ตอนพิเศษ อดีตที่เจ็บปวด
xxโรงเรียนสาธิตนาวา 6 ปีที่แล้ว xx
“พรุ่งนี้ เจอกันนะเว้ย ใครเบี้ยวแช่งให้ท้องเสียสามวัน”
เสียงร่าเริงของสายชล เพื่อนตัวเล็กของพวกเรา ที่วิ่งเข้ามารวมกลุ่มหลังเลิกเรียน คาบสุดท้ายของเทอมนี้
พรุ่งนี้ปิดเทอมใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่พวกผมรอคอยมานานที่สุด
“เอารถบ้านบัวไปไหมจะได้ไปพร้อมกัน สนุกดีนะ ไม่ต้องขับเองด้วย”เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจจากหนูบัวคุณหนูของตระกูลจิรชัยกุล
“ไม่ขับเองจะสนุกอะไรล่ะ ไปเที่ยวแบบนี้มันต้องเอารถไปเอง”บูรพาผู้นิยมความเร็วตั้งแต่เข้าม.1
“อายุถึงแล้วหรือไงบู เดี๋ยวก็โดนกันหมดหรอก “จีน่าสาวสวยในกลุ่มที่แอบปลื้มบูรพามาตลอด
อันนี้ความเผือกของหนูบัวทำให้ผมได้รับรู้ด้วย แต่ยังคงเป็นความลับสำหรับบูรพา คงต้องรอวันที่จีน่ากล้าพอที่จะบอก
“ไอ้วีขับไง มันหน้าแก่ไม่มีใครจับได้หรอก ฮ่าๆๆ”บูรพาพูดพลางตบไหล่นาวีเต็มแรง
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีคำพูดใดๆหลุดหยาบคายมาให้เพื่อนได้เคือง นาวีเพื่อนคู่ซี้ที่ตัวติดกันตลอดกับบูรพา
และเป็นคนที่คอยเตือนบูรพาเรื่องความใจร้อนมุทะลุ ดูเหมือนนาวีจะใจเย็นที่สุดในกลุ่มเรา
“พูดดีไปเถอะ รถก็ไม่มี พ่อกับแม่คงให้หรอกนะ ไอ้พวกเด็กเหลือขอ เฮ้อ”สายชลยังคงน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย
เป็นผู้ชายคนเดียวที่ตัวติดกับผมมาก อันที่จริงคงเพราะผมชอบดูแลชล เพื่อนตัวเล็กของผมเหมือนเด็กที่ยังไม่โต
เหมือนผมได้เป็นพี่ชายที่คอยดูแลสายชลทุกเรื่อง
“เราว่าเอาแบบที่บัวว่าก็ดีนะ ไปรถคันเดียวกัน สนุกดีจะได้ไม่เหนื่อยด้วย”ผมสนับสนุนความคิดของหนูบัว
“แหมๆ ตัวติดกันมาตั้งแต่อนุบาล เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันเสียทีเนี่ย “
เสียงจีน่าเพื่อนสนิทของบัวเอ่ยเย้าจนผมอดที่จะหน้าร้อนๆไม่ได้ ผมคิดไว้ว่า จะบอกรักหนูบัวที่หัวหิน
มันจะต้องดีมากแน่ๆเลย ความโรแมนติกของสถานที่ คงจะช่วยให้ผมมีความกล้าพอที่จะบอกออกไป ก็ได้แต่หวังว่ามันจะดีครับ
“พูดไปจีน่า ยัยแสบนี่ชอบแต่จะหาผู้ชายมาให้เราเถอะ ไม่ได้อยากมีผัวนะอยากมีเมีย “
ผมแสร้งว่าเสียงเศร้า แต่เสียงหัวเราะของจีน่าและหนูบัวทำให้ผมหมั่นไส้
อันที่จริงเพื่อนผมทุกคนสำคัญเท่ากันหมด เพียงแต่หนูบัวเป็นคนพิเศษก็เท่านั้น
“เลิกคุยๆ แยกย้ายเลย พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า วันนี้จะได้ไปเตรียมตัวกัน ไปๆ”
สายชลขัดขึ้นแทบจะทันที ผมหัวเราะไปกับท่าทางหน้างอบึ้งตึง แต่น่ารักของเพื่อนตัวเล็ก
มันน่ารักจนผมอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปจับศรีษะเล็กๆนั้นโยกไปมาเบาๆด้วยความเอ็นดู
ชลเหมือนเด็กประถม รอยยิ้มสดใสแลดูสดชื่นและอารมณ์ดีตลอดเวลา เหมือนผมมีน้องชายที่อายุเท่ากัน
เพราะความน่ารักของสายชล ผมเลยจะดูแลเพื่อนคนนี้มากกว่าคนอื่นๆ อย่างหนูบัวน่ะเหรอยัยนั่นถึกกว่าผมอีกครับ
ไม่ต้องดูแลอะไร เพราะบัวดูแลตัวเองได้ และทำตัวติดกับจีน่าแจ เข้าขากันดีเรื่องหาผู้ชายให้ผมเนี่ย
ผมเลยต้องดูแลชลเป็นพิเศษ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว สำหรับผมสายชลน่าปกป้องน่าดูแล เพราะความดูซื่อๆไม่ทันใครเขา
แรกๆหนูบัวยังจิ้นผมกับสายชล โดนล้ออยู่เป็นปี แต่ผมไม่ได้ถือสาอะไร ยังคงดูแลสายชลเรื่อยมา
ตัวสายชลเองก็คงไม่ได้ถือสา เรายังคงทำตัวเหมือนเดิม ดูแลกันมาตลอด
ปีนี้พวกเราจบมัธยมต้นแล้วกำลังจะขึ้นชั้นมัธยมปลายอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาของเพื่อนๆครับ
กลุ่มผมมีกัน หกคน มีหนูบัวกับ สายชล ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ประถม ส่วนนาวี บูรพา และจีน่า ที่พึ่งจะมาสนิทกันตอนม.1
ผมมีช่วงเวลาดีๆ กับกลุ่มเพื่อน ๆ เป็นช่วงเวลาที่วิเศษมาก จนอยากจะหยุดเวลาไว้แค่นี้
พรุ่งนี้พวกเรานัดรวมตัวกัน ไปเที่ยวทะเลหัวหินกัน บ้านพักตากอากาศของตระกูลจิรชัยกุล คือเป้าหมายของพวกเรา
เหมือนเป็นพักร้อน ครั้งแรกที่พวกเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันและได้ห่างจากหนังสือเรียนที่ชวนปวดหัว
มันต้องเป็นพักร้อนที่แสนวิเศษแน่นอน ถ้าไม่มีเหตุการณ์นั้น เป็นเหตุการที่ผมเฝ้าแต่คิดว่า
ถ้าผมตอบรับความต้องการของเพื่อนตอนนั้นคงไม่มีเหตุการณ์น่าเศร้านั้นเกิดขึ้น
..หัวหิน...
[/color]
เป็นเวลาหลังมื้อค่ำ ที่ทุกคนกินอิ่มและแยกย้ายกันไปนอน แต่ผมถูกสายชลคะยั้นคะยอให้ออกมาหา ที่สระน้ำริมหาดของบ้าน
เป็นบ้านสองชั้นหลังใหญ่ มี7ห้องนอน ที่มีไว้รองรับครอบครัวใหญ่ของหนูบัว เวลามาพักที่นี่
สระน้ำอยู่ด้านหลังของบ้านของบ้าน ติดกับชายหาด ที่เป็นหาดส่วนตัว ทะเลยามค่ำคืนก็น่ามองไปอีกแบบลมทะเลพัดมาเรื่อยๆไม่แรงมากนัก
บรรยากาศเย็นสบายแต่ผมกลับร้อนใจเพียงเพราะเพื่อนตัวเล็กที่เรียกผมออกมาตอนเวลาจะเข้านอนแบบนี้ มันจะไม่อะไรเลยหากไม่ใช่การสารภาพรัก
“ไม้ คือชลชอบไม้นะ ชอบมากเลย..ชอบมาตลอดตั้งแต่ได้รู้จักกับไม้ ชอบจนคิดว่าตอนนี้มันคงเป็นความรักแน่ๆ ”
“เอ่อ...ชอบเหรอ..? แบบไหน ?“
“ก็..เป็นแฟนกับชลนะ คบกับชลได้หรือเปล่า “
คนตัวเล็กหน้าแดงเถือกไปทั้งหน้า มือเล็กๆนั่นจับกันแน่น บีบเข้าหากันจนผมต้องยื่นมือไปจับแล้วดึงมันออกจากกัน
เพราะเกรงว่าจะบีบจนเจ็บ ยิ่งผมทำแบบนั้นชลยิ่งก้มหน้าลงแต่ก็ซ่อนสีแดงๆที่ลามไปทั่วทั้งหน้าทั้งคอไม่มิด
เพื่อนผมกำลังเขิน แต่ผมกลับรู้สึกตรงกันข้าม ผมเป็นห่วงเพื่อน
“ชล...เราเป็นเพื่อนกันนะ..เราไม่ได้คิดกับชลเกินกว่าคำว่าเพื่อน”
“แต่ๆ ไม้ก็ยังไม่มีใครไม่ใช่เหรอ ที่ผ่านมาไม้ดูแลชลดีขนาดนั้น ไม้ไม่ได้คิดอะไรกับชลเลยเหรอ”
สีหน้าที่ดูลังเลแปลกใจทั้งยังเคลือบไปด้วยความกลัวอะไรบางอย่าง และคงเป็นคำตอบของผมที่ชลกลัว
“เราดูแลเพื่อนทุกคนเหมือนกันนะชล เราไม่ได้คิดเกินเลย ขอโทษนะถ้าการกระทำของเราทำให้ชลคิดไปแบบนั้น “
“ไม่จริง ไม้เคยบอกว่าชลน่ารัก ไม้บอกว่าชลน่าดูแล ไม้บอกจะดูแลชลไปตลอด แล้วตอนนี้ทำไม”
“ชล.. เราดูแลชลมาตลอดและจะดูแลต่อไปในฐานะเพื่อนนะ เราขอโทษนะที่รับความรู้สึกนั้นของชลไว้ไม่ได้”
“ละ..แล้วมาใจดีกับชลทำไม มาให้ความหวังกันทำไม ฮึก ..”ร่างเล็กๆของสายชลเริ่มสั่นเสียงสะอื้นและน้ำตา ทำให้ผมยืนนิ่ง
ผมไม่เข้าใจว่าผมไปให้ความหวังตอนไหน ผมทำตัวปรกติ เป็นห่วงเพื่อนดูแลเพื่อนตามปรกติ
อาจจะดูแลชลมากหน่อยเพราะชลเหมือนเด็กๆ ที่ต้องได้รับการดูแล หรือนั่นคือความผิดของผม
“ไม้...ให้โอกาสชลไม่ได้เหรอ ชลรักไม้นะ ขอร้องล่ะ ขอโอกาสชลนะไม้ เป็นแฟนกันนะ ”
“ชล..คือเรา ..”
“หรือไม้รังเกียจชลเหรอ รังเกียจเค้าเหรอ ฮืออ “ชลเดินเข้ามากอดผมไว้แน่นจนผมอึดอัดแต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้
หนูบัวกับจีน่าคงหลับไปแล้ว แล้วผมควรทำยังไง
“ไม่ใช่นะ คือมันไม่ใช่แบบนี้”
“พอได้แล้วน่าชล “เสียงทุ้มห้าวของบูรพา ดังแทรกขึ้นมา ตามด้วย นาวี ที่เดินออกมาจากมุมของบ้านที่เดียวกับบูรพา
“วี บู..?? ”ผมหันไปตามเสียงมองดูเพื่อนรักอีกสองคนที่เดินออกมาจากมุมของสระน้ำ เหมือนรออยู่ก่อนแล้ว นี่มันอะไรกัน
“จะมาเยาะเย้ยเราเหรอ ไปไกลๆเลยนะ เราไม่ยกไม้ให้พวกนายหรอก “
เสียงที่อู้อี้ ของชลบ่งบอกให้รู้ว่าบูรพากับนาวีรู้ว่าชลคิดยังไงกับผม
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไม..”ผมสับสนกับคำพูดของสายชล และท่าทีของนาวีกับบูรพา
“ไหนๆก็ไหนๆแล้วมาเปิดใจคุยกันเลยดีกว่า ไม้ ...เราเองก็ชอบนาย ชอบแบบอยากเป็นแฟน อยากเป็นคนรัก ไม้ชอบใครบอกมาเลย จะได้รู้กันไปไม่ต้องมาอึดอัดกันทีหลัง และจะได้ไม่ต้องมีใครไปมโนเข้าข้างตัวเอง”
บูรพาพูดขึ้นพลางปรายตามองสายชลที่ยังยืนสะอื้นอยู่กับอกผมไม่ยอมปล่อย
"ชล..ไหนบอกว่าถ้าไม้ไม่ได้คิดเหมือนชล ชลจะให้โอกาสเราไง"นาวีที่ยืนนิ่งๆเอ่ยขัดขึ้นมาระหว่างบูรพาและสายชล
ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ภาพเพื่อนรักทั้งสามคนของผมที่ยืนนิ่งเงียบ มีเพียงสายตาที่จ้องมองมาที่ผม ราวกับจะกดดันผมเลือกใครสักคน
“ทำไม..เราเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ เป็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่ ทำไม”
เสียงผมเบาจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงตัวเอง ผมไม่เข้าใจ ว่าผมไปทำอะไรจึงทำให้เพื่อนสนิทของผมคิดเป็นอื่นไป
“ไม้ไม่รู้หรือไง พวกเราสองคน ชอบไม้มานานแล้ว ชอบตั้งแต่แรกที่ได้เจอกัน ไม้แค่เลือกใครสักคน เราหรือชล ทุกอย่างจะจบ”
“ทำไมต้องเลือก พวกนายเป็นเพื่อนเรานะ อีกอย่างเราไม่ได้ชอบผู้ชาย..เราไม่เลือกใครทั้งนั้น “
“ไม้อย่าปฏิเสธชลเลย ลองคบกันไปก่อนก็ได้ ถ้าไม้รังเกียจ ชลต้องตายแน่ๆเลย ฮึก ขอร้องล่ะ”
สายชลยังคงกอดผมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย บูรพาเป็นคนที่เดินเข้ามาดึงเอาตัวชลให้ออกห่างจากผม
“ปล่อยเรานะบู “
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ชล อย่าใช้ความน่าสงสารของนายมาบังคับไม้นะ มันไม่แฟร์กับเรา “ใช่มันไม่แฟร์สำหรับผมด้วย
“ชล บู มันบังคับกันไม่ได้หรอกนะความรู้สึกน่ะ เรารักพวกนายแบบเพื่อน เราไม่ได้คิดเกินเลยไปกว่าเพื่อนนะ “
“เอางี้ เราไม่บังคับไม้หรอก แค่ไม้รู้ว่าเรารู้สึกยังไงก็พอ จากนี้ไปเราจะจีบไม้นะ ให้เราได้จีบก็พอ ได้หรือเปล่า”บูรพาเอ่ยยิ้มๆพลางมองมาอย่างมีความหวัง
“เอ่อ..”
“ ชล..เราขอร้อง..ยังมีเราอยู่ตรงนี้”นาวีที่ยังคงใช้สายตามองมาที่ชลที่ที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุด
“เราไม่อยากให้ใครมาเสียเวลากับเรานะ “
ผมจริงจังกับความรู้สึก ผมรักเพื่อนทุกคนผมหวังดีกับทุกคน ผมไม่ต้องการที่จะทำให้ใครเสียใจเพราะผม
“เราถามแค่คำเดียวนะไม้ ไม้รังเกียจพวกรักร่วมเพศหรือเปล่า ไม้รังเกียจพวกเราไหม ที่พวกเรารู้สึกกับไม้เกินเพื่อน”บูรพาเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง
“ก็..ไม่หรอก เราไม่ได้รังเกียจ แต่..”
“ไม่ได้นะ ไม้ จะคบใครไม่ได้ ไม้ต้องคบกับชลนะ ชลรักไม้มาตั้งนานแล้ว ได้โปรดไม้ เป็นแฟนชลเถอะนะ “
ชลสะบัดตัวออกจากบูรพา พุ่งเข้ามาสวมกอดผมไว้เหมือนเดิม เสียงสะอื้นของสายชลยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ
“นี่เตี้ย ไม้มันก็บอกแล้วนี่ จะมาคาดคั้นทำไม แล้วเราล่ะ เราที่ทำทุกอย่างให้ชลมาตลอดทำไมชลไม่มองเราบ้างห๊ะ “
นาวีเอ่ยเสียงดุ ใส่ชลอย่างเหลืออด นาวีที่ใจเย็นเสมอ ตอนนี้กลับดูร้อนจนจะกระชากเพื่อนร่างเล็กให้หลุดออกจากตัวผม
แต่ผมไม่ได้ปล่อยตัวชลออกไป ผมสงสารเพื่อนตัวเล็กที่ร้องไห้ไม่หยุด
“ชล อย่าร้องสิ ตาบวมหมดแล้ว ชลคนร่าเริงหายไปไหน น้ำตาไม่เหมาะกับชลเลยรู้หรือเปล่า อย่าร้องเลยนะ เราไม่ชอบน้ำตาชลเลย”
ผมใช้มือเกลี่ยน้ำตาที่ยังคงไหลมาเปรอะแก้มของสายชลด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
“ฮึก..ชล...จะ.. จะไม่ร้อง ไม่ร้องแล้ว ฮึก..ไม้จะคบกับชลใช่ไหม ..ใช่ไหม ”
“เรา..ขอคิดก่อนนะชล พรุ่งนี้เราจะให้คำตอบชลนะรอได้ไหม ขอเราคิดก่อน ”
ผมถ่วงเวลาให้ตัวเองแม้ว่าคำพูดที่ดูเหมือนจะให้โอกาสสายชล แต่ในใจผมรู้ดีว่า ผมไม่ได้คิดเกินเลยไปกว่าคำว่าเพื่อน แต่ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกเลย
“จริงๆนะ ไม้ต้องคบกับชลนะ ไอ้บูมันจะเอาไม้ทำเมีย แต่ชลเป็นเมียให้ไม้ได้นะ ชลรักไม้จริงๆนะรักไม้คนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว “
เสียงร่าเริงขึ้นมาทันทีที่ผมบอกขอคิดก่อน อดตกใจไม่ได้ที่เพื่อนทั้งสามคนรู้ว่าแต่ละคนคิดยังไงกับผม
และคำพูดคำจาที่ดูไม่เหมาะกับชลไหนจะสายตาที่ดูเยาะเย้ยนาวีแบบนั้นทำให้ผมเหวอไปพักใหญ่เลย
“เฮอะ ไปให้ความหวังมันเดี๋ยวก็ยุ่งไปใหญ่หรอก ”
เสียงบูรพาเอ่ยขึ้นมื่อผมกอดชลเพื่อปลอบใจ ผมรู้ว่าเพื่อนคิดยังไง แต่ผมก็ไม่สบายใจ ที่เพื่อนเอาแต่ร้องไห้แบบนี้
“เพราะไม้เป็นแบบนี้ไง ไอ้ชลมันเลยตัดใจไม่ได้ บางครั้งไม้ต้องชัดเจนกว่านี้นะ “
นาวีพูดเสียงแข็งเหมือนโกรธกัน ก่อนจะหันหลังเดินจากผมไป
บูรพาที่ส่งสายตาเจ็บปวดมาให้ เมื่อผมพูดจบ พวกเขาคงคิดว่าผมเลือกสายชล แต่ ผมไม่ได้เลือก ผมแค่ปลอบใจเท่านั้น
พรุ่งนี้เราค่อยคุยกันใหม่ ถ้าทุกคนใจเย็นลงกว่านี้ น่าจะคุยด้วยเหตุผลเข้าใจได้ ผมคิดแค่นั้น
กว่าเราสี่คนจะแยกย้ายก็ดึกพอสมควร ผมเดินขึ้นมาส่งสายชลที่ห้องก่อนจะลงไปหาอะไรร้อนๆดื่ม
วันพรุ่งนี้ ผมจะทำตัวยังไงนะ ผมควรปรึกษาใครสักคน ผมนั่งลงที่โซฟากลางห้องก่อนจะยกนมอุ่นๆขึ้นจิบปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปอย่างห้ามไม่ได้
“ดึกแล้วทำไมไม่นอน “เสียงหวานใสของเพื่อนรักเอ่ยทักขึ้นจนผมสะดุ้ง
“แล้วบัวล่ะทำไมไม่นอน”
“ก็ที่จริงยังไม่หลับ เห็นพวกนายคุยกันที่สระริมหาด ...บัวขอโทษที่แอบฟังนะ...ไม้..โอเคหรือเปล่า “
บัวรู้แล้วสินะ แต่คงเป็นเพราะบรรยากาศมันเครียด บัวเลยไม่ดีใจเหมือนทุกทีที่เห็นผู้ชายมาจีบผม
เพราะคราวนี้มันเป็นเพื่อนสนิท ที่ผมควรระวังความรู้สึกเป็นพิเศษโดยเฉพาะสายชล
“อือ..ไม้โอเค ..บัวว่า ไม้ควรจะทำยังไง ไม้คิดอะไรไม่ออกเลย สามคนนั่น...”
เป็นอะไรที่ช็อกผมมาก นาวี รักสายชล แต่สายชลกับบูรพารักผม ผมรักหนูบัว มันบ้าไปแล้วความรู้สึกแย่ๆแบบนี้ผมจะผ่านมันไปยังไง
“บัวถามไม้ตรงๆนะ ไม้คิด อะไรกับบูหรือชลบ้างไหม ใครสักคนที่ไม้คิดว่าจะสามารถพัฒนาความรู้สึกไปเป็นมากกว่าเพื่อนได้ “
“ไม้ไม่ได้ชอบผู้ชายนะ..คือว่า..... ไม้รักหนูบัว คนที่ไม้รักมาตลอดคือหนูบัวนะ ไม่คิดจะรักใครอีก “
ผมตัดสินใจสารภาพโดยไม่คิดถึงบรรยากาศโรแมนติกใดๆ
ดวงตาที่เบิกกว้าง ทั้งยังสีหน้าอ้ำอึ้งเหมือนลำบากใจของหนูบัวทำให้ผมรู้คำตอบโดยไม่ต้องถามซ้ำ
ตอนนี้ผมรู้เลยว่าเพื่อนทั้งสามคนของผมรู้สึกอย่างไร ใจมันเจ็บปวดไปหมด จนรู้สึกขมในลำคอ
รู้สึกว่าดวงตาจะร้อนผ่าวเหมือนน้ำตามันจะกลั้นไม่ไหว ผมเข้าใจเพื่อนดีตอนนี้เอง ว่ารัก ที่ไม่ได้รักตอบ มันเจ็บปวดเหลือเกิน
“ไม้...บัวรักไม้นะ แต่ ไม่ใช่แบบนั้น เอางี้ไม้ เรามาเป็นไม้กันหมาให้กันดีกว่าเนอะ บัวน่ะรักไม้นะ แต่ไม่ได้รักแบบนั้น และบัวเองก็เชื่อว่า
ไม้ไม่ได้รักบัวแบบนั้นเหมือนกัน เราแค่ใกล้ชิดกันเกินไปเรามีความผูกพันธ์ฉันท์พี่น้องมากกว่าจะเป็นคู่รักนะ
เอาเป็นว่าเรามาให้โอกาสตัวเองกันไหมไม้ เราก็เป็นเพื่อนกันไปอย่างนี้ ช่วยคัดกรองคนที่เข้าหาเรา ช่วยกันดูว่า
ใครเหมาะหรือรักใคร สุดท้ายถ้าเราโตเป็นผู้ใหญ่และยังไม่มีใคร ถึงเวลามีครอบครัวแล้วเราค่อยมาดูเรื่องนั้นกันอีกทีตกลงไหมไม้
เป็นแฟนกำมะลอไปก่อนดีกว่าเนอะ ”
เป็นการปฏิเสธที่ผมไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไรดี เหมือนๆจะได้กำลังใจด้วย เหมือนว่าจะเจ็บปวดด้วย แต่มันก็ไม่เชิงว่าจะรู้สึกแย่จนรับไม่ไหว
ผมยิ้มเศร้าๆให้หนูบัว ดูเอาเถอะขนาดรู้ว่าผมรู้สึกยังไง หนูบัวก็ไม่เคยเดินจากผมไป ร่างเพรียวบางเดินเข้ามากอดผมเอาไว้
ราวกับจะปลอบใจ ได้ข้อเสนอเป็นแฟนปลอมๆฮ่าๆๆ ผมอยากจะหัวเราะทั้งน้ำตา แต่อย่างน้อย ตอนนี้บัวก็ยังไม่มีใคร
หากคบกันไปแบบนี้ หนูบัวอาจจะใจอ่อนให้ผมสักวัน
แต่อ้อมกอดของเพื่อนนั่นก็เป็นการช่วยผมได้มากทีเดียว ผมอาจจะลืมเลือนความเศร้าได้บ้าง จริงๆก็ยังเศร้าที่โดนปฏิเสธ
แผลยังสดใหม่ แต่เพราะคำพูดหนูบัวช่วยผมได้เยอะ และได้คำปลอบใจมามากโข จนคิดว่ามันจะดีขึ้นเอง
ผมก็ทำใจได้ระดับหนึ่ง ที่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน อย่างน้อย บัวก็ยังอยู่ข้างๆผม
“แล้ว....ไม้..คิดยังไงกับสองคนนั่น ไม่คิดจะรักใครสักคนเลยเหรอ “ยังไม่วายอยากจะจับคู่ผมอยู่ดี
“ไม่ ...ไม้ไม่ได้รู้สึกอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อนเลย ทั้งชล ทั้งบู ไม้รักบัวคนเดียวเลยเนี่ย คุณแฟน”
ผมละคำว่ากำมะลอ ไว้ในใจ ก่อนจะบีบจมูกรั้นๆนั่นด้วยความมันเขี้ยว
“แต่ไอ้ชลน่าเป็นห่วงมากนะ มันจริงจัง ไม้บอกว่าจะบอกชลพรุ่งนี้ ไม้จะบอกชลยังไงล่ะ “
ผมนิ่งคิดสักครู่ นึกถึงคำปฏิเสธของหนูบัวที่ให้กับผม มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
บางที ที่ชลเป็นแบบนั้นคงเพราะผมที่ยังทำตัวเหมือนให้ความหวังเพื่อน บูรพา ยังดูเข้าใจ แต่สำหรับชลคงต้องให้เวลา
“ไม้เชื่อว่าสักวันชลจะทำใจได้ เพราะไม้ไม่มีวันรักชลในแบบที่ชลต้องการ..คำตอบของไม้คือไม้รักบัว เป็นแฟนบัวคนเดียวนี่แหละยัยตัวแสบ“
ผมบอกไปอย่างที่คิด ผมยังอยากเป็นแฟนหนูบัว แม้ว่าจะถูกตัดโอกาสนั้นไปแล้วก็ตาม
“แล้ว..มาบอกให้ชลรอทำไม โกหกชลเพื่ออะไร “เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้ผมกับหนูบัวหันไป พร้อมกัน ด้วยความตกใจ
“ไม้เป็นแฟนบัวทำไมไม่บอก มาหลอกชลทำไม “ถึงตอนนี้ผมชักจะโมโหคนที่พูดไม่รู้เรื่อง
“มันไม่ใช่แบบนั้นนะชล เรากับบัวไม่ได้เป็นอย่างที่ชลคิด และอีกอย่างเราไม่เคยหลอกชลนะ ชลเป็นเพื่อนเรา เป็นเพื่อนเท่านั้น
เรารักชลแบบนั้นไม่ได้ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเราก็รักหนูบัว เรารักหนูบัว รักมานานแล้วด้วย “
แม้ว่าบัวจะไม่ได้รักผมก็ตาม ผมว่าพลางยื่นมือไปจับมือหนูบัวไว้บีบเบาๆขอกำลังใจ เป็นคำพูดที่ดูใจร้ายแต่ผมควรจะทำตั้งแต่แรก
เผื่อที่ชลจะได้ตัดใจ หนูบัวเองก็นิ่งเงียบไปคงเพราะตกใจที่ชลเข้ามาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
ทันทีที่ผมพูดออกไป ชลเบิกตากว้าง น้ำตาร่วงราวกับทำนบเขื่อนแตก ผมอยากเข้าไปกอดเพื่อนปลอบใจ
แต่คำพูดของบูรพากับนาวีเมื่อตอนอยู่ที่หาดว่าผมไม่ควรให้ความหวังชล ก็ทำให้ผมยืนนิ่ง มองสายชลวิ่งร้องไห้กลับไปที่ห้อง
“เฮ้อ...”ผมทรุดตัวลงนั่งที่เดิม มีหนูบัวนั่งลงข้างๆ มือเล็กๆนั่นลูบแขนผมเบาๆ เหมือนจะปลอบใจ
“ไม้ไม่เข้าใจเลยบัว ไม่เข้าใจอะไรเลย ไม้เป็นเพื่อนที่แย่มากใช่ไหมบัว"
“พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่นะ เผื่อว่าทุกคนนอนอิ่มแล้วได้คิดกันบ้าง ทุกอย่างจะดีขึ้นนะเพื่อน “
“บัว เพราะบัวเป็นแบบนี้แหละไม้ถึงรักบัวมากไง ไม้คงรักใครไม่ได้หรอกนะ นอกจากบัว”
ไม่ว่าจะเมื่อไหร่หนูบัวก็เป็นเพื่อนที่เข้าใจและรู้ใจผมเสมอ ผมไม่รู้ว่า ชลจะเข้าใจได้แค่ไหน ผมไม่รู้ว่าเพื่อนผมทั้งสองคน
มีความรู้สึกแบบนั้นกับผมตั้งแต่เมื่อไหร่ และชลเหมือนจะไม่เข้าใจอะไรเลย
ปัญหาใหญ่ไม่ได้ตกอยู่ที่ชลคนเดียวแล้วเมื่อผมเห็นบูรพาและนาวียืนนิ่งเงียบอยู่มุมห้อง
“จะบอกพวกเราเมื่อไหร่ ว่านายสองคนคบกัน เห็นพวกเราเป็นตัวตลกเหรอ ถึงเล่นกับความรู้สึกคนอื่นแบบนี้”สีหน้าเจ็บปวดของบูทำใจผมบีบรัดไปด้วย
“ไม่ใช่นะบู มันไม่ได้เป็นอย่างที่บูคิด วี นายพูดอะไรบ้างสิ “
“จะให้เราพูดอะไร ในเมื่อความจริงก็เห็นๆอยู่ ถ้านายสองคนคบกันแค่บอกพวกเรามันยากตรงไหน แต่ทำไมไม่บอก ทำไมล่ะไม้ สนุกเหรอที่ได้ปั่นหัวไอ้ชลมันน่ะ “
“ไม่ใช่นะ เดี๋ยว มาคุยกันให้รู้เรื่องนะ ไอ้พวกบ้านี่ เป็นอะไรกันไปหมดวะ”
ผมโวยวายอย่างหมดความอดทน เมื่อเพื่อนทั้งสองคนเดินขึ้นชั้นบนไปโดยไม่หันกลับมา
“บัว “ผมหันมาหาบัวกลัวเหลือเกินกลัวบัวจะโกรธ กลัวบัวจะคิดมากและเลิกเป็นเพื่อนกับผม
“อย่าคิดมากนะ บัวอยู่ตรงนี้เสมอเลย พรุ่งนี้มันจะดีขึ้น”รอยยิ้มหวานที่เป็นกำลังใจดีๆของผม ทั้งคำพูดปลอบใจทำให้ผมคลายความกังวล
พรุ่งนี้ ผมจะเคลียร์ทุกอย่าง บอกทุกคน ทั้งเรื่องที่ผมเองก็โดนปฏิเสธมาไม่ต่างจากพวกเขา ผมจะไม่ขออะไรเลย
พรุ่งนี้ ผมขอแค่พวกเรายังเป็นเพื่อนกัน ผมขอแค่นั้น หากผมรู้ว่าพรุ่งนี้จะไม่มีอีกแล้วผมคงดันทุรังคุยกับเพื่อนๆตั้งแต่เมื่อคืน
ผมคงไม่รอ จนพรุ่งนี้ เพื่อตื่นมาพบกับความเสียใจ ที่เป็นตราบาปของผมชั่วชีวิต
..................................“กรี๊ดดดดด ชล!!! ช่วยด้วยๆ ฮืออออ ชล... “
เสียงเอะอะของจีน่าปลุกพวกเราให้ตื่นตั้งแต่เช้ามืด เสียงร้องไห้ของจีน่าทำให้พวกเราวิ่งมาที่ห้องพักของสายชล
นาวีมาถึงก่อนและรีบวิ่งไปช้อนเอาร่างเล็กๆของสายชลที่นอนนิ่งอยู่ที่พื้นห้อง ร่างเล็กๆที่เต็มไปด้วยเลือด
พื้นห้องที่เจิงนองไปด้วยเลือดสีแดงที่ไหลไม่หยุดออกมาจากข้อมือเล็กๆของสายชล ผมยืนนิ่งเหมือนถูกสาป
ในหัวไม่มีเสียงใดๆดังเข้ามา นอกจากภาพที่เห็นนาวีอุ้มร่างที่ไร้สติและโชคไปด้วยเลือดของสายชล วิ่งตรงไปที่โรงรถ
บูรพาเป็นคนขับ ผมถูกบัวลากขึ้นรถมาด้วยกัน จีน่าที่ร้องไห้ไม่หยุด ตัวของสายชลซีดจนเหลือง
“ชล ชล ชล ทำไม ทำไมทำแบบนี้ ทำไม “ผมพึมพำด้วยความไม่เข้าใจ ร่างกายราวกับตัดขาดทุกสิ่งรอบตัว
ผมไม่รู้เลยว่าพวกเรามาถึงโรงพยาบาลตอนไหน ผมไม่รู้อะไรเลยเมื่อคุณหมอบอกว่า สายชลจากไปแล้ว
จีน่านั่งร้องไห้อยู่กับหนูบัว บูรพาและนาวีนั่งหน้าเครียดอยู่ข้างๆ พวกเราทุกคนมีแต่น้ำตา
“เพราะมึงเลยไม้ เพราะมึงชลถึงต้องตาย เพราะมึง”
คำพูดของนาวียิ่งกว่าฟ้าผ่าลงมากลางใจ ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั่วร่าง สมองชาจนไม่อาจคิดประมวลอะไรได้อีก
“อย่ามาว่าไม้นะ ไม่ใช่ความผิดของไม้สักหน่อย “
หนูบัวตวาดเสียงดังใส่นาวี ผมที่ได้แต่ยืนนิ่งๆไม่มีคำพูดใดหลุดลอดออกมานอกจากความเสียใจ
คำกล่าวหาของนาวียังดังก้องในหัวผม สมุดโน๊ตเล่มเล็ก ในห้องของสายชลที่จีน่ายื่นมันมาให้ผม ยืนยันคำพูดของบูรพา
“หลอกกันทำไม มาแสร้งรักกันทำไม มาให้ความหวังทำไมถ้าไม่รัก หากชลตาย ไม้คงจะดีใจใช่ไหม ถ้าไม้ไม่ต้องการ ชลก็ไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร ไม้จะต้องจำชลไปตลอดชีวิต ชลจะอยู่ในความทรงจำของไม้ จำชลเอาไว้ อย่าได้หวังว่าจะมีความสุขกับคนอื่น
ลาก่อนไม้
นาวีนั่งร้องไห้อยู่กับบูรพา เพื่อนไม่แม้แต่จะมองหน้าผม
ครอบครัวของสายชลมารับศพตอนสายๆ ผมโดนแม่ของสายชลทุบตีด้วยความเสียใจ ผมยอมเป็นที่ระบายให้กับแม่ของเพื่อน
ผมรู้ว่าท่านเสียใจแค่ไหน ชลเป็นคนน่ารักแต่เพราะผม ชลถึงต้องจากไป เพราะผมคนเดียว
ผมร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา ผมเสียใจ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะพูดกับชลใหม่ ผมจะไม่ปล่อยให้ชลต้องห่างสายตา
ผมจะอยู่กับชล ผมจะเลือกเขา ผมอาจจะรักเขาได้สักวัน ผมอาจจะมีความสุขกว่านี้ ถ้าวันนั้นผมตัดสินใจแบบนั้น
ผมอาจจะไม่ต้องเสียเพื่อนที่ดีอย่างสายชลไป
บูรพา กับนาวี ลาออกจากโรงเรียน คำสัญญาที่จะเรียนที่เดียวกันจะจบพร้อมกันแล้วจะเข้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน ทั้งหมด
มันไม่มีอีกแล้ว นับจากวันเกิดเรื่องวันนั้น เพื่อนทั้งสองคนไม่มาหาผมอีกเลย ทั้งสองคนไม่พูดอะไรกับผมอีก
ทำราวกับว่าพวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน คำสัญญาที่เคยบอกกันไว้คงมีแค่ผมที่จำได้
มีแค่ผม หนูบัวและจีน่า ที่ยังเรียนอยู่ที่เดิม บูรพาและนาวี หายไปจากชีวิตของผมตั้งแต่ตอนนั้น
หนูบัวยังคงเหมือนเดิมจีน่าก็เป็นเพื่อนเหมือนเดิมแต่ท่าทีที่มีต่อผมเปลี่ยนไป เพราะจีน่ารักบูรพา
เธอมองผมเป็นคนที่ทำลายมิตรภาพระหว่างพวกเรา ผมเองก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมกลัวการมีเพื่อนผู้ชายกลัวการมีเพื่อนใหม่
แม้จะเป็นผู้หญิง ผมกลัวว่าจะไปให้ความหวังใครโดยไม่รู้ตัวอีก ผมไม่คบใครอีกเลย แม้แต่จีน่าผมก็ห่างออกมา
ถึงจะเจอกันบ้าง แต่ด้วยท่าทางที่เธอยังคง หมางเมินกับผม ทำให้ผมไม่กล้าพอที่จะกล่าวขอโทษเธอ
ไม่กล้าพอที่จะสนิทใจกับเธออีก ผมจึงมีเพียงหนูบัว เพื่อนคนเดียวที่ยังคงมองผมเป็นผมมาตลอด ตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน
หนูบัวเป็นคนเดียวที่เข้าใจเหตุการณ์และความรู้สึกของผม แต่ถึงจะมีหนูบัวอยู่ข้างๆ
ผมยังคงคิดถึง สายชล คิดถึงจีน่า คิดถึง บูรพา กับนาวี ที่หายไป ผมคิดถึงเพื่อน
ตอนนี้ผมก็ยังหวัง ผมหวังว่าจะได้เจอพวกเขาอีก ขอให้พวกเขาอภัยให้ผม และหวังว่าจะมีใครสักคน ที่เข้าใจ
ใครสักคนที่ช่วยพาผมออกไปจากความรู้สึกนี้สักที ผมเฝ้ารอมาตลอด รอเพื่อที่จะสามารถ ก้าวออกมาจากห้องแคบๆห้องนั้น
ที่ขังผมไว้กับเพื่อนเก่า ..ผมได้แต่รอสักวัน.....
TBC ....
เรื่องมันเศร้า ความรู้สึกที่เราเองควบคุมไม่ได้ รักเหมือนกัน แต่รู้สึกไม่เท่ากัน บูรพาจัดการความรู้สึกได้ตัดใจได้
แต่ นาวีก็น่าเป็นห่วงเพราะคนที่รักไม่มีชีวิตอยู่ให้ได้รักอีกแล้ว บูรพาตัดสินใจดูแลนาวี เพราะไม้ยังมีหนูบัวอยู่ข้างๆ
แต่นาวีที่เสียสายชลไปน่าสงสารจนบูรพาต้องตัดใจจากไม้ หันมาหาเพื่อนสนิทอย่างนาวี ที่คบกันมานาน
เรื่องราวที่เกิดขึ้น สายชล คือตัวแปลสำคัญ สายชลควบคุมความรู้สึกไม่เป็นรักแรงเกลียดแรง
รักของสายชลคือการครอบครอง เมื่อเขาไม่ได้ทางเดียวที่จะมีตัวตนในสายตาของคนที่เขารักคือการทำให้ไม้ไม่ลืมเขา
การเรียกร้องความสนใจในแบบของชลมันรุนแรง และมันก็สำเร็จ เพราะไม้ไม่เคยลืมเลย น้องจมอยู่กับความรู้สึกผิด
และนั่นเป็นเหตุผล ที่พ่อไผ่กับแม่นุ่นเปิดรับพี่โอ๊ตได้อย่างรวดเร็ว
สงสารน้องงงงงงงงงงง
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่าาาา