ตอนที่ 27
นายท่าน
Naaytan Aroonkittiniwat
ฝากเชียร์ด้วย #NTKH (250 Likes)
Naaykong Aroonkittiwat : เชียร์แต่พี่กล้าได้มั้ย พี่กล้าสู้ๆ
Naaytan Aroonkittiniwat : @Naaykong Aroonkittiniwat ไปเล่นไกลๆ ตีนกู...
Tim Gy : We are always here. (48 Likes)
Klahan Boy
กูพร้อมตาย...กูแมนที่สุดในโลก
กูคือกัปตันไทยแลนด์! (314 Likes)
Tepsianxx : ไปหมดแล้วสมงสมอง (5 Likes)
รุ่นน้องคณะคนที่หนึ่ง : พี่กล้าเป็นหมากระเป๋าต่างหาก
Klahan boy : @รุ่นน้องคณะคนที่หนึ่ง ...น้องครับ
เครียด...
ผมกำลังเครียดอย่างถึงที่สุด เมื่อวานผมตัดสินใจไปส่งกล้าถึงที่คณะพร้อมแสดงออกอย่างเต็มที่ว่าผมเป็นแฟนกล้า การที่ผมตัดสินใจแบบนั้นก็เป็นเพราะผมเหนื่อยและอึดอัด...ผมไม่อยากไม่เป็นตัวของตัวเองต่อหน้าคนอื่นอีกต่อไปแล้ว
การเป็นตัวของผมเองคือการที่มีแฟนของผมอยู่เคียงข้าง เมื่อก่อนผมอาจจะคิดมาก...กลัวว่ากล้าจะโดนคนในสังคมจดจ้องและพร้อมด่า...แต่เอาเข้าจริงๆ เราทั้งคู่นั้นจำเป็นที่จะต้องจับมือกันเพื่อให้ผ่านพ้นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็กำลังเกิดขึ้นนี้อยู่ให้ได้...ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็...
ผมคิดว่าเราคงไปกันไม่รอด
ผมไม่อยากจะพูดคำนั้นเลยครับ แต่มันคือความจริง...กล้ามันรู้ตั้งแต่มันรู้จักผมแล้วว่าผมมีคนรู้จักเยอะ แม้ว่าผมจะไม่ชอบ แต่มันก็คือชีวิตผม ผมเลือกเกิดไม่ได้ เลือกคุณพ่อกับคุณแม่ผู้ให้กำเนิดผมไม่ได้ มันคือส่วนหนึ่งในชีวิตผม...ส่วนที่ผมไม่สามารถตัดออกไปจากชีวิตได้
มันถึงเวลาที่ผมกับกล้าจะต้องเผชิญกับความจริง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...จะดีหรือจะร้าย เราก็ต้องผ่านมันไป...
แม้จะเป็นอย่างนั้น...แต่ผมก็อดรู้สึกเครียดไม่ได้...ผมไม่ชอบให้กล้าโดนด่า ไม่ชอบให้กล้าเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ผมอยู่ในวงการมานานในฐานะลูกค่ายละคร ผมย่อมรู้ดีว่าการที่ตัวเองต้องมาอยู่นิ่งๆ แล้วโดนคนภายนอกพูดถึงในแง่ดีบ้างไม่ดีบ้างนั้นมันเป็นอย่างไร แต่สำหรับกล้า...มันไม่เคยโดนมาก่อน นั่นทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วงและหวาดวิตก
...มันเป็นสิ่งที่ผมควบคุมไม่ได้ ไม่เคยมีใครควบคุมคำพูดหรือคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่นได้...ไม่เคยเลยจริงๆ
ผมเชื่อว่าลึกๆ แล้วกล้าก็คงอยากให้เราออกไปเผชิญหน้ากับโลกแห่งความจริง เรารักกันคือความจริง คนภายนอกที่มองเราแล้วรู้สึกแบบต่างๆ นานานั้นมันก็คือความจริง...
ผมไม่อยากกล้าว่ากำลังเครียด...ทิมมันโทรคุยกับผมแล้วว่าในทวิตเตอร์เริ่มมีคนตามสืบแล้วว่ากล้าเป็นใคร ผมคบกับกล้าหรือแค่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันเฉยๆ ผมยังไม่อยากเข้าไปอ่าน จึงใช้เวลาตลอดทั้งบ่ายรอกล้าอยู่ที่ห้อง...เล่นเกม RoV ไปเรื่อยเพื่อแก้เครียด
แม่งเอ๊ย...ไม่รู้ทำไมเล่นแล้วถึงเครียดกว่าเดิมก็ไม่รู้
ตัวละคร 'รักกล้ามาก' เริ่มเล่นได้ไม่เทพเมื่อสมาชิกในทีม 'กล้าหัว...' อยู่กันไม่ครบ (ยังคงไม่กล้าพูดชื่อกลุ่มเต็มๆ แม้จะอยู่ลับหลังกล้า...) ผมแพ้ยับแม้ว่าจะคิลทีมตรงข้ามได้มากก็ตาม...รู้สึกเล่นไม่ออกแต่ผมก็เลือกที่จะเล่นอยู่แบบนั้น ผมอยากให้หัวของตัวเองขึ้นถึงเรื่องอื่นแทนที่จะมาคิดเรื่องกล้าโดนด่า
ทุกคนคงจะสงสัยกันใช่มั้ยว่าทำไมผมถึงไม่สนเรื่องที่ผมจะโดนด่าหรือเปล่า...ครับ ผมไม่สนเลย ผมโดนมาตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้ว มีคนชอบมันก็ต้องมีคนไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา
ระหว่างที่กล้ากำลังโดน...ผมก็คงจะโดนเหมือนกัน แต่ก็อย่างที่บอก...ผมแคร์แต่กล้า กล้าคนเดียวเท่านั้น
บางทีก็แคร์จนลืมแคร์ตัวเอง...
ผมเป็นอย่างนั้นมาหลายปีจนผมชินแล้ว แล้วผมก็มีความสุขที่ตัวเองรู้สึกแบบนั้นด้วยนะ
"ท่าน" เสียงประตูเปิดดังขึ้นตามด้วยเสียงเรียกผม
"กลับมาแล้วเหรอ" ผมที่กำลังเล่นเกมค้างอยู่ไม่ได้หันไปมองแต่ส่งเสียงตอบรับ
"ช่าย ซื้อขนมมาด้วยแหละ"
หางตาของผมมองเห็นว่ากล้ามานั่งข้างๆ ผมบนโซฟา แต่ผมก็ยังไม่ละสายตาออกมาจากหน้าจออยู่ดี...พอดีเกมมันกำลังอยู่ในจังหวะที่กำลังเข้มข้นน่ะครับ
"จ้องไม" ผมถามเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองกำลังโดนจ้อง กล้ากำลังเท้าแขนที่พนักแล้วค้ำคางเพื่อมองผมอยู่
"จ้องว่าเมื่อไหร่มึงจะสนใจกู"
งานเข้า...ผมเงยหน้าขึ้นมามองหน้ากล้าพร้อมหอมหน้าผากมันแรงๆ หนึ่งที
"เกมกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน...ใจเย็นๆ นะ"
ผมกลับมาอยู่ในท่าเดิม ใช้มือทั้งสองข้างจับโทรศัพท์ที่วางอยู่ในแนวนอนอีกทั้งยังใช้สายตาจ้องหน้าจออย่างจริงจังและแน่วแน่ ตอนที่หอมหน้าผากกล้าอยู่ผมกำลังเสียหลัก...แล้วตอนนี้ผมกำลังบังคับฮีโร่ของผมให้หนีฝ่ายตรงข้าม
"มากินขนมกัน"
"เดี๋ยว...อีกแป๊บ" ฮีโร่ของผมซุ่มหลบอยู่ในพุ่มไม้ ฮีโร่ของอีกฝ่ายกำลังไล่ตามมาฆ่าผมเพราะเลือดของผมเหลือน้อย...แม่ง ตามผมจัง นี่ผมเป็นหนี้มันตั้งแต่ชาติที่แล้วหรือเปล่า
"ท่าน"
"ทีมต้องการกู"
"แต่กูต้องการมึง"
ผมเสียหลัก...เงยหน้าขึ้นมามองหน้ากล้า ฮีโร่ของผมตายเพราะเจ้าหนี้ (?) คนนั้นแทบจะในทันที
"ฮ่าๆๆ" กล้าหัวเราะลั่นเมื่อแกล้งผมสำเร็จ "สมน้ำหน้า"
"มานี่เลย" ผมคว้าท้ายทอยของกล้าเพื่อให้มันเข้ามาใกล้ จากนั้นก็จูบปิดปากมันอย่างนุ่มนวลอ่อนหวาน ลิ้นของผมโลมเลียลิ้นของกล้าจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ ผมขยับใบหน้าออกห่าง จ้องมองกล้าด้วยนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความรัก
หลังจากนั้น...ผมก็เริ่มจูบกล้าอีกรอบ
"อื้อ" กล้าส่งเสียงเมื่อผมไม่ยอมปล่อย
ผมถอยห่างออกมาจ้องกล้าอีก...จากนั้นก็พุ่งเข้าไปจูบกล้าใหม่อีกครั้ง
"เกมมึง..."
"ช่างแม่ง"
"สัด" กล้าดันตัวผมออก "ทีมขาดแอสซาซินไม่ได้"
"ไหนบอกว่ามึงต้องการกูไง" ผมแกล้งกล้ากลับคืน
"กูล้อเล่น"
ผมพ่นลมหายใจอย่างเซ็งๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างไม่นึกใส่ใจทั้งๆ ที่เมื่อตะกี้ผมซีเรียสกับมันมาก...
"ทีมกูชนะแล้ว"
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ...ก่อนกล้าจะมาผมฆ่าทีมตรงข้ามเท่าไหร่ผมก็แพ้ทุกนัดเพราะคนในทีมเล่นไม่เข้าขา แต่พอกล้ามาถึงเท่านั้นแหละ...ผมพลิกกลับมาชนะเฉย
"กูไม่ต้องการเกมแล้ว"
"ไปไกลๆ เลย" กล้าผลักใบหน้าผมออกแต่ผมไม่ยอม...อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้ดึงตัวมันเข้ามาสู่อ้อมกอด
"เรียนเป็นไงวันนี้"
"เฮ้อ อย่าพูดเรื่องเรียน" มันเอามือมาปิดหู "ใกล้สอบแล้วว่ะ"
"เออ จริงด้วย"
"มึงมีซ้อมการแสดงอะไรสักอย่างมั้ย"
ผมเลิกคิ้วมองหน้ากล้า "กูต้องแสดงอะไรวะ"
"อ้าว มึงไม่ได้เรียนนิเทศฯ เอกการแสดงหรอกเหรอ"
ขมับของผมปวดตุบๆ... "กล้า นี่มึงไม่รู้เหรอว่าแฟนมึงเรียนเอกอะไร"
เป็นทีของกล้าที่จะแสดงสีหน้าว่ามันกำลังจะมีงานเข้าบ้าง
"แม่ง" ผมแกล้งงอน...ปล่อยให้ออกจากอ้อมแขนของผมแล้วลุกเดินหนี
"มึงไม่ได้เรียนเอกการแสดงหรอกเหรอ"
"เปล่า"
"อ้าว...แล้วมึงเรียนเอกไรอ่ะ" กล้าตามมาพร้อมๆ กับดึงแขนผม สีหน้ารู้สึกผิดมากจนผมขำ...แต่เก็บเอาไว้ในใจ จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันก็แอบน่าโมโหอยู่เหมือนกัน แต่คิดไปคิดมามันก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมไม่ควรเก็บมาใส่ใจ
"ที่ผ่านมามึงคิดว่ากูเรียนเอกสื่อสารการแสดงมาตลอดเลยเหรอ"
แฟนผมพยักหน้าหงึกๆ อย่างซื่อตรงและไม่ปิดบัง
"จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าเรียนอะไรหรอก รู้แต่นิเทศฯ อ่ะ ก็นึกว่ามึงเรียนการแสดง"
จะบ้าตาย... "กูเรียนสื่อสารองค์กร"
"เอ่อ..."
ท่าทางกล้ามันจะไม่เอาอ่าวเรื่องนิเทศศาสตร์จริงๆ "เรียนไปพัฒนาแบรนด์ที่บ้านน่ะ"
"อ๋อ"
"..."
"กะช่วยงานที่บ้านเต็มที่หลังจบเลยว่างั้น"
ผมยักไหล่ "กูเลือกได้ด้วยเหรอ"
สีหน้าของกล้าสลดลงชั่วครู่หนึ่ง...แต่มันก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าสดใสอย่างรวดเร็ว
"สรุปคือมึงไม่โกรธกูแล้วนะ"
ผมได้แต่ทำหน้าระอา "ไม่หรอก"
"มากินขนมกัน"
"มึงกินเลย...เดี๋ยวกูนั่งดูมึงกิน"
"อ้าว" กล้าส่งเสียงตกอกตกใจ
"ปกติกูไม่ค่อยกินขนม"
ระหว่างที่มันคิด ผมเดินไปหยิบนมเปรี้ยวรสผลไม้รวมออกมาจากตู้เย็นแล้วเสียบหลอดดื่ม
"กูอ้วนคนเดียวก็ได้" กล้าสรุปในที่สุด มันเดินไปเก็บของในห้อง จากนั้นก็เริ่มแกะขนมกินอยู่ที่โซฟา ผมเดินมานั่งข้างๆ มัน เมื่อตัวเองมองเห็นโทรศัพท์ก็เริ่มกลับมาคิดได้ว่าเมื่อไม่กี่นาทีก่อนผมเครียดเรื่องอะไรอยู่
ดวงตาของผมจ้องมองกล้า...ผมสูดลมหายใจลึกๆ ระหว่างที่ตัวเองตกสู่ห้วงความคิด กล้าเองก็เช่นกัน ผมเพิ่งสังเกตว่ามันมือสั่นน้อยๆ อีกทั้งยังแอบใจลอยอีกด้วย
มันถึงเวลาที่ผมจะต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วล่ะว่าคนภายนอกเขาพูดถึงเรากันว่ายังไงบ้าง
ทิมให้ผมยืมแอคเคาต์ทวิตเตอร์เมื่อคืนก่อน...ผมกดเข้าไปส่องดูแฮชแท็กของตัวเอง ผลปรากฏว่ามีคนพูดถึงกล้าในแบบที่ผมคิดเอาไว้จริงๆ
...และส่วนใหญ่...มักจะเป็นทวิตในแง่ลบทั้งนั้น
แก นี่มันอะไรกันอ่ะ ตกลงนายท่านชอบคนนี้เหรอ
ตกลงใช่มั้ย ใช่หรือเปล่า...คนในมอ S รบกวนบอกทีค่ะ
ก็อยากฟินอยู่หรอกนะ แต่ฟินไม่ลง...หาได้ดีแค่นี้จริงๆ เหรอนายท่าน
นายท่านเป็นเกย์? จริงดิ
เขาว่ากันว่าคนนี้แหละแฟนนายท่าน...
อยากโดดน้ำตาย
ไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
แล้วรูปนายท่านที่หลุดกับผู้หญิงที่ชื่อพราวฝันนั่นอ่ะ มันยังไง หรือนายท่านเป็นไบ?
ไม่เอาแบบนี้ได้มั้ย ไม่ฟินเลยจริงๆ
อะไรเข้าสิงนายท่านอ่ะ ทำไมถึงมองว่าคนแบบนี้ดูดี
คุณนายหญิงยอมได้ยังไง
ไม่ชอบคนชื่อกล้าอ่ะ ผมโยนโทรศัพท์ตัวเองทิ้งทันทีที่อ่านจบ...
W T F
รู้สึกอยากจะฟ้องแม่งให้หมดดดดดดดด...
แฟนผมไม่ดีตรงไหนวะ มันน่ารักฉิบหายเลยนะในสายตาของผม นิสัยก็ดี แกล้งได้ไม่มีเบื่อ แถมเรื่องบนเตียงยังเผ็ดซี๊ดจนไม่รู้จะบรรยายยังไงอีก...
"ใจเย็น" กล้าเอ่ยเมื่อเห็นปฏิกิริยาผม
"มึงเห็นแล้วใช่มั้ย" เสียงของผมสั่นมากตอนที่ถามกล้า การที่เมื่อสักครู่กล้าแสดงออกว่ามันไม่ได้มีเรื่องเครียดอะไร ยิ่งทำให้ผมรู้สึกกังวล
"ใช่"
มันฝืนยิ้ม...หยิบขนมเข้าปากช้าๆ แล้วเคี้ยวอย่างไม่อยากรับรู้รสชาติ ตอนนี้คนภายนอกเอาแต่โจมตีกล้า...ทำไมไม่โจมตีผมบ้าง
ผมจับมือแฟนตัวเองพร้อมกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ "ขอโทษ..."
"..."
"ขอโทษที่ทำให้โดนอะไรแบบนี้"
กล้าเปลี่ยนมาเป็นจับมือผมพร้อมๆ กับบีบมือผมแน่นขึ้น "สบายๆ"
"ตอนไปเรียนเป็นไง"
"คนในคณะไม่เท่าไหร่ แต่คนจากคณะอื่น..." มันถอนหายใจ "มากันเพียบ"
"เขามาถามมึงเหรอ"
"ประมาณนั้น"
"..."
"เชี่ยเซียนต้องเอาเสื้อมันมาคลุมหัวกูอ่ะ"
"ขนาดนั้นเลย" ผมถึงกับคอตก
"ใช่" กล้ายังคงยิ้มอยู่ แม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะไม่ได้ออกมาจากใจมันเลยก็ตาม "คนสนใจกูเยอะ...แปรผันตรงกับความดังของมึง"
สายตาของผมมองมันอย่างรู้สึกสลดใจ...ทุกอย่างเป็นความผิดของผม ของผมแต่เพียงคนเดียว...
"ขอโทษจริงๆ กู...ไม่รู้จะพูดยังไง"
"มันก็โอเคนะ ยังไม่มีใครมาลอบยิง"
"กล้า" ผมปรามมันเสียงเข้ม
กล้าเงียบไปสักพักก่อนที่จะเริ่มพูด "แม่มึง...ว่ายังไง"
"ยังไม่ได้ว่าอะไร สงสัยนั่งสะใจอยู่มั้ง"
"..."
"กูจะยอมแพ้ไม่ได้" ผมกัดฟัน "กูจะยอมแพ้ทั้งแม่และก็คนภายนอกไม่ได้"
"ถามอะไรหน่อยสิ" กล้ามองไปที่มือผม จับมันพลิกไปพลิกมาเหมือนมันเป็นสิ่งที่น่าสนใจสิ่งหนึ่ง "ถ้ากูหน้าตาดี เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม ไม่ใช่เด็กนักศึกษาปกติธรรมดา...กูจะโดนน้อยกว่านี้มั้ยวะ"
ผมให้คำตอบมันไม่ได้...ผมจึงเลือกที่จะเงียบ
"เฮ้ออออออ" กล้าเปลี่ยนท่าจากนั่งมาเป็นนอนตักผม "หนีกันมั้ย"
"ไปไหน" ผมถามอย่างสนใจและตกใจไปในคราวเดียวกัน
"ไม่รู้ ไปไกลๆ ไปที่ที่ไม่มีคนรู้จักมึง"
"ก็แค่นอกประเทศไทย"
"..."
"ต้องมีเงินกันก่อน"
"กูมีเงินเก็บนะ ตั้งแต่สมัยมอปลายแล้ว"
"ถามได้มั้ยว่าเท่าไหร่"
กล้าจ้องหน้าผมที่อยู่เหนือมันด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย "ประมาณเกือบสองแสน"
ผมยิ้ม
"น้อยไปใช่ป่ะ...คงไม่ถึงเศษเสี้ยวค่าขนมต่อวันของมึง"
นิ้วของผมดีดปากคนพูดมากเล่นๆ
"ใครจะบ้าใช้เงินวันละสองแสน"
"คนรวยอย่างมึงนี่ไง"
"ไม่ได้...เดี๋ยวน้องมันทำตาม"
"ตกลงจะหนีไปกับกูป่ะ"
"กูอยากหนีมากนะ" ผมเอ่ย "แต่ปัญหาที่เราเจอมันดีไม่ได้ว่ะ...สักวันเราทั้งคู่ก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน มันมีแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น"
"เฮ้อ มึงพูดแบบนี้กูดูโง่ไปเลย"
"ไม่จริงเลย" ผมลูบใบหน้าของมันเล่นๆ "ข้อเสนอของมึงน่าสนใจมาก...แต่เรายังทำไม่ได้ แค่นั้นแหละ"
"ไปหาแม่มึงวันไหนดี" กล้าครุ่นคิด
"นี่มึงเอาจริง?"
"เอาจริงสิวะ..."
"..."
"วงการบันเทิงมันเป็นยังไงกูก็ไม่รู้...กูแค่อยากได้คำแนะนำจากคนที่อยู่ในวงการมานานว่าควรทำตัวยังไง"
"แล้วมึงก็คิดจะไปถามกับคุณแม่กูเนี่ยนะ" ผมถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ "คนที่ไม่เคยสนับสนุนเราเลยเนี่ยนะ"
"มึงชอบกูเพราะอะไร"
มาอีกแล้ว...คำถามแบบนี้
"ตอบมาเลย"
"โห" ผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้...แม้ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยมีความสุขกันเท่าไหร่ แต่การได้คุยกันเล่นๆ แบบนี้มันก็ช่วยเยียวยาผมได้เหมือนกันนะ
"ตอบไม่ได้เหรอ" กล้าทำหน้าบึ้ง "แปลว่าอะไร แปลว่าไม่ได้ชอบกูเหรอ"
จอมหาเรื่องเอ๊ย... "ยอมให้มึงนอนตักขนาดนี้คงไม่ได้ชอบเล้ย"
"ก็ตอบมาสิ กูกำลังจะเข้าประเด็น"
"มึง...มีอะไรดีมากกว่าที่เห็นอ่ะ"
"อ่าฮะ"
นี่ผมต้องมาพูดแบบนี้กับมันจริงดิ... "มึงชอบคิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ยอมให้คนอื่นแกล้งเพราะคิดว่ามันน่าจะเป็นความสุขของคนอื่นได้"
"กูเป็นคนแบบนั้นเหรอ"
"ใช่เลย"
"แล้วไงอีก"
"มึงรักกู"
"เอาเรื่องอื่นอีก"
"มึง...น่ารักดี"
"ทำไมกูรู้สึกว่ากูไม่ได้คำตอบอะไรจากมึงเลยวะ"
"เอาเป็นว่ามึงมีดีละกัน ถ้ามึงไม่ดี มึงจะมีเพื่อนมีรุ่นน้องรุ่นพี่ที่รักมึงไปทั่วคณะแบบนี้ได้ไง" ผมนึกไปถึงเฟซบุ๊กลับของผมที่มีแต่คนสนับสนุนผมกับกล้า ทุกคนรู้ดีว่ากล้านิสัยดี...แม้กระทั่งเพื่อนของผมที่ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกล้าก็ตาม
"อืม เพราะกูมีดีนี่ไง...กูถึงคิดว่ากูควรไปแสดงให้แม่มึงได้เห็นความดีของกู"
ผมเงียบลงไปเพราะผมอึ้ง...กล้าพูดอย่างหมายมั่นปั้นมือซะจนผมอดที่จะรู้สึกประทับใจไม่ได้
"กูมีนายพลและนายกองเป็นพวกแล้ว เหลือพ่อมึง นายน้อย และก็แม่มึง"
"..."
"ถ้าได้คนเหล่านี้มาเป็นกำลังของกูนะ" กล้าชูกำปั้น "กูก็พร้อมที่จะสู้กับคนทั้งประเทศ!"
สู้เพื่อความรักหรือสู้เพื่อเป็นเดอะสตาร์กันแน่วะเนี่ย...
ผมมองกล้าอย่างประทับใจ...จากนั้นก็จับตัวมันให้ลุกขึ้นนั่งแล้วพรมจูบมันย้ำๆ ไปที่ริมฝีปากอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
"ใครยอมแพ้ก่อนขอให้ป่วยสามวันสามคืน" ผมพูดไปด้วยจูบกล้าที่ทำหน้าตาเหยเกไปด้วย มันเหมือนเด็กที่โดนแกล้ง...ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่น่ารักมาก
จู่ๆ กล้าก็นิ่งและหยุดดิ้น...ปล่อยให้ผมแกล้งตามอำเภอใจซะงั้น ผมฉวยโอกาสเอากำไรให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว แต่พอเห็นสีหน้าของกล้า...ผมก็เริ่มหยุดตัวเอง
มือของกล้าถือโทรศัพท์...หน้าจอของมันเป็นรูปของผมเมื่อสมัยที่อยู่กับพราวฝันซึ่งมันเกิดขึ้นนานมาแล้ว
บางรูปเป็นรูปที่ผมกับฝันอยู่ในร้านอาหาร บางรูปเป็นรูปที่ผมกับฝันไปดูหนังกัน บางรูปเป็นรูปที่เราพูดคุยกันในร้านกาแฟและส่อแววสนิทสนมชิดเชื้อ
ผมจำทุกภาพได้ดีและรู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับกล้า...สองปีที่ผมหายไปจากชีวิตกล้า...กล้าไม่เคยได้พบเห็นสิ่งเหล่านี้
ใบหน้าที่เริ่มบึงตึงของมัน...ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าผมกำลังมีงานเข้าซ้อนกันสองงาน
"กลุ่มเพื่อนตัวอย่าง...มาหาพวกมึงแล้ว!" เสียงพี่เซียนดังขึ้น ผมกับกล้าผละออกห่างกันอย่างอัตโนมัติ เพื่อนๆ ของเราสองคนมายืนกองรวมกันในห้องของกล้า ทุกคนมองดูผมกับกล้าด้วยความเป็นห่วง
...แต่ทว่าตอนนี้มันมีความสงสัยปนอยู่ด้วย
กล้า (หรือพี่กล้า) เป็นอะไร...ทำไมถึงได้หน้าบึ้งขนาดนั้น
"ออกไปข้างนอกกัน" พี่เซียนพูดอย่างไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก
"กูไป!" กล้าลุก...ตามไปสมทบกับพวกที่ยืนอยู่ "ไกลสุดหล้าฟ้าเขียวแค่ไหน กูก็จะไป!"
กลุ่มชายโฉดเดินออกไปก่อน ทิ้งให้กลุ่มลูกค่ายละครของผมยืนอยู่ในห้องกัน
"พี่กล้าเป็นไร" ทิมเอ่ยทันที "เชี่ยท่าน...มึงทำห่าอะไรอีก"
ตั้งแต่ผมคบกับกล้า...ทิมกับนุกมันเลือกที่จะเข้าข้างกล้าก่อนทุกครั้งที่มีเรื่องครับ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเหมือนกัน
"มีคนส่งรูปของกูกับฝันเมื่อสมัยก่อนมาให้กล้าดู"
"หา" นุกอ้าปากค้าง "รูปแบบไหน"
"มันจะมีรูปแบบไหนวะนุก กูกับฝันเป็นแค่เพื่อนกัน" ผมอดส่งเสียงอย่างหงุดหงิดไม่ได้ เตรียมเก็บข้าวเก็บของเพื่อที่จะออกเดินตามกลุ่มชายโฉดให้ทัน
"กูรู้ว่ามึงกับฝันไม่ได้มีอะไรกันลึกซึ้ง แต่...มันเป็นรูปแบบไหน" นุกถามคำถามเดิม
"ก็รูปชวนเข้าใจผิดอ่ะ" ห้องของกล้าถูกล็อกโดยมือของผม เราสามคนกำลังเร่งฝีเท้าตามพี่ๆ คณะเสดสาดให้ทัน
"สงสัยคงมีคนคิดว่ามึงมีปัญหาไม่พอ ก็เลยเอาปัญหามาให้มึงอีก" ไอ้ทิมรำพึงอย่างปลงๆ
"คนนั้นคือใคร"
"ทำไม"
"กูจะไปเผาบ้านมัน"
ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาอีก...หลังจากที่ผมพูดประโยชน์นั้นจบ
[ มีต่อนะคะ ]