พิมพ์หน้านี้ - Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Bboyseries ที่ 07-01-2018 06:49:58

หัวข้อ: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 07-01-2018 06:49:58
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 07-01-2018 06:58:29

บทนำ

“เฮ้ย หน้าใหม่นี่หว่า ส่งสายตาให้แบบนี้ใช่ชัวร์ต้องจีบหน่อยแล้ว”
“กูว่ามึงพอเหอะธันว์ ที่คั่วๆ อยู่มึงยังสับรางยังแทบไม่ทัน หาเรื่องปวดหัวไปถึงไหนวะ”
“อะแน่ะ หึงเหรอจ๊ะที่รัก แค่เช็คเรตติ้งหน่อยเดียวน่าอย่าเพิ่งงอน”
“หึงเชี่ยไรล่ะ แล้วเลิกเรียกกูที่รัก กูไม่ได้อดอยากขนาดจะเอาคนเจ้าชู้มั่วไม่เลือกอย่างมึงมาเป็นแฟน เข้าใจ๊”
“ปากดีนะมึง สักวันกูจะจับทำเมียจริงๆ”
“ว่าแล้วยังไม่สำนึกนะ...”
“ผัวชื่อธันว์จ๊ะเมียไนท์ ขออนุญาตจีบเด็กใหม่ก่อนนะ เด็กหน้าเก่าอย่างเรานั่งรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวมานะจ๊ะ”

มือซึ่งสวมถุงมือสำหรับออกกำลังกายของธันว์ตบที่แก้มผมเบาๆ
ก่อนที่มันจะพาร่างสูงเท่ของมันในชุดเล่นเวท
นั่นคือเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นเดินไปยังใครคนหนึ่งที่ก้าวเข้ามายังฟิตเนสคลับประจำของผมกับมัน

ผมกับธันว์เจอกันที่ออกกำลังกายแห่งนี้เมื่อสามปีก่อน
ไม่ต้องสงสัยนะครับว่าใครเข้าหาใคร ดูจากพฤติกรรมมันเมื่อครู่คงพอจะรู้แล้วล่ะว่ามันพาหน้าหล่อๆ มาหลีผมเอง

วันนั้นผมก็เป็นคนรักสุขภาพหน้าใหม่ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มวัยรุ่นหน้าใสที่ธันว์เดินเข้าไปหานั่นล่ะ
ส่วนธันว์ เปรียบไปมันก็เหมือนรุ่นพี่ เพราะตอนรู้จักกันมันบอกว่ามันเข้าๆ ออกๆ
ในที่แห่งนี้จนรู้จักมักคุ้นกับใครมากหน้าหลายตาเป็นอย่างดี
ถึงมันไม่บอกผมก็น่าจะคิดได้ เพราะดูจากสัดส่วนกล้ามเนื้อที่ลงตัวพอดีจนน่าอิจฉาของมัน
รวมถึงท่าทีการเป็นหนุ่มเฮลท์ตี้สุดฮอตของคลับออกกำลังกายที่นี่
ที่เยื้องกรายไปไหนก็มีแต่คนทักทาย ก็น่าจะเดาได้ไม่ยากว่ามันน่าจะเป็นสมาชิกของที่นี่หลายปี
 
จะว่าไปหากวันนั้นไม่ได้มันเขามาช่วยสอนช่วยเทรนดุจเทรนเนอร์ผู้ช่ำชองให้ผม
ผมก็ไม่รู้หรอกว่าตัวผมเองจะได้สัดส่วนรูปร่าง
ซึ่งดูดีขึ้นมาประมาณหนึ่งเช่นวันนี้หรือเปล่า

เหตุที่ผมมาที่นี่ก็เพราะมีเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีในแบบฉบับคนที่กำลังมีความรัก
ซึ่งเกิดขึ้นกับใครคนหนึ่งตอนเจอกันในงานประเพณีกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยงานหนึ่ง
ซึ่งจากการที่ธันว์เข้ามาช่วยสอนช่วยเทรนด์ผมทำให้เราสองคนสนิทกันได้ไม่ยาก

ฟิตเนสคลับแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่เฉพาะกลุ่ม หญิงแท้ ชายแท้ หญิงเทียม ชายเท็จ
สถานที่แห่งนี้เปิดกว้างและต้อนรับทั้งนั้น หากว่าคิดจะเข้ามาใช้บริการและทำตามกฎที่เจ้าของคลับวางไว้
ผมกับธันว์จัดอยู่ในประเภทชายเท็จ พูดง่ายๆ ก็คือพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน
การที่ธันว์เข้ามาตีซี้กับผม
จุดประสงค์ของมันซึ่งแฝงมาในมาดเทรนเนอร์
ก็คือการหว่านจีบเหยื่อเพื่อเช็คเรตติ้งของมันอย่างที่มันกำลังทำในตอนนี้นั่นแหละ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 07-01-2018 07:06:02
คนที่ไนท์ชอบคือใครรร ธันว์ทำตัวน่าตีมาก ไนท์จัดการ----
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 07-01-2018 07:11:37
เรื่องใหม่ของพี่บอยใช่ป่ะฮะ

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 07-01-2018 07:15:38


ตอนที่ 1

“เฮ้ย ธันว์จะกลับยังวะ ไม่กลับกู กูกลับก่อนนะมึง” ผมเดินตรงเข้าไปทักธันว์ตอนที่มันกำลังสวมร่างเป็นเทรนเนอร์หนุ่มสอนสมาชิกคลับรายใหม่อยู่ในมุมเล่นเวท ส่งยิ้มนิดๆ ให้คนที่อยู่ข้างกายมันเมื่อฝ่ายนั้นหันมามองหน้าผม

“มึงอย่ามายิ้มใสไอ้ไนท์ น้องซีนี่ของกู คิดจะแย่งมีเรื่องแน่ไอ้น้อง” ธันว์หยุดสอนชี้หน้าผมแล้วเปลี่ยนไปโอบไหล่น้องใหม่ที่ชื่อซี

“หวงก้างยังกะหมานะมึง หวัดดีซี อย่าไปบ้าจี้เชื่ออะไรมันมากไอ้ธันว์มันเจ้าชู้ตัวพ่อเลยล่ะ” ผมว่ากลับ หันไปทักทายซี ซึ่งทักทายผมกลับเช่นกัน พร้อมถาม

“หวัดดีครับพี่ไนท์ นัดกับพี่ธันว์ไปไหนต่อหรือเปล่าครับ”

“นัดให้มันถีบหัวส่งตอนมันเจอหน้ากิ๊กมันอ่ะดิซี เห็นคนอื่นดีกว่าพี่ตลอด” ธันว์ตอบซีแต่ส่งแววตาบางอย่างมาให้ผมซะงั้น เอากะมันสินั่น มันเป็นอะไรของมันขึ้นมา

“เอ๊า อย่างมึงนอกจากหน้าตากะหุ่นแล้วมีดีอะไรให้กูเห็น ไปล่ะ ไม่กลับก็อย่ากลับ ไว้เจอกันซี” ผมว่าให้พร้อมบอกลาซี ก่อนแยกตัวไปยังห้องล็อกเกอร์เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำจะกลับห้อง

กว่าจะถึงห้องล็อกเกอร์ก็ใช้เวลามากอยู่ เพราะผมต้องหยุดพูดคุยทักทายกับคนรู้จักหลายคนเช่นกัน จะว่าการที่ผมเป็นสมาชิกที่คลับฟิตเนสแห่งนี้จนครบสามปีก็ทำให้ผมรู้จักใครต่อใครไม่น้อยกว่าไอ้ธันว์เท่าไหร่นัก ด้วยนิสัยผมเป็นคนง่ายๆ ไม่ค่อยมีฟงมีฟอร์มอะไรกะใครเท่าไหร่ล่ะมั้ง เลยทำให้ผมทำคะแนนนิยมตีตื้นไอ้ธันว์มัน ใครยิ้มมาก็ยิ้มตอบ ใครทักมาก็หยุดคุย ใครขอไลน์ขอเบอร์ ถ้าดูแล้วไม่น่าจะเป็นพวกก่อกวนก็ให้ไปซะหมด เฮ้อ แต่ก็มีหนึ่งคนที่ผมพยายามใช้ความเฟรนด์ลี่เข้าจีบ แต่จนแล้วจนรอด ผ่านเวลามาสามปีแล้วก็ยังไม่ยอมใจอ่อนที่จะคบผมเป็นแฟนอย่างเปิดเผยซะที ใครที่ว่านั่นก็คือคนที่ทำให้ผมหันมาออกกำลังกายเพื่อฟิตหุ่นไว้มัดใจนั่นล่ะ

ใครคนนั้นชื่อโชน แรกเริ่มรู้จักกันโชนเป็นนิสิตปีสองของมหาวิทยาลัยมีชื่อที่หนึ่ง ส่วนผมเพิ่งเรียนจบในอีกสถาบันและเพิ่งเข้าทำงานฝ่ายไอทีในบริษัทเอกชน เราสองคนเป็นศิษย์ต่างสถาบันกันแต่ที่ได้เจอกันวันนั้นเพราะต่างคนต่างไปร่วมงานประเพณีกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์กันอย่างที่ผมเล่าผ่านมาแล้วตอนต้น

โชนไม่ใช่คนหล่อมาก แต่หน้าตาแลดูมีเสน่ห์ให้ผมเข้าหา ต่างจากธันว์ซึ่งถือได้ว่าเป็นคนหล่อจัด แต่ทำไมผมถึงเฉยๆ กับมันก็ไม่รู้ อาจจะเพราะอุปนิสัยเจ้าชู้ของมันล่ะมั้งที่ทำให้ผมมองข้ามหน้าตาที่คมใสของมัน ส่วนผมก็แค่คนธรรมดา ไม่กล้าพูดหรอกว่าตัวเองหน้าตาดี แต่ความเฟรนด์ลี่ที่มีก็เรียกใครต่อใครให้เข้าหาได้ไม่ยาก ว่าไปนั้น เง้อ

ผมตามจีบโชนตั้งแต่แรกเจอ โชนเพียงตอบรับมิตรภาพให้แค่คำว่าเพื่อน และลองคุย ลองคบดูแบบเปิดใจเผื่อเลือก ซึ่งข้อตกลงที่โชนยื่นมาคือห้ามมีการผูกมัด เรียกร้อง หรือแง่งอนกันในเชิงคนรัก หากว่าเขาจะคุยกับใครต่อใครไปด้วย หากผมรับได้ การคบหาดูใจจากเจ้าตัวก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน

ด้วยความที่ผมเป็นคนง่ายๆ ไม่ค่อยอะไรนัก จึงไม่ได้ซีเรียสเรื่องข้อผูกมัด ยืดอกยอมรับข้อตกลงที่ว่าและเดินหน้าสานสัมพันธ์กับโชนเรื่อยมา และจากที่รูปร่างหน้าตาแค่คนธรรมดาจึงเริ่มคิดหาทางปรับปรุงบุคลิกตัวเองด้วยการย่างกรายเข้าไปเป็นสมาชิกฟิตเนสคลับที่ธันว์เข้าๆ ออกๆ นี่ จนได้สานสัมพันธ์กับธันว์ในรูปแบบเพื่อนสนิทมาจนวันนี้    

เริ่มต้นธันว์มันก็มาจีบผมจริงๆ น่ะแหละ แต่ผมมีเป้าหมายของหัวใจอยู่แล้วจึงไม่ได้ไหวเอนอะไรกับวาจาหว่านจีบ ตอนแรกก็คิดว่าธันว์มันจะถอดใจเลิกยุ่มย่าม และมองหาเหยื่อเสน่ห์รายใหม่ไปตามเรื่อง แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อธันว์มันยังคงสวมบทเทรนเนอร์ช่วยฝึกช่วยสอนผมอยู่ทุกครายามที่ผมก้าวเข้ามาเจอมันในสถานออกกำลังกายนี่ บทบาทการหว่านจีบผ่านไปในช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อดอกรักไม่สามารถเบ่งบานขึ้นมาได้ตอนรู้ไส้รู้พุงกันหลายๆ เรื่อง ผมกับธันว์จึงกลายเป็นคู่ซี้ตัวติดกันในรูปแบบของการเป็นเพื่อนแทน แต่มีบ้างหลายครั้งที่ธันว์มันเทียวหยอกเทียวเหย้าว่าจะรวบหัวรวบหางผมยามที่เราสองคนนัดเที่ยวด้วยกัน การที่ผมรู้ว่ามันก็หว่านเสน่ห์เกย์หล่อแบบนี้ไปเรื่อยจึงไม่คิดจะถือสาอะไร รู้ว่ามันแค่คงหยอกเหย้าไปอย่างนั้น เพราะยามที่มันเห็นใครเข้าตาทั้งที่ฟิตเนสคลับ หรือที่เที่ยวอื่นๆ มันก็หว่านเสน่ห์ไปเรื่อย ไม่ได้ใส่ใจนักหรอกว่ามันจะไปสานต่อกับใครที่ไหนอย่างไร แต่มันคงยังไม่คิดจริงจังและหยุดที่ใครล่ะมั้ง เพราะมันไม่เคยเอ่ยถึงใครในกรณีพิเศษให้ผมฟังสักที มีก็แต่หลายครั้งที่รถไฟชนของมันชนกันสนั่น ร้อนถึงผมนั่นล่ะที่เคยรับบทแสดงตัวว่าเป็นคนรักมันตัวจริงเพื่อให้มันหลบหลีกการโดนราวีได้แบบพอเอาตัวรอดไปวันๆ ก็เคยปรามให้มันเพลาๆ ลงบ้างในเรื่องคบซงคบซ้อน แต่มันก็ย้อนตลอดว่า


“มึงมาเป็นเมียกูดิ แล้วกูจะหยุด”

“เรื่องไรกูมีคนที่กูตามจีบอยู่แล้ว”

ประโยคนี้ล่ะที่ผมปิดปากในเชิงหมาหยอกไก่มันลงได้ แน่นอนว่าคนที่ผมตามจีบคือโชน
ผมเคยปรึกษาธันว์ในเรื่องโชนว่าการมาฟิตหุ่นแบบนี้จะทำให้โชนสนใจผมมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่หรือเปล่า
ธันว์มันบอกแค่ว่าการมาออกกำลังกายถึงใครไม่สนใจแต่อย่างน้อยมันก็ได้สร้างสุขภาพที่ดีๆ ให้ตัวเอง
ก็ไม่น่าเชื่ออ่ะนะ ว่าคนเจ้าชู้เจ้าเล่ห์อย่างมันจะมีมุมมองความคิดแบบนี้ก็เป็น

นึกถึงโชนใช่สิ ผมเคยนัดธันว์ไปวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะกลางกรุงในวันหนึ่ง บังเอิญที่วันนั้นโชนเองก็ไปวิ่งด้วย ทั้งธันว์และโชนเจอกันครั้งแรกในวันนั้น สองคนทักทายทำความรู้จักกันพอประมาณ
โชนบอกเริ่มล้าขอตัวแยกกลับ ผมจึงขอตามติดโชนไปด้วย
โดยแยกจากธันว์ในทันที นี่หรือเปล่าที่สาเหตุไอ้ธันว์มันว่าผมเมื่อครู่

………………………………………………….

“ไหนว่าจะกลับไงไอ้ไนท์ มายืนอ่อยใครแถวนี้วะ”
เสียงธันว์ทักมาในตอนที่ผมเพิ่งคุยกับคนรู้จักที่บังเอิญเดินสวนกันเสร็จ
น้ำเสียงและหน้าตามันดูไม่เข้าท่าเลยสักนิดจึงว่าสวน

“ปากหมานะมึง กูมาออกกำลังกายไม่ได้มาเช็คเรตติ้งเหมือนมึง”

“เดี๋ยวต่อยหน้าแหก กูก็มาออกกำลังกาย”

“หรา…แต่กูเห็นมันไม่ใช่อย่างนั้นนี่หว่า แล้วน้องซีอะไรนั่นของมึงไปไหนซะล่ะ” ผมลากเสียงล้อเลียนในตอนแรกแล้วถามถึงคนที่ธันว์มันคั่วล่าสุด

“เห็นบอกเจอคนรู้จัก แยกไปทักแล้วก็หายไปเลย เลยไม่รู้ทักถึงไหนละ”
ธันว์มันตอบกลับมาหน้าขรึม ผมจึงอดหัวเราะไม่ได้ เข้าใจละว่าทำไมมันถึงเดินมาปากหมากับผมแบบนี้

“ไงล่ะเรตติ้งตกอ่ะดิมึง ถึงว่ามาพาลเอากะกู จะอยู่ต่อหรือจะกลับล่ะทีนี้”

“อยู่ทำไม แล้วก็หยุดหัวเราะ ไปกลับ กูกลับด้วย”
ธันว์เดินกอดคอผมเข้าไปในห้องล็อกเกอร์ ไปถึงด้วยความเหนียวตัวอยากล้างคราบเหงื่อเต็มทนผมจึงผลักมันออกจากร่าง จัดการถอดเสื้อเพื่อเตรียมตัวจะอาบน้ำ

“หุ่นดีเข้าหน่อยรีบโชว์ใหญ่เลยนะมึง”
ธันว์เดินมาว่ายกกำปั้นชกที่อกแข็งของผมเป็นเชิงผลัก
เม้มปากมองตาขวางก่อนจะเดินผ่านผมไปไอ้นี่พาลใหญ่แฮะ
สงสัยจะถูกใจนายซีนั่นซะล่ะมั้ง โดนทิ้งปล่อยเกาะถึงกับกร่างว่าผมแบบนี้

……………………………………………..

หลังอาบน้ำชำระตัวและแต่งกายกันเสร็จผมกับธันว์เดินออกมาหาอะไรกินริมถนนใกล้ๆ สถานออกกำลังกาย
วันนี้เป็นวันศุกร์ต้นเดือน ร้านอาหารในศูนย์การค้าซึ่งสถานออกกำลังกายของเราตั้งอยู่ล้วนแต่ดูหนาตาจึงไม่อยากเข้าไปเพิ่มความแออัดให้อีก เราสองคนมีไลฟ์สไตล์คล้ายกันในเรื่องกินง่ายอยู่ง่ายจึงเลือกร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำเป็นที่ฝากท้อง

“ออกกำลังกายแล้วมายัดห่าเส้นใหญ่ชามพิเศษ กูล่ะเชื่อมึงเลยไอ้ไนท์”
ธันว์มันว่าผมตอนผมสั่งรายการก๋วยเตี๋ยวที่ต้องการไป
ส่วนธันว์มันขอแค่เกาเหลาต้มยำชามธรรมดาลูกชิ้นปลาล้วน

“เผือกไรล่ะ เรื่องของกู” ผมว่า ก็คนมันหิว ไม่ได้จะฟิตหุ่นไปประกวดนายแบบที่ไหน
อะไรที่พอจะยัดเข้าปากเพื่อให้ท้องหายร้องผมทำได้หมดแหละ เว้นเสียจากอะไรที่เกี่ยวกับกุ้ง

“ปากดี อย่างงี้ไงก่อนมาเจอกูหุ่นถึงดูไม่ได้”

“ได้ไม่ได้ก็ทำให้คนบางคนเข้ามาจีบล่ะว้า”
ธันว์ถึงกับสำลักน้ำเปล่าที่เพิ่งยกดื่มตอนผมเอ่ยสวนกลับ
เห็นภาพผมล่ะอดหัวเราะไม่ได้ คิดจะมาว่าผมโดนผมสวนเข้าให้ ไปไม่เป็นเลยสิมึง

“เดี๋ยวๆ คืนนี้กูจะมอมเหล้าจับทำเมีย”
มันเช็ดปากเช็ดคอชี้หน้าคาดโทษผม
ซึ่งผมชินซะแล้ว จึงถือเป็นเรื่องตลกไปเอ่ยหยอกเหย้าไปกับมันระหว่างรอก๋วยเตี๋ยวมาส่ง

“อารมณ์ค้างมาจากน้องซีขนาดจะมอมเหล้าเพื่อนเลยเหรอจ๊ะที่รัก”

“โหย พูดงี้คืนนี้ไปนอนกะกูเลยดีกว่ามั้ย ยั่วนะมึง”

“มึงแม่งก็หยอดกูอยู่ได้ทุกวัน วันไหนกูหื่นขึ้นมาจริงๆ จะรู้สึก”

“วันนี้ล่ะ ไม่ต้องวันไหนหรอกกูรออยู่”

“รออีกหนึ่งปีสิ หากเข้าปีที่สี่กูจีบโชนไม่ติด มึงอาจเป็นตัวเลือกเพื่อทำการพิจารณา”

“น้อยๆ หน่อย ไอ้น้อง มีคนรอให้พี่เลือกเป็นแถว เรื่องอะไรกูจะไปรอมึง หยอดหน่อยเอาใหญ่เลยนะเรา”

“ว้า แย่จัง เสียใจนะเนี่ย”

“จ้า เสียใจ ไอ้สัตว์” ธันว์ยื่นมือมาตบหัวผมหลังพูดจบ
“เชี่ย ตบหัวกูทำไมเนี่ย” ผมว่ามัน งงใจว่าพูดอะไรผิดไป
สักพักเด็กเสิร์ฟเอาก๋วยเตี๋ยวที่สั่งมาส่ง แปลกใจกับลูกชิ้นกุ้งซึ่งอยู่ในชาม ก็บอกไปแล้วว่าไม่เอา ใส่มาทำไมน๊อ

“เป็นไรวะ” ธันว์มันเอ่ยถาม มันคงเห็นสายตาฉงนที่มองชามก๋วยเต๋ยวของผมนั่นล่ะ

“กูบอกเขาไม่ใส่ลูกชิ้นกุ้ง แต่มึงดูดิ เต็มชามกูเลย” ผมบอก แต่เอาวะ แค่ไม่จับเข้าปากก็หมดปัญหา
ในจังหวะที่กำลังจะปรุงรสชาติ ธันว์มันก็ยื่นช้อนมาตักลูกชิ้นกุ้งออกจากชามผมไปใส่ชามเกาเหลามันซะหมดทุกก้อน
ผมเงยขึ้นมองมัน มันดันส่งสายตาเจ้าเล่ห์ตอบกวน

“ไม่แดกกูแดกเอง ของโปรดเว้ย”

“โปรดเชี่ยอะไร มึงสั่งลูกชิ้นปลาล้วน” ผมด่ามัน ซึ่งมันก็ลอยหน้าสวนกลับ

“กูแค่ไม่อยากแดกเยอะมึงมีปัญหามั้ย แต่ตอนนี้กูได้มาฟรี แดกสักวันคงไม่ตาย”

“นิสัยนะมึง” ผมว่ามัน มันไม่ตอบอะไรได้แต่ผิวปากปรุงเกาเหลาไปอย่างอารมณ์ดี
ใช่สิ ได้ของฟรีเพิ่มล่ะกินได้ขึ้นมาทันที
ผมส่ายหน้าให้กับความเจ้าเล่ห์ของมัน ก่อนจะลงมือจัดการกับก๋วยเตี๋ยวชามโตจนเกลี้ยง
ทานกันเสร็จ ธันว์มันขอแยกตัวออกขอกลับก่อน เห็นท่าทางรีบๆ ของมันจึงอดแซวไม่ได้

“ไม่เที่ยวกันต่อเหรอ ไหนบอกจะมอมเหล้ากูไงจ๊ะที่รัก”

“มึงอย่ามาปากดีตอนนี้ไอ้ไนท์ วันไหนกูชวนล่ะอ้างไม่ว่าง วันไหนกูรีบล่ะเอาใหญ่เชียว” มันชี้หน้าว่าผม

“แล้วมึงจะรีบไป นัดใครว่าอีกล่ะ อย่าจ้ำจี้กันจนเช้าล่ะมึง เกรงใจกูบ้าง” ผมไม่วายแซว

“เรื่องของกู” ธันว์มันบอกหน้าตึงก่อนรีบเดินจากไป ผมได้แต่ยิ้มน้อยๆ มองตามหลัง
เชื่อเหอะวันศุกร์แบบนี้มันคงนัดใครไว้เที่ยวดื่มกินน่ะแหละ ถึงได้รีบหนีหน้าผมแบบนี้
เฮ้อ ถ้ามันจะเลิกเจ้าชู้สักนิดก็คงดี
ว่าแต่ผมจะไปคาดหวังในเรื่องนี้ทำไมล่ะ ก็ผมไม่ได้ชอบมันนี่นา แปลกๆ แฮะใจ

ผมติดต่อพูดคุยกับโชนในระหว่างเดินทางกลับบ้านโดยรถเมล์ปรับอากาศสาธารณะ
อย่างว่าล่ะนะ ชีวิตของคนเพิ่งเริ่มต้นทำงาน จะให้มีรถขับหรูๆ เท่ๆ ก็คงยากอยู่
ต่างจากธันว์กับโชน สองคนนั่นภาษีทางสังคมของชีวิตดูต่างจากผมเยอะ มีรถขับ มีคอนโดอยู่
ส่วนผมอาศัยอยู่แค่ในอพาร์ทเม้นธรรมดา ซึ่งไม่ได้ติดหรูมากมาย แต่ก็เงียบสงบสบายใจ
ภาษีสังคมที่ดีหน่อยของผมก็แค่ดีกรีเด็กต่างจังหวัดที่สอบติดและเรียนจบจากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ด้วยเกรดเฉลี่ยที่พาตัวเองสอบสัมภาษณ์เข้าทำงานในแผนกไอทีของบริษัทเอกชนมีชื่อของประเทศได้เท่านั้นล่ะ

ส่วนโชนกับธันว์ สองคนยังคนว่างงานอยู่ โชนให้เหตุผลว่าเพิ่งจะเรียนจบมาเลยขอเวลาผ่อนคลายสมองสักหน่อย แล้วค่อยคิดไปต่อในเรื่องอนาคต ผมคิดว่าทางบ้านคงจะช่วยซับพอร์ตโชนในเรื่องการเงินน่ะแหละ ถึงได้มีความคิดเช่นนี้ได้
ไม่แปลกหรอก ฐานะทางบ้านก็ธรรมดาซะที่ไหน

ส่วนธันว์ให้เหตุผลว่ายังไม่เจองานที่ใช่เลยยังไม่อยากทำ
ฐานะทางบ้านมันก็ใช่ย่อย มีอันจะกินซะจนทำตัวล่องลอยได้จนน่าอิจฉา
แต่หากคนไม่รู้จักมันเข้าขั้นลึกซึ้งอย่างผม ก็คงมองมันเป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไปน่ะแหละ
เพราะอย่างที่บอกว่าไลฟ์สไตล์ของมันดันมาคล้ายกับผมในการดำเนินชีวิตในสังคมคนเมืองซะอย่างนั้น
มันสามารถร่วมหัวจมท้ายไปกับผมบนรถเมล์ แท็กซี่ BRT BTS ได้ทุกที่หากว่าสถานที่ที่เราสองคนจะไปกันรถสาธารณะเหล่านี้เข้าถึง ต่างจากโชนซึ่งวิธีการเดินทางส่วนใหญ่ไปกับการขับรถหรูส่วนตัวเสียมากกว่า
ซึ่งบางครั้งบางคราวการนัดเจอกับโชนก็ทำให้ผมเกร็งไปไม่น้อยกับการวางตัว
ต่างจากธันว์ ซึ่งผมไม่เคยรู้สึกเกร็งใดๆ เลยในการพบเจอ
แต่ทำไมผมเลือกที่จะบอกหัวใจนะว่าโชนคือคนที่ผมสนใจและต้องการในเรื่องความสัมพันธ์ด้านคนรัก อืม แปลกดี

ผมกลับถึงห้องก็ดึกมากหน่อย อาจเป็นเพราะเป็นศุกร์ต้นเดือนด้วยล่ะมั้งรถราบนท้องถนนถึงแน่นมากกว่าทุกๆ วัน
ธันว์มันขาดการติดต่อไปจากผมตั้งแต่แยกกันจนป่านนี้มันยังไม่ไลน์มาหยอดหรือกวนประสาทอะไรผมอย่างเช่นทุกวันที่มันเคยทำ หรือว่ามันแอบนัดซีเอาไว้แล้วไปเที่ยวด้วยกันก็ไม่รู้แฮะ ถึงได้ลืมกิจวัตรที่มักจะทำกับผมบ่อยๆ ไปซะอย่างนั้น

“ร้ายนะมึงไอ้ธันว์” ผมเอ่ยว่าในตอนเช็คอ่านไลน์แต่ไร้ซึ่งข้อความจากธันว์
คิดเลยเถิดไปว่าป่านนี้มันคงสนุกอยู่กับซี หรือใครๆ จนลืมผมเข้าให้แล้ว
แต่เอ ผมก็ไม่ใช่แฟนมันจริงๆ นี่นา จะมารู้สึกน้อยอกน้อยใจและถวิลหาการติดต่อกลับมาจากมันทำไมหว่า คนที่ผมควรคิดถึงตอนนี้ควรเป็นโชนสิ ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวก็บอกเล่าว่ากำลังเที่ยวแฮงต์เอ้าท์อยู่กับเพื่อนกลุ่มใหญ่เช่นกัน

ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
มองดูหน้าจอ นี่มันจะตีสองแล้วนี่นา และคนที่โทรเข้ามาก็คือธันว์ นั่นไง ผับบาร์ใกล้จะปิด นึกถึงกูเลยนะมึง

“ว่าไง ร้านไม่ปิดไม่คิดจะกลับบ้านนะมึง” ผมด่าธันว์มันออกไปตอนกดรับสาย ซึ่งมันก็หยอกเหย้ากับมาตามนิสัย

“หวงหรือห่วงละจ๊ะที่รัก”

“มึงเมามากป่ะเนี่ย ดื่มไปเท่าไหร่ไอ้ธันว์ ขับรถระวังเจอด่านตรวจนะมึง”
ผมเอ่ยออกไป เชิงห่วงใยมันจริงๆ คิดว่ามันน่าจะขับรถไปในการออกเที่ยวครั้งนี้ ซึ่งมันก็จริงเมื่อมันตอบกลับมา

“แล้วทำไมกูต้องขับเอง เมาไม่ขับโว้ยไม่ต้องห่วง”

“แล้วมึงจะให้ใครที่ไหนขับให้มึง” ผมถาม ใจกระตุกนิดๆ ตอนมันตอบมา

“มาเที่ยวกับใครก็คนนั้นแหละขับกลับให้ ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ”

“ห่าเอ้ย เจ้าเล่ห์ชิบ” ผมว่ากลับ

“พูดไม่เพราะเลยนะที่รัก” ธันว์ว่าเชิงหยอกเหย้า เราสองคนจึงปั่นประสาทกันอีก

“ให้กูพูดเพราะกับคนขี้เมาเจ้าชู้อย่างมึง กูยอมกัดลิ้นตายซะยังดีกว่า แล้วเรียกกูที่รักแบบนี้ ไม่กลัวคนข้างๆ แหกอกเอาเหรอ”

“กูมันขั้นเทพขนาดไหนมึงก็น่าจะรู้ จะให้ใครจับได้ไงว่าแอบมาคุยโทรศัพท์กับที่รัก”

“ขั้นเทพบ้านมึงดิ รถไฟชนกันทีไรลำบากให้กูต้องช่วยทุกที”

“อ้าว ไม่ให้ที่รักช่วยแล้วจะให้ใครที่ไหนมาช่วย พูดไม่คิดนะเรา”

“พอๆๆ เลิกเพ้อ ท่าจะเมาหนักนะมึง ยังไง มีอะไรอีกมั้ย ไม่มีกูจะนอน”

“โหย อุตส่าห์หลบตัวมาโทรคุย ไล่กูซะละ ถ้าเป็นน้องโชนโทรมาล่ะคงคุยถึงเช้าเลยนะมึงน่ะ”

“อันนั้นมันแน่นอนสิวะ ว่าแต่โชนเขามีมารยาทมากกว่ามึง ดึกดื่นขนาดนี้เขาไม่มาโทรศัพท์ป่วนชาวบ้านเหมือนมึงหรอก”

“รีบออกตัวให้กันเลยนะ พูดจาไม่รักษาน้ำใจกูบ้างนะเว้ย”

“รักษาทำไม มึงไม่ได้เป็นอะไรกะกูนี่ แค่เพื่อนห่างๆ อย่ามาทำตัวเรียกร้องไอ้น้อง”

“เออ ปากดีเข้าไว้ วันไหนกูหายไปอย่าร้อนรนก็แล้วกัน”

“เรื่องเหอะ คนอย่างมึงอ่ะนะจะกล้าหายไปจากกู นอกจากกูแล้วมึงจะเหลือใครให้มึงโทรหายามตีหนึ่งตีสองแบบนี้บ้างครับไอ้คุณธันว์ ที่คบๆ คุยๆ แบบน้ำแตกแยกทางคิดเหรอว่าพวกนั้นจะฟังมึง”

“มั่นใจขนาดนั้น เดี๋ยวสักวันกูเปิดตัวแฟนขึ้นมาแล้วมึงจะช้ำหนักไอ้ไนท์”

“หากเป็นงั้นจริงกูจะยอมบวชไม่ศึกเลยเหอะ เจ้าชู้เจ้าเล่ห์แบบมึง ใครที่ไหนมันจะมาคบจริงจัง”

“จ้า พ่อคนดีของน้องโชน แล้วยังไง วันนี้เซย์ไฮกันหรือยัง”

“คุยกันแต่หัววันแล้ว ว่าแต่มึงเหอะ หาเหยื่อไม่ได้แล้วหรือเปล่าถึงต้องโทรมาหากูแบบนี้”

“ดูถูกไปหน่อยมั้ง ที่โทรมาก็แค่คิดถึงว่าที่รักจะนอนไม่หลับหากว่ายังไม่รายงานตัว เห็นปากดีแบบนี้ ไม่ห่วงซะก็ดี”

“หรา…ห่วงกูหรา… โทรมาเอาตอนร้านจะปิดแบบนี้ กูคงชื่นใจตายล่ะ”

“ทำประชด แล้วโทรศัพท์มึงตังค์หมดไง ทำไมไม่โทรหากูเอาเองล่ะถ้าอยากคุยแต่ค่ำๆ หรือมัวแต่คุยกับสุดที่รักของมึงจนลืมกูเนี่ย”

“อ้าว กูก็บอกแล้วมึงมันแค่เพื่อนห่างๆ แยกย้ายกันมา ก็ต่างคนต่างไป ทำไมกูจะต้องเอาเวลาพักผ่อนกูไปโทรหามึง”

“เสียดายโว้ย ขับรถไม่ไหว ไม่งั้นกูจะขับไปจับมึงกดทำเมียซะตอนนี้เลยไอ้ห่า ว่ากูตลอด”

“ขับไม่ไหวหรือเกรงใจใครจ๊ะ อย่ามาตีเนียน แค่นี้ก่อนนะกูจะนอนต่อแล้ว ร้านปิดจะไปไหนยังไงก็ดูแลตัวเองบ้าง ไว้เจอกัน”

“อืม ฝันดี”

ธันว์วางสายไปแล้ว ตลอดเวลาที่คุยกันแม้จะพูดจากวนส้นเท้ากันยังไงสุดท้ายก่อนตัดสายสัญญาณถ้อยคำเชิงห่วงใยของผมและน้ำเสียงเชิงอ่อนโยนของมันก็ส่งผ่านไปให้กันและกันอยู่ดี


โปรดติดตามตอนต่อไป


ห่างหายไปจากที่แห่งนี้ไปนานพอสมควร สวัสดีปีใหม่เพื่อนนักอ่านครับ
ปี 2018 นี้ ขอกลับมาวิ่งเล่นในบอร์ดนี้ด้วย Love Story เรื่องนี้นะครับ
เนื่องจากหายไปนาน หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัย และขอคำแนะนำไว้ที่นี่ด้วยครับ


หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 07-01-2018 14:33:01

ตอนที่ 2

เช้าวันใหม่ ผมตื่นสายหน่อยเพราะเป็นวันหยุด
หยิบโทรศัพท์มาเช็คความเคลื่อนจากคนรู้จัก
ไม่มีข้อความจากธันว์ แต่มีข้อความจากโชน

“ตื่นยังครับพี่ไนท์ เย็นนี้ว่างมั้ย เจอกันป่าว”
ผมนิ่งคิดตอนอ่านข้อความนั้นจบ
นานทีปีหนโชนจะเป็นฝ่ายนัดผม
อันที่จริงหากไม่นับว่าต้องไปออกกำลังกายกับไอ้ธันว์ผมก็ว่างแหละ
แต่ก่อนจะตอบอะไรโชนขอเช็คตารางเวลาธันว์ก่อนก็น่าจะดี

“ตื่นยังวะธันว์” ผมส่งข้อความนี้ผ่านไลน์ไปหามันแทนการโทรศัพท์คุย
เพราะเดาไม่ถูกว่ามันอยู่แห่งหนใดตอนนี้
เกรงใจเหมือนกันหากจะโทรไปแล้วมันยังนอนหรือกำลังอยู่กับใคร
สถานะข้อความผมมีคนเปิดอ่านแล้ว สักพักจึงมีข้อความตอบกลับมา

“ตื่นนานแล้ว ว่าไงวะ”

น่าจะเป็นธันว์น่ะแหละที่เปิดอ่านและพิมพ์ตอบกลับมา ผมจึงเริ่มพิมพ์สนทนา

ผม “เย็นนี้ว่าไง ต้องไปฟิตเนสป่าว”
ธันว์ “กูก็ไปของกูประจำ ทำไม”
ผม “อืม วันนี้กูว่าจะพักว่ะ”
ธันว์ “มีนัดสิมึง กะใคร น้องโชนเหรอ”
ผม “แสนรู้นะมึง”
ธันว์ “เชี่ย กูไม่ใช่หมา”
ผม “หรา กูไม่ไปเล่นด้วยสักวันคงไม่เหงานะที่รัก”
ธันว์ “ยั่วกูอีกละ มึงไม่มาอ่ะดีกูจะได้จีบใครได้อย่างสบายใจ”
ผม “ทำเหมือนกูไปแล้วมองเห็นหัวกูนักนี่”
ธันว์ “อ๊ะๆ ไหนบอกไม่คิดอะไรกะกูไง กำลังน้อยใจสิท่า”
ผม “มึงอย่ามามั่ว”
ธันว์ “เขินเหรอจ๊ะ”
ผม “เขินบ้านมึงน่ะสิ ไม่ได้คิดก็ไม่ได้คิดโว้ย”
ธันว์ “จ้า ปากแข็งเข้าไป ว่าแต่นัดกันไปไหนวะ”
ผม “ยังไม่ได้นัด โชนแค่ส่งไลน์มาถามว่าว่างมั้ย อยากเจอ เลยไลน์มาหามึงก่อนนี่แหละ”
ธันว์ “ห่วงความรู้สึกกูขนาดนี้บอกว่าไม่คิดอะไรกะกู คนไรว้า ปากกะใจไม่ตรงกัน”
ผม “เข้าข้างตัวเองอีกละ กูแค่ไม่อยากให้มึงรอ”
ธันว์ “โธ่ กูเคยรอมึงงั้นสิ มึงไม่มากูก็เล่นของกูได้”
ผม “นี่ไง ก็เหี้ยแบบนี้ไงกูถึงไม่อยากคิดอะไรด้วย”
ธันว์ “ไอ้ห่า ทำมาอ้างนิสัยกู พอกูหยอด ก็บอกรอน้องโชนโน่น นั่น นี่”
ผม “เออๆๆ คุยกะมึงมากพาลจะกินข้าวไม่ลง แค่นี้นะ
กูไลน์มาบอกว่าเย็นนี้ไม่ว่างไปฟิตเนสแค่นั้น ลามปามไปกันใหญ่มึงนี่”
ธันว์ “โอเค เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะคนดี”

ผมไม่ส่งข้อความโต้กลับ เอาจริงๆ ทุกครั้งที่ธันว์มันออดอ้อนผมมันก็ทำให้รู้สึกดีอยู่หรอก
แต่มันไม่สม่ำเสมอนี่สิทำให้ผมเบื่อมัน วันดีคืนนี้ ก็เขี่ยหัวผมทิ้ง
แล้วไปหยอดคำหวานกับใครต่อใครแบบไม่เกรงใจผมก็บ่อย
เฮ้อ แล้วผมจะมานั่งสับสนกับตัวตนมันทำไมกันล่ะ ก็ในใจผมมีโชนอยู่ทั้งคนนี่นา

“เย็นนี้พี่ว่าง เจอกันที่ไหนดีอ่ะโชน”

ผมส่งข้อความกลับไปหาโชน หลังปัดความรู้สึกสับสนต่อตัวตนของไอ้ธันว์ทิ้ง
โชนส่งข้อความตอบกลับมาว่าสวนรถไฟ เพราะเจ้าตัวมีนัดเตะบอลกับกลุ่มเพื่อนที่นั่น

“เดี๋ยวโชนจะพาพี่ไนท์ไปเจอกลุ่มเพื่อนโชนด้วย”
นี่คือข้อความต่อมาที่โชนส่งถึงผม ผมจึงส่งตอบกลับไปขำๆ

“จะให้เพื่อนช่วยดูเหรอว่าพี่ผ่านการอนุมัติการคบเป็นแฟนมั้ย”

“อย่างงั้นมั้งครับ” โชนตอบกลับมาสั้นๆ ผมเป่าปากส่ายหน้าหน่อยๆ
คนอย่างผมการจะขอใครสักคนคบหามันยากเย็นขนาดนี้เชียวหรือ
ว่าไปไอ้ห่าธันว์เมื่อไหร่มันจะเลิกเจ้าชู้ซะทีนะ
บางทีผมก็เหนื่อยเกินไปแล้วกับการวิ่งตามโชน

เฮ้อ สุดท้ายผมก็วกกลับมาคิดถึงคนใกล้ใจอย่างไอ้ธันว์จนได้สิน่า
เป็นอะไรอีกแล้วเนี่ยใจ

ผมมาหาโชนในตอนเย็นยังสวนรถไฟตามที่นัด
โชนพาใครคนหนึ่งมาแนะนำให้ผมรู้จัก
บอกเป็นเพื่อนในกลุ่มเตะบอลด้วยกันคือต้าร์

“หวัดดีพี่ไนท์ เตะบอลด้วยกันป่าว”
ต้าร์ทักผม ผมปฏิเสธไปเพราะไม่ได้เอาชุดมา

“ไม่อ่ะ ไม่ได้เตรียมชุดมา”
“พี่พักไหน ไกลป่าว ขับรถกลับไปเอาดิ พวกผมยังไม่เริ่มเตะหรอก
ยังมาไม่ครบกลุ่มเลย” ต้าร์บอกต่อ ผมกลืนน้ำลายลงคอ
ท่าทางผมเหมือนคนมีรถขับอย่างนั้นเหรอ

“พี่ไนท์ไม่ได้ขับรถมา” โชนออกตัวให้ผม

“รถมึงไง รถกูก็ได้” ต้าร์เสนอ โชนไล่ส่งเจ้าตัวไปยังสนามบอล

“มึงอย่ามาเซ้าซี้พี่ไนท์ไอ้ต้าร์ ไปที่สนามโน่นไป”
“เออๆๆ งั้นเดี๋ยวมึงรีบตามมาล่ะ” ต้าร์ว่าแล้ววิ่งกลับไปรวมกลุ่มที่รออยู่
คล้อยหลังโชนจึงหันมาเอ่ยกับผม

“พี่ไนท์หัดขับรถมั้ย เดี๋ยวโชนช่วยสอน”

“ไม่อ่ะ ชาตินี้พี่ไม่รู้ว่าจะมีรถขับหรือเปล่า” ผมตอบไปตามความจริง
ยังไม่มีความคิดที่อยากจะมีรถขับจึงเฉยๆ กับเรื่องนี้

“รถโชนไง เผื่อวันไหนเราไปเที่ยวต่างหวัดกัน จะได้ขับให้โชนนั่ง” โ
ชนเสนอมา ผมนึกถึงภาระหน้าที่การทำงานจึงว่า

“งานพี่ยุ่งตายโหง คงหาเวลาไปต่างจังหวัดยากอ่ะ”

“เฮ้อ จะให้ไปต่อดีมั้ยเนี่ย” โชนเอ่ยว่า ผมรู้สึกใจเสียหน่อยๆ
ซึ่งมันคงแสดงออกมาทางหน้าตานั่นล่ะ โชนจึงหัวเราะเอ่ยต่อ

“ผมล้อเล่นเองพี่ไนท์ ไม่ต้องหน้าซีด”

“คุยกันมานานมาบอกงี้พี่ก็ต้องใจฝ่อบ้างดิ” ผมบอกออกไปตามจริง โชนยกมือตบไหล่ผมเอ่ยยิ้มๆ

“สู้ๆ ผมรอพี่อยู่ ดูกันอีกสักพัก ผมไปหาเพื่อนก่อนนะครับ
เราเตะกันไม่นานหรอก พี่เดินเล่นรอผมในสวนนี้ก็ได้
ไว้ผมเตะบอลเสร็จ ไปหาอะไรกินกัน”
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 07-01-2018 14:42:27
โชนวิ่งกลับเข้าไปรวมกลุ่ม ผมแค่มองตามหลัง
หวิวไหวในใจนิดๆ ตอนเห็นโชนหยอกล้อกับกลุ่มเพื่อนๆ
ซึ่งยังดูเด็กกันอยู่ในสายตาของผม ผมยังไม่เดินไปไหน
ยืนมองดูโชนคุยอะไรไม่รู้กับกลุ่มเพื่อนๆ สักพักคนทั้งกลุ่มหันมาทางผมรวมถึงโชน
ซึ่งเป็นคนเดียวที่ยกมือให้ผม เหมือนเป็นสัญญาณว่าจะเริ่มเตะบอลกันแล้ว
ผมยกมือทักกลับก่อนจะเดินเข้าไปในสวนรถไฟ
ซึ่งบรรยากาศในตอนเย็นๆ ในวันหยุดเช่นนี้ ผู้คนหนาตาพอสมควร
สวนสาธารณะที่ธันว์เจอกับโชนไม่ใช่สวนนี้
สวนนี้ผมเองก็เพิ่งจะได้มาเห็นบรรยากาศ ยังเดินๆ หลงๆ หามุมให้ตัวเองนั่งพักได้ยากอยู่
ระหว่างเดินเซ่อก็ต้องตกใจเมื่อมีจักรยานคันหนึ่งปั่นจะมาชนเขา
ดีที่เจ้าของจักรยานคันนั้นหยุดรถไว้ทัน แต่ก็ไม่วายส่งเสียงตำหนิผมมา

“พี่ครับ นี่มันเลนปั่นจักรยานนะครับ”

“ขอโทษครับ” ผมเอ่ยขอโทษ เพราะไม่รู้จะเถียงยังไง
ยังรู้สึกเซ่อๆ ซ่าๆ อยู่กับสวนสาธารณะที่ไม่ใช่ถิ่นซึ่งผมใช้วิ่งประจำกับธันว์

ใครคนนั้นกับจักรยานคันที่ว่าไม่ตอบอะไร เลี่ยงหลบผมไป แล้วปั่นต่อไปข้างหน้า
ผมมองเห็นม้านั่งในมุมหนึ่งซึ่งดูสงบที่สุดในสวนจึงเลือกเข้าไปนั่งพัก
หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นสื่อโซเชี่ยลไปตามความคุ้นชิน

เวลาผ่านสักพักมีข้อความไลน์เด้งมาจากธันว์ ซึ่งทำให้ผมยิ้มออกมาได้อย่างประหลาด

“ที่รักอยู่ไหนจ๊ะ”

“สวนรถไฟ” ผมพิมพ์ตอบกลับไป คราวนี้ธันว์มันไม่ตอบกลับมา
เป็นเสียงมันเลยแหละที่โทรเข้ามาหาผม

“มึงไปทำไมที่นั่นมึงออกมาเลยนะมึง ไอ้ห่าอ่อยไปทั่วนะมึง”

“มึงจะอะไรกะกูเนี่ยไอ้ธันว์ กูมาหาโชน น้องเขานัดเจอกูที่นี่”

“ที่นัดเจอกันมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมเด็กมึงถึงนัดมึงไปที่นั่น”
ธันว์มันถามมาเสียงเขียว อะไรของมันวะ เฮ้อ

“น้องเขามาแตะบอล มึงเป็นอะไรของมึงวะ”

“หึงมึงไงไอ้เชี่ย มึงรู้มั้ยแถวนั้นเกย์แม่งเป็นฝูง”

“เป็นฝูงแล้วไง กูบอกมาหาโชนก็บอกมาหาโชนดิวะ”

“แล้วคนอื่นที่เขาไปหาคู่ล่ะ เกิดมาจีบมึงขึ้นมามึงจะว่าไง”

“ก็ไม่ได้ส่ำส่อนเหมือนมึงนี่ที่คลำดูว่าใครไม่มีหางก็จ้องจะงาบหมด กูดูแลตัวเองได้มึงไม่ต้องห่วง”

“ปากดีกับกูตลอด ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะ”

“เออนะ อย่ามาเผือกเรื่องของกูนักเลย ว่าแต่มึงทำไรอยู่ตอนนี้”

“เพิ่งเล่นเวทเสร็จ ว่าจะกลับละ”

“ทำไมกลับเร็วอ่ะ เหงาเหรอจ๊ะที่กูไม่ได้ไปเล่นด้วย”

“ปากหมา กูก็มีนัดของกูบ้างสิวะ”

“เบื่อจริงวะหนุ่มฮอตประจำคลับเนี่ย”

“เบื่อหรือหึงจ๊ะที่รัก”

“หึงบ้านมึงดิ ไปไหนก็ดูแลตัวเองด้วย”

“กูดูแลตัวเองได้มึงไม่ต้องห่วง”

“ย้อนนะมึง”

“เอาไม่ได้กูก็ได้แค่ย้อนนั่นแหละ”

“ไอ้เหี้ย พูดแบบนี้มีใครได้ยินมั้ยเนี่ย”
“ได้ยินแล้วไง ผัวจะคุยกับเมีย อายทำไม”

“ห่ามได้อีกน่ะมึงนะไอ้ธันว์”

“ตอนหื่นยิ่งกว่านี้นะจ๊ะที่รัก ลองสักทีหน่อยมั้ย”

“ไปๆๆ มึงจะไปไหนก็ไป อย่ามาทะลึ่งกะกูให้มากนัก โ
ชนเหมือนจะเตะบอลเสร็จแล้ว กูต้องไปกะน้องเขาละ”

ผมตัดสายจากธันว์ทิ้งไปทันทีเมื่อมองเห็นโชนเดินเกาะกลุ่มเพื่อนมาทางผม
ผมลุกเดินไปหา คนทั้งกลุ่มกับผมบรรจบกันที่ใกล้ทางออกสวน

“รอนานมั้ยพี่ไนท์” โชนทักผม ผมยังไม่ตอบอะไรกลุ่มเพื่อนๆ ของเจ้าตัวก็สลายตัวกันไป
เหลือแค่ต้าร์เป็นคนสุดท้าย ซึ่งดูแล้วน่าจะสนิทกับโชนมากที่สุดในกลุ่ม

“ไม่นานหรอก โชนเหอะเหนื่อยมั้ยเหงื่อท่วมมาเชียว” ผมทักกลับ โชนเพียงยิ้ม
ก่อนขอตัวเดินคู่กับต้าร์ไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ปล่อยให้ผมยืนรออยู่คนเดียว

“พี่ยังไม่กลับเหรอครับ” มีเสียงทักมาให้ผมได้ยิน ผมหันไปมอง
เห็นหนุ่มน้อยหน้าใสยืนจับจักรยานอยู่ มองดูคุ้นหน้าผมจึงทัก

“น้องหรือเปล่าที่พี่ไปยืนเดินขวางทางรถเมื่อครู่”

“ครับ ผมไอซ์ พี่เพิ่งมาที่นี่เหรอครับ ถึงเดินไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย” ไอซ์ว่าผมยิ้มๆ ผมพยักหน้าให้แทนคำตอบ
สักพักโชนกับต้าร์ก็เดินมาสมทบ ไอซ์กับโชนมองสบตากันแปลกๆ ผมเลยชิงแนะนำ

“โชนนี่ไอซ์”

“เราเจอกันที่นี่บ่อยครับ มืดมากแล้วผมว่าเราไปกันดีกว่า ไว้เจอกันต้าร์” โชนบอกนิ่งๆ เอ่ยบอกลาต้าร์
แล้วเดินนำผมออกไป ผมส่งยิ้มให้ต้าร์กับไอซ์นิดๆ ก่อนเดินเกาหัวตามโชนไป

โชนเดินนำผมไปยังที่จอดรถของเขาโดยไม่พูดไม่จา
กระทั่งพาผมเข้าไปนั่งในรถได้นั่นล่ะจึงเอ่ยออกมา

“คุยอะไรกันกับไอซ์ครับ”

“ยังไม่ได้คุยอะไรเลย เขาแค่มาทักว่ายังไม่กลับเหรอ” ผมบอกตามจริง

“รู้จักกันมาก่อนเหรอครับ” ไอซ์ถามต่อ

“เปล่า เพิ่งเจอกันวันนี้แหละ ตอนรอโชนพี่เกือบเดินชนจักรยานไอซ์เขาน่ะ” ผมตอบอีก
รู้สึกไม่ดีเลยกับที่โชนหน้าตาบึ้งเฉยใส่แบบนี้ แถมพูดออกมาเป็นปริศนาอีก

“พี่ไนท์เพิ่งมาสวนนี้น่าจะยังไม่รู้จักไอซ์ดีมั้ง”

“ทำไมเหรอ” ผมสงสัย

“ช่างมันเถอะ ว่าแต่พี่ไนท์หิวมากมั้ย” ไอซ์บอกปัด แล้วถามเรื่องอื่น

“ก็นิดหน่อย เราไปกินอะไรกันดีล่ะ” ผมตอบ พยายามยิ้มให้บรรยากาศมันดีขึ้น
แต่โชนกลับทำให้มันแย่ลงด้วยการเอ่ย

“พี่ไนท์อยากกินอะไรที่ไหนบอกโชนมาเถอะ เดี๋ยวโชนขับไปส่ง แต่คงนั่งกินด้วยไม่ได้”

“อ้าว ทำไมล่ะ”

“โชนไม่ค่อยหิวเท่าไหร่น่ะครับ อยากกลับบ้านนอนพักมากกว่า”

“อืม งั้นโชนไม่ต้องลำบากไปส่งพี่หรอก กลับบ้านเถอะ ท่าทางโชนน่าจะเหนื่อย”

“งั้นพี่ไนท์กลับเองได้มั้ย บ้านโชนกับห้องพี่ไนท์มันคนละทาง โชนขี้เกียจขับรถนานๆ”

ผมอึ้งไปนิดหน่อย เริ่มอ่านไม่ออกในความคิดของโชน
แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าเจ้าตัวคงจะเหนื่อยจากการเตะบอลมานั่นล่ะจึงยอมพาร่างออกมาจากร่างรถง่ายๆ

โชนขับรถหนีไปแล้ว ปล่อยให้ผมยืนเคว้งได้สักพัก มาสะดุ้งรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนมีเสียงแตรรถบีบขอทาง
จึงรู้ตัวว่าตัวเองยืนขวางทางรถอีกแล้ว ตั้งสติได้จึงรีบเบี่ยงตัวหลบ
รถคันนั้นยังไม่ยอมเคลื่อนไป กลับกันคนขับกลับเลื่อนกระจกลงมาทักผม ซึ่งคือไอซ์นั่นเอง

“เฮ้พี่ กลับยัง ไปด้วยกันมั้ย” เจ้าตัวทักผม
ผมยังงงๆ กะการทำตัวของโชนอยู่จึงไม่ทันได้ตอบว่าอะไร สักพักไอซ์ก็ตะโกนมาอีก

“ขึ้นรถมาเหอะพี่ มีรถไล่หลังมา จอดขวางทางออกแบบนี้ผมจะโดนดีเอา”

ผมลังเลได้สักพัก เห็นรอยยิ้มเป็นมิตรจากไอซ์ คิดว่าไม่น่ามีอะไรจึงยอมขึ้นรถไปนั่งคู่เจ้าตัว

“พี่ชื่ออะไรอ่ะ” ไอซ์ชวนคุยขณะขับรถออกไปนอกสวน

“ไนท์” ผมตอบสั้นๆ ยังคงรู้สึกเคว้งอยู่กับการกระทำของโชน
ไอซ์คงจับอาการได้จึงทัก

“เป็นไรพี่ ทะเลาะกับไอ้โชนเหรอ”

“นายรู้จักโชนเหรอ” ผมหันมาถาม เพิ่งสังเกตมองเสี้ยวหน้าของไอซ์
ก็ดูดีในแบบฉบับวัยรุ่นทั่วๆ ไป ไม่ได้หล่อจัดเหมือนไอ้ธันว์
เอาอีกละ ผมวกเอาใครต่อใครไปเทียบกับไอ้นั่นอีกล่ะ เฮ้อ ยังไงกันนะใจ

“เราเจอกันที่นี่บ่อย โชนเขามาเตะบอลส่วนผมมาปั่นจักรยาน” ไอซ์คุยต่อไป
เพิ่งสังเกตว่าเปลี่ยนการแต่งกายจากชุดปั่นจักรยานเป็นกางเกงบอลขาสั้นกับเสื้อกีฬาแบรนด์ดังพอดีหุ่นเท่านั้น

“จักรยานนายไปไหน” ผมถามถึงจักรยานเจ้าตัว

“ท้ายรถ พี่ชอบปั่นจักรยานมั้ย วันหลังมาปั่นกะผมดิ หนุกดีนะ” ไอซ์หันมาสบตาผมในจังหวะรถติด
เราสองคนจึงเริ่มสนทนากันแบบคนสนิทมากขึ้น

“พี่คงไม่ว่างขนาดนั้น มานี่ได้ก็เพราะวันหยุด จันทร์ถึงศุกร์ต้องทำงานจนมืดค่ำ”

“แล้วพี่ออกกำลังกายที่ไหนอ่ะ หุ่นถึงได้ดีขนาดนี้”

“ดูไงวะว่าพี่หุ่นดี พี่ไม่ได้ใส่ชุดเล่นกีฬามานะ”

“คนมันจะดูดีใส่อะไรมันก็ดูทั้งนั้นแหละครับ”

“ถ้าแค่นี้บอกว่าพี่หุ่นดี เจอเพื่อนพี่นายไม่บอกหุ่นเทพเลยเหรอ” เอาอีกละ ผมเริ่มคิดถึงไอ้ธันว์อีกละ อะไรกันนักหนาวะใจ

“งั้นวันหลังพาผมไปเจอดิ” ไอซ์เอ่ยยิ้มๆ พอๆ กับที่รถเริ่มเคลื่อนตัว

“ก็ถ้าได้คุยกันต่อนายก็คงได้เจอมันสักวัน” ผมว่าไอซ์จึงเอ่ยขอช่องทางติดต่อผมตรงๆ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 07-01-2018 14:56:49
“งั้นขอไลน์พี่หน่อยดิ”

“ที่ขออ่ะอยากคุยกับพี่หรืออยากคุยกับเพื่อนพี่วะนาย”
ผมแซว ไอซ์หัวเราะเสียงดังเอ่ยเหมือนคนจริงใจ

“ผมอยากคุยกับใครผมก็ขอคนนั้นตรงๆ ครับ
ผมขอไลน์พี่ก็แสดงว่าผมอยากคุยกับพี่ กับเพื่อนพี่ตัวเป็นๆ
ยังไม่เคยเจอกันผมคงไม่มโนไปหรอกครับว่าเขาเทพขนาดไหน
มาตรฐานคนดูดีของพี่กับของผมอาจไม่เหมือนกันก็ได้”

“อืม มันก็จริง ว่าแต่นายจะพาพี่ไปไหนหว่า
นี่มันออกถนนหลักแล้วนี่ ให้พี่ลงตรงนี้ก็ได้
เดี๋ยวพี่นั่งรถไฟฟ้ากลับห้องเอง”

“จะรีบไปไหนไลน์พี่ผมยังไม่ได้เลยนะครับ”

“อืม นายรู้จักกับโชน แล้วโชนกับพี่ก็ดูๆ กันอยู่
มันจะดีเหรอวะกับการที่เราจะคุยกัน”

“โหพี่ คิดมากจัง นี่มันยุคไหนแล้ว
แล้วไอ้โชนนั้นถ้ามันคุยกับพี่คนเดียวผมให้พี่เตะผมเลยอะ”

ผมนิ่ง ดูตามวัยผมกับโชนกับไอซ์ก็ไม่ได้ห่างกันสิบยี่สิบปีนี่นา
ทำไมคนพวกนี้ถึงชอบคิดอะไรแบบนี้นะ คบๆ คุยๆ กับใครมากหน้าหลายตาเผื่อเลือกกันไปซะหมด
รวมถึงไอ้ธันว์ด้วย

นั่นไง หัวใจวกกลับมาคนใกล้ใจอีกละผม

ผมยอมให้ไลน์ไอซ์ไปเมื่อเจ้าตัวตื้อผมแกมขู่ว่าหากไม่บอกจะปล่อยผมลงจากรถ
เอาน่า ใช่ว่านอกจากไอซ์แล้วจะไม่มีใครเข้าหาในลักษณะเช่นนี้ ให้ๆ ไปก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่

“ขอบคุณนะครับ รูปโปรไฟล์หล่อซะด้วย” ไอซ์เอ่ยว่าหลังจากแอดผมมาเรียบร้อย

“สำเนาถูกต้องหรือเปล่าล่ะกับตัวจริง” ผมพูดติดตลก อึ้งไปนิดเมื่อไอซ์ตอบกลับมา

“ไม่อ่ะ ตัวจริงดูดีกว่า”
“ว่าไปนั่น ได้ไลน์พี่แล้วก็จอดให้พี่ลงข้างข้างหน้าน่ะแหละ”

ไอซ์ปล่อยผมลงตรงที่ผมบอก ผมได้แต่ยืนเป่าปากงงๆ กับเรื่องราว
ตอนมาคิดเอาว่าจะได้คุยใกล้ชิดสนิทกับโชน
แต่ไปๆ มาๆ กับมาได้เพื่อนใหม่ในสวนรถไฟอย่างไอซ์ซะอย่างนั้น
ว่าแต่ว่าไอ้เพื่อนตัวดีของผมอย่างธันว์มันจะกลับถึงห้องหรือยังป่านนี้

ทักทายมันหน่อยก็ดี



ติดตามตอนต่อไปครับ


@FeaRes นั่นสิ คนที่ไนท์ชอบคือใครน๊อ

@Pithchayoot ใช่ครับ นี่เป็นผลงานเรื่องใหม่ของพี่ ของผม ของ Boy หรือ Bboyseries นะแหละครับ

ฝากติดตามด้วยครับ เนื้อหาเพิ่งเริ่มต้นอาจจะโปรยเรื่องแนะนำตัวละครกันสักนิด

แต่หากเคยได้อ่านงานเก่าๆ จุดพลิกผันของเรื่องจะค่อยๆ เผยออกมาทีละนิดครับ

ท้ายที่สุด ธันว์-ไนท์ หัวใจจะใกล้กันได้เพียงใด ติดตามต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 07-01-2018 17:46:49
ทำไงถึงจะกลับมาชอบกันได้ละเนี่ย
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 07-01-2018 19:23:02
โชนนี่ตกลงยังไงง ไม่น่าจะชอบไนล์กลับเลยใช่ม่ะ
สองคนนั้นอาจจะใจใกล้กันมากแต่มองไม่เห็นงี้(?)
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 07-01-2018 22:21:52

ตอนที่ 3

“ว่าไง แยกกับน้องโชนแล้วเหรอที่รัก” น้ำเสียงแรกที่ธันว์มันทักผมมาไม่พ้นการเรียกผมในทำนองออดอ้อนเหมือนเคย
ผมก็ปากไวด่ามันกลับเป็นปกติเหมือนทุกที

“มึงอย่ามาเรียกกูที่รักบ่อยไอ้ธันว์ เดี๋ยวกูก็รักจริงซะนี่”

“รักจริงก็ดีดิ กูจะได้จับมึงทำเมียซะที”

“กะจะฟันกูแล้วทิ้งเหมือนที่มึงทำกับหลายๆ คนอ่ะดิ รอไปก่อน ไอ้ตี๋น้อย”

“มึงนี่แม่งรู้ทันกูทุกเรื่อง เอาวะ คนน่ารักอย่างน้องไนท์ให้พี่ธันว์รอนานเท่าไหร่พี่ธันว์ก็จะรอ”

“ตลอดชีวิตเลยเป็นไง”

“สันดาน เคยมั้ยเนี่ยเห็นกูในสายตาเนี่ย”

“ทำมาพูดดี แล้วนี่มึงอยู่ไหน”

“ทำไมมึงจะมาหาเหรอ”

“กูไปหาได้เหรอ”

“ทำไมจะมาไม่ได้วะ”

“อ้าว กูก็นึกว่ามึงอยู่กับบรรดากิ๊กของมึง”

“ไอ้เหี้ยไนท์ครับ ไม่ต้องเชื่อทุกสิ่งที่กูบอกก็ได้นะครับ
กูออกจากฟิตเนสก็กลับคอนโดครับ กูไม่ได้ไปหาใครที่ไหน”

“แล้วโกหกกูว่ามีนัดเพื่อ”

“เผื่อว่ามึงจะหึงไง”

“ไอ้เหี้ยธันว์ครับกูกับมึงแค่เพื่อนกันนะครับ คือกูจะหึงมึงทำซาก”

“ยอกย้อนนะมึง ยังไงจะมาหากูมั้ย”

“แล้วมึงจะปล้ำกูป่ะล่ะ”

“ก็ไม่แน่”

“มึงอย่ามาหื่นตอนนี้กูอยากหาคนด้วยจริงๆ”

“แล้วทำไมถึงคิดถึงกู”

“มึงก็เกย์ กูก็เกย์ ก็น่าจะคุยเรื่องเกย์ๆ กันได้”

“อืม เสียงดูไม่ดีขึ้นละมึง ทะเลาะกับโชนมาเหรอ”

“ไม่เชิงอ่ะ”

“งั้นก็มา แต่รีบหน่อยนะ เดี๋ยวมีคนอื่นนัดตัดหน้ากูคงชิ่งหนีมึงก่อน”

“อีกละ ก็เป็นซะแบบเนี้ย ไม่ว่างกูไม่ไปก็ได้วะ”

“กูล้อเล่นไอ้เชี่ย ขี้งอนนะมึงน่ะ”

“คือบางทีก็เล่นเกินไปป่ะ จริงใจกะกูหน่อยก็ได้มั้ยล่ะ”

“คร้าบที่รัก ขอโทษครับ มาๆ อย่าพูดมาก นั่งแท็กซี่มาเลยนะเดี๋ยวกูจ่ายให้”

“อย่ามาทำป๋า กูมีปัญญาจ่าย”

“ก็อยากดูแลแค่เนี้ย มึงมีปัญหาเหรอ”

“หางานหาการทำให้ได้ก่อนเถอะค่อยเสือกอยากมาดูแลกู”

“ปากดี เออ แล้วอยากกินอะไรมั้ยกูจะทำไว้ให้”

“ลืมไปข้อดีมึงอีกอย่างคือทำอาหารเป็นนี่หว่า”

“กูมีดีมากกว่านั้น แต่มึงเสือกไม่มองเอง”

“หรา หลงตัวเองใช่ย่อยนะมึงเนี่ย”

“พูดมาก แล้วจะยัดห่าอะไรบอกกูมา”

“อืม สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาอะไรก็ได้ ไม่เอากุ้งนะมึง ใส่มากูเตะ”

“เออ กูรู้ ห้องกูไม่มีใส่ให้มึงหรอกกุ้งน่ะ”

“โอเค แท็กซี่ว่างละ เดี๋ยวเจอกัน”

“อืม เจอกัน”

……………………………………………….

ผมใช้เวลาไม่นานนักมาเจอธันว์ที่คอนโด
เปิดประตูห้องมันเข้าไปต้องตกใจที่มันโผเข้ากอดผมพร้อมเอ่ย

“ไม่เจอตั้งวัน ขอกอดหน่อยคิดถึง”

“ถ้าจะขนาดนี้มึงลากกูขึ้นเตียงเลยมั้ยล่ะ” ผมว่าประชด ผลักมันออกจากร่าง

“งั้นป่ะ” ธันว์มันฉุดแขนผมจะลากไปยังห้องนอนมันจริงๆ
ดูมัน หื่นได้แม้กระทั่งกับเพื่อน เฮ้อ

“มึงอย่ามาเยอะไอ้ธันว์ กูกำลังเบื่อๆ” ผมรั้งตัวไว้แกะมือมันออก
แล้วเดินไปนั่งผ่อนลมหายใจตรงโซฟา ธันว์มันจึงแยกไปจัดการรินน้ำมาให้

“อะน้ำ” มันยื่นน้ำให้ผมพร้อมนั่งลงข้างๆ ผมรับน้ำมา หันมองสบตามันบอก

“กูเพิ่งเข้ามา กูร้อนมึงจะมาเบียดอะไรกูนักหนาเนี่ยไอ้ธันว์”

“ก็คิดถึงไง ทำไมอ่ะ นั่งใกล้แค่นี้ไม่ได้เหรอ” ธันว์มันส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้
เป็นคนอื่นคงละลายตายไปตรงนั้นละกับสายตาที่มันมองมา
แต่กับผมชินซะแล้วกับการโดนหยอกเหย้าแบบนี้จึงแค่ส่ายหน้าเอ่ย

“ไม่ต้องมามองแบบนี้ กูไม่หลงกลคนเจ้าชู้อย่างมึงหรอก”

“หลงไม่หลงคืนนี้ก็รู้กันล่ะว้า” ธันว์มันบอกยิ้มๆ ผมจึงถาม

“หมายความว่าไง”

“คืนนี้ค้างกะกูนะ”

“ทำไมกูต้องนอน” ผมยักไหล่ ว่าจะไม่ละลายกะสายตาไอ้ธันว์ผมก็ชักใจสั่นจนต้องยกน้ำขึ้นดื่มแก้เก้อ

“ในน้ำมียาปลุกเซ็กส์” ธันว์มันว่า ทำเอาผมแทบพุ่งวางแก้วน้ำด่ามัน

“ไอ้เชี่ยธันว์มึงพูดจริงพูดเล่นเนี่ย”

“ทำไม ถ้ามีกลัวอะไรกะอีแค่ต้องเป็นเมียกู” ธันว์จ้องตาผม ผมใจสั่นประหลาด
ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาอย่างที่มันบอก หรือว่ามันเกิดขึ้นเอง แต่ตอนนี้เอาตัวอยู่ห่างมันน่าจะดีที่สุด

ผมรีบลุกหนีเมื่อคิดได้แบบนั้น บ้าน่ะสิ ผมมานี่เพื่อจะมาหาเพื่อนคุยไม่ได้มาหาคู่นอน
สำนึกในใจยังคิดอยู่ว่าผมกำลังตามจีบโชนอยู่
จะมาทำตัวเหลวแหลกเหลวไหลแบบนี้ได้ยังไง
ที่สำคัญไอ้ธันว์นี่ก็เพื่อนสนิทผม
เกิดเรามีอะไรกันแล้วเราจะมองหน้ากันติดมั้ยล่ะในอนาคต
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 07-01-2018 22:31:29
“มึงเป็นอะไรไอ้ไนท์ กูล้อเล่น นี่มึงคิดว่ากูจะมอมยามึงจริงๆเหรอ โธ่ๆๆ หลงตัวเองไม่เบานะเรา”
ธันว์มันปล่อยหัวเราะออกมา มันคงเห็นสีหน้าผมกำลังครุ่นคิดน่ะแหละ
ว่าแต่มันไม่ได้มอมยาแล้วผมใจสั่นเพราะอะไรล่ะ
เพราะโดนมันจ้องตาอย่างนั้นน่ะเหรอ ไม่สิน่า มันต้องไม่ใช่แบบนั้น

“ไอ้ห่า ล้อกูได้ตลอด” ผมเดินเข้าไปผลักหัวธันว์ให้มันหยุดหัวเราะ ซึ่งมันก็หยุดก่อนจะเอ่ย

“ไป ไป ไป อาบน้ำ กูทำสปาเก็ตตี้ไว้รอแล้วอยู่บนโต๊ะกินข้าวจะได้กินกัน”

“มึงก็ปล่อยมือกูดิ” ผมว่า ธันว์มันคงไม่รู้ตัวล่ะมั้งว่าจับมือผมเอาไว้ตอนผมยกมือขึ้นผลักหัวมัน
ตอนนี้เราสองคนจึงจ้องตากันอีกรอบ ก่อนธันว์มันจะรีบปล่อยแล้วเดินไปจัดจัดแจงหาเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ผม
ผมลอบมองตามหลัง แอบคิดไปไกลว่ามันดูแลใครต่อใครดีแบบนี้ในทุกทีที่มันนัดมายังห้องนี้หรือเปล่า
เฮ้อ มันก็คงเป็นอย่างนั้นล่ะ อย่าคิดเข้าข้างว่าตัวเองจะพิเศษไปกว่าใครเลยไอ้ไนท์เอ้ย

“คืนนี้นอนนี่นะจ๊ะที่รัก พรุ่งนี้ไม่ต้องทำงานอย่ามาอ้างว่านอนไม่ได้”
ธันว์เดินมาส่งผ้าเช็ดตัวพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ผม ผมรับมาแล้วรีบเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
ไม่อยากมองจ้องตาไอ้ธันว์อีกเป็นรอบที่สาม

ที่โต๊ะกินข้าว ธันว์ทำสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาไก่เอาไว้สองจาน
จานหนึ่งของผม และจานหนึ่งของมัน ผมอดแปลกใจไม่ได้จึงถาม

“มึงยังไม่กินข้าวเหรอวะ”

“หึ รอกินพร้อมมึงไง”

ผมนิ่งคิด มันจะมากินพร้อมผมทำไม ใส่ใจกูทำไมขนาดนั้นว้าไอ้ธันว์

“นี่มึงเอาใจทุกคนที่มาห้องมึงแบบนี้ทุกคนป่าววะไอ้ธันว์” ผมถามออกไปด้วยความสงสัย
อันที่จริงธันว์มันก็ดูแลเทคแคร์ผมแบบนี้ทุกทีที่ผมมาห้องมันน่ะแหละ
แต่ทำไมผมถึงมาสะดุดใจที่จะถามมันตอนนี้ก็ไม่รู้ ซึ่งมันเองก็คงจะแปลกใจจึงว่าผมกลับ

“คือกูเพิ่งเอาใจมึงเหรอไอ้ไนท์ ทำไมถึงมาถามอะไรแบบนี้ตอนนี้
หรือมึงเริ่มคิดอะไรกับกูแล้ว”

“ก็แค่ถามไปงั้นมึงอย่ามาเดาส่ง” ผมตอบ นั่นสินะ นี่ผมกำลังคิดอะไรกับไอ้ธันว์หรือเปล่า
อย่านะใจ ไอ้นี่มันเจ้าชู้จะตายอย่าไปหวั่นไหวอะไรกับมัน

“พ่อแม่กูสอนมาดีเว้ย แขกเหรื่อมาบ้านก็ต้องต้อนรับขับสู้ให้เขาประทับใจ”
ธันว์ตอบมา นั่นยังไงล่ะ ผมเป็นคนพิเศษของมันคนเดียวซะที่ไหน
ตัดใจได้เสร็จ ผมจึงนั่งลงชิมรสชาติฝีมืออาหารของไอ้ธันว์
ซึ่งยังอร่อยได้อย่างคงเส้นคงวา

“ไง อร่อยป่ะ” ธันว์เงยหน้าถามตอนที่มันนั่งลงกินเช่นกัน

“ไม่อ่ะ คนอื่นทำอร่อยกว่าอีก” ผมแกล้งตอบไป
ก็ไม่รู้ว่าตัวเองนึกน้อยใจหรือเปล่าที่คิดว่าธันว์มันก็ดีแบบนี้กับทุกๆ คน

“คนอื่นน่ะใคร” ธันว์ถามเสียงแข็ง

“หึงเหรอ” ผมเหย้ามันบ้าง

“มึงอย่ามาเล่นลิ้น มีใครทำกับข้าวให้มึงกินอีกบอกมา”
ธันว์มองจ้องหน้า เออนะ แหย่มันเล่นแบบนี้ก็เข้าทีดีนี่นา
คิดได้แบบนั้นผมจึงเอ่ย

“ทำไมกูต้องบอก มึงคิดว่ามึงมีดีกว่าใครหรือไง”

“แล้วมึงไปกินที่ไหนมาล่ะ ถ้าไม่ใช่น้องโชนมึงตาย”

“แล้วทำไมต้องเป็นโชนโชนเคยเอาใจกูที่ไหนมึงก็รู้”

“แล้วมึงไปคบไปจีบใครอีก ส่ำส่อนนะมึง”

“ทำไม กลัวเป็นคนที่มึงเคยได้หรือไง
เจ้าชู้หลายใจไม่ซ้ำหน้านักก็แบบนี้แหละ”

“มึงอย่ามาเบี่ยงประเด็น
กูถามก็แค่ตอบว่านอกจากโชนแล้วมึงไปคบไปคุยใครอีก”

“ไม่บอก”

“เออ สักวันกูจะทำให้น้ำตาตก”

ผมชะงัก ไม่เข้าใจว่าทำไมธันว์มันถึงขู่มาแบบนั้น
แต่เห็นมันก้มลงจัดการกับจานสปาเก็ตตี้ตรงหน้าต่อ
จึงเงียบเสียงก้มลงกินสปาเก็ตตี้ต่อเช่นกัน

จากนาทีนั้นเราสองคนไม่พูดไม่จากัน กระทั่งต่างฝ่ายต่างอิ่ม

ธันว์มันจึงลุกมาเก็บจานตรงหน้าผม ผมรีบคว้ามือมันไว้แล้วแย้ง

“ไม่ต้องกูเก็บเอง”

“มึงไม่ต้องยุ่ง เป็นแค่แขก กูเป็นเจ้าของห้องกูจัดการเอง”
ธันว์มันบอกสะบัดมือผมออก เก็บจานเดินไปยังอ่างล้าง
ผมไม่ชินและไม่สบายใจกับท่าทีมึนชาของมันนักจึงตามไป
เอ่ยถามตอนมันจะล้างจาน

“แล้วทำไมมึงต้องมึนชากับกูแบบนี้”
“มึงแคร์กูด้วยเหรอ” ธันว์หันมาว่า เราสองคนมองสบตากันอีก
ผมไม่อยากหวั่นไหวและใจสั่นจึงเลี่ยงขอล้างจานเอง

“มึงไปนั่งดูทีวี เล่นโทรศัพท์
หรือจะคุยกับกิ๊กมึงที่ไหนก็ไปไปจะได้สบายใจ เดี๋ยวจานกูล้างเอง”

ธันว์มันยอมถอยออกมาอย่างว่าง่าย
ผมมองตามร่างมันที่เดินไปหยิบโทรศัพท์แล้วหลบมุมไปนั่งเล่นบนโซฟา
มันน่าจะคุยจะแชทหาบรรดากิ๊กมันอย่างที่ผมแนะนำน่ะแหละ
เห็นภาพนั้นแล้วผมใจหวิวอย่างประหลาด
จึงลอบผ่อนลมหายใจหันมาจัดการล้างจานต่อเงียบๆ
ล้างเสร็จจึงเดินออกไปหาธันว์เอ่ยทัก

“หากมีใครจะมากูกลับก็ได้นะ”

“แล้วใครมันจะมาป่านนี้ มึงอย่าบ้าได้ป่ะ”
ธันว์ตะคอกกลับ คำว่าใครมันจะมาป่านนี้ ใช่สินะ นี่ก็ดึกพอสมควร
มันน่าจะนัดใครไม่ได้นั่นล่ะถึงมาอาละวาดใส่ผม
ผมก็ไม่ยอมหรอกจึงสวนกลับ

“นัดใครไม่ได้มึงก็อย่ามาพาลกูไอ้ธันว์”

“กูพาลมึงตรงไหน กูพูดดีๆ ใส่ก็ว่ากูล้อเล่น
พอกูตะคอกก็หาว่ากูพาลใส่ประสาทนะมึงเนี่ย”

“ก็แล้วมึงเป็นอะไรล่ะ อยู่ๆ ที่โต๊ะกินข้าวมึงก็เลิกคุยกับกูเฉยๆ”

“ก็แดกข้าวกันอยู่ใครเขาสอนให้พูดมากกัน”

“ก็เนี่ยมึงกำลังพาล”

“มึงอย่าชวนทะเลาะ ถ้าง่วงก็ไปนอนก่อนกูไป เดี๋ยวกูตามไป”
ธันว์บอกปัด ก้มลงเล่นโทรศัพท์อีก ผมอดไม่ได้จึงว่า

“กูไม่ได้ชวนทะเลาะ แล้วกูก็ยังไม่ง่วงด้วย
ให้กลับห้องตอนนี้กูก็ยังกลับไหว”

“งั้นก็กลับไปเลยไปอยากกลับนัก รำคาญว่ะ”

ผมตัวชา ใช่สินะมันคงนัดใครได้แล้วล่ะถึงได้ไล่แบบนี้

“งั้นขอโทษที่กูมากวน” ผมเอ่ยออกไปรู้สึกน้อยใจขึ้นมาจริงๆ
จึงเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดเดิมที่ผมใส่มา
แต่เปลี่ยนได้แค่เสื้อธันว์มันก็เดินมาส่งตาดุๆ สั่ง
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 07-01-2018 22:44:17

“มึงเลิกบ้าไอ้ไนท์ ไหนบอกไม่ได้คิดอะไรกะกูแล้วเสือกมาน้อยใจอะไรกะคำพูดกู นี่มันดึกแล้วมึงจะกลับยังไง”

“กูมีปัญญากลับก็แล้วกัน” ผมว่า จัดการจะเปลี่ยนกางเกงต่อแต่ธันว์มันแย่งไปแล้วโยนไปอีกมุมหนึ่ง
นาทีต่อมามันก็จัดการถอดเสื้อผมที่เพิ่งเปลี่ยนไปโยนตามไป
สภาพผมตอนนี้จึงยืนสวมแค่กางเกงขาสั้นตัวที่เตรียมใส่นอนต่อหน้ามัน
ใจผมสั่นอีกครั้งตอนที่ธันว์มันมองรูปร่างเปลือยเปล่าส่วนบนของผม

“มึงจะนอนถอดเสื้อหรือใส่เสื้อเลือกเอา” ธันว์มันหยิบเสื้อนอนที่ผมเพิ่งถอดทิ้งยื่นให้ผม
ก่อนที่ผมจะหวั่นไหวไปกับสายตาที่ธันว์มันมองมาไปมากกว่านี้
นาทีนั้นผมไม่รอช้าที่จะหยิบมาสวม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตัวผมร่างเกือบเปลือยต่อหน้าธันว์
แต่มันเป็นครั้งแรกที่ผมใจสั่นอย่างประหลาดจึงรีบสวมเสื้อปกปิดเนื้อกายตัวเอง

“ก็แค่เนี๊ยะ ไปแปรงฟัน เข้านอน” ธันว์มันเดินผละผมออกไปทางห้องน้ำ
ผมผ่อนลมหายใจเดินตามไป เจอภาพมันกำลังบีบยาสีฟันใส่แปรงสีฟัน
คิดว่าคงเป็นของมันน่ะแหละ แต่เปล่า มันทำแบบนั้นให้ผมจนผมอึ้งไปอีก

“อ่ะ ต้องให้แปรงให้ด้วยมั้ย” มันบอกตอนยื่นแปรงสีฟันให้ผม ผมรับมาเอ่ยว่าห้วนๆ

“ไม่ต้อง”

ผมกับไอ้ธันว์ยืนแปรงฟันคู่กันหน้ากระจก
จึงเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะเผลอมมองสบตากันเป็นระยะๆ
จนทำภารกิจกันเสร็จ นั่นล่ะธันว์มันจึงแยกตัวออกมาก่อน
เดินเข้าไปในส่วนของห้องนอนจัดแจงที่นอนให้ผมเสร็จสรรพ ผมจึงถาม

“มึงจะไม่ถามเหรอว่าทำไมกูถึงมาหามึงไอ้ธันว์”

“สำคัญอะไรล่ะ มึงจะมาหากูเมื่อไหร่ยังไงก็ได้ มึงเอากุญแจห้องกูไปถือไว้ก็ยังได้เลย”
ธันว์มันว่า ก่อนจะนอนลงบนที่นอนก่อน ผมจึงตามลงไปนอนข้างมันเอ่ยบอก

“วันนี้กูรู้สึกไม่ค่อยดีกับโชนเลย”

“ทำไม” ธันว์หันมาถาม

“ก็นัดกูไปเจอ แต่สุดท้ายก็หนีหายไปเหมือนเดิม”
ผมบอกนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่โชนปล่อยผมเคว้งก่อนเจอกับไอซ์แล้วหดหู่ในใจพิกล

“คิดอะไรมาก ไหนบอกว่าคบกับเขาแบบเปิดใจไง”
ธันว์เอ่ยคล้ายปลอบ ผมจึงเริ่มปรึกษา

“มันก็ใช่ แต่นัดกูไปแล้วไม่น่าชิ่งหนีกูป่ะวะ”

“แล้วไง สุดท้ายมึงก็มีกูคอยดามอกอยู่นี่ไง”

“นี่มึงมองกูแบบนี้เหรอวะไอ้ธันว์”

“ก็หรือไม่จริงล่ะ โดนเด็กชิ่งก็ชิ่งมาหากู นี่ล่ะว้ากูมันแค่ตัวสำรอง”

“เออ งั้นกูกลับก็ได้ว่ะ”

ผมเตรียมตัวจะลุกขึ้น ธันว์มันรีบคว้าตัวผมไว้พร้อมสวมกอดแล้วเอ่ยเสียงดุ

“มึงกลับกูปล้ำลองดิ”

“กูมีมือมีตีนมึงคิดว่าจะทำอะไรกูง่ายขนาดนั้นเหรอวะ”

“อ๋อ นี่มึงท้ากูเหรอ ลองมั้ยล่ะ”

ธันว์พลิกตัวทับร่างผมไว้ ผมยังไม่ทันตอบโต้อะไรมันก็จัดการก้มลงซุกไซร้ซอกคอ
ซึ่งครั้งนี้มันเหมือนจะเอาจริงกับผมซะจนน่ากลัวผมจนผมขนลุก ผมจึงรีบดิ้นขัดขืนปากก็ร้อง

“ไอ้เชี่ยธันว์ ปล่อยกู มึงบ้าอะไรเนี่ย”

“ท้ากูเองไม่ใช่เหรอ อยู่เฉยๆ อย่าดิ้น”
ธันว์มันเงยหน้าขึ้นสั่งผม เราสองคนมองจองตากัน

“ทำไมคืนนี้มึงน่ารักจังวะ” ธันว์มันว่า ผมใจสั่น เผลอมองเสี้ยวหน้าคมใสของมัน
ซึ่งบอกตามตรงว่ามันดูดีมากกว่าใครๆ ที่ผมเคยมอง
แต่ผมจะต้องไม่หวั่นไหวกับมันสิ มันเป็นเพื่อนผม มันเป็นคนเจ้าชู้ ผมจะรู้สึกหวั่นไหวกับมันไม่ได้
อีกอย่างผมกำลังคบกำลังคุยกับโชน ผมจะมาทำเรื่องแบบนี้ลับหลังกับคนที่ผมกำลังตามจีบไม่ได้

“ปล่อยกูธันว์ มึงจะมาทำแบบนี้กับกูไม่ได้นะ” ผมแข็งใจบอกกับธันว์
ทั้งๆ ที่ในใจเริ่มสั่นจนไม่เป็นจังหวะ

“กลัวอะไรกูขนาดนั้นวะ ใจสั่นหนักเลยนะมึง” ธันว์เอ่ยว่า มองจ้องตาผมไม่กระพริบ
นี่สายตาคนเจ้าชู้เป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า
เหมือนมันมนต์บางอย่างสะกดให้ร่างกายใครต่อใครให้อยู่นิ่งได้ รวมทั้งผมด้วย

“กูไม่ได้กลัว แต่มึงไม่ควรทำแบบนี้” ผมบอกอย่างใจเย็น
ขัดขืนไปก็ท่าจะไร้ประโยชน์หากธันว์มันคิดจะปล้ำผมจริงๆ
เพราะรูปร่างมันแข็งแรงกว่าผมมากนัก

“งั้นมึงก็เลิกพูดว่าจะกลับ” ธันว์มันเอ่ยเสียงจริงจัง ผมจึงรีบบอก

“เออๆ กูไม่กลับแล้ว”

“ก็แค่เนี๊ย” ธันว์ว่า ยอมปล่อยร่างผมให้เป็นอิสระ
เห็นมันกลับไปนอนราบที่เดิมผมจึงรีบคว้าหมอนข้างมาขั้นกลางระหว่างผมกับมัน
แต่ธันว์มันกลับดึงออกแล้วบอก

“คือแค่ให้กูนอนกอดสักคืนน้องโชนเขาคงไม่คิดอะไรหรอกมั้งไอ้ไนท์
ไหนบอกเขาคบกับมึงแบบเปิดใจไง”

“มันไม่เกี่ยวกับโชน” ผมว่า ใช่มันไม่เกี่ยวกับโชนจริงๆ นั่นแหละ
แต่คืนนี้ผมกลับรู้สึกประหม่ากับการนอนข้างกายไอ้ธันว์ยังไงไม่รู้
ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ใช่คืนแรกที่เรานอนด้วยกัน

“ไม่เกี่ยวกับโชน แล้วเกี่ยวกะใคร
คนที่มึงไปให้เขาทำกับข้าวให้กินนอกจากกูหรือเปล่า”
ธันว์ว่าเสียงแข็ง ผมจึงโวย

“กูจะมีใครที่ไหนอีกล่ะ มึงน่ะมันบ้ากูแค่แหย่เล่นๆ”

“กูไม่ได้บ้า แต่กูหึง มึงเข้าใจป่ะ
มึงคุยกะน้องโชนน่ะกูเฉยๆเพราะเขามาก่อนกู
แต่มึงคุยกะคนอื่นอีกที่มาทีหลังกู กูไม่ชอบเข้าใจมั้ย”

“อ๋อ นี่ใช่มั้ยที่มึงไม่พูดไม่จากับกูตอนกินข้าวไอ้ธันว์”

“ก็เออดิ”

“เชี่ยเอ้ย ทีมึงเจ้าชู้กับใครเขาไปทั่วกูไปยุ่งอะไรกะมึงมั้ย กูพูดแค่นี้ทำมางอนกู”

“สังคมส่วนใหญ่ผัวเจ้าชู้ไม่ผิด แต่เมียเจ้าชู้มันไม่น่ารักนะจ๊ะที่รัก”

“ตรรกะเหี้ยๆ น่ะสิ แล้วใครผัวใครเมีย กูกับมึงแค่เพื่อนกัน มึงอย่ามามั่ว”

“หรา แค่เพื่อนเหรอ เมื่อกี้ถ้ากูเอาจริงมึงก็เสร็จกูไปแล้วไอ้ไนท์”

“ถ้ามึงจะเอาจริงกะกูมึงทำไปตั้งนานแล้ว กูไม่ใช่เพิ่งมานอนกับมึงคืนนี้คืนแรก”

“ถ้าไม่ติดว่ากูเกรงใจน้องโชนของมึง คิดเหรอว่ามึงจะรอดมาท้าทายกูแบบนี้”

“เอะอะก็เอาโชนมาอ้าง ไม่คิดบ้างเหรอว่าที่กูไม่ยอมมึงง่ายๆ เพราะมึงอ่ะเจ้าชู้ไม่เลือก”

ถึงตอนนี้ธันว์มันเงียบ เฮ้อ คนมันเจ้าชู้ยังไงจะให้มาเปลี่ยนเป็นรักเดียวใจเดียวคงยากอยู่
ว่าแต่นี่ผมแอบหวังให้มันเปลี่ยนแปลงตัวเองมาเพื่อผมเหรอเนี่ย ยังไงกันล่ะใจ

“เออๆ กูไม่คุย ไม่กวนละง่วง อ่ะหมอน กูไม่กอดก็ได้วะ”

ที่สุดธันว์มันก็ตัดบท โยนหมอนข้างที่มันหยิบไปคืนให้ผม
แล้วนอนหันหลังให้ผมซะอย่างนั้น

นั่นไงล่ะ สุดท้ายมันก็ไม่ได้คิดอะไรกับผมจริงๆ จังๆ คิดไปไกลจนได้นะมึงไอ้ไนท์
ผมลอบมองแผ่นหลังของธันว์ที่นอนหันหลังให้ผม
ลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะนอนหันหลังให้มันบ้างจนเผลอหลับไป


ติดตามตอนต่อไปนะครับ


@Bradly  อืม มันต้องมีสักทางสิน่า ^__^

@FeaRes  บางทีคนอยู่ใกล้ก็เหมือนอยู่ไกล เอ๊ะ ยังไง?

ฝากตามต่อด้วยนะครับ

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 07-01-2018 23:08:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 08-01-2018 14:01:35

ตอนที่ 4

ตอนเช้าผมตื่นหลังธันว์ ลืมตาขึ้นมาก็ไม่เห็นมันนอนอยู่ข้างกายแล้ว
ผมลุกนั่งสะบัดหัวไล่ความง่วง นึกสงสัยว่าธันว์มันตื่นตอนไหน แล้วหายไปไหน
สงสัยได้ไม่นานร่างธันว์มันก็เดินเข้ามาจ้องหน้าผมเอ่ยว่า

“ขี้เซานะมึง ลุกไปอาบน้ำล้างหน้า กูทำข้าวต้มไว้ให้แล้ว”

“มึงเอาใจใครต่อใครที่มานอนกับมึงแบบนี้ป่ะวะ” ผมถามออกไปอีก
ยอมรับว่ารู้สึกดีกับสิ่งที่ธันว์มันเอ่ยมันทำ
แต่ก็นั่นล่ะ มันคงไม่ทำให้เฉพาะผมคนเดียวหรอก

“จะถามทำไมวะ ใครมากูก็ดูแลทั้งนั้น” ธันว์มันตอบส่งๆ แล้วเดินหนีไป
ผมผ่อนลมหายใจ ที่สุดท้ายผมก็ไม่ใช่คนพิเศษของมันเพียงคนเดียว
ผมลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำ เจอแปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันเตรียมไว้
อยากจะยิ้มยินดีอยู่หรอกที่เห็นว่าธันว์มันคงเตรียมไว้ให้
แต่ถ้อยคำที่มันบอกว่าใครมามันก็ดูแลหมด
ทำให้ผมตัดสินใจจับแปรงสีฟันนั่นมาล้างทิ้งลงอ่างล้างหน้า
โดยไม่หยิบมาใช้ มารู้สึกว่าตัวเองงี่เง่าก็ตอนที่เสียงธันว์ดังมาถาม

“มึงทำเหี้ยอะไรไอ้ไนท์ กูอุตส่าห์เตรียมไว้ให้นะมึง”

“กูขอให้มึงทำให้เหรอ” ผมตอบรวนออกไป
ตัดสินใจปิดประตูห้องน้ำใส่หน้าธันว์ไม่สนใจว่าธันว์มันจะมองผมด้วยแววตาไหนต่อ

“นี่กูเป็นอะไรวะ” ผมอดถามตัวเองไม่ได้ตอนจ้องมองกระจกใสในห้องน้ำ
ผมจะไปรู้สึกน้อยอกน้อยใจในคำพูดเมื่อกี้ของไอ้ธันว์มันทำไม

ไอ้ธันว์มันเป็นแค่เพื่อนมึงไอ้ไนท์ ท่องไว้สิวะ ท่องไว้
ใจผมบอกกับตัวเองอย่างนั้น
ก่อนจะจัดการทำกิจรวัตรส่วนตัวในห้องน้ำจนเสร็จสิ้น
ออกมาด้านนอกได้ก็เจอธันว์มันรออยู่ที่โต๊ะกินข้าวแล้ว
หน้าตามันดูขรึมเงียบจนผมไม่กล้าที่จะทักทายอะไรมัน
จึงได้แต่นั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมัน มองชามข้าวต้มหอมฉุยซึ่งวางตั้งไว้รออยู่

“แดกได้มั้ยข้าวต้มเนี่ย ไม่ได้กูจะเอาไปเททิ้ง” ธันว์มันว่า ผมไม่ตอบอะไร
รู้สึกผิดในใจกับการทำสิ่งงี่เง่าลงไปเมื่อครู่ จึงก้มลงกินข้าวต้มนั้นเงียบๆ

สักพักธันว์มันจึงชวนคุยใหม่

“วันนี้มึงรีบกลับป่าว”

“ไงก็ได้ ให้กลับกูก็กลับ” ผมตอบตามความรู้สึก

“งั้นกินเสร็จว่ายน้ำกัน” ธันว์มันว่า ผมจึงถาม

“ที่ไหน”

“สระคอนโดกูนี่แหละ”

“อืม” ผมรับคำง่ายๆ ภายในใจยังรู้สึกผิดอยู่กับการทำตัวงี่เง่าเมื่อครู่
ธันว์มันน่าจะสังเกตเห็นท่าทีนิ่งๆ ของผมจึงว่า

“เป็นไรวะ”

“เมื่อกี้มึงโกรธกูป่าว” ผมมองสบตา สักพักธันว์มันก็หัวเราะออกมาเอ่ยว่า

“โกรธทำไม มึงกะกูไม่ได้เป็นอะไรกัน อะไรที่กูทำให้มึงได้กูก็ทำ
ส่วนมึงจะรับไม่รับก็เรื่องของมึง”

ผมใจกระตุก นั่นสินะ ทำไมผมถึงมาคิดว่าธันว์มันจะมาโกรธหรือรู้สึกกับการการทำงี่เง่าของผมล่ะ
ผมไม่ใช่คนพิเศษอะไรของมันนี่นา

ธันว์มันก้มหน้าก้มหน้ากินข้าวต้มของมันต่อไปโดยไม่สนใจผมอีก

เป็นผมเองที่ลอบมองมันเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่มันจะเงยหน้ามาสบตาผมอีกเลย

กระทั่งเราสองคนอิ่มกัน มันจึงลุกมาเก็บชามไปจากผม
แล้วสั่งให้ผมเตรียมตัวเพื่อไปว่ายน้ำยังสระของคอนโด

………………………………………………

ที่สระของคอนโดไอ้ธันว์ คนยังไม่หนาตาเท่าไหร่นัก
แต่ด้วยความที่ผมยังไม่เคยมา ทำให้ผมเกิดอาการเก้ๆ กังๆ
เฉกเช่นวันแรกที่ผมเดินเข้าไปในฟิตเนสนั่น
เป็นธันว์เองที่มันเดินมากอดคอผมเดินเข้าไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

“อ้าวธันว์ ปกติไม่ค่อยเห็นมาว่ายน้ำที่นี่เลยนี่ ทำไมวันนี้ถึงมาได้ล่ะ”
เสียงใครคนหนึ่งเอ่ยทักธันว์ตอนเราเข้าไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ธันว์มันผละออกจากผมไปพูดคุยกับใครคนนั้นซึ่งเป็นชายวัยหนุ่มรูปร่างหน้าตาสะอาดสะอ้าน
ซึ่งตอนนี้สวมแค่กางเกงว่ายน้ำโชว์หุ่นล่ำสมส่วน

“อยากเปลี่ยนจากเล่นเวทมาว่ายน้ำบ้างน่ะพี่กร จะได้หุ่นดีเหมือนพี่กรบ้าง”
ธันว์มันยื่นมือไปจับไหล่เปลือยผู้ชายชื่อกรเหมือนคนสนิท
ก็น่าจะเป็นแบบนั้นล่ะนะ สองคนน่าจะพักที่คอนโดนี้ด้วยกัน
โอกาสที่จะเจอและใกล้ชิดกันน่าจะมากกว่าผม ซึ่งนานๆ จะมาที

“โหย หุ่นพี่ไม่ได้ครึ่งธันว์เลยนะ ไหนถอดเสื้อดิ โชว์ซิกแพ็คหน่อย”
ผู้ชายชื่อกรเอ่ยสั่งยิ้มๆ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้ธันว์มันจะยอมถอดจริงๆ
ผมรีบเบือนหน้าหนีเดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามุมลับตาที่ว่างอยู่
ไม่อยากยืนดูสองคนตรงหน้าลูบไล้รูปร่างเปลือยของกันและกันนัก
กำลังจะปิดประตูห้องตอนพาร่างเข้าไปได้แล้ว
แต่ต้องตกใจเมื่อธันว์มันดึงเอาไว้พร้อมเอ่ย

“หึงเหรอ ก็แค่ทักทายกันเอง คนรู้จักน่ะ”

“กูจะหึงทำไม ปล่อยกูจะเปลี่ยนเสื้อผ้า”
ผมว่า ส่งสายตาดุๆ ให้ไอ้ธันว์ ตกใจกับสิ่งที่มันเอ่ย

“กูเข้าไปด้วย เปลี่ยนด้วยกัน”

“มึงจะบ้าเหรอ ใครมาเห็นจะว่ายังไง” ผมว่า
“เข้าใจเดินมาอ่อยมุมลับตาขนาดนี้ยังคิดว่าใครจะมาเห็นอีกละที่รัก”
ธันว์มันว่า ผลักผมเข้าไปข้างในห้อง ก่อนที่มันจะตามเข้ามา
ผมไม่อยากโวยวายอะไรให้เสียงมันดังจึงยอมผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเงียบๆ
จากชุดที่สวมใส่มาทีแรกเป็นเพียงกางเกงว่ายน้ำพอดีหุ่น
ซึ่งธันว์มันเลือกให้ตั้งแต่อยู่บนห้อง

เปลี่ยนเสร็จกำลังจะออกจากห้องก็ต้องตกใจเมื่อธันว์มันสวมกอดผมเอาไว้ทางด้านหลัง
ทั้งๆ ที่ร่างกายมันก็มีเพียงกางเกงว่ายน้ำเหมือนกัน

“อดใจไหวมั้ยเนี่ย คนไรวะน่ารักจัง” ธันว์มันเอ่ยเบาๆ แนบหูผม
มือที่มันสวมกอดผมกำลังลูบไล้ขึ้นมายังแผ่นอกผมซะอย่างนั้นผมจึงรีบว่ามัน

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 08-01-2018 14:18:31

“มึงหยุดเลยไอ้ธันว์ นี่มันที่สาธารณะนะมึง”

“งั้นกลับขึ้นห้องมั้ยล่ะ” ธันว์มันว่าเบียดกายเปลือยเปล่าแนบชิดร่างผมยิ่งขึ้น
จนผมเริ่มจะสะท้านไม่เบา รีบหันหน้ามากะจะว่ามัน
แต่แล้วกลับตัวชาวาบเมื่อธันว์มันประกบปากจูบผมล้วงปลายลิ้นเข้ามาในปากผมชนิดไม่ให้ผมตั้งตัว
ก่อนใช้ริมฝีปากนุ่มๆ ของมันบดขยี้ปิดปากผมไว้นาทีต่อมาผมต้องสะท้านกับปลายลิ้นอุ่นๆ ของมันที่ตวัดโดนกับลิ้นผม

ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยจูบปากแลกลิ้นกับใครทำให้ใจผมตัวผมสั่น
หากว่าร่างผมไม่โดนวงแขนธันว์มันกอดเอาไว้ผมคงล้มระทวยลงตรงนั้นไปแล้ว

เกือบนาทีที่ธันว์มันจูบผมอยู่แบบนั้น
สารภาพว่าปลายลิ้นของมันที่สัมผัสกับปลายลิ้นผมทำให้ผมซาบซ่านจนยากจะมีอาการต่อต้าน
แต่ก่อนทุกอย่างจะเลยเถิดกันไปมาก
ธันว์มันยอมถอนปากออกมา มองจ้องหน้าผม เอ่ยเสียงเจ้าเล่ห์

“ลิ้นหวานจัง”

“มึงทำแบบนี้ได้ไงธันว์” ผมถามกลับเสียงเบา ใจกระเส่าซ่าน

“ก็บอกแล้วอดใจไม่ไหว ไม่จัดการตั้งแต่เมื่อคืนก็บุญแล้ว”
ธันว์มันว่า คลายอ้อมกอดผมออกหน่อยๆ มันคงเห็นว่าผมคงทรงตัวได้เองแล้วนั่นล่ะ

“แล้วมึงไม่กลัวใครมาเห็นเหรอวะ” ผมว่า แม้จะทรงตัวได้แต่ใจก็เต้นแรงอยู่
ทั้งซาบซ่านจากรสจูบไอ้ธันว์เมื่อครู่ ทั้งตระหนกว่าใครจะมาเห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

สักพักธันว์มันก็ว่า

“มึงเสือกเดินมายั่วกูมุมอับทำไมล่ะ
ไม่มีใครเห็นหรอก แต่อยู่นานกว่านี้ก็ไม่แน่ ไปเหอะ ว่ายน้ำกัน”

“มึงจะบ้าเหรอ เป้ามึงตุงขนาดนั้น ออกไปไม่อายหรือไง”
ผมว่าเข้าให้ตอนมองเห็นเป้ากางเกงว่ายน้ำของธันว์มันนูนชัดกว่าปกติ

“เป้ามึงก็เหมือนกันนั่นล่ะ” ธันว์มันว่ากลับมา
ผมหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความละอายต่อใจนิดๆ
ผลักไอ้ธันว์ออกจากร่างเอ่ยว่า

“เพราะมึงอ่ะแหละ หื่นไม่รู้เวลา”

“มึงเสือกน่ารักทำไมล่ะ” ธันว์มันว่ากลับมา ก่อนเราสองคนจะเงียบเสียง
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินอยู่ข้างนอกห้อง

ทั้งธันว์กับผมยืนเป่าปากกันรอจนเป้ากางเกงว่ายน้ำที่นูนชัดสงบลง
จึงรีบพากันออกไปจากห้องก่อนที่มันจะตื่นตัวขึ้นมาอีก

…………………………………………………

ผมใช้เวลาว่ายน้ำกับธันว์เกือบชั่วโมงจนล้าจึงชวนกันกลับห้อง
ตอนเดินไปห้องล้างตัวตัวรีบชี้หน้าว่ามัน

“มึงอย่าตามเข้ามาทำอะไรห่ามๆ กับกูอีกนะไอ้ธันว์ คนเริ่มเยอะแล้ว”

“จ้า รู้น่าที่รัก” ธันว์มันยักคิ้วทำหน้าทะเล้นกลับมาก่อนจะแยกตัวไปยังห้องล้างตัว
เราสองคนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็กลับขึ้นห้องด้วยกัน
ผมมองดูเวลาคิดว่านะจะกลับได้แล้วจึงเอ่ย

“เดี๋ยวกูกลับนะมึง”

“อืม พรุ่งนี้ต้องทำงานนี่ คงค้างกะกูไม่ได้มั้ง”

“อยากให้กูค้างป่ะล่ะ” ผมแหย่

“มีโซ่กูคงล่ามมึงเอาไว้แล้วล่ะ ทำมาพูด” ธันว์มันว่า ผมคิดอะไรได้จึงว่า

“คนอย่างกูใช้ใจล่ามเท่านั้นถึงจะอยู่
แค่โซ่กูมีปัญญาดึงขาดได้ถ้าเจ้าของโซ่มันเจ้าชู้ไม่เลิก”

“ว่ากูอีกละ ไปเคลียร์กะน้องโชนมึงให้จบเถอะไปค่อยมาหาว่ากูเจ้าชู้”
ธันว์มันมองสบตาผม เราสองคนสบตากันนิ่ง
ก่อนที่ผมจะเลี่ยงไปหยิบเสื้อผ้าตัวเองชุดที่ใส่มาเตรียมเปลี่ยน
ธันว์มันคงมองอยู่จึงว่า

“เสื้อผ้ากูมีเต็มตู้ มึงจะใส่ตัวเดิมทำไมไอ้ไนท์ ทิ้งไว้นี่ล่ะ เดี๋ยวกูซักให้”

“ไม่เอา เกรงใจ” ผมว่าตอบ ธันว์มันเดินมาส่งสายตาดุๆ เอ่ยสั่ง

“มึงอย่าดื้อกับกูได้มั้ย อะไรที่กูทำให้ได้กูก็ทำให้ไงวะ”

“เออๆ ก็ได้วะ” ผมบอกแล้วเดินไปหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาเปลี่ยน
เห็นธันว์มันเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยจึงถาม

“แล้วนั่นมึงจะไปไหนวะ”

“ก็ไปส่งมึงไง” ธันว์มันตอบ ผมจึงปราม

“ไม่ต้อง มึงอ่ะนอนพักนั่งพักเถอะ
เพิ่งว่ายน้ำมาเมื่อกี้ไม่เหนื่อยไง กูกลับเองได้”

“กูเหนื่อยแล้วมึงไม่เหนื่อยกว่าเหรอที่ต้องนั่งรถอะไรก็ไม่รู้กลับเอง
อย่าพูดมาก เดี๋ยวกูขับรถไปส่งเอง
กูไม่ปล้ำมึงบนรถตอนติดไฟแดงหรอกไม่ต้องกลัว”

“ใครจะเชื่อ เมื่อกี้ก็จูบกูมาแล้วนี่”

“แค่จูบไม่ได้เอา หวงตัวหรือไง”

“เชี่ย พูดอะไรของมึงเนี่ย”

“พูดตามที่ใจคิดไงจ๊ะ”

ธันว์เดินตรงเข้ามาแนบริมฝีปากลงบนปากผมเบาๆ
ไม่ได้บดขยี้จูบอย่างเช่นที่มันทำในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ายังสระว่ายน้ำ
ก่อนที่มันจะผละไปหยิบเอากุญแจรถ
ผมได้แต่มองตามร่างมัน

นึกสงสัยว่าตกลงสถานะตอนนี้ระหว่าผมกับธันว์มันคืออะไรกันแน่

อยากจะเป็นคนหนึ่ง ที่รักเธอ
อยากห่วงใย อยากคิดถึงเธอ
แต่ไม่คิดครอบครอง
อยากให้เธอ เป็นเธอ
อย่างเดิม ที่เห็น ที่เป็น

จะไม่รบกวนอะไร
จะไม่วุ่นวายกับเธอ
อยากจะคบเธอ อยากจะรักเธอ
อย่างเปิดใจ

แค่อยากให้เธอ รักน้อยๆ
ค่อยๆ รักฉัน
ค่อยๆ คิดถึงกัน ทุกวัน
ไม่มากไม่มาย
เอาใจ พอที่เธอทำได้
ใส่ใจ ดูแลกันก็พอ
อยากให้เธอ รักน้อยๆ
ค่อยๆ รักฉัน
แต่ให้นาน เรื่อยไป
ถ้ารู้ตัววันไหน
ว่ารักกันจนล้นใจ
บอกฉันที

อย่าให้รักของฉัน
ทำร้ายเธอ
หากหนักใจ อย่างไรต้องบอก
ไม่ต้องการมาก มาย
แค่สม่ำเสมอ
ที่เธอ เต็มใจให้กัน
จะไม่รบกวนอะไร
จะไม่วุ่นวายกับเธอ
อยากจะคบเธอ อยากจะรักเธอ
อย่างเปิดใจ

แค่อยากให้เธอ รักน้อยๆ
ค่อยๆ รักฉัน
ค่อยๆ คิดถึงกัน ทุกวัน
ไม่มากไม่มาย
เอาใจพอที่เธอทำได้
ใส่ใจ ดูแลกันก็พอ
อยากให้เธอ รักน้อยๆ
ค่อยๆ รักฉัน
แต่ให้นานเรื่อยไป
ถ้ารู้ตัววันไหน
ว่ารัก กันจนล้น ใจ
บอกฉันที

ถ้ารู้ตัววันไหน
ว่ารัก กันจนล้น ใจ
บอกฉันที

เสียงเพลงบนรถที่เล่นอยู่ ซึ่งธันว์มันเลือกเปิดขณะที่มันพาผมกลับห้องทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะหันไปถามมัน

“เพลงหวานขนาดนี้มึงฟังเป็นเหรอไอ้ธันว์ ท่าทางจะนานมากด้วยนั่น”

“มึงฟังความหมายมันดิ” ธันว์มันเอ่ย จ้องตาผมในตอนที่รถติดไฟแดง
ผมเกิดประหม่าขึ้นมาอย่างประหลาดกับแววตานั้น
ไม่ใช่หรอกน่า ไอ้ธันว์มันคงไม่ใช้เพลงแบบนี้สื่อความหมายอะไรให้ผมหรอก
เจ้าชู้ตัวพ่ออย่างมันน่ะ นะ จะมาทำหวานใส่ผม ฟ้าผ่าตอนแดดเปรี้ยงน่ะสิ

“มึงคบใครอยู่วะ” ผมตัดสินใจถามธันว์มันออกไป
เมื่อฟังเนื้อหาในเพลงนั้นจบไป ธันว์ไม่ตอบ
ได้แต่ยิ้มที่มุมปากนิดๆ ก่อนจะหันไปขับรถต่อเงียบๆ ตอนไฟเขียวสว่างขึ้นมา
เห็นมันเงียบผมจึงเงียบตาม สักพักมันจึงเอ่ยขึ้นมาใหม่

“แล้วเย็นนี้จะไปฟิตเนสมั้ย”

“พรุ่งนี้กูทำงาน ขอพักเหอะ อีกอย่างก็ว่ายน้ำที่คอนโดมึงมาแล้ว
ฟิตไปก็เท่านั้น ท่าทางโชนคงไม่ได้อะไรกะกูเท่าไหร่”
ผมตอบ คิดถึงโชนขึ้นมาที่หายเงียบไปเลยตั้งแต่แยกกันเมื่อวาน

“คิดมาก เพลงเมื่อกี้กูจะสอนมึงให้ปลงตกน่ะแหละ
คิดจะคบกับน้องเขาอย่างเปิดใจต้องทำใจให้เป็นไอ้เพื่อนรัก”
ธันว์มันตอบกลับมา

นั่นไงล่ะ เกือบคิดไปไกลแล้วมั้ยล่ะผมว่าเพลงเมื่อครู่ไอ้ธันว์มันจะแอบบอกอะไรผม

“อืม ขอบใจที่เตือน ว่าแต่มึงเหอะ เมื่อไหร่จะหยุดที่ใครสักคนวะ”
ผมเปลี่ยนเรื่องถามถึงความเป็นไปของธันว์
ซึ่งมันตอบกลับมาเหมือนคนไม่คิดอะไรจริงๆ

“หยุดทำไม เกิดมาทั้งทีก็ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มสิมึง”
“ระวังจะคุ้มไปจนตายไปคนเดียวนะมึง”
ผมว่าอย่างหมั่นไส้ ธันว์มันหัวเราะตอบ

“พูดยังกะมึงมีคู่แล้วงั้นล่ะ คบกับน้องโชนลักปิดลักเปิดแบบนี้
ยังกล้าเสือกมาว่ากูอีกนะ”

“แต่อย่างน้อยกูก็มีเป้าหมายนี่หว่าว่ากำลังจะคบกับใคร
แม้มันจะใช้เวลาหน่อยก็ตาม” ผมว่า สะอึกเมื่อธันว์มันสวนมา

“ไม่น้อยแล้วมั้ง เห็นจีบเขามาสามปีแล้วนี่ที่รัก
ได้จูบเขาเหมือนกับที่กูจูบมึงยังเหอะ”

“กูชอบน้องเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ไม่ได้ชอบใครเพราะความใคร่เหมือนมึง
เรื่องแบบนั้นกูรอได้” ผมตอบ ธันว์นิ่ง สักพักก็เอ่ยใหม่

“แล้วถ้าเกิดกูคบใครสักคน แล้วต้องห่างจากมึงบ้างมึงจะคิดถึงกูป่ะวะไนท์”

ใจผมสั่นอย่างประหลาดเมื่อได้ฟังสิ่งที่ธันว์มันว่า
ใช่สินะ หากธันว์มันมีตัวจริง
แล้วทิ้งผมไปเอาอกเอาใจใครคนนั้น ผมจะเป็นยังไงในตอนนั้น

……………………………………………………..


บางครั้งคนอยู่ใกล้ก็เหมือนอยู่ไกล 

บางทีคนที่ใช่ก็ใกล้แค่เอื้อม

แล้วทำไมเส้นขนานจึงเกิดขึ้นในทางเชื่อม

ให้คนที่ใช่ใกล้แค่เอื้อมไกลออกไป

...........................................................


ขอบคุณทุกสายตาที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ
แม้จะหายไปนาน แต่ลายเซ็นนิยายของ Bboyseries น่าจะยังอยู่ในผลงานนี้
แต่มันจะโผล่ตอนไหน ยังไง ฝากติดตามด้วยนะครับ

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 08-01-2018 16:02:52
หน่วงๆอะ ไนท์ไม่ต้องสนใจโชนแล้ววว เขาไม่โอเคเล้ยย
ธันว์ๆถ้าชอบไนท์ก็บอกตรงๆแบบจริงจัง คบๆกันไปเลยย
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 08-01-2018 16:39:38
คุณบอยที่เคยเขียนเรื่องที่ทำให้ดิฉันเคยร้องไห้เป็นเผาเต่าเมื่อนานมาแล้วใช่ไหมคะ? ขอต้อนรับกลับเล้าค่า ขออ่านก่อนนะคะ

ป.ล. บวกคะแนนให้แล้วนะคะ ^__^
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 5 [09-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 09-01-2018 13:57:08

ตอนที่ 5

ธันว์ส่งผมที่ใต้ตึกอพาร์ทเม้นท์ ก่อนจะลงจากรถมันดันดึงผมเข้าไปหอมแก้มอีกพร้อมบอก

“เย็นนี้ไม่ได้เจอขอหอมเก็บไว้หน่อย”

ผมเพียงส่ายหน้า จะให้ว่าอะไรมันได้ล่ะ จูบผมซะกายสะท้านมันก็ทำมาแล้วนี่
มันทำแค่นี้ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาไปซะงั้น

“ขับรถดีๆ นะ” ผมบอกก่อนจะลงจากรถ มันรับคำยิ้มๆ เราสองคนจึงแยกกันตรงนั้น

ระหว่างกลับขึ้นห้อง ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกรอบ
โชนยังคงเงียบอยู่ ไม่มีการติดต่อกลับมาใดๆ ผมถอนหายใจเบาๆ
เลือกที่จะไม่ติดต่อไปเช่นกัน ไม่รู้สิ ยังรู้สึกเคว้งไม่หายกับสิ่งที่โชนทำกับผมเมื่อเย็นวาน

ระหว่างไล่เช็คดูข้อความในไลน์ สายตาผมก็สะดุดกับข้อความหนึ่งซึ่งส่งมาจากไอซ์

“ทำอะไรครับพี่ไนท์ วันนี้ว่างป่าว ปั่นจักรยานกัน”

มองดูเวลาที่ไอซ์ทักมามันก็หลายชั่วโมงอยู่
จึงพิมพ์ตอบกลับไปตอนขึ้นถึงห้องได้แล้ว

“พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้า วันนี้คงไปไหนไม่ได้”

ไอซ์ส่งสติ๊กเกอร์สื่อถึงอารมณ์เสียใจกลับมาในทันที
ผมก็เลยต้องพิมพ์ตอบโต้กลับเชิงปลอบใจตามมารยาท

“ไว้เสาร์หน้านะ”

“จริงดิ” ไอซ์พิมพ์ตอบกลับมาแบบนั้น ตัดสินใจพิมพ์ตอบไปว่าใกล้ๆ วันขอดูอีกที

“ครับ ผมรอนะ อยากเจอ” ไอซ์หยอดทิ้งท้าย ตามต่อด้วยสติ๊กเกอร์สื่อรักรูปหัวใจดวงโต
ยังไงกันกันล่ะนี่ นี่มันคือสัญญาณการหว่านจีบหรือเปล่า

ผมตัดใจไม่ตอบกลับใดๆ ไอซ์อีก แน่นอนที่สุดว่ายังไม่อยากคุยอะไรมากมายกับเจ้าตัวนัก
เพราะชื่อของโชนยังค้านให้ใจไม่อยากทำอะไรแบบนั้น

ผมอาบน้ำอีกรอบ แล้วนอนพักเพราะเพลียจากการว่ายน้ำมา
ตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนเย็น สิ่งแรกที่ทำคือการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูนั่นล่ะ
ดูท่ามันจะกลายเป็นปัจจัย 5 ของชีวิตไปซะล่ะมั้ง

คนรู้จักส่งข้อความมาทักทายในไลน์หลายคน
ผมก็เลือกตอบไปในส่วนที่พอตอบได้ แต่ไล่ดูข้อความทั้งหมด
ยังไร้ซึ่งการติดต่อมาจากโชน
รู้สึกแปลกใจ ที่ผ่านมาโชนก็ไม่ได้หายไปนานหลายชั่วโมงขนาดนี้เลยนี่นา
หรือเมื่อวานนี้ผมไม่ผ่านการพิจารณาจากสายตาเพื่อนของเจ้าตัว

ไอซ์เป็นหนึ่งคนที่ส่งข้อความมาทักผมในเชิงทักทาย
ผมตอบกลับไปตามมารยาทเมื่อเปิดอ่านข้อความนั่นเสร็จ
ไม่ได้สนใจที่จะสนทนาอะไรนัก ไล่อ่านดูข้อความอีก
แปลกใจที่ไม่มีข้อความจากธันว์ สายตามองดูเวลา
หากเดาไม่ผิด มันก็คงจะกำลังเล่นเวทในฟิตเนสนั่นน่ะล่ะ

ผมติดสินใจไม่ส่งข้อความทักทายใดๆ ไป
ขาดการติดต่อไปสักนิดคงไม่เป็นอะไรล่ะมั้ง

เวลาค่อนคืนผ่านมาจนคิดว่าจะเข้านอนเพื่อเตรียมตัวตื่นไปทำงานในวันรุ่งขึ้น
ปัจจัยที่ 5 ของชีวิตนั่นคือโทรศัพท์ถูกจับมาตรวจเช็คดูความเคลื่อนไหวอีกรอบ
โชนหายไป ธันว์เองก็หายไป มีเพียงไอซ์เท่านั้นที่ส่งข้อความทักมาไม่หยุดหย่อน

“รุกหนักจังเลยแฮะ” ผมเอ่ยว่าตอนไล่อ่านข้อความและสติ๊กเกอร์ไลน์จากไอซ์
ไม่ได้คิดจะตอบกลับไปในตอนนี้ เพราะจิตใจกำลังครุ่นคิดถึงโชนกับธันว์
มองดูเวลามันก็ไม่ดึกเท่าไหร่นัก จึงตัดสินใจติดต่อไปหาโชนก่อน
เพราะสำนึกในใจสั่งอีกนั่นล่ะว่าโชนคือคนที่หัวใจกำลังต้องการ

ผมเลือกที่จะโทรศัพท์ไปหาโชนแทนการส่งข้อความไลน์
ถือใช้สิทธิ์ว่าเรากำลังคบๆ คุยๆ กัน ทำเช่นนั้น

“ว่าไงครับพี่ไนท์” เสียงโชนทักมาตอบรับสายผม ผมจึงเริ่มคุยไป

“ไม่มีอะไร เห็นวันนี้ยังไม่ได้คุยกันเลยโทรหาน่ะ โชนจะนอนหรือยังอ่ะ”

“ยังครับ พอดีออกมาเที่ยวกับพวกไอ้ต้าร์มัน”

ผมชะงัก อดไม่ได้ที่จะถามว่าโชนไปเที่ยวไหน

“โชนไปเที่ยวแถวไหนเหรอ”

“ก็ที่ประจำอ่ะครับ พี่ไนท์มีอะไรมั้ย
โชนอยู่กับเพื่อนไม่สะดวกคุยนานเท่าไหร่”

“อืม ออกมาจากเพื่อนแล้วคุยกับพี่ได้มั้ยโชน” ผมตัดสินใจบอกไปแบบนั้น
เมื่อในใจเริ่มรู้สึกว่าโชนแปลกๆ ไปจากเดิม

“ก็ได้ครับ โชนเองก็มีเรื่องอยากคุยกับพี่ไนท์เหมือนกัน”

โชนตอบกลับมา ใจผมเริ่มกระตุกนิดๆ
สัญชาตญาณมันบอกว่าโชนอาจจะคุยเรื่องความเป็นไปของเราสองคน
แล้วมันก็จริง เมื่อโชนเอ่ยออกมาหลังจากเราสองคนเงียบกันอยู่สักพัก
ระหว่างที่เงียบ โชนคงกำลังหามุมที่จะคุยกับผมนั่นล่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 5 [09-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 09-01-2018 14:02:11

“พี่ไนท์ จะโกรธอะไรโชนมั้ย ถ้าโชนจะบอกว่าให้เราห่างกันสักพัก”

“ทำไมเหรอโชน” ผมแข็งใจถามออกไป ทั้งๆ ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าใจข้างในสั่นไม่ปกติ

สักพักโชนจึงอธิบาย

“คือเราคุยกันมานานแล้ว แต่โชนเหมือนรู้สึกว่าพี่ไนท์ยังไม่ใช่คนที่โชนต้องการ”

ผมอึ้งเงียบ ฝืนเอ่ยออกมาเพื่อให้โชนสบายใจ ทั้งๆ ที่ใจก็เคว้งอยู่

“อืม โชนคิดว่าไงพี่ก็ว่างั้น”

“พี่ไนท์ไม่โกรธโชนนะ” โชนถามมา ผมเงียบก่อนตอบ

“ไม่หรอก เราคุยกันตั้งแต่เริ่มต้นแล้วนี่
พี่ขอบใจโชนด้วยซ้ำที่โชนชัดเจนกับพี่แบบนี้”

“โชนยังไม่ได้บอกให้เราเลิกกันนะพี่ไนท์
เพียงแต่เราลองเว้นระยะห่างในการติดต่อกันบ้าง”
โชนตอบกลับมา มันก็ฟังดูดีนะ แต่ถึงขั้นนี้แล้วผมว่าผมคงไม่มีความหวังใดๆ
ในตัวโชนแล้วล่ะจึงเอ่ยไป

“โชนไม่ต้องลำบากใจและคิดมากนะ พี่เข้าใจทุกอย่าง
อย่างน้อยเรายังเป็นพี่เป็นเป็นน้องกันได้ พี่ไม่เป็นอะไรหรอก สบายใจได้”

“อืม แต่โชนก็รู้สึกไม่ดียังไงก็ไม่รู้
พี่ไนท์คิดซะว่าโชนดีไม่พอสำหรับพี่ไนท์ก็ได้นะ
สามปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตโชนให้โชนได้ปรึกษา ได้พูดคุย
ยังไงต่อแต่นี้โชนขอคืนอิสระทั้งหมดให้พี่ไนท์นะ
พี่ไนท์จะให้โชนอยู่ในสถานะแค่คนรู้จัก หรือพี่น้องต่อไป ก็แล้วแต่พี่ไนท์เลย
โชนไม่มีปัญหา แค่นี้นะครับ ต้าร์มันออกมาตามโชนแล้ว”

โชนวางสายไปแล้ว ผมยังคงเงียบอยู่กับความรู้สึกเคว้งในใจ
เข้าใจแล้วว่าทำไมวันนี้โชนถึงหายไปจากการติดต่อผมเช่นทุกๆ วันที่ผ่านมา

ถามว่าเจ็บมั้ย มันปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าหัวใจผมกำลังเป็นเช่นนั้น
ผมคบผมคุยกับโชนมานาน แม้จะคุยในลักษณะเปิดใจไม่แง่งอนกัน
แต่เวลาที่ผ่านมานั้น โชนไม่ได้บอกถึงการตัดความสัมพันธ์ที่ชัดเจนขนาดนี้

น้ำในตาผมเอ่อมาตอนวางโทรศัพท์ลงแนบกาย
ใจหายอยู่หน่อยๆ เมื่อคิดว่าพรุ่งนี้ไปผมกับโชนคงกลายเป็นเพียงคนเคยรู้จักกัน

ผมปาดหยดน้ำที่ซึมออกมาตรงขอบตาทิ้ง
ฝืนยิ้มปลอบใจตัวเองว่าเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะต้องมาฟูมฟายอะไร
แล้วตอนนี้ธันว์มันจะนอนหรือยัง จะดูน่าเกลียดไปมั้ยถ้าผมจะโทรไประบายอะไรๆ ให้มันฟังตอนนี้

ไม่สิ ผมไม่ควรทำแบบนั้น ธันว์มันไม่ใช่ตัวสำรองของใคร
มันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม ผมไม่ควรใช้เวลาการถูกบอกเลิกเช่นนี้ติดต่อไปกวนใจมัน
ก็รู้แหละว่ามันน่าจะรับฟังด้วยความเต็มใจ
แต่ผมไม่อยากให้มันมองตัวเองว่าเป็นเพียงฝ่ายรองรับความปวดใจจากผม
เรื่องนี้ผมไม่ควรบอกธันว์ ให้มันคิดว่าผมคบกับโชนอยู่น่าจะดีที่สุด

หากวันใดวันหนึ่งผมกับมันเกิดมีความสัมพันธ์อันเลยเถิด
ค่อยบอกกับมันไปก็ไม่น่าจะสายไปนัก
อย่างน้อยก็ให้มันรับรู้ว่าผมไม่ได้มองมันเป็นคนเข้ามาดามอกผมอย่างที่มันเคยเหย้าแหย่ผมอยู่เรื่อยๆ

ผมตัดสินใจเอนกายหลับตาลง
ไล่ความรู้สึกเคว้งล้าทิ้ง เพื่อพรุ่งนี้การเจอหน้ากับธันว์ยังฟิตเนสคลับ
ผมจะยังเป็นคนที่ร่าเริงอยู่เช่นเดิม

ธันว์มันจะได้ไม่สงสัยอะไรว่าลึกๆ ผมเจอเรื่องอะไรมา

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 5 [09-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 09-01-2018 14:14:31
ตอนเช้าผมติดต่อหาธันว์พยายามทักทายมันให้เป็นเช่นคนปกติ
บอกกับมันว่าผมจะไปเล่นเวทด้วยในตอนเย็น ธันว์มันบอกเพียงว่ามันจะเข้าไปช้าหน่อย
เพราะต้องแวะไปเข้าบ้าน ไปคุยไปหาญาติๆ บ้าง
ซึ่งมันควบคุมไม่ได้ว่าฝ่ายญาติจะปล่อยตัวมันออกมาตอนไหน
ผมรับฟังอย่างเข้าใจ ไม่ได้คิดอะไรมาก ผมกับมันมักเข้าใจอะไรกันง่ายๆ อยู่แล้วล่ะ

ระหว่างวันทำงาน ไอซ์ทักทายผมมาอยู่เรื่อยๆ
ผมตอบกลับบ้าง ไม่ตอบบ้าง เพราะกำลังยุ่งกับงาน

กระทั่งเลิกงาน เมื่อสมองโล่ง เหตุการณ์ที่ถูกโชนบอกเลิกแล่นเข้ามาให้คิดอีก
จึงคิดจะไปปลดปล่อยมันออกทั้งหมดกับเม็ดเหงื่อในฟิตเนสคลับประจำของผมกับกับธันว์

ผมไปถึงก่อนธันว์ ทักทายคนรู้จักพอประมาณ
ก่อนจะจัดการเปลี่ยนชุดออกมาเล่นเครื่องเล่นเรียกเหงื่อ
ไล่ความรู้สึกเคว้งทั้งหมดที่โชนก่อไว้ให้ทิ้ง
จนเหนื่อยจึงหยุดพักดื่มน้ำ มาสะดุ้งก็ตอนมีเสียงทักมา

“หวัดดีครับพี่ไนท์”

ผมหันไปมองเห็นซียืนอยู่ในชุดออกกำลังกายเช่นกัน จึงส่งยิ้มทักทายกลับ

“อ้าวซี หวัดดี มาคนเดียวเหรอ เล่นอะไรมาหรือยัง ยังไม่เห็นได้เหงื่อเลย”

“อืม ยังครับ รอพี่ธันว์มาเทรนอยู่” ซีตอบกลับมา ผมชะงัก
ซีกับธันว์ติดต่อกันอยู่หรอกเหรอ 

ผมบอกออกไปเมื่อไม่อยากคิดอะไรมาก

“ธันว์มันบอกมันจะมาช้าหน่อยน่ะ”

“อ๋อ พี่ธันว์บอกซีมาแล้วครับ
ว่าแต่พี่ไนท์มานานหรือยังครับ ท่าทางจะนาน เหงื่อท่วมเลย”

คำตอบของซีทำให้ผมสะดุดใหม่
ปกติผมไม่ค่อยเห็นธันว์มันจะสานต่ออะไรกับใครแบบนี้นี่นา
สองคนนี่ยังไงกันนะ

ผมฝืนยิ้มถามซีอีกเมื่อนึกสงสัยในความสัมพันธ์ของเจ้าตัวกับเพื่อนตัวดีของผมอย่างไอ้ธันว์

“ซีคุยกับไอ้ธันว์มันมาแล้วเหรอ”

“ครับ ตอนแรกซีก็กะจะรอเข้ามาพร้อมพี่ธันว์น่ะแหละ
แต่พี่ธันว์บอกให้เข้ามาก่อน หากเจอพี่ไนท์ก็ให้พี่ไนท์ช่วยสอนช่วยเทรนให้ก่อน
แต่เห็นพี่ไนท์เหงื่อท่วมแบบนี้ ซีว่าซีรอพี่ธันว์มาดีกว่า
อีกอย่างเมื่อวานพี่ธันว์เขาก็สอนเครื่องเล่นซีค้างไว้หลายตัว
ให้พี่เขามาสานต่อน่าจะดีกว่า”

ผมเพียงยิ้มให้ซี ยกน้ำขึ้นดื่มแก้อาการคอแห้ง
จินตนาการถึงภาพเมื่อวานที่ผมไม่ได้เข้ามาที่นี่
และธันว์ใช้เวลาใกล้ชิดกับซีแล้วใจมันหวิวไหวยังไงพิกล

“อืม เมื่อวานนี้ซีก็มาที่นี่เหรอ” ผมถามยิ้มๆ เป็นการชวนคุย

“ครับ ตอนแรกว่าจะไม่มาเพราะเมื่อยตัวอยู่
แต่พี่ธันว์โทรนัดก็เลยไม่รู้จะขัดยังไง”

ผมเริ่มรู้ตัวว่าน่าจะฝืนยิ้มต่อไม่ไหว
จึงขอเลี่ยงหลบหน้าซีไป แต่พอกำลังจะก้าวเดิน
ก็ต้องชะงักตอนจะชนร่างไอ้ธันว์ซึ่งเดินสวนเข้ามาพอดี
ในลักษณะเหมือนคนเพิ่งเข้ามา

“อ้าวไอ้ไนท์ มึงจะไปไหน” ธันว์มันทักผมยิ้มๆ แต่ตัวมันดันไปหยุดยืนคู่กับซี
ผมมองสองคนยืนคู่กัน เอ่ยตอบออกไป

“กูว่าจะกลับละ” ผมจะเดินหนีเมื่อเอ่ยจบ ธันว์มันรีบคว้ามือผมไว้เอ่ยว่า

“เฮ้ย เดี๋ยวดิ เจอหน้ากูก็จะหนีซะงั้น”

“กูเล่นนานแล้ว มึงเสือกมาช้าทำไม” ผมว่าแกะมือธันว์ออก
ธันว์มันกำลังจะเอ่ยอะไรสักอย่าง แต่ช้ากว่าซีที่ทักขึ้นว่า

“พี่ไนท์เขาคงเหนื่อยนะครับพี่ธันว์
เห็นโหมเล่นเครื่องเล่นมาตั้งนานแล้ว
พี่ธันว์ไปเปลี่ยนชุดมาเทรนซีดีกว่า”

ธันว์หันมองหน้าซี เอ่ยว่านิ่งๆ

“งั้นซีก็เล่นอะไรที่พอเล่นได้ไปก่อนละกัน
พี่ขอเปลี่ยนชุดก่อนไปไอ้ไนท์”

ธันว์มันลากผมไปยังห้องล็อกเกอร์
ผมพยายามดึงดัน เพราะไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาใคร
แต่ธันว์มันไม่ยอมปล่อย
ไปถึงห้องล็อกเกอร์มันก็ผลักผมเข้าไปยังมุมลับตาคนเอ่ยว่าเสียงดุ

“เป็นเหี้ยอะไรของมึงไอ้ไนท์ โกรธเหรอที่กูมาช้าแค่เนี้ย”

“กูไม่ได้โกรธที่มึงมาช้า” ผมว่า เรื่องเวลาไม่ได้สะกิดใจผมเท่ากับคำพูดของซีที่เอ่ยก่อนหน้าเลยสักนิด

ยอมรับว่ารู้สึกอยู่นิดๆ กับที่ซีบอกว่าธันว์มันโทรชวนซีมาที่นี่เมื่อวาน
ทำไมล่ะ มันจะจีบจะเจ้าชู้กับใครที่ไหนที่มันเพิ่งเจอในคลับก็ทำไปสิ
ทำไมลับหลังผมมันต้องโทรนัดซีออกมาเจอด้วย แล้วมันกับซีแอบมีช่องทางการติดต่อกันตั้งแต่ตอนไหน
แล้วเมื่อวานออกจากที่นี่ไปสองคนนี่จะไปไหนกันต่อ แม้ไม่อยากจะคิดก็ต้องคิด

“ไม่ได้โกรธที่กูมาช้าแล้วมึงจะหนีหน้ากูทำไม” ธันว์มันเอ่ยว่าใหม่ ผลักอกจนผมเซ
ผมขี้เกียจอธิบายอะไรเลยบอกปัด

“บอกแล้วไงกูเหนื่อย”

“เหนื่อยอะไร เมื่อวานมึงก็ไม่ได้มาเล่น”
ธันว์มันยังไม่ลดละการจับผิด ผมจึงตะคอกมันกลับบ้าง

“แล้วยังไงวะ กูจะกลับแล้วมึงมีปัญหาอะไร”

“มึงนัดเด็กมึงไว้เหรอ” ธันว์มันเดา ไม่รู้ว่าผมอยากยุติการโต้แย้ง
หรือกำลังน้อยใจในความคิดตัวเองจึงตอบรับไปแบบประชด

“เออ กูนัดโชน จะไปดูหนังกัน พอใจมึงยัง”

ธันว์เงียบ มองผมตาขวาง พยักหน้าเข้าใจเอ่ยว่าเสียงแข็ง

“ขอให้มึงสนุกละกัน”

ว่าเสร็จมันก็เดินแยกจากผมไป
จังหวะนั้นซีเดินเข้ามาพอดี ผมได้ยินชัดเจนในสิ่งที่มันเอ่ยกับซี

“เล่นเสร็จไปคอนโดพี่นะซี วันนี้พี่เบื่อ อยากมีเพื่อนคุย”

ธันว์เดินหายไปแล้ว ซีหันมามองหน้าผม เผยยิ้มนิดๆ
ก่อนเจ้าตัวจะเดินตามธันว์ไปยังล็อกเกอร์อีกฝั่ง
ซึ่งเป็นฝั่งล็อกเกอร์ของผม ผมสูดลมหายใจทำใจแข็งเดินตามไป
ชะงักขาตอนเห็นธันว์มันกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าซี

ซีเองมือก็ไม่อยู่เฉย ช่วยจับโน่นจับนี่ให้ธันว์เหมือนคนรู้ใจทำให้กัน

ภาพนั้นทำให้ผมใจกระตุกได้ไม่น้อย
แต่ที่เจ็บปวดยิ่งกว่าก็คือตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ
ธันว์มันหันมองมาทางผมด้วยสายตาเย็นชาแบบที่ผมไม่เคยเจอ
ก่อนที่มันจะเดินโอบคอซีออกไปข้างนอก

ภาพนั้นทำให้เรี่ยวแรงผมหายไปสิ้นจนยากจะยืนไหว
จึงค่อยๆ พิงร่างกับตู้ล็อกเกอร์ที่ว่างอย่างคนรู้สึกเคว้งอีกหน


ติดตามตอนต่อไปครับ

@FeaRes อืม บางทีเรื่องหัวใจมันก็พูดยากนะ ^__^

@Wordslinger ร้องไห้กับนิยายผมเรื่องไหนครับเนี่ย เรื่องเดียวกันกับที่ผมร้องมั้ยน๊อ
ตอนเขียนครั้งแรกไม่เท่าไหร่ ตอนกลับมารีไรต์ ร้องไห้ซะงั้น

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ 
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 5 [09-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 09-01-2018 15:56:00
ธันว์ไปงอแงใส่เพื่อนทำไมมมม //ตี
สงสารไนท์ ไม่ร้องน้าาา ช้ำใจสองทางเลยยย
ขนาดนี้แล้วก็ยอมรับตัวเองไปซะว่าชอบธันนน
 :hao5: :sad4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 5 [09-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 09-01-2018 20:44:50
สนุกมากค่ะคุณบอย 
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 5 [09-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-01-2018 13:00:57
ตอนที่ 6

ผมเดินออกมาจากฟิตเนสคนเดียวด้วยอารมณ์เหงาๆ
รู้สึกไม่คุ้นชินสักเท่าไหร่ เพราะแทบจะนับครั้งได้
ที่ผมต้องออกจากสถานที่กำลังกายเพียงลำพังแบบนี้
แน่นอนว่าทุกทีผมจะต้องออกมาพร้อมกับธันว์
ซึ่งทุกครั้งก่อนที่เราจะแยกออกจากกัน
เราสองคนก็มักจะทำกิจกรรมด้วยกันอยู่เรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเดินเที่ยว กินข้าว หรือนั่งหยอกเหย้ากันตามประสาคนสนิท
แต่วันนี้เรื่องราวเหล่านั้นมันผิดไป

ผมจำสายตาสุดท้ายของธันว์ตอนมันมองผมได้ดี
มันเย็นชาอย่างที่ผมไม่เคยเจอ
หนำซ้ำตอนผมจะออกมาผมก็ยังลอบเห็นว่ามันกำลังสอนซีเล่นเครื่องเล่น
ด้วยท่าทางสนิทชิดกายมากกว่าใครหลายคนที่มันเคยเข้าไปหา

ภาพนั้นทำให้ผมอดคิดถึงวันที่มันเข้ามาตีซี้และสนิทกับผมในวันแรกๆ ไม่ได้
ยอมรับว่าผมเกิดอาการหวิวไหวในใจจนยากที่จะทนมอง
จึงรีบเดินเลี่ยงออกมาอย่างคนเลื่อนลอยแบบนี้

ผมทรุดตัวลงนั่ง ณ ลานหน้าศูนย์การค้า
สับสนว่าตัวเองจะไปทางไหน

เวลาเช่นนี้
ผมไม่ควรกลับห้องเพื่อไปจมอยู่กับความรู้สึกเคว้งตามลำพัง

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นตามความเคยชินแล้วเจอข้อความจากไอซ์ส่งมาทักทาย
ผมทักทายกลับไปหาตามมารยาทเช่นเดิม
ความรู้สึกในใจตอนนี้แค่อยากนั่งอยู่เงียบๆ
คิดทบทวนในเรื่องที่เจอมาเมื่อครู่มากกว่าสนทนาสิ่งใดกับใคร

เวลาผ่านไปสักพักเมื่ออาการเคว้งอาการเหงาเริ่มคลาย
จึงคิดว่าจะกลับห้องได้เสียที
กำลังจะลุกเดินไปยังป้ายรถประจำทางก็พลันตกใจ
เมื่อเห็นธันว์มันยืนจ้องมองผมอยู่ในชุดซึ่งไม่ใช่ชุดออกกำลังกาย
แต่เป็นชุดๆ เดิมที่มันใส่มาตอนแรก

“มึงมาอยู่นี่ได้ไงธันว์”
ผมจำใจทัก ธันว์มันเดินมาหยุดตรงหน้าผมถามสียงขรึม

“ไหนมึงบอกนัดกับโชนไง”

ผมเงียบ

ธันว์มันจะรู้มั้ยว่าที่ผมต้องมานั่งเหงาแบบนี้
ก็เพราะเฝ้าคิดเรื่องของมันกับซีไม่ใช่โชน 

แต่ไม่หรอก ผมไม่บอกมันไปแบบนั้นหรอก

ระหว่างนั่งคิด ผมสรุปเอาเองแล้วว่าธันว์มันน่าจะดูๆ ซีไว้นั่นล่ะ
ซึ่งผมควรจะดีใจกับมันที่มันเริ่มจะมีคนรักเป็นตัวเป็นตน
เรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ที่มันหยอกเหย้าและออดอ้อนกับผม
ผมก็ควรจะถือเป็นเรื่องตลกอย่างที่ผ่านๆ มาน่าจะดีกว่า
ผมจะได้มองหน้ามันติดได้อย่างสนิทใจเช่นเคย

“โชนไม่ว่างแล้ว” ผมยกโชนขึ้นมาอ้าง
ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องบอกความจริงว่าผมกับโชนเลิกคบเลิกคุยกันแล้ว
เพราะใจผมคิดไปแล้วว่าธันว์มันคงดูๆ อยู่กับซี

“ถึงว่า มึงถึงได้มานั่งคอตกอยู่แบบนี้”
ธันว์เอ่ยออกมาเป็นเชิงว่ามันเชื่อในสิ่งที่ผมโกหกไป ผมจึงฝืนยิ้มทักถามมันบ้าง

“แล้วซีไปไหน”

“เจอคนรู้จักอีกแล้ว” ธันว์มันบอก

ผมอดคิดไม่ได้ว่าคนรู้จักของซีน่าจะเป็นใครอีกคนที่ตามจีบซีอยู่แน่ๆ
ซีถึงได้ผละไปแบบนั้นอีกเป็นหนที่สอง

“อืม ไหนบอกนัดกันไปคอนโดมึงกันไง”
ผมอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงถ้อยคำที่ผมได้ยินจากปากของธันว์ก่อนที่ผมจะมานั่งเหงาอยู่ที่นี่

สะท้านใจอยู่นิดๆ เมื่อได้คำตอบ

“ก็ถ้าซีเขาว่างกูก็คงพาเขาไปแล้ว ไม่เดินมาเจอมึงนั่งอยู่ตรงนี้หรอก”

“แล้วคนรู้จักซีผู้ชายผู้หญิงอ่ะ” ผมฝืนถามออกไป

ธันว์มันตอบออกมาส่งๆ เหมือนไม่คิดอะไร ก่อนย้อนถามผมบ้าง

“ผู้ชายมั้ง มึงถามทำไม สนใจทำไมนักหนากะซีเนี่ย”

“กูแค่อยากรู้ว่าคนรู้จักของซีน่ะเป็นคู่แข่งมึงหรือเปล่า” ผมบอกออกไป ธันว์มันจึงจ้องหน้าผมถามตรงๆ เอ่ยถาม

“มึงหมายความว่าไง”

“ก็หมายความว่ามึงจะย้อมแพ้คนนั้นทำไมง่ายๆ
ดูท่าทางซีก็สนใจมึงไม่น้อยนี่ เขาอาจจะลองใจมึงก็ได้จึงลองๆ ไปกับคนนั้นดู
ทำไมมึงไม่ลองตื้อซีเขาใหม่ล่ะ” ผมว่า ธันว์มันจึงบอก

“แล้วทำไมกูจะต้องตื้อล่ะ ไม่เหมือนมึงนี่ที่ตามจีบคนที่เขาไม่สนใจอยู่ได้เป็นปีๆ
ถามจริงเหอะวะ ทำไมไม่เลิกสนใจโชนซะที”

เออนะ ถ้าธันว์มันรู้ว่าผมกับโชนเลิกคุยกันแล้วมันจะรู้สึกแบบไหนนะ
แต่อย่าเลย บอกอะไรมันไปตอนนี้ก็เท่านั้น
ให้มันคิดว่าที่ผมมานั่งเหงาแบบนี้เพราะโชนผิดนัดอย่างนั้นนั่นแหละ

ก็ที่มันออกมาเดินเตร่ที่นี่เพราะซีไม่ว่าง ไม่ใช่มันหนีมา
ซึ่งหากซีว่างมันก็คงพาซีกลับคอนโดอย่างที่มันเอ่ยชวนตั้งแต่อยู่ในฟิตเนสนั่นแล้ว

“งั้นกูขอตัวนะ มันมืดแล้ว”

ผมคิดจะผละหนี เพราะไม่อาจทนยืนสู้สายตากับธันว์มันได้นาน
อยากทำตัวห่างมันไว้ให้ชิน เมื่อวันหนึ่งมันคบกับซีขึ้นมาจริงๆ
ผมจะได้ไม่รู้สึกอะไรมากมาย

“เดี๋ยวกูไปส่ง” ธันว์มันบอกคว้าแขนผมไว้ ผมจึงจำใจหันมามองสบตามัน

ด้วยความที่ผมไม่อยากให้มันดีกับผมมากไปกว่านี้หากว่ามันคิดจะคบกับซีจริงๆ
ผมจึงแกะมือมันออกเอ่ยบอก

“ไม่ต้องหรอก กูกลับเองได้”

“ทำไมวันนี้มึงดูดื้อกับกูจังวะไนท์” ธันว์มันว่าจ้องตาผมอีกครั้ง
ผมปฏิเสธไป ไม่อยากให้มันรู้ว่าผมกำลังรู้สึกอะไรกับมันในตอนนี้

“เปล่ากูแค่เหนื่อย”

“ไม่ใช่อ่ะ กูไม่ใช่เพิ่งรู้จักมึง
มีอะไรก็คุยกับกูตรงๆ ดิวะ มึงโกรธอะไรกูอยู่หรือเปล่า”

ผมเงียบเมื่อธันว์มันถามมา ตัดปัญหาโดยยกชื่อโชนขึ้นมาอ้าง
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 6 [10-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-01-2018 13:07:21

“กูแค่ทะเลาะกับโชนนิดหน่อย”

“แล้วมาพาลเอากับกูเนี่ยนะ”

สายตาธันว์วูบเปลี่ยนไป ไม่หรอก มันคงไม่ได้น้อยใจอะไรผมหรอก

ผมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองจึงบอกปัดอีกเช่นเคย

“กูไม่ได้พาล กูแค่ยังไม่อยากคุยกับใครตอนนี้”

“ไหน มึงเอาเบอร์เด็กมึงมาดิ” ธันว์มันเปลี่ยนเรื่องคุย ผมจึงถามอย่างสงสัย

“มึงจะเอาไปทำไม”

“กูจะโทรไปเคลียร์ไงว่าตกลงเด็กมึงมันคิดยังไงกับมึงกันแน่
เดี๋ยวก็นัด เดี๋ยวก็ชิ่งให้มึงต้องมาเป็นแบบเนี่ย”

“แล้วมึงจะเดือดร้อนอะไรล่ะ เอาเวลาสนใจกูไปตามตื้อซีดีกว่ามั้ย
ไม่ใช่เห็นน้องเขาไม่ว่างแล้วค่อยคิดจะมาสนใจกู”
ผมโพล่งออกมา รีบจะเดินหนี ธันว์มันตามมาฉุดแขนผมไว้ พร้อมก้าวมายืนขวางทางแล้วถาม

“ก่อนกูมาซีพูดอะไรกับมึง”

ผมมองหน้าธันว์ ไม่เข้าใจว่ามันจะมาคาดคั้นเอาอะไรจากผม
ในใจขี้เกียจอธิบายจึงปฏิเสธ

“เปล่า”

“กูไม่เชื่อ” ธันว์ว่า

“เรื่องของมึง” ผมสวนกลับ เราสองคนจึงคล้ายจะทะเลาะกันอยู่ตรงนั้น

“มึงอย่างี่เง่าได้ป่ะไนท์”

“งี่เง่าอะไร กูแค่อยากกลับบ้านมึงจะมาวุ่นวายอะไรกะกูนักหนาล่ะ”

“มึงไม่เคยมีท่าทีแบบนี้กับกู มึงไม่รู้ตัวเหรอ”

“ก็บอกแล้วไงว่ากูเหนื่อย กูยังไม่อยากพูด ไม่อยากคุยกับใคร”

“แต่กูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย ไม่ใช่คนที่มึงไม่สนิท”

“แล้วไงล่ะ ก็แค่เพื่อน”

“แล้วกูเป็นอะไรได้มากกว่านั้นมั้ยล่ะ”

ผมนิ่ง นึกถึงว่าธันว์มันนัดซีมาเจอตอนลับหลังผม และนิสัยเจ้าชู้ที่ผ่านๆ มาของมันจึงว่า

“มึงอย่าพูดอะไรที่มันขัดกับการกระทำมึงดีกว่าธันว์ กูเบื่อจะฟัง”

“อะไรที่ทำให้มึงคิดว่าคำพูดกูกับการกระทำของกูมันขัดกันล่ะ มึงบอกมาดิ”

“ทำไมต้องให้กูบอก มึงน่าจะรู้ตัวมึงเองมากกว่ากูนะ”

“ก็กูไม่รู้ไง กูถึงอยากให้มึงบอก”

ผมอึกอัก จะให้ผมบอกมันไปยังไงว่าผมน้อยใจในสิ่งที่มันทำกับซีต่อหน้าผม
ในเมื่อผมกับมันสถานะมันยังไม่ชัดเจนว่าเป็นอะไรกันมากกว่าเพื่อนสนิท
แม้เมื่อวานมันจะกอดจะอ้อนจะดูแลผมตอนอยู่ในห้องมัน
แต่มันก็พูดเองว่ากับใครที่มาห้องมันมันก็ทำเช่นนั้นเป็นเรื่องปกติ

หรือหากจะนับเรื่องที่มันจูบผมแบบดูดดื่มก็เถอะ เมื่อเทียบแล้ว
ผมคิดว่ากับคนอื่นที่ไปห้องมัน มันคงไม่ทำเพียงแค่จูบกับใครคนนั้นแน่ๆ

สิ่งที่มันทำกับผมก็คงจะแค่อารมณ์ใคร่ ของคนที่มีนิสัยเจ้าชู้อย่างมันเท่านั้น
เพราะถ้าผมสำคัญกับมันจริงๆ ลับหลังที่มาส่งผมมันคงไม่ต้องรีบนัดให้ซีออกมาเจอขนาดนั้น

“ให้กูกลับห้องเถอะว่ะธันว์ กูไม่พร้อมจะคุยอะไรกับมึงตอนนี้จริงๆ”
เมื่อพูดอะไรไม่ได้ผมจึงทำใจเย็นขอทางธันว์มันดีๆ แต่ธันว์มันไม่ยอมง่ายๆ ด้วยการเอ่ย

“ไม่อ่ะ ดูยังไงมึงก็กำลังเคืองกูอยู่ชัดๆ
กูไม่ให้มึงไปไหนทั้งนั้นถ้ามึงยังเป็นแบบนี้อยู่”

“อย่างี่เง่าได้ป่ะธันว์” ผมว่าเมื่อเริ่มไม่เข้าใจว่ามันจะรั้งผมไว้ทำไม
อืม ใช่สิ น่าจะเพราะซีไม่ว่างไปกับมันนั่นล่ะ

“งั้นไปค้างกะกู” ธันว์มันเอ่ยชวน ผมยิ้มหยันว่ามันตรงๆ

“มึงเห็นกูเป็นอะไร พอเด็กมึงไม่ว่างมึงก็คิดมาชวนกูงี้เหรอ”

“แล้วไงทีมึงโดนเด็กมึงชิ่งแล้วชิ่งมาหากูกูเคยว่าอะไรมึงมั้ย”

ผมอึ้งเงียบ นึกถึงวันที่ผมหอบอาการเคว้งไปหาธันว์
รู้สึกผิดอยู่นิดๆ แต่ก็นั่นล่ะ จิตใจตอนนี้ผมไม่อยากอยู่ใกล้ให้มันจับความรู้สึกผมได้จึงหาทางเลี่ยงอีก

“กูต้องทำงาน คอนโดมึงกับออฟฟิศกูมันไกลกัน กูขี้เกียจตื่นเช้า”

“เดี๋ยวกูมาส่ง” ธันว์ยังคงรั้น ฉากทะเลาะกันจึงเริ่มขึ้นใหม่ ซึ่งคำพูดผมน่ะแหละเปิดม่านก่อน
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 6 [10-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-01-2018 13:16:08

“ไม่ต้อง กูไม่อยากกวนมึง”

“ทำไมมึงไม่คิดว่ากูเต็มใจ”

“เอาเวลาสนใจกูไปสนใจเด็กมึงดีกว่ามั้ย”

“อยู่ต่อหน้ากูเลิกพูดถึงคนอื่นได้ป่ะ”

“คนอื่นที่ไหน นั่นมันเด็กมึงไม่ใช่เหรอ”

“ใคร”

“ซี”

“ซีแค่คนรู้จัก”

“แต่มึงก็ชวนเขาไปคอนโด”

“มึงหึงเหรอ”

“หึงทำไมกูไม่ได้คิดอะไรกับมึง”

“ไม่คิดแล้วมึงจูบกับกูทำไม”

“มึงเริ่มก่อน”

“แต่มึงก็ไม่ขัด”

“กูแค่ไม่อยากโวยวายให้คนมาเห็น”

“มึงแน่ใจเหรอ”

“เออ”

“กูไม่เชื่อ”

“ทำไม”

“มึงน่าจะรู้ใจมึงดีนี่ว่าหากกูทำทำอะไรมากกว่านั้นมึงก็คงยอม”

“มึงอย่ามาหลงตัวเอง กูไม่ใช่คนเจ้าชู้ใจง่ายเหมือนมึง”

“งั้นมึงกล้าไปค้างกะกูคืนนี้อีกมั้ยล่ะ”

“กูไม่ไป”

“กลัวอดใจไมไหวให้กูปล้ำง่ายๆ อ่ะดิ มึงอย่ามาฟอร์ม”

“มึงอย่ามาดูถูกกูไอ้ธันว์ ถ้ากูเป็นคนแบบนั้น กูกับมึงคงมีอะไรกันตั้งแต่ตอนแรกที่มึงเข้าหากูแล้ว”

“ถ้าไม่ติดว่ากูเกรงใจเด็กมึง มึงก็คงไม่รอดหรอก”

“มึงอย่าเอาโชนมาอ้าง สำนึกกูมีว่าควรจะวางตัวยังไงกับใคร”

“ปากแข็งนะมึง”

“มึงมันไม่น่าไว้ใจต่างหาก”

“แสดงว่าถ้ากูเลิกเจ้าชู้มมึงจะทิ้งเด็กมึงมาคบกับกูงั้นสิ”

“มึงทำให้มันได้ก่อนเถอะ ค่อยมาพูดแบบนี้กับกู”

“แล้วถ้ากูทำได้แต่มึงกับโชนยังไม่เลิกกันมึงไม่คิดเหรอว่ากูจะเสียใจที่เป็นได้แค่ตัวสำรองของมึง”

“ทำไมมึงคิดว่ากูกับโชนจะไม่เลิกกัน”

“มึงรอน้องเขาเลือกมึงมากี่ปีแล้วล่ะ หากคิดจะเลิกมึงคงเลิกไปนานละ
ที่ผ่านมาน้องเขาสนใจมึงแค่ไหนมึงก็น่าจะรู้”

“แล้วการที่กูซื่อสัตย์กับความรักมันผิดตรงไหน”

“สรุปว่ามึงรักโชนมาก”

แววตาธันว์วูบไหวไปอย่างสังเกตได้ 
ผมควรจะบอกมันดีมั้ย เรื่องที่ผมกับโชนจบกันแล้ว
ซึ่งผมก็ไม่ได้อาลัยในความสัมพันธ์นั่นมากมายเท่ากับที่ผมหวั่นไหวตอนเห็นมันสนิทกับซี

“มึงฟังนะธันว์” ผมบอกออกไปเมื่อตอนคิดจะเปิดใจ

“อะไร” ธันว์มันจ้องหน้าผม ภายใต้แสงไฟที่สาดมาคล้ายๆ
ผมเห็นนัยน์ตามันแดงเรื่อ อย่าบอกนะว่ามันเจ็บปวดกับความคิดของมันที่ว่าผมรู้สึกผูกพันกับโชนมากกว่ามัน

“คือกูกับโชน” ผมเตรียมจะบอกสิ่งที่ใจคิด
แต่แล้วก็มีเสียงใครคนหนึ่งเรียกชื่อธันว์และทักมันขึ้นมา

“พี่ธันว์ อยู่นี่เอง ซีนึกว่าพี่ถึงคอนโดแล้วซะอีก”

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ

@FeaRes ตามให้กำลังใจกันทุกตอนเลย ขอบคุณนะครับ
ธันว์-ไนท์ หัวใจจะใกล้กันได้แค่ไหน ฝากตามต่อด้วยนะครับ

@warin อีกหนึ่งกำลังใจมาใหม่ เรียกผมเช่นคนคุ้นเคยแบบนี้ ดีใจจังที่ได้กลับมาเจอกัน
แอบนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ นิดๆ ^__^

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 6 [10-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 10-01-2018 15:04:05
พี่บอย  นี่พิธเองนะ

ทำไมมันบีบคั้นหัวใจอะไรเบอร์นี้   
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 6 [10-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 10-01-2018 17:07:42
ตกลงซีไม่ได้ไปกับคนอื่นอย่างที่ธันว์พูดเหรอออ มาทำไม๊!
แล้วมาขัดจังหวะอะไรตอนนี้ ไม่เห็นเหรอว่าคนเขาคุยกันอยู่! //ตี
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 6 [10-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-01-2018 18:12:41

ตอนที่ 7

ผมกับธันว์มองไปยังร่างซีพร้อมกัน สักพักซีก็เดินมาหยุดที่หน้าเราทั้งสอง สายตาซีมองดูธันว์เอ่ยทัก

“พี่ธันว์เป็นอะไรทำไมตาแดงๆ”

ผมมองตามสายตาซีบ้าง สบตากับธันว์เพียงแวบ
เห็นชัดตามที่ซีบอกว่านัยน์ตาของธันว์มันแดงเรื่อขึ้นกว่าเดิม
ธันว์รีบหลบตาผมหันไปเอ่ยยิ้มๆ กับซี

“พี่แค่เคืองตานิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอก”

“นี่พี่ธันว์กับพี่ไนท์ทะเลาะกันหรือเปล่าครับ”
ซีเดาเรื่อง คราวนี้เหมือนธันว์มันจะปรับอารมณ์ให้ดูเป็นปกติเอ่ยขึ้น

“ทะเลาะอะไร ไม่มีอะไรหรอก แล้วนี่ซีจะไปไหน”

“อืม พอดีซีหิว เดินออกมาหาอะไรกิน เห็นพี่ธันว์กับพี่ไนท์ยังอยู่เลยเข้ามาทัก”

“เหรอ ซีอยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวพี่พาไปกิน”

ผมใจกระตุกตอนได้ยินธันว์มันเอ่ยขึ้นแบบนั้น
สุดท้ายนิสัยเจ้าชู้ก็ยังฝังอยู่ในตัวตนที่แท้จริงของธันว์

ผมหมุนตัวจะเดินหนี เมื่อไม่อยากเห็นและไม่อยากรับรู้อะไร
ที่ทำร้ายจิตใจและสายตามากไปกว่านี้ แต่ซีดันเอ่ยทักไว้

“อ้าวพี่ไนท์ ไม่ไปทานด้วยกันเหรอครับ”

“ไม่อ่ะ พี่ไม่ค่อยหิว พี่กลับก่อนนะ”

ผมตอบซียิ้มๆ แล้วรีบเดินหนีไป ไม่สนใจที่จะเอ่ยลาธันว์

มันอยากจะพาซีไปกินอะไรที่ไหนก็ปล่อยมันไป
ไม่อยากเข้าไปเดินร่วมเข้าไปเป็นส่วนเกินให้มันต้องลำบากใจ

ผมเดินห่างออกมาจากธันว์กับซี
ยกมือขึ้นปาดขอบตาเมื่อรู้สึกเหมือนว่าน้ำในตามันจะเอ่อซึมออกมานิดๆ
แม้จะห้ามใจเท่าไหร่ แต่ลึกๆ แล้วมันก็อดคิดไม่ได้ว่าคืนนี้ธันว์กับซีจะจบลงตรงที่ใด

ระหว่างนั่งรถกลับห้อง ผมพยายามไม่คิดเรื่องธันว์กับซี

แต่ใจเจ้ากรรม ยิ่งห้ามมันก็ยิ่งต้องคิด

นี่ผมมีใจให้กับธันซ์เกินกว่าคำว่าเพื่อนแล้วใช่มั้ย

การกระทำต่างๆ ของมันที่สื่อถึงความสนิทสนมกับซีถึงได้ทุ่มใส่กลางใจผม
ให้จมอยู่กับความน้อยใจได้รุนแรงจนเกินกว่าจะเก็บกลั้นหยดน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาได้

ท่ามกลางผู้คนมากมายบนรถ หากใครสักคนจะสังเกตผม
คงเห็นผมแอบปาดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหลมาไม่หยุด

ไอ้ธันว์มันแค่เพื่อนมึงไอ้ไนท์ ท่องเอาไว้สิวะ ท่องเอาไว้
มึงกับมันเป็นอะไรกันมากไปกว่านั้นไม่ได้
มึงต้องไม่รักมัน มึงต้องไม่รักมัน

ผมพร่ำบอกตัวเองอย่างนั้น แม้หัวใจจะสั่นจนเกินควบคุม

บอกตัวเอง บอกทุกครั้ง
ทุกทุกคราวเวลา ฉันเจอเธอ
ตอกและย้ำ อยู่เสมอ
ระหว่างเรานั้นจะเป็น ได้แค่ไหน
ก็แค่เพียง เพื่อนเท่านั้น
ไม่มีทาง จะเป็น มากกว่านี้
อยากให้เธอ รู้สึกอยากให้เธอ เข้าใจ
บางอย่าง ที่มันทรมานฉัน
ก็คือความรู้สึก เก็บมานาน แสนนาน
เหลือเกิน ที่เธอคงไม่เคยรู้
นั่นคือใจของฉัน
ให้กับเธอคนนี้ คนเดียว

...........................................................

สั้นไปหน่อยเนอะ แต่ก็มาหยอดทิ้งเอาไว้ก่อนตอนต่อไปจะมากระชากต่อมวายกันยาวๆ

ทักทายพิธจ้า ขอบคุณที่เข้ามาทักทายกันนะ
จริงๆ อยากบีบให้ตายกันไปข้างระหว่างคนอ่านกับคนเขียน แต่ไม่รู้จะทำได้มั้ย ต้องติดตามจ้า

@FeaRes ซีเข้ามาห้ามทัพไม่ให้สองคนทะเลาะกันไง มองโลกในแง่ดี ^__^
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 7 [10-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 10-01-2018 18:59:20
อย่าประชดกันเลยยย คุยกันดีๆนะะะะ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 7 [10-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-01-2018 20:28:33
เมื่อไหร่ธันว์ กับไนท์ จะเปิดใจกัน คุยกันให้ชัดเจนซักที  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ทั้งที่จูบกันไปแล้ว แล้วดูเคมีต้องกันซ้า  :-[
หึงกันไป งอนกันมา ทั้งที่หวั่นไหวกันไปแล้ว  :z3: :z3: :z3: 
ซีก็ตามธันว์เฉยเลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: 
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 7 [10-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 10-01-2018 21:53:43
มองในแง่ดีไม่ได้อ่าาาา นี่มันไม่ใช่เข้ามาห้ามแต่เรียกว่าเข้ามาขัด!
ธันว์ๆๆๆ สนใจไนล์ก่อนเซ่ แล้วก็ยังไม่รู้ว่าไนล์ไม่ได้คุยกับโชนแล้ว เห้อออ
คุยกันสิ คุยกันน เคลียร์กันนน จะร้องไห้อยู่แล้วยังจะไม่เคลียร์กันอีกก //ตี
 :serius2:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 7 [10-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 10-01-2018 23:08:37
อย่ารุนแรงมากน้าาา  เค้าเป็นพวกหัวใจอ่อนแอ...TT
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 8 [11-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 11-01-2018 11:09:10


ตอนที่ 8

ผมกลับถึงห้องคิดว่าจิตใจจะโปร่งขึ้นหากว่าได้นอนพัก
แต่พลันได้รับข่าวร้ายจนนอนไม่หลับ
เมื่อญาติจากต่างจังหวัดแจ้งมาว่าแม่ผมป่วยออดๆ แอดๆ
อยากให้ผมกลับไปเยี่ยม

ผมถามกลับว่าท่านเป็นอะไร ไปหาหมอหรือยัง
แต่ญาติที่ติดต่อมาไม่ได้บอกข้อมูลอะไรเพิ่ม
บอกแค่เพียงว่าหากหาเวลากลับมาเยี่ยมบ้านได้ก็ควรจะมา
ผมรีบรับปากว่าจะลาพักร้อนกลับไปให้เร็วที่สุด แต่ยังกำหนดวันไม่ได้
ญาติผมไม่ได้ว่าอะไร เข้าใจว่าแจ้งผมกะทันหันเกินไป

ผมนั่งถอนหายใจ นึกถึงเรื่องกระทบจิตใจที่ถาโถมเข้ามาสู่ใจพร้อมๆ กัน
แล้วรู้สึกปวดหัวขึ้นมาจนแทบระเบิด

วันใหม่ ผมเริ่มรู้ตัวว่าไม่สบาย แต่ก็ไม่ได้คิดจะหยุดงาน
ผมยังหอบร่างพาสังขารที่โดนทำร้ายจากพิษไข้ไปทำงานเช่นปกติ
อาศัยซื้อยาลดไข้กินพอประทังไว้ โดยพักเรื่องธันว์เอาไว้
พยายามไม่ครุ่นคิดอะไรให้หัวที่ปวดอยู่แล้วต้องปวดซ้ำ

อีกอย่างยังมีเรื่องใหญ่กว่านั้นที่ผมต้องคิดคือเรื่องที่แม่ไม่สบาย

ผมทำงานไปด้วยความยุ่งและวุ่นวายกับปัญหาที่ต้องแก้ระหว่างวันของฝ่ายไอที
มีเวลาว่างหน่อยก็ติดต่อหาที่บ้านไปเพื่อถามไถ่อาการของแม่
และแจ้งว่าผมลาพักร้อนกลับบ้านได้ในวันศุกร์นี้

ผมวางเพื่อนรอบกายในโลกโซเชี่ยลลงด้วยการไม่ติดต่อใคร
ไม่ว่าจะกับไอซ์ที่ยังคงตื้อส่งข้อความทักทายผมเป็นรายชั่วโมง
หรือกับใครคนอื่นที่ผมเคยรู้จักผ่านๆ มา

แน่นอนที่สุดว่าธันว์คือหนึ่งในนั้นที่ผมไม่ตามติดหรือไถ่ถามความเป็นไปของมันด้วย

แต่ตลอดทั้งวันธันว์มันก็ไม่ได้ส่งข้อความใดๆ มาหาผมเช่นกัน

จนหมดวันที่ผมกำลังจะเลิกงาน ซึ่งมืดกว่าปกติ
สายเรียกเข้าจากธันว์จึงดังขึ้นมา ผมกดรับสายมัน
ทักทายหามันด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า เพราะปวดหัวมาทั้งวัน

“ว่าไงธันว์”

“ทำไมเสียงมึงดูไม่ดีเลยไนท์” ธันว์มันทักถามกลับมา ผมจึงบอกออกไปตรงๆ

“กูไม่ค่อยสบายน่ะ”

“เฮ้ย เป็นอะไรมากป่าววะ แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหน”
น้ำเสียงธันว์ดูตกใจหน่อยๆ แต่ผมรู้สึกยินดีได้ไม่เต็มใจนักเมื่อนึกถึงภาพที่มันกับซีอยู่ด้วยกันเมื่อวาน
และมันเพิ่งจะติดต่อหาผมมาจนเกือบจะมืดแบบนี้

“แค่ปวดหัว เพิ่งเลิกงานกำลังจะกลับห้อง” ผมตอบ เก็บของเสร็จลุกเดินออกจากแผนก
ระหว่างทางก็คุยกับธันว์ไป ไม่อยากทำตัวงี่เง่าด้วยการตัดสายมันทิ้ง อย่างน้อยก็คงไว้ซึ่งสถานะเพื่อน
แม้ผมจะเริ่มรู้ใจตัวเองว่าคิดกับมันเกินกว่านั้นก็ตาม

ผมเดินคุยกับธันว์จนลงมาถึงชั้นล่างของตึก
ไม่ได้คุยเรื่องที่จะไปฟิตเนสกันเหมือนเช่นทุกเย็น
นึกสงสัยอยู่หรอกว่าทำไมธันว์มันไม่ชวนผมไป
จะเป็นเป็นเพราะด้วยมันรู้ว่าผมไม่สบายหรือเพราะมันไม่อยากให้ผมไปขัดคอตอนมันคลุกคลีกับซี
ที่น่าจะนัดกันมาก็สุดจะเดาได้    

ผมขอวางสายจากธันว์เพื่อจะเดินไปขึ้นรถกลับห้องที่หน้าตึก
มันยอมวางโดยง่าย ผมยืนถอนหายใจไล่ความล้าทั้งหมดทิ้ง
กำลังจะก้าวเดิน พลันต้องตกใจเมื่อมีมือหนึ่งมาคว้าข้อมือผมไว้

ผมไม่รอช้าที่จะหันไปมองว่าใครกันนึกอยากมาทักผมตอนนี้

“ไอ้ธันว์” ผมเอ่ยชื่อเรียกธันว์ออกมาเบาๆ
เมื่อมองไปทางนั้นแล้วเห็นธันว์มันยืนหน้านิ่งมองผมอยู่

“มึงมาที่ตึกกูได้ไง” ผมถามใหม่ แกะมือธันว์ออก
รู้สึกเกรงใจสายตาคนที่เดินผ่านไปมาอยู่
ธันว์มันยอมปล่อยโดยง่าย แล้วตอบคำถามที่ทำให้ผมอึ้งไป

“กูมารอรับมึงนานละ เห็นมึงไม่ลงมาซะทีเลยโทรตามนั่นล่ะ”

“ทำไมต้องมารับกู” ผมถาม ธันว์มันจ้องหน้าบอก

“ก็กูอยากมา”

ผมหลบตา ตอนนี้ผมกลายเป็นคนไม่กล้าจ้องตาขึ้นมาธันว์มันขึ้นมาซะอย่างนั้น
นาทีต่อมาธันว์มันยกมือขึ้นแตะหน้าผากผมถามใหม่

“ไม่สบายเป็นไงบ้าง ไปหาหมอมั้ย”

“ไม่อ่ะ กูซื้อยามากินละ มึงอย่าทำแบบนี้เดี๋ยวคนมอง” ผมตอบปัดมือธันว์ออก
นั่นล่ะเสียงมันจึงเข้มขึ้นคล้ายดุ

“มึงนี่มันแคร์จิตใจใครไปทั่วนะไนท์ ยกเว้นกูเนี่ย”

“มันไม่ใช่แบบนั้น นี่มันตึกที่ทำงานกู” ผมอธิบาย ธันว์มันถอนหายใจเบาๆ
ก่อนจะชวนผมเดินไปยังที่จอดรถของมัน
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 8 [11-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 11-01-2018 11:16:37

ผมยอมเดินตามธันว์ไปห่างๆ ทำไมพอรู้ว่าหัวใจผมคิดยังไงกับมัน
ผมถึงกลายเป็นคนกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเดินคู่กับมันก็ไม่รู้

“เดินช้าแบบนี้ไหวมั้ยวะมึง ไปหาหมอเถอะ เดี๋ยวกูพาไป”
ธันว์มันหยุดหันมาว่าตอนเดินมันถึงรถแล้ว
ผมไม่รู้จะตอบว่ายังไงจึงเดินก้มหน้าก้มตาไปเงียบๆ
กระทั่งเข้าไปนั่งคู่กับธันว์บนรถมันก็ถามอีก

“ไม่พูดไม่จาแบบนี้สงสัยต้องจับฉีดยาซะล่ะมั้งถึงจะหาย”

“มึงอย่ามาทะลึ่งไอ้ธันว์” ผมหลุดคำพูดแรกออกไป
เข้าใจในความหมายแฝงของมันดี

ธันว์มันหันมามองจ้องหน้าว่า

“ขู่แค่เนี่ยปากไวขึ้นมาเลยนะที่รัก”

“มึงอย่ามากะล่อนกับกูให้มากนัก ขับรถไป กูอยากกลับห้องไปนอนพัก”
ผมยกมือปัดหน้ามันหนีไปทางอื่น

“เขินอะไรกูวะ แต่ก่อนไม่เห็นเป็นเลย” ธันว์มันยังไม่วายเหย้าแหย่อีก
ผมเลยทำท่าจะลงจากรถ เอ่ยว่า

“ถ้ามึงไม่รีบออกรถกูลงเดินไปขึ้นรถหน้าตึกกลับเองนะไอ้ธันว์”

“จ้า ขู่จัง ยอมไม่รู้จะยอมยังไงแล้วเนี่ย” ธันว์มันว่า ยอมเคลื่อนรถออกไปตามเส้นถนน
ผมจึงกลับมานั่งเงียบเสียงตามเดิม ครู่หนึ่งธันว์มันจึงถามย้ำอีก

“ไม่ไปหาหมอแน่นะ”

“อืม” ผมตอบสั้นๆ

“แล้วหิวมั้ย แวะกินอะไรก่อนป่าว” ธันว์มันถามอีก
คราวนี้ผมผมอดที่จะมองจ้องหน้ามันไม่ได้
ยังไม่ทันพูดอะไรธันว์มันก็เอ่ยออกมาซะก่อน

“มองอะไร ถามแค่นี้ไม่ได้ไง”

“ถ้ากูบอกใช่มึงจะขับรถไปเงียบๆ มั้ย”
ผมไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ จึงบอกออกไปแบบนั้น

ไม่รู้สิ นึกถึงเมื่อวานกับวันนี้ธันว์มันดูเป็นคนละคนยังไงยังงั้น

เมื่อวานมันเพิ่งจะเอาใจซีต่อหน้าผม แล้ววันนี้มันจะมาเอาใจผมเพื่อต้องการอะไร

ธันว์มันยอมเงียบเสียงลงจริงๆ ตามที่ผมบอก ผมจึงกลับมานิ่งดังเดิม
รู้สึกล้าจนอยากจะงีบหลับ แต่มันไม่น่าใช่สิ่งที่ควรจะทำ
กับการที่จะต้องหลับพักสบายแล้วให้คนที่มีน้ำใจมารับ
ต้องขับรถฝ่าจราจรอันแน่นขนัดในตอนเย็นไปเพียงลำพัง
ผมจึงฝืนร่างกายนั่งคู่ไปกับธันว์จนรถติดไฟแดง

“เพลียก็ปรับเบาะนอนก่อนมั้ยไอ้ไนท์ ไม่ต้องฝืนหรอก
กูไม่ใช่คนที่มึงจะต้องมาเกรงใจนะ”
ธันว์มันหันมามองเอ่ยบอก ผมปากแข็งไป เพราะนึกเกรงใจมันจริงๆ

“กูไม่เป็นไร มึงขับรถไปเถอะ ไม่ต้องมาสนใจกูมาก”

“เห็นมั้ยว่ามันติดไฟแดง ให้กูขับฝ่าไปเลยมั้ยล่ะ จะได้ตายโหงคู่กันเนี่ย 
อาการดื้อกะกูเนี่ยมึงยังไม่หายอีกหรือไง เห็นเป็นมาแต่เมื่อวานละนะ”
ธันว์มันขึ้นเสียง ผมขี้เกียจเถียงกับมันจึงปรับเบาะเอนนอน

“ก็แค่เนี่ย หนาวป่าวเดี๋ยวกูปรับแอร์ให้” ธันว์มันส่งเสียงมาอีก ผมจึงบอกปัด

“เออ มึงจะทำอะไรก็ทำเถอะ”

ผมเผลอหลับไปในตอนไหนไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนธันว์มันปลุก
ผมงัวเงียลุกนั่งตัวตรง รู้สึกหนักอึ้งที่หัว จนเผลอยกมือขึ้นกุม

“ไหวมั้ยวะมึง ปะ ถึงโรงพยาบาลละ”

โรงพยาบาล ผมนึกทวนสิ่งที่ธันว์มันบอกในใจก่อนจะหันมองรอบบริเวณ
ธันว์มันจอดรถไว้ในเขตโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งจริงๆ

ผมหันกลับมามองหน้าธันว์เอ่ยบอก

“บอกแล้วไงว่ากูซื้อยามากินแล้ว มึงพากูมาหาหมอทำไมไอ้ธันว์”

“มึงอย่าดื้อได้มั้ยไอ้ไนท์ ตัวมึงร้อนยังกะไฟ
ยาที่มึงซื้อมากินเมื่อไหร่มันจะหาย”

ผมเงียบ มันก็จริง ยาลดไข้ที่ผมซื้อมากินตอนเช้ายันตอนเที่ยง
ไม่ได้ทำให้พิษไข้ผมลดลงเลยสักนิด

แต่ก็นั่นล่ะ ที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคมของผม ผมจึงบอก
   
“บัตรประกันสังคมกูไม่ได้อยู่ที่นี่”
   
“คือกูพามึงมากูต้องจ่ายให้ป่ะวะ บัตรนั่นถ้ามึงจะใช้มึงก็ไปใช้ของมึงเอง
อย่าพูดมาก ลงไปหาหมอให้เขาตรวจดูได้แล้วว่ามึงไม่ได้เป็นอะไรมาก
กูจะได้สบายใจ ห่วงนะโว้ยถึงพามาเนี่ย”
   
ผมเงียบ ยอมลงจากรถอย่างว่าง่าย

ที่สุดธันว์มันก็พาผมไปยังเวชระเบียนเพื่อติดต่อขอพบหมอจนได้
   
ระหว่างเดินมาหาที่นั่งรอพบหมอผมชาหน่อยๆ เมื่อมีเสียงหนึ่งเรียกชื่อ
   
“พี่ไนท์”
   
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 8 [11-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 11-01-2018 11:41:47

ผมหยุดหันไปมองเห็นโชนยืนยิ้มให้อยู่
ผมหันกลับไปมองทางธันว์ซึ่งขณะนี้สังเกตเห็นได้ชัดว่าสีหน้ามันเรียบเฉย
ต่างกับตอนที่มันเดินพาผมมา ใจหายเมื่อธันว์มันเอ่ย
   
“กูรอในร้านกาแฟโน่นนะ ยังไงคุยกะน้องเขาก่อนก็ได้
ตรวจเสร็จเดี๋ยวกูกลับมาหา ขอตัวนะโชน”
   
ธันว์เดินลิ่วๆ ไปยังร้านกาแฟที่ว่าโดยไม่รอฟังคำพูดใดๆ จากผมหรือโชนเลย
ผมได้แต่มองตามหลังจนเห็นมันเดินไปสั่งเครื่องดื่มตรงเคาน์เตอร์จึงหันมาคุยกับโชน
   
“ไม่สบายเหรอโชน”
   
“เปล่าครับ ไอ้ต้าร์น่ะ โชนแค่พามันมา ตอนนี้มันตรวจอยู่”
โชนบอก ผมพยักหน้าเข้าใจ โชนจึงชวนผมหามุมนั่งคุย
   
“พี่ไนท์ไม่สบายเหรอครับ”
   
“อืม”
   
“แล้วเป็นอะไรมากมั้ย ทำไมไม่โทรหาโชน ถ้าจะมาที่นี่ โชนจะได้ไปรับ”
   
“พี่ไม่ได้จะมาแต่ไอ้ธันว์มันพามาน่ะ จริงๆ ก็แค่เวียนหัวแหละ แต่ไอ้ธันว์มันคงคิดว่าพี่เป็นหนัก”
   
“ดูพี่ธันว์ห่วงพี่ไนท์เนอะ”
   
“ตามประสาเพื่อนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
   
“มีโชนก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ”
   
“จริงสินะ พี่กับโชนไม่ได้เหมือนเดิมแล้วนี่นา”
   
“แต่เราก็ยังเป็นพี่เป็นน้องกันอยู่ มีอะไรพี่ไนท์ก็ยังติดต่อโชนได้นะ”
   
“อืม ไว้เดี๋ยวพี่ติดต่อไป”
   
“ทำไมอ่ะ ยังไม่ถึงคิวตรวจเลย จะไม่คุยกับโชนแล้วเหรอ”
   
“ก็พี่ไม่สบายไง เดี๋ยวโชนจะติดไข้เอา”
   
“จริงป่าว กลัวพี่ธันว์หึงป่าว ดูดิ มองมาใหญ่เลย”
   
“อย่าไปมองแซวมันน่าเดี๋ยวมันเตะพี่เอา”
   
“สายตามองมาแบบนี้คงไม่เตะมั้ง คงทำอย่างอื่นมากกว่า”
   
“ไม่เตะงั้นก็คงต่อยน่ะแหละ”
   
“แล้วถ้าไม่ต่อยไม่เตะล่ะ”
   
“เฮ้อ เลิกมองมันและก็หยุดแซวได้แล้ว เดี๋ยวมันปล่อยพี่กลับห้องเองหรอก”
   
“อ้าว โชนก็นั่งหัวโด่อยู่นี่ กลัวไรอ่า โชนไปส่งพี่ไนท์ให้ก็ได้ถ้าพี่ธันว์ทำงั้น
แต่พี่ธันว์เขาไม่ทำหรอก เชื่อดิ”
   
“ทำไมโชนมั่นใจขนาดนั้น”
   
“โชนมองออกน่า”
   
“อืม เลิกคุยถึงมันเถอะ พี่ขอนั่งเงียบๆ รอตรวจนะ”
   
“โชนนั่งด้วย รอไอ้ต้าร์มันออกมาพอดี แต่ขอโชนแตะหน้าผากหน่อยดิ ว่าพี่ไนท์ตัวร้อนมากป่าว”
   
โชนยกมือขึ้นแตะหน้าผากผมจริงๆ

ด้วยความที่โชนขอมาอย่างสุภาพผมเลยไม่ปัดป้องใดๆ
สักพักโชนจึงวางมือลงเอ่ยยิ้มๆ
   
“ก็น่าจะไข้สูงนะ พี่ธันว์เขาก็ใช้ได้นะเนี่ย ดูอาการคนใกล้ตัวเป็นด้วย
เอาใจใส่พามาตรวจอีกต่างหาก คบเลย คนนี้โชนเชียร์”
   
“เหอะ โชนยังไม่รู้จักมันดีเหมือนพี่โชนก็พูดได้ดิ”
   
“ทำไมอ่า พี่ธันว์เจ้าชู้เหรอ”
   
“ดูคนออกด้วยเหรอเรา”
   
“โห หน้าตาขนาดนั้น หุ่นขนาดนั้น จะเหลือเหรอครับ”
   
“อืม มั้ง พี่ไม่คุยจริงๆ ละนะ โชนจะนั่งต่อมั้ย”
   
“โชนไปรอไอ้ต้าหน้าห้องตรวจโน่นก็ได้ มีอะไรโทรหาโชนนะ”
   
โชนเดินจากไปแล้ว ผมอดไม่ได้ที่จะหันไปมองยังมุมที่ธันว์มันนั่งอยู่
รู้สึกหายใจไม่ทั่วปอดยังไงไม่รู้เมื่อเห็นธันว์มันเดินหน้าตึงเดินตรงมากลับมาหา
ไม่นานมันก็พาร่างมันนั่งลงข้างผมเอ่ยว่า
   
“กูยังต้องรอมึงอยู่มั้ย”
   
“มีนัดกับใครมึงก็กลับไปดิ” ผมปากไวว่ามัน

มาถึงก็ถามคำถามแปลกๆ แบบนี้ มันพาลกันชัดๆ
   
“เจอเด็กเข้าหน่อยถีบหัวกูส่งทั้งปีนะมึง” ธันว์มันสวนกลับ ผมจึงว่าให้บ้าง
   
“แล้วมึงกลับป่ะละ ก็ยังนั่งกวนประสาทกูอยู่นี่”
   
“ปากดี แล้วมีปัญญาจ่ายมั้ยค่ายาที่นี่ มีกูจะได้กลับ”
   
“มึงอย่าดูถูกกูมากไอ้ธันว์ ถ้ามึงอยากกลับมึงก็กลับ อย่ามาพูดจาเหี้ยๆ แบบนี้กับกู”
   
ผมจ้องหน้าธันว์ เมื่อรู้สึกหวั่นไหวในคำพูดเชิงดูถูกของมัน
แต่แทนที่ธันว์มันจะสำนึกว่าผมกำลังตกอยู่ในภาวะเสียความรู้สึก
ซึ่งคงส่งผ่านไปบ้างทางแววตา มันกลับว่าให้ผมต้องช้ำหนักกว่าเดิม
   
“เออ กูไปก็ได้ มึงไม่ต้องไล่ซ้ำหรอก
ค่ายาถ้าไม่มีก็ไปขอเด็กมึงเอาเองละกันนะ”
   
ธันว์ลุกเดินผ่านร่างผมไป ผมฝืนแข็งใจไม่มองตาม
นึกเสียใจที่ธันว์มันไม่ดีกับผมให้ตลอดรอดฝั่ง

แล้วแบบนี้ผมจะกล้าเปิดใจคุยเรื่องความรู้สึกกับมันตรงๆ ได้ยังไง?

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ

.........................................................

ผ่านมา 8 ตอนกันแล้ว เป็นยังไงกันบ้างครับ
ชอบหรือไม่ชอบยังไง พูดคุยกันได้น้า
จะพยายามอัพไม่ให้ขาดตอน อ่านยาวๆ กันไปจนจบ
แต่กระทู้หล่นเร็วมาก ยังไงใครที่ชื่นชอบ
ฝากร่วมด้วยช่วยกัน ดูแลกระทู้กันหน่อยเนอะ  :mew2:

.....................................................................................

@fahsai จริงๆ ไนท์ก็เกือบใจอ่อนละน้า แต่ดูธันว์ทำดิ #ทีมไนท์ จ๊าก ผู้เขียนลำเอียง อิอิ

@♥►MAGNOLIA◄♥ เอาใจช่วยทีมไหนครับเนี่ย เลือกไม่ได้  #ทีมคนเขียน ก็ได้นะ แหะๆ

@FeaRes แบบนี้แหละลิ้นกับฟัน ตอนได้เสียกันแล้วจะรู้สึก เอ๊ะ ยังไง อิอิ

@พิธ นอกเรื่องได้มั้ย รูปประจำตัวน่ารักอ่า ชอบๆ

@ ทุกคนที่ติดตาม ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันครับผม

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 8 [11-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 11-01-2018 12:19:43
อันนี้ไม่โทษโชนเลยนะ น้องเขาก็ดี พูดดีคุยดี ดีกว่าตอนก่อนหน้านี้อี---
ธันว์อย่าหึงงี่เง่าเซ่ //ตีๆ ไนล์กลับเองแน่ๆเลย...
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 8 [11-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 11-01-2018 15:28:31
ชอบค่ะคุณบอย  สนุกมากกกก
ธันว์ขี้หึงมากนะเนี่ย  เมื้อไหร่จะได้เปิดใจกันละเนี่ย
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 8 [11-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 11-01-2018 18:41:06

ตอนที่ 9

ผมเดินเข้าห้องตรวจด้วยอาการล้าในใจ ให้ข้อมูลกับหมอตามอาการ
หมอลงความเห็นว่าแค่ไข้ธรรมดา ไม่ได้มีอะไรน่าห่วงมาก

เฮ้อ ร่างกายผมไม่ได้เป็นอะไรมากก็จริง แต่จิตใจข้างในผมนี่สิ มันเริ่มล้าพิกล

ผมเดินออกมาจากห้องตรวจ ชะงักไปเมื่อเห็นธันว์มันกลับมานั่งผมอยู่ที่เดิม
อย่าบอกนะว่ามันกลับมารอผม ผมยืนสบตามันอยู่หน้าห้องตรวจ สักพักธันว์มันจึงเดินตรงมาหาผม เอ่ยถาม

“หมอว่าไงบ้าง”

“เป็นมะเร็ง อยู่ได้แค่ถึงพรุ่งนี้” ผมตอบกวนออกไป นึกถึงอาการและถ้อยคำสุดท้าย
ที่ธันว์มันว่าใส่หน้าผมก่อนเดินจากไปจึงไม่พร้อมจะพูดดีกับมันนัก

“คือกูกลับมานี่เพราะห่วงปะ ทำไมต้องกวนวะ”ธันว์มันว่า อย่างว่าแหละ ผมกับมันคบกันมานาน
มันก็น่าจะดูอาการผมออกว่าผมไม่ได้ตอบคำถามมันจริงจัง

“แล้วใครให้มึงกลับมา” ผมว่าแล้วเดินไปทางแผนกรับยา
ธันว์มันเดินขึ้นมาตีคู่เอ่ยขึ้น

“เมื่อกี้กูขอโทษ กูแค่โกรธที่มึงไล่กู”

“ช่างมันเถอะ แล้วนี่มึงกลับมาทำไม” ผมบอกปัดแล้วถาม

“ก็มาดูแลมึงต่อไง สรุปเป็นอะไรมากมั้ย” ธันว์มันเหมือนจะกลับมาดีดังเดิม
ผมไม่มีเหตุผลที่จะกวนมันกลับ จึงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเช่นปกติ

“แค่ไข้ธรรมดาน่ะ”

“ก็ดี โล่งอกไป กูจะได้ไม่ต้องจ่ายค่ายาเยอะ” ธันว์มันว่ากลับมา ผมหันมองมัน
กำลังจะด่ามันกลับ แต่ไม่ทัน เพราะธันว์มันชี้หน้าเอ่ยสั่ง

“หยุด รู้นะว่าจะด่ากู กูแค่แหย่เล่น เป็นหมื่นกูก็จ่ายได้ถ้ามึงจะหาย”

ธันว์มันเดินไปทางแผนกรับยา ไม่สนใจว่าผมกำลังยืนมองมันด้วยความรู้สึกใด

แน่ล่ะ ผมกำลังรู้สึกสับสนว่าธันว์มันเป็นคนยังไงกันแน่
เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย โดนไบโพล่าร์กินหรือไงก็ไม่รู้ เออนะ ผมพาลมันไปถึงนั่น

ธันว์มันจ่ายค่ายาให้ผมเสร็จสรรพ ผมรั้นว่าจะจ่ายเองมันก็ไม่ยอมท่าเดียว
ผมจึงปล่อยมันให้มันทำอย่างที่มันอยากจะทำ

ออกจากโรงพยาบาล ธันว์พาผมไปกินข้าวพาผมไปกินข้าว แล้วจึงพากลับห้อง
ถึงห้องผมแทนที่มันจะกลับเหมือนเช่นเคยๆ มันกลับเอ่ยว่า

“กูขอค้างด้วยนะ”

“ห้องกูไม่ได้นอนสบายเหมือนห้องมึงนะ” ผมว่า โดนมันสวนกลับมาเสียงดุ

“เดี๋ยวกูเตะ มึงเห็นกูติดสบายตั้งแต่เมื่อไหร่”

ผมเงียบเสียง รู้สึกล้าร่างกายเกินกว่าจะตอบโต้ได้จึงพาธันว์มันขึ้นห้องไปเงียบๆ
เปิดประตูเข้าห้องและปิดประตูลงได้ ธันว์มันก็ตรงสวมกอดผมทางด้านหลังทันที
ผมตกใจนิดๆ แต่ก็ตั้งสติเอ่ยบอกมัน

“คือมึงให้กูวางของเก็บของก่อนได้มั้ยธันว์”

“ได้ แล้วหลังจากนั้นเราทำอะไรกันดีล่ะ” ธันว์ว่ากลับ มองจ้องตาผม จนผมหลบวูบแทบไม่ทัน
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 9 [11-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 11-01-2018 18:50:47

“มองแค่เนี่ยจะละลายเลยเหรอมึง รีบหลบตากูเชียว” ธันว์มันว่าอีกยิ้มๆ ผมจึงผลักมันออกจากตัว ไล่มันไปนั่งอย่างคนเป็นแขก ซึ่งควรจะทำ

“มึงไปนั่งเฉยๆ ก่อนได้มั้ย เดี๋ยวกูเอาน้ำมาให้”

“เอาใจกูก็เป็นนี่ น่ารักจัง” ธันว์มันเอ่ยในตอนที่ปล่อยให้ผมเป็นอิสระได้
ผมเพียงส่ายหน้าให้มัน ก่อนจะเดินไปวางของที่ติดมือมา
จัดการเปิดแอร์ แล้วตรงไปทางตู้เย็น คิดจะไปเอาน้ำมาให้ธันว์

มือกำลังจะเปิดตู้เย็น ธันว์มันก็เดินมาประกบด้านหลังเอ่ยบอก

“กูดูแลตัวเองได้ มึงไปอาบน้ำกินยานอนพักเถอะไป”

ผมหันมาส่งสายตาเป็นเชิงเตรียมจะบอกว่า
นี่ไม่ใช่หน้าที่แขกของห้องที่ต้องทำในตอนที่ใบหน้าผมกับธันว์ใกล้กันแค่คืบ
แต่ก็ช้ากว่าธันว์ที่ส่งสายตาดุๆ สั่งผม พร้อมเอ่ย

“อย่าดื้อ ไม่งั้นกูจูบ”

“คิดว่ากูกลัวเหรอ” ผมว่ากลับ คิดจะหันกลับไปจัดการเปิดตู้เย็นต่อ
แต่โดนธันว์มันกระชากร่างให้หันกลับมา พร้อมกับที่มันก้มลงประกบปากจูบผมจริงๆ
ซึ่งคราวนี้ผมสัมผัสได้ถึงอารมณ์บดขยี้ ซึ่งรุนแรงกว่าที่มันจูบผมครั้งแรกหลายเท่า

ลิ้นที่ไวของมันล่วงล้ำเข้ามาตวัดเกี่ยวที่ลิ้นผมด้วยความเร่าร้อน
สักพักมันจึงผ่อนหนักผ่อนเบา ทำเอาผมสะท้านสั่นจนยากจะควบคุมอารมณ์หวามภายใน ซึ่งกำลังก่อตัว

ธันว์เหมือนกับรู้ว่าผมไม่ได้ต่อต้านอะไรมันแล้ว
ริมฝีปากของมันที่บดขยี้ริมฝีปากผมตั้งแต่แรกจึงเบาแรงลง
เปลี่ยนเป็นรสสัมผัสของการจูบที่อ่อนโยนทะนุถนอม

ปลายลิ้นของมันที่วาดผ่านปลายลิ้นผมอย่างนุ่มนวลและเร่าร้อนในบางจังหวะ
ทำให้ผมยกมือกอดร่างมันเอาไว้ เพราะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะยืนไหว

ธันว์มันกอดรับผมไว้เช่นกัน สองแขนมันโอบประคองแผ่นหลังผมไว้
ออกแรงบีบกระชับในจังหวะที่เราสองปล่อยให้ปลายลิ้น
สัมผัสกันและกันอย่างไม่มีใครต่อต้านใคร 

เวลาเนิ่นนานที่ผมกับธันว์ใช้เวลากอดจูบกันอยู่เช่นนั้น

สัมผัสของร่างกายต่างรับรู้ว่าจิตใจภายในกำลังต้องการกันและกันจนยากจะหยุดไหว

ในตอนสุดท้ายที่ธันว์มันกำลังโอบพาร่างผมเพื่อไปที่เตียง
สำนึกในใจว่าผมยังไม่พร้อมที่จะสานสัมพันธ์กับมันแบบลึกซึ้งถึงขั้นมีอะไรกัน
ทำให้ผมแข็งขืนผละร่างออกจากมันตอนที่ธันว์มันพาร่างผมมาถึงที่นอนได้สำเร็จ

“ทำไมอ่ะไนท์ มึงก็รู้ว่ามึงก็ต้องการกู”

ธันว์มันเอ่ยถามผม ตอนเราถอนปากออกจากกันแล้ว แต่ร่างก็ยังโอบกอดชิดกันอยู่

ใบหน้าเราตอนนี้จึงแทบจะชิดกัน ผมเลี่ยงไม่ได้ที่จะจ้องตาธันว์
ซึ่งมันก็ส่งสายตาของคนที่ต้องการมีอะไรกับผมออกมาอย่างชัดเจน

ผมหาทางเลี่ยงออกไปเมื่อคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา

“มึงไม่เกรงใจโชนแล้วเหรอ”

“อยู่กันสองคน มึงอย่าพูดถึงคนอื่นได้มั้ยไนท์”

สายตาของธันว์ส่งมาตัดพ้อผมอย่างชัดเจน

แต่ไม่สิ ผมไม่ควรอ่อนไหวไปกับมันง่ายๆ
เชื่อได้แค่ไหนว่าสายตานี่มันจะส่งออกมาจากใจจริงๆ

“ก็มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะทำแบบนี้กัน” ผมบอกออกไปใหม่

“แล้วกูต้องรอนานแค่ไหน” ธันว์มันถามเสียงเบา

“ไม่รู้ กูตอบไม่ได้ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะ”
ผมว่า ยอมรับว่ากลัวเหลือเกินที่จะสานสัมพันธ์กับธันว์
คนซึ่งหัวใจผมยังไม่ไว้ใจในความซื่อตรง ซื่อสัตย์ ว่ามันจะหยุดอยู่ที่ผมคนเดียว

“สุดท้าย มึงก็ใจแข็งกับกูเหมือนเดิม”

ธันว์มันดูเศร้าๆ ยอมปล่อยร่างผมให้เป็นอิสระ
เราสองคนหันหน้าหนีซึ่งกันและกัน ความคิดธันว์ตอนนี้ผมไม่รู้
แต่ความคิดผมตอนนี้คือ

ผมยังไม่พร้อมที่จะวางใจไว้ให้มันดูแลจริงๆ

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ

ขอบคุณ FeaRes ขอบคุณ warin ด้วยครับ ติดตามต่อจนจบน๊า ^__^

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 9 [11-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 11-01-2018 18:57:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 9 [11-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-01-2018 19:06:57
แล้วไนท์ ก็ปอดอีกและ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 9 [11-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-01-2018 07:25:19

ตอนที่ 10

ดึกแล้ว ผมกับธันว์นั่งอยู่คนละมุมห้อง โดยที่ผมนั่งจมอยู่กับความคิดสับสนภายในใจ
ไม่รู้จะจัดการการกับความรู้สึกตัวเองยังไง แม้จะรู้ใจตัวเองดีแล้วว่าตอนนี้ผมมีความรักและต้องการธันว์มากกว่าคำว่าเพื่อน
แต่ก็แอบหวั่นว่าหากผมเปิดใจออกไปแล้วยอมมีอะไรกับมันความสัมพันธ์ของเราจะต้องสะดุด
ไม่ได้สวยงามอย่างที่ใจหวัง เพราะยังฝังใจอยู่ว่าตัวตนแท้ๆ ของธันว์เป็นแบบไหน

มันเป็นคนเจ้าชู้ ชอบคนง่าย หากผมกับมันเป็นอะไรซึ่งมากกว่าเพื่อนกันแล้ว
วันใดวันหนึ่งมันเกิดมีใครมาติดพัน หรือคนที่ติดพันมันอยู่อย่างซี
มาเรียกร้องสิทธิว่าเป็นหนึ่งในคนที่มีความสัมพันธ์กับมันอันลึกซึ้งเช่นกัน
แล้วผมจะทนเห็นมันเอาเวลาไปใส่ใจคนเหล่านั้นได้ยังไง

ขนาดสถานะของผมกับมันยังไม่ชัดเจนว่าเป็นคนรักซึ่งเปิดตัวชัดเจน
การที่มันเทียวหยอกเทียวจีบใครๆ ไปทั่วผมยังหวั่นไหวอยู่ได้ไม่น้อย 

ด้านธันว์ตอนนี้นั่งเล่นโทรศัพท์ของมันอยู่เงียบๆ
ผมไม่รู้ว่ามันท่องโลกออนไลน์ในด้านไหน หรือคุยกับใคร
เพราะไม่อยากจะก้าวก่ายในความเป็นส่วนตัวของมัน
แม้แต่ความคิดของมันตอนนี้ผมก็ยังคงไม่สามารถรับรู้ได้
แต่เมื่อเห็นเวลามันผ่านไปนานมากแล้วที่เราสองคนไม่ได้คุยกันเลย
ผมจึงตัดสินใจถามมันออกไปเพื่อทำลายความเงียบ

“ง่วงยังวะธันว์”

“ยัง” ธันว์มันตอบออกมาสั้นๆ ห้วนๆ
สายตามันยังจับจ้องอยู่กับการเล่นโทรศัพท์
ผมอดห่วงเรื่องสายตามันไม่ได้ที่จดๆ จ้องๆ อยู่กับแต่กับโทรศัพท์เครื่องนั้นจึงเอ่ยเตือน

“เลิกเล่นได้แล้วมั้งโทรศัพท์ กูว่ามึงมาอาบน้ำนอนเหอะ”

ธันว์เงยหน้าหน้าขึ้นมามองผม จัดการปิดโทรศัพท์ในมือ
ผมนึกดีใจที่อย่างน้อยมันยังฟังผม แต่แล้วผมก็ต้องใจหายเมื่อมันลุกเอ่ยขึ้น

“มึงนอนเถอะ กูว่าจะกลับละ”

“อ้าว ไหนว่ามึงจะนอนที่นี่ไง” ผมทำใจดีถาม สะท้านในใจกับคำพูดของมัน

“เชื่ออะไรกับคำพูดของกูล่ะ ไปล่ะ ไว้คุยกัน”

ธันว์มันเดินออกจากห้องไป ผมไร้เรี่ยวแรงที่จะส่งเสียงหรือเดินตามถามไถ่ว่ามันเป็นอะไร
สำนึกสุดท้ายของความคิดผมคือมันคงโกรธที่ผมกับมันไม่ได้จบลงบนเตียงอย่างที่มันตั้งใจ

นี่ยังไงล่ะ บทพิสูจน์ว่ามันคิดกับผมแค่เรื่องพวกนี้จริงๆ

ธันว์ออกจากห้องไปนานแล้ว ผมยังคงนั่งจมอยู่กับความเงียบงัน
ผมในจินตนาการตอนนี้คือธันว์มันคงออกไปหาใครสักคน
ที่พอจะตอบสนองอารมณ์ความต้องการ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ของมัน

แล้วใครคนนั้นคือใครกันล่ะ ซี หรือคนรู้จักที่ผ่านๆ มาของมัน
แต่จะใครก็ตามเถอะ นาทีนี้ธันว์มันจะรู้มั้ยว่าการกระทำของมันกำลังทำให้ผมร้องไห้ออกมา

ผมปาดน้ำตาไล่ความรู้สึกเหนื่อยล้าและภาพจินตนาการว่า
ตอนนี้ธันว์มันกำลังคลุกคลีซุกไซร้อยู่กับใครทิ้งไป
ลุกเดินไปหยิบโทรศัพท์ตรวจเช็คความเคลื่อนไหวก่อนเข้านอน

สายตาสะดุดกับข้อความของไอซ์ซึ่งส่งมามากกว่าใคร
ในข้อความหนึ่งไอซ์ถามถึงวันเสาร์นี้ว่าตกลงผมจะไปปั่นจักรยานยังสวนรถไฟตามที่ผมเคยได้เอ่ยปากไว้หรือไม่
ผมตอบไอซ์กลับไปว่าผมลาพักร้อนกลับบ้านศุกร์นี้ คงไม่ได้ไป พิมพ์ขอโทษเจ้าตัวไปนิดหน่อย
ไอซ์เงียบไปพัก ก่อนจะพิมพ์ข้อความถามไถ่ว่าบ้านผมอยู่ที่ไหน ขอไปเที่ยวด้วยได้มั้ย
ผมปฏิเสธไปในตอนแรก แต่ไอซ์กลับโทรศัพท์ผ่านไลน์เข้ามาเอ่ยออดอ้อนผมว่ากำลังเบื่ออากาศกรุงเทพฯ
อยากหาที่พักสมองปั่นจักรยานเล่นให้สบายใจ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 10 [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-01-2018 07:34:06

ไอซ์เอ่ยตัดรอนต่างๆ นาๆ หาว่าเขาเป็นคนน่ากลัวขนาดที่ผมไม่อยากจะคบหาพูดคุยมากเลยเหรอ
ผมถึงได้ไม่ค่อยยินดียินร้ายที่จะผูกมิตรด้วยเท่าไหร่

ด้วยความที่ผมไม่อยากให้ไอซ์คิดมาก
ผมถึงบอกว่าผมขอคิดดูก่อนในเรื่องที่เจ้าตัวขอตามผมกลับเที่ยวบ้านด้วย

ไอซ์ยอมฟังโดยง่าย เราสองคนจึงเลิกพูดคุยกันหลังจากนั้น

วันใหม่ ร่างกายผมดีขึ้น อาจจะเพราะฤทธิ์ยาซึ่งได้มาจากโรงพยาบาลเอกชน
ที่ธันว์พาผมไปหามาเมื่อวานนั่นล่ะ ร่างกายผมรู้สึกสดชื่นขึ้น
แต่ในใจผมกลับยังไม่ฟื้นคืนจากความรู้สึกเจ็บล้าจากเมื่อคืนเลยสักนิด

วันนี้ธันว์หายไปไม่ติดต่อมาตลอดทั้งวันจนเที่ยง
ไม่แปลกหรอก ก็เมื่อคืนเราลาจากกันด้วยไม่ดีเท่าไหร่

จากเที่ยงไปเย็นธันว์ก็ยังไม่ติดต่อมา
ผมเองก็ไม่รู้จะเริ่มต้นส่งข้อความไปหามันยังไง
เอาไว้ตอนเจอกันในฟิตเนสเย็นนี้ค่อยทักค่อยทายมันก็คงจะได้
มันคงจะไม่ใจร้ายเย็นชากับผมเหมือนเช่นเมื่อคืนอีกหรอกมั้ง

ผมมาถึงฟิตเนส อดไม่ได้ที่จะใช้สายตามองหาร่างของธันว์
เมื่อมองไม่เห็นแม้เงา ผมจึงเดินไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้ายังห้องล็อคเกอร์ด้วยอารมณ์หงอยเหงา

ขณะนั่งก้มผูกเชือกรองเท้าอยู่
เสียงคุ้นหูซึ่งกำลังเหมือนพูดคุยโทรศัพท์ดังผ่านเข้ามาทำให้ผมอดที่จะใจกระตุกไปไม่ได้

ผมจำได้ว่าน้ำเสียงนั่นเป็นเสียงของซี
และคนปลายสายที่เจ้าตัวพูดด้วยน่าจะเป็นธันว์ 
เพราะผมได้ยินซีพูดชัดเจนว่า

“มาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับพี่ธันว์
แล้วนี่นอนพักไปกี่รอบแล้วครับเนี่ย จะรอซีอยู่ที่ห้องมั้ย
หรือว่าพี่ธันว์จะกลับคอนโดเลย อย่าลืมทานอะไรด้วยนะครับ
ซีซื้อเตรียมไว้ให้ในตู้เย็นแล้ว จะได้มีแรง เห็นเมื่อคืนใช้แรงกับซีซะเยอะ เป็นห่วง
อ้อ แค่นี้ก่อนนะครับพี่ธันว์ พอดี ผมเจอพี่ไนท์ อะไรนะครับ
ไม่ให้ซีบอกพี่ไนท์เหรอครับว่าเมื่อคืนพี่ซีมาหาผมที่ห้อง ได้ๆๆครับ ”

เหมือนซีจะวางสายไปแล้ว ผมรีบผูกเชือกรองเท้าให้เสร็จ
คิดจะลุกเดินหนี ไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับซีเท่าไหร่นักในตอนนี้ 
แต่โชคไม่ดีที่ซีดันเดินเข้ามาทักผมซะก่อน

“พี่ไนท์ หวัดดีครับ”

“อืม หวัดดี” ผมจำใจทักกลับ
พยายามหลบตาไม่ให้ซีมองเห็นว่าผมกำลังตกอยู่ในอาการเช่นไร
แต่เหมือนจะหลบไม่พ้นเมื่อซีทักมา

“พี่ไนท์ตาแดงๆ เป็นอะไรครับ ไม่สบายยังไม่หายเหรอ”

“ใครบอกซีว่าพี่ไม่สบาย” ผมฝืนใจถาม ทั้งๆ ที่พอจะรู้คำตอบ
เห็นซีแสดงท่าทีอึกๆ อักๆ จึงว่าต่อ

“ไอ้ธันว์ใช่มั้ย”

“ปะ เปล่าครับ” ซีทำหน้าเจื่อนปฏิเสธผม ผมจึงพยายามฝืนยิ้มปลอบ

“เป็นอะไร เมื่อกี้พี่ได้ยินหมดแล้ว เมื่อคืนไอ้ธันว์คงไปหาซีมาใช่มั้ย”

“ขะ ครับ พี่ไนท์โกรธมั้ย” ซีแสดงออกเหมือนคนตกใจ
ผมจึงยิ้มกลบเกลื่อนบอกไป

“อะไรพี่จะโกรธทำไม พี่กับไอ้ธันว์ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่นา”

“แต่เมื่อกี้พี่ธันว์ไม่ให้ซีบอกว่าพี่เขาไปหาซี
หากพี่สองคนไม่ได้เป็นอะไรกันทำไมพี่ธันว์ถึงกลัวว่าพี่ไนท์จะรู้ล่ะ”

“ไม่รู้มัน มันประสาทมั้ง ช่างมันเถอะ พี่ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ สบายใจเถอะน่า”

ผมว่าเสร็จแล้วกำลังจะเดินจากไป แต่ซีร้องเรียกเอาไว้อีก

“พี่ไนท์”

“ว่า” ผมหันกลับมาถาม

“พี่ไนท์อย่าให้พี่ธันว์รู้นะว่าพี่ไนท์รู้แล้วว่าพี่ธันว์ไปค้างกับซีมาเมื่อคืน
ผมกลัวพี่ธันว์คิดว่าซีฟ้องพี่ไนท์อ่ะ”

“สบายใจได้ พี่ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวไอ้ธันว์มันหรอก” ผมตบไหล่ซีเป็นเชิงปลอบ

“ขอบคุณครับ” ซีมีสีหน้าเหมือนดีขึ้นมา ผมยิ้มบางๆ ให้ส่งท้ายก่อนเดินจากไป

คล้อยหลังจากซีมาน้ำตาผมไหลได้อีกครั้ง จนต้องรีบหามุมนั่งปาดมันทิ้งก่อนที่ใครจะทันมองเห็น

TBC
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 10 [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 12-01-2018 11:05:41
ซีคุยโทรศัพท์จริงๆปะ หรือแค่จงใจพูดให้ไนล์ได้ยิน ก็เห็นไนล์นี่นา...
แล้วธันว์อะ ดูพูดจา เชื่ออะไรกับคำพูดของนาง อะโห เขาคงยอมคบ... //ตี
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 10 [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 12-01-2018 12:07:04
 o13
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 10 [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-01-2018 12:22:18

ตอนที่ 11

ผมโหมออกกำลังกายหวังให้ลืมเรื่องที่ได้ยินซีคุยโทรศัพท์กับธันว์
พยายามไม่คิดถึงความสัมพันธ์ที่สองคนนี้มีต่อกันในเมื่อคืน
มันก็ดีขึ้นในบางช่วง แต่ในบางจังหวะที่ซีแวะเข้ามาทักทายผม
ทำให้ผมอดหวนคิดถึงภาพเหล่านั้นอีกไม่ได้

ในใจผมไม่อยากวุ่นวายอะไรอีก จึงคิดจะออกจากที่นี่ไวขึ้น
เพื่อหลบหน้าซีไปซะ แต่ก็ไม่วายเจอซีอีกในห้อง
ล็อคเกอร์ ในขณะเปลี่ยนที่ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมกลับ

“อ้าวพี่ไนท์ พี่ธันว์เพิ่งโทรมาบอกเองว่ากำลังจะเข้ามา
พี่ไนท์ไม่อยู่รอเจอเหรอครับ” ซีทักทายผมมา

“ไม่อ่ะ พี่อยากเจอมัน” ผมหลุดเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเครียดขรึม

ดูเอาเถอะ เมื่อก่อนผมคือคนที่ธันว์คอยรายงานความเคลื่อนไหวการเข้าออกที่นี่
แต่เดี๋ยวนี้ซีกลับเป็นคนที่รับรู้ความเป็นไปของธันว์มากกว่าผม
แน่ล่ะ ผมอดที่จะตรวจเช็คดูข้อความว่าธันว์มันจะทักทายอะไรผมมามั้ย แต่สุดท้ายก็ไม่มี

การที่มันจะเข้ามาที่นี่และเลือกที่จะบอกกับซี
ก็แสดงว่ามันไม่ได้สนใจที่จะมาเจอกับผม
แล้วเรื่องอะไรที่ผมจะต้องอยู่รอเจอหน้ามัน

“เสียงพี่ไนท์พูดเหมือนโกรธเลย” ซีเอ่ยกลับมาเสียงเบา
ผมจึงรีบปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ

ซีไม่ได้ผิดอะไร ผมไม่น่าทำให้เจ้าตัวต้องมามีภาวะลำบากใจในการที่จะคบหากับธันว์

“เฮ้ย พี่ไม่ได้เป็นอะไร เสียงพี่เป็นงั้นเหรอ”
ผมว่ากลับ ยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกน้อยใจข้างใน

“แล้วพี่ธันว์โทรบอกพี่ไนท์หรือเปล่าว่าจะมา” ซีถามอีก
ยิ่งย้ำให้ผมรู้สึกน้อยใจเพิ่มขึ้นในการตอบออกไป

“ไม่อ่ะ พี่กับไอ้ธันว์ไม่ได้ตามติดชีวิตกันขนาดนั้น พี่กลับนะ”
ผมพยายามเอ่ยให้ซีสบายใจ ก่อนจะรีบเดินออกไปจากสถานที่ที่ผมคิดว่าจะไม่เข้ามาอีกหลายวัน

อย่างน้อยที่สุดก็เริ่มจากพรุ่งนี้ มะรืนนี้ที่ผมที่ผมลาพักร้อนกลับบ้าน
ซึ่งเสาร์อาทิตย์เองผมก็คงจะอยู่ที่บ้าน คงไม่ได้แวะผ่านมาที่นี่

ความคิดเช่นนี้ผมไม่ได้หลบหน้าไอ้ธันว์ใช่มั้ย ไม่สิ ผมไม่ได้หลบมัน
ผมคิดจะกลับบ้านอยู่แล้ว หากไม่ได้หลบ แล้วผมควรจะบอกความเคลื่อนไหวของผมกับมันดีมั้ย

บอกไปแล้วมันจะใส่ใจแค่ไหนล่ะ ในเมื่อคนที่มันใส่ใจมากกว่าผมตอนนี้คือซี
สามสี่วันนี้ไป ผมควรจะห่างมันไปแบบเงียบๆ ดีกว่า

บางทีการหนีจากสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยนี่อาจจะทำให้ผมลืมมันได้เบาบางมากยิ่งขึ้น

ไอซ์ติดต่อหาผมเฉกเช่นปกติในตอนที่ผมนั่งรถกลับห้อง
เอ่ยทวงคำตอบว่าผมตัดสินใจได้หรือยังว่าจะให้เจ้าตัวกลับไปเที่ยวที่บ้านเกิดได้ด้วยหรือไม่
ไม่รู้ว่าผมนึกเห็นใจไอซ์หรือภายในใจกำลังอ่อนแอจึงตอบตกลงให้ไอซ์กลับบ้านพร้อมผมได้ในวันศุกร์นี้
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 11 [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-01-2018 12:30:23
วันใหม่ ผมเริ่มต้นใช้ชีวิตเช่นวันอื่นๆ สิ่งที่แปลกไปคือธันว์หายไป
ไม่โทรมาพูดคุย ไม่ไลน์ถึงผมตั้งแต่เช้าจรดเย็น

ผมเองเมื่อคิดจะห่างมันไปแบบเงียบๆ จึงไม่ติดต่อมันกลับไปเช่นกัน
จนล่วงเวลามาเช้าวันศุกร์ ซึ่งผมจะต้องกลับบ้านยังต่างจังหวัด
ซึ่งคือจันทบุรี ไอซ์อาสาขับรถพาไป เพราะเตรียมจักรยานไปปั่นรับบรรยากาศใหม่ๆ ที่นั่น
ผมไม่ได้ขัดใจ ผมกับไอซ์จึงได้เจอหน้ากันอีกครั้งในตอนที่ไอซ์ขับรถมารับผมที่ห้อง

“ไม่ลำบากใจใช่มั้ยที่ให้ผมกลับด้วยแบบนี้”
ไอซ์เอ่ยถามผมในตอนที่เราเจอหน้ากัน

“ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น” ผมถาม

“ไม่รู้ดิ เห็นพี่ไนท์ใช้เวลาคิดนาน”

“นานอะไรแค่ข้ามวันเอง ว่าแต่นายขับรถไกลๆ ไหวแน่นะ
พี่ขับรถไม่เป็น คงช่วยอะไรนายไม่ได้” ผมตอบ นึกห่วงอยู่ว่าเด็กวัยรุ่นอย่างไอซ์
จะขับรถระยะไกลได้ชำนาญแค่ไหน

“แค่เมืองจันทร์เอง ไอซ์เคยขับไปน่า
ไม่ไหวก็หยุดพักระหว่างทาง พี่ไนท์ไม่ต้องเครียด”
ไอซ์คุยกับผมด้วยท่าทางสนิทขึ้น ชวนผมขึ้นรถ
ผมเพียงยิ้มให้นิดๆ จากนั้นผมกับไอซ์จึงออกเดินทาง

ไอซ์ขับรถชำนาญทางตามที่บอกจริงๆ ผมแทบไม่ได้แนะนำอะไรมาก
ระหว่างนั่งคู่กันไป ไอซ์กลายเป็นฝ่ายชวนผมคุยซะมากกว่า
เราคุยกันหลายเรื่อง ที่สุดเจ้าตัวจึงถาม

“ดูพี่ไนท์ไม่ค่อยพูดเลย มีอะไรให้คิดอีกหรือเปล่าครับ”

“ก็หลายเรื่อง ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องที่บ้าน”
ผมตอบ นึกแล้วก็ตลกที่ผมหอบความรู้สึกเคว้งมาขึ้นรถกับไอซ์อีกหน

คราวก่อนก็เรื่องโชน แล้วคราวนี้ล่ะผมกำลังเคว้งเพราะใคร ไอ้ธันว์หรือเปล่า?

“เรื่องงาน งานพี่คงยุ่ง เรื่องที่บ้าน เป็นห่วงเหรอครับที่แม่ไม่สบาย
ส่วนเรื่องส่วนตัว อืม ทะเลาะกับไอ้โชนมาอีกหรือเปล่า”
ไอซ์เดา เจ้าตัวรู้แล้วถึงสาเหตุที่ผมลาพักร้อนกลับบ้านครั้งนี้จึงเดาถูก
แต่ที่ผิดคือตอนนี้ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องโชน แต่คนที่ผ่านเข้ามาในห้วงความคิดผมตอนนี้คือไอ้ธันว์
ซึ่งมันจะรู้มั้ยว่าตอนนี้ผมกำลังคิดถึงมันมากมาย
ในบางจังหวะผมแอบคิดไปด้วยซ้ำว่าคนที่อยู่ข้างกายผมตอนนี้น่าจะเป็นมัน

“พี่กับโชนไม่ได้คบกันแล้ว”
ผมตัดธันว์ออกไปในห้วงความคิด เอ่ยบอกไอซ์ถึงสถานะผมกับโชนในตอนนี้

“ถึงว่า ไอซ์ถึงได้เข้าถึงพี่ได้ในตอนนี้” ไอซ์ว่า ผมรู้สึกไม่ดีจึงบอก

“พี่ไม่ใช่คนมีนิสัยดึงใครมาแทนที่ใครนะไอซ์
ที่พี่ให้ไอซ์มาเพราะเห็นไอซ์อยากมา ไม่เกี่ยวว่าพี่จะเลิกกับโชน”
 
“โห พี่ไนท์ซีเรียสจัง ไอซ์แค่แซวเล่น ไอซ์เคยบอกพี่โนท์แล้วไงว่านี่มันยุคไหนแล้ว
การคบๆ คุยๆ เลิกๆ มันเป็นเรื่องปกติน่า อย่าคิดมาก”

ผมถอนหายใจในความคิดของไอซ์
ใช่สินะ ใครคนหนึ่งคงคิดเหมือนไอซ์ในตอนนี้ถึงได้ทำตัวผีเข้าผีออกกับผม
จนผมเริ่มสับสนในตัวตนที่แท้จริงของมัน แน่ล่ะ ใครคนนั้นคือไอ้ธันว์

ไอซ์ขอพักรถพักร่างยังปั้มระหว่างทาง
ผมเห็นด้วย เพราะยังเหลืออีกครึ่งทางกว่าจะไปถึงบ้านผม
เราสองคนแยกกันไปคนละมุมในตอนที่ลงยืดเส้นยืดสาย
โดยไอซ์หลบไปยืนคุยโทรศัพท์กับคนรู้จักในมุมหนึ่ง
ผมเองจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาตรวจดูความเคลื่อนไหวเช่นกัน
ใจเต้นหน่อยๆ ตอนที่เห็นข้อความส่งมาจากธันว์

“เป็นไงบ้างไนท์ หายไข้ยัง เย็นนี้เจอกันที่ยิมป่าว”

เอาแล้วไง ผมจะตอบธันว์มันว่าไงล่ะทีนี้
มันคงยังไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวผมอยู่ห่างจากมันเป็นร้อยกิโลเมตร
แต่ถึงรู้มันคงไม่รู้สึกอะไรมั้ง ผมจึงตัดสินใจพิมพ์ตอบกลับไป

“ไข้ดีขึ้นแล้ว แต่เย็นนี้คงเจอมึงไม่ได้ กูกำลังกลับบ้าน”

ธันว์อ่านข้อความผมแล้ว สักพักมันจึงโทรเข้ามาถามผมเสียงแปลกใจ

“นี่มึงกลับบ้านที่จันทร์เหรอไอ้ไนท์”

“อืม” ผมตอบกลับไปสั้นๆ ธันว์มันถามกลับมาซะยกใหญ่

“กลับยังไง กลับกับใคร โชนไปส่งหรือเปล่า ทำไมกูไม่เห็นจะรู้เรื่องวะ”

“เปล่า โชนไม่ได้มาส่ง” ผมตอบ เริ่มรู้สึกผิดที่ผมไม่ได้บอกธันว์ว่าผมจะกลับ

“แล้วมึงไปไงวะ ทำไมไม่บอกกู กูจะได้ขับรถไปส่ง” ธันว์ต่อว่ากลับมา
ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเอ่ยตอบธันว์มันไปว่ายังไง แต่จู่ๆ ไอซ์ก็เดินเข้ามาเรียกผมใกล้ๆ ว่า

“พี่ไนท์ไปกันต่อยัง”

“เสียงใครไอ้ไนท์ ใครไปกับมึง” น้ำเสียงธันว์เครียดขรึมขึ้นมาทันที
ผมอึกๆ อักๆ ไม่รู้จะตอบยังไง แล้วก็ต้องใจหายเมื่อธันว์มันตัดสายทิ้งไปเสียดื้อๆ

“เดี๋ยวก่อนไอซ์ พี่ขอคุยกับเพื่อนแป็บนึง” ผมหันไปตอบกับไอซ์ตอนตั้งสติได้
ไอซ์จึงเดินผมไปรอที่รถ ไม่รอช้า ผมรีบโทรกลับไปหาธันว์ทันที เพื่ออธิบายว่าไอซ์คือใคร

ธันว์ไม่รับสายผม ผมเริ่มกระวนกระวาย ตัดสินใจพิมพ์ถามมันไปทางไลน์

“ทำไมมึงตัดสายกูทิ้งวะธันว์”

“กูไม่มีอะไรจะคุยกับมึงละ ไม่ต้องติดต่อกูมาอีก”

ธันว์มันพิมพ์ตอบกลับมา ผมใจหายวาบ พิมพ์ถามกลับไปใหม่

“มึงเป็นอะไรวะธันว์ กูอยากคุยกับมึงนะ”

สถานะข้อความผมไม่มีการเปิดอ่าน ผมรอเป็นนาที ธันว์มันก็ไม่อ่านข้อความผม
ผมจึงลองโทรติดต่อมันกลับไปใหม่ มันตัดสายผมทิ้งเช่นตอนก่อนหน้า
ผมเริ่มใจสั่น นี่ผมต้องทำยังไงให้ธันว์มันยอมพูดกับผมได้ ใครก็ได้บอกผมที

TBC
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 11 [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 12-01-2018 16:45:23
ธันนนนนนน มีเหตุผลหน่อยยยยยย
ฟังก่อนได้ไหมเล่า งี้เลยเรอะ มากไปอะ มากไปป //ตี

พิมพ์บอกทิ้งไว้ในแชทนั้นแหละไนล์...
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 11 [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-01-2018 18:16:10

ตอนที่ 12

ผมเดินกลับมาที่รถหาไอซ์อย่างคนเลื่อนลอย
ไม่กล้าส่งข้อความหรือโทรศัพท์กลับไปกวนธันว์มันอีก
ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงส่งข้อความตัดรอนผมมาแบบนั้น
มันเองก็หายไปจากผมแล้วไปมีความสุขกับใครต่อใครเช่นกัน
สิ่งที่มันทำมันคิดว่าผมจะไม่รู้สึกอะไรหรือไง
การที่ผมหายเงียบมาแบบนี้แทนที่จะนึกห่วงใยความรู้สึกผมบ้าง
แต่กลับทำเป็นขึงขังเป็นโกรธจนพาลจะตัดขาดไม่ให้ผมติดต่อไป
มันจะใจร้ายกับผมไปหน่อยหรือเปล่า

“พี่ไนท์เป็นอะไร หน้าตาดูไม่ดีเลย”
ไอซ์ทักผมตอนผมขึ้นไปนั่งคู่บนรถได้

“เปล่า ไม่มีอะไร เราไปต่อเถอะนะ”
ผมฝืนยิ้มบอกกับไอซ์ ไอซ์จึงขับรถออกไปเงียบๆ

ไอซ์พาผมกลับถึงบ้านได้
หลายคนที่บ้านดูสีหน้าไม่ดีในตอนที่ผมถามถึงอาการป่วยที่แม่ผมเป็น

“แม่เป็นโรคไต ตอนนี้นอนพักอยู่โรงพยาบาล”
หนึ่งในญาติบอกกับผม ผมตัวชา ถามทุกคนว่าทำไมไม่มีใครบอกผม
ทำไมถึงให้ผมเข้าใจว่าแม่แค่ไม่สบายตามวัย

“เพิ่งจะตรวจเจอเมื่อวานนี่เอง แม่ไนท์เป็นคนขอเองว่าอย่าเพิ่งบอกอะไรไนท์
ไม่อยากให้ไนท์คิดมากระหว่างเดินทาง เพราะไหนๆ ไนท์ก็จะมาวันนี้แล้ว”
ญาติคนเดิมบอกผมอีก เมื่อรับรู้เช่นนั้นผมจึงไม่รอช้าที่จะเดินทางไปยังโรงพยาบาลที่แม่ผมรักษาตัวอยู่
โดยไอซ์นั่นเองเป็นคนพาไป

“ใจเย็นๆ นะพี่ไนท์ หมอเดี๋ยวนี้เก่งจะตาย รักษาถูกวิธีเดี๋ยวแม่ก็หายเนอะ”
ไอซ์เอ่ยปลอบผมระหว่างทางไปโรงพยาบาล ผมพยายามไม่คิดไปไกลอย่างที่ไอซ์บอก
แต่พอไปถึงโรงพยาบาล ได้คุยกับแม่ และพูดคุยกับหมอ
ผมแทบยืนไม่อยู่เมื่อหมอบอกผมว่าแม่ผมเป็นไตวายระยะสุดท้าย
   
“แล้วแม่ผมมีทางรักษาหายมั้ยครับหมอ”
ผมถามหมอถึงแนวทางการรักษา
   
“แค่ดีขึ้นเรื่อยๆ กับยื้อเวลาเท่านั้นครับหายขาดคงยากหน่อย” หมอตอบผมมาแบบนั้น
ก่อนจะแนะแนวทางการรักษาว่าการยื้อเวลาแม่ที่ดีที่สุดคือได้รับการฟอกไต ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
   
“คนไข้ไม่มีประกันสุขภาพ ในส่วนนี้หากทางญาติพร้อม การยื้อเวลาให้คนไข้ก็จะมีมากขึ้น”
 
ผมเซล้า ฐานะครอบครัวผมไม่ได้ดีอะไร พี่น้อง ญาติๆ รอบกายก็แค่เพียงชาวบ้านชาวสวนธรรมดา
แต่ละคนไม่ได้มีเงินเก็บหลายแสนหลายล้านแต่อย่างใด

ผมเองก็เพิ่งเริ่มต้นทำงานได้ไม่กี่ปี เงินเก็บที่มีก็ไม่ไม่รู้ว่าจะช่วยยื้อชีวิตแม่ผมได้นานแค่ไหน
แต่ยังไงผมก็ต้องหาทางร่วมด้วยช่วยกันกับญาติๆ เพื่อยื้อลมหายใจให้แม่ผมอยู่ไปได้นานๆ ให้ได้

“ไอซ์พอจะช่วยอะไรได้บ้างมั้ยพี่ไนท์”
ไอซ์เอ่ยกับผมในตอนที่เราเดินออกมาจากโรงพยาบาล

“แค่ให้กำลังใจพี่ก็ขอบคุณมากแล้วไอซ์ เดี๋ยวพี่กับญาติๆ หาทางออกกันเอง”
ผมตอบไอซ์ไปตอนนั้น ทั้งๆ ที่ยังคิดหาหนทางการยื้อลมหายใจแม่ของผมไว้ให้นานที่สุดด้วยวิธีใด

ผมกลับเข้ามาใช้ชีวิตทำงานในเมืองในวันจันทร์ แม้จะนึกห่วงแม่เพียงใด
แต่ผมก็ไม่สามารถอยู่เฝ้าได้ เพราะต้องทำงานหารายได้ช่วยญาติๆ อีกแรง

เงินเก็บที่มีผมก็ถอนออกมาให้ญาติๆ ซึ่งรับภาระเฝ้าไข้แม่ของผม
เหลือเอาไว้แค่ใช้จ่ายส่วนตัวยามต้องใช้ชีวิตในเมืองไม่กี่บาท

ไอซ์แสดงน้ำใจด้วยการมอบเงินเก็บของตัวเองให้ญาติๆ ผมส่วนหนึ่ง
ผมนึกเกรงใจไม่อยากให้ญาติรับไว้ เพราะผมกับไอซ์ไม่ได้สนิทกันมาก
ขนาดที่ไอซ์จะต้องมาทำอะไรแบบนี้ แต่ไอซ์ก็รั้นมอบให้อยู่ดี

จำนวนเงินนั้นแม้มันจะไม่มากมายนัก แต่ผมก็รู้สึกซึ้งในน้ำใจของไอซ์
และรับปากว่าจะพยายามหาใช้คืนให้หมด

“เอาที่พี่ไนท์สบายใจเลยครับ ไอซ์ช่วยพี่ไนท์ได้ตามกำลังของไอซ์
เรื่องใช้คืน พี่ไนท์พร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น หรือจะลืมๆ มันไปเลยก็ได้
ไอซ์พอเข้าใจว่าการฟอกไตให้แม่พี่ไนท์ค่าใช้จ่ายมันไม่น่าจะธรรมดา”

ไอซ์บอกผมว่าแบบนั้นในตอนที่เราคุยเรื่องนี้กัน

หลายวันที่ผมกลับเข้ามาทำงาน ผมกับธันว์ยังไม่มีโอกาสได้เจอกันเลยสักวัน
แน่ล่ะการที่ผมกำลังเครียดกับปัญหาเรื่องที่แม่ผมต้องเข้ารับการฟอกไต
ทำให้ผมไม่มีกะจิตกะใจที่จะหาความสำราญใดๆ ให้ตัวเอง
กระทั่งกิจกรรมการออกกำลังกายยังฟิตเนสที่ประจำของผมกับธันว์ผมก็ยังไม่มีกำลังใจที่จะไป
ผมกับธันจึงเหมือนจะหายจากการติดต่อกันไปช่วงหนึ่ง

จนเย็นวันศุกร์ หลังเลิกงาน ผมเตรียมจะกลับบ้านไปเยี่ยมดูอาการของแม่อีกครั้ง
คราวนี้ผมคิดจะไปรถโดยตู้สาธารณะ ผมมาถึงท่ารถกลางเมืองเพื่อจะเดินทางตอนใกล้ๆ ค่ำ
ถึงได้เจอกับธันว์ ซึ่งกำลังมากับซี ผมใจกระตุกหน่อยๆ เมื่อคิดว่าสองคนน่าจะเที่ยวไหนกันมา

ผมพยายามหลบหน้าธันว์ในตอนแรก แต่ก็หลบไม่พ้น จนในที่สุดเราจึงได้เผชิญหน้ากัน

“มึงจะไปไหนไนท์” ธันว์มันเอ่ยถาม

“กลับบ้าน” ผมตอบ พยายามไม่มองภาพที่ซียืนชิดร่างกับมัน

“บ้านไหน จันทร์หรือเปล่าเพิ่งไปมาไม่ใช่เหรอ”
ธันว์มันถามอีก สายตามันคงเห็นว่าผมกำลังยืนอยู่ท่ารถตู้

“อืม” ผมตอบสั้นๆ อีกครู่ซีจึงทักผมบ้าง

“บ้านพี่ไนท์อยู่จันทร์เหรอครับ น่าไปเที่ยวจัง”

“อืม แต่พี่ขอตัวนะรถจะออกแล้ว” ผมรีบเดินหนีจากที่ยืนอยู่ ตรงจะไปขึ้นรถตู้
กำลังจะไปถึงก็พลันต้องตกใจเมื่อโดนฉุดแขนไว้
ไม่ใช่ใครที่ไหนที่ฉุดไว้ แต่เป็นธันว์ ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันตามผมมาตอนไหน
แล้วซีไปไหนถึงปล่อยมันมาหาผมแบบนี้

“ปล่อยกูธันว์ รถมันจะออกแล้ว” ผมหันมาสั่งธันว์ ธันว์มันไม่ฟัง
ตรงกันข้ามมันกลับลากผมไปอีกทาง ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันจะพาไปไหนจึงโวยวาย

“มึงจะพากูไปไหนไอ้ธันว์ ปล่อยกู กูจะไปขึ้นรถ นี่มันเที่ยวสุดท้ายนะมึง”

“เลิกพูดแล้วตามกูมาได้ปะ เดี๋ยวกูขับรถพาไปเอง” ธันว์มันหันมาว่าดุๆ
ก่อนจะฉุดผมไปจนไปถึงที่จอดรถของมัน มันเปิดประตูรถให้ผมแล้วผลักผมเข้าไปนั่ง
จัดการปิดประตูเสร็จแล้วมันจึงอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง

นาทีนี้เราสองคนจึงมองสบตากันอีกครั้ง ผมจึงถามขึ้น

“ซีไปไหน”

“จะให้เขาไปด้วยมั้ยล่ะ” ธันว์มันตอบกวนกลับมา ก่อนจะหันไปสตาร์ทรถขับพาผมออกไป
ผมถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าธันว์มันจะมาอารมณ์ไหนกับผมอีก

“ถอนหายใจทำไม หนักใจนักเหรอที่เป็นกูพากลับบ้าน”
ธันว์มันเอ่ยออกมาเสียงเข้ม ผมจึงว่ามันกลับไปบ้าง

“มึงจะเอายังไงกับกูมึงเลือกเอาสักทางได้มั้ยวะธันว์
มึงเพิ่งไล่ให้กูไม่ต้องติดต่อมึงมึงลืมแล้วหรือไง”

“แล้วคราวนั้นมึงให้ใครพามึงกลับบ้านล่ะ กูเคยบอกมึงแล้วใช่มั้ย
ว่าถ้ามึงจะไปไหนกับใครกูยอมให้มึงไปกับเด็กมึงแค่คนเดียว”

“มึงหมายถึงโชน”

“เออดิ หรือมึงคบซ้อนไว้หลายคน”

“นั่นมันนิสัยมึงไม่ใช่กู”

“เออกูมันคนเจ้าชู้ กูมันคนใจง่าย
กูมันคนส่ำส่อนคบใครไม่เลือก ในสายตามึงอ่ะ
กูไม่เคยมีอะไรดีเลยสักอย่าง” ธันว์มันเอ่ยว่าคล้ายประชด

ผมเห็นบรรยากาศท่าจะไม่ดีจึงขอให้มันจอดรถ

“มึงจอดรถเหอะธันว์ กูกับมึงตอนนี้คงคุยอะไรกันยาก”

“แล้วใครล่ะที่ทำให้มันยาก” ธันว์มันขึ้นเสียงกลับ ผมเงียบ
ก่อนจะยอมเอ่ยออกไปเบาๆ

“ถ้าเป็นเพราะกู กูขอโทษ ปล่อยกูลงเถอะ มึงกับกูคงมาไกลกันได้แค่นี้”

ธันว์ชำเลืองหน้ามามองผม สักพักมันจึงเอื้อมมือมากุมมือผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาลง

“ขอสักครั้งให้เราใช้ใจพูดกันได้มั้ยวะไนท์”


ติดตามตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 12 [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 12-01-2018 18:57:23
แล้วใครล่ะทำให้มันยาก.... อะโห ยังจะไปถามเขาอี๊กกก
พูดเหมือนไนท์ผิดคนเดียวเลยนะ ตัวเองไม่เหรอธันนน
เคลียร์กันซะะะะะ
 :katai1:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 12 [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 12-01-2018 20:39:53
เบื่อธัน เรียนจบมาแล้วจริงป่ะเนี่ยยย
คนแบบนี้ใครอยากจะฝากชีวิตฝากหัวใจ
เหนื่อยยยย  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 12 [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-01-2018 22:21:34

ตอนที่ 13

ผมรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาที่ขอบตา ความรู้สึกสับสน กดดัน เหนื่อยล้า
ถาโถมทบทับใจจนยากจะควบคุม ที่บ้านก็กำลังเกิดปัญหาใหญ่ในการหารายจ่าย
มาช่วยในการฟอกไตแม่ของผม ผมเองแม้ไม่ใช่เสาหลัก เฉกเช่นญาติพี่น้องคนอื่นๆ
แต่ในหน้าที่ของความเป็นลูกก็คงจะอยู่เฉยไม่ได้

เรื่องของหัวใจตอนนี้ก็ดูท่าจะมีปัญหาในการเลือกเดิน
ไม่เข้าใจว่าผมคบกับธันว์มาได้ตั้งนาน ทำไมความผูกพันเกินกว่าเพื่อนถึงเกิดขึ้นกับมันได้ในตอนนี้
ตอนที่มันดูเหมือนจะตัวจริงในการคบหานั่นก็คือซี

ผมแกะมือธันว์ออกยกมือขึ้นเช็ดขอบตา
เมื่อรู้สึกว่าหยดน้ำที่เอ่อซึมทำท่าคล้ายจะไหลออกมา
ประจานสายตาธันว์ว่าผมกำลังอ่อนแอ

“เฮ้ย เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม ไม่ต้องร้อง”
ธันว์เปลี่ยนมาใช้มือแตะที่ต้นคอผมตบเบาๆ เป็นเชิงปลอบ
น้ำเสียงของมันฟังดูอ่อนโยนกว่าปกติ ผมจึงรีบเช็ดขอบตาเอ่ยบอกกับมันตรงๆ

“กูมีเรื่องให้คิดหลายอย่างน่ะ”

ธันว์เลื่อนมือลงมาจับมือผมไว้ดังเดิมเอ่ยขึ้นอีก

“ตอนนี้กูนั่งอยู่ข้างๆ มึงนะ มึงไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
เชื่อใจกู พูดกับกู กูไม่ปล่อยให้มึงเดินลำพังหรอก”

ธันว์บีบกระชับมือผม ผมหันมองหน้ามัน
มันเองก็ละสายตาจากถนนเพียงแวบมาสบตาผม เอ่ยขึ้น

“ขี้แยนะมึงน่ะ ไม่เอาไม่ร้อง และจากนี้ถึงบ้านมึงห้ามชวนกูทะเลาะ เข้าใจนะ”

ผมไม่ตอบว่าอะไร หันกลับมานั่งนิ่งๆ
เผลอยกมือขึ้นกุมสัมผัสหลังมือธันว์ตอนมันบีบกระชับจับมือผม
รู้สึกอายขึ้นมาหน่อยๆ เมื่อธันว์มันเอ่ยว่า

“ว่าง่ายๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย แบบนี้กูจะไปไหนรอดว้า”

ตลอดเส้นทางที่นั่งคู่กันไป ธันว์กลับเป็นคนเดิมที่ผมคุ้นเคย
นั่นคือการเป็นคนร่าเริงอารมณ์ดี คอยพูดจาเหย้าแหย่ผมเช่นวันเก่าๆ ก่อนที่เราจะมีปัญหาเคืองกัน
เห็นมันเป็นแบบนั้นผมก็ไม่รู้จะมีท่าทีงี่เง่าเอาแต่คิดโน่นคิดนี่ไปทำไม
จึงลองปล่อยความรู้สึกแท้จริงของใจที่มีต่อมันให้เต็มความต้องการ
แต่ยังไม่ได้เอ่ยปรึกษาและเคลียร์ปัญหาใดๆ กับมันอย่างจริงๆ จังๆ
เพราะอยากให้มันมีสมาธิกับการขับรถมากกว่า

ธันว์ขับรถพาผมผ่านมาครึ่งทาง ผมกลัวว่ามันจะล้าจึงเสนอ

“พักหน่อยมั้ยธันว์ มึงขับมาไกลแล้วนะ”

“ห่วงกูเหรอ” มันหันมาว่ายิ้มๆ

“เปล่า กูห่วงตัวเอง กลัวมึงพาไปไม่ถึงบ้าน”
ผมเอ่ยไปอย่างนั้น จากบรรยากาศดีๆ ที่ผ่านมา
ธันว์มันจึงเพียงเหย้าแหย่กลับมาตามนิสัย

“ว้า หลงตัวเองอีกแล้วกู”

แม้จะพูดเช่นนั้น แต่มันก็ขับรถเข้าไปยังจุดพักรถตามที่ผมแนะนำอยู่ดี

บรรยากาศตอนนี้มืดแล้ว ผมกับธันว์ลงจากรถพร้อมกัน
ธันว์มันเดินมาโอบคอผมเดินไปยังร้านกาแฟมุมสวย ซึ่งยังคงเปิดอยู่

“ขอกินกาแฟหน่อยนะ ตาจะได้แข็งเหมือนอย่างอื่น”
มันเอ่ยข้างหูผมตอนพาผมเดินไป ผมจึงใช้ข้อศอกกระทุ้งที่ท้องมันเบาๆ เข้าใจดีว่ามันสื่อถึงอะไร

“โอ้ย เจ็บนะ” ธันว์มันร้อง มันแกล้งเจ็บนะแหละ ผมรู้ดี จึงไม่ได้เอ่ยอะไร

สักพักเราสองคนจึงเดินคู่กันเข้าในร้าน ธันว์มันให้ผมสั่งเครื่องดื่มก่อน
ผมจึงสั่งเครื่องดื่มเย็นมาแก้วหนึ่ง จ่ายเงินเสร็จรอรับของ
พอได้มาผมจึงเดินไปหามุมนั่งรอธันว์ยังนอกร้าน
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของร้านที่จัดไว้ภายใต้แสงไฟ โอบพันตามไม้ประดับดูสวยตา

สายตามองธันว์ที่กำลังยืนสั่งเครื่องดื่มต่อจากผม
สักพักมันจึงเดินออกมาหาผม โดยที่ไม่มีแก้วเครื่องดื่มติดมือมาด้วย
ผมจึงถามตอนมันนั่งลงฝั่งตรงข้ามผม

“กาแฟมึงอ่ะ”

“เดี๋ยวเขาเอามาเสิร์ฟ” ธันว์ตอบยิ้มๆ มองจ้องตาผม
สายตาของมันทำผมเขินได้อย่างประหลาดจึงค้อนมันกลับ

“มองอะไรวะ”

“คืนนี้มึงเสร็จกูแน่” ธันว์มันว่า ผมจึงยกมือปัดหน้ามันไปทางอื่น

“โอ้ย ผมเสียทรงหมดหล่อหมด” ธันว์มันเอ่ย

“แล้วมึงจะหล่อไปอวดใคร”
ผมปากไวว่าให้ ธันว์มันหันมาสบตาเอ่ยล้อผมอีกยิ้มๆ

“หึงเหรอจ๊ะ”

ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไร พนักงานหญิงของร้านก็ถือถ้วยกาแฟมาเสิร์ฟ
ที่แท้ธันว์มันก็สั่งกาแฟร้อน มิน่ามันถึงไม่ได้รอรับ

พนักงานหญิงคนนั้นเดินมาทางผมกับธันว์
แต่สายตากลับมองผมแล้วอมยิ้มนิดๆ
ทำเอาผมสงสัยว่าหน้าผมเปื้อนอะไรมาหรือเปล่า

สักพักพนักงานคนนั้นก็เดินมาถึงแล้ววางแก้วกาแฟร้อนลงบนโต๊ะ ตรงหน้าธันว์เอ่ยว่า

“ลาเต้ร้อนได้แล้วค่ะ”

ธันว์เอ่ยขอบคุณพนักงานเสิร์ฟไป
ในตอนนั้นผมจึงมองไปที่ถ้วยกาแฟ
มันไม่ใช่กาแฟร้อนธรรมดา

แต่มันเป็นลาเต้ร้อนลายลาเต้อาร์ตรูปหัวใจดวงสวย

“ของกู มองทำไม”
ธันว์มันว่าก่อนจะจับตรงจานรองแล้วเลื่อนมาวางไว้ตรงหน้าผม
จ้องตาผมเอ่ยบอก

“แต่กูให้มึง”

ผมพูดไม่ออก ก้มมองถ้วยลาเต้อาร์ตรูปหัวใจ
อดไม่ได้ที่หันเข้าไปทางร้าน
เห็นพนักงานสองสามคนในนั้นมองมาอมยิ้ม
ลอบมองมาคล้ายๆ จับอาการความเคลื่อนไหวของผมกับธันว์

“กูขอรีเควสเองบอกให้เขาทำรูปหัวใจดวงสวยๆ จะเอาไปเซอร์ไพรส์แฟน”
ธันว์มันเอ่ยบอก ผมไม่รู้จะไปทางไหนต่อ
จึงคิดจะดูดน้ำในแก้วของผมแก้เก้อ แต่ธันว์มันกับแย่งไปเอ่ยว่า

“แก้วนี้ของกู ส่วนหัวใจนี่ของมึง”

ธันว์มันดูดแก้วน้ำของผม แต่สายตาจ้องมาทางผม
มันกะเอาให้ผมละลายตายไปตรงนั้นให้ได้เลยหรือเปล่าก็ไม่รู้

“ไม่เห็นมีน้ำตาลเลย กูจะกินยังไง” ผมเอ่ยว่า
ยอมรับว่าสายตาที่ธันว์มมันจ้องมองผมทำหน้าผมร้อนร้อนวูบวาบ

“แค่ความหวานจากกูก็พอแล้วมั้ง น้ำตาลคงไม่ต้องหรอก”
ธันว์มันเอ่ยว่าอีก เล่นเอาผมไปต่อไม่เป็นจึงยกถ้วยกาแฟถ้วยนั้นขึ้นจิบ
แก้อาการเขินอายจากสายตาของธันว์ที่มันมองจ้องไม่เลิก

อืม ลาเต้อาร์ตลายหัวใจถ้วยนี้ มันหวานแบบไม่ต้องเติมน้ำตาลจริงๆ

TBC
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 13 ส่งเข้านอน ^_^ [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 13-01-2018 01:40:43
ขึ้นๆลงๆนะธันว์อะ ตอนที่แล้วยังตึงๆกะเขาอยู่เลยย
อะๆตอนนี้ซอร์ฟๆ ไม่ทะเลาะกันดีละ บรรยากาศเก่าๆ
เคลียร์ๆกันสักทีน้ออ พูดให้หมดดดดดด
 :katai1:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 13 ส่งเข้านอน ^_^ [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 13-01-2018 10:27:24
อยากให้ธันว์หนักแน่นกว่านี้ นี้ยังดีนะไนท์ยังยอมฟัง ไม่งั้นนายไอซ์ได้เป็นพระเอกแทนแน่

พี่บอยรูปโปรไฟล์พิธอ่ะ นัองสกายครับ  น้องเสดงเป็นตาโจลูกใจเริง  แต่ตอนนี้น้องไม่สบายกำลังรักษาตัวอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 13 ส่งเข้านอน ^_^ [12-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 13-01-2018 12:42:29
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 14 [13-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 13-01-2018 19:07:47

ตอนที่ 14

ธันว์พาผมกลับถึงบ้านก็ดึกมากหน่อย
ผมยังไม่ได้บอกถึงสาเหตุว่าทำไมผมถึงกลับบ้านถี่แบบนี้
คืนนี้ผมให้มันพักที่บ้านผม ห้องเดียวกับผมไปก่อน
พรุ่งนี้เช้าผมถึงคิดจะไปเยี่ยมแม่ กำลังคิดอยู่ว่าจะบอกมันตั้งแต่คืนนี้
หรือว่าจะให้มันรู้พรุ่งนี้ดีว่าตอนนี้แม่ผม
กำลังเผชิญโรคร้ายนอนพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล

แต่แล้วตอนอยู่ในห้องกัน ธันว์มันก็เอ่ยถามผม 

“แม่ไปไหนอ่ะไนท์ เมื่อกี้ไม่เห็นมึงจะแนะนำให้กูรู้จักเลย”

ผมเงียบ ยอมบอกมันไปตามตรง เพราะยังไงๆ พรุ่งนี้มันก็คงรู้

“แม่กูเข้าโรงพยาบาล”

“อ้าว เป็นไรอ่ะ”

“โรคไตน่ะ” ผมตอบเพื่อให้ฟังดูเบาลง
ไม่อยากเอ่ยให้ต้องสะเทือนใจว่าจริงๆ
แม่ผมกำลังเผชิญกับอาการไตวายระยะสุดท้าย

“อืม ถึงว่ามึงถึงกลับบ้านถี่กว่าแต่ก่อน ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวแม่คงหาย
พรุ่งนี้พากูไปเยี่ยมท่านด้วย” ธันว์บอก ผมพยักหน้ายิ้มจางๆ
ธันว์มันเหมือนจะรับรู้ว่าผมคงกำลังคิดมากอยู่มันจึงเดินเข้ามาดึงผมเข้าไปกอดเอ่ย

“กูไม่รู้นะว่าแม่เป็นขนาดไหน แต่มึงอย่าเพิ่งคิดอะไรมากนะ
ตอนนี้กูยืนอยู่ตรงนี้ มีอะไรที่กูพอจะช่วยได้มึงบอกกูมาได้เลย
กูบอกมึงแล้วว่ากูไม่ใช่คนที่มึงจะมาเกรงใจ”

น้ำตาผมไหลออกมาด้วยความตื้นตันใจ แต่ไม่หรอก
ผมคงไม่บอกธันว์มันหรอกว่าแม่ผมต้องฟอกไตเป็นระยะ
และต้องมีค่าใช้จ่ายมากเพียงใด ถ้าหากผมจะให้มันยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
ผมก็ขอให้มันเป็นตัวช่วยในวันท้ายๆ ที่ครอบครัวผมหมดซึ่งหนทางแล้วจริงๆ

ตอนนี้มันเพิ่งเริ่มต้น เงินเก็บและทรัพย์สินที่มีของแต่ละคนในบ้านยังพอพยุงกันไปได้
ไม่แน่ปาฏิหาริย์อาจจะเกิดขึ้นกับแม่ผมก็ได้
ท่านอาจจะรักษาให้หายได้ก่อนที่เงินทองทรัพย์สินของครอบครัวผมจะหมดไป

“ร้องไห้อีกละ ยังไงเนี่ย คืนนี้กูต้องนอนเช็ดน้ำตามึงทั้งคืนป่ะเนี่ยไอ้ไนท์”
ธันว์มันผละร่างออกมา ยกมือเช็ดน้ำตาให้กับผม ผมเริ่มดีขึ้นจึงบอกมันยิ้มๆ

“มึงขับรถมาหลายชั่วโมงไปอาบน้ำแล้วนอนพักเถอะไป”

“แล้วมึงอ่ะ” ธันว์มันถามผมกลับ

“ก็จะนอนเหมือนกัน”

“งั้นอาบพร้อมกัน” มันส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้ผม ผมจึงบอกมันดุๆ

“แต่มึงห้ามลามปามกะกู นี่มันบ้านกู กูยังเกรงใจญาติกูอยู่
อีกอย่างแม่กูก็กำลังนอนป่วย”

“เออนะ กูรู้ กูสะกดคำว่ากาลเทศะเป็นไอ้ห่า”

“เหรอ คำพูดมึงเชื่อได้งั้นสิ”

“นี่มึงย้อนกูป่ะเนี่ย”

“งั้นมั้ง” ผมผละออกจากร่างธันว์ จัดเตรียมหาเสื้อผ้าไว้ให้มันเปลี่ยนใส่เพื่อจะนอน

“เฮ้อ มีคนเอาใจมันดีแบบนี้นี่เอง คราวหลังให้กูมาเที่ยวบ้านมึงบ่อยๆ นะ”
ธันว์เดินมาเอ่ยใกล้ๆ ผม ผมอดไม่ได้ที่จะนึกถึงซีขึ้นมาจึงว่า

“แล้วมึงเอาซีไปไว้ตรงไหน”

“ซีเกี่ยวอะไรด้วย” ธันว์มันทำหน้างงๆ ผมจึงว่า

“นิสัยนะมึงไอ้ธันว์ หัดจริงใจกับใครเป็นป่ะวะ”

“จริงใจอะไรวะ” ธันว์ดูยังงงๆ อยู่ ผมกำลังจะถามว่าตกลงความสัมพันธ์ของมันกับซีคือยังไง
เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นซะก่อน ผมจึงเดินไปเปิด
เจอหน้าญาติเอ่ยถามว่าผมกับธันว์จะกินอะไรกันมั้ย
จะได้หุงหาทำกับข้าวให้

ผมหันมาขอความเห็นจากธันว์ ธันว์มันบอกแล้วแต่ผม
ผมจึงขอให้ญาติทำกับข้าวสองสามอย่างไว้ให้ก็พอ คิดว่าธันว์มันคงหิวแหละ
แต่มันคงเกรงใจไม่กล้าบอกตรงๆ

ญาติรับคำเดินหายไปแล้ว ผมจึงเดินมาไล่ธันว์รีบไปอาบน้ำ
จะได้เสร็จทันพอดีกับสำรับกับข้าวที่ญาติผมจะเตรียมไว้ให้
โดยลืมหัวข้อสนทนาสุดท้ายเอาไว้เสียสนิท
ธันว์มันจึงลากผมเข้าไปอาบด้วยอย่างที่มันขอ

ที่โต๊ะกินข้าวด้านล่าง มีญาติผมบางส่วนคอยดูแลโน่นนั่นนี่ให้สามสี่คน
ธันว์เอ่ยชวนทุกคนทานข้าวด้วยกัน ทุกคนปฏิเสธที่จะร่วมวง
แต่สิ่งที่ธันว์มันทำ มันไม่รู้หรอกว่าญาติๆ ผมกำลังชื่นชมมารยาทมันเพียงใด
ทุกคนดูท่าจะพูดคุยกับธันว์ได้สนิทชิดใกล้มากกว่าคราวที่ไอซ์มาซะอีก

ตอนกลับขึ้นห้อง ผมจึงอดที่จะแซวธันว์มันไม่ได้

“เข้าหาผู้ใหญ่เก่งนะมึงไอ้ธันว์”

“ก็เผื่อวันไหนลูกหลานอย่างมึงงอแงทะเลาะกับกู กูจะได้มีกองหนุนไง”
ธันว์มันเอ่ยตอบกลับมา ผมจึงว่ามันกลับ

“มึงนี่มันร้ายได้ทุกเรื่องจริงๆ”

“ร้ายแบบนี้ก็มีคนเอาอยู่ละกันน่า” ธันว์มันจ้องตาผม ผมจึงแกล้งถามว่าใคร
มันไม่ตอบแต่กลับโผเข้าหาผมแล้วพาล้มลงไปนอนยังที่นอนด้วยกัน

“คืนนี้ขอนอนกอดนะ” มันเอ่ยข้างหูผม ผมนึกขอบใจที่มันไม่ลามปามอะไรมากไป
ตามที่ผมขอเพราะมันดูไม่สมควรกับสถานการณ์ เห็นมันเชื่อฟังดีจึงแกล้งแหย่มันไป

“ว้า มึงป๊อดนี่หว่า อดเลยกู นึกว่าจะโดนอะไรมากกว่านั้นซะอีก”

“ปากดีตลอดนะมึงไอ้ไนท์ พอกูต้องการล่ะเล่นตัว เดี๊ยะ”
ธันว์มันว่ากลับ เอื้อมมือมานอนกอดผมชิดร่าง
ผมตกใจเผลอดึงดัน มันจึงดุ

“อะไร แค่กอด พูดจารู้เรื่องน่า ไม่ได้งี่เง่าเหมือนมึง”

“นี่มันบ้านกูห้องกูนะเว้ยมึง ว่ากูมากๆ
เดี๋ยวกูไล่ไปนอนกลางสวนทุเรียนซะนี่”
ผมขู่ว่ามันกลับ มันจึงย้อนมา

“กลัวที่ไหน ตอนนี้กูมีกองหนุนครึ่งบ้าน”

“คนเจ้าชู้นี่แม่งหาคะแนนได้กับทุกคนจริงๆ”
ผมว่ามันกลับ ธันว์มึงแซวผมมา

“จ้า มึงอ่ะรักเดียวใจเดียวตายล่ะ คราวก่อนพาใครมาบ้านกูยังไม่เคลียร์เลยนะ”

“แล้วมึงมีสิทธิ์มาเคลียร์อะไรล่ะ เข้าใจผิดคิดว่าตัวเองชื่อโชนหรือไง”
ธันว์มันชะงักตอนผมเอ่ยแซวกลับในข้อนี้ สักพักมันจึงลุกขึ้นจับผมพลิกร่างนอนหงาย
ใช้มือสองข้างล็อคแขนผมไว้แล้วก้มลงบดขยี้จูบปากผมแบบที่มันเคยทำ
มันทำแบบนั้นอยู่เป็นนาทีจึงถอนปากออกมาจ้องตาผมเอ่ยว่า

“ต้องให้กูทำแบบนี้ใช่มั้ยถึงจะยอมเลิกพูดถึงคนอื่นตอนอยู่กับกู”

“กะ กู เลิกพูดก็ได้ ปล่อยกู กูจะนอน” ผมบอกออกมาเสียงสั่น
ธันว์มันยอมปล่อยร่าง ผมจะขยับตัวหนีมัน มันรีบคว้ากอดเอาไว้ขู่ใหม่

“ขืนดิ้นหนีคราวนี้กูไม่แค่จูบมึงนะไนท์”

ผมยอมเงียบเสียงนอนนิ่งๆ
ก่อนจะยอมให้ร่างนอนหลับภายใต้อ้อมกอดของธันว์ในที่สุด

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 14 [13-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 13-01-2018 19:14:30
ตอนเช้า ผมกับธันว์เข้าเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาล 
ธันว์มันถึงได้รู้ว่าแม่ผมป่วยในระยะไหน
มันพาผมเอ่ยออกมาปลอบใจ ผมก็ได้เพียงแค่รับฟัง ที่สุดมันก็เอ่ย

“ฟอกไตค่าใช้จ่ายเยอะนะมึง ครอบครัวมึงไหวกันเหรอวะ”

“ไหวไม่ไหวก็ต้องหาทางยื้อให้ได้นานที่สุดนั่นล่ะ”
ผมพูด ไม่อยากนึกถึงวันข้างหน้าให้จิตใจห่อเหี่ยว
สักพักธันว์มันก็เอ่ยออกมา

“เอาเงินเก็บกูไปช่วยใช้จ่ายก่อนมั้ย มันไม่ได้มากมายหรอก
แต่ก็น่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง”

“มึงยังไม่ได้ทำงานเลยนะธันว์ อย่ามาลำบากกับกูเลย”
ผมบอก ธันว์จึงบอกว่ามันอยากช่วยจริงๆ
เงินเก็บที่มีคือเงินใช้จ่ายสมัยเรียนที่ครอบครัวจ่ายสำรองเอาไว้ให้
แต่มันยังไม่ได้ใช้จ่ายจนหมด ก็เก็บเอาไว้เผื่อฉุกเฉิน
ซึ่งตอนนี้เวลานี้ภาวะลำบากที่ผมกำลังเจอก็เปรียบเป็นภาวะฉุกเฉินของมันเช่นกัน

ผมนึกถึงอาการป่วยของแม่แล้วจะมัวมาเล่นแง่ก็ใช่เรื่อง
จึงบอกให้มันไปคุยเรื่องนี้กับญาติๆ ซึ่งเป็นเสาหลักของบ้านผมผมเอาเอง
ส่วนญาติจะจัดการยังไง และหนทางทางใช้คืนเป็นแบบไหน
ญาติๆ ผมก็คงมาแจ้งมาผมอีกทีนั่นล่ะ

ธันว์พยักหน้าเข้าใจ และบอกจะสานต่อเรื่องนี้เอง

“เสียดายเนอะ กูไม่น่าเลือกงานเลย หากกูได้ทำงานคงได้ช่วยอะไรมึงมากกว่านี้”
ธันว์มันเอ่ยสีหน้าครุ่นคิด ผมจึงปลอบมันไปว่าแค่มันแสดงความมีน้ำใจแค่นี้
ผมก็ไม่รู้จะขอบคุณและตอบแทนคืนมันยังไงแล้ว

“มึงก็เลิกกับโชนมาเป็นแฟนกูซะทีดิ” ธันว์มันเอ่ยออกมาทีเล่นทีจริง
ในสถานการณ์ตอนนี้ผมคิดว่าไม่ควรจะมาคุยเรื่องพวกนี้จึงตอบมันไป

“พักเรื่องพวกนี้ไปก่อนได้มั้ยธันว์ ตอนนี้กูไม่พร้อมจะคุยเรื่องพวกนี้จริงๆ”
ผมบอกตามความรู้สึก แค่วันนี้ ตอนนี้ มันกับผมกลับมายิ้มแย้มให้แก่กันดังเดิมผมก็สุขใจแล้ว
เรื่องขอหัวใจขอให้มันเป็นเรื่องรองลงไปจากเรื่องโรคร้ายที่แม่ผมกำลังเผชิญเถอะ

ผมกับธันว์กลับเข้ามาในเมืองในตอนต้นสัปดาห์
ผมคิดจะบอกเลิกสัญญาการเป็นสมาชิกฟิตเนสเพื่อควบคุมรายจ่ายตัวเอง
ตอนเจอกับธันว์ในวันต่อมาที่ฟิตเนส ธันว์จึงเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ค่อยสบายใจว่า

“แล้วกูกับมึงจะได้เจอกันอีกมั้ย ถ้ามึงไม่มาออกกำลังกายที่นี่น่ะ”

“แล้วทำไมมึงกับกูจะต้องเจอกันแค่ในนี้ด้วยล่ะวะ
เจอกันข้างนอกไม่ได้หรือไง” ผมว่า ธันว์มันจึงเอ่ยว่าการเจอกันข้างนอกมัน
คงได้แค่รอให้ผมว่างจากโชนนั่นล่ะ ผมถึงจะมีเวลาให้มัน
ผมยังไม่พร้อมจะบอกว่าผมเลิกกับโชนไปแล้ว
เพราะยังแอบระแวงสถานะของมันกับซีเช่นกัน ผมจึงว่า

“ขนาดกูยังทำใจได้ให้มึงเจอกับซีอย่างอิสระในยิม
แล้วทำไมมึงจะทนรอให้กูว่างจากโชนเพื่อเจอมึงไม่ได้ล่ะธันว์”

ธันว์มันเงียบ ก่อนจะเอ่ยว่า

“อืม มึงว่าไงก็ว่างั้น เข้าใจว่ามึงคงผูกพันกับโชนมากกว่ากู
เราสองคนก็เป็นชู้กันไปแบบนี้ล่ะ แปลกดีเหมือนกัน”

“ชู้อะไร กูกับมึงยังไม่ได้เป็นอะไรกัน มึงอย่ามามั่ว”
ผมว่ากลับ รู้สึกไม่ค่อยดีกับคำนิยามที่ธันว์มันตั้งให้ ธันว์มันจึงถอนหายใจเอ่ยว่า

“เฮ้อ กูนี่แม่งน่าสมเพชเนอะ เป็นแฟนมึงว่ายากละ เป็นชู้มึงยังยากไปอีก”

“รอหน่อยได้มั้ยล่ะ รอให้แม่กูหายก่อนแล้วเราค่อยมาพูดเรื่องนี้กัน”
ผมเอ่ยให้กำลังใจมัน ถ้ามันจะจริงใจกับผมจริงๆ
มันก็น่าจะอดทนรอได้ในคำขอของผม

“โอเค รอก็รอ แต่กูขอให้มึงบอกกูอย่างได้มั้ย
ว่าใครที่มึงพากลับบ้านไปด้วยคราวก่อน”
ธันว์มันวกกับมาในเรื่องที่มันยังไม่เคลียร์ ผมนึกแหย่มันเล่นจึงว่า

“คิดว่ามึงเจ้าชู้ได้คนเดียวหรือไง กูก็มีคนคนอื่นนอกจากโชนบ้างดิ”

“ไนท์ มึงอย่ามาล้อกูเล่นนะ” ธันว์มันว่ากลับมาเสียงดุ
ผมจึงแซวมันกลับอย่างที่มันแซวผมบ่อยๆ

“มึงหึงเหรอ”

“ปากดี อย่าให้มีอีกละกัน คราวนั้นกูจะยอมหลับหูหลับตาไม่ถือสาก็ได้อะ
แต่บอกไว้ก่อนว่าห้ามมีคราวหน้า ถ้ามึงจะกลับบ้าน ไม่โชนก็กูแค่นั้นที่ไปส่งมึงได้
ถ้าไม่ฟังกูล่ะกู มึงจะได้รู้ว่าคนเจ้าชู้แบบกูในสายตามึงจะจัดการกับคนที่เพิ่งหัดเจ้าชู้กับมึงยังไง”

ธันว์มันยกมือขึ้นชกอกผมเบาๆ ผมจึงชกกลับบ้างพลางว่า

“กูกลัวตายล่ะ”

ขณะจะชักมือกลับธันว์มันรีบคว้าหมับที่ข้อมือผมแล้วดึงผมเข้าหาตัว
มองจ้องตาเอ่ยว่าเสียงเย็น

“หรือจะลอง”

“มึงอย่ามาหื่นแถวนี้ ปล่อยกู เดี๋ยวคนมอง”
ผมว่าหันมองรอบกายกลัวใครจะมาสนใจภาพที่ผมยืนชิดร่างมันจริงๆ
ธันว์หันมองตามยอมปล่อยร่างผมแต่ไม่วายเอ่ยกำชับเสียงดุ

“คราวหลังอย่าท้า”

ผมเลิกสนใจมัน เดินหนีไปเล่นเครื่องเล่นต่อ
สักพักมีกลุ่มคนเดินเข้ามาทักทายมันสองสามคน
ก็น่าจะเป็นชายรักชายนั่นล่ะ มันยิ้มให้นิดๆ กับคนกลุ่มนั้น
คุยกันได้ไม่นานมันก็เดินมาหาผมเอ่ยบอก

“แค่คนรู้จักไม่ต้องมองหรอก รู้น่าว่าหวงอยู่”

“มึงอย่ามาหลงตัวเอง” ผมว่าให้

ธันว์มันไม่ตอบว่าอะไร เพียงแต่เล่นเครื่องเล่นไม่ห่างกายผมหลังจากนั้น

TBC

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 14 [13-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 13-01-2018 20:11:28
ขอบคุณค่ะ  เหอๆๆมาต่อทุกวันเลย  ขอบคุณค่ะ
ชอบ  สนุก  เข้มข้รและแอบลุ้น มาว่าเมื่อไหร่จะเป็นแฟนกัน
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 14 [13-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 13-01-2018 20:40:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 14 [13-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 14-01-2018 16:49:45
ตอนที่ 15

ผมทำเรื่องยกเลิกสัญญาการเข้าใช้บริการในฟิตเนสในเดือนต่อมา
ซึ่งครบรอบการหมดสัญญาในแบบรายปีที่ผมไว้พอดี
ธันว์มันเสนอให้ผมทำสัญญารายเดือน ซึ่งมันจะช่วยจ่ายให้ในเดือนไหนที่ผมติดขัด
แต่ผมไม่ทำต่อ เพราะด้วยเกรงใจมันที่มันยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง
แต่กลับจะมาแบกรับภาระให้ผมในเรื่องพวกนี้
ซึ่งดูแล้วไม่สมควร ก็รู้แหละว่าชีวิตความเป็นอยู่ของมันแม้ไม่ได้ทำงาน
มันก็น่าจะอยู่ได้ด้วยการโดนซับพอร์ตจากที่บ้านของมัน
นั่นมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเข้าไปใหญ่ที่จะให้มันเอาเงินจากที่บ้านมาใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับผม

เรื่องที่มันเอาเงินเก็บส่วนตัวไว้ให้ญาติผมเพื่อช่วยดูแลการรักษาตัวแม่ผม
เป็นจำนวนเท่าไหร่ ผมก็ยังไม่ได้รู้ เพราะทางญาติๆ ผมไม่ได้เอ่ยเรื่องนี้กับผมเลย
ผมเองก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายอะไรมาก ก็ยังคงแบกรับภาระในส่วนที่ผมยังพอช่วยได้ไปตามกำลัง

การที่ผมไม่ได้ไปออกกำลังกายทำให้ผมห่างกับธันว์มันจริงๆ
แต่ไม่ใช่แค่ธันว์ ใครคนอื่นที่ผมรู้จักผมก็ห่างเหินออกไปด้วย
เพราะจันทร์ถึงศุกร์ผมต้องทำงานเช้าจรดเย็น ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์
ก็กลับไปเยี่ยมแม่เพื่อดูอาการถี่ขึ้น โดยที่ผมไม่บอกธันว์หรือไอซ์
เพราะผมไม่อยากให้ทั้งสองคนมาแสดงน้ำใจในการขับรถพาผมกลับไป

สองคนมารู้พร้อมกันในวันที่ติดต่อพูดคุยกับผมผ่านทางไลน์
ขณะผมอยู่ที่บ้านในช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของเดือนต่อมา

ไอซ์นั้นยอมเข้าใจ เพราะเจ้าตัวรู้ดีอยู่ว่าผมไม่ได้ให้ความสนิทกับเจ้าตัว
ขนาดที่เจ้าตัวจะต้องเทียวรับเทียวส่งผมแบบนั้นในทุกๆ ที
ส่วนธันว์ ก็ออกอาการโวยถามตามนิสัยว่าทำไมผมชอบทำอะไรโดย
ที่คิดว่าไม่มีมันอยู่บนโลกใบนี้

เราสองคนคุยกันดีบ้าง ไม่ดีบ้าง อยู่อย่างนั้น
จนเวลาผ่านมาช่วงหนึ่ง โชนเป็นอีกคนหนึ่ง
ซึ่งมารับรู้อาการป่วยของแม่ผมในช่วงเวลาที่แม่ผมกำลังวิกฤติ
เพราะการตอบสนองทางร่างกายของแม่ไม่ค่อยสอดคล้อง
กับการรักษาเท่าที่ควร แม่ของผมทรุดหนักลงเรื่อยๆ

ในการยื้อเวลาของแม่ก็ต้องใช้วิธีการรักษาด้วยเม็ดขึ้นที่เพิ่มมากขึ้น
โชนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในช่วงจังหวะนั้น และขอโอกาสให้ผมพากลับไปเยี่ยมดูอาการแม่
ผมไม่กล้าขัดใจ เพราะอย่างน้อยโชนก็น่าจะได้ไปเยี่ยมแม่ผมในฐานะคนๆ หนึ่ง
ซึ่งมีน้ำใจช่วยจุนเจือรายจ่ายในพักหลังๆ

ธันว์มารับรู้ตอนหลังว่าผมพาโชนกลับไปที่บ้านในตอนที่มันติดต่อพูดคุยกับผม
ตอนที่ผมอยู่กับโชนที่บ้านเกิดของผม มันออกอาการเย็นชา
และพูดจาห่างเหินกับผมจนผมสังเกตน้ำเสียงได้
ผมไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ แต่เพราะด้วยภาวะจิตใจผมกำลังว้าวุ่นอยู่กับอาการป่วยของแม่ผม
ผมจึงไม่ได้ใส่ใจจะเคลียร์ปัญหาใดๆ กับมัน

จนวันหนึ่งที่ผมกลับเข้ามาทำงานปกติ
และบังเอิญเจอกับมันซึ่งเดินคู่อยู่กับซีในทางผ่านที่ผมต้องกลับห้องพัก
เราจึงมีโอกาสคุยกันจริงๆ จังๆ ตอนนั้น โดยที่ซียืนอยู่ด้วย

“ไม่ค่อยได้เจอกัน มึงเป็นยังไงบ้างไนท์”
ธันว์มันทักผม ในขณะที่ซีออกความเห็น

“ซีว่าพี่ไนท์ผอมและโทรมไปนะ งานหนักเหรอครับ”

“อืม พี่พักผ่อนน้อย และก็มีเรื่องเครียดด้วยแหละ”
ผมตอบซี สังเกตรูปร่างซีตอนนี้ดูดีสมส่วนขึ้นมาบ้าง
อาจจะเพราะด้วยการออกกำลังกายนั่นล่ะ
และคนที่คอยช่วยสอนช่วยเทรนซีก็น่าจะเป็นธันว์
ธันว์มันไม่ถามถึงอาการของแม่ผมเลย
ผมนึกเสียใจอยู่หน่อยๆ ที่มันดูจะลืมไปแล้วว่าแม่ผมกำลังไม่สบายอยู่

“แล้วนี่จะไปไหนกันเหรอ”

ผมตัดสินใจเอ่ยถามในตอนที่ผมหาทางเลี่ยงหนีสองคนไม่ได้
เริ่มรู้สึกน้อยใจที่เห็นธันว์มันแสดงท่าทีเหินห่างจากผมอย่างชัดเจนตอนอยู่ต่อหน้าซี

“ก็นัดเจอกันทั่วไปน่ะครับ ยังไม่ได้คิดจะไปไหนกัน
หากไม่มีที่ไป ซีก็ว่าจะให้พี่ธันว์สอนซีทำอาหารที่คอนโดพี่ธันว์หน่อย
 พี่ธันว์ทำอาหารหารเก่ง ทำให้ซีทานบ่อยๆ จนซีชักติดใจ
อืม พี่ไนท์ไปด้วยกันมั้ย ไปช่วยซีเป็นนักเรียนพี่ธันว์หน่อย”

ซีตอบออกมาอีกยิ้มๆ ผมมองสบตาธันว์ เข้าใจแล้วว่าทำไมมันถึงลืมอาการป่วยของแม่ผม
มันก็น่าจะใช้เวลาระยะหลังที่เราห่างกันคลุกคลีอยู่กับซีจนเป็นคนสนิทใจกันนั่นล่ะ 
นึกถึงตอนนี้ก็อดนึกถึงตอนที่มันคอยเอาอกเอาใจผมไม่ได้
ปากมันก็บอกว่าจะคอยยืนข้างผมอย่างนั้นอย่างนี้
แต่เอาเข้าจริงๆ สิ่งที่มันทำตอนนี้กลับมีกะจิตกะใจหาความสุขสำราญใจกับซี
ในขณะที่ผมกำลังจมอยู่กับภาวะเครียดจากอาการป่วยของแม่

แต่ก็นั่นล่ะ มันก็เคยเตือนผมอยู่ว่าผมจะไปถือสาคำพูดอะไรของมัน
ในตอนที่มันว่าจะค้างห้องผมในคืนนั้น แต่สุดท้ายมันก็ออกมาพบกับซีกลางดึกจนได้นอนค้างด้วยกัน
ผมก็ไม่น่าจะไปจริงจังและฝากความหวังอะไรไว้กับมันให้ต้องรู้สึกเสียใจ

“อืม พี่ว่าไม่ดีมั้งซี อย่าไปกวนอะไรไอ้ไนท์มันเลย
มันคงไม่มีเวลาว่างให้พี่แล้วมั้ง ที่ซีอยากให้พี่สอนทำอาหารก็ฟังดูดีนะ
พอซีทำเป็น ซีจะได้ทำให้พี่ทานบ้าง บางทีพี่ก็อยากมีคนเอาใจบ้าง
ตามเอาใจคนอื่นมากๆ พี่ชักเริ่มเหนื่อยและท้อขึ้นมาละ”

ธันว์มันเอ่ยออกมา ผมใจกระตุกวาบ เข้าใจว่ามันคงเอ่ยกระทบผมนั่นล่ะ
แต่ผมก็ฝืนยิ้มเอ่ยออกไปด้วยไม่อยากให้ธันว์มันเห็นว่าผมกำลังปวดใจ

“งั้นก็ตามสบายกันนะสองคน ขอตัวล่ะ”

ผมรีบเดินหนีหน้าจากซีและก็ธันว์ หากธันว์มันเริ่มเหนื่อยและท้อในการ
ที่จะคอยดูแลผมอย่างที่มันเคยสัญญา ก็สุดแท้แต่มันจะเลิก
ผมไม่มีสิทธิ์ไปโกรธอะไรมัน เพราะอย่างน้อยๆ ช่วงเวลาหนึ่งมันก็เอาใจใส่ผมได้ดี
และยังเป็นคนที่มีน้ำใจในการช่วยค่าใช้จ่ายดูแลรักษาแม่ของผม

ถึงผมจะปลงตกได้เช่นนั้น แต่ผมก็สั่งให้ใจไม่ให้ไหวหวั่นได้อยู่ดี
ที่สุดแล้ว คำพูดและแววตาเฉยชาของธันว์ก็ทำให้ผมร้องให้ได้อีกครั้ง

ผมกลับถึงห้องโทรสอบถามอาการแม่กับที่บ้าน
ญาติๆ เอ่ยบอกให้ผมเตรียมใจไว้หน่อยก็ดี
เพราะแม่มีแต่ทรุดกับทรุด ผมใจหายถามไปว่าการรักษาที่เสียเงินไปมากมาย
ไม่ช่วยทำให้แม่ดีขึ้นบ้างเลยหรือ

ญาติบอกว่าหมอบอกว่ามันก็ดีขึ้นได้เท่านี้ เพราะกว่าที่แม่ผมจะเข้าทำการรักษา
ก็อยู่ในภาวะสุดท้ายของการยื้อลมหายใจแล้ว

“ไนท์ค่าใช้จ่ายมันเริ่มสูงขึ้นจนพวกเราหลายคนหมดหนทาง
ที่จะต่อลมหายใจแม่ไปได้อีกแล้ว
ไนท์จะเสียใจมากมั้ยถ้าสุดท้ายแม่อาจจะต้องอยู่กับเราได้ไม่นาน”

ญาติซึ่งเป็นเสาหลักของบ้านเอ่ยกับผมแบบนั้น
ผมเข้าใจในความหมายที่สื่อออกมาได้ดี แต่ผมไม่อยากให้เวลานั้นเกิดขึ้น
จึงบอกกับญาติๆ ไปว่าผมจะหาวิธียื้อลมหายใจของแม่ให้ได้นานที่สุด
ให้ญาติๆ รอการตัดสินใจสิ่งใดที่จะนำมาซึ่งความสูญเสียก่อน

ญาติยอมรับฟัง ผมวางสายไป นั่งร้องไห้จนตัวสั่น
สุดท้ายจึงลุกนั่งปาดน้ำตาตัดสินใจติดต่อไปหาธันว์
เพราะผมเคยคิดเอาไว้แล้วว่าเมื่อถึงที่สุดจริงๆ
ผมคงต้องร้องขอความช่วยเหลือจากมัน

“มีอะไรไนท์” โชนมันรับสายผม พร้อมๆ
กับที่ผมได้ยินเสียงซีแทรกมาในโทรศัพท์
ตอนนี้สองคนน่าอยู่ในห้องคอนโดของธันว์
เพราะเสียงของซีแทรกมาอยู่เรื่อยๆ
ถึงการถามหาว่าอุปกรณ์ทำครัวของธันว์อยู่ตรงไหนบ้าง
จะได้เอามาเตรียมไว้ในการทำกิจกรรมทำอาหารร่วมกัน
   
“มึงสะดวกคุยมั้ย” ผมกลั้นเสียงสะอื้นถามธันว์ออกไป

ความรู้สึกใจหายจากการรับฟังข่าวร้ายจากทางญาติยังไม่จางดี
ผมก็ต้องมาสะท้านใจกับการต้องมารับรู้ว่าซีอยู่กับธันว์ในตอนนี้อีก
   
“คุยได้ แต่ไม่นานนะ ซีรอกูสอนทำอาหารอยู่” ธันว์มันตอบกลับมา
ผมเริ่มลังเลว่าจะเอ่ยขอร้องให้มันช่วยเหลือผมในการรักษาแม่ของผมดีหรือไม่
จึงเงียบไปพัก เริ่มไม่แน่ใจว่าธันว์มันจะจำสัญญาว่าจะยืนเคียงข้างผมได้หรือไม่

สักพักธันว์มันก็ถามออกมาใหม่
   
“ถ้าไม่มีอะไรกูวางสายนะ โทรมาแล้วก็เงียบ ว่างนักหรือไง”
   
ผมปวดใจในถ้อยคำนั้นจนล้มเลิกความคิด
ที่จะขอความช่วยเหลือจากมัน เบี่ยงไปคุยประเด็นอื่นไป
   
“ก็ไม่มีอะไร แค่โทรมาทักทายนะ” ผมฝืนบอก ใจหวิวอีกเมื่อธันว์มันทักกลับมา
   
“เด็กมึงไม่ว่างแล้วอ่ะดิถึงได้คิดถึงกู”
   
“กะ ก็อย่างนั้นแหละ” ผมเอ่ยตามน้ำไป เพราะรู้สึกตื้อจนพูดไม่ออก”
   
“ถ้ามึงแค่คิดว่ากูเป็นเพียงแค่คนคอยปลอบใจมึง
ยามมึงมีปัญหากับเด็กมึง กูขอให้มึงไม่ต้องโทรมาอีกไนท์”
   
ใจผมสั่นไหวได้อีก คิดไปไกลว่าที่ธันว์มันเอ่ยกับผมแบบนี้
คงเพราะมันคงน่าจะเริ่มต้นคบกับซี จึงทำใจแข็งเอ่ยถามมันออกไป
   
“เราต้องจบกันแบบนี้จริงเหรอวะธันว์”
   
ธันว์เงียบ ผมก็เงียบ สุดท้ายธันว์มันก็เอ่ยออกมา
   
“แล้วเรายังไปได้ไกลกว่านี้อีกมั้ยล่ะ กูเข้าใจแล้วว่าตอนนี้กูฝืนทำดีกับมึงไป
มึงก็คงไม่ลืมคนของมึง ขอโทษนะที่กูรอมึงไม่ไหว กูอาจจะขอเริ่มต้นใหม่
กับใครสักคนที่มองเห็นค่าของกู แค่นี้นะ โชคดีเพื่อน”
   
ธันว์มันวางสายไป ผมเก็บกลั้นความรู้สึกปวดใจเอาไว้ให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้
ตอนที่ได้ยินถ้อยคำบอกลานั่น เวลาของผมกับธันว์สิ้นสุดลงตรงนี้แล้วจริงๆ น่ะหรือ

TBC
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 15 [14-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 14-01-2018 16:58:33
ธันว์ลืมว่าแม่ไนท์ป่วยอยู่จริงเหรอ เพื่อนกำลังแย่อะ ทำไมลืมมม
คิดถึงใจกันบ้างงง แล้วดูทำตัวดิ ไม่ดีเลยยยย
ไนท์พูดสิพูดดดด เรื่องโชนเรื่องแม่พูดไปเถอะ
เนี่ยย แล้วก็ไม่เคลียร์กันสักที
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 15 [14-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 14-01-2018 18:53:10
ไนท์ทำไมปากหนักอ่า
บอกไปดิ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 15 [14-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 15-01-2018 19:02:46
ผมตัดสินใจลางานกลับบ้านด้วยสิทธิลาพักร้อนประจำปีที่ยังคงเหลือทั้งหมดห้าวัน
รวมกับเสาร์อาทิตย์ทั้งหมดก็เป็นเจ็ดวัน เพื่อกลับไปไปอยู่บ้านเฝ้าดูใจแม่ผม

เมื่อญาติติดต่อกลับมาอีกครั้งเพื่อแจ้งข่าวร้ายว่าหมอที่ทำการรักษาได้แจ้งให้ให้ญาติๆ ได้ทำใจ
เพราะอาการแม่ของผมทรุดลงจนเกินที่เยียวยารักษา

ระหว่างเดินทางกลับบ้านด้วยรถตู้สาธารณะผมนั่งร้องไห้อยู่อย่างไม่อายใคร
เมื่อญาติๆ บอกให้ผมเข้าไปที่โรงพยาบาลเลยไม่ต้องแวะเข้าบ้าน
เพราะตอนนี้ทุกคนรวมกันอยู่ที่นั่น ผมได้ฟังเพียงเท่านั้นก็พอจะเข้าใจว่าผมกำลังจะกลับไปเจอกับภาวะใด

ซึ่งมันก็จริง เมื่อผมถึงโรงพยาบาล ญาติๆ โผเข้ากอดผมด้วยอาการต่างคนต่างร้องไห้ระงม
และบอกให้ผมเข้าไปหาแม่ยังห้องพักฟื้น ผมตัวสั่น ใจสั่น
ยังรู้สึกรับไม่ได้ที่จะเข้าไปเห็นภาพอะไรที่ผมไม่อยากเห็น
แต่ญาติบอกยังไงก็ต้องไป เพราะนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะได้พูดคุยกับแม่

ผมเดินร้องไห้เข้าไปในห้องนั้น ญาติสองสามคนอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในห้องนั้น
แยกตัวออกมาให้ผมได้เข้าไปพูดคุยกับแม่

ภาพของแม่ซึ่งเป็นเสมือนคนไร้สีเลือดนอนหายใจรวยรินน้ำตาไหล
พยายามเอื้อมมือมาลูบเส้นผมของผมตอนผมโผเข้าไปกอดร่าง
ก่อนเอ่ยถ้อยคำฝากฝังให้ผมดูแลตัวเอง เพราะแม่คงฝืนอยู่ต่อไม่ไหว

ผมร้องไห้จนตัวโยนกอดร่างแม่อยู่อย่างนั้น
พร่ำบอกให้แม่เข้มแข็ง แต่แม่ผมกลับพยายามฝืนยิ้มทั้งน้ำตาบอกว่าเวลานี้
เป็นเวลาที่ผมควรจะเข้มแข็งอย่าให้แม่ต้องจากไปด้วยความห่วงหา

น้ำตาผมหยดเป็นสาย ร่างกายสะอื้นสั่นร้องบอกให้แม่อย่าเพิ่งทิ้งผมไปตอนนี้
เพราะผมยังไม่ได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีตอบแทนพระคุณเพียงพอ

แม่ส่ายหน้าบอกว่าแค่ผมเรียนจบมามีงานทำหาเลี้ยงตัวเองได้
แม่ก็พอใจจนไม่ต้องการอะไรแล้ว ในตอนท้ายแม่เอ่ยถึงว่าหากอยากตอบแทน
ผู้มีพระคุณให้ผมนึกถึงพ่อ ซึ่งแม้จะเลิกรากับแม่ไปตั้งแต่ตอนผมยังเด็ก
และไม่ได้เลี้ยงดูส่งเสียอะไรผมเท่าแม่ แต่พ่อก็คือพ่อ
หากมีโอกาสตอบแทนก็ขอให้ผมตอบแทนบุญคุณพ่อ
ที่ทำให้ผมเกิดมามีชีวิตบนโลกใบนี้

ผมรับปากกับแม่ทั้งน้ำตา นาทีนั้นแม่จึงเรียกหาญาติๆ คนอื่นๆ
ให้มายืนรวมกันเพื่อที่แม่จะได้เห็นทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นครั้งสุดท้าย
ญาติผมทุกคนจึงเข้ามาหาแม่ตามที่แม่ต้องการ ทุกคนร่ำไห้กอดกันมองร่างแม่
แม่ส่งยิ้มให้ทุกคน เอ่ยฝากฝังผมไว้กับทุกคน เพราะผมเป็นลูกคนเล็กของครอบครัว
ทุกคนรับปากว่าจะดูแลผมแทนแม่ แม่ยิ้มเอ่ยขอบคุณทุกคน ก่อนจะหันมามองหน้า
บอกรักผม เอามือลูบหัวผม สั่งเสียผมว่าอย่าทำตัวเป็นภาระให้ญาติต้องหนักใจ
ให้ผมเป็นลูกซึ่งแม่ภูมิใจในความคิดความประพฤติอย่างที่เคยเป็นเช่นผ่านมาๆ

ผมแทบใจสลายตอนแม่น้ำตาไหล จึงร้องไห้โฮออกมาเสียงดังจนญาติๆ
ต่างกรูเข้าปลอบ เอ่ยบอกว่าอย่าให้น้ำตาอาบลงร่างแม่
ให้แม่ได้พักผ่อนบนสวรรค์ด้วยความหมดห่วง

“ดูแลตัวเองนะไนท์ แม่รักลูกนะ แม่รักลูก”
แม่ผมพร่ำบอกผมในถ้อยคำสุดท้าย
ก่อนมือที่ใช้จับหัวผมจะอ่อนแรงร่วงลงพร้อมม่านตาที่ปิดสนิท

“แม่ แม่ แม่อย่าทิ้งไนท์ไป แม่ แม่” ผมผละตัวออกจากญาติๆ
โผเข้ากอดร่างซึ่งไร้ลมหายใจของแม่ พยายามเขย่าให้แม่ตื่น
แต่ญาติๆ ช่วยกันดึงตัวผมออกไป ทั้งๆ ที่ทุกคนต่างก็ร่ำไห้ไม่หยุดเช่นกัน

ผมจำใจผละร่างออกจากแม่ทั้งน้ำตา เมื่อทีมหมอและพยาบาล
เข้าทำหน้าที่ใช้ผ้าคลุมร่างแม่ปกปิดร่างซึ่งไร้วิญญาณของแม่แล้ว

นาทีของความสูญเสียคนที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับมันเป็นนาที
ที่เจ็บปวดทรมานจนเกินจะอยู่ไหวมันเป็นเช่นไร ผมเพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้เอง

ศพของแม่ผ่านขั้นตอนการชันสูตรเสร็จสิ้น ญาติๆ ผมก็ทำเรื่องเคลื่อนย้าย
เพื่อไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนายังวัดที่แม่ชอบไปทำบุญ

หลังพิธีกรรมพาร่างของแม่ขึ้นไว้บนศาลาวัดเพื่อสวดศพ
การประชุมญาติก็เริ่มมาตามหลัง ในฐานะความเป็นลูกชายผมตั้งใจบวชหน้าไฟให้แม่
เพื่อส่งวิญญาณแม่ให้ขึ้นสวรรค์ แต่ญาติๆ บอกว่ามีลูกๆ หลานๆ
แม่หลายคนสมัครใจบวชจนเพียงพอแล้ว ให้ผมรับภาระเป็นเจ้าภาพคอยดูแขกเหรื่อในงานจะดีกว่า
ก่อนแม่จะไปแม่ก็ไม่ได้ฝากฝังอะไรในเรื่องนี้ไว้ หากผมคิดดี ทำดี ประพฤติดี
ตามที่แม่ฝากฝังไว้ก่อนไป แม่คงไปอย่างสงบ
อีกทั้งผลบุญที่แม่ได้ทำไว้ตอนมีชีวิตอยู่ก็คงพาแม่ขึ้นสวรรค์ได้อยู่นั่นล่ะ

เมื่อญาติๆ เห็นพ้องต้องกันอย่างนั้น ผมจึงคอยเป็นหัวเรือคอยรับแขก
ซึ่งคงจะมาร่วมงานสวดศพแม่ผมหนาตา

ผมส่งข่าวไปบอกเพื่อนๆ คนรู้จักในที่ทำงานเรื่องงานศพของแม่
รวมทั้งโชนและไอซ์ แต่สำหรับธันว์ ผมเลือกที่จะไม่บอกมัน
เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะบอกมันในฐานะอะไรในเมื่อดูคล้ายจะไม่สนใจในความเป็นไปของผมแล้ว

ไอซ์กับโชนรวมถึงต้ามาร่วมงานศพแม่ผมตั้งแต่คืนวันแรก
โดยตั้งใจมาแบบเสร็จฟังสวดแล้วกลับกันเลย ทุกคนบอกจะมาอีกทีในวันเผาคือวันที่สาม
ผมเพิ่งรู้ว่าทั้งสามเป็นคนรู้จักกันพอประมาณที่สวนรถไฟ
การเจอหน้ากันของทั้งสามคนในงานศพแม่ผม ทุกคนก็ร่วมด้วยช่วยกันกับผมในการดูแลแขกเป็นอย่างดี
ต้าร์เองเอ่ยขอโทษผมที่พาโชนไปเที่ยวจนเสียการติดต่อไปจากผม
ผมไม่ได้ติดใจอะไร บอกอะไรที่ผ่านมาแล้วก็แล้วกันไป

ในวันที่สองของคืนสวดศพ ผมต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ธันว์มันโผล่มา
ผมถามว่าใครแจ้งมันไป มันบอกว่าญาติๆ ผม ผมรู้สึกแปลกใจว่าญาติๆ
ผมไปเอาช่องทางติดต่อจากธันว์มายังไง แต่ไม่มีเวลาถามไถ่อะไรมาก
ญาติๆ ก็พากันออกมาต้อนรับมัน ธันว์มันเอ่ยขออนุญาตพักค้างบ้านผมกับญาติๆ
ญาติๆ ผมบอกไม่ได้มีปัญหาอะไร ก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันไปปล่อยให้ผมอยู่กับธันว์มันเพียงลำพัง

“แม่เสียทำไมถึงไม่บอกกูสักคำไนท์” ธันว์มันเอ่ยกับผมในทันทีที่เรามีโอกาสอยู่กันสองต่อสอง

“ในฐานะอะไรล่ะ” ผมตอบ ยังจำคำที่มันเอ่ยตัดความสัมพันธ์กับผมได้ดี

“มึงใจแข็งกว่าที่กูคิดนะไนท์ มึงตัดขาดจากกูได้จริงๆ เหรอ” ธันว์มันเอ่ยถาม ผมมองสบตาเอ่ยขึ้น

“มึงเป็นฝ่ายบอกเลิกกูนะธันว์ กูไม่ได้เป็นคนบอก ถึงกูจะตัดไม่ได้ยังไงกูต้องตัด
มึงอยากเริ่มต้นใหม่กับใคร มึงก็กลับไปหาคนนั้นเถอะ ขอบใจที่ยังเคารพแม่
แต่คืนนี้กูคงให้มึงพักที่บ้านไม่ได้”

สายตาธันว์วูบไหวไป กำลังจะเดินจากผมไปอย่างที่ผมบอกจริงๆ
แต่ญาติผมกลับเดินมาเรียกไว้ ธันว์มันหันมาจ้องตาผม ผมเมินหนี
สักพักญาติผมจึงสั่งให้มันขับรถจากวัดตามไปที่บ้าน
โดยให้ผมเป็นคนนั่งรถไปกับมันเพื่อบอกทาง ผมเห็นว่าญาติร้องขอจึงยอมทำตาม
แต่ขณะนั่งรถกันไป ผมพยายามไม่พูดอะไรกับมันนอกจากบอกทางเท่านั้น
ซึ่งมันก็เงียบซึมไม่ชวนผมคุยเช่นกัน


จนถึงบ้าน ญาติผมจัดแจงอาหารให้มันกิน ผมเห็นว่าญาติผมชักจะเอาใจมันเกินไปจึงขัด

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 15-01-2018 19:10:30
“เพื่อนไนท์มันไม่หิวหรอกครับ มันบอกมันง่วง
ยังไงคืนนี้น้าเนียมหาห้องให้มันนอนทีนะครับ มันคงไม่อยากนอนห้องไนท์เท่าไหร่”

ผมเลือกเอ่ยกับน้าเนียมน้องสาวแม่ผม น้าเนียมตำหนิผมนิดๆ
ว่าไปตัดสินใจแทนเพื่อนแบบนั้นได้ยังไง ก่อนจะจัดแจงหุงหาอาหารมาให้ธันว์มัน
ธันว์มันก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา น้าเนียมตักข้าวให้มัน
ผมนึกถึงคำพูดที่ธันว์มันตัดขาดความสัมพันธ์กับผมในคืนที่ผมกำลัง
จะโทรขอความช่วยเหลือเรื่องแม่ นึกโกรธมันขึ้นมา
จึงเดินไปหยิบจานข้าวจากมือน้าเนียมเทกลับที่หม้อดังเดิม
แล้วเอ่ยบอกน้าเนียมด้วยความรู้สึกที่ยอมรับว่าพาลพอดู

“น้าเนียมไม่ต้องเอาใจมันมากหรอกครับ
มันหิวมันคงตักกินเองได้ แขนขามันไม่ได้ขาด”

น้าเนียมหันมาว่าผมอีกว่าทำไมถึงพาลใส่เพื่อนแบบนั้น
ก่อนจะจัดการตักข้าวไปให้ธันว์มันใหม่ ธันว์มันยังนั่งเงียบไม่พูดไม่จา
ผมมองสบตามันตอนมันหยิบช้อนตักข้าวเพื่อทาน
ด้วยอารมณ์พาลก่อนหน้าทำให้ผมเดินไปปัดช้อนที่มันกำลังจะตักข้าวเข้าปากจนกระเด็นตกพื้น

“ไนท์ ทำอะไรน่ะ” น้าเนียมดุ ตอนนี้ธันว์มันจึงยอมมีเสียงขึ้นมาด้วยการเอ่ย

“ไม่เป็นไรครับน้าเนียม เดี๋ยวธันว์หยิบช้อนใหม่เอาเองก็ได้ครับ”

“ไม่ต้องใช้ช้อนหรอก ถ้ามึงหิวมากก็กินมันทั้งจานนั่นล่ะ”

อารมณ์พาลผมยังไม่สงบลงจึงเดินไปจับจานข้าวยกขึ้นอัดใส่หน้าธันว์
โดยไม่สนในฟังเสียงร้องตกใจของใคร สิ้นเสียงทุกคนผมวางจานกลับลงบนโต๊ะ
ก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องไม่สนใจจะมองว่าธันว์มันจะนั่งอยู่ในสภาพใด

ผมนั่งอยู่ในห้องเกือบครึ่งชั่วโมง เริ่มรู้สึกผิดอยู่ที่ทำกับธันว์แบบนั้น
แต่เมื่อย้อนคิดถึงวันที่ผมโทรหามันเพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องแม่
แต่มันกลับกำลังมีความสุขอยู่กับซีทำให้ทิฐิในใจผมก่อตัวขึ้นมาอีก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมคิดว่าน้าเนียมคงตามมาพูดกับผมในสิ่งที่ผมทำเมื่อครู่นั่นล่ะ
จึงลุกเดินไปเปิดประตู ไม่ได้คิดว่าจะเป็นธันว์ เพราะคิดว่ามันเห็นอาการไม่ต้อนรับมันจากผมแบบนั้น
มันก็คงขับรถกลับกรุงเทพฯ ไปหาคนของมันแล้ว

ประตูห้องเปิดออก ผมตกใจหน่อยเมื่อเห็นธันว์ยืนอยู่ในเสื้อผ้าชุดใหม่
ในลักษณะผมเผ้ายังเปียกอยู่ ใครกันจัดแจงให้มันอาบน้ำล้างตัว สระผม
ผมคิดในใจ สักพักธันว์มันก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา

“ขอนอนด้วยได้มั้ย”

ผมมองสบตาของมันที่ไร้ซึ่งพิษสงใดๆ จึงยอมถอยร่างให้มันเดินผ่านเข้ามาในห้อง
ธันว์มันจึงพาร่างไปนั่งนิ่งบนที่นอน ผมปิดประตูห้อง
หันมามองหน้ามัน เห็นมันนั่งหน้าก้มหงอยซึมจึงเป็นฝ่ายเอ่ยก่อน

“ทำไมมึงไม่กลับกรุงเทพฯ”

“งานแม่ยังเสร็จมึงจะรีบไล่กูไปไหน” ธันว์มันเงยหน้าขึ้นเอ่ย
ผมนึกถึงวันที่เจอกับมันครั้งล่าสุดแล้วมันไม่ได้ถามถึงอาการแม่ผมเลยจึงว่าใส่หน้ามันตรงๆ

“อยู่แล้วมึงช่วยอะไรได้ ตอนแม่ยังไม่เสียทำไมมึงไม่คิดจะใส่ใจถามไถ่ถึงอาการท่าน”

ธันว์มันก้มหน้าเงียบ สักพักจึงเงยหน้าถามผม

“ตอนนี้มึงรู้สึกยังไงกับกูไนท์”

ผมมองหน้าธันว์ ผมเองก็ตอบไม่ได้ว่าผมรู้สึกยังไง
ในเมื่อธันว์เองมันเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายกับผม
แต่นาทีที่ผมคิดถึงตอนที่มันเอ่ยตัดรอนความสัมพันธ์กับผม ทำให้ผมเอ่ยบอกมันไป

“กูกับมึงคงอยู่ไกล้กันไม่ได้แล้วธันว์ มึงบอกว่าเหนื่อยที่ต้องตามเอาใจกู
กูเองก็เหนื่อยที่จะต้องหวาดระแวงมึงเหมือนกัน
สามปีกว่าที่เรารู้จักกัน ขอบคุณในหลายๆ อย่างที่มึงเคยทำให้กู
และกูขอโทษในทุกๆ สิ่งที่เคยงี่เง่ากับมึงโดยที่บางทีกูอาจไม่รู้ตัว
ในเมื่อมึงก็เหนื่อย กูก็เหนื่อย ในการที่จะคบหากันต่อไป
เรายอมถอยออกมาเป็นเพื่อนห่างๆ กันก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
แต่มึงไม่ต้องห่วงนะ ค่าใช้จ่ายที่มึงช่วยในการรักษาแม่กู
กูจะพยายามหามาคืนให้ มันเท่าไหร่กูยังไม่รู้หรอก
หลังงานศพแม่เดี๋ยวกูถามเอาจากญาติกู แล้วกูจะใช้คืนมึงยังไง
ก็ค่อยว่ากัน ขอบใจนะที่ช่วงเวลาหนึ่งมึงเคยเข้ามาทำให้กูยิ้ม กูหัวเราะ
แต่มันก็มีหลายช่วงเวลาที่กูต้องร้องไห้กับการกระทำของมึง
คืนนี้มึงกลับไปเถอะ กูไม่พร้อมที่จะอยู่ใกล้มึงแล้วจริงๆ”

ธันว์ซึ่งนั่งอยู่ฟังผมพูด นัยน์ตามันค่อยๆ แดงเรื่อออกมา
ผมเองเองหากมองเห็นหน้าตัวเองได้ตอนนี้สภาพนัยน์ตาผมก็คงจะไม่ต่างไปจากมันเท่าไหร่

ผมกับมันใช้สายตามองจ้องกัน ธันว์น้ำตาไหล ผมเองก็ร้องไห้

แต่ในเมื่อความสัมพันธ์มันถึงทางตัน ผมกับมันก็ต้องจากกันจริงๆ ซะที

TBC


หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 17-01-2018 21:16:43
อย่าคิดเยอะดิไนท์  รักกันๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 17-01-2018 22:20:45
ไม่เข้าข้างธันนะ โกรธธันว์ ทำไมต้อตัดความสัมพันด้วย
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 18-01-2018 08:12:01
รอบทสรุปอยู่น๊า
สิ่งที่ธันว์ไม่แปลกถ้าไนท์จะไม่เชื่อใจ ทุกครั้งที่พูดตบท้ายด้วยพูดเล่น ล้อเล่นเสมอ อีกอย่างการกระทำเหมือนจะหนักแน่น เหมือนจะชัดเจน สุดท้ายก็ล่ม ต้องรับสภาพไปนะธันว์
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-01-2018 09:12:05
ธันว์ โลเล ไม่มั่นคง   เดี๋ยวจริงเดี๋ยวเล่น
งอนไนท์ ประชดไนท์ จนไม่รู้ความรู้สึกจริงๆ

ไนท์เองก็หวาดระแวงธันว์
ที่ถึงเนื้อถึงตัว จูบกอดไนท์
แต่ก็ยังอ่อยซี ทำให้เชื่อใจได้ยาก

อยากให้ไนท์ เอ่ยปากว่าเลิกกับโชนให้ธันว์รู้
ธันว์ ที่บ้าๆบอๆเพราะหึงหวงไนท์จะได้เข้าใจสักที

รอสองคนตกผลึกความคิด ดงรู้ใจตัวเอง
พูดกันเรื่องความรู้สึกที่มีต่อกันให้ชัดเจน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 18-01-2018 14:22:05
จะจบแบบไหมเนี่ย  รอลุ้นนะคะคุณบอย
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Fat_gril68 ที่ 18-01-2018 17:56:04
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 18-01-2018 20:53:50
รู้บ้างไหม ว่าฉันนั้นใกล้ลงแดง?

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 19-01-2018 09:43:07


แปะๆ เอาไว้

ธันว์ยกมือปาดน้ำตาตัวเองทันทีตอนที่ได้ไหลออกมาหลังจากมันพูดจบ
มันเดินผ่านร่างผมไปเปิดประตูห้องก้าวเท้าออกไป

ลับหลังมัน น้ำตาหยดใหม่ของผมก็ไหลอาบแก้มเช่นกัน

ผมฝืนแข็งใจไม่หันไปมองมัน ปล่อยให้มันปิดประตูห้องผมลงอย่างเงียบเชียบ

ประตูบานนั้นหากเปรียบไปก็คงเป็นเช่นฉากกั้นปิดม่านความสัมพันธ์ของผมกับธันว์ลงอย่างถาวร

แล้วกลับมาพบกันสำหรับตอนจบนะนะคร้าบ
วัน เวลา ตามคลิปเลย

https://vimeo.com/251746710 (https://vimeo.com/251746710)

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-01-2018 09:54:39
อีกตั้ง 3 วัน

 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 19-01-2018 13:35:47
สนุกมากเลยรอตอนจบน้า
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: llmaumill ที่ 20-01-2018 15:10:25
งงมาก คือไม่เข้าใจไนท์ที่โกรธธันว์ เรืองที่จะโทรไปขอความช่วยเหลือแม่อะ ตัวเองยังไม่ได้เอ่ยปากพูดเรื่องจะขอความช่วยเหลือเลย พอธันว์ตัดบทก็เลยไม่พูด ทีนี้พอแม่เสียก็มาพาลโกรธธันว์ แล้วโทษธันว์ว่า ไม่ช่วยแม่อย่างงั้นหรือ

ลืมไปหรือเปล่าว่า ธันว์ช่วยเหลือเรื่องเงินตอนแม่ป่วยด้วย  แล้วการเทข้าว ปัดช้อน ปัดจาน ก็เป็นกิริมารยาทที่แย่มากๆเลยนะ แบบนี้ไม่น่ารักเลย
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนที่ 16 ก่อนจบ [15-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 22-01-2018 09:08:38
ตอนจบ

ธันว์ยิ้มจางๆ ออกมา ยกมือขึ้นปาดน้ำตา ลุกเดินคว้าผมเข้าไปกอด
ผมยืนนิ่งไม่มีแรงต่อต้าน ปล่อยให้น้ำตาไหลลงบนบนบ่ามัน สักพักธันว์ผละออกจากผม
เราสองคนมองจ้องตากัน ธันว์ยกมือเช็ดน้ำตาให้ผม
รอยยิ้มจางยังผุดอยู่บนใบหน้าคมใสของมัน นัยน์ตามันแดงเรื่อ มีหยดน้ำซึมอยู่บริเวณรอบ
ผมก็อยากจะยกมือขึ้นไปเช็ดหยดน้ำนั่นบ้าง แต่ก็ห้ามใจเอาไว้
ในเมื่อคิดจะตัดก็ต้องตัดให้ขาด มันอาจจะทรมานในช่วงแรกๆ
แต่ผ่านเวลาไปสักช่วง หัวใจก็คงดีขึ้น

“กูเคารพการตัดสินใจของมึงมาตลอด หากครั้งนี้มึงจะขอให้เราห่างกัน
กูก็คงทำได้แค่รับฟัง ยังไงกูก็ขอบคุณมึงเหมือนกันที่เดินมาเข้ามาให้กูได้สัมผัส
ความรู้สึกของการอยากดูแลใครสักคนของกูในช่วงเวลาหนึ่ง
แม้กูจะทำไม่สำเร็จก็ตาม เพราะกูมันแค่คนมาทีหลัง
สิ่งที่กูจะทำให้มึงได้เป็นครั้งสุดท้ายคงเป็นการไม่เอาคืนเงินค่ารักษาพยาบาลของแม่ทั้งหมด
มึงไม่ต้องหามาคืนกูหรอก มึงจะได้สบายใจที่ไม่ต้องมีอะไรมาผูกพันกับกูให้คาราคาซังกันอีก
จากนี้หากเราจะพบกันมันก็คงเป็นได้แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น
โชคดีนะ หากกูไม่อยู่สักคนสักวันมึงกับโชนคงได้ใกล้กันมากกว่าที่เป็นอยู่
กูจะไปจากชีวิตมึงอย่างที่มึงต้องการ ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ร่วมเผาศพแม่
ดูแลตัวเองด้วยนะ กูขอโทษในคำพูดใดๆ ที่กูอาจทำให้มึงร้องไห้เสียใจ
แต่ขอให้มึงรู้ไว้ว่าถ้อยคำเหล่านั้นมันไม่ได้ออกมาจากใจของกู กูไปล่ะ”

ธันว์ยกมือปาดน้ำตาตัวเองทันทีตอนที่มันไหลออกมาหลังจากมันพูดจบ
มันเดินผ่านร่างผมไปเปิดประตูห้องก้าวเท้าออกไป ลับหลังมัน
น้ำตาหยดใหม่ของผมก็ไหลอาบแอบเช่นกัน
ผมฝืนแข็งใจไม่หันไปมองมัน ปล่อยให้มันปิดประตูห้องผมลงอย่างเงียบเชียบ
ประตูบานนั้นหากเปรียบไปก็คงเป็นเช่นฉากกั้นปิดม่านความสัมพันธ์ของผมกับธันว์ลงอย่างถาวร
ผมได้ยินเสียงรถของธันว์วิ่งออกไปจากรั้วบ้านผมในตอนที่ผมพาร่างมานั่งลงบนที่นอน ที่นอนซึ่งครั้งหนึ่งธันว์มันนอนโอบกอดผมเอาไว้ทั้งคืน ผมเผลอเอามือลูบสัมผัสพื้นที่ว่างตรงนั้นซึ่งเป็นที่นอนของธันว์  น้ำตาผมกำลังจะเหือดแห้งไป ในใจที่หวิวไหวกำลังจะดีขึ้น แต่แล้วผมก็ได้รับข้อความอันยาวเหยียดซึ่งส่งมาจากธันว์ผ่านไลน์ว่า
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 22-01-2018 09:20:30
“ไนท์ ไหนๆ กูกับมึงก็คงเป็นเส้นขนานกันแล้ว
ข้อความนี้กูอยากให้มึงอ่านให้จบ มันอาจจะยาวหน่อย
แต่ทุกสิ่งที่กูพิมพ์กูพิมพ์มันออกมาจากใจกูจริงๆ
มันเป็นเรื่องราวในส่วนของกูที่มึงคงไม่เคยรู้
ที่กูตัดสินใจพิมพ์บอกกูไม่ต้องการให้เราเริ่มใหม่
แก้วที่มันร้าวไปแล้วมันคงรอวันแตกเพียงเท่านั้น
ใจที่มันร้าวมันก็คงรอวันแหลกสลายเช่นกัน
เปรียบเป็นเช่นมึงกับกูที่อยู่กันใกล้แค่เอื้อม
แต่ก็สัมผัสหัวใจกันและกันไม่ได้สักที

ไนท์ มึงรู้อะไรมั้ยว่ากูรักกูชอบมึงตั้งแต่วันแรกที่กูเจอมึง
กูพยายามเข้าหาเพื่อจีบมึงเพราะคิดว่ามึงไม่มีใคร
แต่แล้วมึงบอกกับกูว่ามึงมีคนคบคนคุยแล้วนั่นก็คือโชน
ตอนนั้นกูเสียใจและผิดหวังนะ เสียใจจนกูเคยคิดจะถอยไม่สานความสัมพันธ์ต่อ
แต่กูถอยไม่ได้ เพราะอะไรเพราะกูรู้แล้วว่าคนที่หัวใจกูต้องการคือมึง
กูฝืนความรู้สึกตัวเองทนคบกับมึงในฐานะเพื่อนเพื่อที่
กูจะได้ใกล้ชิดมึงเพื่อรอว่าเมื่อไหร่ที่มึงผิดหวังจากโชนแล้วกูจะได้เอ่ยเปิดใจ
มึงไม่รู้ตัวหรอกว่ามึงให้ความหวังกูด้วยการนำปัญหาที่โชนเหินห่างมึงมาปรึกษากู
กูรอฟังว่าเมื่อไหร่มึงจะตัดใจจากโชน เพื่อที่กูจะได้พูดว่ากูรักมึงได้เต็มปาก
แต่จนแล้วจนรอด มึงก็ไม่ยอมตัดใจ หนึ่งปี สองปี สามปี โชนห่างเหินมึงขนาดไหน
มึงก็ยังเฝ้าซื่อสัตย์ในความรักของมึง มึงไม่เคยเปิดใจมองเลยว่าตลอดเวลาที่คบกัน
กูพยายามทำดีเพื่อมึงแค่ไหน กูไม่เคยทำอาหารให้ใครกินกูก็แอบไปฝึกเรียนเพื่อมาทำให้มึงกิน
กูไม่เอาใจใครด้วยการตื่นแต่เช้ามาเพื่อบีบยาสีฟันให้ใคร
กูก็ทำให้มึงเพียงคนเดียว กูไม่เคยคิดจะซักผ้าให้ใคร
แม้แต่เสื้อผ้ากูเองก็ก็ยังส่งเขาซัก แต่เสื้อผ้ามึงทุกตัวที่มึงทิ้งไว้ยังห้องกู
กูยอมซักให้มึงด้วยความเต็มใจ กูไม่รู้หรอกว่ามึงจะคิดเหมือนกูมั้ยว่าการทำอะไรๆ
ให้คนที่หัวใจแอบรัก มันทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น สิ่งเหล่านั้นที่กูทำให้มึงมันออกมาจากหัวใจกูจริงๆ
แต่กูแสดงออกหรือบอกมึงไปเท่าไหร่มึงก็คงไม่เข้าใจ
เพราะภาพกูในสายตามึงคือกูมันเป็นคนเจ้าชู้ ส่ำส่อน นอนกับใครไม่เลือก
แต่มึงรู้อะไรมั้ยว่าภาพคนไม่เอาไหนแบบนั้นของกูที่ฝังอยู่ในจินตนาการของมึง
มันไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของกูเลยสักนิด
มึงจะเถียงว่าการที่มึงต้องคิดไปแบบนั้นเพราะกูแสดงออกมาให้มึงเห็นเองก็ไม่ผิด
แต่กูจำเป็นต้องแกล้งแสดงออกให้มึงเห็นแบบนั้น
เพราะเห็นว่ามึงมีคนที่มึงกำลังคบกำลังคุยอย่างโชน
กูเจ็บปวดทุกครั้งที่มึงเอาเรื่องโชนมาปรึกษากู
กูน้อยใจทุกครั้งที่มึงเคว้งจากโชนแล้วค่อยคิดถึงกู
แต่ในความน้อยใจของกูก็เต็มใจที่จะอ้าแขนรับมึงทุกยามทุกเวลา
ในตอนนี้เมื่อเราต้องห่างกันแล้วกูขอบอกมึงเอาไว้ตรงนี้ว่า
เรื่องจริงของกูก็คือเกิดมากูไม่เคยนอนกับใคร
ไม่เคยกอดกับใคร ไม่เคยจูบกับใคร มึงเป็นคนแรกที่กูกอดด้วย จูบด้วย ยอมเสี่ยงตายด้วย
มึงคงคิดอยู่ใช่มั้ยว่ากูยอมเสี่ยงตายเพื่อมึงตอนไหน
มึงจำวันที่เราไปกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันได้มั้ย มึงไม่ชอบลูกชิ้นกุ้ง
มึงบ่นที่เห็นลูกชิ้นกุ้งเต็มชามมึงทั้งๆ ที่มึงบอกเขาแล้วว่าไม่เอา
วันนั้นล่ะที่กูยอมเสี่ยงตายกินเพื่อมึง เพราะแท้จริงแล้วกูเป็นคนแพ้กุ้ง
แล้วที่กูรีบหนีจากมึงตอนกินเสร็จกูไม่ได้นัดใคร กูอยากอยู่ต่อกับมึงใจจะขาด
แต่กูอยู่ไม่ได้เพราะกูเริ่มมีอาการแพ้จนเริ่มจะหายใจไม่ออก
กูฝืนยืนพูดกับมึงเพื่อให้สบายใจ
กูเกือบขับรถไม่ไหวกว่าจะไปถึงโรงพยาบาลเพื่อให้หมอฉีดยาแก้แพ้ให้กับกู
กูสลบอยู่ที่โรงพยาบาลจนเกือบจะถึงตีสอง
รู้สึกตัวกูก็โทรหามึงเป็นคนแรก แต่มึงก็ยังเสือกคิดว่ากูอยู่ในผับในบาร์

แล้วในวันที่กูพามึงไปส่งที่ห้องหลังว่ายน้ำกัน เพลงที่เปิดในรถกู
มึงถามกูว่าเพลงหวานขนาดนั้นกูฟังได้ด้วยเหรอ
คำตอบคือกูไม่เคยฟัง แต่กูอยากส่งผ่านเนื้อหาให้มึงซึมซับว่าแท้จริงแล้วกูรู้สึกยังไงกับมึง
แต่สุดท้ายมันก็เข้าไม่ถึงใจมึงจนได้ มึงยังเฝ้าคิดถึงโชน
กูถึงต้องอ้างว่ากูอยากให้มึงสื่อเพลงนั้นถึงโชน
ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วมันเป็นเพลงที่กูต้องการเลือกเปิดให้มึงฟัง
จากคนที่แอบรักมึงมาตลอดอย่างกู ในวันที่มึงงอแงโกรธกู หนีหน้ากูที่ฟิตเนส
ที่กูขอเข้าไปช้าเพราะอ้างว่าต้องเข้าบ้าน แท้จริงแล้วกูติดงาน
กูเป็นคนมีงานทำเป็นที่ฟรีแลนด์ที่ปรึกษาวางโครงสร้างทางการตลาดให้กับบริษัทเอกชนในหลายที่
กูไม่ได้อยู่อย่างเลื่อนลอยอย่างที่มึงเข้าใจ
แต่กูไม่รู้จะบอกมึงตอนไหน และเพื่ออะไร ในเมื่อกูไม่ใช่คนที่อยู่ในสายตามึง

วันนั้นกูติดประชุมด่วน เลิกเสร็จกูก็รีบตามเข้ามา เพื่อมาหามึง
แต่มึงเจอกับซีก่อนกู มึงหนีหน้ากู ไม่คุยกับกู
มึงบอกว่านัดกับกับโชน กูควรโกรธมั้ยทั้งๆ ที่กูรีบมาแทบตายแต่มึงก็เอาแต่งอแงใส่กู
กูเอาใจซีหวังเพื่อประชดมึงบ้าง แต่สุดท้ายกูก็ทำไม่ลง
วันนั้นมึงหนีกลับออกจากฟิตเนสก่อนกูก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม
กูไม่ได้อยากอยู่ใกล้ซี กูหนีซีออกมา ซีไม่ได้เจอคนรู้จักแล้วหนีกูไป
กูไม่ได้คิดอะไรกับซี เหมือนวันแรกที่กูเข้าหาซีเพราะอยากทดสอบใจมึงบ้างว่ามึงจะหึงกูมั้ย
แต่มึงก็ไม่ได้รู้สึกอะไร มึงคิดจะกลับ กูก็คิดผละหนีจากซีเหมือนกัน
กูหวงกูรักมึงแค่ไหนมึงไม่รู้หรอก วันนั้นมึงถอดเสื้อคิดจะอาบน้ำ
กูหวั่นไหวต่อสายตาคนที่มองมึงมาจึงพาลคิดว่ามึงอยากโชว์หุ่นให้ใครเขามอง
พยายามส่งสายตาหึงหวงให้มึงแล้ว แต่มึงก็ไม่ได้รู้สึกตอบรับอะไรกลับมาเลย

ในวันที่มึงไม่สบาย กูอยากดูแลมึง แต่มึงต่อต้านกูท่าเดียว
จนกูต้องบอกให้มึงนอนหลับ เพื่อที่กูจะได้ขับรถพามึงไปโรงพยาบาลได้โดยที่มึงไม่ขัดใจกู
แต่มันก็ดันตลกที่เหมือนกูพามึงไปเจอโชนที่นั่น
มึงรู้มั้ยว่ากูปวดใจแค่ไหนที่ต้องหลบไปนั่งมองมึงกับโชนคุยหยอกล้อกัน
กูจำใจพูดประชดมึงเพราะคิดว่ามึงคงเห็นโชนดีกว่ากู
และอยู่ดูแลมึงในฐานะแฟนตัวจริงของมึง
กูไม่ได้คิดจะทิ้งมึง กูเพียงเดินออกไปที่รถเพื่อไม่ให้มึงเห็นว่ากูเองก็น้อยใจเสียใจ น้ำตาไหลเป็น
กูรีบเดินกลับเข้ามาหามึงตอนที่กูเห็นโชนเดินออกไปจากโรงพยาบาลพร้อมใครที่กูไม่รู้จัก

ตอนกูไปส่งมึงที่ห้องหลังออกจากโรงพยาบาล การที่กูเลยเถิดกับมึงตอนที่เราจูบกัน
เพราะกูห้ามใจกูไม่ไหวจริงๆ และกูก็คิดแล้วว่ามึงกับโชนคงไปกันไม่รอด
เพราะขนาดมึงไม่สบายแต่โชนก็กลับหนีหายไปจากมึง
แต่มึงก็ปฏิเสธกู ทั้งๆ ที่การแสดงออกออกมึงมันชัดอยู่ว่ามึงต้องการกู
กูเสียใจ น้อยใจเพราะคิดว่ามึงคงยังรู้สึกผิดกับโชนที่เหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรมึงเลย
แล้วที่กูไม่ยอมเข้าใกล้มึงอีกเพราะกูกลัวกูห้ามใจตัวเองไม่ไหว
กูอยากให้ครั้งแรกของมึงกับกูมันเกิดขึ้นด้วยความรู้สึกโหยหากันจริงๆ
เหมือนเช่นตอนแรกที่มึงไม่ขัดขืนกู แล้วตอนนั้นลูกค้าก็ส่งไลน์มาปรึกษาเรื่องงานพอดี
กูจึงแยกไปคุยงานอยู่เป็นนาน มึงขอร้องให้กูหยุดคุย แต่กูยังสรุปงานกับลูกค้าไม่ได้
กูเลยคิดกลับไปคุยที่คอนโดต่อ เพราะขืนกูคุยอยู่ห้องมึง มึงก็คงจะไม่ได้นอนพัก
แต่กูไม่รู้จะบอกมึงยังไง เพราะในความเข้าใจของมึงกูมันก็แค่คนว่างงาน
กูเลยเอ่ยพาลๆ กับมึงไปแบบนั้น อีกอย่างเรื่องกูทำงานหรือไม่ทำงานก็ไม่น่าจะมีผลอะไรในสายตามึงเท่าไหร่
เพราะในใจมึงเฝ้ารอแต่โชนอยู่ตลอดเวลา กูเลยไม่คิดจะบอกมึงเรื่องนี้

เงินค่ารักษาพยาบาลแม่ที่กูบอกว่าเป็นเงินเก็บระหว่างเรียนของกู
จริงๆ แล้วส่วนหนึ่งมันคือเงินเก็บจากการทำงานของกู
กูคงไม่บอกมึงหรอกว่าเท่าไหร่ เพราะกูไม่คิดเอาคืน
เงินนั่นกูฝากน้าเนียมจัดการ น้าเนียมคอยแจ้งข่าวแม่กับกูตลอดเวลา
กูไม่ได้ละเลยแม่อย่างที่มึงเข้าใจ เรื่องที่แม่เสีย น้าเนียมเองก็เพิ่งจะแจ้งกูในวันที่สอง
เพราะวันแรกน้าเนียมบอกไม่เห็นกูมา ที่น้าเนียมแจ้งกูวันที่สองเพราะคิดว่าวันแรกมึงจะแจ้งกูมา
ถึงตรงนี้กูคงไม่ต้องบอกอะไรมึงอีก เพราะไม่แน่ว่ามึงจะอ่านถึงบรรทัดนี้หรือเปล่า
และถึงแม้มึงอ่านจบถึงก็อาจจะคิดว่ากูแต่งเรื่องโกหกมึงอยู่ก็สุดแล้วแต่มึงจะคิด
แต่กูขอยืนยันว่าข้อความที่กูพิมพ์ส่งมาให้มึงทั้งหมดนี้
กูพิมพ์มันออกมาด้วยหัวใจของคนที่รักและหวังดีกับมึงจริงๆ

รักษาตัวรักษาใจ วันใดวันหนึ่งใจกูกับใจมึงอาจได้ใกล้กันมากกว่าที่เราเป็นตอนนี้
แม้มันอาจเป็นไปได้ยากแล้วก็ตามที รักมึงนะ

น้ำตาผมไหลไม่หยุดตอนที่ได้อ่านทุกตัวอักษรที่ธันว์มันส่งมา
นึกย้อนเหตุการณ์ต่างๆ ก็รู้สึกเสียใจไม่น้อยที่ไม่ยอมเปิดใจคุยกับธันว์มัน
ตั้งแต่ต้นตอนผมกับโชนตกลงจะเลิกคบกัน
หากวันนั้นผมเอ่ย ผมพูดอะไรออกไปตามความรู้สึกแท้จริงของตัวเอง
ผมกับธันว์อาจจะไม่เดินมาถึงในจุดนี้
จุดที่เส้นขนานเกิดขึ้นระหว่างใจผมกับใจมัน

ลางสังหรณ์อะไรบางอย่างทำให้ผมรีบลุกวิ่งออกจากห้องเพื่อไปหาน้าเนียม
เจอหน้าน้าผมตัดสินใจถามทันที

“น้าเนียมครับ บอกไนท์ได้มั้ยว่าธันว์มันจ่ายค่ารักษาแม่ไปเท่าไหร่”

น้าเนียมมองหน้าผม เอ่ยบอกตัวเลขผมมา ทำเอาผมตัวชา

“ก้อนแรก 3 แสน แล้วก็ติดต่อโอนมาให้อยู่เรื่อยๆ รวมๆ
น่าจะราวๆ อีก 2 แสนกว่าๆ ก่อนแม่ไนท์จะเสีย
น้ายังไม่มีเวลาดูตัวเลขจริงๆ จังๆ แต่รวมแล้วๆ
ไม่ต่ำกว่า 5 แสนแล้วล่ะที่ธันว์เขาช่วยแม่ไนท์เอาไว้ 
คิดว่ารอเสร็จงานศพแม่ไนท์ถึงจะพูดคุยหารือกับพี่น้องคนอื่นๆ
ว่าจะคืนธันว์เขายังไง นี่ไนท์ไม่รู้เรื่องนี้เหรอ
ไหนธันว์บอกน้าว่าคุยกับไนท์เรื่องนี้ไปแล้วไงตอนน้าปฏิเสธจะไม่รับ
เพราะมันมากไป กลัวใช้คืนไม่ไหว เพราะในอนาคตธันว์เขาบอกว่าจะโอนมาช่วยอีกเรื่อยๆ
เรื่องใช้คืนอย่าเพิ่งพูดถึง ตอนนี้ขอแค่ให้แม่ไนท์หายหรือไม่โคม่าก็พอ
แล้วเมื่อกี้ทะเลาะอะไรกันมาหรือเปล่า ธันว์ถึงได้เดินตาแดงออกมาแล้วกลับกรุงเทพฯ
ไปแบบนั้น น้าถามก็บอกว่าที่บ้านมีปัญหาให้กลับไปจัดการ
ซึ่งน้าคิดว่าไม่น่าใช่ แต่น้าก็ไม่อยากเซ้าซี้อะไรมาก
ที่ผ่านมาธันว์เขามีน้ำใจช่วยค่าฟอกไตแม่ไนท์มากจนเกินที่น้าจะเรียกให้เขาอยู่ร่วมงานเผาแม่ไนท์ได้อีก
แม้จะอดเป็นห่วงเขาอยู่ว่าขับรถกลางค่ำกลางคืนมันอันตรายนักก็เถอะ
แล้วนี่ไนท์ก็เหมือนจะร้องไห้มาด้วยนี่ นี่เพราะทะเลาะกับธันว์เขาหรือคิดถึงแม่น่ะเรา”

หลังน้าเนียมพูดจบผมใจกระตุกอย่างประหลาด
นึกถึงถ้อยคำที่ธันว์มันส่งมาระบายความในใจต่างๆ ให้ผมรับรู้
คิดว่าตอนนี้จิตใจมันคงไม่ปกติเท่าไหร่ แล้วมันต้องขับรถทางไกลในยามค่ำคืนแบบนี้
มันไม่น่าใช่เรื่องดีแน่ นี่มันจะขับไปไกลหรือยังนะ
ถ้าผมจะติดต่อขอร้องให้มันกลับมาหาผมตอนนี้มันจะมามั้ย ขอให้ธันว์มันเชื่อผมอีกสักครั้งเถอะ

ผมแยกตัวออกมาจากน้าเนียม รีบติดต่อหาธันว์ทันที
ในความรู้สึกตอนนี้นึกห่วงมันสุดหัวใจ
ถ้าหากคืนนี้มันกลับมาหาผม
ผมพร้อมที่จะเปิดใจคุยกับมันทุกเรื่องที่มันไม่รู้เกี่ยวกับผมเช่นกัน

ผมใจหายอยู่ไม่สุขเมื่อผมติดต่อไปหาธันว์
แต่ไร้ซึ่งสัญญาณจากปลายสาย นี่ธันว์มันไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย
ในใจผมครุ่นคิด ธันว์มันคงแค่ปิดเครื่องหนีผม

ใช่ มันคงแค่น้อยใจและเสียใจในการกระทำและคำพูดที่ผ่านมาของผม
มันคงแค่อยากพักหัวใจระหว่างขับรถ มันคงไม่ได้เป็นอะไร

แม่ หากแม่ได้ยินไนท์ แม่ช่วยดูแลคุ้มครองให้ธันว์มันปลอดภัยในท้องถนนจนผ่านค่ำคืนนี้ไปได้ทีนะ

ผมภาวนาขอให้แม่ผมตามคุ้มครองธันว์ในตอนที่จิตใจผมเริ่มว้าวุ่น
เป็นห่วงว่าที่สัญญาณโทรศัพท์จากธันว์ขาดหายไปเกิดจากที่ธันว์มันปิดเครื่องเอง
หรือเพราะว่าธันว์มันประสบสิ่งใดขณะขับรถทางไกลในตอนมืดที่จิตใจไม่เป็นปกติ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 22-01-2018 09:27:36
คืนทั้งคืนผมนอนไม่หลับ เพราะเฝ้าติดต่อธันว์ไป แต่ติดต่อไปยังไงก็ไม่สามารถติดต่อได้
ผมไร้หนทางที่จะรับรู้ความเป็นไปของธันว์เสียสนิท
เมื่อผมไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวมันเลย
เพื่อนมัน ครอบครัวมันเป็นใครกันบ้าง ผมไม่ได้รู้จักใครเลยสักคน

เช้าวันต่อมา ซึ่งเป็นวันเผาศพของแม่
ผมพาร่างอิดโรยเพราะไม่ได้นอนมาช่วยญาติๆ จัดเตรียมงาน
ผมพยายามตัดธันว์ออกไปในห้วงความคิด
เพราะช่วงเวลานี้ทั้งผมและญาติๆ ต่างตกอยู่ในภาวะความเศร้าโศกเสียใจกันอีกครั้ง

โชน ไอซ์ ต้าร์ มาร่วมงานตามสัญญา สายตาผมมองหาใครบางคน
ซึ่งนั่นก็คือธันว์ ผมแอบมีความหวังว่าธันว์มันจะมาร่วมงาน
แต่ว่างเปล่า ณ ตอนนี้ ไม่มีเงาของธันว์โผล่มาให้ผมเห็นเลย
และตั้งแต่เมื่อคืนจนป่านนี้ผมก็ยังติดต่อมันไม่ได้
จนงานดำเนินมาถึงในช่วงเวลาจะนำร่างแม่ผมขึ้นเมรุเผา
ผมแยกตัวตัวออกมายืนเงียบๆ ความรู้สึกทั้งห่วงหาถึงแม่และเสียใจเรื่องธันว์พัดผ่านเข้าสู่กลางใจผม
จนผมทำให้ผมน้ำตาไหลได้อีกครั้ง เป็นน้าเนียมเองที่เดินมาปลอบผม

“แม่ไนท์เขาหมดเวรหมดกรรมแล้ว ทำใจเถอะนะไนท์ ชีวิตยังต้องเดินไปข้างหน้า
อย่าทำให้แม่ต้องห่วงนะ ต่อไปแม้แม่ไม่อยู่แต่น้าและพวกญาติๆ ก็ยังอยู่
ที่นี่ยังเป็นบ้านของไนท์อยู่เช่นเดิม พวกเราจะดูแลไนท์ตามที่แม่ไนท์ขอไว้นะ”

“ครับน้าเนียม” ผมบอกน้าเนียมทั้งน้ำตา ก่อนที่น้าเนียมจะเอ่ยถึงธันว์ให้ใจผมต้องกระตุกขึ้นมาใหม่

“จนป่านนี้ธันว์ไม่น่าจะมาแล้วเนอะ ตอนแรกน้าก็แอบหวังนะว่า
เขาจะมาส่งแม่ไนท์เป็นครั้งสุดท้ายในฐานะที่เขาเป็น
คนออกค่ารักษาแม่ไนท์มากที่เพียงสุดคนเดียว”

“จากนี้ไปธันว์มันคงไม่ได้มาที่บ้านเราแล้วล่ะครับน้าเนียม”
ผมเอ่ยออกมา น้าเนียมทำหน้าแปลกใจถามถึงสาเหตุ
ผมถึงยอมบอกว่าเมื่อคืนผมกับธันว์
เอ่ยตัดขาดความสัมพันธ์จากกันและกันจนธันว์มันต้องหนีกลับกรุงเทพฯ ไป

“น้าว่าละ เฮ้อ เพื่อนดีๆ สักคนที่คอยช่วยเหลือเราในยามลำบากใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ นะไนท์
ไนท์เองก็ไม่น่าจะใจร้อนอะไรใส่ธันว์เขาเลย” น้าเนียมเอ่ยว่าหลังฟังผมเล่าเรื่องราวจบ
ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมาต่อธันว์อีกครั้ง
ตั้งใจว่าหลังจากเสร็จธุระในเรื่องงานศพแม่
ผมจะต้องหาทางติดต่อหาธันว์เพื่อคุยกับมันอย่างเปิดใจในทุกเรื่องให้ได้

“ไนท์พลาดไปแล้วครับน้าเนียม
ก่อนหน้านั้นไนท์ไม่เคยรู้เลยว่าธันว์มันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของไนท์
ไนท์เอาแต่ใจตัวเองเป็นหลัก
ไนท์เอาแต่หวาดกลัวกับสิ่งที่คิดไปเองจนมองไม่เห็นว่าธันว์มันทำอะไรเพื่อไนท์มากแค่ไหน
ธันว์มันอยู่ใกล้ไนท์มากกว่าใคร แต่ไนท์ก็ทำตัวให้มันรู้สึกว่ามันอยู่ไกลไนท์มากกว่าคนอื่น
ที่ผ่านมาธันว์มันพยายามเข้าใกล้ไนท์ตลอด
แต่ไนท์เองที่ทำตัวให้มันต้องไกลออกไปเอง
หากไนท์มีโอกาสไนท์ก็อยากจะขอโทษธันว์มัน
แต่ก็ไม่รู้มันจะรับฟังไนท์บ้างหรือเปล่า
เพราะจากเหตุการณ์เมื่อคืนมันคงเหนื่อยกับไนท์มากจนมันอาจจะหนีหายไปจากไนท์ไม่ให้ไนท์ติดต่อได้แล้วก็ได้
เพราะจนป่านนี้ไนท์ยังติดต่อมันไม่ได้เลย ไม่รู้ว่ามันจะขับรถถึงบ้านอย่างปลอดภัย
หรือเป็นอะไรไปอย่างที่ไนท์ไม่อยากให้เป็น”

ถึงตอนนี้ผมรู้สึกสะท้อนใจจนน้ำตาพาลจะไหลลงอีกครั้ง
แต่ดีที่น้าเนียมช่วยปลอบใจไม่ให้ผมคิดมาก

วันนี้ ตอนนี้ ควรให้ผมหน้าที่ลูกที่ดีร่วมส่งวิญญาณแม่ขึ้นสวรรค์ด้วยจิตใจปล่อยวางไปก่อน
หลังจากนั้นน้าเนียมจะหาทางช่วยติดตามหาตัวธันว์อีกแรง
เพราะยังมีภาระการใช้คืนเงินค่ารักษาแม่ให้กับธันว์

น้าเนียมพาผมกลับเข้าไปหาญาติๆ เมื่อพิธีเผาศพแม่กำลังจะเริ่มขึ้น
โชน ไอซ์ ต้าร์ เข้ามาอยู่ข้างๆ ผม ทุกคนร่วมปลอบใจผมในตอนที่
ผมเผลอร้องไห้ออกมาอีกครั้งขณะร่วมพิธีเผาศพของแม่จนนาทีสุดท้าย
ทั้งหมดช่วยให้ผมไม่ต้องฟูมฟายมากนัก
จนงานผ่านลุล่วงไปด้วยดี สามคนเดินทางกลับหลังเสร็จงานเช่นเคย
โดยที่ผมเดินออกมาส่งทั้งสามยังลานจอดรถหน้าวัด
เมื่อทั้งหมดหายขึ้นรถและขับออกไปกันหมดแล้ว
น้าเนียมจึงตามมาพูดคุยกับผมอีก

“เหนื่อยมั้ยไนท์ อีกนิดนะ ทำหน้าที่ลูกที่ดีเพื่อแม่จนเสร็จ
แล้วเราค่อยหาทางติดต่อธันว์กันนะวันนี้ไนท์กลับไปพักเถอะ
แลดูล้ามาทั้งวัน พรุ่งนี้เช้าเรายังต้องมาเก็บกระดูกแม่ไนท์กันอีก
ไม่แน่ พรุ่งนี้เราอาจติดต่อธันว์ได้แล้วก็ได้”

ผมยิ้มจางๆ ให้น้าเนียม ตั้งใจเอาว่าจะอยู่ที่บ้านช่วยธุระเรื่องงานศพแม่
จนเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้วค่อยกลับไปทำงาน
ซึ่งก็น่าจะครบเจ็ดวันที่ผมกลับมาอยู่ที่บ้านนี้พอดี

เช้าวันใหม่ ผมยังติดต่อธันว์ไม่ได้อีกเช่นเคย
ถามน้าเนียม น้าเนียมเองก็เริ่มมีสีหน้ากังวลว่าปกติธันว์ไม่ได้หายไปเลยแบบนี้
แล้วอย่างนี้ ทางครอบครัวจะติดต่อขอคืนเงินยังไง
แม้ไม่ได้คืนทั้งหมดในคราวเดียว แต่ก็อยากพูดคุยเอาไว้เพื่อหาทางผ่อนชำระเป็นงวดๆ ไป
การที่ธันว์หนีหายไปแบบนี้ สร้างความไม่สบายใจได้อยู่ไม่น้อย

“เดี๋ยวพอไนท์กลับไปทำงาน ไนท์จะไปตามหามันในที่ที่คิดว่าธันว์มันไปประจำนะครับน้าเนียม
ไนท์ว่าไนท์อาจจะเจอมันที่นั่น น้าเนียมอย่าเพิ่งคิดอะไรมากนะครับ
เดี๋ยวพอไนท์เจอมัน ไนท์จะให้มันติดต่อมาหาน้าเนียมเอง
ส่วนไนท์เอง หากมันไม่อยากติดต่อพูดคุยด้วยอีกไนท์ก็คงต้องรับสภาพไป”
ผมยิ้มเศร้าๆ บอกน้าเนียม น้าเนียมยกมือขึ้นตบบ่าผมเหมือนให้กำลังใจ

หลังเสร็จงานศพของแม่ทุกขั้นตอน ผมเดินทางกลับเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง
ธันว์ยังไร้ซึ่งการติดต่อกลับมา ผมติดต่อไปก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน

วันแรกของการทำงานผ่านพ้นจากเช้าจรดเย็น
ผมไม่รอช้าที่จะเดินทางไปยังฟิตเนสที่ประจำของผมกับธันว์
หากไม่เจอมันค่อยคิดตามหามันที่คอนโดอีกที ผมไม่ได้เป็นสมาชิกที่นั่นแล้ว
ผมจึงได้แค่เฝ้ารอยังทางเข้าออก หวังเพียงจะเจอกับธันว์มัน

ในระหว่างรอ ผมเฝ้าครุ่นคิดถึงเรื่องราวมากมายที่ผมกับธันว์เคยผูกผันสานก่อกันในที่แห่งนี้
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และถ้อยคำหยอกเหย้าต่างๆ ของธันว์ผุดขึ้นในมโนภาพผมเป็นฉากๆ
นับจากวันที่สุดท้ายที่ผมติดต่อธันว์มันไม่ได้ระยะเวลาก็ไม่ได้ยาวนานอะไร
แต่ทำไมจิตใจผมตอนนี้ถึงคิดว่ามันนานเหลือเกินจัง
หรือผมกำลังคิดถึงมันจนยากจะควบคุมใจตัวเองได้แล้ว

เวลาผ่านไป หลายต่อหลายคนเดินผ่านหน้าผมไป ทั้งคนที่ผมรู้จัก
และไม่รู้จัก ทั้งได้ทักทายกันบ้าง ทั้งได้แค่มองกันเฉยๆ
แต่ในคนกลุ่มนั้นไม่มีร่างของธันว์ผ่านตามาให้ผมเห็นเลย
จนผมคิดจะไปหามันที่คอนโด แต่แล้วก็เป็นซีที่เข้ามาทักผมในตอนที่ผมกำลังจะออกเดิน

“พี่ไนท์ มายืนทำไมตรงนี้ครับ ทำไมไม่เข้าไปในยิม
แล้วพี่ไนท์หายไปไหนมาเหรอครับ ไม่เจอหลายวันเลย”
ซีถามผม ผมตอบคำถามซีไปว่ากลับบ้านยังต่างจังหวัด
และตอนนี้กลับมารอเจอธันว์ ผมบอกซีว่าไม่อยากเข้าไปข้างใน
เพราะผมยกเลิกสัญญาการเป็นสมาชิกไปแล้ว

ซีมองหน้าผมนิ่ง สักพักสิ่งจึงเอ่ยออกมาทำให้ผมตัวชา ใจกระตุก

“ถึงว่าซีไม่เห็นพี่ไนท์ในงานพี่ธันว์”

“งานธันว์ งานอะไร” ผมถาม รู้สึกใจสั่น ก่อนจะนิ่งงันไปชั่วอึดใจในคำตอบที่ซีตอบกลับมา

“งานศพพี่ธันว์ครับ พี่ธันว์รถคว่ำตายขณะขับรถกลับจากจันทบุรี
ถ้าจะให้ซีเดา น่าจะเป็นคืนที่พี่ธันว์กลับจากงานศพแม่พี่ไนท์หรือเปล่า
เพราะพี่ไนท์เคยบอกว่าพี่ไนท์อยู่จันทบุรี”

ผมตัวเซ เกือบจะล้มทั้งยืน โชคดีที่ซีเข้ายึดร่างผมเอาไว้
ก่อนจะพาผมไปหาที่นั่งเพื่อพูดคุย

“นายไม่ได้หลอกพี่ใช่มั้ยซีว่าไอ้ธันว์มันตายแล้ว”
ผมถามซีทั้งน้ำตา ซีพยักหน้ารับเศร้าๆ เอ่ยบอก

“ซีเองก็อยากให้มันเป็นเรื่องโกหกเหมือนกัน
พี่ธันว์ไม่น่าจากไปเร็วแบบนี้ พี่เขาเป็นคนดีคนหนึ่งที่ซีเคยรู้จัก
แต่เวลาที่ซีได้รู้จักและพูดคุยกับเขาไม่น่ามาจบลงเร็วแบบนี้
หากเลือกได้ ซียังพอทำใจง่ายกว่า หากซีกับพี่ธันว์ยุติการพูดคุยกันด้วยเหตุผลว่า
พี่ธันว์บอกว่าคนที่พี่ธันว์รักคือพี่ไนท์
อย่างน้อยๆ ซีก็อาจจะยังพอมีเวลาได้เห็นหน้า
ได้ยินเสียงพี่เขาบ้าง แต่นี่เล่นตายจากกันไปแบบนี้ ซีคิดว่ามันโหดร้ายต่อความรู้สึกซีเกินไป”
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 22-01-2018 09:36:09
ซีอธิบายต่อย่างยืดยาวอีก ถึงเรื่องราวที่เจ้าตัวแอบหลงรักธันว์ตั้งแต่พบเจอธันว์ยังฟิตเนสในวันแรก

ในวันนั้นไม่ได้คิดว่าธันว์จะเข้าหาตัวเองด้วยซ้ำ
เพราะเห็นว่าธันว์คอยคลอเคลียอยู่ข้างผมไม่ห่าง
ยังแอบคิดอยู่ว่าผมกับธันว์น่าจะเป็นแฟนกัน แต่พอธันว์มาแสดงออกว่าสนใจ
ก็ทำให้คิดเข้าข้างตัวเองว่าธันว์น่าจะมีใจให้ตนจริงๆ
แต่แล้วก็ต้องผิดหวังในตอนที่ธันว์ผละหนีจากและเดินตามผมไปยังห้องล็อกเกอร์

ในวันนั้นก็คิดทำใจเอาไว้แล้วว่าธันว์น่าจะรู้สึกกับผมมากกว่าคำว่าเพื่อน
จึงไม่ได้ตามตอแยอะไร แต่พอมาวันหลังที่เห็นธันว์มาเล่นฟิตเนสคนเดียว
จึงลองเข้าไปทำความรู้จักอีก เห็นธันว์พูดจาดีด้วยจึงแอบมีความหวังขึ้นมาใหม่
ซีสารภาพว่าแอบใกล้ชิดธันว์โดยร้องขอให้ธันว์ช่วยสอนเครื่องเล่นในฟิตเนสแห่งนั้นให้หลายตัว
รู้สึกละอายอยู่หลายครั้งที่ชิดร่างกับธันว์มากเกินไปแล้วธันว์บอกว่าอย่าทำแบบนี้
โดยบอกว่าที่ธันว์ยอมสอนเครื่องเล่นเพราะเห็นซีในฐานะแค่เป็นน้องใหม่ในยิม

ซีบอกตอนนั้นหลุดปากแซวว่ากลัวมีใครนำเรื่องมาฟ้องผมเหรอ
ธันว์บอกว่าไม่ได้กลัวใครฟ้อง แต่ธันว์มันเกรงใจผมเอง
ซีเลยถามกลับว่าผมกับธันว์ตกลงคบกันในฐานะอะไร
ธันว์บอกซีตามตรงในวันนั้นว่าธันว์มันชอบผม
แต่ผมมีคนคุยแล้วนั่นก็คือโชน แต่ความสัมพันธ์ยังไม่ชัดเจน
และหากซีอยากพัฒนากับมัน ก็ควรรอให้ผมกับโชนชัดเจนกันซะก่อน
ธันว์เองมันจะได้ทำใจยอมรับสภาพว่ามันคงคบผมได้ในฐานะแค่เพื่อน
ซีบอกว่าซีรับฟังในตอนนั้น แต่ยิ่งอยู่ใกล้ธันว์มากเท่าไหร่
ก็ยิ่งห้ามใจไม่ให้หลงชอบธันว์มันไม่ได้ ซีสารภาพว่าเคยทำเรื่องน่าอาย
โดยแกล้งโทรศัพท์คุยกับธันว์ให้ผมได้ยินในตอนที่เห็นผมในฟิตเนสเพียงลำพัง
ทั้งๆ ที่วันนั้นธันว์ไม่ได้อยู่ในสายเลย แต่ที่ทำไปหวังเพียงให้ผมกับธันว์ผิดใจกัน
เพื่อที่ธันว์จะได้ตัดใจจากผมได้ง่ายๆ ลุ้นในใจแทบตายว่าผมจะโทรศัพท์ไปเคลียร์กับธันว์มันตรงๆ หรือเปล่า
แต่สุดท้าย ผมก็ไม่ทำ ในตอนนั้นแม้จะรู้สึกละอาย
แต่เรื่องของหัวใจมันไม่เข้าใครออกใคร ซีบอกว่าธันว์ทำให้ตนนึกรักนึกชอบจนอยากจะครอบครอง

ในทุกๆ ครั้งที่ผมเห็นธันว์อยู่กับซี ซีบอกว่าธันว์ไม่ใช่คนโทรนัดซี
แต่เป็นซีเองที่ตามตื้ออยากเจอธันว์ แต่ทุกครั้งที่ผมตามมาเจอ
ธันว์ก็เลือกที่จะตามผมไปอย่างไม่ลังเล มีเพียงครั้งล่าสุดที่ซีสามารถตามธันว์ไปยังคอนโดได้

ซีบอกว่าไม่รู้ว่าผมมีปัญหาอะไรกันกับธันว์ แต่นั่นก็ไม่ได้นึกสนใจเท่ากับดีใจที่ปัญหานั่นทำให้
ซีเข้าใกล้ธันว์ได้มากกว่าทุกครั้งที่เคยผ่านๆ มา วันนั้น ซีบอกทำเรื่องน่าละอายอีกครั้ง
ตอนรู้ว่าผมโทรเข้าไปหาธันว์ จึงแกล้งพูดคุยกับธันว์เสียงดัง
หวังให้ผมได้ยินเสียงว่าตัวเองกำลังอยู่กับธันว์ยังคอนโด

ซีบอกแอบดีใจที่วันนั้นได้ยินธันว์เอ่ยตัดขาดความสัมพันธ์กับผม
แต่แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อหลังวางสายไป ธันว์เอาแต่นั่งร้องไห้ฟูมฟาย
เอ่ยระบายว่าตัวมันไม่ดีตรงไหน ทำไมผมถึงไม่ยอมเลิกรากับโชนซึ่งดูจะไม่สนใจผมเลย
แล้วเปิดใจให้มันลองเข้ามายืนแทนที่โชน
จากถ้อยคำที่ธันว์มันระบายออกมาทั้งหมดทำให้ซีรู้ว่าไม่มีทางไหนเลย
ที่ธันว์จะลืมผมได้ คืนนั้นจึงคิดจะตัดใจจากธันว์ และเอ่ยแนะนำให้ธันว์อย่าเพิ่งท้อในตัวผม
ซีเชื่อว่าในความดีของธันว์ที่ทำให้กับผม น่าจะทำให้ผมลืมโชนแล้วมาคบกับธันว์ในสักวัน
แต่มันก็น่าเสียดายที่วันนี้ธันว์ไม่มีโอกาสได้เฝ้ารอที่จะได้หัวใจผมแล้ว
ซีบอกว่าที่น่าเศร้าไปกว่านั้นคือ ธันว์จากไปอย่างไม่มีวันกลับโดยไร้ซึ่ง
คนที่มันรักสุดหัวใจอย่างผมมาเอ่ยร่ำลากับมันเลยสักวินาที

“ซีต้องขอโทษที่ไนท์ด้วยนะที่ซีเคยคิดจะเข้าไปแทรกความสัมพันธ์ของพี่ไนท์กับพี่ธันว์
แต่มันน่าอายตรงที่ซีทำไม่สำเร็จ ซีอยากให้พี่ไนท์เห็นจังว่าวันที่พี่ธันว์แข็งใจ
เอ่ยตัดขาดความสัมพันธ์กับพี่ไนท์ พี่ธันว์เขาอยู่ในสภาพไหน
พี่เขาเอาแต่ร้องไห้ ฟูมฟายอย่างที่ซีไม่คิดว่าจะได้เห็นว่าคนซึ่งมีบุคลิกอย่างพี่ธันว์จะเป็นไปได้ขนาดนั้น
จะว่าไป แม้พี่ธันว์เขาจะจากไปโดยที่พี่ไนท์ไม่ได้มาส่งเขาเลยสักวัน
ผมว่าหากพี่ธันว์รับรู้ได้ว่าวันนี้พี่ไนท์มาเฝ้ารอพี่เขาอยู่ในที่ที่พี่สองคนรู้จักกัน
ผูกพันกัน พี่เขาก็คงจะยิ้มยินดีอยู่บนฟ้านั่นล่ะ”

ขณะพูดนัยน์ตาซีแดงเรื่อ แต่ผมนั้นร้องไห้ออกมาแล้วอย่างไม่อายสายตาใครต่อใครที่เดินผ่านไปมา
ตลอดเวลาที่ธันว์มันไร้ตัวตนไป ผมคิดแค่เพียงว่ามันอาจหนีหน้าผมเพียงเท่านั้น
แต่ตอนนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ธันว์มันได้จากผมไปแล้วโดยที่ผมไม่มีโอกาสได้พูดคุยเปิดใจกับมันเลย
ทำไมล่ะ ทำไม อะไรๆ มันถึงสายไปแบบนี้
ธันว์มึงกลับมาสิ มึงกลับมาฟังคำขอโทษจากกูได้มั้ย มึงกลับมาได้มั้ยธันว์ มึงกลับมาได้มั้ย

ผมร้องไห้จนตัวโยน ร้อนถึงซีที่ต้องเข้าปลอบ ก่อนที่เราจะแยกกันไปในตอนที่ผมเริ่มดีขึ้น
ผมติดต่อบอกเรื่องนี้กับน้าเนียม น้าเนียมไม่ได้มีท่าทีตกใจ
เพียงแต่ถามว่าผมรู้เรื่องจากใคร ผมจึงบอกว่าคนรู้จักบอกผม

น้าเนียมจึงบอกว่าน้าเนียมก็ได้รับข่าวร้ายนี้ก่อนผมจากญาติของธันว์ที่
น้าเนียมหาทางติดต่อได้ในก่อนหน้าที่ผมจะโทรศัพท์มาแจ้งน้าเนียม
ผมขอช่องทางการติดต่อญาติของธันว์จากน้าเนียม
บอกอยากจะติดต่อไปหาญาติธันว์เพื่อที่ผมจะได้ทำบุญให้ธันว์
และอยากไปเอ่ยความในใจและเปิดเผยความจริงเรื่องผมกับโชนต่อหน้ามัน
ยังที่สุดท้ายที่มันอยู่ น้าเนียมให้เบอร์ติดต่อกลับมา
แต่ญาติของธันว์บอกขอเวลาไว้อาลัยต่อธันว์ตอนนี้เป็นของญาติๆ ไปสักพักก่อน
หากผมอยากจะไปยังที่เก็บกระดูกของธันว์ค่อยติดต่อไปสอบถามสถานที่กับทางญาติๆ มันอีกที
ผมยอมเข้าใจ แม้จะรู้สึกเศร้าใจอยู่ในที

น้าเนียมติดต่อกลับมาหาผมแจ้งวันทำบุญให้แม่
หากผมจะร่วมทำบุญส่งให้ธันว์ด้วย ก็น่าจะเป็นเรื่องดี
ผมจึงเดินทางกลับบ้านในวันเวลาที่น้าเนียมแจ้งมา

น้าเนียมตรงเข้ากอดผมในวันที่เจอหน้า
คงเห็นว่าร่างกายและหน้าตาผมดูอิดโรย
เพราะผมเพิ่งผ่านความรู้สึกสูญเสียคนที่ผมผูกพันในช่วงเวลาติดๆ กัน

“อย่าคิดอะไรมากนะไนท์ ทำใจให้สบายๆ นะ
เดี๋ยวจะพาลเป็นอะไรไปอีกคน” น้าเนียมปลอบผม น้ำตาผมไหลได้อีก
ภายในใจรู้สึกหวิวไหวจนยากจะควบคุม
เอ่ยพร่ำบอกกับน้าเนียมว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไรกับผม
ทำไมผมจึงต้องมาเจอกับเหตุการณ์การสูญเสียแบบนี้

“ไนท์ใจเย็นๆ นะ มาๆ ๆ เดี๋ยวน้าพาไปนั่งพัก
ไนท์ตัวเย็นมากเลย หน้าก็ซีดจนเหมือนคนจะไม่ไหวแล้วเนี่ย
แข็งใจไว้นะ สูดหายใจเข้าลึกๆ อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก
ธันว์กับแม่เขาไปสบายแล้ว สูดหายใจไนท์ สูดหายใจ ไนท์!”

ผมได้ยินสุ้มเสียงสุดท้ายของน้าเนียมที่ร้องเรียกผมเหมือนคนที่อยู่ในอาการตกใจ
แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างผมไม่สามารถรับรู้ได้อีก
เมื่อสติผมดับวูบลงจนโลกทั้งโลกมืดสนิท

ภายใต้แสงสลัวในบรรยากาศที่เย็นเยียบ
ผมไม่รู้ว่าผมกำลังเดินอยู่ในที่แห่งใด
บรรยากาศรอบกายมันเคว้งซะจนน่ากลัว
สักพักก็ต้องตกใจเมื่อขณะไล่สายตาเพื่อเสาะหาว่า
ร่างกายอันเบาหวิวของผมกำลังล่องลอยอยู่ ณ บริเวณใด
พลันได้ยินเสียงเรียกของคนคุ้นเคยสองคน

“ไนท์”

ผมหันไปมองยังทิศทางของเสียง สายตาผมไม่ได้ฝาดไป
ที่ตรงนั้นบุคคลสองคนที่กำลังยืนมองผมอยู่พร้อมส่งรอยยิ้มมาให้กับผม
คนหนึ่งนั้นคือแม่ผม ส่วนคนหนึ่งนั่นคือธันว์

“แม่ ธันว์” ผมเผลอครางเรียกชื่อคนสองคน
ซึ่งมีเพียงรอยยิ้มส่งให้ผมมา ผมไม่รอช้าที่จะตรงเข้าไปหาทั้งคู่
แต่ยิ่งเดินเข้าไปหาเท่าไร ทั้งแม่ทั้งธันว์กลับพาร่างไกลจากผมไปทุกที
จนผมต้องร้องเรียก

“แม่ ธันว์ จะหนีไนท์ไปไหน รอไนท์ก่อน แม่ ธันว์”

สองคนยิ้มให้ผม แต่ร่างสองร่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดรอผม
ผมจึงตัดสินใจสาวเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อตามให้ทันร่างสองร่างนั้น
แต่ยิ่งสาวเท้ามากเท่าไหร่ ร่างของธันว์กับแม่ก็ยิ่งห่างไกลผมมากไปเท่านั้น
ผมจึงตัดสินใจวิ่งพลางร้องเรียกคนทั้งคู่สุดเสียงพลางน้ำตาไหลอาบลงเต็มสองแก้ม

“แม่ ธันว์ รอไนท์ด้วย!”

ร่างของแม่กับธันว์หายวับไปกับตาในตอนที่ผมส่งเสียงร้องเรียก
ก่อนที่บรรยากาศอันเย็นเยียบจะหายไป
กลายเป็นอุณหภูมิปกติในตอนที่ผมดีดตัวลุกนั่งยังเตียงนอนในห้องสี่เหลี่ยม
ผมตัวชา ใจหายวาบไปอีกหนในตอนที่สายตามองเห็นร่างใครบางคนกำลังนั่งกุมมือผมอยู่

“ธันว์” ผมเอ่ยชื่อคนๆ นั้นออกมาเบาหวิว ธันว์มันยิ้มให้ผมนิดๆ
นี่มันคือเรื่องจริงๆ หรือความฝัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างตอนนี้มันน่าจะเป็นเรื่องจริง
เมื่อผมสัมผัสได้ถึงแรงบีบกระชับที่มือซึ่งธันว์มันส่งให้
ผมไม่รอช้าที่จะโผร่างเข้ากอดธันว์มันแน่น พลางร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกตื้นตันและงงงวย
ก่อนที่จะได้ยินถ้อยคำแรกจากธันว์มันส่งมาตอนกอดรับผมเอาไว้เช่นกัน

“ไม่เอาไม่ร้องไนท์ กูยังไม่ตาย กูอยู่นี่ กูอยู่นี่ ใจเย็นๆ นะ
ตอนนี้กูกลับมาหามึงแล้ว กูไม่ไปไหนแล้วนะ ไม่ร้อง ไม่ร้อง”
ธันว์มันลูบหัวผมปลอบใจ ผมยังไม่เข้าใจอะไรชัดดีจึงยังร้องไห้
สะอื้นอยู่แบบนั้น สักพักธันว์มันจึงเอ่ยขึ้นใหม่

“เข้าใจหรือยังว่าหากขาดกูไปสักคนมึงจะอยู่ยังไง
กูขอโทษนะที่ต้องให้ซี น้าเนียม และก็ญาติกูโกหกมึงว่ากูตายไปแล้ว
รวมถึงที่กูปิดโทรศัพท์หนีมึงไปด้วย
กูไม่ได้เป็นอะไร กูปลอดภัยดีทุกอย่าง มึงเลิกร้องนะ กูอยู่นี่แล้ว กูอยู่นี่แล้ว”

ผมผละร่างออกมาจากธันว์ มองจ้องแววตาของมัน
จะว่าโกรธก็โกรธที่มันคิดทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ จึงยกมือชกร่างมันทั้งน้ำตาปากก็ว่า

“มึงแกล้งกูไอ้ธันว์ มึงแกล้งกู มึงรู้มั้ยว่ากูเสียใจขนาดไหน
มึงทำแบบนี้ทำไม มึงทำให้กูเกือบตายไปอีกคนมึงรู้ตัวหรือเปล่า”

ธันว์มันรวบมือผมไว้ มองจ้องเข้าไปนัยน์ตาผมเอ่ยให้ผมฟังว่า
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 22-01-2018 09:41:55
“ถ้ากูไม่ทำแบบนี้กูคงไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วมึงแคร์กูแค่ไหน
ใจแข็งนักนะมึง ต่อหน้ากูทำเป็นไม่สนใจกู
ไล่กูสารพัด แต่พอลับหลังกู รู้ว่ากูตายจากไปแล้วร้องไห้เป็นเผาเต่า
กูน่าจะถ่ายคลิปตอนที่มึงนั่งร้องไห้ต่อหน้าซีเอาไว้นะ
มึงจะได้เห็นหน้าตัวเองว่ามึงฟูมฟายมากแค่ไหน
ไหนจะตอนที่มึงโทรบอกน้าเนียมด้วยท่าทีของคนอ่อนแรงอีก
นี่ไม่รวมที่ญาติกูบอกว่าเสียงมึงฟังดูไม่ดีเลยตอนที่กูให้ญาติโกหกว่าไม่ให้มึงมาบอกลากู
ไงล่ะ จะเก่งอะไรกับกูอีกมั้ย พอรู้ว่ากูตายถึงกับสลบได้แบบนี้
 ผูกพันกับกูมากกว่าแม่อีกนะมึงน่ะ น้าเนียมบอกว่าตอนแม่เสียมึง
ไม่เห็นต้องถึงขั้นสลบจนต้องหามเข้าโรงพยาบาลแบบนี้เลย
 ดีนะที่กูมารอมึงที่บ้านนี้อยู่ก่อนแล้ว ไม่งั้นคงไม่เห็นภาพอะไรดีๆ แบบนี้”

“มึงมันทุเรศไอ้ธันว์ มึงเอาเรื่องพวกนี้มาล้อเล่นกับกูได้ไง
มึงรู้มั้ยว่ากูเก็บเอาไปคิดขนาดไหน
เมื่อกี้ที่กูสลบอยู่กูเห็นว่ามึงอยู่กับแม่กูในความฝันจริงๆ
หากกูไม่ฟื้นขึ้นมา มึงนั่นล่ะที่จะเป็นฝ่ายเสียใจที่ล้อเล่นกับกูแผลงๆ แบบนี้”
ผมต่อว่าธันว์ ธันว์มันยิ้มแล้วยกมือขึ้นยีหัวผมเอ่ยขอโทษ

“กูก็ขอโทษแล้วไง แต่แค่เรื่องตายนะที่กูโกหกมึง
ส่วนเรื่องอื่นที่มึงรับรู้ทั้งจากที่กูพิมพ์ไลน์บอกมึง
จากน้าเนียม หรือที่ซีเอ่ยกับมึง มันคือเรื่องจริงนะ
กูเปิดใจให้มันขนาดนี้แล้ว ถึงเวลาแล้วมั้ยที่มึงจะเปิดใจให้กูบ้าง”

ธันว์มันจ้องลึกในแววตาผม ผมมองตามันกลับเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยออกมาเบาๆ

“เห็นกูเป็นขนาดนี้มึงยังจะให้กูพูดอะไรอีกอ่ะ”

“ไม่เอาดิ กูไม่อยากคิดไปเอง บอกให้กูฟังชัดๆ
ได้มั้ยว่ามึงจะยอมให้กูเข้าไปยืนใจมึงแทนที่โชนแล้ว”
ธันว์มันเหมือนจะงอแง ผมจึงเอ่ยแกล้งมันกลับว่า

“กูยังไม่ได้คุยกับโชนเรื่องนี้เลยนะ”

“มึงอย่ามาไอ้ไนท์ โชนบอกกูแล้วว่าโชนกับมึงเลิกคบกันตั้งแต่ก่อนที่
กูจะพามึงไปโรงพยาบาลแล้ว มึงนี่แม่งสุดๆ อ่ะ
ปิดกูเอาไว้เพื่ออะไร นี่ถ้ากูตายจากมึงไปจริงๆ ไม่ใช่แค่มึงที่ต้องเสียใจ
 แต่กูนั่นล่ะที่จะตายตาไม่หลับที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าคนใกล้ตัวอย่างมึง
กำลังเล่นเกมอ่านพฤติกรรมกูอยู่”
ธันว์มันว่ากลับมา ผมจึงถามว่ามันไปคุยกับโชนตอนไหน

ธันว์มันบอกว่าแท้จริงแล้ว มันมาร่วมงานเผาศพแม่ผม
แต่ไม่แสดงตัวให้ผมเห็น ทุกคนในงานเห็นมันหมด
ยกเว้นผม หนึ่งในนั้นก็คือโชนที่มันได้เจอจึงได้มีโอกาสเปิดใจคุยกัน
มันขอร้องให้โชนอย่าบอกผมว่ามันมาที่นี่
มันขอร้องน้าเนียมว่าให้แกล้งหลอกผมว่ามันหายไปจากการติดต่อ
ตอนมันมาแอบได้ยินว่าผมรู้สึกผิดต่อมัน และผมอยากขอโทษมัน

พอกลับกรุงเทพฯ มันคิดว่าผมคงมาตามหามันที่ฟิตเนสแน่
มันจึงลงทุนวางแผนกับซีเอาไว้ให้หลอกผมว่ามันรถคว่ำตายในคืนที่ขับรถกลับจากบ้านผม
ซึ่งซีก็ทำตามแผนการตอนที่เห็นผมมายืนด้อมๆ มองๆ รอมันยังทางเข้าออกฟิตเนส

จริงๆ วันนั้นมันก็มาที่ฟิตเนสพร้อมกับซี จึงให้ซีเอ่ยตามแผนที่วางเอาไว้
ซีเต็มใจช่วยเพราะอยากดูปฏิกิริยาว่าผมจะเป็นเช่นไรตอนรับรู้ข่าวร้ายแบบนั้น

ว่าไปมันก็ขอบใจซีที่ซียอมรับง่ายๆ ว่าคนที่ธันว์มันต้องการคือผม
และยอมเลิกราการตามตื้อสานสัมพันธ์กับมัน
มันรีบโทรเตรียมแผนกับน้าเนียมว่าน้าเนียมรู้ข่าวการตายของมันจากญาติมัน
เพราะคิดว่าผมคงโทรศัพท์แจ้งน้าเนียมอีกแน่
มันให้เบอร์ญาติมันกับน้าเนียมเพื่อให้ผมติดต่อไปทางญาติมันย้ำให้ผมแน่ใจว่ามันได้ตายไปแล้วจริงๆ
ก่อนที่สุดท้ายมันจะให้น้าเนียมโทรศัพท์ตามตัวผมกลับบ้านในตอนที่มันมารอผมที่บ้านเพื่อที่จะปรับความเข้าใจกับผมอีกรอบ แต่ก็ไม่คิดว่าผมจะเป็นลมหมดสติไปได้ขนาดนี้

“มึงนี่มันร้ายนะไอ้ธันว์”
ผมยกมือขึ้นชกธันว์มันอีกตอนฟังมันเล่าทุกอย่างจบ

“คนใจแข็งแบบมึงก็ต้องเจอแบบนี้ล่ะไอ้ไนท์ ว่าไง
เอ่ยให้ชื่นใจได้หรือยังว่าจากนี้ไปกูคือคนรักของมึง
ไม่ใช่เพื่อสนิทของมึงอย่างที่ผ่านๆ มา”
ธันว์รวบมือผมไว้ จ้องลึกเข้าที่ตาผมอีก ผมยังรู้สึกขัดๆ
 เขินๆ อยู่จึงเอ่ยออกไปสั้นๆ

“เออ ก็ได้”

“โห ไรวะ จะพูดจาหวานๆ ให้เราหน่อยก็ไม่ได้”
ธันว์ทำหน้างอแง ผมจึงบอกออกไปตามจริง

“ก็คนมันเขินนี่”

“ไม่ต้องเขินแล้วมั้ง เรื่องทุกอย่างมันชัดขนาดนี้แล้ว
งั้นถ้ามึงเขินกูพูดก่อนก็ได้อะ ฟังนะ”

ธันว์มันหยุดคล้ายรวบรวมประโยคที่จะเอ่ยออกมา
แล้วสุดท้ายมันก็เอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ

“ไนท์ ตกลงคบกับกูเป็นแฟนนะ
จากนี้ไปมีอะไรขอให้เราพูดจากันตรงๆ
อย่าได้ปิดบังอะไรกันอีก เมื่อถึงเวลาที่มึงกับกูต้องจากกันไปจริงๆ
จะได้ไม่ต้องมีใครจมอยู่กับความเสียใจ
เราจะได้คิดถึงกันด้วยความสุข ไม่ใช่ความเจ็บปวด เข้าใจมั้ยครับ”

ผมจ้องลึกในแววตาในแววตาของธันว์
ยอมเอ่ยออกไปตามความรู้สึกของหัวใจเช่นกัน

“ไม่มีเหตุผลที่กูจะต้องปฏิเสธมึงอีกแล้วธันว์
วันนี้กูรู้แล้วว่าการขาดมึงไปสักคนกูคงอยู่ไม่ไหว
ที่ผ่านมากูขอโทษที่งี่เง่าเอาแต่ใจ ยกโทษให้กูนะ
แต่ถึงกูจะเป็นแบบนั้น เรื่องซื่อสัตย์ต่อคนรักกูมีแค่ไหนมึงก็คงเห็น
จากนี้ไป ในเมื่อกูใช้คำว่าคนรักร่วมกับมึงแล้ว
กูก็จะขอให้ใจดวงนี้ของกูใกล้กับมึงเพียงคนเดียว”

ธันว์มันดึงร่างผมเข้าไปกอด พร้อมเอ่ยว่า

“ชื่นใจจัง นึกว่าชาตินี้ทั้งชาติจะไม่ได้ยินคำนี้ซะแล้ว
ที่ผ่านมาหากมีเรื่องไหนที่ทำให้มึงเคืองใจก็เกิดมาจากที่กูทำไปเพราะความน้อยใจเท่านั้น
จากนี้ไปเราเริ่มกันใหม่นะ อะไรที่เราสองคนทำไม่ดีต่อกันก็ถือให้มันเป็นบทเรียนให้เราสองคน
ไม่ต้องพลาดกลับไปทำซ้ำมันอีก แค่นี้เราสองคนก็น่าจะไปด้วยกันได้”

ผมกอดรับกับธันว์ ปล่อยให้หัวใจเราสองคนชิดกันในวันที่ไม่มี
สิ่งใดมาเป็นฉากกั้นความสัมพันธ์เช่นตอนก่อนหน้า

หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-01-2018 09:42:56
ไนท์ ได้รู้ความจริง ความในใจ ความรักของธันว์
ที่ไนท์คิดเอง เออเอง คนเดียวมาตลอด
 
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 22-01-2018 09:52:24

ท้องฟ้าใสเหนือหาดเจ้าหลาวซึ่งจรดโค้งลงจูบกับผืนน้ำทะเลสีครามเบื้องหน้า
แลดูมีเสน่ห์ชวนมอง ผมกับธันว์นั่งคู่กันอยู่ริมหาดใต้ร่มเงาแมกไม้
ในมุมหนึ่งของชายหาดชื่อดังของบ้านเกิดผมแห่งนี้
 ธันว์มันโอบกอดคอผมไว้ ใช้สายตาทอดมองยังภาพสวยงามเบื้องหน้า เอ่ยขึ้น

“อนาคตจะเป็นไปได้มั้ยไนท์ที่เราสองคนจะหลีกหนีความวุ่นวาย
ในเมืองใหญ่มาสร้างบ้านพักหลังเล็กๆ อยู่ด้วยกันที่ริมหาด
ทำมาหากินอย่างพอเพียงในวิถีชีวิตแบบชาวบ้านที่นี่”

“ก็น่าสนนะ แต่ขอให้กูใช้หนี้มึงให้หมดก่อนดีมั้ยค่อยว่ากัน”
ผมเอ่ยออกมา ธันว์มันกระชับร่างผมเอ่ยบอก

“ไม่เอาดิ อย่าพูดเรื่องนั้น ให้แล้วให้เลย แค่มึงไม่งอแง
ไม่ดื้อ ไม่ซน เชื่อใจกูบ้างแค่นี้กูก็ชื่นใจแล้ว
ถ้ามึงจะคืนกู กูขอแค่หัวใจมึงก็พอ อย่าแบ่งให้ใครไว้ใจกู
ให้กูดูแล นั่นแหละสิ่งที่กูต้องการ”

“ก็ให้ไปตั้งนานแล้วมึงอ่ะไม่รู้ตัวเองต่างหาก
วันๆ เอาแต่จะประชดกูเจ้าชู้ใส่คนนั้นคนนี้ไปเรื่อยอ่ะ”
 ผมว่ากลับ ธันว์มันหันมองหน้าด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ ผมจึงถาม

“มองอะไรอ่ะ”

“ก็ถ้าอยากให้รู้คืนนี้กูขอได้มั้ยล่ะ”

ธันว์ก้มลงเอ่ยเบาๆ แนบหูผม ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าว
แต่ตัวกลับเย็นจึงผลักมันออกจากร่าง รีบเดินหนีมันลงไปยังหาดทรายละเอียด
กำลังยืนรับลมทะเลที่โบกพัดมากระทบร่างก็ต้องตกใจที่อยู่ๆ
ธันว์มันวิ่งเข้ามาสวมกอดพาร่างผมวิ่งหายลงไปสัมผัสน้ำทะเลเบื้องหน้า
จังหวะนั้นคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้ามาหาเราสองคนแทบจะทันที
แต่น่าแปลกที่คลื่นลูกนั้นไม่สามารถทำให้ผมกับธันว์แยกร่างออกจากกันได้
ตรงกันข้าม เราสองคนต่างจับมือกันแน่นส่งสายและรอยยิ้มให้กัน
ดุจจะพาร่างรอก้าวผ่านเกลียวคลื่นลูกแล้วลูกเล่าที่พัดเข้ามาไปพร้อมๆ กัน
และด้วยหัวใจที่ผูกเชื่อมกันแน่นจนยากจะหลุด
ที่สุดคลื่นทะเลเหล่านั้นพ่ายแพ้แก่ความมั่นคงที่ธันว์และผมส่งมอบให้กันจนได้
สักพักผมและธันว์จึงลงเล่นน้ำทะเลกันจนหมดแรงทั้งสองคนแล้วพาร่าง
กลับขึ้นมานอนแผ่หราบนผืนทรายนุ่มละเอียดตอนน้ำทะเลลดลงไป

ธันว์มันเอื้อมมือมาจับมือผมไว้อีก
ผมกระชับจับกลับไป ก่อนที่เราสองคนจะหันมองหน้ากัน
ยิ้มให้กัน เอ่ยสัญญาว่าทั้งผมและมันจะดูแลหัวใจกันไปเช่นคนใกล้ชิด ใกล้ใจ ใกล้ตัว
ทั้งจากนี้และตลอดไป จนกว่าวันสุดท้ายของลมหายใจจะมาเยือน



จบบริบูรณ์

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับผลงานอีกหนึ่งเรื่อง

ผิดพลาดประการใดขออภัยเอาไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ

และขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

และก็ธรรมดา เรื่องหนึ่งจบไป เรื่องใหม่ก็ย่อมมาแทนที

จะเป็นแนวไหน ยังไง คลิกดูตัวอย่างกันได้เลยครับ


https://youtu.be/kcuar5nO_cY (https://youtu.be/kcuar5nO_cY)

ตอนนี้เริ่มเขียนไปได้นิดหน่อย
ยังไงอาจจะคอยกันนานสักนิดสำหรับการเอามาโพสนะครับ
เพราะขอตุนสต็อกเอาไว้ไม่ให้การโพสขาดช่วงน่าจะดีกว่า

มันเป็นงานเขียนที่น่าจะสาหัสเอาการ จึงอาจต้องเก็บรายละเอียดก่อนโพส

ฝากติดตามด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-01-2018 11:07:52
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 22-01-2018 11:15:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 22-01-2018 14:03:06
แอบใจหาย ตอนที่บอกว่าธันว์รถคว่ำ
สุดท้ายก็เข้าใจกันน้าาา
ขอบคุณคนแต่งค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 22-01-2018 15:37:13
ธันว์เอาเรื่องนี้มาล้อเล่นได้ยังไง!! //ตี
ตอนที่บอกว่าธันว์ตายนี่ใจหายจริงจัง ; __ ;
เนี่ยยย คุยกันตรงๆไม่อ้อมไปอ้อมมา ไม่ปากแข็ง แกล้งพูดนั้นนี่ก็ดีกันไปนานละ
ดีใจที่แฮปปี้กันสักทีน้าาาาา
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 22-01-2018 18:19:12
ขอบคุณค่ะสนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 22-01-2018 19:58:54
 :L2: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 22-01-2018 20:25:14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-01-2018 22:56:53
ืธันว์ ร้ายไม่เบานะ  :hao3:
แต่ธันว์ รักไนท์ขนาดนี้ ไนท์โชคดีจริงๆ
ธันว์ ไนท์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณคนแต่ง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 24-01-2018 00:20:10
ตอนรู้ว่าธันว์ตาย  :a5: ..
ให้ตายเหอะเราชอบ มันทำให้เรารู้สึกแบบนิยายก็ไม่ต้องจบแบบแฮปปี้ทุกเรื่องก็ได้ เรายินดีพร้อมใจรับ

หลังจากรู้ความจริงพร้อมไนท์  o22 :angry2:
ไม่โกรธธันว์ แต่แอบโกรธคนเขียน หลอกเราทำไม!! 55555+

ชอบค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 24-01-2018 21:58:02
ใจหายใจคว่ำนึกว่าจบแบบดราม่าซะแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-01-2018 14:21:33
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะครับ //แอบน้ำตามซึมตอนที่ซีบอกไนท์ว่าธันว์เสียชีวิตแล้ว T^T
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 25-01-2018 15:31:39
ในที่สุดก้อออ happy ending ดีจุยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 29-01-2018 04:21:39
เกือนจะร้อง ไห้ตอนที่ธันว์แกล้งไนท์ว่าตายซะแล้ว แต่ดีใจที่สุดท้ายก็ happy ending
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 05-02-2018 20:14:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 06-02-2018 14:44:48
ขออนุญาตแวะมาแจ้งข่าวหน่อยนะครับ
 ตอนนี้นิยายเรื่องนี้รวมเล่มแล้วนะครับ pm สอบถามรายละเอียดกันได้ครับ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 06-02-2018 20:16:12
ใจคว่ำมากเมื่อเจอว่าธันว์ตาย ดีนะอ่านจนจบ ขอบคุณที่แต่งให้อ่านนะ
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: zysygy ที่ 14-02-2019 23:36:59
 :hao5:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 22:06:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Story ธันว์-ไนท์...หัวใจใกล้กัน ตอนจบ [22-01-2018]
เริ่มหัวข้อโดย: Ka.RoN ที่ 04-05-2021 02:15:59
เพิ่งอ่านจบเลย สนุกมากค่ะ

Sent from my SM-N975F using Tapatalk