บัวหลงจันทร์ [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนที่ ๒๖ (จบ) ครบ ๗.๓.๖๒ หน้า ๗ ต่อในกระทู้เดิม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บัวหลงจันทร์ [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนที่ ๒๖ (จบ) ครบ ๗.๓.๖๒ หน้า ๗ ต่อในกระทู้เดิม  (อ่าน 75080 ครั้ง)

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:  เดือนเก้าแล้ว  คนแต่งติดฝนอยู่ที่ไหนน้าาาา

ออฟไลน์ monkeytwin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
บัวหลงจันทร์ ๒๒


   หลายวันก่อนกลับศศิมณฑลเจ้าบัวงามก็คลุกอยู่กับเจ้าน้อยจากการเวก ดูท่าพระชายาศศิมณฑลจักเห่อสหายใหม่มิน้อย เจ้าแสงแรกหรือก็ตามใจคนพี่ทุกอย่าง คนพี่ว่านกก็ว่านก คนพี่ว่าไม้ก็ว่าไม้ มิมีขัดพระทัย

“ทรงค่อยๆ ดำเนินหนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงแรกประคองเจ้าบัวงามที่แอ่นพระขนอง หัตถ์บางข้างหนึ่งโอบประคองครรภ์โต แลอีกข้างประคองกฤษฎีตนไว้

“อ อืม...เจ้าพเยียท่าจักตัวใหญ่น่าดู ท้องข้าหนักจวนจักเดินมิไหวแล้ว”

“ดีแล้วพระเจ้าค่ะ ตัวใหญ่ก็แสดงว่าแข็งแรง”เจ้าแสงว่า

“นั่นหนาสิ...คิกๆ”เจ้าบัวคิดตาม หากลูกข้าแข็งแรงก็จักดีมากๆ

“ค่ำนี้ทรงใคร่อยากเสวยกระไรพระเจ้าค่ะ แสงจักลงห้องเครื่องทำสำรับถวายพี่บัวเองพระเจ้าค่ะ”

“รสมือเจ้าดีเลิศนัก ทำกระไรมาข้าก็โปรดทั้งนั้นแล หากแต่มิต้องเหนื่อยลงห้องเครื่องเองดอกหนา”เจ้าบัวว่าพลางแย้มโอษฐ์อย่างเอ็นดูว่าที่พระเชษฐภคินี

“ทรงตรัสกระไรเยี่ยงนั้นพระเจ้าค่ะพี่บัว แสงมิเหนื่อยดอกพระเจ้าค่ะ ให้แสงได้ลงห้องเครื่องทำสำรับถวายหนาพระเจ้าค่ะ อีกมิกี่วันก็ต้องเสด็จกลีบศศิมณฑลแล้ว แสงใคร่อยากทำสำรับถวายพี่บัวพระเจ้าค่ะ”

“เยี่ยงนั้นก็ตามใจเจ้าเถิด ขอบใจหนา”เจ้าบัวว่าพลางลูบปรางนวลของเจ้าแสงเบาๆ

“พระเจ้าค่ะ”


.
.
.


“วันนี้เจ้าแสงลงห้องเครื่องอีกแล้วหรือ”เจ้าชมนาดตรัสเมื่อได้ลิ้มรสสำรับพระกายาหารค่ำคำแรก

“พระเจ้าค่ะ พระมารดา”เจ้าแสงวางมือที่กำลังส่งเครื่องเสวยเข้าโอษฐ์ แลหมอบกราบตรัสทูลว่าที่พระสัสสุ

“อืม...รสมือเจ้าดีเลิศนัก เห็นทีวันนี้ข้าคงจักกินจนแน่นท้องเป็นแน่”เจ้าชมนาดพยักพักตร์น้อยๆ พลางปรนนิบัติป้อนพระภัสดา

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”หมอบกราบพระชายาภุมริกา


.
.
.


   และแล้วก็มาถึงวันที่องค์จันทร์ แลเจ้าบัวงามต้องกลับศศิมณฑลแล้ว ขบวนเสด็จถูกตระเตรียมตั้งแต่สามวันก่อน พระชายาบัวงามพระครรภ์ใหญ่จวนให้ประสูติเช่นนี้จึงต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุด

“เดินทางปลอดภัยหนาเจ้าบัว องค์จันทร์”เจ้าชมนาดตรัสพลางยกหัตถ์ขึ้นลูบเกศานุ่มลื่นของโอรสองค์เล็กของตน

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่ชมนาด”องค์จันทร์ตรัสพลางหมอบกราบพระสัสสุ แลพระสัสสุระ

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะเสด็จแม่”เจ้าบัวงามหมอบกราบมารดา พลางคลานเข่าเข้าไปกอดพระวรกายเล็ก

“เอาไว้เจ้าให้กำเนิดหลานพ่อเมื่อใด พ่อ แลแม่จักไปเยี่ยมที่ศศิมณฑลหนาลูก”องค์ภุมรินตรัสพลางลูบเกศานุ่มของโอรสในอ้อมกอดเจ้าชมนาด

“พระเจ้าค่ะเสด็จพ่อ”

“พ่อจักขนของรับขวัญหลานไปให้เต็มเกวียนเชียวลูก”

“คิกๆ ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวงามสรวลคิกคัก

“.....”ในขณะที่องค์จันทร์ทำเพียงยกมุมพระโอษฐ์ขึ้นเล็กน้อย ให้ตายเถิดพระสัสสุระท่านจักเห่อหลานมากเกินไปหรือไม่หนา

“เหลือไว้ให้ลูกหม่อมฉันกับเจ้าแสงบ้างหนาพ่ะย่ะค่ะ”จู่ๆ เจ้าภุชงค์คนพี่ก็ตรัสขึ้นทำเอาบิดา มารดา พระอนุชา พระเทวัน แลเจ้าแสงแรกที่อยู่ในท้องพระโรงชะงักงัน โดยเฉพาะเจ้าแสงแรกที่ประทับพับเพียบอยู่เฉยๆ ก็โดนพาดพิงถึง

“.....”

“.....”

“.....”

“.....”

“.....”

“ฮะ..ฮ่าๆๆๆ มิต้องกลัวดอกเจ้าภุชงค์ หากเป็นลูกเจ้าพ่อจักยกวังนี้ให้ทีเดียว”องค์ภุมรินสรวลแห้งๆ เหลือบพระเนตรลอบมองเจ้าน้อยการเวกที่ก้มพักตร์งุด จนพระหนุชิดพระอุระบาง ปรางนวล แลกรรณเล็กแดงก่ำราวกับถูกน้ำร้อนเดือดจัดลวกเอา

“หึหึหึ ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ”เจ้าภุชงค์ยกหัตถ์พนมไหว้บิดา

“.....”เจ้าแสงแรกก้มพักตร์งุด สองหัตถ์น้อยขยุ้มผ้าโจงของตนแน่น ทรงตรัสกระไร ละ ลูกของพระองค์กับ...ขะ ข้าหนาหรือ เจ้าแสงคิดแลเขินอายจนหน้ามืด

“กระไรกันพระเจ้าค่ะเสด็จพี่ภุชงค์ ยังมิทันตบแต่งก็ดำริถึงตอนมีลูกแล้วหรือพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวงามเย้าพระเชษฐาพลางส่งนัยน์ตากวางล้อเลียนพระเชษฐภคินี แต่เจ้าแสงแรกคงจักมิเห็น เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาซุกซ่อนพักตร์แดงก่ำจากสายตาคนทั้งท้องพระโรง

“หึหึหึ...เป็นถึงองค์รัชทายาทภุมริกาก็ต้องรู้จักวางแผนอนาคตไว้บ้างสิเจ้าบัว”ตรัสตอบพระอนุชา

“หากหม่อมฉันเป็นเจ้าแสงแรกคงจักดีใจน่าดูหนาพระเจ้าค่ะที่มีตนเองในอนาคตภัสดา”เจ้าบัวตรัส

“...ในอนาคตของพี่ก็มีเจ้า แลลูกเช่นกันหนาเจ้าบัวงาม”เมื่อได้สดับฟังที่เมียตัวน้อยตรัส องค์จันทร์จึงตรัสขึ้นให้เจ้าบัวได้อายม้วนซุกหน้ากับพระอุระของเจ้าชมนาด

“อะแฮ่ม....”องค์ภุมรินทรงพระกาสะขึ้นพลางทอดพระเนตรองค์จันทร์อย่างมิใคร่พอพระทัยที่กล้ามาหยอดคำหวานเจ้าบัวงามหน้าพระพักตร์ พระเนตรพระองค์ พยัคฆ์หวงลูกเช่นไรก็เช่นนั้นมิมีเปลี่ยน

“เอาล่ะๆ...ออกเดินทางเถิดองค์จันทร์ เจ้าบัวงาม ประเดี๋ยวจักค่ำมืดเสียก่อน”เจ้าชมนาดตรัส พลางก้มพักตร์ลงหอมขมับขาวของลูกในอ้อมอก

“เสด็จพ่อ แลเสด็จแม่ทรงดูแลองค์เองดีๆ หนาพระเจ้าค่ะ หากลูกให้กำเนิดหลานเมื่อใดจักให้องค์จันทร์ท่านส่งข่าวให้พระเจ้าค่ะ”

“จ้ะลูก...หากเจ้าให้กำเนิดหลานเมื่อใด แม่จักรีบไปรับขวัญทันที”

“พระเจ้าค่ะ”


.
.
.


   ขบวนเสด็จของเจ้าหลวงศศิมณฑล แลพระชายาออกจากภุมริกาอย่างค่อยเป็นค่อยไป องค์จันทร์ แลเจ้าบัวงามประทับบนเกี้ยวตัวเดียวกัน พระกรแกร่งโอบประคองร่างเมียท้องแก่ไว้แนบพระอุระมิห่าง พระหัตถ์ก็วางลูบบนครรภ์นูนโตปลอบลูกน้อย แลเมียรัก

“เป็นเยี่ยงบ้างเจ้าบัวงาม รู้สึกมิดีหรือไม่”องค์จันทร์ตรัสถามน้องน้อยในอ้อมพระกร

“มิได้พระเจ้าค่ะ บัวมิเป็นกระไรพระเจ้าค่ะ”เงยพักตร์ตรัสตอบพระภัสดา องค์จันทร์ก้มพักตร์สบนัยน์ตากวางก่อนจักประทับโอษฐ์ลงบนนาสิกโด่งรั้นเบาๆ

“หากรู้สึกมิดีรีบบอกพี่เลยหนาเจ้า”

“พระเจ้าค่ะ หากบัวรู้สึกมิดีจักรีบทูลพระองค์ทันทีพระเจ้าค่ะ”

“ดีแล้วเจ้า พี่ห่วงเจ้ามากหนา รู้ใช่หรือไม่”

“พระเจ้าค่ะ”

“การเดินทางครานี้คงจักต้องเวลานานกว่าปกติเสียหน่อย แต่คงมิเกินสามวันดอก”

“พระเจ้าค่ะ”

“คืนนี้คงจักต้องตั้งกระโจมพักแรมในป่า น้องเคยนอนค้างอ้างแรมในป่าหรือไม่เจ้าบัวงาม”

“บัวมิเคยนอนค้างอ้างแรมในป่าพระเจ้าค่ะ ตั้งแต่เกิดมาก็อยู่แต่ในรั้วในวัง หากจักไปค้างอ้างแรมนอกวังหลวงก็คงจักเป็นเรือนของเจ้าคุณตาพระเจ้าค่ะ”

“เรือนของเจ้าคุณตาหรือ”

“พระเจ้าค่ะ”

“...จริงสิ เสด็จแม่ชมนาดท่านเป็นสามัญชนใช่หรือไม่”

“พระเจ้าค่ะ ก่อนจักตบแต่งเข้าวังหลวงเป็นสนมเอก เสด็จแม่ท่านเป็นสามัญชน”

“เป็นสามัญชน หากแต่ก็เป็นบุตรเศรษฐี ที่ร่ำรวยที่สุดทางตอนเหนือของภุมริกา ใช่หรือไม่”

“พระเจ้าค่ะ เจ้าคุณตาท่านเป็นเศรษฐีมีชื่อทางตอนเหนือของแคว้น ยิ่งเสด็จแม่ท่านเข้าวังได้เป็นพระชายาคนยิ่งรู้จักเจ้าคุณตามากยิ่งขึ้นพระเจ้าค่ะ”

“.....หึหึหึ พูดแจ้วเป็นนกขุนทองเชียวหนาเจ้า”ตรัสพลางจับปลายหนุแหลม แลเขย่าไปมา

“ฮื้อ...ก็ทรงชวนบัวคุยนี่พระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ...รู้หรือไม่ว่าตอนที่เจ้าเกิด พี่ได้มางานพิธีรับขวัญเจ้าด้วยหนา”

“จริงหรือพระเจ้าค่ะ”

“จริงสิเจ้า เสด็จพ่อเจ้าหรือหวงเจ้ามิต่างจากตอนนี้สักเท่าใด”

“คิกๆ...”

“พี่จำได้ว่าตอนนั้นพี่หอมปรางเจ้าด้วยหนา”

“จริงหรือพระเจ้าค่ะ”

“จริงสิ...เจ้าน้อยภุมริกาในห่อผ้าสีหวาน ปรางหอมนัก ตอนนั้นพี่สูดเข้าไปเต็มปอดเชียว”

“ทรงหื่นกามแต่เล็ก แต่น้อยเลยหนาพระเจ้าค่ะ”

“ประเดี๋ยวเถิด”

“คิกๆ”

“ตอนพี่หอมปรางเจ้า เสด็จพ่อภุมรินท่านแทบจักยกทัพมาตีศศิมณฑล”

“คิกๆ...กระนั้นเลยหรือพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ แต่แล้วอย่างไร ดูตอนนี้สิ...อีกมิกี่วันพยานรักของพี่ แลเจ้าก็จักออกมาลืมตาดูโลกแล้ว”

“...เสด็จพี่”

“พี่รักเจ้าหนาเจ้าบัว...ตีตราจองมาตั้งแต่ยังเป็นทารก แลวันนี้ก็ได้เจ้ามาเป็นแม่ของลูกจริงๆ”

“...หม่อมฉันก็รักพระองค์พระเจ้าค่ะ...มิคิดว่าการเลือกคู่โดยที่มิเต็มใจวันนั้น จักทำให้บัวมีพระองค์ในวันนี้  ต้องขอบคุณฟ้าฝนวันนั้นกระมังพระเจ้าค่ะ ที่ตกลงมาทำให้เราติดฝนอยู่ที่น้ำตกท้ายวังหลวง จนผิดผีได้ตบแต่งกันเช่นนี้”

“นั้นสิเจ้า...ขอบคุณโชคชะตา ฟ้าฝน พระพรหมท่านที่ดลบันดาลเจ้าให้มาเป็นคู่พี่”


.
.
.


   ผ่านไปหลายคืนวันที่เจ้าหลวง แลพระชายาเสด็จกลับมาถึงวังหลวงศศิมณฑล แลวันนี้ วังหลวงก็มีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้น ข้าหลวงตำหนักหลวงต่างวิ่งวุ่น เมื่อพระชายาบัวงามทรงเจ็บครรภ์  เจ้านายองค์น้อยกำลังจักประสูติแล้ว

“ฮึก....”เจ้าบัวงามทอดพระวรกายกับพระยี่ภู่ที่อยู่ในตำหนักประสูติ โดยมีสายหยุดคนสนิทค่อยปรนนิบัติดูแลอยู่มิห่าง

“พระทัยเย็นก่อนหนาพระเจ้าค่ะพระชายา”

“ฮึก...อื้อ...”

“ว้าย...พระชายาเพคะ อย่าเพิ่งเบ่งหนาเพคะ...ทรงรอหมองหลวงก่อนหนาเพคะ”ข้าหลวงแก่หวีดออกมาเมื่อพระชายาบัวงามทรงออกแรงเบ่ง

“มีใครไปตามฝ่าบาทหรือยัง”สายหยุดถามพลางใช้ซับพระพักตร์ซับพระเสโทบนพระพักตร์งาม

“ข้าให้ข้าหลวงไปตามแล้วเจ้าค่ะคุณสายหยุด”

“หมอหลวงมาแล้วเจ้าค่ะคุณสายหยุด”ข้าหลวงสาววิ่งหน้าตั้งเข้ามาในตำหนักประสูติ

“แลน้ำร้อนเล่า”

“เตรียมไว้หมดแล้วเจ้าค่ะคุณสายหยุด”


.
.
.


“กระไรหนาเจ้าบัวงามเจ็บท้องคลอดลูกแล้วหรือ”เมื่อกลับจากภุมริกาก็ทรงออกว่าราชการทุกวันมิได้ว่างเว้น เนื่องจากทิ้งบ้านทิ้งเมืองไปนาน

“พ่ะย่ะค่ะ ข้าหลวงมาแจ้งข่าวให้ว่าพระชายาทรงเจ็บครรภ์ เพลานี้ทรงประทับอยู่ที่ตำหนักประสูติกาล แลกำลังรอฝ่าบาทเสด็จไปพ่ะย่ะค่ะ”เจ้าเหมกราบทูลความที่ได้รับมาจากข้าหลวงตำหนักหลวง แด่เจ้าเหนือหัวของตน

“ประชุมหารือวันนี้เลื่อนออกไปก่อน...ข้าจักไปตำหนักประสูติกาล”ทรงตรัสแก่เหล่าขุนนางที่มาเข้าเฝ้าถวายฎีกา ก่อนจักเสด็จจากตั่งทองไปยังตำหนักประสูติกาลทันที


.
.
.


“เจ้าจันทร์”

“เสด็จแม่...เจ้าบัวงามเป็นเยี่ยงไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”

“แม่ยังมิทันได้เข้าไปข้างในเลยลูก แต่ข้าหลวงแจ้งว่าหมอหลวงท่านอยู่ด้านในแล้ว”

“เช่นนั้นทรงกลับไปประทับรอที่ตำหนักในก่อนหนาพ่ะย่ะค่ะ มิต้องกังวล หากหลานออกมาเมื่อใดลูกจักให้ข้าหลวงไปทูลเสด็จแม่ที่ตำหนัก”

“...เอาเยี่ยงนั้นหรือลูก”

“พ่ะย่ะค่ะ ทรงกลับไปพักผ่อนที่ตำหนักก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“จ้ะ...แม่จักกลับไปรอหลานที่ตำหนักก็แล้วกัน”


   เมื่อพระมารดาศศิธรเสด็จกลับตำหนักในแล้ว องค์จันทร์ก็รีบรุดเสด็จเข้าตำหนักประสูติกาลทันที ก่อนจักถลาเข้าไปหาเมียรักที่นอนร้องโอดครวญอยู่บนพระยี่ภู่ แขนเรียวทั้งสองข้างยึดดึงผ้าที่ห้อยลงมาจากคาน ดวงหน้างามเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ

“เจ้าบัวงาม เป็นเยี่ยงไรบ้างเจ้า”ทรงรับซับพระพักตร์จากสายหยุดมาซับหยาดเสโทให้เมียรัก

“ฮึก...ฝ่าบาท..อื้อออ”เจ้าบัวออกแรงเบ่งพลางยึดผ้าที่ห้อยลงมาจากคานให้จนแขนเรียวเกร็ง

“ฝ่าบาททรงประทับซ้อนหลังพระชายาเลยเพคะ...จักได้ช่วยกันข่ม ”หมอตำแยทูล องค์จันทร์จึงรีบเข้าประทับซ้อนหลังเจ้าบัวงาม ให้น้องน้อยพิงอุระกว้าง

“อื้อ......”เจ้าบัวครวญครางด้วยความทรมานจนพระภัสดาร้อนพระทัย

“เบ่งหนาเพคะพระชายา”

“อือ..อื้อออ...อื้อออออออออ”เจ้าบัวงามเบ่งจนตัวสั่น

“ทนหน่อยหนาคนดี”องค์จันทร์ตรัสปลอบ แตะพระนาสิกกับขมับชื้นเสโท พลางใช้พระหัตถ์กดรูดตั้งแต่หน้าอกของเจ้าบัวงามลงมาที่ครรภ์ใหญ่

“ฮึก...แฮ่กๆๆ .....ฮื้อออออออ”


.
.
.


“อื้อออออ”

“ทนหน่อยหนาคนดี”

“อื้อออออ”

“.....”

“ฮือออ...อือออออออออ”

“...เจ้าบัวงามทนหน่อยหนาน้อง...คนดีของพี่”

“อื้อออ...กรี๊ดดดดดดด”

“อีกนิดเพคะพระชายา...หม่อมฉันเห็นพระเศียรรัชทายาทแล้วเพคะ”หมอตำแยกราบทูล

“ฮึก...ฮือออ”

“เจ้าบัวอีกเดี๋ยวก็จักได้เห็นหน้าลูกแล้วหนาน้อง”

“อึก..อื้อออออออออออออ”

“อุแว้ๆๆๆๆ”เสียงเล็กแหลมที่แผดจนดังลั่นทำเอาผู้คนทั้งใน แลนอกตำหนักประสูติกาลเผยยิ้มกว้างจนเต็มดวงหน้า รัชทายาทองค์แรกขององค์จันทร์ประสูติกาลแล้ว

“ทรงได้โอรสเพคะ...เอ๊ะ!!!”หมอตำแยที่ประคองร่างเล็กของโอรสน้อย

“กลิ่น...ดอกไม้หรือ”ตำหนักประสูติกาลคลุ้งไปด้วยกลิ่นดอกไม้ กลิ่นคาวเลือดจากการประสูติหายไป แลแทนด้วยกลิ่นดอกไม้อย่างน่าอัศจรรย์

“เพคะ...กลิ่นดอกไม้...โอรสน้อยทรงประสูติกาลพร้อมกลิ่นดอกไม้ ช่างน่าอัศจรรย์นักเพคะ”

“ฝ่าบาท”เจ้าบัวงามตรัสเรียกเจ้าบัวงามตรัสเรียกภัสดา

“เจ้าบัว...”

“หนะ น้องขอดูหน้าลูกหน่อยพระเจ้าค่ะ”

“ประเดี๋ยวหนาคนดี...ให้หมอตำแยท่านล้างเนื้อล้างตัวให้ลูกก่อนหนา”


.
.
.



   แลหลังจากนั้นเรื่องที่โอรสองค์แรกขององค์จันทร์ แลพระชายาบัวงามประสูติกาลพร้อมกลิ่นบุบผาคลุ้งทั้งตำหนักก็กระจายไปทั่วทั้งวังหลวง แลแคว้นศศิมณฑล ดีมิดีก็อาจจักลามไปยังแคว้นข้างเคียงเสียด้วย นั่นจึงเป็นที่มาของพระนาม ‘เจ้าน้อยพเยีย’

“เจ้าพเยีย...คนดีของพ่อ”องค์จันทร์โอบประคองร่างน้อยในห่อผ้าสีหวานพลางใช้พระนาสิกเกลี่ยปรางย่นของลูกน้อยอย่างหยอกเย้า

“งึ...อะหึ”พักตร์เล็กยับย่น ริมฝีปากเล็กเบะออกเตรียมแผดเสียง

“หิวนมแล้วกระมังพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวงามที่ประทับอยู่บนพระยี่ภู่ตรัสบอกภัสดา

“กระไรกันหิวอีกแล้วหรือเจ้าลูกหมู”

“อะหึ...งะ แง”

“โอ๋ๆๆ พ่อพาไปหาแม่หนาเจ้า”

“.....”เจ้าบัวงามแย้มโอษฐ์พลางปลดผ้าแถบสีหวานของตนออก แขนเรียวรับลูกน้อยจากภัสดามาเข้าเต้า เจ้าพเยียเมื่อได้อยู่ในอ้อมกอดมารดาก็มุดเข้าหาพระอุระ อ้าปากงับยอดถันของพระมารดา แลดูดกลืนน้ำนมอย่างหิวกระหาย

“โถ ลูกจ๋า ค่อยๆ เถิดเจ้าประเดี๋ยวจักสำลักเอา”เจ้าบัวงามตรัสพลางตบก้นกลมของเจ้าตัวน้อยเบาๆ

“หึหึหึ...น่าเกลียดน่าชังนัก”เจ้าจันทร์ตรัสพร้อมกับประคองเท้าเล็กของลูกขึ้นหอม

“พระองค์ส่งสารไปยังภุมริกา แจ้งเสด็จพ่อเรื่องเจ้าพเยียหรือยังพระเจ้าค่ะ”

“พี่ส่งม้าเร็วไปยังภุมริกาตั้งแต่คืนที่เจ้าพเยียเกิดแล้วเจ้า”

“พระเจ้าค่ะ”

“ป่านนี้สารคงจักถึงพระหัตถ์เสด็จพ่อท่านแล้วล่ะ...ดีมิดีเสด็จพ่อท่านคงแทบจักวิ่งมาทันทีที่อ่านสารจบ หึหึหึ”

“องค์จันทร์”เจ้าบัวครางใส่พระภัสดาอย่างอ่อนใจ

“หึหึหึ...เจ้าพเยียลูกพ่อ ประเดี๋ยวรอรับของรับขวัญจากเสด็จตาเจ้าให้ดีหนา ท่านคงจักขนมาจนท่วมหลงคาตำหนักหลวงเป็นแน่”


.
.
.


“หลานตาน่าเกลียดน่าชังกระไนปานนี้หนา...”องค์ภุมรินตรัสเป็นรอบที่ร้อยตั้งแต่มาถึงวังหลวงศศิมณฑลก็ทรงปรี่เข้าหาพระนัดดาในห่อผ้าสีหวาน พลางโอบอุ้มทารกน้อยมิยอมปล่อย พระนาสิกวนเวียนหอมปรางยับย่นเจือกลิ่นหอมหวานของเจ้าพเยียน้อยมิห่าง

“เสด็จพี่ให้น้องอุ้มหลานบ้างสิพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดตรัส พักตร์งามงองุ้มเมื่อภัสดามิยอมปล่อยหลานน้อยให้ใครได้จับต้องเสียเลย

“โธ่...เจ้าชมนาด ก็หลานน่าชังออกปานนี้”

“น้องก็ใคร่อยากอุ้มหลานนี่พระเจ้าค่ะ”

“...จ้ะๆๆ”ตัดพระทัยส่งหลานให้เมียรัก

“คิกๆ...เจ้าพเยียหลานยาย ฟอดดด”กดพระนาสิกโด่งรั้นที่ปรางนุ่มของหลานเสียฟอดใหญ่

“คิกๆ...เจ้าแสง”

“พระเจ้าค่ะพี่บัว”

“เจ้าพเยียลูกข้าน่ารักหรือไม่”

“พระเจ้าค่ะ เจ้าน้อยพเยียทรงน่ารักน่าชังยิ่งนัก”

“...แลใคร่อยากมีเป็นของตัวเองบ้างหรือไม่”

“เอ๊ะ...มีกระไรหรือพระเจ้าค่ะ”

“อ้าว ก็ลูกอย่างไรเล่า เห็นเจ้าพเยียน่ารักน่าชังเยี่ยงนี้ใคร่อยากมีลูกเป็นของตัวเองหรือไม่...เจ้าหรือก็หน้าตางดงามหมดจด แลเสด็จพี่ภุชงค์ท่านก็รูปงามเป็นไหนๆ หากมีลกคงน่ารักน่าชังมิแพ้เจ้าพเยียดอก”

“..คะ...คือ...หม่อม..หม่อมฉัน..”

“เจ้าบัวงาม...ว่ากระไรเยี่ยงนั้น พี่กับเจ้าแสงยังมิทันได้ตบแต่งเป็นเรื่องเป็นราวเลยหนา ว่าเยี่ยงนี้หากใครมาได้ยินเข้าเจ้าแสงจักเสียหายได้หนา”

“โธ่...ทรงเป็นคู่หมันคู่หมายกัน อย่างไรเสียก็ต้องตบแต่ง แลมีทายาท จักเป็นกระไรไปเจ้าค่ะ”

“...กระนั้นก็เถิดหนา น้องมิต้องกังวลแทนพี่ แลเจ้าแสงไปดอก อย่างไรเสียหากตบแต่งกันแล้ว พี่จักมีทายาทมาเป็นเพื่อนเล่นเจ้าพเยียทันทีเป็นแน่”เจ้าภุชงค์ตรัสพระสุรเสียงหนักแน่น

“.....”ส่วนเจ้าแสงแรกก็ได้แต่พักตร์แดงระเรื่อออย่างมิอาจโต้แย้งสิ่งใดได้

“หึหึหึ...เสด็จแม่ลูกขออุ้มหลานบ้างสิพ่ะย่ะค่ะ”เจ้าภุชงค์ตรัส

“โธ่ เจ้าภุชงค์ แม่เพิ่งจักได้อุ้มหลานมินานเองหนา”

“คิกๆๆ...ยังประทับที่ศศิมณฑลอีกหลายวันมิใช่หรือพระเจ้าค่ะ จักแย่งกันอุ้มไปไย”

“หลานน่าชังออกปานนี้ จักแย่งกันอุ้มก็มิแปลกดอก”

“เจ้าแสงใคร่อุ้มหลานหรือไม่”

“...พระเจ้าค่ะ หากแต่หม่อมฉันกังวลว่าจักทำหลานเจ็บเอาหนาสิระเจ้าค่ะ”

“มิต้องกังวลดอก มา ข้าจักสอนให้”เจ้าบัวงามตรัส พลางรับลูกน้อยมาจากพระมารดาที่ส่งหลานให้อย่างเสียดาย

“...น่าชังนักพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงประคองร่างนุ่มนิ่มของเจ้าพเยียเข้าแนบอกโดยมีเจ้าภุชงค์ แลมารดาอย่างเจ้าบัวงามช่วยประคับประคอง

“หึหึหึ...แน่ล่ะเจ้า ก็เจ้าพเยียลูกข้านี่ คิก”







___________________________________________
มาล้าววววววว ขอโทษษษษษษที่หายไปนาน มาแล้วค่ะ มาแล้ววว //กราบบบบบ






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2018 16:13:21 โดย Thichadad3938 »

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5


โห  คนแต่งหายไปนานมากก
นึกว่าจะไม่มาต่อเสียแล้ว
ขอบคุณมากๆที่กลับมาต่อค่ะ

 :mew1:

ออฟไลน์ Rhapsody-PT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ในที่สุด~~~ฮือ ชะเง้อรอมานาน ตอนเห็นนึกว่าตาฝาด โอยยย ฮู้เร่

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอบคุณนะคะ นึกว่าจะไม่กลับมาซะแล้ว :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
มาต่อแล้ว นึกว่าจะทิ้งกันไป

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
มาแล้ว  มาต่อรอบนี้ มีหลานตัวน้อย มาเพิ่มอีกคน จุดพลุฉลองกัน  เฮฮฮฮฮ :mc3: :mc3:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yoyothaka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ดีใจจังค่ะที่ได้อ่านต่อ..ขอบคุณผู้เขียนมากนะคะ..คุ้มค่ากับการตั้งตารอจ้า

ออฟไลน์ imkhimaut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอคอยเธอมาแสนนานนนนน ทรมานวิญาณหนักหนา~~~~ ในที่สุดไรต์ก็มาอัพแต่ยิ่งกว่านั้นคือเจ้าพเยียออกมาลืมตาดูโลกแล้ว ;---;

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1

บัวหลงจันทร์ ๒๓



อรุณนี้ที่วังหลวงศศิมณฑลจักมีพิธีรับขวัญเจ้าน้อยพเยีย ทั้งองค์จันทร์ แลเจ้าบัวจึงต้องตื่นบรรทมตั้งแต่รุ่งสาง เจ้าบัวงามที่ปลดผ้าแถบเปลือยท่อนบนประทับอยู่หน้าโต๊ะเครื่องพระสุคนธ์ให้คนสนิทอย่างสายหยุดสางพระเกศานุ่มที่ทิ้งตัวระกฤษฎีบางให้ ในอ้อมพระกรมีร่างน้อยของเจ้าน้อยพเยียนอนซุกอุระมารดานิ่ง หากแต่โอษฐ์จิ้มลิ้มนั้นยังดูดดึงยอดถันของมารดาเสียงดังจุบจับ แม้พระเนตรจักปิดสนิท

"น่าเอ็นดูนักพระเจ้าค่ะ"สายหยุดว่าพลางลูบหลังพระบาทเท่าฝาหอยของเจ้าน้อยแผ่วเบา

"น่าเอ็นดูเช่นนี้ มิอยากมีลูกเป็นของตัวเองบ้างหรือสายหยุด"

"ตรัสกระไรเยี่ยงนั้นเล่าพระเจ้าค่ะ สายหยุดหรือยังมิทันได้ตบแต่งกับพี่เหมตามประเพณีเลยหนาพระเจ้าค่ะ"

"นั่นหนาสิ มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นตั้งมากมาย พี่สายหยุด แลพ่อเหมจึงยังมิได้ตบแต่งกันเสียที...ข้าต้องขอโทษด้วยหนาพี่สายหยุด"

"มิได้พระเจ้าค่ะ"

"เอาฤกษ์เข้าหอก่อน ฤกษ์แต่งเสียดีกระมัง"

"พระชายาบัวงาม"สายหยุดเขินเสียจนหน้าดำหน้าแดง

"คิกๆ...เอาล่ะ พี่สายหยุดอุ้มเจ้าพเยียให้ข้าทีเถิด ข้าจักได้ให้อิ่ม แลนางข้าหลวงแต่งกายให้"

"พระเจ้าค่ะ"

"อยู่กับป้าสายหยุดท่านก่อนหนาลูก"ตรัสพลางจูบเบาๆ ที่หน้าผากนูน

"งึ แอะ"เจ้าพเยียเมื่อถูกเปลี่ยนมือก็ปรือเนตรขึ้น ริมฝีปากเล็กดูดจุบจับเมื่อไม่เจอยอดถันมารดาก็เบะโอษฐ์ ส่งเสียงงอแง

"ชู่ววว ให้สายหยุดอุ้มหนาพระเจ้าค่ะเจ้าน้อย"สายหยุดประคองร่างแน่งน้อยไว้แนบอก พลางเขย่าโยกเบาๆ ขับกล่อมให้เจ้านายตัวน้อยเข้าสู่นิทรารมณ์อีกหน

"อื้อ"เจ้าพเยียส่งเสียง พร้อมกับมุดพักตร์เล็กกับอกสายหยุด ก่อนจักอ้าปากงับยอดถันสายหยุดผ่านผ้าแถบสีหวาน

"อ๊ะ เจ้าน้อย มิได้หนาพระเจ้าค่ะ"สายหยุดสะดุ้งตัวโยน

"คิกๆๆๆ"

"พระชายาพระเจ้าค่ะ"สายหยุดหน้าตื่นร้องเรียกนายเหนือหัวที่หัวร่อตนไม่หยุด

"เจ้าพเยียสายหยุดมิมีน้ำนมให้เจ้าดื่มเหมือนแม่ดอกหนาลูก"

"อือ งึ แอะ"ราวกับฟังรู้ความ เจ้าพเยียหยุดมุดพัตร์งับถันสายหยุด ยอมซบพักตร์กับอกสายหยุดนิ่ง พร้อมเข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์

"..."สายหยุดถึงกับลอบถอนหายใจเบา ท่ามกลางรอยยิ้มขบขันของเจ้าบัวงาม แลนางข้าหลวง

"เอาผ้าชุบน้ำให้ข้าทีเถิด"ตรัสรับสั่งนางข้าหลวง

"เพคะ"หมอบกราบรับพระบัญชาก่อนจักยกอ่างไม้ลอยกลีบดอกไม้หลากชนิด มีผ้าสีขาวสะอาดตาพาดตรงขอบอ่างถวายพระชายา

"ขอบใจ"

"มิได้เพคะ"




เจ้าบัวงามรับผ้าชุบน้ำกรุ่นกลิ่นดอกไม้ขึ้นเช็ดรอบยอดถันตนทั้งสองข้าง ล้างคราบเหนียวจากน้ำนม ก่อนจักปล่อยให้นางข้าหลวงแต่งองค์ให้ นัยน์ตากวางก็เหลือบมองสายหยุด แลลูกน้อยเป็นระยะ


แอ๊ดดด


เสียงเปิดพระทวารเรียกสายตาของเหล่าข้าหลวงสาว แลสายพระเนตรของพระชายาบัวงามให้หันมอง ใครหนาจักกล้าบังอาจเข้ามาในห้องบรรทมยามที่พระชายากำลังแต่งองค์ หากมิใช่เจ้าหลวงผู้เป็นภัสดา แลพ่อของลูก

"ฝ่าบาท"เจ้าบัวงามยกหัตถ์เล็กปิดอุระเปลือยให้พ้นสายพระเนตรคมเฉี่ยว

"ยังมิแล้วอีกหรือ จักแต่งกระไรมากมาย แค่นี้ก็งามจนข้าโงหัวมิขึ้นแล้วหนา"มิตรัสเปล่า โน้มพระวรกายกดพระโอษฐ์ที่ปรางนวล

"ฮื้อ ฝ่าบาท...หม่อมฉันเพิ่งจักให้นมลูกแล้วพระเจ้าค่ะ จึงยังมิได้แต่งองค์"

"หึหึหึ...มาสายหยุด ข้าขออุ้มเจ้าพเยียสักหน่อยเถิด"ดำเนินไปรับลูกน้อยจากคนสนิทเมีย

"พระเจ้าค่ะ"ประคองพระวรกายเล็กส่งให้นายเหนือหัว

"อึ แอะ แอะ"เจ้าพเยียขมวดคิ้ว ใบหน้าเล็กยับย่น โอษฐ์จิ้มลิ้มอ้าออกเตรียมแผดเสียงร้อง นอนมิทันได้ฝันก็ถูกปลุกขึ้นจนใคร่อยากจักอาละวาดให้วังหลวงแตก

"ชู่ววว ลูกจ๋าขอพ่ออุ้มหน่อยหนาคนดี"ตรัสปลอบ พระนาสิกแตะลงบนปรางนุ่มของลูกน้อย หากแต่นั่นกลับเป็นการกวนใจให้เจ้าพเยียแผดเสียงร้องจ้าจนลั่นห้องบรรทม

"แอะ แงงงงง~"องค์จันทร์พระพักตร์เลิกลั่ก พระเนตรจับจ้องคนเป็นเมียอย่างขอความช่วยเหลือ

"ทรงปลอบลูกด้วยพระองค์เองหนาพระเจ้าค่ะ"เจ้าบัวว่าพลางสรวลคิกคัก

"โธ่ เจ้าบัวงาม...โอ๋~ พเยียลูกรักหยุดไห้หนาลูก ขอพ่อหอมให้ชื่นใจสักน้อยมิได้หรือเจ้า ชู่วๆ คนดี นิ่งเสีย"อุ้มลูกพาดำเนินรอบห้องบรรทมจนเสียงแหลมเล็กเงียบลง เหลือเพียงเสียงสะอื้นฮั่กๆ เท่านั้น

"ฮึก แอะ แอ้ อึก"นัยน์ตาคมเฉี่ยวที่ถอดแบบมาจากพระบิดาปรือปรอย แพขนตาหนาชุ่มน้ำดูน่าสงสาร

"ชู่ววว นิ่งเสียลูกรัก"พระอังคุฐปาดน้ำตาที่เปรอะปรางลูกน้อยแผ่วเบาราวกับกลัวผิวเนื้ออ่อนๆ นั่นจักช้ำเอาได้

"ฮึก แอะ แอะ"กำปั้นน้อยขยี้กรรณขยี้เนตรองค์เอง เมื่อถูกโอบประคอง เขย่าโยกแผ่วเบาก็ยอมเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครา

"คิกๆ เป็นเยี่ยงไรพระเจ้าค่ะ"เจ้าบัวงามสรวลคิกคัก ตรัสถามพระภัสดา

"โธ่ เจ้าบัวงาม"ได้แต่กระซิบตรัส เนื่องด้วยกลัวลูกน้อยที่เพิ่งจักหลับเนตรพริ้มจักตื่นขึ้นมาไห้อีก


.

.

.



เมื่อได้ฤกษ์งามยามดี พิธีรับขวัญเจ้าน้อยศศิมณฑลก็เริ่มขึ้น บายศรีปากชามหนึ่งคู่ เครื่องเซ่นไหว้ถูกจัดเตรียมอย่างดี ผู้ทำพิธีในพิธีวันนี้ก็เป็นศิษย์ของแม่เฒ่าจากภุมริกาที่องค์ภุมรินมีพระบัญชาให้มาอยู่ที่ศศิมณฑล ตลอดพิธีรับขวัญ เจ้าพเยียน้อยมิร้องงอแงให้เสียงานสักแอะ เป็นที่เอ็นดูแก่พระอัยกะ พระอัยกี แลพระอัยยิกาอย่างพระมารดาศศิธร

"เลี้ยงง่ายจนน่าเอ็นดูนักหลานย่า"พระมารดาศศิมณฑลตรัสกับหลานในอ้อมพระกร

"นั่นสิพระเจ้าค่ะ หลานของเราช่างน่าเกลียดน่าชังนัก"เจ้าชมนาดตรัส หัตถ์เล็กประคองมือน้อยของหลานขึ้นจูบหอม




แลเมื่อหมอทำพิธีป้อนน้ำให้เจ้าน้อยเสวย ๕ ช้อนแล้ว เจ้าพเยียก็เผยรอยสรวลน่ารักน่าชัง กลิ่นดอกไม้หอมฟุ้งไปทั่วท้องพระโรง ตอกย้ำเรื่องที่เจ้าน้อยประสูติพร้อมกลิ่นหอมของดอกไม้ให้เหล่าอาคันตุกะที่มาร่วมพิธีประจักษ์ว่าเป็นเรื่องจริง

.

.

.




เมื่อเสร็จสิ้นพิธีรับขวัญเจ้าพเยีย เจ้าบัวงามก็ถูกพระมารดาศศิธร แลมารดาอย่างเจ้าชมนาดพาเข้ากระโจมอยู่ไฟ กลิ่นสมุนไพรคลุ้งไปทั้งตำหนักหลวง เจ้าบัวงามประทับอยู่ในกระโจมอยู่ไฟ มีข้าหลวงสาวสองนางค่อยบีบนวดให้ ส่วนพระมารดาทั้งสองแคว้นก็ประทับสนทนากันอยู่ที่ตั่งหลังใหญ่ใกล้กระโจม ในเพลานี้เจ้าพเยียกำลังนอนอยู่ในห้องบรรทมหลังเจ้าบัวงามให้นม มีพระอัยกะอย่างองค์ภุมริน แลพระบิดาอย่างองค์จันทร์ประทับเฝ้ามิห่างด้วยความหลงลูก หลงหลาน

"อื้อ แอะ"ร่างน้อยขยับกายบิดเล็กน้อยส่งเสียงอ้อแอ้

"เจ้าพเยีย"องค์จันทร์ปรี่เข้ามาดูลูก หากแต่ก็ถูกขัดด้วยพระสัสสุระ

"หลบไปเสีย ข้าจักอุ้มหลานเอง เจ้าเพิ่งจักเคยมีลูกคงทำมิเป็นดอก ดูข้าไว้ แลจำไปทำตามเสีย"องค์ภุมรินตรัสพลางช้อนร่างน้อยของหลานรักขึ้นพาดพระอังสะ พระหัตถ์ตบก้นกลมเบาๆ ปลอบประโลม แลเหมือนจักเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอย เจ้าพเยียหลานรักสะลึมสะลือเงยพักตร์ขึ้นมา แต่คอที่ยังมิแข็งทำให้พักตร์จิ้มลิ้มฟุบกระแทกกับพระอังสะของพระอัยกะ

"อึก แงงงง~"เสียงเล็กแผดลั่น

"เสด็จพ่อ เจ้าพเยียเป็นกระไรพ่ะย่ะค่ะ"องค์จันทร์ถลาเข้าลูบแผ่นหลังเล็กของลูกน้อยปลอบให้หยุด หากแต่เจ้าพเยียน้อยกลับร้องจ้าเสียจนหน้าดำหน้าแดง

"....."องค์ภุมรินตรัสมิออก เมื่อเหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง พยายามเขย่าโยกปลอบหลานน้อยให้หยุดร้อง

"แงงงงงงง~ อึก แงงงงงงง~"

"ขอหม่อมฉันอุ้มลูกหน่อยหนาพ่ะย่ะค่ะ"องค์จันทร์รับลูกมาจากพระสัสสุระ โอบประคองลูกไว้แนบอก

"แงงงงงงง~ อึก ฮึก"โอษฐ์เป็นกระจับเบะสะอื้นฮักๆ

"เสด็จพี่ องค์จันทร์ เกิดกระไรขึ้นพระเจ้าค่ะ"เจ้าชมนาดก้าวบาทเข้ามาในห้องบรรทม ปราดเข้าไปดูหลาน

"เจ้าชมนาด...อีกแล้วเจ้า"

"อีกแล้วกระไรพระเจ้าค่ะ...เอ๊ะ!"เจ้าชมนาดกวาดเนตรสำรวจหลานที่สะอื้นฮักๆ อยู่กับพระอุระบิดา ก่อนจะพบรอยแดงระเรื่อบนหน้าผากเล็ก

"แหะๆๆ"องค์ภุมรินทรงสรวลแห้งๆ เมื่อเมียรักตวัดนัยน์ตากวางใส่

"เสด็จพี่!"

"จ๋าาาา~"

.

.

.


"โถ ลูกแม่...คิกๆ"เจ้าบัวงามประคองลูกน้อยเข้าเต้า ทอดพระเนตรมองรอยแดงระเรื่อบนนลาฎเล็กแล้วสรวลออกมาน้อยๆ เสด็จพ่อถูกเสด็จแม่เอ็ดจนหมดคราบเจ้าหลวง กว่าเจ้าพเยียจักเงียบองค์จันทร์ก็แทบหมดแรง ให้ออกรบ ปราบโจร ถกกับเหล่าขุนนางในท้องพระโรง ยังมิเหนื่อยเท่าปลอบลูกให้หยุดไห้ เจ้าตัวน้อยแก้วตาของทุกคนสะอื้นฮั่กๆ พักตร์เล็กแดงก่ำ

"กว่าจักปลอบให้ลูกหยุดไห้ได้ พี่แทบจักร้องตามแล้วเจ้า"องค์จันทร์ตรัสพลางทอดพระเนตรลูกน้อยที่ดูดยอดถันของเมียอย่างตะกรุมตะกราม จนน้ำนมไหลซึมออกมาตามขอบโอษฐ์จิ้มลิ้ม

"หึหึหึ เจ้าพเยียทำเอาวุ่นไปทั้งวังหลวงเชียวพระเจ้าค่ะ"

"หึหึหึ เห็นเสด็จแม่ชมนาดท่านว่าเสด็จพ่อท่านก็เคยทำเจ้าหน้าผากกระแทกบ่าเช่นกันใช่หรือไม่"

"คิกๆๆ พระเจ้าค่ะ"


.

.

.


วันนี้เจ้าบัวงามต้องเข้ากระโจมสมุนไพรเพื่ออยู่ไฟดังเช่นวันที่ผ่านมา บิดา พี่ชาย แลผัวก็ประทับที่ตำหนักทรงงานหารือเกี่ยวการบ้านการเมือง หน้าที่เลี้ยงดูเจ้าพเยียจึงตกเป็นของย่า ยาย แลเจ้าแสงที่พระมารดาชมนาดหอบหิ้วมาด้วย

"ใคร่อยากอุ้มหลานหรือไม่เจ้าแสง"พระมารดาชมนาดตรัสถามว่าที่สุนิสา

"ได้หรือพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันเกรงว่าจักทำเจ้าน้อยระคายเอาได้"เจ้าแสงว่า หากแต่นัยน์ตาหวานกลับจ้องร่างเล็กของทารกน้อยมิวางตา

"มิเป็นไรดอก มาเถิด หัดเอาไว้ประเดี๋ยวมีลูกมีเต้าเป็นของตัวเองจักได้คุ้นมือ"

"...พะ พระเจ้าค่ะ"คลานเข่าเข้าไปหาพระมารดาชมนาดที่ประทับอยู่บนตั่งข้างพระมารดาศศิธร

"ขึ้นมานั่งข้างข้านี่"

"..."เจ้าแสงช้อนเนตรมองพระมารดาชมนาด จักให้ขึ้นนั่งบนตั่งตีตนเสมอพระองค์หนาหรือ

"ขึ้นมาเถิด มิเป็นไรดอก ข้ามิถือ"

"...เช่นนั้น หม่อมฉันขอประทานนุญาตหนาพระเจ้าค่ะ"ตรัสแลกราบลงบนพระเพลาเจ้าชมนาด ก่อนจักลุกขึ้นประทับข้างพระวรกายเล็กอย่างสำรวม

"แอ๊ะ แอะ"เจ้าพเยียส่งเสียงอ้อแอ้ นัยน์ตาคมเฉี่ยวที่ถอดแบบองค์จันทร์มากระพริบปริบๆ เจ้าแสงประคองร่างเล็กนุ่มนิ่มของเจ้าพเยียอย่างทะนุถนอมแนบอกตัว เจ้าพเยียน้อยเนตรปรือปรอย โอษฐ์เล็กอ้าหาววอดใหญ่จนผู้ใหญ่เอ็นดู เจ้าแสงแรกอดมิได้ก้มพักตร์แตะปลายพระนาสิกบนนลาฎเล็กแผ่วเบา ครั้นเมื่อปลายนาสิกสัมผัสฉวีบอบบางของทารกน้อย กลิ่นมวลดอกไม้หอมหวานจากเจ้าพเยียก็คลุ้งไปทั้งห้องบรรทม

"ดูท่าเจ้าพเยียจักโปรดเจ้าน้อยแสงแรกหนาพระเจ้าค่ะเจ้าชมนาด"พระมารดาศศิธรตรัสเมื่อหลานตัวน้อยปล่อยกลิ่นดอกไม้หอมหวานคลุ้ง

"นั่นหนาสิพระเจ้าค่ะ เสด็จพี่ศศิ"

"..."เจ้าแสงแรกเงยพักตร์แย้มสรวลให้พระมารดาทั้งสองแคว้น ก่อนจักหันไปแย้มสรวลให้คนสนิททั้งสองที่หมอบอยู่มิไกล ชงโค แลยี่สุ่นยิ้มกว้างตอบนายตน

"เจ้าน้อยพเยียน่าเกลียดน่าชังนักพระเจ้าค่ะพระมารดา"เจ้าแสงตรัส หัตถ์เรียวตบก้นเล็กเบาๆ ขับกล่อมทารกน้อยให้หลับใหล

"...เจ้าน้อยแสงแรกช่างน่าเอ็นดูนักพระเจ้าค่ะ...ผิดกับเชษฐานัก"พระมารดาศศิธรเอนพระวรกายตรัสกระซิบที่ริมกรรณเจ้าชมนาด

"นั่นสิพระเจ้าค่ะ..."

"เสด็จแม่"

"อ้าว เจ้าภุชงค์ หารือแล้วแล้วหรือลูก"เจ้าชมนาดตรัสเมื่อโอรสองค์โตก้าวบาทเข้ามาในห้องบรรทม

"องค์จันทร์ แลเสด็จพ่อท่านยังหารือกันอยู่พ่ะย่ะค่ะ ลูกจึงปลีกตัวออกมาก่อน"
เช่นนั้นดอกหรือ...เยี่ยงนั้นลูกอยู่เลี้ยงหลานเป็นเพื่อนเจ้าแสงทีหนา ประเดี๋ยวแม่ แลพระมารดาศศิธรจักไปยืดเส้นยืดสายที่สวนพฤกษาสักหน่อย"เจ้าชมนาดตรัส

"พ่ะย่ะค่ะ"

"ไปเดินคลายเมื่อยขบกันสักหน่อยเถิดพระเจ้าค่ะ เสด็จพี่ศศิ"

"จ้ะ"พระมารดาทั้งสองเสด็จออกจากห้องบรรทมพร้อมคนสนิท เหลือเพียงเจ้าภุชงค์ เจ้าแสง แลบ่าวคนสนิท

"เจ้าพเยียหลับอยู่หรือเจ้าแสง"

"พระเจ้าค่ะ เจ้าน้อยเพิ่งจักบรรทมไปเมื่อครู่เองพระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงตรัสตอบ หากแต่ก็มิยอมสบเนตรของเจ้าภุชงค์ นัยน์ตาหวานจับจ้องเพียงดวงพักตร์ของทารกน้อยในอ้อมกอด

"ข้าใคร่อยากอุ้มหลานเสียจริง"

"เจ้าน้อยเพิ่งจักบรรทม หม่อมฉันเกรงว่าหากเปลี่ยนมือจักสะดุ้งตื่นเอาได้พระเจ้าค่ะ"

"เยี่งนั้นหรือ..."

"พระเจ้าค่ะ"

"เช่นนั้น"เจ้าภุชงค์ขยับพระวรกายไปอยู่ด้านหลังเจ้าแสง พระกรแกร่งโอบร่างน้องน้อยไว้แนบพระอุระ หัตถ์อุ่นประคองซ้อนทับมือบางที่โอบอุ้มร่างเล็กของหลานเอาไว้

"...ฝะ ฝ่าบาท"เจ้าแสงสะดุ้งจนเจ้าพเยียสะดุ้งตาม หากแต่มิได้ตื่นจากฝันหวาน

"เช่นนี้ข้าก็จักได้อุ้มหลาน หลานก็มิต้องตืนขึ้นมาไห้งอแง"...แลยังได้กอดเจ้าอีกด้วย

"....."เจ้าแสงเกร็งมิกล้าขยับวรกาย ไอร้อนจากพระอุระกว้าง แลกลิ่นอายบุรุษเพศทำเอาพักตร์งามแดงระเรื่อ

"เจ้าพเยียน่าเอ็นดูนัก"ตรัสชมหลาน หากแต่เนตรมิได้จับจ้องไปที่หลานเลยแม้แต่น้อย พระเนตรทอดมองดวงพักตร์งามของเจ้าน้อยการเวก

"..."

"งามนัก"ขยับพักตร์กระซิบที่ริมกรรณเล็ก สูดกลิ่นแก้วเข้าเต็มพระปับผาสะ

"จะ เจ้าน้อยพเยียงามได้เสด็จพี่บัวเป็นแน่พระเจ้าค่ะ"เจ้าแสงตรัสตอบ

"มิใช่..."

"..."

"...เจ้าต่างหาก...งามจับใจนัก"มิตรัสเปล่า ไล้ปลายพระนาสิกกับขอบกรรณเจ้าแสง

"...ฝะ ฝ่าบาท"เจ้าแสงก้มพักตร์ พระทัยสั่นระรัวคล้ายจักเป็นลม ประคองสติตนโอบอุ้มทารกน้อยไว้มั่น ความร้อนจากพระกรของคนที่โอบกอดตนทางด้านหลังทำเอาแขนเรียวสั่นน้อยๆ

"หึหึหึ"สรวลน้อยๆ ในพระศอ ทรงวางพระหนุบนลาดอังสะเล็กสูดกลิ่นแก้ว พลางทอดพระเนตรหลาน แลเนินอุระเนียนขาวผ่องที่โผล่พ้นขอบผ้าแถบมาให้ยล


ชงโค แลยี่สุ่นที่หมอบอยู่ริมห้องบรรทมลอบมองหน้ากันเลิกลั่ก องค์รัชทายาทภุชงค์ทรงกกกอดเจ้าน้อยของตน โดยใช้เจ้าน้อยพเยียเป็นข้ออ้าง...


.


.


.



"ฝะ ฝ่าบาท"เจ้าแสงตรัสขึ้นเมื่อถูกองค์รัชทายาทกกกอดมาหลายชั่วครู่

"หืม..."

"หม่อมฉันว่าทรงเอาเจ้าน้อยพเยียลงเปลเถิดพระเจ้าค่ะ อุ้มไว้เยี่ยงนี้จักบรรทมได้มินาน"

"ก็ได้เจ้า"จำพระทัยปล่อยร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่น แม้จักเสียดายเหลือแสน ประคองเจ้าแสงที่โอบอุ้มหลานไปส่งที่เปล เจ้าแสงค่อยๆ วางทารกน้อยลงในเปล ก่อนจักไกวเบาๆ ขับกล่อมเจ้าพเยียให้หลับใหลต่อเนื่อง

"..."เจ้าแสงส่งให้ข้าหลวงไกวเปลต่อ แลดำเนินมายังตั่งที่ตนประทับตอนแรก

"อุ้มเจ้าพเยียไว้นานเช่นนี้ แขนเจ้าคงจักเมื่อยขบ"ดำเนินมาประทับข้างกายแนบชิดเจ้าแสง จนคนน้องต้องกระถดกายออกห่าง

"มิได้พระเจ้าค่ะ"

"ส่งแขนมาเถิด ข้าจักนวดให้"

"มิได้พระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวหม่อมฉันให้ชงโค แลยี่สุ่นนวดให้พระเจ้าค่ะ"

"มาเถิดเจ้าแสง ให้ข้าทำเถิดหนา"มิตรัสเปล่า คว้าแขนเรียวขึ้นวางบนพระเพลา พระหัตถ์แนบลงบนผิวนุ่มขาวผ่องออกแรงลูบไล้ บีบนวดเบาๆ จนเจ้าแสงหน้าม้าน

"ฝะ ฝ่าบาท พะ พอแล้วพระเจ้าค่ะ"

"ชู่ว นิ่งเสีย...เจ้าสองคน"ตรัสปรามน้องน้อยพระสุรเสียงอ่อนโยน ก่อนจักหันไปสั่งงานชงโค แลยี่สุ่น

"พระเจ้าค่ะ"

"พระเจ้าค่ะ"หมอบกราบรับพระบัญชา

"ไปห้องเครื่องนำของว่าง แลน้ำชาถวายนายเจ้าทีเถิด"

"พระเจ้าค่ะ เยี่ยงนั้นชงโคจักไปห้องเครื่องนำพระกายาหารว่างถวาย"

"ประเดี๋ยวยี่สุ่นจักอยู่รับใช้เจ้าน้อ..."

"มิต้องดอก...ไปทั้งคู่นั่นแล"เจ้าภุชงค์ตรัสพลางทอดพระเนตรจดจ้องบ่าวสองคนเขม็ง

"เอ่อ พระเจ้าค่ะ"หมอบกราบก่อนจักคลานเข่าออกไป ภายในห้องบรรทมเหลือเพียงเจ้านายทั้งสอง เจ้าพเยียที่กำลังหลับใหล แลข้าหลวงสาวที่ก้มหน้าไกวเปลเจ้าน้อยอยู่คนละฝากห้อง

"เจ้าแสง"

"พระเจ้าค่ะ"

"...ตั้งแต่เกิดเรื่อง ข้าก็มิได้พูดเรื่องนี้กับเจ้าเสียเลย"ตรัสพลางประคองหัตถ์เล็กทั้งสองขึ้นกอบกุม

"..."

"ข้าขออภัยที่ข่มแหงย่ำยีน้ำใจเจ้า"จับปอยผมนุ่มทัดกรรณเล็ก

"มิได้พระเจ้าค่ะ...เรื่องนี้ฝ่าบาทหาได้ผิดไม่"

"ชู่ว...อย่างไรเสียข้าก็ผิด"มิตรัสเปล่าดึงร่างบอบบางเข้ามาในอ้อมพระกร ดวงหน้างามซบแนบกับพระอุระ พระกรแกร่งโอบกอดน้องน้อย พลางลูบกลุ่มผมนุ่มปลอบประโลม

"ฝะ ฝ่าบาท"

"หากเราได้เริ่มต้นกันด้วยดี คงจักดีกว่านี้โข"

"..."เจ้าแสงขบกลีบโอษฐ์ตนแน่น

"...แม้นข้าจักลั่นวาจาไว้ว่าใคร่อยากให้เจ้าพร้อมใจก่อนจึงค่อยตบแต่ง"

"..."

"หากแต่ข้าใคร่อยากให้เจ้าเมตตา อย่าให้พี่รอนานเลยหนา"

"ฝะ ฝ่าบาท"เจ้าแสงช้อนตามองพระพักตร์งามคมคล้ามขององค์รัชทายาท เจ้าภุชงค์เชยหนุมนของน้องขึ้น โน้มพักตร์เข้าใกล้ เจ้าแสงหลุบเนตรหลบ กลั้นหายใจเมื่อพระโอษฐ์อุ่นแนบคลึงลงบนกลีบโอษฐ์นุ่มหยุ่นของตน เจ้าภุชงค์ทำเพียงคลึงเคล้าโอษฐ์น้องมิลุกล้ำ ก่อนจักถอนออก กดจูบที่นลาฎขาว เจ้าแสงรีบผละออกจากพระวรกายเจ้าภุชงค์ราวกับต้องของร้อน

"หมะ หม่อมฉัน...หม่อมฉัน..."เจ้าแสงก้มพักตร์หนุชิดอก ตรัสอึกๆ อักๆ

"ทูลฝ่าบาทพระกายาหารว่างมาแล้วพระเจ้าค่ะ"

"...กินขนมสักหน่อยหนาเจ้าแสง"

"พะ พระเจ้าค่ะ"





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-11-2018 08:04:38 โดย Thichadad3938 »

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เอ็นดูเจ้าพเยียน้อย รอพ่อแม่หวานใส่กัน ขอบคุณค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ BaNoFfEe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อยากแนะนำอะไรนิดนึงค่ะ เด็กทารกตั้งแต่แรกเกอดจนถึง 6 เดือนกินได้แค่นมแม่นะคะ เห็นตอนทำพิธีมีป้อนน้ำให้กินด้วย เรารู้ว่าเป็นนิยาย แต่ต้องมีการนำเสนอข้อมูลอย่างถูกต้องเนาะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
น่ารักมากๆเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
เจ้าพเยียน่าเกลียดน่าชังจริงๆ

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
ท่านปู่เอาอีกแล้ววว 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เอ็นพเยีย
รอลุ้นอีกคู่ รุกเยอะๆๆ อิอิ

ออฟไลน์ Chrysan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1


บัวหลงจันทร์ ๒๔



                หลังจากรอมานาน วันนี้พ่อเหมก็ได้ตบแต่งสายหยุดเป็นเมียเสียที องค์จันทร์ แลเจ้าบัวงามเสด็จมาที่บ้านของสายหยุดตั้งแต่ฟ้ายังมิสาง องค์จันทร์ท่านทรงพูดคุยอยู่กับผู้ใหญ่ที่ชานบ้าน ส่วนเจ้าบัวงาม แลเจ้าพเยียนั้นอยู่ในห้องนอนของสายหยุด เจ้าบัวงามลงหัตถ์แต่งกายให้คนสนิทด้วยองค์เอง ส่วนเจ้าพเยียตัวน้อยก็นอนอุตุบนเตียงของสายหยุดโดยมีอิ่มค่อยเฝ้า

“ขอบพระทัยพระชายาหนาพระเจ้าค่ะ เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่ง”สายหยุดกล่าวกับพระชายาบัวงามที่กำลังสางผมให้ตน

“หึหึหึ มิเป็นไรดอก พี่สายหยุดก็เปรียบเป็นพี่ข้า แค่นี้เล็กน้อยนัก”

“เป็นบุญของสายหยุดพระเจ้าค่ะ”

“คิกๆๆ เอาเถิดๆ มาข้าจักผลัดแป้งให้”เจ้าบัวตรัส แลผลัดแป้งร่ำกลิ่นหอมลงบนใบหน้านวลของสายหยุด แลทาชาดสีแดงลงบนกลีบปากอิ่ม วันนี้คนสนิทของพระชายางามล้ำ ความอิ่มเอมใจฉายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ข้าหลวงสาวที่ถูกเรียกมาช่วยงานเกล้ากลุ่มผมหนาของสายหยุดก่อนจักเสียบด้วยปิ่นเล่มงามที่พระชายาประทานให้

“วันนี้คุณสายหยุดงามนักเจ้าค่ะ”ข้าหลวงสาวอดมิได้ที่จะชม เมื่อคนสนิทของพระชายางามผุดผาดผิดหูผิดตาเช่นนี้

“ขอบใจจ้ะ”

“ถวายพระพรพระชายาเพคะ สายหยุดขบวนขันหมากของพ่อเหมมาถึงแล้วเจ้า”มารดาของสายหยุดหมอบคลานเข้ามาในห้องนอนของบุตร หมอบกราบพระชายา บอกกล่าวบุตรของตนว่าขบวนขันหมาก แลเจ้าบ่าวรูปงามมาถึงเรือนแล้ว

“จ้ะ แม่”สายหยุดขานรับ ใจดวงน้อยสั่นรัว ดวงหน้างามแดงระเรื่อ อีกมิกี่ชั่วยามสายหยุดก็จักเป็นเมียพ่อเหมอย่างถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณีแล้ว



.

.

.



ขบวนขันหมาก แลเจ้าบ่าวเช่นพ่อเหมมาหยุดอยู่ที่ชานบันไดบ้านของสายหยุด แน่ล่ะ ว่าต้องมีเด็กน้อยลูกๆ หลานๆ ของสองบ้านถือสร้อยเงินสร้อยทองกั้นไว้มิให้พ่อเหมได้ขึ้นเรือนโดยง่าย พ่อเหมเผยยิ้มเต็มดวงหน้า แจกจ่ายถุงอัฐให้มิมีอิดออด ใคร่อยากได้เมียใจจักขาดแล้ว

"ให้ข้าเข้าไปหาสายหยุดเถิดหนา"เจ้าเหมกล่าวกับญาติสาวของสายหยุด

"หากใคร่อยากเข้าไปหาพี่สายหยุดก็จ่ายถุงอัฐมาก่อนสิจ๊ะ พี่เหม"

"ได้เจ้า"

"กระไรกันจ๊ะ ถุงเดียวเองหรือ เช่นนี้ข้าควรจักให้พี่เข้าไปหาพี่สายหยุดได้โดยง่ายหรือ"

"โธ่...แลพวกเจ้าใคร่อยากได้กี่ถุงกันเล่าจึงจักพอใจให้ข้าไปหาสายหยุดได้"

"สักสามก็ดีกระมังจ๊ะ"

"สามก็สาม"

"คิกๆๆ ขอบน้ำใจจ้ะพี่เหม เชิญพี่เข้าไปหาพี่สายหยุดเถิด"

"จ้ะ"เจ้าบ่าวก้าวขึ้นเรือนจนไปถึงหน้าห้องนอนเจ้าสาว หากแต่ก็ต้องรีบทรุดหมอบกราบทั้งขบวน เมื่อเจ้าหลวงท่านทรงดำเนินมาขวางไว้

"ถวยพระพรฝ่าบาท"

"เอ็งจักเข้าไปหาสายหยุดได้อย่างไรเจ้าเหม...จ่ายค่าผ่านทางมาก่อนเถิด"

"ทรงใคร่อยากได้กระไรหรือพ่ะย่ะค่ะ"พระองค์คงมิใคร่อยากได้ถุงอัฐดอกกระมัง

"อัฐข้าหรือก็มีมากมาย มิอยากได้จากเจ้าอีก...ไอ้ที่ข้าใคร่อยากได้จากเจ้าคงจักเป็นคำสัตย์สาบานกระมัง สายหยุดก็เปรียบเหมือนน้องข้า..."

"ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันให้สัตย์สาบานว่าจักรัก จักบูชาสายหยุด มีสายหยุดเป็นเมียแต่เพียงผู้เดียว จักมิมีวันทำสายหยุดเสียใจ หากหม่อมฉันผิดคำสาบานขอให้หม่อมฉันมีอันเป็นไปด้วยเถิด"เจ้าเหมพนมมือกล่าวคำสัตย์สาบานชัดถ้อยชัดคำหนักแน่น จนสายหยุดที่อยู่ในห้องได้ยิน ดวงตาหวานคลอน้ำอย่างตื้นตันใจ

"หากเจ้ากล้าให้คำสัตย์สาบานเช่นนี้ ก็เข้าไปรับคู่ชีวิตเจ้าเถิด"ทรงหันพระวรกายผลักบานประตูห้องนอนของสายหยุดให้อ้าออกกว้าง รับเมียที่อุ้มลูกเข้ามาในอ้อมกอด ประคองออกมา แลปล่อยให้เจ้าเหมได้เข้าไปหาสายหยุด

"ฝ่าบาท"เจ้าบัวงามตรัสเรียกภัสดาที่ประคองตนออกมา

"หืม มาพี่อุ้มลูกให้หนาเจ้า"รับร่างน้อยของลูกมาอุ้มพาดพระอังสะ เจ้าพเยียวางปรางกลมลงบนพระอังสะของพระบิดา นัยน์ตาคมเฉี่ยวที่ได้จากพระบิดานั้นหลับพริ้มน่าเอ็นดู



.

.

.



พ่อเหมก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอนของสายหยุด ดวงตาจับจ้องร่างบอบบางในชุดงามที่นั่งพับเพียบรอตนอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องสุคนธ์ วันนี้สายหยุดงามผุดผาดต้องตาต้องใจพ่อเหมเป็นยิ่งนัก ร่างสูงใหญ่ทรุดคุกเข่าตรงหน้าคนงาม ฝ่ามือใหญ่สั่นน้อยๆ แตะเข้าที่แก้มนวล ประคองดวงหน้าหวานไว้

"วันนี้สายหยุดของพี่งามนัก ราวกับนางอัปสรก็มิปาน"

"วันนี้พี่เหมก็งามจ้ะ"สายหยุดตอบพลางก้มหน้าหลบสายตาพ่อเหมที่จับจ้องมา

"ออกไปกันเถิด พี่ใคร่อยากได้สายหยุดเป็นเมียจักแย่แล้ว"

"...พี่เหม"อายม้วนต้วน หากแต่ก็ลุกออกจากห้องนอนตนตามแรงจับจูงของเจ้าบ่าวรูปงาม


​.
.
.


"เป็นคู่ผัว ตัวเมียกันแล้วหนักนิด เบาหน่อยก็ให้อภัยกันหนาลูก"

"จ้ะ แม่"

"ขอรับ ท่านป้า"

"ตายแล้วพ่อเหม เพลานี้แล้วยังจักเรียกป้าอีกหรือเจ้า เรียกแม่เถิด"มารดาของสายหยุดกล่าว พ่อเหมหน้าแดงระเรื่อ ยิ้มกว้างเสียจนปากแทบจักถึงหู

"ขอรับท่านแม่"

"..."ฝ่ายเจ้าสาวเมื่อได้ยินชายหนุ่มกล่าวดังนั้นก็หน้าแดงซ่าน มือบางกำผ้าโจงตนแน่น
"พ่อก็มิรู้จักอวยพรกระไรดี เห็นสายหยุดเป็นฝั่งเป็นฝากับพ่อเหมเช่นนี้ก็ตื้นตันใจนัก รักกัน ดูแลกันไปนานๆ ชั่วลูกชั่วหลานหนาลูก"

"ขอบน้ำใจจ้ะพ่อ"สายหยุดกราบลงแทบเท้าบิดา มือหนาลูกหัวลูกอย่างรักใคร่

"ข้าให้สัญญาว่าจักรัก แลดูแลลูกพ่อไปจนกว่าชีวิตจักหาไม่ขอรับ"

"พ่อเชื่อว่าพ่อเหมทำได้"บิดาของสายหยุดกล่าวพลางตบบ่าลูกเขย

"พ่อ แลแม่รู้ว่าเจ้ารักสายหยุดมาก ดูแลน้องให้ดีหนาลูก เอาลูกเขามาเป็นเมียก็ต้องดูแล แลรักใคร่ให้เหมือนที่พ่อแม่เขารัก เขาดูแล"ท่านเขมบิดาพ่อเหมสั่งสอนบุตรชาย

"ขอรับท่านพ่อ"

"พ่อเจ้าก็พูดไปหมดแล้ว แม่ขออวยพรให้เจ้าทั้งสองก็แล้วกันหนา อยู่เย็นเป็นสุข แคล้วโรค แคล้วภัยหนาลูกหนา"

"ขอบใจจ้ะแม่"บ่าวสาวก้มกราบเท้าบิดา แลมารดาของตน

"ข้าเองก็มิรู้อวยพร แลฝากฝังกระไร แค่คำสัตย์สาบานที่เจ้าเหมมันให้ไว้ก็เพียงพอแล้ว"องค์จันทร์ตรัส ในอ้อมพระกรยังคงมีเจ้าน้อยพเยียซุกซบอยู่แนบพระอังสะ

"ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท"

"ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะองค์จันทร์"

"ข้าขอให้พ่อเหม แลพี่สายหยุดมีความสุขมากๆ หนาจ๊ะ แลก็ขอให้มีลูกมีหลานเต็มบ้านเต็มเมือง จักได้มาเป็นสหายกับเจ้าพเยียของข้า"เจ้าบัวตรัสพลางแย้มพระโอษฐ์

"พระชายา...ขะ ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ"สายหยุดครางในลำคอก่อนจักหมอบกราบนายเหนือหัว

"ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะพระชายาบัวงาม มิต้องกังวลไปหนาพ่ะย่ะค่ะ มิเกินสิ้นปีนี้ เจ้าน้อยพเยียจักมีเพื่อนเล่นแน่นอน"เจ้าเหมกราบทูล

"พี่เหม"สายหยุดยกกำปั้นทุบอกกว้างตุบตับเป็นที่เอ็นดู


.

.

.



เมื่อพิธีศาสน์ตามขนบประเพณีเสร็จสิ้นตามฤกษ์ยามมงคลที่มารดาของบ่าวสาวหามาให้ ต่อไปก็ถึงฤกษ์พิธีร่วมหอที่พระชายาท่านทรงเมตตาหามาให้ โดยฤกษ์ร่วมหอจักมีขึ้นในอีกสามวันถัดจากวันแต่งงานของทั้งคู่ หากแต่เจ้าบัวงามมิยอมปริปากบอกให้พ่อเหมได้รู้ว่าฤกษ์ร่วมหอจักมีขึ้นเมื่อใด แลรับสั่งห้ามผู้ใดที่รู้เวลาฤกษ์ร่วมหอบอกกล่าวพ่อเหมอีกด้วย เมื่อแต่งกันแล้ว ยังมิได้ร่วมหอบ่าวสาวห้ามพบกัน เพื่อมิให้เผลอใจชิงสุกก่อนห่ามก่อนจักถึงฤกษ์ร่วมหอ หากฤกษ์ร่วมหอต้องรอนานเป็นปีพ่อเหมจักมิขาดใจตายก่อนหรือ

วันรุ่งขึ้นหลังจากวันแต่งงาน พอเหม แลสายหยุดก็กลับเข้าวังหลวงถวายการรับใช้เจ้านายตน โดยที่พ่อเหมมิรู้เลยว่าคืนมะรืนนี้แล้วที่จักถึงฤกษ์ร่วมหอ

“หึหึหึ ทนเอาหน่อยก็แล้วกันหนาเจ้าเหม”องค์จันทร์ทรงสรวลขณะใช้ผ้าอ้อมซับน้ำลายที่มุมปากจิ้มลิ้มของลูกน้อย ส่วนเจ้าบัวงามนั้นทรงอยู่กับสายหยุด เตรียมตัวสำหรับการร่วมหอคืนมะรืนนี้

“โธ่ ฝ่าบาท พระชายาทรงมิยอมบอกว่าทรงได้ฤกษ์ร่วมหอเป็นวันไหนเยี่ยงนี้ หม่อมฉันอึดอัดใจนัก หากฤกษ์ร่วมหอเป็นปีหน้าเล่าพ่ะย่ะค่ะ เยี่ยงนี้หม่อมฉันจักมีลูกทันเป็นเพื่อนเล่นกับเจ้าน้อยพเยียได้อย่างไรเล่าพ่ะย่ะค่ะ”

“หึหึหึ ลูกอยากมีเพื่อนหรือไหมเจ้าพเยีย”ทรงตรัสถามลูกน้อยในอ้อมพระกร นัยน์ตาเฉียวคมของเจ้าพเยียจ้องพักตร์บิดา ก่อนที่ปากจิ้มลิ้มจักอ้าหาวออกมาหวอดใหญ่

“ต้องทรงอยากมีเพื่อนสิพ่ะย่ะค่ะ”

“ฮะฮ่าๆๆ เอ็งจักมารู้ใจเด็ก ๑ เดือนได้อย่างไร”ทรงสรวล ก่อนจักรีบลูบหลังปลอบลูกที่สะดุ้งจนเบะปาก ใบหน้าเล็กเตรียมแผดเสียงร้อง

“แอ๊ะ..”

“อะ...โอ๋ ลูกจ๋า พ่อขอโทษหนาเจ้า มิร้องหนาเด็กดี”พระนาสิกแตะแผ่วเบาที่ปรางนุ่มหอมกลิ่นน้ำนม เจ้าพเยียน้อยยกกำปั้นขึ้นอม

“ฮึก แอ๊”ร้องประท้วง เมื่อบิดาจับมือน้อยออกจากปากจิ้มลิ้ม พลางใช้ผ้าอ้อมซับคราบน้ำลายที่ชุ่มกำปั้นเล็ก

“หม่อมฉันก็ใคร่อยากอุ้มลูก ปลอบลูกเช่นกันหนาพ่ะย่ะค่ะ”พ่อเหมบ่นอุบเมื่อเห็นองค์จันทร์ทรงหยอกล้อเจ้าน้อยพเยีย

“หึหึหึ เจ้าบัวห้ามมิให้ข้าบอกเจ้าว่าฤกษ์ร่วมหอของเจ้า แลสายหยุดเป็นเมื่อใด หากแต่ข้าจักบอกให้ก็แล้วกันหนา เจ้าจักได้มิอกแตกตายไปเสียก่อน”

“...”

“มินานอย่างที่เจ้าคิดดอกเจ้าเหม บัวงามของข้ามิใจร้ายกับเจ้าดอก”

“ขอให้ทรงเมตตาหม่อมฉันมากๆ เถิดพ่ะย่ะค่ะ”

“หึ มิเกินสิ้นปีดอก เจ้าก็จักมีลูกมาเป็นเพื่อนเล่นลูกข้าแน่”

“เป็นพระมหากรุณาพ่ะย่ะค่ะ”



.

.

.



ทางด้านเจ้าบัวงามที่ยึดตัวสายหยุดไว้ก็กำลังนั่งกำกับข้าหลวงสาวทั้งหลายที่รุมล้อมขัดสีฉวีวันให้คนสนิทของพระชายา เจ้าบัวงามนั่งพับเพียบอิงหมอนขิดบนตั่งไม้สักทองตัวใหญ่ หัตถ์เรียวสะบัดพัดจีนเบาๆ เป็นจังหวะดูสง่า

“ลงขมิ้นอีกหน่อยหนาอิ่ม ผิวพี่สายหยุดจักได้ผ่องๆ”

“เพคะ พระชายา”



.

.

.



เพลาผ่านไปจนถึงวันร่วมหอขององครักษ์หนุ่ม แลคนสนิทของพระชายา เรือนท้ายวังหลวงของพ่อเหมถูกตระเตรียมสำหรับพิธีร่วมหอที่จักเกิดขึ้น โดยที่เจ้าของเรือนอย่างพ่อเหมมิได้ล่วงรู้ด้วย เหล่าข้าหลวงต่างช่วยกันปัดกวาดเช็ดถู เปลี่ยนที่นอนหมอนมุ้งใหม่ บนหมอนมีมาลัยมะลิพวงโตนอนนิ่งส่งกลิ่นหอม หน้าต่างทุกบานถูกประดับด้วยอุบะเครื่องแขวนทรงพู่กลิ่น ๕ ชั้น เปลี่ยนห้องนอนองครักษ์ทหารหาญ ให้กลายเป็นลานพิธีร่วมหอที่สมบูรณ์

 “ออกแรงหน่อยสิวะ! เช่นนี้จักไปสู้ศัตรู ได้เยี่ยงไร!”พ่อเหมตะคอกทหารที่กำลังฝึกวิชาดาบอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน มิได้เจอเมียมาสามวันแล้วจักไปใคร่อารมณ์ดีได้อยู่ใย แผ่นอกกว้างเปลือยอาบไปด้วยเหงื่อไคล

“ขอประทานอภัยขอรับท่านเหม”

“เริ่มใหม่!”

“ขอรับ”



.

.

.



“ท่านเหมขอรับ ท่านเหม”

“เออ...มีกระไรวะ”

“ฝ่าบาททรงเรียกหาท่านเหมขอรับ”

“ฝ่าบาทหรือ ทรงมีกระไรเยี่ยงนั้นหรือ เอ็งรู้หรือไม่”

“มิทราบขอรับ ทรงรับสั่งเพียงแต่ให้มาตามท่านเหมไปเข้าเฝ้าขอรับ”

“...”

.

.

.



“ฝ่าบาท ทรงเรียกหาหม่อมฉัน มีกระไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ไปอาบน้ำ อาบท่า แลแต่งตัวให้งามเตรียมเข้าพิธีร่วมหอไปไอ้เหม”

“...”

“ยัง...ยังมิไปอีก เอ็งจะเข้าหอกับสายหยุดหรือไม่วะ”

“ข เข้าพ่ะย่ะค่ะ เข้า หม หม่อมฉันจักไปอาบน้ำอาบท่าประเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”หมอบกราบนายเหนือหัว แลวิ่งออกจากตำหนักทรงงาน ลืมเสียสิ้นความสำรวม

“หึหึหึ”องคืจันทร์ทอดพระเนตรตามหลังองครักษ์คนสนิท แลสรวลเบาๆ



.

.

.



                เมื่อวิ่งออกจากตำหนักทรงงาน พ่อเหมก็ถูกทหารในปกครองลากไปยังลำธารท้ายวังหลวง ทหารหนุ่มสี่นายช่วยกันขัดถูขี้ไคลให้ลูกพี่อย่างขมักเขม้น

“ไอ้ด้วง เบาๆ หน่อยสิวะ หนังกูจักหลุดติดใยบวบออกมาแล้วหนาโว้ย”พ่อเหมโวยวายหน้าดำ หน้าแดง

“โธ่ พี่เหม จักได้สะอาดหมดจดเยี่ยงไรเล่า นี้คืนเข้าหอเชียวหนาพี่”ไอ้ด้วงว่าพลางโปะขมิ้นบดผสมดินสอพองลงบนแขนกำยำของลูกพี่

“นั่นซีพี่เหม หากมิขัดถูให้สะอาด ประเดี๋ยวสายหยุดจักรังเกียจ แลพาลมิให้จับต้องเอาหนา”ไอ้ปานทหารหนุ่มว่ากระเซ้า แลหัวร่อคิกคักกับเพื่อนอีกสามคน

“ประเดี๋ยวเถิดมึง”รังเกียจกระไร มิให้จับต้องกระไร สายหยุดเป็นเมียกูมาตั้งนมนานแล้วต่างหาก ก่นด่าอยู่ในใจ

“เอ้า ไอ้เขียว มึงล้างผมให้พี่เหมหน่อยซีว”

“เออๆ”ว่าแล้วก็ยกถังน้ำขึ้นเทราดหัวลูกพี่จนน้ำหมดถัง

“ไอ้พวกเวร”พ่อเหมสบถพลางลูบน้ำออกจากหน้า

“คิกๆ”นี่พวกมึงมาช่วยขัดสีกู หรือ มาเอาคืนกูกันแน่



.

.

.



“แล้วแล้วพี่เหม”

“งามราวกับรุกขเทวดาเชียวพี่เหม”

“ขอบใจโว้ย”

“คิกๆ”

“พี่เหม นี่เป็นของขวัญที่พวกข้าตั้งใจเอามาให้พี่ในวันร่วมหอเชียว”

“กระไรวะ”

“นี่จ้ะ”ไอ้เขียวว่าพลางเอาไหเหล้าออกมาจากด้านหลัง

“รับรองเพียงแค่สามอึก พี่คึกเป็นม้าศึกแน่นอน”

“ไอ้พวกเวร”ตั้งท่าจักไล่เตะ

“เหวอ ประเดี๋ยวพี่เหม พวกข้าตั้งใจเอามาให้จริงๆ หนา”

“...เห็นแก่น้ำใจพวกมึงดอกนะ หากแต่พวกมึงจงรู้ไว้เลยว่ากูมีน้ำยาพอ มิต้องพึงของพวกนี้ดอกโว้ย”กล่าวพลางคว้าไหเหล้ามากระดกเสียครึ่งไห

“ล่อเสียครึ่งไหเลยหนาพี่เหม”

“อะแฮ่ม เหล้ามันรสดีดอกโว้ย พวกมึงนี่”

“จ้าๆ”



.

.

.



                พ่อเหมกลับมายังเรือนของตนที่ใช้เป็นลานพิธีร่วมหอของตน แลสายหยุด องค์จันทร์ แลพระชายาทรงประทับอยู่บนแคร่หน้าเรือน

“ถวายพระพรฝ่าบาท แลพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”

“สายหยุดรอเจ้าอยู่ในห้องนอนแล้ว”องค์จันทร์ตรัสจบ พ่อเหมก็เหลือบมองหน้าต่างห้องนอนตนที่ถูกประดับด้วยอุบะเครื่องแขวนดอกไม้สดทันที

“พ่ะย่ะค่ะ”

“เอาล่ะๆ ใจเอ็งคงไปรอกายอยู่ในห้องแล้วเป็นแน่ ข้า แลเจ้าบัวมาส่งแค่นี้แล”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท แลพระชายาพ่ะย่ะค่ะ”

“...”

“...”ทั้งสองพระองค์มิตรัส เพียงแต่แย้มสรวลให้ก่อนจักเสด็จกลับตำหนักหลวง เมื่อทั้งสองพระองค์เสด็จกลับแล้ว พ่อเหมก็รีบวิ่งขึ้นเรือนทันที

แอ๊ด

สองมือผลักบานประตูไม้ออก กลิ่นหอมหวานของดอกไม้ที่ประดับประดา แลกลิ่นกำยานที่ถูกจุดลอยเข้าจมูกโด่งให้สูดดม

“...สายหยุด”ภาพตรงหน้าแทบจักทำให้พ่อเหมลงไปนอนแดดิ้น สายยหุดคนงามนั่งพับเพียบรออยู่กลางฝูกนอนที่ถูกเปลี่ยนใหม่อบบุหงารำไปจนหอมคลุ้ง

                สายหยุดคนงามนุ่งผ้าแถบผืนบางเฉียบสีกลีบบัว แทบมิปกปิดเม็ดบัวงามที่ชูชันดันเนื้อผ้า ไหนจักผ้าโจงผืนนิ่มที่บางมิแพ้กันอีก พ่อเหมลมแทบจับ ยกมือทาบอกตัวลูบไปมา

“พี่เหม”

“จ๋า”ปิดประตูลงกลอน แลสาวเท้าเข้าไปหาเมียคนงาม พ่อเหมนั่งลงข้างร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่น

“สายหยุดฝากตัวด้วยหนาจ๊ะ”สายหยุดว่าพลางวางมาลัยพวงโตลงบนตักแกร่ง แลหมอบกราบฝากเนื้อ ฝากตัวกับผัว

“พี่รับฝาก พี่รับฝากเจ้า สัญญาจักดูแลอย่างดี ยุงมิให้ไต่ ไรมิให้ตอม”ประคองต้นแขนนุ่มมือ ช้อนคางมนให้เงยหงาย พิศดวงหน้างามอย่างหลงใหล ก่อนจักแตะริมฝีปากลงบนกลีบปากนิ่ม บดเบียดตะกรุมตะกราม ฝ่ามือร้อนดันร่างบางให้นอนลงบนฟูกหอมกลิ่นบุหงารำไป ใบหน้าคมคร้ามซุกไซร้ซอกคอขาว ปัดป่ายมือไปทั่วร่างงาม

“อ๊ะ พี่เหม”

“สายหยุดจ๋า คนดีของพี่เหม”













« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2019 16:24:49 โดย Thichadad3938 »

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เพิ่งเจอเรื่องนี้ ชอบมากเลยยยยยย
ตามอ่านก่อนนน
เป็นกำลังใจให้นะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
มาต่อแล้วววววววว

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ไม่เกินสิ้นปีนี้ แหง่ล่ะก็เล่นปั้มกันมาก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่ป่านนี้ติดไปแล้วหรือพ่อเหม

ออฟไลน์ FXEXRXN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เอ็งตายแน่ไอ้สิน!!!!

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: เข้ามารอ รอ ร๊อ รอ ค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด