งวดยี่สิบ รู้ใจตัวเอง
“น้ำ...คุณอรโอนเงินมาให้แล้วนะ” เช้าวันเสาร์ บาสโทรหาหนุ่มรุ่นน้องหลังจากที่ไอ้น้ำเฝ้าอดหลับอดนอนแก้งานจนถึงวันศุกร์ เมื่อได้ไฟล์มา บาสก็รีบเช็ค ตรวจสอบอย่างดีแล้วส่งต่อให้คุณอรอย่างรวดเร็ว หญิงสาวก็ทำตามอย่างที่พูดไม่บิดพลิ้ว พอตกลงโอเค ไม่แก้ไขอะไรแล้วก็โอนเงินมาให้คืนวันศุกร์นั้นเลย
บทจะรวดเร็วก็เร็วใจหาย พอจะเรื่องมากก็เรื่องเยอะจนอยากถอนตัว
“ไวแฮะ พี่บาสโอนเงินเข้าบัญชีผมเหมือนเดิมก็ได้ครับ ขอบคุณพี่มาก”
“ไม่โอนว่ะ”
“เอ้า ไหงงั้นอะพี่ จะยักยอกเงินผมเหรอ อย่าเลยนะ ผมคนบ้านนอกพี่อย่าแกล้งผมเลย” น้ำโอดครวญ เงินนั้นโปรดมอบให้เขาเถิด เขาอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเงิน
“อะไรของแก คิดเองเป็นเรื่องเป็นราวไปได้ ไปกินข้าวกันหน่อยดิวะ ใจคอจะไม่กินข้าวด้วยกันกับพี่หน่อยเหรอ”
“ลืมเลย เอาสิพี่ กินอะไรดีอะ”
“ไม่รู้ ไปถึงห้างค่อยเลือกแล้วกัน ไปห้างแถวที่ทำงานนะ ไปถูกมั้ย”
“พี่บาส ดูถูกกันชะมัด”
“ฮ่าๆ จะไปรู้เรอะ กลับบ้านไปตั้งหลายเดือน อาจจะลืมทางไปออฟฟิศแล้วก็ได้”
“เจอกันที่นั่นนะพี่ ผมไปอาบน้ำก่อน”
“สิบเอ็ดโมงนะ เจอกันหน้าห้าง” พี่บาสนัดแนะเวลา สถานที่ก่อนจะวางสายลง
“ครับ”
“กลับบ้านเป็นไง แฮปปี้ดีมั้ย” บาสชวนคุยพลางเปิดเมนูอาหารจากร้านอาหารที่ไอ้น้ำเป็นฝ่ายเลือกว่าอยากกิน
“ดีพี่ มีความสุขมาก เงินแทบไม่ได้ใช้ งานก็มีทำ หวยก็ถูก โคตรดีของคำว่าดีอะ ไม่รู้จะบอกว่าดียังไง” น้ำเล่าด้วยความสุขอย่างที่เจ้าตัวพูด นัยน์ตาสดใส เปร่งประกาย
“พอๆ ไม่ต้องพรรณนาแล้ว ดีเกินไป พี่ไม่อยากฟัง อิจฉาว่ะ”
“อิจฉาผมได้เยอะๆ เลย ผมเต็มใจ”
“ไอ้นี่”
“พี่กินอะไรอะ”
“สั่งเลย เลือกร้านนี้เพราะอยากกินไม่ใช่เหรอไง” บาสตามใจหนุ่มรุ่นน้อง ไม่ใช่เพราะเขาอยากได้ตามใจแต่เพราะอยู่ในที่ทำงานเขาเป็นพี่ใหญ่ จึงมักจะตามใจน้องๆ จนเคยชิน
“ใช่ ที่จังหวัดผมยังไม่มีร้านนี้ไปเปิดอะ เสียดาย”
“ไก่ทอดเนี่ยนะ?”
“อือ”
“บ้านนอกจริงๆ” พี่บาสแซว ไม่ได้หมายความอย่างที่พูดจริงๆ
“ไก่ทอดเกาหลี มันมาจากเกาหลี มันไม่ได้มาง่ายๆ นะพี่ โห่ ไม่เข้าใจคนชอบกินเลย” น้ำบอกอีกฝ่าย ส่ายหน้าเบาๆ ทำหน้าเหมือนว่าบาสนี่ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย
“ถ้าชอบก็สั่งไปเยอะๆ จะสั่งกลับบ้านด้วยมั้ยล่ะ” พี่บาสถาม
“ประชดปะ”
“ก็นิดหน่อย”
“ก็ว่างั้น กำลังจะพูดพอดีว่าเดี๋ยวสั่งกลับบ้านด้วยนะ”
“ไม่ผิดจากที่คิด กูว่าแล้ว” พี่บาสบอก ไอ้น้ำมันเคยสนใจคำประชดประชันซะที่ไหน เกินเบอร์ทุกอย่างล่ะ
“เรื่องเงิน..พี่โอนให้แล้วนะ” พี่บาสบอกหลังจากพนักงานมารับออเดอร์รายการอาหารไป ไอ้น้ำผู้สั่งทุกอย่างมากกว่าขนาดตัวเสมอ แต่เขาก็เชื่อว่ามันกินหมด
“อ้าว ตอนไหน”
“ก่อนแกจะมาถึงห้างสักพัก”
“แล้วไม่บอก”
“ถ้าบอกก่อน กลัวแกจะมาไม่ถึงแล้วนั่งรถกลับห้องแทน”
“ผมไม่ทำอย่างนั้นหรอก นี่เห็นน้องคนนี้เป็นยังไง”
“ก็เพราะรู้เช่นเห็นชาติแกแล้ว พี่ก็เลยเข้าใจว่า ประมาทคนอย่างแกไม่ได้นะ ไอ้น้ำ”
“ผมออกจะใสๆ เรียบร้อย”
“ไสหัวไปไกลๆ น่ะสิ”
“พี่ก็จริงจังไป นี่น้องน้ำไงครับ น้องน้ำ”
“มาให้พี่ถีบมั้ยครับ น้องน้ำ” พี่บาสโก่งคอเหมือนจะอ้วก ที่ต้องเรียกไอ้น้ำจอมกวนของแผนกว่าน้องน้ำ
“กินข้าวกันดีกว่าครับพี่ ไก่ทอดมาละ” น้ำเห็นท่าไม่ดี ประกอบกับพนักงานมาเสิร์ฟไก่ทอดที่ไอ้น้ำนับวันรอก็มาทันเวลา เขาจึงเปลี่ยนเรื่องได้ทันอย่างหวุดหวิด
“กลับบ้านวันไหน”
“พรุ่งนี้อะพี่”
“มาแค่สามสี่วันเองเหรอวะ อยู่หลายๆ วันหน่อยดิ อยากเข้าไปที่ออฟฟิศมั้ยล่ะ พวกพี่ๆ เขาบ่นคิดถึงแกอยู่”
“ไม่ได้อะพี่บาส คราวหน้านะ รอบนี้ไม่ได้รับปากกับแม่ไว้ว่าต้องกลับไปก่อนหวยออก ขอโทษจริงๆ” น้ำกลืนไก่ลงคอแล้วปฏิเสธพี่บาสด้วยความเกรงใจเพราะเขาก็สนิทสนมเฮฮากับคนในบริษัทนั้นไม่น้อยเลยทีเดียว
“ก่อนหวยออก? ทำไมต้องก่อนหวยออกวะ”
“เรื่องของคนเล่นหวย พี่ไม่เข้าใจหรอกน่า” น้ำบอกปัดเพราะคร้านที่จะอธิบาย
“แม่พี่ก็เล่นหวย ยังไม่เห็นมีปัญหาอะไร นอกจากบ่นเวลาถูกหวยกิน”
“ศาสตร์นี้มันลึกซึ้ง เอาเป็นว่าผมต้องกลับบ้านพรุ่งนี้ คราวหน้านะพี่ สัญญาเลย”
“เออๆ พี่จะไม่บอกที่ออฟฟิศก็แล้วกันว่าแกมากรุงเทพฯ ไม่งั้นพากันน้อยใจแน่”
“ขอบคุณครับพี่บาส พี่นี่ใจดีจริงๆ”
“ไม่ต้องมาปะเหลาะเอาใจ แกไม่ใช่ผู้หญิง พี่ไม่ดีใจหรอก”
“พี่บาสใจดีจังเลยค่ะ น้ำขอบคุณพี่มากๆ เลยนะคะ” น้ำกลายร่างเปลี่ยนเสียงเป็นผู้หญิงตามใจอีกฝ่าย
“หยุดๆ อย่าดัดจริตทำเสียงแบบนั้น เดี๋ยวได้ล้มโต๊ะ ไก่เก่ยไม่ต้องกิน”
“สนุกๆ ขำๆ น่าพี่”
“มากไป ขำไม่ออก คิดแล้วพานให้กินไก่ไม่ลง”
“พี่บาสตลกว่ะ” น้ำเห็นหน้าพี่บาสที่ดูเหวอจริงจังก็เลิกแกล้งอีกฝ่าย แค่นี้เขาก็ก็กลั้นเสียงหัวเราะจนจะทนแทบไม่ไหวแล้ว
“ชอบแกล้งพี่ นิสัยไม่ดี ถ้ามีแฟน เชื่อเถอะโดนแฟนแกล้งแน่” พี่บาสขู่
“ไม่กลัว” น้ำคิดว่าตัวเองก็แน่พอตัว เขาจะไม่ยอมโดนแกล้งอยู่ฝ่ายเดียวหรอก
“พูดถึงเรื่องแฟน ตกลงเรื่องนั้นเอาจริงดิ”
“เรื่องนั้น? เรื่องไหนอะ”
“เรื่องที่จะจีบผู้ชายไง โอย ไม่อยากพูด มันกระดากปาก”
“อ่อ.. พี่ว่าไงอะ เห็นด้วยมั้ย” น้ำขอความคิดเห็น
“จะไปรู้ได้ไงวะ เขาเป็นคนยังไง นิสัยหน้าตา เป็นยังไง พี่ยังไม่รู้เลย จะแนะนำได้ไงเล่า”
“ไม่ใช่หมายถึงที่ผมจะจีบผู้ชาย”
“ชีวิตใคร ชีวิตมัน แกตัดสินใจยังไง พี่ก็ไม่มีปัญหาทั้งนั้นแหละ ห่วงแต่บ้านแกนั่นแหละไอ้น้ำ แม่จะโอเคมั้ย คุยกันดีๆ ล่ะ”
“เออจริงด้วย” น้ำฟังคำของพี่บาสแล้วก็คิดได้ว่าแม่ของเขาล่ะจะรู้สึกยังไง
“เขาหน้าตาเป็นไง นิสัยยังไง คนที่แกอยากไปจีบน่ะ” พี่บาสถามรายละเอียดเป้าหมายของไอ้น้ำ
“หน้าตาเหรอ..ดีมั้ง ดีแหละ แต่น้อยกว่าผมหน่อย นิสัยก็ดีนะ ใจดี ชอบช่วยเหลือคน บางทีก็ช่วยซะเวอร์” น้ำคิดถึงเหตุการณ์ที่ผู้กองเซ็นเช็คให้วรันต์แล้วยังขนลุกไม่หาย ห้าแสน ไม่ธรรมดา
“เหรอ แล้วเขาทำงานอะไรหรือยังเรียนอยู่”
“ทำงานแล้วๆ เป็นตำรวจอะ”
“ชอบคนในเครื่องแบบเหรอวะ” พี่บาสถาม เพราะปกติเท่าที่คลุกคลีกับผู้หญิงมานาน เขาสังเกตได้ว่าผู้หญิงมักจะสนใจอาชีพที่อยู่ในเครื่องแบบเป็นพิเศษ
“เปล่าสักหน่อย”
“แล้วชอบตำรวจคนนั้นตรงไหนล่ะ” พี่บาสถามเพราะอยากรู้ว่ามันต้องมีอะไรที่ทำให้คนคนหนึ่งเปลี่ยนจากชอบผู้หญิงมาชอบผู้ชาย
“ไม่รู้สิ เวลาอยู่กับเขามันสบายใจ มันเหมือนเขาจะแก้ไขปัญหาให้เราได้ น้ำเสียงเวลาที่เขาคุยกับผม โอ๊ย ไม่รู้อะพี่ บอกไม่ถูก” น้ำรีบตัดบท ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากพูดถึงแต่เพราะเขากำลังเขินต่างหาก
ให้มานั่งบรรยายว่าชอบคนคนหนึ่งเพราะอะไร มันก็ยากเหมือนกันนะเฮ้ย
“เออๆ แล้วจากนี้จะไปไหนต่อ” พี่บาสเปลี่ยนเรื่องให้เพราะเขาก็พอเข้าใจหนุ่มรุ่นน้องอยู่บ้างเหมือนกัน ชายหนุ่มเรียกพนักงานมาคิดเงิน
“ไม่รู้ คงเดินเล่น เดินดูของอะไรงี้มั้งพี่ ไม่ก็ไปหาไอติมกิน พี่ไปด้วยกันมั้ยล่ะ”
“ได้ วันนี้พี่ไม่ได้มีนัดอะไรที่ไหน”
“แปลกสุดๆ พี่บาสคิวทองจะว่างจากสาว” น้ำพูดอย่างไม่เชื่อหู เจ้าชู้ตัวพ่ออย่างพี่บาสจะโดดเดี่ยว ไม่มีสาวไหนมาเดินเป็นเพื่อน
“คนเรามันก็ต้องมีช่วงที่ว่างบ้างสิวะ”
“ว่างหรือพักเพราะสับรางไม่ทัน”
“รู้ดี เอ้าปะ ลุก ไปกินติมไรที่แกพูด”
“ไอติมร้านนั้นนะพี่ ที่บ้านผมก็ยังไม่มียี่ห้อนี้” น้ำชี้ไปร้านไอศกรีมที่หมายตาไว้ พี่บาส พยักหน้าว่าตกลงแล้วเป็นฝ่ายเดินนำไปที่เมนูที่ถูกวางโชว์อยู่หน้าร้าน
“ไอ้น้ำ ไอติมสมัยนี้แพงเหมือนกันนะ” พี่บาสบ่นพลางขอความเห็นจากคนข้างๆ ปกติแล้วเขาไม่ได้พาสาวมาทานไอศกรีมยี่ห้อแพงสักเท่าไหร่ มักจะทานยี่ห้อทั่วไปที่ไม่แพงนัก อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาประหยัดเงินในกระเป๋าได้บ้าง
“...” บาสไม่ได้ยินคำตอบจากอีกฝ่าย เขาเลยมองหนุ่มรุ่นน้องก็พบว่าหนุ่มรุ่นน้องข้างๆ นั้น กำลังมองคนสองคนที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่ลูกกันที่กำลังยืนคุยกันอยู่หน้าร้าน
“แม่อยากลองกินยี่ห้อนี้เหรอครับ”
“จ้ะ ปรานต์ แม่อะอยากกินหลายครั้งแล้วแต่พ่อเขาไม่ชอบของหวาน แม่ก็เลยไม่ได้ลองสักที”
“เราเข้าไปเลยกันดีมั้ยครับ”
“จ้ะ”
“น้ำ?มาได้ไง มากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อไหร่” จังหวะที่ผู้กองกำลังประคองหลังคุณหญิงเพื่อพาเข้าไปในร้าน เขาก็ได้พบกับสายตาของคนหนึ่งที่รู้จักกัน
“เอ่อ.. ผู้กอง ..เอ่อ สวัสดีครับ คุณน้า” เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอโดยบังเอิญ ไอ้น้ำจึงปฏิบัติตัวไม่ถูก รู้สึกมือไม้เกะกะยังไงไม่รู้ เขาเลยยกมือไหว้อีกฝ่ายแล้วเลยไปทางผู้หญิงข้างๆ ของชายหนุ่มอีกด้วย
ทางด้านคุณหญิงก็รับไหว้เด็กหนุ่มพร้อมกับยิ้มให้ พี่บาสที่ยืนเก้กังเหมือนเป็นส่วนเกินอยู่ก็รีบไหว้ผู้ใหญ่ตามไอ้น้ำอย่างอัตโนมัติ สถานการณ์แบบนี้มันดูกระอักกระอ่วนไปหน่อยสำหรับคนอย่างเขา
“เรียกคุณป้าก็ได้จ้ะ ป้าน่าจะอายุมากกว่าแม่ของหนูแน่ๆ แล้วนี่ปรานต์รู้จักกับน้องเหรอจ๊ะ” คุณหญิงหันไปถามบุตรชาย
“ครับ ที่ผมเคยเล่าให้แม่ฟังที่ไปพักบ้านเขา”
“อ๋อ อย่างนั้นเหรอจ๊ะ โลกกลมจริงๆ แล้วนี่หนูก็มาทานไอติมเหมือนกันเหรอ” พอได้รู้เรื่องว่าน้ำคือคนที่ให้ที่พักพิงกับปรานต์เวลาที่ลำบากนั้น คุณหญิงก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณในความบังเอิญ
“ครับ”
“ดีจ้ะ ถ้าอย่างนั้นมาทานด้วยกันเลยดีมั้ยจ้ะ ป้าจะได้เลี้ยงขอบคุณที่ช่วยเหลือปรานต์ตอนอยู่ที่นู่น”
“ไม่เป็นไรครับ ผู้กองก็ช่วยเหลือบ้านผมเหมือนกันครับ” น้ำปฏิเสธด้วยความเกรงใจ พี่บาสที่เป็นคนนอก เขากำลังปะติดปะต่อเรื่องราวของคนทั้งสามคนและเขาคิดว่าเขากำลังจะเข้าใจแล้ว
คนนี้นี่เอง !!!!!!!
พี่บาสมองคนสองคนสลับไปมา พอเห็นผู้กองที่ไอ้น้ำเรียกชัดๆ แล้ว พี่บาสก็อยากจะตะโกนใส่หน้าไอ้น้ำว่า หนอย!แล้วบอกจะให้เขามาซบอกตัวเอง เขาตัวสูงใหญ่แบบนี้ ประเมินตัวเองสูงไปแล้วไอ้น้ำ โอย พี่บาสจะเป็นลมแทน
ถ้าผู้กองเขาไม่ได้ชอบมันเหมือนกัน พี่บาสคิดว่างานนี้น่ะงานหินชัดๆ เผลอๆ จะโดนจับเข้าไปนอนในคุกโดยไม่รู้ตัว สู้ๆ นะเว้ย ไอ้น้ำ
“อย่าเกรงใจเลย ถือซะว่ามานั่งทานไอติมเป็นเพื่อนคนแก่ ปรานต์จะได้ไม่เหงา มีหนูเป็นเพื่อนคุยด้วย คุยกับคนแก่มากๆ ก็กลัวเขาจะเบื่อเสียก่อน”
“ผมจะเบื่อแม่ได้ไง อีกอย่างน้ำเขาอาจจะอยากคุยกับเพื่อนเขาสองคนก็ได้นะครับ” ปรานต์ส่ายหน้าเพราะเขารู้ว่าแม่ของเขากำลังคิดจะทำอะไรอยู่แน่ๆ
พี่บาสยิ่งยืนอยู่ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินสุดๆ เขาไม่ควรมายืนอยู่ตรงนี้ คำพูดของผู้กองดูเหมือนจะไม่ได้มีอะไรในกอไผ่ แต่เขาสัมผัสได้ เขารับรู้ได้ ไม่ต้องมีญาณทิพย์อะไร พี่บาสก็รู้สึกได้ เพราะมันเหมือนเวลาที่เขาไปจีบสาวแล้วผัวของผู้หญิงพุ่งมาหาเขาน่ะแหละ
เหมือนกันเล้ย ไอ้น้ำ งานนี้แกน่าจะสมหวังแล้วว่ะ วอนอย่าเล่นตัวกันนักก็แล้วกัน
“เอ่อ.. พี่ว่าก็ดีนะน้ำ กินไอติมกับผู้กองแล้วก็คุณป้าเถอะ”
“แล้วพี่อะ ไหนว่าจะกินไอติมด้วยกันก่อนไง” ไอ้น้ำพูดทวงสัญญา ส่วนพี่บาสก็มองเด็กที่มันบื้อไม่รู้ตัวว่าคอกำลังจะขาด
“พี่เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระด่วน ต้องขอตัวก่อน ผมขอตัวก่อนนะครับ” บาสไม่รอให้ไอ้น้ำมีสติรั้งเขาได้ทัน ชายหนุ่มรีบยกมือไหว้ทุกคนแล้วออกมาจากบริเวณนั้นทันที
“เอ้า พี่บาส... อะไรของเขาวะ” น้ำเรียกชื่ออีกฝ่าย แล้วก็บ่นกับตัวเองด้วยความไม่เข้าใจในการกระทำของคนที่เพิ่งกลับไปเมื่อสักครู่นี้
“ถ้างั้นเราเข้าไปกันเลยดีมั้ยจ๊ะ” แล้วไอ้น้ำก็ต้องเดินตามเข้าไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“หนู ชื่อ น้ำใช่มั้ย” คุณหญิงถามหลังจากที่ทุกคนได้ไอศกรีมกันคนละถ้วยแล้ว
“ครับ”
“เวลาปรานต์อยู่ที่นั่น มีสาวๆ เข้ามาเกาะแกะเขามั้ยจ๊ะ” น้ำได้ยินแล้วก็เสียวหลังวาบ สาวๆ น่ะไม่มีหรอก ตอนนี้มีแต่เขาที่คิดนอกลู่นอกทางจะจีบลูกชายคุณป้าเนี่ยแหละ คุณหญิงถามอย่างกับไม่รู้เหรอว่าลูกชายคุณหญิงชอบผู้ชาย น้ำสงสัย
“เท่าที่รู้...ไม่มีเลยครับ”
“อย่างนั้นเหรอจ๊ะ ไม่ได้เลยเหรอ ได้ยังไงกัน หนูว่าลูกชายป้ามีเสน่ห์มั้ย”
“แม่ครับ...” ปรานต์เรียกมารดาเพื่อปรามไม่อยากทำให้น้ำลำบากใจ
“ก็แม่อยากรู้นี่นา” นอกจากคุณหญิงจะไม่ฟังบุตรชายแล้วยังเถียงกลับไปอีกด้วย
“เอ่อ...” คุณป้าเล่นถามออกมาแบบนี้ ไอ้น้ำก็ยากที่จะตอบจริงๆ ตอบอย่างไหนถึงจะตรงใจอีกฝ่ายกันล่ะ
“ป้าล้อเล่นจ้ะ ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้น”
“อะ..ครับ”
“เห็นปรานต์เคยเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นให้ปรานต์พักอยู่ด้วยที่บ้าน เขาสร้างความวุ่นวายให้หรือเปล่า บอกป้าได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ไม่มีเลยครับ ผู้กองไม่ได้สร้างความวุ่นวายอะไรเลย แม่ของผมยังชอบใจเสียอีกที่ผู้กองมาพักที่บ้านของเรา”
“เหรอจ๊ะ ใจดีกันจริงๆ เลย”
“ไม่ใช่หรอกครับ ที่หมู่บ้านของเราไม่ใช่หมู่บ้านใหญ่โตอะไร คนที่นั่นมีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ถ้าไม่มีบ้านผมก็ยังมีอีกหลายบ้านที่เต็มใจให้ผู้กองไปพักครับ” น้ำตอบตามความสัตย์จริง
“ดีจ้ะ ปรานต์ไปอยู่ที่นั่นป้าก็จะได้เบาใจ นี่ก็เป็นห่วงเขาทุกวี่ทุกวัน”
“ที่หมู่บ้านสงบเงียบ ปลอดภัยครับ คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ” น้ำตอบเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ
“ไว้วันหลังป้าต้องขอไปเที่ยวที่นั่นหน่อยแล้ว”
“ถ้าแม่จะไปก็บอกผมก่อนนะครับ ผมจะได้ลางานล่วงหน้า พาแม่เที่ยวได้เต็มที่”
“ไม่ต้องลางานก็ได้มั้งจ๊ะ เดี๋ยวแม่ให้หนูน้ำพาแม่เที่ยว ได้มั้ยจ้ะ หนูน้ำ” คุณป้าหันมาขอร้องเสียงหวาน เรียกชื่อไอ้น้ำซะไพเราะ
“ได้ครับ ได้แน่นอน” แล้วมีหรือที่ไอ้น้ำจะกล้าปฏิเสธทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายได้ลงคอ ผู้กองได้ยินคำตอบของน้ำแล้วก็ลอบถอนหายใจ ติดกับแม่เขาไปอีกคน
“แล้วแม่จะบอกปรานต์ไว้นะจ๊ะ หนูน้ำจะได้เตรียมตัวทัน”
บทสนทนามักจะเป็นคุณหญิงที่ผูกขาดการพูดคุยเอาไว้เกือบทั้งหมด คุณหญิงน่ารักพูดคุยอย่างเป็นกันเอง จนไอ้น้ำที่คุยกับคุณหญิงอย่างเกร็งๆ ในทีแรก คุยไปคุยมาอาการเหล่านั้นหายไปตอนนั้นก็ไม่รู้ คุณหญิงหัวเราะกับมุกตลกๆ ของเขา เขาเองก็ฟังเรื่องที่คุณหญิงเล่าอย่างสนุกสนานเช่นกัน
“พอเวลาที่เราเจอคนคุยถูกคอ เวลาก็จะผ่านไปเร็วเหลือเกิน อยากจะคุยกับหนูต่ออีกนิด แต่ติดว่าแม่กับปรานต์ต้องไปงานที่บ้านเพื่อนต่อ พรุ่งนี้มาทานข้าวกลางวันกันสักมื้อมั้ยจ้ะ แม่ยังอยากคุยต่ออยู่เลย” สนิทถึงขั้นไหนก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้คุณหญิงเลื่อนขั้นเรียกตัวเองว่าแม่ แทนคำว่าป้าในครั้งแรก
“พรุ่งนี้ผมต้องกลับบ้านแล้ว ขอโทษด้วยครับ”
“เหรอจ๊ะ กลับไวจังเหมือนปรานต์ เลย ก็ต้องกลับไปทำงานต่อ แม่คิดออกแล้ว อย่างนั้น ปรานต์ไปรับน้องที่บ้านด้วยนะ จะได้กลับพร้อมกัน ดีมั้ยลูก” คุณหญิงเสนอไอเดียพร้อมจัดการให้เสร็จสรรพ
“เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้ครับ คุณป้า” คุณหญิงมองคนเรียกคุณป้าตาเขียว จนไอ้น้ำต้องรีบแก้คำเสียใหม่
“คุณแม่”
“ดีมากจ้ะ เรียกไว้จะได้ชิน เอาล่ะ เรื่องกลับบ้านด้วยกัน ไม่ต้องเกรงใจ สมัยนี้ทางเดียวกันไปด้วยกัน ประหยัดน้ำมัน ตกลงตามนี้นะ ส่วนกี่โมง หนูกับปรานต์ก็นัดกันเองนะจ๊ะ”
“ครับแม่ ผมยังไงก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าน้องน้ำของแม่ว่ายังไง” ปรานต์รู้ชัดเจนว่าปฏิเสธแม่ของเขาไม่ได้ เขาเลยต้องรับปากไป ไม่ใช่ว่าเขาอยากอิดออดหรือไม่เต็มใจจะกลับพร้อมกับน้ำ แต่เจ้าตัวทางนั้นต่างหากล่ะ อยากจะกลับไปกับเขาหรือเปล่า หรืออยากไปกับคนที่ชื่อบาสมากกว่า
“ว่าไงจ๊ะ หนูน้ำ กลับกับพี่เขานะ” คุณหญิงถามซ้ำ
“เอ่อ..ครับ ได้ครับ”
“ตกลงตามนี้นะจ๊ะ แม่ไปก่อน”
“สวัสดีครับ” น้ำยกมือไหว้ทั้งสองคนก่อนจะแยกย้ายกัน
“แม่ชอบหนูน้ำนะ” เมื่อมาถึงลานจอดรถ คุณหญิงก็บอกบุตรชายตามความรู้สึก
“แม่ก็ชอบทุกคนนะครับ ผมไม่เคยเห็นแม่ไม่ชอบใคร”
“อย่าบอกแม่ว่าปรานต์ไม่ได้คิดอะไรกับน้อง ถ้าปรานต์ไม่ได้ชอบน้อง เป็นไปไม่ได้เลยที่ปรานต์จะไปยอมรับคำเชิญจากบ้านของเขาแล้วไปนอนที่นั่น แม่รู้จักลูกของแม่ดีจ้ะ”
“แต่...น้ำเขาไม่ได้ชอบผม”
“แต่...เขาไม่ได้รังเกียจลูกของแม่” คุณหญิงพูดอย่างมั่นใจ
“คืองี้ครับ...น้ำเขาชอบผู้หญิงมาก่อน เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อน”
“เรื่องนั้นให้เป็นเรื่องอนาคต ถ้าลูกเดินหน้าแล้วน้องยังไม่ชอบลูก ก็ถือว่าลูกล้มเหลว ยอมแพ้แล้วก็เดินหล่อๆ ออกมาก็พอ” คุณหญิงแนะนำบุตรชาย
“แม่ไฟเขียว?”
“สำหรับปรานต์ แม่เคยไม่โอเคเหรอ แต่คนนี้แม่ชอบ ถ้าพ่อมาวันนี้พ่อก็ต้องคิดเหมือนแม่ จีบเขาให้ติดล่ะ”
“ขอบคุณครับ” ปรานต์สวมกอดมารดา จะมีกี่ครอบครัวที่พ่อแม่จะพยายามเข้าใจลูกมากขนาดนี้
และเขาก็หวังว่าถ้าน้ำชอบเขาบ้าง ก็อยากให้แม่น้อยเข้าใจน้ำเหมือนอย่างที่แม่เขาบ้างก็คงจะดีไม่น้อย
==========================================
ขุ่นแม่ก็มาค่าา เจ้าน้ำมาป๊ะกับคุณแม่สามี เอ๊ย คุณแม่ผู้กองแล้ว แถมไฟเขียวอีกต่างหาก
ผู้กองเดินเครื่องหน่อยนะคะ คนอ่านอยากรู้จะแย่แล้ว ใช่มั้ยเอ่ย
ติด Tag ได้เลยค่ะ #LOTTOสื่อรัก #คนบ้าหวย2018