S'Diary : ไดอารี่ของสมปอง [ บทพิเศษ : 4/4/2019 ] หน้า 10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: S'Diary : ไดอารี่ของสมปอง [ บทพิเศษ : 4/4/2019 ] หน้า 10  (อ่าน 30650 ครั้ง)

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 31 จรวดกระดาษของสมปอง




รู้ไหมครับว่าจรวดปลายแหลมมันจะฟ่างไปได้ไกลกว่าจรวดแบบปีกใหญ่

ถ้าเราพับส่วนท้ายของลำด้วยมันจะร่อนลมได้นานมากขึ้น

รึเปล่าวะ

ผมนั่งมองจรวดที่กองเกลื่อนพื้นห้อง จรวดพวกนี้เกิดขึ้นมาจากชีทวิชาฟิสิกส์ของผมเอง พรุ่งนี้จะเป็นวันสอบไฟนอลวันสุดท้าย แน่นอนว่าวิชาสุดท้ายที่สอบก็คือฟิสิกส์นั่นแหละ พอสอบไฟนอลของเทอมซัมเมอร์เสร็จ มหา'ลัยก็จะปิดประมาณ 2 อาทิตย์กว่าๆ ซึ่งผมคิดไว้ละว่าช่วงปิดเทอมสั้นๆ นั้นต้องไม่ว่างแน่ๆ

มันเป็นวันหยุดที่เราจะไม่ได้หยุดน่ะครับ

เศร้าใจ

แต่ไม่เป็นไร ไม่หยุดก็ไม่หยุด เอาจริงๆ ตั้งแต่ที่ได้รับหน้าที่ประธานคณะฯ ผมก็ไม่ค่อยมีเวลาอยู่ละ เพราะงั้นเราควรรีบทำใจให้ชินๆ ไปซะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"เข้ามาเลย ห้องไม่ได้ล็อค" สิ้นเสียงของผม ร่างบางของสมลันเพื่อนรักก็เดินเข้ามาในห้อง

"มึงพับจรวดทำไมวะ" มันถามก่อนจะเดินมานั่งลงบนเตียง

"กูสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะเอาชีทฟิสิกส์ทั้งหมดมาพับจรวดแล้วเอาไปปาทิ้งให้หมด"

"มึงนี่มันบ้าจริงๆ แล้วถ้าเทอมหน้ามีฟิสิกส์เรียนอ่ะ"

"มึงคิดว่าอาจารย์เค้าจะไม่ให้ซื้อชีทอีกหรอวะ ยังไงก็ต้องซื้อชีทอยู่ดี อีกอย่างพวกสูตรทั้งหมดกูจดลงเลคเชอร์หมดละ"

มันพยักหน้ารับเบาๆ "แล้วนี่มึงจะเอาไปปาตรงไหน"

"ก็เราสอบชั้น 6 ของตึกใช่ไหมล่ะ กูจะปาตรงนั้นแหละ"

ลันตาหยิบกระดาษไปพับบ้าง "ไม่กลัวอาจารย์ด่าหรอ"

"ไม่อ่ะ....คิดการใหญ่ใจต้องนิ่ง"

"ระวังจะได้นอนแน่นิ่ง" เดี๋ยวมึงจะได้นอนแน่นิ่งข้างกู เดี๋ยวก่อน

ผมเบ้ปากใส่ลันตาก่อนจะพับจรวดไปเรื่อยๆ คือก่อนหน้าที่จะสอบผมไปหาอาจารย์วิชัยมาแล้วครับ ไปถามว่าเราสามารถปาจรวดกระดาษได้ไหม เดี๋ยวผมจะทำความสะอาดให้เอง ตอนแรกอาจารย์ก็ไม่อยากจะอนุญาตหรอกแต่เขาทนความส่งตาปิ๊งๆ ของผมไม่ไหวไง อาจารย์ก็เลยบอกว่าปาได้แต่ต้องเก็บให้เรียบร้อย ถ้ามีจรวดเล็ดลอดแม้แต่ชิ้นเดียว ผมจะโดนตัดคะแนนความประพฤติ 30 คะแนน

คืออีก 10 คะแนนก็โดนทัณฑ์บนแล้วอ่ะ

แม่งเป็นการปาจรวดที่เสี่ยงตายจริงๆ แต่ถ้าคิดจะทำแล้วก็ต้องทำครับ คนอย่างสมปองจะไม่ยอมกลืนน้ำตัวเองเด็ดขาด ผมกะว่าจะลากพี่สยามมาช่วยปา เดี๋ยวจะให้มันเป็นคนแบกจรวดทั้งหมดนี่ไปด้วย ความจริงผมอยากจะให้พี่มันช่วยผมนั่งพับ แต่ว่าเจ้าตัวมีติวหนังสือกับเพื่อน นี่ก็ไม่รู้ว่าจะกลับมากี่โมง

หวังว่าจะไม่กลับมาตอนที่ลันตาอยู่ในห้องหรอกนะ

ผมหยิบชีทอันใหม่มา "มึงหยิบสเต็ปเปอร์ให้กูหน่อยดิ่"

"สเต็ปเปอร์....อ๋อ" พอมันอ๋อเสร็จมันก็หยิบสเต็ปเปอร์มาให้ผม "ไม่เรียกแม็กซ์วะ"

"แม็กซ์มันเป็นชื่อยี่ห้อ กูไม่ได้ใช้ยี่ห้อนั้นซะหน่อยทำไมกูต้องเรียกแม็กซ์"

"มึงก็เรียกเครื่องเย็บกระดาษได้ไหมล่ะ เรียกสเต็ปเปอร์นี่คนไม่รู้คำศัพท์งงตายเลยนะ"

"ก็ใช่แหละ แต่มึงนึกถึงเวลาที่พูดกับชาวต่างชาติดิ่ ถ้ามึงไปบอกเค้าว่า เห้ยยู หยิบแม็กซ์ให้ไอหน่อยดิ่ มึงว่าเค้าจะงงไหม"

"ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ อ่าวแล้วถ้าเป็นคนไทยอ่ะ มึงไปพูดสเต็ปเปอร์ใส่แล้วเค้าไม่เข้าใจ มึงจะทำไง"

"ก็บอกเค้าไงว่าสเต็ปเปอร์เนี่ยะมันคือเครื่องเย็บกระดาษ S...T...A...P...L...E...R สเต็ปเปอร์" ผมใช้สเต็ปเปอร์แกะลวดออกจากชีท "คือมันอาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยนะ แต่กูก็คิดว่ามันคงช่วยใครหลายๆ คนให้ใช้คำนี้ถูก ถ้าสมมุติว่ามันมีข้อสอบที่บังเอิญมีคำนี้ออกก็จะได้รู้ไง"

"มึงนี่ก็เฉียบเหมือนกันนะเนี่ย กูจะนึกว่าจะทำตัวติ๊งต๊องเป็นอย่างเดียว"

"นี่มึงชมกูใช่ป้ะ"

"เออ กูชมมึงอยู่" ลันตาวางจรวดที่เพิ่งพับเสร็จไว้บนเตียงผม "เออ กูลืมไปเลยว่าที่มาหามึงนี่เพื่อจะมาเอาสร้อยที่ฝากมึงซื้ออ่ะ"

"อ๋อ อยู่ในลิ้นชักข้างหัวเตียงอ่ะ มึงไปหยิบได้เลย" พอผมบอกแบบนั้น ลันตามันก็ลุกไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง

"โอ้โหหหหหหหหหห"

โอ้โหอะไรของมึงวะ

ผมหันไปมองมันทันทีเพราะเสียงโอ้โหเมื่อกี้ สิ่งที่ลันตาหยิบออกมาจากลิ้นชักไม่ใช่สร้อยที่มันฝากผมซื้อนะ แต่เป็นกล่องถุงยางที่พี่สยามซื้อมา ทำไมกล่องสีนั้นผมไม่เคยเห็นวะ อย่าบอกนะว่ามันไปแอบซื้อมาเพิ่ม แม่งต้องใช่แน่ๆ เลยว่ะ รู้สึกได้ถึงสายตาของเพื่อนรักที่มองมาอย่างจับผิด ผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้มัน

ชิบหายละปองเอ้ย

"ถุงยางนี่...."

"ของกูเองอ่ะ"

"น้ำหน้าอย่างมึงเนี่ยนะใส่ไซส์ 56 " ลันตามันเบ้ปากใส่ "ตลกละ"

ทำไมรู้สึกเจ็บปวดแปลกๆ

"ทำไม สวมไซส์ 56 แล้วแปลกตรงไหน"

"ไม่มีใครบ้าใส่ถุงยางที่หลวมกว่าไซส์ของตัวเองหรอกนะ" มันหรี่ตามองผมอย่างคาดคั้น "ของใครกันแน่"

"อยู่ในห้องกูก็ต้องของกูสิ"

"งั้นหรอ เจลหล่อลื่นขวดนี้ก็ด้วยน่ะสิ" มันหยิบขวดเจลสีชมพูขึ้นมา นี่ใจคอมึงจะต้อนให้กูจนมุมจริงๆ สินะ

"เออ ของกูเองอ่ะ" ผมลุกมาหามันก่อนจะแย่งของที่อยู่ในมือใส่กลับลงไปที่เดิมแล้วหยิบกล่องสร้อยส่งให้แทน "กลับห้องไปได้แล้วไป"

"แหม ทีนี้ไล่กูเชียวนะ กลัวเจ้าของถุงกลับมาก่อนรึไง"

"มึงพูดอะไร กูไม่เห็นจะรู้เรื่อง" ตีหน้าซื่อใส่มันไปครับ เวลาเจอเรื่องแบบนี้เราต้องชี้โบ๊ชี้เบ๊เท่านั้น

"หึ....เอ้อ กูไปก็ได้" มันเบ้ปากใส่ผมก่อนจะเดินไปหยุดที่หน้าประตูแแล้วหันกลับมายกยิ้มให้ "ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าพี่สยามจะใส่ไซส์ 56 มึงคงปวดแย่เลยสิ"

"ลันตา!!!"

"ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ " มันหัวเราะลั่นก่อนจะเดินออกไป

อีงูพิษนี่!!!

แม่งเอ่ยชื่อพี่สยามออกมาเฉยเลย นี่แอบได้ยินตอนกูเอากันป้ะเนี่ยะ มหา'ลัยคนมีเป็นร้อย อาจจะไม่ใช่พี่สยามก็ได้ไหมวะ หึ้ยยย....ยยย ละนี่จะหงุดหงิดทำไมเนี่ยะปอง สักวันนึงเรื่องนี้ก็ต้องมีคนรู้อยู่ดีนั่นแหละ แค่ลันตามันรู้ก่อนชาวบ้านเท่านั้นเอง เอ๊ะ หรือว่าชาวบ้านเขาก็รู้กันหมดแล้วเหลือแค่ผมที่ไม่รู้อยู่คนเดียว

นี่กูพูดอะไรวะเนี่ยะ

พูดเองก็งงเอง

ผมส่ายหัวไล่ความมึนก่อนจะเดินไปหยิบไดอารี่สีขาวที่ซ่อนไว้ใต้กองผ้ามา เดี๋ยวเขียนไดอารี่บ่นให้พ่อฟังก่อนครับแล้วค่อยพับจรวดต่อ ผมไม่ได้เขียนไดอารี่มาหลายวันละ เขียนครั้งล่าสุดนี่ช่วงก่อนสอบไฟนอล เรื่องที่เขียนก็คือพี่สยามมันยืนทะเลาะกับต้นไม้ที่ริมระเบียง ถ้าพ่อได้อ่านพ่อต้องขำในความบ๊องของมันแน่ๆ

เอาล่ะ....จับปากกาแล้วตั้งสตินะปองนะ





พรุ่งนี้สอบไฟนอลวันสุดท้ายแล้วนะครับ

เย่ๆ ๆ ๆ

รู้สึกดีใจมากที่จะได้เป็นไทจากมหกรรมการสอบมหาโหดนี้สักที พรุ่งนี้สอบฟิสิกส์เป็นวิชาสุดท้าย ผมก็เลยจะฉลองด้วยการเอาชีทฟิสิกส์ทั้งหมดมาพับเป็นจรวดแล้วเอาไปปาให้ว่อนเต็มตึกเลย แต่ว่าปาเสร็จก็ต้องไปเก็บอ่ะนะ เพราะตกลงกับอาจารย์ไว้ว่าถ้าเก็บไม่หมดจะโดนตัดคะแนนความประพฤติ 30 คะแนน แต่พ่อไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมจะเก็บจรวดให้ครบทุกลำเลย

เดี๋ยวจะให้พี่สยามมันช่วยเก็บด้วย

ไม่ใช่แค่ให้ช่วยเก็บหรอก เดี๋ยวจะให้มันแบกถุงจรวดไปมหา'ลัยให้ ให้มันช่วยปาด้วย อะไรที่ใช้แรงงานผมจะสั่งให้มันทำให้หมดเลย เออช่วงนี้พี่สยามมันกลายเป็นผู้ชายวอร์มๆ ด้วยนะพ่อ แบบอยู่ใกล้ๆ แล้วรู้สึกถึงความอบอุ่นเลยอ่ะ นี่ผมคิดว่ามันต้องไปดูซีรี่ส์อะไรสักอย่างมาแล้วมาทำตามแน่ๆ พูดจาก็หวานน้ำตาลเรียกพี่เลยแหละ ใจนึงผมก็คิดนะว่าผีเข้ามันรึเปล่าทำไมอยู่ดีดีก็เปลี่ยนไป มันก็ดีนะพ่อไม่ใช่ว่าไม่ดีแต่แบบ....เวลาที่พี่มันทำแบบนั้นใจผมจะชอบสั่นอ่ะ

สั่นรุนแรงมากด้วย

ก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นวอร์มกายไปอีกนานแค่ไหน แต่เดี่ยวถ้ามันกลับมาเป็นผีบ้าเมื่อไหร่เดี่ยวผมจะเขียนเล่าให้พ่ออีกที สอบวันพรุ่งนี้ก็ส่งกำลังใจมาให้เยอะๆ ด้วยนะครับ

คิดถึงพ่อนะ เยิฟๆ

26/1/20XX : สมปอง





เรียบร้อยแล้วครับ

เอาไปซ่อนไว้ที่เดิมได้

ผมเดินเอาไดอารี่ไปซุกไว้ใต้กองผ้าเหมือนเดิมก่อนจะมานั่งพับจรวดต่อ ตอนนี้ก็เกือบ 3 ทุ่มแล้ว พี่สยามยังไม่โผล่หัวมาเลย เดี๋ยวมันมาผมจะต้องด่าเรื่องที่มันซื้อถุงยางมาเพิ่ม อย่าหวังว่าจะได้ใช้เลยมึง

พึ่งพามือตัวเองไปซะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"เข้ามาได้เลย"

ร่างสูงเดินถือชีทเข้ามาในห้อง "กลับมาแล้วครับ แล้วนี่มึงทำอะไรเนี่ยะเมีย"

"พับจรวดไง"

"พับทำไมวะ"

"องค์การนาซ่ามีแผนจะย้ายคนไปอยู่บนดาวอังคารอ่ะ เมื่อวานเค้าโทรมาวานให้กูช่วยพับจรวดให้ พอดีเค้าจะส่งคนไปเยอะมันก็เลยต้องใช้จรวดเยอะ มึงมาก็ดีละมาช่วยกูนั่งพับหน่อย"

"นี่กูต้องเชื่อสิ่งที่มึงพูดไหม"

"ต้องเชื่อสิ นี่คำพูดเมียมึงเลยนะ"

พี่สยามมันยกยิ้มก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆ ผม "มึงนี่มันจริงๆ เลยนะ"

"กูทำไม"

"น่ารัก" ว่าแล้วมันก็หอมแก้มผมฟอดใหญ่

"อื้ออ.อ.อ....อยู่ดีดีก็มาหอม นี่กูมีพ่อมีแม่นะ"

"เดี๋ยวบอกแม่ฮื้อไปขอ"

ผมหันขวับไปมองมันทันที "บ่ต้องมาขอ....คิงอยากโดนป้อฮายิงก่ะ"

"บ่อยาก ฮาอยากอยู่โตยคิงไปเมินๆ " คนพูดยิ้มหวานให้ "ไงล่ะ อู้ดีแม่นก่อ มาจุ๊บกำเลาะ" ว่าแล้วมันก็ทำปากจู๋

ผมดันหน้าหล่อๆ ไว้ "บ่จุ๊บ ไปอาบน้ำป่ะ"

"ก่อได้ครับ เดี๋ยวออกมาจ่วยพับจรวดเน้อ" ว่าแล้วมันก็ลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

พี่สยามนี่แม่งโคตรพี่สยามเลยว่ะ

เขินเหมือนกันนะที่มันบอกว่าเดี๋ยวให้แม่มาขอน่ะ หัวใจเต้นผิดจังหวะเลยเมื่อกี้น่ะ ถ้าสมมุติว่าพี่สยามมันไปขอผมกับแม่จริงๆ ขึ้นมานี่จะเป็นยังไงวะ แม่อาจจะตกใจมาก ระหว่างนั้นพ่อก็ต้องวิ่งไปหาปืนมาไล่ยิงมันแน่ๆ แล้วพอพี่สยามมันตาย พ่อก็จะต้องเอามันไปหมักเป็นปุ๋ยเพื่อปลูกต้นองุ่นต่อไป ส่วนผมก็จะเป็นพ่อหม้ายผัวตาย

มันแปลกๆ นะพ่อหม้ายผัวตายเนี่ยะ

ช่างแม่งเถอะ อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องที่มันยังมาไม่ถึงดีกว่า ตอนนี้สิ่งที่ควรคิดคือเมื่อไหร่ไอ้ชีทฟิสิกส์นี่มันจะกลายเป็นจรวดจนครบทุกอันสักที ไม่ไหวจะพับแล้วนะโว้ยยยย

แม่งเยอะชิบหายยยยยยยยยยย





ไฟนอลฟิสิกส์นั้น....ฉันตาย

ตายอย่างอนาถ

เดี๋ยวจะบินไปพร้อมจรวดนี่แหละ

ผมยืนไว้อาลัยให้กับนายสมปองที่กำลังจะกระโดดลงไปตายในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า สอบฟิสิกส์มันเป็นอะไรที่ทำร้ายสมองมาก เดินออกจากห้องสอบด้วยสภาพโหยหาความตายสุดๆ ตอนนี้ผมมายืนอยู่ตรงเยื้องๆ กับห้องสอบ โดยมีถุงที่ใส่จรวดชีทฟิสิกส์ถุงใหญ่วางอยู่ข้างๆ เหล่าสหายของผมก็นั่งมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ส่วนพี่สยาม.....

เพิ่งเดินมาพอดี

ที่ผมยังไม่ปาจรวดก็เพราะว่ารอมันมาปาด้วยกันนี่แหละ ผมถามเพื่อนๆ ละว่าจะปาด้วยกันไหม แต่พวกมันบอกว่าไม่ดีกว่า จะนั่งคอยเป็นกำลังใจให้แทน ฟังแล้วรู้สึกซาบซึ้งมากอ่ะ

"รอนานรึเปล่า" คนที่เพิ่งเดินมาถึงเอ่ยปากถาม

"พี่สยาม" ผมเบะปากจนสุด "กูจะตายแล้ว"

เจ้าตัวหลุดยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นขยี้หัวผม "กูไม่ให้ตายหรอกนะ หื้มมม..ม...อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ อยู่ตรงนี้มันดึงมากอดไม่ได้นะ"

ตึกตัก

นั่นนนน

งานดึงมากอดก็มา

"เอ่อ....ไหนๆ มึงก็มาแล้ว เรามาปาจรวดกันเลยดีกว่า" ผมดันถุงจรวดไปให้มัน

"มึงปาก่อนเลยเดี๋ยวกูปาตาม"

"ได้" ผมหยิบจรวดลำแรกขึ้นมาก่อนจะปาออกไปสุดแรง "ลาก่อนเจ้าฟิสิกส์"

"หึ....สอบเป็นไง" พี่สยามมันหยิบจรวดมาปาออกไปบ้าง

"มึงดูจากหน้ากูมึงก็น่าจะรู้นะ"

"แย่ขนาดนั้นเชียว"

"เออน่ะสิ ปาแม่งออกไปให้หมด" ผมหยิบจรวดมาปาออกไปรัวๆ

สังเกตว่ามีเด็กวิศวะฯ ถ่ายคลิปที่ผมกับพี่สยามช่วยกันปาจรวดด้วย เออ ถ่ายเลยตามสบาย เพราะถึงห้ามยังไงแม่งก็ถ่ายอยู่ดี ผมว่าอีพวกที่นั่งข้างล่างนั่นคงจะตกใจกันใหญ่แล้วล่ะมั้ง อยู่ดีดีก็มีจรวดจากไหนตกมาก็ไม่รู้ หวังว่ามันคงจะไม่ไปตกใส่หัวใครหรอกนะ

ก็แค่หวัง

ผมหยิบจรวดปาไปเรื่อยๆ พี่สยามเองก็ไม่ต่าง ขนาดปาไม่หยุดมือแบบนี้ จรวดที่อยู่ในถุงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย พอเห็นแบบนั้นผมเลยเรียกให้บรรรดาเพื่อนๆ มาช่วยปาหน่อย แถมยังลากให้เด็กวิศวะฯ ที่ยืนมองอยู่มาช่วยกันปา ไม่ต้องห่วงนะทุกคนถ้าเกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวสมปองคนนนี้รับผิดชอบเอง

"ปาเองไม่ไหวแล้วรึไง" พี่สยามมันมองพวกเด็กวิศวะฯ ที่ผมลากมาให้ช่วยปาจรวด

"ปาอ่ะไหว แต่มันเยอะอ่ะดิ่ รอเรา 2 คนปาหมดก็ชาตินึงอ่ะ"

"เดี๋ยวตอนเก็บมึงจะปวดประสาทกว่านี้อีก"

"ไม่ปวดประสาทหรอกเพราะคนเก็บคือมึง" ผมยิ้มแฉ่งให้

เจ้าตัวมองค้อนใส่ทันที "มึงนี่มันเด็กเปรตจริงๆ "

"ทำไม จะไม่เก็บให้รึไง"

"เก็บสิ ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่เก็บ" พี่มันดึงแก้มผมแรงๆ "ให้รางวัลกูด้วยนะ"

"เดี๋ยวเลี้ยงหมูปิ้ง 2 ไม้"

"ไม่เอาหมูปิ้ง"

"ไม่เอาหมูปิ้งแล้วจะเอาไร"

มันเลื่อนมากระซิบข้างหูผมเบาๆ "เอามึงอ่ะ"

"ฝันไปเถอะ" ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะผลักมันออกห่าง

คิดจะเอากูมันยังเร็วไป 100 ปีโว้ยพี่สยาม

ผมยืนปาจรวดไปเรื่อยๆ ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง จรวด 100 กว่าลำก็ทะยานสู่พื้นด้านล่างเรียบร้อยแล้ว ผมเอ่ยขอบคุณพี่น้องชาววิศวะฯ ทุกคนที่มาช่วยผมปล่อยจรวดในครั้งนี้ พอเราปาเสร็จแล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องลงไปเก็บ ผมรีบลากพี่สยามเดินลงมาด้านล่าง ภาพที่เห็นนี่ทำให้ผมตาค้างไปชั่วขณะ

จรวดกระดาษแม่งเต็มหน้าตึกเลยครับ

ปักอยู่ในพุ่มไม้บ้างก็มี

"นี่มันงานใหญ่เลยนะอีเมีย" พี่สยามมองผมตาขวาง

ผมทำตาแป๋วใส่ "ก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลย"

"เดี๋ยวเถอะนะ" พี่สยามมันแย่งถุงในมือไปจากผม "ช่วยกันเก็บเลยเร็วๆ "

"รู้แล้วน่า" ผมก้มลงเก็บจรวดที่ตัวเองปาลงมาไปใส่ถุง

"สมปอง"

"หืม...."

"กูจะนับนะว่าจรวดที่กูต้องเก็บมีทั้งหมดกี่ชิ้น"

ผมหันไปมองมัน "นับทำไมวะ"

"กูจะจูบมึงตามจำนวนจรวดที่กูเป็นคนเก็บ" เจ้าตัวเอ่ยก่อนจะยกยิ้ม "ปากมึงเปื่อยแน่"

"มึงนี่แม่ง...." นอกจากจะเป็นวอร์มกายแล้วยังเป็นลัสท์กายด้วยหรอวะ

น่าทุบให้ตายชะมัด

ผมรีบแย่งเก็บจรวดที่ตกอยู่ อย่างน้อยก็ต้องเก็บให้ได้เยอะกว่ามัน โดนจูบเท่ากับจำนวนจรวดที่มันเก็บได้นี่ก็ไม่ไหวนะ ปากนี่มีแตกแน่นอน แล้วอีกอย่างคนอย่างพี่สยามมันต้องไม่หยุดที่จูบแน่ แม่งต้องต้อนจนได้ป๊ามผมชัวร์เลย ผมจะไม่ยอมเสียตัวง่ายๆ อีกแล้ว

"ชิ้นที่ 57 แล้วนะเมีย....เตรียมล้างปากไว้ให้ดีเลยนะมึง"

มึงโกงกูป้ะเนี่ยยยย

เก็บเยอะอะไรขนาดนั้นล่ะพี่สยามมมมมมมมมมม








TBC.

สวัสดีค่ะ ชาลมาส่งหยัมปองแล้วนะ ก็เพิ่งแต่งเสร็จสดๆ ยังไม่ได้แก้คำผิดอะไรเลย แต่เดี๋ยวจะมาตามแก้ให้นะคะ

ชี้แจงเรื่องวันที่ตรงที่ปองเขียนไดอารี่หน่อยนะคะ เดี๋ยวตอนที่ชาลรีไรท์ชาลจะเปลี่ยนให้มันเรียลนะคะ คือวันที่ของไดอารี่มันไม่สมเหตสมผลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน้าแรกของไดอารี่มันเริ่มที่เดือน 7 แต่ตอนล่าสุดนี้มันเป็นเดือน 1 ซึ่งตอนก่อนหน้ามันเป็นเดือน 12 ไง คือชาลอิงเวลาที่ตัวเองเรียนจริงๆ มาใช้นะคะ ปกติเทอมซัมเมอร์ของมหา'ลัยชาลเนี่ยะจะเรียนแค่ 3 เดือน แต่ถ้าสังเกตก็จะเห็นได้ว่าปองเรียนมาครึ่งปีแล้วซึ่งนับว่าผิด อีกอย่างคือเรียกว่าซัมเมอร์แต่ไม่ได้เรียนช่วงซัมเมอร์ คืออย่างมหา'ลัยของชาลเนี่ยะ จะเรียกว่าเทอมพรี น่ะค่ะ ก็เทอมปรับพื้นฐานนั่นแหละ สำหรับของเด็กปี 1 นะ พอระบบการเรียนของตัวเองไม่เหมือนกับของคนอื่นมันก็เลยจะมึนงงสับสนหน่อยเวลาแต่ง แต่เดี๋ยวชาลจะต้องรีไรท์ให้ใหม่ อาจจะเปลี่ยนคำที่ใช้ด้วย ไว้รีไรท์ขุนหนมเสร็จก็จะรีบแก้ส่วนนี้ให้นะคะ ขออภัยด้วยถ้าทำให้คนอ่านงงๆ กับเวลาในเรื่องที่เกิดขึ้น

อาทิตย์หน้าชาลจะลงบท 32 ก่อนจะขออนุญาติพักการลงนิยายอาจจะ 2-3 อาทิตย์นะคะ เนื่องจากเป็นช่วงที่ฝึกงานเสร็จแล้วจะต้องทำรายงานฝึกงาน และเตรียมการพรีเซ้นท์ แต่ช่วงนั้นชาลมีคิว ฟิค PaperHearts : ส่งรักผ่านกระดาษ [HyungWonho] ลงด้วย เป็นเวลา 10 วัน 10 บท ยาวยันวาเลนไทน์ เดี๋ยวชาลจะชี้แจงเวลาที่แน่นอนอีกทีนะคะว่าจะกลับมาลงหยัมปองอีกทีวันไหน แต่คิดไว้แล้วว่าสเปเชี่ยลวาเลนไทน์ก็จะแต่งคู่นี้ลงค่ะ ก็รออ่านได้นะวันที่ 14 กุมภาพันธ์

ถ้าชอบก็คอมเม้นต์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ ช่วงนี้ภารกิจเยอะ วุ่นวายและหัวหมุนมาก สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis น้า

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ



*ลัสท์กาย มาจาก Lust Guy

Lust = หื่น

ตามนี้นาจาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2018 15:49:19 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ดีต่อใบพี่สยามๆๆ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
มันจะดราม่าได้ยังไง
ดูไม่ออก

หยัมปองรักกันขนาดนี้
เน๊าะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
นอกจากปากจะเปี่อยแล้ว ระวังเป็นแผลกดทับนะ เพราะนอนติดเตียงเป็นเวลานาน ๆ เตรียมหยูกยาให้พร้อมนะ เป็นห่วง  :hao6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สมปอง คิดได้ไงพับจรวด ปาแล้วก็ต้องเก็บ
เอาเวลาทั้งพับ ทั้งเก็บไปอ่านหนังสือ ทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย  :hao3:

ลันตารู้ โลกรู้ แน่ๆ  :serius2: :serius2: :serius2:
พี่สยาม ใจดีนะเนี่ย
คิดค่าเก็บจรวดแค่จูบ แม้ปากอาจจะเปื่อยไปบ้าง
นึ่ถ้าคิดเป็น เอ่อ.......เรื่องอย่างว่าละก็ ไม่อยากจะคิด สมปองต้องร้าวระบมเดินไม่ไหวแน่  :hao6: :hao6: :hao6:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอแก้ที่ผิดนะ
จรวดปลายแหลมมันจะฟ่างไปได้ไกลกว่าจรวดแบบปีกใหญ่----- ขว้าง :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-01-2018 23:58:02 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านเรื่องนี้แล้วเหมือนได้ความรู้เพิ่ม555 พี่สยามแม่งหื่นได้ใจอ่ะ จูบ57ทีนี้คงฟิน โอ๊ยยย! สมปองก็น่ารักมาขว้างเครื่องบินกระดาษ คำว่าน่ารักเต็มหัวไปหมด ฮือออ รอนะคะคูมชาล อยากให้พักผ่อนเยอะๆเรารอได้ นานแค่ไหนก็รอได้ อยากให้คุณชาลดูแลตัวเองด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่าาา <3 #หยัมปอง

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 32 สมโป๊ะ



"อื้อออ....อออ พอแล้ว"

"ไม่พอ ยังไม่ครบเลย"

"งื้ออออ....อออ"

"ยังอีก"

"พอแล้วพี่สยาม"

"ไม่ได้ มาเร็วๆ "

"ทำไมใจร้ายอื้ออออออ"

ใจคอไม่คิดจะให้กูพูดให้จบก่อนเหรอ

ข่นเลวววว

ผมนั่งเป็นผักอยู่บนตักพี่สยาม ขยับตัวไม่ได้เลยครับเพราะโดนมันเอาแขนแน่นๆ รัดไว้ ส่วนปากกับลิ้นนี่ก็ทำหน้าที่ดีมาก แม่งดูดปากผมจนเจ่อไปหมดแล้ว ตอนแรกที่โดนจูบก็รู้สึกเคลิ้มอยู่ในใจลึกๆ อยู่หรอก แต่พอโดนจูบซ้ำๆ ย้ำๆ นี่แบบหอบแดกเลยอ่ะ คือผมหายใจไม่ทันแต่พี่สยามก็ยังจะจูบเอาๆ

กะให้กูตายแล้วมึงจะไปหาเมียใหม่ใช่ไหมห้ะ

แผนมึงนี่มันชั่วช้าสามานย์

อื้อออ...อออ ตอนนี้ปากแฉะไปหมดแล้วอ่ะครับ นี่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่ให้มันช่วยเก็บจรวดแม้แต่อันเดียว พี่สยามมันเก็บจรวดได้ทั้งหมด 106 ชิ้น คือแบบมึงมันเกินไปอ่ะ ผมไม่ได้เพิ่งโดนมันจูบวันนี้วันแรกนะ นี่โดนมันจูบมา 3 วันละ แล้ววันละ 30 ครั้งอ่ะคิดดู แล้วจูบของมันนี่ไม่ใช่แค่จุ๊บปากแตะปาก มันจูบแบบจูบเลย

แลกลิ้นนัวเนีย

เลียลามมาคอก็มี

แต่ผมก็ยังโชคดีอยู่นะที่มันยอมหยุดทุกอย่างไว้ที่จูบ พี่สยามมันบอกกับผมว่ามันจะยอมอดทนจนกว่าผมจะเป็นคนไปให้ท่ามันเอง แต่ถ้านานจนถึง 2 เดือนมันก็บอกว่าให้ผมล้างตูดรอได้เลย เพราะมันจะแดกผมแบบแน่ๆ แล้วถ้าผมไม่ยอมมันก็จะปู้ยี้ปู้ยำจนผมหมดแรงและสลบคาอกมัน

ดูมันพูดดดด

"อื้มมม...ม..พอแล้ว" ผมโกยหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เมื่อมันละจูบออกไป "ค่อยต่อพรุ่งนี้นะ" ขืนจูบอีกนี่ตายห่าแน่ๆ

"ถ้าไปต่อพรุ่งนี้ต้องมีดอกเบี้ยนะ"

ผมตีไหล่มันอย่างแรง "มักมาก"

"ก็ถ้าไม่อยากโดนดอกเบี้ยก็ให้จูบให้ครบสิ"

"มึงไม่เบื่อบ้างหรอพี่สยาม จูบกูจนปากเปื่อยแล้วเนี่ยะ"

"ไม่เบื่อครับ" มันยกมือดึงแก้มผมเบาๆ "จำไว้นะเมีย ถ้าวันไหนที่กูเบื่อจะจูบมึงขึ้นมานั่นมันหมายความว่ากูไม่ได้รักมึงแล้ว และกูก็คงไม่ได้ต้องการมึงอีกต่อไป"

เชี่ยยยย

ทำไมมันหน่วงๆ

"งืม....งั้นจูบต่อเลยก็ได้นะ" ว่าแล้วผมก็ทำปากจู๋ใส่ จูบสิจูบกู

คนตรงหน้าหลุดยิ้มออกมา "น่ารักจริงๆ เลยนะ" ว่าแล้วเจ้าตัวก็ฝังจมูกลงที่แก้มผมก่อนจะสูดความหอมหนักๆ

"อื้ออ....อ....ทำไมไม่จูบเล่า"

"วันนี้เอาแค่นี้ละกัน" พี่สยามไล้นิ้วที่ริมฝีปากผมเบาๆ "สงสาร เดี๋ยวมึงขาดใจตายซะก่อน"

เพิ่งคิดได้เหรอครับ

แหม่ มันน่าตบ

ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะกอดเจ้าตัวไว้แล้วนั่งนิ่งๆ เวลาบนตักมันแบบนี้ผมดูกลายเป็นเด็กตัวน้อยๆ ไปเลย พี่สยามนี่ไหล่กว้างมากแถมยังหนาอีกต่างหาก โตมายังไงถึงได้ตัวใหญ่ชิบหายแบบนี้วะ มันไม่ได้โตแต่ตัวด้วยนะ ไอ้นั่นก็โตด้วย

อา....พอคิดภาพตามแล้วเขินแปลกๆ

ซบพี่สยามแก้เขินแปป

"ปอง"

"หืม...."

"หิวข้าวรึเปล่า จะ 10 โมงละนะ"

"หิว ไปกินโจ๊กกันไหม"

"ก็ได้นะ แต่เดี๋ยวกูขอไปอาบน้ำก่อน"

"ได้" ผมขยับตัวลงจากตักพี่สยามก่อนจะนั่งมองมันตาแป๋ว "รีบอาบนะ จะอาบบ้าง"

"อาบพร้อมกันไหมครับ"

ผมส่ายหน้ารัวๆ "ไม่เอา ไม่ปลอดภัย"

"มีงนี่นะ" มือเรียวยื่นมาเสยผมที่ปรกหน้าผมให้ขึ้นไปด้านบนก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาจุ๊บหน้าผากผมเบาๆ "งั้นรอแปปนะครับ" ว่าแล้วมันก็ยิ้มหวานแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

โดนจุ๊บหน้าผากด้วยอ่ะ

อึ้ยยย....ยยยพี่สยามข่นบ้าาาา

ผมหยิบหมอนมันมากอดก่อนจะกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง หน้าร้อนไปหมดแล้วโว้ยยยย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผมจะชินกับพี่สยามเวอร์ชั่นวอร์มกายสักที อยู่ด้วยกันทุกวันนี่ใจบางมาก

สงสัยอยากจะเห็นผมเขินจนตัวแตกตาย

เดี๋ยวพวกเราคณะกรรมการฯ จะต้องส่งคนไปดูค่ายไว้ก่อนล่วงหน้าซึ่งในคนที่จะไปนั้นมีผมกับพี่สยามแน่นอน ไม่แน่ใจว่าพวกพี่ปี 2 จะไปกันครบรึเปล่า แต่พวกว้ากเกอร์ไม่มีใครไป พี่เฌอได้ให้เหตุผลไว้ว่าช่วงปิดเทอมมันเป็นเวลาจำศีลของปลาทอง

ปลาทองงงง!!!

ปลาทองมายังไง

ผมงงในงงมากหลังจากที่เขาพูดแบบนั้นออกมา หันไปถามพี่แช่มต่อเขาก็บอกว่า ถ้าปลาทองจำศีลไม่พอเนี่ยะ ปลาทองจะอ่อนแอและมันจะไม่มีแรงว่ายน้ำ คือคำตอบของพี่เขาก็ทำให้ผมงงขึ้นไปอีก จนสุดท้ายต้องหันไปพึ่งพี่ฉาย หวังว่าเขาพูดเรื่องปลาทองได้เคลียร์ แต่คำตอบที่ผมได้กลับมาคือ....ปลาทองมันเกิดมาเพื่ออร่อย

พี่กินปลาทองเหรอพี่ฉาย!!!!!

โหดร้ายที่สุด

พอๆ เลิกคิดเรื่องปลาทองแล้วกลับมาเรื่องค่าย ผมตื่นเต้นมากนะที่จะได้ไปดูค่ายก่อนน่ะ เพราะว่าจะได้แอบไปดูทุ่งดอกยิปโซไว้ด้วย เวลาที่จะเตรียมโน่นเตรียมนี่จะได้จัดการถูก พวกเรากะว่าจะไปกันสัก 4 วัน ดูค่ายวันนึงส่วนวันที่เหลือไปเที่ยว

เรื่องเที่ยวนี่ต้องมาก่อนสินะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"ใครมาวะ" สมลันเหรอ หรือสมเทียน สมแยมนี่ไม่น่าจะโผล่มาเพราะมันน่าจะเล่นเกมอยู่ ด้วยความสงสัยที่ว่าใครเป็นคนเคาะประตูผมจึงเดินไปเปิดประตู

"ว่าไงน้องรัก" ใบหน้าหล่อเอ่ยพลางยกยิ้ม "คิดถึงเลยแวะมาหาน่ะ"

"สภาพแบบนี้นี่พึ่งตื่นหรอวะ แล้วทำไมปากถึงได้เจ่อแบบนั้น"

ผมยืนกระพริบตาปริบๆ มอง 2 คนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา นี่ไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมวะ หรือผมฝันไป ก็ไม่น่าจะฝันไหมเพราะถ้าเป็นในฝัน การจูบกับพี่สยามคงไม่ทำให้รู้สึกดีถึงขนาดนั้น

ชิบหายละปอง

"มึงมาทำอะไรที่นี่กัน....ณนนท์ พะนาย"

"ก็บอกว่าคิดถึงไงเลยมาหา นี่เอาของฝากมาให้เยอะแยะเลยนะ" พะนายบอกพร้อมกับชูของฝากในมือให้ดู เอามาให้กูถมห้องเหรอวะ เยอะชิบหาย แดก 3 ชาติก็ไม่หมดหรอกน่ะ

เว่อร์ไป

"จะให้พวกกูเข้าห้องได้รึยัง ของมันหนัก"

"เออๆ เข้ามา" ผมหลบทางให้พวกมันถือของเดินเข้ามาในห้อง รู้สึกเหมือนชีวิตกำลังแขวนอยู่ยบนเส้นด้ายเลยว่ะ คือถ้าในห้องตอนนี้มีผมอยู่คนเดียวมันจะไม่หวั่นใจถึงขนาดนี้เลย

"ปอง มึงได้เสื้อช้อปมาแล้วหรอ" พะนายถามก่อนเดินไปหยิบเสื้อช้อปที่แขวนอยู่หน้าตู้มาดู "ปกติเด็กปี 2 หนิที่จะมี"

"คือ....มอกูอ่ะ เค้าให้มาตั้งแต่ปี 1 "

ณนนท์มันเลิกคิ้วมองผม "จะโกหกอะไรคิดให้ดีก่อนนะ เสื้อนั่นมันไซส์ใหญ่กว่าตัวมึง"

"ก็อยากใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ อ่ะ เผื่อกูจะโตขึ้นบ้างไง" ผมเดินไปแย่งเสื้อมาจากมือพะนาย "พวกมึงไปนั่งกันให้เป็นระเบียบซิ อย่ามาเดินรื้อโน่นรื้อนี่สิวะ"

ผมบ่นก่อนจะแขวนเสื้อช้อปของพี่สยามไว้อย่างเดิม ควรจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ยังไงดีวะ ณนนท์กับพะนายมันต้องรู้แน่เลยว่าผมไม่ได้อยู่คนเดียว คือสายตาพวกมันอ่ะกวาดมองโน่นมองนี่ในห้องทั่วละ แต่คงยังไม่พูดออกมาเท่านั้นแหละ ถ้าบอกพวกมันไปว่าพี่สยามเป็นรูมเมทล่ะ เอออันนี้อาจจะพอฟังขึ้น

"เมียครับบบบ หยิบผ้าเช็ดตัวให้หน่อย กูลืมหยิบเข้ามา"

เชี่ยยยย

เมียครับเต็มๆ หูเลย

ผมหันมายิ้มแห้งๆ ให้กับณนนท์กับพะนายที่ทำหน้าบึ้งอยู่ "กูแถตอนนี้ทันไหม"

"ไม่"

จบแล้ว จบชีวิต

เฮ้ออออ

ผมถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องน้ำแล้วเคาะประตู สักแปปนึงก็มีมือเรียวยื่นมาหยิบผ้าเช็ดตัวไป ส่วนผมก็เดินมานั่งคอตกอยู่หน้าลูกพี่ลูกน้องทั้ง 2 คนของผม สายตากดดันทิ่มแทงนี้มันคืออะไรวะ สงสัยต้องบอกไปตามความจริงนั่นแหละเรื่องของผมกับพี่สยาม ก็นะ หลักฐานคาตาหลายอย่างเลย

แม่งโคตรโป๊ะ

เปลี่ยนชื่อจากสมปองเป็นสมโป๊ะดีกว่ามั้งผมเนี่ย

"ไอ้คนที่อยู่ในห้องน้ำน่ะ เป็นเจ้าของเสื้อช้อปนั่นถูกไหม"

"เออ"

"เป็นเจ้าของหนังสือในชั้นพวกนั้นด้วยใช่ไหม"

"เออ"

ณนนท์พยักหน้ารับเบาๆ "มันเป็นผัวมึงงั้นสิ"

"ก็ทำนองนั้น" พวกมึงก็ได้ยินว่ามันเรียกกูว่าเมียหนิ

"มึงกับมันอยู่ด้วยกันมานานแค่ไหน"

"ก็เกือบ 2 เดือนละ"

"พ่อใหญ่รู้เรื่องนี้รึเปล่า"

ผมส่ายหัวทันที "ไม่ อย่าเพิ่งบอกพ่อนะ เดี๋ยวกูจะบอกเค้าเอง"

"หึ...."

มึงอย่ามาหึแล้วหันไปมองหน้ากันได้ไหม

ผมหวั่นใจมากเลยว่ะ คือเรื่องนี้ถ้าพ่อจะรู้ ผมก็อยากให้เขารู้จากปากผมเอง ไม่ได้กลัวว่าณนนท์กับพะนายมันจะเอาเรื่องนี้ไปใส่ไฟเพิ่มนะ แต่ผมยังไม่พร้อมที่จะบอกให้พ่อรู้ตอนนี้อ่ะ อีกอย่างผมกับพี่สยามยังไม่ได้เป็นแฟนกันเลยด้วย ถ้าพ่อมารู้ก่อนนี่มีหวังเอาปืนมายิงพี่มันตายแน่นอน

กกลูกเขามาตั้งเกือบ 2 เดือน

หลังจากผ่านไปได้สักพัก ร่างสูงของก็เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่สวมเสื้อยืดกับกางเกงบอล เอาเสื้อผ้าเข้าไปแต่ลืมเอาผ้าเช็ดตัวเข้าไปนี่ก็น่าตบนะ พี่สยามมันเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปตาก พอหันมาเจอกับณนนท์กับพะนายมันก็มองแบบงงๆ สักแปป ก่อนจะยกมือไหว้ทั้ง 2 คน

"สวัสดีครับ" มันเอ่ยพลางยิ้งบางๆ ให้ก่อนจะเดินมานั่งลงข้างผมแล้วกระซิบถามเบาๆ "ใครอ่ะปอง"

"ลูกพี่ลูกน้องกูเอง"

มันมองตาโต "ใช่อ๋อ....แล้วเค้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่"

"ตั้งแต่มึงเรียกกูว่าเมียนั่นแหละ" ว่าแล้วผมก็ตีมือมันไปทีนึง "ณนนท์ พะนาย นี่พี่สยาม มันเป็นพี่รหัสกูแล้วมันก็เป็น....นั่นแหละ"

พะนายมันไล่มองคนข้างๆ ผมอย่างพิจารณา "ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่"

"เออพี่สยาม ไอ้หน้าโจรนั่นชื่อณนนท์ ส่วนอีกคนอ่ะชื่อพะนาย มันเป็นพี่ๆ กูเอง"

"อย่ามาบอกว่ากูหน้าโจรได้ไหม"

"ก็มึงเหมือนโจรอ่ะ แล้วนี่แดกอะไรมากันรึยัง พวกกูว่าจะไปกินโจ๊กกัน"

"กูซื้อกับข้าวเข้ามาให้มึงด้วยอ่ะปอง" พะนายมันลุกไปหยิบถุงกับข้าวหลายถุง "ไม่กินหรอ"

ผมหันมองพี่สยาม "เอาไง"

"ก็กินข้าวที่พวกพี่ๆ เค้าซื้อมาก็ได้"

"เห้ยนนท์ ไหนข้าววะ มึงไม่ได้สั่งข้าวสวยมาหรอ"

"เออ กูลืมมั้ง"

"กูด่ามึงว่าโง่ได้ไหมณนนท์" คนบ้าอะไรซื้อกับข้าวมาแล้วไม่ยอมซื้อมาด้วย เด๋อสัส

ณนนท์มันยกมือขึ้นบีบแก้มผมจนปากจู๋ "อย่าพูดมาก ไปซื้อข้าวซะไป"

"เดี๋ยวผมไปซื้อให้เองครับ" พี่สยามมันอาสา แต่พะนายก็ยกมือห้ามไว้ก่อน

"ให้ปองมันไปซื้อน่ะดีละ มึงเอาเงินให้น้องไปนนท์ จะได้รีบไปแล้วรีบมา กูหิวละ" สิ้นเสียงของพะนาย ณนนท์มันก็ยัดเงินใส่มือผม

นี่ต้องทิ้งให้พี่สยามอยู่กับไอ้ 2 บ้านี่จริงๆ เหรอวะ

ผมหันไปมองพี่สยาม ใบหน้าหล่อๆ ของมันกำลังจะสื่อว่าไม่เป็นไรให้ผมไปเถอะ ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่มันก็อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ เลยว่ะ เอาเป็นว่ารีบไปรีบกลับละกัน ผมหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง หวังว่าณนนท์กับพะนายคงจะไม่แกล้งพี่สยามของผมมากจนเกินไปหรอกนะ

ได้แต่หวังจริงๆ



[บันทึกพิเศษ : สยาม]



ตอนแรกผมนึกว่าพอปองออกไปผมจะโดนกระทืบตายซะอีก

แต่ผิดคาดเหมือนกันแฮะ

ผมกำลังยืนช่วยพี่พะนายแกะกับข้าวใส่จาน ส่วนพี่ณนนท์ก็ไปวุ่นวายอยู่กับต้นไม้ที่ระเบียงด้านนอก คือทั้ง 2 คนเป็นมิตรกับผมมากกว่าที่คิดเยอะเลยครับ พี่ณนนท์นี่ตอนที่เดินผ่านผมไปก็ยกมือแตะไหล่แล้วบอกกับผมด้วยนะว่า ดูแลสมปองคงจะเหนื่อยน่าดู ส่วนพี่พะนายนี่ก็ยิ้มปากฉีกอย่างเป็นกันเองสุดๆ คือไอ้บรรยากาศอึมครึมในตอนแรกมันหายไปหมดเลยอ่ะ

ค่อยโล่งอกหน่อย

"พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมสยาม"

"อะไรหรอครับ"

"เราเป็นคนตามจีบปองก่อนใช่ไหม เพราะปกติรายนั้นมันสนใจแต่ผู้หญิง"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ "ใช่ครับ ผมจีบน้องก่อน" เอาจริงๆ อย่าเรียกว่าจีบเลย ที่ทำไปทั้งหมดนั่นมันคือการล่วงละเมิดทางเพศสัสๆ จะว่าไปผมนี่ติดคุกได้เลยนะ

"แล้วนี่คบกันมานานเท่าไหร่ละ"

"คือเรา 2 คนยังไม่ได้คบกันน่ะครับ"

พี่พะนายหันขวับมองผมทันที "ยังไม่ได้คบกัน....แต่มาอยู่ด้วยกันเนี่ยะนะ"

"ผมขอสารภาพแบบลูกผู้ชายเลยนะพี่ คือผมกับปองอ่ะ เราเคย....มีอะไรกันแล้วแหละ ผมขอน้องเป็นแฟนแล้ว แต่เจ้าตัวยังไม่อยากคบ ผมก็เลยบอกไปว่าถึงจะไม่มีสถานะแฟนน่ะ เค้าก็เป็นเมียผมอยู่ดี จากนั้นเราก็อยู่ด้วยกันมาตลอด"

"หึ....สมปองมันเล่นตัวสินะ" พี่เขายกมือขึ้นแตะไหล่ผม "ขอบใจนะที่บอกกันมาตรงๆ น่ะ แบบนี้ค่อยวางใจได้หน่อย เวลาที่ปองมันมีปัญหาพี่จะได้มาถามเราตรงๆ เดี๋ยวแลกเบอร์กันไว้หน่อยนะ แต่ว่าต้องไม่ให้ไอ้เด็กบ๊องนั่นรู้"

"ได้เลยครับ"

"หอมจัง" พี่ณนนท์เดินมาหยุดข้างๆ ผมสังเกตข้อมือของเขาก็เห็นกำไลที่มีรูปร่างหมือนกันกับที่พี่พะนายใส่ มันต่างกันแค่สีเท่านั้น พี่ณนนท์ใส่สีดำส่วนพี่พะนายใส่สีขาว

เหมือนกับ....กำไลคู่เลยว่ะ

ช่างแม่ง เรื่องของเขามึงจะไปยุ่งทำไมเนี่ยะสยาม

ผมเดินไปหยิบโต๊ะญี่ปุ่นออกมากางก่อนจะมายกกับข้าวไปตั้งไว้รอ ปองยังไม่กลับมาเลย นี่ไม่รู้ว่าไปซื้อข้าวหรือไปปลูกข้าวเอง เดี๋ยวอีกไม่กี่วันผมจะต้องพาน้องไปดูค่ายที่พิษณุโลก เอาจริงๆ อยากจะไปกันแค่ 2 คนแต่ว่ามันจะดูมีพิรุธมากเกินไป ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเพื่อนๆ ผมมันจะเข้าใจกันว่าเรา 2 คนได้กันแล้วก็เถอะ ทริปไปค่ายนี้มี ไอ้ก้อง ไอ้หอม ไอ้แกง สำหรับไอ้แกงนี่มันน่าจะเอาแฟนไปด้วย ส่วนคนสุดท้ายก็คือขุนศึกเพื่อนรักครับ มันบอกว่าจะไปเพื่อกินสาวพิษณุโลกโดยเฉพาะ

ร้ายกว่าผมก็ไอ้ห่าขุนนี่แหละ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

สิ้นเสียงเคาะ ประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างของสมปองที่เดินถือถุงข้าวเข้ามา เจ้าตัวเดินเอาข้าวไปส่งให้พี่พะนายก่อนจะรีบมาจับตามเนื้อตามตัวผม สีหน้าแสดงความเป็นห่วงออกมาเต็มที่

น่ารักชะมัด

"ไม่เป็นอะไรใช่ไหม โดนทำอะไรรึเปล่า" น้องเอ่ยถามก่อนจะขยับเข้ามากอดผม "เป็นห่วงแทบแย่"

ผมยกมือขึ้นลูบหัวปองเบาๆ "ไม่เป็นอะไรครับ จะเป็นห่วงอะไรขนาดนั้น"

"ก็ณนนท์กับพะนายมันชั่วร้าย" คนพูดไม่ว่าเปล่า มีการหันไปแลบลิ้นใส่พวกพี่ๆ ด้วย

"เดี๋ยวมึงจะโดนไม่ใช่น้อยนะสมปอง มายกจานไปนี่"

"เออ มัวแต่อ้อนผัวอยู่ได้"

"เน่!!! เดี๋ยวก็ไล่ให้ไปคุยกับต้นไม้เลย" น้องโวยใส่ก่อนจะคลายกอดออกแล้วยิ้มหวานให้ผม "กินข้าวกันพี่สยาม"

ซี๊ดดด.ด....น่ากระชากมาจูบชิบ

"น่ารัก...."

"ผัก....จะกินผักหรอ พะนายมึงมีผักรึเปล่า" ว่าแล้วน้องก็เดินไปวอแวกับพี่พะนายเพื่อหาผักให้ผม

เด็กต๊องก็ยังเป็นเด็กต๊องอยู่วันยังค่ำสินะ

ผมเดินไปช่วยพี่พะนายยกข้าวมา พอทุกอย่างเตรียมพร้อมเสร็จ พวกเรา 4 คนก็นั่งล้อมวงกันกินข้าวพลางพูดโน่นคุยนี่กันไปตามประสา ฟีลแบบพี่น้องมากเลยอ่ะ ผมไม่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกเลยสักนิด พี่พะนายกับพี่ณนนท์นี่เผาเรื่องปองให้ผมฟังเต็มไปหมด คนที่โดนพาดพิงถึงนี่ก็ได้แต่นั่งโวยวายแล้วทำหน้ามุ่ยไปด้วย มันน่ารักจนอยากจะฟัด แต่จะทำแบบนั้นตอนนี้คงจะไม่ได้

รอให้พวกพี่ๆ กลับไปก่อนเถอะ

น้องโดนผมแน่

ปองทำตัวน่ารักตั้งแต่ก่อนจะออกไปซื้อข้าวละ สีหน้าที่บ่งบอกถึงความเป็นห่วงนั่นมันทำให้รู้สึกดีจริงๆ ผมรู้นะว่าเรื่องที่เราอยู่ด้วยกันน้องจะให้ที่บ้านรู้ไม่ได้ การมาแบบปุบปับของลูกพี่ลูกน้องนี่ก็คงทำให้เจ้าตัวตกใอยู่ไม่น้อยเลย มันดีนะที่พวกพี่เขาโอเคน่ะ ทุกวันนี้ผมก็ยังรอวันที่จะได้เป็นแฟนกับน้องอยู่ อยากบอกคนอื่นแบบเต็มปากเต็มคำสักทีว่าเราเป็นแฟนกัน

หวังว่าวันๆ นั้นคงจะมาถึงเร็วๆ นี้

"พี่สยามนี่ปลา กินปลาเยอะๆ จะได้ไม่เหมือนณนนท์อ่ะ"

"ไม่เหมือนมึงมากกว่าปอง"

"เน่!!!!"

เนี่ยะ น่ารักจริงๆ นั่นแหละ

เอ็นดู....



[จบบันทึกพิเศษ : สยาม]








TBC.
สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้วหลังจากที่ให้รอกันนานเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ลงนิยายเลทมา ก็ตอนนี้ยังไม่ได้ตรวจคำผิดเลยนะคะ คือชาลเป็นไมเกรน คือปวดหัวไม่พร้อมที่จะไล่อ่านให้ตอนนี้จริงๆ คือถ้าแก้จะขอแก้ให้ในวันนี้พรุ่งนี้ค่ะ
ชี้แจงเรื่องพักการลงนิยายเรื่องนี้หน่อยนะ ชาลมีหน้าที่เรื่องเรียนที่จะต้องทำซึ่งเป็นการทำรายงานฝึกงานและเตรียมการพรีเซ้นท์ จึงขอพักการลงนิยายเป็นเวลา 18 วัน และจะกลับมาลงนิยายในวันเสาร์ที่ 24 กุมภาฯ อาจจะทำให้รอนานแต่ว่าช่วยอดทนรอกันหน่อยนะคะ ช่วงที่พักจากนิยายไปชาลจะรีบจัดการอะไรหลายๆ อย่างให้เรียบร้อย แล้วจะรีบกลับมานะคะ
ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสารได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2018 12:07:53 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถ้าได้พี่เมียดีอย่างงี้ มีเป็นโหล พี่หยามก็ไม่หวั่นใช่ไหม  o18

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พะนายกับนน เาก็หน้าจะเป็นแฟนกัน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สมปองมองไม่ออกว่าพะนาย กับณนนท์เป็นแฟนกัน
แต่พี่สยามเห็นกำไลคู่แล้ว

สมปอง เกรียนมาก แต่ก็น่ารักมากกกก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ดีใจอ่ะ ดีใจที่พะนายกับณนนท์เข้าใจสยามกับสมปองและไม่ได้ขัดขว้างหรืออะไร เอาจริงๆคืออยากเห็นแบบนี้ในสังคมเยอะๆนะ อยากให้เข้าใจแบบนี้ ความรักไม่ได้มีแค่ชายหญิงจริงๆ จะเพศไหนถ้ารักกันมันก็คือความรักอ่ะ อาจจะไม่ยืนยาวแต่ครั้งนึงพวกเขาก็ยังรักกัน มันดูสวยไงไม่รู้555 ขอบคุณคุณชาลมากนะคะที่ปค่งให้พะนายกับณนนท์เข้าใจ ขอบคุณจริงๆค่ะ เรายังกลัวดราม่าแต่เรามั่นใจว่าทั้งสมปองและสยามจะจับมือกันผ่านเรื่องราวทั้งหมดไปได้ จริงอย่างที่คุณชาลว่า โลกนี้ไม่ได้สวยงามไปทุกอย่าง มันต้องผ่านความลำบากผ่านอุปสรรคมากมายเพื่อให้ตัวละครได้เติบโต แล้วนักอ่านอย่างเราเองก็ได้เติบโตไปพร้อมกับตัวละครด้วย เราคิดถูกจริงๆที่กดเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้ มันสอนเราได้หลายๆเรื่องและคิดว่ายังมีเรื่องสอนเราอยู่อีกมากในบทต่อๆไป ขอบคุณจริงๆนะคะ เราจะรอคุณชาลเสมอ อยากให้คุณชาลดูแลสุขภาพด้วย เป็นห่วงนะคะ<3 //มินิฮาร์ท :กอด1:

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
Special Chapter : Valentine's Day


---------- ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก ----------



วันวาเลนไทน์อ่ะมันก็เป็นแค่วันที่ดอกไม้แพง

ตุ๊กตาก็โคตรแพง....แต่ถามว่าซื้อไหม

ซื้อไงมึง

"ทั้งหมด 2,870 ค่ะ"

กูนี่เหยื่อการตลาดชัดๆ

ได้ยินราคาแล้วอยากจะไปขายไต

"นี่ครับ...." ผมหยิบเงินส่งให้เจ้าของร้านก่อนจะหยิบตุ๊กตาแมวน้ำตัวใหญ่ยักษ์พร้อมกับช่อดอกกุหลาบสีน้ำตาลช่อใหญ่มาถือไว้ คือแม่งพะรุงพะรังสัส นี่คิดถูกหรือคิดผิดวะที่มาซื้อของพวกนี้เนี่ยะ

เฮ้อ....

บ่นไปก็เท่านั้นแหละปอง

ผมเดินมาจนถึงรถมินิคูเปอร์สีดำที่ยืมพี่สยามมาขับ ตอนแรกกะจะขึ้นรถเมล์มาด้วยแต่เดี๋ยวมันจะสมบุกสมบันเกินไปสำหรับการแบกของกลับ อีกอย่างคือถ้าชาวบ้านชาวช่องเห็นมันก็จะฮือฮาไม่น้อยที่มีหนุ่มหล่อแบกน้องอุ๋งกับช่อกุหลาบช่อใหญ่ ผมว่าคนที่เห็นต้องคิดว่าผมเอาของพวกนี้ไปให้ผู้หญิงน่ารักๆ แน่ๆ

แต่เสียใจด้วยที่พวกคุณคิดผิด

ของพวกนี้เอาไปเซอร์ไพรส์ผัวครับ

หลังจากที่ยัดน้องอุ๋งใส่ไว้ด้านหลังเสร็จผมก็ย้ายตัวมาประจำตำแหน่งคนขับ คาดเบลท์เสร็จก็ออกรถ ตอนนี้ประมาณบ่าย 2 กว่าๆ พี่สยามมันน่าจะเรียนอยู่ ถ้าผมจำไม่ผิดมันเลิกเรียนตอนบ่าย 3 ครึ่ง ส่วนตัวผมนั้นไม่มีเรียนครับ ชีวิตว่างมาก ว่างมากจนมาซื้อของได้เนี่ยะ

ครื้ดดด...ดดด

ผมเลื่อนมือไปหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย "ฮัลโหล....ว่าไงจ๊ะลันตาเพื่อนรัก"

(อยู่ไหนวะ)

"ขับรถอยู่เนี่ยะ อยู่แถวใกล้ๆ มอนี่แหละ"

(อ๋อ เออฝากซื้ออะไรหน่อยได้ไหม)

"จะเอาอะไรว่ามาเลย"

(ฝากซื้อช็อกโกแลตในเซเว่นฯ อ่ะ เอามาหลายๆ อย่างเลยนะ เอามาจนเต็มตะกร้าเลย)

"ซื้อให้ใครวะ พี่ทะเลหรอ"

(ซื้อให้พี่สยามล่ะมั้ง)

"หนิ เดี๋ยวก็ตบคว่ำ"

(หึงหวงงงง ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ )

ขำพ่องอ่ะ กวนส้นตีน

"เดี๋ยวมึงจะโดน แค่นี้แหละเดี๋ยวกูซื้อไปให้"

(โอเค รอที่มอนะ)

"เออ" ผมกดวางสายก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าเซเว่นฯ แถวมหา'ลัย

พอเดินลงมาก็เห็นแต่พวกเด็กนักศึกษาถือดอกไม้กับตุ๊กตาให้ว่อนกันเต็มไปหมด บรรยากาศนี่ชมพูเว่อร์มาก ปกติผมก็เป็นพวกเฉยๆ กับวาเลนไทน์นะ คือไม่ได้อินอะไรขนาดนั้น ถ้าเป็นช่วงไม่มีแฟนมันก็เป็นแค่วันธรรมดาวันนึงนี่แหละ แต่พอมีแฟนก็ต้องเซอร์ไพรส์มันสักหน่อย

อยากเห็นพี่สยามมันดีใจครับไม่ใช่อะไร

ผมเดินเข้ามาในเซเว่นฯ พร้อมกับหยิบตะกร้าแล้วเดินร่อนไปอยู่หน้าโซนขนมหวาน เห็นขนมเยอะๆ แบบนี้แล้วนึกถึงเวลาที่พี่สยามซื้อมาให้กินเลยว่ะ เนี่ยะ ผมอ้วนขึ้นเพราะมันคนเดียวเลย พอจะไปฟิตเนสแม่งก็ชอบมาก่อกวน ไม่เคยจะได้ออกกำลังกายอย่างเป็นสุข แล้วพอผมบ่นมากๆ เข้า มันก็จะงั่มผม ดูมันทำสิ

หื่นกามชิบหาย

"แกว่าพี่สยามจะชอบไหม"

หืม....

ผมชะเง้อมองไปอีกฝั่งก็เห็นว่ามีสาวงาม 2 คนยืนคุยกันงุ้งงิ้งๆ ในมือมีตุ๊กตาหมีถือไว้ด้วย ถ้าผมจำไม่ผิดนะ คนที่ถือตุ๊กตาอยู่นั่นเป็นเด็กวิศวะฯ คอมฯ เมื่อกี้เหมือนได้ยินชื่อพี่สยามออกมาจากทางนั้นด้วย อย่าบอกนะว่าสยามที่พวกเธอพูดถึงคือพี่สยามของผมน่ะ

หึ....

"คงชอบแหละแก" ผู้หญิงผมทองบอกพร้อมกับลูบหัวตุ๊กตาหมีเบาๆ "ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่เลยนะ"

น้องอุ๋งกูตัวใหญ่กว่าอีก

"ตัวตั้งเกือบ 600 เลยนะแก"

น้องอุ๋งกูตัวเกือบ 1,500 กูยังไม่พูดเลย

"ทุ่มเทนะเนี่ย แล้วแกจะเอาไปให้พี่สยามตอนไหนล่ะ"

"ก็เค้าเลิกเรียนบ่าย 3 ครึ่ง ก็คงรอเอาไปให้ที่หน้าตึกนั่นแหละ"

ชัดเลยครับว่าสยามไหน

"เอาไปให้แล้วแกจะทำไงต่อ"

"เรากะว่าจะลองสารภาพรักอ่ะเปิ้ล" เธอกอดตุ๊กตาหมีแล้วยิ้มหวาน "หวังว่าพี่เค้าจะรับรักเรานะ"

มันจะรับรักมึงได้ยังไง....มันเป็นแฟนกู

ผมยืนซุ่มดูทั้ง 2 คนอยู่ห่างๆ คือที่พวกนางพูดถึงมันคือแฟนผมไง พี่สยามนี่เป็นอะไรกับเด็กคอมฯ มากป้ะวะ เห็นหลงเสน่ห์มันมาหลายคนละ ผมว่าเรื่องที่เป็นแฟนกับพี่มันนี่ก็น่าจะรู้กันทั่วป้ะวะ เด็กโยธาฯ นี่รู้กันแทบทุกคน ข่าวนี้มันไม่เล็ดลอดไปแถวโซนวิศวะฯ คอมฯ บ้างเหรอ หรือว่ารู้ว่ามันมีแฟนอยู่แล้วแต่ก็ยังอยากจะไปสารภาพรัก

วัทททท

"เออนก แต่เราเหมือนเคยได้ยินว่าพี่สยามมีแฟนแล้วนะ ตกลงนั่นข่าวลือหรอ"

"เราว่าน่าจะข่าวลือนะ อย่างพี่สยามหรอจะมีแฟนเป็นผู้ชาย เราว่าไม่ใช่หรอก"

"ไม่ใช่ก็เชี่ยละ" ผมพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะโกยช็อกโกแลตใส่จนเต็มตะกร้า

"เราไปกันเถอะเปิ้ล เผื่อพี่สยามลงมาก่อน"

"ป่ะ" ว่าแล้ว 2 นางก็เดินไปจ่ายเงินก่อนจะออกจากเซเว่นฯ ไป

พอเป็นแบบนั้นผมก็รีบเดินไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ พวกนางคงไปรอพี่สยามมันที่หน้าตึกสินะ ดีเลยเดี๋ยวผมไปนั่งรอโต๊ะข้างๆ หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จผมก็แบกช็อกโกแลตถุงใหญ่เดินออกมาขึ้นรถเพื่อจะขับไปมหา'ลัย ลันตามันน่าจะรออยู่หน้าตึก ส่วนแยมกับสีเทียนนี่ไม่รู้ว่าจะอยู่ด้วยกันไหม ตอนนี้เพื่อนแยมของเรากำลังตามจีบเด็กการบินฯ อยู่ จีบมาตั้งนานก็ยังไม่ติดสักที เนี่ยะ บอกว่าให้ฉุดมาปล้ำก็ไม่เชื่อ

ความคิดเลวจังวะปอง

เดี๋ยวผมจะต้องช่วยเพื่อนรักวางแผนฉุด ไม่ใช่สิ วางแผนทำให้เพื่อนสมหวังในความรัก อยากจะบอกว่าเด็กการบินฯ ที่เพื่อนแยมตามจีบนี่ไม่ธรรมดานะครับ เพราะมีดีกรีเป็นถึงเดือน ผมเคยเห็นหน้าจังๆ หลายรอบละแบบว่าหน้าเด็ดมาก ไม่รู้จะพูดอธิบายความเด็ดนี้ยังไงแต่เด็ด รู้สึกว่าตอนนี้จะเลิกกับแฟนที่เป็นผู้หญิงไปแล้วด้วยนะ เพื่อนรักของผมก็เดินหน้าจีบเต็มที่เลยแต่ก็ยังไม่ติดไง

เนี่ยะ ถึงบอกว่าให้ฉุด

ตื้อดึ่ง

"ใครไลน์มาวะ" ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูก็พบว่าเป็นไลน์ขอลันตาเพื่อนรัก

ลันตาเป็นอสรพิษ : ซื้อช็อกโกแลตหรือไปทำช็อกโอแลตเองห้ะ!!!!! มาสักทีไอ้สัสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

"เอ่อ...."

ส.เสือมึงจะเยอะไปไหน



ตึกวิศวกรรมศาสตร์

ผมเดินถือน้องอุ๋งกับช่อกุหลาบรวมถึงช็อกโกแลตเข้ามาหน้าตึก ตอนนี้ก็บ่าย 3 แล้วครับ อีกสักพักพี่สยามก็คงจะเลิกเรียนแล้วล่ะ อากาศตอนนี้ก็กำลังดีมากเลยนะ ลมโชยเย็นๆ กับแดดอ่อนๆ มันเหมาะมากกับการเอาของขวัญไปเซอร์ไพรส์แฟน คือทุกอย่างเป็นใจ ไอ้พวกของที่ผมแบกอยู่นี่ก็เป็นใจจะทำให้ผมสะดุดหน้าทิ่มเหมือนกัน

มองทางไม่เห็นเลยโว้ยยยย

"ปอง!!!"

ผมชะเง้อมองไปตามเสียงก็พบกับลันตาที่กวักมือเรียกอยู่ พอเห็นแบบนั้นผมก็เดินตรงไปที่โต๊ะของเหล่าสหาย เหมือนเห็นแม่นางเด็กคอมฯ ทั้ง 2 คนนั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ ด้วยนะ

"ซื้อของเยอะเลยนะ"

"ของลันตามันด้วยน่ะสิ" ผมบอกสีเทียนก่อนจะส่งถุงช็อกโกแลตไปให้ลันตา "ใบเสร็จอยู่ในถุงนั่นแหละ"

"เออ เดี๋ยวกูเอาเงินให้"

สีเทียนนั่งเท้าคางมอง "คนมีแฟนนี่ดีจังเลยน้า มีเซอร์ไพรส์กันด้วย"

"มึงก็หาสักคนสิเทียน"

"ไม่เอาอ่ะ กูชอบการอยู่เป็นโสดมากกว่า" สีเทียนมันล้วงลูกอมในกระเป๋ามาแกะกิน "มีแฟนมันก็ดีนะ แต่ไม่มี....มันก็ไม่ได้แย่"

ผมยกมือแตะไหล่เพื่อนรักเบาๆ "ก็เลือกทางที่มึงมีความสุขก็แล้วกัน"

"แน่นอน"

"เห้ยพวกมึง เดี๋ยวกูไปหาพี่ทะเลแปปนะ เดี๋ยวมา"

"เออ" พอผมรับคำลันตามันก็ถือช็อกโกแลตแล้วเดินเข้าไปในตัวตึก

ผมมองน้องอุ๋งที่วางอยู่บนโต๊ะ คือแค่ตัวเดียวก็ทำให้ไม่มีที่ว่างให้วางของแล้วอ่ะ ที่ผมซื้อตุ๊กตาแมวน้ำให้พี่สยามเพราะว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนมันส่งคลิปวีดิโอลูกแมวน้ำมาให้ดู มันน่ารักมากเลยครับ ตอนแรกผมก็คิดนะว่าซื้อแมวน้ำตัวเป็นๆ ให้มันเลยดีไหม แต่ก็ต้องเลิกคิดเรื่องนี้เพราะว่าที่นี่เป็นประเทศไทย ผมกลัวว่าถ้าซื้อมาเลี้ยงแล้วน้องจะทนกับสภาพอากาศไม่ไหว วันดีคืนดีน้องระเหยลอยไปรวมกับก้อนเมฆแล้วผมจะทำยังไงล่ะ

รอให้น้องกลั่นตัวเองแล้วตกลงมาเป็นฝนแล้วค่อยเอามาประกอบใหม่งี้

ทำไม่ด้ายยยยยยยยยยย

ครื้ดดดด....ดดด

ผมล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ามากดรับสาย "ฮัลโหล...."

(อยู่ที่ไหนครับเตง)

เตงก็มา

"อยู่หน้าตึก แล้วนี่มึงเรียนเสร็จแล้วหรอ"

(เสร็จแล้ว กำลังเก็บของอยู่ เดี๋ยวอีกแปปนึงจะลงไป)

"โอเค รออยู่หน้าตึกนะ"

(ครับผม)

ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าก่อนจะหันไปมอง 2 สาวโต๊ะใกล้ๆ พวกเธอก็มองน้องอุ๋งที่วางอยู่บนโต๊ะเหมือนกัน ในใจนี่อาจจะคิดว่าผมจะต้องเอามาเซอร์ไพรส์ใครแน่ๆ เนี่ยะ เดี๋ยวได้เห็นคนที่จะเป็นเจ้าของน้องอุ๋งก็ต้องมีหน้าซีดบ้างแหละ ไม่รู้ว่าพี่สยามมันจะมีอะไรให้ผมบ้างรึเปล่าเพราะว่ามันไม่พูดอะไรที่เกี่ยวกับเทศกาลแห่งความรักเลย

เหมือนไม่อินกับวาเลนไทน์สักนิด

แต่ผมก็คิดแล้วนะว่าถ้ามันไม่มีอะไรให้ก็ไม่เป็นไร เพราะตั้งแต่ที่ได้รู้จักกันมามันก็ให้ผมมาเยอะแล้ว ไหนจะดูแลผมอีก คือตัวมันก็เป็นของขวัญที่ดีมากสำหรับชีวิตผมแล้วอ่ะ

ซึ้งเนอะ

อยากอ้วกขึ้นมาเฉยๆ

"เออเทียน แยมมันไปไหนอ่ะ"

"ก็ไปหาเด็กการบินฯ ของมันนั่นแหละ"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ "เออมึง อีโต๊ะข้างๆ อ่ะ มันเอาตุ๊กตาหมีมาให้พี่สยามเว้ย"

"มึงรู้ได้ไง" สีเทียนเหลือบไปมอง

"กูได้ยินมันพูดที่เซเว่นฯ มีการจะสารภาพรักกับพี่สยามด้วยนะมึง"

"เห้ยเอาเรื่องอยู่" มันเท้าคางมอง "แล้วมึงจะทำยังไง"

"ไม่รู้ว่ะ ก็เค้าอยากให้ก็ให้เค้าให้"

แต่ไอ้หมีตัวนี้จะไม่ได้อยู่ที่หอกูแน่นอน

"เห้ยนก....พี่สยามเค้าลงมาแล้วแก"

ผมหันไปมองไปตามเสียงก็พบกับร่างสูงของพี่สยามเดินลงมาจากตึกพร้อมกับชาวแก๊งค์ พอผู้หญิงที่เป็นเจ้าของตุ๊กตาหมีเห็นมัน นางก็ลุกเดินเข้าไปเข้าไปหาทันที พวกเพื่อนๆ มันนี่ส่งเสียงแซวกันใหญ่

แซวอะไรกันเกรงใจเมียมันด้วยครับ

ภาพเหตุการณ์ตรงหน้านี่ถือว่าเป็นโมเม้นท์ที่ดีเลยนะ จะดีกว่านี้ถ้าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่แฟนผม คือตอนนี้พี่สยามมันยืนอยู่ตรงหน้าผู้หญิงคนนั้นโดยมีเพื่อนๆ รายล้อม เจ้าตัวก็คงทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ทำได้แต่ยิ้มเขินๆ ออกมา ผมเห็นในมือพี่ขุนถือช่อดอกบัวด้วยนะ นั่นจะเอาไปให้ขนมเหรอวะ

ก็เท่ดีนะให้ดอกบัวน่ะ

ผมนั่งมองผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรสักอย่างกับร่างสูง ส่วนเพื่อนนางก็ถ่ายคลิปเว้ย แล้วก็มีเสียงโหวกเหวกดังอยู่เป็นระยะๆ คนไม่น้อยเลยนะครับที่สนใจเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ต้องมีคนคิดบ้างแหละว่าอีนี่เป็นใคร เอาตุ๊กตามาให้พี่สยามทำไม ไม่กลัวแฟนเขาที่นั่งอยู่ตรงนี้หึงรึไง

"เอาล่ะ ถึงเวลาของกูละ" ผมอุ้มน้องอุ๋งขึ้นมาพร้อมกับถือช่อกุหลาบรอ ไม่ได้จะเดินเข้าไปหรอกครับ คือค่อนข้างมั่นหน้าว่าพี่สยามมันจะมองเห็นผมเอง

ตุ๊กตากูตัวใหญ่มากนะถ้าสะเหล่อมองไม่เห็นก็จะโกรธมาก

"ไม่เดินไปอีกหน่อยวะ"

"ไม่เอาอ่ะ รอนี่แหละ"

เดี๋ยวมันก็มาละ

ผมยืนมองผู้หญิงที่เดินออกมาด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง ตอนที่เธอเดินเข้ามาหาเพื่อนก็เหลือบมองผมด้วยนะ รอให้เธอไปก่อนแล้วค่อยเอาไปให้พี่สยามดีไหมวะ จะได้ไม่เป็นการทำร้ายจิตใจกันเกินไป

"สมปอง"

ไม่ทันแล้วสินะ

"อา...." ผมค่อยๆ เดินเข้าไปหาพี่สยามที่มีชาวแก๊งค์รายล้อมอยู่เหมือนเดิม "หักอกหญิงหรอมึง"

มันลดโทรโข่งลงก่อนจะยกยิ้ม "มึงอยากอกหักแทนผู้หญิงคนนั้นไหมล่ะ"

"นี่!!! เดี๋ยวก็ตบ"

"หึ....แล้วนี่อะไรเนี่ยะ เอามาให้กูหรอ" มันมองน้องอุ๋งในมือผม "เขินเลยนะเนี่ย"

"เขินบ้าอะไรของมึง" ผมยื่นน้องอุ๋งให้พี่สยามก่อนจะส่งช่อดอกกุหลาบสีน้ำตาลให้

เจ้าตัวรับไปพร้อมกับยิ้มหวาน "ขอบคุณนะครับ"

"เออ กูไม่ทำอะไรแบบนี้บ่อยหรอกนะ เต็มที่ก็ปีละครั้ง"

"น่ารัก....เห้ยมึงกูฝากถือแปปนะ" ว่าแล้วมันก็ส่งน้องอุ๋งกับช่อกุหลาบให้เพื่อนๆ ถือก่อนจะหยิบช่อดอกบัวในมือพี่ขุนศึกส่งให้ผม "สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับที่รักของพี่"

หึ....ไอ้สัส

ดอกบัวนี่ของกูเองเหรอเนี่ย

ผมอมยิ้มก่อนจะรับช่อดอกบัวมาถือไว้ "มึงนี่รักและเทิดทูนบูชากูจริงๆ เลยนะ"

"แน่สิครับ มีแฟนอยู่คนเดียวหนิ"

"ลองมีคนอื่นดูสิ" ผมทำเป็นถลึงตาใส่

เขินเหมือนกันนะเนี่ยะที่มันซื้อดอกไม้มาให้ถึงแม้ว่าจะเป็นดอกบัวก็เถอะ ผมว่ามันต้องไม่อยากให้ซ้ำกับชาวบ้านแน่ๆ ถึงได้ซื้อดอกบัวมา แล้วทำเนียนเป็นให้พี่ขุนถือลงมาด้วยนะ ในขณะที่ผมกำลังปลื้มปริ่มกับช่อดอกบัว พี่สยามก็ถอดเสื้อช็อปออกมาก่อนจะชูให้ผมดู

อะไรของมึง

"ทำไร"

"รู้ไหมว่าเสื้อช้อปเนี่ยะ นอกจากจะกันเปื้อนแล้วมันยังทำอย่างอื่นได้อีก"

"อะไร"

"ก็....." มันเลื่อนเสื้อช้อปขึ้นมาคลุมหัวมันและหัวผมไว้ "ทำให้เรามีพื้นที่ส่วนตัวไง" ว่าแล้วมันก็ประกบริมฝีปากลงมาทาบทับกับปากผมเบาๆ

ตึกตัก

หัวใจเต้นแรงอย่างกับจะหลุดออกมาแน่ะ

ร่างสูงแค่ประกบปากเฉยๆ นะครับ ไม่มีได้การล่วงล้ำเข้ามา แต่แค่นี้มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีมากแล้วจริงๆ พี่สยามนี่ร้ายเหมือนกันนะที่ทำเรื่องแบบนี้หน้าตึกวิศวะฯ ถึงแม้ว่าจะใต้เสื้อช้อปก็เถอะ

คนตรงหน้าค่อยๆ ถอนจูบออกไปอย่างอ้อยอิ่ง "พี่รักเรานะครับ....อยู่เป็นความสุขของพี่ไปนานๆ "

งื้ออออ....อออ

ใจบางไปหมดแล้ว

"ปองก็...." ผมยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มขาว "รักพี่สยามเหมือนกันครับ"

"เขินจัง" เจ้าตัวเอ่ยก่อนจะยิ้มหวาน มือก็ลดเสื้อช้อปลง เห็นแก้มมันขึ้นสีแดงๆ ด้วยว่ะ แก้มผมเองก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่

"แน่ะ ใต้เสื้อช้อปเมื่อกี้มีความลับใช่ไหม" เสียงแซวดังมาจากพี่แกง

"ออกมาแล้วแก้มแดงทั้งคู่เลยว่ะ"

"ไม่ทำดา"

"เลิกแซวได้แล้ว" พี่มันบอกเพื่อนๆ ก่อนจะสวมเสื้อช้อปแล้วหยิบน้องอุ๋งกับช่อดอกไม้มา "กลับหอกันดีกว่า"

พี่ขุนหรี่ตามอง "แน่ะ กลับหอแต่หัววันเลยว่ะ"

"เอาเวลาชงกูแยกย้ายไปกกเมียดีไหมครับเพื่อนครับ....เพราะกูจะกลับไปกกเมียเหมือนกัน"

ฉ่า

"พูดบ้าอะไรของมึง" ผมตีแขนมันแก้เขินไปทีนึง

"พูดความจริงนี่นา เราไปกันเถอะ" จากนั้นมันก็ลากผมให้เดินตามไปทันที เหลือบมองสีเทียนมันก็โบกมือบ๊ายบายพลางอมยิ้มให้

อยู่คนเดียวได้สินะ

"ปองครับ"

"หืม...."

"วันนี้พี่ต้องได้งั่มเรานะ"

จิ๊....ทำไมเป็นคนลามกแบบนี้นะพี่สยาม

"ก็....ให้ถึงหอก่อนละกัน"

เอาใจหน่อยครับวาเลนไทน์ทั้งที

"ออนท้อปนะ"

มึงนี่แม่ง....

"เออ....จะตามใจทุกอย่างเลยครับ"

เพราะว่ารักหรอกนะ









---------- FIN ----------



สวัสดีค่ะชาลมาส่งสเปเชี่ยลของหยัมปองแล้วค่ะ ไม่ได้ลงนิยายมาอาทิตย์นึงก็รู้สึกคิดถึงเหมือนกันนะ

2 วันมานี้ก็นั่งฟังเพื่อนพรีเซ้นท์ไปด้วยแต่งนิยายไปด้วย ต้องกราบเพื่อนจริงๆ ที่เอาโน้ตบุ๊คมาให้ยืม พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ชาลจะพรีเซ้นท์ฝึกงานแบบแน่ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ เดี๋ยวพอพรีเซ้นท์ฝึกงานเสร็จก็จะไปพบจิตแพทย์แล้วจริงๆ ระหว่างนี้ก็ช่วยฮีลกันไปก่อนนะ ได้ข่าวว่าเดี๋ยวเด็กๆ ก็ใกล้สอบแล้วสินะ ตั้งใจอ่านหนังสือกันด้วยล่ะ รีบเคลียร์งานส่งอาจารย์นะรู้ไหม ดูแลสุขภาพกันดีดีด้วยน้า

ถ้าชอบก็คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสารได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ สุขสันต์วันแห่งความรักน้าาา....เยิฟๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2018 09:11:34 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เติมพลังนะให้สู้ๆๆนะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สงสารอีน้องคนนั้นก็สงสาร แต่ทำไงได้ก็พี่หยามเป็นของปองคนเดียวนิ มันแบ่งกันไม่ได้จริง ๆ อ่ะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ลูกปองงงงง โอ๊ยยย! ทุ่มเทเพื่อนังพี่สยามสุดๆไปเลยลูก นังพี่สยามลูกปองฉันไม่ใช่พระนะเว้ยให้ดอกบัวมาได้ไงห้ะ ตอนนี้แม่งโคตรน่ารักเลยอ่ะ ตอนเขาเป็นแฟนกันนี้น่ารักจังเลยคร้ะขุ่นแมะ โอ๊ยยย ใจบางหมดแล้วว งุ้ยยย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ถ้าจะมีดราม่าขอเบาเบา นะ ฮื่ออ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่สยาม รักสมปองคนเดียว ดีมาก  :mew1: :mew1: :mew1:
ไม่งั้นเหอะ.....ต่อหน้าต่อตา เสร็จปองแน่  :z3: :z3: :z3: :z3:

หยัมปอง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 33 สมปองไปพิษณุโลก



"เมื่อยป่ะครับ"

"ไม่เมื่อย"

"เมื่อยแล้วบอกนะ จะได้เปลี่ยนกัน"

"ก็เนี่ยะ ถ้าถึงนครสวรรค์แล้วค่อยเปลี่ยน"

"เอางั้นก็ได้ กินขนมไหมหืม เดี๋ยวแกะให้"

"กิน เอาเอ็มแอนด์เอ็ม"

"แปปนะครับ" คนนั่งข้างๆ หันไปด้านหลัง "มึงหยิบถุงขนมให้กูซิขุน"

"นี่ครับท่านสยาม"

"ขอบใจ" มือเรียวรับมาก่อนจะคุ้ยหาเอ็มแอนด์เอ็มมาแกะแล้วป้อนให้ผมกิน

"เหม็นความรักจังเลยโว้ยยยย"

ผมก็เหม็นความรักเหมือนกันครับพี่หอม

ตอนนี้พวกเราเหล่าคณะกรรมการของวิศวะฯ กำลังมุ่งหน้าไปค่ายที่พิษณุโลกครับ โดยมีผมเป็นคนขับรถให้ รถที่ขับนี่ก็ใช้เป็นฟอร์จูนเนอร์ของพี่ขุนเพราะว่ายัดคนมาได้เยอะ 7 คนเลยนะที่มากันน่ะ มีผม พี่สยาม พี่ก้อง พี่หอม พี่ขุน พี่แกง แล้วก็พี่เกียร์ที่เป็นแฟนพี่แกง เออแฟนพี่แกงแม่งโคตรหล่ออ่ะ หล่อแบบหล่อชิบหาย ก็นะ มีดีกรีเป็นถึงเดือนมหา'ลัยเลยนี่นา จะหล่อมากก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

เรื่องที่ผมชมพี่เกียร์อย่าบอกพี่สยามนะครับ

จุ๊ จุ๊

ผมว่านะพวกพี่ๆ เขาต้องรู้เรื่องผมกับพี่สยามอย่างแจ่มแจ้งแล้วแน่เลย เพราะตั้งแต่เมื่อเช้าก็ยังแซวไม่หยุดปาก พี่สยามมันก็ไม่แคร์เลยนะแบบใครจะพูดอะไรก็พูดไปกูจะดูแลเมียกู มันหอมแก้มผมต่อหน้าต่อตาพี่หอมกับพี่ก้องด้วย นี่ขนาดยังไม่คบกันยังแสดงออกขนาดนี้ ถ้าคบกันเมื่อไหร่มันไม่จูบปากผมโชว์คนอื่นเลยเหรอวะ

พี่สยามนี่มันข่นบ้าจริงๆ

"แวะหาอะไรกินไหมพวกมึง จะเที่ยงแล้วอ่ะ"

"ก็ดีนะ กูกับเกียร์ยังไม่ได้กินอะไรเลย"

พี่ขุนหันไปมองด้านหลัง "มัวแต่กินกันเองไงพวกมึงอ่ะ"

"รู้มากนักนะไอ้สัส" พี่เกียร์มองแรงใส่ก่อนจะฉีกยิ้มให้ผม "แวะปั๊มหน่อยนะครับน้องปอง"

เชี่ยยยย อย่างหล่อ

"น้องปองเชี่ยไรมึ้งงงง ลงไปต่อยกับกูข้างทางป่ะไอ้ชิบหายยยย" พี่สยามมันหันไปโวยวายใส่

ผมเหลือบมองพี่เกียร์ผ่านกระจกหลังพลางมองไปพี่สยามไปด้วย "ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ"

"ใจเย็นไรล่ะ" พี่สยามเบะปากใส่ผม "มันเรียกมึงว่าน้องปองเลยนะ"

"ก็แค่เรียกว่าน้องปองเอง"

"กูไม่ให้เรียก"

"งอแงอะไรของมึงวะพี่สยาม" ผมเลื่อนมือไปลูบท้ายทอยมันเบาๆ "โอ๋เอ๋นะโอ๋เอ๋"

"อื้อออ.อ.....ปอง" เจ้าตัวส่งเสียงอ่อนก่อนจะจับมือผมที่ลูบท้ายทอยไปกุมแล้วแนบแก้มไว้เบาๆ

น่ารักชะมัด

ผมชอบเวลาที่มันทำเสียงอู้อี้แล้วแสดงท่าทีอ้อนเป็นแมวแบบนี้ แต่อย่างพี่สยามเนี่ยะจะเอาไปเปรียบกับแมวก็คงไม่ได้ จะไปเทียบกับเสือก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะไม่มีเสือที่ไหนเป็นแบบมันหรอก มีสัตว์อยู่แค่ประเภทเดียวเท่านั้นที่จะเป็นตัวแทนพี่สยามของผมได้

หมีควายครับ

พี่สยาม = หมีควาย

"อมยิ้มอะไรอ่ะ" หมีควายมองตาแป๋วมาทางผม "บอกมานะ"

"เปล่า" ผมบอกปัดก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดในปั๊มใหญ่ กินอะไรดีวะเนี่ย มีทั้งร้านข้าวแกง มีเซเว่นฯ มีไก่ทอดผู้พันธ์ด้วยนะครับ

พี่ขุนหันมองเพื่อนๆ "แดกอะไรกันดี"

"กูอยากกินไก่ทอด"

"กูก็เหมือนกัน"

"งั้นเอางี้" พี่แกงชะเง้อหน้ามาจากด้านหลัง "มาทำศึกแห่งศักดิ์ศรี ใครแพ้เลี้ยงไก่ โอเคไหม"

"เออได้ กูไม่มีปัญหา"

"มาๆ มึงมา" พี่สยามมันเอี้ยวตัวเข้าประจันหน้ากับเพื่อนๆ ทำไมต้องฮึกเหิมขนาดนี้ด้วยวะ

ว่าแต่ศึกแห่งศักดิ์ศรีมันคืออะไรอ่ะ

ผมมองพวกพี่ๆ เขาจ้องหน้าจ้องตากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไอ้ศึกแห่งศักดิ์ศรีนี่ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ เลยว่ะ ไม่งั้นพวกพี่มันคงจะไม่จริงจังกันถึงขนาดนี้

"เอาเลยไหม" พี่ขุนเอ่ยถาม

"มา....3....2....1"

"โอน้อยยยยยยยยยยย....ออก"

อา....กูผิดเองแหละที่หลงตื่นเต้นน่ะ

โอน้อยออกก็บอกโอน้อยออกสิวะ

"ไอ้ก้องออกว่ะ ไปเลยมึง เลี้ยงพวกกู"

คนเลี้ยงทำหน้ามุ่ย "เออ ไปดิ่ ลงกันไปได้แล้ว" สิ้นเสียงพี่ก้องเหล่าสหายก็พากันลงจากรถ ผมเองก็ลงตามมาก่อนจะกดล็อก

คนในปั๊มก็พลุกพล่านพอสมควรเลยนะเพราะว่ามันเป็นปั๊มใหญ่ริมถนนทางหลวง แล้ววันนี้มันเป็นวันอาทิตย์ด้วย คนก็เลยเดินทางกันเยอะหน่อย เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยชอบขับรถไกลๆ นะเพราะว่ามันเหนื่อยอ่ะ แต่ที่ขับให้พวกพี่เขานั่งกันเพราะว่าสภาพของแต่ละคนเมื่อเช้าคือตาจะปิดมาก ถ้าให้พวกพี่มันขับ ผมว่ารถน่าจะจูบเสาไฟฟ้าอยู่แถวหอนั่นแหละ

แค่คิดก็อนาถแล้ว

ผมเดินตามพวกพี่ๆ เข้ามาในร้านไก่ทอดผู้พันธ์ พวกพนักงานที่ยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์นี่มองกันให้ตาโตเลย ไงล่ะ ไม่เคยเห็นสมปองคนหล่อล่ะสิ ซึมซับความหล่อบนหนังหน้าผมไว้นะ เพราะว่าจะไม่ผ่านมาแถวนี้บ่อยๆ

หึ้ยยยย....ยยย พูดจาโคตรหลงตัวเอง

พี่สยามลากผมมานั่งที่โต๊ะ ส่วนพี่ๆ ที่เหลือไปสั่งอาหารที่เคาท์เตอร์ ผมนั่งเท้าคางมองหน้าพี่สยาม มันเองก็มองหน้าผมเหมือนกัน มองทำไมวะ หน้าเหมือนเมียมึงเหรอ

"มองหน้าทำไม"

"ก็คุณน่ารักอ่ะ" เจ้าตัวเอ่ยพร้อมกับคลี่ยิ้ม "ผมก็เลยอยากมองบ่อยๆ "

ตึกตัก

พี่สยามนี่แม่ง....

"มองมากๆ เดี๋ยวก็เบื่อหรอก"

"ไม่มีใครเบื่อคนที่ตัวเองรักหรอกนะครับ"

อื้อออ.อ..อ....โดนไปอีกดอก

ผมหลุดยิ้มออกมา "พอแล้วครับคุณ"

"เป็นอะไรหืม" มือเรียวเลื่อนมากุมแก้มผมไว้

"ผม....เขิน"

ตัวจะแตกแล้วด้วยครับ

หลังจากที่ผมพูดออกไปแบบนั้น คนตรงหน้าก็ยิ้มออกมาอย่างชอบใจ ได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึงนะ เล่นมาพูดเพราะแล้วก็ยิ้มหวาน แถมยังหยอดด้วยคำพูดแบบนั้นใครมันจะไม่แพ้บ้าง นี่ถ้าอยู่ห้องด้วยกันนี่มีกระโจนเข้าไปซบแล้วเอาจริงๆ พี่สยามเนี่ยะร้ายกาจชิบ ไล่ต้อนเก่งขึ้นมากเลยด้วย กว่าจะทนดาเมจที่มันโจมตีใส่ในแต่ละวันได้นี่โคตรสาหัส

ผมนี่เป็นสมปองที่น่างสานจริงๆ

เฮ้อ....ควรเขียนไดอารี่ฟ้องพ่อ

การมาทริปครั้งนี้ผมไม่ได้พกไดอารี่มานะครับเพราะว่าเดี๋ยวพี่สยามมันจะเห็น แต่เดี๋ยวกลับไปผมจะเขียนเล่าให้พ่อฟังว่าโดนพี่สยามมันหยอดอีกแล้ว หยอดกลางร้านไก่ทอดด้วย และก็ต้องเล่าให้พ่อฟังว่ามาทริปที่พิษณุโลกกัน มาติดต่อเรื่องค่ายโน่นนี่นั่น จะเขียนเยอะๆ ให้พ่ออ่านจนตาแฉะเลย เตรียมน้ำตาเทียมไว้หยอดตาเลยนะพ่อ

เดี๋ยว....ถ้าตาแฉะ ก็ไม่ต้องหยอดน้ำตาเทียมป้ะวะ

ช่างแม่งเถอะ

"ไก่มาแล้ว" พี่ขุนวางถาดไก่ทอดไว้ตรงหน้า "แจกจานเร็วปอง"

"ครับผม" ผมหยิบจานแจกจ่ายให้พวกพี่ๆ กลิ่นไก่ที่เพิ่งทอดใหม่ๆ นี่หอมจริงๆ เลย

"เห้ยขุน กูลืมเลยว่ะ"

"ลืมไรวะแกง"

"ก็ปกติไอ้สยามมันต้องกินไก่ในน้ำไง"

คนโดนแซะหันขวับมองทันที "ปากดีนะมึง เดี๋ยวแช่งให้ผัวมีเมียน้อยหรอก"

"ปากหมา" พี่แกงเบ้ปากใส่พี่สยาม "เดี๋ยวกูก็แช่งให้เมียมึงไปหาผัวใหม่หรอก"

"กูว่านะ เดี๋ยวผัวกับเมียพวกมึงก็มาได้กันเองหรอก" พี่หอมบ่นอย่างเอือมๆ พี่สยามนี่หันมาจ้องผมทันทีเลย พี่แกงเองก็จ้องพี่เกียร์เหมือนกัน

อะไรของพวกมึงเนี่ยะพี่

"กินไก่ดีกว่าเนอะ" ผมยิ้มแห้งๆ ให้พี่สยามก่อนจะจิ้มไก่ไปใส่ในจานไว้ให้

เจ้าตัวหรี่ตามองผม "ห้ามมีผัวใหม่นะ"

"พูดอะไรของมึง" ผมตีแขนมันแรงๆ พูดจาไม่ดูสภาวะรอบข้างเลยนะไอ้สัส พวกพี่ๆ ที่กำลังจกไก่นี่ส่งสายตาล้อเลียนมาที่กูใหญ่แล้วเนี่ย

พี่สยามมันทำหน้าเหลอหลาใส่ผม ไม่ได้สำนึกในสิ่งที่พูดเลยนะ คือถ้าวันไหนที่เราคบกันอย่างเป็นทางการผมจะปล่อยให้มันพูดให้เต็มที่เลย แต่คือนี่ก็ยังไม่ได้คบกันไง มันเขินๆ นะเวลาที่ได้ยินอะไรแบบนั้นอ่ะ

แก้มนี่ให้ร้อนไปหมด

มันน่ะชอบย้ำกับผมว่าอย่าไปมีผัวใหม่นะ คือมันทำเหมือนผมจะไปพ่ายแพ้ให้ผู้ชายอื่นนอกจากมันอ่ะ เอาจริงๆ คนที่ควรกังวลมันน่าจะเป็นผมนะ ทุกวันนี้ก็ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าอยู่ดีดีมันไปมีเมียใหม่ผมจะทำยังไง ถึงแม้ว่ามันจะพร่ำบอกว่ารักผมมากก็เถอะ แต่ใจคนเรามันจะเปลี่ยนวันไหนก็ไม่มีใครรู้ ก็อยากบอกมันนะว่าให้อดทนรออีกหน่อย ใกล้ถึงเวลาที่ผมจะผูกมัดมันไว้แล้วล่ะ

อีกแค่แปปเดียวเอง

"ปอง เรื่องค่ายอ่ะติดต่อเค้าไว้ว่ายังไง" พี่หอมเอ่ยถาม

"ผมโทรบอกเค้าว่าเราจะเข้าไปวันพรุ่งนี้น่ะพี่ ทางค่ายก็โอเคนะ เค้าส่งแผนที่การไปค่ายมาให้ด้วย เดี๋ยวผมเป็นคนขับรถพาไปเอง"

พี่ก้องพยักหน้ารับรู้ "แล้วเรื่องที่พักอ่ะ เราจะพักกันที่ไหนเนี่ยะ"

"ผมจัดการไว้ให้แล้วพี่ ก็จองโรงแรม G ได้ 4 ห้องอ่ะ เพราะว่าพี่ขุนจะนอนคนเดียวใช่ไหมล่ะ ที่เหลือก็นอนกันเป็นคู่ไป"

"กูนอนกับมึงนะ" พี่สยามชิงพูดแทรกขึ้นมาก่อน "ตามนี้"

"น้องมันก็ต้องนอนกับมึงอยู่แล้วไหมวะ หวงจริงๆ เลยนะ" พี่ขุนบอกพลางเบ้ปากใส่

"หวงสิวะ ไว้มึงมีเมียเป็นตัวเป็นตนมึงจะเข้าใจ"

ผมหยิกแขนพี่สยามแรงๆ "มึงนี่...." พูดออกมาโต้งๆ แบบนี้อีกแล้วนะ

"นั่นสิน้า" พี่ขุนจิ้มไก่เข้าปากก่อนจะเท้าคางมองพี่สยาม "แต่คนแบบไหน....จะหยุดกูได้วะสยาม"

"คนที่ใจมึงบอกว่า....ใช่"

ไม่เห็นต้องมองมาทางกูเลย

มันเขินนะ

ผมนั่งจกไก่กินเงียบๆ ดีกว่าครับ น่าจะดีกับชีวิตมากกว่านี้ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ นี่ พูดถึงทีไรก็ทำใจสั่นตลอดน่ะนะ เดี๋ยวต้องตั้งสติเตรียมตัวขับรถด้วย อีกนิดเดียวก็จะนครสวรรค์ละ ถึงเมื่อไหร่ค่อยเปลี่ยนให้พี่สยามมาขับแทน ส่วนผมก็คงจะต้องงีบสักแปป เผื่อจะหายล้าบ้าง

"ปอง"

ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้า "หืม....."

"นี่คือไร" พี่สยามมันจิ้มไก่ชูให้ผมดู

"ไก่ไง"

"ที่คุณเห็นอ่ะมันคือไก่" พี่สยามยกยิ้ม "แต่ถ้าอยากเห็นคนที่รักคุณจนหมดใจ....ให้มองมาทางผมนี่"

อื้อออออ....อ.อ.อ.......

ดาเมจส้นตีนไรเนี่ย

"โว้ยยยยยยยยยยย มุขเชี่ยไรมึงเนี่ยยยย"

"มุขแม่งโคตรได้"

"น้องมันเขินจะตายห่าอยู่แล้วน่ะไอ้หยัมมมม"

"โคตรร้ายเลยว่ะ" เออ แม่งโคตรร้าย

เจอดอกนี้ไป....ต่อให้เก่งมาจากไหนก็ต้องยอมแพ้แหละวะ

"มึงนี่มันจริงๆ เลยนะพี่สยาม...."





โรงแรม G : พิษณุโลก

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบ 6 โมงและนายสมปองกำลังเกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง พวกเรามาถึงที่พิษณุโลกประมาณ 4 โมงกว่าๆ พวกพี่ๆ เขานัดกันจะไปเริงราตรีกันครับ ส่วนผมคงอยู่ห้องนี่แหละ เพราะว่ารู้สึกเพลียแปลกๆ พี่สยามเองก็คงไม่ไปหรอก มันน่าจะอยู่กับผม

คิดอย่างนั้นนะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ผมลุกเดินไปเปิดประตูก็พบกับพี่ขุนที่สวมชุดคลุมอาบน้ำมา "มีอะไรอ่ะพี่"

"ไอ้สยามอ่ะ"

"มันอาบน้ำอยู่ พี่เข้ามาก่อนสิ" ผมหลบทางให้ พี่ขุนก็เดินเข้ามานั่งในห้อง

"เออปอง พี่มีอะไรจะถามหน่อยอ่ะ"

"อะไรอ่ะพี่"

"เพื่อนเราที่ชื่อแยมเนี่ยะ เป็นคนยังไง"

"ไอ้แยม....มันก็เป็นคนที่พึ่งพาได้เลยนะพี่ คือมันนิสัยดีและเป็นมิตรกับชาวบ้านที่สุดแล้วอ่ะ ส่วนนิสัยอย่างอื่น มันชอบเล่นเกมอ่ะพี่ แต่ว่ามันก็รู้เวลานะว่าควรเล่นตอนไหน ว่าแต่พี่ถามทำไม"

"ก็เดี๋ยวเปิดเทอมเนี่ยะ จะมีคัดเลือกดาวเดือน แล้วพวกคณะกรรมการฯ ของสาขาอื่นเค้าก็เล็งแยมไว้เยอะ พี่ก็เลยอยากรู้นิสัยคร่าวๆ "

ผมพยักหนัารับ "เอาดิ่พี่ เดี๋ยวผมจะพยายามช่วยดันมันอย่างเต็มที่"

"ดี แต่ว่าเอาให้รู้แค่พวกเราก่อนนะ ไม่ต้องบอกตัวมันด้วย"

"โอเคเลยครับ"

"เสียงใครวะ" พี่สยามเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่รอบเอวแค่ผืนเดียว "มึงมาทำไมเนี่ยะ"

"มาเต๊าะเด็ก"

"ระวังได้ตีนกูไปแทน"

พี่ขุนตีหน้าท้องพี่สยามแรงๆ "โหดจังนะไอ้สัส ที่กูมานี่กะมาถามว่าไม่ไปด้วยกันจริงๆ หรอ"

"เออ อยากพักว่ะ ยังอยู่อีกหลายวัน ค่อยไปวันอื่นดีกว่า"

"งั้นก้แล้วแต่มึงละกัน กูไม่เซ้าซี้ละ พี่ไปก่อนนะปอง" พี่ขุนส่งยิ้มกริ่มให้ผมก่อนจะเดินออกจากห้องไป

พี่สยามหันมองผมพร้อมกับยิ้มเหี้ยม "สมปอง"

"อะไรเล่า" ผมทิ้งตัวนอนลงบนเตียงก่อนจะหันหนี "ไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย"

"อย่ามาไขสือ" พี่สยามมันนั่งลงข้างๆ ก่อนจะเท้าแขนคร่อมตัวผมไว้

รู้สึกไม่ปลอดภัย

ผมช้อนตามองพี่สยามซื่อๆ เพื่อจะบอกมันว่าไม่มีอะไรจริงๆ พี่ขุนก็โคตรพี่ขุนเลยว่ะ ก่อนไปเสือกทิ้งระเบิดลูกใหญ่ให้ผมอีก ไปแบบสงบๆ ก็ไม่ได้นะ ดูหน้าคนที่คร่อมผมตอนนี้สิ พร้อมจะแดกหัวสมปองตัวน้อยๆ มาก

จะเอาตัวรอดยังไง

"ปอง"

"ไม่มีอะไรจริงๆ นะ เค้าเข้ามาหามึง"

มันหรี่ตามองผม "แล้วคุยอะไรกันอีก"

"คุยเรื่องประกวดดาวเดือน แค่นี้เอง"

"แต่ไอ้ขุนมันบอกมาเต๊าะมึง"

ผมยกมือบีบแก้มพี่สยามเข้าหากันจนปากมันจู๋ "มึงเป็นเพื่อนกับพี่ขุนมากี่ปี มึงไม่รู้นิสัยพี่เค้ารึไง"

"มันชอบเต๊าะคนอื่นไปทั่ว"

"นั่นคนอื่นไง กูเป็นเมียมึงนะ มึงคิดว่าคนอย่างเค้าจะแทงข้างหลังเพื่อนหรอ อีกอย่างคือกูเป็นผู้ชายด้วย พี่ขุนเค้าชอบผู้หญิง"

"ก็มึงน่ารัก มันอาจจะเปลี่ยนใจ"

"นอกจากมึงก็ไม่มีใครคิดว่ากูน่ารักหรอกพี่สยามเอ้ย" ผมโน้มคอเจ้าตัวลงมากอดไว้พลางลูบเรือนผมสีดำเบาๆ "กูเป็นของมึงนะ ใครมันจะมาอยากยุ่ง"

"ก็คนมันหวง"

"รู้ว่าหวง แต่กับเพื่อนกับฝูงก็เพลาๆ บ้างเถอะ ไหนเอาหน้ามาดูหน่อยซิ"

พี่สยามผละหน้าออกจากไหล่ผม "ให้ดูแล้วยังไงต่อ...."

"ก็ไม่ยังไง" ผมผงกหัวขึ้นไปจุ๊บปากมันหนักๆ "ไปใส่เสื้อผ้าไป อยากนอนกอดแล้วววว"

"อื้อออออ.อ..อ..." คนโดนจุ๊บซบหน้าลงกับซอกคอผมนิ่งๆ เป็นอะไรวะ

อย่าบอกนะ....

"เขินหรอ"

"เขินสิ มึงทำแบบนั้นน่ะ"

ผมหลุดยิ้มก่อนจะจุ๊บหัวมันเบาๆ "มึงทำแบบนั้นกับกูออกจะบ่อย" กูทำคืนบ้างไม่เห็นจะแปลกเลย

"เดี๋ยวจะโดนนะ" พี่สยามบ่นอุบอิบก่อนจะเลื่อนหน้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ "ร้ายกาจจริงๆ "

"ร้ายเหมือนมึงไง เนี่ยะ คนศีลเสมอกัน....จะได้อยู่ด้วยกันได้"

"นั่นสินะ" พี่สยามยิ้มหวานก่อนจะจุ๊บหน้าผากผมเบาๆ "พี่ไปใส่เสื้อก่อนนะครับ จะได้มานอนกอดกัน" ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินไปหาเสื้อผ้าใส่

ผมนอนมองร่างสูงอยู่อย่างนั้น มีความสุขกับโมเม้นท์พวกนี้จริงๆ ถ้าสมมุติว่าผมไม่มีพี่สยาม ผมจะเป็นยังไงวะ คงอาจจะนอนกินเอ็มแอนด์เอ็มจนอ้วนตายอยู่ที่หอก็ได้ คิดไปคิดมาก็ดีแล้วแหละที่ชีวิตมีผู้ชายที่ชื่อว่าสยามอยู่ด้วย

"เร็วๆ สิ อยากกอดแล้วนะ"

"จะเสร็จแล้วครับ รอแปปนะคนดี"

คนดีก็มา....

จะทำกูเขินไปถึงไหนนนนเนี่ยยยย









TBC.

สวัสดีเหล่าเบบี๋ที่รักของชาลลลลล กลับมาทำหน้าที่ลงนิยายแล้วนะคะ ขอโทษด้วยที่ทำให้รอกันนานเลย

ชาลใกล้จะกลับไปเรียนแล้วนะคะ วันอังคารนี้ก็เปิดเทอมใหใม่แล้ว รู้สึกเหมือนไม่ได้หยุดเลยเพราะมีโน่นนี่ให้ทำเต็มไปหมด ตอนนี้ก็กำลังเร่งปั่นตอนพิเศษในเล่มของขุนหนม กับเรื่องของขันหมีอยู่นะคะ ไหนจะรีไรท์อีก จะเป็นบ้าแล้วววว

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้ชาลได้นะคะ คิดถึงกันมากแค่ไหนบอกกันหน่อยน้าา สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis ​นะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2018 13:00:12 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่หยัมนะพี่หยัม

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่สยาม หวานกับปอง ไม่แคร์เพื่อนเลย  o22
สยาม  ปอง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สยาม = หมีควาย   :a5:  รับไม่ได้  :a6:
ว่าเอาเขา แล้วตัวเองล่ะปอง เหมือนตัวอะไร  :hao3:

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 34 สยามสายหยอด



อากาศยามเช้าของเมืองสองแควนี่มันดีต่อใจจริงๆ

มันจะดีต่อใจมากกว่านี้ถ้าพี่สยามไม่เอามือผมไปแทะเล่นแบบนนั้น

อร่อยมากไหมล่ะมึง

ผมนั่งเท้าคางมองพี่สยามที่กำลังงับนิ้วผมอยู่ คือพวกเรากำลังจะไปค่ายแต่ว่ามาแวะปั๊มเพื่อหาอะไรกิน พวกพี่ๆ ลงไปซื้อของกินกันเหลือแค่พวกผม 2 คนที่อยู่ในรถ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนข้างๆ เนี่ยะจะต้องเอามือผมไปทำแบบนั้นด้วย นั่งรอดีดีแบบสงบเสงี่ยมเจียมตัวไม่เป็นรึยังไง ใจผมก็อยากจะด่านะแต่เห็นสายตาแป๋วๆ นั่นก็ด่าไม่ลง

เฮ้อ....

"อร่อยไหมล่ะ"

"ก็ดีนะ....แต่ถ้าเป็นปากมึงก็จะอร่อยกว่านี้เยอะ"

ฉ่า

อื้ออ.อ.อ.อ....

"มึงพูดอะไรของมึงเนี่ยะพี่สยาม" ผมหันหน้าหนีออกไปทางนอกหน้าต่างแทน รู้สึกได้เลยว่าแก้มโคตรร้อน เก่งจังเลยนะเรื่องพูดแล้วทำให้อุณหภูมิในร่างกายกูสูงขึ้นเนี่ยะ

"ก็พูดจริงๆ นี่นา ก็มึงอร่อยจริงๆ "

"ไม่ต้องมาพูดเลยนะ"

"เขินหรอ"

ผมหันขวับไปมองก็พบว่าใบหน้าหล่อเลื่อนเข้ามาใกล้ไม่ถึงคืบ "เห้ย....เล่นอะไรของมึงเนี่ยะ" เข้ามาใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

"ตอบที่ถามมาก่อน" พี่สยามหรี่ตามองผม "เขินหรอ"

"ก็....ต้องเขินป้ะวะ ใครมันจะไม่เขินบ้างเล่า" ผมบ่นอุบอิบใส่

"มึงนี่มันน่ารักจริงๆ เลยน้า" ว่าแล้วมันก็กดจมูกลงบนแก้มผมก่อนจะสูดกลิ่นหอมฟอดใหญ่แล้วผละออกไปนั่งยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่ที่เดิม

น่าทุบชะมัด

ผมยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อไล่ความร้อน โคตรเขินเลยอ่ะ ทำไมสมปองจะต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วและแรงถึงขนาดนี้ด้วยวะ บางทีก็สงสัยนะว่าพี่สยามมันเบื่อบ้างไหมที่หาประโยคเลี่ยนๆ ห้าบาทสิบบาทมาเล่นกับผมทุกวันเนี่ยะ ตั้งตัวไม่เคยทันด้วยเวลาที่มันจะเล่นอะไรแบบนี้

เกิดเป็นสมปองนี่....ต้องพ่ายแพ้อยู่ร่ำไปสินะ

คิดแล้วช่างโศกา

หลังจากผ่านไปได้แปปนึง พวกพี่ๆ ก็ถือถุงเซเว่นฯ หลายถุงเดินขึ้นรถมา พอผมเห็นว่าสมาชิกครบแล้วก็ทำการออกรถเพื่อไปต่อ เดี๋ยวถ้าติดต่อเรื่องค่ายเสร็จเร็วก็จะได้ไปเที่ยวกันเร็ว ตอนนี้ก็ประมาณเกือบ 8 โมงครึ่งละ เมื่อคืนผมคุยกับพี่สยามเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปกันด้วย มีหลายที่เลยที่น่าสนใจ

แต่ก่อนจะไปเที่ยวก็ต้องทำงานก่อนนะปองนะ

"กินไส้กรอกไหมปอง"

"กิน"

"เป่าให้แปป" คนข้างๆ บอกก่อนจะจิ้มไส้กรอกขึ้นมาเป่าให้ไอร้อนหายแล้วยื่นมาทางปากผม "อ้าาาา"

ผมงับไส้กรอกตรงหน้า "อร่อยจัง"

"เพราะกูป้อนไง" คนป้อนเอ่ยพลางยิ้มหวาน

"มโนจริงๆ เลยนะมึง" พี่ขุนเบ้ปากใส่ก่อนจะแย่งไส้กรอกในมือพี่สยามไปกิน "ไม่เห็นจะอร่อยเลย"

"หนิไอ้ขุน ไม่มีอาหารชนิดไหนไม่อร่อยหรอกนะ มันมีแค่ถูกปากกับไม่ถูกปาก....ก็เหมือนกับสมปองอ่ะ ต่อให้ไม่ถูกปากใคร แต่ยังไงก็ถูกปากกู"

อื้ออออ.อ....หือออ.อ.อ....

จะเอาหน้าซุกพวงมาลัยก็กลัวรถคว่ำ

"หยอดน้องเก่งงงง" เสียงแซวดังมาจากด้านหลัง

"เออ ทำไมเดี๋ยวนี้มึงทำคะแนนบ่อยจังวะ"

"ก็...." พี่สยามมันมองผมพร้อมกับยิ้มหวาน "อยากให้เด็กมันรักมันหลง"

แค่นี้กูก็ทั้งรักทั้งหลงมึงจนจะบ้าแล้ว

"พอแล้วพี่สยาม"

"ทำไมล่ะหืม"

"ไม่มีกะจิตกะใจจะขับรถแล้ว....เขิน"

เขินมากๆ ด้วย

พอผมเอ่ยออกไปแบบนั้นพี่มันก็ยิ้มหวานออกมาก่อนจะเลื่อนมือมาขยี้หัวผมเบาๆ ตอนนี้แก้มผมต้องแดงมากแน่ๆ เลยว่ะ เนี่ยะเห็นไหมว่าไอ้บ้านี่มันมีอิทธิพลต่อจิตใจผมมากแค่ไหน อยากจะโทรไปปรึกษาพ่อเหมือนกันนะ ว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้ควรจะต้องทำยังไง แต่ก็โทรไปไม่ได้อีก ถ้าพ่อรู้เรื่องของผมกับพี่สยามนะ คงจะมีใครสักคนโดนยิงตายแน่ๆ

ผมต้องบอกพ่อเรื่องของพี่สยามอยู่แล้วล่ะแต่คงไม่ใช่ตอนนี้

ให้ผมกับมันตักตวงความสุขให้เต็มที่ก่อนที่จะโดนยิงตายเถอะ

"ปอง"

"หืม...." ผมเหลือบไปมองปากของคนข้างๆ ที่ขยับแต่ไม่ได้ส่งเสียงออกมา สิ่งที่พี่สยามพูดนั้นผมอ่านปากได้คำว่า....

รักนะ

"หึ...." ผมหลุดยิ้มก่อนจะเลื่อนมือมากุมมือคนพูดไว้ "รู้แล้วน่า"

รู้แล้วววว





ค่ายพารักษ์

"โอเคครับ งั้นตกลงตามนี้ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเดี๋ยวทางเราจะทำเอกสารมาให้นะครับ"

"ได้เลย ทางค่ายยินดีต้อนรับทางคณะนะครับ"

"ครับ ขอบคุณนะครับที่พาพวกเราเดินชมดูสถานที่"

"ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว"

"งั้นพวกผมขอตัวก่อนนะครับ ไม่รบกวนเวลาคุณเจ้าหน้าที่ละ" พี่ขุนยิ้มหวานก่อนจะยกมือไหว้ "ขอบคุณอีกครั้งนะครับ"

"ขอบคุณเช่นกันครับ" คุณเจ้าหน้าที่รับไหว้พร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตร

งานเสร็จแล้วครับ

ไปเที่ยวได้แล้วเย่

หลังจากที่กล่าวลาคุณเจ้าหน้าที่เสร็จเรียบร้อย พวกผมก็เดินมาขึ้นรถกัน ตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณเกือบเที่ยงแล้วครับ พวกเรามาถึงที่ค่ายกันตอนประมาณ 9 โมง ทางเจ้าหน้าที่เขาก็ต้อนรับอย่างดีเลยนะ แล้วก็นั่งพูดคุยถึงเรื่องกิจกรรมที่ทางเราจะจัด นอกจากนั้นเขาก็พาเดินไปดูสถานที่รอบๆ ค่ายด้วย

โคตรตื่นตาตื่นใจ

ผมแอบกระซิบถามเจ้าหน้าที่มาด้วยเรื่องทุ่งดอกยิปโซที่อยู่บนเนินเขาที่ต้องฝ่าป่าเข้าไป เขาบอกว่าช่วงที่พวกผมมาค่ายมันจะเป็นช่วงที่ดอกยิปโซออกดอกสวยมากที่สุด คือมันเป็นช่วงเวลาที่ดีเลยแหละ คิดถูกจริงๆ ที่คิดจะมาค่ายที่นี่ ผมว่าพี่สยามมันต้องชอบใจการเซอร์ไพรสของผมมากแน่ๆ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว

จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วปองเอ้ย

"เราจะไปไหนกันดี" พี่ก้องที่เป็นคนขับเอ่ยถาม "เสนอสถานที่มา"

"พิษณุโลกเนี่ยะ ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำตกเว้ย เพราะงั้นเราควรไปน้ำตก" พี่ขุนเสนอ ผมว่าก็ดีนะที่จะไปน้ำตกน่ะ อากาศแบบนี้นี่ควรเอาหัวไปจุ่มน้ำมาก

"ก็ดีเหมือนกันนะ แต่ก่อนที่จะไปน้ำตกอ่ะ ไปวัดก่อนได้ไหมวะ"

"วัดอะไรวะหอม"

"ก็วัดที่มีพระพุทธชินราชไง คือแบบถ้ามึงมาพิษณุโลกแล้วมึงไม่ได้ไปไหว้มันให้อารมณ์เหมือนมึงมาไม่ถึงเลยนะ เพราะว่าวัดนี้ขึ้นชื่อมากในจังหวัดพิษณุโลก"

"โอเค งั้นไปวัดก่อนแล้วค่อยไปน้ำตก"

"ตามนั้น เดี๋ยวกูดูเส้นทางให้แล้วกัน" พี่หอมเอ่ยบอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูเส้นทาง

ผมขยับหัวมาพิงไหล่พี่สยามไว้ "ขอพิงหน่อย"

"ได้สิครับ" เจ้าตัวยกมือขึ้นมาลูบหัวผม "ง่วงนอนไหมหืม"

"ไม่ค่อยอ่ะ ตื่นเต้นที่จะได้เที่ยวมากกว่า"

"ขนาดนั้นเชียว....เออมึง ก่อนไปน้ำตกแวะซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนก่อนนะ"

"เออโอเค"

ผมหันไปมองวิวข้างทาง ต่างจังหวัดนี่น่าอยู่จริงๆ นั่นแหละ ถ้าให้เลือกผมก็อยากอยู่ต่างจังหวัดมากกว่านะ ในเมืองน่ะรถชอบติดแถมอากาศยังมีมลพิษเยอะ ถึงในเมืองมันจะมีความสะดวกสบายมากกว่าก็เถอะ ในอนาคตหลังจากเรียนจบผมก็คิดไว้คร่าวๆ นะว่าอาจจะกลับไปหางานทำอยู่แถวบ้าน หรือไม่ก็คอยแอบขโมยองุ่นพ่อไปขาย

ความคิดนี่มัน....

ช่างแม่งเถอะ เอาไว้เดี๋ยวเวลาตอนนั้นมาถึงก็คงรู้เองว่าจะไปทำอะไรต่อ หวังว่าในอีกหลายปีข้างหน้าพี่สยามมันจะคงอยู่ข้างๆ ผมแบบนี้นะ เออมันต้องอยู่แบบนี้แหละ มาทำให้รักถึงขนาดนี้แล้วอยู่ดีดีจะมาทิ้งไปง่ายๆ นี่ผมไม่ยอมจริงๆ ด้วย บอกแล้วไงว่าพี่สยามมันต้องอยู่รับผิดชอบผมไปจนวันตาย

จริงจังนะ

หลังจากผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ พักใหญ่แบบใหญ่มากๆ รถพวกของเราก็ขับมาจนถึงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดนี้เป็นวัดที่ใหญ่มากเลยนะครับ แถมยังสวยมากด้วย ข้างวัดติดกับแม่น้ำน่านด้วยนะ เดี๋ยวลากพี่สยามมันไปถ่ายรูปดีกว่า ผมหยิบหมวกมาสวมก่อนจะลงจากรถ พวกพี่ๆ ก็เดินตามกันลงมา นักท่องเที่ยวก็มีพอสมควรเลยนะ

ร้านของกินก็มีมากพอสมควรเหมือนกัน

เห็นแล้วหิว

"ไปไหว้พระก่อนเดี๋ยวค่อยมากิน"

"รู้มาก"

"แค่มองตาก็รู้ใจแล้วครับ"

อื้อออ..อ...โดนไปอีกดอก

พี่ขุนเดินมาแตะไหล่พี่สยาม "ในวัดในวาก็เพลาๆ หน่อยเถอะนะเพื่อนนะ" ว่าแล้วเขาก็เดินกอดคอพี่ก้องพี่หอมไป

ผมเห็นด้วยกับพี่ขุนเลยครับ

"ไปกันเถอะเกียร์ เหม็นความรัก" พี่แกงเบ้ปากใส่ก่อนจะสูงมือพี่เกียร์ไป แหม่ คู่พี่ก็ไม่ค่อยจะหวานเท่าไหร่หรอกนะครับ

"เราก็ไปกันบ้างเถอะ" พี่สยามบอกก่อนจะเดินนำไป

ผมก็ตามเจ้าตัวมาต้อยๆ พลางมองไปรอบๆ วัดนี้สวยมากเลยนะครับ สวยแบบสวยเลย มีโบราณสถานสวยๆ อยู่ในวัดด้วย ผมไม่ค่อยรู้ประวัติของวัดมากเท่าไหร่เพราะเพิ่งเคยมาครั้งแรก แต่ชื่อเสียงของพระพุทธชินราชก็พอได้ยินอยู่บ้างเหมือนกัน เขาว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปที่สวยที่สุดในประเทศไทยเลยนะ เป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยที่มีอายุเก่าแก่มาก

ผมรู้เท่านี้แหละครับ

พี่สยามเดินนำผมมาจนถึงพระวิหารใหญ่ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราช ด้านในนี่คนค่อนข้างเยอะเลยนะ ผมเห็นมีนักท่องเที่ยวรวมถึงลุงๆ ป้าๆ มากราบไหว้กัน พวกเราก็ค่อยๆ เข้ามาในพระวิหารก่อนจะนั่งลงกันเป็นแถว เดี๋ยวถ่ายรูปส่งไปให้พ่อดูดีกว่า อยากให้พ่อเห็นถึงความงดงามของพระพุทธชินราชจริงๆ ครับ

แต่ขอไหว้พระก่อน

ผมยกมือพนมก่อนจะสวดคาถาบูชาพระพุทธชินราชตามแผ่นหินอ่อนที่สลักไว้แล้วค่อยก้มลงกราบและยกมือลูบหัวเพื่อความเป็นสิริมงคล หันมองพี่ๆ เขาก็ทำแบบเดียวกัน แต่เหมือนกับว่ามีใครบางคนหายไป เพราะที่นั่งเรียงกันอยู่นี่มีแค่ 6 คน

พี่ขุน....ไปไหนวะ

"พี่ขุนอ่ะพี่สยาม" ผมกระซิบถามมันเบาๆ

"มันรออยู่ด้านนอก" พี่สยามจับให้ขยับถอยมาด้านหลังก่อนที่มันจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปองค์พระด้านหน้า

"ทำไมพี่ขุนไม่เข้ามาไหว้กับเราล่ะ"

"ไอ้ขุนเป็นคริสต์ ไหว้พระไม่ได้"

ผมพยักหน้ารับ "เพราะอย่างนี้นี่เอง"

"เดี๋ยวออกไปบริจาคทานกันนะ"

"โอเค" ผมรับคำก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปบ้าง "เดี๋ยวไปถ่ายรูปริมแม่น้ำน่านกัน"

"ได้เลย"

พวกเราใช้เวลาอยู่ในพระวิหารสักแปปก่อนจะเดินออกมาด้านนอก พี่ขุนก็ยืนถ่ายรูปโน่นนี่นั่นคอยอยู่ เพิ่งรู้เลยนะว่าพี่เขาเป็นคริสต์น่ะ ถ้าพี่สยามไม่บอกก็คงไม่รู้หรอก แต่เอาจริงๆ เรื่องของพี่ขุนผมก็ไม่จำเป็นต้องรู้มากอ่ะนะ

ถ้าเป็นเรื่องพี่สยามก็ว่าไปอย่าง

พี่สยามเดินนำผมมาจนถึงตู้บริจาคเงิน เจ้าตัวหยิบเงินไล่หยอดไปเรื่อยๆ ผมก็แอบถ่ายรูปมันเก็บไว้ ตั้งแต่ที่รู้จักกันมาไม่เคยเห็นมันมาทำบุญไหว้พระแบบเป็นกิจลักษณะเลยครับ เพราะงั้นครั้งนี้มันก็เลยดูเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก

"ทำบุญบริจาคทองกันไหม"

"บริจาคทองงั้นหรอ"

"ใช่" พี่สยามจูงผมมาหยุดอยู่ตรงโซนทำบุญบริจาคทองคำแท่ง "ก้อนใหญ่ครับผม"

"นี่ลูก" ลุงมัคนายกส่งทองแท่งใหญ่มาให้ "หยอดเงินที่ตู้บริจาคเลยนะพ่อหนุ่ม"

"ครับ อ่ะปองเอาเงินหยอดตู้"

ผมรับเงินจากพี่สยามมาก่อนจะเอาไปหยอดตู้ "แล้วไงต่อ"

"นี่ไง เราก็เขียนชื่อลงไปแบบนี้ สยามกับสมปอง"

"ทำบุญร่วมกันงี้อ่ะหรอ" ผมมองชื่อตัวเองที่เขียนอยู่ข้างๆ พี่สยาม "เราทำแยกกันไม่ได้หรอ"

"ก็ทำได้ แต่ว่า....อยากทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมกับคุณมากกว่าอ่ะ"

ตึกตัก

คุณมาอีกแล้ว

"เรา....ไม่ได้ตักบาตรด้วยกันสักหน่อย"

"เอาหน่าพูดให้คล้องจอง" พี่สยามยิ้มหวานก่อนจะยกแท่งทองไปวางไว้บนพานรวม ผมก็ยกมือรับพรที่ลุงมัคนายกแกกำลังพูด

ได้ทำบุญก็รู้สึกสบายใจอยู่เหมือนกันนะ ก็หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์วุ่นๆ เกิดขึ้นกับชีวิตผม และก็หวังว่าจะโดนเพื่อนๆ แกล้งน้อยลง เอาจริงๆ ก็ได้แต่หวังล่ะวะ พอพวกเราทำบุญและก็ถ่ายรูปกันจนหนำใจแล้วก็พากันเดินออกมาที่ริมแม่น้ำน่านหน้าวัด อากาศตอนเกือบบ่าย 2 ก็ร้อนเอาเรื่องอยู่ แต่โชคดีว่ามีลมเย็นๆ พัดโชยมาตลอด

"ถ่ายรูปกันปอง" พี่สยามเปิดกล้องหน้าก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้น ผมก็ยิ้มแฉ่งรอ

"ถ่ายด้วยสิวะ" พี่ขุนยื่นหน้าเข้ามาแทรก

พี่ก้องก็ยื่นหน้าเข้ามาด้วย "เออ มาทั้งแก๊งค์จะถ่าย 2 คนได้ยังไง"

"ไอ้พวกเวรนี่ เป็นแก๊งค์นี่เดี๋ยวถ่ายไหมล่ะ กูขอถ่ายกับน้องก่อน"

"ไม่ได้ มาๆ 3...2...1 ชีสสสสส"

แชะ

"พวกมึงนี่มันจริงๆ เลยว่ะ" พี่สยามบ่นอย่างหัวเสียก่อนจะมองเพื่อนๆ อย่างกินเลือดกินเนื้อ

ผมยกมือลูบแขนเจ้าตัวเบาๆ "เอาน่า....มาถ่ายรูปกัน"

"ยิ้มนะ" พี่สยามยกโทรศัพท์ขึ้นอีกครั้งพลางยิ้มหวาน ผมเองก็ไม่ต่างกัน

แชะ

เจ้าของโทรศัพท์ดูรูปพลางยกยิ้มอย่างพอใจ "เมียใครวะ น่ารักจัง"

"พูดแบบนี้อีกแล้วนะ" ผมหยิกแขนมัน "นี่ข้างวัดเลยด้วย"

"งั้น....เดี๋ยวจะเก็บไว้พูดบนเตียงก็แล้วกันนะครับ"

เนี่ยะ

ก็เป็นซะอย่างนั้น

"มึงนี่เอาอีกแล้วนะพี่สยาม"

"หึ...." พี่สยามยกมือขึ้นเกลี่ยแก้มผมเบาๆ "เออปองมึงรู้ไหมว่าแม่น้ำนี่ยาวเท่าไหร่"

ผมส่ายหน้าทันที "ไม่รู้อ่ะ มึงรู้อ๋อ"

"กูก็ไม่รู้หรอกว่าแม่น้ำยาวเท่าไหร่" คนตรงหน้าก้มลงมาใกล้ๆ "แต่ถ้าถามว่ากูรักมึงมากแค่ไหนก็บอกได้เลยว่า....มากๆ"

อา....หยอดเก่งจริงๆ ด้วยนะ

"พี่แม่ง....คนบ้า"






TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว ตอนนี้มีอิงข้อมูลของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารด้วยนะคะ คือชาลเคยไปวัดนี้มาตอนที่เข้าค่ายที่พิษณุโลกแต่มันก็หลายปีแล้วแหละ ก็จำข้อมูลหรือสถานที่จริงๆ มากไม่ค่อยได้ การไหว้พระหรือทำบุญเนี่ยะชาลจำจากที่เห็นเวลาที่เพื่อนๆ ทำนะคะ ตัวชาลเองไม่ได้นับถือศาสนาพุทธก้เลยไม่เคยทำอะไรพวกนี้ หากใครมีข้อเสนอแนะในส่วนนี้สามารถเพิ่มเติมหรือแนะนำได้นะคะ จะนำไปรีไรท์ให้มันเรียลที่สุดค่ะ

ชี้แจงถึงเนื้อเรื่องของหยัมปองนะคะ นิยายเรื่องนี้อาจจะยาวมากจนถึง 40 บท+ แต่จะพยายามไม่ให้เกิน 55 บท มันมีความผิดพลาดของเรื่องพล็อตที่ไม่ค่อยแน่นอนเท่าไหร่ ผ่านไป 30 กว่าบทแล้วเนื้อเรื่องยังดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไรมาก คือต้องเข้าใจว่าตัวเรื่องวางไว้ให้ปองเขียนไดอารี่ระยะเวลาที่เรียนอยู่ที่มหาลัย 1 ปี มันก็เลยยืดๆ แต่เดี๋ยวจะมีการปรับพล็อตนะ รอติดตามอย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนล่ะ

พรุ่งนี้เด็กม.6 มีสอบโอเน็ตอีกวันใช่ไหม ก็ขอให้ทำกันให้ได้นะคะ ถ้าทำไม่ได้ก็ขอให้สุ่มถูกแล้วกันนะ สู้ๆ

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2018 13:02:42 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หวานตลอดเลยยนะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พิษณุโลก เป็นเมืองที่ทั้งน่าอยู่  ทั้งน่าเที่ยวมากๆ   :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หวานซะ ไม่สนเพื่อนฝูงเลย  :m1:

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เหลือสายไหรอีกที่พี่หยัมยังไม่ได้เป็น สายเปย์ สายเทคแคร์ สายวอร์ ล่าสุดสายหยอด อืมมมม พี่หยัมมันได้หลายสายจังวุ้ย (ฮาาา) สมปองว่าเขินแล้วนะ อิแม่นี้เขินตัวบิดยิ่งกว่าสมปองแล้วลูกก (ฮาาา) มีความแบบทำบุญร่วมชาติงี้ โห้ยย หวังถึงชาติหน้าเลยสินะพี่หยัม ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ใกล้แล้วอ่ะ อีกนิดลูกก็จะมีผั-- แฟนแล้วอ่ะ แม่ตื่นเต้นรอวันนั้นไม่ไหวแล้วลูกเอ้ยยย  :mew3:  แต่พออ่านๆก็เริ่มรับรู้ว่าอีกไม่นานดราม่ามันจะมาแล้วสินะ สู้นะสมปองลูกแม่ อย่าให้ใครเอาผั-- แฟนเราไปได้นะ (ช่วงนี้เบลอๆพิมพ์ผิดพิมพ์ถูก :hao6: ) แม่เป็นกองกำลังสนับสนุนหนูเองลูก ใครมันทำหนูแม่จะกราดยิงให้ตายเรียบเอง!

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 35 เรื่องของความรู้สึก


รู้ป้ะว่าการพนันมันเป็นสิ่งผิดกฎหมายอ่ะ

รู้ทั้งรู้ก็ยังจะเล่นกันอีก

"ป๊อกเก้าสองเด้งครับเจ้า" พี่สยามมันเปิดไพ่ไว้กลางวง "เงินมาๆ "

"โชคมึงเยอะเกินไปละไอ้สัสหยัม ใจคอจะแดกกูทุกตาเลยหรอวะ" พี่ขุนบ่นก่อนจะส่งเงินให้

"เออ เตรียมไปขายตัวเอาเงินมาจ่ายค่าไพ่ได้เลยนะมึง"

"ปากดี"

"เอวก็ดี" คนพูดขยับเข้ามากระซิบข้างหูผมเบาๆ "เนอะเมียเนอะ"

ฉ่า

"มึงนี่...." ผมหันไปทำหน้าบึ้งใส่มัน พี่สยามมันก็ทำหน้าทะเล้นใส่

กวนส้นตีน

ตอนนี้พวกผมกำลังนั่งเล่นไพ่กันอยู่ที่ห้องพี่ขุน คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่พิษณุโลกครับ นี่ก็เกือบ 4 ทุ่มละ ผมอยากจะไปนอนนะเพราะพรุ่งนี้ต้องขับรถไง แต่พี่สยามแม่งไม่ยอมให้นอนแถมยังลากให้มานั่งดูมันเล่นไพ่ แล้วที่ๆ มันให้ผมนั่งคือที่ไหนรู้ไหม

บนตักมัน

ไม่คิดว่ากูจะเขินบ้างเหรอ

พวกพี่ๆ นี่แซวผมกันใหญ่ จะทำอะไรก็ไม่ได้ จะลงจากตักพี่สยามก็ไม่ได้เพราะมันรัดเอวไว้ สุดท้ายแล้วก็ต้องปล่อยเลยตามเลย เท่าที่ผมนั่งดูมันเล่นไพ่มาเป็นชั่วโมงนี่ก็เห็นว่าพี่สยามได้ไพ่โคตรบ่อย เดี๋ยวป๊อกแปดเดี๋ยวป๊อกเก้า แม่งกวาดเงินพี่ขุนมาเกือบพันละ ผมแอบจิ๊กมาจากกองสองร้อยด้วย มันก็ไม่ได้ว่า

ลองว่าสิ

ทุบหัวแบะแน่

ผมมองไพ่ในมือพี่สยามที่เป็นเลข 5 ทั้งสองใบ หึ บอดไงมึง พอเห็นแบบนั้นผมก็เลื่อนมือไปหยิบไพ่ขึ้นมาเพิ่มให้มัน เจ้าตัวคลี่ไพ่ใบที่ผมหยิบมาให้ก็พบว่าเป็นเลข 5 เหมือนกัน

เชี่ยยยย

"ตอง 5 ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ มึงหมดตัวแล้วไอ้ขุน"

"โอ้โหหหห ไอ้เชี่ย" เจ้ามือทำหน้ามุ่ยใส่ทันที "พวกมึงจะมากเกินไปละนะ"

"เออจริง ดวงจะหนุนกันไปไหนวะ" พี่ก้องเปิดไพ่ในมือตัวเองบ้าง

"ของกู แกงก็นั่งอยู่ข้างๆ แต่เสียแม่งอย่างเดียวเลย"

พี่แกงหันไปดึงแก้มพี่เกียร์แรงๆ ทันที "หาเมียใหม่ที่หนุนดวงมึงดีไหมล่ะ"

"โถ่ ล้อเล่นน่ะเตง" พี่เกียร์ยิ้มหวานให้ "อย่าซีเรียสสิคะ"

"ไม่ต้องมาพูดเพราะเลยนะมึง"

"ใจเย็นๆ นะครับผัวเมีย" พี่สยามกวาดเงินก่อนจะส่งให้ผม

ผมเลิกคิ้วมอง "ให้กูหรอ"

"ใช่ ไปหาร้านบะหมี่แถวนี้กินกัน ไปไหม"

"ไป....อยากกินเกี๊ยวปู"

"งั้นเราไปกัน เห้ยขุนกูยืมรถหน่อยนะ"

"เออ ไปไหนก็ไปเลยมึงอ่ะ แดกเงินกู เติมน้ำมันมาให้ด้วย" พี่ขุนส่งกุญแจรถมาให้

"เออ ไปกันปอง" พอได้ยินแบบนั้นผมก็ลุกออกจากตักพี่สยามก่อนจะเดินนำมันออกมาจากห้องพี่ขุน

ร่างสูงเดินขนาบอยู่ด้านข้างก่อนจะยกมือขึ้นมาคล้องคอผม คล้องคอไม่พอมีการหันมาจุ๊บหัวผมอีก อะไรของมึงเนี่ยะ จะมาโรแมนติกตรงทางเดินตอนดึกๆ แบบนี้ไม่ได้นะพี่สยาม ชาวบ้านชาวช่องมาเห็นเขาจะตกใจเอาได้ ใจผมอยากจะพูดออกไปแบบนี้นะ แต่แบบพูดไปแม่งก็ไม่ฟังหรอก

เป็นหมีควายที่เอาแต่ใจตัวเอง

เราเดินมากันจนถึงรถของพี่ขุน พี่สยามก็ขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับ ผมก็ขึ้นมานั่งข้างๆ มัน มือเรียวยื่นมาเอามือผมไปจับไว้ มันต้องเป็นแบบนี้ทุกทีเลยสินะ ไม่เป็นไร มันอยากจับให้มันจับไป ถือว่าเป็นรางวัลที่เล่นไพ่ได้เงินมาเยอะละกัน เนี่ยะ เดี๋ยวถ้าไปถึงร้านบะหมี่นะ ผมจะสั่งกินสัก 3 ชาม เอาให้พุงแตกกันไปข้าง

"ปอง"

"หืม...."

"เมื่อไหร่จะได้เป็นแฟนกันสักทีอ่ะ"

ผมหันมองคนพูด "ทำไมถึงถามแบบนี้"

"ก็อยากรู้" พี่สยามยกมือผมขึ้นไปจุ๊บเบาๆ "พี่อยากเป็นแฟนเราแล้วนะ"

ฉ่า

แก้มร้อนขึ้นมาเฉยๆ เลยแฮะ

"ทำไมถึงอยากเป็นแฟนล่ะ"

"ก็อยากงั่ม"

"จิ๊....มึงนี่แม่ง" ผมตีมือพี่สยามก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่มัน "คิดแต่เรื่องแบบนี้"

"ช่วยไม่ได้นะ อยากทำตัวน่ารักน่างั่มเอง"

"กูยังไม่ได้ทำอะไรเลยมั้งเถอะ กูก็อยู่ของกูดีดี มึงอ่ะหื่นกาม"

พี่สยามเลี้ยวรถมาจอดเยื้องร้านบะหมี่ก่อนจะหันมองผม "แล้วรับได้รึเปล่าที่เป็นแบบนี้"

"ถ้ารับไม่ได้กูจะทนอยู่กับมึงมาทำไมตั้งหลายเดือน ถามอะไรเลอะเทอะจริงๆ เลย ลงไปได้แล้ว กูหิวแล้วนะ" ขืนยังชักช้าถามโน่นถามนี่กูจะแดกมึงแทนเกี๊ยวจริงๆ ด้วย

"เนี่ยะ" เจ้าตัวยกมือขึ้นมากุมแก้มผมแล้วยิ้มหวาน "พูดจาน่างั่ม"

"งั่มหน้ามึงสิ" ผมเบ้ปากใส่ก่อนจะหนีมันลงมาจากรถ ถ้ายังต่อปากต่อคำกันอยู่ผมอาจจะต้องโดนมันงั่มเป็นแน่

เกิดเป็นสมปองนี่มันเหนื่อยใจจริงๆ

ผมเดินมานั่งที่โต๊ะ พี่สยามก็มานั่งลงฝั่งตรงข้าม ร้านบะหมี่นี้เป็นร้านข้างทางเลยครับ ตั้งอยู่ริมฟุตปาธ ได้ฟีลเหมือนอยู่แถวบ้านเลยอ่ะ อากาศก็กำลังดี มีลมโชยอยู่เนืองๆ เมื่อสมัยมัธยมผมชอบชวนณนนท์กับพะนายขี่รถเครื่องแอบมากินบะหมี่กันในเมือง ถ้าพ่อจับได้ก็จะให้พวกเรา 3 คนนอนหน้าบ้าน ละอากาศหนาวแบบไข่สั่นเลยอ่ะ

เป็นวันวานที่ช่างอนาถใจ

พี่สยามหยิบกระดาษมาจดอะไรไม่รู้ยุกยิกๆ พอมันจดเสร็จมันก็ส่งมาให้ ผมจัดการเขียนสั่งเกี๊ยวปูไป 3 ชามก่อนจะลุกเอาไปให้ลุงพ่อค้าแล้วกลับมานั่งที่เดิม คนตรงข้ามนั่งเท้าคางมองผม ไม่ได้มองแบบธรรมดานะครับ เพราะสายตาคมนั่นไล่มองวนตา หู จมูก ปาก ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามองแบบนี้นี่ต้องการอะไร

"มองขนาดนี้....แดกหัวกูเข้าไปเลยไหม"

"เอาจริงๆ อยากแดกทั้งตัวมากกว่า"

"ก็เคยแดกมาแล้วป้ะวะ อยากแดกอะไรบ่อยๆ "

พี่สยามเบ้ปากใส่ทันที "อย่ามาเรียกว่าแดกบ่อย กูเพิ่งเคยได้แดกมึงแค่ 2 ครั้ง"

"แต่ครั้งนึงก็ตั้งหลายรอบป้ะวะ บ่นมากจริงมึงอ่ะ"

"กูจะบ่นให้มึงฟังทุกวันเลยคอยดู"

"กูจะปิดหูเวลามึงพูด แบร่บๆ ๆ ๆ ๆ " ว่าแล้วผมก็แลบลิ้นใส่มัน

คนตรงหน้าหรี่ตามอง "กวนตีนพี่นี่อยากโดนหรอคะหนู"

"คะอะไรของมึง อย่ามาพูดคะนะ มันแปลกๆ "

"ทำไม กูพูดกับเจ้าขาแบบนี้ตลอด" พี่สยามมันเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ "มันแปลกตรงไหนหรอคะ"

ตึกตัก

แปลกตรงใจกูนี่ไง

"เออน่า" ผมดันหน้าพี่มันให้ออกห่าง "กูเป็นสมปองนะ ไม่ใช่เจ้าขาสักหน่อย" ขืนพูดคะพูดขาให้ได้ยินบ่อยๆ หัวใจกูวายตายขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ

"มึงนี่น่ารักจริงๆ เลยน้า" มือเรียวยื่นมาบีบแก้มผมพลางยิ้มหวาน แก้มกูย้วยแบบนี้ก็เพราะมึงนี่แหละ

ผมทำหน้าบู้บี้ใส่พี่สยาม มันก็ทำหน้ากวนส้นตีนใส่ผมก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น แน่ะ เล่นเกมอีกละ ติดจังเลยเกมเนี่ยะ บางทีผมก็รู้สึกอิจฉาเกมเหมือนกันนะ เพราะเวลาที่พี่สยามเล่นเกม ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวมันจะกลายเป็นอากาศธาตุไปเลย คิดแล้วก็โซแซด แอบลบเกมมันทิ้งดีไหมวะ มันจะได้สนใจผมมากกว่า

ไม่ได้สิ

ลบออกเดี๋ยวมันก็โหลดใหม่

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปมันก่อนจะกดเข้าไปในไลน์ เราจะมาทำภารกิจก่อกวนพี่สยามครับ ไม่สนใจกูดีนัก ทำลายสมาธิแม่ง ทีมมึงแพ้แน่พี่สยาม

ตื้อดึ่ง

ตื้อดึ่ง

ตื้อดึ่ง

.

.

.

ตื้อดึ่ง

"อื้มมมม...." คนโดนแกล้งละจากจอขึ้นมามองผม "ขอพี่เล่นเกมแปปนึงสิครับที่รัก"

ตึกตัก

พูดแบบนี้นี่

"ตาเดียวแล้วพอนะ" ผมบอกมันก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ

ใจอ่อนอีกแล้วนะสมปอง

ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องยอมใจอ่อนให้มันด้วย มีหลายเรื่องเลยนะครับที่ผมใจอ่อนให้กับพี่สยามมันง่ายๆ แค่เพราะมันฉีกยิ้มหวานแบบนี้ เนี่ยะ ทำไมจะต้องมาแพ้อะไรแบบนี้ด้วยวะ ไม่ได้การละ เดี๋ยวผมจะต้องทำให้มันแพ้ผมบ้าง ผมจะไม่ยอมมันอีกต่อไป

ครั้งก่อนก็พูดแบบนี้อ่ะปอง

ฮึก.....

หลังจากที่ผมนั่งดราม่าอยู่ในใจได้แปปนึง บะหมี่ก็มาเสิร์ฟ กลิ่นน้ำซุปหอมๆ นี่ชวนน้ำลายสอมากๆ ผมยื่นบะหมี่ชามของพี่สยามไปไว้ด้านหน้ามัน แล้วก็ขยับเกี๊ยวทั้ง 3 ชามมาไว้ตรงหน้าตัวเอง เอาล่ะน้องเกี๊ยว พี่สมปองพร้อมจะกินน้องเกี๊ยวแล้วนะครับ

"นี่มึงกิน 3 ชามเลยหรอเมีย"

มือที่ตักเกี๊ยวของผมชะงักไปทันที "ทำไม มีปัญหาหรอ"

"แดกเยอะขนาดนี้จะอ้วนนะ"

"กูอ้วนแล้วมันยังไงห้ะ กูอ้วนแล้วมึงจะหาเมียใหม่รึไง"

"ยังไม่ได้พูดอะไรเลยครับ" พี่สยามตักลูกชิ้นในชามมันมาใส่ให้ผม "ถ้าปองอ้วนเดี๋ยวพี่จะเป็นคนพาไปออกกำลังกายเอง"

"เดี๋ยวมึงก็แกล้งกูอีก" ผมตักเกี๊ยวเข้าปาก อื้อออ.อ.อ....หืออ.อ....โคตรอร่อยอ่ะ น้ำซุปกลมกล่อมเข้ากันกับเกี๊ยวสุดๆ

ฟินเว่อร์

"อื้ออ.อ....เห็นกูเป็นคนยังไง"

"เป็นคนเลวที่ขี้แกล้ง"

"เดี๋ยวจะโดนทุบ" มันส่งสายตาเหี้ยมมาให้ก่อนจะแย่งเกี๊ยวในชามผมไปกิน "อืมม.ม....อร่อยจัง"

"เนอะ"

"อื้ม....แต่อร่อยน้อยกว่ามึงนะ"

"แค่กก.กก....แค่กกก.ก.ก...." ผมหยิบน้ำขึ้นมากระดกทันทีที่สำลักเกี๊ยว พี่แม่งพูดอะไรก็ไม่รู้ เกี๊ยวจะติดคอตาย

"เขินจนเกี๊ยวติดคอเลยหรอ"

"ใครเขาเขินมึงกัน เงียบแล้วกินไปเลยนะ" ผมถลึงตาใส่มันก่อนจะก้มหน้าก้มตากินเกี๊ยวต่อ

วันหลังเวลาที่กินข้าวผมจะไม่คุยอะไรกับมันละ แม่งชอบหยอด ละทุกครั้งที่มันหยอดผมก็ชอบสำลัก มีครั้งนึงสำลักมาม่ารสต้มยำกุ้งอ่ะ พริกนี่ขึ้นจมูกเลยจ้า น้ำตานี่นองอาบหน้า ที่น่าตบมากคือพี่สยามมันหัวเราะใหญ่เลยไม่คิดจะช่วยหาน้ำให้ผมกินด้วย โคตรคนเลว เดี๋ยวผมต้องเขียนเรื่องนี้บอกพ่อ

เขาจะต้องได้รู้ความชั่วร้ายของพี่สยาม

การมาพิษณุโลกในครั้งนี้ผมมีเรื่องที่จะเขียนให้พ่อฟังเยอะเลยครับ ทั้งเรื่องสถานที่ ทั้งเรื่องที่โดนพี่สยามแกล้ง ผมว่าถ้าพ่อได้อ่านเขาจะต้องหัวเราะไปแล้วก็สาปแช่งพี่สยามไปแน่ๆ ดีไม่ดีก็อาจจะสาปแช่งผมด้วย ที่ยอมปล่อยให้ตัวเองโดนมันแกล้ง

เฮ้อ

เลิกคิดเรื่องนี้ดีกว่า

ถ้ากลับจากพิษณุโลกผมต้องลากพี่สยามไปซื้อของเข้าหอด้วยเพราะว่าของใช้หลายอย่างหมดแล้ว จะว่าไปก็ใกล้เปิดเทอมแล้วเหมือนกันนะ อีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ทำไมรู้สึกเหมือนปิดเทอมมันผ่านไปไวจังวะ ยังไม่ทันได้ทำอะไรมากเลยนอกจากทำงานคณะเนี่ยะ เดี๋ยวกลับไปก็ต้องเตรียมเรื่องเอกสารเรื่องค่ายไปยื่นให้ทางคณะอีก

เนี่ยะ เป็นสมปองมันเหนื่อยจริงๆ นั่นแหละ

"พี่สยาม"

เจ้าตัวละจากชามขึ้นมามองผม "หืม...."

"กลับไปเราต้องทำงานเยอะเลยสิเนี่ยะ"

"ใช่ ก็เปิดไปไม่กี่อาทิตย์ก็มาค่ายแล้วอ่ะ เราก็ต้องรีบทำเอกสารส่งทางคณะ ไหนจะเรื่องเตรียมพร๊อพของกิจกรรมอีก แทบไม่ว่างเลยเอาจริงๆ "

"เหนื่อยเนอะ"

"เหนื่อยจริง" มือเรียวเลื่อนมากุมแก้มผมเบาๆ "สู้ๆ นะครับ เราจะผ่านไปด้วยกันนะ"

"อื้มมมม มึงก็ต้องสู้เหมือนกันนะ"

"ครับผม" พี่มันรับคำก่อนจะยิ้มหวาน เห็นรอยยิ้มนี้แล้วค่อยฮึดสู้หน่อย

ผมก้มลงจัดการเกี๊ยวต่อไปเรื่อยๆ จนหมดทั้ง 3 ชาม โคตรอิ่มอ่ะบอกเลย แน่ล่ะไม่อิ่มก็บ้าแล้ว กินไปตั้งเยอะ พี่สยามลุกขึ้นไปจ่ายเงิน ผมก็เดินมารอมันที่รถ ตอนนี้ก็ 5 ทุ่มกว่าละ ดาวบนฟ้านี่สวยกำลังดีเลย

"เสร็จละ ไปกัน" พี่สยามปลดล็อกรถ ผมก็เดินขึ้นไปนั่งที่ตัวเอง

"พี่สยาม" ผมหันมองมัน "เราไปนั่งตรงริมแม่น้ำหน้าโรงแรมก่อนได้ไหม"

"ได้สิ กูก็คิดว่าจะชวนมึงไปเหมือนกัน"

"โอเคงั้นไปกัน" ผมบอกก่อนจะหันมองวิวข้างทางไปเรื่อย คือจากร้านบะหมี่กลับมาโรงแรมก็ไม่ได้ไกลกันมากน่ะครับ ขับรถ 10 นาทีก็ถึงละ

พี่สยามจอดรถเลียบข้างถนน "ลงสิ"

"รู้แล้ว" ผมลงจากรถก่อนจะไปนั่งลงตรงบันไดที่เป็นขั้นเพื่อลงแม่น้ำ "มานั่งๆ "

พี่สยามเดินมานั่งซ้อนผมจากด้านหลัง "อากาศดีเนอะ"

"ใช่ อยากให้ที่กรุงเทพฯ อากาศเป็นแบบนี้บ้าง"

"เดี๋ยวพวกเราก็ต้องกลับไปเรียนอีกแล้วหรอเนี่ย" พี่สยามวางคางไว้บนไหล่ผม "เวลามันเดินไปเร็วจัง"

"เนอะ เหมือนหยุดแค่แปปๆ เอง" ผมมือลูบหัวคนที่เอาคางเกยไหล่ผมอยู่

ชอบช่วงเวลานี้จริงๆ

มันเป็นปิดเทอมแรกในชีวิตมหา'ลัยที่น่าประทับใจอยู่ไม่น้อยเลยนะ ถึงจะเหนื่อยเพราะต้องทำงานแต่ผมก็ได้ใช้เวลาอยู่กับพี่สยามเป็นส่วนมากเลย ได้มาเที่ยวด้วยกัน ได้ทำบุญด้วยกัน ได้กินโน่นนี่ด้วยกัน มีความสุขจริงๆ ที่ได้ทำอะไรพวกนี้กับผู้ชายคนนี้ ผมหวังนะว่าจะได้ทำเรื่องแบบนี้กับพี่สยามไปเรื่อยๆ

หวังแบบนั้นจริงๆ

"พี่สยาม"

"หืม...."

"กู...." รักมึงนะ มากๆ ด้วย

"จะพูดอะไร" พี่สยามหันมองผม "สมปอง...."

ผมยื่นหน้าเข้าไปจูบปากมันเบาๆ แทนสิ่งที่ผมจะพูด เจ้าตัวดูตกใจอยู่ไม่น้อยที่ผมทำแบบนั้น เพียงไม่กี่วินาทีผมก็ละออกมาก่อนจะเลื่อนไปหอมแก้มมันฟอดใหญ่

"อยู่กับกูไปนานๆ นะ"

"หึ....มันก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้วครับ" พี่สยามจูบหน้าผากผมเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมือมาจับมือผมไว้แน่น "ไม่ว่าในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น กูจะไม่ปล่อยมึงไปเด็ดขาด"

"สัญญานะพี่สยาม"

"สัญญาครับ"

เสียงนุ่มที่บอกเบาๆ ข้างหูนี่ทำให้รู้สึกอุ่นใจจริงๆ ผมเอนตัวพิงพี่สยามไว้ อ้อมกอดนี้อบอุ่นเสมอ มันไม่เปลี่ยนเลยครับ ยิ่งได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเสพติด อยากได้มากขึ้นอยู่เรื่อยๆ ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมาถึงจุดที่ไม่สนใจใครเลยนอกจากพี่สยาม ไม่ว่าจะคิดเรื่องอะไรอยู่ก็มักจะวกมาคิดถึงมันอยู่ตลอดด้วย

แทบทุกเวลาที่รู้สึกตัว

พี่สยามมีอิทธิพลต่อชีวิตผมมาก ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรามันยังไม่มีชื่อเรียกแต่ว่าความรู้สึกที่เรา 2 คนมีให้กันมันก็ชัดเจนมากเกินพอละ ผมรักพี่สยาม พี่สยามก็รักผม เราต่างคนต่างรักกัน เหลือแค่เวลาเหมาะเท่านั้นที่ความสัมพันธ์ของเราจะเปลี่ยนชื่อเรียก อีกไม่นานผมจะสามารถบอกคนอื่นได้เต็มปากเต็มคำว่าพี่สยามเป็นแฟนของผม

"รอกูอีกหน่อยนะพี่สยาม"

"หึ....นานแค่ไหนก็จะรอครับ"








TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้วนะ ตอนนี้ก็ยังหวานเลี่ยนกันอยู่ มันก็จะหวานเลี่ยนไปแบบนี้อีกสักพักเลยแหละ แต่เข้าพาร์ทดราม่าเมื่อไหร่ก็ต้องกุมใจกันเอาไว้แน่นๆ เลยนะ นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่สายฟีลกู๊ดจ๋าหรือสายละมุนแบบเรื่องของขุนหนมนะ มันกึ่งๆ หวานคือหวาน ขมคือขม อันนี้บอกก่อนเลย แต่ยังไงตอนจบมันต้องแฮปปี้เอนดฺอยู่แล้วนะคะ

เกริ่มเรื่องขันหมีหน่อย ก็อีกแค่อาทิตย์เดียวก็จะได้อ่านแล้วนะคะ สารภาพจากใจเลยว่าแต่งดองไว้อาจจะไม่ได้มากเท่ากับขุนหนมเพราะว่าชาลไม่ค่อยมีเวลาและป่วยบ่อย เพราะงั้นรอนิยายเนี่ยะ ช่วยรอกันอย่างใจเย็นนะคะ

ถ้าชอบก็กลไค์ คอมเม้นต์เพื่อให้กำลังใจกันได้นะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ต่อให้ขมแค่ไหนเราก็เชื่อว่าสยามกับสมปองจะจับมือกันฝ่าอุปสรรคไปได้และรักกันมากยิ่งขึ้น เราเชื่อแบบนั้น คนเราจะรักกันถ้าไม่มีอุปสรรคเลยมันก็ไม่ใช่ ความรักไม่ได้สวยงามเสมอไปจริงๆ

ขอบ่นพี่หยัมหน่อยเหอะ สย๊ามมมมมมม! แกนี้มันจริงๆเลยนะ ทั้งให้ลูกฉันนั่งตักท่ามกลางประชาชีทั้งจับมือทัังพูดเพราะคะขา นี้แกกะให้ลูกฉันสำลักความสุขตายแล้วหาเมียใหม่สินะ แกนี้มันร้ายจริงๆ  :katai4:

สมปองลูก หนูน่ารักจังเลยอ่ะ โอ๊ยยย อย่าไปยอมอย่าไปเขินนังหยัมมันมากนะลูก เดียวมันจับหนูงั่ม แม่ช่วยไม่ได้นะแต่แม่จะเชียร์ให้พี่หยัมมันงั่ม(เอ๊ะ!? ยังไง :hao5: ) สมปองเอ๊ย แม่บอกตรงๆว่าแม่กลัวใจหนูเหลือเกินลูก ถ้ามันดราม่ามาแม่กลัวใจหนูจริงๆ(ฮืออ) ยังไงแม่ก็เอาใจช่วยหนูนะลูก //ชูป้ายไฟ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
พี่หยัมสายหยอด
น้องปองสายอ่อย

ยังรอดราม่าอยู่นะ
อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด