KING ที่ 53 เด็กหนุ่มที่แสนดื้อดึง
ในความเงียบสงัด พวกเราสองคนนั้นยังคงนอนกอดก่ายกันอยู่ในรถด้วยเหงื่อชุ่มตัว ผมเงยหน้ามองไอ้แฟนตัวดีของผมที่กำลังนอนหลับตาอยู่ ความจริงผมควรจะโกรธมันนะ แต่ส่วนหนึ่งมันก็เป็นเพราะตัวผมเองนั่นแหละ ไอ้ธีร์นั้นเป็นยังไงผมรู้ดีแก่ใจ ผมไม่สามารถทำทุกสิ่งตามที่มันคาดหวังได้ ผมหวังว่ามันจะเข้าใจผมบ้าง แค่สักนิดก็พอ
" แล้วตกลงมึงจะบอกกูไหม ว่ามึง...รู้ได้ไงว่ากูมางานนีี่ รู้ได้ไงว่ากูอยู่ไหน " ผมพูดขึ้นเบาๆ ในความมืด เหลียวมองดูมันที่ยังคงนอนนิ่ง แต่ก็ลืมตาขึ้นมองผมช้าๆ
" ว่าไง บอกกูมาเลยนะ " ผมคาดคั้นมันอีก คอยดูนะ คนทรยศต้องตาย หึ่ย
" จะถามทำไม " ไอ้ธีร์เริ่มมองผมแบบดุๆ พลางขยับตัวขึ้นจากตัวของผมช้าๆ
" เหอะ " ผมเริ่มหน้างอ และมองมันที่ลุกออกจากตัวผม ไม่ยอมตอบคำถามของผม หนอย
" ไอ้นนใช่ไหมล่ะ มันหายไปรับมึงมา ทำไมกูจะไม่รู้ " ผมค่อยๆ ลุกขึ้นตามและพยายามดึงกระโปรงขาดๆ ให้ปิดก้นน้อยๆ ของผม อูยย แหกไปละมั้ง
" เรื่องอื่นไม่ต้องสน สนแต่เรื่องที่รับปากซะ ไม่ใส่คือไม่ใส่ ไม่มีข้อแม้ และจบเรื่องนี้ได้แล้ว " ไอ้ธีร์เริ่มทำสีหน้าจริงจังและบ่นเป็นชุดอีกตามเคย น่าเบื่อโว้ย
" ไอ้นน ไอ้เพื่อนเลว " ผมยังคงบ่นกระปอดกระแปดพลางเหลือบมองไอ้ธีร์ที่ไม่ทำอะไรนอกจากนั่งนิ่งๆ จ้องมองผม แล้วมึงไม่คิดจะใส่กระดุมกางเกงกับใส่เสื้อมึงดีๆ ก่อนเหรอ นั่งข่มขวัญอยู่ได้ กูเริ่มกลัวมึงจะเล่นกูอีกรอบละเนี่ย
" พวกมึงมันงี่เง่า กูก็แค่ทำงาน "
" มันมีหลายชุดฟา อย่าให้พูด " เออพูดไปก็เท่านั้น เอออ กูผิด เอ้อออ กูผิด โอเค๊ ผมหน้างอและหันมองไปนอกหน้าต่างแทน เถียงกับมันไปผมก็ไม่ชนะหรอก
" เปลี่ยนนี่ อากาศเริ่มเย็นมากแล้ว " ไอ้ธีร์เอื้อมมือไปหยิบถุงกระดาษที่วางไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ผมไม่ได้สังเกต มันเอามาให้ผมเพื่อเปลี่ยนโดยเฉพาะ ทำตัวเป็นพ่อกูไปได้
" ไม่เปลี่ยน " ด้วยความงอนไร้สาระ ผมปฏิเสธเสื้อผ้าชุดใหม่และสะบัดบ็อบแรงๆ ทำเป็นไม่สนใจมัน ให้มันยิ่งหงุดหงิดไปใหญ่
" พูดเองนะ " อ..อะอ่าว แต่สิ่งที่ได้ยินนั้นกลับผิดคาด ผมมองมันที่ไม่ง้อผม หยิบถุงเสื้อผ้าและลงไปจากรถด้วยร่างกายเปลือยครึ่งท่อนของมัน จริงๆ ไม่น่าเลยกู อยากเปลี่ยนชุดโว้ย
ผมมองไอ้ธีร์ที่เดินไปที่หน้ารถและเปิดประตูฝั่งคนขับ ไอ้ธีร์เริ่มขับรถออกไปในเวลาไม่นาน และผมเพิ่งนึกเสียใจจริงๆ จังๆ ที่ไม่ยอมเปลี่ยนชุด อ้ากกก ห่าเอ้ย แม่งมันขับไปที่ร้านพี่เรียวแน่ๆ กูยอมแก้ผ้าดีกว่าลงไปเจอพี่เรียวสภาพนี้
" ไอ้ธีร์ กูเปลี่ยนก็ได้ " ผมที่ไม่อยากให้พี่เรียวเจอผมในสภาพนี้ก็เกาะเบาะพูดขอมันเบาๆ และก็แน่นอน ไม่ได้ผลสิ เมื่อกี้ทำเก่งไปแล้ว ไอ้ธีร์ยังคงขับรถนิ่งๆ และมันขับไวมาก อีกไม่นานแม่งถึงแน่ๆ
" ไอ้ธีร์ " ผมเกาะเบาะและเกาเบาๆ อย่างไร้หนทาง
" กูหนาว ไอ้ธีร์ " ลูกไม้ทำให้สงสารดูไม่น่าเป็นผล ไอ้ธีร์เหลือบมองผมในกระจกส่องหลังและขับรถต่ออย่างไม่ใยดี ดู๊มัน
" ถ้ามึงให้กูเปลี่ยน กูจะให้มึงทำอีกรอบก็ได้นะคืนนี้ "
เอี๊ยดดดดดดด!
เสียงเบรกที่เหยียบมิดจนล้อฟรีทำให้ลิปสติกสีแดงบนริมฝีปากผมประทับ ไม่สิกระแทกเข้ากับเบาะทิ้งรอยไว้ชัดเจน โอ้ย ไอ้ชิบหาย มึงนี่ไม่ค่อยเลยนะ
" หนาวก็เอาไปเปลี่ยนเดี๋ยวเป็นหวัด " เหรอ อ๋อ เหรออออ ผมมองมือมันที่ยื่นถุงกระดาษมาให้ มันไม่ได้หันกลับมา แต่กูรู้มึงต้องยิ้มมุมปากแน่ๆ ไอ้แฟนเลว
ไม่นานหลังจากขับรถมาอีกสักพัก พวกเราก็มาถึงร้านของพี่เรียว ผมในตอนนี้เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อผ้าของผมธรรมดาๆ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ตอนแรกนึกว่าจะเป็นเดรสสีขาวของโปรดคุณท่านเขาซะอีก ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ บอกเลยผมไม่ใส่แน่ๆ ต้องดัดนิสัยเอาแต่ใจของมันซะให้เข็ด
" อ้าว มากันแล้ว " พี่เรียวที่เห็นรถแล่นข้าวมาจอดที่หน้าร้านก็เดินดุ่ยๆ เข้ามาทันที ผมลงจากรถและมองพี่เรียวแบบงอนๆ นี่ก็อีกคน พวกสมรู้ร่วมคิด
" ขอโทษนะครับ ที่เอารถมาคืนช้า " ผมมองไอ้แฟนตัวดีของผมที่พูดบอกพี่เรียวด้วยหน้าเศร้าหลอกๆ ของมัน แล้วรถนี่มันยืมกันง่ายจังเนอะ ส่งเสริมกันดีจริงๆ
" ไม่เป็นไร พาฟาไปกินข้าวแทนพี่แล้วใช่ไหม พอดีพี่ติดธุระ เห็นธีร์มาพอดีก็เลยฝากธีร์พาไปแทนซะเลย " ผมมองพี่เรียวที่พูดแก้ตัวด้วยท่าทีสบายๆ เหรอออ อ่อเหรอออ แล้วทำไมเพ่ไม่บอกกันก่อนเล่า อย่ามาแถหน่อยเลย ก็รู้ว่ากำลังแอบไอ้ธีร์อยู่ ฮึ่มม
" ครับ กิน...อิ่มเลยครับ " ไอ้ธีร์พูดตอบพลางยกยิ้มมุมปากน้อยๆ และพี่เรียวก็ดูสีหน้าอิ่มเอมเหลือเกิน
" โอเค ดีแล้ว งั้นคืนนี้เอาไงฟา นอนกับพี่ใช่ไหม " พี่เรียวพูดถามผม เพราะพรุ่งนี้ผมก็มีงานอีกระลอก
" ผมขอนอนที่นี่ด้วยได้ไหมครับ " ไอ้ธีร์รีบพูดขึ้นทันทีที่พี่เรียวเอ่ยปากถามผม หึหึ แต่มึงพลาดแล้วไอ้ธีร์ กูอยู่กับพี่เรียวที่นี่ กูปลอดภัย ไอ้ที่บอกจะให้มึงเล่นจ้ำจี้อีกน่ะ กูหลอกว่ะ ฮ่าๆๆ
" ก็ได้นะ ห้องรับรองมีอยู่... "
" งั้นผมจะนอนห้องพี่เรียว ให้ไอ้ธีร์นอนห้องรับรองอ่ะดีแล้ว โอเคนะ ไปอาบน้ำดีกว่า " ผมรีบพูดแทรกพี่เรียวและเดินหนีทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะเหลียวหลังไปยิ้มกวนใส่ไอ้แฟนตัวดีที่เริ่มทำหน้ามุ่ย กูรอดโว้ยคืนนี้ หึ
ผมสาวเท้าเดินต่อไปด้วยรอยยิ้ม มุ่งหน้าไปยังห้องน้ำที่อยู่ในห้องถัดไป ผมต้องรีบเอาชุดขาดๆ ที่เปื้อนน้ำอะไรต่อมิอะไรนี่ไปทำลายทิ้งซะ ขืนให้พี่เรียวเห็นละก็ อายจนเอาหน้ามุดคอห่านได้แน่ๆ
ผมเดินเข้ามาในโถงเล็กๆ หน้าห้องน้ำ เพื่อเตรียมผ้าขนหนูสำหรับอาบน้ำ มือของผมเปิดกระเป๋าเป้ที่ถือมา ล้วงมือเข้าไปเพื่อหาสิ่งที่ผมเตรียม...
จ๊ากกกกกก! ในหัวของผมกรีดร้องทันทีกับสัมผัสที่ว่างเปล่า มันหายยยยย! หายไปแล้ว หายไปไหนฟะ!
" ฟา " เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ด้านหลัง ขณะที่ผมกำลังทึ้งหัวไปมา โอ้ยยยย จังหวะแม่งได้ อย่าบอกนะว่า...
ผมกลืนน้ำลายลงคอ พลางค่อยๆ หันไปหาพี่เรียวช้าๆ เอาสบู่มาให้น้องใช่ไหม คงมาแค่เรื่องนั้นใช่ม๊ายย
" นี่อะไรอ่ะฟา " อ้ากกกก ผมได้แต่กรีดร้องอยู่ในใจขณะที่มองชุดคอสเพลย์ที่ขาดหลุดลุ่ยในมือพี่เรียว มันไม่ใช่ขาดธรรมดา แต่ขาดอย่างมีศิลปะ ขาดตรงที่มันชวนให้คิดว่า มันขาดเพื่อทำภารกิจแบบนั้นแน่ๆ แถมไอ้คราบขาวๆ เลื่อมๆ นั่น แถมกลิ่นแม่งชัดเจนสุดๆ ไอ้ธี๊ร์ ไอ้หอกหัก มึงนะมึง ขโมยไปตอนไหนของมึ๊ง
ผมที่คงทำอะไรไม่ได้แล้วก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย วันนี้มันวันซวยจริงโว้ยยยย
หลังจากอาบน้ำด้วยความแค้น ผมหน้าบูดและไม่ยอมสบตาไอ้ธีร์ที่นั่งคุยกับพี่เรียวอยู่ที่มุมสวนเล็กๆ ของร้าน ผมงอนและเคืองมาก มึงอย่าหวังจะนอนกับกูคืนนี้ ขาอ่อนกูมึงก็จะไม่ได้เห็นอีกแน่นอน
" งั้นเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ ฟาก็ไปนอนได้แล้ว " พี่เรียวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีที่ผมเดินออกมา และเดินกลับเข้าไปข้างในแทนที่ผม
" ฟา " ผมยืนกอดอก หันหน้าหนีไอ้คนที่กำลังเดินมาหาช้าๆ และยืนอยู่ตรงหน้า มึงพอใจแล้วใช่ไหม ได้แกล้งกูให้อับอายเนี่ย
" เดี๋ยวต้องกลับแล้วนะ " แต่คำพูดของมันที่พูดบอกผมนั้น ก็ทำให้ผมต้องหันกลับไปมองมันโดยอัตโนมัติ
" ไหนบอกมึงจะนอนนี่ " ผมพูดและย่นคิ้วหลายตลบ แต่เดี๋ยวนะ กูงอนมันอยู่นิ แล้วจะทำเหมือนรั้งมันเพื่อ
" จริงๆ ก็อยากจะนอน แต่ว่า...กลับไปค่าย น่าจะดีกว่า " ผมเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ นี่แปลว่ามึงหนีมาจริงๆ เหรอ แล้วเดี๋ยวนะ ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ นะนั่น มึงเล่นอะไรของมึงเนี่ย
" อ.เออ กลับไปเลย จริงๆ มึงจะกลับมาทำไม มึงประสาทหรือไง " ผมพูดด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งหงอยเหงา ทั้งเป็นห่วง ทั้งโกรธ ทั้งงอน โอ้ยยย อะไรนักหนาวะ
" พอเห็นฟาวันนี้ ก็ปล่อยไปไม่ได้หรอก " ผมมองมันที่ทำสีหน้าหม่นๆ ที่พูดนั่นหมายถึงเมื่อกลางวันน่ะเหรอ ก็แค่ชุดคอสเพลย์เอง
" มึงมันบ้า " ผมพูดด้วยความไม่พอใจ เพราะมันบ้าจริงๆ
" ใช่ บ้ามาก " ผมเหลือบมองหน้าคนที่กำลังพูด และมองมือของมันที่กำลังเอื้อมมาแตะที่แก้มและใบหูของผมเบาๆ
" นี่มึงอย่าพูดประโยคเน่าๆ อย่าง บ้ารัก... "
" ใช่ บ้ารักฟา " ผมที่กำลังจะพูดเหน็บแหย่มันก็ชะงักทันที ผมมองมันที่ทำสีหน้าจริงจัง ไม่มีการเล่นสักนิดในแววตา และนั่น มันทำให้แก้มของผมค่อยๆ แดงขึ้นน้อยๆ
บ้า ไอ้บ้า มึงมันบ้า และเอาจริงๆ กูก็คง บ้า...รักมึงเหมือนกันนั่นแหละ เขินเลยแบบนี้ อ้ากกกก
ในวันอาทิตย์ที่มีงานนั้นมันแสนน่าเบื่อ ผมได้แต่ยิ้มจนเหงือกแห้งอยู่ที่หน้ากล้อง แสงไฟ ผู้คน บางทีผมนั้นก็เริ่มที่จะคิดว่า ผมควรหยุดดีไหม ยิ่งนานวัน ยิ่งถลำลึกลงไป หน้ากากนี้ทำให้หัวใจของผมหนักอึ้งมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ จุดจบของผม จะเป็นยังไงกันนะ ถ้าหากหน้ากากนี้ถูกกระชากออกไป ในสักวัน
" โอเค เยี่ยมมากครับ สวยมาก " เสียงปรบมือดังไปมารอบๆ ตัวของผม โฆษณาชิ้นใหญ่จากเครื่องสำอางแบรนด์ดัง มันถือเป็นความสำเร็จที่ผมภาคภูมิใจ แต่รอยยิ้มนี้ จะอยู่ได้นานเท่าไหร่กันนะ กับคนที่หลอกลวงคนอื่นแบบผม
" คิดมากอะไรอยู่ " พี่เรียวนั้นเหมือนจะอ่านใจผมได้อยู่เสมอ ผมรีบสลัดทุกสิ่งที่ผมกังวลในหัวใจ และยิ้มให้พี่ชายของผม
" เปล่าพี่ แค่เหนื่อยนิดหน่อย " ผมพูดและเดินไปหยิบแก้วน้ำใบสวยขึ้นจิบ
" ไปกินข้าวไหนดี " พี่เรียวนั่งลงข้างๆ ผมและชวนผมคุย
" วันนี้ไม่ค่อยหิวเลยครับ "
" ไม่ได้นะ ช่วงนี้ฟาผอมลงรู้ไหม " พี่เรียวรีบพูดแบบเอ็ดๆ ทันที
" ก็ช่วงนี้มีแต่เรื่อง " ผมบ่นอุบอิบแต่ก็ยิ้มน้อยๆ
" มีเรื่องอะไรก็บอกพี่ได้นะ " พี่เรียวพูดและมองผมแบบเป็นห่วง ผมนั้นมีอะไรก็มักจะปรึกษาพี่เรียวเสมอ และตอนนี้ก็คิดว่าอยากจะปรึกษาอีกครั้ง
" พี่เรียว ยังจำได้ไหมครับ เรื่องที่ผมเคยปรึกษา... "
" เฮ้ พริตตี้สกายแอนด์เรียวนี่ซัง ทูไนท์มีปาร์ตี้นะ หยาลืมไปร่วมกับพวกราว " ผมรีบกระเด้งลุกขึ้นทันทีที่มิสเตอร์จอห์น เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางแบรนด์เนมหลายยี่ห้อเดินเข้ามาทักผม โฮลี่ชิทท ได้ยินอะไรแปลกๆ ไปหรือเปล่าวะนั้น ไอ้บักจอห์นนี่
" โอเค... "
" ถ้าเป็นที่ที่คุณเคยบอก ฟ้าน่าจะไปไม่ได้หรอกครับ ที่นั่นไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเท่าไหร่ " ผมย่นคิ้วฉงน มองพี่เรียวที่รีบปฏิเสธเส้นทางกินฟรี งานปาร์ตี้เชียวนะโธ่ แล้วที่นั่นมันที่ไหนกัน
" น่อน น่อน น่อน ม่ายด้าย นางแบบของไอต้องไปนะ " ผมมองบักจอห์นที่ส่ายนิ้วอ้วนๆ ไปมา ทำเอาหัวไส้กรอกเลยทีเดียว
" เอ่อ..งั้นก็ได้ครับ ถ้าไม่นานเท่าไหร่ " พี่เรียวพูดและเหลือบมองผมพลางลอบถอนหายใจ
" กู๊ดดด ซียูคืนนี้หนา " บักจอห์นพูดพลางจับมือผมไปจุ๊บหนึ่งทีเบาๆ อี๋ แหยงชะมัด แต่ต้องยิ้มปากจะฉีกถึงรูหู
ผมมองบักสีดาที่เดินตุ้ยนุ้ยไปแล้ว และมองพี่เรียวเป็นเชิงคำถาม ทำไมถึงไม่อยากไปกันล่ะ งานปาร์ตี้เชียวนะ!
" ไม่มีทางเลือก งั้นก็จัดเต็มเลยละกัน " พี่เรียวพูดพลางมองผมด้วยรอยยิ้ม ได้กินของฟรีละกู หึหึ
ในเย็นวันนั้น ผมจ้องมองโทรศัพท์ของผมและชั่งใจว่าจะโทรหาคนที่ผมกำลังคิดถึงดีไหม เย็นนี้มันน่าจะกลับมาแล้ว และผมอยากเจอมัน แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะเย็นนี้ผมต้องไปกินเลี้ยงกับบักจอห์น ซึ่งพี่เรียวบอกว่า จัดขึ้นในบาร์ชั้นบนสุดของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง และแน่นอนว่า เสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็มจริงๆ จัดเต็มเวอร์เลยล่ะ นี่ถ้าไอ้ธีร์มาเห็น มันคงได้...แยกเขี้ยวอีกแน่ๆ เดาได้แล้วใช่ไหมว่าชุดน่ะแนวไหน
" พี่เรียว " ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองดูใบหน้าของตัวเองที่แต่งแต้มอย่างสวยงาม ชุดกระโปรงสีเงินที่ดีไซส์ให้ดูทันสมัย ปาดโชว์ไหล่มนเล็กผิวผ่องใสเป็นประกาย ตัวกระโปรงนั้นยาวเหนือเข่ารับกับเรียวขาและแหวกสูงอย่างดูมีเสน่ห์และเซ็กซี่เย้ายวน
" ว่าไง " ผมเรียกพี่เรียวที่กำลังยุ่งกับการทำวอลุ่มบนวิกผมสีน้ำตาลยาวของผม
" อย่าบอกนะว่าเปลี่ยนใจใส่ชุดอื่น ไม่ทันแล้วนะฟา " พี่เรียวรีบพูดขึ้นทันทีและมองผมแบบอ่อนใจ
" เปล่าครับ แต่ผมแค่สงสัย " ผมพูดและหันไปมองพี่เรียว
" ที่พี่พูดว่าที่นี่ไม่เหมาะกับเด็ก เพราะอะไรเหรอครับ " ผมถามพี่เรียวที่ดูจะหลบสายตาผมเล็กๆ
" มันก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่พี่ไม่อยากให้เรามาในที่แบบนี้ แถมฟายังอายุน้อยอีก นี่เป็นกรณีพิเศษนะ เป็นบ้าอะไรของเขาถึงมาจัดที่นี่ แทนที่จะเป็นร้านอาหาร " ผมฟังพี่เรียวที่บ่นอุบอิบแต่มือก็ยังคงทำงานต่อไป
" แต่ว่าแบบนี้ก็ดีนะ " ผมพูดและยิ้มน้อยๆ
" ดีอะไรล่ะ อยากใจแตกหรือไงเรา " พี่เรียวทำเสียงดุ โถๆ พี่ครับ ผมนี่แตกไปหลาย เอ้ย ใจแตกไปนานละครับ
" ไม่ใช่ซะหน่อย ก็แค่แบบว่า ไอ้ธีร์คงไม่มาเห็นผมในที่แบบนี้แน่ๆ แล้วก็ พี่เรียววว ห้ามถ่ายรูปผมส่งให้มันนะ " ผมทำหน้าบึ้งและมองพี่เรียวแบบกดดัน
" เมื่อวานน่ะพี่ไม่ได้เป็นคนบอกธีร์นะ พี่พูดจริงๆ " ผมยังคงจ้องมองพี่เรียวแบบจับผิด หนอย เชื่อดีไหมนะ แล้วใครล่ะที่รายงานมัน
" แต่ฟานะฟา ก็รู้ว่าธีร์ไม่ชอบก็ยังจะใส่อะไรแบบนี้อีก " พี่เรียวพูดต่อพลางถอนหายใจยาว
" อะไรอ่ะพี่ ชุดนี้ผมว่าเรียบร้อยแล้วนะ แล้วที่ที่พี่พูดถึงก็น่าจะต้องใส่แนวนี้ไม่ใช่เหรอ " ผมพูดพลางมองกระโปรงที่แหวกสูงถึงโคนขา เอ่อ ก็เรียบร้อยกว่าชุดอื่นแล้วง่ะ
" เฮ้อ ยังไงก็เครียกันเอาเองนะ พี่ไม่เกี่ยว " พี่เรียวพูดพลางฉีดสเปร์ใส่ผมที่เป็นลอนสวย เป็นอันเสร็จสิ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็มายืนอยู่ ณ โรงแรมหรู พร้อมกับพี่เรียวที่ผมเดินเกี่ยวแขนมาด้วย ตอนนี้บอกเลยว่าโครตหิว งานเลี้ยงอะไรนั่นผมไม่ค่อยสนใจเลยสักนิด สนแต่ของกินที่ผมคิดว่าต้องมีเยอะแน่ๆ
พี่เรียวพาผมขึ้นมายังลิฟท์และกดไปที่ชั้นบนสุด งานเลี้ยงนี้เป็นงานเลี้ยงเล็กๆ ที่เหมือนกับงานสังสรรค์หลังเลิกงานมากกว่า พี่เรียวบอกว่าเลยไม่มีใครมาต้อนรับหรือทำอะไรที่มันวุ่นวายใหญ่โต ซึ่งผมคิดว่าดี แบบนี้แหละส่วนตัวดี
และทันทีที่ผมกับพี่เรียวก้าวเท้าออกจากลิฟท์ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่สุดหรูก็ปรากฎขึ้นในสายตา มีคนหลายคนกำลังเหมือนกับเล่นน้ำและจิบไวน์ข้างสระกันอยู่ ทุกคนใส่ชุดบิกินี่สุดวาบหวิวโชว์หุ่นอึ๋มกันอย่างไม่อายฟ้าดิน ผมเริ่มจะเข้าใจนิดๆ แล้วว่า ทำไมพี่เรียวถึงไม่อยากให้ผมมาในที่แบบนี้
แต่ผมที่คิดแบบนั้นก็แทบจะต้องเปลี่ยนความคิดทันที ผมชะงักเล็กน้อย ขณะที่เดินตามพี่เรียวเข้าไปยังหลังประตูบานใหญ่ด้านข้าง เสียงเพลง แสงไฟสลัว บรรยากาศภายในอบอวนไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นน้ำหอมที่ฟุ้งกระจายจากสาวสวยนักดื่มทั้งหลาย ผมเคยเห็นผับหรือบาร์แบบนี้มาก่อน แต่ที่นี่นั้นคนละระดับกัน แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าคนที่มาที่นี่ น่าจะมีตังค์กันทั้งนั้น และสิ่งที่ทำให้ผมใบหน้าร้อนผ่าวก็คือ สาวสวยกึ่งเปลือย ที่กำลังเต้นอย่างยั่วยวน มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามเรียวขาและก้นของเธอ และอีกข้างหนึ่งเกาะกุ่มแท่งเหล็กสีเงินเอาไว้ราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
" เฮ้ มาแล้ว พริตตี้สกายของราว " ผมยิ้มและยกมือขึ้นไหว้บักจอห์นที่ทำตาเป็นประกายจ้องมองผม และคนอื่นๆ อีกประมาณสิบคนที่นั่งอยู่บนโซฟาหรูสีแดง ซึ่งเกือบทั้งหมดนั้นเป็นคนต่างชาติ
" ขอโทษที่ให้รอนะครับ แล้วก็น้องฟ้ามีเรียนพรุ่งนีี้ ถ้าอยู่ได้ไม่นานต้องขออภัยด้วยนะครับ " พี่เรียวพูดอย่างสุภาพและทำหน้าที่ผู้จัดการของผมเป็นอย่างดี
" โอเคๆ ทำตัวตามซาบายได้เลยหนา โผมเลี้ยงเอง ทุกอย่างเลย " บักจอร์นพูดพลางยิ้มกว้าง และทำมือให้ผมกับพี่เรียวนั่งลง
" เอาน้ำอะไรไหม ที่นี่ไม่มีอาหารหนักๆ เท่าไหร่ แต่พี่จะสั่งอะไรรองท้องให้ " พี่เรียวนั่งลงข้างๆ ผมที่กำลังเริ่มหันไปจ้องมองสาวสวยกับเสาคู่ใจของเธอ
" ครับ " ผมตอบรับพี่เรียวเบาๆ และมองไปรอบๆ สถานที่แห่งนี้ เสียงเพลงที่ดังเป็นจังหวะชวนให้ร่างกายขยับตาม วิวก็อลังการสุดๆ ทำให้ผมอยากจะลุกเดินไปดูรอบๆ จริงๆ
" ผมขอตัวแปบได้ไหมพี่ อยากไปดูแถวๆ นั้นอ่ะ " ผมพูดกระซิบพี่เรียวที่กำลังง่วนอยู่กับการสั่งเครื่องดื่ม
" ไม่ได้ " ผมหน้างอทันทีที่ได้ยินแบบนั้น แค่นี้ทำไมต้องห้ามอ่ะ
" แปบเดียวเอง "
" ฟา ที่นี่ไม่ได้ " พี่เรียวน่ะไม่ค่อยดุผม แต่ถึงดุก็ไม่น่ากลัวหรอก แบร่ ผมหน้ามุ่ยพลางเชิดใส่พี่เรียว
สักพัก บริกรที่แต่งตัวด้วยสุดสูทสุดเนี๊ยบก็เดินมาที่โต๊ะและเสริฟเครื่องดื่มต่างๆ ที่พี่เรียวสั่ง พร้อมอาหารเล็กๆ น้อยๆ ที่จัดวางอย่างน่าทานพอดีคำ
Rrrr Rrrr
และก็เหมือนสวรรค์จะเข้าข้าง ผมมองมือถือของพี่เรียวที่กำลังดังขึ้น และรีบหันหนีทำเป็นไม่สนใจทันทีที่พี่เรียวเหลือบมองผม ชิ จะรู้ทันเกินไปแล้วนะไอ้พี่บ้า
" เดี๋ยวพี่มานะ " ผมทำเป็นนั่งฟังเพลงและพยักหน้าน้อยๆ ไม่ได้สบตาพี่เรียวที่กำลังมองเหมือนกำลังอ่านใจ
" อยู่ตรงนี้นะ "
" คร้าบผม ไม่ไปไหนหรอกน่า " ผมพูดเบาๆ และทำหน้าจริงจังผสมเบื่อหน่าย มองพี่เรียวที่รีบเดินออกไปรับโทรศัพท์ที่โถงด้านนอก
และทันทีที่พี่เรียวลับสายตาไปนั้น รอยยิ้มเล็กๆ ก็ปรากฎอยู่บนมุมปากของผม เสร็จล่ะ รีบไปรีบมาดีกว่า หึหึ
ผมค่อยๆ ลุกขึ้นจากโซฟาตัวนุ่มยิ้มให้บักจอห์นทำทีเหมือนจะไปเข้าห้องน้ำ และรีบโกยทันที คือที่ผมสนใจน่ะ แน่นอน สาวสวยกับเสาคู่ใจของเธอ
อู้หู แต่ละคน แต่ละมุม มีทั้งอาหมวยผมสั้น สาวยุโรปผมทอง สาวผมลอนผิวดำ แต่ละคนลูบไล้โลมเล้าเสาต้นงามราวกับคนรัก พอจังหวะเพลงเปลี่ยน พวกเธอก็จะเปลี่ยนลีลาตามไปด้วย ช่างสวยงามเพอร์เฟค บอกตรงๆ ไม่ได้มองนมเลยจริงจริ๊ง แทบจะทิ่มหน้า
" รู้ไหม ว่าคุณน่ะ สวยกว่าพวกที่คุณสนใจซะอีก " ประโยคปริศนาที่ดังขึ้นที่ด้านหลังทำให้ผมหุบยิ้มทันที และหันไปมองผู้ชายคนหนึ่งที่แต่งตัวอย่างกับเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ แถมมีบอดี้การ์ดเดินตามซะด้วย
" เอ่อ... " ผมถึงจะเงิบแดกไม่รู้จะตอบโต้อะไรยังไง แม่งมีปืนเปล่าวะ
" คุณผู้หญิงอยากดื่มอะไรสักแก้วไหมครับ ผมเลี้ยงเอง " ไอ้เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ที่ไว้เคราแพะนี่ดูมั่นใจในความรวยของตัวเองมาก และกำลังทำมือเหมือนให้ผมเดินนำไป
" ค.คือว่า... " ลิ้นถึงกับแข็งเฉียบพลัน ไอ้หอกนี่พอดูเหมือนผมจะปฏิเสธ ก็เดินเข้ามาโอบไหล่ทันทีอย่างถือวิสาสะ ผมโดนคนทั้งสามกึ่งดันกึ่งลากผมไปยังมุมมืดๆ ที่มีคนนั่งอยู่ไม่กี่คน ถ้าเป็นปกติ ผมคงจะด่ากราดแล้วเอาขวดเหล้าแถวนี้ฟาดหัวแม่งแน่ๆ แต่แบบว่า ไอ้นี่มันดูเอ่อ เหมือนมีปืนเลยจริงๆ ไอ้สองตัวที่เดินตามก็ตัวอย่างควาย ขืนไม่เล่นให้หมอบในทีเดียว ผมคงหมอบแทนแน่ๆ หรือจะขอความช่วยเหลือดี มีใครอยู่แถวนี้บ้างนะ....
ผมคิด และเริ่มส่ายสายตามองไปรอบๆ ทันที แต่ผมที่กำลังมองหาคนช่วยนั้น สายตาก็สะดุดเข้ากับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ผมหยุดชะงัก จ้องมองไปยังมุมที่ค่อนข้างมืดจนมองแทบไม่เห็นคนที่กำลังนั่งอยู่
แต่เชื่อเถอะ ผมจำมันได้ ไอ้หน้าแบบนี้ มันไม่มีทางเป็นคนอื่นได้ หนอยยยมึง กูจะเอาเลือดหัวมึงอ๊อกก
************************************************************************************
ต้องขออภัยทุกท่านที่รอบนี้ลงช้ามากๆนะคะ ปัญหาเรื่องสุขภาพและตอนนี้ไรท์ย้ายที่อยู่ใหม่จึงมีเรื่องยุ่งที่ต้องทำเพิ่มมากๆค่ะ แต่เมื่อเครียทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สัญญาว่าจะลงนิยายทุกเรื่องให้เร็วมากขึ้นค่ะ ส่วนนิยายเรื่อง King Of CrossDress นี้ตอนนี้ใกล้จบแล้วนะคะ ขอบคุณทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจติดตามอ่านมาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณจริงๆค่ะ