My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Gear รักร้ายๆ ของคุณชายเย็นชา ( Chapter - 54 / บทส่งท้าย )  (อ่าน 147508 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ความแตกเรื่องหนุ่มข้างห้องแล้วละม้าง อิอิ

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เราเพิ่งเจอเรื่องนี้อะเลยอ่านมาทั้งคืนเลยพอมาเจอตอนที่คุณหมีขาวบอกว่าจะไม่ลงแล้วตกใจเลยนะ เราชอบเรื่องนี้นะแต่ก็อยากจะเบิ๊ดกะโหลกกิจซักทีเหมือนกัน  o18 เสียลุคนักเลงบนเวทีมวยในตอนแรกๆเลยแต่ตอนนี้คิดได้แล้วก็ให้อภัยกันไปนะ ไม่ว่ายังใงเราก็เป็นกำลังใจให้คุณหมีขาวนะเวลาไม่สบายใจก็พักไม่อยากให้กดดันตัวเองนะเฮ่อยิ่งเขียนก็เหมือนจะยิ่งไม่รู้เรื่อง เอาเป็นว่าเราเป็นกำลังใจให้แล้วเราก็ชอบนิยายเรื่องนี้นะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
สู้ๆนะพี่กิจ ง้อให้ได้นะ

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
ยินดีต้อนรับ  :3123:

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
ดูแลรักษาสุขภาพดีๆขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน :L2:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
เค้าจะดีกันแล้ววววววว เย้ :mc4:
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะะะะ อ่านรวดเดียวติดกันเลยสามวัน ติดนิยายเรื่องนี้งอมแงม สนุกมากๆเลยค่ะ o13
แอบเห็นคุณคนเขียนพูดบ่อยๆตอนท้ายๆแบบนอยด์ๆ เราอยากจะบอกว่าเราเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่จะติดตามผลงานของคุณนะคะ ไม่ต้องไปแคร์คำพูดที่มันบั่นทอนจิตใจมากดีกว่า ยังไงก็จะติดตามอยู่ตลอดๆเลย รอตอนต่อไปอยู่นะคะ //กอดๆ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 50



กิจ’s  Part



ที่หอพัก

ผมกลับเข้ามาถึงห้องก็ช่วงหัวค่ำแล้วล่ะครับ  ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวและออกจากห้องไปทันที  เพื่อไปยังร้านเหล้าข้างมหาลัยฯ ตามที่ได้นัดหมายเอาไว้กับพวกเพื่อนๆ ในกลุ่ม  แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะห้อยขนมที่พึ่งซื้อมาเมื่อเย็นนี้  พร้อมกับโพสต์อิทไว้ที่ลูกบิดประตูห้องของกันต์มันนะครับ



กินให้อร่อยนะ..  สอบเสร็จแล้ว
                                          พี่ข้างห้อง...


สายของวันต่อมา

ผมเดินอารมณ์ดีกลับเข้ามาที่หอพัก  เพราะเมื่อคืนนี้ผมไปค้างที่ห้องของไอ้คิมมันมาครับ  เนื่องด้วยเพราะว่าผมดื่มหนักไปหน่อย  ก่อนจะพบว่าถุงขนมที่ผมได้ห้อยเอาไว้เมื่อคืนนี้ที่ห้องกันต์มันยังคงอยู่สภาพเดิม  ผมหยิบมันขึ้นมาดูอย่างแปลกใจและพบว่าของทุกอย่างในนั้นก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม  หรือว่าบางทีมันอาจจะยังไม่ได้กลับเข้าห้องมากันนะ  ว่าแล้วผมก็กดโทรศัพท์เพื่อโทรออกไปหาเพื่อนสนิทของมันทันทีเลยครับ


“ เห็นเมื่อวานมันว่าจะไปเที่ยวกับไอ้ธันที่เชียงใหม่นะพี่ “

“ อ่าว...  ไปวันนี้เลยเหรอวะ  มันเร็วไปมั้ยเนี่ย “

“ ผมก็ไม่รู้...  เห็นมันพูดอยู่เมื่อคืนตอนไปกินหมูกระทะ “

“ เออๆ ขอบใจมาก  นั้นแค่นี้ก่อนนะ “

เร็วดั่งใจคิด  ผมก็กดโทรศัพท์โทรหาไอ้น้องธันมันทันทีเลยครับ  แต่จนแล้วจนรอดมันก็ยังไม่ยอมรับสายสักที  ผมเลยตัดสินใจวกกลับออกมาจากหอทันทีโดยไม่แม้แต่จะทันได้เข้าห้องของตัวเองเลยด้วยซ้ำ  เพื่อไปหาไอ้น้องธันมันที่คอนโด  เพราะผมกลัวว่ามันจะไม่ทันการ  คืออย่างน้อยที่สุดก็ขอให้ผมได้รู้จุดหมายปลายทางที่พวกนั้นกำลังจะไปก็ยังดีครับ


ที่คอนโด

ผมเคาะประตูเรียกเจ้าของห้องอยู่ได้ไม่นาน  ไอ้น้องธันมันก็เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าที่งุนงง  เพราะปกติถ้าผมไม่มีธุระอะไรที่สำคัญมากจริงๆ  ผมก็คงไม่มาหามันถึงที่ห้องแบบนี้หรอกครับ  แถมตอนนี้ก็พึ่งจะ 8 โมงเช้าเท่านั้นเอง

“ พี่กิจมีธุระอะไรเหรอครับ  มาหาผมแต่เช้าเลย “

“ คือ...  พี่ได้ข่าวว่าเราจะไปเชียงใหม่กันใช่มั้ย  แล้ว... “

“ กันต์ใช่มั้ยครับ... “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  เพียงแค่พยักหน้ารับไปเล็กๆ เท่านั้น

“ กันต์ไม่ได้ไปกับผมหรอกครับ “

“ ก็...  พี่เห็นไอ้เรย์มันบอกว่า... “

“ เอาจริงๆ นะพี่  ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะว่ากันต์กำลังคิดอะไรอยู่... แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว  ผมบอกพี่ก็ได้ว่า...  กันต์อะไม่ได้คิดจะไปกับผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว  แต่เพราะอะไรบางอย่าง...  กันต์เลยมาขอให้ผมแกล้งทำเป็นว่าเราจะไปด้วยกัน  เพื่อให้เรย์มันเข้าใจไปอย่างนั้น  ซึ่งผมว่า...  พี่เองก็คงพอจะรู้นะว่าเพราะอะไร “

ผมพยักหน้ารับไป  เพราะถ้าเป็นอย่างที่น้องมันว่ามา  ผมก็พอจะรู้ว่ากันต์มันคงอยากจะให้ผมเข้าใจไปอย่างนั้น  โดยผ่านตัวกลางคือไอ้เรย์อย่างแน่นอน   เพียงแต่ผมก็ยังคงไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่กันต์ต้องทำอย่างนั้นอยู่ดี

“ แล้ว...  ถ้าเป็นอย่างนั้น  ทำไมเราถึงยอมบอกกับพี่ตรงๆ ล่ะ “

“ จริงๆ ผมก็ไม่อยากจะทำอะไรแบบนี้หรอกครับ  ถ้าผมไม่เห็นว่าที่ผ่านมาพี่เองก็ตั้งใจที่จะง้อและทำอะไรให้กันต์ไปตั้งมากมาย...  ที่สำคัญ... ผมเองก็คงจะไม่เลิกพยายามหรอก  ถ้าหากว่าพี่เองไม่ได้รู้สึกอะไรกับกันต์เลย  เพราะผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งผมอาจจะเปลี่ยนใจกันต์เขาได้  แต่พอมาเห็นว่าพี่เองก็รู้สึกกับกันต์เหมือนกับผม  จะต่างกันก็ตรงที่....  กันต์เลือกพี่ไม่ใช่ผม...  ดังนั้น....  มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่ผมจะต้องมาขัดขวาง  เพราะถ้าสิ่งนั้นมันจะทำให้คนที่ผมชอบเสียใจ...  ผมจะไม่มีทางทำแบบนั้นอย่างแน่นอน... “

คาดไม่ถึงเหมือนกันนะครับว่าน้องมันจะมีความคิดได้ถึงขนาดนี้  ทั้งๆ ที่มันเองก็ชอบกันต์เหมือนกับผม  แต่กลับเลือกที่จะหลีกทางให้โดยไม่มีข้อแม้อะไรเลย

ขอบคุณนะ....

บางทีหลังจากนี้  ผมอาจจะต้องมองมันใหม่แล้วล่ะครับ

“ แต่ว่า...  ถ้าพี่ทิ้งกันต์เมื่อไหร่แล้วล่ะก็...  ผมบอกไว้เลยนะว่า  ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้กันต์มารับรักผม  และพี่ก็จะไม่มีทางได้คืนไปอีกครั้งอย่างแน่นอน “

อ่าวไอ้นี่....  พึ่งชมอยู่หยกๆ

“ พี่รู้... แต่เราไม่ต้องเป็นห่วงหรอก  เพราะว่ามันจะไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน... “

“ ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นนะพี่  และก็อีกเรื่องที่พี่ควรรู้ไว้นะ... “

ผมร่นคิ้วมองไปเป็นเชิงถามขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน

“ กันต์...  มันยังรักพี่อยู่นะ... “

“ เรื่องนั้นพี่รู้.... “

“ ถ้างั้นพี่ก็... อย่าทำพลาดอีกล่ะครับ “

ผมยิ้มรับไป  ก่อนจะจบเควสและได้รับข้อมูลสำคัญมาอีกอย่างหนึ่งจาก NPC  ซึ่งก็คือ...

“ กันต์เขากลับบ้านที่กระบี่อะพี่...  เรื่องนี้ไม่มีใครรู้  แม้กระทั่งเรย์ “

“ ขอบใจมากนะ...  ที่เหลือหลังจากนี้เดี๋ยวพี่จัดการเอง  รวมทั้งเรื่องความสุขต่อไปจากนี้ของกันต์มันด้วย  เราไม่ต้องเป็นห่วงอีกแล้วล่ะ.... “


ผมจากไปพร้อมกับรอยยิ้ม  รู้สึกราวกับว่ามันจะไม่มีอุปสรรคอะไรอีกต่อไปแล้ว  และหลังจากนี้...  สิ่งที่ผมจะต้องทำก็เพียงแค่...การเผชิญหน้า.....  ก็เท่านั้นเอง

แต่ก่อนหน้านั้น  ผมคงยังไม่สามารถไปหากันต์มันได้เลย  เพราะจะต้องไปเคลียร์งานที่ได้รับมอบหมายเอาไว้ให้เสร็จเสียก่อน  แล้วจากนั้น.... ค่อยขออนุมัติวันหยุดยาวจากพ่อเพื่อไปง้อว่าที่แฟนในอนาคตต่อไปก็แล้วกัน

ว่าแล้วก็รีบเข้าออฟฟิตไปเคลียร์งานเลยดีกว่า....   




....................................




กันต์’s  Part


ช่วงค่ำที่กระบี่...

ผมกำลังเดินลากกระเป๋าเดินทางเข้ามายังถนนของหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายหาดสักเท่าไหร่  พร้อมทั้งกำลังมองและซึมซับกับบรรยากาศเดิมๆ ที่คุ้นเคย  และถึงแม้ว่าตอนนี้ตามรายทางจะมืดไปบ้าง  แต่ก็ยังพอมีแสงไฟจากบ้านเรือนอยู่เป็นระยะๆ ให้ได้รู้สึกอุ่นใจ

หลังจากที่เดินเข้ามาได้ไม่นาน  ผมก็เห็นบ้านของผมซึ่งตั้งอยู่ตรงสุดซอยติดกับชายหาดที่ห่างออกไปไม่ไกลมาก  เพียงแต่...  ทั้งๆ ที่มาถึงบ้านแล้วแท้ๆ  แต่ผมกลับรู้สึกเหงากว่าเดิมขึ้นมาเสียอย่างนั้น  อาจจะเป็นเพราะจากนี้ไป  ทุกอย่าง.... มันคงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว  เพราะว่าตอนนี้..  ที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่ตัวผมคนเดียวเท่านั้น....  แต่ถึงกระนั้น  มันก็เป็นที่เดียวที่ผมจะสามารถกลับมาพักหัวใจได้เสมออยู่ดี  และจากนี้ไป...  ผมก็ต้องอยู่กับมันให้ได้  เพื่อตัวของผมเองและคนที่จากไป.....


“ อ้าว!!  กันต์ใช่มั้ยลูก “

ไม่ทันที่จะเดินมาถึงหน้าบ้าน  คุณป้าที่อยู่ข้างบ้านแกก็ทักขึ้นมาทันทีพร้อมกับท่าทางตื่นเต้นที่ไม่ได้เจอผมมาเสียนาน 

ป้าภาแกเป็นคนใจดีมากครับ  แกเปิดโฮมสเตย์เล็กๆในบ้าน  ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศแนวนี้เข้ามาใช้บริการที่นี่อยู่บ่อยๆ

“ หวัดดีครับป้าภา  ไม่ได้เจอกันนานเลย  คิดถึงป้าจังครับ...  ป้าภาสบายดีนะครับ “

“ ไม่ต้องมาทำปากหวานเลย  ไปอยู่กรุงเทพฯ มาซะตั้งนาน  ไม่ส่งข่าวคราวมาให้ป้ารู้บ้างเลย “

“ โอ๋.... ป้าภาก็..  กันต์ไม่ค่อยมีเวลาว่างเลยอะ  เข้าปีหนึ่งที่นั่นทั้งเรียนทั้งกิจกรรมมากันให้เพียบเลย  ไหนจะเรื่องการปรับตัวอีก  มีแต่ปัญหาเข้ามารอบด้านเลย “

“ แล้วนี่เราสบายดีมั้ย  ดูผอมลงไปนะ “

ป้าภาถามมาด้วยความเป็นห่วงครับ  ผมเลยอมยิ้มเล็กๆ ก่อนจะตอบมาเพื่อให้แกสบายใจ

“ สบายดีครับ  ป้าภาไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ  ยังไงกันต์ก็ต้องอยู่ได้ครับ “

“ แต่อย่าลืมนะว่าที่นี่เรายังมีป้าอยู่ทั้งคน  ป้าน่ะรักเราเหมือนลูกเหมือนหลานคนนึงเลยนะ “

“ ผมรู้ครับป้า  ขอบคุณป้าภามากๆ นะครับ “

“ แล้วนี่ปิดเทอมแล้วใช่มั้ย “

“ ครับ  กันต์เลยกลับมาพักผ่อนที่บ้านอะครับ  ห่วงบ้านด้วย  แล้วก็...คิดถึงป้าอีกต่างหาก “

ผมยิ้มกว้างบอกไปให้แกชื่นใจครับ  ซึ่งก็ดูจะได้ผล  เมื่อดูจากรอยยิ้มที่เปื้อนหน้าในตอนนี้

“ แล้วนี่กลับมาเหนื่อยๆ กินข้าวกินปลามาแล้วรึยัง “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่ยิ้มแหยๆ  พร้อมกับส่ายหน้าส่งให้ไปแทนคำตอบ

“ นั้นก็ดีเลย  เดี๋ยวมากินข้าวด้วยกันกับป้านะ  เจ้าฟลุกมันต้องดีใจแน่ๆ  พอเราไม่อยู่ก็บ่นคิดถึงแต่เราอยู่ตลอดเลย “

“ เอ่อ.. ได้ครับ  นั้นเดี๋ยวกันต์เข้าบ้านไปเก็บของก่อนนะครับ  แล้วเดี๋ยวจะมาขอฝากท้องด้วยคน “

“ ได้เลยจ้า  แล้วป้าจะรอนะ “

ลากับป้าภาเสร็จผมก็เดินเลยมายังหน้าบ้านของผมซึ่งอยู่หลังถัดไปและยังเป็นหลังสุดท้ายของซอยด้วย  ซึ่งมีพื้นที่ด้านข้างเป็นทุ่งหญ้าเตี้ยๆ และถัดไปหน่อยก็จะเป็นพื้นทรายของชายหาดทอดยาวออกไป  ซึ่งทำให้บ้านผมได้รับลมเย็นๆ จากทะเลอยู่ตลอดเวลา

คิดถึงจังเลยครับ...  ไม่ได้กลับมาซะนานเลย  แม้จะอดใจหายไม่ได้ที่หลังจากนี้ไป  ที่นี่....จะเหลือเพียงแค่ผมอยู่เพียงลำพัง  แต่เพราะว่าเป็นบ้านของเรา  มันจึงอุ่นใจเสมอที่ได้กลับมา

ผมมองไปยังรอบๆ บริเวณบ้านทันทีที่ก้าวพ้นรั้วเข้ามา  ท่าทางพรุ่งนี้คงต้องเหนื่อยหนักกันแล้วล่ะครับ  ไม่ว่าจะเป็นหญ้าที่รกขึ้นมาก  ใบไม้ที่เกลื่อนกราดไปทั่วบริเวณ  และการทำสะอาดบ้านครั้งใหญ่

ผมเอากระเป๋าเข้ามาไว้ในห้องและเปิดไฟในบ้านทิ้งไว้  จากนั้นก็รีบออกไปหาป้าภาทันทีครับ  ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ต้องคอยนาน


“ พี่กันต์ !! “

เสียงชายหนุ่มวัย 15 ปีดังขึ้นทันทีด้วยความดีใจเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาภายในบ้าน  ก่อนจะกระโดดขึ้นมาจากโซฟาแล้วโผเข้ามากอดผมราวกับเด็กน้อยเสียอย่างนั้น  ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็ตัวสูงพอๆ กับผมแล้วแท้ๆ

“ พอเลยเจ้าฟลุก  พี่เขามาเหนื่อยๆ  โตแล้วแท้ๆ ทำเป็นเด็กประถมไปได้ “

ป้าภาที่กำลังเดินถือจานกับข้าวเข้ามาถึงก็ดุขึ้นทันที   ก่อนที่เจ้าตัวจะคลายกอดผมออกและหันไปทำหน้ามุ่ยให้กับยายของตัวเอง

“ ยายอะ...  ก็คนมันคิดถึงนี่ “

“ เป็นไงบ้างห๊ะเรา  ดื้อกับยายปะเนี่ย “

“ ไม่เลยพี่กันต์  ผมอะเป็นหลานที่ดีอยู่แล้ว  ช่วยงานยายตลอดเลยด้วย “

“ เหรอจ๊ะ....  แหม...  แต่ต้องให้ยายบ่นตลอดเลยนะพ่อคู้น... “

ถึงฟลุกจะทำหน้ามุ่ย  แต่ไม่นานก็ยอมหัวเราะออกมาง่ายๆ  น้องเขาเป็นเด็กน่ารักครับ  แถมยังติดผมงอมแงมเลย  แต่เพราะพ่อและแม่ทำงานอยู่ที่สิงคโปร์ก็เลยได้ป้าภาซึ่งเป็นยายแท้ๆ เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก  น้องเขาเลยรักป้าภามากถึงมากที่สุด  แม้ว่าการแสดงออกมันจะไม่มากตามประสาของผู้ชายก็เถอะ

ผมทานมื้อค่ำพร้อมกับการสนาทนาและเสียงหัวเราะยืดยาวจนเกือบจะ 3 ทุ่มเลยล่ะครับกว่าจะได้กลับเข้าบ้าน  ไม่ได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ  แต่ไม่ว่ายังไง.... มันก็ยังอบอุ่นไม่เคยเปลี่ยนไปตามกาลเวลาเลยล่ะครับ  กับการได้อยู่กับคนที่เรารักแบบนี้....

เหนื่อยมาทั้งวันเลยครับกับการเดินทางในวันนี้  พอหัวถึงหมอนผมก็หลับเป็นตายไปเลยทีเดียว  ขอพักก่อนก็แล้วกันครับสำหรับวันนี้ 

ฝันดีนะครับ.....


...............................


เช้าวันต่อมา....

วันนี้ตลอดทั้งวันผมใช้เวลาอยู่กับการทำความสะอาดบ้าน  โดยมีฟลุกเข้ามาช่วยผมทำด้วยอีกแรง  แถมยังมีอาหารอร่อยๆ จากป้าภาที่ทำมาให้ทานสำหรับมื้อกลางวันอีกด้วย  ส่วนมื้อเย็นผมก็ยังคงไปทานข้าวกับป้าภาเหมือนเดิมจากการเร้าหรือของฟลุก  ซึ่งป้าภาเขาก็บอกนะครับว่าช่วงที่ผมกลับมาอยู่บ้าน  เขาก็อยากจะให้ผมมาทานข้าวด้วยทุกเย็นเลย  แต่เพราะความเกรงใจส่วนหนึ่งและการอยากสัมผัสความรู้สึกเดิมๆ ในบ้านของตัวเอง  มันเลยทำให้ผมบอกไปแค่ว่าจะพยายามมาทานด้วยบ่อยๆ เพียงแค่นั้น

ถัดมาอีกวัน... 

วันนี้ผมก็ยังคงจัดการกับบ้านของตัวเองอยู่เหมือนเดิม  เพราะการที่ไม่มีคนอยู่และไม่ได้กลับมานาน  มันเลยมีอะไรให้ผมต้องทำอีกมาก  ซึ่งวันนี้ผมก็ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับบริเวณภายนอกตัวบ้าน  และไปเสร็จเอาในช่วงเย็น

ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ที่ชิงช้าไม้ข้างบ้าน  ซึ่งสามารถมองออกไปยังทะเลเบื้องหน้าได้  ชิงช้าที่พ่อทำให้และผมก็มักจะมานั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่ที่นี่บ่อยๆ  เรียกได้ว่าเป็นมุมโปรดที่ผมชอบที่สุดของบ้านเลยก็ว่าได้

ท้องฟ้ายามอาทิตย์อัสดงแบบนี้  การอยู่เพียงลำพังและนั่งมองทะเลที่กำลังจะกลายเป็นสีดำจากการลับขอบฟ้าของดวงอาทิตย์  มันก็ทำให้ใจอดที่จะรู้สึกเหงาขึ้นมาไม่ได้เลยนะครับ  คิดถึงพ่อ  คิดถึงแม่...  และยังคิดถึง...

ใครบางคนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะ...  เขาจะ...  ตามหาผมอยู่มั้ยนะ....

ตอนนี้ถ้าถามว่าความรู้สึกที่ผมมีต่อพี่เขาเป็นยังไงบ้าง  บอกได้เลยครับว่าทุกอย่างมันยังคงเหมือนเดิม

แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่เขาจะยังรู้สึกเหมือนเดิมกับผมอยู่รึป่าวนะ...

หลังจากที่สอบเสร็จวันสุดท้าย  ผมก็ได้รู้ความจริงอยู่สองอย่าง  ซึ่งก็คือ..  การหนักแน่นในความรู้สึกระหว่างกันจากพี่ซี  และ  ความจริงที่ว่าคนข้างห้องของผมนั้นไม่ใช่พี่นิก...  ซึ่งคงจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก..... พี่กิจ…

ถามว่าผมโกรธพี่เขามั้ย... 

ก็ถ้าเป็นก่อนหน้าที่จะได้คุยกับพี่ซีก็อาจจะมีบ้าง  แต่ว่าตอนนี้มันก็ไม่ถึงขั้นโกรธอะไรขนาดนั้นหรอกครับ  แต่ก็ใช่ว่าจะรู้สึกดีนะครับกับการถูกหลอกไปแบบนั้น...  ผมก็เลยต้องเอาคืนโดยการทำทีว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับไอ้ธันมัน  เผื่อว่าบางที...  ถ้าพี่เขายังคิดอะไรกับผมอยู่เหมือนเดิมแล้วล่ะก็...  จะได้รู้สึกบ้างอะไรบ้างก็เท่านั้นเอง...

อีกอย่าง...  ผมเองก็อยากจะรู้ว่า  พี่เขายังสนใจผมอยู่บ้างมั้ย...

แต่ดูสิครับ  เงียบหายไปเลย  ไม่คิดจะตามหากันบ้างเลยคนเรา

ชิส์...  ไม่มาก็ไม่ต้องมาเลยนะ...  ไอ้พี่บ้า



.....................

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
วันต่อมา... 

เมื่อไม่มีอะไรที่บ้านให้ทำแล้ว  ว่างๆ ผมก็เลยแวะมาช่วยป้าภาที่โฮมสเตย์ของแกครับ  และแม้ว่าจะเป็นโฮมสเตย์เล็กๆ ที่มีห้องพักเพียงแค่ 3 ห้อง  แต่เชื่อมั้ยครับว่ามันเต็มแทบจะทุกวันเลย  แถมช่วงไฮซีซั่นนี่ไม่ต้องพูดถึง  เพราะถึงกับต้องจองกันล่วงหน้าเลยทีเดียว

“ ไปนั่งดูทีวีก็ได้นะลูก  ป้าทำเองได้ “

ป้าภาบอกมา  ขณะที่ผมจะอาสาเอามื้อเที่ยงไปส่งให้แขกที่พึ่งจะมาพักใหม่เมื่อเช้านี้ครับ

“ ไม่เป็นไรครับป้าภา  กันต์เบื่ออะ  อีกอย่าง...  เมื่อก่อนกันต์ก็มาช่วยป้าอยู่บ่อยๆ  ไม่เห็นจะเป็นไรเลย “

“ ก็ได้จ่ะ  นั้นป้าฝากด้วยนะ “

ป้าภายิ้มส่งมาให้  จากนั้นผมก็ยกถาดอาหารที่เจ้าของห้องสั่งไปส่งให้ครับ

“ อย่างกับดาราเลยพี่  แขกคนนี้ “

ฟลุกเข้ามากระซิบบอกผมที่ข้างหูอย่างตื่นเต้น  ซึ่งก็น่าจะจริงครับ  ไม่อย่างนั้นแมนๆ อย่างฟลุกคงไม่ออกปากชมขนาดนี้ได้หรอก

ผมเคาะประตูห้องก่อนจะแจ้งถึงบริการที่มาส่ง  ซึ่งไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออก....


เชี่ย....!

หล่อจริงครับ....  ไม่บอกผมก็นึกว่าเป็นดาราเหมือนอย่างฟลุกว่าเลย

เพียงแต่...  ลึกๆ แล้ว  ผมกลับอดรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กๆ เสียไม่ได้  เพราะอดคิดไม่ได้ว่า  บางทีพี่กิจอาจจะตามผมมาบ้างก็ได้

ช่วงบ่ายผมกลับไปนอนอืดที่ระเบียงไม้หลังบ้าน  ซึ่งสามารถมองออกไปยังชายหาดและทะเลสุดลูกหูลูกตาได้ครับ  ก่อนจะหลับไปโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับสายลมอุ่นๆ จากทะเลที่พัดเข้ามากระทบร่างในยามบ่าย

ผมตื่นมาอีกทีก็เย็นแล้วครับ  ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆ มาเช็คข้อความไลน์  เพื่อติดตามสถานการณ์ต่างๆ ของพวกเพื่อนๆ

ตอนนี้ไอ้ธันมันขึ้นดอยที่เชียงใหม่กับเพื่อนเก่าสมัยมัธยมปลายของมันไปแล้วครับ  เห็นภาพที่มันส่งมาให้ดูในกลุ่มไลน์แล้วก็อยากไปบ้างจัง....  ส่วนไอ้แน๊คกับไอ้เจมส์ก็ใช้ชีวิตนั่งๆ นอนๆ ไปวันๆไม่ต่างอะไรไปจากผม  แพรเองก็พึ่งไปดูหนังกับไอ้เรย์มาเมื่อบ่ายนี้..... 

ชิส์  เหม็นความรัก…  หรือแปลอีกนัยต์นึงก็คือ...  อิจฉาเขานั่นแหละครับ


............................


วันต่อมาผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านป้าภา  โดยเฉพาะเวลาเข้าครัว  ซึ่งมันทำให้ผมได้ความรู้ใหม่ๆ ในการทำอาหารมาอีกเพียบ  ก็อย่างที่บอกอะครับว่าการทำอาหารมันเป็นงานอดิเรกที่ผมชอบและพยายามฝึกพัฒนาฝีมือตัวเองเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ  ด้วยหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีร้านอาหารเล็กๆ น่ารักๆ เป็นของตัวเองสักร้าน  แต่กว่าจะถึงวันนั้นก็คงต้องฝึกฝีมือและเก็บเงินเอาไว้สักก้อนก่อนล่ะครับ

ค่ำนี้ผมมีนัดกินหมูกระทะกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยม  ซึ่งวันนี้ไอ้เรย์มันก็กลับมาถึงที่นี่แล้วด้วย  และจะว่าไป  ผมก็ไม่ได้เจอกับเพื่อนเก่ามานานแล้วล่ะครับตั้งแต่ที่ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ  จะมีก็แต่ไอ้เรย์นั้นแหละครับที่ผมได้เจอตลอด ( จนเบื่อขี้หน้ามันไปละ )


ที่ร้านหมูกระทะ

“ กูไม่เชื่อเด็ดขาด !!  หน้าอย่างไอ้กันต์เนี่ยนะจะไม่มีแฟน  แต่หน้าเหี้ยๆ อย่างมึงเสือกมีแฟนเป็นดาวมหาลัยฯ อย่ามาอำกูซะให้ยาก “

ไอ้โอ๊ตครับ  โวยวายทันทีเมื่อฟังเรื่องเล่าจากไอ้เรย์จบ

“ ทำไมวะ  หน้าอย่างกูทำไม !  อย่างมึงอะมีตาหามีแววไม่..  ไม่มีทางมองเห็นของดีหรอกเว้ย “

ไอ้เรย์ไม่ยอมแพ้ครับเมื่อโดนดูถูกไปแบบนั้น  มันเลยโพร่งสวนขึ้นมาแทบจะในทันที

“ จริงเหรอวะไอ้กันต์ “

ไอ้โอ๊ตหันมาถามผมเพื่อขอคำยืนยัน  ซึ่งผมก็ได้แต่ทำหน้าเบื่อๆ แกมอิจฉาก่อนจะพยักหน้าและขานรับไปในลำคอ

ก็มันน่าอิจฉาจริงๆ นี่ครับ  คืออารมณ์ผมตอนนี้บอกเลยนะครับว่า  ใครที่มีความรัก...  ผมจะหมันไส้มันทุกคนนั่นแหละ  ชิส์...

“ แนนๆ ทางนี้ !! “

เสียงไอ้โอ๊ตตระโกนเรียกเพื่อนสาวในกลุ่มที่กำลังเดินเข้ามาพร้อม ‘ ปุ้ย ‘ คู่หูที่พากันไปเรียนต่อถึงที่เชียงใหม่ครับ

ทีนี้ก็ครบกลุ่ม 6 คนของพวกเราแล้วล่ะครับ  ซึ่งประกอบไปด้วย  ผม ไอ้เรย์ ไอ้โอ๊ต ไอ้น๊อต แนนและปุ้ย  จากนั้นเรื่องเล่าและหัวข้อสนทนาก็พรั่งพรูออกมามากมายอย่างไม่ขาดสาย  ราวกับว่าพวกเราไม่ได้เจอกันมาหลายสิบปีเสียอย่างนั้น  แต่ก็สนุกดีนะครับ  มันทำให้ผมคิดถึงชีวิตวัยเรียนช่วงมัธยมปลายเมื่อก่อนนี้เลย

“ เออใช่  เมื่อกี้ตอนเข้ามาฉันเจอพี่คนนึงอะ  หล่อม๊าก... !  เห็นแล้วฉันอยากเลิกกับแฟนมาคบด้วยเลย “

ปุ้ยเล่ามาถึงเหตุการณ์หน้าร้านหมูกระทะ  ก่อนจะถูกคู่หูเบรกขึ้นมาแทบจะหัวทิ่มกันเลยทีเดียว

“ สวยเลือกได้นะมึง  เดี๋ยวกูจะไปฟ้องโอม “

“ หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ...  ฉันแค่พูดเล่น...   ห้ามเรื่องนี้รู้ไปถึงหูโอมเด็ดขาด...  ไม่อย่างนั้น... “

ปุ้ยกำชับขึ้นมาทันที  ถึงแฟนคนปัจจุบันที่พึ่งเจอกันที่เชียงใหม่

“ หูผึ่งเลยนะมึง.... คิดว่าเป็นพี่กิจอยู่เหรอวะ “

ไอ้เรย์เข้ามากระซิบที่ข้างหูผมครับ  ก่อนที่ผมจะหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อปฏิเสธ

“ แสนรู้ดีนะมึง..  ใครจะไปคิดถึงกันล่ะวะ “

แล้วมันก็พยักหน้ารับอย่างไม่เชื่อในคำพูดผม  แต่จะว่าไปมันก็จริงนะครับ  ที่ผมแอบอดคิดไม่ได้ว่าบางทีอาจจะเป็นพี่เขาก็ได้  ทั้งๆ ที่ผมเองเนี่ยแหละ  ที่เป็นคนสับขาหลอกให้พี่เขาเข้าใจผิดคิดว่าผมไปเที่ยวกับไอ้ธันมัน  ก็แค่...อยากเห็นความพยายามของพี่เขาบ้างก็เท่านั้นเอง  แต่นี่ก็หลายวันแล้วนะ...  ไม่เห็นพี่เขาจะตามมาเลย  ใช่สิ... ผมมันไม่ได้สำคัญอะไรนี่...
 
ว่าแต่...  แล้วนี่ผมจะมาคิดเยอะวุ่นวายไปทำไมเนี่ย  ไม่มาก็อย่ามานะ  ไอ้พี่บ้า!!!


“ นั่นไงพวกมึง  พ่อเทพบุตรของไอ้ปุ้ยมัน “

แนนพยักพเยิดไปยังเป้าหมาย  และก็เป็นผมคนแรกเลยครับที่หัวขวับไปมองตามสายตาอย่างรวดเร็ว....


เฮ้อ....

มันจะไปใช่ได้ยังไง....  พี่เขาคงไม่มาที่นี่หรอกครับ  เผลอๆ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมกลับมาที่บ้านแล้วแบบนี้

“ ผิดหวังล่ะสิมึง “

ไอ้เรย์ยังคงแสนรู้ตามเคย

“ ผิดหวังพ่องมึงดิ  กูก็แค่อยากเห็นหน้าคนที่แนนมันกรี๊ดก็แค่นั้น “

“ ให้มันจริงเห๊อะ... “

“ เออ!!! “



ออกจากร้านหมูกระทะมาก็เกือบจะ 4 ทุ่มแล้วล่ะครับ  ไอ้เรย์มันอาสาจะไปส่งผมที่บ้านตามเคย  มันเดินไปเอารถที่ลานจอดรถ  ส่วนผมก็แวะเข้าไปซื้อของกินเล็กๆ น้อยๆ ไว้สำหรับมื้อเช้าในวันพรุ่งนี้ที่ร้านสะดวกซื้อ  เพราะที่บ้านไม่มีอะไรในตู้เย็นเลยล่ะครับ

พอออกจากร้านสะดวกซื้อ  ที่อีกฝั่งของถนนก็มีไอ้เรย์กับกลุ่มเพื่อนๆ ผมที่กำลังยืนคุยกันอยู่และรอผม  ก่อนที่เราจะพากันแยกย้ายกลับบ้านไป

“ เร็วเลยมึง!!  เดี๋ยวกูไม่ทันคลอไปคุยแพร “

ไอ้เรย์มันตระโกนเร่งผมจากอีกฝั่งของถนน  เมื่อเห็นว่าผมออกมาจากร้านสะดวกซื้อแล้วในตอนนี้

“ เออ!!  แต่เวอร์ไปแล้วนะมึงอะ  เดี๋ยวกูจะยุให้แพรเลิกกับมึงเลยคอยดู... “

หมันไส้จริงๆ เลยคร้าบ   ไอ้พวกมีความรักเนี่ย....  อย่าให้ผมได้มีบ้างล่ะนะ

ไม่ทันที่จะคิดไปได้ไกลกว่านี้  ผมที่กำลังเดินเหม่อมองไปข้างหน้าเพียงกลุ่มเพื่อนผม  จนลืมดูรถที่กำลังขับมาตามทาง  แต่กว่าจะรู้ตัวอีกที  ก็เมื่อเห็นสีหน้าแตกตื่นของพวกเพื่อนๆ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม  พร้อมกับเสียงแตรรถและการตระโกนกลับมาบอกให้ผมระวัง...

เมื่อสายตาปะทะเข้ากับแสงไฟรถจักรยานยนต์ที่กำลังวิ่งตรงเข้ามา  มันก็ดูจะสายเกินไปเสียแล้วที่ผมจะสามารถหลบมันได้ทัน
และแล้วก็...


“ อยากตายรึไงวะ !! “


เสียงเจ้าของมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวตระโกนส่งมาให้  ก่อนจะขับเลยหน้าผมห่างออกไป

มันแค่เสี้ยววินาทีจริงๆ ที่ผมเกือบจะได้รับอันตรายอย่างถึงที่สุด  แม้ว่าจะตกใจและทำอะไรไม่ถูกที่รอดมาได้จากการถูกใครบางคนกระชากแขนกลับเข้ามาที่ริมฟุตบาทและปะทะเข้ากับร่างสูงตรงหน้า  ผมก็ถูกสวมกอดเอาไว้ด้วยกลิ่นกายที่คุ้นเคย...  ถึงจะยังไม่ทันเงยหน้าขึ้นไปมองว่าใคร  แต่ผมก็รู้สึกได้ครับว่ามันคือคนเดียวกันกับที่ผมรอคอยมาโดยตลอด....


“ อย่าทำให้พี่ต้องเป็นห่วงตลอดสิ “


ผมที่กำลังอยู่ภายในอ้อมกอดอบอุ่นเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมที่คุ้นเคยด้วยหัวใจที่เต้นแรงกว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้อีก  น้ำเสียง  สัมผัส  และกลิ่นกายที่ผสมกับกลิ่นน้ำหอมจางๆ ที่ผมคุ้นเคย  มันทำให้ผมทำอะไรไม่ถูกนอกจากตาค้างและเผยอปากออกมาเล็กน้อย

จากที่เลิกคาดหวังไปแล้วแท้ๆ...  แต่กลับมาเจอจนได้...  นี่พี่เขาตามผมมาจริงๆ เหรอเนี่ย....


“ พี่กิจ...  นี่พี่... มาได้ไงอะ... “

ผมพูดจบพี่เขาก็ยิ้มละมุนให้พร้อมกับแววตาที่อ่อนโยน  ก่อนจะพูดขึ้น


“ พี่ก็มาเที่ยวสิ...  ทำไม...?  หรือเราคิดว่า... “


หมดกัน....  ความประทับใจแรกที่เจอ... 

ใช่สิ... คนอย่างคุณชายคงไม่ลดตัวลงมาตามหาคนอย่างผมหรอก  ไม่น่าหลงคิดเข้าข้างตัวเองเลยไอ้กันต์เอ้ย.... 

คิดได้อย่างนั้นผมก็เริ่มออกแรงดันตัวออกห่าง  ซึ่งพี่เขาก็ยอมคลายวงแขนออกมาแต่โดยดี

ผมทำตาดุๆ มองตอบไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่  แต่แทนที่พี่เขาจะรู้สึกอะไร  กลับยิ้มกริ่มเล็กๆ ที่มุมปากขึ้นมาเสียอย่างนั้น...

มันน่าขำตรงไหนเนี่ย!!!   คอยดูนะ...  ถ้าจะมาง้อแล้วล่ะก็....  ฝันไปเถอะ...!

ผมหันหลังให้และทำท่าว่าจะเดินข้ามถนนไปหากลุ่มพวกเพื่อนๆ ที่ตอนนี้ต่างจ้องมาทางผมกันเป็นตาเดียวอย่างตกตะลึง  และไม่ทันที่ผมจะได้ข้ามถนนไปก็ถูกมือแข็งแรงคว้าเอาไว้เสียก่อน  ผมหันขวับกลับไปมองในทันที  แต่ก็พบเพียงสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ของพี่กิจเพียงเท่านั้น

“ ให้พี่ไปส่งที่บ้านเอามั้ย “

“ ไม่อะ...  จะกลับกับไอ้เรย์ “

“ แน่ใจนะ... “

“ อือ! “

แล้วทำมาเป็นขำในลำคอด้วยนะ

“ ไอ้กันต์...  นั้นกูกลับก่อนนะเว้ย!! “

เสียงไอ้เรย์มันตระโกนข้ามมาครับ 

“ กลับก่อนมึงตาย...  เชี่ยเรย์ “

“ ถ้ากูไม่กลับ... กูก็ตายเหมือนกันโว้ย!!  ไอ้สัด!! “

ได้ยินมันสวนกลับมาอย่างนั้นผมเลยหันกลับไปมองยังคนข้างหลังพลางร่นคิ้วและทำหน้าดุใส่ไปทันที  ทว่าสีหน้าที่ตอบกลับมามีเพียงหน้าระรื่นพร้อมรอยยิ้มส่งมาให้เพียงเท่านั้น  และไม่ทันที่ผมจะได้คุยอะไรกับไอ้เรย์ต่อ  มันก็ชิ่งขับรถหนีผมไปแล้วล่ะครับ

ไอ้เพื่อนเลว !!!

“ นั้นเอาเป็นว่า... เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ “

น้ำเสียงสบายๆ ว่ามา  เมื่อเห็นว่าผมดูจะไม่มีทางเลือกอื่นแล้วในตอนนี้

“ ม้าย!!  ผมกลับเองได้ “

“ แต่ดึกแล้วน้า....  ไม่กลัวโดนฉุดเหรอ “

“ ถิ่นผม..!  ไม่กลัวอยู่แล้ว... “

“ เฮ้อ...  ปะๆ  ดื้อนะเราอะ “

และไม่รอให้ผมตอบอะไร  พี่กิจก็ลากผมไปที่รถซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลมากจากตรงนี้  ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว...  ผมก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ยไม่พูดไม่จาอะไรไปตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้าน

อยู่ๆ ก็มา  พอมาก็กวนตีน  ไอ้หน้าสลดๆ เหมือนตอนที่อยู่กรุงเทพฯ มันหายไปไหนหมดแล้วว้า!!! 

คนบ้าอะไรไม่เจอกันหน่อยเดียวก็ลืมแล้ว...  นี่คงไม่คิดจะง้อกันแล้วใช่มั้ยเนี่ย...  ได้.....  นั้นก็ไม่ต้องคุยกันอีก...  ไอ้....


เฮ้อ....


ผมลงจากรถมาด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียดทันทีที่รถหรูเข้ามาจอดเทียบยังหน้าบ้าน

ว่าแต่...  พี่เขารู้จักบ้านผมได้ไงอะ  เพราะจะว่าไป... ตลอดทางผมก็ไม่ได้ตอบอะไรที่พี่เขาถามมาเลยนี่นา  หรือบางทีอาจจะเป็นไอ้เรย์ก็ได้ที่เป็นคนให้ข้อมูล....  ร่วมมือกันดีนักใช่มั้ยพวกนี้....

“ ฝันดีนะคร้าบ  แล้วอย่างลืมฝันถึงพี่ด้วยน้า.... “

“ ไม่!!  ไอ้....  โอ้ย!!! “

สติแตกเลยครับ  ไม่คิดว่าจะมาด้วยท่าทีกวนๆ แบบนี้  อยากจะทำ อยากจะพูดอะไร ก็ทำตามใจตัวเองเหมือนตอนช่วงแรกๆ ที่เราเจอกันเสียอย่างนั้น  นี่คงจะลืมไปแล้วล่ะมั้งครับ  ว่าตัวเองทำอะไรเอาไว้กับผมบ้าง.... 

แม่งเอ้ย!!!     ผิดคลาดทุกอย่าง !!!!




TBC.


--------------------------------------------------------------

ขอโทษนะคร้าบที่มาช้าอีกแล้ว(บ่อยเลยแฮ่...)

อยากบอกว่าเหนื่อยมากครับ  ใช้ร่างกายหนักกว่าตอนสุขภาพดีซะอีกครับ  3 อาทิตย์แล้วผมยังไม่ได้หยุดงานเลย...

วันนี้พึ่งได้พัก  เลยรีบเอามาลงต่อเลยครับ  อย่าพึ่งเบื่อกันไปน้าคร้าบทุกๆคน

และก็ขอบคุณสำหรับทุกๆความห่วงใยด้วยนะครับ  ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงเหมือนกันนะคร้าบผม

ส่วนตอนต่อไป  ผมจะลงให้ได้ภายในอาทิตย์นี้ครับ  ฮึบๆ  วันนี้หยุดเดี๋ยวจะรีบปั่นทิ้งเอาไว้ก่อน  แฮ่ๆ :katai4:

 :pig4: :pig4: :pig4:

Warin  ขอบคุณนะครับ  แนะนำปุ๊บแก้ไขปั๊บเลยครับ  ถ้าเจออีกรบกวนแนะนำผมด้วยนะครับ ขอบคุงง้าบ
DrSlump  ขอบคุงเหมือนกานคร้าบ
Iceman555  ช่ายมะ  แต่เดี๋ยวหลักก็หวานละครับ แฮ่...
Areenart1984  จริงๆไรท์ก็อยากแรงกว่านี้เหมือนกันครับ ><
Nus@nT@r@  ช่ายแล้ว...  ตอนนี้รู้ละครับว่าคนข้างห้องคือใคร
O-RA DUNGPRANG  ขอบคุณมากครับ  ช่วงนี้มะได้พักเลยครับเลยมะได้มาลงต่อ  แต่ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง  ยังไงอย่าพึ่งเบื่อไปน้าคร้าบ
Maxtorpis  มาแว้วงับ  ขอโทษทีนะครับที่มาช้า  แต่ไม่มีเทแน่นอนคร้าบผม  แหะๆ   
Leenboy  ไม่น่าจะเกิน 4 ตอนครับรับรองได้ชัวร์  ไรท์ฟันธงเบย
Patsakon  ขอบคุณนะครับ  และก็ขอโทษด้วยที่ตัวเองงี่เง่าไปพักนึง  จนลืมคนอ่านที่สำคัญไป  แต่กลับมาละครับผม
Yowyow  ขอบคุงง้าบผม
Sky  รับทราบคร้าบผม  ยังไงฝากงานเขียนง่อยๆของผมด้วยน้า  มีอะไรก็แนะนำได้ตลอดเลยครับ  ขอบคุงคร้าบบบ

^__________________________________________________^

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เล่นตัวให้เต็มที่เลย เอาให้หนัก   :laugh:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
งอนกันแบบนี้เขาว่าลูกจะดกนะ5555

รักษาสุขภาพด้วยนะไรท์

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ตามมาถึงบ้านแล้ว ตามมาง้อ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

หนีเขามา  สับขาหลอกเขา  แอบคิดถึงเขา  คาดหวังให้เขาตามมา

แหม่...ร้ายนะเนี่ย

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ P_Methayot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0

ออฟไลน์ Kuayyai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อ่านจนถึงตอนปัจจุบันแล้ว
ก่อนอื่นดีใจมากๆ ที่คนแต่งกลับมาแต่งและลงต่อ
เพื่อนๆในนี้เป็นกำลังใจให้เยอะนะครับ

ซึ้งมาก สงสารพี่กิจด้วย ตอนฉากที่ติดฝนอ่ะ
ก็เข้าใจน้องมันแหละ ที่คิดมาก
แอบชอบตอนที่อยู่ข้างห้องกันแล้วคุยกัน

เอาจริงๆ ทางที่ดีหันมาคุยกันตรงๆเนอะ
ในเมื่อทั้งสองใจตรงกัน

ล่าสุด อ่านแล้วยิ้มมาก คนน้องยังงอลอยู่
คืนดีกันไวๆนะ 
รอติดตามตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 51



กันต์ ‘s Part



ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะนอนไม่ค่อยหลับสักเท่าไหร่  แต่ผมก็ยังคงตื่นเช้าขึ้นมาอยู่ดี  คือมันเคยชินแล้วอะครับ  จากการโดนปลุกมาออกกำลังกายตอนเช้าอยู่บ่อยๆ  แต่ไม่ว่าจะยังไง  ตอนนี้ผมก็ออกมาเดินเล่นรับลมยามเช้าที่ชายหาดแล้วล่ะครับ

ไม่รู้ว่าที่พี่เขาบอกเมื่อคืนมันจะจริงรึเปล่านะ  ที่ว่าพี่เขาแค่มาเที่ยวเฉยๆ เท่านั้น  เพราะผมก็ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองมากเกินไปเหมือนกัน...  แต่อย่างหนึ่งที่ผมรู้ก็คือ  เรื่องนี้ไอ้เรย์มันต้องรู้เรื่องอย่างแน่นอน  เพราะไม่อย่างนั้น....  พี่กิจคงรู้จักบ้านผมไม่ได้หรอก

เดี๋ยวสายๆ ค่อยไปบุกถึงบ้านมันเพื่อเค้นเอาความจริงก็แล้วกัน....

เช้านี้ป้าภาทำข้าวต้มกุ้งแสนอร่อยครับ  โดยให้ฟลุกมาตามผมไปทานด้วย  ดีเลยครับกำลังหิวอยู่พอดี  เพราะพวกอาหารสำเร็จรูปที่ซื้อมาทิ้งไว้เมื่อคืนนี้เอาเข้าจริงแล้วผมก็โครตจะเบื่อมันเลยครับ


ที่บ้านป้าภา

“ กันต์...  ป้าฝากเอาข้าวต้มนี่ไปให้พ่อรูปหล่อห้องสุดท้ายทีนะ  เจ้าฟลุกมันยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย “

“ ได้ครับ  เดี๋ยวกันต์จัดการให้ “

ว่าแล้วผมก็ยกถาดข้าวต้มกุ้งพร้อมเรื่องปรุงตรงไปยังห้องพี่หน้าหล่อคนเดิม  ก่อนจะเคาะประตูเรียกและรอให้เขาเปิดรับ
ทว่าทันทีที่ประตูถูกเปิดออกผมก็ถึงกับหน้าเหวอขึ้นมาทันที  เมื่อแขกที่พักอยู่ตอนนี้ไม่ใช่คนเดิมกับที่ผมเข้าใจอยู่  แต่เป็น...

“ ไหนว่ามาเที่ยวไง...  แล้วนี่อะไร  ตามผมมาทำไมเนี่ย “

คงรู้กันแล้วใช่มั้ยครับว่าใคร.....

“ อ้าว... ก็เที่ยวไง  พี่มาพักที่นี่มันผิดตรงไหน  แถมยังมาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วด้วย “

อ่าว...  ทำไมผมไม่รู้อะ  แต่จะว่าไป...   เมื่อวานผมก็ไม่ค่อยได้มาที่ด้วยสิ

“ แล้วมาคนเดียวรึไง  ทำไมพี่ๆ คนอื่นถึงไม่มาด้วยเหมือนทุกครั้ง “

“ ไม่หนักเหรอ...  ส่งมานี่ “

“ เฉไฉอีกนะ  ว่าไงพี่กิจ “

“ ปิดเทอมนี่เราทำพาร์ททามด้วยเหรอเนี่ย  ไม่ยักรู้ “

ดูสิครับ  ไม่สนใจที่ผมถามเลยสักนิด  แถมยังตีหน้ามึนมายกถาดข้าวต้มจากมือผมไปอีกต่างหาก

“ ไม่ได้ทำ  มาช่วยป้าเขาเฉยๆ “

ผมทำหน้ามุ่ยตอบไปครับ  ว่าแต่...  แล้วนี่ผมจะตอบไปทำไมเนี่ย...

“ อืม... งั้นเหรอ...  แล้วนี่กินข้าวยัง  กินกับพี่มั้ย “

“ ม้าย!! “

พูดจบผมก็เดินหน้าบูดออกไปทันทีเลยครับ  แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงหัวเราะจากคนกวนประสาทด้านหลังตามมาด้วย


หลังจากที่ทานมื้อเช้าเสร็จ  ผมก็รีบเดินกลับบ้านไปในทันที  ก่อนจะกดโทรศัพท์หาไอ้เรย์มัน 

ร่วมมือกันดีนักนะ...  ถ้าไม่มีคำอธิบายดีๆ ให้  รับรองเจอดีแน่


<<  เออ...  เดี๋ยวกูไปหามึงที่บ้านแล้วจะเล่าให้ฟังเอง  มึงรอกูอยู่ที่นั่นแหละ >>

มันพูดจบก็ตัดสายทิ้งไปเลยครับ  คือยังไม่ทันจะได้คุยกันรู้เรื่องเลย  เอาไว้มันมาก่อน..  แล้วค่อยชำระบัญชีให้หมดทุกอย่างเลยก็แล้วกัน


<< ติ๊งต่อง >>


เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นให้ผมเดินออกไปดูครับ  ไม่รู้ว่าใครมากันนะ  เพราะถ้าเป็นฟลุกก็คงจะไม่กดหรอก  แต่จะใช้การตะโกนเรียกเข้ามาแทน

ผมเปิดประตูออกไปดูก่อนจะร่นคิ้วจนแทบจะชนเข้าหากัน  เมื่อหน้าประตูรั้วเป็นหนุ่มหล่อตัวสูงที่ตอนนี้ผมเริ่มชักจะเหม็นขี้หน้ามากขึ้นมาทุกทีแล้วสิครับ  กำลังยืนยิ้มแป้นรอให้ผมไปเปิดประตูให้อยู่ในตอนนี้

ฝันไปเถอะ...

“ พี่ร้อนนะ  มาเปิดเร็วๆ  คุณป้าเขาฝากของมาให้เนี่ย “

พี่กิจว่ามาครับ  แต่ฝากอะไรล่ะ...  เพราะปกติป้าภาไม่น่าจะใช้แขกมาแบบนี้แน่ๆ  คือถ้าฟลุกไม่ว่างป้าเขาก็จะเป็นคนเอาของมาให้เองเลยล่ะครับ  มันน่าสงสัยมั้ยล่ะแบบนี้..

แต่สุดท้ายผมก็ยอมเดินออกมาหน้าบ้านและเปิดประตูออกดู  พี่กิจยื่นถุงขนมที่ดูเหมือนจะเป็นของฝากทั่วไปส่งมาให้  และผมก็รับมันไว้แต่โดยดี  ว่าแต่...  แล้วทำไมป้าเขาไม่เอามาให้ผมตั้งแต่เมื่อเช้าตอนที่ไปทานข้าวด้วยกันนะ

“ พี่กิจ...  นี่อะไร “

เมื่อไม่แน่ใจผมก็ถามขึ้นมาทันทีครับ  และยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร  เจ้าตัวก็เดินแทรกผมเข้ามายังภายในรั้วบ้านทันที  คนอะไรไม่มีมารยาท...

“ ก็ของฝากไง  พี่แวะซื้อข้างทางตอนขับรถมาอะ “

นั่นไง  โดยหลอกแล้วไงไอ้กันต์!!!

“ หลอกผมเหรอ  นั้นเอาคืนไปเลย “

“ เสียน้ำใจหมด  มารยาทอะรู้จักมั้ย “

“ เดี๋ยวนะ...  แล้วไอ้ที่บุกรุกเข้ามาบ้านคนอื่นนี่เขาเรียกว่ามีมารยาทอย่างนั้นเหรอ...  นี่พี่กิจ!!  ฟังอยู่มั้ยเนี่ย!!!  “

นั่นไง  ไม่ฟังผมพูดเลยครับ  เดินเหลียวซ้ายแลขวาตรงเข้าไปในบ้านผมทันทีครับ  ผมเลยเร่งฝีเท้าตามเข้าไปติดๆ  ก่อนจะไปดักอยู่ที่หน้าประตูบ้านเพื่อกันไม่ให้พี่เขาเข้าไป

“ บ้านเรานี่น่ารักดีนะ   น่าอยู่จัง...  หลีกไปดิ๊ “

“ ม้าย... ! “

พี่เขาส่ายหัวเล็กๆ  ก่อนจะใช้แขนแข็งแรงดันผมทีเดียวแทบจะกระเด็นไปเลยล่ะครับ

ไอ้ป่าเถื่อน  ไอ้แรงเยอะ  ไอ้คนไม่มีมารยาท  ไอ้...  โอ้ย!!

นั่น ! เข้ามาถึงก็มองนั่นมองนี่  ทิ้งให้ผมที่กำลังหัวเสียมองตามอยู่อย่างนั้น

เออ...  เชิญบุกรุกให้สาแก่ใจเลย  อยากจะทำอะไรก็ทำ  ผมไม่สนละ !

ว่าแล้วผมก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างหัวเสีย  ก่อนจะหยิบเอาไอแพดที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นมาเล่น  และพยายามจะไม่สนใจไอ้คุณชายท่าน  แต่ทว่า...  เอาเข้าจริงแล้ว  มันก็ทำไม่ได้หรอกครับ  เพราะสายตาผมมันไม่ได้โฟกัสอยู่ที่หน้าจอไอแพดเลยสักนิด  หากแต่เหลือบมองตามคุยชายท่านที่กำลังเดินดูนั่นดูนี่ไปทั่วอย่างไม่วางตา  ทำราวกับว่าเป็นบ้านของตัวเองเสียอย่างนั้น

เมื่อสาแก่ใจคุณชายท่านแล้ว  พี่เขาก็เดินเข้ามาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างๆ ผม  ซึ่งผมก็รีบขยับตัวออกห่างแทบจะในทันที

“ ไหนว่ามาเที่ยวไง  แล้วนี่อะไร  ตามมาทำไม “

“ ก็เที่ยวอยู่นี่ไง... “

“ เที่ยวยังไง  อย่างนี้เขาเรียกว่ากำลังบุกรุกบ้านคนอื่นอยู่ชัดๆ “

“ งั้น...  เราก็... “


ตึกตัก...  ตึกตัก...


พูดเฉยๆ ก็ได้  ไม่เห็นต้องยื่นหน้าเข้ามาเลย  และยังแววตาแบบนั้นอีก.....  เข้มแข็งเข้าไว้ไอ้กันต์!!!

“ มาทำให้ไม่เป็นคนอื่นกันเถอะนะ “


ฟุบ!!


ก่อนที่ใบหน้าคมและริมฝีปากรูปกระจับสวยได้รูปจะเข้ามาใกล้ไปมากกว่านี้  ผมก็รีบเอาไอแพดที่อยู่ในมือเข้ามากันไว้แทบจะในทันที

เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ...  ไอ้กันต์เอ้ย !!!

แล้วนี่ดูสิครับ  เสียงหัวเราะขำเล็กๆ นี่แปลว่าอะไร  ไม่สำนึกกันเลยใช่มั้ย !!!

“ จะกลับไปได้ยังเนี่ย ! “

ผมไล่ไปเสียงห้วน  ทว่าตัวเองกลับไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าคนข้างๆ แล้วในตอนนี้

“ ไปไหนอะ  วันนี้พี่จะอยู่ที่นี่ “

“ ใครอนุญาตมิทราบ “

“ ต้องอนุญาตด้วยเหรอ...  ถ้างั้นพี่ขออยู่ด้วยคนน้าคร้าบ “

“ ม้าย ! “

“ ขอบคุณ “

“ เห้ย...! “

ผมเอาไอแพดที่บังหน้าออกก่อนจะหันไปมองตาเขม็งอย่างเอาเรื่อง  แต่ก็พบเพียงสีหน้าไม่สนใจ  แถมยังเลิกคิ้วซ้ายส่งมาให้ผมอีกต่างหากครับ

ผมถอนหายใจแรงๆ ส่งให้ไปอย่างเซ็งๆ เมื่อทำอะไรผู้บุกรุกไม่ได้เลยสักนิด  ครั้นจะออกจากบ้านไปก็ไม่ได้  เพราะเดี๋ยวไอ้เรย์มันจะมาหาผมที่นี่ 

“ กันต์.. “

ไม่สนใจครับ  เรียกไปเถอะ  ผมทำท่าดูอะไรไปเรื่อยในไอแพดต่อ

“ กันต์...  พี่ว่านะ... “

ว่า....

“ เรามาดีกันเถอะเนอะ  นี่มันก็นานแล้วนะ  แล้วพี่ก็รู้ด้วยว่าจริงๆ แล้วเราเองก็ไม่ได้โกรธพี่จริงจังอะไรด้วย  ส่วนเรื่องที่เข้าใจผิดกันก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะนะ “

ไม่ตอบครับ...  ก็จริงที่ว่าเรื่องพี่ฮานะผมอาจจะผิด  ดังนั้นเรื่องนี้ปล่อยผ่านได้  แต่เรื่องที่พี่เขามาหลอกผมว่าเป็นพี่นิก  กับเรื่อง...คืนนั้น....  ปล่อยผ่านไม่ได้เด็ดขาด !!!!  ชิส์!!

“ ไหน  หันหน้ามาหน่อยซิ  คุยกันจริงๆ หน่อย “

“ ไม่.. “

“ กันต์... “

ผมยังคงจับจ้องอยู่แต่กับไอแพดตรงหน้า  ทั้งๆ ที่หูกลับคอยฟังอยู่ตลอดเวลาว่าพี่เขาจะพูดอะไรต่อ

“ แล้วต้องให้พี่ทำไงอะ  เราถึงจะหายโกรธพี่ “

“ ก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น  อยากทำอะไรก็ทำไป  เพราะปกติเวลาที่พี่ทำอะไรไม่เคยสนใจความรู้สึกของผมอยู่แล้วนี่ “

เด็ดขาดจริงๆ น้ำเสียงปนความน้อยใจของผม  ถ้าตัดพ้อไปขนาดนี้แล้วไม่รู้สึกบ้างก็ให้มันรู้ไป

“ พี่ก็มีเหตุผลของพี่อะ  แต่เกือบทุกเหตุผลก็เพราะว่าพี่คิดถึงความรู้สึกของเราตลอดนะ “

ได้ผล...  น้ำเสียงพี่เขาดูอ่อนลงไปเยอะเลยครับ  สมน้ำหน้า...  ให้รู้สึกผิดอย่างนี้บ้างแหละดีแล้ว

“ ยังไง...  “

พูดจบผมก็เหลือบไปมองพี่เขาเล็กน้อย  เห็นสีหน้าสลดแล้วสะใจครับ  ใครจะไปคิดกันละครับว่าคุณกรกิจจะมีโมเม้นต์แบบนี้กับเขาด้วย

“ แล้วเรื่องพี่นิกอะ  ผมรู้นะ... “

ได้ทีต้องยิงซ้ำครับ...  เอาให้ตายเลยคอยดู

“ อ่าว...  นี่เรารู้มานานแล้วเหรอ “

“ ก็ตั้งแต่แรกแล้วล่ะ  แค่อยากดูเฉยๆ ว่าพี่จะมาไม้ไหน “

ผมโม้ทำเก่งไปอย่างนั้นแหละครับ  ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วผมเองก็พึ่งรู้เอาวันที่สอบเสร็จวันสุดท้ายนั่นแหละครับ  แต่ถ้าปล่อยไก่ออกไป  เดี๋ยวจะกลายเป็นตัวตลกกันไปพอดี

“ ก็พี่เป็นห่วงเรานี่  คิดถึงด้วย...  เลยอยากมาดูแลอยู่ใกล้ๆ “

ก็.....  เอ่อ... 

ไม่ยิ้มหรอกนะ....

เอาเป็นว่าเรื่องนี้อภัยให้ได้ก็แล้วกัน...

ถ้างั้นก็เหลือแค่เรื่องเดียว...  เรื่องคืนนั้น...  แต่เอาเข้าจริงผมเองก็จำยอมพี่เขาไปด้วยนั่นแหละ....

ถ้าอย่างนั้นแล้ว...  ผมจะมาโกรธอะไรพี่เขาอยู่อีกล่ะ... 

อืม....

ไม่เอา... อภัยง่ายๆ เดี๋ยวได้ใจ  คนอย่างพี่กิจผู้ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้ใคร  มันต้องได้เจอแบบนี้บ้าง

“ แล้วเรื่องคืนนั้น...  ที่พี่...  ผมไม่ลืมหรอกนะ “

“ เรื่องไหนอะ... “

“ ยังจะมาถามอีกนะ  ก็เรื่อง... “

“ อ๋อ... “

ยิ้มทำไม...  รู้สึกผิดสิ  รู้สึกผิด !!!

“ นี่เรา...  ไม่ลืมจริงๆ เหรอเรื่องคืนนั้นอะ “

แล้วน้ำเสียงอ่อยๆ นี่คืออะไรวะ  ไอ้คนเลว!!!

“ก็ใช่อะดิ  ใครจะไปลืมได้กัน “

“ ที่ไม่ลืมก็เพราะ...  ติดใจใช่มะ “

ยังจะมาพูดพร้อมกับกัดปากอีกนะ

“ ไอ้พี่บ้า!!!  ไม่คุยด้วยแล้ว “

“ ถ้าไม่คุยนั้น...  อยากทำอย่างอื่นเหรอคร้าบ... “

“ ม้าย!!!  แล้วก็ขยับไปห่างๆ ผมด้วย “

บ้าเอ้ย  คนอะไรวะหน้าด้านสุดๆ  ไม่พูดด้วยแล้ว ( เพราะยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว )

ในเมื่อพี่เขาไม่ยอมขยับ  นั้นผมขยับเองก็ได้ครับ  ก่อนจะไม่สนใจคนข้างๆ และเลื่อนดูทวิตเตอร์ไปเรื่อยๆ  หากแต่ในหัวกลับไม่มีสมาธิที่จะจดจ่ออยู่กับหน้าจอเลยแม้แต่น้อย  และยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะ หึๆ ในลำคอของพี่กิจด้วยแล้ว  อยากจะเอาไอแพดทุบหัวให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเสียด้วยซ้ำ

แต่....  แพงไป...ไม่เอาดีกว่า...  ว่าแล้วเปลี่ยนมาเล่นเกมแทนจะดีกว่า  จะได้มีสมาธิและเลิกสนใจคนข้างๆ นี้ไปเสียที


...................................


นี่ผมเผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย  ไม่อยากตื่นเลยครับ...  คือเวลาได้นอนตอนบ่ายๆ  มันก็ชอบเป็นแบบนี้ทุกทีเลย  แต่ว่า...  ไม่มีอะไรที่ต้องทำนี่นา  นั้นนอนต่อดีกว่า  สบายดีแฮะ...

แต่เอ๊ะ...  เดี๋ยวนะ...


เอ๊ะ....

เอ๋....

เอ่...

มัน...ไม่ใช่.. ใช่มั้ย..  แต่พอมองดูดีๆ แล้วก็...


เห้ย!!!


ผมรีบยันตัวลุกขึ้นมาแทบจะในทันทีที่รู้ตัวว่ากำลังนอนอยู่ในสภาพไหน

ใช่ครับ...  ผมลงไปนอนหนุนตักพี่กิจตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้...

“ ผมมานอนนี่ได้ไงเนี่ย “

“ เอ๊า....  ก็ลงมานอนเองนะ  พี่เปล่าทำไรเลย “

“ แล้วทำไมไม่ปลุกผมล่ะ “

“ ก็เห็นท่าทางเราหลับสบาย  ใครจะกล้าปลุกล่ะ  และอีกอย่าง... “

จะพูดก็พูดเร็วๆ สิ  แล้วก็ไม่ต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ เลยด้วย..

“ พี่ก็ชอบด้วย... “

ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างไม่รู้ตัวกับน้ำเสียงที่ได้ยิน  เพราะแผ่วเบาและยั่วยวนอย่างถึงที่สุด 

“ พอเลย !! “

พูดจบผมก็หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลาทันที  เพราะจะว่าไปนี่มันก็นานมากแล้วนะครับ  ทำไมไอ้เรย์มันยังไม่มาอีกสักทีล่ะเนี่ย

เชี่ย!!  4 โมงเย็นแล้วเหรอ  แล้วนี่มันหายหัวไปไหนกันล่ะคร้าบ  ไหนบอกว่าจะรีบมา  ว่าแล้วผมก็กดโทรออกไปหามันทันทีเลย  ซึ่งไม่นานมันก็รับสายครับ


“ กูขอโทษ !!!   แต่กูไปไม่ได้จริงๆ อะมึง “

“ อะไรของมึงเนี่ย  แล้วเสือกมาบอกให้กูรอ “

“ ก็กูโดนสั่งเอาไว้ว่าอย่างนั้น... “

โดนสั่ง...?  นี่มันกำลังจะบอกว่าพี่กิจรู้เรื่องนี้ด้วยอย่างนั้นเหรอ  เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด...

“ ใครสั่ง... “

“ ก็ใครล่ะที่ตามง้อมึงอยู่ตอนนี้อะ... “

“ นี่มึงโทรไปรายงานด้วยเหรอ  ไอ้เพื่อนเลว ! “

“ สัด...  อย่าพึ่งด่ากูดิ  กูป่าวนะ  พี่เขาโทรมาสั่งให้กูบอกมึงอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว “

เป็นไปไม่ได้  นี่พี่เขาเป็นหมอดูรึไงเนี่ย  ถึงสามารถคาดการณ์อนาคตเอาไว้ได้แม่นขนาดนี้

“ มึงฟังนะ  กูบอกเลย...  อย่างมึงอะไม่ทันพี่กิจเขาหรอก  เพราะทุกอย่างที่มึงจะทำ  มันอยู่ในการคาดการณ์ของพี่เขาไว้แล้วทุกอย่าง  ดังนั้นมึงก็ยอมๆ พี่เขาไปเหอะ  เพราะกูเหนื่อยแทนมึงแล้วเนี่ย... “

“ นี่มึงเป็นเพื่อนกูนะเว้ย  ไอ้เพื่อนเลว...!! “

“ ก็กูเพื่อนมึงไง  ถึงรู้ว่าความสุขของมึงคืออะไร  แล้วมึงยังจะมาตั้งแง่และวิ่งหนีอีกทำไมวะ “

“ ม้าย!!!  มันเรื่องของกู!!! “

ว่าจบผมก็ตัดสายทิ้งไปทันทีเลยครับ  ตั้งแง่แล้วไง....  ก็คนเรามันก็ต้องมีเวลาเอาคืนกันบ้างสิ  ดังนั้น... จะให้มาคืนดีง่ายๆ อะ  ฝันไปเถอะ !!

แต่พอหันมามองยังตัวการใหญ่ที่กำลังยิ้มกริ่มพร้อมกับเลิกคิ้วขวาส่งมาให้แล้วก็...  น่าหมันไส้สุดๆ !!


“ พี่กันต์ ๆๆ !!! “


แล้วจู่ๆ เสียงฟลุกก็ดังขึ้นพร้อมกับการกดกริ่งรัวๆ อย่างที่เจ้าตัวไม่เคยทำมาก่อน  ซึ่งบ่งบอกได้ชัดเลยว่ามันต้องเป็นเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน


ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
ผมรีบรุดออกจากบ้านไปเปิดประตูรั้วทันที  และภาพที่เห็นตรงหน้าก็คือฟลุกที่มีอาการลนลาน  อีกทั้งตามเนื้อตัวก็ยังมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่ว  จากสภาพที่เห็นมันทำให้ผมถึงกับใจหายขึ้นมาทันทีพร้อมกับแววตาตื่นตระหนกราวกับว่านี่มันจะต้องเป็นที่เรื่องร้ายแรงแน่ๆ

“ เกิดอะไรขึ้นฟลุก!!  เกิดอะไรขึ้น... !! “

“ ยายอะ...  ยาย... “

“ ป้าภาเป็นอะไร !! “

“ อยู่ๆ ยายก็เป็นลมหัวกระแทกพื้นอะพี่  และตอนนี้ยายก็ยังไม่ได้สติเลยอะ  ทำยังไงกันดีพี่กันต์ !! “

ทันทีที่ฟลุกเล่าจบ  ผมก็รีบวิ่งไปยังบ้านป้าภาทันที  คิดไม่ออกหรอกครับว่าจะต้องทำยังไงในตอนนี้  แต่สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการพาป้าภาไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

กลัวจังเลยครับ... ป้าภาก็เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของผม  ซึ่งผมก็ไม่อยากจะต้องมารู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว...

ความรู้สึกสูญเสียที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว...


เมื่อเข้ามาถึงห้องรับแขกของบ้าน  ผมก็เห็นป้าภาในสภาพที่ไม่ได้สติและมีเลือดออกจากหัวเปรอะเปื้อนไปทั่วตัวกำลังนอนอยู่บนพื้นบ้าน  หัวใจผมแทบจะหล่นหายไปในทันทีที่เห็นภาพนี้  ความกลัวแล่นเข้ามาในหัวใจ  ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ  ถึงกระนั้นผมก็ไม่สามารถจะยืนช็อคอยู่ได้นาน  ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาร่างตรงหน้าพร้อมทั้งเขย่าและร้องเรียกป้าภาให้ได้สติ  แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล  ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้ผมทั้งลนและกลัวจนแทบจะประคองสติเอาไว้ไม่อยู่

“ กันต์หลบไป  เดี๋ยวพี่จะอุ้มป้าแกพาไปที่รถเอง  เราเอากุญแจนี่ไปเปิดรถรอเอาไว้เลย “

“ ค่ะครับ “

ถึงจะขานรับพี่กิจไป  แต่ผมก็ยังคงอึ้งและทำอะไรไม่ถูกอยู่ดี  จนเมื่อได้ยินเสียงเข้มๆ ของพี่กิจอีกครั้งนั่นแหละ  ถึงดึงสติผมให้กลับมาได้

“ กันต์ !! มีสติหน่อย !! “

“ ค่ะครับพี่ “

ผมรีบวิ่งไปยังที่รถพี่กิจซึ่งจอดอยู่นอกรั้วบ้าน  ก่อนจะกดรีโมทปลดล็อคพร้อมทั้งเปิดประตูเพื่อรอพี่กิจที่กำลังอุ้มป้าภาตามมาติดๆ  ไม่นานพี่กิจก็เหยียบคันเร่งออกรถไปตามทางที่ผมบอก  เพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

ผมพยายามรวบรวมสติทุกอย่างสำหรับการนำทางที่ใกล้และเร็วที่สุดให้พี่กิจ  ท่ามกลางเสียงร้องไห้ของฟลุกที่ดังมาจากทางด้านหลัง

ผมกลัวจังเลยครับ...  และคิดว่าฟลุกเองก็คงจะรู้สึกไม่ต่างไปจากผมสักเท่าไหร่

ผมหันหลังกลับไปมองภาพฟลุกที่กำลังร้องไห้และเรียกป้าภาที่กำลังนอนหนุนตักอยู่เนืองๆ  ก็อดนึกถึงสภาพตัวเองในวันที่พ่ออาการโคม่าขึ้นมาไม่ได้

เพราะผมรู้ไงครับ....  ว่าความรู้สึกกลัวที่จะสูญเสียคนที่เรารักมันเจ็บปวดเพียงใด  และผมเองก็ไม่อยากจะให้น้องที่ผมรักต้องมารู้สึกแบบเดียวกันกับผมในตอนนั้น...

“ ไม่เป็นไรนะฟลุก..  ป้าภาจะต้องปลอดภัย... “

ผมบอกไปพร้อมกับพยายามฝืนยิ้มส่งให้ด้วย  เพื่อให้เด็กน้อยตรงหน้านี้รู้สึกอุ่นใจและมีกำลังใจมากขึ้น  หลังจากนี้....  ผมจะต้องมีสติให้มากขึ้น  แม้ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายสักแค่ไหน  ที่สำคัญ...  ผมจะร้องไห้ไม่ได้โดยเด็ดขาด  ไม่เช่นนั้นความอ่อนแอของผมมันอาจจะไปทำให้ฟลุกเสียขวัญและกำลังใจมากขึ้นไปอีกก็เป็นได้... 

เพื่อให้คนตรงหน้ารู้สึกมีความหวังและกำลังใจ  ผมจะอ่อนแอไม่ได้โดยเด็ดขาด....



ที่โรงพยาบาล

ทันทีที่มาถึงป้าภาก็ถูกพาเข้าไปยังห้องฉุกเฉินทันที  ในระหว่างนั้นผมก็นั่งเฝ้ารออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างใจจดใจจ่อพลางรีบมือที่กุมไว้ด้วยความหวาดหวั่น  ในขณะที่พี่กิจพาฟลุกไปจัดการเรื่องเอกสารกับเจ้าหน้าที่  ซึ่งไม่นานก็พากันกลับมา

“ ยายเป็นไงมั้งอะพี่กันต์ “

คำถามที่ผมเองก็ไม่รู้และไม่อยากที่จะตอบ  แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังคงฝืนยิ้มส่งไปให้ก่อนจะพูดให้กำลังใจกับคนตรงหน้า

“ ไม่ต้องกลัวนะ  ถึงมือหมอแล้ว  ยังไงป้าภาก็ต้องปลอดภัย  เชื่อพี่นะ... “

พอพูดจบผมก็เอามือไปกุมมือฟลุกไว้เพื่อให้กำลังใจ  แม้ว่าตัวผมเองก็กำลังรู้สึกแย่ไม่ต่างกันเลยก็ตาม  แต่ไม่นานบนไหล่ขวาของผมก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นและการบีบเบาๆ  พร้อมรอยยิ้มจากคนข้างๆ  ผมเชื่อว่าพี่กิจเองก็คงพอจะดูออกว่าผมกำลังแสร้งทำเป็นเข้มแข็งทั้งที่ข้างในมันไม่ใช่เลย  ถึงได้กำลังส่งกำลังใจให้ผมอย่างอ่อนโยนเหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา

จากความกลัวและการแบกรับความรู้สึกไว้อย่างโดดเดี่ยว  กลับรู้สึกดีขึ้นได้เพียงแค่สัมผัสที่แผ่วเบานี้ 

เพราะผมรู้ไงครับ  ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  พี่เขาก็จะคอยอยู่ข้างๆ ผมแบบนี้ไปเสมอ....

ขอบคุณนะครับพี่กิจ....



ผ่านไปสักพัก  ป้าภาที่นอนอยู่บนเตียงเข็นและยังคงไม่ได้สติก็ถูกพาออกมาจากห้องฉุกเฉินพร้อมกับเจ้าหน้าที่และแพทย์ผู้รักษา  ก่อนจะเรียกขอพบญาติ  ซึ่งพี่กิจก็รีบขานรับขึ้นมาทันที  ก่อนจะหันหน้ามาหาผมแล้วพูดขึ้น

“ อยู่กับฟลุกนะ  น้องเขาต้องการกำลังใจในตอนนี้  เรื่องที่เหลือเดี๋ยวพี่จะเป็นคนจัดการเอง “

ผมมองหน้าพี่กิจราวกับกำลังมองกระจกสะท้อนเงาตัวเองที่กำลังให้กำลังใจฟลุกอย่างไงอย่างนั้นเลย  ผมพยักหน้ารับไปเล็กๆ   เพราะหน้าที่ของผมที่ทำได้ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการอยู่เป็นเพื่อน  คอยปลอบและให้กำลังใจฟลุก  ส่วนเรื่องที่เหลือนั้น  ผมก็เพียงแค่...  ไว้ใจพี่กิจ...  ก็เท่านั้นเอง...

ผมไว้ใจพี่นะครับ  ที่เหลือ...  ผมขอฝากพี่ด้วยนะ...


ผ่านไปสักพักใหญ่พี่กิจก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความวิตกอยู่เล็กน้อย  แต่พอพี่เขาเห็นว่าผมกำลังมองมา  พี่กิจก็ปรับสีหน้าให้ดีขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ ป้าภาเป็นไงบ้างครับพี่ “

“ ยายเป็นยังไงบ้างครับ “

“ เอ่อ.. ใจเย็นๆ นะ  ตอนนี้คุณป้าแกปลอดภัยดีแล้ว  แต่คุณหมอเขาขอให้นอนดูอาการต่ออีกสักหน่อยอะ  ก็คงจะต้องแอดมิทนะ “

พอได้ยินพี่กิจว่ามาอย่างนี้  ผมกับฟลุกก็เริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้างเล็กน้อย  จนฟลุกเองก็พอจะยิ้มออกมาได้บ้าง  ทั้งๆ ที่ตายังคงแดงก่ำจากการเสียน้ำตามาเป็นเวลานาน

พี่กิจพาเราไปยังห้องพิเศษที่ป้าภานอนพักอยู่  ซึ่งตอนนี้แกก็ยังคงไม่ได้สติอยู่เหมือนเดิม

ฟลุกนั่งกุมมือป้าภาเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง  เพราะถึงแม้ว่าที่ผ่านมาน้องเขาออกจะดื้อกับป้าภาแกไปบ้าง  แต่ลึกๆ แล้วฟลุกก็รักป้าภาไม่ต่างจากแม่ผู้ให้กำเนิดเลยแม้แต่น้อย

พี่กิจสะกิดบอกผมให้ออกไปคุยกับพี่เขาข้างนอกห้อง  ซึ่งผมก็ยอมเดินตามออกไปแต่โดยดี  เพราะดูท่าแล้วพี่เขาคงมีเรื่องอะไรที่ยังบอกพวกเราไม่หมด

“ ว่าไงครับพี่  ป้าภาแกเป็นอะไร “

เมื่อออกมานอกห้องแล้วผมก็ยิงคำถามขึ้นมาทันที

“ หมอบอกว่าอาจจะเป็นเพราะความดันเลยทำให้หน้ามืด  คือจากที่ทำซีทีสแกนแล้วก็ไม่พบอะไรที่ผิดปกติ  แต่ว่า...  เรื่องของโรคประจำตัวแกน่ะ  หมอเขาอยากให้ระมัดระวังเรื่องการทำงานและการดูแลสุขภาพให้มากขึ้นเป็นพิเศษ “

“ ป้าภา.. มีโรคประจำตัวด้วยเหรอ  ผม...  ไม่เห็นจะรู้เลย “

“ อ้าว...  นี่กันต์ไม่รู้หรอกเหรอ...  ว่าป้าเขาเป็นเบาหวานและความดันอะ  และยังต้องกินยาเป็นประจำด้วยนะ  จากประวัติการรักษาที่ผ่านมา “

“ ผม...  ไม่รู้หรอกครับพี่เรื่องพวกนั้น  ที่ผ่านมาป้าแกก็ไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของแกให้ผมฟังเลย  ผมเห็นแกออกจะขยันทำงานและดูแข็งแรงซะด้วยซ้ำไป  ไม่คิดว่า... “

“ ยายป่วยมากเหรอ....  ทำไม....  ยายไม่เคยบอกอะไรผมเลย “

เสียงฟลุกดังขึ้นมาจากทางด้านหลังให้ผมกับพี่กิจรีบหันขวับกลับไปมองทันที  ก่อนจะเห็นหน้าเสียๆ ของคนตรงหน้าพร้อมความวิตกกังวลในแววตาฉายออกมาให้เห็น

“ ฟลุก...  ฟังพี่นะ.. โรคที่ยายเป็นน่ะ  มันไม่ได้อันตรายมากนักหรอกถ้าดูแลตัวเองดีๆ  อย่างน้อยยายของฟลุกก็ไม่ได้เป็นโรคร้ายเหมือนอย่างที่พ่อพี่เป็นนะว่ามั้ย...  ดังนั้น...  ฟลุกไม่ต้องคิดมากนะ  ที่สำคัญ  ยิ่งรู้ว่ายายฟลุกป่วยแบบนี้แล้ว ต่อไปฟลุกก็ต้องปรับปรุงตัวเองให้ขยันขึ้น  จะได้ดูแลยายได้มากขึ้น..  เพราะเราโตแล้วนะ  นี่ก็จะขึ้นมอปลายแล้วใช่มั้ย  ดังนั้นห้ามขี้แยแล้วก็ต้องเข้มแข็งขึ้นเพื่อยายนะรู้มั้ย... “

ถึงจะบอกไปอย่างนั้น  แต่ผมก็รู้ดีว่าโรคพวกนี้ถ้าดูแลตัวเองไม่ดีมันจะอันตรายมาก  แต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกวิตกกังวลเหล่านั้นไว้ภายใน

“ จริงนะพี่กันต์  ถ้าฟลุกทำตัวดีขึ้นยายจะปลอดภัยใช่มั้ย “

“ จริงดิ  พี่เคยหลอกเราเหรอ “

“ ออกจะบ่อย.. “

แม้จะเป็นการแขวะเล็กๆ แต่เท่าที่ดูแล้ว  ฟลุกก็พอจะโอเคขึ้นมาบ้าง  ผมเอามือไปขยี้หัวน้องมันพร้อมกับยิ้มให้  ไม่นานฟลุกก็เดินกลับไปยังห้องพัก

“ เก่งจัง... “

เสียงพี่กิจดังขึ้นจากทางด้านหลังในระยะประชิด  ก่อนที่มือทั้งสองข้างของคนที่สูงกว่าจะมาสัมผัสบนไหล่ของผมอย่างเบามือ

“ นั่นสิครับ...  แต่ผมเชื่อนะว่าจากนี้ไปฟลุกคงจะดูแลป้าภาได้ดีมากขึ้นแน่ๆ “

“ พี่ไม่ได้หมายถึงฟลุก  พี่หมายถึงเราต่างหาก.... “

ผมหันกลับไปมองยังคนด้านหลัง  ซึ่งตอนนี้กำลังยืนแทบจะชิดกับตัวของผมอยู่แล้ว  พี่กิจส่งยิ้มมาให้อย่างละมุนก่อนจะเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ  ราวกับรู้ว่าผมเองก็ต้องการกำลังใจมากด้วยเช่นกัน

“ เคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ...  ว่าเวลาอยู่กับพี่อะ  ไม่ต้องแกล้งทำเป็นเก่งก็ได้  รู้สึกยังไงก็แสดงออกมาได้เลย “

ได้ยินมาอย่างนี้แล้ว  จู่ๆ นัยน์ตาของผมมันก็สั่นระเรื่อขึ้นมาทันที...

เฉพาะกับคนๆ นี้เท่านั้นที่ผมไว้ใจ  และกล้าพอที่จะเผยความอ่อนแอในใจออกมาให้เห็น...

เพราะผมรู้ไงครับ...  ว่าเขาจะอยู่ข้างกายและคอยปกป้องผมเอาไว้เสมอ....


“ ฮึกๆ...ฮึก... “

ผมสะอื้นตัวโยนพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสาย  เมื่อตอนนี้ผมไม่ต้องเก็บกดอะไรอีกต่อไปแล้ว

ผมกลัว  ผมกังวล  ผมไม่ได้เข้มแข็งเหมือนอย่างที่พยายามแสดงออกมาเลยแม้แต่น้อย...

ไม่นานพี่กิจก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้หลวมๆ ให้ผมได้ร้องไห้อยู่บนอกกว้างของเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย....




TBC.

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ดีๆ กันไว้นะเด็กๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 52



กันต์’s Part



เช้าวันต่อมาที่บ้านป้าภา

“ ไม่ได้หั่นอย่างนั้น....  นี่ดูนะ  ผมไม่สอนเป็นครั้งที่สิบแล้วนะ “

ป้าภาฟื้นตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ  แต่หมอยังให้นอนพักเพื่อดูอาการอีกสักสองวัน  ผมเลยอาสามาดูแลบ้านและแขกที่มาพักแทนให้ครับ  ส่วนฟลุกก็ไปนอนเฝ้าป้าภาตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว

“ เวอร์ไป  สอนพี่แค่ครั้งเดียวเอง  อีกอย่าง...  ก็พี่ทำอาหารไม่เป็นนี่ “

ผมกำลังเตรียมอาหารเช้าตามออเดอร์ที่แขกขอมาครับ  โดยมีพี่กิจมาคอยช่วยเป็นลูกมือ  แต่ใครจะไปคิดกันล่ะครับว่าคนที่เก่งไปซะทุกอย่างแบบพี่เขาจะมาตายง่ายๆ กับเรื่องในครัวแบบนี้

“ ห้องไหนนะ “

“ ก็ข้างห้องพี่อะ... เร็วๆ ด้วยเขารอนานแล้ว “

“ จ้าๆ...  บ่นเป็นแม่เลย “

“ อะไรนะ... “

“ เปล๊า....  พี่บอกว่าน่าอร่อยเหมือนแม่ทำเลย “


กว่า 8 โมงเช้าทุกอย่างก็เรียบร้อย  ผมทำข้าวต้มกุ้งไว้สำหรับผมและก็พี่กิจทานด้วย  โดยไม่ลืมที่จะแยกไว้สำหรับไปเยี่ยมป้าภาที่โรพยาบาลในช่วงสาย

“ อร่อยเหมือนเดิม..  เนี่ย... พี่ฝันไว้เลยนะว่าถ้าพี่มีแฟน  พี่อยากได้คนที่ทำอาหารอร่อยๆ  จะได้ขุนให้พี่อ้วนๆ ไง “

“ พูดมาก...  แต่ก็อย่างว่านะ  คนเจ้าชู้ก็มักจะคิดได้แต่กับเรื่องหาแฟนแค่นั่นแหละ “

“ เลิกไปนานแล้ว....  ไม่รู้เหรอ...?  หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่รู้...ฮึ.... “

“ จะไปรู้ได้ไงล่ะ  ก็มันเรื่องของพี่นี่ “

“ ให้จริงเห๊อ... “

ผมทำหน้ายักษ์ใส่ก่อนจะก้มลงสนใจอาหารตรงหน้าต่อครับ  แต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักตามมาด้วย  นี่ถ้าไม่ติดว่ามาช่วยผมในหลายๆ เรื่องนะ  รับรองมีด่ายับ  ชิส์

จริงๆ ผมก็ทำเป็นดุไปอย่างนั้นแหละครับ  เอาเข้าจริงแล้ว...  แหะ...ไม่กล้าหรอก  ก็อย่างที่รู้ๆ กัน  ว่าพี่กิจอะน่ากลัวจะตาย...
ช่วงสายเรามาเยี่ยมคุณป้าที่โรงพยาบาลกันครับ  พี่กิจแวะซื้อของเยี่ยมไปเพียบเลย  ก็ตามประสาคนรวยอะแหละ  ส่วนผมนี่ข้าวต้มทำเองกับมือเลยครับ  อร่อยกว่าแน่นอน

“ ไม่ต้องลำบากซื้อมาก็ได้  พรุ่งนี้ป้าก็ออกโรงพยาบาลแล้ว “

“ ใช่มั้ยครับ  นี่ผมก็บอกเขาไปแล้วนะป้าภา... “

ได้ทีผมก็แขวะให้พร้อมกับยู่หน้าใส่คนข้างๆ ครับ

“ กันต์ก็ไปว่าพี่เขา  นี่ถ้าป้าไม่ได้พี่เขาช่วยไว้  ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างเลย  ยังไงป้าก็ขอขอบใจเราอีกรอบนะ “

พี่กิจหันมาเลิกคิ้วใส่ผมบ้าง  ในขณะที่ผมก็ได้แต่จิ๊ปากตอบกลับไปได้แค่นั้น  เพราะต่อหน้าผู้ใหญ่มันก็ต้องเรียบร้อยเอาไว้ก่อนครับ

“ จริงๆ ถ้าเราบอกป้าว่าเป็นคนรู้จักกับกันต์ก่อน  ป้าจะได้ไม่คิดค่าห้องพัก  เพราะเจ้ากันต์ก็เหมือนหลานของป้าคนหนึ่งนั่นแหละ “

“ ไม่เป็นไรหรอกครับคุณป้า  ผมมาที่นี่ก็ไม่ได้บอกให้กันต์เขารู้ล่วงหน้าไว้ก่อนอยู่แล้ว “

“ แล้วตอนอยู่ที่กรุงเทพฯ พวกพี่สองคนพักอยู่ห้องเดียวกันเลยเหรอ “

ฟลุกที่กำลังนั่งกินข้าวต้มที่ผมทำมาเผื่อถามขึ้นมาบ้าง

“ ใช่.. “

พี่กิจขานรับไปครับ

“ แต่พี่ก็เป็นแค่ผู้อาศัยเขาน่ะฟลุก  ไม่มีสิทธิอะไรที่นั่นหรอก  ออกจะเป็นคนรับใช้ด้วยซ้ำไป “

“ ใครว่าล่ะ...  มีสิทธิทุกอย่าง...  รวมทั้งเจ้าของห้องด้วย “

ประโยคสุดท้ายนี่พี่กิจพูดเบาๆ ที่ข้างหูผมนะครับ  ผมเลยให้รางวัลไปโดยการบิดเข้าให้ที่สีข้างไปทีนึง

เห็นสีหน้าพี่เขาแล้วสะใจครับ  รู้ว่าเจ็บนะ  แต่เก็บอาการ...  พวกมีฟอร์มก็อย่างนี้แหละครับ 

“ นี่ถ้าฟลุกเข้ามหาลัยฯ ก็อยากลองเข้ากรุงเทพบ้างนะ  แต่ก็อดห่วงยายไม่ได้อยู่เหมือนกัน “

“ ไม่ต้องมาห่วงยายเลย  ตั้งใจสอบเข้าให้ได้ก็พอแล้ว  ยายแข็งแรงจะตายดูแลตัวเองได้ “

ป้าภาว่ามาครับ  ฟลุกก็เลยวางช้อนลงก่อนจะรีบกลืนข้าวลงคอและพูดขึ้นต่อ

“ ไม่ได้หรอก  ฟลุกบอกพี่กันต์แล้วว่าจากนี้ไปฟลุกจะเป็นคนดูแลยายเอง   ฟลุกก็ต้องทำให้ได้ดิ “

ได้ยินน้องมันว่ามาอย่างนี้แล้วผมก็หมดห่วงครับ  เพราะฟลุกเป็นคนที่มีนิสัยแน่วแน่มาก  คือเวลาจะทำอะไรสักอย่าง  ถ้าบอกว่าจะทำแล้ว  เขาก็จะต้องทำให้ได้เสมอ 

“ จ้ะ..  แล้วยายจะรอดูนะว่าพ่อคนเก่งจะทำได้เหมือนอย่างที่ปากว่ามั้ย  แต่ยังไงยายขอบอกไว้ก่อนเลยนะ  ว่ายังไงก็ต้องตั้งใจเรียนและสอบเข้ามหาลัยให้ได้  ส่วนเรื่องสุขภาพยายก็ไม่ต้องเป็นห่วง  ถ้าเราขยันขึ้นยายสัญญาว่าจะดูแลสุขภาพให้มากขึ้นตามไปด้วย “

“ สัญญาแล้วนะยาย  ดังนั้นต่อไปห้ามหักโหมทำงานด้วยล่ะ “

“ นั้นเอาไว้ถ้าฟลุกได้เข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ แล้วก็ติดต่อพี่มานะ  เดี๋ยวพี่จะช่วยจัดการเรื่องต่างๆ ให้ “

พี่กิจว่ามาครับ  ซึ่งถ้าพี่กิจรับปากมาแบบนี้แล้ว  บอกได้เลยครับว่า... สบายแน่ฟลุกเอ้ย....

“ จริงนะพี่  นั้นอีก 4 ปีผมจะตามพวกพี่ไปแน่ๆ “

“ เรานี่ก็เอ๊อ.... ไปรบกวนพี่เขา “

ป้าภาเอ็ดขึ้นมาครับ

“ ไม่เป็นไรครับคุณป้า  ฟลุกเป็นเด็กน่ารัก  ผมเองก็เต็มใจช่วยอยู่แล้ว “

“ เห็นมั้ยยาย  ใครๆ ก็ชมผมว่านิสัยดี “

“ จ้ะ...  ดีให้ตลอดนะเจ้าตัวดี “

จากนั้นพวกเราก็พากันหัวเราะกันยกใหญ่  ซึ่งจะว่าไปอุบัติเหตุคราวนี้ก็มีเรื่องดีในความโชคร้ายนะครับ  เพราะอย่างน้อยฟลุกเองก็จะได้เข้าใจอะไรมากขึ้นและตั้งใจทำอะไรเพื่อใครสักคน  จากที่เมื่อก่อนได้แต่ใช้ชีวิตเล่นๆ ไปวันๆ เพียงแค่นั้น

สักพักผมกับพี่กิจก็ต้องพากันกลับครับ  เพราะที่บ้านป้าภาไม่มีคนอยู่เลย  ช่วงนี้ผมเลยต้องมาทำหน้าที่ดูแลให้ไปพลางๆก่อน  จนกว่าป้าภาจะหายดี  แต่ว่า...  ไม่ใช่มีแค่ผมนะครับที่ขันอาสา  พ่อคุณชายเองก็ด้วย  งานนี้ผมขอแกล้งหน่อยก็แล้วกัน  อยากรู้เหมือนกันครับว่าคุณชายที่ปกติไม่ค่อยได้ทำอะไร  จะมาทำงานบริการแบบนี้ได้มั้ย  อิอิ



.............................


ช่วงบ่าย...

“ ห้องนั่งเล่นรวมก็เหมือนล๊อบบี้โรงแรมนะพี่  ต้องทำให้สะอาดนะ  เนี่ยๆ... ตรงนี้ยังไม่ได้เช็ดเลย.. “

“ จ้า.... “


….


“ พี่กิจ  ห้องน้ำอะ  มันต้องทำความสะอาดทุกวันนะพี่  นี่มันโฮมสเตย์นะไม่ใช่โรงแรม  ห้องน้ำมันมีจำกัดและก็ใช้ร่วมกัน  มันเลยต้องสะอาดตลอด “

“ จ้า.... “


….


“ พี่กิจ..  ระเบียงนั่งเล่นหลังบ้านอะ  ใบไม้เกลื่อนเลย “

“ แต่พี่พึ่งกวาดไปเมื่อกี้เองนะ “

“ ก็ใบไม้มันตกมาเพิ่มอะ....  จะทำไม่ทำ...  ไหนว่าทำได้ทุกอย่างไง... “

“ จ้าๆ  ไปทำให้ละคร้าบ... “

อิอิ


....


ช่วงค่ำ

หลังจากจัดการเรื่องมื้อค่ำของแขกแล้ว  ผมก็กลับเข้ามาในครัวเพื่อเตรียมทำมื้อพิเศษให้กับบางคนเสียหน่อย  ก็อุตส่าห์โดนผมแกล้ง...เอ้ย! ช่วยงานผมซะขนาดนั้น  ก็ควรจะทำอะไรตอบแทนให้เขาบ้างใช่มั้ยล่ะครับ  ซึ่งเมนูที่ผมคิดเอาไว้ก็จะมี  ไข่เจียวหมูสับ  ผัดผักรวมใส่กุ้ง  และต้มยำปลากะพง  ซึ่งวัตถุดิบต่างๆ ผมก็ตั้งใจซื้อมาเตรียมไว้ให้แล้วเมื่อตอนเย็นที่ไปตลาด

แต่พอจะเริ่มทำเท่านั้นแหละครับ.... 

เชี่ยไข่ไม่มี...  คือพอดีแขกที่มาพักดันขอไข่เจียวเพิ่ม  และดันเป็นสองฟองสุดท้ายที่เหลืออยู่  ครั้นจะใช้พี่กิจไปซื้อให้ก็เกรงใจครับ  เพราะเอาเข้าจริง  พี่เขาก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว  และตอนนี้ก็กำลังนอนเอกเขนกอยู่ที่ห้องนั่งเล่นดูทีวีอยู่เพลินๆ เลยไม่อยากจะรบกวนเวลาพัก  ถ้าอย่างนั้นผมออกไปซื้อเองจะดีกว่า

“ พี่กิจ  ผมไปซื้อไข่ที่ร้านหน้าปากซอยแปบนะ “

“ ให้พี่ไปซื้อให้มั้ย “

“ ไม่ต้องหรอก  พี่อยู่นี่แหละ  ไม่มีคนอยู่บ้าน “

ผมบอกไปอย่างนั้น  ทั้งๆ ที่ความจริงคือไม่อยากให้พี่เขาเหนื่อยไปมากกว่านี้แล้วล่ะครับ

สักพักหนึ่งหลังจากที่ออกบ้านมา  ผมก็ได้ไข่มาจากร้านขายของชำตรงหน้าปากซอย  ซึ่งไกลจากบ้านป้าภาไปกว่า 500 เมตรเห็นจะได้  อาจจะดูเหมือนว่าไกลนะครับ  แต่เพราะว่ามันชินแล้วกับเส้นทางนี้ที่ผมใช้มาตั้งแต่ผมยังเด็ก  มันเลยดูเหมือนไม่ไกลเลยในความคิดผม  ซึ่งแม้ว่าช่วงค่ำแบบนี้มันออกจะมืดไปสักหน่อยเพราะบ้านแต่ละหลังนั้นอยู่ห่างกันไปเป็นระยะๆ  แต่บอกได้เลยครับว่าอากาศเย็นๆ จากลมที่พัดเข้ามากระทบร่างตลอดเวลาแบบนี้  มันทำให้ผมสามารถเดินได้เพลินจนลืมความเหนื่อยไปเลยล่ะครับ

เดินชิลๆ มาได้สักพัก  เรื่องไม่คาดคิดว่าจะเจอในพื้นที่ที่คุ้นเคยแบบนี้ก็เกิดขึ้น  เมื่อจู่ๆ มีมือหนาสกปรกเข้ามาล็อคตัวผมเอาไว้จากทางด้านหลัง  ก่อนที่บริเวณลำตัวจะสัมผัสได้ถึงวัตถุปลายแหลมบางอย่างจี้เอาไว้ให้ผมหยุดที่เคลื่อนไหวแทบจะในทันที

“ เงียบๆ! ห้ามส่งเสียงดังนะ  มีของมีค่าอะไรก็ส่งมาให้หมด “

เชี่ย...  ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย...  เรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับผมได้ยังไง

“ จะ..ใจเย็นๆ ครับพี่ คือผมไม่มีของมีค่าอะไรติดตัวมาเลยอะครับ “

“ กูไม่เชื่อ! จะส่งมาดีๆ  หรือว่าอยากเจ็บตัวก่อน “

ทันทีที่เขาพูดจบผมก็สัมผัสได้ถึงปลายมีด( ซึ่งผมคิดว่าเป็นมีดนะครับ  เพราะผมไม่กล้าหันกลับไปมอง)  ขยับเข้ามาจิ้มตัวผมผ่านเสื้อมากยิ่งขึ้น

“ โอเคๆ ครับ  พี่ใจเย็นๆ ก่อนนะ  เดี๋ยวผมเอาของที่มีอยู่ให้ “

“ เร็วๆ  อย่าคิดตุกติกนะมึง  ไม่งั้นกูแทงแน่ “

ผมค่อยๆ เอามือข้างที่ยังว่างอยู่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง  เพื่อหยิบเอากระเป๋าสตางค์ออกมา  ก่อนจะชูขึ้นและถูกหยิบออกไปอย่างรวดเร็วจากคนด้านหลัง

“ โอเคแล้วนะครับ  ถ้างั้นพี่ก็ปล่อยผมไปนะ “

“ โทรศัพท์  นาฬิกา  เอามาให้หมด “

“ ผมแค่ออกมาซื้อของเองครับ  เลยไม่ได้พกโทรศัพท์ติดมาด้วย  ส่วนนาฬิกานี่ก็ไม่ได้มีราคาอะไรเลย  เอาไปพี่ก็ขายไม่ได้หหรอกครับ “

“ กูบอกให้เอามาเร็ว ! “

“ คะครับ “

เมื่อปลายมีดกดลงมามากกว่าเดิมจนราวกับว่ามันจะทะลุเสื้อเข้ามาได้แล้ว  ผมก็เริ่มกลัวและตัวสั่นมากขึ้น

นี่มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้วนะครับ...  ผมกำลังถูกจี้จริงๆ !!

ผมเอามือล้วงเข้าไปเอาโทรศัพท์ออกมาก่อนจะถูกชกออกไปจากมือแทบจะในทันทีที่พ้นออกมาจากกระเป๋ากางเกง  จากนั้นผมก็กำลังจะปลดนาฬิกาออก  เพียงแต่ว่า...  ถ้าผมทำตามคำสั่งทุกอย่างแล้ว  ผมจะปลอดภัยจริงๆ อย่างนั้นเหรอ...  อะไรจะมาการันตีได้ละครับว่ามันจะไม่คิดทำร้ายผมเพื่อปิดปาก

“ ผมถอดไม่สะดวกอะครับ  พี่ล็อคผมเอาไว้ซะแน่นขนาดนี้  ขยับตัวออกนิดนึงได้มั้ยครับ “

“ อย่าลูกเล่นนะมึง “

“ พี่มีมีด  ผมไม่กล้าหรอกครับ “

ว่าแล้วมันก็ขยับตัวออกจากด้านหลังเล็กน้อย  และคลายวงแขนที่ล็อคตัวผมออกมาอีก  แต่มีดก็ยังคงจ่ออยู่ที่สีข้างของผมอยู่เหมือนเดิม

ผมปลดนาฬิกาออก  ก่อนจะแกล้งทำมันตกลงไปบนพื้น

“ ทำอะไรของมึงวะ “

“ ขอโทษครับ  มือมันสั่นอะ... “

จากนั้นผมก็รู้สึกได้ว่ามันกำลังย่อตัวลงเพื่อหยิบนาฬิกาที่ตกอยู่บนพื้น  และปลายมีดก็ดูเหมือนว่าจะห่างจากตัวผมอยู่พอสมควร  และไม่ต้องคิดนานไปมากกว่านี้  ผมก็ใช้แรงที่มีทั้งหมดสะบัดตัวและผลักมันล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้นทันที  ก่อนจะได้เห็นใบหน้าเถื่อนๆ ที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน  และแน่นอนว่ามันไม่ใช่คนแถวนี้แน่นอน  มันถลึงตามองผมพร้อมกับสบถออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด  ไม่รอช้าผมก็รีบวิ่งออกไปแทบจะในทันทีท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงไฟจากเสาส่องสว่างที่อยู่ห่างออกไปเป็นระยะๆ  ซึ่งบ้านหลังที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้นก็อยู่ห่างออกไปอีกกว่าหนึ่งร้อยเมตรข้างหน้า 

ผมจะหยุดวิ่งไม่ได้โดยเด็ดขาดครับ  ไม่อย่างนั้นผมอาจจะกลายเป็นศพอยู่แถวนี้ก็ได้

ขณะที่เสียงฝีเท้าด้านหลังไล่ตามผมมาติดๆ  ไม่ไกลมากข้างหน้าก็เห็นแสงไฟจากหน้ารถสาดเข้ามากระทบร่างให้รู้สึกใจชื้นขึ้นมาแทบจะในทันที  และยิ่งพอได้เห็นว่ารถที่เข้ามาจอดเทียบข้างๆ เป็นรถหรูสีดำที่คุ้นเคย  นั่นก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกถึงความปลอดภัยมากขึ้นไปอีก

พี่กิจรีบลงมาจากรถทันที  ทว่าคนร้ายที่ไล่ตามมาก็ไม่คิดจะหนีไปแต่อย่างใด  ยังคงวิ่งตรงเข้ามาหาอย่างไม่หยุด

“ ชะช่วยด้วยพี่กิจ.. “

ผมจับแขนพี่กิจเอาไว้  ก่อนที่พี่เขาจะดันผมออกห่างไปด้านหลังเพื่อความปลอดภัย  แล้วรีบยันเท้าไปที่คนตรงหน้าที่พุ่งเข้ามาพร้อมกับมีดพับเล่มเล็กทันที

ผลัก!!!

เสียงร่างเถื่อนกระแทกพื้นดังสนั่น  ไม่รอช้าพี่กิจก็รีบเข้าไปเตะซ้ำเข้าที่ข้อมือขวาซึ่งกำมีดพับนั้นไว้อยู่   จนคนร้ายที่ไม่ทันจะได้ตั้งตัวถึงกลับละมือออกจากมีด  และปล่อยให้มันกระเด็นออกไปห่างจากตัวพร้อมกับเสียงโอดครวญที่แสดงถึงความเจ็บปวด
เมื่อไร้ซึ่งอาวุธพี่กิจก็ไม่รอช้าเข้าไปคร่อมร่างนั้นไว้ก่อนจะตามด้วยหมัดหนักๆ อย่างที่ผมจินตนาการถึงความเจ็บปวดนั้นไม่ออกอีกกว่า 3 ถึง 4 หมัด  จนโจรคนดังกล่าวมีสภาพที่เห็นได้ชัดว่าคงจะไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว  ไม่ว่าจะหน้าที่แตก  เลือดกำเดาที่ออกจมูก  และปากที่แตกจนเลือดเกรอะกรังไปทั่วใบหน้า

พี่กิจกระชากคอเสื้อคนร้ายซึ่งดูเหมือนจะไร้ซึ่งสติไปแล้วขึ้นมา  พร้อมทั้งทำท่าง้างหมัดสุดท้ายที่ผมคิดว่ามันคงจะหนักมากอย่างถึงที่สุด จนผมต้องเข้าไปรั้งแขนแข็งแรงนั้นเอาไว้ก่อน  เพราะกลัวว่าถ้าทำอะไรไปมากกว่านี้  มันอาจจะเป็นเรื่องร้ายแรงขึ้นมาก็เป็นได้

“ พอเถอะครับพี่ !!!  แค่นี้มันก็ดูจะไม่ไหวแล้ว  เดี๋ยวมันจะตายซะก่อนนะ  แล้วพี่จะเดือดร้อนเอา “

พี่กิจเหลือบกลับมามองที่ผมด้วยสายตาดุคมตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น  ก่อนจะหันกลับไปมองสภาพของคนตรงหน้าที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไปแล้ว  และผลักมันลงไปนอนกองอยู่บนพื้นตามเดิม

พี่กิจลุกขึ้นมาจากร่างของคนร้าย  ก่อนจะหันมาหาผมด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความเป็นห่วงและอ่อนโยนอย่างเทียบไม่ได้กับเมื่อสักครู่นี้  พร้อมทั้งเอ่ยถามผมขึ้นทันที

“ เป็นอะไรมั้ย  มันทำอะไรรึเปล่า  ได้แผลตรงไหนมั้ย  แล้วเกิดอะไรขึ้น “

“ มะไม่เป็นไรครับพี่  ผมปลอดภัยดี  แต่ของๆ ผม... “

“ รอนี่นะเดี๋ยวพี่ไปเอาให้ “

ว่าจบพี่กิจก็เข้าไปค้นตัว  และเอาของๆ ผมคืนมาได้จนครบ  ก่อนจะกดโทรศัพท์เพื่อโทรแจ้งตำรวจ  ซึ่งระหว่างนั้นพี่กิจก็เข้ามาสำรวจตัวผมเพื่อดูว่าได้รับบาดเจ็บอะไรตรงไหนรึเปล่า  แต่ก็ไม่พบ  จะมีก็เพียงแค่อาการตัวสั่นที่ยังคงหลงเหลืออยู่บ้างเล็กน้อย..

“ ไม่เป็นไรแล้วนะ  พี่อยู่ตรงนี้แล้ว.... ไม่ต้องกลัวนะ “

อ้อมกอดอบอุ่นและปลอดภัยที่สุดได้เข้ามาโอบอุ้มร่างผมเอาไว้  แล้วจู่ๆ น้ำตาผมมันก็ไหลออกมาเสียอย่างนั้น

ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้กันต์  เวลาที่พี่เขามาทำแบบนี้ทีไร  ทำไมจิตใจของผมถึงได้อ่อนแอกว่าปกติไปซะทุกทีเลย... ให้ตายสิ...
แต่ผมก็ไม่สนอะไรแล้วครับในตอนนี้  ใครจะเห็นหรือว่าอะไรก็ช่าง  ผมก็เลือกที่จะโอบกอดร่างสูงกว่าตรงหน้ากลับในทันที  ก่อนจะทำให้เสื้อยืดสีขาวต้องเปียกไปด้วยน้ำตาที่มันไหลออกมาอย่างไม่หยุดในตอนนี้

แต่ทว่า...  หนังฝรั่งมันก็มักจะมีตอนจบที่หักมุมอยู่เสมอ  และเรื่องนี้เองก็เช่นกัน..

“ ระวัง!!!  โอ้ย!! “

เสียงพี่กิจร้องขึ้นก่อนจะเบี่ยงตัวผมออกไปด้านข้างเพื่อหลบมีดพับที่พุ่งตรงเข้ามา  แต่ตัวเองกลับถูกคมมีดบาดเข้าให้ที่ต้นแขนแทนที่จะเป็นตัวผม

“ พี่กิจ!! “

ผมร้องเสียงหลงในทันทีที่รู้ว่าพี่กิจได้รับบาดเจ็บ  ทว่าพี่เขากลับดูจะมีสติมากกว่าที่ใช้มือซ้ายข้างที่เจ็บคว้าเอาข้อมือที่กุมมีดไว้ของคนร้ายก่อนจะบิดมันจนผู้ถูกกระทำร้องเสียงหลงและปล่อยมีดตกลงบนพื้น  จากนั้นหมัดขวาที่รวดเร็วก็สวนเข้าให้ที่ขมับของคนร้ายจนแน่นิ่งลงไปนอนกองบนพื้น

“ เป็นยังไงบ้างพี่กิจ.... “

ผมถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นเลือดแดงฉานไหลลงอาบแขนซ้ายของพี่เขา

“ ไม่เป็นไรหรอก  แผลแค่นี้เอง  เข้าไม่ลึกหรอก “

“ ไม่ลึกอะไรพี่  เลือดออกเยอะซะขนาดนี้ “

“ พี่ไม่เป็นไรจริงๆ  ไม่ต้องห่วงนะ...  “

ถึงพี่เขาจะพูดมาอย่างนั้น  แต่ผมก็อดกังวลใจไม่ได้อยู่ดี  ประจวบกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถเข้ามาถึงยังที่เกิดเหตุ  แล้วเรื่องทุกอย่างก็ดูจะคลี่คลายลง  คนร้ายถูกจับกุม  พี่กิจถูกพาไปทำแผลที่โรงพยาบาลใกล้ๆ  ก่อนจะไปที่ สน. กับผมเพื่อให้ปากคำ  ถึงจุดนี้พวกเราถึงได้รู้ว่าคนร้ายไม่ใช่คนในพื้นที่  แต่มีหมายจับข้อหาชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายติดตัวอยู่  ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการหลบหนี

หลังจากที่ให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่เสร็จเรียบร้อย  บรรดานักข่าวมากมายที่ประจำอยู่ที่ สน. ต่างก็เข้ามารุมถ่ายรูปพวกเราขณะที่กำลังเดินออกจาก สน.  ซึ่งพี่กิจก็เลือกที่จะไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น  ซึ่งจุดนี้ผมก็เข้าใจนะครับ  แม้ว่าคดีจะไม่ใช่คดีใหญ่โตอะไร  แต่เพราะหนึ่งในผู้เสียหายเป็นนาย กรกิจ พานิชยไพศาล  รับรองได้ว่าถ้าเป็นข่าวออกไปจะต้องเป็นที่สนใจของสังคมอย่างแน่นอน

พี่กิจจูงมือผมกลับเข้ามาภายในรถก่อนจะกดโทรศัพท์หาใครบางคน  แล้วเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียด

“ ยังไงผมฝากพี่สิทธิช่วยเคลียร์ข่าวให้ด้วยนะครับ  แล้วเรื่องนี้...  ขออย่าให้พ่อกับแม่รู้นะครับ...ผมไม่อยากให้เป็นห่วง    โอเคครับ  ขอบคุณนะครับพี่สิทธิ “

จบประโยคพี่กิจก็วางสายไป  ก่อนจะหันมาอมยิ้มให้ผมแล้วพูดขึ้น

“ หมดเรื่องแล้วนะ  กลับบ้านกัน... “



...............

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
ที่บ้าน...

“ นอนที่บ้านป้าภาก็ได้นี่  ห้องที่นั่นสบายกว่าที่นี่ตั้งเยอะ “

ผมที่กำลังเปิดประตูบ้านพูดขึ้นมาครับ  เพราะก่อนหน้านี้พี่เขาเอาแต่อ้อนขอมานอนกับผมด้วยที่นี่

“ ก็บอกแล้วไงว่าพี่เจ็บแผลมาก  ต้องการคนดูแลนะ “

“ ไหนว่าไม่เป็นไรไง  แถมดูแล้วก็ไม่น่าจะเจ็บอะไรมากด้วย “

“ ก็ตอนนั้นมันไม่เจ็บนี่  แต่ตอนนี้ท่าทางจะเริ่มอักเสบแล้วอะ โอ้ยๆ... “

“ สำออย!!! “

แม้จะรู้ว่าพี่เขาแกล้งเจ็บ  แต่ผมก็ต้องตามใจไปอย่างนั้นแหละ  เพราะถึงยังไงพี่เขาก็เป็นคนช่วยผมเอาไว้  และยังต้องมาเจ็บตัวเพราะผมอีก  ยังไงช่วงนี้ก็คงต้องยอมตามใจคุณชายท่านหน่อยแล้วกันครับ


..................


ที่ห้องนอนผม

“ บ้านผมมีตั้ง 3 ห้อง  ทำไมพี่ต้องมานอนเบียดผมด้วยเนี่ย  เตียงก็มีอยู่แค่นี้ “

ผมพูดขึ้นหลังจากที่พึ่งอาบน้ำเสร็จและเดินกลับเข้ามาภายในห้อง  ก่อนจะพบคุณชายที่ใส่เสื้อยืดสีเทากับบ๊อกเซอร์สีขาวกำลังนั่งเล่นไอแพดอยู่บนเตียง

“ ก็ถ้าพี่นอนที่อื่นแล้วใครจะดูแลพี่ล่ะ  นี่เราติดหนี้พี่อยู่นะ ไม่สนใจคนป่วยบ้างเลยเหรอ “

“ ชิส์  น่าจับไปนอนโรงพยาบาลซะเลย “

“ ใจร้ายที่สุด “

ผมเอาผ้าเช็ดตัวไปตากที่ระเบียงห้อง  ก่อนจะกลับเข้ามาเห็นพี่กิจที่วางไอแพดลง  และกำลังยิ้มหวานส่งมาให้  ก่อนจะตบเตียงเบาๆ เพื่อเรียกผมให้ไปนอนด้วย

“ อนุญาตแค่นอนนะ  ห้าม.. “

ไม่กล้าพูดสิ่งที่คิดอยู่เลยครับ...

“ ห้าม...? “

แหมทำเป็นอินโนเซ้นต์...  ทั้งๆ ที่ตัวเองออกจะโชกโชนเลยแท้ๆ

“ ก็...  ห้ามทุกอย่างไง.. “

“ อื้ม... “

“ อื้มนี่ถือว่าสัญญาแล้วนะ “

“ หืม.... “

ดูสิครับ  กวนตีนที่สุดอะคนเรา   

ผมปิดไฟก่อนจะแทรกตัวเข้ามาใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับพี่กิจ  ก่อนจะนอนตะแคงหันหลังให้และหลับตาลง  แต่ทว่า...  ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน  มันก็ไม่ยอมหลับลงไปได้สักที

“ นอนไม่หลับเหรอ “

เสียงพี่กิจดังขึ้นมาจากในความมืดครับ

“ รู้ได้ไงว่านอนไม่หลับ “

“ พี่เก่ง... “

“ ตัวเองก็นอนไม่หลับเหมือนกันนั่นแหละ “

“ ไม่ใช่นอนไม่หลับ  แต่แค่ยังไม่อยากนอนเฉยๆ “

“ อ้างตลอด “

“ ว่าแต่เราเหอะ  ทำไมถึงนอนไม่หลับ “

“ ไม่รู้ดิ อาจจะเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ล่ะมั้ง... “

“ กลัวเหรอ  ไม่บอกพี่ล่ะ  พี่จะได้.. “

พี่กิจขยับตัวเข้ามาใกล้และทำท่าว่าจะเข้ามากอดผมครับ  แต่ถูกผมห้ามเอาไว้เสียก่อน

“ หยุดเลย...!   บอกแล้วไง  อนุญาตให้แค่นอนด้วยเฉยๆ “

“ คร้าบๆ... ไอ้เราก็อุตส่าห์หวังดี “

“ หวังดีหรือฉวยโอกาสกันแน่  ชิส์ “

จากนั้นเราก็เงียบกันไปอีกครู่หนึ่ง  ก่อนจะเป็นผมเองที่เริ่มพูดขึ้นก่อนบ้าง

“ พี่กิจหลับยัง.... “

“ ทำไม... เปลี่ยนใจอยากให้พี่มากอดแล้วเหรอ “

ผมถอนหายใจออกให้อย่างหน่ายๆ กับความหื่นกระหายของคุณชายท่าน  ซึ่งเชื่อว่าหลายๆ คนคงคาดไม่ถึง  จะมีก็แต่ผมเนี่ยแหละที่รู้ดีที่สุด  ว่ามาดสุขุมเย็นชาตาร้ายของพี่แกจริงๆ แล้วนั้น  ข้างในมันมีแต่ความหื่นกระหายล้วนๆ เลยครับ

“ บ้าดิ  แค่อยากจะบอกว่า...  ขอบคุณนะที่ช่วยผมวันนี้ก็เท่านั้น “

“ ไม่ใช่แค่วันนี้หรอก  แต่ต่อจากนี้ไปต่างหาก...  พี่จะเป็นคนที่คอยอยู่ปกป้องเราเองนะ “

โชคดีนะครับที่อยู่ในความมืดและผมก็นอนหันหลังให้อยู่  ไม่เช่นนั้นพี่เขาคงเห็นว่าผมได้เผลอยิ้มออกมาจนหุบมันลงไปไม่ได้แล้วล่ะครับ

“ กันต์...  พี่ว่า...  เราเลิกงอนกันได้แล้วนะ  กลับมาดีกันเหมือนอย่างเก่าเนอะ “

“ ……. “

“ พี่รู้นะ.... ว่าจริงๆ แล้วเราเองก็หายโกรธพี่มานานแล้ว  ดังนั้น... เราจะมามัวตั้งแง่กันไปทำไม  แทนที่จะได้ใช้เวลาต่อจากนี้เพื่อหาความสุขกันไม่ดีกว่าเหรอ “

“ ก็พี่อะ...  แกล้งผมตลอด  คราวนี้ผมจะเอาคืนพี่บ้างไม่ได้เลยรึไง “

“ ได้สิ  จากนี้ต่อไปพี่จะยอมเราตลอดเลย  ขอแค่กลับมาเป็นเหมือนเดิมกันนะ “

“ แน่ใจนะที่พูดอะ “

“ ที่สุดเลย... “

“ ถ้างั้นก็..  อย่าทำให้ผมเสียใจอีกนะ “

“ นั้นก็แปลว่า...  หายโกรธพี่แล้วนะ “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่พยักหน้ารับไปในความมืดแค่นั้น

“ นั้นเราดีกันแล้วใช่มั้ย “

ผมก็ยังคงพยักหน้ารับไปเหมือนเดิม

“ ถ้างั้นเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมกันนะ “

“ อือ....  พูดมาก... “

ผมพูดตัดรำคาญให้กับน้ำเสียงและท่าทีตื่นเต้นของพี่กิจที่นอนอยู่ข้างๆ  ก่อนจะสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดอุ่นๆ ที่ผมไม่ทันจะได้ตั้งตัว

“ อ่าวเห้ย !  ทำไรของพี่อะ “

“ ก็เป็นเหมือนเดิมไง  เราบอกเองนะ...  ดังนั้นพี่ก็สามารถกอดเราได้เหมือนเดิมไม่ใช่เหรอ “

“ ใช่ที่ไหน... “

“ แต่เราเป็นคนพูดเองนะ “

“ เขยิบไปเลย.... ไอ้คนฉวยโอกาส “

“ อุ่นจัง  นุ่มด้วย  หอมด้วย  ไม่ได้กอดแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วน้า... “

“ ฟังกันบ้างสิเห้ย... “

“ ดิ้นไปก็เท่านั้น...  ไม่หลุดหรอก... “

ก็จริงครับ...  ถ้างั้นก็เลิกดิ้นจะดีกว่า  แต่จะว่าไป  ลึกๆ ในใจแล้ว  ผมก็รอคอยอ้อมกอดนี้มาโดยตลอดด้วยเช่นกัน...

ดังนั้นตอนนี้ก็เลย....
 
ไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้วล่ะครับที่จะหนี.....





TBC.

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
Chapter 53



กันต์’s  Part



เช้าวันต่อมา..

ผมที่กำลังนอนขดตัวซุกอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่นสบาย  ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาอย่างไม่ค่อยอยากจะตื่นสักเท่าไหร่  จนลืมไปเลยว่า...

“ หลับสบายมั้ย “

เสียงพี่กิจดังขึ้นมาอย่างนุ่มนวลอยู่เหนือหัวผม  ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็หมายความว่า.... ตอนนี้ผมกำลัง...

ชัดเลยครับ...
 
ซุกอยู่บนแผ่นอกกว้างของพี่เขา...

ผมผละตัวออกมาทันทีโดยอัตโนมัติ  ก่อนจะบ่นอุบขึ้นมาพร้อมกับมองไปยังหน้าทะเล้นตรงหน้า

“ ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกอะ  เช้านี้ต้องรีบไปบ้านป้าภาเตรียมอาหารเช้าให้แขกนะ “

“ ยังไม่ 6 โมงเลย  อีกตั้ง 10 นาที  จะรีบไปไหน “

“ ก็... มันต้องใช้เวลา  เดี๋ยวก็ไม่ทันกันพอดี  แล้วนี่ก็ลุกเลย  ไปช่วยผมด้วย “

“ คร้าบ...   อีกนิดก็ไม่ได้  กำลังสบายเลย  โอ้ย! “

ว่าแล้วผมก็หยิบเอาหมอนที่อยู่ใกล้ๆ มาตีพี่เขาไปเบาๆ ทีนึง  ก่อนจะแอบยิ้มแล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำไป


หลังจากจัดการเรื่องต่างๆ ที่โฮมสเตย์เสร็จ  ช่วงสายผมกับพี่กิจก็ต้องไปรับป้าภาที่โรงพยาบาลครับ  พี่กิจอาสาจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้  แม้ว่าป้าภาจะปฏิเสธด้วยความเกรงใจก็ตาม  แต่คุณชายท่านก็บอกเพียงแค่ว่าไม่เป็นไรครับ  แหงล่ะ..  ถึงจะเป็นโรงพยาบาลเอกชนแต่ระดับคุณชายท่าน  แค่นี้ขนหน้าแข็งไม่กระดิกเลยด้วยซ้ำ

ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ให้ป้าภาฟัง  แกดูจะเป็นห่วงและตกใจมาก  แถมยังย้ำไม่ให้พวกเราออกไปไหนมาไหนตอนดึกๆ ในช่วงนี้ด้วย  แม้ผมจะบอกไปว่าคนร้ายเป็นคนต่างถิ่นที่แอบหนีเข้ามากลบดานอยู่ที่นี่ก็ตาม  แต่แกก็ยังคงไม่วางใจอยู่ดีครับ
ทุกอย่างดูจะผ่านไปได้ด้วยดี  และช่วงนี้ผมก็ขอให้ป้าภาพักผ่อนไปก่อน  ส่วนเรื่องงานต่างๆ พวกผม 3 คนจะช่วยกันจัดการให้เอง  แต่ดูท่าแล้วแกเองก็คงเกรงใจบวกกับคนที่เคยทำงานอยู่เป็นประจำ  พอจะให้มานั่งๆ นอนๆ อย่างเดียว  มันก็คงจะรู้สึกไม่ชินนั่นแหละ  แกเลยลุกมาทำบ้าง  แต่ก็เป็นอะไรที่มันไม่หนักมาก  เพราะพวกเราโดยเฉพาะฟลุกสั่งห้ามเอาไว้โดยเด็ดขาด  จนกว่าสุขภาพของแกจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม

ตลอดทั้งวันพี่กิจคอยเอาแต่นัวเนียเกาะติดผมตลอดเลย  ไม่ว่าผมจะไปไหน  ทำอะไร  ก็จะตามมาด้วยเสมอ  จนถึงตอนเย็นที่ผมกลับเข้าบ้านตัวเองมา  พี่เขาก็ยังคงตามมาด้วยเหมือนเดิม

“ กันต์...  ค่ำนี้เราไปหาข้าวข้างนอกกินกันเนอะ “

พี่กิจที่นั่งเล่นอยู่ที่ชิงช้าว่ามา  ในขณะที่ผมกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่

“ ยังไงก็ได้พี่  แต่ต้องบอกป้าภาก่อนนะ กลัวแกจะรอกินข้าวอะ “

“ พี่บอกไปแล้ว...  แถมยังบอกด้วยว่าพี่จะย้ายมานอนที่บ้านเราด้วย  ส่วนห้องนั้นก็ปล่อยให้ว่างได้เลย “

“ ใครอนุญาตไม่ทราบ “

“ อ่าว...  พี่ยังต้องขออีกเหรอ... “

แหมทำเสียงอ่อนพร้อมกับตาตกซะด้วยนะคนเรา  เดี๋ยวนี้รู้สึกพี่เขาจะเล่นละครเก่งขึ้นมากเลยล่ะครับ

“ ก็ได้ๆ...  แหม...ยิ้มทันทีเชียวนะ “

“ เอ๊า...  ก็คนมันดีใจนี่  จะให้พี่ร้องไห้เหรอ “

กวนดีนักนะคร้าบคุณชาย....  นั้นต้องเจอแบบนี้....

ว่าแล้วผมก็หันสายยางเปลี่ยนเป้าหมายจากต้นไม้ตรงหน้าไปยังพี่กิจทันที  พี่เขาโวยวายและลุกหนีทันที  แต่คนอย่างพี่กิจมีหรือจะยอมคนง่ายๆ  ก่อนจะเร่งฝีเท้าพรวดพราดเข้ามาหาผมในทันที

“ จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ย... หึๆ  ได้.... “

พี่กิจยื้อสายยางจากมือผมไป  แต่ผมก็ไม่ยอมปล่อยให้ง่ายๆ หรอกครับ  ไม่งั้นไม่รอดแน่...

“ ฮะๆๆ  ไม่เอาพี่กิจ  มันเปียก “

“ เด็กดื้อก็ต้องเจอแบบนี้...  “

“ พอแล้ว...... “

สุดท้ายก็เปียกกันไปทั้งคู่ครับ  ไม่น่าเลยผม....

จากนั้นผมก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  ส่วนพี่กิจเองก็เช่นกัน  กลับไปอาบน้ำและเห็นว่าจะขนกระเป๋าย้ายเข้ามาพักอยู่ที่นี่เลยด้วย

หลังจากอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จ  ผมก็ยังไม่เห็นพี่กิจเลยครับ  ผมจึงออกมานั่งเล่นรับลมทะเลอยู่ที่ชิงช้ามุมโปรดที่สุดของผม
บรรยากาศตอนนี้บอกได้เลยครับว่าโรแมนติกมากสำหรับคนมีคู่  ท้องฟ้ายามอาทิตย์อัสดงยังให้เห็นแสงสีส้มแดงตัดกับสีครามกับน้ำเงินเข้มของท้องฟ้าและน้ำทะเล  พร้อมกับสายลมเย็นที่พัดมากระทบกับร่างอย่างไม่ขาดสาย  มันทำให้ผมหยุดคิดทุกอย่างและปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับบรรยากาศที่น่าพิสมัยนี้

ไม่นานพี่กิจในชุดลำลองสบายๆ  ก็มาหยุดยืนอยู่ข้างๆ  เย็นนี้พี่กิจสวมเสื้อยืดสีขาวทับด้วยเชิ้ตสีฟ้าอ่อนและกางเกงขาสั้นสีขาว  ซึ่งทำให้บุคลิกดูอ่อนโยนมากขึ้นไปอีก

“ บรรยากาศดีอย่างที่เคยเล่าให้พี่ฟังเลย  แล้วนี่ใช่มั้ย...  ชิงช้ามุมโปรดที่เคยบอก “

“ ใช่พี่...  ผมชอบมานั่งเล่นและมองออกไปยังทะเลไกลๆ แล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย  ผมสามารถนั่งอยู่ที่นี่ได้เป็นชั่วโมงๆ เลยนะ “

ผมเล่าไปพี่กิจก็เดินอ้อมมาทางด้านหลังพร้อมกับแกว่งชิงช้าเบาๆ ส่งให้เรื่อยๆ  สักพักหนึ่งจู่ๆ พี่กิจก็พูดขึ้นมาเสียงนุ่ม

“ กันต์... “

“ ครับพี่.. “

ผมเงยหน้าขึ้นมอง  พลางร่นคิ้วอย่างสงสัยเมื่อดูเหมือนว่าพี่กิจกำลังจะพูดอะไรสักอย่างกับผม  ก่อนจะหยุดมือและดึงชิงช้าเอาไว้ไม่ให้มันเคลื่อนที่ต่อ

“ พี่พร้อมแล้วนะ... “

ก็นึกว่าเรื่องอะไร  ที่แท้ก็เรื่องที่จะออกไปกินข้าวเย็นกันคืนนี้  ซึ่งจะว่าไป  ผมก็เริ่มหิวขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกันนะครับ

“ พร้อมตั้งนานแล้ว  ไปกันเลยมั้ย “

“ พี่ไม่ได้หมายถึงเรื่องมื้อค่ำ “

“ แล้วเรื่องไรอะ “

ผมทำหน้าสงสัยถามไป  เมื่อตอนนี้พี่กิจเดินอ้อมมานั่งยองๆ อยู่ตรงหน้าผม  จนระดับสายตาของเราเท่ากันแล้วในตอนนี้

“ พี่หมายถึงว่า...  พร้อมที่จะมาคบกับพี่แล้วรึยัง “

ราวกับหัวใจหายออกไปจากร่างกายทันทีที่ได้ยินประโยคนี้  ความฝันที่เคยละทิ้งมันไปแล้ว  กลับถูกคนตรงหน้าเก็บคืนมาให้
มันเป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ....?

“ พี่หมายความว่าไง... “

ผมที่กำลังอึ้งๆ ถามกลับไปในทันที

“ ช่วงเวลาที่ผ่านมา.... พี่ทบทวนความรู้สึกตัวเองดีแล้ว  และก็มั่นใจแล้วด้วยว่าพี่รักเรามากนะ  ดังนั้นพี่จึงตัดสินใจแล้ว  ซึ่งไม่ว่าต่อไปข้างหน้าเราจะเจอปัญหาหรืออุปสรรคอะไรก็ตาม  พี่ก็พร้อมจะรับมันไว้และเผชิญหน้ากับมัน “

ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ  ผมควรจะตอบพี่เขาไปยังไงดี..  ผม... ผม...

“ พี่รักเราจริงๆ นะ  ตลอดเวลาที่พี่ใช้ชีวิตร่วมกับเรา  พี่โครตมีความสุขเลย  และพี่ก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้นตลอดไป  ดังนั้น... “


ตึกตัก....


ตึกตัก...


ตึกตัก...


“ กันต์... จะรับรักพี่ได้มั้ย.... “




ผมไม่รู้ว่าน้ำตาที่มันไหลออกมานี้.... มันเกิดจากความรู้สึกอะไร  เพราะมันมีหลายความรู้สึกเหลือเกินที่อัดแน่นอยู่ภายในอก  จนผมไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้  ซึ่งการร้องไห้ในตอนนี้  มันเลยกลายมาเป็นสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำและแสดงความรู้สึกออกมาได้


“ เห้ย... เป็นอะไรกันต์  พี่พูดอะไรผิดไปเหรอ...  ไม่เอานะ... อย่าร้องไห้นะ... “

“ ฮึก....ฮึก... “

ผมเริ่มสะอื้นตัวโยนขณะที่พี่กิจกำลังเอามือมาปาดน้ำตาผมออกอย่างเบามือ

“ อย่าร้องนะ... ถ้าเรายังไม่พร้อมพี่รอได้  และก็จะรอตลอดไปด้วย  ดังนั้นอย่าร้องนะครับ... “

ทันทีที่พี่กิจพูดจบผมก็ส่ายหน้าป้อยๆ ทันที

“ ไม่เอา... ฮึก...ฮึก... “

“ คร้าบ... ไม่เอาก็ไม่เอา “

“ ไม่...  ไม่เอาแบบนั้นดิ ฮึก.. “

“ อ่าว...  แล้วกันต์อยากได้แบบไหนล่ะ “

“ ก็...  ก็ได้.... “

“ ก็ได้หมายความว่า...? “

“ ก็ตามนั้น... “

“ แปลว่ายอมคบกับพี่แล้วนะ “

“ อืม... “

“ แปลว่าจากนี้ไปเราจะเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ย “

“ อื้ม... ทำไมเข้าใจยากจัง “


“ เย้!!!!     วู้ว!!! “


“ เสียงดังทำไม !! “

“ ก็พี่ดีใจนี่... “

“ เวอร์ไป...  ปกติขอใครเป็นแฟนต้องดีใจขนาดนี้เลยรึเปล่า “

“ ไม่อะ...  ไม่เคยขอใครคบเป็นแฟนจริงจังแบบนี้เลยสักคน  เราอะคนแรกเลยนะ... และจะเป็นคนสุดท้ายเลยรู้ป่าว..”

พอพี่เขาพูดจบ  ผมก็ยิ้มออกมาจนแก้มแทบปริ  และไม่สามารถจะหุบมันลงไปได้เลย

“ แนะ..  ยิ้มๆ “

“ บ้าดิ  อย่ามาแซวนะ “

“ คร้าบ...  แล้ว...  พี่ก็มีของอย่างหนึ่งจะให้เราด้วยนะ “

ผมทำหน้าสงสัยพร้อมกับมองพี่กิจที่ล้วงเอากล่องกำมะหยี่สีดำขนาดเล็กออกมาจากกระเป๋ากางเกง  ก่อนจะเปิดมันออกพร้อมกับส่งยิ้มละมุนมาให้

“ นี่มัน... “

ผมเบิกตากว้างขึ้นพร้อมกับอ้าปากค้างเล็กๆ  ไม่คิดว่าเรื่องเล่าสนุกๆ ของไอ้แน๊คมันจะเป็นความจริง

“ มัน...  เป็นเรื่องจริงเหรอพี่  เรื่องที่เขาลือกัน “

ผมมองดูสร้อยสีเงินที่มีเกียร์สีทองห้อยอยู่อย่างคาดไม่ถึงว่ามันจะมีอยู่จริง  สัญลักษณ์แทนใจของพี่กิจที่สาวๆ หลายคนปรารถนาที่จะได้มันมาไว้ในครอบครอง 

เรื่องเล่าที่ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นความจริง....

“ เขาลือกันว่าไงอะ “

“ ก็เขาบอกว่า  ใครก็ตามที่ได้เกียร์ทองจากพี่ไป  แสดงว่า...  คนคนนั้นคือคนเดียวที่พี่จะจริงจังด้วย “

“ หืม.... สงสัยว่าไอ้คิมมันต้องปากพล่อยไปแน่ๆ  เพราะนอกจากเพื่อนในกลุ่มของพี่แล้ว  พี่ไม่เคยบอกใครเรื่องเกียร์ทองนี้เลยนะ  แต่ก็นั่นแหละ... เกียร์ของพี่มันมีแค่อันเดียว  และก็จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะได้ไป  ซึ่งก็คือเรานะ...กันต์... ”

ถึงจุดนี้ผมก็ยิ้มเขินขึ้นมาอีกรอบ  และสงสัยว่าหน้ากับหูของผมมันคงกำลังแดงอยู่ด้วย  เพราะผมรู้สึกว่ามันดูจะร้อนผ่าวๆ ไปทั้งหน้าเลยตอนนี้

“ แหม... เขินแล้วน่ารักนะเนี่ย..  มาๆ เดี๋ยวพี่ใส่ให้  เอ้อ..ลืมบอกไป  เกียร์นี้อะ... จะสลักชื่อพี่ที่ขอบฟันเฟืองสามซี่ด้านซ้ายด้วยนะ “

พี่กิจหันด้านข้างมาให้ผมดู  ซึ่งพอมองดีๆ แล้วจะเห็นตัวอักษร K I J อยู่ที่สันฟันแต่ละซี่อย่างประณีต

“ ของแท้ต้องเป็นแบบนี้นะรู้มั้ย... “

พี่กิจพูดจบก็ขยับตัวเอาสร้อยเข้ามาใส่ให้ผม  ก่อนจะละหน้าที่อยู่เกือบจะชิดกับหน้าของผมออกมาเล็กน้อย  และเมื่อใบหน้าเราใกล้กันขนาดนี้  ผมก็อดจ้องตาคมที่แน่วแน่และมั่นคง  หากแต่แฝงไว้ซึ่งความหวานและอ่อนโยนอย่างที่พี่เขาไม่เคยมองใครให้เห็นมาก่อน  และก็เป็นผมอีกนั่นแหละที่พ่ายแพ้และไม่อาจจะมองมันไปได้นานมากกว่านี้

เมื่อพี่กิจไม่ขยับตัวออกไป  หัวใจผมก็เริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง


ตึกตัก...


ตึกตัก...


ไม่ทันที่จะได้ตั้งตัว  ริมฝีปากรูปกระจับสวยก็เข้ามาทาบทับลงบนริมฝีปากบางของผม  ก่อนจะไล้สัมผัสดูดดื่มเบาๆ และนุ่มนวลจนผมต้องหลับตาพริ้มตามไป

ไม่นานพี่กิจก็ละริมฝีปากออกมา  ผมจึงได้กล้าลืมตาขึ้นพร้อมกับมองพี่เขาอย่างอายๆ

“ ชอบจัง...  ขออีกครั้งได้มั้ยอะ “

“ บ้าเหรอ... มะไม่เอา...  เดี๋ยวคนมาเห็น “

“ น้า...... “

“  ม่าย.. “

พี่กิจมองเจ้าเล่ห์ตอบกลับมา  ก่อนจะดันทุรังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ อีกครั้ง  และก็...

ไม่ฟังกันบ้างเลย.....



.............



ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมหาดสวย

“ พี่ถามไอ้เรย์...  เห็นมันแนะนำว่าร้านนี้อาหารอร่อยและบรรยากาศดี “

พี่กิจว่ามาขณะที่เรากำลังนั่งรออาหารที่สั่งอยู่ครับ

“ เดี๋ยวนะพี่  อย่างนี้ก็แปลว่าไอ้เรย์มันรู้เรื่องที่พี่...  เอ่อ...  จะมาขอผมเป็นแฟนอะดิ “

“ ป่าว...  พี่แค่บอกมันไปว่าจะพาเรามากินข้าว  เลยให้มันช่วยแนะนำร้านอาหารให้หน่อยอะ “

ผมพยักหน้าเข้าใจไปเล็กๆ  แต่จะว่าไป  หลังจากที่เราตกลงคบกันแล้ว  พี่กิจก็ดูจะยิ้มบ่อยขึ้นมากกว่าปกติเลยนะครับ  และเชื่อเถอะครับว่าใบหน้าแบบนี้อะ....  แทบจะไม่มีใครเคยได้เห็นหรอก 

เพียงแต่ว่า....

“ ยิ้มไรกันนักหนาห๊ะพี่... “

“ ทำไมอะ  ก็วันนี้พี่มีความสุขนี่ “

“ แต่คนเขามองกันเต็มไปหมดแล้วเนี่ย....  ชอบบริหารเสน่ห์นักรึไง “

เชี่ย...ไอ้กันต์  เผลอหลุดพูดความคิดขึ้นมาจนได้

“ ทำไม...  หึงพี่เหรอ... “

พี่กิจยิ้มเจ้าเล่ห์มองมาครับ  แต่ผมไม่ตอบอะไรหรอก  เดี๋ยวเสียฟอร์มกันพอดี

“ นอกจากเราพี่ไม่สนใครหรอก  สบายใจได้... “

“ จริงอะ... “

“ สัญญาเลยคร้าบโผม.... “

“ อื้ม...  จะเชื่อใจก็แล้วกัน “

ผมเลยยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเล็กๆ ตอบรับไป

อาหารค่ำมื้อนี้นอกจากจะอร่อยและบรรยากาศดีแล้ว  พี่กิจยังดูแลผมดีมากด้วย  แต่ถึงแม้ว่าสถานะของเราตอนนี้จะเป็นแฟนกันแล้วก็ตาม  แต่เราก็ยังคงทำตัวไม่ต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่  และถึงอย่างนั้นก็ตาม  แต่ในตอนนี้...  ผมบอกได้คำเดียวเลยครับว่า... 


โครตมีความสุขเลยล่ะครับ....



หลังจากมื้อค่ำ.... 

ก่อนกลับเข้าบ้านพี่กิจจอดรถแวะซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ  เห็นบอกว่าจะซื้อของใช้ที่จำเป็นนิดหน่อยอะครับ

“ รอนี่นะ  จะเอาอะไรมั้ย  เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้ “

“ เอาขนม  แต่เดี๋ยวผมลงไปเลือกด้วยดีกว่า.. “

“ เห้ยไม่ต้อง..  พี่ไปซื้อให้ก็ได้  อยากกินไรว่ามาเลย “

“ มีพิรุธนะเนี่ยเรา... “

“ ป๊าว...  พิรุธอะไร..  ก็แค่เห็นเราดูง่วงๆ  พี่ก็เลยอยากให้เรานอนรออยู่ในรถเฉยๆ .. “

ผมร่นคิ้วมองพี่เขาอย่างสงสัยกับท่าทีแปลกๆ  แต่พี่กิจก็ตีหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไร  หรือว่าผมจะคิดมากไปเองนะ

“ นั้นรอพี่แปบนะ  เดี๋ยวพี่มา “

“ เร็วๆ น้า “

“ จ้า... “

พี่กิจยิ้มแป้นส่งมาให้ก่อนจะปิดประตูรถและหายเข้าไปในร้านสะดวกซื้อทันที  แต่จะว่าไป  ผมน่าจะเข้าไปหาซื้ออะไรเผื่อไว้ทำมื้อเช้าให้พี่กิจกินพรุ่งนี้ด้วยจะดีกว่า  ว่าแล้วผมก็ออกจากรถและเดินตามพี่เขาเข้าไปทันที

เมื่อเข้ามาในร้านแล้ว  ผมก็เห็นพี่กิจกำลังเลือกซื้อของบางอย่างอยู่ใกล้ๆ บริเวณเค้าท์เตอร์  ผมเลยเดินเข้าไปสะกิดพร้อมกับร่นคิ้วและกระซิบถามขึ้นมาเสียงเบา

“ ทำไรอะ..  ไหนว่าจะซื้อของใช้จำเป็นไง “

“ แหะ..  ไม่รอพี่ที่รถล่ะ “

“ ตอบมาเร็วๆ..”

“ ก็มาซื้อนี่อะ... “

พี่กิจยื่นกล่องยาวๆ มาให้ผมดู  ซึ่งทันทีที่ผมเห็น  ผมก็บิดเข้าให้ทีสีข้างของพี่เขาแรงๆ ทันทีเลยครับ

คนบ้าอะไร...  หื่นเป็นที่สุด….

ก็ไอ้กล่องที่พี่เขายื่นมาให้ผมดูไม่บอกก็รู้ครับว่ามันคือเจลหล่อลื่น... 

ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า...  โอ้ย!!!!

แล้วผมก็รีบเดินออกจากร้านไปแทบจะในทันที  อายเป็นบ้าเลยครับ  แถมพอนึกถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในคืนนี้ด้วยแล้วมันก็..

โอ้ย!!!  เอาไงดีวะเนี่ยไอ้กันต์!!!

ไม่นานพี่กิจก็กลับเข้ามาในรถพร้อมกับถุงขนม  เครื่องดื่มและของกินถุงใหญ่  ผมรีบคว้ามาก่อนจะค้นดูเพื่อหาของสิ่งนั้น  และก็เจอมันรวมอยู่ด้วยกับของพวกนี้  นั่นก็หมายความว่า...  พี่กิจเอาจริงแน่ๆ ครับคืนนี้ !

“ ก็บอกแล้วว่าให้รออยู่นี่ก็ไม่เชื่อ “

“ ซื้อมาทำไม  ไอ้นี่อะ “

“ ก็...  ยังจะถามอีก “

“ ไม่ต้องมายิ้มเจ้าเล่ห์เลย  ผมบอกตอนไหนว่าจะ...  ยอมพี่อะ “

“ โถ่กันต์...  คนเป็นแฟนกันเขาก็...  ทำกันเป็นเรื่องปกตินะ ”

“ แต่ผมยังไม่พร้อมเลย  ยังไม่ได้ทำใจเลยด้วย  ครั้งที่แล้วพี่ก็... “

“ ไม่แล้วคร้าบ  ตอนนั้นพี่ขอโทษ  พี่หน้ามืดไปหน่อยอะ แต่คราวนี้พี่จะนุ่มนวลนะคร้าบ  สัญญาเลย...  เนี่ยพี่ถึงได้ซื้อเจลมาไง  เราจะได้ไม่เจ็บ  รับรอง...  เราจะต้องติดใจและบอกว่า...  พี่กิจขออีกสิ...  โอ้ย!!  “

“ ไอ้คนบ้า !!!! ”



………………….

ออฟไลน์ หมีขาว

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-12
ที่บ้าน…


“ ง่วงจังเลย  นอนกันเลยเนอะพี่วันนี้ “

ผมที่เดินกลับเข้าห้องมาหลังจากที่ออกไปตากผ้าเช็ดตัวที่ระเบียงห้องเสร็จพูดขึ้นมาทันที  ขณะที่พี่กิจซึ่งนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงก็หันหน้ามามองพร้อมกับอมยิ้มเล็กๆ และพยักหน้าป้อยๆ อย่างเห็นด้วย

คือผมหมายถึงนอนหลับจริงๆ นะพี่  คงไม่ได้ตีความเป็นอย่างอื่นใช่มั้ย…

“ ผมหมายถึงนอนหลับกันนะพี่ “

พี่กิจไม่ได้ตอบอะไร  แต่ยังคงอมยิ้มพยักหน้าป้อยๆ อยู่เหมือนเดิม  โครตไม่น่าไว้ใจเลยล่ะครับ

จากนั้นผมจึงเดินไปปิดไฟ  ก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นอย่างลังเลในความปลอดภัย  แต่เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น  สุดท้ายผมก็ต้องเดินกลับมาที่เตียงอยู่ดี

ผมล้มตัวลงนอนก่อนจะรีบนอนตะแคงหันหลังให้พี่เขา  และก็ถูกวงแขนแข็งแรงภายใต้ผ้าห่มเลื่อนเข้ามาโอบกอดเอาไว้ในทันที  พร้อมกับเจ้าของร่างใหญ่ที่เลื่อนเข้ามาจนแนบชิด  พี่กิจสูดดมที่ซอกคอจนผมอดจั๊กจี้ขึ้นมาไม่ได้  จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า..

“ กลัวเหรอ... “

ผมไม่ได้ตอบอะไร  ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ ให้ไปเพียงเท่านั้น  คือผมเข้าใจนะว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นแฟนกัน  แต่ว่า... มันเร็วไปมั้ยในวันนี้  คือผมยังไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจมาเลยอ้า.....

“ มันจะไม่เหมือนครั้งที่แล้วหรอกนะ  พี่สัญญาเลย  พี่จะทะนุถนอมเราให้ดีที่สุด  และอีกอย่าง...  สงสารพี่หน่อยนะคร้าบ  คือเวลาที่อยู่กับเราแล้วต้องห้ามใจ...  มันโครตอึดอัดเลยอะ.... “

“ แต่ผมยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเลยนะพี่ “

ผมขยับตัวหันหน้าเข้าหาพี่เขาซึ่งอยู่ห่างผมไม่ถึงคืบ

“ ก็ไม่ต้องเตรียมอะไรทั้งนั้นแหละ  ว่าตามพี่ไปก็แล้วกัน...  นะคร้าบคนเก่ง... “

“ แต่... “

ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ  พี่กิจก็เข้ามาประกบปากผมเอาไว้  ก่อนจะค่อยๆ ขบเม้นเบาๆให้ผมคล้อยตามไป  และใช้มือหนาจะค่อยๆ ลูบไล้ไปตามตัวผมอย่างแผ่วเบา

ปลายลิ้นอุ่นค่อยๆ สอดเข้ามาก่อนจะเคล้าคลอชี้นำให้ผมว่าตามไป  ซึ่งก็ไม่ยากอะไรสำหรับผมที่เริ่มจะประสามากขึ้นแล้ว  ผมคราง ‘อือ’ ในลำคออย่างพอใจเพราะชอบในรสสัมผัสนี้  จากนั้นการจูบก็ดูจะเริ่มดูดดื่มมากยิ่งขึ้น  ในขณะที่มือซนก็เริ่มรุกไล้เข้ามายังภายในเสื้อ  ซึ่งไม่นานพี่กิจก็ละริมฝีปากออกมาพร้อมกับมองผมด้วยสายตาเซ็กซี่อย่างถึงที่สุด  ก่อนจะกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างหมันเขี้ยวเฉกเช่นเจ้าป่าที่กำลังจะล่าอาหาร

ไม่นานเสื้อผมก็ถูกถอดออกและโยนลงไปข้างเตียง  ก่อนจะตามไปด้วยเสื้อยืดของพี่กิจตามลงไปติดๆ เผยให้เห็นอกหนากว้างและหุ่นเพอร์เฟคที่ช่วยทำให้อารมณ์ของผมเตลิดไปมากยิ่งขึ้น  พี่กิจไม่ปล่อยให้ผมได้มองนานไปมากกว่านี้  ก็เข้ามาซุกไซร้ที่ซอกคอของผมทันที  แรกๆ ก็ออกจะจั๊กจี้ไปสักหน่อย  แต่ไม่นานก็กลายเป็นความเคลิบเคลิ้มและกระตุ้นอารมณ์ผมให้เตลิดไปมากยิ่งขึ้น  จนแก่นกายของผมแข็งตัวดันบ็อกเซอร์จนรู้สึกอึดอัด

เสียงหายใจฟืดฟาดของพี่กิจทำให้ผมสติแทบกระเจิงและตอบสนองโดยการลูบไล้บนแผ่นหลังกว้างไปมา  แต่ก็ไม่ลืมที่จะระวังผ้าพันแผลบริเวณต้นแขนซ้ายของพี่เขา

พี่กิจบดเบียดร่างกายส่วนร่างที่ตอนนี้สัมผัสได้ถึงแก่นกายใหญ่แข็งเกร็งซึ่งดันบ๊อกเซอร์ตัวบางจนปูดโปนราวกับว่ามันจะทะลุออกมาให้ได้เสียอย่างนั้น  ซึ่งยิ่งพี่เขาบดเบียดช่วงล่างไปมาหนักมากขึ้นเท่าไหร่  อารมณ์ของพวกเราทั้งคู่ก็ดูจะยิ่งกระเจิงไปมากขึ้นเท่านั้น  จนตอนนี้คงไม่มีอะไรจะมาหยุดยั้งพวกเราทั้งคู่เอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

ไม่นานยอดอกสีชมพูอ่อนของผมก็ถูกดูดดุนและขบเม้มจากริมฝีปากรูปกระจับให้ขนลุกซู่  จนต้องเอามือมากดหัวพี่เขาไว้อย่างห้ามใจเอาไว้ไม่อยู่  หลังจากที่ละเลงยอดอกทั้งสองข้างของผมจนหนำใจแล้ว  พี่กิจก็เงยหน้ามองผมก่อนจะส่งยิ้มและมองผมตาเยิ้มจนผมอดอายและเบนหน้าหนีออกไปไม่ได้

พี่กิจพลิกตัวเองลงมานอนหงายและดันผมให้ขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนร่างบ้างครับคราวนี้  ก่อนจะส่งสายตาราวกับกำลังจะบอกให้ผมลองทำตามบ้าง  ตอนแรกผมก็ประหม่าตามประสาคนที่ไม่เคยนั่นแหละครับ  แต่พอเห็นสายตาและการพยักหน้าบอกให้ผมลองทำดูของพี่เขา  ผมจึงตัดสินใจที่จะลองดู  เผื่อว่าสิ่งนี้มันอาจจะทำให้พี่กิจมีความสุขมากขึ้นไปอีกก็เป็นได้  ว่าแล้วผมก็ก้มลงดูดดุนที่ยอดอกสีคล้ำกว่าบนแผ่นอกกว้าง  ก่อนจะใช้ความทรงจำจากสัมผัสที่เคยได้รับมาแล้วลองทำตามดูบ้าง

“ อา....  แบบนั้นแหละ...  เก่งมากครับ  อาห์ “

พอได้ยินเสียงพึงใจของพี่กิจ  มันก็ยิ่งทำให้ผมมีกำลังใจและมั่นใจมากขึ้นกับสิ่งที่ทำ

สักพักพี่กิจก็ดึงหน้าผมออกก่อนจะมองผมอย่างสื่อความนัยน์  ซึ่งจุดนี้มันก็ไม่ยากเลยที่จะเข้าใจ  ผมจึงค่อยๆ ขยับตัวใช้ปลายลิ้นสัมผัสอย่างแผ่วเบาจากแผ่นอกไล้ลงมายังหน้าท้องที่แข็งเป็นรอน

ผมชะงักตัวทันทีเมื่อถึงขอบบ๊อกเซอร์สีดำที่ถูกรั้งตึงจนนูนเด่นอย่างเห็นได้ชัดจากแก่นกายแข็งขนาดใหญ่  พี่กิจบอกให้ผมถอดมันออกไป  ซึ่งผมก็ว่าตามแต่โดยดี  ก่อนจะค่อยๆ ถอดมันออกและพบเอ็นแข็งดีดเด้งออกมาจนน่าตกใจกับขนาดและรูปร่างของมัน  ผมเผลอกลืนน้ำลายลงคอไปในทันที  เพราะวันนี้ไม่ว่ายังไงผมคงต้องโดนเจ้าสิ่งนี้เสียดแทงเข้ามาในร่างกายอย่างแน่นอน.....

“ นะคร้าบ...  ทำให้พี่หน่อยนะ “

พี่กิจอ้อนเสียงหวานให้ผมทำในสิ่งที่ใครๆ ก็พอจะเดาได้  ทว่าผมกลับยังไม่เคยทำมันเลยสักครั้ง  เพราะที่ผ่านมาขั้นตอนนี้ก็ถูกข้ามไปโดยตลอด  ดังนั้น...  จะไหวมั้ยเนี่ย...  แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว  เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว  จะถอยก็คงจะไม่ได้ซะแล้วล่ะ

ผมใช้ปลายลิ้นลองหยั่งเชิงบริเวณส่วนปลายดูก่อน  ทันทีที่สัมผัส...  พี่กิจก็ครางออกมาอย่างพึงพอใจ  จากนั้นผมก็กำแก่นกายร้อนแข็งจนเต็มมือก่อนจะขยับมันขึ้นลงไปมาอย่างเชื่องช้า  สักพักพี่กิจก็เอามือมาจับที่หัวผมพลางขยำผมนุ่มเบาๆ  ราวกับกำลังจะบอกถึงสิ่งที่ปรารถนาให้ผมทำต่อไปจากนี้

ผมชั่งใจอยู่เล็กน้อย  แต่ก็ตัดสินใจลองทำดู  โดยการอ้าปากกว้างๆ รับเอาแก่นกายร้อนตรงหน้าเข้ามาภายใน  ก่อนจะค่อยๆขยับขึ้นลงแทนมือที่เคยทำหน้าที่ของมันอยู่

“ โอ๊ะ...! “

จากที่กำลังครางเสียงเอื่อยอยู่  พี่กิจก็ร้องขึ้นมาเบาครับ  ผมเลยละปากออกจากแก่นกายใหญ่ในทันที

“ โดนฟันอะครับ “

“ และใครสั่งให้เกิดมาใหญ่ล่ะ  ไม่ทำมันแล้ว... “

“ เห้ย!!!  พี่ไม่ได้ว่าอะไรนะคร้าบ ครั้งแรกทำได้ขนาดนี้ก็ดีแล้ว  ทำใหม่นะคร้าบ  ค่อยๆ ฝึกไป  เดี๋ยวก็เก่งเอง...  น้าคร้าบ  คนเก่ง... “

แอบหมันไส้ครับ  แต่พอเห็นสีหน้าอ้อนๆ และน้ำเสียงแบบนี้แล้ว... มันก็อดใจอ่อนขึ้นมาไม่ได้

ผมลองใหม่อีกครั้ง  แต่คราวนี้ผมทำมันอย่างช้าๆ และระมัดระวังมากขึ้นสำหรับมือใหม่หัดขับอย่างผม

“ อาห์.......อือ...  แบบนี้แหละครับ  เก่งนะเราเนี่ย  เรียนรู้ไวจริงๆ..  อ่าห์... “

แหงอยู่แล้ว  นี่ใครล่ะ...

นานพอสมควรพี่กิจก็จับหน้าผมออก  ก่อนจะขยับตัวพลิกผมลงไปนอนหงายอยู่บนเตียง  แล้วเริ่มทำการเล้าโลมผมจนร้องเสียงหลงและบิดเอวไปมาอย่างสุดทน  ซึ่งขณะที่ผมกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่ได้รับ  ผมก็สัมผัสได้ถึงนิ้วแข็งเกร็งที่ลื่นและเย็นจากเจลหล่อลื่นกำลังพยายามรุกล้ำเข้ามายังช่องทางด้านหลังของผม  แม้มันจะไม่ได้เจ็บอะไร  แต่มันก็ให้สัมผัสที่แปลกและไม่เคยชินมาก่อน 

นิ้วหนาเคลื่อนที่เข้าออกไปมาจนผมเริ่มชิน  ก่อนจะเริ่มรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเมื่อถูกเพิ่มเข้ามาภายในอีกหนึ่งนิ้ว

“ อ๊ะ ! “

ผมสะดุ้งตัวพลางร้องขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อนิ้วทั้งสองถูกเลื่อนเข้ามาจนสุด  พี่กิจจึงเลื่อนตัวขึ้นมาจูบผมเอาไว้  ก่อนจะเคล้าคลอเพื่อดึงดูดความสนใจจากจุดนั้นไป  และมันก็ดูจะได้ผลดีเสียด้วย 

“ ไม่ต้องกลัวนะ  พี่จะค่อยๆทำ  รับรองไม่เจ็บเหมือนอย่างครั้งที่แล้วแน่ “

พี่กิจละตัวขึ้นมาก่อนจะบอกผมเสียงเบา  ภายใต้สายตาประหม่าของผม  หัวใจมันได้เต้นแรงอย่างถึงที่สุด  เมื่อเวลานั้นกำลังจะมาถึง

พี่กิจค่อยๆ กดแก่นกายใหญ่ที่ชโลมไปด้วยเจลหล่อลื่นลงที่ช่องทางด้านหลังของผม  และแม้ว่ามันจะเริ่มเคลื่อนตัวเข้าไปได้เพียงเล็กน้อย  แต่ผมก็ยังคงรู้สึกเจ็บอยู่ดี  ราวกับว่าส่วนนั้นมันกำลังจะฉีกขาดออกจากกัน  ผมดันตัวพี่กิจเอาไว้ทันที  ซึ่งพี่เขาเองก็ยอมหยุดที่จะดึงดันล้ำเส้นเข้ามามากกว่านี้

“ ไม่เป็นไรน้า...  อย่าเกร็ง...  พี่จะค่อยๆ ทำนะครับ “

พี่กิจเอนตัวลงมาจูบผมอีกครั้งพร้อมกับใช้ลิ้นซุกซนดึงดูดความสนใจของผมไปเหมือนเดิม  ก่อนจะค่อยๆ ดันแก่นกายเข้ามาภายในอย่างเชื่องช้าและแนบเนียน  ถึงแม้ว่ารอบนี้มันจะไม่ได้เจ็บมากเหมือนครั้งที่แล้วเพราะเจลหล่อลื่นและการทำอย่างทะนุถนอมของพี่กิจ  แต่ผมก็ยังคงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกแน่นและอึดอัดบ้างอยู่ดี  จนต้องใช้มือจิกหลังพี่เขาเอาไว้จนแน่น  ซึ่งเชื่อเถอะครับว่าพรุ่งนี้มันจะต้องเป็นรอยแดงอย่างแน่นอน

“ อ๊า!! “

ผมร้องเสียงหลงเมื่อแก่นกายร้อนถูกเลื่อนเข้ามาจนสุด  ทำให้ร่างกายของเราแนบสนิทกันราวกับว่าเป็นคนๆ เดียวกันแล้วในตอนนี้

พี่กิจยังคงใจเย็นไม่รีบร้อนทำอะไรมาก  เพื่อให้ผมได้เจ็บน้อยที่สุด  ก่อนจะค่อยๆ ขยับบั้นท้ายเข้าออกอย่างเชื่องช้า

เมื่อความเจ็บเริ่มจางหายลง  และถูกแทนที่ด้วยความวาบหวิวและเสียวสะท้านในทุกครั้งที่ถูกร่างใหญ่เข้ามากระทบ  ผมก็เริ่มครางออกมาอย่างต่อเนื่องและห้ามใจเอาไว้ไม่อยู่  พี่กิจที่รับรู้ได้ถึงความรู้สึกนี้จึงยันตัวขึ้นพร้อมกับเร่งจังหวะเข้าออกให้หนักหน่วงมากขึ้นไปกว่าเดิม  จนในที่สุดผมก็ถึงกับร้องออกมาอย่างไม่เป็นภาษากันเลยทีเดียว

ค่ำคืนอันแสนสุขผ่านไปอย่างดูดดื่มและเชื่องช้าภายใต้รสรักพิศวาสที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้แก่กัน  จนในที่สุดผมก็หมดสภาพลงอย่างไร้เรี่ยวแรงภายในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของพี่กิจ....



..............................



เช้าวันต่อมา...

ไม่อยากจะตื่นเลยครับ  แต่แสงที่ลอดผ่านผ้าม่านสีขาวบางเข้ามา  มันแยงตาซะจนผมหลับต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

ผมขยับตัวเล็กน้อยภายในอ้อมกอดของร่างเปลือยเปล่าข้างๆ  ซึ่งจะว่าไป...  ผมอะชอบกลิ่นกายของพี่กิจมากเลยนะครับ  แถมยิ่งอยู่ในวงแขนแบบนี้ด้วยแล้ว  มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างถึงที่สุด

“ ตื่นแล้วเหรอ... “

เสียงหวานข้างหูดังขึ้นมาอย่างสดชื่น  ดูท่าแล้วพี่เขาคงจะตื่นมานานแล้วล่ะครับ  นี่ขนาดว่าเมื่อคืนจัดผมไปตั้งสองดอกเลยแท้ๆ  แต่ท่าทางดูจะไม่อ่อนเพลียอะไรเลยสักนิด  ซึ่งต่างจากผมโดยสิ้นเชิง....

“ ยัง....  จะนอนต่อแล้ว “

“ เช้าแล้วนะ  นอนอะไรมากฮึ “

“ ไม่ต้องมาพูดเลย  ก็เพราะใครกันล่ะ... “

“ นั่นสินะ...  ว่าแต่....  เห็นมั้ยล่ะ...  พี่บอกแล้วว่าเราต้องติดใจ “

“ อะไร... ใครติดใจไม่ทราบ “

“ เอ๊า....  แล้วใครกันที่บอกว่า  ดีจังเลยครับพี่กิจ...  ทำอีกสิครับ... “

พี่กิจเอามือมาบีบจมูกผมพร้อมทั้งโยกไปมาอย่างเอ็นดู  ผมเลยตีเข้าที่ต้นแขนก่อนจะดึงมือพี่เขาออกไป

“ อะไร....  ใครพูด...  มั่วละ..  ไม่เคยพูดเลยว่าเอาอีก “

“ จริงอ๊ะ... “

แล้วพี่เขาก็มองมาด้วยสายตาคาดคั้นในคำตอบพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ

“ ก็...  มั้ง...  เรื่องแบบนั้นใครจะไปจำกันเล่า... “

“ ฮะๆๆๆๆ “

“ ยังจะหัวเราะอีกนะไอ้พี่บ้า “

“ นี่...  จะบอกอะไรให้นะ  ชอบอะไรตรงไหนก็ให้บอก...  เป็นแฟนพี่อะ  เรื่องแบบนี้.. “

พูดมาถึงตรงนี้พี่กิจก็เอานิ้วมาไล้ที่หน้าอกผมเรื่อยมาจนถึงหน้าท้อง  ให้อดรู้สึกสยิวขึ้นมาเสียไม่ได้

“ รับรองไม่ผิดหวัง  ที่สำคัญ...  พี่ขยันมากด้วย  ว่าแล้ว...  เช้านี้เราก็มา... “

ตึกตัก...  ตึกตัก....

เมื่อพี่กิจเริ่มยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น  หัวใจของผมก็เริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง....  และก่อนที่อะไรจะล่วงเลยไปมากกว่านี้


---.ติ๊งต่อง.—


เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้นมาห้ามทัพเอาไว้เสียก่อน  ทันทีที่สติกลับมา  ผมก็ดันตัวพี่กิจออกห่างไปในทันที  พี่เขาเลยขำขึ้นมาในลำคอเล็กๆ  ผมจึงยู่หน้าส่งให้ไปทีนึง  ก่อนจะหยิบเอาบ๊อกเซอร์ที่อยู่ข้างเตียงและเสื้อยืดขึ้นมาใส่  แล้วเดินไปแง้มผ้าม่านที่หน้าต่างดูว่าใครกันที่มาหาผมตั้งแต่เช้าเลยแบบนี้

“ เชี่ยเรย์...  มาทำไมตั้งแต่เช้าวะเนี่ย “

ผมพึมพำกับตัวเองขึ้นมา  เมื่อรู้ว่าใครที่มายืนรออยู่ที่หน้ารั้วบ้าน

“ ไอ้เรย์มาอะพี่ “

ผมหันมาบอกคนที่กำลังนอนมองผมตาเยิ้มอยู่บนเตียงครับ

“ นั้นก็ปล่อยมันดิ  เรา...  มาต่อกันดีกว่า “

“ พอเลย  จะหื่นไปไหนห๊ะเราอะ  ลุกเลย... สายแล้วเนี่ย... “

“ ไม่เอา...  โอ้ย...!   เรานี่ชอบรุนแรงก็ไม่บอกนะ “

พี่กิจอิดออดครับ  ผมเลยเอาหมอนไปตีเข้าที่แขนทีนึง  แต่ไม่ได้เจ็บอะไรหรอกครับ  คนมันสำออยไปอย่างนั้นแหละ

“ จะเอาอีกมั้ย.. “

ผมง้างหมอนนุ่มขึ้นมาทำท่าว่าจะทุบลงไปอีก

“ ดุจัง...  แฟนใครเนี่ย... “

ผมวางหมอนลงบนเตียง  ก่อนจะเดินออกจากห้องไปในทันที  ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับพวกไม่เคยพอ...  ชิส์

ผมเปิดรับไอ้เรย์เข้ามาภายในบ้าน  ก่อนจะเดินนำมันเข้ามายังห้องรับแขก

“ เชี่ยไรมึงเนี่ย...  มาหากูแต่เช้าเลย “

“ ก็กูพึ่งได้เข้าเฟสเมื่อเช้านี้  เลยพึ่งรู้ว่ามึงโดนปล้นอะ  แล้วเป็นไงบ้างวะ  โดนทำร้ายตรงไหนมั้ย “

“ ไม่อะ... ปลอดภัยดี  แต่ถ้าไม่ได้พี่กิจมาช่วยไว้  กูก็คงไม่ได้มายืนต่อหน้ามึงแบบนี้หรอก “

ผมบอกไปพร้อมกับเดินไปยังโซนห้องครัวและเปิดตู้เย็นเพื่อหาอะไรสำหรับทำมื้อเช้านี้ครับ

“ เห็นมึงโพสต์แบบนั้น  ทำเอาใจกูตกลงไปตาตุ่มเลยรู้มั้ย  กูก็เลยต้องรีบมาดูให้เห็นกับตาว่ามึงโอเคดีรึเปล่า “

“ เออ...กูโอเค  ขอบใจมาก  แล้วนี่มึงกินไรมายัง “

“ ยังเลยว่ะ  กูรีบออกบ้านมาก่อน “

“ นั้นมึงก็อยู่กินพร้อมกูเลยละกัน “

“ แต๊งกิ้วมากเพื่อนเลิฟ “

ผมปิดประตูตู้เย็นพร้อมกับหอบเอามื้อเช้าที่สามารถเตรียมได้ง่ายๆ จากของที่พี่กิจซื้อมาไว้เมื่อคืนนี้  ในขณะที่มองเลยไปยังห้องนั่งเล่นใกล้ๆ ก็เห็นไอ้เรย์กำลังทำท่าจะเหยียดขานอนยาวไปบนโซฟา  แต่ไม่ทันที่หลังมันจะได้แตะเบาะ  มันก็ผงะตัวขึ้นมานั่งตามเดิมพร้อมกับสายตาที่เบิกโพรงราวกับได้เห็นอะไรที่ไม่คาดว่าจะได้เห็น  ผมจึงหันไปมองตามสายตาคู่นั้น  ก่อนจะเห็นพี่กิจในสภาพที่สวมเพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว  เผยให้เห็นหุ่นเพอร์เฟคอันน่าหลงใหล  และแม้ว่าผมเผ้าจะดูยุ่งเหยิงไปบ้าง  อีกทั้งสายตาปรือๆ ที่มองโลกอย่างไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่  แต่บอกได้คำเดียวเลยครับว่า....  โครตเซ็กซี่เลยล่ะครับ...

ตอนนี้ไอ้เรย์ดูจะช็อคไปแล้ว  ไม่ใช่เพราะว่าหลงเสน่ห์ของพี่กิจหรอกนะครับ  แต่เพราะการที่มันได้เห็นพี่เขาอยู่ในบ้านของผมตอนเช้าๆ แบบนี้  ที่สำคัญ...ในสภาพแบบนี้...

แม่งเอ้ย....  ทำอะไรไม่คิดถึงจิตใจของผมบ้างเลย  ถึงแม้ไอ้เรย์มันจะเป็นคนสนิทกันก็ตาม  แต่เชื่อเถอะครับว่า....  เรื่องนี้มันหยิบเอามาล้อกันได้ยันลูกบวชเลยล่ะครับ...

“ แบบนี้ก็แปลว่า... “

ไอ้เรย์ทำหน้ายิ้มๆ ถามมาครับ  พร้อมทั้งชี้นิ้วไปมาระหว่างผมกับพี่กิจ

“ สัด!  แปลว่าอะไรมึงพูดดีๆ “

“ ก็แปลว่ามึงกับพี่กิจ.... “

“ สัด!! คิดอกุศลนะมึงอะ  นี่ก็อีกคน...  แขกมาก็แต่งตัวดีๆ ลงมาหน่อยดิ “

ด่าไอ้เรย์เสร็จผมก็หันไปว่าพี่กิจต่อครับ  ซึ่งจ้าตัวก็หาได้รู้ร้อนรู้หนาวไม่  ตามสไตล์เดิมๆ ของคุณชายท่านนั่นแหละ

“ ก็พี่หิวนี่...  เมื่อคืนใช้พลังงานไปเยอะ  อีกอย่าง... ไอ้เรย์มันก็คนกันเองอยู่แล้ว  ว่าแต่มีอะไรให้พี่กินบ้างอะ  พี่หิวแล้วคร้าบ “

“ ชัวร์เลยมึง...  เมื่อคืนนี้อะไร  ทำอะไรกันถึงต้องใช้พลังงานเยอะ  มึงบอกกูมาเลยนะไอ้กันต์ “

“ เชี่ยเรย์....  มึงนี่ก็ขี้เสือกเรื่องชาวบ้านนะ  หาแดกเองเลยมึง  กูจะไปอาบน้ำแล้ว “

พูดจบผมก็ละมือจากมื้อเช้าที่กำลังจะเตรียมทันที  ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ....  เถียงไม่ออก...  อาย...  และก็สู้หน้าใครไม่ไหวแล้วล่ะครับในตอนนี้....

“ อ้าวกันต์...  ของพี่ด้วยเหรอ “

“ ใช่ !!  ทำกินเองเลย “

ผมพูดทิ้งท้ายให้ก่อนจะตบเท้าขึ้นบันไดไปในทันทีด้วยความอาย  ก่อนจะได้ยินเสียงพี่กิจคาดโทษไอ้เรย์ดังขึ้นมาเล็กๆ ให้ได้ยิน

โอ้ย!!!  แบบนี้ต้องโดนล้อไปตลอดชีวิตแน่ๆ เลย  ไอ้กันต์เอ้ย !!!!





TBC.

---------------------------------------------------------------------

หายไปนานเลยครับ  แฮ่.....  แต่เขียนเรื่อยๆนะครับ  แต่มันมีปัญหานิดหน่อยเลยไม่ได้ลงอะครับ  พอโอเคแล้วก็เลยลงทันทีรวดเดียว 3 ตอนไปเลยครับ...
ก็เหลืออีกแค่ 2 ตอนก็จะจบแล้วนะครับ  ขอบคุณมากๆ นะครับทุกคนที่ทนอ่านกันมาจนถึงตรงนี้
ขอบคุณมากๆ นะครับ

^________________________________________________^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด