แม้นมั่นคำสัญญา ตอนพิเศษที่หน้า 21จ้า [28/02/13]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แม้นมั่นคำสัญญา ตอนพิเศษที่หน้า 21จ้า [28/02/13]  (อ่าน 224418 ครั้ง)

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
แม้จะช้าไปนิดแต่ก็ยังเป็นวันอังคารนะค้า เหอๆๆ (คุณ kakuro คงถือมีดเตรียมสับป้าแหล่ว) เอาเป็นว่าไปอ่านกันเลยละกันเนะ เอิ้กๆ :z2:

++------++

บทส่งท้าย

ลมที่พัดบนเชิงเขาในตอนบ่ายวันส่งท้ายปีทำให้เกิดเสียงยอดไม้เสียดสีเป็นจังหวะ ขณะเดียวกันก็ส่งความเย็นผ่านประตูและหน้าต่างมุ้งลวดเข้ามาภายในบ้านที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว ทว่าเมฆบนฟ้ากลับน้อยจนแสงแดดแผดจ้าลงอาบความสว่างไสวให้ทิวทัศน์ภายนอกชวนพร่าตา

พรพฤกษ์ปิดปากไอเบาๆ ขณะเก็บของชิ้นสุดท้ายลงกล่องกระดาษเพื่อเตรียมขนลงไปชั้นล่าง เมื่อเสร็จแล้วก็ปิดฝากล่องและลุกขึ้นยืดหลังเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้าจากการทำความสะอาดบ้านและจัดเก็บของมาทั้งวัน

ชายหนุ่มลุกขึ้นและเดินไปหยุดยืนข้างหน้าต่างซึ่งมองออกไปเห็นทางเดินหน้าบ้านและโรงรถได้ ในนั้นไม่มีรถจี๊ปสีเขียวที่ควรจะจอดอยู่ในที่จอด เพราะว่าใครอีกคนขับรถของเขาออกไปเพื่อซื้ออาหารกลางวันจากร้านตรงตลาดเชิงเขาให้ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน พรพฤกษ์ยืนรออยู่ครู่หนึ่งก็ยังไม่เห็นวี่แววว่ารถจี๊ปสีเขียวคันนั้นจะเลี้ยวเข้ามา จึงเดินลงไปที่ห้องครัวชั้นล่างและชงน้ำชาร้อนๆ มาจิบ

ทำไมจะต้องไม่สบายเอาช่วงที่จะขนย้ายของไปกรุงเทพฯ แบบนี้ด้วยนะ...

พรพฤกษ์บ่นกับตัวเองในใจ จากนั้นก็ทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องครัวระหว่างรอตระการกลับมาพร้อมอาหารกลางวัน ที่วันนี้เขาไม่ทำกับข้าวเองก็เพราะว่าไม่ได้ซื้อของสดติดตู้เย็นไว้ และตระการก็เห็นว่าเขาไม่สบาย จึงบอกให้พักและขับรถออกไปซื้อกับข้าวให้แทน ความจริงแล้วอีกฝ่ายบอกเขาว่าให้นอนเฉยๆ และเลิกเก็บของไปเลยด้วยซ้ำ แต่พรพฤกษ์อยากจัดการข้าวของในบ้านให้เรียบร้อย จึงถือโอกาสที่อีกฝ่ายไม่อยู่แอบเก็บของที่เหลือจนเสร็จเกือบหมด

ชายหนุ่มยกถ้วยชาที่วางไว้จนเริ่มคายความร้อนออกไปบ้างแล้วขึ้นจิบ ตอนแรกเขาก็คิดว่าจะลุกไปนั่งดูโทรทัศน์ฆ่าเวลาระหว่างที่ตระการยังไม่กลับ แต่ความปวดเมื่อยตามเนื้อตัวและอาการมึนหัวเหมือนมีอะไรหนักๆ ถ่วงอยู่ข้างในก็ทำให้คร้านจะลุกจากเก้าอี้ สุดท้ายจึงเลื่อนถ้วยชาไปด้านข้างก่อนจะฟุบหน้าลงบนท่อนแขนที่ประสานกันบนโต๊ะ ชายหนุ่มตะแคงหน้าพลางมองไปทางห้องนั่งเล่น แล้วก็ให้นึกถึงวันคืนก่อนที่ใครคนหนึ่งจะเริ่มก้าวเข้ามาในชีวิตของเขา

เมื่อก่อนตอนที่เราไม่สบายแล้วไม่มีแขกมาพักนั่นเราอยู่คนเดียวได้ยังไงกันน่ะ...สงสัยทั้งวันแทบไม่ได้กินอะไร เอาแต่นอนจนไข้หายไปเองละมั้ง...

พรพฤกษ์คิดท่ามกลางความวิงเวียนในหัว ความจริงแล้วเขาไม่ได้เพิ่งจะรู้ตัวว่าไม่สบายเอาวันนี้ แต่เมื่อสองวันก่อนซึ่งเป็นวันที่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มาเชียงใหม่นั้นเขายังไม่ค่อยมีอาการ จึงคิดเอาเองว่าคงไม่เป็นอะไรหนักหนา พอถึงตอนนี้ก็เลยอดจะนึกถึงคำพูดของตฤณก่อนที่พวกเขาจะออกมาจากบ้านไม่ได้



“ทำไมถึงไม่ให้พวกบริษัทขนย้ายเขาจัดการให้ เสียเวลาขับรถไปกลับเองให้ได้อะไรขึ้นมา ปีใหม่อุบัติเหตุทางถนนเยอะก็รู้ๆ อยู่”

ตฤณเอ่ยขึ้นขณะที่พวกเขาเพิ่งจะทานมื้อเช้าร่วมกันกันเสร็จ เพราะว่าเขากับตระการตกลงกันว่าจะขับรถออกจากบ้านไปเชียงใหม่ในช่วงสาย ถึงแม้คนพูดจะพูดไปจิบกาแฟไปด้วยท่าทางเหมือนไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่หางเสียงก็บอกให้รู้ว่าไม่เห็นด้วยกับแผนการในปีใหม่ของพวกเขาสักเท่าไหร่

พรพฤกษ์เหลือบตาขึ้นสบตากับตระการที่ยิ้มอย่างอ่อนใจเพราะรู้นิสัยของพ่อตัวเองดี จากนั้นก็เป็นเขาเองที่หันไปตอบคำถามของผู้อาวุโส

“ของที่ต้องขนมาส่วนใหญ่ก็ทยอยมาไว้ที่นี่เกือบหมดแล้ว มันก็เลยเหลือไม่เยอะแล้วครับคุณลุง อีกอย่างผมอยากแวะเที่ยวระหว่างทางด้วย แล้วถ้าหากไม่ไปกันช่วงปีใหม่ต้นเขาก็ติดงาน ผมไม่อยากให้ต้นต้องลางานครับ”

ผู้สูงวัยเหลือบตามองเขาผ่านขอบถ้วยกาแฟที่ยกขึ้นจิบ จากนั้นก็เบนสายตาไปทางอื่นแล้วส่งเสียงในคออย่างไม่พอใจ แต่พรพฤกษ์ก็รู้ว่าที่อีกฝ่ายแสดงออกแบบนั้นเพราะใจจริงเป็นห่วงพวกเขาทั้งคู่ จึงเพียงแต่ยิ้มแล้วรินกาแฟจากกาเพิ่มให้เมื่อเห็นกาแฟในถ้วยของตฤณพร่องลง

หลังจากที่ตอบตกลงว่าจะย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ด้วยเมื่อช่วงต้นปี พรพฤกษ์ก็ไม่ได้ย้ายข้าวของทุกอย่างมาในทันที เนื่องจากเขายังมีแขกที่จองห้องพักไว้ล่วงหน้ายาวหลายเดือน และเขาก็ไม่อยากเสียมารยาทด้วยการแคนเซิลแขกที่คอนเฟิร์มห้องแล้ว จึงใช้วิธีปฏิเสธแขกที่ติดต่อมาทีหลังแทนด้วยเหตุผลว่าจะปิดปรับปรุง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คนที่ต้องเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพฯ กับเชียงใหม่จึงกลายเป็นเขาแทนตระการ ทั้งเพราะต้องคอยขึ้นไปดูแลเกสต์เฮ้าส์ในช่วงที่มีแขกเข้าพัก ทั้งเพื่อทยอยเก็บข้าวของส่งมาที่บ้านของตระการที่กรุงเทพฯ ด้วย

นับจากวันที่ตฤณยอมรับให้เขาเข้ามาเป็นสมาชิกของบ้านก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว การวางตัวของพวกเขาจากที่เคยประดักประเดิดก็เริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น ตฤณไม่ได้ถึงกับเปลี่ยนท่าทีจากหน้ามือเป็นหลังมือด้วยการโอนอ่อนเข้าหาเขากับตระการ แต่พัฒนาการที่พรพฤกษ์สังเกตได้คือผู้สูงวัยสนใจไถ่ถามความเป็นไปของพวกเขามากขึ้น แม้ว่าจะยังติดการใช้น้ำเสียงห้วนๆ แต่ก็ไม่มีคำพูดกระแนะกระแหนหรือเสียดแทงความรู้สึกเหมือนตอนที่ยังไม่ได้ญาติดีกันอย่างเมื่อก่อน

ส่วนสาเหตุที่เขาเรียกตฤณว่า ‘ลุง’ นั้น เป็นเรื่องจากความบังเอิญแท้ๆ เพราะว่าวันหนึ่งขณะที่เขานั่งคุยอยู่กับยายแสนหน้าบ้านและตฤณกำลังจะเดินเข้าบ้าน จู่ๆ อีกฝ่ายก็สะดุดขั้นบันไดเพราะหน้ามืดกะทันหัน ดีว่าพรพฤกษ์อยู่ใกล้เลยเข้าไปประคองทันก่อนจะล้มคะมำและเผลอถามว่า ‘คุณลุงเป็นอะไรหรือเปล่าครับ’ ตอนนั้นดูตฤณจะอึ้งไปนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงและปล่อยให้เขาเรียกว่าลุงไปอย่างนั้น พรพฤกษ์จึงใช้สรรพนามนั้นตลอดเสียเลยเพราะเขารู้สึกว่าการเรียกชื่อนั้นห่างเหินเกินไป แต่เขาไม่อยากเรียกอีกฝ่ายว่า ‘พ่อ’ เพราะการที่แม่ของเขาเคยมาเป็นแม่เลี้ยงให้ตระการก็ทำให้สถานะของเขาเป็นกึ่งๆ ลูกเลี้ยงของตฤณอยู่แล้ว หากเขายังเรียกอีกฝ่ายด้วยคำนั้นก็คงกระดากปากในเมื่อตอนนี้เขาคบกับตระการซึ่งตามศักดิ์ก็เป็นน้องเลี้ยง ฝ่ายตระการก็ไม่ได้มีปัญหาที่เขาเรียกตฤณว่าคุณลุง เจ้าตัวดูจะชอบเสียด้วยซ้ำตอนที่เขาเล่าให้ฟังว่าเริ่มใช้สรรพนามนี้กับตฤณได้อย่างไร

“จะยังไงก็เถอะ เราน่ะไม่สบายอยู่ไม่ใช่หรือไง ออกไปตะลอนๆ เดี๋ยวก็ได้ยิ่งป่วยหนักขึ้นกันพอดี”

ตฤณเอ่ยขึ้นอีก พรพฤกษ์จึงกะพริบตาอย่างแปลกใจ เพราะที่โต๊ะอาหารเขาก็เพียงแต่ไอเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่ทันคิดว่าตฤณจะจับสังเกตได้

“เดี๋ยวผมขับรถเองตลอดทาง แล้วจะดูแลให้ไผ่กินยากับนอนพักครับ พอดีช่วงนี้มันเหมาะจะไปที่สุดเพราะผมได้หยุดยาว ยังไงจัดการเรื่องบ้านโน้นเสร็จแล้วผมจะรีบพาไผ่กลับมา”

ตระการช่วยตอบคำถามของบิดาแทนเขา พรพฤกษ์จึงยิ้มและพยักหน้าเพื่อให้ตฤณสบายใจ เขารู้ดีว่าความจริงตระการก็คงไม่ได้อยากพาเขาไประหกระเหินตอนไม่สบายอย่างนี้ แต่อีกฝ่ายก็คงอยากเร่งให้เขาได้มาอยู่กรุงเทพฯ แบบไม่ต้องเทียวไปเทียวมาด้วยเหมือนกัน ถึงได้ตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องไปช่วยเขาขนข้าวของที่เหลือมาจากบ้านนฤมิตรให้หมดในช่วงวันหยุดปีใหม่นี้ให้ได้

“เฮอะ ยังไงก็ขับรถขับราให้มันดีๆ ก็แล้วกัน อย่าให้คนหัวหงอกต้องเป็นคนไปเยี่ยมลูกหลานที่โรงพยาบาล มันบาปกรรม”

ยายแสนยิ้มอย่างระอาขณะเดินเข้ามาเก็บสำรับอาหารของทั้งสามที่ทานเสร็จแล้วลงถาด และพรพฤกษ์กับตระการก็เผลออมยิ้มให้กัน เพราะรู้ดีว่านั่นคือวิธีการพูดที่แสดงออกถึงความห่วงใยของตฤณที่อ้อมค้อมน้อยที่สุดแล้ว หลังจากคล้อยหลังหัวหน้าแม่บ้านแล้ว พรพฤกษ์จึงลุกขึ้นแล้วเข้าไปพนมมือไหว้ตฤณตรงหัวไหล่

“ไม่ต้องห่วงครับคุณลุง ต้นไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้นแน่ๆ ครับ”

ผู้สูงวัยเพียงแต่ทำเสียงพ่นจมูกอย่างไม่พอใจ แต่ว่าก็ไม่ได้โต้แย้งอีก ตระการจึงทำความเคารพพ่อตัวเองบ้าง จากนั้นพวกเขาก็ขอตัวออกมาจากห้องอาหารเพื่อจะได้ออกเดินทาง หลังจากขึ้นรถแล้วตระการก็หันมายิ้มให้เขา

“นี่ถ้าอาวีกับอาหมอได้มาเห็นว่าไผ่ทำให้พ่อเงียบได้ยังไง สงสัยจะตะลึงกันเป็นแถบแน่เลย”

“ไม่เห็นมีอะไรนี่ ก็แค่พูดความจริงกับคุณลุงเท่านั้นเอง จะเถียงก็เถียงไม่ได้นี่นา”

ตระการหัวเราะ “ก็นั่นแหละ นี่เพราะคนพูดคือไผ่หรอก ไม่เห็นเหรอว่าขนาดต้นออกปากพ่อเขายังไม่เชื่อเลย”




พรพฤกษ์ยิ้มบางๆ เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ที่ตระการบอกเขาอย่างนั้นคงเพราะรู้ว่าตัวเองห่างเหินกับพ่อมาตั้งแต่เด็กจึงไม่ถนัดจะอ้อน ต่างกับเขาที่ตอนเด็กและวัยรุ่นก็โตกับตามาตลอด ดังนั้นเมื่อข้ามผ่านความรู้สึกไม่สนิทใจกับตฤณไปได้ เขาก็มองว่าอีกฝ่ายเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ต้องการความสนใจจากลูกหลานไม่ต่างจากคนวัยเดียวกันเท่านั้น

เมื่อไหร่ต้นจะกลับมาเสียทีนะ...ชักเวียนหัวจนลุกไม่ไหวแล้วสิ...

ชายหนุ่มคิดในใจพร้อมกับความรู้สึกเวียนหัวมากขึ้น จากนั้นเปลือกตาอันหนักอึ้งก็ปิดลงอย่างง่วงงุน เสียงสุดท้ายที่ลอยเข้าหูอย่างเลือนลางคือเสียงซึ่งฟังแล้วคล้ายล้อรถยนต์กำลังบดลงบนถนนโรยกรวด แต่ตอนนั้นเขาไม่แน่ใจอีกแล้วว่าตัวเองได้ยินเสียงจริงๆ หรือเพียงแค่หูเฝื่อนไปเท่านั้น


++------++


เมื่อพรพฤกษ์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มก็พบว่าแสงที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอนเริ่มเป็นสีส้มอ่อนแล้ว เมื่อเหลือบตามองไปทางนาฬิกาแขวนผนังก็พบว่าล่วงเข้าสี่โมงกว่า สมองที่ยังไม่แจ่มใสนักจึงคำนวณอย่างเชื่องช้าว่าเขาคงจะหลับไปไม่น้อยกว่าสามชั่วโมง

ไออุ่นที่มาจากด้านซ้ายและจากลำแขนที่โอบอยู่รอบเอวดึงให้พรพฤกษ์ค่อยๆ เอียงหน้าไปหา และพบว่าตระการนอนหลับอยู่ข้างเขาบนเตียง ชายหนุ่มยกยิ้มบางๆ เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายคงจะอุ้มเขาขึ้นมานอนบนห้องหลังจากที่พบว่าเขาฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะในครัวอย่างไม่ต้องสงสัย

ดูเหมือนการขยับตัวเล็กน้อยของพรพฤกษ์จะทำให้ตระการรู้สึกตัวตื่น ร่างสูงใหญ่ที่เมื่อครู่ยังหลับตาสนิทจึงขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆ ปรือตาขึ้นข้างหนึ่ง และเมื่อเห็นว่าพรพฤกษ์ตื่นแล้วและกำลังมองเขาอยู่ ชายหนุ่มจึงยิ้มตอบบ้าง

“ตื่นแล้วเหรอ? ตอนกลับมาเห็นไผ่หลับอยู่ต้นเลยอุ้มขึ้นมานอนบนนี้ หิวข้าวมั้ยจะได้ไปอุ่นให้?”

พรพฤกษ์ทำท่าคิดขณะที่ตระการยันตัวขึ้นนั่งและเอามือขยี้ผมตัวเองเบาๆ จากนั้นคนป่วยก็พยักหน้าและลุกขึ้นบ้าง

“ก็หิวหน่อยๆ อยู่เหมือนกัน เดี๋ยวลงไปกินข้างล่างก็ได้ จะได้ไม่เลอะเทอะบนนี้”

ตระการหันกลับมามองแล้วมุ่นหัวคิ้ว “ไผ่ลุกไหวนะ?”

“ไหวสิ มีไข้นิดเดียวเอง ไม่ได้เหมือนตอนโดนรถชนที่ใส่เฝือกทั้งแขนทั้งขาซะหน่อย”

พรพฤกษ์ย่นจมูกแล้วก็ลุกจากเตียง แต่คงเพราะเขาลุกเร็วเกินไปเพราะอยากให้ตระการเห็นว่าเขาไม่เป็นไร จึงหน้ามืดจนเกือบล้มลงบนพื้นถ้าไม่ใช่เพราะถูกคว้าเอวไว้ก่อน ร่างสูงใหญ่ใช้มืออีกข้างวางทาบบนหน้าผากพรพฤกษ์ที่ยืนเอาหลังพิงอกตัวเองแล้วก็ทำหน้ายุ่ง

“ว่าแล้ว ไข้นิดเดียวเสียที่ไหน เย็นนี้ต้นว่าอย่าไปถนนคนเดินเลย ขืนไปเจอทั้งคนเยอะๆ ทั้งอากาศเย็นๆ เดี๋ยวยิ่งอาการแย่เข้าไปใหญ่”

คนที่แทบไม่มีแรงยืนเองรีบส่ายหน้าและพยายามจะยืนตรง “ไม่เป็นไร สงสัยจะหน้ามืดเพราะรีบลุกกับไม่ได้กินข้าวมากกว่า เดี๋ยวได้กินอะไรหน่อยแล้วนั่งพักสักแป๊บก็หายแล้ว ต้นอย่าลืมสิว่าหลังจากนี้เราคงไม่ได้ขึ้นมาเชียงใหม่กันอีกนานเลยนะ”

พรพฤกษ์แย้งขึ้นพร้อมกับดึงเสื้ออีกฝ่ายไว้ ตระการเองเมื่อได้เห็นนัยน์ตาเว้าวอนเช่นนั้นก็ทนใจแข็งไม่ได้ เพราะเขารู้ดีว่าคนที่เร่งให้พรพฤกษ์รีบไปอยู่กับเขาที่กรุงเทพฯ ก็คือตัวเอง สุดท้ายจึงยอมถอนหายใจแล้วก็พยักหน้า

“เอาอย่างนั้นก็ได้ แต่ถ้าต้นเห็นไผ่อาการไม่ดีเมื่อไหร่จะพากลับทันทีนะ”

ตระการเอ่ยพลางพยุงเจ้าของบ้านออกจากห้องนอน พรพฤกษ์จึงยิ้มและพยักหน้า เขารู้ดีว่าตระการเป็นห่วง แต่ก็รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายไม่กล้าขัดใจเขาเพราะนี่จะเป็นช่วงเวลาที่ได้มาเยี่ยมบ้านเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ต่อจากนี้กว่าจะได้กลับมาอีกก็คงต้องรอวันที่ทั้งเขาและตระการได้หยุดยาวพร้อมกันอีกครั้ง ซึ่งนั่นอาจจะนานหลายเดือนเพราะตระการกำลังยุ่งกับโครงการบ้านจัดสรรแห่งใหม่

นับจากวันที่ตกลงใจได้ว่าจะไปอยู่กรุงเทพฯ แน่นอน พรพฤกษ์ก็เริ่มติดต่อเอกวิชช์ซึ่งเป็นหัวหน้าที่ทำงานเก่าเพื่อให้รู้ว่าจะกลับไปทำงานด้วย จนกระทั่งเขาเริ่มเคลียร์ตารางได้และกำหนดวันแน่นอนแล้วว่าจะปิดบ้านนฤมิตรตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นไป จึงตกลงกับตระการว่าจะมาย้ายของล็อตสุดท้ายด้วยกัน โดยทิ้งไว้แค่เครื่องใช้บางอย่างสำหรับเวลาที่ทั้งคู่ว่างและจะกลับมาพักผ่อนวันหยุดยาวด้วยกันเท่านั้น

เมื่อลงมาถึงห้องครัว ตระการก็ให้พรพฤกษ์นั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะเอากับข้าวที่ซื้อมาอุ่นในเตาไมโครเวฟโดยเทใส่ทีละจาน เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็เอาจานข้าวผัดไก่อุ่นๆ มาวางลงบนโต๊ะพร้อมกับเหยือกน้ำและแก้วน้ำ พรพฤกษ์เลิกคิ้วเมื่ออีกฝ่ายหยิบถุงพลาสติกออกจากตู้เก็บของด้านบนแล้วเอามาวางบนโต๊ะ

“ที่ต้นกลับมาช้าเพราะไปร้านขายยามาเหรอ?”

“อืม พอดีร้านขายยาตรงเชิงเขาปิดก็เลยต้องเข้าไปในเมือง แล้วบังเอิญเจอพี่ย่ามกับปาล์มก็เลยคุยกันนิดหน่อย พี่ย่ามก็บอกให้พาไผ่ไปหาก่อนจะกลับกรุงเทพฯ ด้วย”

พรพฤกษ์ยิ้ม “พรุ่งนี้ค่อยเข้าไปก็แล้วกัน นอโทรมาบอกเมื่อเช้าว่าคืนนี้ที่ร้านจะมีปาร์ตี้ปีใหม่ สงสัยจะยุ่งน่าดู ถึงเข้าไปหาก็คงไม่ได้คุยกันเท่าไหร่…”

ชายหนุ่มเอ่ยออกไปแล้วก็ใจหายวูบขึ้นมา หลังจากย้ายไปกรุงเทพฯ แล้วเขาคงไม่ได้เจอเพื่อนฝูงบ่อยๆ เหมือนแต่ก่อนอีก แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นทางเดินชีวิตที่เขาเลือกแล้ว...และก็คงไม่มีทางจะถอนคำพูดที่เคยให้ตระการกับตฤณไปแล้วได้อีก

“ไผ่ตกลงว่าจะไปอยู่กับต้นแล้ว...ห้ามเปลี่ยนใจตอนนี้นะ”

ดูเหมือนตระการจะดูออกว่าพรพฤกษ์กำลังคิดถึงเพื่อนๆ ขึ้นมาจึงเอ่ยขึ้น เมื่อเจ้าของนัยน์ตาสีนิลเหลือบตาขึ้นก็เห็นว่าอีกฝ่ายแกล้งทำหน้าดุอยู่ สีหน้าที่ได้เห็นทำให้เขาหัวเราะ

“ถึงจะเปลี่ยนใจก็คงช้าไปแล้วมั้ง เพราะนอกจากต้นแล้วสงสัยคุณลุงก็คงไม่ยอมแหงๆ อุตส่าห์ยอมรับพวกเราได้แล้วทั้งที ขืนตอนนี้มาบอกว่าเปลี่ยนใจคงโดนเกลียดแหงเลย”

ตระการยิ้มออกบ้างเมื่อเห็นสีหน้าที่แจ่มใสขึ้นของอีกฝ่าย ที่เขาเป็นห่วงที่สุดก็คือกลัวว่าพรพฤกษ์จะเหงาที่ต้องจากบ้านและเพื่อนๆ ที่นี่ไป ถึงแม้จะรู้ดีว่าเขาเองก็งานยุ่งเพราะธุรกิจที่กำลังขยับขยายอย่างไม่หยุดยั้ง แต่เขาก็ตั้งใจว่าจะเจียดเวลาว่างเท่าที่มีพาพรพฤกษ์กลับมาเยี่ยมบ้านที่นี่ให้บ่อยที่สุด และจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้พรพฤกษ์เสียใจที่ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับเขา

“ป่านนี้พ่อเขาเกลียดไผ่ไม่ลงแล้วล่ะ ต่อให้ไผ่เปลี่ยนใจจริงๆ พ่อเขาก็คงบอกว่าไม่ว่าใช้วิธีไหนต้นก็ต้องพาไผ่ไปอยู่ด้วยกันให้ได้มากกว่า”

พรพฤกษ์หัวเราะอีกพลางส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นก็เริ่มทานข้าวผัดที่ตระการอุ่นให้ โชคดีที่แม้เขาจะมีไข้แต่ความอยากอาหารไม่ได้ลดลง ชายหนุ่มจึงทานข้าวหมดทั้งจานแทบจะพร้อมๆ กับที่ตระการทานของตัวเองหมด พอเห็นเขาวางช้อนลงและยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ตระการก็หยิบยาที่ซื้อมาออกจากถุงแล้วยื่นให้

“งั้นเดี๋ยวไผ่กินยานี่ก่อน เภสัชที่ร้านบอกว่าให้ทานหลังอาหารแล้วดื่มน้ำตามมากๆ เสร็จแล้วค่อยไปถนนคนเดินกัน เดี๋ยวต้นล้างจานให้เอง”

ตระการเอ่ยแล้วก็หยิบจานของพรพฤกษ์ไปซ้อนกับจานของตัวเองและลุกขึ้นนำไปวางที่อ่าง พรพฤกษ์มองตามแผ่นหลังกว้างและแข็งแรงของคนที่กำลังล้างจาน แล้วความเต็มตื้นในอกก็ทำให้เขาวางยาลงบนโต๊ะตามเดิมและลุกเดินเข้าไปหา

ตระการชะงักมือที่กำลังใช้ฟองน้ำถูจานเมื่อรู้สึกถึงอ้อมแขนที่โอบรอบเอว รวมทั้งไออุ่นจัดจากร่างที่กำลังมีไข้ซึ่งแนบแก้มลงบนแผ่นหลัง ร่างสูงจึงเอี้ยวคอไปถาม

“มีอะไรเหรอไผ่?”

พรพฤกษ์ส่ายหน้ากับแผ่นหลังกว้าง แต่ก็ไม่ได้ปล่อยแขนที่โอบเอวอีกฝ่ายไว้ “อืม...ไม่มีอะไร แค่อยู่ๆ ก็อยากกอดเฉยๆ”

ตระการฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มและส่ายหน้า ร่างสูงเปิดน้ำเพื่อล้างฟองจากจานทั้งสองใบและวางลงบนตะแกรงข้างอ่าง จากนั้นจึงเช็ดมือกับผ้าที่แขวนอยู่แล้วหันกลับไปหาคนข้างหลังทั้งตัว พอเห็นนัยน์ตาสีนิลที่เหลือบขึ้นมองเขา ชายหนุ่มก็ยิ้ม

ก็ไม่ใช่เจ้าของนัยน์ตาคู่นี้หรือ...ที่ทำให้เขาหลงรักมาตั้งแต่ก่อนจะได้พบกัน จนกระทั่งความรู้สึกนั้นฝังรากจนถอนตัวไม่ขึ้นนับจนวันนี้

ตระการใช้แขนข้างหนึ่งโอบพรพฤกษ์กลับบ้าง ส่วนมืออีกข้างเชยคางอีกฝ่ายขึ้นและจูบลงไปเร็วๆ แต่ดูเหมือนจูบสั้นๆ เพียงแค่นั้นจะไม่สมกับความรู้สึกมันเขี้ยวของเขา ร่างสูงจึงกดริมฝีปากลงย้ำอีกครั้ง และคราวนี้จูบที่ตอนแรกเป็นเพียงการหยอกล้อก็แปรเปลี่ยนเป็นจูบอ่อนหวานที่ทำให้พรพฤกษ์ต้องละมือที่กอดเอวอีกฝ่ายแล้วเลื่อนขึ้นไปกำเสื้อบนบ่าแทน

จวบจนรู้สึกได้ว่าคนในอ้อมแขนเริ่มหายใจผิดจังหวะ ตระการจึงค่อยยืดตัวขึ้นและยิ้มตาเป็นมันให้คนที่โหนกแก้มเรื่อสีเลือดฝาดจนสุกปลั่ง จากนั้นก็ยกปลายนิ้วขึ้นลูบริมฝีปากบางเบาๆ

“ไม่มีอะไร แค่อยู่ๆ ก็อยากจูบเฉยๆ เหมือนกัน”

นัยน์ตาเจ้าเล่ห์สีน้ำตาลเข้มทำให้ใบหน้าที่ปกติดูเคร่งขรึมอ่อนเยาว์ลงราวกับเป็นหนุ่มวัยรุ่น และแม้ว่าจะหมั่นไส้ แต่พรพฤกษ์ก็รู้ดีว่าเขาเป็นคนเดียวที่ได้เห็นด้านนี้ของตระการ จากที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะใช้คำพูดตอกกลับสักที สุดท้ายจึงตัดสินใจไม่ต่อปากต่อคำและดึงแขนเสื้ออีกฝ่ายเบาๆ แทน

“อยากไปถนนคนเดินแล้วล่ะ รีบไปกันก่อนฟ้าจะมืดดีกว่าต้น เดี๋ยวหาที่จอดรถลำบากแล้วได้เดินแป๊บเดียว”

ตระการหัวเราะเมื่อเห็นพรพฤกษ์ทำเป็นเฉไฉ แต่ก็ยอมปล่อยแขนที่โอบอีกฝ่ายไว้แล้วจูงมือไปที่ห้องนั่งเล่นแต่โดยดี “งั้นเดี๋ยวต้นไปเอาแจ๊คเกตตัวที่หนากว่านี้มาให้ก่อน ตอนกลางคืนอากาศมันเย็น ไผ่นั่งรอแป๊บนึง”

พรพฤกษ์พยักหน้า จากนั้นก็นั่งลงที่โซฟาและมองตามหลังอีกฝ่ายที่เดินหายขึ้นไปบนชั้นสอง ชายหนุ่มแหงนหน้าขึ้นหนุนคอบนโซฟาแล้วก็หลับตาลงทั้งที่ยังมีรอยยิ้มบนริมฝีปาก

ตา...ตาไม่ต้องห่วงนะ ตอนนี้ไผ่มีความสุขมากเลย แล้วไผ่จะกลับมาบ้านนี้บ่อยๆ เท่าที่ทำได้นะ...

ชายหนุ่มยกศีรษะขึ้นและนั่งตัวตรงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินลงมา จากนั้นก็ลุกขึ้นและรับแจ๊คเก็ตตัวหนานุ่มที่อีกฝ่ายยื่นให้มาเปลี่ยนแทนตัวที่ใส่อยู่ก่อน เมื่อเสร็จแล้วก็เดินออกจากบ้านด้วยกัน พรพฤกษ์ล็อคประตูบ้านแล้วก็เดินตามตระการไปที่รถ แต่จู่ๆ ก็ชะงักแล้วหันกลับไปมองบ้านอีกครั้ง

“ไผ่?”

ตระการชะงักบ้างเมื่อเห็นพรพฤกษ์หยุดเดิน พอหันหลังไปก็เห็นอีกฝ่ายยืนเอามือซุกกระเป๋าเสื้อแจ็คเกตแล้วแหงนหน้ามองบ้านอยู่ ชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปหาแล้วโอบอีกฝ่ายไว้จากด้านหลัง

“มีอะไรเหรอ หรือว่าไม่อยากเข้าเมืองแล้ว?”

ร่างสูงเอ่ยพลางกระซิบข้างหู พรพฤกษ์จึงเอี้ยวหน้าไปหาแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองบ้านตามเดิม แต่คราวนี้เขาเอนตัวลงพิงอกตระการไว้ด้วย

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก เพียงแต่กำลังคิดว่าเคยเห็นภาพนี้จนติดตามาจนอายุสามสิบ แต่จากนี้ไปจะไม่ได้เห็นที่นี่บ่อยๆ แล้วก็อดใจหายไม่ได้”

ตระการกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น จากนั้นก็แนบริมฝีปากลงบนขมับของคนตรงหน้า เขารู้ดีว่าสำหรับพรพฤกษ์แล้วบ้านนฤมิตรมีความหมายแค่ไหน การที่อีกฝ่ายยอมตัดใจไปอยู่กับเขานั้นอาจถือเป็นการเสียสละที่เจ้าตัวไม่เคยทำให้ใครมาก่อนเลยก็เป็นได้

“จากนี้บ้านของต้นก็คือบ้านของไผ่เหมือนกันนะ”

ร่างสูงเอ่ยเสียงต่ำ พรพฤกษ์จึงยิ้มและหมุนตัวกลับไปหา จากนั้นก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นประคองใบหน้าคมคายที่เย็นเพราะลมซึ่งพัดโชยบนเชิงเขาเอาไว้ พระอาทิตย์เริ่มลับเหลี่ยมเขาไปทางด้านหลังบ้านแล้ว แต่เขาก็หวังว่าความสลัวรอบตัวจะยังไม่มากพอจะบดบังรอยยิ้มที่ส่งให้คนตรงหน้า

คำสัญญาของตระการทำให้พวกเขาสองคนมาถึงจุดนี้ เพื่อตอบแทนความรู้สึกนั้น เขาก็จะไม่เสียใจในการตัดสินใจของตัวเองเช่นกัน

“สำหรับไผ่ ถ้าต้นอยู่ที่ไหน ที่นั่นแหละคือบ้านของไผ่”

คำพูดนั้นทำให้ตระการทำตาโต เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มยิ้มกว้างและดึงตัวพรพฤกษ์ไปกอดแน่น และพรพฤกษ์เองก็สอดแขนกอดอีกฝ่ายตอบราวจะตอกย้ำว่าสิ่งที่เขาได้พูดออกไปนั้นคือสิ่งที่คิดจริงๆ ครู่ใหญ่กว่าที่ตระการจะถอยออกและโอบไหล่พรพฤกษ์พลางพาเดินไปที่รถ

“เราไปกันเถอะไผ่”

“อื้ม”

พรพฤกษ์ตอบรับและสอดแขนข้างหนึ่งโอบเอวอีกฝ่าย ครั้งนี้ชายหนุ่มไม่ได้หันกลับไปมองบ้านนฤมิตรอีก เพราะเขารู้ดีว่าแม้จะรักบ้านหลังนี้แค่ไหน แต่ชีวิตของเขาก็ต้องเดินต่อไปข้างหน้า เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ใช่ตามลำพังเพราะว่าเขาจะมีตระการคอยอยู่เคียงข้างในทุกก้าวของชีวิต

คำว่า ‘เราไปกันเถอะ’ ที่อีกฝ่ายเอ่ยเมื่อครู่ไม่ได้สื่อถึงแค่การเดินทางในค่ำคืนนี้เท่านั้น แต่หมายรวมถึงชีวิตในทุกวินาที ทุกวัน ทุกเดือนและทุกปีต่อจากนี้ไปของทั้งคู่ด้วย

พวกเขาใช้เวลามากมายกว่าจะก้าวผ่านมาถึงจุดนี้ด้วยกัน และจากนี้จะไม่มีสิ่งใดมาทำให้พวกเขาพรากจากหรือต้องอยู่ห่างจากกันได้อีก

นั่นคือคำสัญญา...


++--- End ---++



A/N: อ๊า ในที่สุดก็มาถึงบทส่งท้ายจนได้ รู้สึกโล่งอกพอๆ กับที่ใจหายเลยค่ะ ถ้าหากนับเวลาที่ต้นเริ่มเจอไผ่ครั้งแรกจนถึงตอนจบก็ร่วมสามปี พอๆ กับที่ป้าใช้ในการเขียนเรื่องนี้จริงๆ เลยล่ะ (เขียนกลางปี 2008 มาจบต้นปี 2011) ถือว่าเป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก ดีใจจริงๆ ที่ส่งต้นกับไผ่มาถึงตรงนี้ได้ และยิ่งรู้สึกขอบคุณทุกกำลังใจและคอมเม้นต์ที่มีให้กันมาตลอด รู้สึกประทับใจจริงๆ ที่ได้เขียนเรื่องนี้ออกมาและได้มีประสบการณ์ดีๆ ขนาดนี้

สำหรับเรื่องราวในบทส่งท้ายนี้จะตามหลังเรื่องในตอนล่าสุดอยู่หลายเดือน เรียกว่าเกือบๆ ปีเพราะเวลาในตอนที่แล้วจะเป็นช่วงต้นปี ส่วนเรื่องในตอนนี้จะเป็นวันสิ้นปีเลย แล้วก็ไม่รู้ว่าคนที่ได้อุดหนุนลำนำรักสีรุ้งไปแล้วและเคยได้อ่านตอนโบนัสของเป้กับวิวจะจำกันได้ไหม แต่นี่ก็คือคืนวันที่สองคู่นี้ได้เจอกันที่ศูนย์อาหารในวัดนั่นละค่ะ อิอิอิ (ส่วนใครที่ไม่ได้อ่านลำนำรักสีรุ้งแบบรวมเล่มไม่ต้องงงนะคะ มันเป็นตอนโบนัสที่คนที่ซื้อหนังสือเท่านั้นจะได้พาสเวิร์ดไปอ่านเจ้า)

ตอนนี้นิยายเริ่มเปิดจองแล้วนะคะ เนื่องจากทำสองเล่มซึ่งราคาก็เยอะอยู่ เลยเปิดจองยาวตั้งแต่วันนี้ถึง 20 มีนา (เลื่อนขึ้นไปดูรายละเอียดได้ที่ด้านบนของหน้านี้) หลังจากนี้ถ้ามีข่าวอะไรอีกจะมาอัพเดทเป็นระยะค่ะ และข่าวดีสำหรับแฟนๆ คุณเชษฐ์กับภัทร คราวนี้ป้าจะได้มีเวลากลับไปหาเรื่องนั้นแล้วละค่ะ รออ่านตอนใหม่กันด้วยน้า วี้ฮิ้วววววววว

ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่คอยให้กำลังใจและติดตามกันมาตลอดค่า รักทุกคนเลยน้า จุ๊บๆ
 o13
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-01-2011 23:18:33 โดย bellbomb »

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณเช่นกัน
อ่านแล้วมีความสุขตลอด
+1

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เป็นอีกเรื่องที่จบไปแล้วด้วยความอบอุ่น
ตั้งใจไว้ว่าจะสะสมทุกเรื่องของไรท์เตอร์เลยค่ะ

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณนะคุณริน :L2:
จบแล้วมันเหงาๆไงไม่รู้
รอเชษฐ์กับภัทรต่อดีกว่า
ทุกวันอังคารดีมั้ย :m13:

ออฟไลน์ yr_meteor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
มีพิเศษคู่นอกับบอยป่าว?ค่ะ
อยากรู้คู่นี้จะเป็นยังไง ลุ้นอีกคู่
ขนาดแค่มีคู่นี้เล็กๆ น้อยๆในเรื่อง ยังน่าร๊ากกขนาดนี้เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2011 08:34:56 โดย yr_meteor »

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
มาลงชื่อจองด้วยหนึ่งชุด

โอนเงินแล้วจะเมลไปแจ้งอีกทีนะคะ

 :L2:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
มาตอบคอมเม้นต์หน่อยค่า ^_________^

Little Devil  ขอบคุณมากค่ะ ดีใจที่ชอบเรื่องนี้เช่นกัน
yeyong ด้วยความยินดีเลยค่ะ จะตั้งใจทำรูปเล่มและบ็อกซ์เซ็ทเรื่องนี้ให้สวยคุ้มค่าการสะสมน้า
kakuro จบแล้วเหงาเหมือนกันค่ะ แต่ยังต้องปั่นตอนพิเศษสำหรับรวมเล่มอีก เพราะงั้นยังจะได้เจอกันในรวมเล่มต่อ ว่าแต่คุณเชษฐ์กับภัทรทุกวันอังคารเลยเหรอ...ขอไปปรับโหมดตัวเองก่อนน้า กีสสสสสสสสสส
yr_meteor มีคนถามมาหลายคน ก็คิดว่าในตอนพิเศษน้องบอยคงได้ออกมาแบบจุใจแม่ยกค่ะ รออ่านได้เลย
ohmpresto  รับทราบค่าคุณ ohmpresto จะรอเมล์นะคะ 

ยังไงจะพยายามเอาตอนพิเศษมาลงให้สักตอนระหว่างที่รอรวมเล่มนะคะ (แต่ตอนพิเศษเฉพาะในรวมเล่มก็จะยังเป็นสามตอนเหมือนเดิม) ให้กำไรคนอ่านเต็มที่ค่ะ รออ่านกันด้วยเด้อ
   :impress2:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
กี๊ด คุณเชษฐ์ขราาาาาาาาาาาาา >////<

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
แว้บเข้ามาบอกว่าอัพเดทรูปทรงของบ็อกซ์เซ็ทค่ะ แปะไว้ตรงรีพลายเดียวกับที่แปะรูปปกนะ (เลื่อนขึ้นดูข้างบนได้เลยเจ้าค่า)  :z1:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
จบหวานนนนนนนได้อีกค่ะ :o8:
โรแมนติค&คาวาอิมากมาย อร๊ายยยยย :-[

ปล.เดี๋ยวปลายๆกุมภาจะมาสั่งด้วยคนค่ะ ตอนนี้ขอเก็บตังค์ก่อน :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2011 13:15:43 โดย ZakuPz »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






captainchick

  • บุคคลทั่วไป
หวานมากๆๆ เลยค่ะ โอ๊ยๆๆ มดไต่
ปกหนังสือสวยจังเลยค่ะ ชอบปกจังเลย มันดูอบอุ่นดีจังเลย

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เพื่อนบอกว่าฝากเมสโอนเงินไปแล้วแต่ยังไม่ได้ใบเปย์มาเลย รินลองเช็คดูก่อนนะ ของพี่โอนไปวันนี้ อิอิ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ได้ใบเปย์จะเมลไปแจ้งอีกที   :laugh: ชอบมากเลยสวยอะ ดีใจที่ได้เป็นเจ้าของ

มั่นใจฝีมือรินเสมอ  :impress2:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ZakuPz    รับทราบค่า จะรออีเมล์นะค้า ^^

captainchick  ขอบคุณแทนน้องคนวาด + น้องคนแต่งปกด้วยค่ะ ไม่ได้สองคนนี้ไม่ออกมางามแงะขนาดนี้แน่ๆ

พี่หนึ่ง  ต้องรอดูใบเปย์ละค่ะพี่หนึ่ง เพราะมียอดโอนคล้ายๆ กันเข้ามาหลายอันเลยไม่ชัวร์ว่าอันไหน ของเรื่องนี้ตั้งใจทำให้ดูมีค่าน่าสะสมไม่แพ้สองเรื่องก่อนเลยค่ะ
   :really2:

rannie

  • บุคคลทั่วไป
ขอจองด้วย 1 ชุด ไว้ได้หนังสือและค่อยอ่านทีเดียวดีกว่า  หน้าปกสวยมากๆๆค่ะ โอนเงินเมื่อไหร่จะรีบเขียนเมล์ไปบอกน่ะค่ะ

แฟนฟิคประจำจ๊ะ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
คุณ rannie ได๋ค่า จะรออีเมล์นะคะ  :impress2:

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ หนูอยากได้ป้าคะ สั่งจองทาง ปณ นี่ได้เหมือนกับไปซื้อที่ร้านใช่รึเปล่าคะ เพราะอยากไปซื้อที่ร้านมากกว่าอ่า >.< กัวพี่ ไปร ทำหนังสือพัง อิอิ แล้วถ้าจองแต่ไปรับเองที่ร้านได้ป่าวคะ ตอบหนู หน่อยน๊าาาา

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
คุณ pinkky_kiku คนที่สั่ง pre-order ก็จะได้ของเหมือนที่ร้านค่ะ แต่ถ้าสะดวกไปร้านก็ซื้อจากที่ร้านเลยก็ได้ เพราะหนังสือจะไปวางช่วงไล่ๆ กับที่ส่งทางไปรษณีย์ค่ะ :D 

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :z3: เค้าลืมนึกไปว่าของรินวางร้านแป๋มด้วย ไม่งั้นให้แป๋มเอามาให้ก็ได้ แอร๊ยยยส์จิได้ประหยัดค่าจัดส่ง กร๊ากก  :laugh:

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
หนังสือสวยมากกกกกกกกกกเลยค่ะ เห็นแล้วน้ำลายหกเลย เดี๋วขอเก็บเงินก่อนนะ  อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :man1:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Poes  เข้ามาขำพี่หนึ่ง เอาน่า ไว้จะซื้อเพิ่มค่อยไปที่ร้านแป๋มก็ได้จ้า   :z1:

cancan *ซับน้ำลายให้* จะรออีเมล์นะค้า
   :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ส่งเมลไปแล้วได้ยัง กรี๊ดดดดดดดด  :-[ อยากได้ไวๆอะ แต่ไม่เป็นไร เราจะไปขนกลับมา

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ส่งเมลไปแล้วได้ยัง กรี๊ดดดดดดดด  :-[ อยากได้ไวๆอะ แต่ไม่เป็นไร เราจะไปขนกลับมา

ตอบเมล์ไปแว้ววว อิอิ รอหนังสือสำเร็จเป็นรูปเล่มนะค้า  :call:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
ขอบคุณครับ  ขอบคุณจริง
ที่จริงเพิ่งมาอ่านเรื่องนี้เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วเอง
ทีแรกก็ไม่คิดจะอ่านหรอกนะครับ เพราะเห็นลงใว้ตั้งหลายปีแล้วเลยคิดว่าคงจะไม่จบ
แต่ก็อดลองอ่านไม่ใหว  แต่พอได้อ่านแล้วติดเลย  ชอบครับ
และขอบคุณครับที่มาปิดเรื่องนี้ให้แบบน่ารักมากๆด้วย

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ขอบคุณครับ  ขอบคุณจริง
ที่จริงเพิ่งมาอ่านเรื่องนี้เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วเอง
ทีแรกก็ไม่คิดจะอ่านหรอกนะครับ เพราะเห็นลงใว้ตั้งหลายปีแล้วเลยคิดว่าคงจะไม่จบ
แต่ก็อดลองอ่านไม่ใหว  แต่พอได้อ่านแล้วติดเลย  ชอบครับ
และขอบคุณครับที่มาปิดเรื่องนี้ให้แบบน่ารักมากๆด้วย

คุณ som  ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ระหว่างที่หยุดเขียนเรื่องนี้ไปเราก็คิดถึง อยากเอามาเขียนต่อให้จบตลอดเลย แต่องค์มันไม่มาซะที พอเริ่มเอามารีไรท์ได้นี่ฮูเร่มาก ดีใจเหมือนกันที่พามาถึงตอนจบได้ หวังว่าคงได้เจอกันในผลงานเรื่องอื่นของเราด้วยนะค้า   :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2011 09:38:17 โดย bellbomb »

rannie

  • บุคคลทั่วไป
 สวัสดีค่ะ คุณ bellbomb

วันนี้ได้ทำการโอนเงินค่าหนังสือ แม้นมั่นคำสัญญาให้แล้วน่ะค่ะ

ช่วยเช็คเมล์ด้วยน่ะค่ะ

ขอบคุณค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
คู่นี้อบอุ่นตลอด หวานตลอด
คุณพ่อสามีถึงจะดูดุ แต่ก้อใจดีกว่าที่คิดนะ
เข้าทำนองปากร้าย ใจดี
พี่จองด้วยนะน้องริน เด๋วจะไปทำตามขั้นตอน :impress3:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
วันนี้ออกไปข้างนอกมาทั้งวันเลย แล้วโนเกีย E63 เป็นไรไม่รู้ พยายามจะตอบเมนต์หลายทีแล้วแต่ไม่ยอมไปค่ะ เพิ่งกลับถึงบ้านเลยรีบมาตอบนี่ละ เฮือกกก!!

คุณ rannie  ในอีเมล์ใช้ชื่อจริงขึ้นต้นด้วยตัว ธ. ใช่ไหมเอ่ย? ถ้างั้นได้รับเรียบร้อยแล้วค่ะ เดี๋ยวตอบอีเมล์ยืนยันให้อีกทีน้า   :really2:

พี่จ๋า ป๊ะป๋าเป็นพวกแสดงความรู้สึกไม่เก่งค่ะ ได้ขนาดนี้ก็สุดยอดแล้วล่ะ (ถ้าเทียบกับตอนต้นๆ - กลางๆ เรื่อง) สำหรับการจองก็ตามที่แจ้งไปเลยค่า
  :impress2:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
คิดถึงป้ากันไหมคะทุกคน แต่ป้าคิดถึงทุกคนเลยค่า (อ้อนเข้าป๊ายยยยย)   :laugh:
ที่มาอัพเดทกันวันนี้ พอดีว่าไม่นานนี้มีนักอ่านที่น่ารักเขียนกลอน + แฟนฟิคให้ต้นกับไผ่ค่ะ อิป้าตื่นเต้นเพราะไม่เคยมีใครเอาตัวละครไปเขียนอะไรแบบนี้ให้มาก่อน เลยขออนุญาตท่านเหล่านั้นเอาผลงานมาเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ได้อ่านด้วยค่ะ
  :-[

อ้อ! แล้วก็สำหรับคนที่สนใจแม้นมั่นคำสัญญาฉบับรวมเล่ม สามารถดูรายละเอียดสั่งจองได้ที่หน้า 15 หรือจะไปดูที่บล็อกของป้าก็ได้ค่า เปิดจองตั้งแต่วันนี้ถึง 20 มีนาคมเด้อ รับรองความแน่นปึ้กทั้งคุณภาพเนื้อหาและรูปเล่มค่ะ {{ คลิก }}

อย่ารอช้า ไปอ่านผลงานของแฟนๆ กันเต๊อะ
 :mc4:


*************************

สำหรับผลงานชิ้นที่ 1 เป็นผลงานของพี่ยูที่เขียนถ่ายทอดความรู้สึกของต้นที่มีให้กับไผ่ค่ะ เป็นกลอนที่หวานมาก ซึ้งมาก เราอ่านแล้วอายม้วนไปเลยเพราะไร้ความสามารถในการเขียนบทกลอนเข้าขั้นเฉียดติดลบ เป็นกลอนที่สะท้อนความในใจของต้นได้ถึงแก่นและละมุนละไมมากๆ ขอบคุณพี่ยูที่เขียนกลอนบทนี้ให้ และที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ให้แฟนคนอื่นๆ ได้อ่านด้วยค่ะ

ต้นรักไผ่เท่าที่ใจสอนให้รัก

ร้อยทอถักความสัมพันธ์ที่ฝันหา

ร้อยวจีพลอดพร่ำพรรณนา

หวังเพียงว่าไผ่ตอบรักต้นสักคำ
 


*************************



ผลงานลำดับที่ 2 & 3: น้ำส้มสายชูเป็นเหตุ จากพี่แอ๋ว & พี่ Lith

ก่อนอื่น ผลงานชิ้นที่สองและสามนี้ไม่เชิงเกิดจากความร่วมมือกันเขียน แต่พอดีว่ามันต่อกัน ก็เลยเอามาลงติดกันไปเลย ที่มาที่ไปของผลงานชิ้นนี้มาจากรูปด้านล่างนี้ ซึ่งเราบังเอิ๊ญไปเจอในครัวที่บ้าน เลยอดไม่ไหวต้องถ่ายรูปแล้วอัพขึ้น facebook ให้แฟนๆ ได้ดูด้วย พอพี่แอ๋วมาเห็นก็เลยเกิดคุยกันเล่นๆ ว่าถ้าต้นเปิดโรงงานน้ำปลาเพิ่มจะเป็นยังไง ก็เลยออกมาเป็นเรื่องภาคต่อแบบพิสดารนี่ละ

*คำเตือน* โปรดเตรียมทิชชู่ไว้ซับน้ำตา...หรือไม่ก็ยาแก้ปวดท้อง และถ้าเป็นไปได้ก็ลืมๆ บุคลิกของตัวละครในเรื่องหลักสักระยะระหว่างที่อ่าน XD




[ตอนที่ 1 จากพี่แอ๋ว]

ไผ่ : ได้ยินใช่มั้ยต้น "พี่จะหนีกลับเชียงใหม่จริงๆนะ ถ้าต้นยังไม่เลิกทำน่ะ"

ต้น : แต่ต้นว่าอนาคตมันรุ่งนะ โธ่... ไผ่ก้อ น้า... แล้วทำไมต้องแทนตัวเองว่าพี่ด้วยล่ะ ต้นเคยบอกแล้วไงว่าไม่ชอบน่ะ

ไผ่ : ต้น.... -"- พี่ก็ไม่ชอบเหมือนกัน...นะ เออ.. ถ้าทำโรงงานกะทิยังพอว่า ยิ่งตอนนี้กะทิกำลังขึ้นราคาอยู่ รู้หรือปล่าวว่าน้ำปลาน่ะมันดำ สู้กะทิก็ไม่ได้ ขาว... ข้น... กว่าตั้งเยอะ ยิ่งเวลาได้จับ ได้ขยำเนื้อมะพร้าวขาวๆ ฟูๆ นั่นอีก โอ้ว..... สุดยอด

ต้น : มันสุดยอดตรงไหน ต้องนั่งขูดมะพร้าวหลังขดหลังแข็ง แล้วยิ่งสมัยนี้ กระต่ายขูดมะพร้าวหายากจะตายไป

ไผ่ : หายากตรงไหน พี่เห็นที่บ้านน้องรินมีตั้ง 2-3 ตัว แล้วอีกอย่างนะ ทำโรงงานกะทิเนี่ยมันต้องมานั่งขูดมะพร้าว มานั่งคั้นน้ำเองตรงไหน ต้นเข้าใจอะไรผิดหรือปล่าว พี่จะทำเป็นระบบโรงงานส่งออกไปขายนะ ไม่ใช่จะทำแกงเขียวหวานไปงานวัดที่จะต้องมานั่งคั้นเองน่ะ อ้อ... แล้วอีกอย่างอย่ามาเถียงแชมป์ขูดมะพร้าวประจำตำบลอย่างพี่นะ ชิส์...

ป๊ะป๋า : อ้าว.. 2 คนนั่นทะเลาะอะไรกัน เสียงดังโหวกเหวกโวยวายเนี่ย

ไผ่ : คุณลุง.. ก็ดูต้นซิครับ บอกว่าจะทำโรงน้ำปลาต่อ ไผ่ไม่อยากให้ทำ บอกว่าถ้าจะทำโรงน้ำปลา ทำโรงงานกะทิดีซะกว่าอีก ต้นก็ยังเถียง

ป๊ะป๋า : อ้าว... ต้น... พ่อฝากหนูรินไปบอกแล้วงัยว่า "ไปปิดโรงงานเดี๋ยวนี้! เสียชื่อวงศ์ตระกูลหมด!!" หนูรินไม่ได้บอกเหรอ

ต้น : บอกแล้วครับ แต่...พ่อครับ... ไผ่จ๋า... ต้นอยากทำนี่นา

ป๊ะป๋า+ไผ่ : " ไม่ได้...... "

สรุป... โรงงานน้ำปลาของเฮียต้นก็เป็นอันต้องปิดตัวลงภายในระยะเวลาชั่วข้ามคืน เพราะคำสั่งฟ้าผ่าของ "พ่อบังเกิดเกล้า และ ศรีภรรยาที่เคารพ" ดังนี้แล ฮิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ( น้องต้นเกียมัว น้องต้นกลัวเมีย ฮ่าๆๆๆๆๆ )


[ตอนที่ 2: แม่เบี้ยภาคพิสดาร จากพี่แอ๋ว]

ต้น : ไผ่จ๋า.... ทำอะไรอยู่จ๊ะ

ไผ่ : ปิ้งกบอยู่มั้ง ก็เห็นๆ อยู่ว่ากำลังขูดมะพร้าวอยู่เนี่ย ไหนมาใกล้ๆ หน่อยดิ

ต้น : ว่าไงจ๊ะที่รัก

ไผ่ : ผั๊วะ

ต้น : มาเบิดกะโหลกเค้าทำไมอ่ะ ต้นทำไรผิดเนี่ย ไผ่อ่ะใจร้ายยยย

ไผ่ : ต้น... อย่ามากระแดะ ว่างอยู่ใช่มั้ย เนี่ยมะพร้าวที่ไผ่ขูดแล้ว มาเลยมาคั้นน้ำให้หน่อย เดี่ยววันนี้ไผ่จะทำขนมจีน แกงเขียวหวานซะหน่อย

ต้น : ทำไมไม่ให้ป้าแสนทำให้ล่ะ จะทำเองทำไมให้เหนื่อย แล้วเนี่ยทำไมมะพร้าวมันเยอะยังงี้ล่ะ จะทำไปเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้านหรือไง บ้านเรามีกันแค่ไม่กี่คนเองน้า

ไผ่ : อืม.. ไผ่ว่าจะปิดซอยเลี้ยง....

ต้น : เนื่องในโอกาสอะไรเหรอ ???

ไผ่ : มีสามีใหม่.....

ต้น : อ๊า... ม๊ายน้า.... ต้นผิดไปแล้ว ฮือๆๆๆๆ ต้นขอโทษคร้าบบบบ

เวลาผ่านไปนานเท่ากลิ่นตดจางหาย.... ( ตดใครฟร๊ะ )

ต้น : ไผ่ ต้นถามจริงๆนะ ไผ่ทำตั้งเยอะแยะเนี่ย จะเอาไปไหนเหรอ
ไผ่ : ก็ทำไว้กินเอง , แบ่งป้าแสนกับคนอื่นๆในบ้าน แล้วก็ว่าจะทำไปให้หนูริน กับ พี่แอ๋วด้วย รายหลังเห็นบ่นว่าอยากกิน เห็นว่าช่วงนี้กำลังไม่เข้าตา โดนเจ้านายล๊อคเงินเดือนไว้ สงสัยสิ้นเดือนนี้จะกินแกลบหน่ะ ( เง้อ... น้องไผ่ขายพี่ซะแล้ว )

ต้น : อืม... น่าสงสารแกเนอะ อ้าวแล้วหนูรินล่ะ รายนั้นอยากกินเหมือนกันเหรอ

ไผ่ : ปล่าว... ติดสินบนหน่ะ

ต้น : ไผ่ไปบนอะไรไว้เหรอ หรือไปขูดหวยมา ท่าทางหนูรินเนี่ยจะศักดิ์สิทธิ์น่าดูเน๊อะ ไม่งั้นไผ่คงไม่ไปบนหรอก ใช่ป่าว.... ว่าแต่ถูกกี่ตัวเนี่ย 3 ตัวบน หรือ 3 ตัวล่าง หรือว่า เลขท้าย 2 ตัว ทำไมไม่บอกต้นบ้างล่ะ ต้นจะได้ซื้อด้วย แล้วเนี่ยซื้อกับใคร ป้าแสนเหรอ

ไผ่ : “ ไอ้ต้น..... “

ต้น : ขอโทษก๊าบบบ โอ๊ย... ไผ่อย่าดึงหูต้นดิ เดี่ยวหูยาน พนักงานเห็นแล้วโดนล้อกันพอดีว่าต้นกลัวเมียอ่ะ

ไผ่ : หรือไม่กลัว ???

ต้น : กลัวก๊าบบบบ เกรงใจด้วย แหะๆๆๆๆ

ไผ่ : หนูรินอุตส่าห์ไปมุดใต้ถุนบ้านหากระต่ายขูดมะพร้าวมาให้ไผ่ยืม ไผ่ก็เลยว่าจะทำขนมจีนแกงเขียวหวานไปให้ซักหน่อยน่ะ สงสาร ได้ข่าวว่า โดนแมลงสาบ กับ หนู เล่นงานมา โทษฐานที่ไปวุ่นวายอณาเขตมัน ตอนเอากระต่ายมาให้เนี่ยสภาพดูไม่ได้เลยหล่ะ ไผ่เห็นแล้วสงส๊านสงสาร เนี่ยโดนขโมยหอมแก้มด้วย ไม่รู้จะติดเชื้อหรือปล่าว

ต้น : เฮ้ย... งั้นรีบไปโรงบาลดีกว่าไผ่ เกิดติดเชื้อพิษสุนัขบ้าขึ้นมาจะแย่เอานา

ไผ่ : บ้าเหรอ ไผ่เช็ดเด็ดตอลแล้ว อาบน้ำผสมด่างทับทิมอีกตั้งหลายรอบ ไม่เป็นไรหรอก.... มั้ง

เวลาผ่านไป ( ก็ให้มันผ่านไปซิฟร๊ะ )

ต้น : เอ่อ.... ไผ่...

ไผ่ : หืม... แล้วนั่นจะไปไหนหน่ะยังคั้นไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ

ต้น : คือ... นั่งตรงข้ามไผ่แล้วไม่ค่อยดีหน่ะ

ไผ่ : ทำไม มีอะไรเหรอ

ต้น : ไผ่.....เคยดู “แม่เบี้ย” ป่าว

ไผ่ : ไม่เคย ทำไมเหรอ

ต้น : งั้นเดี่ยวคืนนี้ ต้นจะให้ไผ่ดู ไผ่จะได้รู้ว่า “ ทำไม ต้นต้องย้ายที่นั่ง “

ไผ่ : ต้น......(กรุณาทำเสียงสูง โซปราโน่ ) ทำไมน้ำกะทิต้นมีสีแดงล่ะ เฮ้ย... ต้น.. เลือดกำเดา

โอ้ว... ต้นของพี่ไปซะแร้ว

ฟิ๊ว... วิ่งหลบเกี๊ยะหนูริน...


[ตอนส่งท้าย จากพี่แอ๋ว]

ไผ่ : พี่แอ๋ว ไผ่มีเรื่องจะปรึกษาครับ

พี่แอ๋ว : ว่าไงจ๊ะน้อง

ไผ่ : เมื่อกี้ตอนที่ไผ่ขูดมะพร้าวอยู่ แล้วให้ต้นมาช่วยคั้นน้ำกะทิให้ อยู่ดีๆต้นก็ย้ายที่นั่งเฉยเลย แถมคั้นไปไม่นานเลือดกำเดาก็ไหลซะงั้น เสียน้ำกะทิไปตั้ง 1 หม้อแนะ พอถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ยอมบอก แต่กลับถามไผ่กลับว่าเคยดูหนังเรื่องแม่เบี้ยมั้ย แล้วยังบอกอีกนะว่าคืนนี้จะเอาให้ดู แล้วไผ่จะรู้เอง แต่ไผ่ไม่อยากรอคืนนี้อ่ะ ไผ่สงสัยเลยโทรมาปรึกษาพี่แอ๋วก่อน

พี่แอ๋ว : อืม.... แล้วตอนไผ่ขูดมะพร้าวเนี่ย ไผ่แต่งตัวยังไงล่ะ

ไผ่ : ก็เสื้อยืดห่านคู่คอวีที่น้องรินซื้อให้ กับ กางเกงเลตัวที่พี่แอ๋วซื้อมาฝากจากสงขลาอ่ะครับ ทำไมเหรอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเสื้อผ้าไผ่ละเนี่ย

พี่แอ๋ว : อืม... ก็นะ คือ... พี่ก็เคยช่วยแม่ขูดมะพร้าวนะ ตอนนั้นหน่ะ ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย เหงื่องี้ออกท่วมตัวเลย

ไผ่ : อืม ไผ่ก็เป็น เนี่ยเสื้อไผ่อ่ะเปียกหมดเลย เหงื่องี้ไหลย้อยตั้งแต่ขมับลงมาจนถึงหน้าท้องเลยอ่ะ ร้อนก็ร้อนเนี่ยขนาดถลกขากางเกงขึ้นมาถึงต้นขาแล้วนะยังไม่ค่อยรู้สึกเย็นขึ้นเท่าไหร่เลย กว่าจะทำเสร็จสงสัยน้ำหนักไผ่จะลดลงไปหลายกิโล

พี่แอ๋ว : เอื๊อก ( เสียงตูกลืนน้ำลาย โอ้ว... น้องตู มิน่า.... ) เอ่อ... แล้วต้นอยู่ช่วยตั้งแต่ต้นจนเสร็จเลยเหรอ

ไผ่ : อืม... แต่ไม่ได้ช่วยทำกับข้าวหรอกนะ ต้นหน้ามืดไปซะก่อน ไผ่ก็เลยให้ต้นไปพักน่ะ เอ้อ.. ตกลงต้นเป็นอะไรเหรอพี่

พี่แอ๋ว : เอ่อ...คาดว่าจะเสียเลือดมาก

ไผ่ : ไม่ใช่ อันนั้นไผ่รู้แล้ว แต่อยากรู้ว่าทำไมต้นถึงเป็นอย่างนั้น

พี่แอ๋ว : เอ่อ... แล้วไผ่นั่งขูดมะพร้าวท่าไหนอ่ะ

ไผ่ : ท่าพระจันทร์....

พี่แอ๋ว : ไผ่.... ( โปรดทำเสียงดุตาม เหอๆๆๆ )

ไผ่ : แหะๆๆ ไผ่ล้อเล่น เอ... ตอนนั้นเหรอ อืม... รู้สึกว่าจะนั่งคร่อมนะ แล้วตกลงมันเกี่ยวอะไรกันเนี่ย เดี่ยวถามเสื้อผ้าที่ใส่ เดี่ยวถามท่าขูดมะพร้าวเนี่ย ไผ่เริ่มงงแล้วนะ

พี่แอ๋ว : เอางี้นะ ไผ่ลองคิดตามพี่นะ สมมุติว่าไผ่เป็นต้นนะ แล้วนั่งคั้นน้ำมะพร้าวอยู่ตรงข้ามกับที่ต้นนั่งขูดมะพร้าว กำลังคั้นอย่างเมามัน ไผ่ก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วเห็นต้นนั่งคร่อมกระต่ายขูดมะพร้าว อยู่ในสภาพเสื้อห่านคู่คอวีกว้างๆๆๆๆๆๆๆๆบางๆๆๆๆๆๆๆๆ กางเกงเลที่ถลกขาขึ้นมาถึงต้นขา มี่เหงื่อไหลย้อยเรื่อยลงมาตั้งแต่ขมับ ไหลเรื่อยๆ ตามใบหน้า หยดลงจากปลายคาง บางส่วนก็ไหลเรื่อยตามลำคอผ่านเข้าไปในเสื้อยืด เกิดเป็นรอยเปียกชื้น

ไผ่ : พะ.....พอ..... แล้วพี่ เอ่อ..... แค่นี้นะครับ

พี่แอ๋ว : เฮ้ย.... ไผ่ ไผ่........ ยู้ฮู้........ วางไปซะแระ เฮ้อ... คนเรา แล้วคืนนี้น้องตูจะรอดมั้ยเนี่ย

จบแร่ว.... วิ่งหนีด้วยความอับอาย


[ตอนต่อจากพี่ Lith]

ไผ่ : หนูริน ไผ่เอาแกงเขียวหวานมาให้ตามสัญญาแล้วนะ เพราะฉะนั้นหนูรินก็ห้ามลืมที่ตกลงกันไว้ล่ะ

ริน : อ่ะ ไผ่เอาจริงเหรอ รินนึกว่าไผ่พูดเล่น งื้อ

ไผ่ : พูดจริงสิ ทำไมหนูรินนึกว่าไผ่พูดเล่นล่ะ

ริน : ก็...ก็เห็นไผ่...อ่า...ก็ Happy ดีนี่นา แล้วไหง......

ไผ่(หน้าแดงนิดหน่อย): ก็ Happy แต่ไผ่เขินนี่ อยู่ๆหนูรินก็จะเขียนเพิ่มตอนโน้นตอนนี้ แค่นี้ต้นก็ได้ใจจะแย่แล้ว อีกหน่อยต้นไม่โดนหนูรินสปอยล์จนเหมือนเป้เหรอ

ต้น : ได้ยินไผ่พูดชื่อต้นแว่วๆ มีอะไรเหรอ

ไผ่ : ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ไหนว่าวันนี้ประชุมเลิกช้าไง

ต้น : ไม่มีอะไรจริงน่ะ? ทำไมไผ่หน้าแดงๆ รินทำอะไรไผ่น่ะ?

ริน : เปล๊าาาาาาา รินเปล่านะ ถ้าจะมีใครทำไผ่หน้าแดงก็มีอยู่คนเดียวล่ะน่า

ไผ่(พยายามดึงต้นกลับเข้าบ้าน) : พอเหอะ ต้นไปอาบน้ำดีกว่า จะได้กินข้าวกัน ไปก่อนนะหนูริน อย่าลืมที่คุยกันไว้นะ

ต้น(พึมพำ) : มีพิรุธน่าสงสัยจริงแฮะ สงสัยระหว่างอาบน้ำนี่คงต้องสอบกันให้รู้เรื่องแล้วละมั้ง


[ตอนต่อจากพี่แอ๋ว]

พี่แอ๋ว : ต้นพี่ได้ข่าวว่า น้องไผ่ กะ หนูริน มี something กันอ่ะ รู้ป่าวว่าเรื่องอะไร

ต้น : โธ่... พี่แอ๋ว ต้นจะไปรู้ได้งัยเนี่ย นี่ขนาดปิดห้องน้ำสอบปากคำตั้ง 2-3 รอบ ยังไม่ยอมหลุดปากเลยอ่ะ

พี่แอ๋ว : จริงเหรอ... ไม่มีอะไรหลุดออกจา...กปากเลยอ่ะ

ต้น : เอ่อ... จริงๆก็มีบ้างนิดหน่อยอ่ะนะ

พี่แอ๋ว : อะไรเหรอ ???

ต้น : พี่อย่ารู้เลย

พี่แอ๋ว : เฮ้ย... ได้งัย นี่ไม่รักกันแล้วช่ายมะ เดี่ยวนี้ได้หลังลืมหน้าเหรอ เฮ้ย... ไม่ช่าย..... น่านะบอกพี่หน่อย พี่อยากรู้ น้า..... น้องต้นน้า.... น้องต้นน่ารัก มาดแมน แอนด์ แฮนซั่ม อีกต่างหาก นะจ๊ะสุดหล่อ....

ต้น : เอาจริงอ่ะพี่ แน่ใจนะ

พี่แอ๋ว : อือ

ต้น : ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็พูดซ้ำไปซ้ำมา ประมาณ “ อ้า.. อืม... โอ๊ย... โอ้ว... อีก... แล้วก็............

พี่แอ๋ว : เอ่อ... พอแล้วจ๊ะ พี่ไม่อยากรู้แล้ว

ต้น : อ้าวทำไมละพี่ ยังมี “ จะ...ถึง.........

พี่แอ๋ว : พ้อ........ แก..... ไอ้ต้น...... ไอ้น้องบ้า.....

"แล้วหนูแอ๋วก็วางสายไปด้วยประการละฉะนี้แล นิยายตอนนี้สอนให้รู้ว่า อย่าพยายามอยากรู้อยากเห็น ไม่งั้นของจะเข้าตัว แง้ๆๆๆๆๆ"


[ตอน Side Story จากพี่ Lith]

ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย

...เสียงจามดังติดๆกันสองสามครั้งเรียกให้ผมหันไปหาต้นเสียงที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆแล้วถามอย่างเป็นห่วง

"เป้ ไม่สบายหรือเปล่า วิวเห็นจามไม่หยุดมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ"

คนตัวโตขยี้ปลายจมูกไปมาแล้วส่ายหน้า "ไม่นะ เป้ว่าเป้ไม่ได้เป็นอะไร แต่เมื่อกี้ไม่รู้ทำไมจามไม่หยุดเลย"

สีหน้าของคนพูดก็ปกติดีจริงๆ อย่างที่ว่า อีกอย่าง ถ้าหากว่าป่วยจริงละก็เป้เป็นต้องเข้ามาออดอ้อนอย่างโน้นอย่างนี้กับผมแล้ว ทั้งๆ ที่บางทีก็ไม่ได้ถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อสักหน่อย แต่ผมก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงลุกขึ้นเดินเอามือไปทาบหน้าผากเป้เพื่อความแน่ใจ เจ้าตัวจึงถือโอกาสโอบแขนไว้รอบเอวผมแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ ผมยกมือขึ้นเสยผมบนหน้าผากอีกฝ่ายเล่นแล้วเอ่ยล้อ

"ถ้าไม่ได้ป่วยก็สงสัยจะโดนใครนินทาละมั้ง จามไม่หยุดขนาดนี้คงโดนหลายกระทง"

เป้หัวเราะ ปลายคางที่บนหน้าท้องผมทำให้จั๊กจี้นิดๆ

"นินทาอะไร แฟนวิวออกจะเพอร์เฟคขนาดนี้จะมีคนนินทาอะไรฮึ"

"ครับ ครับ เพอร์คเฟคมากกกก" ผมแกล้งลากเสียง เป้เลยทำหน้างอนๆ แต่แล้วเจ้าตัวก็กระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมา และรอยยิ้มนั้นก็ทำให้ผมระแวง พยายามจะถอยออกจากวงแขนที่โอบเอวไว้แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเจ้าคนตัวโตนั่นแกล้งรัดเอวผมไว้แน่น

"เป้รู้ละ สงสัยที่เป้จามไม่หยุดเมื่อกี้เป็นเพราะวิวไม่ได้อาบน้ำแน่เลย"

"บ้า" ผมร้อง พยายามผลักใบหน้าที่ไซ้ไปมาบนหน้าท้องตัวเองออกไป
"ก็อาบไปด้วยกันเมื่อกี้ อย่ามามั่ว"

ทั้งคำพูดและความพยายามผลักเป้ออกไม่ได้ผลทั้งคู่ เพราะเจ้าตัวเลิกชายเสื้อยืดของผมขึ้นแล้วจูบเสียงดังบนท้องผมเหมือนมันเขี้ยวเต็มที่

"ไม่รู้ละ เป้ว่าเป้ต้องได้กลิ่นอะไรแปลกๆ แถวๆ นี้แหละถึงได้จามไม่หยุด เอ๊ะ หรือเสื้อวิวติดพวกละอองเกสรดอกไม้ที่ไหนมาหรือเปล่า ถอดออกดีกว่ามั้ย"

น้ำเสียงเหมือนเป็นห่วงเต็มประดา แต่เนื้อหาสุดจะเจ้าเล่ห์จนผมต้องทุบไหล่หนาไปทีหนึ่งอย่างอดไม่ไหว

"พอเลยเป้ พอ เกสรดอกไม้อะไรจะปลิวมาถึงบนคอนโด เป้ บอกให้หยุด เป้...ฮื้อ..."


[ตอนต่อจากพี่ Lith]

ต้น : ริน ตกลงไผ่มาตกลงอะไรกับรินไว้ฮึ บอกมานะ

ริน : ตกลงอารายยยย ไม่มี๊ ไม่มี รินไม่รู้เรื่องงงงง ถามไผ่ดูก็ได้

ต้น : ถามจนไผ่หมดแรงไปแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบ ถึงต้องมาถามจากรินนี่ไง ว่าไง ตกลงอะไร...กันไว้

หน้าตาต้นชักจะเอาเรื่อง หนูรินเลยชักแหยง อีกใจนึกสงสัย ถามยังไงไผ่ถึงหมดแรง???

ต้น(ทำเสียงดุ) : ว่าไงริน จะบอกดีๆไหม?

ริน (หลับตาปี๋...ขอโทษน๊าไผ่ แต่ต้นน่ากลัวง่ะ): ก็ ก็ เรื่องตอนพิเศษที่รินว่ะจะเขียนเพิ่มอ้ะ

ต้น : ทำไม?

ริน : ก็ ก็ ไผ่บอกว่า อย่าเขียนเพิ่มตอนนั้น ให้ไปเขียนตอนอื่นแทนอ้ะ

ต้น : ตอนไหน?

ริน: ก็..ตอนนั้น แหม...ตอนนั้น(กระซิบเสียงเบาๆ) นั่นแหละ ตอนนั้นอ่ะ
ต้น(เอียงหูฟังแล้วทำท่าตกตะลึง) : แลกกับแกงเขียวหวานถ้วยเดียวเนี่ยนะ

ริน : เอ๊...ก็แกงเขียวหวานของไผ่อร่อยมากๆ เลยนี่

ต้น(ยิ้มเจ้าเล่ห์) : งั้นเอางี้ เดี๋ยวต้นเลี้ยงข้าวรินเอง เลือกมาเลยอยากกินที่ไหน แต่...

ริน : แต่?

ต้น : แต่ต้องเขียนตอนนั้นเพิ่มให้ยาวกว่าเดิมสองเท่า!

ริน : สองเท่าเลยเหรอ...(ทำท่าลังเล)

ต้น : จะตบท้ายด้วยเค้กอีกก็ยังได้นะ

ริน : deal!!!!

*ความเห็นจากคนเขียน: นี่เราดูเห็นแก่กินขนาดนั้นเลยเร้อ??*


[ตอนต่อจาก ???]

ไผ่: พี่แอ๋ว พี่ลิธ ริน ทำไมทำกับไผ่อย่างงี้อะ ที่นี่มีแต่คนขี้แกล้ง หนีกลับเชียงใหม่ไปหาเพื่อนๆ ดีกว่า ฮึ!

ต้น: เฮ่ย! ไผ่ตกลงกับต้นว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วนะ จะกลับไปได้ยังไง ต้นไม่ยอม

ไผ่: (ทำตาเขียว) แล้วใครใช้ให้ไปสุมหัวกับคนอื่นมาแกล้งกันขนาดนี้ล่ะ ไม่รู้ด้วยแล้ว เข้ากันดีนักก็ไปอยู่กับพวกเจ๊ๆ ซะเลยแล้วกัน (คว้ากระเป๋าเสื้อผ้าเดินออกจากบ้าน)

ต้น: เฮ้ยยย ไผ่ผผผ ต้นไม่ยอมนะ กลับมาก๊อนนนนนน


เส้นทางชีวิตของสองคนนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป?? โปรดติดตาม!! XD


*************************


ขอบคุณทั้งสามท่านที่อุตส่าห์เขียนผลงานน่ารักๆ ให้ต้นกับไผ่นะคะ ปลื้ม + ดีใจยิ้มแก้มปริตอนเห็นกลอนของพี่ยู และเรื่องของต้น-ไผ่ภาคพิสดารของพี่แอ๋วและพี่ Lith คนเขียนเองก็จะพยายามเขียนตอนพิเศษให้ไม่แพ้ผลงานเหล่านี้เช่นกันค่ะ (แต่เรื่องขำนี่ขอ เพราะคาดว่าคงสู้เรื่องที่เอามาแปะให้อ่านกันนี่ไม่ไหว)  แล้วเจอกันในอัพเดทคราวหน้านะค้า  :mc4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-01-2011 20:17:20 โดย bellbomb »

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณริน :L2:
เซอร์ไพรซ์นะคะทั้งกลอนทั้งเรื่องแฟนฟิคต้นไผ่ทั้งเรื่องย้ายมาอยู่ห้องนิยายจบแล้ว
พอจบแล้วรู้สึกเหงาเหงานะ
รอติดตามผลงานคุณรินค่ะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
จบแบบซึ้งๆ น่ารัก อบอุ่น แต่แอบปนเหงาๆ อย่างไงก็ไม่รุ้ บอกไม่ถูกอะ  ดีใจกับต้น+ไผ่ ในที่สุดก็เอาชนะปัญหาทุกอย่างจนได้อยู่ด้วยกันจนได้ แต่เสียใจ ตรงที่ เราอดอยู่กับ ต้น แทนนะสิ  :laugh: 

แต่ไม่เป็นไร ยังมีคุณเชษฐ์อีกทั้งคน คิดถึงจริงๆ :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด