Chapter 24: พิเรนทร์
ผมตกใจค้าง ก่อนจะเรียกสติกลับมา เค้ายักคิ้วให้ ... คำพูดเมื่อเช้ากลับมาทันที
“...มาพนันกันดีกว่า ถ้าภายในวันนี้เราเจอกันโดยบังเอิญ...พี่ต้องไปกินข้าวและดูหนังกับผมเย็นนี้”
ซวย ซวย ซวย!
“อ่า...มาต่อกันดีกว่านะครับ ขอต้อนรับน้องๆกันอีกครั้ง พี่ชื่อพี่คิงนะครับ ชื่อเต็มๆว่า ศิลา ศิลาอาจน์ ตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด พี่จะเป็นคนรวบรวมและประเมินการฝึกงานของน้องๆทุกคน ไหนแนะนำตัวกันหน่อยครับ ใครเป็นใครบ้าง”
ผมเปิดโอกาสให้น้องๆแนะนำตัวทีละคน จนคนสุดท้าย
“สวัสดีครับพี่คิง” รอยยิ้มนั้น มันเยาะเย้ยชัดๆ “ผมชื่อไบรต์ นราธิป อภิมรนวกุล นักศึกษาชั้นปี 4 มหาวิทยาลัย...”
ไม่ต้องยักคิ้วให้ได้มั้ยโว้ยยยยยยยยยยย! “เรียนอยู่ภาควิชาการตลาด อายุ 22 ปี สูง 185 เซ็นต์ น้ำหนัก...”
อายุ 22!!!! นี่เราโดนเด็กบริโภคมาตลอดเวลาเลยเหรอเนี่ย...
T____T
เค้าพูดต่อ “สัดส่วน...”
“เห้ยๆๆๆ พอๆๆ” ผมปราม หน้าแดงก่ำ เพราะที่เค้าพูดมาเนี่ย ผมเคยเห็นมาหมดละ “ไม่ใช่หาคู่ ไม่ต้องบอกเยอะขนาดนี้”
น้องๆหัวเราะครืน ท่าทางเค้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“เดี๋ยวพี่จะชี้แจงว่าต้องทำอะไรยังไงนะครับ ใช้เวลาไม่นาน แล้วเดี๋ยวพี่จะพาไปหาคนในแต่ละหน่วยงาน...”
ผมเล่าคร่าวๆว่าน้องๆต้องทำยังไง หน่วยงานไหน การประเมินผลเป็นยังไง ใช้เวลาไม่นานก็จบ
“คราวนี้พี่จะพาทุกคนไปส่งที่หน่วยงานครับ เบญจน์, สิริเกียรติและอรวดี ตามพี่มาเลยครับ”
“อ้าว พี่แล้วผมล่ะ” ชายร่างใหญ่ประท้วง
“นายรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวมารับ” ผมบอกเค้าแล้วพาทั้ง 3 ไปหาผู้ดูแล...
ไม่นานผมก็กลับมา...เค้าทำหน้ามุ่ย
“นึกว่าพี่จะปล่อยเกาะผมซะแล้ว”
“นี่นายวางแผนไว้หมดแล้วใช่มั้ย?” ผมถาม
“แผนอะไร...” เค้าคิด “อ่อ...เรื่องพนันน่ะเหรอ” เค้ายิ้มยั่ว
“ใช่น่ะสิ นายรู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่าจะมาฝึกงานที่นี่” ผมเผลอตบโต๊ะปัง
“พี่ ผมไม่ใช่เทวดานะ จะได้รู้ล่วงหน้าว่าพี่ทำงานที่นี่” เค้าแย้ง “ผมรู้ว่าพี่ทำงานที่นี่ตอนพี่เดินเข้ามาให้ห้องนี่แหละ”
“แล้วทำไมยังกล้าพนัน” ... โอกาสไม่เจอมันมีเยอะกว่าอีกนะ เค้าทำหน้าแป้นแล้นแบบเด็กได้ของเล่นใหม่
“ทำไมจะไม่กล้าล่ะพี่ ... สุดท้ายแล้วถ้าผมไม่เจอพี่ ก็ไปดักรอหน้าบ้านก็ได้นี่นา แล้วบอก...บังเอิญจัง”
โหย ไอ้เจ้าเล่ห์...นี่แสดงว่าวางแผนไว้หมดแล้วสิ!!!
“ไอ้....” ผมอึกอัก เค้าลุกมา ดันประตูปิดสนิทและล็อคห้องไว้ “ทำอะไรน่ะ” ผมถาม
เค้ามองมาที่ผม สายตาหวานฉ่ำ “ก็ทำตามเสียงหัวใจน่ะสิ”
แล้วผมก็โดนเค้าดึงตัวไปจูบ...ริมฝีปากอุ่นๆแตะกันเบาๆ เขาขบริมฝีปากผมส่ายลิ้นไปมา จนผมเผลอเผยอปาก
แล้วเค้าก็ควานลึก รุกรานเข้ามาบดขยี้...ผมเคลิ้ม ส่วนท้ายใหญ่โตของเค้าตุงอัดแน่นเสียดสีกับเอวผม
สติยิ่งกระเจิดกระเจิง....เห้ย ที่นี่ทำงาน!!!
ผมผลักเค้าออกอย่างยากลำบาก “พอ...มันไม่เหมาะ นี่ที่ทำงาน อย่ามาทำพิเรนทร์แถวนี้”
เค้าถอนปากด้วยความเสียดาย ริมฝีปากมันแผล่บ... “จูบมัดจำนะครับ...เย็นนี้ไปกินข้าวและดูหนังกัน”
อ๊ากกกกกกกกกกกกก
...ดั่งนรกชัง หรือ สวรรค์แกล้ง แกล้งทรมาน ให้ฉันได้เจอ... เสียงเพลงนี้ลอยมาเข้าหู
เค้าโผมากอด ผมดิ้นไม่หลุด เมื่อกี้จูบ ตอนนี้กอด
“ไบรต์ พอเถอะ” ผมห้าม “มันไม่ดี”
“ผมคิดถึงพี่อะ...คิดถึงแทบบ้าเลย” เค้าสารภาพ... “พี่ไม่คิดถึงผมบ้างเลยเหรอ” น้ำเสียงเว้าวอน
โหย เมื่อคืนหลับเป็นตายไปเลย “ไม่อะ”
“ใจดำ...ไม่คิดถึงสามีคนนี้เลย”
ผลั่ก! ผมเสียหมัดอัปคัตปลายคาง...”อย่ามารุ่มร่ามแถวนี้นายพิเรนทร์ ใครสามีใคร พูดดีๆนะ”
“อูยยย...” เค้าลูบคาง “พี่ก็รู้อยู่เต็มอกนี่นา...ใครสามี ใครภรรยา...”
“ไอ้....” โอย จนปัญญาหาคำมาด่า เสียงเคาะประตูดัง ผมได้ทีเดินไปเปิด “คิง เที่ยงแล้ว ไปกินข้าวกัน” ไอ้นัทนั่นเอง
“อ่า เที่ยงละเหรอ ได้ๆ” ผมรับคำ
“ชวนน้องเค้าไปด้วยสิ ไปกินด้วยกันนะคะน้อง” เห้ย ไอ้นัท ไม่ปรึกษากูเล้ย!
“ยินดีครับผม” ไอ้นี่ มันคุ้นกับคนง่ายขนาดนี้เลยเรอะ!
ผมเดินตามไอ้นัท โดยมีเทวดาตัวใหญ่เดินตามต้อยๆ...
-----------------------------------------------------------------------------------------------
“ค่ะ คุณหมอ วันนี้ติดงานด่วนจริงๆ ขอเลื่อนนัดไปเป็นวันพรุ่งนี้นะคะ”
หญิงสาววางสาย วันนี้เธอมีนัดไปตรวจกับคุณหมอยิ่งยศโดยการแนะนำของหมอเบสต์
“ขอบคุณมากๆเลยค่ะ และต้องขอโทษจริงๆที่ไปตามนัดไม่ได้”
แต่โปรเจคที่กำลังทำอยู่เกิดปัญหา เธอจำเป็นต้องไปช่วยดูแล คิดว่าคงใช้เวลาทั้งวัน
หญิงสาวแต่งตัว แต่งหน้าซีดให้ดูสดใสเพื่อกลบเกลื่อนอาการ มีคนรู้ว่าเธอป่วยน้อยมาก...
...ขนาดอดีตคู่หมั้นยังไม่รู้เลย
เธอมองหน้าต่างบ้านติดกัน ...แบบนี้คงดีที่สุดสำหรับพวกเราแล้วล่ะคิง...
----------------------------------------------------------------------------------------------
ผมโดนก่อกวนตลอดทั้งบ่าย... เค้าเข้ามาถามโน่น ถามนี่ ใช้ทำอันนี้ก็ไม่เข้าใจ อันโน้นก็ไม่รู้เรื่อง
นี่มันแกล้งกันชัดๆ!!!
“นายพิเรนทร์” ผมเรียก “ตรงนี้มันไม่ใช่ที่ผมสอนไปนี่”
“พี่ ผมชื่อไบรท์ ไม่ใช่พิเรนทร์นะ” เค้ายิ้มกวน “อ๋อ...ผมคงลืมอะครับ”
ไอ้...ไอ้...มันหาเรื่องกันโจ่งแจ้งเลย
แล้วผมก็ผ่านพ้นวันอันแสนโหดร้ายไปได้...ห้าโมงครึ่ง เค้ายังรอผมอยู่...
“ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก” ผมถาม
“ก็รอใครบางคนแถวนี้แหละ”
“รอใคร เพื่อนๆที่มาฝึกงานเค้ากลับกันหมดแล้ว” ผมเฉไฉ
“โหย อย่าความจำสั้นกระทันหันแบบนี้สิครับพี่ ผมรู้นะว่าพี่จำได้” เค้าประท้วง “ไปกันเถอะ”
โชคยังดีที่วันนี้คนกลับบ้านกันตั้งแต่ห้าโมงเย็น เลยไม่มีใครเห็นการแสดงออกแบบเปิดเผยของเค้า
“ปล่อยมือก่อน” ผมบ่น “บอกแล้วว่าห้ามรุ่มร่ามนายพิเรนทร์”
“ถ้าพี่ไม่อยากให้ผมรุ่มร่าม ก็ต้องแทนตัวเองว่า พี่ ไม่ใช่ ผม กับผมก่อนสิ”
อ๊ะ ไอ้นี่ ได้คืบจะเอาศอก
“เพื่ออะไรวะ”
“ก็ถ้าพี่ไม่พูดกับผมดีๆ ผมก็จะกวนพี่ไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ” เค้าเลื่อนใบหน้ามาใกล้
ที่นั่งของผมเป็นคอกที่กั้นไว้เป็นสัดส่วน ด้านหลังสุด ถ้าไม่มีใครจงใจมองก็จะไม่รู้ว่าวันๆผมทำอะไรบ้าง
ทำเลตรงนี้จึงค่อนข้างลับตาคน เรานั่งกันอยู่ ระยะประชิดของเค้าทำให้ผมเลื่อนเก้าอี้ติดพาร์ติชั่น...
“จะทำอะไรน่ะ” ผมดันตัวเค้าไว้
“ก็จะโชว์ให้ดูไงครับ ว่าถ้าพี่ใจร้ายกับผม...ผมก็จะหอมแก้มพี่กลางที่ทำงานนี่แหละ”
แล้วเค้าก็หอมแก้มผมฟอดใหญ่.....แม่ง!! ขนาดผมเสยหมัดกลับแล้ว มันยังไม่รู้สึกอะไร
“ก็ได้ๆนายพิเรนทร์ อย่าทำแบบนี้นะ พี่ไม่ชอบ” เค้าหัวเราะได้ใจ ผมโมโหเดือดปุดๆ
“ไปกันเถอะพี่คิง...ผมเริ่มหิวแล้ว...เวลาแทนตัวเองว่าพี่ฟังดูดีกว่าตั้งเยอะ”
“ออกเวลานี้เนี่ยนะ รถติดตายชัก” ผมบ่น
“ไม่ต้องห่วง ไปรถผม รับรองเร็วกว่าแน่ๆ” เค้าปิดคอมผม ฉุดตัวผมออก
จะบังคับอะไรกันมากมายวะ
สุดท้ายผมก็ต้องมานั่งกินอาหารญี่ปุ่นอยู่กับเค้า ผมสั่งเซ็ตปลาหมึกย่างซี้อิ๊วของโปรด
เค้าสั่งชุดเบนโตะจานใหญ่พร้อมปลาดิบเมนูเคียงอีกนับไม่ถ้วน...กินหรือล้างผลาญกูวะเนี่ย
กินเสร็จ...เค้าแย่งจ่าย ผมควักตังค์ให้ก็ไม่เอา
“สามีต้องเลี้ยงภรรยาสิ” โอ๊ยยยยยยยยยยยย กรรม! มึงอายุน้อยกว่ากูอี๊ก!!! ..เหนื่อยใจ
แล้วเราก็ไปดูหนัง ที่นั่ง VIP เหมือนเดิม รอบสองทุ่ม...ก่อนเข้าโรงหนังผมก็โทรบอกที่บ้านว่าไม่ต้องรอ
หนังฉายแล้ว...เค้าดึงตัวผมไปกอด ผมดิ้นขลุกขลัก แต่ก็ไม่หลุด นี่แสดงว่าไม่จำเลยใช่มั้ยเนี่ยที่เคยด่าไป
เศร้าว่ะ
หนังตาผมตึงๆ คงเป็นเพราะร่างกายผมยังไม่พร้อมเต็ม 100 ผมเลยหลับไป...
จำได้รางๆว่าหน้าอกเค้าเต้นตึกตักๆ
-----------------------------------------------------------------------------------------------
“พี่คิง...ตื่นเถอะครับ หนังใกล้จบแล้ว” เค้าเขย่า ผมดูจอยักษ์ เออ...ถึงไหนแล้วเนี่ย...
“ฮ้าวววว” ผมอ้าปาก อุ่นดีจังอ้อมกอดมันเนี่ย... “ง่วงอะ”
เค้าแตะตามตัวผม “ไม่มีไข้นี่นา”
“อืม หายแล้ว แค่เพลียๆ”
“งั้น วันนี้ค้างที่คอนโดผมนะ ไม่ไกล” แน่ะ มีเสนอ แบบนี้ก็ต้อง...
“อย่าหวัง...จะกลับบ้าน”
“โหยยยย ไม่เอาอะ ผมไม่อยากนอนคนเดียว” อ้าว งอแงเป็นเด็กอีกละ
“ไม่อยากก็ต้องทน” ผมไม่ง้อหรอก
“งั้นผมไปค้างบ้านพี่นะ” เอ๊ะ ไอ้นี่!!
“ฝันไปเถอะ” ผมเยาะเย้ย
“น้า นะ นะ นะ” เค้าทำเสียงอ้อน
“ไม่...” ผมเสียงแข็ง
“พี่คิง” ยังไม่จบ...
“ไม่คือไม่...หนังจบแล้วกลับๆๆๆ”ผมชัดเจน เค้าหน้าหงอยเดินนำออกจากโรงหนัง
สุดท้ายเค้าก็ต้องขับมาส่งผมที่บริษัท ผมขับรถกลับบ้าน โดยที่เค้าครางหงิงๆกลับคอนโดไป...
ผมขับรถจนถึงบ้าน...จอดรถไว้หน้าบ้านนี่แหละ ขี้เกียจถอยเข้าๆออกๆ
ประตูรถเปิดออก ผมตกใจ...ใครแม่งมาเปิดประตูให้วะ...
เทวดาร่างใหญ่ยิ้มให้อย่างร่าเริง “ไปไหนมา ผมรอตั้งนาน”
โปรดติดตามตอนต่อไป....