KING ที่ 42 แฟนหนุ่มผู้แสนอดทน วันนี้หลังจากที่ผมเรียนเสร็จในตอนเย็น ผมก็มานั่งถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีกอยู่ที่สตูดิโอถ่ายโฆษณา ผมงอนไอ้ธีร์เอามากๆ ที่มันบอกว่าจะรีบกลับและมาที่นี่กับผม แต่พอถึงเวลาก็ยังไม่เห็นหัว ผมก็เลยไม่รอมันและให้พี่เรียวมารับแทน แต่จริงๆ ผมนั้นก็พอรู้ ว่ามันคงยุ่งอยู่กับที่คณะนั่นแหละ ช่างหัวมันก่อนละกัน
" ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย " ผมที่นั่งหน้ามุ่ยก็ถูกพี่เรียวดุเอาซะแล้ว แต่ไม่สนหรอก ชิ
" ทำหน้าแบบไหนก็น่ารักครับ " ผมสะอึกทันทีและเหลือบมองไอ้พ่อพระเอกโฆษณาที่ต้องเล่นคู่กับผม น้ำเน่าชิบ ทำตาหวานตาเยิ้มใส่อยู่นั้น เดี๋ยวพ่อจกตาแตก
วันนี้ผมมาถ่ายทำโฆษณาน้ำดื่มยี่ห้อดัง แต่ผมละงงจริงๆ ว่าไอ้การถ่ายโฆษณาของกินทำไมจะต้องแต่งตัวจัดเต็มขนาดนี้ เพราะตอนนี้ผมนั้นใส่กระโปรงมินิสเกิร์ตเล็กจิ๋ว กับเสื้อรัดรูปที่สีเข้ากัน ถุงน่องยาว และรองเท้าบูท ปล่อยผมยาวสยาย บางทีถ้าไอ้ธีร์ไม่มาก็ดีเหมือนกันมั้ง เพราะมีหวังถ้ามันเห็นผมในสภาพนี้ ผมคงโดนเฉ่งยับอีกตามเคย
" น้องฟ้าเรียนปีอะไรแล้วคะ " ผมเอือมกับความพยายามของไอ้พระเอกโฆษณานี่จริงๆ มันชวนผมคุยมาชั่วโมงนึงแล้วนะ
" ปี 1 " ผมพูดและพยายามไม่มองหน้ามัน
" มีอะไรหรือเปล่าคะ พี่เห็นเรามองประตูอยู่นานแล้วนะ " มาคงมาคะอะไรฟะ อยากเลาะฟันมันออกมาจริงๆ
" เปล่าค่ะ " ผมพูดสั้นๆ และหันไปยิ้มเป็นมารยาท จริงๆ ผมก็หวังอยากให้ไอ้ธีร์มานะ คิดถึงมันจัง
" จบนี่ไปทานข้าวกันไหมคะ พี่เลี้ยงเอง " ผมเหลือบตามองพ่อบุญทุ่มที่กำลังใช้สายตาโลมเลียผม ไอ้แบบนี้น่ะที่น่าเบื่อสุดๆ พี่เรียวนะพี่เรียว ไม่มาช่วยกันมั่งเลย
" เอาล่ะพร้อมแล้วนะ เดี๋ยวเริ่มกันเลย " ผมมองทีมงานทุกคนที่เข้าประจำที่ของตัวเอง เอาล่ะ ได้เวลาสักที แค่แปบเดียวเท่านั้น สู้ว่ะฟา
ผมที่ให้กำลังใจตัวเองก็เริ่มทำสีหน้าให้มีความสุขที่สุด เพราะในโฆษณาแม่งต้องโครตดี๊ด๊าเลย เกลียดชะมัด
การถ่ายทำเริ่มขึ้นด้วยการที่ผมต้องทำเป็นยืนรอชายหนุ่มคนรัก การถ่ายทำนอกสถานที่นั้นถ่ายไปหมดแล้ว เหลือแค่อีกนิดที่ต้องมาถ่ายในสตูดิโอ แค่ครั้งนี้ก็น่าจะเสร็จสมบูรณ์
ผมเริ่มยิ้มและเล่นไปตามบทซึ่งไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่ยิ้มหวานจ๋อยควงคู่ไอ้พระเอกคิ้วดกนี่ และถือเครื่องดื่มยกดื่มให้ดูอร่อยสดชื่นนนที่สุด ตรงหน้าฉากดวงตะวันอันแสนโรแมนติก
แต่ผมที่ดื่มเครื่องดื่มนั้น น้ำก็แทบพุ่งพรวดออกจมูกทันทีที่เหลือบสายตาไปเห็นคนคนหนึ่งที่ยืนกอดอกมองอยู่ไกลๆ ด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ หึ่ยย มาได้สักทีนะ เดี๋ยวมึงจะโดนไม่ใช่น้อย
" โอเค เรียบร้อยครับ " ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เกือบไปแล้วกู
ผมรีบเด้งตัวออกมาจากหน้าฉาก หลบไอ้พระเอกที่ทำท่าเหมือนอยากจะดึงผมไว้ แต่จะช้าอยู่ใย ไอ้หล่อแฟนผมมันมาแล้ว และตอนนี้มันทำลังเขี้ยวงอกอยู่ หึหึ
" ไปไหนมา ทำไมไม่โทรบอกกู หืออ " ผมหน้าบูดแข่งกับมันเอาซิ๊ มึงช้าเองนะ ยังมาทำงอนอีก
" มีประชุมที่คณะเรื่องเข้าค่าย " ไอ้ธีร์พูดและจ้องมองผมด้วยคิ้วที่ขมวดเป็นปม
" เหรอ ค่ายอะไร ไปวันไหน... "
" ขอโทษนะครับ " ผมชะงักและหยุดพูดทันทีที่ได้ยินเสียงคนทักจากด้านหลัง และก็พบว่าไอ้พ่อพระเอกนั่นเดินตามผมมาและทำท่าอยากรู้อยากเห็นเต็มที่
" เอ่อ... "
" ผมเป็นแฟนฟ้าครับ " ผมที่กำลังจะอ้าปากก็โดนพูดแทรกไปเรียบร้อย แล้วมึงรู้ได้ไงว่าเขาจะถามอะไร มึงนี่มันจริงๆ เลย
" อ่อ เหมาะกันดีนะครับ ถ้างั้นก็ขอโทษที่รบกวนนะ " ผมมองผู้ชายตัวสูงที่อีกคนหนึ่งยิ้มอย่างสุภาพ และอีกคนทำหน้าเหมือนอยากจะกระโจนใส่หน้าอีกคน
" เลิกดีไหม ไอ้อะไรแบบนี้ ยิ่งเห็นชุดนี้ยิ่งปวดใจ " นั่นไง พอไอ้พ่อพระเอกนั่นเดินไปแล้ว ไอ้ธีร์มันก็เฉ่งผมทันทีิอย่างที่ตั้งใจ มันอดไม่ได้หรอก ผมอยู่กับมันมานานผมรู้ดี
" เห็นสายตามันไหม จ้องเข้าไปถึงหลืบไหนแล้ว " ผมมองมันที่ยังคงบ่นไม่หยุดและมองตามหลังพ่อพระเอกนั่นไป แต่ก็นะ ผมชอบที่มันเป็นคนแบบนี้ ผมรู้สึกดีที่มันหวงผมเหมือนจงอางหวงไข่ หึหึ
" ไปกันเหอะ กูหิวข้าว " ผมพูดและดึงแขนมันให้เดินตามมา อ่อ ผมเกือบลืมไป ผมวิ่งไปหาพี่เรียวและบอกว่าผมไปแล้วนะ และเดินออกมา
ผมขึ้นรถไปกับไอ้ธีร์และนั่งอย่างอารมณ์ดีมองคนที่ยังคงหน้ามุ่ยอยู่ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนมันก็เหมือนเดิมจริงๆ
" ธีร์ " ผมมองมันและเรียกเบาๆ
" อะไร " มันตอบรับเสียงแข็งและเริ่มขับรถออกไป ถ้ามันอารมณ์ไม่ดีก็จะพูดแบบนี้แหละ
" ชุดนี้ไม่สวยเหรอ " ผมขยับนั่งตัวตรง และยิ้มรอมันชม
ไอ้ธีร์เหลือบมองผมทันทีที่ผมถาม และถ้าผมมองไม่ผิด มันมองขาผมและทำหน้ามุ่ยยิ่งขึ้นไปอีก
" ไม่ชอบ " มันพูดและขับรถต่อไป หนอยย ออกจะสวย กูไม่เชื่อว่ามึงไม่ชอบ
" ไม่ชอบจริงเหรอ " ผมพูดและยิ้มแบบรู้ทัน แต่มันก็ยังทำเป็นไม่สนใจ หึ
ผมค่อยๆ ก้มตัวถอดรองเท้าบูทออกจากเท้าของผม และถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง ผมรู้สึกว่ามันกำลังมองผมอยู่แน่นอน
และไม่หยุดแค่นั้น ผมค่อยๆ เลื่อนมือเข้าไปใต้กระโปรงตัวเองทันที ผมทำแบบนั้นและเหลือบมองไอ้คนที่ทำเป็นตายด้านหน้าตาย
และก็เป็นอย่างที่คาด ผมมองมันที่เหลือบมองผมอยู่ตลอดเวลา ฮ่าๆ มึงนี่มัน ถ้าสวยก็พูดตรงๆ สิวะ ใจไม่ดีละสิ
" ทำอะไร " มันถามพลางขมวดคิ้วสงสัย
" ยุ่งอะไรด้วยล่ะ " ผมพูดและยิ้มกวนมัน ซึ่งไอ้ธีร์ก็ถอนหายใจทันที
" ชอบจริงๆ นะไอ้ชุดแบบนี้ " มันบ่นอีกแล้ว แต่ก็นะ ผมชอบสิ ยิ่งเห็นสาวๆ ใส่แบบนี้ผมยิ่งชอบ หึหึ
" อะไร กูก็แค่อึดอัด อยากถอดออก " ผมพูดและยังคงยิ้มกวนแหย่มัน
" เดี๋ยวแวะหาที่เปลี่ยนให้ นั่งดีๆ "
" ถ้ามึงใจไม่ดีก็แค่มองไปข้างหน้า ไม่ต้องสนใจกูสิ " ผมยิ้มน้อยๆ และเริ่มปฏิบัติการถอดถุงน่องออกให้ดูวาบหวิวชวนสยิวที่สุด สนุกนักล่ะแบบนี้
ผมค่อยๆ เลื่อนมือเข้าไปใต้กระโปรงที่สั้นมากเหลือเกิน ยกขาขึ้นน้อยๆ และบรรจงรูดถอดถุงน่องสีเนื้อบางเบานั้นออกอย่างเบามือ ผมนั้นทำทุกอย่างช้าๆ และรับรู้ถึงสายตาคนข้างๆ ที่แอบมองอยู่ทุกการกระทำ
แต่ผมที่กำลังทำอย่างนั้น ก็ต้องหยุดทุกอย่างลงทันทีที่รู้สึกว่ารถเลี้ยวเข้าข้างทางและจอดลง
" ม.มึงจอดทำไม " ผมที่คิดจะแหย่มันเล่นเฉยๆ ก็รู้สึกว่าหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ เลยกู อ้าากกก
" ทำต่อไปสิ " มันพูดและนั่งจ้องผมเหมือนรอให้ผมทำทุกอย่างอีกครั้ง
" ก็แค่ถอดถุงน่องอ่ะ " ผมพูดอุบอิบและรู้สึกเขินจริงจังที่ถูกจ้องมอง ถ้ามึงจะจ้องกูขนาดนี้ไม่แดกกูเข้าไปเลยล่ะ
" มา เดี๋ยวถอดให้ " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ตาโตทันที
" เดี๋ยวๆ ไม่ต้อง กูทำเอง... " แต่ผมที่พูดแบบนั้นก็ไม่มีประโยชน์เลยสักนิด
ไอ้ธีร์จับข้อเท้าของผมให้วางเท้าลงที่หน้าขาของมัน และบรรจงถอดถุงน่องที่ยังคงถอดค้างไว้ให้ค่อยๆ เลื่อนลงมา
ผมวางขาไม่ถนัดนัก เพราะตรงกลางของรถนั้นมีเกียร์ขวางอยู่ มันทำให้ผมต้องงอขาขึ้น และทำให้กระโปรงที่สั้นมากร่นลงจนผมต้องใช้แขนบังจุดอันตรายเอาไว้
ผมหน้าแดงมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มองคนตรงหน้าลูบไล้อย่างแผ่วเบาไปตามเรียวขาของผม ความอบอุ่นและสัมผัสที่นุ่มนวล มันทำให้ผมรู้สึกปั่นป่วนอยู่ภายใน
คนตรงหน้าเลื่อนมือเบาๆ ไปตามเนื้อผ้าบางนั้นและค่อยๆ รูดดึงปลดมันออกจนสุดปลายเท้า
" โอเคหรือยัง " ผมรู้สึกขนลุกทันทีที่คนตรงหน้ากำลังสัมผัสผิวเนื้อของผมที่ปราศจากถุงน่องผืนบาง
" อ.อือ " ผมหลบสายตาเว้าวอนนั้นและจับมือซุกซนของคนที่ยังคงสัมผัสตัวผมอย่างลืมตัว
" แล้วตกลง ชอบไหม " ผมยิ้มและถามคนที่ยังคงจ้องมองผมอยู่
" ไม่ชอบ... " ผมหุบยิ้มทันที หนอยยมื๊งง
" ไม่ชอบให้ใครมอง อยากจะเก็บไว้มองคนเดียว " ไอ้บ้าา ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หันหน้าหนีทันที อ้ากกก เขินโว้ยย
" ไอ้ขี้งก " ผมพูดอุบอิบแบบเขินๆ และขยับกลับมานั่งปกติตามเดิม ผมดึงกระโปรงลงมาปิดขาไว้ให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะรู้สึกว่าไอ้คนปากดีมันยังมองอยู่ มึงก็ได้แค่มองแหละว้า ไอ้ไก่อ่อนเอ้ย หึ
ในรุ่งเช้าของวันถัดไป ผมลืมตาขึ้นช้าๆ หรี่ตามองไอ้หล่อแฟนผมที่มันมาเกาะข้างเตียงปลุกผม
เมื่อคืนหลังจากไปหาอะไรกินกัน ผมก็กลับไปที่คอนโดเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และกลับมานอนที่หอเพราะไอ้ธีร์มีเรียนเช้า
" อะไร กูเพิ่งนอนเอง " ผมพูดเบาๆ และพยายามจะนอนต่อ เมื่อคืนพอกลับมาก็นอนดึกมาก เพราะมัวแต่กลิ้งไปมาแอบมองมันอยู่บนเตียง
" ไปอาบน้ำ กินข้าวกัน " ผมยอมแพ้มันที่ยังคงตื้อ ผมค่อยๆ ลุกขึ้นขยี้ตาและดันหน้าที่ชื้นเหงื่อของมันออกไป อีแบบนี้มันไปวิ่งมาแน่ๆ พักนี้มันฟิตทุกวันเลยวุ๊ย
ผมเหลือบมองไปที่สองเตียงข้างประตู ที่ที่รูมเมทของผมนอนอยู่ เช้าขนาดนี้ยังไม่มีใครตื่นแน่นอน พวกมันนั้นไม่รู้หรอกว่าผมกับไอ้ธีร์เป็นแฟนกัน
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว พวกเราค่อยๆ เดินออกมาจากหอเพื่อมาหาของกินที่ศูนย์อาหารด้านหน้า วันนี้ผมดีหน่อยที่มีเรียนบ่าย แต่สำหรับไอ้ธีร์นั้นอย่าหวังเลย มันมีเรียนทุกวัน และยาวนานมาก ผมนึกถึงตอนที่มันพูดสมัยก่อน มันกังวลกับการเรียนหมอ เพราะแบบนี้นี่แหละ
" กูอยากย้ายออกจากหอ " ผมพูดขึ้นขณะที่พวกเรานั่งลงที่โต๊ะในศูนย์อาหาร ผมอยากกลับไปอยู่คอนโด หรือที่ไหนก็ได้ที่ส่วนตัวกว่านี้
" เพิ่งเริ่มเทอมเอง นาถกับจีจี้คงยังไม่โอเคหรอก " ผมหน้ามุ่ย แต่ก็นะ ถ้าออกปุบปับเพื่อนก็คงเดือดร้อน
" ไม่ใช่ไม่อยากออกไปอยู่ด้วยกันนะ เข้าใจใช่ไหม " ผมมองมันที่ทำสีหน้าคิดมาก ไอ้บ้า กูไม่ได้หมายถึงแบบนั้นซะหน่อย
" ก็แค่ มันทำงานลำบาก " ผมพูดและยิ้มกวนมัน
" อ๋อ แค่นั้นเหรอ " นั่นไง อย่ามาทำเป็นงอนนะ กูสิต้องงอน
" จะอยู่ด้วยกันส่วนตัวทำไม ทั้งๆ ที่ก็ทำเหมือนตอนอยู่กับคนอื่น " ผมพูดเหน็บมันเล่น ไม่รู้แม่งจะเก็บพรหมจรรย์ไว้บูชายันเตี่ยมึงหรือไง เชอะ
" ถ้างั้นไหนพูดสิ ว่าอยากให้ทำอะไร " ผมทำเป็นไม่สนใจคำถามมัน จะให้กูพูดสิ่งที่อยู่ในใจตอนนี้เหรอ บอกเลยว่าม๊ายย
ผมไล่ไอ้ธีร์ให้เดินไปซื้อข้าวมาให้ผม ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก แต่ก็พอมีนักศึกษาเริ่มออกมาหาข้าวกินกัน บรรยากาศที่นี่ก็ดีนะ ผมรู้สึกอิสระมาก ถ้าไม่ติดว่างานที่อาจารย์สั่งแม่งเริ่มทยอยมาไม่ขาดสาย
Trrr Trrr
แต่ผมที่นั่งอยู่นั้นก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนบนโต๊ะ และก็พบว่าไอ้ธีร์นั้นวางมือถือเอาไว้ ซึ่งตอนนี้มีสายเข้า
ผมเพ่งมองหน้าจอมือถือที่กำลังสั่น และมองเห็นตัวเลขอยู่บนหน้าจอของมัน เบอร์ใครกันนะ
ผมที่สงสัยนั้นก็เอื้อมมือออกไป แต่ก็ไม่ทันเจ้าของที่กลับมาและนั่งลงตรงหน้าผมพอดี
" โทษทีนะ เพื่อนโทรมา " ผมพยักหน้าและมองมันที่กดรับโทรศัพท์
" ฮัลโหล "
" ฮัลโหลธีร์ วันนี้อาจารย์ไม่เข้านะ แต่สั่งงานในกลุ่มเอาไว้ เราไปทำที่ห้องสมุดกันไหม "
ถึงผมจะได้ยินไม่ชัดมาก แต่ผมก็รู้ว่าเป็นเสียงผู้หญิง คงจะเป็นเพื่อนในคณะ แต่ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเอาซะเลย
ผมมองไอ้ธีร์ที่นั่งคุยด้วยสีหน้านิ่งๆ และบอกปฏิเสธไปอย่างสุภาพ และกดวางสาย
" เพื่อนที่คณะเหรอ " ผมถามมันและจ้องตามันนิ่งๆ
" ใช่ โทรมาบอกว่าวันนี้อาจารย์ไม่มา " ไอ้ธีร์พูดและกินข้าวที่ซื้อมาแบบปกติ
" เดี๋ยวนี้ให้เบอร์มือถือคนอื่นได้แล้วเหรอ เมื่อก่อนมึงหวงจะเป็นจะตาย " ผมพูดด้วยเสียงเรียบๆ พยายามซ่อนความหงุดหงิดไว้
" งานส่วนมากมันเป็นกลุ่ม ก็เลยต้องให้ไว้เผื่อติดต่อ "
" เหรอ งานกลุ่มหรืองานคู่ " ไอ้ธีร์วางช้อนลงและจ้องมองผมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
" หึงจนควันออกหูหมดแล้ว " ผมยังคงหน้ามุ่ย และหลบมือมันที่ยื่นมาหาผม เออสิ กูไม่ชอบ
" ขอโทษนะ โกรธจริงๆ เหรอ " ไอ้ธีร์เริ่มยิ้มไม่ออกและดูไม่สบายใจ
" เปล่า กินข้าวเถอะ " ผมรู้ว่ามันงี่เง่า ถ้ามันจะคบกิ๊กมันคงไม่มานั่งรับโทรศัพท์ให้ผมเห็นหรอก แต่ผมรู้ดีว่าพวกผู้หญิงคิดยังไงกับมัน ไม่มีใครที่อยู่ใกล้มันแล้วจะไม่ชอบมันหรอก ผมมั่นใจ
" ตอนเย็นไปหานนเนมกันไหม ไปเที่ยวกัน " ไอ้ธีร์พยายามยิ้มให้ผม เหมือนกำลังทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น
" อือ " ผมมองมันที่จ้องมองผม จริงๆ ที่เราเป็นแบบนี้มันก็ดี แต่ผมก็รู้สึกว่าลึกๆ ในหัวใจนั้นมันกังวล ผมเหมือนยังไม่ได้เป็นเจ้าของมันจริงๆ พวกเรายังคงเป็นแค่แฟนกัน แค่แฟนเท่านั้น
หลังจากกินข้าวเสร็จ พวกเราเดินกลับมาถึงห้อง และพบว่าภายในห้องนั้นว่างเปล่าแล้ว สงสัยสองคนนั้นก็คงออกไปหาอะไรกินแล้วเหมือนกัน
แต่ผมที่ยืนมองไปรอบๆ ห้อง ก็รู้สึกว่าตัวของผมกำลังถูกกอดเอาไว้จากด้านหลัง แหม พอไม่มีคนอื่นก็เอาใหญ่เลยนะ
" อย่าเล่นน่า เพิ่งกินข้าวมา " ผมฟาดไอ้ห่านี่ที่อยู่ดีๆ ก็ดึงผมเข้าไปกอดจนตัวลอย
" ไม่โกรธแล้วใช่ไหม " ไอ้ธีร์พูดและยังคงกอดผม
" ไม่ได้โกรธ " ผมพูดและอยู่นิ่งๆ ให้มันกอด ผมรู้สึกดีขึ้นแล้ว ผมไม่ควรคิดอะไรมากไป เพราะอาจทำให้มันรู้สึกไม่ดีไปด้วย
" หืมม หายแล้วแน่นะ " ไอ้ธีร์พูดและดึงผมไปที่เตียง นั่งลงและดึงให้ผมนั่งลงบนตักมัน
" อย่าเซ้าซี้น่า เดี๋ยวมึงจะโดน " ผมพูดและชูกำปั้นขึ้นด้วยแววตาร้ายๆ
" ใจร้าย " เหอะ มึงนั่นแหละใจร้าย ชิ
ไอ้ธีร์พูดและซุกหน้าลงที่หลังคอผม ทำตัวงุ๊งงิ๊งน่าโมโห ไม่ต้องมาอ้อน อารมณ์ไม่ได้ดีเหมือนหน้าตา
" จูบไหม " ผมได้ยินมันพูดเบาๆ ที่ด้านหลัง
ผมไม่ตอบ มึงคิดว่าไอ้จูบแบบอนุบาลของมึงจะทำให้กูอารมณ์ดีขึ้นเหรอ ฮึ่มมม แต่ถึงจะคิดแบบนั้น ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบนะ มันก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยแหละวะ หึหึ
" 3 วิ " ผมเริ่มยิ้มและพูดเหมือนครั้งก่อน แต่จริงๆ ก็คงเป็นผมนี่ล่ะ ที่ไม่อยากให้มันเป็นแค่ 3 วิจริงๆ
ผมเงยหน้า หลับตาและตอบรับสัมผัสจากคนด้านหลังที่เชยคางผมขึ้นน้อยๆ ให้ริมฝีปากของเราแตะต้องกัน ความรู้สึกที่พวกเราได้สัมผัสกันนั้น มันยังคงตราตรึงและทำให้ผมใจเต้นอยู่ทุกเวลา
ความอบอุ่นที่แผ่ซ่าน สัมผัสที่นุ่มนิ่มแผ่วเบา และ...เดี๋ยวนะ
ผมลืมตาขึ้นทันทีที่รู้สึกถึงความเปียกชื้นบนริมฝีปาก คนด้านหลังกำลังงับริมฝีปากของผมเบาๆ และมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมเริ่มเกร็งตัวน้อยๆ แต่ก็ปล่อยให้คนด้านหลังแทรกลิ้นอุ่นเข้ามาและเริ่มควานสัมผัสความอ่อนนุ่มด้านในอย่างลืมตัว
ผมหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้ร่างกายและหัวใจตอบรับความอ่อนโยนที่แสนหวานนี้ พวกเราดึงดูดเข้าหากันด้วยความรัก ด้วยสัมผัสที่อ่อนละมุน แนบสนิท ราวกับไม่อยากพรากจากกัน
" ขอโทษ " ผมสะดุ้งน้อยๆ ทันทีที่ความรู้สึกเหล่านั้นหลุดลอยหายไป
ผมมองไอ้ธีร์ที่ทำหน้าเหมือนกำลังตกใจและลุกเดินหนีไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็วจนผมได้แต่ยืนงงอยู่ที่เดิม ผมที่สมองเพิ่งประมวนผลถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ก็เริ่มหน้าแดงมากขึ้นเรื่อยๆ พลางนั่งลงกับเตียงตามเดิมและ...
อ้ากกกกกก ผมทิ้งตัวลงนอนกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นรัวราวจะหลุดออกจากอก ผมกอดหมอนข้างและซุกหน้าลงที่หมอนนั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่มันจูบผมแบบลึกซึ้ง ผมไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไร แต่ผมรู้สึกดีมากกกก และก็เขินมากด้วยเช่นกัน
ทำไมกันนะ ปกติมันจะไม่ยอมทำอะไรเลยแท้ๆ ทำไมวันนี้มันถึงได้ โอ้ยยย ไม่กล้าสู้หน้าโว้ยยย
แต่ผมที่นอนกลิ้งไปมานั้นก็รู้สึกว่าไอ้ธีร์แม่งเข้าห้องน้ำนานเหลือเกิน หรืออาหารจะเป็นพิษ หรือเราจะปากเหม็น ผมคิดและหายใจทางปากแรงๆ ก็ไม่นี่หว่า หรือมันจะไปอ้วกจริงๆ อ้ากกกก
ผมวิ่งไปที่ประตูห้องน้ำ และทุบประตูรัวๆ อย่ามาทำโมเม้นกูพังนะมึง
" ทำอะไรอ่ะ " ผมเคาะประตูและแนบหูลงอย่างอยากรู้เต็มที่
" ไอ้ธีร์ " ผมเคาะอีกรัวๆ และตะกายประตูเสียงดัง
' แกร่ก '
ผมได้ยินเสียงกลอนประตูเปิดออก ผมบิดลูกบิดประตูและโผล่หน้าเข้าไป ไม่ใช่ตกส้วมตายไปแล้วนะ
แต่ทันทีที่ผมมองเห็นไอ้ธีร์นั้น ผมก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ มันเข้ามาทำอะไรกันแน่วะนั่น
" มึงทำอะไรน่ะ " ผมมองไอ้ธีร์ที่นั่งอยู่ที่ชักโครก เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า เปียกไปทั้งเสื้อผ้า เป็นลูกหมาตกน้ำเลยทีเดียว
" ก็อกมันรั่ว " ไอ้ธีร์พูดยิ้มๆ เสยผมยุ่งๆ ของมันและเดินผ่านผมออกไป
ผมหันกลับไปมองก็อกน้ำและฝักบัวในห้องน้ำ ทุกอย่างก็ปกติดีนี่หว่า อะไรของมันวะ
ผมเดินตามมันกลับเข้ามาในห้อง และมองมันที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า และนั่งเช็ดหัวอยู่บนเตียง
" มากูช่วย " ผมพูดและเดินเข้าไปช่วยเช็ดผมที่เปียกปอนของมัน
ผมมองไอ้ธีร์ที่เหมือนกำลังหลบตาผม และพอผมนึกขึ้นได้ก็ถึงเรื่องเมื่อกี้ก็ อ้ากกกก กูเขินอีกแล้ว แต่แบบว่า ขออีกรอบได้เปล่า ฮ่าๆ
" วันนี้มึงดีดเหรอ " ผมถามเบาๆ ด้วยใบหน้าสีชมพู
" เมื่อกี้...รู้สึกอะไหม " ไอ้ธีร์พูดและเงยหน้ามองผม
พอได้ยินคำถาม เลือดในร่างกายของผมมันก็เหมือนพุ่งปรี๊ดขึ้นมาจากทุกแห่ง จะให้พูดยังไงล่ะ เขินจนจะม้วนเป็นก้อนแล้วเนี่ย
" ก.ก็ดีมั้ง " ผมพูดอุบอิบ และมองมันที่กำลังส่งสายตาแปลกๆ มาให้
" ไม่กลัวใช่ไหม " ผมส่ายหน้าทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
" กลัวอะไร มึงไม่ใช่ผีซะหน่อย " ผมพูดอย่างมั่นใจ มึงนี่ชอบกังวลอะไรเรื่อยเปื่อยจริงๆ
ผมเช็ดผมให้มันและจ้องมองมัน ผมจะเป็นแบบนี้ไปอีกเมื่อไหร่กันนะ ทำไมเมื่อก่อนผมไม่เห็นจะรู้สึกแบบนี้เลย ผมอยากบอกมันว่าผมชอบมันมาก ผมอยากกอดมัน ผมอยากจูบมันอีก อ้ากกก ผมเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ไม่รู้ว่ามันจะคิดเหมือนกันไหม
" คือ... " ความรู้สึกของผมมันเอ่อล้น ผมอยากจะสัมผัสมันอีก และมันคงจะไม่ปฏิเสธแน่นอน
ไอ้ธีร์ขมวดคิ้วน้อยๆ จ้องมองผม เหมือนกำลังรอฟังว่าผมอยากจะพูดอะไร
" ขอ...อีกรอบ ได้ไหม " อ้ากกกก กูพูดอะไรออกป๊ายย
ไอ้ธีร์ที่ได้ยินแบบนั้น ก็เลื่อนมือขึ้นมาจับมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้ และจ้องมองผมด้วยแววตาแห่งความรัก
ผมทำเป็นเหนียมอายนิดๆ และจ้องมองมันกลับ ไอ้ธีร์จับมือผม และยังคงส่งสายตาหวานเยิ้มมาไม่ขาดสาย มึงก็ชอบกูมากใช่ไหม อยากจูบกูอีกใช่ไหมล่ะ
" เอาไว้...คราวหน้านะ " ผมที่กำลังยิ้มเขิน ก็หุบยิ้มทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
หนอยยมึงงงง อ้ากกก ผมถึงกับควันออกหู ขึ้นเลย กูขึ้นเลย ผมดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของมัน และเดินหนีกลับไปนั่งที่เตียงตัวเองตามเดิม ผมไม่เข้าใจ ผมก็แค่อยากเป็นเหมือนคู่รักคู่อื่นๆ ที่เขาแสดงความรักต่อกันโดยที่ไม่ต้องมาร้องขอกันแบบนี้
ผมไม่สนใจไอ้ธีร์ที่เดินมานั่งลงข้างๆ ผม และจับมือผมไว้ ผมพยายามยื้อมือออกแต่ก็ทำไม่ได้ ผมหันหน้าหนีมัน ผมไม่อยากพูดอะไรอีก ทำไมถึงมีแค่ผมที่อยากสัมผัสมัน พอคิดแบบนั้น ผมก็เริ่มอยากจะร้องไห้จริงๆ
" ฟา " ผมไม่หันไปมองตามที่มันเรียก กูโกรธมากเดือดสุดๆ มึงบังอาจปฏิเสธกู๊ หึ่ยย อารมณ์เสียโว้ยย
แต่ผมที่หันหน้าหนีมันนั้นก็เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ไอ้ธีร์นั้นจับมือของผมไว้ และดึงมือผมให้แตะลงที่ผ้า ความรู้สึกของผมมันรู้ว่าเป็นผ้าอะไรสักอย่าง คงเป็นตัวมัน แต่ทำไมมันถึง เอ่อ...
" มันเป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว ถ้าไปกระตุ้นมันอีก คงทนไม่ไหวแล้ว " ผมในตอนนี้ตัวแข็งทื่ิอไปเรียบร้อย น่าจะแข็งกว่าสิ่งที่ผมสัมผัสอยู่ อ้ากกกกก เลือดทุกส่วนในตัวของผมมันสูบฉีดขึ้นมาจนแทบจะทะลุออกทั้ง 7 ทวาร
โอ้ยยย โอเคกูเข้าใจแล้ว กูขอโต๊ดดด