บัวหลงจันทร์ [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนที่ ๒๖ (จบ) ครบ ๗.๓.๖๒ หน้า ๗ ต่อในกระทู้เดิม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บัวหลงจันทร์ [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนที่ ๒๖ (จบ) ครบ ๗.๓.๖๒ หน้า ๗ ต่อในกระทู้เดิม  (อ่าน 74644 ครั้ง)

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



บัวหลงจันทร์ ๐๖


วันนี้เป็นวันแรกที่สายหยุดได้เข้าวังหลวงมารับใช้พระชายาบัวงาม

“พี่สายหยุด”พระสุระเสียงหวานเอ่ยเรียกคนสนิทคนใหม่ที่พระภัสดาประทานให้

“พระเจ้าค่ะพระชายา”

“ข้าใคร่อยากไปเดินเล่นที่สวนพฤกษา พี่สายหยุดไปเป็นเพื่อนข้าทีจักได้ไหมจ๊ะ”

“พระเจ้าค่ะ”


เจ้าบัวงามเสด็จประพาสสวนพฤกษาโดยมีคนสนิทอย่างสายหยุดเดินตาม พร้อมพระพี่เลี้ยง แลขบวนข้าหลวงสาวที่ตามถวายงานรับใช้ ดูท่าจักทรงโปรดสวนพฤกษาของศศิมณฑลเป็นพิเศษ พระพักตร์งามแต่งแต้มรอยยิ้มน่ามอง พระหัตถ์บางลูบกลีบบุบผาเบาๆราวกับกลัวช้ำ จรดพระนาสิกสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ พลางยกพระโอษฐ์สรวลบางๆ

“ทูลพระชายา ฝ่าบาทเสด็จเพคะ”เสียงพระพี่เลี้ยงสาวดังขึ้นเรียกให้พระวรกายบอบบางหันมองขบวนเสด็จของพระภัสดา

“ถวายพระพรพระเจ้าค่ะฝ่าบาท”ยอบกายหมอบกราบ

“ลุกเถิดเจ้าบัว”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

“พี่กลับตำหนักหลวงไปมิเจอเจ้า ข้าหลวงบอกว่าเจ้ามาเดินเล่นที่สวนพฤกษาจึงได้ตามมา”

“ขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันเหงาใคร่อยากเดินเล่น จึงชวนพี่สายหยุดออกมาที่สวนพฤกษาพระเจ้าค่ะ”เมื่อพระบิดา พระมารดา แลพระเชษฐาเสด็จกลับภุมริกาไปแล้ว พระภัสดาก็ต้องทรงงาน เจ้าบัวงามจึงเหงามิใช่น้อย ยังดีที่มีสายหยุดให้คุยด้วยคลายเหงา

“พี่มิโกรธน้องดอก เพียงแต่ตกใจเล็กน้อยเท่านั้น นึกว่าเมียหายเสียแล้ว”ตรัสเย้า

“ฝ่าบาท”ก้มพระพักตร์ ปรางขาวแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย

“หึหึหึ”

“.....”ช้อนนัยน์ตากวางขึ้นมองพระพักตร์งามขององค์จันทร์ พระเสโทผุดซึมเต็มพระนลาฏ เห็นดังนั้นจึงหยิบซับพระพักตร์สีขาวสะอาด อบกลิ่นบุหงารำไปจนหอมฟุ้งที่เหน็บตรงชายพกขึ้นซับหยาดพระเสโทให้พระภัสดา องค์จันทร์ชะงักก่อนจักก้มพระพักตร์ลงให้น้องน้อยซับพระเสโทให้ได้ถนัดขึ้น พระโอษฐ์ยกแย้มยิ้มพึงพระทัย

“ขอบใจหนา”

“มิได้พระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ”พระสรวลน้อยๆ ปลายพระดัชนีเกลี่ยปรางแดงระเรื่อ พระโอษฐ์แนบเบาๆที่ขมับน้องก่อนจักผละออก พระหัตถ์กุมมือเล็กพาเจ้าบัวเดินเล่นชมดอกไม้

“เอ้อ สายหยุด เป็นอย่างไรบ้างเจ้าบัวซนกระไรให้เจ้าเหนื่อยหรือไม่”ตรัสเย้าทั้งเมีย แลสายหยุด

“มิได้พระเจ้าค่ะ พระชายามิได้ซุกซนอันใดพระเจ้าค่ะ”

“ฮะๆๆๆ เยี่ยงนั้นหรือ เป็นเด็กดีมากเจ้า”พระสรวลเสียงดัง ก่อนจักก้มพระพักตร์ลงมากระซิบชมติดใบหูเล็ก

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”
สองพระองค์จับมือกับเดินชมสวนพฤกษา โดยมีสายหยุด องครักษ์เหมเดินตามเสด็จคู่กัน

“พี่เหม”สายหยุดเอ่ยเสียงสั่นเมื่อมือน้อยถูกกอบกุม

“หึหึ ขอพี่จับมือหน่อยหนาเจ้า”

“จ้ะ”ก้มหน้าซ่อนริ้วแดงๆที่พาดผ่านแก้มใส



ในสวนพฤกษาที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของบุบผานานาชนิด ตะวันยามเย็นคล้อยลงดิน คนเป็นนายจับมือกันเดินนำหน้า ตามด้วยองครักษ์หลวง แลคนสนิทของพระชายาที่จับมือกันเดินตาม


.
.
.


ภายในห้องบรรทมตำหนักหลวง องค์จันทร์ประทับนั่งบนขอบพระแท่นบรรทม ทอดพระเนตรเจ้าบัวงามที่นั่งพับเพียบบรรจงออกแรงนวดพระชงฆ์ให้พระองค์อย่างตั้งอกตั้งใจ

“ทรงเป็นอย่างไรบ้างพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันทำพระองค์เจ็บหรือไม่พระเจ้าค่ะ”

“มิเจ็บดอกเจ้า กำลังสบายเทียว”

“พระเจ้าค่ะ”ยิ้มน้อยๆให้พระทัยสั่น



ก๊อกๆๆ



“ทูลฝ่าบาท แลพระชายา หม่อมฉันนำโอสถ แลพระสุธารสชาลอยดอกมัลลิกามาถวายเพคะ”

“เข้ามา”พระสุระเสียงทุ้มสั่ง

“ขอบใจหนา”เจ้าบัวเอ่ยพลางยิ้มให้ข้าหลวงสาว

“มิได้เพคะพระชายา”หมอบกราบก่อนจะคลานออกจากห้องบรรทม

“พอแล้วล่ะเจ้าบัว...ขอบใจหนา”ตรัสพลางลูบผมนุ่ม

“มิได้พระเจ้าค่ะ”เอ่ยเสียงหวานก่อนจักลุกขึ้นล้างมือในอ่างทองเหลืองที่มุมห้อง ร่างบางเดินกลับมาจัดเตรียมพระสุธารสชาลอยดอกมัลลิกาให้พระภัสดา

“.....”ทอดพระเนตรเมียรักเพลินพระเนตร

“ทรงเสวยพระสุธารสชาลอยดอกมัลลิกาสักหน่อยหนาพระเจ้าค่ะ จักได้บรรทมสบาย”ถวายจอกพระสุธารสชาลอยดอกมัลลิกาหอมกรุ่นให้

“เจ้าก็ดื่มโอสถเถิด”รับจอกจากมือบางมา แลพยักพระพักตร์ให้เจ้าบัวดื่มโอสถสีดำกลิ่นฉุนในถ้วย

“พระเจ้าค่ะ”ยกถ้วยขึ้นจรดริมฝีปากบาง ค่อยๆจิบจนหมดถ้วย

“เป็นอย่างไรบ้างน้อง”

“มิเป็นไรพระเจ้าค่ะ ฝ่าบาทจักทรงรับพระสุธารสชาอีกหรือไม่พระเจ้าค่ะ”

“อืม เอามาให้พี่อีกจอกก็พอ”

“พระเจ้าค่ะ”วางถ้วยโอสถ แลรินพระสุธารสชาในกาดินเผาลวดลายสวยงามใส่จอกให้พระภัสดา

“ขอบใจหนา”รับจอกจากมือเล็กมาเป่าไล่ความร้อน ก่อนจะกระดกเข้าพระโอษฐ์ พระหัตถ์รั้งท้ายทอยเจ้าบัวประกบพระโอษฐ์ป้อนพระสุธารสชาให้น้องน้อย กลิ่นหอมของดอกมัลลิกาอบอวลทั้งพระโอษฐ์

“อึก อือ ฮื้อ”เจ้าบัวหลับตากลืนพระสุธารสชาที่พระภัสดาป้อนให้จนหมด พระชิวหาเกี่ยวพันกันไปมา เล็บเล็กจิกบนพระอังสะเปลือยจนทิ้งรอยไว้ องค์จันทร์เอียงพระพักตร์บดจูบน้องตะกรุมตะกรามจนพระเขฬะซึมเลอะขอบพระโอษฐ์ พระหัตถ์เลื่อนลงปลดผ้าแถบสีขาวลายดอกของเจ้าบัวโยนทิ้งมิใยดี มือน้อยผลักพระวรกายกำยำออกเมื่อพระดัชนีบดบี้ยอดถันตน

“ฝ่าบาท อื้อ ไม่หนาพระเจ้าค่ะ”

“ทำไมเล่าเจ้าบัว”ตรัสถามพลางซุกไซร้ซอกคอขาว

“อื้อ”กายบางถูกผลักให้นอนหงายบนพระยี่ภู่ แล้วจักปฏิเสธห้ามปรามได้อย่างไร จำต้องถวายตัวรับใช้พระภัสดาในค่ำนี้

“อ่า เจ้าบัวงาม”

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาา”เสียงหวานครางเครือให้ข้าหลวงที่เฝ้าพระทวารหน้าม้าน


.
.
.



รุ่งอรุณมาเยือน ตะวันสาดแสงวันใหม่


จ๋อม


เสียงน้ำในสระสรงกระเพื่อมเมื่อพระวรกายสูงใหญ่ขยับโอบกอดกายขาวของเมีย ปลายพระนาสิกไล้ตามขอบหน้าหวาน

“ฝ่าบาท..พอแล้วหนาพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจักเข้าประชุมกับเหล่าขุนนางมิทันหนาพระเจ้าค่ะ”เสียงหวานสั่นเอ่ยเตือนพลางเอียงใบหน้าหลบพระนาสิกซุกซน

“ฟู่ว...หากเป็นไปได้พี่ใคร่อยากอยู่กับเจ้าทั้งวันทั้งคืน”ถอนพระปัสสาสะซบพระพักตร์กับซอกคอขาวของเจ้าบัว

“.....”เจ้าบัวหน้าม้านด้วยความเขินอาย

“.....”

“...รีบสรงน้ำเถิดพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวจักมิทันการ”

“จ้ะๆ”


.
.
.


เมื่อองค์จันทร์เสด็จไปที่ท้องพระโรงเพื่อร่วมประชุมหารือกับเหล่าขุนนาง เจ้าบัวงามก็เสด็จเข้าเฝ้าพระสัสสุ

“เป็นเยี่ยงไรบ้างเจ้าบัวงาม สบายกาย สบายใจดีใช่ไหมลูก”

“พระเจ้าค่ะพระมารดา”

“พระมารดากระไรกันลูก เรียกแม่สิเจ้า”

“...พระเจ้าค่ะ เสด็จแม่”

“หึหึ...แม่ได้ยินว่าเจ้าจันทร์ให้สายหยุดมาเป็นคนสนิทเจ้าหรือ”

“พระเจ้าค่ะ มีพี่สายหยุดเป็นเพื่อน หม่อมฉันคลายเหงาได้มากเทียวพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ ดีแล้ว ตอนเจ้าจันทร์เด็กๆก็มีเจ้าเหม แลสายหยุดนั่นแลเป็นเพื่อนเล่น”

“พระเจ้าค่ะ”
 
เจ้าบัวงามทรงอยู่พูดคุยกับพระมารดาศศิธรอยู่จนสายจึงได้ลากลับตำหนักหลวงให้พระสัสสุได้พักผ่อน ระหว่างทางหรือก็พบกับบุตรสาวขุนนางสองคนจับกลุ่มนินทาเบื้องสูงอย่างมิเกรงกลัวอาญา

“มิรู้ว่าฝ่าบาททรงดำริกระไรอยู่ถึงได้ให้นังบ้านนอกสายหยุดมาเป็นคนสนิทของพระชายา”

“ได้ยินว่าฝ่าบาททรงต้องใจนังบ้านนอกสายหยุดเสียก่อนที่จักแต่งตั้งพระชายาอีกหนาเจ้า”

“หรือจักทรงใคร่อยากให้นังบ้านนอกสายหยุดถวายตัวให้”

“ว้าย แต่งตั้งพระชายามิทันถึงสิบวันจักทรงมีสนมแล้วหรือ คิกๆๆ”

“หากจักทรงมีสนมจริงก็น่าจักทรงเลือกบุตรขุนนางหนา มิน่าเลือกนังบ้านนอกขี้ครอกสายหยุดเสียเลย”

“นั่นสิ จักสงสารก็แต่พระชายา...”

“มิต้องสงสารข้าดอกแม่ ข้ามีกระไรให้พวกเจ้ามาสงสารเวทนาดอกหรือ”ทรงดำเนินไปขวางหน้าสองสาว นัยน์ตากวางจิกมองให้รู้ว่าทรงมิพอพระทัยแค่ไหน

“พะ พระชายา”

“...พระชายา”

สองสาวหน้าซีดทรุดกายหมอบกราบแทบพระบาทบาง

“บอกได้หรือไม่ว่าข้ามีอันใดให้พวกเจ้ามาสมเพชเวทนา สงสารข้าดอกหรือ”พระสุระเสียงหวานเอ่ยแข็งห้วนอย่างทีเหล่าข้าหลวง แลสายหยุดมิเคยได้ยิน นัยน์ตากวางจดจ้องบุตรสาวขุนนางมิวางตา

“ขะ ขอประทานอภัยเพคะ พระชายา”

“ขอประทานอภัยเพคะ”

“ครานี้ข้าจักถือว่ามิได้ยินเรื่องที่พวกเจ้านินทาฝ่าบาท แลข้า แต่อย่าให้มีครั้งต่อไป”

“.....”

“.....”

“พวกเจ้าคงมิอยากให้เรื่องนี้ถึงพระเนตร พระกรรณฝ่าบาทกระมัง”

“พะ เพคะ”ปรายพระเนตรมองสตรีสองนาง ก่อนจักเรียกคนสนิทให้ออกเดิน

“พี่สายหยุด”

“พระเจ้าค่ะพระชายา”

“ไปกันเถิด”

“พระเจ้าค่ะ”



หลังจากที่กลับมาตำหนักหลวง พระชายาคนงาม ก็มาประทับนั่งให้คนสนิทอย่างสายหยุดสอนแกะสลักผลฟักเหลืองใส่เครื่องเคียงถวายพระภัสดา ด้วยเนื่องจากตอนเป็นเจ้าน้อยภุมริกาก็ได้ร่ำเรียนวิชาแกะผักผลไม้จากพระมารดามาบ้างแล้ว จึงมิใช่เรื่องยากที่จักแกะผลฟักเหลืองให้มีลวดลายสวยงาม

“พี่สายหยุด”

“พระเจ้าค่ะ”

“พี่สายหยุดมิต้องไปฟังที่บุตรีขุนนางสองคนนั้นพูดดอกหนาจ๊ะ”

“....”

“มิจำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจดอก ฝ่าบาทท่าน...ทรงไว้ใจพี่สายหยุดมากถึงได้เลือกให้พี่สายหยุดมาเป็นคนสนิทคอยดูแลข้า เพราะฉะนั้นพี่สายหยุดมิต้องไปฟังดอกหนาจ๊ะ”

“ขอบพระทัยพระชายาพระเจ้าค่ะ ที่ทรงเมตตาปกป้องหม่อมฉัน”

“พี่สายหยุดเป็นคนสนิทของข้า ข้าย่อมต้องปกป้องคนของข้า”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

“ข้าใคร่อยากลงห้องเครื่องทำพระกายาหารค่ำถวายพระภัสดา พี่สายหยุดช่วยเตรียมให้ข้าได้ไหมจ๊ะ”

“พระเจ้าค่ะ...เยี่ยงนั้นหม่อมฉันจักลงไปที่ห้องเครื่องจัดเตรียมให้หนาพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ ขอบใจหนาจ๊ะ”

“มิได้พระเจ้าค่ะ”


.
.
.


พระกายาหารค่ำวันนี้ เจ้าบัวงามทรงลงห้องเครื่องทำแกงรัญจวน ยำทวาย แลแสร้งว่ากุ้งถวายพระภัสดา แลพระสัสสุ องค์จันทร์ทรงแย้มพระโอษฐ์ปลื้มพระทัยที่เมียลงห้องเครื่องทำอาหารถวาย

“เป็นอย่างไรบ้างพระเจ้าค่ะ อาหารที่หม่อมฉันทำทรงถูกพระทัยพระองค์หรือไม่พระเจ้าค่ะ”

“ยิ่งกว่าถูกใจเสียอีกเจ้าบัวงาม”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”ยิ้มเต็มดวงหน้าให้องค์จันทร์พระทัยสั่น

“ป้อนพี่หน่อยสิเจ้าบัว”

“พระเจ้าค่ะ”ปรนนิบัติพระภัสดามิมีขาดตกบกพร่อง


.
.
.


“เจ้าบัวงาม”

“พระเจ้าค่ะฝ่าบาท”ขานรับพระภัสดาเสียงหวาน

“วันพรุ่งพี่จักออกว่าราชการนอกวังหลวง เจ้าใคร่อยากออกไปเปิดหูเปิดตาหรือไม่”

“นอกวังหลวงหรือพระเจ้าค่ะ...ฝ่าบาทเสด็จทรงงาน หากหม่อมฉันตามไปคงจักเกะกะพระองค์หนาพระเจ้าค่ะ”คราแรกเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นราวกับเด็กๆ แต่เมื่อคิดได้ว่าหากไปคงจักเกะกะพระภัสดาจึงได้เอ่ยเสียงอ่อย

“เกะกะกระไรกันเจ้าบัวงาม ตัวเจ้าหรือก็นิดเดียว หึหึ”

“หม่อมฉันเกรงว่าจักไปรบกวนพระองค์หนาสิพระเจ้าค่ะ”

“มิกวนดอก อย่ากังวลไปเลยหนาน้อง...พี่ใคร่อยากพาเจ้าไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

“แลตอนที่อยู่ภุมริกา น้องได้เคยออกไปเที่ยวเล่นนอกวังหลวงบ้างหรือไม่”

“เคยพระเจ้าค่ะ หม่อมฉัน แลภุชงค์เคยตามเสด็จ เสด็จพ่อ แลเสด็จแม่ท่านออกตรวจตราความเป็นอยู่ของประชาชน...หากแต่ต้องปลอมเป็นชาวบ้านไปหนาพระเจ้าค่ะ คิกๆ”เป็นครั้งแรกเลยกระมังที่องค์จันทร์ทรงได้ยินเมียพูดยาว แลพูดด้วยน้ำเสียงสดใสเช่นนี้

“ปลอมเป็นชาวบ้านงั้นหรือ?”

“พระเจ้าค่ะ เสด็จพ่อ แลเสด็จแม่ยามออกตรวจตราความเป็นอยู่ของประชาชนมักจักปลอมเป็นชาวบ้าน เสด็จพ่อท่านว่าหากปลอมเป็นชาวบ้านจักได้เห็นความเป็นอยู่ของชาวบ้านจริงๆ มิใช่เห็นแค่สิ่งที่ขุนนางใคร่ให้เห็นพระเจ้าค่ะ”

“อืม...เยี่ยงนั้นวันพรุ่งพี่จักลองปลอมเป็นชาวบ้านออกตรวจราชการบ้างดีหรือไม่”

“หา...”

“เห็นทีคงต้องให้เจ้าช่วยแนะนำเสียแล้วเจ้าบัว”

“เอ่อ..พระเจ้าค่ะ”


.
.
.


รุ่งเช้ามาเยือน ทั้งสองพระองค์ต่างตื่นบรรทมเตรียมพระวรกายเพื่อออกตรวจตราความเป็นอยู่ของชาวบ้านนอกวังหลวง

“พี่เป็นอย่างไรบ้างเจ้าบัว ดูคล้ายหนุ่มชาวบ้านหรือไม่”องค์จันทร์ทรงสวมเสื้อคอกลมแขนยาวสีดำเขม่า แลโจงกระเบนสีดินแดง

“.....”นัยน์ตากวางช้อนมองพระวรกายสูงใหญ่ของพระภัสดา จักต้องตอบว่าอย่างไรดี แม้นทรงอยู่ในชุดชาวบ้านเช่นนี้ หากแต่ทรงรูปงามราวกับรุกขเทวดามิเปลี่ยน

“ว่าอย่างไรเจ้าบัว”

“ทรงรูปงามมากพระเจ้าค่ะ”

“ฮะๆๆ”ทรงพระสรวล แลดำเนินเข้ากอดร่างน้อยของเมีย เจ้าบัวงามวันนี้นุ่งเสื้อแขนยาวคอกลมเฉกเช่นเดียวกับพระภัสดาสีม่วงดอกตะแบกเผยลำคอระหงขาวผ่อง แลโจงกระเบนสีลูกหว้า กระนั้นชุดชาวบ้านก็มิสามารถทำให้ความงามของพระชายาลดลงแม้แต่น้อย

“ฝ่าบาท”ดวงหน้างามก้มงุดเมื่อถูกกกกอดจากด้านหลัง

“เจ้างามเหลือเกินเจ้าบัวของข้า”ตรัสแลไล้พระนาสิกกับใบหูเล็ก กดจูบประทับรอยอุ่นที่ลำคอขาว

“ฝะ ฝ่าบาท”

“หึหึหึ ไปเถิด พี่ว่าจักเข้าเฝ้าเสด็จแม่ท่านก่อนจึงค่อยออกจากวังหลวง”

“พระเจ้าค่ะ”


.
.
.


หลังจากที่เข้าเฝ้าพระพันปีแล้ว ทั้งสองพระองค์พร้อมด้วยองครักษ์ประจำพระองค์ขององค์จันทร์ แลคนสนิทของพระชายาก็เดินทางออกจากวังหลวง

“ประเดี๋ยวเราจักลงเกี้ยวที่หลังตลาด แลค่อยเดินไปหนาน้อง”

“พระเจ้าค่ะ”

“แลก็จับมือพี่ให้แน่นๆหนา ประเดี๋ยวจักหลงเอา”

“..ฝ่าบาท หม่อมฉันมิใช่เด็กหนาพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ อย่าอยู่ไกลสายตาพี่ก็แล้วกันเจ้าบัวงาม”

“พระเจ้าค่ะ”


เมื่อมาถึงตลาดเจ้าบัวงามก็แทบจักปลดพระหัตถ์พระภัสดา แลวิ่งเข้าใส่ร้านรวงที่ตั้งเรียงรายมากมายอยู่สองข้างทาง นัยน์ตากวางพราวระยับ ริมฝีปากบางยกยิ้มสะกดทุกสายตาที่มองมา พระขนงขององค์จันทร์กระตุกวูบยามทอดพระเนตรเหล่าชายฉกรรจ์ที่จ้องมองดอกบัวงามของพระองค์มิวางตา

“เจ้าบัว”

“พระเจ้าค่ะ”

“...มิมีกระไร”หากจักบอกให้เมียหุบยิ้มคงจักเกินไป

“..พระเจ้าค่ะ”นัยน์ตากวางฉายแววฉงน ทอดมองพระพักตร์งามของพระภัสดาที่เรียบตึง แลก็เกิดคำถามขึ้นในใจ  หม่อมฉันทำการใดให้พระองค์มิพอพระทัยหรือพระเจ้าค่ะ....


พระหัตถ์ใหญ่จับจูงน้องน้อยให้เดินตาม พระเนตรคมดุกวาดตวัดจ้องชายหนุ่มที่ริอาจเมียงมองชายาตนราวราชสีห์มองเหยื่อ หากแต่มือเล็กที่พยายามขืนออกจากพระหัตถ์ทำเอาองค์จันทร์พลั้งเผลอตวัดพระเนตรคมดุใส่เจ้าบัวงามจนน้องน้อยสะดุ้งเฮือก

“หมะ หม่อมฉันเจ็บมือพระเจ้าค่ะ”
ด้วยแรงหึงหวงหรืออย่างไรองค์จันทร์จึงเผลอบีบมือเจ้าบัวจนเจ็บร้าวไปหมด เมื่อได้สติจึงรีบปล่อยมือเล็ก เจ้าบัวประคองมือตนคลึงเบาคลายความเจ็บร้าว ดวงหน้าหวานก้มงุด

“พี่ขอโทษเจ้าบัว”

“มิได้พระเจ้าค่ะ”เอ่ยเสียงแผ่วเบา

“ให้พี่ดูหน่อยหนาเจ้า”ประคองมือเล็กขึ้นทอดพระเนตร มือเล็กขาวผ่องมีริ้วรอยพระองคุลีสีแดงช้ำพาดอยู่

“.....”

“เจ็บมากไหมเจ้า พี่ขอโทษหนา”

“มิได้พระเจ้าค่ะ หม่อมฉันว่าพระองค์ทรงเสด็จตรวจตราความเป็นอยู่ของชาวบ้านเถิดพระเจ้าค่ะ อย่าทรงกังวลกับหม่อมฉันเลยหนาพระเจ้าค่ะ”

“.....”

“.....”

“...เฮ้อ พี่ขอโทษหนาเจ้าบัว มาเจ้า..พี่จักพาเดินชมหนาคนดี”ปะเหลาะคนงามด้วยพระสุระเสียงทุ้มนุ่มพลางกอบกุมมือบางเบาๆจับจูงอย่างเอาอกเอาใจ

“.....”

“ใคร่อยากกินขนมหรือไม่เจ้าบัวพี่จักให้เจ้าเหมไปซื้อให้”ก้มพระพักตร์กระซิบถามน้อง

“...ขนมน่ากินนักพระเจ้าค่ะ”เมื่อเห็นขนมมากมายตรงหน้าความขุ่นเคืองน้อยอกน้อยใจเมื่อครู่ก็หายไป

“เช่นนั้นพี่จักให้เจ้าเหมไปซื้อให้”

“หม่อมฉันใคร่อยากกินขนมพันตองพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ...ไอ้เหม”

“พะย่ะค่ะ”

“ไปซื้อขนมพันตองให้เจ้าบัวที”

“พะย่ะค่ะ”

“ประเดี๋ยวจ้ะเหม...พี่สายหยุดใคร่อยากกินกระไรหรือไม่จ๊ะ”

“เอ่อ..มิได้พระเจ้าค่ะ”

“เยี่ยงนั้นเหมซื้อขนมพันตองมาให้พี่สายหยุดด้วยหนาจ๊ะ”

“พะย่ะค่ะ”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะพระชายา”

“มิเป็นไรดอกจ้ะพี่สายหยุด”


เมื่อองครักษ์เหมนำขนมถวายแด่พระชายา เจ้าบัวจึงรับมาป้อนให้พระภัสดาก่อนตนจึงค่อยกินทีหลัง

“เป็นอย่างไรพระเจ้าค่ะฝ่าบาท”

“หอมหวาน รสดีเทียว...น้องลองกินดูสิเจ้าบัว”

“พระเจ้าค่ะ”ริมฝีปากบางค่อยๆอ้ารับขนมที่พระภัสดาป้อนให้ ความหอมของกะทิ แลความหวานของไส้มะพร้าวทำเอาเจ้าบัวงามอมยิ้มอย่างพึงใจ

“ชอบหรือไม่เจ้า”

“พระเจ้าค่ะฝ่าบาท”

“เช่นนั้นพี่จักให้ห้องเครื่องทำใส่สำรับให้เจ้าหนา”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”















ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
เจ้าจันทร์เริ่มหลงบัวแล้วสินะ  ดีมาก  o13

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



บัวหลงจันทร์ ๐๗


ทั้งสองพระองค์ทรงดำเนินทอดพระเนตรร้านรวงของชาวบ้านที่ตั้งเรียงรายละลานตา ก่อนที่สายพระเนตรคมดุจนกเหยี่ยวขององค์จันทร์จักสะดุดเข้ากับร้านขายเครื่องประดับที่ไม่ใช่เครื่องทองที่มีราคาสูงแต่ก็ดูงามสะดุดพระเนตรจึงได้จับจูงน้องน้อยให้เข้าไปในร้านน้ำชาที่มีแคร่ให้นั่ง

“ประเดี๋ยวน้องนั่งพักจิบน้ำในร้านนี้กับสายหยุดรอพี่ก่อนหนาเจ้าบัว”ทรงตรัสกับชายา

“แลพระองค์จักเสด็จไปไหนหรือพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวถามเสียงเบา

“พี่กับเจ้าเหมจักไปดูร้านรวงตรงนั้น มินานดอก”

“พระเจ้าค่ะ”

“สายหยุด”

“พระเจ้าค่ะ”

“ดูแลเจ้าบัวให้ข้าด้วย”

“พระเจ้าค่ะ หม่อมฉันจักดูแลพระชายาให้ดีพระเจ้าค่ะ”

“ดี”

“เหม เจ้าไปกับข้า”

“พะย่ะค่ะ”รับพระบัญชา แลตามหลังนายเหนือหัวไป


หนึ่งนาย แลหนึ่งบ่าวมาหยุดอยู่ที่ร้านขายเครื่องประดับที่มีชายกลางคนแต่งกายดูดีกว่าพ่อค้า แม่ค้าทั่วไปเป็นคนขาย

“เชิญนายท่านดูก่อนได้หนาจ๊ะ เครื่องประดับงามๆซื้อไปฝากภรรยา ฝากบุตรได้หนาจ๊ะ”

“.....”ทรงทอดพระเนตรเครื่องประดับงามทั้งหลาย ไม่ว่าจักเป็นปิ่นปักผม กำไล เข็มกลัด หรือแม้แต่เข็มขัดเงินลายงาม พระเนตรคมกวาดไปทั่วแผงค้าก่อนจักหยุดอยู่ที่ปิ่นปักผมอันเดียวในร้านที่ทำมาจากทองคำแท้เนื้อดี หัวปิ่นเป็นทรงดอกบัวตูมลงยาพื้นสีแดง ติดลายประจำยาม แบบดาวเพดาน ประดับเม็ดพลอยสีแดงสดที่กึ่งกลางดาวแต่ละดวง วางระยะของลายเรียงแถวสลับแบบตาสัปปะรด ติดสร้อยระย้าเป็นสาย 5 เส้น

“ปิ่นรัตนาอันนี้ข้าได้จากเจ้านายชั้นสูงของแคว้นทางใต้ มันอยู่มานานนัก หากแต่มิมีใครซื้อดอกจ้ะเพราะว่าราคามันสูงเหลือเกินนายท่าน”

“เท่าใด”ทรงหยิบปิ่นรัตนาขึ้นทอดพระเนตรอย่างพอพระทัย ต่อให้ราคาจักสูงสักเพียงใด หากพระองค์คิดว่ามันคู่ควรกับเจ้าบัวงามแล้วย่อมมิสน

“ร้อยชั่งจ้ะนายท่าน”มีหลายคนที่เมื่อรู้ราคาก็รีบปล่อยปิ่นรัตนาแสนสวยนี้ลงทันที หากแต่นายท่านผู้นี้กลับทอดมองปิ่นรัตนาอย่างพึงใจมิยอมปล่อย

“เจ้าเหม”

“ขอรับ”เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นจึงเลี่ยงการใช้คำราชาศัพท์

“จ่ายอัฐให้พ่อค้า ข้าจักกลับไปรอที่ร้านน้ำนั่นกับเจ้าบัว”

“ขอรับ”ก้มหัวเมื่อคนเป็นนายเดินออกจากร้านเครื่องประดับพร้อมปิ่นรัตนาในพระหัตถ์ องค์จันทร์ทรงใช้ซับพระพักตร์ห่อปิ่นงามเอาไว้ แลเหน็บที่ชายพกเก็บไว้ ประเดี๋ยวค่อยประทานให้เจ้าบัวเมื่อถึงวังหลวง

“.....”ในขณะที่พ่อค้ากลางคนตาโตนิ่งค้างเมื่อทรงเมื่อพระองค์ทรงซื้อปิ่นรัตนาที่อยู่กับแผงมานานเพราะมูลค่าที่สูงลิบของมัน

“นี่ค่าปิ่นรัตนา...แลนี่ค่ากำไลหัวบัว”เหมยื่นอัฐถุงใหญ่ให้พ่อค้า ชายกลางคนมือไม้อ่อนรับถุงอัฐหนักเสียจนร่วงลงบนแผง

“ขะ ขอบใจจ้ะ ขอบใจนายท่าน”อัฐมากมายที่ได้รับนั่นทำให้ชายกลางคนกลายเป็นเศรษฐีตั้งตัวได้เลยทีเดียว
เหมเก็บกำไลเข้าที่ชายพก กำไลที่ซื้อให้สายหยุดคนงาม เป็นกำไลหัวบัวเอี้ยวเรียบๆที่มีปลายเป็นรูปดอกบัวหลวง ทำด้วยนากแท้ทำให้ราคามิสูงเท่าปิ่นรัตนาที่องค์จันทร์ซื้อให้พระชายา หากแต่ก็มีมูลค่า


.
.
.


กว่าจักเสด็จกลับวังหลวงก็เย็นย่ำ องค์จันทร์ แลพระชายาเมื่อรับพระกายาหารเย็นแล้วก็เสด็จเข้าตำหนักหลวงพักผ่อนทันที

“เจ้าบัว”ทรงตรัสเรียกเมียรักที่ถวายงานรับใช้บีบนวดพระอังสะคลายความเมื่อยล้าให้พระภัสดา

“พระเจ้าค่ะ”ขานรับพลางหยุดมือที่บีบนวดพระภัสดา เคลื่อนกายมารอรับพระบัญชาที่ตรงหน้าพระพักตร์

“พี่มีของจักให้เจ้า”ตรัสพลางใช้พระดัชนีเกี่ยวปลายเกศานุ่มของเมียเล่น

“กระไรหรือพระเจ้าค่ะ”

“.....”ทรงหยิบห่อซับพระพักตร์ออกจากใต้พระเขนย คลี่ผ้าออกเผยให้เห็นปิ่นรัตนาที่นอนนิ่งอยู่บนฝ่าพระหัตถ์

“ปิ่นรัตนา...ให้หม่อมฉันหรือพระเจ้าค่ะ”ช้อนนัยน์ตากวางถาม

“พี่ให้เจ้า....มา หันหลังมาพี่จักปักให้”ตรัสพลางจับร่างบางให้นั่งหันหลังให้พระองค์

“.....”เจ้าบัวนั่งนิ่ง กุมมือตัวไว้บนตัก


องค์จันทร์รวบเกศายาวนุ่มสลวยของเจ้าบัวแล้วม้วนเกล้าขึ้นก่อนจักปักด้วยปิ่นรัตนา เผยให้เห็นลำคอระหงขาวผ่องเย้ายวน แลลาดไหล่เล็กสีน้ำนมเนียนไร้ไฝฝ้า ทอดพระเนตรเมียรักด้วยความหลงใหล ทรงฝังพระนาสิกกับซอกคอเมีย กดพระโอษฐ์จูบแต้มบนผิวเนื้ออ่อน

“ฝ่าบาท..อ๊ะ”สะดุ้งเมื่อพระหัตถ์ร้อนกอบกุมที่ยอดอกทั้งสองข้างพลางเค้นคลึง พระนาสิก แลพระโอษฐ์ก็ยังซุกไซร้ไปตามซอกคอ แลลาดไหล่สีน้ำนม

“งามนักเจ้าบัว...เจ้าคงเป็นดอกบัวที่งามที่สุดในภุมริกา แลศศิมณฑลเป็นแน่”พระกรโอบตวัดรัดเอวบางเข้าหาพระองค์จนสะโพกอิ่มแนบชิดกับพระเพลา ฝ่าพระหัตถ์ร้อนลูบไล้ตามแขนเสลาไปมา เลื่อนขึ้นคลายปมผ้าแถบผืนงาม

“อ๊ะ...”มือเล็กรีบตะครุบปมผ้าแถบไว้มั่นมิยอมให้พระภัสดาถอดออก

“หืม...ตามใจพี่หน่อยหนาคนดี”ตรัสอ้อนชิดใบหูเล็ก ไล้พระชิวหาตามขอบหู แลดูดเม้มที่ติ่งหูนิ่ม

“อื้อ..ฝ่าบาท”เมื่อถูกเล้าโลมมากขึ้นเรี่ยวแรงที่มีก็ค่อยๆหดหาย เจ้าบัวงามตัวอ่อนพิงพระอุระกว้าง มือเล็กทั้งสองร่วงลงพร้อมๆกับผ้าแถบสีหวานเผยให้เห็นผิวกายขาวโพลน แลเม็ดบัวสีชมพูระเรื่อ พระดัชนีเกลี่ยเบาๆที่เม็ดบัวนุ่มหยุ่นทั้งสองข้างจนมันหดตัวชูชันแข็งเป็นไตจึงได้ประคองเจ้าบัวลงนอนราบบนพระยี่ภู่ แลทาบทับพระวรกายตามลงไป

“เมื่อใดจักท้องหนาเจ้า หืม..พี่รอลูกของเราอยู่หนา”ตรัสเรียกเลือดร้อนๆให้มาวิ่งวนบนดวงหน้างาม

“.....”เบือนหน้าหลบสายพระเนตรคม ก่อนจักกัดริมฝีปากตัวเชิดหน้าครางเสียงแผ่ว มือเล็กจิกพระเขนยแน่นระบายความกระสันซ่านที่พระภัสดาประทานให้ ริมฝีปากบางกรีดร้องครางเครือ บ้างก็ถูกบดขยี้ด้วยพระโอษฐ์ บ้างก็ถูกพระชิวหาไล้เลีย ดูดดึงจนบวมเจ่อ


สายธารน้ำอุ่นสาดซัดใส่กลีบบัวครั้งแล้วครั้งเล่าจนไร้เรี่ยวแรง เสียงไก่ขันร้อง แลแสงสีส้มปรากฏบนขอบฟ้า องค์จันทร์จึงยอมปล่อยให้เจ้าบัวพักผ่อน ดวงหน้างามซบบนพระอุระกว้าง นัยน์ตากวางหลับพริ้ม ริมฝีปากบางเผยอรับอากาศ เนื้อตัวขาวผ่องมีริ้วรอยแดง เกศายาวยุ่งเหยิงพันกัน หากแต่ก็น่าเอ็นดูนัก องค์จันทร์ทอดพระเนตรเมียรัก แลมีรอยพระสรวลบางๆที่พระโอษฐ์ พระองคุลีสางเกศายุ่งเบาๆ พระหัตถ์ข้างหนึ่งเชยคางแหลมขึ้นประทับจูบที่ปลายจมูกโด่งรั้น กกกอดร่างน้อยที่ชอกช้ำ เพราะ ฝีพระหัตถ์พระองค์แนบพระอุระ พระโอษฐ์วนเวียนจูบหอมเจ้าบัวมิหยุด


.
.
.


รุ่งขึ้นองค์จันทร์ทรงเสด็จออกว่าราชการตามปกติ ปล่อยให้เจ้าบัวพักผ่อนในห้องบรรทมทดแทนเรี่ยวแรงที่หดหายเพราะถูกพระองค์รังแก โดยมีสายหยุด แลพระพี่เลี้ยงจากภุมริกาคอยดูแลปรนนิบัติ

“พระชายาทรงจับไข้ พระวรกายร้อนเหลือเกินข้าว่าเรียกหมอหลวงท่านมาตรวจเถิด”สายหยุดว่า ใบหน้างามติดกังวล มือน้อยลากผ้าชุบน้ำลอยดอกมะลิหอมกรุ่นไปตามพระฉวีที่แดงระเรื่อเพราะพิษไข้

“ข้าก็ว่าเช่นนั้น เยี่ยงนั้นเจ้าถวายการดูแลพระชายาก็แล้วกันหนา ประเดี๋ยวข้าจักไปตามหมอหลวง”

“จ้ะ”รับคำพลางตั้งหน้าตั้งตาใช้ผ้าลูบซับความร้อนออกจากพระวรกายบอบบาง ตามพระฉวีขาวๆมีรอยพระหัตถ์องค์จันทร์เป็นริ้วแดงๆปรากฏให้สายหยุดหน้าแดงซ่านด้วยรู้ว่านั่นคือรอยกระไร

“อื้อ..”พระสุระเสียงหวานครางเครือก่อนนัยน์ตากวางจักปรือปรอยขึ้น

“พระชายาทรงเป็นเยี่ยงไรบ้างพระเจ้าค่ะ”

“อืม..พี่สายหยุด”

“ทรงรอประเดี๋ยวหนาพระเจ้าค่ะ พี่อิ่มกำลังไปตามหมอหลวงอยู่”

“...จ้ะ”

“เยี่ยงนั้นสายหยุดเช็ดพระองค์ให้หนาพระเจ้าค่ะ”

“...”พยักพระพักตร์น้อยๆ ก่อนจักหลับพระเนตรลงปล่อยให้คนสนิทปรนนิบัติ


มินานหมอหลวงก็เข้ามาถวายการรักษา ถวายโอสถ แลให้สายหยุดคอยเช็ดพระองค์ให้บ่อยๆ แลกลับไป สวนทางกับองค์จันทร์ที่เมื่อเสร็จราชกิจก็รีบกลับตำหนักหลวงทันที ระหว่างที่ขุนนางถวายฎีกาก็ทรงแทบมิมีสมาธิด้วยนึกเป็นห่วงเจ้าบัว เมื่อองครักษ์คนสนิทมาทูลความว่าเมียรักจับไข้ล้มป่วยจนต้องตามหมอหลวงเข้าไปที่ตำหนัก

“สายหยุด”

“ฝ่าบาท ถวายพระพรพระเจ้าค่ะ”

“มิต้องมากพิธี เจ้าบัวเป็นเยี่ยงไรบ้าง หมอหลวงว่าอย่างไรบ้าง”ตรัสถาม พระสุระเสียงติดกังวล ทรงดำเนินไปประทับบนพระแท่นบรรทมข้างเจ้าบัวงามที่หลับใหลด้วยฤทธิ์โอสถ

“หมอหลวงท่านว่าพระชายาทรงจับไข้อ่อยเพลีย มิมีกระไรน่าห่วงพระเจ้าค่ะ เสวยโอสถ แลเช็ดพระองค์บ่อยๆให้ไข้ลดเป็นพอพระเจ้าค่ะ”

“แลเจ้าบัวหลับไปนานเท่าใดแล้ว”พระหัตถ์ลูบศีรษะเมียคล้ายจักปลอบโยน

“หม่อมฉันคิดว่าอีกมินานพระชายาคงตื่นบรรทมพระเจ้าค่ะ”

“เยี่ยงนั้นเจ้าไปพักผ่อนเถิดข้าจักดูแลเจ้าบัวเอง”

“พระเจ้าค่ะ”


เมื่อสายหยุดออกจากห้องบรรทมไป องค์จันทร์ก็หันกลับมาทอดพระเนตรเจ้าบัวต่อ ทรงไล้ข้อพระองคุลีไปตามแก้มอุ่น

“หายไวๆหนาเจ้า เจ้าป่วยเยี่ยงนี้พี่ใจมิดีเลย”ตรัสพลางโน้มพระพักตร์จรดพระนาสิกกับหน้าผากมน


.
.
.


เมื่อเจ้าบัวตื่นก็ทรงป้อนข้าว ป้อนน้ำ ป้อนยาเอาใจเมีย

“ฝ่าบาท..”

“หืม อยากได้กระไรหรือไม่”

“มิได้พระเจ้าค่ะ หากแต่หม่อมฉันป่วย หากอยู่ใกล้พระองค์จักติดไข้ อย่างไรให้หม่อมฉันแยกตำหนักก่อนดีหรือไม่พระ...อ๊ะ!!”ยังทูลมิทันจบก็ถูกพระหัตถ์บีบปากจนสะดุ้ง นัยน์ตากวางคลอน้ำด้วยความตกใจ

“...อย่าได้พูดว่าจักแยกตำหนักอีกหนาเจ้าบัว เพราะพี่มิมีวันยอมเด็ดขาด”ตรัสพระสุระเสียงเรียบ มิพอพระทัย

“....ขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ”ก้มหน้าอย่างลุแก่โทษ

“...พี่ขอโทษหนาเจ้า เจ็บหรือไม่”ถอนพระปัสสาสะ แลเกลี่ยเบาๆที่รอยแดงจางๆรอบริมฝีปากบาง

“มิได้พระเจ้าค่ะ”

“ขอโทษหนาคนดี”กดจูบเบาๆซ้ำๆที่มุมปากน้องไถ่โทษ พระกรตระกองกอดร่างแน่งน้อยจนเจ้าบัวเคลิ้มหลับคาพระอุระของพระภัสดา


เมื่อเจ้าบัวงามเข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว องค์จันทร์จึงออกจากตำหนักหลวงเสด็จรับลมยามค่ำคืน โดยรับสั่งมิให้ข้าหลวงติดตาม ทรงดำเนินไปตามสวนพฤกษาพลางหมายมั่นในพระทัยว่าหากเจ้าบัวหายป่วยจักพามาชมต้นมหาหงส์ที่มีรับสั่งให้ข้าหลวงปลูกเพิ่ม หากแต่ก็ต้องหยุดไว้แค่นั้นเมื่อสายพระเนตรคมสะดุดกับสองร่างคุ้นตาที่ยืนหลบมุมในที่มืด ทรงดำเนินเข้าไปใกล้อย่างเงียบเชียบมิเกิดเสียงจนได้ยินบทสนทนา

“พี่เหม....”

“พี่ให้สายหยุดจ้ะ”องครักษ์หนุ่มว่าพลางประคองมือน้อยขึ้น คล้องกำไลนาคหัวบัวลงบนข้อมือบาง

“...พี่เหม”สายหยุดหน้าแดงซ่าน ใบหน้างามก้มงุดยามที่ชายหนุ่มจรดริมฝีปากบนฝ่ามือตนแผ่วเบา แต่อุ่นซ่านไปถึงหัวใจ

“ชอบหรือไม่เจ้า”ถามพลางขยับเข้าใกล้ร่างบาง เชยคางมนขึ้นเกลี่ยแก้มนวลที่มีริ้วสีแดงพาดผ่าน

“สวยมากเลยจ้ะ หากแต่พี่เหมมิต้องเสียเบี้ยเสียอัฐซื้อให้สายหยุดดอกนะจ๊ะ”สายหยุดว่าพลางยกมือกุมทับมือใหญ่ของพ่อเหม เอียงแก้มแนบใบหน้ากับฝ่ามือใหญ่ หลับตาพริ้ม

“มิเป็นไรดอก ถือเสียว่าพี่ซื้อมาหมั้นเจ้าหนา”

“พี่เหม...”สายหยุดเขินอายเสียจนใบหน้างามแดงก่ำเป็นลูกตำลึง ดวงตาคู่งามค่อยๆหลับลงยามที่ใบหน้าคมคร้ามของเหมก้มมาใกล้จนปลายจมูกเสียดสีหยอกเย้ากัน

“สายหยุดคนดี”แนบริมฝีปากดูดซับน้ำผึ้งหวานจากคนสนิทของพระชายา สายหยุดเอียงหน้าเผยอปากรับลิ้นร้อนที่สอดเข้ามาเย้า แขนเรียวเสลายกขึ้นกอดรอลำคอแกร่ง เช่นเดียวกับเหมที่ตวัดกอดรัดเอวบางให้แนบชิดกายแกร่ง จุมพิตรสหวานล้ำดำเนินเนิ่นนานท่ามกลางสายพระเนตรคมที่ทอดพระเนตรมาตั้งแต่ต้น องค์จันทร์ตกพระทัยมิคิดว่าสหายทั้งสองจักมาพลอดรักกันเยี่ยงนี้ หากแต่เมื่อทรงตั้งสติได้ความโกรธกริ้วก็เข้ามาแทน ทรงกริ้วที่เหม แลสายหยุดมาพลอดรักกันในที่ลับตาคนทั้งๆที่มิได้เป็นสามีภรรยากัน กริ้วที่เหมรุ่มร่ามมิให้เกียรติสายหยุด

“ไอ้เหม!!! สายหยุด!!!!”พระสุระเสียงที่ดังขึ้นทำเอาเหม แลสายหยุดผละออกจากกันราวต้องของร้อน

“ฝ่าบาท!!”เมื่อหันมาเจอต้นตอของเสียง ทั้งคู่ก็รีบคุกเข้าหมอบกราบนายเหนือหัวทันที

“ตามข้าไปที่ตำหนักทรงงานประเดี๋ยวนี้ ทั้งคู่!!!”รับสั่งพระสุระเสียงกร้าว ก่อนจะเสด็จไปมิหันมามองอีก สายหยุดกลัวเสียจน
น้ำตาคลอจวนเจียนจักหยด มือน้อยสั่นไปหมด

“มิต้องกลัวหนาสายหยุด..”แม้จักปลอบเช่นนั้นหากแต่ในสายตาของเหมก็ยังเจือความกังวลไว้จนปิดไม่มิ








ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
นึกว่าจะไม่ต่อแล้ว

เรายังติดตามอยู่น้าาาาา  :L1:

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
รีบมาต่อนะ  :angellaugh2: :angellaugh2:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
องค์จันทร์ก็จีดงานแต่งให้เหมดับสายหยุดเลยน่ะ ถ้าจับแยกล่ะก็จะไปฟ้องเจ้าบัว  ฮ่าๆๆๆๆๆ
ขยันขนาดนี้ ใกล้ๆๆนี้ต้องท้องแน่เลยเจ้าบัว

บัวหลงจันทร์ จันทร์หวงบัว อิอิ


ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



.
.
.


“ฮึก อึก...”สายหยุดหลุดสะอื้นทั้งๆที่พยายามกลั้น ข้างๆคือเหมที่คุกเข่าก้มหน้า เบื้องหน้าคือองค์จันทร์ที่มีพระพักตร์เรียบตึง

“ฝ่าบาท...”ยังมิทันที่เหมจัดได้เอ่ยพระสุระเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นก่อน

“กี่ครั้งแล้ว....กี่ครั้งแล้วที่พวกเอ็งลักลอบพลอดรักกัน”

“....ฮึก ฝ่าบาท”สายหยุดสะอื้น

“หม่อมฉันขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ”เหมหมอบกราบ

“นี่คงมิใช่ครั้งแรกล่ะสิ”

“...”

“...”

“ข้าถาม!!”

“เฮือก..อึก พระเจ้าค่ะ”

“พะย่ะค่ะ”

“หึ งามหน้านัก”

“หม่อมฉันขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ”

“ไอ้เหม”

“พะย่ะค่ะ”

“...เอ็งรู้ใช่หรือไม่ว่าข้ารู้สึกเช่นไรกับสายหยุด”

“...พะย่ะค่ะ”

“อึก..มิจริงพระเจ้าค่ะ”ระหว่างที่องค์จันทร์ แลเหมกำลังเคร่งเครียด สายหยุดก็แทรกขึ้น

“.....”

“....”

“ฮึก...ฝ่าบาทก็แค่รักสายหยุดเหมือนน้องนุ่ง”

“.....”

“....”

“ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ก็มีแค่พี่เหม แลสายหยุดเป็นสหาย ฮึก”

“.....”

“....”

“...พระองค์จึงคิดว่าความรู้สึกที่มีให้สายหยุดคือความรัก แต่หาได้ใช่ความรักเช่นคนรักไม่ ทรงรักสายหยุดเหมือนน้องชายเฉก
เช่นเดียวกับที่รักพี่เหม”

“.....”

“....”

“ทรงแค่เอ็นดูสายหยุด อึก ลองถามองค์เองเถิดพระเจ้าค่ะว่าทรงรักใครจริง”

“.....”

“....”

“ลองถามองค์เองเถิดพระเจ้าค่ะ...ว่าเมื่อทรงตื่นบรรทมใครที่พระองค์คิดถึงเป็นคนแรก”

“...เจ้าบัว”ทรงตอบเสียงแผ่ว

“.....”

“เวลาทรงงาน ทรงพระทัยลอยถึงใคร”

“...เจ้าบัว”

“.....”

“เวลาหลับพระเนตรลงทรงเห็นใคร”

“...เจ้าบัว”

“.....”

“หากสายหยุด แลพระชายากำลังจักจมน้ำ พระองค์จักทรงช่วยใครพระเจ้าค่ะ”

“...เจ้าบัว”

“.....”

“ฮึก...ทรงรักพระชายา หาใช่สายหยุดไม่”

“.....”

“....”

“ทรงมีพระชายาอยู่เต็มพระทัย หาได้มีที่ให้สายหยุดไม่”

“.....”

“....”

“ทรงแค่เอ็นดูสายหยุดเหมือนน้อง...ตั้งแต่เยาว์วัยทรงมีเพียงสายหยุด แลพี่เหมเป็นสหาย พระองค์จึงได้คิดว่ารักสายหยุด หากแต่เมื่อได้พบกับพระชายา พระองค์ก็ตกหลุมรักพระชายาทั้งพระทัย”

“.....”

“....”

“ทีนี้ทรงตอบสายหยุดได้หรือไม่พระเจ้าค่ะ ว่าทรงรักใคร”

“เจ้าบัว”

“.....”

“พระเจ้าค่ะ ทรงรักพระชายา”

“.....”

“.....”

“.....”

“....ขอบใจสายหยุด ขอบใจที่ทำให้ข้ารู้ใจตัวเอง แลขอบใจที่ทำให้ข้าตาสว่างก่อนจักได้พลั้งเผลอทำร้ายใจเจ้าบัวเข้า”

“มิได้พระเจ้าค่ะ”

“...แต่!!..เรื่องที่พวกเจ้าลักลอบพลอดรักกันในที่ลับตาคนเช่นนั้น สมควรหรือไม่”

“...หม่อมฉันขอประทานอภัยพะย่ะค่ะ”เหมที่เงียบมานานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“แค่ขอโทษหรือไอ้เหม..เอ็งทำรุ่มร่ามกับสายหยุดที่เปรียบเสมือนน้องของข้า เช่นนี้จักต้องโทษเช่นไร หา!!”

“...ฝ่าบาท ไม่หนาพระเจ้าค่ะ สายหยุดยอมเองพระเจ้าค่ะ”

“...งามหน้านัก”

“หม่อมฉันสมควรตาย ทรงลงโทษหม่อมฉันตามพระทัยเถิดพะย่ะค่ะ”

“ดี!!...เช่นนั้น ข้าจักให้เอ็งกลับบ้านไปเสีย ออกจากวังหลวงกลับบ้านไปเสีย!!”
“ฝ่าบาท”เหมครางเสียงแผ่ว

“ฝ่าบาท”สายหยุดร้องเสียงหลงพลางส่ายหน้าไปมา ดวงตาหวานรื้นน้ำตาอีกครา

“...กลับไปบ้านเจ้า  แลบอกให้พ่อเจ้ามาสู่ขอสายหยุดให้ถูกตองตามประเพณีเสีย”

“หา..ฝ่าบาท”

“ฝ่าบาท”

“เข้าตามตรอกออกตามประตู..หากยังมิได้ผูกข้อไม้ข้อมือ แต่งงานกัน ก็อย่าหวังว่าจักได้พลอดรักกันอีก!!!”

“ฝ่าบาท...”

“ขะ ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ”

“หึหึหึ ไอ้เหม กว่าข้าจักได้พลอดรักกับเจ้าบัว ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามประเพณี..เจ้าก็เช่นกัน หากยังมิได้ทำพิธีให้ถูกต้องตามประเพณี ห้ามเข้าใกล้สายหยุดอีก มิเช่นนั้นข้าจักขังคุกเจ้า”


“ขะ ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ”แค่นี้ก็เป็นพระมหากรุณาล้นพ้นแล้ว

“...หากหมดเรื่องแล้ว ข้าจักกลับตำหนักไปกกเจ้าบัวแล”ตรัสพลางลุกเสด็จออกจากตำหนักทรงงาน

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ”

“หึหึหึ”


.
.
.


เมื่อเสด็จกลับมาถึงตำหนักหลวงก็พบเจ้าบัวนั่งมองมาทางพรทวารอยู่บนเตียง

“เจ้าบัวตื่นขึ้นมาทำไมหนาน้อง”

“ทรงไปไหนมาหรือพระเจ้าค่ะ”

“พี่ไปเดินเล่นรับลมมาเจ้ามิได้ไปไหนไกลจ้ะ”

“...พระเจ้าค่ะ”

“นอนต่อหนาเจ้า”ตรัสพลางประคองร่างน้อยให้นอนลง

“ทรงบรรทมกับหม่อมฉันหนาพระเจ้าค่ะ”ออดอ้อนอย่างที่ไม่เคยทำ

“จ้ะ...นอนหนาคนดี”แล้วองค์จันทร์จักหนีไปไหนพ้น ทั้งรักทั้งหลง แลยิ่งรู้พระทัยองค์เองอย่างแจ่มแจ้งเช่นนี้แล้วด้วย

“หม่อมฉันหนาว”

“พี่กอดหนาเจ้า”ตระกองกอดอย่างทะนุถนอม

“พระเจ้าค่ะ”

“นอนหนาคนดี จักได้หายไวๆหนา”เวียนหอมผมนุ่มจนเจ้าบัวหลับไป

“.....”ใบหน้างามซุกซบกับพระอุระกว้าง

“พี่รักเจ้าหนาเจ้าบัว”กดจูบที่ริมฝีปากบางเบาๆซ้ำๆ พระโอษฐ์หยักแย้มยิ้มอย่างสุขพระทัย


.
.
.


สามวันต่อมาหลังจากที่เจ้าบัวหายไข้ดีแล้ว องค์จันทร์จึงได้ออกกำหนดการงานแต่งงานของเหม แลสายหยุด

“...เจ้าบัว วันพรุ่งพี่จักไปบ้านสายหยุด น้องไปกับพี่หนา”

“ไปบ้านพี่สายหยุดหรือพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ”

“ไปทำกระไรหรือพระเจ้าค่ะ”

“พี่จักไปสู่ขอสายหยุดหะ...”...ให้เจ้าเหม

“สะ สู่ขอพี่สายหยุดหรือพระเจ้าค่ะ”ยังมิทันที่จักได้ตรัสจบเสียงหวานก็แทรกขึ้น

“จ้ะ...พี่จักไปสู่ขอสายหยุด”องค์จันทร์ตรัสพลางแย้มพระโอษฐ์ให้เมียรัก

“.....”หากแต่ดวงใจของเจ้าบัวได้สลายไปแล้ว จักทรงเสด็จไปบ้านพี่สายหยุดเพื่อสู่ขอหรือ วันที่ข้ากลัว เหตุใดจึงมาถึงไวเช่นนี้ 
มือเล็กบนตักขยุ้มโจงกระเบนของตนแน่น ริมฝีปากบางขบกัดแน่นกลั้นเสียงสะอื้น นัยน์ตากวางคลอน้ำ พยายามอย่างยิ่งที่จักมิให้น้ำตาไหล

“เป็นกระไรไปเจ้าบัว”

“...มะ มิมีกระไรพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันเพียงแต่รู้สึกมิใคร่จักสบายเท่าใด อึก”

“เจ้าบัว”ขยับพระวรกายเข้าประคองร่างน้อย

“อึก..อ่อก อ้วก”มือเล็กยกปิดปากตน ก่อนจักอาเจียนออกมาจนพระภัสดาตกพระทัย

“เจ้าบัวงาม!!”

“อ่อก!!”

“ตามหมอหลวง!!”

“อึก อ่อก!!”

“เจ้าบัว!!”








ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
งานเข้าใจผิดก็บังเกิดแล้ว
เจ้าบัวท้องชัวร์
รีบๆๆเข้าใจไว้ๆๆน่ะเจ้าบัว เป็นห่วงจังเลย

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
รู้สึกละมุน

ออฟไลน์ goldentime

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เข้าใจผิดกันแล้ว องค์จันทร์รีบแก้ไขด่วน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
รอๆ  อย่าให้เจ้าบัวเข้าใจผิดนะ  :katai1:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
บัวเข้าใจผิดแล้ววววววววว

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
มารอเจ้าบัวงามค่ะ    :seng2ped:

ออฟไลน์ snpmrth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เจ้าบัวงามเป็นอย่างไรบ้างหนา

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



บัวหลงจันทร์ ๐๘


“เจ้าบัว”

“อึก...ฝ่าบาท”

“หืม..ว่าอย่างไรเจ้า รอประเดี๋ยวหนาหมอหลวงกำลังมาแล้ว”

“หมะ หม่อมฉันมิเป็นไรพระเจ้าค่ะ มิต้องตามหมอหลวงดอก”

“มิได้ให้หมอตรวจหน่อยหนาเจ้า”

“อึก มิเอาพระเจ้าค่ะ บัวมิตรวจ”

“โธ่ เจ้าบัว ใยจึงดื้อเยี่ยงนี้”

“ฮือ หม่อมฉันมิตรวจหนาพระเจ้าค่ะ มิเอา บัวมิให้ตรวจ ฮือออ”ร้องงอแง โผเข้ากอดพระภัสดาซุกหน้ากับพระอังสะ

“เจ้าบัวไห้หรือเจ้า เป็นกระไรไปคนดี”โอบร่างน้อยแนบพระอุระ ลูบเกศานุ่มปลอบโยน

“บัวมิตรวจ มิให้หมอตรวจหนาพระเจ้าค่ะ ฮือ”

“จ้ะๆ มิให้หมอตรวจหนา หยุดไห้เถิด พี่ใจมิดีเลยเจ้า”โยกกายเล็กเบาๆ

“ฮือออ”กอดพระภัสดา แลสะอื้นไห้อย่างช้ำใจ


.

.

.


วันรุ่งขึ้นองค์จันทร์ แลเจ้าบัวทรงขึ้นเกี้ยวเสด็จไปยังบ้านสายหยุดตั้งแต่เช้าตรู่ ทรงโอบประคองร่างบอบบางของเจ้าบัวไว้แนบพระอุระมิยอมปล่อย

“เป็นเยี่ยงไรบ้างเจ้า หน้าซีดหมดแล้ว...เหตุใดจึงมิยอมให้หมอหลวงตรวจหนา”ทรงตรัสพระสุระเสียงดุ หากแต่ก็เจือด้วยความห่วงใย

“บัวมิเป็นไรพระเจ้าค่ะ”ซุกซบพระอุระอุ่น แขนเรียวกอดพระกฤษฎีอย่างออดอ้อน นัยน์ตากวางหลับลง

“เฮ้อ...ดื้อจริงเชียว”กอดน้องน้อยแน่น พระพักตร์ซบลงบนกลุ่มผมหอม


มินานขบวนเสด็จของเจ้าหลวง แลพระชายาก็มาหยุดอยู่ที่เรือนหลังเล็กของครอบครัวสายหยุด บิดามารดาของทั้งสายหยุด แลเหมต่างมารอรับเสด็จนายเหนือหัวทั้งสอง

“ถวายพระพรเจ้าหลวง แลพระชายาพะย่ะค่ะ”บิดาของเหม อดีตองครักษ์ประจำพระวรกายเจ้าหลวงองค์ก่อนเอ่ยพร้อมหมอบกราบ

“มิต้องมากพิธีดอกท่านเขม”

“เป็นพระกรุณาพะย่ะค่ะ”

“ทูลเชิญทั้งสองพระองค์เสด็จเข้าข้างในก่อนเถิดพะย่ะค่ะ”บิดาของสายหยุดกล่าว

“ขอบใจท่านลุง”

“มิได้พะย่ะค่ะ เชิญฝ่าบาท แลพระชายาพะย่ะค่ะ”

“อืม”ทรงประคองเมียรักเข้าไปในบ้านสายหยุดที่จัดเตรียมสถานที่เพื่อทำพิธีสู่ขอบุตรคนเดียวของบ้าน ทั้งสองพระองค์ทรงประทับลงบนตั่ง เจ้าบัวมองข้าวของสำหรับพิธีสู่ขอ แลน้ำตารื้น แต่ก็ต้องกลั้นไว้

“ไหวหรือไม่เจ้าบัว หน้าน้องซีดจนแทบมิมีสีเลือดแล้วหนา”ตรัสพลางทาบพระหัตถ์ลงบนปรางนวล พระพักตร์ฉายแววกังวล

“หม่อมฉันมิเป็นไรพระเจ้าค่ะ”

“แน่หนา”ตรัสถามอย่างมิไว้วางพระทัย

“พระเจ้าค่ะ”ยิ้มหวานให้พระภัสดาพระทัยสั่น


เมื่อถึงฤกษ์งามยามดีพิธีสู่ขอสายหยุดจึงเริ่มขึ้น

"ได้ยินมาว่า บ้านนี้มีฟักแฟงแตงเต้าดกงาม ก็ใคร่จักมาขอพันธุ์ไปเพาะปลูกบ้าง"องค์จันทร์ทรงตรัสพร้อมแย้มพระสรวลในขณะที่สายหยุดหน้าแดงซ่าน ข้างๆกันนั้นเป็นเหมที่นั่งนิ่งเงียบหากแต่ใบหน้าคมแดงระเรื่อ ดวงตาประกาย แลริมฝีปากยกขึ้นน้อยๆ

“ยินดีพะย่ะค่ะ”บิดาของสายหยุดกล่าว

“หึหึหึ เช่นนั้นข้าจักให้ท่านเขมคุยเรื่องสินสอดทองหมั้น...ท่านเขม”ทรงตรัส แลให้บิดาของเหมกล่าวต่อ

“พะย่ะค่ะ...วันนี้ฤกษ์งามยามดี ข้าจึงขอให้องค์จันทร์มาเป็นผู้ใหญ่สู่ขอหนูสายหยุดให้เจ้าเหมบุตรชายข้า แลมิต้องห่วงข้าจักจัดสินสอดทองหมั้นให้สมเกียรติหนูสายหยุด มิให้น้อยหน้าใครเทียว”

“มิได้ๆ สินสอดทองหมั้นพอเป็นพิธีก็พอท่านเขม ขอเพียงพ่อเหมรัก แลดูแลสายหยุดจนแก่เฒ่าก็เพียงพอแล้ว”มารดาของสายหยุดกล่าว

“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วท่าน เจ้าเหมบุตรข้าตั้งแต่เล็กจนโตก็ฝักใฝ่รักใคร่เพียงหนูสายหยุดผู้เดียวมาตลอด”

“ได้ยินเช่นนี้ข้าก็เบาใจว่าสายหยุดจักได้คู่ครองที่ดีเช่นพ่อเหม”

“ฝ่าบาท...”เจ้าบัวที่ได้รับฟังพิธีสู่ขอตั้งแต่ต้นก็เกิดความสงสัย

“หืม...”

“หมายความว่ากระไรพระเจ้าค่ะ ทรงสู่ขอพี่สายหยุดให้ใครกันแน่พระเจ้าค่ะ”

“จักสู่ขอสายหยุดให้ใคร ก็ให้ไอ้เหมมันหนาสิเจ้า..เจ้าถามเช่นนี้หมายความว่าเยี่ยงไร คิดว่าข้ามาสู่ขอสายหยุดให้ใครกัน”

“.....”

“ว่าอย่างไรเจ้าบัว”

“หม่อมฉันคิดว่าพระองค์จักสู่ขอพี่สายหยุดเข้าวังเป็นสนมพระเจ้าค่ะ”สารภาพเสียงแผ่วพลางก้มหน้างุด

“กระไรหนา!!!”ทรงเผลอตรัสเสียงดังจนเจ้าบัวสะดุ้ง อีกทั้งยังทำให้ผู้ใหญ่ที่กำลังคุยเรื่องสินสอดชะงัก

“มีกระไรหรือพะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“อ่า...มิมีกระไร”

“.....”

“....ไว้กลับวังหลวงก่อนเถิดเจ้า จักโดนดี”ตรัสขู่ข้างใบหูเล็กของเจ้าบัว

“ฝ่าบาท”ครางเสียงอ่อยอย่างสำนึกผิดที่ด่วนสรุปทั้งที่ยังมิทราบความจริงแน่ชัด


.
.
.


เมื่อกลับมาถึงวังหลวงองค์จันทร์ก็ทรงแยกไปที่ตำหนักทรงงาน ส่วนเจ้าบัวก็กลับเข้าตำหนักหลวง ผลัดเปลี่ยนผ้าแล้วพระภัสดาก็ยังมิกลับมา จึงได้เสด็จเข้าเฝ้าพระชนนีศศิธร

“พี่สายหยุด”เสร็จพิธีสู่ขอสายหยุดก็กลับวังหลวงรับใช้พระชายาตามเดิม

“พระเจ้าค่ะ”

“ข้าใคร่อยากเข้าเฝ้าพระชนนี มิได้เข้าเฝ้าพระองค์ท่านหลายวันแล้ว”

“เยี่ยงนั้นหม่อมฉันจักให้ข้าหลวงเตรียมการเสด็จไปตำหนักพระชนนีหนาพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ”


.

.

.


ทางด้านองค์จันทร์เมื่อกลับมาถึงวังหลวงก็ส่งเมียรักเข้าตำหนักหลวง แลเสด็จมาที่ตำหนักทรงงานพร้อมองครักษ์คนสนิทว่าที่เจ้าบ่าว

“.....”

“ทรงเสด็จมาที่ตำหนักทรงงานทำไมหรือพะย่ะค่ะ”

“.....”

“.....”

“เฮ้อ...เจ้าบัวคิดว่าข้าไปสู่ขอสายหยุดมาเป็นสนม”

“หา..เอ่อ แลฝ่าบาทว่าอย่างไรพะย่ะค่ะ”

“ข้าก็บอกหนาสิว่ามาขอให้เอ็ง”

“.....”

“แต่เห็นทีคงต้องลงโทษกันหน่อยแล้ว ฟังมิได้ศัพท์จับไปกระเดียด”

“.....”


.

.

.


เจ้าบัวเข้าเฝ้าพระสัสสุอยู่มินานก็เสด็จกลับตำหนักหลวง เมื่อเปิดพระทวารห้องบรรทมออกก็พบพระภัสดาประทับรออยู่บนพระแท่นบรรทม

“ฝ่าบาท”

“ไปไหนมาเจ้าบัว”

“หม่อมฉันไปเข้าเฝ้าพระชนนีศศิธรมาพระเจ้าค่ะ”ว่าพลางเดินเข้าไปนั่งพับเพียบบนพื้นข้างพระบาท

“.....”

“.....”

“...รู้หรือไม่ว่าเจ้ามีความผิด”

“รู้พระเจ้าค่ะ..หม่อมฉันขอประทานอภัยที่ฟังมิได้ศัพท์ แลจับไปกระเดียด”

“แลที่ร่ำไห้เมื่อคืนวานเพราะคิดว่าพี่จักรับสายหยุดเป็นเมียอีกคนงั้นหรือ”

“...พระเจ้าค่ะ”

“ข้าจักลงโทษเจ้าเยี่ยงไรดี เจ้าบัว”ช้อนใต้คางแหลมเชยใบหน้างามขึ้น

“สุดแล้วแต่พระองค์เถิดพระเจ้าค่ะ”นัยน์ตากวางแดงระเรื่อ

“...”มิตรัสตอบจับต้นแขนกลมกลึงทั้งสองข้างรั้งให้เจ้าบัวลุกขึ้น พระกรตวัดรวบเอวน้อยเข้าหาองค์ ดันให้ร่างบางนั่งลงบน
พระเพลา

“ฝ่าบาท...บัวขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ”

“เจ้าจักไถ่โทษเยี่ยงไรเจ้าบัว”ตรัสถามพลางไล้หลังพระหัตถ์ไปตามต้นแขนเนียน

“.....บัวมิทราบพระเจ้าค่ะ องค์จันทร์ประสงค์ให้บัวทำกระไร โปรดรับสั่งเถิดพระเจ้าค่ะ”

“หืม...เยี่ยงนั้นทำให้ข้าพอใจสิเจ้า”

“ทำให้พระองค์พอพระทัยหรือพระเจ้าค่ะ”

“ใช่ ทำให้ข้าพอใจ”พระโอษฐ์อุ่นแตะแต้มไปตามเนื้อนวล

“หะ หากแต่นี่ยังกลางวันแสกๆอยู่เลยหนาพระเจ้าค่ะ”

“.....”

“ทรงรอคืนนี้ก่อนได้หรือไม่พระเจ้าค่ะ”

“ได้ คืนนี้ก็ได้พี่จักรอ”

“...พระเจ้าค่ะ”ก้มใบหน้าลงซ่อนริ้วแดงๆที่พาดผ่านปรางขาว ขณะที่องค์จันทร์กกกอดลูบไล้กายบางไปมา เวียนจูบหอมมิห่าง
เอาล่ะ ข้าจักอดใจไว้คืนนี้




.

.

.



และแล้วเพลาที่องค์จันทร์รอคอยก็มาถึงเสียที ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า เจ้าบัวงามหายไปจนป่านนี้ก็ยังมิกลับมา น้องน้อยบอกเพียงว่าจักลงครัวทำกายาหารค่ำถวายพระภัสดา

“ทูลฝ่าบาทสำรับพระกายาหารมาแล้วพระเจ้าค่ะ”

“เจ้าบัว”

ร่างบางก้าวเข้ามาในตำหนักหลวงพร้อมข้าหลวงที่เดินถือสำรับอาหารคาวหวานตามหลังมา

“ขอประทานอภัยที่ให้รอหนาพระเจ้าค่ะ”

“มิเป็นไรเจ้า แลทำกระไรมาเสียเยอะแยะ”ทอดพระเนตรสำรับที่เรียงราย

“แสร้งว่ากุ้ง แกงลูกกล้วย ยำทวาย หมูโสร่ง แลบุหลันดั้นเมฆพระเจ้าค่ะ”

“หืม...เหตุใดจึงทำเยอะเช่นนี้เล่า”

“ก็ทรงตรัสว่าโปรดอาหารที่หม่อมฉันทำ หม่อมฉันจึงคิดว่าหากทำพระกายาหารคาวหวานถวายพระองค์คงจักทำให้ทรงพอพระทัยพระเจ้าค่ะ”

“.....”องค์จันทร์เมื่อได้สดับสิ่งที่เมียรักเอ่ยก็ถึงกับยกพระหัตถ์ลูบพระพักตร์องค์เอง

“.....”เจ้าบัวก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม พลางตักแกงลูกกล้วยป้อนพระภัสดาที่ตีพระพักตร์เรียบตึงใส่ หากแต่ก็ยอมอ้าพระโอษฐ์รับ
อาหารที่เมียป้อน เจ้าบัวปรนนิบัติพระภัสดามิขาดตกบกพร่อง เอาอกเอาใจ

“เสวยบุหลันดั้นเมฆดูหนาพระเจ้าค่ะ ตอนหม่อมฉัน แลภุชงค์ยังเด็กเสด็จแม่ชมนาดท่านทำให้กินบ่อยๆพระเจ้าค่ะ.....เป็นอย่างไรพระเจ้าค่ะ”ป้อนขนมสีสวยให้

“หอม หวาน”

“ทรงโปรดหรือไม่พระเจ้าค่ะ”

“กระไรที่เจ้าทำพี่ก็โปรดหมดแล หากแต่...”

“แต่กระไรหรือพระเจ้าค่ะ”

“พี่ยังมิพอใจดอกหนา...เจ้าก็รู้เจ้าบัวว่าทำอย่างไรพี่จึงจักพอใจ”

“.....”


.

.

.


ภายในห้องบรรทม องค์จันทร์กึ่งนั่งกึ่งนอน  ในพระหัตถ์ถือจอกน้ำจัณฑ์ ทรงทอดพระเนตรร่างบอบบางของเมียรักที่ยืนตัวแข็งอยู่หน้าพระแท่นบรรทม

“รอกระไรเล่าเจ้าบัว”ตรัสพระสุระเสียงกระเส่า

“ฝ่าบาท...”เจ้าบัวงามครางเครือ สีหน้าราวกับจักร่ำไห้ด้วยความเขินอาย

“เร็วเข้า ถอดผ้าเสีย แลขึ้นมาหาพี่บนเตียงนี่”ตรัสสั่งพระเนตรแพรวพราวพลางกระดกนำจัณฑ์เข้าพระโอษฐ์

“.....”เจ้าบัวก้มหน้าหลบสายพระเนตรที่มองมาอย่างจาบจ้วง มือเล็กสั่นน้อยๆยกขึ้นค่อยๆปลดผ้าแถบสีขาวผืนบางของตน เจ้า

บัวงามเชื่องช้าจนขัดพระทัยองค์จันทร์ หากแต่ความเชื่องช้านั้นก็ดูยั่วยวนไม่น้อย ผ้าแถบผืนบางร่วงหล่นลงพื้น เผยให้เห็นเนื้อ
นวลขาวผ่องต้องแสง แขนเรียวเสลายกกอดตัวปกปิดเม็ดบัวสีหวานให้พ้นสายพระเนตร

“ผ้าโจงกระเบนเล่า..ถอดเร็วเข้า”

“ฝ่าบาท...”

“เร็ว”หาได้ใจอ่อนยอมเช่นทุกครั้งที่ผ่านมาไม่

“.....”นัยน์ตากวางหลับแน่น มือเล็กไล้ไปตามขอบโจงกระเบนค่อยๆปลดจนคลายออกเป็นซิ่น มือสั่นแกะปมออกช้าๆ มินานผ้าโจงผืนงามก็ร่วงกองอยู่ที่เท้าบาง เจ้าบัวงามก้มหน้าคางชิดอก กอดตนแน่น ร่างงามยืนนิ่งไม่ไหวติ่ง องค์จันทร์ระบายพระปัสสาสะแรงขึ้นตามอารมณ์หนุ่ม กระดกน้ำจัณฑ์เข้าพระศอดับความร้อนรุ่ม

“มาหาพี่นี่เจ้า”อ้าพระกรออกรอรับร่างน้อยที่ค่อยๆขยับเท้าเดินอย่างอิดออด เมื่อเจ้าบัวก้าวเข้ามาในรัศมีพระกร องค์จันทร์ก็รวบร่างงามของเมียเข้ากอด ดึงรั้งให้น้องน้อยนั่งคร่อมพระเพลา สะโพกอิ่มบดเบียดอยู่บนพระอูรู พระหัตถ์ข้างหนึ่งเคลื่อนลงบีบเค้นก้อนเนื้อนุ่มที่ห่อหุ้มกลีบบัวไว้ อีกข้างประคองเอวบาง เจ้าบัวหลับตาแน่น เม้มริมฝีปากกลั้นเสียงครางเครือ มือบางวางบนพระอังสะบีบระบายความซ่านเสียว

“อื้อ”

“เจ้าบัว ก้มลงมาจูบพี่”รับสั่ง

“ฝ่าบาท อ๊ะ”นัยน์ตากวางปรือปรอยมองพระพักตร์งามขององค์จันทร์ ดวงหน้างามก้มลงทาบริมฝีปากลงบนพระโอษฐ์เคล้าคลึงราวกับต้องมนต์เสน่ห์ ลิ้นเล็กไล้เลียเบาๆ สัมผัสกับพระชิวหาร้อนชื้นเกี่ยวกระหวัดดูดซับน้ำผึ้งหวานของกัน และกัน เจ้าบัวกอดรอบพระศอแน่นเอียงใบหน้ารับจุมพิตที่องค์จันทร์เป็นผู้สานต่อ ปลายนิ้วเล็กลูบไล้เบาๆที่หลังพระศอ องค์จันทร์เหวี่ยงร่างน้อยให้นอนลงบนพระยี่ภู่ แลตามเข้าทาบทับทันที พระหัตถ์เลื่อนลงต่ำปลดโจงกระเบนสีดำเขม่าขององค์เอง แลกระชากออก บัดนี้ทั้งองค์จันทร์ แลเจ้าบัวงามต่างก็เปลือยทั้งคู่


.

.

.



ทางด้านเหม แลสายหยุดที่กลายเป็นคู่หมั้นคู่หมายหมาดๆ เมื่อเจอหน้ากันก็เกิดความเขินอาย เอาแต่หลบหน้ากัน นิ่งเงียบมิมีใครพูดกระไร

“พี่เหม”

“สายหยุด”หากแต่เมื่อเปิดปากพูดกลับพูดขึ้นพร้อมกันเสียอย่างนั้น

“พี่เหมพูดก่อนเถิดจ้ะ”

“สายหยุดพูดก่อนเถิด”

“พี่เหมพูดก่อนเถิดจ้ะ”

“มิเป็นไรดอกจ้ะ พี่เหมพูดก่อนเถิด”

“สายหยุด”

“พี่เหม”

“...พี่มิคิด มิฝันเลยว่าจักมีวันนี้ได้ ราวกันฝันไปเลยล่ะเจ้า”

“สายหยุดก็เช่นกันจ้ะ”


พูดคุยกันได้แค่นั้นก็เงียบต่อ มีเพียงเสียงลมหายใจเท่านั้นที่ดังอยู่ แค่ประโยคสั้นๆ ธรรมดาๆ แต่กลับทำให้สายหยุด แลเหมหน้าแดงก่ำราวกับลูกตำลึง

“อะ องค์จันทร์ แลพระชายาบัวงามคงมิเรียกใช้เราสองคนแล้ว เช่นนั้นเราไปเดินเล่นที่สวนพฤกษากันดีไหมสายหยุด”

“จ้ะ”

“พี่ขะ ขอจับมือหนาเจ้า”

“จ้ะ”

มือใหญ่หยาบกร้านของเหมเลื่อนกอบกุมมือนุ่มของสายหยุดไว้แน่นก่อนจะพากันเดินเคียงคู่ไปยังสวนพฤกษา อากาศช่วงกลางคืนหนาวเย็น สายลมพัดเอื่อยๆหอบเอากลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธ์ให้กระจายฟุ้งไปทั่วบริเวณ

“สายหยุด”

“จ้ะ พี่เหม”

“สายหยุดว่า...เราจักมีลูกกันกี่คนดีเจ้า”

“พี่เหม..ถามกระไรเยี่ยงนี้เล่า”มือเล็กยกตีอกแกร่งเบาๆ อายเสียจนตัวแทบจักบิด

“ก็..พี่จักได้เตรียมตัวถูกไงเจ้า”ถามเองหน้าแดงเอง องครักษ์หนุ่มผูเก่งกาจเรื่องการต่อสู้ไม่เป็นสองรองใคร กลับต้องมาตกม้า
ตายเพราะไม่ประสาเรื่องรัก

“...สะ สายหยุดแล้วแต่พี่เหมเลยจ้ะ”

“พี่อยากมีลูกสักสิบคน...”

“บ้าหรือพี่เหม สายหยุดจักไปมีให้ไหวได้อย่างไรตั้งสิบคน”

“อ่า...มากไปหรือเจ้า เยี่ยงนั้นสักห้าก็ได้”

“สะ สามก็พอกระมังจ๊ะ”

“สามเองหรือ”

“สะ สี่ก็ได้”

“สี่เองหระ...”

“แต่สี่ก็พอจ้ะ มากกว่านี้มิไหวดอก”

“จ้ะ สี่ก็สี่”

“.....”

“.....”

“.....”

“...เอ่อ เราจักคุยกระไรกันดีสายหยุด”

“มะ ไม่รู้สิจ๊ะ”

“.....”

“.....”

“...อ่า สายหยุดชอบกำไลหัวบัวที่พี่ให้หรือไม่เจ้า”

“พะ พี่เหมเคยถามสายหยุดแล้วหนาจ้ะ สะ สายหยุดชอบจ้ะ”

“อ่า..งะ งั้นหรือ พี่เคยถามแล้วหรือ”

“จ้ะ”

“.....”

“.....”


.

.

.









ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ snpmrth

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอเจ้าบัวออกดอกอยู่นะจ๊ะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ตัดฉากนั้นเฉยเลยหรอ ทำกันได้
รอต่อไป อิอิ
ดีใจอ่ะไม่ได้เข้าใจผิด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เข้าใจกันแล้ว  :katai2-1:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อยากจะถามคนแต่งหนาว่า
เหนื่อยไหมเจ้า

 :mew4: :mew1:

สนุกๆๆค่ะ

ออฟไลน์ net. net_n2537

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ไม่ใช่แค่เจ้าจันทร์นะที่หลงเจ้าบัว คนอ่านก็หลงทั้งคู่เลย :mew1: :-[ :o8: :impress2:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
555 เอ็นดูน้องบัวววว~

ออฟไลน์ พระสนมฝ่ายซ้าย

  • ❤วั ง ว น ว า ย เ วิ่ น เ ว้ อ❤
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +283/-2
หลงเจ้าบัวน้อยมากๆค่ะ อยากเป็น 5555
น่ารักทั้งสองคู่เลย
มาต่ออีกนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด