KING ที่ 44 แฟนหนุ่มและรุ่นพี่ปริศนา สุดท้ายไอ้ธีร์ก็ไม่ได้พาผมไปที่ที่มันบอกอยากจะพาไป ผมกลับไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ที่คอนโด และกลับมาที่หอพักพร้อมกับไอ้ธีร์ในเวลาต่อมา แบบนี้เหนื่อยชะมัด เมื่อไหร่จะได้กลับไปอยู่คอนโดเร็วๆ สักที
ในความมืดกลางดึกนั้น ผมเหลือบมองเตียงของไอ้ธีร์ ป่านนี้มันคงหลับไปแล้วเพราะพรุ่งนี้มันมีเรียนเช้า ผมนั้นเข้าใจมันดี พวกเราไม่ควรไปเที่ยวกันดึกๆ อีกแล้ว ผมสงสารมันที่ต้องอดหลับอดนอนตามใจผม
ผมคิดและค่อยๆ หลับตาลง ฟังเสียงเครื่องปรับอากาศที่ยังคงทำงานอยู่เงียบๆ ผมได้ยินเสียงกรนเบาๆ จากเตียงข้างประตู คงไม่พ้นจีจี้หมีควายแน่นอน ส่วนนาถนั้นก็นอนแต่หัวค่ำทุกวันเป็นกิจวัตร
ผมห่มผ้าห่มคลุมตัวและกอดหมอนข้างเอาไว้ เมื่อก่อนผมไม่ติดหมอนข้างหรอก แต่พอช่วงหลังๆ ไม่ได้นอนกับไอ้ธีร์แล้ว ผมก็เลยซื้อมาติดเอาไว้แก้เหงา หึหึ แต่ไม่อุ่นเลยสักนิดเดียว
ผมคิดอะไรเพลินๆ และซุกหน้าลงกับหมอนข้างนั้น พรุ่งนี้ผมมีเรียนช่วงสายๆ ผมว่าผมจะแวะไปซื้อของหลังจากเรียนเสร็จ โอเค เอาแบบนั้นแหละ
แต่ผมที่กำลังนอนหลับตาคิดอะไรเพลินๆ นั้นก็ต้องสะดุ้งสุดตัวทันที ผมรู้สึกว่าเตียงของผมกำลังยุบลง และตัวผมนั้นก็กำลังถูกรัดจากด้านหลังอย่างรวดเร็วและไม่สามารถขยับตัวได้ ชิบหายแล้ว พ่อแก้วแม่แก้วช่วยกูด้วย กูโดนผีอำแน่นอนแบบนี้ อ้ากกก ขยับไม่ได้โว้ยย ไอ้ธีร์ช่วยกูด้วยยย
ไม่ใช่แค่โดนรัด แต่ปากของผมก็เริ่มถูกปิดแน่นอีกด้วย ผมดิ้นไปมาพยายามส่งเสียงร้อง อื้อมือใหญ่มาก แต่เดี๋ยวนะ ทำไมหอมๆ
ผมหยุดดิ้นและสูดฟุตฟิตไปมา กลิ่นนี้แม่งใช่เลย ไอ้ห่ารากไส้ ทำกูตกใจหมด หึ่ยย
ผมเหลือบมองมือที่ปิดปากผมในความมืดและเหลือบมองด้านหลังของผมที่มีปรสิตเกาะอยู่ นั่นไง แม่งถ้ากูช็อคตายไปมึงต้องเหี่ยวเฉาแน่ๆ ไอ้ธีร์
' ทำอะไรเนี่ย ' ผมแกะมือไอ้แฟนสารเลวของผมและหันไปด่ากราดแบบไม่มีเสียง แต่ดูเหมือนไอ้คนโดนด่านั้นจะไม่สะทกสะท้านใดๆ และดึงผมเข้าไปกอดเอาไว้อีกด้วยรอยยิ้ม สนุกนะมึง
' เดี๋ยวพวกมันเห็น ' ผมขยับปากต่อไปและหยิกไหล่มันอีกหลายที ไอ้ธีร์นั้นใส่เสื้อยืดสีดำสบายๆ นอน และใส่กางเกงบาสขาสั้น ผมสัมผัสได้ถึงผ้าลื่นๆ และกลิ่นของมันที่เป็นเอกลักษณ์
' นอนไม่หลับ ' ผมได้ยินเสียงไอ้ธีร์กระซิบเบาๆ และเริ่มดึงผ้าห่มขึ้นคลุมพวกเราไว้
' น่าจะนอนที่คอนโด ' ไอ้ธีร์พูดต่อและยังคงยื่นหน้ามาหอมแก้มผมอีกด้วย เอ๊ะ ไอ้นี่มันยังไง มึงตื่นเหรอ ไอ้ตื่นที่ผมหมายถึงคือข้างล่างมันน่ะ โอ้ยกู อย่าคิดๆ
' มึงกลับไปเลย กูจะนอน ' ผมพูดและดันหน้ามันที่เริ่มเข้ามาซุกคอผม
' อยากนอนด้วย ' มันพูดและหน้าหงอยๆ โอ้ยย กู ใจอ่อนนะเนี่ย แต่กลัวเพื่อนเห็นไง
' เดี๋ยวมึงหลับยาวมันตื่นมาเห็นทำไง ' ผมพูดและดันหน้ามันออกจากคอผม
' ไม่หรอก นี่ตื่นคนแรกอยู่แล้ว ' ไอ้ธีร์พูดและเริ่มขยับตัวเข้ามากอดรัดผมเอาไว้แน่น โอ้ยยย เอาเหอะ ยังไงกูก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วล่ะ ผมนอนนิ่งๆ ปล่อยให้มันกอดผมเอาไว้อย่างแนบแน่น จะหลับได้ยังไงล่ะอีแบบนี้ กูว่ากูเป็นภูมิแพ้นะ แพ้มึงเนี่ย กูห้วใจจะวาย
ผมแอบยิ้มในความมืด พลางแอบสูดดมกลิ่นหอมที่มาจากตัวของคนตรงหน้า เป็นผู้ชาย แต่เสือกตัวหอม หล่อแล้วยังหอมอีก มึงนี่มัน หึ่ย ไม่รู้จะหอมทุกส่วนหรือเปล่า อ้ากก อย่าคิดๆ หลับซะ หลับซะลูกเอ้ย ผมนอนท่องแบบนั้นในใจทั้งคืนและหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ได้
ผมลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้าเพราะแสงจ้าที่ส่องเข้ามาผ่านกระจกบานเกร็ด แปลกแฮะ ปกติผมจะต้องได้ยินเสียงไอ้ธีร์เป็นคนปลุกผมนี่นา มันไปไหนของมัน
ผมงัวเงียและขยับตัวน้อยๆ แต่เอ๊ะ อะไรวะ หนักชิบ ผมขยี้ตามองดูแขนที่พาดอยู่บนตัวผม แขนขาวๆ ขายาวๆ เฮ้ยยย ผมแทบตาเหลือกทันทีที่ยังคงเห็นไอ้ธีร์นอนอยู่บนเตียงผม อ้ากกกกก อะไรของมึงวะเนี่ย
และผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในห้องนี้ไม่ได้มีเพียงผมกับมันก็ลุกเด้งขึ้นทันที ผมเหลือบมองไปยังเตียงของเพื่อนอีกสองคนที่อยู่ข้างประตู และก็ อ้ากกกกก แม่งอยู่กันครบ และกำลังเหลือบมองผมกับไอ้ธีร์ด้วยความสนใจ
" ฮ่าๆ ไอ้ห่านี่แม่งนอนละเมอชิบหาย " ผมพูดพลางหัวเราะกลบเกลื่อนเขี่ยไอ้ธีร์ที่ยังคงนอนกอดหมอนข้างผมอยู่ มึงนะมึง กูจะไม่เชื่อมึงแล้วคอยดู๊
" อยากให้ธีร์ละเมอมานอนกอดจีจี้บ้างจัง " ผมมองจีจี้ที่พูดและมองผมด้วยสายตาริษยา เอ่อ ผมแทบไม่อยากนึกภาพตามที่หล่อนพูดเลยทีเดียว
" เออฟา เดือนหน้าเราจะย้ายไปอยู่หอนอกกับเพื่อนแล้วนะ " ไอ้นาถที่กำลังสะพายกระเป๋าเตรียมไปเรียนนั้นก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาพอดี แบบนี้สวยเลยแฮะ
" เออเราก็เหมือนกัน แล้วจี้อ่ะ " ผมพูดและถามจีจี้ที่กำลังทาลิปสติกสีแดงอยู่หน้ากระจก
" จะออกเมื่อไหร่ก็บอก จะได้ออกพร้อมๆ กัน จี้ก็มีดาลิ้งอยู่หอนอกจ๊ะ " จีจี้พูดและลุกขึ้นเตรียมไปเรียนเช่นกัน
" แล้วเจอกันนะคะดาลิ้ง " ผมมองจีจี้ที่เดินมาลูบแขนไอ้ธีร์และเดินเชิดออกไปจากห้อง เหอๆ สักนิดสักหน่อยก็เอานะหล่อน
หลังจากมองรูมเมททั้งสองคนออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว ผมก็จัดการเข้าไปทั้งตีทั้งทุบไอ้แฟนเลวของผม หนอยมึงทำแสบมาก ถ้าพวกมันไม่เชื่อเรื่องนอนละเมอมึงจะว่ายังไงห๊า
แต่ผมที่ตีมันนั้นก็นั่งลงข้างๆ และมองดูไอ้ธีร์ที่ยังไงนอนต่อ แปลกแฮะ ปกติมันไม่เป็นแบบนี้หรอก
" ธีร์ " ผมเขย่าตัวมันและจ้องมองดวงตาของมันที่ยังคงปิดอยู่
" ไอ้ธีร์ มึงตายเหรอ มีเรียนเช้านะ " ผมขยับตัวไปใกล้มันอีกนิดและดึงจมูกโด่งๆ ของมันเบาๆ
ผมขมวดคิ้วน้อยๆ และมองดูหน้าผากของมันที่มีเหงื่อไหล ห้องนี้ก็ไม่ได้ร้อนสักหน่อย เป็นอะไรของมันอีกนะ
ผมที่คิดแบบนั้นก็ลองใช้หลังมือแตะที่คอของมันดู และก็ชัดเจน มันป่วยอีกแล้ว แต่ก็นานเหมือนกันที่ผมไม่ได้เห็นมันป่วยตั้งแต่ม.ปลาย
" ไอ้ธีร์มึงไหวไหม ไม่ต้องไปแล้วเรียนมั้ง " ผมพูดและจับมันนอนดีๆ
" แค่ตัวอุ่นๆ เอง แล้วก็ ปวดหัวนิดหน่อย " ไอ้ธีร์พูดพลางลืมตาลุกขึ้น หนอย นี่มึงแกล้งหลับสินะ อยากจะฟาดมันอีกสักรอบจริงๆ
" นั่นแหละ ไม่ต้องไป " ผมพูดและทำหน้ามุ่ยมองมันที่เดินไปที่ตู้และหยิบผ้าเช็ดตัว
" ไม่ได้หรอก งานกลุ่ม " ไอ้ธีร์พูดและหันมายิ้มให้ผม มึงไม่ต้องมายิ้มละมุน หึ่ย อารมณ์เสีย
" เออ เรื่องของมึง! " ผมพูดและนอนลงหันหลังให้มัน สมัยก่อนก็ทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้แหละ ผมเบื่อความดื้อของมัน ปล่อยแม่งตายห่าไปเลย กูจะได้หมดห่วงสักที
" ฟา แค่กินพาราก็หายแล้ว " ไอ้ธีร์เดินมายืนอยู่ข้างๆ เตียงผม ไม่ต้องมาพูดกูไม่อยากฟัง
" อยากไปเรียนจังเลยนะ ไม่รู้แค่อยากเรียนจริงๆ หรือเปล่า " ผมพูดและไม่ได้หันไปมองมัน มึงยังมีคดีอยู่นะ อย่าให้กูพูด
" พูดเรื่องอะไรน่ะ ไปฟังอะไรใครมาอีก " ไอ้ธีร์นั่งลงข้างๆ ผมและดึงตัวผมให้ผมหันไปมองมัน
" มึงจะไปอาบน้ำก็ไปเลย กูจะนอนต่อ " ผมพูดและยังคงไม่ยอมหันไปมองมันดีๆ ยุ่งมากกูกัดแม่ง
" รักฟานะ " แต่ผมที่ทำหน้างออยู่ก็แทบจะหุบยิ้มไม่ทัน อ้ากกก ไม่ต้องมาปากดี กูงอน กูไม่ได้ดีใจเลยจริงจริ๊ง
ผมพยายามทำหน้าไม่ให้ดูดีใจมากเกินไป และลุกขึ้นนั่งมองมันที่กำลังจ้องมองผมและยิ้มน้อยๆ หึ่ย กูก็ร้ากกมึงนะ แต่ไม่พูดมากหรอก แบร่
" เออ รีบไป เดี๋ยวสาย " ผมพูดและดันมันให้ลุกขึ้น แทบจะเดินไปส่งมันถึงหน้าห้องน้ำเลยทีเดียว
ในช่วงสายๆ นั้นผมที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ออกมานั่งรถไฟฟ้าเพื่อไปเรียน วันนี้เรียนห้องไหนผมก็จำไม่ค่อยได้ แต่ก็อาศัยมองหาเพื่อนในเอกและก็เดินตามๆ เขาไป
" ฟา ว่าไง " ผมยิ้มให้เพื่อนต่างคณะที่ยกมือทักผม คนนั้นเจอตอนเรียนวิชาเลือก
" เฮ้ยฟา รองเท้าเจ๋งว่ะ " ผมมองเพื่อนอีกคนที่เรียกผมไอ้นี่มันอยู่บริหาร เจอกันตอนเรียนวิชาเลือกอีกวิชาหนึ่ง
" ฟา มานี่ๆ อาจารย์จะล็อคห้องแล้วมึง " ผมที่มัวแต่ทักคนโน้นคนนี้ก็รีบวิ่งตาเหลือกทันทีตามเพื่อนในเอกไป เกือบไปแล้วไหมล่ะ มิตรเยอะนี่ก็ลำบากนะเนี่ย
ผมเข้ามาในห้องได้ทันเวลาฉิวเฉียดและเดินไปนั่งแถวบนๆ เพื่อจะได้แอบอ่านการ์ตูนได้ถนัดๆ ฮ่าๆ
" ขยันเหมือนเดิม "
" แน่นอน " ผมพูดและยิ้มให้เพื่อนในกลุ่มสองสามคนที่กำลังมองผมและหัวเราะกัน
" เออฟามีแฟนยังอ่ะ เมื่อวานเพื่อนเราคณะอื่นให้มาถาม " ผมละสายตาจากหนังสือการ์ตูนและเลิกคิ้วขึ้นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
" ตัวผู้ใช่ไหม จะให้เพื่อนไปดักกระทืบ " ผมพูดและคิดว่าร้อยละ 90 แม่งใช่แน่ๆ
" ผู้หญิงโว้ย น่ารักด้วย " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็วางหนังสือการ์ตูนทันที
" คณะไหนวะ " ผมที่ไม่ค่อยมีกุลสตรีมาสนใจก็เกิดอาการอยากรู้อยากเห็นทันที คือไม่ได้อะไรนะ แค่สงสัยจริงจริ๊ง
" อยู่คณะแพทย์ " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งสนใจไปใหญ่
" พาไปหาหน่อยดิ " ผมยื่นหน้าไปหาเพื่อนด้วยความสนใจ คือจริงๆ แค่อยากไปหาไอ้ธีร์แหละ จะอวดสักหน่อยว่ามาสาวมาชอบเหมือนกันนะเฟ้ย กูไม่ได้ขายไม่ออกนะมึง ระวังให้ดี ฮ่าๆๆ
หลังจากการเรียนอย่างขมักเขม้น(เหรอ)ผ่านพ้นไป ผมและเพื่อนสาวอีกสองคนก็พากันเดินไปที่คณะแพทยศาสตร์ที่อยู่ไม่ไกลนัก พวกเราเดินไปที่โรงอาหารของคณะแพทย์และหาข้าวกินกัน เพื่อนผมบอกว่าสาวน้อยคนนั้นเขินมากที่รู้ว่าผมจะมา แต่ก็จะออกมากินข้าวด้วยเมื่อเรียนเสร็จ ผมซื้อข้าวมันไก่ที่แถวไม่ยาวมากมากิน และก็พบว่ากับข้าวที่นี่อร่อยใช้ได้ วันหลังต้องมากินอีกบ่อยๆ
" ไอ้ฟา " ผมมองเพื่อนที่กำลังสกิดแขนผม และเพยิดหน้าไปยังสาวน้อยคนหนึ่งที่กำลังยืนและนั่งลงตรงหน้าผม
คนนี้น่ะเหรอ ผมมองผู้หญิงตัวเล็ก ต้องบอกว่าตัวเล็กจริงๆ ผิวขาวและผมยาวเรียบตรงดูเรียบร้อย กำลังส่งยิ้มให้ผมและดูท่าทางประหม่าเต็มที่
" คือ ชื่อนิ่มค่ะ " ผมยิ้มทันทีที่ได้ยินแบบนั้น นิ่มสมชื่อเลยแฮะ ดูนุ่มนิ่มเรียบร้อย
" ครับ ผมก็นิ่มครับ " ผมพูดและนิ่มก็ทำหน้ามึนทันที แต่เพื่อนของผมนั้นหัวเราะลั่นไปเรียบร้อย
" มันหมายถึงสมองมันอ่ะนิ่ม ไม่มีอะไรหรอก " นิ่มที่ได้ฟังเพื่อนผมพูดก็ยิ้มชอบใจและจ้องมองผมมากขึ้นไปอีก
" ไม่ใช่สักหน่อย " ผมพูดและทำหน้ากวนๆ ซึ่งทำเอาเพื่อนของผมทำหน้างงตามๆ กันไป
" แล้วอะไรวะที่นิ่ม " ผมยิ้มทันทีที่สาวๆ ถามแบบนั้น
" อยากลองจับดูไหม "
" ไอ้ฟา ไอ้ทะลึ่ง " ผมที่พูดออกไปนั้นก็โดนฟาดยับเข้าที่กลางหลัง โอ้ยน้อ ทำไมรุนแรงกันจังวะ
" หมายถึงพุงเนี่ย " ผมพูดและลูบหลังตัวเองป้อยๆ แม่งเถื่อนชิบ
" ฟาตลกดี " นิ่มมองผมและหัวเราะขำอยู่นาน ผมยิ้มให้นิ่ม รู้จักเสน่ห์พี่แล้วหรือยังน้องสาว หึหึ
" เออนิ่ม ฟามีเพื่อนอยู่คณะนี้ด้วยนะ รู้จักธีร์ป่ะ เดือนมหา'ลัยอ่ะ " ผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ก็ถามนิ่มทันที คือไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่ถ้านิ่มเป็นเพื่อนไอ้ธีร์นี่จะแจ๋วเลย
" อ๋อ เพิ่งเรียนด้วยกันเมื่อกี้เองค่ะ ธีร์กับฟาเป็นเพื่อนกันเหรอ หล่อทั้งคู่เลยนะ " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็เกิดอาการยืดทันที
" ใครหล่อกว่ากันเอาชัดๆ " ผมพูดและนิ่มก็หัวเราะทันที
" ก็ต้องฟาสิคะ " ผมตอนนี่ยิ้มตาปิดเลยทีเดียว อยากอัดเสียงไว้จัง หึหึ ไอ้ธีร์ กูชนะมึงแล้ว
" เออนิ่ม แล้วไอ้ธีร์มันสนิทกับใครป่ะ " ผมได้ทีก็ถามสิ่งที่สงสัยเพิ่มไปอีก แบบนี้ดีเลย มีสายแล้วเรา
" อืมมม พูดยากนะคะ เพราะว่ารอบตัวธีร์มีแต่คนเข้าหาเต็มไปหมด ตอนนี้ถูกเลือกเป็นประธานคณะปี 1 ด้วยนะ " ว่าแล้วไง แต่ก็ไม่แปลกหรอก มันอยู่ที่ไหนก็เหมาะที่จะเป็นหัวหน้าคนอื่นเขา หึ่ย แอบหมั่นไส้ว่ะ
" แต่ถ้าให้พูดว่าสนิทกับใครก็น่าจะเป็นรุ่นพี่มั้งคะ เพราะเห็นมาหาหลังเลิกคลาสบ่อยมากเลย " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็เริ่มจะหูดับทันที รุ่นพี่ รุ่นพี่ไหน ผู้หญิงหรือผู้ชาย มันเป็นใครฟะ อย่าให้พ่อได้รู้
แต่ผมที่กำลังขบเขี้ยวเคี้ยวฟันนั้น สายตาก็ยังเอิญเจอกับคนที่กำลังคิดถึงอยู่พอดี ผมลุกพรวดและยกมือขึ้นกะจะเรียกไอ้แฟนตัวดีของผมที่กำลังเดินเข้ามาในโรงอาหาร แต่ผมที่ยกมือขึ้นนั้น ก็ต้องค่อยๆ เอาลงทันที
ผมมองไอ้ธีร์ที่เดินอยู่และมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาข้างๆ ผมนั่งลงและดึงผมยาวๆ ของเพื่อนคนหนึ่งมาบังหน้าผมเอาไว้ ผมสงสัย แต่ก็ยังไม่อยากวู่วามใดๆ ต้องดูไปก่อนว่ามันยังไงกันแน่
" ไอ้ฟา อะไรของแก " ผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและเคี้ยวเพลินจนไปเคี้ยวผมเพื่อนด้วย
" แปบเดียวๆ " ผมพูดและจ้องมองไอ้ธีร์ที่นั่งลงที่โต๊ะ ผมสังเกตว่าสีหน้ามันไม่ค่อยจะดีนัก ก็ใช่สิ มันไม่สบายนิดหน่อย ทำอวดเก่งนะมึง
ผมมองผู้หญิงหน้าตาสวยที่นั่งลงข้างๆ มัน ใส่กระโปรงพลีทยาวดูเรียบร้อย และใบหน้าก็สวยมากทีเดียว คนนั้นเหรอรุ่นพี่ แล้วทำไมถึงสนิทกันได้นะ
" อ๋อ นั่นไงรุ่นพี่ที่เราบอก " นิ่มพูดและหันไปมองโต๊ะนั้นเช่นกัน นั่นไง โป๊ะเช๊ะ
" ธีร์จริงด้วยอ่ะ หล่อชิบหาย เห็นแล้วมดลูกสั่น แต่ฟาบอกมีเมียแล้วเสียใจจัง " เพื่อนผมที่มองโต๊ะนั้นอยู่เช่นกันก็ทำหน้าอาลัยอาวรสุดขีด
" เห็นเขาว่าแฟนธีร์เป็นนางแบบนะ ธีร์ก็บอกทุกคนในเอกว่ามีแฟนแล้ว แต่สาวๆ ก็ไม่ค่อยฟังกันหรอก " ผมไม่ค่อยได้ฟังที่นิ่มพูดและแอบมองไอ้ธีร์อยู่ตลอด ปกติมันจะไม่ชอบให้ผู้หญิงหรือใครก็ตามเกาะแกะ แต่ทำไมถึงให้ยัยรุ่นพี่นี่มาอยู่ใกล้ๆ กันนะ หมั่นไส้โว้ยย
ผมรู้สึกเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นว่ายัยรุ่นพี่นั่นกำลังดึงทิชชู่ออกมาและยื่นมือไปซับหน้าให้ไอ้ธีร์ แต่ไอ้ธีร์นั้นก็ใช้มือกันเอาไว้และทำสีหน้าลำบากใจ แล้วมึงจะนั่งอยู่ตรงนั้นทำหอกอะไรฟะ แม่งขึ้นโว้ย อ้ากกก
ผมที่ทนดูไม่ไหวก็ลุกพรวดขึ้นทันที มึง หนอยมึง หนอยแน่
" ฟาจะไปไหนเหรอ " นิ่มที่เห็นผมลุกขึ้นก็ลุกขึ้นตามทันที
" หวงเพื่อนเหมือนหวงผัวเลยนะฟา " ผมมองเพื่อนที่กำลังหัวเราะชอบใจ เออกูหวงมัน จะพุ่งไปกัดหูมันเลยดีไหม แต่ผมที่คิดแบบนั้นก็ต้องสงบใจลงก่อน ผมว่าทำแบบนั้นมีแต่จะทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เย็นไว้ก่อนดีกว่า
ผมค่อยๆ ผ่อนลมหายใจเข้าออกและนั่งลงใหม่ หึ่ย คอยดูนะมึง ได้เครียกันยาวแน่ ยาวแน่ๆ มึงคอยดู๊
ผมกลับมาที่หอด้วยหัวใจที่เดือดเป็นไฟ ผมนั้นค่อนข้างจะอารมณ์เสียกับภาพที่เห็น แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันนอกใจหรืออะไรหรอกนะ คงเป็นพวกผู้หญิงที่สู้หัวชนฝาถึงแม้มันจะบอกว่าทีแฟนแล้วก็ตาม
ผมนอนคิดอะไรมากมายอยู่ในหัว ผมนั้นมีความกลัว ถ้าวันหนึ่งมันเกิดหลวมตัวไปล่ะ ไอ้ธีร์นั้นไม่ใช่ว่าไม่ชอบผู้หญิง แล้วแต่ละคนที่เข้ามาก็สวยๆ ทั้งนั้น ตายๆ กู ไอ้การที่เป็นแฟนคนที่น่าตาดีสุดๆ มันเป็นแบบนี้แหละ หงุดหงิดวุ่นวายใจ เอาน้ำกรดสาดแม่งซะเลยดีไหม กลัวหมาจะคาบไปแดกโว้ยย
ผมที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมากราดเกรี้ยวอยู่คนเดียวบนเตียงสักพัก พอเจอฤทธิ์แอร์เย็นๆ บวกกับที่นอนนุ่มๆ ผมก็เหมือนกับโดนสูบวิญญาณเลยทีเดียว
" ฟา " ผมสลึมสลือขมวดคิ้วมุ่น ความรู้สึกตอนนี้มันเหมือนกับมีอะไรหนักๆ มาทับตัวอีกแล้ว ผีหอในนี่แรงจริงๆ อำได้ทุกวี่ทุกวัน
" อย่ากวน " ผมพูดพลางขยับตัวหนี แต่ไอ้ผีบ้านี่ก็เหมือนจะกำลังหอมแก้มผมซ้ำอีกดูสินั่น
" ไม่ตื่นจับปล้ำนะเอ้า " ผมคิ้วกระตุกเล็กน้อย นี่คบกันมาขนาดนี้มึงเพิ่งคิดจะปล้ำกูเหรอ ถุ้ยย
ผมยังคงนอนหลับตานิ่ง ไอ้ธีร์คงเพิ่งกลับมาจากเรียนและกวนผมนั่นแหละ จะมีใครนอกจากมัน
" จัดการเลย " ผมขมวดคิ้วอีกครั้ง เดี๋ยวนะ มึงเป็นหวัดลงคอเหรอเสียงแปลกๆ ผมที่เพิ่งคิดขึ้นได้ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ และภาพตรงหน้าก็ทำเอาผมต้องสะดุ้งโหยงเลยทีเดียว โอ้ยยย เกือบไปแล้วไหมกู
" ฮ่าๆ ฟาอ่อยแบบนี้ไม่ดีเลยนะ " ผมหน้ามุ่ยมองไอ้แฝดนรกที่เข้ามาได้ยังไงก็รู้กำลังยืนอยู่ข้างเตียงผม แม่งเอ้ย อารมณ์เสียโว้ย
" อ่อยบ้าบออะไร " ผมพูดและทำเป็นไม่สนใจพวกมัน
" กางเกงขาสั้นกับเสื้อนักศึกษาหลวมๆ มันเซ็กซี่นะรู้เปล่า " ไอ้จูหรือไอ้จุ่นพูดก็ไม่รู้แต่อยากเตะยอดหน้ามันนัก
" แล้วเมื่อกี้ใครหอมแก้มกู ห๊า " ผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ก็ลุกพรวดขึ้นมา หนอยย ไม่ใช่ผัวอย่ามาจับนะโว้ย
" นิดเดียวเอง " ผมหน้ามุ่ยต่อไปพลางนอนต่อ
" ไม่ค่อยได้คุยกันเลย เจอทีไรฟาก็อยู่แต่กับไอ้หน้าหล่อนั่น ตกลงมันยังไงกันแน่ ยังกับเป็นแฟนกันแน่ะ " ไอ้จุ่นพูดพลางทำหน้ามุ่ยแบบคนอิจฉา
" เอาเป็นว่าสนิทกันแค่นั้นแหละ " ผมพูดพลางกอดหมอนข้างสบายใจ
" ไปกินข้าวกันไหม นี่ก็เย็นแล้ว " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกหิวแฮะ แต่ไปไม่ได้หรอก ไอ้ธีร์ได้แดกหัวเอาแน่ๆ
" ไม่หิวอ่ะ ไปกินกันก่อนเลย " ผมพูดและยังคงนอนต่อไป
" ใช่สิ พอกลับมาดีกับไอ้ธีร์ก็ลืมเพื่อนไปเลย "
" ไม่ใช่ แค่ไม่หิวจริงจริ๊ง " ผมพูดและหันไปมองเพื่อน
" ไปเหอะ อยากกินกับฟา รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเดี๋ยวช่วย " ไม่พูดเปล่า ไอ้แฝดนรกทั้งสองพุ่งเข้ามาจับยึดตัวผมเอาไว้และพยายามถอดกางเกงกับเสื้อผ้าผมออก โอ้ยย สามัคคีกันจริงๆ
" อย่า กูใส่กางเกงก็ไปได้แล้ว! " ผมพูดและถีบไอ้ตัวที่กำลังจะถอดบ็อกเซอร์ผมออก มึงถอดได้นี่บันเทิงกันเลยนะ
ผมว่าไอ้สองตัวนี้มันแค่จะแกล้งผมเท่านั้น ผมดิ้นไปมาพยายามถีบไอ้ตัวที่ล็อคขาผมและพยายามจะถอดกางเกงผมต่อ และอีกตัวก็กำลังกอดล็อคผมจากด้านหลังและรีบแกะกระดุมเสื้อ
' แอ๊ดดด... '
ผมที่กำลังสู้รบกับไอ้เวรสองตัวนี่ก็หันควับไปที่ผู้มาเยือนคนใหม่ทันที ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิด
อย่าให้เป็นอย่างที่คิ๊ดดด อ้ากกก