บทที่ 33 สมปองไปพิษณุโลก
"เมื่อยป่ะครับ"
"ไม่เมื่อย"
"เมื่อยแล้วบอกนะ จะได้เปลี่ยนกัน"
"ก็เนี่ยะ ถ้าถึงนครสวรรค์แล้วค่อยเปลี่ยน"
"เอางั้นก็ได้ กินขนมไหมหืม เดี๋ยวแกะให้"
"กิน เอาเอ็มแอนด์เอ็ม"
"แปปนะครับ" คนนั่งข้างๆ หันไปด้านหลัง "มึงหยิบถุงขนมให้กูซิขุน"
"นี่ครับท่านสยาม"
"ขอบใจ" มือเรียวรับมาก่อนจะคุ้ยหาเอ็มแอนด์เอ็มมาแกะแล้วป้อนให้ผมกิน
"เหม็นความรักจังเลยโว้ยยยย"
ผมก็เหม็นความรักเหมือนกันครับพี่หอม
ตอนนี้พวกเราเหล่าคณะกรรมการของวิศวะฯ กำลังมุ่งหน้าไปค่ายที่พิษณุโลกครับ โดยมีผมเป็นคนขับรถให้ รถที่ขับนี่ก็ใช้เป็นฟอร์จูนเนอร์ของพี่ขุนเพราะว่ายัดคนมาได้เยอะ 7 คนเลยนะที่มากันน่ะ มีผม พี่สยาม พี่ก้อง พี่หอม พี่ขุน พี่แกง แล้วก็พี่เกียร์ที่เป็นแฟนพี่แกง เออแฟนพี่แกงแม่งโคตรหล่ออ่ะ หล่อแบบหล่อชิบหาย ก็นะ มีดีกรีเป็นถึงเดือนมหา'ลัยเลยนี่นา จะหล่อมากก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เรื่องที่ผมชมพี่เกียร์อย่าบอกพี่สยามนะครับ
จุ๊ จุ๊
ผมว่านะพวกพี่ๆ เขาต้องรู้เรื่องผมกับพี่สยามอย่างแจ่มแจ้งแล้วแน่เลย เพราะตั้งแต่เมื่อเช้าก็ยังแซวไม่หยุดปาก พี่สยามมันก็ไม่แคร์เลยนะแบบใครจะพูดอะไรก็พูดไปกูจะดูแลเมียกู มันหอมแก้มผมต่อหน้าต่อตาพี่หอมกับพี่ก้องด้วย นี่ขนาดยังไม่คบกันยังแสดงออกขนาดนี้ ถ้าคบกันเมื่อไหร่มันไม่จูบปากผมโชว์คนอื่นเลยเหรอวะ
พี่สยามนี่มันข่นบ้าจริงๆ
"แวะหาอะไรกินไหมพวกมึง จะเที่ยงแล้วอ่ะ"
"ก็ดีนะ กูกับเกียร์ยังไม่ได้กินอะไรเลย"
พี่ขุนหันไปมองด้านหลัง "มัวแต่กินกันเองไงพวกมึงอ่ะ"
"รู้มากนักนะไอ้สัส" พี่เกียร์มองแรงใส่ก่อนจะฉีกยิ้มให้ผม "แวะปั๊มหน่อยนะครับน้องปอง"
เชี่ยยยย อย่างหล่อ
"น้องปองเชี่ยไรมึ้งงงง ลงไปต่อยกับกูข้างทางป่ะไอ้ชิบหายยยย" พี่สยามมันหันไปโวยวายใส่
ผมเหลือบมองพี่เกียร์ผ่านกระจกหลังพลางมองไปพี่สยามไปด้วย "ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ"
"ใจเย็นไรล่ะ" พี่สยามเบะปากใส่ผม "มันเรียกมึงว่าน้องปองเลยนะ"
"ก็แค่เรียกว่าน้องปองเอง"
"กูไม่ให้เรียก"
"งอแงอะไรของมึงวะพี่สยาม" ผมเลื่อนมือไปลูบท้ายทอยมันเบาๆ "โอ๋เอ๋นะโอ๋เอ๋"
"อื้อออ.อ.....ปอง" เจ้าตัวส่งเสียงอ่อนก่อนจะจับมือผมที่ลูบท้ายทอยไปกุมแล้วแนบแก้มไว้เบาๆ
น่ารักชะมัด
ผมชอบเวลาที่มันทำเสียงอู้อี้แล้วแสดงท่าทีอ้อนเป็นแมวแบบนี้ แต่อย่างพี่สยามเนี่ยะจะเอาไปเปรียบกับแมวก็คงไม่ได้ จะไปเทียบกับเสือก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะไม่มีเสือที่ไหนเป็นแบบมันหรอก มีสัตว์อยู่แค่ประเภทเดียวเท่านั้นที่จะเป็นตัวแทนพี่สยามของผมได้
หมีควายครับ
พี่สยาม = หมีควาย
"อมยิ้มอะไรอ่ะ" หมีควายมองตาแป๋วมาทางผม "บอกมานะ"
"เปล่า" ผมบอกปัดก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดในปั๊มใหญ่ กินอะไรดีวะเนี่ย มีทั้งร้านข้าวแกง มีเซเว่นฯ มีไก่ทอดผู้พันธ์ด้วยนะครับ
พี่ขุนหันมองเพื่อนๆ "แดกอะไรกันดี"
"กูอยากกินไก่ทอด"
"กูก็เหมือนกัน"
"งั้นเอางี้" พี่แกงชะเง้อหน้ามาจากด้านหลัง "มาทำศึกแห่งศักดิ์ศรี ใครแพ้เลี้ยงไก่ โอเคไหม"
"เออได้ กูไม่มีปัญหา"
"มาๆ มึงมา" พี่สยามมันเอี้ยวตัวเข้าประจันหน้ากับเพื่อนๆ ทำไมต้องฮึกเหิมขนาดนี้ด้วยวะ
ว่าแต่ศึกแห่งศักดิ์ศรีมันคืออะไรอ่ะ
ผมมองพวกพี่ๆ เขาจ้องหน้าจ้องตากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไอ้ศึกแห่งศักดิ์ศรีนี่ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เลยว่ะ ไม่งั้นพวกพี่มันคงจะไม่จริงจังกันถึงขนาดนี้
"เอาเลยไหม" พี่ขุนเอ่ยถาม
"มา....3....2....1"
"โอน้อยยยยยยยยยยย....ออก"
อา....กูผิดเองแหละที่หลงตื่นเต้นน่ะ
โอน้อยออกก็บอกโอน้อยออกสิวะ
"ไอ้ก้องออกว่ะ ไปเลยมึง เลี้ยงพวกกู"
คนเลี้ยงทำหน้ามุ่ย "เออ ไปดิ่ ลงกันไปได้แล้ว" สิ้นเสียงพี่ก้องเหล่าสหายก็พากันลงจากรถ ผมเองก็ลงตามมาก่อนจะกดล็อก
คนในปั๊มก็พลุกพล่านพอสมควรเลยนะเพราะว่ามันเป็นปั๊มใหญ่ริมถนนทางหลวง แล้ววันนี้มันเป็นวันอาทิตย์ด้วย คนก็เลยเดินทางกันเยอะหน่อย เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยชอบขับรถไกลๆ นะเพราะว่ามันเหนื่อยอ่ะ แต่ที่ขับให้พวกพี่เขานั่งกันเพราะว่าสภาพของแต่ละคนเมื่อเช้าคือตาจะปิดมาก ถ้าให้พวกพี่มันขับ ผมว่ารถน่าจะจูบเสาไฟฟ้าอยู่แถวหอนั่นแหละ
แค่คิดก็อนาถแล้ว
ผมเดินตามพวกพี่ๆ เข้ามาในร้านไก่ทอดผู้พันธ์ พวกพนักงานที่ยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์นี่มองกันให้ตาโตเลย ไงล่ะ ไม่เคยเห็นสมปองคนหล่อล่ะสิ ซึมซับความหล่อบนหนังหน้าผมไว้นะ เพราะว่าจะไม่ผ่านมาแถวนี้บ่อยๆ
หึ้ยยยย....ยยย พูดจาโคตรหลงตัวเอง
พี่สยามลากผมมานั่งที่โต๊ะ ส่วนพี่ๆ ที่เหลือไปสั่งอาหารที่เคาท์เตอร์ ผมนั่งเท้าคางมองหน้าพี่สยาม มันเองก็มองหน้าผมเหมือนกัน มองทำไมวะ หน้าเหมือนเมียมึงเหรอ
"มองหน้าทำไม"
"
ก็คุณน่ารักอ่ะ" เจ้าตัวเอ่ยพร้อมกับคลี่ยิ้ม "
ผมก็เลยอยากมองบ่อยๆ "
ตึกตัก
พี่สยามนี่แม่ง....
"มองมากๆ เดี๋ยวก็เบื่อหรอก"
"ไม่มีใครเบื่อคนที่ตัวเองรักหรอกนะครับ"
อื้อออ.อ..อ....โดนไปอีกดอก
ผมหลุดยิ้มออกมา "พอแล้วครับคุณ"
"เป็นอะไรหืม" มือเรียวเลื่อนมากุมแก้มผมไว้
"ผม....เขิน"
ตัวจะแตกแล้วด้วยครับ
หลังจากที่ผมพูดออกไปแบบนั้น คนตรงหน้าก็ยิ้มออกมาอย่างชอบใจ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึงนะ เล่นมาพูดเพราะแล้วก็ยิ้มหวาน แถมยังหยอดด้วยคำพูดแบบนั้นใครมันจะไม่แพ้บ้าง นี่ถ้าอยู่ห้องด้วยกันนี่มีกระโจนเข้าไปซบแล้วเอาจริงๆ พี่สยามเนี่ยะร้ายกาจชิบ ไล่ต้อนเก่งขึ้นมากเลยด้วย กว่าจะทนดาเมจที่มันโจมตีใส่ในแต่ละวันได้นี่โคตรสาหัส
ผมนี่เป็นสมปองที่น่างสานจริงๆ
เฮ้อ....ควรเขียนไดอารี่ฟ้องพ่อ
การมาทริปครั้งนี้ผมไม่ได้พกไดอารี่มานะครับเพราะว่าเดี๋ยวพี่สยามมันจะเห็น แต่เดี๋ยวกลับไปผมจะเขียนเล่าให้พ่อฟังว่าโดนพี่สยามมันหยอดอีกแล้ว หยอดกลางร้านไก่ทอดด้วย และก็ต้องเล่าให้พ่อฟังว่ามาทริปที่พิษณุโลกกัน มาติดต่อเรื่องค่ายโน่นนี่นั่น จะเขียนเยอะๆ ให้พ่ออ่านจนตาแฉะเลย เตรียมน้ำตาเทียมไว้หยอดตาเลยนะพ่อ
เดี๋ยว....ถ้าตาแฉะ ก็ไม่ต้องหยอดน้ำตาเทียมป้ะวะ
ช่างแม่งเถอะ
"ไก่มาแล้ว" พี่ขุนวางถาดไก่ทอดไว้ตรงหน้า "แจกจานเร็วปอง"
"ครับผม" ผมหยิบจานแจกจ่ายให้พวกพี่ๆ กลิ่นไก่ที่เพิ่งทอดใหม่ๆ นี่หอมจริงๆ เลย
"เห้ยขุน กูลืมเลยว่ะ"
"ลืมไรวะแกง"
"ก็ปกติไอ้สยามมันต้องกินไก่ในน้ำไง"
คนโดนแซะหันขวับมองทันที "ปากดีนะมึง เดี๋ยวแช่งให้ผัวมีเมียน้อยหรอก"
"ปากหมา" พี่แกงเบ้ปากใส่พี่สยาม "เดี๋ยวกูก็แช่งให้เมียมึงไปหาผัวใหม่หรอก"
"กูว่านะ เดี๋ยวผัวกับเมียพวกมึงก็มาได้กันเองหรอก" พี่หอมบ่นอย่างเอือมๆ พี่สยามนี่หันมาจ้องผมทันทีเลย พี่แกงเองก็จ้องพี่เกียร์เหมือนกัน
อะไรของพวกมึงเนี่ยะพี่
"กินไก่ดีกว่าเนอะ" ผมยิ้มแห้งๆ ให้พี่สยามก่อนจะจิ้มไก่ไปใส่ในจานไว้ให้
เจ้าตัวหรี่ตามองผม "ห้ามมีผัวใหม่นะ"
"พูดอะไรของมึง" ผมตีแขนมันแรงๆ พูดจาไม่ดูสภาวะรอบข้างเลยนะไอ้สัส พวกพี่ๆ ที่กำลังจกไก่นี่ส่งสายตาล้อเลียนมาที่กูใหญ่แล้วเนี่ย
พี่สยามมันทำหน้าเหลอหลาใส่ผม ไม่ได้สำนึกในสิ่งที่พูดเลยนะ คือถ้าวันไหนที่เราคบกันอย่างเป็นทางการผมจะปล่อยให้มันพูดให้เต็มที่เลย แต่คือนี่ก็ยังไม่ได้คบกันไง มันเขินๆ นะเวลาที่ได้ยินอะไรแบบนั้นอ่ะ
แก้มนี่ให้ร้อนไปหมด
มันน่ะชอบย้ำกับผมว่าอย่าไปมีผัวใหม่นะ คือมันทำเหมือนผมจะไปพ่ายแพ้ให้ผู้ชายอื่นนอกจากมันอ่ะ เอาจริงๆ คนที่ควรกังวลมันน่าจะเป็นผมนะ ทุกวันนี้ก็ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าอยู่ดีดีมันไปมีเมียใหม่ผมจะทำยังไง ถึงแม้ว่ามันจะพร่ำบอกว่ารักผมมากก็เถอะ แต่ใจคนเรามันจะเปลี่ยนวันไหนก็ไม่มีใครรู้ ก็อยากบอกมันนะว่าให้อดทนรออีกหน่อย ใกล้ถึงเวลาที่ผมจะผูกมัดมันไว้แล้วล่ะ
อีกแค่แปปเดียวเอง
"ปอง เรื่องค่ายอ่ะติดต่อเค้าไว้ว่ายังไง" พี่หอมเอ่ยถาม
"ผมโทรบอกเค้าว่าเราจะเข้าไปวันพรุ่งนี้น่ะพี่ ทางค่ายก็โอเคนะ เค้าส่งแผนที่การไปค่ายมาให้ด้วย เดี๋ยวผมเป็นคนขับรถพาไปเอง"
พี่ก้องพยักหน้ารับรู้ "แล้วเรื่องที่พักอ่ะ เราจะพักกันที่ไหนเนี่ยะ"
"ผมจัดการไว้ให้แล้วพี่ ก็จองโรงแรม G ได้ 4 ห้องอ่ะ เพราะว่าพี่ขุนจะนอนคนเดียวใช่ไหมล่ะ ที่เหลือก็นอนกันเป็นคู่ไป"
"กูนอนกับมึงนะ" พี่สยามชิงพูดแทรกขึ้นมาก่อน "ตามนี้"
"น้องมันก็ต้องนอนกับมึงอยู่แล้วไหมวะ หวงจริงๆ เลยนะ" พี่ขุนบอกพลางเบ้ปากใส่
"หวงสิวะ ไว้มึงมีเมียเป็นตัวเป็นตนมึงจะเข้าใจ"
ผมหยิกแขนพี่สยามแรงๆ "มึงนี่...." พูดออกมาโต้งๆ แบบนี้อีกแล้วนะ
"นั่นสิน้า" พี่ขุนจิ้มไก่เข้าปากก่อนจะเท้าคางมองพี่สยาม "แต่คนแบบไหน....จะหยุดกูได้วะสยาม"
"คนที่ใจมึงบอกว่า....ใช่"
ไม่เห็นต้องมองมาทางกูเลย
มันเขินนะ
ผมนั่งจกไก่กินเงียบๆ ดีกว่าครับ น่าจะดีกับชีวิตมากกว่านี้ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ นี่ พูดถึงทีไรก็ทำใจสั่นตลอดน่ะนะ เดี๋ยวต้องตั้งสติเตรียมตัวขับรถด้วย อีกนิดเดียวก็จะนครสวรรค์ละ ถึงเมื่อไหร่ค่อยเปลี่ยนให้พี่สยามมาขับแทน ส่วนผมก็คงจะต้องงีบสักแปป เผื่อจะหายล้าบ้าง
"ปอง"
ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้า "หืม....."
"นี่คือไร" พี่สยามมันจิ้มไก่ชูให้ผมดู
"ไก่ไง"
"
ที่คุณเห็นอ่ะมันคือไก่" พี่สยามยกยิ้ม "
แต่ถ้าอยากเห็นคนที่รักคุณจนหมดใจ....ให้มองมาทางผมนี่"
อื้อออออ....อ.อ.อ.......
ดาเมจส้นตีนไรเนี่ย
"โว้ยยยยยยยยยยย มุขเชี่ยไรมึงเนี่ยยยย"
"มุขแม่งโคตรได้"
"น้องมันเขินจะตายห่าอยู่แล้วน่ะไอ้หยัมมมม"
"โคตรร้ายเลยว่ะ" เออ แม่งโคตรร้าย
เจอดอกนี้ไป....ต่อให้เก่งมาจากไหนก็ต้องยอมแพ้แหละวะ
"มึงนี่มันจริงๆ เลยนะพี่สยาม...."
โรงแรม G : พิษณุโลกตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 6 โมงและนายสมปองกำลังเกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง พวกเรามาถึงที่พิษณุโลกประมาณ 4 โมงกว่าๆ พวกพี่ๆ เขานัดกันจะไปเริงราตรีกันครับ ส่วนผมคงอยู่ห้องนี่แหละ เพราะว่ารู้สึกเพลียแปลกๆ พี่สยามเองก็คงไม่ไปหรอก มันน่าจะอยู่กับผม
คิดอย่างนั้นนะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ผมลุกเดินไปเปิดประตูก็พบกับพี่ขุนที่สวมชุดคลุมอาบน้ำมา "มีอะไรอ่ะพี่"
"ไอ้สยามอ่ะ"
"มันอาบน้ำอยู่ พี่เข้ามาก่อนสิ" ผมหลบทางให้ พี่ขุนก็เดินเข้ามานั่งในห้อง
"เออปอง พี่มีอะไรจะถามหน่อยอ่ะ"
"อะไรอ่ะพี่"
"เพื่อนเราที่ชื่อแยมเนี่ยะ เป็นคนยังไง"
"ไอ้แยม....มันก็เป็นคนที่พึ่งพาได้เลยนะพี่ คือมันนิสัยดีและเป็นมิตรกับชาวบ้านที่สุดแล้วอ่ะ ส่วนนิสัยอย่างอื่น มันชอบเล่นเกมอ่ะพี่ แต่ว่ามันก็รู้เวลานะว่าควรเล่นตอนไหน ว่าแต่พี่ถามทำไม"
"ก็เดี๋ยวเปิดเทอมเนี่ยะ จะมีคัดเลือกดาวเดือน แล้วพวกคณะกรรมการฯ ของสาขาอื่นเค้าก็เล็งแยมไว้เยอะ พี่ก็เลยอยากรู้นิสัยคร่าวๆ "
ผมพยักหนัารับ "เอาดิ่พี่ เดี๋ยวผมจะพยายามช่วยดันมันอย่างเต็มที่"
"ดี แต่ว่าเอาให้รู้แค่พวกเราก่อนนะ ไม่ต้องบอกตัวมันด้วย"
"โอเคเลยครับ"
"เสียงใครวะ" พี่สยามเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่รอบเอวแค่ผืนเดียว "มึงมาทำไมเนี่ยะ"
"มาเต๊าะเด็ก"
"ระวังได้ตีนกูไปแทน"
พี่ขุนตีหน้าท้องพี่สยามแรงๆ "โหดจังนะไอ้สัส ที่กูมานี่กะมาถามว่าไม่ไปด้วยกันจริงๆ หรอ"
"เออ อยากพักว่ะ ยังอยู่อีกหลายวัน ค่อยไปวันอื่นดีกว่า"
"งั้นก้แล้วแต่มึงละกัน กูไม่เซ้าซี้ละ พี่ไปก่อนนะปอง" พี่ขุนส่งยิ้มกริ่มให้ผมก่อนจะเดินออกจากห้องไป
พี่สยามหันมองผมพร้อมกับยิ้มเหี้ยม "สมปอง"
"อะไรเล่า" ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียงก่อนจะหันหนี "ไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย"
"อย่ามาไขสือ" พี่สยามมันนั่งลงข้างๆ ก่อนจะเท้าแขนคร่อมตัวผมไว้
รู้สึกไม่ปลอดภัย
ผมช้อนตามองพี่สยามซื่อๆ เพื่อจะบอกมันว่าไม่มีอะไรจริงๆ พี่ขุนก็โคตรพี่ขุนเลยว่ะ ก่อนไปเสือกทิ้งระเบิดลูกใหญ่ให้ผมอีก ไปแบบสงบๆ ก็ไม่ได้นะ ดูหน้าคนที่คร่อมผมตอนนี้สิ พร้อมจะแดกหัวสมปองตัวน้อยๆ มาก
จะเอาตัวรอดยังไง
"ปอง"
"ไม่มีอะไรจริงๆ นะ เค้าเข้ามาหามึง"
มันหรี่ตามองผม "แล้วคุยอะไรกันอีก"
"คุยเรื่องประกวดดาวเดือน แค่นี้เอง"
"แต่ไอ้ขุนมันบอกมาเต๊าะมึง"
ผมยกมือบีบแก้มพี่สยามเข้าหากันจนปากมันจู๋ "มึงเป็นเพื่อนกับพี่ขุนมากี่ปี มึงไม่รู้นิสัยพี่เค้ารึไง"
"มันชอบเต๊าะคนอื่นไปทั่ว"
"นั่นคนอื่นไง กูเป็นเมียมึงนะ มึงคิดว่าคนอย่างเค้าจะแทงข้างหลังเพื่อนหรอ อีกอย่างคือกูเป็นผู้ชายด้วย พี่ขุนเค้าชอบผู้หญิง"
"ก็มึงน่ารัก มันอาจจะเปลี่ยนใจ"
"นอกจากมึงก็ไม่มีใครคิดว่ากูน่ารักหรอกพี่สยามเอ้ย" ผมโน้มคอเจ้าตัวลงมากอดไว้พลางลูบเรือนผมสีดำเบาๆ "กูเป็นของมึงนะ ใครมันจะมาอยากยุ่ง"
"ก็คนมันหวง"
"รู้ว่าหวง แต่กับเพื่อนกับฝูงก็เพลาๆ บ้างเถอะ ไหนเอาหน้ามาดูหน่อยซิ"
พี่สยามผละหน้าออกจากไหล่ผม "ให้ดูแล้วยังไงต่อ...."
"ก็ไม่ยังไง" ผมผงกหัวขึ้นไปจุ๊บปากมันหนักๆ "ไปใส่เสื้อผ้าไป อยากนอนกอดแล้วววว"
"อื้อออออ.อ..อ..." คนโดนจุ๊บซบหน้าลงกับซอกคอผมนิ่งๆ เป็นอะไรวะ
อย่าบอกนะ....
"เขินหรอ"
"เขินสิ มึงทำแบบนั้นน่ะ"
ผมหลุดยิ้มก่อนจะจุ๊บหัวมันเบาๆ "มึงทำแบบนั้นกับกูออกจะบ่อย" กูทำคืนบ้างไม่เห็นจะแปลกเลย
"เดี๋ยวจะโดนนะ" พี่สยามบ่นอุบอิบก่อนจะเลื่อนหน้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ "ร้ายกาจจริงๆ "
"ร้ายเหมือนมึงไง เนี่ยะ
คนศีลเสมอกัน....จะได้อยู่ด้วยกันได้"
"นั่นสินะ" พี่สยามยิ้มหวานก่อนจะจุ๊บหน้าผากผมเบาๆ "พี่ไปใส่เสื้อก่อนนะครับ จะได้มานอนกอดกัน" ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินไปหาเสื้อผ้าใส่
ผมนอนมองร่างสูงอยู่อย่างนั้น มีความสุขกับโมเม้นท์พวกนี้จริงๆ ถ้าสมมุติว่าผมไม่มีพี่สยาม ผมจะเป็นยังไงวะ คงอาจจะนอนกินเอ็มแอนด์เอ็มจนอ้วนตายอยู่ที่หอก็ได้ คิดไปคิดมาก็ดีแล้วแหละที่ชีวิตมีผู้ชายที่ชื่อว่าสยามอยู่ด้วย
"เร็วๆ สิ อยากกอดแล้วนะ"
"จะเสร็จแล้วครับ รอแปปนะคนดี"
คนดีก็มา....
จะทำกูเขินไปถึงไหนนนนเนี่ยยยย
TBC.
สวัสดีเหล่าเบบี๋ที่รักของชาลลลลล กลับมาทำหน้าที่ลงนิยายแล้วนะคะ ขอโทษด้วยที่ทำให้รอกันนานเลย
ชาลใกล้จะกลับไปเรียนแล้วนะคะ วันอังคารนี้ก็เปิดเทอมใหใม่แล้ว รู้สึกเหมือนไม่ได้หยุดเลยเพราะมีโน่นนี่ให้ทำเต็มไปหมด ตอนนี้ก็กำลังเร่งปั่นตอนพิเศษในเล่มของขุนหนม กับเรื่องของขันหมีอยู่นะคะ ไหนจะรีไรท์อีก จะเป็นบ้าแล้วววว
ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้ชาลได้นะคะ คิดถึงกันมากแค่ไหนบอกกันหน่อยน้าา สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ ได้ที่ทวิตเตอร์
Chaleeisis นะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า