[จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว] Sugar Daddy เล่น||ของ||สูง(อายุ) 4 years later [6-2-63] คห.951  (อ่าน 180955 ครั้ง)

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
       สงสารมีนน้องเป็นเด็กดีสู้ชีวิตมากอ่านมาทุกเรื่องทำให้รู้ความลำบากของน้อง
เลยทำให้ไม่พอใจคุณเชษฐ์ที่ชอบใจร้ยใส่
อ่าาาาสางสารจะร้องละนะพอนึกภาพของมีนทีไรสงสารตั้งแต่ขายพวกมาลัยละ
และนี่เข้ามหาลัยก็ใส่ชุดเก่าโอ๊ยยยยยสงสาร :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
น้องมีนนนน ลูกกกกก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ซันต้องเป็นเพื่อนกับมีนให้ได้นะ  :กอด1:

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 2:  อาจารย์สอนพิเศษ




"เป็นอะไร”





ภรัณยูถามคนที่นั่งเงียบมาตลอดทาง ไม่ได้อยากจะสนใจหรอกนะ แต่อยู่เงียบๆแบบนี้แล้วมันรู้สึกอึดอัด





“ผมไม่ชอบให้ใครมายัดเยียดเพื่อนให้”





คนที่นั่งหน้าบูดอยู่ที่นั่งข้างคนขับตอบแล้วเอนหัวพิงหน้าต่างรถ





“แล้วทำตัวแบบนี้จะหาเพื่อนได้มั้ย”




“ถ้าจุดประสงค์ของพี่มีแค่ต้องการจะกำจัดผม พี่ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ครับ”





คนฟังฉุนกึก ตีไฟฉุกเฉินแล้วดึงรถเข้าจอดข้างทาง ไม่รู้ทำไม ทั้งที่นั่นเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา แต่ภรัณยูกลับรู้สึกไม่พอใจที่ได้ยินมันออกจากปากอีกฝ่าย





“ผมมีชีวิตของผม...” ร่างโปร่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้เหตุผลเหนืออารมณ์ “คุณขอโอกาสจากผม ผมก็ไม่ได้ห้ามอะไร แต่การที่คุณใช้อำนาจของท่านประธานมาทำให้ผมต้องหยุดงานของตัวเองเพื่อมาเป็นพี่เลี้ยงคุณแบบนี้ บอกตามตรงผมรับไม่ได้"





“….”





“ถ้าอยากจะให้ผมเปิดใจ คุณก็ต้องเข้าใจด้วยว่านี่คือตัวตนของผม ถ้าคุณไม่พอใจ ผมก็ไม่ได้รั้งคุณไว้ คุณทินกร”





ร่างโปร่งใส่เกียร์เดินหน้า เลี้ยวรถกลับเข้าสู่ท้องถนนอีกครั้ง โชคดีที่วันนี้รถไม่ติด ทำให้เขาไม่ต้องอยู่กับเจ้าเด็กเอาแต่ใจนี่มากเกินความจำเป็น เมื่อมาถึงคฤหาสน์ของตระกูลทรัพย์ดำรง ภรัณยูปลดล็อกรถให้อีกฝ่ายแต่คนที่นั่งอยู่ข้างๆกลับไม่ยอมลงจากรถเสียที





“ทำไมยังไม่ลงปะ....”




ริมฝีปากอุ่นประกบลงมาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว คนถูกจู่โจมหลับตาลงรับสัมผัสของอีกฝ่ายอย่างเผลอไผล มือใหญ่ของอีกฝ่ายประคองใบหน้าเรียวไว้อย่างทะนุถนอม ก่อนที่ทินกรจะถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง





“ผมบอกแล้วนะครับ ว่าถ้าเรียกผมแบบนั้นอีกผมจะทำอะไร”




 รอยยิ้มจางๆที่ไม่ได้เห็นมาทั้งวันที่ไม่ได้เข้ากับแววตาเจ็บปวดในดวงตาสีควันบุหรี่เลยพาหัวใจของภรัณยูเต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่ง





“ผมขอโทษนะครับที่พี่คิดแบบนั้น....แต่วันนี้ผมดีใจมากจริงๆนะ ที่พี่ยอมมากับผม”




เด็กหนุ่มปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดประตูรถ ร่างสูงหันกลับมามองคนอายุมากกว่าเป็นครั้งสุดท้ายด้วยแววตาเศร้าสร้อย





“ผมสัญญา เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”











หลังจากวันนั้นภรัณยูก็ถูกเรียกตัวกลับไปทำงานตามปกติ





ส่วนลูกชายคนเล็กของเจ้าของบริษัทก็เตรียมตัวสำหรับการรับน้องและการเปิดเทอมของมหาวิทยาลัย ทำให้หมู่นี้พวกเขาไม่ค่อยเจอกันเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ผ่านไปเป็นเดือนแล้วที่เขาไม่มีเด็กหนุ่มร่างสูงมาคอยก่อกวน แต่ในหัวของเขากลับสลัดภาพรอยยิ้มสุดท้ายของทินกรก่อนจะลงไปจากรถในวันนั้นไม่ได้เสียที





ก็ดีแล้วล่ะ...




“ภัทร มาหาพี่หน่อยซิ”




เจนจิรากวักมือเรียกคนที่กำลังง่วนอยู่กับงานกองโตเข้าไปในห้องทำงาน ภรัณยูปิดแฟ้มเอกสารหนาเตอะบนโต๊ะของตัวเองแล้วเดินตามเข้าไปอยย่างงงๆ





หัวหน้ามีอะไรจะคุยกับเขา? ปิดงบโปรเจคก็เพิ่งเสร็จไปไม่ใช่เหรอ หรือว่างานมีปัญหาอะไร





 “ภัทร พี่ถามจริงๆนะ ภัทรกับคุณทินมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”




สาวใหญ่ในชุดสูทเปิดประเด็นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด




“เปล่านี่ครับ ทำไมเหรอครับ”




เจ้าเด็กนั่นไปฟ้องอะไรอีกล่ะ




“ก็ท่านประธานโทรมาขอให้พี่เรียกตัวภัทรกลับมาทำงาน แถมยังกำชับด้วยว่าทีหลังให้เลือกคนที่เขาอยากจะทำงานจริงๆ
โดนสวดยกใหญ่เลย พี่เลยคิดว่าภัทรไม่ชอบหน้าคุณทินซะอีก” สาวใหญ่ถอนหายใจเฮือก ก้มลงเปิดลิ้นชักหยิบแฟ้มเอกสารสีดำสนิทออกมาเปิดอ่าน “แต่ถ้าไม่มีอะไรพี่ก็สบายใจ สงสัยเห็นภัทรเงียบๆคุณทินเขาอาจจะคิดมากว่าภัทรไม่ชอบรึเปล่า รายนั้นน่ะยิ่งขี้กังวลอยู่”





“พี่แจนครับ คุณทินกรเขาไม่ได้สั่งให้ผมไปดูแลเขาเหรอครับ” ภรัณยูอดถามไม่ได้





“อย่างคุณทินเนี่ยนะ” เจนจิราเงยหน้าขึ้นมองคนอายุน้อยกว่ากึ่งขบขัน “อย่าว่าแต่สั่งอะไรพี่เลย ขนาดลุงยามหน้าบริษัทเข้าใจผิดนึกว่าเป็นเด็กยกของยังเลยตามเลยไปช่วยเขาขนของอยู่เลย”





เพล้ง




ภรัณยูถึงกับไม่กล้าก้มเก็บเศษหน้าที่ไม่รู้ว่าชาตินี้จะต่อติดรึเปล่าเลยทีเดียว




“ภัทร ไม่สบายเหรอ หน้าซีดๆนะ” เจนจิราถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล




“เปล่าครับ อากาศมันร้อน” ภรัณยูตอบ ไม่ใส่ใจเสียงแอร์ที่กำลังทำงานอย่างแข็งขันราวกับจะให้เขาได้ยินความลำบากของ
มัน หญิงสาวมองพนักงานหนุ่มรุ่นน้องอย่างงุนงงแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร หยิบแฟ้มเอกสารเล่มหนายื่นให้ร่างโปร่ง




“ถ้างั้นพี่รบกวนภัทรติดต่ออาจารย์สอนพิเศษภาษาไทยให้คุณทินหน่อยได้มั้ย รายชื่ออยู่ในนี้แหละ สกรีนให้พี่หน่อย พี่ต้องไปประชุมกับท่านประธานต่อ”




“อาจารย์ภาษาไทย?” ภรัณยูทวนคำงงๆ




“ใช่ คุณทินเธออยากเรียนน่ะ ถึงคณะจะสอบเป็นภาษาอังกฤษ สไลด์เป็นภาษาอังกฤษ แต่พวกรายงานกับเอกสารบางอย่างก็ยังเป็นภาษาไทย คงกลัวตัวเองจะไม่เข้าใจล่ะมั้ง”




เจนจิรายิ้มขำ ก้มๆเงยๆรวบรวมเอกสารสำหรับการประชุมอย่างคล่องแคล่ว ส่วนคนที่ได้รับมอบหมายนั้นได้แต่ยืนมองด้วยกลัวว่าถ้าช่วยหยิบจับจะไปทำให้ลำดับเอกสารผิดพลาด




“คุณทิน...ภาษาไทยเขาแย่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”




“เรื่องฟังพูดน่ะไม่เท่าไหร่ แต่การเขียนเนี่ยเด็กประถมยังเก่งกว่าเลยจ้ะ เมื่อวานยังมาถามพี่อยู่เลยว่าเหงาอ่านว่า เหงา  หรือ เห-งา” เจนจิราเสียบเอกสารใส่แฟ้มว่างแล้วเขียนหัวข้อการประชุมลงบนสัน “พี่ไปก่อนนะ ฝากด้วยนะจ๊ะ”




“เอ่อ...พี่แจนครับ”




ปากไปไวกว่าความคิด คนที่กำลังจะบิดลูกบิดประตูหันมามองคนเรียกเป็นเชิงถามว่ามีอะไร




“คือ….”











ว่ากันว่าคนเรามีความคิดฆ่าตัวตายเพียงไม่กี่วินาที




หากเลยช่วงเวลานั้นไปแล้ว ความคิดที่ยากจะฆ่าตัวตายของคนคนนั้นจะหายไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น




น่าสียดายที่หลายคนเลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง ก่อนที่เวลาไม่กี่วินาทีนั้นจะผ่านพ้นไป




ภรัณยูเชื่อว่าหากคนเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ จะต้องรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจในตอนนั้น





เหมือนกับที่เขากำลังรู้สึกในตอนนี้




ชายหนุ่มมองไปรอบๆห้องรับแขกของคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ผมเคยมาส่งลูกชายคนเล็กของเจ้าของบ้าน คนรวยนี่สมกับเป็นคนรวยจริงๆ บ้านทั้งหลังถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวทองดูหรูหรา แต่ก็ดูสบายตาไปในตัว โซฟาทรงหลุยส์นุ่มนิ่มนั่งสบายสีแดงเข้มเข้ากับโต๊ะไม้สักทรงเตี้ย เพดานห้องมีแชนเดอเลียคริสตัลอันใหญ่ที่ร่างโปร่งเงยหน้ามองทีไรก็อดหวาดเสียวไม่ได้ว่ามันจะตกลงมาทับหัวรึเปล่า หญิงชายร่างท้วมที่น่าจะอยู่ในวัยราวๆหกสิบปลายๆเจ้าของรอยยิ้มใจดียกน้ำหวานกับชมพู่หั่นซีกที่จัดเรียงอย่างสวยงามมาให้แขกที่นั่งรอคนในบ้านอยู่ร่วมยี่สิบนาทีแล้ว




“ขอบคุณครับ”




ภรัณยูยกมือไหว้ขอบคุณ แอบชำเลืองมองบันไดบ้านที่อยู่ด้านหลังของอีกฝ่ายเล็กน้อยไม่ให้เป็นที่สังเกต แต่หญิงชรากลับมองเขาอย่างรู้ทัน




“คุณทินกำลังช่วยคุณผู้ชายดูเอกสารอยู่น่ะค่ะ เดี๋ยวอีกซักพักคงลงมา”




ไม่ทันขาดคำเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากบนบันไดพร้อมกับเสียงพูดคุยที่ภรัณยูค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่ภาษาไทย





ร่างสูงของท่านประธานและลูกชายคนเล็กเดินลงมาพร้อมกับหนังสือหลายเล่มในมือ ทินกรพูดอะไรบางอย่างในภาษาที่เขาไม่เข้าใจด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท่านประธานที่กำลังจะตอบหันมาเจอพนักงานในบริษัทเสียก่อน สีหน้าดุดันของคุณธีรเชษฐ์แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มรับแขกอย่างรวดเร็ว




“สวัสดีครับท่านประธาน คุณทินกร”




ภรัณยูลุกขึ้นยกมือไหว้อย่างนอบน้อม อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ส่วนคนที่ยืนอยู่ข้างหลังนั้นยืนอึ้งมองคนตรงหน้าเหมือนเห็นเอเลี่ยนกำลังแพลงกิ้งอยู่บนยอดเสาไฟฟ้า




“ภรัณยู ขอโทษด้วยนะที่เจ้าลูกไม่ได้เรื่องของฉันไปสร้างความเดือดร้อนให้”




“เอ่อ...ไม่ใช่นะครับ” ภรัณยูรีบปฎิเสธ ยิ่งรู้สึกผิดที่ว่าทินกรไปแบบนั้น



“แจนบอกเธอจะพาครูสอนพิเศษมาส่ง...” ท่านประธานเลิกคิ้ว “ไปไหนซะล่ะ”




พี่แจนนะพี่แจน เล่นอะไรของเขาเนี่ย




“คือ…ผมขอพี่แจนมาสอนน่ะครับ”




ภรัณยูยกกระเป๋าที่มีหนังสือแบบเรียนภาษาไทยอยู่จนแทบปริให้ดู ราวกับจะให้มันช่วยไขข้อข้องใจให้อีกฝ่าย ท่านประธานมีสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย




“ถ้าอย่างนั้นก็ฝากด้วยแล้วกัน” ก่อนจะหันไปหาลูกชายที่ยังคงยืนนิ่ง“วันนี้พ่อมีประชุมยาว จะค้างที่คอนโด ไม่ต้องรอนะ”
ทินกรพยักหน้ารับ ยังคงไม่ละสายตาราวกับกลัวว่าร่างโปร่งจะหายไปหากไม่จับตาดูไว้ตลอด




ท่านประธานออกไปประชุมแล้ว แต่ซันยังคงยืนนิ่งไม่พูดอะไรจนอาจารย์สอนพิเศษจำเป็นเริ่มรู้สึกอึดอัด “จะจ้องอีกนานมั้ยครับ เริ่มเรียนได้แล้ว”




“พี่ภัทร...ไม่โกรธผมแล้วเหรอครับ?”




“จะเรียนที่ไหนครับ” ภรัณยูแกล้งทำเป็นหูทวนลม “ที่นี่หรือว่ามีห้องอื่น”




ทินกรมองหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาไม่เข้าใจ ร่างสูงเอื้อมมือมาดึงกระเป๋าหนังสือของคนอายุมากกว่าไปถือทั้งที่ตัวเองก็หอบหนังสือมามากมาย “ไปข้างบนแล้วกันครับ”





“นี่ คุณทิน ผมถือกระเป๋าเองได้ เดี๋ยวก็ตกหรอกครับ”




ร่างสูงที่เดินนำแขกของบ้านขึ้นบันไดมายังคงเดินต่อไป ทินกรใช้ไหล่ดันประตูห้องที่อยู่ใกล้กับบันไดที่สุดให้เปิดออกแล้วเดินเข้าไป กองข้าวของทั้งหมดลงบนโต๊ะเขียนหนังสือตัวยาวที่อยู่ติดกับประตูห้อง ไม่สนใจร่างโปร่งที่เดินตามมาแม้แต่น้อย




“คุณทิน...อื้อ!”



โดนจูบอีกแล้ว...



คราวนี้ภรัณยูตั้งสติได้เร็วกว่ารอบที่แล้ว ดันไหล่อีกฝ่ายออกไปจนสุดช่วงแขน



“นี่คุณ! เลิกทำแบบนี้ซะทีได้มั้ย!”




“ผมบอกแล้วว่าให้เลิกเรียกผมแบบนั้น”




เจ้าของชื่อกดเสียงต่ำ ทั้งที่เป็นแค่เด็กแท้ๆแต่ไม่รู้ทำไมสีหน้าของอีกฝ่ายดูน่ากลัวกว่าท่านประธานเวลาโมโหเสียอีก




“….จะเรียนตรงไหน”




 ภรัณยูที่ทำตัวไม่ถูกแกล้งหันไปมองสำรวจห้องนอนของเด็กหนุ่ม ห้องนอนขนาดใหญ่พร้อมห้องน้ำในตัวอัดแน่นไปด้วยชั้นหนังสือบิวท์อินกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของผนัง แต่นอกจากนั้นเฟอร์นิเจอร์ในห้องมีเพียงตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ตู้เย็นขนาดกลาง โต๊ะเขียนหนังสือตัวยาวและโทรทัศน์จอแบนกับชุดเครื่องเสียงที่ติดอยู่กับผนัง กับเตียงนอนขนาดคิงไซส์สไตล์เรียบๆที่เห็นได้ตามร้านขายเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป ที่เหลือเป็นเพียงพื้นที่โล่งมากพอที่จะเอาเตียงเข้ามาวางอีกตัวแล้วยังคงมีทางเดินได้สะดวก 




ไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลยแฮะ




ไม่สิ...ทำไมเขาถึงต้องคิดถึงห้องนอนของทินกรด้วยล่ะ?!




“บนเตียงก็ได้ครับ”




เจ้าของห้องตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย หยิบกระเป๋ากับสมุดเปล่าและปากกามาวางบนเตียง




“พี่ภัทรจะทานอะไรมั้ยครับ”




ภรัณยูส่ายหน้า นั่งลงบนเตียงของอีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะแล้วเปิดซิปกระเป๋า ทินกรเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบน้ำขวดเล็กออกมาสองขวดก่อนจะกลับมานั่งลงบนเตียงอีกฝั่ง เด็กหนุ่มยื่นขวดน้ำให้ร่างโปร่งแล้วหยิบสมุดของตัวเองขึ้นมาเปิด




“พี่ภัทรครับ”



“หืม?”



เจ้าของชื่อหยิบแบบเรียนภาษาไทยที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวานกับแบบฝึกหัดที่มีหน้าปกเป็นรูปการ์ตูนสีสันสดใสออกมา




“ทำไมพี่ถึงมาสอนผมล่ะครับ?”



“….” ร่างโปร่งยื่นหนังสือทั้งสองเล่มให้คนตรงหน้า “ถ้าอยากให้เป็นคนอื่น ผมไปก็ได้นะ”




เด็กหนุ่มส่ายหน้าอย่างรุนแรงจนคนมองเกือบจะหลุดขำออกมา



น่ารัก...



“ขอบคุณนะครับที่มา”




“อืม” ภรัณยูเอื้อมไปเปิดหนังสือในมือของร่างสูง เขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อการสอน “ถ้าเป็นเด็กดี พี่อาจจะมีรางวัลให้ก็ได้นะ....ซัน”




เจ้าของชื่อหูผึ่ง หันขวับมามองคนพูดด้วยดวงตาระยิบระยับเหมือนสุนัขตัวโตที่เพิ่งได้รับรางวัลจากเจ้าของเป็นครั้งแรก




“มองอะไรเล่า จะเรียนไม่เรียน”



“เรียนครับๆ”




เด็กหนุ่มก้มลงอ่านหนังสือในมืออย่างขะมักเขม้น คลาดกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนริมฝีปากของภรัณยูอย่างห้ามไม่อยู่เพียงเสี้ยววินาที







ตอนที่ได้ยินเจนจิราพูดว่าคุณทินกรอ่านภาษาไทยได้แย่กว่าเด็กประถม ภรัณยูคิดว่าเขาแค่พูดให้มันฟังดูเกินจริงเฉยๆ




ตอนนี้เขารู้แล้ว ว่าเคสนี้มันเกินเยียวยาจริงๆ



“ตำรวจทำวิ เอ่อ...วิสาขบูชา?”




“วิสามัญฆาตกรรม”




 ภรัณยูออกเสียงช้าๆชัดๆอย่างอดทน ทินกรขมวดคิ้วมองริมฝีปากปากสีชมพูระเรื่อนั้นอย่างไม่เข้าใจ ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะมองไม่เห็น คนสอนจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้




“วิ-สา-มัญ-”




“พี่..พี่ภัทรเขยิบออกไปหน่อยได้มั้ยครับ” เด็กหนุ่มขัด เบี่ยงตัวหนีเล็กน้อย




“ทำไม? ปากเหม็นเหรอ?”ภรัณยูรีบเอามือปิดปากอย่างตกใจ นี่เขาเพิ่งแปรงฟันมานะ




“เปล่าครับ...คือ...มันใกล้ไป ผมไม่มีสมาธิ”




เด็กหนุ่มหลุบตาลงต่ำ ชายหนุ่มมองตามสายตาของอีกฝ่ายลงมาที่ขาของตัวเองซึ่งแทบจะเกยตักอีกฝ่ายอยูรอมร่อ




“โทษๆ” คนลืมตัวรีบขยับตัวออกมานั่งที่เดิม “พี่ว่า...เราลองเปลี่ยนวิธีเรียนดีมั้ย”




“ครับ?” ทินกรปิดสมุด สีหน้าของร่างสูงดูไม่มีความสุขกับการเรียนจนน่าสงสาร ภรัณยูลุกขึ้นจากเตียงเพื่อยืดเส้นยืดสาย แล้วไล่ดูแผ่นหนังที่วางเรียงกันอยู่บนชั้นลอยอย่างสนใจ




“ซันชอบหนังแบบไหนเหรอ?”



“ผมเหรอครับ? จริงๆผมก็ดูได้ทุกแนวนะ แต่ส่วนใหญ่ผมจะชอบพวกหนังสยองขวัญ”



คนที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงตอบ



“พี่ชอบหนังตลก”




คนที่กำลังสำรวจชั้นวางพูดโดยไม่หันกลับไปมองอีกฝ่าย พยายามทำเหมือนคำแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปของตนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เมื่อเจอหนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่ไม่รู้ว่าหลงเข้ามาอยู่ในชั้นนี้ได้อย่างไรเลยดึงออกมาดู “เรื่องนี้สนุกดีนะ”




“ครับ?” ทินกรยังคงตามไม่ทัน ภรัณยูกดเปิดเครื่องโฮมเธียเตอร์แล้วใส่แผ่นเข้าไป ก่อนจะกลับมานั่งข้างอีกฝ่ายบนเตียงเช่นเดิม




“ปกติซันใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักใช่มั้ย” ร่างโปร่งหันไปถามเพื่อความมั่นใจ



“ครับ"




“พี่จะเปิดซับไตเติ้ลภาษาไทย พี่อยากให้ซันอ่าน แล้วฟังไปด้วยว่าคำคำนั้นแปลว่าอะไร ถ้าคำไหนไม่ได้ก็กดปุ่มหยุด แล้วถามพี่ ตกลงมั้ย”




เด็กหนุ่มพยักหน้า ดูสนอกสนใจความคิดนี้ไม่น้อย อาจารย์พิเศษกดปุ่มเล่นแล้วเอนตัวพิงหมอนใบใหญ่ที่กองกันเป็นภูเขาทั้งที่มีคนนอนแค่คนเดียว ฟังอีกฝ่ายอ่านซับไตเติ้ลของหนังอย่างตั้งใจ แม้จะมีผิดบ้างถูกบ้าง แต่ก็นับว่าทำได้ดีกว่าการอ่านตำราก่อนหน้านี้มาก




“จบแล้วครับ”




 ทินกรหันมายิ้มให้คนที่เลื้อยลงไปนอนฟังบนเตียงนุ่มตั้งแต่กลางเรื่อง




“ไม่เลวนี่” ภรัณยูชันตัวขึ้นนั่ง กระดิกนิ้วเรียกให้อีกฝ่ายเขยิบเข้ามาใกล้ๆ “อยากได้รางวัลอะไรล่ะ”




“อะไรก็ได้เหรอครับ?”เด็กหนุ่มทำท่าเหมือนไม่รู้ว่าควรจะระแวงหรือควรจะตื่นเต้นดี




“อืม…อะไรก็ได้”




“ถ้างั้น...” ใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้ ร่างโปร่งหลับตาลงรอรับสัมผัสของริมฝีปากได้รูปอย่างรู้ทัน




ว่าแล้วว่าต้องมาไม้นี้ไอ้เด็กลามก



ริมฝีปากอุ่นทาบลงบนหน้าผากอย่างแผ่วเบา แต่กลับส่งกระแสไฟฟ้าให้วิ่งพล่านไปทั่วร่าง ภรัณยูลืมตาขึ้นพบกับใบหน้าหล่อเหลาแต่งแต้มที่ด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุขในระยะประชิดจนเลือดลมสูบฉีดดีเกินความจำเป็น




“ขอบคุณครับ”




ก่อนจะรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร คนอายุมากกว่าก็โน้มตัวเข้าไปแตะริมฝีปากลงบนริมฝีปากเรียวอย่างไม่ให้คนตรงหน้าตั้งตัว ซันเบิกตากว้างเมื่ออีกฝ่ายผละออกมา




“อันนี้แถม"




ภรัณยูง้อใครไม่เก่ง




เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำขอโทษที่เข้าใจอีกฝ่ายผิด




แต่รอยยิ้มที่กว้างขึ้นจนแทบฉีกถึงใบหูของอีกฝ่ายทำให้ชายหนุ่มอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าทินกรรับรู้ถึงการขอคืนดีของเขาแล้ว




“พี่ภัทรครับ”




“ว่าไง?” ชายหนุ่มถาม เก็บข้าวของบนเตียงไปวางบนโต๊ะหนังสือแก้เขิน



“คืนนี้นอนที่นี่นะครับ”




“!!!!!”

---------

 :katai5: :katai5: :katai5:

ตอนหน้าเตรียมพบกับน้องมีนและคุณเชษฐ์ซะที55555
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Jadd

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ว้าว  :L2:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เด็กมันยั่วเลยหลวมตัวไปหน่อย...  นึกเพลงนี้ขึ้นมาเลย

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
กรี๊ดด มันดีต่อใจเหลือเกินจ้าาา
อ่านงานคุณลิตเติ้ลพิกทุกเรื่องเกลียดพระเอกมันทุกเรื่องเลยค่ะ หมั่นไส้ เหม็นความรัก ฉันเกลียดดด ฮ่าๆตอนหน้าหนูมีนของแม่

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
จ้าาาาาา เอายังไงก็ได้เลยน้องซัน

แหมมมมมม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
แหมๆ พี่ภัทรก็ขี้อ่อยเหมือนกันนะ   :hao3:

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น่ารักมากครับ

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
คุยกันแบบผู้ใหญ่ๆ5555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สุดท้ายก็อ่อยซันจนได้นะภัทร  o18

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:


อมตะ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โถ คุณน้องซันนน เอ็นดู :hao7:

ออฟไลน์ kikilululu

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จริงๆคุณภัทรก็ไม่ได้นิ่งๆเอื่อยๆอย่างที่คิด แค่คิดในใจมากกว่าพูดเงี้ยะ สรุปคือบ้านนี้เจ้าเล่ห์กันทั้งบ้านสินะ หุหุหุหุ

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 3: ทางที่เลือกเดิน





มีนาไม่อยากเชื่อว่าเขากำลังจะทำอะไรแบบนี้




เด็กหนุ่มยืนเก้ๆกังๆอยู่บนถนนสายยาวที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสถานที่สำหรับ 'เด็กขาย' มายืนอวดสินค้ารอให้ลูกค้ามาเลือกชม ท่ามกลางเด็กวัยรุ่นหลายสิบชีวิตในชุดล่อแหลมยื่นเท้าแขนแอ่นสะโพกอวดสัดส่วนที่เติบโตก่อนวัยอันควร ร่างเล็กอยู่ในชุดกางเกงยีนส์ขาสั้นและเสื้อคอเต่าแขนกุดสีเลือดหมูขับผิวขาวให้ยิ่งดูผ่อง เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนตามธรรมชาติเป็นประกายยามกระทบแสงไฟ ใบหน้าขาวปราศจากเครื่องสำอางค์ หากแต่ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกลมโตกับริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูอิ่มน้ำกลับทำให้เขาดูโดดเด่นจากผู้คนรอบข้างที่จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผมไม่เว้นหญิงชาย แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ยินดีกับความเด่นของเขาในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย





สำหรับนักศึกษาทุนอย่างเขา เงินเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตยิ่งกว่าอากาศที่หายใจเข้าออก กว่าจะได้เข้ามาเรียนในคณะแพทยศาสตร์ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันด้วยทุนเต็มจำนวนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบ้านของเขาเรียกได้ว่าดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุของยาย และเงินเก็บที่เหลืออยู่น้อยนิดซึ่งตอนนี้หมดไปกินค่ารักษาพยาบาลของมารดาที่ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง





มีนารู้ดีตั้งแต่วันที่สอบติด ว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดเขาต้องเป็นคนออกเองจนกว่าจะเบิกเงินคืนได้ตอนปลายเทอม อีกทั้งค่ากินค่าอยู่ที่ไม่ครอบคลุมในทุนการศึกษา เขาได้แต่ภาวนาว่าตนจะสามารถกู้ยืมอะไรได้บ้างเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัวที่มีกันอยู่แค่สามคน




แต่ก็ไม่มีหวัง





เด็กหนุ่มก้มมองเสื้อผ้าอวดเนื้อหนังที่ตนซื้อมาจากตลาดหลังมหาวิทยาลัยอย่างสมเพชตัวเอง เพื่อนของเขาที่ขายของที่ตลาดนัดเดียวกันนั้นแนะนำงานนี้ให้กับเขา ด้วยความจนตรอก เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจลองดูสักตั้ง




เกิดมาจน...จะโทษใครได้




ร่างเล็กสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะขยับเข้าไปอยู่ในแสงไฟเพื่อให้รถที่ขับผ่านไปมาได้เห็นเขาชัดขึ้น




ขอให้คืนนี้ผ่านไปได้ด้วยดี







ธีรเชษฐ์กำลังหงุดหงิด




ร่างสูงของนักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบสองปีเจ้าของเครือธุรกิจใหญ่ยักษ์ระดับต้นๆของประเทศขยับตัวอย่างเมื่อยขบในรถสปอร์ตคันหรู มองถนนสายหลักยามค่ำคืนที่รถติดยาวจากการปิดซ่อมแซมถนน เมื่อเห็นว่าไม่น่าจะถึงจุดหมายในเร็วๆนี้ ชายหนุ่มจึงตีไฟเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังถนนที่คู่ขนานกับถนนเส้นนี้ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่อโคจร แต่ถ้ามันทำให้เขาถึงคอนโดเร็วขึ้นหลังจากที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน ชายหนุ่มก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร





ร่างบอบบางที่ยืนตัวสั่นอย่างหวาดกลัวอยู่ภายใต้แสงไฟสะกดสายตาของธีรเชษฐ์ไว้ทันทีที่เข้าเลี้ยวเข้ามา แม้ชายหนุ่มจะไม่เคยมาเที่ยวในที่แบบนี้ แต่เขาค่อนข้างมั่นใจว่าคนตรงหน้าดูไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบแม้แต่น้อย




อายุถึงสิบแปดรึยังล่ะนั่น...





เขาได้แต่ส่ายหัวกับโลกที่หมุนเร็วเกินไปจนเขาตามไม่ทัน ได้แต่นึกสงสารพ่อแม่ของเด็กแบบนี้ที่ลูกมาเร่ขายร่างกายตัวเองเพียงเพื่อเงินไม่กี่บาท





ทว่ายิ่งขับเข้าไปใกล้ สีหน้าตื่นกลัวของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เขาตัดใจขับผ่านไม่ลง ชายหนุ่มชะลอลดลงจอดตรงหน้าของเด็กน้อยที่สะดุ้งโหยง แล้วลดกระจกลง มีนามองชายหนุ่มที่เขาคิดว่าไม่น่าจะอายุเกินสามสิบห้าในชุดสูทสีเทาเข้ม ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับนายแบบนิตยาสารกำลังจ้องตรงมาที่เขาดวงดวงตาคมดุสีเทาเข้ากับชุด




ลูกครึ่งเหรอ?




"ขายมั้ย?"




"..." มีนกระพริบตาปริบๆ ดวงหน้าน่ารักเอียงคออย่างงุนงง หันรีหันขวางอย่างไม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายพูดกับเขารึเปล่า




"ฉันถามว่าขายมั้ย" เสียงเข้มเอ่ยอย่างเริ่มหมดความอดทน คนขี้ตกใจสะดุ้งโหยง




"ขาย...ขายครับ"




"ขึ้นมา" อีกฝ่ายพยักเพยิดไปทางประตูรถอีกฝั่ง มีนกลืนน้ำลาย ทว่าสายตาดุๆของคนตรงหน้าทำให้เขายอมเดินไปขึ้นรถอย่างเชื่อฟัง




เอาเถอะ...ถ้าโดนลักพาตัวไปฆ่าก็ถือว่าเป็นค่าโง่ของเขาเองก็แล้วกัน





รถสปอร์ตสีดำสนิทกระชากตัวกลับเข้าสูท้องถนน ธีรเชษฐ์ที่ยังคงสับสนว่าตนเรียกอีกฝ่ายขึ้นรถมาทำไมนั่งเงียบ สายตาไม่ละจากท้องถนนแต่หางตาเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มที่พยายามจดจำเส้นทางตลอดเวลา ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มมุมปาก




ฉลาดเหมือนกันนี่




"อายุเท่าไหร่แล้ว?"





"ครับ?" มีนารีบหันมาทันทีที่ได้ยินเสียงของเจ้าของรถ ธีรเชษฐ์เคาะพวงมาลัยอย่างหงุดหงิด





"ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ"




"เอ่อ สิบแปดครับ" มีนโกหกเสียงสั่น แต่จริงๆอีกไม่นานเขาก็จะสิบแปดแล้ว ไม่ถือว่าเป็นคำโกหกเท่าไหร่...ล่ะมั้ง




"..." เท่าลูกชายคนเล็กของเขา




ธีรเชษฐ์รู้สึกโหวงในใจอย่างประหลาดเมื่อนึกว่าเด็กอายุแค่นี้ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ชายหนุ่มจมอยู่ในความคิดของตัวเองจนกระทั่งร่างที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ




"เอ่อ...คุณ...ชื่ออะไรเหรอครับ?"




"เชษฐ์ เธอล่ะ"  ร่างสูงถือโอกาสถาม




"มีนครับ" เด็กหนุ่มตอบแล้วเงียบไปอีกครั้งอย่างไม่รู้จะชวนคุยอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนควรจะชวนอีกฝ่ายคุยหรือไม่





ทำไมถึงไม่มีคู่มือเตรียมตัวสำหรับเด็กขายบริการบ้างนะ... ร่างเล็กลอบถอนหายใจ รถคันหรูเลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถของคอนโดขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่เด็กหนุ่มเคยเห็นในโฆษณาว่าเริ่มที่ห้องละสิบล้าน ร่างบางเริ่มใจไม่ดีขึ้นมาอีกครั้ง





นี่เขาไม่ได้ขึ้นรถมากับเจ้าพ่อมาเฟียอะไรเทือกนั้นหรอกใช่มั้ย




"ลงมา" เด็กหนุ่มทำตามคำสั่งทันทีด้วยกลัวว่าจะโดนดุอีกครั้ง ร่างเล็กเดินตามชายหนุ่มที่เมื่อยืนตรงแล้วตัวสูงกว่าเขาร่วมสามสิบเซ็น น่าจะประมาณร้อยเก้าสิบกว่าๆ




ลูกครึ่งแน่ๆ




"เร็ว" เสียงดุสั่งอย่างหงุดหงิด




ครึ่งคนครึ่งยักษ์...








"โห..."





ร่างเล็กเบิกตากว้างมองไปรอบห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของคอนโดหรูอย่างชื่นชม ห้องชายโสดหนึ่งห้องนอนถูกจัดอย่างเป็นระเบียบและใช้พื้นที่ใช้สอยทุกตารางนิ้วอย่างคุ้มค่าไปกับห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนที่จัดอย่างเป็นสัดส่วน ไม่คิดว่าชาตินี้เขาจะได้เห็นของจริงเป็นบุญตา




"ชั่วโมงละเท่าไหร่?" ร่างสูงถามพลางปลดหัวเข็มขัดแล้วดึงรูดออกมา มีนที่ลืมไปชั่วคราวว่าตนมาทำอะไรถอยกรูดไปติดผนังตามสัญชาตญาณ ทำเอาคนที่แค่จะถอดชุดเปลี่ยนเสื้อผ้าตามความเคยชินเกือบหัวเราะออกมา




เด็กหนอ....




น่าแกล้งจริงๆ




"ว่าไง"




"เอ่อ... เท่าไหร่ก็ได้ครับ" ทำไมเขาถึงไม่ศึกษาเรื่องช่วงราคามาก่อนนะ





ร่างสูงเลิกคิ้ว โยนเข็มขัดลงบนเก้าอี้ข้างเด็กหนุ่ม มือใหญ่ยกขึ้นรูดเนคไทค์ออกจากคอแล้วโยนไว้ที่เดียวกับเข็มขัดอย่างไม่ใส่ใจเพราะมัวแต่สนุกอยู่กับใบหน้าที่ซีดเผือดลงเรื่อยๆของเด็กตรงหน้า




ทั้งที่ตั้งใจว่าจะให้เงินแล้วไล่ลงไปตั้งแต่ก่อนถึงคอนโดแท้ๆ





เธอผิดเองนะ...เด็กน้อย




"หมื่นนึงเหมาทั้งคืน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันไปส่ง พอมั้ย?"




"หมื่นนึง?!" มีนทวนคำเสียงหลง ร่างบางรีบส่ายหน้าพรืด "เยอะเกินไปแล้วครับ!"




"นี่เธอคิดว่าตัวเองมีค่าน้อยขนาดนั้นเลยเหรอ?" ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ "อย่าดูถูกตัวเองแบบนั้น"




แค่มาทำอะไรแบบนี้ก็ดูถูกตัวเองมากพอแล้วล่ะครับ.... เด็กหนุ่มคิดอย่างเพลียจิต




"จะไปที่เตียงเลยมั้ย หรือจะอาบน้ำก่อน?" ร่างสูงถาม ปลดกระดุมเสื้อลงทีละเม็ด มีนาที่พอได้ค่าจ้างก็รีบเสนอตัวช่วยทันทีด้วยความเกรงใจ




"เดี๋ยวผมทำให้ครับ" เด็กหนุ่มรีบก้าวมาหาร่างสูง มือเรียวช่วยปลดกระดุมเม็ดที่เหลือ มีนาลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยเมื่อหน้าท้องที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามเป็นลอนเหมาะกับผิวสีขาวที่เข้มขึ้นตามแสงแดดอย่างคนเล่นกีฬาปรากฎแก่สายตา




คนแบบนี้ดูไม่น่าจะมีปัญหาในการพาใครขึ้นเตียงโดยไม่ต้องเสียเงิน




คนรวยนี่เข้าใจยากจัง...




"กางเกงด้วยสิ" เสียงทุ้มสั่งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจากที่ผ่านมา ธีรเชษฐ์ถอดเสื้อแล้วโยนลงบนพื้น กอดอกรอเด็กน้อยด้วยสายตาที่เขาอ่านไม่ออก มีนาก้มลงแกะตะขอกางเกงของอีกฝ่ายอย่างงุ่นง่าน ดึงซิปลงอย่างเชื่องช้า แล้วดึงกางเกงลงให้
ร่างสูงก้าวออกมา แล้วเก็บเอาเสื้อที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาพับอย่างคล่องแคล่ว แล้ววางลงบนเก้าอี้




"แม่บ้านแม่เรือนจังนะ"ชายหนุ่มอดแซวไม่ได้ คนถูกทักยิ้มเขิน




"ผมไม่ค่อยชอบอะไรรกๆน่ะครับ"




"แล้วตกลงจะอาบน้ำก่อนมั้ย?"




ธีรเชษฐ์ถามย้ำ มีนาที่พอจะทำใจได้บ้างแล้วหลังจากได้พูดคุยกับอีกฝ่ายส่ายหน้า ถ้าครั้งแรกของเขาจะเป็นคนแปลกหน้า คนตรงหน้าก็ดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่เลวร้ายเท่าไหร่




ร่างสูงที่ตอนนี้มีเพียงชั้นในสีดำสนิทแนบเนื้อติดกายจนเรียกได้ว่าไม่สามารถอำพรางอะไรได้แม้แต่น้อยเดินนำเขาไปยังห้องนอน มีนที่ทำหน้าเหมือนสัตว์ที่กำลังจะเข้าโรงเชือดเดินตามเข้าไปในห้องอย่างว่าง่าย ทันทีที่พวกเขายืนอยู่หน้าเตียง ชายหนุ่มก็ก้าวเข้ามาประชิดตัวเด็กน้อยตรงหน้า นิ้วชี้เรียวยาวเชยคางเรียวขึ้นก่อนจะประกบริมฝีปากลงมา มีนาที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเม้มปากสนิทอย่างตกใจ ชายหนุ่มส่งเสียงในลำคออย่างหงุดหงิด ใช้มือบีบกรามของอีกฝ่ายเบาๆให้อ้าปากรับลิ้นร้อนที่ตรงเข้าไปสำรวจในโพรงปากนุ่มทันที




มีนาคว้าแขนอีกฝ่ายไว้ด้วยความตกใจกับสัมผัสแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้รับ เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าตนจะต้องทำอย่างไรจึงได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้ลิ้นที่ช่ำชองหยอกล้อกับลิ้นเล็กของตนจนกว่าจะพอใจ ชายหนุ่มดูดดึงริมฝีปากล่างของเด็กน้อยอย่างเพลิดเพลินสลับกับหยอกล้อลิ้นเล็กที่ไม่ประสีประสาก่อนจะยอมถอนจูบเมื่อรู้สึกว่าร่างเล็กกว่าเริ่มหายใจกระชั้นขึ้น




"แฮ่กๆ" มีนหอบหายใจราวกับตนไปวิ่งมาราธอนมาสักยี่สิบกิโลเมตร เอนหัวซบอกแกร่งอย่างเผลอตัว




"เอ้าๆ แค่นี้ก็ยอมแพ้แล้วเหรอ" ร่างสูงหัวเราะเสียงต่ำ ดันร่างเล็กที่ยืนไม่ค่อยจะอยู่ให้นอนราบลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล



"อย่าเพิ่งหมดแรงสิเด็กน้อย คืนนี้ยังอีกยาวไกล"




"มะ...ไม่ปิดไฟเหรอครับ" มีนถาม ห้องสว่างจ้าแบบนี้...ก็เห็นหมดน่ะสิ




"ไม่ล่ะ ฉันอยากเห็นหน้าเธอชัดๆ"




มือใหญ่สอดเข้าไปใต้เสื้อของอีกฝ่าย ลูบไล้ขึ้นไปตามหน้าท้องแบนราบ สะกิดตุ่มไตใต้ร่มผ้า คนถูกแกล้งกัดริมฝีปากกลั้นเสียงประหลาดในลำคอ นอนตัวแข็งทื่อด้วยไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร




"อย่าเกร็ง..." ร่างสูงกระซิบชิดริมหู ทาบริมฝีปากลงบนหลังใบหูของร่างข้างใต้อย่างแผ่วเบา เรียกเสียงหวานให้หลุดรอด
ออกมาจากริมฝีปากรูปกระจับอย่างลืมตัว "ร้องออกมาอีกสิ"




มีนาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจัดการกับเสื้อผ้าของเขาตอนไหน รู้ตัวอีกที่ขาเรียวเปลือยเปล่าก็ถูกอีกฝ่ายจับแยกออกเสียแล้ว ชายหนุ่มหยิบขวดเจลที่วางอยู่ข้างเตียงมาเปิดฝาแล้วเทลงบนมือ ก่อนจะก้มลงมอบจุมพิตหอมหวานให้กับเด็กน้อยบนเตียงพร้อมกับสอดนิ้วเข้าไปที่ช่องทางคับแคบช้าๆ




"ฮึก เจ็บ!" มีนาร้องออกมาทันทีที่รับรู้ถึงสิ่งแปลกปลอมในช่องทางที่ยังไม่เคยมีใครแตะต้อง ร่างเล็กพยายามกระถดตัวหนีแต่ถูกมืออีกข้างของธีรเชษฐ์ยึดสะโพกไว้




“ทนหน่อยนะ"




 ชายหนุ่มกระซิบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ลิ้นร้อนหยอกเย้ายอดอกที่ตึงแน่นจากการถูกปลุกเร้าเพื่อช่วยลดความเจ็บของร่างเล็ก ขยับนิ้วที่ชโลมไปด้วยสารหล่อลื่นช้าๆเป็นจังหวะอย่างใจเย็นเสียจนตัวเองยังแปลกใจ




เขาเป็นคนรุนแรง…คำคำนี้ยังฟังดูเบาไปสำหรับความเป็นจริงด้วยซ้ำ




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5

ธีรเชษฐ์เป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรงมาตั้งแต่เด็ก ทั้งมารดาและบิดาที่แยกทางกันตั้งแต่เขาจำความได้มักจะส่งเขาไปเล่นกีฬาหรือเรียนศิลปะป้องกันตัวสักรูปแบบเพื่อระบายความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ข้างในรอวันระเบิดของร่างสูง แต่นั่นก็ยังไม่สามารถช่วยเขาได้มากเท่าที่ธีรเชษฐ์อยากให้เป็น




จนกระทั่งเขาได้พบกับเกศรา หญิงสาวรุ่นพี่ที่ก้าวเข้ามาในชีวิตเขาผ่านทางคนรู้จัก ธีรเชษฐ์ที่ในตอนนั้นเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยรุ่นมุทะลุตกหลุมรักนางฟ้าแสนอ่อนโยนองค์นั้นเข้าอย่างจัง





ธีรเชษฐ์ใช้เวลาร่วมปีในการตามตื๊อ มอบของขวัญ และโทรคุยกับหญิงสาวเพียงเพื่อที่จะได้บอกราตรีสวัสดิ์ แม้จะมีนอกลู่นอกทางบ้างตามประสาวัยรุ่น แต่นี่ก็เรื่องที่เสือผู้หญิงที่ไม่เคยต้องเดือดร้อนเรื่องนี้ล้วนแล้วแต่ไม่เคยทำ ทว่าสิ่งที่หญิงสาวตอบกลับมามีเพียง




‘เชษฐ์เป็นน้องชายที่น่ารักของพี่แบบนี้ต่อไปเถอะนะ’




นั่นจึงทำให้ร่างสูงตกใจอย่างมากเมื่อจู่ๆเกศราก็ตอบตกลงคบกับเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยหลังจากไม่มีท่าทีจะยอมลงให้มาแรมปี แต่แน่นอน ธีรเชษฐ์ไม่คิดจะซักถามให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสเปลี่ยนใจ เขายังจำได้ว่าวีรภัทร เพื่อนรุ่นน้องที่อยู่ทีมบาส
เดียวกันกับตนในตอนนั้นเคยล้อเขาว่าเหมือนเสือโดนถอดเขี้ยวเล็บไม่มีผิด




ทว่าแม้จะโดนถอดเล็บออกไปแล้ว เสือก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำ





ถึงแม้ว่าธีรเชษฐ์จะรักและซื่อสัตย์กับเกศราอย่างที่เขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะทำให้ใครมาก่อน ร่างสูงรับรู้ถึงปัญหาที่พวกเขามีได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่หญิงสาวรุ่นพี่ยอมให้ตนได้สัมผัสเพียงไม่กี่ครั้ง





แม้จิตใจจะตรงกัน แต่ร่างกายของเกศรานั้นไม่สามารถรองรับอารมณ์ของเขาได้ทั้งหมด และเรื่องนั้นหญิงสาวเองก็รู้ดี





หลังจากที่เกศรามีเมฆาและบิดาของเขาหมดวาระส่งค่าเลี้ยงดู ธีรเชษฐ์ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการสร้างร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของมารดาให้เป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามากขึ้นกว่าเดิม เพื่อสร้างอนาคต เพื่อภรรยาและลูกของเขาได้มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ซึ่งมาพร้อมกับความเครียดเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และภรรยาที่เขาไม่สามารถแตะต้องได้ด้วยสุขภาพที่ทรุดโทรมลงเรื่อยๆหลังจากคลอดลูกคนแรก




เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนดี





ครั้งแรกที่ธีรเชษฐ์นอกกายภรรยาของตน เขาจำได้ว่าในความคิดของตัวเองมีเพียงเกศราทั้งที่หญิงสาวใต้ร่างไม่มีความละม้ายคล้ายคลึงใดๆกับนางฟ้าของเขา การได้ปลดปล่อยอารมณ์ที่จุกอยู่ในอกมาพร้อมกับความรู้สึกผิดที่ท่วมท้นจนแทบหายใจไม่ออก ธีรเชษฐ์ได้แต่นั่งอยู่ที่บันไดบ้าน ไม่กล้าแม้แต่จะเดินขึ้นไปสู้หน้าภรรยาที่กล่อมลูกน้อยเข้านอนไปตั้งแต่หัวค่ำ ชายหนุ่มกุมศีรษะที่ปวดจนแทบจะระเบิด เหวี่ยงหมัดลุ่นๆกระแทกเข้ากับผนังบ้านอย่างโมโหตัวเอง ส่งผลให้กรอบรูปวันแต่งงานของพวกเขาตกลงมากระแทกพื้นเสียงดัง ธีรเชษฐ์คุกเข่าลงเก็บเศษกระจกที่แตกกระจายบนพื้น ไม่สนใจเลือดที่ซึมออกมาตามข้อนิ้วหลังจากกระแทกกับคอนกรีต




“เชษฐ์…แค่ก…”





ร่างของชายหนุ่มเย็นวาบเมื่อได้ยินเสียงของเกศราดังขึ้นพร้อมกับเสียงไอค่อกแค่กที่กลายเป็นเสียงที่คุ้นเคยดีในบ้านหลังนี้ ธีรเชษฐ์ไม่มีหน้าแม้แต่จะหันกลับไปสู้หน้าภรรยาของตน แต่เพียงแค่เสียงฝีเท้าที่มาหยุดอยู่ข้างหลังของเขาและมีเรียวเล็กที่แต่ลงบนบ่า ก็มากพอที่จะทำให้ชายร่างสูงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นโผเข้ากอดเอวบางไว้แล้วซุกหน้าลงกับหน้าท้องของหญิงสาว




“ผมขอโทษ…”




ธีรเชษฐ์พึมพำ ถึงแม้กรอบรูปที่แตกกระจายจะยังคงหล่นอยู่บนพื้น แต่เกศราฉลาดเกินกว่าจะรู้ว่าท่าทีของสามีเกิดจากการทำของตกแตก




แทนที่จะก่นด่า ทุบตี หรือทำอะไรก็ตามที่สมกับที่คนอย่างธีรเชษฐ์จะได้รับ หญิงสาวเพียงแต่ยกมือขึ้นลูบศีรษะของสามีอย่างอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราวกับน้ำชะโลมใจที่ไม่ว่าจะได้ยินสักกี่ครั้งเขาก็ไม่มีวันเบื่อ




“ไม่เป็นไรหรอกเชษฐ์…”ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองเกศราอย่างประหลาดใจ แต่เกศราเพียงแค่ยิ้มให้เขาอย่างจริงใจ “…เกศเข้าใจ เกศเข้าใจจริงๆนะ”




ราวกับว่านั่นเป็นข้อตกลงที่คนสองคนไม่จำเป็นต้องเอื้อนเอ่ยออกมา




สภาพร่างกายของเกศราทรุดหนักลงเรื่อยๆหลังจากมีลูกชายคนที่สอง ทั้งที่ธีรเชษฐ์มั่นใจว่าตนป้องกันทุกวิถีทางแล้ว ร่างสูงถึงกับไม่ยอมแตะต้องภรรยาของตนอีกหลังจากนั้น แม้ว่าทุกครั้งที่นำอารมณ์ไปลงกับคู่นอนคนอื่น ในห้วงความคิดของ
เขาจะไม่เคยปรากฎภาพใครนอกจากเกศราก็ตาม




ครั้งสุดท้ายที่เขาเผลอไผลไปกับอารมณ์ชั่ววูบในวันครบรอบแต่งงานของเขากับเกศรา เกิดผลลัพธ์เป็นทินกร ลูกชายคนสุดท้อง และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี เกศราก็ไม่สามารถลุกขึ้นจากรถเข็นที่เธอใช้อีกตลอดชีวิต




 หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียไปเมื่อสี่ปีก่อน ธีรเชษฐ์ก็ไม่เคยมีคนรักใหม่ เขาอาจจะมีคู่นอนเป็นดาราหรือนางแบบสาวที่แวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสายบ้าง แต่ทุกคนก็รู้ว่าเขาเพียงต้องการที่ระบายความใคร่ เซ็กซ์ที่เกิดขึ้นจึงเร่าร้อน รุนแรง ไร้ซึ่งความรู้สึก





แต่กับคนตรงหน้า เขากลับไม่ได้รู้สึกอยากจะทำอะไรรุนแรงอย่างที่ตนทำกับคู่นอนคนอื่นมากนัก





คงเพราะเป็นเด็ก...




หรืออาจเป็นเพราะดวงตาใสซื่อที่แฝงไปด้วยอดีตที่หนักอึ้งซึ่งทำให้เขานึกถึงคู่ชีวิตที่ลาจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับก็เป็นได้




มีนาพยายามสูดลมหายใจเข้าออกปรับจังหวะให้เข้ากับแรงกระแทกของนิ้วเรียวยาว เริ่มรู้สึกถึงความเสียวซ่านเมื่อนิ้วชองอีกฝ่ายกระแทกจุดบางอย่างในตัวของเขา แต่ร่างกายเพิ่งจะปรับตัวได้ไม่นานนิ้วที่สองและสามก็ถูกแทรกเข้ามาอย่างไม่บอกกล่าว ร่างบางแอ่นสะโพกรับอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้




"อ๊ะ..."




"ชอบมั้ย?" เสียงทุ้มถาม คนขี้อายหน้าขึ้นสีเรื่อ พยักหน้าเล็กน้อย เรียกรอยยิ้มมุมปากจากใบหน้าหล่อเหลาได้เป็นอย่างดี



"เด็กดี..."




นิ้วของอีกฝ่ายถอนออกไปอย่างเชื่องช้า ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยบางอย่างที่ใหญ่กว่ามาก มีนจิกผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อรู้สึกถึงการรุกราน ริมฝีปากได้รูปของชายหนุ่มที่วนเวียนอยู่ตรงหน้าอกทำให้เขาลืมความเจ็บปวดได้บ้างแต่ก็ไม่มากนัก ธีรเชษฐ์ขมวดคิ้วกับความคับแน่นที่บีบรัดเสียจนเขาแทบทนไม่ไหว




"อา...อย่ารัดมากสิ.."




"ขอ..ขอโทษครับ อ๊ะ...อะ...”




 เสียงครางหวานหูดังขึ้นเรื่อยๆเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับ ความเจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นความเสี่ยวซ่าน มีนายกแขนขึ้นคล้องคอชายหนุ่มเพื่อหาที่ยึดเกาะจากการถูกกระแทกกระทั้นเสียจนตัวโยน ธีรเชษฐ์ฝังใบหน้าลงบนซอกคอขาว สูดกลิ่นหอมอ่อนๆของแป้งอบที่เขาไม่ได้กลิ่นมานานมากแล้ว




เด็กประหลาด




Rrrrrr




เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดกิจกรรมเข้าจังหวะของทั้งคู่ ธีรเชษฐ์กัดฟันอย่างสะกดกลั้นอารมณ์แต่จำต้องเอื้อมมือไปหยิบ
โทรศัพท์ด้วยกลัวว่าจะมีเรื่องด่วน มองร่างที่นอนหอบหายใจยกมือปิดปากอย่างรู้งาน เห็นแล้วมันน่าแกล้งจริงๆ





"ว่าไง..."





'พ่อครับ โปรเจ็กต์ที่ดีลไว้กับทางญี่ปุ่นผ่านแล้วนะครับ จะให้ดำเนินการเลยมั้ย' เสียงลูกชายคนโตที่นิ่งขรึมเสียจนบางทีคนเป็นพ่ออย่างเขายังอดเสียวสันหลังวาบไม่ได้ดังขึ้นจากปลายสาย





"แกไม่ต้องไปหรอก..." ชายหนุ่มขยับกายเล็กน้อย มีนรีบปิดปากแน่นขึ้นแต่ดูเหมือนร่างสูงจะยิ่งได้ใจ สาวกายเข้าออกกระแทกจุดอ่อนไหวของเด็กน้อยซ้ำๆอย่างไม่ปราณี




มีนาถลึงตาที่ฉ่ำเยิ้มด้วยแรงอารมณ์ใส่เขาอย่างเหลืออด ยิ่งทำให้คนขี้แกล้งรู้สึกสนุกยิ่งขึ้น




'แล้วจะให้ใครไปครับ?'




"เดี๋ยวพ่อไปเอง"




พ่อ?




มีนรู้สึกเหมือนหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มวูบหนึ่ง  นี่เขามีครอบครัวแล้วอย่างนั้นเหรอ?




แล้วทำไม....




"เป็นอะไรไป" ธีรเชษฐ์ที่วางสายแล้วหันกลับมาสนใจคนบนเตียง ขยับเร่งจังหวะจนเด็กหนุ่มต้องจับเขาไว้แน่นขึ้น "บอกว่าอย่ากลั้นเสียงไว้ไม่ใช่เหรอ?"




"คุณ..อ๊ะ..แต่งงานแล้วเหรอะครั..ฮะ..ฮ้า..." ร่างบางจิกเท้าเกร็งรับแทกกระแทกที่ถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ สะโพกกลมยกขึ้นสวนแรงของชายหนุ่มตามสัญชาตญาณ เขารับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าอีกฝ่ายใกล้จะถึงแล้ว




ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีขาวโพลนชั่วขณะ




ร่างสูงทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างสบายตัว ดึงร่างที่นอนหมดสภาพหลังจากถูกทำไปเพียงรอบเดียวเข้ามาในอ้อมกอด หลับตาลงซุกหน้ากับหัวไหล่มนอย่างผ่อนคลาย




"ใช่ ฉันแต่งงานแล้ว"




"แล้วภรรยา..." เด็กหนุ่มรู้สึกผิดขึ้นมาจับใจเมื่อว่าคนที่กอดเขาอยู่มีครอบครัวให้กลับไปหา




"เสียไปสี่ปีแล้ว"




ชายหนุ่มตอบเสียงห้วนเป็นเชิงตัดบทสนทนา มีนอยากจะบอกอีกฝ่ายว่าเขาเสียใจด้วยแต่ก็รู้สึกว่ามันคงแปลกพิกล เด็กหนุ่มนอนมองเพดานอย่างเหม่อลอย บรรยากาศในห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบจนกระทั่งธีรเชษฐ์เอ่ยขึ้นทั้งที่ยังไม่ลืมตา




"มาอยู่กับฉันมั้ย?"




"เอ๊ะ?" มีนหันไปหาคนข้างๆอย่างงุนงง




"เรื่องค่ากินค่าอยู่ ค่าเทอม ฉันจะเป็นคนออกให้พร้อมเงินเดือนต่างหาก" ชายหนุ่มพูดต่อ ดวงตาคมลืมขึ้นมองดวงหน้าน่ารักอย่างจริงจัง "มาเป็นคนของฉัน"




"เหมือน...เด็กเก็บน่ะเหรอครับ?" มีนถามอย่างไม่แน่ใจ




"ก็ดีกว่าไปเร่ขายตัวให้คนไม่รู้จักมั้ยล่ะ" นักธุรกิจหนุ่มเลิกคิ้ว "อีกอย่าง ลีลาห่วยแถมยังแข็งทื่อเป็นท่อนไม้อย่างเธอ คิดว่าจะหาเงินจากอาชีพแบบนี้ได้จริงๆเหรอ?"




"ขอโทษนะครับที่ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้น่ะ" เด็กหนุ่มเถียงอย่างน้อยใจก่อนจะตะครุบปากตัวเองอย่างรวดเร็ว
ซวยแล้วมั้ยล่ะ




"ไม่เคย..." ธีรเชษฐ์ชันตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว "ไม่เคยนี่คือ ไม่เคยทำ'อะไร'เลยงั้นเหรอ?"




"...." มีนเบือนหน้าหนี ยิ่งตอบคำถามให้คนที่กำลังสงสัยได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มถอนหายใจ ตวัดผ้าห่มที่คลุมท่อนล่างของเด็กน้อยอยู่ออกแล้วแยกขาเรียวออกจากกันอย่างคล่องแคล่ว "ทำอะไรน่ะครับ!"




"ว่าแล้ว..." ช่องทางที่บีบรัดเขาจนแทบไปสวรรค์ทั้งที่ยังไม่ได้ขยับเมื่อครู่บวมแดง โชคดีที่เขาไม่ได้รุนแรงมากทำให้ช่องทางที่ว่าไม่ได้ฉีกขาดหรือมีเลือดออก "รอนี่ เดี๋ยวไปเอายามาให้"




มีนมองตามคนที่เดินโทงๆออกไปโดยไม่สนใจจะหาอะไรมาปิดบังร่างของตนแล้วถอนหายใจ นี่มันวันอะไรของเขาเนี่ย
ไม่นานนักอีกฝ่ายก็เดินกลับมาพร้อมกับกระปุกยา ธีรเชษฐ์ใช้นิ้วปาดเอาตัวครีมออกมาเป็นจำนวนมาก แล้วป้ายลงรอบช่องทางที่บวมขึ้นเล็กน้อย มีนสะดุ้งกับความเย็นและปลายริ้วค่อยรุกล้ำเข้ามา เด็กหนุ่มพยายามไม่มอง ไม่รู้ทำไม แต่เขารู้สึกอายกับภาพตรงหน้ามากกว่าที่ถูกอีกฝ่ายทำเรื่องน่าอายก่อนหน้านี้เสียอีก




"ว่าไง ข้อเสนอของฉันน่าสนใจมั้ย" นักธุรกิจหนุ่มปิดฝากระปุกยาแล้วนั่งลงข้างคนตัวเล็กที่รีบดึงผ้าห่มมาปิดตัวเองดังเดิมมีนพยักหน้าอย่างไม่อยากยอมรับเท่าไหร่




"แต่มีข้อแม้นะครับ..." เด็กหนุ่มว่า ดึงผ้าห่มขึ้นมากอด "ถ้าคุณเบื่อผมแล้ว ผมต้องได้รับการแจ้งล่วงหน้าและเงินเดือนล่วงหน้าสามเดือน"




เขารู้ว่ามันฟังดูเห็นแก่เงิน




แต่หากเขาถูกไล่ออก มีนจำเป็นต้องมั่นใจว่าสถานะทางการเงินของตัวเองยังพอไปให้ประคับประคองตัวเองได้ตอนที่กำลังหางานใหม่




เพราะมันไม่ใช่ปากท้องของเขาคนเดียวที่เขาเป็นห่วง




"ถ้าเธอตกลงรับงานนี้ เธอจะต้องทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่างตอนที่อยู่ในห้องนี้ ห้ามเรียกร้องมากกว่าที่ฉันให้ ห้ามบอกใครเรื่องของเราโดยที่ฉันไม่อนุญาต" ธีรเชษฐ์ว่า "เข้าใจแล้วใช่มั้ย?"




มีนพยักหน้า ยังคงรู้สึกไม่มีมั่นใจว่าสิ่งที่ตนตัดสินใจไปนั้นถูกหรือไม่




"ดี พรุ่งนี้ไปเก็บของให้เรียบร้อย" ชายหนุ่มหยิบหมอนของตัวเองมาถือไว้ "ยกสะโพกขึ้น"




เด็กหนุ่มทำตามอย่างงุนงง ร่างสูงสอดหมอนเข้าไปใต้บั้นท้ายตึงที่ยังคงปวดระบมจากกิจกรรมเมื่อครู่




"คืนนี้จะได้ไม่ปวด"




"แล้วคุณเชษฐ์จะนอนยังไง...อ๊ะ" ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนบนหมอนใบเดียวกันโดยไม่บอกกล่าว ใบหน้าคมที่อยู่ใกล้แค่คืบเรียกเลือดฝาดให้มาเลี้ยงใบหน้าขาวนวลจนแดงระเรื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขารั้งร่างของอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอด




น่ารักจริงๆ...




"นอนได้แล้วพรุ่งนี้ฉันไปส่ง"




"ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมกลับเองได้" เด็กหนุ่มปฎิเสธอย่างเกรงใจ




"อย่าดื้อ" ธีรเชษฐ์ทำเสียงดุ เมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าหงอยลงไปถนัดตาจึงปรับเสียงให้นุ่มลง "ฉันอยากไปส่ง"




"ขอบคุณครับ" เสียงหวานเอ่ยเบาๆ



"นอนได้แล้ว ฉันง่วง" ร่างสูงพาดขาเกี่ยวรั้งเอวบางให้ใกล้ตัวเองมากขึ้น




"ฝันดีนะครับ"มีนายิ้ม ก่อนจะหลับตาลงตามคำสั่งของร่างสูง




"ฝันดี" สัมผัสอุ่นแตะลงบนหน้าผาก อ้อมกอดแกร่งกระชับร่างของเขาให้แนบติดกับแผงอกของอีกฝ่าย




อุ่น..




ริมฝีปากเล็กระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนที่เด็กหนุ่มจะจมสู้ห้วงนิทรา


----------
มาลงยาวๆไปหน่อย เผื่อต้องเก็บตัวอ่านหนังสือต่อจากนี้555555
หลังจากนี้ไรท์อาจจะหายไปบ้าง ขออภัยล่วงหน้าค่ะ

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
น่ารัก  :katai4: :katai4: :pig4:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
มีสองคู่อ่ะ ^^
หวังว่าดราม่าจะไม่หนักหน่วงนะครับ //ขอบคุณสำหรับ 3 ตอนที่ผ่านมา

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:


เป็นอมตะอีกราย

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
เชษฐ์ก็มีมุมน่ารักนะค่ะนี่ไม่คิดว่าจะมี o13

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ PAtxxkMxxn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
2คู่นี่คนละอารมณ์เลย555

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
ชอบคู่รอง55555 แต่สงสัยว่าถ้าน้องมีนเก่งขนาดเป็นนักเรียนทุนเเพทย์ ทำไมต้องไปขายบริการด้วย เรียนเก่งขนาดนี้มีงานดีๆให้ทำเยอะแยะ รับสอนพิเศษยังได้เลยนะ
รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
งานละมุนนน
คาดว่าวันเกิดครบ18มีนคงโดนจัดหนัก ฮ่าๆ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พอเป็นมุมของเชษฏร์ก็ทำให้เราเข้าใจลุงเค้ามากขึ้นเนอะ แอบมีความอ่อนโยนกับน้องมีน o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด