S'Diary : ไดอารี่ของสมปอง [ บทพิเศษ : 4/4/2019 ] หน้า 10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: S'Diary : ไดอารี่ของสมปอง [ บทพิเศษ : 4/4/2019 ] หน้า 10  (อ่าน 30740 ครั้ง)

ออฟไลน์ Soda.wine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ใครหน้าไหนก็อย่ามาทำให้สมปองเสียใจ
ตรูไม่ยอม

โดยเฉพาะเมิง..อิผัว
หุหุ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
วันนี้ไม่มาเหรอ
หยัมปอง

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 26 ความหน่วงของสมปอง



“ สันนอกมันของกู ”

“ อยู่ในถ้วยกูเป็นของกู ”

“ ทำไมมึงมันเลวแบบนี้ล่ะอีงูพิษ ”

“ ด่ากูมากเดี๋ยวกูฉกปากให้หรอก ”

“ หยี....ขนลุก ” ผมยกมือขึ้นลูบแขนพลางเบะปาก “ อย่าพูดอะไรชวนสยองแบบนั้นได้ไหมวะ ”

ลันตามันเบ้ปากใส่ผม “ เออใช่สิ กูไม่ใช่พี่สยามหนิ พูดอะไรก็น่าสยองไปหมดแหละ ”

“ มึงนี่!!!! ” พูดถึงผัวกูบ่อยจัง

แอบเป็นเมียน้อยมันป้ะเนี่ยะไอ้สัส

ผมนั่งหรี่ตามองลันตาเพื่อนรักอย่างชั่งใจ มือก็คีบหมูสามชั้นที่เพิ่งลวกเสร็จมาเป่าสองสามทีก่อนจะยัดเข้าปาก ตอนนี้ผมนั่งกินชาบูอยู่ร้านใกล้ๆ มอครับ เปิดเรียนวันแรกหลังจากที่หยุดยาวนี่ก็บันเทิงหูบันเทิงตาดีนะ วันนี้มีอบรมกับพวกเด็กวิศวะคอม โอ่ยยย ขอบอกเลยว่าน่ารัก น่ารักมากๆ ไม่คิดว่าเด็กวิศวะคอมจะหน้าตาน่าฟัดขนาดนี้ ปกติพวกนี้เขาจะไม่โผล่มาให้เราเห็นบ่อยๆ ไง

วันนี้นี่โคตรเป็นบุญตาเลย

มันมีคนนึงที่สวยเข้าตาผมมากๆ ด้วยนะ รู้สึกว่าจะชื่อโปเต้มั้งครับ ตัวเล็กๆ ผิวขาว แก้มป่อง ผมยาวเป็นลอนสวยเชียว ทำไมสาขาผมไม่มีอะไรแบบนี้ให้มองบ้างก็ไม่รู้ ในโยธาคนที่สวยที่สุดก็คงจะเป็นสีเทียนนี่แหละครับ

อันนี้นับได้ป้ะวะ

“ อ่ะปอง ” แยมมันคีบตับมาใส่ชามให้ผมก่อนจะคีบหมูไปให้ลันตา จบด้วยคีบกุ้งไปให้สีเทียน

ผมนั่งเท้าคางมองเพื่อนรัก “ มึงนี่เซอร์วิสเพื่อนๆ ดีจัง ”

“ มึงจะได้ไม่ต้องแย่งกันไง ” มันบอกก่อนจะหยิบกระดาษมาเขียนสั่งเพิ่ม

“ มึง....กูมีไรอยากปรึกษาหน่อยว่ะ ”

“ ว่ามา ”

“ คือว่าตั้งแต่ที่มีคลิปลันตามันเมาแล้วจูบกูออกไปอ่ะ มันก็มีการเปิดว้าปกูหลายที่เลยใช่ไหมล่ะ ”

ผมพยักหน้ารับ “ เออแล้วไงต่อ ”

“ มันมีคนทักกูเยอะมากเลยอ่ะ บางคนนี่โทรมาเลยนะมึง แม่งโคตรน่ากลัว ” สีเทียนมันบอกก่อนจะมองค้อนไปทางลันตา “ เพราะมึงแหละมาจูบกู ”

“ เพราะปองมันอัดคลิปแล้วเอาไปลงต่างหาก ”

“ ก็พวกมึงชอบแกล้งกูอ่ะ เอาคืนบ้างก็ขำๆ เนอะ ” ผมบอกก่อนจะยิ้มหวานจนตาหยี

ลันตากับสีเทียนมันมองแรงใส่ผม มองไรกันเดี๋ยวกูเอาตะเกียบจิ้มตาหรอก พูดถึงคลิปที่เอาคืนนี่ก็ยอดทะลุเป้าไปไกลชิบหายวายวอดแล้วครับ สีเทียนคงจะใช้ชีวิตอยู่ยากตามที่ตัวเองบ่นจริงๆ นั่นแหละ ผมจะเอาคืนมันดีไหมวะเพราะว่าตอนนี้ชีวิตมันก็ดูวุ่นวายแถมยังมีใครต่อใครไม่รู้จ้องจะแดกมันอีก สองจิตสองใจเหมือนกันนะเนี่ย เอาเป็นว่าจะคอยดูพฤติกรรมของสีเทียนไปสักระยะนึง ถ้าก่อนสอบไฟนอลมันไม่แกล้งผม ผมก็จะไม่แกล้งมัน แต่ถ้ามันแกล้งล่ะก็....

เราจะได้เห็นดีกันแน่นอน

หลังจากที่ผมนั่งบ่นคนเดียวในใจ พนักงานก็เอาของที่แยมสั่งมาเสิร์ฟ คือแม่งอย่างเยอะอ่ะนี่มึงสั่งไปกี่ชุดวะ ผมนั่งมองสันนอกหมูก็รู้สึกอิ่มทั้งๆ ที่ยังไม่ได้กิน ในกลุ่มผมคนที่แดกเยอะสุดนี่ลันตาเลยครับ เห็นมันตัวบางๆ แบบนั้นแต่มันกินเยอะมากเลยนะ ให้มันแดกควายทั้งตัวมันก็แดกได้ ผมเคยคิดว่าตัวเองกินเยอะมาตลอดแต่พอมาเจอมันก็ชิดซ้ายอ่ะ

“ ปอง ”

“ หืม....”

“ กูเห็นผู้หญิงโต๊ะหลังมองมึงไม่ละสายตาเลยว่ะ ”

“ หรอวะ ” ผมเหลือบไปมองตามที่สีเทียนบอก “ นั่นมัน.....”

โปเต้นี่หว่า

“ เค้าชอบมึงรึเปล่า น่ารักแบบนั้นนี่สเปคมึงเลยน่ะ ”

“ ก็นะ ” ผมไหวไหล่ก่อนจะคีบตับเข้าปาก “ กูหล่อไง ”

“ เอากระจกไหมมึง ”

“ เอามาทำไรวะ ”

“ ส่องเบ้าหน้าไงไอ่ฟายยยยย ” ลันตามันบอกก่อนจะเอื้อมมือมาแย่งหมูสามชั้นในถ้วยผมไป อีเด็กเลวนี่มันน่าทุบให้ตายจริงๆ

ผมทำหน้าบึ้งใส่ลันตาพลางมองทะลุไปโต๊ะด้านหลังที่มีสาวๆ วิศวะคอมนั่งกันอยู่ เป็นแบบที่สีเทียนพูดจริงๆ ด้วยครับ โปเต้กำลังแอบมองผมอยู่ พอเห็นแบบนั้นผมเลยแกล้งเป็นเหลือบไปมองบ้าง พอเธอเห็นว่าผมมองเธอกลับ ใบหน้าหวานก็หันมองไปทางอื่นแทน แน่ะ เชิงดีว่ะ นี่ถ้าเป็นผมเมื่อเดือนก่อนก็คงจะยิ้มหวานแล้วเดินเข้าไปหาแล้วละ แต่ตอนนี้ทำไม่ได้ไง

ตำแหน่งเมียประธานสันฯ มันค้ำคอยู่

พูดถึงประธานสันฯ ก็รู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ ยังไงไม่รู้ว่ะ ตั้งแต่ที่ผมกลับมาจากเชียงใหม่ก็รู้สึกได้ว่าพี่สยามทำตัวดีขึ้นเยอะเลยครับ สลัดคราบคนหื่นกามที่จ้องจะแดกผมอย่างเดียวออกไปเลยอ่ะ อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นคนที่พูดอะไรหวานๆ ดูแลเทคแคร์แบบผู้ชายอ่อนโยน ซึ่งผมไม่ชินกับสิ่งเหล่านี้เลยไง มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าแอบไปดูซีรี่ส์แล้วเห็นพระเอกเขาทำแบบนี้รึเปล่าถึงได้อยากทำตาม เวลาอยู่ที่ห้องด้วยกันสองคนนี่ใจโคตรบาง เมื่อเช้ามันจะปลุกผมไปเรียนมันก็ไม่เรียกนะแต่มันใช้วิธีหอมแก้มจนกว่าผมจะตื่น

ดูมันทำสิ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ ใครเคาะอะไรวะ ” ผมหันซ้ายหันขวามองตามเสียง

“ เสียงโทรศัพท์กูเอง ” ลันตาบอกก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย “ ฮัลโหลครับ ”

แยมมันแกะกุ้งก่อนจะส่งมาให้ผม “ เออปอง วันก่อนกูเห็นพี่สยามเดินออกมาจากห้องมึงด้วย พี่เค้ามาทำไรหรอ ”

“ มันเอาชีทมาให้น่ะ ”

“ ใช่รึเปล่า ” สีเทียนมันเลิกคิ้วมองผมอย่างจับผิด “ โกหกมันผิดศีลนะ ”

“ ใช่ก็ใช่สิวะ ”

“ เค้าบอกพี่แล้วไงว่าเค้าซักให้แล้วอ่ะ พี่อ่ะไม่เคยหาอะไรเจอหรอก ” ลันตามันโวยวายใส่โทรศัพท์เสียงดัง ฟังจากสรรพนามในการแทนตัวเองว่าเค้านี่คนที่มันคุยอยู่ด้วยต้องเป็นพี่ทะเลแน่ๆ เลย

เพราะงั้นต้องเงี่ยหูฟัง

“ จุ๊ๆ ก่อนเทียน เสือกเรื่องเพื่อนรักแปป ” ผมกระซิบบอกสีเทียนเบาๆ เจ้าตัวก็พยักหน้ารับก่อนจะทำเนียบคีบโน่นนี่มากินไปเรื่อย

ผมเองก็เนียนไม่ต่างกัน คือทุกคนในวงนี่เงียบหมดยกเว้นลันตาที่โวยวายใส่โทรศัพท์อยู่ ฟังจากเรื่องที่มันพูดเนี่ยะน่าจะเกี่ยวกับเสื้อมั้ง เหมือนมันซักเสื้อให้พี่ทะเลแต่เจ้าตัวคงหาไม่เจอ อารมณ์ลันตาประมาณว่ากูบอกไปเป็นล้านรอบแล้วทำไมมึงไม่ฟังวะ เพื่อนแยมที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็คงอยากจะยกมือแตะไหล่ลันตาแล้วบอกว่าให้ใจเย็นๆ แต่ก็ไม่กล้าทำแบบนั้น คือลันตาดูหัวร้อนและพร้อมเหวี่ยงมากอ่ะครับถ้าไปยุ่งกับมัน

เพราะงั้นนั่งกันเงียบๆ เถอะ

“ ไม่ต้องมาง้อเลยนะ เค้าไม่หายโกรธหรอก ” มือเรียวคีบหมูยัดเข้าปาก “ ไม่ พี่กลับไปนอนห้องตัวเองเลยนะไม่ต้องมานอนกับเค้าเลย ”

“ มึงว่าขั้นไหนวะ ” ผมเอ่ยถามสีเทียนเบาๆ ปากก็เป่ากุ้งไปด้วย

“ ขั้นเดียวกับมึงนั่นแหละ ”

“ อ๋อ ” ผมชะงักไปก่อนจะหันขวับมองมัน “ มึงหมายความว่าไง ”

“ ก็มึงกับพี่สยามขั้นไหน ลันตากับพี่ทะเลก็ขั้นนั้นแหละ ”

“ เลอะเทอะละมึงอ่ะ พี่สยามมันเป็นพี่รหัสกูมั้งเถอะ ที่สนิทก็เพราะอย่างนี้มั้งเถอะ ”

สีเทียนมันคลี่ยิ้มออกมาบางๆ “ กูบอกแล้วว่าโกหกมันผิดศีล ”

“ โว้ยยยยยยยยมึงนี่!!!! ”

“ ชู่วววว เบาๆ ปอง ให้ลันตาเสียงดังคนเดียวก็พอ ” แยมปรามผมเบาๆ เออกูยอมเงียบก็ได้ นี่เห็นแก่เพื่อนแยมนะสีเทียนนะ ไม่งั้นมึงเจอกูด่ายันโคตรแล้ว

“ ไม่ต้องมา ไม่ต้องงงงงง!!!! ” ลันตามันว้ากใส่โทรศัพท์ก่อนจะกดวางสาย

ใบหน้าหวานดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด อยากจะถามมันตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่กลัวมันด่าว่าเสือกอ่ะ แต่อีกใจก็อยากรู้ไง อยากรู้หลายเรื่องด้วย อะไรคือไม่ต้องไปนอนที่ห้อง นี่อยู่ด้วยกันหรือยังไง ความอยากรู้มีอยู่เต็มสมองไปหมดแล้วตอนนี้ จะส่งใครเป็นหน่วยกล้าตายลองถามมันดีวะ ในกลุ่มคนที่ลันตาสนิทด้วยที่สุดก็คงเป็นอีหน้าสวยที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมนี่แหละ

ผมสะกิดสีเทียนเบาๆ “ มึงถามมันดิ้ว่ามันเป็นไร ”

“ มึงเป็นไรวะลันตา ”

“ ก็พี่ทะเลอ่ะดิ่ หาเสื้อไม่เจอก็มาโวยวายใส่กู ”

“ เสื้อไรวะ ”

“ เสื้อช้อป เมื่อวานกูซักให้แถมรีดให้ด้วย แขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าเลย แม่งตาบอดมองไม่เห็น โทรมาโวยวายใส่กูใหญ่ ” มันบ่นอย่างฉุนๆ ก่อนจะคีบโน่นคีบนี่ยัดใส่ปากจนเต็ม

ผมเท้าคางมองมันนิ่งๆ “ มึงกับพี่ทะเลอยู่ด้วยกันหรอ ”

“ เปล่า ”

“ เอ้า แล้วไอ้ไม่ให้นอนคือไรวะ ”

“ ก็พี่ทะเลมานอนที่ห้องกูบ่อย ”

“ แล้วทำไมพี่ทะเลถึงมานอนที่ห้องมึงอ่ะ ”

“ ก็มันเป็นแฟนกู ถ้าจะมานอนห้องกูมันจะแปลกตรงไหนวะ ”

แฟน

แฟ้นนนนนนนนน!!!!

ผมมองเพื่อนรักตาปริบๆ นี่ความสัมพันธ์ของมันกับพี่ทะเลพัฒนาไปจนเป็นแฟนกันแล้วหรอวะ แล้วไปคบกันตอนไหนทำไมเพื่อนฝูงไม่เห็นรู้เลย ผมว่านะถ้าไม่ถามมันก็คงไม่บอกหรอก แหม กับเพื่อนกับฝูงนี่ทำเป็นมีความลับนะอีงูพิษนะ คือตอนนี้อยากรู้เรื่องราวตั้งแต่แรกเลยอ่ะแต่ผมคิดว่ามันคงไม่เล่าให้ผมฟังแน่นอน จะสืบเองก็ไม่รู้จะสืบกับใคร เรื่องนี้ถ้าถามพี่ทะเล เขาจะเล่าให้ฟังไหมวะ เอ๊ะ หรือว่าไปถามพี่สยามดีเพราะเหมือนมันรู้เรื่องนี้มาตั้งนานละ

แล้วเป็นห่าไรต้องคุยกับตัวเองเนี่ยะปอง

บ้าบอชะมัด

ผมส่ายหัวไล่ความอยากเสือกของตัวเองออกไป ไม่เอาๆ เลิกคิดเรื่องลันตา เอาเป็นว่ามันคบกับพี่ทะเลแล้ว โอเคแค่นั้นจบ เราควรแสดงความยินดีกับมัน ควรอวยพรให้ความรักมีแต่ความสุขใจอะไรทำนองนี้

แต่ก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่ะ

“ สมปอง ”

ผมสะดุ้งก่อนจะหันไปมองตามเสียงเรียก “ คะ....ครับ ”

“ ช่วยออกไปคุยกับเรานอกร้านแปปนึงได้ไหม ” ร่างบางเอ่ยบอกผมเบาๆ

“ ดะ....ได้สิ ” ผมยักหน้ารับก่อนจะหันมองเพื่อนๆ “ เดี๋ยวกูมานะ ”

“ มึงมันร้ายนะไอ้ปอง ” สีเทียนมันบอกพลางยกยิ้ม

ลันตามันหรี่ตามองผม “ กูฟ้องคนที่มึงก็รู้ว่าใครแน่ ”

“ เดี๋ยวกูลวกหมูรอไว้ให้ ” แยมมันยิ้มหวานก่อนจะเทหมูลงไปในหม้อ

เนี่ยะ....ไม่มีใครดีเท่าแยมละเอาจริงๆ

หลังจากที่ผมซึ้งใจกับการลวกหมูของแยมเสร็จผมก็เดินตามร่างบางออกมาหน้าร้าน คนที่มาเรียกผมเธอก็คือคนที่นั่งมองผมอยู่นานสองนานนั่นแหละครับ โปเต้นี่มองจากด้านหลังก็เหมือนส้มอยู่นะ ทำไมใครๆ ก็ดูเหมือนส้มไปหมดเลยวะ ไม่คิดจะเหมือนแอปเปิ้ล มะละกอ กล้วย อะไรพวกนี้บ้างหรอ

มุกเชี่ยไรเนี่ยะปอง

อย่าเอาไปเล่นที่ไหนนะ

“ ปอง ”

“ หะ...หืม ” ผมยิ้มบางๆ ให้คนตรงหน้า “ เรียกเรามามีอะไรหรอ ”

ใบหน้าหวานยิ้มน้อยๆ เหมือนเขินอะไรสักอย่าง แก้มใสก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ เห็นแบบนี้แล้วน่ารักชะมัด นี่ถ้าไม่ติดว่าผมมีผัวแล้วนะ โปเต้นี่อาจจะเป็นคนที่ผมตามจีบก็ได้ น่ารักตรงสเปคชิบ ผมยืนมองคนตรงหน้าพลางตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอกำลังจะพูด

“ คือว่า....เราชอบพี่สยามน่ะ ”

เราชอบพี่สยาม....งั้นหรอ

ผมยกมือลูบคอตัวเองเบาๆ “ บอกเราทำไมอ่ะ ”

“ ก็เรารู้มาว่าปองเป็นน้องรหัสของพี่สยาม ปองก็น่าจะสนิทกับเค้า ” ใช่แล้วโปเต้ เราสนิทกับพี่สยามมากเลย สนิทในระดับที่.....ถ้าบอกไปนี่โปเต้คงช็อคแน่นอน

“ อื้ม....ก็สนิทนะ ”

“ งั้นปองพอรู้ว่าพี่สยามเค้ามีคนที่ชอบรึเปล่า เราขอไลน์หรือเบอร์เค้าได้ไหม ”

“ ไลน์กับเบอร์เราคงให้ไม่ได้อ่ะเพราะว่า....โทรศัพท์เรามันรวนแล้วข้อมูลหายหมดเลย ” ผมตีหน้าซื่อพลางเอ่ยเสียงอ่อน “ ส่วนเรื่องคนที่พี่สยามชอบก็....มีแล้วแหละ ”

“ ใครหรอ ”

กูไง....แล้วมันไม่ได้แค่ชอบนะ

มันรักกู

“ เราก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ แต่มันบอกว่ามันมีคนที่ชอบแล้ว ”

ใบหน้าหวานแสดงความผิดหวังออกมาชัดเจน นี่คงชอบพี่สยามมันมากแน่ๆ เลยว่ะ แต่โปเต้ไม่รู้หรอวะว่ามันเป็นเกย์ ผมว่าคนรู้เรื่องนี้ออกจะเยอะนะ อีพวกที่ทักมันมาก็ผู้ชายทั้งนั้น ผู้หญิงก็เป็นส่วนน้อยอ่ะ อารมณ์แบบคิดว่าความสวยกับความนมใหญ่จะดึงมันกลับไปชอบผู้หญิงได้อะไรทำนองนี้ คิดแล้วหมั่นไส้มันอยู่เหมือนกัน ผมนี่ไม่เคยมีหรอกผู้หญิงมาบอกชอบน่ะ เออ ใช่สิผมเป็นแค่สมปองหนิ ผมไม่ใช่พี่สยามไง

หึ้ยยยย...ย....ดราม่าไรวะ

“ แต่ว่านะปอง เค้าก็แค่มีคนที่ชอบใช่ไหมล่ะ เราก็ยังมีหวังใช่ไหม ”

“ เราว่าอย่าไปหวังกับมันเลย ผู้ชายยังมีอีกเยอะเลยนะ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้เหมือนกับพี่สยามก็เถอะ มันก็ต้องมีคนที่พร้อมจะดูแลโปเต้ใช่ไหมล่ะ ” ผมถือวิสาสะยกมือขึ้นแตะไหล่เธอเบาๆ “ อย่าทุ่มเทให้กับคนที่เค้ามีใจให้คนอื่นเลย มันยากที่เราจะเอาชนะคนๆ นั้นได้ ”

โปเต้พยักหน้ารับเบาๆ “ เราเข้าใจแล้ว ขอบใจปองมากนะที่พูดให้เรารู้สึกดีขึ้นน่ะ ”

“ ไม่เป็นไรหรอก ” ผมบอกก่อนจะยิ้มหวานให้

ร่างบางยิ้มให้ผมก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้าน ผมเองก็เดินตามเข้ามาเงียบๆ พอถึงโต๊ะพวกเพื่อนๆ ก็แซวไม่หยุดปาก แต่ผมก็ไม่ได้ตอบโต้พวกมันนะปล่อยให้มันพูดไป ในใจตอนนี้ก็คิดถึงสิ่งที่โปเต้บอกว่าชอบพี่สยาม คนชอบมันเยอะจนบางครั้งผมก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเฉยๆ มันหวั่นนะถ้าวันนึงมันเกิดไปรักคนอื่นขึ้นมาล่ะ ถ้ามันทนไม่ไหวที่ผมงี่เง่าใส่บ่อยๆ หรือถ้ามันเจอคนที่ดีต่อใจมากกว่าผม คิดแล้วแม่งหน่วงใจว่ะ

แบบนี้มันไม่สมเป็นผมเลย

บ้าบอจริงๆ





หอ K2

หลังจากที่ไปกินชาบูกับเหล่าเพื่อนฝูงเสร็จผมก็ถึงห้องประมาณทุ่มกว่าๆ พี่สยามยังไม่มาเพราะว่าต้องคุยเรื่องงานกับเพื่อนๆ แต่ผมคิดว่าเดี๋ยวมันก็คงมาแล้วแหละ ก่อนหน้าที่มันจะมาผมมีบางอย่างที่จะต้องทำนั่นก็คือ เขียนไดอารี่ครับ วันนี้มันรู้สึกหน่วงในใจแปลกๆ ผมควรเขียนไว้ให้พ่อได้อ่าน คิดได้แบบนั้นผมก็เดินไปหยิบสมุดไดอารี่สีขาวที่ซ่อนพี่สยามไว้แล้วกลับมานั่งที่เดิม

เอาล่ะ...สะบัดข้อมือสองสามที



พ่อเคยอยู่ดีดีก็หน่วงขึ้นมาเฉยๆ ไหม

วันนี้เป็นวันเปิดเรียนหลังจากที่หยุดยาวใช่ไหมล่ะ ผมก็ไปเรียนแล้วแบบมันมีอบรมร่วมกับเด็กวิศวะคอม คนที่ชื่อโปเต้โคตรน่ารักอ่ะ แต่ผมก็ไม่ได้คิดจะจีบอะไรแบบนี้หรอกนะ ก็จะแค่อวดเฉยๆ ว่าน่ารัก

อิจฉาสิอิจฉา

แล้วพอเลิกเรียนผมก็มากินชาบูกับเพื่อนๆ โปเต้ก็มากินร้านเดียวกับพวกผมด้วยนะ แล้วสีเทียนอ่ะมันบอกว่าโปเต้แอบมองผมอยู่ตลอดเลย นี่ก็แอบเขินนิดๆ ที่สาวมอง จนแบบนั่งกินกันอยู่โปเต้ก็เดินมาบอกว่าให้ออกไปคุยด้วยกันหน่อย ผมก็ออกไปคุยใช่ไหม โปเต้บอกว่าเธอชอบพี่สยาม ถามถึงเบอร์กับไลน์แล้วก็คนที่พี่มันชอบด้วยนะ ผมก็ทำเนียนไปว่าโทรศัพท์มีปัญหาข้อมูลหายจำเบอร์มันไม่ได้อะไรทำนองเนี้ยะ แล้วก็บอกว่าพี่สยามมันมีคนที่ชอบแล้ว โปเต้ผิดหวังผมก็รู้สึกสงสารเธอนะ นี่ก็พูดปลอบใจให้หาคนใหม่ โปเต้ก็โอเคขึ้น คือเหมือนทุกอย่างมันโอเคใช่ไหมพ่อแต่ในใจผมแบบหน่วงอ่ะ หน่วงแบบหน่วงอะไรไม่รู้ คือสับสนมึนงงกับตัวเองมาก ถ้าวันนี้หลับไปแล้วพรุ่งนี้ตื่นมาแล้วจะหายไหม ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้เลย เดี๋ยวถ้าผมอาการดีขึ้นจะเขียนบอกพ่ออีกทีนะครับ

คิดถึงมากๆ

23/12/20xx : สมปอง




ระบายความหน่วงในใจเสร็จแล้วครับ

เฮ้อ....

ผมถอนหายใจก่อนจะเดินเอาไดอารี่ไปซ่อนไว้ที่เดิม พอกลับมานั่งก็พบว่าประตูห้องถูกเปิดออกโดยพี่สยาม ใบหน้าคมดูเหนื่อยมาก พอผมเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปกอดมัน เจ้าตัวเองก็กอดกลับทันทีพลางซบหน้าอยู่กับไหล่ผมแบบนั้น คือถ้าไม่เดินมากอดก่อนผมก็อาจจะโดนมันกระโจนใส่ได้ไง แล้วไอ้ชาบูที่เพิ่งกินมาก็คงทะลักออกปากแน่นอนอ่ะ

“ ปอง ”

“ หืม......”

“ เหนื่อย ”

“ รู้แล้วว่าเหนื่อย ” ผมยกมือขึ้นลูบหัวพี่มันเบาๆ “ กูถึงได้เดินมากอดมึงนี่ไง ”

พี่สยามคลายกอดออกก่อนจะดมหัวผม “ กลิ่นอะไร ไปกินอะไรมา ”

“ ไปกินชาบูมาไง กูก็ไลน์บอกมึงแล้ว นี่ไหวไหมเนี่ยะ ”

“ ไหวสิ ก็แค่ลืมน่ะ ” พี่สยามมันยิ้มบางๆ ก่อนจะถอดเสื้อช้อปออก “ เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนนะ ”

ผมรั้งข้อมือมันไว้ “ เดี๋ยว ”

“ อะไรครับ ” เจ้าตัวหันมามอง

“ มึงรักกูไหม ”

พี่สยามมันหลุดยิ้มออกมาทันที “ ไม่รัก....”

“ นี่!!! ”

“ ก็บ้าแล้ว ” มือหนากระชากผมเข้าไปกอดไว้ ใบหน้าคมก้มลงมาหอมแก้มผมซ้ำๆ หลายครั้ง “ ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นมึงถึงได้มาถามกูแบบนี้ แต่ว่า....มั่นใจได้เลยว่ากูจะรักมึงแบบนี้เสมอและไม่เปลี่ยนแปลงด้วย ”

ตึกตัก

ความใจสั่นนี้มัน.....

ผมอมยิ้มออกมากับสิ่งที่มันพูด “ มั่นใจจังเลยนะ ”

“ มั่นใจสิ....ก็รักไปแล้วหนิ ” พี่สยามยิ้มหวานให้ผมก่อนจะก้มลงมาจูบปากหนักๆ ทีนึง “ อาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวออกมาเล่นด้วย ”

“ เล่นด้วยบ้าอะไรของมึง ” ผมดันมันออกก่อนจะยกมือลูบแก้มตัวเองเบาๆ พี่มันขยี้หัวผมทีนึงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

เขินชิบหาย....เขินเหมือนจนจะเป็นบ้าเลย

ผมล้มตัวนอนลงบนเตียงก่อนจะดึงหมอนพี่สยามมากอดไว้ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่หมอนใบนี้มีกลิ่นมันติดอยู่ ใครมันจะไปคิดวะว่าคนที่เราไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอจะกลายมาเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อใจเรามากถึงขนาดนี้ ไอ้อาการหน่วงตอนแรกก็โอเคขึ้นมาเยอะเลยนะครับ แค่ได้กอดกับได้ยินคำว่ารัก แค่นี้ก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมากจริงๆ แล้วว่ะ เดี๋ยวผมจะต้องทำให้เรื่องของเราสองคนมันจริงจังมากกว่านี้ เดี๋ยวผมจะเป็นคนขอมันเป็นแฟนเอง แต่ว่าต้องรอเวลาหน่อย

จะทำให้มันดีใจมากๆ ที่จะมีผมเป็นแฟนเลย

รอกูหน่อยนะพี่สยาม











TBC.

มาส่งหยัมปองแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่มาช้าเลย คือเพิ่งแต่งเสร็จสดๆ ยังไม่ได้แก้อะไรเลย เดี๋ยวชาลจะไล่แก้ให้นะคะ เรื่องราวของพี่หยัมกับน้องปองจะเป็นอย่างไรก็รอติดตามกันต่อไป

ช่วงนี้ตารางงานแน่นมากเลยค่ะ นี่คิดว่าจะทำตารางงานไปแปะไว้ให้ได้ดูในทวิตเตอร์ แบบมีหลายอย่างมากที่จะต้องรีบทำ คือตอนนี้แต่งนิยายพร้อมกัน 3 เรื่อง แต่ว่าก็ต้องเริ่มแต่งขันหมีด้วยเพราะว่าชาลอยากจะแต่งให้ได้สัก 11 บท แล้วลงติดกันไป 11 วันเหมือนที่เคยทำกับขุนหนม ก่อนจะทิ้งช่วงลงอาทิตย์ละตอน ก็อดใจรอกันไปนะคะ ใครคิดว่าเดือนมีนาอาจจะอีกนาน แต่เวลามันผ่านไปเร็วนะ แปปๆ เดี๋ยวมันก็มาถึงแล้ว อีกอย่างคือตอนนี้ชาลต้องแต่งตอนพิเศษของขุนหนม หารือกับเด็กฝึกงานแล้วค่ะชาลตัดสินใจว่าจะไม่ส่งพิจารณากับสำนักพิมพ์เพราะว่าอยากพรีออร์เดอร์ทำเอง คือต้องเข้าใจว่าโปรเจ็กต์นี้มี 5 เรื่อง ชาลก็อยากให้มันเป็นหนังสือทั้ง 5 เล่ม คือไม่มั่นใจว่าจะผ่านจนครบ เลยตัดใจคิดว่าทำเองดีกว่า อีกอย่างคือชาลจะบรีฟรูปแบบปกได้ มันจะเป็นธีมเดียวกัน หวังในใจลึกๆ นะคะว่าคงจะมีคนที่อยากได้หนังสือไปเก็บ ไว้ชาลจะแจ้งอีกทีนะคะเรื่องนี้

ถ้าชอบก็กดไลค์ คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจกันได้ให้กันได้นะคะ มันช่วยฮีลในช่วงที่ชาลป่วยได้ดีเลย ติดต่อข่าวสาร + สปอย ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2017 22:58:42 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
พี่ไม่ได้ชอบผู้หญิง
โปเต้ตัดใจเหอะ..ไม่มีหวังตั้งแต่แรกแล้ว

ถ้าเป็นผู้ชายนี่ดิ..ยังน่ากังวลมากกว่า
แต่ยังไงก็ไม่ได้นะพี่(หยัมปอง) อิอิ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ทีมหยัมปอง

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่สยาม มีสาวมาชอบ
มาขอไลน์ขอเบอร์จากปองซะด้วย
ก็นะ พี่เขาชอบ เขารักแต่ปอง
คนอื่นอย่ามายุ่ง
พี่สยาม ปอง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เริ่มมีเค้ารางดาม่า มาแล้ว.

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 27 คำขอโทษของพี่สยาม



​เฮ้อ....

ไม่อยากจะถอนใจนะแต่แบบ....เฮ้อ

ปวดใจจัง

ผมนั่งมองกองชีทฟิสิกส์ตรงหน้าด้วยความโศกา นี่เรียนมาแค่ 2 อาทิตย์เองนะ ทำไมชีทมันถึงได้เยอะชิบหายแบบนี้ก็ไม่รู้ แล้วคิดดูว่านี่แค่ของวิชาเดียวนะ จิ๊....ไว้หมดเทอมผมจะเก็บพับจรวดแล้วเอาไปปาเล่นให้หมดเลย

หงุดหงิดชิบ

ตอนนี้ประมาณบ่ายสามกว่าๆ ผมอยู่ที่หอครับ กำลังจัดชั้นหนังสือเรียนเดี๋ยวจะไปช่วยกันทำรายงานอิ้งที่ห้องแยม ส่วนพี่สยามก็ไปทำงานที่ร้านพี่ถิ่นไท ช่วง 2 อาทิตย์นี้มันวุ่นกับเรื่องที่ร้านมากเลยเพราะว่ายังจับตัวคนที่มาก่อกวนไม่ได้ ผมไม่รู้ว่ามันจะวางแผนจับตัวแบบจริงๆ จังๆ เมื่อไหร่ นี่ก็ได้แต่คอยบอกว่าให้มันระวังตัวให้มาก ดูแลตัวเองดีดี ทุกครั้งที่ผมบอกแบบนั้นมันก็จะบิดตัวไปมาแล้วทำท่าทางสะดีดสะดิ้ง พอถามว่าเป็นอะไรมันบอกว่า....

เขินที่เมียเป็นห่วง....เขินอย่างเดียวไม่พอนะมีการจับผมไปฟัดด้วย

ดูมันทำสิ

ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาผมกับพี่สยามก็อยู่ด้วยกันฉันท์ผัวเมียอย่างปกติ เช้าก็ไปเรียน ตกเย็นใครมีงานก็แยกไปทำ กลับมาถึงห้องก็ต้องกอดกันก่อน ผมอาจจะโดนแทะโลมบ้างพอหอมปากหอมคอ แต่ผมก็ปล่อยให้มันทำนะครับไม่ได้ห้ามอะไรถึงขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นอะไรที่มากกว่าการกอดหรือจูบก็ต้องปรามไว้ก่อน

การเสียตัวแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องตลกอ่ะ

มันต้องทำใจก่อน

ผมตกลงกับพี่สยามเรียบร้อยแล้วครับว่าถ้าจะมีอะไรกันเนี่ยะ ก็จะทำแค่เดือนละครั้งเท่านั้น ส่วนกี่รอบนั่นก็แล้วแต่เหนื่อยอ่ะ ที่มีอะไรกันมาสองครั้งก็ไม่เคยจบที่รอบเดียว พี่สยามมันคงอยากให้ผมหมดแรงจนตาย แล้วมันก็จะไปหาเมียใหม่

เลวมาก

ความคิดกูเนี่ยะ

ครื้ดดดด....ครื้ดดดด....

ผมล้วงโทรศัพท์ออกมาก่อนจะกดรับสาย " ฮัลโหล...."

( อยู่ไหนอ่ะ )

" อยู่หอ แล้วนี่มึงไม่ทำงานหรอ "

( ก็ทำอยู่แต่แอบอู้ อย่าไปบอกพี่ไทนะ )

" นิสัยไม่ดีว่ะ " ผมเบ้ปากใส่โทรศัพท์ " โทรมานี่มีอะไร คิดถึงกูล่ะสิ "

( มึงก็มั่นหน้าเนอะ )

เอ้าไอ้สัส

" มึงนอนนอกห้องเลยนะ " ผมเอ่ยบอกมันเสียงเหี้ยม " แล้วก็ไม่ต้องมากอดกูด้วย "

( หยอกเล่นนิดเดียวเองที่รัก )

" ที่รักหน้ามึงสิ ไปไกลๆ เลยป่ะ "

( โอ๋ๆ อย่างอนสิครับ ดีกันนะ )

" ไม่ดีเชี่ยไรทั้งนั้นอ่ะ "

( เดี๋ยวกลับไปง้อนะ เออที่โทรมานี่จะบอกว่าวันนี้จะกลับช้าหน่อยเพราะว่าจะช่วยกันจับตัวไอ้คนที่มาก่อกวน )

" เรื่องของมึงสิ " ดูแลตัวเองดีดีด้วยละกัน

( ไร้เยื่อใยมากจ่ะเมีย งั้นแค่นี้ก่อนนะ จ๊วบๆ นะ )

" เออ " ผมกดวางสายก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงไปบนเตียงอย่างหงุดหงิด

พี่สยามแม่งกวนตีนชิบหาย แล้วมึงก็เป็นห่าอะไรเนี่ยะปอง มันพูดแค่นี้ทำไมต้องหงุดหงิดถึงขนาดนี้วะ ถ้ามันกลับมาเดี๋ยวผมจะต้องทุบมันโทษฐานที่พูดจาทำให้ผมฉุนเฉียว หลังจากที่ผมคาดโทษพี่สยามไว้ในใจเสร็จผมก็หยิบกระเป๋าดินสอกับชีทอิ้งมาใส่กระเป๋าผ้า เดี๋ยวต้องเดินทางไปหาเพื่อนแยมแล้วครับ ไปช้าเดี๋ยวลันตามันด่า แต่ถ้าผมไปถึงก่อน....

ผมจะได้ด่ามัน

หึ....





สี่ทุ่มครึ่งกับอาการปวดไหล่อย่างรุนแรง

ใครก็ได้นวดไหล่ให้ปองที

ผมฟุบลงหน้าโน้ตบุ๊คของแยม บรรดาเพื่อนๆ ก็มีสภาพใกล้ตายไม่ต่างกัน นี่นั่งทำรายงานมาตั้งแต่ 4 โมงกว่าๆ แม่งเพิ่งเสร็จเนี่ยะ ไม่เคยทำรายงานนานขนาดนี้เลยเอาจริงๆ เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษหรอวะ โอ่ย จะบ้าตาย

" ไปเซเว่นฯ กันไหมปอง "

ผมเงยหน้าขึ้นมามองมัน " เออเอาดิ่ "

" มึงสองคนเอาอะไรไหม "

" กะเพราไก่ "

" กูเอาข้าวผัดหมู "

แยมมันเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์ " ไปกันปอง "

" เออ " ผมลุกขึ้นก่อนจะบิดซ้ายบิดขวาไล่ความเมื่อยล้าออกไป " โคตรเมื่อยอ่ะ "

" ก็นั่งทำงานหลายชั่วโมงนี่นะ " แยมมันเดินนำผมออกจากห้อง

ผมหยิบกระเป๋าตังค์กับไฟฉายแล้วเดินตามมันออกมา ไม่รู้ว่าป่านนี้พี่สยามมันจะกลับถึงห้องรึยัง และก็ไม่รู้ด้วยว่ามันจะจับตัวไอ้คนที่มาก่อกวนร้านได้ไหม มันไม่ได้ติดต่อมาเลย ผมเองก็ไม่ได้โทรไปหาเพราะตัวเองก็ทำงานไง ช่างแม่ง ถ้ามันกลับมาเดี๋ยวมันก็คงจะโทรบอกผมเองแหละ

ตอนนี้ไปหาข้าวกินดีกว่า

ผมกดเปิดไฟฉายก่อนจะเดินตามทางที่จะไปเซเว่น แยมมันก็เดินนำอยู่ข้างหน้า คือซอยแถวหอผมเนี่ยะ ไม่มีไฟข้างทางเลยครับ โคตรมืดและก็โคตรวังเวง เวลาที่ผมจะเดินนี่ยังไงก็ต้องเปิดไฟฉาย การเป็นโรคกลัวความมืดนี่ลำบากนะเวลาที่ใช้ชีวิตตอนกลางคืนอ่ะ แล้วยิ่งเวลาออกไปไหนมาไหนก็ยิ่งลำบากหนักเข้าไปอีก

เกิดเป็นสมปองนี่น่าสงสารจัง

ผมกลายเป็นคนที่กลัวความมืดเพราะว่าตัวเองหลงไปป่าท้ายไร่ ไอ้แถวๆ ทางไปน้ำตกนั่นแหละครับ ตอนนั้นผมยังอยู่ประถมอยู่เลย มันน่ากลัวมากเลยนะที่รอบๆ ข้างมืดสนิท มีเสียงสัตว์ร้องและผมก็หาทางกลับบ้านไม่ได้ ผมร้องไห้เดินวนอยู่ในความมืดนั้นหลายชั่วโมง ณนนท์กับพะนายเป็นคนที่ช่วยผมไว้ได้ ช่วงนั้นผมต้องพบจิตแพทย์เพราะเรื่องที่กลัวความมืดเลยล่ะ

กว่าจะหายหลอนก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร

แต่พอโตขึ้นก็โอเคขึ้นนะครับ อย่างน้อยก็รู้ว่าตัวเองควรรับมือกับความกลัวเหล่านั้นยังไง การที่ผมพกไฟฉายติดกระเป๋าตลอดอ่ะ เคยมีคนมองว่ามันเป็นเรื่องตลกด้วยนะ แต่ผมก็ไม่สนใจหรอกเพราะพวกแม่งไม่ได้เป็นเหมือนผมไง พี่สยามก็รู้นะว่าผมกลัวความมืด เวลากลับมาถึงห้องพร้อมกันมันจะเป็นคนเข้ามาเปิดไฟก่อน โคมไฟตรงหัวเตียงก็คอยเปิดไว้ให้ตลอด

น่ารักใช่ไหมล่ะ

" เออปอง กูมีอะไรอยากจะปรึกษาหน่อยว่ะ "

" ว่ามา "

" คือกูแอบชอบคนๆ นึงว่ะ "

" มึงก็จีบดิ่ "

" คือเค้ามีแฟนแล้วอ่ะมึง "

" ไม่เป็นไร " ผมยกมือแตะไหล่เพื่อนรักเบาๆ " เดี๋ยวแม่งก็เลิกกัน "

" มึงคิดงั้นหรอ "

" เออสิ ว่าแต่คนที่มึงชอบเนี่ยะ ใครวะ "

" เด็กเรียนการบินฯ น่ะ " ง่อววว ไม่ทำธรรมดาว่ะ คิดจะสอยนางฟ้าเลยนะมึง

ผมหรี่ตามองมันพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม " สวยป้ะวะ "

" ก็หล่ออยู่นะ เป็นเดือนของการบินฯ เมื่อปีก่อน "

หล่อ กับ เป็นเดือน

ผมมองเพื่อนรักตาปริบๆ คนที่มันบอกว่าแอบชอบนี่เป็นผู้ชายสินะ ในกลุ่มผมนี่จะได้กับผู้ชายทั้งกลุ่มเลยหรอ ลันตาก็เป็นแฟนกับพี่ทะเลไปละ หน้าสวยๆ อย่างสีเทียนก็คงมีแต่ผู้ชายเท่านั้นแหละที่มาสนใจ ส่วนผมก็เป็นเมียพี่สยามมันไง ไม่คิดว่าแมนๆ เตะบอลอย่างแยมก็จะมาตกหลุมรักผู้ชายด้วยซะได้ เดี๋ยวนี้โลกมันไปไกลจังวะ

ฉันตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอยยยย

" ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะปอง "

ผมยิ้มแฉ่งให้มัน " ไม่มีไรหรอก เออว่าแต่คนที่มึงแอบชอบนี่ชื่อไรวะ "

" ชื่อนมปั่น คือแค่ชื่อก็น่าแดกมากแล้วอ่ะ  "

" ใจเย็นๆ นะ อ๋อเพราะแบบนี้ป้ะกูถึงเห็นมึงซื้อนมปั่นแดกบ่อยๆ "

" เออน่ะสิ "

" มึงมันร้ายเหมือนกันนะไอ้หนุ่ม "

แยมมันยกยิ้มมองผม " มันก็ต้องมีบ้างป้ะวะ "

" เออแยมแล้วแฟนที่เค้ามีนี่ผู้หญิงหรือผู้ชาย "

" ผู้หญิงน่ะสิ " แยมมันบอกก่อนจะทำหน้ามุ่ย " แต่ว่าเป็นผู้หญิงที่เจ้าชู้มากเลยอ่ะ เคยเต๊าะกูด้วย "

" ร้ายนี่หว่า งั้นมึงวางแผนแย่งมาเลย "

" กูก็คิดอยู่ "

" เออคิดมา มีไรบอกกูเดี๋ยวกูช่วยเอง "

" ขอบใจมึงนะปอง " แยมมันยิ้มหวานให้ผม ชอบรอยยิ้มแบบนี้จริงๆ เลยว่ะ โคตรฟีลผู้ชายอบอุ่น พี่สยามมันก็ยิ้มแบบนี้ได้นะแต่มันไม่ค่อยยิ้มให้เห็น

รายนั้นชอบยิ้มแบบหื่นกาม

รู้สึกว่าตัวเองจะนึกถึงพี่สยามมันเยอะเกินไปว่ะ เหมือนไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามก็จะโยงเข้าหามันได้ตลอดเลย นี่ผมเป็นไรวะ รึว่าพอรู้ใจตัวเองแล้วก็เลยทำให้คิดถึงมันได้ตลอดเวลา จิ๊....บ้าบอชะมัด โคตรรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย

เพราะพี่สยามนั่นแหละ

หลังจากที่ผมงอแงคนเดียวในใจเสร็จ เราก็เดินมาจนถึงเซเว่นแล้วครับ รถมินิคูเปอร์สีดำที่คุ้นตาจอดอยู่ด้านหน้า อย่าบอกนะว่าพี่สยามมันก็มาเซเว่นฯ น่ะ พอคิดได้แบบนั้นผมก็รีบเดินเข้ามาด้านใน ดวงตาเบิกว้างทันทีเมื่อเห็นร่างสูงของพี่สยามกำลังรอจ่ายเงินอยู่ที่เคาท์เตอร์ มือหนานั่นกุมหัวตัวเองไว้ตลอดเพื่อห้ามเลือดที่ไหลเป็นทาง

" พี่สยาม "

เจ้าของชื่อหันมามองทางผมทันที " ปอง "

" มึงเป็นอะไรทำไมเลือดถึงได้เลอะเต็มไปหมดแบบนี้ " ผมเดินเข้ามาจนชิดตัวมันพลางถามด้วยความเป็นห่วง " มึงหัวแตกด้วยใครทำอะไรมึง "

" เดี๋ยวไปคุยกันข้างนอกนะ อ่ะนี่เงินครับ " พี่สยามจ่ายเงินก่อนจะหยิบของแล้วเดินออกไปรอหน้าเซเว่นฯ

ผมหันมองแยม " มึงซื้อของไปให้พวกมันละกัน กูคงไม่กลับไปห้องมึงแล้วนะแยม "

" เออกูเข้าใจ มึงไปดูแลพี่สยามเถอะ "

" โอเค " ผมรับคำก่อนจะรีบเดินออกมาหาพี่สยาม มันนั่งกุมหัวตัวเองอยู่นิ่งๆ เห็นเลือดที่ไหลเยอะแบบนั้นนี่ใจไม่ดีเลยว่ะ

" ปอง " เจ้าตัวเงยหน้ามองผม " ขอโทษนะ "

" ขอโทษทำไม แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นทำไมหัวแตกแบบนี้ล่ะ "

" ก็จับตัวไอ้คนที่มาก่อกวนไงแล้วก็มีสู้กันนิดหน่อยน่ะ ที่หัวแตกนี่เพราะโดนแจกันฟาด โคตรมึนเลยอ่ะ "

" ไหวไหม ไปหาหมอนะ เดี๋ยวกูพาไป เอากุญแจรถมาสิ " ผมไล่จับตามกระเป๋าเสื้อพี่สยามเพื่อจะหากุญแจรถ แต่เจ้าตัวกลับดึงผมไปกอดไว้นิ่งๆ " พี่สยาม "

" ขอโทษนะ "

เสียงอ่อนๆ นั่นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ผมไม่รู้ว่ามันขอโทษผมเรื่องอะไร เรื่องที่คุยโทรศัพท์กันหรือว่าอะไรวะ คือในหัวผมตอนนี้มีแต่ความเป็นห่วงมันเต็มไปหมด เลือดที่ไหลออกมานี่ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ อาบหน้าไปครึ่งนึงเลยอ่ะ ใจนี่อยากจะพาไปโรงพยาบาลมากแต่ก็ติดอยู่ที่มันกอดผมไม่ยอมปล่อยเนี่ยะ

" พี่สยาม "

"..........."

" พี่สยาม " ผมเขย่าตัวมันเบาๆ แต่มันก็นิ่ง " มึงอย่ามานิ่งแบบนี้นะ "

ตุบ

ร่างสูงที่กอดผมอยู่เอนตัวล้มลงไปนอนแทน ม่ายยยยย มึงอย่ามาหลับไปแบบนี้นะพี่สยามกูไม่ตลกกับมึงเลยนะ ผมรีบประคองมันขึ้นมาก่อนจะตบแก้มเบาๆ เพื่อเรียกสติ แต่คนตรงหน้าก็ไม่มีวี่แววจะลืมตาขึ้นมาเลยสักนิด

" พี่สยาม!!! "

แยมมันเดินออกมาจากเซเว่นฯ " ปอง "

" ช่วยพามันขึ้นรถหน่อยกูจะพามันไปโรงพยาบาล " ผมรีบล้วงหากุญแจรถก่อนจะปลดล็อค " เร็วแยม "

" โอเค " แยมมันรีบมาช่วยประคองพี่สยามไปจนถึงรถ

ผมขึ้นมานั่งฝั่งคนขับก่อนจะคาดเบลท์ให้ไอ้คนที่สลบอยู่ " แยมมึงช่วยไปบอกพี่ถิ่นไททีนะว่ากูพาพี่สยามไปโรงพยาบาล ฝากบอกทุกคนด้วย "

" ได้ ขับรถดีดีนะมึง "

" เออ " ผมรับคำก่อนจะออกรถทันที ใจคอไม่ดีเลยว่ะ

ผมเป็นห่วงมันมาก ยิ่งมันสลบไปแบบนี้ผมก็กลัวว่ามันจะเป็นอะไรไป หัวแตกแล้วเลือดไหลเยอะขนาดนี้ทำไมไม่ไปโรงพยาบาลวะจะมาเซเว่นฯ ทำไม ผมเห็นละไอ้ของที่มันซื้อมาน่ะ มีพวกยาที่ไว้ทำแผล มันเองคงคิดว่าตัวเองไหวเลยคิดว่าจะทำแผลเองแน่ๆ มันอาจจะไม่อยากให้ผมรู้ก็ได้เรื่องที่มันเจ็บตัวถึงขนาดนี้

" อย่าเป็นอะไรนะ " ผมเลื่อนมือไปกุมมือคนข้างๆ ไว้แน่น " ต้องอยู่ง้อกูก่อน รู้ใช่ไหม "

อดทนหน่อยนะพี่สยาม





โรงพยาบาล M

ผมนั่งมองคนที่หลับอยู่บนเตียงนิ่งๆ มือก็กุมมือมันไว้ไม่ยอมปล่อย พี่สยามปลอดภัยแล้วครับ ถ้ามาช้ากว่านี้ก็แย่เหมือนกัน หมอบอกว่าที่สลบไปก็เพราะเสียเลือดมาก หัวนี่เย็บไป 5 เข็มแน่ะ แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกที่โรงพยาบาลไม่มีเลือดกรุ๊ป O เนคกาทีฟของพี่สยาม แต่ก็โชคดีว่าผมก็เป็นคนที่มีเลือดกรุ๊ป O เนคกาทีฟเหมือนกัน

โชคดีมากจริงๆ

ตอนนี้เลือดผมก็อยู่ในตัวพี่สยามแล้วแหละ เกิดมานี่ไม่เคยบริจาคเลือดให้ใครเลยนะ มันเป็นคนแรกเลย ถ้ามันตื่นมาแล้วรู้ว่าผมเป็นคนให้เลือด มันคงจะซึ้งน่าดูเลยว่ะ

ผมยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมันเบาๆ " รีบตื่นเร็วๆ นะ "

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

" เข้ามาเลยครับ " สิ้นเสียงของผม เจ้าขาก็เดินนำเข้ามาพร้อมกับบรรดาเพื่อนๆ ของพี่สยาม สภาพแต่ละคนทำไมมันดูสะบักสะบอมขนาดนั้นวะ

" สวัสดีครับพวกพี่ๆ "

" สวัสดีครับ " พี่ขุนศึกรับไหว้ก่อนจะมองพี่สยามด้วยความเป็นห่วง " มันเป็นไงบ้าง "

" ก็หัวแตกเย็บไป 5 เข็มน่ะครับ แล้วก็เสียเลือดมาก นี่หมอให้เลือดไปแล้วก็รอแค่มันฟื้น โดยรวมเค้าก็บอกว่าปลอดภัยแล้ว "

" ดีจริงๆ ที่ไม่เป็นไรมาก " เจ้าขายกมือพี่สยามขึ้นมากุมไว้แน่นก่อนจะหันมามองผม " ขอบคุณนะคะปอง ที่พาพี่สยามมาโรงพยาบาล "

" ไม่เป็นไรครับ แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น พวกพี่ถึงได้เจ็บตัวกันถึงขนาดนี้ "

พี่ข้าวก้องยกมือขึ้นแตะมุมปากที่เป็นรอยช้ำ " ก็ไอ้พวกที่มาก่อกวนน่ะ วันนี้มันมาเป็นสิบเลยไง อารมณ์เหมือนจะมาพังร้านเลยแหละแต่ก็ดีว่าที่พวกเราคิดจะจับพวกมันวันนี้ "

" แล้วจับได้ครบไหมพี่ "

" ครบ จับได้ทุกคน มันเป็นพวกเด็กบริหารปี 1 เหตุก็เพราะมาเต๊าะพี่ถิ่นไทแล้วพี่เค้าไม่เล่นด้วยนั่นแหละ มันคงแค้นแล้วคิดจะมาพังร้าน "

" โหเหตุผลแม่งแบบ จิ๊....เล่นมันให้หนักเลยนะพี่ คนแบบเนี้ยะปล่อยไว้ไม่ได้เอาจริงๆ ดูมันทำพี่สยามดิ่ "

พี่ข้าวหอมยกมือขยี้หัวผมเบาๆ " เรานี่เป็นห่วงไอ้สยามจริงๆ เลยนะ "

" ก็ต้องเป็นห่วงสิพี่ก็มันเป็น....." ผมชะงักไปแปปนึง " มันเป็นพี่รหัสผมไง "

" นั่นสินะ " พี่ขุนศึกยิ้มหวานให้ผม ผมเองก้ได้แต่ฉีกยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้

พวกพี่อย่ามาทำเป็นเหมือนรู้เรื่องของผมกับพี่สยามได้ไหมเนี่ย ผมยังปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับนะ ไว้ถ้าเปิดให้โลกรู้เมื่อไหร่ อยากจะแซวก็เอาให้เต็มที่เลย ผมเดินมานั่งที่โซฟา ตาก็มองคนที่นอนอยู่บนเตียงอยู่อย่างนั้น ถ้ามันตื่นมาผมมีเรื่องต้องบ่นมันหลายเรื่องเลย ทั้งเรื่องที่มันหัวแตกแต่ดื้อไม่ยอมมาโรงพยาบาลตั้งแต่แรก ทั้งเรื่องที่มันกวนตีนผมในโทรศัพท์ เออต้องถามเรื่องที่มันขอโทษผมด้วยว่ามันขอโทษทำไม แต่ก่อนจะถามหรือจะดุเนี่ยะคงต้องกอดมันแน่นๆ ก่อน

เพราะงั้นรีบฟื้นนะพี่สยาม....

กูรอกอดมึงอยู่นะ







TBC.

สวัสดีเหล่ารี้ดที่รักของชาลทุกคน ชาลมาส่งนิยายแล้วค่ะ ชาลพักการลงนิยายไปหลายวันเลยเพราะอาการป่วย ตอนนี้ก็ยังไม่หายดีเท่าไหร่ ยังเป็นไข้อยู่แต่ว่าไม่ได้กินยาต่อแล้วล่ะค่ะเพราะมันเกินวันที่หมอกำหนด แต่ชาลก็ดีขึ้นเยอะแล้วแหละ ปีใหม่ก็คงจะหายพอดี
ยอมรับว่าตอนที่แต่งบทนี้มีน้ำตาซึมหน่อยๆ สงสารพี่สยาม เจ็บตัวจนต้องเข้าโรงพยาบาล เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อก็ต้องรอติดตาม
เหลือขุนหนมที่มีคิวลงวันนี้นะ เจอกันตอนสองทุ่มนะคะ
ถ้าชอบก็คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอย ได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis  นะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2017 20:50:04 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ร้ายๆๆๆกาจๆๆๆ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
หยัมปองงงงงงงงง

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่สมปองนี่ยังไง  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวแตกเลือดไหล ยังเดินมาซื้อของเซเว่น
หรือจะซื้อยา ผ้าพันแผล ไปทำแผลเอง
แทนที่จะไปหาหมอ แปลกๆนะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สมปองว่าไง สามีสุดที่่รักโดนทำร้ายอ่ะ จะลุยไหม  :fire:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
พี่หยัมขอโทษปองเรื่องอะไรกันแน่
ค้างใจมาก

ขอโทษเรื่องหัวแตก
หรือว่าเรื่องอื่น

รอให้พี่หยัมตื่นฟื้นขึ้นมาบอกให้ชัดเจนอีกที
ไม่ใช่เรื่องมาม่าใช่ไหม..พี่หยัม
หุหุ

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 28 ความเป็นห่วงของสมปอง



พี่สยามนี่ขี้เซาชะมัด

ผ่านไปจะ 3 วันมันยังไม่ฟื้นเลย

คนรอนี่ก็เป็นห่วงจนจะบ้า

ผมเลื่อนมือไปจับมือคนขี้เซามากุมก่อนจะฟุบหน้าลงกับเตียง ไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่ยอมตื่นสักที ถามหมอเขาก็บอกว่าน่าจะเป็นเพราะร่างกายอ่อนเพลีย แต่โดยรวมมันก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แผลตรงหัวที่แตกก็สมานกันดี ไม่มีอาการอักเสบด้วยซ้ำ พอฟังหมอพูดแบบนั้นผมก็อยากจะทุบๆๆ ให้มันฟื้นขึ้นมาชิบ มันไม่คิดถึงผมบ้างรึไงนะ

ผมนี่คิดถึงมันจะแย่

มันก็จริงอยู่ว่าผมอยู่ข้างๆ มันตลอด แต่ว่าพี่มันก็ได้แค่นอนเป็นผักแบบนี้อ่ะ ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่มันจะตื่น ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองต้องทำยังไง ลันตาบอกว่าให้ผมลองจูบมันสิเหมือนที่เจ้าชายจูบเจ้าหญิงนิทราก็ได้ คือตอนที่ได้ยินก็อยากจะสวนกลับไปว่าจูบจนปากจะแตกอยู่ละ แม่งยอมตื่นที่ไหนล่ะ

น่าทุบชะมัด

ตอนนี้เป็นเวลาประมาณทุ่มกว่าๆ ละครับ พี่ถิ่นไทเขาจะมาก็ตอน 2 ทุ่ม ช่วงหลายวันมานี้พี่เขาก็ยุ่งเรื่องคดีอยู่ ผมก็เลยอาสาเฝ้าพี่สยามให้ อยากให้มันฟื้นขึ้นมาแล้วเจอผมคนแรกนะ มันจะได้รู้ไงว่าผมอยู่ข้างมันตลอด นี่ตอนเรียนก็คอยแต่นั่งเป็นห่วงมัน ไม่เป็นอันจะเรียนจนเพื่อนๆ ด่าอ่ะ เนี่ยะ เดี๋ยวถ้ามันตื่นมาผมต้องด่ามันเรื่องนี้ด้วย

" อืมมม....มม......."

" หืม " ผมเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงทันที " พี่สยาม " เสียงนั่นมันมาจากมึงใช่ไหม

กูไม่ได้หูฝาดใช่ไหม

" อื้มม.ม...." คนที่นอนอยู่ตรงหน้าค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ ดวงตาคมมองผมก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา

" มะ...มึงฟื้นแล้ว " ผมยกมือไปกุมแก้มมันก่อนจะเกลี่ยเบาๆ

" ปอง....."

" เดี๋ยวกูไปบอกหมอก่อน " ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นเพื่อจะเดินออกไป

พี่สยามรั้งข้อมือผมไว้ " อยู่ด้วยกันก่อนได้ไหม " มันเอ่ยบอกผมเสียงพร่า

" กูอยู่กับมึงมาตั้งกี่วันแล้วรู้ไหม มึงหลับไปเกือบ 3 วันเลยนะไอ้บ้า " ผมบ่นก่อนจะนั่งลงที่เดิม มือก็จับมือมันไว้แบบนั้น

" ขอโทษนะ "

" ขอโทษอีกละ เออมึงฟื้นมาก็ดี ก่อนที่มึงจะสลบไปมึงพูดขอโทษกูทำไม " เรื่องนี้คาใจกูมาหลายวันเลยนะพี่สยาม ถ้ามึงบอกว่ามึงจำไม่ได้นี่กูจะทุบให้มึงสลบไปอีกรอบเลยคอยดู

" ก็ขอโทษเรื่องที่ผิดสัญญาไง มึงบอกว่าให้กูดูแลตัวเองดีดีแต่กูก็ทำไม่ได้ กูไม่ระวังจริงๆ นั่นแหละถึงได้แผลมาแบบนี้ "

" ถ้าเป็นเรื่องนั้นก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้มึงปลอดภัยดีกูก็โอเคแล้วล่ะ แต่ถ้าวันหลังเกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้วมึงได้แผลใหญ่แบบนี้มึงต้องมาโรงพยาบาล ไม่ใช่ไปซื้อยาทำแผลที่เซเว่นฯ มึงเกือบตายเลยนะเพราะว่าเสียเลือดมาก เลือดตัวเองก็เป็นเลือดหายากด้วย นี่โชคดีแค่ไหนที่เราเลือดกรุ๊ปเดียวกันน่ะ "

" มึงเป็นคนให้เลือดกูหรอ "

" ใช่สิ กูไม่อยากให้มึงตายหนิ อีกอย่างถ้ามึงตายแล้วกูจะอยู่กับใครล่ะ มึงมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบกูไปทั้งชีวิตนะไม่รู้ตัวรึไง "

พี่สยามมันคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ผมพล่ามให้ฟัง ที่พูดนั่นจริงจังเลยนะครับ ผมรู้อยู่หรอกว่าไม่มีใครอยู่ด้วยกันได้ตลอดไป วันใดวันนึงมันก็จะต้องมีคนนึงที่จากไปก่อน แต่แบบมึงจะมาจากไปตอนอายุ 20 ก็ไม่ใช่เรื่องไหมล่ะ เป็นไปได้ผมก็อยากอยู่กับมันไปนานๆ อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ เราสองคนยังมีอะไรอีกตั้งเยอะที่ยังไม่ได้ทำด้วยกัน อย่างน้อยก็ขอให้ได้ทำมันก่อนที่จะจากกันเถอะว่ะ

ไม่ได้อยากดึงให้รู้สึกหน่วงนะ....แต่มันคือความจริงที่ต้องเกิดขึ้นสักวัน

" ขอบคุณนะปอง "

" เออ ตอบแทนด้วยการรักกูมากๆ ละกัน "

" แค่นี้ก็รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว " พี่สยามเลื่อนมือมาเกลี่ยแก้มผม " ขึ้นมาให้นอนกอดหน่อย "

" บ้าสิ เดี๋ยวพี่ถิ่นไทก็มาละเนี่ยะ ถ้าเค้าเห็นจะทำยังไง "

" ไม่เป็นไรน่ะ นะ ขอกอดหน่อย " มึงไม่ต้องมาทำเสียงอ้อนกับตาปริบๆ แบบนั้นเลยนะพี่สยาม เดี๋ยวกูใจอ่อน

" ไม่ได้ เผื่อหมอเข้ามา "

" ก็เรื่องของหมอสิ "

" เอ๊ะ มึงนี่ "

" นะครับนะ " พี่สยามยกมือขึ้นไปจุ๊บเบาๆ " นะครับปอง "

เออโอเค

กูยอม....ยอมแล้ว

" ถ้าหมอด่ากูจะด่ามึง " ผมขยับขึ้นไปบนเตียงคนไข้ก่อนจะเอนตัวนอนลงข้างๆ หัวก็หนุนแขนพี่สยามไว้

มันขยับเข้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ " ถ้าหมอด่าเดี๋ยวกูเตะหมอให้ "

" ปากดี " ผมบอกมันก่อนจะอ้าปากหาว " ง่วงชิบ "

" นอนสิครับ ให้ร้องเพลงกล่อมไหม " มือเรียวเลื่อนมาลูบหัวผมเบาๆ

" ไม่ต้อง แค่นี้ก็พอ " ผมขยับเข้าซุกพี่สยามก่อนจะเลื่อนมือไปกอดมันไว้

ไม่ได้รับสัมผัสนี้มาหลายวันเลยนะ คิดถึงจริงๆ ว่ะ ดีใจนะครับที่พี่สยามฟื้นน่ะ ผมนอนไม่พอมาหลายวันเพราะมันเนี่ยะ อย่าว่าแต่ไม่ได้นอนเลยขนาดกินยังกินแทบไม่ลง เดี๋ยวถ้าพี่สยามออกจากโรงพยาบาลผมจะพามันไปหาอะไรอร่อยๆ กิน ให้น้ำหนักแม่งขึ้นมาสักสิบโล แต่ก่อนที่จะถึงเวลานั้นผมควรนอนก่อน

ร่างกายมันบอกว่ามันไม่ไหวแล้ว

คร่อกกกก.....



[ บันทึกพิเศษ : สยาม ]



ฟื้นมาแล้วได้เจอคนที่ตัวเองรักนี่มันดีเนอะ

จะดีกว่านี้ถ้าไม่ปวดแผลน่ะอิเวงงง

ผมยกมือข้างที่ว่างแตะหัวตัวเองตรงที่แตกเบาๆ ไม่รู้ว่าเย็บไปกี่เข็ม แม่งโคตรเจ็บเลย ไอ้บ้านั่นแม่งก็ฟาดไม่ยั้งแรงด้วยนะ ที่สำคัญคือแจกันใบนั้นแพงมาก พี่ไทรักแจกันใบนั้นมากด้วย คิดแล้วอยากจะจับไอ้คนที่มันเอามาฟาดหัวผมมากระทืบๆๆๆ ให้แตกเป็นเสี่ยงเหมือนแจกันนั่น

หงุดหงิดชิบ

ไม่รู้ว่าตอนนี้เรื่องจะเป็นยังไง ปองบอกว่าผมสลบไปตั้งเกือบ 3 วัน ชีวิตไม่เคยหลับนานเว่อร์อะไรแบบนี้เลย น้องคงเป็นห่วงผมมากแน่ๆ สีหน้าดูอ่อนเพลียแถมดูซูบด้วย รู้สึกผิดนะที่ตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องเป็นแบบนี้ หลังจากนี้ผมก็ต้องดูแลตัวเองและดูแลน้องให้ดีกว่าเดิม

เหตุการณ์แบบนี้มันต้องไม่เกิดขึ้นอีก

จะว่าไปเรื่องที่เกิดขึ้นเนี่ยะมันก็ทำให้ผมได้รู้นะว่าปองเป็นห่วงและคอยเฝ้าผมอยู่ตลอด เลือดที่ไหลอยู่ในตัวผมตอนนี้มันก็มีของน้องปนอยู่ด้วยสินะ มันโชคดีจริงๆ นั่นแหละที่เรามีเลือดกรุ๊ปเดียว ปกติเลือดกรุ๊ป O เนคกาทีฟมันไม่ได้หาได้ทั่วไปขนาดนั้น เอาจริงๆ คือน้อยคนมาก แล้วยิ่งเลือดกรุ๊ป O เนี่ยะมันจะต้องรับจากคนที่มีเลือดกรุ๊ป O เหมือนกัน

ถ้าผมไม่มีสมปองผมจะเป็นยังไงนะ

อาจจะไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ก็ได้

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

สิ้นเสียงเคาะ เจ้าของร่างสูงที่สวมเสื้อกราวน์สีขาวสะอาดตาก็เดินเข้ามาในห้อง ริมฝีปากบางเผยยิ้มให้ผมเบาๆ " ฟื้นแล้วสินะครับ "

" ครับหมอ " ผมยิ้มบางๆ ให้ " คือ....ขอให้น้องเค้านอนตรงนี้นะครับ หมอไม่ว่าใช่ไหม "

" ตามสบายเลยครับ สีหน้าน้องเค้าดูอ่อนเพลียมาหลายวัน ได้พักผ่อนบ้างก็ดีเหมือนกัน " หมอบอกก่อนจะเดินมายืนอีกฝั่ง " ขอหมอดูแผลหน่อยนะครับ " เขาบอกก่อนจะค่อยๆ แกะผ้าที่พันหัวผมออก

ผมมองหน้าหล่อๆ ของหมออย่างพิจารณา คิ้วโก่ง ตาคม จมูกโด่ง ปากนี่บางเชียว ผิวก็ขาวจั๊วะ หมอเขาชื่อว่า ศิรันย์ ครับ ผมเห็นป้ายชื่อไงไม่ใช่อะไร โรงพยาบาลนี้ก็ดีเนอะที่มีหมอหล่อขนาดนี้ ผมว่าคนไข้สาวๆ คงไม่อยากหายป่วยอ่ะ แปลว่าตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลเขาคงเป็นเจ้าของไข้ผมสินะ ไหนๆ แล้วก็ขอชมเขาหน่อยละกัน

" หมอนี่....หล่อจังเลยนะครับ "

หมอหลุดยิ้มออกมาทันที " พูดแบบนี้หมอก็เขินนะครับ "

" ผมพูดจริงๆ หนิ แบบนี้คนไข้สาวๆ คงจะหลงหมอไม่น้อยเลยน่ะสิ "

" ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ " เขายิ้มบางๆ ให้ผมก่อนจะจดอะไรยุกยิกๆ ใส่กระดาษ " แผลปิดสนิทดีไม่มีอาการอักเสบนะครับ คนไข้มีอาการอื่นไหมหลังจากที่ฟื้นมา "

" หิวครับ หิวมากๆ "

" ก็ไม่แปลกเท่าไหร่นะเพราะไม่ได้ทานอะไรมาหลายวัน เดี๋ยวหมอจะให้ผู้ช่วยยกอาหารมาให้ เอาเผื่อน้องด้วยไหม "

ผมพยักหน้ารับเบาๆ " งั้นขอรบกวนหมอด้วยนะครับ "

" ไม่เป็นไรครับ....หมอชอบน้องเค้าน่ะ "

"......."

เป็นหมอดีดีไม่ชอบ.....พูดงี้นี่อยากเป็นศพแทนสินะ

" เอ่อ....หมอไม่ได้หมายความว่าชอบน้องในทำนองนั้นนะครับ ที่หมอชอบเนี่ยะคือการกระทำที่น้องมีต่อคุณ "

" อ๋อ...." รอดตัวไปนะหมอนะ

" คือตั้งแต่วันที่น้องพาคุณมาโรงพยาบาลน่ะ สีหน้าเค้าก็แสดงความเป็นห่วง ความกังวล เค้าไม่ใช่คนตัวเล็กนะแต่เมื่อเทียบกับคุณก็ต้องถือว่าตัวเล็กกว่ามาก หมอเห็นตอนที่เค้าพยายามพยุงคุณที่สลบออกมา ปากก็ตะโกนเรียกเรียกชื่อคุณตลอด "

" น้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรอครับ "

หมอพยักหน้ารับเบาๆ " ใช่ ตอนที่หมอจะเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เค้าก็พูดย้ำกับหมอแค่ว่าให้หมอช่วยคุณให้ได้ เค้าพูดแค่นั้นจริงๆ "

ผมอมยิ้มออกมาหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่หมอพูด มันรู้สึกดีดีจริงๆ นะที่น้องทำแบบนั้นน่ะ ถ้าปองตื่นมาผมคงต้องบอกขอบคุณซ้ำๆ แล้วล่ะ ดีจริงๆ ที่ได้ไอ้เด็กบ๊องนี่มาเป็นเมีย เชื่อคำพูดที่แม่บอกแล้วครับว่ามีเมียดีเป็นศรีต่อชีวิต เดี๋ยวถ้าปิดเทอมใหญ่ ผมพาน้องไปไหว้พ่อกับแม่ดีกว่า เชื่อได้เลยว่าที่บ้านผมต้องชอบลูกสะใภ้คนนี้แน่ๆ

ก็นะ....น่ารักน่าเอ็นดูซะขนาดนี้

" ขอบคุณหมอนะครับที่เล่าเรื่องทั้งหมดนี่ให้ผมฟัง "

" ไม่เป็นไรหรอกครับ น้องเค้าคงรักคุณมากถึงได้ทำถึงขนาดนั้น ดูแลกันและกันให้ดีนะครับ " หมอบอกก่อนจะยิ้มหวาน

" ครับหมอ "

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

" พี่หมอศิ " ร่างบางของเด็กผู้ชายน่าจะช่วงประมาณมัธยมปลายเดินยิ้มหวานเข้ามาในห้อง "  ขออนุญาตนะครับคุณคนไข้ "

" พี่บอกหนูแล้วนะว่าให้รออยู่ที่ห้อง " หมอเอ็ดคนตัวเล็กเบาๆ

ใบหน้าหวานเบะขึ้นน้อยๆ " ก็อยากมาดูพี่ทำงานหนิ วันนึงหนูก็ต้องเป็นหมอเหมือนพี่นะ ถือว่าดูงานเผื่ออนาคตไง "

" หนูนี่มันจริงๆ เลย "

" หนูทำไมเล่า " น้องเดินมาเกาะแขนหมอก่อนจะมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ ผม " ทำไมพี่เค้าถึงได้หลับบนเตียงคนไข้ล่ะครับ "

" พี่เค้าพักผ่อนน้อยน่ะ " ผมตอบน้องเขา มือก็ลูบหัวคนที่หลับอยู่เบาๆ

คนตัวเล็กขยับมากระซิบใกล้ๆ ผม " เหมือนพี่หมอศิเลยครับ เค้าก็พักผ่อนน้อยเหมือนกันจนบางครั้งพาลให้ผมพักผ่อนน้อยไปด้วย "

" น้องปราย " หมอรั้งเอวน้องออกให้ห่างจากผม " หนูพูดอะไรน่ะหืม อยากให้พี่ติดคุกรึไง "

" หนูเปล่านะ " น้องยิ้มหวานจนตาหยี

ผมนอนมองสองคนตรงหน้าอย่างขำๆ ไอ้น้องน่ารักๆ นั่นคงเป็นเด็กของหมอสินะ รังสีความรักนี่แผ่กระจายเชียว หมอนี่น่าจะแก่กว่าผมหลายปีอยู่ ส่วนน้องนั่นก็น่าจะอายุน้อยกว่าผมหลายปีเหมือนกัน ก็นะ ชุดนักเรียนยังเป็นกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินอยู่เลย แหม่ ไม่คิดเลยว่าหมอจะเป็นพวกเดียวกันกับผม คาดไม่ถึงด้วยว่าจะกินเด็กแบบนี้

ร้ายกาจชะมัด

" งั้นหมอขอตัวก่อนดีกว่า เดี๋ยวสักช่วงตี 3 จะมาวัดความดันให้นะครับ "

" ได้ครับหมอ "

" ไปเร็วน้องปราย "

" ค้าบ " เจ้าตัวขานรับเสียงหวาน " หายไวไวนะครับ " น้องบอกผมก่อนจะเกี่ยวแขนหมอแล้วพากันเดินออกไป

ผมจุ๊บเรือนผมปองเบาๆ " ถ้ามึงพูดจาหวานๆ แบบนั้นกับกูบ้างมันจะเป็นยังไงนะ "

" ก็คงน่าขนลุกน่าดู "

เสียงนี้มัน....

" ขนลุกอะไรกันล่ะพี่ไท " ผมทำหน้ามุ่ยใส่คนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง " น้องเพิ่งฟื้นก็ทักทายด้วยคำแบบนี้น่ะนะ "

" ฮ่าๆๆๆ ดีใจด้วยที่ฟื้นขึ้นมาได้ละกันนะน้องสยามของพี่ " พี่ไทยิ้มหวานก่อนจะก้มจูบหน้าผากผมดังจ๊วบ ถ้าไอ้ชาเห็นมันคงหึงจนเป็นบ้าอ่ะ

ดีไม่ดีกระทืบผมซ้ำ

พี่ไทเดินไปหยิบเก้าอี้มาก่อนจะนั่งลงข้างเตียงพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คงเหนื่อยกับเรื่องที่ร้านแน่เลย ร้านไอติมน่ะเสียหายพอสมควรเลยนะครับ กระจกนี่แตกเต็มไปหมด กว่าจะซ่อมร้านให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็คงใช้เวลาไม่น้อย ช่วงที่ไม่ได้เปิดร้านนี่ก็จะเสียรายได้ด้วย เดี๋ยวต้องเรียกค่าเสียหายไอ้พวกบ้านั่นให้หนักเลย เอาให้พวกแม่งต้องไปขายไตเพื่อเอาเงินมาใช้

จะไม่มีการปรานีใดใดทั้งสิ้น

" แล้วคดีไปถึงไหนละ "

" ไอ้พวกนั้นก็อยู่ในคุกอ่ะ ตำรวจเค้ายังไม่ให้ประกันตัวเพราะว่ามันมีการทำร้ายร่างกายเราไง เดี๋ยวต้องไปสอบปากคำด้วยนะ "

" ได้เลย เล่นพวกแม่งให้หนัก อยู่ดีไม่ว่าดีนัก "

" แล้วนี่ทำไมถึงมานอนกกกันได้น่ะหืม " พี่ไทเท้าคางมองน้อง " ลูกเค้ามีพ่อมีแม่นะ "

" ก็ลูกเค้าน่ารักหนิ ว่าแต่ไอ้ชาไม่ได้มาด้วยหรอ "

" ไม่อ่ะ นี่ไล่ให้กลับไปซักผ้า แต่ว่าถ้าซักเสร็จก็คงจะมา "

ผมพยักหน้ารับ " ไอ้ชามันหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยสิ เรื่องพี่ไทอ่ะ "

" ใช่น่ะสิ นี่ยังกลัวอยู่เลยว่าชาจะไปตามกระทืบไอ้พวกนั้น "

" นั่นสินะ พี่ไทก็ต้องห้ามนั่นแหละ มันฟังพี่คนเดียวนะ กับเพื่อนแม่งก็ไม่ฟัง "

พี่ไทถอนใจออกมา " ดื้อเหมือนเราไม่มีผิด "

" น้องไม่ได้ดื้อน่ะ " ผมเถียงทันที " นี่เป็นเด็กดีมากๆ ด้วย "

" อื้ออ.อ.อ.อ....." เสียงครางจากคนที่หลับอยู่ดังขึ้น ผมเสียงดังเกินไปสินะน้องถึงได้ประท้วงออกมาแบบนี้

" ชู่วววว " พี่ไทยกมือขึ้นลูบหัวปองเบาๆ พลางเหลือบมองผม " เราเงียบให้น้องได้นอนดีกว่า "

เห็นด้วยเลยครับ

ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก มือก็ลูบหัวน้องอยู่แบบนั้น ปองเฝ้าผมมาตอนหลับมาเยอะละ ให้เป็นหน้าที่ของผมบ้าง ดูจากทรงแล้วน้องคงจะตื่นอีกทีตอนเช้าเลยล่ะมั้ง เดี๋ยวผมคิดมุกเสี่ยวๆ ไว้เล่นตอนที่น้องตื่นขึ้นมาละกัน อีกอย่างคือต้องบอกรักด้วยเสียงหวานๆ ด้วย ผมอยากเห็นน้องยิ้มครับ ยิ้มกว้างๆ อย่างมีความสุข

ไว้รอน้องตื่นก่อนละกัน

" อืม.ม.ม....อย่าเป็นอะไรนะพี่สยาม.....อยู่กับกูก่อน....อื้ออ.อ..."

" ชู่ววว...จุ๊ๆๆ " ผมจุ๊บเรือนผมน้องซ้ำๆ " พี่อยู่นี่แล้วครับ....นอนเถอะนะ "

" อื้ม.ม.ม...พี่สยาม...."

ขนาดหลับไปแล้วยังละเมอถึงผมเลยอ่ะ

จะไม่ให้รักได้ไงวะ....



[ จบบันทึกพิเศษ : พี่สยาม ]










TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว พี่สยามฟื้นแล้วนะคะหลังจากสลบไปหลายวัน ก็บทนี้คงคลายความสงสัยเรื่องที่พี่สยามขอโทษได้แล้วนะ ชาลยังไม่ได้แก้คำผิดเลยนะคะ แต่งเสร็จก็เอามาลงเลย เดี๋ยวจะตามแก้ให้นะคะ เรื่องราวของคู่นี้ยังอีกยาวไกล จะเป็นยังไงต่อรอติดตาม
ถ้าชอบก็คอมเม้นต์เพื่อเปนกำลังใจให้กันได้นะคะ ช่วงเดือนมกรานี้คือช่วงต้องปั่นโปรเจ็กต์ฝึกงาน มันมีความเป็นไปได้สูงมากว่าชาลอาจจะไม่มีเวลามากพอที่จะแต่งนิยายลงได้ตามตารางเป๊ะๆ มันอาจจะเคลื่อนได้ เพราะงั้นติดตามข่าวสารการอัปเดตนิยายได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-01-2018 14:25:10 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
วันข้างหน้าจะเป็นยังไง..ช่างหัวมัน
ขอแค่วันนี้และทุกวันเรารักกัน..เท่านั้นก็พอ

ยิ่งอ่านยิ่งรัก
หยัมปอง

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สยามฟื้นแล้ว งั้นก้ผลัดการดูแลซึ่งกันและกันนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
คนเขียนสู้ๆจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ยๆๆๆ. น่ารักทำลายล้างมากๆๆๆ

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 29 เหตุเกิด ณ ร้านชาบ​ู


ผัวนี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ดื้อมาก

น่าทุบมากๆ ด้วย

" กูบอกให้มึงอยู่นิ่งๆ ไง "

" อื้มมม....มันเจ็บ "

" เพราะมึงอยู่ไม่นิ่งนี่แหละมันถึงเจ็บ " ผมดุมันเสียงขุ่น " ยังอีก....ปล่อยมือกูเดี๋ยวนี้ "

" กูเจ็บอ่ะ มึงทำเบาๆ สิ "

" นี่เบามือสุดละนะ "

" เจ็บ "

" จะเสร็จอยู่ละ " ผมบอกก่อนจะเอาเบตาดีนแตะเบาๆ ที่แผลบนหัวพี่สยาม แล้วเอาพลาสเตอร์กันน้ำแปะทับลงไป

ล้างแผลแค่นี้จะเป็นจะตาย

เกิดมาจะ 20 ปี ไม่เคยล้างแผลให้ใครแล้วใช้เวลานานชิบหายแบบนี้เลย ผมเริ่มล้างแผลให้มันตอน 9 โมงอ่ะ ตอนนี้แม่งจะ 10 โมงครึ่งละ มัวแต่โหวกเหวกโวยวายอะไรก็ไม่รู้ พี่สยามนี่โคตรพี่สยามเลย ตอนนี้มันก็กอดเอวผมไว้แน่นไม่ยอมให้ลุกออก คือผมนั่งคร่อมอยู่บนตักมันไง ความจริงไม่ได้อยากจะนั่งท่านี้หรอก แต่เพราะพี่สยามมันบังคับ

เรื่องมากไปอีก

นี่ก็ 2 วันแล้วครับที่มันออกจากโรงพยาบาล หมอสั่งว่าให้ล้างแผลทุกวันจนกว่าจะถึงวันตัดไหม พี่สยามนี่มันกาปฏิทินรอเลยอ่ะ มันไม่ชอบเวลาล้างแผลไง ฟีลเด็กดื้อขี้งอแงมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ถึงวันหมอนัดแล้วครับ ผมก็ต้องเป็นคนพามันไปโรงพยาบาล เนี่ยะ นอกจากทำหน้าที่เป็นเมียแล้วก็ต้องทำหน้าที่เป็นแม่มันด้วยนะ

เฮ้อ....เกิดเป็นสมปองนี่มันเหนื่อยจริงๆ

" ปล่อยกูได้แล้ว "

" อื้ออ.อ....อยู่แบบนี้ก่อน " มันบอกก่อนจะซุกหน้ากับไหล่ผม " คิดถึง "

" คิดถึงอะไรของมึง กูอยู่กับมึงแทบตลอดเวลาเลยเนี่ย "

" ความคิดถึงมันห้ามกันได้ที่ไหน "

ผมเลื่อนมือขึ้นไปลูบหัวมันเบาๆ " มึงนี่น้า...."

" ไปหาอะไรกินกันไหมครับ " มันละออกมาจากไหล่ก่อนจะมองผม " อยากกินชาบู "

" เอาสิ ลุกไปแต่งตัวเร็ว "

" ขอกอดอีกแปปนึง " มันเอ่ยอย่างอ้อนๆ ถ้ามึงมัวแต่จะกอดกูแบบนี้ล่ะก็นะ ชาบูไม่ต้องแดกแล้วไหมไอ้สัส

" เร็วๆ พี่สยาม กูหิวแล้วนะ "

" ก็ได้ " มันยอมปล่อยแขนแต่โดยดี ผมเลยใช้จังหวะนั้นรีบลุกออกมาก่อนจะไปหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยน

หลายวันมานี้พี่สยามมันขี้อ้อนผิดปกตินะครับ น่าจะเพราะว่าตัวเองยังไม่ได้กลับมาแข็งแรงเต็มที่ล่ะมั้ง นี่ผมยังคิดอยู่เลยว่าถ้ามันหายดีแล้วมันต้องจ้องจะแดกผมแน่ๆ เดี๋ยวต้องคิดวิธีเอาตัวรอดไว้รอ จะว่าไปอีกไม่กี่อาทิตย์ก็ใกล้สอบไฟนอลแล้วนะ ผมนี่ต้องต่อสู้กับควิซแทบทุกวัน สงสารสมองตัวเองมาก ยิ่งควิซของฟิสิกส์นี่แบบ อื้อหืออ.อ.อ...

เอามีดมาแทงผมเลยดีกว่าอาจารย์

ได้หมดเวรหมดกรรมกันไป

เดี๋ยวผมจะต้องเริ่มตั้งใจอ่านหนังสืออย่างจริงๆ จังๆ พี่สยามเองก็คงจะเหมือนกัน ช่วงใกล้สอบผมว่าจะให้มันติวฟิสิกส์เหมือนที่มันเคยติวให้ ผมค่อนข้างมั่นใจกับเกรดที่จะออกมาเทอมนี้พอสมควรเลยนะ ยกเว้นแค่ของฟิสิกส์ แต่ว่าคิดไว้แล้วว่าน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า C+ ไม่เป็นไรช่างแม่ง เทอมหน้าค่อยตั้งใจเรียนละกัน

ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม

" เสร็จยังปอง "

" เสร็จละ " ผมหยิบกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ใส่กระเป๋าผ้า " อ่ะกุญแจห้อง " ผมส่งกุญแจห้องให้มันก่อนจะเดินนำออกมา

เจ้าตัวล็อคห้องเสร็จก็เดินมาอยู่ข้างผม " กินที่ไหนดี "

" กินในห้างก็ได้นะ ได้ไปซื้อของเข้าหอด้วย ของหมดหลายอย่างละ "

" โอเค มึงขับนะ " มันบอกก่อนจะส่งกุญแจรถมาให้

" ได้ เออพี่สยามเดี๋ยวช่วงใกล้สอบมึงติวฟิสิกส์ให้กูหน่อยนะ "

" คิดค่าติวนะ "

" งั้นเดี๋ยวกูไปให้ลันตาติวให้ก็ได้ "

มันเบะปากใส่ผมทันที " ทำไมทำแบบนั้นล่ะเมีย "

" ก็มึงเรื่องมากอ่ะ "

" อื้ออ.อ....ติวให้ก็ได้ ให้กูติวนะ " พี่สยามมันจับแขนผมไปเขย่าๆ เหมือนเด็ก ผมก็ได้แต่มองมันนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรตอบไปสักคำ

ปล่อยให้มันติ๊งต๊องไปครับ

ผมปลดล็อคก่อนจะขึ้นรถ พี่สยามมันก็มานั่งทำหน้าเป็นตูดอยู่ข้างๆ ช่างแม่ง อย่าไปสนใจครับ เดี๋ยวมันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง การที่เราอยู่ด้วยกันเกือบเทอมนี่มันทำให้ผมรู้อะไรหลายๆ อย่างเลยนะ ช่วงที่มันอยู่โรงพยาบาลนี่ก็ได้รู้ว่ามันเองก็มีมุมอ่อนแอเหมือนกัน ตอนที่อยู่ด้วยกันแรกๆ มันไม่เคยแสดงอะไรแบบนี้ออกมาให้ผมเห็นเลยสักครั้ง

เก็บทุกอย่างไว้คนเดียวหมดเลย

ผมคิดว่าที่มันทำแบบนั้นก็คงเป็นเพราะว่าไม่อยากให้ผมเป็นห่วงมันล่ะมั้ง แต่มันไม่รู้เลยว่าสิ่งที่มันแสดงออกมากลับทำให้ผมเป็นห่วงมันมากกว่าเดิม พี่สยามมันต้องมีอะไรหลายๆ อย่างที่ปิดไว้ไม่ให้ผมรู้แน่ๆ เข้าใจอยู่นะว่าทุกคนก็ต้องมีเรื่องที่ต้องการจะเก็บไว้คนเดียว ผมเองก็เป็น มีหลายเรื่องเหมือนกันที่พี่สยามยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวผม

แต่ก็นะ....

เรามีเวลาเรียนรู้เรื่องของกันและกันทั้งชีวิตหนิจริงไหม

" ยิ้มอะไรอ่ะปอง " คนนั่งข้างๆ เอ่ยถาม

ผมเหลือบมอง " เปล่า....เออพี่สยามกูขอถามอะไรหน่อยสิ "

" ว่ามา "

" มึงว่าถ้าเราจะขอผู้หญิงสักคนเป็นแฟนเนี่ยะ ควรขอยังไง "

" ถามแบบนี้นี่คือ....." มันเอ่ยเสียงขุ่นมือก็ยกขึ้นมาดึงแก้มผมแรงๆ " จะทิ้งกูไปมีเมียหรอห้ะ "

" กูก็แค่ถามป้ะวะ ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไปมีเมีย ถ้ากูจะมีนะกูไล่มึงออกจากห้องไปนานละ "

" เออ ห้ามมี อย่างมึงอ่ะเป็นเมียกูน่ะดีละ "

" เออๆ ว่าแต่มึงจะบอกกูได้ยังว่าจะขอยังไง "

" กูไม่เคยขอผู้หญิงเป็นแฟนว่ะ เคยแต่ขอผู้ชาย แต่จะว่าไปมันก็ไม่ได้ต่างกันมากป้ะวะ การจะขอใครสักคนเป็นแฟนสิ่งสำคัญมันก็คือความรู้สึกที่เรามีให้เค้า ถ้าเค้าเองก็รู้สึกแบบเดียวกับเรา ก็ถือว่าแฮปปี้ คบกันเป็นแฟน "

" งี้นี่เอง " ผมใช้จังหวะที่รถติดไฟแดงหันไปมองพี่สยาม " งั้นเป็นแฟนกันป้ะ "

" นี่มึง....พูดจริงหรือล้อเล่นเนี่ยะ "

" ล้อเล่น " ว่าแล้วผมก็แลบลิ้นใส่มัน คนโดนหลอกก็ถลึงตาใส่พลางทำหน้าเหมือนอยากจะแดกหัวผม เห็นหน้ามันแล้วตลกว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

เมื่อกี้แอบคิดจริงจังเลยสินะมึง

" มึงนี่มัน....ไว้ให้กูหายก่อน กูจะเอามึงจนหมดแรงตายคาเตียงแน่ๆ " มันชี้นิ้วคาดโทษผม ในใจนั่นเคียดแค้นน่าดูเลยสินะ

" ใจคอจะเอากูจนตายเลยรึไง ใจร้ายชะมัด " ผมบ่นเสียงอ่อน

" กูก็พูดไปงั้นแหละ " มือเรียวเลื่อนมากุมแก้มผมเบาๆ " กูรักมึงมากนะ จะปล่อยให้ตายได้ยังไง " เจ้าตัวเอ่ยก่อนจะยิ้มหวานให้

ยอมเลยว่ะ

เอาใจกูไปเลยพี่สยามเอาไปเล้ยยยยยย

ผมนั่งอมยิ้มให้กับสิ่งที่มันพูด คำว่ารักจากพี่สยามนี่ทำให้ผมยิ้มได้ทุกครั้งที่ได้ยินจริงๆ นั่นแหละว่ะ ตัวมันเองก็คงรอที่จะฟังวันที่ผมบอกรักมันเหมือนกัน ไอ้เมื่อกี้ที่ผมถามเรื่องจะขอเป็นแฟนยังไงดีผมก็จริงจังนะ คิดว่าถ้ามันพูดออกมายังไงก็จะทำตามแบบที่มันพูด ผมอยากให้วันที่เราเป็นคบกันกลายเป็นวันพิเศษ ผมอยากเห็นมันมีความสุข เพราะงั้นก็ต้องคิดเยอะหน่อย

จริงจังกับมันแค่ไหนถามใจดู

ผมนี่โดนพี่สยามทำของใส่แน่เลยว่ะ




ห้างสรรพสินค้า

ผมเดินต้อยๆ อยู่ข้างหลังพี่สยาม ตอนนี้เกือบเที่ยงแล้วครับ หิวมากพร้อมจะแดกทุกอย่างที่ขวางหน้า ร่างสูงเดินนำผมเข้ามาในร้านชาบูก่อนจะเลือกนั่งโต๊ะชิดกระจก พอได้ที่นั่งแล้วผมก็จัดการจดของที่จะกินลงเต็มกระดาษ ร่างกายต้องการสันนอก สันอก สามชั้น หมูสไลด์ ต้องการจุ้งด้วยครับ

รู้จักจุ้งไหม....จุ้ง

" มึงเอาจุ้งไหมพี่สยาม "

" จุ้งอะไรวะ "

" จุ้งไงที่มันตัวส้มๆ " ผมเท้าคางมองมัน ทำไมต้องทำหน้างงแบบนั้นวะ เกิดมาไม่เคยกินจุ้งหรอ

" ไหนจุ้งมึง " พี่มันชะเง้อคอมองกระดาษที่ผมเขียน " ไหนมึงจิ้มให้กูดูซิ "

" นี่ไง "

" นี่มันกุ้ง จุ้งอะไรของมึง " มันบอกก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่ผม ผิดหรอที่เรียกว่าจุ้ง เรียกแบบนี้มาตั้งนานละนะ ไม่คิดจะกลับไปเรียกกุ้งด้วย

แล้วนี่จะซีเรียสอะไรวะ

" เออ นั่นแหละเอาไหม "

มันพยักหน้ารับเบาๆ " เอาแมงกระพรุนให้ด้วย "

" เค้าเขียนไว้ว่าถ้าอยากแดกแมงกระพรุนให้ไปจับเองที่ทะเล "

" ตลกละ เอามานี่เดี๋ยวกูเขียนเอง " พี่สยามมันแย่งกระดาษกับปากกาไปจากมือผม ทำไมเป็นเด็กชอบแย่งแบบนี้วะ เดี๋ยวกูก็เขียนไดอารี่ฟ้องพ่อซะหรอก

มึงโดนแน่

ผมนั่งมองพี่สยามมันจดอะไรยุกยิกๆ ใส่กระดาษก่อนจะยื่นส่งให้พนักงาน พนักงานสาวสวยยิ้มให้พี่มันตาเยิ้มเลยนะ นี่ไม่เห็นหรอว่าเมียเขานั่งอยู่นี่น่ะ จะว่าไปผมกับพี่สยามนี่เหมือนพี่น้องกันมากกว่านะ เวลาอยู่ด้วยกันสองคนข้างนอกผมรู้สึกแบบนี้อ่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองยังไง ผมรู้สึกได้เลยว่าตัวเองเริ่มจะมีอาการหึงหวงแสดงออกมามากเกินไปหลังจากที่รู้ใจตัวเอง

เดี๋ยวต้องคีพลุคละ

ถ้าพี่สยามมันรู้มันจะได้ใจ

" เมียครับ ดูนี่สิ " มันยื่นจอโทรศัพท์มาให้ผมดู เป็นคลิปวิดีโอลูกแมงกระพรุนกำลังว่ายน้ำครับ

" เมื่อกี้มึงเพิ่งสั่งแมงกระพรุน "

" เออจะแดกให้หมดเลย "

" มึงนี่นะ...." ผมส่ายหัวให้มันเบาๆ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้ " เดี๋ยวกูทำอะไรให้ดู " ผมยกมือขวามากำแล้ววางไว้บนหลังมือซ้ายก่อนจะขยับนิ้วของมือซ้ายให้พริ้วเหมือนแมงกระพรุน

" อะไรอ่ะ "

" แมงกระพรุนไง "

" นี่มันมือ ไม่ใช่แมงกระพรุนสักหน่อย "

ผมทำหน้าบึ้งใส่มันทันที " มึงนี่โคตรขัดขวางจินตนาการเลยว่ะ มันเป็นแมงกระพรุนเนี่ยะมันเป็นแมงกระพรุน " ผมโวยใส่มันก่อนจะทำมือแมงกระพรุนให้ดูอีกรอบ

" น่ารักจัง " พี่สยามมันยิ้มหวานก่อนจะเลื่อนมือมาลูบหัวผมเบาๆ " พี่เชื่อหนูก็ได้ครับว่าเป็นแมงกระพรุน "

ฉ่า

แทนตัวเองว่าพี่ แล้วเรียกกูว่าหนูเนี่ยนะ

อีเชี่ยยยย

" เป็นอะไรหืม....เขินพี่หรอ แก้มนี่แดงเชียว "

ผมยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองเบาๆ " อย่าพูดเพราะได้ป้ะวะ "

" ทำไมล่ะ "

" เขิน " ตัวจะแตกแล้วด้วยไอ้บ้า

พี่สยามมันยิ้มกว้างออกมาทันทีที่เห็นอาการผม น่าหมั่นไส้จริงๆ ผมแม่งก็แพ้ทางซะได้ ชอบนะครับเวลามันพูดเพราะๆ กับผมน่ะ แต่ถ้าได้ยินบ่อยๆ หัวใจคงอาจจะวายได้ มันดีต่อใจเกินไปอ่ะ มันเองก็รู้นะว่าถ้าพูดแบบนี้ใส่แล้วผมจะเขิน

ร้ายกาจชะมัด

ผ่านไปสักพักพนักงานก็เดินเอาของที่สั่งไปมาเสิร์ฟ แม่งโคตรเยอะอ่ะ พี่สยามมันเป็นคนจัดแจงเทลงหม้อ ส่วนผมก็ทีมนั่งรอกินอย่างเดียว ผมชอบชาบูนะ ชอบมากกว่าหมูกระทะอีก เวลากินหมูกระทะเนี่ยะ น้ำมันจะชอบกระเด็นใส่ คือกูจะแดกแบบเป็นสุขนี่ไม่ได้หรอวะ จะต้องกระเด็นมาใส่ให้กูร้อนอีก

หึ้ยยย...ย...หงุดหงิดทำไมวะเนี่ย

พี่สยามตักหมูมาใส่ชามให้ผม " กินเยอะๆ นะ "

" มึงไม่ต้องบอกกูก็กินเยอะอยู่ละ " ผมยักคิ้วให้มันก่อนจะคีบสันนอกใส่ปาก อื้ม...ม...แม่งโคตรอร่อย ค่อยสมกับที่อยากกินมาหลายวันหน่อย

" กินเยอะๆ ก็ดีแล้ว " มันบอกก่อนจะคีบตับเข้าปากแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มใส่ " ตูดจะได้แน่นๆ "

" แค่กกก....ก " ผมหยิบน้ำขึ้นมากระดกหลังจากที่สำลัก

" แค่นี้ถึงกับสำลักเลยหรอครับเมีย "

" มึงนี่แม่ง....เดี๋ยวกูก็เอาตะเกียบแทงให้หรอก "

คนตรงข้ามนั่งเท้าคางก่อนจะยกยิ้มให้ " ระวังโดนกูแทงกลับนะ ตะเกียบไซส์ 56 น่ะรู้จักไหม "

" นี่มึง!!! "

" อ้าว พี่สยาม "

ใครเรียกพี่สยามวะ

ผมหันมองตามเสียงก็พบกับร่างบางที่อยูในชุดนักเรียนมัธยม น้องเขาเป็นผู้ชายครับแต่หน้าหวานเหมือนผู้หญิงมาก คือถ้าไม่ได้ใส่เครื่องแบบของผู้ชายผมก็นึกว่าผู้หญิงอ่ะ อาจเพราะทรงผมด้วยล่ะมั้ง มันยาวประบ่าเลยด้วยซ้ำ เรียนเอกชนสินะถึงได้ไว้ผมยาวขนาดนี้ได้ นึกถึงตัวเองตอนสมัยมัธยมเลยแฮะ ผมนี่โดนเพื่อนตบเกรียนแทบทุกวัน

คิดแล้วเจ็บปวดชิบ

พอๆ เลิกนึกถึงตอนตัวเองหัวเกรียนแล้วมาสนใจคนตรงหน้าต่อดีกว่า น้องเขาตัวบางๆ น่าจะเตี้ยกว่าผม ผิวขาวเนียนน่าแดกสุด หน้าตาน่ารักๆ แบบนี้คงมีพวกหื่นกามแบบพี่สยามสนใจอยู่ไม่น้อยเลย ว่าแต่ทำไมน้องเขาถึงรู้จักพี่สยามได้วะ

" อ้าวเซนท์ ไม่ได้เจอนานเลยเป็นยังไงบ้าง "

" ก็สบายดีครับ " น้องเขาบอกก่อนจะยิ้มหวาน " พี่สยามก็สบายดีนะครับ "

" พี่สบายดี แล้วนี่มากินชาบูคนเดียวหรอ "

" เดี๋ยวเพื่อนๆ ตามมาน่ะครับ เออพี่สยาม อีกสักพักพี่แซนด์จะกลับมาเรียนไทยแล้วนะ "

พี่สยามมันเหลือบมองผมก่อนจะน้องมองเขา " งั้นหรอ แล้วทำไมถึงกลับมาเรียนไทยล่ะ "

" ไม่รู้เค้าเหมือนกันอ่ะ พี่สยามก็รู้หนิว่าพี่แซนด์เดาใจยากจะตาย ว่าแต่นี่ใครหรอครับ แฟนใหม่หรอ " น้องหันมองผมแล้วยิ้มหวานให้

" อ๋อ คือนี่เป็นน้องรหัสพี่เองน่ะ " หลังจากที่พี่สยามมันบอก ผมก็ยิ้มบางๆ ให้ ตอนนี้เป็นแค่น้องรหัสแหละ

แต่ในอนาคตจะเป็นแฟนมันแน่นอน

จัมวรั้ยนะน้อง

" งี้นี่เอง พวกพี่กินกันให้อร่อยเถอะ เซนท์ขอตัวก่อนนะครับ "

" บายครับ " พอพี่สยามรับคำ ไอ้น้องน่ารักๆ ก็เดินไปทันที ตอนนี้ผมกำลังสงสัยอยู่ว่าคนที่ชื่อแซนด์คือใคร ทำไมตอนที่พูดถึง พี่สยามต้องเหลือบมามองผม

" กูถามอะไรหน่อยสิพี่สยาม "

" ว่ามา..."

" คนชื่อแซนด์เป็นใคร " สิ้นเสียงของผมมือเรียวที่กำลังจะคีบหมูก็ชะงักไปทันที

ผมคีบโน่นคีบนี่ใส่ปากรอคำตอบจากพี่สยาม คนชื่อแซนด์นี่ไม่ธรรมดาแล้วมั้ง จะต้องเป็นใครสักคนที่ไม่อยากให้ผมรู้จักหรือยังไง ตอนนี้ที่คิดออกก็มีอยู่คนเดียวเลยนะครับ ฟังจากที่น้องคนเมื่อกี้พูด คือคนชื่อแซนด์กำลังจะกลับมาเรียนไทย แปลว่าตอนนี้ต้องอยู่ต่างประเทศ แล้วพอนึกถึงคนที่พี่สยามมันรู้จักแล้วอยู่ต่างประเทศนี่ก็มีแค่คนเดียวน่ะครับ

" แฟนเก่าใช่ไหม "

มันพยักหน้ารับ " ใช่ "

" เออ ก็เท่านั้นแหละ " ผมคีบสามชั้นไปใส่ชามให้มัน " กลัวกูคิดมากรึไง "

" อืม ก็คิดว่าถ้ามึงไม่รู้มันจะดีกว่ารึเปล่า "

" งั้นมึงลองคิดดูนะว่าถ้ากูมารู้ทีหลังกูจะเป็นยังไง กูอาจจะแย่มากๆ เลยก็ได้ จริงไหม "

" ขอโทษนะปอง "

" กูรู้ว่ามึงเป็นห่วงกู แต่ว่ากูโอเค เขาเป็นแค่แฟนเก่ามึงหนิ " ผมเลื่อนมือไปจับมือพี่สยามไว้ " กูเชื่อกับคำที่มึงบอกว่ารักกูนะ เพราะงั้นกูจะพยายามไม่คิดมาก โอเคไหม "

" โอเคครับ " พี่สยามยิ้มหวานก่อนจะคีบสันนอกมาจ่อปากผม ผมก็งับเข้าปากมาก่อนจะยิ้มให้มัน

คือปากบอกว่าไม่คิดนะแต่ในใจนี่คิดไปไกลมาก

ผมค่อนข้างหวั่นใจนะที่แฟนเก่ามันจะกลับมาเรียนที่นี่น่ะ แต่อีกใจก็คิดว่าคงจะไม่มีอะไรก็ได้ ก็จบกันไปนานแล้วป้ะวะ อีกอย่างคือตอนนี้พี่สยามมันรักผมมาก ผมควรจะเชื่อใจมัน ถึงแม้ว่าคนที่ชื่อแซนด์จะเป็นคนที่มันเคยรักและผูกพันในช่วงเวลานึงก็เถอะ

แต่อดีตมันก็คืออดีต

เดี๋ยวผมต้องเริ่มวางแผนขอพี่สยามเป็นแฟนละ อะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้ครับ เพราะงั้นเราต้องรีบคิดหน่อย ผมเองก็ต้องทำตัวเป็นเมียดีดีเพื่อมัดใจมันไว้สินะ แต่คิดแล้วมันก็ยากว่ะ ผมไม่ใช่พวกชอบทำอะไรแบบนั้นด้วย เอาจริงๆ คือผมไม่ต้องทำอะไรมากพี่สยามมันก็หลงผมจะตายห่า นี่แค่แก้ผ้าแล้วไปนอนรอบนเตียงมันก็ปริ่มใจมากแล้วมั้ง

แล้วนี่กูคิดอะไรวะเนี่ย

" คิดอะไรลามกอยู่ล่ะสิ " พี่สยามมันบีบแก้มผมเบาๆ " ร้ายนักนะ "

อย่ามาทำเป็นรู้มากได้ไหมวะ

" คนที่ร้ายมันคือมึงต่างหาก "

ร้ายกาจตลอดกาล













TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว คือเพิ่งเสร็จสดๆ ยังไม่ได้แก้อะไรเลย เดี๋ยวจะตามแก้ให้นะคะ

ชาลกำลังไปพิจิตรค่ะ ก็แต่งนิยายในโทรศัพท์ และก็แต่งบนรถที่สั่นตลอด คือรู้ตัวเลยว่านิยายอาจจะมีอะไรแปลกๆ เพราะว่าชาลจะเบลอๆ ตอนนี้ก็ตาลายอยู่ พาร์ทดราม่ายังอีกยาวไกลนะคะไม่ต้องกังวล เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อรอติดตาม

ถ้าชอบก็คอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสารได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-01-2018 20:48:13 โดย chaleeisis »

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แฮร่ ขอเม้นที่ตอนนี้ก่อนละกันนะคะ เดียวไปเม้นย้อนหลังให้ :hao5: ม่ามันยังอีกไกลงั้นเราก็จะอ่านต่อไปก่อน ถึงม่าเมื่อไหร่ค่อยหยุด ม่าจบอ่านต่อ(กลัวค้างมากๆ) สมปองงง ลูกแม่ น่ารักจริงๆเลยยย ใช่เลยลูก จะมัดใจผัวก็ต้องแก้ผ้านอนรอบนเตียงนี้แหละ เด็ด!5555 อิหยัมนะอิหยัมถ้าแฟนเก่าแกกลับมาแล้วแกทิ้งขวางลูกฉันนะ ฉันจะฆ่าแกทิ้งแน่!

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
พี่หยัมของปอง
ทำตัวน่ารักได้ทุกตอน
แค่นี้ก็ใจอ่อนไปก่อนปองแล้วง่ะ

พาร์ทดราม่า..ขอแค่ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันก็พอนะ
ถ้าไปไกลกว่านี้ แง๊ๆๆๆๆๆๆๆ คนอ่านทำใจรับไม่ได้

ขออย่าเป็นเรื่องที่ตั้งใจไปนอกกาย นอกใจกัน
ตรู..คนอ่าน คงได้นั่งบ้า นอนดิ้นกระแด่วๆ แน่

ขอบคุณฮับ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พึ่งรู้นะเนี่ยว่ามีคนเรียกกุ้งว่า "จุ้ง" ด้วย แปลกดี  :mew4:

ออฟไลน์ chaleeisis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
บทที่ 30 เหตุผลของพี่สยาม


"ปอง"

"หืม"

"ข้างหลัง"

ผมหันไปมองตามที่ลันตาบอกก็พบกับผู้หญิงสวยมากคนนึง "ทำไมวะ"

"มึงไม่ตาลุกวาวหน่อยหรอ"

"กูจะตาลุกวาวทำไม"

"ถ้ามึงไม่ตาลุกวาวก็ทำหน้าหื่นกามหน่อยก็ได้"

"ไม่"

ขืนทำแล้วผัวรู้ขึ้นมากูก็โดนเตะน่ะสิ

ตอนนี้เวลาประมาณบ่ายกว่าๆ ละครับ ผมนั่งทำเลคเชอร์ชีทของวิชาภาษาอังกฤษอยู่ที่หน้าตึกคณะกับลันตา ส่วนเพื่อนรักอีก 2 คนไปซื้อน้ำกับขนม ช่วงนี้เป็นคลาสว่างของพวกผม เดี๋ยวมีเรียนฟิสิกส์อีกทีตอนบ่าย 3 ครึ่ง แค่คิดว่าจะต้องเรียนฟิสิกส์ก็อยากไปกระโดดน้ำตายแล้วอ่ะ

ไม่ตายอีกเพราะว่ายน้ำเป็น

ผ่ามผ้ามมม

ผมควรเลิกติ๊งต๊องแล้วรีบทำเลคเชอร์ให้เสร็จ ช่วงอาทิตย์นี้หัวหมุนมากเลยครับ งานแม่งเยอะชิบหาย อีกอาทิตย์กว่าๆ ก็สอบไฟนอลแล้วด้วย งานคณะก็ต้องทำ นี่ผมอยู่แค่ปี 1 เองนะแต่ดูสิ่งที่ต้องรับผิดชอบสิ แต่คนที่เหนื่อยชิบหายกว่าผมก็คงจะเป็นพี่สยามนั่นแแหละ ตอนนี้แผลที่หัวมันหายดีละ กลับมาแข็งแรงร่าเริงแจ่มใสจ้องจะปู้ยี้ปู้ยำผมอยู่ตลอดเวลา

ไม่เคยจะว่างเว้นจากเรื่องพวกนี้หรอก

เออ เมื่อวันที่ผมพาพี่สยามไปตัดไหม มันเป็นวันที่ปวดประสาทมากเลยครับ ปวดประสาทตั้งแต่ตอนพามันไป ตอนรอหมอ ตอนตัดไหม ยันตอนกลับมาที่หอ มันงอแงมาก เด็กปอสองยังไม่งอแงแบบมันเลยอ่ะเอาจริงๆ ผมยังจำเสียงกรี๊ดที่มันเปร่งออกมาตอนที่โดนตัดไหมได้เลย คือแค่มึงตัดไหมป้ะมันไม่ได้เจ็บขนาดนั้นสักหน่อย

ร้องจะเป็นจะตาย

"ปอง"

"จะให้กูหันไปมองใครอีกล่ะ"

"เปล่า จะถามว่าทำถึงไหนแล้ว"

"เนี่ยะ" ผมบอกก่อนจะยื่นสมุดเลคเชอร์ให้ "เออลันตาเอาเลคเชอร์ของฟิสิกส์ให้ดูหน่อยสิ"

เพื่อนรักมันหยิบสมุดเลคเชอร์ส่งให้ผม "มึงทำละเอียดเหมือนกันนะ เข้าใจง่ายด้วย"

"แน่ล่ะ กูชอบภาษาอังกฤษพอๆ กับคณิตฯ เลยนะ"

"มึงน่าเอาความตั้งใจมาใส่ให้ฟิสิกส์ครึ่งนึงนะ"

"ไม่โว้ย กูต่อต้านฟิสิกส์มาตั้งแต่มอสี่ละ และกูก็จะต่อต้านต่อไป"

"กูขอให้มึงโชกเลือด เอ้ย โชคดี"

ถ้ามึงจะพูดชัดขนาดนั้นมึงก็ไม่ต้องแก้ก็ได้

ผมเบ้ปากใส่อีงูพิษ พอมันเห็นแบบนั้นมันก็แลบลิ้นใส่ผม น่าหมั่นไส้ชิบ สังเกตที่รอบคอลันตานี่มีรอยจูบเป็นจ้ำๆ เต็มไปหมดเลยนะ แถมรอยยังดูใหม่ๆ ด้วย สงสัยเพิ่งโดนป๊ามไปเมื่อคืนชัวร์ พี่ทะเลนี่ต้องเป็นพวกขี้หวงแน่เลยว่ะ ไม่งั้นไม่ทำรอยไว้ขนาดนั้นหรอก ลันตามันก็ยอมให้ทำเนอะ เป็นผมนี่ไม่ได้เลยอ่ะ ถ้าพี่สยามทำรอยล้นคอแบบนั้นนี่มีตบคว่ำแน่นอน

"สมลัน"

"อะไร"

"รอยจูบเต็มคอเลยนะ" ผมหรี่ตามองพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม "หนักเลยสิท่าเมื่อคืน"

"เออ ปวดทั้งตัวเลยกูเนี่ยะ พี่ทะเลแม่งคึกมาจากไหนไม่รู้"

"กูถามอะไรมึงหน่อยสิ"

"ว่ามา"

"มึงกับพี่ทะเลไปเป็นแฟนกันได้ยังไงวะ ไปจีบกันตอนไหน"

"จีบกันครั้งแรกตอนมอสี่มั้ง"

"อ่าว ก็รู้จักกันมานานแล้วงั้นสิ"

"ใช่ กูตามจีบพี่เค้ามาตั้งนานเพิ่งจะยอมคบกับกูเนี่ยะ"

"ดีเนอะ กูยินดีกับมึงด้วยละกัน"

"ขอบใจ" มันยิ้มรับบางๆ ก่อนจะอ่านเลคเชอร์ต่อ

ผมนั่งเท้าคางมองเพื่อนรักพลางคิดเรื่องของตัวเองไปด้วย มันดีเนอะที่ลันตาพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าตัวเองเป็นแฟนของพี่ทะเล ส่วนผมก็ยังพูดไปโต่งๆ ไม่ได้ ก็นะ พี่สยามกับผมยังไม่ได้คบกันหนิ แต่คิดไว้แล้วครับว่าจะไปขอมันเป็นแฟนตอนที่ไปค่ายด้วยกันเทอมหน้า เหมือนจะนานแต่ไม่นานนะ อีกเดือนกว่าๆ

หรือนานวะ

ช่างแม่ง จะนานหรือไม่นานก็ตัดสินใจไปละว่าจะขอมันคบเป็นแฟนช่วงนั้น คือเมื่อไม่กี่วันก่อนผมโดนพี่ขันสั่งให้จัดหาค่ายที่จะพาเด็กวิศวะโยธาไปอบรม แล้วมันมีค่ายนึงที่มีวิวสวยมาก อยู่ที่จังหวัดพิษณุโลกครับ คือค่ายเนี่ยะอยู่บนเขา แล้วช่วงเนี่ยะอากาศจะเย็น ผมว่าที่นี่แหละเหมาะที่สุดแล้ว เมื่อวานผมลองโทรไปถามข้อมูลหลายๆ อย่างมา กะว่าเดี๋ยวจะนำไปเสนอพี่ขันนี่ล่ะครับ

หวังว่าท่านเฮดว้ากจะพึงพอใจ

ผมอยากไปค่ายนี้มากเลยนะ มันมีเนินไว้ดูดาวที่รายล้อมไปด้วยดอกยิปโซอ่ะ คือมันโคตรสวย คงโรแมนติกมากแน่ๆ ถ้าผมขอพี่สยามมันเป็นแฟนที่นั่น เชื่อได้เลยว่ามันจะต้องกลายเป็นความทรงจำดีดีของเรา 2 คน

ขอให้ได้ไปด้วยเถอะ

"สมปอง"

"เชี่ยยย" ผมสะดุ้งทันทีได้ยินเสียงนั่น คือไม่ต้องหันไปดูก็รู้เลยครับว่าเสียงใคร คนบ้าที่ชอบพูดผ่านโทรโข่งก็มีคนเดียวเท่านั้นแหละ

พี่สยามไง

"พี่สยามสวัสดีครับ" ลันตามันยกมือไหว้

"สวัสดี"
มันเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะผม ในมือก็มีชีทปึกใหญ่ติดมาด้วย "มึงทำอะไร"

"นั่งจดเลคเชอร์ แล้วมึงอ่ะไม่มีเรียนรึไง"

"มีเรียนตอนบ่าย 3 ครึ่ง พร้อมมึงนั่นแหละ"

"รู้ตารางเรียนกันด้วยแฮะ" ลันตามันเท้าคางมองผมกับพี่สยามสลับกัน มองอะไรของมึงวะ ทำอย่างกับไม่เคยกูกับมันงั้นแหละ

ละนี่จะหงุดหงิดทำไมวะปอง

"รู้สิ มันเป็นน้องรหัสหนิ"

"มึงมาทำอะไรตรงนี้เนี่ยะพี่สยาม ไม่มีที่ให้ไปรึไง " เพื่อนไม่คบหรอถึงได้ปลีกตัวเดินร่อนมาหากูเนี่ยะ

"กูจะมาบอกมึงว่าวันนี้มีประชุมคณะกรรมการฯ ตอน 5 โมงครึ่ง"

"แค่นี้อ่ะนะ" ผมเลิกคิ้วมองมัน "ทำไมไม่ไลน์มาบอกวะ"

"ไลน์มาก็ไม่ได้เห็นหน้ามึงน่ะสิ"

ตึกตัก

เชี่ยยย

ผมยกมือทาบอกตัวเองโดยอัตโนมัติพลางมองเจ้าของคำพูดนั้นตาปริบๆ ที่พี่มันพูดก็แค่คำพูดธรรมดาๆ ป้ะวะปอง ไม่เห็นต้องใจเต้นแรงขนาดนี้เลย พี่สยามดูชอบใจนะที่ผมแสดงอาการแบบนี้ออกไปให้มันเห็นน่ะ

จิ๊...แพ้ทางมันเฉยเลยปองเอ้ย

"ถ้าเห็นจนพอใจแล้วก็ไปสักทีไป" ผมโบกมือไล่มัน ต้องไล่ครับ ขืนมันยังอยู่ตรงนี้ผมจะต้องโดนดาเมจจากมันอีกแน่

"แค่นี้ถึงกับไล่กันเลยหรอ" มันเอ่ยเสียงอ่อนก่อนจะเบะปากน้อยๆ "ใจร้ายจัง"

"ไม่เคยใจดีกับมึงอยู่แล้ว จะไปไหนก็ไปไป้ รำคาญจริงๆ พูดผ่านโทรโข่งอยู่ได้" ผมแย่งโทรโข่งมาจากมือมัน แม่งเอ้ย ไอ้ที่พูดว่าไลน์มาก็ไม่ได้เห็นหน้านั่นก็ได้ยินกันไปครึ่งคณะแล้วมั้งน่ะ ดีไม่ดีได้ยินไปยันตึกแพทย์โน่น

โทรโข่งห่าไรไม่รู้เสียงดังชิบหาย

"อีมะ...." พี่สยามมันยกมือปิดปากตัวเองไว้ก่อน

อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้มันจะพูดว่า....

"อีเมียหรอพี่สยาม แน่ะ พูดจามีเงื่อนงำนะ " อีงูพิษมันหรี่ตามองอย่างจับผิด

"มันจะพูดว่าอีเชี่ยต่างหาก" ผมแก้ต่างให้ก่อนจะมองตาขวางใส่ลันตา "ไปเช็คหูซะบ้างนะมึง"

มันเบ้ปากใส่ผมทันที "เดี๋ยวกูจะให้มึงไปกับกู จะได้รู้ว่าใครกันที่ฟังผิด"

"มึงนี่มัน...." ผมถลึงตาใส่ก่อนจะหันไปทำหน้าโหดใส่พี่สยาม "ส่วนมึงก็ไปได้ละ"

"เออ ใช่สิ....เพราะกูเป็นสยามไง เจอหน้าแปปๆ ก็ไล่ ใช่ซี้ "

มึงจะดราม่าเพื่อ

"ไปได้ละ เจอกันตอนประชุม"

"เออ งอนละสัส" มันหยิบโทรโข่งไปจากมือผมก่อนจะเดินสะบัดไปทันที เห้อะ งอนงั้นหรอ คิดว่าคนอย่างสมปองจะง้อรึไงวะ

เฮ้อ....

ต้องเปลืองเนื้อเปลืองอีกแล้วว่ะ

ไม่เป็นไร ปกติผมก็เปลืองเนื้อเปลืองตัวอยู่แล้ว จะเปลืองเพื่อง้อมันอีกสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอก ที่ผมไม่อยากให้มันอยู่ตรงนี้นานเพราะกลัวว่าลันตาจะแซวมากกว่านี้ครับ รำคาญ ละอีนี่แซวก็แซวเวิ่นเว้อ แซวไม่หยุด ต้องเอาอะไรอุดปากอ่ะถึงจะเงียบ

"ปอง"

"ห้ะ"

"ประชุมได้ความว่าไงเอามาเล่าให้ฟังบ้างนะ"

"มึงก็ให้พี่ทะเลเล่าให้ฟังดิ่ เค้าก็เป็นคณะกรรมการฯ เดี๋ยวเค้าก็ต้องไปประชุม"

"ไม่เอาอ่ะ กูรอฟังมึงเล่าดีกว่า เผื่อมีงานส่วนของมึงที่กูพอช่วยได้กูจะได้ช่วยไง"

ผมมองมันตาโต "มึงพูดจริงป้ะเนี่ยะ"

"จริงสิวะ คนอย่างกูถ้าบอกว่าจะช่วยก็คือช่วยสิวะ รีบทำเลคเชอร์ต่อดีกว่า เดี๋ยวเสร็จไม่ทัน"

"โอเค" ผมรับคำก่อนจะก้มปั่นเลคเชอร์ต่อ

ประชุมของคณะกรรมการฯ วันนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องค่ายโยธานี่แหละ คิดแล้วก็เหนื่อยเนอะ เรียนเสร็จก็ต้องไปประชุมต่ออีก แม่งแย่ตรงที่ก่อนประชุมต้องเรียนฟิสิกส์ไง ผมต้องอยู่ในสภาพไร้วิญญาณแน่นอน

คิดแล้วก็ปวดใจ





"มันก็จะประมาณนี้ เข้าใจไหม"

ไม่

ไม่เข้าใจ

ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง

ผมนั่งนิ่งๆ มองกระดานไวท์บอร์ดด้านหน้าอย่างไร้สติ หูได้ยินเสียงพี่ขันพูดอะไรสักอย่างที่มันดังอู้อี้ๆ ตอนนี้ผมกำลังประชุมคณะกรรมการฯ อยู่ครับ ประชุมในสภาพที่ใกล้ตาย การเรียนฟิสิกส์เมื่อก่อนหน้านี้ทำลายพื้นที่สมองส่วนสติผมพังไปหมดแล้ว ความรู้สึกเดียวตอนนี้คืออยากกลับหอแล้วอาบน้ำนอน

นอนกอดพี่สยามด้วยนะ

"มึงเข้าใจที่พี่ขันพูดไหมเนี่ยะปอง"

ผมหันมองคนที่นั่งข้างๆ "คิดว่าเข้าใจประมาณ 0.01 เปอร์เซ็นต์"

"อย่าเรียกว่าเข้าใจเลย" พี่สยามมันเลื่อนมือมาจับมือผมที่อยู่ใต้โต๊ะเบาๆ "เป็นอะไร ไม่สบายหรอ"

"กูเบลอฟิสิกส์นิดหน่อยอ่ะ" ผมบอกเสียงอ่อน อยากจะเอนหัวซบไหล่มันอ่ะแต่ทำไม่ได้

งอแง

"เดี๋ยวก็เสร็จแล้วอดทนก่อน"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ "เออ แล้วนี่หายงอนกูแล้วหรอ"

"งอน....อ๋ออออ เรื่องเมื่อบ่ายใช่ไหม"

"ใช่"

"กูก็พูดไปงั้นแหละ ไม่ได้งอนหรอก" มันยิ้มหวานให้พลางใช้ปลายนิ้วลูบมือผมเบาๆ

ชอบความรู้สึกนี้จัง

ผมชอบนะที่มันอัพสกิลความโรแมนติกขึ้นไปเรื่อยๆ คือบางครั้งการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ผมก็มองว่ามันดูโรแมนติกแล้วอ่ะ ไม่รู้นะว่านิยามของคำว่าโรแมนติกแต่ละคนเป็นยังไง แต่ของผมมันก็จะเป็นอะไรประมาณนี้แหละ ยิ่งเวลาก่อนนอนเนี่ยะจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเลย พี่สยามมันจะถามตลอดว่าวันนี้ผมเหนื่อยไหม มันจะดึงผมไปกอด หอมแก้มผม ยิ้มหวานๆ ให้ แล้วก็บอกให้ผมนอนหลับฝันดี

โมเม้นท์เหล่านี้มันดีจริงๆ

ผมเสพติดรอยยิ้มของพี่สยามอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ชอบเวลามันยิ้มหวานๆ ให้ ยิ่งถ้าพูดเพราะๆ ใส่แล้วยิ้มหวานตามนี่มาดผู้ชายอบอุ่นสัสอ่ะบอกเลย แต่มาดนี้ผมสั่งมันไปละว่าให้ทำกับผมได้คนเดียว

หวงครับ วงเล็บ มากๆ

"สมปอง"

"คะ...ครับ" ผมสะดุ้งก่อนจะมองพี่ขัน "ว่าไงครับพี่"

"เดี๋ยวทำข้อมูลเรื่องค่ายมาส่งกูด้วยนะ เอาก่อนไฟนอลละกัน"

"ได้ครับ"

"โอเค งั้นวันนี้ก็ไว้เท่านี้แหละ แยกย้ายได้" พี่ขันบอกก่อนจะเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเดินนำชาวบ้านออกไปทันที

รีบไปไหนวะ

ผมนั่งมองเหล่าคณะกรรมการฯ ที่ทยอยพากันเดินออกไปจนหมด ตอนนี้ในห้องเหลือแค่ผมกับพี่สยาม 2 คน เวลาตอนนี้ก็ประมาณเกือบ 2 ทุ่มละครับ ท้องฟ้าข้างนอกนี่โคตรมืด

"ไปเถอะปอง" พี่สยามมันเก็บของให้ผม "กลับหอกัน"

"อยากกลับนะ แต่ไม่มีแรงจะเดินแล้ว ไม่อยากขยับตัวเลย"

"งั้นเอางี้" มันเดินมาใกล้ก่อนจะหันหลังแล้วย่อตัวลง "ขึ้นมาเร็ว"

"กูหนักนะ มึงจะแบกไหวหรอ"

"ไหวสิ ขนาดมึงตัวเล็กนิดเดียวยังพยุงกูส่งถึงมือหมอได้เลย มาเร็วๆ ได้กลับหอไปนอนไง"

"ก็ได้" ผมขยับตัวมาขี่หลังพี่สยามไว้ แขนก็คล้องคอมันไว้หลวมๆ

พี่สยามถือของแถมยังแบกผมเดินออกมาจากห้อง นี่มันยอดมนุษย์ชัดๆ อย่างที่รู้ๆ กันนะครับว่าผมอ้วนขึ้น มันต้องหนักมากแน่ๆ แต่ว่าจะให้เดินเองก็ไม่ไหวอ่ะ สมองมันดาวน์ ร่างกายก็เลยดาวน์ตาม แต่ผมจะอ่อนแอแค่วันนี้แหละ เดี๋ยวพรุ่งจะกลับไปแข็งแกร่งเหมือนเดิม

เชื่อปองสิ

ผมซุกหน้าลงกับบ่าพี่สยาม กลิ่นหอมๆ จากตัวมันก็ลอยมาแตะจมูกด้วย ผ่านไปทั้งวันนี่เหงื่อไม่ออกบ้างหรอวะ กลิ่นถึงได้ยังหอมอยู่แบบนี้

"ตัวมึงหอมจัง"

"คิดอย่างงั้นหรอ"

"ใช่สิ มึงไม่ได้กลิ่นของตัวเองรึไง"

"ไม่ได้สนใจ" มันบอกก่อนจะเหลือบมองผม "ชอบกลิ่นตัวกูไหม"

"ชอบสิ"

"หรอ....แล้วชอบกูไหม"

ผมเลือกที่จะไม่ตอบ ตาก็เหลือบมองมันซื่อๆ "ไม่บอก"

"แต่กูชอบมึงนะ"

"แค่ชอบหรอ" ผมเอาคางเกยไหล่มันไว้ "ไม่ใช่รักหรอ"

"หึ....มึงนี่มัน"

"กูทำไมล่ะ แล้วๆๆๆ ไม่รักหรอ" ผมถามมันก่อนจะเบะปากน้อยๆ

พี่สยามมันกดจมูกลงบนแก้มผม " ไม่บอก " ว่าแล้วมันก็ยิ้มหวานให้

ยอมแล้วครับ

ยอมทั้งใจเลยเจอแบบนี้

" อื้ออ.อ.อ.อ.....ไม่บอกก็ไม่เป็นไร "

ถึงมึงจะไม่พูดกูก็รู้อยู่ละ....ว่ามึงรักกู

กูเองก็.....









TBC.

สวัสดีค่ะชาลมาส่งหยัมปองแล้ว ยังไม่ได้ตรวจคำผิดเลยนะคะ เสร็จแล้วก็รีบมาลงให้เลย เดี๋ยวจะตามแก้คำผิดให้นะ ชาลไม่ค่อยมั่นใจกับนิยายตอนนี้เลยค่ะ ไม่รู้ว่าแต่งออกมาดีมากพอไหม ถ้ามันอ่านแล้วให้ความรู้สึกแปลกๆ ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ

ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาชาลมีปัญหาด้านสุขภาพค่อนข้างหนัก มันเป็นช่วงที่มีอาการแพนิคค่อนข้างบ่อย บางวันไม่สามารถนอนได้ ซึ่งมันแย่มาก วันนี้ชาลก็เป็นไมเกรน แต่ว่าตอนนี้โอเคขึ้นแล้วค่ะเพราะทานยาไป ถ้ามีวันไหนที่ชาลไม่สามารถลงนิยายได้เพราะกรณีมีอาการป่วยเนี่ยะชาลจะแจ้งนะคะ

ถ้าชอบก็คอมเม้นต์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้นะคะ สามารถติดต่อข่าวสาร + สปอยได้ที่ทวิตเตอร์ Chaleeisis นะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
คู่นี้มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวมาก
รักกันให้ตลอดนะ..ชิสสส

ตาลุก
อิอิ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบนะ แต่มีกลิ่นดร่าม่า ถ่านไฟเก่ามาทดสอบ เป็นกำลังใจให้นะ คุณผู้เขีนนๆๆๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พี่สยามงอแงได้น่ารักดีนะ  o18

หลานคนแต่ง รักษาสุขภาพด้วยนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Zenith

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อื้อออ ม่ายังไม่มาา ยังอ่านได้ ฮืออออ ลูกปองน่ารัก ใครๆก็รักลูกปอง ถ้าอิหยัมไม่รักก็กลับมาหาแม่นะลูก พี่หยัมรักน้องมากมั้ย อย่าทำน้องเจ็บมากนะเว้ย ไม่ยกลูกให้น้าาา! :m16: :m16: :m16:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด