Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]  (อ่าน 18915 ครั้ง)

ออฟไลน์ Bboyseries

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • เพจนิยาย Bboyseries
ตอนที่ 15

ผมทำเรื่องยกเลิกสัญญาการเข้าใช้บริการในฟิตเนสในเดือนต่อมา
ซึ่งครบรอบการหมดสัญญาในแบบรายปีที่ผมไว้พอดี
ธันว์มันเสนอให้ผมทำสัญญารายเดือน ซึ่งมันจะช่วยจ่ายให้ในเดือนไหนที่ผมติดขัด
แต่ผมไม่ทำต่อ เพราะด้วยเกรงใจมันที่มันยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง
แต่กลับจะมาแบกรับภาระให้ผมในเรื่องพวกนี้
ซึ่งดูแล้วไม่สมควร ก็รู้แหละว่าชีวิตความเป็นอยู่ของมันแม้ไม่ได้ทำงาน
มันก็น่าจะอยู่ได้ด้วยการโดนซับพอร์ตจากที่บ้านของมัน
นั่นมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเข้าไปใหญ่ที่จะให้มันเอาเงินจากที่บ้านมาใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับผม

เรื่องที่มันเอาเงินเก็บส่วนตัวไว้ให้ญาติผมเพื่อช่วยดูแลการรักษาตัวแม่ผม
เป็นจำนวนเท่าไหร่ ผมก็ยังไม่ได้รู้ เพราะทางญาติๆ ผมไม่ได้เอ่ยเรื่องนี้กับผมเลย
ผมเองก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายอะไรมาก ก็ยังคงแบกรับภาระในส่วนที่ผมยังพอช่วยได้ไปตามกำลัง

การที่ผมไม่ได้ไปออกกำลังกายทำให้ผมห่างกับธันว์มันจริงๆ
แต่ไม่ใช่แค่ธันว์ ใครคนอื่นที่ผมรู้จักผมก็ห่างเหินออกไปด้วย
เพราะจันทร์ถึงศุกร์ผมต้องทำงานเช้าจรดเย็น ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์
ก็กลับไปเยี่ยมแม่เพื่อดูอาการถี่ขึ้น โดยที่ผมไม่บอกธันว์หรือไอซ์
เพราะผมไม่อยากให้ทั้งสองคนมาแสดงน้ำใจในการขับรถพาผมกลับไป

สองคนมารู้พร้อมกันในวันที่ติดต่อพูดคุยกับผมผ่านทางไลน์
ขณะผมอยู่ที่บ้านในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของเดือนต่อมา

ไอซ์นั้นยอมเข้าใจ เพราะเจ้าตัวรู้ดีอยู่ว่าผมไม่ได้ให้ความสนิทกับเจ้าตัว
ขนาดที่เจ้าตัวจะต้องเทียวรับเทียวส่งผมแบบนั้นในทุกๆ ที
ส่วนธันว์ ก็ออกอาการโวยถามตามนิสัยว่าทำไมผมชอบทำอะไรโดย
ที่คิดว่าไม่มีมันอยู่บนโลกใบนี้

เราสองคนคุยกันดีบ้าง ไม่ดีบ้าง อยู่อย่างนั้น
จนเวลาผ่านมาช่วงหนึ่ง โชนเป็นอีกคนหนึ่ง
ซึ่งมารับรู้อาการป่วยของแม่ผมในช่วงเวลาที่แม่ผมกำลังวิกฤติ
เพราะการตอบสนองทางร่างกายของแม่ไม่ค่อยสอดคล้อง
กับการรักษาเท่าที่ควร แม่ของผมทรุดหนักลงเรื่อยๆ

ในการยื้อเวลาของแม่ก็ต้องใช้วิธีการรักษาด้วยเม็ดขึ้นที่เพิ่มมากขึ้น
โชนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในช่วงจังหวะนั้น และขอโอกาสให้ผมพากลับไปเยี่ยมดูอาการแม่
ผมไม่กล้าขัดใจ เพราะอย่างน้อยโชนก็น่าจะได้ไปเยี่ยมแม่ผมในฐานะคนๆ หนึ่ง
ซึ่งมีน้ำใจช่วยจุนเจือรายจ่ายในพักหลังๆ

ธันว์มารับรู้ตอนหลังว่าผมพาโชนกลับไปที่บ้านในตอนที่มันติดต่อพูดคุยกับผม
ตอนที่ผมอยู่กับโชนที่บ้านเกิดของผม มันออกอาการเย็นชา
และพูดจาห่างเหินกับผมจนผมสังเกตน้ำเสียงได้
ผมไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ แต่เพราะด้วยภาวะจิตใจผมกำลังว้าวุ่นอยู่กับอาการป่วยของแม่ผม
ผมจึงไม่ได้ใส่ใจจะเคลียร์ปัญหาใดๆ กับมัน

จนวันหนึ่งที่ผมกลับเข้ามาทำงานปกติ
และบังเอิญเจอกับมันซึ่งเดินคู่อยู่กับซีในทางผ่านที่ผมต้องกลับห้องพัก
เราจึงมีโอกาสคุยกันจริงๆ จังๆ ตอนนั้น โดยที่ซียืนอยู่ด้วย

“ไม่ค่อยได้เจอกัน มึงเป็นยังไงบ้างไนท์”
ธันว์มันทักผม ในขณะที่ซีออกความเห็น

“ซีว่าพี่ไนท์ผอมและโทรมไปนะ งานหนักเหรอครับ”

“อืม พี่พักผ่อนน้อย และก็มีเรื่องเครียดด้วยแหละ”
ผมตอบซี สังเกตรูปร่างซีตอนนี้ดูดีสมส่วนขึ้นมาบ้าง
อาจจะเพราะด้วยการออกกำลังกายนั่นล่ะ
และคนที่คอยช่วยสอนช่วยเทรนซีก็น่าจะเป็นธันว์
ธันว์มันไม่ถามถึงอาการของแม่ผมเลย
ผมนึกเสียใจอยู่หน่อยๆ ที่มันดูจะลืมไปแล้วว่าแม่ผมกำลังไม่สบายอยู่

“แล้วนี่จะไปไหนกันเหรอ”

ผมตัดสินใจเอ่ยถามในตอนที่ผมหาทางเลี่ยงหนีสองคนไม่ได้
เริ่มรู้สึกน้อยใจที่เห็นธันว์มันแสดงท่าทีเหินห่างจากผมอย่างชัดเจนตอนอยู่ต่อหน้าซี

“ก็นัดเจอกันทั่วไปน่ะครับ ยังไม่ได้คิดจะไปไหนกัน
หากไม่มีที่ไป ซีก็ว่าจะให้พี่ธันว์สอนซีทำอาหารที่คอนโดพี่ธันว์หน่อย
 พี่ธันว์ทำอาหารหารเก่ง ทำให้ซีทานบ่อยๆ จนซีชักติดใจ
อืม พี่ไนท์ไปด้วยกันมั้ย ไปช่วยซีเป็นนักเรียนพี่ธันว์หน่อย”

ซีตอบออกมาอีกยิ้มๆ ผมมองสบตาธันว์ เข้าใจแล้วว่าทำไมมันถึงลืมอาการป่วยของแม่ผม
มันก็น่าจะใช้เวลาระยะหลังที่เราห่างกันคลุกคลีอยู่กับซีจนเป็นคนสนิทใจกันนั่นล่ะ 
นึกถึงตอนนี้ก็อดนึกถึงตอนที่มันคอยเอาอกเอาใจผมไม่ได้
ปากมันก็บอกว่าจะคอยยืนข้างผมอย่างนั้นอย่างนี้
แต่เอาเข้าจริงๆ สิ่งที่มันทำตอนนี้กลับมีกะจิตกะใจหาความสุขสำราญใจกับซี
ในขณะที่ผมกำลังจมอยู่กับภาวะเครียดจากอาการป่วยของแม่

แต่ก็นั่นล่ะ มันก็เคยเตือนผมอยู่ว่าผมจะไปถือสาคำพูดอะไรของมัน
ในตอนที่มันว่าจะค้างห้องผมในคืนนั้น แต่สุดท้ายมันก็ออกมาพบกับซีกลางดึกจนได้นอนค้างด้วยกัน
ผมก็ไม่น่าจะไปจริงจังและฝากความหวังอะไรไว้กับมันให้ต้องรู้สึกเสียใจ

“อืม พี่ว่าไม่ดีมั้งซี อย่าไปกวนอะไรไอ้ไนท์มันเลย
มันคงไม่มีเวลาว่างให้พี่แล้วมั้ง ที่ซีอยากให้พี่สอนทำอาหารก็ฟังดูดีนะ
พอซีทำเป็น ซีจะได้ทำให้พี่ทานบ้าง บางทีพี่ก็อยากมีคนเอาใจบ้าง
ตามเอาใจคนอื่นมากๆ พี่ชักเริ่มเหนื่อยและท้อขึ้นมาละ”

ธันว์มันเอ่ยออกมา ผมใจกระตุกวาบ เข้าใจว่ามันคงเอ่ยกระทบผมนั่นล่ะ
แต่ผมก็ฝืนยิ้มเอ่ยออกไปด้วยไม่อยากให้ธันว์มันเห็นว่าผมกำลังปวดใจ

“งั้นก็ตามสบายกันนะสองคน ขอตัวล่ะ”

ผมรีบเดินหนีหน้าจากซีและก็ธันว์ หากธันว์มันเริ่มเหนื่อยและท้อในการ
ที่จะคอยดูแลผมอย่างที่มันเคยสัญญา ก็สุดแท้แต่มันจะเลิก
ผมไม่มีสิทธิ์ไปโกรธอะไรมัน เพราะอย่างน้อยๆ ช่วงเวลาหนึ่งมันก็เอาใจใส่ผมได้ดี
และยังเป็นคนที่มีน้ำใจในการช่วยค่าใช้จ่ายดูแลรักษาแม่ของผม

ถึงผมจะปลงตกได้เช่นนั้น แต่ผมก็สั่งให้ใจไม่ให้ไหวหวั่นได้อยู่ดี
ที่สุดแล้ว คำพูดและแววตาเฉยชาของธันว์ก็ทำให้ผมร้องให้ได้อีกครั้ง

ผมกลับถึงห้องโทรสอบถามอาการแม่กับที่บ้าน
ญาติๆ เอ่ยบอกให้ผมเตรียมใจไว้หน่อยก็ดี
เพราะแม่มีแต่ทรุดกับทรุด ผมใจหายถามไปว่าการรักษาที่เสียเงินไปมากมาย
ไม่ช่วยทำให้แม่ดีขึ้นบ้างเลยหรือ

ญาติบอกว่าหมอบอกว่ามันก็ดีขึ้นได้เท่านี้ เพราะกว่าที่แม่ผมจะเข้าทำการรักษา
ก็อยู่ในภาวะสุดท้ายของการยื้อลมหายใจแล้ว

“ไนท์ค่าใช้จ่ายมันเริ่มสูงขึ้นจนพวกเราหลายคนหมดหนทาง
ที่จะต่อลมหายใจแม่ไปได้อีกแล้ว
ไนท์จะเสียใจมากมั้ยถ้าสุดท้ายแม่อาจจะต้องอยู่กับเราได้ไม่นาน”

ญาติซึ่งเป็นเสาหลักของบ้านเอ่ยกับผมแบบนั้น
ผมเข้าใจในความหมายที่สื่อออกมาได้ดี แต่ผมไม่อยากให้เวลานั้นเกิดขึ้น
จึงบอกกับญาติๆ ไปว่าผมจะหาวิธียื้อลมหายใจของแม่ให้ได้นานที่สุด
ให้ญาติๆ รอการตัดสินใจสิ่งใดที่จะนำมาซึ่งความสูญเสียก่อน

ญาติยอมรับฟัง ผมวางสายไป นั่งร้องไห้จนตัวสั่น
สุดท้ายจึงลุกนั่งปาดน้ำตาตัดสินใจติดต่อไปหาธันว์
เพราะผมเคยคิดเอาไว้แล้วว่าเมื่อถึงที่สุดจริงๆ
ผมคงต้องร้องขอความช่วยเหลือจากมัน

“มีอะไรไนท์” โชนมันรับสายผม พร้อมๆ
กับที่ผมได้ยินเสียงซีแทรกมาในโทรศัพท์
ตอนนี้สองคนน่าอยู่ในห้องคอนโดของธันว์
เพราะเสียงของซีแทรกมาอยู่เรื่อยๆ
ถึงการถามหาว่าอุปกรณ์ทำครัวของธันว์อยู่ตรงไหนบ้าง
จะได้เอามาเตรียมไว้ในการทำกิจกรรมทำอาหารร่วมกัน
   
“มึงสะดวกคุยมั้ย” ผมกลั้นเสียงสะอื้นถามธันว์ออกไป

ความรู้สึกใจหายจากการรับฟังข่าวร้ายจากทางญาติยังไม่จางดี
ผมก็ต้องมาสะท้านใจกับการต้องมารับรู้ว่าซีอยู่กับธันว์ในตอนนี้อีก
   
“คุยได้ แต่ไม่นานนะ ซีรอกูสอนทำอาหารอยู่” ธันว์มันตอบกลับมา
ผมเริ่มลังเลว่าจะเอ่ยขอร้องให้มันช่วยเหลือผมในการรักษาแม่ของผมดีหรือไม่
จึงเงียบไปพัก เริ่มไม่แน่ใจว่าธันว์มันจะจำสัญญาว่าจะยืนเคียงข้างผมได้หรือไม่

สักพักธันว์มันก็ถามออกมาใหม่
   
“ถ้าไม่มีอะไรกูวางสายนะ โทรมาแล้วก็เงียบ ว่างนักหรือไง”
   
ผมปวดใจในถ้อยคำนั้นจนล้มเลิกความคิด
ที่จะขอความช่วยเหลือจากมัน เบี่ยงไปคุยประเด็นอื่นไป
   
“ก็ไม่มีอะไร แค่โทรมาทักทายนะ” ผมฝืนบอก ใจหวิวอีกเมื่อธันว์มันทักกลับมา
   
“เด็กมึงไม่ว่างแล้วอ่ะดิถึงได้คิดถึงกู”
   
“กะ ก็อย่างนั้นแหละ” ผมเอ่ยตามน้ำไป เพราะรู้สึกตื้อจนพูดไม่ออก”
   
“ถ้ามึงแค่คิดว่ากูเป็นเพียงแค่คนคอยปลอบใจมึง
ยามมึงมีปัญหากับเด็กมึง กูขอให้มึงไม่ต้องโทรมาอีกไนท์”
   
ใจผมสั่นไหวได้อีก คิดไปไกลว่าที่ธันว์มันเอ่ยกับผมแบบนี้
คงเพราะมันคงน่าจะเริ่มต้นคบกับซี จึงทำใจแข็งเอ่ยถามมันออกไป
   
“เราต้องจบกันแบบนี้จริงเหรอวะธันว์”
   
ธันว์เงียบ ผมก็เงียบ สุดท้ายธันว์มันก็เอ่ยออกมา
   
“แล้วเรายังไปได้ไกลกว่านี้อีกมั้ยล่ะ กูเข้าใจแล้วว่าตอนนี้กูฝืนทำดีกับมึงไป
มึงก็คงไม่ลืมคนของมึง ขอโทษนะที่กูรอมึงไม่ไหว กูอาจจะขอเริ่มต้นใหม่
กับใครสักคนที่มองเห็นค่าของกู แค่นี้นะ โชคดีเพื่อน”
   
ธันว์มันวางสายไป ผมเก็บกลั้นความรู้สึกปวดใจเอาไว้ให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้
ตอนที่ได้ยินถ้อยคำบอกลานั่น เวลาของผมกับธันว์สิ้นสุดลงตรงนี้แล้วจริงๆ น่ะหรือ

TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2018 02:32:25 โดย Bboyseries »

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ธันว์ลืมว่าแม่ไนท์ป่วยอยู่จริงเหรอ เพื่อนกำลังแย่อะ ทำไมลืมมม
คิดถึงใจกันบ้างงง แล้วดูทำตัวดิ ไม่ดีเลยยยย
ไนท์พูดสิพูดดดด เรื่องโชนเรื่องแม่พูดไปเถอะ
เนี่ยย แล้วก็ไม่เคลียร์กันสักที
 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ไนท์ทำไมปากหนักอ่า
บอกไปดิ

ออฟไลน์ Bboyseries

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • เพจนิยาย Bboyseries
ผมตัดสินใจลางานกลับบ้านด้วยสิทธิลาพักร้อนประจำปีที่ยังคงเหลือทั้งหมดห้าวัน
รวมกับเสาร์อาทิตย์ทั้งหมดก็เป็นเจ็ดวัน เพื่อกลับไปไปอยู่บ้านเฝ้าดูใจแม่ผม

เมื่อญาติติดต่อกลับมาอีกครั้งเพื่อแจ้งข่าวร้ายว่าหมอที่ทำการรักษาได้แจ้งให้ให้ญาติๆ ได้ทำใจ
เพราะอาการแม่ของผมทรุดลงจนเกินที่เยียวยารักษา

ระหว่างเดินทางกลับบ้านด้วยรถตู้สาธารณะผมนั่งร้องไห้อยู่อย่างไม่อายใคร
เมื่อญาติๆ บอกให้ผมเข้าไปที่โรงพยาบาลเลยไม่ต้องแวะเข้าบ้าน
เพราะตอนนี้ทุกคนรวมกันอยู่ที่นั่น ผมได้ฟังเพียงเท่านั้นก็พอจะเข้าใจว่าผมกำลังจะกลับไปเจอกับภาวะใด

ซึ่งมันก็จริง เมื่อผมถึงโรงพยาบาล ญาติๆ โผเข้ากอดผมด้วยอาการต่างคนต่างร้องไห้ระงม
และบอกให้ผมเข้าไปหาแม่ยังห้องพักฟื้น ผมตัวสั่น ใจสั่น
ยังรู้สึกรับไม่ได้ที่จะเข้าไปเห็นภาพอะไรที่ผมไม่อยากเห็น
แต่ญาติบอกยังไงก็ต้องไป เพราะนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะได้พูดคุยกับแม่

ผมเดินร้องไห้เข้าไปในห้องนั้น ญาติสองสามคนอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในห้องนั้น
แยกตัวออกมาให้ผมได้เข้าไปพูดคุยกับแม่

ภาพของแม่ซึ่งเป็นเสมือนคนไร้สีเลือดนอนหายใจรวยรินน้ำตาไหล
พยายามเอื้อมมือมาลูบเส้นผมของผมตอนผมโผเข้าไปกอดร่าง
ก่อนเอ่ยถ้อยคำฝากฝังให้ผมดูแลตัวเอง เพราะแม่คงฝืนอยู่ต่อไม่ไหว

ผมร้องไห้จนตัวโยนกอดร่างแม่อยู่อย่างนั้น
พร่ำบอกให้แม่เข้มแข็ง แต่แม่ผมกลับพยายามฝืนยิ้มทั้งน้ำตาบอกว่าเวลานี้
เป็นเวลาที่ผมควรจะเข้มแข็งอย่าให้แม่ต้องจากไปด้วยความห่วงหา

น้ำตาผมหยดเป็นสาย ร่างกายสะอื้นสั่นร้องบอกให้แม่อย่าเพิ่งทิ้งผมไปตอนนี้
เพราะผมยังไม่ได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีตอบแทนพระคุณเพียงพอ

แม่ส่ายหน้าบอกว่าแค่ผมเรียนจบมามีงานทำหาเลี้ยงตัวเองได้
แม่ก็พอใจจนไม่ต้องการอะไรแล้ว ในตอนท้ายแม่เอ่ยถึงว่าหากอยากตอบแทน
ผู้มีพระคุณให้ผมนึกถึงพ่อ ซึ่งแม้จะเลิกรากับแม่ไปตั้งแต่ตอนผมยังเด็ก
และไม่ได้เลี้ยงดูส่งเสียอะไรผมเท่าแม่ แต่พ่อก็คือพ่อ
หากมีโอกาสตอบแทนก็ขอให้ผมตอบแทนบุญคุณพ่อ
ที่ทำให้ผมเกิดมามีชีวิตบนโลกใบนี้

ผมรับปากกับแม่ทั้งน้ำตา นาทีนั้นแม่จึงเรียกหาญาติๆ คนอื่นๆ
ให้มายืนรวมกันเพื่อที่แม่จะได้เห็นทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นครั้งสุดท้าย
ญาติผมทุกคนจึงเข้ามาหาแม่ตามที่แม่ต้องการ ทุกคนร่ำไห้กอดกันมองร่างแม่
แม่ส่งยิ้มให้ทุกคน เอ่ยฝากฝังผมไว้กับทุกคน เพราะผมเป็นลูกคนเล็กของครอบครัว
ทุกคนรับปากว่าจะดูแลผมแทนแม่ แม่ยิ้มเอ่ยขอบคุณทุกคน ก่อนจะหันมามองหน้า
บอกรักผม เอามือลูบหัวผม สั่งเสียผมว่าอย่าทำตัวเป็นภาระให้ญาติต้องหนักใจ
ให้ผมเป็นลูกซึ่งแม่ภูมิใจในความคิดความประพฤติอย่างที่เคยเป็นเช่นผ่านมาๆ

ผมแทบใจสลายตอนแม่น้ำตาไหล จึงร้องไห้โฮออกมาเสียงดังจนญาติๆ
ต่างกรูเข้าปลอบ เอ่ยบอกว่าอย่าให้น้ำตาอาบลงร่างแม่
ให้แม่ได้พักผ่อนบนสวรรค์ด้วยความหมดห่วง

“ดูแลตัวเองนะไนท์ แม่รักลูกนะ แม่รักลูก”
แม่ผมพร่ำบอกผมในถ้อยคำสุดท้าย
ก่อนมือที่ใช้จับหัวผมจะอ่อนแรงร่วงลงพร้อมม่านตาที่ปิดสนิท

“แม่ แม่ แม่อย่าทิ้งไนท์ไป แม่ แม่” ผมผละตัวออกจากญาติๆ
โผเข้ากอดร่างซึ่งไร้ลมหายใจของแม่ พยายามเขย่าให้แม่ตื่น
แต่ญาติๆ ช่วยกันดึงตัวผมออกไป ทั้งๆ ที่ทุกคนต่างก็ร่ำไห้ไม่หยุดเช่นกัน

ผมจำใจผละร่างออกจากแม่ทั้งน้ำตา เมื่อทีมหมอและพยาบาล
เข้าทำหน้าที่ใช้ผ้าคลุมร่างแม่ปกปิดร่างซึ่งไร้วิญญาณของแม่แล้ว

นาทีของความสูญเสียคนที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับมันเป็นนาที
ที่เจ็บปวดทรมานจนเกินจะอยู่ไหวมันเป็นเช่นไร ผมเพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้เอง

ศพของแม่ผ่านขั้นตอนการชันสูตรเสร็จสิ้น ญาติๆ ผมก็ทำเรื่องเคลื่อนย้าย
เพื่อไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนายังวัดที่แม่ชอบไปทำบุญ

หลังพิธีกรรมพาร่างของแม่ขึ้นไว้บนศาลาวัดเพื่อสวดศพ
การประชุมญาติก็เริ่มมาตามหลัง ในฐานะความเป็นลูกชายผมตั้งใจบวชหน้าไฟให้แม่
เพื่อส่งวิญญาณแม่ให้ขึ้นสวรรค์ แต่ญาติๆ บอกว่ามีลูกๆ หลานๆ
แม่หลายคนสมัครใจบวชจนเพียงพอแล้ว ให้ผมรับภาระเป็นเจ้าภาพคอยดูแขกเหรื่อในงานจะดีกว่า
ก่อนแม่จะไปแม่ก็ไม่ได้ฝากฝังอะไรในเรื่องนี้ไว้ หากผมคิดดี ทำดี ประพฤติดี
ตามที่แม่ฝากฝังไว้ก่อนไป แม่คงไปอย่างสงบ
อีกทั้งผลบุญที่แม่ได้ทำไว้ตอนมีชีวิตอยู่ก็คงพาแม่ขึ้นสวรรค์ได้อยู่นั่นล่ะ

เมื่อญาติๆ เห็นพ้องต้องกันอย่างนั้น ผมจึงคอยเป็นหัวเรือคอยรับแขก
ซึ่งคงจะมาร่วมงานสวดศพแม่ผมหนาตา

ผมส่งข่าวไปบอกเพื่อนๆ คนรู้จักในที่ทำงานเรื่องงานศพของแม่
รวมทั้งโชนและไอซ์ แต่สำหรับธันว์ ผมเลือกที่จะไม่บอกมัน
เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะบอกมันในฐานะอะไรในเมื่อดูคล้ายจะไม่สนใจในความเป็นไปของผมแล้ว

ไอซ์กับโชนรวมถึงต้ามาร่วมงานศพแม่ผมตั้งแต่คืนวันแรก
โดยตั้งใจมาแบบเสร็จฟังสวดแล้วกลับกันเลย ทุกคนบอกจะมาอีกทีในวันเผาคือวันที่สาม
ผมเพิ่งรู้ว่าทั้งสามเป็นคนรู้จักกันพอประมาณที่สวนรถไฟ
การเจอหน้ากันของทั้งสามคนในงานศพแม่ผม ทุกคนก็ร่วมด้วยช่วยกันกับผมในการดูแลแขกเป็นอย่างดี
ต้าร์เองเอ่ยขอโทษผมที่พาโชนไปเที่ยวจนเสียการติดต่อไปจากผม
ผมไม่ได้ติดใจอะไร บอกอะไรที่ผ่านมาแล้วก็แล้วกันไป

ในวันที่สองของคืนสวดศพ ผมต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ธันว์มันโผล่มา
ผมถามว่าใครแจ้งมันไป มันบอกว่าญาติๆ ผม ผมรู้สึกแปลกใจว่าญาติๆ
ผมไปเอาช่องทางติดต่อจากธันว์มายังไง แต่ไม่มีเวลาถามไถ่อะไรมาก
ญาติๆ ก็พากันออกมาต้อนรับมัน ธันว์มันเอ่ยขออนุญาตพักค้างบ้านผมกับญาติๆ
ญาติๆ ผมบอกไม่ได้มีปัญหาอะไร ก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันไปปล่อยให้ผมอยู่กับธันว์มันเพียงลำพัง

“แม่เสียทำไมถึงไม่บอกกูสักคำไนท์” ธันว์มันเอ่ยกับผมในทันทีที่เรามีโอกาสอยู่กันสองต่อสอง

“ในฐานะอะไรล่ะ” ผมตอบ ยังจำคำที่มันเอ่ยตัดความสัมพันธ์กับผมได้ดี

“มึงใจแข็งกว่าที่กูคิดนะไนท์ มึงตัดขาดจากกูได้จริงๆ เหรอ” ธันว์มันเอ่ยถาม ผมมองสบตาเอ่ยขึ้น

“มึงเป็นฝ่ายบอกเลิกกูนะธันว์ กูไม่ได้เป็นคนบอก ถึงกูจะตัดไม่ได้ยังไงกูต้องตัด
มึงอยากเริ่มต้นใหม่กับใคร มึงก็กลับไปหาคนนั้นเถอะ ขอบใจที่ยังเคารพแม่
แต่คืนนี้กูคงให้มึงพักที่บ้านไม่ได้”

สายตาธันว์วูบไหวไป กำลังจะเดินจากผมไปอย่างที่ผมบอกจริงๆ
แต่ญาติผมกลับเดินมาเรียกไว้ ธันว์มันหันมาจ้องตาผม ผมเมินหนี
สักพักญาติผมจึงสั่งให้มันขับรถจากวัดตามไปที่บ้าน
โดยให้ผมเป็นคนนั่งรถไปกับมันเพื่อบอกทาง ผมเห็นว่าญาติร้องขอจึงยอมทำตาม
แต่ขณะนั่งรถกันไป ผมพยายามไม่พูดอะไรกับมันนอกจากบอกทางเท่านั้น
ซึ่งมันก็เงียบซึมไม่ชวนผมคุยเช่นกัน


จนถึงบ้าน ญาติผมจัดแจงอาหารให้มันกิน ผมเห็นว่าญาติผมชักจะเอาใจมันเกินไปจึงขัด


ออฟไลน์ Bboyseries

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • เพจนิยาย Bboyseries
“เพื่อนไนท์มันไม่หิวหรอกครับ มันบอกมันง่วง
ยังไงคืนนี้น้าเนียมหาห้องให้มันนอนทีนะครับ มันคงไม่อยากนอนห้องไนท์เท่าไหร่”

ผมเลือกเอ่ยกับน้าเนียมน้องสาวแม่ผม น้าเนียมตำหนิผมนิดๆ
ว่าไปตัดสินใจแทนเพื่อนแบบนั้นได้ยังไง ก่อนจะจัดแจงหุงหาอาหารมาให้ธันว์มัน
ธันว์มันก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา น้าเนียมตักข้าวให้มัน
ผมนึกถึงคำพูดที่ธันว์มันตัดขาดความสัมพันธ์กับผมในคืนที่ผมกำลัง
จะโทรขอความช่วยเหลือเรื่องแม่ นึกโกรธมันขึ้นมา
จึงเดินไปหยิบจานข้าวจากมือน้าเนียมเทกลับที่หม้อดังเดิม
แล้วเอ่ยบอกน้าเนียมด้วยความรู้สึกที่ยอมรับว่าพาลพอดู

“น้าเนียมไม่ต้องเอาใจมันมากหรอกครับ
มันหิวมันคงตักกินเองได้ แขนขามันไม่ได้ขาด”

น้าเนียมหันมาว่าผมอีกว่าทำไมถึงพาลใส่เพื่อนแบบนั้น
ก่อนจะจัดการตักข้าวไปให้ธันว์มันใหม่ ธันว์มันยังนั่งเงียบไม่พูดไม่จา
ผมมองสบตามันตอนมันหยิบช้อนตักข้าวเพื่อทาน
ด้วยอารมณ์พาลก่อนหน้าทำให้ผมเดินไปปัดช้อนที่มันกำลังจะตักข้าวเข้าปากจนกระเด็นตกพื้น

“ไนท์ ทำอะไรน่ะ” น้าเนียมดุ ตอนนี้ธันว์มันจึงยอมมีเสียงขึ้นมาด้วยการเอ่ย

“ไม่เป็นไรครับน้าเนียม เดี๋ยวธันว์หยิบช้อนใหม่เอาเองก็ได้ครับ”

“ไม่ต้องใช้ช้อนหรอก ถ้ามึงหิวมากก็กินมันทั้งจานนั่นล่ะ”

อารมณ์พาลผมยังไม่สงบลงจึงเดินไปจับจานข้าวยกขึ้นอัดใส่หน้าธันว์
โดยไม่สนในฟังเสียงร้องตกใจของใคร สิ้นเสียงทุกคนผมวางจานกลับลงบนโต๊ะ
ก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องไม่สนใจจะมองว่าธันว์มันจะนั่งอยู่ในสภาพใด

ผมนั่งอยู่ในห้องเกือบครึ่งชั่วโมง เริ่มรู้สึกผิดอยู่ที่ทำกับธันว์แบบนั้น
แต่เมื่อย้อนคิดถึงวันที่ผมโทรหามันเพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องแม่
แต่มันกลับกำลังมีความสุขอยู่กับซีทำให้ทิฐิในใจผมก่อตัวขึ้นมาอีก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมคิดว่าน้าเนียมคงตามมาพูดกับผมในสิ่งที่ผมทำเมื่อครู่นั่นล่ะ
จึงลุกเดินไปเปิดประตู ไม่ได้คิดว่าจะเป็นธันว์ เพราะคิดว่ามันเห็นอาการไม่ต้อนรับมันจากผมแบบนั้น
มันก็คงขับรถกลับกรุงเทพฯ ไปหาคนของมันแล้ว

ประตูห้องเปิดออก ผมตกใจหน่อยเมื่อเห็นธันว์ยืนอยู่ในเสื้อผ้าชุดใหม่
ในลักษณะผมเผ้ายังเปียกอยู่ ใครกันจัดแจงให้มันอาบน้ำล้างตัว สระผม
ผมคิดในใจ สักพักธันว์มันก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา

“ขอนอนด้วยได้มั้ย”

ผมมองสบตาของมันที่ไร้ซึ่งพิษสงใดๆ จึงยอมถอยร่างให้มันเดินผ่านเข้ามาในห้อง
ธันว์มันจึงพาร่างไปนั่งนิ่งบนที่นอน ผมปิดประตูห้อง
หันมามองหน้ามัน เห็นมันนั่งหน้าก้มหงอยซึมจึงเป็นฝ่ายเอ่ยก่อน

“ทำไมมึงไม่กลับกรุงเทพฯ”

“งานแม่ยังเสร็จมึงจะรีบไล่กูไปไหน” ธันว์มันเงยหน้าขึ้นเอ่ย
ผมนึกถึงวันที่เจอกับมันครั้งล่าสุดแล้วมันไม่ได้ถามถึงอาการแม่ผมเลยจึงว่าใส่หน้ามันตรงๆ

“อยู่แล้วมึงช่วยอะไรได้ ตอนแม่ยังไม่เสียทำไมมึงไม่คิดจะใส่ใจถามไถ่ถึงอาการท่าน”

ธันว์มันก้มหน้าเงียบ สักพักจึงเงยหน้าถามผม

“ตอนนี้มึงรู้สึกยังไงกับกูไนท์”

ผมมองหน้าธันว์ ผมเองก็ตอบไม่ได้ว่าผมรู้สึกยังไง
ในเมื่อธันว์เองมันเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายกับผม
แต่นาทีที่ผมคิดถึงตอนที่มันเอ่ยตัดรอนความสัมพันธ์กับผม ทำให้ผมเอ่ยบอกมันไป

“กูกับมึงคงอยู่ไกล้กันไม่ได้แล้วธันว์ มึงบอกว่าเหนื่อยที่ต้องตามเอาใจกู
กูเองก็เหนื่อยที่จะต้องหวาดระแวงมึงเหมือนกัน
สามปีกว่าที่เรารู้จักกัน ขอบคุณในหลายๆ อย่างที่มึงเคยทำให้กู
และกูขอโทษในทุกๆ สิ่งที่เคยงี่เง่ากับมึงโดยที่บางทีกูอาจไม่รู้ตัว
ในเมื่อมึงก็เหนื่อย กูก็เหนื่อย ในการที่จะคบหากันต่อไป
เรายอมถอยออกมาเป็นเพื่อนห่างๆ กันก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
แต่มึงไม่ต้องห่วงนะ ค่าใช้จ่ายที่มึงช่วยในการรักษาแม่กู
กูจะพยายามหามาคืนให้ มันเท่าไหร่กูยังไม่รู้หรอก
หลังงานศพแม่เดี๋ยวกูถามเอาจากญาติกู แล้วกูจะใช้คืนมึงยังไง
ก็ค่อยว่ากัน ขอบใจนะที่ช่วงเวลาหนึ่งมึงเคยเข้ามาทำให้กูยิ้ม กูหัวเราะ
แต่มันก็มีหลายช่วงเวลาที่กูต้องร้องไห้กับการกระทำของมึง
คืนนี้มึงกลับไปเถอะ กูไม่พร้อมที่จะอยู่ใกล้มึงแล้วจริงๆ”

ธันว์ซึ่งนั่งอยู่ฟังผมพูด นัยน์ตามันค่อยๆ แดงเรื่อออกมา
ผมเองเองหากมองเห็นหน้าตัวเองได้ตอนนี้สภาพนัยน์ตาผมก็คงจะไม่ต่างไปจากมันเท่าไหร่

ผมกับมันใช้สายตามองจ้องกัน ธันว์น้ำตาไหล ผมเองก็ร้องไห้

แต่ในเมื่อความสัมพันธ์มันถึงทางตัน ผมกับมันก็ต้องจากกันจริงๆ ซะที

TBC


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2018 20:52:50 โดย Bboyseries »

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
อย่าคิดเยอะดิไนท์  รักกันๆๆๆๆ

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
ไม่เข้าข้างธันนะ โกรธธันว์ ทำไมต้อตัดความสัมพันด้วย

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
รอบทสรุปอยู่น๊า
สิ่งที่ธันว์ไม่แปลกถ้าไนท์จะไม่เชื่อใจ ทุกครั้งที่พูดตบท้ายด้วยพูดเล่น ล้อเล่นเสมอ อีกอย่างการกระทำเหมือนจะหนักแน่น เหมือนจะชัดเจน สุดท้ายก็ล่ม ต้องรับสภาพไปนะธันว์

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ธันว์ โลเล ไม่มั่นคง   เดี๋ยวจริงเดี๋ยวเล่น
งอนไนท์ ประชดไนท์ จนไม่รู้ความรู้สึกจริงๆ

ไนท์เองก็หวาดระแวงธันว์
ที่ถึงเนื้อถึงตัว จูบกอดไนท์
แต่ก็ยังอ่อยซี ทำให้เชื่อใจได้ยาก

อยากให้ไนท์ เอ่ยปากว่าเลิกกับโชนให้ธันว์รู้
ธันว์ ที่บ้าๆบอๆเพราะหึงหวงไนท์จะได้เข้าใจสักที

รอสองคนตกผลึกความคิด ดงรู้ใจตัวเอง
พูดกันเรื่องความรู้สึกที่มีต่อกันให้ชัดเจน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
จะจบแบบไหมเนี่ย  รอลุ้นนะคะคุณบอย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Fat_gril68

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
รู้บ้างไหม ว่าฉันนั้นใกล้ลงแดง?

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ Bboyseries

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • เพจนิยาย Bboyseries


แปะๆ เอาไว้

ธันว์ยกมือปาดน้ำตาตัวเองทันทีตอนที่ได้ไหลออกมาหลังจากมันพูดจบ
มันเดินผ่านร่างผมไปเปิดประตูห้องก้าวเท้าออกไป

ลับหลังมัน น้ำตาหยดใหม่ของผมก็ไหลอาบแก้มเช่นกัน

ผมฝืนแข็งใจไม่หันไปมองมัน ปล่อยให้มันปิดประตูห้องผมลงอย่างเงียบเชียบ

ประตูบานนั้นหากเปรียบไปก็คงเป็นเช่นฉากกั้นปิดม่านความสัมพันธ์ของผมกับธันว์ลงอย่างถาวร

แล้วกลับมาพบกันสำหรับตอนจบนะนะคร้าบ
วัน เวลา ตามคลิปเลย



ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
อีกตั้ง 3 วัน

 :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
สนุกมากเลยรอตอนจบน้า

ออฟไลน์ llmaumill

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งงมาก คือไม่เข้าใจไนท์ที่โกรธธันว์ เรืองที่จะโทรไปขอความช่วยเหลือแม่อะ ตัวเองยังไม่ได้เอ่ยปากพูดเรื่องจะขอความช่วยเหลือเลย พอธันว์ตัดบทก็เลยไม่พูด ทีนี้พอแม่เสียก็มาพาลโกรธธันว์ แล้วโทษธันว์ว่า ไม่ช่วยแม่อย่างงั้นหรือ

ลืมไปหรือเปล่าว่า ธันว์ช่วยเหลือเรื่องเงินตอนแม่ป่วยด้วย  แล้วการเทข้าว ปัดช้อน ปัดจาน ก็เป็นกิริมารยาทที่แย่มากๆเลยนะ แบบนี้ไม่น่ารักเลย

ออฟไลน์ Bboyseries

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • เพจนิยาย Bboyseries
ตอนจบ

ธันว์ยิ้มจางๆ ออกมา ยกมือขึ้นปาดน้ำตา ลุกเดินคว้าผมเข้าไปกอด
ผมยืนนิ่งไม่มีแรงต่อต้าน ปล่อยให้น้ำตาไหลลงบนบนบ่ามัน สักพักธันว์ผละออกจากผม
เราสองคนมองจ้องตากัน ธันว์ยกมือเช็ดน้ำตาให้ผม
รอยยิ้มจางยังผุดอยู่บนใบหน้าคมใสของมัน นัยน์ตามันแดงเรื่อ มีหยดน้ำซึมอยู่บริเวณรอบ
ผมก็อยากจะยกมือขึ้นไปเช็ดหยดน้ำนั่นบ้าง แต่ก็ห้ามใจเอาไว้
ในเมื่อคิดจะตัดก็ต้องตัดให้ขาด มันอาจจะทรมานในช่วงแรกๆ
แต่ผ่านเวลาไปสักช่วง หัวใจก็คงดีขึ้น

“กูเคารพการตัดสินใจของมึงมาตลอด หากครั้งนี้มึงจะขอให้เราห่างกัน
กูก็คงทำได้แค่รับฟัง ยังไงกูก็ขอบคุณมึงเหมือนกันที่เดินมาเข้ามาให้กูได้สัมผัส
ความรู้สึกของการอยากดูแลใครสักคนของกูในช่วงเวลาหนึ่ง
แม้กูจะทำไม่สำเร็จก็ตาม เพราะกูมันแค่คนมาทีหลัง
สิ่งที่กูจะทำให้มึงได้เป็นครั้งสุดท้ายคงเป็นการไม่เอาคืนเงินค่ารักษาพยาบาลของแม่ทั้งหมด
มึงไม่ต้องหามาคืนกูหรอก มึงจะได้สบายใจที่ไม่ต้องมีอะไรมาผูกพันกับกูให้คาราคาซังกันอีก
จากนี้หากเราจะพบกันมันก็คงเป็นได้แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น
โชคดีนะ หากกูไม่อยู่สักคนสักวันมึงกับโชนคงได้ใกล้กันมากกว่าที่เป็นอยู่
กูจะไปจากชีวิตมึงอย่างที่มึงต้องการ ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ร่วมเผาศพแม่
ดูแลตัวเองด้วยนะ กูขอโทษในคำพูดใดๆ ที่กูอาจทำให้มึงร้องไห้เสียใจ
แต่ขอให้มึงรู้ไว้ว่าถ้อยคำเหล่านั้นมันไม่ได้ออกมาจากใจของกู กูไปล่ะ”

ธันว์ยกมือปาดน้ำตาตัวเองทันทีตอนที่มันไหลออกมาหลังจากมันพูดจบ
มันเดินผ่านร่างผมไปเปิดประตูห้องก้าวเท้าออกไป ลับหลังมัน
น้ำตาหยดใหม่ของผมก็ไหลอาบแอบเช่นกัน
ผมฝืนแข็งใจไม่หันไปมองมัน ปล่อยให้มันปิดประตูห้องผมลงอย่างเงียบเชียบ
ประตูบานนั้นหากเปรียบไปก็คงเป็นเช่นฉากกั้นปิดม่านความสัมพันธ์ของผมกับธันว์ลงอย่างถาวร
ผมได้ยินเสียงรถของธันว์วิ่งออกไปจากรั้วบ้านผมในตอนที่ผมพาร่างมานั่งลงบนที่นอน ที่นอนซึ่งครั้งหนึ่งธันว์มันนอนโอบกอดผมเอาไว้ทั้งคืน ผมเผลอเอามือลูบสัมผัสพื้นที่ว่างตรงนั้นซึ่งเป็นที่นอนของธันว์  น้ำตาผมกำลังจะเหือดแห้งไป ในใจที่หวิวไหวกำลังจะดีขึ้น แต่แล้วผมก็ได้รับข้อความอันยาวเหยียดซึ่งส่งมาจากธันว์ผ่านไลน์ว่า

ออฟไลน์ Bboyseries

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • เพจนิยาย Bboyseries
“ไนท์ ไหนๆ กูกับมึงก็คงเป็นเส้นขนานกันแล้ว
ข้อความนี้กูอยากให้มึงอ่านให้จบ มันอาจจะยาวหน่อย
แต่ทุกสิ่งที่กูพิมพ์กูพิมพ์มันออกมาจากใจกูจริงๆ
มันเป็นเรื่องราวในส่วนของกูที่มึงคงไม่เคยรู้
ที่กูตัดสินใจพิมพ์บอกกูไม่ต้องการให้เราเริ่มใหม่
แก้วที่มันร้าวไปแล้วมันคงรอวันแตกเพียงเท่านั้น
ใจที่มันร้าวมันก็คงรอวันแหลกสลายเช่นกัน
เปรียบเป็นเช่นมึงกับกูที่อยู่กันใกล้แค่เอื้อม
แต่ก็สัมผัสหัวใจกันและกันไม่ได้สักที

ไนท์ มึงรู้อะไรมั้ยว่ากูรักกูชอบมึงตั้งแต่วันแรกที่กูเจอมึง
กูพยายามเข้าหาเพื่อจีบมึงเพราะคิดว่ามึงไม่มีใคร
แต่แล้วมึงบอกกับกูว่ามึงมีคนคบคนคุยแล้วนั่นก็คือโชน
ตอนนั้นกูเสียใจและผิดหวังนะ เสียใจจนกูเคยคิดจะถอยไม่สานความสัมพันธ์ต่อ
แต่กูถอยไม่ได้ เพราะอะไรเพราะกูรู้แล้วว่าคนที่หัวใจกูต้องการคือมึง
กูฝืนความรู้สึกตัวเองทนคบกับมึงในฐานะเพื่อนเพื่อที่
กูจะได้ใกล้ชิดมึงเพื่อรอว่าเมื่อไหร่ที่มึงผิดหวังจากโชนแล้วกูจะได้เอ่ยเปิดใจ
มึงไม่รู้ตัวหรอกว่ามึงให้ความหวังกูด้วยการนำปัญหาที่โชนเหินห่างมึงมาปรึกษากู
กูรอฟังว่าเมื่อไหร่มึงจะตัดใจจากโชน เพื่อที่กูจะได้พูดว่ากูรักมึงได้เต็มปาก
แต่จนแล้วจนรอด มึงก็ไม่ยอมตัดใจ หนึ่งปี สองปี สามปี โชนห่างเหินมึงขนาดไหน
มึงก็ยังเฝ้าซื่อสัตย์ในความรักของมึง มึงไม่เคยเปิดใจมองเลยว่าตลอดเวลาที่คบกัน
กูพยายามทำดีเพื่อมึงแค่ไหน กูไม่เคยทำอาหารให้ใครกินกูก็แอบไปฝึกเรียนเพื่อมาทำให้มึงกิน
กูไม่เอาใจใครด้วยการตื่นแต่เช้ามาเพื่อบีบยาสีฟันให้ใคร
กูก็ทำให้มึงเพียงคนเดียว กูไม่เคยคิดจะซักผ้าให้ใคร
แม้แต่เสื้อผ้ากูเองก็ก็ยังส่งเขาซัก แต่เสื้อผ้ามึงทุกตัวที่มึงทิ้งไว้ยังห้องกู
กูยอมซักให้มึงด้วยความเต็มใจ กูไม่รู้หรอกว่ามึงจะคิดเหมือนกูมั้ยว่าการทำอะไรๆ
ให้คนที่หัวใจแอบรัก มันทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น สิ่งเหล่านั้นที่กูทำให้มึงมันออกมาจากหัวใจกูจริงๆ
แต่กูแสดงออกหรือบอกมึงไปเท่าไหร่มึงก็คงไม่เข้าใจ
เพราะภาพกูในสายตามึงคือกูมันเป็นคนเจ้าชู้ ส่ำส่อน นอนกับใครไม่เลือก
แต่มึงรู้อะไรมั้ยว่าภาพคนไม่เอาไหนแบบนั้นของกูที่ฝังอยู่ในจินตนาการของมึง
มันไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของกูเลยสักนิด
มึงจะเถียงว่าการที่มึงต้องคิดไปแบบนั้นเพราะกูแสดงออกมาให้มึงเห็นเองก็ไม่ผิด
แต่กูจำเป็นต้องแกล้งแสดงออกให้มึงเห็นแบบนั้น
เพราะเห็นว่ามึงมีคนที่มึงกำลังคบกำลังคุยอย่างโชน
กูเจ็บปวดทุกครั้งที่มึงเอาเรื่องโชนมาปรึกษากู
กูน้อยใจทุกครั้งที่มึงเคว้งจากโชนแล้วค่อยคิดถึงกู
แต่ในความน้อยใจของกูก็เต็มใจที่จะอ้าแขนรับมึงทุกยามทุกเวลา
ในตอนนี้เมื่อเราต้องห่างกันแล้วกูขอบอกมึงเอาไว้ตรงนี้ว่า
เรื่องจริงของกูก็คือเกิดมากูไม่เคยนอนกับใคร
ไม่เคยกอดกับใคร ไม่เคยจูบกับใคร มึงเป็นคนแรกที่กูกอดด้วย จูบด้วย ยอมเสี่ยงตายด้วย
มึงคงคิดอยู่ใช่มั้ยว่ากูยอมเสี่ยงตายเพื่อมึงตอนไหน
มึงจำวันที่เราไปกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันได้มั้ย มึงไม่ชอบลูกชิ้นกุ้ง
มึงบ่นที่เห็นลูกชิ้นกุ้งเต็มชามมึงทั้งๆ ที่มึงบอกเขาแล้วว่าไม่เอา
วันนั้นล่ะที่กูยอมเสี่ยงตายกินเพื่อมึง เพราะแท้จริงแล้วกูเป็นคนแพ้กุ้ง
แล้วที่กูรีบหนีจากมึงตอนกินเสร็จกูไม่ได้นัดใคร กูอยากอยู่ต่อกับมึงใจจะขาด
แต่กูอยู่ไม่ได้เพราะกูเริ่มมีอาการแพ้จนเริ่มจะหายใจไม่ออก
กูฝืนยืนพูดกับมึงเพื่อให้สบายใจ
กูเกือบขับรถไม่ไหวกว่าจะไปถึงโรงพยาบาลเพื่อให้หมอฉีดยาแก้แพ้ให้กับกู
กูสลบอยู่ที่โรงพยาบาลจนเกือบจะถึงตีสอง
รู้สึกตัวกูก็โทรหามึงเป็นคนแรก แต่มึงก็ยังเสือกคิดว่ากูอยู่ในผับในบาร์

แล้วในวันที่กูพามึงไปส่งที่ห้องหลังว่ายน้ำกัน เพลงที่เปิดในรถกู
มึงถามกูว่าเพลงหวานขนาดนั้นกูฟังได้ด้วยเหรอ
คำตอบคือกูไม่เคยฟัง แต่กูอยากส่งผ่านเนื้อหาให้มึงซึมซับว่าแท้จริงแล้วกูรู้สึกยังไงกับมึง
แต่สุดท้ายมันก็เข้าไม่ถึงใจมึงจนได้ มึงยังเฝ้าคิดถึงโชน
กูถึงต้องอ้างว่ากูอยากให้มึงสื่อเพลงนั้นถึงโชน
ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วมันเป็นเพลงที่กูต้องการเลือกเปิดให้มึงฟัง
จากคนที่แอบรักมึงมาตลอดอย่างกู ในวันที่มึงงอแงโกรธกู หนีหน้ากูที่ฟิตเนส
ที่กูขอเข้าไปช้าเพราะอ้างว่าต้องเข้าบ้าน แท้จริงแล้วกูติดงาน
กูเป็นคนมีงานทำเป็นที่ฟรีแลนด์ที่ปรึกษาวางโครงสร้างทางการตลาดให้กับบริษัทเอกชนในหลายที่
กูไม่ได้อยู่อย่างเลื่อนลอยอย่างที่มึงเข้าใจ
แต่กูไม่รู้จะบอกมึงตอนไหน และเพื่ออะไร ในเมื่อกูไม่ใช่คนที่อยู่ในสายตามึง

วันนั้นกูติดประชุมด่วน เลิกเสร็จกูก็รีบตามเข้ามา เพื่อมาหามึง
แต่มึงเจอกับซีก่อนกู มึงหนีหน้ากู ไม่คุยกับกู
มึงบอกว่านัดกับกับโชน กูควรโกรธมั้ยทั้งๆ ที่กูรีบมาแทบตายแต่มึงก็เอาแต่งอแงใส่กู
กูเอาใจซีหวังเพื่อประชดมึงบ้าง แต่สุดท้ายกูก็ทำไม่ลง
วันนั้นมึงหนีกลับออกจากฟิตเนสก่อนกูก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม
กูไม่ได้อยากอยู่ใกล้ซี กูหนีซีออกมา ซีไม่ได้เจอคนรู้จักแล้วหนีกูไป
กูไม่ได้คิดอะไรกับซี เหมือนวันแรกที่กูเข้าหาซีเพราะอยากทดสอบใจมึงบ้างว่ามึงจะหึงกูมั้ย
แต่มึงก็ไม่ได้รู้สึกอะไร มึงคิดจะกลับ กูก็คิดผละหนีจากซีเหมือนกัน
กูหวงกูรักมึงแค่ไหนมึงไม่รู้หรอก วันนั้นมึงถอดเสื้อคิดจะอาบน้ำ
กูหวั่นไหวต่อสายตาคนที่มองมึงมาจึงพาลคิดว่ามึงอยากโชว์หุ่นให้ใครเขามอง
พยายามส่งสายตาหึงหวงให้มึงแล้ว แต่มึงก็ไม่ได้รู้สึกตอบรับอะไรกลับมาเลย

ในวันที่มึงไม่สบาย กูอยากดูแลมึง แต่มึงต่อต้านกูท่าเดียว
จนกูต้องบอกให้มึงนอนหลับ เพื่อที่กูจะได้ขับรถพามึงไปโรงพยาบาลได้โดยที่มึงไม่ขัดใจกู
แต่มันก็ดันตลกที่เหมือนกูพามึงไปเจอโชนที่นั่น
มึงรู้มั้ยว่ากูปวดใจแค่ไหนที่ต้องหลบไปนั่งมองมึงกับโชนคุยหยอกล้อกัน
กูจำใจพูดประชดมึงเพราะคิดว่ามึงคงเห็นโชนดีกว่ากู
และอยู่ดูแลมึงในฐานะแฟนตัวจริงของมึง
กูไม่ได้คิดจะทิ้งมึง กูเพียงเดินออกไปที่รถเพื่อไม่ให้มึงเห็นว่ากูเองก็น้อยใจเสียใจ น้ำตาไหลเป็น
กูรีบเดินกลับเข้ามาหามึงตอนที่กูเห็นโชนเดินออกไปจากโรงพยาบาลพร้อมใครที่กูไม่รู้จัก

ตอนกูไปส่งมึงที่ห้องหลังออกจากโรงพยาบาล การที่กูเลยเถิดกับมึงตอนที่เราจูบกัน
เพราะกูห้ามใจกูไม่ไหวจริงๆ และกูก็คิดแล้วว่ามึงกับโชนคงไปกันไม่รอด
เพราะขนาดมึงไม่สบายแต่โชนก็กลับหนีหายไปจากมึง
แต่มึงก็ปฏิเสธกู ทั้งๆ ที่การแสดงออกออกมึงมันชัดอยู่ว่ามึงต้องการกู
กูเสียใจ น้อยใจเพราะคิดว่ามึงคงยังรู้สึกผิดกับโชนที่เหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรมึงเลย
แล้วที่กูไม่ยอมเข้าใกล้มึงอีกเพราะกูกลัวกูห้ามใจตัวเองไม่ไหว
กูอยากให้ครั้งแรกของมึงกับกูมันเกิดขึ้นด้วยความรู้สึกโหยหากันจริงๆ
เหมือนเช่นตอนแรกที่มึงไม่ขัดขืนกู แล้วตอนนั้นลูกค้าก็ส่งไลน์มาปรึกษาเรื่องงานพอดี
กูจึงแยกไปคุยงานอยู่เป็นนาน มึงขอร้องให้กูหยุดคุย แต่กูยังสรุปงานกับลูกค้าไม่ได้
กูเลยคิดกลับไปคุยที่คอนโดต่อ เพราะขืนกูคุยอยู่ห้องมึง มึงก็คงจะไม่ได้นอนพัก
แต่กูไม่รู้จะบอกมึงยังไง เพราะในความเข้าใจของมึงกูมันก็แค่คนว่างงาน
กูเลยเอ่ยพาลๆ กับมึงไปแบบนั้น อีกอย่างเรื่องกูทำงานหรือไม่ทำงานก็ไม่น่าจะมีผลอะไรในสายตามึงเท่าไหร่
เพราะในใจมึงเฝ้ารอแต่โชนอยู่ตลอดเวลา กูเลยไม่คิดจะบอกมึงเรื่องนี้

เงินค่ารักษาพยาบาลแม่ที่กูบอกว่าเป็นเงินเก็บระหว่างเรียนของกู
จริงๆ แล้วส่วนหนึ่งมันคือเงินเก็บจากการทำงานของกู
กูคงไม่บอกมึงหรอกว่าเท่าไหร่ เพราะกูไม่คิดเอาคืน
เงินนั่นกูฝากน้าเนียมจัดการ น้าเนียมคอยแจ้งข่าวแม่กับกูตลอดเวลา
กูไม่ได้ละเลยแม่อย่างที่มึงเข้าใจ เรื่องที่แม่เสีย น้าเนียมเองก็เพิ่งจะแจ้งกูในวันที่สอง
เพราะวันแรกน้าเนียมบอกไม่เห็นกูมา ที่น้าเนียมแจ้งกูวันที่สองเพราะคิดว่าวันแรกมึงจะแจ้งกูมา
ถึงตรงนี้กูคงไม่ต้องบอกอะไรมึงอีก เพราะไม่แน่ว่ามึงจะอ่านถึงบรรทัดนี้หรือเปล่า
และถึงแม้มึงอ่านจบถึงก็อาจจะคิดว่ากูแต่งเรื่องโกหกมึงอยู่ก็สุดแล้วแต่มึงจะคิด
แต่กูขอยืนยันว่าข้อความที่กูพิมพ์ส่งมาให้มึงทั้งหมดนี้
กูพิมพ์มันออกมาด้วยหัวใจของคนที่รักและหวังดีกับมึงจริงๆ

รักษาตัวรักษาใจ วันใดวันหนึ่งใจกูกับใจมึงอาจได้ใกล้กันมากกว่าที่เราเป็นตอนนี้
แม้มันอาจเป็นไปได้ยากแล้วก็ตามที รักมึงนะ

น้ำตาผมไหลไม่หยุดตอนที่ได้อ่านทุกตัวอักษรที่ธันว์มันส่งมา
นึกย้อนเหตุการณ์ต่างๆ ก็รู้สึกเสียใจไม่น้อยที่ไม่ยอมเปิดใจคุยกับธันว์มัน
ตั้งแต่ต้นตอนผมกับโชนตกลงจะเลิกคบกัน
หากวันนั้นผมเอ่ย ผมพูดอะไรออกไปตามความรู้สึกแท้จริงของตัวเอง
ผมกับธันว์อาจจะไม่เดินมาถึงในจุดนี้
จุดที่เส้นขนานเกิดขึ้นระหว่างใจผมกับใจมัน

ลางสังหรณ์อะไรบางอย่างทำให้ผมรีบลุกวิ่งออกจากห้องเพื่อไปหาน้าเนียม
เจอหน้าน้าผมตัดสินใจถามทันที

“น้าเนียมครับ บอกไนท์ได้มั้ยว่าธันว์มันจ่ายค่ารักษาแม่ไปเท่าไหร่”

น้าเนียมมองหน้าผม เอ่ยบอกตัวเลขผมมา ทำเอาผมตัวชา

“ก้อนแรก 3 แสน แล้วก็ติดต่อโอนมาให้อยู่เรื่อยๆ รวมๆ
น่าจะราวๆ อีก 2 แสนกว่าๆ ก่อนแม่ไนท์จะเสีย
น้ายังไม่มีเวลาดูตัวเลขจริงๆ จังๆ แต่รวมแล้วๆ
ไม่ต่ำกว่า 5 แสนแล้วล่ะที่ธันว์เขาช่วยแม่ไนท์เอาไว้ 
คิดว่ารอเสร็จงานศพแม่ไนท์ถึงจะพูดคุยหารือกับพี่น้องคนอื่นๆ
ว่าจะคืนธันว์เขายังไง นี่ไนท์ไม่รู้เรื่องนี้เหรอ
ไหนธันว์บอกน้าว่าคุยกับไนท์เรื่องนี้ไปแล้วไงตอนน้าปฏิเสธจะไม่รับ
เพราะมันมากไป กลัวใช้คืนไม่ไหว เพราะในอนาคตธันว์เขาบอกว่าจะโอนมาช่วยอีกเรื่อยๆ
เรื่องใช้คืนอย่าเพิ่งพูดถึง ตอนนี้ขอแค่ให้แม่ไนท์หายหรือไม่โคม่าก็พอ
แล้วเมื่อกี้ทะเลาะอะไรกันมาหรือเปล่า ธันว์ถึงได้เดินตาแดงออกมาแล้วกลับกรุงเทพฯ
ไปแบบนั้น น้าถามก็บอกว่าที่บ้านมีปัญหาให้กลับไปจัดการ
ซึ่งน้าคิดว่าไม่น่าใช่ แต่น้าก็ไม่อยากเซ้าซี้อะไรมาก
ที่ผ่านมาธันว์เขามีน้ำใจช่วยค่าฟอกไตแม่ไนท์มากจนเกินที่น้าจะเรียกให้เขาอยู่ร่วมงานเผาแม่ไนท์ได้อีก
แม้จะอดเป็นห่วงเขาอยู่ว่าขับรถกลางค่ำกลางคืนมันอันตรายนักก็เถอะ
แล้วนี่ไนท์ก็เหมือนจะร้องไห้มาด้วยนี่ นี่เพราะทะเลาะกับธันว์เขาหรือคิดถึงแม่น่ะเรา”

หลังน้าเนียมพูดจบผมใจกระตุกอย่างประหลาด
นึกถึงถ้อยคำที่ธันว์มันส่งมาระบายความในใจต่างๆ ให้ผมรับรู้
คิดว่าตอนนี้จิตใจมันคงไม่ปกติเท่าไหร่ แล้วมันต้องขับรถทางไกลในยามค่ำคืนแบบนี้
มันไม่น่าใช่เรื่องดีแน่ นี่มันจะขับไปไกลหรือยังนะ
ถ้าผมจะติดต่อขอร้องให้มันกลับมาหาผมตอนนี้มันจะมามั้ย ขอให้ธันว์มันเชื่อผมอีกสักครั้งเถอะ

ผมแยกตัวออกมาจากน้าเนียม รีบติดต่อหาธันว์ทันที
ในความรู้สึกตอนนี้นึกห่วงมันสุดหัวใจ
ถ้าหากคืนนี้มันกลับมาหาผม
ผมพร้อมที่จะเปิดใจคุยกับมันทุกเรื่องที่มันไม่รู้เกี่ยวกับผมเช่นกัน

ผมใจหายอยู่ไม่สุขเมื่อผมติดต่อไปหาธันว์
แต่ไร้ซึ่งสัญญาณจากปลายสาย นี่ธันว์มันไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย
ในใจผมครุ่นคิด ธันว์มันคงแค่ปิดเครื่องหนีผม

ใช่ มันคงแค่น้อยใจและเสียใจในการกระทำและคำพูดที่ผ่านมาของผม
มันคงแค่อยากพักหัวใจระหว่างขับรถ มันคงไม่ได้เป็นอะไร

แม่ หากแม่ได้ยินไนท์ แม่ช่วยดูแลคุ้มครองให้ธันว์มันปลอดภัยในท้องถนนจนผ่านค่ำคืนนี้ไปได้ทีนะ

ผมภาวนาขอให้แม่ผมตามคุ้มครองธันว์ในตอนที่จิตใจผมเริ่มว้าวุ่น
เป็นห่วงว่าที่สัญญาณโทรศัพท์จากธันว์ขาดหายไปเกิดจากที่ธันว์มันปิดเครื่องเอง
หรือเพราะว่าธันว์มันประสบสิ่งใดขณะขับรถทางไกลในตอนมืดที่จิตใจไม่เป็นปกติ

ออฟไลน์ Bboyseries

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • เพจนิยาย Bboyseries
คืนทั้งคืนผมนอนไม่หลับ เพราะเฝ้าติดต่อธันว์ไป แต่ติดต่อไปยังไงก็ไม่สามารถติดต่อได้
ผมไร้หนทางที่จะรับรู้ความเป็นไปของธันว์เสียสนิท
เมื่อผมไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวมันเลย
เพื่อนมัน ครอบครัวมันเป็นใครกันบ้าง ผมไม่ได้รู้จักใครเลยสักคน

เช้าวันต่อมา ซึ่งเป็นวันเผาศพของแม่
ผมพาร่างอิดโรยเพราะไม่ได้นอนมาช่วยญาติๆ จัดเตรียมงาน
ผมพยายามตัดธันว์ออกไปในห้วงความคิด
เพราะช่วงเวลานี้ทั้งผมและญาติๆ ต่างตกอยู่ในภาวะความเศร้าโศกเสียใจกันอีกครั้ง

โชน ไอซ์ ต้าร์ มาร่วมงานตามสัญญา สายตาผมมองหาใครบางคน
ซึ่งนั่นก็คือธันว์ ผมแอบมีความหวังว่าธันว์มันจะมาร่วมงาน
แต่ว่างเปล่า ณ ตอนนี้ ไม่มีเงาของธันว์โผล่มาให้ผมเห็นเลย
และตั้งแต่เมื่อคืนจนป่านนี้ผมก็ยังติดต่อมันไม่ได้
จนงานดำเนินมาถึงในช่วงเวลาจะนำร่างแม่ผมขึ้นเมรุเผา
ผมแยกตัวตัวออกมายืนเงียบๆ ความรู้สึกทั้งห่วงหาถึงแม่และเสียใจเรื่องธันว์พัดผ่านเข้าสู่กลางใจผม
จนผมทำให้ผมน้ำตาไหลได้อีกครั้ง เป็นน้าเนียมเองที่เดินมาปลอบผม

“แม่ไนท์เขาหมดเวรหมดกรรมแล้ว ทำใจเถอะนะไนท์ ชีวิตยังต้องเดินไปข้างหน้า
อย่าทำให้แม่ต้องห่วงนะ ต่อไปแม้แม่ไม่อยู่แต่น้าและพวกญาติๆ ก็ยังอยู่
ที่นี่ยังเป็นบ้านของไนท์อยู่เช่นเดิม พวกเราจะดูแลไนท์ตามที่แม่ไนท์ขอไว้นะ”

“ครับน้าเนียม” ผมบอกน้าเนียมทั้งน้ำตา ก่อนที่น้าเนียมจะเอ่ยถึงธันว์ให้ใจผมต้องกระตุกขึ้นมาใหม่

“จนป่านนี้ธันว์ไม่น่าจะมาแล้วเนอะ ตอนแรกน้าก็แอบหวังนะว่า
เขาจะมาส่งแม่ไนท์เป็นครั้งสุดท้ายในฐานะที่เขาเป็น
คนออกค่ารักษาแม่ไนท์มากที่เพียงสุดคนเดียว”

“จากนี้ไปธันว์มันคงไม่ได้มาที่บ้านเราแล้วล่ะครับน้าเนียม”
ผมเอ่ยออกมา น้าเนียมทำหน้าแปลกใจถามถึงสาเหตุ
ผมถึงยอมบอกว่าเมื่อคืนผมกับธันว์
เอ่ยตัดขาดความสัมพันธ์จากกันและกันจนธันว์มันต้องหนีกลับกรุงเทพฯ ไป

“น้าว่าละ เฮ้อ เพื่อนดีๆ สักคนที่คอยช่วยเหลือเราในยามลำบากใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ นะไนท์
ไนท์เองก็ไม่น่าจะใจร้อนอะไรใส่ธันว์เขาเลย” น้าเนียมเอ่ยว่าหลังฟังผมเล่าเรื่องราวจบ
ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาต่อธันว์อีกครั้ง
ตั้งใจว่าหลังจากเสร็จธุระในเรื่องงานศพแม่
ผมจะต้องหาทางติดต่อหาธันว์เพื่อคุยกับมันอย่างเปิดใจในทุกเรื่องให้ได้

“ไนท์พลาดไปแล้วครับน้าเนียม
ก่อนหน้านั้นไนท์ไม่เคยรู้เลยว่าธันว์มันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของไนท์
ไนท์เอาแต่ใจตัวเองเป็นหลัก
ไนท์เอาแต่หวาดกลัวกับสิ่งที่คิดไปเองจนมองไม่เห็นว่าธันว์มันทำอะไรเพื่อไนท์มากแค่ไหน
ธันว์มันอยู่ใกล้ไนท์มากกว่าใคร แต่ไนท์ก็ทำตัวให้มันรู้สึกว่ามันอยู่ไกลไนท์มากกว่าคนอื่น
ที่ผ่านมาธันว์มันพยายามเข้าใกล้ไนท์ตลอด
แต่ไนท์เองที่ทำตัวให้มันต้องไกลออกไปเอง
หากไนท์มีโอกาสไนท์ก็อยากจะขอโทษธันว์มัน
แต่ก็ไม่รู้มันจะรับฟังไนท์บ้างหรือเปล่า
เพราะจากเหตุการณ์เมื่อคืนมันคงเหนื่อยกับไนท์มากจนมันอาจจะหนีหายไปจากไนท์ไม่ให้ไนท์ติดต่อได้แล้วก็ได้
เพราะจนป่านนี้ไนท์ยังติดต่อมันไม่ได้เลย ไม่รู้ว่ามันจะขับรถถึงบ้านอย่างปลอดภัย
หรือเป็นอะไรไปอย่างที่ไนท์ไม่อยากให้เป็น”

ถึงตอนนี้ผมรู้สึกสะท้อนใจจนน้ำตาพาลจะไหลลงอีกครั้ง
แต่ดีที่น้าเนียมช่วยปลอบใจไม่ให้ผมคิดมาก

วันนี้ ตอนนี้ ควรให้ผมหน้าที่ลูกที่ดีร่วมส่งวิญญาณแม่ขึ้นสวรรค์ด้วยจิตใจปล่อยวางไปก่อน
หลังจากนั้นน้าเนียมจะหาทางช่วยติดตามหาตัวธันว์อีกแรง
เพราะยังมีภาระการใช้คืนเงินค่ารักษาแม่ให้กับธันว์

น้าเนียมพาผมกลับเข้าไปหาญาติๆ เมื่อพิธีเผาศพแม่กำลังจะเริ่มขึ้น
โชน ไอซ์ ต้าร์ เข้ามาอยู่ข้างๆ ผม ทุกคนร่วมปลอบใจผมในตอนที่
ผมเผลอร้องไห้ออกมาอีกครั้งขณะร่วมพิธีเผาศพของแม่จนนาทีสุดท้าย
ทั้งหมดช่วยให้ผมไม่ต้องฟูมฟายมากนัก
จนงานผ่านลุล่วงไปด้วยดี สามคนเดินทางกลับหลังเสร็จงานเช่นเคย
โดยที่ผมเดินออกมาส่งทั้งสามยังลานจอดรถหน้าวัด
เมื่อทั้งหมดหายขึ้นรถและขับออกไปกันหมดแล้ว
น้าเนียมจึงตามมาพูดคุยกับผมอีก

“เหนื่อยมั้ยไนท์ อีกนิดนะ ทำหน้าที่ลูกที่ดีเพื่อแม่จนเสร็จ
แล้วเราค่อยหาทางติดต่อธันว์กันนะวันนี้ไนท์กลับไปพักเถอะ
แลดูล้ามาทั้งวัน พรุ่งนี้เช้าเรายังต้องมาเก็บกระดูกแม่ไนท์กันอีก
ไม่แน่ พรุ่งนี้เราอาจติดต่อธันว์ได้แล้วก็ได้”

ผมยิ้มจางๆ ให้น้าเนียม ตั้งใจเอาว่าจะอยู่ที่บ้านช่วยธุระเรื่องงานศพแม่
จนเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้วค่อยกลับไปทำงาน
ซึ่งก็น่าจะครบเจ็ดวันที่ผมกลับมาอยู่ที่บ้านนี้พอดี

เช้าวันใหม่ ผมยังติดต่อธันว์ไม่ได้อีกเช่นเคย
ถามน้าเนียม น้าเนียมเองก็เริ่มมีสีหน้ากังวลว่าปกติธันว์ไม่ได้หายไปเลยแบบนี้
แล้วอย่างนี้ ทางครอบครัวจะติดต่อขอคืนเงินยังไง
แม้ไม่ได้คืนทั้งหมดในคราวเดียว แต่ก็อยากพูดคุยเอาไว้เพื่อหาทางผ่อนชำระเป็นงวดๆ ไป
การที่ธันว์หนีหายไปแบบนี้ สร้างความไม่สบายใจได้อยู่ไม่น้อย

“เดี๋ยวพอไนท์กลับไปทำงาน ไนท์จะไปตามหามันในที่ที่คิดว่าธันว์มันไปประจำนะครับน้าเนียม
ไนท์ว่าไนท์อาจจะเจอมันที่นั่น น้าเนียมอย่าเพิ่งคิดอะไรมากนะครับ
เดี๋ยวพอไนท์เจอมัน ไนท์จะให้มันติดต่อมาหาน้าเนียมเอง
ส่วนไนท์เอง หากมันไม่อยากติดต่อพูดคุยด้วยอีกไนท์ก็คงต้องรับสภาพไป”
ผมยิ้มเศร้าๆ บอกน้าเนียม น้าเนียมยกมือขึ้นตบบ่าผมเหมือนให้กำลังใจ

หลังเสร็จงานศพของแม่ทุกขั้นตอน ผมเดินทางกลับเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง
ธันว์ยังไร้ซึ่งการติดต่อกลับมา ผมติดต่อไปก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน

วันแรกของการทำงานผ่านพ้นจากเช้าจรดเย็น
ผมไม่รอช้าที่จะเดินทางไปยังฟิตเนสที่ประจำของผมกับธันว์
หากไม่เจอมันค่อยคิดตามหามันที่คอนโดอีกที ผมไม่ได้เป็นสมาชิกที่นั่นแล้ว
ผมจึงได้แค่เฝ้ารอยังทางเข้าออก หวังเพียงจะเจอกับธันว์มัน

ในระหว่างรอ ผมเฝ้าครุ่นคิดถึงเรื่องราวมากมายที่ผมกับธันว์เคยผูกผันสานก่อกันในที่แห่งนี้
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และถ้อยคำหยอกเหย้าต่างๆ ของธันว์ผุดขึ้นในมโนภาพผมเป็นฉากๆ
นับจากวันที่สุดท้ายที่ผมติดต่อธันว์มันไม่ได้ระยะเวลาก็ไม่ได้ยาวนานอะไร
แต่ทำไมจิตใจผมตอนนี้ถึงคิดว่ามันนานเหลือเกินจัง
หรือผมกำลังคิดถึงมันจนยากจะควบคุมใจตัวเองได้แล้ว

เวลาผ่านไป หลายต่อหลายคนเดินผ่านหน้าผมไป ทั้งคนที่ผมรู้จัก
และไม่รู้จัก ทั้งได้ทักทายกันบ้าง ทั้งได้แค่มองกันเฉยๆ
แต่ในคนกลุ่มนั้นไม่มีร่างของธันว์ผ่านตามาให้ผมเห็นเลย
จนผมคิดจะไปหามันที่คอนโด แต่แล้วก็เป็นซีที่เข้ามาทักผมในตอนที่ผมกำลังจะออกเดิน

“พี่ไนท์ มายืนทำไมตรงนี้ครับ ทำไมไม่เข้าไปในยิม
แล้วพี่ไนท์หายไปไหนมาเหรอครับ ไม่เจอหลายวันเลย”
ซีถามผม ผมตอบคำถามซีไปว่ากลับบ้านยังต่างจังหวัด
และตอนนี้กลับมารอเจอธันว์ ผมบอกซีว่าไม่อยากเข้าไปข้างใน
เพราะผมยกเลิกสัญญาการเป็นสมาชิกไปแล้ว

ซีมองหน้าผมนิ่ง สักพักสิ่งจึงเอ่ยออกมาทำให้ผมตัวชา ใจกระตุก

“ถึงว่าซีไม่เห็นพี่ไนท์ในงานพี่ธันว์”

“งานธันว์ งานอะไร” ผมถาม รู้สึกใจสั่น ก่อนจะนิ่งงันไปชั่วอึดใจในคำตอบที่ซีตอบกลับมา

“งานศพพี่ธันว์ครับ พี่ธันว์รถคว่ำตายขณะขับรถกลับจากจันทบุรี
ถ้าจะให้ซีเดา น่าจะเป็นคืนที่พี่ธันว์กลับจากงานศพแม่พี่ไนท์หรือเปล่า
เพราะพี่ไนท์เคยบอกว่าพี่ไนท์อยู่จันทบุรี”

ผมตัวเซ เกือบจะล้มทั้งยืน โชคดีที่ซีเข้ายึดร่างผมเอาไว้
ก่อนจะพาผมไปหาที่นั่งเพื่อพูดคุย

“นายไม่ได้หลอกพี่ใช่มั้ยซีว่าไอ้ธันว์มันตายแล้ว”
ผมถามซีทั้งน้ำตา ซีพยักหน้ารับเศร้าๆ เอ่ยบอก

“ซีเองก็อยากให้มันเป็นเรื่องโกหกเหมือนกัน
พี่ธันว์ไม่น่าจากไปเร็วแบบนี้ พี่เขาเป็นคนดีคนหนึ่งที่ซีเคยรู้จัก
แต่เวลาที่ซีได้รู้จักและพูดคุยกับเขาไม่น่ามาจบลงเร็วแบบนี้
หากเลือกได้ ซียังพอทำใจง่ายกว่า หากซีกับพี่ธันว์ยุติการพูดคุยกันด้วยเหตุผลว่า
พี่ธันว์บอกว่าคนที่พี่ธันว์รักคือพี่ไนท์
อย่างน้อยๆ ซีก็อาจจะยังพอมีเวลาได้เห็นหน้า
ได้ยินเสียงพี่เขาบ้าง แต่นี่เล่นตายจากกันไปแบบนี้ ซีคิดว่ามันโหดร้ายต่อความรู้สึกซีเกินไป”

ออฟไลน์ Bboyseries

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • เพจนิยาย Bboyseries
ซีอธิบายต่อย่างยืดยาวอีก ถึงเรื่องราวที่เจ้าตัวแอบหลงรักธันว์ตั้งแต่พบเจอธันว์ยังฟิตเนสในวันแรก

ในวันนั้นไม่ได้คิดว่าธันว์จะเข้าหาตัวเองด้วยซ้ำ
เพราะเห็นว่าธันว์คอยคลอเคลียอยู่ข้างผมไม่ห่าง
ยังแอบคิดอยู่ว่าผมกับธันว์น่าจะเป็นแฟนกัน แต่พอธันว์มาแสดงออกว่าสนใจ
ก็ทำให้คิดเข้าข้างตัวเองว่าธันว์น่าจะมีใจให้ตนจริงๆ
แต่แล้วก็ต้องผิดหวังในตอนที่ธันว์ผละหนีจากและเดินตามผมไปยังห้องล็อกเกอร์

ในวันนั้นก็คิดทำใจเอาไว้แล้วว่าธันว์น่าจะรู้สึกกับผมมากกว่าคำว่าเพื่อน
จึงไม่ได้ตามตอแยอะไร แต่พอมาวันหลังที่เห็นธันว์มาเล่นฟิตเนสคนเดียว
จึงลองเข้าไปทำความรู้จักอีก เห็นธันว์พูดจาดีด้วยจึงแอบมีความหวังขึ้นมาใหม่
ซีสารภาพว่าแอบใกล้ชิดธันว์โดยร้องขอให้ธันว์ช่วยสอนเครื่องเล่นในฟิตเนสแห่งนั้นให้หลายตัว
รู้สึกละอายอยู่หลายครั้งที่ชิดร่างกับธันว์มากเกินไปแล้วธันว์บอกว่าอย่าทำแบบนี้
โดยบอกว่าที่ธันว์ยอมสอนเครื่องเล่นเพราะเห็นซีในฐานะแค่เป็นน้องใหม่ในยิม

ซีบอกตอนนั้นหลุดปากแซวว่ากลัวมีใครนำเรื่องมาฟ้องผมเหรอ
ธันว์บอกว่าไม่ได้กลัวใครฟ้อง แต่ธันว์มันเกรงใจผมเอง
ซีเลยถามกลับว่าผมกับธันว์ตกลงคบกันในฐานะอะไร
ธันว์บอกซีตามตรงในวันนั้นว่าธันว์มันชอบผม
แต่ผมมีคนคุยแล้วนั่นก็คือโชน แต่ความสัมพันธ์ยังไม่ชัดเจน
และหากซีอยากพัฒนากับมัน ก็ควรรอให้ผมกับโชนชัดเจนกันซะก่อน
ธันว์เองมันจะได้ทำใจยอมรับสภาพว่ามันคงคบผมได้ในฐานะแค่เพื่อน
ซีบอกว่าซีรับฟังในตอนนั้น แต่ยิ่งอยู่ใกล้ธันว์มากเท่าไหร่
ก็ยิ่งห้ามใจไม่ให้หลงชอบธันว์มันไม่ได้ ซีสารภาพว่าเคยทำเรื่องน่าอาย
โดยแกล้งโทรศัพท์คุยกับธันว์ให้ผมได้ยินในตอนที่เห็นผมในฟิตเนสเพียงลำพัง
ทั้งๆ ที่วันนั้นธันว์ไม่ได้อยู่ในสายเลย แต่ที่ทำไปหวังเพียงให้ผมกับธันว์ผิดใจกัน
เพื่อที่ธันว์จะได้ตัดใจจากผมได้ง่ายๆ ลุ้นในใจแทบตายว่าผมจะโทรศัพท์ไปเคลียร์กับธันว์มันตรงๆ หรือเปล่า
แต่สุดท้าย ผมก็ไม่ทำ ในตอนนั้นแม้จะรู้สึกละอาย
แต่เรื่องของหัวใจมันไม่เข้าใครออกใคร ซีบอกว่าธันว์ทำให้ตนนึกรักนึกชอบจนอยากจะครอบครอง

ในทุกๆ ครั้งที่ผมเห็นธันว์อยู่กับซี ซีบอกว่าธันว์ไม่ใช่คนโทรนัดซี
แต่เป็นซีเองที่ตามตื้ออยากเจอธันว์ แต่ทุกครั้งที่ผมตามมาเจอ
ธันว์ก็เลือกที่จะตามผมไปอย่างไม่ลังเล มีเพียงครั้งล่าสุดที่ซีสามารถตามธันว์ไปยังคอนโดได้

ซีบอกว่าไม่รู้ว่าผมมีปัญหาอะไรกันกับธันว์ แต่นั่นก็ไม่ได้นึกสนใจเท่ากับดีใจที่ปัญหานั่นทำให้
ซีเข้าใกล้ธันว์ได้มากกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านๆ มา วันนั้น ซีบอกทำเรื่องน่าละอายอีกครั้ง
ตอนรู้ว่าผมโทรเข้าไปหาธันว์ จึงแกล้งพูดคุยกับธันว์เสียงดัง
หวังให้ผมได้ยินเสียงว่าตัวเองกำลังอยู่กับธันว์ยังคอนโด

ซีบอกแอบดีใจที่วันนั้นได้ยินธันว์เอ่ยตัดขาดความสัมพันธ์กับผม
แต่แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อหลังวางสายไป ธันว์เอาแต่นั่งร้องไห้ฟูมฟาย
เอ่ยระบายว่าตัวมันไม่ดีตรงไหน ทำไมผมถึงไม่ยอมเลิกรากับโชนซึ่งดูจะไม่สนใจผมเลย
แล้วเปิดใจให้มันลองเข้ามายืนแทนที่โชน
จากถ้อยคำที่ธันว์มันระบายออกมาทั้งหมดทำให้ซีรู้ว่าไม่มีทางไหนเลย
ที่ธันว์จะลืมผมได้ คืนนั้นจึงคิดจะตัดใจจากธันว์ และเอ่ยแนะนำให้ธันว์อย่าเพิ่งท้อในตัวผม
ซีเชื่อว่าในความดีของธันว์ที่ทำให้กับผม น่าจะทำให้ผมลืมโชนแล้วมาคบกับธันว์ในสักวัน
แต่มันก็น่าเสียดายที่วันนี้ธันว์ไม่มีโอกาสได้เฝ้ารอที่จะได้หัวใจผมแล้ว
ซีบอกว่าที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ ธันว์จากไปอย่างไม่มีวันกลับโดยไร้ซึ่ง
คนที่มันรักสุดหัวใจอย่างผมมาเอ่ยร่ำลากับมันเลยสักวินาที

“ซีต้องขอโทษที่ไนท์ด้วยนะที่ซีเคยคิดจะเข้าไปแทรกความสัมพันธ์ของพี่ไนท์กับพี่ธันว์
แต่มันน่าอายตรงที่ซีทำไม่สำเร็จ ซีอยากให้พี่ไนท์เห็นจังว่าวันที่พี่ธันว์แข็งใจ
เอ่ยตัดขาดความสัมพันธ์กับพี่ไนท์ พี่ธันว์เขาอยู่ในสภาพไหน
พี่เขาเอาแต่ร้องไห้ ฟูมฟายอย่างที่ซีไม่คิดว่าจะได้เห็นว่าคนซึ่งมีบุคลิกอย่างพี่ธันว์จะเป็นไปได้ขนาดนั้น
จะว่าไป แม้พี่ธันว์เขาจะจากไปโดยที่พี่ไนท์ไม่ได้มาส่งเขาเลยสักวัน
ผมว่าหากพี่ธันว์รับรู้ได้ว่าวันนี้พี่ไนท์มาเฝ้ารอพี่เขาอยู่ในที่ที่พี่สองคนรู้จักกัน
ผูกพันกัน พี่เขาก็คงจะยิ้มยินดีอยู่บนฟ้านั่นล่ะ”

ขณะพูดนัยน์ตาซีแดงเรื่อ แต่ผมนั้นร้องไห้ออกมาแล้วอย่างไม่อายสายตาใครต่อใครที่เดินผ่านไปมา
ตลอดเวลาที่ธันว์มันไร้ตัวตนไป ผมคิดแค่เพียงว่ามันอาจหนีหน้าผมเพียงเท่านั้น
แต่ตอนนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ธันว์มันได้จากผมไปแล้วโดยที่ผมไม่มีโอกาสได้พูดคุยเปิดใจกับมันเลย
ทำไมล่ะ ทำไม อะไรๆ มันถึงสายไปแบบนี้
ธันว์มึงกลับมาสิ มึงกลับมาฟังคำขอโทษจากกูได้มั้ย มึงกลับมาได้มั้ยธันว์ มึงกลับมาได้มั้ย

ผมร้องไห้จนตัวโยน ร้อนถึงซีที่ต้องเข้าปลอบ ก่อนที่เราจะแยกกันไปในตอนที่ผมเริ่มดีขึ้น
ผมติดต่อบอกเรื่องนี้กับน้าเนียม น้าเนียมไม่ได้มีท่าทีตกใจ
เพียงแต่ถามว่าผมรู้เรื่องจากใคร ผมจึงบอกว่าคนรู้จักบอกผม

น้าเนียมจึงบอกว่าน้าเนียมก็ได้รับข่าวร้ายนี้ก่อนผมจากญาติของธันว์ที่
น้าเนียมหาทางติดต่อได้ในก่อนหน้าที่ผมจะโทรศัพท์มาแจ้งน้าเนียม
ผมขอช่องทางการติดต่อญาติของธันว์จากน้าเนียม
บอกอยากจะติดต่อไปหาญาติธันว์เพื่อที่ผมจะได้ทำบุญให้ธันว์
และอยากไปเอ่ยความในใจและเปิดเผยความจริงเรื่องผมกับโชนต่อหน้ามัน
ยังที่สุดท้ายที่มันอยู่ น้าเนียมให้เบอร์ติดต่อกลับมา
แต่ญาติของธันว์บอกขอเวลาไว้อาลัยต่อธันว์ตอนนี้เป็นของญาติๆ ไปสักพักก่อน
หากผมอยากจะไปยังที่เก็บกระดูกของธันว์ค่อยติดต่อไปสอบถามสถานที่กับทางญาติๆ มันอีกที
ผมยอมเข้าใจ แม้จะรู้สึกเศร้าใจอยู่ในที

น้าเนียมติดต่อกลับมาหาผมแจ้งวันทำบุญให้แม่
หากผมจะร่วมทำบุญส่งให้ธันว์ด้วย ก็น่าจะเป็นเรื่องดี
ผมจึงเดินทางกลับบ้านในวันเวลาที่น้าเนียมแจ้งมา

น้าเนียมตรงเข้ากอดผมในวันที่เจอหน้า
คงเห็นว่าร่างกายและหน้าตาผมดูอิดโรย
เพราะผมเพิ่งผ่านความรู้สึกสูญเสียคนที่ผมผูกพันในช่วงเวลาติดๆ กัน

“อย่าคิดอะไรมากนะไนท์ ทำใจให้สบายๆ นะ
เดี๋ยวจะพาลเป็นอะไรไปอีกคน” น้าเนียมปลอบผม น้ำตาผมไหลได้อีก
ภายในใจรู้สึกหวิวไหวจนยากจะควบคุม
เอ่ยพร่ำบอกกับน้าเนียมว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไรกับผม
ทำไมผมจึงต้องมาเจอกับเหตุการณ์การสูญเสียแบบนี้

“ไนท์ใจเย็นๆ นะ มาๆ ๆ เดี๋ยวน้าพาไปนั่งพัก
ไนท์ตัวเย็นมากเลย หน้าก็ซีดจนเหมือนคนจะไม่ไหวแล้วเนี่ย
แข็งใจไว้นะ สูดหายใจเข้าลึกๆ อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก
ธันว์กับแม่เขาไปสบายแล้ว สูดหายใจไนท์ สูดหายใจ ไนท์!”

ผมได้ยินสุ้มเสียงสุดท้ายของน้าเนียมที่ร้องเรียกผมเหมือนคนที่อยู่ในอาการตกใจ
แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างผมไม่สามารถรับรู้ได้อีก
เมื่อสติผมดับวูบลงจนโลกทั้งโลกมืดสนิท

ภายใต้แสงสลัวในบรรยากาศที่เย็นเยียบ
ผมไม่รู้ว่าผมกำลังเดินอยู่ในที่แห่งใด
บรรยากาศรอบกายมันเคว้งซะจนน่ากลัว
สักพักก็ต้องตกใจเมื่อขณะไล่สายตาเพื่อเสาะหาว่า
ร่างกายอันเบาหวิวของผมกำลังล่องลอยอยู่ ณ บริเวณใด
พลันได้ยินเสียงเรียกของคนคุ้นเคยสองคน

“ไนท์”

ผมหันไปมองยังทิศทางของเสียง สายตาผมไม่ได้ฝาดไป
ที่ตรงนั้นบุคคลสองคนที่กำลังยืนมองผมอยู่พร้อมส่งรอยยิ้มมาให้กับผม
คนหนึ่งนั้นคือแม่ผม ส่วนคนหนึ่งนั่นคือธันว์

“แม่ ธันว์” ผมเผลอครางเรียกชื่อคนสองคน
ซึ่งมีเพียงรอยยิ้มส่งให้ผมมา ผมไม่รอช้าที่จะตรงเข้าไปหาทั้งคู่
แต่ยิ่งเดินเข้าไปหาเท่าไร ทั้งแม่ทั้งธันว์กลับพาร่างไกลจากผมไปทุกที
จนผมต้องร้องเรียก

“แม่ ธันว์ จะหนีไนท์ไปไหน รอไนท์ก่อน แม่ ธันว์”

สองคนยิ้มให้ผม แต่ร่างสองร่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดรอผม
ผมจึงตัดสินใจสาวเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อตามให้ทันร่างสองร่างนั้น
แต่ยิ่งสาวเท้ามากเท่าไหร่ ร่างของธันว์กับแม่ก็ยิ่งห่างไกลผมมากไปเท่านั้น
ผมจึงตัดสินใจวิ่งพลางร้องเรียกคนทั้งคู่สุดเสียงพลางน้ำตาไหลอาบลงเต็มสองแก้ม

“แม่ ธันว์ รอไนท์ด้วย!”

ร่างของแม่กับธันว์หายวับไปกับตาในตอนที่ผมส่งเสียงร้องเรียก
ก่อนที่บรรยากาศอันเย็นเยียบจะหายไป
กลายเป็นอุณหภูมิปกติในตอนที่ผมดีดตัวลุกนั่งยังเตียงนอนในห้องสี่เหลี่ยม
ผมตัวชา ใจหายวาบไปอีกหนในตอนที่สายตามองเห็นร่างใครบางคนกำลังนั่งกุมมือผมอยู่

“ธันว์” ผมเอ่ยชื่อคนๆ นั้นออกมาเบาหวิว ธันว์มันยิ้มให้ผมนิดๆ
นี่มันคือเรื่องจริงๆ หรือความฝัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างตอนนี้มันน่าจะเป็นเรื่องจริง
เมื่อผมสัมผัสได้ถึงแรงบีบกระชับที่มือซึ่งธันว์มันส่งให้
ผมไม่รอช้าที่จะโผร่างเข้ากอดธันว์มันแน่น พลางร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกตื้นตันและงงงวย
ก่อนที่จะได้ยินถ้อยคำแรกจากธันว์มันส่งมาตอนกอดรับผมเอาไว้เช่นกัน

“ไม่เอาไม่ร้องไนท์ กูยังไม่ตาย กูอยู่นี่ กูอยู่นี่ ใจเย็นๆ นะ
ตอนนี้กูกลับมาหามึงแล้ว กูไม่ไปไหนแล้วนะ ไม่ร้อง ไม่ร้อง”
ธันว์มันลูบหัวผมปลอบใจ ผมยังไม่เข้าใจอะไรชัดดีจึงยังร้องไห้
สะอื้นอยู่แบบนั้น สักพักธันว์มันจึงเอ่ยขึ้นใหม่

“เข้าใจหรือยังว่าหากขาดกูไปสักคนมึงจะอยู่ยังไง
กูขอโทษนะที่ต้องให้ซี น้าเนียม และก็ญาติกูโกหกมึงว่ากูตายไปแล้ว
รวมถึงที่กูปิดโทรศัพท์หนีมึงไปด้วย
กูไม่ได้เป็นอะไร กูปลอดภัยดีทุกอย่าง มึงเลิกร้องนะ กูอยู่นี่แล้ว กูอยู่นี่แล้ว”

ผมผละร่างออกมาจากธันว์ มองจ้องแววตาของมัน
จะว่าโกรธก็โกรธที่มันคิดทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ จึงยกมือชกร่างมันทั้งน้ำตาปากก็ว่า

“มึงแกล้งกูไอ้ธันว์ มึงแกล้งกู มึงรู้มั้ยว่ากูเสียใจขนาดไหน
มึงทำแบบนี้ทำไม มึงทำให้กูเกือบตายไปอีกคนมึงรู้ตัวหรือเปล่า”

ธันว์มันรวบมือผมไว้ มองจ้องเข้าไปนัยน์ตาผมเอ่ยให้ผมฟังว่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Bboyseries

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • เพจนิยาย Bboyseries
“ถ้ากูไม่ทำแบบนี้กูคงไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วมึงแคร์กูแค่ไหน
ใจแข็งนักนะมึง ต่อหน้ากูทำเป็นไม่สนใจกู
ไล่กูสารพัด แต่พอลับหลังกู รู้ว่ากูตายจากไปแล้วร้องไห้เป็นเผาเต่า
กูน่าจะถ่ายคลิปตอนที่มึงนั่งร้องไห้ต่อหน้าซีเอาไว้นะ
มึงจะได้เห็นหน้าตัวเองว่ามึงฟูมฟายมากแค่ไหน
ไหนจะตอนที่มึงโทรบอกน้าเนียมด้วยท่าทีของคนอ่อนแรงอีก
นี่ไม่รวมที่ญาติกูบอกว่าเสียงมึงฟังดูไม่ดีเลยตอนที่กูให้ญาติโกหกว่าไม่ให้มึงมาบอกลากู
ไงล่ะ จะเก่งอะไรกับกูอีกมั้ย พอรู้ว่ากูตายถึงกับสลบได้แบบนี้
 ผูกพันกับกูมากกว่าแม่อีกนะมึงน่ะ น้าเนียมบอกว่าตอนแม่เสียมึง
ไม่เห็นต้องถึงขั้นสลบจนต้องหามเข้าโรงพยาบาลแบบนี้เลย
 ดีนะที่กูมารอมึงที่บ้านนี้อยู่ก่อนแล้ว ไม่งั้นคงไม่เห็นภาพอะไรดีๆ แบบนี้”

“มึงมันทุเรศไอ้ธันว์ มึงเอาเรื่องพวกนี้มาล้อเล่นกับกูได้ไง
มึงรู้มั้ยว่ากูเก็บเอาไปคิดขนาดไหน
เมื่อกี้ที่กูสลบอยู่กูเห็นว่ามึงอยู่กับแม่กูในความฝันจริงๆ
หากกูไม่ฟื้นขึ้นมา มึงนั่นล่ะที่จะเป็นฝ่ายเสียใจที่ล้อเล่นกับกูแผลงๆ แบบนี้”
ผมต่อว่าธันว์ ธันว์มันยิ้มแล้วยกมือขึ้นยีหัวผมเอ่ยขอโทษ

“กูก็ขอโทษแล้วไง แต่แค่เรื่องตายนะที่กูโกหกมึง
ส่วนเรื่องอื่นที่มึงรับรู้ทั้งจากที่กูพิมพ์ไลน์บอกมึง
จากน้าเนียม หรือที่ซีเอ่ยกับมึง มันคือเรื่องจริงนะ
กูเปิดใจให้มันขนาดนี้แล้ว ถึงเวลาแล้วมั้ยที่มึงจะเปิดใจให้กูบ้าง”

ธันว์มันจ้องลึกในแววตาผม ผมมองตามันกลับเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ

“เห็นกูเป็นขนาดนี้มึงยังจะให้กูพูดอะไรอีกอ่ะ”

“ไม่เอาดิ กูไม่อยากคิดไปเอง บอกให้กูฟังชัดๆ
ได้มั้ยว่ามึงจะยอมให้กูเข้าไปยืนใจมึงแทนที่โชนแล้ว”
ธันว์มันเหมือนจะงอแง ผมจึงเอ่ยแกล้งมันกลับว่า

“กูยังไม่ได้คุยกับโชนเรื่องนี้เลยนะ”

“มึงอย่ามาไอ้ไนท์ โชนบอกกูแล้วว่าโชนกับมึงเลิกคบกันตั้งแต่ก่อนที่
กูจะพามึงไปโรงพยาบาลแล้ว มึงนี่แม่งสุดๆ อ่ะ
ปิดกูเอาไว้เพื่ออะไร นี่ถ้ากูตายจากมึงไปจริงๆ ไม่ใช่แค่มึงที่ต้องเสียใจ
 แต่กูนั่นล่ะที่จะตายตาไม่หลับที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าคนใกล้ตัวอย่างมึง
กำลังเล่นเกมอ่านพฤติกรรมกูอยู่”
ธันว์มันว่ากลับมา ผมจึงถามว่ามันไปคุยกับโชนตอนไหน

ธันว์มันบอกว่าแท้จริงแล้ว มันมาร่วมงานเผาศพแม่ผม
แต่ไม่แสดงตัวให้ผมเห็น ทุกคนในงานเห็นมันหมด
ยกเว้นผม หนึ่งในนั้นก็คือโชนที่มันได้เจอจึงได้มีโอกาสเปิดใจคุยกัน
มันขอร้องให้โชนอย่าบอกผมว่ามันมาที่นี่
มันขอร้องน้าเนียมว่าให้แกล้งหลอกผมว่ามันหายไปจากการติดต่อ
ตอนมันมาแอบได้ยินว่าผมรู้สึกผิดต่อมัน และผมอยากขอโทษมัน

พอกลับกรุงเทพฯ มันคิดว่าผมคงมาตามหามันที่ฟิตเนสแน่
มันจึงลงทุนวางแผนกับซีเอาไว้ให้หลอกผมว่ามันรถคว่ำตายในคืนที่ขับรถกลับจากบ้านผม
ซึ่งซีก็ทำตามแผนการตอนที่เห็นผมมายืนด้อมๆ มองๆ รอมันยังทางเข้าออกฟิตเนส

จริงๆ วันนั้นมันก็มาที่ฟิตเนสพร้อมกับซี จึงให้ซีเอ่ยตามแผนที่วางเอาไว้
ซีเต็มใจช่วยเพราะอยากดูปฏิกิริยาว่าผมจะเป็นเช่นไรตอนรับรู้ข่าวร้ายแบบนั้น

ว่าไปมันก็ขอบใจซีที่ซียอมรับง่ายๆ ว่าคนที่ธันว์มันต้องการคือผม
และยอมเลิกราการตามตื้อสานสัมพันธ์กับมัน
มันรีบโทรเตรียมแผนกับน้าเนียมว่าน้าเนียมรู้ข่าวการตายของมันจากญาติมัน
เพราะคิดว่าผมคงโทรศัพท์แจ้งน้าเนียมอีกแน่
มันให้เบอร์ญาติมันกับน้าเนียมเพื่อให้ผมติดต่อไปทางญาติมันย้ำให้ผมแน่ใจว่ามันได้ตายไปแล้วจริงๆ
ก่อนที่สุดท้ายมันจะให้น้าเนียมโทรศัพท์ตามตัวผมกลับบ้านในตอนที่มันมารอผมที่บ้านเพื่อที่จะปรับความเข้าใจกับผมอีกรอบ แต่ก็ไม่คิดว่าผมจะเป็นลมหมดสติไปได้ขนาดนี้

“มึงนี่มันร้ายนะไอ้ธันว์”
ผมยกมือขึ้นชกธันว์มันอีกตอนฟังมันเล่าทุกอย่างจบ

“คนใจแข็งแบบมึงก็ต้องเจอแบบนี้ล่ะไอ้ไนท์ ว่าไง
เอ่ยให้ชื่นใจได้หรือยังว่าจากนี้ไปกูคือคนรักของมึง
ไม่ใช่เพื่อสนิทของมึงอย่างที่ผ่านๆ มา”
ธันว์รวบมือผมไว้ จ้องลึกเข้าที่ตาผมอีก ผมยังรู้สึกขัดๆ
 เขินๆ อยู่จึงเอ่ยออกไปสั้นๆ

“เออ ก็ได้”

“โห ไรวะ จะพูดจาหวานๆ ให้เราหน่อยก็ไม่ได้”
ธันว์ทำหน้างอแง ผมจึงบอกออกไปตามจริง

“ก็คนมันเขินนี่”

“ไม่ต้องเขินแล้วมั้ง เรื่องทุกอย่างมันชัดขนาดนี้แล้ว
งั้นถ้ามึงเขินกูพูดก่อนก็ได้อะ ฟังนะ”

ธันว์มันหยุดคล้ายรวบรวมประโยคที่จะเอ่ยออกมา
แล้วสุดท้ายมันก็เอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ไนท์ ตกลงคบกับกูเป็นแฟนนะ
จากนี้ไปมีอะไรขอให้เราพูดจากันตรงๆ
อย่าได้ปิดบังอะไรกันอีก เมื่อถึงเวลาที่มึงกับกูต้องจากกันไปจริงๆ
จะได้ไม่ต้องมีใครจมอยู่กับความเสียใจ
เราจะได้คิดถึงกันด้วยความสุข ไม่ใช่ความเจ็บปวด เข้าใจมั้ยครับ”

ผมจ้องลึกในแววตาในแววตาของธันว์
ยอมเอ่ยออกไปตามความรู้สึกของหัวใจเช่นกัน

“ไม่มีเหตุผลที่กูจะต้องปฏิเสธมึงอีกแล้วธันว์
วันนี้กูรู้แล้วว่าการขาดมึงไปสักคนกูคงอยู่ไม่ไหว
ที่ผ่านมากูขอโทษที่งี่เง่าเอาแต่ใจ ยกโทษให้กูนะ
แต่ถึงกูจะเป็นแบบนั้น เรื่องซื่อสัตย์ต่อคนรักกูมีแค่ไหนมึงก็คงเห็น
จากนี้ไป ในเมื่อกูใช้คำว่าคนรักร่วมกับมึงแล้ว
กูก็จะขอให้ใจดวงนี้ของกูใกล้กับมึงเพียงคนเดียว”

ธันว์มันดึงร่างผมเข้าไปกอด พร้อมเอ่ยว่า

“ชื่นใจจัง นึกว่าชาตินี้ทั้งชาติจะไม่ได้ยินคำนี้ซะแล้ว
ที่ผ่านมาหากมีเรื่องไหนที่ทำให้มึงเคืองใจก็เกิดมาจากที่กูทำไปเพราะความน้อยใจเท่านั้น
จากนี้ไปเราเริ่มกันใหม่นะ อะไรที่เราสองคนทำไม่ดีต่อกันก็ถือให้มันเป็นบทเรียนให้เราสองคน
ไม่ต้องพลาดกลับไปทำซ้ำมันอีก แค่นี้เราสองคนก็น่าจะไปด้วยกันได้”

ผมกอดรับกับธันว์ ปล่อยให้หัวใจเราสองคนชิดกันในวันที่ไม่มี
สิ่งใดมาเป็นฉากกั้นความสัมพันธ์เช่นตอนก่อนหน้า


ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไนท์ ได้รู้ความจริง ความในใจ ความรักของธันว์
ที่ไนท์คิดเอง เออเอง คนเดียวมาตลอด
 
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2018 22:53:08 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ Bboyseries

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
    • เพจนิยาย Bboyseries

ท้องฟ้าใสเหนือหาดเจ้าหลาวซึ่งจรดโค้งลงจูบกับผืนน้ำทะเลสีครามเบื้องหน้า
แลดูมีเสน่ห์ชวนมอง ผมกับธันว์นั่งคู่กันอยู่ริมหาดใต้ร่มเงาแมกไม้
ในมุมหนึ่งของชายหาดชื่อดังของบ้านเกิดผมแห่งนี้
 ธันว์มันโอบกอดคอผมไว้ ใช้สายตาทอดมองยังภาพสวยงามเบื้องหน้า เอ่ยขึ้น

“อนาคตจะเป็นไปได้มั้ยไนท์ที่เราสองคนจะหลีกหนีความวุ่นวาย
ในเมืองใหญ่มาสร้างบ้านพักหลังเล็กๆ อยู่ด้วยกันที่ริมหาด
ทำมาหากินอย่างพอเพียงในวิถีชีวิตแบบชาวบ้านที่นี่”

“ก็น่าสนนะ แต่ขอให้กูใช้หนี้มึงให้หมดก่อนดีมั้ยค่อยว่ากัน”
ผมเอ่ยออกมา ธันว์มันกระชับร่างผมเอ่ยบอก

“ไม่เอาดิ อย่าพูดเรื่องนั้น ให้แล้วให้เลย แค่มึงไม่งอแง
ไม่ดื้อ ไม่ซน เชื่อใจกูบ้างแค่นี้กูก็ชื่นใจแล้ว
ถ้ามึงจะคืนกู กูขอแค่หัวใจมึงก็พอ อย่าแบ่งให้ใครไว้ใจกู
ให้กูดูแล นั่นแหละสิ่งที่กูต้องการ”

“ก็ให้ไปตั้งนานแล้วมึงอ่ะไม่รู้ตัวเองต่างหาก
วันๆ เอาแต่จะประชดกูเจ้าชู้ใส่คนนั้นคนนี้ไปเรื่อยอ่ะ”
 ผมว่ากลับ ธันว์มันหันมองหน้าด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ ผมจึงถาม

“มองอะไรอ่ะ”

“ก็ถ้าอยากให้รู้คืนนี้กูขอได้มั้ยล่ะ”

ธันว์ก้มลงเอ่ยเบาๆ แนบหูผม ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าว
แต่ตัวกลับเย็นจึงผลักมันออกจากร่าง รีบเดินหนีมันลงไปยังหาดทรายละเอียด
กำลังยืนรับลมทะเลที่โบกพัดมากระทบร่างก็ต้องตกใจที่อยู่ๆ
ธันว์มันวิ่งเข้ามาสวมกอดพาร่างผมวิ่งหายลงไปสัมผัสน้ำทะเลเบื้องหน้า
จังหวะนั้นคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามาหาเราสองคนแทบจะทันที
แต่น่าแปลกที่คลื่นลูกนั้นไม่สามารถทำให้ผมกับธันว์แยกร่างออกจากกันได้
ตรงกันข้าม เราสองคนต่างจับมือกันแน่นส่งสายและรอยยิ้มให้กัน
ดุจจะพาร่างรอก้าวผ่านเกลียวคลื่นลูกแล้วลูกเล่าที่พัดเข้ามาไปพร้อมๆ กัน
และด้วยหัวใจที่ผูกเชื่อมกันแน่นจนยากจะหลุด
ที่สุดคลื่นทะเลเหล่านั้นพ่ายแพ้แก่ความมั่นคงที่ธันว์และผมส่งมอบให้กันจนได้
สักพักผมและธันว์จึงลงเล่นน้ำทะเลกันจนหมดแรงทั้งสองคนแล้วพาร่าง
กลับขึ้นมานอนแผ่หราบนผืนทรายนุ่มละเอียดตอนน้ำทะเลลดลงไป

ธันว์มันเอื้อมมือมาจับมือผมไว้อีก
ผมกระชับจับกลับไป ก่อนที่เราสองคนจะหันมองหน้ากัน
ยิ้มให้กัน เอ่ยสัญญาว่าทั้งผมและมันจะดูแลหัวใจกันไปเช่นคนใกล้ชิด ใกล้ใจ ใกล้ตัว
ทั้งจากนี้และตลอดไป จนกว่าวันสุดท้ายของลมหายใจจะมาเยือน



จบบริบูรณ์

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับผลงานอีกหนึ่งเรื่อง

ผิดพลาดประการใดขออภัยเอาไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ

และขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

และก็ธรรมดา เรื่องหนึ่งจบไป เรื่องใหม่ก็ย่อมมาแทนที

จะเป็นแนวไหน ยังไง คลิกดูตัวอย่างกันได้เลยครับ



ตอนนี้เริ่มเขียนไปได้นิดหน่อย
ยังไงอาจจะคอยกันนานสักนิดสำหรับการเอามาโพสนะครับ
เพราะขอตุนสต็อกเอาไว้ไม่ให้การโพสขาดช่วงน่าจะดีกว่า

มันเป็นงานเขียนที่น่าจะสาหัสเอาการ จึงอาจต้องเก็บรายละเอียดก่อนโพส

ฝากติดตามด้วยนะครับ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
แอบใจหาย ตอนที่บอกว่าธันว์รถคว่ำ
สุดท้ายก็เข้าใจกันน้าาา
ขอบคุณคนแต่งค่ะ

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ธันว์เอาเรื่องนี้มาล้อเล่นได้ยังไง!! //ตี
ตอนที่บอกว่าธันว์ตายนี่ใจหายจริงจัง ; __ ;
เนี่ยยย คุยกันตรงๆไม่อ้อมไปอ้อมมา ไม่ปากแข็ง แกล้งพูดนั้นนี่ก็ดีกันไปนานละ
ดีใจที่แฮปปี้กันสักทีน้าาาาา

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ขอบคุณค่ะสนุกมากเลย

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด