**ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: **ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)  (อ่าน 36844 ครั้ง)

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
ขอให้ผ่านไปด้วยดี

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5



ตอนพิเศษ เพื่อน


บูรพา


“มึงโอเคนะ “ผมถามคนที่เดินหน้าซีดเซียวเข้ามาหาที่ห้องแต่เช้ามืด

“อือ” ร่างสูงใหญ่ ดูดีขึ้นมากจากเมื่อช่วงที่พวกเราเรียนจบมัธยมปลายแล้ว และจากเหตุการณ์เมื่อตอนจบมัธยมต้นที่ไปหัวหินตอนนั้น

ก็ผ่านมาสามปีกว่าแล้วนาวี ที่เคยเงียบขรึมก็ยิ่งเป็นคนเก็บตัวมากกว่าเดิม แม้ว่ามันจะผ่านมานานจนผมและเพื่อนสนิทคนนี้พอจะทำใจกับเรื่องนั้นได้บ้างแล้ว

 แต่ในความรู้สึกผมเหมือนว่ามันพึ่งจะผ่านไปไม่นาน ความเจ็บปวดแม้จะยังคงอยู่แต่มันก็ซาลงไปบ้างแล้ว สำหรับเพื่อนผมมันคงไม่ได้ซาลงเลยแม้แต่น้อย 

นาวี จากที่เคยเป็นคนเงียบขรึมพูดน้อยอยู่แล้ว จากเหตุการณ์คราวนั้น นาวีไม่คุยกับใครอีกเลยนอกจากผม การสูญเสียคนที่รักไปแบบไม่คาดฝัน

ทำให้นาวีแทบอยากจะฆ่าคนที่ทำให้คนที่มันรักต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งนั่นก็เป็นคนที่ผมรักเช่นกัน
เลยได้แต่กล้ำกลืนหนีหายจากกันไปเพื่อทำใจ  แต่ก็นั่นแหละมันได้แค่คิด เพราะยังไง คนๆนั้นก็เพื่อนของเราและเป็นคนที่ผมรักมาก
แม้ว่าจะโดนหักหลังอย่างเจ็บปวดก็ตาม

การลาออกจากโรงเรียนไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ แต่เป็นช่วงจังหวะที่ครอบครัวนาวีมันย้ายบ้าน ช่างพอเหมาะเสียเหลือเกิน
ผมซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรแต่การย้ายตามไอ้วีที่เป็นเพื่อนกันมานานทำให้ผมโดนพ่อด่าอยู่นานแม้ว่าครอบครัวจะตามใจ

แต่ก็ต้องแลกกับอิสระที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นโอกาสของพ่อที่เอามันมาต่อรองกับผม ซึ่งตอนนั้นผมคิดว่า
การเรียนวิศวฯก็คงไม่แย่เท่าไหร่ เทียบกับที่ต้องทนเจ็บปวดอยู่ที่เดิมกับเวลาสามปี ผมเลือกจะตกลงกับพ่อแล้วย้ายโรงเรียนตามไอ้วีมัน

ข่าวคราวอดีตเพื่อนรัก ทั้งสองคนคบหากันที่ผมเห็นผ่านช่องทางโซเชี่ยล  ภาพถ่ายที่ผมเห็นผ่านไอจี ของคนทั้งคู่ทำให้ใจผมเจ็บปวด

ทำไมมีแต่พวกเขาที่สมหวัง ทำไมพวกผมต้องเป็นฝ่ายสูญเสีย รอยยิ้มสวยงามของคนทั้งคู่ ความสุขฉายชัดรอบกายทั้งสอง

คำออดอ้อนผ่านสื่อโซเชี่ยลที่มีให้กันมันทำให้ผมกับ นาวีเหมือนตายทั้งเป็น แรกๆผมแทบไม่เป็นผู้เป็นคน
ความเสียใจเกาะกินจนเพิ่มความเกลียดชังและโกรธแค้น

ผมยังคอยติดตามส่องดูความเป็นไปของคนคู่นั้นผ่านโซเชี่ลย แต่ไม่แม้จะทักทายไป ไม่แม้จะอยากพบเจอ เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าถ้าหากเจอกันแล้วเห็นเขาทั้งคู่รักกันดี ผมจะต้องทำตัวยังไง ผมจะทนเห็นเขามีความสุขได้ไหม


“วี สภาฯให้มึงกับกูไปเป็นตัวแทนมหา’ลัยในงานประเพณีของ มหา’ลัย XS “

“ทำไม เป็นมึงวะ”เพื่อนตัวโตของผมขมวดคิ้วแน่น คงสงสัยว่าทำไมไม่มีดาวแต่เป็นเดือนมหาวิทยาลัย กับเดือนคณะอย่างผมแทนล่ะมั้ง

“กูก็สงสัยเหมือนกัน แต่ได้ข่าวว่าดาวปีนี้กับเดือนปี4 ติดภารกิจอะไรสักอย่างหวยเลยลงที่กู”

“ก็ดีเหมือนกัน มีมึงไปด้วยก็ดี”

“เหอะ ห่างๆกูบ้าง ก็ได้เพื่อน”

“แต่ถ้าเราไปที่นั่นเราจะได้เจอพวกเขาใช่ไหม มึงว่ากูควรทำยังไงดีวะ”

“ไม่เห็นต้องทำอะไร อย่าสนใจมากนักผ่านมาก็ตั้งนานแล้วไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะทำเป็นไม่รู้จักเราสองคนก็ได้นะ “

“กู..กลัว”ผมอดที่จะเอ่ยความรู้สึกออกมาไม่ได้ ผมกำลังกลัว ถ้าผมเจอไม้อีกผมจะเป็นยังไง จะทนเห็นไม้กับบัวรักกันได้หรือเปล่าผมเองก็ตอบไม่ได้

“มึงก็ท่องไว้สิคนเห็นแก่ตัวแบบพวกมันคบกันเองก็ดีแล้วนี่ อย่าไปสนใจ อย่ามองอย่าดู ไม่ต้องรู้จักกันอีก”

เสียงนาวีเข้มขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยได้แต่ตบไหล่มันเบาๆปลอบใจทั้งๆที่ใจผมเองก็สลายไม่ต่างกัน

บางทีผมเองก็อยากจะถามไม้ตรงๆว่า ที่ผ่านมาเคยนึกรักผมบ้างหรือเปล่า แม้ในฐานะเพื่อนก็ยังดี
ตะกอนบางๆในใจผมมันยังปกคลุมไม่จางหายไป


..........................................................

ผมเหม่อมองประตูบานใหญ่ที่มีสต๊าฟยืนคอยแจกบัตรเข้าห้องซ้อมใหญ่ในงานประเพณีที่จะมีขึ้น

หากผมก้าวข้ามประตูนี้ไปผมอาจจะต้องเผชิญปัญหาที่ผมหนีมาเป็นปี ผมควรเผชิญหน้าตรงๆได้แล้วสินะ

“กูอยู่ตรงนี้”เสียงทุมห้าวของเพื่อนสนิทดังขึ้นข้างๆพร้อมรอยยิ้มบางเบาส่งมาให้

“ขอบใจเพื่อน “ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน ผมจะมองให้เต็มตาแม้ว่าพวกเขาจะมีความสุขผมก็จะมองจนกว่าพวกเขาจะอายในสิ่งที่เขาทำกับผมกับวี และชลที่จากพวกเราไป

เราสองคนเดินพ้นประตูเข้ามาสายตาไม่รักดีของผมก็จับจ้องไปที่ร่างสูงโปร่งของคนๆนั้นใบหน้าสวยหวานประดับด้วยรอยยิ้มสดใส

 ข้างกายมีสาวสวยคนนั้นที่ผมเคยเรียกว่าเพื่อน ท่าทางหยอกล้อหวานกันจนผมเจ็บแปลบที่หัวใจ
ผมเบือนหน้าหนีจากภาพบาดตาที่ผมรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมาเจอ

“อย่าอยู่ห่างจากกู อย่ามอง อย่าสนใจ กูอยู่ตรงนี้”เสียงของนาวีดังอยู่ข้างๆทำให้ผมหันมายิ้มจืดเจื่อนให้มัน

“น้องบูกับน้องวีเชิญทางนี้ก่อนค่า ไปรับชุดกับพี่แอ้มก่อนนะคะแล้วค่อยมานั่งรอตรงนี้”

เสียงพี่สต๊าฟที่ยื่นบัตรให้พร้อมทั้งเอ่ยเรียกชื่อทำให้ผมละสายตาที่เผลอสบตาคู่นั้นมามองหาทางที่จะเดินไป พยายามข่มใจไม่มองไม่สนอย่างที่ไอ้วีมันว่า


“เค้ายังคบกันอยู่ ตัดใจได้แล้ว”เสียงทุ้มของคนนาวีที่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายังคงมีความหงุดหงิดติดอยู่ตลอดตั้งแต่ผมเลี่ยงหลบมุมมาเพราะทนมองไม่ไหว

“ไม่นึกว่าจะได้มาเจอ ดูเขามีความสุขดีทั้งๆที่กูยังเจ็บอยู่แบบนี้ หึโคตรไม่แฟร์เลย ว่าแต่มึงเถอะ เอาไงต่อดี
ทำงานร่วมกันได้ไหมคงไม่ยากหรอกมั้ง คนใจดำแบบไม้มันคงไม่รู้สึกอะไร”

คนใจดำเหรอ หึ ผมประชดเพื่อให้ใจตัวเองเจ็บเพิ่มกว่าเดิม แม้จะรู้ว่าเขาทั้งคู่รักกันมันก็สิทธิ์เขาใจเขา แต่ ผมก็ยังเจ็บปวดจนไม่รู้ว่ามันจะหายไปจากผมเมื่อไหร่

 “หึ.ใจดำงั้นเหรอใครกันแน่วะ. น้องไม้ไม่น่ามีคนอย่างพวกมึงเป็นเพื่อนเลยทุเรศชิบหายห่วงแต่ความรู้สึกของตัวเอง”

ผมกับวีหันไปตามต้นเสียงก็เจอกับผู้ชายตัวสูงใหญ่พอๆกับเราสองคนอาจจะตัวโตกว่าไอ้วีด้วยซ้ำ ใบหน้าถมึงทึงเหมือนโกรธเราสองคนมานานปีทั้งๆที่ผมไม่รู้จักเขาสักนิด

“มึงเป็นใคร !”เสียงนาวีเข้มขึ้นตามอารมณ์ที่คั่งค้าง

“กูไม่อยากรู้จักคนอย่างพวกมึงสองตัว แต่กูจะบอกอะไรให้พวกมึงรู้ไว้อย่างนึง น้องไม้เคยเข้ารับการรักษาเพราะเครียดจัดเรื่องของพวกมึง
น้องไม่นอนเพราะหลับลงก็เห็นแต่เรื่องของพวกมึงน้องไม่กินเพราะเครียดเรื่องพวกมึง น้องไม้เอาแต่โทษตัวเองเสียใ

จนต้องเข้ารับการบำบัดน้องต้องทรมานแค่ไหนกับเวลาที่ผ่านมาขนาดนั้นน้องผ่านแต่ละวันด้วยความยากลำบาก จนตอนนี้น้องก็ยังนอนหลับไม่ได้ ในขณะที่พวกมึงกินอิ่มนอนหลับแต่ก็โยนความผิดให้น้องมันทั้งๆที่น้องไม่ผิดอะไรเลยความเจ็บของพวกมึงเทียบไม่ได้กับสิ่งที่น้องได้รับ 

ถ้าพวกมึงสองตัวยังเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเคยเป็นเพื่อน กลับไปคิดใหม่ว่าน้องไม้ผิดอะไรพวกมึงถึงทำกับน้องได้เลือดเย็นขนาดนั้น
ถามใจพวกมึงดูว่าพวกมึงรักน้องมันจริงหรือแค่รักตัวเองที่พอน้องไม่รักตอบก็โยนความผิดให้น้องมัน อย่าให้กูเห็นว่าเข้ามาทำร้ายน้องไม้อีกไม่งั้นเจอกันคราวหน้ากูกระทืบไม่ยั้งแน่”

คำพูดยาวเหยียดของคนแปลกหน้าทำให้ผมชะงักค้าง นี่มันเรื่องอะไรกัน!

“วี ... มึงได้ยินเหมือนกูไหม ทำไมคนๆนั้น เขาถึงพูดแบบนั้น แล้วไม้...บำบัดเหรอ มันอะไร มึงตอบกูที”

ผมรู้สึกมึนเบลอไปกับคำพูดของผู้ชายคนนั้น ผมพยายามจับต้นชนปลายไร่เรียงคำพูดของเขาแล้วคิดตาม

“อย่าไปสนใจเลยน่า คงเป็นพวกที่หลงไอ้ไม้จนไม่ลืมหูลืมตานั่นแหละ เครียดบ้าบออะไร เสียใจเหรอ เหอะ แล้วสิ่งที่กูเห็นพวกมันมีความสุขยิ้มร่าหน้าบานมาตลอดนั่นมันหลอกกูหรือไง  “เสียงที่ยังคงหงุดหงิดและเจ็บปวดไม่ต่างจากผมทำให้ผมต้องหายใจเข้าลึกเพื่อนตรึกตรอง

“แล้วถ้ามันเป็นจริงอย่างที่ผู้ชายคนนั้นว่าล่ะวี”

“ไร้สาระน่า บู หยุดพูดซะทีกูรำคาญ”นาวีเดินออกจาห้องน้ำตรงไปที่จุดซ้อมทำให้ผมต้องรีบสาวเท้าตามหลังมันไป ผมพยายามซ้อมเดินในช่วงของผมสองคนโดยไม่หันหน้าหรือหันไปมองคนที่ทำผมเจ็บสองคนนั่นอีก

ในจังหวะที่ผมกำลังจะเข้าคิวเดินต่อจากคนที่ไปก่อนหน้าผมต้องชะงักหยุดดึงแขนไอ้วีไว้เมื่อร่างสูงโปร่งของคนๆนั้นกำลังเดินตรงมาที่เราสองคนโดยมีผู้ชายตัวโตคนนั้นมองมาที่เราด้วยสายตาที่ทำให้ขนลุกไปทั้งตัว

ผมหันไปสบตาผู้ชายคนที่ด่าเราสองคนในห้องน้ำก่อนจะก้าวถอยหลังเตรียมจะเดินหนีคนที่เดินตรงมาหาผม แต่ก็ช้าไปมือเรียวสวยคู่นั้นที่ผมเคยสัมผัสยื่นมาคว้าแขนของผมเอาไว้

“ขอโทษนะ เราขอโทษ อย่าเกลียดเรา ฮึก..ขอโท.....”

ดวงหน้าสวยซีดเผือดดวงตาเอ่อคลอด้วยน้ำใสๆปากสั่นระริกเค้นคำพูดตะกุกตะกัก ก่อนที่คำพูดสุดท้ายจะขาดหายไป

ร่างสูงเพรียวของไม้ก็ทรุดลงแทบทันที ผมยื่นมือคว้าร่างนั้นไว้ด้วยความตกใจ พร้อมทั้งรวบร่างเพรียวนั้นเอาไว้ในอ้อมแขนด้วยความกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป


“ปล่อยมือจากน้องกู!!”เสียงดุดันดังขึ้นใกล้ๆก่อนจะคว้าเอาตัวของไม้ไปกอดเอาไว้ท่าทีหวงแหนและอ่อนโยนจนผมแปลกใจ

นาวีพยายามเข้าไปช่วยแต่ก็โดนตะเพิดออกมา อย่างไม่ใยดี เสียงตะโกนของผู้ชายคนนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ

“พี่ครับเรียกรถพยาบาลหน่อยน้องผมช็อค!!! ไม้ๆ ได้ยินพี่ไหมไม้ พี่อยุ่นี่ พี่อยุ่ตรงนี้ อย่าเป็นอะไรนะ ไม้”

อาการหดเกร็งของมือและร่างกายของไม้ทำให้ผมยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ ผมไม่เคยเห็นไม้เป็นแบบนี้ หรือที่ผู้ชายคนนั้นพูดในห้องน้ำจะเป็นเรื่องจริง

ลำตัวของไม้แข็งเกร็งในอ้อมกอดของผู้ชายคนนั้น มือกำแน่นจนข้อมือขาวซีดไร้สีเลือดดวงตาลอยไร้แววดูน่ากลัวใจผมปวดแปลบ ไม่หาย แม้แต่นาวีก็หน้าซีดเผือดเมื่อเห็นอาการของไม้

“ฮึก ฮือ ไม้ ตื่นสิ บัวอยู่นี่ไม้ ฮืออออ พี่ปีย์ เพื่อนหนูเพื่อนหนู ฮือออ พวกนายมันใจร้าย ฮืออ ถ้าไม้เป็นอะไรไป เราจะไม่ให้อภัยบูกับวีเลยคอยดู “ หนูบัวหันมาตัดพ้อเราสองคน ดวงตาคู่สวยนองไปด้วยน้ำตา

“... เพื่อน ? ทำไมกัน?”คำพูดของหนูบัวยิ่งทำให้ผมสับสน ผมไม่เข้าใจตลอดเวลาที่ผมมองดูพวกเขาผ่านสื่อโซเชี่ยล คนทั้งคู่เป็นแฟนกันนี่ ทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าเป็นเพื่อนกัน

เสียงไซเรนของรถพยาบาลห่างออกไปทุกที ผมทรุดนั่งลงกับที่ ราวกับเรี่ยวแรงที่มีมันหายไปฉับพลัน

“วี ไม่จริงใช่ไหม ไม้ เค้า เป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ เพราะกูเหรอ เพราะกูใช่ไหม”

“กูไม่รู้  กูก็ไม่รู้เพื่อน”เสียงแผ่วเบาที่ส่งมาไม่มีความหงุดหงิดอย่างที่เคย แต่มันกลับแฝงไปด้วยความไม่แน่ใจไม่เข้าใจ และสับสน เหมือนกันกับผม

“เราไปหาพวกเขากันไหม ไปจบเรื่องนี้กันซะที”แม้จะเจ็บปวดแต่ผมจะต้องเผชิญความจริง ผมจะไม่หนีอีกแล้ว

“กูจะไม่หนีอีกแล้ววี กูเจ็บมามากแล้วตอนนี้กูไม่รู้ว่าความเจ็บปวดใจของกู เป็นเพราะกูยังรักเขาเพราะกูเกลียดเขา หรือเพราะกู ทำผิดกับเขากันแน่ ....กู ...จะไปหาเขา มึงไม่ว่ากูใช่ไหม”

ผมหันไปมองเพื่อนสนิทที่คบกันมายาวนาน แม้ในเวลาที่ผมไม่เหลือใครผมก็ยังมีมันอยู่ข้างๆ

“ไม่ใช่แค่มึงหรอกที่รู้สึกอย่างนั้น กูก็คิดเหมือนกัน   เอาเถอะ หนีไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น บางทีนะบู คงเป็นกูกับมึง ที่ผิด”

สีหน้าเศร้าหมองของเพื่อนสนิททำให้ผมต้องโอบไหล่มันเอาไว้หลวมๆเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกให้มันรู้ว่าที่ตรงนี้มันยังมีผมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะยังมีกันและกัน เพื่อนเพียงคนเดียวของผม


“เอ่อ...ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว คนที่เหลือซ้อมต่อนะคะ ไม่มีอะไรๆ วันนี้คิวเดินรวมครั้งสุดท้ายนะคะ อย่าพลาดล่ะ”เสียงพี่สต๊าฟคนนั้นดังขึ้นหลังจากเรื่องราวโกลาหลได้สงบลง

“พี่ครับ พวกผมขอไปหาเพื่อนได้ไหมครับ คนที่ไม่สบายเป็นเพื่อนของเรา ไม่ทราบว่าเขาไปส่งที่โรงพยาบาลไหนครับ”

“อ๋อ น้องไม้เหรอคะ ไปส่งที่ โรง’บาลDCS ค่ะ จะตามเพื่อนไปเหรอคะ งั้นน้องวีกับน้องบู เอากระเป๋าใบนั้นไปให้เพื่อนด้วยนะคะ คงรีบเลยลืมกัน “

“ได้ครับของคุณมากครับพี่”

“จ้า”

ผมมองกระเป๋าใบขนาดกลางติดพวงกุญแจอันเก่าจนจะขาดอันนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นกระเป๋าของใคร

“พวงกุญแจอันนั้น”นาวีพึมพำเบาๆมือหนาใหญ่ของมันลูบเบาๆที่พวงกุญแจราวกับจะถนอมความบอบบางของมัน

“สายชล”มันเป็นพวงกุญแจที่สายชลซื้อให้พวกเราตอนไปหัวหิน ไอ้วีมันก็ยังใช้อยู่แต่ผมทิ้งมันไปตั้งแต่คืนนั้นแต่แม้จะทิ้งไปผมก็ยังจำมันได้อยู่ดี ไม่นึกว่าอีกคนจะยังเก็บมันเอาไว้

Rrrrrrrrrr

เสียงเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋าดังขึ้นผมกับวีชะงักมองหน้ากันก่อนจะตัดสินใจเปิดกระเป๋าแล้วหยิบเอาเจ้าเครื่องสื่อสารสี่เหลี่ยมนั้นมาถือไว้

....แม่....ชื่อของสายเรียกเข้าทำให้ไอ้วีกดรับสาย

(ไม้.เมื่อเช้าไม่ได้เอาขนมไปให้หนูบัวใช่ไหมเจ้าลูกคนนี้ โทรหาบัวไม่มีคนรับสายเลย สงสัยไปกับแฟนแล้วลืมไม้แน่ๆ เย็นๆมาเอาไปให้เพื่อนเลยนะเดี๋ยวขนมแม่เสียพอดี....ไม้?)เสียงเจื้อยแจ้วชะงักไปเมื่อไม่มีเสียงใดๆตอบกลับ

(เป็นอะไรหรือเปล่าลูกทำไมเงียบ กินยาหรือยัง ไม่สบายหรือเปล่า ปวดหัวอีกหรือเปล่าลูก )

“แม่นุ่นครับนี่วีเอง”

(วี ?...)เสียงแม่นุ่นเงียบหายไปเหมือนกำลังนึก

( แล้วไม้ละลูก ไม้ไปไหน ทำไมวีรับสาย แล้ววีไปเจอไม้เหรอลูก ขอแม่คุยกับไม้หน่อย)เสียงแปลกใจและร้อนรนของแม่นุ่นทำผมใจไม่ดีเลยสักนิด

“แม่นุ่นใจเย็นๆก่อนนะครับ คือไม้ไม่สบายบัวพาไปโรงพยาบาล DCS แต่ลืมกระเป๋าไว้ วีเห็นว่าเป็นแม่นุ่นเลยรับสายครับ”

(โรงบาล! แย่แล้ว ไม้ๆ แม่จะไปเดี๋ยวนี้ ) เสียงตัดสายของแม่นุ่นดึงสติเรากลับมาอีกครั้ง ผมหันมองหน้าวีที่ซีดลงกว่าเดิมก่อนที่เราสองคนจะรีบไปที่รถเพื่อตามไปโรงพยาบาล

“ไม้.”เสียงพึมพำเบาๆของนาวีทำให้ผมเริ่มคิด...ในใจผมมันสับสนและวุ่นวายความคิดตีกันให้ยุ่งเหยิงไปทุกส่วน

เราสองคนมาถึงโรงพยาบาลในเวลาไม่นานนัก แม้ว่าเราจะมาถึงเร็วแต่ก็ช้ากว่าแม่นุ่นและพ่อไผ่ ที่กำลังวิ่งเข้าไปในตัวอาคาร

 เราสองคนเดินกึ่งวิ่งตามหลังไปด้วยความใจร้อนไม่แพ้กัน ผู้ชายคนนั้นเดินออกมารับแม่นุ่นและพ่อไผ่สีหน้ายังคงมีความเครียดไม่จางหาย

“แม่นุ่นพ่อไผ่สวัสดีครับ”เราสองคนยกมือไหว้ผู้ใหญ่ตรงหน้าและยังคงมองดูผู้ชายคนนั้นที่ยังคงใช้สายตาแข็งกร้าวมองมาที่เราตลอดเวลา

ผมรู้สึกขนลุกกับแววตาของคนๆนั้นจนต้องหลบสายตาหันมามองแม่นุ่นกับพ่อไผ่

“หมอย้ายน้องเข้าห้องพักแล้วครับพ่อกับแม่จะเข้าไปหาน้องเลยไหมครับ”

“น้องเป็นไงบ้างลูก”แม่นุ่นถามด้วยความร้อนใจผมเองก็ตั้งใจฟังคำตอบไม่ต่างกัน

“น้องปลอดภัยแล้วครับหมอให้ยานอนหลับ เพราะน้องเครียดเกินไป “

“โอ๊ตพาแม่นุ่นไปก่อนเลยนะพ่อจะขอคุยกับหมอสักหน่อย”พ่อไผ่หันไปคุยกับผู้ชายคนนั้นแล้วเดินตรงไปอีกห้องที่เขียนว่า คลินิกพิเศษ

 ผมกับนาวีได้แต่ยืนเงียบๆก่อนที่วีมันจะฉุดมือผมเดินตามหลังแม่นุ่นไป

“แม่นุ่นครับ นี่กระเป๋าของไม้ครับ”ผมเอ่ยขึ้นพลางยื่นกระเป๋าไปให้แม่นุ่นที่หันกลับมามองเราสองคน

“ขอโทษจ๊ะแม่มัวแต่กังวล วีกับบูจะเข้าไปหาไม้ด้วยกันไหมลูก”

“พวกผมเข้าไปได้หรือครับ”

“ได้สิจ๊ะ..ไม้คงดีใจที่วีกับบูมาเยี่ยม”

“แต่..แม่นุ่นครับ”ผู้ชายคนนั้นท้วงเสียงเบาเมื่อเห็นว่าแม่นุ่นอนุญาตให้เราสองคนเข้าไปหาไม้

“ไม่เป็นไรหรอกพี่โอ๊ต เพื่อนกันทั้งนั้น เชื่อแม่นะคะ”มือเรียวบางลูบแขนผู้ชายคนนั้นไปมาราวกับว่าจะให้เขาใจเย็นลง

ผมกับนาวีเดินตามแม่นุ่นเข้าไปที่ห้องพักคนไข้ ร่างเพรียวบางของคนหน้าสวยคนนั้นหลับสนิทอยู่บนเตียงคนไข้

แต่ใบหน้าที่ดูแล้วคงหลับไม่สบายเท่าไหร่เพราะคิ้วเรียวสวยนั่นขมวดเป็นปมราวกับว่าคนหลับกำลังฝันร้าย


“ไม้ลูก แม่นุ่นอยู่นี่แล้ว “แม่นุ่นจับมือเรียวสวยนั่นมากอบกุมเอาไว้แล้วบีบเบาๆ ร่างเพรียวบางของคนที่ผมเคยหลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้นต่างจากสิ่งที่ผมคิด

ไม้แลดูเปราะบางพร้อมจะแตกสลายตลอดเวลา ไม่เหมืนอคนที่มีความสุขกับคนรักอย่างที่ผมเห็นผ่านโซเชี่ยลเลยสักนิด

ผมสองคนได้แต่นั่งมองไปที่คนป่วยที่กำลังหลับสนิท ไม่นานนักพ่อไผ่ก็กลับมาที่ห้องและเดินเข้าไปคุยกับผู้ชายที่ชื่อโอ๊ตคนนั้น

“วี บู พ่อขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับพ่อไผ่หันมาหาเราสองคนที่ยังคงยืนเงียบๆอยู่ใกล้ๆ

“ครับ”ผมกับวีเดินตามพ่อไผ่ออกจากห้องมาที่ร้านกาแฟในโรงพยาบาล

“เป็นไงมาไงถึงได้มาเจอเจ้าลูกหมาของพ่อได้ล่ะหืม”คำถามที่ดูเหมือนจะธรรมดาทั่วไปแต่น้ำเสียงของพ่อไผ่ไม่เหมือนเดิมเมื่อครั้งที่พวกผมยังเด็ก

“พวกผมรับงานของมหาวิทยาลัยน่ะครับ เลยได้ไปเจอกัน แต่....ผม..”นาวีเริ่มพูดติดขัดเมื่อมองดูสายตาของพ่อไผ่รังสีกดดันที่แผ่ออกมาทำให้ผมอึดอัด

“พ่อไผ่ครับช่วยบอกพวกผมได้ไหมว่าทำไม ไม้ถึงเป็นแบบนั้น”ผมตัดสินใจถามอย่างตรงไปตรงมา

“เฮ้อ..... อันที่จริงพ่อจะโกรธพวกเราทั้งสองคนก็ไม่ถูกล่ะนะ  ..แต่ถ้าเราสองคนฟังเรื่องของไม้แล้วพ่ออยากจะให้เราสองคนคิดให้ดีๆก่อนจะกลับไปหาไม้ที่ห้องพักคนไข้ได้ไหม“

พ่อไผ่ว่าแบบนั้น พวกผมได้แต่พยักหน้าและพร้อมรับฟังเรื่องราวจากปากของผู้ชายที่พวกผมยังรักและนับถือไม่เปลี่ยนแปลง


นาวี



ผมหันหน้าไปมองบูรพาที่หน้าตาคงซีดเซียวไม่ต่างจากผมมากนัก เรื่องราวที่พวกเราไม่เคยรู้มาก่อนทำให้ผมถึงกับนั่งนิ่งแทบกลั้นหายใจ

 ผมเคยคิดว่าเป็นผมที่เจ็บปวดที่สุด เสียใจที่สุด และเฝ้าแต่โทษเพื่อนอีกคน เอาแต่โยนความผิดทั้งหมดไปให้เพื่อนคนนั้น

โดยไม่นึกถึงความเป็นจริง ผมเอาแต่คิดเข้าข้างตัวเอง เจ็บปวดเสียใจ แต่ผมลืมคิดไปว่า เพื่อนอีกคนก็มีหัวใจเช่นกัน

การหายออกจากชีวิตของเพื่อนคนหนึ่งไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แต่กลับเลวร้ายลง ผมกำลังทำร้ายเพื่อนอีกคนโดยไม่รู้ตัว

ผมกับบูทรุดตัวลงกับพื้นก้มกราบแทบเท้าของพ่อไผ่ ดวงตาแดงก่ำของบูทำให้ผมรู้ว่ามันเองก็เสียใจไม่ต่างกัน

“ผมขอโทษครับพ่อ..ขอโทษครับ”เราสองคนได้แต่เอ่ยคำขอโทษที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หนูบัวไม่ได้เป็นแฟนกับไม้ ไม้ที่เสียใจจนเกือบจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าหากไม่ได้เข้ารับการบำบัดทันเวลา ตอนนี้ผมและบูรพาอาจจะกลายเป็นผู้ร้ายไปแล้วก็ได้ แม้ว่าไม้จะเข้ารับการรักษา แต่ไม้ไม่มีเพื่อนใหม่เลย นอกจาหนูบัว และผู้ชายที่ชื่อโอ๊ตคนนั้น

“ลุกขึ้นเถอะ  พ่อน่ะไม่ได้จะเอาเรื่องเอาราวอะไรของวัยรุ่นหรอกนะ แต่อยากจะบอกว่า เพื่อนกันควรรับฟังกันให้มาก อย่าหันหลังให้กันไปทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจกัน ..อย่าร้องเลยลูก น้องไม้ร้องมาเยอะแล้วเขาคงไม่ดีใจหากเห็นเพื่อนที่เขารักต้องมาร้องไห้เพราะเขานะ“

จบคำของพ่อไอ้บูถึงกับปล่อยโฮลั่นโรงพยาบาล เดือดร้อนพ่อไผ่ต้องมานั่งปลอบมันอีก แต่ผมก็เข้าใจ เพราะผมเองก็อยากจะร้องไห้ไม่ต่างกัน


...............................................

เสียงพูดคุยในห้องคนไข้เงียบลงเมื่อผมและบูเดินเข้าไป

หนูบัวและผู้ชายอีกคนที่ยืนข้างกันคงเป็นแฟนของหนูบัว และผู้ชายที่ชื่อโอ๊ตยังคงนั่งข้างๆเตียงข้างแม่นุ่นไม่ห่างจากไม้

ดวงหน้าสวยหวานซีดเผือดเมื่อมองเห็นผมกับบูเดินเข้ามา

“วี..บู..”

“เราขอโทษนะ ขอโทษที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย ขอโทษที่ปล่อยนายเอาไว้กับความรู้สึกแย่ๆนั่น ขอโทษนะ ฮืออออ”ไอ้บูร้องไห้อีกรอบทั้งยังพยายามยกแขนปาดน้ำตาน้ำมูกที่ไหลปนกันจนผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

“ขอโทษนะไม้ ขอโทษที่ทิ้งไปไม่บอกอะไรเลย ขอโทษที่ทำนายเสียใจ.ยกโทษให้เรานะ “ผมเอ่ยขึ้นเมื่อไอ้บูยังคงสะอื้นไม่หยุด

“ไม่เลยเราไม่ว่าเลย เราสิต้องขอโทษ เราไม่ดีเอง เรา ขอโทษนะ ที่ทำร้ายจิตใจของนายทั้งสองคนเราขอโทษนะเพื่อน”

ไอ้บูโผเข้าไปกอดไม้เอาไว้แน่นเสียร้องไห้ของคนสองคนทำให้ผมที่ฝืนไว้ก็ทนไม่ไหวจนต้องปล่อยให้น้ำใสๆคลอหน่วยตาและไหลลงมาอย่างไม่อายใคร

“ฮะๆขี้แยเหมือนเดิมเลยนะบู ตัวโตซะเปล่า”เสียงล้อขำๆจากน้องไม้ทำให้แม่นุ่นหัวเราะเบาๆและตามด้วยเสียของหนูบัว

“ขอบใจนะเพื่อน ขอบใจที่กลับมา”สาวน้อยคนสวยยิ้มสดใจพร้อมทั้งเดินเข้ามากอดเราสองคนเอาไว้

“ไม่หรอก เราสิต้องขอบใจ ขอบใจที่ไม่เกลียดพวกเรานะ”

“อื้ม  ก็เพื่อนกันนี่นาจริงไหม “รอยยิ้มสดใสจากคนป่วยทำให้หลายคนที่ยืนรายล้อมยิ้มไปด้วย

“ขอให้จากวันนี้ไปมีแต่เรื่องดีๆนะ “พ่อไผ่เดินเข้าไปลูบหัวของไม้เบาๆ มือเรียบางคู่นั้นยังคงจับมือผมและไอ้บูไว้แน่น

“จะจำไปจนตายเลยครับพ่อไผ่ จากนี้เราจะเป็นเพื่อนที่ดีของไม้นะ ขอไถ่โทษกับเวลาที่หายไป ขอโทษนะเพื่อน”

“เราก็เหมือนกันนะ ดีใจจัง ฮึก ฮืออออออออ”และวันนี้ก็จบลงด้วยเสียงร้องไห้ของไม้และบูรพา


แต่มันเป็นการร้องไห้ที่รู้สึกว่าโล่งโปร่งที่สุดในชีวิต  เป็นน้ำตาที่เยียวยาความเจ็บปวดที่เราทั้งสามคนได้รับมา แม้ว่าอีกคนจะเจ็บปวดเจียนตาย

แต่จากนี้เราจะเยียวยาซึ่งกันและกัน เพื่อนเป็นแล้วไม่หาย คำๆนี้คงเป็นจริงผมจะรักษามิตรภาพนี้ไว้ตลอดไป สายชลเป็นอดีตและบทเรียน วนันต์คือเพื่อนที่จะเป็นไปตลอดชีวิต


(แถมท้าย  นายวนันต์ )

ผมคิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะมีจริงวันที่ผมได้กอดเพื่อนตัวโตที่หายไปจากชีวิตของผม วันที่ความเสียใจ ความเจ็บปวดจะปลิวหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น จากนี้ผมคงหลับฝันดีกับคนอื่นเขาบ้างแล้ว  ผมแลกเบอร์โทร์และทุกๆช่องทางการสื่อสารราวกับว่าได้เพื่อนใหม่ รอยยิ้มและน้ำตาของบูรพาคนขี้แย ทำให้ผมมีความสุข  การให้อภัยมันดีอย่างนี้นี่เอง

พี่โอ๊ตที่นั่งนิ่งๆแต่หน้าบึ้งตึงบนโซฟายิ่งทำให้ผมขำ และยิ้มกว้างกว่าเดิม เขายังคงเป็นห่วงและดูจะเจ็บปวดไปกับผมทุกๆเรื่อง แม้แต่เพื่อนเก่าผมสองคนพี่เขายังโกรธแทนจนไม่คุยด้วย ทั้งๆที่บูกับวีพยายามคุยด้วยแต่ก็โดนพี่โอ๊ตเมินจนหน้าจ๋อยทั้งคู่ แต่เพื่อนผมก็ยังพยายาม มันดีจังเลย หนูบัวเองก็ยิ้มได้กว้างกว่าเดิมสาวน้อยที่น้ำตาแค่ซึมๆก็ยิ้มจนแก้มปริ


ความรู้สึกที่เหมือนท้องฟ้าแจ่มใสทั้งๆที่อยู่ในอาคาร มันสดชื่นจนผมเผลอหลับลงด้วยความรู้สึกที่อิ่มไปทั้งใจ


อา ฝันเหรอ ฝันดีจัง ขอบใจนะ


TBC.......................

ก่อนอื่นต้องขออภัยที่หายไปนานนนนนนนน

ติดงานติดสุขภาพ แง้วววววว

ตอนนี้คิดอยู่นานว่าจะเป็นแบบไหน พยายามเข้าใจคนทั้งสามคน มุมมองของทั้งสามคน กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าคนเจ็บปวดที่สุดก้ยังคงเป็นน้องไม้

เวลาจะช่วยเยียวยา  เพื่อนเป็นแล้วไม่หาย   แต่พันวาขอลาป่วยต่อน๊าาาาาาาาา :hao5: :hao5: :hao5:

ขอบคุณที่ยังรอกันน๊าาาาา



ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

เข้าใจกันแล้ว  ปลดพันธนาการนั่นออกได้สักที

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ดีใจที่ทุกคนเข้าใจกันสักทีนะ :katai2-1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
คำว่าเพื่อน แม้จะจากกันนานแคไหน ก็ยังเป็นเพื่อน
แต่ก็ควรจะพูดให้เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่หนีหาย
ปล่อยให้อีกคน ต้องเจ็บปวดที่คิดไปเอง
 :เฮ้อ:
 ผ่านไปซะทีนะ
 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ดีจัง เข้าใจกันแล้ว

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ มะลิมะลิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
แล้ว จีน่า ล่ะ อยากให้นางมาด้วยจัง
จะได้ครบแก๊งค์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
เข้าใจกันสักที

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เรื่องกลับมาดีแล้ววว


Sent from my iPhone using Tapatalk

ออฟไลน์ HunHan9407

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
/เข้าใจกันแล้ว. ดีจังน้ำตาไหลเลย :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5




แผนที่ 16 แทรกซึม



อินทัช


เป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วที่ผมจะต้องตื่นเช้า ขับรถไปรับน้องไม้ ที่บ้านและตอนเย็นไปรับที่คณะอักษรฯ

วันไหนที่เรียนไม่ตรงกันผมก็จะไปนั่งรอน้องบ้างไปหาขนมมาไว้ให้บ้างหรือแม้แต่ไปรับแม่นุ่นแทนน้องที่ยังยุ่งๆกับชั่วโมงเรียน

เหลืออย่างเดียวที่ผมยังไม่ได้ทำแทนน้องคือพาพี่มาร์คกับน้องมาลีไปอาบน้ำตัดขน ดูเหมือนน้องจะทำให้พฤติกรรมเดิมๆของผมเปลี่ยนไป

จากที่เคยปากหนักไม่ค่อยพูดกับใคร ไม่ทำความรู้จักกับใครยกเว้นกลุ่มเพื่อน ตอนนี้ผมเลิกตั้งกำแพงแล้ว

จนเพื่อนๆในคณะบอกว่าผมเปลี่ยนไปและนั่นมันทำให้มีหลายคนเริ่มเข้าหาผม ถึงจะทำให้อึดอัดบ้างแต่ผมก็โอเคดี 

ผมจะมองน้องเป็นตัวอย่าง ขนาดน้องที่โดนมาสาหัสขนาดนั้นน้องยังเปิดรับเพื่อนใหม่เลย แล้วผมที่ไม่เคยมีปมอะไรกับใครเขา ทำไมจะปรับตัวแก้ไขไม่ได้






วันนี้เป็นวันว่างที่ผมนัดกลุ่มเพื่อนๆมาปาร์ตี้ที่ห้องเหตุผลหลักคือการสารภาพบาป ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดของน้องให้พวกมันฟัง

ทั้งเรื่องที่ผมชอบน้องด้วย ทุกเรื่องผมเล่าอย่างละเอียดและอยากให้พวกมันเข้าใจ เลยเป็นเหตุให้พวกมันทำหน้าเหวออ้าปากกว้างจนขากรรไกรค้างในห้องผมตอนนี้ 


“อย่าๆเพื่อน มึงอย่า  อะไรยังไง ถึงกูจะสงสัยมาตลอดแต่พอได้ยินแบบนี้กูอึ้งครับอึ้งๆๆๆๆๆ”

ไอ้วันปีย์เพื่อนที่แสนดี(เหรอวะ)ของผมพูดรัวยิ่งกว่าข้าวโพดคั่วในหม้อทันทีที่มันตั้งสติได้


“เออ  ก็ไม่มีอะไรให้ปฏิเสธนี่หว่า แค่จะบอกพวกมึงว่าการพนันครั้งนั้นกูยกเลิกนะ แต่เดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้าพวกมึงเอง เดี๋ยวๆๆไอ้นายอย่าพึ่งตาเขียวใส่กู แค่กูโดนพี่อาร์ตเทศนาสั่งสอนมาก็พอละกูสำนึกผิดแทบไม่ทัน เพราะงั้นเรื่องนี้กูกับไอ้ปีย์เลิกเด็ดขาดยิ่งได้รู้จักน้องกูยิ่งรู้สึกแย่ พวกมึงจะเห็นเป็นเรื่องเล่นๆไม่ได้ กูไม่อยากให้น้องรู้สึกแย่ถ้าน้องรู้เรื่องนี้”


“มึงคิดจะบอกน้องไหมวะ”ไอ้โอมถามขึ้น

“ทีแรกกูก็คิดจะบอกน้องนะ แต่กูทบทวนแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรกับการบอกน้องนอกจากทำน้องเสียใจและรู้สึกแย่ ดีไม่ดีน้องกลับไปเป็นแบบเดิมอีกกูว่ามันจะยิ่งแย่กว่าเดิม กูเลยคิดว่าเรื่องนั้นเราจะไม่เอ่ยถึงอีกให้มันตายไปกับนิสัยเหี้ยๆของกูซะ”


“เอาจริงๆนะเว้ย  กูก็คิดว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องบอกน้องหรอก แต่ในเรื่องชั่วๆที่พวกมึงสองตัวคิดทำ ก็ยังมีเรื่องดีๆนะเว้ย”

ไอ้คุณนายเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทำหน้าครุ่นคิดอยู่นาน

“ยังไง”ผมอดที่จะสงสัยไม่ได้เรื่องการพนันแย่งแฟนชาวบ้านเนี่ยถือเป็นเรื่องแย่สุดเลยมั้ง

“ก็มึงคิดดูนะโอ๊ตหากว่ามังกับไอ้ปีย์ไม่คิดทำเรื่องนี้ขึ้นมาคนอย่างมึงจะได้รู้จักน้องมันไหมวะ กูว่าคนอย่างมึงน่ะอยู่ดีๆจะเดินเข้าไปหาคนอื่นแล้วชวนพูดคุยหรือทำความรู้จักหรอกนะ”


ก็จริงของมันนะครับ หากไม่มีเรื่องของไอ้ปีย์ผมคงจะยังเป็นเจ้าชายน้ำแข็งคนเดิมยังเป็นคนที่ไม่ชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้ายังเป็นคนที่เข้าถึงยาก และคงไม่สนใจใครอยู่อย่างนั้น

“แต่ถึงยังไงกูก็ไม่อยากให้น้องรู้เรื่องนี้ พวกมึงเข้าใจกูไหม กูไม่อยากเห็นน้องเสียใจ ”

“กูเห็นในละครพระเอกต้องสารภาพความจริงนี่หว่ามึงไม่ลองบอกน้องจะได้ไม่มีอะไรค้างคา”


“กูไม่ใช่พระเอก กูยอมคาใจ ค้างคาแบบนี้ไปตลอดชีวิตถ้ามันทำให้น้องร่าเริงยิ้มได้แบบตอนนี้ “

ผมคิดแบบนี้จริงๆนะ ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะบอก เพราะผมไม่รู้ว่าถ้าผมบอกออกไปน้องจะรู้สึกยังไง ผมมันแย่ผมรู้ แต่ผมไม่อยากเห็นน้องเสียใจ


“เออๆแล้วแต่มึงเพื่อน พวกกูไม่ได้คิดจะอะไรกับเรื่องนี้อยู่แล้ว ที่พนันกันเพราะขำๆไว้แกล้งมึง แต่ใครจะคิดว่ามึงจะตกหลุมน้องมันจริงๆวะ”

“เออนั่นดิ แม่งเสียดาย “ไอ้กระต่ายร่างควายเอ่ยขึ้นเบาๆ

“มึงเสียดายอะไรวะต่าย”ไอ้คนขี้สงสัยอย่างไอ้โอมก็ถามแทบจะทันที

“เสียดายของพนัน”

“เดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้าน่า”


ผมว่าขึ้นพลางคิดถึงว่าหากวันนึงผมจีบน้องติดได้ดูแลน้องแล้วผมอาจจะบอกถึงเรื่องนี้ก็เป็นได้หวังว่าเมื่อถึงตอนนั้นน้องคงไม่ได้โกรธเคืองผมเพราะผมจริงจังมากบอกเลย


จากนี้ผมจะดูแลน้องจะไม่ทำน้องเสียใจแม้ว่าผมจะบอกน้องไม่ได้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับน้อง ผมยินดีที่จะแอบจีบแอบรักแบบนี้ไปจนกว่าน้องจะหายจากอาการที่เป็นอยู่ ผมทนได้ถ้าน้องมีความสุข ผมยอมเป็นพี่ชายให้น้องแล้วเก็บความรู้สึกของผมเอาไว้ ผมยอมจริงๆนะ



XS Cute Boy ได้โพสต์1 ชั่วโมงที่แล้ว

เอาล่ะค่ะแอดคิดไม่ตกมาหลายวัน เลยเอามาแชร์เผื่อมีคนช่วยคิด เจ้าชายน้ำแข็งของพวกเราช่วงนี้ดูเหมือนว่าน้ำแข็งจะโดนละลายจากใครบางคนซะแล้ว

 เดิมทีพี่โอ๊ตของเรานี่หน้านิ่งยิ่งกว่าภูเขาน้ำแข็ง ไม่พูดคุยกับคนไม่สนิทตัวติดเพื่อนๆจนคิดว่าชาตินี้คงไม่มีผู้ใดหาญกล้าทำลายกำแพงน้ำแข็งหนุ่มหล่อแห่งวิศวะคนนี้

แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดูค่ะคุณขาาาาาาาดูหน้าอีพ่อเวลาอยู่กับน้องคนสวยมันชั่งละมุนละไม..ฮื้ออออออออออออออออออออออ
โฮ่ยยยยยสำลักความหวาน ออร่าสีชมพูววววววนี่มันอะไร #โอ๊ตไม้

แนบรูป

1254 like 621 แชร์

ผมยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นรูปที่แอดมินเพจโพสต์ไว้

เป็นภาพที่น้องไม้หัวเราะสดใสให้กับหนูบัวที่กำลังงอนไอ้ปีย์เพื่อนผม หน้าตาท่าทางของทั้งคู่คงทำให้ไม้ต้องหัวเราะจนตาปิด

 และด้วยความที่น้องมันทำอะไรก็น่ารักไปซะหมด ผมเลยอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ในภาพมันเลยออกมาแบบที่ผมส่งสายตาอ่อนโยนขนาดนั้น

ไปให้น้องทั้งรอยยิ้มที่ผมเองไม่ค่อยจะได้ยิ้มสักเท่าไหร่ก็ถูกมือดีถ่ายเอาไว้ได้  บางทีผมก็สงสัยว่า ผมเคยมองใครด้วยสายตาแบบนี้หรือเปล่านะ

ผมเพ่งมองภาพนั้นอยู่นานเพราะภาพสวยมากคนถ่ายคงเป็นมืออาชีพด้านนี้เพราะ ภาพออกมาดีมาก ดีจนผมกดเซฟทันทีโดยไม่ลังเล


“ฮั่นแน่ ยิ้มกับโทรศัพท์ว่ะ เพื่อนกูพัฒนาการก้าวกระโดดมาก “//วันปีย์

“กูว่าโลกนี้คงมีแค่น้อลลลลลล”//โอม

“อะไรมันจะชัดเจนปานนั้นวะเหลือแค่ยกขันหมากนะกูว่า”//ต่าย

“กูไม่เคยคิดเลยว่าจะเห็นมันทำหน้าตกหลุมรักราวกับสาวน้อยแบบนี้”//นาย


เสียงแซวดังมาเป็นระยะของกลุ่มเพื่อนผมที่นั่งล้อมวงอยู่ด้วยกันถามว่าผมสนไหมก็ไม่นะความรู้สึกมันชัดเจนจนผมไม่อยากจะเก็บไว้คนเดียวเลย

ห่วงก็แต่ความรู้สึกของน้องที่ผมต้องระวังเป็นพิเศษไม่รู้ว่าเรื่องที่ฝังใจน้องอยู่มันบรรเทาไปบ้างหรือยัง

แม้ว่าเพื่อนของน้องอีกสองคนจะเข้าใจกันดีแล้ว แต่ผมก็ยังเป็นห่วงและแอบกลัวว่าถ้าน้องรู้ว่าผมคิดไม่ซื่อน้องจะยังไว้ใจผมอยู่อีกไหม

ถึงแม้ว่าผมจะไม่บอกน้องว่ารู้สึกอย่างไร แต่ผมจะเนียนหยอดเนียนจีบไปเรื่อยๆฮ่าๆๆๆ ก็หวังอยู่นะที่จริงน่ะ  แต่ตอนนี้ก็ทำได้แค่...


“เฮ้อออออ”

“อ้าว เพื่อนกูไบโพล่าแดกซะละ ฮ่าๆๆ เมื่อกี๊ยังดี๊ด๊าหน้าบานอยู่เลย”

“กูคิดไม่ตกเลยว่ะปีย์ มึงว่ากูควรทำไงดีวะ “

“เอาน่า ค่อยๆเป็นค่อยๆไป”

“พี่โอ๊ตครับ”ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรต่อ เสียงเรียกของคนคุ้นเคยทำให้ผมหันไปยิ้มรับอัตโนมัติ

“กูว่าเพื่อนเรามันเป็นไบโพล่าแน่ๆ” จะว่ายังไงก็ช่างตอนนี้ดีใจที่น้องมาหาครับ

“ว่าไงครับ”

“โอ้โห เสียงอ่อนโยนเบอร์นี้กูขนลุกกกกก”ไอ้กระต่ายควายทำท่าลูบแขนไปมาแล้วทำหน้าสยองใส่ผม แต่ผมจะสนเหรอ ก็ไม่นะ หึหึ

“วันนี้พ่อกับแม่ชวนวีกับบูไปทานข้าวที่บ้านครับ”

“อืม”ผมรู้สึกใจห่อเหี่ยวยังไงชอบกล เหมือนว่าพอน้องคืนดีกับเพื่อนๆแล้วน้องไม่มีเวลาให้ผมเลย

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ”

“ก็ไม่มีอะไรครับ น้องไม้ไปกับเพื่อนพี่คงกลับห้องไปนอนเหงา”

“แหวะ”เสียงเพื่อนผมครับ ไอ้พวกบ้านี่ขัดจังหวะจริง

“จะกลับห้องเหรอครับไม่ไปด้วยกันเหรอครับ เนี่ยพ่อกับแม่บอกให้ชวนพี่โอ๊ตกับพี่ปีย์ด้วยนะครับ ถ้าพี่ไม่ว่างพ่อกับแม่คงเสียใจแย่เลย”

เสียงทะเล้นที่เอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีทำให้ผมอดที่จะยื่นมือไปบีบจมูกโด่งรั้นนั่นไม่ได้

“โอ๊ย เจ็บๆครับ อย่าแกล้งฮื่อ”สองมือเรียวไขว่คว้าดึงมือผมออกจากหน้าเนียนใสอย่างรวดเร็ว แล้วทำหน้ามุ่ยใส่ราวกับว่าจะประท้วงที่ผมทำร้ายร่างกายน้อง

“พี่ไปด้วยได้เหรอ ดีเลยกำลังคิดถึงพี่มาร์คกับน้องมาลี”

“ไม่คิดถึงผมเหรอพูดแบบนี้น้อยใจนะเนี่ย”แม้ว่าน้องจะพูดเล่นแค่แกล้งเย้าผมแต่ใจไม่รักดีดันกระตุกสั่นไหวด้วยความดีใจ

“คิดถึงสิครับไม่คิดถึงคนนี้จะไปคิดถึงใครล่ะฮึ”

“พอๆน้ำตาลขึ้นตากูหมดละ จรีบกันเบาๆครับคนโสดอิจฉา”

“จีบอะไรพี่นายเข้าใจผิดแล้วพี่โอ๊ตน่ะชอบแกล้งผมแบบนี้จนชินแล้ว เนี่ยดีนะที่ยัยตัวแสบไม่อยู่ด้วยไม่งั้นโดนจับคู่อีกแหงเลย”

น้องบ่นเบาๆให้ไอ้นายฟังแม้จะรู้ว่าน้องแค่พูดเล่นๆด้วยความเคยชินแต่ใจผมมันไม่เคยเล่นเลยสักครั้งแต่ก็นะเลือกทางนี้เองจะว่าใครได้

ผมก็ได้แต่หวังว่าน้องจะรู้ด้วยตัวเองและหวังว่าเมื่อวันนั้นมาถึงน้องจะเปิดใจรับผมเข้าไปแทนการหนีห่างจากกัน

“งั้นเดี๋ยวพี่รอรับหนูบัวเอง”

เสียงไอ้ปีย์พูดขัดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของผม อยากขอบใจมันแต่ก็อยากบอกว่ากูไม่เป็นไรว่ะเพื่อนแค่นี้ กูชิลว่ะครับ หึหึ 

“พวกพี่ๆไปด้วยกันนะครับ ”น้องเอ่ยชวนด้วยรอยยิ้มหวานที่ผมไม่อยากให้น้องมันยิ้มให้ใครเรี่ยราด ก็หวงนี่นา เชอะ

“ได้เลยครับเดี๋ยวจะตามไปพร้อมกันเลยนะไม่มีอะไรกันนี่นาวันนี้ งานก็ส่งแล้วว่างงงงงงงง”

“ได้ข่าวว่าอาหารฝีมือแม่นุ่นอร่อยพวกพี่ขอไปฝากท้องด้วยนะครับ”

“แม่ต้องดีใจมากแน่ๆเลย”รอยยิ้มของน้องยังคงสดใส เพราะแบบนี้ไงผมถึงไม่อยากจะเห็นน้องเศร้าอีก เพราะรอยยิ้มของน้องมันสวยมากเลย






วนันต์



เย็นวันนี้ครึกครื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานมากแล้ว แม่เอาเตาบาร์บีคิวและเตาย่างเนื้อมาตั้งที่สวน แล้วทำหม้อไฟไว้หลายหม้อ

ไหนจะเนื้อวากิว A-5 ที่ได้มาจากบ้านหนูบัว ปาตีร์ที่มีกลุ่มเพื่อนที่ผมอยากเจอมากที่สุด วันนี้มีพี่โอ๊ตและกลุ่มเพื่อนทุกคนที่มา

ยัยตัวแสบบัวที่ตัวติดกับพี่ปีย์จนผมอิจฉา วีกับบู ที่มาพร้อมกันและอีกคนที่ผมไม่ได้เจอมานาน  จีน่า

“ขอบคุณที่ชวนเรามานะไม้ เราได้ฟังจากวีกับบูแล้ว จีน่าขอโทษนะ ทุกเรื่องที่ผ่านมาเลย ยกโทษให้จีน่าได้ไหม”

เป็นครั้งแรกที่มองหน้าเพื่อนได้สนิทใจ ผมยิ้มให้กับใบหน้าสวยหวานที่ยังคงมีแววตาเศร้าสร้อย

“ไม่เป็นไรหรอกไม้เองก็ต้องขอโทษจีน่าเหมือนกันนะ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็เพื่อนกันทั้งนั้น วันนี้ถือว่าเรามาเริ่มต้นมิตรภาพดีๆอีกครั้งเถอะนะ ที่ผ่านมาถือว่าฝันร้ายก็แล้วกัน  “

จีน่าปล่อยโฮ ลั่นบ้านจนพวกผมต้องนั่งรุมล้อมปลอบใจกันอยู่นานสองนาน และตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีคนที่คอยดูแลจีน่าอยู่ใกล้ๆ

พี่ต่ายยักษ์เพื่อนของพี่โอ๊ตคอยย่างเนื้อและดูแลอาหารให้เพื่อนผมอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ดูท่าแล้วผมคงจะมีเพื่อนเขยเร็วๆนี้แน่ๆ

หลังมื้ออาหาร ก็นั่งล้มวงฟังพ่อไผ่เล่นกีต้าร์ เห็นเป็นนักบิดแบบนี้พ่อผมก็เกือบได้เดบิ้วต์เป็นนักร้องนะ

 บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักแบบนี้ผมจะไม่ลืมเลย นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่มีบรรยากาศดีๆร่วมกับเพื่อนๆแบบนี้



“เอ้า หนุ่มๆสาวๆมานี่มา พ่อมีอะไรจะให้ดู “

เสียงพ่อไผ่ที่ดังขึ้นทำให้กลุ่มพวกพี่โอ๊ตกับกลุ่มเพื่อนของผมแทบจะเฮโลเข้าไปรุมพ่อ

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกพี่นายพี่ต่ายและพี่โอมได้เจอพ่อผมส่วนพี่ปีย์เจอวันที่ผมเข้าโรงพยาบาลเลยไม่ได้พูดคุยกับพ่อสักเท่าไหร่

แววตาเป็นประกายชื่นชมหลงไหลอย่างปิดไม่มิดของพวกพี่โอ๊ตทำให้ผมหัวเราะเบาๆอย่างมีความสุข

ดูๆแล้วพ่อผมก็ชอบกลุ่มพี่โอ๊ตมากๆเลย ไม่ใช่ใครก็ได้ที่พ่อจะแนะเคล็ดลับและเทคนิคการขับขี่ให้และเปิดห้องเก็บโมเดลรถมอเตอร์ไซค์

ให้เข้าชม เพราะพ่อน่ะหวงพวกโมเดลรถมาก พ่อเป็นนักสะสมตัวยงด้วยถึงขั้นสร้างห้องไว้เก็บโมเดลต่างหากเลยล่ะครับ


“ไงคะคนเก่งของแม่”เสียงอ่อนโยนของแม่ดึงสติผมให้หันมายิ้มรับ

“ครับแม่ “

“ทำไมนั่งเงียบอยู่ตรงนี้ล่ะไม่ไปสนุกกับเพื่อนๆเหรอคะ”

“ไม้อยากมองภาพนี้ด้วยสองตาไปนานๆครับแม่ ไม้มีความสุขมากเลยครับ”

ผมว่าพลางมองไปที่พ่อที่เป็นศูนย์กลางของกลุ่มวัยรุ่น เพื่อนๆของผมกลับมาแล้วไม่อยากจะเชื่อเลย

“น้ำครับ”น้ำส้มคั้นสด สองแก้วถูกส่งมาให้ผมกับแม่ ด้วยมือของผู้ชายตัวสูงใหญ่และหน้าตาดีคนนั้น

พี่โอ๊ต เป็นคนที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปจะว่าไปเพราะมีพี่โอ๊ตผมเลยได้มีโอกาสได้อยู่กับเพื่อนๆพร้อมๆหน้ากันแบบนี้

“ขอบคุณค่ะพี่โอ๊ต  งั้นแม่ฝากน้องหน่อยแม่จะไปดูของว่างมาให้”เสียงแม่เอ่ยขั้นตอนที่รับแก้วน้ำส้มและเดินออกไป

พี่โอ๊ตขยับมานั่งแทนที่มือหนาวางแหมะลงบนหัวของผมก่อนจะลูบเบาๆราวกับจะปลอบใจ

“ขอบคุณพี่โอ๊ตที่เข้ามาในชีวิตผมนะครับ “ผมเอ่ยออกไปอย่างที่คิด

“หืม..ไม่เห็นจะต้องขอบคุณเลย พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณน้องไม้ ดูสิ พี่ได้เจอไอดอลของพี่ได้เจอคนที่น่ารักอย่างน้องไม้พี่ว่าพี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณ”

พี่โอ๊ตว่ายิ้มๆก่อนจะหันไปมองพ่อผมที่ยังคงนั่งเล่าประสบการณ์ตอนแข่งรถโดยมีพี่โอมนั่งซักถามเป็นระยะๆ

“ไม่น่าเชื่อว่าคนน่ารักอย่างพี่โอมจะชอบความเร็ว”

“พี่ก็น่ารักนะชมพี่บ้าง”

“ฮ่าๆๆ โอ๋ๆครับ พี่โอ๊ตของผมน่ารักที่สุด”

ผมเอ่ยคำที่บอกถึงความเป็นเจ้าของอย่างแนบเนียน ผมน่ะโตแล้วจริงๆนะแม้ทุกคนจะทำเหมือนว่าผมยังเป็นเด็ก

ผมโตพอที่จะรู้ว่าตัวผมรู้สึกเช่นไรกับพี่โอ๊ต แต่ผมก็ยังขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับมัน ตอนนี้ยอมรับว่าผมกลัวมากๆ

พี่โอ๊ตใจดี พี่โอ๊ตเป็นทุกอย่างให้ผม เป็นคนที่ฉุดดึงผมออกจากห้องแคบๆห้องนั้น เป็นคนที่ผมวางใจ

อยู่กับพี่เขาผมสบายใจมากจนผมอดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ ด้วยความเป็นคนน่ารักของพี่โอ๊ต

มันไม่ยากเลยที่จะทำให้คนที่ขลาดเขลากลัวการมีรักอย่างผมจะเปิดใจ ไม่ว่าการรักในรูปแบบไหน

ต่อจากนี้ผมจะไม่กลัวเพราะผมมีวัคซีนดีๆแบบพี่โอ๊ต  แต่ถึงผมจะรู้ว่าใจตัวเองคิดอย่างไรผมก็ต้องเก็บงำมันเอาไว้ เงียบๆ

ผมเคยคิดว่าการสารภาพรักกับหนูบัวถือเป็นความกล้าของผมที่สุด นั่นไม่ใช่เลย เพราะผมไม่ได้รักหนูบัวอย่างคนรักผมจึงกล้าบอก

ผมผูกพันกับยัยตัวแสบจนคิดว่ามันคือความรัก ตอนที่หนูบัวบอกตอนนั้น




 ผมยังเถียงในใจจนอยากจะร้องให้ ว่าผมรักหนูบัวจริงๆ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเพื่อนรักของผมพูดถูก เราแค่ผูกพันเราแค่ไม่เคยมีใคร

เราแค่รักกันในรูปแบบพี่น้อง และหวงกันในรูปแบบเพื่อนไม่ใช่ความรักแบบที่ผมกำลังคิดกับพี่โอ๊ตตอนนี้ทำไมผมถึงรู้น่ะเหรอ

เพราะความรู้สึกที่ผมมีกับหนูบัวกับความรู้สึกที่ผมมีกับพี่โอ๊ตมันแตกต่างกันมากเลย ความรู้สึกที่มีกับพี่โอ๊ตมันไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร

มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย แต่ผมรู้แค่ว่ามันดีมากๆเลย  แต่ถึงจะรู้สึกดีมากแค่ไหนผมก็ยังกลัวอยู่ดี


ผมกลัวไปหมดไม่กล้าแม้จะแสดงออกว่ารักพี่มันขนาดไหน ผมกลัวจะเสียพี่มันไปหากผมบอกให้รู้

ผมกลัวที่จะผิดหวังผมกลัวว่าหากบอกออกไปแล้ว ระหว่างเรามันจะไม่เหมือนเดิม ความใจดีความอ่อนโยนของพี่โอ๊ต

ผมอยากเก็บมันเอาไว้เป็นความทรงจำดีๆ เป็นแบบนี้ก็ดีหากว่าพี่มันยังไม่มีใครผมจะเกาะอยู่ข้างๆไม่ไปไหนเลยล่ะ


“อ้าวเหม่ออีก บ๊องแล้วนะเราเนี่ยเรียกก็ไม่ได้ยินเอาแต่ยิ้มให้แก้วน้ำส้ม “

“อ่า..แหะๆผมคิดอะไรเรือยเปื่อยน่ะครับ ดีใจที่เพื่อนๆมาหา ดีใจที่ทุกคนยังให้อภัยและรักกัน”

“น้องไม้ของพี่คนดีที่หนึ่งขนาดนี้ใครไม่รักก็ช่างสิพี่โอ๊ตจะรักน้องไม้เองนะครับ”

ใจกระตุกไหวไปกับคำว่ารักแม้ว่าพี่มันจะไม่ได้หมายความอย่างที่ผมอยากให้เป็นแต่ผมก็อดทีจะยิ้มกว้างไม่ได้

ก็น่ารักซะขนาดนี้ไม้ให้ผมรักได้ยังไงไหว ตกลงไปในหลุมรักจนปีนขึ้นมาไม่ได้แล้วพี่จะรู้หรือเปล่าครับ


“ห้ามทิ้งน้องนะบอกก่อน”อดไม่ได้ที่จะเอ่ยทีเล่นทีจริงไปแต่ใจคิดจริงจังจนผมเองกลัวว่าสักวันมันจะเผยให้พี่เขารู้

“พี่โอ๊ต บัวมีเรื่องจะถาม”ยังไม่ทันที่พี่โอ๊ตจะเอ่ยอะไรเสียงแจ้วๆของยัยตัวแสบก็ดังมมาก่อนตัว

ร่างเพรียวบางของเพื่อนรักผมถลาเข้ามากอดแขนพี่โอ๊ตไว้แน่นก่อนจะเอ่ยถามจริงจัง”

“พี่โอ๊ตมีคนที่ชอบหรือยังคะ”คำถามของเพื่อนตัวแสบทำให้ใจผมหวั่นๆเพราะกลัวคำตอบ

“ทำไม่ถามแบบนี้ล่ะฮึ ไอ้ปีย์มันมองพี่ตาขวางแล้วนั่น”

“ช่างพี่ปีย์สิคะ บัวอยากรู้นี่นา  ว่าไงคะตอบบัวมาเลย”เจ้าตัวแสบคาดคั้นจนพี่โอ๊ตหัวเราะเบาๆสายตาเอ็นดูเพื่อนผมจนน่าหมั่นไส้ ฮึ


“อืม..คนที่ชอบเหรอ มีสิ แต่ พี่ไม่กล้าบอกเขาหรอก กลัวเขาตกใจแล้วหนีหน้าพี่ฮ่าๆๆๆ”แม้คำตอบพี่โอ๊ตจะดูคล้ายๆกับว่าตอบเล่นๆ

ไม่จริงจังแต่ผมสัมผัสได้ว่ามันเป็นความจริง นั่นเลยทำให้ผมอดที่จะซึมเล็กๆในใจไม่ได้ คนที่พี่ชอบงั้นเหรอ เป็นคนแบบไหนกันนะ


“โธ่พี่โอ๊ตอ่า  อย่ามากั๊กน้องนะบอกน้องมาเดี๋ยวนี้เลยนะ “

“นี่คุณครับสนใจแฟนหน่อยครับ แฟนอยู่นี่ครับยู้ฮู “พี่ปีย์ว่าพลางดึงแขนเจ้าตัวแสบไปที่วงบาร์บีคิวอีกครั้ง

 แม้จะมีเสียงงอแงไม่ได้ดั่งใจ แต่หนูบัวก็ไม่ขัดพี่ปี่ที่คอยดึงให้ไปนั่งกินดีๆ วันนี้ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล

พ่อบอกว่าปาร์ตี้ไม่จำเป็นต้องมีก็สนุกได้  เพราะแบบนั้นวันนี้ผมเลยได้โชว์ฝีมือทำเรื่องดื่มสมุนไพรให้ทุกคนได้ชิม


“น้ำมะตูมอร่อยอ่ะไม้  จีน่าไม่คิดว่าไม้จะทำของพวกนี้เป็นนะ “


“ในช่วงที่เราพักรักษาตัว มันว่างน่ะหมอแนะนำให้เราหาอะไรทำ เราเลยลองทำพวกน้ำหวานเพราะเราชอบดื่มน้ำหวาน

แต่บางทีน้ำที่เราซื้อกินข้างนอกมันก็หวานเกินไป เราเลยได้ลองทำเองน่ะ”

“เราขอโทษนะ “หน้าสวยๆของเพื่อนผมสลดลงเมื่อฟังคำผมจบ

“อย่าคิดมาก เราหายแล้วนะ ตอนนี้เราสบายดีมากเลย”

“แต่มันก็ทำให้ไม้ไม่มีความสุขตอนนั้น เราเองต้องขอโทษด้วยเหมือนกันนะ เพราะเราไม้ต้องเจ็บปวดขนาดนั้น “

เสียงของบูรพาเอ่ยสมทบจีน่าแทบจะทันที

“เรื่องมันผ่านไปแล้วและไม่ได้มีแค่ไม้ที่เจ็บปวดกับเรื่องนั้น พวกนายขอโทษเรามาพอแล้วจากนี้ก็เราจะรักกันให้มากขึ้นเนอะ”


ผมพูดออกไปอย่างที่ใจคิด แม้ว่าในอดีตผมจะเจ็บปวดมากแต่ผมก็คิดว่าเพื่อนๆของผมก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน

 มันถึงเวลาที่เราจะต้องมีความสุขกันได้แล้วล่ะ


“เอางี้ นับจากนี้ไป พวกเราขอสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนที่ดี เป็นเพื่อนรักกันอย่างนี้ตลอดไป นะ “

นาวีเดินเข้ามาสมทบพร้อมๆกับหนูบัวที่เดินกลับมาเช่นกัน ตอนนี้พวกเราทั้ง ห้าคน ต่างยิ้มให้กันและจับมือกันไว้บีบมือเบาๆราวกับว่าคำสัญญานั้นเราจะไม่ลืมเลือน


เสร็จจากการปาร์ตี้เราทุกคนต่างก็มานั่งล้อมวงเล่นไพ่ในบ้าน  เอ เรียกว่าการกินข้าวพร้อมหน้าจะดีกว่าไหมนะ

เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ยืนอยู่ท่ามกลางคนที่ผมรักไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ผมยิ้มได้อย่างสบายใจจริงๆ

 ทั้งหมดนี้คงต้องขอบคุณพี่โอ๊ตสินะ แต่ว่า ถ้าหากพี่รู้ว่าผมคิดไม่ซื่อขึ้นมาพี่จะไปจากผมหรือเปล่านะ

จากที่เคยกังวลว่าคนอื่นจะคิดในแง่นั้นกับผม กลายเป็นว่าตอนนี้เป็นผมเองที่กำลังกังวลและคิดมาก 

พอจะเข้า ใจความรู้สึกของคนที่คิดเกินจากความสัมพันธ์ที่มีซะแล้วสิ เฮ้อ


“เป็นอะไรมานั่งถอนหายใจแบบนี้ฮึ”เสียงเอ่ยถามจากด้านหลังทำให้ผมต้องเอี้ยวตัวไปดูพร้อมทั้งส่งยิ้มอ้อนให้อย่างเคยชิน

“พ่อมาตอนไหน ไม้ไม่เห็นได้ยินเลยเสียงเดินมาเลยครับ”

“ก็เรามัวแต่เหม่อนั่งถอนหายใจอยู่ตรงนี้ จะเห็นพ่อได้ไงล่ะฮึเจ้าลูกหมู”


“เปล่าเหม่อสักหน่อยครับ เห็นทุกคนมารวมกันแบบนี้ผมก็อดที่จะมีความสุขไม่ได้ พานจะคิดถึงชลขึ้นมาด้วย”

“พ่อไม่อยากให้ลูกคิดมากนะ ชลน่ะเขาจากไปแล้ว ลูกต้องรักษาคนที่อยู่ตรงนี้ มองไปรอบๆสิ ทุกคนคือคนที่ลูกรัก
พ่อไม่ได้บอกว่าชลไม่สำคัญ แต่ลูกรักของพ่อต้องเดินออกจากตรงนั้นได้แล้ว ความรู้สึกผิด มีได้แต่อย่ามีมากจนมันทำลายตัวเรานะครับ”

ฝ่ามืออุ่นๆลูบเบาบนหัวของผม ทำให้ผมรู้สึกว่าผมโชคดีแค่ไหนที่มีครอบครัวอยู่ข้างๆเวลาที่ผมแย่

“ครับ จากนี้ไปไม้จะมีความสุข”ผมยิ้มกว้างให้พ่อพร้อมทั้งหันไปส่งยิ้มให้เพื่อนๆและพวกกลุ่มรุ่นพี่ของผมที่มากันวันนี้

ชล เป็นบทเรียนในการใช้ชีวิต แต่ชลก็เป็นเพื่อนรักของผมเช่นเดียวกับทุกคน แม้ว่าวันนี้ชลจะจากไป แต่ผมจะก้าวเดินต่อ

จากนี้ ชีวิตนี้ผมจะไม่มองผ่านมันอีก ผมจะมีความสุข ผมจะทำทุกอย่างที่ผมมีความสุข ผมบอกตัวเองแบบนั้นและผมจะทำมันจริงจัง



TBC....มาล้าวววววววววววววววววววววววว

ก่อนอื่นกราบงามๆขออภัยคนอ่านอย่างมากมายเลยค่ะ พันวา ร่างกายไม่แข็งแรง อีกทั้งงานก็เยอะด้วยเลยไม่มีได้มาอัพนานมาก

แต่ไม่ทิ้งนะคะ เราจะไปส่งน้องๆถึงปลายทางด้วยกันค่ะ 5555555

ช่วงนี้ร่างกายดีขึ้น แต่ก็ต้องหาหมอบ่อยๆ  จะพยายามมาอัพให้ได้ อาทิตย์ละ 1 วันนะคะ ถ้าโชคดีร่างกายไม่แย่ ก็จะมาอัพเพิ่มให้
:katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:  :katai4:


ไม่รู้ว่ายังอยู่กันไหม นะคนอ่าน แต่พันวาอยากบอกว่าคิดถึงมากๆๆๆ เลยค่าาา : :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:




ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

 :pig2: back

ออฟไลน์ Sutharat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ต่างคนต่างชอบแต่ไม่มีใครกล้าพูดพี่โอ๊ตกล้าๆหน่อย

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5




แผนที่ 17 ปั่นกระแส



อินทัช

02:45ผมนอนไม่หลับ หลายวันมานี่ผมเฝ้าแต่คิดว่าบูรพาคนนั้นเลิกรักน้องไม้ไปหรือยัง ท่าทางการแสดงออกคำพูดจา

 แม้ว่าจะเป็นเพื่อนแม้ว่าจะเคยโดนปฏิเสธมา แต่ยังไงไม้ก็ทราบดีว่าบูรพารักไม้ แล้วผมล่ะโอ๊ยยยยยย ไอ้เหี้ยโอ๊ต คิดสิคิด

ผมได้แต่นอนกระสับกระส่ายไปมาบนที่นอน พรุ่งนี้มีสอบเช้าแต่ผมยังนอนไม่หลับไม่มีสมาธิกับการนอนเลยสักนิด

ก่อนสอบผมจะนอนให้เต็มอิ่มจะได้มีสมาธิทำข้อสอบ แต่วันนี้ผมกลับคิดเรื่องของน้องจนนอนไม่หลับ

ผุดลุกผุดนั่งจนต้องคว้าโทรศัพท์มากดเบอร์หาคนที่จะช่วยแบ่งเบาความรู้สึกแบบนี้


(ไอ้น้องเวร นี่มันกี่โมงกี่ยามวะ )เสียงด่าตามสายมาก่อนคำทักทาย

“พี่อาร์ต ผมนอนไม่หลับ”

(เรื่องของมึงครับแต่กูหลับแล้ว หลับลึกด้วยสัส!)

“พี่ครับนี่น้องไง ช่วยรับฟังน้องหน่อย”

(ว่ามา ถ้าไม่มีอะไรน่าสนใจนะพรุ่งนี้กูไปกระทืบมึงถึงคณะแน่นอนไอ้น้องเลว)

“คือว่า ผม..ผม คิดว่า ผมกำลังตกหลุมรักว่ะพี่”

(แค่เนี๊ยะ !! เรื่องแค่เนี๊ยะ มึงโทรหากูตอนตีสามนี่นะไอ้โอ๊ต )

“พี่อาร์ต ฟังก่อนสิ คือว่าคนที่ผมรักน่ะ เขาเป็น...ผู้ชาย)

(…...)

“พี่อาร์ต ยังอยู่ไหมครับ ? พี่อาร์ต..”หรือว่าพี่มันหลับต่อวะ ห่าเอ๊ยตื่นมาก๊อนนนนน

(มึงพูดใหม่ซิ)อ่ายังไม่หลับแฮะ

“คือผม.... รักน้องไม้”ผมกลั้นหายใจตอบพี่มันไปแบบกล้าๆกลัวๆ

(…....)


“จริงๆนะพี่ ผมกลุ้มใจจะตายแล้วเนี่ย “ความเงียบของพี่อาร์ตทำให้ผมร้อนรน

(มึงเล่ามาให้หมดเดี๋ยวนี้)


เวลาตีสามกว่าๆผมนั่งเล่าทุกความเป็นจริงให้พี่อาร์ตฟัง ทุกเรื่องที่ผมกังวลและสิ่งที่ผมกลัว


(เฮ้ออออออ)เสียงถอนหายใจยาวจนผมเริ่มนั่งไม่ติด ต้องลุกออกไปยืนคุยที่ระเบียง

(แน่ใจแล้วใช่ไหม ไม่ได้เข้าใจผิดแน่นะ)

“พี่ผมโตแล้วนะ แยกความรู้สึกตัวเองเป็น”อยากจะถุยใส่ตัวเองเมื่อพูดคำนี้จบฮ่าๆๆๆๆ

(สำหรับพี่น่ะไม่ได้คิดยุ่งยากให้ปวดหัว แค่เป็นคนที่แกรักพี่ก็โอเค ไม่ได้สนใจว่าจะเป็นเพศอะไร แต่พ่อกับแม่พี่ไม่รู้หรอกนะไอ้น้องชายว่าพวกท่านจะยินดีหรือเปล่า ถึงแม้ว่าพี่จะเชื่อมั่นว่าท่านไม่ได้รังเกียจเรื่องเพศแต่...มันก็ไม่เคยเจอในครอบครัวเราป่าววะ )


“พี่อาร์ต เรื่องพ่อกับแม่ผมน่ะผมไม่กังวลเท่าไหร่ แต่กับน้อง...”

(เครียดทำไมล่ะชอบก็ดับเครื่องชนเลยสิ ช่วงที่กูจีบอิงก็ใช่ว่าจะง่าย เพราะความเหี้ยของกูเองกว่าจะได้เป็นแฟนกูเครียดยิ่งกว่าทำเคสจารย์แม่อีก เพราะงั้น อย่ากังวลถ้าแน่ใจตัวเองก็ลุยเลย)


“แล้วเรื่องที่น้องเจอมาล่ะพี่ผมกลัวว่าผมจะไปทำให้น้องเกลียดผม”

นี่เป็นเรื่องเดียวที่ผมกังวลถ้าการที่ผมจะรักน้องแล้วทำให้น้องต้องกลับไปหาหมออีกผมเลือกที่จะแอบรักอยู่แบบนี้ดีกว่า

(นั่นยิ่งต้องเป็นแกไงโอ๊ต ใช้ใจรักษาใจ กูเชื่อว่ามึงทำได้ เพราะมึงเป็นน้องกู)

“มันจะไม่แย่ลงใช่ไหมพี่อาร์ต”

(ไม่หรอก กูดูแล้ววันนั้นน้องมันก็ไม่ได้รังเกียจเวลาที่มึงคอยดูแลนี่นา ออกจะไว้ใจมากด้วยซ้ำ)

“เพราะน้องไว้ใจนี่แหละผมถึงกลัวจนต้องโทรหาพี่เนี่ย”

(มึงไม่ได้ทรยศน้องนะโอ๊ต มึงแค่รักน้อง มันไม่ผิดหรอก ใช้ความเคยชินสิ ทำให้น้องขาดมึงไม่ได้  แล้วทุกอย่างจะง่ายเอง)

“เหมือนตอนตามตื๊ออิงอ่ะเหรอ”

(เออ แบบนั้นแหละ รับรอง ไม่รอดเชื่อกู หึหึ)

“เสียงหัวเราะมึงเจ้าเล่ห์มากว่ะพี่”

(มึงคิดแค่ว่า ถ้ามึงช้าหมาคาบไปแดก ถ้ามึงรีบไปคนแรกได้แดกก่อนหมา )

“สโลแกนเหี้ยมากพี่ฮ่าๆๆ”

(เออ ก็เหี้ยสมกับเป็นกูเนี่ยแหละ และมึงก็น้องกูเพราะฉะนั้นลุยเลยน้องอย่าทำให้กูผิดหวัง)

ผมรู้สึกโล่งใจและรู้สึกมีความฮึกเหิมราวกับว่าจะไปออกรบ  จริงอย่างที่พี่อาร์ตว่าถ้าผมช้าหมาคาบไปแดกแล้วผมคงได้แดกแห้วเป็นไร่เรื่องอะไรผมจะยอม อย่ากลัวที่จะรัก สู้โว้ยยยยยยยย




***




ภาระกิจพิชิตใจน้องไม้เกิดขึ้นลับๆ เมื่อผมโดนเพื่อนๆซักฟอกจนขาวเป็นโอโม่  แม้ว่าในใจลึกๆของผมจะรู้สึกกลัวและลังเลว่าทำแบบนี้แล้วมันจะดีจริงๆใช่ไหม แต่ว่าคำพูดของพี่อาร์ตยังคงปลุกเร้าผมได้อย่างดี

“ก่อนอื่นมึงต้องเกาะติดหนึบน้องไว้เลยคอยดูแลรับส่งเช้าเย็นไปเล่นกับหมาพาไปกินข้าว เอาใจไม่ห่างว่างคอยบีบนวดปวดคอยทายา..”

“พอๆ..”ผมรีบเบรคไอ้ปีย์ก่อนที่มันจะเพี้ยนไปกว่านี้

“โอมไหนว่ามาซิว่ามึงไปตกหนุ่มหล่อหมอหมาใจดีแบบพี่ทอยได้ยังไง เผื่อว่าไอ้โอ๊ตมันจะเอาไปใช้กับน้องไม้บ้าง”

“ไม่เห็นต้องทำไรเลย  แค่เอ่ย..งื้อออออออออ พี่ทอยก็วิ่งมาโอ๋แล้ว”

“กูเหม็นความรัก”ไอ้ต่ายทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ไอ้โอมอย่างไม่เกรงใจ

“อย่ามาว่ากู มึงไปเต๊าะเพื่อนน้องไม้คนนั้นกูห็นนะ แหมพ่อเทพบุตรอ่อนโยนนนนนน กูล่ะอยากบอกน้องจีน่าคนงามว่าไอ้กระต่ายควายมันอศูรย์ห่มหนังกระต่ายชัดๆ”


“แล้วไงกูหล่อละกัน”เสียงกลุ่มเพื่อนที่ควรมาเป็นหัวคิดหัวเรี่ยวหัวแรงของผมแต่กลับมาทะเลาะกันแบบเด็กๆ เฮ้อออออ

“คงต้องพึ่งตัวเองสินะ “

“มึงบ่นไรโอ๊ต”

“เปล่ากูแค่เบื่อพวกมึงไอ้พวกไร้ประโยชน์ “อยากจะมองบน เฮ้อออออ

สรุปการเรียกกลุ่มเพื่อนๆมาปรึกษาคือเปล่าประโยชน์ และตอนนี้ผมนั่งอยู่หน้าคณะอักษรฯเพื่อรอใครบางคนกลับบ้านพร้อมกัน

ผ่านมาหลายวันที่ผมคิดไม่ตกแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังมารับน้องที่หน้าคณะอักษรฯเป็นประจำเพราะกลายเป็นกิจวัตรของผมไปแล้ว

 ระหว่างรอไม่มีอะไรดีกว่าการเข้าเช็คกระแสที่ผมพยายามปั่นมาตลอด ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา

แหมๆภาษิตโบราณดูไม่ค่อยเข้ากับผมสักเท่าไหร่คุณๆว่าไหมครับหึหึ



XS Cute Boy ได้โพสต์เมื่อ10นาทีที่แล้ว

แอดว่าคู่นี้อะไรยังไง เช้าถึงเย็นถึงเลยนะพ่อมหาจำเริญ  ร้อยวันพันปีไม่เคยเฉียดกรายไปคณะอื่นใดไฉนเดี๋ยวนี้พ่อเดือนวิศวะปี 3 ถึงได้ขยันมานั่งเล่นเดินเล่นที่คณะอักษรฯบ่อยเหลือเกินพ่อ  #เดือนชนเดือน//แนบรูป
1548 ไลค์
586 แชร์




@ติ่งคนหล่อ**กูก็นั่งรอไปเถอะใช่ซี้บริหารไม่น่าเดินเท่าอักษรฯ //งอแง

@pornข้อสุดท้าย** น้องไม้ขาอย่ายิ้มให้พ่อแบบนั้นลูกกกก แม่ใจจะขาดดด

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร** ใครจะคิดว่าใจเจ้าชายน้ำแข็งจะละลายเร็วป่านนี้//กระซิกๆ

@แหนมมัด**คู่จิ้นเหรอเชยแล้ว ต้องคู่จริงแล้วค่าาาา # เดือนชนเดือน

@ผู้ชายได้กันมันคือฝันของกู**ใครจะยังไงไม่รู้ค่ะ แต่กัปตันของหนูพายเก่งอะไรอย่างนี้กรี๊ดดดด //โยนไม้พาย....

@ทองหล่อทองหล่อ**#เดือนชนเดือน  สำหรับเขาคือคู่กัน เดือนชนเดือนสำหรับกูคือเงินไม่พอล่อมาม่าแล้วโว้ยยยยย

@โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**ดาวอยู่ไหนไม่รู้แต่หนูเชียร์ #เดือนชนเดือน #โอ๊ตไม้

@ขุ่นแม่** ลูกแม่โดนเจ้าชายคาบไปแล้วฮืออออ เสียไต

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร**@ขุ่นแม่เก็บไว้ขายดีกว่าครับ

@ขุ่นแม่@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร ??

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร@ขุ่นแม่ ก็ไตมันแพงเสียแล้วซ่อมยากเก็บไว้ขายไงครับ

@เกิดมาทั้งทีมีดีแค่กล้วย**@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร มุกมึงโคตรกากว่ะเพื่อน

@ทองหล่อทองหล่อ**@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร กล้าเรียกว่ามันคือมุก ?

@ขุ่นแม่ - __ -




ผมเก็บมือถือพลางแอบยิ้มด้วยความพึงพอใจ ถึงจะคิดว่าค่อยเป็นค่อยไปแต่คนอื่นๆอาจจะไม่รอเหมือนผมทางที่ดีก็อย่าให้กระแสตก หึหึ

จะได้รู้ว่าใครเป็นของใคร การประกาศความเป็นเจ้าของมันมีหลายวิธี และเพจ Cute Boy ของมหาวิทยาลัยก็เป็นตัวเลือกที่ดีของผม

ช่วงนี้ผมจะขยันอัพรูปเป็นพิเศษ จะรูปคู่รูปเดี่ยวผมลงไม่กั๊ก ปั่นไปเรื่อยๆขยันสร้างโมเม้นท์ทุกวันแฟนเซอร์วิสบ่อยๆอีกหน่อยจะได้เซอร์วิสแฟน ฮ่าๆๆๆๆ



“พี่โอ๊ตขอโทษนะครับรอนานไหม ”

“ไม่นานหรอก พี่พึ่งจะมาถึงไม่นานเอง” แค่ ชั่วโมงเดียวเองไม่นานเลยสักนิด และกับรอยยิ้มหวานๆแววตาห่วงใยแบบนี้ให้มารอสักสิบปีก็ไม่โกรธ

“งั้นไปกันเลยไหมครับ เจ้าตัวแสบรอนานจะบ่นมากผมขี้เกียจฟัง”

“ครับๆ”ผมรับคำพร้อมๆกับเดินนำน้องไปที่รถ 

ผมมาคิดได้ว่าพันแปดร้อยวิธีหรือจะสู้ความจริงใจผมเลยเลิกคิดยังไงผมเองก็ไม่รีบร้อนที่จะเร่งรัดน้องอยู่แล้วมันต้องค่อยเป็นค่อยไป

ค่อยๆซึมซับไปเรื่อยๆแล้วไอ้ความเคยชินที่พี่อาร์ตว่ามันจะเกิดขึ้นเอง เพราะผมเองตอนนี้ก็ชินที่จะมีน้องในชีวิตซะแล้ว นึกภาพไม่มีน้องไม้ในชีวิตไม่ออกเลย

เราสองคนเดินมาที่ลานจอดรถโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันสักคำแต่ไม่มีความอึดอัดให้เห็น ความรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้

 ไม่ว่าจะให้ผมนั่งอยู่เฉยๆไม่พูดสักคำเป็นวันๆผมก็ยังรู้สึกดีถ้าข้างๆมีน้องอยู่ ผมนี่เข้าขั้นวิกฤติล่ะครับฮ่าๆๆๆ

จุดนัดหมายของเราวันนี้มีสองที่ จุดแรกคือร้านกาแฟของมัมวาดแม่ของหนูบัว จะด้วยความเบลอเพราะมัวคิดหนักหรืออะไรไม่รู้

ทำให้วันนี้ผมตกลงรับปากน้องบัวมาช่วยมัมวาดเสิร์ฟกาแฟ เพราะมีกิจกรรมของ ม.Y คนเลยหลั่งไหลเข้ามาตั้งแต่เช้า

 และร้านของมัมวาดก็เป็นที่พูดถึงในโซเชียลพอสมควร เลยเป็นเหตุให้ลูกค้าล้นร้านวันนี้ ใช้เวลาไม่นานเราสองคนก็พร้อมที่จะเป็นเด็กเสิร์ฟร้านกาแฟ ที่วันนี้มีเด็กเสิร์ฟเยอะเป็นพิเศษ


“โหยยย พี่โอ๊ตหล่อมากค่าาา “เสียงหวานใสของหนูบัวดังแทรกเสียงพูดคุยของเหล่าลูกค้านักศึกษามหาวิทยาลัยทั้งสองแห่งที่วันนี้ดูเหมือนจะมารวมกลุ่มกันที่นี่ราวกับนัดไว้

“สู้คนนั้นได้ไหมครับ”ผมว่าพลางหันไปขยิบตาใส่น้องไม้ที่ยืนอยู่ตรงบาร์เสียงกรี๊ดกร๊าดเบาๆดังมาไม่ขาดสาย

“โนวๆ คนนั้นสวยค่ะ คนนี้หล่อค่ะ เหมาะกันมากๆเนอะ”เอาล่ะวันนี้มีมือชงระดับพระกาฬแล้วคงไม่ต้องกลัวกินแห้วล่ะไอ้โอ๊ตฮ่าๆๆๆ




XS Cute Boy ได้โพสต์เมื่อสักครู่

กรี๊ดดดดดดดดใครอยู่ใกล้ร้าน Bua Cafe'  ตอนนี้ห้ามพลาดค่ะไปซื้อกาแฟด่วนนนนน// แต่แอดพลาด //กัดผ้าเช็ดหน้าปาดน้ำตาล้องห้ายยยยย
แนบรูป**
2045 ไลค์
789 แชร์



** โอยยย พี่โอ๊ตยิ้มล่ะยิ้มกว้างมากพ่อ แววตาจะหวานไปไหนฮืออออ อิจฉาน้องไม้ได้ไหมทำไมได้รับรอยยิ้มจากเจ้าชายฮือออออ

*** นี่มันวันอะไรคนหล่อๆถึงได้มารวมตัวกันอร๊ายยยยยอยากได้ๆ

**สองหนุ่มนี่หล่อจนวารีดำเนินค่ะหล่อมมากหล่อลากกกก #แฝดหล่อบอกต่อด้วย

**เม้นท์บนขอวาร์ปหน่อย

** อ่ะนี่เลย ขอบอกว่าหล่อมากแม่ @Pech @Thung-Gn เด็กม.ปลายกรุบกริบ อิอิ

**สาวน้อยคนนี้ไม่เคยเห็นหน้าแฮะ แต่สวยมากลูกกินกันไม่ลงกับดาวอักษรฯเลยค่ะ

** อยู่อีกม.ค่ะตะเอง วาร์ปนี่เลย@GNa' น้องน่ารักนะแต่พี่ต่ายถาปัตถ์ปีสามยืนไม่ห่างเลยอะไรยังไงนี่เราจะเสียดุลให้ม.อื่นกันเหรอคะ

**อะไรก็ไม่เท่ารอยยิ้มและแววตาที่มองกันของสองคนนี้ค่ะ #โอ๊ตไม้ #เดือนชนเดือน

**ใช่ๆวันนี้เหมือนๆอะไรๆมันชัดขึ้นว่ามะ #โอ๊ตไม้ #ปีย์บัว ไร้เงาดาวอิงฟ้า

**แงพี่อิงของหนู




ยอดไลค์ยอดแชร์พุ่งไม่หยุดเมื่อเห็นภาพที่ทีพวกผมที่ใส่ชุดพร้อมเสิร์ฟ จะว่าไปวันนี้มันครบองค์เพราะความบังเอิญ น้องๆเพื่อนของน้องไม้มาครบ

นาวี บูรพา จีน่า น้องไม้ หนูบัว รวมกับกลุ่มพวกผม นำทีมโดยผม ไอ้ปีย์ ไอ้นาย ไอ้ต่าย ไอ้โอม ไหนจะแฝดน้องชายของหนูบัวที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนเด็กมัธยม

เพราะเปลี่ยนขาสั้นมาใส่สแลคและเสื้อเชิ๊ตขาวเหมือนพวกผม ทั้งหมดสิบสองคนในชุดที่ไม่ได้นัดกันมาแต่เหมือนกันเปี๊ยบ

ก็กางเกงสแลคขายาวสีดำเสื้อเชิ๊ตสีขาวก็มันเป็นชุดนักศึกษานี่ครับ แค่พวกผมถอดไทด์ออก ก็ไม่เห็นความแตกต่างแล้ว

มีเพียงหนูบัวกับจีน่า ที่ใส่กระโปรงพลีทสั้นเสมอเข่าสีดำแต่ใส่เสื้อคอปกสีขาวของมัมวาดที่หามาให้บอกว่าจะได้เข้าธีม

ขาดไม่ได้เลยก็ผ้ากันเปื้อนครึ่งท่อนสีน้ำตาลที่ทุกคนต้องใส่ ยกเว้นของสองสาวที่เป็นเอี๊ยมคล้องคอ ดูน่ารักไปอีกแบบ

ไอ้ปีย์ถ่ายรูปหนูบัวจนเมมเต็มไปหมแล้วไม่ต่างกับผมที่แอบถ่ายทุกครั้งที่ว่างและน้องไม้เผลอ


แน่นอนว่ารูปหมู่ได้จากความจัดแจงของหนูบัวและมันปรากฏอยู่ในเพจของมหาวิทยาลัยเรียบร้อย จะว่าไปจากวันนั้นที่เกิดเรื่อง

เพื่อนของน้องไม้ดูจะพยายามเข้าหาผมเหมือนๆกับจะขอโทษเรื่องในห้องน้ำ น้องบอกไม่ได้ตั้งใจอาจจะเพราะความเครียดหรืออะไรทำให้พูดไม่คิด

ผมเองก็อารมณ์เย็นลงมากและเพราะน้องไม้ช่วยพูดด้วยเลยลดอคติกับน้องๆมันไปแล้ว มีแค่ติดใจบูรพาที่เคยรักน้องไม้

แต่ดูๆแล้วแววตาน้องมันคงเหลือเพียงความอาทรห่วงใยตามประสาเพื่อน



คงไม่คิดเป็นคูแข่งของผมแน่นอน



“พี่โอ๊ตครับคุ้กกี้โต๊ะ 5 ครับ”

“รับทราบครับ”ผมทำท่าตะเบ๊ะพร้อมรอยยิ้มกว้างๆหนึ่งที แค้นี้ก็เรียกเสียงหัวเราะของน้องไม้และเสียงกรี๊ดกร๊าดในร้านได้พอควร

ต่อจากนั้นแต่ละคนพยายามหาจุดขายเรียกร้องความสนใจจากลูกค้าในร้านที่ตอนนี้ล้นออกมานอกร้านแล้วก็มี

ต่อคิวยาวเหยียดเพราะบาริสต้ามือหนึ่งอย่างมัมวาดและคุณเดโช และผู้ช่วยแฝดหน้าหล่อ ที่หล่อน้อยกว่าผม

คนรับออเดอร์ คือน้องไม้และน้องหนูบัวกับน้องจีน่า ส่วนพวกผมก็เสิร์ฟสิครับรออะไรว่างก็สร้างโมเม้นท์ ปล่อยกระแส  หึหึ

 เจอแบบนี้บ่อยๆ หวังว่าน้องไม้จะหวั่นไหวกับผมบ้าง คติของผมคือแอบหยอดเนียนจีบรีบสร้างกระแสครับ

ว่าแล้วก็สักหน่อย ผมเลือกรูปที่ต้องการพร้อมกับแคบชั่นที่คิดว่า....หึหึหึ




อินทัช@InIng

ยิ้มทีพี่ขอ #ง้อนะ

2.5K.รีทวิต 1.9 ความชอบ


ยอดรีพุ่งเร็วจนผมเองก็ตกใจ ไม่นึกว่าหน้าบึ้งๆของบาริสต้าจำเป็นจะเป็นที่ชื่นชอบขนาดนี้

**กูว่าแล้วกูว่าแล้ววววววววววววว

**เค้าง้อกันๆนี่ต้องงอนเบอร์ไหนคนพี่ถึงง้อออกสื่อแบบนี้ ฮืออออ

**ไอ้หน้างอๆของน้องว่าพีคแล้วแต่นิ้วมือเรียวๆที่เกาคางน้องนี่ มือพี่ถูกต้องไหม แงงงงงง

**เอาล่ะกูตายอย่างสงบศพสีชมปูววววววว

**น้องอิงครับพี่ว่างนะครับปล่อยสองคนนั้นเขาได้กันไป พี่ขอรับน้องบัวกับน้องอิงไว้ในอ้อมแขนละกัน

**เม้นท์บนกรุณาหยิบบัตรคิวครับ

**ได้ข่าวว่าน้องไม่เล่นทวิตงั้นกูแคปไปไอจีให้นะพี่มึง หุหุ

**งอนไรพี่เขาคะลูกคนอะไรหน้างอก็ยังสวย

**พี่โอ๊ตคะหนูก็งอนค่ะมาง้อหนูที

**คู่นี้คู่จริงค่ะบอกเลย เรือรบจาก USA เลยมึงแล่นเร็วจนกูกลัว

**กลัวเรือล่ม?

**เปล่ากลัวกัปตันหลงทาง 555555


วางยาเสร็จแล้วก็ไปทำงานต่อครับ ที่น้องไม้งอนไม่ใช่อะไร ผมมีภาพเด็ดเอาไว้ปั่นกระแสต่อในวันหลัง เรื่องนี้ต้องมีภาค 2 ครับหึหึ


“ไงมึงน้องงอนหนักเลยสิ กูไม่เคยเห็นน้องงอนมาก่อนเลยนะเนี่ยมึงมันแย่ไอ้โอ๊ต”ปีย์

“น้องไม้จะให้พี่ทำสำนวนเลยไหมครับ ฟ้องข้อหาอะไรดี น๊าเอาแบบติดคุกตลอดชีวิตพี่ก็ทำให้น้องไม้ได้นะครับ”โอม

“น้องไม้อภัยให้มันเถอะถือว่าเอาบุญครับ มันไม่ได้ตั้งใจพี่รู้ หึหึ”นาย

“พี่ว่าน่ารักดีออกครับ แบบมันเป็นจุดขายไรงี้”กระต่าย


ผมมองเพื่อนๆที่พยายามจะช่วยผมและทับถมผมไปด้วยอย่างระอา เหนื่อยใจกับพวกมันครับ เรื่องไม่ใช่อะไรมากมายเลย

แค่ผมขำเรื่องที่น้องไม้โดนหนูบัวต่อยตอนอนุบาลเพราะไปเปิดกระโปรงหนูบัวแค่นั้นเองนี่นา มัมวาดเล่าให้พวกผมฟังนะ

เป็นเรื่องเล่าขานตำนานน้องไม้เลยนะนั่น ผมแค่หัวเราะดังมากไปแค่นั้นเองนะ ก็มันขำนี่นาฮ่าๆๆๆๆแค่นี้ต้องงอนผมด้วย


“ดีกันนะครับนะๆ แหมเรื่องนี้น่ารักจะตายไป”จริงๆนะครับเรื่องราวน่ารักๆแบบนี้ต้องแชร์ ใครจะแสบเปิดกระโปรงสาวตั้งแต่อนุบาลกันล่ะครับฮ่าๆๆๆๆ


“อย่ามาขำเลยนะ รู้ไหมผมอายเพื่อนตั้งนานแน่ะ เฮอะ”คิ้วขมวดหน้าตึง แต่ก็ยังน่ารักมากอยู่ดี

“แต่ว่านะ น้องไม้ปิ๊งหนูบัวตั้งแต่ตอนนั้นเลยนะ “มัมวาดพูดไปยิ้มไป

“มัมครับพอได้แล้วไม้อาย เฮ้อออออ”ท่าทางถอนหายใจทั้งสีหน้าที่ทำท่าทางอ้อนมัมวาดทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะแอบแชะอีกสักภาพ


“น่ารักจะตายเนอะ หึหึ”ผมส่งยิ้มล้อๆไปให้พร้อมๆกับยื่นมือไปยีผมนุ่มๆของน้องด้วยความเคยชิน และแน่นอนเสียงกรี๊ดกร๊าดดังแว่วมาเป็นระยะๆ

“พอเลยครับพี่โอ๊ตเลิกแซวผมได้แล้ว บูก็ด้วย หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ ฮึ่ย”ท่าทางที่ไม่มีใครเข้าข้างมันช่างน่ารังแก

เป็นวันที่เต็มไปดั้วยรอยยิ้ม น้องไม้แม้จะทำหน้างอแม้จะทำหน้าบึ้งแต่ผมก็รู้ว่าน้องมีความสุขแววตาเปล่งประกายวาววับไม่มีแววเศร้าหมองอย่างที่เคย

มันสุกใสยิ่งกว่าดาวประจำเมือง  ความเศร้าที่เคยเห็นหายไปราวกับไม่เคยมี ผมชอบที่น้องเปิดเปลือยความรู้สึกแบบนี้

งอนหนักแค่ไหนผมก็พร้อมจะง้อ ขอแค่ให้น้องไม่ปิดกั้นอีกต่อไป สักวันผมจะเข้าไปนั่งอยู่ตรงนั้น ที่ๆเคยเป็นของน้องบัวในอดีต

สักวันมันจะต้องมีผม และแค่ผมคนเดียวเท่านั้น


TBC .....

เอาความหลงน้องมาฝากกกกก  น้องทำอะไรก็น่ารักไปหมดแหละเนอะพี่โอ๊ตเนอะ

ขอบคุณคนอ่านที่ยังรอกันนะคะ พันวาจะพยายามเข้ามาอัพถี่ๆน๊าาาาา


ช่วงนี้คุณหมจะนัดบ่อยหน่อย เพราะต้องทำกายภาพ (อีกแล้ว)

แต่ก็ไม่ลืมนะคะ จะมาอัพบ่อยๆเลย

ขอบคุณคนอ่านทุกคนขอบคุณกำลังใจเน้อออ  แวะมาคุยกันบ้างนะคะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อิพี่โอ๊ต หวานไม่หยุดเลยน้าาาาา



น้องไม้ละลายแล้ว

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
เป็นกำลังใจให้ค่ะ  อดทน สู้ สู้ จะได้หายไวไวค่ะ   :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อิพี่โอ๊ตเป็นเอามาก  ราวกับถูกน้องทำเสน่ห์ยาแฝดใส่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Oooy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :katai3:หายไวไวนะจ๊ะพันวามารอลงเรือโอ๊ตไม้เขิลตัวบิดตายสนิทศพสีชมพูง้อกันได้น่ารักมากขำพวกfc

ออฟไลน์ มะลิมะลิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ต่างคนต่างไม่กล้าบอกแล้วจะรักกันยังไง :katai1:

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เอาใจช่่่วยโอ้้ตกับไม้นะ

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5






แผนที่ 18  ด่านทดสอบ



วนันต์


ผมนั่งหน้าตูมอยู่ในรถของพี่โอ๊ต ที่กำลังแล่นไปสู่จุดหมายที่สองของวัน นั่นคือสตูดิโอของค่าย MPB

วันนี้นัดที่สองของพี่โอ๊ตเหมือนจะมีงานติดต่อมาจากMPB แต่รายละเอียดผมไม่รู้พี่โอ๊ตให้ผมมาด้วย ผมเองก็ตามมาด้วยความเต็มใจ

แต่ถึงจะเต็มใจมา ความผิดที่หัวเราะผมที่ร้านกาแฟของมัมวาดผมยังไม่ยกโทษให้หรอก ก็ถ้าพวกคุณได้เห็นท่าทางการหัวเราะขอพี่โอ๊ต

พวกคุณก็ต้องเคืองเหมือนผมนี่ล่ะ มีที่ไหนแหงนหน้าอ้าปากหัวเราะลั่นร้านกาแฟแถมนั่งลงเอามือกุมท้องทั้งที่ยังหัวเราะอยู่

และที่พีคคือน้ำตาเล็ดเลยครับ พี่โอ๊ตน่ะแหละ หัวเราะจนน้ำตาเล็ดผมเองก็พึ่งจะเห็น

สาวๆในร้านกาแฟถ่ายรูปกันใหญ่เสียงซุปซิปบอกพี่โอ๊ตหล่อพี่โอ๊ตยิ้มแล้วๆพี่โอ๊ตหัวเราะได้หล่อมาก รอยยิ้มหายากของเจ้าชายน้ำแข็ง

บลาๆๆๆ เหอะ ขวัญใจสาวๆตลอดการเลยนะพี่เขาน่ะ  ผมงอนเพราะพี่เขาหัวเราะผมนะ ไม่ได้งอนเพราะสาวๆสนใจพี่เขาสักหน่อยจริงๆนะ

 
“ยิ้มหน่อยน่า เดี๋ยวพี่เลี้ยงซูชิ แบบไม่อั้นเลยโอเค๊”นั่นไงเอาของโปรดมาล่อผมอีกละ

“ไม่อั้นจริงๆนะครับ”

“จริง เต็มที่เลยครับ หรือถ้าไม่หายงอนพรุ่งนี้พี่พาไปกินบิงซูเลยเอ้า”

แค่นี้ผมก็ฉีกยิ้มกว้างให้พี่โอ๊ตด้วยความเต็มใจ หึหึ ของหวานก็ชอบ ซูชิก็ชอบ คนพาไปก็..ชอบ อ่า..เขินแฮะ =_=


พี่โอ๊ตนำลูกรักของพี่เขามาจอดใต้อาคารของค่าเพลงMPB ที่นัดหมายของวันนี้และเดินนำดผมขึ้นลิฟท์ไปยังสตูดิโอจุดนัดหมาย

ตลอดทางที่เราเดินผ่านจะมีคนเดินไปมาประปรายเดาว่าคงเป็นพนักงานนั่นแหละครับธรรมดาล่ะนะที่จะต้องมีคนทำงาน

ที่ไม่ธรรมดาคือตั้งแต่ผมกับพี่โอ๊ตเดินเข้ามามีแต่คนมองมาที่เราสองคน  อยู่ตลอดเส้นทางอาจจะเพราะความเด่นของพี่เขา

หรือเพราะเราแปลกหน้าของที่นี่ก็ไม่รู้ได้ แต่ผมรู้สึกอึดอัดคงเพราะยังไม่ชินกับการที่ถูกจ้องมองมากๆ

 กว่าจะมาถึงห้องที่นัดหมายผมก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนวิ่งมาสักสิบกิโลเมตร



 
“สวัสดีครับพี่ฟาง”พี่โอ๊ตทักทายพี่ฟางที่เดินยิ้มร่ามาต้อนรับเราสองคน ผมจำได้ว่าพี่ฟางเป็นผู้จัดการส่วนตัวของพี่อันที่เจอกันคราวงานรวมมหาวิทยาลัย


“อ้าวน้องโอ๊ต น้องไม้ สวัสดีค่ะ  พี่เจตกับน้องอันรออยู่พอดีเลยค่ะ”

เสียงทักทายพร้อมรอยยิ้มของพี่สาวคนสวยที่เดินมาต้อนรับเราสองคน งานนี้ผมไม่ได้มีส่วนแค่มาเป็นเพื่อนพี่โอ๊ตตามคำร้องขอของพี่เขาเท่านั้น


ผุ้ชายร่างสูงใหญ่แววตาดูเจ้าเล่ห์แวววับเหมือนพวกเจ้าชู้ไปเรื่อย บวกกับหน้าตาหล่อคมเข้มมาดนักธุรกิจ ทำให้ผู้ชายคนนั้นดูดีอย่างหาตัวจับยาก

อีกคนร่างสูงโปร่งผอมบางผิวขาวราวกับจะเรืองแสงได้ ดวงหน้าดูหวานปนหล่อได้หลายมุมมอง แต่รอยยิ้มสดใสดวงตาพราวระยับเหมือนคนอารมณ์ดีตลอดเวลาทำให้เจ้าตัวดูมี ออร่าน่าหลงไหล ยิ่งยืนข้างๆกันแล้วมันดูราวกับรูปปั้นที่ทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ



“มาแล้วๆ นี่ไงพี่เจต คนที่ผมว่าหน่วยก้านดีใช่ไหมล่า”

เสียงร่าเริงรอยยิ้มสดใสท่าทางน่ารักที่เป็นธรรมชาติของพี่อันดูน่ารักจนละสายตาไม่ได้ กอปรกับหน้าตาอ่อนเยาว์

ที่ดูยังไงก็คล้ายเด็กมหาลัยเช่นพวกผมร่างสูงโปรงเพรียวบางแลดูน่าทนุถนอม อืม น่ารักแฮะ ผมคิดพลางเหลือบมองไปทางที่โอ๊ตที่เดินเข้าไปยกมือไหว้ทั้งสองคน


พร้อมกับนั่งลงคุยธุระกันโดยผมได้แต่นั่งมองอยู่ห่างๆเพราะไม่เกี่ยวข้องอะไร พี่ฟางเอาชากับขนมมาเสิร์ฟให้ผมระหว่างรอ

คนที่ชื่อเจตดูจะมองมาทางผมแปลกๆคงเพราะผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ก็มากับพี่โอ๊ตด้วยพี่เขาคงสงสัยล่ะมั้งนะ

สามคนนั่งคุยกันเคร่งเครียด รายละเอียดของงานที่พี่โอ๊ตจะต้องทำมีพี่เจตคอยอธิบายและพี่อันคอยเสริมส่วนพี่ดอ๊ตดูแววตาเป็นประกายราวกับเจอของถูกใจ



 
“Ducati Desmosedici GPเครื่องยนต์ วี4 สูบ 90 องศา EVO Desmodromic DOHC กำลังสูงสุดกว่า 250 แรงม้า เกียร์ 6 จังหวะ โช๊ค OHLINS โครงรถ Aluminium Alloy Evo Twin-Spar เบรก Brembo ความจุถังน้ำมัน 22 ลิตร กล่องควบคุม Magneti Marelli ยาง Michelin 17 นิ้วทั้งหน้า/หลัง น้ำหนักรถเปล่า 157 กิโลกรัม ….“



“โหพี่เจตครับนี่มันสุดยอดเลยครับรถในฝันผมเลยนะเนี่ย”พี่โอ๊ตตอบกลับด้วยแววตาเป็นประกายวาววับ แววตาเหมือนตอนอยู่กับพ่อผม

 เวลาที่ได้คุยได้เจอกันทีไรผมจะเห็นแววตาของพี่โอีตแบบนี้เสมอ จนผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้


เสียงบอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับรถที่พี่โอ๊ตต้องขี่ดังมาเป็นระยะๆ ทำให้ผมอดที่จะสนใจไม่ได้..ก็นะ สายเลือดพ่อมันก็ยังวิ่งวนในตัวผม

แม้ว่าผมจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเร็วเหมือนพ่อไม่ได้ชื่นชอบถึงขั้นหลงไหลเหมือพวกพี่โอ๊ต แต่ความสนใจผมก็ยังมีอยู่บ้าง

 ดูจากแววตาของพี่เขาแล้วผมเข้าใจได้เลยว่า เพราะอะไรพ่อกับพี่โอ๊ตถึงเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย



“น้องไม้มาร่วมนั่งตรงนี้ดีกว่าครับพี่อยากได้ความเห็นจากทายาทมือหนึ่ง F1 “

เสียงพี่อันดังขัดขึ้นมาขณะที่ผมปล่อยความคิดล่องลอยไปเรื่อย

“อ่า..ผมคงไม่กล้าออกความเห็นหรอกครับเพราะผมไม่ได้สันทัดเหมือนพ่อน่ะครับ พี่ๆคุยกันไปเลยครับ”

ผมตอบพลางส่งยิ้มให้และกันตัวเองออกมาเป็นคนนอกได้อย่างสมบูรณ์ และเพราะแบบนั้นมันทำให้ผมได้มองเห็นหลายๆอย่าง

พี่อัน แลดูจะนั่งใกล้ชิดจนแทบจะเกยตักพี่โอ๊ตอยู่แล้วทั้งๆที่โซฟาขนาดใหญ่ที่มีไว้รองรับแขกตัวนั้นมันยังเหลือพื้นที่อีกตั้งมากมาย  อ่า..ไม่ชอบเลยแฮะ



“งั้นสรุปว่าพรุ่งนี้น้องโอ๊ตไปดูสถานที่จริงกับพี่นะจะได้ทดลองขี่เจ้านี่ด้วย”พี่อัน

“ถ้างั้นอันก็ไปรับน้องโอ๊ตเลยจะได้ไปพร้อมกัน ไม่ติดปัญหาอะไรใช่ไหม”พี่เจต

“ครับพี่เจตผมโอเคครับว่าแต่จะไปกี่โมงครับผมจะได้แพลนถูก”พี่โอ๊ต


“อืม..สัก เจ็ดโมงเช้าเป็นไง ขับสบายๆน่าจะสามชั่วโมงก็ถึงแล้ว”พี่อันทำท่าทางคิดก่อนจะตอบออกมาและคำตอบพี่อันทำผมขมวดคิ้ว

“อ่า ผมขอถามได้ไหมครับ”

“ว่าไงครับน้องไม้”พี่เจตหันมาแทบจะทันทีที่ผมเอ่ยปาก

“คือว่า สามชั่วโมงที่ว่าเนี่ยไปไหนกันเหรอครับ”

“อ๋อ ต้องไปถ่ายทำที่สถานที่จริงน่ะครับ ต้องไปบุรีรัมย์”


คงต้องคุยกับพี่ยาวแล้วสิ จะปล่อยไปกับพี่อันได้อย่างไรก็ดูจากท่าทางแล้วพี่อันสนใจพี่โอ๊ตมากกว่าปกติ

 ถึงแม้จะรู้ว่าพี่โอ๊ตไม่ชอบผู้ชายก็เถอะ แต่พี่อันดูดีซะขนาดนั้นแถมคาริสม่ากระจายจนแสบตาแบบนี้ ฮือออ ผมควรทำไงดีครับ

ผมนั่งดื่มชาที่พี่ฟางเอามาให้ปั้นหน้ายิ้มอย่างที่ไม่เคยทำเพราะในใจมันว้าวุ่นจนมึนงงไปหมด


“น้องไม้สนใจไปร่วมชมได้นะครับ เราจะยกกองไปบุรีรัมย์ น่าจะปักหลักที่นั่นไม่เกินสามวัน ถ่ายซีนสั้นๆแต่ได้พระเอกเก่งๆแบบน้องโอ๊ตเนี่ยอาจจะจบงานเร็วนะพี่ว่า”


ผมเหลือบตาไปมองพี่โอ๊ตอย่างคาดโทษที่ไม่ได้บอกรายละเอียดงานนี้ให้ผมทราบเลย แต่จะว่าไปผมก็ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขาสักหน่อย

แล้วพี่เขาจะบอกหรือไม่บอกมันก็เป็นสิทธิ์ของพี่เขานี่นา

 
“เอ่อ ผมคงต้องดูก่อนครับถ้าไม่ติดอะไรก็อยากไปด้วยครับผมไม่เคยไปบุรีรัมย์เลย”

ผมว่าออกไปอย่างที่คิด ออกตัวไปก่อนไม่ตอบรับเร็วให้น่าเกลียดแต่ก็ไม่คิดจะปฏิเสธแน่นอน ใครจะปล่อยพี่โอ๊ตไปคนเดียวล่ะ

ดูพี่อันสินั่นมันหมาป่าหุ้มหนังแกะชัดๆ โอยยยผมจะเอาอะไรไปสู้พี่เขาล่ะครับ



พี่เจตยิ้มกว้างราวกับถูกใจกับคำตอบของผมหนักหนา กว่าจะคุยกันเสร็จก็เกินเวลาอาหารเย็น ท้องผมเริ่มประท้วงจนพี่เจตหันมามอง
จนผมต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้


“เอาล่ะๆงั้นตกลงตามนี้ พี่ว่าน้องๆคงหิวแล้วต้องขอโทษด้วยที่ลากยาวแบบนี้ พี่ขอเลี้ยงข้างน้องๆสักมื้อละกัน นะ”

“ไม่เป็นไรครับพี่เจตพอดีว่าผมต้องรีบกลับพอดีผมนัดกลุ่มเพื่อนทำงานกลุ่มไว้น่ะครับเอาไว้วันหน้าก็ได้ครับยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางไปทำงานร่วมกันอยู่แล้ว”

พี่โอ๊ตว่าด้วยท่าทางสบายๆ ซึ่งผมก็เห็นด้วย แม้ว่าผมจะเปิดใจรับคนอื่นๆเข้ามาในชีวิตแต่ผมก็ยังไม่ชินที่จะไปกินข้าวร่วมกับคนแปลกหน้าอยู่ดี พี่โอ๊ตเองก็คงเข้าใจผมในข้อนี้เพราะแบบนี้ไงผมถึงได้รักเขา




**





ผมมองคนที่ทำเป็นรื้อหาแผ่นเพลงตรงช่องเก็บแผ่นหน้ารถ ท่าทางหลุกหลิกเหมือนมีความผิดติดตัว จนผมทนไม่ไหวต้องคว้ามือพี่เอาไว้แล้วจ้องหน้ากดดัน หึหึ


“เอ่อ คือ แหะๆ ขอโทษครับ”เสียงอ่อยๆหน้าตาท่าทางหงอยๆของพี่โอ๊ตทำให้ผมแทบจะกลั้นขำไม่ได้แต่ต้องกลั้นเอาไว้

“ขอโทษเรื่องอะไรเหรอครับ”

“ก็..พี่ไม่ได้บอกเรื่องงาน...คือแบบทีแรกพี่ก็แค่คิดว่ามาคุยๆกันเฉยๆไม่คิดว่าจะเร็วแบบนี้ น้องไม้ว่างไปบุรีรัมย์กับพี่นะ นะๆ ”

ท่าทางของพี่โอ๊ตทำให้ผมนึกถึงเจ้ามาร์คกับมาลี เวลาอ้อนอยากกินขนม

“ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แค่แปลกใจเฉยไว่าพี่ไปรับงานพระเอก MV ของพี่อันตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ไม่ใช่พระเอกนะ พอดีเป็นถ่ายซ่อมฉากสำคัญ แล้วพี่กับพระเอกของพี่อันก็ตัวพอๆกัน จังหวะที่พระเอกของพี่อันเขาประสบอุบัติเหตุเลยให้พี่ถ่ายซ่อมฉากขี่มอเตอร์ไซค์แค่นั้นเองไม่ใช่พระเอกสักหน่อย”


ผมฟังพี่โอ๊ตบอกเล่ารายละเอียดของงานแล้วก็ต้องแปลกใจ ทำไมพี่เขาต้องอธิบายทุกอย่างให้ผมฟังกันนะ

ทำไมต้องกลัวผมโกรธที่ไม่ได้บอกเรื่องไปค้างต่างจังหวัด ผมคิดเข้าข้างตัวเองได้หรือเปล่านะ

“ไม่ได้โกรธครับแค่แปลกใจเฉยๆแล้วนี่ถ้าผมไปจะไม่เกะกะการทำงานกันหรือครับ เหมือนเป็นตัวแถมไปยุ่งยากเปล่าๆ”

“ไม่ยุ่งเลยพี่บอกพี่อันแล้วว่าไม้จะไปด้วย “

“มันจะไม่ดูแปลกๆใช่ไหมพี่ เพราะผมไม่มีส่วนร่วมกับงานจะดูน่าเกลียดไปไหม”

“ไม่เป็นไรหรอกเพราะเราไปพักของเราเองพี่อยากพาไม้ไปเที่ยวด้วยถ้าถ่ายทำเสร็จก็อยู่ต่อสักหน่อย วันอาทิตย์บ่ายๆค่อยกลับเลยบอกพี่เจตไปว่าพี่ไม่พักกับที่กองฯพี่เขาไม่มีปัญหาอะไร จริงๆถ่ายไม่น่าจะนานนะพี่เจตแค่เผื่อเวลาไว้กลัวฝนตกเท่านั้นเอง”

“งั้นผมจะได้บอกพ่อกับแม่ไปแค่ 2 วันใช่ไหมครับ”

“3วันสิครับพรุ่งนี้วันศุกร์ไม้ไม่มีเรียนนี่นา “

“มารู้ตารางเรียนผมตอนไหนเนี่ย”

“หนูบัว” โอเคเป็นอันตัดจบผมมีไส้ศึก




***




อินทัช


กลับจาก MPB ผมพาลูกรักเข้าไปจอดสนิทในโรงจอดรถของบ้านน้องไม่ด้วยความคุ้นเคย

ทุกครั้งที่มาผมจะรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้มีความคุ้นเคยทำให้ไม่รู้สึกเกร็งหรือประหม่าอะไร

แต่วันนี้ผมรู้สึกต่างออกไป เหงื่อชื้นที่ฝ่ามือข้างในความคิดตีกันวุ่นวาย ความกังวลที่ผมพยายามเก็บเอาไว้ดูเหมือนจะมาแสดงอาการตอนนี้

“พี่โอ๊ตไม่สบายหรือเปล่าครับ “

“อ่า..ไม่หรอกพี่แค่กังวลนิดหน่อยว่าจะทำงานออกมาได้ไม่ดี”แถไปสิครับ


“โห..พี่โอ๊ตทำได้อยู่แล้วพี่เก่ง”สองมือยื่นมาตรงหน้าผม พร้อมกับยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างมาให้ราวกับว่ามันเป็นยาชั้นดี

ผมลอบถอนหายใจเบาๆ ไม่ใช่อะไรวันนี้เป็นวันที่ผมตัดสินใจที่จะบอกพ่อของน้อง


 //ถ้าสักวัน ความรู้สึกของโอ๊ตเปลี่ยนไป หรือโอ๊ตเข้าใจความรู้สึกของโอ๊ตเองแล้ว มาบอกพ่อหน่อยนะ//



คำของพ่อทิวไผ่ดังขึ้นในความทรงจำ แม้ว่าตอนนั้นผมจะไม่มีคำตอบให้แต่ตอนนี้ผมมีแล้ว และมันใจว่า พ่อไผ่กับแม่นุ่นจะเข้าใจผม...


หรือเปล่านะ แหะๆ ผมทำใจกล้าฮึบๆเข้าไว้ ก่อนจะเดินตามหลังน้องเข้าบ้านไป เหมือนเคย


“อ้าวทำไมวันนี้ว่าเหรอพี่โอ๊ตถึงมากับน้องได้ พอดีเลยแม่ทำของโปรดพี่โอ๊ตพอดี เย็นนี้กินข้าวด้วยกันก่อนนะคะ “

เสียงแม่นุ่นเอ่ยด้วยความอารี ผมยกมือไหว้พร้อมรับคำเพราะอาหารฝีมือแม่นุ่นอร่อยสุดๆ


“แล้วพ่อล่ะครับ”เสียงน้องไม้เอ่ยถามทั้งยังหยิบผลไม้ที่แม่นุ่นกำลังปอกใส่จาน


“อ้อ อยู่หลังบ้านจ้ะ คงกำลังอาบน้ำให้มาลีกับมาร์ค  ไปล้างมือก่อนเจ้าลูกคนนี้ “


“งั้นผมไปช่วยพ่อไผ่ดีกว่า น้องไม้ไปอาบน้ำก่อนเลย”

“ครับๆ ดุกันจริงๆคนบ้านนี้”


ผมอดที่จะยิ้มกว้างไม่ได้ก็คำว่า  “คนบ้านนี้” มันฟังดูเหมือนผมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวน้องไปแล้ว

 ผมเดิน เลี่ยงออกมาทางหลังบ้านเหมือนสวรรค์จะเปิดโอกาสให้ผมได้คุยกับพ่อไผ่ตามลำพัง เพราะดูเหมือนว่าพ่อไผ่จะอาบน้ำเจ้าตัวส้มสองตัวเสร็จแล้ว


“หวัดดีครับพ่อ”

“อ้าว ว่าไง ว่างกันหรือถึงมาได้”

“ก็...คือ....ผมมีเรื่องจะคุยกับพ่อน่ะครับ”

“หืม ?”


“อ่า...เรื่องที่พ่อไผ่เคยถามผมเรื่องความรู้สึกที่มีต่อน้องน่ะครับ”

“อ้อ ...งั้นไปนั่งตรงโน้นดีกว่าท่าทางจะคุยกันยาว หึหึ”


ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองไหม เสียงพ่อไผ่ฟังดูแปลกๆจนผมอดที่จะขนลุกไม่ได้ ก่อนจะเดินตามหลังเจ้าของบ้านไปที่ศาลาพักร้อนที่จัดไว้มุมสวน

“เอาล่ะ ทีนี้ ก็ว่ามาได้เลย”

ผมนั่งเอามือถูๆกันไปมาอย่างประหม่า ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนความกล้าที่มีมาก่อนหน้านั้นไม่รู้ว่ามันวิ่งหายไปไหนแล้ว


“คือว่า ในตอนนั้นที่พ่อไผ่ถามน่ะครับ ผม...ผมรักน้องครับ”

เชิดหน้ายืดอกยอมรับด้วยความหนักแน่นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมพร้อมจะยอมรับ

“....”

“....”


ลมที่พัดเอื่อยๆเมื่อสักครู่หยุดนิ่งราวกับมีใครไปปิดพัดลมเครื่องใหญ่  เสียงรถที่วิ่งผ่านไปมาเงียบเชียบราวกับไม่มีเครื่องยนต์

 ทุกสิ่งหยุดอยู่กับที่  มันเงียบจนผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นตึกตัก  หากมีอีกาบินผ่านหน้าไปแล้วส่งเสียง กา กา ผมว่าคงได้ฟิลพิลึก


“คิดดีแล้ว ?” คำถามเรียบๆของพ่อไผ่ทำให้ผมต้องลอบสูดลมหายใจเข้าลึกๆ


“ครับ ผมคิดดีแล้ว ทบทวนดีแล้ว ผมรู้แล้วว่าผมทำไมถึงเป็นห่วงน้องนักหนา ผมรู้แล้วว่าเวลาที่เห็นน้องร้องไห้ ที่มันเจ็บปวดไปกับน้องเพราะผมรู้สึกอะไรอยู่ หลายๆอย่างหลายๆเหตุการณ์ ผมว่าผมเข้าใจแล้ว ว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อน้องไม่ใช่แค่ อยากมีน้องชายอย่างที่ผมเคยคิด ..ผมอยากมีคนรัก อยากมีคู่ชีวิตที่ชื่อ วนันต์ ครับ“




ผมร่ายยาวไม่เว้นวรรค ด้วยเกรงว่าพ่อไผ่จะไม่เข้าใจในความรู้สึกของผมเป็นครั้งแรกที่ทำอะไรแบบนี้มันตื่นเต้นมันกดดัน


“.... ..”

“......”


ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง  กา ตัวนั้นไม่บินผ่านมาอีกเหรอวะ  ผมนั่งบีบมืออยู่ต่อหน้าพ่อไผ่ ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี

มือไม้มันเกะกะไม่มีที่จะวางต้องบีบๆถูๆกันไปมา แต่สายตาผมจ้องมองตรงไปยังร่างของผู้ให้กำเนิดน้องไม้ ด้วยความจริงใจ


“โอ๊ตก็รู้ว่าน้องเจอกับอะไรมา”


“รู้ครับ..แค่พ่อไผ่ไม่ว่าอะไร ผมจะรักน้องด้วยหัวใจทั้งหมดที่ผมมี”ผมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทั้งในความรู้สึกและการกระทำ

“เอาตามตรง พ่อไม่ได้จะขัดขวางหรืออะไร พ่อไม่ได้มีปัญหาหากโอ๊ตจะรักลูกชายของพ่อ  แต่พ่อก็ไม่อยากให้ลูกของพ่อเสียใจ โอ๊ตเข้าใจใช่ไหม และอีกอย่างถ้าลูกชายของพ่อไม่ได้รักโอ๊ตแบบที่โอ๊ตต้องการล่ะโอ๊ตจะยังรักน้องอยู่หรือเปล่า”


“ผมเข้าใจครับ..ไม่ว่าน้องจะคิดกับผมแบบไหนผมจะไม่บังคับน้องผมไม่อยากให้น้องเสียใจ”


“แต่หากโอ๊ตยังยืนยันว่าความรู้สึกของโอ๊ตเป็นของจริง ถ้าพ่อจะขออะไรสักอย่างโอ๊ตทำให้ได้หรือเปล่าล่ะ “

“ได้ครับ แค่อย่าให้ผมเลิกคบกับน้องก็พอครับ”

“พ่อไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น แต่พ่อก็อยากจะให้โอ๊ตทดสอบตัวเองดูสักหน่อย”

“ทดสอบ ?... ยังไงเหรอครับ ?”

“งดมารับน้อง ...เจอกันได้ปรกติที่มหาวิทยาลัย พากันไปเที่ยวไปไหนได้ปรกติแต่ห้ามพากันไปค้างอ้างแรมที่อื่น ทำได้หรือเปล่าล่ะบางทีอาจจะเพราะความใกล้ชิดและความเคยชิน ลองห่างดูสักหน่อย จะได้เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริง เอาเป็นว่ากลุ่มของไม้จะไปเยี่ยมชลวันศักร์นี้ โอ๊ตไม่ไปด้วยได้ไหมล่ะ”



“อ่า...”ผมนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ดูเหมือนว่าโปรแกรมพาน้องไปบุรีรัมย์จะมีอุปสรรคซะแล้ว


“พ่อไม่ได้จะดูถูกความรักของโอ๊ต พ่อแค่อยากแน่ใจว่านั่นคือความรู้สึกจริงๆของโอ๊ตไม่ใช่แค่ความใกล้ชิดและความเคยชิน โอ๊ตเข้าใจพ่อหรือเปล่า”


“เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับพ่อ”

ผมยกมือไหว้ขอบคุณพลางคิดว่าจะบอกน้องยังไงดีเรื่องที่จะไปบุรีรัมย์ด้วยกัน แต่การไปบ้านของชลก็สำคัญมากๆ คงไม่มีปัญหาเรื่องการหลีกเลี่ยง



“.ถึงแม้โอ๊ตจะบอกว่าโอ๊ตรักน้องแต่พ่อยังไม่แน่ใจนะว่าน้องคิดยังไงกับโอ๊ต  พ่อกลัวน้องจะเสียใจหากคราวนี้น้องเกิดไม่ได้คิดอะไรกับโอ๊ตขึ้นมา จะไม่แย่ทั้งสองฝ่ายหรือ”



ผมคิดตามที่พ่อไผ่พูด มันก็จริงนะครับ น้องมีความหลังฝังใจกับเรื่องนี้ แต่ผมก็ยังจะดันทุรัง แต่ว่า ผมรักน้องด้วยความบริสุทธ์ใจ

ผมเชื่อว่าน้องจะเข้าใจ เพราะฉะนั้นผมจะไม่รีบเรื่องนี้ แต่ถึงยังไง ผมก็ดีใจที่ได้บอกพ่อไผ่แล้ว


“พ่อ พี่โอ๊ต มากินข้าวได้แล้วครับ คุยอะไรกันท่าทางเคร่งเครียด”เสียงของน้องไม้ปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์

“ไง เจ้าลูกหมู ช่วงนี้ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเลยนะเราน่ะเพื่อนๆมาหาแน่ะไม่เจอไม้เลยฝากเรื่องไว้กับพ่อ“

“พ่อครับ ปีหนึ่งก็แบบนี้กิจกรรมเยอะ เนอะพี่โอ๊ตเนอะ ”

“แหะๆ ครับๆ”


“ว่าแต่เพื่อน ? พวกบูเหรอครับมีอะไรกันหรือเปล่า”


“เดี๋ยวค่อยคุยกัน ไปๆ แม่รอละ วันนี้มีแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย” พ่อไผ่ยื่นมือไปลูบหัวลูกชายสุดที่รักเบาๆก่อนจะเดินนำเข้าบ้านไป


“หึหึ เพราะแบบนี้ไง พ่อถึงเรียกลูกหมู คนเห็นแก่กิน”ผมอดที่จะกระเซ้าไม่ได้ก็นะ ท่าทางที่แสดงออกทั้งสีหน้าแววตา มันดูน่ารักไปหมด

 แม้เจ้าตัวจะไม่ได้ตัวเล็กน่ารักอย่างผู้หญิงมองมุมไหนก็ดูมาดแมนสมชาย ยกเว้นใบหน้าน่ะนะ ฮ่าๆๆๆๆ


“ว่าผมเหรอ  งั้น ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ผมไม่แบ่งนะ หึหึ”


“โหยยย ใจร้ายว่ะ วันนี้พี่ขับรถทั้งวันเลยนะ แถมเป็นเด็กเสิร์ฟ จนหมดแรงอีกต่างหาก จะใจร้ายกับพี่จริงๆเหรอ คนหล่อใจร้ายมาก”

ผมเอ่ยชมเนียนๆพลางส่งสายตาออดอ้อนไปให้อย่างไม่เกรงใจ  ที่กล้าทำไม่ใช่อะไร พ่อไผ่เดินเข้าครัวไปหาแม่นุ่นแล้วหึหึ ทางสะดวก

ให้มันรู้ไปว่าเนียนๆหยอดไปเรื่อยๆแบบนี้น้องจะไม่หวั่นไหวเลย หึหึ



แต่ว่านะ พรุ่งนี้ต้องไปคนเดียวเหรอเนี่ยยยยยย เศร้าชิปหายเลย เฮ้ออออ หรือจะเอาไอ้ปีย์ไปด้วยดีนะ ผมห่างน้องไม้ มันก็ต้องห่างน้องบัวเหมือนกันวะ หึหึ




***



“กูไม่ไป “หน้าตาบึ้งตึง เสียงแข็งชิปหาย

“ปีย์ มึงเพื่อนกูนะ ขอร้อง พลีสสสสส”

“ไอ้ห่าโอ๊ตกูว่าจะชวนน้องบัว ไปอัมพวา ไอ้เหี้ย มึงรู้ไหม ทั้งอาทิตย์กูแทบจะเป็นกระสอบทรายให้ลุงพี ฮือออไอ้เพื่อนชั่ว มึงไม่เห็นใจกู”

“ไม่ได้ ๆ กูกลับมาแล้วมึงค่อยไป นะปีย์นะ มึงยังไม่ได้นัดน้องบัวสักหน่อย อีกอย่างน้องเขานัดกันไปบ้านน้องชลนะ มึงก็ไม่ได้ไปตอนนี้หรอกน่าเชื่อกูดิ  เนี่ยกูบอกน้องไม้ว่า มีงานต่อกับมึงอีกที เพื่อที่น้องจะได้สบายใจด้วยไง นะมึงนะ “



 ตามนั้นเลยครับพ่อไผ่โยนระเบิดไว้ให้ผมซึ่งผมจำเป็นต้องโกหกน้องว่ามีธุระต่อกับไอ้ปีย์  เพื่อความสบายใจของน้องด้วย

เพราะน้องรับปากว่าจะไปกับผมแต่ต้องเปลี่ยนใจไปกับเพื่อน ผมกลัวว่าน้องจะคิดมาก

“สัส!!”

แม้จะบ่นแม้จะด่าแต่ว่าเพื่อนผมก็ปฏิเสธไม่ได้ หึหึ อีกอย่างแม้ว่าพ่อไผ่จะทิ้งบอมไว้

แต่ได้จังหวะบูรพากับนำทีมเพื่อนๆน้องชวนกันไปเยี่ยมน้องชลเพราะครบรอบวันที่น้องเสียด้วยพอดี  ผมเลยไม่ต้องหาข้อแก้ตัวอะไรมาก

เลยบอกไปว่าจะชวนปีย์ไปแทนจะได้ไม่ขับรถคนเดียว  น้องจะได้หายห่วงด้วย


ติดอยู่แค่ไอ้เพื่อนผมเนี่ยดันติดแฟน  แต่ไม่ว่ายังไงแฟนมันกับว่าที่แฟนผมก็เพื่อนก๊วนเดียวกัน ไม่แคล้วก็ไปด้วยกันอยู่ดี

แต่ว่านะทริปนี้เหงาอีกแล้วสินะ เรื่องวางแผนพาน้องเที่ยวล่มซะไม่เหลือดี โอยยยยย...สุดท้ายไอ้ปีย์ก็โดนเท ฮ่าๆๆๆ 

ผมมองหน้าเพื่อนที่ดูจะบูดเต็มที่ แต่ก็จำใจแบกกระเป่ามาขึ้นรถผม  แต่มันก็นะ...ห่อเหี่ยวจริงๆ เฮ้อออ


“ถอนหายใจเสร็จ ก็ตั้งใจขับรถเลยเพื่อนกูจะนอนถึงแล้วปลุกด้วย”


ว่าเสร็จเพื่อนรักก็เอนเบาะเอนตัวหลับตาลง ผมหันไปเบ้ปากใส่มันด้วยความหมั่นไส้ นี่ถ้าเปลี่ยนไอ้เพื่อนตัวควายๆนี้เป็นน้องไม้

ผมคงจะมีกำลังใจขับรถมากกว่านี้ เฮอะะ///เหยียบสัก140 จะโดนจับไหมวะอยากถึงเร็วๆจะได้ทำงานเสร็จเร็วๆ รีบกลับมาหาน้องเร็วๆ







TBC …จ้าพ่อ ทุกอย่างเร็วๆเนอะ 5555555


จะพยายามมาต่อเรื่อยๆนะค๊ะ ช่วงนี้ขอเป็นรายสัปดาห์ก่อนนะ เจอกันอีกที วันพฤหัสฯหน้าเลยค่าาาาาาาา :mew1: :mew1:

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ใหวใหมพี่โอ๊ต 55555

น้องไม้ขี้หึงเน๊อะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

โถๆๆๆๆๆๆ น่าสงสารพี่โอ๊ต   แผนล่มไม่เป็นท่าเลย

ออฟไลน์ Oooy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :mew5:ี :katai5:เอาน่าพี่โอ๊ตพ่อไผ่ต้องการพิสูจน์ว่ารักกันจริงไหมอดทนหน่อยก็แล้วกันสงสารปีย์โดนหางเลขไปด้วย555

ออฟไลน์ มะลิมะลิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อดทนไว้พี่โอ๊ต

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
แวะมาแจ้งข่าวว่าเน็ตหนูล่มตั้งกะเมื่อวาน ช่างกำลังติดตั้งสายใหม่คาดการว่าจะใช้ได้ไม่เกินวันเสาร์นี้ค่า

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5




แผนที่ 19 ..  ปั่น




วนันต์






UN Teeranai  ได้เพิ่มรูปภาพใหม่

พระเอกของผม

แนบรูป

5.8K Like   267  Share



ผมเพ่งมองภาพที่พี่อันพึ่งโพส ลงเฟสบุ้ค และเพื่อนตัวดีก็แชร์มันมาให้ผม ร่างสูงใหญ่ใส่ชุดสีดำสนิททั้งตัวนั่งคล่อมบนรถ Ducati สีแดงคันใหญ่

ด้านหลังซ้อนทับด้วยร่างโปร่งบางของพี่อันสองแขนกอดรัดรอบเอวหนาของพี่โอ็ตท่าทางราวกับคู่รัก ที่..


อ่า....ทำไมใจมันหวิวๆแบบนี้นะ ผมลองใช้ฝ่ามือทาบบริเวณหน้าอกข้างซ้ายที่มันยังเต้นตึกตักปรกติ

แต่ความรู้สึกกลับบีบรัดเหมือนจะหายใจไม่ออกมันคืออะไรใช่ว่าจะไม่รู้ ผมกลัวว่าถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง ผมคงต้องเสียใจซ้ำสองอีกเป็นแน่




“พ่อครับ “ผมวิ่งตึงตังลงมาจากห้อง ตรงดิ่งเข้าไปที่ห้องทำงานของพ่ออย่างไม่ลังเล แม้ว่าวันนี้จะเหนื่อยจากการเดินทางแค่ไหน แต่ผมก็ไม่มีวันเอามันมาเป็นข้ออ้างในการนอนโดยไม่รับรู้อะไรได้อีก 


“ว่าไงเจ้าลูกหมู พึ่งจะกลับมาถึงไม่พักก่อนล่ะหืม”

“พ่อ ไม้มีเรื่องจะปรึกษา”

“เอ..ดูจากสีหน้าแล้วท่าทางจะเรื่องเครียดๆใช่ไหมล่ะเนี่ย”

“ก็ ..ไม้ควรทำยังไงดีครับ มันแบบว่า..”

“เอ้าๆ สูดหายใจเข้าลึกๆก่อน แล้วนั่งลงใจเย็นๆพร้อมแล้วค่อยพูด หึหึ”


พ่อหัวเราะท่าทางลนลานของผมที่แทบจะตั้งสติไม่อยู่ ก็ไม่ใช่อะไร ผมน่ะคิดทบทวนหลายๆอย่างแล้วคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว

 ผมไม่อาจจะปล่อยพี่โอ๊ตไปได้เลยจริงๆ




“พ่อจะว่าอะไรไหมครับถ้าไม้จะรักผู้ชาย”


“....”


“อันที่จริงไม้ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่รู้สึกแบบนี้ แต่ว่าไม้คิดว่านี่เป็นความต้องการจากหัวใจจริงๆครับ ไม้..รักพี่โอ๊ต”


“....”



“พ่ออย่านิ่งสิครับ ไม้ใจไม่ดี”

ผมก้มหน้ามองมือตัวเองที่ถูกันไปมาเบาๆบนตักด้วยความประหม่า เป็นครั้งแรกที่มาปรึกษาพ่อด้วยเรื่องหัวใจแบบนี้

 ไม่เคยเลยสักครั้งแม้ว่าคราวของหนูบัวผมจะมั่นใจตั้งมั่นแค่ไหน แต่ผมไม่เคยคิดที่จะปรึกษาพ่อกับแม่เลยสักครั้ง


“อันที่จริงพ่ออยากจะบอกให้ลูกไม่ต้องรีบร้อยค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่ดูทรงแล้วลูกพ่อร้อนใจอะไรอยู่ฮึ เจ้าลูกหมู”


ผมยื่นเปิดหน้าเฟสบุ้คที่เจ้าหนูบัวตัวแสบส่งมาให้พ่อดู  สีหน้าพ่อไม่ค่อยดีเท่าไหร่เมื่อมองดูรูปที่ผมได้รับมา


“คิดดีแล้วใช่ไหมลูก ทบทวนแล้วใช่หรือเปล่าพ่อไม่อยากเห็นลูกเสียใจอีกนะ “พ่อยื่นโทรศัพท์คืนพลางยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆ

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลและห่วงใยผมของพ่อทำให้ผมขบริมฝีปากแน่น


“ไม้ไม่รู้ครับว่ามันจะดีไหม พี่โอ๊ตจะคิดยังไง แรกๆก็มีลังเลบ้างครับ แต่ทว่าพอไม้มองภาพนี้ไม้บอกตัวเองได้ทันทีว่าไม้ไม่อยากให้พี่โอ๊ตเป็นแฟนคนอื่น”


“แล้วถ้าหากพี่โอ๊ตไม่ได้ชอบลูกชายของพ่อแบบนั้นล่ะ ถ้าหากพี่โอ๊ตเขาแค่เอ็นดูเห็นเป็นน้องชายล่ะ ลูกหมูของพ่อจะเสียใจหรือเปล่า”

“ผม.....ผมจะจีบพี่โอ๊ตครับพ่อ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นแบบไหนผมจะจีบพี่ให้ติด”ผมยืนยันหนักแน่นไม่ว่าจะยังไงพี่มันจะชอบผมหรือไม่ แต่ผมจะจีบ

“เฮ้อ...วัยรุ่นก็แบบนี้ เอาเป็นว่าอะไรที่เป็นความสุขของไม้ พ่อกับแม่ไม่เคยขัด พยายามเข้านะลูกชาย”



“ครับพ่อขอบคุณครับ”ผมตอบรับพ่อพร้อมรอยยิ้มกว้างจนปิดไม่มิด   รอผมก่อนนะพี่ผมจะไม่ยอมให้พี่ไปเป็นของคนอื่นแน่ๆ







ทิวไผ่





เฮ้อออ ห้ามคนอื่นได้แต่จะห้ามลูกตัวเองยังไงล่ะทีนี้  คงต้องกดดันเจ้าโอ๊ตแทนล่ะมั้งนะ สู้ๆนะไอ้ลูกชาย หึหึ








*****





“พรุ่งนี้ พี่โอ๊ตก็กลับมาแล้ว จะไม่ว่างเลยเหรอครับ “

// พี่กลับวันพรุ่งนี้บ่ายครับ แต่ตอนเย็นพี่ต้องพาอิงไปธุระแทนพี่อาร์ต เอาไว้วันหลังได้ไหมน้องไม้ //

“ก็ได้ครับ”ผมรับคำเสียงอ่อย  ผมรึอุตส่าห์ดีใจที่วันพรุ่งนี้พี่มันจะกลับจากบุรีรัมย์แล้วว่าจะชวนไปกินเนื้อย่างสักหน่อยเฮ้อออ

//ขอโทษนะครับ”เสียงขอโทษแผ่วๆมาตามสายคล้ายกับรู้สึกผิดทำให้ผมต้องลนลานแก้ตัว

“ไม่ๆไม่เป็นไรเลยพี่  ผมแค่ว่างอ่ะหนูบัวติดงานที่ร้าน เลยคิดว่าถ้าพี่กลับมาจะชวนไปกินเนื้อย่างกันแค่นั้นเองไม่มีอะไรสำคัญหรอกครับ”

//จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก เรื่องของไม้สำคัญสำหรับพี่เสมอ เพียงแต่ครั้งนี้พี่รับปากพี่อาร์ตไว้แล้ว ต้องขอโทษด้วยครับ//

“ว่างๆค่อยไปก็ได้ครับ ไม่กวนพี่ละ รีบๆทำงานรีบๆกลับเลยครับ ยัยแสบรอพี่ปีย์หน้าหงิกหมดแล้ว“

เอาเพื่อนมาอ้างก่อนละกัน เอ..หรือผมจะปรึกษากูรูอย่างหนูบัวดีนะ


//ครับ ไว้เจอกันนะ // พอพี่ตัดสายผมก็นึกขึ้นได้ว่าที่ปรึกษาชั้นดีของผมอยู่ที่ร้านกาแฟ



“แม่ครับไม้ไปช่วยบัวที่ร้านกาแฟนะครับ”แค่นึกได้ผมก็รีบร้อนไปหาเพื่อนสนิท เพราะเป็นความหวังเดียวของผม

ไม่นึกเลยว่าไอ้คำว่าเลือดวายข้นๆที่ผมเคยเหน็บแนมเพื่อนจะมีประโยชน์กับผมตอนนี้


“ให้พ่อไปส่งสิเจ้าลูกหมู แม่จะได้ฝากขนมไปให้มัมของหนูบัวด้วย”

“ครับแม่”


“อย่าแอบกินก่อนล่ะ”


“พ่อครับ ไม้ไม่ใช่ไอ้ตัวแสบบัวสักหน่อยจะได้แอบกินของฝากน่ะ “


กว่าจะออกจากบ้านได้ก็เลยเวลาเที่ยงมาแล้ว เป็นวันหยุดที่ผ่านไปเร็วมาก พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์

ตามกำหนดเดิมพี่โอ๊ตบอกว่าจะกลับวันอาทิตย์บ่ายๆ อยากเจอแล้วสิ เฮ้อออ เป็นเอามากเลยผม



“ถอนหายใจอะไรกันหืมเจ้าลูกหมู พ่อว่านะปล่อยให้อะไรๆมันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น อย่าเร่งร้อนเกินไปอย่าลนจนลืมความเป็นจริงไปนะเจ้าลูกชาย”


“ครับพ่อ “ผมเข้าใจดีว่าพ่อรู้สึกอย่างไร แค่รับเรื่องที่ผมรักกับเพศเดียวกันได้ผมก็คิดว่าเป็นที่โชคดีที่สุดของผมแล้ว

พ่อขับรถไม่นานเราสองคนก็มาถึงร้านกาแฟของมัมวาด จะว่าไปช่วงนี้พ่อเองก็ยุ่งๆไม่ค่อยจะได้เจอกับมัมวาดและคุณป๊าเดย์สักเท่าไหร่



“บัวววววววววว”

“เสียงหลงมาเชียวนะยะ “

“โอ๊ยยยยยยรักเพื่อนมากเลย ฮ่าๆๆๆ “


ผมตรงเข้าไปกอดเจ้าตัวแสบด้วยความดีใจไม่รู้จะดีใจอะไรก่อนระหว่างที่เจ้าหนูบัวจะเป็นผู้ช่วยหมายเลขหนึ่งของผมหรือดีใจที่หนูบัวเองก็แห้วไม่ได้ไปเที่ยวกับพี่ปีย์เหมือนผม ฮ่าๆๆๆ



“อย่ามาๆ ว่าแต่หน้าระรื่นแบบนี้ มีอัลไลกัลน๊าาาา”ภาษาวิบัติก็มาครับ ผมลากแขนเพื่อนสุดสวยให้เดินไปที่มุมกาแฟที่เป็นโซนแยกส่วนตัว ปล่อยให้พ่อกับมัมวาดนั่งคุยกันไป



“พ่อครับพ่อกลับก่อนได้นะ เดี๋ยวไม้กลับพร้อมเจ้าแสบบัวเอง”


“ไล่พ่อเหรอเจ้าลูกคนนี้  หึหึ  เอาเถอะ ยังไงเย็นนี้คงต้องคุยกันอีกรอบนะครับคุณลูก”


“ครับผม..ไปกันบัว ไม้มีอะไรจะเล่าให้ฟัง”


“จ้า จ้า “




*****






หลังจากที่ผมเล่าความรู้สึกของผมให้หนูบัวฟังจบ.....ผมล่ะอยากถ่ายรูปของหนูบัวตอนนี้ให้ทุกคนได้เห็น หน้าตาที่เคยสวยดูดีตลอดเวลานั้น

มาตอนนี้ดูเอาเถอะครับ ปากที่อ้ากว้างจนจะเห็นฟันครบทุกซี่ตาที่โตอยู่แล้วเบิกกว้างขึ้นไปอีกสิบเท่า  ฮ่าๆๆๆเพื่อนผมกำลังช็อค


“อะ..อะ...อะ..อะไรน๊าาาาาาาาา”


“แหะๆ เบาๆสิบัว ไม้ก็เขินเป็นนะ “


“อร๊ายยยยยยยยยยย ในที่สุด ในที่สุด ฮือออออ เรื่อสำราญของช้านนนนนนน ไม่ต้องพายแล้วววว”


“เดี๋ยวๆสติเพื่อน...สติครับ”กลับมาก่อนเพื่อนอย่าพึ่งออกทะเล ผมได้แต่ทำหน้าแห้งเมื่อเห็นอาการเพื่อนของตัวเอง

 เฮ้ออออ จะไหวไหมหนอผู้ช่วยเบอร์หนึ่งของผม


“อันดับแรก บัวจะบอกตามประสบการณ์นะ บัวว่าพี่โอ๊ตน่ะ มีใจให้ไม้ชัวร์เลย ต้องหาแนวร่วมต้องหาแนวร่วม“ไปมีประสบการณ์ตอนไหนเพื่อนผม


“อ่า บัว คือว่า เรื่องนี้รู้แค่เราสองคนได้ไหม เรากลัวว่าถ้าพี่โอ๊ตรู้จะหนีเราไปก่อ่นน่ะสิ “


“ได้เลยเพื่อนได้เลย เชื่อมือเราได้เลย ฮิฮิ “อยากจะอัดคลิปเอาไว้ให้บัวดูหน้าตัวเองตอนนี้จังเลยเหมือนคนโรคจิตคิดอกุศลอะไรอยู่ แบบนั้นเลยล่ะ


“แล้ว เราต้องทำยังไงดีล่ะ เนี่ยดูรูปสิพี่อันอาจจะชอบพี่โอ๊ต แล้วๆดูพี่อันตัวบอบบางน่ารักมากเลย.พี่โอ๊ตอาจจะชอบคนตัวเล็กๆบางๆแบบนั้น...อ่า...บัว..ทำไงให้กล้ามเราหายไปอ่ะ เราตัวใหญ่พี่ไม่ชอบเน่ๆเลย“


“โอยยย พ่อเอ๊ยไม่ต้องเลยๆเคะราชินีแบบนี้แหละสวยสุดแล้ว มาดแมนแต่เคะหน้าสวย ฮื้ออออ เราฟิน”


“เคะ ? ราชินี ? เราไม่เข้าใจ”


“เอาน่า ๆ เอาเป็นว่า ไม้สวยอยู่แล้วเรื่องนี้การันตีโดยใบหน้าเลยค่ะเพื่อนรัก แต่เรื่องหุ่นน่ะ เราว่าแบบนี้ก็เท่ดีออก ถึงยังไง พี่โอ๊ตก็ตัวใหญ่กว่าไม้อยู่แล้วนี่นา บัวว่า เป็นตัวของไม้เองนั่นแหละดีที่สุดแล้ว”



“แต่พี่เขาไม่ชอบผู้ชายไงบัว ถ้าผู้ชายตัวเล็กๆน่ารักๆแบบพี่โอม หรือน่ารักๆแบบพี่อัน แบบนั้นพี่อาจจะชอบได้ แต่ตัวสูงแบบเรามีกล้ามด้วย ฮื่อออออ ไม่ชอบกล้ามตอนนี้ได้ไหม”


อยากจะงอแงอยากจะเอาแต่ใจเฮ้อออ ตอนนี้อะไรๆมันดูขัดใจผมไปซะหมดเลยความสูงที่แต่ก่อนผมนึกน้อยใจว่าทำไมสูงน้อยจัง

ตอนนี้ผมอยากจะเตี้ยลงกว่านี้อีกสักหน่อย ตัวเท่าพี่อันก็ยังดี เฮ้ออออ


บอกตามตรงผมไม่เคยเสียอาการอย่างนี้มาก่อนเลย ถึงขั้นอยากตัวเล็กๆน่ารักทั้งๆที่ไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อน

อยากเป็นอะไรก้ได้ที่พี่เขาจะชอบ เฮ้ออออ




“เอ้าๆ ถอนเข้าไป ถอนหายใจเฮือกๆมันก็ไม่ช่วยอะไรนะเพื่อน เอางี้ เราต้องแสดงความเป็นเจ้าของแบบเนียนๆไง”

“ทำไงล่ะ ช่วงสองสามวันนี้พี่เป็นไรไม่รู้โทรหาก็ไม่ค่อยรับสาย ชวนไปไหนก็ไม่ว่าง หรือว่าพี่เขาจะชอบพี่อันจริงๆอะบัว ”


ผมเริ่มอยู่ไม่นิ่งมันร้อนรนในใจ มันเป็นอย่างนี้เองหรอกหรือเวลาที่เรารักใครสักคนแล้วเรากลัวว่าเขาจะไม่รักตอบ

มันช่างแตกต่างตอนนั้นที่ผมมีความมั่นใจมากๆ แม้จะเสียใจที่เพื่อนไม่รับรัก แต่ผมกลับไม่รู้สึกกระวนกระวายเหมือนตอนนี้


“เชื่อมือเราไหม”

“ถ้าไม่เชื่อคงจะมาหาหรอกนะ “

“ดีมากเพื่อนกลับบ้านไปนอนรอได้เลย เดี๋ยวบัวจัดการเอง”

“มันจะดีแน่เหรอ  บอกได้ไหมว่าบัวจะทำดอะไร”

“เอาน่า   บอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ “







พลอยจันทร์



 
บัวมองตาหลังเพื่อนรักที่ตัวติดกันมาตั้งแต่เด็กไปจนลับสายตาด้วยความรู้สึกที่ว่า  วันนี้เป็นวันที่บัวมีความสุขที่สุดเล้ยยย

ในชีวิตของสาววายเลือดข้นแต่ชิปใครจิ้นใครเรือแตกทุกราย ฮืออออ อย่าว่าน้องง น้องแค่ชอบแบบนี้ อุแงงงงงง


ก่อนจะออกทะเล บัวว่าบัวจะมาชี้แจงแถลงไขก่อนว่าจะเอายังไงกับเพื่อนรัก ต้องวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนอะเนอะ

คุณๆเคยกันไหมคะ ที่แบบว่า เราแอบตั้งสถานะเพื่อนเป็นลูกสาวไว้ในใจ แอบกรี๊ดๆโมเม้นที่มีผู้มายืนข้างๆแล้วเพื่อนก็เคะมากแม่ๆๆๆ ฮื่ออออ

 
แต่แบบมันพูดไม่ได้ไง มันอึดอัดมันอัดอั้น มันอกจะระเบิด ได้แต่เก็บเงียบๆไว้กรี๊ดอัดหมอนคนเดียว 

แต่อยู่ๆ ลูกสาวมโนของบัวก็มาบอกว่าชอบผู้ชาย อร๊ายยยย แล้วเป็นผู้ชายที่บัวเองก็ปักธงไว้ด้วยมันยิ่งกว่าเรือหางยาวแล้วแม่

เรือรบหนูกำลังจะแล่น แงงงงงงง  ตายๆๆ อะไรจะฟินแลนด์แดนฝันขนาดนี้

พอๆขอวางแผนก่อนจะเลยเถิด แผนแรก มันต้องใส่ไฟก่อนเนอะ  หึหึ ไม่คิดว่าภาพที่แอบถ่ายไว้จะได้ใช้ก็วันนี้ 






XS Cute Boy ได้โพสต์เมื่อสักครู่


แอดเจอเรือลำใหม่ ใครจะลงลำนี้แอดกระซิบบอกเลยว่า  แซ่บลืม!!! # เพชรไม้



แนบรูป

1025ไลค์ 286 แชร์


@แหนมมัด**กินเด็กมันกรุปกริบ

@pornข้อสุดท้าย**ขอวาร์ปน้องคนนั้นที ฮื่ออออหล่อววว

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร**น้องคนนี้เรารู้จักเด็กม.ปลายคนน้านนน

@ผู้ชายได้กันมันคือฝันของกู**เอ๋ ม.ปลายเองเหรอเนี่ย ดูท่าแล้วแซ่บลืมจริงค่ะ //ปาดน้ำลาย

 @โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**อยากกระซิบว่าเราเคยเจอคู่นี้ที่ร้านกาแฟ แบบว่าเหมือนแควนกันมากแม่ #เพชรไม้

@ขุ่นแม่**อย่าว่างั้นงี้ เราชอบเรือ  #โอ๊ตไม้  มากกว่าค่ะ ใครอย่ามาล่มเรือเรา



ที่เหลือก็รอเวลาค่ะ คิคิ สุมไฟเข้าไปก่อน แล้วค่อยเอาน้ำมาดับเนอะ คิคิ


“หนูบัว ! นี่มันอะไร ?” นั่นไงไม่ทันได้ขาดคำค่ะพ่อน้องชายตัวดีมาก่อนเลย

“เอาน่าเพชรถือว่าช่วยพี่ทำมาหากิน ไม่มีอะไรหรอกแค่เป็นคู่ชิปให้พี่ไม้สักแป้บก็พอเนอะ


“เหอะ  สาวๆหนีหมดเพราะพี่เลยนะ “น้องเพชรส่งเสียงในลำคอแบบไม่สบอารมณ์แต่ว่านะ นี่พี่สาวไง ทำไรได้อ่ะ คิคิ



Rrrrrrrrr



“ว่าไงคะแฟน ฮิฮิ”


//ยัวตัวแสบโพสต์อะไรแบบนั้นไหนว่าจะช่วยเราไง แต่รูปนั้นมันฆ่าเราเลยนะ ฮื่ออออ//



“ไม่หรอกน่า บางอย่างมันต้องกระตุ้น เชื่อหัวไอ้บัวเหอะน่า”


//แล้วถ้ามันไม่ได้ผลล่ะบัว//


“ไม้อยู่เฉยๆนั่งรอมงลงอย่างเดียวพอนะเพื่อน”


// มงลง ? //


“เอาน่าไม่ต้องรู้หรอก เดี๋ยวบัวจัดการเองนะ “


ว่าเสร็จรีบตัดสายทิ้ง อ่าๆๆๆ คิวปิดต้องรีบทำงานค่ะ โง้ยยยยย แค่คิดก็ น้ำตาจะไหลดีใจที่ลูกสาวจะออกเรือน ฮืออออออออ


ว่าแล้วต้องคนนี้เลยที่จะเป็นแนวร่วมชั้นดี กดต่อสายทันทีแทบไม่ต้องคิด ฮิฮิ


//ครับผม//

“พี่ปีย์ เย็นนี้มารับบัวหน่อยได้ไหมคะ บัวมีเรื่องจะปรึกษา นะๆ “

//ครับผม ..ได้เสมอเลยครับ//



วางสายจากแฟนสุดหล่อแล้ว ก็ต้องนั่งคิดวางแผนดีๆ หากคู่นี้ไม่ได้เป็นแฟนกันอย่ามาเรียกว่าบัวเทอร์โบเป็นกันขาด ฉายานี้ไม่ได้มาลอยๆนะบอกเลย





หึหึหึ






อินทัช



บอกไม่ถูกเมื่อเห็นโพสต์ของเพจคิ้วบอยอะไรนั่น ผมค่อนข้างกังวลจากโพสของพี่อันเมื่อวันก่อนยังทำให้ผมคิดหนักจนนอนไม่หลับ

คิดมากกลัวว่าน้องจะตีความผิดกลัวว่าน้องจะเข้าใจผิด เฮ้อออ แล้วยิ่งพอมาเห็นโพสนี้ภาพน้องเพชรน้องชายของหนูบัวที่แบกน้องไม้ไว้บนหลัง

แขนขาวๆนั่นโอบรอบคอของน้องเพชร รอยยิ้มของคนทั้งคู่ที่ยิ้มให้กัน แม้จะรู้ว่ามันไม่น่าจะเป็นอื่นนอกจากพี่น้อง แต่ใครจะการันตีล่ะวะครับ

ทีม #เพชรไม้ พุ่งพรวดพราดจนผมหวั่นใจ ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ทำอะไรล่ะโว้ยยยย เครียด 



“อ้าว มึงยังไม่เก็บของอีกเหรอวะ “ผมหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่ทำหน้าเห็นเบื่อผมแทบจะ24 ชั่วโมง


“กูต้องทำไงวะปีย์กูคิดถึงน้อง เฮ้ออออ”


“เอาน่า เก็บของก่อน กูมีเรื่องดีๆมาบอก แต่ว่านะ มึงต้องไปฟังเอง บางที อะไรๆอาจะไม่เลวร้ายอย่างที่มึงคิดก็ได้นะเพื่อน”

“ไปไหนวะ ?”

“โรงฝึกฯบ้านแฟนกู”

“เหอะ เรียกแฟนเต็มปากเต็มคำนะมึง อย่าให้ถึงคิวกูละกันจะขิงแฟนจนมึงรำคาญบอกเลย”

“ให้เขายอมรับมึงก่อนไอ้หอกหัก แล้วค่อยมาขิงกู”


ติ๊ง!!


ยังไม่ทันจะได้เถียงกับไอ้เพื่อนยาก เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ทำให้ผมต้องควักมันขึ้นมาส่องอีก เพจที่ผมกดติดตามพร้อมทั้งกดแจ้งเตือนเอาไว้


อะไรอีกล่ะเนี่ยโว้ยยยยยยยยย




XS Cute Boy ได้โพสต์เมื่อสักครู่


คนมันเนื้อหอมเนอะ ลงเรือไม่ถูกเลยแม่  หรือจะ3P


แนบรูป


1249 ไลค์ 572 แชร์



@รับได้ถ้าให้รุก **แอดคะสองหนุ่มนั่นคือใครบอกบุญลูกเพจที ฮื่อออออ

@ฝันกลางแจ้ง**หล่ออะไรขนาดนั้นวะ คนหรือเทพบุตร น้องไม้ทำบุญด้วยอะไรนะ อยู่กลางดงผู้หล่อๆทั้งนั้นเลย

@เกิดมาทั้งทีมีดีแค่กล้วย**เม้นท์บนคะ น้องไม้ก็ผู้นะอย่าลืม 5555555

@นางฟ้าหน้าหม้อ**เรามาถึงจุดที่อิจฉาผู้ชายที่อยู่ในกลุ่มผู้ชายได้ยังไงกัน

@ติ่งคนหล่อ**สองคนนี้เราเคยเจอนะ อยู่คนละม.กับน้องไม้ แต่เหมือนจะเป็นเพื่อนกันนะ

@ทองหล่อทองหล่อ** ท่าทางไม่น่าจะเพื่อนนะคะซิส ดูสายตาที่มองน้องไม้สิหวานปานน้ำเชื่อมขนาดนั้น น้องไม้ลูกกกกหนีไปๆๆๆ พี่โอ๊ตอยู่ไหนมาเอาน้องกลับด้วย #โอ๊ตไม้


@pornข้อสุดท้าย**ยังอยู่ทีม #โอ๊ตไม้ ค่ะ



***ไหนใครสนใจสองหนุ่มหล่อ มาๆจะแนะนำให้รู้จัก แปะลิ้งแพ๊บบ






ผมเพ่งมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆในอก น่าจะเป็นภาพเร็วๆนี้เพราะมันดูต่างจากโพสแรกน้องไม้กับน้องเพชรยังดูไม่โตเท่าตอนนี้

 แต่ภาพนี้มันบอกได้อย่างดีว่าพึ่งจะถ่าย ภาพของวีกับบู เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อของน้องไม้ ที่ยืนประกบน้องไม้ไว้ตรงกลาง

มือของสองคนนั่นวางแหมะตรงเอวของไว้ราวกับจะกกกอดเอาไว้ทั้งสองคน  น้องไม้ที่ยืนตรองกลางระหว่างสองคนนั่น

อุ้มช่อดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่ไว้รอยยิ้มกว้างจนตายิบหยี ดูมีความสุขจนผมใจกระตุกสั่นไหว


อา...ผมควรทำไงดีมานั่งดราม่าเฉยไม่ทันการแน่ๆ ผมต้องทำอะไรสักอย่าง ต้องทำจริงๆแล้ว






โว้ยยยยยยยยยยแล้วผมต้องทำอะไรล่ะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก




TBC...

อิพี่ก็เริ่มเครียด ฮ่าๆๆๆๆๆ

ทำไงดีล่ะพี่โอ๊ตตตตต

ใกล้จะจบล่ะเน้อ เรื่องนี้ไม่มีดราม่าน่อวววว ฮิฮิ   :mew1: :mew1: :mew1:


เจอกันอีกที วันจันทร็หน้านะค๊าาาาาาา นิยายรายสัปดาห์ค่ะแหะๆ :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด