บทที่ 39 เนินยิปโซ
ครั้งนึง....สมปองคนนี้เคยเป็นสโนไวท์มาก่อน
ไม่นึกเลยว่าจะได้มาเป็นซินเดอเรลล่าด้วย
คิดแล้วปวดใจชะมัด
ผมนั่งนิ่งๆ ให้พี่ขุนกับพี่ชาแปลงโฉมตัวเอง คือตอนนี้กำลังเตรียมตัวเพื่อทำกิจกรรมสุดท้ายของการมาค่ายครั้งนี้นั่นก็คือการแสดงละครเวทีครับ กลุ่มผมเนี่ยะเล่นเรื่องซินเดอเรลล่า แล้วมันก็เป็นโชคร้ายของผมอีกครั้งที่ต้องได้มารับเล่นบทที่ผู้หญิงควรจะเล่น ไม่ใช่ว่าในกลุ่มผมไม่มีผู้หญิงนะ แต่ว่าพี่ขันสั่งมาว่าในฐานะที่ผมเป็นคนคิ้วท์แห่งโยธา ผมก็ต้องเป็นคนรับบทนี้
ตรรกะอะไรของพี่อ่ะ
อยากจะปฏิเสธไปแต่แบบคนสั่งคือพี่ขันไง ใครจะค้านได้วะ ดูรัศมีความมีอำนาจนั่นสิ ผมคิดนะว่าสักวันอยากจะมีอำนาจแบบนั้นบ้าง สั่งอะไรคนก็ทำตามเงี้ยะ แม่งโคตรคูลอ่ะ ตัดภาพมาทุกวันนี้มีคนที่ทำตามผมสั่งคนเดียวก็คือพี่สยาม เนี่ยะ ถือว่าเป็นหมีควายที่ทำตัวน่ารัก
เชื่อฟังเจ้าของ
พูดถึงพี่สยามแล้วตอนนี้มันงอนผมอยู่ครับ คือเมื่อวานมันมีกิจกรรมที่สานสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนกับพี่น้องไง ความจริงกิจกรรมนี้ต้องไปอยู่วันแรกด้วยนะแต่ไม่รู้ทำไมพี่ขันถึงสลับวันกัน ถ้าอยากรู้เหตุผลต้องไปถามพี่ขันเอาเอง กิจกรรมเมื่อวานมันเป็นการซุ่มจับคู่แล้วก็ให้ทำภารกิจต่างๆ ด้วยกัน ผมได้คู่กับรุ่นพี่ปี 3 คนนึง แล้วพอจบกิจกรรมอ่ะไอ้พี่นั่นมันบอกว่ามันแอบชอบผมมานานแล้ว
แม่ง ผู้ชายบอกชอบเว้ยยยย
เชี่ยสุดคือบอกต่อหน้าพี่สยาม
ทันทีที่มันได้ยินหน้าก็หงิกเป็นหมีอดอาหารเลย ส่วนผมนี่ก็เหวอมากไม่รู้จะยังไง รู้ตัวอีกทีพี่สยามเดินสะบัดตูดหนีไปละ มันไม่ได้คุยกับผมเลยนะตั้งแต่เมื่อวาน คงงอนที่ผมไม่ได้ปฏิเสธไอ้พี่นั่นไปในทันทีล่ะมั้ง แหม่ คนมันตกใจนี่หว่าก็ต้องมีอึกอักบ้างไหมวะ แต่ผมก็บอกไอ้พี่นั่นไปแล้วนะว่ามีคนที่ชอบแล้ว
เอาจริงๆ ต้องเรียกว่าคนที่รักต่างหาก
รักมากเลยด้วย
หลังจากที่กิจกรรมแสดงละครเวทีผมเตี๊ยมกับเหล่าสหายไว้แล้วเรื่องจะขอพี่สยามเป็นแฟน ตอนลันตากับสีเทียนรู้เรื่องนี่แซวผมกันใหญ่ พวกมันบอกว่าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ได้ยินแบบนั้นก็ค่อยรู้สึกดีหน่อย ผมเตรียมคำพูดซึ้งๆ ไว้บอกพี่มันแล้วนะ หวังว่าจนถึงตอนนั้นปากคงไม่สั่นจนพูดจาไม่รู้เรื่อง
ขอให้ฟ้าเป็นใจให้สมปองด้วยเถอะครับ
"เสร็จละ ไหนลองลุกยืนซิปอง" สิ้นเสียงพี่ขุนผมก็ลุกขึ้นยืน นี่เป็นซินเดอเรลล่าที่ไทยมากนะครับ สวมผ้าถุงแล้วห่มสะไบด้วย
ฟีลนางตานีมากกว่านางซินฯ อีก
"เออ ใช้ได้" พี่ชาเดินวนรอบตัวผม "ว่าแต่ตัวเจ้าชายไปไหนเนี่ยะ"
"ไอ้ก้องไอ้หอมจัดการอยู่ เดี๋ยวกูไปช่วยไอ้แกงดูพร็อพก่อนนะ"
"เค เดี๋ยวกูอยู่เป็นเพื่อนสมปองเรลล่าเอง"
ผมทำหน้ามุ่ยใส่ "สมปองเรลล่าอะไรล่ะพี่"
"ออกจะคิ้วท์น่า" พี่ชาเลื่อนมือมาขยี้หัวผม "ว่าแต่แผนมึงนี่ยังไง"
"ก็ตามที่เตี๊ยมกันเลยพี่ เดี๋ยวผมจะรีบวิ่งไปที่เนินเลย"
"อย่าลืมไฟฉาย"
"ไม่ลืมแน่นอน มีสำรองรวม 5 กระบอกอ่ะเอาดิ่" ไม่มีพลาดแบบตอนไปหาชามตราไก่แน่ คิดถึงวันนั้นแล้วยังผวาอยู่เลย
แม่งโคตรน่ากลัวเลยอ่ะ
คิดดูดิ่ว่าอยู่ดีดีไฟก็ดับไปต่อหน้าต่อตาผมเลย จังหวะนั้นเหมือนเกิดสภาวะช็อกเลยอ่ะ ผมร้องออกมาดังมาก ขามันหมดแรงแถมน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด มันน่ากลัวมากเลยนะ แต่นับว่ายังโชคดีอยู่ที่พี่สยามมาช่วยผมไว้ ถ้ามันไม่โผล่ช่วย ผมคิดไม่ออกเลยว่าตัวเองจะเป็นยังไง
โชคดีจริงๆ ที่มันหาผมเจอ
ตอนที่พี่สยามแบกผมออกจากป่ามันเป็นอะไรที่รู้สึกอบอุ่นหัวใจมาก รู้สึกปลอดภัยมากๆ ด้วย นาทีนั้นคิดเลยนะว่าชีวิตผมขาดผู้ชายคนนี้ไปไม่ได้ ถ้ามีสมปองก็ต้องมีสยามอ่ะบอกเลย
ของมันต้องคู่กันจริงๆ
"ได้เวลาละปอง" พี่ชามองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้เกือบจะทุ่มนึงแล้วครับ กิจกรรมแสดงละครเวทีกำลังจะเริ่มละ
"งั้นไปกันเถอะพี่" ผมยกชายสะไบขึ้นมาถือไว้ "ผมพร้อมแสดงละ"
"ดีมากน้องรัก มีความมุ่งมั่น"
"ทำดาาาา" ผมยิ้มแฉ่งให้พี่ชาไป ความจริงก็ไม่ได้มุ่งมั่นหรอกครับแค่อยากทำให้มันจบๆ เท่านั้นแหละ
มีเรื่องสำคัญต้องทำต่อนี่นะ
ผมเดินตามพี่ชาออกมาจากห้องที่ใช้แต่งตัว ก่อนหน้านี้ได้มีการจับสลากลำดับคิวกันเรียบร้อยแล้วครับ โดยกลุ่ม 1 ของผมจะแสดงเป็นกลุ่มสุดท้าย แต่ละกลุ่มจะมีเวลาแสดงละครประมาณกลุ่มละ 20 นาที กลุ่มไหนแสดงได้ดีถูกใจคณะอาจารย์ก็จะได้รางวัลไป
ผมหวังว่าจะไม่ใช่ขนมปี๊บ
พี่ชาเดินนำมาจนถึงโซนของกลุ่ม 1 มีคนไม่น้อยเลยนะที่มองผมน่ะ ก็นะ ใครไม่มองก็แปลกแล้ว ดูสภาพเสื้อผ้ากับสภาพหน้าผมด้วย ก่อนแสดงนี่ต้องใส่วิกด้วยนะ สรรหากันมาจริงๆ ถึงบ่นไปมันก็เท่านั้นแหละว่ะปอง โชคชะตามันถูกกำหนดมาแบบนี้ คนต๊อกต๋อยแบบเรามันจะไปทำอะไรได้ ฮึกกกก..ก....
แม่งดราม่าโคตรๆ
ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ ที่สยามที่แต่งตัวเป็นเจ้าชายเสร็จแล้ว แหม่ ดูดีใช่ย่อย จะดูดีมากกว่านี้ถ้าไม่ติดหนวดสะเหล่อๆ นั่น เจ้าชายประเทศไหนเขาไว้หนวดเฟิ้มเป็นซานตาคอสแบบนั้นวะ
เห็นละอยากจับมาถักเปียซะจริง
"พี่สยาม"
"....."
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมีควายที่ท่านเรียก
"จะไม่คุยกับกูจริงๆ หรอ" ผมทำตาละห้อยใส่ก่อนจะทำแก้มป่องหน่อยๆ "มันเหงานะ"
"....."
ยัง....ยังเงียบอยู่
ผมแสร้งทำเป็นถอนหายใจ "งั้นไม่เป็นไร....กูไปคุยกับคนที่เค้าอยากคุยกับกูก็ได้" ว่าแล้วผมก็ทำท่าจะลุกแต่พี่สยามรั้งแขนไว้ก่อน
"หนิ....นั่งนิ่งๆ เลยนะมึง" เจ้าตัวเอ่ยเสียงฉุนพลางมองตาขวางปั๊ด หวงละมาทำเก๊ก น่าหมั่นไส้ซะจริง
"พูดได้แล้วหรอ"
"หึ...."
ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่สยาม "หึ...อะไร"
"หึ...."
"หึ....ทำไม"
"หึ...."
"นี่มึงกวนส้นตีนกูอยู่หรอพี่สยาม" ผมทำตาโตใส่มัน ชักจะโมโหแล้วนะไอ้บ้านี่ มัวแต่หึหึหึอยู่นั่นแหละ มันน่าทุบนักนะ
"หึ...." มือเรียวเลื่อนมาขยี้หัวผมเบาๆ พี่สยามยิ้มหวานจนตาหนี มันคงพอใจที่ปั่นผมได้แน่ๆ ถึงได้ยิ้มซะขนาดนั้น ใจนึงผมอยากจะบีบคอมันแล้วเขย่าๆ ๆ ๆ นะ แต่อีกใจก็ทำไม่ได้อ่ะ
ดูมันยิ้มเซ่
ผมทำหน้าบูดเป็นตูดลิงใส่ พี่มันก็ลูบหัวผมอยู่อย่างนั้น แปลว่าไอ้ที่เงียบๆ มาตั้งแต่เมื่อวานนี่อาจจะรอผมมาง้อแบบนี้ก็ได้นะ ร้ายกาจชะมัด ผมว่าใจจริงมันอาจจะไม่ได้งอนอะไรหนักหนาหรอก แต่ที่ทำมาดเยอะก็น่าจะเป็นเพราะอยากแกล้งผม
นิสัยไม่ดีเลยอ่ะ
"เลิกลูบได้แล้ว" ผมจับมือมันออก หัวนี่ฟูเป็นรังนกแล้วเนี่ยะ
"สมปอง"
"หืม..."
ใบหน้าคมเลื่อนมากระซิบข้างหูผมเบาๆ
"ใครก็ตามที่ไม่ใช่กู....มึงห้ามไปหลงรักเค้าเด็ดขาด"ตึกตัก
พูดอะไรเนี่ยยยย
"ทำตัวเป็นคนขี้หวงไปได้" ผมอมยิ้มมองมัน สีหน้าที่พี่สยามพูดให้ฟังเมื่อกี้มันจริงจังมากเลยนะ
"ไม่ใช่คนขี้หวงธรรมดา กูเป็นคนขี้หวงมากๆ มากในมาก""มึงนี่....รักกูมากเลยนะเนี่ย"
"ก็รู้ตัวหนิ"
งื้อออ.อ.อ....ไม่ไหวแล้วโว้ย
ผมยกมือปิดหน้าตัวเองก่อนจะนั่งบิดไปบิดมา เขินมากอ่ะ ทำไมเขินแบบนี้ก็ไม่รู้ ผมว่าต้องเป็นเพราะหน้ามันแน่ๆ ที่ทำให้ผมเขิน หัวใจนี่เต้นรัวๆ เลย นี่ถ้าไม่ได้อยู่ที่ค่ายผมคงกอดมันตัวกลมไปแล้ว แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะเก็บความอยากทุกอย่างไว้กลับไปทำที่หอทีเดียว
จะเอาให้หนำใจเลยคอยดู!!!
"งานเต้นรำคืนนี้แกต้องเฝ้าบ้าน เข้าใจไหม"
ผมพยักหน้ารับเบาๆ "เข้าใจค่ะคุณแม่เลี้ยง"
"ดีมาก งานบ้านน่ะทำเข้าไป ฉันกับลูกๆ จะไปก่อน เฝ้าบ้านให้ดีล่ะ" ว่าแล้วคุณแม่เลี้ยงก็เดินนำพี่ก้องพี่หอมออกไป เหลือเพียงสมปองเรลล่าที่นั่งจุมปลุ๊กอยู่ตรงนี้
เศร้าใจจัง
ผมทำทีดราม่าก่อนจะหยิบผ้ามาถูพื้น ตอนนี้กลุ่ม 1 ของผมกำลังแสดงละครเวทีอยู่ครับ ขอบอกเลยว่าทุกคนตั้งใจดูมาก ตอนนี้แสดงถึงตอนที่จะไปงานเต้นรำที่ปราสาทของเจ้าชายหมีควายละ นับถอนหลังประมาณ 5 วิ นางฟ้าแม่ทูนหัวก็จะโผล่ออกมาเสกโน่นนี่ให้ คนที่เป็นนางฟ้านี่คือคนที่ทุกคนคาดไม่ถีงอย่างแน่นอน
"ซินนนนเดออออเรลลลลล่าาาาาา"
เสียงนำมาละ
ผมทำเป็นหันมองซ้ายมองขวา "เสียงใครน่ะ"
"นางฟ้าแม่ทูนหัวของเธอไงจ๊ะ" สิ้นเสียงพูด ร่างสูงก็เดินออกมาจากฉากด้านหลัง ในมือถือไม้กวาดทางมะพร้าว
อันนั้นเอามาแทนคฑาถูกไหม
ผมมองพี่ขุนตั้งแต่หัวจรดเท้า คือพี่จะเป็นนางฟ้าที่หล่อมากขนาดนี้ไม่ได้นะ การแต่งตัวของเขาดูดีมากเลย ยกเว้นไอ้คฑาไม้กวาดนั่นน่ะ นี่เวลาร่ายมนตร์มันจะหวดหน้าผมไหมเนี่ยะ
"ทำไมนางฟ้าแม่ทูนหัวถึงมาหาฉันล่ะ"
"ก็จะมาเป็นพี่เลี้ยงส่งเธอไปงานเต้นรำน่ะสิ"
ผมส่ายหน้ารัวๆ "ไม่ได้หรอก แม่เลี้ยงสั่งให้ฉันเฝ้าบ้าน แถมพวกนั้นก็ไปงานเต้นรำ ถ้าฉันไปเจอล่ะก็ มันต้องเป็นเรื่องแน่"
"พวกแม่เลี้ยงใจร้ายจะจำเธอไม่ได้แน่นอน เชื่อฉันสิ" พี่ขุนบอกก่อนดึงผมให้ลุกขึ้น "เราไปแปลงโฉมกัน" ว่าแล้วเขาก็ลากผมเข้ามาหลังต้นไม้ใหญ่ซึ่งมีพี่แกงสแตนด์บายรอเปลี่ยนชุดให้
ระหว่างนี้พี่ขันก็บรรยายเนื้อเรื่องไปเรื่อย นี่อีกแค่แปปเดียวละครเวทีก็ใกล้จบแล้วนะครับเพราะว่าจังหวะที่ผมต้องทำรองเท้าหลุดแล้ววิ่งหนีไปนั้น ผมจะวิ่งไปที่เนินยิปโซเลย เรื่องนี้เตี๊ยมกันกับทีมงานเรียบร้อย ป่านนี้พวกเพื่อนๆ ผมน่าจะกำลังจัดไฟกันอยู่ เออ เรื่องเซอร์ไพรสนี้ผมขออนุญาตทางเจ้าหน้าที่และอาจารย์วิชัยเรียบร้อย
ตอนขอนี่โดนแซวจนเขินตัวบิดเลยอ่ะ
"เสร็จละ ป่ะ" พี่ขุนลากผมออกมาหลังจากที่แต่งตัวเสร็จ ตอนนี้สภาพผมก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากกว่าเดิมเท่าไหร่แค่ผ้าถุงกับสะไบกลายเป็นสีฟ้า
"ชุดของฉัน"
"ยัง ยังไม่เสร็จ เธอต้องสวมสิ่งนี้ด้วย" มือเรียวของพี่ขุนล้วงไปหยิบรองเท้าแก้วในกล่องที่วางอยู่ใกล้ๆ ออกมาให้ รองเท้าแก้วนี่มันรองเท้าแก้วจริงๆ นะ
รองเท้าแตะที่มีแก้วโง่ๆ แปะอยู่ด้านบน
เอาคะแนนควาทครีเอทไปเลย 100 คะแนน
"รองเท้าแก้ว"
"ใช่ รองเท้าแก้ว" พี่ขุนนั่งลงไปสวมรองเท้าให้ผม "จงจำไว้อย่างนึงนะซินเดอเรลล่า เวทมนตร์ของฉันจะหมดฤทธิ์ตอนเที่ยงคืน เพราะงั้นจงรีบกลับมา"
"ได้....ขอบคุณนะนางฟ้าแม่ทูนหัว" ผมยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินไปหลังฉาก คือปกติจะต้องมีรถฟักทองใช่ไหมล่ะแต่ว่าพี่ๆ มันขี้เกียจทำพร็อพก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
ผมยืนมองพวกสต๊าฟที่กำลังวิ่งวุ่นเปลี่ยนฉาก พวกคนดูก็ฮือฮาอยู่นะ ดีละดี จังหวะที่ผมวิ่งหนีไปคงงงแดกกันบ้างแหละ ไม่เป็นไรช่างแม่งละกัน เดี๋ยวเรื่องที่จะเกิดขึ้นวันนี้ก็คงเป็นที่กล่าวขานไปอีกนาน
คิดแล้วก็เขินนนน
ผมมองทางเวทีที่พี่สยามเดินขึ้นไปแล้ว เสียงกรี๊ดดังมากเลยว่ะ แค่เปิดตัวเจ้าชายหมีควายแค่นี้มาทำเป็นกรี๊ดกัน ผมว่านะ คนไม่ได้กรี้ดที่มันหล่อหรอก เขาคงกรี๊ดหนวดที่มันติดอ่ะ ก่อนผมจะขอมันเป็นแฟนผมจะให้มันแกะหนวดออกก่อน
แม่ง....ไม่โอเคจริงๆ
หลังจากที่ยืนฟังเจ้าชายแพล่มอะไรอยู่คนเดียวสักพัก ผมก็เดินขึ้นไปบนเวทีก่อนจะทำเป็นชำเลืองตามองเจ้าชาย คือฉากนี้มีหน้าม้าที่มาเต้นรำกันด้วยนะ รวมถึงพวกแม่เลี้ยงด้วย ทันทีที่เจ้าชายเห็นผมก็ทำเป็นมองตาค้าง เห็นหน้ามันแล้วตลกอ่ะ จะขำก็ขำไม่ได้
เกิดเป็นสมปองต้องอดทนอะไรแบบนี้ด้วยเหรอวะ
พี่สยามเดินมาทางผมก่อนจะโค้งหัวให้ "จะเป็นเกียรติมาก....หากคุณเต้นรำกับผม" มือเรียวยื่นมาด้านหน้า
"ค่ะ" ผมวางมือลงบนมือพี่สยาม ทันใดนั้นเพลงเต้นรำของเราก็ดังขึ้นมาทันที
อะกู๋ ปิลุม มานดี ตะตุงตวง ตะตุงตวง.... เดี๋ยวววว
ปราสาทมึงเปิดเพลงนี้เต้นรำเหรอ
พอเพลงนี้ดังขึ้นบนเวทีก็เปิดสเต็ปโหดกันเลยมีเดียว ผมยังคงยืนเด๋อไม่รู้จะยังไงต่อ เสียงหัวเราะชอบใจดังมาจากเหล่าคนที่นั่งอยู่ด้านล่าง เพลงยังคงดังต่อไปเรื่อยๆ พี่แกงที่โผล่หน้าออกมาบอกให้ผมกับพี่สยามเต้น คือต้องเต้นยังไงวะเนี่ย ส่ายตูดได้ไหม
ส่ายได้ละกัน
ผมเต้นส่ายตูดไปเรื่อย พี่สยามก็โยกไปตามเพลง แม่งเป็นงานเต้นรำที่เกินความคาดหมายมากๆ จะทำให้ซึ้งหน่อยก็ไม่ได้เลยนะ ใจคอจะเอาฮาอย่างเดียว แถมยังไม่ได้บอกให้นักแสดงเตรียมใจเลยด้วย
หึ้ยยยย...ย....อย่าให้รู้นะว่าใครเขียนบทน่ะ
เต้นส่ายตูดไปได้สักแปปเสียงระฆังก็ดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าให้ผมต้องไปจากเจ้าชายได้แล้ว พอเป็นแบบนั้นผมหันไปหาพี่สยาม "ฉันต้องไปก่อน...."
"เธอชื่ออะไร"
"ฉัน....ไม่ทันแล้ว ขอโทษนะเจ้าชาย" ผมหันหลังก่อนจะแสร้งทำเป็นรองเท้าหลุดไปข้างนึงแล้วรีบวิ่งลงมาจากทางด้านหน้าเวที มือก็คว้าไฟฉายที่พี่ชาเตรียมไว้ให้แล้วมุ่งไปทางเนินยิปโซ
คนคงมึนงงว่าผมทำอะไรวะ
เดี๋ยวพวกพี่ๆ มันก็เสี้ยมพี่สยามต่อกันเองแหละ ผมวิ่งมาจนถึงทางเข้าป่าก่อนจะสวมรองเท้าที่ลันตาเตรียมไว้ให้ มือก็เปิดไฟฉายอีก 4 กระบอกแล้วเอาคล้องแขนไว้ ตอนนี้น่าจะ 3 ทุ่มกว่าๆ เหล่าสหายคงจัดไฟกันเสร็จแล้ว ผมวิ่งเข้ามาเรื่อยๆ ตอนนี้ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นครับเพราะไฟฉายนี่ส่องสว่างไปหมด
"ปอง!!!!"
ผมส่องไฟตามเสียงก็เห็นร่างสูงของเพื่อนรัก "แยมมมม"
"มาแล้วหรอ" สีเทียนโผล่หน้าออกมา "แต่งตัวอะไรของมึงฮ่าๆ ๆ ๆ "
"เป็นสมปองเรลล่าไง ว่าแต่มึงจัดไฟกันเสร็จยัง"
"เรียบร้อย แผงวงจรอยู่กับลันตา มันจะเป็นคนเปิดเอง อ่ะนี่ช่อดอกไม้ กูหาได้ดีสุดเท่านี้แหละ" แยมส่งช่อดอกไม้ทำมือมาให้ผม มันเป็นช่อดอกไม้นานาชนิดเลยครับถูกห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล
หวังว่าพี่สยามจะชอบนะ
"ขอบใจพวกมึงจริงๆ ว่ะที่ช่วยทำทุกอย่างนี่"
สีเทียนยกมือแตะไหล่ผม "เล็กน้อยน่ะ เห็นมึงจะมีความสุขกูก็ดีใจละ"
"กูก็เหมือนกัน มึงไปยืนรอพี่เค้าตรงกลางเนินได้แล้ว"
"โอเค" ผมรับคำก่อนจะเดินมาตรงกลางของเนินยิปโซ
บนท้องฟ้าคืนนี้ดาวสวยมากครับ สวยกว่าคืนก่อนอีก สงสัยจะตื่นเต้นที่ผมจะขอพี่สยามเป็นแฟนแน่ๆ ทำดีมากเจ้าดาว มาเป็นพยานรักกันเยอะๆ เหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยหรอกนะ ตอนนี้ใจผมก็เต้นแรงอยู่พอตัวเลย เรื่องนี้ก็ต้องเขียนไดอารี่บอกพ่อสินะ ตอนพ่ออ่านพ่อจะตกใจไหม จะอ้าปากค้างรึเปล่าที่ลูกชายกำลังจะมีแฟนเป็นผู้ชาย
ช่างมัน ไว้ถึงตอนนั้นค่อยคิดละกัน
"สมปอง!!!!!"
มาละ
ผมหันมองตามเสียงก็พบกับพี่สยามที่ถอดหนวดออกไปแล้ว เจ้าตัววิ่งมาหยุดอยู่ทางเข้าเนิน "พี่สยาม...."
"แฮ่ก.ก....มาทำอะไรที่นี่" เจ้าตัวเดินมาหยุดตรงหน้าผม "เดี๋ยวก็เป็นเหมือนคืนนั้นหรอก"
"ไม่เป็นหรอกเพราะมีไฟฉายตั้งนี่" ผมโชว์ไฟฉาย 5 กระบอกที่คล้องอยู่กับแขนให้มันดู
"ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ว่าแต่มึงวิ่งมาทำไมตั้งนี่ ละครเรายังไม่จบเลยนะ"
"ก็....เห็นดาวมันสวย ก็เลยอยากให้มาดูด้วยกัน"
"โถ่ปอง...." พี่สยามมันทำหน้ามุ่ยทันที พอเห็นแบบนั้นผมเลยตีหน้าซื่อใส่
"งืมม..ม....พรุ่งนี้เราก็กลับกันแล้วอ่ะ นี่เป็นวันสุดท้ายที่จะได้ดูดาวสวยๆ นะ"
คนตรงหน้าถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเงยหน้ามองดาวบนฟ้า "ดาวมัน...ก็สวยจริงแหละ แต่ถ้ามันมีเยอะกว่านี้มันน่าจะสวยมากกว่านี้"
"หึ....นั่นสินะ งั้นกูจะเป็นคนเสกดาวมาให้เอง" ผมยกมือขึ้นดีดนิ้วดังเปราะทันทีที่พี่สยามพูดจบ แสงไฟดวงเล็กๆ ก็สว่างขึ้นลามไปทั่วทั้งเนินรวมถึงบนต้นไม้ก็มีหลอดไฟแบบดาวตกห้อยอยู่
สวยจริงๆ
ร่างสูงตรงหน้าผมหันมองไปรอบๆ ทั้งเนิน ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมา มันคงชอบในสิ่งที่ผมทำให้สินะ เห็นแบบนี้ก็รู้สึกดีใจว่ะ ผมอาศัยจังหวะที่พี่สยามมองไฟอยู่นั้นหยิบช่อดอกไม้ขึ้นมาถือไว้ตรงหน้า เอาล่ะ ตั้งสติแล้วหายใจเข้าลึกๆ นะปอง
ถึงเวลาแล้ว
"พี่สยาม...."
"หืม ดอกไม้งั้นหรอ"
"ของมึงอ่ะ" ผมยื่นช่อดอกไม้ให้ "ชอบ....สิ่งที่ทำให้ไหม"
"ชอบสิ ชอบมากๆ ขอบคุณนะครับ" เจ้าตัวยิ้มหวานก่อนจะรับดอกไม้ไปจากมือผม งื้ออ.อ.อ...ใจบางกับรอยยิ้มนี้อีกละ
โอ่ยตาย สมปองตายแน่ๆ
"กูเห็นมึงชอบ กูก็ดีใจละ" ผมผ่อนลมหายใจออกเบาๆ "คือ....กูมีเรื่องจะบอกมึงอ่ะ"
"เรื่องอะไรหืม...."
"ก็....ตอนแรกที่เจอมึง กูไม่ชอบขี้หน้ามึงมากเลยนะ คนบ้าอะไรก็ไม่รู้กวนประสาท แถมยังยังบอกว่ากูชื่อโบราณทั้งๆ ที่ตัวเองก็ชื่อสยามแท้ๆ "
"ถ้าไม่ทำแบบนั้นมึงก็จะจำกูไม่ได้น่ะสิ"
"นั่นแหละ....แล้วมึงก็เป็นคนที่เอาครั้งแรกของกูไปหมดเลยด้วย ทั้งหอมแก้ม ทั้งจูบ ทั้ง....ไอ้นั่นด้วย"
พูดเองนี่แก้มร้อนผ่าวเลยว่ะ
"แก้มแดงจังเลยนะ" มือเรียวยกขึ้นมากุมแก้มผม "มีอะไรจะพูดอีกหืม"
"ก็....จะบอกว่าไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่ความรู้สึกไม่ชอบขี้หน้ามึงมันเปลี่ยนไป มึงคอยวนเวียนอยู่รอบตัวกูมาตลอด คอยช่วยเหลืออะไรหลายๆ อย่าง จนวันที่เรามาอยู่ด้วยกัน มึงก็คอยดูแลกู เป็นคนที่รู้ใจกูทุกเรื่อง ช่วงเวลาเหล่านี้มันดีมากเลย ขอบคุณนะพี่สยาม"
"กูก็ต้องขอบคุณมึงเหมือนกันที่กลายมาเป็นความสุขในชีวิตกู"
ผมพยักหน้ารับเบาๆ "ตอนที่กูกลับบ้านแล้วเราต้องห่างกัน กูก็คิดถึงมึงมาก มากจนคิดได้เลยว่าการอยู่ห่างกับมึงนานๆ มันคงไม่ดีแน่ เหมือนกูขาดมึงไม่ได้เลยพี่สยาม ขอโทษนะที่ทำให้รอซะนาน แต่ว่ากูจะไม่ให้มึงรออีกแล้ว" ว่าแล้วผมก็เลื่อนมือไปจับมือมันไว้
"สมปอง...."
"เป็น....แฟนกันเถอะนะ" ผมเอ่ยออกมาเบาๆ พลางสบดวงตาคมนั่น
"กูจะเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย มึงต้องรักกูมากกว่าตอนนี้แน่ๆ ""มึงนี่มันจริงๆ เลยนะปอง" พี่สยามหลุดหัวเราะออกมา ทำไมอ่ะ ผมพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ
"อย่าเพิ่งหัวเราะสิ....บอกคำตอบมา จะเป็นแฟนกูไหม ต้องเป็นนะ ขนาดนี้แล้วก็ต้องเป็นสิ"
"เป็นครับเป็น ต้องเป็นอยู่แล้ว" มือเรียวดึงผมเข้าไปกอดแน่น "ขอบคุณนะปอง....ขอบคุณ"
"อื้มม.ม.ม....กูรักมึงนะพี่สยาม รักมากๆ "
เจ้าตัวคลายกอดออกก่อนจะก้มจูบหน้าผากผมเบาๆ "กูก็รักมึงเหมือนกันนะ"
"มีความสุขจัง" ผมยิ้มหวานให้พี่สยาม มันเองก็ยิ้มหวานให้ผมเหมือนกัน
เสียงปรบมืออย่างยินดีดังออกมาจากรอบๆ เนิน นี่ตามมาดูกันเกือบหมดเลยไหมเนี่ย ถ้าเดินออกไปจากตรงนี้จะต้องโดนแซวแบบย่อยยับแน่ๆ แต่ไม่เป็นไร วันนี้เป็นวันดีผมจะยอมให้ละกัน ในที่สุดก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ทีนี้ผมจะพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำละครับว่าผมกับพี่สยามเป็นแฟนกัน
รักกันมากๆ ด้วยยยย
"ปอง" พี่สยามเลื่อนมากระซิบเบาๆ ข้างหูผม "กลับหอ....ต้องได้แง่มนะ"
มึงนี่มันจริงๆ เลยว่ะ
"กูรู้แล้วน่า...."
จะตามใจทุกอย่างเลย
TBC.
สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว ขอโทษด้วยที่มาเลทนะคะเพราะว่าโน้ตบุ๊คชาลพังไปแล้วก็เลยต้องแต่งในโทรศัพท์มันก็เลยช้ามากๆ ก็ต่อจากนี้ขอให้บี๋รอนิยายกันอย่างใจเย็นนะ
ก็เขาคบกันแล้วนะคะ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เดี๋ยวเรื่องจะเริ่มเจ้มจ้นขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องรอติดตามนะคะ ชาลเองก็ใกล้จะสอบไฟนอลละเหลือเวลาอีกเดือนเดียว โปรเจ็กต์ก็ถาโถมเข้ามาใส่ เพราะงั้นช่วยปากำลังใจมาให้เยอะๆ ด้วยนะคะ
ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์ให้กันได้นะ สามารถติดต่อข่าวสารได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้าาา