My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )  (อ่าน 147667 ครั้ง)

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ P_Methayot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หายไปนานจังเลย

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 45




กันต์ ‘s  Part




ที่คอนโด

ผมกลับมาถึงห้องในช่วงหัวค่ำ  ซึ่งภายในห้องมืดและเงียบมาก  ไม่ต่างอะไรกับใจที่ว่างเปล่าของผมในตอนนี้เลยละครับ  และจนถึงตอนนี้..  ผมก็ยังไม่ได้รับการติดต่ออะไรมาจากพี่เขาเลยสักครั้ง
 
น้ำตาผมแห้งไปนานแล้วละครับ  ร้องไห้จนคิดว่าร่างกายจะผลิตน้ำตาออกมาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว  แต่ถึงกระนั้น...  แม้น้ำตาจะหยุดลงไปแล้วก็ตาม  แต่จิตใจมันก็ยังคงบอบช้ำอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง... 

ผมทยอยขนเสื้อผ้าอออกมาจากตู้เรื่อยๆ  โดยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคืนนี้จะไปนอนที่ไหน  แต่ก็คงจะไม่พ้นห้องของไอ้เรย์เป็นแน่  เอาไว้ให้พ้นคืนนี้ไปก่อน  แล้วค่อยหาหอพักแถวๆ นั้นอยู่ก็แล้วกัน

ผมรู้สึกราวกับว่ากำลังเดินกลับมายังจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอย่างไงอย่างงั้นเลย  ซึ่งจริงๆแล้ว... นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องมาตั้งแต่แรกแล้วก็ได้  ที่ผิดก็คงจะเป็นช่วงเวลาที่ผ่านมาเสียมากกว่า...  มันก็แค่ความฝันเท่านั้นแหละครับ  คงถึงเวลาที่ผมจะต้องตื่นขึ้นมาได้แล้วล่ะ  ตื่นมาพบกับความเป็นจริง  และการอยู่เพียงลำพังเหมือนที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่แรก...


สำหรับในคืนนี้  ผมก็คงจะขนออกไปได้เพียงแค่กระเป๋าเสื้อผ้าเท่านั้นแหละครับ  ไว้ค่อยมาทยอยขนต่ออีกทีในวันหลังก็แล้วกัน  ทว่าทันทีที่ผมถือกระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบเดินออกมาจากห้อง  พี่กิจก็กลับเข้าห้องมาพอดี

“ กันต์.. อะไรอะ...  กำลังจะไปไหน “

ผมมองพี่กิจนิ่งด้วยสายตาที่หลากหลายอารมณ์ระคนกันไป  ทั้งหวั่นใจกับคำตอบที่จะให้ไป  น้อยใจกับการถูกหลอกลวง  เสียใจกับความจริงที่พบเจอ  แต่ก็แน่วแน่กับการตัดสินใจในตอนนี้...

“ ผม... “

ผมหลับตาลงเล็กน้อย  รวบรวมความกล้าที่ยังพอมีเหลืออยู่เพียงน้อยนิด  ก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วตอบพี่เขาออกไป

“ ผมว่า... ผมจะย้ายออกจากที่นี่แล้วล่ะครับ “

“ อะไรนะ...!!  พี่ไม่เข้าใจ..  เราหมายความว่าไง “

พี่กิจทำหน้าตาตื่นทันทีที่ได้ยิน  ก่อนจะขมวดคิ้วเข้มถามผมมาอย่างร้อนรน

“ ผมก็หมายความอย่างที่บอกนั่นแหละครับ...  ผมว่ามันถึงเวลาแล้ว  ที่ผมจะต้องย้ายออกไปจากที่นี่จริงๆ สักที “

“ เดี๋ยวนะกันต์...  นี่มันเรื่องอะไร...  มีอะไรเราก็บอกพี่สิ !  คุยกันก่อน  พี่ไม่ยอมให้เราทำอย่างนี้หรอกนะ “

พูดจบพี่กิจก็เดินเข้ามาแย่งกระเป๋าไปจากผม  แม้ผมจะพยายามยื้อไว้  แต่ก็สู้แรงพี่เขาไม่สำเร็จ

“ เอามาพี่กิจ ! “

ผมพยายามจะแย้งคืน  แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล  ก่อนจะถูกพี่เขาคว้าแขนเอาไว้ด้วยมืออีกข้าง  แล้วลากผมไปยังโซฟาของห้องรับแขก

“ ปล่อยผมนะพี่กิจ !! “

“ พี่ปล่อยแน่ !   แต่เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องซะก่อน !! “

พี่กิจดันผมลงไปนั่งยังโซฟายาว  ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาประจันหน้าผมด้วยใบหน้าเข้มๆ เจือความดุดันและปราศจากความอ่อนโยน

“ ไหนว่ามาซิ  มีเรื่องอะไร “

“ ไม่มีอะไรทั้งนั้น !  ผมก็แค่อยากออกไปจากที่นี่  อยากจะมีอิสระกับเขาบ้าง ! “

“ กันต์ !! “


เสียงพี่กิจดังคำรามจนน่ากลัว  จากนั้นเราทั้งคู่ก็หยุดลงทุกการเคลื่อนไหว  ได้แต่จ้องตากันเขม็งอย่างไม่ยอมลดละ  แต่ไม่นาน...  ภายใต้ความอ่อนแอภายในจิตใจและความอัดอั้นที่มีมานาน  นัยน์ตาของผมก็เริ่มสั่นระริกด้วยน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้นออกมา  ถึงจุดนี้..  ผมจึงโพล่งออกมาอย่างหมดความอดทน


“ ก็ได้ !!  อยากรู้ผมจะบอกให้ก็ได้ !!  ผมเบื่อ  !!  ผมเบื่อกับคำโกหกของพี่  เบื่อความโง่ของตัวเอง  และถ้ายังอยู่ที่นี่  ผมก็ต้องเจ็บไปมากกว่านี้  ผมไม่อยากจะรู้สึกแบบนี้อีกต่อไปแล้ว  พี่เข้าใจมั้ย !! “


สิ้นเสียงผม  พี่กิจก็ดูจะอึ้งๆ ไปอยู่เหมือนกัน  ส่วนผมเองก็หายใจหอบถี่ขึ้นมาเล็กน้อย  จากการออกแรงตะเบ็งเสียงใส่พี่เขาไปอย่างนั้น  ก่อนจะพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงและพูดออกไปเสียงเรียบ


“ ดังนั้น...  ปล่อยผมไปเถอะนะ.. “

ตอนนี้พี่กิจหน้านิ่งมาก  นิ่งจนผมคาดเดาอารมณ์อะไรไม่ถูกเลย  แต่ไม่นานพี่เขาก็เริ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

“ กันต์...  พี่ไปโกหกอะไรเรา... “

ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว  คงไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังกันอีก  ถ้าอย่างนั้นแล้ว...ก็พูดให้มันหมดเปลือกไปเลยดีกว่า

“ ก็เรื่องพี่ฮานะไง...  พี่คบกับเขาอยู่  พี่ไปมีอะไรกับเขา  ทำไมพี่ต้องมาโกหกผมด้วย  บอกความจริงกับผมก็ได้นี่...  แล้วการที่พี่มาทำดีกับผม...  บอกว่ารักผม..  พี่ทำเพื่ออะไรวะ ! “

“ อะไรนะ...  ฮานะทำไม..   รึว่าเขามาพูดอะไรกับเราอีก “

“ เปล่าเลยพี่...  ถ้าแค่ฟังมา..  ผมก็ยังพอจะเชื่อคำพูดที่พี่เคยพูดไว้ได้อยู่หรอก...  แต่นี่ผมเห็นมากับตา..! “

“ แล้วเห็นอะไร.. “

“ ก็สิ่งที่พี่ทำวันนี้ไง  พี่ไปไหนมา...  พี่ไปทำอะไรมาเมื่อตอนเย็น “

“ กันต์..  นี่เรา.. “

“ ใช่..  ผมเห็นมากับตาของตัวเอง  ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้อะ..  พี่เห็นผมกับพี่ฮานะเป็นอะไร  ถึงได้มาล้อเล่นกับความรู้สึกของเราแบบนี้ “

“ เดี๋ยวนะ..  พี่ไม่เข้าใจ...  พี่กับฮานะเราไม่ได้มีอะไรกัน  จะต้องให้พี่ย้ำอีกสักกี่รอบว่าพี่ไม่ได้ชอบเขาเลยแม้แต่น้อย  ตอนนี้คนที่พี่ชอบก็มีแต่เราคนเดียวเท่านั้น... “

“ ไม่ได้ชอบอย่างนั้นเหรอ...  มีผมแค่คนเดียวอย่างนั้นเหรอ...  แล้วที่พี่ไปให้ความหวังเขา...  ไปมีอะไรกับเขา...  มันคืออะไร...!! “

พอยิ่งเถียงกัน  อารมณ์มันก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นมาเรื่อยๆ  พร้อมกับน้ำเสียงที่เริ่มดังของพวกเรา 

“ แล้วพี่ไปมีอะไรกับฮานะตอนไหน..! “

“ ก็วันนี้ไง..  หรืออาจจะ... “

“ จะอะไร !  พูดให้มันจบสิ “

“ ............. “

ทำไมต้องให้ผมพูดเรื่องที่รู้สึกเจ็บแบบนี้ด้วย  แค่นี้น้ำตาที่ไหลอยู่ของผมมันยังไม่สาแก่ใจของพี่อีกเหรอ


“ กันต์...! ฟังพี่นะ...  ใช่...วันนี้พี่ไปพบฮานะมาก็จริง..  แต่ก็เพราะว่ามันมีสาเหตุ...  และพี่ก็ไม่ได้มีอะไรกับเขาด้วย  ทั้งวันนี้และก็ก่อนหน้านี้ ! “

ไม่มีอะไรกันอย่างนั้นเหรอ...  คิดว่าผมจะเชื่ออย่างนั้นเหรอ  จะให้ผมเชื่อว่าพี่ไปนั่งคุยเล่นกันเฉยๆ ท่ามกลางเศษซากของอุปกรณ์ร่วมรักกันอย่างนั้นเหรอ

“ จะให้ผมเชื่อพี่อย่างนั้นเหรอ... “

“ ก็ใช่ไง...  เราต้องเชื่อพี่นะ  ไม่ใช่ไปเชื่อคนอื่นแบบนี้... “

“ นั้นบอกผมหน่อยซิว่าวันนี้พี่ไปทำไม... “

พี่กิจเหมือนจะหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะยอมเปิดปากพูดออกมา



“ เรื่องไอ้คิม... “

“ เห๊อะ...  เรื่องพี่คิม...  แต่ให้พี่เข้าไปคุยเนี่ยนะ  มันไม่ตลกไปหน่อยเหรอ... “

“ ก็ใช่ไง...  ฮานะเขาบังคับให้พี่ไปเคลียร์แทน  เพราะเขาไม่อยากจะคุยกับไอ้คิม “

“ แล้วเรื่องอะไรล่ะ  ถึงต้องทำอะไรขนาดนั้น  เพราะปกติพี่ก็ไม่ใช่คนที่ชอบจะยุ่งเรืองของชาวบ้านอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ “

“ ก็ไอ้คิมมันจะเลิกกับฮานะ  แต่ถูกแบล็คเมลขู่ว่าถ้าไม่ยอมชดใช้ให้กับสิ่งที่ทำไว้  เขาก็จะเอาคลิปที่แอบถ่ายไว้ไปปล่อยในเน็ต  พี่ก็เลยต้องเข้าไปเคลียร์ให้ไง “

น่าตลกจังครับ  จนถึงป่านนี้พี่เขาก็ยังสร้างเรื่องขึ้นมาโกหกผมได้อยู่อีก

“ แล้วคุยกันอีท่าไหน..  ถุงยางถึงได้เกลื่อนห้องแบบนั้น !!  “

ผมตระคอกใส่ไปสุดกำลังก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลง

“ ถุงยางอะไร..  นี่เราเข้าห้องของฮานะมาเหรอ “

“ ก็ใช่ไง..  หลังจากที่พี่ออกไป  ผมก็ขึ้นไปเอาของที่ห้องของพี่ฮานะ  แล้วก็เห็น... “

ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของผมอีก  มีเพียงน้ำตาใสๆ ที่แสดงถึงความเจ็บปวดต่อสิ่งที่อยู่ในความทรงจำไหลออกมาจากสายตาที่แข็งก้าวเพียงเท่านั้น

“ พี่ว่าเราสองคนต้องถูกปั่นหัวแล้วล่ะ.. กันต์ฟังพี่นะ.. “

“ พอเถอะครับพี่...  อย่าให้ผมต้องรู้สึกแย่กับพี่ไปมากกว่านี้เลย “

“ ไม่..!  เรากำลังเข้าใจพี่ผิดนะ.. “

“ ปล่อยผม... “

“ ไม่..กันต์ “

“ ผมบอกให้ปล่อยผม... “

“ ไม่! “

“ ผมบอกให้ปล่อยผม!! “


เมื่อคำขู่ไม่เป็นผล  ผมก็ตระคอกเสียงดังใส่ก่อนจะออกแรงมากที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อปลดปล่อยตัวเองออกจากพันธนาการของคนตรงหน้า  แต่ทว่ายิ่งดิ้นรนกลับยิ่งแน่นหนามากขึ้นไปอีก  ผมทั้งสบถด่าพร้อมทั้งขัดขืน  ท่ามกลางการเหนี่ยวรั้งจากมือของพี่กิจและการปฏิเสธคำขอทุกอย่างของผม...  จนในที่สุด....



“ พี่อย่าดึงผมเข้าไปในวงจรอุบาทว์ของพี่จะได้มั้ย !!  ผมต้องการความรัก !!  ไม่ใช่เซ็กส์ !!  อย่าคิดว่าผมจะเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมาของพี่นะ !!! “



สิ้นเสียงของผม  เราทั้งคู่ก็ชะงักตัวกันไปเล็กน้อย  ในขณะที่มือของพี่กิจก็เริ่มบีบแรงขึ้นจนผมรู้สึกเจ็บไปกว่าทุกๆ ครั้ง  ก่อนที่แววตาจะเปลี่ยนไปฉายแววแห่งความดุร้ายป่าเถื่อนอย่างที่ผมไม่เคยจะพบเห็นมาก่อน


“ ได้ !!  ถ้าคำพูดพี่มันจะทำให้เราเชื่อไม่ได้...  ถ้าพี่มันจะเลวขนาดนั้นแล้วละก็... “

“ จะ... จะทำอะไรอะพี่กิจ “


ผมที่กำลังถูกพี่กิจดันไปติดพนักพิงหนังของโซฟายาว  โดยที่มือทั้งสองข้างถูกรั้งไว้ด้วยแขนแข็งแรงของคนตรงหน้า  ที่ตอนนี้แววตาฉายแววดุร้ายราวกับสัตว์ป่าออกมาให้เห็น  และไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้  พี่กิจก็ดันผมลงไปนอนหงายลงบนโซฟายาวทันที  ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะตามเข้ามาคร่อมร่างของผมเอาไว้  แล้วซุกหน้าเข้ามาไล้ริมฝีปากที่ซอกคอของผมทันทีอย่างดุดัน  มันไม่ใช่ความอ่อนโยนเหมือนอย่างที่เคยได้สัมผัสมาเมื่อครั้งก่อน  อย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว  ผมพยายามจะขัดขืน  แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่า  ถ้าพี่กิจจะเอาจริงแล้ว  คนอย่างผมไม่มีทางเลยที่จะขัดขืนพี่เขาไปได้


“ ยะ...อย่า... ปล่อยผม!! “

ผมตระโกนร้องขอออกมาท่ามกลางน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย  ทว่าคราวนี้กลับไม่เป็นผลเหมือนอย่างครั้งก่อน  เพราะพี่กิจดูจะไม่มีทีท่าว่าจะชะงักลงไปเลยแม้แต่น้อย  กลับยังคงเร้าโรมอย่างดุดันต่อไปเรื่อยๆ ภายใต้เสียงหอบหายใจถี่กระชับ

ตอนนี้ริมฝีปากรูปกระจับของพี่เขาไล้โลมจากซอกคอเลื่อนเข้ามายังริมฝีปากบางของผม  ขบเม้มก่อนจะพยายามดึงดันสอดลิ้นอุ่นหนาเข้ามายังภายใน  ผมพยายามต่อต้าน  แต่สุดท้ายมือหนาที่ลูบไล้ไปมาก็มาหยุดกระตุ้นยังยอดอกผมผ่านเสื้อนักศึกษาตัวบางจนทำให้ผมเผลอเผยอปากอ้าออกมาอย่างไม่ทันจะรู้ตัว  ลิ้นอุ่นหนาใช้จังหวะนี้สอดเข้ามายังภายในโพรงปากของผมทันที  ก่อนจะเคล้าคลอชี้นำหยอกล้อให้ผมเล่นด้วย  และแม้ว่าเริ่มแรกผมจะพยายามขัดขืน  แต่สัมผัสอุ่นสากที่เคล้าคลอไปมามันก็ทำให้ผมอดเคลิ้มและว่าตามการชี้นำนี้ไปด้วยไม่ได้

เมื่อพยายามจะควบคุมสติไม่ให้เตลิดไปมากกว่านี้  มือที่ยังว่างอยู่อีกข้างของผมก็พยายามจะดันตัวพี่เขาออกไป  แต่ก็ทำได้ไม่นาน  ก่อนจะถูกมือพี่กิจจับออกไปไว้ยังเหนือหัว  แล้วใช้มือแข็งแรงเพียงมือเดียวจับรวบข้อมือทั้งสองข้างของผมเอาไว้  จากนั้นมือข้างที่เหลือของพี่เขาก็ไม่รอช้าที่จะออกแรงเพียงครั้งเดียวกระชากจนกระดุมชุดนักศึกษาของผมหลุดออกมาจนหมด  และเผยร่างขาวนวลของผมออกมาให้เห็น

พี่กิจยังคงหยอกเย้าเคล้าคลอลิ้นอุ่นภายในโพรงปากของผมอยู่อย่างต่อเนื่อง  จนผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความอึดอัดของร่างกายที่พร้อมจะตอบสอนงต่อการปลุกเร้านี้มากขึ้นไปอีก  จากแก่นกายของผมที่มันแข็งตัวจนคับกางเกงชั้นในอยู่ในตอนนี้  ทว่าร่างกายกลับไม่อาจจะตอบสนองอะไรไปได้มากสักเท่าไหร่  เพราะการถูกพันธนาการไว้ด้วยมือแข็งแรงที่อยู่เหนือหัว   สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ตอนนี้  ก็มีเพียงการบิดส่ายเอวไปมาเพียงเท่านั้น  และเหมือนกับว่าคนตรงหน้าจะพอสังเกตได้ถึงการตอบสนองนี้ของผม  พี่กิจจึงละริมฝีปากออกมา  ก่อนจะได้ยินเสียง ” หึ “ ในลำคอเบาๆ  และรอยยิ้มกริ่มชอบใจให้ผมได้เห็น

อายเป็นบ้าเลยครับ...  ที่เผลอทำตัวน่าอายแบบนี้ออกมา  และถึงจะรู้สึกตัว...  แต่ผมก็คงจะทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้หรอกครับ  ภายใต้สภาวะจำยอมที่เป็นอยู่

จากนั้นไม่นาน  ริมฝีปากรูปกระจับก็เข้ามาจู่โจมยังยอดอกสีชมพูของผมที่แข็งขึ้นเป็นไตจากอารมณ์ที่ประทุออกมา  ลิ้นอุ่นสากไล้วนไปมาหนักบ้างเบาบ้าง  ผสมกับการขบเม้มเบาๆ ให้รู้สึกเสียวซ่านและสะดุ้งขึ้นมาเป็นจังหวะ  ถึงจุดนี้...  ร่างกายของผมก็เริ่มอ่อนระทวยจนแทบจะไม่มีแรงอีกต่อไปแล้ว  ราวกับเป็นลูกไก่ที่อยู่ในกำมือของพี่เขาไปแล้วเสียอย่างนั้น

พี่กิจใช้มืออีกข้างไล้ลงมายังขอบกางเกงสแลค  ก่อนจะลูบเบาๆไปมาที่เป้านูน  และไม่นานก็ปลดตะขอและรูดซิปออก  จากนั้นก็ล้วงเข้าไปเคล้าคลึงยังแก่นกายแข็งเกร็งขนาดพอดีมือที่ถูกปิดบังไว้ด้วยชั้นในสีขาวนุ่ม

“ อะ...อาห์...  หยะ..อย่า... “

เสียงอันแผ่วเบาของผมดูจะไม่สามารถห้ามปรามการดึงเอาชั้นในที่เป็นปราการด่านสุดท้ายของผมออกไปได้  และเมื่อแก่นกายขนาดพอดีมือดีดเด้งออกมาจากอาภรชิ้นสุดท้าย  ผมก็ถึงกับอายจนต้องเบนหน้าหนีออกไปด้านข้าง  ก่อนจะได้ยินเสียงขำเล็กๆ อย่างชอบใจในลำคอของพี่กิจ

มาถึงจุดนี้...  ผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของผมมันได้ถูกใจและตอบสนองต่อการปลุกเร้าของพี่กิจอย่างถึงที่สุด  แต่กระนั้นก็ใช่ว่ามันจะไม่มีความย้อนแย้งในความรู้สึกของตัวเองเกิดขึ้น  เมื่อผมรู้สึกว่าตัวเองมันช่างไร้ค่าและถูกทำราวกับเป็นของเล่นที่ไม่มีราคาของพี่กิจเพียงแค่นั้นเอง

หลังจากที่พอใจกับการหยอกเย้าบนยอดอกทั้งสองข้างของผมแล้ว  พี่กิจก็ยันตัวขึ้นพร้อมกับละมือที่พันธนาการผมเอาไว้ออก  แต่ถึงกระนั้น  ตอนนี้ผมก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะไปขัดขืนพี่เขาเสียแล้วล่ะ

ที่น่าอายที่สุดก็คือ...  ลึกๆ ในใจแล้ว  ผมกลับพอใจต่อความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นนี้เป็นอย่างมาก

จากนั้นพี่กิจก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลาอะไรไปมากกว่านี้  พี่เขารีบถอดเสื้อยืดพอดีตัวสีดำออก  ก่อนจะโยนมันหายไปหลังโซฟา  แล้วเข้ามาจู่โจมยังบริเวณหน้าท้องของผมอย่างหื่นกระหาย  ผมพยายามเอามือดันหัวพี่เขาออกไป  เพราะความรู้สึกวาบหวามที่เกิดขึ้นบริเวณท้องน้อย  แต่เมื่อไม่เป็นผล  สิ่งที่ผมทำได้ก็เพียงแค่จิกหัวพี่เขาแล้วบิดเอวไปมาก็เท่านั้นเอง  ในขณะที่มือพี่เขาข้างหนึ่งกำลังลูบไล้อยู่ที่หน้าอกของผม  และอีกข้างก็เลื่อนเข้ามากอบกุมแก่นกายของผมที่พร้อมใช้งานอย่างถึงที่สุด  ก่อนจะขยับมันขึ้นลงช้าๆ อย่างเบามือ  และนั่นก็ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้กับผมมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว  จนตอนนี้ผมไม่อาจจะอดกลั้นเสียงแห่งความพึงพอใจได้อีกต่อไป...

” อะ..อาห์!!! “

“ หึ... “

พี่กิจเหลือบตาขึ้นมามองผมเล็กน้อยอย่างถูกใจ  จนผมที่รู้ตัวว่ากำลังหน้าแดงจากความอายถึงกับต้องเบือนหน้าหนี  และในตอนนี้...  ไม่ว่าจะเพราะความใจง่ายของผมที่มีต่อพี่กิจ  หรือเพราะอารมณ์ที่มันพาไป  ผมก็ไม่อาจจะควบคุมตัวเองให้ขัดขืนพี่เขาได้อีกต่อไปแล้ว...

พี่กิจยันตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง  ก่อนจะเร่งถอดกางเกงและบ๊อกเซอร์สีดำออกไปอย่างไว  เผยให้เห็นแก่นกายขนาดใหญ่ที่แข็งตัวในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  มันใหญ่โตจนทำให้ผมถึงกับหวั่นใจในความรู้สึกหากจะต้องรับมันไว้โดยที่ไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจมาก่อนแบบนี้

พี่กิจละมือออกจากแก่นกายผม  ก่อนจะก้มลงมาใช้ปลายลิ้นเรียวไล้ไปตามความยาวของแก่นกายร้อนของผม  สัมผัสที่ไม่เคยถูกกระทำมาก่อนแบบนี้  มันทำให้ผมถึงกับร่นตัวขึ้นจนหัวไปชิดเข้ากับขอบโซฟา  ทว่าปลายลิ้นเรียวนั้นกลับยังคงหยอกล้อตวัดไปมาที่ปลายสุดของแก่นกายผมอย่างไม่สนใจในท่าทีของผู้ถูกกระทำเลยแม้แต่น้อย

“ ยะ..อย่า...  มัน...เสียว.... “

แม้จะร้องบอกไปอย่างนั้น  แต่ลึกๆ ในใจกลับปรารถนาให้ส่วนอ่อนไหวนั้นถูกกอบกุมเข้าด้วยโพรงปากอุ่นของพี่กิจ  ทว่าพี่เขากลับยังคงไม่มีท่าทีที่จะทำแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย  กลับยังคงหยอกเย้าอยู่เช่นเดิมอย่างให้รู้สึกขัดใจและทรมานกับผู้ถูกกระทำอย่างถึงที่สุด

“ อ๊ะ!!! “

ระหว่างที่กำลังลืมตัวจากอารมณ์ที่กำลังกระเจิงอยู่  จู่ๆ ช่องทางด้านหลังก็รับรู้ได้ถึงปลายนิ้วเปียกลื่นที่กำลังพยายามกดดันเข้ามายังภายใน

ผมเกร็งตัวและพยายามฝืน  แต่ก็สู้แรงพี่เขาไม่ไหว  เมื่อปลายนิ้วนั้นได้ถูกดันเข้ามาแล้ว  มันให้ความรู้สึกแปลกๆ  แม้จะไม่ได้เจ็บมาก  แต่ก็รู้สึกคับและอึดอัดอยู่เหมือนกัน  พี่กิจค่อยๆ ขยับมันเข้าออกอย่างช้าๆ และเบามืออย่างที่สุด  ในขณะที่ผมยังคงร้องครางออกมาอย่างไม่หยุด  จนในที่สุดก็รู้สึกเหมือนว่ามันดูจะเริ่มคล่องตัวมากขึ้น  พี่เขาจึงเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้นมาอีกหน่อย  จนผมถึงกับต้องจิกต้นแขนของพี่เขาข้างที่กำลังลูบไล้ยอดอกผมอยู่จนแน่น

“ พะ..พอแล้ว..  มะ..มันเสียว..อะ  อาห์... “

ราวกับว่าเสียงกระเส่าของผมนั้นดูจะไม่มีความหมายอะไรต่อหน้าความหื่นกระหายของพี่เขาในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย  แถมกลับยิ่งดูเหมือนจะไปกระตุ้นให้มันเพิ่มสูงมากขึ้นไปอีกเสียด้วยซ้ำ  เมื่อจังหวะเข้าออกมันเริ่มถี่ขึ้น  จนผมถึงกับร้องครางออกมาอย่างไม่เป็นภาษาเลยในตอนนี้

“ อ๊ะ!!   จะ..เจ็บ..  เอาออกไป... “

ผมร้องห้ามขึ้นมาทันที  เพราะจากที่ตอนแรกมันมีเพียงแค่นิ้วเดียว  แต่ตอนนี้ดูเหมือนพี่เขากำลังจะพยายามเพิ่มเข้ามาอีกนิ้วจนผมรู้สึกเจ็บมากขึ้น  ทว่าการยิ่งฝืนต่อต้านมันเอาไว้นั้น  มันกลับยิ่งเจ็บมากขึ้นไปอีก  ทางเดียวที่ทำได้ก็คือ...  การยอมให้มันเข้ามาได้แต่โดยดีเพียงเท่านั้น


“ โอ้ย!! “

เมื่อสองนิ้วลื่นเข้ามายังภายในได้  ผมก็ร้องออกมาเสียงหลงพร้อมกับน้ำตาที่เล็ดออกมาจากความเจ็บปวดและอึดอัดอย่างถึงที่สุด  เมื่อพี่เขาเห็นท่าทางที่ไม่ไหวของผม  พี่กิจก็เลื่อนตัวขึ้นมาดูดดุนที่ยอดอกผมทันทีเพื่อสร้างความผ่อนคลายและเบี่ยงเบนความสนใจ  ในขณะที่นิ้วเรียวยาวยังคงทำหน้าที่ของมันโดยการขยับเข้าออกอย่างเชื่องช้าและเบามืออย่างถึงที่สุด  ผมขยับมือมาจิกยังแผ่นหลังของพี่กิจจนแน่น  ซึ่งเชื่อว่ามันคงจะเจ็บมาก  แต่กระนั้นพี่เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะร้องหรือสะดุ้งเลยแม้แต่น้อย

ผ่านไปสักครู่หนึ่ง  ก็ดูเหมือนว่าช่องทางด้านหลังของผมมันจะเริ่มปรับสภาพได้  และไม่เจ็บมากเหมือนเมื่อสักครู่  จากนั้นพี่กิจก็เริ่มเร่งจังหวะเข้าออกให้ถี่มากขึ้นไปอีก  แล้วใช้มือข้างที่เหลือเลื่อนเข้ามากอบกุมแก่นกายของผมเอาไว้  พร้อมกับขยับมันขึ้นลงไปมาตามจังหวะ...   เกิดเป็นความอึดอัดที่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกมากๆ เลยล่ะครับในตอนนี้



ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
ผ่านไปสักพักพี่กิจก็ถอนนิ้วออกพร้อมกับยันตัวเองขึ้น  ก่อนจะจ้องมาที่ผมตาเยิ้ม  หากแต่แฝงไว้ซึ่งความหื่นกระหายที่ไม่อาจจะควบคุมได้อีกต่อไปแล้วในตอนนี้  พี่เขาขยับตัวลงไปยังหว่างขาของผมพร้อมกับถ่างมันออกกว้าง  โดยที่ผู้ถูกกระทำก็พอจะเดาได้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้  ผมที่กำลังหอบถี่จากการร้องครางและบิดส่ายไปมาเมื่อสักครู่  ถึงกับมองตามอย่างหวาดหวั่นและเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างไม่ทันจะรู้ตัว  เมื่อแก่นกายผงาดง้ำตรงหน้ามันเทียบไม่ได้เลยกับสองนิ้วที่ผ่านมา

ในขณะที่ผมกำลังลังเลและทำท่าว่าจะต่อต้าน  เมื่อนึกถึงความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้  โดยที่ไม่ให้ผมได้เตรียมตัวและเตรียมใจมาก่อนเลย  มันก็สายเกินไปเสียแล้วละครับ...  เมื่อส่วนปลายของแก่นกายใหญ่กำลังพยายามดันเข้ามายังปากทางเข้าด้านหลังของผมแรงขึ้นมาทุกขณะ  และแม้ว่ามันจะถูกชโลมลื่นไปด้วยน้ำลายจนทั่วและปากทางเข้าด้านหลังของผมก็ดูเหมือนจะเริ่มคลายตัวมากขึ้นแล้วก็ตาม  แต่ใจที่ไม่พร้อม... มันเลยทำให้ผมเกร็งและรั้งที่จะตอบรับมันเอาไว้

“ อย่าเกร็ง...  ไม่งั้นจะเจ็บนะ “

พี่กิจบอกมาเสียงเรียบ  แต่ก็ยังคงดึงดันที่จะทำต่อไป  โดยไม่สนใจมือผมที่กำลังรั้งแขนแข็งแรงที่กำลังจับแก่นกายใหญ่กดดันเข้ามาทุกขณะเลยแม้แต่น้อย

“ ไม่เอา...  ยะ..อย่า.. มันเจ็บ...โอ้ย!!  อย่าพี่กิจ.!!! “

ผมพยายามใช้มืออันไร้เรี่ยวแรงผลักพี่เขาออกไป  พร้อมทั้งร้องขออยู่เนืองๆ  แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผลอะไรกับอารมณ์ของพี่กิจในตอนนี้เลย  ราวกับว่าคนตรงหน้านี้เป็นดังสัตว์ป่าที่หื่นกระหายอย่างที่ผมไม่เคยจะได้รู้จักมาก่อนเลยแม้แต่น้อย


“ โอ๊ะ... โอ้ย!!! “


ผมร้องลั่นพร้อมทั้งน้ำตา  เมื่อส่วนปลายนั้นถูกบดเบียดเข้ามาได้บ้างแล้ว  ผมเจ็บราวกับว่าร่างกายมันจะฉีดขาดออกจากกัน  ผมเลยไม่พยายามที่จะขยับตัวเลยแม้แต่น้อย  ได้แต่กัดฟันแน่นทนต่อความเจ็บและความรู้สึกอึดอัดอย่างถึงที่สุด

พี่กิจปล่อยมันคาไว้เพียงแค่นั้น  โดยไม่พยายามที่จะฝืนดันมันเข้าไปต่อ  ก่อนจะเลื่อนตัวลงมาจูบผมอย่างแผ่วเบา  แล้วใช้ลิ้นเรียวปลุกเร้าและซุกไซร้เข้ามายังภายในปากทันที  ซึ่งไม่อายจะพูดได้เต็มปากว่า  ผมชอบสัมผัสและลีลาการจูบของพี่กิจเป็นที่สุด... 

ผมตอบรับมันไปอย่างคุ้นเคยและคล้อยตามอย่างว่าง่ายด้วยปลายลิ้นที่ดูจะเริ่มชำนาญมากขึ้น  และด้วยการกระทำนี้เอง  มันเลยทำให้ผมลืมและผ่อนคลายจากการฝืนช่วงล่างของตัวเองนี้ลงไปได้โดยไม่รู้ตัว  เมื่อเริ่มสนุกกับลิ้นซุกซุนหยอกเย้านี้มากขึ้น  พี่กิจก็ค่อยๆ ขยับแก่นกายเข้ามาทีละนิดๆ อย่างเชื่องช้าและแนบเนียนที่สุด  จนกระทั่ง...


“ โอ๊ย!! “


มันทั้งจุกและแน่นมากครับ  ถึงจุดนี้... ผมถึงได้รู้ว่าร่างกายของผมกับพี่เขามันได้แนบสนิทกันไปเสียแล้ว 

พี่กิจยังคงคามันไว้อยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้ขยับอะไรไปมากกว่านี้  แต่ก็ยังคงปลอบประโลมผมด้วยการจูบอย่างต่อเนื่อง

จากนั้นไม่นาน  พี่กิจก็เริ่มขยับบั้นท้ายเข้าออกอย่างเชื่องช้า  มันยังคงจุก  แน่น  และเจ็บอยู่เลยครับ  ผมละริมฝีปากออกมาร้องเล็กน้อยเพื่อให้ผ่อนคลายจากความรู้สึกอึดอัดที่เกิดขึ้นนี้  ก่อนจะถูกจู่โจมด้วยริมฝีปากรูปกระจับเหมือนเดิมต่ออีกครั้ง  ในขณะที่การสอดใส่เข้าออกยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อย่างเชื่องช้า  และไม่นานทุกอย่างก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มดีขึ้น  ความเจ็บปวดได้ลดน้อยลงไปบ้างแล้ว  จากนั้นพี่กิจก็ยันตัวเองขึ้นมาเล็กน้อย  ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกเข้าออกให้เร็วมากขึ้นไปกว่าเดิม


“ อ๊ะ!!  มะ..ไม่ไหว.. สะ..เสียว.. อ๊ะ..!! “


แม้ว่าจะเจ็บและจุกหน่วงบ้างในบางจังหวะเข้าออก  แต่กระนั้นมันก็เทียบไม่ได้เลยกับความวาบหวามที่รู้สึกดีเกินกว่าที่ผมจะคาดถึง  มันช่างเคลิบเคลิ้มและทำให้ผมลืมตัวกันไปเลยทีเดียว  นี่หรือครับเซ็กส์... ที่ใครหลายๆ คนได้ลุ่มหลง  และจากการสั่งสอนของคนตรงหน้านี้ต่อผู้ไร้ประสบการณ์อย่างผม  มันก็มากพอที่จะทำให้ผมได้เข้าใจแล้วว่าทำไมหลายๆ คนถึงได้ติดใจกับมันมาก

การเข้าออกด้วยจังหวะที่ไม่ตายตัวและลูกเล่นต่างๆ มากมาย  ไม่ว่าจะการบดส่าย  หรือจังหวะหนักเบา ทั้งหมดล้วนสร้างความรู้สึกดี  วาบหวาม  และแปลกใหม่ให้กับผมได้อยู่ตลอดเวลา  จนผมถึงกับครางเสียงหลงได้อย่างไม่หยุดจนกระทั่งตอนนี้

ผมถูกพี่กิจชี้นำท่วงท่าต่างๆ ราวกับหุ่นเชิดอย่างว่าง่าย  ภายใต้พื้นที่ที่จำกัดของโซฟา  แต่กระนั้น...  มันก็ดูจะไม่เป็นอุปสรรคอะไรเลยสำหรับพี่เขา  จนเมื่อกลับมายังท่าทางพื้นฐานที่เราได้เริ่มต้นกันมา  พี่เขาก็เหมือนจะเร่งจังหวะและความหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น  จนเสียงกายเนื้อของเรากระทบกันดังแข่งกับการครางของผมและเสียงลมหายใจกระเส่าของพี่กิจ  ถึงจุดนี้พี่กิจจึงใช้มือเข้ามากอบกุมแก่นกายร้อนของผมที่ถูกปลุกเร้าอารมณ์จนแข็งเกร็งอยู่ตลอดเวลา  ก่อนจะขยับมันถี่จนผมไม่อาจจะทานทนต่อไปได้แล้ว

“ พะ..พอก่อน..  มัน..จะ..ไม่ไหวแล้ว.. อ๊ะ!!..  อ๊า!!!! “

สิ้นเสียงของผม  ของเหลวอุ่นสีขาวก็ทะลักออกมาจนถึงหน้าอก  แถมยังมากกว่าทุกครั้งที่เคยมีมา  คงจะเพราะอารมณ์และการถูกกระตุ้นจากช่องทางด้านหลังไปพร้อมกันล่ะมั้งครับ

พี่กิจเริ่มครางพร้อมทั้งซอยบั้นท้ายแรงขึ้นและถี่ไล่ตามผมที่ได้ไปถึงยังจุดสูงสุดแล้ว  และไม่นานพี่เขาก็ครางออกมาเสียงดัง  ก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ถึงการกระตุกของแก่นกายใหญ่ภายในตัวผม

ผมมองใบหน้าคมที่กำลังหอบหายใจเหนื่อยถี่ราวกับได้ไปวิ่งมาเป็นกิโล  และแม้ว่าภายในห้องจะเปิดเครื่องปรับอากาศอยู่แล้วก็ตาม  แต่ทว่าร่างกายของเราทั้งสองกลับยังสัมผัสได้ถึงความลื่นไหลของหยาดเหงื่อที่ผุดออกมา  พี่กิจมองผมด้วยสายตานิ่งๆ ที่ทำให้ผมหลงใหลได้อยู่ตลอด  ก่อนที่ผมจะต้องยอมแพ้และเบือนหน้าหนีไป  กระนั้นพี่กิจก็ยังคงไม่ยอมถอนแก่นกายขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะยังคงไม่ได้อ่อนลงไปเลยแม้แต่น้อยภายในร่างกายของผม  ก่อนจะก้มหน้าเข้ามาซุกไซร้ที่ซอกคอของผมต่อ


“ พะ...พอใจยัง..   ถ้าพอใจแล้วก็.. “

“ ใครว่าพอล่ะ... “


เสียงพี่กิจดังสวนขึ้นมาที่ข้างหู  จนผมต้องเบิกตาโพรงอย่างแปลกใจ

อะไรนะ.. อย่าบอกนะว่า...  ที่ทำไปเมื่อกี้มันยังไม่พอใจพี่อีก...

พี่กิจยันตัวขึ้นมาพร้อมทั้งมองผมด้วยสายตาราวกับเจ้าป่าที่เห็นอาหารอยู่ตรงหน้าเสียอย่างนั้น  จนผมแปลกใจและคาดไม่ถึงว่าความหื่นกระหายของพี่เขามันจะมีมากได้ถึงเพียงนี้

พี่กิจถอนแก่นกายออกมาจากตัวผม  และไม่ทันที่ผมจะได้ขยับตัวหนี  พี่เขาก็อุ้มผมขึ้นมาก่อนจะพาไปยังห้องนอนของพี่เขาต่อทันที  โดยมีผมออกแรงทุบประท้วงอยู่ที่หน้าอกกว้างของพี่เขาอยู่เนืองๆ...





......................




หมดสภาพเลยครับทั้งผมและก็พี่กิจ  ตอนนี้ร่างใหญ่กอดรัดอยู่บนตัวผมในสภาพที่ใบหน้าซุกไว้ที่ต้นคอ  พร้อมทั้งหอบหายใจกระเส่าอยู่บางๆ...  ผมไม่รู้เลยครับว่าตอนนี้มันกี่โมงกันแล้ว  แต่ก็คาดว่าน่าจะเกือบๆ เที่ยงคืนแล้วล่ะครับ  บอบช้ำไปหมดเลย  แถมไม่มีแรงจะทำอะไรต่อแล้วด้วย....


“ กันต์... “


เสียงนุ่มนวลดังขึ้นที่ข้างหูอย่างอ่อนโยน  โดยที่ผมไม่คาดคิดเลยว่าจะได้ยินมันในคืนนี้


“ พี่...  ขอโทษนะ “


จากที่น้ำตามันได้แห้งเหือดลงไปแล้ว  แต่พอมาได้ยินแบบนี้  จู่ๆ น้ำตามันก็เอ่อล้นออกมาอีกครั้ง  แถมคราวนี้ยังดูเหมือนว่ามันจะออกมามากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ 

คือถ้าจะร้ายไปเลย.... มันก็คงจะดีกว่าการกลับมาพูดดีๆ กับผมแบบนี้อีกครั้ง


“ ทำถึงขนาดนี้แล้ว...  พี่ยังต้องมาขอโทษอะไรอีกเหรอ... “

“ พี่...  ไม่มีอะไรจะแก้ตัว...  แต่ที่พี่ทำ...  ก็เพราะว่าพี่รักเรานะ “

“ นี่เหรอครับคือความรักของพี่..  การกระทำแบบนี้น่ะเหรอที่เรียกว่ารัก... “

พี่กิจขยับตัวมานอนข้างๆ ผมก่อนจะเอามือมาปาดน้ำตาผมออกอย่างเบามือแล้วพูดต่อ

“ พี่ยอมรับนะว่าตอนแรกพี่โมโหมาก  และอาจจะใช้อารมณ์ไปบ้าง  แต่ตอนหลังพี่บอกตรงๆ นะว่าพี่ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วจริงๆ  พี่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับผู้ชายมาก่อนนะ  และก็ไม่คิดจะทำด้วย  แต่เพราะว่าเป็นเราไง....  ถ้าพี่ไม่รักเราจริงๆ  พี่คงไม่มีทางทำอะไรแบบนี้กับผู้ชายด้วยกันแน่ๆ “

“ พอเถอะครับพี่...  ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว  เพราะถึงยังไงเรื่องในครั้งนี้...  เรามันก็ผิดด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละครับ..  ถ้าอย่างนั้นแล้ว....  พี่ก็ลืมๆ มันไปเถอะ  แล้วปล่อยให้มันผ่านไป... “

“ จะทำอย่างนั้นได้ไง...  พี่ผิด..  พี่ก็ต้องรับผิดชอบเราสิ... “

ผมพลิกตัวหันหน้ามามองพี่กิจด้วยสายตาที่แน่วแน่กับสิ่งที่กำลังจะพูดออกไป  แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่โครตจะฝืนกับความรู้สึกของตัวเองเลยก็ตามที  แต่มันก็เป็นทางออกเดียวที่ผมจะยุติเรื่องทุกอย่างระหว่างเราได้

“ ถ้าพี่คิดจะรับผิดชอบ...  นั้นผมขออะไรพี่สักอย่างจะได้มั้ย.. “

พี่กิจมองตาผมอย่างลังเลและไม่แน่ใจที่จะตอบท่ามกลางแสงสลัวภายในห้อง

“ อะไรเหรอ... “

“ แค่ได้หรือไม่ได้... “

ผมยังคงถามแกมบังคับไปอย่างหนักแน่นในน้ำเสียง  ซึ่งพี่กิจก็ยังคงไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่มองผมนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น  ซึ่งผมเองก็เช่นกัน...

แต่เมื่อสายตาคาดคั้นในคำตอบของผมที่มองพี่เขาไปอย่างไม่ยอมลดละ  ในที่สุดที่เขาก็ยอมตอบออกมา

“ ได้... “


ผมหลับตาเล็กๆ เพื่อตั้งสติและสูดหายใจเข้าปอด  ก่อนจะลืมตาขึ้นด้วยน้ำตาที่กำลังล้นเอ่อ  แล้วจึงพูดขึ้น

“ ผมขอ...  ให้พี่ช่วยปล่อยผมไป...  ให้ผมได้ออกไปจากชีวิตของพี่สักที... “

“ ไม่!!  ไม่เอานะกันต์  อย่าทำอย่างนี้สิ “

“ แต่พี่สัญญากับผมแล้วนะ...  ผมขอพี่แค่เรื่องเดียว... แค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่พี่จะไม่ผิดสัญญากับผม...  พี่ยังจะให้ผมไม่ได้เลยเหรอ.... “


พูดจบน้ำตาผมก็เอ่อล้นออกมาจากเบ้าตาแดงๆ  มันยากนะครับกับการพูดอะไรที่มันขัดต่อความรู้สึกจริงๆ ของเรา  แต่ถ้าผมไม่ทำอย่างนี้  ผมก็คงจะไม่สามารถออกไปจากชีวิตของพี่เขาได้เสียที  และผมก็คงจะต้องเจ็บอยู่อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ


“ กันต์... “


พี่กิจย้ำชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา  และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นนัยน์ตาสั่นระริกจากของเหลวใสที่อยู่ภายในของพี่เขา

“ นะครับ..  นะครับพี่กิจ...  ถ้าพี่สงสารผม...  พี่ช่วยปล่อยผมไปเถอะ “

ในที่สุดน้ำตาหยดแรกของพี่กิจที่ผมได้เห็น  มันก็หยดลงผ่านแก้มมาเช่นเดียวกับหัวใจของผมที่ได้หลุดหายออกไปจากร่างกาย  แต่กระนั้นผมก็ยังคงต้องทำใจให้แข็งเข้าไว้...

“ ถ้าพี่ไม่ตอบอะไร..  ผมถือว่าพี่โอเคนะครับ “

เมื่อพี่กิจเลือกที่จะไม่ตอบ  เอาแต่จ้องหน้าผมด้วยสายตาเว้าวอน  ผมก็จำเป็นต้องหักดิบไปแบบนี้  ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไร  หรือว่าผมเข้มแข็งหรอกนะครับ...  แต่เพราะผมไม่อยากจะเจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้ว  สู้เจ็บและให้มันจบไปเลยตอนนี้จะดีกว่า  มันอาจจะยากสักหน่อย...  แต่ผมก็ต้องผ่านมันไปให้ได้....

ผมทำท่าว่าจะขยับตัวลุกออกไปจากเตียง  แต่กลับถูกพี่เขากระชับอ้อมแขนเอาไว้จนแน่นแทบจะในทันที

“ ไม่ใช่คืนนี้จะได้มั้ย...  อยู่กับพี่...  อีกสักหน่อยจะได้มั้ย... “

ผมมองพี่กิจนิ่ง  พร้อมทั้งชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะขยับตัวลงไปนอนต่อเหมือนเดิม  ในขณะที่พี่กิจเองก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก  ราวกับกลัวว่าผมจะหนีหรือเปลี่ยนใจไปจากตอนนี้

สุดท้าย... ก็ใจผมเองด้วยแหละ  ที่ยังไม่พร้อม... 

มันไม่ใช่แค่พี่เท่านั้นที่ขอเวลา  แต่ตัวผมเองก็เช่นกัน..

ขอแค่สักคืนนึงกับความสุขสุดท้ายที่ผมจะได้รับจากพี่เขา.... 

เพราะหลังจากคืนนี้ไป....  มันก็คงจะไม่มี... 

อีกต่อไปแล้ว.............




...................................

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
กิจ’s  Part




“ พี่กิจ...  ตื่นได้แล้ว...  ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงชอบตื่นสายห๊ะ.. “


ผมปรือตาขึ้นมา...  ก่อนจะพบกับใบหน้าขาวใสที่คุ้นเคย  ซึ่งทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมา

“ ไม่ออกกำลังกายเหรอเช้านี้ “

กันต์กำลังก้มหน้าลงมาถามผมพลางเลิกคิ้วรอคำตอบ  ผมมองหน้าใสๆ ปากแดงๆ ผมเพร่าที่ไม่เข้าทรง  มันช่างน่าหมันเขี้ยวจริงๆ เลยครับ  ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  ผมก็ไม่เคยเบื่อกับใบหน้าของคนคนนี้เลยล่ะครับ  ว่าแล้วผมก็คว้าตัวมันล้มลงไปนอนต่อบนเตียงทันที  ก่อนจะพลิกตัวผมขึ้นมาคร่อมร่างของมันเอาไว้

“ จะทำไรอะ...  อย่าบอกนะว่า.. “

“ ก็เราบอกให้พี่ออกกำลังกายตอนเช้าเองนี่... “

“ บ้าเหรอ...  นี่มันใช่การออกกำลังกายที่ไหนล่ะ..  พอเลย “

“ ใครว่าไม่ใช่ล่ะ...  มันก็ออกแรงเหมือนกัน  แถมยังทำไปพร้อมกันได้ทั้งสองคนเลยด้วย “

พูดจบผมก็ก้มลงไปหอมแก้มไอ้เด็กน้อยคนนี้ฟอดใหญ่ทันที  มัดจำไว้ก่อนครับ....  ขณะที่มันเองก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาไม่ต่างอะไรไปจากเด็กๆ เลยล่ะครับ  แล้วแบบนี้... ผมจะปล่อยให้มันรอดไปได้ยังไงกันล่ะครับเช้านี้....

“ ปากเหม็น  ฟันก็ยังไม่ได้แปรง.. “

มันยิ้มว่ามาครับ

“ เหม็นจริงอะ..  นั้นลองใหม่นะ “

พูดจบผมก็ก้มลงไปหอมแก้มมันอีกข้างฟอดใหญ่ทันที  และมันก็ได้แต่หัวเราะคิกคักให้เหมือนเดิม

“ มีเรียนเช้านะพี่  แถมผมยังมีควิชด้วย  สายไม่ได้นะ... “

มันว่ามาก่อนจะเอามือเล็กสองข้างดันอกผมไว้ครับ  ผมก้มลงมาจูบมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะละริมฝีปากออก  เผยให้เห็นริมฝีปากบางเผยอออกอย่างเว้าวอนกับสัมผัสเมื่อสักครู่นี้

“ นั้นพี่มัดจำไว้ก่อนนะ...  ไว้คืนนี้กลับห้องมาแล้ว...  เราต้องชดเชยให้พี่ด้วยนะ “

“ คนบ้าอะไร...  โครตหื่นอะ... “

“ ถ้าพี่จะบ้า  ก็คงบ้าเพราะรักคนตรงหน้านี้แหละ หึๆ “

“ พอเลย.. ไปได้แล้ว...  เดี๋ยวผมจะทำอะไรให้กินตอนเช้า “ 

มันยิ้มว่ามาพร้อมทั้งออกแรงผลักผมออกไปครับ  ซึ่งผมก็ยอมเบี่ยงตัวออกมานอนข้างๆ มันอย่างว่าง่าย

ผมนอนเท้าหัวมองมันลุกออกจากเตียงด้วยท่าทีเขินอายตามนิสัย  ก่อนจะเห็นมันหันกลับมามองผมที่กำลังยิ้มกว้างให้กับมันอยู่บนเตียง  ไม่ได้อยากจะแกล้งมันหรอกนะครับ  ก็มันน่ามองจะตายไป  คนบ้าอะไรน่ารักสุดๆ...

“ โอ้ย.. “

ยิ้มได้ไม่นาน  แม่งก็หยิบเอาหมอนมาตีผมไปทีนึงซะงั้น



ผมออกจากห้องมาออกกำลังกายตอนเช้าตามปกติ  ท่ามกลางเสียงทำครัวที่คุ้นเคย  ก่อนจะได้กลิ่นหอมๆ ลอยมาเตะจมูก...
รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขจังครับ  มันให้ความรู้สึกของครอบครัวจริงๆ  ผมเลือกไม่ผิดเลยครับที่หยุดทุกอย่างไว้ที่มันเพียงคนเดียว...



“ กันต์..  พี่หิวแล้ว... “

ผมกำลังเดินเช็ดเหงื่อเข้าไปในครัว  ก่อนจะสอดส่ายสายตามองหามัน แต่ก็ไม่เจอครับ...  สงสัยคงจะอยู่ในห้องล่ะมั้ง

ผมเปิดประตูเข้าไปดูในห้องทันที  แต่ก็ไม่เจอเหมือนเดิม...  ในห้องน้ำก็ว่างเปล่า...  มันไปไหนกันนะ..

“ กันต์...  อยู่ไหนเนี่ย...  เดี๋ยวจะสายนะ “

เมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ กลับมา  ผมก็เริ่มรู้สึกผิดสังเกต  ก่อนจะรีบออกมาจากห้องและกลับเข้ามาดูที่ครัวอีกครั้งหนึ่ง  แต่ก็ไม่มีใคร  ไม่มีแม้กระทั่งอาหารเช้าที่เคยส่งกลิ่นหอมอยู่เมื่อสักครู่นี้  ทุกอย่างดูว่างเปล่าราวกับผมได้อยู่เพียงคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนที่ผ่านมา

คนที่ผมรัก..  ครอบครัว..  และความอบอุ่นที่ผมสัมผัสได้  มันหายไปไหนกันนะ..

“ กันต์ !!  กันต์!! “





……….




” กันต์ !!! “


ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที.... พร้อมกับใจที่หล่นหายไปกับความฝัน

ที่แท้มันก็แค่ฝันเท่านั้นเอง  ว่าแต่...

ผมรีบหันขวับไปมองยังที่นอนข้างๆ  แต่ก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า...  ไม่ต่างอะไรไปจากใจของผมในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย

มันเป็นครั้งแรกที่หัวผมตื้อคิดอะไรไม่ออก  ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี  ใจหายจังเลยครับ...  เมื่อรู้ว่าจากนี้ต่อไป  ผมจะไม่มีกันต์อยู่ร่วมในชีวิตด้วยกันอย่างนั้นอีก...

เจ็บที่สุดเลยครับ  นี่ใช่มั้ย... ความเจ็บที่ใครต่อใครได้รับจากความรัก.... 

และยิ่งพอนึกถึงความฝันที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้...  มันช่าง....  โหดร้ายกับผมมากเลยจริงๆ .. 

เพราะหากว่าความเป็นจริงตอนตื่นขึ้นมา....  มันจะแตกต่างจากความฝันนั้นโดยสิ้นเชิงแล้วล่ะก็....

ความฝันแบบนั้น....

ผมไม่ต้องการ......





TBC.

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
 อย่างเศร้าเลย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
นังฮานะ แกต้องโดน~ :beat: :z6:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ใจนึงก็สงสาร  อีกใจนึงก็สมน้ำหน้าให้กับความโง่ ไร้สติ ที่ไปหลงกล หลงคารม หลงเชื่อ อีชะนี-ีสั่นตัวร้าย  แค่แผนตื้น ๆ ก็ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขนาดย่อมได้

ป.ล. แผนของอีชะนี-ีสั่นตัวร้ายมันดูง่าย ดูตื้น แต่ดันเสือกใช้ได้ผลซะงั้น  ถ้ามีสติหน่อยนะ  ไปหยิบถุงยางมาพิสูจน์เลยว่ามีร่องรอยการใช้งานและหลักฐานนั้นยังใหม่สดซิงหรือเปล่า   อิอิ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ GMT101

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2

ออฟไลน์ nuum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
รีบจัดการฮานะซะ กิจ


         :amen:


 

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
น้องหายไปแล้ว เหลือชะนีให้จัดการตัวนึง กิจจะจัดการไหมนะ  :katai1:

ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ถึงเวลาที่จะต้องเคลียร์ปัญหาจริงๆจังๆ

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ กด +1 ให้นะครับ :a9:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอตอนต่อไปอยู่นะ

ออฟไลน์ Jang Wachira

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เทใช่ม้ายยย

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
อย่าหายไปนานนะ ใจคอไม่ดี อย่าทิ้งกันน๊าาา

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
ขอโทษนะครับที่อาจทำให้บางคนผิดหวัง

ผมไม่ได้หายไปไหนหรือเลิกเขียนนะครับ

ก็ยังคงเขียนต่อไปเพราะตั้งใจไว้แล้ว  แต่คงจะไม่ได้โพสต์แล้วล่ะครับ

คือผมดันทุรังมาไกลมาก....
 
ยิ่งดันทุรังไปตามความคิดของตัวเองก็ยิ่งจะทำให้หลายคนผิดหวังและไม่ชอบผมมากขึ้น

แต่ผมมันเป็นพวกหัวแข็งอะครับ55+  บางอย่างถ้าเปลี่ยนแล้วมันไม่ใช่ตัวเรา  ผมก็จะไม่เปลี่ยน... 

กระนั้นผมก็ไม่ได้เข้มแข็งมากพอ..  หากปราศจากซึ่งกำลังใจ  แม้ว่าจะมีความตั้งใจก็เถอะ  แต่เราต้องยอมรับว่ากำลังใจมันเป็นสิ่งสำคัญ

( ยิ่งผมมาเขียนแบบนี้ก็ยิ่งจะมีคนไม่ชอบผมมากขึ้นไปอีก55+ )

ผมเสียกำลังใจมาเรื่อยๆ  แต่ก็ยังบ้าดันทุรังต่อไปอีก  ทั้งๆ ที่รู้ว่ายิ่งทำก็จะยิ่งมีคนไม่ชอบผมมากขึ้น  ก็แค่เพียงหวังว่าถ้าถึงจุดหนึ่งของนิยายแล้ว...  ทุกอย่างมันคงจะดีขึ้นเอง

จนถึงจุดหนึ่งที่เรารู้สึกว่ามันไม่สบายใจเลยที่จะเขียนตามแนวทางของตัวเอง  หากต้องไปแย้งบนความคาดหวังของบางคนเข้า...  เพราะการทำให้ใครผิดหวังเราเองก็รู้สึกแย่เหมือนกัน

ดังนั้นผมเลยคิดว่าไม่ลงแล้วจะดีกว่า...  เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย  สำหรับส่วนตัวผมแล้ว..  ถึงจะเขียนต่อไปโดยไม่มีคนอ่านไม่มีคนชอบแล้วก็ตาม  แต่ผมก็มีความสุขนะกับการเขียนนิยายของตัวเองจบสักเรื่องหนึ่ง เราก็แค่กลับไปจุดเริ่มต้นที่เราตั้งใจเอาไว้  แล้วทำมันให้สำเร็จ  ถึงจะไม่มีใครรู้มันก็ไม่เป็นไร  แต่นิยายของเรามันก็จะจบ  และจบในแนวทางที่เราตั้งใจเอาไว้
ผมเองก็ยังไม่รู้หรอกว่าถ้าจบแล้ววันข้างหน้าผมจะเอาลงที่ไหนยังไง  หรือจะไม่ลงเลยก็ตาม  แต่วันนี้ผมก็ยังคงเขียนมันต่อไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ ( ตอนนี้กำลังเริ่มCh-48 ) 


ขอบคุณนะครับที่ติดตามกันมา  ขอบคุณมากจริงๆ  และผมก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่ากำลังใจสำหรับการก้าวเดินของคนเรามันเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ  ดังนั้นที่ผ่านมาผมขอขอบคุณมากๆ นะครับ

ปล. ที่มาบอกเพื่อไม่อยากให้บางคนต้องรออีกอะครับ  และกระทู้นี้สามารถแจ้งแอดมินลบออกได้เลยนะครับ

ปล.อีกที  ในบอร์ด  ผมคงจะผันตัวเองมาเป็นคนอ่านอย่างเดียวพอแล้วละครับ

ปล.อีกทีนะ  สุดท้าย  ผมขอส่งท้ายด้วย Ch-47 บางส่วนที่เขียนเอาไว้แล้ว ( แค่อยากให้รู้ว่ามันยังคงดำเนินเรื่องต่อไปเรื่อยๆ แม้ผมจะไม่ได้ลงแล้วก็ตาม )  แต่มันเป็น Draft ที่ยังไม่ได้กรองประโยคและคำ  ( คือผมจะพิมพ์ยาวๆไปก่อนอะครับ  แต่ก่อนลง..  ผมจะกลับมากรอง  เรียบเรียงประโยค  และคำอีกรอบ  เชื่อเถอะครับว่าผมตั้งใจทำจริงๆ  ถึงมันจะเป็นนิยายที่ไม่ได้เรื่องก็ตามที  แต่กว่าที่มันจะออกมาได้แต่ละตอน  ผมตั้งใจทำมันมากจริงๆนะครับ )


……………………………………..



เที่ยงนี้ผมเลยนัดประชุมสมาชิกในชมรมบาส  เกี่ยวกับเรื่องการงดซ้อมสำหรับเทอมนี้เพื่อให้สมาชิกได้เตรียมตัวอ่านหนังสือกันครับ  และผมเองก็จะได้มีเวลาว่างมากพอที่จะไปติวหนังสือให้กับธันมันด้วย  ซึ่งผลสรุปที่ได้ก็คือ  เราจะซ้อมกันวันนี้เป็นวันสุดท้ายและจะแจ้งให้สมาชิกในชมรมทราบเรื่องหลังซ้อมเสร็จ
เป็นการจบไปอีกหนึ่งภารกิจ.....

.............................

ค่ำนี้ที่ริมระเบียงห้อง

ผมไม่รู้ว่าชอบมาอยู่ที่ริมระเบียงตั้งแต่ตอนไหนครับ  มารู้ตัวอีกทีก็ยืนเกาะขอบระเบียงมองวิวออกไปไกลๆแล้ว  ในขณะที่หูก็คอยฟังเสียงจากคนห้องข้างๆ  และเฝ้ารอเวลาที่มันจะออกมาที่ระเบียงด้วยเช่นกัน

คงจะเป็นเพราะที่ตรงนี้มันคงเป้นที่เดียวในตอนนี้ที่ผมสมารถที่จะคุยกับกันต์มันได้ใกล้ชิดเหมือนเดิม  แม้ว่าผมจะอยู่ในคราบของคนอื่นก็ตาม  แต่อย่างน้อยที่สุดผมก็ยังได้พูดคุยกับมันได้เหมือนเมื่อก่อน

เสียดายเวลาแบบนั้นจัง  ผมไม่น่าทำให้มันเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้เลย  ไม่อย่างนั้นผมคงจะได้นั่งหัวเราะอยู่ข้างๆมันยู่ตอนนี้ก้ได้

“ แกร๊ก! ครืด… “

เมื่อเสียงประตูบานเลื่อนหลังห้องเปิดออก  ผมก็ถอยตัวเองออกมาจากขอบระเบียงไปยืนพิงอยู่ที่ข้างกำแพงแทน  ซึ่งพอฟังจากเสียงก็พอรู้ได้ว่ามันกำลังตากผ้าอยู่ครับ

“ เป็นไงบ้างเราวันนี้ “

ผมทักขึ้นมา  ขณะที่มันกำลังสะบัดผ้าเสียงดังอยู่  ก่อนจะตอบผมมาด้วยน้ำเสียงรื่นหูที่ผมรอฟังมาตลอดทั้งวัน

“ ก็ดีพี่  บางวิชาก็จบคลาสลงไปแล้ว  ช่วงบ่ายวันนี้เลยว่างครับ  ไปอ่านหนังสือกับเพื่อนที่หอสมุดกลางมา  โครตมึนเลย... “

“ ฮะๆๆ  ชีวิตช่วงใกล้สอบก็แบบนี้แหละ  เขาเรียกสัปดาห์นรก “

“ นั่นดิพี่  นี่คืนนี้ผมก็ต้องมานั่งทำ Drawing ต่ออีกนะครับ  งานชุดสุดท้ายแต่อาจารย์สั่งมาแบบไม่ห่วงว่าเด็กต้องเตรียมตัวสอบกันบ้างเลย “

“ ตอนรุ่นพี่ก็เจอ  แถมส่งหลังเส้นตายนี่แกไม่รับงานด้วยนะ “

“ จริงอะ !   โอ้ย...  ตายแน่ไอ้กันต์ “

ได้ยินเสียงมันบ่นขึ้นมาก็นึกหน้ามันออกเลยครับ  จนผมเผลอยิ้มขำขึ้นมาเล็กๆ อย่างไม่รู้ตัว

“ ให้พี่ช่วยมั้ย “

“ ไม่เป็นไรพี่  ผมยังไหวอยู่ “

“ แต่ถ้าไม่ทันก็บอกพี่นะ  Drawing พี่ถนัด “

“ คร้าบผม  ขอบคุณนะครับพี่นิก “



เช้วันต่อมา

ผมยังคงตื่นเช้าเหมือนเดิมตามปกติ  จะต่างก้ตรงที่ช่วงนี้ผมไม่ได้ออกกำลังอะไรมากสักเท่าไหร่  นอกจากการวิดพื้นและซิทอัพเพียงเท่านั้น

ผมซื้อโจ๊กแถวๆ หอสำหรับมื้อเช้า  และก้ไม่ลืมที่จะซื้อมาแขวนไว้ที่ประตูห้องข้างๆเหมือนเดิม  แต่วันนี้ผมใส่พวกเครื่องดื่มบำรุงสายตาให้มันลงไปด้วย  เพราะการอ่านหนังสือหนักๆ ทำงานเขียนแบบดึกๆ มันน่าจะต้องบำรุงกันเอาไว้บ้าง


“ ก๊อกๆๆ ! “


ผมเคาะประตูห้องบอกมันก่อนจะเดินจากไปตั้งแต่ 7 โมงเช้า.... ทิ้งไว้เพียงโพสต์อิทสีฟ้าที่ถุงโจ๊ก





ซื้อมาฝาก...  บำรุงร่างกายบ้างนะ  อย่าหักโหมให้มาก...

                                                                   พี่ข้างห้อง...

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:

^_________________________________________^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
นึกว่าหายไปไหนนน ยังรออ่านนะ

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบเรื่องนี้ คงจะคิดถึง :mew2:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สู้ๆนะเป็นกำลังใจให้ไรท์ นะ  คงคิดถึงเรื่องนี้มากๆ
ถ้าไรท์ไม่อัพต่อแล้ว  ไรท์เขียนสนุกนะ เราชอบ
สู้ๆนะ o13

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
รออ่านอยู่นะคะ ติดตามเสมอค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ ice.moshi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คือเราอยากอ่านต่ออ่ะ ถ้าไม่มาโพสต์ในนี้แล้ว เราจะอ่านได้ที่ไหนบ้างอ่ะ เขียนสุนกนะ น่าติดตามออก เราอยากอ่านต่อจริงๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นิยายที่แต่งมาสนุกดีนะ แต่เพราะคอมเม้นท์บางรายทำหลานคนแต่งเขว่  จนหมดกำลังใจจะลงนิยายต่อ แต่อย่าลืมว่านิยายเกิดจากความคิด, โครงเรื่องและสำนวนของหลานคนแต่งเอง เลยอยากให้หลานทำใจร่มๆ ไม่ต้องสนใจคนที่คิดลบกับหลาน หันมาสนใจคนที่คิดบวกกับหลานดีกว่า เป็นกำลังใจให้จ้า  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Kirana9165

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เราอยากจะบอกว่า ผู้แต่งบางคน นิยายยาวเรื่อง เจอมาเยอะกว่านี้มากนัก ลงนิยาย 1 ตอน โดนวิพากษ์ วิจารณ์ 3-4 หน้านิยายนะคะ นิยาย 30 กว่าตอน แต่รวมแล้ว 150 กว่าหน้าลงนิยาย ท่านนั้นยังผ่านมาได้เลยค่ะ สู้ๆ

ออฟไลน์ -PCH-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
แงงงงงงงงง คุณหมีนึกว่าหายไปไหน
ติดตามอยู่ สู้ๆเด้อออ  :กอด1:

ออฟไลน์ goorooo123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ปกติเป็นสายแอบอ่านตลอดไม่ค่อยเม้นอะไร
แต่อยากให้คุณหมีมาต่อนะครับ เชื่อว่ามีหลายคนอยากอ่านรวมถึงผมด้วย
เป็นกำลังใจให้นะครับ

ออฟไลน์ powvera

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-3
รออ่านอยู่นะค่ะ. อยากให้ลงตอนต่อไป ชอบเรื่องนี้อ่านสนุกค่ะ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆค่ะ ใครไม่ชอบก็ปล่อยเขาไป คนที่ชอบและติดตามยังมีอยู่นะค่ะ
 :3123: :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด