**ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: **ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)  (อ่าน 36871 ครั้ง)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ระหว่างคุณพ่อไผ่กับหนูบัว  ใครจะชนะ

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
แวะมาบอกว่าเจอโรคเลื่อนค่ะ แหะๆๆ  :try2: :try2: :try2: :try2:

ช่วงนี้ติดภาระกิจติด COVID-19 คงจะไม่ได้ลงนิยายตามกำหนดนะคะ แวะแจ้งข่าวกันก่อน

ผ่านพ้นโควิดไปจะรีบมาอัพให้จบนะคะ


กราบขออภัยคนอ่านงามๆค่าาาาา o14 o14 o14 o14 o14 o14 o14 o14 o14 :give2: :give2: :give2: :give2: :give2:

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5



แผนที่  20 สารภาพ




หลังคลาสบ่ายของอาจารย์แม่จบลง ผมลากร่างที่ไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะยืนมานั่งเงียบๆที่ต้นหูกระจงริมสระน้ำข้างคณะ

จะว่าไปนานแค่ไหนกันนะที่ผมไม่ได้มานั่งตรงนี้เงียบๆเหมือนเคย แต่ก่อนจุดนี้เป็นมุมโปรดของผมเลยก็ว่าได้

 แต่ว่าตั้งแต่ผมได้รู้จักน้องไม้คณะอักษรฯผมไม่ได้มานั่งตรงมุมโปรดนี้อีกเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ ผมว่าทุกคนน่าจะรู้ดี
 
หลังจากเห็นโพสคต์เจ้าปัญหานั่น ก็ผ่านล่วงเลยมาเป็นเดือนแล้วแต่ผมก็ยังกินไม่ได้นอนไม่หลับเช่นเคย

 ผมกดเลิกติดตามเพจนั่นไม่รับรู้ข่าวสารที่จะทำให้ผมเครียด  ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มที่ตรงไหน อยากไปหาน้องก็ติดสัญญาของพ่อไผ่

ก็เลยได้แต่มานั่งทำหน้าหมาหงอยอยุ่ตรงนี้ เฮ้ออออ


แค่คิดก็ปวดหัวจะแย่ ไหนจะงานที่ต้องส่งไหนจะต้องมารับเรื่องปวดหัวของพี่อัน แฮชแท็ก #โอ๊ตอัน มาจากไหนไม่รู้

ไหนจะช่วงนี้มีคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปผมแบบโจ่งแจ้งมันทำให้ผมหงุดหงิด แม้ว่าผมจะถูกถ่ายรูปบ่อยๆแต่ไม่ใช่แบบนี้ 

ไหนจะ แฮชแท็ก#เพชรไม้ อะไรนั่นอีกเฮ้ออ เครียด



Rrrrrr


ผมมองชื่อที่ขึ้นโชว์หน้าจอก่อนจะกดรับสายแบบเนือยๆไม่สนใจอะไรมากมาย

“ว่าไงอิง”

//หายหน้าหายตาเลยนะพ่อคุณ //

“งานเยอะน่ะ อิงมีไรหรือเปล่า”

//พี่อาร์ตให้ไปหาที่ รพ.ของ ม.Y เห็นว่ามีเรื่องจะคุยด้วย//

“เรื่อง ? เรื่องอะไร”

//ไม่รู้เหมือยกันมาคุยกับพี่อาร์ตเองเลยแค่นี้นะ อิงมีธุระ//


ผมมองโทรศัพท์ที่โดนตัดสายแบบงงๆ  พี่อาร์ตให้ไปหาที่ ม.Y ไปทำไมกัน ล่าสุดผมจำได้ว่าไม่ได้ทำเรื่องอะไรให้พี่อาร์ตต้องมาบ่นอีกนี่นา

หรือจะปรึกษาพี่อาร์ตดูอีกทีกันนะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆผมต้องแย่แน่ๆเลย

แกร่ก!

เสียงเหมือนคนเดินเหยียบอะไรสักอย่างใกล้ผมทำให้ผมละจากโทรศัพท์มือถือหันไปมองทิศทางของเสียงแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง

เมื่อเห็นดวงหน้าสวยของคนที่อยู่ในความคิดถึงมาตลอดปรากฏอยู่ตรงหน้า ผมผมรีบผุดลุกขึ้นด้วยความรีบร้อนทำให้ผมเซถลาไปข้างหน้าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

“พี่โอ๊ต!!”

เสียงเรียกตื่นตระหนกของคนที่ยืนไม่ห่างจากผมและพยายามยื่นมือมาดึงผมไว้แต่ก็ไม่ทันได้สัมผัสอะไรผมก็ร่วงลงไปในผืนน้ำด้านหน้าเสียแล้ว

ตูม!!

เสียงน้ำกระจายเป็นวงกว้างทันทีที่รับร่างของผมลงไปในบ่อ  ด้วยความที่ตรงที่ผมตกลงไปไม่ลึกมากทำให้โคลนก้นบ่อขุ่นคลั่กขึ้นมาทันทีที่เท้าผมสัมผัสก้นบ่อ

กลิ่นสาปโคลนลอยมาติดจมูก ทำให้ผมตะกายตัวพรวดเดียวก็โผล่พ้นน้ำขึ้นมาหอบเอากากาศเข้าปอดด้วยความตกใจ

“แค่กๆๆๆ” น้ำบ่อไหลลงคออย่างไม่อาจจะห้ามอะไรได้ทัน

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับผมขอโทษ ที่ทำให้ตกใจ”

“เอ่อ..มะ ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่น้องไม้มีอะไรกับพี่เหรอครับ แหะๆ”

ผมส่งยิ้มจืดเจื่อนไปให้น้องไม้ด้วยสภาพของผมตอนนี้ไม่กล้าแม้จะยื่นมือไปให้อีกคนช่วยฉุดดึงขึ้นจากบ่อ

“ขึ้นมาก่อนเถอะครับ มาเดี๋ยวผมช่วยนะ”

มือเรียวสวยยื่นลงมาตรงหน้าทำให้ผมต้องตัดสินใจจับมือนั้นไว้ก่อนจะดันตัวเองให้ขึ้นไปนั่งไอโขลกๆอยู่ริมบ่อ

“พี่โอ๊ตมีเรียนต่อไหมครับถ้าไม่มีผมว่ากลับบ้านเลยดีกว่าไหมเดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ”

น้ำเสียงนุ่มหูเต็มไปด้วยความห่วงใยทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิดที่ไม่ค่อยได้ติดต่อน้องเลยในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

แววตาหม่นแสงที่ผมไม่อยากจะเห็นคราวนี้ผมได้เห็นมันอีกครั้ง รู้สึกไม่ดีเลยจริงๆให้ตายเถอะ


“ไปส่งพี่หน่อยได้ไหมครับ”ผมถามออกไปทั้งๆที่มือก็ยังไม่ปล่อยจากคนตรงหน้า เป็นไงเป็นกันล่ะวะ

วันนี้ผมไม่อยากเห็นน้องทำหน้าเศร้าแบบนี้อีกแล้ว  เราสองคนเดินตามกันไปที่รถของผม โดยไม่มีใครปริปากพูดออกมาสักคำ

ความเงียบทำให้ผมต้องหันไปมองคนข้างๆที่นั่งเหม่อ มองออกไปนอกตัวรถ ถึงจะบอกว่าให้น้องมาส่งแต่ผมก็ยังเป็นคนขับรถอยู่ดี 

เราสองคนไม่มีคำพูดใดๆจนถึงคอนโดที่พักของผม สภาพของผมเรียกสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนรอบๆข้างได้เป็นอย่างดี

ผมไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้นแต่ความสนใจของผมพุ่งไปที่คนสวยที่ทำหน้าหงอยๆตอนนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ผมต่อสายให้ไอ้นายมาเอารถผมไปจัดการแทนน้อยครั้งที่ผมจะให้เพื่อนๆช่วยเรื่องพวกนี้

แต่ก็อย่างที่บอกตอนนี้เป็นเรื่องของน้องไม้ที่ผมต้องสนใจมากกว่า ความคิดที่ว่ากลัวผิดสัญญากับพ่อไผ่ไม่มีในหัวของผมเลย


“นั่งรอพี่ตรงนี้ก่อนนะ ขอพี่ไปอาบน้ำแป๊บเดียว ห้ามหนีไปไหนเด็ดขาดเข้าใจไหมครับ”

“ครับ”

เสียงรับคำบางเบาแต่ผมก็มั่นใจว่าน้องจะรอ ผมปลีกตัวเข้าห้องรับชำระล้างคราบความเน่าเหม็นของน้ำในบ่อนั่นด้วยความเร็วเหนือแสงเลยก็ว่าได้




วนันต์



ผมมองคนตัวสูงวิ่งเข้าห้องไปด้วยความรู้สึกหลากหลายมันบรรยายไม่ถูก ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่าอะไร

ตั้งแต่วันที่หนูบัวพยายามอัพรูปผมกับบรรดาน้องๆตระกูลจิรชัยกุล กับกับพวกบูรพากับนาวีลงเพจXS Cute Boy

พี่โอ๊ตก็หายเงียบกว่าเดิมจนผมเริ่มไม่สบายใจหรือพี่มันจะไม่ชอบหรือพี่มันคิดว่าผมจะชอบแบบนั้นหรือว่าพี่มันรังเกียจผม เฮ้อ

ในตอนนี้หัวผมแทบหมุนเพราะพี่มันหายหน้าไปร่วมเดือนโทรหาก็ไม่ค่อยรับสายเหมือนเดิม พี่ปีย์ก็ทำหน้าเหมือนอมบอระเพ็ด

ไว้ทั้งวันเวลาผมถามถึงพี่โอ๊ต เจ้าหนูบัวเองก็ได้แต่เอ่ยปากขอโทษที่แผนของเพื่อนทำให้พี่โอีตแทบจะไม่คุยกับผมเลย

จริงๆวันนี้ผมตั้งใจจะไปหาพี่โอ๊ตที่คณะเพื่อที่จะชวนไปกินข้าวที่บ้านอย่างเคย

แต่พอเห็นหน้าพี่ที่ทำเหมือนหลบหน้าผมไม่ยอมสบตาเวลาคุยกันมันทำให้ผมรู้สึกจุกที่ลำคอพูดอะไรไม่ออก

แต่ก็รู้สึกแปลกใจที่พี่มันยอมให้ผมตามมาที่ห้อง

ห้องที่ผมเคยมาบ่อยๆช่วงที่รู้จักกันแรกๆ ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่ ความรกของเครื่องมือสื่อการศึกษายังเกลื่อนห้องอยุ่เหมือนเดิม

มันบ่งบอกว่าเพื่อนๆของพี่โอ๊ตยังคงแวะเวียนกันมาที่ห้องนี้เหมือนเดิม แค่...ไม่มีผม

คิดถึงตรงนี้ขอบตารู้สึกร้อนๆจนผมต้องพยายามอดกลั้น ไม่เคยเลยที่จะรู้สึกอยากจะร้องไห้ราวกับคนอ่อนไหวแบบนี้


“เป็นอะไรครับ”

เสียงทุ้มดังอยุ่ข้างๆโดยที่ผมเองไม่รู้เลยว่าพี่มันมานั่งตรงนี้เมื่อไหร่ มือใหญ่ยื่นมาเกลี่ยหยดน้ำใสที่เอ่ออยู่ขอบตาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้

น้ำเสียงอ่อนโยนของพี่โอ๊ตยิ่งไปกระทุ้งความรู้สึกที่ผมเก็บเอาไว้มาเป็นเดือนน้ำใสๆที่ผมพยายามกลั้นเอาไว้กลับพังทลายลงอย่างไม่รู้จะเก็บอย่างไร

“ฮึก...”ผมพยายามกลั้นเสียงน่าอายเอาไว้ อ่อนแอเกินไปแล้ว ความรู้สึกแย่อึดอัดและหลากหลายอารมณ์ที่ผมรู้สึกตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันราวกับได้ปลดปล่อยออกมาโดยที่ผมเองก็ไม่อาจจะห้าม

“อย่าร้อง เป็นอะไรไหนบอกพี่ อย่าร้องไห้เลย พี่ปวดใจจะแย่แล้ว”

น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนมาพร้อมกับอ้อมกอดบางเบาราวกับจะปลอบโยนคนอ่อนไหวใจบางแบบผม

“ทะ..ทำไมพี่..อึก หายไป ..ทำไม..ครับ”

เสียงขาดหายกระท่อนกระแท่นไม่เป็นคำเพราะผมพยายามกลั้นก้อนสะอื้นที่มันวิ่งมาจุกที่คอ

ผมไม่อยากให้พี่มองว่าผมมันเด็กน้อยอ่อนแอเรื่องแค่นี้ก็ร้องไห้เหมือนเด็กๆ แต่ว่า มันไม่ไหวแล้วจริงๆ

“เอ่อ..พี่..ขอโทษครับ “ไม่มีคำอธิบายมีแค่คำขอโทษแต่มันไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใด

“ผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ..ระ..หรือว่าพี่จะไม่อยากคบหากันแล้ว ..ฮึก “

เสียงที่ผมพยายามบังคับมันไม่ให้สั่นไหวไปตามอารมณ์ที่ไม่คงที่ตอนนี้ เสียงถอนหายใจของพี่โอ๊ตแม้ว่าจะบางเบาแต่ผมก็ได้ยิน

 ผมค่อยเงยหน้าขึ้นมองพี่โอีตเต็มตาแม้จะพร่ามัวไปเพราะเจ้าน้ำตาไม่รักดีนั่นแต่ผมก็ยังจะมองให้แน่ใจว่าพี่รู้สึกอย่างไร


“ถ้าผมทำอะไรไม่ดี หรือพี่รังเกียจอะไรในตัวผมบอกผมได้ไหม อย่าหายไปแบบนี้ผมไม่รู้เลยว่าผมทำอะไรผิด “

พอเริ่มควบคุมสติได้ผมก็ร่ายยาวไม่หยุด


“เรื่องรูปในเพจนั่นแค่พี่ถามผมสักนิดผมก็พร้อมที่จะอธิบาย มันไม่ได้มีอะไรเกินกว่าพี่น้องและเพื่อนๆ แค่พี่ถาม แต่นี่ พี่หายไป”

“......”

“ผมไม่เข้าใจ พี่ที่เคยไปมาหาสู่ที่บ้านเคยไปเล่นกับมาลีและมาร์คเคยโทรหาเคยคุยกันทุกวัน แต่ว่า..พี่หายไปพี่ไม่เหมือนเดิม ผมไม่เข้าใจ”


“....”

“เพราะอะไรบอกผมที “

อ้อมกอดกระชับแน่นขึ้นกว่าเดิม ผมเอียงหน้าซบลงตรงไหล่พี่โอ๊ตด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก อยากอ้อนอยากเอาแต่ใจ แต่ก็ไม่กล้า


“”พี่ขอโทษนะ เพราะความขี้ขลาดของพี่เองที่ทำให้ไม้ต้องเสียใจ “ พี่โอ๊ตผละอ้อมกอดออกจากผมกระทันหัน พร้อมทั้งลุกขึ้นยืนและฉุดให้ผมลุกตามอย่างรวดเร็ว

“ไปกันเถอะ”

“ไปไหนครับ?” ผมงงกับความกระทันหันของพี่โอ๊ตจนปรับอารมณ์ไม่ทัน

“เราไปจบเรื่องนี้กัน”ว่าแค่นั้นพี่โอ๊ตก็ฉุดผมออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว 

ผมผุดลุกตามแรงฉุดของพี่โอีตด้วยความงุนงง แต่ก็เดินตามพี่ไปอย่างว่าง่าย แม้จะไม่เข้าใจก็ตาม

“พี่จะไปไหนครับ?”

“ไปทานข้าวเย็นบ้านไม้ไงครับ”


“..? ..”


ตลอดทางพี่โอ๊ตแทบจะไม่ปล่อยมือจากผม จะมีบางช่วงที่ต้องใช้สองมือประคองพวงมาลัย แต่แค่ช่วงสั้นๆ

พี่มันก็ยึดมือผมไปจับไว้เหมือนเดิม ผมเองก็บีบมือพี่โอ๊ตเป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่า ตอนนี้ที่พี่นั่งอยู่ข้างๆผมนี่เป็นความจริง

ทันทีที่จอดรถเสร็จพี่โอ๊ตเดินจูงมือผมเข้าบ้าน ผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธการกระทำของพี่แต่ก็ยังคงงงงวยกับการกระทำที่พี่มันฉุดผมกลับบ้านแบบนี้ จนกระทั่งตอนนี้ ..

“พ่อไผ่ครับ ผมมีเรื่องจะสารภาพครับ”

“...”

 ผมที่ยังคงใบ้กินมองหน้าพ่อที่ยกถ้วยชาดอกมะลิค้างอยู่ มองแม่ที่นั่งยิ้มและมองมือของพวกเราสองคนที่ยังคงจับกันไว้แน่น

“หึ”เสียงขำสั้นๆพร้อมรอยยิ้มแปลกๆของพ่อ ทำให้ผมยังคงมีสีหน้าเหรอหราไม่เข้าใจ

“ผมรักน้องไม้ครับ รักแบบคนรัก รักแบบคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน รักแบบคู่ชีวิต ผมอยากให้พ่อไผ่และแม่นุ่นเข้าใจและผมจะไม่บังคับน้องผมจะยังคงไปมาหาสู่เช่นเดิม ถึงแม้น้องจะไม่ได้รักผมแบบเดียวกัน แต่ผมก็จะไม่ถอยอีก ผมจะจีบน้องครับ  ผมไม่ได้มาขออนุญาตแต่ผมมาบอกให้พ่อกับแม่รับรู้ว่าผมรักน้องจริงๆก็พอครับ”


“ดะ..เดี๋ยว..สิ..”ผมยังคงอ้าปากค้างกับคำพูดของพี่โดยไม่ได้ตั้งตัว  รัก  จริงๆเหรอ พี่รักผมจริงๆเหรอ ผมไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม

 
“คิก ใจร้อนจังเลยนะคะพี่โอ๊ต แม่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย คุณก็ชอบแกล้งเด็กๆนะคะ “เสียงแม่ดูเหมือนจะรู้อะไรๆมากกว่าที่ผมคิด
 
“เฮ้อ  ก็ไม่ได้จะขัดขวางอะไรก็แค่รอดูว่าเมื่อไหร่จะกล้าคุยกันเองและยอมรับตรงๆกันสักที อ่ะนะ “

สีหน้าเหมือนเบื่อหน่ายของพ่อยิ่งทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย

“หมายความว่าพ่อไผ่ไม่ห้ามใช่ไหมครับขอบคุณมากครับ “

รอยยิ้มกว้างที่ผมไม่เห็นจากพี่โอ๊ตมานานวันนนี้รอยิ้มนั่นทำผมยิ้มตามทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจอะไรเลย

“คือ..อะไร ผมไม่เข้าใจ”เสียงพูดเบาหวิวแทบจะไม่ได้ยินจากผมทำให้ทุกคนหันมาสนใจผมที่ยืนงงอยู่ตรงนี้อีกครั้ง

“เราไปจิบชาที่สวนหลังบ้านกันดีกว่านะแม่ ปล่อยเด็กๆคุยกันไป”

“พี่โอ๊ตอยากได้อะไรเพิ่มก็บริการตัวเองเลยนะคะลูก แม่กับพ่อเปิดทางเต็มที่ “

เสียงกลั้วหัวเราะของแม่ห่างออกไปพร้อมๆกับร่างสูงใหญ่ของพ่อ ในห้องนั่งเล่นตอนนี้เหลือแค่....เรา

“พี่..มันคืออะไร พี่บอกหน่อย ผม งง “

“นั่งก่อนดีไหม “ไม่ว่าเปล่าพี่มันฉุดผมนั่งลงข้างๆที่โซฟาเบดตัวใหญ่มุมโปรดของผมเอง

“ก่อนอื่น พี่อยากให้ไม้ตั้งใจฟังพี่ พูดให้จบ แล้วค่อยถามจะได้ไหมครับ”


ผมพยักหน้าอย่างงงๆแต่ก็พยายามจะเข้าใจและตั้งใจฟังแม้ว่าตอนนี้คำพูดก่อนหน้าของพี่มันจะทำให้ใจผมเต้นแร้งเต้นกาอยู่ด้านในตอนนี้ ผมพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตื่นเต้นจนไม่ได้ตั้งใจฟังสิ่งที่พี่จะบอก


“พี่...เอ่อ พี่ชอบน้องไม้มาสักพักแล้ว ชอบแบบที่อยากจะขอคบเป็นแฟน แต่ตอนนี้จากความชอบมันเลยไปไกลกว่านั้นแรกๆพี่กังวลกลัวว่าความรู้สึกแบบนี้ของพี่จะไปทำร้ายไม้เพิ่มอีก  ก่อนหน้าพี่ได้รับปากพ่อไผ่ว่าจะทบทวนตัวเองเลยต้องห่างจากไม้สักพักเพื่อแน่ชัดในความรู้สึก จนตอนนี้พี่อยากจะบอกไม้ว่า .. พี่รักไม้ รักจนไม่อาจจะอยู่ห่างๆได้อีกรักจนพี่แน่ใจว่าพี่คงขาดไม้ไม่ได้แล้ว ขอโทษที่พี่ทำให้ไม่สบายใจตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา  พี่กลัวว่าไม้จะรังเกียจ ไม้เคยมีประสบการณ์แย่ๆมา แต่พี่เองก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ พี่พยายามแล้วแต่ว่า พี่อยากจะขอไม้สักอย่างถ้ารังเกียจกันแค่บอกตามตรง พี่พร้อมจะหายไปเพื่..”



ผมไม่รอให้พี่มันพูดจบรีบยื่นมือไปปิดปากพี่ไว้ก่อนจะมาหายจากผมไปเพื่ออะไรผมไม่ต้องการจะรับรู้ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกอยากจะยิ้มให้กว้างที่สุดในรอบเดือนที่ผ่านมา

“อย่าพูดว่าจะหายไปอีก แค่นี้ผมก็แทบจะทนไม่ไหว ถามผมหรือยังว่าอยากให้พี่หายไปไหมใครบอกว่าพี่รักเป็นอยู่คนเดียว ผมก็รักเป็นเหมือนกันนะ รักจะตายอยู่แล้ว อ๊ะ!!”


ผมยังพูดไม่จบแต่ก็ต้องตกใจเพราะพี่มันดึงเอาตัวผมเข้าไปกอดซะแน่น ตัวแทบจะปลิวตามแรงดึง ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน

ผมไม่ใช่คนตัวเล็กตัวบางแบบพี่อันนะ แต่พูดถึงพี่อันผมรีบเอามือยันหน้าอกพี่มันไว้พลางเงยมองหน้าหล่อเหลาที่ทำผมใจสั่นในระยะประชิดแบบนี้


“แล้วเรื่องพี่อันล่ะ บอกผมมาเลยนะ “ตอนนี้ผมเอาแต่ใจได้แล้วใช่ไหมนะ

“ไม่เห็นจะมีอะไร ก็ทำงานปกติครับ พี่อันแค่ลงรูปโปรโมทปกติพี่ไม่เกี่ยวนะครับ ไม่เคยคิดเป็นอื่นกับใคร หลงก็แต่คนนี้ หยอดมาเป็นชาติแล้วไม่รู้หรือไง”

“เฮ้อ..”ผมซบหน้าลงกับอกแข็งๆของพี่โอ๊ตด้วยความโล่งใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมรู้สึกว่ามันยังค้างคาแปลกๆ

“พี่ ..เรารักกันได้จริงๆใช่ไหมครับ”

“แน่นอนสิ “

“ถ้างั้นผมควรทำตัวยังไง”

“เป็นไม้คนเดิมครับ ทุกอย่างเหมือนเดิมแค่เรารู้ว่าข้างในนี้มันเปลี่ยนไปก็พอแล้ว”

“ละ..แล้ว พ่อกับแม่พี่ล่ะครอบครัวพี่ล่ะ พวกเขาจะต้อนรับผมเหมือนเดิมไหม “

“ไม่ต้องห่วงเราค่อยๆแทรกซึมไป พี่เชื่อว่าครอบครัวพี่เปิดกว้างพอสมควร ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเรื่องปั๊มทายาทพี่อาร์ตรับปากว่าจะมีสักโหลไว้ตั้งทีมฟุตบอลฮ่าๆๆๆ”

“สงสารพี่อิง”ผมตอบกลับอย่างที่นึกจริงๆ

“หึ สงสารพี่สิ พี่ปวดใจมากเลยนะ ภาพที่ลงในเพจนั่นรู้ไหมพี่แทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย”

“อ่า ..คือว่า”

“อะ แฮ่มๆๆ หมดเวลา ไม้ไปพามาลีไปอาบน้ำไปพ่อขอคุยกับพี่โอ๊ตสักหน่อย”

“พ่ออย่าแกล้งพี่นะ “

“ไม่ทันไรเลยเจ้าลูกหมูทิ้งพ่อซะแล้ว เฮอะ”

“ไม่ใช่สักหน่อย ผมรักพ่อที่สุดอยู่แล้ว งั้นผมฝากพี่โอ๊ตไว้กับพ่อสักครู่เดี๋ยวผมมารับคืนนะครับ”


ผมหันมามองพี่ก่อนจะยิ้มให้ด้วยความสบายใจเป็นที่สุด ก่อนจะผละออกมาให้พ่อกับพี่ได้คุยกัน

ตอนนี้ผมไม่เหลือความกังวลใจใดๆอีกแล้ว ความหนักอึ้งที่แบกมาเป็นเดือนตอนนี้มลายหายไปโดยไม่มีอะไรตกค้าง

มีแต่ความรู้สึกดีๆที่พึ่งได้รับจากพี่เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา มันดีจนผมยิ้มไม่หยุดหุบยิ้มไม่ได้


มาลีกับพี่มาร์คเอียงคอมองหน้าผมงงๆราวกับมันจะถามผมว่า เป็นบ้าอะไรยิ้มไม่หุบอยู่คนเดียว ฮ่าๆๆๆ ขอผมยิ้มหน่อย

ผมกำลังมีความสุข ทุกคนมีความสุขเหมือนผมหรือเปล่า ถ้ามีก็ยิ้มสิครับ  :yeb: :yeb:


TBC....



อีกตอนเดียวจะจบแล้ววววววววววว น่าจะได้มาลงหลังสงกรานต์นะคะ ฮืออออ เค้าขออภัยตอนนี้ที่บริษัทลดวันทำงานเลยทำให้พันวาต้องจัดตารางชีวิตใหม่ วันนี้พอมีเวลาว่างก็รีบมาลงให้ก่อนเน้ออออ

จะมีเวลามาลงอีกทีก็ตอนกลางๆเดือนนุ่นเลยค่าาาา



ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามกันมาและยังรอพันวานะคะ กราบงามๆๆๆ เลยค่าาาา ไปปั่นต่อ:katai4: :katai4:





ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

รักษาสุขภาพครับ

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
ขอบคุณค่าาา :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5


แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ




อินทัช





“ไง เรียบร้อยแล้วสิหน้าบานยิ่งกว่าชามข้าวหมาอีก”

เสียงเอ่ยแซะถากถางของเพื่อนสนิทไม่ได้ทำให้ผมหงุดหงิดแต่อย่างใดกลับกันผมยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิมวันนี้เป็นวันที่ผมอารมณ์ดีที่สุด

ขนาดเพื่อนๆนัดผมมาที่สนามแข่งขาประจำที่พวกเราห่างหายไปในช่วงหลังๆผมยังคว้าเอา Honda RC213V คันโปรดขี่ออกมาด้วยความคิดถึง

“แน่นอนสิ ว่าแต่มึงเหอะผ่านด่านบรรดาลุงๆของหนูบัวได้หรือยัง”

สีหน้ามืดครึ้มของเพื่อนบอกได้เป็นอย่างดีว่าแม้จะได้สถานะแฟนหนูบัวมาครองแต่ใช่จะมีอิสระในการฉกแฟนไปไหนมาไหนสองต่อสอง เพราะปีย์ยังคงโดนประกบจากครอบครัวหนูบัวแทบจะตลอดเวลา

“กูว่าทางนั้นคงปล่อยให้กูกับบัวไปเที่ยวสองต่อสองได้เมื่อแต่งงานแล้วเท่านั้นแหละเฮ้ออออ “

“เอาน่า มึงยังดีที่ยังมีสถานะ แต่กูนี่สิ “แม้ว่าน้องไม้ยังอยู่ในสถานะคนที่ผมจีบ แต่ผมก็จองแล้วนะครับห้ามใครล้ำเส้นบอกเลย

“ว่าแต่พวกมันจะให้กูรออีกนานไหม ถ้าภายใน30นาทีไม่มากูกลับไปหาไม้แล้วนะบอกก่อน”

ผมว่าพลางหันมาทำหน้าไม่พอใจใส่เพื่อนสนิทที่กำลังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน วันนี้ปีย์มันบอกว่ามีคนท้าผมแข่ง เดิมพันว่ากันทีหลัง

แต่ถึงเพื่อนผมจะบอกแบบนั้นผมก็ข้องใจอยู่ดี เพราะทุกครั้งที่มีเดิมพันพนันขันต่อผมจะต้องรู้ข้อมูลของคู่แข่งก่อนเสมอ

แต่คราวนี้ได้พวกเพื่อนผมมันลากผมมาที่สนามแข่งทั้งๆที่ผมเองก็ไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก ติดอยู่ที่ว่าพวกเพื่อนๆของผมมันขอร้องมาบอกว่าแมทนี้สำคัญมากต้องผมเท่านั้นที่ลงแข่ง

ไอ้เตี้ยโอมยังตาเป็นประกายวิบวับจนผมนึกสงสัยว่าใครที่ไหนมาท้าแข่งกับผมเพราะตามจริงผมไม่ค่อยรับแข่งเท่าไหร่แล้วส่วนมาขับเอาสนุกมากกว่าแค่ไม่ลืมสิ่งที่ผมชอบ แต่เรื่องพนัน พี่อาร์ตกับแม่บอกให้เพลาๆลงบ้างผมเลยไม่ค่อยไปหาคู่มาแข่งสักเท่าไหร่

“เอาน่าอีกแป๊บเดียว ใจร้อนจริงมึง กูว่างานนี้มึงต้องชอบแน่ๆ”

“ตามจริงกูไม่ขัดนะถ้าจะเป็นการหารายได้เพิ่ม เพียงแต่แข่งทุกครั้งมันต้องรู้เขารู้เราไม่ใช่หรือไง นี่อะไรลากกูมาแล้วไม่บอกอะไรสักอย่าง”

“ใจเย็นน่า มานู่นแล้ว”ผมหันไปตามทิศที่เพื่อนสนิทพยักพเยิดหน้าให้รู้

และสิ่งที่ผมเห็นทำเอาขาแข็งโดยไม่รู้ตัว Yamaha YZR-Mสีดำน้ำเงินเครื่องยนต์ 4 สูบ กำลังสูงสุดกว่า 240 แรงม้า เกียร์ 6 จังหวะคันนั้นไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้นเท่ากับคนที่ขี่เจ้ายักษ์นั่นเข้ามาร่างสูงใหญ่ใบหน้าสวยแต่แฝงแววดุดันจนน่ากลัวแต่ก็ยังน่ามองอยู่ดี  อ่านั่นว่าที่พ่อตาผมนี่

“ไง มาลองกันสักรอบไหม ดูสิว่าฝีมือมีค่าพอจะรับของพนันหรือเปล่า”

“พ่อไผ่หรือครับ ทำไม ??”ผมยังงงจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ดี นึกไม่ถึงว่าคนที่ท้าผมแข่งจะเป็นพ่อไผ่

“อ้าว ปีย์ไม่ได้บอกเหรอ”

“มันรูดซิปปากจนผมคิดว่ามันเป็นใบ้แล้วล่ะครับฮ่าๆๆ”

งานนี้ต้องหัวเราะให้กำลังใจตัวเองก่อน เพราะทำอะไรไม่ถูกจริงๆครับบอกเลยว่าเกร็ง

ทุกคนคงไม่ลืมว่าพ่อไผ่คนนี้เป็นไอดอลของผมเป็นคนที่ผมหลงใหลคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้ ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้แข่งด้วยกัน

“หึหึ  พ่อแค่อยากรำลึกความหลังสักหน่อย ไม่ได้ขี่เจ้านี่มานานมากแล้วเลยเอามาปัดฝุ่นสักหน่อยอยากจะลองฝีมือคนที่มาจีบลูกชายพ่อว่าจะสมราคาคุยไหม”

“อ่า...เหมือนฝันเลยครับ “ตาขวากระตุกยิกๆนี่มันลางดีหรือร้ายวะ

“แต่..ถ้าจะแค่แข่งกันเฉยๆมันไม่สนุกเท่าไหร่เอาเป็นว่าเรามาติดปลายนวมกันสักหน่อยไหมล่ะ”นั่นไงมาแนวนี้ไม่ดีแน่ๆ

“หากวางเดิมพันผมให้พ่อไผ่กำหนดจำนวนเงินเลยครับ ถ้าผมสู้ไม่ไหวจะต่อรองอีกที แหะๆ”

“หืม ? วางเงินเหรอ เด็กๆน่า พ่อมีข้อเสนอที่ดีกว่านั้น”

ผมมองรอยยิ้มแปลกๆของพ่อไผ่แล้วใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวยังไงชอบกล มันวูบๆวาบๆแฮะ ไอ้ตาขวานี่ก็กระตุกถี่เป็นบ้า

“ถ้าชนะพ่อได้ 1ใน3(*) อนุญาตให้จีบลูกชายพ่อได้ ถ้าชนะ 2ใน3อนุญาตให้พาไปเดตได้ ถ้าชนะรวด เพิ่มสถานะแฟนให้ ดีหรือเปล่าล่ะฮึ”

//วะ...ว่าไงน๊าาาาาาา//ผมล่ะอยากตะโกนดังๆ แล้วเอามือทึ้งผมให้หลุดหมดกระบาล ชนะพ่อไผ่เนี่ยนะ อย่าว่าแต่ 1ใน3เลย โอกาสที่มีคือ1ในล้านเหอะ พ่อออออออออ อย่าทำร้ายผมแบบนี้

“อ้าว เงียบเบบนี้ไม่เอา ?”

“เอาครับ !” เป็นไงเป็นกันวะ พ่อไผ่น่ะ แชมป์ F1 แต่ผมน่ะ แชมป์ MOTOGPนะครับถึงจะได้มาช่วงวัยแรกรุ่นก็เหอะ

 ความถนัดผมได้เปรียบแน่ ฮืออออ น้ำตาจิไหล ปลอบใจตัวเองได้ห่วยแตกมาไอ้โอ๊ตตตต ได้แต่โอดครวญในใจครับ น้ำตาตกในเป็นสายแล้ว ฮือออ

ผมหันไปมองเพื่อนสนิทอย่างไอ้ปีย์ อยากจะด่ามันทางสายตาว่ามันไม่บอกกล่าวให้ผมต้องเตรียมตัวบ้างเลย มึงหลอกกูมาให้พ่อไผ่เชือดใช่หรือไม่ไอ้เพื่อนชั่ว

ไม่ว่าภายในใจจะโอดครวญเท่าใดแต่ภายนอกนั้นแสดงออกไม่ได้ ผมได้แต่ไว้อาลัยตัวเอง ถึงแม้จะรู้ว่าสู้ไม่ได้แต่แล้วยังไงล่ะ ข้อเสนอมันล่อลวงจนผมไม่ได้สนใจว่าคนตรงหน้าคือมืออาชีพระดับโลกตัวเป็นๆ   

โอกาสที่จะได้ประมือกับคนระดับนี้ ในชีวิตผมคงต้องฝันกลางวันเอาเท่านั้นแหละครับ นี่ถือเป็นโอกาสไม่ใช่หรือไง จะแพ้หรือชนะ อันนั้นค่อยว่ากัน เพราะไม่ว่ายังไงเรื่องของไม้ผมไม่เคยคิดจะยอมแพ้
 
“ถ้าอย่างนั้นจะรออะไรล่ะ เย็นนี้พ่อต้องพาเจ้ามาร์คไปตัดขนนะ “

ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ อยู่หรือไปผมต้องสู้แล้วสินะ เพื่อคนน่ารักของผม แพ้ไม่ได้ แค่ 1 ใน3กก็ยังดีวะ ได้จีบก็หรูแล้ว



…....................



ครับหลังจากคำพูดนั้น ผมที่ตอนนี้อยู่ในชุดพร้อมแข่งนั่งคล่อมเจ้า  Honda RC213Vลูกรักที่ตอนแรกที่ซื้อเพราะปลื้ม Marc Marquez มากจนต้องไปถอยมาเป็นเจ้าของ

 จะว่าไปผมก็คิดถึงงานอดิเรกของผมเหมือนกันนะ ไม่ได้เข้ามาสักพักแล้ว ก็ดีเหมือนกัน วันนี้ดูจะเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้อีกแล้ว

คุณลองคิดดูสิ จะมีสักกี่คนโชคดีแบบผม ได้แข่งกับไอดอลที่เป็นตำนานแม้ว่าเขาจะร้างลาจากวงการไปแล้วแต่ความฮ็อตปรอทแตกของเขา อีกกี่สิบปีถึงจะมีแบบเขาสักคน

แม้ว่าการแข่งขันวันนี้จะไม่ได้มีกล้องโทรทัศน์จับไม่มีผู้คนเรือนหมื่นมาชม  แต่ผมก็ตื่นเต้นมือเย็นเฉียบอัตราการเต้นของหัวใจเป็นจังหวะแทงโก้ ไม่มีทีท่าว่าจะสงบ

ผมมองไปที่ไอดอลร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดพร้อมแข่งสีน้ำเงินเข้ม หมวกกันน็อคที่ฉาบปรอทจนไม่สามารถจะมองเห็นสีหน้าแววตาของพ่อไผ่ได้แต่ผมกลับสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่ดูจะเป็นบรรยากาศสีหวานๆ อืมมมม พ่อไผ่อารมณ์ดี คงจะดีมากๆจนผมสัมผัสได้

แต่ผมนี่สิ จะยิ้มผ่านหมวกยังไม่กล้าเลย ผมหันมองไอ้เตี้ยโอมที่เป็นคนส่งสัญญาณ ใจจริงผมอยากให้มันแต่งหญิงมายืนตรงกลางแล้วโบกธงนะจะได้ถ่ายรูปส่งไปแลกค่าขนมกับพี่ทอย หึหึ

 ผมสลัดหัวเอาความคิดเหม่อลอยทั้งหลายแหล่ออกไปใจจดจ่ออยู่ที่แฮนด์และเลนถนนข้างหน้า


“ไป !!!”

สิ้นเสียงไอ้โอมและธงที่มันถือสบัดลงไปด้านล่าง ม้าเหล็กตัวใหญ่สองตัวก็พุ่งทะยานออกจากแหล่ง ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผองเพื่อน
 
ความยาวของสนามแข่งนี้ ยาวถึง4 .5 กิโลเมตร เพราะเป็นสนามแข่งระดับโลกอยู่แล้ว มีโค้งทั้งหมด 11 โค้ง มีโค้งขวา 8 โค้ง โค้งซ้าย 3 โค้ง

ปกติจะแข่งกันเป็น10รอบแต่หนนี้พ่อไผ่ให้แข่งแค่3รอบเหตุผลคือกลัวผมแพ้ยับเยินเกินไป โถ่ววววววววววว

ผมเร่งเครื่องตามแบบไม่คิดอะไรอีกเมื่อเห็นเจ้าYamaha YZR-Mคันใหญ่พุ่งทะยานราวกับลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากคัน



วนันต์


ผมนั่งลุ้นแบบตาไม่กระพริบอยู่หน้าจอขนาดใหญ่ที่ห้องรับแขกของบ้านข้างๆผมมีแม่ที่นั่งส่งยิ้มหวานให้จอภาพที่กำลังปรากฏภาพของคนสองคนที่ผมรักกำลังขับเคี่ยวขึ้นแซงกันในโค้งบ้างทางตรงบ้าง ด้วยใจระทึก

 ถ้าถามว่าทำไมผมไม่ไปเชียร์ที่สนามแข่งเลย เหตุก็เพราะพี่ปีย์กับหนูบัวบอกว่าของรางวัลแบบผมจะทำให้สมาธิของพี่โอ๊ตเสีย ฮ่าๆๆๆ

ดูจริงจังจนผมเองก็รู้สึกใจฟูเป็นขนมสายไหมเลย แม้จะรู้ว่าทั้งสองคนแข่งกันทำไม แต่ผมก็ยังรู้สึกสนุก ไม่ได้กดดันอะไร

 ก็เพราะพ่อบอกก่อนออกจากบ้านว่าจะไปหาอะไรสนุกๆทำ นั่นคือการได้ทดสอบฝีมือพี่โอ๊ต ซึ่งคงจะเป็นสิ่งที่พ่อเองก็คิดว่าจะทำสักวันอยู่แล้ว

ซึ่งผมไม่ได้ว่าอะไร พ่อคงไม่ได้สนุกแบบนี้มานานแล้ว สิ่งที่พ่อไผ่แกล้งพี่โอ๊ตจนหายหน้าไปจากผมเป็นเดือนๆนั่น

แม่ยังคาดโทษอยู่คงไม่มีอะไรมากไปกว่าได้กลับไปสนุกกับสิ่งที่พ่อรัก และมันคงดีหากได้ลงสนามกับคนที่พ่อไว้ใจ


นั่นเป็นที่มาของการแข่งขันครั้งนี้ เจ้าหนูบัวทำการไลฟ์ให้ผมกับแม่ได้ดู การแข่งระยะทางสั้นๆแค่ 3รอบนี้จึงไม่จำเป็นต้องเข้าพิทไม่ต้องมีธงสื่อสาร

จะมีก็แค่ธงตาหมากรุกที่จะโบกให้เห็นในรอบสุดท้ายเท่านั้น  ถึงแม้การแข่งขันจะสั้นแต่ผมก็ตื่นเต้น ผมไม่เคยเห็นพี่โอ๊ตแข่งรถมาก่อน

ส่วนพ่อผมเห็นบ่อยตั้งแต่ยังเด็กทั้ง F1 และMotocrossซึ่งน้อยคนที่จะรู้ว่าพ่อเคยแข่งMotocrossมาก่อน 

แต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นพ่อขี่เจ้าบิ้กแข่งในสนามแบบนี้ พ่อไม่เคยแข่งMOTOGP ซึ่งต่างจากพี่โอ๊ต รายนั้นผมรู้มาว่าแต่ก่อนพี่เคยได้แชมป์เยาวชนด้วย


“เท่จังเลยน๊า“

เสียงเปรยเบาๆของแม่ทำให้ผมต้องหันไปมอง สาวสวยของบ้านนั่งยิ้มหวานมองรถจักรยานยนต์สองคันที่ผลัดกันขึ้นแซงอยู่ในจอ

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแม่เชียร์ใคร เวลาผ่านไปราวกับติดปีก ภาพผู้ชายสองคนที่เป็นที่รักของผมยืนอยู่ท่ามกลางกองเชียร์ที่มาเชียร์พี่โอ๊ตซะเป็นส่วนมากฮ่าๆๆๆ

 ก็แหมมีแต่เพื่อนๆพี่โอ๊ตทั้งนั้นนี่นา  เหมือนว่าเวลาจะหมุนเร็วเพียงไม่นาน ผมการแข่งขันก็ปรากฏต่อสายตา

ผมว่าทุกๆคนคงคิดเหมือนผม และคิดไม่ผิด เพียงแต่มันไม่ได้ชนะแบบขาดลอย หรือแพ้หมดรูป

ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะพ่อแค่ต้องการเล่นสนุกหรือเพราะพี่โอ๊ตไม่ยอมแพ้ ผลที่ออกมาเลยเป็น 1 ต่อ 3

 ใจผมเต้นตึกตักไม่หยุดสายตาล้อเลียนที่แม่ส่งมายิ่งทำให้ผมแทบจะม้วนตัวลงไปนอนที่พื้นเป็นเพื่อนพี่มาร์คกับมาลี


 ก็..รีบกลับมาเร็วๆนะครับ ผมรอพี่มาจีบแทบจะไม่ไหวแล้วนะ ^___^




…...................................



อินทัช



เป็นวันที่บ้านของน้องไม้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง ลานหญ้าหลังบ้านสนามวิ่งเล่นของพี่มาร์คกับมาลีถูกเปลี่ยนเป็นลานปาร์ตี้อีกครั้ง และครั้งนี้มันก็มาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆของทุกคนที่มา


“กูว่านะพ่อไผ่อ่อนข้อให้มึงหรอกไม่งั้นนะพ่อไผ่ต้องชนะรวด 3 รอบเลย “

เสียงไอ้โอมปากมอมพูดอย่างขบขันที่เห็นผมแพ้  รอบแรกที่ผมชนะคงเพราะพ่อไผ่คงดูลาดเลามากกว่า

เหลืออีก2รอบเลยบิดเต็มที่ใครจะรู้ว่าแชมป์F1 จะเก่งทุกเรื่องแบบนี้ เฮ้อ แต่ก็นะ ผมไม่รู้สึกเสียใจสักนิด

ผมมองว่านั่นเป็นโอกาสของผมมากกว่า ที่จริงพ่อไผ่ไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้แค่เอ่ยปากห้ามยุ่งกับลูกชายเขาผมก็คงเจอก้างชิ้นใหญ่แล้ว

ถึงจะไม่ยอมแพ้แต่คงยากพอสมควรที่จะฝ่าด่านคุณพ่อจอมขี้แกล้งแบบพ่อไผ่ไปได้ รอยยิ้มของน้องไม้ที่ดูสดใสกว่าทุกวันทำให้ผมแทบไม่ละสายตาไปไหนได้



“เอ้าๆมองเข้า ไม่เคยเห็นหรือไง น้องเขาจะสึกหรอเพราะสายตามึงเนี่ยแหละ”เพื่อนปีย์ยังคงจิกกัดไม่ปล่อยคงเพราะหมั่นไส้

น้องไม้หัวเราะเสียงเบา ไม่มีอาการเขินอายไม่ได้หน้าแดงอย่างที่เคยอ่านเจอในนิยาย

น้องไม้ยังคงมีแค่รอบยิ้มและดวงตาที่เป็นประกายเจิดจ้ามองตรงมาที่ผมรอยยิ้มและสายตาไม่ได้หลบไปไหนเรายังมองตากันยิ้มให้กัน ความสุขมันคุกรุ่นอยู่ภายใน ผมไม่รู้จะพูดอะไรรู้แค่ว่าผมมีความสุขก็พอแล้ว


“กินเยอะๆนะลูกวันนี้แม่ทำพิเศษเลยนะ “เสียงหวานของแม่นุ่นยังคงแจ่มใสไม่จาง
 
“พ่อไม่อยากแบ่งเจ้าพวกลูกลิงนี่เลยให้ตายสิอาหารฝีมือแม่เนี่ยไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย”

เสียงตอบกลับที่ดูอ่อนหวานเป็นพิเศษแถมสายตาหวานเชื่อมอ่อนโยนที่มองกลับไปที่ร่างบอบบางของคนสวยเจ้าของบ้านทำให้พวกผมแทบจะตาถลน แหมก็นานๆจะเห็นรุ่นใหญ่เขาหยอดจีบกันนี่ครับนับว่าเป็นบุญ


“พ่อไผ่ได้กินทุกวันอยู่แล้ว วันนี้แบ่งพวกผมบ้างนะครับ นะๆ”คนที่อ้อนคนอื่นโดยไม่คิดมีอยู่คนเดียวในกลุ่มผมครับ ไอ้เตี้ยโอม

ดีที่เป็นพ่อไผ่นะที่มันอ้อน ถ้าเป็นคนอื่นผมว่าคงได้เคลียร์กับพี่ทอยยาวๆ หึหึ

“มาอยู่บ้านนี้เลยดีไหมล่ะ แม่อยากมีลูกอีกสักคน ไม้อยากมีน้องน่ารักๆแบบนี้แน่ๆเบย คิก คิก”เสียงแม่นุ่นพูดอย่างอารมณ์ดี

“พ่อยังไหวนะแม่”สิ้นเสียงพ่อไผ่เราทุกคนต่างหัวเราะออกมาพร้อมๆกันมีแค่แม่นุ่นที่ยิ้มเขินๆแล้วเลี่ยงไปตักอาหารเพิ่ม





“พี่โอ๊ต ผมอยากลองขี่เจ้ายักษ์นั่นบ้างจัง”

เสียงคนข้างๆเอ่ยขึ้นมาพร้อมสายตาที่อ้อนแบบไม่รู้ตัวนั่นอีก ทำผมถอนหายใจเฮือกใหญ่และต้องเตือนตัวเองว่ายังอยู่ในสถานะขอจีบ

อย่าพึ่งข้ามขั้นไปจูบ ให้ตายเถอะไม่เคยคิดว่าผู้ชายจะน่ารักได้แบบนี้


“เอาไว้หลังสอบเสร็จ พี่จะพาไปที่สนามนะ “

แม้ว่าผมจะไม่ได้รับปากน้องว่าจะสอนให้แต่รอยยิ้มที่ส่งมาก็ทำให้ผมอดที่จะยิ้มตอบกลับไปไม่ได้

แค่นั่งคุยกันสัพเพเหระ ยิ้มให้กันไปเรื่อย แค่นี้เอง ผมก็มีความสุขแล้วและผมคิดว่าน้องไม้ก็คิดไม่ต่างจากผม

ทุกๆอย่างก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ให้เวลามันขยับขับเคลื่อนไปพร้อมๆกับความสัมพันธ์ของเราสองคนที่ค่อยๆก่อตัว

 ผมว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไร
ครอบครัวของเราสองคนไม่ได้ปิดกั้นห้ามปรามอะไร นั่นถือเป็นเรื่องดีๆ ถึงจะยังไม่มั่นใจว่าสังคมภายนอกจะเป็นอย่างไร

เราสองคนจะเดินทางสายนี้ด้วยกันอย่างราบรื่นหรือเปล่า ผมไม่รู้ แต่ที่ผมรู้แน่ๆเลยคือใจผมตัวผมจะไม่มีวันปล่อยความรักดีๆของผมให้หลุดมืออย่างแน่นอน


ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมพร้อมที่จะก้าวข้ามผ่านมันไปด้วยกัน และผมก็รู้ว่าไม้ก็คิดไม่ต่างกัน

นี่ไม่ใช่จุดจบมันเป็นจุดเริ่มต้น เส้นทางสายใหม่ในชีวิตจะมีมาให้เราได้เลือกเรื่อยๆและหลากหลายทางเลือกที่จะมีมา

 เพียงแค่ตอนนี้ผมเลือกที่จะเดินเคียงข้างไปกับคนๆนี้ เรื่องของอนาคตที่ยังมาไม่ถึงผมจะปล่อยวางไปไม่นำมาคิดให้เราสองคนเป็นทุกข์

แต่สิ่งที่ผมจะต้องทำคือทำทุกทางให้คนที่ผมรักมีความสุขและผมจะมีความสุขแน่นอน






..............END...................


พันวาชวนคุย


เรื่องราวน่ารักๆของคนสองคนดำเนินมาจนตอนสุดท้าย ที่จริงเรื่องนี้ครั้งแรกพันวาจะแต่เป็นแค่เรื่องสั้น ไม่รู้มันลากยาวมาถึงตรงนี้ได้อย่างไร เป็นเรื่องที่เขียนนานที่สุด เพราะเจออุปสรรคในการเขียนและอัพนิยายเรื่องนี้หลายอย่างมาก

อย่างแรกก็สุขภาพที่เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น  งานที่ต้องบินไปโน่นนี่บ่อยๆ
ตามมาด้วยช่วงตกงานเมื่อปี 60 ควบ 62เลย ต้องเดินทางร่อนเร่
พอมาได้งานช่วงกลางปี62 ก็มาเจอ โควิดต้นปี 63 จนถึงตอนนี้ สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

กว่าจะปิดตอนได้เล่นเอาสังขารอ่อนล้ามากค่ะ555555


จบเรื่องนี้มีอีกหลายพล็อตในหัวที่อยากเขียนแต่เวลาคงไม่อำนวยซะแล้ว คงได้กลับมาเขียนเมื่อโควิดจากไป ต้องคิดถึงคนอ่านมากแน่เลย


ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามงานของพันวา ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ หากมีเวลา จะเข้ามาเขียนเรื่องราวดีๆแบ่งปันกันต่อไปนะคะ

รักคนอ่านมากๆเลยยยย :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2020 12:17:12 โดย พันวา »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณมากครับ

จบซะแระ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด