พิมพ์หน้านี้ - **ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: พันวา ที่ 02-01-2018 10:41:51

หัวข้อ: **ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 02-01-2018 10:41:51
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
***********************************************************************************************************





หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ความเดิมเมื่อ 12 ปีที่แล้ว (2/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 02-01-2018 10:42:10
.

หากต้องการได้อรรถรส มากขึ้น ให้อ่านเรื่องนี้ก่อนเลยค่า

**ตามใจ**..จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55693.msg3473660#msg3473660)


เรื่อง**ตกหลุมหัวใจ**เป็นรุ่นลูกของ พระ+นาย จากเรื่อง **ตามใจ** ค่า

**************************************************************************************************




**ตกหลุมหัวใจ**






สวัสดีค่า...พันวาเจ้าเก่า เรื่องเดิมยังไม่จบ เปิดเรื่องใหม่มาให้รอ 5555


เรื่องนี้เคยคิดพล็อตไว้เมื่อครั้งซีรี่ส์ สามเรื่องสามรส ของพันวาได้จบไป 

หวังว่าจะจำกันได้
**ไร้ใจ**..จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51441.msg3286976#msg3286976)
**เชื่อใจ**..จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53192.msg3358798#msg3358798)
**ตามใจ**..จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55693.msg3473660#msg3473660)
ซ่อนใจไม่ให้รัก (ธรxรัน )จบแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=63929.msg3741232#msg3741232)


เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของน้องไม้  ที่พันวาพยายามเขียนออกมาในแนว ฟิลกู้ดเรื่องนึง ไม่ม่าค่ะไม่ม่า 55555

ความสนุกความซึนและมึนอึน ของเด็กๆในเรื่องนี้จะเป็นเช่นไร รอติดตามได้ใน





ใครจะตามทวงนิยายหรือไปบ่นเป็นเพื่อนพันวาได้ที่เพจนี้เลยค่า .....จิ้ม......**Phanwa** (https://www.facebook.com/Phanwa-135045410317276/)


หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 1 รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง (6/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-01-2018 00:29:15
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 2 ตีสนิท (7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหมีน้ำแดง ที่ 07-01-2018 16:01:38
โอ๊ยฮาอีพี่โอ๊ต :m20: ทำเป็นนิ่ง
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 2 ตีสนิท (7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-01-2018 09:06:57
ท่าทางพี่โอ๊ตจะหลงน้องไม้มากๆเลยนะ 5555555
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 3.....จับคู่ (10/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-01-2018 12:01:27
ไม่รอดหรอกน้องไม้ 5555555
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 3.....จับคู่ (10/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-01-2018 13:01:50
เพิ่งมาเห็นเรื่องนี้
เคยอ่านรุ่นเรื่องก่อน ๆ นะ แต่นานมาแล้ว เลยสงสัยว่าทิวไผ่นี่ใครหว่า สนิทกับเดย์เสียด้วย
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 3.....จับคู่ (10/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 11-01-2018 13:11:54




**ตกหลุมหัวใจ**




                   
ความเดิมเมื่อ 12 ปีที่แล้ว


งานประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย Xs

“ไม้เร็วๆสิหนูบัวยังไม่ได้แต่งหน้าเลยนะ “

“ไม่แต่งก็สวยอยู่แล้วน่า”

“ไม่ได้ๆ วันนี้วันของเราสองคนนะ ต้องสวยสุดๆสิ  “

“ อย่ามาพูดให้ขนลุกหนูบัว จะสวยเพื่อใครอีกล่ะแค่นี้ลุงเดย์ก็หน้าหงิกทุกวันแล้วนะ”

“ใครหงิกกันแน่ยะ อย่าเอาคุณป๊ามาอ้าง เร็วสิ เอ้า ถือนี่ให้หน่อยดิ บัวหนัก..นะ”พูดเสียงอ้อนเพื่อนรักทั้งยังส่งยิ้มหวานจ๋อยอย่างที่เคยได้ผลมาตลอด

“หึ เวลาจะใช้นี่อ้อนมาเชียว “




“ไม้ๆ “

“หืม..?”

“พี่โอ๊ตล่ะไม้ มองไม้ตาปรอยเลย ฮิฮิ “

“หยุด....ไม่ต้องมาจ้งมาจิ้นอะไรบ้าบอของบัวเลยนะ  “

“อย่าหน้าหงิกสิ เดี๋ยวไม่สวยนะไม้”

“ใครสวยไอ้หนูบัว!!!”

“น่าๆ พี่โอ๊ตหล่อนา ดีกรีเดือนมหาลัยเลยน๊า ไม่พิจารณาหน่อยเหรอเพื่อนรัก”

“ไม่!!”

“แหน่ะๆ หน้าแดงนะเรา ฮ่าๆๆๆๆ”

“เฮ้อ ยัยบัวบ๊องเอ๊ย ไปๆไหนมาเร่งเรายิกๆวะ “

ไม้ลากแขนเพื่อนสาวสุดซี้เข้าไปที่ด้านหลังเต๊นท์สำหรับแต่งตัวของเหล่าตัวแทนคณะฯ

 เสียงหัวเราะใสกังวานของหนูบัว และหน้าตาหงิกงอท่าทางไม่พอใจของไม้  ดึงเอาสายตาสองคู่ให้มองตามไปจนสุดสายตา ด้วยความรู้สึกเหมือนกันแต่ต่างคน

“มึงมองคนไหนโอ๊ต ?”

“หึหึ ไม่ใช่ของมึงก็แล้วกัน  ไอ้ปีย์”

สองหนุ่มหัวเราะขึ้นพร้อมกัน ..สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองไปยังหนึ่งหนุ่มหนึ่งสาว ไม่ได้ละสายตาแม้แต่น้อย ราวกับจะบอกว่า


                 .................สองคนนั้นน่ะ.พวกเขาจองแล้วนะ..........




โปรดรอติดตามความบันเทิงในตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 4 รุก (14/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 14-01-2018 16:44:26
ระหว่างพี่โอ๊ตกับน้องไม้ ใครจะตกหลุมรักก่อนกันน้า
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 4 รุก (14/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-01-2018 17:16:11
ไม่ต้องเดาแล้วม้างงง อิพี่ชอบน้องไปแล้ว ชัวร์
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 4 รุก (14/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-01-2018 20:52:48
พี่โอ๊ตขนาดนี้แล้วยังซึนไม่รู้ตัวว่าชอบน้องแล้วอีก จะรู้ตัวตอนไหนนิ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 4 รุก (14/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 14-01-2018 23:32:46
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 5 ระแวง (17/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-01-2018 17:24:43
น้องไม้ช่างใสซื่อ ถ้าอิพี่ทำน้องเสียใจเราจะแบนเลยนะ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 5 ระแวง (17/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 17-01-2018 21:12:02
.."แต่คนเจ้าเล่ห์ ส่วนใหญ่จะตกหลุมที่ตัวเองขุดเอาไว้เยอะแยะนา เตือนไว้ก่อนนะพี่โอ๊ต"  :hao3: :hao3: :hao3:
     ถูกใจ ใช่เลยค่ะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 5 ระแวง (17/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 17-01-2018 21:50:11
เรานี่ตอนอ่านเป็นเหมือนสาววายหนุ่มวายในคอมเมนต์เลยอ่ะ 55555 เขินนน
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 5 ระแวง (17/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 17-01-2018 22:21:06
หูยยยยย ไปเดทกันหรอคะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 5 ระแวง (17/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 21-01-2018 12:53:25
อ่านไปอ่านมาจนเราจิ้น #โอ๊ตไม้ ไปด้วยเลย 555
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 5 ระแวง (17/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 26-01-2018 10:18:12
ตามมม :katai2-1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 5 ระแวง (17/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-01-2018 12:04:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 5 ระแวง (17/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: uyong ที่ 26-01-2018 17:04:32
ต า มมมมมมม :mew1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**บทนำ (17/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 27-01-2018 18:34:51


บทนำ
[/color]



“เฮ้ยคืนนี้ที่ห้องไอ้โอ๊ตเลย “เสียงเพื่อนๆคุยกันนัดแนะ หาที่เมาทำให้ผมส่ายหัว จะมีวันไหนที่พวกมันไม่หาเรื่องเมาบ้างวะเนี่ย

“วันนี้ฉลองทำควิซอาจารย์คณิตได้ โว้ยกูรอดละ ฮ่าๆๆๆๆ”ขาเมาเลยคือไอ้ต่าย

“เอาสำรับไปด้วย โอ๊ตคืนนี้มึงดวลกับกู”ขาไพ่ก็ไอ้ปีย์

“หืมม? มึงมั่นใจว่าจะชนะ?”ผมอดที่จะเยาะเย้ยมันไม่ได้ คบกันมานานแล้วครับแต่ไอ้ปีย์ไม่เคยชนะไพ่ผมสักครั้ง

“ถ้ากูชนะล่ะ”

“มึงอยากได้อะไรกูให้มึงขอได้เลย 1 ข้อ ว่ะเพื่อน กูจะไม่ขัดมึงเลย”

“แน่ใจ”

“เออ..สิ”

“มึงเป็นพยานนะโอม “

“ได้อยู่แล้ว”



และคืนนั้น...



“มึงแพ้แล้ว ฮ่าๆๆๆ “เสียงหัวเราะอย่างถูกใจของผองเพื่อนที่สามารถเอาชนะผมได้


วันนี้ไม่รู้เป็นไง ดูเพื่อนผมมันตั้งใจกับการเล่นพนันมากเลย ทุกทีไม่เคยหรอกที่จะมีใครล้มผมได้แต่หนนี้ผมว่าต้องมีอะไรแปลกๆแน่ๆ

“หวังว่ามึงจะไม่ลืมคำพูดตัวเองนะ  เรามาตกลงกันอย่างลูกผู้ชายดีกว่า  หึหึ”

นั่นไงคิดไว้แล้วเชียว ไอ้ปีย์ หรือวันปีย์ เพื่อนสนิทของผมก็ใครจะไปคิดล่ะครับว่ามันจะมาชนะเอาตอนนี้

“มึงจะเอาอะไรก็ว่ามา”

“คืองี้กูมีเรื่องให้มึงช่วย แต่ถ้าขอเฉยๆมึงไม่ทำแน่ๆพวกไอ้โอมบอกว่าต้องชนะพนันมึงเท่านั้นซึ่งวันนี้กูชนะ”

“อย่าเวิ่นเว้อ มีอะไรพูดมา”

เพื่อนๆในกลุ่มผมจะรู้ดีครับถึงนิสัยข้อนี้ กลุ่มผมมีกัน  5 คน มีผม มีไอ้ปีย์ ไอ้โอม ไอ้ต่าย  และก็ไอ้ นาย

ผมกับไอ้ปีย์ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ส่วนไอ้นายกับไอ้ต่ายมาสนิทกันตอนเรียนมัธยมครับ

 มีแค่ไอ้ตัวเล็กทนายปากจัดอย่างไอ้โอม ที่มารู้จักกันตอนปีหนึ่ง 

พวกผม จัดเป็นกลุ่มแบดบอยที่ดังมากๆในมหาวิทยาลัย อ๊ะๆ พวกผมไม่ใช่เด็กเลวยกพวกตีกันนะครับ

ก็ชื่อเสียงส่วนมากก็เรื่องพนันกับเรื่องผู้หญิงนี่ล่ะครับ ผมเป็นคนชอบอะไรที่ท้าทาย ผมชอบความเร็ว

แต่ถ้าจะขับรถเร็วเฉยๆ มันก็ไม่สนุกสิครับมันต้องมีพนันติดปลายนวมกันบ้าง  ที่สำคัญพวกผมเล่นพนันแบบไม่ถลำลึกครับ

มีแค่คนในกลุ่มที่รู้ๆกัน สนามแข่งก็ แล้วแต่โอกาสครับ แต่ส่วนมากพวกผมจะไม่เข้าสนามใหญ่บ่อยนักเพราะรู้ๆกันว่ายังเรียน

สนามใหญ่เป็นสนามที่ผมฝันถึงพอสมควร แต่ผมก็ยังรู้ดีว่าตอนนี้ผมมีหน้าที่เรียน เพราะงั้นเรียนมาก่อน ของพนันทีหลังครับ


“มึงรู้ป่ะโอ๊ตไอ้ปีย์นะมันลงทุนไปฝึกทริคนี้มาเป็นเดือนเพราะมันรู้ว่าถ้าแข่งรถก็แพ้มึงไง เลยเลือกไพ่ มีโอกาสชนะบ้าง
แม่งโคตรตั้งใจเลยกูยอม”

เสียงไอ้ต่าย หรือกระต่ายดังขึ้นขัดอารมณ์หงุดหงิดของผม  ตัวมันยังกับหมีควายแต่ชื่อโคตรมุ้งมิ้ง ทำให้ผมต้องหรี่ตามองไอ้ปีย์เพื่อนรักว่ามันลงทุนขนาดนี้เพื่ออะไร


“คืองี้...เมื่อเดือนที่แล้วน่ะ กูไปเจอสาวคนนึงมา แม่งเอ๊ยโคตรน่ารักเลย นางฟ้าของกูชัดๆ “


“แล้ว?”มันเกี่ยวอะไรกับผมวะ

“แต่ปัญหา คือเหมือนน้องเขามีแฟนแล้วว่ะ “

“อ้าวแดกแห้วแล้วเกี่ยวอะไรกับกูวะ”นั่นสิผมยังนึกถึงความเกี่ยวข้องกับผมไม่ออกเลย

“เกี่ยวสิ ก็ไอ้โอมมันบอกว่าตราบใดที่เขายังไม่แต่งงานกันกูก็มีสิทธิ์ และอีกอย่างนะ เขาอาจจะแค่สนิทกันเฉยๆอาจจะไม่ใช่แฟนกันก็ได้ “

“ความคิดมึงเหี้ยมากว่ะโอม”

“กูเปล่า มึงลองคิดดูนะ ถึงเขาจะเป็นแฟนกัน แล้วไงล่ะ ถ้าเกิดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งลังเลหรือหันไปชอบคนอื่นก็แสดงว่า เขาไม่ได้รักกันเองนะ ใช่ไหมวะนาย “

“อย่ามายุ่งกับกู”

ไอ้นาย ที่ยอมให้เพื่อนๆเรียกน้องนาย ไอ้เหี้ยนาย จะอะไรก็เรียกได้ ยกเว้น ห้ามเรียกมันว่า คุณนาย ..งานนี้มีตื้บครับบอกเลย มันโกรธจริงจังเลยล่ะครับ

“แล้วยังไงวะปีย์ กูยังไม่เห็นว่ากูจะช่วยอะไรมึงได้เลย”

“ช่วยได้สิ มึงแพ้ไพ่กูแล้วนะมึงต้องรับปากว่ามึงจะช่วยกู “

“เออๆ บอกมาช่วยได้ก็ยินดีเพื่อน เผื่อเสืออย่างมึงจะสิ้นลายก็คราวนี้ กูอยากเห็น หึหึ “

ดูท่าทางแล้วเพื่อนผมจริงใจไม่น้อย ผมไม่เคยเห็นมันจริงจังเรื่องผู้หญิงแบบนี้มาก่อนคงกะจะถอดเขี้ยวเล็บเลยล่ะมั้ง

“มึงต้องกันแฟนน้องเขาออกห่างจากน้องนางฟ้าของกู”

“กัน? ทำไงวะ? “ทันทีที่ผมถามเพื่อนๆทั้งสี่คนมองหน้าผมเหมือนมีเขางอกออกมาจากหัวงั้นแหละ

“แม่งมึงโง่ว่ะโอ๊ต กูจะบอกให้ มึงก็ตีสนิทแฟนน้องคนนั้นคอยกันออกเนียนๆ  ก็... มึงจีบแฟนเขาเลยไง “

“เฮ้ยยยยยย!!!”ผมร้องเสียงหลง

“อะ...อะไรนะ??”ผมยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่ผมได้ยิน

“มึงฟังไม่ผิดหรอกโอ๊ตมึงช่วยแกล้งจีบน้องไม้ให้กูที “ไอ้ปีย์ย้ำชัดในสิ่งที่ผมได้ยินไปแล้ว

“ผู้ชายเนี่ยนะ ไอ้เหี้ยปีย์ กูไม่ได้เป็นเกย์!!”ผมบอกมันอีกทีเผื่อมันลืม ว่าผมควงผู้หญิงมาทั้งชีวิตไม่คิดจะล่อพวกเดียวกันสักครั้ง


“กูรู้ไง แต่มึงแพ้ คำไหนคำนั้น “


“เชี่ย!!!”






........โปรดติดตามตอนต่อไป

 ครับเชี่ยแน่ๆงานนี้ ชายแท้แมนทั้งแท่ง จีบชายแท้แมนทั้งแท่งเช่นกัน ห่ะ มาเป็นแท่งๆแบบนี้ มาเอาใจช่วยความมึนอึน ซึน ของพี่โอ๊ตคนหล่อ กับน้องไม้คนแมน 

ไหนจะมาสู้รบปรบมือกับสาววายโดยสายเลือดอย่างหนูบัวคนแสบ แล้วต้องมาสู้รบกับหนุ่มๆสาวๆที่หลั่งไหลเข้าหาพ่อไม้คนแมนอีกไม่รู้เท่าไหร่

แค่คิดก็เหนื่อยแล้วใช่ไหมคะ  555555

 พันวาก็หาเรื่องสนุกๆไปเรื่อยๆค่ะ  นานๆจะได้ผ่อนคลาย (หรือเปล่า) หาเรื่องคลายเครียดด้วยการเขียนนิยาย  มีใครบ๊องเท่าพันวาไหมนะ


ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันน๊ารักทุกคนเล้ยยยยยย ระหว่างรอ ก็เม้นท์ มา คริคริคริ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 1 รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง 31/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 30-05-2018 15:21:42



แผนที่ 1 รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง



สวัสดีครับ  ผมนายอินทัช  อิงคนันท์ .ชื่อเล่นว่า..โอ๊ต.... มีผมสีดำสนิท แต่ดวงตาสีน้ำตาลแดง  คิ้วหนา ตาเรียวรี

จมูกโด่งรับกับใบหน้าคมเข้มแบบคนไทยแท้ๆ ผิวสีแทนเพราะผมชอบเล่นกีฬา

ผมเรียนอยู่คณะวิศวะฯเอกโยธาและเป็นเดือนมหาลัย ปี 3

ส่วนสูง 185 เซ็นติเมตร  เป็นนักกีฬาฟุตบอลของมหาวิทยาลัย

ลูกรักของผม แอสตัน มาร์ติน DB 10 สีเทาเหลือบดำ  เป็นสีที่หายาก และมีไม่กี่คันที่ผลิตรุ่นนี้มา  ฟังดูแล้วหมั่นไส้ผมล่ะสิ
 
คนมันหล่อพ่อรวยครับ ผมก็รวยนะ แต่ไม่เท่าพ่อ เพราะพ่อสอนผมทำธุรกิจตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลาย

การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องรอ พ่อว่าแบบนั้นครับผมเลยมีธุรกิจเป็นของตัวเองตั้งแต่เข้าเรียนปี1   


และรวมๆแล้ว ผมหล่อครับ หล่อแบบไม่ต้องหลงตัวเองเลยเพราะมีคนมาหลงผมมากมาย  แต่..ทำไมผมต้องไปจีบผู้ชายวะครับ!!!!




ไอ้ปีย์ มันเล่าเรื่องน้องนางฟ้าของมันให้ผมฟัง น้องลงประกวดดาวในงานเฟรชชี่ด้วย ชื่อน้องบัว สวยโคตรๆ


เป็นน้องปีหนึ่งคณะอักษรฯ มีแฟนแล้วเรียนคณะเดียวกันลงประกวดเดือนคู่กันอีก  คงหล่อน่าดูชื่อน้องไม้ 


เข้ามาเรียนแบบแพ็คคู่ น้องมันดังข้ามคืนด้วยหน้าตาและนิสัยที่ดูจะเฟรนด์ลี่ มาก  ผมยังไม่เคยเจอทั้งสองคนครับ


 เพราะต้นเทอมผมยุ่งกับงานของมหาลัยมาก เพราะผมเองก็เป็นทั้งเดือนคณะวิศวะฯและมหาลัยด้วย


แต่งานประกวดหนุ่มสาวเฟรชชี่อาทิตย์หน้า ที่จะถึงนี้ผมต้องเข้าไปทำหน้าที่อยู่แล้ว ดูท่าทางจากเพื่อนผม แล้ว ถามว่า ผมช่วยมันไหม


 ก็เพื่อนกันครับ ผมรักเพื่อน ก็ต้องช่วยมันอยู่แล้ว แต่การแย่งแฟนคนอื่นนี่ เป็นครั้งแรกของผมเลยนะ ถึงแม้ว่าพวกผมจะขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิง


แต่พวกผมไม่นิยมแย่งของใคร งานนี้ผมไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย จีบผู้ชายเหรอวะ อยากจะบ้าตาย



 “เอาวิธีอื่นไม่ได้เหรอวะ ปีย์ทำไมกูต้องจีบผู้ชายด้วยวะ และอีกอย่างเป็นมือที่สามมันไม่ดีนะโว้ย “

“มึงจะมาเป็นคนดีตอนนี้ไม่ได้เพื่อน กูจะบอกมึงคร่าวๆนะเพื่อนโอ๊ต มึงเป็นเดือนมหาลัยใช่ไหม”

“อือ”

“มึงหล่อไง หล่อโคตรๆ ผู้ชายเห็นมึงยังยอมเลย เหล่าเก้งกว้างเสนอตัวให้มึงกันเยอะแยะมึงไม่รู้หรือไง”

“อันนั้นมันก็ใช่ แต่น้องคนนี้เขาเป็นผู้ชายเหมือนมึงกับกูไง เขาไม่สนกูหรอก”

“มึงไม่มั่นใจตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่วะโอ๊ต “

“ตั้งแต่มึงให้กูจีบผู้ชายนี่แหละ “ผมพูดอย่างท้อใจ

“ที่กูให้จีบน่ะเพราะถ้าเป็นวิธีอื่นน้องบัวเขาคงไม่หันมาแลกู  แต่ถ้าแฟนเขากลายเป็นเกย์ล่ะ หึหึ กูได้โอกาสปลอบใจเลยนะมึงทีนี้กูก็จีบเนียนๆเลย งานนี้เข้าวินเห็นๆ”


ผมชักจะมองเห็นดีเห็นงามตามเพื่อน แม้จะมีแย้งในใจว่ามันคิดง่ายไปป่ะวะ 

“เขาเป็นผู้ชาย เขาจะรักกูได้ยังไง “ผมไม่วายจะโอดครวญร้องขอความเห็นใจ

“นั่นก็วัดฝีมือมึงไงเพื่อน  แค่จีบเอง สนุกๆน่า”


เอาวะ กะอีแค่จีบ ก็ดีเหมือนกันดูซิว่าสเน่ห์ของผมจะใช้กับผู้ชายแท้ๆได้ไหม งานแสดงผมมีนะจะบอกให้

แอ้คติ้งผ่านฉลุยก็แค่จีบไม่ได้ไปเอาน้องมันสักหน่อย

 
“แค่ทำให้น้องบัวคิดว่าแฟนเขาเป็นเกย์ใช่ไหม”

“เออ..”

ถ้าแค่นั้นก็ไม่ยากเท่าไหร่ พอไอ้ปีย์จีบน้องบัวติด ผมค่อยสลัดน้องไม้ทิ้ง แต่ดูๆแล้วน้องมันเป็นผู้ชาย คงไม่ได้คิดอะไรหรอก

ขอโทษล่วงหน้าละกันน้อง ผมทำใจอยู่นานมากจนถึงวันที่ไอ้ปีมันพาผมไปดักน้องไม้อะไรนั่นแหละ ชีวิตผมเริ่มเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง


 ผมเคยได้รับฉายาคนสองหน้าจากกลุ่มเพื่อนรัก เพราะว่าเวลาที่ผมอยู่ในสังคมผมจะเงียบไม่ค่อยพูดง่ายๆคือพูดน้อยมากครับ

เพราะผมชอบมองชอบสังเกต ปล่อยให้คนชอบคุยเขาคุยกันไป  มันเป็นนิสัยครับ เวลาอยู่กับคนไม่สนิท


 ผมจะเงียบโดยอัตโนมัติ  และเพราะเป็นแบบนั้น ผมจึงจีบใครไม่เป็น และไม่เคยจีบ แล้วทีนี้ ผมจะจีบผู้ชายคนนั้นยังไงช่วยบอกผมที



งานประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัย Xs


 “แหน่ะๆ หน้าแดงนะเรา ฮ่าๆๆๆๆ”

“เฮ้อ ยัยบัวบ๊องเอ๊ย ไปๆไหนมาเร่งเรายิกๆวะ “

ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งกำลังดี  ลากแขนผู้หญิงอีกคนที่หน้าตาดีไม่แพ้กัน ทั้งคู่ตรงไปที่ด้านหลังเต๊นท์สำหรับแต่งตัว

ของเหล่าตัวแทนคณะฯผมได้ยินเสียงพูดคุยกันไม่เบานักแต่จับใจความไม่ได้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน

 เสียงหัวเราะใสกังวานของน้องผู้หญิง และหน้าตาหงิกงอท่าทางไม่พอใจของน้องผู้ชายนั่น 

ดึงเอาสายตา ของผมให้มองตามอย่างไม่กระพริบ 



“มึงมองคนไหนโอ๊ต ?”เสียงไอ้ปีย์ดึงผมออกจากภวังค์ความคิด

“หึหึ ไม่ใช่ของมึงก็แล้วกัน  ไอ้ปีย์”


แน่นอนไม่ใช่สาวสวยคนที่มันหมายปองหรอก ผมน่ะ ทีแรกก็คิดไว้ว่าคงจะทำตามที่เพื่อนมันบอกได้ไม่ดีนัก

แม้จะรู้มาว่าน้องไม้หน้าตาดี แต่ ...ไม่มีใครบอกผมนี่ว่าน้องไม้น่ะไม่ใช่หน้าตาดีธรรมดาครับ น้องมันหน้าตาดีมาก สวยมากด้วย

 อ่า..ใช่เลยผู้ชายอะไรวะโคตรสวยเลย  สวยจนมองข้ามแฟนสาวของน้องมันได้ง่ายๆเลยล่ะครับ


ผมหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่กำลังเคลิ้มแทบจะกลายเป็นเหม่อลอย จนอดไม่ได้ที่จะยกมือตบไหล่ เพื่อนรัก หนักๆ

 ก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะขึ้นพร้อมกัน ..สายตาเจ้าเล่ห์ที่ของไอ้ปีย์ไม่ได้แตกต่างจากผมมากนัก 

ผมไม่ได้ตกหลุมรักผู้ชายนะครับเชื่อผมสิ ผมแค่นึกสนุกเท่านั้นเองจริงๆนะ  ไม่ได้คิดเกินไปกว่านั้นเลยจริงๆ  ผมน่ะ ผู้ชายแมนๆครับ

จีบสาวเอาหญิงมาทั้งชีวิต ไม่คิดแลผู้ชายแน่นอนบอกก่อนเลย


แต่ว่า ผมน่ะอยากจะบอกหลายๆคนว่า  .................สองคนนั้นน่ะ.พวกผมจองแล้วนะ..........จองเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆนะ  :impress2:




.......................



หลังจากวันนั้น ไอ้โอมมีหน้าที่หาข้อมูลน้องไม้มาให้ผม โดยมีผู้ช่วยคือไอ้ต่าย ส่วนไอ้นายมันแพ็คคู่กับไอ้ปีย์ ช่วยหาข้อมูลน้องบัว

ส่วนผมเหรอ แค่คิดว่าจะเข้าหาน้องไม้ยังไงนี่ผมเครียดยิ่งกว่าทำโปรเจคขอจบ อีกครับ เฮ้อออ

 นี่ถ้าพวกมันตั้งใจเรียนเหมือนเรื่องที่ทำอยู่นี่ ผมว่าเกียรตินิยมคงไม่พ้นมือพวกมัน

 ที่พวกมันขยันขนาดนี้เป็นเพราะ พวกไอ้โอมไอ้นายไอ้ต่าย มันดันพนันซ้อนพนันอีกที มันบอกว่าผมไม่มีวันจีบน้องไม้ติด 

พวกมันพนันว่าผมเนี่ยจะเป็นฝ่ายตกหลุมน้องไม้แทน   มึงคอยดูกูได้เลยเพื่อน กูจะถล่มพวกมึงให้ราบเลยคอยดู 

ต่อให้ผมจีบน้องไม่ติด แต่คิดว่าผมจะตกหลุมรักน้องไม้เหรอวะ บ้าไปแล้ว

ถ้าเป็นเกย์มันง่ายขนาดนั้นผมคงตกหลุมรักไอ้ทนายโอมแล้วล่ะ เพราะมันน่ะมุ้งมิ้งสุดในกลุ่มเลย 

ลิ้งค์เพจคิ้วท์บอย ของมหาลัยถูกส่งมาให้ผม ซึ่งแน่นอนในนั้นมีรูปของพวกผม 5 คนอยู่เพียบเลย 

และภาพคู่ฮ็อตแห่งปีก็ปรากฏต่อหน้าผม สวยจริงๆครับ สวยมากเลย น้องไม้นะครับไม่ใช่น้องบัว   


วันนั้นที่ผมเห็นในระยะไกลๆว่าสวยแล้วรูปที่ไอ้พวกนี้มันไปขุดมาให้ผมดูยิ่งสวยเข้าไปใหญ่

นั่นผู้ชายนะเฮ้ย ผมร้องบอกตัวเองในใจครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้



 ยิ่งดูไปเรื่อยๆยิ่งงง เพราะนี่มันเพจคิ้วท์บอยครับ แต่น้องไม้ ที่ลงประกวดเดือนคณะอักษรฯ สวยกว่าคนที่ประกวดดาวอีกครับ

จนสงสัยว่านี่มันเพจคิ้วท์เกิลหรือเปล่าวะ..... แต่ต่อให้สวยยังไงนั่นก็ผู้ชายป่ะวะ มีไอ้ที่ผมมีเหมือนกัน

ทำใจลำบากชิปหายส่วนน้องบัวดูไปก็เหมาะสมกันนะครับ น้องบัวสวยแบบน่ารัก ดูน่าถนุถนอม ตัวบางเพรียวส่วนสูงนี่ถึงจะเตี้ยกว่าน้องไม้

 แต่ก็ยังสูงกว่าผู้หญิงทั่วไป จัดได้ว่าหุ่นนางแบบเลย ตาโตๆใบหน้าเรียวสวย น้องน่ารักอะไรขนาดนั้นวะ

 ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนผมชอบคนนี้นะ ผมคงลงสนามจีบหนูบัวแน่ๆ


 มิน่าไอ้ปีย์มันเพ้อไม่เป็นผู้เป็นคน สองคนนี่เดินด้วยกันผมนึกว่าเพื่อนสาวกันซะอีก

ถ้าไม่ใช่หน้าอกที่แบนราบภายใต้ชุดนิสิตชายนั่น และท่าทางแมนเต็มร้อยของน้องมัน

ผมคงคิดว่าน้องไม้เป็นผู้หญิงไปแล้ว แต่ท่าทางในภาพสายตาของน้องไม้ที่มองน้องบัวนั่นมันบอกได้อย่างดีว่าไอ้ปีย์เจองานช้าง

 ไม่สิ ผมนี่แหละ เจอของแข็งเข้าให้ สายตาที่บ่งบอกว่ารักและเป็นห่วงเป็นใยขนาดนั้น เฮ้อ.......


หลายวันมานี่ผมแอบเป็นสโตรคเกอร์เงียบๆ  ก่อนที่จะออกรบผมต้องเรียนรู้ฝั่งตรงข้ามเสียก่อนครับ

น้องไม้กับหนูบัวอยู่คอนโดเดียวกันกับผมด้วย งานนี้ ไม่ต้องถ่อไปหาไกลๆ  ห้องน้องสองคนอยู่ชั้น 8 ผมอยู่ชั้น10

ทำไมผมไม่เคยเจอกันเลยวะ  เวลาที่ทั้งคู่ไปเรียน กระเป๋าน้องบัวจะอยู่ในมือน้องไม้ ข้าวของอะไรหลายๆอย่างน้องไม้จะถือให้

สุภาพบุรุษมากเลย เวลาไปกินข้าวน้องบัวจะเป็นคนเลือกร้าน เลยได้รู้ของโปรดน้องบัวแอบไปกระซิบไอ้ปีย์มัน

เวลาที่เห็นน้องสองคนอยู่ด้วยกันมันทำให้ผมถอนหายใจ ก็ ท่าทางเขารักกันมากขนาดนั้นนี่ครับน้องบัวก็ช่างอ้อนเหลือเกิน

 เฮ้อ ไอ้ปีย์นะไอ้ปีย์ หาเรื่องจริงๆ ถอนตัวตอนนี้ทันไหมวะ 


.....................


ผมคงต้องวางแผนดีๆ น้องไม้ไม่ใช่คนตัวเล็กไม่ใช่พวกเก้งกวางตัวน้อยๆน่ารักๆที่เคยเข้ามาจีบผม 

น้องไม้แค่หน้าสวยครับสวยมากด้วย แต่ร่างกายน้องน่ะ ไม่ได้บอบบางเหมือนผู้หญิงนะครับ นั่นน่ะร่างผู้ชายแท้ๆ


แม้ว่าน้องไม้จะดูบางกว่าผมแต่ภาพถ่ายจากเพจคิ้วบอยตอนน้องไม้เล่นเทนนิสน่ะ ภาพที่จับมาตอนน้องมันกระโดดตัวลอย

จนเสื้อยืดตัวหลวมๆนั่นถลกขึ้นตามแรงโน้มถ่วง ภายใต้ร่างที่ดูเพรียวบางนั่นซ่อนซิกแพ็คแน่นๆไว้ข้างใน

 ถ้าผมเผลอหรือพลาดท่าไปกวนตีนน้องมันมากไม่แน่ผมน่ะจะเป็นฝ่ายโดนน้องมันกระทืบเอาได้


 เพราะงั้นผมต้องจีบน้องมันแบบไม่ไห้รู้ตัว เนียนมากๆและห้ามกวนตีน ยากมากสำหรับผม แต่ก็นะ ผมชอบอะไรที่มันท้าทายอยู่แล้ว

 งานนี้ถือว่าท้าทายความสามารถของผมอีกอย่าง เริ่มเลยเถอะรออะไรล่ะ 




ขั้นแรก ต้องได้เบอร์โทรฯ ไลน์ เฟซบุ้ค ทุกช่องทางการสื่อสารผมต้องหามาให้ได้  แต่จะดีต้องขอจากเจ้าตัว

ผมพาตัวเองไปอยู่ในกรอบสายตาของน้องไม้บ่อยๆ บางทีไอ้ปีย์ชวนไปกินข้าวที่ คณะอักษรฯ

แต่บางวัน น้องไม้กับน้องบัวก็มากินข้าวที่แคนทีนวิศะ ซึ่งมารู้ทีหลังว่าน้องสองคนชอบมากินข้าวที่นี่มากกว่าที่คณะตัวเองอีก

ไม่รู้มาติดใจรสกับข้าวร้านไหน  ผมคงต้องไปสืบไว้เอาใจน้องมัน ในอนาคต


ข้อมูลที่ผมได้มาจากเพจคิ้วบอยคือ น้องไม้ไม่ชอบ น้ำอัดลม  ไม่ชอบกินเหล้า เว้นแค่มีงานสำคัญๆหรืองานเลี้ยงอะไรแบบนั้นน้องมันก็ดื่มแค่พอประมาณ


น้องไม้ไม่สูบบุหรี่  ดูๆหลายอย่างน้องมันจะเป็นคนดีไปไหนวะ คนละขั้วกับผมเลย เหล้านี่ผมกินแทนข้าวยังได้

 ส่วนบุหรี่ผมก็ไม่ได้สูบครับไม่ได้สูบบ่อยนะ  นานๆครั้งช่วงไหนเบื่อเซ็งก็ขอไอ้โอมมัน  ซื้อเองทำไมเปลือง



“เมื่อไหร่มึงจะเริ่มสักทีวะ โอ๊ต “

ไอ้ปีย์ถามผมด้วยความร้อนใจในเช้าวันหนึ่ง พวกมันยกโขยงมาหาผมที่ห้องพัก วันนี้ว่างครับ ว่างจนต้องมานั่งรื้อค้นหาข้อมูลน้องไม้กันใหญ่

 
“เอาน่าขอเวลากูทำใจก่อน  “


ผมยังเริ่มไม่ถูกครับ การจีบคนๆนึงเนี่ย มันยากมากเลยนะ ผมล่ะยอมใจสาวๆที่กล้าเดินเข้ามาขอทำความรู้จักกับผม


 เพราะผมตอนนี้ไม่มีความกล้าพอที่จะเดินเข้าไปทำความรู้จักกับน้องไม้  คนสวยคนนั้นเลยให้ตายเถอะ ผมสั่นว่ะ แต่ก็สู้นะครับ หึหึ


ก่อนที่จะไปรู้จักตัวจริงก็ต้องศึกษาข้อมูลสิครับ ผมเนี่ย ไม่เคยเข้าไปในไอจีมาชาติเศษละ เกือบลืมรหัส 

กว่าจะเข้าไปได้ ก็เล่นเอาเหงื่อตกไปหลายลิตร  งานผมเยอะครับต้องหาข้อมมูล  ทั้งเพจคิ้วบอย ทั้ง เฟสของน้องไม้

ที่ไม่รู้ไอ้ทนายโอมมันไปหามาได้ยังไง  แต่ก็ต้องขอบคุณมันล่ะครับ   ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะส่องชีวิตส่วนตัวใครใคร น้องไม้ต้องหลั่งน้ำตา

 หึหึ ผมไล่ดูภาพดูโพสต์ต่างๆในไทม์ไลน์ของน้องมัน  เพราะไอจีน้องเปิดเป็นสาธารณะ ผมเลยเผือกได้เต็มที่ 


และผมคิดไม่ผิดที่เลือกจะเผือกในไอจี เพราะไทม์ไลน์น้องมันอัพถี่มากครับ กินอะไรที่ไหนทำอะไร  ไม้โพสต์ทุกวันก็ว่าได้

เพราะงั้นถ้าผมอยากรู้ว่าไม้อยู่ที่ไหนล่ะก็...ตามไอจีน้องมันไปเลยครับ  และผมก็ได้รู้ว่า พรุ่งนี้ น้องมันจะไปไหน


เป็นการเริ่มแผนแรก โดยที่ผมเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว  เพราะงานพรุ่งนี้มันต้องมีผมน่ะสิครับ


.”นี่โอ๊ต  กูพึ่งได้รับข้อมูลน้องไม้มาสดๆร้อนๆ”ไอ้กระต่าย ตัวเท่าควายหันมานั่งจับเข่าอยู่ข้างๆผม 


“ว่า”

“คืองี้ว่ะเพื่อน น้องไม้ของมึงเนี่ย  มีพ่อเป็นอดีตนายแบบสุดฮ็อต  แถมตีนผีสุดๆ “

“ตีนผียังไงวะ “

“อ้าวไอ้นี่ ที่มึงซิ่งอยู่ทุกวันนี่ไง “

“ห๊ะ..จริงเหรอวะ”น่าทึ่งสุดๆ ถ้าเป็นคนในวงการนี้พวกผมต้องรู้จักแน่นอน

“คุณทิวไผ่ว่ะเพื่อน”

“เห้ยยยย..จริงดิ!! “ไม่ใช่แค่ผมที่อุทานด้วยความตกใจ เพื่อนๆในห้องกรูกันเข้ามาล้อมไอ้กระต่ายควายเพื่อนรักอย่างรวดเร็วเลยครับ


“นี่มันตำนานดริ๊ฟสิบโค้งเลยนะมึง “

“นั่นยังไม่หมดครับเพื่อน “ไอ้กระต่ายยังคงทำหน้าอวดภูมิ ผมล่ะอยากถีบมันจริงๆถ้าไมติดว่าอยากจะรู้เรื่องโม้ของมันน่ะนะ

“อดีตแชมป์เทควันโด้ แห่งประเทศไทย และ ก็เป็นอดีตเดือนมหาวิทยาลัยของพวกเราด้วยมึง “

“ชิปหายแล้วไอ้ ปีย์มึงให้กูไปจีบใครวะ หาตีนให้กูจริงๆเลยมึงนะมึง”

“เอาน่าเพื่อน นั่นพ่อเขา ตัวน้องไม้น่ะ น่ารักจะตายไม่โหดเหมือนพ่อหรอกเนอะ  “

น้ำเสียงมึงไม่ได้บอกอย่างที่มึงพูดกับกูเลยเพื่อน  แต่ว่านะ คุณทิวไผ่เหรอ อ่า..เขาเป็นไอดอลของพวกผมเลยนะครับ 

ชื่อเสียงของเขาดังตั้งแต่พวกผมยังไม่เกิดเลย  แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อ สิบปีที่แล้ว คุณทิวไผ่ลงแข่ง ทิ้งทวน

 เป็นการทิ้งทวนที่โคตรประทับใจพวกผมเลย  ผมยังถ่ายรูปพ่อน้องไม้ไว้เลยวันนั้น แต่ยังไม่มีโอกาสได้ขอลายเซ็นเลยว่ะ


“พวกมึง”ผมเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น

“อะไรวะ” เหล่าเพื่อนซี้หันมามองผมอย่างไม่เข้าใจในท่าทีของผม

“กู..ฝากน้องไม้ไปขอลายเซ็นพ่อเขาได้ไหมวะ”

“ไอ้เหี้ยโอ๊ต ..มึงต้องคีพลุค เข้าใจไหมเพื่อน คีพลุคเฟร้ยยย”


ครับ ตามนั้น  ผมได้แต่ถอนหายใจ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมน่ะเวลาอยู่มหาวิทยาลัย ผมจะไม่ค่อยพูดกับใครมากนัก

หน้าตาก็ไม่ค่อยจะยิ้ม  ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือคนที่รู้จักกันจริงๆล่ะก็จะไม่รับรู้ถึงความกากเกรียนของผมหรอกครับ 

ตอนผมได้รับตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยน่ะ ใครๆก็เรียกผมว่า เจ้าชายน้ำแข็ง  เหอะ บ้าบอ ผมน่ะไม่ได้คิดอะไรมากมายกับฉายานั้น

เพราะคนที่เรียกผมไม่ได้รู้จักผมจริงๆหรอก  แต่ก็แปลกเพราะฉายานั้น ช่วยกันคนเข้ามาวุ่นวายกับผมได้พอสมควร

ทำให้ผมเริ่มชอบฉายานั้นนิดหน่อย เพราะโดยนิสัยส่วนตัวผมก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับผมนัก

 ถึงแม้ว่าส่วนนึงจะเพราะหน้าไม่รับแขกของผมเองน่ะนะ  อ่า..น้องไม้ลูกพ่อทิวไผ่ แค่คิดก็ตื่นเต้นละ


“ทำไมทำหน้าเหมือนคนปวดขี้อย่างนั้นวะโอ๊ต”ไอ้ปีย์ถามพร้อมทั้งจ้องหน้าผมเขม็ง

“กูกำลังคิด”

“คิดว่าจะจีบน้องไม้แบบไหนใช่มะ มาๆกูติวให้”ไอ้ทนายโอมอ้ปป้านั่นทำเป็นเก่ง

“อย่างมึงน่ะไม่ต้องคิดอะไรหรอกว่ะโอ๊ต เพราะมึงตกหลุมรักน้องไม้ของกูชัวร์”ไอ้กระต่ายในร่างควายมันหัวเราะเยาะผม

“แต่กูว่ามันต้องกำลังเครียดเพราะกลัวทำไม่สำเร็จ เสร็จพวกเราก่อนแน่ๆว่ะ”ไอ้นายที่เป็นคนเดียวที่เหมือนจะเข้าใจผม แต่..


“เปล่า..กูแค่คิดว่า กูจะไปขอลายเซ็นพ่อน้องไม้แบบไหนถึงจะไม่หลุดลุค “


“.................”
“.......”
“.......”
“....”

“พวกมึงเป็นไรกันวะ ทำหน้าเป็นตูดเชียว “


ผมล่ะไม่เข้าใจพวกมันก็คนมันเจอไอดอลนะครับ สิบปีเชียวนะ  โคตรตื่นเต้นเลยว่ะ  เอ๊ะ..แบบนี้จะเรียกว่ารู้เขารู้เราได้ไหมนะ ...


.
.
.
. TBC.....

พาพี่โอ๊ตคนหล่อมาก่อกวนน้องไม้ 55555

เรื่องนี้จะเรื่อยๆแนวๆฟิวกู้ดนะคะ ดราม่าไม่มีนะ ไม่มี๊ อิอิ
วันนี้งดทอล์คยาว เพราะพันวาต้องไปทำงานต่อละ เจอกันใหม่ เมื่อน้องไม้เรียกหานะคะ คริคริ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 1 รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง 31/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 30-05-2018 16:40:05
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 1 รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง 31/5/61
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 30-05-2018 21:09:27
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 2 ตีสนิท 2/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 02-06-2018 13:28:09


แผนที่ 2 ตีสนิท



อินทัช



วันพรุ่งนี้มหาวิทยาลัยของผมมีงานครับ งานเฟรชชี่ ที่หลายคนรอคอย และผมก็รอเหมือนกัน  คงต้องหาโอกาสไปทำความรู้จักน้องไม้ก่อน

วันนี้ทางกองฯเขานัดน้องๆเข้ามาบรีฟ รวมทั้งผมด้วย  มีซ้อมบ้างตามสเต็ปงาน  คงเริ่มซ้อมกันบ่ายๆ


พวกที่ลงประกวดป่านนี้ก็คงทยอยกันมารายงานตัวแล้ว


ร่างสูงโปร่งของน้องไม้นั่งอยู่เพียงลำพังที่โต๊ะข้างๆลานเกียร์  เวลาที่น้องไม้แต่งชุดนักศึกษา แลดูรูปร่างผอมบางมาก

เพรียวบางกว่าผู้ชายทั่วๆไป รวมๆแล้วน้องมันสวยจริงๆ  อ่า..นี่ผมคงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ผมกำลังนั่งมองผู้ชาย

และกำลังคิดว่าผู้ชายคนนั้น..สวยชิปหายเลยว่ะ ..ที่สวยน่ะน้องไม้แต่ที่ชิปหายท่าทางจะเป็นผม..


แต่เมื่อผมมองไปรอบๆ ไม่ใช่แค่ผมที่มองน้องไม้ กลุ่มพวกรุ่นน้องผม ก็มองเหมือนกัน ไอ้พวกนี้อยู่กันกลุ่มใหญ่เวลาครบกลุ่มทีไร

พวกมันชอบแซวสาว จริงๆ พวกน้องผมไม่ได้นิสัยแย่อะไรหรอกครับส่วนมากมันจะแซวเพื่อความบันเทิงมากกว่า

 แต่ตอนนี้ คนที่พวกมันแซวไม่ใช่สาว


 “คนสวยมารอใครครับ รอพี่หรือเปล่าน้อง “ ไอ้โดม โยธา ไอ้นี่หน้าตาดีเลยล่ะครับแต่เสียตรงปากมันนี่แหละครับ

“เอ๊...สวยๆอย่างนี้มีแฟนหรือยังน๊า...”เพื่อนๆมันก็ไม่รอช้าครับ เมื่อมีคนเปิดงานพวกมันก็มาเป็นลูกคู่ทันที

“น่ารักจังเลยขอจีบได้ป้ะ” ทั้งๆที่รู้ว่านั่นคือผู้ชาย  แต่กลุ่มของไอ้น้องโดมก็ยังแซวมาไม่ขาด

“เฮ้ยย อยากสอยเดือนอักษรฯ ว่ะ “เสียงแซวยังลอยมาเรื่อยๆ พร้อมทั้งเสียงหัวเราะเฮฮา

ดูจากสีหน้าน้องไม้แล้วดูกระอักกระอ่วนชอบกล พระเอกอย่างผมคงต้องออกตัวช่วยสินะ ผมเดินเข้าไปตรงที่น้องไม้นั่งอยู่

“มานั่งทำอะไรตรงนี้”เอ่ยถามไปเผื่อลดความตึงเครียด แต่ท่าทางน้องจะเครียดกว่าเดิมนะนั่น

“โอ๊ตมึงทำหน้าดีๆดิวะถามน้องมันแต่หน้ามึงนี่เหมือนจะฆ่าน้องมันเลย ,เดี๋ยวกูมานะ ”

ไอ้ปีย์มันพูดขึ้นใกล้ๆผมทำเอาสองขาที่กำลังจะเดินไปหาน้องต้องชะงัก  ไม่รู้ว่าไอ้ปีย์มันมาตอนไหน

มันมองน้องไม้สลับกับมองผมทั้งยนังพูดเหมือนผมไปขู่ฆ่าน้องไม้งั้นแหละ แม่ง อย่าพึ่งมาขัดดิวะ

เดี๋ยวลูกกวางกูตื่นหมด    ว่าแต่หน้าผมโหดเหรอ ผมว่าผมก็ทำหน้าปรกตินะ 


“ว่าไงเราที่พี่ถาม”ย้ำน้องมันอีกที อยากชวนคุยแต่ก็กลัวโดนน้องเตะ

“รอเพื่อนครับ”

“รอเพื่อน ?”

“ครับ” สั้นมากครับ ตอบสั้นจนผมไม่รู้จะไปต่อยังไงนั่งแม่งเลยเถอะ

ฟึ่บ!

ผมนั่งลงข้างๆน้องมันที่มีพื้นที่เหลือเพียงเล็กน้อย

น้องไม้ที่กำลังทำหูทวนลม สนใจโทรศัพท์ในมือมากกว่าเสียงแซวไอ้พวกปากมอม ที่แว่วมาไม่ขาด

 ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมอง ผมที่เนียนมานั่งลงข้างๆน้อง 

 “โอ๊ตมึงรอกูตรงนี้ก่อนละกันนะ ฝากแป๊บนึง “

ไอ้ปีย์ว่าพลางโยนกระเป๋าและชีทปึกใหญ่ลงบนตัก ผมจะด่ามันก็ไม่ได้ตอนนี้ต้องรักษาภาพลักษณ์ ว่าแต่ไอ้ปีย์มันจะไปไหน

ผมกำลังจะหันไปถามเพื่อนแต่ไอ้ตัวดีมันไม่อยู่ให้ถามแล้วครับ นั่นเดินเข้าตัวตึกอย่างไว   

ผมล่ะอยากตะโกนด่ามันตามหลังเห็นผมเป็นเด็กรับฝากของหรือไง  ไอ้ปีย์ผละไปอย่างรีบร้อน ไม่สนใจผมที่ทำหน้าเบื่อหน่ายมันเลยสักนิด

เสียงรอบข้างเงียบไปแล้ว มีแต่เสียงซุบซิบและกรี๊ดกร๊าดเบาๆ ผมรวบเอากองสัมภาระของเพื่อนรักวางลงข้างๆ

ก่อนจะขยับตัวไปจนชิดอีกคน เพราะพื้นที่เหลือน้อย
 
ทำให้น้องไม้หันไปมองผมซ้ำอีกที ดูท่าทางคงอยากจะด่าผมอยู่มั้งแต่ผมด้านว่ะ หน้าด้านเนี่ยแหละตีหน้านิ่งแล้วเฉยไว้ หึหึ


“โทษทีถ้าไม่นั่งตรงนี้ ไอ้พวกนั้นก็ไม่หยุดแซวนะ “

ผมแกล้งพูดขึ้นลอยๆ และน้อง ไม้คงรู้สึกได้จึงได้มองตามที่ผมบุ้ยใบ้ไป เสียงพวกนั้นเงียบไปจริงๆน้องมันเลยหันมาหาผม 

“ขอบคุณครับ แต่พี่ขยับออกไปอีกหน่อยได้ไหม”

“หึหึ โทษที “

โดนจับได้ซะงั้น ผมยิ้มให้น้องก่อนจะขยับห่างออกไปนิดเดียว น้องมันก็หันกลับไปไม่สนใจผมอีกเลย

อะไรวะ นี่อดีตเดือนมหาวิทยาลัยนะครับ อย่าเมินพี่แบบนี้พี่เสียใจ 

ผมแอบเหล่มองน้องมันที่นั่งเงียบๆ   สวย...ยิ่งมองใกล้ๆยิ่งสวยพับผ่าเถอะ ใจผมสั่น

ขนาดน้องมันนั่งนิ่งๆไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่างผมเองที่ร้อนรนอยากจะนั่งมองหน้าตรงๆก็ทำไม่ได้เดี๋ยวน้องว่าเป็นพวกโรคจิตอีก 

ได้แต่แอบมอง ...โอยยยยจะสวยไปไหนวะ ใจสั่นไม่พอมือสั่นอีก ผมไม่เคยประหม่าจนมือสั่นเป็นพาร์กินสันแแบนี้เวลาอยุ่ต่อหน้าคนสวย
 
ในชีวิตผ่านคนสวยมานับไม่ถ้วน แต่คนสวยที่ทำผมสั่นคงมีแค่น้องไม้คนเดียวนี่ล่ะมั้ง   หาอะไรทำแก้ประหม่าดีวะ

ผมไม่เข้าใจตัวเองเลย จะตื่นเต้นหาพระแสงอะไร นี่ผู้ชายนะเว้ย ที่สำคัญมึงจะจีบน้องนะไอ้โอ๊ตมึงจะสั่นทำเกลืออะไร 

คิดไปคิดมาก็หยิบหนังสือไอ้ปีย์มาอ่านแม่งเลยอ่านไปอ่านมาชักง่วงวางก่อนของีบสักแป๊บละกัน

Zzzz

 “เอ่อ..พี่ครับ “

 เสียงเรียกและแรงสะกิดเบาๆที่แขน ทำให้ผมปรือตาขึ้นมอง..ฮือ ง่วงโว้ยยยย เมื่อคืนไม่น่าไถเพจนั่นจนดึกดื่นเลยให้ตายเถอะมองหน้าน้องไม่ชัด   


“ครับ”ฝืนเอ่ยรับน้องเสียงแผ่ว ฮ้าววววว   

“นอนแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ อ้ะ ผมให้แก้ง่วงได้นะครับ”

หืม ? ทำไมใจดีแบบนี้  ผมมองลูกอมห่อแปลกๆสีสวยๆสามเม็ดในมือน้อง สลับกับมองรอยยิ้มที่ส่งมาให้  ตื่นทันทีโดยไม่ต้องปลุกซ้ำ

“ขอบคุณครับ”

 ผมมองหน้าคนให้ที่ส่งทั้งลูกอมและส่งยิ้มมา สวยอีกแล้ว วันนี้คำว่าสวยในหัวผมเนี่ยนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว..

รอยยิ้มนั่นทำเอาตาสว่างโดยไม่ต้องพึ่งลูกอม  ก่อนจะยื่นมือไปรับเอาน้ำใจจากคนสวยที่ยังคงส่งยิ้มมาให้   

พร้อมทั้งแกะลูกอมเข้าปาก ความเย็นซ่าแผ่ซ่านไปทั่วปาก ทำให้สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก

ไม่รู้ว่าที่ลืมตาตื่นได้สดชื่นขนาดนี้เพราะลูกอมหรือรอยยิ้มนั่น 


ผมคิดอะไรได้นิดหน่อยก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ มาถ่ายรูปลูกอมสองเม็ดที่เหลือกับเปลือกลูกอมสีสวยอีกอันเอาไว้

ก่อนจะเขียนแคปชั่นที่ใจคิดตอนนั้น แล้วโพสต์ลงแอพนกฟ้าที่ผมชอบเล่น



สวย..จนละสายตาไม่ได้  #มันดีต่อใจ


แค่เวลาไม่ถึงนาทีที่ผมทวิตรูปพร้อมแคปชั่นนั้นลงไป ยอดรีก็ขึ้นหลักร้อยอย่างรวดเร็วและคงถึงหลักพันอีกไม่นาน   

หลายคนมารีพลายข้างล่างถามถึงที่มาของแฮชแท็กนั้นมากมายจนผมอดที่จะขำไม่ได้

 ผมนั่งเล่นโทรศัพท์ในมือไปเรื่อยๆ เหมือนว่าเพราะตอนนี้ในโซเชี่ยลกำลังเดือด เมื่อมีหลายคนพยายามค้นหาความหมายของแฮชแท็ก

ที่ผมทวิตไป   ไล่อ่านไปเรื่อยๆก็เพลินดีครับ ผมไถทวิตไปเรื่อยๆพยายามไม่รบกวนน้องไม้  และหวังว่าการที่ผมนั่งๆเงียบจะไม่ทำให้น้องมันอึดอัด 

 
“ไม้.....รอนานป้ะ ขอโทษนะ หนูบัวโดนอาจารย์ดึงไปช่วยงานน่ะ แหะๆ “

เสียงหวานๆดังขึ้น ใกล้ๆทำให้ผมต้องละสายตาจากโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นไปมอง  น้องบัวยืนหอบนิดๆ

เหมือนพึ่งจะวิ่งมายืนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงอยู่ตรงหน้าน้องไม้ ดูๆไปสองคนนี้เหมาะสมกันมากเลย สวยทั้งคู่ 

สวยจนละสายตาไม่ได้จริงๆ  ผมยังคงทำทีเป็นเล่นโทรศัพท์ในมือแต่กางหูฟังคนเป็นแฟนเขาคุยกัน 


“ไม่นานหรอก แล้วเสร็จหรือยังล่ะ หรือต้องกลับไปช่วยอาจารย์อีก “

“ยังเลย บัวเลยรีบมาบอกไม้ก่อน ถ้าไม้ไม่ว่าอะไรไม้ไปสโมฯก่อนนะ เดี๋ยวบัวตามไป ..อุ๊ย..พี่โอ๊ตสวัสดีค่า”

ปลายเสียงของหนูบัว หันมาทักผม ที่นั่งเงียบๆอยู่แบบนี้ก็เข้าทางสิ 


 “หวัดดีครับ “

ผมมองดูคนที่เข้ามาใหม่ กับท่าทีของอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆสายตาที่น้องไม้มองหนูบัวมันอ่อนโยนและดูออกเลยว่ามัน..อ่า

 ผมไม่รู้จะนิยามคำว่าอะไรเอาเป็นว่ามันดูละมุนละมัยดีแท้ นี่ผมต้องเหี้ยขนาดไหนนะที่ต้องมาแยกคู่รักเขาออกจากกันบาปกรรมแท้ๆ

 ถอนตัวได้ไหมวะ 



“โอ๊ต”ยังไม่ทันได้พูดอะไรไอ้เพื่อนเลวที่ทิ้งสัมภาระไว้ก็วิ่งเข้ามาหาด้วยความเร็ว

“มึงจะรีบอะไรขนาดนั้นวะปีย์ “

“ก็ ..กูกลัวไม่ทัน อ้าวน้องบัว  “ไม่ทันอะไรของมันวะ

“.................”ผมยังคงทำหน้างงไอ้เพื่อนตัวดีของผมมันจะเนียนไปรู้จักน้องบัวเกินไปละเดี๋ยวเขาจับได้มึงจะซวยนะเพื่อน

“พี่ปีย์คะ คือเมื่อกี๊บัวขอโทษนะคะ  พอดีบัวรีบเลยไม่ทันมองค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ แค่หัวโนนิดหน่อยเองไม่แตกครับ  “

“ยังไงบัวก็ต้องขอโทษค่ะบัวผิดนะ เอางี้ไหมคะ เดี๋ยวบัวเลี้ยงข้าวพี่ปีย์สักมื้อนะคะ  อ้อ พี่โอ๊ตไปด้วยกันได้นะคะ”

หนูบัวยิ้มแฉ่ง ไอ้ปีย์ยิ้มกว้าง มีแค่ผมกับน้องไม้ที่ทำหน้า งง ตามคนคู่นี้ไม่ทันอะไรยังไงวะ 

 “สรุปว่าตกลงนะคะ  พี่ปีย์มีไลน์ไหมคะ เดี๋ยวบัวไลน์ไปบอก  “

“มีครับๆ “สองคนยืนแลกไอดีไลน์กันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มันจะระรื่นเกินเบอร์แล้วนะเพื่อนแบบนี้กูไม่จำเป็นแล้วใช่ไหมวะ ได้แต่ถามมันในใจ
 
“ขอของพี่โอ๊ตด้วยได้ไหมคะ  แลกกันๆนะคะ”รอยยิ้มหวานที่ส่งมาพาให้มึนงง  อะไรขอผมด้วยเหรอ อยากให้คนข้างๆมากกว่า..

“เอ่อ.....”กำลังมึนเพราะโดนจู่โจมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว


“หนูบัว”เสียงน้องไม้เอ่ยเสียงดุใส่แฟน อูยดุชิปหายเลย   ท่าทางไม่ใช่พวกกลัวเมียแฮะ

“ไม้ก็ ไม่เป็นไรหรอกน่านะ  เนอะพี่โอ๊ตเนอะ เดี๋ยวเอาไลน์ไม้ให้พี่โอ๊ตด้วย เนอะ “สาวสวยเพียงหนึ่งเดียว คะยั้นคะยอ
 
ไม่รู้เพราะว่าคนสวยอย่างหนูบัวขอไลน์ หรือเพราะ ว่าจะได้ไลน์ของคนที่นั่งข้างๆกันแลกเปลี่ยน

ที่ทำให้ผม ยื่นโทรศัพท์ให้กับไม้แทนที่จะเป็นหนูบัว  แม้หน้าน้องมันจะงง แต่นาทีนี้ต้องฉวยโอกาสครับ 

ไอ้ปีย์เหล่มองมาพลางแอบยักคิ้วให้ เออ กูทำเพื่อมึงขนาดนี้อย่าลืมบุญคุณกูเชียวนะมึง 



แต่ถึงอย่างนั้นไอ้ปีย์มันคงแปลกใจ เพราะปรกติคนอย่างผมหวงชีวิตส่วนตัวมาก ผมไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัว

แม้ผมจะเกรียนๆบ้างกวนตีนบ้างแต่ผมไม่ค่อยให้ใครเข้ามายุ่งจุดที่ผมวางไว้นอกจากครอบครัวและเพื่อนสนิท

 พอมันเห็นผมส่งโทรศัพท์ให้อีกคนอย่างง่ายดายด้วยแล้วมันยิ่งแปลกใจ   ไม่มีอะไรน่า..ก็ผมจะจีบน้องเขาก็ต้องให้ไลน์ ไอดี  สิ

นี่ว่าจะให้ไอจีกับทวิตด้วยเลยจะได้คุยกันได้ทุกทาง  ทุกอย่างที่ทำเนี่ยเพื่อเพื่อนเลยนะรู้ยัง หึหึ 


“ขอบคุณครับ”น้องมันยังคงมารยาทงาม ขอบคุณผม รอยยิ้มสวยละลายใจนั่นทำให้ผมต้องเก๊กนิ่งเอาไว้

อย่าหลุดๆมันคันๆที่แก้มเหมือนอยากจะฉีกยิ้ม แต่ มันยิ้มไม่ได้ต้องนิ่งไว้ๆ



“งั้นเดี๋ยวบัวทักไปนะคะ แต่ตอนนนี้ต้องขอยืมตัวไม้ก่อนเพราะต้องเข้าไปที่สโมฯค่า ไปก่อนนะพี่ปีย์พี่โอ๊ต”

“พลังงานล้นเหลือจริงๆ น่าร๊ากกกกกก”ไอ้ปีย์เพ้อตามหลังสาวน้อยที่ดูจะสดใสร่าเริงอยู่เสมอ 

“โอ๊ต มึงว่าสองคนนั้นจะเป็นแฟนกันหรือเปล่าวะ กูล่ะอยากจะไหว้ศาลสักสิบศาลเลยให้หนูบัวโสดทีเถ๊อะ สาธุ... โอ๊ย!!”

ผมชักจะหมั่นไส้เพื่อนเลยเอากระเป๋าที่โดนฝากไว้ทุ่มใส่หัวไอ้ตัวที่มันกำลังยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปทั่ว 

“ไอ้โอ๊ต หัวกูยิ่งโนๆอยู่ไอ้นี่ แหนะๆ ยิ้มๆ หนอยไอ้คนบ้า ยิ้มกับโทรศัพท์ได้ด้วย กูจะฟ้องไอ้โอม  เฮอะ..”

“มึงเป็นคนบอกเองนะว่าเขาเป็นแฟนกันและก็จากที่กูสังเกตดูท่าทางน้องไม้น่ะรักน้องบัวมากเลยนะมึง กูว่าจะ...ไม่เล่นกับพวกมึงละ”


“เฮ้ยยยย ไม่ได้ๆๆ เขาอาจจะแค่เพื่อนสนิทนะ  เพื่อนรัก..ขอร้องล่ะ ถ้ากูแน่ใจว่าน้องบัวกับน้องไม้เป็นแฟนกันจริงๆ กูจะยกเลิกเกมส์นี้ กูจะถอยเอง นะเพื่อนๆนะ ช่วยกูหน่อย”

ผมได้แต่ถอนหายใจรำคาญมันก็รำคาญ แต่อีกใจมันแปลกๆตั้งแต่เจอน้องไม้แล้ว เอาเถอะ ช่วยเพื่อนสักครั้งคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกนะ 
 
“เออๆ ถ้าเขาเป็นแฟนกันจริงมึงต้องถอยนะปีย์  ต่อให้ฟันดะแค่ไหน กูก็ไม่อยากยุ่งกับแฟนชาวบ้านนะ “

“เออ ไอ้คนดี  กูต้องได้ยินจากปากน้องบัวหรือไม่ก็น้องไม้นะ ว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน ไม่งั้นกูไม่ยกเลิก...แต่ถ้าเขาเป็นแฟนกันจริงมึงค่อยเลิกจีบน้องมัน..นะเพื่อนนะ กูขอล่ะ ”


ผมส่ายหน้าอย่างระอาหมดคำพูดกับการแถของเพื่อน ก็เข้าใจว่าคนมันตกหลุมรักอะไรๆก็คงเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน

 แต่ผมก็ไม่อยากเป็นมือที่สามของใครนะ ฮืออออ แต่...น้องไม้สวยว่ะ หน้างี้เนียนใสไร้รูขุมขน ...เสียดายยยยย ไม่เลิกได้ไหมวะ ..ย้อนแย้งชิปหายเลยผมเนี่ย เฮ้อออ


.........................................

โปรดติดตามตอนต่อไป



เหงาอะไรเช่นนี้คะ หายไปไหนกันฮือออออออออออออออออออ


พาพี่โอ๊ตผู้กากเกรียนแต่คีพลุคแบดบวย มาส่ง 555555  เรื่องนี้ไม่น่าจะยาวนะคะ แต่บอกไม่ได้ว่ากี่ตอน เอาเป็นว่าจบลงตรงไหนก็ตรงนั้นตามอารมณ์คนเขียนมันค่ะ 55555

เรื่อยๆมาเรียงๆ ดูท่าแล้ว อิพี่จะตกหลุมรักน้องตั้งแต่แรกนะคะ แต่ก็ยังซึน 

พวกที่รักแต่ไม่รู้ตัวเนี่ยมีจริงๆนะคะ  เพื่อนพันวาคนนึงเป็นแบบนี้เลย กว่าเพื่อนๆจะลุ้นให้มันได้กันเนี่ยเหนื่อยลากกกกกกเลยค่ะฮ่า่าาาา



บางทีเหมือนไม่เข้าใจตัวเองซะมากกว่าและก็จะมีจำพวกหลอกตัวเองอีก โอ๊ยเยอะ ค่าา

เอาเป็นว่า อิพี่โอ๊ต สายเกรียน กับน้องไม้สายซึน  หรือไม่ก็  ซึนพอกันทั้งคู่ มาช่วยพันวาลุ้นคู่นี้กันนะคะ ว่าจะไปรอดไหม 5555

คราวนี้ไม่หายค่า จะมาเรื่อยๆนะ คะ ไม่ดองแล้วววว


1 เม้นท์  1 กำลังใจ กราบงามๆสำหรับคนเม้นท์ให้ พันวาอ่านทุกคนค่า ว่างแล้วจะพาพี่โอ๊ตกับน้องไม้ มาตอบเม้นท์นะคะ   :mew1:

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 2 ตีสนิท 2/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 02-06-2018 20:58:05
 :katai2-1:


หนูบัวเหมือนเป็นงาน
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 3...จับคู่ 5/6/61
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 05-06-2018 14:42:17

แผนที่ 3...จับคู่




วนันต์



เป็นวันที่เหนื่อยร่างแทบแหลก เพราะต้องไปซ้อมคิว ซ้อมดนตรี ที่ผมจะใช้ในงานประกวด  นี่ขนาดวันซ้อมนะครับ

ถ้าเป็นวันจริงผมนี่คงสลบเลยล่ะ   ไอ้เรื่องความสามารถถอะไรนี่ล่ะครับ เรื่องดนตรีไม่ถนัดเท่าไหร่ แต่เคยเล่นขิมมาก่อน

เลยใช้ในการประกวดซะเลย   วันพรุ่งนี้มีงานเฟรชชี่ ประกวดดาวเดือน  ของมหาวิทยาลัย มันจะสนุกมากหากผมเป็นแค่คนชมงาน

หรือกองเชียร์ แต่นี่  ผมถูกบังคับให้ประกวด เดือน เพราะดาวที่คู่กันก็เพื่อนสนิทของผมยัยหนูบัว 

จะว่าไป ผมไม่เคยขัดใจอะไรยัยนี่ได้เลยสักครั้งแค่อ้อนนิดอ้อนหน่อยผมนี่ทำให้ทุกอย่างเลยไม่รู้ทำไมผมถึงแพ้ทางยัยเทอร์โบนี่มาตั้งแต่เด็ก

กว่างานจะผ่านพ้นไปได้คงปางตายแน่ผม  เหนื่อยอะไรไม่เท่าต้องมาปั้นหน้ายิ้มแย้ม ปรกติผมไม่ค่อยจะสุงสิงกับใครเขานัก

จะว่าโลกส่วนตัวสูงก็ได้ แต่ไม่ถึงกับปิดกั้นใคร   ส่วนผลการประกวดมีคนทำโพลของมหาลัย เหมือนจะมีคนเชียร์ผมกับหนูบัวเยอะเหมือนกัน   

นั่นยิ่งทำให้ผมเหนื่อยเป็นสองเท่า ถามว่าทำไมมีแต่ผมที่บ่น ดาวอย่างหนูบัวทำไมไม่บ่นบ้าง



ข้อแรก ยัยนั่นเข้าประกวดด้วยความเต็มใจ หนูบัวชอบทำกิจกรรมมาตั้งแต่เด็กเป็นคนที่กระตือรือล้นอยู่ตลอดเวลา

ข้อสอง ไม่มีอะไรทำให้ยัยไฮเปอร์เทอร์โบนั่นหมดพลังได้ง่ายๆ โดยเฉพาะงานอดิเรกที่ชอบจับผู้ชายคู่กัน

 เวลาอยู่ในงานก็ชอบจับคนนู้นจิ้นกับคนนี้ไปเรื่อยบันเทิงนางล่ะครับ เฮ้อ......


เพราะเพื่อนซี้สาวสวยของผมคนนี้ที่มี นามว่าหนูบัว หรือนางสาวพลอยจันทร์   จิรชัยกุล  เป็นสาววายเลือดข้นเลยล่ะครับ



ปัง ปัง !!!

“ไม้...ตื่นหรือยางงงงงงง”

เสียงทุบประตูตามมาด้วยเสียงเรียกยานคางแบบนี้มีคนเดียวครับ กริ่งหน้าห้องมีไว้ให้กด ยัยตัวแสบไม่เคยคิดที่จะกดหรอกครับ   

ผมเดินออกจากห้องครัวมาเปิดประตูให้ผู้มาเยือนในมือผมยังมีแก้วกาแฟติดมือมาด้วย

“มาทำไมแต่เช้าล่ะบัว”

“เช้าบ้าอะไรนี่มันจะเก้าโมงอยู่แล้วนะ เมื่อคืนหนักหรือจ๊ะ คิกคิก”

บัวเดินเบียดตัวผมเข้ามาในห้อง ก่อนจะถือวิสาสะ แย่งเอาแก้วกาแฟจากมือผมไปกินหน้าตาเฉย

ผมส่ายหัวด้วยความเคยชินกับหนูบัวและเดินเข้าครัวไปชงกาแฟแก้วใหม่

“นี่ไม้ วันนี้หนูบัวต้องไปช่วยงานที่สโมฯ ก่อนเข้ากองฯนะจารย์บอกไว้ตั้งแต่เมื่อวานไม้ไม่รู้เหรอ”

“ก็รู้ แต่จารย์นัด 11 โมงนี่นา “

“ก็ใช่แต่บัวอยากไปก่อนนี่ ไปนั่งส่องพวกวิศวะกันนะๆไม้นะ “

“เฮ้อ....”


ผมล่ะกลุ้มใจ อีกข้อหนึ่งที่ทำให้ผมคิดหนัก ไม่รู้ว่าผมไปหลงรักยัยนี่ได้ยังไง ก็ยัยหนูบัวเป็นสาววายที่บ้าพลังมากๆ

น่าสงสารคนที่มาจีบยัยนี่ เพราะไม่เพียงแค่หนูบัวไม่สนใจ ยังผลักมาให้ผมนี่สิปัญหา  ทั้งๆที่ผมบอกชัดเจนว่าผมไม่ชอบผู้ชาย ผมชอบหนูบัวนั่นแหละ 


อ๊ะๆ ไม่ใช่การแอบชอบนะครับ ผมชอบ ผมก็บอกว่าชอบ  ผมสารภาพรักยัยหนูบัวตั้งแต่เริ่มขึ้น มัธยมปลาย 

ผมอกหักตามระเบียบครับ เพราะหนูบัวดันจับผมไปคู่กับสองแฝดน้องชายของหนูบัว ที่ยังไม่ขึ้นมัธยมด้วยซ้ำ มันน่าตีนัก

แต่การสารภาพรักของผมก็ไม่ได้ถูกละเลยจากหนูบัวซะทีเดียว บัวยังคงเป็นเพื่อนที่ดี

ไม่มีท่าทีว่าจะทำตัวแปลกไปหรือตีตัวออกห่างเมื่อรู้ว่าผมคิดอะไรกับเธอ




“เอางี้ไม้ เรามาเป็นไม้กันหมาให้กันดีกว่าเนอะ  บัวน่ะรักไม้นะ แต่ไม่ได้รักแบบนั้น และบัวเองก็เชื่อว่า
ไม้ไม่ได้รักบัวแบบนั้นเหมือนกัน   เราแค่ใกล้ชิดกันเกินไปเรามีความผูกพันธ์ฉันท์พี่น้องมากกว่าจะเป็นคู่รักนะ
 เอาเป็นว่าเรามาให้โอกาสตัวเองกันไหมไม้ เราก็เป็นเพื่อนกันไปอย่างนี้ ช่วยคัดกรองคนที่เข้าหาเรา ช่วยกันดูว่า
ใครเหมาะหรือรักใคร  สุดท้ายถ้าเราโตเป็นผู้ใหญ่และยังไม่มีใคร ถึงเวลามีครอบครัวแล้วเราค่อยมาดูเรื่องนั้นกันอีกทีตกลงไหมไม้”





คำพูดสวยหรูของบัวช่วยผมได้ ผมเองก็รู้สึกดีที่บัวพูดอย่างนั้น อย่างน้อยตอนนี้เราก็ยังมีกันและกัน ผมก็คอยมองดูว่าคนที่เข้าหาหนูบัวนั้น

 เป็นคนดีพอสำหรับบัวหรือเปล่า ที่สำคัญ บัวชอบเขาหรือเปล่า ส่วนของผมไม่ต้องคิดอะไรเลยครับ

 ยัยนี่คอยแต่จะประเคนผมให้ผู้ชาย ก็ไอ้พวกที่มาจีบบัวนั่นแหละครับ แค่คิดก็สยองแล้ว 

แม้ผมจะบอกบัวตลอดเวลาว่า ผมชอบผู้หญิงนะ และผู้หญิงคนนั้นก็คือหนูบัว ไม่เคยคิดจะชอบผู้ชายไม่ว่าบัวจะพยายามหาคู่ให้ผมแค่ไหน

แต่เราสองคนก็ยังเป็นเพื่อนรักกันที่หวังดีต่อกัน บัวเคยบอกผมว่า เราทำเนียนเหมือนคู่รักแบบนี้น่ะดีแล้ว

 จะได้กันๆไอ้พวกชอบหม้อออกไปห่างๆ ผมชอบความคิดนี้เพราะผมเต็มใจเป็นแฟนกับหนูบัวอย่างยิ่ง แม้มันจะแค่หลอกๆ ก็ตาม

  แต่มีสิ่งนึงที่น่าแปลกมากสำหรับผม เวลาที่มีคนมาจีบหนูบัว ผมกลับไม่คิดมากไม่หึงหวงอย่างที่ควรจะเป็น

 คงเป็นเพราะผมรู้ว่าหนูบัวไม่คิดจริงจังในการหาแฟนมากไปกว่าจับผู้ชายคู่กัน

เพราะแบบนั้นผมเลยไม่ได้มีความคิดหึงหวงหรือไม่พอใจเวลามีคนมาจีบหนูบัว 


ตรงกันข้ามผมกลับเป็นห่วงคนพวกนั้นมากกว่า เพราะบัวไม่มีทีท่าว่าจะรักใครหรือชอบใครเป็นพิเศษเลย คอยแต่จะจับผู้ชายเหล่านั้นมาคู่กันซะเอง




“ไม้..นี่ๆ คิดอะไรยะเหม่อเชียว”เสียงหนูบัวเรียกสติผมกลับมา

“เปล่าคิดถึงตอนสารภาพรักบัวน่ะ”

ผมบอกเสียงเรียบเฉยเพราะบ่อยครั้งที่ผมเผลอคิดไปถึงตอนนั้น ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า

 บางทีหนูบัวอาจจะชอบผมอยู่บ้างเลยไม่ตัดสัมพันธ์ไป ผมจะคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหมนะ   

“คิดมากน่า อย่าบอกนะ ว่าเจอคนถูกใจแล้วจะทิ้งบัวน่ะ “

“ฮ่าๆๆๆ เอาไว้เจอจริงๆก่อนนะแล้วจะบอกหนูบัวคนแรกเลย”

แม้ว่าจะไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลือแล้วแต่มันก็อดที่จะคันๆในหัวใจไม่ได้เวลาที่หนูบัวผลักไสผมไปให้คนอื่น 


“   ให้มันจริง...เออนี่พี่โอ๊ตเดือนมหาลัยปีสามล่ะไม้ เขาหล่อนา บัวเชียร์คนนี้เลยแก หล่อมากกกกก หล่อ เรือหาย  หล่อวัวตายควายล้มเลย”


“เอ่อ.ฟังๆดูแบบนั้นเขาเรียกว่าหล่อเหรอ น่าสงสารพี่โอ๊ตนะ เปรียบซะเห็นภาพเลย..หึหึ.และอีกอย่างนะที่รักพี่ไม้คนนี้ ชอบผู้หญิงโว้ยยยยยย”


ผมอยากตะโกนให้พยาธิลำไส้ยัยหนูบัวนี่ได้ยินไปเลยจะได้เลิกคิดอะไรเพี้ยนๆสักที

“ชิส์....ช่างบัวเหอะว่าแต่ไปได้หรือยังล่ะ เร็วๆเลย”

ผมมองหนูบัวที่ทำหน้างอๆเหมือนกับงอนผม อดไม่ได้ที่จะยกมือไปขยี้กลุ่มผมนิ่มๆนั่นไม่ได้ มันน่าเอ็นดูเสียจริง....เอ็นดูเหรอ

หึหึ นั่นสิ หนูบัวน่าเอ็นดูจะตายจะว่าไปผมลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง ยัยหนูบัวเลยเป็นเหมือนน้องสาว ผมไปด้วย

ผ่านมาตั้งหลายปี ตอนนี้ตะกอนความรักของผมมันคงเหลือน้อยมากแล้ว 

ผมจะพยายามมองหนูบัว ในแบบใหม่  มองแบบที่ไม่ใช่รักแบบเดิม  ซึ่งผมคิดว่าผมทำได้ 

ขอบใจจริงๆเพื่อน สำหรับคำตอบวันนั้น ขอบใจที่ยังเป็นเพื่อนกันมาตลอด


“อย่ามายิ้มอย่างนี้ซี่เดี๋ยวปล้ำซะเลยนี่”เสียงงอแงยังดังมาเมื่อผมยังมองหน้าสวยๆนั่นและยิ้มให้อย่างที่เคย
 
“ไปๆ เสร็จแล้ว “

ผมเดินเข้าไปในห้องสำรวจปลั๊กไฟ และก็อกน้ำก่อนออกจากห้อง  ผมกับบัวอยู่คอนโดของพ่อเดย์  ห้องข้างๆกัน มันใกล้มหาลัย

สะดวกดีด้วย ครอบครัวเราสองคนสนิทกันมาตั้งแต่พวกเรายังเด็ก  เลยได้ช่วยดูแลกันมาเรื่อยๆ พ่อเดย์ชอบฝากหนูบัวให้ผมดูแล

บอกว่าตอนเด็กๆหวงหนูบัวมากแต่ตอนนี้อยากยกให้ผมโดยไม่คิดค่าสินสอดด้วยซ้ำ

แม้ผมจะบอกพ่อเดย์ว่าลูกสาวพ่อเดย์ไม่ได้รักผมอย่างที่ผมรัก  แต่ผมคิดว่าพ่อเดย์รู้และเข้าใจดี   เพราะหนูบัวเองก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปกว่านั้น

ครอบครัวเราสองคนรู้ดีวันที่ผมสารภาพรักหนูบัว คิดแล้วยังขำ มัมวาดแม่เจ้าบัวยังช่วยผมลุ้นเลย



เราสองคนมาถึงมหาวิทยาลัยก็เกือบๆสิบโมงแล้ว


“เดี๋ยวบัวเอานี่ไปให้จารย์แป๊บนะ ไม้นั่งรอตรงนี้ก่อนเดี๋ยวบัวมา “


“อ้าว..จะรอทำไมไปด้วยกันนี่ล่ะ “


“แป๊บเดียวน่า ถ้าไปทั้งสองคน เดี๋ยวกลับมาไม่มีที่นั่ง ไม้จองที่ไว้น่ะดีแล้ว  เด็กดีนั่งรอตรงนี้แหละ”

บัวไม่รอให้ผมได้พูดอะไรก็เดินลิ่วไปนุ่นแล้ว ทิ้งให้ผมนั่งรอที่ม้านั่ง ใต้ต้นไม้ ผมมองไปรอบๆก่อนจะตกใจ ..

บ้าเอ๊ยนี่มันคณะวิศวะฯนี่นา ลืมคิด ซวยแล้วไหมยัยหนูบัว  จะเดินหนีจากที่นั่นก็กลัวเพื่อนกลับมาไม่เจอ

เลยจำใจนั่งอยู่ตรงนี้ท่ามกลางเสียงทักทายของคนคณะนี้ ที่ผมไม่ชอบใจเอาเสียเลย ....


“คนสวยมารอใครครับ รอพี่หรือเปล่าน้อง “

“เอ๊...สวยๆอย่างนี้มีแฟนหรือยังน๊า...”

“น่ารักจังเลยขอจีบได้ป้ะ”

นั่นไง....สารพัดคำแซว ผมล่ะไม่เข้าใจคนพวกนี้ ผมก็เป็นผู้ชายเห็นๆกันอยู่

“เฮ้ยย อยากสอยเดือนอักษรฯ ว่ะ “

เสียงแซวยังลอยมาเรื่อยๆ พร้อมทั้งเสียงหัวเราะเฮฮา   ผมไม่ชอบวิศวะ

เพราะอย่างนี้แหละครับ ปากหมาที่หนึ่งขี้แซวก็เท่านั้น ที่สำคัญหน้าหม้อกันแทบทุกคน .....จีบไม่เว้นแม้กระทั่งผู้ชายอย่างผม


“มานั่งทำอะไรตรงนี้”

เสียงทุ้มนุ่มๆดังขึ้นตรงหน้าทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง ผู้ชายร่างสูงยืนอยู่ตรงหน้าผม เอ่ยถามเหมือนรู้จักกัน ทั้งๆที่ผมไม่ได้รู้จักหรอกแค่......


“โอ๊ตมึงทำหน้าดีๆดิวะถามน้องมันแต่หน้ามึงนี่เหมือนจะฆ่าน้องมันเลย” พี่อีกคนที่วิ่งตามมาเอ่ยขึ้นราวกับรู้ว่าพี่โอ๊ตทำสีหน้าแบบไหนใส่ผมทั้งๆที่ยืนอยู่ด้านหลัง

ครับ สองคนนี้ เป็นคนดังของมหาวิทยาลัย ใครๆก็รู้จัก พี่โอ๊ตเดือนมหาลัย กับเพื่อนสนิทพี่ปีย์

ว่าแต่เราไม่เคยได้คุยกันสักครั้งเลยมีแค่ยัยหนูบัวที่มันชอบจับผมไปคู่ไอ้พื่โอ๊ตอะไรเนี่ย

และดูท่าพี่โอ๊ตไม่ได้สนใจจะหันไปคุยกับเพื่อนเลยสักนิด เพราะหน้าตาท่าทางพี่เขาจ้องผมราวกับเค้นเอาคำตอบของคำถามเมื่อสักครู่

“รอเพื่อนครับ”

“รอเพื่อน ?”

“ครับ” ผมพูดแค่นั้นก็ก้มหน้าลงสนใจโทรศัพท์ในมืออย่างต้องการตัดบทสนทนาไว้เพียงเท่านั้นแอบเห็นพี่ปีย์เดินเลี่ยงออกไปแล้ว

แต่อีกคนแทนที่จะเดินออกไปด้วยกลับนั่งแหมะลงข้างๆผม  ทำให้ผมหันไปมองซ้ำอีกที ก็ไม่ได้จะว่าอะไรครับเพราะมันเป็นที่สาธารณะ

แต่หากพี่เขาไม่นั่งจนแทบจะเบียดผมนะ


“โทษทีถ้าไม่นั่งตรงนี้ ไอ้พวกนั้นก็ไม่หยุดแซวนะ “ผมมองตามที่พี่เขาบุ้ยใบ้ไป เสียงพวกนั้นเงียบไปจริงๆด้วย

 “โอ๊ตมึงรอกูตรงนี้ก่อนละกันนะ ฝากแป๊บนึง “

พี่ปีย์ว่าพลางโยนกระเป๋าและชีทปึกใหญ่ลงใส่พี่โอ๊ตโดยไม่สนว่าพี่เขาจะรับได้หรือไม่  ก่อนจะหันหลังเดินหนีเข้าตัวตึกไปทิ้งให้ผมนั่งอยู่กับพี่โอ๊ตเพียงสองคน


“ขอบคุณครับ แต่พี่ขยับออกไปอีกหน่อยได้ไหม”

“หึหึ  โทษที “

พี่มันหัวเราะนิดๆก่อนจะขยับห่างออกไปนิดเดียว ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก  รอหนูบัวก็ไม่เห็นมาสักที

ผมหรี่ตามองคนที่ขยับออกไปเพียงนิดเดียว ไม่ใช่ว่ากันไอ้พวกนั้นแล้วมาจีบผมนะ ผมไม่ได้หลงตัวเองนะครับ

ผู้ชายเข้ามาจีบผมบ่อยจนเป็นที่ชินตาของไอ้หนูบัว และที่สำคัญเพื่อนผมมันชอบครับ  จับผมจิ้นคู่คนนั้นคนนี้มั่วไปหมด

แต่ผมไม่ได้ชอบผู้ชายครับ เลยไม่ได้เดือดร้อนอะไรอีกอย่างเพราะหน้าผมด้วยล่ะ อันนี้ผมล่ะเบื่อมาก


หน้าผมเหมือนพ่อครับฟังดูดีเลยใช่ไหมล่ะเหมือนพ่อน่าจะหล่อ  แต่ว่าพ่อผมสวยนี่สิครับหน้าสวยมากเลยและถ่ายทอดยีนส์นั้นมาที่ผมเต็มๆ 

พ่อเคยบอกว่ากว่าจะเจอแม่และแต่งงานกัน พ่อฝ่าดงผู้ชายมานับไม่ถ้วนครับ พ่อผมแมนครับแมนทั้งแท่งผมก็ด้วย 

แต่ที่ผมต่างจากพ่อ คือส่วนสูงนี่ล่ะครับพ่อผมหน้าสวยก็จริงนะ แต่สูงใหญ่ล่ำด้วย แต่ผมนี่สิ ไม่อยากจะพูด

 
ถึงแม้ผมจะมีส่วนสูงถึง177  เซ็นติเมตร  แต่รวมๆทั้งร่างแล้วเนี่ย ผมไม่รู้ว่าจะมีผู้หญิงคนไหนชอบผมบ้างน่ะสิครับ

หน้าตาบวกหุ่นผอมเพรียวของผมถ้าไว้ผมยาวนุ่งกระโปรงล่ะก็  ไม่อยากจะเล่าครับ    ขนาดไอ้หนูบัวยังไม่ชอบผมเลย เฮ้อ....

ไอ้เราก็อุตส่าห์แอบรักมาตั้งแต่อนุบาล



เสียงรอบๆตัวเงียบลง ผมหันไปมองพี่ที่นั่งข้างๆเพราะดูเงียบผิดปรกติ   หนังสือในมือพี่มันวางอยู่บนโต๊ะตอนไหนไม่รู้

แต่ที่แน่ๆ พี่โอ๊ตที่นั่งพิงพนักเก้าอี้กำลังหลับ นั่งหลับนี่แหละที่ทำเอาผมทึ่ง ทำได้ไง จะด้วยอะไรไม่รู้ ผมดันรู้สึกเป็นห่วงว่าคอพี่จะหักเอา

ใจจริงก็ไม่อยากขัดคนนอน แต่นอนแบบนี้ไม่สบายแน่ๆ ผมเลยล้วงเอาลูกอม ที่คุณยูลุงของหนูบัวซื้อมาฝากจากญี่ปุ่น 

เป็นลูกอมที่เย็นเหมือนน้ำแข็งผมชอบกินมากทำให้สดชื่น  ถ้าพี่โอ๊ตกินคงหายง่วง

“เอ่อ..พี่ครับ “ผมสะกิดคนข้างๆเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ

“ครับ”เสียงนุ่มๆแต่งัวเงีย ทั้งยังตาปรือๆที่มองมาที่ผม อ่า ผู้ชายอะไรง่วงได้เซ็กส์ซี่มาก ผมนี่มือสั่นจนลูกอมแทบหล่นจากมือ

 “นอนแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ อ้ะ ผมให้แก้ง่วงได้นะครับ”ว่าพลางยื่นลูกอมให้ไปสามเม็ด ทั้งยังส่งยิ้มให้ด้วย

เพราะเกรงว่าคนง่วงจะไม่พอใจที่ผมปลุก อย่างน้อยก็ตอบแทนน้ำใจ ที่อุตส่าห์ช่วยกันพวกหน้าหม้อพวกนั้น

“ขอบคุณ”พี่มันมองผมแปลกๆแฮะ  แต่ถึงจะหน้าง่วงๆตาเบลอๆ แต่พี่เขาก็ยังยื่นมือมารับเอาน้ำใจจากผมพร้อมทั้งแกะลูกอมเข้าปาก

 ดูเหมือนพี่มันจะยิ้มนะ คงจะไม่ต่อยที่ผมปลุกใช่ไหมนะ 


ผมอดที่จะมองไปที่รุ่นพี่คนดังอีกครั้งไม่ได้  พี่โอ๊ตนั่งเล่นโทรศัพท์ในมือไปเรื่อยๆ เหมือนว่าพี่จะตื่นแล้ว รอยยิ้มน้อยๆที่มุมปาก

ทำให้พี่โอ๊ตที่หล่ออยู่แล้วยิ่งดูหล่อขึ้นไปอีก นี่ผมบ้าหรือไงมานั่งพิจารณาผู้ชาย สงสัยเชื้อวายจากหนูบัวคงติดมาแน่ๆเลย 


“ไม้.....รอนานป้ะ ขอโทษนะ หนูบัวโดนอาจารย์ดึงไปช่วยงานน่ะ แหะๆ “

เสียงหวานๆดังขึ้น จนไม้ต้องละสายตาจากพี่โอ๊ตไปหาเพื่อนคนสวยของผมที่วิ่งกระหืดกระหอบมา

“ไม่นานหรอก  แล้วเสร็จหรือยังล่ะ หรือต้องกลับไปช่วยอาจารย์อีก  “

“ยังเลย บัวเลยรีบมาบอกไม้ก่อน ถ้าไม้ไม่ว่าอะไรไม้ไปสโมฯก่อนนะ เดี๋ยวบัวตามไป ..อุ๊ย..พี่โอ๊ตสวัสดีค่า”


ปลายเสียงของหนูบัวตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอพี่โอ๊ตตัวเป็นๆคงจะดีใจเกินเหตุเพราะหนูบัวเคยบอกผมว่า

 ไม่ใช่จะได้เจอพี่โอ๊ตง่ายๆ เรียนคนละคณะ  แถมพี่เขาดังขนาดนั้น

“หวัดดีครับ “พี่โอ๊ตหันมามองยัยหนูบัวสลับกับผมเหมือนจะงงๆนะท่าทางแปลกจนน่าขำ
 
“โอ๊ต”ยังไม่ทันที่พี่มันจะได้พูดอะไร พี่ที่วิ่งออกไปตอนนั้นก็กลับเข้ามาพร้อมๆกับหนูบัวเลย 
 
“มึงจะรีบอะไรขนาดนั้นวะปีย์ “

ท่าทางดุไม่น้อย ถึงว่าใครๆก็ว่าพี่โอ๊ตดุเข้มแถมน่ากลัวอีก อย่าได้ไปมีเรื่องกับพี่มัน มีหลายคนที่หาเรื่องพี่โอ๊ต

นอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลมาหลายรายแล้ว อันที่จริงข่าวแบบนั้นผมคิดว่ามันเวอร์ไป แต่พอเห็นพี่มันทำหน้าดุเพื่อน 

ผมยังแอบกลัวพี่มันเลย จะทำหน้าโหดไปไหนกัน



“ก็ ..กูกลัวไม่ทัน ..อ้าวน้องบัว  “

“.................” สองคนนี้ไปรู้จักกันตอนไหนนะ  ผมเหลือบมองหน้าพี่โอ๊ตท่าทางพี่มันก็คงจะงงเหมือนผม
 
“พี่ปีย์คะ คือเมื่อกี๊บัวขอโทษนะคะ  พอดีบัวรีบเลยไม่ทันมองค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ แค่หัวโนนิดหน่อยเองไม่แตกครับ  “

ไปทำร้ายร่างกายพี่เขามาหรือไงหนอเพื่อนผม อยากจะถามครับแต่ตอนนี้เงียบไว้ดีกว่า 

“ยังไงบัวก็ต้องขอโทษค่ะบัวผิดนะ เอางี้ไหมคะ เดี๋ยวบัวเลี้ยงข้าวพี่ปีย์สักมื้อนะคะ  อ้อ พี่โอ๊ตไปด้วยกันได้นะคะ”

หนูบัวยิ้มแฉ่ง พี่ปีย์ยิ้มกว้าง มีแค่ผมกับพี่โอ๊ตที่ทำหน้า งง


 “สรุปว่าตกลงนะคะ  พี่ปีย์มีไลน์ไหมคะ เดี๋ยวบัวไลน์ไปบอก  “

“มีครับๆ “สองคนยืนแลกไอดีไลน์กันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม  ผมกับพี่โอ๊ตก็ยังคงมองหน้ากันไปมาอย่างไม่เข้าใจ เหมือนเดิม

“ขอของพี่โอ๊ตด้วยได้ไหมคะ  แลกกันๆนะคะ”เอาแล้วไงท่าทางแบบนี้ จะเล่นอะไรอีกยัยเทอร์โบเอ๊ย

“เอ่อ.....”พี่โอ๊ตคงกำลังมึนเพราะโดนจู่โจมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

“หนูบัว”ผมอดไม่ได้ที่จะทำเสียงดุใส่เพื่อนเพราะคิดว่าจะยุ่งเกินไป เดี๋ยวจะโดนตำหนิเอาได้

“ไม้ก็ ไม่เป็นไรหรอกน่านะ  เนอะพี่โอ๊ตเนอะ เดี๋ยวเอาไลน์ไม้ให้พี่โอ๊ตด้วย เนอะ “ไม่ฟังผมแถมยังไป คะยั้นคะยอ  พี่เขาอีกผมล่ะกลุ้มใจ

ผมมองพี่เขาอย่างหวาดๆกลัวพี่เขาไม่พอใจ หน้านิ่งๆ ที่ไม่บอกอารมณ์อะไรนั่น ทำผมแอบหวั่นอยู่เหมือนกัน 

แต่สักพักพี่มันกลับยื่นมือถือมาให้ผม แววตาแว่บแรกเหมือนพี่โอ๊ตยิ้ม ดูระยับยังไงไม่รู้แต่ก็แค่แว่บเดียว ผมหยิบมือถือพี่โอ๊ตมา จัดการแอดไลน์เอาไว้ 


อยากปฏิเสธอยู่หรอกครับแต่ ก็กลัวว่าพี่เขาจะไม่พอใจ  ไอ้หนูบัวพูดอะไรบ้างไม่รู้เพราะผมกำลังมึนๆ เผลอจ้องตาพี่โอ๊ตแล้วเบลอๆยังไงไม่รู้

 ตาสีน้ำตาลอ่อนๆออกแดงๆคล้ายๆสีสนิม ตาเรียวเฉี่ยวดูดุดันแค่จ้องมาผมยังสั่นเลย น่ากลัวสุดๆ

ผมโดนไอ้หนูบัวลากออกมาจากตรงนั้นตอนไหนยังมึนอยู่เลยครับ 



“ไม้เห็นด้วยหรือเปล่า”

“ห๊ะ..?”

“นี่ไม่ฟังบัวเลยใช่ไหมเนี่ย งอนแล้วนะ เฮอะ “

“โอ๋ๆ อย่างอนน่า ไม้กำลัง งง ๆบัวว่าไงนะครับบอกไม้อีกทีนะๆ”

“ก็เสร็จงานนี้เราไปเลี้ยงข้าวพี่ปีย์กับพี่โอ๊ตกันนะ บัวทำพี่เขาเจ็บตัว อยากไถ่โทษ “

“แจกไลน์เขาไปทั่วแบบนี้จะฟ้องลุงเดย์”

“บัวแจกคนที่บัวสกรีนแล้วเท่านั้นแหละน่า คิก คิก “

“หนูบัว เล่นอะไรแผลงๆอีกล่ะสิเราน่ะ “

“ไม่หรอก ..งานนี้ต้องได้สักคู่สิ ฮิฮิ “



ผมล่ะอยากเอาหัวไปโขกฝาตาย ให้นึกสงสารสองหนุ่มนั่นที่พึ่งจะรู้จัก ชีวิตเตรียมวุ่นวายได้เลยครับ ถ้าโดนยัยหนูบัวหมายหัวล่ะก็ ไม่รอดสักราย





เฮ้อ..แล้วผมล่ะจะรอดไหมนะ ...............




โปรดติดตามตอนต่อไป ....

พี่โอ๊ตตัวจริงต่างจากภาพลักษณ์ที่น้องไม้เห็นนะคะ เป็นคนประเภทไม่แสดงตัวตนจริงๆในที่สาธารณะ

แต่จะเป็นตัวเองเต็มที่เมื่ออยู่กับคนสนิทหรือครอบครัว  ส่วนหนูบัวนางเป็นสาววายที่ชอบจับคู่หนุ่มๆให้รักกัน

ก็แหม ที่บ้านมี 1คู่ นั่นคือพ่อเดย์ กับมัมวาด ไหนจะอาตองกับอาอิน ยังมี อาขุนกับอาเจเจ อีก(อ่านเรื่องของครอบครัวนี้ได้ที่ **ตามใจ** (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55693.msg3473660#msg3473660) )

โอ๊ยยยเอาเป็นว่าชีวิตหนูบัว แวดดล้อมด้วยหนุ่มๆ มาทั้งชีวิตเลยทีเดียว

แถมเป็นลูกสาวคนเดียวที่มีน้องชาย 3  คนเชียวนะ พี่ปีย์ถ้าจะเจองานช้างกว่าพี่โอ๊ตแล้วล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ   

1เม้นท์ 1กำลังใจ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่าาาา  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

 

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** Special ตอบคำถามแฟนๆ By พี่โอ๊ต+น้องไม้ (7/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 07-06-2018 16:59:59

วันนี้มีเวลาเล็กน้อย พันวาพาพี่โอ๊ตกับน้องไม้มาตอบคอมเม้นทืคนอ่านกันค่า
ไหนดูซิ ใครถามอะไรมามั่ง :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:




โอ๊ยฮาอีพี่โอ๊ต :m20: ทำเป็นนิ่ง

โอ๊ต// มาตอบช้าไปนิด  โปรดให้อภัยครับ :3123: :3123: ผมพยายามนิ่งครับกลัวหลุดต่อหน้าน้อง มันไม่คูล


ท่าทางพี่โอ๊ตจะหลงน้องไม้มากๆเลยนะ 5555555

โอ๊ต// ใครหลง ไม่มี๊ นั่นผู้ชายครับผมก็ผู้ชายนะ  ผมทำตามคำขอร้องเพื่อนครับไม่มีอะไรจริงๆนะ ไม่ได้หลงใครเล้ยยย :serius2: :serius2:

ไม่รอดหรอกน้องไม้ 5555555

ไม้// อ่า.. :mew6: :mew6: :mew6:

เพิ่งมาเห็นเรื่องนี้
เคยอ่านรุ่นเรื่องก่อน ๆ นะ แต่นานมาแล้ว เลยสงสัยว่าทิวไผ่นี่ใครหว่า สนิทกับเดย์เสียด้วย

ทิวไผ่// สวัสดีครับ ผมชื่อนายทิวไผ่ พ่อน้องไม้คนแมน พบกับผมได้ในตอนพิเศษเรื่องตามใจครับ..// อะไรนะ ไม่มีเหรอ..อ้อ มันมีตอนพิเศษในหนังสือครับกำลังตีพิมพ์แหะๆ รอจับจองเป็นเจ้าของได้เลยครัชอีกไม่นาน แจกานนนน :bye2: :bye2:

ระหว่างพี่โอ๊ตกับน้องไม้ ใครจะตกหลุมรักก่อนกันน้า

โอ๊ต// ไม่มีทางเป็นผมแน่นอนครับ ผมยังชื่นชอบเนื้อนมไข่ เอ๊ย ไม่ใช่สิ ชอบสาวๆขาวอวบอยู่นะครับ
ไม้// ผมคิดว่าผมคงไม่รักใครอีกนอกจากหนูบัวอ่ะครับ
โอ๊ต// อ่า...ไม่พิจจารณาพี่หน่อยเหรอครับ พี่หล่อนะ
ไม้// :mew5: :mew5: :mew5:


ไม่ต้องเดาแล้วม้างงง อิพี่ชอบน้องไปแล้ว ชัวร์

โอ๊ต// ไหนใครชอบ ไม่มี๊  ผมแค่ช่วยเพื่อนแค่นั้นจริงจรี๊งงงงง :ling1: :ling1:


พี่โอ๊ตขนาดนี้แล้วยังซึนไม่รู้ตัวว่าชอบน้องแล้วอีก จะรู้ตัวตอนไหนนิ

โอ๊ต // แหงะ..ผมไม่ได้ซึรสักหน่อยทำไมไม่มีใครเชื่อผมเลยอ่า  :hao5: :hao5: :hao5:

น้องไม้ช่างใสซื่อ ถ้าอิพี่ทำน้องเสียใจเราจะแบนเลยนะ

โอ๊ต//ควรสงสารผมนะ จีบยากก็จังคนอะไร  :hao5: :hao5: :hao5:

.."แต่คนเจ้าเล่ห์ ส่วนใหญ่จะตกหลุมที่ตัวเองขุดเอาไว้เยอะแยะนา เตือนไว้ก่อนนะพี่โอ๊ต"  :hao3: :hao3: :hao3:
     ถูกใจ ใช่เลยค่ะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

โอ๊ต // ไม่มีทาง เชื่อผมได้เลย งานนี้น้องต้องตกหลุมผมเซ่  :angry2: :angry2:




พันวา// เอาล่ะหนุ่มๆ วันนี้ไปพักก่อน เดี๋ยววันหลังค่อยมาตอบใหม่เนอะ  ใครอยากถามอะไรพี่โอ๊ต น้องไม้ หรือแก้งคืเพื่อนๆกับสาววายเลือดข้นอย่างหนูบัว ถามมาได้เลยค่า เดี๋ยวพันวาจะพามาตอบเนอะ

วันนี้ไปพักก่อนละ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาพี่โอ๊ตกับน้องไม้ตอนต่อไปมาส่งเนอะ บายยยยย :กอด1: :กอด1: :กอด1:


หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 4 รุก ( 10/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 10-06-2018 13:26:01


แผนที่ 4  รุก



วนันต์


“ไม้ เค้ามีอะไรมาให้ตัวเองดูล่ะ”เสียงเจื้อยแจ้วยัยจอมแสบ ดังมาตั้งแต่ยังไม่เห็นตัว

“อะไรอีกล่ะครับ ไม้ง่วงมากเลย วันนี้ซ้อมไปเยอะ ดินทั้งวันถูกจับบิดไปนุ่นนี่ไม้เหนื่อยครับ”

ผมบ่นพึมพำทั้งที่ยังไม่ลืมตา วันนี้ได้พักบ่ายๆเอง คืนนี้ก็ต้องขึ้นเวทีแล้ว เหนื่อยอะไรขนาดนี้ก็ไม่รู้ เฮ้อ เมื่อไหร่จะผ่านไปสักที

“ลุกเลยๆ นี่ๆ บัวได้ลิ้งค์เมื่อสามปีก่อนที่พี่โอ๊ตได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยล่ะ สนใจจะอ่านไหม”

“ไม่เห็นเกี่ยวกับไม้นี่นาหนูบัว”

“เกี่ยวสิ  เผื่อเป็นแนวทางการตอบคำถามไง นะๆลุกมาดูกับเค้าเลยไม้ “

“เคเค ไหนเอามาดูซิ “ผมยื่นมือไปคว้าไอแพดของหนูบัว ที่เจ้าตัวเปิดลิ้งไว้ให้แล้ว


ภาพผู้ชายร่างสูง ใบหน้าคมเข้มมีผมสีดำสนิท นัยตาสีน้ำตาลแดงแบบที่ผมไม่เคยเห็น สีเหมือนสนิมซะมากกว่า 

คิ้วหนา พาดเฉียงกับหน้าผาก แลดูเหมือนคนขี้หงุดหงิดหรือโมโหตลอดเวลา ตาเรียวรี ดูมีเสน่ห์ชวนมอง 

จมูกโด่งรับกับใบหน้าคมเข้มแบบคนไทยแท้ๆ ผิวสีแทนสวย รวมๆแล้วพี่คนนี้หล่อชนิดหาตัวจับยากเลยล่ะ

เป็นคนมีเสน่ห์ชวนมองทั้งๆที่แค่ดูรูปถ่ายแต่พี่มันดึงดูดสายตาจนต้องยอมรับว่าพี่มันหล่อจริงๆ


“แหนะๆ มองตาค้างเลยหล่อใช่ไม๊ล่า”ผมเบ้ปากอยากจะมองบนให้รู้แล้วรู้รอด แม่คนช่างยุนี่ เฮ้อ

“ก็หล่อ แต่ก็ผู้ชายนะ “

“พี่เค้าเหมาะกับไม้นะ ดูสิ หล่อมาก กรี๊ดดดด “

ผมไม่ตอบโต้ยัยตัวแสบอีกแต่ใช้นิ้วเลื่อนลงมาดูคลิปบทสัมภาษณ์ ด้านล่างแทน



Q.แนะนำตัวหน่อยค่ะ

** อินทัช  อิงคนันท์ ครับ

Q. ชื่อเล่นล่ะคะ

**.โอ๊ตครับ

Q .อายุเท่าไหร่คะ

**21 ปีครับ 

Q .เรียนคณะอะไรคะ

**วิศวะครับ

Q .แหมน้องโอ๊ตนี้ถามคำตอบคำจริง แล้วมีแฟนหรือยังคะ

**ไม่มีครับ

Q .น้องโอ๊ตมีเสป๊กแบบไหนคะบอกได้ไหมเผื่อพี่อยุ่ในตัวเลือก คิกๆ

**ผู้หญิงครับ

Q .ว้ายยยแบบนี้แสดงว่าโดนหนุ่มจีบเหรอคะ เล่นตัดกำลังกันแบบนี้ หนุ่มๆเสียใจแย่เลย

เอาล่ะค่ะ นี่เป็นตัวอย่างสั้นๆ หากใครอยากรู้จักน้องโอ๊ตเฟรชชี่คนหล่อดีกรีเดือนมหาลัยคนนี้ติดตามได้ที่นิตยสารของมหาวิทยาลัยปีนี้นะคะ



....

เป็นคลิปสั้นๆที่ผมดูไปขำไป

ท่าทางสายตาที่บอกว่าเริ่มรำคาญเต็มทีของพี่โอ๊ตทำให้ผมหลุดหัวเราะ คนอะไรตอบคำถามได้กวนมากถ้าไม่ถามพี่แกก็ไม่ตอบ

ปรกติคนอื่นๆเวลาให้แนะนำตัวจะร่ายยาว ทั้งแต่ชื่อยันวันเดือนปีเกิด  หึหึ น่าสนใจดีเหมือนกันแฮะ

“แหนะๆยิ้มๆ ชอบใช่ม๊า”ผมแทบจะคว่ำปากใส่ยัยตัวแสบที่ทำหน้าล้อเลียนไม่หยุดหย่อน

“บัว เราไม่ได้ชอบผู้ชายและพี่โอ๊ตก็บอกชัดเจนว่าสเป๊คคือผู้หญิง กับเราแซวได้นะ เพราะบัวคือเพื่อน
 แต่กับพี่โอ๊ตอย่าไปทำแบบนี้กับพี่เขา มันดูไม่ดีนะรู้ไหมยัยตัวแสบ อีกอย่างถ้ามีผู้ชายคนไหนมาจีบบัว อย่าไปแกล้งเขาล่ะมันไม่ดี”


“บู่... ไม้อ่ะไม่เข้าใจความบันเทิงของสาววายเลยให้ตายเถอะ “

ยัยตัวแสบทำปากยื่นหน้างอ คนอื่นคงมองว่าน่ารักแต่ผมว่าน่าดีดปากเสียจริง หมั่นไส้

“บัว”

“จิ๊..ก็ได้ๆ อย่าทำเสียงเข้ม เอาเป็นว่าเราจะแอบๆชงนะ ไม่ให้พี่โอ๊ตรู้ตัวโอเค้ ส่วนคนที่มาชอบบัว ถ้าไม่บอกตรงๆบัวไม่รู้คือไม่ผิดนะ ดีลนะคะคุณแฟน ”


ผมถอนหายใจให้กับความดื้อรั้นของเพื่อนผม  แม้ยัยตัวแสบจะเนียนมากอดเอวง้อผมก็ไม่ทำให้ผมยิ้มได้หรอก

ต้องแกล้งซะให้เข็ด ชอบทำอะไรไม่นึกถึงใจคนอื่นเขาดีนัก

“สักวันนะบัวถ้าบัวเจอคนที่บัวรัก บัวจะเข้าใจว่าการจับคู่ให้คนที่เราไม่ได้มีใจด้วยมันไม่เจ็บปวดมากเลยนะ ”

“บ่นๆ ก็บัวไม่ได้ชอบผู้ชายพวกนั้นนี่นา “

“แต่พวกเขาชอบบัวนะ ถ้าเขาจีบบัวแล้วบัวไม่ชอบอย่าให้ความหวังใคร  บอกตรงๆเหมือนที่บัวบอกไม้ไง นะครับ อย่าเล่นกับความรู้สึกคนอื่นมันไม่น่ารักเลย”

“จริงจัง?”

“ครับจริงจัง บัวเองก็ต้องจริงจังเหมือนกัน”

“บู่ ...ไม่สนุกเลย เฮอะ ก็ได้ๆ ยอมก็ได้ งั้น คุณแฟนคะ ถ้าบัวได้ตำแหน่งคุณแฟนต้องมีรางวัลแลกกับที่ไม้ขอ ..โอเค๊”

“จะเอาอะไร “

“ รับปากก่อนสิ ถ้าเค้าได้รางวัลไม้ต้อง ทำตามที่เค้าขอ 1 ข้อ นะคะๆ นะๆ”

“อย่าเล่นอะไรแผลงๆเหมือนของขวัญวันเกิดก็พอ”

“เย้ๆ  คอยดู บัวจะสอยตำแหน่งดาวมาให้คุณแฟนให้ได้คิกคิก”



ผมส่ายหัวด้วยความระอา จะมีอะไรถ้าไม่แกล้งผมที่ขัดใจเจ้าหล่อนน่ะ   หวังว่าคงไม่แกล้งผมหนักๆหรอกนะ 

ช่วงตอนมัธยมต้นผมเคยรับปากยัยตัวแสบตอนวันเกิด  ของขวัญวันเกิดที่หนูบัวอยากได้คือให้ผมใส่ชุดคอสเพลย์เป็นชุดนักเรียนญี่ปุ่น

ที่ยัยตัวแสบหามาให้  แถมยังถ่ายรูปเก็บไว้อีก  เป็นของขวัญวันเกิดที่น่าอายที่สุดสำหรับผม แต่ยัยหนูบัวกับชอบมากที่สุด

หนำซ้ำยังควงผมในสภาพนั้นออกไปเที่ยวห้างไปดูหนัง เฮ้อ ผมจะบ้าตาย ก็ได้แต่หวังว่า

คราวนี้คงไม่โดนสั่งให้ทำอะไรแผลงๆแบบนั้นหรอกนะ  เอหรือผมจะแช่งให้ยัยหนูบัวชวดตำแหน่งดาวดีนะ


“น้องบัวน้องไม้พร้อมหรือยัง ไปแต่งตัวได้แล้วไป หมดเวลาพักแล้วค่ะ”

พี่แปง คนที่ดูแลกองประกวดเดินเข้ามาเรียกให้พวกผมเตรียมตัว  หวังว่า งานคืนนี้  จะรีบๆจบลง ผมเหนื่อย 


ณ เวทีกลางแจ้งบริเวณหน้าอาคารหอประชุมใหญ่ สโมสรนักศึกษา



ผมมองดูบรรยากาศในวันนี้เต็มไปด้วยความคึกคักและยิ่งใหญ่คงเหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา

ภายในงานมีการแสดงของชมรมดนตรี ของมหาวิทยาลัย เรียกเสียงกรี๊ดจากทั้งเฟรชชี่และเหล่านิสิตได้เป็นดย่างดี 

ความสนุกสนานจากการแสดงทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องสร้างความบันเทิงคึกคักได้ทั้งคืน  ถ้าผมได้เป็นผู้เข้าร่วมงานเหมือนคนอื่นคงสนุกไม่น้อย

แต่นี่ต้องมานั่งแอบมองบรรยาการจากเต๊นท์สำหรับแต่งตัวของดาวเดือนหลังเวทีแบบนี้ไม่สนุกเอาเสียเลย


ถึงมันจะเป็นไฮไลท์ของงานในค่ำคืนนี้ที่ทั้งเหล่ารุ่นพี่และรุ่นน้องต่างเฝ้าคอยคือ การประกวดหนุ่มหล่อและสาวสวยมากความสามารถ

ที่จะมาเป็น “ดาว-เดือน” ของมหาวิทยาลัย แต่ผมก็ยังยืนยันว่าผมอยากเดินชมงานมากกว่าการมานั่งเก็บบตัวอยู่ในเต๊นท์หลังเวทีแบบนี้ เฮ้อออ

ผมได้แต่มองดูบรรยากาศงานด้วยความเสียดาย ขอบกินต้องเยอะมากแน่ๆเลย ตอนนี้ด้านหน้าเวทีกลางแจ้งบริเวณหน้าอาคารหอประชุมใหญ่ก็

เนืองแน่นไปด้วยนักศึกษาทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องที่เข้ามาให้กำลังใจและเป็นแรงเชียร์ให้กับดาวและเดือนจากคณะของตนเอง 

ผมหยิบมือถือมาเปิดส่องโซเชี่ยลแก้เซ็ง

ระหว่างรอ เพจของมหาวิทยาลัยเป็นตัวเลือกที่ดี ผมเลื่อนดูโพสต์ในปีก่อนๆที่มีงานเฟรชชี่แบบนี้   

พี่โอ๊ตตอนเป็นเฟรชชี่ดูดีเหมาะสมกับตำแหน่งมาก





**เฟรชชี่ปีนี้แซ่บมากแอดต้องเตรียมกระดาษทิชชู่ไว้ซับน้ำลายซับเลือดกันเป็นลังๆแน่นอน**

**แนบรูป**

เป็นภาพพี่โอ๊ตนุ่งแค่โจงกระเบนสีน้ำตาลทอง ไม่ใส่เสื้อ มีผ้าสีเดียวกับโจงกระเบนคาดไว้บนหัว สองมือถือไม้ตีกลองท่าทางทะมัดทะแมง

ท่วงท่าการรำสวยงามจนผมลืมบรรยากาศภายนอกไปเลย  พี่โอ๊ตตีกลองสะบัดชัย   หล่อมากขนาดผมเป็นผู้ชายยังยอมรับว่าพี่มันหล่อจริงๆ

 ยิ่งดูยิ่งหล่อดูดีไปหมดทุกท่วงท่า ไม่แปลกใจเลยที่ตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยจะเป็นของพี่โอ๊ต ใบหน้าไร้รอยยิ้มแต่ไม่บึ้งตึง

สีหน้าเรียบเฉยแต่ดูมีเสน่ห์จนผมไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย


“ดูอะไรอ่ะไม้ดูด้วยสิเซ็งจังจะรออีกนานไหมเนี่ย”

เสียงใสๆของยัยตัวแสบดังมาจากมุมแต่งหน้า  ผมรีบกดออกจากเพจ เพราะถ้ายัยหนูบัวรู้ว่าผมดูรูปพี่โอ๊ตอยู่ล่ะก็

เรื่องคงไม่จบโดนแซวยันพรุ่งนี้แน่นอน


“เปล่าหรอกดูไปเรื่อย อีกนิดเดียวเอง ทนหน่อย อ๊ะ!! นั่นพี่อิงฟ้านี่”

ผมละความสนใจจากหนูบัวหันไปมองพี่อิงฟ้ากับพี่โอ๊ตที่เดินคู่กันขึ้นไปบนเวที เป็นดาวเดือนที่เหมาะสมกันมาก

“สวยจัง”ผมอดไม่ได้ที่จะชมพี่อิงฟ้า เพราะพี่เขาสวยมากจริงๆ รูปร่างสูงเพรียว

ผมสีน้ำตาลดัดเป็นลอนส่งให้ดวงหน้าขาวผ่องนั่นดูเด่นขึ้นรอยยิ้มหวานละมุนดูใจดีจนน่าหลงไหล

“ไม้ ตื่นเต้นเหรอ..”เสียงยัยตัวแสบดึงผมออกจากห้วงคิดก่อนจะหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆกัน

“อื้อ..บัวเก่งนะ ไม่ตื่นเต้นเลยเหรอ”

“บ้าสิ ฉี่จะราดอยู่ละ ฮิฮิ “


“คำพูดคำจาไม่สมกับเป็นสาวเป็นนางเลยนะ ยัวบัวบ๊อง”

เราสองคนนั่งเถียงกันไปมา มีพี่แปงยืนส่ายหัวด้วยความระอากับพวกผม จริงๆผมชอบบรรยากาศแบบนี้นะครับ

 มันเหมือนเราได้เข้าใกล้เพื่อนๆ และได้เรียนรู้คนอื่นๆด้วย   บางทีผมควรจะเลิกกลัวได้แล้ว  ความกลัวที่เกาะกินใจผมมาตลอด

หากการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย และการได้พบเจอเพื่อนใหม่ๆ ทำให้ผมหายกลัวเรื่องนั้นได้ ผมคงจะมีความสุขไม่น้อย

“ไปเถอะเขาเรียกเราแล้ว ไม้  อย่ากังวล หนูบัวจะอยู่ข้างไม้เสมอ ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปแน่นอน “

นั่นสินะ การก้าวข้ามความกลัวนั้นได้ มันจะต้องดีแน่นอน ที่สำคัญเพื่อนคนสำคัญของผมยังอยู่ตรงนี้เสมอ

ไม่ว่าใครจะจากไปใครจะหายไป หนูบัวยังอยู่กับผม แค่นี้ก็พอแล้ว  ผมหันมายิ้มให้เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผม 

ก่อนจะเดินจูงมือกันออกไปสู่โลกภายนอกนั่น


เป็นโลกที่ผมต้องเจออะไรอีกหลายอย่าง แค่เรื่องบางเรื่องผมจะต้องกำจัดมันให้หายไปจากผมให้ได้  ผมต้องทำได้





อินทัช


กว่างานเฟรชชี่จะผ่านพ้นไป เหนื่อยครับบอกตรงๆเหนื่อยจนอยากจะกลับบ้านนอนถ้าไม่ติดว่ามีภาระกิจที่จะต้องทำ

น้องไม้หล่อมาก ดูท่าสาวๆจะกรี๊ดกร๊าดกันจนแสบแก้วหู  น้องบัวก็สวยจนไอ้ปีย์ตาลอย หอบดอกไม้ช่อใหญ่ไปให้ถึงหน้าเวที

ไม่มีความเกรงใจน้องไม้ที่ยืนอยู่ข้างๆสักนิด  ขนาดมีข่าวว่าทั้งคู่เป็นแฟนกันความฮ็อตกับไม่ลดลงเลยสักนิด

ภาพน้องไม้ที่นั่งตัวตรงตีขิมทำนองอ่อนหวานกับหนูบัวที่ร่ายรำด้วยท่าทางอ่อนช้อย สวยงามตราตรึงผู้ชมราวกับต้องมนต์ 

 ผลเป็นไปตามคาดครับ

น้องไม้ได้ตำแหน่งเดือนมหาลัยปีนี้มาครองคู่กับดาวมหาลัยอย่างน้องบัวด้วย ทีนี้ล่ะครับงานยากกว่าเดิม เพราะทุกคนรู้จักน้องไม้ รู้จักผม หึหึ

ความวุ่นวายบังเกิดแน่ๆ ไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกขัดใจกับความคิดที่ว่า น้องไม้กลายเป็นที่สนใจของสาวๆทั่วมหาลัยกันนะ 

เฮ้อ..รู้สึกแย่จัง แต่ก่อนกลับคืนนี้ขอไปอ่อยน้องมันก่อนละกัน 


ตั้งแต่เมื่อวานที่หนูบัวว่าจะชวน ผมกับไอ้ปีย์ไปเลี้ยงข้าว แต่ด้วยต้องเข้าประกวดทั้งภาระกิจเต็มมือ

เลยทำให้วันนี้ทั้งวัน ผมกับไอ้ปีย์ ไม่เจอหน้า สวยๆของสองคนนั้นเลย  วันนี้ผมรับหน้าที่บนเวทีกับอิงฟ้าดาวมหาวิทยาลัย คู่กัน

จริงๆควรเป็นไอ้เชน เดือนมหาลัยปี 2 มากกว่าแต่มันป่วยความซวยเลยตกมาที่ผมกับอิงฟ้า

หลายคนเชียร์ให้ผมเป็นแฟนอิงฟ้า  แรกๆที่รู้จักกันผมก็จีบอิงฟ้านะครับ  เพราะอิงฟ้าเป็นคนน่ารักเรียบร้อย มารยาทดี 

เอาเป็นว่ากุลสตรีไทย ที่ทุกคนต้องการรวมตัวอยู่ที่อิงฟ้าหมดครับ  เพราะงั้น คนดีๆ แบบนี้จะเหลือมาถึงผมเหรอครับ 


อิงฟ้ามีแฟนแล้ว เป็นพี่ข้างบ้านของอิงฟ้า กำลังเรียนหมอ อยู่คนละมหาวิทยาลัย  แล้วไอ้พี่หมอที่ว่านั่นดัน เป็นพี่ชายผมครับ

 เลยกลายเป็นพี่อาร์ตฝากให้ผมดูแลอิงฟ้า   คนที่รู้ว่าอิงฟ้าเป็นแฟนพี่ชายผม ก็มีแค่พวกผม 5 คนนี่ล่ะครับ 

คนที่ไม่รู้เรื่องก็คิดว่าผมจีบอิงฟ้าอยู่ ผมไม่เคยเดือดเนื้อร้อนใจไปแก้ข่าว มีแต่อิงฟ้าที่กลัวว่าผมจะหาแฟนไม่ได้

ผมไม่เคยสนตรงนี้มาตลอดครับ  จนวันนี้แหละผมรู้สึกแปลกๆ เมื่อน้องไม้มองมาที่ผมและอิงฟ้า  สายตาสงสัยและดูปลาบปลื้มอิงฟ้าแบบนั้น

ทำให้ผมทั้งอยากขยับออกห่างอิงฟ้าเพราะกลัวน้องเข้าใจผิด ทั้งยังอยากขยับไปชิดๆอิงฟ้าเพราะหมั่นไส้สายตาปลาบปลื้มนั่น

 เฮ้อออ ผมว่าผมเริ่มสับสนแล้วล่ะครับ  ผมกลัวจีบน้องไม่ติดนี่ครับ อย่างอื่นไม่เกี่ยวเลยนะบอกตรงๆ


“โฮ้ยยยยย เหนื่อยยยยยย”


ผมนั่งพักอยู่เต๊นท์ข้างๆได้ยินเสียงของน้องบัว ที่ลงมาพักอยู่หลังเวที  การประกวดแบบนี้คงจะสูบพลังงานของเธอไปมากมาย

ขนาดเสียงเหนื่อยของเธอยังดังมาอีกเต๊นท์ ไอ้ปีย์แค่ได้ยินเสียงน้องก็ทำหน้ายิ้มเคลิ้มจนผมอดไม่ได้ที่จะยกเท้าถีบเพื่อนไปแรงๆ 

“โอ๊ต แม่ง กูเจ็บ  ถีบมาได้“   

“หึ “ผมเหยียดปากใส่มัน คอยเงี่ยหูฟังเต๊นท์ข้างๆ แอบส่องตรงรอยสาบของผ้าใบ

เห็นคนข้างในกำลังนั่งพักพร้อมเสียงบ่นหงุงหงิงของน้องบัว  เสร็จจากตรงนี้ก่อนเถอะ จะไปขโมยเดือนหมาดๆจากเต๊นท์นั้นกลับบ้าน

 
“น้องไม้ น้องบัวขา  ดอกไม้ทั้งหมดนี่ น้องไม้จะเอากลับด้วยไหมคะ”

เสี่ยงพี่แปงคนที่คอยดูแลพวก เฟรชชี่  ตั้งแต่เริ่มเก็บตัว จนเสร็จสิ้นการประกวด   ท่าทางเหนื่อยอ่อนของหนูบัวไม่เท่าไหร่

เพราะน่าจะชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว ต่างจากไม้ ที่อยากจะหลับมันตรงนี้เลย


“พี่แปงเอาไปไว้ที่คณะฯก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้เอาใส่แจกันตกแต่งมันทุกห้องเลยดีไหมคะ “

เสียงแจ้วๆของน้องบัวออกความคิด ดอกไม้เยอะขนาดนี้ ถึงเอากลับห้อง ก็ไม่แคล้วต้องทิ้ง

ไหนๆจะทิ้งก็แจกจ่ายให้ทุกห้องได้สดชื่นกันบ้างจะดีกว่า  ดูเป็นความคิดที่ดีเลย


“ได้เลยค่า งั้นเดี๋ยวพี่เรียกเพื่อนๆเรามาขนไปไว้ที่คณะดีกว่าเดี๋ยวจะเหี่ยวซะหมด   ว่าแต่สองคนกลับยังไงล่ะ “

“เดี๋ยวกลับรถบัวค่ะ ไม้ไม่ได้เอารถมา “

“จ้าๆ ขับดีๆนะหนูบัว  “

“ขอบคุณครับพี่แปง“เสียงน้องไม้ที่ยังเหนื่อยอ่อนได้แต่เอ่ยขอบคุณเบาๆ

พี่แปงกลับไปแล้ว น้องไม้กับน้องบัวยังนั่งพักเอาแรง  ท่าทางจะ ปวดขามาก ทั้งยืนทั้งเดินแทบจะทั้งคืน แถมตอนนี้ก็ จะเที่ยงคืนแล้วด้วย

“ปีย์ ไปหาน้องกันป่ะ”

“เอาจริงเหรอเพื่อน มึงหนีได้เหรอ “

“เราไปได้ใช่ไหมอิง  “

“ไปเถอะ เดี๋ยวตรงนี้อิงรับหน้าให้ ว่าแต่โอ๊ตสนใจคนไหนเหรอ อิงเห็นจ้องตั้งนานละ “

แววตาเป็นประกายแบบนั้น ดูถูกใจพอควรล่ะ  ที่ผมจะมีคนที่ถูกใจ

“ไม่บอก  อิงเถอะ อย่าออกจากเต๊นท์ไปไหนล่ะ เดี๋ยวพี่อาร์ตมารับ”


“จ้าๆ ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงอิงหรอก อิงโตแล้วนะ ทั้งโอ๊ตทั้งอาร์ตเลยทำยังกับอิงสามขวบ “




เสียงบ่นของว่าที่พี่สะใภ้ ทำให้ผมต้องตบมือปุๆลงบนกลุ่มผมนุ่มๆนั่นก่อนลุกขึ้นเดินออกจากเต๊นท์ของคณะฯตรงไปอีกเต๊นท์

ที่อยู่ข้างๆกัน  เสียเวลาตรงเดินอ้อมฉากกั้นนี่แหละครับน่าเบื่อที่สุด จะกั้นไกลไปไหนวะ

“พี่ไปส่งไหมท่าทางจะไม่ไหวนะ “ทันที่ที่เดินเข้าเต๊นท์น้องไปผมรีบอาสาด้วยกลัวว่าน้องๆจะมีตัวช่วยก่อนผม 

“พี่โอ๊ต!” ท่าทางดีใจของน้องบัวที่เห็นผมทำให้ผมยังพอมีความหวัง 

   
“ไม่เป็นไรครับ พักสักหน่อยเดี๋ยวผมกับบัวกลับได้ครับ “

แต่น้องไม้คนสวยกลับตอบแบบตัดฉับ แต่มีหรือที่ผมจะสนใจมาถึงนี่แล้วพี่ไม่ยอมกลับไปคนเดียวแน่ๆน้อง


 “ตาจะปิดอยู่แล้วไม้  พี่รู้ว่ามันเหนื่อยแค่ไหนนะ  เดี๋ยวรถบัวให้ปีย์ขับกลับให้ สองคนนี่ไปรถพี่ละกันไปลุก “

ผมไม่คิดจะฟังคำปฏิเสธจากเด็กหนุ่มหน้าสวย เพราะจากสภาพที่เห็นถ้าไม่ได้นอนคงไม่ฟื้นแน่ๆ



ดูท่าน้องไม้กำลังมึนจนไม่ได้สนใจว่าว่าผมจะแทนตัวเองว่าอะไรหรือน้ำเสียงห่วงใยแค่ไหนเป็นห่วงจริงๆนะครับ

เห็นท่าทางน้องแล้วตอนนี้ผมเป็นห่วงจริงๆ จนไอ้ปีย์มันมองหน้าผมสลับกับหน้าน้องบัวของมัน 

 
“ให้พี่โอ๊ตไปส่งก็ดีนะไม้ บัวง่วงมากเลยไม้ก็ไม่ไหวใช่ไหมล่ะ บัวรู้หรอก นะไม้ นะๆ อีกอย่างบัวต้องกลับบ้านลืมหรือไงไม้จะไปส่งเราไหวเหรอ “

 อ้าวมีตัวช่วยครับ ว่าที่แฟนมึงทำดีมากปีย์   เสียงน้องไม้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยักหน้า แล้วค่อยๆลุก ผมเลยเดินเข้าไปพยุงเขาลุก 

 เพราะดูท่าทางน้องจะหลับกลางอากาศอยู่แล้ว 



“กูว่านะ โอ๊ต ให้หนูบัวไปกับกูก็ได้ จะได้นั่งสบายๆ เดี๋ยวพี่ไปส่งหนูบัวที่บ้านเอง โอ๊ตจะได้ไม่ย้อนไปมา เนอะ ว่าแต่บ้านหนูบัวอยู่ที่ไหนครับ แหะๆ”

ตอนท้ายไอ้ปีย์หันไปถามความเห็นคนสวย ที่ยังยิ้มแฉ่ง ดูมีเรี่ยวแรงทั้งๆที่ควรจะเหนื่อยสุด 

จะว่าไปหน้าน้องบัวก็ยิ้มแป้นตั้งแต่ ผมถลาเข้าไปพยุงแฟนของเธอแล้ว  มันแปลกๆนะผมว่า 



 “แต่ ผมว่า ไปด้วยกันดีกว่านะ “

น้องไม้ยังคงไม่ยอมปล่อยแฟนไปกับผู้ชายอื่นง่ายๆ แหงล่ะเป็นผมก็ไม่ยอม   

ไอ้ปีย์มึงเก็บหน้าบานๆไว้ก่อนได้ไหม น้องมันจะรู้หมดว่ามึงหวังฟันแฟนเขาไอ้เหี้ยนี่   


//ไม้จ๋า  เราน่ะลูกใครจำไม่ได้เหรอแค่นี้ ไม่พ้นมือหนูบัวหรอกน่าจัดการได้ นะๆ//

ผมเห็นหนูบัวกระซิบอะไรสักอย่างข้างๆหูน้องไม้   แต่สีหน้าเบื่อหน่าย แบบนั้น ผมคงได้ไปส่งน้องแน่ๆ

 
“  ป่ะ พี่ปีย์  รถบัวอยู่ทางนี้  เจอกันพรุ่งนี้นะไม้ “

สาวสวยเพียงเหนึ่งเดียวลากมือรุ่นพี่ปีสามอีกคนลิ่วๆออกจากห้องหลังเวที คงทิ้งไว้แค่ผมกับแฟนตัวเอง
บางทีผมก็งงๆกับการกระทำของหนูบัวนะครับ มันแปลก

   
“เดินไหวไหม”ช่างเถอะ ตอนนี้ผมควรสนใจคนที่อยู่ตรงหน้าผม ที่ยังยืนพิงพนักเก้าอี้อยู่ด้วยความเพลียจัดนี่ดีกว่า

“ไหวครับ พี่โอ๊ตนำไปเลยได้ครับ “

“หึหึ ท่าทางจะไม่รอดนะเราน่ะ มานี่มา “

ไม่มีการถามความสมัครใจหรืออะไร ผมคว้าเอามือเรียวมาจับเอาไว้พลางดึงเอากระเป๋าใบโตของไม้มาถือไว้เอง

 ก่อนจะออกแรงดึงให้คนที่ตัวเล็กกว่าเดินตามหลังมาแบบงงๆ


“เอ่อ..พี่โอ๊ต ผมเดินเองได้ครับ”


“.....................”


เงียบไว้ดีที่สุดครับ ผมทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นล่ะครับ รู้สึกแค่มือนุ่มๆที่ผมจับไว้อยู่ตอนนี้ มันอุ่นดีจัง นุ่มดีด้วย อ่า...รู้สึกดีจัง   

 และดูเหมือนน้องไม้ไม่มีแรงจะยื้อยุดกับผมน้องเลยเดินตามหลังผมมา  แสงแฟลตแสงไฟที่ไล่ตามหลังผมทั้งคู่มาพร้อมๆกับเสียงกรี๊ดกร๊าด

รอบทิศที่ไม่ดังนัก ทั้งผมและน้องไม้เลยไม่ได้สนใจอะไรมากนอกจากเดินตามกันไปที่รถ 


ผมเหลือบมองดูรุ่นน้องที่พอขึ้นมานั่งบนรถผมไม่นาน เดือนคณะฯหมาดๆก็หลับลงไปอย่างห้ามไม่อยู่แม้เจ้าตัวจะพยายามฝืน

แต่ความเหนื่อยล้าของร่างกายทำให้น้องไม้ไม่อาจทนทานต่อความง่วงได้ ผมยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนจะบ้าแล้วครับ  ก็น้องไม้น่ะพอหลับแล้ว

 ดูราวกับเด็กมัธยม  ผมนั่งมองน้องอยู่ครู่เดียวก็เลยปรับเบาะให้คนหลับได้นอนสบายๆ  ตัวผมพยายามขับรถอย่างช้าๆ

เพราะกลัวคนหลับตื่น  แต่พอคิดไปคิดมาผมก็หงุดหงิด  อะไรจะไว้ใจคนง่ายขนาดนั้นไม่ระวังตัวเองเลยหรือไงนะ

แล้วไหนจะแฟนเจ้าตัวอีก คิดอะไรถึงได้แยกกันไปกับคนแปลกหน้าง่ายดายขนาดนี้นะ ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่ผมไม่ใช่ไอ้ปีย์

แต่เป็นคนไม่หวังดีขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ให้ตายเถอะ


 ขับไปตามทางที่เจ้าตัวบอกก่อนจะหลับ  ต่อให้น้องไม้ไม่บอก ผมก็รู้ทางเพราะแค่บอกชื่อคอนโด ก็ต้องร้องอ๋อ เพราะว่าอยู่คอนโดเดียวกัน 

พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์  ไม้คงได้พักยาว แต่สำหรับเดือนมหาวิทยาลัยอย่างผม  ยังต้องมีงานเพิ่มเติมอีกทำแทนไอ้เชนมันครับ

 มันเป็นน้องรหัสผม พอมันป่วยเลยเป็นผมที่ต้องมาทำหน้าที่แทนมัน  แม้จะแค่เล็กน้อย

แต่ผมไม่อยากให้เวลาแบบนี้จบลงไปเลย อยากนั่งมองหน้าคนหลับแบบนี้ไปนานๆ  แต่ก็คงทำได้แค่คิด  ผมนี่ถ้าจะบ้าไปแล้วจริงๆ 

น้องไม้เป็นผู้ชายคนแรกที่ผมไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนที่จะอยู่ด้วย ไม่ได้รู้สึกอึดอัด ที่ต้องจับมือจูงน้องเดิน ตรงกันข้าม ผมกลับรู้สึกดีที่ได้สกินชิปคนสวยเวลาเผลอแบบนี้

ผมไล้นิ้วมือเบาๆที่แก้มเนียนด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่ามันคืออะไร แต่ที่รู้คือผมไม่เคยทำแบบนี้กับผู้ชายคนไหน

น้องไม้  เป็นผู้ชายคนแรกที่ผมไม่ปฏิเสธหากจะมีข่าวคู่จิ้นหรืออะไรก็ตามที่สื่อว่าผมกัยบน้องเป็นมากกว่าพี่น้องร่วมรุ่น

ผมคงเอ็นดู น้องไม้เหมือนน้องชาย ผมอยากมีน้องนี่นา คงเป็นแบบนั้นแหละ น้องไม้น่ารักขนาดนี้ มาเป็นน้องชายพี่ดีกว่านะ หึหึ

ใช่เลย เป็นน้องชาย น้องที่ผมฝันอยากมีมาตลอด  ตอนนี้ผมมีน้องชายแล้ว


TBC ....


อิพี่โอ๊ตก็ยังคงปักใจเชื่อว่า เอ็นดูน้องไม้เหมือนน้องชายคนนึงต่อไป

ไหนใครอยากเห็นพี่โอ๊ตหวงน้องชายนอกไส้บ้าง  ยกมือขึ้นค่ะ 55555555

พาคนซึน2018 มาส่ง  ไม่ใช่แค่พี่หรอกที่ซึน คนน้องก็ซึนไม่แพ้กัน

แอบใส่ปมเล็กๆให้น้องไม้   เผื่อไว้ก่อไฟต้มมาม่า 555555

อ๊ะๆ นิยายพันวาไม่มีมาม่า แค่หน่วงๆ เนอะ

ขอบคุณคนเม้นท์ให้กำลังใจพันวานะคะ

จะมาเรื่อยๆไม่ดองแล้วเด้ออออออออออออออออออ 

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 4 รุก ( 10/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 10-06-2018 14:32:18
ติดตามจ้า สนุกมากกกก
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 4 รุก ( 10/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-06-2018 18:42:40
ตอนนี้คุณพี่หาทางของลายเซ็นคุณพ่อน้องไม้แบบคูล ๆ ได้ยังคะ 5555
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 5 ผิดแผน ( 13/6/61)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 13-06-2018 12:31:16



แผนที่ 5 ผิดแผน


อินทัช


แอสตั้นมาติน db10 สีเทากราไฟท์ จอดนิ่งสนิท ในลานจอดรถของคอนโดสักพักแล้ว แต่ไม่มีทีท่าว่าใครจะลงจากรถ

ผมยังนั่งมองหน้าน้องเฟรชชี่ที่ยังหลับสนิท  แอบควักโทรศัพท์ออกมากดถ่ายภาพนั้นไว้ พลางยิ้มน้อยๆ

เพราะคนนอนหลับดูท่าทางจะมีความสุขหรือไม่ก็กำลังฝันดี รอยยิ้มน้อยๆประดับที่มุมปากของน้องไม้  ผมจะทำไงดีล่ะทีนี้ ปลุก หรือ อุ้ม

อย่างหลังนี่คงทำยาก แม้น้องไม้จะตัวเล็กกว่าผม แต่ ก็ดูมีกล้ามเนื้อเหมือนคนเล่นกีฬา 

ไม่ใช่หนุ่มน้อยร่างบางอ้อนแอ้นอย่างหลายคนที่ผมเคยรู้จัก   ไม่อยากปลุกเลย ผมได้แต่คิดในใจ  ท่าทางเป็นเอามาก


  ก็แค่เอ็นดูล่ะน่า ก็น้องมันน่ารักนี่  ผมไม่เคยมีน้อง มีแต่พี่ชาย  พอได้รู้จักน้องไม้ก็อดที่จะเอ็นดูน้องไม่ได้ล่ะนะ  มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

   
“ไม้ครับ ถึงแล้วครับ”


ค่อยๆปลุก  เสียงเบาๆแต่ดูเหมือนคนหลับจะไม่อยากตื่นน้องไม้ค่อยๆปรือตาขึ้นมองหาที่มาของเสียง สิ่งแรกที่ผมทำได้คือยิ้มครับ   

ท่าทางงัวเงียตาปรือแบบนั้นมัน....ฮื่ออออ น่ารักชมัด !!   

“หึหึ “ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้กับท่าทางเหวอๆเมื่อเห็นหน้าผมชัดๆ 

“ขอโทษครับ หลับไม่รู้เรื่องเลย”


น้องได้แต่เอ่ยขอโทษผมเหมือนจะเกรงใจ  น่ารักจริงๆนั่นแหละ .ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้กับความน่ารักของคนตรงหน้า .

แต่พอคิดว่าถ้าตรงนี้ไม่ใช่ผมล่ะ น้องจะมาหลับมาง่วงกับคคนแปลกหน้าได้ยังไง หากโดนพาเข้าไปทำมิดีมิร้าย จะทำยังไง

ไว้ใจคนง่ายเกินไปแล้ว  ยิ่งคิดหน้าผมยิ่งเครียดรู้สึกคิ้วขมวดเป้นปมเลยล่ะครับ มันน่าโมโหนะว่าไหม


 ...น้อง ไม้ค่อยๆลุกนั่งและเปิดประตูรถลงแบบยังมึนๆ


 ผมจัดการกับข้าวของทั้งของผมและของผู้โดยสารหน้าสวยที่ยังคงมึน เพราะเหมือนไม้จะเดินตัวเปล่าออกไปโดยที่ลืมหันกลับมามองจนถึงลิฟท์


“อ๊ะ!! ขอโทษครับพี่” นั่นไงหลอกให้ผมหอบของเต็มมือ มาจนถึงลิฟท์ มันน่าลงโทษเสียจริง     

“ไม่เป็นไร  “ ท่าทางตกใจเด๋อด๋า มันน่าหยิกแก้มสักที..คีพลุคไว้โอ๊ตคีพลุค   

“พี่โอ๊ตพักที่นี่เหมือนกันเหรอครับ”ก็คงต้องถามแบบนั้นเพราะของที่แบกมามีทั้งของน้องและของผมด้วย 
 
 “ครับชั้น 10 น่ะ”ผมพยายามพูดให้น้อยๆ เพราะผมกำลังโมโห กลัวไปลงอารมณ์ที่น้อง และเรื่องที่โมโห

 นี่ก็เรื่องตัวน้องที่ไม่ระแวงอะไรเลยนั้นแหละ คนเขาเป็นห่วงจะรู้ไหมเนี่ย เอาไว้ อารมณ์เย็นลงค่อยเตือนน้องมันจะดีกว่า 

“หือ...ทำไมผมไม่เคยเจอพี่เลยล่ะ “

“นั่นสิ”


ติ๊ง..เสียงเตือนของลิฟท์เมื่อถึงที่หมาย พร้อมๆกับไฟที่หมายเลข 8 ดับลง

“ขอบคุณพี่โอ๊ตอีกครั้งนะครับ ที่มาส่ง “

“ไม่เป็นไร ทางเดียวกันอยู่แล้ว”

ผมส่งยิ้มให้น้อง ก่อนจะกดปุ่มปิดประตู ก่อนหน้า น้อง ไม้ยิ้มกับคำตอบเหมือนคนโล่งใจอะไรสักอย่าง ที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ผมถอนหายใจราวกับว่ากลั้นไว้นานเกินเมื่อมาถึงหน้าห้องตัวเอง   และทันทีที่เข้ามาในห้องผมก็ทิ้งตัวลงนอนที่โซฟา แทบจะทันที

 เหมือนหมดพลังงานไปดื้อๆ  จากที่เห็นน้องไม้ ผมเดาได้ว่าน้องไม่ระวังตัวอะไรเลย ท่าทีระแวงผมตอนแรกๆ เท่านั้น

 น้องคงไม่คิดอะไรมากออกจะมองโลกแง่ดีมากเกินไปด้วยซ้ำ  อีกอย่างน้องคงไม่รู้ตัว ว่าตัวน้องนั้น ฮ็อตขนาดไหน 

ก็หน้าตาแบบนี้คงโดนผู้ชายเข้ามาจีบเยอะกว่าผู้หญิงแน่นอน  ผู้หญิงคงไม่กล้าเข้าหาน้องมันเพราะมีน้องบัวอยู่แล้ว 

แต่ผู้ชายนี่ผมไม่แน่ใจ อย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งล่ะที่หาญกล้าเข้ามาจีบน้องมัน แม้จะหวั่นๆว่าจะได้ตีนกลับมาแทน

 ก็ได้แต่หวังว่าความเป็นคนมองโลกแง่ดีของน้องจะทำให้ผมเข้าใกล้ตัวน้องได้มากกว่าคนอื่นๆล่ะนะ


ติ๊งติ๊ง


เสียงเตือนจากแอ๊พสีเขียวดังให้ผมฉวยมาดู ปรกติผมปิดเสียงแจ้งเตือนไว้นะครับ จะเปิดเฉพาะของกลุ่มเพื่อนไว้เท่านั้นเวลามีงาน   

โอมจงลง: โอ๊ต ดูเมลยังมึง

ไอ้นายไม่ใช่คุณนาย: กูว่ามันยังไม่ถึงห้อง

ต่ายหมายจันทร์ :หรือมันไปส่งน้องไม้ที่ห้องนอนเลยวะ 555555

Upปีย์คนหล่อ : มึงงงงงงง กูมีเรื่องงงงงง

โอมจงลง:อ้าว มึงไม่ได้ไปส่งสาวเหรอปีย์

ต่ายหมายจันทร์ :หรือโดนตีนว่าที่พ่อตา



แรกๆว่าจะไม่สนพวกมันหรอกครับอยากคิดอะไรเพลินๆ แต่เห็นข้อความสุดท้ายของไอ้ปีย์ ผมก็อดสงสัยไม่ได้ มันไปส่งน้องบัวนี่นา ทำไมมันไปมีเรื่องอะไร 


อินทัช 
 
ปีย์มีเรื่องไรวะ


Upปีย์คนหล่อ: กรุ๊ปคอลเถอะเพื่อนกูอยากพูดดดดดดด


UPปีย์คนหล่อ เริ่มการโทรแบบกลุ่ม :



“มึง  กูเจอเซอร์ไพรส์ แงงงกูจะตาย”

“อย่าโอดครวญไอ้ห่ากูอยากรู้เกิดอะไรขึ้น “ไอ้โอมเป็นคนเบรคก่อนที่ปีย์มันจะพาเพื่อนออกทะเล

“คือ กูพึ่งรู้ ไอ้เหี้ยโอมแม่งมึงทำไมไม่บอกกูวะ “เสียงไอ้ปีย์โอดครวญจนผมสงสัย

“บอกอะไรวะ”ไอ้โอมยังงเลยครับ

“มึงน้องบัวน่ะ  ลูกสาวคนเดียวของคุณเดโช จิรชัยกุล อ่ะมึง ฮือออทำไมกูมารักลูกตระกูลนี้วะ กูอยากตายย”

อยากสมน้ำหน้ามันครับ  ตระกูลจิรชัยกุล นี่ แถวหน้าทางธุรกิจเลยครับ แต่ไอ้ปีย์คงไม่กลัวตรงนั้น
 
“อ้อ..หวงลูกสาวสุดๆ”ไอ้นายย้ำจนไอ้ปีย์แทบกระอัก  ไม่ใช่อะไรหรอกครับแฟนเก่ามันก็โดนพ่อตากีดกัน

 หาคู่หมั้นให้ลูกสาวถีบมันกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวเขาอย่างรวดเร็ว  เพียงเพราะไอ้ปีย์ลงแข่งรถในรายการหนึ่งที่มันชอบ


 ครอบครัวฝั่งผู้หญิงเลยคิดว่ามันเป็นพวกสร้างปัญหาให้สังคม  ง่ายๆคือเขาแอนตี้พวกนักแข่งรถครับ 

ก็ไม่รู้ว่า ครอบครัวน้องหนูบัวนั่นจะคิดยังไง



“มึงใจเย็นๆดิวะ อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้นะ พ่อน้องไม้เขาเป็นอดีตแชมป์แข่งรถมาก่อน นะ ไม่เห็นคุณเดโช เขาจะว่าเลยนี่"

“อันนั้นเพื่อนพ่อเว้ย แต่นี่ตัวกูนะโอ๊ต “เสียงมันแผ่วเหมือนๆจะปลง

“มึงยอมแพ้?”ไอ้ต่ายกระตุ้นมันแบบน้ำเสียงกวนตีนสุด

“ไม่!”

“แล้วมึงจะมาร้องหาพระแสงอะไรวะ”

“ก็กูเครียดไง มาปลอบกูเลย”

“......”

“กูว่าเรื่องที่มึงควรเครียดเนี่ย คือน้องไม้กับน้องบัวเขาเป็นแฟนกันมากกว่านะปีย์”ผมอดไม่ได้ที่จะตอกย้ำความจริงกับมันแต่ทำไมใจผมกระตุกแปลกๆล่ะวะ

“ไม่..กูว่าไม่ใช่...ถ้าเป็นแฟนกันจริง น้องบัวจะให้กูไปส่งทำไม จะให้น้องไม้ไปกับมึงทำไม แฟนที่ไหนจะยอมแยกกันวะ อีกอย่างนะ ถ้ากูเป็นน้องไม้นะ กูไม่มีวันยอมให้แฟนกูไปกับผู้ชายอื่นหรอก “เสียงขึงขังของไอ้ปีทำผมชะงัก

“กูว่าถ้ามึงมั่นใจแบบนั้นไอ้โอ๊ตก็ไม่ต้องจีบน้องไม้แล้วดิ “ถูกของมึงว่ะนาย

“งั้นกูถอนตัว”ผมรีบตะครุบโอกาสที่มาถึงมือ

“ไม่ได้โว้ย ยังไม่แน่นอนนี่หว่า “

“งั้นพวกมึงคุยกันไปเลยกูจะอาบน้ำละเหนื่อยง่วง” 




ผมรีบตัดบทวางสายปล่อยพวกมันคุยกันไป  แต่ผมกลับไม่ได้ไปอาบน้ำอย่างที่บอกพวกมัน ใบหน้าเหนื่อยอ่อนของใครบางคนลอยมา
 
น้องไม่ได้น่ารำคาญอย่างหลายๆคนที่พยายามเข้าหาผม  น้องไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าผมจะเป็นเดือนมหาวิทยาลัยหรือขับรถอะไร

 แหงล่ะ บ้านน้องก็ไม่ได้กระจอกแถมมีพันธมิตรอย่างตระกูลจิรชัยกุลด้วย ไม่ธรรมดา   แต่ก็นั้นแหละเหตุผลที่น้องไม่สนผม

 เพราะน้องมีแฟนแล้วไง ดาวอักษรเลยนะ  ทั้งสวยทั้งนิสัยดี   เป็นเหตุผลที่ผมไม่อยากยอมรับเลยให้ตายสิ



เฮ้อ..ทำไงดีเนี่ย  ...รู้สึกเหมือนหน้าที่ๆโดนเพื่อนบังคับมามันช่างยากเย็น  หรือต้องปรึกษาพี่อาร์ตวะ

ไอ้พวกเพื่อนๆผมมันไม่ค่อยให้คำปรึกษาเลย ดูท่ามันจะรอให้ผมแพ้อย่างเดียวล่ะมั้ง เหอะไม่มีทางครับ

งานนี้ต้องรุกอย่างเดียวเท่านั้น  คิดแบบนั้ผมก็ไม่ลังเลที่จะคว้าเอาโทณศัพท์มากดหาพี่อาร์ตทันที

//ไง ดึกดื่นไม่หลับไม่นอน อยู่ผับหรืออยู่สนาม”

“โหยยพี่อาร์ต อยู่ห้องเถอะ  ผมก็คนดีบ้างอะไรบ้าง”

// มีอะไรว่ามา //

“ไม่คิดว่าผมจะโทรหาเพราะคิดถึงบ้างเหรอ”

//อย่าลีลา “

“โอเคๆ คือผม..ผมกำลังจีบคนๆนึงอยู่ว่ะพี่”

//ห๊ะ!! ใครมันดวงซวยวะ//

“โห่ ไม่ให้กำลังใจกันเลยว่ะ “

//ฮ่าๆๆ ว่ามาๆไปถูกใจสาวที่ไหนปรกติเห็นบอกรักอิสระไม่ใช่หรือไง//

“ก็ ..แต่ว่าน้องเขาเป็นผู้ชายว่ะพี่”

//...........//

“พี่อาร์ต?”

//.......//

“เฮ้ยยยพี่ ยังอยู่ไหมเนี่ย”

//มึงล้อกูเล่นแน่เลยไอ้น้องชาย//

“ไม่ได้ล้อเล่นพี่ แต่แบบ คืองี้..”



ผมตัดสินใจเล่าเรื่องที่รับปากไอ้ปีย์ให้พี่อาร์ตฟังเพราะต้องการคำแนะนำจากคาสโนว่าตัวพ่อหรอกนะ เลยยอมเล่า

//โอ๊ต//

“ครับพี่อาร์ต”

//อย่าเล่นกับความรู้สึกคนแบบนี้ไม่ดีเลยนะ  ถ้าอยู่ใกล้ๆกูจะกระทืบทั้งปีย์ทั้งมึงเลยไอ้น้องเลว//

“อ่า..แหะๆ น่านะพี่อาร์ต ผมแค่ทำหน้าที่กันๆน้องไม้ออกจากหนูบัวแค่นั้นเอง”

//กันได้แล้วจะทำไงต่อไหนบอกพี่ซิ//นั่นสิ ถ้าน้องไม้ เลิกกับหนูบัวเพราะชอบผมแล้วทีนี้ทำไงต่อ


//โอ๊ต พี่ไม่เคยสอนให้มึงเล่นกับความรู้สึกคนนะ มึงจะแข่งรถ จะเหี้ยฟันหญิงไม่ซ้ำอะไรพี่ไม่เคยห้าม

 เพราะนั้นต้องเต็มใจไม่มีใครเดือดร้อนแต่ เรื่องนี้ อย่าว่าพี่เลยนะที่ให้คำแนะนำไม่ได้   อ้อ วันพรุ่งนี้บอกปีย์มาหาพี่ที่ ม.Yด้วยนะ //


“โห่ พี่อาร์ตคร๊าบบบน้องผิดไปแล้วน่า ก็แค่สนุกๆเองนะ”

//แต่น้องคนนั้นเขาไม่ได้สนุกกับโอ๊ตกับปีย์นะ  ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้ทั้งโอ๊ตทั้งปีย์มาหาพี่ที่ มY โอเค๊//




เป็นไงล่ะครับพี่ชายผม  เฮ้อ เอาจริงๆไม่คิดว่าพี่อาร์ตจะมีความคิดอะไรแบบนี้นะเนี่ย ตอนโสดๆก็เหี้ยพอๆกับผมเนี่ยแหละ

ตั้งแต่มีอิงฟ้า พี่ชายผมก็เป็นผู้เป็นคนขึ้นกว่าเดิม นอกจากพ่อแล้วผมก็เคารพพี่ชายคนนี้มาก

แต่เรื่องของน้องไม้ นี่ สงสัยต้องหาวิธีใหม่หรือไม่ก็พรุ่งนี้ถ้าโดนพี่อาร์ตกระทืบสักที  อาจจะคิดอะไรดีๆออกก็ได้นะ




.คืนนั้นผมเฝ้าคิดหาวิธีจีบน้องมัน คิดหาวิธีเข้าหาทำคะแนน  แบบจริงจัง


จนลืมเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นผิดจังหวะบ่อยครั้งที่นึกถึงน้องไม้  เดือนอักษรคนนั้น


…………………….




วนันต์



ผมเดินเข้าห้องพร้อมความง่วงระดับสิบ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อดคิดเรื่องพี่โอ๊ตไม่ได้  ก็มันน่าคิดนี่ครับ ผมเป็นประเภท คิดเยอะอยู่แล้ว

โดยเฉพาะผู้ชายที่เนียนเข้ามาจีบผม  แม้ว่าผมจะแสดงออกชัดเจนว่าผมชอบผู้หญิง และมีแฟนแล้วอย่างหนูบัว

แต่ผู้ชายเหล่านั้นกลับไม่คิดจะสนใจข้อนี้กันเลย ผมเคยบ่นกับพ่อ ได้แต่เสียงหัวเราะกลับมา   

พ่อเข้าใจผมเพราะพ่อก็เคยเจอมาแบบเดียวกัน ถึงขั้นมีพนันกับผมว่า สักวันพ่ออาจจะมีลูกเขยแทนลูกสะใภ้ก็ได้


 บอกเลยว่าผมไม่ตลกนะครับ  ยิ่งยัยบัวเทอร์โบ ที่พยายามจับผู้ชายใส่พานให้ผมด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้ผมระแวง 

บางครั้งผมอยากจะร้องตะโกนดังๆ ว่าถ้าพรหมลิขิตมีจริง

ได้โปรดส่งสาวน้อยที่เป็นเนื้อคู่มาให้ผมสักที   และยิ่งตอนนี้ พี่โอ๊ต ที่เข้ามาทำตัวแปลกๆกับผม

แต่เพราะเป็นพี่โอ๊ตผมถึงไม่ได้ระแวงอะไร

 ก็ เดือนมหาวิทยาลัย ควงหญิงเป็นว่าเล่น สาวๆแย่งกันแทบจะตบกันตาย

 เพราะพี่เขาชัดเจนว่าชอบผู้หญิงล่ะมั้งผมเลยไม่ได้คิดว่าพี่เขาจะมาจีบคนอย่างผม 




เพราะแบบนั้น ความโล่งใจ ก็ยังพอมีให้หายใจสะดวก แม้ว่าจะแอบคิดว่าพี่มันเนียนมาจีบเหมือนหลายคนที่เข้าหาผม

 แต่ด้วยหลายๆอย่างที่เป็นพี่โอ๊ตทำให้ผมบอกตัวเองในใจว่าผมคิดมากไป เพราะพี่โอ๊ตหล่อ รวย เรียนเก่ง

 และที่สำคัญ พี่เขาฮ็อตมากๆ ในหมู่สาวๆและที่ผ่านๆมา พี่โอ๊ตมีข่าวแต่กับผู้หญิงไหนจะพี่อิงฟ้าคนสวยอีก 

 เคยมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้าหาพี่แกเหมือนกันเป็นข่าวพอสมควร แต่พี่โอ๊ตไม่เล่นด้วย

แถมออกอาการว่าไม่ชอบผู้ชายที่เข้าหาพี่มันอย่างชัดเจนแบบนั้น  ทำให้ผมเลิกคิดเรื่องที่พี่มันจะมาจีบผม

 เพราะความเป็นไปได้เท่ากับศูนย์   ผมวางข้าวของไว้บนโต๊ะที่ห้องรับแขก




 ก่อนจะโทรฯหาเพื่อนรักตัวแสบเพื่อแน่ใจว่าหนูบัวถึงบ้านโดยปลอดภัย เอาเข้าจริงผมเป็นห่วงหนูบัวเพราะว่าเป็นผู้หญิง

 แต่ถ้าเทียบจริงๆแล้วไม่คำนึงเรื่องเพศล่ะก็ หนูบัวไม่น่าห่วงเลยสักนิดเพราะเพื่อนรักคนนี้ มีพ่อเป็นนักแม่นปืน มีคุณอาเป็นมาเฟีย

แถมเจ้าตัวก็เรียนต่อสู้กับทางคุณอาที่เปิดโรงเรียนสอนการต่อสู้ทุกชนิด  เพราะงั้น หนูบัวไม่น่าห่วง ผิดกับผม ที่ไม่ชอบการต่อสู้ 


ผมชอบเล่นกีฬามากกว่า หมัดมวยนั่นผมแค่ เล่นไปตามหนูบัวเท่านั้นไม่ได้เก่งกาจเท่ายัยหนูบัวเลยแต่ก็พอป้องกันตัวเองได้ระดับหนึ่งล่ะนะ 

 แต่เรื่องกีฬานี่ผมชอบเทนนิสชอบสควอช และกอล์ฟ ว่างเมื่อไหร่ถ้าไม่ไปตีสควอชกับหนูบัว

หรือมีเวลาสักหน่อยก็เข้าชมรมเทนนิชกับเพื่อนๆ หากมีเวลามากกว่านั้นผมก็ไปตีกอล์ฟกับพ่อ


มันเลยทำให้ผมค่อนข้างที่จะตัวติดกับเพื่อนสาวคนนี้มาตลอดจนทุกคนคิดว่าเราจะต้องลงเอยกันอย่างแน่นอน

ผมเองก็เคยคิดอย่างนั้น แต่ตอนนี้ยังคงมีแค่ผมกับหนูบัวและคนใกล้ชิดในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ว่าเราสองคนเป็นได้แค่เพื่อนกัน 

ถึงแม้บางครั้งผมยังแอบหวังให้เป็นมากกว่านั้นอยู่ก็ตาม




“ไงยัยตัวแสบถึงบ้านหรือยังครับ”


//ไม้จ๋า พี่โอ๊ตไปส่งถึงห้องป้ะ //


“อย่ามาทำเสียงแบบนี้นะหนูบัว   พี่เขาอยู่ชั้น สิบน่ะ แยกกันที่ลิฟท์”


//ว้ายยยย อยู่ที่เดียวกันด้วย กรี๊ดด พรหมลิขิตของแท้//


“ เพ้อเจ้อน่า ว่าแต่พี่ปีย์ไปส่งบัวถึงบ้านไหม ยังไม่ตอบไม้เลย “


//ถึงสิ  พี่ปีย์ก็น่ารักนะ หล่อด้วย เอ จับคู่กับน้องเงินหรือน้องเพชรดีน๊า//


“พอเลยๆ ที่เตือนๆไปนี่ไม่จำเลยใช่ไหม  เมื่อไหร่จะเลิกเล่นแผลงๆสักทีห๊ะ คอยดูนะ จะแช่งให้คนที่บัวรักไปชอบผู้ชาย”

ผมล้อเพื่อนทีเล่นทีจริง ด้วยความหมั่นไส้ล้วนๆ


//ดีสิ บัวจะฟินให้หนักเลย คิคิ //ลืมไป ว่าเลือดวายของเพื่อนผมมันข้นแค่ไหน

“แค่นี้นะ ไม้จะอาบน้ำ แล้ว”

//จ้าๆ วันจันทร์เจอกันนะไม้ ฝันดีเพื่อน //

“ครับๆ ฝันดีครับบัว“


วางสายจากเพื่อนรัก ผมเดินเข้าห้องนอนไปจัดการอาบน้ำให้ร่างกายได้สดชื่น    อีกนิสัยหนึ่งที่ผมต่างจากบัวคือ

ไม่ว่าจะเหนื่อยร่างแทบแหลกแค่ไหน ก็ขอให้ได้อาบน้ำก่อนนอน  บางทีเขาก็ไม่เข้าใจคนที่เหนื่อยแล้วหลับไปโดยไม่อาบน้ำ

โดยเฉพาะหนูบัว เป็นสาวสวยที่ซกมกมากผมบอกเลยรายนั้นถ้าเหนื่อยๆนี่หลับทั้งชุดนักศึกษาก็ทำ 

ถ้าผมทำแบบนั้นผมคิดว่าถ้าเป็นผมคงต้องสลบไปเลยแบบไม่มีสติถึงจะหลับลง


กว่าจะอาบน้ำเสร็จ ก็ล่วงเข้าวันใหม่ แต่ผมก็ยังคงได้พักเพราะเป็นวันเสาร์  ก็ยังดี ที่งานเมื่อคืนไม่ถึงกับดึกมากมายนัก

 คิดอะไรสะระตะ พลางให้คิดถึงรุ่นพี่ปีสามคนนั้น อืม ใจดีเหมือนกันแฮะทั้งที่หน้าออกจะดูดุๆ ไม่น่าเข้าใกล้สักเท่าไหร่


ผมคิดพลางล้มตัวลงนอนและหลับไปพร้อมกับความเหนื่อยล้า หวังว่าพรุ่งนี้จะตื่นมาเจอแต่สิ่งดีๆ


  เพราะวันนี้ผมเจอคนใจดีมาทั้งวัน อย่ารุ่นพี่วิศวะคนนั้น ใจดีจริงๆน๊า


.......................................


TBC ........




อิพี่มีความงงในจิต  แค่คิดว่าอยากมีน้องชายไม่ต้องลงทุนขนาดนี้มั้งพี่โอ๊ต

พี่อาร์ตนี่ก็ตัวพ่อเหมือนๆน้อง แต่หยุดที่สาวสวยนามอิงฟ้าแล้วเลยดูมีความคิดความอ่านมากกว่าคนน้อง

กับพีร่ชายพี่โอ๊ตดูเป็นเด็กน้อยไปเลย  แต่พออยู่กับกลุ่มเพื่อน พี่มันก็เด่นสุดอยู่ดี  มาเอาใจช่วยและลุ้นไปกับพี่โอ๊ตน้องไม้ ว่าใครจะตกหลุมใครก่อน 


ดูจากความมึนของทั้งคู่ มันตัดสินกันไม่ได้เลยสินะ5555555


ขอบคุณทุกคอมเม้นท์  1 คอมเม้นท์ เป็นอ๊ออกซิเจน 1ถังให้คนเขียนค่าาาาาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 5 ผิดแผน ( 13/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 13-06-2018 22:48:23
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 5 ผิดแผน ( 13/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 14-06-2018 02:03:20
อ่านตอนรุ่นพ่อทั่งสามเรื่องสนุกค่ะอ่านอยู่หลายรอบเหมือนกันเลยได้ตามมาอ่านรุ่นลูกอีกน้องไม้กับพี่โอ๊ต :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 5 ผิดแผน ( 13/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-06-2018 03:16:07
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 5 ผิดแผน ( 13/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 14-06-2018 08:13:03
จะรออ่านนะคะ สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 6 เปลี่ยนแผน ( 16/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 16-06-2018 12:36:55
แผนที่  6 เปลี่ยนแผน



อินทัช


ผมกับไอ้ปีย์นั่งตัวลีบ ที่ร้านกาแฟในมหาลัยY  ระหว่างรอพี่อาร์ตก็เหล่สาวไปด้วย สาวๆม.นี้แจ่มๆทุกคนเลย

แต่ตอนนี้ไม่มีกะใจจะอ่อยใครครับ เพราะคนที่ผมมารอคือพี่ชายจอมโหดของผมเอง   พี่อาร์ตน่ะใจดีแค่กับอิงฟ้าเท่านั้นแหละ

รอไม่นานร่างสูงในชุดนักศึกษา ทับด้วยเสื้อกาวน์แขนสั้นก็เดินตรงเข้ามาที่ร้านกาแฟ

“หวัดดีพี่”

“พี่อาร์ตหวัดดีครับ”
 
ผมกับไอ้ปีย์ยกมือไหว้แทบจะพร้อมกัน

“กินไรกันยัง”

“เรียบร้อยแล้วพี่ ว่าแต่พี่อาร์ตจะกินอะไรเดี๋ยวผมไปสั่งให้นะๆ”

“ไม่ต้องมาประจบลบความผิดเลย ไปสั่ง คาปูฯเย็นมาแก้วดี๊”ไอ้ปีย์กระวีกระวาดไปสั่งกาแฟให้พี่อาร์ต  มันคงหวังว่าพี่อาร์ตจะบ่นมันน้อยลง

“อ่ะ ทีนี้มาเรื่องเมื่อคืนซิ  ปีย์”เสียงเย็นกดดันจนไอ้ปีย์ต้องปาดเหงื่อ

“คร๊าบแหะๆ”ไอ้ปีย์ค่อยเล่ารายละเอียดทั้งเรื่องที่มันคิดมันวางแผน ตั้งแต่ต้นจนถึงเมื่อคืน

“พี่อาร์ตอย่าว่าไอ้โอ๊ตมันเลยครับ ผมผิดเองแหละที่คิดง่ายไปหน่อย”

“เฮ้อ...พวกมึงนี่น๊า ตามที่ปีย์กับโอ๊ตเล่ามานะ พี่ว่า น้องบัวกับน้องไม้คงเป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นแหละ  ถ้าปีย์อยากรู้พี่แนะนำให้ถามตรงๆจีบตรงๆ  ดูจากที่ปีย์บอกพี่ว่า น้องผู้หญิงก็คนจริงไม่น้อยนะ ส่วนโอ๊ตถ้าจะจีบเพราะทำตามแผนไอ้ปีย์มันพี่ว่าเลิกเถอะ  โอ๊ตคิดดูนะ ถ้ามีคนมาทำแบบนี้กับโอ๊ต ถ้าโอ๊ตรักเขาเข้าจริงๆแล้วมารู้ว่ามันเป็นแค่เกมส์น่ะ มึงจะรู้สึกยังไง”

คนอื่นอาจจะงงกับคำพูดพี่อาร์ตแต่ก่อนพี่อาร์ตจะพูดกูๆมึงๆกับพวกผมตลอดแต่เพราะแม่ห้ามพวกผมพูดไม่เพราะกับครอบครัว

เวลาอยู่ที่บ้านก็จะแทนตัวเองซะดิบดีไม่มีหลุด แต่พออยู่ข้างนอกก็ตามตัวตนที่แท้จริงครับ พอสลับบ่อยๆเลยกลายเป็นลูกครึ่งแบบนี้ครับ

 มั่วไปหมดเดี๋ยวกูเดี๋ยวมึงเดี๋ยวพี่ เดี๋ยวน้อง ฮ่าๆๆๆ ผมชินแล้วครับ

ผมคิดตามที่พี่อาร์ตว่า    มันก็จริงถ้าใครมาทำกับผมแบบนี้รับรองกระทืบไม่เลี้ยง 

“หงอยเลยสิ เฮ้ออ อยู่ปีสามแล้วนะเมื่อไหร่จะโตกันสักทีวะ ฮึ”

“แล้วผมต้องทำยังไงครับ คนนี้ผมจริงจังนะพี่”ไอ้ปีย์ไม่ลดละความพยายาม ที่จะหาคำแนะนำจากเดือนแพทย์คนนี้ 

“ความจริงใจไง  รู้อะไรไหม แต่ก่อนพี่ก็คะนองเหมือนๆพวกมึงแหละ แต่พอรู้ว่ารักอิงฟ้าแล้ว มันหยุดเองทุกอย่างเลย  ไม่ต้องหาคำแนะนำจากใครหรอก ฟังเสียงหัวใจตัวเองสิ  มันจะบอกเองว่าต้องทำยังไง  สำคัญคืออย่าหลอกกันก็พอ”


“โห เจ๋งว่ะพี่  ถ้างั้นวันจันทร์ผมจะถามหนูบัวตรง ๆโอ๊ตมึงไม่ต้องจีบน้องไม้แล้วก็ได้ ขอโทษว่ะเพื่อน ที่ทำให้ลำบากใจ”

ทีกูพูดกรอกหูมึงชิปหายไม่เห็นหยุดง่ายๆแบบนี้วะ ไอ้ปีย์มันรักพี่อาร์ตเหมือนพี่ชายมันเลยครับ

เอาจริงพี่อาร์ตเป็นแบบอย่างของพวกเราหลายเรื่องเลยแถมยังช่วยให้พวกผมเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น

ตอนไอ้ปีย์อกหักครั้งนั้นก็ได้พี่อาร์ตนี่แหละที่ช่วยให้มันไม่เฮิร์ทจนเสียการเรียน   ไม่แปลกใจที่ไอ้ปีย์มันจะเชื่อฟังพี่อาร์ตมาก

“เอาล่ะ ปีย์เข้าใจ..แล้วโอ๊ตล่ะ ?” ผมนั่งฟังพี่อาร์ตกับไอ้ปีย์คุยกัน   

ผมควรจะดีใจที่ปีย์มันบอกว่าไม่ต้องไปจีบน้องไม้แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมพอได้ยินแบบนั้น ใจผมมันกระตุกแปลกๆ


“อ่า..ไม่รู้สิพี่ น้องไม้ก็น่ารักดี คบแบบพี่น้องก็ไม่เสียหายไม่ต้องจีบแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเลิกคบนี่นาจริงไหมเปลี่ยนแผนได้ น่าจากจีบเป็นแฟนจีบ เป็นน้องชายผมก็ได้นี่ ”มันต้องแบบนั้นอยู่แล้วนี่แหละสิ่งที่ผมคิด 


“ผมว่าไม้เหมาะจะเป็นน้องชายผมมากเลย  เดี๋ยววันหลังพามาให้พี่รู้จักดีกว่า เอหรือจะพาเข้าบ้านไปไหว้พ่อกับแม่ดีนะ พาลูกชายคนเล็กไปให้โดยที่แม่ไม่ต้องคลอดเองฮ่าๆๆ”


ผมไม่รู้หรอกว่าที่ผมพูดๆไปพี่อาร์ตกับไอ้ปีย์จะเข้าใจไหม แต่ผมน่ะ อยากได้น้องไม้มาเป็นน้องชายมากๆ

เพราะงั้น ผมจะมีน้อง ไม่เห็นแปลกนี่นาจริงไหมครับ พอสรุปได้ก็คุยเรื่องจิปาถะกันซะเยอะ พี่อาร์ตไม่ค่อยว่าหรอกครับ

นักศึกษาแพทย์ ปี 6แล้วเวลาก็ไม่ค่อยมี ขนาดมีแฟนคนอื่นเขาเข้าใจว่าอิงฟ้าเป็นแฟนผมก็เพราะพี่ผมมันไม่ค่อยว่างนี่แหละครับ   


กว่าจะแยกจากพี่อาร์ตก็ปาไปครึ่งวันละ  หิวชิปหาย 

ว่างก็ว่าง เบื่อๆเลยคิดว่าไปเดินตากแอร์เล่นๆที่ห้างใกล้ๆดีกว่า  เอ หรือจะไปชวนน้องไม้มาด้วยกันนะ  เอาไว้วันหลังดีกว่า


 วันนี้ขอตั้งหลักก่อนละกัน แต่ว่านะ ไม่ต้องจีบแล้ว อืมม มันก็จะแปลกๆหน่อย ทำไมรู้สึกว่าอยากเจอน้องมันจังก็ไม่รู้ เฮ้อผมนี่ท่าจะบ้า


...



วนันต์


ตื่นเช้ามาหวังจะมีวันหยุดที่แสนสบายใจ แต่ก็ต้องคิ้วกระตุกแทบจะทันทีที่เห็นลิ้งค์ ของเพื่อนในเฟสแท็กมาหาผม 


// เดือนมหาลัย ปี 3 ฉกเดือนมหาลัย ปี 1 จากอกดาวมหาลัย //

#โอ๊ตไม้
#เดือนxเดือน

4,612 Like
1,201 แชร์

แค่แคปชั่นก็ทำเอาผมสะดุด แต่ยอดไลค์ยอดแชร์กับภาพถ่ายที่ขึ้นหราอยู่บนจอมือถือนี่ทำเอาผมแทบจะหายใจไม่ออก  เป็นภาพที่พี่โอ๊ตถือกระเป๋าของผม

 ที่ในอ้อมแขนผมมีแต่ช่อดอกไม้เต็มอ้อมแขนไปหมด  มือพี่โอ๊ตที่จับเอาข้อมือผมเอาไว้และดึงให้เดินตามคนตัวใหญ่ไป

ภาพถ่ายจากด้านข้าง หน้าผมออกสีเรื่อๆไม่รู้เพราะร้อนหรือเพราะแสงจากกล้อง ผมเองก็จำไม่ได้เพราะเมื่อคืนผมง่วงจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง 

 แต่รอยยิ้มของพี่โอ๊ตนี่สิแม้จะถ่ายด้านข้างมันก็เห็นชัดเจนว่าพี่เขายิ้มกว้างแค่ไหน เหมือนกำลังหัวเราะมากกว่ายิ้มเสียอีก   

อ่า...ภาพมันจะหวานไปไหมครับ สงสัยคงหัวเราะหน้าง่วงๆของผมล่ะมั้ง

 ตั้งแต่ตอนที่พี่โอ๊ตลากผมออกมา จนถึงตอนนี้ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง  แต่ยอดไลค์มันเยอะจนผมตกใจ  ยิ่งคอมเม้นท์ข้างล่างนี่



@ติ่งคนหล่อ**เป็นผู้ชายคนแรกที่ไม่ใช่เพื่อนในแก้งค์ แต่พี่โอ๊ตเข้าใกล้ขนาดนี้ จับมือแบบนี้ ฮืออออใจน้องจะขาด

@pornข้อสุดท้าย** พี่โอ๊ตคร๊า หน้าบานขนาดนั้น มันบอกอะไรบ้างคร๊า

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร**  น้องไม้จะหน้าแดงไปไหนเขินพี่เหรอจร๊า  //ผมร้อนหรอก หรือไม่ก็แสงไฟ เหอะ ช่างมโนกันเสียจริง

@แหนมมัด**อุ๊ยคู่จิ้น หรือคู่จริง คริคริ

@ผู้ชายได้กันมันคือฝันของกู**สองคนจะไปไหนกันไม่รู้ รู้แต่หนูน่ะ ฟิน.....

@ทองหล่อทองหล่อ**เดือนมหาลัยปี1 @ เดือนมหาลัยปี3 ตายๆ มันอิจ.....จริงๆว้อยยยยย

@โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**ขนาดดาวยังแพ้ แล้วอิขุ่นแม่อย่างฉันจะเหลือเหรอ เชียร์วนไป   #โอ๊ตไม้

@เมียเดือน** น้องไม้ของช้านนนนน โดนคาบไปแล้ว ฮือ... //ผมยังอยู่ครับ   -  -“

@รับได้ถ้าให้รุก **เรามันไม่หล่อเหมือนเดือนมหาลัย เลยต้องหลั่งน้ำตา..

@เกิดมาทั้งทีมีดีแค่กล้วย**ไปเถิดทั้งคู่วววววว

@สมาคมชมดาว**ตัดคู่แข่งจีบดาวไปอีกหนึ่ง อิอิ

@นางฟ้าหน้าหม้อ**พี่โอ๊ตคะ เอาอิงฟ้าไปไว้ตรงไหนคะ  ไม่ยอมนะบอกเลย #โอ๊ตอิง

@ฝันกลางแจ้ง**น้องมีแฟนแล้ว ดาวมหาลัยปีนี้ไง  #ไม้บัว เราเชียร์คู่นี้




ผมไล่อ่านดูคอมเม้นท์ บางอัน แต่โดยส่วนมากมันทำให้ผมขำซะมากกว่า  เดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนมาแนวยัยหนูบัวกันเยอะแล้วสินะ

 ไอ้ตัวแสบคงยังไม่เห็น  หรือไม่ก็หวีดลืมตายอยู่ที่ไหนสักแห่ง

ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องแบบนี้นัก จะว่าไปเพราะผมเหนื่อยและง่วงมากเลยไม่ทันได้คิด แต่ช่างเถอะ สำหรับผมชินแล้ว แต่พี่โอ๊ตจะรู้สึกยังไงนะ

พี่เขาจะโกรธไหม คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะพี่ เขาเป็นคนดึงผมมาเองนะจะโทษผมไม่ได้ แล้วแฟนพี่เขาล่ะ

พี่อิงฟ้า  เป็นผู้หญิงที่สวยครบเครื่องมาก บางทีผมล่ะอยากให้ไอ้หนูบัวมันเอาพี่อิงฟ้าเป็นแบบอย่างกุลสตรีที่ดีบ้าง 

กำลังเป็นห่วงพี่โอ๊ตแต่มีเม้นท์อีกอันที่พึ่งพิมพ์ลงมาเมื่อกี้ ทำให้ผมถอนหายใจ เฮ้อ แบบนี้คงไม่ต้องห่วงล่ะมั้ง คงสนุกเขาล่ะ


@Intouch  ** ไม่ได้ฉกครับ แค่..ฉุด..^^

@ขุ่นแม่**ถ้าลูกจะมาแบบนี้แม่โยนไม้พายทิ้งก็ได้ค่ะ**  #โอ๊ตไม้

@โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**หลีกไปเรือกูจะบิน** #โอ๊ตไม้

@pornข้อสุดท้าย**กรี๊ดดดดดด !!!พี่โอ๊ต  ยอมรับเลยเหรอค๊า 

@จีบได้ผัวยังไม่เกิด**จะไม่ปฏิเสธหน่อยเหรอคะพี่

@แหนมมัด** หมดกันสามีช้านนนนนน

@โอมจงลง** หึหึ  เรารู้เราเห็น  หึหึ

@Upปีย์**เค้าได้กัน เค้าได้กันกรี๊ดดดดดดดด

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร**ดีกูจะได้ดามใจพี่อิงฟ้าคนสวย หึหึ


แม้จะไม่เข้าใจว่าพี่โอ๊ตจะเม้นท์แบบนั้นทำไม แต่ผมก็เลิกสนใจโพสต์นั้นแล้ว  เพราะมีเรื่องที่ต้องรับมือหากหนูบัวเห็นโพสต์นี้เข้า 


Rrrrrrrr

ตายยากจริงๆ

“ครับ”

//ไม้จ๋า ตะเองเห็นโพสต์เพจ Cute Boy ของ เพื่อนเค้ายัง //

“อ่า..”

//บัวคิดว่า วันนี้เรามีนัดทานข้าวกับพี่ปีย์และพี่โอ๊ตล่ะ คิคิ//จนได้สิน่า  มาแนวนี้รับรองว่าผมหนีไม่ได้แน่ๆ

“แต่ว่า วันนี้ไม้เหนื่อยนะบัว ขอนอนได้ไหมนะๆ นะครับไม้เหนื่อยมากเลย ไว้วันหลังดีไหม”ทำได้แค่ยืดเวลาออกไปครับ โอยใครจะช่วยผมจากยัยตัวแสบนี่ได้นะ ผมล่ะกลุ้ม


//ก็ได้ๆ งั้นวันนี้บัวให้ไม้พักผ่อนก็ได้ แต่พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ไม้ห้ามเบี้ยวนะโอเค้ อ้ออย่าลืมของรางวัลเค้านะ คิกคิก //


“ครับๆ”

แม้จะรู้ว่าสักวันต้องได้ไปกินข้าวกับพี่สองคนนั่น แต่ผมขอยืดเวลาตั้งหลักสักแป้บนะครับ กว่ายัยตัวแสบจะวางสาย ผมก็เหนื่อยจะปฏิเสธ 

ยังดีที่เป็นวันเสาร์เพราะหนูบัวต้องอยู่บ้าน  ผมเลยมีเวลาคิดว่าจะรับมือหนูบัวยังไง  ตั้งแต่เด็กจนโต ผมแพ้ทางยัยเทอร์โบนี่ตลอด

 เฮ้อ...หิวแล้วสิ  ตื่นสาย แถมตู้เย็นก็ว่างเปล่า  คงต้องพึ่งร้านสะดวกซื้อสินะ  ไหนๆก็ว่างละ ไปห้างใกล้ๆนี่ละกัน

เผื่อหาหนังสือมาอ่านสักเล่ม

 บ่ายโมงเล็กน้อยผมเดินเตร่อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ห้องพัก  ผมชอบเดินเที่ยวคนเดียวแบบนี้

แม้ว่าชีวิตผมส่วนมากจะหนีบหนูบัวตัวติดกันบ่อยๆ แต่บัวก็มีเพื่อนในกลุ่มของเธอ ผมซะอีกไม่ค่อยมีเพื่อนกับใครเขา

เหตุเพราะผู้ชายส่วนมากไม่อยากเป็นเพื่อนผม  หลายคนอยากเป็นมากกว่าเพื่อน ซึ่งเป็นสถานะที่ผมให้ไม่ได้   

บ่อยๆเข้าผมเลยไม่อยากคบเพื่อนผู้ชาย  เพราะเหนื่อยเกินไปที่จะต้องมาแบกรับความรู้สึกของคนอื่น มันไม่ใช่เรื่องง่าย

ที่จะทนเห็นเพื่อนมารักมาชอบในแบบที่เราไม่ต้องการ  และเราตอบสนองไม่ได้  มันอึดอัด มันเลยลงเอยที่ผมจะชอบใช้ชีวิตคนเดียวแบบนี้

 ก็ไม่ได้เหงานะครับ ดีเสียอีก อิสระดี   อีกอย่างตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้นผมแทบจะไม่คบเพื่อนผู้ชายอีกเลย


“ไม้”เสียงเรียกใกล้ๆทำให้ผมต้องหันไปมอง ผู้ชายตัวสูงกับกางเกงยีนส์สีซีด มีรอยขาดๆทั่วเข่าทั้งสองข้างกับเสื้อยืดสีเข้ม

 สะพายเป้ใบขนาดกลางสีดำสนิท   ยืนส่งยิ้มบางเบามาให้ จะดูดีไปไหนกันนะ

“หวัดดีครับพี่โอ๊ต”

“มากับใคร”

ผมพยายามเข้าใจ คำถามห้วนๆของพี่เขา แม้หน้าตาพี่จะหล่อมากๆ  แต่ผมกลับรู้สึกเกร็งๆเวลาอยู่กับพี่โอ๊ต

 แล้วยิ่งไอ้โพสต์เมื่อเช้าลอยเข้าหัวมาทำให้ผมถอยห่างออกจากพี่โอ๊ตแทบจะทันที 

“อ่า..มาคนเดียวครับ “ผมตอบไปแบบไม่ได้คิดอะไร มากไปกว่าบังเอิญมาเจอพี่โอ๊ตที่นี่

“พี่หิว”

“หืม?”

“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ กินคนเดียวไม่อร่อย โดนเพื่อนเท “

พี่เขาว่าเนิบๆ หน้ายังนิ่งๆ เหมือนจะเซ็งๆมากกว่าจะเซ้าซี้ผม  ทำให้ผมอดที่จะยิ้มน้อยๆไม่ได้ ก็ผมดันคิดเยอะไปนี่น๊า

พี่โอ๊ตไม่ใช่คนไม่ดีสักหน่อย จะคิดมากเกินไปละ

"พี่อยากกินอะไรล่ะครับ พอดีผมก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน ดีเลย เดี๋ยวผมเลี้ยงนะ ขอบคุณที่เมื่อคืนไปส่งครับ”

ผมบอกจุดประสงค์ไป ไหนๆก็ไหนๆ เลี้ยงข้าวพี่เขาตอบแทนที่ช่วยเมื่อคืนก็แล้วกัน เรื่องโพสต์บ้าบอนั่นช่างมันเหอะ

 ดูท่าแล้วพี่โอ๊ตไม่ได้คิดอะไรอย่างที่ผมกังวล ก็สบายใจไปเปราะหนึ่งล่ะ   

“ไม้อยากกินอะไรล่ะ”พี่ยังคงนิ่งๆเหมือนใช้ความคิด นั่นสิกินอะไรดีนะ ตอนนี้หิวๆ กินอะไรก็ได้ แต่จะตอบแบบนั้นเดี๋ยวพี่จะโกรธเอา

“ฟูจิไหมครับ“เอาอย่างที่ตัวเองอยากกินก่อนเผื่อพี่มีทางเลือก

“ก็ได้ป่ะ “ง่ายจังแฮะ ไม่เหมือนไอ้หนูบัว ถ้าบอกเรื่องกินกว่าจะได้กินเลือกมากเป็นชั่วโมง และเพราะแบบนั้นผมเลยยิ้มอีกแล้ว พี่ใจดีจัง

“ดีเลยผมชอบกินซูชิ”

แล้วผมก็เผลอบอกของชอบตัวเองไปแบบไม่ตั้งใจ แต่พี่มันก็ยิ้มนะ แต่ถ้ายิ้มแบบในโพสต์นั่นดูดีไปอีกแบบ

เราสองคนเดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น อย่างที่ตั้งใจ  ผมหิว และสั่งซูชิ สามเซ็ตพี่มันมองยิ้มๆ ก่อนจะสั่งข้าวหน้าปลาไหลมา

กับข้าวหน้าปลาซะบะย่างซีอิ๊ว  แล้วก็สั่งซูชิเพิ่มอีกสองเซ็ต กินเยอะเหมือนกันแฮะ 


“ พี่โอ๊ตสั่งอีกได้นะครับผมเลี้ยง “

“ไม่หรอก พี่เลี้ยงเองพี่ชวนเรามานะ “

“ไม่ได้ๆ ผมเลี้ยงๆ “รีบปฏิเสธเพราะผมสั่งมาซะเยอะ รู้สึกเกรงใจถ้าพี่จะเป็นคนจ่าย

“เอาน่า แค่นี้เอง ไม้ค่อยเลี้ยงพี่คืนวันหลังนะ กินๆ “พี่ตัดบทแล้วหันไปสนใจข้าวหน้าปลาไหล และเลื่อนชุดข้าวหน้าปลาซะบะย่างมาให้ผม

“?”

“ยังไม่ได้กินข้าวไมใช่เหรอ กินข้าวด้วยเดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก “

“อ่า..ซูชินี่ก็ข้าวนะครับ”ผมไม่ได้กวนนะ มันมีข้าวอยู่แล้วไง เห็นพี่สั่งนึกว่าพี่จะกินหมด ข้าวสองถ้วย นี่สั่งมาให้ผมเหรอ

“ช่วยกันกินนะ “รอยยิ้มที่ส่งมาให้ทำให้ผมถอนหายใจ ใครจะปฏิเสธลงล่ะ มาแบบนี้ จริงๆผมก็กินเยอะอยู่แล้วครับ

ดูท่าพี่ก็ไม่ใช่คนกินน้อยแน่ๆ

“ว่าแต่ วันนี้ว่างเหรอ “เสียงพี่ถามขึ้นเมื่อผ่านเวลาหิวมาสักพัก เราสองคนยังคงนั่งกินเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร

“ว่างครับ บัวไม่อยู่เลยไม่รู้จะไปไหน “

“ดูหนังกัน”

“หืม?”ชวนผมเหรอ

“พี่ว่าง เหนื่อยๆมาหลายวันแล้ว จริงๆนัดพวกไอ้ปีย์ไว้ แต่มันมีธุระด่วนเลยทิ้งพี่ ไม่รู้จะไปไหน กว่าจะค่ำ”

ผมมองพี่ที่พูดเรื่อยๆเหมือนเซ็งๆ ไม่ค่อยใส่ใจอะไรมาก  เอาเถอะ อย่างน้อยก็มีเพื่อนล่ะนะ


“ก็ได้ครับ แต่ผมเลี้ยงหนังนะ พี่จ่ายซูชิแล้วผมไม่อยากเอาเปรียบ”


“ก็ได้ครับ “

ว่าง่ายแบบนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย พอรู้สึกดีไม่ได้อึดอัดเหมือนตอนแรก ก็เผลอส่งยิ้มให้พี่ไปอีกครั้ง


ถือว่าเริ่มต้นมีเพื่อนใหม่ ช่วงปีหนึ่งก็ดีเหมือนกัน ถึงจะเป็นเพื่อนรุ่นพี่ ที่ดูดีมากก็เถอะนะ ก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่นา   



...........คล้อยหลังสองหนุ่มที่ซื้อตั๋วเข้าดูหนัง เพียงไม่นาน ........


“แกเมื่อกี๊พี่โอ๊ตกับน้องไม้อ่ะ กรี๊ด   ฮือ ได้ถ่ายไว้ไหม “

“ถ่ายทันแค่ข้างหลังว่ะ เนี่ย”

ภาพผู้ชายสองคนเดินคุยกันไปคนที่ตัวเล็กกว่าเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้พี่รอยยิ้มหวานจนคนมองตาพร่าเบลอไปชั่วครู่ 

 คนตัวโตก้มลงไปมองเหมือนคุยอะไรกันอยู่แต่รอยยิ้มมุมปากนิดๆของคนตัวโต ก็ทำเอาสองสาวหน้าแดงก่ำอย่างขัดเขิน

นี่ขนาดพวกเธอแค่ดูรูป ยังเขินจนตัวแทบแตก ไม่แปลกที่เดือนอักษรคนนั้นจะยิ้มได้สวยขนาดนี้ โอ๊ยยยยอยากละลายมันตรงนี้ 

“ลงเลยๆ มาๆกูช่วยคิดแคปชั่น “



Y2U @YloveU

เมื่อคืนพี่ฉุดน้องไป เช้านี้ เขามาด้วยกัน ฮืออออใจน้อง

#เดือนชนเดือน

**แนบรูป **

1.5K  รีทวิต 


.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป

เค้าลางความยุ่งเหยิงมาเยือนน้องแบบไม่ตั้งตัว พี่ก็เนียนๆไป ทำเป็นเข้ม พ่อคนขี้เก๊ก   :hao7: :hao7:

ดูท่าแล้วเหมือนน้องจะตามเล่ห์อิพี่ไม่ทัน ก็นะ พ่อคนกะล่อนเพล์บอยตัวพ่อแบบนั้นลูกล่อลูกชน มันเยอะกว่าน้องอยู่แล้ว

แต่ว่านะ คนที่ไม่คิดอะไรก็จะไม่ค่อยรู้เรื่อง ซื่อๆอึนๆไป แต่คนเจ้าเล่ห์ ส่วนใหญ่จะตกหลุมที่ตัวเองขุดเอาไว้เยะแยะนา เตือนไว้ก่อนนะพี่โอ๊ต

:hao3: :hao3: :hao3:


แม้ว่าอิพี่จะเปลี่ยนแผน แต่ไม่มีใครเขาจีบคนอื่นมาเป็นน้องชายนะพี่โอ๊ตรู้ยัง :hao3: :hao3:

ก็ยังคงซึนต่อไป ทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละ  เรื่องนี้ไม่ยาวนะคะไม่ยาวเท่าไหร่ แหะๆ ตั้งไว้คร่าวๆไม่เกิน 20 ตอน 

ไม่มีมาม่าเนาะ มีแค่ซุปใสๆร้อนนิดหน่อยพอ กิกิ



ขอบคุณสำหรับกำลังใจ  1คอมเม้นท์ = 1กำลังใจให้คนเขียนปั่นต่อนะค๊าาาาาาา  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 6 เปลี่ยนแผน ( 16/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-06-2018 14:29:25
พี่โอ๊ตอยากให้ไม้เป็นแค่น้องชายจริงๆหรอ :hao3:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 6 เปลี่ยนแผน ( 16/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-06-2018 16:25:55
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 6 เปลี่ยนแผน ( 16/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 16-06-2018 17:31:45
น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องเลย
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 7 เริ่มแผนใหม่ ( 19/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 19-06-2018 14:53:43

แผนที่  7 เริ่มแผนใหม่




 วนันต์


เป็นเช้าวันอาทิตย์ที่เงียบมากแต่แบบนี้ก็ดี ผมไม่ชอบอะไรที่อึกทึกครึกโครมเท่าไหร่   เมื่อวานกว่าจะกลับจากห้างก็มืดแล้ว

ผมแยกกับพี่โอ๊ต ตรงร้านหนังสือ  เป็นอีกเรื่องที่ผมวางใจว่าพี่เขาคงไม่ได้คิดจะจีบผมอย่างที่ หลายคนในสังคมโซเชี่ยลคิด

เพราะถ้าคนคิดจะจีบต้องเซ้าซี้ ไปส่งหรืออยู่ต่ออะไรประมาณนั้นใช่ไหมล่ะครับ แต่พี่โอ๊ตไม่เป็นแบบนั้น

แค่ผมบอกว่าแยกกันตรงนี้ก็ได้ผมจะไปซื้อหนังสือก่อนกลับ พี่เขาก็ยอมแยกไปโดยง่ายดาย ไม่เหมือนคนที่เคยเข้ามาจีบผมอย่างที่ผ่านๆมา   

ทำให้ผมสบายใจขึ้นมากโข อีกอย่าง หนังที่ไปดู ก็ชอบการ์ตูนเหมือนผมเลย อนิเมชั่นเป็นหนังโปรดที่ผมชอบดู ยัยหนูบัวชอบว่าผมต๊อง

คนที่เข้ามาจีบผมทั้งชายทั้งหญิงต่างลากผมไปดูหนังรักหรือไม่ก็หนังผี  แต่หนังวันนี้พี่โอ๊ตพาผมไปดูการ์ตูน

 อืม..น่ารักเนอะ แหะๆ ผมคิดว่าผู้ชายตัวใหญ่ๆแบบพี่เขาน่ารักนี่ก็ แปลกอยู่เหมือนกันนะครับ

เช้านี้ตื่นมาแบบยังมึนหัว ผลมาจากที่อดหลับอดนอนมาหลายวัน แม้ว่าเมื่อวานผมจะได้นอนไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมึนหัวอยู่ดี
 
ผมเป็นคนชอบนอนครับ ถ้าว่างๆ ผมจะนอนอ่านหนังสือเรื่อยเปื่อยหรือไม่ก็นอนคิดอะไรเพลินไปจนหลับ  เช้านี้ไม่มีอะไรทำมากนัก


 หนูบัวยังไม่กลับ โทรมาบอกผมว่าต้องพาสองแฝดไปเรียนพิเศษ แล้วแวะรับน้องตังค์ด้วย  เพราะแบบนั้น วันนี้ผมเลยว่างมาก   

ตื่นมาไม่มีอะไรที่อยากจะกินเลย ต้องพึ่ง ร้านสะดวกซื้อตรงข้ามคอนโด จริงๆพวกร้านกาแฟในคอนโดก็มีครับ

แต่ผมชอบเข้าร้านสะดวกซื้อมากกว่า ถูกกว่ากันเยอะและมีหลายอย่างให้เลือกกิน




“น้องไม้”ผมเงยหน้าขึ้นจากการก้มเลือกพวกขนมกรุบกรอบเมื่อมีคนทัก พี่ปีย์ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้า  เหมือนจะอารมณ์ดีเหลือเกิน

“ครับพี่”

“ซื้ออะไรเหรอ”ท่าทางชวนคุยแบบเกร็งๆของพี่ปีย์ทำให้ผมยิ้มขำ ก็ท่าทางพี่มันตลกนี่นา

“ก็พวกขนมปังน่ะครับ แล้วก็พวกขนมขบเคี้ยวหนูบัวชอบกิน”ผมอดที่จะพูดถึงยัยตัวแสบไม่ได้

“จริงเหรอ บัวชอบขนมพวกนี้เหรอครับ...อ่า..”

ท่าทางกระตือรือล้นชะงักแทบจะทันทีที่พี่เขาหันมาสบตากับผม  หึหึ ตลกจริงๆ ยัยหนูบัวจะรู้ไหมนะ ว่ามีคนเครซี่มันขนาดนี้  น่าแกล้งชะมัด


“ทำไมเหรอครับ บัวเขาก็ชอบกินอะไรจุกจิกแบบนี้แหละครับ บางทีผมก็ไม่อยากให้เขากินสักเท่าไหร่ไม่มีประโยชน์แต่ก็อดที่จะตามใจไม่ได้เวลาเห็นบัวอ้อนจะกินน่ะครับ มันน่ารักมากเลยนะ”


ผมว่ายิ้มๆแอบเห็นหน้าพี่ปีย์แดงๆไม่รู้ว่าเขินหรืออายที่โดนผมจับได้ว่าแอบชอบเพื่อนผมกันแน่ 

“แหะๆ นั่นสินะ  “

มือไม้เก้งก้างท่าทางเกร็งๆจนผมสงสาร เลยเดินไปจ่ายเงินค่าขนม พี่ปีย์เดินตามหลังมาติดๆถือพวกเครื่องดื่มชูกำลังหลายขวดเชียว

“จริงๆบัวก็ชอบพวกอาหารไทยด้วยนะพี่   อย่างร้านเรือนไทย ผมไม่มีเวลาพาบัวไปกินสักที”

ก็บอกไปแค่นั้นเปรยๆไป ที่เหลือคิดเอาเองนะพี่ อย่าว่าแต่หนูบัวอยากให้ผมมีคู่เลยผมก็อยากจะให้บัวมีแฟนเหมือนกัน

จะได้เลิกจับผู้ชายมาคู่ผม สักที

“อ่า..น้องไม้ว่างไหมครับ”พี่ปีย์รับเอาถุงใส่เครื่องดื่มจากพนักงานเก็บเงิน  ก่อนจะหันมาถามผม 

“ก็ว่างครับทำไมเหรอครับ”

“คือพี่จะวานอะไรสักหน่อยช่วยพี่ได้ไหมครับ “

“...”

“คือน้องไม้ช่วยเอาถุงนี่ไปให้เพื่อนพี่ได้ไหมครับ   ห้อง 1010 พอดีพี่ลืมของไว้ที่ ม. แหะๆ “

ผมหรี่ตามองอย่างจับผิดแต่ก็ไม่เห็นพิรุธอะไรนอกจากพี่มันจะส่งสายตาอ้อนวอนมาให้

“เฮ้อ..ก็ได้ครับ “


ผมยื่นมือไปรับถุงเครื่องดื่มมา พี่ปีย์วิ่งไปโบกวินมอเตอร์ไซค์ข้างร้านสะดวกซื้อ ผมเดินเข้าตัวตึกมาพลางคิดในใจ

พี่ปีย์รู้ได้ยังไงว่าผมอยู่คอนโดเดียวกันกับพี่โอ๊ต  ช่างเถอะเพื่อนกันเค้าคงบอกกันล่ะมั้งนะ

ผมเดินเข้าลิฟท์โดยสารกดมันขึ้นไปชั้น10   เพียงไม่นานผมก็มายืนอยู่ที่หน้าห้อง 1010

ผมยื่นมือไปกดปุ่มสีน้ำตาลข้างห้อง  สักพักก็มีคนมาเปิดประตู


แกร๊ก.


“อ้าว ? “คนที่มาเปิดไม่ใช่พี่โอ๊ต แต่เป็นพี่อีกคนที่อยู่ในกลุ่มคนที่ตัวเล็กๆ น่ารัก ปากแดงๆแก้มอูมๆ

ยืนทำหน้างงๆเมื่อเห็นผมทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นเพื่อนพี่โอ๊ตผมคงคิดว่าพี่เขาเป็นเด็กม.ปลาย

ท่าทาง งงๆ น่ารักจนผมอยากจะหัวเราะแต่ก็กลั้นไว้เพราะยังไม่รู้จักพี่เขาอยู่ดีๆจะไปหัวเราะใส่หน้าพี่เขาก็กะไรอยู่


“เอ่อ พี่ปีย์ฝากให้ผมเอานี่มาให้ครับ “ผมยื่นถุงจากร้านสะดวกซื้อให้พี่คนน่ารัก แต่พี่กลับไม่รับถุงจากผม แต่ตะโกนเรียกอีกคนที่อยู่ในห้องแทน

“โอ๊ต มีคนมาหา  “

ห๊ะ! ผมเปล่าสักหน่อย 

ผมได้แต่ยืนนิ่งค้างเมื่อเสียงใครสักคนเดินมาที่ประตูทั้งยังผลักพี่คนน่ารักซะกระเด็นไปอีกฝั่ง

“ไอ้เหี้ยโอ๊ต แม่ง ไม่ถนอมกูบ้างเลยกูจะฟ้องศาลข้อหาทำร้ายร่างกายแบบไตร่ตรองไว้ก่อน “

เสียงโวยวายของพี่คนนั้นทำผมหลุดหัวเราะออกมาจนได้

“เข้ามาก่อนสิ”

“อ่า..ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวจะรบกวน..”

ยังพูดไม่ทันจบพี่มันก็ดึงมือผมเข้าห้องไปแบบงงๆ  ทันทีที่เห็นห้องพี่มันผมก็ต้องตกใจกับซากมนุษย์

ที่เกลื่อนกลาดอยู่กับพื้นพรมในห้อง  บางคนนั่งตัดกระดาษ บางคนนั่งขีดเขียนอะไรก็ไม่รู้ 

แต่สภาพแต่ละคนเหมือนซอมบี้ในซีรี่ส์ที่ผมชอบดู 

“นั่งตรงนี้ก่อนครับ “พี่มันพูดเบาๆพลางกดไหล่ผมลงที่โซฟา


“แต่ ผมว่า..”

“โหย น้องไม้คนหล่อแห่งอักษร  มาโปรดคนบาปแบบพี่เลยกำลังหิว ไอ้เหี้ยปีย์แม่งหายไปไหนวะ “

พี่อีกคนที่ถลาเข้ามาคว้าเอาถุงพวกเครื่องดื่มจากผมไปและอีกสองคนก็กรูเข้าไปแย่งดูแล้วตลกชะมัด


“คือผมเจอพี่ปีย์ ที่ร้านสะดวกซื้อข้างล่างน่ะครับ เห็นบอกว่าลืมของไว้ที่ ม. เลยฝากผมเอาของมาให้ครับ”


“ขอบใจมากครับน้องไม้น่ารักมากเลย งือออ “


ครับ เสียงที่ได้ยินคือ งืออ อะไรคือ งือครับ พี่คนน่ารักทำเสียงแบบนั้นท่าทางแบบนั้น โอยพี่เขาน่ารักจริงๆนั่นแหละ 

ผมนี่ไม่อยากละสายตาจากพี่เขาเลย คนอะไรน่ารักชะมัด แบบนี้ถ้ายัยหนูบัวมาเห็นนะ จับปล้ำแน่ๆ หน้าตาน่าน้วยมากเลยครับฮ่าๆๆ


“ไอ้เตี้ยนั่นชื่อโอม  นิติ ปี3  ไอ้หัวแดงๆนั่น  ไอ้นาย เครื่องกลปี 3  ไอ้ตัวควายดำนั่นชื่อกระต่าย ถาปัตถ์ปี3  ส่วนไอ้ปีย์  ก็โยธาปี3เหมือนพี่  ไม้รู้จักแล้ว  แล้วก็อย่ามองมันมากนักไอ้เตี้ยนั่น มองทางนี้สิ   “



ผมนั่งกระพริบตาปริบๆกับการแนะนำเพื่อนของพี่โอ๊ตแบบไม่ทันได้ตั้งตัวแถมเอามือจับหน้าผมให้หันหนีจากพี่โอม อีก 

ไม่เข้าใจเท่าไหร่แต่พี่เขาคงหวงเพื่อนมั้ง เหมือนผมชอบหวงหนูบัว บางครั้ง   

 เพื่อนๆของพี่เขาก็ไม่ต่างจากผมทุกคนชะงักมือที่กำลังยื้อแย่งของกินแล้วหันมามองผมเป็นตาเดียว


“อ่า..ยินดีที่ได้รู้จักครับ เอ่อ..ผมชื่อไม้ครับ อยู่อักษร ปี 1ครับ “ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยแนะนำตัวเองไปแบบงงๆ

“โอยยย น้องไม้ น่ารักว่ะ   ไม่ต้องแนะนำก็ได้ครับพี่ๆรู้จักน้องไม้ทุ้กคนเลย  เดือนอักษร  คนดัง ยินดีที่ได้รู้จักครับ ถ้าไอ้โอ๊ตแกล้งอะไรน้องมาฟ้องพี่ได้นะ ไม่คิดค่าฟ้องร้องแต่อย่างใด  พี่ว่าความให้ฟรีครับ “


ผมหัวเราะไปกับพี่โอม ที่ดูจะร่าเริงสุดๆในกลุ่มดูแล้วเหมือนเจ้าชายตัวน้อยๆท่ามกลางองครักษ์เลยครับ น่ารักจริงๆนั่นแหละ



ว่าแต่ผมจะเข้ามาทำไมเนี่ย เอาจริงๆผมไม่ได้สนิทกับพวกพี่ๆ ที่จะเข้ามานั่งเฉยในห้อง 

แต่จะขอตัวกลับก็เกรงใจ เพราะพี่โอ๊ตดึงผมเข้ามา  อ่า..เอาไงดี



“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ “ทันทีที่ผมพูดจบ  ทุกคนก็หันมามองผมเป็นตาเดียว เอ่อ..ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ 

“โอ๊ตตตตต กูชอบคนนี้ กูจะเอา งืออออ “มาอีกแล้วครับเสียงงือออ นั่น น่ารัก เป็นผู้ชายที่น่ารักกว่าผู้หญิงอย่างหนูบัวเลยล่ะ 

“ไปไกลเลยมึงน่ะ งานมึงยังไม่เสร็จนะโอม ถ้ามึงตัดโมอันนั้นไม่เสร็จ มึงต้องเลี้ยงข้าวพวกกูสามเดือน”

“โห่ ไอ้ขี้หวง เหอะ  กูจะคอยดูคนตกหลุม ชิส์ “ไม่รู้พี่ๆเขาคุยอะไรกันผมไม่เข้าใจ

“น้องไม้ ตัดกระดาษเป็นไหมครับ  มาช่วยพี่ตัดโมดีกว่าเนอะ “

พี่คนตัวใหญ่ๆ ที่ชื่อกระต่ายเรียกผมเข้าไปตรงที่พี่มันนั่งอยู่กับกองกระดาษกองใหญ่ นี่ก็แปลกครับชื่อซะน่ารักเลย

 แต่ตัวพี่มันน่าจะเหมาะกับชื่อหมี มากกว่า   



ผมหันมามองพี่โอ๊ตอย่างขอความเห็น พี่โอ๊ตพยักหน้าให้ผมถึงกล้าเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆพี่กระต่าย  พี่โอ๊ตเดินมานั่งลงข้างๆผมอีกที

 และคอยสอนให้ผมตัดกระดาษที่พวกพี่ๆเรียกว่ากระดาษชานอ้อย   เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีครับ

 เป็นวันหยุดที่ไม่น่าเบื่อเลยสำหรับผมที่นั่งช่วยงานพวกพี่ๆ จากนั้นไม่นานพี่ปีย์ก็หอบเขากระดาษอีกกองใหญ่  มาสมทบ


 พี่กระต่ายกางโมเดลที่พี่ปีย์หอบมาลงกลางห้อง อันนี้ผมตื่นตาตื่นใจมากครับ เป็นครั้งแรกที่เห็นโมเดลแบบใกล้ๆ สวยมากเลยครับ   

ผมขลุกอยู่กับพี่ๆจนค่ำ   ทั้งวันนี้ผมใช้ชีวิตอยู่ในห้องพี่โอ๊ต กินข้าวเที่ยงด้วยฝีมือพี่โอ๊ต ที่เพื่อนๆพี่เขาบอกว่าเป็นบุญของผมที่ได้กิน

 เพราะพี่โอ๊ตทำอาหารอร่อยแต่ไม่ค่อยทำเพราะขี้เกียจ  อ่า ผมทำให้พี่เขาลำบากหรือเปล่านะ  แต่ว่ากับข้าวฝีมือพี่โอ๊ตก็อร่อยจริงๆแหละ

“ขอบใจมากนะที่มาช่วยพวกพี่วันนี้”พี่โอมคนน่ารักดึงมือผมไปจับเขย่าๆยิ้มจนตาหยี  เอ่ยขอบใจผมบ่อยจนผมเกรงใจ

“ผมไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเลยครับ  ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ๆ  วันนี้สนุกมากเลย “

“โอยน้องไม้ครับ ถ้าน้องบอกว่าตัดโมสนุกได้โปรดซิ่วครับ มาเรียนกับพวกพี่ดีกว่ามา “

พี่กระต่ายเจ้าของโปรเจค เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนจะตาย  ผมว่าน่าสนุกดี แต่ดูท่าทางและสภาพพวกพี่ๆ

ก็คงไม่สนุกอย่างที่พี่ว่านั่นแหละครับ อย่างผมช่วยนิดๆหน่อยๆมันก็สนุกดี แต่ถ้าต้องมานั่งคิดนั่งทำขึ้นโมเป็นรูปเป็นร่างแบบนี้

ก็คงทำไม่ได้หรอกครับ




“พอๆพวกมึงนี่น้องอยากกลับไปพักแล้ว”พี่โอ๊ตเอ่ยขัดพวกพี่กระต่ายที่ยังคงดึงผมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

“ไปครับเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ไม่เป็นไรครับพี่  แค่ชั้น 8 เอง   ไม่ได้ออกไปไหนไกล “

“เอาน่า ไปเหอะ”

“ไอ้ขี้หวง “

“ยังๆมันยังไม่รู้ตัว ไอ้เพื่อนเลว”


พี่โอ๊ตดึงแขนผมออกจากห้องมาผมยังได้ยินเสียงแว่วๆของพี่โอมตามหลังมาครับ สงสัยพี่จะหวงเพื่อนหรือเปล่านะ

อย่างพี่โอมคนน่ารักก็น่าหวงอยู่หรอก ถ้าผมมีเพื่อนน่ารักๆแบบนี้ผมก็คง หวงเหมือนกัน


ผมเดินตามหลังพี่โอ๊ตมาเรื่อยๆจนถึงลิฟท์  อีกอันที่ผมสังเกตพี่โอ๊ตจะพูดเยอะมากถ้าอยู่กับเพื่อน

 แต่พออยู่กับผมพี่จะเงียบมากพูดน้อยด้วย  อาจจะเพราะเรายังไม่สนิทกันล่ะมั้งนะ

ติ๊ง!เสียงสัญญาณดังบอกว่าลิฟท์มาถึงแล้ว ผมเดินเข้าลิฟท์ไปพี่โอ๊ตตามเข้ามาติดๆ 


นี่พี่เขาจะไปส่งผมจริงๆเหรอเนี่ย  พอเป็นแบบนี้ผมชักจะระแวงหน่อยๆ ก็ผมเป็นผู้ชายนะ มาจับมาจูง มาส่งถึงห้อง มันก็แปลกๆนะ

แต่พอเห็นพี่มันกดเลข 8 ชั้นที่เป็นห้องผม และกดตัวG ที่เป็นชั้นล่างสุด ผมก็ถอนหายใจโล่งอก แถมยังแอบหน้าแตกหน่อยๆ

 ที่คิดว่าพี่มันจะมาจีบเหมือนคนอื่นๆ  พอคิดแบบนั้นก็เผลอยิ้มอีกจนได้ ดีจัง ไม่เคยสบายใจเวลาไปไหนมาไหนกับเพศเดียวกัน นานแล้ว

 
ไฟที่เลข 8 ดับลง ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่โอ๊ต  ซึ่งพี่เขาก็รับไหว้และยิ้มบางๆมาให้  ประตูลิฟท์ปิดลงพร้อมกับพี่โอ๊ต

ผมเดินฮัมเพลงไปที่ห้องพักด้วยความสบายใจ  ดีจัง คำๆนี้ผุดขึ้นมาในหัวผมนับครั้งไม่ถ้วน



จากวันนั้นผมก็ได้เจอพี่โอ๊ตบ่อยขึ้น  บางทีก็เจอพี่ๆ ในกลุ่ม บางคน บางทีก็เจอทั้งกลุ่มเลย

แม้จะมีคนมองแปลกๆเวลาที่ผมอยู่กับกลุ่มวิศวะกลุ่มนี้  แต่ผมกลับไม่อึดอัดเลยสักนิด
 
เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันพี่โอ๊ตทำผมประทับใจหลายรอบ  บรรยากาศรอบๆตัวพี่มันไม่อึดอัดอย่างที่คิด

 ก็นะครั้งนี้ ผมคงมีเพื่อนผู้ชายกับเขาบ้างพวกพี่ปีย์ก็น่ารัก คนนั้นเห็นได้ชัดเจนว่ามาจีบหนูบัวแน่นอน ไม่มีทางมาคิดอะไรกับผม


 แม้จะคาใจเรื่องที่พี่มันไม่รู้ข่าวที่ลือว่าผมกับหนูบัวเป็นแฟนกันหรือไงนะ  ถึงได้มาจีบหนูบัวน่ะ แต่ช่างเถอะ คนดีๆคบไว้ไม่เสียหายนี่นา 

นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ค่อยได้ทำตัวตามสบายกับผู้ชายคนอื่นๆ นอกจากครอบครัวของหนูบัว 


ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น ผมก็ไม่คิดจะคบหาผู้ชายที่ไม่ใช่คนในครอบครัวอีกไม่ว่าจะสถานะไหน   


ก็ได้แต่หวังว่าคราวนี้มันคงไม่มีเหตุการณ์แย่ๆแบบนั้นเกิดขึ้นอีก



Rrrrrrr


กลับเข้ามาในห้องเพียงไม่นาน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเหมือนนกรู้ ว่าผมกลับมาแล้ว
 
ผมยกมือถือขึ้นเช็คเมื่อเห็นว่ามีสายเข้า  ชื่อของคนที่โทรมาทำให้ผมยิ้มกว้างอย่างยินดี

“พ่อ..ว่างเหรอครับ “

“ไงเจ้าหมู ขี้แย   ทำไมปล่อยบัวกลับบ้านคนเดียวล่ะ ฮึ “


คำเรียกขานของพ่อที่ได้ยินทีไรผมก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้  เพราะตอนเป็นเด็กผมอ้วน และโดนหนูบัวชกจนร้องไห้

น่าอายชะมัดโดนผู้หญิงต่อยจนร้องไห้  สูเด็กผู้หญิงไม่ได้เลยผม  ตั้งแต่นั้นพ่อชอบล้อผมแบบนี้ประจำ


“หนูบัวฟ้องพ่อล่ะสิ     ไม้เหนื่อยน่ะครับกิจกรรมเยอะ เลยคิดว่าผ่านปีหนึ่งไปก่อน แล้วค่อยกลับบ้านบ่อยๆดีไหมครับ “


“ครับๆ ว่าแต่ เข้ามหาลัยแล้ว มีสาวมาจีบหรือเปล่าหรือว่ามีแต่หนุ่มๆ “


“โธ่..พ่อครับ ก็อยากจะมีสาวๆนะ แต่ไอ้หนูบัวมันก็หาแต่ผู้ชายมาให้ เฮ้อออ”ได้ทีฟ้องเลยดีกว่า

“ฮ่าๆๆ เอาเถอะ พ่อเชื่อว่าสักวันลูกชายพ่อจะเจอคนที่ใช่ จำไว้นะไม้  อย่ากะเกณฑ์อะไรให้มาก ปล่อยไปบ้าง 

เรื่องที่เคยเกิดเก็บเอาไว้เป็นบทเรียนนะลูก อย่าเอามันมาเป็นตัวกำหนดชีวิตเรา เข้าใจไหม”


“ครับพ่อ  นี่ไม้รู้จักพวกพี่ๆที่อยู่ ต่างคณะหลายคนเลยนะพ่อ พวกพี่เขาเป็นเพื่อนกัน วันนี้ไม้พึ่งไปช่วยพี่ๆตัดกระดาษชานอ้อยมา สนุกดี
 ไม้คิดว่า จะลองเปิดใจดูครับ แต่ยังไม่ได้คุยกับหนูบัวเลย “



“ดีแล้ว เพื่อนน่ะ ถ้าเจอคนดีๆ เป็นแล้วไม่หายหรอกนะไอ้ลูกหมู   มันอยู่ที่การวางตัวของเราด้วย  พ่อเชื่อว่าลูกหมูของพ่อทำได้ “

“ครับพ่อ ไม้จะจำไว้  “

“ส่วนเรื่องแฟน พ่อไม่ซีเรียสนะลูก  เรื่องเรียนต้องมาก่อน อย่าไปคิดอะไรให้มาก มีคนมาจีบก็เปิดใจดู  ฟังเสียงหัวใจให้มากๆ ถึงเวลาของมันลูกจะรู้เองนะ “



“ทำไมวันนี้พ่อดูซีเรียสจังครับ”


ผมอดที่จะถามไม่ได้ ผมไม่ค่อยได้คุยกับพ่อนักเพราะพ่องานยุ่ง มีแต่แม่ และครอบครัวของหนูบัว ที่ผมไปขลุกอยู่ด้วยประจำ 

“ก็ เป็นห่วงไง สังคมวัยรุ่นพ่อก็ผ่านมา ก่อนไม้  ยิ่งหน้าตาแบบไม้นี่ พ่อล่ะเครียดเลย “

“ฮ่าๆๆๆ แล้วพ่อทำยังไงล่ะครับ บอกไม้หน่อย นี่เจอทุกวันแต่อาศัยความเงียบเข้าช่วยและมีหนูบัวคอยกันไว้ให้ “


“แรกๆพ่อก็เซ็งนะ  ต่อยกันปากแตกไปก็มี พวกสตอล์คเกอร์ยิ่งอันตราย   ดูแลตัวเองดีๆนะลูก “

ผมรู้ว่าพ่อเป็นห่วง พ่อเคยเล่าวีรกรรมสมัยพ่อเป็นนักศึกษาให้ผมฟัง

พ่อเป็นคนร่าเริง พูดเก่งเพื่อนเยอะ ซึ่งผิดกับผม  ผมเข้าหาคนไม่เก่ง ผมชอบอยู่คนเดียวมากกว่ายกเว้นไอ้หนุบัวไว้คน

ตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย  ผมเองก็หนักใจเหมือนกันหากสอบติดคนละที่กับหนูบัวผมคงกลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนจริงๆ

แต่โชคดีที่เราสองคนไม่ได้แยกจากกันอย่างที่คิด แต่ถึงอย่างนั้นการที่ได้มารู้จักกับกลุ่มพี่โอ๊ตก็ถือเป็นเรื่องดีๆของผมอีกเรื่องเช่นกัน


“ พ่อครับไม้ถามอะไรหน่อยได้ไหม”

“สงสัยอะไรอีกเจ้าหนูจำไม”

“ไม้กลัวทำตัวไม่ถูก กลัวว่าเรื่องมันจะซ้ำรอยเดิม ..ไม้ต้องทำตัวยังไงดีครับ”

เสียงถอนหายใจของพ่อทำให้ผมอดที่จะคิดไม่ได้ ว่าผมคงยึดติดอะไรมากไปพาลจะทำให้พ่อแบแม่ไม่สบายใจไปด้วย

ผมควรจะโตได้แล้ว

“ไม้..ลูกเป็นตัวของลูกเองดีที่สุดแล้ว  อย่าให้เรื่องแย่ๆเหล่านั้นมาปิดกั้นตัวตนของลูกเอง  แม้ว่าในอนาคตมันจะซ้ำรอยเดิม แต่มันไม่ใช่ความผิดของไม้นะลูก”

“แต่”

“ลูกของพ่อเข้มแข็งจะตาย ใช้ชีวิตให้คุ้มไม้ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเราห้ามไม่ได้ ความคิดคนก็เหมือนกัน เราจะไปห้ามไม่ให้เขาคิดอะไรกับเราไม่ได้ อยู่ที่ไม้เองลูก  อย่าคิดมากเลย ลูกพ่อทำได้พ่อเชื่ออย่างนั้น”

“ขอบคุณครับพ่อ”


พ่อวางสายไปแล้วผมยังคงนั่งคิดถึงคำที่พ่อพูด ก็นั่นสินะ ถ้ามัวแต่กลัว ผมคงไม่ต้องมีเพื่อน หากว่าความกลัวทำให้ผมต้องเสียเพื่อนดีๆไป

มันก็คงไม่คุ้มกันอย่างแน่นอน  หากว่าเรื่องแบบนั้นมันจะเกิดขึ้นอีก ผมคงโตพอที่จะแก้ไขให้เรื่องร้ายๆมันคลี่คลายไปทางที่ดีได้บ้าง 


ผมจะลองดูสักตั้ง คงไม่ยากเกินไปที่จะเก็บความกลัวเอาไว้เป็นแค่บทเรียน ประสบการณ์ข้างหน้าจะช่วยสอนให้ผมรับมือกับมันได้ 

หวังว่ามันจะมีแต่เรื่องราวดีๆล่ะนะ ผมต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้ ถ้าเพียงแต่ผมเอาชนะความกลัวนั้นได้เมื่อไหร่ ผมคง

ใช้ชีวิตได้มีความสุขกว่านี้


....

TBC


น้องไม้จะเป็นเด็กเรียบร้อย พูดเพราะ ยิ้มง่าย แต่โลกส่วนตัวสูง  เพราะเรื่องราวในอดีต เลยทำให้น้องปิดกั้นตัวเองออกจากคนรอบข้าง

ส่วนเรื่องอดีตของน้อง ค่อยมาเปิดทีหลังเนาะ กิกิ

อิพี่โอ๊ต จะเป็นพวกเจ้าเล่ห์ตัวพ่อ  เป็นคนพูดน้อย แต่ไม่ถึงกับปิดกั้นตัวเองเหมือนน้องไม้ 

พี่โอ๊ตจะเป้นคนพูดมากทันทีที่อยู่กับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท 

เป็นคนชอบความท้าทาย ชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ  เพราะมีพ่อทิวไผ่ เป็นไอดอล 

ทั้งคู่เป็นความต่างที่ดูพอเหมาะนะ 5555 แต่พี่โอ๊ตกับน้องไม้เหมือนกันอยู่อย่าง คือ ซึน  ความรู้สึกช้ากับเรื่องใกล้ตัว 

หากเป็นเรื่องของคนอื่นจะดูออกง่ายมาก แต่พอเป็นเรื่องของตัวเอง กลับไม่เคยเข้าใจอะไรเลย ชอบคิดไปอีกมุมเสมอๆ ปวดหัวดีค่ะ 555


ขอบคุณสำหรับกำลังใจ 1 คอมเม้นท์ เท่ากับอ๊อกซิเจน 1 ถัง ค่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

มาต่อชีวิตพันวาด้วยเม้นท์ของท่านผู้อ่านกันนะ  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 7 เริ่มแผนใหม่ ( 19/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-06-2018 19:41:31
หวังว่าพี่โอ๊ตจะชนะใจน้องไม้ได้


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 8 แผนล่อลวง ( 28/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 28-06-2018 14:55:27
แผนที่ 8  แผนล่อลวง


วนันต์



“ไม้จ๋า เค้ามาทวงของรางวัล”เสียงแจ้วๆของเจ้าตัวแสบดังมาก่อนตัวอีกครับ

เหมือนผ่านกิจกรรมเฟรชชี่มาได้ไม่นาน แต่ปีหนึ่งก็ยังมีกิจกรรมเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีเรื่องเรียนสักเท่าไหร่

 แต่วันนี้หลังจบคลาสก็มีรวมกลุ่มทำกิจกรรมของสโมฯครับ  พวกผมเหมือนเป็นคนที่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเลี่ยงไม่ได้

ทั้งเดือนทั้งดาว ทุกชั้นปี จะมีกิจกรรมประชาสัมพันธ์และการโฆษณา และช่วยงานในส่วนกลางด้วย

 ส่วนมากก็จะเป็นถ่ายแบบ ลงโบชัวร์และช่วยงานกองศึกษา เล็กๆน้อยแล้วแต่อาจารย์จะให้ทำครับ ผมเลยไม่ค่อยลงตารางเรียนมากเท่าไหร่

 เพราะยังไม่ชินกับระบบมหาวิทยาลัย  พ่อบอกว่า เทอมสองจะเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น   ค่อยไปลงเพิ่มตอนนั้นก็ได้


เพราะแบบนี้หลังจากช่วยงานสโมฯราวๆบ่ายโมง ผมเลยว่าง  ยัยหนูบัวเลยวิ่งโร่มาทวงของรางวัล


“จะเอาอะไรล่ะ “ผมถามพลางตักข้าวเข้าปากไปด้วย โรงอาหารของคณะไม่กว้างเท่าไหร่ แต่ช่วงบ่ายโมงนิดๆแบบนี้ไม่ค่อยมีนักศึกษาอยู่หรอกครับ

 อากาศร้อนๆแบบนี้ทุกคนเลิกคลาสแล้วก็เลือกที่จะเข้าห้างไปรับแอร์เย็นๆแทนลมร้อนๆที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย

“อืมมมม อะไรดีน๊า”ท่าทางครุ่นคิดจนคิ้วขมวดทำให้ผมหัวเราะจนต้องยื่นมือไม่จิ้มๆคิ้วสวยๆนั่นให้คลายออกจากกัน 

“หึหึ”ผมอดจะขำกับท่าทางของหนูบัวไม่ได้  เจ้าตัวแสบที่ป่วนชีวิตผมมาตั้งแต่เล็กจนโต ยังไงหนูบัวก็เป็นคนสำคัญของผม 

“งั้น ทวงสัญญานัดเดทคู่กัน “

“ห๊ะ!”คำว่าเดทคู่ ทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่ไว้ใจเพื่อน


“ก็ ไม้จำพี่โอ๊ตกับพี่ปีย์ได้ไหมอ่า นะนะ ไปเดทกัน”ผมถอนหายใจแทบจะทันที ด้วยความโล่งอก ก็ตอนนี้ผมไม่ได้กคิดอะไรเยอะมาก

หากเป็นพี่โอ๊ตกับพี่ปีย์ อย่างแรก พี่ปีย์จีบไอ้หนูบัวแน่นอน อย่างที่สอง พี่โอ๊ตเป็นรุ่นพี่ที่ดี ไม่มีทางคิดไม่ดีกับผมแบบนั้น 

แบบนี้ถือว่าสบายใจมากอีกอย่างคำว่าเดทคู่ แสดงว่ายัยหนูบัวไม่คิดจะจับพี่ปีย์คู่ผม  ก็ดีเผื่อว่าหนูบัวมีแฟนอย่างพี่ปียืก็ดีเหมือนกัน


“บัวว่าพี่ปีย์เป็นคนยังไง”ผมถามกรุยทางดูว่าเพื่อนผมจะสนใจหนุ่มๆบ้างไหม


“หล่อ เหมาะกับน้องตังค์ เอ๊ะไม่สิ หรือว่าจะเพชรหรือเงินดีนะ “ท่าทางครุ่นคริดของหนูบัวทำเอาผมมึนหัว ยัยบ๊องเอ๊ย น้องตังค์พึ่งจะอยู่ประถมเองนะ

“บัวไม่คิดจะมองพี่ปีย์แบบคบหากันบ้างเหรอครับ หืม”

“ทำไมคะที่รัก ไล่เค้าแล้วเหรอ ตัวไม่อยากเป็นแฟนเค้าแล้วเหรอ”ท่าทางเสแสร้งแกล้งบีบน้ำตาทำให้ผมยื่นมือไปบีบจมูกเล็กรั้นๆนั่นด้วยความมันเขี้ยว


“มีแต่บัวแหละชอบยกไม้ให้คนอื่นน่ะ หล่อขนาดนี้ยังอกหักเลยเนอะ “

“จ้าๆ พ่อคนหล่อ   งั้นวันพรุ่งนี้ นัดพี่สองคนเลย และไม้ต้องเป็นคนโทรไปนัด บัดเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหนูบัวทำเอาผมเสียวสันหลังวาบๆ แต่ก็ยอมควักโทรศัพท์มือถือมากดเบอร์พี่โอ๊ตโทรออก 

เสียงสัญญาณดังแค่ตื๊ดเดียวคนปลายสายก็รับทันที เหมือนพี่มันนั่งจ้องจอรออยู่ยังไงยังงั้นเลย


//ครับผม//

“อ่า..พี่โอ๊ตครับ คือ..พรุ่งนี้ว่างไหมครับ”ผมตะกุกตะกักถามออกไปเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวว่าพี่มันจะรับเร็วแบบนี้

//ว่างครับ //

“คือ ผมกับหนูบัวอยากเลี้ยงข้าวเอ่อ..ที่เคยนัดไว้น่ะครับ “ผมไม่รู้จะพูดยังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด

//ที่ไหนครับ //

 คำถามสั้นๆไม่ได้มีอะไรมากมายในความหมายแค่อยากรู้แ ค่นั้น  ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้ ก็คงมีแค่ผมที่คิดเยอะไป

 เคยตั้งใจไว้ว่าจะลองเปิดรับเพื่อนผู้ชายบ้างแล้ว แต่ผมก็ยังกังวลอยู่ดี


“ เจอกันที่ร้าน  Café’ Blue ตอนสิบเอ็ดโมงนะครับฝากบอกพี่ปีย์ด้วยนะครับ  “


//ครับ// ประหยัดคำพูดเสียจริง  นึกค่อนขอดในใจก่อนจะวางสายจากพี่โอ๊ต แล้วหันมามองเพื่อนตัวเล็กที่นั่งฟังตาแป๋วอยู่ตอนนี้

“เรียบร้อยครับ”

“ไม้”เสียงใสๆของหนูบัวมาพร้อมกับความกังวลบนสีหน้า ทำให้ผมต้องหันมาสนใจเพื่อนแทนงานตรงหน้า

“ว่าไงครับ เป็นอะไร”


“ไม้ อย่าคิดมากนะ บัวอยากให้ไม้ลองเปิดรับเพื่อนใหม่ๆดูบ้าง อย่างพี่ปีย์กับพี่โอ๊ตน่ะ  บ้านบัวสืบประวัติมาหมดแล้ว ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ “

“บัวครับ อย่ากังวลเลย คนที่คิดมากนี่คงเป็นหนูบัวคนดื้อมากกว่าไม้ล่ะมั้งเนี่ย หืม “

ผมบีบแก้มนิ่มๆด้วยความเอ็นดู ไม่ว่าจะยังไงหนูบัวก็ยังกังวลกับเรื่องของผมชอบดูแลผมเหมือนผมเป็นเด็กสามขวบเสมอ

 
“บัวเป็นห่วงไม้นี่นา  “

เสียงงุ้งงิ้งของคนขี้อ้อนทำให้ผมหัวเราะออกมา อย่างอดไม่ได้ หนูบัวน่ะ เป็นคนสวยที่ขี้อ้อนที่หนึ่ง ใครๆก็หลงความขี้อ้อนนี้มาตั้งแต่เด็ก

 แต่อย่าให้ร่างจริงปรากฏนะครับ  คำว่าโหดยังน้อยไปเลย ขนาดบางครั้งผมยังกลัวหนูบัวในร่างนั้น  แอบนึกสงสารพี่ปีย์อยู่ในใจ

 ท่าทางหลงหนูบัวขนาดนั้น จะรู้ไหมหนอว่านางฟ้าแบบที่ทุกคนเห็นนั้นแค่ความปลอมเท่านั้นเถอะ  ร่างจริงๆของยัยหนูบัวเนี่ย นางมารชัดๆ


ผมได้แต่ไว้อาลัยให้แฟนในอนาคตของยัยตัวแสบนี่



เรากลับถึงห้องพัก ก็สี่โมงเย็นแล้ว จริงๆผมไม่มีอะไรมากนักค่ำนี้แค่คิดว่าจะอ่านหนังสือที่ซื้อมาใหม่สักหน่อย

 หากวันไหนว่างๆผมว่าจะไปช่วยมัมวาดที่ร้านกาแฟ  วันนี้ไม่รู้หนูบัวจะว่างไปหรือเปล่ารายนี้ชอบหนีเที่ยวมากกว่า

เหตุผลเจ้าหล่อนคือให้น้องๆทำเพราะตัวเองเกิดก่อนทำมาเยอะแล้วถึงเวลาพักบ้าง  ผมได้แต่ขำเหตุผลข้างๆคูๆของเพื่อน


“บัวไม่ไปรับน้องตังค์เหรอวันนี้”


“เงินไปรับให้แล้ว  ว่าแต่หนังสือที่ไม้บอกอยากได้น่ะ ได้มาหรือยัง”

“ยังเลยไปดูกี่ร้านๆก็ไม่มี ว่าจะสั่งซื้อจากเว็ปเอาก็กลัวว่าจะได้ของไม่ดีมา”

“เห็นว่าหนังสือหายากนี่นา ให้ลุงยูหาให้ไหมน่าจะได้มาง่ายๆนะ”

“หาเองดีกว่า บัวว่างใช่ไหมมาช่วยไม้เลย”ผมเรียกยัยตัวแสบที่เกลือกกลิ้งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ให้เดินเข้าครัวมาช่วย

ผมทำครัวไม่เก่งครับแต่ก็ชอบทำกินเอง แม้ว่ามันจะไม่อร่อยก็เถอะ อย่างน้อยก็ได้ความสะอาดและคุณค่าทางอาหารล่ะนะ

“หาแฟนที่ทำอาหารเก่งๆสิ  ได้ข่าวว่าพี่โอ๊ตทำอาหารอร่อยไม่ใช่เหรอ”

“อย่ามาชงตอนนี้ มาช่วยเลย”

“ไม้ทำอะไร”

“น้ำตะไคร้”

ผมชอบน้ำหวานแต่ไม่ชอบแบบที่มีขายอยู่เพราะไม่ได้รสชาติแท้ๆ เลยฝึกทำเอง  ถึงแม้ผมทำกับข้าวไม่ได้เรื่อง

แต่พวกของหวานผมว่าผมมีฝีมือไม่น้อยนะ อาจจะเพราะชอบดื่มน้ำพวกนี้ผมเลยตั้งใจเป็นพิเศษ

เราสองคนเพลินกับการตักนุ่นเติมนี่จนเวลาล่วงเลยไป พระอาทิตย์ที่มองไม่ค่อยเห็นนักในเมืองกรุงกำลังลับหายไปกับตึกสูงๆ

 และตอนนี้ท้องกำลังร้อง แต่อยากกินอะไรแบบเมนูเส้นๆแทนการกินข้าวมื้อหนัก


“ไปกินเตี๋ยวกันป่ะ หิวแล้ว “

ผมผละจากตู้เย็นที่นำน้ำตะไคร้เข้าแช่ เดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์และคีย์การ์ดก่อนจะพาคนสวยออกจากห้องไปหาอะไรกิน

 ผมชอบคอนโดของพ่อเดย์มากเลยครับ เพราะรอบๆแถวนี้อาหารการกินสมบูรณ์มากโดยไม่ต้องหอบร่างไปหากินไกลๆ

วันไหนเหนื่อยๆ ผมแค่เดินลงมาข้างหน้าคอนโด ก็มีอาหารหลากหลายชนิดให้เลือกกินแทบไม่หวาดไม่ไหว โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวต้มยำร้านดังข้างคอนโด


“เค้าอยากกินเกี๊ยวร้านหน้าเซเว่นอ่า”เป็นร้านที่อยู่ตรงข้ามคอนโดครับ  ปรกติผมไม่ค่อยชอบกินพวกเกี๊ยวหรือบะหมี่หรอกครับ

แต่ถ้าเป็นพวกก๋วยเตี๋ยวน้ำตกน้ำไส อะไรอย่างนั้นผมกินได้ มีแต่หนูบัวที่ชอบกินเกี๊ยว วั

นนี้เลยเปลี่ยนร้านจากก๋วยเตี๋ยวต้มยำเจ้าดังมาเป็นเกี๊ยวหน้าเซเว่นแทน


“ก็ได้ครับ เส้นหมี่น้ำใสก็มีให้กินอยู่ร้านนี้อ่ะนะ  “

“ใจดีจังน้า แฟนใครเนี่ย ฮิฮิ “

ผมโคลงศรีษะด้วยความอ่อนใจ  แต่ผมก็ตามใจเจ้าตัวแสบจนบางครั้งมัมวาดยังบอกให้ผมเพลาๆความตามใจยัยตัวแสบนี่บ้าง

 แต่ว่าก็ว่าเถอะครับ ลองได้เจอยัยหนูบัวอ้อนนะ ร้อยทั้งร้อยสยบแทบเท้าคุณเธอทั้งนั้นล่ะ

ติ๊ง !

เสียงสัญญาณลิฟท์ดังพร้อมประตูตู้โดยสารเปิดออก คนที่ยืนอยู่ภายในทำเอายัยตัวแสบเบิกตากว้างพร้อมทั้งส่งยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้างในด้วยความยินดี


“พี่โอ๊ตไปไหนเหรอคะ”

ผมกับหนูบัวเข้ามายืนในลิฟท์และเจ้าตัวแสบก็เลิกเกาะแขนผมไปเกาะแขนพี่โอ๊ตแทน จนผมต้องดึงมือยัยหนูบัวมาจับไว้เอง

 ไม่ใช่หวงนะครับ แต่เป็นห่วงมากกว่ากลัวว่าจะมองเพื่อนผมไม่ดี บัวเป็นคนที่สนิทคนง่ายและชอบสกินชิป

เป็นนิสัยที่ผมรู้ดีและรับมือมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต  คนอื่นที่ไม่รู้จักนิสัยส่วนนี้อาจจะมองดูไม่ดีต่อเพื่อนผม

เพราะบัวเคยโดนตามตื๊อเพียงเพราะไปจับมือถือแขนคนอื่นง่ายๆ โดนหาว่าอ่อยไม่เลือกด้วย แต่เจ้าหนูบัวไม่เคยแคร์



กลายเป็นผมเนี่ยที่ต้องคอยระวังให้ตลอด  ยอมโดนยัยหนูบัวจับๆกอดๆไปกำไรผม หึหึ

“กำลังลงไปหาอะไรกินน่ะครับ  “

“ไปกินเกี๊ยวด้วยกันไหมคะ  บัวกับไม้กำลังไปเหมือนกันร้านนี้อร่อยนะคะ “

“เอาสิ”พี่โอ๊ตตอบรับทั้งยังยิ้มน้อยๆจนยัยหนูบัวต้องส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดจนผมอดทที่จะหมั่นไส้ไม่ได้

เราสามคนเดินตรงไปที่ร้านขายเกี๊ยวน้ำ เป็นเพียงแค่ร้านรถเข็นข้างทางธรรมดา แต่ยัยหนูบัวชอบนักหนา

“เอาเกี๊ยวน้ำไม่เอาหมูแดง พิเศษเกี๊ยวค่า”

“พี่โอ๊ตเอาอะไรครับผมจะได้สั่งให้”ดูท่าทางเหมือนพี่มันไม่เคยมากินร้านแบบนี้

“เอาเหมือนไม้ก็ได้ครับพี่กินได้”

“แหมมมมมมมมมมมมม”

เราสองคนหันไปมองหนูบัวที่นั่งเอามือเท้าคางส่งสายตากรุ้มกริ่มแปลกมาให้ทั้งยังเสียงแหมยาวจนน่าตีสักเผียะ

“ครับๆ บัวนั่งเฉยๆอย่าซนผมอดที่จะดุไม่ได้อีกแล้ว ก็แม่ตัวแสบเริ่มเอามือไปจิ้มแขนพี่โอ๊ตจิ้มแก้มบ้าง

 เลยต้องดุครับไม่รู้จะแก้นิสัยนี้ของหนูบัวได้ยังไงพี่โอ๊ตก็นั่งนิ่งให้หนูบัวจิ้มเล่นอยู่นั่นเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร


ผมยืนสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำไสของผมกับพี่โอ๊ต สองชามและเกี๊ยวน้ำพิเศษของหนูบัว ระหว่างรอสั่งผมก็ต้องหันมามองหนูบัวกับพี่โอ๊ตเรื่อยๆ

 กลัวเพื่อนไปทำพี่เขารำคาญ 


“ไม้จ๋า พี่โอ๊ตบอกว่าพรุ่งนี้ว๊างว่างล่ะ “


“แล้ว?”ก็ต้องว่างอยู่แล้วเพราะพี่เขารับนัดแล้วนี่นา

“คืองี้ ไหนๆก็ไหนๆละ  กินข้าวเสร็จไม่มีโปรแกรมไหนใช่หรือเปล่า”

“ก็..ใช่ ไม่มี “ผมพูดนิ่งๆพลางเหลือบมองพี่โอ๊ตที่นั่งเงียบเหมือนไม่ได้มาด้วย

“พี่โอ๊ตอยากไปไหนต่อร่างโปรแกรมได้เลยนะคะบัวอยากดูหนัง”

“พี่โอ๊ตครับ อย่าไปฟังยัยนี่มากนักนะครับ ตามใจเกินเสียคนหมด “

“ไม่หรอก พี่ว่างน่ะ “ผมว่าผมเจอคนทำยัยตัวแสบเคยตัวอีกคนแล้วล่ะครับ

“ครับๆ  “ผมก็ได้แต่รับคำไปก็ดีจะได้มีคนมารับภาระแทนผมบ้าง เราสามคนเลิกคุยลงมือจัดการก๋วยเตี๋ยวตรงหน้า  ด้วยความหิว

กว่าจะจัดการเมนูเส้นตรงหน้าหมด ก็มืดแล้ว วันนี้กินเตี๋ยวฟรีครับ พี่โอ๊ตจ่าย แม้ผมจะแย้งแค่ไหน แต่ภายใต้ท่าทางนิ่งๆนั่น

พี่มันก็ดื้อพอสมควรครับ ยังคงมีแค่แม่หนูบัวที่ยิ้มแป้นไม่รู้สึกรู้สาใดๆเช่นเคย



“แล้วจะไปไหนกันต่อ หืม”พี่โอ๊ตมองยัยหนูบัวที่เกาะแขนผมเป็นลูกลิงตอนที่เราเดินมาถึงหน้าคอนโดแล้ว

ท่าทางของผมกับบัวเหมือนจะไปไหนหรือไงพี่เขาถึงได้ถามแบบนั้น ผมอดที่จะมองตัวเองไม่ได้ กางเกงยีนส์ห้าส่วนกับเสื้อยืดธรรมดา

ไม่ได้บ่งบอกว่าผมจะไปต่อที่ไหน



“ก็พี่เห็นหนูบัวมองดูนาฬิกาบ่อยเหมือนมีนัด”พี่โอ๊ตบอกทันทีที่เห็นผมขมวดคิ้ว 

“บัว”ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยอะไรเสียงเรียกยัยตัวแสบก็ดังขึ้นด้านหลังจนพวกเราต้องหันไปมอง

“อ้าวเพชร มาไงเนี่ย”น้องแฝดของบัวที่ยังอยู่ในชุดนักเรียนเดินเข้ามาหาก่อนจะมองมาที่ผม

“ไม้คิดถึงจังครับ “ว่าพลางเดินเข้ามากอดผมแน่น แทนที่จะเดินเข้าไปหาพี่สาวของตัวเอง

 น้องเพชรตัวพอๆกับผมเลยครับ นี่น้องยังโตได้อีก สงสัยได้คุณพ่อเดย์มาเยอะ ตัวใหญ่ๆกันทั้งนั้น 


“อย่ามาอ้อนครับ มาพาพี่บัวไปร้านใช่ไหมล่ะ พาไปเลยพี่เบื่อจะแย่แล้ว”

น้องชายของบัวไม่เคยเรียกพวกเราว่าพี่ต่อหน้าคนอื่นครับ แปลกๆใช่ไหม ถ้าอยู่กับครอบครัวจะเรียกพี่

แต่ถ้าอยู่ข้างนอก คำว่าพี่หายไปทันที เหตุผลแค่บอกว่าจะปกป้องบัวกับผม  เด็กหนอเด็ก 

“อย่ากอด “เสียงดุๆเอ่ยขึ้นทำให้เจ้าเพชรถึงกับชะงัก

“พี่โอ๊ต นี่น้องเพชรน้องชายบัวเองค่า  กอดได้ๆเนอะๆไม่หวงเนอะ คิกคิก”

“บัว มัมให้มารับไปร้าน ต้องการคนช่วยบอกไว้แล้วเมื่อบ่ายคิดเบี้ยวเหรอ”เพชรหันไปสนใจพี่สาวคนสวยแทนผม

ผมมองหน้าหนูบัวที่ยู่ปากเหมือนขัดใจ และนั่นคงเป็นสาเหตุที่เจ้าตัวแสบคอยมองนาฬิกาบ่อยๆคงหาทางชิ่งอยู่แน่ๆ

“พี่โอ๊ตว่างไหมๆ”

“บัว”ผมรู้ทันทีว่าเจ้าตัวแสบจะทำอะไรเลยรีบปรามเจ้าตัวยุ่งที่ชอบก่อเรื่อง แต่เหมือนพี่โอ๊ตจะไม่รู้

“ว่างครับ”

“งั้นไปกินกาแฟร้านมัมวาดกันนะคะ นะๆ “พนันได้เลยครับไม่ได้ชวนไปกินแต่ชวนไปใช้งานแน่ๆ

“หนูบัว มันค่ำแล้วนะพี่เขาต้องพักผ่อน  พี่โอ๊ตมีงานหรือเปล่าครับ อย่าตามใจเจ้าหนูบัวมากนัก”

“ไม่เป็นไร พี่ว่าง มานี่มา”ผมโดนพี่โอ๊ตดึงแขนให้ห่างจากน้องเพชรมายืนข้างๆพี่เขาอย่างงงๆ น้องเพชรหรี่ตามองพี่โอ๊ตแปลกๆ ส่วนเจ้าหนูบัวหัวเราะคิกคักดูอารมณ์ดี 

“แต่พี่ขอไปเปลี่ยนเสื้อแป๊บนึงนะครับ ไม้ไปด้วยกัน บัวไปก่อนได้เลยเดี๋ยวพี่กับไม้จะตามไปนะ “

พี่โอ๊ตจัดการเสร็จสรรพ ทั้งยังดึงแขนผมให้เดินกลับเข้าคอนโด เจ้าตัวแสบแค่โบกมือให้ทั้งยังยิ้มแปลกๆอีก

ขนาดโดนน้องเพชรลากตัวไปยังจะหันมาโบกไม้โบกมือไม่หยุด


“ผมว่าพี่ใส่ชุดนี้ก็ไม่น่าเกลียดนะครับ ถ้าพี่เปลี่ยนดีกว่านี้ผมคงไม่ได้เกิด แต่เอาจริงๆพี่ไม่ต้องไปดีกว่านะครับโดนหนูบัวใช้งานแน่ๆ”

ผมว่าไปพร้อมกับหัวเราะพลางมองดูร่างสูงที่ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นสีเข้มกับเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา แม้จะเป็นชุดอยู่กับบ้านแต่พี่มันก็ยังดูดี 

นี่แค่ไปกินก๋วยเตี๋ยวยังดูดีขนาดนี้แล้วนี่พี่ยังจะเปลี่ยนชุดอีกเหรอครับ


“ซ้อมเดททั้งทีขอพี่เปลี่ยนชุดจะดีกว่านะ”รอยยิ้มแปลกๆที่พี่โอ๊ตส่งมาไม่ทำให้ผมฉงนใจเท่ากับคำว่าซ้อมเดทของพี่มันเลยสักนิด 

ผมเดินเอ๋อๆตามพี่มันเข้าห้องจนออกจากห้องมาขึ้นรถพี่มันแล้วบอกเส้นทางอย่างงงๆ คงมีแค่เสียงหัวเราะเบาๆของพี่โอ๊ตที่ทำให้ผมดึงสติกลับมาทัน


“อ่า ขอโทษครับ  เหม่อไปหน่อย”

ก็พี่โอ๊ตใส่กางเกงยีนส์สีเข้มขายาว ที่มีร่องรอยขูดขีดพอเป็นลายสวยตัดกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำทะเลแลดูสดใส

ยิ่งพี่มันพับแขนรั้งดึงไปจนถึงข้อศอก ปลดกระดุมเม็ดบนๆลงตั้งสองเม็ด แลเห็นอกแน่นๆรำไรดูชวนมองอย่างบอกไม่ถูก

อ่า ผมเป็นผู้ชายยังอดมองไม่ได้เลยครับ น่าอิจฉาคนหุ่นดีชะมัดเลย


“หึหึ ไม่หน่อยหรอก พี่ถามยังไม่ตอบพี่เลย”

“ถาม?”

“ว่าแล้วเชียว ใจลอยแบบนี้บ่อยๆไม่ดีนะครับ เกิดมีคนจับแบกขึ้นรถไปทำยังไง ฮึ”

ท่าทางที่ดูเหมือนเป็นห่วงผมแต่แววตาแพรวพราวทำให้ผมหันไปถลึงตาใส่ด้วยความลืมตัว


“ฮ่าๆ “และพี่โอ๊ตก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นในรถ กับแค่ผมถลึงตาใส่น่าขำตรงไหนกัน แต่ว่า พี่โอ๊ตหัวเราะนี่ดูดีจัง

 รู้สึกดีจนต้องยิ้มตามแทนที่จะโกรธ เฮ้อ  ผมนี่ก็แปลกๆเหมือนกันนะ วันนี้มีอะไรแปลกๆหลายอย่างจนงงไปหมดแล้วล่ะครัะบ

  ไม่นานพี่โอ๊ตก็พาผมมาที่ร้านกาแฟของมัมวาด

ร้านนี้เปิดมานานแล้วครับเป็นคาเฟ่เล็กๆแต่น่านั่งเพราะมัมวาดทำไม่ได้หวังกำไรอะไรแต่ผมดูว่ากำไรคงล้นหลามมากครับ เพราะคนเยอะทุกวัน

ร้านนี้ตั้งอยู่ระหว่าง ม.Y กับ ม.XS แถมยังมีโรงเรียนสาธิตนาวา ที่อยู่ถัดม.XS ไปไม่ไกล  วัยรุ่นวัยเรียนแวะเวียนมาร้านนี้ประจำ

หลักๆเลย เจ้าของร้านคือคนที่ดึงดูดลูกค้ามากสุด แม้ว่ามัมวาดจะมีอายุสามสิบหกปีแล้ว ไหนจะพ่อเดย์วัยสี่สิบปี แต่หล่อจนสาวๆมาจองโต๊ะทุกวัน

เพื่อรอพ่อเดย์มา   หนุ่มจากสองม.มาส่องลูกสาวคนสวยดีกรีดาวมหาลัยก็ไม่ใช่น้อย แทบทุกครั้งที่หนูบัวมาช่วยงานที่ร้านวันนั้นคนจะแน่นร้านเป็นพิเศษ

บวกกับสองแฝดด้วยแล้ว ขายแทบไม่ทันเลยล่ะครับ แล้ววันนี้ ไม่ต้องเดาว่าคนจะเยอะแค่ไหน เพราะเดือนปีสามจากมหาวิทยาลัย XS ก็ดังไม่ใช่เล่น



Cute Boy XS  อยู่ที่ พบรักค่าเฟ่

มาค่ะคุณขา วันนี้เป็นวันรวมสามีแห่งชาติที่นี่เลยค่า ใครไม่มาวันนี้บอกเลยว่าพลาดแรง

แอดแทบไม่รู้รสกาแฟเพราะในปากเต็มไปด้วยน้ำลายที่รอการระบายเมื่อเห็นหนุ่มๆเค้ามาเสิร์ฟกาแฟ อูยปาดน้ำลายแป๊บบบบ

แซ่บมากกกกก แม่ขาแอดอยากได้แอดอยากโดน #โอ๊ตไม้ #แฝดหล่อบอกต่อด้วย #เดือนชนเดือน  #เดือนชนดาว #ไม้บัว

แนบรูป

6,541 ไลค์
947 แชร์


เวลาแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยอดไลค์ยอดแชร์พุ่งสูงจนน่ากลัว ผมส่งมือถือคืนหนูบัวที่ยังยิ้มแก้มปริ 

เพราะคนส่งรูปไปให้เพจนั้นต้องเป็นหนูบัวอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะยัยตัวแสบบอกว่าเพื่อนเป็นแอดมินเพจ

ดีไม่ดีผมว่ายัยหนูบัวตัวแสบนี่แหละเป็นหนึ่งในแอดมิน ก็ชงซะเข้มขนาดนี้ เฮ้อออ

 
“พี่โอ๊ตพักก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมทำเอง ไปนั่งตรงนั้นเลยครับ “

ผมรีบดันหลังพี่มันให้ไปนั่งตรงมุมที่เป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ ตรงจุดนี้เป็ฯมุมสำหรับพวกผมครับ 

วันนี้เห็นพี่โอ๊ตช่วยเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟขนมแล้วผมล่ะเกรงใจ โดยหนูบัวโขกสับขนาดนี้ผมเหนื่อยแทน


“ไม้มาเอาขนมไปให้เพื่อนด้วยนะลูก”

เสียงมัมวาดดังขึ้นโดยไม่ได้หันมามองผมเพรามัมวาดยังคงสาละวนกับเมนูปั่นตรงหน้า แต่ก็ยังอุตส่าห์เตรียมขนมไว้สำหรับพวกผม

“เพชรครับเงินครับ มาช่วยมัมตรงนี้ก่อนให้พี่เขาพัก  บัว ไปรับออเดอร์เลยอย่าอู้นะ “

เสียงมัมวาดยังคงสั่งการไปเรื่อยๆ ผมได้แต่หัวเราะ ด้วยความขำที่เจ้าตัวแสบแอบถ่ายแต่รูปจนโดนมัมดุ


“พี่ช่วยได้นะครับไม่เหนื่อยอะไร”

“นั่งเลยครับตั้งแต่มาถึงพี่ยังไม่ได้พักเลย อีกหน่อยพ่อเดย์ก็จะมาแล้ว ไม่ยุ่งหรอกครับ  พี่โอ๊ตชอบกินอะไรครับ”

“อืม พี่ชอบพวกเค้กนมสดหรือเค้กพวกมะพร้าวน้ำมะพร้าวน่ะครับ อะไรก็ได้พี่กินได้หมดถ้าทำจากมะพร้าว”

“หืม ชอบเหมือนผมเลย แล้วพวกน้ำตะไคร้หรือพวกน้ำใบเตยอะไรพวกนี้พี่โอ๊ตชอบไหมครับ”

ผมพยายามชวนพี่คุย เพราท่าทางพี่มันเงียบเกินไป นึกได้ว่าผมชอบทำน้ำดื่มเพื่อสุขภาพพวกนั้นถ้าพี่มันชอบเผื่อเอาไปให้ที่ห้องแบ่งๆกันกินครับ

“ก็ดีนะ กินได้ครับถ้าไม่หวานมาก”

“ดีเลย ผมทำเองนะ ทำอร่อยด้วย เดี๋ยวผมเอาไปให้ที่ห้อง แบ่งแช่ตู้เย็นไว้ เวลาพวกพี่ๆทำงานเหนื่อยๆผมว่ามันชื่นใจดีนะครับ”

ผมยิ้มแก้มปริเมื่อมีคนชอบสิ่งเดียวกัน  คุยกับพี่โอ๊ตไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด เราสองคนแลกเปลี่ยนกันถาม

“น้องไม้ครับ คือพี่จะขอน้องไม้สักอย่างได้ไหมครับ”

ท่าทางดูไม่มั่นใจแถมเหมือนจะเกรงใจ ของพี่โอ๊ตทำผมสงสัยคนแบบพี่มันมีอะไรให้ผมช่วยงั้นเหรอ

“อะไรครับ ถ้าผมช่วยได้ก็จะช่วย”

“อย่าขำพี่นะบอกก่อน”ท่าทางเหมือนเขินๆของพี่โอ๊ตยิ่งทำให้ผมสงสัย

“คือว่า พี่ฝากขอลายเซ็นคุณทิวไผ่ได้ไหมครับ”ผมนั่งนิ่งอย่างนึกไม่ถึง ริ้วแดงๆพาดผ่านแก้มของพี่โอ๊ตจางๆ อ่า พี่เขาเขิน น่ารักแฮะ

 ผมนี่ท่าจะบ้ามองเห็นผู้ชายตัวใหญ่ๆน่ารักได้ยังไง ก็...พี่มันน่ารักจริงๆนี่นา

ท่าทางที่เอานิ้วชี้เกาจมูกเบาๆหันหน้าไปทางอื่นทั้งๆที่แก้มยังมีสีเรื่อๆอยู่ หึหึ น่ารักจริงๆนั่นแหละ



“พี่โอ๊ตเป็นแฟนคลับพ่อเหรอครับ”ใช่แล้วครับ พ่อทิวไผ่ของผมมีแฟนคลับไม่น้อย แต่ผมแปลกใจก็ตรงที่พ่อออกจากวงการมานานมากแล้ว

 ยังมีคนรู้จักพ่ออีก ที่สำคัญ เป็นคนรุ่นใหม่ด้วยพ่อคงปลื้มไม่น้อย

“อ่า..ครับ”ผมยิ้มจนตาปิด ดีใจแทนพ่อจัง มีคนชื่นชอบขนาดนี้เอแล้วพี่เค้าอยากถ่ายรูปกับพ่อหรือเปล่าน๊า

“วันพรุ่งนี้พี่โอ๊ตว่างใช่ไหมครับ”

“ก็ว่างนะ ถึงได้รับนัดเรากับน้องบัวไง”

“หลังจากกินข้าวแล้ว ผมมีแพลนใหม่ ที่ดีกว่าแพลนดูหนังของหนูบัว พี่สนหรือเปล่าครับ”

“แพลนใหม่ ?”

“ไปหาพ่อไผ่กัน ไปขอเองเลยครับถ่ายรูปได้ด้วยนะ  “ผมยิ้มกว้างเมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของพี่โอ๊ต

โอ๊ยพี่ครับ มาดโหดๆที่ใครๆเห็นนี่ หลอกลวงแน่ๆเลย รอยยิ้มดีใจของพี่โอ๊ตที่ปิดไว้ไม่มิด ทำให้ผมดีใจไปด้วย


“ไอ้ปีย์ต้องอิจฉาพี่แน่ๆเลย หึหึ “และความเจ้าเล่ห์ก็กลับมาเมื่อเอ่ยถึงเพื่อน เราสองคนคุยกันไปเรื่อยกินขนมไปเรื่อยจนลืมเวลา

 เขาว่ากันว่า ถ้าได้อยู่กับคนที่เราถูกใจคุยกันได้ถูกคอด้วยเนี่ย เวลามักจะผ่านไปไวเสมอ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะตอนนี้ได้เวลาปิดร้านแล้ว

 เหมือนว่าพวกผมพึ่งจะได้นั่งคุยกันแป๊บเดียวเอง พวกเราลามัมวาดพร้อมกับเค้กกล่องใหญ่สองกล่องทั้งของผมและของพี่โอ๊ต 


“ไม้ เค้าจะกลับเข้าบ้านพร้อมมัม ไม้กลับห้องไปกับพี่โอ๊ตเลยนะ พี่โอ๊ตคะ ฝากแฟนบัวด้วยนะคะ อย่าให้แวะห้องสาวไหนนะ คนนี้บัวหวงค่ะ”

ผมเลิกคิ้วสูงเมื่อยัยตัวแสบอ้างว่าเป็นแฟนผม  เอาจริงๆการกระทำของเราสองคนเหมือนแฟนก็จริงแต่ไม่เคยบอกออกมาเป็นคำพูดเลยสักครั้ง

หนนี้ผมเลยอดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่หนูบัวพูดไปแบบนั้น มีแผนอะไรอีกหนอยัยตัวยุ่ง

“ไปช่วยมัมเก็บร้านเลย ไม้กลับเองได้ไม่แวะห้องใครอยู่แล้วล่ะ มีบัวอยู่คนเดียวเนี่ย”ผมเลยอดแหย่ไปนิดๆไม่ได้ ยัยตัวแสบเอ๊ย

“กลับกันเถอะ “เสียงนิ่งๆของพี่มันเรียกให้ผมต้องโบกมือให้เพื่อน และเดินตามพี่โอ๊ตไปที่รถ

ท่าทางตึงๆของพี่โอ๊ต แปลกไปจนผมใจเสียว่าไปทำอะไรให้พี่เขาไม่พอใจหรือเปล่านะ 

ทั้งๆก่อนหน้านี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลย สงสัยจะเหนื่อย  คงต้องบอกพ่อให้ถ่ายรูปกับพี่โอ๊ตเยอะๆไถ่โทษที่วันนี้ใช้แรงงานพี่มันไปจนเหนื่อยแบบนี้

พรุ่งนี้คงได้เห็นพี่ยิ้มเขินๆเหมือนวันนี้แน่ๆเลย หึหึ อยากเห็นซะแล้วสิ คืนนี้ต้องโทรไปบอกพ่อไว้ก่อนเดี๋ยวพาเซอร์ไพรส์ไปให้ พรุ่งนี้ต้องสนุกแน่ๆเลย

.
.
.
.
TBC

 น้องไม้ยังไม่ได้คิดอะไรนอกจา่กความซื้อและบื้อของน้อง แต่อิพี่นี่ ชักสงสัยแฮะ เหมือนจะหวงๆน้องนะว่าไหม

สถานะอยากได้เขาไปเป็นน้องชาย แต่จากพฤติกรรม พี่มันยังไม่รู้ตัวค่ะ :hao3: :hao3:

เงียบเหงาอะไรเช่นนี้หนอ  พันวาก็ยังตาม #ถ้ำหลวง อยู่เป็นห่วงเหมือนกัน แต่ก็ไม่ลืมที่จะพาน้องไม้คนหล่อกับพี่โอ๊ตคนซึนมาส่งน๊าา

ขอบคุณทุกกำลังใจที่เม้นท์ให้พันวาค่าาา  :L2: :L2: :L2: :L2:









หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 8 ล่อลวง ( 28/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-06-2018 20:01:23
น่าสงสารพ่อคนขี้หวง เจอหนูบัวแกล้งเข้าหน่อยทำหน้าตึงเชียว
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 8 ล่อลวง ( 28/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-06-2018 21:49:09
เหมือนพี่จะออกอาการหึงน้องนะ 55555
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 8 ล่อลวง ( 28/6/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 01-07-2018 03:41:58
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 9 เข้าทางผู้ใหญ่ ( 5/7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 05-07-2018 16:41:15



แผนที่ 9 เข้าทางผู้ใหญ่



  อินทัช



เมื่อวานผมได้เห็นอีกมุมของน้องไม้  น้องดูเป็นคนเรียบร้อยพูดจาเพราะหู ไม่มีหลุดคำหยาบมาสักนิด ยิ่งพูดกับหนูบัวนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ

หวานจนเลี่ยน หันมามองผมเอง เวลาอยู่กับพวกไอ้ปีย์นี่ถ้าได้อยู่กันครบ สวนสัตว์เปิดยังอายครับ สารพัดสัตว์จะพ่นใส่กัน

ดูแล้วเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจและดูได้เพลินตามองได้ไม่เบื่อยิ่งได้คุยยิ่งรู้สึกว่า ผมโชคดีที่ได้รู้จักเขา 

ว่าที่น้องชายผมน่ารักจนอยากอุ้มเอาไปเลี้ยงที่บ้าน แต่ถึงน้องจะน่ารักยังไง ผมกลับไม่ชอบใจตอนที่มีคนกอดน้องเต็มอ้อมแขนแบบนั้น

แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะตัวพอๆกันกับน้องก็ตาม สงสัยจะหวงน้องแน่ๆเลยผมนี่ขนาดไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันยังหวงน้องขนาดนี้

 ไม่อยากคิดถ้าเป็นน้องชายผมจริงๆผมจะหวงน้องขนาดไหน

และยิ่งถ้าแม่ได้เจอน้องนะ คงเฉดหัวผมออกจากบ้านแทบไม่ทัน แม่ชอบให้ผมพูดเพราะๆ กับพี่อาร์ตด้วยพวกเราจะพูดเพราะตอนอยู่บ้านเท่านั้นแหละครับ ทำให้แม่สบายใจ


  เพราะแบบนี้เมื่อวานผมเลยไม่ค่อยกล้าพูดมากเท่าไหร่กลัวจะหลุดพูดไม่เพราะให้ระคายหูคนฟัง

 เมื่อวานจึงเป็นวันที่ผมพูดเพราะมากที่สุดในชีวิตเลย  กลับถึงห้องผมส่งรูปถ่ายให้ไอ้ปีย์มันอิจฉาเล่น สมน้ำหน้ามัน 

อยากจะบอกไอ้ปีย์ว่า แม่น้องบัวน่ะ น่ารักมากครับ ผมพอจะรู้อยู่บ้างว่าคุณเดโช มีภรรยาเป็นผู้ชาย ลูกๆคงเกิดจากการอุ้มบุญตามข่าวให้ไว้แบบนั้น

คุณภวัตแม่น้องบัวเป็นผู้ชายตัวเล็ก ที่ดูแล้วอายุไม่น่าจะถึงสามสิบเลย แต่มีลูกสาวเข้ามหาวิทยาลัยแล้วแบบนี้ ก็คงไม่ต่ำกว่าสามสิบล่ะ

แต่หน้าใสๆอ่อนเยาว์แบบนั้น มิน่าพวกเด็กวิศวะม.Y ถึงได้นั่งกันเต็ม ร้านนี้จะอยู่ใกล้ม.Y มากว่า ม.XS ที่ผมเรียนอยู่


 แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเห็นพวกนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันนั่งอยู่ในร้านไม่น้อย
 
ผมอยู่ช่วยน้องไม้กับน้องบัวเสิร์ฟกาแฟจนลืมเวลา    พูดถึงของหวานเป็นอะไรที่ผมไม่ชอบเลยครับ  แต่คงไม่ใช่กับอีกคน 

ท่าทางมีความสุขเมื่อพูดถึงของกิน  น้องไม้เป็นผู้ชายตัวสูงโปร่ง ที่ดูแล้วเหมือนพวกนักร้องเกาหลี ที่มีร่างเพรียวบางผิวขาว หน้าใส

รอยยิ้มน่ามองจนถอนสายตาไม่ได้  น้องมันมีเสน่ห์มากครับ สาวๆมองกันตาลอยเลยครับ ไม้ไม่ใช่คนคนตัวเล็กๆน่ารักเหมือนไอ้โอม 

ไม้เป็นผู้ชายทั่วๆไปที่ยิ้มง่ายแถมยังยิ้มสวยและหน้าตาดีมาก  เหมาะจะเป็นน้องชายผมอย่างยิ่ง ฮ่าๆๆ

ก่อนกลับคำฝากฝังให้ดูแลไม้ของน้องหนูบัวทำให้ผมรู้สึกขัดเคืองใจแปลกๆ   ก็แหมน้องชายทั้งคนผมต้องดูแลดีอยู่แล้วนี่ 

อยากดูแลเพราะเป็นน้องไม้ไม่ใช่ต้องดูแลเพราะเป็นแฟนของดาวมหาลัยหรอกนะ  เหอะ หงุดหงิดชิบหายเลย 

 เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ อย่างแรกตื่นเต้นแปลกๆ ที่จะได้ไปเดทกับน้อง ไม่ใช่ๆ ผมหมายถึง น้องนัดเลี้ยงข้าว

แต่ที่ผมตื่นเต้นคงเป็นเพราะผมจะได้เจอกับไอดอลของผมหรอก  เพราะนอกจาก มิเชล ชูมาร์คเกอร์นักแข่งฟอร์มูล่าวัน (F-1) ระดับตำนาน คนนั้น

และ  มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกโมโตจีพีคนล่าสุด  คุณทิวไผ่ก็เป็นหนึ่งในไอดอลที่ผมชอบมากที่สุด

เมื่อสิบปีก่อนที่พวกผมยังเป็นเด็กวัยรุ่นหัวรุนแรง มีโอกาสได้ชมการแข่งขันของมืออาชีพอย่างคุณทิวไผ่ มันถือเป็นสุดยอดที่คนไทยยังมีนักแข่งระดับนี้

และแน่นอน วันนี้ผมตื่นเต้นที่จะได้เจอคุณทิวไผ่ตัวเป็นๆ  ผมจะต้องทำตัวยังไงไม่ให้หลุดลุคมันยากยิ่งกว่าอะไร

กับการยืนนิ่งๆต่อหน้าคนที่เราปลื้ม โอยผมไม่อยากหลุดมาดต่อหน้าน้องนะ  เอ๊ะ นี่ผมห่วงอะไรอยู่เนี่ย


ผมมองดูร่างสูงเพรียวของน้องไม้  ที่นั่งรอที่ล็อบบี้ของคอนโด น้องนุ่งยีนส์สีซีดที่ขาดตรงหัวเข่าเหมือนตัวที่ผมใส่ราวกับนัดกันไว้

 นับเป็นกางเกงคู่ได้ไหม เอ๊ะ นั่นน้องครับน้อง อะแฮ่ม!!!

อาจจะเป็นยีนส์แบรนด์ดังที่ขายดีเลยซื้อมาซ้ำกันก็ได้อ่ะนะ ก็แค่กางเกงยีนส์ธรรมดาๆที่มีขายทั่วไป   

แต่พอน้องใส่กลับดูดีเสียจนผมมองไม่ละสายตา แถมวันนี้น้องยังใส่ใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองอ่อนๆพับแขนมาถึงข้อศอก

 กระดุมเสื้อเปิดไว้สองเม็ดด้านบนมองเห็นแผงอกขาวๆ ที่ดูพอมีกล้ามเนื้อสวยไม่ได้เยอะแยะเหมือนผมแต่ดูลีนดูดี อ่า ขาวจัง  เฮ้ยๆม่ใช่ๆไม่ใช่

ผมแอบเห็นสาวๆที่เดินผ่านหน้าน้องไปเหล่มองน้องไม้จนคอจะหักตาจะกลับแล้วนั่น สาวๆตายเป็นเบือล่ะครับทำไมชอบเปิดกระดุมเสื้อจังก็ไม่รู้ 

ผมอดที่จะมองตัวเองไม่ได้ แม้ว่าความสูงที่ดูยังไงผมก็สูงกว่าน้องมากตัวหนากว่า กล้ามเนื้อมีเยอะกว่า หากถอดเสื้อโชว์ผมไม่อายใครแน่นอน

กับหุ่นแน่นๆของผม   แต่ว่าคนเข้าหาผมกลับไม่ค่อยมี คงเป็นเพราะผมชอบตีหน้านิ่งๆ ไม่สนโลก

ผิดกับน้องไม้ที่ส่งยิ้มสวยละลายใจไปให้คนอื่นบ่อยๆทั้งๆที่ไม่รู้จักกันสักนิด ยิ้มอยู่นั่นแหละ ฮึ่ม!

ผมเหมือนหมีตัวโต ที่ผู้คนหวาดกลัวแต่น้องมันเหมือนแมวน้ำหน้ายิ้มที่ทุกคนชอบมอง   .. อุ๋งๆเอ๊ยน่าบีบชะมัด 

เฮ้อ...ทำไมน้องถึงดูเหมือนเด็กวัยใส ที่ยังไม่พ้นมัธยมเลยนะ   ดูต่างกันขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ สาวๆสมัยนี้ยิ่งชอบผู้ชายแบบนี้ด้วย

ดูอย่างบอยแบนด์เกาหลี Got 7 อะไรนั่น  หรือไม่ก็นักร้องดังซุปตาร์คนดังอย่างเป๊กผลิตโชคนั่นสิ  สาวๆคลั่งใคล้กันทั่วบ้านทั่วเมือง 
 
ผมถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปหาน้องไม้ที่นั่งจิ้มมือถืออยู่บนโซฟาตัวใหญ่ 

“ไง..มารอนานหรือยัง”

“พี่โอ๊ต สวัสดีครับ”

“...เอ่อ..หวะ หวัดดี “กระดุมเสื้อน้องงงงงงงงง จะเปิดกว้างไปไหน โว้ยยยยยยอยากจะบอกให้ติดกระดุมซะก็ไม่กล้ากลัวน้องหาว่าผมหื่น

ผมเปล่าหื่นนะ แค่เป็นห่วงน้องแค่นั้นเองจริงๆนะ   o8 o8

 น้องทักทายทั้งยังยกมือไหว้แบบที่น้องเคยชินแต่ผมไม่ชิน ผมยกมือรับไหว้แทบไม่ทันสายตาพยายามไม่โฟกัสอกขาวๆนั่น ฮึ่ม!!

เราห่างกันแค่สามปีเองครับ อย่าไหว้บ่อยสิ ผมดูเป็นตาแก่ไปเลยนะ ถ้าน้องจะไหว้ผมบ่อยๆแบบนี้ 

ไหนจะส่งยิ้มหวานมาให้แบบไม่เกรงใจอีก จะน่ารักไปไหนนะ 

 “ขอโทษที่ให้รอนานนะ “

“ไม่หรอกครับ ผมพึ่งมานั่งเองแป๊บเดียวไม่ถึงสิบนาทีเลย “

น้องรีบลุกขึ้ยืนและเดินเข้ามาหาผม  แต่สีหน้าที่ดูเหมือนคิดอะไรอยู่แถมคิ้วสวยๆนั่นขมวดแน่นจนผมอดที่จะทักออกไปไม่ได้
 
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”

“อ๊ะ ...เอ่อ คือแบบอิจฉาความสูงครับ ทำไมผมไม่สูงแบบพี่บ้างล่ะ ทั้งๆที่พ่อผมสูงเหมือนพี่เลยแท้ๆ “

น้องบ่นงึมงัมเบาๆแต่ผมก็ได้ยิน หึหึ   

“แบบนี้แหละหล่อแล้ว”แค่นี้แหละพอดีเลยเหมาะ

“โหย สู้พี่โอ๊ตไม่ได้หรอกครับ  “ท่าทางถอนหายใจไหนจะทำหน้าเซ็งๆแบบนั้นมันก็น่าเอ็นดูดีนะ

“หึหึ ไปเถอะเดี๋ยวสองคนนั้นจะรอนาน”

ผมเดินนำน้องไปที่ลานจอดรถของคอนโด  วันนี้น้องสองคนบอกจะเลี้ยงข้าวครับ เอาจริงๆ ผมว่าไอ้ปีย์คงไม่ยอมให้หนูบัวจ่ายหรอก

ผมเองก็ไม่ยอมแต่ที่ยอมมาด้วยเพราะคนนัดต่างหากหาใช่ของฟรีที่ไหน   จริงๆผมไม่รู้ว่าไอ้ปีย์มันไปทำวีรกรรมอะไรให้หนูบัวต้องขอโทษขอโพย

ด้วยการเลี้ยงข้าว ถามมันก็ไม่บอก มีความลับดีนักเดี๋ยวไม่ช่วยซะเลย  นี่ก็เลื่อนนัดมาจนจะครบเดือนแล้ว  ทันที่ที่เดินมาถึงรถของผม 

น้องมองดูรถด้วยความแปลกใจ  วันนี้ผมเอาPorsche Taycan มาครับ เป็นคันโปรดผมเลย แย่งกับพี่อาร์ตมาได้ 

ดูท่าทางน้องเองก็ชอบรถไม่น้อย



“เล่นรุ่นล่าสุดเลยแฮะ”เสียงน้องพึมพึมเบาๆเหมือนพูดกับตัวเอง ผมเลยได้ยินไม่ถนัด พอเข้าไปในรถได้ว่าจะถามแต่


เสียงโทรศัพท์มือถือน้องก็ดังราวกับต้องการขัดผมซะอย่างนั้น

Rrrrrrrrr

“ไงตัวแสบ โทรมาตามหรือไง  กำลังออกไปครับ “เสียงพูดไพเราะเสนาะหู ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าหนูบัวโทรมา

//.ที่รักเค้าทวงสัญญาหน่อย วันนี้ตัวไปเดตกับพี่โอ๊ตสองคนเลย เค้าจะพาพี่ปีย์ไปโรงฝึกลุงพี .//

“อะไร..อย่ามาเนียน”

.//น้าๆๆๆ ถือว่าเป็นคำขอที่ตัวติดค้างเค้าไง แฟนขอแค่นี้ไม่ได้เหรอคะ ..//


คำว่าแฟนที่เล็ดรอดออกมาจากโทรศัพท์ทำให้ผมหงุดหงิดชอบกล 


“ครับๆ นี่วางแผนไว้ก่อนแล้วใช่ไหมตอบมานะ”

.//ไม่มี๊..วางแผนอะไร ไม่มีสักหน่อย แค่ลุงพีเรียกไปซ้อม เลยจะพาใครบางคนไปแนะนำตัวด้วย คิกคิก //

“เฮ้อ ตัวแสบเอ๊ย อย่าเล่นแรงล่ะ ไม้สงสารพี่เขา ไม่ไม่ได้แนะนำให้บัวรังแกคนอื่นนะ ”

 เสียงถอนหายใจคล้ายๆว่าจะปลงอะไรสักอย่างของน้องไม้ ทำให้ผมเหลือบไปมองเล็กน้อยก่อนจะตั้งใจขับรถและกางหูแอบฟังน้องคุยกับแฟน เหอะ ห่างกันไม่ได้เลยนะ 


.//เค้าจะลองดู ไม้ก็ต้องลองเหมือนกัน พี่โอ๊ตน่ารักนะไม้ แต่บัวก็ยังไม่ไว้ใจเต็มร้อยหรอก  //

“พูดแบบนี้ เรามีเคลียร์กันนะตัวยุ่ง จะซักให้ขาวเลยคอยดู “น้องไม้กดวางสายก่อนจะหันมาหาผมที่ทำเป็นไม่ได้ยิน

ถึงแม้ว่าจะได้ยินเสียงเล็ดลอดมาบ้างแต่ก็จับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ดีครับ

“พี่โอ๊ตครับ”

“ครับ”

“คือหนูบัวต้องรับเข้าโรงฝึกวันนี้ครับ และคงพาพี่ปีย์ไปด้วย  วันนี้คงเหลือแค่เราสองคนที่ต้องไปกินข้าวแล้วล่ะครับ “

ยะฮู้วววววววววว ไม่มีก้างแล้วโว้ยยยทางสะดวก เอ๊ย ไม่ใช่สิ จะดีใจทำไมเนี่ย แต่เดี๋ยว..ก่อน โรงฝึกเหรอ ฝึกอะไร?


“โรงฝึกเหรอครับ?”


“ครับ คือ ..บ้านลุงพีจะเป็นโรงเรียนน่ะครับ เป็นโรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัวและการต่อสู้ครับเลยมีโรงฝึก
บัวต้องไปสอนเด็กๆบางวันน่ะครับสงสัยยัยตัวแสบจะลืมวัน เลยนัดซ้อนพี่ๆน่ะครับต้องขอโทษด้วย เอาเป็นว่า ผมเลี้ยงพี่เองละกันนะครับขอโทษที่ทำให้เสียเวลา “


“หึหึ ได้ครับเอาตามที่น้องไม้สะดวกเลย”

แม้ว่าผมจะดีใจที่ไอ้ปีย์และน้องบัวมาไม่ได้ (ไม่รู้จะดีใจทำไไม) แต่โรงเรียนฝึกศิลปะป้องกันตัวงั้นเหรอ ความรู้ใหม่เลยนะ

แล้วไอ้ปีย์มันรู้หรือยังล่ะหนอ ก็พอจะรู้ว่าข้อมูลที่ไอ้ปีย์หามา ครอบครัวน้องบัวโหดไม่ใช่น้อย แต่ถึงขั้นมีโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้นี่

ผมว่าไม่ธรรมดาแล้วครับ  ขอไว้อาลัยให้เพื่อนรักของผมสักสิบนาที ฮ่าๆๆๆ


“เอางั้นเหรอครับเอ..อืม... พี่โอ๊ตชอบกินอาหารไทยไหมครับ “

“ก็ชอบนะ พี่เป็นคนไทย”ไม่ได้ตั้งใจจะกวนน้องนะครับ พูดจริงๆเลย ผมชอบอาหารไทย แบบไทยแท้ๆ เลย

“งั้นจะเป็นไรไหมถ้าไม้ขอเปลี่ยนแผนนิดหน่อยขอเปลี่ยนจาก Cafe'Blue เป็นร้านอาหารไทยได้ไหมครับ”


“ได้ครับ บัญชามาเลย ครับผม”


น้องไม้หัวเราะเสียงใสมันน่าจับแก้มบิดๆให้หายมันเขี้ยวจริงๆ อ่า..ผมว่าผมชักจะกลัวตัวเองแล้วล่ะครับ

มีผู้ชายที่ไหนเขาอยากบิดแก้มผู้ชายด้วยกันบ้าง แล้วน้องไม้ก็ไม่ใช่ผู้ชายแก้มเยอะเหมือนไอ้โอม แต่ผมก็มองว่าน้องมันน่ารักน่าเอ็นดู

“งั้น พี่โอ๊ตชิดขวาแล้วเทิร์นด้านหน้าเลยครับ”

“รับทราบครับ”ได้รับรอยยิ้มกว้างพร้อมเสียงหัวเราะเป็นรางวัล มีความสุขจริงๆ ต้องพาน้องไปบ้านผมให้ได้สักวันคุณนายคงชอบ
 
เราสองคนแวะร้านอาหารไทยที่น้องไม้บอกว่าอร่อยมากๆ เป็นร้านที่หนูบัวชอบชื่อร้านเรือนไทย   

เฮ้อ มากับผมแต่พูดถึงแต่แฟน ไอ้คนไม่มีแฟนแบบผมมันไม่เข้าใจน่ะครับอะไรจะพูดถึงกันได้ตลอดเวลาขนาดนี้ เซ็ง :onion_asleep:



น้องสั่งเมนูขึ้นชื่อมาสองเมนู ผมสั่งเพิ่มอีกสองอย่าง อาหารสี่อย่างคนสองคน อย่าคิดว่าเยอะครับ แต่น้องไม่บอกว่า


“อย่าพึ่งกินเยอะครับ เดี๋ยวพี่ต้องไปชิมฝีมือคนๆนึง ผมจะบอกว่าอร่อยมาก ที่แวะร้านนี้ก่อนกลัวพี่จะหิว  รองท้องไปก่อนเนอะ”

น้องว่าแบบนั้นผมก็ตามใจครับ วันนี้ไม่ขัดน้องเลยสักอย่าง เราสองคนกินข้าวไปคุยกันไปเรื่อยๆ ส่วนมากก็เรื่องของไอ้ปีย์กับน้องบัว

รู้สึกว่าน้องไม้จะถามเรื่องของปีย์มากกว่าผมล่ะกลัวว่าน้องจะรู้ว่าไอ้ปีย์มันคิดไม่ซื่อกับแฟนน้อง เฮ้อ .เครียด

ใช้เวลาไม่นานเราสองคนก็จัดการอาหารตรงหน้าซะเกลี้ยง จากที่คิดว่าจะรองท้องไหงกลับอิ่มตื้อซะขนาดนี้ 

ผมไม่ได้ทวงเรื่องที่น้องบอกว่าจะพาไปหาคุณทิวไผ่  แต่หลังจากเช็คบิล ที่น้องเป็นคนจ่ายเพราะให้เหตุผลว่าเลี้ยงผมตามเจตนาเดิม

 ผมก็เลยปล่อยให้น้องจ่าย  แต่ผมมีข้อแม้ว่าคราวหน้าผมจะเลี้ยงน้องเอง ซึ่งเจ้าตัวก็เอาแต่หัวเราะราวกับถูกใจนักหนา ไม่รู้มีอะไรให้ขำ


เราออกจากร้านอาหารหลังจากอิ่มหนำสำราญดี  น้องไม้บอกทางให้ผมขับไปเรื่อยๆ

 ผมขับตามคำบอกทางของน้องไม้  ผมไม่รู้ว่าน้องจะพาผมไปไหน เส้นทางที่ไม่คุ้นเคย แต่ผมก็ขับไปเรื่อยๆ จนมาถึงหมู่บ้าน

 ที่ผมต้องขมวดคิ้ว เหมือนจะเคยมาแต่นึกไม่ออก  ผมขับเข้าไปด้านในไม่ไกลเท่าไหร่ก็เจอบ้านหลังใหญ่

เป็นบ้านสไตล์ร่วมสมัยที่ผสมผสานระหว่างบ้านยุคก่อนกับการตกแต่งสมัยใหม่ที่ดูเรียบง่ายแต่หรูหรา

 เป็นบ้านที่รู้สึกว่าเป็นบ้านจริงๆเมื่อผมจอดรถ มีผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังดูสวยอ่อนกว่าวัยรูปร่างเพรียวบางมีรอยยิ้มสวยเหมือนคนที่นั่งข้างๆผมนี่

 ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นแม่น้องไม้ชัวร์พาผมเข้าบ้าน โอ้มายพระ !! ผมไม่ทันตั้งตัวเลยให้ตายเถอะ 

แม้จะรู้อยู่แล้วว่าน้องจะพามาหาคุณทิวไผ่ แต่ผมก็ยังตั้งตัวไม่ทันอยู่ดี

น้องไม้เปิดประตูรถลงไปพร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดสาวสวยที่มีวงหน้าละม้ายคล้ายคลึงกัน


“แม่ครับ นี่พี่โอ๊ต ที่ไม้เล่าให้ฟังไง “เล่าให้ฟัง ? น้องมันเล่าอะไรให้แม่ฟังกันนะ รอยยิ้มของแม่ถึงได้กว้างขนาดนั้น

“สวัสดีครับ “ผมยกมือไหว้พร้อมทั้งยิ้มส่งไปให้เห็นรอยยิ้มแล้วอยากฝากตัวเป็นลูกบ้านนี้ชะมัดเลย

“สวัสดีจ้ะ พี่โอ๊ตได้เจอตัวสักทีนะ “


คุณแม่ของน้องรับไหว้และคำขานรับที่ผมต้องชะงักในความคิด แต่แทนที่จะเดินเข้าบ้านแม่กลับเดินเข้ามากอดผมจนผมสะดุ้งตั้งตัวไม่ทัน
 
“แม่ครับ ไปกอดพี่เค้าได้ไง “

น้องไม้หน้าตาตื่นมาดึงแขนแม่ออกไป แต่คนสวยที่กอดผมอยู่ไม่ยอมปล่อยแถมยังหัวเราะชอบใจ มีแต่ผมที่ยืนเกร็งเพราะไม่รู้จะทำยังไง

มือไม้มันเกะกะ จะกอดตอบหรือก็ไม่แน่ใจว่าควรหรือเปล่าจะผลักไสก็ใช่เรื่อง ผมเลยได้แต่ยกมือเกาจมูกด้วยความเคยชินเวลาทำอะไรไม่ถูก

“อะแฮ่ม...ปล่อยเลยครับแม่นุ่นเดี๋ยวนี้พาชู้เข้าบ้านต่อหน้าผมเลยเหรอครับ”

เสียงทุ้มดังขึ้นตรงประตูบ้านเล่นเอาผมสะดุ้งโหยงสุดตัว ผู้ชายตัวสูงใหญ่ ในชุดกางเกงขาสั้นสีครีมกับเสื้อยืดสีขาวพอดีตัว

 ทำเสียงเข้มใส่ผม แต่ใบหน้านั้น โอ้..มายพระ!!!  น้องไม้เวอร์ชั่นกัปตันอเมริกาครับ หน้าสวยก๊อปปี้กันมาเลยต่างแค่ร่างกายเท่านั้น

คุณทิวไผ่ที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าผมแถมกล้ามแขนที่โผล่พ้นเสื้อยืดแขนสั้นมานั้นทำผมรู้สึกสยองๆยังไงไม่รู้

 “เอ่อ..สวัสดีครับ”ผมรีบยกมือไหว้คุณทิวไผ่ พ่อน้องไม้ทั้งๆที่ยังโดนคุณแม่กอดไม่ปล่อย

“พ่อครับแม่ครับ เลิกแกล้งพี่เค้าได้แล้ว ไม้หิว เข้าบ้านๆ พี่โอ๊ตมาทางนี้ดีกว่าครับ”

น้องไม้ช่วยชีวิตผมโดยแท้ น้องมาดึงเอามือผมแล้วลากเข้าบ้านต่อหน้าต่อตาของพ่อกับแม่ น้องครับ มือๆ มื๊ออออออ


 สายตาผมจ้องที่มือน้องที่ยังจับมือผมเอาไว้แล้วลากเข้าบ้านด้วยความรู้สึกแปลกๆ โอยผมหัวใจจะวาย สายตาคุณทิวไผ่ที่มองมา

เหมือนจะเขมือบหัวผมเลยเพราะน้องมันเล่นจับมือผมลากจูงเข้าบ้านแบบนี้ มีเพียงแม่น้องไม้ที่ หัวเราะคิกคักเหมือนอารมณ์ดี 



 “พาพี่เขาไปห้องทีวีเลยลูก “

“ครับๆ”น้องไม้รับคำกับเสียงตะโกนไล่หลังมาของแม่

ด้านนอกว่าบ้านสวยแล้ว ด้านในนี่สวยมากจนผมอดที่จะมอมงรอบๆไม่ได้ ถ้าไอ้ต่ายมาเห็นมันต้องชอบบ้านหลังนี้มากๆแน่เลย

ไอ้ต่ายมันชอบออกแบบบ้าน มันรับจ็อปเรื่อยๆได้เงินมากโขเลยทีเดียว บ้านที่มันออกแบบก็แนวๆนี้เลยครับ แนวร่วมสมัยที่มันชอบ


“กินอะไรกันมาหรือยังคะลูก  เดี๋ยวรอแม่แป๊บนึงนะ พ่อไผ่มาช่วยแม่นุ่นเลยค่ะ ให้เด็กๆเขาคุยกันไป”

“กินมาแล้วครับแม่ แต่มื้อเย็นฝากแม่แสดงฝีมือด้วยนะครับ “


เพราะตอนนี้มันบ่ายแล้วครับ น้องไม้เลยบอกไปแบบนั้นซึ่งผมเห็นด้วยเพราะตอนนี้ท้องผมยังแน่นอยู่เลย 

แม่น้องไม้รับคำแล้วจูงมือคุณทิวไผ่ออกไปจากห้อง


สองสามีภรรยาเดินเคียงคู่กันออกไปแล้วคงเหลือแค่ผมกับน้องที่นั่งดูทีวีเหมือนไม่มีอะไรทำ    ผมมองสำรวจบ้านที่ตกแต่งเรียบๆแต่ดูหรูหรา

“พีโอ๊ตไปหลังบ้านกันดีกว่าครับผมมีเพื่อนอยากแนะนำให้รู้จัก  “

น้องไม้ลุกเดินนำผมออกไปทางประตูหลังบ้าน  แค่เพียงเปิดประตูออกสู่สนามหญ้าหลังบ้าน เราสองคนก็ถูกจู่โจมทันที

“มาลี !! มาร์ค !! พอเลยอย่าเลีย โอ๊ยยยฮ่าๆ “ เสียงหัวเราะทั้งยังทิ้งตัวลงไปคลุกกับพื้นหญ้าโดยมีเจ้าตัวสีส้มสองตัวคลุกวงในไม่หยุด


“พอๆ นั่งๆ พี่ไม้มีแขกครับ เห็นไหมนั่งเลยๆ”

เหมือนคนกับหมาจะคุยกันรู้เรื่อง โกลด์เด้นสองตัวนั่งลงข้างๆน้องไม้หน้ามันทั้งคู่เหมือนส่งยิ้มมาให้ผม

 เจ้าตัวยักษ์ใจดีขี้เล่นสองตัวนั่งนิ่งได้เพียงครู่เดียวก็กระโจนเข้าหาผม


“เฮ้ย!!”

“ฮ่าๆๆ”


เสียงหัวเราะของน้องไม้ที่เห็นผมเพลี่ยงพล้ำให้เจ้าสีส้มสองตัว เหมือนจะรู้สึกสะใจที่เห็นผมลงไปคลุกกับพื้นหญ้าเหมือนเขา

เราเล่นกันสักพัก ก็นอนแผ่หลาบนผืนหญ้า เงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีแมกไม้ปกคลุมให้ร่มเงา  อากาศไม่ร้อนอย่างที่คิด

คงเพราะต้นไม้นานาพันธุ์ที่ปลูกเรียงรายรอบๆสนามหญ้า เราสองคนนอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน

มีเจ้าตัวสีส้มสองตัวนอนขนาบเราทั้งคู่ แถมพวกมันยังเอาหัวเกยที่ท้องของผมกับน้องไม้อย่างสบายใจ

ผมยกมือลูบหัวเจ้าตัวโตเมื่อเห็นน้องไม้ทำ  น้องโกลด์เด้นหลับตาพริ้มราวกับกำลังมีความสุขเสียเหลือเกิน


“เจ้าตัวที่นอนทับพี่อยู่เป็นสุดหล่อชื่อมาร์ค ส่วนตัวนี้สาวสวยชื่อมาลี “ผมหัวเราะเบาๆกับชื่อที่ต่างกันราวฟ้ากับเหวของเจ้าสี่ขา

“ใครเป็นคนตั้งชื่อเนี่ย”

“พี่ทายสิครับ”

“อืม...มาลีนี่ ไม้ตั้งแน่ๆ ส่วนมาร์ค คุณพ่อตั้งใช่ไหม”ผมเดาจากบุคลิกครับ

“เก่งๆ “น้องมันหัวเราะเบาๆเมื่อผมตอบออกไป

“แต่ ..ถูกครึ่งเดียวครับ มาลีน่ะผมตั้งชื่อเอง ใช่  แต่มาร์คน่ะไม่ใช่พ่อผมหรอกครับ  เจ้าหนูบัวตัวแสบเลยครับ ขานั้นเป็นติ่ง Got 7 ชอบพี่มาร์คมากเลยเอาชื่อมาตั้งให้หมา ฮ่าๆๆ ผมล่ะสงสารมาร์คมากเลยนะ  หึหึ “


ดูเหมือนสองคนจะมีสตอรี่ร่วมกันมายาวนาน  จนผมชักจะอิจฉา ซะแล้วสิ


“พี่โอ๊ตครับ “จู่ๆน้องมันก็เงียบไป ทำให้ผมที่นอนหงายมองท้องฟ้าอยู่ต้องหันหน้ามามองน้องที่นอนอยู่ข้างๆ

พอผมขยับตัวไอ้ตัวส้มก็หรี่ตาข้างหนึ่งขึ้นมองผมจนผมต้องตบหัวมันเบาๆ


“ว่าไงครับ”

“พี่กับเพื่อนๆ เป็นเพื่อนกันมานานหรือยังครับเล่าให้ผมฟังมั่งสิ”

“อืม..กับปีย์น่ะ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆเลยครับ  ส่วนไอ้นายกับไอ้ต่ายมารู้จักกันตอนเรียนมัธยมแต่ไอ้เตี้ยโอมนี่พึ่งจะรู้จักกันตอนเข้าเรียนปีหนึ่ง อยากฟังวีรกรรมพวกมันไหมล่ะ “


“ฮะๆ ดีจังเลยนะครับ ผมน่ะ เคยมีเพื่อนแบบพี่ๆเหมือนกันแต่มันก็...ช่างเถอะ ผมน่ะดีใจที่ได้รู้จักพวกพี่ๆนะ เหมือนผมพึ่งจะมีเพื่อนตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเลย เจ้าบัวตัวยุ่งต้องติดแหง็กกับผมมานานมากคงถึงแวลาปล่อยมันสักที”


คำพูดที่ฟังดูแปลกๆ น้ำเสียงเศร้าๆ  สายตาที่เหม่อมองไปที่ท้องฟ้ากว้างข้างบนนั่นเหมือนน้องกำลังทุกข์ใจ

 และท่าทางอยากจะเล่าอะไรบางอย่างของน้องแต่ตัดฉับเปลี่ยนเรื่องทำให้ผมต้องเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ

 คงต้องให้เวลาอีกสักพัก กว่าน้องจะเล่าอะไรให้ผมฟัง แต่ผมกลับอยากเล่าทุกเรื่องให้น้องฟังนะ

 ผมว่าถ้าผมเปิดรับน้องเข้ามาในกลุ่มของพวกผมก็ต้องเล่าเรื่องราวของตัวผมให้น้องได้รู้จักบ้าง

อย่างน้อย เรื่องที่ผมเล่าคงทำให้น้องยิ้มมากกว่าจะทำหน้าเศร้าๆแบบนั้นผมไม่ชอบเลย  แม้ว่าเราจะสนิทกันแบบงงๆ

แต่ผมก็รู้สึกเอ็นดูน้องชายต่างสายเลือดคนนี้พอสมควร    ผมเล่าเรื่องที่เจอกับไอ้โอมครั้งแรกให้น้องฟัง

 เสียงหัวเราะ ดังเป็นระยะๆ เจ้าสี่ขาสีส้มสองตัวลุกออกไปวิ่งเล่นกับสปริงเกอร์ที่ฉีดน้ำอยู่อีกมุมของสนามหญ้า   

ผมเล่าไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่า น้องเงียบไปไม่โต้ตอบผมเหมือนเดิมจนผมต้องชะโงกหน้าไปมอง    หึหึ หลับไปได้ยังไง นะ น่ารักจริงๆให้ตายเถอะ


“ชู่ว์ “เสียงจุ๊ปากเบาๆดังขึ้นเมื่อผมลุกขึ้นนั่ง พ่อน้องไม้มายืนอยู่ข้างหลังผมตอนไหนไม่รู้ 

ร่างสูงใหญ่ก้มลงช้อนเอาตัวลูกชายไว้ในอ้อมแขนท่าทางอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความอบอุ่น

ที่ปฏิบัติกับลูกชายที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เหมือนเด็กชายตัวน้อยวัยอนุบาลผมอมยิ้มกับภาพนั้น 



“หลับทิ้งแขกได้ยังไงนะเจ้าลูกชาย”เสียงคุณแม่นุ่นที่เดินตามมาเอ่ยเบาๆ

“พี่โอ๊ตเข้าบ้านกันค่ะ ให้น้องไม้นอนพักสักหน่อยดีกว่าเนอะ พี่โอ๊ตไม่รีบไปไหนใช่ไหมคะ”

“ไม่รีบครับ “

“ถ้าอย่างนั้น ไปนั่งตรงนู้นกัน แม่มีผลไม้กับของว่างระหว่างรอเจ้าลูกหมูตื่น “


ผมเดินตามคุณแม่ของน้องเข้ามาที่ห้องเดิม  ด้านข้างมีโซฟาเบดตัวใหญ่ที่คุณทิวไผ่คงกางรอลูกชาย

 เขาวางน้องไม้ลงเบาๆก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟาตรงข้ามกับผมและคุณแม่
 
ห้องนี้เป็นกึ่งๆห้องรับประทานอาหารและห้องบันเทิง  ทีวีจอยักษ์ที่ติดอยู่ผนังบ้านในแบบบิวท์อิน 

เสียงเพลงบรรเลงเบาๆบรรยากาศเหมือนอยู่ในร้านอาหารมากกว่าอยู่บ้าน แต่ผมก็ยังคงเกร็งเพราะสายตาที่จ้องมาของคุณทิวไผ่


“เรียนอะไรอยู่น่ะเรา”ผู้ใหญ่ที่คงกลัวผมเกร็งจนตัวแข็งเป็นฝ่ายเริ่มชวนพูดคุยเสียก่อน

“วิศวะครับ ปีสามแล้วครับ”

“จบแล้วคิดจะไปทำอะไร”

“ก็วางแผนไว้ว่าจะช่วยพ่อทำงานน่ะครับ”

“ที่บ้านมีธุระกิจเองเหรอ”

“ครับ “

“พ่ออย่าทำเสียงแข็งแบบนั้นสิพี่โอ๊ตตกใจหมด “คุณแม่นุ่นหันมายิ้มกับผม ราวกับว่าจะปลอบใจที่ผมนั่งตัวเกร็งเหมือนโดนสอบสวน


“นานแล้วนะที่พ่อกับแม่ไม่ได้เห็นไม้หัวเราะเต็มเสียงแบบนี้กับเพื่อนผู้ชาย  ขอบใจพี่โอ๊ตนะคะ  ที่เข้ามาเป็นเพื่อนกับน้อง “

ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ ท่าทางแปลกๆกันทั้งบ้านทำให้ผมแอบสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะกลั้นใจเอ่ยประโยคที่คาใจของผมออกไป

“บอกผมได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้อง”พ่อน้องไม้จ้องหน้าผมเขม็งต่างจากคุณแม่ที่ยังส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้

“พี่โอ๊ตพอจะมีเวลาฟังสักหน่อยไหมล่ะคะ ระหว่างรอเจ้าลูกหมูตื่น”


“ครับ”


ผมรับคำเสียงหนักแน่น ผมต้องรู้ให้ได้ว่าเพราะอะไรน้องไม้ถึงได้มีสีหน้าเศร้าสร้อยขนาดนั้น

ผมอยากเห็นรอยยิ้มของน้อง อยากเห็นน้องมีความสุขมากกว่าท่าทางเป็นทุกข์แบบนั้น มันไม่เหมาะกับน้องเอาเสียเลย 

.
.
.
.
TBC....

 อิพี่ยังไม่รู้ตัวว่าทั้งหวงทั้งห่วงน้องมากกว่าสถานะ ที่อยากได้น้องไป อยากจะแหมมมมมยา่วไปจนรถึงดาวอังคาร 55555


ส่วนน้องก็มีปมเล็กๆ แต่ดูท่าทางพ่อกับแม่แล้ว พี่โอ๊ตว่าปมนั้นคงไม่เล็กแน่ๆเลย

น้องไม้เป็นลูกคนเดียว และปมของน้องทำให้พ่อกับแม่ค่อนข้างทนุถนอมน้องมากกว่าปรกติ  แต่ภาพลักษ์น้องไม้นี่ก็เหมือนผู้ชายแมนๆ ที่ค่อนข้างสำอางค์อ่ะนะ 555

ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและเม้นท์ให้กำลังใจเนอะ  เจอคำผิดสะกิดพันวาด้วยนะค๊าาาาาา


 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:


หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 9 เข้าทางผู้ใหญ่ ( 5/7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 06-07-2018 12:30:50
เพิ่งเห็นว่ามีตอนใหม่ ติดตามนะคะ รอ น้องไม้ใจอ่อนน
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 9 เข้าทางผู้ใหญ่ ( 5/7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-07-2018 13:40:37
ยกมืออยากรู้อดีตน้องไม้ด้วยจังเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 9 เข้าทางผู้ใหญ่ ( 5/7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-07-2018 06:19:59
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 9 เข้าทางผู้ใหญ่ ( 5/7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 07-07-2018 08:09:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 9 เข้าทางผู้ใหญ่ ( 5/7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: lcortsess ที่ 08-07-2018 14:02:46
 อดีตไม้เป็นยังไงน้ออออออออ
งื้ออออออออ
รออออออออ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 9 เข้าทางผู้ใหญ่ ( 5/7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-07-2018 00:32:49
 :pig4: :pig4: :pig4:

ปมในใจนี่คงเกี่ยวกับเพื่อนวัยเด็กหรือวัยรุ่นหว่า

แล้วก็อาจจะเป็นแบบเพื่อนที่คิดเกินเพื่อนจนเกิดปัญหาแบบเลือดตกยางออกมั้ง

ป.ล. อย่าถือสา  มโนล้วน ๆ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 10 ผูกมิตร ( 14 /7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 14-07-2018 12:55:51
แผนที่ 10   ผูกมิตร



วนันต์


ผมรู้สึกโล่งไปหมดทั้งหัว สมองสดชื่นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คงเพราะได้หลับแบบเต็มอิ่ม ผมมองไปทั่วห้องที่มีแสงไฟ สลัวๆ

ทีวีไม่ได้ถูกเปิดแต่ม่านบังแสงถูกดึงลงมาทั้งห้อง คงกันแสงรบกวนตอนผมหลับ  ความเงียบภายในห้องนั่งเล่นทำให้ผมลุกขึ้นนั่ง 

พ่ออุ้มมานอนแน่ๆเลย  ทำเหมือนผมเป็นเด็กชายตัวน้อยเมื่อครั้งยังเด็ก อันที่จริงผมไม่ใช่คนตัวเล็กนะครับ

สูง 177 เซ็นติเมตร น้ำหนัก 68  กิโลกรรม ผมไม่ได้อ้วนครับแต่มีกล้ามเนื้อจากการเล่นกีฬา

 เพราะแบบนี้ผมไม่ได้ตัวเบาๆนะครับ แต่พ่อผมน่ะ ตัวใหญ่มากต่างหาก นี่เป็นข้อที่ผมอิจฉากระทั่งพ่อตัวเอง 



บ่อยครั้งที่ผมหลับนอกห้องนอนแล้วตื่นขึ้นมาในห้องนอนตัวเอง บอกได้เลยพ่ออุ้มผมมา ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน

แต่ที่ต่างออกไปคือผมนอนโซฟาเบดตัวใหญ่ในห้องนั่งเล่นไม่ใช่ห้องนอนอย่างที่เคย   

ผมลุกเดินตรงไปห้องรับแขกอีกห้องที่เอาไว้ต้อนรับคนมาเยือน  ดูเหมือนพ่อแม่จะมีลูกชายคนใหม่ ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้

 เพราะพี่โอ๊ตแลดูเป็นเหมือนพี่ชาย เหมือนคนที่เป็นผู้ชายที่เข้มแข็ง และแข็งแรง รอยยิ้มน้อยๆ ที่ถูกส่งให้ทั้งพ่อและแม่ดูละมุนตา 

พี่เขามีเสน่ห์อย่างหาตัวจับยาก หล่อด้วยนิสัยดีอีก โอ๊ยนี่ผมจะมาบรรยายความดีพี่เขาทำไมกันนะ  คงเป็นเพราะความสบายใจ

เวลาอยู่กับพี่โอ๊ต  ทำให้ผมไม่ต้องกังวลว่าเหตุการณ์พวกนั้นมันจะกลับมา



“อ้าวตื่นแล้วเหรอลูก ดูซิมาหลับทิ้งพี่เขาได้ยังไง น่าตีจริงๆเลย”แม่เอ็ดผมแบบไม่จริงจังนัก แต่ผมก็ทำได้เพียงหัวเราะแห้งๆอย่างสำนึกผิดจริงๆ

“แหม ไม้เปิดโอกาสให้พี่โอ๊ตคุยกับพ่อเถอะ  “แถไปครับ ก็มันเขินนี่อยู่ดีๆหลับกลางอากาศเลย

แม่หัวเราะคิกคักอารมณ์ดี พ่อได้แต่กระแอม เหมือนมีอะไรติดคอ  เขินล่ะสิ หึหึ มีแฟนคลับมาหาถึงบ้าน

พี่โอ๊ตก็เอาแต่ยิ้ม แต่ว่านะ สายตาพี่มันแปลกๆไม่รู้สิครับ ผมรู้สึกว่าพี่เขามองผมแปลกไป  มันดูอ่อนโยนแปลกๆ
 
“ขอโทษครับ เมื่อคืนคงนอนดึก  เผลอหลับไม่รู้ตัวเลย”

ผมยกมือเกาหลังคอแก้เก้อ รู้ดีว่านั่นคือข้ออ้าง ที่จริง คงเพราะความสบายใจที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว จึงทำให้ผมเผลอหลับไปแบบนั้น

 ผมอยู่กับพี่โอ๊ตแบบไม่ต้องระวังอะไร ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ใครเจ็บปวดหรือทำใครเสียใจอีก 


“อืม ไม้ต้องเลี้ยงข้าวไถ่โทษนะ..และต้องเป็นฝีมือไม้ด้วย  “

ท่าทางขี้เล่นของพี่โอ๊ตผมไม่ชินเอาเสียเลย ดูท่าพ่อกับแม่จะเข้าข้างพี่โอ๊ตเสียด้วย เพราะทันทีที่พี่มันพูดแบบนั้น

ทั้งพ่อและแม่ก็พร้อมใจกันพยักหน้ารัวๆ เลย



“ไหงเป็นงั้นล่ะครับ นี่ผมพาพี่มาหาไอดอลเลยนะ ทั้งถ่ายรูปคู่ทั้งได้ลายเซ็น ยิ่งกว่าแฟนมีตอีก นี่มันพิเศษสุดๆเลยน๊า”

ผมว่ากลั้วเสียงหัวเราะ เพราะพี่โอ๊ตทำหน้าเขินๆเมื่อผมจับถูกจุด หึหึ พี่เขาก็น่ารักดีนะครับมีมุมแบบนี้ด้วย


“ไปแซวพี่เขา ดูสิ  เดี๋ยวแม่ไปทำมื้อเย็นก่อนนะ วันนี้พี่โอ๊ตคงต้องกินฝีมือแม่ไปก่อนนะคะ  ไม้ไปอาบน้ำเจ้าสองแสบให้ก่อนเลยครับ ก่อนจะค่ำ “

แม่บอกผมพลางชี้ไปที่เจ้าสองแสบที่เล่นโคลนจนเลอะเทอะไปทั้งตัว

“โหยยยยย  “ผมโอดครวญทันทีที่มองเห็นสภาพเจ้าเพื่อนซี้สองตัวของผม

“เดี๋ยวพี่ช่วย”รอยยิ้มอ่อนโยนของพี่โอ๊ตที่มองดูเจ้าสองตัวนั่นทำผมสะดุดลมหายใจ  ไปชั่วครู่ อย่ามาแย่งเพื่อนผมนะ

  นั่นเป็นความคิดแว่บแรกที่เห็นเจ้าสี่ขาสองตัวแกว่งหางใส่พี่โอ๊ตราวกับจะกระโจนเข้าหาชวนไปเล่นด้วย

 โดนหมาเมินล่ะ เจอเพื่อนใหม่ล่ะแกว่งหางให้เขาเลยนะ เฮ้อ..


“ทำหน้าแบบนั้นเหมือนเจ้ามาร์คเลย หึหึ”


มือหนาที่ตบปุๆลงบนหัวผมทำให้ผมยิ้มกว้าง อือ..รู้สึกดีแฮะ

“ถ้าจะช่วยผม พี่โอ๊ตต้องไปเปลี่ยนชุดก่อนครับ ชุดนี้อาบน้ำเจ้าสองตัวนี้ไม่ได้หรอกเยินหมดแน่ๆ  “

ผมมองดูสภาพเจ้าสองแสบของผมที่มีแต่โคลนเต็มตัว  และด้วยนิสัยชอบเล่นน้ำของพวกมันแน่นอนว่าพี่โอ๊ตต้องเปียกแบบไม่เหลือดีแน่ๆ


ผมเอาเสื้อยืดและกางเกงวอร์มขาสั้น ของผมให้พี่โอ๊ตเปลี่ยน แม้ว่าพี่เขาจะตัวโตกว่าผม แต่เพราะผมชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ๆอยู่แล้ว

 เสื้อผ้าของผมจึงไม่เป็นปัญหาของพี่โอ๊ต แค่แลดูพอดีตัวนิดหน่อย   เจ้าสองแสบวิ่งรี่เข้าหาทันที่ที่พวกผมจับสายยาง

และลากกะละมังใบใหญ่ไซส์พิเศษที่เป็นสระน้ำขนาดย่อมของเจ้าสองแสบที่ชอบลงแช่ ยังไม่ทันที่จะใส่น้ำมาลีก็เข้าไปนั่งรอในกะละมังแล้ว

มีมาร์ควิ่งวนรอบอ่างราวกับจะประท้วง ว่ามาลีไม่รอ  พี่โอ๊ตยืนหัวเราะท่าทีของเจ้าตัวส้มสองตัวที่เตรียมพร้อมจะเล่นน้ำ 



กว่าจะช่วยกันปล้ำเจ้าสองตัวสำเร็จ ดวงอาทิตย์ก็เริ่มจะลับขอบฟ้า  พ่อช่วยลากมาร์คไปเป่าขน ส่วนมาลีก็มีพี่โอ๊ตช่วยเป่า
 
“พี่อยากเลี้ยงบ้างจัง แต่พี่อาร์ตไม่ให้เลี้ยง”จำได้ว่าพี่เขามีพี่ชายนี่นา  ดีจังน้ามีพี่มีน้องเนี่ย  พ่อกับแม่ไม่เห็นมีน้องให้ผมเลย
 
“อ้าวทำไมล่ะครับ  “

“พี่อาร์ตเคยเลี้ยงคอร์กี้น่ะ ตอนที่พี่ยังเป็นเด็ก  มันป่วยตาย  พี่อาร์ตกับพี่ ทอย กอดกันร้องไห้อยู่สามวันสามคืน  จนพี่ทอยเพื่อนรักพี่อาร์ตน่ะ ผันตัวเองจากที่จะเรียนหมอรักษาคนไปเรียนหมอรักษาสัตว์แทน   “

ผมนั่งฟังพี่โอ๊ตเล่าเรื่องพี่ชายและเพื่อนรักด้วยความสนใจ  อย่างที่บอก ผมลูกคนเดียว และไม่มีเพื่อนผู้ชายเลยตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น 

“เฮ้อ”ผมเผลอถอนหายใจจนพี่โอ๊ตชะงักแล้วหันมามองผม


“เป็นอะไรเบื่อเรื่องเล่าของพี่เหรอ ”

“ปล่าวครับ อิจฉาพวกพี่จัง มีเพื่อนที่วิ่งตามฝันด้วยกันมันต้องดีมากแน่ๆเลย ..แต่ผม..”

มือหนาๆวางปุลงบนหัวผมจนต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง แววตาพี่โอ๊ตที่มองมาทำให้ผมต้องยิ้มส่งไปให้


“  ตอนนี้ไม้ก็มีพี่ไง พวกไอ้ปีย์ด้วยนะ ว่างๆก็แวะไปหาพวกพี่ได้เลย เดี๋ยววันไหนไม่มีเรียนหรือว่างตรงกันจะพาไปหาพี่อาร์ตที่บ้าน”

“หืมม์  ไปบ้านพี่โอ๊ตเหรอครับ ?”

“ครับ พี่มีแวนคันใหญ่ มารับมาร์คกับมาลีไปเที่ยวที่บ้านได้นะ พี่ทอยต้องหลงรักเจ้าสองตัวนี้แน่ๆ “

“ชักอยากรู้จักพี่ๆของพี่โอ๊ตแล้วสิ ท่าทางใจดีกันทั้งบ้านเนอะ “ผมส่งยิ้มกว้างไปให้ด้วยความดีใจ  ได้รู้จักพี่โอ๊ตนี่ดีจริงๆด้วย

“แฮ่ม...พี่ใจดีที่สุดนะ”เสียงพึมพำไม่ได้ศัพท์บวกกับเสียงไดร์เป่าขน ทำให้ผมต้องถามซ้ำ

“พี่โอ๊ตว่าอะไรนะครับ “

“ปล่าว ไม่มีอะไร”พี่โอ๊ตยื่นไดร์คืนผมเมื่อมาลีเริ่มนอนกลิ้งไปมาที่พื้นพรม ใกล้ๆ

“ตัวแห้งแล้ว  ค่ำแล้วด้วย พาพี่โอ๊ตไปอาบน้ำดีกว่าลูก เดี๋ยวค่อยลงมาทานมื้อค่ำ”เสียงแม่ดังขึ้นเมื่อพ่อจูงมาร์คกับมาลีออกไป

“ งั้นตามผมมาทางนี้เลยครับ  “

ผมพาพี่โอ๊ตไปที่ห้องของผมที่ไม่เคยรับแขกคนไหน นอกจากเจ้าหนูบัว ที่เคยเข้ามาตอนเด็กๆ พอโตขึ้นพ่อกับแม่บอกว่าไม่เหมาะเท่าไหร่

ที่ผู้หญิงจะเข้าห้องนอนผู้ชาย ห้องของผมเลยไม่มีใครมาเยี่ยมอีกเลย  พี่โอ๊ตนั่งลงที่โต๊ะอ่านหนังสือข้างเตียง

รอผมหาผ้าหาชุดให้อาบน้ำ  อันที่จริง พี่โอ๊ตมีมุมที่ผมนึกไม่ถึงอยู่เยอะ


พี่โอ๊ตที่ผมรู้จักผ่านสิ่งที่ได้ยินมา คือ เป็นคนเงียบๆ หน้านิ่งโลกส่วนตัวสูงแบบไม่สนใจใคร  จนได้ฉายาเจ้าชายน้ำแข็ง

 เพราะออร่าความเย็นชารอบๆตัวพี่โอ๊ตมันมีมากจนคนทั่วไปไม่กล้าเข้าหา  แต่เพราะพี่เขามีเพื่อนสนิทอีก สี่คน เลยยังพอดูมีความเป็นคนธรรมดาอยู่บ้าง


แต่ถึงอย่างนั้นกิตติศัพท์ความเข้าถึงตัวยากของพี่โอ๊ตเดือนวิศวะปีสาม ก็ยังเลื่องลือ แต่พี่โอ๊ตคนนี้ที่อยู่กับผมคนนี้เป็นคนยิ้มง่าย แววตาอ่อนโยน

 พูดเก่งด้วยพี่โอ๊ตเล่าเรื่องนุ่นนี่ให้ฟังไม่เบื่อเลย โดยเฉพาะเรื่องเพื่อนๆหรือเรื่องพี่ชายกับเพื่อนสนิทของพี่ชาย 

ขนาดผมยังไม่เคยเจอพี่ชายของพี่โอ๊ตผมยังรู้สึกได้ว่าพี่อาร์ตกับพี่ทอยต้องใจดีมากๆแน่เลย 


“ไม้”เสียงเรียกทำให้ผมสะดุ้งเพราะมัวแต่ใจลอยคิดไกล

“ครับพี่ “

“พี่รู้สึกว่าชุดมันเล็กไปหน่อย”

“อุ๊ป ฮ่าๆๆ “ก็จะไม่ให้ขำได้ไงครับ พี่โอ๊ตที่อาบน้ำเรียบร้อย อยู่ในชุดลำลองของผมที่เป็นกางเกงขายาวเนื้อนิ่ม

และเสื้อยืดตัวที่ผมคิดว่ามันใหญ่พอสำหรับพี่โอ๊ต มันรัดจนเหมือนพี่โอ๊ตเป็นแหนมมัด


“ยังจะขำนะคนเรา มีตัวอื่นไหมครับ ขนาดเท่าตัวที่ใส่อาบน้ำให้มาร์คกับมาลีก็ได้ “

“อ่า...ถ้าใหญ่มีแต่ชุดนอนครับ งั้นใส่ชุดนอนเลยเนอะ พี่โอ๊ตก็นอนที่นี่เลยละกัน  ไหนๆก็ไหนๆละ พรุ่งนี้พี่มีเรียนไหมครับ “

“มีบ่ายครับ ค้างได้”จะตอบไวเกินไปละพี่

“โอเคงั้นพี่โอ๊ตใส่ชุดนี้ เดี๋ยวผมอาบน้ำก่อน “

ผมว่าพลางเดินไปหยิบชุดนอนที่ผมจะใส่ให้พี่โอ๊ตก่อน เดี๋ยวผมค่อยหาใหม่  ผมเดินเข้าห้องน้ำ พร้อมผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่

ปรกติผมอยู่คนเดียวจะเอาแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเข้าห้องน้ำ เดินโทงๆมันทั้งอย่างนั้นแหละครับก็อยู่คนเดียวนี่นาในห้องส่วนตัว 

แต่คราวนี้มีพี่โอ๊ตอยู่ด้วยคงต้องนุ่งผ้าเช็ดตัวบ้างเดี๋ยวพี่เค้าช็อกฮ่าๆ


ผมอาบน้ำแบบเร่งรีบเพราะเกรงใจกลัวพ่อกับแม่รอกินข้าวอีกอย่างมีพี่โอ๊ตด้วยให้แขกรอไม่ดี  ทันที่ที่ออกมาเจอพี่โอ๊ตนั่งรอบนเตียง

“........”

“ฮ่าๆๆๆ”

“ขำเข้าไป”

“โอ๊ยยพี่ น่ารักฮ่าๆๆ”

ก็จะไม่ให้ผมขำได้ไงครับ ชุดนอนผมมันเป็นเสื้อเชิ้ตลายผึ้งน้อยที่ยัยบัวซื้อมาบังคับใส่  ผมน่ะใส่จนชิน เลยไม่คิดอะไร

แต่พอมันอยู่บนตัวพี่โอ๊ต คือแบบผู้ชายตัวโตร่างใหญ่ ใส่เสื้อสีเหลืองลายผึ้งน้อยทั้งเสื้อและกางเกง มันดูมุ้งมิ้งมากครับ โอยยยยไม่ไหว ขำจนปวดท้อง


“ไม่มีชุดอื่นแล้วเหรอครับ พี่อายพ่อกับแม่”เหมือนพี่โอ๊ตจะอ้อนแฮะ เสียงอ่อยๆแบบนี้อ่า..รู้สึกวูบๆที่หน้าแฮะ 


“น่ารักจะตาย เดี๋ยวผมใส่เป็นเพื่อน ลายผึ้งน้อยถือว่าเบาสุดนะพี่ ยัยหนูบัวตัวแสบบังคับซื้อให้ผมใส่หรือพี่จะเอาลายคิตตี้ล่ะ ฮ่าๆๆ  “

ผมหันหลังให้พี่โอ๊ตเดินไปเลือกชุดที่ตู้เสื้อผ้า  หยิบเอาชุดลายคิตตี้กับลูกเป็ดสีเหลืองมายื่นให้พี่โอ๊ตเลือกอีกที

“อ่ะเลือกเลยครับ สามชุดนี้เบาสุดแล้วพี่ ”


“ไม่ต่างกันเลย..เฮ้อ เอาเถอะ ใส่ได้ครับ ไม้รีบใส่เสื้อผ้าเลย เดี๋ยวพ่อกับแม่จะรอกินข้าวนะ”

“ครับๆ รีบแล้วครับ ใครเป็นเจ้าของบ้านเนี่ย”ผมเย้าพี่โอ๊ตพร้อมกับหัวเราะเบาๆเมื่อมองดูชุดคิตตี้ หึหึถ้าพี่เขาใส่คิตตี้จะเป็นยังไงนะ 

เหมือนว่าพี่เขาจะทำใจกับชุดผึ้งน้อย ได้แล้ว  ผมเปลี่ยนชุดเสร็จพี่โอ๊ตหันมามองพร้อมกับยิ้มให้

“น่ารักนะเราน่ะ น้องเป็ด“

“เห..สู้พี่ไม่ได้หรอกครับพี่ผึ้งน้อย ฮ่าๆ”โอยขำพี่..หน้างอได้อีก

พี่โอ๊ตยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปผมแบบตั้งตัวไม่ทันครับ หัวเราะค้างเลย

“เฮ้ยๆ พี่ไม่เอา อย่าเอาไปให้ใครดูนะ พี่อ่ะ อายเค้า ลบเลยๆ“ผมรีบพุ่งเข้าไปแย่งมือถือพี่โอ๊ตที่ทำหน่ายิ้มกริ่มมีชัยขนาดนั้น

"ไม่ลบ น่ารักจะตาย พี่ไม่ให้ใครดูหรอกน่า”

“ไม่เชื่อๆลบเลยครับ นะๆอายจริงๆเนี่ย”

“งั้นมาถ่ายรูปคู่มา จะได้อายคู่....ฮ่าๆๆๆ ”

พี่โอ๊ตว่าพลางคว้าเอาแขนผมดึงลงไปนั่งที่เตียงด้วย  แต่แรงดึงคงมากไปนิดทำให้เราทั้งคู่หงายหลังลงบนที่นอน

ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ล้มลงไปทับอกพี่โอ๊ตเต็มๆ กำลังจะขยับออกแต่พี่มันกอดคอไว้แน่นทั้งยังหัวเราะเสียงดัง ที่แกล้งผมได้

 
“เป็นภาพเซลฟี่ที่น่าอายที่สุดในโลกเลย พี่โอ๊ตห้ามให้ไอ้หนูบัวเห็นภาพนี้นะครับ ไม่งั้นงานเข้าเราทั้งคู่แน่ๆ”

ใช่ครับ งานเข้าแน่ๆในรูปที่ผมนอนเกยบนอกพี่โอ๊ตแขนแข็งแรงของพี่กอดคอผมไว้แน่นกันผมลุกหนี  หน้าผมที่ยิ้มโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นกล้อง

 ท่าทางล่อแหลมแถมใส่ชุดนอน ยัยหนูบัวเห็นนี่เลือดวายข้นคลั่กแบบนั้นมีหวังเอาไปลงเพจแน่ๆ

และต้องจับผมกับพี่โอ๊ตถ่ายรูปแนบชิดแบบนี้อีกแน่นอน ตัวผมไม่เท่าไหร่ครับชินแล้ว รูปผมกับสองแฝดที่โดนยัยตัวแสบบังคับถ่ายมีเยอะมากจนชิน

คุณลองมาถูกจับถ่ายรูปตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัย ดูสิครับไม่ชินก็แปลกแล้ว  เพราะแบบนั้นผมเลยยิ้มอัตโนมัติเมื่อเห็นกล้อง 

ผิดกับพี่โอ๊ต ผมกลัวเขารับไม่ได้  ยิ่งมาให้หนูบัวจิ้นคู่ผมนี่ ผมกลัวจะเสียพี่ชายดีๆไป เพราะงั้นต้องแอบครับ  ห้ามเผยแพร่รูปเด็ดขาด



“ทำไมงานจะเข้าล่ะ “พอฟังคำถามแบบนั้นผมจะเล่าให้พี่เขาฟังดีไหมนะ 

พี่จะรับได้ไหมถ้าเพื่อนผมอย่างหนูบัวมันชอบจับคู่จิ้นน่ะ เฮ้อ...ผมนอนหนุนแขนพี่มันอยู่แบบนั้น อย่างเงียบๆ

เราสองคนยังไม่ลุกจากเตียงแม้ว่าพี่โอ๊ตจะถ่ายรูปผมไปเยอะแล้ว มือหนาๆที่ลูบหัวผมเล่นไปเรื่อย ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไร

รู้สึกสบายดีเวลามีคนมาลูบผมลูบหัวเล่น  ยัยหนูบัวก็ชอบให้ผมลูบหัวเล่นบ่อยๆเหมือนกัน บางทีมีพี่ชายให้อ้อนนี่ก็ดีเหมือนกันนะ 


“ก็..เป็นความลับครับ  เอาไว้ผมจะเล่าให้ฟังเนอะ ตอนนี้ลงไปกินข้าวก่อนที่แม่จะมาตาม ไปเร็ว “

ผมผุดลุกนั่งและดึงแขนพี่มันให้ลุกตาม เราสองคนลงมาที่โต๊ะอาหาร พ่อกับแม่มองเราทั้งคู่เหมือนไม่เคยเห็นแถมยังหัวเราะแบบไม่เกรงใจอีก

“โถ...พี่โอ๊ตคะโดนน้องแกล้งเหรอ ทำไมไม้ไม่ไปเอาชุดพ่อมาให้พี่เขาใส่ล่ะลูกฮึ “

“ไม่เป็นไรครับ แบบนี้ก็น่ารักดี “พี่โอ๊ตตอบแม่พร้อมรอยยิ้ม ดูสิ เขาเห่อลูกชายคนใหม่กันแค่หาชุดนอนให้ใส่ยังว่าผมแกล้งพี่เลย

“วันนี้ค้างที่นี่เลยก็ได้นะลูก นานๆจะมีเพื่อนน้องไม้มาบ้านสักครั้งเนอะพ่อเนอะ “

“เอาที่แม่ชอบเลยจ้ะ “พ่อผู้ไม่เคยขัดแม่สักครั้ง ฮ่าๆ

"ขอบคุณครับ รบกวนด้วยนะครับ"

"ไม่เลยจ้ะ โอ๊ตจะมาค้างตอนไหนก็ได้นะ บ้านเรายินดีต้อนรับ "


เป็นมื้ออาหารที่เฮฮามากเลยครับ เสียงหัวเราะของแม่กับพ่อ และพี่โอ๊ต ทำให้ผมอยากมีพี่ชายสักคน

 บางทีพ่อกับแม่ก็กังวลกับเรื่องของผมมากเกินไป  บรรยากาศดีๆแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยนัก  หวังว่าจากนี้จะมีแต่เรื่องดีๆ


หลังมื้ออาหาร เรารวมตัวมานั่งดูหนังที่ห้องนั่งเล่น   พ่อกับพี่โอ๊ตคุยกันกระหนุงกระหนิงน่าอิจฉาครับ

 ผมร่วมแจมด้วยแต่ไม่รู้เรื่องพวกรถความเร็วอะไรที่พ่อกับพี่โอ๊ตชอบ ผมก็ชอบรถนะครับ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่อง อะไรมาก รู้แค่คันไหนสวยไม่สวย ฮ่าๆๆ

แต่ถ้าคุยเรื่องกอล์ฟ ผมก็พอรู้แต่พี่โอ๊ตดันตีกอล์ฟไม่เป็น เฮ้อ...เลยปล่อยคุณพ่อกับคุณลูกคนใหม่เขาคุยกันไป

ผมก็นอนซุกมาลีกับมาร์คดูหนังรอ อืมมม ง่วงแฮะ ดูท่าแล้วพ่อกับพี่โอ๊ตคงคุยกันอีกนาน

“ง่วงแล้วเหรอลูก”แม่คงทนเห็นผมอ้าปากหาวทุกสามนาทีไม่ไหว 

“ครับ งั้นไม้ไปนอนก่อนนะ พี่โอ๊ตอยู่คุยกับพ่อไปเลย”ผมงัวเงียลูกขึ้นยืนโอนเอน ด้วยความง่วง

“งั้นโอ๊ตก็ไปนอนพร้อมน้องก็ได้ พ่อปล่อยลูกๆไปนอนได้แล้วไป ดึกแล้วพรุ่งนี้เด็กๆมีเรียนอีก”

เสียงแม่นุ่นหันไปคุยกับพ่อ พี่โอ๊ตพยักหน้ารับคำแม่พร้อมทั้งเดินมาหาผมที่ดูเหมือนจะยืนหลับรอ ก็มันง่วงนี่นา

“ลืมตาก่อนครับ เดี๋ยวเดินชนบันไดหรอก “

“ฮื่อ ง่วง Zzzz” ผมเดินเตาะแตะ คลำทางมาจนถึงห้องนอน โดยมีพี่โอ๊ตเป็นคนจูง

“ไม้ไปแปรงฟันก่อนค่อยนอน”พี่โอ๊ตดึงแขนผมเข้าห้องน้ำตอนที่ผมพยายามจะทิ้งตัวลฃงบนเตียง

ผมเดินหน้ายุ่งๆ แต่พยายามยิ้มให้พี่ ก็เข้าใจครับต้องแปรงฟันก่อนนอน ต้องหาแปรงให้พี่ด้วย อือออ ฮ้าววววง่วงจริง


“พี่โอ๊ตแปรงใหม่อยู่ในตู้ข้างกระจกนะครับ  “ผมว่าพลางชี้มือไปที่ตู้เล็กๆสำหรับเก็บของในห้องน้ำ

ตอนนี้เราสองคนยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ผมหรี่ตาที่ปรือๆพยายามแปรงฟัน แก้ง่วง

“เมื่อกลางวันก็นอน ตอนนี้ยังง่วงอีกเหรอเราน่ะฮึ”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ สงสัยจะง่วงสะสมตั้งแต่งานเฟรชชี่”

พี่โอ๊ตมายืนข้างๆไหล่เราสองคนเบียดกันเพราะต้องยืนหน้ากระจก  และอ่างล้างหน้า กว่าจะแปรงฟันเสร็จก็ทำให้ผมตาสว่างแล้ว


“พี่อ่ะขี้แกล้งนะ”เสียงหัวเราะทุ้มในลำคอบอกว่าพี่มันอารมณ์ดีที่ได้แกล้งผม 

ก็แค่พี่กระแซะไหล่จนผมเซหน้าเกือบคะมำลงอ่างล้างหน้าดีที่พี่เขาคว้าเอวผมเอาไว้ทัน นั่นแหละหายง่วงเลยครับ

 เพราะผมตกใจจนสำลักยาสีฟัน พี่โอ๊ตก็ลูบหลังไปหัวเราะไป เดี๋ยวผมเอาคืนรอจังหวะก่อนเถอะ 

วันนี้แปลก ที่ยัยตัวแสบไม่โทรหาผม ปรกติเวลาค่ำๆแบบนี้หนูบัวจะคอลมา กว่าจะได้นอนก็ดึก 

เราคุยกันทุกวัน รู้ทุกซอกทุกมุมชีวิตของกันและกัน  และแน่นอน ยัยตัวแสบก็กังวลเรื่องของผมไม่ต่างจากพ่อแม่

ทำไมทุกคนชอบคิดว่าผมมีปัญหากันนักนะ  เอาจริงๆผมก็ยังรู้สึกแย่นะกับเหตุการณ์ครั้งนั้น  แต่ผมก็พยายามลืมมันเพื่อไม่ให้ทุกคนเป็นห่วง

รอยยิ้มที่ผมจะยิ้มทุกครั้งทุกวันเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าผมมีความสุขผมยิ้มได้ผมไม่ได้คิดมาก


แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม ผมไม่เคยรู้เลยว่าผมไม่ได้ยิ้มแบบเต็มใจเท่าไหร่ จนวันนี้ รอยยิ้มที่มีพี่โอ๊ตร่วมด้วย

เสียงหัวเราะและเรื่องราวที่มีพี่โอ๊ตอยู่ด้วย มันรู้สึกดี  จนยิ้มได้โดยไม่ต้องฝืน พ่อกับแม่คงรับรู้เช่นเดียวกับผม เลยต้อนรับพี่โอ๊ตดีเป็นพิเศษ



“ไม้”

“ครับ”ผมหันมาตามเสียงเรียก ผมปิดไฟนอนไปได้ไม่ถึงสิบนาที  เอาจริงๆตอนนี้ไม่ง่วงแล้วครับ  ดีเหมือนกันถ้าพี่โอ๊ตไม่ง่วงจะชวนคุยยันเช้าเลย

“มีอะไรเล่าให้พี่ฟังได้นะ บางอย่างพี่อาจจะช่วยไม่ได้ แต่ พี่ช่วยรับฟังได้นะครับ”เสียงทุ้มนุ่มหูและคำพูดเป็นทางการซะจนผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ ..พ่อกับแม่เล่าอะไรให้พี่ฟังหรือไง“

“ก็...ครับ”พี่โอ๊ตรับคำสั้นๆ และนั่นทำให้ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าไปหาพี่โอ๊ตที่นอนอยู่ข้างกัน

“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ  พ่อกับแม่น่ะ กังวลเกินไป  ผมดีขึ้นเยอะแล้วดีกว่าเมื่อก่อนมาก  ต้องยกความดีให้ยัยตัวแสบ  เอ ..เล่าดีไหมนะ”

ผมสะดุดความคิดไปชั่วครู่ ผมพึ่งจะรู้จักพี่โอ๊ต แต่พี่เขาเหมือนเป็นพี่ชาย ที่พร้อมจะรับฟังทุกเรื่อง  ถ้าพ่อกับแม่เล่าไปแล้ว แต่เล่าแค่ไหนกันล่ะ

“ถ่าไม้ไม่สบายใจที่จะเล่าก็ไม่เป็นไร นอนเถอะ “มือหนาๆยื่นมาลูบหัวผมอีกแล้ว

“ไม่ได้อยากปิดบังครับเพียงแต่ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี”

“เริ่มที่ งานจะเข้าเราสองคน ถ้าหนูบัวเห็นรูปดีไหมครับ”ดูเหมือนพี่จะขี้สงสัย หึหึ

“ก็ได้ ก็ได้  ผมเล่าแล้วอย่าหัวเราะผมนะ แต่มันต้องท้าวความไกลหน่อยนึงถึงจะเข้าใจ “

แล้ววีรกรรมเรื่องราวตั้งแต่คราวโดนหนูบัวต่อยตอนอยู่อนุบาลก็ถูกเรียบเรียงให้พี่โอ๊ตฟัง แลกกันไงครับ พี่เขาเล่าเรื่องเพื่อนๆพี่ๆ

ผมมีแค่หนูบัวก็ต้องเล่าเรื่องหนูบัวสิ  ผมไม่รู้ว่าพี่โอ๊ตมีสีหน้ายังไงตอนฟังเรื่องเล่าของผมเพราะมันมืด

 แต่เสียง หึหึ ดึงมาเรื่อยๆ ก็แปลว่าพี่มันโอเค 


“ที่จริงผมน่ะอกหักล่ะ”มาถึงตอนนี้ก็คงต้องบอกพี่เขาไป คนเราพอจะคบหาเป็นเพื่อนคงไม่ต้องปิดบังอะไรกันหรอก ผมคิดแบบนั้น

“อกหัก ? ยังไงพี่ก็เห็นแฮ้ปปี้กันดีนี่นา”

“ไม่ใช่หรอกพี่ บัวน่ะ เป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนรัก เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของผม ที่ไม่มีวันเป็นอย่างอื่น”

ผมคงต้องเล่าทั้งหมดสินะ แล้วคืนนี้  ผมจะได้นอนกี่โมงล่ะเนี่ย 

....



.
.
TBC....

มาสั้นๆอย่าว่าเค้าน๊าาาาาาา

พึ่งกลับจาก ตปท เลยแวะมาลงพี่โอ๊ตกับน้องไม้ก่อน   พอเหยียบแผ่นดินไทย งานก็เข้าอย่างต่อเนื่อง  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

อาจจะได้แวะมาลงน้องอาทิตย์ละครั้งแต่กำหนดวันไม่ได้ แงงงงงงง o9 o9

งานรัดตัวเหลือเกินเจ้าค่ะ  แต่จะพยายามมาอัพถี่ๆน๊าาาาาา นานๆอัพที นี่ไม่ใช่พันวาเลย ฮรึก :hao5: :hao5: :hao5:

 ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่าาาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ปล. เรื่องราววัยอนุบาลของน้องหนูบัวกับน้องไม้ เป็นตอนพิเศษในเรื่องตามใจนะคะ ใครสนใจ จิ้มเลยค่าาาซีรี่ส์ เพราะหัวใจไม่ไร้รัก (https://www.facebook.com/evapublish/posts/478915485871906)

 


หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 10 ผูกมิตร ( 14 /7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-07-2018 13:58:40
น้องเล่าให้พี่ฟังแล้ว แล้วพี่ล่ะจะว่ายังไงที่ได้รู้ว่าน้องกับบัวไม่ได้เป็นแฟนกัน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 10 ผูกมิตร ( 14 /7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-07-2018 14:40:13
 :pig4: :pig4: :pig4:

ความรู้สึกที่ปั๊ดตะนาไปอีกหลายขั้น

แต่ก็ดันไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกอะไรกันเนอะ

อึนซึนกันทั้งพี่ทั้งน้อง  อิอิ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 10 ผูกมิตร ( 14 /7/61) P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 14-07-2018 17:05:14
ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์กันไปนะคู่พี่กับน้อง
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แวะมาทักทาย ตอบปัญหาหัวใจ ^__^ ( 18 /7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 18-07-2018 12:07:03

คั่นเวลาสักครู่นะเจ้าคะ  :hao7: :hao7:


ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์กันไปนะคู่พี่กับน้อง

โอ๊ต//ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นครับ

ตอนนี้คุณพี่หาทางของลายเซ็นคุณพ่อน้องไม้แบบคูล ๆ ได้ยังคะ 5555

โอ๊ต // ดูเหมือนจะได้เยอะกว่าลายเซ็นนะครับจะอัดรูปคู่ใส่กรอบไปอวดไป้ปีย์ หึหึ


อ่านตอนรุ่นพ่อทั่งสามเรื่องสนุกค่ะอ่านอยู่หลายรอบเหมือนกันเลยได้ตามมาอ่านรุ่นลูกอีกน้องไม้กับพี่โอ๊ต :pig4: :pig4:


พันวา // จะมีรุ่นลูกของพี่โตมร ในไร้ใจด้วยนะคะ แหะๆ พันวาดองไว้ก่อนนิดนึง แล้วเจอกันนะ  :mew1: :mew1:

พี่โอ๊ตอยากให้ไม้เป็นแค่น้องชายจริงๆหรอ :hao3:


โอ๊ต // น้องชายจริงๆครับ ผมอยากมีน้อง จริงๆนะ  เชื่อสิ  :z3: :z3:


น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องเลย

 โอ๊ต // ขอบคุณครับ  :m1: :m1:
ไม้ // ขอบคุณครับ:m13: :m13:


น่าสงสารพ่อคนขี้หวง เจอหนูบัวแกล้งเข้าหน่อยทำหน้าตึงเชียว

โอ๊ต // ผมเปล่าหวงนะ แค่ไม่ชขอบใจนิดหน่อยเอ๊ง จริงจริ๊งงง

พันวา // เสียงสูงไปนะพี่โอ๊ต   :m26: :m26:


เหมือนพี่จะออกอาการหึงน้องนะ 55555

โอ๊ต // ผมเปล่านะ ไม่ได้หึงสักหน่อย แค่ ..เอ่อ..แค่ .. :m29: :m29: :m29: :m29:

เพิ่งเห็นว่ามีตอนใหม่ ติดตามนะคะ รอ น้องไม้ใจอ่อนน

ไม้ // เห ?? ผมเปล่าใจแข็งนะครับ ทำไมต้องใจอ่อน  แล้วใจอ่อนเรื่องอะไรครับ  :confuse: :confuse: :confuse: :confuse:


ยกมืออยากรู้อดีตน้องไม้ด้วยจังเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ไม้ // ไม่น่าจดจำเท่าไหร่ครับ แต่ผมก็จำไม่ลืม
โอ๊ต // เฮ้ๆ อย่าเศร้าสิ พี่อยู่ตรงนี้นะ   :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

:pig4: :pig4: :pig4:

ปมในใจนี่คงเกี่ยวกับเพื่อนวัยเด็กหรือวัยรุ่นหว่า

แล้วก็อาจจะเป็นแบบเพื่อนที่คิดเกินเพื่อนจนเกิดปัญหาแบบเลือดตกยางออกมั้ง

ป.ล. อย่าถือสา  มโนล้วน ๆ

ไม้ // โห...มโนได้ใกล้เคียงมากครับ  มาเขียนแทนพันวาได้เลยครับ พล็อตใกล้กันมาก555

พันวา // กำลังตันเลยหาผู้ช่วยเขียนได้ละ 55555

รอติดตามตอนหน้าเลยค่ะ เราจะได้รู้ ปมน้องไม้พร้อมๆกัน  กิกิ

น้องเล่าให้พี่ฟังแล้ว แล้วพี่ล่ะจะว่ายังไงที่ได้รู้ว่าน้องกับบัวไม่ได้เป็นแฟนกัน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


โอ๊ต // รู้สึกอยากกำมือแน่น แล้วชูขึ้นฟ้า ตะโกนดังๆว่า  Yes !!!!  :a2: :a2: :a2: :a2: :a9: :a9: :a1: :a1: :a2: :a2: :a2: :a2:

:pig4: :pig4: :pig4:

ความรู้สึกที่ปั๊ดตะนาไปอีกหลายขั้น

แต่ก็ดันไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกอะไรกันเนอะ

อึนซึนกันทั้งพี่ทั้งน้อง  อิอิ


โอ๊ต // รู้สึกอยากมีน้องชายครับ น้องน่ารัก น้องหล่อ น้องน่าขย้ำ น่าขยี้ น่า... :hao6: :hao6: :hao6:

พันวา //ไม่ใช่ละ พี่โอ๊ต ดึงสติหน่อย สติ ค่ะ สติ  :z6: :z6:

ไม้ //  :confuse: :confuse: :confuse: :confuse:


พันวา // ขอลางานสามวัน เดี๋ยวมาอัพ ปมน้องไม้ วันเสาร์นะคะ  ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่าาาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:



หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แวะมาทักทาย ตอบปัญหาหัวใจ ^__^ ( 18 /7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Maleewong ที่ 19-07-2018 21:12:07
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แวะมาทักทาย ตอบปัญหาหัวใจ ^__^ ( 18 /7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 20-07-2018 00:59:53
ใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว รอวันที่ความสัมพันธ์จะมากกว่าคำว่าพี่น้อง :katai2-1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แวะมาทักทาย ตอบปัญหาหัวใจ ^__^ ( 18 /7/61)
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 20-07-2018 09:15:37
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ อดีตที่เจ็บปวด ( 21 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 21-07-2018 10:27:03
ตอนพิเศษ  อดีตที่เจ็บปวด


xxโรงเรียนสาธิตนาวา 6 ปีที่แล้ว xx


“พรุ่งนี้ เจอกันนะเว้ย  ใครเบี้ยวแช่งให้ท้องเสียสามวัน”

เสียงร่าเริงของสายชล เพื่อนตัวเล็กของพวกเรา ที่วิ่งเข้ามารวมกลุ่มหลังเลิกเรียน  คาบสุดท้ายของเทอมนี้   

พรุ่งนี้ปิดเทอมใหญ่ เป็นช่วงเวลาที่พวกผมรอคอยมานานที่สุด

“เอารถบ้านบัวไปไหมจะได้ไปพร้อมกัน สนุกดีนะ ไม่ต้องขับเองด้วย”เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจจากหนูบัวคุณหนูของตระกูลจิรชัยกุล

“ไม่ขับเองจะสนุกอะไรล่ะ  ไปเที่ยวแบบนี้มันต้องเอารถไปเอง”บูรพาผู้นิยมความเร็วตั้งแต่เข้าม.1

“อายุถึงแล้วหรือไงบู เดี๋ยวก็โดนกันหมดหรอก “จีน่าสาวสวยในกลุ่มที่แอบปลื้มบูรพามาตลอด

อันนี้ความเผือกของหนูบัวทำให้ผมได้รับรู้ด้วย แต่ยังคงเป็นความลับสำหรับบูรพา คงต้องรอวันที่จีน่ากล้าพอที่จะบอก

“ไอ้วีขับไง มันหน้าแก่ไม่มีใครจับได้หรอก ฮ่าๆๆ”บูรพาพูดพลางตบไหล่นาวีเต็มแรง

 แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีคำพูดใดๆหลุดหยาบคายมาให้เพื่อนได้เคือง นาวีเพื่อนคู่ซี้ที่ตัวติดกันตลอดกับบูรพา

 และเป็นคนที่คอยเตือนบูรพาเรื่องความใจร้อนมุทะลุ  ดูเหมือนนาวีจะใจเย็นที่สุดในกลุ่มเรา

“พูดดีไปเถอะ  รถก็ไม่มี พ่อกับแม่คงให้หรอกนะ ไอ้พวกเด็กเหลือขอ เฮ้อ”สายชลยังคงน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย

เป็นผู้ชายคนเดียวที่ตัวติดกับผมมาก อันที่จริงคงเพราะผมชอบดูแลชล เพื่อนตัวเล็กของผมเหมือนเด็กที่ยังไม่โต

 เหมือนผมได้เป็นพี่ชายที่คอยดูแลสายชลทุกเรื่อง

“เราว่าเอาแบบที่บัวว่าก็ดีนะ  ไปรถคันเดียวกัน  สนุกดีจะได้ไม่เหนื่อยด้วย”ผมสนับสนุนความคิดของหนูบัว

“แหมๆ ตัวติดกันมาตั้งแต่อนุบาล เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันเสียทีเนี่ย “

เสียงจีน่าเพื่อนสนิทของบัวเอ่ยเย้าจนผมอดที่จะหน้าร้อนๆไม่ได้ ผมคิดไว้ว่า จะบอกรักหนูบัวที่หัวหิน

 มันจะต้องดีมากแน่ๆเลย ความโรแมนติกของสถานที่ คงจะช่วยให้ผมมีความกล้าพอที่จะบอกออกไป ก็ได้แต่หวังว่ามันจะดีครับ


“พูดไปจีน่า  ยัยแสบนี่ชอบแต่จะหาผู้ชายมาให้เราเถอะ  ไม่ได้อยากมีผัวนะอยากมีเมีย  “

ผมแสร้งว่าเสียงเศร้า แต่เสียงหัวเราะของจีน่าและหนูบัวทำให้ผมหมั่นไส้ 

อันที่จริงเพื่อนผมทุกคนสำคัญเท่ากันหมด เพียงแต่หนูบัวเป็นคนพิเศษก็เท่านั้น 

“เลิกคุยๆ แยกย้ายเลย พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า วันนี้จะได้ไปเตรียมตัวกัน ไปๆ”

สายชลขัดขึ้นแทบจะทันที ผมหัวเราะไปกับท่าทางหน้างอบึ้งตึง แต่น่ารักของเพื่อนตัวเล็ก

มันน่ารักจนผมอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปจับศรีษะเล็กๆนั้นโยกไปมาเบาๆด้วยความเอ็นดู 

ชลเหมือนเด็กประถม รอยยิ้มสดใสแลดูสดชื่นและอารมณ์ดีตลอดเวลา   เหมือนผมมีน้องชายที่อายุเท่ากัน

เพราะความน่ารักของสายชล ผมเลยจะดูแลเพื่อนคนนี้มากกว่าคนอื่นๆ    อย่างหนูบัวน่ะเหรอยัยนั่นถึกกว่าผมอีกครับ

ไม่ต้องดูแลอะไร เพราะบัวดูแลตัวเองได้ และทำตัวติดกับจีน่าแจ เข้าขากันดีเรื่องหาผู้ชายให้ผมเนี่ย

ผมเลยต้องดูแลชลเป็นพิเศษ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว สำหรับผมสายชลน่าปกป้องน่าดูแล  เพราะความดูซื่อๆไม่ทันใครเขา 

แรกๆหนูบัวยังจิ้นผมกับสายชล โดนล้ออยู่เป็นปี แต่ผมไม่ได้ถือสาอะไร ยังคงดูแลสายชลเรื่อยมา

 ตัวสายชลเองก็คงไม่ได้ถือสา เรายังคงทำตัวเหมือนเดิม ดูแลกันมาตลอด


ปีนี้พวกเราจบมัธยมต้นแล้วกำลังจะขึ้นชั้นมัธยมปลายอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า  ช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาของเพื่อนๆครับ

 กลุ่มผมมีกัน หกคน  มีหนูบัวกับ สายชล ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ประถม  ส่วนนาวี  บูรพา และจีน่า  ที่พึ่งจะมาสนิทกันตอนม.1 

 ผมมีช่วงเวลาดีๆ กับกลุ่มเพื่อน ๆ  เป็นช่วงเวลาที่วิเศษมาก จนอยากจะหยุดเวลาไว้แค่นี้ 

พรุ่งนี้พวกเรานัดรวมตัวกัน ไปเที่ยวทะเลหัวหินกัน  บ้านพักตากอากาศของตระกูลจิรชัยกุล คือเป้าหมายของพวกเรา

เหมือนเป็นพักร้อน ครั้งแรกที่พวกเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันและได้ห่างจากหนังสือเรียนที่ชวนปวดหัว 

มันต้องเป็นพักร้อนที่แสนวิเศษแน่นอน ถ้าไม่มีเหตุการณ์นั้น เป็นเหตุการที่ผมเฝ้าแต่คิดว่า 

ถ้าผมตอบรับความต้องการของเพื่อนตอนนั้นคงไม่มีเหตุการณ์น่าเศร้านั้นเกิดขึ้น


..หัวหิน...
[/color]

เป็นเวลาหลังมื้อค่ำ  ที่ทุกคนกินอิ่มและแยกย้ายกันไปนอน  แต่ผมถูกสายชลคะยั้นคะยอให้ออกมาหา ที่สระน้ำริมหาดของบ้าน

 เป็นบ้านสองชั้นหลังใหญ่ มี7ห้องนอน ที่มีไว้รองรับครอบครัวใหญ่ของหนูบัว เวลามาพักที่นี่

สระน้ำอยู่ด้านหลังของบ้านของบ้าน ติดกับชายหาด ที่เป็นหาดส่วนตัว  ทะเลยามค่ำคืนก็น่ามองไปอีกแบบลมทะเลพัดมาเรื่อยๆไม่แรงมากนัก 
บรรยากาศเย็นสบายแต่ผมกลับร้อนใจเพียงเพราะเพื่อนตัวเล็กที่เรียกผมออกมาตอนเวลาจะเข้านอนแบบนี้ มันจะไม่อะไรเลยหากไม่ใช่การสารภาพรัก 

“ไม้  คือชลชอบไม้นะ  ชอบมากเลย..ชอบมาตลอดตั้งแต่ได้รู้จักกับไม้ ชอบจนคิดว่าตอนนี้มันคงเป็นความรักแน่ๆ ”

“เอ่อ...ชอบเหรอ..? แบบไหน  ?“

“ก็..เป็นแฟนกับชลนะ คบกับชลได้หรือเปล่า “

คนตัวเล็กหน้าแดงเถือกไปทั้งหน้า มือเล็กๆนั่นจับกันแน่น บีบเข้าหากันจนผมต้องยื่นมือไปจับแล้วดึงมันออกจากกัน

 เพราะเกรงว่าจะบีบจนเจ็บ ยิ่งผมทำแบบนั้นชลยิ่งก้มหน้าลงแต่ก็ซ่อนสีแดงๆที่ลามไปทั่วทั้งหน้าทั้งคอไม่มิด

เพื่อนผมกำลังเขิน แต่ผมกลับรู้สึกตรงกันข้าม ผมเป็นห่วงเพื่อน

“ชล...เราเป็นเพื่อนกันนะ..เราไม่ได้คิดกับชลเกินกว่าคำว่าเพื่อน”

“แต่ๆ ไม้ก็ยังไม่มีใครไม่ใช่เหรอ  ที่ผ่านมาไม้ดูแลชลดีขนาดนั้น ไม้ไม่ได้คิดอะไรกับชลเลยเหรอ”

สีหน้าที่ดูลังเลแปลกใจทั้งยังเคลือบไปด้วยความกลัวอะไรบางอย่าง  และคงเป็นคำตอบของผมที่ชลกลัว

“เราดูแลเพื่อนทุกคนเหมือนกันนะชล เราไม่ได้คิดเกินเลย ขอโทษนะถ้าการกระทำของเราทำให้ชลคิดไปแบบนั้น “

“ไม่จริง ไม้เคยบอกว่าชลน่ารัก ไม้บอกว่าชลน่าดูแล ไม้บอกจะดูแลชลไปตลอด แล้วตอนนี้ทำไม”

“ชล.. เราดูแลชลมาตลอดและจะดูแลต่อไปในฐานะเพื่อนนะ  เราขอโทษนะที่รับความรู้สึกนั้นของชลไว้ไม่ได้”

“ละ..แล้วมาใจดีกับชลทำไม  มาให้ความหวังกันทำไม ฮึก ..”ร่างเล็กๆของสายชลเริ่มสั่นเสียงสะอื้นและน้ำตา ทำให้ผมยืนนิ่ง

ผมไม่เข้าใจว่าผมไปให้ความหวังตอนไหน ผมทำตัวปรกติ เป็นห่วงเพื่อนดูแลเพื่อนตามปรกติ

 อาจจะดูแลชลมากหน่อยเพราะชลเหมือนเด็กๆ ที่ต้องได้รับการดูแล  หรือนั่นคือความผิดของผม

“ไม้...ให้โอกาสชลไม่ได้เหรอ ชลรักไม้นะ ขอร้องล่ะ ขอโอกาสชลนะไม้  เป็นแฟนกันนะ ”

“ชล..คือเรา  ..”

“หรือไม้รังเกียจชลเหรอ รังเกียจเค้าเหรอ ฮืออ “ชลเดินเข้ามากอดผมไว้แน่นจนผมอึดอัดแต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้

 หนูบัวกับจีน่าคงหลับไปแล้ว  แล้วผมควรทำยังไง

“ไม่ใช่นะ คือมันไม่ใช่แบบนี้”

“พอได้แล้วน่าชล  “เสียงทุ้มห้าวของบูรพา ดังแทรกขึ้นมา  ตามด้วย นาวี ที่เดินออกมาจากมุมของบ้านที่เดียวกับบูรพา
     
“วี บู..?? ”ผมหันไปตามเสียงมองดูเพื่อนรักอีกสองคนที่เดินออกมาจากมุมของสระน้ำ  เหมือนรออยู่ก่อนแล้ว นี่มันอะไรกัน

“จะมาเยาะเย้ยเราเหรอ  ไปไกลๆเลยนะ เราไม่ยกไม้ให้พวกนายหรอก  “

เสียงที่อู้อี้ ของชลบ่งบอกให้รู้ว่าบูรพากับนาวีรู้ว่าชลคิดยังไงกับผม 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน  ทำไม..”ผมสับสนกับคำพูดของสายชล  และท่าทีของนาวีกับบูรพา

“ไหนๆก็ไหนๆแล้วมาเปิดใจคุยกันเลยดีกว่า  ไม้ ...เราเองก็ชอบนาย  ชอบแบบอยากเป็นแฟน อยากเป็นคนรัก  ไม้ชอบใครบอกมาเลย จะได้รู้กันไปไม่ต้องมาอึดอัดกันทีหลัง และจะได้ไม่ต้องมีใครไปมโนเข้าข้างตัวเอง”

บูรพาพูดขึ้นพลางปรายตามองสายชลที่ยังยืนสะอื้นอยู่กับอกผมไม่ยอมปล่อย   

"ชล..ไหนบอกว่าถ้าไม้ไม่ได้คิดเหมือนชล ชลจะให้โอกาสเราไง"นาวีที่ยืนนิ่งๆเอ่ยขัดขึ้นมาระหว่างบูรพาและสายชล

ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก  ภาพเพื่อนรักทั้งสามคนของผมที่ยืนนิ่งเงียบ มีเพียงสายตาที่จ้องมองมาที่ผม ราวกับจะกดดันผมเลือกใครสักคน 

“ทำไม..เราเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ  เป็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่ ทำไม”

เสียงผมเบาจนแทบจะไม่ได้ยินเสียงตัวเอง  ผมไม่เข้าใจ ว่าผมไปทำอะไรจึงทำให้เพื่อนสนิทของผมคิดเป็นอื่นไป
 
“ไม้ไม่รู้หรือไง พวกเราสองคน ชอบไม้มานานแล้ว ชอบตั้งแต่แรกที่ได้เจอกัน   ไม้แค่เลือกใครสักคน เราหรือชล ทุกอย่างจะจบ”

“ทำไมต้องเลือก พวกนายเป็นเพื่อนเรานะ อีกอย่างเราไม่ได้ชอบผู้ชาย..เราไม่เลือกใครทั้งนั้น   “

“ไม้อย่าปฏิเสธชลเลย ลองคบกันไปก่อนก็ได้ ถ้าไม้รังเกียจ ชลต้องตายแน่ๆเลย ฮึก ขอร้องล่ะ”

สายชลยังคงกอดผมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย บูรพาเป็นคนที่เดินเข้ามาดึงเอาตัวชลให้ออกห่างจากผม 

“ปล่อยเรานะบู “

“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ชล อย่าใช้ความน่าสงสารของนายมาบังคับไม้นะ  มันไม่แฟร์กับเรา “ใช่มันไม่แฟร์สำหรับผมด้วย

“ชล บู มันบังคับกันไม่ได้หรอกนะความรู้สึกน่ะ เรารักพวกนายแบบเพื่อน  เราไม่ได้คิดเกินเลยไปกว่าเพื่อนนะ “

“เอางี้ เราไม่บังคับไม้หรอก แค่ไม้รู้ว่าเรารู้สึกยังไงก็พอ จากนี้ไปเราจะจีบไม้นะ ให้เราได้จีบก็พอ ได้หรือเปล่า”บูรพาเอ่ยยิ้มๆพลางมองมาอย่างมีความหวัง

“เอ่อ..”

“ ชล..เราขอร้อง..ยังมีเราอยู่ตรงนี้”นาวีที่ยังคงใช้สายตามองมาที่ชลที่ที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุด

“เราไม่อยากให้ใครมาเสียเวลากับเรานะ “

ผมจริงจังกับความรู้สึก ผมรักเพื่อนทุกคนผมหวังดีกับทุกคน ผมไม่ต้องการที่จะทำให้ใครเสียใจเพราะผม

“เราถามแค่คำเดียวนะไม้  ไม้รังเกียจพวกรักร่วมเพศหรือเปล่า ไม้รังเกียจพวกเราไหม ที่พวกเรารู้สึกกับไม้เกินเพื่อน”บูรพาเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง

“ก็..ไม่หรอก  เราไม่ได้รังเกียจ แต่..”

“ไม่ได้นะ  ไม้ จะคบใครไม่ได้ ไม้ต้องคบกับชลนะ ชลรักไม้มาตั้งนานแล้ว ได้โปรดไม้ เป็นแฟนชลเถอะนะ  “

ชลสะบัดตัวออกจากบูรพา พุ่งเข้ามาสวมกอดผมไว้เหมือนเดิม  เสียงสะอื้นของสายชลยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ

“นี่เตี้ย ไม้มันก็บอกแล้วนี่ จะมาคาดคั้นทำไม แล้วเราล่ะ เราที่ทำทุกอย่างให้ชลมาตลอดทำไมชลไม่มองเราบ้างห๊ะ    “

นาวีเอ่ยเสียงดุ ใส่ชลอย่างเหลืออด นาวีที่ใจเย็นเสมอ ตอนนี้กลับดูร้อนจนจะกระชากเพื่อนร่างเล็กให้หลุดออกจากตัวผม

 แต่ผมไม่ได้ปล่อยตัวชลออกไป ผมสงสารเพื่อนตัวเล็กที่ร้องไห้ไม่หยุด

“ชล อย่าร้องสิ ตาบวมหมดแล้ว  ชลคนร่าเริงหายไปไหน  น้ำตาไม่เหมาะกับชลเลยรู้หรือเปล่า อย่าร้องเลยนะ เราไม่ชอบน้ำตาชลเลย”

ผมใช้มือเกลี่ยน้ำตาที่ยังคงไหลมาเปรอะแก้มของสายชลด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก 

“ฮึก..ชล...จะ.. จะไม่ร้อง ไม่ร้องแล้ว ฮึก..ไม้จะคบกับชลใช่ไหม ..ใช่ไหม ”   

“เรา..ขอคิดก่อนนะชล  พรุ่งนี้เราจะให้คำตอบชลนะรอได้ไหม ขอเราคิดก่อน ”

ผมถ่วงเวลาให้ตัวเองแม้ว่าคำพูดที่ดูเหมือนจะให้โอกาสสายชล แต่ในใจผมรู้ดีว่า ผมไม่ได้คิดเกินเลยไปกว่าคำว่าเพื่อน แต่ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกเลย 

“จริงๆนะ ไม้ต้องคบกับชลนะ ไอ้บูมันจะเอาไม้ทำเมีย แต่ชลเป็นเมียให้ไม้ได้นะ ชลรักไม้จริงๆนะรักไม้คนเดียว คนอื่นไม่เกี่ยว “

เสียงร่าเริงขึ้นมาทันทีที่ผมบอกขอคิดก่อน  อดตกใจไม่ได้ที่เพื่อนทั้งสามคนรู้ว่าแต่ละคนคิดยังไงกับผม

และคำพูดคำจาที่ดูไม่เหมาะกับชลไหนจะสายตาที่ดูเยาะเย้ยนาวีแบบนั้นทำให้ผมเหวอไปพักใหญ่เลย   

“เฮอะ ไปให้ความหวังมันเดี๋ยวก็ยุ่งไปใหญ่หรอก ”

เสียงบูรพาเอ่ยขึ้นมื่อผมกอดชลเพื่อปลอบใจ  ผมรู้ว่าเพื่อนคิดยังไง แต่ผมก็ไม่สบายใจ  ที่เพื่อนเอาแต่ร้องไห้แบบนี้

“เพราะไม้เป็นแบบนี้ไง ไอ้ชลมันเลยตัดใจไม่ได้ บางครั้งไม้ต้องชัดเจนกว่านี้นะ  “

นาวีพูดเสียงแข็งเหมือนโกรธกัน ก่อนจะหันหลังเดินจากผมไป

บูรพาที่ส่งสายตาเจ็บปวดมาให้ เมื่อผมพูดจบ พวกเขาคงคิดว่าผมเลือกสายชล แต่ ผมไม่ได้เลือก ผมแค่ปลอบใจเท่านั้น

 พรุ่งนี้เราค่อยคุยกันใหม่  ถ้าทุกคนใจเย็นลงกว่านี้ น่าจะคุยด้วยเหตุผลเข้าใจได้  ผมคิดแค่นั้น 

 กว่าเราสี่คนจะแยกย้ายก็ดึกพอสมควร ผมเดินขึ้นมาส่งสายชลที่ห้องก่อนจะลงไปหาอะไรร้อนๆดื่ม

วันพรุ่งนี้  ผมจะทำตัวยังไงนะ ผมควรปรึกษาใครสักคน  ผมนั่งลงที่โซฟากลางห้องก่อนจะยกนมอุ่นๆขึ้นจิบปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปอย่างห้ามไม่ได้ 

“ดึกแล้วทำไมไม่นอน “เสียงหวานใสของเพื่อนรักเอ่ยทักขึ้นจนผมสะดุ้ง

“แล้วบัวล่ะทำไมไม่นอน”

“ก็ที่จริงยังไม่หลับ เห็นพวกนายคุยกันที่สระริมหาด ...บัวขอโทษที่แอบฟังนะ...ไม้..โอเคหรือเปล่า “

บัวรู้แล้วสินะ แต่คงเป็นเพราะบรรยากาศมันเครียด บัวเลยไม่ดีใจเหมือนทุกทีที่เห็นผู้ชายมาจีบผม 

เพราะคราวนี้มันเป็นเพื่อนสนิท ที่ผมควรระวังความรู้สึกเป็นพิเศษโดยเฉพาะสายชล

“อือ..ไม้โอเค ..บัวว่า ไม้ควรจะทำยังไง  ไม้คิดอะไรไม่ออกเลย สามคนนั่น...”

เป็นอะไรที่ช็อกผมมาก นาวี รักสายชล แต่สายชลกับบูรพารักผม  ผมรักหนูบัว มันบ้าไปแล้วความรู้สึกแย่ๆแบบนี้ผมจะผ่านมันไปยังไง

“บัวถามไม้ตรงๆนะ ไม้คิด อะไรกับบูหรือชลบ้างไหม ใครสักคนที่ไม้คิดว่าจะสามารถพัฒนาความรู้สึกไปเป็นมากกว่าเพื่อนได้ “

“ไม้ไม่ได้ชอบผู้ชายนะ..คือว่า..... ไม้รักหนูบัว คนที่ไม้รักมาตลอดคือหนูบัวนะ   ไม่คิดจะรักใครอีก “

ผมตัดสินใจสารภาพโดยไม่คิดถึงบรรยากาศโรแมนติกใดๆ

ดวงตาที่เบิกกว้าง ทั้งยังสีหน้าอ้ำอึ้งเหมือนลำบากใจของหนูบัวทำให้ผมรู้คำตอบโดยไม่ต้องถามซ้ำ

ตอนนี้ผมรู้เลยว่าเพื่อนทั้งสามคนของผมรู้สึกอย่างไร ใจมันเจ็บปวดไปหมด จนรู้สึกขมในลำคอ

 รู้สึกว่าดวงตาจะร้อนผ่าวเหมือนน้ำตามันจะกลั้นไม่ไหว  ผมเข้าใจเพื่อนดีตอนนี้เอง ว่ารัก ที่ไม่ได้รักตอบ มันเจ็บปวดเหลือเกิน

“ไม้...บัวรักไม้นะ แต่ ไม่ใช่แบบนั้น เอางี้ไม้ เรามาเป็นไม้กันหมาให้กันดีกว่าเนอะ  บัวน่ะรักไม้นะ แต่ไม่ได้รักแบบนั้น และบัวเองก็เชื่อว่า
ไม้ไม่ได้รักบัวแบบนั้นเหมือนกัน    เราแค่ใกล้ชิดกันเกินไปเรามีความผูกพันธ์ฉันท์พี่น้องมากกว่าจะเป็นคู่รักนะ 
เอาเป็นว่าเรามาให้โอกาสตัวเองกันไหมไม้ เราก็เป็นเพื่อนกันไปอย่างนี้ ช่วยคัดกรองคนที่เข้าหาเรา ช่วยกันดูว่า
ใครเหมาะหรือรักใคร  สุดท้ายถ้าเราโตเป็นผู้ใหญ่และยังไม่มีใคร ถึงเวลามีครอบครัวแล้วเราค่อยมาดูเรื่องนั้นกันอีกทีตกลงไหมไม้
 เป็นแฟนกำมะลอไปก่อนดีกว่าเนอะ ”

เป็นการปฏิเสธที่ผมไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไรดี เหมือนๆจะได้กำลังใจด้วย เหมือนว่าจะเจ็บปวดด้วย แต่มันก็ไม่เชิงว่าจะรู้สึกแย่จนรับไม่ไหว

 ผมยิ้มเศร้าๆให้หนูบัว  ดูเอาเถอะขนาดรู้ว่าผมรู้สึกยังไง หนูบัวก็ไม่เคยเดินจากผมไป  ร่างเพรียวบางเดินเข้ามากอดผมเอาไว้

ราวกับจะปลอบใจ  ได้ข้อเสนอเป็นแฟนปลอมๆฮ่าๆๆ ผมอยากจะหัวเราะทั้งน้ำตา แต่อย่างน้อย ตอนนี้บัวก็ยังไม่มีใคร

 หากคบกันไปแบบนี้ หนูบัวอาจจะใจอ่อนให้ผมสักวัน 

แต่อ้อมกอดของเพื่อนนั่นก็เป็นการช่วยผมได้มากทีเดียว ผมอาจจะลืมเลือนความเศร้าได้บ้าง   จริงๆก็ยังเศร้าที่โดนปฏิเสธ

แผลยังสดใหม่ แต่เพราะคำพูดหนูบัวช่วยผมได้เยอะ และได้คำปลอบใจมามากโข จนคิดว่ามันจะดีขึ้นเอง

 ผมก็ทำใจได้ระดับหนึ่ง ที่จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน  อย่างน้อย บัวก็ยังอยู่ข้างๆผม 

“แล้ว....ไม้..คิดยังไงกับสองคนนั่น ไม่คิดจะรักใครสักคนเลยเหรอ “ยังไม่วายอยากจะจับคู่ผมอยู่ดี

“ไม่  ...ไม้ไม่ได้รู้สึกอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อนเลย ทั้งชล ทั้งบู   ไม้รักบัวคนเดียวเลยเนี่ย คุณแฟน”

ผมละคำว่ากำมะลอ ไว้ในใจ ก่อนจะบีบจมูกรั้นๆนั่นด้วยความมันเขี้ยว

“แต่ไอ้ชลน่าเป็นห่วงมากนะ มันจริงจัง ไม้บอกว่าจะบอกชลพรุ่งนี้ ไม้จะบอกชลยังไงล่ะ  “

ผมนิ่งคิดสักครู่ นึกถึงคำปฏิเสธของหนูบัวที่ให้กับผม มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร

บางที ที่ชลเป็นแบบนั้นคงเพราะผมที่ยังทำตัวเหมือนให้ความหวังเพื่อน   บูรพา ยังดูเข้าใจ แต่สำหรับชลคงต้องให้เวลา

“ไม้เชื่อว่าสักวันชลจะทำใจได้  เพราะไม้ไม่มีวันรักชลในแบบที่ชลต้องการ..คำตอบของไม้คือไม้รักบัว เป็นแฟนบัวคนเดียวนี่แหละยัยตัวแสบ“

ผมบอกไปอย่างที่คิด ผมยังอยากเป็นแฟนหนูบัว แม้ว่าจะถูกตัดโอกาสนั้นไปแล้วก็ตาม 

“แล้ว..มาบอกให้ชลรอทำไม  โกหกชลเพื่ออะไร “เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้ผมกับหนูบัวหันไป พร้อมกัน ด้วยความตกใจ

“ไม้เป็นแฟนบัวทำไมไม่บอก มาหลอกชลทำไม “ถึงตอนนี้ผมชักจะโมโหคนที่พูดไม่รู้เรื่อง

“มันไม่ใช่แบบนั้นนะชล เรากับบัวไม่ได้เป็นอย่างที่ชลคิด  และอีกอย่างเราไม่เคยหลอกชลนะ ชลเป็นเพื่อนเรา เป็นเพื่อนเท่านั้น
 เรารักชลแบบนั้นไม่ได้ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเราก็รักหนูบัว   เรารักหนูบัว รักมานานแล้วด้วย  “


แม้ว่าบัวจะไม่ได้รักผมก็ตาม  ผมว่าพลางยื่นมือไปจับมือหนูบัวไว้บีบเบาๆขอกำลังใจ เป็นคำพูดที่ดูใจร้ายแต่ผมควรจะทำตั้งแต่แรก

 เผื่อที่ชลจะได้ตัดใจ  หนูบัวเองก็นิ่งเงียบไปคงเพราะตกใจที่ชลเข้ามาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว   

ทันทีที่ผมพูดออกไป ชลเบิกตากว้าง น้ำตาร่วงราวกับทำนบเขื่อนแตก  ผมอยากเข้าไปกอดเพื่อนปลอบใจ

แต่คำพูดของบูรพากับนาวีเมื่อตอนอยู่ที่หาดว่าผมไม่ควรให้ความหวังชล ก็ทำให้ผมยืนนิ่ง มองสายชลวิ่งร้องไห้กลับไปที่ห้อง 

“เฮ้อ...”ผมทรุดตัวลงนั่งที่เดิม   มีหนูบัวนั่งลงข้างๆ มือเล็กๆนั่นลูบแขนผมเบาๆ เหมือนจะปลอบใจ
 
“ไม้ไม่เข้าใจเลยบัว ไม่เข้าใจอะไรเลย ไม้เป็นเพื่อนที่แย่มากใช่ไหมบัว"

“พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่นะ  เผื่อว่าทุกคนนอนอิ่มแล้วได้คิดกันบ้าง ทุกอย่างจะดีขึ้นนะเพื่อน “

“บัว เพราะบัวเป็นแบบนี้แหละไม้ถึงรักบัวมากไง  ไม้คงรักใครไม่ได้หรอกนะ นอกจากบัว”

ไม่ว่าจะเมื่อไหร่หนูบัวก็เป็นเพื่อนที่เข้าใจและรู้ใจผมเสมอ ผมไม่รู้ว่า ชลจะเข้าใจได้แค่ไหน ผมไม่รู้ว่าเพื่อนผมทั้งสองคน

 มีความรู้สึกแบบนั้นกับผมตั้งแต่เมื่อไหร่  และชลเหมือนจะไม่เข้าใจอะไรเลย

ปัญหาใหญ่ไม่ได้ตกอยู่ที่ชลคนเดียวแล้วเมื่อผมเห็นบูรพาและนาวียืนนิ่งเงียบอยู่มุมห้อง


“จะบอกพวกเราเมื่อไหร่ ว่านายสองคนคบกัน เห็นพวกเราเป็นตัวตลกเหรอ ถึงเล่นกับความรู้สึกคนอื่นแบบนี้”สีหน้าเจ็บปวดของบูทำใจผมบีบรัดไปด้วย

“ไม่ใช่นะบู มันไม่ได้เป็นอย่างที่บูคิด  วี นายพูดอะไรบ้างสิ “

“จะให้เราพูดอะไร ในเมื่อความจริงก็เห็นๆอยู่ ถ้านายสองคนคบกันแค่บอกพวกเรามันยากตรงไหน แต่ทำไมไม่บอก  ทำไมล่ะไม้ สนุกเหรอที่ได้ปั่นหัวไอ้ชลมันน่ะ  “

“ไม่ใช่นะ เดี๋ยว มาคุยกันให้รู้เรื่องนะ ไอ้พวกบ้านี่ เป็นอะไรกันไปหมดวะ”

ผมโวยวายอย่างหมดความอดทน  เมื่อเพื่อนทั้งสองคนเดินขึ้นชั้นบนไปโดยไม่หันกลับมา 

“บัว “ผมหันมาหาบัวกลัวเหลือเกินกลัวบัวจะโกรธ กลัวบัวจะคิดมากและเลิกเป็นเพื่อนกับผม

“อย่าคิดมากนะ บัวอยู่ตรงนี้เสมอเลย พรุ่งนี้มันจะดีขึ้น”รอยยิ้มหวานที่เป็นกำลังใจดีๆของผม ทั้งคำพูดปลอบใจทำให้ผมคลายความกังวล 

พรุ่งนี้  ผมจะเคลียร์ทุกอย่าง บอกทุกคน ทั้งเรื่องที่ผมเองก็โดนปฏิเสธมาไม่ต่างจากพวกเขา ผมจะไม่ขออะไรเลย

พรุ่งนี้ ผมขอแค่พวกเรายังเป็นเพื่อนกัน  ผมขอแค่นั้น หากผมรู้ว่าพรุ่งนี้จะไม่มีอีกแล้วผมคงดันทุรังคุยกับเพื่อนๆตั้งแต่เมื่อคืน

ผมคงไม่รอ จนพรุ่งนี้ เพื่อตื่นมาพบกับความเสียใจ ที่เป็นตราบาปของผมชั่วชีวิต

..................................

“กรี๊ดดดดด ชล!!! ช่วยด้วยๆ  ฮืออออ ชล... “

เสียงเอะอะของจีน่าปลุกพวกเราให้ตื่นตั้งแต่เช้ามืด  เสียงร้องไห้ของจีน่าทำให้พวกเราวิ่งมาที่ห้องพักของสายชล 

นาวีมาถึงก่อนและรีบวิ่งไปช้อนเอาร่างเล็กๆของสายชลที่นอนนิ่งอยู่ที่พื้นห้อง  ร่างเล็กๆที่เต็มไปด้วยเลือด

พื้นห้องที่เจิงนองไปด้วยเลือดสีแดงที่ไหลไม่หยุดออกมาจากข้อมือเล็กๆของสายชล ผมยืนนิ่งเหมือนถูกสาป

 ในหัวไม่มีเสียงใดๆดังเข้ามา นอกจากภาพที่เห็นนาวีอุ้มร่างที่ไร้สติและโชคไปด้วยเลือดของสายชล วิ่งตรงไปที่โรงรถ

บูรพาเป็นคนขับ ผมถูกบัวลากขึ้นรถมาด้วยกัน  จีน่าที่ร้องไห้ไม่หยุด  ตัวของสายชลซีดจนเหลือง

“ชล ชล ชล ทำไม ทำไมทำแบบนี้ ทำไม “ผมพึมพำด้วยความไม่เข้าใจ ร่างกายราวกับตัดขาดทุกสิ่งรอบตัว 

ผมไม่รู้เลยว่าพวกเรามาถึงโรงพยาบาลตอนไหน  ผมไม่รู้อะไรเลยเมื่อคุณหมอบอกว่า สายชลจากไปแล้ว

 จีน่านั่งร้องไห้อยู่กับหนูบัว   บูรพาและนาวีนั่งหน้าเครียดอยู่ข้างๆ พวกเราทุกคนมีแต่น้ำตา 

“เพราะมึงเลยไม้ เพราะมึงชลถึงต้องตาย เพราะมึง”

คำพูดของนาวียิ่งกว่าฟ้าผ่าลงมากลางใจ ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั่วร่าง สมองชาจนไม่อาจคิดประมวลอะไรได้อีก 

“อย่ามาว่าไม้นะ ไม่ใช่ความผิดของไม้สักหน่อย  “

หนูบัวตวาดเสียงดังใส่นาวี ผมที่ได้แต่ยืนนิ่งๆไม่มีคำพูดใดหลุดลอดออกมานอกจากความเสียใจ

คำกล่าวหาของนาวียังดังก้องในหัวผม สมุดโน๊ตเล่มเล็ก ในห้องของสายชลที่จีน่ายื่นมันมาให้ผม  ยืนยันคำพูดของบูรพา

“หลอกกันทำไม มาแสร้งรักกันทำไม  มาให้ความหวังทำไมถ้าไม่รัก  หากชลตาย ไม้คงจะดีใจใช่ไหม  ถ้าไม้ไม่ต้องการ ชลก็ไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร   ไม้จะต้องจำชลไปตลอดชีวิต ชลจะอยู่ในความทรงจำของไม้ จำชลเอาไว้ อย่าได้หวังว่าจะมีความสุขกับคนอื่น

ลาก่อนไม้

นาวีนั่งร้องไห้อยู่กับบูรพา เพื่อนไม่แม้แต่จะมองหน้าผม

ครอบครัวของสายชลมารับศพตอนสายๆ ผมโดนแม่ของสายชลทุบตีด้วยความเสียใจ ผมยอมเป็นที่ระบายให้กับแม่ของเพื่อน

 ผมรู้ว่าท่านเสียใจแค่ไหน ชลเป็นคนน่ารักแต่เพราะผม ชลถึงต้องจากไป  เพราะผมคนเดียว   

ผมร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา   ผมเสียใจ  ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะพูดกับชลใหม่ ผมจะไม่ปล่อยให้ชลต้องห่างสายตา

ผมจะอยู่กับชล ผมจะเลือกเขา ผมอาจจะรักเขาได้สักวัน   ผมอาจจะมีความสุขกว่านี้   ถ้าวันนั้นผมตัดสินใจแบบนั้น

 ผมอาจจะไม่ต้องเสียเพื่อนที่ดีอย่างสายชลไป 

บูรพา กับนาวี ลาออกจากโรงเรียน  คำสัญญาที่จะเรียนที่เดียวกันจะจบพร้อมกันแล้วจะเข้ามหาวิทยาลัยด้วยกัน ทั้งหมด

 มันไม่มีอีกแล้ว  นับจากวันเกิดเรื่องวันนั้น เพื่อนทั้งสองคนไม่มาหาผมอีกเลย ทั้งสองคนไม่พูดอะไรกับผมอีก 

ทำราวกับว่าพวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน   คำสัญญาที่เคยบอกกันไว้คงมีแค่ผมที่จำได้ 

 มีแค่ผม หนูบัวและจีน่า ที่ยังเรียนอยู่ที่เดิม บูรพาและนาวี หายไปจากชีวิตของผมตั้งแต่ตอนนั้น   

หนูบัวยังคงเหมือนเดิมจีน่าก็เป็นเพื่อนเหมือนเดิมแต่ท่าทีที่มีต่อผมเปลี่ยนไป เพราะจีน่ารักบูรพา

เธอมองผมเป็นคนที่ทำลายมิตรภาพระหว่างพวกเรา  ผมเองก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว  ผมกลัวการมีเพื่อนผู้ชายกลัวการมีเพื่อนใหม่

แม้จะเป็นผู้หญิง   ผมกลัวว่าจะไปให้ความหวังใครโดยไม่รู้ตัวอีก  ผมไม่คบใครอีกเลย แม้แต่จีน่าผมก็ห่างออกมา

 ถึงจะเจอกันบ้าง แต่ด้วยท่าทางที่เธอยังคง หมางเมินกับผม  ทำให้ผมไม่กล้าพอที่จะกล่าวขอโทษเธอ

ไม่กล้าพอที่จะสนิทใจกับเธออีก  ผมจึงมีเพียงหนูบัว  เพื่อนคนเดียวที่ยังคงมองผมเป็นผมมาตลอด  ตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน 

หนูบัวเป็นคนเดียวที่เข้าใจเหตุการณ์และความรู้สึกของผม  แต่ถึงจะมีหนูบัวอยู่ข้างๆ

ผมยังคงคิดถึง สายชล คิดถึงจีน่า คิดถึง บูรพา กับนาวี  ที่หายไป ผมคิดถึงเพื่อน 

ตอนนี้ผมก็ยังหวัง ผมหวังว่าจะได้เจอพวกเขาอีก ขอให้พวกเขาอภัยให้ผม  และหวังว่าจะมีใครสักคน ที่เข้าใจ

 ใครสักคนที่ช่วยพาผมออกไปจากความรู้สึกนี้สักที ผมเฝ้ารอมาตลอด  รอเพื่อที่จะสามารถ ก้าวออกมาจากห้องแคบๆห้องนั้น

 ที่ขังผมไว้กับเพื่อนเก่า ..ผมได้แต่รอสักวัน.....


TBC ....

เรื่องมันเศร้า  ความรู้สึกที่เราเองควบคุมไม่ได้ รักเหมือนกัน แต่รู้สึกไม่เท่ากัน บูรพาจัดการความรู้สึกได้ตัดใจได้
แต่ นาวีก็น่าเป็นห่วงเพราะคนที่รักไม่มีชีวิตอยู่ให้ได้รักอีกแล้ว บูรพาตัดสินใจดูแลนาวี เพราะไม้ยังมีหนูบัวอยู่ข้างๆ
แต่นาวีที่เสียสายชลไปน่าสงสารจนบูรพาต้องตัดใจจากไม้ หันมาหาเพื่อนสนิทอย่างนาวี ที่คบกันมานาน
เรื่องราวที่เกิดขึ้น สายชล คือตัวแปลสำคัญ  สายชลควบคุมความรู้สึกไม่เป็นรักแรงเกลียดแรง 
รักของสายชลคือการครอบครอง  เมื่อเขาไม่ได้ทางเดียวที่จะมีตัวตนในสายตาของคนที่เขารักคือการทำให้ไม้ไม่ลืมเขา
การเรียกร้องความสนใจในแบบของชลมันรุนแรง  และมันก็สำเร็จ เพราะไม้ไม่เคยลืมเลย  น้องจมอยู่กับความรู้สึกผิด
และนั่นเป็นเหตุผล ที่พ่อไผ่กับแม่นุ่นเปิดรับพี่โอ๊ตได้อย่างรวดเร็ว

สงสารน้องงงงงงงงงงง :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่าาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ อดีตที่เจ็บปวด ( 21 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 21-07-2018 10:54:56
 :pig4: :pig4: :pig4:

อาจเพราะได้รับการสปอยล์มาตลอด จนทำให้สายชลเสพติดความสมหวังและมีความยึดติดในความคิดว่าอยากได้ต้องได้

น่าสงสารนางนะ

แต่...ไม้เป็นผู้ที่น่าสงสารที่สุด ถูกรักโดยเพื่อนสองคนแต่ไม้ไม่ได้รักเพื่อนสองคนนั้น  ในขณะที่ไม้รักเพื่อนอีกคนนึงก็กลับไม่ได้รักนั้นตอบ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ อดีตที่เจ็บปวด ( 21 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-07-2018 11:17:57
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หวังว่าถ้าพี่โอ๊ตได้คบน้องแล้ว นาวีกับบูรพาจะไม่มาสร้างเรื่องให้ปวดหัวนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ อดีตที่เจ็บปวด ( 21 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Maleewong ที่ 21-07-2018 20:39:01
 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ อดีตที่เจ็บปวด ( 21 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 22-07-2018 08:05:31
สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ อดีตที่เจ็บปวด ( 21 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 22-07-2018 14:31:39
สงสารไม้ ไม้ไม่ได้ผิดอะไรเลย แต่ทุกคนเอาแต่โทษไม้
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 11 นับหนึ่ง อีกครั้ง ( 28 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 27-07-2018 10:04:09



แผนที่ 11 นับหนึ่ง อีกครั้ง



อินทัช



เรื่องราวของน้องไม้ที่ผมได้รับรู้มาทำให้ผมรู้สึกแย่กับตัวเองพอสมควร น้องไม้น่ารัก น้องไม้เป็นเด็กธรรมดา

ใสซื่อจนไม่รู้ว่าใครคิดอะไรกับตัวเอง แต่ผมกลับคิดเห็นแต่ความสนุกโดยไม่ได้คิดถึงจิตใจของใคร    ผมเป็นคนที่แย่ที่สุด   


“แม่กับพ่อฝากดูแลน้องหน่อยนะพี่โอ๊ต”คำพูดของแม่นุ่นยังก้องอยู่ในหัวผม   

ตอนแรกที่ผมมาที่บ้านหลังนี้ผมตื่นเต้น เพราะจะได้เจอกับคุณทิวไผ่ ไอดอลอันดับหนึ่งของพวกผม

แต่พอได้มาเห็นครอบครัวที่ปฏิบัติกับลูกชายคนเดียวราวกับแก้วที่เปราะบางมันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ

จนอยากจะรู้ถึงสาเหตุที่ครอบครัวนี้ทนุถนอมลูกชายที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วราวกับเด็กสามขวบ แบบนั้น



และเรื่องราวที่แม่นุ่นกับพ่อไผ่เล่าให้ผมฟังทำให้ผมนั่งนิ่งอยู่กับที่ด้วยความรู้สึกเจ็บที่หัวใจ  ผมฟังเรื่องเศร้ามาก็มาก

 แต่เรื่องของน้องไม้ทำให้ผมหายใจติดขัด เจ็บปวดไปกับความรู้สึกของพ่อกับแม่ และที่สำคัญ  น้องไม้ 

คนที่ผมคิดเสมอว่าน้องยิ้มหล่อมากยิ้มได้ละลายใจสุดๆน้องเป็นคนร่าเริงอารมณ์ดี  แต่เบื้องหลังรอยยิ้มนั้นน้องจะเศร้ามากแค่ไหนกัน

กว่าน้องจะยิ้มได้แบบนั้นน้องต้องทุกข์ใจมากมากมายแค่ไหน  และรอยยิ้มนั้นมันเทียบไม่ได้กับรอยยิ้มวันนี้ที่น้องอยู่กับครอบครัว 

“น้องไม้โทษตัวเองมาตลอดว่าเป็นสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น น้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดทำให้เพื่อนต้องตาย ไม่ว่าพวกเราจะพยายามเท่าไหร่ น้องไม้ก็ไม่เปิดรับใครเข้ามาในชีวิตอีกเลย น้องไม้ไม่คบเพื่อนผู้ชาย ไม่ทำความรู้จัก ไม่เปิดรับใคร  นอกจากหนูบัวคนเดียว  รอยยิ้มของน้องไม้ไม่สดใสแบบนี้นานแล้ว พี่โอ๊ตเป็นคนแรกที่น้องไม้พามาบ้าน เป็นคนแรกที่น้องโทรมาเล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่าเจอพี่ชายใจดี  ตอนนี้น้องไม้เหมือนจะเปิดใจได้มากกว่าเมื่อก่อน แม่จึงอยากให้พี่โอ๊ตช่วยน้องหน่อยนะลูก”

“ครับ ผมจะดูแลน้องให้เองครับ”เป็นคำสัญญาที่ผมเต็มใจและอยากทำมากที่สุด

น้องไม้ที่ดูแกร่งเมื่ออยู่ในสนามเทนนิส น้องไม้ที่ดูเท่เสมอเมื่ออยู่บนเวที น้องไม้ที่ดูเข้มแข็งเมื่ออยู่กับหนูบัว 

น้องเป็นลูกชายคนเดียวของอดีตแชมป์นักแข่งรถระดับโลกอย่าง f1  น้องไม้เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีเป็นที่หมายปองของทั้งชายและหญิง

 นั่นเป็นสิ่งภายนอกที่ทุกคนมองเห็น   แต่จริงๆแล้วน้องไม้เป็นคนที่น่าสงสาร มีจิตใจที่เปราะบาง  น่าปกป้อง

ผมรู้สึกว่าตัวเองและผองเพื่อนเหี้ยมากที่คิดจะแยกน้องกับหนูบัวออกจากกันเพียงเพราะเพื่อนผมชอบหนูบัว มันโคตรไม่แฟร์เลย

 ยิ่งน้องบอกว่า หนูบัวเป็นเพื่อนรักเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่น้องมีผมยิ่งรู้สึกแย่ 



“พ่อกับแม่มีลูกอยู่คนเดียว  อะไรที่ดีสำหรับลูกพ่อกับแม่ไม่ลังเลที่จะทำ  โอ๊ต เป็นเพื่อนที่ดีของลูกชายเรา  พ่อไม่ได้หวังอะไรมากไปกว่าคำว่า อย่าทำร้ายเขา  อาจจะดูว่าพ่อกับแม่ไว้ใจโอ๊ตมากทั้งๆที่พึ่งจะได้รู้จักกัน  แต่สำหรับพ่อแล้ว พ่อจะไม่รอแม้สักวินาที ถ้าสิ่งที่ทำให้ลูกพ่อมีความสุข พ่อไม่เคยลังเล”


เป็นความคิดที่ผมทึ่งไม่น้อย พ่อไผ่ มีความคิดที่แตกต่างจากคนทั่วไป อย่างน้อยก็ผมคนนึง

 หากเป็นผมคงระแวงคนที่เข้าหาลูกชายมากกว่าการมาเล่าเรื่องให้ฟังและขอให้ช่วยดูแลแบบนี้


“พ่อกับแม่ไม่กลัวว่าผมจะทำให้น้องกลับไปแย่อีกเหรอครับ “

“โอ๊ตคิดจะทำแบบนั้นหรือเปล่าล่ะ”

“ไม่ครับ”

“นั่นคือคำตอบ  อนาคตไม่มีใครรู้ โอ๊ตอาจจะเปลี่ยนไป  โอ๊ตอาจจะทำร้ายลูกชายเรา  แต่อีกมุมโอ๊ตอาจจะดีมากๆต่อลูกชายเราโอ๊ตอาจจะดึงลูกของเราออกจากความรู้สึกแย่ๆนั่นได้  ทั้งสองอย่างมันยังไม่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดตอนนี้ โอ๊ตไม่ทำร้ายน้องและน้องไว้ใจโอ๊ต  นั่นเป็นสิ่งที่พ่อกับแม่รู้ และเราไว้ใจโอ๊ตตอนนี้ ไม่ใช่โอ๊ตในอนาคต”


คำพูดของพ่อไผ่กับแม่นุ่น ยังแจ่มชัด ผมที่เอาแต่สนุกไปวันๆไม่ได้คิดอะไรมากเกินไปกว่าคำว่า เรียนและเฮฮากับเพื่อนฝูง

แต่วันนี้ น้องไม้เป็นอีกข้อหนึ่งที่ผมต้องคิด 



ผมรั้งเอาตัวน้องไม้มากอดเอาไว้ เมื่อฟังน้องเล่าไปหัวเราะไป แต่น้ำเสียงน้องมันช่างขัดกับเรื่องที่เล่าเสียจริง

 แม้ว่าเรื่องราวจะเป็นเรื่องเดียวกับที่พ่อไผ่กับแม่นุ่นเล่าให้ฟัง แต่พอฟังจากมุมของไม้ ผมจึงได้รู้ว่า น้องโทษตัวเองมาตลอด

น้องยังเสียใจแม้ว่าเรื่องมันจะเกิดมานานหลายปีแล้ว แต่ในความรู้สึกของน้อง มันคงเหมือนพึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวาน 

เรื่องราวยังสดใหม่ แผลในใจน้องไม้ยังไม่ได้รับการรักษา  เพื่อนๆยังไม่ได้ให้อภัยแม้สิ่งที่น้องไม้ทำจะไม่ใช่ความผิด

แต่เมื่อน้องคิดว่าตัวเองผิดจึงต้องแบกรับความรู้สึกนั้นมาตลอด



“จะร้องไห้ก็ได้นะ พี่ไม่เห็นหรอกมันมืด”ผมพูดออกไปในที่สุด

น้องไม้ไม่ได้ขืนตัวออกจากอ้อมกอดของผมสิ่งเดียวที่ผมรับรู้ได้คือตัวน้องสั่นไหวอย่างยากที่จะห้ามความรู้สึก

ผมลูบหลังน้องเบาๆปลอบเท่าที่จะทำได้ น้องร้องไห้เงียบๆ อยู่ในอ้อมแขนผม เป็นความรู้สึกที่แน่นไปหมดในอกของผม


“ผมไม่รู้จริงๆนะพี่โอ๊ต ไม่คิดว่ามันจะแย่แบบนี้ ผมพยายามแล้ว “

“ไม่เป็นไร อยู่กับพี่ไม่ต้องพยายาม เป็นอย่างที่ไม้อยากเป็น  “

“พี่จะไม่เหมือนคนอื่นๆใช่ไหม ไม่เหมือนใช่ไหม”

เป็นคำถามที่ผมไม่ตอบ เพราะไม่รู้คำว่าเหมือนของน้องหมายถึงอะไร 

“อย่าคิดไกลเกินกว่าวันนี้  เรื่องของพรุ่งนี้มันยังไม่เกิดขึ้น คิดไปก็เครียดเปล่าๆ  อย่าคิดเลยนะ คิดแค่ว่าตอนนี้มีพี่อยู่ตรงนี้ก็พอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่จะไม่หายไปจากไม้ จำคำพี่ไว้นะ ไม้คิดถึงชลได้ แต่อย่าคิดเพราะความรู้สึกผิด อย่าโทษตัวเอง ไม้ต้องมีชีวิตต่อไปข้างหน้า ชลไม่อยู่แล้ว สิ่งที่ไม้ต้องทำคืออย่าเอาความรู้สึกผิดมาทำให้เราใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้”


“ขอบคุณครับ ขอบคุณ”

ไม้ซุกตัวเข้าหาผมสองมือกำเสื้อผมแน่น ปากก็พร่ำคำขอบคุณผม จนรู้สึกละอาย

ผมจะทำทุกอย่างเพื่อชดเชยสิ่งที่ผมเคยทำแม้ว่าน้องจะไม่รู้แต่ผมรู้ดีแก่ใจว่าเข้าหาน้องเพราะอะไร 

ผมจะเริ่มใหม่  ผมจะปกป้องน้องจะดูแล  ไม่ให้น้องเสียใจ  นึกโกรธ คนที่ชื่อบูรพา  คนๆนั้นคงไม่ได้รักน้องไม้จริงๆ

เพราะถ้ารักกันจริง คงไม่โทษว่าเป็นความผิดของน้องที่ทำให้เพื่อนอีกคนคิดสั้น  ถ้ารักกันจริงควรจะอยู่ข้างๆไม่หนีหาย

ถ้ารักกันจริงต้องช่วยกันประคองความรู้สึก  ของกันและกันไม่ใช่หายไปให้น้องคิดมากจนไม่เปิดรับใครแบบนี้ 

ผมอดที่จะคิดหนักไม่ได้ เพราะน้องไม้ดูเป็นคนที่ค่อนข้างมองโลกในแง่ดี และอัธยาศัยดีเอามากๆดูจากการที่ไว้ใจผม

ถึงขนาดให้เข้าบ้านให้นอนร่วมห้องทั้งๆที่รู้จักกันได้ไม่นาน  น้องนิสัยดีมากจนผมกลัวว่าจะมีใครคิดไม่ดีเอาเปรียบน้อง 

เหมือนอย่างที่ผมคิดอยู่ตอนนี้ พวกผมคิดไม่ดีกับน้องเข้าหาเพียงเพราะอยากทำตามความต้องการของตัวเอง

โดยไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของน้องเลย  แม้ว่าผมจะไม่ได้คิดทำร้ายน้อง  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมใช้ความอัธยาศัยดีและความเป็นคนดีของน้อง

ฉวยโอกาสเข้าใกล้แม้กระทั่งการกอดน้องเอาไว้แบบนี้ คนทั่วไปเขาจะนอนกอดกันให้กำลังใจกันแบบนี้หรือ 

หากไอ้ปีย์มีเรื่องทุกข์ใจ ผมพนันได้เลยว่าผมไม่มีทางนอนกอดมันแบบนี้แน่นอน

มีหลากหลายวิธีในการปลอบใจเพื่อนแต่ผมเลือกที่จะนอนกอดน้องเอาไว้ 

   
ผมคิดถึงตอนที่พี่อาร์ตกอดผมเอาไว้ตอนโดนแม่ตีเพราะความซนของผมเมื่อครั้งยังเด็ก  ผมอยากให้น้องสบายใจเหมือนผมที่รู้สึกตอนนั้น

 แม้จะผ่านมานานมากแล้วแต่ผมยังจำได้ ความรู้สึกที่มีคนปกป้องเรา เข้าใจเรา มันรู้สึกดีมากๆ ผมไม่อยากให้น้องเครียด

“นอนได้แล้ว วันเสาร์หน้าเราพาพี่มาร์คกับพี่มาลีไปหาพวกพี่อาร์ตกันดีไหม  ไม้จะได้รู้จักครอบครัวพี่ด้วย  พาหนูบัวไปด้วยกันเลย ไปกันหลายคนสนุกนะ เดี๋ยวให้พี่ทอยทำกับข้าว  ฝีมือพี่ทอยทำอาหารยกนิ้วให้เลยจะบอก  อ้อ พรุ่งนี้พี่จะเอาลายเซ็นของพ่อไผ่ไปอวดไอ้ปีย์ให้มันขาดใจเล่นๆ หึหึ”


“ ฮะๆ ขี้แกล้งเพื่อนอ่ะพี่โอ๊ตนิสัยไม่ดี  “เสียงหัวเราะเบาๆทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง ผมเล่าเรื่องสรรพเพเหระ ไปเรื่อย

 เสียงหัวเราะของเราสองคนดังขึ้นสลับกันกับเรื่องเล่า ส่วนมากผมจะเล่าวีรกรรม ของเพื่อนๆผมและพี่ชาย  ดูเหมือนน้องไม้จะชอบฟัง

“น่าอายจังมาร้องไห้ให้พี่ดู ทั้งๆที่พึ่งจะรู้จักกันแท้ๆ ..เอ่อ พี่โอ๊ตครับ ผมขออย่างหนึ่งได้ไหมครับ”

“ขอหลายๆอย่างก็ได้ครับ ...ว่าแต่จะขออะไรล่ะ ต้องดูก่อนว่าให้ได้ไหม“

“ คือว่า..เรื่องที่ผมกับหนูบัวไม่ได้เป็นแฟนกันน่ะครับ ผมยังไม่อยากให้คนอื่นๆรู้  อยากให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ไปก่อนน่ะครับ “

“อืม...ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ  หึหึ”

“...”

“ฮ่าๆๆ พี่ล้อเล่นครับ ไม่บอกๆ แต่ว่า พี่มีเรื่องจะบอก ไม้ “

“เรื่องอะไรครับ “ดูเหมือนอารมณ์น้องจะคงทีแล้ว ท่าทางเศร้าๆหายไป

“ปีย์มันชอบหนูบัวนะ มันอยากจีบแต่ไม่กล้าเพราะคิดว่าไม้กับบัวเป็นแฟนกัน”

“ผมคิดแล้วเชียว  แต่น่าเป็นห่วงพี่ปีย์จัง “

“ทำไมล่ะ ไปห่วงมันทำไม ไม่ห่วงเพื่อนเราเหรอ หรือหวงเพื่อน”

“เปล่าครับ ก็.. คือว่า  พี่โอ๊ตรู้จักพวกสาววายไหมครับ”

“สาววาย ? ยังไง?”

“แหะๆ คือหนูบัวเป็นสาววายครับแบบคือยังไงดีอ่ะ อธิบายยาก อ่า...คือ ยัยตัวแสบชอบจับผู้ชายคู่กัน  คนที่มาจีบหนูบัวน่ะ ถูกยัยบัวยุให้จีบกันเองก็เยอะ บางคนก็จับมาคู่ผมซะงั้น เพราะแบบนี้ผมถึงไม่อยากให้หนูบัวเห็นรูปที่พี่โอ๊ตถ่าย ไม่งั้นนะ จับเรา คู่กันแน่ๆเลย พี่ปีย์นี่ก็ไม่น่ารอด ดีไม่ดีอาจจะจับคู่กับบรรดาน้องชายของบัวนั่นแหละครับ”


“หึ หึ ฮ่าๆๆๆๆ “RIP ให้เพื่อนรักผมด้วยครับ โอ๊ยอยากหัวเราะให้ฟันหักฮ่าๆๆๆๆๆนึกสงสารเพื่อรักจับใจครับฮ่าๆๆ

ผมมองคนที่นอนขำไปกับผม ไม้ขยับตัวออกจากผมหลังจากที่คิดว่าน้องคงสบายใจขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว

 เรานอนหงายมองเพดานห้องราวกับมันจะช่วยลดความรู้สึกขัดเขินที่กอดกันกลมไปเมื่อครู่

 เราพูดคุยแลกเปลี่ยนสิ่งที่เราพบเจอมาระหว่างทางที่เราเดิน ผมมีเรื่องเล่าจากเรื่องของพี่ชายและเพื่อนสนิทของพี่ชาย

ที่เหมือนเป็นพี่ผมอีกคน และเรื่องทะโมนของไอ้ปีย์ในวัยเด็ก เรื่องราวที่ผมมาเจอกับเพื่อนๆในกลุ่มตอนเข้ามหาวิทยาลัย

น้องไม้มีเรื่องเล่าตั้งแต่เด็ก ครั้งแรกที่รู้จักหนูบัว ทั้งเรื่องของพ่อไผ่ที่ยังคงลงแข่งรถหลายรายการช่วงหลังจากแต่งงานและมีน้องไม้แล้ว

น้องเคยตามพ่อเข้าสนามแข่งบ่อยๆกว่าจะออกจากวงการก็เมื่อไผ่เข้ามปลาย คงเป็นรายการสุดท้ายที่พวกผมได้ไปดูนั่นแหละครับ

 เรื่องราวที่ค่อยๆผ่านการบอกเล่าของเราสองคน ทำให้ค่ำคืนผ่านไปด้วยความทรงจำดีๆ เหมือนกับว่าเรารู้จักกันมานานหลายปี
 
ผมรู้สึกว่าน้องไม้พิเศษไม่เหมือนใคร น้องไม้ที่ดูยิ้มง่าย และดูมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี

แต่แท้ที่จริงน้องกลับเหงาและหวาดกลัวการปฏิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า น้องปิดกั้นคนทั้งโลกเพื่ออยู่กับเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว

เพราะเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในอดีตทำให้น้องต้องอยู่ด้วยความกลัว  ส่วนผมที่ไม่ชอบความวุ่นวายเป็นคนขี้รำคาญ และไม่ชอบเอาใจใคร

 ชอบความเงียบชอบอยู่แค่กับเพื่อนสนิทและครอบครัว แต่ผมไม่ได้เหงาเพราะมีเพื่อนรอบกายมีครอบครัวที่เข้าใจ 

ไม่เคยขาดคนที่เข้าหา และผมไม่เคยเข้าหาใคร  จนวันที่ผมต้องมาทำความรู้จักกับผู้ชายหน้าสวย ที่ยิ้มสวยแต่แววตาเศร้าสร้อย

ผู้ชายที่ตัดตัวเองออกจากสังคมเพราะกลัวว่าการดูแลคนอื่นจะทำให้เกิดการสูญเสียอีก ทั้งหมดที่เป็ฯไม้ทำให้ผมคิดใหม่


“อยู่กับพี่ไม่ทำอะไรก็ได้เท่าที่ไม้อยากทำ เป็นตัวเองได้เท่าที่ไม้ต้องการ ไม้ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เพราะคนเราจะไปรับผิดชอบความรู้สึกคนอื่นไม่ได้หรอก ที่ผ่านมา พี่ว่าไม้เหนื่อยมากเกินไปแล้ว การที่เราปิดกั้นตัวตนจนไม่สามารถเป็นตัวเองได้ มันไม่มีความสุขหรอกนะ”

“แต่ผม..กลัวว่า.มันจะเกิดขึ้นอีก.”

“ต่อให้มันเกิดขึ้นเหมือนเดิม มันก็ไม่ใช่ความผิดของไม้อยู่ดี อย่างเช่นไม้บอกว่าไม้รักหนูบัวใช่ไหมล่ะ”

“ครับ”

“แล้วที่หนูบัวไม่รักตอบ ไม้คิดว่าเป็นความผิดของหนูบัวไหม”

“ไม่ครับ บัวไม่ผิดนี่ ผมแค่อยากให้บัวได้รู้ ที่เหลือผมต้องรับผิดชอบตัวเอง”ผมยิ้มให้กับความคิดของน้อง 

“เพราะแบบนั้น พี่เลยอยากให้ไม้คิดใหม่  คนเรารับรู้ได้ไม่เท่ากัน มีความคิดไม่เท่ากัน เราไม่สามารถไปบังคับความคิดใครได้  ต่อให้ไม้อยู่เฉยๆ ไม่ไปดูแลใคร ไม่คบใคร หากมีคนคิดจะรักเขาก็รักอยู่ดี  “

น้องไม้นิ่งเงียบไปนานจนผมไม่แน่ใจว่าน้องจะเข้าใจที่ผมสื่อไหม

“นั่นสินะครับ ทำไมผมถึงลืมข้อนี้ไปได้นะ “

“เพราะเราแคร์เพื่อนเพราะเรารักเพื่อน ความผิดที่เกิดเราจึงรับเอาไว้เอง ถามว่าทำแบบนั้นผิดไหม ไม่ผิดหรอกครับ เรามักจะแคร์คนที่เรารักได้เสมอ  แต่พี่อยากให้ไม้ลองมองมาที่พ่อไผ่กับแม่นุ่น ท่านทั้งสองรักไม้มากนะครับ ไม่มีพ่อแม่คนไหน ที่จะเปิดรับคนแปลกหน้าที่พึ่งเจอกันอย่างพี่...โดยเฉพาะคนมีชื่อเสียงอย่างพ่อไผ่  แต่พ่อไผ่กับแม่นุ่นไม่ลังเลที่จะเปิดรับพี่เข้ามาเพียงเพราะรู้สึกว่าไม้ดีขึ้น.... ไม้รู้สึกผิดได้ แต่อย่าเอาความรู้สึกผิดนั้นมาทำร้ายคนที่รักเรา “


“ขอโทษครับ ฮึก ...ขอโทษ..ผมขอโทษ  “น้องร้องไห้อีกแล้วผมจะโดนพ่อไผ่ต่อยเอาหรือเปล่านะทำลูกเขาร้องไห้ทั้งคืนเลย

ผมพลักตัวตะแคงหันมามองน้องที่นอนเช็ดน้ำตาตัวเองทั้งยังเอ่ยแต่คำขอโทษที่ผมไม่รู้ว่าน้องขอโทษใคร

“คืนนี้ร้องไห้ให้พอ พรุ่งนี้ไม้จะเป็นตัวเองเป็นน้องไม้ที่ควรจะเป็น พี่ไม่ได้บอกให้ไม้ลืมชลหรือลืมเพื่อนๆ แต่พี่อยากให้ไม้เข้มแข็ง และสามารถเผชิญหน้ากับความกลัวนั่นได้ อย่ายอมแพ้ พี่จะอยู่ข้างๆ ไม่ไปไหน เรามาพยายามไปด้วยกันนะ ”


ผมนอนมองน้องไม้ที่ยังคงร้องไห้  ผมหวังว่าพรุ่งนี้ น้องจะออกมาจากความรู้สึกที่ติดลบมานานนั่นและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไม่ต้องกังวลอะไรอีก



............................ 



“ตื่นได้แล้วไม้  “ผมเขย่าตัวน้องไม้ที่ยังคงหลับสนิท ผมที่ตื่นเช้าจนอาบน้ำเสร็จแล้วน้องไม้ก็ยังไม่ตื่น 

“อื้อ..อีกนิดน่าบัวขอนอนหน่อย “ดูเอาเถอะ ขนาดหลับแบบนี้ยังคิดว่าอยู่กับหนูบัวเหรอ
 
“ตื่นเลยครับ สายแล้ว มีเรียนบ่าย แต่ต้องเข้าสโมฯตอนเช้านะ ตื่นเลยๆ “ผมดึงแขนน้องให้ลุกนั่งทั้งๆที่เจ้าตัวยังหลับตา คงง่วงจัด

“พี่โอ๊ตเหรอครับ.. อือ”ท่าทางปรือตานั่งโงนเงนบนเตียงมันน่า...ฮึ่ยยย คิดอะไรนั่นน้องโว้ยยยย

“ลุกเลยๆไม่ลุกปล้ำนะ “

“!!!! “ตาคู่สวยเบิกโพลงปากเผยอขึ้นลงเหมือนปลาทองฮุบเอาอากาศ  ตลกชะมัด

“ไปอาบน้ำเร็ว แม่มาปลุกรอบนึงแล้ว ตื่นเลยคนขี้เซา”

“ดะ..เดี๋ยวๆเมื่อกี๊ พี่โอ๊ตว่าอะไรนะ “

“ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ไปอาบน้ำเดี๋ยวพี่ลงไปช่วยแม่ทำครัวก่อน นะ”

ผมรับเดินออกจากห้องปล่อยให้น้องไม้นั่งเอ๋ออยู่บนเตียง อย่าว่าแต่น้องไม้ตกใจ ผมก็ตกใจเมื่อหลุดปากไปตามความคิด

ก็น้องน้าปล้ำจริงๆนี่ แต่ผมไม่ได้คิดจะปล้ำน้องนะ ก็แค่..อ่า ..ไม่ๆ นั่นน้องชาย ไม่ได้คิดเลยครับ 


“พี่โอ๊ตน้องไม้ตื่นหรือยัง”เสียงแม่ดังมาจากในครัว พ่อนั่งจิบกาแฟอยู่ระเบียงหลังบ้าน มีเจ้าตัวส้มสองตัววิ่งไล่กวดกันบนสนามหญ้า

“ตื่นแล้วครับ อาบน้ำอยู่ครับ”

“กาแฟไหมลูก เดี๋ยวแม่ชงให้”เช้านี้แม่เปลี่ยนสรรพนามของผมเรียบร้อย ดีจังมีพ่อกับแม่เพิ่มฮ่าๆๆ

“ไม่เป็นไรครับแม่เดี๋ยวผมชงเอง “ผมจัดการกาแฟของตัวเอง อยากจะช่วยแม่ทำกับข้าวแต่ก็ดูๆแล้วเกรงใจครับ

เอาไว้มาบ่อยๆค่อยช่วยดีกว่า ผมยกแก้วกาแฟเดินไปหาพ่อที่ระเบียงหลังบ้าน   

“อรุณสวัสดิ์ครับพ่อ”

“ไง โอ๊ต นอนหลับสบายไหม”

“ก็ดีครับ แต่น้อง “ผมชะงักไปนิดคิดว่าเล่้าให้พ่อไผ่ฟังน่าจะดี

“ไม้เป็นอะไร”พ่อไผ่ขมวดคิ้วเมื่อฟังผมบอกแบบนั้น

“เปล่าครับ..แค่น้องเล่าให้ฟังเรื่องที่พ่อกับแม่เล่าน่ะครับ แต่น้องร้องไห้หนักเลยกว่าจะหลับก็ดึก ”

ผมเห็นความกังวลในแววตา ของพ่อไผ่

“พ่อไม่รู้จะทำยังไงให้ไม้เลิกคิดมาก  ช่วงแรกๆ น้องไม่นอนเลยนะ น้องบอกว่าถ้าหลับไปจะฝันเห็น น้องชลตลอด  น้องเลยไม่อยากหลับ  น้องต้องเข้ารับการบำบัด อยู่นานกว่าจะเป็นไม้แบบทุกวันนี้  พ่ออยากให้ไม้มีความสุขจริงๆเสียที แต่ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะไม้ไม่เคยร้องไห้ให้พ่อกับแม่เห็นเลย  “

มันหมายความว่าน้องไว้ใจผมหรือเปล่านะ พอคิดแบบนั้นหัวใจผมเหมือนมีลมสูบจนพองคับอก ดีใจ นั่นคือความรู้สึกที่ผมสัมผัสมันได้


“ผมจะไม่ทำน้องเสียใจครับ ผมจะดูแลน้องเองครับ”

ยังเป็นความตั้งใจที่ผมรู้ว่าผมต้องทำ ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่แต่ผมรู้แค่ว่าผมอยากเห็นน้องไม้มีความสุข

“พ่อถามสักข้อได้ไหมโอ๊ต”

“ครับ”

“คิดยังไงกับลูกชายพ่อ”ผมนั่งเงียบคิดค้นลึกๆในหัวใจแต่ผมไม่มีคำตอบ เพราะผมไม่รู้จริงๆ 


“ถ้าผมบอกว่าไม่รู้พ่อจะว่าผมไหมครับ  บางทีผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน  กับน้องไม้ผมเหมือนจะคิดเยอะกว่าคนอื่นๆ แต่ไม่ได้คิดในแง่ร้ายนะครับ  ผมรู้แค่ว่าผมหวังดีกับน้อง อยากให้น้องมีความสุข บางครั้งผมรู้สึกอยากมีน้องชายเพราะผมมีพี่ชาย ผมรู้สึกว่าน้องไม้เหมือนน้องชายที่ผมต้องดูแล แต่บางครั้งมันก็ย้อนแย้งว่าไม่ใช่  “


พ่อไผ่จ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผม ผมก็มองตอบโดยไม่หลบสายตา ผมไม่รู้จริงๆว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อน้องไม้มันเรียกว่าอะไร

 มันมีแต่ความห่วงใยมีแต่ความหวังดี ไม่มีความคิดแย่ๆให้น้องแน่นอน   

“เฮ้อ..เอาเถอะ  ถ้าสักวัน ความรู้สึกของโอ๊ตเปลี่ยนไป หรือโอ๊ตเข้าใจความรู้สึกของโอ๊ตเองแล้ว มาบอกพ่อหน่อยนะ “

“ครับ ผมจะบอกพ่อแน่นอน”

ผมรับคำก่อนจะหันไปหาเจ้ามาร์คที่คาบลูกบอลวิ่งมาหาผม มันเอาคางเกยหน้าขาของผมก่อนจะคายลูกบอลในมือผมที่ยืนออกไปหา

“อยากเล่นเหรอ “เจ้าตัวส้มถอยหลังตั้งท่าจะวิ่งทันทีที่เห็นผมกำบอลในมือแน่น

“ฮ่าๆ แสนรู้จริง”ผมลุกขึ้นมายืนในสนามหญ้าแล้วขว้างลูกบอลออกไปหามาลีที่ยืนอยู่อีกฝั่งของสนามหญาเหมือนจะรอรับ.

.มาลีกระโดดงับรับเอาลูกบอล ก่อนที่มาร์คจะวิ่งไปถึง ภาพเจ้าตัวส้มแย่งบอลกันทำให้ผมยิ้มตาม 


“หวังว่าจะไม่มีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นอีกนะ “พ่อไผ่พูดเบาๆเหมือนจะพูดกับตัวเองแต่ผมก็ได้ยิน   ผมก็คิดอย่างนั้น 

ผมเล่นกับน้องมาร์คและน้องมาลีจนเหนื่อย  เข้าใจพี่ทอยเลยครับว่าความรักสัตว์ของพี่ทอยมันมีความสุขอยู่ในนั้น

ขนาดผมยังชอบเจ้าสองตัวนี่เลยครับ เห็นทีต้องหาโอกาสพาเจ้าสองตัวนี่ไปหาพี่ทอย เอ๊ะหรือจะพาพี่ทอยมาหาเจ้าสองตัวนี่ดีนะ

น้องไม้แต่งตัวพร้อมออกไปเรียน แม่นุ่นเรียกเราไปร่วมโต๊ะอาหาร บรรยากาศเช้านี้ผมว่า มันดีมากจริงๆ 

“แม่ฝากดูแลน้องด้วยนะพี่โอ๊ต “แม่ยกกล่องข้าวที่บรรจุอาหารสำหรับสองคนมาให้ผมที่รถ   

“ครับแม่ ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลน้องเองครับ”

“ผมมากกว่ามั้งที่ต้องดูแลพี่น่ะ ในตู้เย็นที่ห้องมีแต่แอลกอฮอล์ “

เสียงร่าเริงที่แย้งผมมาทำให้ผมยิ้มกว้างกับความสดใสนั้น ไม่เหลือคราบคนขี้แยเมื่อคืนสักนิด

“งานพี่เยอะหรอก พี่ทำกับข้าวเป็นนะ ไม่เหมือน...”ผมว่าพลางเหล่ตามองคนที่ยิ้มแหยๆ ผมเอง

ก็พึ่งจะรู้จากแม่นุ่นเมื่อคืนว่าน้องไม้ทำกับข้าวไม่เป็น น้องทำได้แค่เมนูง่ายๆไม่กี่อย่าง ซึ่งทั้งหมดที่น้องทำเป็นต้องทำจากไข่ เท่านั้น

 ผมรู้ชะตาเลยว่าเมนูที่น้องจะทำให้ตามคำขอของผมนั้นไม่พ้นไข่เจียวเป็นแน่ 

“รีบๆไปเถอะ เดี๋ยวสายทั้งคู่หรอกจ้ะ มาเถียงกันเป็นเด็กๆไปได้ พี่โอ๊ตขับรถดีๆนะลูก “

“ครับแม่ ผมไปนะครับ “ผมยกมือไหว้ลา พ่อไผ่แม่นุ่น ก่อนจะเข้าประจำตำแหน่งคนขับ

  มาบ้านน้องไม้ครั้งนี้เกินกว่าคำว่าคุ้มครับ ได้ถ่ายรูปกับพ่อไผ่ ได้เบอร์โทรส่วนตัวด้วย หึหึ

ต้องมีใครสักคนในกลุ่มผมชักดิ้นชักงอเพราะความอิจฉาแน่ๆ คุณทิวไผ่ไม่ใช่ว่าใครก็จะได้เจอเขาง่ายๆนะครับ

 ตั้งแต่เป็นดาวเด่นแชมป์F1 ห้าปีซ้อน แชมป์สนามใหญ่ๆทั่วโลกอีกไม่น้อย

ด้วยอายุยังน้อยหน้าตาดีมากมีทั้งชายทั้งหญิงรุมล้อมเสนอตัวให้เขาจนต้องมีการ์ดประจำตัวกั้นคุณทิวไผ่จากคนภายนอกเข้าถึงยากมากครับ

 และยิ่งตอนนี้คุถณทิวไผ่ลาวงการแล้วยิ่งไม่มีโอกาสได้เจอ มันเป็นเหมือนของขวัญชั้นยอดที่ผมได้โอกาสนั้นมา 

“พี่โอ๊ตยิ้มอะไร หน้าตาเจ้าเล่ห์มาก”

“หึหึ เปล่าครับ แค่คิดถึงอะไรดีๆที่ได้มามันก็ มีความสุข”

น้องไม้ทำหน้างงจนผมอดที่จะยื่นมืออีกข้างไปตบลงบนไหล่น้องสองสามที อยากจะบอกว่า น้องไม้คือสิ่งดีๆ ที่ผมได้เจอ

 การเริ่มต้นความสัมพันธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ดูแลกัน เป็นเพื่อนเป็นพี่น้อง  เปิดใจรับและเรียนรู้คนอื่นๆบ้าง  มันจะต้องดีแน่นอน 

บางที ไอ้การที่ผมทำเป็นเย็นชาจนได้ฉายาเจ้าชายน้ำแข็งนั่น  ไม่ชอบให้ใครเข้าหา ไม่พูดจากับคนไม่สนิท

มันอาจจะทำให้ผมพลาดสิ่งดีๆไปหลายอย่าง เช่นน้องไม้  หากผมยังคงเป็นผมในอีกมุมที่ปิดกั้นคนอื่น

ผมคงไม่มีโอกาสได้รู้จักคนดีๆ ครอบครัวดีๆ และที่สำคัญผมคงพลาดที่จะได้รู้จักกับไอดอลของผม 

มันคงจะเป็นเรื่องที่ผมพลาดอย่างมาก ไม่ใช่แค่น้องไม้ที่ต้องเปิดใจ ผมก็เช่นกัน


TBC....

เอาล่ะ ตอนต่อไป จะได้เจอพี่โอ๊ตในเวอร์ชั่นใหม่ค่ะ 555555

อิพี่มันก็คิดได้บ้างนะคะ ตัวตนจริงๆของพี่โอ๊ต ทั้งรั่ว ทั้งเกรียน กวนตีน แต่ใจดี  คนที่จะเห็นแบบนั้นก็มีแค่เพื่อนสนิท และครอบครัว

แต่ว่าต่อจากนี้อิพี่มันจะเปิดให้คนนอกได้เข้าชม 5555 เรียกว่าเปิดเผยตัวตนอีกด้านจะดีกว่าค่ะ แต่ก็ยังคงคอนเซ็ป หน้านิ่ง พูดน้อย อาจจะละทิ้งความเย็นชา เหลือเพียงความคูล ที่คงจะต้องดึงดูดสาวๆหนุ่มๆเข้าหาอีกพะเรอเกวียน 

น้องไม้ก็เช่นกัน จากที่ยิ้มเก่งอยู่แล้วตัวตนแท้จริงน้องไม้เป็นคนขี้เกรงใจ แต่ชอบดูแลคนอื่น เป็นคนจิตใจดีอ่อนโยน

และละมุนมาก ที่สำคัญความขี้อ้อนนั้น นอ้งเก็บมันไว้ตั้งแต่เกิดเรื่อง  จากนี้ไปอิพี่คงต้องรับมือหนักขึ้น จะคีพลุคไหวไหมพี่ 55555



นานๆแวะมาที อยากอ่านเม้นท์บ้างเนอะ  พันวายังยืนยันว่านิยายเรื่องนี้ มันไม่มีดราม่านะ คงมีแค่มาม่าคัพถ้วยเล็กๆ ที่ยังไม่ได้ไปซื้อ


รอต้มตอนใกล้จบเนอะ คิคิ

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่าาาา :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:







หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 11 นับหนึ่ง อีกครั้ง ( 28 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 27-07-2018 10:21:12
 :pig4: :pig4: :pig4:

อร๊ายยยยย  สัญญาณที่ดีนาจา

พี่โอ๊ตน้องไม้  ต่อไปนี้จะหวานหยดหรือเกรียนแตกขนาดไหน  มาคอยลุ้นกัน
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 11 นับหนึ่ง อีกครั้ง ( 28 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-07-2018 13:08:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 11 นับหนึ่ง อีกครั้ง ( 28 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-07-2018 09:52:28
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 11 นับหนึ่ง อีกครั้ง ( 28 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 28-07-2018 19:54:10
ง่อววววววว :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 11 นับหนึ่ง อีกครั้ง ( 28 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Sutharat ที่ 29-07-2018 15:05:56
พี่โ๊อ๊ตจะทำสำเร็จรึเปล่าต้องดูต่อไป
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 11 นับหนึ่ง อีกครั้ง ( 28 /7/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Maleewong ที่ 31-07-2018 19:33:49
รอดูพี่โอ๊ตหลุดมาด
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 12 จีบ ( 4 /8/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 04-08-2018 12:35:06
แผนที่ 12 จีบ


วนันต์



จากวันที่พาพี่โอ๊ตไปกินข้าวที่บ้าน ผมรู้สึกเหมือนได้พาตัวเองออกมาจากห้องแคบๆห้องนั้น 

บางอย่างที่คิดเองได้ง่ายๆผมกลับนึกไม่ถึง ผมปิดกั้นตัวเองมากไปจนละเลยคนรอบข้าง ละเลยคำแนะนำอย่างพ่อกับแม่

หรือแม้แต่หนูบัว ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมพี่โอ๊ตถึงทำให้ผมเปิดใจรับฟังและมองเห็นสิ่งที่พี่เขาแนะนำ

บางอย่างในตัวพี่โอ๊ตบอกผมว่าผมเชื่อเขาได้ พี่โอ๊ตไม่เหมือนคนอื่นๆที่เข้าหาผม พี่โอ๊ตที่ผมเจอครั้งแรก 

เหมือนเป็นคนที่เฉยชากับทุกสิ่งไม่สนใจใคร หน้าดุมากด้วยครับ แรกๆผมกลัวพี่เขานิดๆนะ ฮ่าๆๆ

 แต่ถึงอย่างนั้นพี่เขาก็ไม่ได้ไล่ผมออกห่าง  พี่โอ๊ตปฏิบัติกับผมเหมือนคนทั่วไป เหมือนเพื่อนของเขา

 ซึ่งต่างจากคนอื่นๆที่เข้าหาผมเพราะอยากมีความสัมพันธ์แบบอื่น ที่มากกว่าเป็นเพื่อนกัน


พี่โอ๊ตที่ตาเป็นประกายเวลาพูดถึงพ่อของผม มันน่ารักจนผมรู้สึกว่าเขาเหมือนเด็กๆที่เป็นติ่งดารา

 เวลาอยู่ต่อหน้าพ่อ พี่โอ๊ตเหมือนทำตัวไม่ถูก ริ้วแดงๆข้างแก้มหูแดงๆที่ขึ้นสีรวดเร็ว ทำให้ผมขำความขี้เขินของพี่โอ๊ต

  พ่อก็คงสังเกตเห็นเลยชอบแกล้งพี่โอ๊ตประจำ


วันที่พี่โอ๊ตไปบ้านของผมพี่เขาทำตัวได้กลมกลืนราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน  มันแปลกตรงที่ผมไม่รู้สึกว่าเขาเป็นคนนอกเลยสักนิด

วันที่พวกเพื่อนๆของพี่โอ๊ตรู้ว่าพี่โอ๊ตได้ถ่ายรูปกับพ่อได้ลายเซ็นต์ ผมล่ะอยากจะถ่ายคลิปเก็บไว้โดยเฉพาะ พี่โอม

 ที่ดูไม่เข้ากันเลยกับคนที่ชื่นชอบความเร็ว  คำว่างื้อออ หลุดออกจากปากพี่โอมทั้งวัน  สงสัยคงหมั่นไส้พี่โอ๊ตมากแน่ๆ

ผมรู้สึกว่าผมโชคดี  ที่ได้รู้จักกลุ่มพี่ๆ  กลุ่มนี้  มันทำให้ผมรู้สึกว่าที่ผ่านมาผมอาจจะเสียโอกาสรู้จักคนดีๆไปมาก

แต่นับจากนี้ผมจะเริ่มใหม่  ทำความเข้าใจใหม่ แม้ว่าในใจผมยังคงนึกถึงเพื่อนๆ หวังว่าสักวันที่พวกเราได้เจอกันในอนาคต

ผมจะขอโทษพวกเขา สักครั้ง ชีวิตดำเนินต่อไปครับ นักศึกษาเฟรชชี่อย่างผมก็เช่นกัน

ทั้งบทเรียนที่เริ่มถาโถมเข้ามา  ไหนจะกิจกรรมของตัวแทนคณะและตัวแทนมหาวิทยาลัย  มันพุ่งชนผมจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน

แต่ผมก็รู้สึกสนุกอย่างที่ไม่เคยได้รู้สึก  ผมเริ่มรู้จักคนอื่นๆมากขึ้น  เพื่อนใหม่ ที่ผมเปิดรับ

และแน่นอนว่า ผมแทบจะไม่ห่างจากหนูบัวและกลุ่มพี่โอ๊ตเลย  หนูบัวยังสนุกกับการจับคู่ คนที่โดนมากสุดคงเป็นพี่ปีย์ครับ

 วันนี้เหมือนรวมตัวกันทีร้านกาแฟ ใต้คอนโด เป็นช่วงสายของวัน ที่ผมมีเรียนแต่บัวไม่ได้ไปด้วย

เพราะวันนี้ ลุงพี จะให้บัวช่วยทดสอบรุ่นในโรงฝึก และพี่ปีย์คงไปด้วยเช่นเคย แต่วันนี้ น้องเงินต้องไปรับ น้องตังค์ แทนหนูบัว

 เลยต้องแวะมาเอาพวกเอกสารแนะแนวที่พี่ปีย์หาไว้ให้   เลยโดนเจ้าตัวแสบบัวจับคู่จิ้นคู่ใหม่ จนได้


“พี่ปีย์มาถ่ายรูปกับน้องเงินหน่อยสิ บัวจะส่งให้เพื่อนที่เพจอ่ะ นะคะๆนะ “

พี่โอ๊ตนั่งหัวเราะเบาๆข้างๆผมทื่มองดูพี่ปีย์ทำหน้าเหมือนกำลังกลืนบอระเพ็ด


“บัวเล่นอะไรอีกล่ะเนี่ย หืม “

เสียงน้องเงินที่คงจะระอาพี่สาวคนสวยเต็มทน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เงินเลยทำตัวเป็นตุ๊กตาให้หนูบัวจับหันซ้ายหันขวาให้ยืนคู่พี่ปีย์

“พี่เปลี่ยนใจได้นะ  ผมว่าถ้าพี่ยังจีบพี่สาวผมต่อนะ คงได้เมียผู้ชายสักวันหรือไม่ก็ได้เป็นเมียใครสักคน  “

ยิ่งคำพูดน้องเงินพี่ปีย์ยิ่งหน้าซีดกว่าเดิม  แต่ยังใจกล้าชูสองนิ้วให้กล้องที่หนูบัวเป็นคนถ่าย 

ดูๆไปผมก็รู้สึกดีใจที่พี่ปีย์ไม่ได้หนีหายไปเหมือนคนอื่นๆ  ที่ผ่านมา คนที่มาจีบยัยหนูบัวแล้วโดนจับคู่แบบนี้เผ่นหนีทุกรายครับ 

ผมได้แต่ภาวนาว่าพี่ปีย์จะผ่านด่านนี้ไปได้ ดูท่าทางแล้วยัยตัวแสบนั่นก็คงชอบพี่ปีย์เหมือนกันล่ะน่า

 เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา หนูบัวไม่เคยจับพี่ปีย์จิ้นคู่คนอื่นนอกจากน้องชายตัวเอง แบบนี้มันหวงชัดๆ  หึหึ

 เพราะถ้าเป็นคนอื่นๆจะมีจับมาคู่ผมบ้างและจับคู่คนที่เข้ามาจีบหนูบัวด้วยกันเองอีก  แบบนี้มันผิดปรกติครับ 


“เย็นนี้อย่าพึ่งกลับนะเดี๋ยวพี่ไปรับ”พี่โอ๊ตเอ่ยขึ้นหลังจากที่พี่ปีย์เดินออกไปส่งน้องเงินตามคำสั่งหนูบัว
 
“ฮั่นแน่ จะพาเพื่อนบัวไปไหนคะ  “

ยัยตัวแสบยังไม่วายทำเสียงล้อเลียนเพราะตั้งแต่วันนั้นที่พี่โอ๊ตไปบ้าน ผมเล่าให้หนูบัวฟังแล้วครับ ว่าพี่โอ๊ตรู้อะไรบ้าง

  ดูเหมือนเจ้าตัวแสบยิ่งปลื้มพี่โอ๊ตหนักกว่าเดิมอีก ตอนนี้แทบจะจับผมใส่พานให้พี่โอ๊ตอยู่แล้ว

 แม้ผมจะบอกว่าไม่ได้คิดแบบนั้น ยัยตัวแสบก็ไม่ฟัง

“ว่าจะพาไปช่วยเลือกซื้อของขวัญน่ะครับ วันนี้วันเกิดพี่อาร์ต  หนูบัวไปด้วยกันไหมครับ “

“ไม่ดีกว่าค่ะพี่โอ๊ตบัวไม่อยากเป็นกขคง คิคิ “

เสียงหัวเราะประหลาดๆที่ผมไม่ค่อยได้ยินมากนักถ้าเป็นแต่ก่อน ดูได้เลยว่าเพื่อนผมดีใจมากแค่ไหนที่ผมยอมเปิดรับเพื่อนใหม่ๆบ้าง
 
“กขค อะไรกันไม่ใช่สักหน่อย “

ผมบ่นยัยตัวแสบตามเรื่อง นี่เป็นเรื่องที่ผมค่อนข้างเกรงใจพี่โอ๊ตแมพี่จะบอกว่าไม่เป็นไรไม่ถือ

 แต่การที่โดนจับคู่เป็นแฟนกับบผู้ชายด้วยกันเนี่ย ผมอ่ะชินแล้ว แต่สงสารพี่โอ๊ต ที่จะต้องโดนคนอื่นมองว่าผิดเพศหรือเป็นเกย์

 มันคงแย่น่าดูถ้าพี่จะไม่สบายใจเพราะเรื่องของผม


“หึหึ ไม่เป็นไรครับ ดีซะอีก ช่วยเป็นไม้กันหมาแทนหนูบัว เนอะ  ไม้จะคบใครต้องมาให้พี่สกรีนก่อนโอเค้”

นี่ก็อีกคนมองเป็นเรื่องเล่นๆไปเสียหมด แล้วผมจะเครียดแทนทำไมล่ะเนี่ย

“คุณแฟนอย่าเครียดสิ เข้าเฟสบุ้คบ้าง จะได้หายเครียด”

ไม่รู้ว่าหนูบัวหมายถึงอะไรแต่ช่วงนี้ผมห่างจากโซเชี่ยลพอสมควร กิจกรรมเยอะ เรียนหนักอีก เลยแทบไม่ได้โพสอะไรในโซเชี่ยลทั้งสามช่องทาง

 ปรกติผมจะชอบเข้าไปเล่นทั้งทวิตและไอ้จี เฟสบุ้คนานๆที  ยิ่งได้ยินหนูบัวพูดแบบนี้ คงต้องเข้าไปส่องบ้างแล้ว

หนูบัวเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้รู้เรื่องที่ผมยอมเปิดรับกลุ่มพี่โอ๊ตเข้ามา  ยัยตัวแสบยิ้มกว้างกว่าเดิม

คือยังไงดีล่ะ เพื่อนผมเป็นคนยิ้มสวยยิ้มเก่งอยู่แล้ว เพียงแต่รอยยิ้มไม่ค่อยจะสว่างเจิดจ้านักคงเป็นเพราะความกังวลเรื่องของผม 

เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นไม่ได้กระทบกับผมคนเดียวแม้แต่หนูบัวเองก็โดนด้วย เวลาจะทำอะไรแต่ละครั้งหนูบัวจะคิดมาก

 เวลาไปหาเพื่อนๆในกลุ่มแล้วทิ้งผมไว้หนูบัวจะเศร้า  เพราะเพื่อนรู้สึกผิด ที่ตอบรับความรู้สึกผมไม่ได้

และเป็นห่วงว่าผมจะคิดเหมือนสายชลอีกคน ผมพยายามทำให้เพื่อนรักเพียงหนึ่งเดียวของผมเข้าใจว่า ผมไม่เป็นไร

 แต่ยัยแสบคงไม่เชื่อ เพราะแบบนั้น ทุกครั้งที่หนูบัวยิ้มเวลาอยู่กับผม  แววตาหนูบัวจะเศร้า ไม่เหมือนตอนนี้  ที่ยัยตัวแสบยิ้มทั้งปากทั้งตา


ไม่ใช่แค่หนูบัวที่เปลี่ยน พี่โอ๊ตก็เปลี่ยนไป  จากคนพูดน้อย ไม่ค่อยยิ้ม กลายเป็นคนช่างพูดช่างเล่าทุกเรื่องเวลาที่อยู่กับผม

แต่เวลาที่อยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้าหรือคนไม่สนิท พี่โอ๊ตก็ยังคงเป็นพี่โอ๊ตเหมือนเดิม

“บัวไปก่อนนะคะพี่โอ๊ตฝากเพื่อนบัวด้วยนะคะ เย็นๆเจอกัน”

“ครับๆ ไปเถอะไม้ รถพี่อยู่ทางนั้น”

ผมโบกมือให้หนูบัวก่อนจะเดินตามพี่โอ๊ตไปที่รถ  ช่วงหลังมานี้ พี่โอ๊ตดูจะเป็นสารถีจำเป็นของผมแทนหนูบัวแล้ว

 บางวันพ่อกะบแม่ก็โทรหาพี่โอ๊ตแทนที่จะโทรหาผม ดูเอาเถอะ ลูกชายคนใหม่ทำคะแนนนำลิ่วเลย 

“เป็นอะไรครับ “พี่โอ๊ตถามทำลายความเงียบ เมื่ออยู่บนรถสองคน

"เปล่านี่ครับ ทำไมเหรอ”ผมทำหน้าฉงนเพราะไม่เข้าใจคำถาม

ก็เห็นไม้เงียบไปตั้งแต่ขึ้นรถมา มีอะไรไม่สบายใจบอกพี่ได้นะ “

“โห...ไม่มีเลยครับ ผมแค่คิดอะไรนิดหน่อย..”

“คิดอะไรบอกพี่บ้าง”

“อืม...คิดว่า จะซื้ออะไรให้พี่อาร์ตดีน๊า ผมยังไม่เคยเจอพี่อาร์ตเลย”

“อย่าคิดๆ พี่อิจฉา ซื้อให้พี่คนเดียวพอ  ไม้แค่ไปเป็นเพื่อนพี่ห้ามซื้อ”

“อ๋า...ไม่ได้ๆ แบบนั้นไม่ดีครับ ไปงานวันเกิดก็ต้องซื้อของขวัญไปให้ด้วยสิครับ “

“งั้น..เราออกเงินคนละครึ่งดีไหม ซื้อชิ้นเดียวเป็นตัวแทนเราทั้งคู่ไง  มีคู่แล้วจะได้ไม่ต้องคิดมาก”

“?..”ยอมรับว่างงกับคำพูดพี่ครับ

“ฮ่าๆๆ อย่าทำหน้าแบบนั้น ..น่ารักเกินไป “

ทำหน้าแบบไหนครับ อยากถาม แต่คำสุดท้ายพี่ดูดเบาเกินผมไม่ได้ยิน  จะถามก็เห็นพี่ตั้งใจขับรถ ผมเลยเอียงหัวพิงไหล่พี่เล่นไป

นี่เป็นอีกอย่างที่ผมชอบทำครับ ผมชอบพิงไหล่พี่โอ๊ต ติดเป็นนิสัยครับ แต่ก่อนผมชอบนั่งพิงไหล่ไอ้บู จนมันคิดว่าผมชอบมัน

 แต่เอาจริงๆผมแค่เป็นคนติดสัมผัส ผมชอบกอดพ่อกับแม่ ชอบนอนหนุนตักพ่อกับแม่

ชอบนั่งพิงไหล่พิงหลังหนูบัวและเพื่อนๆ จริงๆผมเลิกพิงไหล่คนอื่นมาตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น

แต่พี่โอ๊ตบอกว่า พี่ไม่ถือ ผมทำตัวตามสบายได้ ผมรู้สึกเป็นอิสระอย่างที่ไม่คิดว่าจะได้รู้สึกแบบนี้อีก

“ตัวหนักขึ้นนะเราน่ะ นั่งตรงๆก่อนพี่ขับรถครับ”นี่เป็นข้อดีของพี่โอ๊ต พี่จะบอกผมตรงๆเสมอว่าผมทำอะไรได้หรือทำอะไรไม่ได้

มันลดความประหม่าลงได้และมีความมั่นใจมากขึ้น จนตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าอะไรที่ผมทำไม่ได้ เพราพี่โอ๊ตไม่เคยห้ามอะไรเลย

ไม่นานพี่โอ๊ตก็พารถคันหรูของพี่เลี้ยวเข้ามหาวิทยาลัย   

“ส่งผมแค่นี้ก็พอครับ  เดี๋ยวผมเดินไปเอง”หลังจากแยกย้ายกันที่คอนโด พี่โอ๊ตก็มาส่งผมที่มหาวิทยาลัย

 จะว่ามาส่งคงไม่ถูกเอาเป็นว่ามาพร้อมกันจะดีกว่า จากแต่ก่อนที่ผมจะติดรถยัยตัวแสบตลอด

กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้ผมตัวติดพี่โอ๊ตแทน ส่วนหนูบัวก็โดนพี่ปีย์ประกบไม่ห่างเช่นกัน 

“ทำไมล่ะ เดี๋ยวพี่ส่งถึงหน้าคณะเลย”

“พี่โอ๊ต อักษร กับวิศวะ มันคนละทางเลยครับ”

“แต่ไม้กับบัวก็มากินข้าวที่โรงอาหารวิศวะบ่อยนี่แสดงว่าไม่ไกลเท่าไหร่”

เอาตามที่พี่ถนัดเลยครับขี้เกียจเถียง ผมไม่เคยเถียงพี่เขาชนะเลยสักครั้ง คณะอักษร ของผมอยู่อีกฝั่งของมหาวิทยาลัยครับ

 ตรงข้ามกับวิศวะเลย  ถ้าพี่โอ๊ตไปส่งผมที่หน้าคณะ พี่เขาก็ต้องขับรถวนกลับมาอีกทาง เสียเวลา

แต่ก็นั่นแหละครับ คนมันจะดื้อ เถียงยังไงพี่แกก็แถจนไปได้นั่นแหละครับ ผมเลยพยักหน้าเออออไป


“ไม้ครับ”ผมหันกลับมาที่รถของพี่โอ๊ตที่จอดเยื้องทางเข้าหน้าคณะอักษรฯ ผมลืมอะไรหรือเปล่านะ

"ครับ?"

“เดี๋ยวเลิกคลาสแล้วพี่จะมารับนะ  อย่าหนีกลับก่อนล่ะ บายครับ“

ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรเดือนมหาวิทยาลัยปีสามก็ขับรถออกไปแล้วทิ้งให้ผมตกเป็นเป้าสายตาของเหล่านักศึกษา

ที่มองมาที่ผมด้วยความสงสัย แต่ก็ช่างเถอะนะ ผมคิดแค่นั้นก็เดินตรงเข้าตึกเรียนไป

ผมเดินเลี่ยงไปขึ้นบันไดแทนลิฟท์ เพราะคลาสเรียนอยู่แค่ชั้น2

ก่อนจะพ้นมุมตึกตรงบันได้ร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ตรงช่องอากาศ ทำให้ผมต้องเลี่ยงออกห่างๆ พลางยกมือปิดจมูกด้วย

ผมไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ครับ มันเหม็นจนหายใจไม่ออก

“ไม้”ผมชะงักหยุดเดินแล้วหันกลับไปตามเสียง

ผู้ชายคนนั้น ผมจำหน้าได้ว่าเรียนคลาสเดียวกัน เป็นคนที่เข้าประกวดเดือนตอนคัดเลือกเดือนคณะ แต่ผมจำชื่อเขาไม่ได้

 ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงแค่ผงกหัวทักทายแล้วเดินจากไป แต่ตอนนี้ผมคิดว่าการพูดคุยกับใครสักคนมันน่าจะดีกว่าเดินจากไป

“ครับ”

“อ่า..ขอโทษที เราไม่รู้ว่านายจะเดินมาทางนี้ “

เขาว่าพลางทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นพร้อมกับใช้เท้าขยี้ไฟให้ดับก่อนจะก้มลงเก็บไปทิ้งถังขยะใกล้ๆ

“ไม่เป็นไร ตามสบายเลย แต่ว่าไปสูบจุดที่เขาจัดให้สูบดีกว่านะ เกิดอาจารย์มาเห็นจะโดนทำโทษเอาได้นะ “

“อ่า..นั่นสินะ  เราชื่อป้องนะ จำเราได้ไหม ตอนคัดเดือนคณะน่ะ ”


“จำได้สิป้องโดดวันคัดนี่   “คนตรงหน้าผมรูปร่างสูงพอๆกับผม ผิวสีแทนสวยที่ผมอิจฉาอยากมีบ้างแบบนั้นแต่ผมไม่มี

ดวงตากลมโตขนตาหนาเป็นแพสวย แต่จมูกโด่งเป็นสันเขื่อนรับกับคิ้วสีดำเข้มแบบนั้นทำให้ดูหน้าดุมาก

แต่ต้องยอมรับว่าตาของป้องสวยจริงๆ ป้องโดนคัดมาเป็นตัวแทนคณะเหมือนผม แต่วันตัดสินคัดเลือก ป้องไม่มา

 ผลเลยตกมาที่ผมแทน


“โห่ เราไม่ชอบหรอก วันที่โดนเสนอตัวน่ะยังตกใจแทบตาย แต่เป็นไม้ก็ดีแล้วเพราะถ้าเป็นเราคงไม่ได้เป็นเดือนมหาลัยหรอก ฮ่าๆ”

“ไม่เข้าคลาสเหรอ อีกสิบนาที ไปเถอะ เดี๋ยวสาย”

ผมยิ้มให้พลางวเอ่ยชวนเพื่อนใหม่ ที่ทำความรู้จักกันตรงบันได ผมตั้งใจไว้ว่าจะลองเปิดรับเพื่อนใหม่ๆบ้าง

หลังจากนี้ มันน่าจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นล่ะนะ อย่างน้อยรอยยิ้มก็นำพาความสบายใจมาให้ ส่วนเรื่องใครจะคิดเกินเลยจนอึดอัด

 พี่โอ๊ตบอกว่า ขอคำแนะนำได้พี่เขาจะช่วย

แค่คำสัญญาเล็กๆน้อยๆของพี่โอ๊ตก็ทำเอาผมยิ้มไม่หุบไปทั้งวัน



“ทำไมวันนี้มาคนเดียวบัวไปไหนล่ะ”ป้องที่เดินมานั่งลงเก้าอี้ข้างๆผมที่เคยเป็นที่ของบหนูบัว

“วันนี้บัวมีงานที่บ้านน่ะ วิชานี้ไม่ต้องเช็คชื่อ บัวเลยโดด”นี่ก็อีกข้อที่เปลี่ยน ถ้าเป็นเมื่อก่อน หนูบัวไม่มีทางปล่อยผมมาเรียนคนเดียว
 
“โห..ดาวมหาลัยโดดเรียนว่ะ หึหึ”

“เอ่อ...ไม้จ๊ะ เราชื่อพิ้งค์นะเป็นเพื่อนป้อง  “

รอยยิ้มเปิดเผยของพิ้งค์ ที่เดินเข้ามาทักผมทำเอาอึ้งไปเหมือนกัน คนน่ารักๆแบบนี้ทำไมผมถึงจำไม่ได้นะ

“นี่ๆ”แรงสะกิดจากด้านหลังทำให้ผมต้องหันกลับไป ผู้ชายตัวเล็ก หน้าตาน่ารักผิวขาวใสฉีกยิ้มกว้างให้ผมก่อนจะแนะนำตัว

“เราปิงนะ เป็นเพื่อนสนิทไอ้เหี้ยป้อง”

“เห้ยๆ อย่ามีตำแหน่งนำหน้าสิวะ เดี๋ยวไม้ก็กลัวพวกเราหรอก “ป้องรีบแย้งเพื่อน ที่ผมพึ่งจะรู้จัก

“ เราเคยทักไม้ตอนงานเฟรชชี่แต่ไม้เมินเราอ่า..เสียใจนะ ...วันนี้คงไม่เมินเนาะ”

ว่าจบพร้อมยิ้มจนตาปิด ทำเอาผมหัวเราะแห้งๆอย่างไม่รู้จะทำอะไรได้ดีกว่านี้  แค่วันนี้ที่ผมยอมพูดคุยกับใครสักคน

 โดยไม่มีหนูบัวข้างกาย ผมได้เพื่อนใหม่มาสามคน  บรรยากาศเปลี่ยนไปเหมือนผมไม่เคยสังเกตสิ่งรอบตัว

 ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวว่า ตามติดชีวิตในโซเชี่ยลของผมตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเรียนที่นี่

 ผมเหมือนคนหยิ่งๆ ถึงจะยิ้มง่ายแต่ไม่เคยทักทายใครก่อน ไม่พูดคุยกับใครนอกจากแฟน ก็หนูบัวนั่นแหละครับ

 มีแค่ก้มหัวทักทายกลับเท่านั้น  ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มารยาทแย่ก็ตอนนี้แหละครับ


“เนี่ยเรานะ ดีใจมากเลยตอนที่ไม้ช่วยเก็บชีทเรียนวันนั้นอ่ะ “อ่าผมจำไม่ได้แฮะ ถ้าบอกไป พิ้งค์จะเสียใจไหม

“ดูทำหน้าเข้า  เรามีอะไรจะถามไม้หน่อยน่ะ “ผมเลิกคิ้วเชิงถาม

“กับพี่โอ๊ตนี่ยังไง?”

“หืม ?”ไม่ใช่แค่ผมงง ป้องกับปิงก็งงครับ 

“อ้าว.ทำหน้างงแบบนี้แสดงว่าไม่ได้เข้า ทวิตเตอร์เลยล่ะสิ   “

พิ้งค์ว่าแบบนั้นก่อนจะกดอะไรยุกยิกที่โทรศัพท์ของเธอแล้วยื่นมันมาให้ผม  ทั้งปิงและป้องก็ชะโงกเข้ามาดูมือถือในมือผม

 ภาพพี่โอ๊ตยิ้มกว้าง โดยมีผมร่วมเฟรม มันจะไม่เรียกยอดรีมากมายนักถ้าแค่ยืนยิ้ม

เป็นเพราะมือใหญ่ๆของพี่โอ๊ตที่จับมือผมไว้แน่นนั่นต่างหาก ทำให้ยอดรีพุ่งสูงไปเกือบหมื่น


“ไม่ใช่แค่นี้นะ ทั้งในไอจี และเพจคิ้วบอยของมหาลัยน่ะ มีแต่ภาพของไม้กับพี่โอ๊ตอ่ะ  นี่ถ้าไม่บอกว่าบัวเป็นแฟนกับไม้นะ เราคิดว่า ไม้กับพี่โอ๊ตน่ะเป็นแฟนกัน “


“เฮ้ย!!!..ไม่ใช่ๆ ไม่ใช่แฟนนะ ก็เป็นพี่อ่ะ ยัยบัวตัวแสบนี่ถ่ายรูปยังไงของเค้านะ”

ผมล่ะยอมใจแต่ละรูปราวกับมีแสงสีชมพูฟรุ้งฟริ้งรอบตัวผมกับพี่โอ๊ต โอยจะบ้าตาย


“อย่ามาปฏิเสธเลยน่า...เมื่อเช้าน่ะ ใครมาส่ง แหนะๆ  พี่โอ๊ตใช่ม๊า”

ทั้งน้ำเสียงทั้งสายตาที่ล้อเลียนของพิ้งค์ทำผมคิดหนัก  พี่โอ๊ตจะรู้สึกยังไงนะ  เย็นนี้คงต้องคุยกันจริงจังกับหนูบัวแล้วล่ะ

 เกรงว่ามันจะเลยเถิดไป...ผมไม่อยากจะคิดมากหรอกนะครับ แต่ผมไม่อยากให้พี่โอ๊ตเดือดร้อนเพราะผม


“อ่า..แค่เพื่อนกันครับ”ผมได้แต่ตอบยิ้มๆไป แต่ดูจากสายตาของเพื่อนใหม่ทั้งสามคน มันดูไม่ค่อยเชื่อผมสักเท่าไหร่เลย 

“ผู้หญิงทุกวันนี้น่ากลัวว่ะ  เห็นผู้ชายเป็นแฟนกันแล้วมีความสุข” ป้องเอ่ยขึ้นเมื่อไล่อ่านคอมเม้นท์ในเพจคิ้วบอย

“นั่นสิ  ..เนี่ยแบบนี้เราโดนมาตั้งแต่ม.ต้นเลย จับคู่กับใครไม่จับ ดันจับคู่ไอ้ป้อง เราเซ็ง แต่ว่านะ พี่โอ๊ตอ่ะหล่อขนาดนี้ ถ้ามาจับจิ้นกับเรานะ เรายอม คิกคิก”


“ยอมอะไร  พี่โอ๊ตเค้าไม่เอามึงหรอกต้องสวยๆอย่างไม้นี่ ไอ้ตัวแดกแฟ้บอย่างมึงอ่ะหลบไปเลย ”

ป้องว่าพลางตบหัวปิงดังป้าบจนเราเจ็บแทน

“แหมๆ ที่พูดกับไม้เรางั้นเรางี้ สุภาพมากกกก ที่พูดกับกูนะ แม่งสัตว์มาเป็นฟาร์มเลย “

“ก็ไม้เค้าดูเรียบร้อยไม่ใช่ลิงเหมือนมึงไอ้ตัวแดกแฟ้บ”

“อ่า อย่าทะเลาะกันสิ”

“ไม่ได้ทะเลาะ/ไม่ได้ทะเลาะ”

สองคนหันขวับมาหาผมทั้งยังพูดพร้อมกันอีก พิ้งค์ที่เอาแต่นั่งทำตาเป็นประกายมองสองคนทะเลาะกัน

ผมก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ไถทวิตดูข่าวตัวเองกับพี่โอ๊ต เฮ้อ วันแรกของการไม่มีหนูบัว มันก็ไม่ได้แย่อะนะ

อย่างน้อย ผมก็มองเห็นอะไรหลายๆอย่างที่ผมพลาดตอนมาเรียนแรกๆ  ผมมีเพื่อนใหม่  ผมรู้สึกว่าผมจะผ่านช่วงเวลาเลวร้ายนั่นได้ ถ้ามีพี่โอ๊ต


......................

หลังเลิกคลาสเราทะยอยกันเดินออกจากห้อง   ปิงยังเกาะแขนผมแน่นเหมือนจะไม่ยอมให้ผมจากไปง่ายๆ

ผมรู้สึกเห็นเงาของชลทับซ้อนมากับปิง เลยค่อยๆแกะมือปิงออกจากแขนก่อนจะเดินตรงออกไปทางหน้าคณะ

“รอเราด้วย ไปหาอะไรกินกันไหม เราหิวมากเลย”ปิงหน้าเจื่อนลงนิดหน่อย ผมเริ่มรู้สึกอึดอัดกลัวเพื่อนไม่เข้าใจ

“เอ่อ ปิง..คือเราไม่ค่อยชินกับการถูกตัวคนอื่นน่ะ ขอโทษนะ  “

ผมพยายามแก้ไขความเข้าใจผิด ผมไม่อยากให้การเริ่มต้นของผมต้องพังลงเพราะความรู้สึกแบบเดิมๆ

"โอ๊ย..ไม่เป็นไรๆ เราเข้าใจ เราก็เผลอไปขอโทษด้วย อยู่กับไอ้เหี้ยป้องจนชิน แหะๆ"

“มึงดูโน่นก่อนไอ้ปิง เดี๋ยวโดนเดือนมหาลัยกระทืบหรอก “

ยังไม่ทันที่ปิงจะได้พูดอะไร ป้องก็เอ่ยขึ้นมาก่อนพลางพยักพะเยิดหน้าไปทางพี่โอ๊ตที่เดินตรงเข้ามาหาพวกเรา

“อ๊ะ ๆไม้ก็เป็นเดือนมหาลัยนะ ไม้ไม่กระทืบเราแน่ๆเรารู้ใช่ไหม ๆ”

“แหวะ ทำเป็นพูดเพราะ ว่าแต่กูนะมึงน่ะ “ผมหัวเราะออกมาได้ด้วยความสบายใจระดับหนึ่ง

 เมื่อเห็นเพื่อนใหม่ทั้งคู่ที่เถียงกันไม่เลิก และสีหน้าของปิงก็ไม่ได้แย่จนเหมือนคนเสียใจ ทำให้ผมเบาใจไปได้บ้าง


“รอนานไหมครับ”ผมหันไปถามพี่โอ๊ตที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ารอยยิ้มจางของเดือนมหาลัยปีสามทำให้ได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดเบาๆรอบตัว

ก็นะ ฉายาเจ้าชายน้ำแข็งไม่ได้มาเพราะบังเอิญรอยยิ้มจากพี่โอ๊ตหายากพอๆกับไอดีไลน์และเบอร์โทรพี่เขานั่นแหละครับ

“ไม่นานหรอกพี่พึ่งมาถึง แล้วนี้ เพื่อนเหรอ “

“ครับ  นี่ป้อง ปิง แล้วก็พิ้งค์ครับ”

ผมแนะนำเพื่อนใหม่ ให้พี่โอ๊ตได้รู้พร้อมกับยิ้มเต็มหน้าส่งไปให้ ผมอยากให้พี่โอ๊ตรู้ว่าผมพร้อมจะก้าวออกมาจากเซฟโซนแล้ว

"หูยยยย ยิ้มหวานเวอร์ “เสียงของปิงดังงุ้งงิ้งกับป้องพิ้งค์ยืนยิ้มหน้าแดงอยู่ข้างๆผม

ก็พี่โอ๊ตส่งยิ้มให้ขนาดนี้ คงเขินน่าดู ท่าทางของเพื่อนๆทำให้ผมหัวเราะออกมาเบาๆ


“ขำอะไรครับ ไปเร็ว เดี๋ยวจะต้องกลับบ้านอีก นะ แม่บอกจะทำบัวลอยไว้ให้ไม้ด้วย”

“โห..แม่รู้ได้ไงอ่ะ  พี่โอ๊ตบอกสิใช่ไหมๆ ลำบากแม่แย่เลย”

“ไม่กิน?”

“กินครับ “รีบตอบรับก่อนที่พี่จะเปลี่ยนใจ พร้อมส่งยิ้มเอาใจไปด้วยเดี๋ยวอดครับฮ่าๆๆ

“นี่ๆ”ปิงสกิดไหล่ผมเบาๆสองสามทีจนผมต้องหันไปมอง

“ครับปิง”

“ ไม้ รอบๆไม้มีเรามีพิ้งค์มีป้อง และยังมีเพื่อนๆร่วมมหาวิทยาลัยอีกเป็นร้อยเลยดูสิๆ”

ปิงว่าแบบนั้นทั้งยังจับหน้าผมให้หันมองรอบๆ อ่า ทำไมทุกคนยืนยิ้มทำตาลอยๆแบบนั้นล่ะครับ

“..?..”

“ไอ้ปิงมันจะบอกว่า อย่าหวานกันแค่สองคน มันอิจฉา “

“  .เราเปล่าสักหน่อย” ผมเอ่ยขัดป้องแทบจะทันทีไม่อยากให้เข้าใจอะไรผิดๆ แต่พี่โอ๊ตเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือ

เพราะแทนที่จะช่วยกันแก้ไขความเข้าใจผิด กลับเอื้อมมือมาจับแขนผมแล้วดึงออกไปด้วยกัน

“พี่ขอตัวน้องไม้ก่อนนะครับ “

“อ๊ะ พี่โอ๊ต..ปล่อยเลยคนมองเยอะแยะ”

“มองไปสิ สนทำไม ไม้นั่นแหละมัวแต่โอ้เอ้ เดี๋ยวจะไปไม่ทันบัวลอยนะ หึหึ”

“อย่ารุนแรงกับเพื่อนผมนะครับพี่โอ๊ต ฮ่าๆๆ”

เสียงกระเซ้าดังตามหลังมานั่นเป็นเสียงป้องที่ยืนกอดคอปิงไว้ทำท่าโบกไม้โบกมือให้ผมจนน่าหมั่นไส้


.............

“พี่โอ๊ต ผมรู้สึกว่า ปิงจะคล้ายๆชล”

ทันทีที่เข้ามานั่งในรถ ผมก็เอ่ยบอกพี่โอ๊ตทันที เพราะมันรู้สึกแปลกๆและอึดอัดกับบางท่าทีของเพื่อนใหม่

“คล้ายแบบไหน ปิงชอบไม้เหรอครับ ?”

“ ก็..ไม่เชิงอย่างนั้นครับ ผมพึ่งจะรู้จักกันวันนี้อันที่จริงก็รู้จักตั้งแต่ ก่อนงานเฟรชชี่เดย์แล้วครับ  แต่ไม่ค่อยได้คุยกันแบบนี้เท่าไหร่  คือปิงมีส่วนคล้ายกับชล น่าจะบุคลิกน่ะครับ พอปิงเข้ามากอดบ้างจับแขนบ้างผมเลยรู้สึกว่า กลัวมันจะเป็นเหมือนชล”


แม้ว่าผมจะพยายามเปิดรับ แต่บางครั้งผมก็กลัว มือหนาๆตบลงบนไหล่ผมสองสามครั้งเบาๆ


“อย่าคิดมาก  ไม้ทำตัวปรกติเป็นตัวเองน่ะดีแล้ว  ส่วนเรื่องความรู้สึกคนอื่น ไม้ห้ามไม่ได้
 แค่ไม้ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นธรรมชาติของไม้ แล้วทุกอย่างมันจะดีเองนะครับ”

เพราะแบบนี้ล่ะมั้งนะ ผมเลยยิ้มได้อีกแล้ว


“อยากไปบ้านพี่เร็วๆแล้วสิ”


“หืม? ทำไมล่ะ”

“ก็ พ่อกับแม่พี่โอ๊ตต้องน่ารักมากๆแน่เลย พี่โอ๊ตถึงได้เป็นคนน่ารักแบบนี้”

ผมว่าพลางส่งยิ้มกว้างไปให้อีกครั้งผมยิ้มบ่อยมากเวลาที่อยู่กับพี่โอ๊ต รู้สึกว่าควบคุมกล้ามเนื้อหน้าไม่ได้เลย มันอยากจะยิ้มตลอดเวลา


“คนที่น่ารักน่ะ มันเราต่างหากไอ้ตัวน่ารัก  หึหึ”




รถยนต์คันหรูเคลื่อนที่ออกจากมหาวิทยาลัย ตรงไปสู่ห้างสรรพสินค้ากลางเมือง   

โดยมีผู้โดยสารหนึ่งคนกับพลขับหนึ่งคนที่แข่งกันยิ้มหน้าบานอยู่ในรถ
 


TBC......

....................................


 เรื่อยๆมาเรียงๆ น้องไม้ก็ยังระแวงอยู่นิดๆนะคะ น้องจะค่อยๆก้าวออกมาจากเซฟโซน  พี่โอ๊ตเองก็เริ่มลงมือ จีบน้องโดยไม่รู้ตัว55555

ด้วยเพราะตัวพี่โอ๊ตเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่การกระทำแบบนี้มันก็นะ เหมือน จีบน้องนั่นแหละ มึนๆอึนๆกันต่อไปทั้งพี่ทั้งน้อง

หนูบัวเองเริ่มถอยห่างเพื่อให้เพื่อนได้ปรับตัว เลยเป็นโอกาสของอิพี่ปีย์ด้วยล่ะ แต่ก็นะ แค่โดนจับคู่ผู้ชาย พี่ปีย์บ่ยั่นค่า สู้ตายเลย



พันวาว่าจะเขียนคู่รอง ตอนหน้า ให้เดา ว่าพันวาจะให้ใครเป็นคู่รอง อิอิ สนุกๆทายมาค่ะ 

ถ้ามีคู่ใหม่ๆน่าสน พันวาจะลองแต่งดู แต่คู่รองในใจพันวาตอนนี้ รับรองว่าไม่มีใครทายถูกแน่นอน หึหึหึ



ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 12 จีบ ( 4 /8/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-08-2018 14:40:28
คู่รองนี่ตัดป้องปิงออกชัวร์ อาจเป็นป้องเงินก็เป็นได้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 12 จีบ ( 4 /8/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-08-2018 17:11:04
 :pig4: :pig4: :pig4:

เคมีระหว่างป้องปิง มันน่าจะใช่นะ  ใช่มะ  ใช่ป่ะ?
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 12 จีบ ( 4 /8/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Maleewong ที่ 06-08-2018 07:38:18
ป้องปิง ต้องมาค่ะ เคมีเข้ากันดี :hao6:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 12 จีบ ( 4 /8/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 07-08-2018 21:29:29
คนเขียนบอกว่าไม่มีใครทายถูก ป้องปิงไม่น่าใจ เราว่าต้องเป็นคู่เพื่อนๆของพี่โอ๊ตอ่ะ อาจจะกระต่าย×ปิงเดาๆ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 12 จีบ ( 4 /8/61) P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-08-2018 22:42:01
ป้องปิงนี่ดูเคมีแล้วน่าจะจับมาชิปได้อีกคู่นะ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** Special Plan หมอ(หมา)ปะทะหมอ(ความ)..10/8/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 10-08-2018 11:56:09

Special  Plan  หมอ(หมา)ปะทะหมอ(ความ)






ผมยืนมองตึกสีชมพู ที่ดูเด่นเป็นสง่า พร้อมตัวอักษรเบ้อเร่อตรงหน้าว่า  หอพักนักศึกษาชาย  มันช่างขัดแย้งกับภาพลักษณ์สิ้นดี

 อยากจะรู้นักว่าหอพักหญิงมันจะสีอะไร แล้วบรรดาผู้ชายทั้งหลายมันไม่ตะขิดตะขวางใจกันหน่อยหรือไง

ที่อาศัยอยู่ในตึกสีชมพูหวานแหววแบบนี้    ผมยืนนิ่งอยู่นานด้วยความลังเลใจ ก็เพราะ ที่นี่ไม่ใช่มหาวิทยาลัยของผมน่ะสิครับ

  แล้วผมมาทำอะไรที่นี่น่ะเหรอ



// น่านะเพื่อน ช่วยกูหน่อย พอดีกูติดวอร์ดกับอาจารย์หมอ วันนี้มึงว่างนี่ นะๆช่วยกูหน่อย เดี๋ยวกูช่วยมึงทำเคสอาจารย์พิชัยเลยนะๆ //

นั่นเป็นคำพูดที่เป็นความหวังอันเลือนลางของผม จากเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่มี ไอ้อาร์ต อินทนินท์  นศ.แพทย์ปี 6 

มันไหว้วานให้ผมเอาของมาให้น้องชายต่างมหาลัยของมัน  ตอนนี้ถ้าคุณเดินผ่านจุดที่ผมยืนอยู่

คุณจะเห็นชายไทย ส่วนสูง188เซ็นติเมตร ยืนถือถุงผ้าใบใหญ่สีชมพูพาสเทล หันหน้าเข้าหาตืก8 ชั้นสีชมพูหวานแหวว ที่เด่นสัสๆ

โอยกูอายคน ใครก็ได้ช่วยที ไอ้น้องโอ๊ตครับ มึงอยู่ไหน กูจะไปหาถูกไหมวะโทรไปก็ไม่รับ อย่าให้กูเจอหน้าจะตบเกรียนให้ แตกเลย

หนอยมันบังอาจให้พี่ให้เชื้อต้องมายืนทำตัวชมพูอยู่แบบนี้   

ขณะที่ผมกำลังยืนท้อเป็นลิงหงอยผมก็เห็นใครสักคนเดินออกมาจากตึกสีชมพูนั่น

อ่า...... น่ารักชิปหายเลยว่ะครับ  มันจะดูเข้ากับสีตึกเกินไปแล้ว สาบานว่าตึกนี้เป็นหอพักชาย  เพราะคนที่เดินออกมา แม่เจ้าโว้ยยยยย

จะน่ารักไปไหน  ผู้ชายตัวเล็กๆผมหยักศกสีน้ำตาลแดง ตัดกับความขาวของผิวหน้าทำให้ใบหน้านั้นโดดเด่น

เนียนสว่างโร่ยิ่งกว่าแสงไฟนีออนตอนกลางคืน  ตากลมโตกระพริบถี่ๆคงเพราะจะปรับแสง 

 เหมือนปีกผีเสื้อกำลังกระพือปีกบินเลยครับ ไหนจะแก้มป่องๆมองดูเหมือนปลาทองอมลมนั่นอีก โอ๊ยน่าร๊ากกกกกกกกกก


ผมสตั๊นไปแค่ไม่กี่วิ ร่างเล็กๆที่ผมจ้องนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ดวงตากลมโตมองมาที่ผมลูกตาใสแจ๋วเหมือนลูกแก้ว

 มีความสงสัยก่อนจะเบนสายตาไปมองถุงสีชมพูในมือผม


“เอ่อ..พี่ทอยใช่ไหมครับ “

“เอ่อๆ อะ คะ.ครับๆ “ติดอ่างทันทีเลยผมอย่าบอกว่านี่คือน้องโอ๊ตนะ 

ผมเถียงใจขาด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอน้องโอ๊ตมาพักใหญ่ แต่หมีกริสซี่จะกลายร่างเป็นอุ๋งๆไม่ได้

 หรือไอ้อาร์ตแอบมีน้องอีกคน  ไอ้อาร์ตมึงมีน้องน่ารักขนาดนี้ทำไมไม่บอกกูวะไอ้เพื่อนเลว ผมได้แต่ด่าเพื่อนในใจ

ถ้ารู้ว่ามันมีน้องน่ารักขนาดนี้ ผมคงไม่ปล่อยเวลาทำความรู้จักน้องมันไปแหงๆ


“คิก.ผมชื่อโอมนะครับ  มารับของแทนโอ๊ตมัน พอดีมันไม่ว่าง ผมเลยมาเอาของแทน อันนี้ใช่ไหมครับ”

อ่าชื่ออ.อ่างเหมือนกันด้วย ตกลงเป็นน้องคนเล็กมันจริงหรือ นายพ่อนายแม่ไปปั่มปั๊มน้องให้ไอ้อาร์ตกับไอ้โอ๊ตตอนไหนวะ

ผมไม่เห็นจะรู้เรื่อง  คนน่ารักชี้มือมาที่ถุงผ้าสีชมพูที่ผมถืออยู่


ผมยื่นถุงผ้าให้น้องด้วยความเบลอขั้นสุด  คนน่ารักคว้าเอาถุงไปเปิดดู สีหน้าตื่นเต้นทั้งยังยิ้มกว้าง

จนผมต้องตาค้างกับความน่ารักที่แอทแท็คผมอย่างจัง



“งือออออ” มันแปลว่าอะไรครับน้อง พี่ไม่รู้ความหมายรู้แค่น้องน่ารักมากมายเลยโว้ยยยยยยย

ผมได้แต่โวยวายอยู่ในใจ กับไอ้ประโยคสั้นๆ ว่า.... งือออออ



ต่อจากนั้นน้องพูดอะไรอีกเยอะแยะ แต่ไม่มีอะไรเข้าหัวผมเลย ภาพสุดท้ายที่เห็นคือคนน่ารักแบกถุงผ้าใบนั้น

เข้าตึกสีชมพูไปพร้อมทั้งหันมาโบกมือหยอยๆให้ผมกับรอยยิ้มกว้างจนแกมอูม  นั่นยังทำผมละเมอยืนอยู่กับที่


น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก  คำนี้วิ่งเต็มหัวผมไปหมดเลย  กว่าจะตั้งสติได้

ผมก็พบว่าตัวเองยืนโบกมือให้ความว่างเปล่าตรงหน้า ไม่รู้ว่าทำแบบนั้นไปนานแค่ไหน

 แต่สายตาและเสียงซุบซิบรอบข้างทำให้ผมได้สติ  รีบควักโทรศัพท์กดเบอร์หาเพื่อนรักแทบจะทันที

//ไง เรียบร้อยไหมวะ//

“เรียบร้อยมากเพื่อน แต่กูอยากได้สิ่งตอบแทนที่มาทำธุระให้มึงสักอย่างนะเพื่อน”

//ก็เดี๋ยวกูช่วยเคสจารย์พิชัยไง//

“ช่างหัวเคสเถอะ กูอยากได้เบอร์โทรฯน้องโอม “

//ห๊ะ?? //

“ไม่ต้อง งงเพื่อน น้องโอมคนน่ารัก น้องชายคนเล็กของมึงอ่ะ กูจะเอาเบอร์โทรฯเดี๋ยวนี้ “

//เดี๋ยวๆ อะไรยังไง กูมีน้องชายคนเดียวคือไอ้โอ๊ตนะ..น้องโอมมันเพื่อนไอ้โอ๊ต.มึงบอกกูมาก่อนจะเอาเบอร์น้องโอมไปทำไร ไม่บอกกูไม่ให้//


“คือ...กูจะ...จีบ”

//.......//
.
.
.
.
.



“อาร์ต..อย่าพึ่งตายเอาเบอร์น้องโอมมา ไม่งั้นกูจะบอกน้องฟ้าว่ามึงมีแผ่นมิยาบิใต้เตียงที่หอแพทย์ ”


เสียงโวยวายที่จับคำพูดไม่ได้ว่าไอ้อาร์ตมันพูดอะไร แต่ที่แน่ๆ เบอร์โทรฯ ของน้องโอมถูกส่งมาทางไลน์ของผมทันทีที่เพื่อนรักวางสาย  เพราะเจอคำขู่ของผม หึหึ


พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว แต่ผมยังนั่งจ้องโทรศัพท์โดยไม่ได้กระดิกตัวไปไหนที่ห้อง  วันนี้จริงๆผมมีเคสที่คลินิกลุงหมอ พี่ชายพ่อผม

 แต่ตอนนี้ขอลุงหมอโดดงานด้วยเหตุผลที่ว่าจะไปหาหลานสะใภ้มาให้ ลุงหมอแทบจะจับผมใส่พานยกให้ใครก็ได้ที่ผมบอกว่ากำลังจีบ   

ด้วยความที่อยากให้ผมมีแฟนสักที เหตุผลน่ะเหรอครับ เดี๋ยววันหลังผมจะเล่าให้ฟังละกัน แต่วันนี้มือผมสั่น

เพราะไม่รู้ว่าจะทักน้องโอมยังไงไม่ให้อีกฝ่ายเมินผม หรือกลัวผมหสาว่าผมเป็นโรคจิต อะไรทำนองงนั้นก่อนที่จะได้จีบน้อง


กว่าจะขู่เข็ญเอาเบอร์น้องโอมมาได้ ก็ทำเอาหงุดหงิดไปเยอะ นี่ถ้าไม่เอาชื่อน้องอิงฟ้ามาอ้างคงจะแห้วแน่ๆผม  แต่ว่าได้เบอร์มาแล้ว

ต้องทำไงดีล่ะ ทันทีที่ผมบันทึกเบอร์น้องโอม รายชื่อในแอพสีเขียวก็เด้งมาให้ผมยิ้มกว้าง  อ่า ดิสไลน์ยังน่ารักเลย 

ดวงหน้ากลมๆแก้มอูมๆขึ้นสีเรื่อๆนั่นยังไม่เท่ารอยยิ้มกว้างจนตาปิด น่ารัก น่ารัก น่ารัก  ผมว่าผมกำลังเพ้อ 

เป็นเอามากเลยผม ถึงตอนนี้ผมตัดสินใจ เปิดแชทแอพสีเขียว ก่อนจะทักน้องโอมไปด้วยใจระทึก



Toys:ส่งสติ้กเกอร์

ผมเลือกส่งสติ้กเกอร์โคนี่ ยื่นหัวใจให้ หวังว่าเห็นชื่อผมน้องจะรู้ว่าเป็นผมนะ

โอมจงลง: ส่งสติ้กเกอร์

น้องโอมส่งสติ้กเกอร์ หมีบราวด์ที่มีเครื่องหมายเควสชั่นมาร์ค สองอันบนหัว



Toys:ส่งสติ้กเกอร์

ผมส่งสิ้กเกอร์กระต่ายโคนี่กอดหมีบราวน์ไปให้


                                                                             

โอมจงลง:ส่งสติ้กเกอร์

น้องโอมส่งสติ้กเกอร์หมีบราวน์ตีเข่ากระต่ายโคนี่คืนมา




จากตรงนี้ สงครามสติ้กเกอร์เริ่มแล้วครับ เราสองคนไม่ส่ง ข้อความใดๆ นอกจากสติ้กเกอร์ ผมยังคงส่งกระต่ายโคนี่หน้ามึนบ้าง

ส่งจูบบ้าง กอดหมีบราวน์บ้าง  น้องโอมก็ไม่น้อยหน้าครับ ไหนจะหมีบราวน์ตีเข่ากระต่ายโคนี่หมีบราวน์ต่อยโคนี่

หมีบราวน์ล็อคแขนโคนี่สาระพัดที่จะทำร้ายร่างกายกระต่ายโคนี่  ผมถึงกับหัวเราะออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหวจะน่ารักเกินไปแล้ว

ทั้งๆที่ไม่ได้คุยกันสักคำไม่มีตัวหนังสือให้อ่าน มีแต่สติ้กเกอร์ ที่ส่งโต้ตอบกันไปมา แต่ก็ทำให้ผมยิ้มจนปวดแก้มไปหมด 

นานแล้วสิที่ไม่ได้รู้สึกหัวใจพองโตแบบนี้ น่ารักจริงๆ

คืนนี้เป็นคืนแรกที่ผมนอนฝันดี เพราะสติ้กเกอร์ล่าสุดที่ได้รับ เป็นหมีบราวน์นอนกอดกระต่ายโคนี่บนเตียง

และมีตัวอักษรว่า GoodNight พร้อมทั้งรูปหัวใจปลิวว่อน ผมไม่รู้ว่าน้องคิดยังไงถึงได้ส่งสติ้กเกอร์ตัวนี้มาให้ 

แต่มันทำให้ผมฝันดีจริงๆ เพราะผมก็ส่งสติ้กเกอร์ตัวเดียวกันกลับไป 


เป็นเช้าที่วุ่นวายมากครับเพราะเมื่อวานผมมัวแต่เล่นโทรศัพท์ส่งสติกเกอร์จนดึกดื่น หลังจากสติกเกอร์ฝันดีผ่านไป

ผมยังคงนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง  หลับไม่ลงเพราะมัวแต่คิดว่า ผมจะเข้าหาน้องโอมยังไง เช้านี้เลยสโหลสะเหล มากเลยครับ

 วันนี้ก็เปิดเทอม ปี 6 เทอม2 มาได้สองอาทิตย์แล้วครับ ช่วงหลังๆ ผมโดนเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวเทบ่อยๆ

เพราะมันมีแฟน และแฟนมันสวยมากหยาดฟ้ามาดิน มีนามว่าน้องอิงฟ้า สาววิศวะ





โอม


ผมมองห้องแชท ที่มีแต่สติ้กเกอร์ แบบงงๆ  ไม่รู้ไอ้คนที่แอดมานี่ใคร   รูปดีสเป็นหมาปอมสองตัวที่ถูกตัดขนจนเกรียน

 น่าสงสารเป็นที่สุด ทีแรกผมจะไม่ใส่ใจหรอก เพราะกำลังเซ็งโดนเพื่อนเทครับ หนอย ไอ้ปีย์ก็เริงร่าไปหาน้องบัว

 ไอ้โอ๊ตปากแข็งก็ทำตัวติดกับน้องไม้อยู่นั่น  ไอ้หมีต่ายกับไอ้คุณนายก็พร้อมใจกันมีธุระ  ผมเลยเหี่ยวอยู่คนเดียว

 ประจวบกับไอ้ไลน์ปริศนาทักมาผมเลยเล่นด้วยแก้เซ็ง คิดว่ามันคงมาแบบ ทักครับ เหงาจุง อะไรอย่างนี้  แต่ไอ้บ้านี่ส่งแต่สติ้กเกอร์มา

 ผมเลยเล่นกับมันสักพัก เล่นไปเล่นมาสนุกดีครับ  ท่าทางเป็นผู้ชายมุ้งมิ้งดี ดูจากดีสและชื่อไลน์ของมัน

มันต้องชื่อต้อยอย่างแน่นอนครับ ผมฟังธงหักเลยเอ้า



อ้อ ไม่ต้องแปลกใจนะครับ ว่าทำไมผมคิดว่าต้องเป็นผู้ชายทักมา  99.99 เป็นผู้ชายครับที่ตามจีบตามตื๊อตามขอเบอร์

 แอดไลน์ที่ไม่รู้ไปหามาจากไหนก็คงเป็นได้เบอร์ผมนั่นแหละครับ  เคยถามถึงผู้หญิง 

สาวๆบอกว่า ผมเป็นได้สองอย่างสำหรับพวกเธอ  คือเป็นเพื่อนกับเป็นลูกครับ โถ อยากดูดนมแม่สักทีเหมือนกัน 

สรุปไทป์แบบผมไม่นิยมในหมู่สาวๆครับ 



บ่นไปก็เท่านั้นยอมรับชะตากรรมครับ  ผมไม่ปิดกั้นเรื่องเพศนะ จะอะไรยังไงได้หมด แค่รักผมจริงๆเท่านั้นพอ 

ก่อนที่จะได้มารู้จักกับได้กลุ่มทวยเทพทั้งสี่เนี่ย ผมเกือบโดนปู้ยี่ปู้ยำเพราะความไว้ใจล้วนๆ   

ไอ้หมีต่ายมันช่วยผมเพราะความบังเอิญตอนอยู่ปีหนึ่งในงานเฟรชชี่  เลยได้มารู้จักกับกลุ่มเพื่อนมัน แรกๆก็เกร็งครับ

พวกมันสี่ตัวหล่อๆทั้งนั้นสูงยาวเข่าดี มีผมเป็นแกะดำอยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า  แต่อยู่ไปอยู่มา รู้สึกว่าก็ดีเหมือนกัน 

พวกมันเป็นคนดี ที่สำคัญไอ้พวกนี้ชอบแข่งรถ อะฮ้า เข้าทางผม แม้ว่าจะไม่มีปัญญาซื้อรถหรูๆแค่มองก็พอใจแล้ว

กลับมาที่ไอ้ต้อยคนแปลกเมื่อคืน ใครชื่อต้อยที่ผมรู้จักมั่งนะ เอ ...พี่ว้าก หรือพี่สันฯ หรือจะกลุ่มหลีด ช่างเถอะ แต่ก็แปลกดีแฮะ

 ไม่มีตัวหนังสือให้อ่านสักตัว แต่เข้าใจว่ามันจีบ เออ แปลกคน 



Rrrrrrr


“ไง มึง กว่าจะว่างโทรหากู “

//โทษทีมึง วันนี้กูไปหาซื้อของขวัญให้พี่อาร์ต  คงไม่ได้แวะเข้าหอมึง เย็นนี้เดี๋ยวพี่ทอยไปรับมึงนะ เพราะกูไม่ได้กลับเข้าม.แล้ว//

“ทอย ?  ทอยไหนวะ”


//เพื่อนพี่อาร์ตไงที่เอาของไปให้มึงเมื่อวานอ่ะ  พี่แกว่างอาสาไปรับมึงไปงานคืนนี้ หรือมึงจะนั่งแท็กซี่ไปเอง ไอ้ต่ายกับไอ้นาย มันอยู่ชลบุรี น่าจะกลับไปที่บ้านเลย ไอ้ปีย์มัน..//


“พอๆ กูไปกับพี่ทอยของมึงก็ได้ไม่ต้องมาสาธยาย  เออ แล้วกูไม่รู้จักพี่ทอยนี่นาพึ่งจะเจอเขาครั้งเดียวเอง ”

// เออ  มึงแค่แต่งตัวหล่อๆ มารอที่หน้าหอมึงพอ เดี๋ยวพี่ทอยไปรับ//

“กูน่ารักหรอก “ยืดอกรับครับว่าผมน่ารักมากกว่าหล่อ คนหล่อต้องพวกมันนั่นแหละ อย่างผมนี่แรน์ไอเท่ม น้องโอมคนน่ารัก งืออออออออ

//เออ น่ารักก็น่ารัก  เย็นนี้รอพี่ทอยเลย  //

“ครับคุณเพื่อน มีคู่แล้วลืมกูนะ  แต่ก่อนอะไรๆก็กู ใช่ซี้ กูมันหัวเน่า กูมันแค่เพื่อน ..กูมัน...” ตี๊ดๆๆๆ


ยังบ่นไม่จบมันตัดสายคนน่ารักได้ยังไง  เจอกันเย็นนี้กูจะบ่นให้หูชาเลยไอ้เพื่อนเลว  ว่าแต่งานวันเกิดพี่อาร์ต ผมยังไม่ได้หาของขวัญเลย



ติ๊งๆ เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นยอดฮิตสีเขียวๆดังเดตือนให้ผมต้องเปิดดู

Toys:ส่งสติ้กเกอร์

รูปกระต่ายโคนี่โบกมือทักทาย  ทำให้ผมยิ้มอย่างห้ามไม่อยู่เออ อยู่ดีๆ ก็อารมณ์ดี 


โอมจงลง:ส่งสติ้กเกอร์

ผมเลยส่งสติ้กเกอร์  หมีบราวโบกมือคืนไปให้


Toys:ส่งสติ้กเกอร์

และผมได้สติ้กเกอร์ โคนี่ส่งจูบมาแทน  คิกๆน่ารักนะเนี่ย 


ผมสลับส่งสติ้กเกอร์เล่นอยู่กับไอ้ต้อย นานพอสมควร  ก่อนจะนึกได้ว่าต้องไปซื้อของ


โอมจงลง:ส่งสติ้กเกอร์
เลยส่งติ้กเกอร์รูปหมีบราวกับโคนี่ ที่อยู่ในรถ



Toys:ส่งสติ้กเกอร์

ไอ้ต้อยส่งสติ้กเกอร์หมีบราวด์ที่มีเครื่องหมายเควสชั่นมาร์คสองอันบนหัวมา


โอมจงลง:ส่งสติ้กเกอร์

ผมเลยส่งสติ้กเกอร์ กระต่ายโคนี่ถือกล่องของขวัญไปให้


Toys:ส่งสติ้กเกอร์

ไอ้ต้อยส่งสติ้กเกอร์ โคนี่ที่ทำท่าโอเคๆ มาให้



เออ แปลกว่ะ เหมือนเข้าใจกันผ่านสติ้กเกอร์ ผมเก็บโทรศัพท์ เข้ากระเป๋ากางเกง หยิบเอาเป้สะพายออกมาก่อนจะเดินออกจากห้อง

ทั้งๆที่ยังใส่กางเกงบอลเสื้อบอล ทีมโปรด  ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเลยกับการแต่งตัวครับ  เพราะผมน่ารักอยู่แล้ว..งือออออออออออ 

ผมโบกแท็กซี่ เอาความรวดเร็วและคล่องตัวครับเวลามีไม่มาก ว่าแต่จะซื้ออะไรดีน๊า พี่อาร์ตชอบอะไรล่ะ

ผมนั่งคิดมาตลอดทางจนแท็กซี่พามาส่ง ที่ห้างใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย  ใช้เวลาไม่นานผมก็พาร่างอันสะโหลสะเหลมาอยู่ในห้างแล้ว

แอร์เย็นๆมันน่านอนหลับเสียจริง เอาล่ะ ขั้นแรกต้องไปหาร้านหนังสือ  ซื้อหนังสือนี่แหละให้พี่อาร์ตไม่ต้องคิดมากดี ฮ่าๆๆ

ว่าแต่หนังสืออะไรดีน๊า ถามไอ้โอ๊ตดีกว่าแฮะ คิดแล้วก็กดเบอร์หาเพื่อนสนิทที่หนีไปหลีหนุ่มทันที

//อะไรเตี้ย//

“กูไม่ได้เตี้ย กูน่ารัก มึงเรียกใหม่ ไม่เช่นนั้นกูจะฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทความสูงของกู”

//ครับทนายโอมครับมีอะไรให้รับใช้ครับ//

“พี่อาร์ตชอบหนังสือแนวไหนวะ กูจะซื้อเป็นของขวัญ”

//หนังสืออนาโตมี่ ไง//

“อนาโตมี่ ? พี่มันไม่มีเหรอวะ มหาลัยไม่ขายให้เหรอเรียนหมอยังไงไม่มีหนังสืออนาโตมี่ “

//มึงก็ซื้ออนาโตมี่ที่ยังมีเนื้อหนังครบสิ  อย่างพวกนางแบบที่ชื่อมิยาบิ อะไรแบบนั้น//

“แล้วก็จะหาได้ที่ไหนล่ะวะ ถามคนขายเขารู้จักใช่ไหม “

//รู้สิมึงถามเลย เดี๋ยวเขาหาให้เองแหละ หึหึ//เสียงเจ้าเล่ห์แปลกๆนะเพื่อนผม

“เออๆ เดี๋ยวจะถึงร้านหนังสือแล้ว แค่นี้ละกันเดี๋ยวกูไปถามเจ้าของร้านเอาก็ได้ “

//โชคดีนะน้องเตี้ย //


“สัส!!”

ผมอวยพรเพื่อนไปเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าร้านหนังสือในใจก็ท่อง มิยาบิๆ อนาโตมี่ๆ ไปเรื่อยๆกลัวลืม

 แต่ก่อนที่จะเดินเข้าร้านผมก็เห็นร่างสูงๆหน้าหล่อๆของพี่ทอยที่ยืนเลือกหนังสืออยู่หน้าร้านพอดี

บ๊ะ มันช่างเหมาะเจาะให้พี่ทอยช่วยเลือกดีกว่า เค้าเป็นเพื่อนพี่อาร์ตน่าจะรู้ว่าเพื่อนชอบแบบไหน


“พี่ทอยครับ”

“เฮ้ย!!! “

“ตกใจอะไรเบอร์นั้นพี่หน้าผมเหมือนผีเหรอ ถึงจะผีก็เป็นผีแคสเปอร์ผีน่ารักอ่ะ ไม่น่ากลัวนะบอกก่อน”

“อ่า..น้องโอม..มะ มาทำอะไรครับ”เสียงพี่ตะกุกตะกักชอบกล ติดอ่างเหรอวะ

“ก็วันนี้วันเกิดพี่อาร์ตอ่ะ ผมไม่รู้จะซื้ออะไรให้ไอ้โอ๊ตบอกให้ผมซื้อหนังสืออนาโตมี่ ที่มีนางแบบชื่อมิยาบิ ผมไม่เคยเห็นพี่ทอยช่วยหาหน่อยสิครับ “

ท่าทางอ้าปาค้างทำตาโตเหมือนทึ่งผมว่ารู้ความชอบพี่อาร์ตได้ไงประมาณนั้นมั้ง แต่ท่าทางพี่มันตลกอ่ะ ฮ่าๆๆ


“ดะ..เดี๋ยวนะ หนังสืออะไรนะ อีกทีซิ”


“หนังสืออนาโตมี่ครับ พี่เรียนหมอไม่รู้ได้ไงเนี่ย แล้วก็นางแบบอะไร บิๆนะ ..อ้อ มิยาบิ อ่ะครับ หาซื้อที่ไหน ไอ้โอ๊ตบอกว่าพี่อาร์ตชอบ”

“ฮ่าๆๆๆ โอ๊ตบอกงั้นเหรอครับ “เอ้าๆ หัวเราะอะไรล่ะเนี่ย

“งืออออ อย่าหัวเราะสิครับ ผมไม่รู้จะหาที่ไหนนี่ ไม่เคยเห็นหนังสือพวกนั้นด้วย อ่า”

“ไม่ต้องซื้อหรอกหนังสือแบบนั้น เดี๋ยวได้ทะเลากับอิงฟ้าตายเลย พี่พาไปซื้อของชอบไอ้อาร์ตดีกว่า “

“อ้าว พี่อิงไม่ชอบเหรอครับ ผมซื้อไห้พี่อาร์ตนะ หรือพี่อาร์ตก็ไม่ชอบหนังสืออนาโตมี่เหรอครับ ไอ้โอ๊ตนะไอ้โอ๊ตไอ้เพื่อนเลว หลอกกันได้”


ผมบ่นหงุงหงิงตามอารมณ์พี่ทอยพาผมเดินไปที่ร้านเครื่องมือแพทย์


“ขอดูสเตธยี่ห้อคาร์ดิโอ กับ สามเอ็มหน่อยครับ “พี่เขาพูดอะไรไม่เข้าใจเลยผม

 รอเพียงไม่นานคนขายก็ยกของมาวางบนโต๊ะ หลายอัน ไอ้ที่พี่ทอยเรียกอะไรเต็ดๆ น่ะ มันคือหูฟังของหมอครับ

อ่านี่สินะ คนรู้จริงไอ้เหี้ยโอ๊ตมันหลอกผมดีนะที่ผมไม่ซื้อหนังสือไปให้ผมมองคนตัวสูงที่ตั้งหน้าตั้งตาถามสรรพคุณไอ้เต็ดๆ เออ ผมจำไม่ได้ว่ะ



“พี่ทอยครับ อันนี้เค้าเรียกว่าอะไรอ่ะครับ”ผมสะกิดพี่ทอยพลางชี้ๆไปที่ของที่พี่กำลังเลือก

“อันนี้เขาเรียกสเตธโธสโคป (stethoscope) เรียกสั้นๆก็สเตธครับ น้องโอมมาหารกับพี่คนละครึ่งมาจะได้เป็นคู่กันไง”

ผมว่าหารคนละครึ่งเนี่ยพี่มันไม่มีตังค์แหงเลยลากผมมาหารครึ่ง แต่ก็เป็นความคิดที่ดีนะครับ สองคนหนึ่งชิ้นเป็นของดีด้วย

“อ้อ แล้วมันแพงไหมครับ ถามก่อนนะครับงบในกระเป๋าผมมีแค่ หนึ่งพันบาท เกินกว่านั้นผมไม่มีเงินนะบอกก่อน เพราะตั้งใจว่าจะซื้อหนังสือเล่มนึงก็คงราวๆ หกเจ็ดร้อยไม่น่าเกินพัน “


ผมว่าออกไปตรงๆ หนังสือแพทย์มันแพงนะครับบางเล่มก็หลายพันเลย พี่อาร์ทชอบอ่านหนังสือ ผมเลยคิดว่าซื้อหนังสือให้

แต่ไอ้เครื่องสเตธ อะไรนี่ของพี่ทอยก็เจ๋งดีนะครับ ถ้ามันไปห้อยอยู่บนคอพี่อาร์ทคงเท่ไม่หยอก


“ไม่แพงหรอก เดี๋ยวพี่ขอเลือกแป๊บนึงน้องโอมไปเดินๆดูอะไรตรงนั้นก่อนได้นะครับ เสร็จแล้วพี่จะบอกเนอะ”

“ครับๆ”ผมรับคำพลางเลี่ยงออกมาปล่อยให้พี่ทอยเลือกของไป ก็ดีเหมือนกันผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง

ศัพท์แพทย์บางคำผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร ให้พี่ทอยเลือกน่ะดีแล้ว ท่าทางคุ้นเคยกว่าผม 

คงเป็นหมอเหมือนกัน เพื่อนพี่อาร์ตคนนี้ผมไม่เคยเจอหน้า เป็นครั้งแรกที่เจอกันคือวันที่ผมไปรับของฝากแทนได้โอ๊ตนั่นแหละครับ

 พี่เขาก็หน้าตาดีนะ ตัวใหญ่มากสูงกว่าไอ้โอ๊ตอีกมั้ง  น่าจะเท่าๆไอ้กระต่ายควายเพื่อนผม คนพวกนี้กินอะไรกันนะ เฮ้อ

 หันมองตัวเองได้แต่ถอนหายใจ ไม่ๆๆ ผมไม่ซีเรียสเรื่องความสูงเพราะผมน่ารัก   หุหุหุ

“น้องโอมครับ เสร็จแล้ว ป่ะไปกินข้ากัน เดี๋ยวพี่เลฃี้ยงเองน้องโอมจะกินอะไร”

“อ๋า..จะมาเลี้ยงผมทำไมล่ะครับพี่  “

“อยากเลี้ยง  “

“รวย?”

“ครับ รวยมาก เลี้ยงน้องโอมได้ทั้งชีวิตเลย”

“แหมๆ  น่ารักนะคุณหมอ คิกๆ”

พี่ทอยยิ้มตาปิดก่อนจะเอื้อมมือมาจับข้อมือซ้ายของผมแล้วจูงออกจากร้านหนังสือ

อ่า....ผมว่าคนจะมองเราเยอะเกินไปละ  งือออออออออ


ผมเดินตามพี่ทอยเข้าไปที่ร้านยำแซ่บ เอ พี่มันรู้หรือบังเอิญกันนะว่าผมชอบร้านนี้มาก โดยเฉพาะเมนูยำนะ อร่อยมาก


“พี่ชอบยำร้านนี้นะ เออ พี่ก็ลืมถามว่าน้องโอมชอบอะไร แต่ไม่ถามดีกว่าพี่เลี้ยงนี่นะ พี่ต้องเลฃือกร้าน”

พูดเองสรุปเองเสร็จสรรพ คนอะไร ผมได้แต่อ้าปากเหวอกับคำของพี่ทอย

“โห พี่แวลาพาสาวไปเลี้ยงข้าวพี่ทำแบบนี้ป่ะ”

“ไม่หรอก เพราะพี่ไม่เคยเลี้ยงข้าวสาว เราน่ะคนแรกเลย”

“หูยยย ผมไม่ใช่สาวสักหน่อย”

“มาเป็นหนุ่มคนแรกของพี่ไหมล่ะ”

“ครับ...ถ้าพี่จะรุกขนาดนี้บอกมาเลยครับว่าจะจีบผม   “งืออออ..ผมคิดดังไปสินะ พี่ทอยถึงทำหน้าตาตื่นขนาดนั้น

“แล้วจีบได้ไหมล่ะ”

“ -////-  งือออออ “


“หึหึ น่ารักนะเราน่ะ  ไหนๆเราก็ถามพี่ละ งั้นพี่บอกเลยละกัน นายธีรนัย เกื้อกูลเกียรติ  ชื่อเล่นว่า ทอย สัตวแพทย์ปี 6 ขออนุญาตจีบนาย อัตถการ  กิตติอาภา หรือน้องโอมคนน่ารัก ตั้งแต่วินาทีนี้เลยนะครับ”


“-///-งื้อออออ “ ไม่รู้ทำไมหัวใจเต้นช้าลงเหมือนจะหายใจไม่ออก งือออผมประหม่า ผมกังวล แต่ผม...ชอบจังแฮะ 


“อนุญาตพี่ไหมครับ”เสียงทุ้มนุ่มหู ดังอยู่ใกล้ๆ  จนผมอดที่จะพยักหน้าไปให้ด้เวยความมึนงง

งืออออ .พี่มันยิ้มอีกแล้ววผมจะตายไหม คนอะไรหล่อเป็นบ้า พี่หมอหมา น่ารักจังเลยครับ 

ผมว่าผมคงต้องไปบอกไอ้ต้อยว่าไม่ต้องส่งสติ้กเกอร์มาจีบผมอีกแล้วเพระาผมมีคนอื่นมาจีบแล้วครับ

งือออออออออออออออออ

.
.
.
.
TBC...

เอาคู่รองของพันวามาส่ง ฮ่าๆๆๆ รู้สึกชอบน้องโอม ตั้งแต่เริ่มเขียน น้องมุ้งมิ้งมาก เป็นเคะตัวเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางดงหมาป่า อย่างพวกพี่โอ๊ต 

น้องน่ารังแกมาก เป็นทนายความที่อาจจะโดนลูกความจับกินในอนาคต เลยต้องส่งสัตวแพทย์รูปหล่อเพื่อนรักพี่อาร์ตมาให้แทน 

  หลายคนบอกเคมี ป้องปิง น่าจับคู่ เป็นอีกคูีที่ดีมากเลย เดี๋ยวค่อยเขียนเป็นตอนพิเศษเนอะ     

ส่วนน้องเงิน มีแฝดชื่อน้องเพชร   ในเรื่อง ตามใจ อยู่ในตอนพิเศษ น้องมีคู่เป็นหญิงค่า ในบรรดา สี่พี่น้อง น้องบัว น้องเพชรxเงิน ตังค์ จะมีน้องตังค์ที่มีคู่ผู้ชายนะคะ  อยู่ในเรื่องตามใจค่า เรื่องนี้จะมีน้องเพชรน้องเงินและน้องตังค์เข้ามาเป็ฯแขกรับเชิญเรื่อยๆค่า

ส่วนคู่พิเศษที่พันวาจับมา พี่ทอย น้องโอม  เพราะพันวาชอบความ หมอ ของทั้งคู่ อีกคนหมอหมา อีกคนหมอความ

น่าจะสลับกันเนาะ ถ้าอิพี่ทอยเป็นหมอควงามคงเข้มน่าดู


แจ้งข่าว

พันวาจะต้องเดินทางไปต่างประเทศสักพักนะคะ ไปนานพอสมควร บินหลายประเทศเลย  คงจะไม่ได้มาอัพ สักพัก

ซึ่งบอกไม่ได้ว่านานแค่ไหน แต่พันวาไม่ทิ้งนะคะ เสร็จภาระกิจเมื่อไหร่ จะรีบกลับมาอัพต่อจนจบแน่นอนค่ะ สัญญาเลย


ขอบคุณทุกท่าน ที่ตามอ่านตามเม้นท์ ตามมาให้กำลังใจพันวา  คนอ่านหน้าเก่าๆ ที่คุ้นเคยกันดี

พันวาขอบคุณอย่างสูงเลยค่าาาที่ยังติดตามและชื่นชอบงานเขียนของพันวานะคะ  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


แล้วเจอกันใหม่น๊าาาาา :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:











หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** Specail Plan หมอ(หมา)ปะทะหมอ(ความ)..10/8/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-08-2018 13:53:20
 :pig4: :pig4: :pig4:

ง่า....ทายคู่รองไม่ถูกอ่ะ

แหม่...ก็แหงหล่ะ  ทายถูกก็เก่งหล่ะ

ทั้งทอยเอย ทั้งโอมเอย  เคยมีฉากออกเหรอ?  ได้ยินแต่ชื่อ  อิอิ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** Specail Plan หมอ(หมา)ปะทะหมอ(ความ)..10/8/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 10-08-2018 14:53:53
:pig4: :pig4: :pig4:

ง่า....ทายคู่รองไม่ถูกอ่ะ

แหม่...ก็แหงหล่ะ  ทายถูกก็เก่งหล่ะ

ทั้งทอยเอย ทั้งโอมเอย  เคยมีฉากออกเหรอ?  ได้ยินแต่ชื่อ  อิอิ


55555  เป็นตัวละคร ที่เดินผ่านฉากเรื่อยๆแต่สะดุดตาผู้กำกับค่ะ 555555

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** Specail Plan หมอ(หมา)ปะทะหมอ(ความ)..10/8/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 13-08-2018 06:55:16
ง่า..รีบๆกลับมานะรออยู่
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** Specail Plan หมอ(หมา)ปะทะหมอ(ความ)..10/8/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Maleewong ที่ 26-08-2018 19:18:27
แวะมารอเคาะประตู ก๊อกๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** Specail Plan หมอ(หมา)ปะทะหมอ(ความ)..10/8/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 06-09-2018 19:22:56
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** Specail Plan หมอ(หมา)ปะทะหมอ(ความ)..10/8/61 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Maleewong ที่ 20-01-2019 19:28:31
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่13 พาเข้าบ้าน .20/1/62 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 20-01-2019 20:10:01

แผนที่ 13 พาเข้าบ้าน


อินทัช


ผมเหลือบมองน้องไม้ที่นั่งบีบมือตัวเองไปมา ไหนจะคิ้วที่ขมวดจนผมต้องยื่นมือไปจิ้มเบาๆให้คิ้วที่เริ่มจะผูกโบว์นั่นคลายออก

“เครียดทำไม ฮึ”

“เปล่าเครียดสักหน่อย”คนที่ปฏิเสธแต่มือยังไม่คลายออกจากกันทำให้ผมหัวเราะออกมาด้วยความขบขันกับอาการที่ไม่ตรงกับปาก

“แม่พี่ใจดีน่า อย่ากังวลสิครับ”คนที่ตอนแรกไม่ได้เครียดอะไรที่จะไปบ้านของผม แต่ตอนนี้กลับทำหน้ากังวลเกินเหตุ

“ก็ผมไม่เคยไปบ้านใครเลยนอกจากบ้านหนูบัว “

“ก็คิดซะว่าไปงานวันเกิดพี่อาร์ตก็พอไง อย่าคิดมากนะ ดูสิ คิ้วยุ่งหมดละ ฮ่าๆๆ”

“ขับรถไปเลยครับ มองทางๆ “

เสียงที่ทำเป็นดุไม่ได้น่ากลัวสักนิดกลับกันมันน่าเอ็นดูเสียจนผมอดที่จะยื่นมือไปบีบแก้มน้องไม่ได้ ใครบอกว่าผู้ชายจะน่าเอ็นดูไม่ได้ ก็คนตรงหน้าผมนี่ไง กิริยาท่าทางมีแต่คำว่าน่ารัก น่าเอ็นดู เต็มไปหมด

“อื้อออ อ่อยอ๋ม เอ็บอ้ะ”เสียงประท้วงไม่เป็นคำเพราะมือผมดึงแก้มนั้นจนยืด

“ฮ่าๆๆๆ ตลกดีนะเราเนี่ย อย่ากังวลไปเลย มีพี่อยู่ทั้งคนกลัวอะไร”

“นั่นสินะพี่โอ๊ตอยู่ด้วยนี่เนอะ  “น้องว่าพลางเอามือลูบแก้มตัวเองเบาๆราวกลับจะคลายความเจ็บที่ผมแกล้งบีบ

ผมฟังเสียงพูดนุ่มหูท่าทางอารมณ์ดีขึ้นของน้องไม้ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก บางครั้งผมก็แค่คิดไปว่า ถ้ามีน้องไม้อยู่ด้วยกันไปแบบนี้ตลอดก็คงดี

ผมขับรถเลี้ยวเข้าเขตบ้านที่ประตูเปิดรอไว้แล้วเพราะผมโทรมาบอกแม่ว่าผมจะเข้ามาเร็วเพราะจะต้องมาช่วยแม่ทำของโปรดพี่อาร์ต

 แม้ว่าพี่ชายผมจะบอกว่าให้สั่งทางโรงแรมเอาเพราะกลัวแม่จะเหนื่อย แต่คุณแม่คนเก่งของพวกผมกลับทำหน้างอหาว่าพี่อาร์ตไม่อยากกินอาหารฝีมือแม่

นั่นเลยเป็นเหตุให้ผมต้องรับมาเร็วทั้งๆที่พึ่งจะบ่ายสามโมงเอง เพราะต้องมาช่วยแม่เตรียมของ วันเกิดเของผมกับพี่อาร์ตทีไร

แม่จะเหนื่อยเป็นพิเศษเพราะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้น แม่ก็ยิ้มด้วยความสุขทุกครั้งที่อาหารที่แม่ทำขนมที่แม่ตั้งใจอบ ไม่เคยเหลือเลย

ยิ่งวันนี้ผมพาน้องไม้มาทำความรู้จักกับครอบครัวผมครั้งแรก อย่าว่าแต่น้องไม้ตื่นเต้นผมเองก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน

เพราะตั้งแต่พาพวกไอ้โอมมาแนะนำ นั่นเป็นกลุ่มเพื่อนล่าสุดที่ผมพามาบ้าน ซึ่งก็สามปีผ่านมาแล้ว

ท่าทางตื่นเต้นของน้องไม้เมื่อผมจอดรถที่โรงจอด ทำให้ผมยื่นมือไปอีกครั้ง ก่อนจะจับมือเรียวสวยนั่นมาบีบเบาๆ

“พร้อมยัง ทำหน้าเหมือนพี่พามาเปิดตัวเป็นสะใภ้ของบ้านนะเราน่ะ  หึหึ”ผมอดไม่ได้ที่จะแซวน้องจริงๆครับ

“พี่โอ๊ต อย่าพูดงั้นสิครับ “ท่าทางเหนื่อยใจของน้องไม้ยิ่งทำให้ผมหัวเราะเสียงดัง 

จะว่าไปผมแซวแบบนี้ยังน้อยกว่าน้องบัวแซวอีกครับ จะว่าไป เมื่อไหร่กันนะที่ผมเอ่ยคำว่าสะใภ้ของบ้านหรือแม้แต่คู่จิ้น แฟนกัน กับน้องไม้

ได้อย่างไม่เคอะเขินสักนิดไม่ตะขิดตะขวางใจสักหน่อย ไม่คิดอะไรมากไปกว่าคำว่า เอ็นดูเมื่อน้องทำท่าทาง งอนๆกึ่งๆละอาใจที่โดนจับคู่

ผมเดินนำน้องไม้เข้าบ้านพร้อมกับช่วยกันหิ้วของพะรุงพะรังที่นายแม่ฝากซื้อมาเพื่ม

“น้องไม้นี่แม่พี่ แม่ครับ นี่น้องไม้ครับ น้องที่มหาลัย”

น้องไม้รีบวางของก่อนจะยกมือไหว้พร้อมรอยยิ้มที่ผมมองว่ามันสดใสจนผมอยากจะดึงแก้มนั้นยืดอีกสักหมับ

“สวัสดีครับคุณน้า “

“ฮื่อ มาน้งมาน้าอะไรกันจ๊ะ เรียกแม่ก็ได้ค่ะ ดูสิ หน้าตาน่าเอ็นดูเสียจริง โอ๊ยลูก น่ารักมากเลยน่ารักกว่าในรูปอีก “

เสียงชื่นชมทั้งยังจับแก้มน้องไม้ทั้งสองมือบิดๆขยี้ๆเหมือนแม่จะมันเขี้ยว นอกจากไอ้โอมแล้วก็มีน้องไม้ที่แม่ชอบจับแก้มบิดๆแบบนี้
 แม่ผมแพ้ของน่ารักๆน่ะครับ

“มาเป็นลูกแม่แทนเจ้ายักษ์สองตัวนี่เลยนะลูก ดูสิ ลูกชายแม่ไม่เห็นน่ารักแบบนี้บ้างเลย”

“แม่ครับปล่อยน้องก่อนน้องเจ็บหมดแล้วครับ และอีกอย่าง ชมผู้ชายว่าน่ารักได้ไงกันแม่เนี่ย”

“หรือเราจะบอกว่าน้องไม่น่ารักเหรอเจ้าโอ๊ต ฮึ”

“อ่า.....ก็น่ารักครับ”ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับแม่ ส่วนคนโดนชมก็เขินจนหูแดงหน้าแดงไปหมด  น่ารักจริงๆนั่นแหละ

“นั่นไง ใครเห็นก็ต้องบอกว่าน้องน่ารักทั้งนั้นแหละ  ไปนั่งรอในห้องนั่งเล่นก่อนเลยลูกไป เดี๋ยวแม่ปรุงน้ำยาขนมจีนเสร็จจะเข้าไปคุยด้วยนะ โอ๊ตพาน้องไปเลยลูก   ออยเอ๊ย มาเอาของนี่ไปใส่ตู้ไว้ก่อนไป บอกแม่บังอรมาทำตรงนี้ต่อ นะ”

เสียงสั่งงานของแม่ทำเอาผมทั้งสองคนยกยิ้มบางๆให้คนที่เป็นแม่งานวุ่นวายในครัว

“ไปนั่งห้องโน้นกันไป”ผมจับต้นแขนน้องไม้ก่อนจะดันตัวให้น้องเดินไปที่ห้องนั่งเล่น

“เอ่อ ผมอยากช่วยคุณน้า เอ่อคุณแม่น่ะครับมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”

“ไม่ได้ๆ น้องไม้เป็นแขกจะมาช่วยแม่ได้ยังไง ไปๆเลยทั้งคู่เลยเดี๋ยวแม่เอาบัวลอยไปให้ชิมก่อนนะ เห็นพี่โอ๊ตบอกว่าเป็นของโปรดน้องไม้เลยนี่นา แม่ทำเองเลยนะ น้องไม้ช่วยชิมหน่อยว่าอร่อยหรือเปล่านะคะ”

“ได้ครับ ผมว่าต้องอร่อยมากแน่ๆเลย”ท่าทางที่ยกมือลูบท้องทั้งรอยยิ้มที่ส่งไปให้แม่ผม ยิ่งทำให้ผมยิ้มตาม

 ไม่อยากให้ใครเห็นเลยรอยยิ้มแบบนี้ อยากให้ยิ้มให้ผมคนเดียว  ผมหวงน้องชายอ่ะ มีอะไรไหม ผมไม่เคยมีน้องนี่ 

แล้วพี่อาร์ตจะหวงผมแบบนี้ไหมนะ ไม่ได้ๆ วันนี้ต้องถาม

“มาเถอะ “ผมว่าพลางดึงแขนน้องให้ห่างจากประตูห้องครัวตรงเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น

นั่งลงได้ไม่นานเสียบงรถยนต์ก็ดังแว่วมา น่าจะเป็นพ่อผม เพียงอึดใจร่างสูงใหญ่ของเจ้าของบ้านก็โผล่เข้ามาที่ห้องนั่งเล่นและทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามผมและน้องไม้

“ไงไอ้ลูกหมา กลับบ้านได้ด้วย “

“โถ่ พ่อครับ วันนี้วันเกิดพี่อาร์ตนี่นา”

“อ้อ นี่ถ้าไม่ใช่วันเกิดพี่ชายไม่กลับบ้านว่างั้น  แล้วนั่นใครล่ะ”พ่อพยักพเยิดหน้ามาทางน้องไม้ที่นั่งตัวลีบอยู่ข้างๆผม

“น้องไม้ครับ เป็นรุ่นน้องที่มหาลัยครับพ่อ น้องไม้ครับนี่พ่อพี่เอง” 

“สวัสดีครับ”น้องไม้ยังมือไม้อ่อนเช่นเคย พ่อผมรับไหว้ก่อนจะพิจจารณาคนตรงหน้าที่นั่งเงียบๆเหมือนกับกลัวพ่อผม

ก็นะ พ่อผมเป็นคนหน้าดุ ไม่ค่อยยิ้มแย้มเท่าไหร่ ลักษณะจะคล้ายๆผมเวลาอยู่กับคนแปลกหน้า

“เรียบนอะไรอยู่เหรอเราน่ะ แล้วมารู้จักกับไอ้ลูกหมานี่ได้ยังไง”

“อ่า ผมเรียนอักษรครับ พอดีประกวดเดือนในงานเฟรชชี่เลยรู้จักกับพี่โอ๊ตครับ “

“อืม หน้าตาแบบนี้ได้เป็นเดือนมหาลัยแน่เลยใช่ไหม”

“โห  พ่อรู้ได้ไงครับ”ผมเอ่ยขึ้นด้วยความแปลกใจแม้ว่าผมจะเคยเอารูปน้องไม้ให้พ่อกับแม่ดู เคยเล่าเรื่องของน้องให้พ่อกับแม่ฟัง

แต่ผมไม่ได้บอกว่าน้องไม้ได้ตำแหน่งเดือนมหาลัย

“ก็หล่อกว่าแกไงไอ้ลูกหมา ขนาดหน้าตาขี้เหล่อย่างแกยังได้เป็นเดือนมหาลัยเลย แล้วถ้าหน้าตาหล่อๆแบบนี้ไม่ต้องคิดเลย หึหึ”

พ่อผมหัวเราะเบาๆแต่คนโดนชมกลับยิ้มกว้างจนตาปิด

“เป็นคนแรกเลยครับที่ชมว่าผมหล่อ”น้องไม้ว่าทั้งยังยิ้มกว้างส่งให้พ่อผม ที่ยกยิ้มถูกใจเมื่อเห็นท่าทีผ่อนคลายความเกร็งของน้องไม้

“พ่อพูดตามความจริงที่เห็น นะ หึหึ”

“แต่พี่โอ๊ตหล่อกว่าผมนะครับ เพราะหน้าตาถอดแบบคุณพ่อมาหมดเลยครับ”

“หึหึ ขอบใจ  เป็นคำชมที่คาดไม่ถึงเลย หึหึ ตามสบายนะพ่อขอตัวก่อนเย็นๆเจอกันนะไอ้ลูกหมาดูแลน้องดีๆล่ะ”

พ่อผมยื่นมือมาตบหัวน้องไม้ปุๆก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานไป

“พ่อพี่โอ๊ตหล่อมากใจดีมากด้วยครับ”แต่คนที่ทำหน้าแดงเคลิ้ม ๆอยู่ข้างๆทำผมหน้างอเมื่อน้องเอาแต่ชมพ่อผม

“พี่ไม่หล่อเหรอครับ”

“ฮ่าๆๆ พี่โอ๊ตตลกอ่ะ โอ๋ๆอย่างอนสิครับพี่โอ๊ตของผมหล่อกว่าใครเลยครับ ฮึฮึ”

คำพูดที่น้องคงไม่จริงจัง แต่คำว่าพี่โอ๊ตของผมทำให้ผมยิ้มกว้างรู้สึกดีจนไม่อาจบังคับกล้ามเนื้อหน้าที่มันคอยแต่จะยิ้มให้น้อง

ผมว่าผมคงบ้าไปแล้วแน่ๆที่ดีใจกับคำชมแบบเด็กๆของน้อง 

 .......................

ด้านข้างของสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถูกปรับแต่งด้วยลูกโป่งและกระดาษสีอีกทั้งดวงไฟเล็กๆที่วิ่งสลับสีไปมาทำให้พื้นที่ๆเคยกว้างใหญ่

กลับแคบลงถนัดตา อีกทั้งจำนวนคนที่ที่มากกว่าทุกครั้งก็ทำให้บรรยากาศครึกครื้นกว่าที่เคย

ผมนั่งมองน้องไม้ที่ดูเหมือนจะกลายเป็นขวัญใจมหาชนในเวลาแค่สั้นๆ เพราะทั้งแม่และพ่อผมไม่ปล่อยให้น้องไม้ว่างเลยคอยเข้ามาพูดคุย

และหาของกินมาให้ไม่ไห้ว่างเลยสักครั้ง ไหนจะเหล่าเพื่อนๆของผมและเพื่อนของพี่อาร์ตที่ดูเหมือนจะถูกใจน้องเป็นพิเศษไม่เว้นกระทั่ง อิงฟ้า


“น้องไม้โดนโอ๊ตแกล้งบอกพี่อิงได้เลยนะคะ ขานั้นเห็นนิ่งๆขี้แกล้งที่หนึ่งเลยนะ”

“นี่อิงจำได้ว่าหน้าแฟนอิงเหมือนกับพี่ชายเราเลยนะ “ผมอดที่จะเบ้ปากใส่เพื่อนไม่ได้

“น้องไม้เป็นคนแรกที่กูไม่รู้สึกหึงเลยสักนิด “พี่อาร์ตว่าด้วยน้ำเสียงร่าเริงทั้งยังกลั้วหัวเราะราวกับถูกใจอะไรหนักหนากับน้องไม้

“ทำไมวะ”พี่ทอยหันมาถามด้วยความสงสัย

“ก็มึงดูสิ น้องเขาสวยกว่าแฟนกูอีก มึงคิดว่ากูควรหึงคนที่สวยกว่าแฟนตัวเองเเหรอวะ”

“พี่อาร์ตครับ”เสียงน้องไม้ที่ดูเหมือนจะเหนื่อยใจกับทุกคนที่บอกว่าน้องสวยกว่าผู้หญิง ดูท่าทางน้องไม่ได้เครียดหรือเคืองอะไร

เมื่อมีคนชมว่าสวย น้องคงชิน แต่เป็นผมที่ไม่ชิน ความรู้สึกขัดใจเมื่อมีคนเข้าใกล้น้อง ขัดใจเมื่อรอยยิ้มน่ามองนั่นถูกส่งไปให้คนอื่นที่ไม่ใช่ผม

“น้องอิงควรมานั่งตรงนี้ครับเดี๋ยวข้างๆน้องไม้พี่นั่งเอง”

เสียงเพื่อนพี่อาร์ตดังขึ้นพร้อมทั้งส่งสายตาให้น้องไม้ และมันทำให้ผมหงุดหงิดไม่รู้ทำไม 

“พี่ยังโสด และสดมากเลยน้องไม้  เรียนก็หนัก เวลาดูแลตัวเองไม่มี พี่อยากส่งใบสมัครคนดูแลให้น้องไม้กรอกไม่รู้ว่าสนใจคนโสดแบบพี่ไหมครับ”

รอยยิ้มกรุ้มกริ่มทั้งยังคำพูดที่สื่อเจตนาชัดเจนของเพื่อนพี่อาร์ตทำให้ผมเริ่มหงุดหงิด และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อเห็นน้องส่งยิ้มให้

ทั้งยังพูดคุยกับพี่คนนั้นอย่างไม่รู้สึกเคอะเขินอะไรแต่ก่อนที่ผมจะลุกหนีด้วยความรู้สึกหงุดหงิด

 คำตอบของน้องทำให้ผมนั่งต่อด้วยใบหน้าที่บอกได้ว่าบานยิ่งกว่าจานดาวเทียม



“ผมดูแลคนอื่นไม่ได้หรอกครับ ทุกวันนี้ผมยังให้พี่โอ๊ตดูแลอยู่เลย “น้องตอบยิ้มๆเป็นยิ้มที่ผมยิ้มตามได้ไม่ยากเลย

“อยากจะแหมมมมมม ให้ถึงดาวอังคารค่ะ”เสียงของหนูบัวเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน ผมขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆน้องไม้

 เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ไว้ มองผ่านๆเหมือนน้องนั่งพิงอกผมอยู่ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเอาคางวางบนไหล่น้องอ้าปากรับขนม ที่น้องยื่นมาให้

โดยไม่สนใจสายตาใครนอกจากเพื่อนพี่อาร์ตคนนั้น

“เอ่อ..กูว่า กูโสดต่อไปดีกว่า มึงว่าไหมอาร์ต “เสียงหัวเราะจากทุกคนดังขึ้นอีกครั้ง 

ผมหวงน้องชายผิดตรงไหนกันแล้วไอ้น้องชายที่ทำหน้าเหรอหราไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้มันน่าหวงมากๆนี่นา เฮ้ออออ


เวลาล่วงเลยมาพอสมควร พ่อกับแม่ไปนอนแล้วทิ้งให้หนุ่มสาว ที่ยังเฮฮาปาร์ตี้กันต่อ หลายคนลงเล่นน้ำด้วยความสนุกสนาน

 ผมยังคงนั่งขนาบข้างน้องไม้ไม่ห่าง


“ปีนี้มึงไม่เล่นน้ำ?”เสียงพี่ทอยเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะวันเกิดทุกปีไม่ว่าจะวันเกิดผมหรือวันเกิดพี่อาร์ต

พวกผมไม่เคยพลาดการเล่นน้ำพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดคืน แต่ปีนี้ผมไม่ได้นึกอยากลงไปเล่นเท่ากับการนึกอยากนั่งอยู่ข้างๆน้องไม้แบบนี้



“ไม่ดีกว่าพี่ ปล่อยไอ้โอมมันสนุกไป”ผมว่าพลางหรี่ตามองเพื่อนพี่ชาย ด้วยความรู้สึกที่คิดว่าพี่ทอยจ้องมองไอ้โอมมากเป็นพิเศษ

สายตาแปลกๆที่ไล่ตามเพื่อนของผมทั้งยังการกระทำที่คอยดูแลไอ้เพื่อนตัวเล็กของพวกผมไม่ห่างตั้งแต่หัวค่ำจนถึงตอนนี้ทำให้ผมอดที่จะถามไม่ได้

“พี่ทอย จีบเพื่อนผมเหรอ “ 

“หึหึ ถามเพื่อนโอ๊ตดูสิ “พี่มันไม่ตอบแต่ก็ยังหันไปหยิบเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ไปรับเอาไอ้โอมที่เดินขึ้นจากสระ อุ้มได้พี่ทอยคงอุ้มไปแล้ว
 
“พี่ทอยใจดีนะครับดูแลพี่โอมดีมากเลย พี่โอมก็น่ารัก”คำว่าพี่โอมน่ารักทั้งสายตาเอ็นดูเจ้าเพื่อนตัวเล็กของผมทำให้ผมเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้

ถ้าไอ้เตี้ยโอมน่ารักผมคงรักมันนานแล้วครับ ทุกคนถูกภาพลักษณ์ภายนอกหลอกตา นั่นมันหมาป่าในคราบคอร์กี้ชัดๆ

“พี่โอ๊ตก็น่ารักครับ หึหึ”แค่นั้นผมก็ยิ้มกว้างเหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจ อา ผมว่าแบบนี้มันต้องแย่แน่ๆเลย

“เดี๋ยวผมไปช่วยพี่อิงเก็บจานตรงนั้นดีกว่า”น้องว่าพลางลุกเดินออกไปช่วยอิงที่กำลังเก็บจานบนเต๊ะเข้าไปไว้ในครัว

แม้ว่าจะมีแม่บ้านแต่อิงฟ้าก็ทำแบบนี้ทุกปี เพื่อนผมบอกว่าอะไรที่เราทำได้ก็ทำไปไม่เสียหายอะไร

พรุ่งนี้แม่บ้านเขาจะได้ล้างเลยไม่ต้องมาเสียเวลาเก็บ ซึ่งแม่บ้านของผมถูกแม่สั่งให้ไปนอนตั้งแต่ สี่ทุ่มแล้วครับ

ที่เหลือคงมีแต่พวกผมที่ยังปาร์ตี้กันสนุกต่อ แต่ไม่ได้เสียงดังอะไรมากมายแค่มีเครื่องดื่มและอาหารพร้อมไว้แล้วที่เหลือก็ดูแลตัวเองกันได้ครับ

ผมมองตามน้องไม้ที่เข้าไปช่วยอิงฟ้าเก็บจานพร้อมๆกับน้องบัวและไอ้ปีย์ที่ทำตัวติดกับนางฟ้าของมันไม่ห่าง

“ไงเราคนนี้ตัวจริงเหรอ”เสียงเพื่อนพี่โอ๊ตคนที่เอ่ยปากจีบน้องไม้ดังขึ้นใกล้ๆทำให้ผมหันหน้าไปมองพี่มันพร้อมทั้งขมวดคิ้วสงสัยในคำถาม

“อ้าวๆ สายตาแบบนี้อย่าบอกนะว่าไม่รู้  เฮ้ออ ทำไมพี่เจอแต่พวกที่ไม่ประสากับความรักทั้งๆที่เป็นหนุ่มฮ็อตกันขนาดนี้นะ”

“พี่ไอหมายถึงยังไงครับผมไม่เข้าใจ”

“เฮ้ออ พี่จะบอกอะไรให้นะ ในฐานะที่พี่มองเห็นโอ๊ตเหมือนน้องชายคนนึง ไอ้ท่าทางที่เรากันน้องไม้ออกจากพี่และเพื่อนๆน่ะ มันบอกได้อย่างเดียวว่าโอ๊ตหวงน้องไม้มากเลยนะ”


“ก็ใช่ครับผมหวงน้องมันผิดตรงไหน”ผมถามกลับด้วยความไม่เข้าใจ ก็น้องชายผมๆก็ต้องหวงสิแปลกตรงไหนกัน

“หวงแบบไหนล่ะ อย่าบอกพี่ว่าหวงน้องชายนะ มันไม่ใช่ว่ะ หึหึ พี่ไปล่ะ คิ ดดูให้ดีนะโอ๊ต เพราะถ้าโอ๊ตช้า พี่จะจีบน้องไม้ล่ะนะ และคงไม่มีแค่พี่หรอก เพราะขนาดพี่พึ่งเจอน้องไม้วันแรกพี่ยังเห็นความน่ารักเต็มไปหมดเลย แล้วเพื่อนๆน้องไม้ที่มหาลัยคงไม่พลาดเหมือนพี่นะ หึหึ”


“พี่ไอเป็นเกย์เหรอครับ”ผมถามกลับอีกครั้ง ก็ผมเคยเห็นพี่มันควงสาวแทบจะไม่ซ้ำหน้าไม่ต่างจากพี่อาร์ตในอดีตเท่าไหร่อยู่ดีๆบอกสนใจจะจีบผู้ชายมันไม่แปลกไปหน่อยหรือไง

“อืม...เกย์เหรอพี่ไม่เคยคิดเลยนะ จนเจอน้องไม้เนี่ยแหละ ทำให้พี่รู้สึกว่าผู้ชายก็น่ารักได้ ผู้ชายสวยๆก็น่าสนใจดีไม่หยอก”

“ไม่ได้ครับคนนี้ไม่ได้!!”ผมรีบท้วงออกไปด้วยความลืมตัว

“ทำไมล่ะ... ถามตัวเองให้ชัดเจนไม่งั้นเจอน้องไม้คราวหน้าพี่จะรุกล่ะนะ หึหึ “


พี่ไอเดินออกไปสมทบกับพวกพี่อาร์ตแล้วแต่ผมยังคงนั่งคิดถึงคำพูดของพี่มันอยู่เงียบๆ

ใช้สายตาไล่ตามน้องไม้ไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่กันนะที่ความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นกับผม เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดกับใคร

หวง หรือหึง อา...ผมรู้สึกสะดุดลมหายใจตัวเองเพราะอัตราการเต้นของหัวใจผิดจังหวะไปทันทีที่ตามความรู้สึกของตัวเองทัน

 แย่แล้วไอ้โอ๊ต แบบนี้ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความแล้ว แต่ก่อนจะคิดอไรไปมากกว่านั้นความคิดพลันสะดุดเมื่อเห็นไอ้ต่ายเดินเข้าไปยืนซ้อนหลังน้องไม้เพื่อช่วยหยิบเอาลูกโป่ง

ที่ผูกติดกับต้นไม้ริมสระให้ รอยยิ้มที่น้องส่งให้ไอ้ต่ายทำให้ผมหงุดหงิดจนต้องลุกขึ้นและเดินรี่เข้าไปหาน้องแทบจะทันที

 เออ ยอมรับก็ได้ ชอบน้องอ่ะ แล้วไง ก็ชอบอ่ะก็หวงอ่ะ หงุดหงิดโว้ยยยยจะยืนใกล้เกินไปไหมวะ


“อ๊ะ พี่โอ๊ต เป็นอะไรหน้าตึงเชียวครับ”น้องมันหันมาถามทันที่ที่เห็นผมเดินเข้าไปหา

“ขอบคุณนะครับพี่ต่าย”


“เออๆ ว่าแต่จะเอาไปทำไมลูกโป่งเนี่ยน่ะฮึ”

ไอ้กระต่ายร่างควายยื่นมือไปวางแหมะลงบนหัวทุยๆของน้องไม้ทั้งยังลูบไปมาเบาๆภาพนั้นยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดกว่าเดิม


“เอาไปให้หนูบัวครับเมื่อกี๊ตอนเดินเข้าไปที่ครัวบัวบอกอยากได้แต่ไม่กล้าบอกพี่ปีย์เห็นติดสายอยู่ครับผมเลยเดินมาเอาไปให้ แต่มัดไว้ซะสูงเชียว แหะๆ”


“โอ๊ะ โอ พี่ว่าพี่ควรไปเล่นน้ำกับพวกไอ้นายว่ะ ฮ่าๆๆๆ “มันหันมามองผมพลางส่งสายตาล้อเลียนมาให้แล้วผละออกไป


“ไปอาบน้ำดีไหมเราน่ะ วันนี้นอนที่นี่แหละดึกแล้ว “

ผมไม่ตอบอะไรกับไอ้กระต่ายควายแต่หันมาบอกน้องไม้ให้ไปอาบน้ำเพราะนี่ก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว เห็นแอบปิดปากหาวไปก็หลายครั้งละ

“แต่พี่ๆยังสนุกกันอยู่เลยนะครับผมไปนอนก่อนจะดีเหรอครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกพวกพี่อาร์ตก็แบบนี้ทุกปี ไม่สว่างคงไม่นอนกันหรอกนะ “

พี่อาร์ตกำลังเดินไปส่งอิงฟ้าที่บ้านส่วนไอ้ปีย์ก็กำลังไปส่งน้องบัว เพื่อนๆพี่อาร์ตกับกลุ่มเพื่อนของผมยังคงสนุกกับเครื่องดื่มและสระน้ำกันอยู่


น้องไม้ช่วยเก็บจานบางส่วนที่อิงฟ้าเก็บไปไม่หมดเอาไปไว้ในครัวให้  รอยยิ้มการวางตัวแม้แต่การรู้จักพูดคุยของน้องทำให้เข้ากับกลุ่มเพื่อนผมและเพื่อนพี่อาร์ตได้ไม่ยากเลย

 ท่าทางที่เป็นธรรมชาติ และรอยยิ้มจริงใจ แถมยังใจดีอาสาช่วยเหลือไปซะทุกอย่างที่น้องทำได้ นี่ถ้าน้องไม้ทำอาหารเป็นวันนี้ผมว่าพี่อาร์ตคงได้พ่อครัวเพิ่ม


“อ่ะนี่แปรงสีฟันแล้วก็ผ้าเช็ดตัวแม่คงเตรียมไว้ในห้องน้ำแล้ว ถ้าง่วงก็นอนก่อนเลย เดี๋ยวพี่ลงไปดูพี่อาร์ตกับเพื่อนๆก่อนเดี๋ยวจะมานอนด้วย”

“ครับๆพี่โอ๊ตอยู่กับพี่อาร์ตเลยได้นะครับ วันนี้วันสำคัญของพี่ชายนี่นา ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ขอบคุณมากนะครับที่พามาวันนี้ ผมดีใจมากๆเลยครอบครัวของพี่โอ๊ตก็ใจดีกับผมมากๆ”


รอยยิ้มจริงใจของน้องทำให้ผมรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ การที่เราเห็นใครคนหนึ่งมีความสุขเพราะเราเป็นคนทำให้ผมว่ามันดีมากๆเลย

ดีจนผมเดินเข้าไปกอดน้องเอาไว้ ส่งผ่านความรู้สึกดีๆไปทางอ้อมกอดของผม โอยยยไม่อยากปล่อยเลย


“อื้อ อะไรเนี่ยพี่ นี่ถ้ากอดตอนที่ยัยตัวแสบอยู่นะคงโดนถ่ายรูปลงเพจอีกแน่ๆเลย”

เสียงประท้วงไม่จริงจังนักของน้องไม้ยิ่งทำให้ผมได้ใจกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น ผมว่าผมติดกอดน้องซะแล้วล่ะ

 แต่ก่อนกอดแบบไม่คิดอะไรแต่ตอนนี้ โอยยใจผม จะเต้นแรงไปไหนวะ T___T


“ดีสิลงเลยๆ พี่ชอบ  หึหึ”

“แปลกคนจริง ลงไปได้แล้วครับ ผมจะไปอาบน้ำ”

“โอเคๆ พี่ไปล่ะ ฝันดีนะครับ”

“ครับผม”รู้สึกว่าตัวผมอ้อยอิ่งไม่อยากออกจากห้อง เฮ้อ.....ผมเดินลงมาชั้นล่างก่อนจะเข้าไปหยิบวิสกี้ของพ่อที่ยกออกมาไว้ให้

อันที่จริงพ่อไม่สนับสนุนให้ไปเมานอกบ้านมากนัก แต่ถ้ามีวันพิเศษแบบนี้ รอบดึกๆ พ่อมักจะแอบแม่เอาออกมาวางไว้ให้

“กินตอนดึกๆเมาแล้วก็นอน ถ้าเมาแต่หัวค่ำ มันจะไม่ดีเท่าไหร่ หนึ่งเมานานเกินเปลือง สอง แม่แกบ่น”

นั่นเป็นความคิดเห็นของพ่อที่มักจะสปอยด์ลูกๆในทางมึนเมา วันนี้ก็เช่นกัน สาวๆกลับแล้ว น้องไม้ขึ้นห้องแล้ว

คงเหลือแค่พี่อาร์ตและเพื่อนสนิทของพี่มันอย่างพี่ทอยพี่ไอ พี่กันต์ และเพื่อนผม ไอ้ต่ายไอ้นายไอ้ปีย์ ไอ้โอม
 
“ไงส่งเด็กเข้านอนแล้วสิ”เสียงแซวจากพี่ทอยส่งมาก่อนพร้อมกับสายตาวิบวับของพี่ๆเพื่อนๆที่ส่งตามมาทำให้ผมส่ายหัวให้อย่างระอา

ในความขี้แซวและขี้เสือกอย่างไอ้โอมนี่ด้วย

ผมนั่งลงข้างๆไอ้โอมก่อนจะเอื้อมมือไปโอบไหล่มันไว้ก่อนจะลากเอาตัวมันมากอดไว้หลวมๆพร้อมทั้งส่งยิ้มเบาๆไปให้พี่ทอยอย่างผู้ชนะ

“ทำไรของมึงเนี่ยกูร้อน”

“เปล่าแค่อยากดูรีแอ้คของใครบางคน หึหึ “แน่นอนว่าสายตาวาววับของพี่ทอยที่ส่งมาทำให้ผมแอบหัวเราะในใจ

 จะชัดเจนไปไหนพี่ บรรยากาศงานวันเกิดพี่อาร์ตไม่ได้แตกต่างจากปีที่แล้วเท่าไหร่ แต่ความรู้สึกของผมกลับต่างโดยสิ้นเชิง

 ปีที่แล้วเวลาแบบนี้พวกผมคงเล่นเกมส์แข่งกันเมากับฝั่งพี่อาร์ตและเพื่อนๆ เฮฮาเมาปลิ้นกันได้เต็มที่ เช้าๆค่อยให้แม่มาเก็บซากกัน


แต่ปีนี้ใจผมกลับมัวแต่ล่องลอยไปหาคนที่อยู่บนห้องนอนของผม แต่ถึงอย่างนั้นพวกผมก็ยังสนุกกับ วิสกี้ขวดใหญ่ของพ่อ

 เพื่อนๆพี่อาร์ตที่เริ่มจะครองสติไม่ไหวก็เมาพับหลับไปที่ละคน  ห้องรับแขกริมสระน้ำ เปลี่ยนเป็นห้องนอนของเพื่อนพี่อาร์ตและเพื่อนผม

ทุกปีผมกับพี่อาร์ตก็จะนอนกองกันรวมกับเพื่อนๆตรงนี้ที่ห้องนี้ แต่ปีนี้ผมคงต้องแอบกลับขึ้นห้องนอนของผมป่านนี้เจ้าคนน่ารักนั่นหลับไปหรือยังนะ 

ผมนั่งจิบไปเรื่อยพลางปล่อยให้ความคิดล่องลอยไป หากน้องรู้ว่าผมคิดไม่ซื่อน้องจะเป็นยังไงนะ

คิดถึงตรงนี้ผมก็เครียด น้องเจอเรื่องราวแย่ๆมา ผมจะเห็นแก่ตัวไม่ได้  คงต้องรอไปก่อนสินะ แต่ในระหว่างรอ ผมจะต้องทำให้น้องมันขาดผมไม่ได้เลย

ผมจะทำให้น้องเคยชินกับการมีผม และต้องผมคนเดียวเท่านั้น หึหึ

ผมยิ้มให้กับความคิดของตัวเองก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนตรงไปยังห้องที่มีเจ้าคนน่ารักอยู่ในนั้น

ความรู้สึกของผมที่มีให้น้องผมจะรอจนกว่าจะแน่ใจว่าน้องขาดผมไม่ได้แล้วค่อยบอกออกไป   ผมรอได้เชื่อสิ


 ตอนนี้คงต้องเนียนจีบไปก่อนสินะ หึหึ
.
.
.
.
TBC.....



หั่นโล้ววววววววววว สบายดีไหมค๊าาาา คิดถึงคนอ่านผู้น่ารักทุกคนเล้ยย

ตอนนี้พันวากลับมาแว้ววววว อาจจะยังไม่ว่าเต็มร้อย แต่ก็มาอัพได้นะเอออ 

ขออภัยที่หายไปนาน ยังมีใครรออยู่บ้างไหมน้อ

ตอไปคงได้มาอัพบ้างแล้วค่า แต่ไม่ถี่เท่าไหร่น๊าแหะๆ ยังมีโปรเจคใหญ่ที่ต้องทำอยุ่แต่จะหาเวลามาปั่นๆๆๆแน่ค่ะ :katai4: :katai4: :katai4:



ขอบคุณที่ยังรออยุ่นะคะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่13 เข้าบ้าน .20/1/62 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-01-2019 21:14:20
 :pig4: :pig4: :pig4:

welcome back

กลับมาแล้วหลังจากหายไปนานมาก

กลับมาพร้อมเสริฟความฟิน  อิอิ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่13 เข้าบ้าน .20/1/62 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 20-01-2019 21:22:26
ยินดีต้อนรับการกลับมานะคะ คิดถึงมากเลย
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่13 เข้าบ้าน .20/1/62 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 21-01-2019 02:22:57
กลับมาแล้ว ยินดีที่จะได้อ่านเรื่องนี้ต่อค่ะ  :pig2: :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่13 เข้าบ้าน .20/1/62 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 21-01-2019 23:33:50
มาช่วยพี่โอ๊ตเนียนจีบน้อง อิอิอิ :hao7:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่13 เข้าบ้าน .20/1/62 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 30-01-2019 07:38:29
พี่โอ๊ตรู้หัวใจตัวเองแล้ว
น้องไม้เมื่อไหร่จะรู้....
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** พันวาขอคุย 3/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 03-02-2019 21:30:04



ส่งจดหมายลาป่วยค่ะ  :o12: :o12: :o12: :o12:


ก่อนอื่นต้องกราบขอโทษงามๆ ที่สัญญาไว้ว่าวันนี้จะมาอัพตอนใหม่

แต่พันวาพึ่งจะไปพบแพทย์มาค่ะ มีอาการแสบตาน้ำตาไหลทั้งวัน ช่วงนี้ใช้คอมพ์ฯบ่อยมากทั้งเรื่องงานและเขียนนิยาย :katai4:

วันนี้ตาแดงมากหมอเลยปิดตาไว้ข้างนึง 55555 พิมพ์ลำบากมาก :mew6:

เลยต้องเข้ามากราบงามๆขอโทษคนอ่านทั้งหลายที่รอนะคะ อาทิตย์หน้า ไม่เบี้ยวแน่นอนค่าาาา

อาทิตย์นี้เค้าขอพักสายตาก่อนนะเจ้าคะ  :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

เจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ส่งจดหมายลาป่วยค่ะ TT__TT
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-02-2019 23:14:31
 หายป่วยไวๆนะคะ จะรออ่านนะ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ส่งจดหมายลาป่วยค่ะ TT__TT
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 05-02-2019 22:27:11
รอเหมือนกันคับ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว(40%) 10/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 10-02-2019 22:15:09


แผนที่ 14 คนในครอบครัว(40%)


วนันต์


เป็นเช้าที่ผมตื่นมาแล้วรู้สึกเหมือนจะเขิน  ใช่ผมเขิน ก็ยังไงดีล่ะ เมื่อคืนผมว่าผมนอนไม่ดึกนะ หลับไปตอนไหนไม่รู้

แต่ที่รู้คือพี่โอ๊ตยังไม่กลับเข้าห้อง แต่พอตื่นมาร่างหมีๆของพี่โอ๊ตกลับนอนซุกพุงผมอยู่นี่สิ จะไม่คิดอะไรเลยหากแม่ไม่เปิดประตูเข้ามา

“อุ๊ย แม่ขอโทษจ้ะ นึกว่าเจ้าโอ๊ตนอนอยู่ห้องล่าง “

ครับนั่นแหละครับแม่เปิดมาเจอพี่โอ๊ตที่นอนก่ายกอดผมเต็มที่เอาหน้าซุกพุงผมไม่มีวี่แววว่าจะตื่น 

แล้วแม่พี่โอ๊ตก็ทำหน้าอึ้งๆรีบร้อนปิดประตูไป โอยยยย ทำไงดี

“ตื่นเลยนะพี่โอ๊ต“ผมฟาดมือลงท่อนแขนของพี่โอ๊ตที่ยังกอดเอวผมเอาไว้

“ขอนอนต่ออีกหน่อยนะครับวันนี้มีเรียนบ่ายไม่ใช่เหรอเราน่ะ “

“มันก็ใช่อ่ะครับ แต่ เมื่อกี๊แม่เข้ามา ...”

“อืออออ”ท่าทางบิดขี้เกียจปรือตาขึ้นมามองแล้วส่ายหน้าไปมาบนพุงของผมนี่คืออะไรครับ อยากถามแบบนั้นแต่ตอนนี้ผมเขินอยู่

“พี่โอ๊ตตตตตต ตื่นนนนนนน “ไม่รู้แม่เข้าใจอะไรยังไงถึงไหนกัน แย่แน่ๆ

“เป็นอะไรครับทำหน้าตลก”

“ก็แม่..ไม่รู้เข้าใจผิดไปถึงไหนแล้ว เพราะพี่เลยดูสิ มากอดไม่ดูเวล่ำเวลา”ผมกลายเป็นคนขี้บ่นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“ลุกเลยครับผมจะไปอาบน้ำ”


“ฮ้าวววววว อืออ”

ท่าทางที่เอามือปิดปากหาว ทั้งยังตาที่ปรือๆไม่ยอมเปิด ไหนจะเลื้อยตัวลงไปนั่งข้างล่างเอนตัวพิงเตียงเหมือนคนไม่มีสติของพี่

ทำให้ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้ทั้งๆที่เมื่อครู่ผมยังกังวลกับท่าทางของแม่พี่โอ๊ตอยู่เลยหรือผมจะเป็นไบโพล่า!!

ผมไม่พูดอะไรกับพี่โอ๊ตอีกนอกจากลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวให้เสร็จ ปล่อยพี่เขานอนต่อไป

ผมเอาน้ำเย็นๆลูบหน้าพลางครุ่นคิดถึงภาพที่แม่พี่โอ๊ตเข้ามาเจอ ตัวผมเองไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่ากลัวว่าผู้ใหญ่จะตีความผิดตามภาพที่เห็น

ผมไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว ผมควรจะทำยังไงต้องแสดงออกแบบไหนหรือต้องบอกแม่พี่โอ๊ตว่ายังไงถ้าท่านถาม เฮ้อยุ่งยากจริงๆ

ผมใช้เวลานานกว่าปรกติก่อนจะเดินออกมาพร้อมชุดเรียบร้อย ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่ชินกับการแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่น

ไม่ว่าจะแก้บนแก้ล่างหรือแก้ทั้งตัวผมก็ไม่ชินอยู่ดี


“พี่นึกว่าน้องไม้จะนอนต่อในห้องน้ำละ”เสียงเอ่ยแซวของพี่ทำให้ผมขมวดคิ้วพลางคิดวนไปเรื่องเดิม

“พี่โอ๊ตผมไม่สบายใจเลยครับ”

“เรื่องอะไรครับ”

“ก็เมื่อเช้าอ่ะที่แม่พี่เข้ามาพี่แหละกอดผมทำไมก็ไม่รู้ป่านนี้แม่จะคิดถึงไหนอ่ะสิ เฮ้อ”

มือหนาๆยื่นมาขยี้ผมที่ยังเปียกหมาดๆของผมจนกระเซิงแต่ผมก็ไม่ได้สนใจไปมากกว่าสิ่งที่กำลังเป็นกังวล

“อย่าคิดมากแก่เร็วนะ หึหึ”คนไม่คิดมากลุกเดินเข้าห้องน้ำบ้างทิ้งให้ผมนั่งเช็ดมขมวดคิ้วไปด้วยความกังวลไม่หาย

“นอนหลับดีไหมลูก”เสียงเอ่ยทักของคุณแม่ไม่ได้กระอักกระอ่วนอย่างที่ผมคิด ดูท่าทางคุณแม่ยังเป็นปรกติ

ผมคงคิดมากไปอย่างพี่โอ๊ตว่า พอคิดได้แบบนั้นผมก็ระบายรอยยิ้มจนเต็มแก้ม

“หลับดีมากเลยครับไม่ฝันเลยสักนิด”ผมว่าพลางส่งยิ้มให้อย่างที่ผมรู้สึก

“แล้ววันนี้มีเรียนกันไหมคะ แม่ว่าจะทำของหวานสักหน่อยเนี่ยพี่อาร์ตก็ไม่อยู่ละไปเรียนตั้งแต่เช้า  น้องไม้ชอบอะไรอีกลูกนอกจากบัวลอย”



“วันนี้ไม่มีเรียนครับ..อ่า..อันที่จริงมีบ่ายๆครับแล้วก็ผมชอบทุกอย่างเลยที่เป็นขนมหวานครับ แต่หนูบัวไม่ค่อยให้ผมกินเพราะบัวกลัวอดกินตามผมไม่ได้กลัวอ้วนแต่ห้ามผมกินด้วยนะครับแสบเลยคนนั้น”

แม่บ่นพี่อาร์ตไปถามผมไปจนผมเองที่เบลอจนไม่รู้จะตอบอันไหนก่อนก็เลยตอบไปแบบตะกุกตะกักจนแม่ยิ้มขำ


“หนูบัวออกจะผอมกินไปเยอะๆก็ไม่อ้วนหรอกสาวๆสมัยนี้กลัวอ้วนกันจริงๆมีเนื้อนุ่มนิ่มบ้างน่ารักจะตายแม่ว่า”

“ใช่ไหมครับผมก็เคยบอกแบบนั้นแต่บัวก็ยังกลัวอ้วนอยู่ดี แบบนี้ผมต้องมาที่นี่บ่อยๆแอบหนูบัวมากินขนมหวานฝีมือแม่อร่อยมากกกกก”

“ถ้าอย่างนั้นก็กินเยอะๆนะลูกเจ้ายักษ์สองตัวของแม่ไม่ชอบของหวานเลย เนี่ยน้องไม้ต้องมาหาแม่บ่อยๆนะคะ “

“ได้เลยครับผมจะมาหาแม่จนเบื่อผมเลยล่ะ”

ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างเพราะคำพูดคุณแม่ที่ใจดีเอ็นดูผมเป็นลูกเป็นหลานอีกคน พี่โอ๊ตก็นั่งยิ้มไม่พูดไม่จามองผมสลับกับแม่ตัวเองแล้วก็ยิ้ม

 เป็นอะไรของพี่เขากันยิ้มๆแบบนี้น่าสงสัยจะหาเรื่องแกล้งอะไรผมอีกเนี่ย ผมปรายตามองพี่โอ๊ตด้วยความหวาดระแวง



มื้อเช้าผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่ก็ยังคงยิ้มและใจดีชวนผมออกมาหาซื้อของไปทำขนมหวาน

ผมเลยต้องโทรไปบอกแม่ว่าวันนี้คงกลับบ้านค่ำหน่อย จะอยู่กินขนมหวานฝีมือคุณแม่ของพี่โอ๊ตก่อน

หนูบัวก็หนีบพี่ปีย์ไปโรงฝึกทุกวันไม่รู้ว่าเอาไปให้กำหลังใจหรือเอาไปเป็นกระสอบทราย

 ส่วนผมก็ออกมาช็อปที่ซุปเปอร์ฯใกล้บ้านกับครอบครัวอิงคนันท์แทน

“น้องไม้ชอบกีวี่ไหมลูก”

“อ่า กินได้ครับ”

“ไม่เอาสิต้องบอกแม่มาอันไหนลูกไม้ชอบกิน ไม่เอาที่บอกว่ากินได้นะคะ เอาแบบอันไหนชอบไม่ชอบ บอกแม่มาเลยค่ะ”

ครับกลายเป็นลูกไม้ไปแล้วครับ ฮ่าๆๆๆ

“ไม้ชอบลูกพลับมากกว่าครับปอกเปลือกแช่เย็นมันจะหวานกรอบอร่อยมากครับ ส่วนอันที่ไม่ชอบไม่มีครับไม้กินได้หมดเลยครับ”

ผมต้องแทนตัวว่าไม้สินะพอพูดแบบนั้นคุณแม่ยิ้มกว้างเลยครับ น่ารักจังแม่ใครน๊า ขโมยไปเป็นแม่ตัวเองอีกคนได้ไหมเนี่ย หึหึ

“น่ารักมากลูกอย่าเลือกกินเหมือนพี่โอ๊ตนะคะ กีวี่เนี่ยของโปรดพี่เขาส่วนผลไม้อย่างอื่นพี่โอ๊ตไม่กินเลยค่ะ น้องไม้ช่วยแม่หน่อยสิคะ “

“เอ่อ  ช่วยอะไรครับ”

“ถ้าพี่โอ๊ตงอแงเลือกกินบอกคุณแม่เลยนะคะ”

“แม่คร๊าบบบกราบล่ะ”เสียงโอดครวญของพี่โอ๊ตที่เข็นรถตามมาเงียบๆดังขึ้นเป็นครั้งแรก ทำเอาผมอดที่จะขำไม่ได้ น่ารักดีแฮะ

“น้องไม้มานี่เลยครับ อย่าตกบ่วงแม่พี่นะ  เนี่ยของผมๆหวงแม่ห้ามยึด”

พี่โอ๊ตว่าพลางลากแขนผมไปยืนใกล้ๆก่อนจะปล่อยมืออีกข้างจากรถเข็ญมาโอบไหล่ผมแทน อ่า มันรู้สึกแปลกๆแฮะ

“หวงไปถอะเผลอเมื่อไหร่แม่จะขโมย”ผมยิ้มจนตาปิดเพราะความน่ารักของแม่ลูกคู่นี้ ใครเห็นแบบผมก็อดยิ้มไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละครับ

ก็ผู้ชายตัวสูงใหญ่แต่อ้อนแม่ งอแงกับแม่เป็นเด็กๆ น่ารักจะตายไม่ค่อยมีใครทำหรอกครับ ขนาดไอ้บูเพื่อนผมมันยังบอกอายสาวๆเลย

ถ้าต้องอ้อนแม่.. ป่านนี้ พวกมันจะเป็นยังไงนะ สบายดีหรือเปล่า หายโกรธผมหรือยัง พวกมันจะให้อภัยผมได้หรือยังนะ

“...ไม้...น้องไม้!!!”

“ฮะ..ครับๆ เอ่อ มีอะไรเหรอครับ”ผมตกใจเสียงเรียกของพี่โอ๊ตที่ดังลอดเข้ามาในห้วงนึก

“เป็นอะไรครับ หน้าซีดๆไม่สบายตรงไหนบอกพี่โอ๊ตเร็ว”

เสียงพี่มีความกังวลจนผมรู้สึกได้ ผมคงเผลอคิดอีกแล้วสินะ




อินทัช

อยู่ๆน้องก็เงียบไปดูเหม่อๆเรียกก็ไม่ได้ยินแม่ผมต้องใช้มือลูบแขนน้องไปมาเบาๆน้องยังไม่รู้สึกตัวเลย อาการน้องแบบนี้ทำผมเป็นห่วง

“เปล่าครับ แค่ คิดอะไรนิดหน่อยเองพี่โอ๊ตทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ”หน้าผมคงเครียดจนน้องทัก

“ไม้ไม่สบายหรือแฮ้งค์คะลูกทำไมไม่บอกแม่คะแม่จะได้ให้ลูกไม้พักแม่นี่แย่จังลากหนูออกมาไม่ได้ถามเลย”

ครับแม่ผมดูจะโอ๋ลูกชายคนใหม่มาก คนโดนเรียกว่าหนูได้แต่ยิ้มแห้งๆ หนูที่สูง170กว่าๆเลยนะแม่

“ไม้ไม่ได้เป็นอะไรครับแม่แค่เผลอคิดถึงเพื่อนไปนิดเดียวเองครับ”

คิดถึงเพื่อน?ผมไม่สบายใจเลยเมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางของน้องเมื่อครู่ เพื่อนที่น้องว่าใช่หนูบัวแน่นอน

 เพราะทุกครั้งที่น้องไม้พูดถึงหนูบัวสีหน้าน้องจะเต็มไปด้วยความสุขและความหมั่นเขี้ยวเพื่อนสนิท

แต่สีหน้าเมื่อสักครู่ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าอะไรไปสะกิดใจให้น้องคิดถึงเพื่อนกลุ่มนั้นผมยื่นมือเข้าไปจับมือน้องพร้อมทั้งบีบเบาๆ

“พี่อยู่ตรงนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล”

“ครับ”รอยยิ้มที่ส่งมาให้ผมมันมีความเศร้าปะปนมาด้วยซึ่งผมไม่ชอบเลยสักนิดน้องไม้ของผมต้องยิ้มกว้างๆและร่าเริงเท่านั้น

“แม่ว่าน้องไม้ต้องชอบแน่เลยแบบนี้ลูกพลับลูกโตมากเดี๋ยวแม่จะซื้อไปปอกแช่เย็นไว้เต็มตู้แทนกีวี่พวกนั้นซะหน่อยละ”

น้องยิ้มกว้างพร้อมทั้งพยักหน้าหงึกหงักหันไปช่วยแม่ผมเลือกลูกพลับลูกโต ของโปรดทำให้น้องลืมเรื่องเศร้าไปชั่วครู่

ผมจะได้จำไว้แม่ผมนี่เก่งจริงๆ กว่าจะได้ของครบเราสามคนเดินจนเมื่อย ไม่สิต้องบอกว่าผมคนเดียวเนี่ยที่เมื่อย เหนื่อย เพลีย

ส่วนคุณแม่กับลูกชายคนเล็กนั่น ยังสนุกกับการช็อปปิ้ง น้องไม้บอกว่าเคยพาหนูบัวไปช็อปเป็นวันๆ เหนื่อยกว่านี้สิบเท่าแค่นี้จิ๊บๆ


หึหึผมต้อง RIP ให้ไอ้ปีย์ใช่ไหมครับ หึหึ
.
.
.
.
.
.
TBC......


เอาไป40% ก่อนเนอะ กิกิ เรื่องนี้ไม่ยาว ไม่ม่า(มั้ง) มาแบบกุ๊กกิ๊ก ฟีลกู๊ดกันไปนะคะ

คิดถึงคนอ่าน แต่งานก็ท่วมหัวฮือออ ถ้าเค้ามาช้าอย่าเทเค้าน๊าาาาาาา


น้องยังมีเรื่องสะกิดใจกันเนาะ เพื่อนเก่าที่ทุกคนกังวล อีกไม่นานจะกกลับมาาาา  :katai4: :katai4:

เอาล่ะได้เวลาไปปั่นงานต่อ 555555

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (40%) 10/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-02-2019 22:43:52
 :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (40%) 10/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-02-2019 09:56:39
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ สู้ๆนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (40%) 10/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 11-02-2019 10:04:02
อรั๊ยยยยยย
น่าร้ากกกก
ชอบ ๆ
เป็นกำลังใจให้พันวานะครับ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (40%) 10/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 12-02-2019 02:33:45
นี้เชีย เงินป้องได้มะ ประมาณว่าไม่มีโมเม้น แต่เราจะชิปไรงี้555  ขอแฝดซักคนเถอะ555
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (40%) 10/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 21-02-2019 11:16:35
ชอบ ๆ รออ่านอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (40%) 10/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 21-02-2019 22:34:53
 :กอด1:
น่ารัก
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (100%) 25/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 25-02-2019 22:09:18



(ครึ่งหลังค่าาา)




บ่ายโมงแล้วเวลาไม่มีเรียนแบบนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเล่นเกมส์อยู่ที่ห้องไอ้ปีย์หรือไม่ก็พาเพื่อนๆร่วมแก๊งค์ไปก๊งที่ห้อง

แต่ตอนนี้ผมกลับนั่งมองน้องไม้ที่ช่วยแม่เก็บครัวด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก อยากปกป้องรอยยิ้มนั่นอยากเห็นสีหน้าที่มีแต่ความสุข

นี่คืออาการของคนตกหลุมรักใช่หรือเปล่านะ ยังต้องถามอีกเหรอ เฮ้ออออ  ไม่น่ารอดนะผมว่า หึหึ 

“ไม้กลับก่อนนะครับ ถ้าวันไหนไม่มีเรียนไม้จะแวะมาชิมขนมหวานของแม่ให้ได้เลยอร่อยมากครับ”

คนพูดตาเป็นประกายมือลูบท้องวนไปมา รอยยิ้มกว้างจนผมอิจฉาแม่ แต่ก็สุขใจ อยากให้น้องยิ้มเยอะๆ


“ว่างก็มานะลูกให้พี่โอ๊ตพามาก็ได้ค่ะ จะได้กลับบ้านด้วยหายไปจนแม่คิดว่าไม่มีลูกละ คนพี่ก็เรียนหนักคนน้องก็..”

“แม่คร๊าบบบ กราบอีกรอบ”เสียงหัวเราะชอบใจของน้องเมื่อผมยกมือท่วมหัวเพื่อไม่ให้แม่เผาผมจนเกรียมไปกว่านี้

“คืนนี้มานอนบ้านนะคะคุณลูกแม่เตรียมน้ำยาซักฟอกไว้ อ้อ พ่อเตรียมช่วยด้วยนะ”

“ครับๆ กลับครับ”


คงไม่พ้นถามเรื่องน้องแน่ๆ ก็คงเห็นท่าทางของผมคงเดาได้ครับแม่ผมเก่ง แต่ทั้งๆที่แม่สงสัยแต่ไม่ได้ทำอะไรให้น้องไม้ตกใจ

หรือแสดงท่าทางไม่ชอบใจอะไรทำนองนั้น มันทำให้ผมมั่นใจระดับหนึ่งว่าถ้าผมสารภาพความจริงกับครอบครัวผมน่าจะได้ไฟเขียว หึหึ

ก็น้องน่าเอ็นดูขนาดนั้นไม่หลงน้องนี่ผมว่าคนนั้นไม่ปรกติ หึหึ


น้องลาแม่อยู่พักหนึ่งก็เดินตามผมมาที่รถ ระหว่างทางแค่ไม่กี่สิบเมตรผมเห็นรอยยิ้มของน้องแล้วก็พาลให้นึกถึงเรื่องที่ทำน้องเครียด

เมื่อไหร่นะที่เรื่องพวกนั้นจะหายไป หรือไม่ก็ทำให้น้องรับความรู้สึกเสียใจได้มากกว่านี้ ตลอดทางไปมหาวิทยาลัยน้องเปิดเพลงคลอเบาๆ

พลางฮัมตามไปผมเองก็มีความสุขกับรอยยิ้มสดใสของน้อง แม้ว่าในใจลึกๆผมจะกังวลแต่รอยยิ้มนั่นก็ทำให้ผมคิดได้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ผมจะปกป้องรอยยิ้มนี้ให้อยู่ไปนานๆ

“พี่โอ๊ตครับพรุ่งนี้ผมกับหนูบัวต้องไปทำกิจกรรมกับสโมฯอาจจะต้องกลับค่ำ”

ทันทีที่ส่งน้องหน้าคณะน้องก็รีบพูดเหมือนว่ากลัวจะลืมผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามน้องก่อนจะได้คำตอบที่ผมไม่อยากได้สักเท่าไหร่

“พี่โอ๊ตไม่ต้องมารับผมก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปกับบัวเอง”ผมพยักหน้ารับอย่างเซ็งๆเรื่องของเรื่องคือพรุ่งนี้เช้ามีนัดถ่ายงานให้กับทางมหาวิทยาลัย

รวมตัวดาวเดือนตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสี่ ทางมหาวิทยาลัยจัดงานเพื่อโปรโมทงานประเพณีของมหาวิทยาลัยที่กำลังจะมีขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า

จัดว่าเป็นงานใหญ่มากพอสมควร ทุกปีจะมีดารานักร้องและนายแบบนางแบบมาเป็นแบบให้

แต่ปีนี้นอกจากดารานักร้องและเหล่านายแบบนางแบบแล้วทางมหาวิทยาลัยได้จัดให้มีกลุ่มดาวเดือนของมหาวิทยาลัยทุกชั้นปีเข้าร่วมด้วย

แต่ด้วยความที่พวกผมยังเป็นนักศึกษาเลยต้องซ้อมคิวกันเยอะหน่อยแม้ว่าจะถ่ายแค่ไม่กี่เซ็ตเพราะท่านอธิการบดีบอกว่าไม่อยากให้ดาวเดือนดับ

เมื่อเจอแสงดารา ท่านว่าแบบนี้มีหรือพวกผมจะยอมแพ้ เลยต้องไปเข้าคอร์สสั้นๆเพื่อเรียนรู้

ได้ข่าวว่ามีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศส่งดาวเดือนของแต่ละมหาวิทยาลัยเข้าร่วมงานด้วย

 คงเพราะงานประเพณีของทางมหาวิทยาลัยถูกกล่าวขวัญถึงอยู่มากเรื่องการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ทุกปีและมีเหล่าคนดังตบเท้าเข้าร่วมงานหนาแน่นทุกปี

และแน่นอนว่า สื่อก็หนาแน่นเช่นกัน เพราะแบบนี้เลยเป็นโอกาสในการแย่งพื้นที่สื่อของมหาวิทยาลัยดังๆทั่วประเทศ

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ”

“ก็ อยากมารับนี่นา”ผมบอกไปตามตรงและเผลอตัวทำเสียงอ้อนหน้าอ้อนไปโดยไม่รู้ตัว

ผลที่ได้คือหน้าเหวอๆของน้องที่ไม่คิดว่าผมจะพูดตรงๆและทำหน้าอ้อนตีนน้องแบบนั้น


“พี่เป็นใครคายเจ้าชายน้ำแข็งคืนมานะ ฮ่าๆๆ”

น้องว่าพลางหัวเราะจนผมมุ่ยหน้าอย่างขัดใจ เหอะไม่เคยมีใครได้เห็นมุมนี้ของผมหรอกนะ

นอกจากพี่อาร์ตพี่ทอยอ่ะ เฮ้อคิดไปก็เศร้า อยากจีบน้องแต่ก็ไม่กล้าจีบอยากได้น้องชายแต่ไม่อยากเป็นพี่ชายโคตรย้อนแย้งเลยผม


“เอาๆหัวเราะให้พอใจเลยครับ พี่ต้องเหงาแน่ๆถ้าต้องขับรถไปคนเดียว ไอ้ปีย์คงด่าว่าพี่ไม่ดูแลน้องไม้ทำให้น้องไม้ต้องฉกหนูบัวไปจากมัน มันคงร้องไห้พี่คงรำคาญมันมากๆ และพี่...”


“พอๆพี่พอผมจะบ้าตายฮ่าๆๆๆๆ โอเคๆ เดี๋ยวเสร็จงานผมจะโทรหาละกันนะครับพี่โอ๊ต”

น้องว่าพลางเอามือเช็ดน้ำตาที่ปลิ่มๆเพราะหัวเราะมากเกินไป หึหึ เข้าทางว่ะ หึหึ

“เยี่ยมเลย ห้ามเบี้ยวพี่นะไม่งั้นจะ...”

“จะอะไรครับ”น้องยังส่งรอยยิ้มล้อเลียนมาให้

“จะบอกหนูมาลีและพี่มาร์คว่าพี่ไม้นิสัยไม่ดี”

“ฮ่าๆๆๆ ฟ้องหมาเลยเหรอพี่ฮ่าๆๆ”มีใครบอกไหมครับว่าน้องไม้เส้นตื้นมากเลยแต่ผมชอบ ชอบเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของน้อง

 ผมยอมเป็นคนบ้าบอฟ้องหมาด่าแมวอะไรก็ได้ขอแค่ให้น้องสดใสแบบนี้ทุกวัน ผมยื่นมือไปยีหัวเจ้าคนเส้นตื้นจนผมยุ่ง

แต่น้องไม่ได้สนใจจะปัดมันออกเพราะมัวแต่ขำผม


“ลงไปได้แล้วไปเดี๋ยวก็เข้าเรียนสายหรอก"

“ครับๆ ขอบคุณที่มาส่งนะครับแล้วก็ขอบคุณที่พาไปบ้านพี่นะครับ ผมดีใจมากเลย”

รอยยิ้มกว้างสดใสส่งมาให้อีกครั้งยิ่งทำให้ใบหน้าสวยหวานน่ามองจนผมแทบละลายไปกับรอยยิ้มนั่น

ใจเต้นตึกตักไปกับรอยยิ้มของน้องจนผมต้องเอามือจับหน้าอกตัวเองเอาไว้ น้องลงไปนานแล้วเหลือทิ้งไว้แค่กลิ่นหอมอ่อนๆ

ที่ผมเสพติดเข้าไปทุกวันผมยังคงจอดรถนิ่งมองเข้าไปในตัวตึกที่น้องเดินหายเข้าไป ผมตัดสินใจขยับรถเข้าไปจอดที่ข้างๆคณะอักษรฯ

และลงจากรถเดินเข้าไปในตัวตึกเดินเข้าลิฟท์และกดชั้นสามโดยไม่ได้สนใจสายตาใคร่รู้ของนักศึกษาที่มองมาที่ผมด้วยความสงสัย

แหงล่ะผมเรียนคณะวิศวะฯแต่ดันโผล่หัวมาที่คณะอักษรฯไม่สงสัยก็แปลกเต็มทีร้อยวันพันปีผมไม่เคยจะไปที่คณะอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับผม

 แต่ไม่ว่าใครจะสงสัยอะไรก็ตามผมไม่สนใจ เพราะคนที่ผมสนใจกำลังทำคิ้วขมวดส่งสายตาเป็นคำถามเมื่อเห็นผมเดินเข้าไปหาที่ห้องเรียน

ผมนั่งลงที่นั่งข้างๆที่ยังว่างโดยส่งยิ้มให้แค่น้องเท่านั้น


“มาทำไมเหรอครับ ลืมอะไรหรือเปล่า”น้องถามด้วยความสงสัย อาจารย์ยังไม่เข้าคลาสนักศึกษายังจับกลุ่มคุยกันบ้าง

แต่ส่วนมากกำลังมองมาที่เราสองคนด้วยความสงสัย

“ง่วง เมื่อคืนกว่าจะได้นอนโดนพี่อาร์ตมอมด้วย”

“หืม?? แล้วเมื่อเช้าไม่บอกผมล่ะครับจะได้นั่งแท็กซี่มาเอง”

“ไม่เอาอยากมาส่ง แต่ของีบแป๊บนึง ไม่กวนนะ”

ผมพูดแค่นั้นและเอนหัวไปพิงไหล่น้องพลางปิดตาลงตัดบทสนทนาเสียงพูดคุยกันจอแจเมื่อสักครู่เงียบกริบราวกับถูกตัดออกไป

ไม่รู้น้องทำหน้ายังไงแต่ผมจะเนียนแกล้งหลับแบบนี้แหละหลังห้องด้วยหวังว่าอาจารย์คงมองมาไม่ถึงตรงนี้

กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวน้องมันทำให้ผมเคลิ้มและรู้สึกผ่อนคลาย อ่า...ผมว่าขอหลับจริงๆคงไม่เป็นไร

ผมรู้สึกได้ถึงการเกร็งตัวของน้องแต่ก็แค่แป๊บเดียวสักพักก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสเบาๆที่ศรีษะอืมมมสบายดีนะมีคนลูบหัวให้นอนเนี่ย งั้นนอนล่ะนะ หึหึ

.
.
.
“พี่..ตื่นได้แล้วครับ “

“อือ..ง่วง”ง่วงจริงไม่ติงนังครับ ผมพยายามปรือตามองเสียงเรียกข้างๆหูหน้าน้องอยู่ใกล้แค่คืบ ฮืออใจกู

“ลุกเลยครับเหน็บจะกินไหล่ผมแล้วเนี่ย”

“ไหวไหมครับ “

“ไหวๆ”

“เอ่อ..พี่โอ๊ตคะ คือว่า ขอถ่ายรูปได้ไหมคะ แหะๆ”เสียงใสๆที่ดังอยู่ใกล้ๆทำให้ผมลืมตาเต็มที่ สายตาสามคู่จ้องมาที่ผมจนต้องผงะ

“พิ้งค์ ตามึงอย่าวาวมากพี่เค้ากลัวเลยเห็นไหม”

“ก็ น่ารักนี่นา ดูดิๆพี่โอ๊ตตอนพึ่งตื่นไม่ใช่ว่าจะเห็นง่ายๆนะมึง และภาพที่เค้าซบกันอ่ะ อร๊ายยยย“

“เอ่อ”

“พี่โอ๊ตไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ พิ้งค์เข้าใจ”ปากว่าเข้าใจแต่ทำหน้าหงอยขนาดนั้นทั้งยังส่งสายตาอ้อนๆไปให้น้องไม้อีกอยากเอามือปิดตาน้องไว้ชะมัดเลย


“ถ่ายคู่กับไม้”ผมติดคำพูดสั้นๆเมื่อต้องพูดกับคนอื่นๆที่ไม่สนิท

“ได้เหรอคะ ว้ายยยย ขอบคุณค่า ปิงกูยืมมือถือมึงหน่อยของมึงถ่ายรูปสวย”

“ไม่ได้โว้ยยยย ความลับกูเยอะ ยืมไอ้ป้องนุ่น”

“ของกูก็เยอะ ไม่ได้ๆ “

“พวกมึงนี่พึ่งพาไม่ได้เลย ถ่ายเองก็ได้วะ ..พี่โอ๊ตคะ แหะๆคือว่าพิ้งค์อยากได้รูปซบไหล่แบบเมื่อกี๊อ่ะได้ไหมคะแหะๆ”

“ได้ไหม”ผมหันไปถามน้องทันที ถ้าเป็นเมื่อก่อนแค่ตีหน้านิ่งๆทำตาดุๆก็ไม่มีใครยุ่งกับผมแล้วครับ แต่ตอนนี้ผมอยากมีรูปคู่น้องอ่ะ

 อยากประกาศแม้จะเป็นแค่คู่จิ้น ก็เอาวะไอ้โอ๊ตแต่ต้องขอน้องก่อนไง

“ได้ครับ แต่มันจะดีเหรอพี่ เดี๋ยวก็มีรูปลงเพจอีกหรอก”

น้องตอบรับแต่ก็ยังหันมาถามความเห็นผมที่จริงน้องไม่ได้คิดมากเรื่องรูปลงเพจแต่น้องแค่เป็นห่วงผม

“อย่าคิดมากลงเยอะๆเลยดี หึหึ”ผมพูดเบาๆน้องก็ทำหน้าสงสัยแต่ผมก็เอนซบน้องต่อไปให้เพื่อนน้องเขาถ่ายรูปจนพอใจ

กว่าเพื่อนๆของน้องจะแยกตัวไป ผมก็รู้สึกถึงความหิวเพราะของหวานของแม่คงย่อยหมดแล้ว

“ไปหาอะไรกินก่อนค่อยกลับบ้านดีไหมพี่หิว”

ได้ครับ พี่โอ๊ตอยากกินอะไรครับ เดี๋ยวหนูบัวจะมาจอยด้วยคงเลิกซ้อมแล้ว”

“อืม ไอ้ปีย์มาด้วยสินะ งั้นไปกินก๋วยเตี๋ยวหน้ามอกัน เผื่อพวกไอ้ต่ายมันจะไปด้วยขอพี่แวะไปเอาของกับพวกมันแป๊บนึงนะครับ”

“ได้ครับเดี๋ยวผมเก็บของแป๊บนึง”

ผมยืนรอน้องเก็บของพลางกวาดสายตามองไปรอบๆคลาสคงเลิกไปสักพักแล้วเพราะมีนักศึกษาที่อยู่ในห้องไม่กี่คน

ส่วนมากก็ยังจับกลุ่มคุยกันเหมือนตอนที่ผมเข้ามา แต่สายตาที่แอบมองมาทางผมบ่อยๆเดาได้ว่าอีกไม่นานภาพคู่ของผมกับน้องไม้

และกระแสคู่จิ้นของผมกับน้องไม้คงว่อนโซเชี่ยลแน่ๆ แต่แล้วไงใครแคร์ หึหึ

ช่วงนี้ผมต้องทำตัวติดกับน้องไว้เยอะๆตั้งแต่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองความหวงมันก็ตามมาติดๆครับ

ไม่อยากจะนึกถึงตอนไอ้พวกเพื่อนชั่วมันรู้ความจริง ผมคงโดนมันเผาจนตายแน่ๆแต่ก็ไม่สนอยู่แล้วครับ หึหึ

“พี่ยิ้มอะไรอ่ะ หน้าตาชั่วร้ายมากเลย”เสียงน้องเอ่อยแซวขำๆยิ่งทำให้ผมอารมณ์ดี

“กำลังคิดว่าถ้าไอ้ปีย์ถูกจับคู่จิ้นเหมือนเราบ้าง มันจะเป็นยังไงน่ะสิหึหึ “

“สงสารพี่ปีย์นะครับ แต่ผมว่าคิดๆไปก็ดีเหมือนกัน ยัยตัวแสบจะได้เลิกวอแวผมบ้าง หึหึ”

“ว่าแต่พี่นะ ไม้เองก็ยิ้มเจ้าเล่ห์พอกันแหละน่า”


“ผมอยากให้เพื่อนมีความสุขบ้างครับ บัวทำตัวติดกับผมมานาน ผมเองก็เห็นแก่ตัวที่เก็บเพื่อนเอาไว้ข้างตัวด้วยเหตุผลที่มีแต่ผมได้ประโยชน์ แต่ตอนนี้ผมอยากให้บัวลดความเป็นห่วงผมลงบ้างและผมคงจะต้องถึงเวลาปล่อยเพื่อนไปหาแฟนจริงๆเสียที”

รอยยิ้มเศร้าๆแบบนี้ผมไม่อยากเห็นเลย

“ไม้มีพี่ไง อย่าลืมสิ เทหนูบัวมาหาพี่เลย พี่มีเวลาให้ไม้ทั้งชีวิต ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะไม่มีเวลาไปหาใคร เพราะเวลาทั้งหมดพี่ยกให้ไม้เลย”

“ทำไมพี่ใจดีกับผมจังเลย “

“ไม้จำไว้แค่ว่าพี่ไม่เคยคิดร้ายกับไม้เลยไม่ว่าอนาคตข้างหน้ามันจะเป็นอย่างไร”

ผมคิดเอาไว้ว่าถึงแม้ว่าน้องจะไม่รับรักแต่ผมจะไม่มีวันทำตัวเหมือนกับเพื่อนเก่าของน้องแน่นอน

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่จะอยู่ตรงนี้ข้างๆไม้เสมอ”

“ขอบคุณครับ”น้องส่งยิ้มกว้างมาให้ผม ต้องแบบนี้สิ ที่ผมอยากเห็น

ไม่ว่าคนอื่นๆจะเป็นอย่างไร ผมจะไม่มีวันเปลี่ยนใจจากคนตรงหน้าแม้ว่าผมอาจจะต้องอกหักเหมือนคนอื่นๆก็ตาม


.
.
.
.
.
TBC.....



แอบแว๊บบบบบมาแหะๆ

พาอิพี่และน้องมาส่ง ช่วงนี้งานรัดคอแอ่กๆๆๆๆๆๆ

แต่ยังไม่ลืมคนอ่านน๊าาาาา ถึงจะมาช้าแต่มาแน่นวลเด้อ

น้องก็ยังคงไม่รับรู้ถึงความเนียนของพี่ อิพี่ก็ยังคงเดินหน้าเมื่อมั่นใจในความรู้สึก ความหวงก็มา 55555

แต่แสดงมากไม่ได้ไงวงวารพี่มันนะคะ

พันวาว่างเมื่อไหร่จะรีบมาอัพนะเจ้าคะ ไม่อยากกำหนดวันเพราะกลัวว่างานจะเข้าแล้วมาอัพไม่ได้คนอ่านจะรอ

เอาเป็นว่า ว่างเมื่อไหร่ อัพเมื่อนั้น ไม่นานเกินรอ แต่ขอทำงานด้วยนะคะ  :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (100%) 25/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 25-02-2019 22:49:31
 :pig4: :pig4: :pig4:

จิ้นเจิ้นไรกัน  เรื่องจริงต่างหาก  อิอิ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (100%) 25/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 25-02-2019 23:04:42
โห... ตอนนี้ติดน้องไม่ปล่อยเลยนะโอ๊ต
 o13
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (100%) 25/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 26-02-2019 15:32:43
โอ้เย...

ชอบพี่โอ๊ตตอนนี้สุด
ละมุนนีมากกกกก
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (100%) 25/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 27-02-2019 20:24:38
พี่เลิกซึนแต่น้อลยังมึน
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (100%) 25/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 03-03-2019 09:01:14
เป็นกำลังใจให้พันวานะครับ

รออ่านอยู่นะครับผม
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (100%) 25/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 03-03-2019 21:27:36
จะเนียนจีบน้องจนน้องขาดไม่ได้ ก็ถือว่าร้ายนะพี่โอ๊ต
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 14 คนในครอบครัว (100%) 25/2/62
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 03-03-2019 21:44:51
พี่โอ๊ตทุ่มเทขนาดนี้น้องไม้ต้องเห็นแน่ๆ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 10-03-2019 21:57:06


แผนที่ 15  รักษาแผล


อินทัช


Pinkอ่านว่าพิ้งค์ไม่ใช่ปิงนั่นพ่อกู @pinky

แกเค้าซบกันอ่ะฮืออออ แต้มบุญกูได้ดูเจ้าชายน้ำแข็งอ้อนคนอื่นในระยะเผาขน ตายกูตาย

1.8k รีทวิต 997 ความชอบ



@pornข้อสุดท้าย**
 โอยยยยไฟไหม้ตากูค่ะซิสสสสส


@แหนมมัด**
คู่นี้คู่จริงไม่จิ้นนะคะ หุหุโยนไม้พายข่ะ

@ติ่งคนหล่อ**
นั่นไงมีซัมติงจริงๆด้วย

@ผู้ชายได้กันมันคือฝันของกู**
กรี๊ดดดดดด โอ๊ยผัวหนูทั้งคู่เค้ารักกันเค้ารักกัน งื้ออออใครยังไงไม่รู้แต่หนูฟินแงงง

@ทองหล่อทองหล่อ**@ติ่งคนหล่อ
มามีซัมติ่งกับผมไหมครัช

@โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**
มาเอามดลูกพี่ไปค่ะน้องไม้พี่ยกให้ถ้าน้องจะสวยขนาดนี้ฮือออออออ

@เมียเดือน** @ทองหล่อทองหล่อ @ติ่งคนหล่อ
อุ้ยคู่นี้ท่าทางจะแซ่บ กิกิ

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร**
มองความมุ้งมิ้งผ่านภาพถ่ายใจกูก็ร้อนรน น้องไม้คนสวยของพี่ฮืออออ/กัดผ้าเช็ดหน้า

@รับได้ถ้าให้รุก **
อันตัวกูก๊อกหักสินะฮรึกกกกก

@เกิดมาทั้งทีมีดีแค่กล้วย**@รับได้ถ้าให้รุก
ต้องการคนดามใจไหมครับ


@สมาคมชมดาว**
อิงฟ้าโสดสินะหึหึ

@นางฟ้าหน้าหม้อ**
ให้เธอได้กับค้าวววววว

@โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**
งานประเพณีปีนี้ต้องมีช็อตเด็ดกูบอกเลย

@pornข้อสุดท้าย**
อยากขอ pornจากทั้งคู่จัง

@โอมจงลง**
มีแวว

@Upปีย์**@โอมจงลง
แววหรือกุ๊ก

@โอมจงลง**@Upปีย์
นั่นมุกหรือเปลือกหอย


Pinkอ่านว่าพิ้งค์ไม่ใช่ปิงนั่นพ่อกู @pinky
กีสสสสพี่กดเฟบว่ะ เรือกูพุ่งเลยแง้ววววววว




ระหว่างนั่งรอน้องเดินไปลงทะเบียนและแวะไปรับเสื้อจากทีมงานคนละจุดกับผมทางฝั่งผมก็เป็นปี3ปี4 แล้วเลยรู้งานกันพอสมควร

แต่น้องมาปีแรกก็มีอะไรที่ต้องทำมากกว่าผมเลยทำให้ช้าพอสมควรระหว่างรอผมนั่งไถทวิตที่ไอ้โอมมันรีมาด้วยความรู้สึกอิ่มใจ หึหึ

 รีเยอะๆเลยจะได้ประกาศให้โลกรู้คนนี้ของกูโว้ยยยยยยย

อยากบอกแบบนั้นแต่ ทำได้แค่กดเฟบลงไป อยากจะยิ้มกับรีพลายใต้ทวิตนั่นแต่ก็ต้องเก็บอาการ

เพราะวันนี้ผมมารับน้องไม้ไปซ้อมเดินแฟชั่นงานประเพณี จะให้น้องรู้ไม่ได้ ต้องเนียนกว่านี้

“รอนานไหมครับ คนเยอะเลย “เสียงคนสวยที่เดินมาพร้อมกับถุงเสื้อที่จะใส่ทดลองไซส์

“ไม่เลยเนี่ยพี่พึ่งดูรูปคู่เราแป๊บเดียวเอง”ผมว่าพลางโชว์กมือถือให้น้องดูหน้าจอที่ขึ้นรูปคู่วันนั้น

“ผมว่าแล้วไง พิ้งค์นะพิ้งค์ ขอโทษนะครับ รีกันเยอะเลย”น้องว่าพลางทำหน้าเครียดๆ

“ไม่เป็นไร ดีซะอีกไม้จะได้เลิกกังวล พี่ไม่เป็นไรครับพี่โอเค แต่ขอเซฟรูปแป๊บ หึหึ”

“ยังจะเล่นนะคนเรา”

“เข้าไปข้างในกันเถอะ เดี๋ยวจะสายนะครับ”

ผมเดินเคียงคู่น้องเข้าประตูห้องซ้อมที่มีพี่สต๊าฟคอยแลกบัตรผ่านประตูเข้ามาได้ไม่นานก็เห็นน้องบัวกับไอ้ปีย์เดินรี่เข้ามาหาน้องไม้

“พี่โอ๊ตตตตต”เสียงหวานไสดังมาแต่ไกลก่อนที่เจ้าตัวจะโผล่มาทำให้คนหน้าสวยข้างๆผมส่งเสียงหัวเราะขำ

พลางส่งสายตาราวกับระอาใจหนักหนาส่งให้เจ้าของเสียงที่เดินตรงรี่เข้ามากอดหมับเต็มอ้อมแขน

“ครับผม”

“พี่อิงล่ะคะ”

“อีกเดี๋ยวคงมาครับ พี่อาร์ตมาส่ง”

“เดี๋ยวนี้ไม่เรียกเราเลยนะ งอนได้ไหมเนี่ยยัยตัวแสบ”

“โอ๋ๆไม่งอนนะคะแฟน เค้าคิดถึงน๊า”

“ฝากงอนด้วยครับน้องไม้ ทีพี่แอบจับมือนิดเดียวบิดซะแขนหักที่กับชายอื่นกอดซะเต็มแขนเลยโอ๊ยยยยช้ำจายยยย”

ไอ้ปีย์ทำท่าเช็ดน้ำตาป้อยๆเรียกร้องความสนใจสุดๆ อะไรยังไงเดี๋ยวนี้มันพัฒนาขนาดงอนน้องบัวได้แล้วเหรอวะ

“เนี่ยเพราะเป็นบัวนะคะเลยแค่บิดแขน แต่ถ้าเป็นลุงพี กับลุงยูนะ พี่ปีย์อาจจะได้แอดมิท หรือไม่ถ้าเป็นอาตองนะคะพี่ปีย์ต้องได้จองวัดค่ะ”

“ฮ่าๆๆๆ ดีครับน้องบัว ดัดสันดานขี้แต๊ะอั๋งมือไวของมันหน่อย หึหึ”

“อย่ามึงอย่า อย่ามาเสี้ยมเดี๋ยวเจอกูเสี้ยมคืนมึงอดแน่ไอ้เพื่อนเลว”


ผมสะดุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเพื่อนจนต้องลากมันออกมาคุยกันสองคน

“มึง มานี่เลยมาคุยกับกูก่อน “

ผมลากไอ้ปีย์ออกห่างจากคู่เพื่อนซี้ที่กำลังนัวกันได้ที่ กล้องหลายตัวโทรศัพท์หลายเครื่องรัวชัตเตอร์แทบไม่ทัน

วันนี้พวกเราทั้งหมดหมายถึงผมอิงฟ้าและน้องไม้น้องบัว กับน้องดาวเดือนอีกหลายคนวันนี้พวกเราหลายชีวิตวุ่นกับการซ้อมเดินแฟชั่น ที่จะจัดขึ้นในงานประเพณีปีนี้

และถ่ายแบบลงนิตสารชื่อดังที่ติดต่อขอกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งพวกผมอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เพราะเดินแฟชั่นกันหลายสิบชีวิต

 แต่ลงปกนิตสาร แค่ 6 คน มีผมจากวิศวะฯ อิงฟ้าจากบริหาร น้องหนูบัวน้องไม้จากอักษร พี่อายจากรัฐศาตร์และพี่จีนจากสถาปัตย์ 

ที่ตื่นเต้นคงเป็นเพราะพวกผมต้องถ่ายร่วมกับน้องร้องชื่อดังในยุคนี้นั่นคือพี่อัน ที่ได้รางวัลแทบจะทุกรางวัลจากวงการนักร้อง

เป็นหนุ่มหล่อขวัญใจมหาชน ที่พวกผมกลัวดับมากหากต้องไปถ่ายรูปร่วมเฟลมกับพี่อัน

อ่ะเว่นเว้อมากไปกลับมาหาไอ้ (อับ)ปีย์ก่อนครับ

“ยังไงๆบอกกูมาเลยนะ”ผมรีบคาดคั้นเพราะเห็นท่าทางมีพิรุธของเพื่อนสนิท

“ก็..แหะๆ กูพึ่งจะสารภาพไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว “ไอ้ปีย์เอานิ้วชี้จิ้มๆกันหลบตา ทำหน้าแดงอีกไอ้ลิงเผือกน่าหมั่นไส้เลยตบหัวมันไปที

“โอ๊ย สัส! เบามือหน่อยน้องบัวยังไม่รับรักกูเลยกูตายไม่ได้”

“อุบเงียบนะมึงอ่ะไอ้เพื่อนชั่ว”

“มึงก็เพื่อนเลว กูเห็นนะสายตามึงอ่ะ ไม่ต่างจากกูหรอก มึงต่างหากที่ต้องเล่า “

อ้าวไหงกลายเป็นผมที่ตกเป็นจำเลยวะ

“ก็..เออ..นั่นแหละ”

“นั่นแหละอะไร สารภาพมา”

“คือวันนี้ไม่ได้ว่ะยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่ได้ เอาไว้แถลงข่าวทีเดียวได้ไหมวะรอไอ้ทนายมันซักทีเดียวจบกูไม่อยากตายหลายรอบ”

“หึหึ ..งั้นคืนนี้เลยมึง หลังซ้อมเสร็จเตรียมเปิดเวที “

ผมไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะรู้ตัวแน่ว่าคืนนี้คงโดนเพื่อนๆซักจนขาวแน่ๆ ผมละสายตาจากเพื่อนมองไปยังคนสวยสองคน

ที่นั่งคุยกันไปลูบหัวกันไปด้วยความรู้สึกแปลกๆแม้จะรู้ว่าน้องไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อนแล้วแต่การสกินชิพของทั้งคู่ที่บางครั้งมันดูมากกว่าเพื่อนก็ทำผมโหวงๆในอก เฮ้อออ

“ใช่มะมึงคิดเหมือนกูไหมบี1”

“อือ เจ็บปวดมากเลยบี2”

เราสองคนพยักหน้าให้กันขำๆกับความคิดที่หวงแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองเขาจับมือกันลูบหัวกันใช้มือจับผมทัดหูให้กันโอ๊ยยยยยกูจะบ้าตาย

แต่แล้วความคิดอิจฉาของผมต้องสะดุด เมื่อทุกสิ่งที่น้องสองคนกำลังทำอยู่พลันหยุดชะงัก

สายตาของน้องไม้เหมือนจะไปหยุดอยุ่ที่ใครสักคนที่ไม่ใช่น้องบัว ผู้ชายสองคนที่เดินเข้ามาตรงประตูที่มีพี่ๆสต๊าฟรอแลกบัตรคิวอยู่

ดึงสายตาน้องไม้กับน้องบัวให้หันไปหยุดอยู่กับที่ และสองคนนั้นก็ชะงักยืนนิ่งเมื่อประสานเข้ากับสายตาของไม้และหนูบัว 


“น้องบูกับน้องวีเชิญทางนี้ก่อนค่า ไปรับชุดกับพี่แอ้มก่อนนะคะแล้วค่อยมานั่งรอตรงนี้”

เสียงพี่สต๊าฟฉุดดึงพวกเราทั้งหมดให้ละสายตาออกจากกัน ผมรีบเดินกลับเข้าไปหาน้องที่หันหน้ามาทางผม

สายตาน้องที่ฉ่ำวาวไปด้วยน้ำเลี้ยงใสๆที่พร้อมจะร่วงหล่นตลอดเวลาทำให้ผมอยากจะดึงน้องเข้ามากอดเดี๋ยวนั้น แต่ผมทำได้แค่ยื่นมือไปลูบหัวน้องเบาๆ


“พี่อยู่ตรงนี้”และกระซิบบอกน้องไปอย่างที่คิด แววตาที่เจ็บปวดราวกับบาดเจ็บเจียนตายของน้องทำใจผมสั่นไหว ด้วยความกลัว

สองคนนั่น คงเป็นบาดแผลของน้อง แผลที่ยังเป็นหนองและอักเสบ มันยังไม่ได้รับการรักษา น้องยังเจ็บปวด

ให้ตายเถอะผมอยากเดินเข้าไปกระชากเด็กสองคนนั้นมากระทืบให้สาแก่ใจ แต่ผมได้แค่คิด

“ไม้ ตัวเองไหวไหม เค้าไปบอกพี่แอ้มให้ตัวเองกลับได้นะเค้าจะไปอยุ่เป็นเพื่อน”


“ไม่เป็นไรครับบัวไม้โอเค ไม้ไหว ขอไม้อยู่ต่อนะบัว “

เสียงสั่นพร่าและขาดห้วงของน้องยิ่งทำให้ผมกำมือแน่นผมมองตามหลังคนสองคนที่เดินหายเข้าไปตรงมุมของห้องน้ำ


ไอ้ปีย์หันมามองหน้าผมเชิงขอความคิดเห็นหรือต้องการคำอธิบายจากผมมันคงจับสังเกตอาการของน้องและหนูบัวได้ว่าทั้งคู่ไม่โอเค

แต่ผมคงบอกอะไรมันมากไม่ได้ ผมเป็นห่วงคนที่นั่งนิ่งเป็นหุ่น เหมือนไม่มีชิวิตและจิตใจ ทำทุกอย่างตามคำสั่งของพี่ๆสต๊าฟแต่น้องไม่โอเค


“น้องไม้น้องบัวทางนี้เลยค่ะคิวน้องแล้ว “เสียงพี่สต๊าฟคนจัดคิวเรียกน้องไม้กับน้องบัวไปซ้อมเดิน

"ไม้ครับ ไม่ไหวบอกพี่นะเดี๋ยวพี่พากลับเลย"

“ผมไหวครับ ไม่ต้องห่วงนะ แค่พี่อยู่ตรงนี้ แค่มีพี่ ผมโอเค”

น้องส่งยิ้มมาให้แรงบีบกระชับที่มือทำให้ผมหลุบสายตาลงไปมองมือน้องที่ประสานมือผมไว้แล้วบีบกลับเบาๆ

“ครับพี่จะไม่ไปไหน พี่จะอยู่ตรงนี้เสมออย่ากังวลนะครับ “

ผมยิ้มตอบก่อนจะปล่อยมือน้องให้เดินเคียงคู่ไปกับน้องบัวที่เงียบสนิททั้งๆที่เป็นคนร่าเริงมาตลอด ไอ้ปีย์ส่งสายตาเป็นห่วงตามแผ่นหลังของคนทั้งคู่ไป


“โอ๊ต ถึงกูจะไม่รู้อะไรเลยแต่กูเป็นห่วงน้องมากๆ กูโคตรเกลียดตัวเองที่ช่วยอะไรน้องไม่ได้ เกลียดตัวเองที่ไม่รู้ห่าอะไรเลย เหี้ยเอ๊ย!”

“กูยังบอกรายละเอียดไม่ได้แต่ กูบอกได้เพียงอย่างเดียวสองคนั้นคือปัญหาของน้องไม้และหนูบัว”

“กระทืบแม่งเลยดีไหมค่อยถามทีหลัง”

“ไม่ได้หรอกแม้ว่าไอ้เด็กเวรสองคนนั้นจะเป็นปัญหาแต่ก็เป็นคนสำคัญด้วยเหมือนกัน กูไม่เสี่ยงโดนน้องเกลียดนะ”

“เออ !แม่งเอ๊ยกูโคตรหงุดหงิดเลย”

"มึงตามไปดูน้องเลยกูไปห้องน้ำแป๊บเดี๋ยวตามไป”

“เออๆ”

ผมเลี่ยงออกจากไอ้ปีย์เดินตามเข้าไปที่โซนที่สองคนนั้นหายเข้าไปสักพัก


“เค้ายังคบกันอยู่ ”เสียงทุ้มของคนตัวโตกว่าเอ่ยขึ้นสีหน้ายังคงมีความหงุดหงิด

"สงสารชลชะมัดที่ต้องมาตายเพราะเพื่อนหักหลัง มึงไหวไหมบู"

“ไหวสิ ไม่นึกว่าจะได้มาเจอ ดูเขามีความสุขดีทั้งๆที่กูยังเจ็บอยู่แบบนี้ หึโคตรไม่แฟร์เลย ว่าแต่มึงเถอะ เอาไงต่อดี ทำงานร่วมกันได้ไหมคงไม่ยากหรอกมั้ง คนใจดำแบบไม้มันคงไม่รู้สึกอะไร”

ผมกำหมัดแน่นเมื่อได้ยินคำพูดของคนสองคนที่ยังยืนคุยกันโดยไม่รู้ว่าผมมายืนอยู่ด้านหลัง


“หึ.ใจดำงั้นเหรอใครกันแน่วะ. น้องไม้ไม่น่ามีคนอย่างพวกมึงเป็นเพื่อนเลยทุเรศชิบหายห่วงแต่ความรู้สึกของตัวเอง”

สองคนหันกลับมาแทบจะพร้อมกันทันทีที่ผมพูดจบ

“มึงเป็นใคร !”


“กูไม่อยากรู้จักคนอย่างพวกมึงสองตัว แต่กูจะบอกอะไรให้พวกมึงรู้ไว้อย่างนึง น้องไม้เคยเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์เพราะเครียดเรื่องของพวกมึง

น้องไม่นอนเพราะเวลาน้องหลับลงก็เห็นแต่เรื่องของพวกมึงน้องไม่คบใครไม่คุยกับคนอื่นๆนอกจากหนูบัวเพราะเรื่องของพวกมึงฝังใจน้อง
 น้องไม้เอาแต่โทษตัวเองเสียใจจนต้องเข้ารับการบำบัดน้องต้องทรมานแค่ไหนกับเวลาที่ผ่านมาขนาดนั้น

น้องผ่านแต่ละวันด้วยความยากลำบาก จนตอนนี้น้องก็ยังนอนหลับไม่ได้ ในขณะที่พวกมึงกินอิ่มนอนหลับแต่ก็โยนความผิดให้น้องมัน
ทั้งๆที่น้องไม่ผิดอะไรเลยความเจ็บของพวกมึงเทียบไม่ได้กับสิ่งที่น้องได้รับ  ถ้าพวกมึงสองตัวยังเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเคยเป็นเพื่อน

 กลับไปคิดใหม่ว่าน้องไม้ผิดอะไรพวกมึงถึงทำกับน้องได้เลือดเย็นขนาดนั้น ถามใจพวกมึงดูว่าพวกมึงรักน้องมันจริงหรือแค่รักตัวเองที่พอน้องไม่รักตอบก็โยนความผิดให้น้องมัน อย่าให้กูเห็นว่าเข้ามาทำร้ายน้องไม้อีกไม่งั้นเจอกันคราวหน้ากูกระทืบไม้ยั้งแน่”

ผมไม่รู้ว่าสองคนนั้นพูดอะไรต่อหรือมีสีหน้าอย่างไร เพราะนี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมพูดกับคนแปลกหน้าได้ยาวขนาดนั้น ผมอยากให้พวกมันได้รับรู้ว่าคนที่เสียใจที่สุดคือน้องไม้ไม่ใช่พวกมัน

ในช่วงเดินรวม ผมเห็นสองคนนั้นมองมาที่ไม้ตลอดเวลา น้องไม้ที่เหม่อลอยและเดินผิดๆถูกๆจนโดนพี่สต๊าฟดุไปหลายที

“เอ่อพี่ครับ พอดีน้องผมไม่ค่อยสบาย วันนี้พอแค่นี้ก่อนได้ไหมครับพรุ่งนี้พวกผมจะมาซ่อมให้”

“เฮ้อ พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ แต่ซ้อมรวมมันจะนัดคนอื่นทีหลังไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องอดทนหน่อยนะคะน้องจำคิวให้ได้ก่อน เดี๋ยวเรื่องเดินพรุ่งนี้ค่อยมาซ้อมได้ แต่ยังไงวันนี้ก็ต้องซ้อมคิวให้แม่นก่อนนะคะ”

“ขอบคุณพี่มากครับ”ผมยกมือไหว้พลางเดินไปหาน้องไม้ที่นั่งหน้าซีดอยู่กับพื้นสายตายังคงจับจ้องไปที่อดีตเพื่อนทั้งสองคน

“ไม้ตัวเองอย่าเป็นแบบนี้เค้าจะร้อง ฮึก ฮึก”

ท่าทางที่เหม่อลอยไม่รับรู้ถึงเพื่อนที่ยืนทำหน้าจะร้องไห้อยู่ข้างๆของน้องไม้ทำให้ผมผละจากพี่สต๊าฟเดินเข้าไปหาน้อง

แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรน้องไม้ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาสองคนที่ยังยืนคุยกันที่มุมห้องเพราะรอคิวซ้อมเหมือนกัน

สองคนนั้นชะงักเมื่อเห็นไม้เดินเข้าไปหา หนึ่งในนั้นหันมามองผมก่อนนจะก้าวถอยหลังเตรียมจะเดินหนีน้องไม้แต่น้องไม้รีบคว้าแขนอีกคนเอาไว้ทัน


“วี บู เราขอโทษนะ เราขอโทษ อย่าเกลียดเรา ฮึก..ขอโท.....”

ร่างสูงเพรียวของน้องไม้เหมือนหลับกลางอากาศผมพุ่งเข้าไปหาทันทีที่เห็นน้องทรุดลงแต่ก็ช้ากว่าคนที่ชื่อบูที่ยืนอยู่ใกล้ๆช้อนคว้าเอาตัวน้องไว้ทันก่อนที่น้องจะล้มลงไป

“ปล่อยมือจากน้องกู!!”ผมวิ่งเข้าไปคว้าเอาน้องไม้มากอดเอาไว้พลางตะโกนหาคนช่วยแม้ว่าไอ้สองคนนั้นพยายามที่จะเข้ามาช่วยแต่ผมไม่สนใจ

“พี่ครับเรียกรถพยาบาลหน่อยน้องผมช็อค!!! ไม้ๆ ได้ยินพี่ไหมไม้ พี่อยุ่นี่ พี่อยุ่ตรงนี้ อย่าเป็นอะไรนะ ไม้”

อาการหดเกร็งของมือและร่างกายของน้องยิ่งทำให้ผมร้อนรน ผมทำอะไรไม่ถูกตัวน้องแข็งเกร็งมือกำแน่นจนข้อมือขาวซีดไร้สีเลือดดวงตายังเปิดกว้างแต่เหม่อลอยไร้แวว

“ฮึก ฮือ ไม้ ตื่นสิ บัวอยู่นี่ไม้ ฮืออออ พี่ปีย์ เพื่อนหนูเพื่อนหนู ฮือออ พวกนายมันใจร้าย ฮืออ ถ้าไม้เป็นอะไรไป เราจะไม่ให้อภัยบูกับวีเลยคอยดู “



ความโกลาหลพลันเกิดแต่ผมไม่รับรู้สิ่งรอบกาย ผมรู้แค่ต้องพาน้องไปหาหมอให้เร็วที่สุด ผมไม่เคยเห็นน้องทรุดลงไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้ 

หัวใจถูกบีบรัดจนเจ็บเมื่อคิดว่าน้องจะเป็นอะไรมากไปกว่าที่เห็น ผมจะไม่มีวันอภัยหากน้องต้องกลับไปรับการบำบัดอีกครั้ง

ไอ้ปีย์พาน้องบัวขึ้นรถตามมา ทิ้งทุกสิ่งไว้ข้างหลังตอนนี้ผมขอแค่ให้น้องปลอดภัย ขอเถอะอย่าให้น้องเป็นอะไรมากเลย

พี่จะตายแล้วคนดีอย่าเป็นอะไรไปเลยนะ ได้โปรดอย่าเป็นอะไร



.
.
.
.
.
TBC.....


อ้าวๆ ต้นๆยังหวานอยู่เลย ท้ายๆไหงน้ำตามา :sad12: :sad12: :sad12: :sad12:

น้องยังเจ็บอยู่น้องยังไม่หาย อิพี่จะทำยังไง สงสารน้องงงงง :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:


เห็นคนอ่านยังรอพันวาก็ดีจายยยยยยย ยิ่งเห็นคอมเม้นท์ยิ่งมีกำลังใจแอบอู้งานมาปั่นนนนนนนน


ขอบคุณน๊าาาาา คอมเม้นท์ ดีต่อใจคนเขียนมากเลยค่าาา :give2: :give2: :give2: :give2: :give2: :give2:

แล้วเจอกันน๊าาาาาาา :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-03-2019 22:10:45
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-03-2019 23:02:36
 :pig4: :pig4: :pig4:

ง่า...สงสารนุ้งไม้  เครียดจนถึงขั้นช็อคหมดสติ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 10-03-2019 23:17:58
สงสารไม้
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 11-03-2019 09:51:36
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: Sutharat ที่ 11-03-2019 11:11:42
คนเราก็เห็นแก่ตัวนะเค๊าไม่รักก็โทษว่าเค๊าผิดสงสารน้องไม้จริงๆที่มาแคร์กับคนพวกนี้ :fire:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-03-2019 23:12:23
สงสารน้องไม้มากๆเลย
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 13-03-2019 16:39:40
ใจจะขาดเลย

ขอให้พี่โอ๊ตอยู่ข้าง ๆ น้องนะ

เผื่อน้องตื่นจะได้มีกำลังใจ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: HunHan9407 ที่ 22-03-2019 00:09:03
สนุกมากๆเลยค่ะอ่านถึงตอนที่ 15 แล้ว รออ่านต่อค่ะ น้องไม้อย่าเป็นอะไรนะ ขอร้องสงสารน้องมากๆ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 01-04-2019 19:25:25
ขอให้ผ่านไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 15 รักษาแผล 10/3/62
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 04-04-2019 09:39:37
 o13 :L2:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 24-04-2019 19:51:47



ตอนพิเศษ เพื่อน


บูรพา


“มึงโอเคนะ “ผมถามคนที่เดินหน้าซีดเซียวเข้ามาหาที่ห้องแต่เช้ามืด

“อือ” ร่างสูงใหญ่ ดูดีขึ้นมากจากเมื่อช่วงที่พวกเราเรียนจบมัธยมปลายแล้ว และจากเหตุการณ์เมื่อตอนจบมัธยมต้นที่ไปหัวหินตอนนั้น

ก็ผ่านมาสามปีกว่าแล้วนาวี ที่เคยเงียบขรึมก็ยิ่งเป็นคนเก็บตัวมากกว่าเดิม แม้ว่ามันจะผ่านมานานจนผมและเพื่อนสนิทคนนี้พอจะทำใจกับเรื่องนั้นได้บ้างแล้ว

 แต่ในความรู้สึกผมเหมือนว่ามันพึ่งจะผ่านไปไม่นาน ความเจ็บปวดแม้จะยังคงอยู่แต่มันก็ซาลงไปบ้างแล้ว สำหรับเพื่อนผมมันคงไม่ได้ซาลงเลยแม้แต่น้อย 

นาวี จากที่เคยเป็นคนเงียบขรึมพูดน้อยอยู่แล้ว จากเหตุการณ์คราวนั้น นาวีไม่คุยกับใครอีกเลยนอกจากผม การสูญเสียคนที่รักไปแบบไม่คาดฝัน

ทำให้นาวีแทบอยากจะฆ่าคนที่ทำให้คนที่มันรักต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งนั่นก็เป็นคนที่ผมรักเช่นกัน
เลยได้แต่กล้ำกลืนหนีหายจากกันไปเพื่อทำใจ  แต่ก็นั่นแหละมันได้แค่คิด เพราะยังไง คนๆนั้นก็เพื่อนของเราและเป็นคนที่ผมรักมาก
แม้ว่าจะโดนหักหลังอย่างเจ็บปวดก็ตาม

การลาออกจากโรงเรียนไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ แต่เป็นช่วงจังหวะที่ครอบครัวนาวีมันย้ายบ้าน ช่างพอเหมาะเสียเหลือเกิน
ผมซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่การย้ายตามไอ้วีที่เป็นเพื่อนกันมานานทำให้ผมโดนพ่อด่าอยู่นานแม้ว่าครอบครัวจะตามใจ

แต่ก็ต้องแลกกับอิสระที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นโอกาสของพ่อที่เอามันมาต่อรองกับผม ซึ่งตอนนั้นผมคิดว่า
การเรียนวิศวฯก็คงไม่แย่เท่าไหร่ เทียบกับที่ต้องทนเจ็บปวดอยู่ที่เดิมกับเวลาสามปี ผมเลือกจะตกลงกับพ่อแล้วย้ายโรงเรียนตามไอ้วีมัน

ข่าวคราวอดีตเพื่อนรัก ทั้งสองคนคบหากันที่ผมเห็นผ่านช่องทางโซเชี่ยล  ภาพถ่ายที่ผมเห็นผ่านไอจี ของคนทั้งคู่ทำให้ใจผมเจ็บปวด

ทำไมมีแต่พวกเขาที่สมหวัง ทำไมพวกผมต้องเป็นฝ่ายสูญเสีย รอยยิ้มสวยงามของคนทั้งคู่ ความสุขฉายชัดรอบกายทั้งสอง

คำออดอ้อนผ่านสื่อโซเชี่ยลที่มีให้กันมันทำให้ผมกับ นาวีเหมือนตายทั้งเป็น แรกๆผมแทบไม่เป็นผู้เป็นคน
ความเสียใจเกาะกินจนเพิ่มความเกลียดชังและโกรธแค้น

ผมยังคอยติดตามส่องดูความเป็นไปของคนคู่นั้นผ่านโซเชี่ลย แต่ไม่แม้จะทักทายไป ไม่แม้จะอยากพบเจอ เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าถ้าหากเจอกันแล้วเห็นเขาทั้งคู่รักกันดี ผมจะต้องทำตัวยังไง ผมจะทนเห็นเขามีความสุขได้ไหม


“วี สภาฯให้มึงกับกูไปเป็นตัวแทนมหา’ลัยในงานประเพณีของ มหา’ลัย XS “

“ทำไม เป็นมึงวะ”เพื่อนตัวโตของผมขมวดคิ้วแน่น คงสงสัยว่าทำไมไม่มีดาวแต่เป็นเดือนมหาวิทยาลัย กับเดือนคณะอย่างผมแทนล่ะมั้ง

“กูก็สงสัยเหมือนกัน แต่ได้ข่าวว่าดาวปีนี้กับเดือนปี4 ติดภารกิจอะไรสักอย่างหวยเลยลงที่กู”

“ก็ดีเหมือนกัน มีมึงไปด้วยก็ดี”

“เหอะ ห่างๆกูบ้าง ก็ได้เพื่อน”

“แต่ถ้าเราไปที่นั่นเราจะได้เจอพวกเขาใช่ไหม มึงว่ากูควรทำยังไงดีวะ”

“ไม่เห็นต้องทำอะไร อย่าสนใจมากนักผ่านมาก็ตั้งนานแล้วไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะทำเป็นไม่รู้จักเราสองคนก็ได้นะ “

“กู..กลัว”ผมอดที่จะเอ่ยความรู้สึกออกมาไม่ได้ ผมกำลังกลัว ถ้าผมเจอไม้อีกผมจะเป็นยังไง จะทนเห็นไม้กับบัวรักกันได้หรือเปล่าผมเองก็ตอบไม่ได้

“มึงก็ท่องไว้สิคนเห็นแก่ตัวแบบพวกมันคบกันเองก็ดีแล้วนี่ อย่าไปสนใจ อย่ามองอย่าดู ไม่ต้องรู้จักกันอีก”

เสียงนาวีเข้มขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยได้แต่ตบไหล่มันเบาๆปลอบใจทั้งๆที่ใจผมเองก็สลายไม่ต่างกัน

บางทีผมเองก็อยากจะถามไม้ตรงๆว่า ที่ผ่านมาเคยนึกรักผมบ้างหรือเปล่า แม้ในฐานะเพื่อนก็ยังดี
ตะกอนบางๆในใจผมมันยังปกคลุมไม่จางหายไป


..........................................................

ผมเหม่อมองประตูบานใหญ่ที่มีสต๊าฟยืนคอยแจกบัตรเข้าห้องซ้อมใหญ่ในงานประเพณีที่จะมีขึ้น

หากผมก้าวข้ามประตูนี้ไปผมอาจจะต้องเผชิญปัญหาที่ผมหนีมาเป็นปี ผมควรเผชิญหน้าตรงๆได้แล้วสินะ

“กูอยู่ตรงนี้”เสียงทุมห้าวของเพื่อนสนิทดังขึ้นข้างๆพร้อมรอยยิ้มบางเบาส่งมาให้

“ขอบใจเพื่อน “ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน ผมจะมองให้เต็มตาแม้ว่าพวกเขาจะมีความสุขผมก็จะมองจนกว่าพวกเขาจะอายในสิ่งที่เขาทำกับผมกับวี และชลที่จากพวกเราไป

เราสองคนเดินพ้นประตูเข้ามาสายตาไม่รักดีของผมก็จับจ้องไปที่ร่างสูงโปร่งของคนๆนั้นใบหน้าสวยหวานประดับด้วยรอยยิ้มสดใส

 ข้างกายมีสาวสวยคนนั้นที่ผมเคยเรียกว่าเพื่อน ท่าทางหยอกล้อหวานกันจนผมเจ็บแปลบที่หัวใจ
ผมเบือนหน้าหนีจากภาพบาดตาที่ผมรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมาเจอ

“อย่าอยู่ห่างจากกู อย่ามอง อย่าสนใจ กูอยู่ตรงนี้”เสียงของนาวีดังอยู่ข้างๆทำให้ผมหันมายิ้มจืดเจื่อนให้มัน

“น้องบูกับน้องวีเชิญทางนี้ก่อนค่า ไปรับชุดกับพี่แอ้มก่อนนะคะแล้วค่อยมานั่งรอตรงนี้”

เสียงพี่สต๊าฟที่ยื่นบัตรให้พร้อมทั้งเอ่ยเรียกชื่อทำให้ผมละสายตาที่เผลอสบตาคู่นั้นมามองหาทางที่จะเดินไป พยายามข่มใจไม่มองไม่สนอย่างที่ไอ้วีมันว่า


“เค้ายังคบกันอยู่ ตัดใจได้แล้ว”เสียงทุ้มของคนนาวีที่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายังคงมีความหงุดหงิดติดอยู่ตลอดตั้งแต่ผมเลี่ยงหลบมุมมาเพราะทนมองไม่ไหว

“ไม่นึกว่าจะได้มาเจอ ดูเขามีความสุขดีทั้งๆที่กูยังเจ็บอยู่แบบนี้ หึโคตรไม่แฟร์เลย ว่าแต่มึงเถอะ เอาไงต่อดี
ทำงานร่วมกันได้ไหมคงไม่ยากหรอกมั้ง คนใจดำแบบไม้มันคงไม่รู้สึกอะไร”

คนใจดำเหรอ หึ ผมประชดเพื่อให้ใจตัวเองเจ็บเพิ่มกว่าเดิม แม้จะรู้ว่าเขาทั้งคู่รักกันมันก็สิทธิ์เขาใจเขา แต่ ผมก็ยังเจ็บปวดจนไม่รู้ว่ามันจะหายไปจากผมเมื่อไหร่

 “หึ.ใจดำงั้นเหรอใครกันแน่วะ. น้องไม้ไม่น่ามีคนอย่างพวกมึงเป็นเพื่อนเลยทุเรศชิบหายห่วงแต่ความรู้สึกของตัวเอง”

ผมกับวีหันไปตามต้นเสียงก็เจอกับผู้ชายตัวสูงใหญ่พอๆกับเราสองคนอาจจะตัวโตกว่าไอ้วีด้วยซ้ำ ใบหน้าถมึงทึงเหมือนโกรธเราสองคนมานานปีทั้งๆที่ผมไม่รู้จักเขาสักนิด

“มึงเป็นใคร !”เสียงนาวีเข้มขึ้นตามอารมณ์ที่คั่งค้าง

“กูไม่อยากรู้จักคนอย่างพวกมึงสองตัว แต่กูจะบอกอะไรให้พวกมึงรู้ไว้อย่างนึง น้องไม้เคยเข้ารับการรักษาเพราะเครียดจัดเรื่องของพวกมึง
น้องไม่นอนเพราะหลับลงก็เห็นแต่เรื่องของพวกมึงน้องไม่กินเพราะเครียดเรื่องพวกมึง น้องไม้เอาแต่โทษตัวเองเสียใ

จนต้องเข้ารับการบำบัดน้องต้องทรมานแค่ไหนกับเวลาที่ผ่านมาขนาดนั้นน้องผ่านแต่ละวันด้วยความยากลำบาก จนตอนนี้น้องก็ยังนอนหลับไม่ได้ ในขณะที่พวกมึงกินอิ่มนอนหลับแต่ก็โยนความผิดให้น้องมันทั้งๆที่น้องไม่ผิดอะไรเลยความเจ็บของพวกมึงเทียบไม่ได้กับสิ่งที่น้องได้รับ 

ถ้าพวกมึงสองตัวยังเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเคยเป็นเพื่อน กลับไปคิดใหม่ว่าน้องไม้ผิดอะไรพวกมึงถึงทำกับน้องได้เลือดเย็นขนาดนั้น
ถามใจพวกมึงดูว่าพวกมึงรักน้องมันจริงหรือแค่รักตัวเองที่พอน้องไม่รักตอบก็โยนความผิดให้น้องมัน อย่าให้กูเห็นว่าเข้ามาทำร้ายน้องไม้อีกไม่งั้นเจอกันคราวหน้ากูกระทืบไม่ยั้งแน่”

คำพูดยาวเหยียดของคนแปลกหน้าทำให้ผมชะงักค้าง นี่มันเรื่องอะไรกัน!

“วี ... มึงได้ยินเหมือนกูไหม ทำไมคนๆนั้น เขาถึงพูดแบบนั้น แล้วไม้...บำบัดเหรอ มันอะไร มึงตอบกูที”

ผมรู้สึกมึนเบลอไปกับคำพูดของผู้ชายคนนั้น ผมพยายามจับต้นชนปลายไร่เรียงคำพูดของเขาแล้วคิดตาม

“อย่าไปสนใจเลยน่า คงเป็นพวกที่หลงไอ้ไม้จนไม่ลืมหูลืมตานั่นแหละ เครียดบ้าบออะไร เสียใจเหรอ เหอะ แล้วสิ่งที่กูเห็นพวกมันมีความสุขยิ้มร่าหน้าบานมาตลอดนั่นมันหลอกกูหรือไง  “เสียงที่ยังคงหงุดหงิดและเจ็บปวดไม่ต่างจากผมทำให้ผมต้องหายใจเข้าลึกเพื่อนตรึกตรอง

“แล้วถ้ามันเป็นจริงอย่างที่ผู้ชายคนนั้นว่าล่ะวี”

“ไร้สาระน่า บู หยุดพูดซะทีกูรำคาญ”นาวีเดินออกจาห้องน้ำตรงไปที่จุดซ้อมทำให้ผมต้องรีบสาวเท้าตามหลังมันไป ผมพยายามซ้อมเดินในช่วงของผมสองคนโดยไม่หันหน้าหรือหันไปมองคนที่ทำผมเจ็บสองคนนั่นอีก

ในจังหวะที่ผมกำลังจะเข้าคิวเดินต่อจากคนที่ไปก่อนหน้าผมต้องชะงักหยุดดึงแขนไอ้วีไว้เมื่อร่างสูงโปร่งของคนๆนั้นกำลังเดินตรงมาที่เราสองคนโดยมีผู้ชายตัวโตคนนั้นมองมาที่เราด้วยสายตาที่ทำให้ขนลุกไปทั้งตัว

ผมหันไปสบตาผู้ชายคนที่ด่าเราสองคนในห้องน้ำก่อนจะก้าวถอยหลังเตรียมจะเดินหนีคนที่เดินตรงมาหาผม แต่ก็ช้าไปมือเรียวสวยคู่นั้นที่ผมเคยสัมผัสยื่นมาคว้าแขนของผมเอาไว้

“ขอโทษนะ เราขอโทษ อย่าเกลียดเรา ฮึก..ขอโท.....”

ดวงหน้าสวยซีดเผือดดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำใสๆปากสั่นระริกเค้นคำพูดตะกุกตะกัก ก่อนที่คำพูดสุดท้ายจะขาดหายไป

ร่างสูงเพรียวของไม้ก็ทรุดลงแทบทันที ผมยื่นมือคว้าร่างนั้นไว้ด้วยความตกใจ พร้อมทั้งรวบร่างเพรียวนั้นเอาไว้ในอ้อมแขนด้วยความกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป


“ปล่อยมือจากน้องกู!!”เสียงดุดันดังขึ้นใกล้ๆก่อนจะคว้าเอาตัวของไม้ไปกอดเอาไว้ท่าทีหวงแหนและอ่อนโยนจนผมแปลกใจ

นาวีพยายามเข้าไปช่วยแต่ก็โดนตะเพิดออกมา อย่างไม่ใยดี เสียงตะโกนของผู้ชายคนนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ

“พี่ครับเรียกรถพยาบาลหน่อยน้องผมช็อค!!! ไม้ๆ ได้ยินพี่ไหมไม้ พี่อยุ่นี่ พี่อยุ่ตรงนี้ อย่าเป็นอะไรนะ ไม้”

อาการหดเกร็งของมือและร่างกายของไม้ทำให้ผมยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ ผมไม่เคยเห็นไม้เป็นแบบนี้ หรือที่ผู้ชายคนนั้นพูดในห้องน้ำจะเป็นเรื่องจริง

ลำตัวของไม้แข็งเกร็งในอ้อมกอดของผู้ชายคนนั้น มือกำแน่นจนข้อมือขาวซีดไร้สีเลือดดวงตาลอยไร้แววดูน่ากลัวใจผมปวดแปลบ ไม่หาย แม้แต่นาวีก็หน้าซีดเผือดเมื่อเห็นอาการของไม้

“ฮึก ฮือ ไม้ ตื่นสิ บัวอยู่นี่ไม้ ฮืออออ พี่ปีย์ เพื่อนหนูเพื่อนหนู ฮือออ พวกนายมันใจร้าย ฮืออ ถ้าไม้เป็นอะไรไป เราจะไม่ให้อภัยบูกับวีเลยคอยดู “ หนูบัวหันมาตัดพ้อเราสองคน ดวงตาคู่สวยนองไปด้วยน้ำตา

“... เพื่อน ? ทำไมกัน?”คำพูดของหนูบัวยิ่งทำให้ผมสับสน ผมไม่เข้าใจตลอดเวลาที่ผมมองดูพวกเขาผ่านสื่อโซเชี่ยล คนทั้งคู่เป็นแฟนกันนี่ ทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าเป็นเพื่อนกัน

เสียงไซเรนของรถพยาบาลห่างออกไปทุกที ผมทรุดนั่งลงกับที่ ราวกับเรี่ยวแรงที่มีมันหายไปฉับพลัน

“วี ไม่จริงใช่ไหม ไม้ เค้า เป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ เพราะกูเหรอ เพราะกูใช่ไหม”

“กูไม่รู้  กูก็ไม่รู้เพื่อน”เสียงแผ่วเบาที่ส่งมาไม่มีความหงุดหงิดอย่างที่เคย แต่มันกลับแฝงไปด้วยความไม่แน่ใจไม่เข้าใจ และสับสน เหมือนกันกับผม

“เราไปหาพวกเขากันไหม ไปจบเรื่องนี้กันซะที”แม้จะเจ็บปวดแต่ผมจะต้องเผชิญความจริง ผมจะไม่หนีอีกแล้ว

“กูจะไม่หนีอีกแล้ววี กูเจ็บมามากแล้วตอนนี้กูไม่รู้ว่าความเจ็บปวดใจของกู เป็นเพราะกูยังรักเขาเพราะกูเกลียดเขา หรือเพราะกู ทำผิดกับเขากันแน่ ....กู ...จะไปหาเขา มึงไม่ว่ากูใช่ไหม”

ผมหันไปมองเพื่อนสนิทที่คบกันมายาวนาน แม้ในเวลาที่ผมไม่เหลือใครผมก็ยังมีมันอยู่ข้างๆ

“ไม่ใช่แค่มึงหรอกที่รู้สึกอย่างนั้น กูก็คิดเหมือนกัน   เอาเถอะ หนีไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น บางทีนะบู คงเป็นกูกับมึง ที่ผิด”

สีหน้าเศร้าหมองของเพื่อนสนิททำให้ผมต้องโอบไหล่มันเอาไว้หลวมๆเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกให้มันรู้ว่าที่ตรงนี้มันยังมีผมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะยังมีกันและกัน เพื่อนเพียงคนเดียวของผม


“เอ่อ...ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว คนที่เหลือซ้อมต่อนะคะ ไม่มีอะไรๆ วันนี้คิวเดินรวมครั้งสุดท้ายนะคะ อย่าพลาดล่ะ”เสียงพี่สต๊าฟคนนั้นดังขึ้นหลังจากเรื่องราวโกลาหลได้สงบลง

“พี่ครับ พวกผมขอไปหาเพื่อนได้ไหมครับ คนที่ไม่สบายเป็นเพื่อนของเรา ไม่ทราบว่าเขาไปส่งที่โรงพยาบาลไหนครับ”

“อ๋อ น้องไม้เหรอคะ ไปส่งที่ โรง’บาลDCS ค่ะ จะตามเพื่อนไปเหรอคะ งั้นน้องวีกับน้องบู เอากระเป๋าใบนั้นไปให้เพื่อนด้วยนะคะ คงรีบเลยลืมกัน “

“ได้ครับของคุณมากครับพี่”

“จ้า”

ผมมองกระเป๋าใบขนาดกลางติดพวงกุญแจอันเก่าจนจะขาดอันนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นกระเป๋าของใคร

“พวงกุญแจอันนั้น”นาวีพึมพำเบาๆมือหนาใหญ่ของมันลูบเบาๆที่พวงกุญแจราวกับจะถนอมความบอบบางของมัน

“สายชล”มันเป็นพวงกุญแจที่สายชลซื้อให้พวกเราตอนไปหัวหิน ไอ้วีมันก็ยังใช้อยู่แต่ผมทิ้งมันไปตั้งแต่คืนนั้นแต่แม้จะทิ้งไปผมก็ยังจำมันได้อยู่ดี ไม่นึกว่าอีกคนจะยังเก็บมันเอาไว้

Rrrrrrrrrr

เสียงเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าดังขึ้นผมกับวีชะงักมองหน้ากันก่อนจะตัดสินใจเปิดกระเป๋าแล้วหยิบเอาเจ้าเครื่องสื่อสารสี่เหลี่ยมนั้นมาถือไว้

....แม่....ชื่อของสายเรียกเข้าทำให้ไอ้วีกดรับสาย

(ไม้.เมื่อเช้าไม่ได้เอาขนมไปให้หนูบัวใช่ไหมเจ้าลูกคนนี้ โทรหาบัวไม่มีคนรับสายเลย สงสัยไปกับแฟนแล้วลืมไม้แน่ๆ เย็นๆมาเอาไปให้เพื่อนเลยนะเดี๋ยวขนมแม่เสียพอดี....ไม้?)เสียงเจื้อยแจ้วชะงักไปเมื่อไม่มีเสียงใดๆตอบกลับ

(เป็นอะไรหรือเปล่าลูกทำไมเงียบ กินยาหรือยัง ไม่สบายหรือเปล่า ปวดหัวอีกหรือเปล่าลูก )

“แม่นุ่นครับนี่วีเอง”

(วี ?...)เสียงแม่นุ่นเงียบหายไปเหมือนกำลังนึก

( แล้วไม้ละลูก ไม้ไปไหน ทำไมวีรับสาย แล้ววีไปเจอไม้เหรอลูก ขอแม่คุยกับไม้หน่อย)เสียงแปลกใจและร้อนรนของแม่นุ่นทำผมใจไม่ดีเลยสักนิด

“แม่นุ่นใจเย็นๆก่อนนะครับ คือไม้ไม่สบายบัวพาไปโรงพยาบาล DCS แต่ลืมกระเป๋าไว้ วีเห็นว่าเป็นแม่นุ่นเลยรับสายครับ”

(โรงบาล! แย่แล้ว ไม้ๆ แม่จะไปเดี๋ยวนี้ ) เสียงตัดสายของแม่นุ่นดึงสติเรากลับมาอีกครั้ง ผมหันมองหน้าวีที่ซีดลงกว่าเดิมก่อนที่เราสองคนจะรีบไปที่รถเพื่อตามไปโรงพยาบาล

“ไม้.”เสียงพึมพำเบาๆของนาวีทำให้ผมเริ่มคิด...ในใจผมมันสับสนและวุ่นวายความคิดตีกันให้ยุ่งเหยิงไปทุกส่วน

เราสองคนมาถึงโรงพยาบาลในเวลาไม่นานนัก แม้ว่าเราจะมาถึงเร็วแต่ก็ช้ากว่าแม่นุ่นและพ่อไผ่ ที่กำลังวิ่งเข้าไปในตัวอาคาร

 เราสองคนเดินกึ่งวิ่งตามหลังไปด้วยความใจร้อนไม่แพ้กัน ผู้ชายคนนั้นเดินออกมารับแม่นุ่นและพ่อไผ่สีหน้ายังคงมีความเครียดไม่จางหาย

“แม่นุ่นพ่อไผ่สวัสดีครับ”เราสองคนยกมือไหว้ผู้ใหญ่ตรงหน้าและยังคงมองดูผู้ชายคนนั้นที่ยังคงใช้สายตาแข็งกร้าวมองมาที่เราตลอดเวลา

ผมรู้สึกขนลุกกับแววตาของคนๆนั้นจนต้องหลบสายตาหันมามองแม่นุ่นกับพ่อไผ่

“หมอย้ายน้องเข้าห้องพักแล้วครับพ่อกับแม่จะเข้าไปหาน้องเลยไหมครับ”

“น้องเป็นไงบ้างลูก”แม่นุ่นถามด้วยความร้อนใจผมเองก็ตั้งใจฟังคำตอบไม่ต่างกัน

“น้องปลอดภัยแล้วครับหมอให้ยานอนหลับ เพราะน้องเครียดเกินไป “

“โอ๊ตพาแม่นุ่นไปก่อนเลยนะพ่อจะขอคุยกับหมอสักหน่อย”พ่อไผ่หันไปคุยกับผู้ชายคนนั้นแล้วเดินตรงไปอีกห้องที่เขียนว่า คลินิกพิเศษ

 ผมกับนาวีได้แต่ยืนเงียบๆก่อนที่วีมันจะฉุดมือผมเดินตามหลังแม่นุ่นไป

“แม่นุ่นครับ นี่กระเป๋าของไม้ครับ”ผมเอ่ยขึ้นพลางยื่นกระเป๋าไปให้แม่นุ่นที่หันกลับมามองเราสองคน

“ขอโทษจ๊ะแม่มัวแต่กังวล วีกับบูจะเข้าไปหาไม้ด้วยกันไหมลูก”

“พวกผมเข้าไปได้หรือครับ”

“ได้สิจ๊ะ..ไม้คงดีใจที่วีกับบูมาเยี่ยม”

“แต่..แม่นุ่นครับ”ผู้ชายคนนั้นท้วงเสียงเบาเมื่อเห็นว่าแม่นุ่นอนุญาตให้เราสองคนเข้าไปหาไม้

“ไม่เป็นไรหรอกพี่โอ๊ต เพื่อนกันทั้งนั้น เชื่อแม่นะคะ”มือเรียวบางลูบแขนผู้ชายคนนั้นไปมาราวกับว่าจะให้เขาใจเย็นลง

ผมกับนาวีเดินตามแม่นุ่นเข้าไปที่ห้องพักคนไข้ ร่างเพรียวบางของคนหน้าสวยคนนั้นหลับสนิทอยู่บนเตียงคนไข้

แต่ใบหน้าที่ดูแล้วคงหลับไม่สบายเท่าไหร่เพราะคิ้วเรียวสวยนั่นขมวดเป็นปมราวกับว่าคนหลับกำลังฝันร้าย


“ไม้ลูก แม่นุ่นอยู่นี่แล้ว “แม่นุ่นจับมือเรียวสวยนั่นมากอบกุมเอาไว้แล้วบีบเบาๆ ร่างเพรียวบางของคนที่ผมเคยหลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้นต่างจากสิ่งที่ผมคิด

ไม้แลดูเปราะบางพร้อมจะแตกสลายตลอดเวลา ไม่เหมืนอคนที่มีความสุขกับคนรักอย่างที่ผมเห็นผ่านโซเชี่ยลเลยสักนิด

ผมสองคนได้แต่นั่งมองไปที่คนป่วยที่กำลังหลับสนิท ไม่นานนักพ่อไผ่ก็กลับมาที่ห้องและเดินเข้าไปคุยกับผู้ชายที่ชื่อโอ๊ตคนนั้น

“วี บู พ่อขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับพ่อไผ่หันมาหาเราสองคนที่ยังคงยืนเงียบๆอยู่ใกล้ๆ

“ครับ”ผมกับวีเดินตามพ่อไผ่ออกจากห้องมาที่ร้านกาแฟในโรงพยาบาล

“เป็นไงมาไงถึงได้มาเจอเจ้าลูกหมาของพ่อได้ล่ะหืม”คำถามที่ดูเหมือนจะธรรมดาทั่วไปแต่น้ำเสียงของพ่อไผ่ไม่เหมือนเดิมเมื่อครั้งที่พวกผมยังเด็ก

“พวกผมรับงานของมหาวิทยาลัยน่ะครับ เลยได้ไปเจอกัน แต่....ผม..”นาวีเริ่มพูดติดขัดเมื่อมองดูสายตาของพ่อไผ่รังสีกดดันที่แผ่ออกมาทำให้ผมอึดอัด

“พ่อไผ่ครับช่วยบอกพวกผมได้ไหมว่าทำไม ไม้ถึงเป็นแบบนั้น”ผมตัดสินใจถามอย่างตรงไปตรงมา

“เฮ้อ..... อันที่จริงพ่อจะโกรธพวกเราทั้งสองคนก็ไม่ถูกล่ะนะ  ..แต่ถ้าเราสองคนฟังเรื่องของไม้แล้วพ่ออยากจะให้เราสองคนคิดให้ดีๆก่อนจะกลับไปหาไม้ที่ห้องพักคนไข้ได้ไหม“

พ่อไผ่ว่าแบบนั้น พวกผมได้แต่พยักหน้าและพร้อมรับฟังเรื่องราวจากปากของผู้ชายที่พวกผมยังรักและนับถือไม่เปลี่ยนแปลง


นาวี



ผมหันหน้าไปมองบูรพาที่หน้าตาคงซีดเซียวไม่ต่างจากผมมากนัก เรื่องราวที่พวกเราไม่เคยรู้มาก่อนทำให้ผมถึงกับนั่งนิ่งแทบกลั้นหายใจ

 ผมเคยคิดว่าเป็นผมที่เจ็บปวดที่สุด เสียใจที่สุด และเฝ้าแต่โทษเพื่อนอีกคน เอาแต่โยนความผิดทั้งหมดไปให้เพื่อนคนนั้น

โดยไม่นึกถึงความเป็นจริง ผมเอาแต่คิดเข้าข้างตัวเอง เจ็บปวดเสียใจ แต่ผมลืมคิดไปว่า เพื่อนอีกคนก็มีหัวใจเช่นกัน

การหายออกจากชีวิตของเพื่อนคนหนึ่งไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แต่กลับเลวร้ายลง ผมกำลังทำร้ายเพื่อนอีกคนโดยไม่รู้ตัว

ผมกับบูทรุดตัวลงกับพื้นก้มกราบแทบเท้าของพ่อไผ่ ดวงตาแดงก่ำของบูทำให้ผมรู้ว่ามันเองก็เสียใจไม่ต่างกัน

“ผมขอโทษครับพ่อ..ขอโทษครับ”เราสองคนได้แต่เอ่ยคำขอโทษที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หนูบัวไม่ได้เป็นแฟนกับไม้ ไม้ที่เสียใจจนเกือบจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าหากไม่ได้เข้ารับการบำบัดทันเวลา ตอนนี้ผมและบูรพาอาจจะกลายเป็นผู้ร้ายไปแล้วก็ได้ แม้ว่าไม้จะเข้ารับการรักษา แต่ไม้ไม่มีเพื่อนใหม่เลย นอกจาหนูบัว และผู้ชายที่ชื่อโอ๊ตคนนั้น

“ลุกขึ้นเถอะ  พ่อน่ะไม่ได้จะเอาเรื่องเอาราวอะไรของวัยรุ่นหรอกนะ แต่อยากจะบอกว่า เพื่อนกันควรรับฟังกันให้มาก อย่าหันหลังให้กันไปทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจกัน ..อย่าร้องเลยลูก น้องไม้ร้องมาเยอะแล้วเขาคงไม่ดีใจหากเห็นเพื่อนที่เขารักต้องมาร้องไห้เพราะเขานะ“

จบคำของพ่อไอ้บูถึงกับปล่อยโฮลั่นโรงพยาบาล เดือดร้อนพ่อไผ่ต้องมานั่งปลอบมันอีก แต่ผมก็เข้าใจ เพราะผมเองก็อยากจะร้องไห้ไม่ต่างกัน


...............................................

เสียงพูดคุยในห้องคนไข้เงียบลงเมื่อผมและบูเดินเข้าไป

หนูบัวและผู้ชายอีกคนที่ยืนข้างกันคงเป็นแฟนของหนูบัว และผู้ชายที่ชื่อโอ๊ตยังคงนั่งข้างๆเตียงข้างแม่นุ่นไม่ห่างจากไม้

ดวงหน้าสวยหวานซีดเผือดเมื่อมองเห็นผมกับบูเดินเข้ามา

“วี..บู..”

“เราขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย ขอโทษที่ปล่อยนายเอาไว้กับความรู้สึกแย่ๆนั่น ขอโทษนะ ฮืออออ”ไอ้บูร้องไห้อีกรอบทั้งยังพยายามยกแขนปาดน้ำตาน้ำมูกที่ไหลปนกันจนผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

“ขอโทษนะไม้ ขอโทษที่ทิ้งไปไม่บอกอะไรเลย ขอโทษที่ทำนายเสียใจ.ยกโทษให้เรานะ “ผมเอ่ยขึ้นเมื่อไอ้บูยังคงสะอื้นไม่หยุด

“ไม่เลยเราไม่ว่าเลย เราสิต้องขอโทษ เราไม่ดีเอง เรา ขอโทษนะ ที่ทำร้ายจิตใจของนายทั้งสองคนเราขอโทษนะเพื่อน”

ไอ้บูโผเข้าไปกอดไม้เอาไว้แน่นเสียร้องไห้ของคนสองคนทำให้ผมที่ฝืนไว้ก็ทนไม่ไหวจนต้องปล่อยให้น้ำใสๆคลอหน่วยตาและไหลลงมาอย่างไม่อายใคร

“ฮะๆขี้แยเหมือนเดิมเลยนะบู ตัวโตซะเปล่า”เสียงล้อขำๆจากน้องไม้ทำให้แม่นุ่นหัวเราะเบาๆและตามด้วยเสียของหนูบัว

“ขอบใจนะเพื่อน ขอบใจที่กลับมา”สาวน้อยคนสวยยิ้มสดใจพร้อมทั้งเดินเข้ามากอดเราสองคนเอาไว้

“ไม่หรอก เราสิต้องขอบใจ ขอบใจที่ไม่เกลียดพวกเรานะ”

“อื้ม  ก็เพื่อนกันนี่นาจริงไหม “รอยยิ้มสดใสจากคนป่วยทำให้หลายคนที่ยืนรายล้อมยิ้มไปด้วย

“ขอให้จากวันนี้ไปมีแต่เรื่องดีๆนะ “พ่อไผ่เดินเข้าไปลูบหัวของไม้เบาๆ มือเรียบางคู่นั้นยังคงจับมือผมและไอ้บูไว้แน่น

“จะจำไปจนตายเลยครับพ่อไผ่ จากนี้เราจะเป็นเพื่อนที่ดีของไม้นะ ขอไถ่โทษกับเวลาที่หายไป ขอโทษนะเพื่อน”

“เราก็เหมือนกันนะ ดีใจจัง ฮึก ฮืออออออออ”และวันนี้ก็จบลงด้วยเสียงร้องไห้ของไม้และบูรพา


แต่มันเป็นการร้องไห้ที่รู้สึกว่าโล่งโปร่งที่สุดในชีวิต  เป็นน้ำตาที่เยียวยาความเจ็บปวดที่เราทั้งสามคนได้รับมา แม้ว่าอีกคนจะเจ็บปวดเจียนตาย

แต่จากนี้เราจะเยียวยาซึ่งกันและกัน เพื่อนเป็นแล้วไม่หาย คำๆนี้คงเป็นจริงผมจะรักษามิตรภาพนี้ไว้ตลอดไป สายชลเป็นอดีตและบทเรียน วนันต์คือเพื่อนที่จะเป็นไปตลอดชีวิต


(แถมท้าย  นายวนันต์ )

ผมคิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมีจริงวันที่ผมได้กอดเพื่อนตัวโตที่หายไปจากชีวิตของผม วันที่ความเสียใจ ความเจ็บปวดจะปลิวหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น จากนี้ผมคงหลับฝันดีกับคนอื่นเขาบ้างแล้ว  ผมแลกเบอร์โทร์และทุกๆช่องทางการสื่อสารราวกับว่าได้เพื่อนใหม่ รอยยิ้มและน้ำตาของบูรพาคนขี้แย ทำให้ผมมีความสุข  การให้อภัยมันดีอย่างนี้นี่เอง

พี่โอ๊ตที่นั่งนิ่งๆแต่หน้าบึ้งตึงบนโซฟายิ่งทำให้ผมขำ และยิ้มกว้างกว่าเดิม เขายังคงเป็นห่วงและดูจะเจ็บปวดไปกับผมทุกๆเรื่อง แม้แต่เพื่อนเก่าผมสองคนพี่เขายังโกรธแทนจนไม่คุยด้วย ทั้งๆที่บูกับวีพยายามคุยด้วยแต่ก็โดนพี่โอ๊ตเมินจนหน้าจ๋อยทั้งคู่ แต่เพื่อนผมก็ยังพยายาม มันดีจังเลย หนูบัวเองก็ยิ้มได้กว้างกว่าเดิมสาวน้อยที่น้ำตาแค่ซึมๆก็ยิ้มจนแก้มปริ


ความรู้สึกที่เหมือนท้องฟ้าแจ่มใสทั้งๆที่อยู่ในอาคาร มันสดชื่นจนผมเผลอหลับลงด้วยความรู้สึกที่อิ่มไปทั้งใจ


อา ฝันเหรอ ฝันดีจัง ขอบใจนะ


TBC.......................

ก่อนอื่นต้องขออภัยที่หายไปนานนนนนนนน

ติดงานติดสุขภาพ แง้วววววว

ตอนนี้คิดอยู่นานว่าจะเป็นแบบไหน พยายามเข้าใจคนทั้งสามคน มุมมองของทั้งสามคน กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าคนเจ็บปวดที่สุดก้ยังคงเป็นน้องไม้

เวลาจะช่วยเยียวยา  เพื่อนเป็นแล้วไม่หาย   แต่พันวาขอลาป่วยต่อน๊าาาาาาาาา :hao5: :hao5: :hao5:

ขอบคุณที่ยังรอกันน๊าาาาา


หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 24-04-2019 22:50:23
 :pig4: :pig4: :pig4:

เข้าใจกันแล้ว  ปลดพันธนาการนั่นออกได้สักที
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-04-2019 08:01:06
ดีใจที่ทุกคนเข้าใจกันสักทีนะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 25-04-2019 13:46:15
คำว่าเพื่อน แม้จะจากกันนานแคไหน ก็ยังเป็นเพื่อน
แต่ก็ควรจะพูดให้เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่หนีหาย
ปล่อยให้อีกคน ต้องเจ็บปวดที่คิดไปเอง
 :เฮ้อ:
 ผ่านไปซะทีนะ
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 25-04-2019 21:33:37
ดีจัง เข้าใจกันแล้ว
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 26-04-2019 11:07:19
 :mew1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-04-2019 15:14:44
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 27-04-2019 19:48:39
แล้ว จีน่า ล่ะ อยากให้นางมาด้วยจัง
จะได้ครบแก๊งค์
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 01-05-2019 16:12:53
เข้าใจกันสักที
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 01-05-2019 20:18:15
เรื่องกลับมาดีแล้ววว


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ตอนพิเศษ เพื่อน 24/4/62
เริ่มหัวข้อโดย: HunHan9407 ที่ 30-05-2019 12:17:54
/เข้าใจกันแล้ว. ดีจังน้ำตาไหลเลย :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 16 แทรกซึม 1/2/63
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 01-02-2020 18:23:33




แผนที่ 16 แทรกซึม



อินทัช


เป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วที่ผมจะต้องตื่นเช้า ขับรถไปรับน้องไม้ ที่บ้านและตอนเย็นไปรับที่คณะอักษรฯ

วันไหนที่เรียนไม่ตรงกันผมก็จะไปนั่งรอน้องบ้างไปหาขนมมาไว้ให้บ้างหรือแม้แต่ไปรับแม่นุ่นแทนน้องที่ยังยุ่งๆกับชั่วโมงเรียน

เหลืออย่างเดียวที่ผมยังไม่ได้ทำแทนน้องคือพาพี่มาร์คกับน้องมาลีไปอาบน้ำตัดขน ดูเหมือนน้องจะทำให้พฤติกรรมเดิมๆของผมเปลี่ยนไป

จากที่เคยปากหนักไม่ค่อยพูดกับใคร ไม่ทำความรู้จักกับใครยกเว้นกลุ่มเพื่อน ตอนนี้ผมเลิกตั้งกำแพงแล้ว

จนเพื่อนๆในคณะบอกว่าผมเปลี่ยนไปและนั่นมันทำให้มีหลายคนเริ่มเข้าหาผม ถึงจะทำให้อึดอัดบ้างแต่ผมก็โอเคดี 

ผมจะมองน้องเป็นตัวอย่าง ขนาดน้องที่โดนมาสาหัสขนาดนั้นน้องยังเปิดรับเพื่อนใหม่เลย แล้วผมที่ไม่เคยมีปมอะไรกับใครเขา ทำไมจะปรับตัวแก้ไขไม่ได้






วันนี้เป็นวันว่างที่ผมนัดกลุ่มเพื่อนๆมาปาร์ตี้ที่ห้องเหตุผลหลักคือการสารภาพบาป ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดของน้องให้พวกมันฟัง

ทั้งเรื่องที่ผมชอบน้องด้วย ทุกเรื่องผมเล่าอย่างละเอียดและอยากให้พวกมันเข้าใจ เลยเป็นเหตุให้พวกมันทำหน้าเหวออ้าปากกว้างจนขากรรไกรค้างในห้องผมตอนนี้ 


“อย่าๆเพื่อน มึงอย่า  อะไรยังไง ถึงกูจะสงสัยมาตลอดแต่พอได้ยินแบบนี้กูอึ้งครับอึ้งๆๆๆๆๆ”

ไอ้วันปีย์เพื่อนที่แสนดี(เหรอวะ)ของผมพูดรัวยิ่งกว่าข้าวโพดคั่วในหม้อทันทีที่มันตั้งสติได้


“เออ  ก็ไม่มีอะไรให้ปฏิเสธนี่หว่า แค่จะบอกพวกมึงว่าการพนันครั้งนั้นกูยกเลิกนะ แต่เดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้าพวกมึงเอง เดี๋ยวๆๆไอ้นายอย่าพึ่งตาเขียวใส่กู แค่กูโดนพี่อาร์ตเทศนาสั่งสอนมาก็พอละกูสำนึกผิดแทบไม่ทัน เพราะงั้นเรื่องนี้กูกับไอ้ปีย์เลิกเด็ดขาดยิ่งได้รู้จักน้องกูยิ่งรู้สึกแย่ พวกมึงจะเห็นเป็นเรื่องเล่นๆไม่ได้ กูไม่อยากให้น้องรู้สึกแย่ถ้าน้องรู้เรื่องนี้”


“มึงคิดจะบอกน้องไหมวะ”ไอ้โอมถามขึ้น

“ทีแรกกูก็คิดจะบอกน้องนะ แต่กูทบทวนแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรกับการบอกน้องนอกจากทำน้องเสียใจและรู้สึกแย่ ดีไม่ดีน้องกลับไปเป็นแบบเดิมอีกกูว่ามันจะยิ่งแย่กว่าเดิม กูเลยคิดว่าเรื่องนั้นเราจะไม่เอ่ยถึงอีกให้มันตายไปกับนิสัยเหี้ยๆของกูซะ”


“เอาจริงๆนะเว้ย  กูก็คิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องบอกน้องหรอก แต่ในเรื่องชั่วๆที่พวกมึงสองตัวคิดทำ ก็ยังมีเรื่องดีๆนะเว้ย”

ไอ้คุณนายเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทำหน้าครุ่นคิดอยู่นาน

“ยังไง”ผมอดที่จะสงสัยไม่ได้เรื่องการพนันแย่งแฟนชาวบ้านเนี่ยถือเป็นเรื่องแย่สุดเลยมั้ง

“ก็มึงคิดดูนะโอ๊ตหากว่ามังกับไอ้ปีย์ไม่คิดทำเรื่องนี้ขึ้นมาคนอย่างมึงจะได้รู้จักน้องมันไหมวะ กูว่าคนอย่างมึงน่ะอยู่ดีๆจะเดินเข้าไปหาคนอื่นแล้วชวนพูดคุยหรือทำความรู้จักหรอกนะ”


ก็จริงของมันนะครับ หากไม่มีเรื่องของไอ้ปีย์ผมคงจะยังเป็นเจ้าชายน้ำแข็งคนเดิมยังเป็นคนที่ไม่ชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้ายังเป็นคนที่เข้าถึงยาก และคงไม่สนใจใครอยู่อย่างนั้น

“แต่ถึงยังไงกูก็ไม่อยากให้น้องรู้เรื่องนี้ พวกมึงเข้าใจกูไหม กูไม่อยากเห็นน้องเสียใจ ”

“กูเห็นในละครพระเอกต้องสารภาพความจริงนี่หว่ามึงไม่ลองบอกน้องจะได้ไม่มีอะไรค้างคา”


“กูไม่ใช่พระเอก กูยอมคาใจ ค้างคาแบบนี้ไปตลอดชีวิตถ้ามันทำให้น้องร่าเริงยิ้มได้แบบตอนนี้ “

ผมคิดแบบนี้จริงๆนะ ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะบอก เพราะผมไม่รู้ว่าถ้าผมบอกออกไปน้องจะรู้สึกยังไง ผมมันแย่ผมรู้ แต่ผมไม่อยากเห็นน้องเสียใจ


“เออๆแล้วแต่มึงเพื่อน พวกกูไม่ได้คิดจะอะไรกับเรื่องนี้อยู่แล้ว ที่พนันกันเพราะขำๆไว้แกล้งมึง แต่ใครจะคิดว่ามึงจะตกหลุมน้องมันจริงๆวะ”

“เออนั่นดิ แม่งเสียดาย “ไอ้กระต่ายร่างควายเอ่ยขึ้นเบาๆ

“มึงเสียดายอะไรวะต่าย”ไอ้คนขี้สงสัยอย่างไอ้โอมก็ถามแทบจะทันที

“เสียดายของพนัน”

“เดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้าน่า”


ผมว่าขึ้นพลางคิดถึงว่าหากวันนึงผมจีบน้องติดได้ดูแลน้องแล้วผมอาจจะบอกถึงเรื่องนี้ก็เป็นได้หวังว่าเมื่อถึงตอนนั้นน้องคงไม่ได้โกรธเคืองผมเพราะผมจริงจังมากบอกเลย


จากนี้ผมจะดูแลน้องจะไม่ทำน้องเสียใจแม้ว่าผมจะบอกน้องไม่ได้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับน้อง ผมยินดีที่จะแอบจีบแอบรักแบบนี้ไปจนกว่าน้องจะหายจากอาการที่เป็นอยู่ ผมทนได้ถ้าน้องมีความสุข ผมยอมเป็นพี่ชายให้น้องแล้วเก็บความรู้สึกของผมเอาไว้ ผมยอมจริงๆนะ



XS Cute Boy ได้โพสต์1 ชั่วโมงที่แล้ว

เอาล่ะค่ะแอดคิดไม่ตกมาหลายวัน เลยเอามาแชร์เผื่อมีคนช่วยคิด เจ้าชายน้ำแข็งของพวกเราช่วงนี้ดูเหมือนว่าน้ำแข็งจะโดนละลายจากใครบางคนซะแล้ว

 เดิมทีพี่โอ๊ตของเรานี่หน้านิ่งยิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็ง ไม่พูดคุยกับคนไม่สนิทตัวติดเพื่อนๆจนคิดว่าชาตินี้คงไม่มีผู้ใดหาญกล้าทำลายกำแพงน้ำแข็งหนุ่มหล่อแห่งวิศวะคนนี้

แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดูค่ะคุณขาาาาาาาดูหน้าอีพ่อเวลาอยู่กับน้องคนสวยมันชั่งละมุนละไม..ฮื้ออออออออออออออออออออออ
โฮ่ยยยยยสำลักความหวาน ออร่าสีชมพูววววววนี่มันอะไร #โอ๊ตไม้

แนบรูป

1254 like 621 แชร์

ผมยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นรูปที่แอดมินเพจโพสต์ไว้

เป็นภาพที่น้องไม้หัวเราะสดใสให้กับหนูบัวที่กำลังงอนไอ้ปีย์เพื่อนผม หน้าตาท่าทางของทั้งคู่คงทำให้ไม้ต้องหัวเราะจนตาปิด

 และด้วยความที่น้องมันทำอะไรก็น่ารักไปซะหมด ผมเลยอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ในภาพมันเลยออกมาแบบที่ผมส่งสายตาอ่อนโยนขนาดนั้น

ไปให้น้องทั้งรอยยิ้มที่ผมเองไม่ค่อยจะได้ยิ้มสักเท่าไหร่ก็ถูกมือดีถ่ายเอาไว้ได้  บางทีผมก็สงสัยว่า ผมเคยมองใครด้วยสายตาแบบนี้หรือเปล่านะ

ผมเพ่งมองภาพนั้นอยู่นานเพราะภาพสวยมากคนถ่ายคงเป็นมืออาชีพด้านนี้เพราะ ภาพออกมาดีมาก ดีจนผมกดเซฟทันทีโดยไม่ลังเล


“ฮั่นแน่ ยิ้มกับโทรศัพท์ว่ะ เพื่อนกูพัฒนาการก้าวกระโดดมาก “//วันปีย์

“กูว่าโลกนี้คงมีแค่น้อลลลลลล”//โอม

“อะไรมันจะชัดเจนปานนั้นวะเหลือแค่ยกขันหมากนะกูว่า”//ต่าย

“กูไม่เคยคิดเลยว่าจะเห็นมันทำหน้าตกหลุมรักราวกับสาวน้อยแบบนี้”//นาย


เสียงแซวดังมาเป็นระยะของกลุ่มเพื่อนผมที่นั่งล้อมวงอยู่ด้วยกันถามว่าผมสนไหมก็ไม่นะความรู้สึกมันชัดเจนจนผมไม่อยากจะเก็บไว้คนเดียวเลย

ห่วงก็แต่ความรู้สึกของน้องที่ผมต้องระวังเป็นพิเศษไม่รู้ว่าเรื่องที่ฝังใจน้องอยู่มันบรรเทาไปบ้างหรือยัง

แม้ว่าเพื่อนของน้องอีกสองคนจะเข้าใจกันดีแล้ว แต่ผมก็ยังเป็นห่วงและแอบกลัวว่าถ้าน้องรู้ว่าผมคิดไม่ซื่อน้องจะยังไว้ใจผมอยู่อีกไหม

ถึงแม้ว่าผมจะไม่บอกน้องว่ารู้สึกอย่างไร แต่ผมจะเนียนหยอดเนียนจีบไปเรื่อยๆฮ่าๆๆๆ ก็หวังอยู่นะที่จริงน่ะ  แต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่...


“เฮ้อออออ”

“อ้าว เพื่อนกูไบโพล่าแดกซะละ ฮ่าๆๆ เมื่อกี๊ยังดี๊ด๊าหน้าบานอยู่เลย”

“กูคิดไม่ตกเลยว่ะปีย์ มึงว่ากูควรทำไงดีวะ “

“เอาน่า ค่อยๆเป็นค่อยๆไป”

“พี่โอ๊ตครับ”ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรต่อ เสียงเรียกของคนคุ้นเคยทำให้ผมหันไปยิ้มรับอัตโนมัติ

“กูว่าเพื่อนเรามันเป็นไบโพล่าแน่ๆ” จะว่ายังไงก็ช่างตอนนี้ดีใจที่น้องมาหาครับ

“ว่าไงครับ”

“โอ้โห เสียงอ่อนโยนเบอร์นี้กูขนลุกกกกก”ไอ้กระต่ายควายทำท่าลูบแขนไปมาแล้วทำหน้าสยองใส่ผม แต่ผมจะสนเหรอ ก็ไม่นะ หึหึ

“วันนี้พ่อกับแม่ชวนวีกับบูไปทานข้าวที่บ้านครับ”

“อืม”ผมรู้สึกใจห่อเหี่ยวยังไงชอบกล เหมือนว่าพอน้องคืนดีกับเพื่อนๆแล้วน้องไม่มีเวลาให้ผมเลย

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ”

“ก็ไม่มีอะไรครับ น้องไม้ไปกับเพื่อนพี่คงกลับห้องไปนอนเหงา”

“แหวะ”เสียงเพื่อนผมครับ ไอ้พวกบ้านี่ขัดจังหวะจริง

“จะกลับห้องเหรอครับไม่ไปด้วยกันเหรอครับ เนี่ยพ่อกับแม่บอกให้ชวนพี่โอ๊ตกับพี่ปีย์ด้วยนะครับ ถ้าพี่ไม่ว่างพ่อกับแม่คงเสียใจแย่เลย”

เสียงทะเล้นที่เอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีทำให้ผมอดที่จะยื่นมือไปบีบจมูกโด่งรั้นนั่นไม่ได้

“โอ๊ย เจ็บๆครับ อย่าแกล้งฮื่อ”สองมือเรียวไขว่คว้าดึงมือผมออกจากหน้าเนียนใสอย่างรวดเร็ว แล้วทำหน้ามุ่ยใส่ราวกับว่าจะประท้วงที่ผมทำร้ายร่างกายน้อง

“พี่ไปด้วยได้เหรอ ดีเลยกำลังคิดถึงพี่มาร์คกับน้องมาลี”

“ไม่คิดถึงผมเหรอพูดแบบนี้น้อยใจนะเนี่ย”แม้ว่าน้องจะพูดเล่นแค่แกล้งเย้าผมแต่ใจไม่รักดีดันกระตุกสั่นไหวด้วยความดีใจ

“คิดถึงสิครับไม่คิดถึงคนนี้จะไปคิดถึงใครล่ะฮึ”

“พอๆน้ำตาลขึ้นตากูหมดละ จรีบกันเบาๆครับคนโสดอิจฉา”

“จีบอะไรพี่นายเข้าใจผิดแล้วพี่โอ๊ตน่ะชอบแกล้งผมแบบนี้จนชินแล้ว เนี่ยดีนะที่ยัยตัวแสบไม่อยู่ด้วยไม่งั้นโดนจับคู่อีกแหงเลย”

น้องบ่นเบาๆให้ไอ้นายฟังแม้จะรู้ว่าน้องแค่พูดเล่นๆด้วยความเคยชินแต่ใจผมมันไม่เคยเล่นเลยสักครั้งแต่ก็นะเลือกทางนี้เองจะว่าใครได้

ผมก็ได้แต่หวังว่าน้องจะรู้ด้วยตัวเองและหวังว่าเมื่อวันนั้นมาถึงน้องจะเปิดใจรับผมเข้าไปแทนการหนีห่างจากกัน

“งั้นเดี๋ยวพี่รอรับหนูบัวเอง”

เสียงไอ้ปีย์พูดขัดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของผม อยากขอบใจมันแต่ก็อยากบอกว่ากูไม่เป็นไรว่ะเพื่อนแค่นี้ กูชิลว่ะครับ หึหึ 

“พวกพี่ๆไปด้วยกันนะครับ ”น้องเอ่ยชวนด้วยรอยยิ้มหวานที่ผมไม่อยากให้น้องมันยิ้มให้ใครเรี่ยราด ก็หวงนี่นา เชอะ

“ได้เลยครับเดี๋ยวจะตามไปพร้อมกันเลยนะไม่มีอะไรกันนี่นาวันนี้ งานก็ส่งแล้วว่างงงงงงงง”

“ได้ข่าวว่าอาหารฝีมือแม่นุ่นอร่อยพวกพี่ขอไปฝากท้องด้วยนะครับ”

“แม่ต้องดีใจมากแน่ๆเลย”รอยยิ้มของน้องยังคงสดใส เพราะแบบนี้ไงผมถึงไม่อยากจะเห็นน้องเศร้าอีก เพราะรอยยิ้มของน้องมันสวยมากเลย






วนันต์



เย็นวันนี้ครึกครื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานมากแล้ว แม่เอาเตาบาร์บีคิวและเตาย่างเนื้อมาตั้งที่สวน แล้วทำหม้อไฟไว้หลายหม้อ

ไหนจะเนื้อวากิว A-5 ที่ได้มาจากบ้านหนูบัว ปาตีร์ที่มีกลุ่มเพื่อนที่ผมอยากเจอมากที่สุด วันนี้มีพี่โอ๊ตและกลุ่มเพื่อนทุกคนที่มา

ยัยตัวแสบบัวที่ตัวติดกับพี่ปีย์จนผมอิจฉา วีกับบู ที่มาพร้อมกันและอีกคนที่ผมไม่ได้เจอมานาน  จีน่า

“ขอบคุณที่ชวนเรามานะไม้ เราได้ฟังจากวีกับบูแล้ว จีน่าขอโทษนะ ทุกเรื่องที่ผ่านมาเลย ยกโทษให้จีน่าได้ไหม”

เป็นครั้งแรกที่มองหน้าเพื่อนได้สนิทใจ ผมยิ้มให้กับใบหน้าสวยหวานที่ยังคงมีแววตาเศร้าสร้อย

“ไม่เป็นไรหรอกไม้เองก็ต้องขอโทษจีน่าเหมือนกันนะ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็เพื่อนกันทั้งนั้น วันนี้ถือว่าเรามาเริ่มต้นมิตรภาพดีๆอีกครั้งเถอะนะ ที่ผ่านมาถือว่าฝันร้ายก็แล้วกัน  “

จีน่าปล่อยโฮ ลั่นบ้านจนพวกผมต้องนั่งรุมล้อมปลอบใจกันอยู่นานสองนาน และตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีคนที่คอยดูแลจีน่าอยู่ใกล้ๆ

พี่ต่ายยักษ์เพื่อนของพี่โอ๊ตคอยย่างเนื้อและดูแลอาหารให้เพื่อนผมอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ดูท่าแล้วผมคงจะมีเพื่อนเขยเร็วๆนี้แน่ๆ

หลังมื้ออาหาร ก็นั่งล้มวงฟังพ่อไผ่เล่นกีต้าร์ เห็นเป็นนักบิดแบบนี้พ่อผมก็เกือบได้เดบิ้วต์เป็นนักร้องนะ

 บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักแบบนี้ผมจะไม่ลืมเลย นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่มีบรรยากาศดีๆร่วมกับเพื่อนๆแบบนี้



“เอ้า หนุ่มๆสาวๆมานี่มา พ่อมีอะไรจะให้ดู “

เสียงพ่อไผ่ที่ดังขึ้นทำให้กลุ่มพวกพี่โอ๊ตกับกลุ่มเพื่อนของผมแทบจะเฮโลเข้าไปรุมพ่อ

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกพี่นายพี่ต่ายและพี่โอมได้เจอพ่อผมส่วนพี่ปีย์เจอวันที่ผมเข้าโรงพยาบาลเลยไม่ได้พูดคุยกับพ่อสักเท่าไหร่

แววตาเป็นประกายชื่นชมหลงไหลอย่างปิดไม่มิดของพวกพี่โอ๊ตทำให้ผมหัวเราะเบาๆอย่างมีความสุข

ดูๆแล้วพ่อผมก็ชอบกลุ่มพี่โอ๊ตมากๆเลย ไม่ใช่ใครก็ได้ที่พ่อจะแนะเคล็ดลับและเทคนิคการขับขี่ให้และเปิดห้องเก็บโมเดลรถมอเตอร์ไซค์

ให้เข้าชม เพราะพ่อน่ะหวงพวกโมเดลรถมาก พ่อเป็นนักสะสมตัวยงด้วยถึงขั้นสร้างห้องไว้เก็บโมเดลต่างหากเลยล่ะครับ


“ไงคะคนเก่งของแม่”เสียงอ่อนโยนของแม่ดึงสติผมให้หันมายิ้มรับ

“ครับแม่ “

“ทำไมนั่งเงียบอยู่ตรงนี้ล่ะไม่ไปสนุกกับเพื่อนๆเหรอคะ”

“ไม้อยากมองภาพนี้ด้วยสองตาไปนานๆครับแม่ ไม้มีความสุขมากเลยครับ”

ผมว่าพลางมองไปที่พ่อที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มวัยรุ่น เพื่อนๆของผมกลับมาแล้วไม่อยากจะเชื่อเลย

“น้ำครับ”น้ำส้มคั้นสด สองแก้วถูกส่งมาให้ผมกับแม่ ด้วยมือของผู้ชายตัวสูงใหญ่และหน้าตาดีคนนั้น

พี่โอ๊ต เป็นคนที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปจะว่าไปเพราะมีพี่โอ๊ตผมเลยได้มีโอกาสได้อยู่กับเพื่อนๆพร้อมๆหน้ากันแบบนี้

“ขอบคุณค่ะพี่โอ๊ต  งั้นแม่ฝากน้องหน่อยแม่จะไปดูของว่างมาให้”เสียงแม่เอ่ยขั้นตอนที่รับแก้วน้ำส้มและเดินออกไป

พี่โอ๊ตขยับมานั่งแทนที่มือหนาวางแหมะลงบนหัวของผมก่อนจะลูบเบาๆราวกับจะปลอบใจ

“ขอบคุณพี่โอ๊ตที่เข้ามาในชีวิตผมนะครับ “ผมเอ่ยออกไปอย่างที่คิด

“หืม..ไม่เห็นจะต้องขอบคุณเลย พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณน้องไม้ ดูสิ พี่ได้เจอไอดอลของพี่ได้เจอคนที่น่ารักอย่างน้องไม้พี่ว่าพี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณ”

พี่โอ๊ตว่ายิ้มๆก่อนจะหันไปมองพ่อผมที่ยังคงนั่งเล่าประสบการณ์ตอนแข่งรถโดยมีพี่โอมนั่งซักถามเป็นระยะๆ

“ไม่น่าเชื่อว่าคนน่ารักอย่างพี่โอมจะชอบความเร็ว”

“พี่ก็น่ารักนะชมพี่บ้าง”

“ฮ่าๆๆ โอ๋ๆครับ พี่โอ๊ตของผมน่ารักที่สุด”

ผมเอ่ยคำที่บอกถึงความเป็นเจ้าของอย่างแนบเนียน ผมน่ะโตแล้วจริงๆนะแม้ทุกคนจะทำเหมือนว่าผมยังเป็นเด็ก

ผมโตพอที่จะรู้ว่าตัวผมรู้สึกเช่นไรกับพี่โอ๊ต แต่ผมก็ยังขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับมัน ตอนนี้ยอมรับว่าผมกลัวมากๆ

พี่โอ๊ตใจดี พี่โอ๊ตเป็นทุกอย่างให้ผม เป็นคนที่ฉุดดึงผมออกจากห้องแคบๆห้องนั้น เป็นคนที่ผมวางใจ

อยู่กับพี่เขาผมสบายใจมากจนผมอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ ด้วยความเป็นคนน่ารักของพี่โอ๊ต

มันไม่ยากเลยที่จะทำให้คนที่ขลาดเขลากลัวการมีรักอย่างผมจะเปิดใจ ไม่ว่าการรักในรูปแบบไหน

ต่อจากนี้ผมจะไม่กลัวเพราะผมมีวัคซีนดีๆแบบพี่โอ๊ต  แต่ถึงผมจะรู้ว่าใจตัวเองคิดอย่างไรผมก็ต้องเก็บงำมันเอาไว้ เงียบๆ

ผมเคยคิดว่าการสารภาพรักกับหนูบัวถือเป็นความกล้าของผมที่สุด นั่นไม่ใช่เลย เพราะผมไม่ได้รักหนูบัวอย่างคนรักผมจึงกล้าบอก

ผมผูกพันกับยัยตัวแสบจนคิดว่ามันคือความรัก ตอนที่หนูบัวบอกตอนนั้น




 ผมยังเถียงในใจจนอยากจะร้องให้ ว่าผมรักหนูบัวจริงๆ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเพื่อนรักของผมพูดถูก เราแค่ผูกพันเราแค่ไม่เคยมีใคร

เราแค่รักกันในรูปแบบพี่น้อง และหวงกันในรูปแบบเพื่อนไม่ใช่ความรักแบบที่ผมกำลังคิดกับพี่โอ๊ตตอนนี้ทำไมผมถึงรู้น่ะเหรอ

เพราะความรู้สึกที่ผมมีกับหนูบัวกับความรู้สึกที่ผมมีกับพี่โอ๊ตมันแตกต่างกันมากเลย ความรู้สึกที่มีกับพี่โอ๊ตมันไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร

มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย แต่ผมรู้แค่ว่ามันดีมากๆเลย  แต่ถึงจะรู้สึกดีมากแค่ไหนผมก็ยังกลัวอยู่ดี


ผมกลัวไปหมดไม่กล้าแม้จะแสดงออกว่ารักพี่มันขนาดไหน ผมกลัวจะเสียพี่มันไปหากผมบอกให้รู้

ผมกลัวที่จะผิดหวังผมกลัวว่าหากบอกออกไปแล้ว ระหว่างเรามันจะไม่เหมือนเดิม ความใจดีความอ่อนโยนของพี่โอ๊ต

ผมอยากเก็บมันเอาไว้เป็นความทรงจำดีๆ เป็นแบบนี้ก็ดีหากว่าพี่มันยังไม่มีใครผมจะเกาะอยู่ข้างๆไม่ไปไหนเลยล่ะ


“อ้าวเหม่ออีก บ๊องแล้วนะเราเนี่ยเรียกก็ไม่ได้ยินเอาแต่ยิ้มให้แก้วน้ำส้ม “

“อ่า..แหะๆผมคิดอะไรเรือยเปื่อยน่ะครับ ดีใจที่เพื่อนๆมาหา ดีใจที่ทุกคนยังให้อภัยและรักกัน”

“น้องไม้ของพี่คนดีที่หนึ่งขนาดนี้ใครไม่รักก็ช่างสิพี่โอ๊ตจะรักน้องไม้เองนะครับ”

ใจกระตุกไหวไปกับคำว่ารักแม้ว่าพี่มันจะไม่ได้หมายความอย่างที่ผมอยากให้เป็นแต่ผมก็อดทีจะยิ้มกว้างไม่ได้

ก็น่ารักซะขนาดนี้ไม้ให้ผมรักได้ยังไงไหว ตกลงไปในหลุมรักจนปีนขึ้นมาไม่ได้แล้วพี่จะรู้หรือเปล่าครับ


“ห้ามทิ้งน้องนะบอกก่อน”อดไม่ได้ที่จะเอ่ยทีเล่นทีจริงไปแต่ใจคิดจริงจังจนผมเองกลัวว่าสักวันมันจะเผยให้พี่เขารู้

“พี่โอ๊ต บัวมีเรื่องจะถาม”ยังไม่ทันที่พี่โอ๊ตจะเอ่ยอะไรเสียงแจ้วๆของยัยตัวแสบก็ดังมมาก่อนตัว

ร่างเพรียวบางของเพื่อนรักผมถลาเข้ามากอดแขนพี่โอ๊ตไว้แน่นก่อนจะเอ่ยถามจริงจัง”

“พี่โอ๊ตมีคนที่ชอบหรือยังคะ”คำถามของเพื่อนตัวแสบทำให้ใจผมหวั่นๆเพราะกลัวคำตอบ

“ทำไม่ถามแบบนี้ล่ะฮึ ไอ้ปีย์มันมองพี่ตาขวางแล้วนั่น”

“ช่างพี่ปีย์สิคะ บัวอยากรู้นี่นา  ว่าไงคะตอบบัวมาเลย”เจ้าตัวแสบคาดคั้นจนพี่โอ๊ตหัวเราะเบาๆสายตาเอ็นดูเพื่อนผมจนน่าหมั่นไส้ ฮึ


“อืม..คนที่ชอบเหรอ มีสิ แต่ พี่ไม่กล้าบอกเขาหรอก กลัวเขาตกใจแล้วหนีหน้าพี่ฮ่าๆๆๆ”แม้คำตอบพี่โอ๊ตจะดูคล้ายๆกับว่าตอบเล่นๆ

ไม่จริงจังแต่ผมสัมผัสได้ว่ามันเป็นความจริง นั่นเลยทำให้ผมอดที่จะซึมเล็กๆในใจไม่ได้ คนที่พี่ชอบงั้นเหรอ เป็นคนแบบไหนกันนะ


“โธ่พี่โอ๊ตอ่า  อย่ามากั๊กน้องนะบอกน้องมาเดี๋ยวนี้เลยนะ “

“นี่คุณครับสนใจแฟนหน่อยครับ แฟนอยู่นี่ครับยู้ฮู “พี่ปีย์ว่าพลางดึงแขนเจ้าตัวแสบไปที่วงบาร์บีคิวอีกครั้ง

 แม้จะมีเสียงงอแงไม่ได้ดั่งใจ แต่หนูบัวก็ไม่ขัดพี่ปี่ที่คอยดึงให้ไปนั่งกินดีๆ วันนี้ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล

พ่อบอกว่าปาร์ตี้ไม่จำเป็นต้องมีก็สนุกได้  เพราะแบบนั้นวันนี้ผมเลยได้โชว์ฝีมือทำเรื่องดื่มสมุนไพรให้ทุกคนได้ชิม


“น้ำมะตูมอร่อยอ่ะไม้  จีน่าไม่คิดว่าไม้จะทำของพวกนี้เป็นนะ “


“ในช่วงที่เราพักรักษาตัว มันว่างน่ะหมอแนะนำให้เราหาอะไรทำ เราเลยลองทำพวกน้ำหวานเพราะเราชอบดื่มน้ำหวาน

แต่บางทีน้ำที่เราซื้อกินข้างนอกมันก็หวานเกินไป เราเลยได้ลองทำเองน่ะ”

“เราขอโทษนะ “หน้าสวยๆของเพื่อนผมสลดลงเมื่อฟังคำผมจบ

“อย่าคิดมาก เราหายแล้วนะ ตอนนี้เราสบายดีมากเลย”

“แต่มันก็ทำให้ไม้ไม่มีความสุขตอนนั้น เราเองต้องขอโทษด้วยเหมือนกันนะ เพราะเราไม้ต้องเจ็บปวดขนาดนั้น “

เสียงของบูรพาเอ่ยสมทบจีน่าแทบจะทันที

“เรื่องมันผ่านไปแล้วและไม่ได้มีแค่ไม้ที่เจ็บปวดกับเรื่องนั้น พวกนายขอโทษเรามาพอแล้วจากนี้ก็เราจะรักกันให้มากขึ้นเนอะ”


ผมพูดออกไปอย่างที่ใจคิด แม้ว่าในอดีตผมจะเจ็บปวดมากแต่ผมก็คิดว่าเพื่อนๆของผมก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน

 มันถึงเวลาที่เราจะต้องมีความสุขกันได้แล้วล่ะ


“เอางี้ นับจากนี้ไป พวกเราขอสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดี เป็นเพื่อนรักกันอย่างนี้ตลอดไป นะ “

นาวีเดินเข้ามาสมทบพร้อมๆกับหนูบัวที่เดินกลับมาเช่นกัน ตอนนี้พวกเราทั้ง ห้าคน ต่างยิ้มให้กันและจับมือกันไว้บีบมือเบาๆราวกับว่าคำสัญญานั้นเราจะไม่ลืมเลือน


เสร็จจากการปาร์ตี้เราทุกคนต่างก็มานั่งล้อมวงเล่นไพ่ในบ้าน  เอ เรียกว่าการกินข้าวพร้อมหน้าจะดีกว่าไหมนะ

เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ยืนอยู่ท่ามกลางคนที่ผมรักไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ผมยิ้มได้อย่างสบายใจจริงๆ

 ทั้งหมดนี้คงต้องขอบคุณพี่โอ๊ตสินะ แต่ว่า ถ้าหากพี่รู้ว่าผมคิดไม่ซื่อขึ้นมาพี่จะไปจากผมหรือเปล่านะ

จากที่เคยกังวลว่าคนอื่นจะคิดในแง่นั้นกับผม กลายเป็นว่าตอนนี้เป็นผมเองที่กำลังกังวลและคิดมาก 

พอจะเข้า ใจความรู้สึกของคนที่คิดเกินจากความสัมพันธ์ที่มีซะแล้วสิ เฮ้อ


“เป็นอะไรมานั่งถอนหายใจแบบนี้ฮึ”เสียงเอ่ยถามจากด้านหลังทำให้ผมต้องเอี้ยวตัวไปดูพร้อมทั้งส่งยิ้มอ้อนให้อย่างเคยชิน

“พ่อมาตอนไหน ไม้ไม่เห็นได้ยินเลยเสียงเดินมาเลยครับ”

“ก็เรามัวแต่เหม่อนั่งถอนหายใจอยู่ตรงนี้ จะเห็นพ่อได้ไงล่ะฮึเจ้าลูกหมู”


“เปล่าเหม่อสักหน่อยครับ เห็นทุกคนมารวมกันแบบนี้ผมก็อดที่จะมีความสุขไม่ได้ พานจะคิดถึงชลขึ้นมาด้วย”

“พ่อไม่อยากให้ลูกคิดมากนะ ชลน่ะเขาจากไปแล้ว ลูกต้องรักษาคนที่อยู่ตรงนี้ มองไปรอบๆสิ ทุกคนคือคนที่ลูกรัก
พ่อไม่ได้บอกว่าชลไม่สำคัญ แต่ลูกรักของพ่อต้องเดินออกจากตรงนั้นได้แล้ว ความรู้สึกผิด มีได้แต่อย่ามีมากจนมันทำลายตัวเรานะครับ”

ฝ่ามืออุ่นๆลูบเบาบนหัวของผม ทำให้ผมรู้สึกว่าผมโชคดีแค่ไหนที่มีครอบครัวอยู่ข้างๆเวลาที่ผมแย่

“ครับ จากนี้ไปไม้จะมีความสุข”ผมยิ้มกว้างให้พ่อพร้อมทั้งหันไปส่งยิ้มให้เพื่อนๆและพวกกลุ่มรุ่นพี่ของผมที่มากันวันนี้

ชล เป็นบทเรียนในการใช้ชีวิต แต่ชลก็เป็นเพื่อนรักของผมเช่นเดียวกับทุกคน แม้ว่าวันนี้ชลจะจากไป แต่ผมจะก้าวเดินต่อ

จากนี้ ชีวิตนี้ผมจะไม่มองผ่านมันอีก ผมจะมีความสุข ผมจะทำทุกอย่างที่ผมมีความสุข ผมบอกตัวเองแบบนั้นและผมจะทำมันจริงจัง



TBC....มาล้าวววววววววววววววววววววววว

ก่อนอื่นกราบงามๆขออภัยคนอ่านอย่างมากมายเลยค่ะ พันวา ร่างกายไม่แข็งแรง อีกทั้งงานก็เยอะด้วยเลยไม่มีได้มาอัพนานมาก

แต่ไม่ทิ้งนะคะ เราจะไปส่งน้องๆถึงปลายทางด้วยกันค่ะ 5555555

ช่วงนี้ร่างกายดีขึ้น แต่ก็ต้องหาหมอบ่อยๆ  จะพยายามมาอัพให้ได้ อาทิตย์ละ 1 วันนะคะ ถ้าโชคดีร่างกายไม่แย่ ก็จะมาอัพเพิ่มให้
:katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:  :katai4:


ไม่รู้ว่ายังอยู่กันไหม นะคนอ่าน แต่พันวาอยากบอกว่าคิดถึงมากๆๆๆ เลยค่าาา : :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:



หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 16 แทรกซึม 1/2/63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-02-2020 21:14:59
 :pig4: :pig4: :pig4:

 :pig2: back
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 16 แทรกซึม 1/2/63
เริ่มหัวข้อโดย: Sutharat ที่ 01-02-2020 23:14:36
ต่างคนต่างชอบแต่ไม่มีใครกล้าพูดพี่โอ๊ตกล้าๆหน่อย
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 17 ปั่นกระแส 6/2/63
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 06-02-2020 09:04:48




แผนที่ 17 ปั่นกระแส



อินทัช

02:45ผมนอนไม่หลับ หลายวันมานี่ผมเฝ้าแต่คิดว่าบูรพาคนนั้นเลิกรักน้องไม้ไปหรือยัง ท่าทางการแสดงออกคำพูดจา

 แม้ว่าจะเป็นเพื่อนแม้ว่าจะเคยโดนปฏิเสธมา แต่ยังไงไม้ก็ทราบดีว่าบูรพารักไม้ แล้วผมล่ะโอ๊ยยยยยย ไอ้เหี้ยโอ๊ต คิดสิคิด

ผมได้แต่นอนกระสับกระส่ายไปมาบนที่นอน พรุ่งนี้มีสอบเช้าแต่ผมยังนอนไม่หลับไม่มีสมาธิกับการนอนเลยสักนิด

ก่อนสอบผมจะนอนให้เต็มอิ่มจะได้มีสมาธิทำข้อสอบ แต่วันนี้ผมกลับคิดเรื่องของน้องจนนอนไม่หลับ

ผุดลุกผุดนั่งจนต้องคว้าโทรศัพท์มากดเบอร์หาคนที่จะช่วยแบ่งเบาความรู้สึกแบบนี้


(ไอ้น้องเวร นี่มันกี่โมงกี่ยามวะ )เสียงด่าตามสายมาก่อนคำทักทาย

“พี่อาร์ต ผมนอนไม่หลับ”

(เรื่องของมึงครับแต่กูหลับแล้ว หลับลึกด้วยสัส!)

“พี่ครับนี่น้องไง ช่วยรับฟังน้องหน่อย”

(ว่ามา ถ้าไม่มีอะไรน่าสนใจนะพรุ่งนี้กูไปกระทืบมึงถึงคณะแน่นอนไอ้น้องเลว)

“คือว่า ผม..ผม คิดว่า ผมกำลังตกหลุมรักว่ะพี่”

(แค่เนี๊ยะ !! เรื่องแค่เนี๊ยะ มึงโทรหากูตอนตีสามนี่นะไอ้โอ๊ต )

“พี่อาร์ต ฟังก่อนสิ คือว่าคนที่ผมรักน่ะ เขาเป็น...ผู้ชาย)

(…...)

“พี่อาร์ต ยังอยู่ไหมครับ ? พี่อาร์ต..”หรือว่าพี่มันหลับต่อวะ ห่าเอ๊ยตื่นมาก๊อนนนนน

(มึงพูดใหม่ซิ)อ่ายังไม่หลับแฮะ

“คือผม.... รักน้องไม้”ผมกลั้นหายใจตอบพี่มันไปแบบกล้าๆกลัวๆ

(…....)


“จริงๆนะพี่ ผมกลุ้มใจจะตายแล้วเนี่ย “ความเงียบของพี่อาร์ตทำให้ผมร้อนรน

(มึงเล่ามาให้หมดเดี๋ยวนี้)


เวลาตีสามกว่าๆผมนั่งเล่าทุกความเป็นจริงให้พี่อาร์ตฟัง ทุกเรื่องที่ผมกังวลและสิ่งที่ผมกลัว


(เฮ้ออออออ)เสียงถอนหายใจยาวจนผมเริ่มนั่งไม่ติด ต้องลุกออกไปยืนคุยที่ระเบียง

(แน่ใจแล้วใช่ไหม ไม่ได้เข้าใจผิดแน่นะ)

“พี่ผมโตแล้วนะ แยกความรู้สึกตัวเองเป็น”อยากจะถุยใส่ตัวเองเมื่อพูดคำนี้จบฮ่าๆๆๆๆ

(สำหรับพี่น่ะไม่ได้คิดยุ่งยากให้ปวดหัว แค่เป็นคนที่แกรักพี่ก็โอเค ไม่ได้สนใจว่าจะเป็นเพศอะไร แต่พ่อกับแม่พี่ไม่รู้หรอกนะไอ้น้องชายว่าพวกท่านจะยินดีหรือเปล่า ถึงแม้ว่าพี่จะเชื่อมั่นว่าท่านไม่ได้รังเกียจเรื่องเพศแต่...มันก็ไม่เคยเจอในครอบครัวเราป่าววะ )


“พี่อาร์ต เรื่องพ่อกับแม่ผมน่ะผมไม่กังวลเท่าไหร่ แต่กับน้อง...”

(เครียดทำไมล่ะชอบก็ดับเครื่องชนเลยสิ ช่วงที่กูจีบอิงก็ใช่ว่าจะง่าย เพราะความเหี้ยของกูเองกว่าจะได้เป็นแฟนกูเครียดยิ่งกว่าทำเคสจารย์แม่อีก เพราะงั้น อย่ากังวลถ้าแน่ใจตัวเองก็ลุยเลย)


“แล้วเรื่องที่น้องเจอมาล่ะพี่ผมกลัวว่าผมจะไปทำให้น้องเกลียดผม”

นี่เป็นเรื่องเดียวที่ผมกังวลถ้าการที่ผมจะรักน้องแล้วทำให้น้องต้องกลับไปหาหมออีกผมเลือกที่จะแอบรักอยู่แบบนี้ดีกว่า

(นั่นยิ่งต้องเป็นแกไงโอ๊ต ใช้ใจรักษาใจ กูเชื่อว่ามึงทำได้ เพราะมึงเป็นน้องกู)

“มันจะไม่แย่ลงใช่ไหมพี่อาร์ต”

(ไม่หรอก กูดูแล้ววันนั้นน้องมันก็ไม่ได้รังเกียจเวลาที่มึงคอยดูแลนี่นา ออกจะไว้ใจมากด้วยซ้ำ)

“เพราะน้องไว้ใจนี่แหละผมถึงกลัวจนต้องโทรหาพี่เนี่ย”

(มึงไม่ได้ทรยศน้องนะโอ๊ต มึงแค่รักน้อง มันไม่ผิดหรอก ใช้ความเคยชินสิ ทำให้น้องขาดมึงไม่ได้  แล้วทุกอย่างจะง่ายเอง)

“เหมือนตอนตามตื๊ออิงอ่ะเหรอ”

(เออ แบบนั้นแหละ รับรอง ไม่รอดเชื่อกู หึหึ)

“เสียงหัวเราะมึงเจ้าเล่ห์มากว่ะพี่”

(มึงคิดแค่ว่า ถ้ามึงช้าหมาคาบไปแดก ถ้ามึงรีบไปคนแรกได้แดกก่อนหมา )

“สโลแกนเหี้ยมากพี่ฮ่าๆๆ”

(เออ ก็เหี้ยสมกับเป็นกูเนี่ยแหละ และมึงก็น้องกูเพราะฉะนั้นลุยเลยน้องอย่าทำให้กูผิดหวัง)

ผมรู้สึกโล่งใจและรู้สึกมีความฮึกเหิมราวกับว่าจะไปออกรบ  จริงอย่างที่พี่อาร์ตว่าถ้าผมช้าหมาคาบไปแดกแล้วผมคงได้แดกแห้วเป็นไร่เรื่องอะไรผมจะยอม อย่ากลัวที่จะรัก สู้โว้ยยยยยยยย




***




ภาระกิจพิชิตใจน้องไม้เกิดขึ้นลับๆ เมื่อผมโดนเพื่อนๆซักฟอกจนขาวเป็นโอโม่  แม้ว่าในใจลึกๆของผมจะรู้สึกกลัวและลังเลว่าทำแบบนี้แล้วมันจะดีจริงๆใช่ไหม แต่ว่าคำพูดของพี่อาร์ตยังคงปลุกเร้าผมได้อย่างดี

“ก่อนอื่นมึงต้องเกาะติดหนึบน้องไว้เลยคอยดูแลรับส่งเช้าเย็นไปเล่นกับหมาพาไปกินข้าว เอาใจไม่ห่างว่างคอยบีบนวดปวดคอยทายา..”

“พอๆ..”ผมรีบเบรคไอ้ปีย์ก่อนที่มันจะเพี้ยนไปกว่านี้

“โอมไหนว่ามาซิว่ามึงไปตกหนุ่มหล่อหมอหมาใจดีแบบพี่ทอยได้ยังไง เผื่อว่าไอ้โอ๊ตมันจะเอาไปใช้กับน้องไม้บ้าง”

“ไม่เห็นต้องทำไรเลย  แค่เอ่ย..งื้อออออออออ พี่ทอยก็วิ่งมาโอ๋แล้ว”

“กูเหม็นความรัก”ไอ้ต่ายทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ไอ้โอมอย่างไม่เกรงใจ

“อย่ามาว่ากู มึงไปเต๊าะเพื่อนน้องไม้คนนั้นกูห็นนะ แหมพ่อเทพบุตรอ่อนโยนนนนนน กูล่ะอยากบอกน้องจีน่าคนงามว่าไอ้กระต่ายควายมันอศูรย์ห่มหนังกระต่ายชัดๆ”


“แล้วไงกูหล่อละกัน”เสียงกลุ่มเพื่อนที่ควรมาเป็นหัวคิดหัวเรี่ยวหัวแรงของผมแต่กลับมาทะเลาะกันแบบเด็กๆ เฮ้อออออ

“คงต้องพึ่งตัวเองสินะ “

“มึงบ่นไรโอ๊ต”

“เปล่ากูแค่เบื่อพวกมึงไอ้พวกไร้ประโยชน์ “อยากจะมองบน เฮ้อออออ

สรุปการเรียกกลุ่มเพื่อนๆมาปรึกษาคือเปล่าประโยชน์ และตอนนี้ผมนั่งอยู่หน้าคณะอักษรฯเพื่อรอใครบางคนกลับบ้านพร้อมกัน

ผ่านมาหลายวันที่ผมคิดไม่ตกแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังมารับน้องที่หน้าคณะอักษรฯเป็นประจำเพราะกลายเป็นกิจวัตรของผมไปแล้ว

 ระหว่างรอไม่มีอะไรดีกว่าการเข้าเช็คกระแสที่ผมพยายามปั่นมาตลอด ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา

แหมๆภาษิตโบราณดูไม่ค่อยเข้ากับผมสักเท่าไหร่คุณๆว่าไหมครับหึหึ



XS Cute Boy ได้โพสต์เมื่อ10นาทีที่แล้ว

แอดว่าคู่นี้อะไรยังไง เช้าถึงเย็นถึงเลยนะพ่อมหาจำเริญ  ร้อยวันพันปีไม่เคยเฉียดกรายไปคณะอื่นใดไฉนเดี๋ยวนี้พ่อเดือนวิศวะปี 3 ถึงได้ขยันมานั่งเล่นเดินเล่นที่คณะอักษรฯบ่อยเหลือเกินพ่อ  #เดือนชนเดือน//แนบรูป
1548 ไลค์
586 แชร์




@ติ่งคนหล่อ**กูก็นั่งรอไปเถอะใช่ซี้บริหารไม่น่าเดินเท่าอักษรฯ //งอแง

@pornข้อสุดท้าย** น้องไม้ขาอย่ายิ้มให้พ่อแบบนั้นลูกกกก แม่ใจจะขาดดด

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร** ใครจะคิดว่าใจเจ้าชายน้ำแข็งจะละลายเร็วป่านนี้//กระซิกๆ

@แหนมมัด**คู่จิ้นเหรอเชยแล้ว ต้องคู่จริงแล้วค่าาาา # เดือนชนเดือน

@ผู้ชายได้กันมันคือฝันของกู**ใครจะยังไงไม่รู้ค่ะ แต่กัปตันของหนูพายเก่งอะไรอย่างนี้กรี๊ดดดด //โยนไม้พาย....

@ทองหล่อทองหล่อ**#เดือนชนเดือน  สำหรับเขาคือคู่กัน เดือนชนเดือนสำหรับกูคือเงินไม่พอล่อมาม่าแล้วโว้ยยยยย

@โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**ดาวอยู่ไหนไม่รู้แต่หนูเชียร์ #เดือนชนเดือน #โอ๊ตไม้

@ขุ่นแม่** ลูกแม่โดนเจ้าชายคาบไปแล้วฮืออออ เสียไต

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร**@ขุ่นแม่เก็บไว้ขายดีกว่าครับ

@ขุ่นแม่@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร ??

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร@ขุ่นแม่ ก็ไตมันแพงเสียแล้วซ่อมยากเก็บไว้ขายไงครับ

@เกิดมาทั้งทีมีดีแค่กล้วย**@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร มุกมึงโคตรกากว่ะเพื่อน

@ทองหล่อทองหล่อ**@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร กล้าเรียกว่ามันคือมุก ?

@ขุ่นแม่ - __ -




ผมเก็บมือถือพลางแอบยิ้มด้วยความพึงพอใจ ถึงจะคิดว่าค่อยเป็นค่อยไปแต่คนอื่นๆอาจจะไม่รอเหมือนผมทางที่ดีก็อย่าให้กระแสตก หึหึ

จะได้รู้ว่าใครเป็นของใคร การประกาศความเป็นเจ้าของมันมีหลายวิธี และเพจ Cute Boy ของมหาวิทยาลัยก็เป็นตัวเลือกที่ดีของผม

ช่วงนี้ผมจะขยันอัพรูปเป็นพิเศษ จะรูปคู่รูปเดี่ยวผมลงไม่กั๊ก ปั่นไปเรื่อยๆขยันสร้างโมเม้นท์ทุกวันแฟนเซอร์วิสบ่อยๆอีกหน่อยจะได้เซอร์วิสแฟน ฮ่าๆๆๆๆ



“พี่โอ๊ตขอโทษนะครับรอนานไหม ”

“ไม่นานหรอก พี่พึ่งจะมาถึงไม่นานเอง” แค่ ชั่วโมงเดียวเองไม่นานเลยสักนิด และกับรอยยิ้มหวานๆแววตาห่วงใยแบบนี้ให้มารอสักสิบปีก็ไม่โกรธ

“งั้นไปกันเลยไหมครับ เจ้าตัวแสบรอนานจะบ่นมากผมขี้เกียจฟัง”

“ครับๆ”ผมรับคำพร้อมๆกับเดินนำน้องไปที่รถ 

ผมมาคิดได้ว่าพันแปดร้อยวิธีหรือจะสู้ความจริงใจผมเลยเลิกคิดยังไงผมเองก็ไม่รีบร้อนที่จะเร่งรัดน้องอยู่แล้วมันต้องค่อยเป็นค่อยไป

ค่อยๆซึมซับไปเรื่อยๆแล้วไอ้ความเคยชินที่พี่อาร์ตว่ามันจะเกิดขึ้นเอง เพราะผมเองตอนนี้ก็ชินที่จะมีน้องในชีวิตซะแล้ว นึกภาพไม่มีน้องไม้ในชีวิตไม่ออกเลย

เราสองคนเดินมาที่ลานจอดรถโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันสักคำแต่ไม่มีความอึดอัดให้เห็น ความรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้

 ไม่ว่าจะให้ผมนั่งอยู่เฉยๆไม่พูดสักคำเป็นวันๆผมก็ยังรู้สึกดีถ้าข้างๆมีน้องอยู่ ผมนี่เข้าขั้นวิกฤติล่ะครับฮ่าๆๆๆ

จุดนัดหมายของเราวันนี้มีสองที่ จุดแรกคือร้านกาแฟของมัมวาดแม่ของหนูบัว จะด้วยความเบลอเพราะมัวคิดหนักหรืออะไรไม่รู้

ทำให้วันนี้ผมตกลงรับปากน้องบัวมาช่วยมัมวาดเสิร์ฟกาแฟ เพราะมีกิจกรรมของ ม.Y คนเลยหลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่เช้า

 และร้านของมัมวาดก็เป็นที่พูดถึงในโซเชียลพอสมควร เลยเป็นเหตุให้ลูกค้าล้นร้านวันนี้ ใช้เวลาไม่นานเราสองคนก็พร้อมที่จะเป็นเด็กเสิร์ฟร้านกาแฟ ที่วันนี้มีเด็กเสิร์ฟเยอะเป็นพิเศษ


“โหยยย พี่โอ๊ตหล่อมากค่าาา “เสียงหวานใสของหนูบัวดังแทรกเสียงพูดคุยของเหล่าลูกค้านักศึกษามหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งที่วันนี้ดูเหมือนจะมารวมกลุ่มกันที่นี่ราวกับนัดไว้

“สู้คนนั้นได้ไหมครับ”ผมว่าพลางหันไปขยิบตาใส่น้องไม้ที่ยืนอยู่ตรงบาร์เสียงกรี๊ดกร๊าดเบาๆดังมาไม่ขาดสาย

“โนวๆ คนนั้นสวยค่ะ คนนี้หล่อค่ะ เหมาะกันมากๆเนอะ”เอาล่ะวันนี้มีมือชงระดับพระกาฬแล้วคงไม่ต้องกลัวกินแห้วล่ะไอ้โอ๊ตฮ่าๆๆๆ




XS Cute Boy ได้โพสต์เมื่อสักครู่

กรี๊ดดดดดดดดใครอยู่ใกล้ร้าน Bua Cafe'  ตอนนี้ห้ามพลาดค่ะไปซื้อกาแฟด่วนนนนน// แต่แอดพลาด //กัดผ้าเช็ดหน้าปาดน้ำตาล้องห้ายยยยย
แนบรูป**
2045 ไลค์
789 แชร์



** โอยยย พี่โอ๊ตยิ้มล่ะยิ้มกว้างมากพ่อ แววตาจะหวานไปไหนฮืออออ อิจฉาน้องไม้ได้ไหมทำไมได้รับรอยยิ้มจากเจ้าชายฮือออออ

*** นี่มันวันอะไรคนหล่อๆถึงได้มารวมตัวกันอร๊ายยยยยอยากได้ๆ

**สองหนุ่มนี่หล่อจนวารีดำเนินค่ะหล่อมมากหล่อลากกกก #แฝดหล่อบอกต่อด้วย

**เม้นท์บนขอวาร์ปหน่อย

** อ่ะนี่เลย ขอบอกว่าหล่อมากแม่ @Pech @Thung-Gn เด็กม.ปลายกรุบกริบ อิอิ

**สาวน้อยคนนี้ไม่เคยเห็นหน้าแฮะ แต่สวยมากลูกกินกันไม่ลงกับดาวอักษรฯเลยค่ะ

** อยู่อีกม.ค่ะตะเอง วาร์ปนี่เลย@GNa' น้องน่ารักนะแต่พี่ต่ายถาปัตถ์ปีสามยืนไม่ห่างเลยอะไรยังไงนี่เราจะเสียดุลให้ม.อื่นกันเหรอคะ

**อะไรก็ไม่เท่ารอยยิ้มและแววตาที่มองกันของสองคนนี้ค่ะ #โอ๊ตไม้ #เดือนชนเดือน

**ใช่ๆวันนี้เหมือนๆอะไรๆมันชัดขึ้นว่ามะ #โอ๊ตไม้ #ปีย์บัว ไร้เงาดาวอิงฟ้า

**แงพี่อิงของหนู




ยอดไลค์ยอดแชร์พุ่งไม่หยุดเมื่อเห็นภาพที่ทีพวกผมที่ใส่ชุดพร้อมเสิร์ฟ จะว่าไปวันนี้มันครบองค์เพราะความบังเอิญ น้องๆเพื่อนของน้องไม้มาครบ

นาวี บูรพา จีน่า น้องไม้ หนูบัว รวมกับกลุ่มพวกผม นำทีมโดยผม ไอ้ปีย์ ไอ้นาย ไอ้ต่าย ไอ้โอม ไหนจะแฝดน้องชายของหนูบัวที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนเด็กมัธยม

เพราะเปลี่ยนขาสั้นมาใส่สแลคและเสื้อเชิ๊ตขาวเหมือนพวกผม ทั้งหมดสิบสองคนในชุดที่ไม่ได้นัดกันมาแต่เหมือนกันเปี๊ยบ

ก็กางเกงสแลคขายาวสีดำเสื้อเชิ๊ตสีขาวก็มันเป็นชุดนักศึกษานี่ครับ แค่พวกผมถอดไทด์ออก ก็ไม่เห็นความแตกต่างแล้ว

มีเพียงหนูบัวกับจีน่า ที่ใส่กระโปรงพลีทสั้นเสมอเข่าสีดำแต่ใส่เสื้อคอปกสีขาวของมัมวาดที่หามาให้บอกว่าจะได้เข้าธีม

ขาดไม่ได้เลยก็ผ้ากันเปื้อนครึ่งท่อนสีน้ำตาลที่ทุกคนต้องใส่ ยกเว้นของสองสาวที่เป็นเอี๊ยมคล้องคอ ดูน่ารักไปอีกแบบ

ไอ้ปีย์ถ่ายรูปหนูบัวจนเมมเต็มไปหมแล้วไม่ต่างกับผมที่แอบถ่ายทุกครั้งที่ว่างและน้องไม้เผลอ


แน่นอนว่ารูปหมู่ได้จากความจัดแจงของหนูบัวและมันปรากฏอยู่ในเพจของมหาวิทยาลัยเรียบร้อย จะว่าไปจากวันนั้นที่เกิดเรื่อง

เพื่อนของน้องไม้ดูจะพยายามเข้าหาผมเหมือนๆกับจะขอโทษเรื่องในห้องน้ำ น้องบอกไม่ได้ตั้งใจอาจจะเพราะความเครียดหรืออะไรทำให้พูดไม่คิด

ผมเองก็อารมณ์เย็นลงมากและเพราะน้องไม้ช่วยพูดด้วยเลยลดอคติกับน้องๆมันไปแล้ว มีแค่ติดใจบูรพาที่เคยรักน้องไม้

แต่ดูๆแล้วแววตาน้องมันคงเหลือเพียงความอาทรห่วงใยตามประสาเพื่อน



คงไม่คิดเป็นคูแข่งของผมแน่นอน



“พี่โอ๊ตครับคุ้กกี้โต๊ะ 5 ครับ”

“รับทราบครับ”ผมทำท่าตะเบ๊ะพร้อมรอยยิ้มกว้างๆหนึ่งที แค้นี้ก็เรียกเสียงหัวเราะของน้องไม้และเสียงกรี๊ดกร๊าดในร้านได้พอควร

ต่อจากนั้นแต่ละคนพยายามหาจุดขายเรียกร้องความสนใจจากลูกค้าในร้านที่ตอนนี้ล้นออกมานอกร้านแล้วก็มี

ต่อคิวยาวเหยียดเพราะบาริสต้ามือหนึ่งอย่างมัมวาดและคุณเดโช และผู้ช่วยแฝดหน้าหล่อ ที่หล่อน้อยกว่าผม

คนรับออเดอร์ คือน้องไม้และน้องหนูบัวกับน้องจีน่า ส่วนพวกผมก็เสิร์ฟสิครับรออะไรว่างก็สร้างโมเม้นท์ ปล่อยกระแส  หึหึ

 เจอแบบนี้บ่อยๆ หวังว่าน้องไม้จะหวั่นไหวกับผมบ้าง คติของผมคือแอบหยอดเนียนจีบรีบสร้างกระแสครับ

ว่าแล้วก็สักหน่อย ผมเลือกรูปที่ต้องการพร้อมกับแคบชั่นที่คิดว่า....หึหึหึ




อินทัช@InIng

ยิ้มทีพี่ขอ #ง้อนะ

2.5K.รีทวิต 1.9 ความชอบ


ยอดรีพุ่งเร็วจนผมเองก็ตกใจ ไม่นึกว่าหน้าบึ้งๆของบาริสต้าจำเป็นจะเป็นที่ชื่นชอบขนาดนี้

**กูว่าแล้วกูว่าแล้ววววววววววววว

**เค้าง้อกันๆนี่ต้องงอนเบอร์ไหนคนพี่ถึงง้อออกสื่อแบบนี้ ฮืออออ

**ไอ้หน้างอๆของน้องว่าพีคแล้วแต่นิ้วมือเรียวๆที่เกาคางน้องนี่ มือพี่ถูกต้องไหม แงงงงงง

**เอาล่ะกูตายอย่างสงบศพสีชมปูววววววว

**น้องอิงครับพี่ว่างนะครับปล่อยสองคนนั้นเขาได้กันไป พี่ขอรับน้องบัวกับน้องอิงไว้ในอ้อมแขนละกัน

**เม้นท์บนกรุณาหยิบบัตรคิวครับ

**ได้ข่าวว่าน้องไม่เล่นทวิตงั้นกูแคปไปไอจีให้นะพี่มึง หุหุ

**งอนไรพี่เขาคะลูกคนอะไรหน้างอก็ยังสวย

**พี่โอ๊ตคะหนูก็งอนค่ะมาง้อหนูที

**คู่นี้คู่จริงค่ะบอกเลย เรือรบจาก USA เลยมึงแล่นเร็วจนกูกลัว

**กลัวเรือล่ม?

**เปล่ากลัวกัปตันหลงทาง 555555


วางยาเสร็จแล้วก็ไปทำงานต่อครับ ที่น้องไม้งอนไม่ใช่อะไร ผมมีภาพเด็ดเอาไว้ปั่นกระแสต่อในวันหลัง เรื่องนี้ต้องมีภาค 2 ครับหึหึ


“ไงมึงน้องงอนหนักเลยสิ กูไม่เคยเห็นน้องงอนมาก่อนเลยนะเนี่ยมึงมันแย่ไอ้โอ๊ต”ปีย์

“น้องไม้จะให้พี่ทำสำนวนเลยไหมครับ ฟ้องข้อหาอะไรดี น๊าเอาแบบติดคุกตลอดชีวิตพี่ก็ทำให้น้องไม้ได้นะครับ”โอม

“น้องไม้อภัยให้มันเถอะถือว่าเอาบุญครับ มันไม่ได้ตั้งใจพี่รู้ หึหึ”นาย

“พี่ว่าน่ารักดีออกครับ แบบมันเป็นจุดขายไรงี้”กระต่าย


ผมมองเพื่อนๆที่พยายามจะช่วยผมและทับถมผมไปด้วยอย่างระอา เหนื่อยใจกับพวกมันครับ เรื่องไม่ใช่อะไรมากมายเลย

แค่ผมขำเรื่องที่น้องไม้โดนหนูบัวต่อยตอนอนุบาลเพราะไปเปิดกระโปรงหนูบัวแค่นั้นเองนี่นา มัมวาดเล่าให้พวกผมฟังนะ

เป็นเรื่องเล่าขานตำนานน้องไม้เลยนะนั่น ผมแค่หัวเราะดังมากไปแค่นั้นเองนะ ก็มันขำนี่นาฮ่าๆๆๆๆแค่นี้ต้องงอนผมด้วย


“ดีกันนะครับนะๆ แหมเรื่องนี้น่ารักจะตายไป”จริงๆนะครับเรื่องราวน่ารักๆแบบนี้ต้องแชร์ ใครจะแสบเปิดกระโปรงสาวตั้งแต่อนุบาลกันล่ะครับฮ่าๆๆๆๆ


“อย่ามาขำเลยนะ รู้ไหมผมอายเพื่อนตั้งนานแน่ะ เฮอะ”คิ้วขมวดหน้าตึง แต่ก็ยังน่ารักมากอยู่ดี

“แต่ว่านะ น้องไม้ปิ๊งหนูบัวตั้งแต่ตอนนั้นเลยนะ “มัมวาดพูดไปยิ้มไป

“มัมครับพอได้แล้วไม้อาย เฮ้อออออ”ท่าทางถอนหายใจทั้งสีหน้าที่ทำท่าทางอ้อนมัมวาดทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะแอบแชะอีกสักภาพ


“น่ารักจะตายเนอะ หึหึ”ผมส่งยิ้มล้อๆไปให้พร้อมๆกับยื่นมือไปยีผมนุ่มๆของน้องด้วยความเคยชิน และแน่นอนเสียงกรี๊ดกร๊าดดังแว่วมาเป็นระยะๆ

“พอเลยครับพี่โอ๊ตเลิกแซวผมได้แล้ว บูก็ด้วย หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ ฮึ่ย”ท่าทางที่ไม่มีใครเข้าข้างมันช่างน่ารังแก

เป็นวันที่เต็มไปดั้วยรอยยิ้ม น้องไม้แม้จะทำหน้างอแม้จะทำหน้าบึ้งแต่ผมก็รู้ว่าน้องมีความสุขแววตาเปล่งประกายวาววับไม่มีแววเศร้าหมองอย่างที่เคย

มันสุกใสยิ่งกว่าดาวประจำเมือง  ความเศร้าที่เคยเห็นหายไปราวกับไม่เคยมี ผมชอบที่น้องเปิดเปลือยความรู้สึกแบบนี้

งอนหนักแค่ไหนผมก็พร้อมจะง้อ ขอแค่ให้น้องไม่ปิดกั้นอีกต่อไป สักวันผมจะเข้าไปนั่งอยู่ตรงนั้น ที่ๆเคยเป็นของน้องบัวในอดีต

สักวันมันจะต้องมีผม และแค่ผมคนเดียวเท่านั้น


TBC .....

เอาความหลงน้องมาฝากกกกก  น้องทำอะไรก็น่ารักไปหมดแหละเนอะพี่โอ๊ตเนอะ

ขอบคุณคนอ่านที่ยังรอกันนะคะ พันวาจะพยายามเข้ามาอัพถี่ๆน๊าาาาา


ช่วงนี้คุณหมจะนัดบ่อยหน่อย เพราะต้องทำกายภาพ (อีกแล้ว)

แต่ก็ไม่ลืมนะคะ จะมาอัพบ่อยๆเลย

ขอบคุณคนอ่านทุกคนขอบคุณกำลังใจเน้อออ  แวะมาคุยกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 17 ปั่นกระแส 6/2/63
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 06-02-2020 13:51:27
อิพี่โอ๊ต หวานไม่หยุดเลยน้าาาาา



น้องไม้ละลายแล้ว
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 17 ปั่นกระแส 6/2/63
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 06-02-2020 17:37:37
เป็นกำลังใจให้ค่ะ  อดทน สู้ สู้ จะได้หายไวไวค่ะ   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 17 ปั่นกระแส 6/2/63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 06-02-2020 20:59:45
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิพี่โอ๊ตเป็นเอามาก  ราวกับถูกน้องทำเสน่ห์ยาแฝดใส่
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 17 ปั่นกระแส 6/2/63
เริ่มหัวข้อโดย: Oooy ที่ 07-02-2020 09:47:51
 :katai3:หายไวไวนะจ๊ะพันวามารอลงเรือโอ๊ตไม้เขิลตัวบิดตายสนิทศพสีชมพูง้อกันได้น่ารักมากขำพวกfc
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 17 ปั่นกระแส 6/2/63
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 09-02-2020 19:15:57
ต่างคนต่างไม่กล้าบอกแล้วจะรักกันยังไง :katai1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 17 ปั่นกระแส 6/2/63
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 09-02-2020 19:40:53
เอาใจช่่่วยโอ้้ตกับไม้นะ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 18 ด่านทดสอบ 12/02/63
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 12-02-2020 17:59:40






แผนที่ 18  ด่านทดสอบ



วนันต์


ผมนั่งหน้าตูมอยู่ในรถของพี่โอ๊ต ที่กำลังแล่นไปสู่จุดหมายที่สองของวัน นั่นคือสตูดิโอของค่าย MPB

วันนี้นัดที่สองของพี่โอ๊ตเหมือนจะมีงานติดต่อมาจากMPB แต่รายละเอียดผมไม่รู้พี่โอ๊ตให้ผมมาด้วย ผมเองก็ตามมาด้วยความเต็มใจ

แต่ถึงจะเต็มใจมา ความผิดที่หัวเราะผมที่ร้านกาแฟของมัมวาดผมยังไม่ยกโทษให้หรอก ก็ถ้าพวกคุณได้เห็นท่าทางการหัวเราะขอพี่โอ๊ต

พวกคุณก็ต้องเคืองเหมือนผมนี่ล่ะ มีที่ไหนแหงนหน้าอ้าปากหัวเราะลั่นร้านกาแฟแถมนั่งลงเอามือกุมท้องทั้งที่ยังหัวเราะอยู่

และที่พีคคือน้ำตาเล็ดเลยครับ พี่โอ๊ตน่ะแหละ หัวเราะจนน้ำตาเล็ดผมเองก็พึ่งจะเห็น

สาวๆในร้านกาแฟถ่ายรูปกันใหญ่เสียงซุปซิปบอกพี่โอ๊ตหล่อพี่โอ๊ตยิ้มแล้วๆพี่โอ๊ตหัวเราะได้หล่อมาก รอยยิ้มหายากของเจ้าชายน้ำแข็ง

บลาๆๆๆ เหอะ ขวัญใจสาวๆตลอดการเลยนะพี่เขาน่ะ  ผมงอนเพราะพี่เขาหัวเราะผมนะ ไม่ได้งอนเพราะสาวๆสนใจพี่เขาสักหน่อยจริงๆนะ

 
“ยิ้มหน่อยน่า เดี๋ยวพี่เลี้ยงซูชิ แบบไม่อั้นเลยโอเค๊”นั่นไงเอาของโปรดมาล่อผมอีกละ

“ไม่อั้นจริงๆนะครับ”

“จริง เต็มที่เลยครับ หรือถ้าไม่หายงอนพรุ่งนี้พี่พาไปกินบิงซูเลยเอ้า”

แค่นี้ผมก็ฉีกยิ้มกว้างให้พี่โอ๊ตด้วยความเต็มใจ หึหึ ของหวานก็ชอบ ซูชิก็ชอบ คนพาไปก็..ชอบ อ่า..เขินแฮะ =_=


พี่โอ๊ตนำลูกรักของพี่เขามาจอดใต้อาคารของค่าเพลงMPB ที่นัดหมายของวันนี้และเดินนำดผมขึ้นลิฟท์ไปยังสตูดิโอจุดนัดหมาย

ตลอดทางที่เราเดินผ่านจะมีคนเดินไปมาประปรายเดาว่าคงเป็นพนักงานนั่นแหละครับธรรมดาล่ะนะที่จะต้องมีคนทำงาน

ที่ไม่ธรรมดาคือตั้งแต่ผมกับพี่โอ๊ตเดินเข้ามามีแต่คนมองมาที่เราสองคน  อยู่ตลอดเส้นทางอาจจะเพราะความเด่นของพี่เขา

หรือเพราะเราแปลกหน้าของที่นี่ก็ไม่รู้ได้ แต่ผมรู้สึกอึดอัดคงเพราะยังไม่ชินกับการที่ถูกจ้องมองมากๆ

 กว่าจะมาถึงห้องที่นัดหมายผมก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนวิ่งมาสักสิบกิโลเมตร



 
“สวัสดีครับพี่ฟาง”พี่โอ๊ตทักทายพี่ฟางที่เดินยิ้มร่ามาต้อนรับเราสองคน ผมจำได้ว่าพี่ฟางเป็นผู้จัดการส่วนตัวของพี่อันที่เจอกันคราวงานรวมมหาวิทยาลัย


“อ้าวน้องโอ๊ต น้องไม้ สวัสดีค่ะ  พี่เจตกับน้องอันรออยู่พอดีเลยค่ะ”

เสียงทักทายพร้อมรอยยิ้มของพี่สาวคนสวยที่เดินมาต้อนรับเราสองคน งานนี้ผมไม่ได้มีส่วนแค่มาเป็นเพื่อนพี่โอ๊ตตามคำร้องขอของพี่เขาเท่านั้น


ผุ้ชายร่างสูงใหญ่แววตาดูเจ้าเล่ห์แวววับเหมือนพวกเจ้าชู้ไปเรื่อย บวกกับหน้าตาหล่อคมเข้มมาดนักธุรกิจ ทำให้ผู้ชายคนนั้นดูดีอย่างหาตัวจับยาก

อีกคนร่างสูงโปร่งผอมบางผิวขาวราวกับจะเรืองแสงได้ ดวงหน้าดูหวานปนหล่อได้หลายมุมมอง แต่รอยยิ้มสดใสดวงตาพราวระยับเหมือนคนอารมณ์ดีตลอดเวลาทำให้เจ้าตัวดูมี ออร่าน่าหลงไหล ยิ่งยืนข้างๆกันแล้วมันดูราวกับรูปปั้นที่ทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ



“มาแล้วๆ นี่ไงพี่เจต คนที่ผมว่าหน่วยก้านดีใช่ไหมล่า”

เสียงร่าเริงรอยยิ้มสดใสท่าทางน่ารักที่เป็นธรรมชาติของพี่อันดูน่ารักจนละสายตาไม่ได้ กอปรกับหน้าตาอ่อนเยาว์

ที่ดูยังไงก็คล้ายเด็กมหาลัยเช่นพวกผมร่างสูงโปรงเพรียวบางแลดูน่าทนุถนอม อืม น่ารักแฮะ ผมคิดพลางเหลือบมองไปทางที่โอ๊ตที่เดินเข้าไปยกมือไหว้ทั้งสองคน


พร้อมกับนั่งลงคุยธุระกันโดยผมได้แต่นั่งมองอยู่ห่างๆเพราะไม่เกี่ยวข้องอะไร พี่ฟางเอาชากับขนมมาเสิร์ฟให้ผมระหว่างรอ

คนที่ชื่อเจตดูจะมองมาทางผมแปลกๆคงเพราะผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ก็มากับพี่โอ๊ตด้วยพี่เขาคงสงสัยล่ะมั้งนะ

สามคนนั่งคุยกันเคร่งเครียด รายละเอียดของงานที่พี่โอ๊ตจะต้องทำมีพี่เจตคอยอธิบายและพี่อันคอยเสริมส่วนพี่ดอ๊ตดูแววตาเป็นประกายราวกับเจอของถูกใจ



 
“Ducati Desmosedici GPเครื่องยนต์ วี4 สูบ 90 องศา EVO Desmodromic DOHC กำลังสูงสุดกว่า 250 แรงม้า เกียร์ 6 จังหวะ โช๊ค OHLINS โครงรถ Aluminium Alloy Evo Twin-Spar เบรก Brembo ความจุถังน้ำมัน 22 ลิตร กล่องควบคุม Magneti Marelli ยาง Michelin 17 นิ้วทั้งหน้า/หลัง น้ำหนักรถเปล่า 157 กิโลกรัม ….“



“โหพี่เจตครับนี่มันสุดยอดเลยครับรถในฝันผมเลยนะเนี่ย”พี่โอ๊ตตอบกลับด้วยแววตาเป็นประกายวาววับ แววตาเหมือนตอนอยู่กับพ่อผม

 เวลาที่ได้คุยได้เจอกันทีไรผมจะเห็นแววตาของพี่โอีตแบบนี้เสมอ จนผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้


เสียงบอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับรถที่พี่โอ๊ตต้องขี่ดังมาเป็นระยะๆ ทำให้ผมอดที่จะสนใจไม่ได้..ก็นะ สายเลือดพ่อมันก็ยังวิ่งวนในตัวผม

แม้ว่าผมจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเร็วเหมือนพ่อไม่ได้ชื่นชอบถึงขั้นหลงไหลเหมือพวกพี่โอ๊ต แต่ความสนใจผมก็ยังมีอยู่บ้าง

 ดูจากแววตาของพี่เขาแล้วผมเข้าใจได้เลยว่า เพราะอะไรพ่อกับพี่โอ๊ตถึงเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย



“น้องไม้มาร่วมนั่งตรงนี้ดีกว่าครับพี่อยากได้ความเห็นจากทายาทมือหนึ่ง F1 “

เสียงพี่อันดังขัดขึ้นมาขณะที่ผมปล่อยความคิดล่องลอยไปเรื่อย

“อ่า..ผมคงไม่กล้าออกความเห็นหรอกครับเพราะผมไม่ได้สันทัดเหมือนพ่อน่ะครับ พี่ๆคุยกันไปเลยครับ”

ผมตอบพลางส่งยิ้มให้และกันตัวเองออกมาเป็นคนนอกได้อย่างสมบูรณ์ และเพราะแบบนั้นมันทำให้ผมได้มองเห็นหลายๆอย่าง

พี่อัน แลดูจะนั่งใกล้ชิดจนแทบจะเกยตักพี่โอ๊ตอยู่แล้วทั้งๆที่โซฟาขนาดใหญ่ที่มีไว้รองรับแขกตัวนั้นมันยังเหลือพื้นที่อีกตั้งมากมาย  อ่า..ไม่ชอบเลยแฮะ



“งั้นสรุปว่าพรุ่งนี้น้องโอ๊ตไปดูสถานที่จริงกับพี่นะจะได้ทดลองขี่เจ้านี่ด้วย”พี่อัน

“ถ้างั้นอันก็ไปรับน้องโอ๊ตเลยจะได้ไปพร้อมกัน ไม่ติดปัญหาอะไรใช่ไหม”พี่เจต

“ครับพี่เจตผมโอเคครับว่าแต่จะไปกี่โมงครับผมจะได้แพลนถูก”พี่โอ๊ต


“อืม..สัก เจ็ดโมงเช้าเป็นไง ขับสบายๆน่าจะสามชั่วโมงก็ถึงแล้ว”พี่อันทำท่าทางคิดก่อนจะตอบออกมาและคำตอบพี่อันทำผมขมวดคิ้ว

“อ่า ผมขอถามได้ไหมครับ”

“ว่าไงครับน้องไม้”พี่เจตหันมาแทบจะทันทีที่ผมเอ่ยปาก

“คือว่า สามชั่วโมงที่ว่าเนี่ยไปไหนกันเหรอครับ”

“อ๋อ ต้องไปถ่ายทำที่สถานที่จริงน่ะครับ ต้องไปบุรีรัมย์”


คงต้องคุยกับพี่ยาวแล้วสิ จะปล่อยไปกับพี่อันได้อย่างไรก็ดูจากท่าทางแล้วพี่อันสนใจพี่โอ๊ตมากกว่าปกติ

 ถึงแม้จะรู้ว่าพี่โอ๊ตไม่ชอบผู้ชายก็เถอะ แต่พี่อันดูดีซะขนาดนั้นแถมคาริสม่ากระจายจนแสบตาแบบนี้ ฮือออ ผมควรทำไงดีครับ

ผมนั่งดื่มชาที่พี่ฟางเอามาให้ปั้นหน้ายิ้มอย่างที่ไม่เคยทำเพราะในใจมันว้าวุ่นจนมึนงงไปหมด


“น้องไม้สนใจไปร่วมชมได้นะครับ เราจะยกกองไปบุรีรัมย์ น่าจะปักหลักที่นั่นไม่เกินสามวัน ถ่ายซีนสั้นๆแต่ได้พระเอกเก่งๆแบบน้องโอ๊ตเนี่ยอาจจะจบงานเร็วนะพี่ว่า”


ผมเหลือบตาไปมองพี่โอ๊ตอย่างคาดโทษที่ไม่ได้บอกรายละเอียดงานนี้ให้ผมทราบเลย แต่จะว่าไปผมก็ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขาสักหน่อย

แล้วพี่เขาจะบอกหรือไม่บอกมันก็เป็นสิทธิ์ของพี่เขานี่นา

 
“เอ่อ ผมคงต้องดูก่อนครับถ้าไม่ติดอะไรก็อยากไปด้วยครับผมไม่เคยไปบุรีรัมย์เลย”

ผมว่าออกไปอย่างที่คิด ออกตัวไปก่อนไม่ตอบรับเร็วให้น่าเกลียดแต่ก็ไม่คิดจะปฏิเสธแน่นอน ใครจะปล่อยพี่โอ๊ตไปคนเดียวล่ะ

ดูพี่อันสินั่นมันหมาป่าหุ้มหนังแกะชัดๆ โอยยยผมจะเอาอะไรไปสู้พี่เขาล่ะครับ



พี่เจตยิ้มกว้างราวกับถูกใจกับคำตอบของผมหนักหนา กว่าจะคุยกันเสร็จก็เกินเวลาอาหารเย็น ท้องผมเริ่มประท้วงจนพี่เจตหันมามอง
จนผมต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้


“เอาล่ะๆงั้นตกลงตามนี้ พี่ว่าน้องๆคงหิวแล้วต้องขอโทษด้วยที่ลากยาวแบบนี้ พี่ขอเลี้ยงข้างน้องๆสักมื้อละกัน นะ”

“ไม่เป็นไรครับพี่เจตพอดีว่าผมต้องรีบกลับพอดีผมนัดกลุ่มเพื่อนทำงานกลุ่มไว้น่ะครับเอาไว้วันหน้าก็ได้ครับยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางไปทำงานร่วมกันอยู่แล้ว”

พี่โอ๊ตว่าด้วยท่าทางสบายๆ ซึ่งผมก็เห็นด้วย แม้ว่าผมจะเปิดใจรับคนอื่นๆเข้ามาในชีวิตแต่ผมก็ยังไม่ชินที่จะไปกินข้าวร่วมกับคนแปลกหน้าอยู่ดี พี่โอ๊ตเองก็คงเข้าใจผมในข้อนี้เพราะแบบนี้ไงผมถึงได้รักเขา




**





ผมมองคนที่ทำเป็นรื้อหาแผ่นเพลงตรงช่องเก็บแผ่นหน้ารถ ท่าทางหลุกหลิกเหมือนมีความผิดติดตัว จนผมทนไม่ไหวต้องคว้ามือพี่เอาไว้แล้วจ้องหน้ากดดัน หึหึ


“เอ่อ คือ แหะๆ ขอโทษครับ”เสียงอ่อยๆหน้าตาท่าทางหงอยๆของพี่โอ๊ตทำให้ผมแทบจะกลั้นขำไม่ได้แต่ต้องกลั้นเอาไว้

“ขอโทษเรื่องอะไรเหรอครับ”

“ก็..พี่ไม่ได้บอกเรื่องงาน...คือแบบทีแรกพี่ก็แค่คิดว่ามาคุยๆกันเฉยๆไม่คิดว่าจะเร็วแบบนี้ น้องไม้ว่างไปบุรีรัมย์กับพี่นะ นะๆ ”

ท่าทางของพี่โอ๊ตทำให้ผมนึกถึงเจ้ามาร์คกับมาลี เวลาอ้อนอยากกินขนม

“ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่แปลกใจเฉยไว่าพี่ไปรับงานพระเอก MV ของพี่อันตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ไม่ใช่พระเอกนะ พอดีเป็นถ่ายซ่อมฉากสำคัญ แล้วพี่กับพระเอกของพี่อันก็ตัวพอๆกัน จังหวะที่พระเอกของพี่อันเขาประสบอุบัติเหตุเลยให้พี่ถ่ายซ่อมฉากขี่มอเตอร์ไซค์แค่นั้นเองไม่ใช่พระเอกสักหน่อย”


ผมฟังพี่โอ๊ตบอกเล่ารายละเอียดของงานแล้วก็ต้องแปลกใจ ทำไมพี่เขาต้องอธิบายทุกอย่างให้ผมฟังกันนะ

ทำไมต้องกลัวผมโกรธที่ไม่ได้บอกเรื่องไปค้างต่างจังหวัด ผมคิดเข้าข้างตัวเองได้หรือเปล่านะ

“ไม่ได้โกรธครับแค่แปลกใจเฉยๆแล้วนี่ถ้าผมไปจะไม่เกะกะการทำงานกันหรือครับ เหมือนเป็นตัวแถมไปยุ่งยากเปล่าๆ”

“ไม่ยุ่งเลยพี่บอกพี่อันแล้วว่าไม้จะไปด้วย “

“มันจะไม่ดูแปลกๆใช่ไหมพี่ เพราะผมไม่มีส่วนร่วมกับงานจะดูน่าเกลียดไปไหม”

“ไม่เป็นไรหรอกเพราะเราไปพักของเราเองพี่อยากพาไม้ไปเที่ยวด้วยถ้าถ่ายทำเสร็จก็อยู่ต่อสักหน่อย วันอาทิตย์บ่ายๆค่อยกลับเลยบอกพี่เจตไปว่าพี่ไม่พักกับที่กองฯพี่เขาไม่มีปัญหาอะไร จริงๆถ่ายไม่น่าจะนานนะพี่เจตแค่เผื่อเวลาไว้กลัวฝนตกเท่านั้นเอง”

“งั้นผมจะได้บอกพ่อกับแม่ไปแค่ 2 วันใช่ไหมครับ”

“3วันสิครับพรุ่งนี้วันศุกร์ไม้ไม่มีเรียนนี่นา “

“มารู้ตารางเรียนผมตอนไหนเนี่ย”

“หนูบัว” โอเคเป็นอันตัดจบผมมีไส้ศึก




***




อินทัช


กลับจาก MPB ผมพาลูกรักเข้าไปจอดสนิทในโรงจอดรถของบ้านน้องไม่ด้วยความคุ้นเคย

ทุกครั้งที่มาผมจะรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้มีความคุ้นเคยทำให้ไม่รู้สึกเกร็งหรือประหม่าอะไร

แต่วันนี้ผมรู้สึกต่างออกไป เหงื่อชื้นที่ฝ่ามือข้างในความคิดตีกันวุ่นวาย ความกังวลที่ผมพยายามเก็บเอาไว้ดูเหมือนจะมาแสดงอาการตอนนี้

“พี่โอ๊ตไม่สบายหรือเปล่าครับ “

“อ่า..ไม่หรอกพี่แค่กังวลนิดหน่อยว่าจะทำงานออกมาได้ไม่ดี”แถไปสิครับ


“โห..พี่โอ๊ตทำได้อยู่แล้วพี่เก่ง”สองมือยื่นมาตรงหน้าผม พร้อมกับยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างมาให้ราวกับว่ามันเป็นยาชั้นดี

ผมลอบถอนหายใจเบาๆ ไม่ใช่อะไรวันนี้เป็นวันที่ผมตัดสินใจที่จะบอกพ่อของน้อง


 //ถ้าสักวัน ความรู้สึกของโอ๊ตเปลี่ยนไป หรือโอ๊ตเข้าใจความรู้สึกของโอ๊ตเองแล้ว มาบอกพ่อหน่อยนะ//



คำของพ่อทิวไผ่ดังขึ้นในความทรงจำ แม้ว่าตอนนั้นผมจะไม่มีคำตอบให้แต่ตอนนี้ผมมีแล้ว และมันใจว่า พ่อไผ่กับแม่นุ่นจะเข้าใจผม...


หรือเปล่านะ แหะๆ ผมทำใจกล้าฮึบๆเข้าไว้ ก่อนจะเดินตามหลังน้องเข้าบ้านไป เหมือนเคย


“อ้าวทำไมวันนี้ว่าเหรอพี่โอ๊ตถึงมากับน้องได้ พอดีเลยแม่ทำของโปรดพี่โอ๊ตพอดี เย็นนี้กินข้าวด้วยกันก่อนนะคะ “

เสียงแม่นุ่นเอ่ยด้วยความอารี ผมยกมือไหว้พร้อมรับคำเพราะอาหารฝีมือแม่นุ่นอร่อยสุดๆ


“แล้วพ่อล่ะครับ”เสียงน้องไม้เอ่ยถามทั้งยังหยิบผลไม้ที่แม่นุ่นกำลังปอกใส่จาน


“อ้อ อยู่หลังบ้านจ้ะ คงกำลังอาบน้ำให้มาลีกับมาร์ค  ไปล้างมือก่อนเจ้าลูกคนนี้ “


“งั้นผมไปช่วยพ่อไผ่ดีกว่า น้องไม้ไปอาบน้ำก่อนเลย”

“ครับๆ ดุกันจริงๆคนบ้านนี้”


ผมอดที่จะยิ้มกว้างไม่ได้ก็คำว่า  “คนบ้านนี้” มันฟังดูเหมือนผมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวน้องไปแล้ว

 ผมเดิน เลี่ยงออกมาทางหลังบ้านเหมือนสวรรค์จะเปิดโอกาสให้ผมได้คุยกับพ่อไผ่ตามลำพัง เพราะดูเหมือนว่าพ่อไผ่จะอาบน้ำเจ้าตัวส้มสองตัวเสร็จแล้ว


“หวัดดีครับพ่อ”

“อ้าว ว่าไง ว่างกันหรือถึงมาได้”

“ก็...คือ....ผมมีเรื่องจะคุยกับพ่อน่ะครับ”

“หืม ?”


“อ่า...เรื่องที่พ่อไผ่เคยถามผมเรื่องความรู้สึกที่มีต่อน้องน่ะครับ”

“อ้อ ...งั้นไปนั่งตรงโน้นดีกว่าท่าทางจะคุยกันยาว หึหึ”


ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองไหม เสียงพ่อไผ่ฟังดูแปลกๆจนผมอดที่จะขนลุกไม่ได้ ก่อนจะเดินตามหลังเจ้าของบ้านไปที่ศาลาพักร้อนที่จัดไว้มุมสวน

“เอาล่ะ ทีนี้ ก็ว่ามาได้เลย”

ผมนั่งเอามือถูๆกันไปมาอย่างประหม่า ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนความกล้าที่มีมาก่อนหน้านั้นไม่รู้ว่ามันวิ่งหายไปไหนแล้ว


“คือว่า ในตอนนั้นที่พ่อไผ่ถามน่ะครับ ผม...ผมรักน้องครับ”

เชิดหน้ายืดอกยอมรับด้วยความหนักแน่นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมพร้อมจะยอมรับ

“....”

“....”


ลมที่พัดเอื่อยๆเมื่อสักครู่หยุดนิ่งราวกับมีใครไปปิดพัดลมเครื่องใหญ่  เสียงรถที่วิ่งผ่านไปมาเงียบเชียบราวกับไม่มีเครื่องยนต์

 ทุกสิ่งหยุดอยู่กับที่  มันเงียบจนผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นตึกตัก  หากมีอีกาบินผ่านหน้าไปแล้วส่งเสียง กา กา ผมว่าคงได้ฟิลพิลึก


“คิดดีแล้ว ?” คำถามเรียบๆของพ่อไผ่ทำให้ผมต้องลอบสูดลมหายใจเข้าลึกๆ


“ครับ ผมคิดดีแล้ว ทบทวนดีแล้ว ผมรู้แล้วว่าผมทำไมถึงเป็นห่วงน้องนักหนา ผมรู้แล้วว่าเวลาที่เห็นน้องร้องไห้ ที่มันเจ็บปวดไปกับน้องเพราะผมรู้สึกอะไรอยู่ หลายๆอย่างหลายๆเหตุการณ์ ผมว่าผมเข้าใจแล้ว ว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อน้องไม่ใช่แค่ อยากมีน้องชายอย่างที่ผมเคยคิด ..ผมอยากมีคนรัก อยากมีคู่ชีวิตที่ชื่อ วนันต์ ครับ“




ผมร่ายยาวไม่เว้นวรรค ด้วยเกรงว่าพ่อไผ่จะไม่เข้าใจในความรู้สึกของผมเป็นครั้งแรกที่ทำอะไรแบบนี้มันตื่นเต้นมันกดดัน


“.... ..”

“......”


ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง  กา ตัวนั้นไม่บินผ่านมาอีกเหรอวะ  ผมนั่งบีบมืออยู่ต่อหน้าพ่อไผ่ ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี

มือไม้มันเกะกะไม่มีที่จะวางต้องบีบๆถูๆกันไปมา แต่สายตาผมจ้องมองตรงไปยังร่างของผู้ให้กำเนิดน้องไม้ ด้วยความจริงใจ


“โอ๊ตก็รู้ว่าน้องเจอกับอะไรมา”


“รู้ครับ..แค่พ่อไผ่ไม่ว่าอะไร ผมจะรักน้องด้วยหัวใจทั้งหมดที่ผมมี”ผมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทั้งในความรู้สึกและการกระทำ

“เอาตามตรง พ่อไม่ได้จะขัดขวางหรืออะไร พ่อไม่ได้มีปัญหาหากโอ๊ตจะรักลูกชายของพ่อ  แต่พ่อก็ไม่อยากให้ลูกของพ่อเสียใจ โอ๊ตเข้าใจใช่ไหม และอีกอย่างถ้าลูกชายของพ่อไม่ได้รักโอ๊ตแบบที่โอ๊ตต้องการล่ะโอ๊ตจะยังรักน้องอยู่หรือเปล่า”


“ผมเข้าใจครับ..ไม่ว่าน้องจะคิดกับผมแบบไหนผมจะไม่บังคับน้องผมไม่อยากให้น้องเสียใจ”


“แต่หากโอ๊ตยังยืนยันว่าความรู้สึกของโอ๊ตเป็นของจริง ถ้าพ่อจะขออะไรสักอย่างโอ๊ตทำให้ได้หรือเปล่าล่ะ “

“ได้ครับ แค่อย่าให้ผมเลิกคบกับน้องก็พอครับ”

“พ่อไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น แต่พ่อก็อยากจะให้โอ๊ตทดสอบตัวเองดูสักหน่อย”

“ทดสอบ ?... ยังไงเหรอครับ ?”

“งดมารับน้อง ...เจอกันได้ปรกติที่มหาวิทยาลัย พากันไปเที่ยวไปไหนได้ปรกติแต่ห้ามพากันไปค้างอ้างแรมที่อื่น ทำได้หรือเปล่าล่ะบางทีอาจจะเพราะความใกล้ชิดและความเคยชิน ลองห่างดูสักหน่อย จะได้เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริง เอาเป็นว่ากลุ่มของไม้จะไปเยี่ยมชลวันศักร์นี้ โอ๊ตไม่ไปด้วยได้ไหมล่ะ”



“อ่า...”ผมนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ดูเหมือนว่าโปรแกรมพาน้องไปบุรีรัมย์จะมีอุปสรรคซะแล้ว


“พ่อไม่ได้จะดูถูกความรักของโอ๊ต พ่อแค่อยากแน่ใจว่านั่นคือความรู้สึกจริงๆของโอ๊ตไม่ใช่แค่ความใกล้ชิดและความเคยชิน โอ๊ตเข้าใจพ่อหรือเปล่า”


“เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับพ่อ”

ผมยกมือไหว้ขอบคุณพลางคิดว่าจะบอกน้องยังไงดีเรื่องที่จะไปบุรีรัมย์ด้วยกัน แต่การไปบ้านของชลก็สำคัญมากๆ คงไม่มีปัญหาเรื่องการหลีกเลี่ยง



“.ถึงแม้โอ๊ตจะบอกว่าโอ๊ตรักน้องแต่พ่อยังไม่แน่ใจนะว่าน้องคิดยังไงกับโอ๊ต  พ่อกลัวน้องจะเสียใจหากคราวนี้น้องเกิดไม่ได้คิดอะไรกับโอ๊ตขึ้นมา จะไม่แย่ทั้งสองฝ่ายหรือ”



ผมคิดตามที่พ่อไผ่พูด มันก็จริงนะครับ น้องมีความหลังฝังใจกับเรื่องนี้ แต่ผมก็ยังจะดันทุรัง แต่ว่า ผมรักน้องด้วยความบริสุทธ์ใจ

ผมเชื่อว่าน้องจะเข้าใจ เพราะฉะนั้นผมจะไม่รีบเรื่องนี้ แต่ถึงยังไง ผมก็ดีใจที่ได้บอกพ่อไผ่แล้ว


“พ่อ พี่โอ๊ต มากินข้าวได้แล้วครับ คุยอะไรกันท่าทางเคร่งเครียด”เสียงของน้องไม้ปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์

“ไง เจ้าลูกหมู ช่วงนี้ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเลยนะเราน่ะเพื่อนๆมาหาแน่ะไม่เจอไม้เลยฝากเรื่องไว้กับพ่อ“

“พ่อครับ ปีหนึ่งก็แบบนี้กิจกรรมเยอะ เนอะพี่โอ๊ตเนอะ ”

“แหะๆ ครับๆ”


“ว่าแต่เพื่อน ? พวกบูเหรอครับมีอะไรกันหรือเปล่า”


“เดี๋ยวค่อยคุยกัน ไปๆ แม่รอละ วันนี้มีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย” พ่อไผ่ยื่นมือไปลูบหัวลูกชายสุดที่รักเบาๆก่อนจะเดินนำเข้าบ้านไป


“หึหึ เพราะแบบนี้ไง พ่อถึงเรียกลูกหมู คนเห็นแก่กิน”ผมอดที่จะกระเซ้าไม่ได้ก็นะ ท่าทางที่แสดงออกทั้งสีหน้าแววตา มันดูน่ารักไปหมด

 แม้เจ้าตัวจะไม่ได้ตัวเล็กน่ารักอย่างผู้หญิงมองมุมไหนก็ดูมาดแมนสมชาย ยกเว้นใบหน้าน่ะนะ ฮ่าๆๆๆๆ


“ว่าผมเหรอ  งั้น ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ผมไม่แบ่งนะ หึหึ”


“โหยยย ใจร้ายว่ะ วันนี้พี่ขับรถทั้งวันเลยนะ แถมเป็นเด็กเสิร์ฟ จนหมดแรงอีกต่างหาก จะใจร้ายกับพี่จริงๆเหรอ คนหล่อใจร้ายมาก”

ผมเอ่ยชมเนียนๆพลางส่งสายตาออดอ้อนไปให้อย่างไม่เกรงใจ  ที่กล้าทำไม่ใช่อะไร พ่อไผ่เดินเข้าครัวไปหาแม่นุ่นแล้วหึหึ ทางสะดวก

ให้มันรู้ไปว่าเนียนๆหยอดไปเรื่อยๆแบบนี้น้องจะไม่หวั่นไหวเลย หึหึ



แต่ว่านะ พรุ่งนี้ต้องไปคนเดียวเหรอเนี่ยยยยยย เศร้าชิปหายเลย เฮ้ออออ หรือจะเอาไอ้ปีย์ไปด้วยดีนะ ผมห่างน้องไม้ มันก็ต้องห่างน้องบัวเหมือนกันวะ หึหึ




***



“กูไม่ไป “หน้าตาบึ้งตึง เสียงแข็งชิปหาย

“ปีย์ มึงเพื่อนกูนะ ขอร้อง พลีสสสสส”

“ไอ้ห่าโอ๊ตกูว่าจะชวนน้องบัว ไปอัมพวา ไอ้เหี้ย มึงรู้ไหม ทั้งอาทิตย์กูแทบจะเป็นกระสอบทรายให้ลุงพี ฮือออไอ้เพื่อนชั่ว มึงไม่เห็นใจกู”

“ไม่ได้ ๆ กูกลับมาแล้วมึงค่อยไป นะปีย์นะ มึงยังไม่ได้นัดน้องบัวสักหน่อย อีกอย่างน้องเขานัดกันไปบ้านน้องชลนะ มึงก็ไม่ได้ไปตอนนี้หรอกน่าเชื่อกูดิ  เนี่ยกูบอกน้องไม้ว่า มีงานต่อกับมึงอีกที เพื่อที่น้องจะได้สบายใจด้วยไง นะมึงนะ “



 ตามนั้นเลยครับพ่อไผ่โยนระเบิดไว้ให้ผมซึ่งผมจำเป็นต้องโกหกน้องว่ามีธุระต่อกับไอ้ปีย์  เพื่อความสบายใจของน้องด้วย

เพราะน้องรับปากว่าจะไปกับผมแต่ต้องเปลี่ยนใจไปกับเพื่อน ผมกลัวว่าน้องจะคิดมาก

“สัส!!”

แม้จะบ่นแม้จะด่าแต่ว่าเพื่อนผมก็ปฏิเสธไม่ได้ หึหึ อีกอย่างแม้ว่าพ่อไผ่จะทิ้งบอมไว้

แต่ได้จังหวะบูรพากับนำทีมเพื่อนๆน้องชวนกันไปเยี่ยมน้องชลเพราะครบรอบวันที่น้องเสียด้วยพอดี  ผมเลยไม่ต้องหาข้อแก้ตัวอะไรมาก

เลยบอกไปว่าจะชวนปีย์ไปแทนจะได้ไม่ขับรถคนเดียว  น้องจะได้หายห่วงด้วย


ติดอยู่แค่ไอ้เพื่อนผมเนี่ยดันติดแฟน  แต่ไม่ว่ายังไงแฟนมันกับว่าที่แฟนผมก็เพื่อนก๊วนเดียวกัน ไม่แคล้วก็ไปด้วยกันอยู่ดี

แต่ว่านะทริปนี้เหงาอีกแล้วสินะ เรื่องวางแผนพาน้องเที่ยวล่มซะไม่เหลือดี โอยยยยย...สุดท้ายไอ้ปีย์ก็โดนเท ฮ่าๆๆๆ 

ผมมองหน้าเพื่อนที่ดูจะบูดเต็มที่ แต่ก็จำใจแบกกระเป่ามาขึ้นรถผม  แต่มันก็นะ...ห่อเหี่ยวจริงๆ เฮ้อออ


“ถอนหายใจเสร็จ ก็ตั้งใจขับรถเลยเพื่อนกูจะนอนถึงแล้วปลุกด้วย”


ว่าเสร็จเพื่อนรักก็เอนเบาะเอนตัวหลับตาลง ผมหันไปเบ้ปากใส่มันด้วยความหมั่นไส้ นี่ถ้าเปลี่ยนไอ้เพื่อนตัวควายๆนี้เป็นน้องไม้

ผมคงจะมีกำลังใจขับรถมากกว่านี้ เฮอะะ///เหยียบสัก140 จะโดนจับไหมวะอยากถึงเร็วๆจะได้ทำงานเสร็จเร็วๆ รีบกลับมาหาน้องเร็วๆ







TBC …จ้าพ่อ ทุกอย่างเร็วๆเนอะ 5555555


จะพยายามมาต่อเรื่อยๆนะค๊ะ ช่วงนี้ขอเป็นรายสัปดาห์ก่อนนะ เจอกันอีกที วันพฤหัสฯหน้าเลยค่าาาาาาาา :mew1: :mew1:

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 18 ด่านทดสอบ 12/02/63
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 12-02-2020 19:10:03
ใหวใหมพี่โอ๊ต 55555

น้องไม้ขี้หึงเน๊อะ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 18 ด่านทดสอบ 12/02/63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-02-2020 22:10:48
 :pig4: :pig4: :pig4:

โถๆๆๆๆๆๆ น่าสงสารพี่โอ๊ต   แผนล่มไม่เป็นท่าเลย
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 18 ด่านทดสอบ 12/02/63
เริ่มหัวข้อโดย: Oooy ที่ 13-02-2020 00:05:01
 :mew5:ี :katai5:เอาน่าพี่โอ๊ตพ่อไผ่ต้องการพิสูจน์ว่ารักกันจริงไหมอดทนหน่อยก็แล้วกันสงสารปีย์โดนหางเลขไปด้วย555
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 18 ด่านทดสอบ 12/02/63
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิมะลิ ที่ 13-02-2020 19:06:41
อดทนไว้พี่โอ๊ต
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 18 ด่านทดสอบ 12/02/63
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 20-02-2020 20:32:53
แวะมาแจ้งข่าวว่าเน็ตหนูล่มตั้งกะเมื่อวาน ช่างกำลังติดตั้งสายใหม่คาดการว่าจะใช้ได้ไม่เกินวันเสาร์นี้ค่า
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 19 .. ปั่น 23/02/63
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 23-02-2020 13:18:15




แผนที่ 19 ..  ปั่น




วนันต์






UN Teeranai  ได้เพิ่มรูปภาพใหม่

พระเอกของผม

แนบรูป

5.8K Like   267  Share



ผมเพ่งมองภาพที่พี่อันพึ่งโพส ลงเฟสบุ้ค และเพื่อนตัวดีก็แชร์มันมาให้ผม ร่างสูงใหญ่ใส่ชุดสีดำสนิททั้งตัวนั่งคล่อมบนรถ Ducati สีแดงคันใหญ่

ด้านหลังซ้อนทับด้วยร่างโปร่งบางของพี่อันสองแขนกอดรัดรอบเอวหนาของพี่โอ็ตท่าทางราวกับคู่รัก ที่..


อ่า....ทำไมใจมันหวิวๆแบบนี้นะ ผมลองใช้ฝ่ามือทาบบริเวณหน้าอกข้างซ้ายที่มันยังเต้นตึกตักปรกติ

แต่ความรู้สึกกลับบีบรัดเหมือนจะหายใจไม่ออกมันคืออะไรใช่ว่าจะไม่รู้ ผมกลัวว่าถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง ผมคงต้องเสียใจซ้ำสองอีกเป็นแน่




“พ่อครับ “ผมวิ่งตึงตังลงมาจากห้อง ตรงดิ่งเข้าไปที่ห้องทำงานของพ่ออย่างไม่ลังเล แม้ว่าวันนี้จะเหนื่อยจากการเดินทางแค่ไหน แต่ผมก็ไม่มีวันเอามันมาเป็นข้ออ้างในการนอนโดยไม่รับรู้อะไรได้อีก 


“ว่าไงเจ้าลูกหมู พึ่งจะกลับมาถึงไม่พักก่อนล่ะหืม”

“พ่อ ไม้มีเรื่องจะปรึกษา”

“เอ..ดูจากสีหน้าแล้วท่าทางจะเรื่องเครียดๆใช่ไหมล่ะเนี่ย”

“ก็ ..ไม้ควรทำยังไงดีครับ มันแบบว่า..”

“เอ้าๆ สูดหายใจเข้าลึกๆก่อน แล้วนั่งลงใจเย็นๆพร้อมแล้วค่อยพูด หึหึ”


พ่อหัวเราะท่าทางลนลานของผมที่แทบจะตั้งสติไม่อยู่ ก็ไม่ใช่อะไร ผมน่ะคิดทบทวนหลายๆอย่างแล้วคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว

 ผมไม่อาจจะปล่อยพี่โอ๊ตไปได้เลยจริงๆ




“พ่อจะว่าอะไรไหมครับถ้าไม้จะรักผู้ชาย”


“....”


“อันที่จริงไม้ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่รู้สึกแบบนี้ แต่ว่าไม้คิดว่านี่เป็นความต้องการจากหัวใจจริงๆครับ ไม้..รักพี่โอ๊ต”


“....”



“พ่ออย่านิ่งสิครับ ไม้ใจไม่ดี”

ผมก้มหน้ามองมือตัวเองที่ถูกันไปมาเบาๆบนตักด้วยความประหม่า เป็นครั้งแรกที่มาปรึกษาพ่อด้วยเรื่องหัวใจแบบนี้

 ไม่เคยเลยสักครั้งแม้ว่าคราวของหนูบัวผมจะมั่นใจตั้งมั่นแค่ไหน แต่ผมไม่เคยคิดที่จะปรึกษาพ่อกับแม่เลยสักครั้ง


“อันที่จริงพ่ออยากจะบอกให้ลูกไม่ต้องรีบร้อยค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่ดูทรงแล้วลูกพ่อร้อนใจอะไรอยู่ฮึ เจ้าลูกหมู”


ผมยื่นเปิดหน้าเฟสบุ้คที่เจ้าหนูบัวตัวแสบส่งมาให้พ่อดู  สีหน้าพ่อไม่ค่อยดีเท่าไหร่เมื่อมองดูรูปที่ผมได้รับมา


“คิดดีแล้วใช่ไหมลูก ทบทวนแล้วใช่หรือเปล่าพ่อไม่อยากเห็นลูกเสียใจอีกนะ “พ่อยื่นโทรศัพท์คืนพลางยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆ

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลและห่วงใยผมของพ่อทำให้ผมขบริมฝีปากแน่น


“ไม้ไม่รู้ครับว่ามันจะดีไหม พี่โอ๊ตจะคิดยังไง แรกๆก็มีลังเลบ้างครับ แต่ทว่าพอไม้มองภาพนี้ไม้บอกตัวเองได้ทันทีว่าไม้ไม่อยากให้พี่โอ๊ตเป็นแฟนคนอื่น”


“แล้วถ้าหากพี่โอ๊ตไม่ได้ชอบลูกชายของพ่อแบบนั้นล่ะ ถ้าหากพี่โอ๊ตเขาแค่เอ็นดูเห็นเป็นน้องชายล่ะ ลูกหมูของพ่อจะเสียใจหรือเปล่า”

“ผม.....ผมจะจีบพี่โอ๊ตครับพ่อ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นแบบไหนผมจะจีบพี่ให้ติด”ผมยืนยันหนักแน่นไม่ว่าจะยังไงพี่มันจะชอบผมหรือไม่ แต่ผมจะจีบ

“เฮ้อ...วัยรุ่นก็แบบนี้ เอาเป็นว่าอะไรที่เป็นความสุขของไม้ พ่อกับแม่ไม่เคยขัด พยายามเข้านะลูกชาย”



“ครับพ่อขอบคุณครับ”ผมตอบรับพ่อพร้อมรอยยิ้มกว้างจนปิดไม่มิด   รอผมก่อนนะพี่ผมจะไม่ยอมให้พี่ไปเป็นของคนอื่นแน่ๆ







ทิวไผ่





เฮ้อออ ห้ามคนอื่นได้แต่จะห้ามลูกตัวเองยังไงล่ะทีนี้  คงต้องกดดันเจ้าโอ๊ตแทนล่ะมั้งนะ สู้ๆนะไอ้ลูกชาย หึหึ








*****





“พรุ่งนี้ พี่โอ๊ตก็กลับมาแล้ว จะไม่ว่างเลยเหรอครับ “

// พี่กลับวันพรุ่งนี้บ่ายครับ แต่ตอนเย็นพี่ต้องพาอิงไปธุระแทนพี่อาร์ต เอาไว้วันหลังได้ไหมน้องไม้ //

“ก็ได้ครับ”ผมรับคำเสียงอ่อย  ผมรึอุตส่าห์ดีใจที่วันพรุ่งนี้พี่มันจะกลับจากบุรีรัมย์แล้วว่าจะชวนไปกินเนื้อย่างสักหน่อยเฮ้อออ

//ขอโทษนะครับ”เสียงขอโทษแผ่วๆมาตามสายคล้ายกับรู้สึกผิดทำให้ผมต้องลนลานแก้ตัว

“ไม่ๆไม่เป็นไรเลยพี่  ผมแค่ว่างอ่ะหนูบัวติดงานที่ร้าน เลยคิดว่าถ้าพี่กลับมาจะชวนไปกินเนื้อย่างกันแค่นั้นเองไม่มีอะไรสำคัญหรอกครับ”

//จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก เรื่องของไม้สำคัญสำหรับพี่เสมอ เพียงแต่ครั้งนี้พี่รับปากพี่อาร์ตไว้แล้ว ต้องขอโทษด้วยครับ//

“ว่างๆค่อยไปก็ได้ครับ ไม่กวนพี่ละ รีบๆทำงานรีบๆกลับเลยครับ ยัยแสบรอพี่ปีย์หน้าหงิกหมดแล้ว“

เอาเพื่อนมาอ้างก่อนละกัน เอ..หรือผมจะปรึกษากูรูอย่างหนูบัวดีนะ


//ครับ ไว้เจอกันนะ // พอพี่ตัดสายผมก็นึกขึ้นได้ว่าที่ปรึกษาชั้นดีของผมอยู่ที่ร้านกาแฟ



“แม่ครับไม้ไปช่วยบัวที่ร้านกาแฟนะครับ”แค่นึกได้ผมก็รีบร้อนไปหาเพื่อนสนิท เพราะเป็นความหวังเดียวของผม

ไม่นึกเลยว่าไอ้คำว่าเลือดวายข้นๆที่ผมเคยเหน็บแนมเพื่อนจะมีประโยชน์กับผมตอนนี้


“ให้พ่อไปส่งสิเจ้าลูกหมู แม่จะได้ฝากขนมไปให้มัมของหนูบัวด้วย”

“ครับแม่”


“อย่าแอบกินก่อนล่ะ”


“พ่อครับ ไม้ไม่ใช่ไอ้ตัวแสบบัวสักหน่อยจะได้แอบกินของฝากน่ะ “


กว่าจะออกจากบ้านได้ก็เลยเวลาเที่ยงมาแล้ว เป็นวันหยุดที่ผ่านไปเร็วมาก พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์

ตามกำหนดเดิมพี่โอ๊ตบอกว่าจะกลับวันอาทิตย์บ่ายๆ อยากเจอแล้วสิ เฮ้อออ เป็นเอามากเลยผม



“ถอนหายใจอะไรกันหืมเจ้าลูกหมู พ่อว่านะปล่อยให้อะไรๆมันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น อย่าเร่งร้อนเกินไปอย่าลนจนลืมความเป็นจริงไปนะเจ้าลูกชาย”


“ครับพ่อ “ผมเข้าใจดีว่าพ่อรู้สึกอย่างไร แค่รับเรื่องที่ผมรักกับเพศเดียวกันได้ผมก็คิดว่าเป็นที่โชคดีที่สุดของผมแล้ว

พ่อขับรถไม่นานเราสองคนก็มาถึงร้านกาแฟของมัมวาด จะว่าไปช่วงนี้พ่อเองก็ยุ่งๆไม่ค่อยจะได้เจอกับมัมวาดและคุณป๊าเดย์สักเท่าไหร่



“บัวววววววววว”

“เสียงหลงมาเชียวนะยะ “

“โอ๊ยยยยยยรักเพื่อนมากเลย ฮ่าๆๆๆ “


ผมตรงเข้าไปกอดเจ้าตัวแสบด้วยความดีใจไม่รู้จะดีใจอะไรก่อนระหว่างที่เจ้าหนูบัวจะเป็นผู้ช่วยหมายเลขหนึ่งของผมหรือดีใจที่หนูบัวเองก็แห้วไม่ได้ไปเที่ยวกับพี่ปีย์เหมือนผม ฮ่าๆๆๆ



“อย่ามาๆ ว่าแต่หน้าระรื่นแบบนี้ มีอัลไลกัลน๊าาาา”ภาษาวิบัติก็มาครับ ผมลากแขนเพื่อนสุดสวยให้เดินไปที่มุมกาแฟที่เป็นโซนแยกส่วนตัว ปล่อยให้พ่อกับมัมวาดนั่งคุยกันไป



“พ่อครับพ่อกลับก่อนได้นะ เดี๋ยวไม้กลับพร้อมเจ้าแสบบัวเอง”


“ไล่พ่อเหรอเจ้าลูกคนนี้  หึหึ  เอาเถอะ ยังไงเย็นนี้คงต้องคุยกันอีกรอบนะครับคุณลูก”


“ครับผม..ไปกันบัว ไม้มีอะไรจะเล่าให้ฟัง”


“จ้า จ้า “




*****






หลังจากที่ผมเล่าความรู้สึกของผมให้หนูบัวฟังจบ.....ผมล่ะอยากถ่ายรูปของหนูบัวตอนนี้ให้ทุกคนได้เห็น หน้าตาที่เคยสวยดูดีตลอดเวลานั้น

มาตอนนี้ดูเอาเถอะครับ ปากที่อ้ากว้างจนจะเห็นฟันครบทุกซี่ตาที่โตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้นไปอีกสิบเท่า  ฮ่าๆๆๆเพื่อนผมกำลังช็อค


“อะ..อะ...อะ..อะไรน๊าาาาาาาาา”


“แหะๆ เบาๆสิบัว ไม้ก็เขินเป็นนะ “


“อร๊ายยยยยยยยยยย ในที่สุด ในที่สุด ฮือออออ เรื่อสำราญของช้านนนนนนน ไม่ต้องพายแล้วววว”


“เดี๋ยวๆสติเพื่อน...สติครับ”กลับมาก่อนเพื่อนอย่าพึ่งออกทะเล ผมได้แต่ทำหน้าแห้งเมื่อเห็นอาการเพื่อนของตัวเอง

 เฮ้ออออ จะไหวไหมหนอผู้ช่วยเบอร์หนึ่งของผม


“อันดับแรก บัวจะบอกตามประสบการณ์นะ บัวว่าพี่โอ๊ตน่ะ มีใจให้ไม้ชัวร์เลย ต้องหาแนวร่วมต้องหาแนวร่วม“ไปมีประสบการณ์ตอนไหนเพื่อนผม


“อ่า บัว คือว่า เรื่องนี้รู้แค่เราสองคนได้ไหม เรากลัวว่าถ้าพี่โอ๊ตรู้จะหนีเราไปก่อ่นน่ะสิ “


“ได้เลยเพื่อนได้เลย เชื่อมือเราได้เลย ฮิฮิ “อยากจะอัดคลิปเอาไว้ให้บัวดูหน้าตัวเองตอนนี้จังเลยเหมือนคนโรคจิตคิดอกุศลอะไรอยู่ แบบนั้นเลยล่ะ


“แล้ว เราต้องทำยังไงดีล่ะ เนี่ยดูรูปสิพี่อันอาจจะชอบพี่โอ๊ต แล้วๆดูพี่อันตัวบอบบางน่ารักมากเลย.พี่โอ๊ตอาจจะชอบคนตัวเล็กๆบางๆแบบนั้น...อ่า...บัว..ทำไงให้กล้ามเราหายไปอ่ะ เราตัวใหญ่พี่ไม่ชอบเน่ๆเลย“


“โอยยย พ่อเอ๊ยไม่ต้องเลยๆเคะราชินีแบบนี้แหละสวยสุดแล้ว มาดแมนแต่เคะหน้าสวย ฮื้ออออ เราฟิน”


“เคะ ? ราชินี ? เราไม่เข้าใจ”


“เอาน่า ๆ เอาเป็นว่า ไม้สวยอยู่แล้วเรื่องนี้การันตีโดยใบหน้าเลยค่ะเพื่อนรัก แต่เรื่องหุ่นน่ะ เราว่าแบบนี้ก็เท่ดีออก ถึงยังไง พี่โอ๊ตก็ตัวใหญ่กว่าไม้อยู่แล้วนี่นา บัวว่า เป็นตัวของไม้เองนั่นแหละดีที่สุดแล้ว”



“แต่พี่เขาไม่ชอบผู้ชายไงบัว ถ้าผู้ชายตัวเล็กๆน่ารักๆแบบพี่โอม หรือน่ารักๆแบบพี่อัน แบบนั้นพี่อาจจะชอบได้ แต่ตัวสูงแบบเรามีกล้ามด้วย ฮื่อออออ ไม่ชอบกล้ามตอนนี้ได้ไหม”


อยากจะงอแงอยากจะเอาแต่ใจเฮ้อออ ตอนนี้อะไรๆมันดูขัดใจผมไปซะหมดเลยความสูงที่แต่ก่อนผมนึกน้อยใจว่าทำไมสูงน้อยจัง

ตอนนี้ผมอยากจะเตี้ยลงกว่านี้อีกสักหน่อย ตัวเท่าพี่อันก็ยังดี เฮ้ออออ


บอกตามตรงผมไม่เคยเสียอาการอย่างนี้มาก่อนเลย ถึงขั้นอยากตัวเล็กๆน่ารักทั้งๆที่ไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อน

อยากเป็นอะไรก้ได้ที่พี่เขาจะชอบ เฮ้ออออ




“เอ้าๆ ถอนเข้าไป ถอนหายใจเฮือกๆมันก็ไม่ช่วยอะไรนะเพื่อน เอางี้ เราต้องแสดงความเป็นเจ้าของแบบเนียนๆไง”

“ทำไงล่ะ ช่วงสองสามวันนี้พี่เป็นไรไม่รู้โทรหาก็ไม่ค่อยรับสาย ชวนไปไหนก็ไม่ว่าง หรือว่าพี่เขาจะชอบพี่อันจริงๆอะบัว ”


ผมเริ่มอยู่ไม่นิ่งมันร้อนรนในใจ มันเป็นอย่างนี้เองหรอกหรือเวลาที่เรารักใครสักคนแล้วเรากลัวว่าเขาจะไม่รักตอบ

มันช่างแตกต่างตอนนั้นที่ผมมีความมั่นใจมากๆ แม้จะเสียใจที่เพื่อนไม่รับรัก แต่ผมกลับไม่รู้สึกกระวนกระวายเหมือนตอนนี้


“เชื่อมือเราไหม”

“ถ้าไม่เชื่อคงจะมาหาหรอกนะ “

“ดีมากเพื่อนกลับบ้านไปนอนรอได้เลย เดี๋ยวบัวจัดการเอง”

“มันจะดีแน่เหรอ  บอกได้ไหมว่าบัวจะทำดอะไร”

“เอาน่า   บอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ “







พลอยจันทร์



 
บัวมองตาหลังเพื่อนรักที่ตัวติดกันมาตั้งแต่เด็กไปจนลับสายตาด้วยความรู้สึกที่ว่า  วันนี้เป็นวันที่บัวมีความสุขที่สุดเล้ยยย

ในชีวิตของสาววายเลือดข้นแต่ชิปใครจิ้นใครเรือแตกทุกราย ฮืออออ อย่าว่าน้องง น้องแค่ชอบแบบนี้ อุแงงงงงง


ก่อนจะออกทะเล บัวว่าบัวจะมาชี้แจงแถลงไขก่อนว่าจะเอายังไงกับเพื่อนรัก ต้องวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนอะเนอะ

คุณๆเคยกันไหมคะ ที่แบบว่า เราแอบตั้งสถานะเพื่อนเป็นลูกสาวไว้ในใจ แอบกรี๊ดๆโมเม้นที่มีผู้มายืนข้างๆแล้วเพื่อนก็เคะมากแม่ๆๆๆ ฮื่ออออ

 
แต่แบบมันพูดไม่ได้ไง มันอึดอัดมันอัดอั้น มันอกจะระเบิด ได้แต่เก็บเงียบๆไว้กรี๊ดอัดหมอนคนเดียว 

แต่อยู่ๆ ลูกสาวมโนของบัวก็มาบอกว่าชอบผู้ชาย อร๊ายยยย แล้วเป็นผู้ชายที่บัวเองก็ปักธงไว้ด้วยมันยิ่งกว่าเรือหางยาวแล้วแม่

เรือรบหนูกำลังจะแล่น แงงงงงงง  ตายๆๆ อะไรจะฟินแลนด์แดนฝันขนาดนี้

พอๆขอวางแผนก่อนจะเลยเถิด แผนแรก มันต้องใส่ไฟก่อนเนอะ  หึหึ ไม่คิดว่าภาพที่แอบถ่ายไว้จะได้ใช้ก็วันนี้ 






XS Cute Boy ได้โพสต์เมื่อสักครู่


แอดเจอเรือลำใหม่ ใครจะลงลำนี้แอดกระซิบบอกเลยว่า  แซ่บลืม!!! # เพชรไม้



แนบรูป

1025ไลค์ 286 แชร์


@แหนมมัด**กินเด็กมันกรุปกริบ

@pornข้อสุดท้าย**ขอวาร์ปน้องคนนั้นที ฮื่ออออหล่อววว

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร**น้องคนนี้เรารู้จักเด็กม.ปลายคนน้านนน

@ผู้ชายได้กันมันคือฝันของกู**เอ๋ ม.ปลายเองเหรอเนี่ย ดูท่าแล้วแซ่บลืมจริงค่ะ //ปาดน้ำลาย

 @โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**อยากกระซิบว่าเราเคยเจอคู่นี้ที่ร้านกาแฟ แบบว่าเหมือนแควนกันมากแม่ #เพชรไม้

@ขุ่นแม่**อย่าว่างั้นงี้ เราชอบเรือ  #โอ๊ตไม้  มากกว่าค่ะ ใครอย่ามาล่มเรือเรา



ที่เหลือก็รอเวลาค่ะ คิคิ สุมไฟเข้าไปก่อน แล้วค่อยเอาน้ำมาดับเนอะ คิคิ


“หนูบัว ! นี่มันอะไร ?” นั่นไงไม่ทันได้ขาดคำค่ะพ่อน้องชายตัวดีมาก่อนเลย

“เอาน่าเพชรถือว่าช่วยพี่ทำมาหากิน ไม่มีอะไรหรอกแค่เป็นคู่ชิปให้พี่ไม้สักแป้บก็พอเนอะ


“เหอะ  สาวๆหนีหมดเพราะพี่เลยนะ “น้องเพชรส่งเสียงในลำคอแบบไม่สบอารมณ์แต่ว่านะ นี่พี่สาวไง ทำไรได้อ่ะ คิคิ



Rrrrrrrrr



“ว่าไงคะแฟน ฮิฮิ”


//ยัวตัวแสบโพสต์อะไรแบบนั้นไหนว่าจะช่วยเราไง แต่รูปนั้นมันฆ่าเราเลยนะ ฮื่ออออ//



“ไม่หรอกน่า บางอย่างมันต้องกระตุ้น เชื่อหัวไอ้บัวเหอะน่า”


//แล้วถ้ามันไม่ได้ผลล่ะบัว//


“ไม้อยู่เฉยๆนั่งรอมงลงอย่างเดียวพอนะเพื่อน”


// มงลง ? //


“เอาน่าไม่ต้องรู้หรอก เดี๋ยวบัวจัดการเองนะ “


ว่าเสร็จรีบตัดสายทิ้ง อ่าๆๆๆ คิวปิดต้องรีบทำงานค่ะ โง้ยยยยย แค่คิดก็ น้ำตาจะไหลดีใจที่ลูกสาวจะออกเรือน ฮืออออออออ


ว่าแล้วต้องคนนี้เลยที่จะเป็นแนวร่วมชั้นดี กดต่อสายทันทีแทบไม่ต้องคิด ฮิฮิ


//ครับผม//

“พี่ปีย์ เย็นนี้มารับบัวหน่อยได้ไหมคะ บัวมีเรื่องจะปรึกษา นะๆ “

//ครับผม ..ได้เสมอเลยครับ//



วางสายจากแฟนสุดหล่อแล้ว ก็ต้องนั่งคิดวางแผนดีๆ หากคู่นี้ไม่ได้เป็นแฟนกันอย่ามาเรียกว่าบัวเทอร์โบเป็นกันขาด ฉายานี้ไม่ได้มาลอยๆนะบอกเลย





หึหึหึ






อินทัช



บอกไม่ถูกเมื่อเห็นโพสต์ของเพจคิ้วบอยอะไรนั่น ผมค่อนข้างกังวลจากโพสของพี่อันเมื่อวันก่อนยังทำให้ผมคิดหนักจนนอนไม่หลับ

คิดมากกลัวว่าน้องจะตีความผิดกลัวว่าน้องจะเข้าใจผิด เฮ้อออ แล้วยิ่งพอมาเห็นโพสนี้ภาพน้องเพชรน้องชายของหนูบัวที่แบกน้องไม้ไว้บนหลัง

แขนขาวๆนั่นโอบรอบคอของน้องเพชร รอยยิ้มของคนทั้งคู่ที่ยิ้มให้กัน แม้จะรู้ว่ามันไม่น่าจะเป็นอื่นนอกจากพี่น้อง แต่ใครจะการันตีล่ะวะครับ

ทีม #เพชรไม้ พุ่งพรวดพราดจนผมหวั่นใจ ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ทำอะไรล่ะโว้ยยยย เครียด 



“อ้าว มึงยังไม่เก็บของอีกเหรอวะ “ผมหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่ทำหน้าเห็นเบื่อผมแทบจะ24 ชั่วโมง


“กูต้องทำไงวะปีย์กูคิดถึงน้อง เฮ้ออออ”


“เอาน่า เก็บของก่อน กูมีเรื่องดีๆมาบอก แต่ว่านะ มึงต้องไปฟังเอง บางที อะไรๆอาจะไม่เลวร้ายอย่างที่มึงคิดก็ได้นะเพื่อน”

“ไปไหนวะ ?”

“โรงฝึกฯบ้านแฟนกู”

“เหอะ เรียกแฟนเต็มปากเต็มคำนะมึง อย่าให้ถึงคิวกูละกันจะขิงแฟนจนมึงรำคาญบอกเลย”

“ให้เขายอมรับมึงก่อนไอ้หอกหัก แล้วค่อยมาขิงกู”


ติ๊ง!!


ยังไม่ทันจะได้เถียงกับไอ้เพื่อนยาก เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ทำให้ผมต้องควักมันขึ้นมาส่องอีก เพจที่ผมกดติดตามพร้อมทั้งกดแจ้งเตือนเอาไว้


อะไรอีกล่ะเนี่ยโว้ยยยยยยยยย




XS Cute Boy ได้โพสต์เมื่อสักครู่


คนมันเนื้อหอมเนอะ ลงเรือไม่ถูกเลยแม่  หรือจะ3P


แนบรูป


1249 ไลค์ 572 แชร์



@รับได้ถ้าให้รุก **แอดคะสองหนุ่มนั่นคือใครบอกบุญลูกเพจที ฮื่อออออ

@ฝันกลางแจ้ง**หล่ออะไรขนาดนั้นวะ คนหรือเทพบุตร น้องไม้ทำบุญด้วยอะไรนะ อยู่กลางดงผู้หล่อๆทั้งนั้นเลย

@เกิดมาทั้งทีมีดีแค่กล้วย**เม้นท์บนคะ น้องไม้ก็ผู้นะอย่าลืม 5555555

@นางฟ้าหน้าหม้อ**เรามาถึงจุดที่อิจฉาผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มผู้ชายได้ยังไงกัน

@ติ่งคนหล่อ**สองคนนี้เราเคยเจอนะ อยู่คนละม.กับน้องไม้ แต่เหมือนจะเป็นเพื่อนกันนะ

@ทองหล่อทองหล่อ** ท่าทางไม่น่าจะเพื่อนนะคะซิส ดูสายตาที่มองน้องไม้สิหวานปานน้ำเชื่อมขนาดนั้น น้องไม้ลูกกกกหนีไปๆๆๆ พี่โอ๊ตอยู่ไหนมาเอาน้องกลับด้วย #โอ๊ตไม้


@pornข้อสุดท้าย**ยังอยู่ทีม #โอ๊ตไม้ ค่ะ



***ไหนใครสนใจสองหนุ่มหล่อ มาๆจะแนะนำให้รู้จัก แปะลิ้งแพ๊บบ






ผมเพ่งมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆในอก น่าจะเป็นภาพเร็วๆนี้เพราะมันดูต่างจากโพสแรกน้องไม้กับน้องเพชรยังดูไม่โตเท่าตอนนี้

 แต่ภาพนี้มันบอกได้อย่างดีว่าพึ่งจะถ่าย ภาพของวีกับบู เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของน้องไม้ ที่ยืนประกบน้องไม้ไว้ตรงกลาง

มือของสองคนนั่นวางแหมะตรงเอวของไว้ราวกับจะกกกอดเอาไว้ทั้งสองคน  น้องไม้ที่ยืนตรองกลางระหว่างสองคนนั่น

อุ้มช่อดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่ไว้รอยยิ้มกว้างจนตายิบหยี ดูมีความสุขจนผมใจกระตุกสั่นไหว


อา...ผมควรทำไงดีมานั่งดราม่าเฉยไม่ทันการแน่ๆ ผมต้องทำอะไรสักอย่าง ต้องทำจริงๆแล้ว






โว้ยยยยยยยยยยแล้วผมต้องทำอะไรล่ะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก




TBC...

อิพี่ก็เริ่มเครียด ฮ่าๆๆๆๆๆ

ทำไงดีล่ะพี่โอ๊ตตตตต

ใกล้จะจบล่ะเน้อ เรื่องนี้ไม่มีดราม่าน่อวววว ฮิฮิ   :mew1: :mew1: :mew1:


เจอกันอีกที วันจันทร็หน้านะค๊าาาาาาา นิยายรายสัปดาห์ค่ะแหะๆ :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:





หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 19 .. ปั่น 23/02/63
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 23-02-2020 21:39:02
 :pig4: :pig4: :pig4:

ระหว่างคุณพ่อไผ่กับหนูบัว  ใครจะชนะ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 19 .. ปั่น 23/02/63
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 01-03-2020 13:46:43
แวะมาบอกว่าเจอโรคเลื่อนค่ะ แหะๆๆ  :try2: :try2: :try2: :try2:

ช่วงนี้ติดภาระกิจติด COVID-19 คงจะไม่ได้ลงนิยายตามกำหนดนะคะ แวะแจ้งข่าวกันก่อน

ผ่านพ้นโควิดไปจะรีบมาอัพให้จบนะคะ


กราบขออภัยคนอ่านงามๆค่าาาาา o14 o14 o14 o14 o14 o14 o14 o14 o14 :give2: :give2: :give2: :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ติดภาระกิจติด COVID-19 ขอเลื่อนการอัพนิยายค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 01-03-2020 17:48:15
 :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** ติดภาระกิจติด COVID-19 ขอเลื่อนการอัพนิยายค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 01-03-2020 20:12:53
:a5: :a5: :a5:

 :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนที่ 20 สารภาพ(4/4/63)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 04-04-2020 15:13:22



แผนที่  20 สารภาพ




หลังคลาสบ่ายของอาจารย์แม่จบลง ผมลากร่างที่ไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะยืนมานั่งเงียบๆที่ต้นหูกระจงริมสระน้ำข้างคณะ

จะว่าไปนานแค่ไหนกันนะที่ผมไม่ได้มานั่งตรงนี้เงียบๆเหมือนเคย แต่ก่อนจุดนี้เป็นมุมโปรดของผมเลยก็ว่าได้

 แต่ว่าตั้งแต่ผมได้รู้จักน้องไม้คณะอักษรฯผมไม่ได้มานั่งตรงมุมโปรดนี้อีกเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ ผมว่าทุกคนน่าจะรู้ดี
 
หลังจากเห็นโพสคต์เจ้าปัญหานั่น ก็ผ่านล่วงเลยมาเป็นเดือนแล้วแต่ผมก็ยังกินไม่ได้นอนไม่หลับเช่นเคย

 ผมกดเลิกติดตามเพจนั่นไม่รับรู้ข่าวสารที่จะทำให้ผมเครียด  ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มที่ตรงไหน อยากไปหาน้องก็ติดสัญญาของพ่อไผ่

ก็เลยได้แต่มานั่งทำหน้าหมาหงอยอยุ่ตรงนี้ เฮ้ออออ


แค่คิดก็ปวดหัวจะแย่ ไหนจะงานที่ต้องส่งไหนจะต้องมารับเรื่องปวดหัวของพี่อัน แฮชแท็ก #โอ๊ตอัน มาจากไหนไม่รู้

ไหนจะช่วงนี้มีคนยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปผมแบบโจ่งแจ้งมันทำให้ผมหงุดหงิด แม้ว่าผมจะถูกถ่ายรูปบ่อยๆแต่ไม่ใช่แบบนี้ 

ไหนจะ แฮชแท็ก#เพชรไม้ อะไรนั่นอีกเฮ้ออ เครียด



Rrrrrr


ผมมองชื่อที่ขึ้นโชว์หน้าจอก่อนจะกดรับสายแบบเนือยๆไม่สนใจอะไรมากมาย

“ว่าไงอิง”

//หายหน้าหายตาเลยนะพ่อคุณ //

“งานเยอะน่ะ อิงมีไรหรือเปล่า”

//พี่อาร์ตให้ไปหาที่ รพ.ของ ม.Y เห็นว่ามีเรื่องจะคุยด้วย//

“เรื่อง ? เรื่องอะไร”

//ไม่รู้เหมือยกันมาคุยกับพี่อาร์ตเองเลยแค่นี้นะ อิงมีธุระ//


ผมมองโทรศัพท์ที่โดนตัดสายแบบงงๆ  พี่อาร์ตให้ไปหาที่ ม.Y ไปทำไมกัน ล่าสุดผมจำได้ว่าไม่ได้ทำเรื่องอะไรให้พี่อาร์ตต้องมาบ่นอีกนี่นา

หรือจะปรึกษาพี่อาร์ตดูอีกทีกันนะ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆผมต้องแย่แน่ๆเลย

แกร่ก!

เสียงเหมือนคนเดินเหยียบอะไรสักอย่างใกล้ผมทำให้ผมละจากโทรศัพท์มือถือหันไปมองทิศทางของเสียงแล้วก็ต้องเบิกตากว้าง

เมื่อเห็นดวงหน้าสวยของคนที่อยู่ในความคิดถึงมาตลอดปรากฏอยู่ตรงหน้า ผมผมรีบผุดลุกขึ้นด้วยความรีบร้อนทำให้ผมเซถลาไปข้างหน้าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

“พี่โอ๊ต!!”

เสียงเรียกตื่นตระหนกของคนที่ยืนไม่ห่างจากผมและพยายามยื่นมือมาดึงผมไว้แต่ก็ไม่ทันได้สัมผัสอะไรผมก็ร่วงลงไปในผืนน้ำด้านหน้าเสียแล้ว

ตูม!!

เสียงน้ำกระจายเป็นวงกว้างทันทีที่รับร่างของผมลงไปในบ่อ  ด้วยความที่ตรงที่ผมตกลงไปไม่ลึกมากทำให้โคลนก้นบ่อขุ่นคลั่กขึ้นมาทันทีที่เท้าผมสัมผัสก้นบ่อ

กลิ่นสาปโคลนลอยมาติดจมูก ทำให้ผมตะกายตัวพรวดเดียวก็โผล่พ้นน้ำขึ้นมาหอบเอากากาศเข้าปอดด้วยความตกใจ

“แค่กๆๆๆ” น้ำบ่อไหลลงคออย่างไม่อาจจะห้ามอะไรได้ทัน

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับผมขอโทษ ที่ทำให้ตกใจ”

“เอ่อ..มะ ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่น้องไม้มีอะไรกับพี่เหรอครับ แหะๆ”

ผมส่งยิ้มจืดเจื่อนไปให้น้องไม้ด้วยสภาพของผมตอนนี้ไม่กล้าแม้จะยื่นมือไปให้อีกคนช่วยฉุดดึงขึ้นจากบ่อ

“ขึ้นมาก่อนเถอะครับ มาเดี๋ยวผมช่วยนะ”

มือเรียวสวยยื่นลงมาตรงหน้าทำให้ผมต้องตัดสินใจจับมือนั้นไว้ก่อนจะดันตัวเองให้ขึ้นไปนั่งไอโขลกๆอยู่ริมบ่อ

“พี่โอ๊ตมีเรียนต่อไหมครับถ้าไม่มีผมว่ากลับบ้านเลยดีกว่าไหมเดี๋ยวจะไม่สบายเอานะครับ”

น้ำเสียงนุ่มหูเต็มไปด้วยความห่วงใยทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิดที่ไม่ค่อยได้ติดต่อน้องเลยในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

แววตาหม่นแสงที่ผมไม่อยากจะเห็นคราวนี้ผมได้เห็นมันอีกครั้ง รู้สึกไม่ดีเลยจริงๆให้ตายเถอะ


“ไปส่งพี่หน่อยได้ไหมครับ”ผมถามออกไปทั้งๆที่มือก็ยังไม่ปล่อยจากคนตรงหน้า เป็นไงเป็นกันล่ะวะ

วันนี้ผมไม่อยากเห็นน้องทำหน้าเศร้าแบบนี้อีกแล้ว  เราสองคนเดินตามกันไปที่รถของผม โดยไม่มีใครปริปากพูดออกมาสักคำ

ความเงียบทำให้ผมต้องหันไปมองคนข้างๆที่นั่งเหม่อ มองออกไปนอกตัวรถ ถึงจะบอกว่าให้น้องมาส่งแต่ผมก็ยังเป็นคนขับรถอยู่ดี 

เราสองคนไม่มีคำพูดใดๆจนถึงคอนโดที่พักของผม สภาพของผมเรียกสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนรอบๆข้างได้เป็นอย่างดี

ผมไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้นแต่ความสนใจของผมพุ่งไปที่คนสวยที่ทำหน้าหงอยๆตอนนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ผมต่อสายให้ไอ้นายมาเอารถผมไปจัดการแทนน้อยครั้งที่ผมจะให้เพื่อนๆช่วยเรื่องพวกนี้

แต่ก็อย่างที่บอกตอนนี้เป็นเรื่องของน้องไม้ที่ผมต้องสนใจมากกว่า ความคิดที่ว่ากลัวผิดสัญญากับพ่อไผ่ไม่มีในหัวของผมเลย


“นั่งรอพี่ตรงนี้ก่อนนะ ขอพี่ไปอาบน้ำแป๊บเดียว ห้ามหนีไปไหนเด็ดขาดเข้าใจไหมครับ”

“ครับ”

เสียงรับคำบางเบาแต่ผมก็มั่นใจว่าน้องจะรอ ผมปลีกตัวเข้าห้องรับชำระล้างคราบความเน่าเหม็นของน้ำในบ่อนั่นด้วยความเร็วเหนือแสงเลยก็ว่าได้




วนันต์



ผมมองคนตัวสูงวิ่งเข้าห้องไปด้วยความรู้สึกหลากหลายมันบรรยายไม่ถูก ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่าอะไร

ตั้งแต่วันที่หนูบัวพยายามอัพรูปผมกับบรรดาน้องๆตระกูลจิรชัยกุล กับกับพวกบูรพากับนาวีลงเพจXS Cute Boy

พี่โอ๊ตก็หายเงียบกว่าเดิมจนผมเริ่มไม่สบายใจหรือพี่มันจะไม่ชอบหรือพี่มันคิดว่าผมจะชอบแบบนั้นหรือว่าพี่มันรังเกียจผม เฮ้อ

ในตอนนี้หัวผมแทบหมุนเพราะพี่มันหายหน้าไปร่วมเดือนโทรหาก็ไม่ค่อยรับสายเหมือนเดิม พี่ปีย์ก็ทำหน้าเหมือนอมบอระเพ็ด

ไว้ทั้งวันเวลาผมถามถึงพี่โอ๊ต เจ้าหนูบัวเองก็ได้แต่เอ่ยปากขอโทษที่แผนของเพื่อนทำให้พี่โอีตแทบจะไม่คุยกับผมเลย

จริงๆวันนี้ผมตั้งใจจะไปหาพี่โอ๊ตที่คณะเพื่อที่จะชวนไปกินข้าวที่บ้านอย่างเคย

แต่พอเห็นหน้าพี่ที่ทำเหมือนหลบหน้าผมไม่ยอมสบตาเวลาคุยกันมันทำให้ผมรู้สึกจุกที่ลำคอพูดอะไรไม่ออก

แต่ก็รู้สึกแปลกใจที่พี่มันยอมให้ผมตามมาที่ห้อง

ห้องที่ผมเคยมาบ่อยๆช่วงที่รู้จักกันแรกๆ ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่ ความรกของเครื่องมือสื่อการศึกษายังเกลื่อนห้องอยุ่เหมือนเดิม

มันบ่งบอกว่าเพื่อนๆของพี่โอ๊ตยังคงแวะเวียนกันมาที่ห้องนี้เหมือนเดิม แค่...ไม่มีผม

คิดถึงตรงนี้ขอบตารู้สึกร้อนๆจนผมต้องพยายามอดกลั้น ไม่เคยเลยที่จะรู้สึกอยากจะร้องไห้ราวกับคนอ่อนไหวแบบนี้


“เป็นอะไรครับ”

เสียงทุ้มดังอยุ่ข้างๆโดยที่ผมเองไม่รู้เลยว่าพี่มันมานั่งตรงนี้เมื่อไหร่ มือใหญ่ยื่นมาเกลี่ยหยดน้ำใสที่เอ่ออยู่ขอบตาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้

น้ำเสียงอ่อนโยนของพี่โอ๊ตยิ่งไปกระทุ้งความรู้สึกที่ผมเก็บเอาไว้มาเป็นเดือนน้ำใสๆที่ผมพยายามกลั้นเอาไว้กลับพังทลายลงอย่างไม่รู้จะเก็บอย่างไร

“ฮึก...”ผมพยายามกลั้นเสียงน่าอายเอาไว้ อ่อนแอเกินไปแล้ว ความรู้สึกแย่อึดอัดและหลากหลายอารมณ์ที่ผมรู้สึกตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันราวกับได้ปลดปล่อยออกมาโดยที่ผมเองก็ไม่อาจจะห้าม

“อย่าร้อง เป็นอะไรไหนบอกพี่ อย่าร้องไห้เลย พี่ปวดใจจะแย่แล้ว”

น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนมาพร้อมกับอ้อมกอดบางเบาราวกับจะปลอบโยนคนอ่อนไหวใจบางแบบผม

“ทะ..ทำไมพี่..อึก หายไป ..ทำไม..ครับ”

เสียงขาดหายกระท่อนกระแท่นไม่เป็นคำเพราะผมพยายามกลั้นก้อนสะอื้นที่มันวิ่งมาจุกที่คอ

ผมไม่อยากให้พี่มองว่าผมมันเด็กน้อยอ่อนแอเรื่องแค่นี้ก็ร้องไห้เหมือนเด็กๆ แต่ว่า มันไม่ไหวแล้วจริงๆ

“เอ่อ..พี่..ขอโทษครับ “ไม่มีคำอธิบายมีแค่คำขอโทษแต่มันไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใด

“ผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ..ระ..หรือว่าพี่จะไม่อยากคบหากันแล้ว ..ฮึก “

เสียงที่ผมพยายามบังคับมันไม่ให้สั่นไหวไปตามอารมณ์ที่ไม่คงที่ตอนนี้ เสียงถอนหายใจของพี่โอ๊ตแม้ว่าจะบางเบาแต่ผมก็ได้ยิน

 ผมค่อยเงยหน้าขึ้นมองพี่โอีตเต็มตาแม้จะพร่ามัวไปเพราะเจ้าน้ำตาไม่รักดีนั่นแต่ผมก็ยังจะมองให้แน่ใจว่าพี่รู้สึกอย่างไร


“ถ้าผมทำอะไรไม่ดี หรือพี่รังเกียจอะไรในตัวผมบอกผมได้ไหม อย่าหายไปแบบนี้ผมไม่รู้เลยว่าผมทำอะไรผิด “

พอเริ่มควบคุมสติได้ผมก็ร่ายยาวไม่หยุด


“เรื่องรูปในเพจนั่นแค่พี่ถามผมสักนิดผมก็พร้อมที่จะอธิบาย มันไม่ได้มีอะไรเกินกว่าพี่น้องและเพื่อนๆ แค่พี่ถาม แต่นี่ พี่หายไป”

“......”

“ผมไม่เข้าใจ พี่ที่เคยไปมาหาสู่ที่บ้านเคยไปเล่นกับมาลีและมาร์คเคยโทรหาเคยคุยกันทุกวัน แต่ว่า..พี่หายไปพี่ไม่เหมือนเดิม ผมไม่เข้าใจ”


“....”

“เพราะอะไรบอกผมที “

อ้อมกอดกระชับแน่นขึ้นกว่าเดิม ผมเอียงหน้าซบลงตรงไหล่พี่โอ๊ตด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก อยากอ้อนอยากเอาแต่ใจ แต่ก็ไม่กล้า


“”พี่ขอโทษนะ เพราะความขี้ขลาดของพี่เองที่ทำให้ไม้ต้องเสียใจ “ พี่โอ๊ตผละอ้อมกอดออกจากผมกระทันหัน พร้อมทั้งลุกขึ้นยืนและฉุดให้ผมลุกตามอย่างรวดเร็ว

“ไปกันเถอะ”

“ไปไหนครับ?” ผมงงกับความกระทันหันของพี่โอ๊ตจนปรับอารมณ์ไม่ทัน

“เราไปจบเรื่องนี้กัน”ว่าแค่นั้นพี่โอ๊ตก็ฉุดผมออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว 

ผมผุดลุกตามแรงฉุดของพี่โอีตด้วยความงุนงง แต่ก็เดินตามพี่ไปอย่างว่าง่าย แม้จะไม่เข้าใจก็ตาม

“พี่จะไปไหนครับ?”

“ไปทานข้าวเย็นบ้านไม้ไงครับ”


“..? ..”


ตลอดทางพี่โอ๊ตแทบจะไม่ปล่อยมือจากผม จะมีบางช่วงที่ต้องใช้สองมือประคองพวงมาลัย แต่แค่ช่วงสั้นๆ

พี่มันก็ยึดมือผมไปจับไว้เหมือนเดิม ผมเองก็บีบมือพี่โอ๊ตเป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่า ตอนนี้ที่พี่นั่งอยู่ข้างๆผมนี่เป็นความจริง

ทันทีที่จอดรถเสร็จพี่โอ๊ตเดินจูงมือผมเข้าบ้าน ผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธการกระทำของพี่แต่ก็ยังคงงงงวยกับการกระทำที่พี่มันฉุดผมกลับบ้านแบบนี้ จนกระทั่งตอนนี้ ..

“พ่อไผ่ครับ ผมมีเรื่องจะสารภาพครับ”

“...”

 ผมที่ยังคงใบ้กินมองหน้าพ่อที่ยกถ้วยชาดอกมะลิค้างอยู่ มองแม่ที่นั่งยิ้มและมองมือของพวกเราสองคนที่ยังคงจับกันไว้แน่น

“หึ”เสียงขำสั้นๆพร้อมรอยยิ้มแปลกๆของพ่อ ทำให้ผมยังคงมีสีหน้าเหรอหราไม่เข้าใจ

“ผมรักน้องไม้ครับ รักแบบคนรัก รักแบบคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน รักแบบคู่ชีวิต ผมอยากให้พ่อไผ่และแม่นุ่นเข้าใจและผมจะไม่บังคับน้องผมจะยังคงไปมาหาสู่เช่นเดิม ถึงแม้น้องจะไม่ได้รักผมแบบเดียวกัน แต่ผมก็จะไม่ถอยอีก ผมจะจีบน้องครับ  ผมไม่ได้มาขออนุญาตแต่ผมมาบอกให้พ่อกับแม่รับรู้ว่าผมรักน้องจริงๆก็พอครับ”


“ดะ..เดี๋ยว..สิ..”ผมยังคงอ้าปากค้างกับคำพูดของพี่โดยไม่ได้ตั้งตัว  รัก  จริงๆเหรอ พี่รักผมจริงๆเหรอ ผมไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม

 
“คิก ใจร้อนจังเลยนะคะพี่โอ๊ต แม่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย คุณก็ชอบแกล้งเด็กๆนะคะ “เสียงแม่ดูเหมือนจะรู้อะไรๆมากกว่าที่ผมคิด
 
“เฮ้อ  ก็ไม่ได้จะขัดขวางอะไรก็แค่รอดูว่าเมื่อไหร่จะกล้าคุยกันเองและยอมรับตรงๆกันสักที อ่ะนะ “

สีหน้าเหมือนเบื่อหน่ายของพ่อยิ่งทำให้ผมงงเข้าไปใหญ่จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย

“หมายความว่าพ่อไผ่ไม่ห้ามใช่ไหมครับขอบคุณมากครับ “

รอยยิ้มกว้างที่ผมไม่เห็นจากพี่โอ๊ตมานานวันนนี้รอยิ้มนั่นทำผมยิ้มตามทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจอะไรเลย

“คือ..อะไร ผมไม่เข้าใจ”เสียงพูดเบาหวิวแทบจะไม่ได้ยินจากผมทำให้ทุกคนหันมาสนใจผมที่ยืนงงอยู่ตรงนี้อีกครั้ง

“เราไปจิบชาที่สวนหลังบ้านกันดีกว่านะแม่ ปล่อยเด็กๆคุยกันไป”

“พี่โอ๊ตอยากได้อะไรเพิ่มก็บริการตัวเองเลยนะคะลูก แม่กับพ่อเปิดทางเต็มที่ “

เสียงกลั้วหัวเราะของแม่ห่างออกไปพร้อมๆกับร่างสูงใหญ่ของพ่อ ในห้องนั่งเล่นตอนนี้เหลือแค่....เรา

“พี่..มันคืออะไร พี่บอกหน่อย ผม งง “

“นั่งก่อนดีไหม “ไม่ว่าเปล่าพี่มันฉุดผมนั่งลงข้างๆที่โซฟาเบดตัวใหญ่มุมโปรดของผมเอง

“ก่อนอื่น พี่อยากให้ไม้ตั้งใจฟังพี่ พูดให้จบ แล้วค่อยถามจะได้ไหมครับ”


ผมพยักหน้าอย่างงงๆแต่ก็พยายามจะเข้าใจและตั้งใจฟังแม้ว่าตอนนี้คำพูดก่อนหน้าของพี่มันจะทำให้ใจผมเต้นแร้งเต้นกาอยู่ด้านในตอนนี้ ผมพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตื่นเต้นจนไม่ได้ตั้งใจฟังสิ่งที่พี่จะบอก


“พี่...เอ่อ พี่ชอบน้องไม้มาสักพักแล้ว ชอบแบบที่อยากจะขอคบเป็นแฟน แต่ตอนนี้จากความชอบมันเลยไปไกลกว่านั้นแรกๆพี่กังวลกลัวว่าความรู้สึกแบบนี้ของพี่จะไปทำร้ายไม้เพิ่มอีก  ก่อนหน้าพี่ได้รับปากพ่อไผ่ว่าจะทบทวนตัวเองเลยต้องห่างจากไม้สักพักเพื่อแน่ชัดในความรู้สึก จนตอนนี้พี่อยากจะบอกไม้ว่า .. พี่รักไม้ รักจนไม่อาจจะอยู่ห่างๆได้อีกรักจนพี่แน่ใจว่าพี่คงขาดไม้ไม่ได้แล้ว ขอโทษที่พี่ทำให้ไม่สบายใจตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา  พี่กลัวว่าไม้จะรังเกียจ ไม้เคยมีประสบการณ์แย่ๆมา แต่พี่เองก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ พี่พยายามแล้วแต่ว่า พี่อยากจะขอไม้สักอย่างถ้ารังเกียจกันแค่บอกตามตรง พี่พร้อมจะหายไปเพื่..”



ผมไม่รอให้พี่มันพูดจบรีบยื่นมือไปปิดปากพี่ไว้ก่อนจะมาหายจากผมไปเพื่ออะไรผมไม่ต้องการจะรับรู้ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกอยากจะยิ้มให้กว้างที่สุดในรอบเดือนที่ผ่านมา

“อย่าพูดว่าจะหายไปอีก แค่นี้ผมก็แทบจะทนไม่ไหว ถามผมหรือยังว่าอยากให้พี่หายไปไหมใครบอกว่าพี่รักเป็นอยู่คนเดียว ผมก็รักเป็นเหมือนกันนะ รักจะตายอยู่แล้ว อ๊ะ!!”


ผมยังพูดไม่จบแต่ก็ต้องตกใจเพราะพี่มันดึงเอาตัวผมเข้าไปกอดซะแน่น ตัวแทบจะปลิวตามแรงดึง ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน

ผมไม่ใช่คนตัวเล็กตัวบางแบบพี่อันนะ แต่พูดถึงพี่อันผมรีบเอามือยันหน้าอกพี่มันไว้พลางเงยมองหน้าหล่อเหลาที่ทำผมใจสั่นในระยะประชิดแบบนี้


“แล้วเรื่องพี่อันล่ะ บอกผมมาเลยนะ “ตอนนี้ผมเอาแต่ใจได้แล้วใช่ไหมนะ

“ไม่เห็นจะมีอะไร ก็ทำงานปกติครับ พี่อันแค่ลงรูปโปรโมทปกติพี่ไม่เกี่ยวนะครับ ไม่เคยคิดเป็นอื่นกับใคร หลงก็แต่คนนี้ หยอดมาเป็นชาติแล้วไม่รู้หรือไง”

“เฮ้อ..”ผมซบหน้าลงกับอกแข็งๆของพี่โอ๊ตด้วยความโล่งใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมรู้สึกว่ามันยังค้างคาแปลกๆ

“พี่ ..เรารักกันได้จริงๆใช่ไหมครับ”

“แน่นอนสิ “

“ถ้างั้นผมควรทำตัวยังไง”

“เป็นไม้คนเดิมครับ ทุกอย่างเหมือนเดิมแค่เรารู้ว่าข้างในนี้มันเปลี่ยนไปก็พอแล้ว”

“ละ..แล้ว พ่อกับแม่พี่ล่ะครอบครัวพี่ล่ะ พวกเขาจะต้อนรับผมเหมือนเดิมไหม “

“ไม่ต้องห่วงเราค่อยๆแทรกซึมไป พี่เชื่อว่าครอบครัวพี่เปิดกว้างพอสมควร ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเรื่องปั๊มทายาทพี่อาร์ตรับปากว่าจะมีสักโหลไว้ตั้งทีมฟุตบอลฮ่าๆๆๆ”

“สงสารพี่อิง”ผมตอบกลับอย่างที่นึกจริงๆ

“หึ สงสารพี่สิ พี่ปวดใจมากเลยนะ ภาพที่ลงในเพจนั่นรู้ไหมพี่แทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย”

“อ่า ..คือว่า”

“อะ แฮ่มๆๆ หมดเวลา ไม้ไปพามาลีไปอาบน้ำไปพ่อขอคุยกับพี่โอ๊ตสักหน่อย”

“พ่ออย่าแกล้งพี่นะ “

“ไม่ทันไรเลยเจ้าลูกหมูทิ้งพ่อซะแล้ว เฮอะ”

“ไม่ใช่สักหน่อย ผมรักพ่อที่สุดอยู่แล้ว งั้นผมฝากพี่โอ๊ตไว้กับพ่อสักครู่เดี๋ยวผมมารับคืนนะครับ”


ผมหันมามองพี่ก่อนจะยิ้มให้ด้วยความสบายใจเป็นที่สุด ก่อนจะผละออกมาให้พ่อกับพี่ได้คุยกัน

ตอนนี้ผมไม่เหลือความกังวลใจใดๆอีกแล้ว ความหนักอึ้งที่แบกมาเป็นเดือนตอนนี้มลายหายไปโดยไม่มีอะไรตกค้าง

มีแต่ความรู้สึกดีๆที่พึ่งได้รับจากพี่เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา มันดีจนผมยิ้มไม่หยุดหุบยิ้มไม่ได้


มาลีกับพี่มาร์คเอียงคอมองหน้าผมงงๆราวกับมันจะถามผมว่า เป็นบ้าอะไรยิ้มไม่หุบอยู่คนเดียว ฮ่าๆๆๆ ขอผมยิ้มหน่อย

ผมกำลังมีความสุข ทุกคนมีความสุขเหมือนผมหรือเปล่า ถ้ามีก็ยิ้มสิครับ  :yeb: :yeb:


TBC....



อีกตอนเดียวจะจบแล้ววววววววววว น่าจะได้มาลงหลังสงกรานต์นะคะ ฮืออออ เค้าขออภัยตอนนี้ที่บริษัทลดวันทำงานเลยทำให้พันวาต้องจัดตารางชีวิตใหม่ วันนี้พอมีเวลาว่างก็รีบมาลงให้ก่อนเน้ออออ

จะมีเวลามาลงอีกทีก็ตอนกลางๆเดือนนุ่นเลยค่าาาา



ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามกันมาและยังรอพันวานะคะ กราบงามๆๆๆ เลยค่าาาา ไปปั่นต่อ:katai4: :katai4:




หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 20 สารภาพ (4/4/63)
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 04-04-2020 16:24:34
 :pig4: :pig4: :pig4:

รักษาสุขภาพครับ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 20 สารภาพ (4/4/63)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 04-04-2020 20:28:41
ขอบคุณค่าาา :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ**แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 17-05-2020 11:36:14


แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ




อินทัช





“ไง เรียบร้อยแล้วสิหน้าบานยิ่งกว่าชามข้าวหมาอีก”

เสียงเอ่ยแซะถากถางของเพื่อนสนิทไม่ได้ทำให้ผมหงุดหงิดแต่อย่างใดกลับกันผมยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิมวันนี้เป็นวันที่ผมอารมณ์ดีที่สุด

ขนาดเพื่อนๆนัดผมมาที่สนามแข่งขาประจำที่พวกเราห่างหายไปในช่วงหลังๆผมยังคว้าเอา Honda RC213V คันโปรดขี่ออกมาด้วยความคิดถึง

“แน่นอนสิ ว่าแต่มึงเหอะผ่านด่านบรรดาลุงๆของหนูบัวได้หรือยัง”

สีหน้ามืดครึ้มของเพื่อนบอกได้เป็นอย่างดีว่าแม้จะได้สถานะแฟนหนูบัวมาครองแต่ใช่จะมีอิสระในการฉกแฟนไปไหนมาไหนสองต่อสอง เพราะปีย์ยังคงโดนประกบจากครอบครัวหนูบัวแทบจะตลอดเวลา

“กูว่าทางนั้นคงปล่อยให้กูกับบัวไปเที่ยวสองต่อสองได้เมื่อแต่งงานแล้วเท่านั้นแหละเฮ้ออออ “

“เอาน่า มึงยังดีที่ยังมีสถานะ แต่กูนี่สิ “แม้ว่าน้องไม้ยังอยู่ในสถานะคนที่ผมจีบ แต่ผมก็จองแล้วนะครับห้ามใครล้ำเส้นบอกเลย

“ว่าแต่พวกมันจะให้กูรออีกนานไหม ถ้าภายใน30นาทีไม่มากูกลับไปหาไม้แล้วนะบอกก่อน”

ผมว่าพลางหันมาทำหน้าไม่พอใจใส่เพื่อนสนิทที่กำลังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน วันนี้ปีย์มันบอกว่ามีคนท้าผมแข่ง เดิมพันว่ากันทีหลัง

แต่ถึงเพื่อนผมจะบอกแบบนั้นผมก็ข้องใจอยู่ดี เพราะทุกครั้งที่มีเดิมพันพนันขันต่อผมจะต้องรู้ข้อมูลของคู่แข่งก่อนเสมอ

แต่คราวนี้ได้พวกเพื่อนผมมันลากผมมาที่สนามแข่งทั้งๆที่ผมเองก็ไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก ติดอยู่ที่ว่าพวกเพื่อนๆของผมมันขอร้องมาบอกว่าแมทนี้สำคัญมากต้องผมเท่านั้นที่ลงแข่ง

ไอ้เตี้ยโอมยังตาเป็นประกายวิบวับจนผมนึกสงสัยว่าใครที่ไหนมาท้าแข่งกับผมเพราะตามจริงผมไม่ค่อยรับแข่งเท่าไหร่แล้วส่วนมาขับเอาสนุกมากกว่าแค่ไม่ลืมสิ่งที่ผมชอบ แต่เรื่องพนัน พี่อาร์ตกับแม่บอกให้เพลาๆลงบ้างผมเลยไม่ค่อยไปหาคู่มาแข่งสักเท่าไหร่

“เอาน่าอีกแป๊บเดียว ใจร้อนจริงมึง กูว่างานนี้มึงต้องชอบแน่ๆ”

“ตามจริงกูไม่ขัดนะถ้าจะเป็นการหารายได้เพิ่ม เพียงแต่แข่งทุกครั้งมันต้องรู้เขารู้เราไม่ใช่หรือไง นี่อะไรลากกูมาแล้วไม่บอกอะไรสักอย่าง”

“ใจเย็นน่า มานู่นแล้ว”ผมหันไปตามทิศที่เพื่อนสนิทพยักพเยิดหน้าให้รู้

และสิ่งที่ผมเห็นทำเอาขาแข็งโดยไม่รู้ตัว Yamaha YZR-Mสีดำน้ำเงินเครื่องยนต์ 4 สูบ กำลังสูงสุดกว่า 240 แรงม้า เกียร์ 6 จังหวะคันนั้นไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้นเท่ากับคนที่ขี่เจ้ายักษ์นั่นเข้ามาร่างสูงใหญ่ใบหน้าสวยแต่แฝงแววดุดันจนน่ากลัวแต่ก็ยังน่ามองอยู่ดี  อ่านั่นว่าที่พ่อตาผมนี่

“ไง มาลองกันสักรอบไหม ดูสิว่าฝีมือมีค่าพอจะรับของพนันหรือเปล่า”

“พ่อไผ่หรือครับ ทำไม ??”ผมยังงงจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ดี นึกไม่ถึงว่าคนที่ท้าผมแข่งจะเป็นพ่อไผ่

“อ้าว ปีย์ไม่ได้บอกเหรอ”

“มันรูดซิปปากจนผมคิดว่ามันเป็นใบ้แล้วล่ะครับฮ่าๆๆ”

งานนี้ต้องหัวเราะให้กำลังใจตัวเองก่อน เพราะทำอะไรไม่ถูกจริงๆครับบอกเลยว่าเกร็ง

ทุกคนคงไม่ลืมว่าพ่อไผ่คนนี้เป็นไอดอลของผมเป็นคนที่ผมหลงใหลคลั่งไคล้เลยก็ว่าได้ ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้แข่งด้วยกัน

“หึหึ  พ่อแค่อยากรำลึกความหลังสักหน่อย ไม่ได้ขี่เจ้านี่มานานมากแล้วเลยเอามาปัดฝุ่นสักหน่อยอยากจะลองฝีมือคนที่มาจีบลูกชายพ่อว่าจะสมราคาคุยไหม”

“อ่า...เหมือนฝันเลยครับ “ตาขวากระตุกยิกๆนี่มันลางดีหรือร้ายวะ

“แต่..ถ้าจะแค่แข่งกันเฉยๆมันไม่สนุกเท่าไหร่เอาเป็นว่าเรามาติดปลายนวมกันสักหน่อยไหมล่ะ”นั่นไงมาแนวนี้ไม่ดีแน่ๆ

“หากวางเดิมพันผมให้พ่อไผ่กำหนดจำนวนเงินเลยครับ ถ้าผมสู้ไม่ไหวจะต่อรองอีกที แหะๆ”

“หืม ? วางเงินเหรอ เด็กๆน่า พ่อมีข้อเสนอที่ดีกว่านั้น”

ผมมองรอยยิ้มแปลกๆของพ่อไผ่แล้วใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวยังไงชอบกล มันวูบๆวาบๆแฮะ ไอ้ตาขวานี่ก็กระตุกถี่เป็นบ้า

“ถ้าชนะพ่อได้ 1ใน3(*) อนุญาตให้จีบลูกชายพ่อได้ ถ้าชนะ 2ใน3อนุญาตให้พาไปเดตได้ ถ้าชนะรวด เพิ่มสถานะแฟนให้ ดีหรือเปล่าล่ะฮึ”

//วะ...ว่าไงน๊าาาาาาา//ผมล่ะอยากตะโกนดังๆ แล้วเอามือทึ้งผมให้หลุดหมดกระบาล ชนะพ่อไผ่เนี่ยนะ อย่าว่าแต่ 1ใน3เลย โอกาสที่มีคือ1ในล้านเหอะ พ่อออออออออ อย่าทำร้ายผมแบบนี้

“อ้าว เงียบเบบนี้ไม่เอา ?”

“เอาครับ !” เป็นไงเป็นกันวะ พ่อไผ่น่ะ แชมป์ F1 แต่ผมน่ะ แชมป์ MOTOGPนะครับถึงจะได้มาช่วงวัยแรกรุ่นก็เหอะ

 ความถนัดผมได้เปรียบแน่ ฮืออออ น้ำตาจิไหล ปลอบใจตัวเองได้ห่วยแตกมาไอ้โอ๊ตตตต ได้แต่โอดครวญในใจครับ น้ำตาตกในเป็นสายแล้ว ฮือออ

ผมหันไปมองเพื่อนสนิทอย่างไอ้ปีย์ อยากจะด่ามันทางสายตาว่ามันไม่บอกกล่าวให้ผมต้องเตรียมตัวบ้างเลย มึงหลอกกูมาให้พ่อไผ่เชือดใช่หรือไม่ไอ้เพื่อนชั่ว

ไม่ว่าภายในใจจะโอดครวญเท่าใดแต่ภายนอกนั้นแสดงออกไม่ได้ ผมได้แต่ไว้อาลัยตัวเอง ถึงแม้จะรู้ว่าสู้ไม่ได้แต่แล้วยังไงล่ะ ข้อเสนอมันล่อลวงจนผมไม่ได้สนใจว่าคนตรงหน้าคือมืออาชีพระดับโลกตัวเป็นๆ   

โอกาสที่จะได้ประมือกับคนระดับนี้ ในชีวิตผมคงต้องฝันกลางวันเอาเท่านั้นแหละครับ นี่ถือเป็นโอกาสไม่ใช่หรือไง จะแพ้หรือชนะ อันนั้นค่อยว่ากัน เพราะไม่ว่ายังไงเรื่องของไม้ผมไม่เคยคิดจะยอมแพ้
 
“ถ้าอย่างนั้นจะรออะไรล่ะ เย็นนี้พ่อต้องพาเจ้ามาร์คไปตัดขนนะ “

ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ อยู่หรือไปผมต้องสู้แล้วสินะ เพื่อคนน่ารักของผม แพ้ไม่ได้ แค่ 1 ใน3กก็ยังดีวะ ได้จีบก็หรูแล้ว



…....................



ครับหลังจากคำพูดนั้น ผมที่ตอนนี้อยู่ในชุดพร้อมแข่งนั่งคล่อมเจ้า  Honda RC213Vลูกรักที่ตอนแรกที่ซื้อเพราะปลื้ม Marc Marquez มากจนต้องไปถอยมาเป็นเจ้าของ

 จะว่าไปผมก็คิดถึงงานอดิเรกของผมเหมือนกันนะ ไม่ได้เข้ามาสักพักแล้ว ก็ดีเหมือนกัน วันนี้ดูจะเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้อีกแล้ว

คุณลองคิดดูสิ จะมีสักกี่คนโชคดีแบบผม ได้แข่งกับไอดอลที่เป็นตำนานแม้ว่าเขาจะร้างลาจากวงการไปแล้วแต่ความฮ็อตปรอทแตกของเขา อีกกี่สิบปีถึงจะมีแบบเขาสักคน

แม้ว่าการแข่งขันวันนี้จะไม่ได้มีกล้องโทรทัศน์จับไม่มีผู้คนเรือนหมื่นมาชม  แต่ผมก็ตื่นเต้นมือเย็นเฉียบอัตราการเต้นของหัวใจเป็นจังหวะแทงโก้ ไม่มีทีท่าว่าจะสงบ

ผมมองไปที่ไอดอลร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดพร้อมแข่งสีน้ำเงินเข้ม หมวกกันน็อคที่ฉาบปรอทจนไม่สามารถจะมองเห็นสีหน้าแววตาของพ่อไผ่ได้แต่ผมกลับสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่ดูจะเป็นบรรยากาศสีหวานๆ อืมมมม พ่อไผ่อารมณ์ดี คงจะดีมากๆจนผมสัมผัสได้

แต่ผมนี่สิ จะยิ้มผ่านหมวกยังไม่กล้าเลย ผมหันมองไอ้เตี้ยโอมที่เป็นคนส่งสัญญาณ ใจจริงผมอยากให้มันแต่งหญิงมายืนตรงกลางแล้วโบกธงนะจะได้ถ่ายรูปส่งไปแลกค่าขนมกับพี่ทอย หึหึ

 ผมสลัดหัวเอาความคิดเหม่อลอยทั้งหลายแหล่ออกไปใจจดจ่ออยู่ที่แฮนด์และเลนถนนข้างหน้า


“ไป !!!”

สิ้นเสียงไอ้โอมและธงที่มันถือสบัดลงไปด้านล่าง ม้าเหล็กตัวใหญ่สองตัวก็พุ่งทะยานออกจากแหล่ง ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผองเพื่อน
 
ความยาวของสนามแข่งนี้ ยาวถึง4 .5 กิโลเมตร เพราะเป็นสนามแข่งระดับโลกอยู่แล้ว มีโค้งทั้งหมด 11 โค้ง มีโค้งขวา 8 โค้ง โค้งซ้าย 3 โค้ง

ปกติจะแข่งกันเป็น10รอบแต่หนนี้พ่อไผ่ให้แข่งแค่3รอบเหตุผลคือกลัวผมแพ้ยับเยินเกินไป โถ่ววววววววววว

ผมเร่งเครื่องตามแบบไม่คิดอะไรอีกเมื่อเห็นเจ้าYamaha YZR-Mคันใหญ่พุ่งทะยานราวกับลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากคัน



วนันต์


ผมนั่งลุ้นแบบตาไม่กระพริบอยู่หน้าจอขนาดใหญ่ที่ห้องรับแขกของบ้านข้างๆผมมีแม่ที่นั่งส่งยิ้มหวานให้จอภาพที่กำลังปรากฏภาพของคนสองคนที่ผมรักกำลังขับเคี่ยวขึ้นแซงกันในโค้งบ้างทางตรงบ้าง ด้วยใจระทึก

 ถ้าถามว่าทำไมผมไม่ไปเชียร์ที่สนามแข่งเลย เหตุก็เพราะพี่ปีย์กับหนูบัวบอกว่าของรางวัลแบบผมจะทำให้สมาธิของพี่โอ๊ตเสีย ฮ่าๆๆๆ

ดูจริงจังจนผมเองก็รู้สึกใจฟูเป็นขนมสายไหมเลย แม้จะรู้ว่าทั้งสองคนแข่งกันทำไม แต่ผมก็ยังรู้สึกสนุก ไม่ได้กดดันอะไร

 ก็เพราะพ่อบอกก่อนออกจากบ้านว่าจะไปหาอะไรสนุกๆทำ นั่นคือการได้ทดสอบฝีมือพี่โอ๊ต ซึ่งคงจะเป็นสิ่งที่พ่อเองก็คิดว่าจะทำสักวันอยู่แล้ว

ซึ่งผมไม่ได้ว่าอะไร พ่อคงไม่ได้สนุกแบบนี้มานานแล้ว สิ่งที่พ่อไผ่แกล้งพี่โอ๊ตจนหายหน้าไปจากผมเป็นเดือนๆนั่น

แม่ยังคาดโทษอยู่คงไม่มีอะไรมากไปกว่าได้กลับไปสนุกกับสิ่งที่พ่อรัก และมันคงดีหากได้ลงสนามกับคนที่พ่อไว้ใจ


นั่นเป็นที่มาของการแข่งขันครั้งนี้ เจ้าหนูบัวทำการไลฟ์ให้ผมกับแม่ได้ดู การแข่งระยะทางสั้นๆแค่ 3รอบนี้จึงไม่จำเป็นต้องเข้าพิทไม่ต้องมีธงสื่อสาร

จะมีก็แค่ธงตาหมากรุกที่จะโบกให้เห็นในรอบสุดท้ายเท่านั้น  ถึงแม้การแข่งขันจะสั้นแต่ผมก็ตื่นเต้น ผมไม่เคยเห็นพี่โอ๊ตแข่งรถมาก่อน

ส่วนพ่อผมเห็นบ่อยตั้งแต่ยังเด็กทั้ง F1 และMotocrossซึ่งน้อยคนที่จะรู้ว่าพ่อเคยแข่งMotocrossมาก่อน 

แต่ผมก็ยังไม่เคยเห็นพ่อขี่เจ้าบิ้กแข่งในสนามแบบนี้ พ่อไม่เคยแข่งMOTOGP ซึ่งต่างจากพี่โอ๊ต รายนั้นผมรู้มาว่าแต่ก่อนพี่เคยได้แชมป์เยาวชนด้วย


“เท่จังเลยน๊า“

เสียงเปรยเบาๆของแม่ทำให้ผมต้องหันไปมอง สาวสวยของบ้านนั่งยิ้มหวานมองรถจักรยานยนต์สองคันที่ผลัดกันขึ้นแซงอยู่ในจอ

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแม่เชียร์ใคร เวลาผ่านไปราวกับติดปีก ภาพผู้ชายสองคนที่เป็นที่รักของผมยืนอยู่ท่ามกลางกองเชียร์ที่มาเชียร์พี่โอ๊ตซะเป็นส่วนมากฮ่าๆๆๆ

 ก็แหมมีแต่เพื่อนๆพี่โอ๊ตทั้งนั้นนี่นา  เหมือนว่าเวลาจะหมุนเร็วเพียงไม่นาน ผมการแข่งขันก็ปรากฏต่อสายตา

ผมว่าทุกๆคนคงคิดเหมือนผม และคิดไม่ผิด เพียงแต่มันไม่ได้ชนะแบบขาดลอย หรือแพ้หมดรูป

ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะพ่อแค่ต้องการเล่นสนุกหรือเพราะพี่โอ๊ตไม่ยอมแพ้ ผลที่ออกมาเลยเป็น 1 ต่อ 3

 ใจผมเต้นตึกตักไม่หยุดสายตาล้อเลียนที่แม่ส่งมายิ่งทำให้ผมแทบจะม้วนตัวลงไปนอนที่พื้นเป็นเพื่อนพี่มาร์คกับมาลี


 ก็..รีบกลับมาเร็วๆนะครับ ผมรอพี่มาจีบแทบจะไม่ไหวแล้วนะ ^___^




…...................................



อินทัช



เป็นวันที่บ้านของน้องไม้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง ลานหญ้าหลังบ้านสนามวิ่งเล่นของพี่มาร์คกับมาลีถูกเปลี่ยนเป็นลานปาร์ตี้อีกครั้ง และครั้งนี้มันก็มาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆของทุกคนที่มา


“กูว่านะพ่อไผ่อ่อนข้อให้มึงหรอกไม่งั้นนะพ่อไผ่ต้องชนะรวด 3 รอบเลย “

เสียงไอ้โอมปากมอมพูดอย่างขบขันที่เห็นผมแพ้  รอบแรกที่ผมชนะคงเพราะพ่อไผ่คงดูลาดเลามากกว่า

เหลืออีก2รอบเลยบิดเต็มที่ใครจะรู้ว่าแชมป์F1 จะเก่งทุกเรื่องแบบนี้ เฮ้อ แต่ก็นะ ผมไม่รู้สึกเสียใจสักนิด

ผมมองว่านั่นเป็นโอกาสของผมมากกว่า ที่จริงพ่อไผ่ไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้แค่เอ่ยปากห้ามยุ่งกับลูกชายเขาผมก็คงเจอก้างชิ้นใหญ่แล้ว

ถึงจะไม่ยอมแพ้แต่คงยากพอสมควรที่จะฝ่าด่านคุณพ่อจอมขี้แกล้งแบบพ่อไผ่ไปได้ รอยยิ้มของน้องไม้ที่ดูสดใสกว่าทุกวันทำให้ผมแทบไม่ละสายตาไปไหนได้



“เอ้าๆมองเข้า ไม่เคยเห็นหรือไง น้องเขาจะสึกหรอเพราะสายตามึงเนี่ยแหละ”เพื่อนปีย์ยังคงจิกกัดไม่ปล่อยคงเพราะหมั่นไส้

น้องไม้หัวเราะเสียงเบา ไม่มีอาการเขินอายไม่ได้หน้าแดงอย่างที่เคยอ่านเจอในนิยาย

น้องไม้ยังคงมีแค่รอบยิ้มและดวงตาที่เป็นประกายเจิดจ้ามองตรงมาที่ผมรอยยิ้มและสายตาไม่ได้หลบไปไหนเรายังมองตากันยิ้มให้กัน ความสุขมันคุกรุ่นอยู่ภายใน ผมไม่รู้จะพูดอะไรรู้แค่ว่าผมมีความสุขก็พอแล้ว


“กินเยอะๆนะลูกวันนี้แม่ทำพิเศษเลยนะ “เสียงหวานของแม่นุ่นยังคงแจ่มใสไม่จาง
 
“พ่อไม่อยากแบ่งเจ้าพวกลูกลิงนี่เลยให้ตายสิอาหารฝีมือแม่เนี่ยไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย”

เสียงตอบกลับที่ดูอ่อนหวานเป็นพิเศษแถมสายตาหวานเชื่อมอ่อนโยนที่มองกลับไปที่ร่างบอบบางของคนสวยเจ้าของบ้านทำให้พวกผมแทบจะตาถลน แหมก็นานๆจะเห็นรุ่นใหญ่เขาหยอดจีบกันนี่ครับนับว่าเป็นบุญ


“พ่อไผ่ได้กินทุกวันอยู่แล้ว วันนี้แบ่งพวกผมบ้างนะครับ นะๆ”คนที่อ้อนคนอื่นโดยไม่คิดมีอยู่คนเดียวในกลุ่มผมครับ ไอ้เตี้ยโอม

ดีที่เป็นพ่อไผ่นะที่มันอ้อน ถ้าเป็นคนอื่นผมว่าคงได้เคลียร์กับพี่ทอยยาวๆ หึหึ

“มาอยู่บ้านนี้เลยดีไหมล่ะ แม่อยากมีลูกอีกสักคน ไม้อยากมีน้องน่ารักๆแบบนี้แน่ๆเบย คิก คิก”เสียงแม่นุ่นพูดอย่างอารมณ์ดี

“พ่อยังไหวนะแม่”สิ้นเสียงพ่อไผ่เราทุกคนต่างหัวเราะออกมาพร้อมๆกันมีแค่แม่นุ่นที่ยิ้มเขินๆแล้วเลี่ยงไปตักอาหารเพิ่ม





“พี่โอ๊ต ผมอยากลองขี่เจ้ายักษ์นั่นบ้างจัง”

เสียงคนข้างๆเอ่ยขึ้นมาพร้อมสายตาที่อ้อนแบบไม่รู้ตัวนั่นอีก ทำผมถอนหายใจเฮือกใหญ่และต้องเตือนตัวเองว่ายังอยู่ในสถานะขอจีบ

อย่าพึ่งข้ามขั้นไปจูบ ให้ตายเถอะไม่เคยคิดว่าผู้ชายจะน่ารักได้แบบนี้


“เอาไว้หลังสอบเสร็จ พี่จะพาไปที่สนามนะ “

แม้ว่าผมจะไม่ได้รับปากน้องว่าจะสอนให้แต่รอยยิ้มที่ส่งมาก็ทำให้ผมอดที่จะยิ้มตอบกลับไปไม่ได้

แค่นั่งคุยกันสัพเพเหระ ยิ้มให้กันไปเรื่อย แค่นี้เอง ผมก็มีความสุขแล้วและผมคิดว่าน้องไม้ก็คิดไม่ต่างจากผม

ทุกๆอย่างก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ให้เวลามันขยับขับเคลื่อนไปพร้อมๆกับความสัมพันธ์ของเราสองคนที่ค่อยๆก่อตัว

 ผมว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไร
ครอบครัวของเราสองคนไม่ได้ปิดกั้นห้ามปรามอะไร นั่นถือเป็นเรื่องดีๆ ถึงจะยังไม่มั่นใจว่าสังคมภายนอกจะเป็นอย่างไร

เราสองคนจะเดินทางสายนี้ด้วยกันอย่างราบรื่นหรือเปล่า ผมไม่รู้ แต่ที่ผมรู้แน่ๆเลยคือใจผมตัวผมจะไม่มีวันปล่อยความรักดีๆของผมให้หลุดมืออย่างแน่นอน


ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมพร้อมที่จะก้าวข้ามผ่านมันไปด้วยกัน และผมก็รู้ว่าไม้ก็คิดไม่ต่างกัน

นี่ไม่ใช่จุดจบมันเป็นจุดเริ่มต้น เส้นทางสายใหม่ในชีวิตจะมีมาให้เราได้เลือกเรื่อยๆและหลากหลายทางเลือกที่จะมีมา

 เพียงแค่ตอนนี้ผมเลือกที่จะเดินเคียงข้างไปกับคนๆนี้ เรื่องของอนาคตที่ยังมาไม่ถึงผมจะปล่อยวางไปไม่นำมาคิดให้เราสองคนเป็นทุกข์

แต่สิ่งที่ผมจะต้องทำคือทำทุกทางให้คนที่ผมรักมีความสุขและผมจะมีความสุขแน่นอน






..............END...................


พันวาชวนคุย


เรื่องราวน่ารักๆของคนสองคนดำเนินมาจนตอนสุดท้าย ที่จริงเรื่องนี้ครั้งแรกพันวาจะแต่เป็นแค่เรื่องสั้น ไม่รู้มันลากยาวมาถึงตรงนี้ได้อย่างไร เป็นเรื่องที่เขียนนานที่สุด เพราะเจออุปสรรคในการเขียนและอัพนิยายเรื่องนี้หลายอย่างมาก

อย่างแรกก็สุขภาพที่เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น  งานที่ต้องบินไปโน่นนี่บ่อยๆ
ตามมาด้วยช่วงตกงานเมื่อปี 60 ควบ 62เลย ต้องเดินทางร่อนเร่
พอมาได้งานช่วงกลางปี62 ก็มาเจอ โควิดต้นปี 63 จนถึงตอนนี้ สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

กว่าจะปิดตอนได้เล่นเอาสังขารอ่อนล้ามากค่ะ555555


จบเรื่องนี้มีอีกหลายพล็อตในหัวที่อยากเขียนแต่เวลาคงไม่อำนวยซะแล้ว คงได้กลับมาเขียนเมื่อโควิดจากไป ต้องคิดถึงคนอ่านมากแน่เลย


ขอบคุณคนอ่านที่ติดตามงานของพันวา ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ หากมีเวลา จะเข้ามาเขียนเรื่องราวดีๆแบ่งปันกันต่อไปนะคะ

รักคนอ่านมากๆเลยยยย :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 17-05-2020 12:17:58
 :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณมากครับ

จบซะแระ
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 17-05-2020 13:04:42
 :pig4:
:3123:
หัวข้อ: Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 07-06-2020 17:46:25
 o13