S'Diary : ไดอารี่ของสมปอง [ บทพิเศษ : 4/4/2019 ] หน้า 10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: S'Diary : ไดอารี่ของสมปอง [ บทพิเศษ : 4/4/2019 ] หน้า 10  (อ่าน 30735 ครั้ง)

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
หยามทำไรอ่ะ ไม่บอกปอง เดี๋ยวนี้ไม่เกรงใจปองแล้วหรอ  :katai1:

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หน่วงตามเลยอ่ะ เห้ยๆ เรายังเชื่อใจพี่หยัมอยู่นะ คนอย่างพี่หยัมเราเชื่อว่าเขาจะไม่ทำให้ลูกเราเสียใจแน่ๆ สมปองอย่าคิดมากนะลูก มีแม่อยู่ตรงนี้ แม่จะอยู่ข้างหนูเอง ไฟต์ติ้งนะคะคนดี :mc4:

คุณชาลเองก็ด้วยน้าา ไฟต์ติ้งๆ เรารอได้เสมอ พักผ่อนเยอะๆ ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ รักเสมอ :mew1:

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 42 : สมปองคนคิดมาก

รู้สึกเหมือนตัวเองมีประจำเดือนเหมือนผู้หญิงก็วันนี้นี่แหละ

น่าหงุดหงิดไปทุกอย่างเลยโว้ย

ผมนั่งทำตัวบัดซบอยู่ที่หน้าตึกคณะคนเดียว ส่วนเพื่อนๆ มันพากันไปซื้อขนมครับ ช่วงหลายวันมานี้รู้สึกได้เลยว่าตัวเองกลายเป็นสมปองขี้เหวี่ยง เป็นสมปองที่งี่เง่า เป็นสมปองที่น่าเอาไปลอยทะเลทิ้งมากๆ คือไอ้อาการทั้งหมดนี่ผมก็พยายามที่จะคีพลุคนะ เก็บมันไว้ข้างในแต่แบบบางทีมันก็ไม่ทนไม่ไหวอะ

เผลอด่าพี่สยามไปเมื่อเช้าด้วย

โคตรบัดซบ

คนที่โดนผมด่าก็เอ๋อแดกไปเลย มันก็คงไม่เข้าอะนะว่าผมด่ามันทำไม พี่สยามมันก็ไม่ได้อะไรนะ มันเข้าใจว่าผมหงุดหงิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ และผมเองก็ไม่คิดที่จะบอกมันด้วยว่าสาเหตุที่หงุดหงิดนั้นมันมาจากอะไร เพราะคิดว่าถ้าบอกไปอาจจะพาลให้ทะเลาะกันเปล่าๆ แต่เก็บไว้ในใจแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องดีน่ะนะ

จะทางไหนก็ปวดประสาทไปหมดเลยว่ะ

เหตุผลที่ผมหงุดหงิดก็คือเรื่องไลน์ที่แฟนเก่าพี่สยามส่งมาหามันนั่นแหละ ผมไม่รู้เลยนะว่าพวกเขานัดกันไปไหนและจะไปวันไหน หลายวันมานี้พี่สยามอยู่กับผมตลอด มาเรียนก็มาพร้อมกันเลิกก็กลับด้วยกัน กลางคืนมันก็อยู่กับผม คิดเหมือนกันนะว่ามันแอบโดดเรียนแล้วไปหารึเปล่าแต่คนอย่างพี่สยามเนี่ยะยังไงเรื่องเรียนก็สำคัญอยู่ละ

ไม่รู้เลยว่าจะไปหากันวันไหน

ครั้นจะถามมันไปตรงๆ เดี๋ยวถ้ามันสวนกลับมาว่าผมรู้ได้ยังไงก็จะชิบหายเลย แม่งรู้แน่ว่าผมดูโทรศัพท์มัน ไม่รู้ว่าพี่สยามจะปิดเรื่องนี้ไปอีกนานแค่ไหน อยากรู้เหมือนกันนะว่ามันจะเล่าเรื่องที่แฟนเก่าทักมาให้ผมฟังไหม ถ้าเล่านี่จะเล่าให้ฟังตอนไหน บางทีผมก็เบื่อตัวเองนะที่เก็บเรื่องทุกอย่างมาคิดมากแบบนี้ทั้งๆ ที่มันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้

แต่ขึ้นชื่อว่าถ่านไฟเก่าป้ะวะ

เติมเชื้อหน่อยก็พร้อมปะทุ

เฮ้อ....งี่เง่าจังวะปอง

มึงควรเชื่อใจพี่สยามให้มากกว่านี้รึเปล่า

"ปอง"

ผมหันไปตามเสียงก็พบกับสมแยมเพื่อนรัก "ว่าไงมึง แล้วลันตากับสีเทียนล่ะ"

"พวกพี่ขุนยืมตัวไปช่วยยกของน่ะ แต่กูเจ็บแขนไงก็เลยไม่ได้ไปช่วย" แยมบอกก่อนจะนั่งลงข้างผม "ว่าแต่มึงเถอะเป็นอะไร กูเห็นสีหน้าไม่ดีมาหลายวันแล้วนะ"

"มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยว่ะ"

"เกี่ยวกับพี่สยามหรอ"

"มึงรู้ได้ไง" เดาแม่นขนาดนี้ไปเป็นหมอดูได้เลยนะ บางทีเอาดีทางด้านนี้น่าจะเวิร์คก็ได้ ไม่ต้องเรียนละ ลาออกไปเลย

นี่ก็คิดอะไรเป็นตุเป็นตะ

"อย่างมึงอะ จะมีเรื่องให้ไม่สบายใจสักกี่เรื่องกันเชียว ตกลงเป็นเรื่องพี่สยามจริงๆ สินะ"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ "ก็ใช่แหละ คือตอนนี้กูกำลังงี่เง่ามากๆ เลยว่ะแยม กูไม่อยากเป็นแบบนี้เลย"

"เห้ยเอาหน่า คนเรามันก็ต้องมีฟีลงี่เง่าให้กับความรักทั้งนั้นแหละ" มือเรียวยกขึ้นแตะที่ไหบ่ผมเบาๆ "แต่ว่านะ บางอย่างถ้ามันทำให้รู้สึกเป็นทุกข์มากๆ ลองหยุดคิดถึงมันสักพักไหม อย่างน้อยก็จะได้รู้สึกดีขึ้น"

"กูก็ไม่ได้อยากจะนึกถึงหรอกแต่มันก็ห้ามไม่ได้ว่ะ" ไม่มีใครห้ามสมองตัวเองไม่ให้คิดได้ง่ายๆ หรอก ต่อให้สั่งตัวเองยังไงมันก็ทำไม่ได้อยู่ดี

บ้าบอชิบ

"เอาหน่ามึง....ความรักก็งี้แหละ"

นั่นสินะ

ความรักก็งี้แหละ

ผมไม่ได้มีแฟนมาสักพักมั้งมันก็เลยเป็นแบบนี้และก็คงเป็นเพราะผมรักพี่สยามมาก มากจนไม่รู้เลยว่าถ้าเสียมันไปตัวเองจะเป็นยังไง ผมเชื่อในทุกคำที่มันบอกนะ ทุกกระทำมันก็ชัดเจนมากอยู่แล้วแหละว่ามันรักผม แต่บางเรื่องมันก็อดกังวลไม่ได้ หรือช่วงนี้มันเป็นช่วงโปรฯ วะ

ก็ไม่น่าเกี่ยว

ช่างแม่ง เอาเป็นว่าผมจะไม่พยายามคิดโน่นคิดนี่ละกัน มันก็จริงอย่างที่แยมพูดน่ะนะ คิดไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เอาเวลาไปทำโน่นทำนี่ยังจะดีกว่า นี่ใกล้จะสอบมิดเทอมแล้วครับ ไม่รู้ว่าทำไมเวลามันผ่านไปเร็วแบบนี้ เหมือนเพิ่งเปิดเทอมแล้วเพิ่งกลับมาจากค่าย แปปเดียวจะสอบละ หลังจากหยุดยาวช่วงสอบก็จะต่อด้วยรับน้องและก็ประกวดดาวเดือนเลย

วันหยุดคืออะไรไม่รู้จัก

จริงอยู่ที่กิจกรรมมันก็อีก 2 เดือนแน่ะกว่าจะถึง แต่ว่าเราก็ต้องเตรียมโน่นนี่ก่อน อีกอย่างงานประกวดดาวเดือนเนี่ยะต้องทำงานร่วมกับคณะอื่นด้วย แม่งต้องเป็นอะไรที่ปวดหัวมากแน่ๆ แค่คิดก็เหนื่อยแล้วอะ ผมยิ่งพูดกับชาวบ้านไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่ ทุกวันนี้ก็มีแค่เพื่อนกับพี่สยามนี่แหละที่ฟังรู้เรื่อง

พูดถึงพี่สยามก็อยากเจอมันจัง

ได้เห็นหน้าสักแวบนึงก็ยังดี

"เออแยม ที่มึงบอกว่าพวกพี่ขุนเค้ามาให้ไปช่วยขนของนั่นมึงเจอพี่สยามป้ะ"

"ไม่นะ เห็นว่าอาจารย์ยกคลาสของพี่เค้ามั้ง ก็เลยจะไปทำงานอะไรสักอย่างนี่แหละ"

"ยกคลาสงั้นหรอ"

ทำไมพี่สยามไม่ไลน์มาบอกวะ

"เออปอง กูลืมไปเลยว่าต้องไปเอาตุ๊กตาที่สั่งทำไว้อะ มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยได้ป้ะ"

"ได้ดิ่ ที่ไหนอะ"

"แถวอารักษ์ศึกษาอะ ก็ไกลจากนี่อยู่แหละ แต่ว่าก็น่าจะกลับมาทัน"

"เออเอางั้นก็ได้ ไปยังไง"

"กูเอารถมา ไปเหอะ ได้รีบไปรีบมา" ว่าแล้วสมแยมก็เดินนำไปเลย ส่วนผมก็เดินตามหลังมันมาต้อยๆ ก่อนจะส่งไลน์ไปบอกลันตาว่าไปเอาของก่อนเดี๋ยวกลับมา

ถ้าไม่บอกมันก่อนเดี๋ยวมันด่าครับ

นี่เพิ่งรู้เลยนะว่าแยมมันมีรถด้วย สงสัยว่ากลับบ้านครั้งก่อนไปเอามามั้ง แหม่ แล้วไม่บอกใครเลยนะมึง น่าตบจริง แต่ว่ามันก็ไม่น่าแปลกหรอกถ้าเอารถมาแล้วไม่ได้มาใช้ ก็หอพวกผมแม่งใกล้แค่นี้เอง ที่มันเอารถมาใช้วันนี้ก็น่าจะเป็นเพราะว่าจะไปเอาของนี่แหละมั้ง เนี่ยะ มีการสั่งทำตุ๊กตาซะด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันต้องเอาไปให้พี่นมปั่น

อยากจะแหมๆ ๆ ๆ ๆ ให้ยาวไปถึงดาวอังคารซะจริง

ผมขึ้นรถของเพื่อนรักก่อนจะคาดเบลท์เรียบร้อย แยมมันก็ขับรถของมันไปเรื่อย เป็นทางที่ผมไม่รู้จักเลยอะ เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยรู้นะว่าทางไหนมันไปไหนเพราะว่าผมไม่ค่อยได้ไปไหน

งงไหม

ช่างมันละกัน

ผมนั่งมองข้างทางพลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ทำไมอยู่ดีดีก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเฉยๆ วะ งานมันก็หนักแหละแต่ก็ไม่ได้หนักขนาดที่ทำให้รู้สึกเหนื่อย สงสัยเหนื่อยใจมั้ง ช่วงหลายวันมานี้ผมคิดด้วยนะว่าเมื่อก่อนตอนที่ยังไม่ได้คบกับพี่สยามผมรู้สึกสบายใจกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้อีก ไม่รู้ว่าความคิดนี้มันมาได้ยังไง อาจเพราะมีแฟนเก่าพี่มันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะมั้ง

เนี่ยะ คิดถึงเรื่องนี้อีกละ

บัดซบเอ๊ย

"เห้ยเดี๋ยววววแยม"

"หืม....อะไร"

"ชะลอรถแปปนึงได้ไหม แอบจอดตรงนี้ก่อนก็ได้" ผมบอกพลางมองเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งถ้าผมมองไม่ผิดมันคือ....พี่สยาม

พี่สยามกับแฟนเก่า

"เจอใครวะ" แยมมันแวะจอดรถไว้เยื้องๆ ต้นไม้ใหญ่ "ปอง...."

"แปปนึง" ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปหาพี่สยามทันที ตอนนี้ในใจมันเต้นตึกตักๆ มากเลยอะ ความรู้สึกแปลกๆ นี่มันคืออะไรวะ

(ฮัลโหล)

"อยู่ไหนอะ ยกคลาสหนิ" ผมถามพลางมองคนที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่ในร้าน

(ใช่ยกคลาส คือกูมาซื้อของให้พี่ไทอะ เดี๋ยวกลับไปทำงานที่มอต่อ)

โกหกชัดๆ

"หรอ...."

(ครับ....เดี๋ยวงานเสร็จแล้วไปหานะ แล้วนี่มีเรียนใช่ไหม)

"อืม"

(ตั้งใจเรียนนะครับ แค่นี้ก่อนนะ)

"......" ผมกดวางสายก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาหนักๆ ตอนนี้กำลังโมโหครับ โกรธด้วยที่พี่สยามโกหกผม มาซื้อของให้พี่ไทอะไรล่ะ

นั่งกินข้าวอยู่กับแฟนเก่าชัดๆ

ไอ้ที่บอกว่านัดกันก็คงนี่แหละมั้ง จังหวะดีเลยนี่ยกคลาสพอดี หายไปผมก็ไม่สงสัยเพราะผมไม่รู้ ตัวมันเองก็ไม่คิดจะบอก ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรวะ แล้วมาโกหกกันอีก นี่ถ้าไม่มาเห็นกับตาผมก็จะโง่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เนี่ยนะ

เสียใจว่ะ

ทำยังไงกับความรู้สึกนี้ดี

"โอเคไหมปอง" แยมเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

ผมส่ายหน้าทันที "มันโกหกกู มันบอกว่ามันมาซื้อของแต่มึงเห็นไหมว่ามันนั่งกินข้าวกับแฟนเก่าอยู่ตรงนั้น"

"ใจเย็นๆ ก่อนนะมึง มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้"

"มันมีตั้งแต่โกหกกูแล้วอะ ถ้าบริสุทธิ์ใจก็น่าจะบอกกันดีดีป้ะวะ แล้วนั่นน่ะแฟนเก่าเลยนะมึง คนมันเคยรักกันมาก่อนป้ะวะ"

"แต่ตอนนี้พี่สยามเค้าก็รักมึงป้ะวะปอง" แยมมันยกมือขึ้นแตะไหล่ผม "ที่เค้าไม่บอกมึงเค้าอาจจะมีเหตุผลของเค้าก็ได้ มึงไม่เคยโกหกใครเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจหรอวะ คือบางอย่างอะมันต้องเล่าให้ฟังแน่ๆ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ยังไงกูก็อยากให้มึงใจเย็นๆ ก่อน"

"แต่....."

"ถ้าเค้าจะกลับไปหาแฟนเก่าจริงๆ ถ้าเค้าไม่จริงจังกับมึงจริงๆ ไอ้ที่เค้าทำมาทั้งหมดนั่นเค้าจะทำเพื่อมึงทำไม แค่หลอกฟันก็ไม่ต้องทำเยอะขนาดนั้นก็ได้ ถ้าแค่จะเอาชนะเค้าก็ทิ้งมึงไปแล้วก็ได้ ความรักอะปอง....ใจเย็นๆ ก่อนอย่าเพิ่งใช้อารมณ์กับมัน กูอยากให้มึงอดทนรอคุยกับเขาด้วยเหตุผลนะ"

ผมเงียบทันทีหลังจากที่แยมเตือนสติ เอาจริงๆ ก็จริงแบบที่มันพูดนั่นแหละนะ แต่มันก็ยังไม่รู้สึกไม่ชอบใจอยู่ดี โกหกมันก็คือโกหกป้ะวะ ถึงจะมีเหตุผลยังไงมันก็คือการโกหกอยู่ดี ผมว่าตัวเองคงต้องคุยกับพี่สยามไปตรงๆ ว่าอะไรมันเป็นยังไง หรือไม่ก็ต้องอดทนรอดูไปก่อนแบบที่แยมว่า

จิ๊....ปวดหัวชะมัด

"ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น กูจะอยู่ข้างๆ มึงเองปอง ตอนนี้อย่าเพิ่งไปคิดมาก มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้"

ผมพยักหน้ารับคำ "เออ กูจะพยายามไม่คิดแล้วกัน ไปเอาตุ๊กตากันเถอะ ได้กลับไปเรียน"

"โอเค" ว่าแล้วแยมมันก็ออกรถส่วนผมก้ได้แต่นั่งสงบสติอารมณ์เงียบๆ

ถ้าพี่สยามมันมาหาผมตอนเย็นผมต้องทำหน้ายังไงอะ คิดไม่ออกจริงๆ ว่ะ แต่สิ่งที่รู้สึกตอนนี้คือมันแย่มาก มันแย่ไปหมด ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีวันที่คิดมากถึงขนาดนี้ด้วยนะ แม่ง....โคตรไม่เป็นตัวของตัวเองเลย

ความรักมันน่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอวะ

ผม....ไม่รู้จะทำยังไงเลยจริงๆ



[บันทึกพิเศษ : สยาม]



"โกหกไปแบบนั้นจะดีหรอ ถ้าน้องมารู้ทีหลังจะแย่นะ"

"บางทีถ้าน้องรู้ตอนนี้ก็อาจจะแย่เหมือนกัน"

"สยามก็เป็นแบบนี้ตลอด น่าตบ"

ผมยกยิ้มให้คนตรงหน้า "เอาน่ะ เดี๋ยวเราจัดการเองละกัน ว่าแต่แซนด์เถอะ เรื่องราวมันยังไงไหนเล่ามาซิ"

"ก็เล่าให้ฟังไปหมดแล้วหนิ ไม่รู้จะเล่าอะไรแล้ว"

"ไม่ ที่เล่าให้ฟังวันนั้นคือคร่าวๆ ครั้งนี้ขอแบบละเอียดหน่อย"

"เฮ้อ...." ยังจะมาถอนหายใจอีก

น่าตบพอกันแหละว่ะ

ผมนั่งเท้าคางมองคนที่เคยเป็นทั้งเพื่อนสนิท เคยเป็นแฟน และตอนนี้เหมือนจะมาเป็นเรื่องชิบหายในชีวิตผมด้วย ผู้ชายตรงหน้านี้ชื่อแซนด์ครับ เป็นนักศึกษาแพทย์ที่ตอนนี้ควรจะอ่านหนังสือตาเหลือกอยู่ที่เมกาฯ ไม่ใช่มานั่งเขี่ยข้าวไปมาอยู่ตรงหน้าผม ไม่เจอกันมา 2 ปีกว่ามันดูเป็นไปเยอะเหมือนกันนะ

ดูกิ๊กก๊อกขึ้นเยอะด้วย

"เร็วแซนด์ เล่ามา....ทำไมอยู่ดีดีก็คิดจะย้ายกลับมาเรียนไทย"

"ก็....เบื่อแล้ว"

"นั่นไม่ใช่เหตุผลป้ะ" ผมหรี่ตามองมัน "บอกเรามาเร็วๆ แล้วนี่หนีมาไทยแบบนี้ พี่เยียร์ไม่ว่าหรอ ป่านนี้ตามหาพลิกแผ่นดินแล้วมั้ง"

"เค้าไม่สนใจเราหรอก" แซนด์เอ่ยเสียงเศร้าออกมาพลางยิ้มบางๆ "ถ้าเค้าสนใจเรา เค้าคงตามเรามาตั้งแต่วันที่เรามานี่แล้วแหละ"

ดราม่าอีก

ไม่ปลอบนะมีแต่จะตบซ้ำ

ผมนั่งมองแซนด์ทำหน้าเศร้า คือพี่เยียร์ที่พูดถึงเป็นแฟนของแซนด์ครับ ช่วงนึงหลังจากที่เราเลิกกันไปได้สักพักเนี่ยะแซนด์ก็ไปเจอรุ่นพี่ในมหา'ลัยคนนึง แล้วเขาก็ตามจีบมัน และก็รักกันคบกันอะไรทำนองนี้แหละ ตอนนั้นผมก็ยินดีกับมันนะ คือตอนที่เลิกกันก็เข้าใจดีว่ามันเป็นเพราะอะไรแล้วก็คิดว่ายังเป็นเพื่อนกันได้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เราต้องตัดกันและกันออกจากชีวิต

ใครทำไม่ได้ผมทำได้

"เรื่องคิดไปเองนี่เก่ง" ผมเบ้ปากใส่ "รู้ได้ไงว่าเค้าไม่หาแซนด์"

"เค้าจะมาหาทำไม เค้ายุ่งเรื่องงานหมั้นโน่น"

"ตกลงพ่อแม่เค้าไม่ยอมจริงๆ ดิ"

"อืม....นึกถึงเคสของเราสองเลยว่ะ เหมือนกันเป๊ะ" เจ้าตัวเอ่ยก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ "มันเป็นเวรกรรมป้ะวะสยาม"

"เวรกรรมชัวร์ๆ แต่ว่านะแซนด์ คือพี่เยียร์เค้าก็ดูรักแซนด์มากเลยนะ ก็ไม่น่าจะยอมหมั้นง่ายๆ ป้ะ"

"เค้าอาจจะรักเราก็จริง แต่ว่าเค้าก็ต้องรักครอบครัวเค้าด้วยใช่ไหมล่ะ คนเป็นลูกอะ....จะขัดพ่อแม่ได้ยังไง"

"แล้วแซนด์จะยอมแพ้หรอ ปล่อยให้ผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ได้พี่เยียร์ไปเนี่ยนะ"

"ไม่ได้อยากยอมแพ้นะสยามแต่แบบ....เราจะเอาอะไรไปสู้วะ แพ้ตั้งแต่ท้องไม่ได้ละ"

เจอประโยคนี้ไปนี่จุกเลย

"มันต้องมีสักทางแหละ เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราช่วยเอง ส่วนพี่เยียร์เราว่ายังไงเค้าก็ต้องเลือกแซนด์แหละ มั่นใจในความรักของตัวเองหน่อย"

คนตรงหน้าคลี่ยิ้มออกมา "แค่ความรัก....มันไม่พอหรอกสยาม รักกันอย่างเดียวมันม่ได้จริงๆ "

"อย่าเศร้าสิวะ"

"อยากเมาขึ้นมาทันทีเลย" ว่าแล้วคนตรงหน้าก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะไป เชี่ย อาการแบบหนักมากอะ

สงสารเลยว่ะ

ผมตกใจเหมือนกันนะที่เมื่ออาทิตย์ก่อนแซนด์มาหาที่ตึก มันบอกผมว่าจะย้ายกลับมาเรียนไทย บอกว่าตัวเองอกหัก แฟนจะทิ้งไปหมั้นกับผู้หญิง แต่วันนั้นอะยังไม่ทันได้คุยกันดีแต่ผมต้องเข้าเรียนก่อนไงก็เลยนัดกันไว้ว่าเดี๋ยวค่อยมานั่งคุยกัน แล้ววันนี้ก็เป็นวันที่ผมเพิ่งจะเจียดเวลามาหามันได้ ส่วนไอ้วันก่อนๆ หน้าคือกกอยู่แต่กับเมีย

คนมันติดเมียนี่หว่า

พูดถึงเมีย....ผมทำเรื่องแย่ลงไปด้วยนะวันนี้ ผมโกหกน้องไปว่าตัวเองมาซื้อของให้พี่ไทเพราะไม่อยากให้น้องรู้ว่าผมอยู่กับแฟนเก่า สมปองน่ะมักทำหน้าไม่โอเคออกมาตลอดเลยเวลาที่ผมพูดถึงแฟนเก่าน่ะ คือคิดว่าต้องบอกน้องนั่นแหละแต่อยากนั่งอธิบายดีดีมากกว่า น้องจะได้เข้าใจ เรื่องวันนี้ผมต้องขอโทษน้องด้วยที่โกหกเขา

แต่ไว้จัดการทุกอย่างก่อนแล้วค่อยเคลียร์ทีเดียว

จะได้ไม่วุ่นวาย

"ไหวไหมเนี่ยะแซนด์"

"ไม่" แซนด์เงยหน้าขึ้นมามองผม "อย่าทำให้น้องปองเสียใจเหมือนที่เรากำลังเป็นอยู่ตอนนี้นะสยาม"

"รู้แล้วน่า ตกลงวันนี้ก็ยังจะไม่เล่าใช่ไหมว่าเรื่องทั้งหมดมันยังไง"

"ยังไม่อยากพูดถึงอะ"

"งั้นช่างมัน รีบๆ กินข้าวซะ เดี๋ยวไปส่ง จะรีบกลับไปทำงาน เดี๋ยวจะไปหาปองต่อด้วย"

"น่าอิจฉาจริงๆ เลยน้าคนมีแฟน"

"แซนด์ก็มีป้ะวะ"

"อย่าพูดถึงพี่เยียร์ได้ไหม" มันเบะปากจนสุด "จะร้องไห้"

เฮ้อ....ประสาทจะแดก

"รีบๆ กินไปเลย"

จะได้กลับไปหาปองสักที



[จบบันทึกพิเศษ : สยาม]













TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้วหลังจากที่หายไปนานเลย ขอโทษด้วยที่มาดึกมากๆ นี่เพิ่งแต่งเสร็จสดๆ เลยนะคะ ยังไม่ได้ตรวจคำผิดอะไรเลยแต่เดี๋ยวจะไล่แก้ให้นะ

ก็อ่านแล้วก็อาจจะจับเรื่องชนปลายได้ถูกนะว่าอะไรมันเป็นยังไง แซนด์มาดีหรือมาร้าย พี่สยามกับสมปองควรจะทำยังไง เรื่องจะเป็นยังไงต่อรอติดตามน้า

ถ้าชอบก็คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ ติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-05-2018 00:37:30 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปองโกรธแน่ ๆ นังพี่หยาม ไปบอกความจริงกับปองซะ แล้วก็พาปองไปคุยกับแฟนเก่าด้วย จะได้เคลียร์ให้มันจบ ๆ  :katai1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดีนะที่ปองมีเพื่อนดี คอยให้คำปรึกษา
ให้ปองใจเย็นๆตอนที่เห็นพี่สยามอยู่กับแฟนเก่าแล้วโกหกปอง
เพราะปองเก็บตวามไม่พอใจ ความระแวงไว้กับตัว
ไม่พูดออกมา แต่ก็เผลอหลุดด่าพี่สยามไปแล้ว
พี่สยามก็ดูรู้ เลยเลือกที่จะโกหกตอนที่ปองถาม
ความรักมันยากจริงๆด้วย ถ้าเราไม่เชื่อใจกัน
ขอให้ปองผ่านมันไปด้วยดีนะ

พี่สยาม  ปอง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
คนรู้ กับ คนไม่รู้
ความรู้สึกมันแตกต่างกันลิบลับ

ยิ่งเก็บงำให้เป็นความลับมากขึ้นเท่าไร
คนไม่รู้ก็ยิ่งเพิ่มความระแวงและไม่ไว้ใจ มากขึ้นเช่นกัน

คุยกันดีดีนะ..เคลียร์ให้มันจบ
เพราะถ้าไม่เคลียร์ อาจจะจบกันไปเลย

ส่งแรงใจช่วย พี่หยัมกะน้องปอง

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่ว่าจะมรเหตุผลมากแค่ไหนก็อย่าโกหก

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ตามอ่าน .

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ตามต่อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอบคุณที่แซนด์ไม่ได้มาร้าย ตอนนี้โล่งใจนิดๆ ล่ะ คิดว่าลูกอาจงี่เง่าเอง เข้าใจทั้งลูกทั้งพี่สยามนะ แต่ก็เนอะ ความรู้สึกมันต่างกันไง ยังไงก็เอาใจช่วยทั้งสองคนนะ เอาใจช่วยคุณชาลด้วย สู้ๆ นะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ตามต่อ.

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ปองหายไปไหนไม่มาต่อ นี้ 1 อาทิตกว่าแล้วนะ 55

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 43 ความอ่อนแอของสมปอง



ขอ How to เอาหัวหนุนชีทยังไงให้ความรู้เข้าสมอง

ไม่ก็....ต้มกินยังไงให้ฉลาดที่สุดก็ได้

ไม่ไหวแล้วววว

ผมยกชีทขึ้นมาคลุมหัวตัวเองไว้อย่างหมดอาลัยตายอยาก ครั้นจะไม่อ่านก็ไม่ได้อีก อาทิตย์หน้าผมจะสอบมิดเทอมแล้วครับ สอบเสร็จจะหยุดยาว 5 วันก่อนจะกลับมามีกิจกรรมรับน้องและประกวดดาวเดือนต่อๆ กันเลย แค่คิดก็เหนื่อยแล้วอะ จะเลิกคิดก็ไม่ได้อีกเพราะมันเป็นหน้าที่ที่ท่านประธานสมปองคนนี้ต้องรับผิดชอบ

เฮ้อ....มีตะเกียบไหมครับ

ผมจะเอามาแทงคอตัวเองให้ตายๆ ไป

ช่วงนี้ผมหงุเหงิดง่ายด้วย ตั้งแต่วันที่ไปเจอพี่สยามไปกินข้าวกับแฟนเก่านั่นก็ผ่านมาหลายวันแล้ว เป็นหลายวันที่อึมครึมมากระหว่างเราสองคน ผมแทบไม่พูดกับพี่สยามเลย กลัวใจตัวเองจะไประเบิดลงใส่มันไง ตัวมันเองก็อาจจะสงสัยกับอาการผมอยู่แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร คงคิดว่าถ้าผมอยากพูดผมก็จะพูดเองล่ะมั้ง

สรุปแล้วจากวันนั้นจนวันนี้ก็ยังไม่ได้เคลียร์กัน

ความสัมพันธ์แลดูย่ำแย่แปลกๆ

มันไม่เชิงว่าย่ำแย่หรอกแต่มันก็ไม่ควรจะเป็นแบบนี้ไง คนเป็นแฟนกัน คุยกันนับคำได้ เนื้อตัวก็แทบจะไม่โดนกันเลยด้วยซ้ำ อยู่ด้วยกันก็จริงแต่มันก็ไม่ต่างจากเวลาที่อยู่คนเดียวสักนิด มันอึดอัดนะครับ ผมไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้ อยากกลับไปเป็นเมื่อก่อนเหมือนตอนที่แฟนเก่ามันยังไม่กลับมา

ตอนนั้นมีความสุขมากเลยนะ

คิดแล้วเศร้าว่ะ

วันนี้ผมไม่มีเรียนแต่พี่สยามมี แต่ป่านนี้คงเลิกแล้วแหละ ไม่รู้ว่ามันจะไปประชุมเรื่องรับน้องต่อรึเปล่า หรือจะไหนต่อไหนต่อก็ไม่รู้ หลายวันมานี้มันก็ไม่บอกผมนะเวลาที่จะไปไหนมาไหนน่ะ คือตอนแรกก็บอกแหละแต่พอผมอ่านแล้วไม่ตอบมันก็ไม่บอกอะไรเลย ปกติถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมอ่านไม่ตอบแบบนี้มันต้องโทรมาแล้ว

เนี่ยะ มันเปลี่ยนไป

ฮือออ.อ.อ...ทำไมเศร้า

พอๆ ๆ ๆ ๆ ผมจะเลิกคิดถึงพี่สยามแล้วมาโฟกัสกับความรู้ในชีทนี่แทน คิดถึงมันไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย อีกอย่างคือการคิดถึงใครข้างเดียวมันคือความเจ็บช้ำในชีวิตเปล่าๆ ทำไมเราจะต้องมานั่งรู้สึก มานั่งคิดมากให้กับคนที่เขาไม่ได้รู้สึกเหมือนเราด้วย มันโคตรไม่แฟร์อะ คนเรารักกันมันก็ควรมีความรู้สึกเท่าๆ กันป้ะวะ ทำไมเป็นผมที่รู้สึกมากกว่าอยู่คนเดียวด้วย

แม่ง....ดราม่าหนักกว่าเดิมอีก

บัดซบว่ะ

ผมเดินไปหยิบไดอารี่สีขาวในตู้ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม ช่วงนี้เขียนไดอารี่ทุกวันเลยครับ ฟ้องพ่อเต็มไปหมด คือตอนที่พ่อได้อ่านนี่ต้องมีวิ่งไปหยิบปืนบ้างอะ ผมโซแซดมากเลยนะ คือไม่คิดว่าการที่ตัวเองมีความรักอีกครั้งจะต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ไง ใจนึงก็อยากโทรไปปรึกษาพ่อแต่ว่าพ่อไม่รู้เรื่องของผมกับพี่สยามไง ถ้าพ่อรู้ตอนนี้นะคนที่จะโดนยิงตายก็คือผม

แบบนั้นนี่แย่เลยนะ

ผมเป็นลูกชายคนเดียวครับ ถ้าผมตายไปใครจะเป็นคนสืบทอดไวน์ของพ่อล่ะ ใครจะคอยดูแลไร่ทั้งหมด ไหนจะคนงานอีก ไหนพวกม้าของผมอีก คือภาระที่ต้องรับผิดชอบมันยิ่งใหญ่มากอะ เพราะฉะนั้นผมจะมาตายตอนนี้ไม่ได้ อีกอย่างคือถ้าพ่อยิงผมตายมันก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย คิดแล้วมันไม่ได้จริงๆ ว่ะ เอาเป็นว่าผมเขียนไว้ในไดอารี่รอให้พ่ออ่านทีเดียวละกัน ถึงตอนนั้นจะอยู่หรือจะตายก็ค่อยว่ากันอีกที

เอาล่ะนะ



คนเราจำเป็นต้องรู้สึกทุกข์ใจให้กับความรักถึงขนาดนี้ไหมพ่อ

ลูกบ่ไหวแล้วเน้อ

จากที่ผมเขียนไดอารี่บ่นให้พ่อติดๆ กันทุกวันนั่น วันนี้ก็จะเป็นอีกวันที่บ่นเหมือนเดิม ความสัมพันธ์ของผมกับพี่สยามมันไม่ดีขึ้นเลยอะ ก็ยังไม่มีใครเริ่มเปิดใจคุยกันอย่างจริงจัง ผมควรจะทำยังไง เป็นฝ่ายเริ่มหรอ แต่ว่าคนผิดคือมันป้ะวะ มันควรจะพูดออกมาก่อนดิ มันควรขอโทษผมตั้งแต่วันแรกที่มันโกหกด้วยซ้ำ ไม่รู้เหตุผลเลยนะว่ามันทำแบบนี้ทำไม

แค่คิดก็รู้สึกแย่แล้วอะ

ปกติคนเรารักกันก็ไม่ควรมีความลับต่อกันไหม จนตอนนี้ผมก็ยังหวังอยู่ในใจเลยนะพ่อว่าให้มันยังคงรู้สึกรักผมเหมือนเดิมแบบที่มันเคยรัก ไม่อยากคิดอะไรแบบนี้หรอกแต่ขนาดเวลามันยังเปลี่ยนเลยหนิ นับประสาอะไรกับหัวใจและความรู้สึกของคนเรา ผมไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย อยากกลับไปทำตัวไร้สาระและยิ้มได้แบบเมื่อก่อนมากกว่า แล้วเนี่ยะ อาทิตย์หน้าผมก็จะสอบมิดเทอมแล้วแต่สภาพจิตใจยังไม่โอเคเลย อ่านหนังสือก็ไม่เข้าหัว เดี๋ยวผมจะต้องรีบเคลียร์ทุกอย่างก่อนที่มันจะแย่ไปกว่านี้

เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ

คิดถึงพ่อนะ

03/06/20xx : สมปอง




เรียบร้อยแล้วครับ

เขียนเสร็จนี่น้ำตาจะไหล

ผมเดินเอาไดอารี่ไปเก็บไว้ที่เดิมก่อนจะมานั่งอ่านชีทต่อ จะว่าไปก็หิวเหมือนกันนะ วันนี้ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย เอาจริงๆ หลายวันมานี้ผมกินข้าวไม่ค่อยลงอะ เรียกอาการนี้ได้ว่าอาการตรอมใจครับ เนี่ยะ ใครอยากลดน้ำหนักแบบฮวบฮาบก็ลองใช้วิธีนี้ก็ได้นะ อาจจะดีต่อร่างกายแต่สำหรับหัวใจนั้นยับเยิน

แม่งแซดอีกละ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ผมลุกไปเปิดปลดล็อกประตูให้ ร่างสูงที่สวมเสื้อช็อปก็เดินเบี่ยงตัวเข้ามาในห้องทันที ปกติแล้วมันควรจะทักกันก่อนรึเปล่า เมื่อก่อนต้องดึงผมเข้าไปกอดด้วยซ้ำ แต่ช่างถอะ ตอนนี้มันไม่ใช่เมื่อก่อนหนิ

เวลามันผ่านมาแล้วนี่นะ

ผมหันไปมองใบหน้าคมที่มีรอยช้ำที่มุมปาก ไปโดนอะไรมาวะน่ะ รอยช้ำคล้ายๆ กับโดนต่อยมาเลย นี่ไปมีเรื่องกับใครมารึไง ปกติมันไม่ใช่คนที่จะไปทะเลาะกับใครพร่ำเพรื่อนี่หว่า

รอยนี้มันมาได้ยังไง

"เป็นอะไร" เสียงเรียบเอ่ยถามพลางมองผมนิ่งๆ สีหน้าดูหงุดหงิดอะไรสักอย่างอยู่ "หลายวันมานี้มึงแปลกๆ นะ"

"....เปล่า"

"มีอะไรทำไมไม่พูดวะ"

"แล้วทีมึงอะ มึงมีอะไรมึงยังไม่พูดเลย" ผมโวยใส่ทันทีที่มันมาหงุดหงิดใส่ ไอ้เราก็พยายามจะใจเย็นมาตลอดป้ะวะ อยู่ดีดีมาทำเสียงแข็งใส่อีก

"จิ๊...." มือเรียวถอดเสื้อช็อปก่อนจะเดินเอาไปแขวนไว้หน้าตู้ "มึงโกรธอะไรกู"

"มึงทำอะไรไว้ให้กูโกรธล่ะ"

"ปอง"

"ถ้ามึงคิดไม่ออกมันก็เรื่องของมึง" ผมหมุนตัวจะเดินออกจากห้องแต่โดนพี่สยามดึงแขนไว้ก่อน "ปล่อยกู"

"ไม่ปล่อย....ปอง บางอย่างถ้ามึงไม่พูดออกมากูก็ไม่รู้หรอกนะ"

"มึงทำผิดอะ มึงไม่รู้อยู่แก่ใจเลยรึไงห้ะ!!!!" ผมตวาดใส่ก่อนจะผลักมันออก "เมื่อวันที่มึงยกคลาส มึงไปไหนมาล่ะ มึงบอกกูว่าอะไร นั่นน่ะมันผิดรึเปล่า"

พี่สยามเลิกคิ้วมองผม "....เรื่องแซนด์"

"อร่อยไหมล่ะ....ที่ไปกินกันมาน่ะ" ผมเบือนหน้าหนีมัน ในใจก็พยายามข่มอารมณ์ไว้ ตั้งใจว่าจะไม่ระเบิดแล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้

มันไม่น่ามาหงุดหงิดใส่ผมเลย เราควรจะคุยกันดีดีแท้ๆ อดทนที่จะใจเย็นให้กันมาตั้งหลายวันแต่มันก็สูญเปล่าไปแล้ววันนี้ ผมไม่รู้หรอกว่ามันหงุดหงิดอะไรมา แต่มันก็ไม่ควรจะเอามาลงที่ผมรึเปล่าวะ ปกติพี่สยามจะเป็นคนที่ใจเย็นกว่านี้มาก อย่างน้อยมันก็ไม่เคยทำเสียงแข็งใส่ผมเลยสักครั้ง ไหนจะแววตาโมโหร้ายแบบนั้นอีก

ผมไม่โอเคเลยเอาจริงๆ

"มันไม่ใช่แบบที่มึงคิดนะปอง"

"มึงไม่ต้องสนใจหรอกว่ากูจะคิดยังไง มึงคิดว่าห้ามความคิดกูได้หรอ" ผมหันกลับมาประจันหน้ากับมัน "กูไม่รู้หรอกนะว่าเหตุผลที่มึงไปเจอกับเค้าคืออะไร แต่สิ่งที่มึงทำผิดต่อกูคือมึงโกหก ทำไมมึงไม่บอกตรงๆ วะว่าไปหาเค้า มึงคิดว่ากูใจแคบมากจนไม่ยอมให้มึงไปเจอกับแฟนเก่าตัวเองหรอ"

"....."

"พูดสิวะ"

"มึงน่าจะรู้ตัวนะปองว่าทุกครั้งที่พูดถึงแซนด์มึงรู้สึกยังไง ตัวมึงเองน่าจะรู้ดีที่สุด กูเห็นสีหน้ามึงไม่ดีทุกครั้งที่กูพูดถึงเขา กูเลยเลี่ยงไม่อยากให้มึงรู้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนที่กำลังมีปัญหานี่ กูกับแซนด์...."

"แล้วมันใช่เรื่องที่มึงโกหกกูหรอ ให้กูรู้เองมันดีกว่าที่มึงจะบอกกูก่อนใช่ไหม" ผมกำมือแน่น "ถ้ามึงจะบอกว่ามันเป็นการโกหกเพื่อที่อยากให้กูสบายใจ แต่กูขอบอกเลยนะพี่สยามว่ากูไม่ได้รู้สึกดีกับมันเลยสักนิด อยากให้มึงลองมาเป็นกูนะ เผื่อเราจะได้รู้สึกเหมือนกันแค่นิดเดียว....ก็ยังดี"

ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่คลอเบ้าตัวเองออก มันทั้งโมโห ทั้งรู้สึกแย่ ผมไม่ได้อยากร้องไห้ ไม่ได้อยากแสดงออกมาว่าตัวเองกำลังอ่อนแอ สิ่งที่ผมพูดทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกจริงๆ หลายวันมานี้มันแย่มาก ผมพยายามเข้มแข็งทุกอย่างแล้วแต่มันก็อย่างที่เห็นอะ

เจ็บปวดหัวใจชะมัด

"ถ้ากูบอกมึงไปว่าแซนด์กลับมาแล้วนะ กูมีเรื่องสำคัญต้องไปทำกับแซนด์ อาจจะไม่มีเวลาให้มึงสักระยะเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องรีบจัดการแต่กูไม่สามารถบอกมึงได้ว่าเรื่องที่จะทำกันมันคือเรื่องอะไร เป็นแบบนี้มึงโอเคหรอ"

"....."

"ถ้ากูบอกทั้งหมดนี่ไปตั้งแต่แรกมึงจะไม่คิดมาก ไม่โกรธ ไม่เป็นอะไรเลยใช่ไหม อยู่คนเดียวได้ใช่ไหมถ้าคืนไหนที่กูไม่ได้กลับมานอนด้วย ถ้ากูต้องทำอะไรบางอย่างกับแซนด์มึงจะเข้าใจใช่ไหม"

".....เค้าสำคัญกับมึงมากขนาดนั้นเลยหรอ"

"สำคัญ" มือเรียวเลื่อนขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ผมเบาๆ "แต่ไม่เท่ามึงหรอก"

"ฮือออ..อ....พี่สยาม"

ร่างสูงดึงผมเข้าไปกอด มือเรียวเลื่อนขึ้นมาลูบหัวเบาๆ "....ขอโทษนะ"

"ฮึกก.ก.ก.....มึง....ฮืออ.อ.อ....."

"มันจำเป็นจริงๆ อะปอง ยังไม่ต้องเข้าใจ ยังไม่ต้องหายโกรธก็ได้ แต่ที่อยากให้รู้ไว้แน่ๆ คือไม่มีทางที่คนอื่นจะมาสำคัญมากกว่ามึงได้ กูกับแซนด์เป็นแค่เพื่อนกัน....มันแค่เท่านั้นจริงๆ "

"ฮืออ.อ.อ.....พี่สยาม....ฮึกกกก...."

ครืดดดด....ดดด

ผมรับรู้ได้ถึงโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋า พี่สยามล้วงขึ้นมาก่อนจะกดรับสาย "ขอเวลาอีกแปปนึงได้ไหมแซนด์.....ไม่ไหวแล้วงั้นหรอ"

แซนด์อีกแล้ว

พอได้ยินแบบนั้นผมก็ลดมือที่กอดพี่สยามลงก่อนจะพยายามข่มน้ำตา ฟังจากบทสนทนาที่ทั้งคู่คุยกันคือพี่สยามมันต้องไปแล้ว ผมไม่รู้ว่ามันจะไปไหน กลัวว่าถามไปมันจะไม่บอกเพราะมันเป็นคนพูดเองว่ามันคือสิ่งที่ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือเรื่องอะไร สิ่งเดียวที่รับรู้ในตอนนี้ก็คือ....

ต้องปล่อยให้มันไป

"ไปเถอะ.....ไม่เป็นไร"

"ปอง...."

"เค้ารอมึงอยู่....ไปสิ"

"โอเคแซนด์ เดี๋ยวเรารีบไป" มือเรียวกดวางสายก่อนจะเกลี่ยแก้มผมเบาๆ "เดี๋ยวกูไลน์หา"

"อืม...." พอผมรับคำ พี่สยามก็เดินออกไปจากห้องทันที น้ำตาที่ถูกเช็ดจนแห้งไปในตอนแรกมันก็ไหลออกมาอีกครั้ง

ฮึกก.ก.ก...ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย

ผมนั่งลงกับพื้นก่อนจะกอดเข่าตัวเองเอาไว้แล้วปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมาอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกเจ็บปวดนี่มันคืออะไรกัน ผมไม่ได้อยากให้พี่สยามมันไปหรอกแต่ไม่รู้ว่าถ้าขอให้มันอยู่มันจะอยู่ไหม ไม่กล้าเอาตัวเองไปเทียบกับแฟนเก่ามันเลยสักนิด ถึงมันจะพูดออกมาเองว่าผมคือคนที่สำคัญสำหรับที่สุด แต่ดูจากการกระทำมันก็ชัดเจนแล้วป้ะวะ

ผมร้องไห้อยู่ตรงหน้ามันแท้ๆ

ยังสู้โทรศัพท์สายเดียวที่โทรเข้ามาไม่ได้เลย

ถ้าพี่สยามยืนยันว่าจะไม่ไป อีกฝ่ายจะทำอะไรได้จริงไหม แต่มันเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ ผมรู้ว่าเดี๋ยวตัวเองก็จะต้องผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ แต่มันก็คงไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แค่จะห้ามน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลผมยังทำไม่ได้เลย

อ่อนแอไม่สมเป็นสมปองสักนิด

"ฮึกกก.ก.....ความรักมันเจ็บปวดจังเลยพ่อ"

ผมควรทำยังไงต่อไปดี





เกือบเที่ยงคืนแล้วครับ

พี่สยามยังไม่กลับมา

มีแค่ผมที่อยู่คนเดียวในห้อง

หลายชั่วโมงแล้วที่พี่สยามออกไป หลายชั่วโมงที่ผมนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงนิ่งๆ เพื่อรอให้ใครอีกคนกลับมา เจ้าตัวบอกว่าจะไลน์มาหาแต่จนถึงป่านนี้ก็ยังไม่มีแม้แต่การแจ้งเตือนเดียว ผมทำได้แค่นั่งจับโทรศัพท์ไว้แบบนี้ เปิดเข้าไปดูซ้ำๆ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีข้อความส่งมาหา

ตลกตัวเองที่เป็นแบบนี้จริงๆ

ตื้อดึ่ง

ผมรีบกดเข้าไปดูไลน์ทันทีที่เสียงแจ้งเตือนดัง ประโยคที่ถูกส่งมาจากพี่สยามมันทำให้น้ำตาที่แห้งไปแล้วไหลออกมาอีกรอบอย่างควบคุมไม่ได้

สยาม : คืนนี้กูคงไม่ได้กลับไปที่หอนะ ดูแลตัวเองดีดีด้วย ฝันดีครับ

"ฮืออ.อ.อ....เห็นไหมปอง ว่าที่รออยู่มันเสียเวลาน่ะ" ผมปล่อยโฮออกมาอย่างหมดสภาพ ทำไมจะต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับชีวิตผมด้วย

ไม่เห็นจะเข้าใจเลย

ผมกดเข้าไปตอบไลน์พี่สยามทั้งน้ำตา มันเป็นความรู้สึกที่ไม่อยากจะยอมแต่ก็ต้องยอมเพราะมันทำอะไรไม่ได้ ฮึกก.ก.ก....คืนนี้ผมต้องอยู่คนเดียวสินะ ส่วนพี่สยามก็อยู่กับแซนด์

"ฮืออออ.อ..อ.อ....พี่สยาม....ฮือออ.อ.อ......"



สมปอง : ฝันดีครับ :)




[บันทึกพิเศษ : สยาม]



ความรู้สึกนี้มันคืออะไรวะ

แย่จริงๆ

ผมมองไลน์ที่น้องส่งมาให้ อีโมจิแบบนี้สมปองไม่เคยใช้ บ่งบอกได้เลยว่าน้องกำลังไม่โอเค เอาจริงๆ ก็ไม่โอเคตั้งแต่เมื่อบ่ายที่คุยกันแล้ว ตอนนี้ผมควรจะอยู่ข้างน้องด้วยซ้ำแต่ว่ามันก็เป็นเหตุจำเป็นที่ทำให้ทิ้งแซนด์ไปไม่ได้เหมือนกัน จะให้ไปอยู่กันก็ไม่ได้อีก

บัดซบชะมัด

คำพูดที่แซนด์บอกผมเรื่องโกหกน้องแล่นเข้ามาในหัวเลยอะ ปองรู้ความจริงทุกอย่างเพียงแต่ไม่ยอมพูดออกมา ผมเองก็ไม่นึกว่าน้องจะรู้ หลายวันมานี้สังเกตได้เลยแหละว่าอาการของน้องเปลี่ยนไป แต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องนี้ไง ความจริงผมกะไม่ถามน้องด้วยนะว่าทำไมน้องถึงแปลกๆ ไป ถ้าผมไม่ไปได้ยินว่ามีเด็กอุตสาหการจะแย่งน้องไปจากผม

แม่ง....มีเรื่องกันเลยวันนี้

ผมโมโหมากอะตอนที่ได้ยินแล้วแบบช่วงนี้น้องทำตัวแปลกๆ ด้วยไง ก็เลยหึงมาก แล้วก็ดันมีเรื่องแซนด์เข้ามาโถมอีก ผมเลยหงุดหงิดมากจนไปทำตัวบัดซบใส่ปองซะได้ ตัวน้องเองก็คงทนไม่ไหวจนระเบิดใส่ผมเหมือนกัน ตั้งแต่รู้จักกันมาเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันที่ทะเลาะกันหนักที่สุดเลยครับ

ผมทำให้คนที่รักผมเสียใจมากๆ ด้วย

แย่จริงๆ เลยว่ะสยาม

ผมวางโทรศัพท์ก่อนจะหันมองคนที่นั่งเหม่ออยู่บนเตียงคนไข้ ตอนนี้ผมอยู่โรงพยาบาลครับ  คือเมื่อตอนที่ผมกำลังมีเรื่องกับพวกเด็กอุตสาหการ แซนด์มันโทรมาบอกว่าแล้วบอกว่าถูกใครก็ไม่รู้ไล่กระทืบ อยู่แถวๆ มอนี่แหละ พอได้ยินแบบนั้นผมก็เลยรีบไปช่วย แต่มันช้าไป แซนด์โดนกระทืบยับเลย หัวแตกปากแตก มีรอยช้ำไปทั้งตัว

เกือบตายแล้วแหละเอาจริงๆ

ผมไปช่วยแซนด์แล้วก็ได้รอยช้ำที่หน้ามานิดหน่อย ไอ้พวกที่มากระทืบนั่นผมมารู้ที่หลังว่าเป็นคนที่ถูกทางบ้านพี่เยียร์จ้างมา ผมว่าตัวพี่เขาอะไม่รู้เรื่องหรอก คนบงการน่าจะเป็นพ่อเขามากกว่า สภาพแซนด์มันแย่ทั้งร่างกายทั้งจิตใจ ตอนที่ผมเข้าไปหาปองที่หอ แซนด์ก็รออย่างหมดสภาพอยู่ที่รถนะ จนถึงตอนที่ผมเคลียร์กับน้องอยู่มันก็โทรมาบอกว่าไม่ไหวแล้ว

ลงมาอีกทีคือกระอักเลือดแล้ว

คืออาการมันหนักมากจริงๆ

ครอบครัวของแซนด์ไม่มีใครอยู่ที่ประเทศไทยด้วย มีแค่เซนท์ที่เป็นน้องชาย ผมโทรไปบอกแล้วแหละแต่มันดันเป็นช่วงที่น้องไปค่ายอาสากับที่โรงเรียน จะกลับมาก็วันมะรืน เพื่อนๆ เองก็ไม่มีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เหมือนกับชีวิตมันมีแค่ผมนี่แหละ ไม่รู้ว่าพี่เยียร์เขาจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับแฟนตัวเองไหม ผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง อย่างน้อยพี่เยียร์เขาควรจะได้รับรู้ในสิ่งที่คนตรงหน้ากำลังเจอ ผมอยากอธิบายเรื่องพวกนี้ให้ปองฟังนะแต่ว่าอาจจะต้องรอให้แซนด์หายก่อน อย่างน้อยจะได้เข้าไปหาน้องด้วยกัน สงสัยอะไรยังไงก็จะได้ถามเลย

แบบนั้นก็น่าเคลียร์ดี

"ไม่กลับไปหาน้องหรอ"

"คงไม่ เดี๋ยวแซนด์หน้ามืดกระโดดตึกโรง'บาลเราจะทำยังไงล่ะ"

"ก็ไปงานศพเราไง ตั้งโลงศพไว้ในโบสถ์ ขอกุหลาบขาวรอบๆ ก็จะดีมาก"

"ถ้าเป็นแบบนั้นพี่เยียร์คงเสียใจแย่"

ริมฝีปากบางยกยิ้ม "เค้าอาจจะดีใจก็ได้"

"อย่าคิดแบบนั้นสิ"

"สยามคิดดูสิ เรายอมกลับมาไทยเพื่อยอมรับในการตัดสินใจทุกอย่างของเค้า ของครอบครัวเค้า เราไม่ได้เรียกร้องอะไรเลยสักอย่างเพราะเรารู้ว่าเราไม่มีทางสู้กับคนที่ครอบครัวของเค้าเลือกได้เลย เรายอมกลับมาอยู่คนเดียว กลับมาซ่อมใจตัวเองที่นี่ ทิ้งอนาคตดีดี แต่...." แซนด์หันมายิ้มบางๆ ให้ผมทั้งน้ำตา "เรากลับมาโดนทำร้ายแบบนี้ ฮึก....ใจเราพังไม่พอหรอสยาม เราต้องตายเลยรึเปล่าพวกเค้าถึงจะพอใจ ฮึกกก.ก...เค้าต้องการอะไรจากเราอีก "

"ใจเย็นๆ ก่อนนะแซนด์" ผมยกมือแตะไหล่เจ้าตัว "ทุกอย่างมันต้องดีขึ้น เชื่อเราสิ"

"ฮึกก.ก....เราไม่ได้อยากเป็นภาระให้ใคร ทำไมเราต้องโดนทำร้ายด้วย....ฮึก...คนพวกนั้นใจร้ายมาก ใจร้ายเกินไปแล้ว"

"ใจเย็นๆ นะ พักก่อนแซนด์" ผมจับผ้าห่มขึ้นห่มให้คนที่นอนร้องไห้อยู่ เห็นแบบนี้ก็สงสารเหมือนกันว่ะ แล้วก็ปวดหัวที่ตัวเองต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย

เรื่องของแซนด์ก็ปวดจิตเรื่องของตัวเองก็ปวดใจ แล้วปัญหานี่ถาโถมเข้ามาตอนก่อนจะสอบมิดเทอมด้วยนะ ไหนจะเรื่องงานคณะอีก แม่งโคตรเหนื่อยเลย ตอนนี้ในใจได้แต่หวังให้เรื่องทุกอย่างมันผ่านไปได้ด้วยดี พรุ่งนี้ผมต้องรีบกลับไปหาน้องด้วย ไปเรียนอีก แค่คิดต้องทำโน่นทำนี่ก็ประสาทจะแดก

ป่านนี้ปองจะหลับรึยังนะ

แต่ผมคงนอนไม่หลับแน่ๆ

จิ๊....ผ่านช่วงนี้ไปสักทีเถอะว่ะ



[จบบันทึกพิเศษ : สยาม]













TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองพร้อมกับแจ้งข่าวร้าย ข่าวร้ายที่ว่าก็คือน้องโน้ตบุ๊คได้จากชาลไปอีกรอบแล้วค่ะ คือกำลังแต่งนิยายอยู่นี่แหละแต่ว่าอยู่ดีดีก็ค้างแล้วก็ขึ้นเป็นภาพสั่นแล้วก็ดับไปเลย ปิดเปิดแล้วก็เป็นเหมือนเดิม ที่มาส่งนิยายช้าก็เพราะว่าโน้ตบุ๊คมีปัญหาแล้วชาลต้องแต่งในโทรศัพท์ต่อนี่ล่ะ ชีวิตจะเข้าสู่ช่วงลำบากอีกรอบแล้ว บี๋ก็ทำใจไปพร้อมกับชาลนะคะ

บทนี้ก็เจ็บปวดไปตามๆ กันนะ เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อต้องรอติดตาม จะหน่วงจะดราม่าจะหนึบหนับแค่ไหนก็ต้องรออ่าน ทีมใครก็กอดกันไว้ให้แน่นๆ นะ

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ ติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


เช้ากลับมาที่ห้องพี่สยามจะยังเจอน้องปองอยู่ไหม

น้องปองจะอยู่รอต่อไปอีกหรือเปล่า

สงสารแซนต์นะ ก้อให้บอกหยำปองไปตรงๆก้อแล้ว

พี่สยามก้อเก็บอมพะนำไม่พูดไม่บอก

น้องปองเราใจดีออก  ถ้ารู้เรื่องทั้งหมด คงไม่หึง ไม่หวง ไม่หงิก ไม่งอ อย่างที่พี่สยามว่ามาหรอกนะ

เป็นแบบนี้ ต่างก้อกินมาม่าเป็นอาหารหลักกันไป

……


 :z10:  :z10:  :z10:  :z10:  :z10:  :z10:




ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โหดร้ายมากกก สงสารหยัมปองงง  สงสารสยามมม. สยามต้องแยกแยะนะจ๊ะ ที่จริงเรื่องนี้ต้องให้หยัมปิงรับรู้ๆๆตด้วยแล้วแอปปี้ เชื่อพี่ พี่เรียนมา 555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
หน่วงหน่อยๆ ยังไม่ตาย (ฮ่าาาา) คุณชาลยังใจดีให้เราได้รู้ว่าทางฝั่งพี่สยามมีปัญหาอะไร ขอบคุณในความเมตตานี้ของคุณชาลนะคะ (กราบแนบอก)

เอาใจช่วยทั้งสามคนเลยนะ ทั้งลูก พี่สยามแล้วก็แซนด์ด้วย ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี เราเชื่อว่าทุกอย่างจะกลับมาดีแน่นอน ส่วนตอนนี้ก็กอดคอกันไว้ เตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้เยอะๆ คอยซับน้ำตาให้ลูกและตัวเอง (ฮืออออ)

พักผ่อนเยอะๆ นะคะคุณชาล ดูแลสุขภาพตัวเองด้วย อย่าโหมงานหนัก นิยายเรารอได้เสมอ เป็นห่วงเด้อออออออ :กอด1:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ไม่เอ่ยปาก บอกกรู จะรู้ไหม
ไม่สงสาร หัวใจ คนร้องหา
ไม่เป็นห่วง คนนี้ ลืมเวลา
ไม่รักแล้ว บอกมา อย่าฆ่ากัน

การกระทำ กับคำพูด ไม่สอดคล้อง
ปากบอกว่า รักแค่น้อง ไม่เปลี่ยนผัน
แต่กลับเลือก ทิ้งกันไป ในเร็วพลัน
จะให้เชื่อ อะไรกัน มันความจริง

สงสารปอง
แล้วที่หยัมเล่าอะไรมาตอนท้ายอ่ะ..น้องจะรู้เรื่องด้วยไหม
ก็รู้อยู่คนเดียว แหมๆๆๆๆ ทำเป็นเครียด..จริงดิ

คนรักกัน..เค้าไม่ทำกันอย่างนี้หรอกนะพี่หยัม
ปกติแค่พยายามจะไม่ให้คนรักไม่ไว้ใจกัน ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว
แต่นี่พี่หยัมกลับสร้างความระแวงขึ้นซะเอง
แล้วที่จะให้น้องปองไม่คิดมาก ต้องเข้าใจอ่ะ ต้องเข้าใจอะไรเหรอ

หึหึ..รู้ไว้ซะ พี่หยัมเมิงอ่ะเป็นคนรักที่ห่วยแตก
ห่วยแตก มากกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พี่หยามบอกน้องปองไปเลย แลวพาน้องไปรู้จักกับแซนด์ด้วยจะดีมาก ๆ เลยนะ จะได้เคลียร์เรื่องนี้ให้จบ ๆ ไป  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ตามต่อ

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 44 ความจริงที่ได้รับรู้


เคยตื่นมาแล้วเห็นโลกเป็นสีเทาไหมครับ

นั่นแปลว่าคุณกำลังจะตาบอดสีแล้วล่ะ

ผิดประเด็น

เชื่อไหมว่า 3 วันมานี้โลกของผมมันหม่นไปหมดเลย มันเทา มันอึมครึม ขนาดต้นไม้ที่เป็นสีเขียวผมยังมองว่ามันเป็นสีเขียวหม่นเลย ขนาดผู้หญิงสวยๆ หน้าขาวๆ ผมยังมองว่าเขาหน้าเทาเลยอะ บัดซบป้ะล่ะ ไม่รู้เลยครับว่าเมื่อไหร่โลกของผมจะกลับมาสีสันสดใสเหมือนเดิม เฮ้อ….เกิดเป็นสมปองนี่ชีวิตมันต้องขนาดนี้ไหมอะ

เศร้าว่ะ

น้ำตาจะไหล

ผมนั่งเป็นซากอยู่หน้าตึกวิศวะฯ สภาวะจิตใจห่อเหี่ยวมาก รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลยว่ะ คือปกติแล้วผมไม่ใช่คนที่จะมานั่งซึมแบบนี้ไง ผมต้องเป็นสมปองคนคิ้วท์ที่ติ๊งต๊องแห่งโยธา แต่ตอนนี้ผมกลายเป็นสมปองที่โศกา เพื่อนฝูงนี่พากันเป็นห่วงกลัวผมจะกระโดดตึกตายเพราะช้ำรักจากพี่สยาม อา….พูดถึงพี่สยาม

ผมไม่เจอมันมา 3 วันละ

ไม่รู้ว่าอยู่ไหน

วันที่มันไปหาแซนด์แล้วไม่กลับมานอนที่หอ ยอมรับเลยว่าคืนนั้นมันแย่มาก ผมร้องไห้จนหลับไปเลยแหละ รู้สึกตัวอีกทีคือพี่สยามกลับมาที่หอตอนเช้า เราสองคนก็คุยกันนิดหน่อยก่อนที่มันจะบอกผมว่ามีเรื่องต้องจัดการเกี่ยวกับแซนด์นั่นแหละ มันจะไม่กลับหอสัก 3 วัน ซึ่งผมปวดใจมากตอนที่ได้ยินแบบนั้น อยากจะกระชากคอเสื้อมันมาถามว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนั้นด้วยวะ แต่สุดท้ายแล้วผมก็ทำได้แค่....พยักหน้ารับรู้

ดูกระจอกอะ

ผมโกรธมันนะ น้อยใจ ไม่เข้าใจ คือความรู้สึกทุกอย่างมันสุมอยู่ในอก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่สยามจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟัง ไม่รู้ว่ามันจะปล่อยให้ผมจมกับความทรมานนี้ไปอีกนานแค่ไหน มันรู้สึกแย่นะแต่แบบก็ต้องอดทนอยู่ดี  ผมคิดนะว่าเออนี่แหละอุปสรรคความรัก ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็จะแข็งแกร่งขึ้นนะ

ไม่ก็ตายไปเลย

หลายวันมานี้ผมมีเพื่อนๆ คอยปลอบใจอยู่นะ มันก็บอกว่าให้อดทนแหละ ถ้าถึงจุดที่มันทนไม่ไหวจริงๆ ก็ให้เดินออกมา ผมเสียใจกับสิ่งที่พี่สยามทำแต่ผมก็รักมันอะ ตอนที่มันดาวน์สุดผมคิดด้วยนะว่าเลิกดีไหม แต่เหมือนความรู้สึกดีดีที่มีให้กันมาตลอดมันก็ดีมากเกินจนผมไม่อยากเสียมันไป อาจจะดูโง่ๆ นะแต่ว่า....

คนเราก็ต้องโง่เพราะความรักกันสักครั้งแหละ

ขึ้นอยู่กับว่าจะโง่นานมากแค่ไหน

"เฮ้อ...." พอผมถอนหายใจออกไป เพื่อนแยมที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เงยหน้าขึ้นมามองทันที คือตอนนี้อยู่กับแยมสองคนครับ ส่วนลันตากับสีเทียนกลับหอไปก่อนแบ้วเพราะมีงานต้องทำ

"เป็นไรปอง"

"มันรู้สึกเหนื่อยๆ แย่ๆ กูไม่รู้เลยว่ะแยมว่าต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน"

มือเรียวยกขึ้นมาแตะไหล่ผมเบาๆ "นี่ก็ 3 วันแล้วหนิ เดี๋ยวพี่สยามก็กลับมาแล้วแหละ"

"นี่ยังดีนะว่ามันไลน์มาหากูบ้าง ยังบอกว่าอยู่ที่ไหน แต่แบบมึงเข้าใจฟีลว่ามันเชื่อได้ไม่เต็มร้อยป้ะวะ มันเคยโกหกกูอะ กูไม่รู้เลยว่าสิ่งที่มันพูดนั่นจริงหรือไม่จริง"

บางครั้งอะ....การโกหกกันแค่ครั้งเดียวมันอาจจะสร้างความระแวงให้กันตลอดไปเลยก็ได้นะ คืออยากจะเชื่อใจแต่แม่งก็ไม่สุดอะ คือถ้าพี่สยามมันจะเอาความเชื่อใจทั้งหมดกลับคืนมาผมขอบอกได้เลยว่ายากมาก ความรู้สึกคนเราก็เหมือนกระดาษแหละ ถ้าทำมันยับแล้ว ต่อให้พยายามรีดให้เรียบเท่าไหร่มันก็ไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนตอนแรกหรอก

อันนี้จริงจังเลยนะครับ

"มึงใจเย็นก่อนนะ"

"กูใจเย็นจะตาย ถ้ากูใจร้อนนะ....กูเลิกกับมันละ" ถ้าผมไม่รักมันผมจะอดทนแบบนี้ทำไมจริงไหม พี่สยามมันน่าจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่ผมเผชิญอยู่ตอนนี้บ้างนะ

จะได้เข้าใจว่าความเจ็บปวดมันเป็นยังไง

แม่งโซแซดเลยว่ะ

ครืดดด....ครืดดด

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูรายชื่อของคนที่โทรมา เจ้าของเบอร์คือคนที่ผมนั่งคิดถึงอยู่ตลอดเวลา นึกว่าวันนี้มันจะไม่โทรมาแล้วซะอีก สงสัยเจียดเวลามาได้แล้วมั้ง เนี่ยะ คิดอะไรที่เสียดแทงใจตัวเองเก่ง

"ฮัลโหล...."

(ทำไรอยู่)

"ไม่ได้ทำอะไร นั่งนิ่งๆ อยู่กับแยม"

(อยู่ที่มอหรอ)

"อืม"

(ไม่กลับห้องอะ)

ห้องที่ไม่มีมึงอยู่มันคงน่าอยู่มากมั้ง

"เดี๋ยวกลับ มึงเถอะเมื่อไหร่จะกลับ นี่ 3 วันแล้วนะ หรือจะผิดคำพูดที่ให้ไว้กับกู" ผมเอ่ยอย่างตัดพ้อ นี่ถ้าวันนี้ผมไม่ได้เห็นหน้ามันนะ

ผมจะจัดการขั้นเด็ดขาด

(เนี่ยะ เดี๋ยวเย็นนี้ก็กลับแล้ว ไม่ผิดคำพูดหรอก)

"แล้วนี่อยู่ไหน"

(อยู่กับแซนด์)

"กูถามว่าอยู่ไหน" ไม่ได้ถามว่าอยู่กับใครสักหน่อย สมองมึงเข้าใจการสื่อสารไหมเนี่ยะ

(อยู่....ครับๆ ทางนี้เลยครับคุณพยาบาล เออปองแค่นี้ก่อนนะ)

"พี่สยาม....จิ๊ อะไรของแม่งวะ" ผมสบถออกมาอย่างฉุนเฉียว แบบนี้ก็ไม่ต้องโทรมาหากูหรอก แม่ง....

หงุดหงิดชิบหาย

"พี่สยามโทรมาหรอ"

"เออ แม่งกูถามยังไม่ทันจบ ตัดสายไปอีกละ"

"ไม่โทรกลับอะ"

"มึงคิดว่ามันจะรับสายกูหรอ มึงเชื่อป้ะแยมว่ากูแฟนมันใช่ป้ะ แต่กูสู้อะไรแซนด์ไม่ได้เลย" ใช่สิ ผมมาทีหลังไง มันจะไปสู้คนที่มาก่อนได้ยังไง

มันจะไปสู้กับคนที่เป็นครั้งแรกของทุกอย่างในชีวิตพี่สยามได้ยังไง

หึ้ยย.ย....ขยี้เก่งจริง

เก่งกว่าอะไรทั้งหมดเลยยยยย

ผมมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เป็นรูปของพี่สยามก็รู้สึกแย่ยังไงไม่รู้ว่ะ เข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่รู้อะไรเลยไหมครับ ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ต้องทนอยู่กับความสงสัย ต้องคิดมาก คิดไปเอง เป็นบ้าเป็นบอกับสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ ผมอยากเลิกคิดนะ พยายามหาอย่างอื่นทำก็แล้ว อ่านหนังสือก็แล้วแต่มันก็ยังคิดอยู่ดี พรุ่งนี้ผมจะสอบมิดเทอมแล้วด้วยแล้วดูสภาพผมตอนนี้สิ

ถ้าพ่อรู้....พ่อต้องโกรธผมแน่เลยว่ะ

ลูกขอโต๊ดเน้อครับป้อ

ขอโต๊ดที่แย้ะตั๋วขนาดนี้....ขอโต๊ดเน้อ

"กูรู้นะว่ามึงหงุดหงิด แต่กูก็คงบอกได้แค่ว่าให้มึงใจเย็นๆ ไว้ ยังไงวันนี้ก็คงได้คุยกัน"

"กลัวจะทะเลาะกันอีกน่ะสิ" ถ้าหนักๆ เข้าเดี๋ยวแม่งก็หายไปอีก แต่ถ้าเป็นแบบนั้นนี่ผมคงเลิกเลยอะ คนเป็นแฟนกันมันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นไง

จริงไหมล่ะ

"ก็พยายามใช้เหตุผลคุยกันดีดีก่อน ถ้าคุยแล้วไม่โอเคก็โทรมาหากูได้"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ "ขอบใจนะแยม"

"ไม่เป็นไร เออจะว่าไป....มึงยังไม่อยากกลับห้องใช่ไหม งั้นไปที่ๆ นึงเป็นเพื่อนกูหน่อย"

"ที่ไหนวะ"

"โรง'บาลอะ คือพี่นมปั่นเค้าป่วยแล้วนอนอยู่โรง'บาล กูเลยกะว่าจะไปเยี่ยมเค้าสักหน่อย"

"เออ เอาดิ ไปเลยป้ะล่ะ"

"เค งั้นไปกัน" ว่าแล้วเพื่อนแยมก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินนำผมไปทันที จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะถ้ากลับไปที่ห้องตอนนี้ ผมอาจจะต้องเป็นสมปองคนดราม่าอีกแน่ๆ

ผมกลายเป็นคนที่นอนน้อยมากๆ กินน้อยมากๆ มันเป็น 3 วันที่โทรมเป็นซากเลยแหละ เรื่องนี้พี่สยามต้องรับผิดชอบ แต่ว่ามันคงจะมารับผิดชอบตอนนี้ไม่ได้เพราะมันติดรับผิดชอบชีวิตแซนด์อยู่

โว้ยยยย....ขยี้เก่งอีกแล้ว

บัดซบ!!!!





โรงพยาบาล H

ผมเดินตามแยมเข้ามาในบริเวณโรงพยาบาล ตอนนี้เกือบ 4 โมงเย็นแล้วครับ ก่อนจะมานี่ก็แวะไปซื้อขนมนมเนยมาฝากพี่เขาด้วย แยมเล่าให้ผมฟังว่าความสัมพันธ์ระหว่างมันกับพี่นมปั่นนั้นพัฒนาขึ้นมานิดนึง นิดนึงที่ว่านี่คือมันได้เข้าไปนอนที่หอเขาแล้วอะ คือแบบมึงใช้วิชามารป้ะเนี่ย ได้ข่าวจากมัว่าพี่เขาเลิกกับแฟนที่เป็นผู้หญิงแล้วด้วย

พี่แม่งเสร็จเพื่อนผมแน่นอน

แยมเดินนำผมขึ้นมายั่งชั้น 3 ของตึก สายตาผมไปสะดุดกับร่างสูงของใครบางคนที่เดินออกมาจากห้องคนไข้ห้องนึง เจ้าตัวสวมเสื้อช็อปสีน้ำเงินเข้ม ที่ข้อมือมีผ้าพันแผลพันเอาไว้ ผมมองได้แค่ด้านหลังเพราะมันเดินไปอีกทาง คนที่เดินออกมาจากห้องนั้นคือพี่สยามครับ ทำไมมันมาอยู่ที่นี่ได้ ไหนบอกว่าอยู่กับแซนด์

แซนด์อยู่โรง'บาลเหรอวะ

"นั่นพี่สยามหนิปอง"

"อืม....เดี๋ยวมึงไปเยี่ยมพี่นมปั่นก่อนนะ ขอกูทำอะไรสักอย่างก่อน"

"เอางั้นก็ได้ แล้วรีบตามมานะ" ว่าแล้วแยมมันก็เดินไป ส่วนผมก็เดินมาหยุดอยู่หน้าห้องที่พี่สยามเดินออกมา ความจริงก้ไม่อยากทำอะไรแบบนี้หรอกนะ

แต่มันคาใจว่ะ

ผมถือวิสาสะเปิดประตูห้องก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน สิ่งที่ผมเห็นคือร่างบางของคนที่ผมเคยเจอที่ตึกคณะแต่สภาพในตอนนี้มันกลับต่างจากตอนนั้นโดยสิ้นเชิง ใบหน้าหวานมีแต่รอยช้ำ หัวถูกพันด้วยผ้าพันแผล ตาก็ถูกปิดไว้ข้างนึง ริมฝีปากบางมีรอยช้ำน่ากลัว แขนข้างซ้ายใส่เฝือกไว้ คือไม่รู้ว่าโดนอะไรมาแต่มันคงหนักมาก

พี่สยามกลับไปหาผมไม่ได้เพราะแบบนี้เองสินะ

ผมเดินเข้ามาใกล้ๆ คนที่นอนหลับตาอยู่ ตอนนี้สิ่งที่ผมรู้แล้วแน่นอนคือพี่สยามกับแซนด์คงไม่ได้เอาเวลาไปกกกันหรอก จากสภาพแล้วก็คงทำอะไรแบบนั้นไม่ได้ ไม่รู้ทำไมผมถึงได้รู้สึกสงสารคนที่นอนอยู่ตรงหน้าก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่เขาคือสาเหตุที่ทำให้ผมกับพี่สยามมีปัญหากัน ไม่สิ ปัญหามันมาจากที่พี่สยามโกหกผมต่างหาก ถ้ามันบอกเรื่องราวทุกอย่างตั้งแต่แรกผมคงจะไม่คิดมากขนาดนี้

อาจจะงี่เง่าใส่บ้างแต่ทุกอย่างคงไม่แย่อะเอาจริงๆ

"สยามหรอ" เสียงอ่อนเอ่ยถามก่อนจะลืมตามอง "หืม....น้องปอง"

น้องปองงั้นเหรอ

"ระ....รู้จักผมหรอครับ"

"รู้สิ เราเป็นแฟนสยามหนิ สยามเล่าเรื่องเราให้พี่ฟังตลอดเลยนะ" คนที่นอนอยู่ยิ้มบางๆ ให้ ตอนนี้สมองผมกำลังประมวลสิ่งที่เพิ่งได้ยินเมื่อกี้อยู่

นี่ผมต้องเรียกเขาว่าพี่แซนด์สินะ

พี่แซนด์บอกว่าพี่สยามเล่าเรื่องผมให้ฟังตลอด ตลอดนี่หมายความว่าเวลาที่ผ่านมาสองคนนี้ก็ยังติดต่อกันอยู่น่ะสิ แต่เวลาที่ผมดูโทรศัพท์พี่สยามมันไม่เคยมีข้อความอะไรแบบนี้เหลือไว้ให้เห็นเลยนะ คอยตามลบเหรอวะ

"คือ....พี่คุยกับพี่สยามตลอดเลยหรอ"

"ไม่ได้คุยบ่อยขนาดนั้นหรอก ก็เดือนละครั้งได้ ตอนที่สยามเจอเรา เขาเล่าแต่เรื่องของเราทั้งนั้นเลยนะ แถมยังบอกพี่ด้วยว่าจะทำยังไงให้เรากลายไปเป็นของเขา....ยังเจ้าเล่ห์ไม่เคยเปลี่ยน" ร่างบางพยายามชันตัวจะลุกขึ้นมานั่ง พอเห็นแบบนั้นผมจึ้งเข้าไปช่วยประคอง

"ตอนนี้พี่สยามมันไปไหนหรอครับ ผมเห็นมันเดินออกไป"

"บอกว่าจะไปเก็บของที่คอนโดฯ น่ะ อีกสักพักก็คงกลับมา" เขาตอบก่อนจะคลี่ยิ้มให้ผม "นั่งก่อนสิ พี่มีเรื่องอยากคุยกับเรา....รีบไปไหนรึเปล่า"

ผมส่ายหัวทันที "ไม่รีบครับ" ผมหยิบเก้าอี้มานั่งลงข้างๆ เตียงคนไข้ จะว่าไปก้ดีเหมือนกันนะที่เขาชวนผมคุย นี่มีเรื่องสงสัยหลายอย่างที่อยากจะรู้ ผมเชื่อนะว่าเขาจะบอกทุกอย่างน่ะ

"ตอนนี้กำลังทะเลาะกับสยามอยู่สินะ"

"พี่รู้...."

"รู้สิ ดูหน้าสยามก็รู้แล้ว สาเหตุที่ทั้งสองคนทะเลาะกันมันเป็นเพราะพี่สินะ"

"คือ....มันเริ่มมาจากที่ผมเห็นว่าพี่ไปกินข้าวกัน แล้วผมไปถามพี่สยาม"

"แล้วสยามก็โกหกใช่ไหม" ร่างบางถอนหายใจออกมา "พี่ก็ถามเขาไปแล้วนะว่าโกหกไปน่ะจะดีหรอ เป็นไงล่ะ ผลก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็น"

"ผมพูดตรงๆ เลยนะพี่ ผมโกรธมากที่มันโกหกผม หลายวันมานี้ผมคิดมากเรื่องพี่กับพี่สยามมากๆ คิดจนไม่เป็นอันทำอะไร พี่สยามไม่บอกอะไรผมเลยสักอย่าง ไม่บอกว่าจะมาหาพี่ทำไม คือทุกอย่างมัน....ผมจะอธิบายออกมายังไงดี"

มือเรียวยกมือแตะไหล่ผม "พี่เข้าใจเรานะ เป็นพี่....พี่ก็คงโกรธ พี่ว่าสยามอาจจะไม่อยากให้เราคิดมากก็เลยเลือกที่จะไม่บอก แต่เจ้าตัวคงไม่รู้ว่าได้เลือกวิธีที่ผิด เป็นแฟนกันแต่ว่าไม่รู้ในสิ่งที่แฟนตัวเองกำลังทำมันก็นะ แล้วก็ดันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแฟนเก่ามันก็คงจะอดกังวลไม่ได้ แต่เราไม่ต้องห่วงนะ พี่กับสยามเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ "

"ผมอะพยายามจะไม่คิดมากหรอก ใจนึงก็อยากเชื่อใจพี่สยามแต่แบบบางการกระทำมันก็นะ" ผมยิ้มบางๆ ให้ "แต่พอได้ฟังพี่พูดก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยผมก็ไม่รับรู้ในสิ่งที่ผมสงสัยอยู่ แต่....ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ"

"ว่ามาเลย"

"ทำไมพี่ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ" อุบัติเหตุเหรอ หรือว่าอะไร ผมว่าเขาคงเจอมาหนักมาก ไม่งั้นสภาพคงไม่เป็นแบบนี้หรอก

"พี่โดนกระทืบน่ะ คือวันที่สยามไม่ได้กลับไปหาเรานั่นคือครั้งแรกที่พี่โดนรุมกระทืบ พี่ก็รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วคืนนั้นสยามเฝ้าพี่ใช่ไหม แต่ตอนเช้าเขาก็รีบกลับไปหาเรา ตอนที่พี่อยู่คนเดียวพวกที่มันกระทืบพี่ มันก็มาซ้ำจนแบบสภาพพี่ก็อย่างที่เห็นนี่แหละ"

เชี่ยยยย

กระทืบซ้ำในโรง'บาลเลยเนี่ยนะ

"ทำไมเค้าถึงต้องมาทำร้ายพี่อะ นี่มันหนักมากเลยนะ"

"พี่มีปัญหากับคนที่บ้านแฟนน่ะ คือว่าแฟนพี่เค้าโดนจับถุงคลุมชน แล้วเค้าก็ต้องยอมที่บ้านแต่เค้าก็มีพี่ไง" พี่แซนด์เอ่ยออกมาเสียงแผ่ว ดวงตาฉายแววเศร้าชัดเจน "ตอนแรกที่พี่ไปเรียนหมออยู่ต่างประเทศน่ะ พี่ก็ไปเจอผู้ชายคนนึง เค้าเป็นรุ่นพี่ในคณะแพทย์ฯ นั่นแหละ แล้วเราสองก็ศึกษาดูใจจนได้คบกัน คบกันเป็นปีเลยนะ แต่ว่าอยู่ดีดีเค้าก็ต้องไปแต่งงาน"

ผมยกมือแตะไหล่เจ้าตัวเบาๆ "ไม่เป็นไรนะพี่"

"พี่....เสียใจมากเลยน้องปอง พี่รักเค้าแต่แบบพี่ทำอะไรไม่ได้เลย พี่กลับมาไทยเพราะแบบนี้ สยามรู้เรื่องทุกอย่าง เป็นที่ปรึกษาพี่มาตลอดแถมยังช่วยกันวางแผนว่าจะทำยังไงให้แฟนพี่ไม่ต้องแต่งงาน แต่เหมือนโชคไม่เข้าข้างเลย จนตอนนี้พี่จนปัญญาที่เอาเค้าคืนมาแล้ว สภาพพี่ตอนนี้ขนาดเดินเองยังทำไมไม่ได้ มันแย่มากจริงๆ ครอบครัวของพี่ก็อยู่ต่างประเทศ เพื่อนๆ พี่ก็มีแค่สยามคนเดียว พี่ขอโทษนะปองที่ทำให้ปองไม่สบายใจในเรื่องของพี่....พี่ขอโทษ" มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาที่คลอเบ้าอยู่ ผมว่าเขากำลังพยายามที่จะเข้มแข็งทั้งๆ ที่เจอเรื่องแย่ๆ มาแน่เลยว่ะ

เข้าใจความรู้สึกนี้เลย

ตอนนี้ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว เข้าใจว่าพี่แซนด์กลับมาประเทศไทยทำไม เข้าใจความรู้สึกแย่ๆ ที่เขาต้องเผชิญด้วย ไหนจะความรู้สึกผิดนั่นอีก คำขอโทษที่เขาบอกมานั่นทำให้ผมรับรู้ได้เลยว่าเจ้าตัวรู้สึกผิดจริงๆ ตัวผมเองตอนนี้ก็ไม่ถือโทษโกรธอะไรแล้วล่ะ ในเมื่อความจริงมันเป็นแบบนี้ผมก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเก็บคิดเล็กคิดน้อยอีกแล้ว

แต่กับพี่สยามนี่ยังไงก็ต้องบ้องหูมัน

เนี่ยะ ถ้ามันเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกเป็นฉากๆ แบบนี้ก็จบละ จะมามีความลับทำไมก็ไม่รู้ แถมยังโกหกด้วย เดี๋ยวผมจะเอาคืนบ้าง เอาให้ประสาทแดกกันไปข้าง คือความโกรธพี่สยามในตอนแรกมันลดลงมาเหลือเป็นความงอนแล้วครับ ผมต้องวางแผนอะไรสักอย่างเพื่อทำให้มันรู้สึกถึงความทุกข์ใจแบบที่ผมเจอบ้าง

มึงโดนแน่พี่สยาม

"ไม่เป็นไรนะพี่แซนด์ ผมเข้าใจทุกอย่าง เข้าใจทุกเหตุผล" ผมยิ้มบางๆ ให้เขา "พี่ต้องเข็มแข็งนะ"

"พี่จะพยายาม....เออ เราอาจจะสงสัยว่าทำไมสยามถึงไม่กลับไปเรา 3 วัน คืองี้นะ พี่มีน้องชายแต่ตอนนี้เค้าไปค่ายที่ต่างจังหวัด แล้วมันดันเกิดข้อผิดพลาดบางอย่างเลยทำให้ต้องเดินทางกลับช้ากว่าปกติ สยามกลัวว่าพี่จะโดนกระทืบอีกก็เลยคอยอยู่เฝ้าตลอดสลับกับพยาบาลที่จ้างมาบ้าง"

ผมพยักหน้ารับ "งี้นี่เอง....ผมเข้าใจละ ผมมีเรื่องอยากให้พี่แซนด์ช่วยหน่อย พี่ช่วยผมได้ไหม"

"ถ้าพี่ทำได้ล่ะก็นะ...."

"พี่ทำได้แน่ๆ " ผมยิ้มหวานให้เขาพลางนึกถึงแผนที่เพิ่งคิดได้แบบสดๆ ร้อนๆ

ในหัวผมตอนนี้มีแต่คำว่าเอาคืนพี่สยามไปหมดเลย คือมันต้องโดนจริงๆ อะถึงจะได้รู้และเข้าใจว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันไม่ดีขนาดไหน พอได้รู้เรื่องนี่ก็โล่งใจเหมือนกันนะ เดี๋ยวถ้าเยี่ยมพี่นมปั่นเสร็จผมกลับหอไปอ่านหนังสือดีกว่า ถ้าเจอพี่สยามผมจะทำนิ่งๆ ไปก่อน ดูซิว่ามันจะทำยังไง

ถึงทีของกูแล้วพี่สยาม

เตรียมใจไว้เลยนะมึง









TBC.

สวัสดีค่ะบี๋ที่รัก ชาลมาส่งหยัมปองแล้วนะ ฮือออ.อ.อ....โคตรง่วง TT คือแบบเพิ่งแต่งเสร็จสดๆ ยังไม่ได้แก้คำผิดหรืออะไรเลยนะ ไม่ไหวจริงๆ ตาพร่าตั้งแต่หน้า 3 แล้ว นี่ถือว่าหักดิบมาก ขอโทษด้วยที่มาช้านะคะ เดี๋ยวชาลจะไล่แก้ให้วันพรุ่งนี้นะ

คือสมองตอนนี้ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เดี๋ยวค่อยใส่ให้อ่านพรุ่งนี้นะ

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยล์ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
พี่หยัมงี่เง่าคนเดียว
งั้นก็สมควรจะโดนเอาคืน

น้องปองเอาคืนให้หนักๆเลย
อิพี่หยัมจะได้เข็ด เลิกงี่เง่าซะที

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เข้าสู่ช่วงเอาคืนจากสมปอง แค่คิดก็.....................  :haun5:

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮือออ คุณชาล นุ้ยขอโทษที่เมื่อคืนบอกจะรอ ถึง01.40นุ้ยง่วงมากเลยหลับ (ฮ่าาาา)

เอาเลยๆ ลูก เอาคืนพี่สยามมัน เอาให้หนักๆ อย่าไปใจอ่อน ให้เขารู้ว่าเราก็เจ็บเพราะความไม่พูดของเขานะ ต้องให้พี่มันมาลองบ้าง

ตื่นเต้นอ่ะ อยากให้บทต่อไปมาไวไว อยากเห็นลูกเอาคืน อยากให้เอาคืนแบบเจ็บแสบ เอาให้สาสม(ไม่ได้แค้นพี่สยามเท่าไหร่แล้วก็ไม่ได้เข้าข้างลูกด้วย นี่กลางสุดแล้ว ฮ่าาาา)

ขอให้ลูกเอาคืนพี่สยามนานๆ นะ สักห้าวันเลย  :laugh:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่หยัม โดนปองเอาคืนแน่ ฮึ่ยยยย   :z6: :z6: :z6:

หยัม  ปอง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
จัดไปสมปอง ... :mc4:
ให้หยัมหึงงุ่นง่าน  แต่อย่าดราม่านะ  :-[
เอาแค่หงุดหงิดพอนะ แล้วรีบ ๆ ดีกันละ :mew1:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
แอบร้ายนะ เธอออ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ถึงเวลาโดนทำโทษ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด