บทที่ 24 --END--
By moggy
-----------------------
หลังจากพักฟื้นที่โรงพยาบาลอยู่ 4 วัน ผมก็เตรียมตัวกลับบ้าน วันนี้มีแหววมาช่วยเก็บของ คุณแม่กับแม่พิมพ์ผมให้รออยู่ที่บ้าน ส่วนพี่ภูกำลังขับรถมารับครับ
“คุณข้าว ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะ เดี๋ยวแหววจัดการตรงนี้ให้” ผมมองไปที่กองของใช้ที่ไม่ได้เยอะมากเท่าไร
“ถ้าอย่างนั้นฝากด้วยนะครับ” ผมแยกไปทางห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
“อ้าว...” พอออกจากห้องน้ำก็เห็นพี่ภูอุ้มลูกอยู่
“พยาบาลมาส่งให้เมื่อกี๊นี้น่ะ” พี่ภูตอบข้อสงสัยผม
“ครับ” พี่ภูส่งลูกมาให้ผมอุ้มแทน
“พี่จัดการค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้ว กลับเลยไหม”
“ครับ กลับเลย แล้วแหววล่ะพี่ภู” พอมองไปรอบๆ ห้องไม่เห็นแหววเลย
“พี่ให้กลับกับลุงยิ้มไปก่อนแล้ว”
“อ่อ...ป่ะครับ” ตื่นเต้นจังจะได้กลับบ้าน
“แล้วยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า” พี่ภูถามขึ้นระหว่างทางที่เข็นรถให้ผม
“ดีกว่าวันแรกเยอะเลย”
“ดีแล้ว”
รถยนต์ 5 ประตูโลโก้ L ด้านหน้า ขับเข้ามาหน้าบริเวณบ้าน ภูธิปจอดรถและอ้อมไปอีกด้านเพื่อช่วยพยุงลูกข้าวที่อุ้มลูกอยู่ เขาถือกระเป๋า 1 ใบเท่านั้น เพราะให้แหววเอากลับมาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้ง 2 คนก้าวเข้าบ้านมาก็เห็นคุณแม่ทั้งสอง ป้าสาย แหวว ลุงยิ้ม อยู่กันพร้อมหน้า ลูกข้าวมองไปรอบๆ เหมือนบ้านจะแปลกๆ
“พี่ภู บ้าน...” ผมยังถามไม่จบ พี่ภูก็ตอบกลับมาซะก่อน
“อือ เสร็จแล้ว”
“อ่อ” ดีเหมือนกันที่บ้านต่อเติมเสร็จแล้ว ผมก็กลัวเสียงดังจะทำให้ลูกตื่น เพราะเด็กแรกเกิดมักจะนอนเยอะ
“ต้นกล้า มาหาย่ามาลูก” ผมส่งลูกให้คุณแม่อุ้ม พี่ภูก็พยุงผมมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ ก่อนจะนั่งลงข้างผม
“ขอบคุณครับ” ผมขอบคุณแหววที่เอาน้ำเข้ามาให้ ผมยกน้ำขึ้นดื่มแล้วมองไปรอบๆ บ้าน ตรงส่วนห้องนั่งเล่นเยื้องไปทางซ้ายมือมีคอกกั้นสำหรับเด็ก อืม...ทำเร็วไปไหมหว่า บ้านดูโปร่งโล่งขึ้น ข้างบนก็น่าจะเหมือนกัน เพราะขยายบ้านทั้งสองชั้น
“แผลเป็นไงบ้างลูก” แม่พิมพ์หันมาถามผม
“ดีขึ้นแล้วครับ”
“ช่วงนี้ก็อย่ายกของหนักนะลูก เดี๋ยวแผลจะปริ”
“ครับ” แม่พิมพ์ก็หันไปเล่นกับต้นกล้าต่อ
“ขึ้นไปพักไหม” พี่ภูหันมาถามผม
“แล้ว...” ผมหันไปมองลูก
“ดูแล้วน่าจะยังไม่ง่วง เดี๋ยวพี่ลงมารับอีกที” ผมพยักหน้า เอางั้นก็ได้
“แม่...เดี๋ยวผมพาน้องขึ้นไปพักก่อนนะ เดี๋ยวลงมารับต้นกล้าอีกที”
“จ้ะ ไปเถอะ เดี๋ยวแม่ดูให้”
พี่ภูพาผมขึ้นมาบนห้องนอน อืม...ห้องใหญ่ขึ้นจริงๆ ด้วย เหมือนจะตกแต่งใหม่ด้วย
“พี่ภูตกแต่งใหม่ด้วยหรอ” ผมนั่งลงบนเตียงมองสำรวจไปรอบๆ ห้อง จากห้องสีเทาๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีครีม ดูสว่างขึ้น โล่งขึ้นมาก ห้องที่มีประตูเชื่อมน่าจะเป็นห้องลูก
“อืม...นั่นห้องลูก”
“อยากดูอ่ะ”
“เดินไหวไหม”
“ไหวครับพี่ภู แค่ตึงแผลเท่านั้นเอง”
ผมเปิดประตูห้องลูกเข้าไป โห...สวยจัง
“คุณแม่ตกแต่งให้เองเลยนะ ชอบไหม”
“สวยจังพี่ภู ลูกน่าจะชอบครับ” ห้องของต้นกล้าเป็นโทนสีฟ้า บนเพดานมีลายก้อนเมฆสีขาวลอยอยู่ประปราย ส่วนผนังตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลายน่ารักๆ เตียงเด็กวางชิดผนังอีกด้าน สรุปผมชอบมาก ลูกก็น่าจะชอบเหมือนกัน
“อื้อ...” พี่ภูเข้ามากอดจากทางด้านหลัง แล้วกดจูบที่แก้มผม
“ชื่นใจ”
“เดี๋ยวเถอะ...นี่ห้องลูกนะ” ผมตีแขนพี่ภูไปที
“มันเขี้ยว” ฟอด...ฟอด...ฟอด...ฟอด พี่ภูหอมแก้มผมสลับไปมาสองสามรอบ
“พอแล้วพี่ภู ข้าวอยากพักแล้ว”
“อืม...ป่ะกลับห้องเราดีกว่า”
“จุ๊บ” ผมจุ๊บพี่ภูก่อนจะนั่งลงบนเตียง
“หึหึ...ทำอย่างนี้แปลว่าแผลหายดีแล้วใช่ไหม”
“ยังเลย...” ผมซุกหัวลงกับอกพี่ภูอ้อนๆ
“พักผ่อนได้แล้วครับ เดี๋ยวพี่จะไปเอาเจ้าตัวเล็กขึ้นมากินนมนอนแล้ว”
“ครับ” ผมเอนตัวนอนบนเตียง พี่ภูลงไปรับต้นกล้า
ประตูห้องเปิดออกพร้อมร่างใหญ่ที่มีเจ้าตัวเล็กพาดบ่าเดินเข้ามา
“ลูกน่าจะหิวนมแล้ว ตอนลงไปรับเริ่มจะงอแง” พี่ภูเอ่ยขึ้น พร้อมส่งตัวต้นกล้ามาให้ผม
“หิวหรอลูก หืม...หืม” ผมแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตแล้วเอาลูกเข้าอก พอเจ้าตัวซุกอกก็ดูดใหญ่เลย
“หิวจริงๆ ด้วย” พี่ภูลูบหัวต้นกล้าเบาๆ นี่ผมก็เลิกเขินพี่ภูแล้ว เวลาผมให้นมลูกทีไรพี่ภูก็อยู่กับผมตลอด ถ้ามัวแต่เขินต้นกล้าคงจะไม่ได้กินนมแน่ๆ
ผ่านมา 3 สัปดาห์ ต้นกล้ากินนมเก่งมาก แต่ก็นอนเก่งเหมือนกัน เจ้าตัวเล็กนอนที่ห้องของตัวเอง หลับยาวไม่ตื่นกลางดึกทำให้ผมไม่เหนื่อยมาก กลางวันเจ้าตัวเขาจะชอบเล่นไม่ค่อยนอนสักเท่าไร ต้นกล้าเป็นเด็กอารมณ์ดี เลี้ยงง่าย แต่จะร้องเมื่อหิวหรือไม่สบายตัวเท่านั้น พี่ภูก็เข้าไร่ตามปกติ ตอนนี้ทุกอย่างค่อนข้างลงตัว ผมก็เลี้ยงลูกอยู่บ้าน มีแหววกับป้าสายช่วยเลี้ยงบ้าง เมื่อวันก่อนคุณชากับคุณรักก็มาหา มารับขวัญหลานเห็นพี่ภูว่างั้นนะ เจ้าตัวเล็กได้สร้อยทองตั้ง 5 บาทแหนะ ไหนจะแม่พิมพ์ให้กำไลข้อเท้าทอง คุณแม่ให้จี้พระเลี่ยมกรอบทอง รวยตั้งแต่เกิดเชียวนะ ส่วนคนพ่อไม่ต้องพูดถึงเตรียมไว้ตั้งแต่ลูกอยู่ในท้องแล้ว ก็ไม่เท่าไรของนายหัวแห่งไร่ราชันหรอกครับ ก็แค่จำนวนตัวเลขในสมุดบัญชี 8 หลักเท่านั้นเอง ตอนนี้ถ้าว่างผมก็จะลงครัวบ้างไม่หนักอะไร พวกเสื้อผ้า ผ้าอ้อมของต้นกล้า ผมจัดการเอง มีแหววคอยช่วยบ้างบางครั้ง แม่พิมพ์ช่วงนี้ต้องติดต่อประสานงานกับหน่วยงานอื่นเลยยุ่งๆ กับคุณแม่ช่วงนี้งานยุ่งเหมือนกันเพราะที่โรงแรมมีทัวร์มาลง พี่ภูตอนนี้งานก็มีเรื่อยๆ เหมือนเดิมไม่ได้เร่งอะไร แถมกลับบ้านเร็วอีกต่างหาก กลับมาก็ตรงไปหาต้นกล้าทันที ตอนนี้ลืมผมไปซะแล้ว ฮ่ะๆ พูดถึงเจ้าตัวก็เดินเข้ามาพอดี อายุยืนจริงๆ ผมนอนให้นมลูกอยู่ครับ นอนที่คอกกั้นนั่นแหละ ไหนๆ ก็ทำไว้ให้อยู่แล้ว พี่ภูเดินไปล้างมือในห้องน้ำก่อนจะเข้ามาหอมแก้มผมเหมือนเคยและมีแถมไปถึงลูกด้วย พอต้นกล้าได้รับสัมผัสก็ผละจากนมทันที เจ้าตัวชอบเล่นกับพ่อเขาครับ ติดแจเชียวล่ะ ผมเห็นดังนั้นก็ปล่อยให้ต้นกล้าอยู่กับพี่ภูไป ผมเดินเข้าครัวทันที หิวครับ น้ำหนักผมลดลงเร็วมากอาจเพราะเลี้ยงลูกเองด้วยก็เลยลดเร็ว
ตอนเย็นทุกคนก็พร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร วันนี้ผมลงมือทำอาหารเองเป็นก๋วยจั๊บน้ำใส ที่ทำเพราะคุณแม่บ่นมาสักพักว่าอยากทาน แต่ด้วยเวลาและสภาพร่างกายผมไม่อำนวยก็เลยไม่ได้ทำสักที เจ้าตัวเล็กมีแหววคอยดูอยู่ที่คอกกั้น
“วันนี้ทำอะไรลูก” คุณแม่ถามขึ้น
“ก๋วยจั๊บน้ำใสครับ”
“ข้าวรู้ใจแม่จริงๆ แม่อยากกินอยู่พอดีเลย”
“ครับ” ผมยิ้มและตักใส่ชามให้คุณแม่ทั้งสอง
“พี่ภูมากินข้าวครับ” พี่ภูนอนเล่นกับต้นกล้ามาสักพักแล้ว ติดลูกมากกว่าผมอีกตอนนี้
“…” คนตัวใหญ่ไม่ตอบ แต่ลุกเดินมาเลย
“ติดลูกแจเชียว สงสัยลืมเมียไปแล้ว” คุณแม่เอ่ยขึ้น แม่พิมพ์ยิ้มขำ
“คุณแม่!!” พาดพิงผมทำไม...
“เมียก็ติดครับ...ฟอด” นั่นไง ผมว่าแล้วเชียว
“พี่ภู เดี๋ยวเถอะ” ผมตีแขนพี่ภูไปที
“เดี๋ยวคุณแม่ไม่เชื่อ ว่าติดเมียด้วย”
“โอ๊ย...ก๋วยจั๊บแม่ มดจะขึ้นไหมเนี้ย” คุณแม่เย้าต่อ
“คุณแม่ ก็...”
“พอเถอะค่ะ คุณพี่ แค่นี้ข้าวก็แก้มแดงใหญ่แล้ว ฮ่ะๆ”
“แม่...”
“กินกันเถอะครับ เย็นจะไม่อร่อย” ผมรีบตัดบททันที พี่ภูก็นั่งอมยิ้ม ไม่ช่วยอะไรเลย
หัวค่ำผมก็พาต้นกล้าเข้านอน แล้วกลับห้องมาจัดการตัวเองมั่ง เหนียวตัวมาก พี่ภูอาบน้ำเสร็จก็นั่งทำงานต่อตั้งแต่ผมไปเอาลูกเข้านอนแล้ว อาบน้ำเสร็จก็นุ่งผ้าขนหนูออกมาแต่งตัวข้างนอก เพราะต้องทาครีมก่อน อันนี้คุณแม่สั่งนักสั่งหนาว่าต้องทาครีมตลอด...ห้ามลืม หน้าท้องจะได้ไม่ลาย ผมก็ทาจนติดเป็นนิสัยไปแล้วตั้งแต่ตอนท้อง แต่งตัวเสร็จก็ปีนขึ้นเตียงทันที ง่วงมาก ตอนที่กำลังเคลิ้มจะหลับ เตียงก็หยวบลง สงสัยพี่ภูจะเข้านอนแล้ว มือเกี่ยวเอวผมเข้าไปกอด ผมก็พลิกตัวกลับมากอดคนตัวโต
“จุ๊บ ฝันดีครับ” ผมบอกพี่ภู
“หึ ฝันดีครับ” พี่ภูโน้มหน้ามาจูบผมนานเลย ผมหายใจแทบไม่ทัน
“รีบๆ หาย ต้นกล้าอยากมีน้อง”
“ต้นกล้าบอกพี่ภูตอนไหนครับ เดี๋ยวเถอะ” ผมตีแขนพี่ภูไปที ข้อหาเอาลูกมาอ้าง
“พี่อยากมีเองก็ได้...จุ๊บ”
“คนบ้า”
“หึหึ นอนเถอะ ฝันดีครับที่รัก”
“ฝันดีครับ พี่ภู”
การเดินทางย่อมมีจุดหมายปลายทางเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะหยุดลงที่ตรงไหนเท่านั้นเอง
สำหรับผม...ผมหยุดลงที่ตรงนี้ครับ ที่กระบี่ ที่ไร่ราชัน
และที่ผู้ชายคนนี้...ภูธิป วัลลิพานนท์ ♥
***************************************************
END
----------------------------
**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//
**ขอบคุณนักอ่านทุกคนนะคะ ที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีเวลามาอัพเดตบ่อยก็ตาม
**ขอบคุณกำลังใจทุกคอมเม้นท์นะคะ
รักนักอ่านทุกคนค่ะ
เหมียว
ปล.ถ้าว่างจะมาลงตอนพิเศษให้นะคะ