให้


            จากเหตุการณ์ครั้งนั้น นี่คงเป็นรอยยิ้มที่สดใสที่สุดของไอ้น้ำแล้วกระมัง



==============================================

ตอนนี้สบายๆ ปลอดโปร่งกันไปเนาะ


สอบถามนิดนึงค่ะ ถ้าจะรวมเล่มจะมีคนสนใจมั้ยคะ


ติด Tag ได้เลยค่ะ #LOTTOสื่อรัก #คนบ้าหวย2018


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :hao3:นี่ยังคิดว่าจะเป็นเขยอยู่นะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เดี๋ยวนะๆ..ใครลูกเขย ใครว่าที่แม่ยาย
ฮ่าฮ่า อินู๋น้ำเอ้ยยยยยยย คนอ่านโคตรจะขำ กร๊ากกกกกกกกก

งอนผู้กองเป็นสาวน้อยขนาดนี้ ยังริอ่านจะไปเป็นปั๋วเค้า
ฮาาาาาาาาาาาาาาาาา

ใกล้สำเร็จ เสร็จถึงฝั่ง ยังจุดหมาย
ค่อยยิ้มพราย คลายเงื่อน เปื้อนยิ้มหัว
วันข้างหน้า ใกล้จะถึง พึงใจตัว
สั่นระรัว คลายกลัวแล้ว เจ้าแก้วตา

ถือว่าเป็นงานดีต่อเนื่องของเจ้าแม่ตะเคียนทอง
ถวายชุดใหม่ให้ 10 ชุด
อิอิ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
โถ่ๆๆๆ น้ำคิดว่าจะไปเป็นลูกเขยเค้าหรอ555

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โอ้ยน้ำลูกก ลูกกำลังเข้าใจผิด คนเป็นเขยต้องผู้กองถูกแล้วลูก5555445

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter


งวดสามสิบห้า ไม่แน่ใจ


“ไปกินข้าวกับว่าที่สามี เอ๊ย กับผู้กองมาเป็นไงบ้างอะ” น้ำฝนเอ่ยทักตรงเชิงบันไดบ้าน ถึงปากจะคันอยากแซวพี่ชายเสียงดังมากกว่านี้ แต่น้ำฝนก็ไม่ลืมว่าตอนนี้แม่ไม่ปลื้ม จึงต้องกระเซ้าพี่ชายเสียงเบา

“ว่าที่สามีอะไรล่ะ มะเหงกไหม” น้ำตั้งท่าจะเคาะหัวน้องสาว แต่น้ำฝนก็รู้ทันหลบเลี่ยงหนีได้อย่างว่องไว

“ดีไหมอะ แต่ท่าทางคงจะดีเนาะ ดูสิ หน้างี้บานเป็นกระด้งเลย”

“ใคร อะไร หน้าบานอะไร”

“หึ อยากจะเอากระจกมาให้ส่องนัก ตอนเข้าบ้านก็ทำหน้าดีๆ ล่ะ หุบยิ้มหน่อย แม่ยังไม่นอน บอกไว้ก่อน”

“ป่านนี้ ยังไม่นอนอีกหรือ ปกติละครจบก็นอนแล้วนี่” น้ำพูดด้วยความแปลกใจ

“คิดว่าเรื่องอะไรล่ะ ที่ทำให้แม่ยังไม่นอน ถ้าไม่ใช่เรื่องที่พี่ไปกินข้าวกับครอบครัวพี่ปรานต์”

“แม่รออยู่เหรอ”

“เข้าไปสิ ทำหน้าเศร้าๆ ด้วย เล่นละครหน่อย” น้ำฝนเตือน

“เออๆ คร้าบ คุณน้องสาว” น้ำประชดน้ำฝนแล้วเดินนำอีกฝ่ายไป


.
.

“ฉันกลับมาแล้วแม่” น้ำส่งเสียงทักทายเป็นสัญญาณให้คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนดูโทรทัศน์รู้ตัว

“กลับมาแล้วเรอะ” แม่น้อยหันมาเห็นบุตรชายจึงกดปิดจอสี่เหลี่ยมนั้นเสีย ในบ้านจึงเกิดความเงียบเข้าครอบงำไปทั่วบริเวณ น้ำกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากเย็น ไม่รู้ว่าแม่น้อยคิดอะไรอยู่

“จ..จ้ะ แล้วนี่...แม่ยังไม่นอนหรือ”

“ถ้านอนแล้วจะเห็นข้านั่งอยู่นี่เรอะ...​แต่ก็ เออ.. ใช่.. ข้ายังไม่นอน รอเอ็งอยู่”

“รอฉัน? รอทำไมจ๊ะ ถ้ามีอะไร ค่อยคุยพรุ่งนี้ก็ได้” น้ำถาม

“วันนี้แหละ รอพรุ่งนี้ข้ากลัวไม่ทันการณ์”

“ไม่ทันการณ์? ไม่ทันอะไรอะ” น้ำฝนที่ไปดูแลความเรียบร้อยภายในบ้าน ปิดประตูหน้าบ้านทุกบานจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นจึงกลับมาสมทบ ทำให้ทันได้ยินประโยคสุดท้ายของมารดาพอดี

“ข้าไม่อยากพูดเดี๋ยวจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอก” คำตอบของแม่น้อยทำให้สองพี่น้องมองหน้ากัน พากันเกาหัวด้วยความไม่เข้าใจ

“อะไรของแม่เนี่ย งั้นฉันไปนอนก่อนนะ” น้ำฝนบอกเพราะไม่อยากจะขัดการสนทนาของแม่และพี่ชาย

“อย่าเพิ่งไป เอ็งก็อยู่ฟังด้วยกันนี่แหละ ตัวดีที่คอยเสี้ยมให้ข้าคิดมากตลอดเวลา” แม่น้อยร้องห้ามพลางค่อนขอดบุตรสาว

“อ้าว” น้ำฝนพูดด้วยความงง เท้าที่กำลังมุ่งหน้าไปยังห้องนอนของตนเอง จึงต้องเปลี่ยนทิศทางมานั่งลงข้างมารดาอย่างเรียบร้อย น้ำเลยทรุดลงนั่งฝั่งตรงข้ามของแม่และน้องสาว

“วันนี้...” แม่น้อยเกริ่นมาหนึ่งคำ เสร็จแล้วนางก็กระแอมเล็กน้อย จึงพูดต่อ “ที่บ้านผู้กองพากันมาเนี่ย เอ็งรู้เรื่องนี้หรือไม่ไอ้น้ำ” แม่น้อยถาม

“ไม่รู้เรื่องเลยจ้ะ” น้ำสงบเสงี่ยมตอบ

“ไม่ได้มุสาโกหกข้านะ”

“ฉันสาบานได้เลยจ้ะ” น้ำทำท่าจะชูมือแล้วเตรียมกล่าวคำปฏิญาณให้คำสัตย์ แต่แม่น้อยก็ห้ามไว้เสียก่อน

“เออ..ข้าเชื่อเอ็ง ...แล้วยายฝนล่ะ?”

“ฉันยิ่งไม่รู้เลย ถ้าฉันรู้เรื่องคงให้มาพรุ่งนี้ จะได้ไม่ต้องไปโรงเรียน พลาดเรื่องดีๆ แบบนี้” หญิงสาวตอบ

“พอ..ข้าถามนิดเดียว อธิบายเสียยืดยาว” แม่น้อยรีบยกมือบอก

“ก็ฉันกลัวแม่ไม่เชื่อเหมือนพี่น้ำ” น้ำฝนบอกเพิ่มเติม

“เอาเป็นว่าข้าเชื่อพวกเอ็งทั้งสองคน เลี้ยงพวกเอ็งมา ข้าก็พอรู้หรอกว่านิสัยพวกเอ็งเป็นอย่างไร แต่ก็ถามเผื่อไว้เฉยๆ เท่านั้น”

“จ้ะ” สองพี่น้องรับคำพร้อมกัน

“เรื่องระหว่างเอ็ง...” แม่น้อยมองหน้าน้ำก่อนจะพูดต่อ “..กับผู้กอง”

“จ้ะแม่”

“คิดดีแล้วหรือ” แม่น้อยถามเสียงเรียบแต่ทว่าเต็มไปด้วยความจริงจัง

“คิดดีอะไรแม่” น้ำทวนคำถามซ้ำ

“ข้าว่าเอ็งรู้ดีว่าผู้กองเป็นผู้ชาย”

“ใช่แม่ ฉันรู้ดีและเข้าใจทุกอย่างดี”

“เอ็งเป็นผู้ชาย และเขาก็เป็นผู้ชาย ถ้ารักกันชอบกัน อยู่กันไปมันก็ไม่เหมือนคู่คนอื่นเขา ไหนจะสายตาคนอื่นที่มองมา ไหนจะลูกเต้าที่ไม่มีทางมีได้ แล้วยังอีกว่าแก่ตัวไปจะอยู่อย่างไร ที่ข้าไปพูดไปเข้าใจความหมายของข้าหรือเปล่า” แม่น้อยพยายามพูดให้บุตรชายเข้าใจสถานการณ์ต่อจากนี้

“ฉันเข้าใจที่แม่พูด รู้ว่าแม่ห่วงฉันแค่ไหน แต่ก่อนที่ฉันจะคบกับผู้กอง ฉันคิดมาดีหมดแล้วทุกอย่าง ตามที่แม่เป็นกังวล ฉันรับได้หมดทุกอย่าง ขอแค่แม่เข้าใจฉันก็พอ”

“สังคมเขาจะมองพวกเอ็งอย่างไร ผู้กองก็มียศ มีหน้ามีตา”

“ฉันไม่มีปัญหาหรอก จะอย่างไรฉันก็จะอยู่กับมันให้ได้ สังคมสมัยนี้เปิดกว้างขึ้นมาก คนทั่วไปเข้าใจกันมากขึ้น เหมือนละครที่แม่ดูไง ก็มีหลายต่อหลายเรื่อง ส่วนเรื่องผู้กอง เขาก็คงคิดมาดีแล้วล่ะ กับแฟนเก่า เขายังไม่มีปัญหาเลย” น้ำพูดอธิบายแต่ประโยคสุดท้ายเสียงกลับแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด แม่น้อยกับน้ำฝนก็เอะใจแต่เข้าใจว่าเป็นเรื่องของแฟนเก่า แฟนใหม่ ปัญหาโลกแตกเท่านั้น

“ยายฝนล่ะ?”

“ฉัน..” น้ำฝนชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพร้อมท่าทางที่งงงวย “ฉันทำไมอะแม่”

“ก็ที่พี่เอ็งเป็นแบบนี้ เอ็งว่าอย่างไร”

“โอ๊ย ฉันไม่มีปัญหาหรอก ตัวพี่น้ำเองนี่นา ไม่เกี่ยวกับฉัน ตัวใครตัวมัน ขอแค่แฟนพี่น้ำดีกับพี่น้ำ ฉันก็พอใจแล้ว เรื่องอื่นๆ ปล่อยให้เป็นเรื่องของพี่น้ำกับแฟนเขาเถอะ คนนอกไม่เกี่ยว”

“นี่เอ็ง..หลอกด่าข้าหรือเปล่าวะ ยายฝน” แม่น้อยฟังจบก็ตงิด ทำไมคำพูดมันสื่อความนัยแปลกๆ

“เปล๊า.. เปล่าเลยจ้ะแม่ ใครจะกล้าด่าแม่ บาปตาย จริงไหมพี่น้ำ” น้ำฝนเสียงสูงปฏิเสธมารดา ฟังอย่างไรก็รู้ว่าลูกสาวของนางน้อยพ่นพิษใส่แม่เสียแล้ว

“ยายฝนจริงจังหน่อย” น้ำอยากจะขำกับเรื่องที่น้องสาวพูด แต่สถานการณ์ของมันยังไม่สู้ดีนัก จึงแกล้งทำเสียงขรึมปรามน้องสาว

“ไม่อยากมีลูกหรือเจ้าน้ำ” แม่น้อยถาม

“สำหรับฉันตอนนี้...ก็..ไม่รู้เหมือนกันว่าอยากมีหรือเปล่า แต่ฉันก็ตัดสินใจแล้ว เมื่อเลือกเดินทางนี้ก็คงมีลูกไม่ได้ ฉันน่ะกลัวแค่แม่จะผิดหวังเท่านั้น...แต่หลังจากนี้ ต่อให้ไม่ใช่ผู้กอง ฉันก็คงไม่เลือกผู้หญิงมาแต่งงานด้วยหรอกจ้ะแม่ ไม่อยากหลอกลวงเขา” น้ำบอก แต่คำพูดของมันก็บอกเป็นนัยอีกเช่นเดียวกันว่า แม่น้อยคงไม่มีทางได้อุ้มหลานจากไอ้น้ำในชาตินี้แน่นอน ให้เลิกหวังไปได้เลย

“เรื่องนี้แม่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะไม่ได้อุ้มหลานนะ เดี๋ยวฉันจะมีหลานให้แม่อุ้ม แม่เลี้ยงเอง ดีไหม”


โป๊ก!!


“โอ๊ย พี่น้ำมาเขกหัวฉันทำไม” น้ำฝนร้องเสียงดังเพราะความเจ็บจากที่ถูกพี่ชายเขกหัวไม่เบามือ

“แก่แดดนัก” แม่น้อยว่า

“เรียนยังไม่จบ ยังไม่ต้องคิด อีกอย่างการที่จะมีลูกได้ ต้องมีผัวก่อน มโนเองไม่ได้ เรียนมาคงรู้ใช่ไหม” น้ำบอกแกมด่าน้องสาว

“รู้สิ รู้..โอยเจ็บจัง พี่น้ำมือหนักชะมัด”

“เรียนให้จบก่อน เรื่องหลานเหลินอะไร ข้าไม่รีบ ไม่มีก็ไม่มี ช่างมัน” แม่น้อยบอกน้ำฝน พานเลยไปทางไอ้น้ำให้รู้ตัว ว่านางเข้าใจทั้งหมด

“จ้ะแม่” สองพี่น้องรับคำอีกครั้ง

“บ้านผู้กองเขาจะมาที่นี่อีกไหม”

“มาพรุ่งนี้จ้ะ”

“มาทำไมเร็วจัง นี่ให้เวลาข้าคิดน้อยจริง” แม่น้อยบ่น

“เขาจะมารับฉันแล้วให้พาไปเที่ยวในเมืองจ้ะ” น้ำอธิบาย

“อ่อ..มารับว่าที่ลูกสะใภ้ โอ๊ยแม่ผัวรักเหลือเกิน” สิ้นคำของน้ำฝน ก็ถูกมะเหงกของแม่น้อยเข้าไปแทนบ้าง

“โอ๊ย อะไรเนี่ยแม่”

“ไปพูดอย่างนั้นกับพี่เขาได้อย่างไร ผู้ชายเหมือนกัน สะพ้ง สะใภ้อะไร ยายฝน เอ็งนี่มันพูดอะไรไม่รู้เรื่อง” แม่น้อยดุ

“ใช่ ถูกอย่างที่แม่พูด ข้าเป็นพี่เอ็ง เป็นผู้ชายมีหรือจะไปเป็นสะใภ้ เอาอีกสักทีดีไหม” น้ำตั้งท่าจะเคาะหัวน้องสาวอีกครั้งแต่น้ำฝนหลบได้ทัน

“เข้าขากันดีเหลือเกินนะสองแม่ลูก หายงอนกันแล้วเหรอ” น้ำฝนค่อนขอด แต่ไม่ได้จริงจังอะไรนัก เธอไม่ได้โกรธคนทั้งคู่เลยแค่หมั่นไส้ที่เข้ากันได้ดี



คำพูดของน้ำฝนทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างเหมือนหยุดชะงักลง แม่น้อยกระแอมขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาเพื่อทำลายความกระอักกระอ่วนตรงนี้


“ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้ก็รีบเข้านอนเถอะ พรุ่งนี้คงต้องคุยเรื่องของเอ็งกับผู้กองจริงจัง” แม่น้อยบอกเป็นการปิดการประชุมของบ้านแต่เพียงเท่านี้


แม่น้อยลุกขึ้นเข้าห้องไปแล้ว เหลือเพียงสองพี่น้องที่ยังมองหน้ากันว่าที่เรียกมาคุย คือแค่นี้?


แค่นี้จริงดิ?


คืนนั้น ไอ้น้ำรีบเข้านอนจริงตามที่มารดาพูด แต่มันก็นอนไม่หลับ พลางคิดถึงเรื่องในวันนี้ มันมีหลายเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเหลือเกิน มันไม่นึกไม่ฝันว่าผู้กองจะกลับมาที่นี่อีก ซ้ำยังไม่ได้มาเพียงลำพังแต่พาคนในครอบครัวมาด้วย สร้างความตื่นเต้นและตกใจให้กับไอ้น้ำไม่น้อยเลยทีเดียว


นายนทีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าจอกับไอคอนสีเขียว มันกดเข้าไป เลื่อนนิ้วไล่หาข้อความจากคนที่มันอยากเห็นมากที่สุดแต่ไม่มีข้อความจากคนที่มันคิดถึงอยู่เลย เพราะข้อความจากอีกฝ่ายไม่เคยถูกส่งมาเลยสักครั้ง นับตั้งแต่เหตุการณ์สาหัสนั้น ชื่อคนคนนั้นรวมไปถึงรูปของคนคนนั้นที่ตั้งเป็นโปรไฟล์ยังเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่สนใจที่จะอัพเดทมันหรือว่าจริงๆ ก็คืออีกฝ่ายกลับบล็อกเขาไปแล้วต่างหาก

“อาหารที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลใช่ไหมจ๊ะ” คุณหญิงแม่ถาม ตอนนี้น้ำคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เขาเข้าไปร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นกับครอบครัวของผู้กอง

“จริงๆ แล้วก็มีหลายอย่างเลยครับ”

“อย่างนั้นหรือ ทำไมแม่คุ้นว่าที่นี่ของทะเลขึ้นชื่อ”

“ที่นี่มีของทะเลเยอะครับ แล้วไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วย” น้ำอธิบาย

“อ้อ..ก็จริงนะ ขับรถมาแป๊ปๆ ก็ถึงแล้ว” คุณหญิงยิ้มให้น้ำแล้วหันไปถามสามี “อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ก็จริง แต่แปลกนะคะคุณ ที่คนบางคนไม่ค่อยกลับบ้าน”

“จะว่าผมก็หันมาถามผมสิครับ แม่” ผู้กองเอ่ยขึ้นมาบ้าง

“แม่ไม่ได้ว่าเราสักหน่อย เอ..หรือว่าแม่เอ่ยชื่อปรานต์ออกมางั้นเหรอ” คุณหญิงทำเฉไฉไม่รับรู้

“พ่อว่างานนี้เราตกกระป๋องแล้วล่ะ ปรานต์” คนเป็นพ่อหันไปแซวบุตรชาย

“คงอย่างนั้นครับคุณพ่อ” ปรานต์เห็นด้วยเพราะเข้าใจความหมายที่พ่อสื่อมาอย่างดี


ถ้าหากจะมีคนไม่เข้าใจคงจะมีแต่ไอ้น้ำที่มันนั่งงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ว่า คุณพ่อหมายถึงใคร หรือจะ วรันต์?


“เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ สบายดีใช่ไหม” คุณหญิงเอ่ยถามคนโปรดคนใหม่พลางตักหอยเชลล์ผัดฉ่าให้สามีของนางอย่างรู้ใจ

“สบายดีครับ” น้ำตอบ

“แม่ขอถามหน่อย ตอนที่แม่ไปเจอหนูอยู่ตรงแถวท่าน้ำน่ะ คิดจะทำอะไรล่ะ”

“ครับ?” น้ำยังจับต้นชนปลายไม่ถูก

“แม่เห็นเราเอาเชือกคล้องกับกิ่งไม้ใช่ไหม ตั้งใจจะทำอะไรลูก”

“อ้อ...เรื่องนั้น...คือ” น้ำมีสีหน้าและท่าทางลำบากใจที่จะอธิบาย

“ไม่ได้คิดสั้นใช่ไหม” คุณหญิงตัดสินใจถามตรงๆ

“แม่ครับ..” ปรานต์เอ่ยเตือนมารดาเพราะกลัวจะเป็นการละลาบละล้วงอีกฝ่ายมากเกินไป

“ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้คิดสั้น...ไม่เคยคิดเลยครับ” น้ำรีบตอบ ถึงจะอกหักเสียใจแค่ไหน เขาก็ไม่เคยคิดอะไรแบบนี้เลยแม้แต่น้อย นอกจากคิดเล่นๆ ว่าอยากจะหนีไปบวช แต่ก็จะเป็นการเพิ่มภาระให้ศาสนา ก็เลยได้แค่คิด ไม่มีวันไปทำจริงอย่างแน่นอน

“ถ้าอย่างนั้นแม่ก็เบาใจ”

“น้ำคงเห็นเชือกตกอยู่เลยจะเก็บไว้เท่านั้นแหละครับ แม่ทานกุ้งหน่อยนะครับ ผมแกะให้แล้ว” ผู้กองหนุ่มช่วยไอ้น้ำอธิบายอีกแรงและรีบเปลี่ยนเรื่อง

“ขอบใจจ้ะ” คุณหญิงบอกบุตรชายแล้วก็หันมายังคนโปรดต่อ “ตาเศร้า น่าหมองเชียว เสียใจมากใช่ไหม พี่เขาก็ไม่ต่างกันหรอก ขวัญเอ๊ยขวัญมานะ ลูกนะ”

“แม่พอเถอะครับ...” ปรานต์พยายามห้ามมารดาอีกครั้ง

“ขอบคุณครับ” น้ำไม่รู้จะตอบว่าอะไร ทำได้เพียงใช้คำสากลตอบรับความห่วงใยของอีกฝ่าย


ตลอดมื้ออาหารคุณหญิงทำหน้าที่เป็นฝ่ายชวนทุกคนคุยเพราะนางไม่อยากให้น้ำต้องรู้สึกเคอะเขิน และตกอยู่ในบรรยากาศที่ยังเต็มไปด้วยความเศร้า

“ของหวานที่นี่ก็อร่อย แน่นท้องเหมือนกันนะคะ คุณคะ ออกไปเดินแถวๆ นี้ดีไหมคะ เขาตกแต่งร้านสวยเชียว ถ่ายรูปเล่นก็ยังดี”

“อายุปูนนี้แล้วยังอยากถ่ายรูปอยู่อีก แต่ก็ดีเหมือนกัน จะได้เดินย่อยด้วย”

“ค่ะ ให้หนุ่มๆ เขาเฝ้าโต๊ะไปละกัน” คุณหญิงลุกจากที่นั่งแล้ววางมือบนบ่าของน้ำก่อนจะเริ่มพูดต่อว่า “ถ้ายังไม่อิ่มก็สั่งกันต่อเลยนะจ๊ะ แม่จะไปเดินย่อยอาหารกับพ่อเขาเสียหน่อย คนแก่ก็แบบนี้แหละจ้ะ กินอะไรนิดๆ หน่อยๆ ท้องก็จะพานอืดเอาได้ง่าย”

“ครับ”

“เป็นไงบ้าง” เมื่ออยู่ตามลำพัง ผู้กองจึงเอ่ยถามคนนั่งข้างขึ้น เขารู้ว่าแม่ของเขาตั้งใจเปิดโอกาสให้เขาได้พูดคุยอยู่กับน้ำตามลำพัง

“แม่ผู้กองถามไปแล้ว และผมก็ตอบว่าสบายดี” น้ำบอกเสียงเรียบ

“พี่ได้ยินแล้ว สบายกายแล้วสบายใจด้วยไหม”

“ก็ดี”

“ไม่มีพี่แล้วสบายใจอย่างนั้นหรือ น่าน้อยใจชะมัด” ผู้กองบ่น น้ำปรายตาไปมองก็เห็นว่าเป็นทีท่าแกล้งพูดไปอย่างนั้นเอง การละครเหลือเกิน

“คนที่น่าน้อยใจควรจะเป็นผมหรือเปล่า ผู้กองย้ายกลับไปก็ไม่บอกสักคำ พอกลับไปกรุงเทพฯ ก็คงมีความสุขเหมือนกันนั่นล่ะ” สาบานให้ลิ้นขาด มันไม่ได้อยากจะประชด แต่มันน้อยใจจริง


จะไปจะมา ไม่บอกกันสักคำ


“ที่ไม่ได้บอกเรื่องย้ายกลับ น้ำก็รู้ หลังจากที่เกิดเรื่องนั้น พี่ไม่กล้าติดต่อไปหรอก พี่กลัวน้ำลำบากใจแล้วถ้าแม่น้อยรู้ว่าพี่กับน้ำยังติดต่อกันอยู่ ปัญหาอีกมากมายจะตามมา”

“อือ..” พอลองได้คิด น้ำก็คิดว่าถูกต้องอย่างที่ผู้กองพูด

“ส่วนที่กลับไปกรุงเทพฯ แล้วพี่มีความสุขหรือเปล่า ทำไมถึงคิดว่าพี่จะมีความสุขล่ะ แล้วตัวน้ำเองมีความสุขไหม ถ้าสุข พี่ก็สุข แต่ถ้าไม่ พี่ก็เป็นเหมือนที่น้ำเป็นนั่นล่ะ” ผู้กองเลือกที่จะตอบคำถามด้วยคำถาม

“....”

“พี่หายไปนานเพราะกลับไปแล้ว มีงานที่คั่งค้างอีกมาก มีเรื่องหลายเรื่องหลังจากที่พี่ถูกย้ายมาที่นี่จนย้ายกลับไป”

“แล้วกลับมาที่นี่ทำไม ถ้าเราเลิกกันแล้ว” น้ำถาม มีหลายเรื่องอย่างที่ผู้กองบอก แต่ที่เขาอยากรู้มากที่สุดก็คืออีกฝ่ายกลับมาที่นี่เพื่ออะไร

“พี่ไม่ได้ต้องการที่จะเลิก”

“แต่ก็เลิกแล้ว” น้ำเถียง

“ใช่เพราะเราเลิกกันแล้ว”

“...” ตอนที่เป็นฝ่ายพูดไม่ค่อยเจ็บ แต่พอผู้กองพูดมา ไอ้น้ำรู้สึกโรคหัวใจกำเริบอีกแล้ว มันเจ็บจี๊ดกะทันหัน

“แต่เพราะพี่ไม่ได้ต้องการเลิกกับน้ำ..พี่เลยกลับมาทำให้เราเป็นเหมือนเดิม”

“....” นายนทีไม่ตอบ


เพราะคำถามมันก้องอยู่ในหัวว่า ภาพที่เขาเห็นเมื่อวันก่อนที่กรุงเทพฯ ระหว่างผู้กองกับวรันต์นั่นล่ะ


มันยืนยันอะไรได้บ้าง ไอ้น้ำไม่เข้าใจ


พอกลับถึงบ้าน มันก็เลยต้องปั้นหน้ายิ้มเป็นชามสังคโลกไง




==============================================

ติด Tag ได้เลยค่ะ #LOTTOสื่อรัก #คนบ้าหวย2018
 
ปล คำผิดเยอะเหลือเกิน ขออภัยค่ะ จะดูให้ดีกว่านี้ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2018 17:13:44 โดย เขมกันต์ »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :z6:

ช่วงนี้พระเอกของเราติดลบนะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เรียกแม่ตะเคียนมาช่วยอีกแรงนะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด