บัวหลงจันทร์ [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนที่ ๒๖ (จบ) ครบ ๗.๓.๖๒ หน้า ๗ ต่อในกระทู้เดิม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บัวหลงจันทร์ [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนที่ ๒๖ (จบ) ครบ ๗.๓.๖๒ หน้า ๗ ต่อในกระทู้เดิม  (อ่าน 74507 ครั้ง)

ออฟไลน์ donut4top

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ชอบชื่อเรื่องขอฃแต่ละคู่มากเลย ชมนาดเย้าภุมริม บัวหลงจันทร์ ภุชงค์เล่นแสง

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



 


บัวหลงจันทร์ ๑๙


หลังจากเดินทางมาทั้งวัน จักหยุดพักก็เพียงเสวยกายาหาร เพลานี้อาทิตย์ใกล้ลับฟ้าเต็มทีแล้ว ขบวนเสด็จจึงเร่งควบม้าให้ไวขึ้นเพื่อให้ถึงที่ตั้งกระโจมที่เหล่าข้าหลวงล่วงหน้าไปจัดเตรียมให้ก่อนฟ้าจักมืด ราตรีจักมาเยือน

“ขออภัยหนาเจ้าน้อย”ตรัสพลางรวบเอวน้อยให้แนบพระวรกายก่อนจักควบม้าให้ไวขึ้น

“อ๊ะ”เจ้าแสงที่ยังมิหายตกใจ เมื่ออาชาทะยานเร็วขึ้นหัตถ์เล็กก็ผวาจับฉลองพระองค์ตรงพระอุระขององค์รัชทายาท เบียดกายเข้าหา ซบพักตร์กับอุระอุ่นอย่างหวาดกลัว


กุบกับๆ


.
.
.



“...ถึงกระโจมที่พักแล้วเจ้าน้อย”แม้อาชาจักหยุดนิ่งแล้ว เจ้าแสงก็ยังคงมิรู้ตัว พักตร์งามซุกซบอุระอุ่นมิห่าง

“....”

“..เจ้าน้อย”

“พะ..พระเจ้าค่ะ”

“...ถึงกระโจมที่พักแล้วเจ้า”กระซิบบอกอีกคราเจ้าแสงจึงได้เอาพักตร์ออกจากอุระกว้าง กวาดพระเนตรไปรอบๆ เห็นกระโจมหลายหลัง มีทหารยามเดินถือคบเพลิงตรวจตราหลายนาย

“..ขะ ขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ”

“มิเป็นไร...”ตรัสก่อนจักเหวี่ยงพระวรกายลงจากหลังอาชา เมื่อพระบาทยืนมั่นคงแล้วจึงจับเข้าที่เอวบางออกแรงยกน้องน้อยลงจากหลังม้า

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”พนมมือไหว้

“...เจ้าน้อย”

“เจ้าน้อยพระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่น แลชงโคที่เห็นนายตนก็รีบวิ่งจากเกวียนเสบียงมาประกบขนาบข้างเจ้าแสงทันที

“เจ้าสองคนพาเจ้าน้อยไปสรงน้ำก่อนเถิด ประเดี๋ยวค่ำมืดแล้วอากาศจักเย็น”

“พระเจ้าค่ะ”หมอบกราบองค์รัชทายาทต่างแคว้น ก่อนจักประคองร่างแน่งน้อยของนายตนเข้ากระโจม ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยกระโจมของฝ่าบาททั้งสามพระองค์




   เมื่อยี่สุ่น แลชงโคพานายตนเข้ามาในกระโจมที่พักแล้ว ก็ประคองเจ้าน้อยไปประทับที่ตั่งไม้ แลทรุดลงนั่งขนาบข้าง บ่าวทั้งสองออกแรงบีบนวดปลีน่องเล็กคนละข้างให้เจ้าน้อยคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง

“เป็นเยี่ยงไรบ้างพระเจ้าค่ะ มิเคยนั่งอาชามาก่อน ทรงรู้สึกอย่างไรพระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่นทูลถามอย่างใคร่รู้ แม้จะอยู่ในเกวียนขนเสบียงแต่ก็พยายามชะเง้อคอดูนายตน ถึงจักเห็นเพียงพระขนองขององค์ภุชงค์ก็เถิดหนา

“..ก็...สนุกดีหนา..ข้ามิเคยนั่งมาก่อน หาได้น่ากลัวอย่างที่คิดไม่”เจ้าแสงตรัสตอบอ้อมแอ้ม

“สนุกหรือพระเจ้าค่ะ มิน่ากลัวสักน้อยเลยหรือพระเจ้าค่ะ”

“ก็...น่ากลัวบ้างตอนที่อาชาวิ่งเร็วๆ”

“.....”

“.....”

“..แต่องค์รัชทายาทท่านก็ค่อยตรัสปลอบว่ามิต้องกลัว...ก็...มิได้น่ากลัวนัก”พระสุรเสียงแผ่วจนแทบมิได้ความ หากแต่บ่าวทั้งสองที่เอียงหูฟังกลับได้ยินชัดเจน

“ทรงตรัสปลอบเจ้าน้อยมาตลอดทางเลยหรือพระเจ้าค่ะ”

“..อะ..อืม”

“งื้อออ”

“งื้อออ”

“..ปะ..เป็นกระไรกัน..ยี่สุ่น..ชงโค”เจ้าแสงสะดุ้งน้อยๆเมื่อคนสนิททั้งสองพากันกัดปากตนเองเปล่งเสียงประหลาดออกมาให้ได้ยิน

“หามิได้พระเจ้าค่ะ”

“หม่อมฉันสองคนเพียงเขินอายแทนเจ้าน้อยก็เท่านั้น”ชงโคว่า

“..ขะ เขินอายแทนข้าหรือ...พวกเจ้านี่ก็หนา”พระปรางแดงก่ำ มือน้อยตีเปาะแปะที่แขนคนสนิททั้งสองไปคนละที

“คิก..หม่อมฉันว่าสรงน้ำก่อนดีหรือไม่พระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวมืดแล้วอากาศจักเย็นเอา แลจักประชวรเอาได้”ยี่สุ่นว่า

“อื้ม”




   หนึ่งนาย สองบ่าวผลัดผ้านุ่งเอาผ้าคลุมไหล่พันกายมิดชิด ก่อนจักพากันไปที่ลำธารด้านหลังกระโจม ยี่สุ่น แลชงโคถือตะเกียงคนละดวงขนาบข้างเจ้าแสงไปตามทาง

“อากาศเย็นนัก รีบสรงเถิดพระเจ้าค่ะ นี่ก็เริ่มมืดแล้วด้วย”บ่าวทั้งสองคนช่วยกันขึงผ้ากับต้นไม้บดบังนายตนจากสายตาผู้อื่น

“อื้ม”เจ้าแสงปลดผ้าคลุมไหล่ออกเผยให้เห็นลาดไหล่เนียน บ่าวทั้งสองก็เช่นกัน ทั้งสามพากันลงน้ำ ยี่สุ่น แลชงโคช่วยกันถูล้างคราบไคลตามพระวรกายขาว อีกทั้งยังใช้ผลมะกรูดสางพระเกศาให้สะอาดหมดจด

“พวกเจ้าก็อาบเถิด ประเดี๋ยวจักป่วยไข้เอา”

“เจ้าน้อยจักขึ้นก่อนหรือไม่พระเจ้าค่ะ”

“ยังดีกว่า หากขึ้นจากน้ำคงหนาวเป็นแน่ ข้าแช่น้ำรอจักดีกว่า”

“พระเจ้าค่ะ”มิใช่เป็นเพียงนายบ่าว หากแต่เป็นสหายที่เห็นกันมาตั้งแต่จำความได้จึงได้สนิทชิดเชื้อกันเป็นอย่างมาก




“เจ้าขันธ์”พระสุรเสียงทุ้มตรัสเรียกองครักษ์คนสนิทที่คุกเข่าก้มหน้ารอรับพระบัญชา

“พะย่ะค่ะ”

“เจ้าออกไปก่อน แลอย่าให้ใครเข้ามาบริเวณลำธารเด็ดขาด”

“พะย่ะค่ะ”




   องค์ภุชงค์ทอดพระเนตรเงาน้องน้อยผ่านผ้าที่ขึงกั้น ก่อนจักประทับยืนเฝ้ามิให้ใครผ่านไปทางลำธาร จนกระทั่ง นาย บ่าวทั้งสามขึ้นจากลำธาร ยี่สุ่น ชงโคช่วยกันเก็บผ้าที่ขึง ก่อนจักรีบประกบนายตนกลับกระโจม

“อ๊ะ”ทั้งสามสะดุ้ง เมื่อเห็นองค์รัชทายาทภุมริกาทรงประทับยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในเงามืด อีกทั้งยังเปลือยท่อนบน นุ่งเพียงโจงกระเบนสีดำเขม่าเท่านั้น

“เอ่อ...สรงน้ำแล้วแล้วหรือเจ้าน้อย”

“พะ..พระเจ้าค่ะ..ทรง..มาประทับยืนกระไรตรงนี้พระเจ้าค่ะ”

“อะ อ่อ..ข้า...ข้ามา..มา...มาเดินเล่น มิมีกระไรดอก รีบเข้ากระโจมเถิด เพิ่งขึ้นจากน้ำโดนลมมากๆจักประชวรได้”

“...พระเจ้าค่ะ”เจ้าน้อยแสงแรกก้มพักตร์ลง ทรุดตัวลงหมายจักหมอบกราบ

“มิต้องดอก...รีบเข้ากระโจมเถิด”ประคองต้นแขนนุ่มไว้

“...พระเจ้าค่ะ”

“เจ้าขันธ์ๆ”ลับหลังเจ้าน้อยแสงแรก แลบ่าว องค์ภุชงค์ก็ร้องเรียกหาองครักษ์คนสนิท

“พะย่ะค่ะองค์ภุชงค์...มีกระไรให้หม่อมฉันรับใช้หรือพะย่ะค่ะ”วิ่งหน้าตั้งมาคุกเข่าพนมมือรับพระบัญชา

“ไปหาดอกแก้วมาให้ข้า”

“หา..ในป่านี่หรือพะย่ะค่ะ”

“เออ..ไปหาดอกแก้วมาให้ข้า”

“เอ่อ..พะย่ะค่ะ”





   หลังจากเจ้าขันธ์ตามหาดอกแก้วแทบจักพลิกผืนป่า องครักษ์หนุ่มก็กลับมาพร้อมดอกแก้วสีขาวนวล ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเต็มตะกร้าหวายขนาดย่อม เจ้าขันธ์เอาผ้าชุบน้ำรองก้นตะกร้าก่อนจักเอาดอกไม้บอบบางวางจนเต็มพื้นที่ แลใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดคลุม

“ได้มาแล้วพะย่ะค่ะ”นำตะกร้าหวายถวายนายเหนือหัว

“ขอบใจ”

“มิได้พะย่ะค่ะ”

“...ไอ้ขันธ์”

“พะย่ะค่ะ”

“นี่เอ็งประชดข้าฤา”ตรัสถามเมื่อทอดพระเนตรดอกแก้วในตะกร้าหวาย

“มิได้ มิพะย่ะค่ะ”

“เอ็งเก็บมาเพียงนี้หมดป่าแล้วกระมัง”

“...เจ้าน้อยแสงแรกจักได้ทราบอย่างไรเล่าพะย่ะค่ะว่าพระองค์ทรงเอ็นดูเจ้าน้อยมากเพียงใด”

“.....”

“.....”

“เอ็งพูดดี...รอดไปก็แล้วกัน”

“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ”



.
.
.


“เจ้าน้อย...”

“.....”

“เจ้าน้อยแสงแรก”

“พระสุรเสียงองค์ภุชงค์นี่พระเจ้าค่ะ”ชงโคที่ถวายงานบีบนวดปลีน่องเล็กทูลความ

“นั่นสิพระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่นที่กำลังจัดที่นอนหมอนมุ้งเอ่ยสำทับ

“เจ้าไปรับหน้าพระองค์ที่เถิดชงโค”เจ้าแสงตรัส

“..ถวายพระพรพระเจ้าค่ะองค์รัชทายาท”ชงโคออกไปหน้ากระโจมหมอบกราบชายสูงศักดิ์

“เจ้าน้อยเล่า..เจ้า..”

“ชงโคพระเจ้าค่ะ..ทูลองค์รัชทายาท เจ้าน้อยประทับอยู่ข้างในพระเจ้าค่ะ”

“เยี่ยงนั้นข้าขอเข้าไปพบหน่อยหนาชงโค”ตรัสจบก็ดำเนินเข้ากระโจมทันทีมิรอให้ชงโคได้ทันห้ามปราม

“อ๊ะ..องค์รัชทายาท”ชงโครีบรุดลุกขึ้นตามหลังไปติด

“อ๊ะ”เจ้าแสงที่เห็นองค์รัชทายาทเข้ามาในกระโจมตนก็ตกพระทัย ลนลานคว้าผ้าคลุมไหล่สีหวานขึ้นคลุมอังสะบาง ปกปิดความขาวนวลเนียนให้พ้นจากสายพระเนตร

“..ขออภัยที่ข้าเสียมารยาท”

“มะ มิได้พระเจ้าค่ะ..ทรงเข้ามาหาหม่อมฉันถึงกระโจมมีอันใดหรือพระเจ้าค่ะ”

“ข้าจักมาบอกว่าข้าหลวงเตรียมสำรับแล้วแล้ว ออกไปกินเถิด เดินทางมาเหนื่อย อีกทั้งเมื่อกลางวัน เจ้ายังกินไปเพียงเล็กน้อยเยี่ยงแมวดม คงจักหิวแล้วกระมัง”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ หากแต่ให้ข้าหลวงมาตามก็ได้พระเจ้าค่ะ มิต้องลำบากมาด้วยพระองค์เองดอก”

“ลำบากที่ใดกันเจ้า ไปเถิด ข้าจักพาไป ข้างนอกมืดแล้ว”ยื่นพระหัตถ์ให้น้องน้อย

“.....”เจ้าแสงลอบทอดพระเนตรบ่าวทั้งสองของตน ก็เห็นว่าทั้งคู่หมอบกราบก้มหน้าหลบตาเป็นพัลวัน

“.....”

“..ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”วางหัตถ์ตนลงบนพระหัตถ์ใหญ่




   อยู่กลางป่าเช่นนี้ องค์ภุมรินจึงมีรับสั่งให้ตั้งสำรับรอบกองไฟ เจ้านายทั้งสี่พระองค์ประทับบนเสื่อที่ปูรอบกองไฟ มีสำรับตั้งให้ ส่วนเหล่าข้าหลวงต่างก็หมอบพับเพียบรอรับพระบัญชาอยู่มิห่าง

“มาแล้วหรือเจ้าน้อย”องค์ภุมรินตรัสขึ้นเมื่อทอดพระเนตรเห็นสุณิสาที่เข้ามาพร้อมโอรสองค์โต

“ขอประทานอภัยที่หม่อมฉันชักช้าพระเจ้าค่ะ”หมอบกราบอ้อนช้อย

“มิเป็นไรๆ..มาแล้วก็ลงมือเสวยเถิด”เมื่อตรัสเช่นนั้น องค์จันทร์ แลเจ้าภุชงค์จึงลงมือจัดการสำรับของตน เจ้าแสงลอบมองพระองค์นั้น พระองค์นี้คนละที

“...เป็นกระไรไปเจ้า”องค์ภุชงค์ที่ประทับข้างๆ เอียงพักตร์มากระซิบถาม

“มิได้พระเจ้าค่ะ”เจ้าปฏิเสธก่อนจักลงมือเสวยสำรับของตน

“กินเยอะๆหนาเจ้า ประเดี๋ยวกลับถึงภุมริกาแล้ว ข้าจักให้แม่ครัวห้องเครื่องทำสำรับอาหารพื้นเมืองของภุมริกาให้”องค์ภุชงค์ตรัสพลางแย้มพระโอษฐ์อบอุ่นให้

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”พนมมือไหว้

“...ประเดี๋ยวรับของคาวแล้ว กินผลไม้ล้างปากเสียหน่อยหนา ข้าให้เจ้าขันธ์ไปเก็บผลไม้ป่ามา รสหวานหอมนัก”

“พระเจ้าค่ะ”



   ในขณะที่เจ้าภุชงค์ แลเจ้าแสงพูดคุยกันเบาๆสร้างโลกส่วนตัวกันสองพระองค์ องค์ภุมริน องค์จันทร์ แลเจ้าเหมที่ต้องห่างอกเมียรักได้แต่มองด้วยความอิจฉาตาร้อน กอดผ้าแถบผ้านุ่งที่พกมาแนบอกแน่น

“...ลูกกูมันมิเห็นใจพ่อมันเลย”องค์ภุมรินตรัสพึมพำ

“.....”ในขณะที่องค์จันทร์รีบเสวยสำรับของตน รีบเข้ากระโจมบรรทม จักได้ถึงเช้าไวๆ

“หากเสวยแล้วแล้วไปเดินชมจันทร์กันดีหรือไม่เจ้าน้อย จักได้มิอึดอัดท้อง”องค์ภุชงค์ว่าพลางใช้พระองคุลีเกลี่ยเม็ดข้าวที่ติดปรางขาวออกให้

“อ๊ะ..ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงก้มพักตร์หลบ น่าอายนัก

“หึหึหึ...มิเป็นไรดอก น่าเอ็นดูนัก”

“.....”เจ้าแสงปรางแดงก่ำ

“แลว่าอย่างไร หากอิ่มแล้วจักไปเดินชมจันทร์กับข้าหรือไม่”

“...พระเจ้าค่ะ”



.
.
.


“ราตรีนี้ จันทร์ดวงโตนัก ว่าหรือไม่เจ้าน้อย”

“พระเจ้าค่ะ...ราตรีนี้จันทร์ดวงโต แลสว่างนัก”

“เจ้าขันธ์”ทรงตรัสเรียกองครักษ์คนสนิทที่คอนรับใช้อยู่ห่างๆ

“พะย่ะค่ะ”หมอบคลานนำตะกร้าดอกแก้วถวาย

“ดอกแก้วตะกร้านี้ ข้าให้เจ้าขันธ์ไปเก็บมาตั้งแต่เย็นแล้ว....ข้าให้เจ้าน้อย”

“...ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”ประนมหัตถ์ไหว้คนพี่

“มิเป็นไรดอก”ยื่นพระหัตถ์เข้ารับไหว้หัตถ์เล็ก

“.....”เจ้าแสงค่อยๆ ดึงหัตถ์ตน ออกจากพระหัตถ์อุ่น ดวงหน้างามแดงระเรื่อ รับตะกร้าดอกแก้วหอมกรุ่นมาคล้องพระกรเรียวเล็กของตน


.
.
.


   เพลานี้ที่ตำหนักในที่ประทับของพระชายาบัวงามเงียบกริบ แม้จักมีข้าหลวงอยู่ถวายงานหลายคนก็มิมีเสียงใดเล็ดลอดออกจากปาก ด้วยพระชายาคนงามนั้นต้องห่างพระภัสดาหลายวัน หลายคืนไหนจักอาการแพ้ท้องที่ดูเหมือนลูกจักงอแงเหลือเกินที่พ่อมิอยู่ จึงได้พระพักตร์บึ้งตึง มีเพียงสายหยุดคนสนิทเท่านั้นที่เข้าพระพักตร์ติด

“ทูนหัวของสายหยุด อย่าโกรธกริ้วไปเลยหนาพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวเจ้าน้อยในพระครรภ์จักกริ้วตามหนาพระเจ้าค่ะ”

“ใช่ว่าข้าใคร่โกรธกริ้วเช่นนี้ไม่ พี่สายหยุด..หากแต่มันเป็นไปเอง”เจ้าบัวกึ่งนั่งกึ่งนอนเท้าหมอนขิด หัตถ์อีกข้างถือพัดจีนสะบัดไปมา

“เยี่ยงนั้นทรงรับผลหมากรากไม้สักหน่อยดีหรือไม่พระเจ้าค่ะ จักได้รู้สึกดีขึ้น”บีบนวดแขนเล็กอย่างเอาพระทัย

“ก็ดีจ้ะ”เมื่อรับสั่งเช่นนั้น สายหยุดจึงได้พยักหน้าให้ข้าหลวงสาวเร่งไปห้องเครื่องนำผลหมากรากไม้ถวาย พร้อมน้ำขิงร้อนๆ


.
.
.


“เจ้าบัว.....”เจ้าชมนาดที่กำลังปักผ้าอยู่เงยพักตร์ขึ้นแย้มโอษฐ์ เมื่อเห็นโอรสองค์เล็กเข้ามาในคลองจักษุ

“ถวายพระพรเสด็จแม่พระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ...เป็นเยี่ยงไรบ้างเจ้า”

“...บัวรู้สึกมิค่อยจักดีพระเจ้าค่ะ จึงมาเข้าเฝ้าเสด็จแม่”

“เป็นกระไรไปเจ้าบัว ตามหมอหลวงหรือไม่ลูก เจ็บเคืองตรงไหนบอกแม่เถิด”เจ้าชมนาดวางผ้าที่ปักลงบนพานก่อนจักผุดลุกเข้าไปหาลูก

“มิได้พระเจ้าค่ะ..ลูกรู้สึกมิใคร่จักดี..ลูกเบื่อหน่าย แลมองกระไรก็ขัดหู ขัดตาไปหมดเลยพระเจ้าค่ะ”

“อ๋อ...หลานยายคงจักเกเรกระมังเยี่ยงนี้”

“...พระเจ้าค่ะ”

“หาใช่เรื่องแปลกไม่..ตอนแม่ท้องเจ้าหรือก็เป็น กำลังท้องกำลังไส้ พอห่างผัวมันก็กังวลเช่นนี้แล”

“.....”

“ตอนแม่ท้องเจ้าสองคนพี่น้อง ก็ต้องห่างพ่อเจ้าเช่นกัน...เจ้าหรือยังดีกว่าแม่นัก”

“อย่างไรหรือพระเจ้าค่ะ”

“มา แม่จักเล่าให้ฟัง...หากแต่เรื่องมันยาวนัก”

“...”

“อุ่น...”

“เพคะ”

“ให้ข้าหลวงนำน้ำขิง แลขนมหวานมาให้ข้าที”

“เพคะ”

“เอาละ..ตอนที่แม่ท้องเจ้าทั้งสองคนนั้น.....”



.
.
.


“...คุณพระช่วย มีเรื่องเยี่ยงนี้เกิดขึ้นในวังหลวงด้วยหรือพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ...”

“...ทูลพระชายาชมนาด แลพระชายาบัวงาม ขบวนเสด็จขององค์ภุมรินกลับมาถึงหน้าวังหลวงแล้วเพ....”ยังมิทันที่ข้าหลวงสาวจักได้ทูลความจนหมด เจ้าบัวงามก็วิ่งออกจากตำหนักหลวงเสียแล้ว

“เจ้าบัว!! หยุดประเดี๋ยวนี้หนาลูก...ตายแล้ว วิ่งเยี่ยงนี้ได้เยี่ยงไร ประเดี๋ยวหลานข้าก็หลุดออกมาพอดี สายหยุด อิ่มตามไปหยุดเจ้าบัวประเดี๋ยวนี้”เจ้าชมนาดลมแทบจับเมื่อโอรสองค์เล็กวิ่งฉิวออกไป

“พระเจ้าค่ะ”

“เพคะ”



.
.
.


“พระชายาอย่าวิ่งหนาพระเจ้าค่ะ”สายหยุดวิ่งฉิวมาประคองคนเป็นนาย

“อ๊ะ...”เจ้าบัวชะงักราวกับเพิ่งรู้องค์เองว่าตั้งครรภ์อยู่ หัตถ์เล็กกอดอุทรตนไว้

“ทรงวิ่งมิได้หนาพระเจ้าค่ะ”

“ขะ ข้าลืมตัว”

“ค่อยๆดำเนินพระเจ้าค่ะ”

“อะ อื้ม”ครานี้ค่อยๆย่างก้าว โดยมีคนสนิทประคองมิห่าง หัตถ์เล็กก็ลูบครรภ์ตนปลอบลูกน้อย





   ขบวนเสด็จหยุดลงที่หน้าตำหนักหลวง องค์ภุมริน แลองค์จันทร์รีบลงจากหลังอาชาดำเนินเข้าหาเมียรักที่ยืนรอด้วยความคิดถึง

“เจ้าชมนาด”คว้าเจ้าชมนาดเข้ากอดแนบพระอุระ

“เสด็จพี่...เป็นเยี่ยงไรบ้างพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดประคองพักตร์พระภัสดาขึ้น

“คิดถึงเจ้าเหลือเกิน”

“หม่อมฉันก็คิดถึงพระองค์พระเจ้าค่ะ...ทรงหิวหรือไม่พระเจ้าค่ะ มาเหนื่อยๆ หม่อมฉันจักให้ข้าหลวงเตรียมสำรับให้หนาพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ....”

“เยี่ยงนั้นไปสรงน้ำก่อนดีหรือไม่พระเจ้าค่ะ”

“ก็ได้จ้ะ...หากแต่น้องต้องสรงให้พี่หนา”

“พระเจ้าค่ะ...”

“เสด็จแม่ ถวายพระพรพะย่ะค่ะ”เจ้าภุชงค์ที่ทอดพระเนตรบิดามารดาพูดคุยกับแล้วแล้วจึงเข้าหมอบกราบเจ้าชมนาด

“เจ้าภุชงค์ เป็นเยี่ยงไรบ้างลูก”เข้ากอดโอรสองค์โต ลูบเศียร ลูบพักตร์

“ลูกสบายดีพระเจ้าค่ะ มิเจ็บมิไข้”

“ดีแล้วลูก เอ๊ะ แลนั่นใครกัน”นัยน์ตากวางเหลือบไปเห็นร่างบางที่หมอบกราบอยู่หลังโอรสองค์โตจึงตรัสถามขึ้น

“ถะ ถวายพระพรพระชายาภุมริกาพระเจ้าค่ะ”

“.....”เจ้าชมนาดพยักพักตร์ หากแต่ก็ยังสงสัยใคร่รู้

“เสด็จแม่...นี่เจ้าน้อยแสงแรก เจ้าน้อยแคว้นการเวกพะย่ะค่ะ”

“เจ้าน้อยแคว้นการเวกหรือ...”

“พะย่ะค่ะ...หากเรื่องเป็นมาเยี่ยงไรลูกขอทูลความคราหลังพะย่ะค่ะ”

“ก็ได้ลูก...เอาไว้ก่อน เจ้าไปพักก่อนเถิด แลค่ำนี้ค่อยมาร่วมเสวยกับพ่อ แลแม่ที่ตำหนักหลวงหนา”

“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ”หมอบกราบมารดา เจ้าแสงเมื่อทอดเนตรเห็นดังนั้นจึงหมอบกราบตาม

“เจ้าบัวงามมาให้พ่อกอดให้คลายคิดถึงหน่อยเถิดลูก”องค์ภุมรินตรัส ตั้งแต่มาถึงตำหนักหลวงเจ้าบัวงามของพ่อก็ถลาเข้ากอดเจ้าหลวงศศิมณฑล จนป่านนี้ยังซุกอยู่ในอุระกว้างมิห่าง ให้องค์จันทร์กอดหอมคลอเคลีย

“พระเจ้าค่ะ”ผละออกจากพระภัสดา เข้าหมอบกราบบิดา

“เป็นเยี่ยงไรบ้างเจ้า”กอดลูกน้อยแนบพระอุระ

“ลูกสบายดีพระเจ้าค่ะ เสด็จพ่อเป็นเยี่ยงไรบ้างพระเจ้าค่ะ เหนื่อยหรือไม่”

“ได้เห็นหน้าแม่เจ้าพ่อก็หายเหนื่อยแล้ว”

“คิกๆ พระเจ้าค่ะ”

“แยกย้ายกันไปสรงน้ำท่าก่อนเถิดพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวค่ำนี้สำรับแล้วแล้วแม่จักให้ข้าหลวงไปตามที่ตำหนัก”

“ขอบพระทัยเสด็จแม่พะย่ะค่ะ”


.
.
.


จ๋อม


   เจ้าบัวงามกวักน้ำรดลงบนพระอังสะกว้างของภัสดา บีบนวดเอาพระทัย หัตถ์นุ่มลูบกล้ามพระมังสาไปมา


ฟอด


ฟอด


“อื้อ..ฝ่าบาท”เจ้าบัวพักตร์แดงระเรื่อเมื่อองค์จันทร์กดพระนาสิกสูดกลิ่นหอมจากปรางขาว

“พี่คิดถึงเจ้าจักแย่”

“หม่อมฉัน แลพเยียก็คิดถึงพระองค์พระเจ้าค่ะ”เอนกายซบพระอุระ

“หึหึหึ ช่างออดช่างอ้อนนัก”พระดัชนีม้วนปลายเกศายาวระสะโพกมน พระโอษฐ์ประทับจูบที่ขมับน้อง

“...ฝ่าบาท”

“หืม...”

“ใยเจ้าน้อยการเวกจึงได้กลับมาภุมริกาด้วยหรือพระเจ้าค่ะ”ช้อนนัยน์ตากวางถาม

“รอฟังพร้อมเสด็จแม่ชมนาดท่านเถิด”

“...เจ้าน้อยมิได้ตามพระองค์กลับมาใช่หรือไม่พระเจ้าค่ะ”

“ว่ากระไรเยี่ยงนั้น เจ้าบัว”จับปลายคางแหลมเขย่าไปมาอย่างเอ็นดู

“ก็หม่อมฉันกังวล เจ้าน้อยใช่ว่าจักรูปมิงาม...”

“รู้ไว้เถิดมิมีใครงามเกินเจ้าในสายตาพี่อีกแล้ว ‘เจ้าบัวงาม’ ”ตรัสนามเมียรักชัดถ้อยชัดคำ

“คิกๆ...”กรเรียวเสลาโอบกอดรอบพระกฤษฎีสอบแน่น ออดอ้อนออเซาะ



.
.
.


“อื้อ...พี่เหม พอก่อนหนาจ๊ะ”สายหยุดว่าพลางดันอกคู่หมายหนุ่มออก ริมฝีปากอิ่มบวมช้ำ

“พี่คิดถึงสายหยุด”

“สายหยุดก็คิดถึงพี่เหมจ้ะ”

“กลับศศิมณฑลเมื่อใด พี่จักให้พ่อแห่ขันหมากไปขอสายหยุดให้ไวที่สุด”

“พี่เหม....”แก้มขาวแดงระเรื่อ

“หากแต่งช้ากว่านี้ พี่คงจักต้องลงแดงเป็นแน่”

“คนบ้าว่ากระไรเยี่ยงนั้นเล่า”

“พี่พูดจริงหนาสายหยุดคนดี”

“อื้อ...พูดแต่ปากมิได้หรือพี่เหม...ใยต้อง...ใยต้องหน้าอกสายหยุดด้วย”

“พี่คิดถึง”

“ใจคอจักพูดอยู่คำเดียวนี่หรือจ๊ะ”


ฟอด


ฟอด


“อื้อ...พี่เหม”ปากว่า หากแต่กลับยื่นดวงหน้ามนให้เข้าสูดหอม


จุ๊บ


“อื้อ”เงยหน้ารับริมฝีปากพ่อเหมที่แทะเล็ม แลกดจูบเท่านั้นมิได้ล่วงล้ำเข้าไปในโพรงปาก

“...จักจุกอกตายอยู่แล้วเจ้า”

“...อาบน้ำ..อะ อาบท่าก่อนเถิดจ้ะ ประเดี๋ยวสายหยุดจักไปห้องเครื่องทำกับข้าวให้พี่เหมหนาจ๊ะ”

“มิต้องเหนื่อยทำดอกเจ้า มีกระไรพี่ก็กินได้...มาช่วยพี่อาบน้ำจักดีกว่าหนา”

“.....”

“หนาสายหยุด”

“...ก็ได้จ้ะ”

“เยี่ยงนั้นไปกันเถิด พี่เหนียวตัวจักแย่”

“จ้ะ”

“สายหยุดช่วยพี่แก้ผ้าโจงทีสิเจ้า”

“...พี่เหม”

“หนาจ๊ะ...แก้ให้พี่ที”

“.....จ้ะ”






ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
แต่ละคู่ไม่เกรงใจคู่ใหม่เลย :-[ :-[

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
เค้ามีคูกกันหมดเเล้วววว

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
เรื่องนี้อ่านไปก็ขำไป เจ้าชมนาดผลันตัวไปเป็นทั้งแม่ยายแม่ผัวเต็มตัว ส่วนเจ้าบัวผันตัวไปเป็นเมียเด็กช่างเอาใจผัวแล้ว
เป็นย้อนยุคที่นายเอกใส่จริตให้ผัวรักผัวหลงกันเต็มเหนี่ยว

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
งานนี้เตรียมเลือดสำรองไว้ทุกขณะ อิอิ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
น่ารักทุกคู่จ้าาาาา รออ่านคู่ภุชงค์ด้วย

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
 :katai5: :katai5: :katai5:  เมื่อไหร่จะมาต่อจ๊ะ

ออฟไลน์ kakilover

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
มารอองค์จันทร์กะเจ้าน้อย เมื่อไหร่จะมาหนอ :hao4: :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1


บัวหลงจันทร์ ๒๐



    ภายในตำหนักหลวงวันนี้ดูคึกคักกว่าปกติ เนื่องว่า มีเจ้านายหลายพระองค์ร่วมเสวยมื้อค่ำด้วยกัน องค์ภุมริน แลพระมารดาชมนาดทรงประทับอยู่บนตั่งทอง ขนาบข้างด้วยองค์รัชทายาทภุชงค์ เจ้าแสงแรกถูกจัดให้นั่งอยู่บนตั่งเล็กถัดจากเจ้าภุชงค์ ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามเป็นองค์จันทร์ แลเจ้าบัวที่ประทับอยู่บนตั่งตัวใหญ่ด้วยกัน

“เหวยได้หรือไม่เจ้าน้อย”องค์ภุมรินตรัสถาม

“...พระเจ้าค่ะ อาหารภุมริการสเลิศนักพระเจ้าค่ะ”

“โปรดก็ดีแล้ว”ทรงตรัสอย่างพระทัยดี

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”หมอบกราบ

“เหวยมากๆหนาเจ้า”เจ้าภุชงค์ว่า

“...พระเจ้าค่ะ”



   เจ้าชมนาด แลเจ้าบัวงามลอบมองเจ้าน้อยการเวกด้วยความแปลกพระทัย แลระแวดระวัง แม้จักเพิ่งเคยพบ หากแต่เป็นคนของการเวกแล้วไซร้ ระวังไว้ก่อนเป็นดี

“พี่รู้ว่าเจ้าสงสัย ไว้พี่จักแถลงให้แจ้งเองหนา”องค์ภุมรินตรัสกระซิบข้างกรรณเล็ก

“พระเจ้าค่ะ”เงยพักตร์แย้มโอษฐ์ให้พระภัสดา




   ส่วนเจ้าบัวงามที่ลอบมองคนแปลกหน้า หากแต่มือก็ยังมิหยุดปรนนิบัติองค์จันทร์ นัยน์ตากวางจดจ้องเจ้าน้อยการเวกที่ก้มพักตร์เสวยสำรับของตนเงียบๆ กิริยาเรียบร้อย สำรวม ผิดกับองค์สินผู้เป็นเชษฐานัก

“เจ้าบัวงาม”

“พระเจ้าค่ะ”ผิดพักตร์กลับมาสบพระเนตรองค์จันทร์

“มองกระไร หืม...เจ้าน้อยแสงแรกทำตัวมิถูกแล้วกระมัง”องค์จันทร์ตรัสเย้า

“กิริยาบัวโจ่งแจ้งเช่นนั้นเลยหรือพระเจ้าค่ะ”นัยน์ตากวางเบิกกว้าง ลืมองค์ทำกิริยามิงามเข้าแล้ว

“หึหึหึ พี่รู้ว่าเจ้าคิดกระไรอยู่ หากแต่เจ้าน้อยมิเหมือนไอ้สินดอกหนา”จับเกศานุ่มทัดกรรณเล็ก

“...รู้ดีหนาพระเจ้าค่ะ”หรี่เนตรจับผิด

“มิต้องมามองด้วยสายตาเช่นนี้เลยหนา เด็กดื้อ”ยึดคางน้องน้อยไว้ ก่อนจักกดจูบลงบนปลายจมูกโด่งรั้น

“ฮื้อ..ฝ่าบาท”ทำโอษฐ์ยื่นอย่างแง่งอน

“อะแฮ่มๆ”พระสุรเสียงทุ้มขององค์ภุมรินที่ไอโคลกๆ ทำเอาองค์จันทร์ แลเจ้าบัวผละออกจากกันทันที

“ขออภัยพะย่ะค่ะ”องค์จันทร์ตรัสพลางค้อมพระเศียรลง หากแต่พระโอษฐ์ยังคงยกมุมน้อยๆ

“เจ้าบัวงามกำลังท้อง กำลังไส้ก็กินมากๆ หนาลูก”

“พระเจ้าค่ะเสด็จพ่อ”

“...กินน้ำพริกนี่สิเจ้า”เอาผักเคียงช้อนน้ำพริกป้อนเมีย

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”อ้าโอษฐ์รับ

“เป็นเยี่ยงไรบ้าง”

“รสดีเหมือนเดิมพระเจ้าค่ะ”

“เยี่ยงนั้นก็กินมากๆหนา เจ้าพเยียจักได้โตเร็วๆ”

“พระเจ้าค่ะ”




   หลังจากมื้อค่ำแล้วแล้ว เจ้าภุชงค์ก็เสด็จไปส่งเจ้าน้อยแสงแรกกลับตำหนักรับรอง โดยที่องค์ภุมรินจักเป็นผู้แถลงแจงความให้เจ้าชมนาด แลเจ้าบัวงามกระจ่างด้วยองค์เอง

“เรื่องมันเป็นมาอย่างไรพระจ้าค่ะเสด็จพี่”

“...ตัวต้นเหตุก็ไอ้สินนั่นแล”

“อีกแล้วหรือพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดตรัสพลางชักสีหน้าเอือมระอา

“ใยจึงผูกใจเจ็บได้ขนาดนี้พระเจ้าค่ะ บัวมิเข้าใจเสียเลย”

“หึ...มันก็คงเสียหน้ากระมัง”

“แลเหตุใดเจ้าน้อยแสงแรกจึงได้ตามกลับมาบ้านเมืองเราเล่าพระเจ้าค่ะ”

“ก็ไอ้สินมัน.....”



.
.
.


“คุณพระช่วย...เลวชาตินัก”เจ้าชมนาดยกหัตถ์ทาบอุระตน

“เยี่ยงนี้เจ้าน้อยแสงแรกก็น่าสงสารหนาสิพระเจ้าค่ะ”

“นั่นแลลูก หากยังอยู่ที่การเวก ไอ้สินกลับมาคงลำบากเป็นแน่ แลอีกอย่างเจ้าภุชงค์แม้จักมิได้ตั้งใจให้เกิด หากแต่ก็ต้องรับผิดชอบ”

“เสด็จแม่!!!”อยู่เจ้าบัวงามก็แผดพระสุรเสียงขึ้นมาจนบิดา มารดา แลภัสดาสะดุ้งเฮือก

“กระไรเจ้าบัวงาม แม่ตกอกตกใจหมด”เจ้าชมนาดยกหัตถ์ทาบอกเป็นครั้งที่เท่าใดของวันแล้วก็มิอาจทราบ

“...ก็ที่ท่านยายทูลเสด็จแม่อย่างไรเล่าพระเจ้าค่ะ”

“ที่แม่เฒ่าทูลหรือ”

“พระเจ้าค่ะ”

“นั่นสิเจ้า!!!”

“กระไรกันเจ้าชมนาด เจ้าบัวงาม”

“...หลังจากที่พระองค์เสด็จไปการเวก แม่เฒ่าก็ขอเข้าเฝ้าหม่อมฉันพระเจ้าค่ะ”

“ท่านว่าอย่างไรเจ้า”

“ท่านว่า...บัวหลงจันทร์ไปแล้ว...ก็ถึงคราวภุชงค์เล่นแสง”

“...ภุชงค์เล่นแสงหรือพะย่ะค่ะ”

“เจ้าภุชงค์”

“ท่านยาย ท่านทูลว่า ภุชงค์เล่นแสงหรือพะย่ะค่ะ”เจ้าภุชงค์ที่กลับจากไปส่งดำเนินเข้ามาในตำหนักทันได้ยินที่มารดาตรัสพอดี

“...ใช่จ้ะ ท่านว่า ภุชงค์เล่นแสง”

“.....”เจ้าภุชงค์มิตรัสตอบ หากแต่พระโอษฐ์แย้มน้อยๆ

“เจ้าโปรดเจ้าน้อยเยี่ยงนั้นหรือเจ้าภุชงค์”เจ้าชมนาดตรัสถามโอรสองค์โต

“...ลูกมิเคยโปรดใครมาก่อน หากแต่กับเจ้าน้อยแสงแรกนั้น...ลูกก็มิอาจทราบได้ว่าโปรดเจ้าน้อยหรือไม่”

“.....”

“หากแต่ ลูกรู้สึกอยากดูแล ทะนุถนอมน้อง มิใคร่ชอบใจเสียเลยพะย่ะค่ะ ยามเห็นน้องไห้ เศร้าโศกเสียใจ...”

“.....”พ่อ แลแม่ลอบมองพักตร์กัน

“แลจักตบแต่งกับเมื่อใดพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวตรัสถาม

“พี่ใคร่อยากให้เจ้าน้อยเต็มใจ แลพร้อมใจแต่ง หาใช่เพราะสถานการณ์บังคับไม่”

“.....”

“ลูกมิใคร่บังคับเจ้าน้อยพะย่ะค่ะ”

“เอาเถิดๆ ค่อยว่ากันก็ยังมิสายดอก”

“พะย่ะค่ะ เสด็จแม่”

“วันนี้ค่ำแล้ว แยกย้ายกันพักผ่อนก่อนเถิด วันพรุ่งค่อยว่ากัน”

“นั่นสิ เจ้าบัวกำลังท้องไส้ รีบเข้านอนเถิดลูก”

“พระเจ้าค่ะเสด็จพ่อ”

“เยี่ยงนั้นลูกทูลลาพะย่ะค่ะ”เจ้าภุชงค์

“ทูลลาพะย่ะค่ะ”องค์จันทร์

“ลูกทูลลาพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวงาม

“จ้ะ”



.
.
.



   ภายในตำหนักรับรอง เจ้าน้อยแสงแรกนั่งพับเพียบอยู่บนพระยี่ภู่ หัตถ์เล็กประนมอยู่กลางอกสวดมนต์ ไหว้พระก่อนนอน ส่วนบ่าวทั้งสองก็ปัดที่หลับ ที่นอนอยู่ข้างพระแท่นบรรทม

“ชงโค ยี่สุ่น...ข้าสวดมนต์แล้วแล้วนอนเถิด”เจ้าแสงตรัสพลางเอนกายลงนอน

“พระเจ้าค่ะ”ยี่สุ่นจัดคลุมพระองค์ให้คนเป็นนายจนถึงอุระบาง ปลดพระสูตรลูกไม้โปร่งแสงลงจากเสาพระแท่นบรรทมทั้งสี่มุม


   


   เจ้าแสงพลิกพระวรกายตะแคงข้าง พักตร์งามหนุนหัตถ์ตนก่อนจักหวนนึกถึงเมื่อหัวค่ำ องค์รัชทายาททรงเสด็จมาส่งตนถึงในตำหนัก หน้าห้องบรรทม


   “ขอบพระทัยที่เมตตามาส่งหม่อมฉันถึงตำหนักพระเจ้าค่ะ”ประนมมือไหว้เจ้าภุชงค์

   “มิเป็นไรดอก”ยื่นพระหัตถ์มารับไหว้น้องน้อย

   “.....”

   “วันพรุ่งหลังมื้อเช้า ข้าจักพาเจ้าชมรอบวังหลวง แลสวนพฤกษา”

   “ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

   “ค่ำนี้ก็นอนพักผ่อนมากๆ หนา เดินทางมาเหนื่อยๆ”



“...พระเจ้าค่ะ”

“หลับให้สนิท ฝันดีหนาเจ้า”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ...พระองค์ก็...ทรงพระสุบินดีหนาพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ เยี่ยงนั้นคงจักต้องฝันถึงเจ้าแล้วแล”

“.....”ก้มพักตร์หลบสายพระเนตร

“...ข้าไปก่อนหนา ขาดเหลือกระไรก็บอกข้าจักหามาให้เจ้าทุกอย่าง”จับหัตถ์บางขึ้นเบาๆ พระอังคุฐลูบคลึงหลังหัตถ์นิ่ม

“พระเจ้าค่ะ”ค่อยๆ ดึงหัตถ์ตนออก

“ข้าไปหนา”ตรัสก่อนจักดำเนินออกจากตำหนักรับรอง จับจ้องเจ้าน้อยคู่หมายพระเนตรละห้อย




.
.
.



“บัวคิดถึงอ้อมพระกรของพระองค์เหลือเกินพระเจ้าค่ะ หลายราตรีที่ผ่านมาร่วมหลายเดือนมิมีอ้อมพระกรของพระองค์คอยกกกอดบัวนอนมิค่อยจักหลับเลยพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวตัดพ้อยามนอนซบพระอุระกว้าง แขนเรียวเสลากอดก่ายพระวรกายกำยำ

“มิได้กกกอดเจ้าเนื้อเย็น พี่ก็หลับได้มิเต็มตาเช่นกัน”โอบกอดร่างบางนุ่มนิ่ม เอียงพักตร์จูบขมับบาง

“...เจ้าพเยียก็คิดถึงพ่อพระเจ้าค่ะ...หม่อมฉันแพ้ท้องเสียแทบทุกวัน”

“จริงหรือ เกเรเสียแล้วลูกพ่อ”

“ลูกคิดถึงพระเจ้าค่ะ หาได้เกเรไม่”

“พ่อก็คิดถึงเจ้าหนาพเยีย หากแต่เกเรเช่นนี้ แม่เจ้าจักเหนื่อยเอา”

“ได้เห็นพักตร์พระองค์หม่อมฉันกับลูกก็หายเหนื่อย เป็นเด็กดีเช่นเดิมแลพระเจ้าค่ะ”

“ออดอ้อนเช่นนี้ จักทำให้พี่รัก พี่หลงเกินไปแล้วหนา”

“ดีแล้วพระเจ้าค่ะ...หลงลูก หลงเมีย มิผิดดอก”

“ฮะฮ่าๆๆ ร้ายนัก...หากแต่ข้าก็รัก”



.
.
.



   อรุณนี้เจ้าบัวงามตื่นขึ้นก่อนผู้เป็นภัสดา หัตถ์บางลูบแผ่วเบาตามต้นพระหนุ ก่อนจักกดจูบบนพระปรางที่มีไรพระมัสสุขึ้นจนเขียวครึ้ม องค์จันทร์บรรทมสู่ห้วงนิทราลึก แลคงจักมิตื่นง่าย เนื่องด้วย เดินทางมาเหนื่อย เจ้าบัวงามประคองครรภ์ตนก้าวลงจากพระแท่นบรรทมอย่างเงียบเชียบ

“ถวายพระพรพระชายาพระเจ้าค่ะ”สายหยุดหมอบกราบเมื่อเจ้าบัวงามเปิดบานทวารห้องบรรทมออกมา

“จ้ะ...”

“ทรงล้างพระพักตร์ก่อนหนาพระเจ้าค่ะ”ประคองอ่างทองเหลืองใบใหญ่ถวายคนเป็นนาย เจ้าบัวงามกวักน้ำลอยดอกมะลิขึ้นล้างพักตร์ แลบ้วนพระโอษฐ์ รับกิ่งข่อยจิ้มเกลือจากสายหยุดมาสีพระทนต์

“...พี่สายหยุด”ตรัสเรียกคนสนิทเมื่อวางผ้าซับพระพักตร์ลงบนพานทอง

“พระเจ้าค่ะ”

“พี่สายหยุดไปสวนพฤกษาเป็นเพื่อนข้าทีหนา”

“พระเจ้าค่ะ”

“เยี่ยงนั้นไปกันเถิดจ้ะ”

“ทรงไปทำกระไรที่สวนพฤกษาพระเจ้าค่ะ”ประคองนายพลางถาม

“ข้าจักไปเก็บดอกบัวมาถวายให้องค์จันทร์ท่าน”

“ให้บ่าวมาเก็บก็ได้พระเจ้าค่ะ”

“ข้าอยากมาเอง”

“พระเจ้าค่ะ...เยี่ยงนั้นหม่อมฉันจักไปเอาตะกร้ามาให้หนาพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ”

“ทรงรอสายหยุดประเดี๋ยวหนาพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ”




   สายหยุดรีบวิ่งกลับไปเอาตะกร้าหวายใบเล็ก ก่อนจักรีบกลับมาประคองเจ้าบัวงาม เพลานี้พระชายาทรงตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว พระครรภ์ยื่นออกมาจนเห็นได้ชัด สายหยุดประคองพระชายามาจนถึงสวนพฤกษา

“ภุชงค์...”เจ้าบัวงามตรัสทักพระเชษฐา

“เจ้าบัวงาม”ดำเนินเข้าช่วยสายหยุดประคองอนุชา

“มาทำกระไรที่สวนพฤกษาแต่เช้าหรือพระเจ้าค่ะ”

“แลน้องมาทำกระไรที่สวนพฤกษาแต่เช้าเล่าเจ้าบัว”

“บัวมาเก็บดอกบัวไปถวายองค์จันทร์ท่านพระเจ้าค่ะ”

“เยี่ยงนั้นหรือ”

“แลภุชงค์เล่าพระเจ้าค่ะ ยังมิตอบน้องเลยว่ามาทำกระไร”ปกติองค์รัชทายาทมิเคยเสด็จสวนพฤกษาตั้งแต่ย่ำรุ่งเช่นนี้ดอก

“...พี่...พี่มาเก็บดอกแก้ว”

“ดอกแก้วหรือพระเจ้าค่ะ”

“.....”

“เก็บไปทำกระไรหรือพระเจ้าค่ะ”

“...พี่มาเก็บไปให้เจ้าน้อยแสงแรก”

“ทรงเสด็จสวนพฤกษาตั้งแต่ย่ำรุ่งเพื่อเก็บดอกแก้วไปให้เจ้าน้อยแสงแรก.....”เจ้าบัวหรี่พระเนตรจับผิดพระเชษฐา

“.....”

“ใยจึงมองพี่เช่นนี้เล่าน้อง”

“ทรงชอบพอเจ้าน้อยหรือพระเจ้าค่ะ”

“.....”

“ภุชงค์”

“...พี่ชอบพอเจ้าน้อยแสงแรก”

“.....”

“เจ้าน้อยแสงแรกมิเหมือนองค์สินดอกหนา...เจ้าน้อยน่าสงสารนัก”

“ทรงชอบพอเจ้าน้อย เพราะ สงสารหรือพระเจ้าค่ะ”

“...พี่ชอบพอเจ้าน้อย แต่หาใช่เพราะความสงสารไม่”

“.....เอาเถิดพระเจ้าค่ะ บัวมิยุ่งดอก”เจ้าบัวงามตรัส

“...เยี่ยงนั้นพี่เก็บดอกบัวให้หนาเจ้า กำลังท้องกำลังไส้มิดีใกล้น้ำ ใกล้ท่า ตกลงไปจักอันตราย”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”



.
.
.


“ทรงตื่นแล้วหรือพระเจ้าค่ะ”

“ไหนมาหรือเจ้า”

“บัวไปเก็บดอกบัวมาถวายพระองค์พระเจ้าค่ะ”ตรัสก่อนจะพยักพระพักตร์ให้ข้าหลวงถืออ่างทองเหลืองบรรจุน้ำลอยกลีบดอกบัวสีชมพู แลข้าหลวงอีกคนถือพานทองที่มีดอกบัวหลวงดอกตูมวางบนซับพระพักตร์สีขาวสะอาดตามหลังพระชายาเข้ามาในห้องบรรทม

“ขอบใจพวกเจ้ามาก วางไว้ แลออกไปก่อนเถิด”

“เพคะพระชายา”

“...ล้างพระพักตร์ก่อนหนาพระเจ้าค่ะ”ปรนนิบัติล้างพักตร์ให้องค์จันทร์ด้วยน้ำลอยกลีบบัว หัตถ์ขาวคว้าซบพระพักตร์เนื้อนุ่มซับหยาดน้ำบนพักตร์งามแผ่วเบา

“...คราหลังมิต้องลำบากไปเก็บดอกบัวถึงสระหลวงดอก แค่บัวงามดอกนี้ดอกเดียวก็พอแล้ว”ตรัสพลางรวบเอวคอดเอวเข้ากอด พระนาสิกหอมลาดอังสะขาวเนียน หยิบบัวดอกตูมไล้ไปตามซอกคอขาว ต่ำลงมาที่ขอบผ้าแถบ

“ฝ่าบาท...”เจ้าบัวงามหน้าม้าน

“หึหึหึ พเยีย...วันนี้เป็นเยี่ยงไรบ้างลูก”ตรัสถามพลางดอกบัวตูมไล้เบาๆที่ครรภ์ยื่น

“วันนี้เจ้าพเยียเป็นเด็กดีพระเจ้าค่ะ มิเกเรแล้ว”เจ้าบัวตรัส อมยิ้มพลางลูบครรภ์ตนเบาๆ

“ดีมากเจ้าพเยียลูกพ่อ”โน้มพระพักตร์ลงจูบที่ครรภ์เมียแผ่วเบา ทะนุถนอมคนที่อยู่ในครรภ์

“ฝ่าบาท”เจ้าบัวลูบเบาๆที่หลังพระศอ

“.....”ซบพระพักตร์กับซอกคอหอมกรุ่นของเมียอย่างออดอ้อน พระหัตถ์ก็สอดประสานพระองคุลีกับหัตถ์เจ้าบัว เจ้าบัวแย้มยิ้มหวานซบดวงหน้างามลงบนกลุ่มพระเกศาสีปีกกา

“...ผลัดฉลองพระองค์เถิดพระเจ้าค่ะ มื้อเช้านี้จักต้องเสด็จไปรับสำรับที่ตำหนักหลงพร้อมเสด็จพ่อ เสด็จแม่ แลภุชงค์”เจ้าบัวเงยพักตร์ขึ้นเมื่อเพลาผ่านไปได้สักครู่

“จ้ะ”



.
.
.



   หลังพระกายาหารเช้าแล้วแล้ว ก็ถึงเพลาที่เจ้าน้อยแสงแรกจักแนะนำองค์เองอย่างเป็นทางการกับพระชายาชมนาด พระมารดาของพระคู่หมายแล้ว

“ถวายพระพรพระชายาชมนาดพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันมีนามว่าแสงแรก...มีฐานันดรเป็นเจ้าน้อยแค้วนการเวกพระเจ้าค่ะ”หมอบกราบหน้าตั่งทอง

“เจ้าน้อยการเวก...โอรสต่างมารดากับองค์สิน?”

“...พระเจ้าค่ะ มารดาหม่อมฉันเป็นสนมเอกในองค์สิงห์พระเจ้าค่ะ”

“.....”เจ้าชมนาดพยักพระพักตร์น้อยๆ

“.....”

“...เจ้าภุชงค์”

“พะย่ะค่ะ เสด็จแม่”องค์รัชทายาทขานรับคำพระมารดาหนักแน่น

“ใคร่อยากจักให้มีพิธีอภิเษกเมื่อใด”แม้ลูกจักบอกแล้วว่ามิใคร่จักบังคับใจเจ้าน้อยต่างเมือง หากแต่เจ้าชมนาดก็ใคร่อยากถามให้ได้ความอีกคราพร้อมหน้าทั้งสองคน

“.....”เจ้าแสงที่หมอบกราบอยู่ถึงกับหายพระทัยสะดุด แลก้มพักตร์ลงต่ำกว่าเดิม

“...ลูกมิใคร่ฝืนใจเจ้าน้อยพะย่ะค่ะ”

“.....”

“ลูกใคร่อยากให้เจ้าน้อยเต็มใจอภิเษกกับลูก มิใคร่บังคับฝืนใจพะย่ะค่ะ”

“...จักรอไปก่อนเยี่ยงนั้นหรือ”

“พะย่ะค่ะ”

“...ว่าอย่างไรเจ้าน้อยแสงแรก”

“หม่อมฉัน...เห็นด้วยกับองค์รัชทายาทพระเจ้าค่ะ”

“...ยังมิใคร่แต่งกันตอนนี้สิหนา”

“พะย่ะค่ะ”

“พระเจ้าค่ะ”

“ตามใจเจ้าทั้งสองเถิด...หากพร้อมใจใคร่แต่งกันเมื่อใด ก็ให้มาบอกข้าก็แล้วกัน”

“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะเสด็จแม่”

“ขะ ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ พระมารดา”



.
.
.


“เดินเล่นอีกสักพัก แลกลับตำหนักหนาน้อง...กำลังท้องไส้เดินมากๆ มิดี”องค์จันทร์ตรัสขณะโอบเอวของเจ้าบัวงามดำเนินชมสวนพฤกษา

“พระเจ้าค่ะ”รับพระบัญชาอย่างว่าง่าย

“เก่งมากเด็กดี”หอมกลุ่มเกศานุ่มเป็นรางวัล

“...นั่น ภุชงค์นี่พระเจ้าค่ะ”มิไกลนักก็ทอดพระเนตรเห็นพระเชษฐา แลเจ้าน้อยต่างเมืองเข้ามาในคลองจักษุ

“คงจักพาเจ้าน้อยแสงแรกชมรอบวัง แลสวนพฤกษากระมัง”

“พระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวงามขานรับ หากแต่นัยน์ตากวางยังคงจับจ้องภาพเบื้องหน้า พระเชษฐาทรงเด็ดช่อดอกแก้วให้เจ้าน้อยการเวกที่พนมหัตถ์ไหว้อย่างอ่อนช้อย พระพักตร์เจ้าภุชงค์ทอประกายบางอย่างที่เจ้าบัวมิเคยเห็นมาก่อน ดวงพระเนตรจับจ้องเจ้าแสงแรก พลางแย้มพระโอษฐ์น้อยๆ

“...หืม จ้องกระไรเจ้า”

“บัวมิเคยเห็นเสด็จพี่ภุชงค์แสดงสีพระพักตร์เช่นนี้มาก่อน”

“แลมันดีหรือไม่”

“พระเจ้าค่ะ...บัวคิดว่า...”

“...ว่ากระไร”

“คิดว่าเสด็จพี่ภุชงค์คงจักมีความรักเป็นแน่พระเจ้าค่ะ”

“...พี่ก็เพิ่งจักรู้”

“พระเจ้าค่ะ?”

“พี่ก็เพิ่งจักรู้ว่าเมียพี่...”

“.....”

“เป็นศิราณีหรือเจ้า”ทรงตรัสเย้าแหย่

“ฝ่าบาท...บัวมิใช่ศิราณีพระเจ้าค่ะ บัวก็แค่พูดตามที่เห็น”ดวงหน้างามง้ำงอ

“...พี่หยอกดอกเจ้า...ไป กลับตำหนักกันเถิด ประเดี๋ยวพี่จักให้สายหยุดนำผลหมากรากไม้มาให้”ตรัสอย่างเอาอกเอาใจคนท้อง

“พระเจ้าค่ะ”



.
.
.


“เจ้าบัวงาม”

“พระเจ้าค่ะ”

“เรื่องการเวกก็จัดการเรียบร้อยแล้ว...เห็นทีเราคงจักต้องกลับศศิมณฑลแล้วกระมัง”

“กลับศศิมณฑลหรือพระเจ้าค่ะ”

“...นี่ก็หลายเดือนเข้าให้แล้ว พี่เป็นห่วงเสด็จแม่ศศิธร”

“นั่นสิพระเจ้าค่ะ บัวก็เป็นห่วงเสด็จแม่ท่าน...แลเราจักกลับศศิมณฑลเมื่อใดพระเจ้าค่ะ”

“มินานดอกเจ้า...”

“พระเจ้าค่ะ”





ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
กำลังสนุกเลย

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ตอนใหม่มาแล้ววว ..  :mew1:

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
ีรอตอนต่อไปหนาเจ้า :mew1:

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1

บัวหลงจันทร์ ๒๑


“แลเยี่ยงนั้นจักเดินทางกันเมื่อใด...”เจ้าชมนาดตรัสถามโอรสองค์เล็ก แลชามาดา

“อีกห้าวันพะย่ะค่ะเสด็จแม่ชมนาด”องค์จันทร์ตรัสตอบพระสัสสุ

“เจ้าบัวงาม”

“พระเจ้าค่ะเสด็จพ่อ”

“ให้องค์จันทร์กลับไปองค์เดียวดีหรือไม่ลูก กำลังท้องกำลังไส้มิดีเดินทางดอกลูก”

“เสด็จพี่...”เจ้าชมนาดตรัสปรามเสียงอ่อน

“ก็มันจริงนี่น้อง”

“หากมิเร่งรีบเดินทาง ค่อยเป็นค่อยไปก็มิมีอันตรายดอกพระเจ้าค่ะ...แต่หากให้ลูกต้องห่างอกภัสดา มิแคล้วได้ตรอมใจเป็นแน่”

“.....”ตรัสมิออกเนื่องด้วยที่เมียพูดมาเป็นความจริงล้วนๆ

“คิดถึงตอนที่หม่อมฉันต้องห่างพระองค์ตอนตั้งครรภ์เจ้าภุชงค์ แลเจ้าบัวดูหนาพระเจ้าค่ะ ว่าเราสองคนทรมานเพียงใด”

“ก็ได้ๆ พี่ยอมแล้วเจ้า”

“เอาไว้เจ้าคลอดเมื่อใดพ่อ แม่ แลพี่เจ้าจักไปหาที่ศศิมณฑลหนาลูก”

“พระเจ้าค่ะเสด็จแม่”

“เยี่ยงนั้นแม่จักให้ข้าหลวงเตรียมเสบียงให้หนาลูก”

“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะเสด็จแม่ชมนาด”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะเสด็จแม่”องค์จันทร์ แลเจ้าบัวงามหมอบกราบบิดา แลมารดาที่ประทับอยู่บนตั่งทอง

“ไปพักผ่อนเถิดลูก คนท้องคนไส้ต้องพักมากๆ”

“พระเจ้าค่ะ”


.
.
.


“อีกห้าวันจักกลับศศิมณฑลแล้วหรือพะย่ะค่ะ”ภุชงค์ตรัสถามองค์จันทร์ขณะที่ประทับอยู่ในศาลาริมสระหลวงพร้อมด้วยเจ้าบัวงาม แลเจ้าแสงแรก

“...ทิ้งบ้านทิ้งเมืองมานาน แลเป็นห่วงพระมารดาศศิธรท่านด้วย”องค์จันทร์พยักพระพักตร์ แลตรัสตอบ

“พะย่ะค่ะ หากเจ้าบัวคลอดเมื่อใดคงได้พบกันอีก”เจ้าภุชงค์ตรัสกับภัสดาน้อง จากนั้นจึงได้ตรัสหารือเรื่องการบ้านการเมือง พลางจิบพระสุธารสชาไปด้วย



   ส่วนทางด้านเจ้าบัวงาม แลเจ้าน้อยแสงแรกที่ประทับอยู่อีกมุมหนึ่งของศาลาก็กำลังกรองมาลัยถวายตำหนักศาสน์ เจ้าบัวกรองดอกไม้ใส่เข็มไปพลางลอบทอดพระเนตรเจ้าน้อยแสงแรก คู่หมายของพระเชษฐาไปด้วย เจ้าแสงแรกที่รู้องค์เองว่าถูกจ้องมองจึงเงยพักตร์ขึ้น เมื่อได้สบนัยน์ตากวางที่ทอดพระเนตรมองมาก็หลบพระเนตรวูบอย่างเกรงกลัว

“...กลัวข้าดอกหรือ”พระสุรเสียงหวานของเจ้าบัวงามที่ตรัสออกมาทำเอาสายหยุด ชงโค แลยี่หุบหยุดมือที่กรองมาลัยขึ้นมองนายตัว

“..มะ มิได้พระเจ้าค่ะ”เจ้าแสงตรัสตอบ หากแต่ยังมิยอมเงยพักตร์ขึ้นมองคู่สนทนา

“มิต้องกลัวข้าดอก...ข้าเองก็พอจักแยกแยะออกว่าเจ้ากับองค์สินมันคนละคน”

“.....”

“แม้พี่ชายเจ้าจักทำเลวกับข้าไว้มากก็ตาม”กระนั้นก็อดตรัสแขวะมิได้

“...หม่อมฉันกราบขออภัยแทนองค์สินท่านด้วยพระเจ้าค่ะ”วางมาลัยลงบนพานทอง แลพนมหัตถ์ไว้กลางอุระ ค้อมเศียรไหว้เจ้าบัวงาม

“...ช่างเถิด”เจ้าบัวว่าอย่างมิใส่พระทัย แล้วไปแล้วก็ให้มันแล้วไปก็แล้วกัน

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”

“แลปีนี้อายุเท่าใดแล้ว”วางมาลัยลงบนพานทอง พูดคุยให้เป็นเรื่องเป็นราว

“ปีนี้หม่อมฉันอายุ ๑๖ ย่าง ๑๗ แล้วพระเจ้าค่ะ”

“อ่อนกว่าข้าปีหนึ่งย่างสองปีกระมัง”

“พระเจ้าค่ะ”

“มิต้องมากพิธีกับข้าก็ได้..เจ้าแสง”

“.....”

“ข้าเรียกเจ้าเช่นนี้ได้หรือไม่”

“พระเจ้าค่ะพระชายา”

“...เรียกข้าว่าพี่บัวก็ได้”

“.....”

“เรียกเถิด ข้าเป็นบุตรคนสุดท้องมิมีน้องมีนุ่ง หากเจ้ามิรังเกียจก็มาเป็นน้องข้าจักไดหรือไม่”

“มิได้พระเจ้าค่ะ..หม่อมฉันหาได้รังเกียจพี่บัวไม่ เป็นพระกรุณานักพระเจ้าค่ะที่เมตตาแสง”

“ดีแล้ว เสียดายที่อีกห้าวันข้าก็จักต้องกลับศศิมณฑลแล้ว”

“.....”

“ไว้บอกเสด็จพี่ภุชงค์ท่านให้พาไปหาข้าที่ศศิมณฑลบ้างหนาเจ้าแสง”

“พระเจ้าค่ะ”

“...ข้าได้ยินเสด็จพ่อ แลภุชงค์ท่านว่าเจ้ามีรสมือดีนัก จักลำบากเจ้าหรือไม่หากข้าใคร่อยากลิ้มรสมือเจ้าบ้าง”

“มิได้พระเจ้าค่ะ พี่บัวใคร่อยากเสวยกระไรพระเจ้าค่ะ แสงจักทำถวาย”

“อืม...กำลังท้องกำลังไส้ข้าใคร่อยากกินกระไรที่มีรสเปรี้ยว”เจ้าบัวว่า

“เช่นนั้นน้ำพริกปลาย่างดีหรือไม่พระเจ้าค่ะ”

“ดี...ข้าใคร่อยากกินปลาย่าง”

“เยี่ยงนั้นหม่อมฉันจักทำใส่สำรับถวายพระกายาหารเย็นหนาพระเจ้าค่ะ”

“ขอบใจหนาเจ้า”

“มิได้พระเจ้าค่ะ”

“นี่ก็ใกล้เย็นแล้วเจ้าจักลงห้องเครื่องเลยหรือไม่ ข้าจักได้ไปช่วย”

“มิได้พระเจ้าค่ะ พี่บัวกำลังตั้งครรภ์ ประเดี๋ยวหม่อมฉันจักลงห้องเครื่องกับยี่สุ่น แลชงโคเองพระเจ้าค่ะ”

“มิเป็นไรดอกให้ข้าไปเถิด ช่วยหยิบๆ จับๆ กระไรบ้างก็ยังดี หนาเจ้า”

“พระเจ้าค่ะ”เมื่อถูกออดอ้อนก็ได้แต่ตกปากรับคำไปแต่โดยดี

“พี่สายหยุด”

“พระเจ้าค่ะพระชายา”

“ไปทูลองค์จันทร์ให้ข้าทีว่าข้าจักลงห้องเครื่องกับเจ้าแสง”

“พระเจ้าค่ะ”

“ส่วนพวกเจ้านำมาลัยที่ข้า แลเจ้าแสงกรองแล้วแล้วไปถวายตำหนักศาสน์ให้ที”

“เพคะ”

“จักลงห้องเครื่องหรือเจ้าบัว”เจ้าบัวงามผินพักตร์ไปตามพระสุรเสียงของภัสดา

“พระเจ้าค่ะ บัวจักลงห้องเครื่องกับเจ้าแสง”

“ไหวหรือเจ้า ท้องโตเยี่ยงนี้”วางพระหัตถ์ลงบนหน้าท้องกลมโตของเมียรัก ลูบเบาตอบรับเท้าน้อยๆ ของเจ้าพเยียที่ถีบทักทายบิดา

“ไหวพระเจ้าค่ะ มิต้องกังวลดอก”

“เยี่ยงนั้นหากเมื่อยขบจักต้องหยุดทันทีหนา”

“พระเจ้าค่ะ”



.
.
.



“ประเดี๋ยวหม่อมฉันจักย่างปลาก่อน แลจักให้ยี่สุ่นเตรียมเครื่องสมุนไพร”

“เยี่ยงนั้นข้าจักคั้นน้ำมะขามให้”

“พระเจ้าค่ะ”



เจ้าแสงแรกจัดการย่างปลาโดยมีชงโคห้องเครื่องช่วยหยิบจับ ส่วนยี่สุ่นก็เตรียมเครื่องสมุนไพรให้คนเป็นนาย ด้านเจ้าบัว แลสายหยุดก็คั้นน้ำมะขามรอ

“พี่สายหยุดให้ข้าทำบ้างเถิด”เจ้าบัวงามที่คิดไว้ว่าจักมาช่วย กลบกลายเป็นว่าสายหยุดทำเองทั้งหมดมิยอมให้เจ้าบัวงามได้หยิบได้จับกระไรเสียเลย

“สายหยุดเป็นห่วงพระองค์นี่พระเจ้าค่ะ ทรงประทับเถิดพระเจ้าค่ะประเดี๋ยวสายหยุดจักทำให้เอง”

“หึหึหึ ข้าทำไหวดอกน่าพี่สายหยุด อย่าห่วงนักเลย ขอบใจหนาจ๊ะ”ยกหัตถ์ลูบแก้มคนสนิทเบาๆ อย่างเอ็นดู



.
.
.



“ได้ยินว่าวันนี้เจ้าบัว แลเจ้าแสงลงห้องเครื่องทำสำรับมื้อเย็นหรือ”องค์ภุมรินตรัสถามเมื่อพร้อมหน้ากันในพระกายาหารเย็น

“สำรับวันนี้เป็นรสมือเจ้าแสงพระเจ้าค่ะเสด็จพ่อ ลูกลงห้องเครื่องแต่หาได้หยิบจับกระไรไม่ พี่สายหยุดมิยอมให้ลูกจับต้องเสียเลย”

“หึหึหึ สายหยุดคงจักเป็นห่วงเจ้ากระมัง”

“คิกๆ พระเจ้าค่ะ”

“อืม...เจ้าทำเองทั้งสำรับเลยหรือเจ้าแสง”เจ้าชมนาดเปิดฝาถ้วยเบญจรงค์ในสำรับ มีกับข้าวสามอย่าง แลเครื่องเคียงอีกหลายอย่างทีเดียว

“พระเจ้าค่ะ หากแต่ก็มีคนสนิท แลข้าหลวงช่วยหยิบจับ”

“.....”เจ้าชมนาดพยักพักตร์ก่อนจักป้อนภัสดาก่อนจึงได้เสวยบ้าง รสชาติที่ได้รับทำเอาพระมารดาแห่งภุมริกาชะงัก ปลาย่างรสหวานมัน เสวยแกล้มน้ำพริกหอมกลิ่นสมุนไพรขึ้นพระนาสิก ไหนจักเนื้อปลาสีขาวนวลชุ่มฉ่ำที่มิได้ถูกเผาจนแห้งกระด้าง เข้ากันกับผักเคียง

“เป็นเยี่ยงไรบ้างเจ้าชมนาด รสมือเจ้าแสงถูกปากเจ้าหรือไม่”องค์ภุมรินทรงตรัสถามเมียคู่ทุกข์คู่ยาก แม้จักรู้แก่พระทัยว่าเจ้าชมนาดพึงพอใจรสมือของเจ้าแสงเป็นอย่างมาก

“...พระเจ้าค่ะ รสมือเจ้าแสงดีเลิศดังที่พระองค์ แลเจ้าภุชงค์ว่า”เหลือบมองพักตร์ว่าที่สุณิสาที่รอคำตอบจากตนอย่างใจจดใจจ่อ ก่อนจักตรัสตอบพระภัสดา

“หึหึหึ หากถูกปากก็กินมากๆ หนาน้อง”

“พระเจ้าค่ะ”
 


.
.
.



หลังจากแล้วมื้อเย็น องค์จันทร์ก็พาเจ้าบัวงามที่ท้องโตกลับตำหนักก่อน ในขณะที่พระองค์ที่เหลืออยู่พูดคุยกันที่ตำหนักหลวง

“พเยียดิ้นเก่งจริงเจ้า ดิ้นแรงเยี่ยงนี้แม่เจ้าจักเจ็บเอาหนา”องค์จันทร์ตรัสกับหน้าท้องกลมของเจ้าบัวพลางแนบพระโอษฐ์เบาๆลงไป

“คงจักซนน่าดูเลยหนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวงามที่ประทับพิงหมอนขิดตรัส

“หึหึหึ นั่นหนาสิ”องค์จันทร์พยักพระพักตร์อย่างเห็นด้วย ก่อนจักไล่แนบพระโอษฐ์ตามรอยเท้าของเจ้าพเยียที่ถีบท้องมารดาจนเห็นเป็นรูปเป็นร่าง

“อะ โอย...”เจ้าบัวร้องพลางลูบท้องตนราวกับปลอบให้เจ้าตัวน้อยในครรภ์หยุดคึก

“เจ็บหรือเจ้า”

“จุกพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวตรัสตอบพลางหายพระทัยเข้าออกยาวๆ

“พี่ขอโทษหนาเจ้าบัว...เจ้าพเยียมิเล่นแล้วหนาลูกแม่เจ้าเจ็บไปหมดแล้ว พอก่อนหนาคนดี”เป็นเพราะพระองค์แหย่ลูกให้คึกเช่นนี้เมียจึงได้เจ็บตัว

“บัวใคร่อยากเจอหน้าลูกเสียแล้วพระเจ้าค่ะ”

“พี่ก็ใคร่อยากเห็นหน้าลูกแล้วเช่นกันเจ้า ว่าจักงามเหมือนเจ้าหรือไม่”

“.....”เจ้าบัวงามดวงหน้าแดงระเรื่อ หัตถ์นุ่มประคองพระพักตร์องค์จันทร์ก่อนจักแนบโอษฐ์นุ่มลงบนพระปรางขาวของพระภัสดา

“หึหึหึ”องค์จันทร์ทรงสรวลในพระศอก่อนจักยืดพระวรกายขึ้น พระหัตถ์อุ่นข้างหนึ่งประคองท้ายทอยน้องน้อยไว้ แลแนบพระโอษฐ์ลงบนกลีบปากนุ่มหยุ่น มอบจุมพิตรสหวานละมุนให้เจ้าคนงาม ส่วนพระหัตถ์อีกข้างก็กอบกุมเต้าเป็นกระเปาะเคล้นเบาๆ ผ่านผ้าแถบเนื้อนุ่ม

“อึก...อือ บัวเจ็บพระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวงามถอนจุมพิตออก ปัดพระหัตถ์พระภัสดาออก

“เจ็บหรือเจ้า...เจ็บที่ใดกัน”องค์จันทร์กวาดพระเนตรทั่วร่างเมีย

“บัวเจ็บหน้าอกพระเจ้าค่ะ”ตรัสเสียงแผ่ว

“เจ็บหน้าอกหรือ”มิตรัสเปล่า แก้ผ้าแถบของเจ้าบัวออก เผยให้เห็นเต้าเป็นกระเปาะ แลเม็ดบัวสีหวานที่บวมตึง

“อะ อือ บัวเจ็บ”สะดุ้งตัวโยนเมื่อพระภัสดาแตะปลายพระองคุลีลงบนยอดถันตึง

“ตามหมอหลวงดีหรือไม่”

“ฮึก...”พยักหน้าน้อยๆ นัยน์ตากวางคลอน้ำ

“...สายหยุด”

“พระเจ้าค่ะฝ่าบาท”

“ตามหมอหลวงมาที”

“...พระเจ้าค่ะ”

“รอก่อนหนาคนดี”ตรัสปลอบพลางกดพระนาสิกกับปรางนวล เจ้าบัวงามเอนกายซบพักตร์กับพระอังสะกว้าง

“เกิดกระไรขึ้นเจ้าบัวงาม...องค์จันทร์”เจ้าชมนาดที่แวะมาดูลูกที่ตำหนักตรัสถามพักตร์ตื่น เมื่อเห็นข้าหลวงวิ่งวุ่น

“เสด็จแม่ชมนาด น้องบัวเจ็บหน้าอก แลยอดถันพะย่ะค่ะ หม่อมฉันให้สายหยุดไปตามหมอหลวงแล้ว”

“...มิต้องตามหมอหลวงดอกลูก”

“.....”

“.....”

“ตอนแม่ท้องเจ้าบัวแม่ก็เป็น...คนท้องคนไส้ก็เช่นนี้แล”

“มิมีอันตรายใช่หรือไม่พะย่ะค่ะ”

“มิมีดอก แต่หากองค์จันทร์ใคร่อยากสบายพระทัยให้ท่านหมอตรวจก็ได้”

“พะย่ะค่ะ”



.
.
.



“มิมีกระไรผิดปกติพะย่ะค่ะฝ่าบาท...อาการเจ็บคัดหน้าอกนั้นเป็นธรรมดาของคนท้องพะย่ะค่ะ”หมอหลวงกราบทูลเจ้าหลวงต่างแคว้นที่โอบประคองเจ้าน้อยไว้แนบพระอุระ แลพระมารดา

“ขอบใจท่านหมอมาก”เจ้าชมนาดตรัส

“มิได้พะย่ะค่ะ”หมอบกราบ แลคลานเข่าออกจากห้องบรรทมไป

“...เอาล่ะ พักผ่อนกันเถิดลูก แม่มิกวนแล้ว”เจ้าชมนาดตรัส

“ขอบพระทัยเสด็จแม่พระเจ้าค่ะ”

“ขอบพระทัยเสด็จแม่พะย่ะค่ะ”

“จ้ะ...เยี่ยงนั้นแม่ไปก่อนหนา ประเดี๋ยวพ่อเจ้าจักรอเอา”ตรัส แลเสด็จกลับตำหนักหลวงโดยมีคนสนิทประคอง

“สายหยุดไปพักเถิด มิมีกระไรแล้ว ประเดี๋ยวข้าจักดูแลเจ้าบัวเอง”

“พระเจ้าค่ะฝ่าบาท”

“พวกเจ้าก็ออกไปเถิด ข้าใคร่อยากอยู่ตามลำพังกับเจ้าบัว”

“เพคะ”

“ง่วงหรือยังเจ้า”เมื่อข้าหลวงออกไปจนหมดแล้วจึงได้ตรัสถามเมียรักที่พิงพระอุระ

“พระเจ้าค่ะ”เจ้าบัวงามช้อนนัยน์ตากวางสบพระเนตรเฉี่ยวคม แลตอบรับ

“เยี่ยงนั้นนอนหนาคนดี”ประคองร่างนุ่มนิ่มลงนอน เจ้าบัวงามที่ท้องโตแล้วจึงนอนตะแคงหันพักตร์เข้าหาพระภัสดาที่ทอดพระวรกายเคียงข้าง พระกรท้าวกับพระยี่ภู่ วางพักตร์ลงบนพระหัตร์

“.....”

“หลับให้สนิทหนาคนดี”ลูบกลุ่มผมนุ่มกล่อม มินานเจ้าบัวงามก็เข้าสู่ห้วงนิทรา องค์จันทร์จึงได้บรรทม



.
.
.



“ขอบพระทัยองค์รัชทายาทพระเจ้าค่ะที่เสด็จมาส่งหม่อมฉัน”เจ้าแสงหมอบกราบเจ้าภุชงค์เมื่อรัชทายาทหนุ่มมาส่งตนที่ตำหนักทุกคืน

“มิเป็นไรดอกเจ้าแสง ลุกขึ้นเถิด”ประคองพาหาน้องน้อยให้ลุกขึ้น

“.....”เจ้าแสงก้มพักตร์ หลบพระเนตรของเจ้าภุชงค์ที่ทอดมองมา ดวงหน้างามแดงระเรื่อ

“เข้าไปพักผ่อนเถิด...หลับให้สนิทหนา”มิตรัสเปล่า พระโอษฐ์ฉกวูบแตะที่กรรณขาวแผ่วเบาราวขนนกปลิวผ่าน

“.....”เจ้าแสงตกพระทัยตัวเกร็งเรียกรอยสรวลจากเจ้าภุชงค์ หากแต่ก็มิได้รุกหนักให้น้องน้อยเตลิด จึงต้องจำพระทัยปล่อยร่างนุ่มนิ่มออกจากพระหัตถ์ แลเสด็จกลับตำหนักตน เหลือบพระเนตรไปมองก็ทอดพระเนตรเห็นคนสนิททั้งสองของเจ้าแสงปรี่เข้ามาประคองพระกรนายตนซ้ายขวาก็ปล่อยเสียงสรวลจนองครักษ์ประจำพระองค์ แลผู้ติดตามมองด้วยความแปลกใจ

“เจ้าน้อย...เสด็จเข้าตำหนักก่อนเถิดพระเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวถูกน้ำค้าง แลจักประชวรเอาได้”ชงโคทูลนายตนที่ประทับยืนค้างตั้งแต่ที่องค์รัชทายาทคู่หมายแตะพระโอษฐ์ลงบนพระกรรณเล็ก

“อะ อื้อ”เจ้าแสงพยักพักตร์พลางก้าวตามแรงจูงของคนสนิททั้งสอง



.
.
.


จ๋อม~


ชงโค แลยี่สุ่นวักน้ำรดลงบนพระกรเรียวเสลาของเจ้าน้อยค่อยๆ ขัดถูเบาๆ พลางเหลือบมองพระพักตร์งามของเจ้าน้อยที่ซีด สลับแดง

“เจ้าน้อยพระเจ้าค่ะ...”

“หะ..หืม”

“ทรงประชวรหรือไม่พระเจ้าค่ะ ยี่สุ่นเร่งมือเข้าเถิด เจ้าน้อยแช่น้ำนานไปจักมิดี”

“อืม”



   หลังจากเร่งมือสรงน้ำให้เจ้าน้อยแล้ว คนสนิททั้งสองก็ลงเครื่องหอมประทินพระฉวีให้เจ้าแสง เจ้าแสงแรกประทับนิ่งเป็นตุ๊กตา พระทัยทรงลอยไปหาองค์รัชทายาทคู่หมายที่อยู่อีกตำหนักถึงไหนต่อไหน องค์ภุชงค์ทรงเอาอกเอาใจเสียจนเจ้าแสงหวั่นไหว ไหนจักดอกแก้วแทนใจที่ทรงประทานให้ทุกคืนอีก

“เจ้....เจ้าน้อย...เจ้าน้อยพะเจ้าค่ะ!!”ยี่สุ่นเพิ่มเสียงจนเจ้าแสงแรกสะดุ้งหลุดจากภวังค์

“หะ หืม ยี่สุ่น”

“ทรงเป็นกระไรหรือไม่พระเจ้าค่ะ...”

“.....”ก้มพักตร์หลบตาคนสนิท

“หม่อมฉันว่าทรงบรรทมเถิดพระเจ้าค่ะ คืนนี้มิต้องสวดมนต์ดอก”

“ข้ามิเป็นไร...ใคร่อยากสวดมนต์ก่อนนอน”

“แต่...”

“ข้ามิได้เป็นกระไรจริงๆ”

“.....”

“.....”

“พวกเจ้าเตรียมที่หลับที่นอนเถิด จักได้สวดมนต์กัน”

“พระเจ้าค่ะ”

“พระเจ้าค่ะ”



   หลังจากสวดมนต์แล้วแล้ว ยี่สุ่น แลชงโคก็จัดการปลดพระวิสูตรคลุมพระแท่นบรรทมโปร่งแสงลง ห่มผ้าคลุมพระองค์ลงบนพระวรกายบอบบางของเจ้าแสง

“ทรงพระสุบินดีหนาพระเจ้าค่ะเจ้าน้อย”

“จ้ะ...”เมื่อคนสนิททั้งสองล้มตัวลงนอนบนพื้นปูผ้าแล้ว เจ้าแสงแรกจึงได้ลืมพระเนตรขึ้น นัยน์ตากลมโตทอดพระเนตรดอกแก้วสีขาวนวล ส่งกลิ่นหอมระรวยที่วางไว้ข้าพระเขนยพลางคิดถึงคนให้ มิรู้ว่าเมื่อใดที่ความหวั่นไหวเข้ามาแทนที่ความหวาดกลัว หัตถ์บางยกขึ้นขยุ้มอุระตัวเมื่อเกิดความรู้สึกคันยุบยิบในพระทัย พยายามข่มพระเนตรให้บรรทม หากแต่กว่าจักเข้าสู่ห้วงนิทราก็ผ่านไปแล้วค่อนราตรี







ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ก็จะเขินๆกันไป  :o8: :-[ ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ P_Methayot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอเจ้าบัวคลอดน้า~

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
น่ารักกกกกกกกก

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เขินตะวแดงกันไปเลย
เอาอีกๆ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
อดทนต่อไปนะ พี่เขม 555555

ออฟไลน์ yoyothaka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบสำนวนการแต่งและการใช้ภาษาของผู้เขียนมากค่ะ ให้กำลังใจและรอติดตามต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ yoyothaka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบสำนวนการแต่งและการใช้ภาษาของผู้เขียนมากค่ะ ให้กำลังใจและรอติดตามต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ imkhimaut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ได้อ่านตอนของลูก ๆ แล้ววววว ><
ชอบมาก ๆ เลยค่ะ เจ้าน้อยก็น่ารักมาก ๆ  :hao5:
ติดตามเสมอนะคะ~~~

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
รอเจ้าบัวกับเจ้าแสงอยู่นะจ๊ะ   :mew6:

ออฟไลน์ imkhimaut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หน่องยังรออยู่นะเคอะะะะ ㅠㅠㅠㅠㅠ  :hao5:

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ imkhimaut

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยังรออ่านอยู่นะคะ ;_____;

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด