21st Monday : First Half
#เรื่องของคนที่เกลียดวันจันทร์
ทำไมเรื่องมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้? ทุกอย่างพังหมด ทุกอย่างที่เขาพยายามสร้างมาหลายเดือนพังทั้งที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ผมนั่งหงุดหงิดอยู่ในรถ โดยที่น้องแทนใจขอตัวกลับไปเองแล้ว โดยที่ผมขอไปส่งน้องก็ไม่ยอม ตอนนี้พูดอะไรก็ดูฟังไม่ขึ้นทั้งนั้น
ผมกดโทรออกหาคนเดียวที่นึกถึงในเวลานี้
“หวาน ยุ่งอยู่ป้ะ?”
“เราทำงานอะ แต่คุยได้ มีไรป่าว?”
“น้องโกรธเราว่ะ”
“เอ๊า! ทำไมวะเมฆ?”
ผมถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ยอมเล่าเรื่องให้เพื่อนฟังตั้งแต่ตอนที่ผมโทรหาน้องแล้วติดต่อไม่ได้ ไลน์ไปว่ายังไง ไปจนสุดที่ว่า น้องพูดอะไรกับผมบ้าง
“โห เมฆ เอาตามตรงป้ะ ถ้าเป็นเราๆก็โกรธว่ะ”
“อ่าวหวาน ไหนบอกว่าทีมเราไง”
“ก็ทีมเมฆ”
เสียงผู้หญิงปลายสายถอนหายใจออกมา นอกจากนั้นผมยังได้ยินเสียงคีย์บอร์ดที่เหมือนกับเจ้าตัวกำลังทำงานอยู่อย่างที่ได้บอกไว้จริงๆ
“แต่เมฆจะไปพาลใส่น้องแทนใจไม่ได้ เขาไม่รู้เรื่องนะ”
“แล้วจะให้เราทำไงวะ? ให้บอกว่าน้องชายเขากำลังจะวางแผนให้เรากับน้องเลิกกันงี้เหรอ?”
ผมสบถเมื่อนึกถึงเด็กนั่น ถ้าแฟนผมไม่บอกว่าน้องชายนี่ผมจะคิดว่ามันเป็นกุมารที่น้องเลี้ยงไว้แล้วนะ เด็กเปรตเอ๊ย!
ตอนแรกผมก็คิดแล้ว น่ารักอย่างแทนใจน่ะเหรอจะไม่เคยมีแฟนมาก่อน ซึ่งพอผมรับโทรศัพท์แทนเขาในวันนั้น สายที่โทรมาเป็นน้องแทนกาย ผมเลยเข้าใจว่าทำไมแทนใจถึงไม่เคยมีความรักมาก่อน
ไม่ใช่เพราะแทนใจไม่น่ารัก แต่เป็นเพราะมีตัวขัดขวางอยู่ต่างหาก
ผมยังจำได้ดี ต้นเรื่องทั้งหมดมันเริ่มตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนที่ผมกำลังนอนมองแทนใจของผมที่เหนื่อยหลังจากการนอนด้วยกันรอบสุดท้ายของเรา แทนใจหลับโดยที่ละเมอให้ผมรับโทรศัพท์ให้ ซึ่งผมก็รับอย่างไม่อิดออด
“เมฆ แฟนแทนใจ”
ปลายสายเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะค่อยๆพูดตอบกลับมา
“พี่แทนใจไปไหนเหรอครับ?”
เสียงแทนใจ?
ผมพลิกโทรศัพท์กลับมาดูอีกรอบ หน้าจอที่เมมไว้ว่า น้องแทนกาย ทำให้เข้าใจได้ทันที พี่น้องบ้านนี้เขาอาจจะพิมพ์เดียวกันหมดก็ได้ เพราะอย่างน้องกายนี่คือเสียงเหมือนกับแฟนผมมาก ชนิดที่ว่าหากให้ฟังแค่เสียงอาจจะแยกไม่ออกเลยก็ได้
“แทนใจหลับแล้วครับ มีอะไรจะฝากไว้มั้ย?”
“ทำไมพี่แทนใจหลับ นี่ยังไม่ดึกสักหน่อย ปกติพี่แทนใจไม่นอนเร็วขนาดนี้นะ”
“แทนใจหลับแล้วจริงๆ ครับ พอดีแทนใจเหนื่อยเลยหลับไปแล้ว”
“...”
น้องชายแฟนผมเงียบไปนิดหน่อย แล้วค่อยพูดต่อ ซึ่งน้ำเสียงสั่นเหมือนคนกำลังสะกดอารมณ์อยู่
“ขอบคุณนะครับที่มารับโทรศัพท์พี่แทนใจให้ ถ้างั้นผมรบกวนคุณให้ช่วยเตรียมข้าวต้มให้พี่เขาตอนเช้าด้วยนะครับ ปกติถ้าเขาไม่ได้กินข้าวต้มตอนเช้าแล้วจะงอแง ผมหมายถึง ตอนที่อยู่กับคนที่สนิทมากๆน่ะครับ กับคนอื่นเขาไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ เพราะพี่เขาน่ารัก”
คงไม่ใช่แค่เด็กนี่แล้วแหละที่จะอารมณ์ขึ้น
“ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวไว้แทนใจตื่นแล้วพี่จะเตรียมไว้ให้ แต่ตอนนี้พี่ขอไปเช็ดตัวก่อนดีกว่าเนอะ เรามีอะไรจะฝากให้บอกแทนใจมั้ย?”
“งั้น… บอกพี่เขาหน่อยละกันนะครับว่าถ้าวันจันทร์พี่แทนใจว่าง เดี๋ยวเราไปดูหนังกัน”
“... ครับ แล้วพี่จะบอกให้”
“อ่อ แล้วไหนๆก็ไหนๆ ผมขอเบอร์คุณไว้หน่อยได้มั้ยครับ เผื่อบางทีถ้าผมติดต่อพี่แทนใจไม่ได้ ผมจะได้ติดต่อคุณแทนนะครับ”
พอผมบอกเบอร์ติดต่อของตัวเองเสร็จสรรพเด็กนั่นก็วางสายใส่ทันทีโดยไม่รอคำบอกลาใดๆ ตอนแรกผมแค่คิดว่าพี่น้องสองคนนี้เขาตัวติดกันธรรมดา
บางทีมันอาจจะเป็นอะไรที่มากกว่านั้น
ผมลุกขึ้นมายืนสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียง โดยต่อสายหาซุกซนไปด้วย ผมคิดว่าผมสามารถคุยเรื่องนี้กับมันได้ บางทีซุกซนที่รู้จักกับแทนใจมาก่อน อาจจะเคยเจออะไรที่ผมไม่รู้
“มึงเคยเจอน้องชายแทนใจป่าววะ?”
“น้องชายอ๊อง? แทนกายน่ะเหรอ?”
“นั่นแหละ” ผมพ่นควันออกจากปากอีกครั้ง “เด็กนั่นน่ะ มึงเคยเจอมะ?”
“เคยดิเฮีย แม่งแทบจะแดกหัวผม”
“เล่าให้กูฟังหน่อย”
“ก็ตอนนั้นผมไปห้องแทนใจ แล้วน้องมันมาหา ทีนี้ผมก็ยืดแก้มลูบหัวอ๊องมันเป็นปกตินั่นแหละ ตอนแรกเด็กนั่นก็นิ่งๆนะ แต่พอผมกลับบ้านมาเท่านั้นแหละเฮีย น้องแม่งแอดเฟซบุ๊คมากวนตีนผมเฉย มันคงคิดว่าผมจะจีบแทนใจทำเมีย บ้าเหรอวะ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว เอาก้อนเต้าหู้มาเป็นแฟนนี่วันๆผมจะต้องทำอะไรมั่งวะ ป้อนข้าวป้อนน้ำอ่านนิทานเหรอ ปัญญาอ่อน!”
“...” กูว่าบางทีมึงก็อินไปนะซุกซน เต้าหู้นั่นน่ะ เมียกูไง
“เออนั่นแหละ พอผมบอกไปว่ามันเป็นแค่เต้าหู้เน่าที่นั่งข้างๆ น้องมันถึงได้เงียบๆไป แต่ก็ยังกวนส้นตีนทุกครั้งที่เจอหน้าเหมือนเดิม”
“กวนตีนยังไง?”
“กวนตีนอะ หน้าตาท่าทาง ทุกอย่าง หน้าโง่เหมือนพี่มัน แต่กวนตีนคูณร้อยไปเลยแม่ง”
“อันนั้นกูรู้”
“มันหวงพี่มันมากเลยนะเฮีย หวงแบบ ถ้าไม่รู้ว่าเป็นพี่น้องคลานตามกันมา ผมคิดว่ามันคงกะเคลมไอ้อ๊องมันน่ะ”
“...”
“แทนใจมันไม่รู้อะไรหรอกเฮีย แต่น้องมันน่ะดูไม่ได้คิดพี่จ๋าน้องจ๋าแบบที่ไอ้อ๊องมันมองน้องแน่นอน สายตาอะไรหลายอย่างมันฟ้องมากเลยนะ มองแบบรักแทบแดก”
“...”
“แต่ก็ไม่มีไรหรอกมั้งเฮีย เด็กมันหวงพี่ แค่นั้นแหละมั้ง”
ผมไม่ได้ตอบอะไรซุกซนกลับไป นอกจากการพ่นควันบุหรี่ออกจากปากอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น
.
.
.
แทนใจยังคงน่ารักเหมือนเดิมในเช้าวันถัดมา
น้องตื่นมาแล้วเรียกหาผม อ้อนผม ทำตัวน่ารักแบบที่ผมอยากจะรักน้องทั้งวัน ขังไว้ที่บ้านไม่ให้ไปไหน ให้อยู่กับผมเท่านั้น แต่ผมยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอีก
หากแทนกายรักแทนใจมากกว่าพี่น้องจริง ผมควรจะทำอย่างไร?
ลองเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงคนอื่น ผมคงประกาศตัวเป็นเจ้าของน้องชัดเจน แบบที่เอาให้เข้าหน้ากันไม่ติดเลยก็ได้ แต่จากที่รู้มา แฟนผมเขาก็รักน้องชายมาก รักจนผมรู้สึกว่า ถ้าหากให้แทนใจเลือกระหว่างผมกับน้องชายเขา เขาต้องเลือกน้องแน่นอน
ผม… ต้องปรึกษาใครสักคน
Mek Sitthikorn: หวาน
Mek Sitthikorn: ยุ่งอยู่ป้ะ เรามีเรื่องปรึกษาอีกแล้วว่ะ
ผมทักไลน์หวานไป หวานคือแฟนเก่าของผมที่เรายังคงคุยกันอยู่แบบเพื่อน ซึ่งตอนที่คบกันมันก็ดีแต่มันจบไปห้าหกปีแล้วครับ ตอนนี้ทั้งผมทั้งหวานไม่มีอะไรต่อกันแล้ว แบบเพื่อนอะ เวลาเขามีแฟนเขาก็ทักมาขอคำปรึกษาจากผมเหมือนกัน
ไลน์ล่าสุดที่คุยกันเป็นช่วงสองสามเดือนก่อน ผมทักหวานไปถามเรื่องแทนใจ เพราะกระต่ายของผมชอบพูดบ่อยๆว่าผมเข้าใจยาก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่หวานขอเลิกกับผม ตอนนั้นหวานเองบอกว่าผมเข้าใจยากเกินไปจนไม่รู้ว่าผมกำลังต้องการอะไรจากเขา
ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่ รู้สึกว่าตัวเองก็เป็นแบบนี้ เข้ากันไม่ได้ก็จบไป แต่กับแทนใจไม่ใช่ ผมอยากที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เข้าใจง่ายขึ้น … เพื่อเขา
เพื่อความสัมพันธ์ของเรา
แล้วครั้งนี้ผมก็ทักหวานไปด้วยเรื่องแทนใจเหมือนเคยครับ ในระหว่างที่รอหวานตอบนั้น ตัวผมเองก็นั่งทำงานอยู่ชั้นล่าง ในขณะที่แทนใจดูหนังในแล็ปท็อปผมอยู่บนห้อง ความจริงแล้วผมก็อยากนอนกอดแฟน ฟัดแก้มนุ่มๆกับผิวขาวๆนั่นเหมือนกัน แต่กลัวว่างานจะไม่เดิน แถมเรื่องที่กำลังจะคุยกับหวานตอนนี้ แทนใจไม่ควรจะต้องมารู้ด้วยเด็ดขาด
หวาน อักษร: ว่ามาเลยยยยยยย
หวาน อักษร: *ส่งสติกเกอร์*
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงชอบเสียเงินซื้อสติกเกอร์อะไรไม่รู้ ซึ่งสำหรับผมแล้ว แม่งโคตรไร้สาระ แต่ถ้าแทนใจอยากได้ ผมกวาดหมดเลยก็ได้นะ เงินในบัญชีมีพอสำหรับทุกลายที่น้องอยากได้แน่นอน
Mek Sitthikorn: เราไม่ได้กวนหวานใช่ป้ะ?
ข้อความขึ้นว่าอ่านแล้วทันที หวานเองก็เป็นเหมือนพวกไอ้บิว ที่เหมือนกับมือขวาจับโทรศัพท์ไว้ตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนอาบน้ำ ตอบแชทเร็วตลอด
หวาน อักษร: มีอะไรก็ทักมาได้
หวาน อักษร: เราว่างตอบได้ตลอดแหละ ไม่ต้องเกรงใจๆ
โอเค ทางสะดวก!
แต่ลูกค้าแม่งไม่สะดวกกับผมด้วย
ผมเอามือกุมขมับเมื่อเสียงโทรศัพท์เครื่องของบริษัทดังขึ้น เลยผละไปคุยงานแล้วปล่อยแชทเพื่อนไว้แบบนั้น ความจริงผมชอบการเป็นเอ็นจิเนียร์ธรรมดาแบบเดิมมากกว่า งานนี้โคตรปวดหัว แต่เพราะผมอยากก้าวหน้า และอยากเข้าออฟฟิศมากขึ้น เลยยอมมาทำตรงนี้
เพราะผมอยากใช้เวลากับเด็กชอบกาแฟที่นอนดูหนังอยู่บนห้อง
หวาน อักษร: ทำไมหายไปเลย
หวาน อักษร: ตกลงมีไรอะ?
หวาน อักษร: *ส่งสติกเกอร์*
ผมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ลูกค้า แล้วกลับมาจัดการปัญหาในครัวเรือนต่อ
Mek Sitthikorn: แฟนเราโคตรน่ารัก
หวาน อักษร: คือนี่จะทักมาขิงเหรอ?
หวาน อักษร: เราบล็อกเมฆได้ป้ะ?
หวาน อักษร: 55555555
Mek Sitthikorn: ใจเย็นดิ
Mek Sitthikorn: แฟนเราน่ารัก จนน้องชายของแฟนเราแม่งเกลียดเราอะ
Mek Sitthikorn: งงป้ะวะ?
หวาน อักษร: …
หวาน อักษร: งง
คอลแม่งเลยละกัน!
ผมตัดสินใจคอลหาอีกคน ซึ่งเจ้าตัวก็รับแทบจะทันทีเหมือนกัน พอคุยไปแล้วถึงได้รู้ว่าตอนนี้หวานทำงานอยู่บ้านเลยนั่งเล่นได้ โอเค ดีมาก เพราะผมแม่งพิมพ์ไม่รู้เรื่องแน่นอน
“ห๊ะ? เดี๋ยวนะ? ...สรุปคือ น้องชายของแทนใจ เหมือนจะไม่ชอบเมฆ และอยากให้เมฆเลิกกับแทนใจ?”
“ใช่-- คือเหมือนกับแบบ เขาโตมาด้วยกัน เขาหวงพี่อะหวาน”
“มัน พูดยากแฮะ--”
“เด็กนั่นหวงแทนใจมากเลยนะหวาน แล้วเขาเกลียดเราแน่นอน อันนี้เรามั่นใจ”
“ยากแฮะ… เฮ้ย แค่นี้ก่อนนะเมฆ ลูกค้าเมลมา”
สัญญาณตัดไปทันที แต่ผมไม่ได้ถือสาอะไร เข้าใจว่าตัวเองก็ไปรบกวนเขาเหมือนกัน ถ้าเป็นผมเหรอ? น้องผมไม่ชอบแฟนผมก็เรื่องของแม่งเลยครับ ผมเลือกแทนใจ
แต่สำหรับแทนใจ โลกไม่น่าง่ายกับน้องขนาดนั้น
แทนใจถูกเลี้ยงมาแบบที่ศูนย์กลางของจิตใจอยู่ที่ครอบครัว ผมเหมือนเป็นสิ่งแปลกปลอมในโลกของเขา ซึ่งเป็นโชคดีที่น้องเองก็รู้สึกกับผมเหมือนกัน
ไลน์!
หวาน อักษร: เรื่องน้อง เมฆลองคุยกับน้องชายดูมั้ย
หวาน อักษร: แบบลองไปเจองี้
หวาน อักษร: อาจจะดีขึ้นป้ะ?
ผมทิ้งไลน์หวานเอาไว้แบบนั้นเมื่อคิดได้ว่าแทนใจอาจจะอยากได้อะไรไว้ทานระหว่างดูหนัง พอขึ้นไปแล้วเห็นหน้าตาน่ารักของน้อง ท่าทางออดอ้อนเหมือนปกติโดยที่เจ้าตัวไม่ตั้งใจของน้อง ทุกอย่างของแทนใจมีแต่คำว่าน่ารัก น่ารักเต็มไปหมด
“เดี๋ยวพี่ไปนั่งทำงานข้างล่างนะ เราอยากได้อะไรทักไลน์มาก็ได้ เดี๋ยวพี่ขึ้นมา”
“แล้วพี่ไม่ทำกับผมเหรอ?”
เป็นการพูดผิดที่น่ารักน่าเลี้ยงมากเลยครับ แทนใจหน้าแดงที่ตัวเองพูดอะไรสองแง่สองง่ามออกมาโดยไม่ตั้งใจไปหมดทั้งหน้าเลยครับ แก้มขึ้นสีระเรื่อดูน่าฟัดจนผมก็อยากจะนั่งทำกับน้องแบบที่น้องเขาชวนเหมือนกัน โคตรน่ารักเลยเว้ยคนอะไร
“ฮ่าๆ พี่ก็อยากทำกับเราครับ แต่รอเราหายก่อนนะ”
แทนใจทำหน้าเหมือนกับกึ่งเขินกึ่งจะร้องไห้ ซึ่งผมอดใจไม่ไหว ลูกค้าไลน์ผลิตเสียผมไม่สนแล้วตอนนี้ ถ้าไม่ได้ฟัดแก้มแทนใจตอนนี้อย่ามาเรียกผมว่าสิทธิกร!
พอผมตักตวงจนพอใจก็ลงไปทำงานแล้วก็คุยกับลูกค้าต่อ ตอนนี้เขาจะด่าพ่อผมก็ยังยิ้มสู้ครับ คนมันอารมณ์ดี อยากอยู่บ้านแล้วนั่งเล่นกับแทนใจทั้งวันทั้งคืน
น่ารักจังเลยวะ แฟนใครเนี่ย
Mek Sitthikorn: หวาน
Mek Sitthikorn: แทนใจโคตรน่ารักเลยว่ะ
มันเป็นอารมณ์อยากอวดแฟนครับ แต่ไม่รู้จะอวดกับใคร จะเมลไปหาลูกค้าแล้วบอกว่าผมรู้ว่าเครื่องคุณกำลังเสีย ที่หน้างานวุ่นวายมาก แต่ผมจะนอนกกแฟนเพราะแฟนผมน่ารักมาก ก็เสี่ยงโดนไล่ออก ไลน์หาเพื่อนละกัน ปลอดภัยดี
หวาน อักษร: แน่ะๆ
หวาน อักษร: รู้นะว่ายิ้มอยู่อะ
ผมก็ยิ้มอยู่จริงๆนั่นแหละ เหมือนคนบ้าเลยครับ แบบที่ถ้าไอ้แว่นกฤติเห็นมันต้องทำหน้าตาประหลาดหรือไม่ก็เอาส้อมแทงตาเพราะทนดูไม่ได้แน่นอน
Mek Sitthikorn: น่ารักมากเลยว่ะ
Mek Sitthikorn: เราแม่งโคตรแพ้เลยคนนี้
หวาน อักษร: จ้าๆ รู้แล้วจ้า
หลังจากนั้นหวานก็ส่งสติกเกอร์เบะปากรำคาญอะไรไม่รู้มาให้ ซึ่งผมไม่สนใจ ขนาดสติกเกอร์ยังน่ารักน้อยกว่าแฟนผมเลยครับ โลกใบนี้ไม่ได้ปกครองด้วยประชาธิปไตยนะ แต่ปกครองด้วยระบอบแทนใจธิปไตย
Mek Sitthiskorn: น่ารักเนอะ ไม่เชื่อดูรูปดิ
Mek Sitthikorn: *ส่งรูปภาพ*
ผมส่งรูปที่ไปเซฟจากเฟสบุ๊คน้องมา มันเป็นรูปแทนใจที่ยืนยิ้มกว้างจนแก้มฟูขึ้นมาในชุดไปรเวทสีเหลือง ท่าทางเหมือนกำลังอารมณ์ดีของน้องที่ทำให้ผมยิ้มตามตั้งแต่ที่เห็นครั้งแรก ส่วนมือนั้นกดเซฟแบบไม่คิดเลยครับ น่ารักจริงๆ
Rrrrr
อวดแฟนได้ไม่ถึงสองนาที ลูกค้าโทรมาอีกแล้ว ขัดขวางการหวีดแทนใจนี่บาปนะ แต่จำเป็นต้องรับโทรศัพท์ เพราะอีกฝั่งคือลูกค้า ผมแก้ปัญหาหน้างานไปพร้อมกับซื้อข้าวเย็นสำหรับสองคน แวะเซเว่นนิดหน่อย แล้วกลับมาทานข้าวเย็นกับแฟน แต่เรื่องไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะช่างหน้างานตอนนี้คือรัวไลน์แถมจะฆ่าผมได้แล้ว
ไลน์!
ไม่มีคนคบแล้ว (5)
เหี้ยเบิร์ด วิศวะ: อุ๊ย รูปหล่น
เหี้ยเบิร์ด วิศวะ: *ส่งรูปภาพ*
ผมรีบสไลด์เข้าไปดูกรุ๊ปเพื่อนสมัยมหาลัยที่ยังเหลือๆคบกันอยู่ ความจริงแล้วผมไม่ได้มิ้วท์หรืออะไรกรุ๊ปนี้ทั้งนั้นครับ แต่ไม่เข้าไปอ่าน เพราะรำคาญ ขี้เกียจคุย แต่วันนี้เหมือนต้องเข้า เพราะความอยากดูรูปแท้ๆ
แล้วก็ไม่ผิดหวัง
มันเป็นรูปแอบถ่ายผมกับแทนใจในวันที่นัดรียูเนียนกับพวกมันแล้วผมหนีบน้องไปด้วย ในรูปคือตอนที่ผมกำลังหัวเราะอะไรสักอย่างอยู่ ซึ่งแทนใจมองหน้าผมแล้วยิ้มเต็มแก้มในแบบของเจ้าตัว ถึงแม้รูปจะไม่ชัดเพราะคนถ่ายมันกาก แต่สายตาและรอยยิ้มของแทนใจในรูปนั้น น่ารักจนทำให้ผมเผลอยิ้มตามไม่ได้
alex: เชี่ย ใครวะ
alex: น่ารักสัด
alex: มึงมีเบอร์มั้ยเบิ้ด
ไอ้เหี้ยเล็ก เพื่อนคนหนึ่งของกลุ่มที่วันนั้นเบี้ยวนัดพูดขึ้นมา แถมเป็นคำน่าชื่นชมด้วยรองเท้าเบอร์สี่สิบสี่ ผมรีบพิมพ์ตอบมันกลับอย่างรวดเร็วแล้วจึงวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมเพื่อมาสนใจงานที่กำลังยุ่งเหยิง
Mek Sitthikorn: เมียกู ไอ้สัด
หลังจากนั้นผมก็ปล่อยเบลอโทรศัพท์ส่วนตัวเลยครับเพราะลูกค้าผู้น่ารักโทรมาพอดี กว่าจะคุยเสร็จกลับมาแทนใจก็หายไปแล้ว ผมคิดว่าเขาน่าจะอยู่ในห้องนอน ผมอยากจะขึ้นไปฟัดน้องต่อเหมือนกัน ติดที่ว่าต้องเปิดคอมดูผัง drawing ของเครื่องจักรให้ช่างหน้างานนี่สิ
หวาน อักษร: จ้าๆ
หวาน อักษร: 5555555
ข้อความจากหวานที่เหมือนเพิ่งจะว่างมาจับโทรศัพท์อีกครั้งเด้งขึ้นมาหลังจากที่ผมส่งรูปแทนใจไป บางคนอาจจะมองว่าแปลกที่ผมส่งรูปแฟนใหม่ให้แฟนเก่าแบบนี้ แต่ระหว่างผมกับหวานมันไม่มีอะไรแล้วไง เป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ การมีเพื่อนเป็นแฟนเก่ามันก็ดีอย่าง เราสามารถปรึกษาเรื่องที่คิดว่าน่าอายโดยที่ไม่ได้ต้องอายขนาดนั้น เพราะตัวหวานเองก็เคยเอาเรื่องแฟนมาถามผมเหมือนกัน
เพราะงั้น การที่ผมจะปรึกษาเรื่องน้องชายของแฟนใหม่กับเขาก็ไม่แปลก
พูดถึงน้องชาย ผมเริ่มยิงคำถามหาหวานอีกครั้ง หลังจากอ่านไม่ตอบมาหลายชั่วโมง
Mek Sitthikorn: หวานว่าเราควรพูดกับแฟนเรามั้ยวะ
Mek Sitthikorn:ว่าเราไม่ชอบน้องเขา
Mek Sitthikorn: ถึงต่อให้ไม่ได้เกลียดเรา เราก็ยังว่าเด็กนี่ก็ยังน่ารำคาญอยู่ดี
พอถามทิ้งไว้เสร็จผมก็มาติดตามงานหน้าไซต์ต่อครับ ตอนนี้ปัญหาอีนุงตุงนังกว่าเดิมอีก จากที่มันควรจะแก้ได้แล้ว แต่มันกลับยุ่งเหยิงไปกันใหญ่
ไลน์!
หวาน อักษร: ก็เป็นเหมือนตอนที่เราคบกันไง
ผมปล่อยให้ไลน์มันขึ้นไปแบบนั้นก่อนเพราะปัญหาจากหน้างานรุงรังผมไม่หยุดเลยครับ ผมต้องติดต่อไปทางบริษัทแม่ที่ยุโรป คุยกับหัวหน้าแผนกเรื่องเคส ติดต่อหาคนว่างที่มีฝีมือให้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งก็ไม่มีสักคนผมเลยต้องไปเองวันพรุ่งนี้
ปวดหัวชะมัด
ผมเปิดโทรศัพท์ส่วนตัวขึ้นมาเช็กอย่างอื่นนอกจากงานบ้าง อย่างแรกที่เห็นคือข้อความต่อมาของหวานที่เขาส่งมาไว้เมื่อกี้
หวาน อักษร: ก็เป็นเหมือนตอนที่เราคบกันไง
หวาน อักษร: เมฆก็จะทะเลาะกับแฟนเพราะเขาไม่เข้าใจ แล้วเมฆก็ไม่อธิบาย
หวาน อักษร:น้องเขาก็จะไม่รู้เรื่องอะไรเลย
หวาน อักษร: ถ้าไม่อยากเลิกกับน้องก็อย่าทำ ไม่รู้หรือไงว่าเวลาเมฆโมโหอะโคตรน่ากลัว
เรื่องงานว่าปวดหัวแล้ว เรื่องความรักก็ไม่ต่างกันเลยครับ
“เฮ้อ”
ผมยกมือนวดขมับ ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากเอาเรื่องนี้ไปหนักหัวน้องเหมือนกัน ใครจะอยากให้คนรักไม่สบายใจ แถมยังเป็นแทนใจ น้องเขาบริสุทธิ์เกินไปจนผมไม่อยากให้เขาต้องเจออะไรไม่ดีในชีวิตเลยสักนิด
พูดแล้วผมก็อยากเจอน้องจัง คิดถึงแล้ว
ผมเดินเข้าไปหาเขาในห้อง แทนใจที่ดูเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่ไม่ได้ปัดป้องเมื่อผมก้มลงไปหอมแก้มน้องชื่นใจเหมือนกับทุกที
การมีแทนใจในชีวิตเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากจริงๆ แค่มีเขาอยู่ข้างๆ เห็นหน้าตาน่ารักกับรอยยิ้มที่ผมชอบ ผมก็หายเหนื่อยได้อย่างน่าประหลาดแล้ว
“คุยงานเหรอครับ” แทนใจถามผม
“อืม...ปัญหาเดิมๆ แก้ไม่จบสักที”
“มีเรื่องอะไร เล่าให้ผมฟังได้มั้ยครับ?”
“เรื่องเล็กน้อยน่ะ ปัญหาเดิมๆ… ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกครับ”
“แต่ผมอยากรู้นะ คุณบอกผมได้นะ”
ผมมองตาน้อง การที่เขาอยากเข้ามามีส่วนร่วมในโลกของผมทำให้ผมรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก คิดไม่ผิดเลยจริงๆที่เลือกชอบคนๆนี้
ไม่เคยรู้สึกว่าดีใจที่มีใครสักคนในชีวิต จนกระทั่งถึงตอนนี้
“ขอบคุณมากนะครับ เด็กดี”
น้องเงียบไปพักหนึ่ง จนผมแปลกใจ พอหันไปมองหน้าถึงได้เห็นว่าเขาไม่ได้ยิ้มอยู่ น้องเขาขมวดคิ้วเหมือนกับกำลังใช้ความคิด และไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่
หรือว่าเขาจะรู้ว่าผมไม่ชอบแทนกาย?
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“...” ยิ่งน้องเงียบ ผมยิ่งแพนิค
“ว่าไงเรา ไข้กลับเหรอครับ หรือว่า--”
“คุณพี่เมฆครับ คุณพี่เมฆคุยกับใครอยู่เหรอครับ?”
โถ่เอ๊ย ผมก็นึกว่าเรื่องอะไร
“เพื่อนครับ”
พูดถึงหวานแล้ว คำพูดของหวานยังคงอยู่ในความคิดผม … ถ้าหากพูดเรื่องน้องชายเขาไป แล้วเรามีโอกาสเลิกกันล่ะก็ ผมยอมเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเองจนวันตายดีกว่า
อ่อ แล้วผมก็ไม่ยอมแพ้เด็กเปรตนั่นด้วย
มาลองเจอกันสักหน่อย มา!
------- Monday In Love -------
แทนใจน่ารักมากขึ้นทุกวัน
พอได้ครอบครองแล้วผมหยุดเอาแต่ใจกับเขาไม่ได้ ยิ่งพอเขาอ้อนแล้วผมก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก ซึ่งพอเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่อยากให้มีแปลงที่ไหนมาตอมไต่คนของผมทั้งนั้น
โดยเฉพาะแมลงที่ชื่อแทนกาย
หลังจากที่พวกผมเมคเลิฟกันเสร็จ ผมกะว่าจะพาน้องไปอาบน้ำ แต่ข้อความกวนโมโหจากน้องชายของอีกฝ่ายกลับทำให้ผมรู้สึกฉุนขึ้นมาทันที
sky: พี่แทนใจอยู่กับคุณเมฆหรือเปล่าครับ?
sky: ฝากบอกพี่แทนใจทีว่าผมอยากกินสเต๊กร้านที่เคยไปด้วยกันสองคน
sky: อ๋อ ใช่ๆ
sky: แล้วก็บอกพี่ให้ด้วยนะครับ ว่าผมอยากดูหนังกับเขาอีก
sky: อยากให้วันจันทร์มาถึงเร็วๆจัง จะได้เจอกันแล้ว
sky: หนังหมีพูห์ที่พี่แทนใจอยากดูเข้าแล้วนะครับ ผมอยากไปดูกับพี่อีกจัง
sky: แต่ผมก็ชอบดูที่บ้านกับพี่นะ
sky: ตักพี่นุ่มมากเลย
sky:
ผมเกลียดการพ่ายแพ้ และในเกมนี้ ผมจะต้องชนะเท่านั้น
“แทนใจครับ”
“เราเป็นของพี่นะ”
“ครับ?”
“เป็นของพี่แล้ว เป็นของพี่แค่คนเดียว”
“เดี๋ยว--- อื้อ”
ผมไล่จูบผิวน้องไปทุกส่วน อยากจะแสดงความเป็นเจ้าของให้ทุกคนได้รับรู้ ผมอยากบอกโลกว่าแทนใจเป็นของผม ผู้ชายที่นอนอ่อนระทวยรับจูบอยู่ตรงนี้เขาเป็นของผม
“ผมเหนื่อยแล้วนะคุณ”
“ครับ พี่รู้”
“รู้แล้วก็หยุดสิครับ”
แทนใจประท้วงเสียงอ่อยเมื่อผมแสดงความรักย้ำๆ ผมต้องการให้ความรู้สึกของผมติดตัวน้องอย่างเป็นรูปธรรม ผมอยากกลืนแทนใจเข้าไป อยากบอกรักตลอดเวลา เขาเป็นของผม
เป็นของผมแค่คนเดียวเท่านั้น
“หยุดไม่ได้ครับ แทนใจเป็นของพี่..เป็นของพี่เท่านั้น”
แฟนผมตอบรับในลำคอ น้องเชิดหน้าขึ้นเมื่อกำลังจะถึงฝั่งฝัน ตัวผมเองก็เช่นกัน แต่ผมต้องการจดจำเวลานี้เอาไว้ สีหน้าที่เขาถึงสรวงสววรค์เพราะผม เสียงครางที่เกิดขึ้นเพราะผม ทุกความรู้สึกของแทนใจเป็นชื่อผม
มีแค่เราสองคนเท่านั้น
“พี่เองก็เป็นของแทนใจเหมือนกัน”
ผมจะไม่ยอมแบ่งเขาให้ใครแม้จะเป็นน้องชายของเขาก็ตาม .
.
.
------- TBC ------
ขอแบ่งนะคะ มันยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ;A;
ขอบคุณทุกเม้นทุกแท็กนะคะ อ่านหมดเลย XD
ทั้งที่ให้กำลังใจนน้องแทนใจ จะตีๆคุณพี่เมฆ แล้วก็ให้กำลังใจนี่ ฮือ
ขอบคุณมากจริงๆคะ
แล้วเจอกันพรุ่งนี้ถ้าเป็นไปได้นะคะ XD
Babybaphomet
แจ้งเตือนครั้งที่ 1 !
ผู้ดูแล ลบข้อความประชาสัมพันธ์ ออกนะคะ
จากกฎข้อที่ 17 เนื้อหายังลงไม่จบ
ห้ามประชาสัมพันธ์ เปิดจอง ใดๆ ทั้งสิ้นในกระทู้
ไม่ว่าในรูปแบบหนังสือหรือ e-book17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน
ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้