➳➴❤Found Love...อุบัติเหตุ(พบ)รัก❤➵➶ [Mpreg] *ตอนที่ 24* END--; P.8 // 2-6-2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➳➴❤Found Love...อุบัติเหตุ(พบ)รัก❤➵➶ [Mpreg] *ตอนที่ 24* END--; P.8 // 2-6-2019  (อ่าน 66826 ครั้ง)

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เป็นครอบครัวที่ดูอบอุ่นจัง

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องข้าวน่ารัก พี่ภูก็หวงไปอีก อิอิ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao6: พี่ภู คนหลงเมีย

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
คนหลงเมีย 2018
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ รอตอนต่อไปอยู่นะ  o13 :impress2:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
หื่นเสมอต้นเสมอปลาย. 555

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
บทที่ 20
By moggy
-----------------------

โครงการน้ำสมุนไพรเริ่มแล้วครับ คุณแม่จัดที่ทางตรงศาลานั่งเล่นใกล้ๆ โรงครัวของไร่ พวกแม่บ้านตื่นเต้นกันใหญ่ แต่ทุกคนก็เต็มใจที่จะเข้าร่วม ส่วนหนึ่งคงอยากจะช่วยจุนเจือครอบครัวด้วยอีกทาง วันนี้ทุกคนมาช่วยกันจัดการเรื่องสถานที่ ยังไม่ได้เริ่มอะไรมากนัก แค่มาพบปะพูดคุย คุณแม่ก็อธิบายโครงการนี้คร่าวๆ ส่วนรายละเอียดผมเป็นคนชี้แจง

“เหนื่อยไหมลูก” แม่พิมพ์ก็มาช่วยอีกแรง

“ไม่ครับแม่” ผมยิ้มให้แม่พิมพ์ ส่วนคุณแม่พูดคุยอยู่กับกลุ่มแม่บ้าน



ผมเดินไปหยิบผ้าปูโต๊ะในโรงครัว ตอนนี้เลยช่วงพักเที่ยงมาแล้ว เลยไม่มีคนงานอยู่ พวกคนงานครัวกำลังล้างของกันอยู่ด้านหลัง ผมเดินเข้าไปแถวตู้เก็บของ แต่ตามองไปเห็นอะไรแวบๆ เลยเดินเข้าไปดู ยังเด็กอยู่เลยเหมือนกำลังหยิบอะไรสักอย่าง เฮ้ย!! ขโมยนิ

“ทำอะไรน่ะ” ผมส่งเสียงดัง

“…” เด็กคนนั้นพอเห็นผมเข้า ก็วิ่งหนีทันที

“หยุดนะ” ผมเดินตามเร็วๆ

“…” เด็กคนนั้นหันมามองนิดๆ แต่ก็ยังไม่ยอมหยุดวิ่ง ผมวิ่งตามไม่ไหวแน่

“โอ๊ย....” กึ่งเดินกึ่งวิ่งสักพักก็เริ่มเจ็บท้อง ผมเลยทรุดนั่งลงกับพื้นแล้วจับท้องไว้ทันที ลูกนะลูก

“คุณ...คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” เด็กคนนั้นค่อยๆ เดินขยับเข้ามาเรื่อยๆ ผมดูท่าทางแล้ว ไม่ได้เป็นเด็กเลวร้ายอะไร น่าจะมีเหตุจูงใจมากกว่า

“จะ..เจ็บท้อง” เด็กคนนั้นเข้ามาช่วยทันที คุ้ยๆ ในกระเป๋า เอายาดมมาอังให้ เพราะผมเริ่มรู้สึกหายใจไม่สะดวก

“ข้าว อยู่แถวนี้หรือเปล่าลูก” เสียงแม่พิมพ์

“ผมช่วยคุณได้เท่านี้” เด็กคนนั้นเตรียมลุกหนี แต่ผมฝืนตัวเองจับข้อมือเขาไว้แน่น

“คุณ ปล่อย” เขายิ่งรนเมื่อเสียงเรียกผมใกล้เข้ามา

“ไม่ให้ไป” ผมบอกเขา แต่ผมก็ไม่ได้มีแรงมากพอจะจับเขาไว้ได้นาน

“พี่ภู” ผมเรียกเมื่อเห็นร่างใหญ่วิ่งเข้ามา พอดีกับเด็กคนนั้นบิดข้อมือตัวเองจนหลุดแล้ววิ่งหนีไป

“จับไว้” เสียงพี่ภูสั่งลูกน้องที่ตามมา แล้วรีบถลามาหาผม

“ข้าว”

“ไม่เป็นไรครับพี่ภู”

“ตายแล้ว ตาภูพาน้องไปที่บ้านก่อนเร็ว” คุณแม่รีบบอก แม่พิมพ์ก็เข้ามาหาผม

“…” พี่ภูสอดมืออุ้มผมขึ้น แล้วพากลับบ้านทันทีโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ




“แหวว ไปเอาน้ำหวาน ยาดม ยาหม่องมา” คุณแม่สั่งเสียงดังเมื่อเข้ามาในบ้าน

“เอาผ้ากับกะละมังน้ำมาด้วย” พี่ภูสั่งขึ้นอีกเสียง

“ค่ะ” แหววรีบวิ่งออกไปจัดการ แม่พิมพ์ก็นั่งอยู่ข้างๆ พี่ภูจับมือผมไม่ปล่อย

“ใจเย็นๆ ครับ ข้าวไม่ได้เป็นอะไรมาก” ผมพูดคลายความกังวลให้ทุกคน

“แล้วทำไมไปอยู่ตรงนั้นล่ะลูก” แม่พิมพ์ถามทันที

“พอดีข้าวไปเอาผ้าปูโต๊ะในโรงครัว แล้วเห็นเด็กคนนั้นกำลังหยิบอะไรสักอย่าง ข้าวก็เลยเข้าไปดู แต่เด็กคนนั้นคงตกใจแล้ววิ่งหนี ข้าวก็เลยตาม แล้วเกิดเจ็บท้องขึ้นมาครับ”

“เจ็บท้องหรอลูก” คุณแม่ถามขึ้นทันที

“ครับ แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว มันเหมือนลูกเคลื่อนไหวในท้องครับ”

“เด็กน่าจะดิ้นนะ ฮ่ะๆ” แม่ทั้ง 2 เริ่มคลายความกังวล มีก็แต่คนหน้าเข้มนี่แหละ มองหน้าผมนิ่งเชียว

“นั่นแหละครับ ข้าวก็เลยนั่งลงกับพื้น แต่เด็กคนนั้นวิ่งกลับมาช่วยข้าวไว้ ดูแล้วเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ข้าวก็เลยอยากรู้ว่าทำไปทำไมมากกว่า ข้าวก็เลยพยายามยื้อเขาไว้”

“อืม...อย่างนี้นี่เอง” คุณแม่ส่งน้ำมาให้ผมจิบ แม่พิมพ์พัดให้ ส่วนพี่ภูเช็ดตามหน้าและแขนผม แหววช่วยนวดขาให้ งือ...มีแต่คนเอาใจ

“ช่วงนี้ต้องระวังนะลูก ท้องใหญ่มากแล้ว” แม่พิมพ์เอ่ยเตือน ส่วนพี่ภูลูบหน้าท้องผมไปมา

“ครับแม่ เมื่อกี๊มันฉุกละหุกจริงๆ แหะๆ”

“เอ่อ...แล้วพี่ภูมาได้ยังไงอ่า ยังไม่เลิกงานนี่”

“ตาภูมาหาเรานั่นแหละ หนูข้าว มองแล้วไม่เจอ ก็เลยเดินตามหากัน” คุณแม่เฉลยให้

“อ่อ...” ผมมองพี่ภู พี่ภูลูบหัวผมเบาๆ




“นายหัวครับ ผมจับมาแล้วครับ” ลูกน้องพี่ภู อืม...ลูกของลุงกชชื่ออะไรนะ นั่นแหละครับ จับกลับมาได้ หืม...ถึงกับต้องแบกกันกลับมาอย่างนั้นเลยหรอ ก่อนจะปล่อยลงมานั่งกองกับพื้น เด็กคนนั้นก้มหน้า ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด

“เข้ามาทำอะไรในไร่ฉัน” เสียงเข้มพูดเรียบๆ แต่น้ำเสียงมีความกดดันอยู่นะ ผมว่า

“…” เด็กตรงหน้าเริ่มสะอึกสะอื้น ตัวสั่นเข้าไปอีก ผมจับมือพี่ภูทันที ผมมองคุณแม่ทั้ง 2 ก็พยักหน้าให้

“ชื่ออะไรล่ะ เราน่ะ” ผมค่อยๆ เริ่มถามคนตัวเล็กตรงหน้า อืม...ไม่เล็กมั้ง ตัวเท่าผมเลย

“บะ...บีมครับ”

“อืม...รอยยิ้ม” ชื่อคนตรงหน้าแปลว่า รอยยิ้ม

“อายุเท่าไร”

“20 ครับ”

“หืม...หน้าเด็กจัง” เด็กบีมเงยหน้าขึ้นมามองผม

“เรียนจบชั้นไหน” ผมถามไปเรื่อยๆ คุณแม่ทั้ง 2 นั่งฟังไปด้วย จิบชาไปด้วย พี่ภูนั่งฟังนิ่งๆ

“ม.6 ครับ”

“อืม...แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่ล่ะ เรียนอยู่หรือทำงาน”

“ทำงานครับ” บีมเริ่มตอบผมได้ดีขึ้น ตัวสั่นน้อยลง

“ทำงานอะไร แล้วทำอยู่ที่ไหน”

“งานครัวครับ ที่ไร่อนันต์”

“หึ” หือ...เสียงพี่ภู ผมหันมองทันทีอย่างสงสัย ก่อนจะหันไปถามต่อ

“แล้วเข้ามาที่นี่ทำไม” บีมเริ่มก้มหน้าอีกครั้ง แล้วส่ายหัวไปมา

“ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ ไม่ได้จะเอาเรื่องเราหรอกนะ แค่อยากรู้เท่านั้น ว่าทำไปทำไม”

“ยาย...ยายป่วย” เสียงตะกุกตะกักไม่เต็มเสียงนักเริ่มพูด

“ยายป่วยหรอ เป็นอะไร หนักไหม”

“ไข้ขึ้น...”

“ไม่มีเงินซื้อยา” บีมเริ่มพูดออกมา ตัวสั่นขึ้น

“โดนโกง เขาไม่ยอมจ่ายค่าแรง แล้วก็ไล่ออก”

“ผมขอโทษครับ ผมแค่อยากได้ยาเท่านั้น” บีมยกมือขึ้นไหว้ขอโทษ นี่สินะเหตุผลของเด็กบีม

“ไม่เป็นไร บอกแล้วไง ว่าไม่ได้จะเอาเรื่อง”

“แล้วทำไมไปที่โรงครัว ไม่ไปที่เรือนพยาบาล”

“มีคนอยู่ ก็เลยลองไปที่ครัวดู แล้วก็เจอคุณ” อืมอย่างนี้นี่เอง

“พี่ภู” ผมหันไปหาพี่ภู กำลังจะออกปาก พี่ภูก็สั่งลูกน้องซะก่อน

“ชิน เรียกหมอ แล้วจัดการด้วย”

“ครับนาย” ชินที่ยืนรออยู่แล้ว ชื่อชินนี่เอง



“บ้านอยู่ไหนล่ะเรา” คุณแม่ถามขึ้นหลังจากนั่งฟังมานาน

“ในหมู่บ้านท้ายไร่ครับ”

“อืม...มาทำงานกับฉันไหม” ผมกำลังจะขอพี่ภูเลย คุณแม่ใจดีจริงๆ แม่พิมพ์ก็ยิ้มให้

“ได้หรอครับ...ขอบคุณครับๆๆ” บีมขอบคุณแล้วขอบคุณอีก

“พอแล้วๆ ขอบคุณอะไรเยอะแยะ อาทิตย์หน้าค่อยมาเริ่มงานแล้วกัน ดูแลยายไปก่อน”

“ขอบคุณครับ คุณๆ ทุกคน” บีมยกมือไหว้รอบทิศ ความน่าเอ็นดูของเจ้าตัวสร้างรอยยิ้มให้แก่คนรอบข้าง นี่สินะ ที่มาของชื่อเจ้าตัว ผมก็พลอยยิ้มไปด้วย



พอจบเรื่องพี่ภูก็พาผมขึ้นมาพักบนห้อง ตอนนี้ก็ 7 เดือนแล้ว ท้องผมโตขึ้นมาก ลูกดิ้นตั้งแต่ช่วง 6 เดือนแล้ว ชอบดิ้นช่วงหัวค่ำ เป็นช่วงที่พี่ภูชอบพูด ชอบคุยกับลูก ไหนจะเล่านิทานอีก ดูลูกจะชอบมากเลย ดิ้นจนผมเจ็บไปหมด ส่วนผมจะพูดคุยกับลูกตลอดทั้งวันแหละครับ เขาจะได้รู้ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ มีดิ้นตอบบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะชอบหลับกลางวัน เห็นน้าหมอบอกตอนไปตรวจล่าสุด แต่ก็ยังไม่เห็นเพศเหมือนเดิม พี่ภูบอกลูกอยากให้ลุ้นตอนคลอดเลยล่ะมั้ง เราก็เลยตกลงกันว่าจะไม่ดูเพศลูกแล้ว รอลุ้นตอนคลอดเลยทีเดียว

“พี่ภู ขอบคุณนะครับ”

“เรื่อง?”

“ทุกเรื่อง”

“หึหึ พี่เต็มใจ” ฟอด...

“พักเถอะ” พี่ภูลูบหลังผมไปมาก่อนที่ผมจะหลับไปจริงๆ




วันนี้พี่ภูบอกว่าจะพาไปเที่ยวสวนยาง ผมเลยพูดเหน็บไปว่า ‘กว่าจะพาไปนะ’ พี่ภูเลยบอก ‘ก็นี่ไงพาไปตามสัญญา’ ผมเลยตีแขนไปทีด้วยความหมั่นไส้

“พร้อมหรือยังข้าว” พี่ภูถามผมที่ใส่รองเท้าอยู่ ส่วนพี่ภูยกของขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว

“ครับ” พี่ภูยื่นมือมาช่วยจับผมให้ลุกขึ้น



“โห...ไหนว่าสวนยางมีไม่เยอะไงพี่ภู”

“ก็ไม่เยอะจริงๆ นิ”

“สวยจัง พี่ภู” ผมตื่นเต้นไปหมดที่ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ

“หึหึ” พี่ภูขำๆ แต่ก็ขับรถไปเรื่อยๆ ก่อนจะจอดลงกลางๆ สวน มองไปข้างหน้าทั้ง 2 ข้างทางเป็นต้นยางพาราที่ปลูกเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ สวยมาก พอลงจากรถ พี่ภูก็พาเดินเข้าไปข้างในสวน

“ต้นยางพารา เป็นพืชยืนต้นขนาดใหญ่ มีใบเลี้ยงคู่ รากเป็นระบบรากแก้ว ลำต้นตั้งตรง กิ่งก้านสาขาจะแตกออกมาก เนื้อไม้ของต้นยางจะเป็นไม้เนื้ออ่อนมีสีขาวปนเหลือง” พี่ภูพูดไป ชี้ให้ดูไป

“อืม...”

“ใบยางพารา เป็นใบประกอบมีใบย่อยจำนวน 3 ใบในหนึ่งก้าน” พี่ภูหยิบก้านที่ตกอยู่แถวนั้นขึ้นมาให้ผมดู ผมรับมาแล้วพยักหน้างึกๆ

“ต้นยางมีดอกลักษณะเป็นช่อ ซึ่งทั้งดอกตัวเมียและดอกตัวผู้จะอยู่ในช่อเดียวกัน ผสมพันธุ์แบบเปิด ผลยางมีลักษณะเป็นพูแต่ละพูจะมีเมล็ดอยู่ภายใน เมล็ดมีสีน้ำตาลลายขาวคล้ายเมล็ดละหุ่ง”

“อื้ม...” ผมพยักหน้าเข้าใจ พี่ภูจูงมือผมเดินไปเรื่อยๆ

“สวนยางมีแค่ 200 ไร่เท่านั้น ส่วนใหญ่จะรีดแล้วส่งไปให้ไอ้ชาเลย เพราะรายนั้นเขาทำสวนยางโดยเฉพาะ”

“เป็นแบบพึ่งพาสินะ”

“หึหึ ธุรกิจก็คือธุรกิจครับ ที่รัก” พี่ภูบีบจมูกผมไม่แรงนักก่อนจะหยุดเดินที่กลุ่มคนงานกลุ่มหนึ่ง

“นายหัว” คนงานหันมากันหมด ไม่มีใครแปลกใจหรอกครับว่าผมเป็นใคร ทุกคนในไร่รู้จักผมตั้งแต่วันแต่งงานแล้ว ก็คุณแม่เล่นประกาศออกสื่อซะขนาดนั้น

“เป็นไงบ้าง” พี่ภูถามหัวหน้าคนงาน

“กำลังลงต้นอ่อนกันครับ นาย”

“พี่ภูลองได้ไหม” ผมรีบเอ่ยถาม อยากลองทำดูครับ

“แค่ลองนะ แดดจัด”

“ครับ”

“น้าใบ เอามาต้นนึง นอกนั้นไปทำงานต่อได้” น้าใบเป็นหัวหน้าคนงานในส่วนของสวนยาง จะคุมสวนยางทั้งหมด ส่วนลุงกชแกดูส่วนของสวนปาล์ม แต่พี่ภูให้ชินเข้ามาช่วยแล้ว เพราะสวนส่วนนั้นค่อนข้างใหญ่

“นี่ครับนาย”

“อืม...เดี๋ยวลงตรงนี้เลยละกัน” พี่ภูรับต้นอ่อนมา แล้วหันมาพูดกับผม

“ค่อยๆ นั่ง” พี่ภูประคองผมนั่งลง นั่งกับพื้นเลยนั่นแหละครับ ให้นั่งยองๆ คงไม่ไหว


พี่ภูใช้มีดเฉือนก้นถุงออกประมาณ 2-3 เซนติเมตร แล้ววางลงในหลุม หันแผ่นตาไปทางทิศตะวันตกเพื่อป้องกันอาการไหม้จากแสงแดดบริเวณโคนต้น แล้วพี่ภูก็กรีดด้านข้างของถุงให้ขาดจากกัน แต่ยังไม่ดึงถุงออกกลบดินจนเกือบเต็มหลุมให้รอยต่อระหว่างรากกับตาอยู่เหนือระดับผิวดินเล็กน้อย แล้วก็ดึงถุงพลาสติกออก ต้องระวังอย่าให้ดินในถุงชำแยก กลบดินจนเสมอปากหลุมและอัดดินให้แน่นโดยให้ดินบริเวณโคนต้นยางสูงกว่าดินปากหลุมเล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำขังในหลุมปลูก แล้วใช้เศษพืชคลุมบริเวณรอบโคนต้นยางรัศมี 50-80 เซนติเมตร ห่างจากโคนต้นยางประมาณ 1 ฝ่ามือ เป็นอันเสร็จ ตลอดวิธีการทำพี่ภูจับมือผมทำไปด้วยกัน ยกเว้นตอนเฉือน ตอนกรีดถุงครับ ก็คล้ายๆ ปลูกต้นไม้นะครับ แต่ขั้นตอนเยอะกว่าและต้องระวังมากกว่าเท่านั้น

“สนุกดี” ผมยิ้ม

“หึหึ” พี่ภูพาผมไปล้างมือก่อนจะเข้าไปสั่งงานนิดหน่อย แล้วขับรถพาผมไปดูไร่ต่อ



รถยังแล่นไปตามทาง ผมก็ดูวิวข้างทางไปเรื่อย

“ไร่พี่ภูสวยดี”

“พี่เห็นจนชินแล้ว”

“หมั่นไส้” ผมเลยหยิกพุงพี่ภูไปที ไม่มีอะไรติดมือผมเลย มีแต่แพคพี่ภู...เชอะ

“หึหึ”

“เที่ยงแล้วไปกินข้าวกันดีกว่า”

“ดีเหมือนกัน ข้าวหิวแล้ว”

“ครับๆ” ภูธิปขับรถไปทางออฟฟิศของตัวเองทันที เพราะข้าวของที่เตรียมมาวันนี้อยู่ที่นั่น เจ้าตัวเล็กอยากเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งที่ออฟฟิศบ้าง ก็ต้องตามใจกันไป ไม่อยากขัดใจเขา อีกอย่างผมก็อยากอยู่ใกล้ๆ ลูกข้าวเหมือนกัน :)

----------------------------
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//
**ลงช้า เพราะไปต่างจังหวัดมานะคะ  :m5:
**ขอบคุณมากๆ ทุกกำลังใจค่ะ  :m1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2018 22:50:16 โดย moggy »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
มาดี ก็ช่วยได้ก็ช่วยไป แต่ถ้ามาไม่ดี  :m16:

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
เจ็ดเดือนแล้ววววว  รอน้องคลอด o13

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ใกล้คลอดแล้ววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ให้น้องบีมมาเป็นเลขาข้าวเลย

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อยากเห็นหน้าหลาน555

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เฝ้าแต่รอเด็ก ๆ มาคลานเล่น :sad4:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ดีใจที่กลับมา. ลูกข้าวน่ารักตลอด ภูก็ดูแลดี แต่บีมนี่ยังไว้ใจไม่ได้ ชินจับตาดูไว้  :laugh:

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
บทที่ 21
By moggy
-----------------------

กว่าเดือนผ่านไป ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง พี่ภูเชิญวิทยากรจากแลปอื่นที่วิจัยเรื่องนี้เหมือนกันมาบรรยายและให้ความรู้ แม่พิมพ์จะศึกษาเยอะหน่อย เพราะพี่ภูคุยกับแม่พิมพ์ว่าจะให้แม่พิมพ์เป็นหัวหน้าศูนย์ไปเลย เพราะแม่พิมพ์มีประสบการณ์ด้านนี้มานาน ตอนแรกเห็นว่าจะปฏิเสธ แต่ไปๆ มาๆ ก็ตกลง พี่ภูต้องมีไม้เด็ดอะไรแน่ๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรแม่พิมพ์ก็ตกลงหมด ถ้าพี่ภูพูดอ่ะนะ ผมก็เข้าฟังเหมือนกัน ที่จริงอยากช่วยในแลปทดลองแต่พี่ภูไม่อนุญาต แม่พิมพ์เลยให้ผมอยู่ฝ่ายข้อมูลแทน นักวิจัยรับเข้ามาอีก 2 คนเท่านั้น ชื่อจ๊ะโอ๋กับจ๊ะเอ๋ เป็นฝาแฝดกัน ตอนแม่พิมพ์สัมภาษณ์พี่ภูกับผมก็อยู่ด้วย เป็นคนเก่งทั้งคู่ และที่สำคัญประสานงานกันเก่งมาก ด้วยความที่เป็นแฝดหรือเปล่าก็ไม่รู้ได้ แม่ผมถูกใจก็รับไว้เลย พี่ภูก็ไม่ได้ค้านอะไร เพราะให้แม่พิมพ์เป็นคนตัดสินใจได้เลย อย่างที่พี่ภูได้เคยบอกไว้แลปเราไม่ได้ใหญ่ ที่ทำเพราะส่งเสริมอาชีพเท่านั้น


เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปหาน้าหมอมาเพราะครบตรวจประจำเดือน ลูกมีพัฒนาการที่ดีเลย มีการตอบสนองอยู่ตลอด ช่วงนี้ให้ระวังมากขึ้นเพราะอีกเดือนเดียวก็จะคลอดแล้ว อย่าเดินมาก พักผ่อนเยอะๆ อาจมีชาตามมือและเท้าบ้าง ก็ให้แช่ในน้ำอุ่นก็จะดีขึ้น ผมเริ่มกลัวขึ้นมา ก็มีพี่ภูกอดให้กำลังใจข้างๆ ช่วงนี้ก็กินอาการครบ 5  หมู่เหมือนเดิมเพิ่มเติมคือผัก ผลไม้มากขึ้น และที่สำคัญเลยน้ำมะพร้าว ไม่รู้ว่าลูกอยากกินหรือผมอยากกิน กินมาตลอดตั้งแต่ท้องไตรมาสแรก


บ่ายคล้อยก็กลับมาที่บ้านกัน พี่ภูก็กลับมาด้วย คุณแม่ก็เพิ่งกลับมาจากในเมือง ไปจัดการงานที่โรงแรมมา ตลอดการเดินพี่ภูประคองผมตลอด ต้องบอกว่าช่วงนี้พี่ภูแทบไม่ห่างผมเลย งานครัวก็งดทำ เพราะต้องยืนนาน พี่ภูให้ป้าสายทำอาหารให้เหมือนเดิม

“กลับมากันแล้วหรอจ๊ะ” คุณแม่ที่นั่งอยู่ก่อนถามขึ้น

“ครับ” พี่ภูตอบเสียงเรียบ แล้วประคองผมมานั่งที่โซฟาอีกด้าน หยิบหมอนรองหลังให้พิง

“คุณพี่ไปในเมืองมาหรอคะ”

“ใช่จ้ะ ไปจัดการเอกสารที่โรงแรมมาน่ะ มะรืนว่าจะชวนคุณพิมพ์ไปช้อปปิ้งกัน ว่าจะซื้อของหลายอย่างเลย คุณพิมพ์ว่างไหมคะ”

“มะรืนหรอคะ ที่จริงก็ไม่มีอะไรมาก เอาเป็นว่าพิมพ์ว่างละกันค่ะ อยากไปช้อปอยู่เหมือนกัน”

“แล้วหนูข้าวเป็นยังไงบ้างลูก” คุณแม่หันมาถามผมต่อ

“ก็อึดอัดหน่อยครับ เดินไม่ค่อยสะดวก แล้วก็เจ็บท้องหน่วงๆ บ้าง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรครับ”

“อืม...ก็อาการปกติของคนท้องนะลูก อดทนนะ...อีกเดือนเดียวจะคลอดแล้ว กลัวรึเปล่าลูก”

“ก็กลัวๆ บ้างครับ” พี่ภูที่นั่งอยู่ข้างกันลูบหัวผมเบาๆ ผมของผมเริ่มยาวเคลียข้างแก้มแล้ว เลยมัดผมข้างหน้าเป็นจุกขึ้นเพราะมันชอบทิ่มตา

“ไม่ต้องกลัวนะลูก ทุกคนอยู่ข้างๆ ลูกนะ” คุณแม่กุมมือผมแล้วเอ่ยขึ้น

“ครับ” ผมยิ้มให้กับทุกคน

“แม่...ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษา” พี่ภูพูดขึ้นต่อ

“ว่า” คุณแม่หันไปหาพี่ภู พอดีกับแหววเอาผลไม้เข้ามาให้

“ผมจะต่อเติมบ้าน”

“อืม ก็ดีนะ เพราะตอนนี้เราไม่มีห้องสำรองเลย” ผมกับพี่ภู 1 คุณแม่กับแม่พิมพ์คนละ 1 ห้องลูก 1 อืม...ไม่มีจริงๆ ด้วย ที่จริงแม่พิมพ์กะจะซื้อบ้านที่นี่ด้วยซ้ำ เกรงใจบ้านพี่ภู แต่พี่ภูบอกถ้าซื้อก็ต้องไปๆ มาๆ อยู่ดี มาอยู่ด้วยกันเลยดีกว่า คุณแม่ก็เห็นด้วย แม่พิมพ์ก็เลยตกลง

“แม่ช่วยติดต่อช่างให้ด้วย ผมว่าจะขยายตรงส่วนหลังบ้านทั้ง 2 ชั้นเลย”

“ได้ เดี๋ยวแม่ติดต่อให้ เออ...แม่ก็ลืมห้องตาหนูไปเลย วันก่อนให้ช่างมาติดแค่วอลเปเปอร์” คงจะหมายถึงห้องที่ผมเคยอยู่ที่ตอนนี้ทำเป็นห้องลูกไปแล้ว พี่ภูว่าจะเจาะประตูเชื่อมด้วย อืม...ผมก็ว่าดี ตอนแรกผมก็ถามว่าทำไมไม่ให้ลูกนอนห้องเรา พี่ภูบอกว่าเสียงอื่นมันรบกวนลูก เราเอาเขาเข้านอนแล้ว แต่เรายังเดินไปมา เดินเข้าห้องน้ำ หยิบนู้นนี่เสียงดังอีก เห็นว่าไปอ่านจากเว็บไซต์ต่างประเทศมา พี่ภูบอกไม่ต้องห่วง เดี๋ยวติดทั้งกล้องวงจรปิดและวอไว้ด้วย อืม...ผมก็เบาใจ

“ไหนๆ ก็เรียกช่างมาแล้ว เดี๋ยวให้จัดการห้องตาหนูให้เสร็จเลยล่ะกัน คุณพิมพ์เดี๋ยวไปซื้อของตาหนูด้วยนะคะ”

“ได้ค่ะ คุณพี่ พิมพ์ว่าจะซื้อเสื้อผ้าเด็กสักหน่อย”

“ดีค่ะ คุณพิมพ์” ตอนนี้คุณแม่ทั้ง 2 อยู่ในโลกส่วนตัวกันไปเรียบร้อยแล้วครับ ผมเลยหันไปมองหน้าพี่ภู พี่ภูแค่ส่ายหน้าไปมา




+++++++++++++++++++++++++++

วันนี้คุณแม่ทั้ง 2 ไปช้อปปิ้งกันตั้งแต่สายๆ มีลุงยิ้มขับรถให้ ช่างที่คุณแม่ติดต่อให้ได้เข้ามาประเมินสถานที่ตั้งแต่เมื่อวาน ตอนแรกพี่ภูจะขยายแค่ส่วนหลัง ไปๆ มาๆ ให้ขยายส่วนด้านข้างไปด้วย พี่ภูให้ช่างทำงานแค่ช่วงกลางวันเท่านั้น เพราะตอนกลางคืนไม่อยากให้ทำเสียงดังรบกวนผมและคุณแม่ ก็เป็นอันตกลง วันนี้พี่ภูไม่เข้าไร่เพราะเมื่อคืนทำงานดึกเลยยังนอนไม่ตื่น ผมก็ไม่อยากปลุกสักเท่าไรถ้ามันยังไม่สายแล้ว พี่ภูยังไม่ได้กินข้าวเลย ผมเลยค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปที่ห้องนอน

ผมขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วเขย่าคนตัวใหญ่

“พี่ภูตื่นได้แล้ว”

“อื้ม...” คนตัวโตเริ่มขยับตัว ปกติพี่ภูเป็นคนตื่นง่ายครับ แต่ถ้านอนดึกก็จะอีกแบบเลย ‘ขี้อ้อน’

“สายแล้วพี่ภู ตื่นไปกินข้าวครับ”

“อื้อ...” พี่ภูเริ่มเลื้อยตัวเองมานอนหนุนตักผม ใช้แขนทั้งสองข้างโอบรอบเอวผมไว้

“ฮ่ะๆ ถ้าใครมาเห็นเข้าจะว่ายังไงน๊า” พี่ภูเริ่มจุ๊บหน้าท้องผมหลายที ก่อนจะเงยหน้ามาหาผม

“ไม่มีใครได้เห็นหรอก นอกจากข้าวคนเดียว” มียักคิ้วหลิ่วตาให้อีก เดี๋ยวเถอะ

“พี่ภูอ่ะ ไปครับลุกได้แล้ว ไปกินข้าวกัน”

“เถียงสู้ไม่ได้ เปลี่ยนเรื่องเลยนะ” พี่ภูเริ่มลุกขึ้นนั่ง

“เปล่าซะหน่อย” ผมยู่ปากเล็กน้อย

“หึหึ” พี่ภูเอนตัวมาจุ๊บผมแล้วหอมแก้มไปที

“พี่ภู...”

“เตรียมเสื้อผ้าให้พี่ด้วย” คนตัวโตจุ๊บปากผมเร็วๆ อีกครั้งก่อนลุกไปหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทันที ฮึ่ม...พี่ภูนะพี่ภู ผมลุกขึ้นเก็บที่นอนแล้วไปเตรียมเสื้อผ้าให้พี่ภู พอเสร็จจากตรงนั้นก็เดินไปจัดเอกสารที่วางบนโต๊ะทำงานพี่ภูให้เรียบร้อย พอดีกับพี่ภูอาบน้ำเสร็จ


คนตัวใหญ่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวออกมา ผมเปียกลู่ลงเพราะเพิ่งสระผม พี่ภูไม่ยอมเช็ดให้แห้ง ทำให้น้ำหยดลงใส่ตามตัว ผมเลยต้องหยิบผ้าผืนเล็กไปเช็ดผมให้

“พี่ภูมานั่งนี่ ข้าวเช็ดผมให้” พี่ภูก็เดินมาหาอย่างว่าง่าย แล้วนั่งลงข้างเตียงระหว่างขาผม

“อืม...สบายจัง” ระหว่างที่ผมเช็ดผมให้ พี่ภูก็เอ่ยออกมา

“ฮิฮิ ทำเป็นคนแก่ไปได้”

“พี่ก็อายุไม่ใช่น้อยแล้วนะ”

“หรอครับ ลุงภู”

“เดี๋ยวเถอะ ล้อเลียนพี่” พี่ภูดึงมือผมข้างที่ใส่แหวนแต่งงานไปจูบหนักๆ

“ผมแห้งแล้วครับ พี่ภูไปแต่งตัวเถอะ”

“อืม” พี่ภูลุกไปแต่งตัว ผมก็เอาผ้าไปตาก

“อ่อ พี่ภูแล้วบีมเป็นยังไงบ้างครับ”

“พี่ให้ชินดูแล” หลังๆ มาผมไม่ค่อยได้เข้าไร่ เพราะพี่ภูห้ามเอาไว้ ก็เลยไม่ได้เจอกลุ่มแม่บ้านในโครงการ บีมก็ช่วยทางนี้ด้วยเหมือนกัน ผมค่อนข้างเอ็นดู เพราะเป็นเด็กขยัน

“ก็ดีครับ”





หลังจากทานข้าว พี่ภูก็พามานั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น และเพราะมีพี่ภูอยู่ด้วยผมเลยไม่เบื่อ พี่ภูจับผมให้นั่งพิงอก ก่อนจะวาดแขนโอบรอบเอวผมแล้ววางมือที่ท้องนูนลูบไปมา ผมกับพี่ภูนั่งดูไปเรื่อยๆ ก่อนจะสะดุดกับข่าวหนึ่ง ‘นายแพทย์สมพรปลิดชีวิตตัวเองในคุก’

“พี่ภูนั่น” ผมชี้ให้พี่ภูดู

“อืม...พี่เห็นแล้ว” พี่ภูลูบหัวผมไปมา

“ไม่น่าเลยนะครับ” ผมมองด้วยความสังเวช อาชีพการงานก็ดี ไม่น่าขวนขวายอยากมีอยากได้เลย ไม่อย่างนั้นอนาคตเขาอาจจะไปได้ไกลกว่านี้

“อืม เวรกรรมมีจริง” พี่ภูเอ่ยพร้อมกดเปลี่ยนช่อง

“คึ...คึคึ ขอโทษครับพี่ภู ไม่น่าเชื่อว่าพี่ภูจะพูดเรื่องเวรกรรม”

“ล้อเลียนพี่อีกแล้วนะ เดี๋ยวจะโดนทำโทษไม่ใช่น้อย” พี่ภูจุ๊บเหม่งผมแรงๆ อย่างคาดโทษ ตอนนี้ผมยังปากเก่งได้ครับ เพราะช่วง 3 เดือนสุดท้ายพี่ภูค่อนข้างระวังในเรื่องนั้นแทบจะไม่แตะผมเลย แค่นอนกอดเท่านั้น

“ไม่กลัว” ผมยู่ปากอย่างท้าทาย

“หึหึ หลังคลอดเจ้าตัวเล็ก พี่จะคิดทบต้นทบดอกเลย เตรียมตัวให้ดีเถอะ” สายตาพี่ภูไม่น่าไว้ใจเลย แต่เอาเถอะครับ อีกนานกว่าจะถึงวันนั้น ตอนนี้ผมขอแกล้งพี่ภูก่อน

“จะรอนะลุงภู…” ผมลากเสียงยาวอย่างล้อเลียน พี่ภูเลยก้มลงมาจูบผม เป็นเวลานานทีเดียวก่อนจะผละออกมาเลาะเล็มตามแนวริมฝีปาก จูบซับอยู่อย่างนั้น ผมแทบหายใจไม่ทันเลยทุบอกคนตัวโตไปที

“คนขี้แกล้ง” ผมลืมไปว่าไม่ทำเรื่องอย่างนั้น ก็ใช่ว่าจะจูบไม่ได้สักหน่อย ลืมคิดไปจริงๆ

“หึหึ”




+++++++++++++++++++++++++

เสียงรถแล่นเข้ามาในบริเวณบ้านช่วงสายของอีกวัน ผมกำลังนั่งร้อยมาลัยอยู่เลยวางเข็มที่มีดอกมะลิที่เรียงกันเป็นแนวแถวลงบนถาด แล้วพยุงตัวเองขึ้นนั่งตรง ‘ใครนะ’

“คุณข้าวคะ คุณรักมาค่ะ” แหววเดินเข้ามาบอกก่อนจะเดินนำผู้มาใหม่ทั้ง 3 คนเข้ามา

หืม...เด็ก

“คุณรัก” ผมเอ่ยชื่อเจ้าตัวพร้อมยิ้มให้

“สวัสดีครับ คุณข้าว”

“สวัสดีครับ”

“น้องนนท์ น้องนันท์ สวัสดีคุณอาข้าวก่อน”

“สาหวาดดีฮับ” เด็กแฝดยกมือพนมไว้ที่อกแล้วพูดขึ้นพร้อมกัน น่ารักจริงๆ

“สวัสดีครับ คนไหนน้องนนท์ คนไหนน้องนันท์ครับ” เด็กแฝดคู่นี้เหมือนกันแทบทุกอย่าง ดูยากมาก

“น้องนนท์คับ” เด็กแฝดทางซ้ายมือคุณรักชี้ที่อกตัวเองแล้วว่าขึ้น

“น้องนันท์คับ” แฝดทางขวามือคุณรักชี้ที่ตัวเองแล้วเอ่ยขึ้นบ้าง

“ครับๆ” ผมลูบหัวเด็กทั้ง 2 คนเบาๆ

“น้องนนท์ น้องนันท์ไปกินขนมกับพี่แหววไหมคะ” แหววเอาน้ำเข้ามาให้พอดีเอ่ยชวนเด็กๆ

“มะ กินหนม” น้องนันท์กระตุกขากางเกงของคุณรักไปมาอย่างอ้อนๆ เห็นอย่างนั้นแล้ว ก็อยากเจอลูกมี๊ไวๆ จัง ผมลูบท้องไปมา

“ก็ได้ครับ เสร็จแล้วกลับมาหามะที่นี่นะ” คุณรักนั่งคุกเข่าลงทั้งสองข้าง แล้วลูบแก้มใสทั้ง 2 คน “ฮับ” เด็กแฝดรับคำก่อนคุณรักจะปล่อยให้เดินไปกับแหวว




หลังจากอยู่กันแค่ 2 คน

“เชิญนั่งครับ คุณรัก”

“ขอบคุณครับ”

“มากันยังไงครับ”

“คุณชามาส่งก่อนจะไปหาคุณภูที่ไร่น่ะครับ เห็นว่ามีธุระ”

“อ่อ…แล้วเด็ก...”

“ลูกคุณชาครับ ปิดเทอมกลับมาอยู่กับคุณชา ปกติอยู่กับคุณพ่อ คุณแม่ของคุณชาในเมืองครับ” คุณรักเอ่ยตอบผมให้หายสงสัย

“ก็ว่าอยู่ เห็นพี่ภูพูดถึงบ่อย เด็กๆ น่ารักนะครับ”

“ครับ...น่ารัก แต่ตอนดื้อนี่ก็เอาเรื่องอยู่ครับ” คุณรักพูดไป ยิ้มไป

“ผมคิดว่าคุณชากับคุณภูน่าจะคุยธุระกันนาน ก็เลยให้มาส่งที่นี่ก่อน แวะมาหาคุณข้าวก็ดีครับ ไม่ได้คุยกันนานแล้ว” ก็ตั้งแต่ที่คุณรักให้ผมสอนทำเค้ก ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย

“ขอบคุณนะครับคุณรัก ผมจะได้มีเพื่อนคุย เพราะตอนนี้จะเดิน จะนั่ง ก็ลำบากเต็มที” ผมยิ้มให้

“แล้วนี่คุณข้าวทำอะไรอยู่ครับ”

“ร้อยพวงมาลัยถวายพระครับ คุณรักลองดูไหม”

“อย่าเลยครับ ดอกไม้จะช้ำหมด ฮ่ะๆ”

“ฮ่ะๆ คุณรักก็...”


ผมกับคุณรักนั่งคุยกันไปเรื่อย พวกเด็กๆ ก็กลับมานั่งเล่นของเล่นที่หน้าโซฟาแล้ว มีแหววคอยช่วยดูอยู่ข้างๆ ตกบ่ายหลังจากที่ทานข้าวเที่ยงเสร็จ ก็ให้เด็กๆ กินนมก่อนที่เด็กแฝดจะพากันหลับปุ๋ยไป ผมก็ช่วยบ้าง แต่ส่วนใหญ่คุณรักจะทำ ทั้งชงนม จับเด็กแฝดนอนกินนมพร้อมกันอย่างคล่องแคล่ว ผมยังอึ้งเลย

“คุณรักนี่คล่องนะครับ”

“ทำจนชินน่ะครับ”

“หืม...”

“อ่อ...ผมหมายถึงนอกจากสอนแล้วก็มีหน้าที่ดูแลเด็กๆ ด้วยน่ะครับ”

“อ๋อ...ครับ” ผมยิ้มรับอย่างเข้าใจ



บ่ายคล้อยก็ได้ยินเสียงรถพี่ภูแล่นเข้ามา และเสียงรถอีกคันที่ตามมา ก่อนที่ร่างทั้ง 2 จะเดินเข้ามาภายในบ้าน

“พี่ภู” ผมเอ่ยเรียกพี่ภูตอนกลับจากไร่เป็นประจำ พี่ภูก็จะเข้ามาหอมแก้มเป็นประจำเหมือนกัน แต่ครั้งนี้มีแขก ผมเลยเบี่ยงตัวหนี พี่ภูขมวดคิ้วแล้วมองหน้าผม “มีแขก” ผมเอ่ยออกไป พี่ภูพ่นลมออกมาเล็กน้อย ก่อนผมจะหันไปทักคุณชา

“สวัสดีครับ คุณชา” ผมเอ่ยขึ้นพร้อมกับที่พี่ภูจับหน้าผมให้หันไปหาแล้วก้มลงมาหอมทั้ง 2 แก้มอย่างเคยชิน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ผม

“พี่ภู!!!”

“อะไร” ตีหน้ามึนใส่ผมอีก เดี๋ยวเถอะ

“ฮ่าๆ สวัสดีครับ คุณข้าว” คุณชาหัวเราะก่อนจะทักผมกลับ

“หน้ามึนนะมึง” คุณชาหันไปด่าเพื่อน พี่ภูแค่เลิกคิ้วเล็กน้อย

“สวัสดีครับ คุณภู” คุณรักที่เพิ่งเดินมาจากครัว เพราะไปล้างขวดนมมา ทักพี่ภูขึ้น

“สวัสดีครับ” พี่ภูทักกลับสั้นๆ เท่านั้น

“นนท์ นันท์ล่ะ” คุณชาเอ่ยถามคนที่นั่งเก็บของอยู่

“นอนอยู่ครับ อีกสักพักค่อยไปปลุก” เพราะตอนนี้ก็บ่าย 3 โมงครึ่งแล้ว ถ้าเด็กแฝดนอนนานกว่านี้ เดี๋ยวตอนดึกจะนอนไม่หลับกัน เห็นคุณรักว่าอย่างนั้นนะ ผมก็นั่งเก็บข้อมูลไปพราง

“อืม” ชาครตอบแค่นั้นแล้วหันไปคุยกับภูธิปต่อ

“อย่าลืม กูฝากด้วย”

“อืม” พี่ภูตอบแค่นั้น

“คุณชากับคุณรักรอทานข้าวเย็นด้วยกันนะครับ” ผมเอ่ยชวน

“วันนี้ต้องขอตัวครับ พ่อกับแม่ผมรอทานข้าวกันอยู่”

“อ่อ...ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มให้

“เดี๋ยวจะโดน หยุดยิ้มเลยนะ” พี่ภูเอนตัวมากระซิบใกล้ๆ

“อะไร ข้าวไม่ได้ทำ” ผมแค่ยิ้มตามมารยาทเท่านั้นเอง

“อย่าเถียง ห้ามยิ้มให้คนอื่น” คำสั่งอย่างเด็ดขาด


หลังจากที่น้องนนท์ น้องนันท์ตื่น คุณชาก็พาคุณรักกับเด็กแฝดกลับเลยเพราะที่บ้านรออยู่ พี่ภูเดินออกไปส่งหน้าบ้าน ส่วนผมพี่ภูบอกให้รอที่นี่ ก็คือนั่งอยู่ที่เดิมนั่นแหละครับ...


----------------------------
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//
**ต้องขอโทษที่มาต่อช้านะคะ มีเหตุจำเป็นค่ะ  :mew6:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องนนท์ น้องนันท์ น่ารักนะครับเนี่ย ^^

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เมื่อไหร่จาคลอด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อยากเห็นหน้าลูกข้าวเร็ว ๆ แล้วอ่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากเจอเด็กน้อยแล้ว  :impress2:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ที่ไม่ให้ลูกนอนที่ห้องด้วยคือกลัวกวนลูกแน่หรา o18

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
บทที่ 22
By moggy
-----------------------

กลางดึกผมตื่นขึ้นมาเพราะเจ็บท้อง ตอนแรกคิดว่าจะเป็นแบบทุกทีคือเป็นแปปๆ เดี๋ยวก็หาย แต่นี่ผมเจ็บท้องมากว่าชั่วโมงแล้ว ผมไม่อยากขยับตัวมากกลัวจะรบกวนการนอนของพี่ภู ช่วงนี้พี่ภูนอนดึกทุกวัน ผมจะลุกขึ้นนั่งแต่ก็ไม่ไหวจริงๆ เลยนอนลงอย่างเดิม พี่ภูคงจะรู้สึกถึงได้ตื่นขึ้นมา

“ข้าว เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่ภูจับตัวผมให้หันไปหา

“จะ...เจ็บท้อง” ผมเริ่มเจ็บท้องมากกว่าเดิมและเริ่มหายใจถี่ขึ้น

“เจ็บท้อง...มากไหม” เสียงพี่ภูดูเป็นกังวลมาก

“...” ผมพยักหน้ารับ

“แปปนะ พี่โทรหาน้าหมอก่อน” พี่ภูเดินไปหยิบโทรศัพท์แล้วเดินกลับมานั่งข้างผมเหมือนเดิม


“ครับ น้าหมอ...ครับ” พี่ภูวางสายไปแล้ว



“ข้าว เดี๋ยวเราไปโรงพยาบาลกันนะ น้าหมอบอกอาจจะใกล้คลอดแล้ว” ผมพยักหน้าอย่างเดียว ตอนนี้ไม่มีแรงจะทำอะไรเลย พี่ภูลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบเสื้อคลุมมาใส่ให้ผม แล้วอุ้มผมลงไปข้างล่าง ด้วยความร้อนใจของพี่ภู ประตูเลยปิดเสียงดังทำให้คนทั้งบ้านตื่นกันหมด

“ตาภู มีอะไรหรือเปล่า” คุณแม่เปิดประตูออกมาถาม แม่พิมพ์ก็เปิดประตูมาเหมือนกัน

“ข้าวเจ็บท้องครับ ผมจะพาไปโรงพยาบาล”

“ตายแล้ว เดี๋ยวแม่ไปด้วย” แม่พิมพ์เอ่ยขึ้นก่อนจะเข้าไปในห้องอีกรอบแล้วออกมาพร้อมเสื้อคลุม

“พาน้องลงไปก่อน แม่จะไปด้วย” คุณแม่ก็เข้าห้องไปหยิบกระเป๋ากับเสื้อคลุมก่อนจะตามลงมาข้างล่าง




 “ข้าว เป็นยังไงบ้างลูก” แม่พิมพ์นั่งกุมมือผมอยู่ที่เบาะหลัง พี่ภูขับรถนั่งคู่กับคุณแม่

“ดีขึ้นครับ แต่ก็ยังเจ็บอยู่ มันเจ็บมากกว่าปกติครับ”

“ใจเย็นๆ นะลูก คงจะใกล้คลอดแล้ว”

“…” ผมพยักหน้ารับ

“ตาภู โทรหาน้าหมอหรือยัง” คุณแม่ถามพี่ภูขึ้น

“โทรแล้วครับ” พี่ภูตอบเสียงเข้ม

“ใจเย็นๆ ลูก น้องอยู่ตรงนี้” คุณแม่คงจะรับรู้ได้ว่าพี่ภูเป็นกังวลมาก จึงแตะแขนให้พี่ภูรู้สึกถึง

“...ครับ” พี่ภูมองผมผ่านกระจกหลังแล้วเอ่ยขึ้น


++++++++++++++++++++


ผมถูกพาตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที น้าหมอที่รออยู่แล้วขอตรวจผมก่อน ก่อนที่ผมจะถูกเข็นเข้าห้อง ผมกับพี่ภูเรามองกันตลอด

“ยัยวิ ฝากด้วยนะ” คุณแม่เอ่ยขึ้นตอนเจอหมอวิเตรียมตัวเข้าตรวจผม

“ค่ะ พี่จันทร์ ยังไงก็หลานวิเหมือนกันนะคะ”

“ใจเย็นๆ พี่ภู ถึงมือหมอแล้ว” ดอกเตอร์พิมพ์จับไหล่ภูธิปอย่างให้กำลังใจ

“ครับ แม่พิมพ์”





ครึ่งชั่วโมงผ่านไป น้าหมอก็ยังไม่ออกมา ภูธิปจึงลุกเดินไปมา คุณแม่กับแม่พิมพ์ก็นั่งรอที่เก้าอี้ใกล้ๆ นี้ สักพักประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก

“น้าหมอ ข้าวเป็นยังไงบ้างครับ” ภูธิปรีบเดินเข้าไปถามหมอวิทันที

“ใจเย็นๆ ตาภู หนูข้าวไม่ได้เป็นอะไรมาก มดลูกบีบตัวน่ะ เป็นอาการใกล้คลอด น้าฉีดยาบรรเทาให้แล้ว”

“แล้วจะคลอดเมื่อไหร่น่ะ ยัยวิ” คุณหญิงจันทร์เอ่ยถามขึ้น โดยมีแม่พิมพ์ยืนฟังอยู่ข้างๆ

“ภายในสัปดาห์นี้ค่ะ ยังไงให้ลูกข้าวนอนโรงพยาบาลเลยนะตาภู” หมอวิตอบคนเป็นพี่สาวและหันไปหาหลานชาย

“ครับ”

“เดี๋ยวน้าให้บุรุษพยาบาลเข็นไปที่ห้องพัก ตอนนี้น้องยังหลับอยู่ จะรอหรือยังไงก็ตามใจเรานะ พี่จันทร์คุณพิมพ์ เดี๋ยววิขอตัวก่อนนะคะ”

“ขอบคุณนะคะ หมอวิ” แม่พิมพ์เอ่ยขึ้น

“ค่ะ”





ในห้องพักฟื้น ภูธิปเดินเข้าไปยืนที่ข้างเตียงทันทีแล้วก้มลงจูบที่หน้าผากมนของคนที่หลับอยู่ ในใจของภูธิปกังวลไปหมด ตอนนี้เห็นลูกข้าวดีขึ้น เขาก็สบายใจ

“น้องหลับอยู่ เดี๋ยวแม่กลับกันก่อนละกันนะ พรุ่งนี้แม่จะมาใหม่”

“ครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”

“ไม่ต้อง อยู่กับน้องไปเถอะ แม่ให้ตายิ้มมารับแล้ว คงจะรออยู่ข้างล่างน่ะ”

“ครับ”

“แล้วเรื่องงานจะเอายังไง ดูจากท่าทางคงไม่อยากกลับเลยล่ะสิ โรงแรมแม่ดูให้ได้ แต่เรื่องในไร่แม่คงช่วยได้ไม่เยอะ”

“เดี๋ยวพิมพ์มาดูข้าวให้เองค่ะ...คุณพี่ ทางแลปเดี๋ยวให้จ๊ะโอ๋จ๊ะเอ๋ช่วยดูให้ พี่ภูจะได้กลับไปทำงานได้” ทุกคนเข้าใจว่างานในไร่มันทิ้งไปไหนไม่ได้เลย อยู่ๆ จะลาไม่เข้าไปดูก็ไม่ได้ ต้นไม้ใบหญ้ามันมีการเจริญเติบโตทุกวัน ต้องตรวจ ต้องเช็คทุกวัน ไม่ใช่งานบริษัทที่จะนั่งอ่านเอกสารแล้วเซ็นชื่อเพียงอย่างเดียว

“อืม…เดี๋ยวแม่จะช่วยดูให้อีกแรงแล้วกัน งานแม่มันไม่ต้องเข้าไปทุกวันก็ได้”

“ขอบคุณครับแม่พิมพ์ คุณแม่” ภูธิปยกมือไหว้ขอบคุณคุณแม่ทั้งสองคน

“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวแม่กลับกันก่อนล่ะ แล้วจะให้แม่เอาเสื้อผ้ามาให้หรือยังไง”

“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมกลับไปอาบน้ำที่บ้านเอา”

“โอเคจ้ะ งั้นแม่กลับก่อน ดูน้องดีๆ นะลูก”

“ครับ”




ผมตื่นขึ้นมาท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย เลยเหลือบมองดูนาฬิกาเพิ่งจะตี 5 เท่านั้น แล้วมองไปรอบๆ ห้องไม่มีใครอยู่เลย สงสัยจะกลับกันไปหมดแล้ว ผมลูบหน้าท้องไปมาตามความเคยชิน แล้วพยายามลุกขึ้นนั่งเพราะความหิวน้ำ

แกร็ก...เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมร่างสูงเดินออกมา

“ข้าว” พี่ภูเดินเข้ามาหาผมทันที

“พี่ภู” ผมยังงงๆ อยู่ พี่ภูไม่ได้กลับบ้านหรอ

“ทำอะไร ตกไปจะทำยังไง” เสียงดุเอ่ยขึ้น

“ข้าวหิวน้ำ”

“นั่งเฉยๆ พี่รินให้” ผมรับน้ำจากพี่ภูยกขึ้นดื่มด้วยความกระหาย ก่อนจะคืนแก้วให้พี่ภู

“พี่ภูไม่ได้กลับบ้านหรอ”

“เปล่า แต่แม่กับแม่พิมพ์กลับไปแล้ว”

“อ่อ...ดีแล้วครับ ให้ท่านกลับไปพักผ่อนกัน”

“เป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บท้องอยู่หรือเปล่า”

“ไม่แล้วครับ อือ...พี่ภูอย่าทำหน้าเครียดสิ” ผมยื่นนิ้วมือออกไปคลึงระหว่างหัวคิ้วให้พี่ภู

“พี่เป็นห่วง” พี่ภูจับมือผมข้างที่ยื่นไปคลึงหัวคิ้วให้ลงมาจูบ

“ครับ ๆ ข้าวไม่ได้เป็นอะไร น้าหมอก็บอกแล้วนี่ แค่เป็นอาการใกล้คลอด ไปๆ มาๆ เครียดกว่าคนจะคลอดเองอีกนะเนี่ย” ผมพูดล้อๆ เพื่อให้พี่ภูคลายความกังวล

“เรานี่นะ” พี่ภูโยกหัวผมไปมา

“แล้วพี่ภูได้นอนหรือยัง ดูสิเลี้ยงหมีแพนด้าไว้กี่ตัวเนี่ย” ผมหยอกพี่ภูต่อ

“เดี๋ยวเหอะ นอนแล้วก็เพิ่งตื่นก่อนข้าวไม่นาน” พี่ภูยังไม่ปล่อยมือจากผมเลย กุมไว้อยู่ตลอด

“แล้วพี่ภูจะกลับเลยหรือเปล่า ต้องไปทำงานนี่”

“ยัง เดี๋ยวพี่รอแม่มาก่อน”

“หื้ม...”

“แม่กับแม่พิมพ์จะมาเฝ้าข้าวน่ะ”

“หืม...รบกวนแม่หรือเปล่าพี่ภู พวกท่านต้องทำงานเหมือนกันนิ ข้าวอยู่คนเดียวได้นะ”

“พวกท่านบอกไว้เอง ไว้พี่จะรีบมาหานะ” พี่ภูลูบหัวผม ผมก็ซบลงบนอกพี่ภูนั่นแหละ รู้สึกอยากอ้อน

“ครับ แต่ขับรถดีๆ นะพี่ภู ไม่ต้องรีบมากแต่ให้รู้ว่าข้าวรออยู่”

“หึหึ โอเคครับ”

“ข้าวพูดเล่น พี่ภูต้องขับรถระวังๆ รู้เปล่า ข้าวเป็นห่วง” ระยะทางมาโรงพยาบาลใช้เวลา 40-45 นาทีได้ ถนนบางช่วงยังเป็นทางลูกรังอยู่เลย อดห่วงพี่ภูไม่ได้จริงๆ งานเยอะแล้วต้องมาหาผมอีก ห้ามไปพี่ภูก็ไม่ฟังหรอกครับ อีกอย่างผมก็อยากให้พี่ภูมาหาด้วย ก็ไม่รู้จะห้ามไปทำไม

“อืม...พี่จะขับรถระวังๆ ข้าวนอนต่อเถอะ ฟ้ายังไม่สว่างเลย”

“นอนด้วยกัน” ผมมองด้วยสายตาอ้อนๆ

“เรานี่นะ...” สุดท้ายพี่ภูก็ยอมแพ้ ผมขยับตัวให้พี่ภูขึ้นมานอนกับผมได้

“อุ่นจัง” จัดที่ทางนอนได้แล้ว ผมก็วางมือทับมือพี่ภูที่วางพาดมาที่ช่วงท้องของผม

“อืม...” พี่ภูจูบที่ขมับผมแล้วเลื่อนไปหอมแก้มอีกที สักพักผมก็เคลิ้มหลับ




ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นแม่พิมพ์กับคุณแม่นั่งคุยกันอยู่ พอมองไปรอบๆ ถึงได้รู้ว่าสายมากแล้ว

“ข้าว เป็นยังไงบ้างลูก”

“ดีขึ้นแล้วครับ” ผมพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง แม่พิมพ์เข้ามาปรับเตียงให้

“มานานแล้วหรอครับแม่”

“ตั้งแต่ 7 โมงแล้วจ้ะ” ผมพยักหน้ารับ อืม...พี่ภูคงกลับไปช่วงนั้น

“หิวไหมลูก ป้าสายทำโจ๊กไก่มาให้” คุณแม่ถามขึ้น

“พูดขึ้นก็หิวเลยครับ” ผมยิ้มให้แม่ทั้งสองคน

“กินได้เยอะเลยนะเรา” แม่พิมพ์นั่งปลอกชมพู่อยู่ข้างๆ

“สงสัยเจ้าตัวเล็กจะหิวครับ”

“จ้ะๆ กินเยอะๆ น่ะดีแล้ว”

“กินน้ำมะพร้าวไหมลูก แม่หยิบให้” คุณแม่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำถามขึ้น

“รบกวนหน่อยนะครับ คุณแม่” ผมยิ้มหวานให้คุณแม่

“รบกวนเยอะๆ แม่ก็ไม่ว่าอะไรหรอกจ้ะ”

“ชื่นใจจัง หอมด้วย” ผมดูดน้ำมะพร้าวเกือบหมดลูก

“ก็ตาภูเลือกเองกับมือเลยน่ะสิ มีอีกเยอะเลยนะ” ผมยิ้มรับเท่านั้น แล้วก้มดูดน้ำมะพร้าวต่อ

“ชอบกินขนาดนี้ แม่ว่าตาภูคงมีแพลนจะซื้อที่เพิ่มเอาไว้ปลูกแน่ๆ”

“คงไม่หรอกครับคุณแม่”

“อย่าว่าไป อะไรที่เกี่ยวกับหนู ไม่เล็ดลอดสายตาของตาภูหรอกจ้ะ”

“ฮ่ะๆ” ผมแค่ยิ้ม คุณแม่ทั้งสองหัวเราะอย่างชอบใจ




หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จผมก็หลับไปอีกครั้ง คุณแม่ทั้งสองก็อยู่เป็นเพื่อน ผมตื่นขึ้นเพราะมีเสียงคนคุยกัน ลืมตามาก็เห็นเด็กแฝดนั่งมองตาแป๋วอยู่ข้างๆ

“…” ผมนิ่งงงไปสักพัก อาจเพราะเพิ่งตื่นนอน

“ตื่นแล้วหรอ” ผมมองตามเสียง

“พี่ภู”

“เป็นไง ดีขึ้นไหม” พี่ภูถาม ผมแค่พยักหน้าให้

“สวัสดีครับคุณข้าว” เสียงทุ้มอีกฝั่งของเตียงเอ่ยขึ้น

“เอ๋...สวัสดีครับคุณชา”

“นนท์ นันท์สวัสดีคุณอาข้าวหรือยัง”

“สาหวาดดีฮับ” เด็กแฝดยกมือขึ้นไหว้แล้วพูดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง น่ารักจริงๆ

“สวัสดีครับ คนเก่ง” ผมเอามือลูบหัวเด็กทั้งสองคน ระหว่างนั้นพี่ภูก็ปรับเตียงนอนให้ แล้วเอาน้ำมาให้ดื่ม

“แล้วคุณรักไม่มาด้วยหรอครับ” ผมหันไปถามคุณชา

“คุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอกครับ”

“อ่อ”

“คุณแม่ล่ะ พี่ภู”

“กลับไปแล้ว กินข้าวเลยไหม”

“เพิ่งจะ 4 โมงเองพี่ภู”

“4 โมงก็กินได้ พี่หิว”

“อ้าว พี่ภูก็กินสิ”

“กินด้วยกัน” ผมว่าพี่ภูยังไม่กินข้าวเที่ยงแน่ๆ

“ก็ได้ครับ” พี่ภูลุกไปอุ่นข้าว



ประตูห้องถูกเปิดออก “อ้าว ตื่นแล้วหรอครับ” คนหน้าสวยทักขึ้น

“ครับ มากันนานแล้วหรอครับ”

“ก็ตั้งแต่ 3 โมงครับ”

“หื้ม...เกรงใจจัง”

“เกรงใจอะไรกันครับ ผมนี่สิมารบกวน”

“ไม่เลยๆ ขอบคุณนะครับที่มาเยี่ยม”

“ยินดีมากๆ ครับ” เราทั้งสองยิ้มให้กัน คุณชากับพี่ภูไปนั่งคุยกันอยู่อีกห้องระหว่างรออุ่นข้าว

“น้องนนท์ ไม่ปีนเก้าอี้ครับ มานั่งที่เดิม อย่ารบกวนคุณอาข้าวครับ” ตอนนี้เด็กแฝดนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟาอีกด้านอยู่ๆ น้องนนท์ก็ปีนเก้าอี้ เพื่อจะมานั่งกับผม

“มะ...อ่า” เสียงเล็กร้องท้วง

“ลงมานั่งดูกับน้องดีๆ ครับคนเก่ง”

“ไม่เป็นไรครับ ให้น้องนนท์นั่งนี่ก็ได้”

“เดี๋ยวอีกคนจะตามครับ คอยดูสิ”


“มะ...นันท์ขึ้นๆ”

“ยังไม่ทันขาดคำเลย” เรายิ้มๆ ให้กัน

“ฮ่ะๆ ไม่เป็นไรหรอกครับ”

สุดท้ายก็ขึ้นมานั่งบนเตียงทั้งคู่ “แล้วนี่คุณข้าวเป็นยังไงบ้างครับ”

“ดีขึ้นแล้วครับ แต่ตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน”

“ผมตื่นเต้นตามคุณข้าวไปด้วยเลย ฮ่ะๆ”

“ฮ่ะๆ แล้วทำไมคุณรักรู้ว่าผมอยู่โรงพยาบาลล่ะครับ”

“วันนี้คุณชาพาไปที่ไร่น่ะครับ”

“อ่อ...ดูเด็กๆ ติดคุณรักแจเลยนะครับ”

“ผมก็คิดอยู่เหมือนกัน เหมือนมีลูกเป็ดเดินตาม จะไปไหนก็ตาม ฮ่ะๆ”

“เด็กๆ คงรู้ว่าใครรักเขาน่ะครับ เขาก็เลยอยากอยู่ด้วย” คุณรักพูดไปยิ้มไป

“สงสัยจะเป็นอย่างนั้นนะครับ เด็กๆ เซ้นส์แรง” ผมยิ้มให้คุณรัก พอดีกับพี่ภูถือข้าวเข้ามา สงสัยเอามาจากบ้านแน่ๆ

“งั้นกูกลับก่อนนะ” คุณชาครบอกกับพี่ภู

“ไปนะครับ คุณข้าว”

“ครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะครับ”

“ผมกลับก่อนนะครับ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่”

“ครับ”

“น้องนนท์ น้องนันท์สวัสดีคุณอาข้าวกับคุณลุงภูก่อน”

“สาหวาดดีฮับคุณอาข้าว สาหวาดดีฮับคุณลุงภู” เด็กแฝดพูดเกือบจะพร้อมกัน

“สวัสดีครับ กลับดีๆ นะครับคนเก่ง” พี่ภูแค่พยักหน้ารับ ผมลูบหัวกลมทั้งสองคน




หลังจากครอบครัวชาๆ กลับไป ห้องก็สงบขึ้นทันตา อาจเพราะเด็กๆ พูดเก่งด้วยตอนที่อยู่ในห้อง ดูทีวีไป ถามไป พี่ภูก็กินข้าวไป สงสัยจะหิวจริงจัง

“อร่อยอ่ะ ป้าสายทำใช่ไหมพี่ภู ข้าวจำรสมือได้” ป้าสายห่อข้าวไก่อบมาให้

“อืม” พี่ภูกินอย่างเร็ว เผลอแปปเดียวหมดและ

“ไม่ได้กินมื้อเที่ยงใช่ไหมพี่ภู” ผมถามขึ้นทันทีที่กินกันเสร็จ

“…” พี่ภูไม่ตอบ แถมยังไม่มองผมด้วย นั่งดูอะไรไม่รู้ในมือถือ

“…” ผมก็เงียบใส่ เอาสิ คิดจะเงียบแทนคำตอบก็ลองดู

“…”

“…”

“พี่ลืม…พี่รีบทำงานจะได้มาหาข้าวเร็วๆ” สุดท้ายพี่ภูก็พูดขึ้นก่อน ผมเอื้อมไปจับมือพี่ภูเอาไว้

“คราวหน้า คราวหลังไม่เอาแล้วนะ ถึงจะรีบยังไง ก็ห้ามลืมกินข้าว พี่ภูเป็นห่วงข้าว ข้าวก็เป็นห่วงพี่ภูเหมือนกัน” พี่ภูทับมือตัวเองกับมือผม

“อืม...พี่จะไม่ทำอีก”

“ดีครับ แต่ตอนนี้ไปหยิบมะพร้าวมาให้ข้าวลูกนึงนะ”

“หึหึ ครับๆ”    

----------------------------
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
ท่าทางพี่ภูได้ทำสวนมะพร้าวให้ข้าวแน่ๆ 55555

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
น่ารักที่สุดคุณพ่อ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ขอมะพร้าวลูกหนึ่ง คิดว่าอีพี่คงขนมาเป็นทะลายแน่ ๆ  :hao3:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ใกล้แล้ว ๆ เด็กน้อยจะมาแล้ว  :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด