◈ธาราที่13◈
เสียงขยับตัวเข้ามาแนบชิดไม่ได้ทำให้คนพึ่งเสร็จจากฝึกดำน้ำลึกเมื่อตอนเย็นอย่างผมตื่นเต็มตาได้ เมื่อถูกกวนโดยการเอาแขนมาพาดเอวผมก็จัดการขยับหนีตามสัญชาตญาณ
“สาม...”
“อื้อ ยังไม่เช้าเลย ขอนอนอีกเดี๋ยว” เสียงกระซิบข้างหูจากลูก้าเรียกดวงตาสีน้ำตาลของผมให้ปรือขึ้น ทันทีที่เห็นความมืดกระจายตัวอยู่รอบๆ ผมก็อยากดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมหัวเหลือเกิน
ทำไมต้องมาปลุกกันด้วยลูก้า
ก็อยากจะบ่นอยู่แต่ความง่วงที่มีเหมือนจะมากกว่าเพราะงั้นตื่นแล้วค่อนบ่นอีกทีละกัน
“สาม...โทรศัพท์สั่นอยู่นะ”
“โทรศัพท์?” ผมพึมพำเสียงงัวเงีย
“อื้อ สั่นไม่หยุดมาสักพักแล้ว”
“...อยู่ไหน” เมื่อรู้ว่ามีสายเข้าผมก็ต้องจำใจลุกขึ้นนั่งทว่าโทรศัพท์ที่น่าจะอยู่ไม่ไกลกลับไม่อยู่ที่เดิม
“สั่นมาจากโซฟา” ลูก้าบอกพร้อมกับชี้ไปทางโซฟายาวด้านข้าง
“ไกลขนาดนั้นยังรู้สึกอีกนะ” ผมพูดระหว่างเดินไปคว้าโทรศัพท์ที่ยังคงสั่นไม่หยุด พอดูชื่อที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอความงัวเงียที่มีก็หายไปกว่าครึ่ง ผมไม่รอช้ารีบกดรับสาย...
(ทรี...รับช้านะ ผมโทรไปเป็นสิบสายแล้ว) ยังไม่ทันได้ทักทายอะไรปลายสายก็พูดขัดซะแล้ว
“โทษที พอดีผมเหนื่อยนิดหน่อย...ว่าแต่โทรมาแบบนี้แปลว่ามีภารกิจสินะเซโคร” ผมถามปลายสายตรงๆ
คนที่โทรมาหาผมคือไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่หรือเซโครที่เป็นหัวหน้าของหน่วยปฏิบัติการพิเศษนั่นเอง นี่เป็นครั้งแรกที่มีการติดต่อมาเมื่อดูจากช่วงเวลาและน้ำเสียงก็พอจะเดาได้ว่าต้องเกิดเรื่องขึ้น แน่นอนว่าถ้าโทรมาหาผมก็ต้องเกี่ยวกับภารกิจอะไรสักอย่าง
(สมแล้วที่เป็นทรี ผมต้องการให้ทั้งคู่ไปทำภารกิจทางตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติกแทบประเทศบลาซิล)
“ภารกิจคืออะไร” ผมถามต่อ
(จับปลาที่หลุดระหว่างขนย้าย)
“หึ...ถ้าแค่ปลาธรรมดาคงไม่โทรมาหาผมหรอกมั้ง” ผมรับรองเลยว่ามันต้องไม่ใช่แค่พวกปลากะมงหรือปลาหมอทะเลแน่ๆ
(ก็นะ...ดังเคิลออสเตียสน่ะ)
“...คงไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม” ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะถามกลับ ถ้าเป็นมุขก็ถือเป็นมุขที่ตลกอยู่แต่ถ้าเกิดเป็นเรื่องจริงผมพูดเลยว่าขำไม่ออก
(ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาล้อเล่นหรอกนะ ทางนั้นกำลังพยายามขับเรือตามจีพีเอสที่ติดกับตัวมันไว้อยู่ ผมอยากให้ทรีกับลูก้านั่งเฮลิคอปเตอร์ไปจัดการโดยด่วน)
“เฮลิคอปเตอร์ตอนนี้จะมีคนอยู่เหรอ” นาฬิกาตอนนี้บอกเวลาตี4ครึ่ง ต่อให้เป็นพนักงานดีเด่นก็ไม่มีทางตื่นมาทำงานเวลานี้เป็นแน่
(ไม่ต้องห่วง ผมจัดการให้แล้ว รีบขึ้นไปก็พอ)
“เข้าใจแล้ว”
(ภารกิจแรกก็ได้หนักเลยเนอะ)
“เนอะอะไรล่ะเซโคร เจ้าปลาที่เจอนั่นไม่ควรเรียกว่าปลาด้วยซ้ำ”
(ผมรู้ แต่ถ้าเป็นทรีกับลูก้าทำได้แน่)
“ก็นะ ต้องลองดู” พูดจบผมก็วางสายก่อนจะเดินไปหาลูก้าที่มองมาตลอดตั้งแต่รับสายจากเซโคร
“มีภารกิจ?” ลูก้าถาม
“ใช่ เราต้องไปทางเฮลิคอปเตอร์” ผมบอกพลางเดินไปค้นชุดสำหรับดำน้ำในตู้เสื้อผ้า
“ไปเลยสินะ”
“อืม ขอผมเปลี่ยนชุดแป๊บ วานหยิบของบนโต๊ะใส่กระเป๋าบนโซฟาให้ที” พูดจบผมก็รีบเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ ชุดดำน้ำถูกใส่แล้วสวมทับด้วยชุดลำลองปกติอีกที
พอออกมาผมกับลูก้าก็พากันขึ้นลิฟต์ไปยังดาดฟ้าของตึกซึ่งมีลานเฮลิคอปเตอร์อยู่ด้านบน เสียงของใบพัดเฮลิคอปเตอร์ดังลั่นเมื่อเปิดประตูดาดฟ้าออก เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมเรียกพวกเราขึ้นไปก่อนเฮลิคอปเตอร์จะทะยานสู่ท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีฟ้าอ่อน
“สาม...เราต้องไปทำอะไร” ลูก้าถามระหว่างที่เฮลิคอปเตอร์กำลังบินอยู่
“ดูเหมือนดังเคิลออสเตียสจะหลุดจากการขนส่ง พวกเราต้องไปจับมันกลับมา”
“ดังเคิลออสเตียส?” น้ำเสียงนั่นดูเหมือนว่าลูก้าจะไม่รู้ว่าดังเคิลออสเตียสคืออะไร
“ไม่รู้จักสินะ...บางทีการไม่รู้จักอาจดีกว่าก็ได้” ถ้ารู้จักแล้วทำเอาผมเริ่มเครียดแบบนี้ก็ไม่อยากรู้จักมันเลย
“อันตรายสินะ”
“ทำไมคิดงั้น?”
“ก็สามทำหน้าเครียดตั้งแต่วางสายแล้ว ถ้าเป็นสายพันธุ์ปกติสามคงไม่ทำหน้าแบบนั้นหรอก”
“ก็นะ...ดังเคิลออสเตียสเป็นปลาที่มีนิสัยอันดุร้ายยิ่งกว่าฉลามขาวในปัจจุบันซะอีก ด้วยความยาวกว่า10เมตรและฟันขนาดขนาดยักษ์ที่สามารถบดขยี้ได้แทบทุกสิ่งทำให้มันเป็นนักล่าที่บนสุดของห่วงโซ่อาหารในยุคดีโวเนียน แค่นั้นยังไม่พอดังเคิลออสเตียสยังมีหนังที่แข็งแกร่งกว่าปลาปกติหลายต่อหลายเท่า ดังเคิลออสเตียสกินอะไรรู้ไหมลูก้า” ผมอธิบายก่อนจะเปลี่ยนมาถาม
“ก็กินปลาไม่ใช่เหรอ”
“ใช่...แล้วกินปลาอะไรรู้รึเปล่า” ผมยังคงถามต่อ
“ไม่รู้ เฉลยมาเลย”
“ฉลาม”
“...” คำพูดผมทำให้คิ้วของลูก้าขมวดเข้าหากันแน่นทันที
“ดังเคิลออสเตียสล่าและกินฉลามในยุคเดียวกันจนฉลามนั่นสูญพันธ์ไปอย่างรวดเร็ว ถ้าดังเคิลออสเตียสออกล่าจะไม่มีอะไรหยุดมันได้”
“สาม...”
“เป็นภารกิจแรกที่สาหัสน่าดูเลย”
“ผมจะแพ้งั้นเหรอ” คำถามของลูก้าเรียกผมให้เงยหน้าขึ้นไปสบดวงตาสีเงินที่จับจ้องมา แม้คำพูดนั่นเหมือนคนกำลังหมดกำลังใจทว่าดวงตาสีเงินกลับไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้สักนิด รู้สึกว่าลูก้าจะเป็นพวกไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรสินะ ผมเองคงต้องเอาอย่างบ้างแล้ว
“ไม่แพ้หรอก...ถ้าเป็นลูก้า ไม่แพ้แน่” ผมพูดด้วยรอยยิ้มที่เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น
“ไม่ใช่แค่ผมสิ”
“อะไร...”
“ไม่ใช่แค่ผมที่จะไม่แพ้ สามก็จะไม่แพ้ด้วย”
“ลูก้า”
“พวกเราจะไม่แพ้”
“อืม ไม่แพ้แน่” ถ้าเป็นตอนนี้ผมรู้สึกว่าต่อให้เจอดังเคิลออสเตียสผมก็ไม่มีทางแพ้ตราบเท่าที่ยังมีลูก้าอยู่ด้วย
“จะปกป้องสามเอง”
“ขอบคุณ ผมเองก็จะปกป้องลูก้าเหมือนกัน” พวกเราเป็นคู่หู
“ถึงแล้วครับ” เสียงของเจ้าหน้าที่ขับเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้น
“ครับ” ผมลุกขึ้นพร้อมกับเปิดประตูเฮลิคอปเตอร์ออกแล้วชะโงกลงไปดูด้านล่าง
พื้นน้ำสีฟ้าแกมน้ำเงินด้านล่างถูกย้อมด้วยสีแดงสดของเลือดเป็นหย่อมๆ โดยไม่ไกลกันมีเรือขนาดใหญ่แล่นอยู่ท่ามกลางผืนน้ำสีแกงก่ำ ถ้าให้เดาเรือนั่นต้องเป็นเรื่อที่ขนดังเคิลออสเตียสมาส่วนน้ำทะเลสีแดงนั่นคงเป็นฝีมือการล่าของดังเคิลออสเตียส พวกมันคงกำลังหิวไม่ก็กำลังหงุดหงิดเลยระบายออกโดยการล่าทุกสิ่งที่เคลื่อนไหว
แบบนี้อันตรายแฮะ แถมดูแล้วไม่น่าจะมีตัวเดียวด้วย ภารกิจแรกก็ดันเจอดังเคิลออสเตียสทั้งฝูงเป็นการรับน้องที่น่าสนุกและตื้นเต้นดีนี่
“สาม”
“พวกดังเคิลออสเตียสไม่ได้มีแค่ตัวเดียว” ผมบอกกับลูก้าที่เดินตามมา
“เอาไงต่อ”
“กระโดดจากนี่คิดว่าไหวไหม”
“จากนี่? ไม่เคยแต่คิดว่าไหว”
“ดี เราจะกระโดดลงไป พอใกล้น้ำลูก้าก็กลับร่างได้เลย พวกดังเคิลออสเตียสต้องว่ายมาหาพวกเราแน่” แรงสะเทือนขนาดนั้นสัตว์น้ำตัวอื่นคงหนีแต่ถ้าเป็นดังเคิลออสเตียสนักล่าแห่งท้องทะเลพวกมันจะมาแน่
“แล้วสามจะทำยังไง”
“ตอนที่ลูก้ากลับร่างผมจะเกาะคอไว้พอลงน้ำจะช่วยจัดการดังเคิลออสเตียส” ผมอธิบายสิ่งที่คิดออกไป
“เข้าใจแล้ว”
“มีอย่างนึงที่อยากบอก”
“ว่ามาเลย”
“พวกเราต้องจับพวกดังเคิลออสเตียสเป็นๆ กลับไป แต่ในกรณีเลวร้ายลูก้าก็จัดการไปได้เลย”
“สาม...”
“ความปลอดภัยของลูก้าเป็นที่หนึ่ง เข้าใจนะ”ผมย้ำให้อีกฝ่ายได้ยิน สำหรับผมการทำภารกิจไม่สำเร็จนั้นไม่ทำให้เสียใจเท่ากับการที่ลูก้าได้รับอันตราย ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูก้าผมก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเขา
“เป็นห่วงผมเหรอ” ลูก้าถามพลางด้วยน้ำเสียงดีใจ
“แน่นอน” เป็นห่วงที่สุดด้วย
“ผมจะไม่เป็นไร สามก็ด้วยนะ”
“ไปกันเถอะ” ผมพยักหน้าก่อนจะถอดเสื้อผ้าเป็นชุดดำน้ำแบบพิเศษที่สวมไว้ด้านใน
ผมหันไปสบตากับลูก้าก่อนที่พวกเราจะกระโดดลงไปยังพื้นน้ำสีฟ้าแกมน้ำเงินด้านล่างนั่น ความเร็วของแรงดิ่งดูจะมากกว่าที่คิดไว้พอสมแต่ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะผมชอบเล่นพวกกีฬาหวาดเสียวอยู่แล้ว ความสูงผมไม่กลัวหรอก
ยิ่งใกล้ทะเลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นซากของปลาหลากหลายชนิดลอยขึ้นมาในสภาพโดนฉีกกระชากจากเขี้ยวอันแหลมคมได้ชัดเจนขึ้น
“สาม กลับร่างละนะ” ลูก้าตะโกนบอกก่อนที่ร่างมนุษย์บนฟ้าจะกลายเป็นร่างไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ยักษ์ ด้วยร่างกายที่ใหญ่ทำให้น้ำหนักมากขึ้นกว่าในร่างมนุษย์ส่งผลให้ตกลงสู่ผืนน้ำด้วยความเร็วเพิ่มขึ้น เมื่อร่างของลูก้ามาถึงผมก็รีบคว้าส่วนคอที่ยาวเล็กน้อยนั่นไหวแน่น
ตู้ม!!
เพียงไม่กี่วินาทีร่างของพวกเราก็ตกลงน้ำพร้อมกับผืนน้ำกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง ผมเตรียมกลั้นหายใจไว้ก่อนจะลงน้ำเลยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาขึ้นไปหายใจ ผมลืมตาพร้อมกับหันไปมองรอบๆ อย่างระแวดระวังโดยมีลูก้าอยู่ข้างๆ มือข้างหนึ่งของผมลูบผิวหนังลื่นๆ นั่นไปมาแทนคำพูดว่าผมลงมาอย่างปลอดภัย
กรรรร~
ท่าทีสงบนิ่งของลูก้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย คมเขี้ยวอันแหลมคมอ้าออกเล็กน้อยเตรียมเปิดฉากต่อสู้ ทันทีที่ดังเคิลออสเตียสเข้ามาอยู่ในสายตาลูก้าก็พุ่งตัวไปจัดการด้วยความเร็วเหนือกว่า ทำให้ดังเคิลออสเตียสตัวแรกถูกลูกขย้ำเข้าบริเวณโคนหางก่อนจะเหวี่ยงไปด้านบนเต็มแรง
กรรรร~
แน่นอนว่าการต่อสู้ไม่ได้จบลงเพราะดังเคิลออสเตียสไม่ได้มีแค่ตัวเดียว ดังเคิลออสเตียสอีกหลายตัวว่ายเข้ามาจากหลายทิศทางลูก้าเองคงจะรู้ตัวแต่แทนที่จะพุ่งไปจัดการตัวที่อยู่ใกล้สุดกลับหันกลับมามองผมด้วยสายตาเป็นห่วงจนโดนดังเคิลออสเตียสกัดเข้าเต็มแรง
งี๊ดดดด~
ลูก้า!
ผมรีบว่ายไปหาหมายจะเข้าไปช่วยแต่ดังเคิลออสเตียสสามตัวกลับว่ายมาล้อมผมไว้จากสามทิศทาง ดวงตาขนาดใหญ่จ้องมาราวกับจะไม่ปล่อยเหยื่ออันโอชะให้รอดไปได้ ทางลูก้าเมื่อถูกกัดก็อาศัยส่วนคอที่ยาวจัดการขย้ำเข้าบริเวณท้องของดังเคิลออสเตียสจนมันล่าถอยไป ทว่าการล่าถอยไม่ได้แสดงถึงการยอมแพ้
ดังเคิลออสเตียสไม่ใช่สัตว์ที่จะยอมแพ้...พวกมันจะยอมแพ้ต่อเมื่อตายเท่านั้น!
กรรรร~
กรรรร~
เสียงคำรามใต้น้ำดังขึ้นพร้อมกับดังเคิลออสเตียสอีกห้าตัวโผล่มาล้อมลูก้าไว้เช่นเดียวกันผม ลูก้าไม่ได้กังวลที่ตัวเองโดนดังเคิลออสเตียสล้อมแต่ดวงตาสีเงินยังยังคงหันมามองผม พอเห็นว่ามีดังเคิลออสเตียสสามตัวล้อมผมอยู่ลูก้าก็เตรียมจะว่ายมาหาแต่กลับถูกดังเคิลออสเตียสตรงนั้นขวางไว้
ลูก้าไม่มีสมาธิกับการสู้
ผมรู้ได้ทันทีจากท่าทางและการกระทำพวกนั้น ส่วนสาเหตุที่ลูก้าไม่มีสมาธิคงเป็นตัวผม เพราะลูก้าเป็นห่วงผมเลยกังวลจนไม่มีสมาธิสู้
ให้ตายสิ
เป็นห่วงก็ดีอยู่หรอก...แต่แบบนี้เหมือนลูก้าไม่เชื่อใจผมเลยทั้งที่พูดว่าพวกเราจะไม่แพ้แท้ๆ
น่าโมโห
เมื่ออยู่ในน้ำการจะพูดนั้นทำไม่ได้อยู่แล้วผมเลยเปลี่ยนเป็นชี้นิ้วไปยังลูก้าก่อนจะชี้กลับมาที่ตัวเอง ผมอยากให้ลูก้ามองผม และผมจะแสดงให้เห็นว่าดังเคิลออสเตียสสามตัวไม่คาระนามือหรอก
งี๊ดดด~
กรรรรร~
ดังเคิลออสเตียสสามตัวเหมือนจะไม่อดทนรอนานกว่านี้พวกมันพุ่งเข้ามาจากสามทิศทาง แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวนั้นเป็นจุดอ่อนของดังเคิลออสเตียส ด้วยความที่พวกมันมีเกราะอันแข็งแกร่งทำให้มีน้ำหนักมากส่งผลให้เคลื่อนไหวช้า การเคลื่อนไหวนั่นผมหลบได้ไม่ยากเพียงแค่ดำลงไปในน้ำที่ลึกขึ้น ดังเคิลออสเตียสทั้งสามตัวที่พุ่งเข้ามาชนกันอย่างแรงจนเกิดกระแสน้ำรุนแรงขึ้น
ผมไม่สนว่ากระแสน้ำนั่นจะทำให้ทรงตัวอยาก สิ่งเดียวที่รู้คือนี่เป็นโอกาส...อาวุธขนาดเล็กถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าของชุดดำน้ำ มีดสีเงินใสขนาดบางเฉียบถูกถือไว้ในมือก่อนจะพุ่งเข้าหาดังเคิลออสเตียสตัวใกล้สุดแล้วจัดการกรีดบริเวณส่วนโคนครีบ ในเสี้ยววินาทีหลังการกรีดร่างของดังเคิลออสเตียสก็ดิ้นทุรนทุรายก่อนจะค่อยๆ ลอยขึ้นไปด้านบนทั้งๆ แบบนั้น
สิ่งที่ผมทำไม่ใช่การใช้พิษหรือตัดครีบแต่คือการกรีดเบาๆ ไปยังเส้นประสาทโดยตรง ครีบเป็นส่วนช่วยรักษาสมดุลในการว่ายถ้าเกิดอะไรขึ้นก็จะทรงตัวไม่ได้อย่างที่เห็น
อาวุธนี่ใช้ได้แฮะ
ของในมือผมอาจดูเหมือนมีดซึ่งก็ทั้งใช่และไม่ใช่ มันยังมีอะไรที่พิเศษกว่านั้นอีก
พอดังเคิลออสเตียสตัวแรกถูกจัดการผมก็หันไปสบตากับลูก้าที่มองมาอย่างไม่เชื่อสายตาด้วยรอยยิ้มภูมิใจ ผมชี้นิ้วไปยังลูก้าอีกรอบแน่นอนว่าผมไม่ได้ชี้กลับมายังตัวเองแต่เป็นดังเคิลออสเตียสที่ล้อมรอบอีกฝ่ายไว้
จัดการซะลูก้า!
กรรร~
เพียงแค่เห็นท่าทางนั้นลูก้าก็เหมือนจะเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อ เรียวปากขนาดใหญ่อ้าออกพร้อมเสียงคำรามก่อนจะพุ่งตัวไปหาดังเคิลออสเตียสที่ล้อมอยู่ แบบนั้นคงไม่ต้องห่วงแล้วที่เหลือคือผมจะทำยังไงกับอีกสองตัวที่เหลือนี่ดี อากาศก็ใกล้หมดแล้วด้วย
กรรรร~
เสียงคำรามใต้น้ำดังขึ้นทั่วบริเวณดังเคิลออสเตียสสองตัวพุ่งเข้ามาหาผมพร้อมกับอ้าฟันขนาดใหญ่สำหรับบดขยี้สิ่งมีชีวิตออกกว้าง แผนเดิมคงไม่ได้ผลถ้าแบบนั้นก็ต้อง...
เสี้ยววินาทีที่ร่างของดังเคิลออสเตียสเข้ามาประชิดผมก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปกดส่วนหัวของมันอาศัยเป็นแรงผลักเพื่อม้วนตัวขึ้นไปอยู่บนหลัง
กรรรรร~
แน่นอนว่าคงไม่มีใครยอมอยู่นิ่งๆ ดังเคิลออสเตียสสะบัดไปมาอย่างรุนจนผมต้องใช้แรงทั้งหมดเพื่อยึดร่างกายลื่นๆ นี่ไว้ อาวุธในมือถูกทำให้มีรูสำหรับใช้นิ้วเกี่ยวไว้ได้เลยหมดปัญหาว่าจะต้องทิ้งอาวุธไป ใช้เวลาไม่นานความเร็วของมันก็เริ่มตกผมเลยรีบจัดการใช้อาวุธกรีดลงไปยังส่วนระหว่างหัวและตัวที่อ่อนแอกว่าส่วนอื่น
ก่อนที่ผมจะไปทำการวิจัยหรือทดลองผมเป็นมือหนึ่งด้านพฤติกรรมสัตว์น้ำนะ ทุกๆ วันผมหมกอยู่กับสัตว์เหล่านั้นเพื่อเฝ้าดู มีหลายครั้งที่เอาสัตว์ที่ตายไปมาผ่าตรวจดู ดังนั้นเรื่องโครงสร้างของปลาน่ะผมรู้ดี
กรรรร~
ดังเคิลออสเตียสตัวที่ผมขี่ดิ้นไปมาสักพักพอหยุดขยับตัวร่างนั้นก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนผิวน้ำ
ที่ผมทำก็แค่ให้ชาชั่วขณะไม่ได้ฆ่าหรอก ผมรู้ว่าการจะฆ่าต้องกรีดส่วนไหนพอๆ กับการหยุดว่าควรกรีดส่วนไหนเช่นกัน
“อึก...” อากาศมัน
ผมเงยหน้าขึ้นไปมองยังผิวน้ำก่อนจะตัดสิใจหยิบออกซิเจนขนาดพกพามาต่อลมหายใจ แม้จะว่ายขึ้นไปก็คงหมดลมก่อน โชคดีที่เอามาด้วย
กรรรร~
เสียงนั่นเรียกผมให้หันไปมองพร้อมกับดวงตาสีน้ำตาลที่เบิกกว้างขึ้นเมื่อลืมไปว่ายังเหลือดังเคิลออสเตียสอยู่อีกตัว
หลบไม่พ้น
“อั๊ก!” ออกซิเจนถูกพ่นออกมาจนเกิดฟองเมื่อบริเวณสีข้างถูกฟันของดังเคิลออสเตียสถากจนเลือดออก
เมื่อรู้ว่าหลบไม่พ้นทางเดียวที่ทำได้คือลดความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุด นั่นทำให้ผมโดนเพียงฟันถากๆ เท่านั้น
ขนาดแค่ถากยังเจ็บขนาดนี้ แถมน้ำทะเลยิ่งทำให้แผลแสบเข้าไปอีก ดังเคิลออสเตียสเหมือนรู้ว่าเหยื่อที่หมายตายังมีชีวิตมันเลยหมุนตัวกลับมายังผมอีกรอบ
ร่างกาย...ขยับไม่ได้ดั่งใจ
บ้าเอ้ย!
กรรรรรรร~
ระหว่างที่ความสิ้นหวังมาเยือนร่างสีฟ้าคาดแดงก็พุ่งทะยานมาพร้อมกับอ้าปากออกกว้างขย้ำเข้าไปยังส่วนลำตัวแต่ด้วยความแข็งของหนังทำให้เขี้ยวของลูก้าเข้าไปได้ไม่ลึกพอ เห็นแบบนั้นผมก็เม้มปากแน่นข่มความเจ็บว่ายเข้าไปยังดังเคิลออสเตียสแล้วจัการเข้าบริเวณที่อ่อนแอของมัน ส่วนที่อ่อนแอของดังเคิลออสเตียสก็เหมือนปลาทั่วไปก็คือครีบและส่วนข้อต่อของหัวและลำตัว
งี๊ดดด~
ลูก้าว่ายเข้ามาหาโดยใช้ส่วนคอที่ยาวเล็กน้อยพันร่างผมไว้ก่อนจะว่ายพาขึ้นไปด้านบน ด้วยความเจ็บผมเลยไม่ขัดขืนอะไรนัก เมื่อโผล่พ้นผิวน้ำก็เจอเข้ากับเรือขนาดใหญ่ที่ด้านบนมีกลุ่มคนกำลังชะโงกลงมามองด้วยใบหน้าตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“พวกเราคือคนของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ!” ผมตะโกนบอกคนด้านบน
“หน่วยปฏิบัติการพิเศษ? พวกเราได้ยินมาแล้วแต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้แถมยังจัดการดังเคิลออสเตียสได้หมดอีก” ใบหน้าตื่นตกใจนั่นดูน่าขำแต่ด้วยความเจ็บในตอนนี้คงขำไม่ออก
“รีบจับพวกดังเคิลออสเตียสเถอะครับ”
“ขะ...เข้าใจแล้ว”
“แล้วก็ขออุปกรณ์ปฐมพยาบาลด้วย” ผมพูดต่อ
“ได้ครับ ทางขึ้นเรืออยู่ทางนั้น พวกนายไปดูแลหน่อย” บอกผมเสร็จก็หันไปบอกกลุ่มคนข้างๆ ต่อ
“สาม” ลูก้ากลับมาอยู่ในร่างมนุษย์ก่อนจะว่ายเข้ามากอดผมไว้แน่น
“ลูก้า เก่งนี่จัดการได้เร็วแบบนั้น”
“สามเก่งกว่าอีก สุดยอดไปเลยที่เคลื่อนที่ได้ขนาดนั้น” ลูก้าเอ่ยชม
“ถึงแบบนั้นก็ต้องให้มาช่วยอยู่เรื่อย ทั้งที่อยากจะโชว์ว่าไม่ต้องห่วงแล้วแท้ๆ เชียว” แบบนี้คงทำให้เป็นห่วงกว่าเดิมแน่ๆ
“ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะช่วย”
“ขอบคุณ”
จากนั้นลูก้าก็พาผมขึ้นไปบนเรือ ก่อนจะขึ้นผมส่งเสื้อผ้าที่เตรียมมาในกระเป๋าให้อีกฝ่ายใส่แล้วค่อยเดินตาคนบนเรือไปจนถึงห้องขนาดเล็กที่มีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเตรียมไว้
“ให้พวกเราช่วยอะไรไหมครับ” ชายหนุ่มหนึ่งในคนนำทางมายังห้องนี้ถามขึ้น
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก”
“ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลยนะครับ” พูดจบก็เดินออกไปจากห้องพร้อมปิดประตู
ภายในห้องตอนนี้มีเพียงผมนั่งเปิดกล่องปฐมพยาบาลโดยมีลูก้านั่งมองมาอย่างห่วงๆ รอยถากจากดังเคิลออสเตียสทำให้เกิดแผลค่อนข้างใหญ่ตั้งแต่หน้าท้องไปจนเกือบถึงเอว ถึงแผลจะไม่ลึกมากแต่เลือดก็ยังซึมๆ อยู่
“สาม เจ็บมากไหม” ลูก้าระหว่างมองแผลผม
“เจ็บนะ แต่ไม่มาก”
“ให้ผมทำให้นะ” ยาฆ่าเชื้อในมือถูกอีกฝ่ายแย่งไป ลูก้าขยับตัวมาใกล้ใช้สำลีชุบยาฆ่าเชื้อเช็ดบริเวณแผลอย่างเบามือ เบามากจนผมไม่รู้สึกเจ็บสักนิด
“มือเบาจัง” ผมบอก
“แปลว่าไม่เจ็บสินะ”
“อืม ถ้าทำเองคงเจ็บกว่านี้แน่”
“เช็ดเสร็จแล้วต่อไปใส่ยาใช่ไหม” ลูก้าถามต่อ
“ใช่ ยาตัวนี้” ผมเอื้อมมือไปหยิบขวดยาสีน้ำตาลเข้มส่งให้ลูก้าที่พยักหน้าเข้าใจ แผลของผมถูกลูก้าช่วยจนเสร็จในเวลาไม่นาน เพียงแต่บรรยากาศแปลกๆ จากลูก้าแผ่ออกมาจนผมต้องคอยมองสังเกตอีกฝ่ายว่าเกิดอะไรขึ้น
“สาม”
“อะไรลูก้า”
“สามบอกว่าถ้าเกิดกรณีร้ายแรงก็สามารถจัดการได้ ให้เอาความปลอดภัยของผมเป็นที่หนึ่ง...”
“ใช่ ผมพูดแบบนั้น”
“ตอนที่ผมโดนกัดไม่ได้รู้สึกว่าเป็นกรณีร้ายแรงขึ้นขนาดต้องฆ่า แต่พอดังเคิลออสเตียสตัวนั้นทำร้ายสามจนเลือดออกผมกลับรู้สึกอยากฆ่า อยากจัดการใครก็ตามที่มาทำให้สามเจ็บ...การที่คิดแบบนั้นมันไม่ดีใช่ไหม” คำอธิบายด้วยน้ำเสียงหง๋อยๆ นั่นทำให้ผมถอนหายใจยาวออกมา
“ผมตอบไม่ได้หรอกว่ามันดีหรือไม่ดี เรื่องของความคิดมันเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล แต่ที่ผมบอกได้คือถ้าผมเป็นลูก้าก็คงคิดเหมือนกัน”
“สาม...”
“ถ้าผมเห็นลูก้าต้องถูกทำร้ายจนบาดเจ็บผมก็คงจะไม่ให้อภัยคนที่ทำแบบนั้นง่ายๆ ” ผมบอกพลางเอื้อมมือไปลูบเส้นผมสีฟ้าแซมแดงตรงหน้าเบาๆ
“สาม”
พรึ่บ!
ร่างของลูก้าโผลเข้ามากอดแน่นจนผมเซหงายลงไปนอนราบกับโซฟาโดยมีลูก้าคร่อมอยู่ด้านบน ใบหน้าของลูก้าซุกลงพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดต้นคอ แขนทั้งสองข้างเองก็กระชับร่างเราให้แนบสนิทกันมากขึ้น
“ลูก้า...”
“ผมไม่อยากเห็นสามเจ็บ...แต่ผมก็ไม่อยากได้ใครเป็นคู่หูนอกจากสาม” ประโยคนั้นเหมือนคนที่กำลังสับสนกับความคิดซึ่งขัดกันอยู่ สิ่งที่ลูก้าคิดก็เหมือนกับผม...ผมเองก็ไม่อยากเห็นลูก้าเจ็บและก็ไม่อยากให้ลูก้าหาคู่หูคนอื่นนอกจากผมด้วย เป็นความคิดที่ขัดแย้งกันเอง
“ผมเป็นคู่หูของลูก้า” ผมกระซิบพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอีกฝ่ายบ้าง
“สาม สาม...”
“ครั้งนี้ผมอาจบาดเจ็บ แต่รับรองว่าครั้งหน้าไม่มีแน่นอน” ผมย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ไม่อยากให้ลูก้าต้องมาคอยห่วงหรือกังวล
“จะปกป้องสาม”
“เราจะปกป้องกันและกัน”
“อืม”
“เอาล่ะ...ลุกได้แล้วผมขอดูแผลหน่อย จำได้ว่าโดนกัดมือนี่” ผมพูดพร้อมออกแรงดันไหล่อกีฝ่ายให้ลุกขึ้นนั่งแต่กลับไม่เป็นผลเลยสักนิดเดียว
“ขออยู่แบบนี้อีกแป๊บ”
“ก็ได้อยู่ แต่แผลน่ะ...”
“แผลแค่นั้นผมไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้อยากกอดสาม”
“ก็กอดอยู่นี่” จะมาอยากกอดอะไรอีก
“อยากกอดแน่นๆ ”
“นี่ยังไม่แน่นพออีกเหรอ หายใจจะไม่ออกแล้ว” ผมบ่นด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ได้กอดแน่นขนาดนั้นสักหน่อย”
“โอ้ย! โอ้ย! กระดูกจะหักแล้ว” ผมแกล้งบิดเสียงร้องโอดครวญ
“กวน” คำเดียวที่สุดถูกมาทำเอาผมหลุดขำออกมาทั้งที่แผลยังเจ็บอยู่
“น่ารักจริงๆ ลูก้า”
“น่ารักแล้วรักรึยังล่ะ” สุดท้ายก็วกมาเรื่องนี้จนได้
“...นั่นสินะ...ถ้ายอมกระโดดลอดห่วงจะรักโดยการให้ปลาละกัน”
“ผมไม่ใช่โลมา”
“งั้นก็ขึ้นไปเลี้ยงตัวบนบอล...”
“นั่นแมวน้ำ”
“แมวน้ำก็อยู่ในน้ำสิจะอยู่บนบอลได้ยังไง” ผมกวนต่อ
“สาม!”
“คิก!” เสียงทุ้มที่เรียกชื่อผมแข็งทำอาหลุดขำออกมาอีกรอบ
ไม่ว่าจะเป็นตอนเด็กหรือตอนโตก็ไม่ได้เปลี่ยนเลยตรงจุดนี้ ไม่สิ ไม่ใช่แค่ลูก้าที่ไม่เปลี่ยนแต่ผมเองก็เหมือนกัน พวกเราแหย่กันไปมา แพ้บ้างชนะบ้าง แต่การแหย่นั่นไม่เคยทำให้เราผิดใจกันเลยสักครั้งเดียว
........................................................
สวัสดีค่ะ
มาอัพช้าหน่อยพอดีมีปัญหากับคือเปลี่ยนคอมใหม่แล้วดันจำพวกพาสเวิดเข้าเว็บอัพนิยายไม่ได้ แต่ตอนนี้สามารถเข้าได้ปกติแล้วค่ะ
สำหรับตอนนี้อาจเป็นที่หลายคนรอคอยกับฉากบู๊ใต้น้ำแบบเต็มตัวของสามและลูก้า แต่งเองยังรู้สึกตื่นเต้นเองเลยค่ะ
การที่มนุษย์จะเคลื่อนไหวในน้ำสู้พวกปลาได้นั้นแทบเป็นไปไม่ได้ทำให้สามค่อนข้างเสียเปรียบเต็มๆ แต่เพราะมีทั้งทักษาะและไหวพริบเลยสามารถจัดการได้สำเร็จ
หวังว่าทุกคนคงจะชอบในภารกิจแรกของทั้งคู่นะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า
บ๊ายบายค่ะ
----มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์----
วันนี้ขอเสนอ ดังเคิลออสเตียส ชื่ออังกฤษ: Dunkleosteus ดังเคิลออสเตียส เป็นปลาทะเลขนาดใหญ่อาศัยอยู่ในปลายยุคดีโวเนียน (380-360 ล้านปีมาแล้ว) จัดเป็นปลาที่มีขากรรไกรที่เป็นปลานักล่ากินเนื้อขนาดใหญ่ที่เป็นเสมือนคู่แข่งตัวฉกาจของปลาฉลามในยุคต้นของการวิวัฒนาการเลยทีเดียว
ดังเคิลออสเตียส ถือเป็นสกุลของปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่อยู่ในอันดับ Arthrodira รูปลักษณ์ภายนอกของปลาสกุลนี้แลดูดุดันน่ากลัวมาก ที่เห็นเด่นชัดสุดคงเป็นแผ่นขากรรไกรแข็งแรง ยืดหยุ่นได้ดี ไม่มีฟันแต่ที่ขอบปากมีลักษณะแหลมคล้ายเขี้ยวทั้งด้านบนและล่าง ทำให้เป็นเหมือนจะงอยปากไว้งับเหยื่อโดยไม่ต้องใช้ฟัน ในขณะที่มีลำตัวตัวยาวกว่า10เมตรและมีโครงสร้างประกอบด้วยเกล็ดอย่างหนาและแข็งเสมือนชุดเกราะ
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://th.wikipedia.org/wiki/ดังเคิลออสเตียส
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪