ตอนที่ 30
หมูหัน
[เชน ได้ข่าวว่ามึงเจอเด็กเสดสาดต่อยปาก]
'เอ่อ...ใช่ครับ'
[จะเอาเลยมั้ย...หรือยังไง เดี๋ยวกูเรียกพรรคพวก]
'พี่...ผมกับมันเป็นเพื่อนกัน'
[ไอ้พวกที่ไปกับมึงด้วยมันไม่ได้รู้สึกแบบนั้นนะ]
'เอางี้...ถ้าพี่เห็นหน้าคนที่ต่อยผม พี่จะทำอะไรมันไม่ลงเลย'
[มันทำไม...มันตัวเล็กเตะแล้วปลิวได้ง่ายๆ เหรอ]
'ก็ไม่เล็กนะพี่'
[กูไม่เห็นแคร์...มันต่อยน้องกู ต่อยน้องกูก็เหมือนต่อยกู ต่อยเกียร์หน้าคณะกู]
'พี่...ไม่เอาครับ อย่าทำแบบนั้น ผมขอ'
[เฮ้ย มึงจะยอมให้มันต่อยมึงฟรีหรือไง]
'ครับ...มันไม่เจ็บเท่าไหร่'
[แต่ปากมึงแตกเลยนะ]
'พี่...ผมไม่เป็นไรจริงๆ'
[ทำไมมึงปกป้องมันจังเลย]
'ก็มันเป็นเพื่อนผมไง'
[เอาจริงๆ กูเริ่มสงสัยแล้วว่าใครกันแน่ที่ต่อยปากมึง]
'พี่คุ้นชื่อ...หมูหันมั้ยครับ'
[...]
'ว่าไงพี่'
[มันจะมีสักกี่คนบนโลกวะ คนที่ชื่อหมูหันเนี่ย]
'...'
[กูเข้าใจมึงแล้ว ไม่เอาเรื่องก็ไม่เอาเรื่อง]
'...'
[แม่ง ไปแหย่นิดแหย่หน่อยคงมีร้องไห้]
'นั่นสิครับ'
[แปลกใจที่มึงแคร์ไอ้นี่มากขนาดนี้นะ]
'ก็แหม...คนรู้จักกันน่ะพี่'
[มีอะไรมากกว่าคนรู้จักกันมั้ย]
'ไม่มีนะครับ'
[มีหรือยังไม่มี]
'พี่...ผมเจ็บปาก'
[เออ กูวางก็ได้]
'...'
[อย่าให้เห็นว่าควงกันผ่านหน้าคณะเชียวนะ กูจะล้อให้อายยันเหลนมึงบวชเลย คอยดู]
'ฮ่าๆๆ ครับ'
ผมปวดฉี่มาก...
ผมเดินหลับตาไปยังห้องน้ำที่ผมคุ้นเคย มันล็อกอยู่...ฉะนั้นผมจึงตัดสินใจไปห้องน้ำอีกห้อง ประตูห้องก่อนที่จะถึงห้องน้ำนั้นมันไม่ได้ถูกล็อกเอาไว้ ทุกอย่างช่างง่ายดาย...นี่ผมพูดถึงเรื่องที่ผมได้ปลดทุกข์ด้วยนะ...มันสบายเหลือเกิน
ดวงตาของผมเผยอขึ้นมาเล็กน้อยเพราะต้องใส่กางเกงพร้อมทั้งรูดซิบ อีกทั้งยังต้องกดน้ำอีก...ในตอนนั้นเองที่ผมเริ่มมีสติว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
ผมกำลังอยู่ในห้องของไอ้เชน!
เท้าของผมพาเดินออกมาจากห้องของไอ้กล้าเพราะห้องน้ำมันไม่ว่าง ผมกับเพื่อนไม่เข้าห้องน้ำในห้องนอนของไอ้กล้าอยู่แล้วเพราะอยากให้มันมีพื้นที่ส่วนตัวบ้างเนื่องจากแทบทุกจุดของในห้องของมันถูกคนอื่นรุกล้ำไปหมดแล้ว ผมจึงมาที่นี่แทน
ห้องน้ำของเชน...
หากเป็นเมื่อไม่กี่เดือนก่อนผมคงเดินเข้าออกห้องน้ำของเชนได้อย่างสบายใจเฉิบเนื่องจากทำบ่อย (ตงขี้นานมากเวลาใช้ห้องน้ำในห้องนั่งเล่นของไอ้กล้า) เชนมันติดนิสัยไม่ชอบล็อกห้องอยู่แล้ว แต่เมื่อคืนนั้นผมโมโหมันมาก และเมื่ออาทิตย์ก่อนๆ ผมก็โมโหมันมากเหมือนกัน ฉะนั้นมันจึงเป็นอะไรที่น่ากระอักกระอ่วนอย่างแรง
ผมไม่ชอบที่มันทำอะไรไม่จริงอย่างเช่นแกล้งจีบเพื่อนผมแบบนั้น แล้วผมก็โคตรไม่ชอบที่มันสนับสนุนให้เพื่อนตัวเองแกล้งจีบเพื่อนผมอีกคนโดยไม่ยอมประท้วงอะไรสักคำ
มีอะไรในชีวิตมึงที่มันจริงบ้าง!
ผมคิดอย่างโมโห แต่ก็พึงนึกขึ้นได้ว่าผมต้องออกไปจากห้องน้ำนี้ก่อน...ผมเรียกสติตัวเองให้กลับคืนมาก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูเบาๆ เพราะกลัวว่าเจ้าของที่มันจะรู้ว่าผมแอบมาใช้ห้องน้ำเหมือนอย่างเคยๆ
ฮู่ววว โล่งใจ...ไม่มีใครอยู่
"หมูหัน"
ผมสะดุ้งสุดตัว...เชนมันอยู่ว่ะ!
มือของผมกำแน่นก่อนจะหันไปมองเชนด้วยสายตามุ่งร้าย เวลาผมไม่ชอบใครผมมักจะแสดงออกอย่างเต็มที่ ผมไม่เคยกั๊กความรู้สึกหรือปั้นหน้าเสแสร้ง
ผมตกใจเล็กน้อยที่เห็นว่าปากมันแตก...จำได้ลางๆ ว่ามันเป็นฝีมือของผม
แน่นอนว่าผมจะไม่ขอโทษมันหรอก มันกับเพื่อนแก๊งบ้าท้าดวลควรไปอยู่นอกโลก...
ผมชูนิ้วกลางใส่เชนแล้วเดินหนี เชนจับชายเสื้อผมเอาไว้ไม่ให้ผมไปไหน
"กูขอโทษ"
"ไปไกลๆ"
"เฮ้ย"
มันไม่ยอมแฮะ...ผมตัวเล็กกว่ามันนิดนึง แต่ทำไมผมถึงสู้แรงมันไม่ได้ก็ไม่รู้
"เหี้ย ปล่อย!"
"ฟังกูก่อน"
"ไม่ฟังโว้ย"
"ทำไมมึงอินอยู่คนเดียว เพื่อนคนอื่นๆ ของมึงไม่เห็นอินเลย" เชนเท้าสะเอว ทำสีหน้ารับความประพฤติของผมไม่ได้ "มึงบ้าหรือเปล่า"
"เอางี้" ผมตัดสินใจหันไปเผชิญหน้ากับมัน "มึงลองนึกภาพดู...มีคนคนหนึ่งเข้ามาจีบเพื่อนมึง ใจมึงแอบสนับสนุนคนคนนั้นเพราะมึงคิดว่ามันเป็นคนดี มึงเชียร์ทั้งๆ ที่มึงรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนคนนั้นของมึงมีคนรักอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว แล้วมึงมารู้ทีหลังว่าคนคนนั้นทำไปเพราะคำพูดเพื่อน...เป็นมึงมึงจะคิดไง"
เชนอึ้งไปหลังจากที่ได้ยิน
"มึงแอบเชียร์กูเหรอ"
"แหงสิ กูเป็นคนเคาะประตูเรียกมึงออกมาให้มาถ่ายรูปคู่กับไอ้กล้าลงไอจี มึงจำไม่ได้เหรอ"
"มึงกับเพื่อนออกจะเหมือนหลอกใช้กู"
"แต่ลึกๆ ในใจแล้วกูเชียร์จริงๆ" ผมเริ่มรับไม่ได้ที่ตัวเองมาพูดอะไรแบบนี้ "ช่างแม่งเหอะ"
"หมูหัน..."
"ไปไกลๆ ตีน"
"มึงอย่าโกรธกูดิ"
"เหี้ยไร" ให้ผมไม่โกรธผมคงทำไม่ได้...นี่ผมเคืองแม่งจริงๆ นะ
"กูแคร์มึงพอๆ กับที่กูแคร์กล้าในกลุ่มของมึงเลยนะ กูไม่อยากเลิกเป็นเพื่อนกับมึงนะเว้ย"
ผมควรจะปลื้มดีมั้ย...ไม่ ผมไม่เห็นจะรู้สึกไปในทางนั้นเลย
"จะยังไงกูก็ไม่หายโกรธมึงอยู่ดี เรื่องกล้ามึงทำตัวเอง ส่วนเรื่องอมร...มึงห้ามเพื่อนมึงได้นะเว้ย" ได้ทีแล้วผมก็ใส่ไฟใหญ่ "เพื่อนกูมันเสียใจมากเลยนะ คนบางคนเขาจริงจังกับคนที่เข้ามาหา...ถ้าพวกมึงเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกก็คิดใหม่ซะ"
"คือกู..."
"กูจะกลับห้องกูแล้ว!" ผมตวาดเสียงดังลั่น
"มึงหมายถึงห้องกล้าหรือเปล่าวะ"
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่ามันจะแอบกัดผมเล็กๆ แบบนี้...ดูสายตามันดิ แม่งโคตรขำผม
"เรื่องของกู"
ขอให้กูอย่าได้เจอะได้เจอมึงอีกเลย...ไอ้หัวหน้าแก๊งบ้าท้าดวลกลุ่มซีเคียวริตี้แห่งคณะวิศวฯ! (ตำแหน่งแม่งยาวดีนะ)
ตอนบ่าย
ผมเป็นพวกชอบออกไปข้างนอกครับ จะหาว่าผมติดเพื่อนก็ไม่ถูกเพราะบางครั้งผมก็อยู่คนเดียว แต่ถ้าจะหาว่าผมติดผู้หญิงก็ไม่ใช่อีกเพราะผมโสด...จริงๆ แล้วผมมีความลับอย่างหนึ่งที่น้อยคนนักจะรู้ แม้กระทั่งไอ้ตงที่เป็นเพื่อนสนิทผม...มันยังไม่รู้เลย
ผมเป็นเกย์
ไม่ใช่เพราะผมไม่อยากเปิดเผย ไม่ใช่เพราะผมไม่ภูมิใจในสิ่งที่ผมเป็น...แต่ผมยังไม่คุ้นกับความจริงข้อนี้ โอเค มันอาจจะฟังดูตลก ผมเพิ่งมาค้นพบว่าผมมีความรู้สึกกับผู้ชายด้วยกันตอนที่ไอ้กล้า เพื่อนผมโชว์รูปนายท่าน คนรักของมัน (มันอวดตั้งแต่สมัยที่ยังไม่คืนดีกัน...เอ๊ะ ผ่านมาแล้วสองปีสินะ) แต่ใจเย็นๆ นะครับ ผมไม่ได้แอบชอบคนรักของเพื่อน ความหล่อของคนคนนี้มันรบกวนจิตใจผม
ผมไม่เคยคิดว่าผู้ชายคนไหนหล่อมาก่อนในชีวิต
ไอ้เหี้ยเซียนอาจจะหล่อ...แต่ก็แล้วไง มันไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้นเหมือนตอนเห็นรูปนายท่าน และถ้าถามถึงไอ้ตงน่ะเหรอ ผมไม่ได้รู้สึกถึงความหล่อของมันเลยตั้งแต่เป็นเพื่อนกับมันมา แต่ดูเหมือนว่าสาวๆ หลายคนจะไม่เห็นด้วยกับผมนะครับ
เอาเป็นว่านายท่านคือผู้จุดประกาย ตั้งแต่ที่ผมเริ่มมองว่ามันหล่อ ผมก็เริ่มทำการทดสอบตัวเองด้วยการมองผู้ชายทั้งมอ แน่นอนว่ามอผมย่อมมีคนหน้าตาดีและก็หุ่นดีอยู่ (แหม...นักศึกษามีกันเป็นหมื่นๆ คนนะครับ) และแล้วผมก็ค้นพบว่า...ผมมีความรู้สึกทางเพศกับผู้ชายด้วยกัน
ถ้าผมถูกใจบางคน...ผมก็เผลอกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก...ถ้าผมสนใจใคร รู้สึกอยากสัมผัส อยากเอามือไปลูบถูไถ...ผมก็จะจัดการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวของผมเอง
มันเกิดขึ้นที่ผม จบลงที่ผม ไม่มีใครรู้...และเป็นความลับตลอดกาล
ผมเป็นเกย์ แต่ผมก็โอเคที่จะอยู่เป็นโสด เพื่อนของผมมันได้แสดงให้ผมเห็นแล้วว่าความรักมักจะตามมาด้วยการมีปัญหาและเรื่องน่าปวดหัว แค่ผมยกตัวอย่างแค่ไอ้กล้ากับนายท่านแฟนของมัน ทุกคนก็น่าจะเข้าใจผมแล้วใช่มั้ยครับ ไม่ถึงกับต้องยกตัวอย่างไอ้เซียนกับไอ้น้องทิมหรอก (นี่คือไม่ยกตัวอย่างแล้ว?)
ฉะนั้น...ผมเป็นเกย์ที่ไม่ไขว่คว้าค้นหาอะไร ผมมีความสุขกับการอยู่กับเพื่อน เล่นเกมกับเพื่อน และก็มีความสุขด้วยมือของผมเองในห้องส่วนตัวหรือในห้องน้ำ ผมมีความสุขและก็โอเคกับชีวิตในตอนนี้ดีมากเลยครับ
จนกระทั่ง...ผมมาเจอกับไอ้เชน
หากถามทำไมผมต้องอินและทำไมผมต้องโกรธ...โห การกระทำหลายๆ อย่างของมันแม่งกวนส้นบาทาของผมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แค่ผมนึกสภาพตัวเองเป็นกล้าตอนที่มันมาจีบหลอกๆ ผมก็รู้สึกแย่แล้ว (ถ้าผมเป็นกล้าในเวอร์ชั่นที่มีใจให้ไอ้เชนอ่ะนะ) นี่ยังไม่รวมถึงตอนที่ผมเป็นอมร...ซึ่งถูกเพื่อนของมันจีบหลอกๆ เหมือนกัน
พวกจีบหลอกๆ พวกนี้แม่งสมควรโดนประณาม
ผมไม่เคยมีความรักจริงจัง แต่หลังจากที่ผมรู้ว่าตัวเองรู้สึกกับผู้ชายเหมือนกัน ผมก็รู้สึกว่าผมต้องให้ใจคนรักของผมมากแน่ๆ ผมจึงเหมารวมไปว่าอมรอาจจะชอบเพื่อนวิศวฯ ของเชนที่มาหักอกของเชนมาก...ฉะนั้นแล้วมันจึงไม่แปลกใช่มั้ยครับที่ผมจะโมโหไอ้เชน
แต่จะยังไงก็ช่างเถอะ...ผมก็แค่เพื่อนผ่านๆ ของมันคนหนึ่ง การที่ผมโกรธหรือโมโหมากกว่าใครแก๊งชายโฉด ก็ไม่ใช่เรื่องที่เชนจะมาเดือดร้อนซะหน่อย
ปล่อยให้แม่งอยู่อย่างหล่อๆ เป็นเดือนเด่นในวิศวฯ แก๊งซีเคียวริตี้ต่อไปนั่นแหละ
แม้จะผิดหวังนิดหน่อย แต่ทำไงได้...ผมไม่ชอบพวกจีบหลอกๆ แม่งเสียเวลาทำคนโดนจีบและก็คนจีบอ่ะ คิดไม่เป็นกันบ้างหรือไง
กลับมาเรื่องที่ผมชอบออกไปข้างนอกครับ (โอ้โห! ผมจะพล่ามยาวอะไรขนาดนั้น) ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในร้านกาแฟ อ่านชีทกองโตเรื่องความเหลื่อมล้ำในศตวรรษที่ 21 (ยาวและเยอะฉิบหาย...อย่าให้ผมร่ายให้ฟังเลย) ผมไม่สามารถอ่านหนังสืออยู่ในห้องได้ถึงแม้ว่ามันจะเงียบก็ตาม ผมเป็นพวกเคยชินกับการอ่านหนังสือข้างนอก อาจเป็นเพราะสมัยเรียนมัธยมผมเคยถูกรุ่นพี่ติวในร้านกาแฟมาก่อนล่ะมั้ง ผมถึงได้มีสมาธิกับบรรยากาศคึกคักของร้านกาแฟแบบนี้
แม้หัวจะยังมึนๆ อยู่ แต่ผมก็ต้องสู้ครับ ไม่สู้ไม่ได้ เพราะเวลาที่ผมเหลืออยู่มีหน่วยเป็นวันหรือหนึ่งสัปดาห์นิดๆ ไม่ใช่เดือน
ผมวางเลโก้ดาร์ธเวเดอร์ลงใกล้ๆ กับชีทเรียน วันนี้เพื่อนผมทุกคนต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไปทำเรื่องส่วนตัว จึงมีแต่ดาร์ธเวเดอร์อยู่กับผมแค่สองคน...
จะว่าไปผมก็ลืมเอาเลโก้ของโอบีวัน อัศวินเจไดตัวโปรดของผมมา...
"เป็นกำลังใจให้ด้วยนะท่านลอร์ด" ผมบ่นกับเลโก้ "แม่งเยอะฉิบหาย...นี่ผมจะตายก่อนสอบหรือเปล่า"
ผมอ่านไปง่วงไป...บางครั้งก็ส่งข้อความเข้ากรุ๊ปไลน์ชายโฉดหรือไม่ก็กล้าหัวจวยเพื่อแก้เหงาบ้าง จนในที่สุดความน่าเบื่อในยามของผมก็สิ้นสุดลงเมื่อนักศึกษาวิศวฯ กลุ่มใหญ่เดินเข้ามาในร้านกาแฟ
โฮลี่ชิท บังเอิญสวรรค์สั่งหรือบังเอิญสวรรค์สาป
ไอ้เชนที่ปากยังคงมีแผลมากับเพื่อนแก๊งซีเคียวริตี้...แก๊งบ้าท้าดวลในตำนานที่ผมอยากส่งออกไปนอกโลกเหลือเกิน (หวังว่าแอสการ์ดจะยังมีที่ว่างให้คนเหล่านี้นะท่านเทพเจ้าธอร์)
เชนมันเห็นผมแล้ว คิ้วของมันเลิกขึ้นสูง สนทนากับเพื่อนต่อแต่ดูเหมือนว่าจิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่
แหงล่ะ...นี่แหละคือสิ่งที่มันควรรู้สึก คนจีบคนอื่นหลอกๆ ไม่ควรมาร้านกาแฟอย่างสบายใจเฉิบด้วยซ้ำ ไม่ควรเลยจริงๆ
"กูเจอเพื่อนกู" ผมได้ยินเสียงมันพูดกับเพื่อน
"เฮ้...น้องนุ่มนิ่มเสดสาดนี่หว่า" พวกนั้นกระทุ้งสีข้างกันไปมาแล้วแซวผม
"จัดหนักคืนนี้เลยมั้ยเพื่อน"
"นานๆ ทีน้องนุ่มนิ่มเขาจะอยู่คนเดียวนะ"
ใครนุ่มนิ่มวะ...หมอนรองคอพ่อมึงหรือไง ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงเมนส์มาเวลาผมโดนแซวแบบไร้สาระเช่นนี้
"เงียบเถอะ"
ถูกของเชนมัน...Shut the f*ck up!
"เดี๋ยวกูตามไป"
ผมเชื่อว่าผมคือเป้าหมายของไอ้เชน...ในอีกไม่กี่วินาทีถัดมามันก็ทิ้งตัวลงนั่งที่ฝั่งตรงข้ามของผมเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นเป็นสิ่งที่ถูก
"มี -วยอะไร"
"โห ปากคอเราะร้าย" เชนดูไม่ถือสา ติดจะท้วงแบบขำๆ มากกว่า
"มึงก็รู้ว่ากูโกรธมึงอยู่ ไปไกลๆ ตีน"
"..."
"ว่าแต่น้องนุ่มนิ่มคือเหี้ยอะไร"
"มึงไล่กูไปไกลๆ แต่กูก็ต้องตอบคำถามมึงใช่ป่ะ" เชนหัวเราะในลำคอ "มึงไง น้องนุ่มนิ่ม"
"กู?"
"ใช่" มันจิ้มอุ้งมือของผมที่วางหงายอยู่เหนือชีทเรียน "นี่ไง นุ่มนิ่มมาก"
"อย่ามาแตะเนื้อต้องตัว" กระแสไฟฟ้าขนาดเล็กถูกส่งมาจากนิ้วมือของไอ้เชน ทั้งๆ ที่มันแตะผมแค่เสี้ยววิ
หรือมึงคือตัวร้ายในเรื่องอะเมซิ่ง สไปเดอร์แมนภาค 2 ตัวที่แม่งมีกระแสไฟฟ้าไปทั้งตัวนั่นน่ะ
"ทำมาเป็นหวง" เชนเลิกคิ้วยิ้มๆ
"ก็กูโกรธอยู่"
"แล้วทำไงถึงจะหาย"
"ไม่หาย"
"มึงอยากโดนง้อมากเลยหรือไง"
"ส้นตีนเถอะ" ผมร้องเสียงดัง "กูรำคาญมึงมากแล้ว ไปให้พ้น"
"มึงรำคาญ แต่กูยังไม่รู้สึกอะไร เพราะงั้นกูจะอยู่"
เหี้ยอะไรวะ...นอกจากเชนมันจะหน้าหล่อแล้ว มันยังหน้าหนาหน้าทนเหลือเกิน
"จะเอากาแฟเพิ่มป่ะ เดี๋ยวไปสั่งให้" มันถามผม
"กูจะสั่งให้มึงออกไปจากร้านนี้ซะ"
"เป็นพ่อกูหรือเปล่า"
"...เปล่า"
"ถ้าไม่ใช่ก็เงียบปากไป"
ไอ้...โว้ยยยย ผมจะด่ามันว่าอะไรดี ปกติแล้วไอ้เชนมันเป็นพวกกวนประสาทแบบนี้ด้วยเหรอ คิดไปคิดมาก็จริง...มันเป็นพวกมีความกวนตีนเป็นเสน่ห์ ดูเข้ากันดีกับรอยยิ้มที่โชว์ฟันเรียงสวยซึ่งรับกับกระจับริมฝีปากบน
มันหล่อ...แต่แล้วไง ผมก็ยังโกรธมันอยู่ดี
เชนกลับมาพร้อมๆ กับเครื่องดื่มสองแก้วและขนมอีกอย่างหนึ่ง มันซื้อมาทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ตอบว่าผมจะเอาหรือเปล่า แต่เมื่อได้เห็นเครื่องดื่มสดใหม่และขนมที่ส่งกลิ่นหอม ผมก็อดไม่ได้ที่จะเผลอกลืนน้ำลาย
ซีนนั้นเสือกเป็นซีนที่เชนมันเห็นพอดี
"ถ้าอยากมากก็กินเลย"
ผมแพ้ไอ้เชนยับ...มันนำผม 1 - 0
เอาวะ...อย่างน้อยแม่งก็เป็นของฟรี ผมหยิบเครื่องดื่มที่มันซื้อมาให้ผมขึ้นมาดื่ม เป็นเมนูที่ผมไม่เคยลิ้มลองมาก่อน
เชี่ย แม่งขมจนแทบจะพ่นกลับคืนใส่หน้าไอ้เหี้ยเชน
"ไม่อร่อยเลย!"
"อเมริกาโน่ใส่แต่น้ำแข็ง...มันจะอร่อยตรงไหน"
"..."
"กินหวานมากมันไม่ดีรู้ป่ะ"
รู้ว่าไม่อร่อยก็ยังสั่งมาให้ผมอีก...แต่ผมค่อนข้างเข้าใจมันนะ ไอ้เซียนแม่งก็ชอบสั่งเครื่องดื่มเมนูนี้เพราะมันรักษาหุ่น
ผมไม่อยากจะเสวนาอะไรกับมันอีก มันนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผม บางครั้งก็เล่นโทรศัพท์ บางครั้งก็ยกเครื่องดื่มของมันขึ้นดื่ม...จนเวลาผ่านไปสามนาทีได้ ผมจึงได้เอ่ยปากถาม
"แล้วมึงมานั่งอยู่กับกูทำไมเนี่ย โน่น ไปนั่งกับเพื่อนมึงโน่น เพื่อนมึงคิดถึงมึงจะแย่แล้ว"
เชนเลิกคิ้ว...ผมไม่ชอบเวลามันแสร้งทำหน้าเฉยใส่ผม ผมรู้ว่ามันเสแสร้งครับ เพราะเมื่อกี้มันเกือบจะหลุดยิ้มออกมาแล้ว
"พวกมันบอกให้กูนั่งกับน้องนุ่มนิ่มต่อไป"
ผมตบโต๊ะเสียงดัง "มึงห้ามเรียกกูแบบนั้นอีก!"
"ก็มันจริงนี่...ยอมรับสักทีสิ"
"กูไม่ยอมรับหรอก"
จิ้ม...เชนเอานิ้วมาจิ้มแก้มผม "หลักฐานชัดขนาดนี้"
ผมจับนิ้วมันทำท่าจะแดกเข้าไป
"เฮ้ยยย" มันตกใจจนรีบเก็บอวัยวะตัวเองกลับคืน
"อยากกวนตีนกูดีนัก"
หมูหัน vs เชน สกอร์กลายเป็น 1 - 1 เอาสิ มาสิ มาสิ...
"โหด แตะนิดจับหน่อยไม่ได้เลยเหรอ" เชนโวยวาย
"มึงชอบให้คนแปลกหน้ามาจับตัวมึงหรือไง" ผมสวนกลับ
"มึงไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับกูไง มึงคือเพื่อน...เพื่อนต่างคณะ"
"เสียใจ...ตอนนี้มึงเป็นคนแปลกหน้าสำหรับกูไปแล้ว" ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
"อันนี้อะไร" มันหยิบเลโก้ท่านลอร์ดดาร์ธเวเดอร์ของผมขึ้นมาดู
"อย่าไปจับ!" ผมตีมือมัน ดึงของเล่นของผมคืนอย่างหวงแฟน
"มึงมาแตะตัวกูทำไม" เชนทำท่าหวงตัวได้อย่างตอแหลที่สุด "เห็นมั้ย มึงเองก็ชอบแตะต้องตัวคนแปลกหน้าเหมือนกัน เพราะงั้น...ที่กูแตะตัวมึงคือกูไม่ผิด"
ฟัค...
หมดคำจะพูดแล้วครับ ตอนนี้เชนนำผมไปแล้ว 2 - 1
ผมแทบจะหักปากกาที่อยู่ในกำมือ แต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมไม่ได้มีพลังช้างสารขนาดนั้น
"มึงไปนั่งกับเพื่อนมึงได้แล้ว!" ถ้าครั้งนี้มันไม่ลุก...ผมนี่แหละจะเป็นคนลุกเอง
"พรุ่งนี้มีงาน 'โลกสวยด้วยมือเรา' อ่ะ" เชนพูดต่อไปเหมือนมันไม่ได้ยินคำพูดตะกี้นี้ของผม (ให้มันได้อย่างงี้สิ) งานโลกสวยด้วยมือเราเป็นงานแสดงสินค้าทำมือของนักศึกษาที่จัดได้ว่าดังมากของมอผมครับ (แม้ชื่องานจะแปลกๆ ไปสักหน่อยก็เถอะ) "มึงไปป่ะ"
"ไม่ไป" ผมตบชีทให้มันดู "กูยังอ่านชีทไม่จบเลย จะให้กูไปแรดได้ยังไง"
"..."
"มึงไม่อ่านบ้างเหรอ"
"วิศวฯ เขาอ่านสามวันสุดท้ายก่อนสอบกัน"
บ้าบอ...ถ้าไอน์สไตน์มาพูดกับผมแบบนี้ ผมจะเชื่ออย่างหมดใจไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ แต่นี่เป็นเด็กหนุ่มหน้าหล่อ(แถมยังหน้าหนาหน้าทน) ความน่าเชื่อถือแม่งติดลบแปดสิบสี่เปอร์เซ็นต์
"ไม่เชื่อเหรอ"
"เชื่อก็โง่แล้ว"
"ตกลงไม่ไป?"
"ใช่"
"..."
"แต่ถ้าเพื่อนกลุ่มกูไป...กูอาจจะคิดดูอีกที"
ไม่รู้ว่าเพื่อนมันจะเอายังไงกัน ไอ้กล้าตอนนี้ก็คงจะง่วนอยู่กับการเอาชนะใจแม่ย่า ไอ้เซียนก็คงจะง่วนอยู่กับการเอาชนะใจไอ้น้องทิม ส่วนไอ้ตง...แม่งต้องง่วนอยู่กับการนอนแหงๆ
"งั้นเหรอ" เชนเลิกคิ้ว "กูถามไอ้กล้าแป๊บ"
ผมถลึงตามองมัน "มึงจะทักมันไปเหรอ"
"แน่นอนสิ" มันเขย่ามือถือของมันให้ดู
"ไอ้บ้า ไม่ได้นะ ห้าม!"
"หวงเพื่อนเหรอ" อีกฝ่ายทำสีหน้าประหลาดใจ
"ไม่ใช่"
"..."
"ถ้าผัวมันโกรธแม่งก็ต้องดราม่าอีก แล้วใครเดือดร้อนที่จะต้องมาฟังมันเพ้อวะ...กูกับเพื่อนนี่ไง!"
เชนมองหน้าผมอย่างตกตะลึงงัน "ล้ำลึก"
"กันไว้ดีกว่าแก้"
"งั้นกูถามไอ้ตงก็ได้ บังเอิญเคยแอดไลน์กันอยู่"
"เจอกันบ่อยเหรอ"
"ชอบกินเหล้าร้านเดียวกันน่ะ"
ผมยื่นคอไปดูว่าเชนมันจะคุยกับตงว่ายังไง แต่ในใจของผมเริ่มผิดสังเกตแปลกๆ แถมยังฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า...นี่ผมกำลังทำเหี้ยอะไรอยู่!
"กูไปละ" ผมรีบเก็บข้าวเก็บของ
"เฮ้ย จะไปไหน" เชนหัวเราะที่เห็นผมตั้งสติได้ เมื่อตะกี้มันแม่งเนียนจนผมต้องไหลไปตามน้ำ...ลืมไปซะสนิทว่าผมโกรธมันและต้องการที่จะอยู่ห่างกับมัน "ไม่ต้องไปแล้ว กูลุกแล้ว"
ผมนั่งอยู่ที่เดิม มองมันด้วยสายตาเข้ม "จะไปไหนก็ไปเลย"
"ใจร้าย"
"เพราะมึงมันคือคนแปลกหน้า"
"จ้ะ คนแปลกหน้าก็แปลกหน้าจ้ะ" มันยิ้มร่า...นี่น่ะเหรอคือสีหน้าของคนโดนโกรธ หรือผมโกรธแม่งไม่จริงกันหว่า แต่ก็ช่างเหอะ...เชนมันก็แค่คนรู้จักห่างๆ ของผมแบบที่เมื่อก่อนเราคุยถูกคอกันมากก็แค่นั้น
มันอยู่ห้องตรงข้ามไอ้กล้าก็จริง...แต่ผมนี่แหละคือคนที่คุยกับมันบ่อยกว่ามันคุยกับกล้าซะอีก
ผมแอบมองตามหลังไอ้เชนพลางคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ...จะว่าไปมันก็ไม่เคยถามผมเรื่องกล้าเลยซักกะติ๊ดยกเว้นแต่จะถามเพื่อเป็นมารยาท ('ไอ้กล้าเป็นไง' 'วันนี้มันไม่มาแดกกับมึงเหรอ') ปกติแล้วเวลาคนเราคิดจะจีบใครสักคน มันก็ต้องหลอกถามเพื่อนของคนคนนั้นเพื่อเป็นการเก็บข้อมูล แต่สำหรับไอ้เชน...มันคงไม่ได้ชอบไอ้กล้าจริงๆ เพราะไม่อย่างนั้นมันคงถามผมเรื่องของกล้าไปตั้งนานแล้ว
มันหันมาสบตากับผมตอนที่มันนั่งอยู่กับกลุ่มผม ผมรีบหยิบชีทขึ้นมาบังหน้า แล้วค่อยๆ เหลือบไปมองอีกรอบ ผมอ่านปากเพื่อนๆ ของมันได้ว่า 'นุ่มนิ่ม' และ 'น้องนุ่มนิ่ม' พวกมันเอาแต่แซวไอ้เชนที่ยิ้มกับคำแซวของเพื่อนๆ
กลุ่มคนซ่า (?) บ้าท้าดวล...แม่งไม่เคยมีอะไรที่จริงหรอก อาจจะยกเว้นแต่เรื่องเชนไม่ได้ชอบกล้า...เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ
ว่าแต่สกอร์ในวันนี้ของผมกับไอ้เชนเป็นยังไงบ้างเนี่ย ผมแพ้หรือผมชนะกันนะ
เหมือนไอ้เชนมันจะทำแต้มนำ แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าผมชนะล่ะ
หอของผม
ผมอยู่หอติดกันกับหอไอ้ตงและหอไอ้เซียน เราทุกคนอยู่ในหอละแวกเดียวกัน ยกเว้นอยู่คนเดียวนั่นก็คือไอ้กล้า รายนั้น (แม่และพี่สาว) เขารวย...มันก็เลยได้อยู่หอที่โคตรหรูประดุจคอนโด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาค่าเช่าที่สูงลิบลิ่ว
เข้าใจเหตุผลที่ผมกับเพื่อนอีกสองคนชอบไปหอมันหรือยังครับ ห้องมันแม่งสบายอย่างกับสวรรค์วิมาน (ว่าไปนั่น) จริงๆ แล้วป๊าผมก็อยากให้ผมไปอยู่หอแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผมอยากอยู่ใกล้ๆ ไอ้ตงกับไอ้เซียนมากกว่า ผมจึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่
อย่าไปบอกกล้ามันนะครับ เดี๋ยวแม่งจะน้อยใจเอา ยังไงอยู่ใกล้เพื่อนสองคนก็ยังดีกว่าอยู่ใกล้เพื่อนหนึ่งคนป่ะ
ท้ายที่สุดเราทุกคนก็ต้องแห่ไปหามันอยู่ดี...ผมควรจะเช่าห้องอยู่ใกล้ไอ้กล้าตั้งแต่แรกนะเนี่ย
เอาล่ะ...ผมกลับลำไม่ทันแล้วล่ะครับเพราะผมติดหอพักนี้ซะแล้ว สารภาพว่าผมเริ่มติดหลังจากที่ผมค้นพบว่าตัวเองเป็นเกย์ หอนี้เป็นหอชื่อดังที่รวบรวมผู้ชายหุ่นนักกีฬาล่ำบึก และมีอยู่หนึ่งคนที่ผมถูกอกถูกใจนักหนา
เขาชื่อว่าพี่เดียวครับ
เขาเป็นรุ่นพี่คณะเศรษฐศาสตร์ที่ทั้งหล่อและก็หุ่นดีมาก...แน่นอนว่าเขาเป็นผู้ชายแท้เพราะผมชอบเห็นเขาลากแฟนมาหอบ่อยๆ ผมคอยแอบมองพี่เขาอยู่ตลอด นึกในใจว่าถ้าผมจะเป็นเกย์ที่มีแฟน ผมก็อยากได้แฟนประมาณนี้ พี่เดียวเป็นคนประเภทที่ผมปลื้ม ไม่ใช่คนที่ผมรู้สึกชอบ
ผมแค่ชอบมอง...ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย แต่ก็มีบางครั้งที่เก็บเอาไปสงสัยว่าหุ่นภายใต้ชุดนักศึกษาหรือชุดกีฬานั่นจะเป็นอย่างไร
การคิดถึงแต่หุ่นของพี่เดียวทำเอาผมต้องจัดการความใคร่ของตัวเองในห้องน้ำ...ตั้งแต่รู้ตัวว่าเป็นเกย์ผมก็คิดถึงแต่หุ่นผู้ชายและก็ผู้ชาย...เรื่องนี้ผมกลับลำไม่ทันเช่นเดียวกับการเลือกหอพักของผมนั่นแหละ
วันนี้ผมบังเอิญเจอพี่เดียวกำลังขนของลงรถกระบะที่ใต้หอ ดูแล้วน่าจะเป็นของทำมือที่พี่เขาทำร่วมกันกับแฟน
"ไปงานโลกสวยฯ หรือเปล่า" พี่เดียวถามผม "แฟนพี่ไม่อยู่กะทันหัน แล้วพี่ต้องไปขายคนเดียวแหละ...โคตรแย่"
"จริงดิ" ผมถึงกับอึ้งไปเลย "เธอคงเสียดายแย่นะครับที่ไม่ได้ไปขายด้วยตัวเอง"
"แม่เขาป่วยกะทันหันน่ะ ทำไงได้"
"อ๋อ"
"หมูหันว่างมั้ย...พรุ่งนี้ไปช่วยพี่ขายหน่อยสิ เดี๋ยวพี่ให้ค่าแรง"
สาบานได้ว่าผมลืมไปเลยว่าชีทกองโตรอผมอยู่
"ได้สิครับ"
"ใจดีจัง"
"แหมพี่ ช่วยๆ กัน"
"จะไปขายของกับพี่น่ะ...ขอเพื่อนๆ หรือยัง"
"หา" ผมทำหน้างงใส่พี่เดียว พี่เขาน่าจะรู้จักไอ้กล้ากับคนอื่นๆ เป็นอย่างดี "ผมต้องขอพวกมันด้วยเหรอ"
"เห็นตัวติดกันอย่างกับอะไร"
"โอ๊ย ผมอยากไปไหนก็ไปได้ ผมตามใจตัวเอง"
"ดีใจนะเนี่ย" พี่เดียวยิ้มอย่างมีเสน่ห์เล่นซะจนผมเคลิ้ม...ผมส่ายหน้าเบาๆ เพื่อเรียกสติตัวเอง แค่รู้สึกปลื้มภาพลักษณ์ภายนอก อย่าไปหลงมนต์เสน่ห์คนที่มีแฟนแล้วให้เสียเวล่ำเวลาเลย "ถ้างั้นวันนี้ขอรบกวนเลยได้ป่ะ ของพวกนี้ต้องขนไปก่อนน่ะ"
มันเป็นพวกพร็อบตกแต่งร้านที่ค่อนข้างใช้แรงงานอยู่เหมือนกัน...แม่ง คุ้มแรงกูมั้ยเนี่ย แค่เพื่อแลกกับการใกล้ชิดชายหนุ่มที่ปลื้มเนี่ยนะ
เออ เอาไงก็เอา
"ได้สิครับ"
สรุปก็คือผมต้องไปงานโลกสวยฯ อะไรนี่ทั้งวันเตรียมงานและก็วันงานเลยทีเดียว
[ มีต่อนะคะ ]