➳➴❤Found Love...อุบัติเหตุ(พบ)รัก❤➵➶ [Mpreg] *ตอนที่ 24* END--; P.8 // 2-6-2019
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ➳➴❤Found Love...อุบัติเหตุ(พบ)รัก❤➵➶ [Mpreg] *ตอนที่ 24* END--; P.8 // 2-6-2019  (อ่าน 66832 ครั้ง)

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
 :call:ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*.:。✿*゚’゚・✿.。. *.:。✿*゚’゚・✿.。. *.:。✿*゚’゚・✿.。. *.:。✿*゚’゚・✿.。.

นิยายเรื่องนี้เป็นแนว Mpreg นะคะ ไม่ชอบหรือไม่ใช่แนว ปิดได้เลยค่ะ

บุคคล สถานที่ เหตุการณ์ มีการเสริมเติมแต่งทั้งหมด เป็นไปตามจินตนาการของผู้แต่งนะคะ

เรื่องนี้เนื้อเรื่องจะเรื่อยๆ นะคะ ไม่ได้หวือหวาอะไร

 :mew2: ยังไงก็ขอฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ  :mew2:

<-·´¯`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·`·.¸¸.·´¯`·._.·´¯`·.¸>


ทักทายกันได้ที่นี่นะคะ

..♥♥ .•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*¸¸.•♥:::

✎✬ Twitter >> https://twitter.com/nv_moggy

..♥♥ .•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*¸¸.•♥:::
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-06-2019 18:20:17 โดย moggy »

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
Intro
By moggy
-----------------------

ในที่สุด วันพักร้อนของผมก็มาถึง หลังจากที่ทำงานหนักมาตลอด 4 ปี แล้ววันดีดีอย่างนี้ ผมจะไปที่ไหนดีล่ะ คงจะในประเทศก็พอ เพราะประเทศไทยนี่แหละแหล่งท่องเที่ยวมีเยอะมาก เที่ยวทั้งปียังไม่หมดเลย ว่าแต่จังหวัดไหนดีล่ะ...ลูกข้าว


ลูกข้าว...ไม่ใช่ชื่ออะไรที่ไหนครับ แต่เป็นชื่อของผมเอง เป็นไงครับ ชื่อผมกิ๊บเก๋ไหม แม่ผมเป็นคนตั้งให้ เห็นว่าตอนนั้นกำลังไปเก็บต้นข้าวมาวิจัย แล้วอยู่ๆ ก็น้ำเดินขึ้นมา ผมจึงได้ชื่อนี้มาไงล่ะครับ ^^”


กระบี่....จังหวัดนี้ล่ะกัน เคยเห็นแต่ในภาพ อยากจะไปเห็นกับตาบ้างไรบ้าง ได้วันพักร้อนมาตั้ง 2 เดือน ไปกระบี่ก่อนล่ะกัน ต่อจากนั้นค่อยคิดว่าจะไปไหนต่อ...


เช้ามืดในวันรุ่งขึ้น ผมเตรียมสัมภาระขึ้นรถเรียบร้อย ดื่มกาแฟและขนมปังปิ้งเพื่อรองท้อง จากนั้นก็ออกเดินทางกันได้เลยครับ อ่อ…ผมลืมบอกไป ทริปของผมขับรถไปเรื่อยๆ นะครับ,,, ทะเล ทะเล ทะเล ทะเล………………..โอ๊ย!! ทำไมผมตื่นเต้นจัง เห็นเขาว่ากันว่า ทะเลอันดามันสวยมาก จะสวยจริงหรือเปล่าต้องพิสูจน์ด้วยตาของตัวเองครับ


เวลาสายๆ ผมขับรถมาถึงจังหวัดประจวบฯ เส้นทางค่อนข้างยาว น่าจะใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะหลุดจากจังหวัดนี้ได้ และรถค่อนข้างขับกันเร็วมาก ผมขับไม่เร็วครับ 100-120 ก.ม./ช.ม. เองครับ...เฮ้ยย....เอี๊ยดดดดดดด....ปั้ง ,,, ชนตูดรถคันข้างหน้าจนได้ กดไฟฉุกเฉินได้ ก็รีบลงจากรถ ดูคู่กรณีผมแล้วน่าจะหงุดหงิดน่าดู


“ขอโทษครับ เดี๋ยวผมโทรเรียกประกันก่อนนะครับ” ผมเอ่ยกับคนที่ยืนหันหลังให้กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ดูจากรูปร่าง ถ้ามีเรื่องกัน ผมถ้าจะแย่ คู่กรณีผมน่ะสิครับ ตัวใหญ่อย่างกับตึก ไหนจะผิวสีเข้มอีก โอ๊ย..นี่มันโจรป่าหรือเปล่าเนี่ย หลังจากโทรเสร็จเรียบร้อย รอประกันมา ผมก็เดินสำรวจรถตัวเองดู โห!! ยับเยินกว่าที่คิดนะเนี่ย สงสัยต้องเคลมเลย ถ้าอย่างนั้นเที่ยวประจวบฯ ก่อนล่ะกัน ...กระบี่จ๋า รอก่อนนะ

“คุณครับ รอสักพักนะครับ ประกันกำลังจะมา” ผมเอ่ยกับคนที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จ

“อืม” คนตัวโตหันมาตอบ โห!! ตอบมาได้แบบมะนาวไม่มีน้ำเลยอ่ะ หน้าตาก็ดี แต่นิสัยเสียอ่ะ

“รอมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ไหนล่ะประกัน” คนตัวโตถามมา

“คงกำลังมาครับ” ผมตอบกลับไป

“ขับรถยังไงเนี่ย เฮ้ออ...เสียเวลาชะมัด” คนตัวใหญ่บ่นพึมพำ แต่หูผมดันได้ยินนี่สิ

“อ้าว คุณ ...ก็คุณเบรคกะทันหันซะขนาดนั้น ผมก็เบรคตามไม่ทันน่ะสิ”

“เฮ้ออ!! เอาเป็นว่าผมผิดก็ได้” คนตัวโตเอ่ย

“ผิดทั้งคู่แหละครับ ยังไงก็รอหน่อยนะครับ เดี๋ยวประกันคงใกล้จะมาแล้ว” ผมเอ่ยตอบ



สักพักประกันก็มาเคลียร์ รถคู่กรณีผมไม่เป็นอะไรมากครับ แค่บุบนิดหน่อย แต่รถผมสิ ข้างหน้ายับมาก แล้วรถยกก็พารถผมไปเข้าอู่เรียบร้อย ประกันที่มาเคลมก็ไปแล้ว แล้วผมล่ะครับจะไปยังไง....

“คุณ” ผมเอ่ยเรียกคนตัวใหญ่ที่กำลังจะไปขึ้นรถ

“มีอะไร”

“เอ่อ...คุณจะไปไหนหรอ”

“ข้างหน้า”

“.....” หน้าผมเป็นอย่างนี้เลยครับ - -

“เอ่อ..ถ้าอย่างนั้นผมขอติดรถไปลงข้างหน้าได้ไหมครับ แถวนี้มันไม่มีรถประจำทางเลย”

“...”

“นะครับ...ที่จริงผมจะไปกระบี่ แต่รถผมดันต้องเข้าอู่ ผมเลยกะจะหาที่พักแถวปราณฯ รอรถซ่อมเสร็จ”

“...”

“เอ่อ ถ้าคุณไม่สะดวก ก็ไม่เป็นไรครับ...ขอโทษอีกครั้งนะครับ เรื่องรถน่ะ” ผมกำลังเดินไปโบกรถแทน เฮ้อ...รถจะรับเราไปไหมนะ

“จะไปไหน...ไม่ไปหรือไง ข้างหน้าน่ะ” คนตัวโตเอ่ย

“หือ??”

“ขึ้นรถ”

“๐_๐ ขอบคุณครับๆ” ผมรีบจรลีตัวเองขึ้นรถทันทีเลยครับ


รถวิ่งไปเรื่อยๆ ครับ เอ๊ะ!! นี่ก็เลยปราณฯ แล้ว จะออกจากประจวบฯ แล้วนี่

“คุณ จะพาผมไปไหนครับ” ผมรีบเอ่ยถามคนที่นั่งข้างๆ ทันที

“ข้างหน้าไง”

“คุณ” ดูคำตอบที่ได้รับกลับมา “ส่งผมลงข้างหน้านี้ก็ได้ครับ”

“ไม่ล่ะ ขี้เกียจจอด”

“คุณ จะพาผมไปไหนกันแน่เนี่ย หรือว่าคุณเป็น....คุณเป็นโจรหรอ *0* ”

“หึหึ”

“คุ๊ณณณณณณณณณณณณณ......จอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” ผมได้แต่ร่ำร้องให้จอด...ผมเจอโจรป่า...ใครก็ได้ช่วยผมด้วย T^T

----------------------------
TBC.

**ฝากนิยายยาวเรื่องแรกด้วยนะคะ//
**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2017 20:01:42 โดย moggy »

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
ตอนที่ 1
By moggy
-----------------------

ให้ทายครับ ว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน....กระบี่ครับ...คนตัวโตคนนั้นพาผมมาถึงกระบี่กันเลยทีเดียว ตอนนั่งบนรถ ก็ไม่พูดอะไรกับผมสักคำ นอกจากพูดกับผมว่า ‘นั่งเฉยๆ’ ‘เงียบๆ หน่อย’ ‘จะตะโกนอะไรนักหนา’ ผมแทบจะไม่กล้าขยับกายเลยครับ กลัวจะถูกฆ่าเอา ก็น้ำเสียงนั่นแบบสั่งเรียบๆ แต่เหมือนจะขู่อยู่ไม่น้อย ผมคิดว่าจะถูกโจรปล้นฆ่าซะแล้ว แต่ที่ไหนได้ เราแค่มาในจังหวัดเดียวกัน คนตัวโตก็เลยเอาผมพกติดมาด้วยก็เท่านั้น

“ลงได้แล้ว” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น

“ลง!!..ที่นี่ที่ไหนครับ” ผมยังไม่รู้เลยว่าที่นี่ที่ไหน แล้วจะให้ลง มืดก็มืด เปลี่ยวก็เปลี่ยว แม้ว่าผมจะไม่ใช่ผู้หญิง แต่ผมก็กลัวโดนปล้นฆ่านะครับ

“ลง..ไป..ได้..แล้ว” เสียงเข้มย้ำอีกครั้ง

“คุณ ผมยังไม่รู้เลยที่นี่ที่ไหน อยู่ๆ คุณก็จะปล่อยเกาะผมแล้ว คิดจะพามา ก็พามา คิดจะทิ้งก็ทิ้ง คุณนี่มันใจร้ายจริงๆ”

“กระบี่ไง”

“ผมรู้ ว่าอยู่กระบี่ แล้วผมอยู่ส่วนไหนของกระบี่ล่ะครับ แล้วทำไมมันเปลี่ยวอย่างนี้อ่ะ”

“ปลายพระยา”

“หื้ม??”

“อำเภอปลายพระยา”

“แล้วแถวนี้ มีโรงแรมหรือรีสอร์ทไหมครับ”

“มี”

“แล้วไกลมากไหมครับ” นี่ผมคุยกับตอไม้หรือเปล่าเนี่ย ถามคำ ตอบคำ...

“ไกล”

“??”

“เฮ้ออ...ประมาณ 15 กม.”

“แล้วผมจะไปยังไงอ่ะ รถก็ไม่มี มืดก็มืด ทางก็ไม่รู้ ผมไม่ใช่คนพื้นที่นะครับ แล้วอยู่ๆ คุณก็จะไล่ผมลง”

“แล้ว??”

“ก็ไม่แล้วไงครับ ผมขอไปอยู่ที่บ้านคุณถึงเช้าก่อนได้ไหม เช้าปุ๊บ ผมจะรีบไสตัวออกมาเลยครับ ไม่ต้องกลัวลูก เมียคุณเข้าใจผิดนะ ถึงแม้ผมจะมีหน้ากระเดียดไปทางผู้หญิง แต่ผมเป็นผู้ชาย เมียคุณน่าจะเข้าใจ”

“…”

“นะ..คุณ มันมืดมากเลย ถือว่าสงสารลูกแมวตาดำๆ เถอะนะ”

“…”

“ผมรู้...คุณไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น จริงไหม” ผมกระพริบตาปริบๆ อย่างอ้อนวอน

“หึหึ...ยังไม่รู้จักฉันดี อย่าพูดคำนี้”

“…”

“ฉันจะถือว่าทำบุญให้แมวตัวหนึ่งล่ะกัน” คนตัวโตพูดได้แค่นั้น ก็หักรถเลี้ยวเข้าซอยข้างหน้า

“นี่ บ้านคุณอยู่ในซอยนี้หรอ” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...เหอะ เหอะ คนอะไรไม่มีมารยาท คำถามแทนที่จะตอบ กลับนั่งนิ่ง ช่างเถอะ แค่นี้ก็ดีแล้ว ดีกว่าอยู่ข้างทางคนเดียว



ตอนนี้เรายังอยู่ในซอยอยู่เลยครับ ทางเลี้ยวก็เยอะ แล้วผมจะออกมาถูกไหมเนี่ย - -* คนขับก็ตั้งหน้าตั้งตาขับจริงจัง...แล้วข้างหน้าตั้งด่านอะไรนั่น

“คุณ ข้างหน้า ด่านอะไรอ่ะ” ผมถามคนขับ แต่คำตอบที่ได้รับกลับมานั้น...

“ด่านตรวจกะเหรี่ยง” แล้วคนพูดก็หันมายักคิ้วใส่ข้างนึง หึม..หึม น่าหมั่นไส้มากครับ  แต่เอ๊ะ..คนตัวโตมีมุมนี้กะเค้าด้วยหรอ น่ารักนะเนี่ย



แล้วด่านข้างหน้านั่น ก็เปิดให้ผ่านโดยไม่ต้องทำอะไรเลย น่าแปลกจัง ผู้ชายคนนี้มีอะไรที่น่าแปลกใจเยอะมาก เป็นคนพูดน้อย เหมือนจะดุแต่ก็มีมุมขี้แกล้ง เหมือนจะใจร้ายแต่ก็ช่วยเขาทุกครั้ง แล้ว แล้ว แล้ว...ลูกข้าวเอ๊ย จะสนใจอะไรนักหนา เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องแยกกันแล้ว คงไม่ได้เจอกันอีก...แล้วทำไมผมรู้สึกโหวงๆ จัง


เรามาถึงบ้านของคนป่า เอ้ย คนตัวโต  โอ้โหแหะ...นี่มันบ้านต้นไม้ เป็นคนป่าไม่พอ นี่ยังเป็นลิงด้วยหรอเนี่ย บ้านสวยนะ แต่มันสูงอ่ะครับ แล้วผมเป็นโรคกลัวความสูงอีก แล้วคราวนี้จะทำยังไงดีล่ะ ถ้าไม่ขึ้นไป ผมคงได้นอนอยู่กลางป่าข้างล่างนี้เป็นแน่...เอาวะ ขึ้นก็ขึ้น

“คุณ อยู่ที่นี่หรอ” ผมถามคนที่เดินนำหน้าผม

“อืม”

“แล้วคุณต้องปีนขึ้นลงอย่างนี้ทุกวันเลยหรอ”

“ใช่”

“คุณเคยตกไหมครับ”

“เคย”

“…” ผมยืนนิ่งเลยครับ ขนาดคนตัวโตคนนี้ยังเคยตก แล้วผมล่ะ T^T

“ยืนนิ่งทำไม ขึ้นไปสิ อย่าบอกนะ ว่ากลัว” คนตัวโตหันมาพูด

“คือ...คือ...คือผมกลัวความสูงครับ” ผมพูดออกไป

“หึหึ...แล้วจะทำยังไงดีล่ะ บ้านฉันไม่มีลิฟท์ซะด้วยสิ”

“ผมรู้ คงไม่มีลิฟท์อยู่กลางป่าแบบนี้หรอกครับ” ดูคนตัวโตประชดสิครับ

“ปีนขึ้นไปก่อน” คนตรงหน้าเอ่ย และพยักหน้าให้

“…” ผมนิ่ง

“เดี๋ยวฉันปีนตาม จะกลัวอะไร”

“...” ไม่รู้สิครับ ผมรู้สึกปลอดภัยนะ เวลาอยู่ใกล้ๆ กับคนป่าคนนี้



ผมค่อยๆ ปีนขึ้นไป โดยไม่มองลงมาเลย คนป่าก็ปีนขึ้นตามมาครับ พอปีนถึงแล้ว คนตัวโตก็ไขประตูเข้าบ้าน โห!! ข้างในดูเป็นระเบียบมากครับ ตกแต่งด้วยโทนสีเทา ขาว ขนาดบ้านไม่ใหญ่ ไม่เล็กครับ อยู่คนเดียวดูโล่งไปเลย แต่อยู่ 2 คน ก็ไม่อึดอัดนะครับ สบายๆ

“คุณ ที่นี่ไม่มีห้องน้ำหรอ”

“ไม่มี”

“แล้วจะอาบน้ำยังไง”

“ตุ่ม ตรงระเบียงไง”

“…” ผมกำลังคิดว่า มันโล่งโจ้งมากเลยนะ เอาเป็นว่าล้างหน้าล้างตาก็พอ เหลืออีกไม่กี่ชั่งโมงก็จะเช้าแล้ว จากนั้นผมก็เดินไปตรงระเบียง ทำธุระเสร็จก็เข้ามาในตัวบ้าน

“ไม่อาบน้ำ?” คนตัวโตมองมาที่ผมแล้วเอ่ย เหมือนจะเป็นประโยคบอกเล่า แต่พอมองหน้าคนข้างหน้าแล้ว เลยรู้ว่าเป็นประโยคคำถามในทันที

“ครับ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าแล้ว เดี๋ยวผมก็ไปแล้ว”

“อืม”


จากนั้น คนตัวโตก็ไปจัดการทำธุระของตัวเองบ้าง

“นี่ นายอ่ะ” เสียงเข้มตะโกนเข้ามา

“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมที่กำลังจัดเก็บของเอ่ยตอบไป เผื่อจะมีธุระอะไรกับผม

“หยิบกรรไกรให้หน่อย อยู่บนโต๊ะน่ะ”

“ครับ” ผมเดินไปหยิบให้

“คุณ” ผมเดินเอาเข้าไปให้ แต่สิ่งที่ได้เห็น คือคนตัวโตถอดเสื้อออกแล้ว มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ มีซิกแพคด้วย แล้วมองมาที่ตัวเอง ทำไมเราไม่มีอย่างนี้บ้างนะ แต่พอมองลงไปอีก เห็นผ้าก๊อซพันอยู่รอบเอวของคนตัวโต มีเลือดซึมอยู่ด้วย “คุณไปทำอะไรมา...ทำไม ทำไมถึงมีแผลใหญ่ขนาดนี้”

“ตกต้นไม้น่ะ” คนตัวโตเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจ แล้วรับกรรไกรไป ตัดเข้าที่ผ้าก๊อซพันแผล

“ผมช่วยไหม” ผมเสนอ เห็นคนตัวโตดูลำบากที่จะเอาผ้าก๊อซออก

“ทำเป็น?” เสียงเข้มถามกลับ

“ก็พอเป็นครับ” ถือว่าช่วยตอบแทนที่โจรป่าช่วยเราละกัน

“…” คนตัวโตไม่พูดอะไร ผมจึงเดินไปช่วยทำแผลให้

ผมค่อยๆ ม้วนผ้าก๊อซผืนเก่าออกจากเอวคนตรงหน้า โดยไม่ต้องใช้กรรไกร เอาคอตตอนบัดที่จุ่มแอลกอฮอล์แล้ว ทำความสะอาดรอบๆ แผล แล้วเอาสำลีที่ชุบน้ำเกลือมาเช็ดให้ที่แผล แล้วใส่เบตาดีน จากนั้นก็เอาผ้าก๊อซผืนใหม่มาพันให้ ก็เรียบร้อยแล้วครับ ทำความสะอาดบ่อยๆ ก็จะดีขึ้น แต่จากที่ผมดูแล้ว ไม่น่าจะใช่แผลที่ตกต้นไม้นะครับ เป็นรอยถากๆ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าไปโดนอะไรมา แต่คนตัวโตไม่ยอมบอก คงจะมีเหตุผลของเขา

“เรียบร้อยแล้วครับ” ผมเอ่ย

“ขอบใจ”

“ไม่เป็นไรครับ คุณยังช่วยผมเลย” ผมตอบกลับและยิ้มให้ “เอ่อ...ผมจะถามตั้งนานแล้ว คุณชื่ออะไรครับ”

“ภู”

“ชื่อ ‘ภู’ แค่นี้หรอครับ”

“ภูธิป...เรียก ‘ภู’ ก็พอ....อืมม นายน่าจะอ่อนกว่าฉัน เรียก ‘พี่ภู’ ละกัน” คนตัวโตพูดพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น

“เอ่อ เรียกคุณภูดีกว่านะ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”

“พี่ภู” คนตัวโตแย้งขึ้น

“คุณภู”

“พี่ภู”

“คุณภู”

“พี่ภู ถ้าไม่เรียก ฉันจะจับนายโยนลงไปข้างล่าง”

“ครับ ก็ได้....พี่ภู” ผมโดนขู่ แค่ชื่อทำไมต้องขู่กันขนาดนี้ด้วย T^T ผมว่าไม่เห็นสำคัญตรงไหน เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมก็ไปแล้ว “เอ่อ...ผมชื่อลูกข้าวนะครับ” ผมเอ่ยออกไปอีกครั้ง แล้วทำไมคนตัวโตต้องขมวดคิ้วจ้องหน้าผมจริงจังขนาดนั้น ผมแค่บอกชื่อตัวเองเท่านั้นเอง

******************
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2017 20:02:05 โดย moggy »

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
ตอนที่ 2
By moggy
-----------------------

เช้ารุ่งขึ้น ผมเก็บของเตรียมตัวจะออกเดินทาง แต่ก็ต้องหยุดมือ เพราะมีสายตาจ้องเขม็งอย่างไม่วางตา เหมือนสายตาที่เมื่อคืนมองผมไม่มีผิด มอง จ้อง และเหมือนจะคิดอะไรไปด้วย เรื่องเมื่อคืนนี้แค่ชื่อยังเป็นประเด็นได้เลย ผู้ชายคนนี้ในสายตาผม เป็นคนไม่ยอมคนเอามากๆ ติดจะดื้อรั้นเสียด้วยซ้ำ ผิดกับรูปลักษณ์ภายนอก ที่ดูเท่ สมาร์ท ขรึม ด้วยตัวที่สูงใหญ่ ผิวแทนคล้ำ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน จมูกเป็นสันรับกับริมฝีปากหนาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผู้ชายคนนี้จัดว่าหล่อเลยแหละครับ อ้อ...ถ้าไม่ติดว่ามีหนวด เครา รกรุงรัง กับผมที่ยาวระต้นคอ เสมือนโจรป่าอย่างที่ผมเคยบอกไว้

“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมเอ่ยถาม

“จะไปยังไง” คนตัวโตถาม

“เดินครับ แล้วก็กะจะไปเช่ารถเที่ยวต่อ” ผมตอบและยิ้มให้

“กำลังขาดีว่างั้นสิ...จากนี่ไปปากทางเข้าก็ไกลอยู่นะ” คนตัวโตเอ่ยอย่างกวนๆ

“ก็ไม่ได้ดีหรอกครับ แต่ก็ไม่อยากรบกวนใคร” ผมตอบตามจริง ผมไม่อยากรบกวนใครเลยครับ ยิ่งเมื่อคืน คนข้างหน้าผม ก็ช่วยผมมามากแล้ว ไม่งั้นผมคงได้นอนข้างทางเป็นแน่

“อืม” เสียงทุ้มเอ่ยตอบแค่นั้น แล้วก็ยืนนิ่งพิงหน้าประตูต่อ   


หลังจากเก็บของเสร็จ ผมก็เดินไปบอกลาเจ้าของบ้าน

“เอ่อ…ผมไปก่อนนะครับ” ผมบอกลาคนตัวสูง และเดินผ่านออกมา และมาหยุดที่ระเบียง ‘เอ่ออออ....แล้วเราจะลงยังไงอ่ะ สูงจัง’

“ลงไปซะทีสิ ฉันจะได้ลงบ้าง” เสียงทุ้มแหวกกลางเข้ามาในขณะที่ผมกำลังคิดหาทางว่าจะลงไปยังไง

“ถ้าไม่ลงก็ถอยไป ฉันจะลง” เสียงเข้มเอ่ยต่อ ผมก็เลยต้องหลีกทางให้เจ้าบ้านลงก่อน

“เอ่อ...คุณ ผมลงไม่ได้อ่ะ คือ...คือว่าผมกลัวอ่ะครับ” ผมพูดขึ้นขณะที่เจ้าของบ้านลงไปได้ 4-5 ขั้นบันได

“ฉันก็ลงมาก่อนแล้วนี่ไง จะกลัวอะไรอีกล่ะ”

“...” ผมเงียบชั่งใจอยู่สักพัก จึงปีนตามคนตัวโตลงไป ‘ก็บอกแล้วไง ผมอยู่กับโจรป่าคนนี้ แล้วรู้สึกปลอดภัย...จุ๊ๆ นะครับ เดี๋ยวคนตัวโตได้ยินหมด ผมอาย’



สักพัก เราก็ลงมาถึงพื้นดิน พื้นดินที่ผมคิดถึ๊ง คิดถึง...

“คุณ...ถ้าเกิดผมตกลงมาล่ะ ทำไมคุณมั่นใจจังว่าผมจะไม่ตก” ผมลองเอ่ยถามคนตัวโต

“ไม่ได้มั่นใจว่าจะไม่ตก แต่ถ้าตกแล้ว นายจะไม่เจ็บแน่นอน”

“...” ฟังคำตอบของคนเสียงเข้มแล้ว อยู่ๆ ก็รู้สึกเขินขึ้นมาเลย มันเหมือนมีความนัยสักอย่างซ่อนอยู่ในรูปประโยค หรือผมอาจจะคิดไปเองก็ได้

“ถ้าผมตกลงมา ทำไมจะไม่เจ็บล่ะครับ ผมว่ามันต้องเจ็บมากแน่ๆ” ผมเอ่ยถามต่อ

“หึหึ...เด็กน้อย” คนตัวโตหัวเราะ แล้วส่ายหัวไปมาเบาๆ

“คุณหัวเราะอะไรครับ คำถามผมมันตลกหรอ”

“มั้ง...” คนตัวโตตอบแค่นั้น ก็เดินไปขึ้นรถ

“คุณ...เอ่อ...ขอบคุณนะครับที่ช่วยเหลือผม”

“อืม” คนตัวโตที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ตอบแค่นั้น แล้วก็เดินต่อ


ตอนนี้ผมเห็นแค่แผ่นหลังของเขาเท่านั้น ที่ตอนนี้เริ่มเดินห่างออกไปทุกที
 
“พี่ภู...ขอบคุณนะครับ” เสียงสุดท้ายของคนตัวเล็กก่อนเดินไปอีกทาง โดยที่ลูกข้าวไม่รู้ว่าภูธิปนั้นได้ยินคำสุดท้ายที่เอ่ยออกมา คนตัวโตยิ้มบางๆ และเริ่มก่อความนึกคิดในใจบางอย่าง


ทางค่อนข้างไกล กว่าจะถึงปากซอยได้น่าจะประมาณ 1-2 ชั่งโมง ถ้าเดินน่ะนะ ระหว่างทางที่เดินนั้น แดดค่อนข้างร้อนมาก ก็รู้ๆ กันใช่ไหมครับ ว่าแดดภาคใต้ร้อนขนาดไหน ร้อนจนคนตัวเล็ก เลือดกำเดาไหลเลยทีเดียว ผมรู้ว่าตัวเองชอบเลือดกำเดาไหลอยู่บ่อยๆ จึงไม่ได้ตกใจอะไรมาก เดินไปนั่งใต้ร่มไม้ที่หนึ่ง เพื่อที่จะหยุดเลือดกำเดาที่ไหลออกมา แต่หนทางที่จะหยุดได้นั้นต้องใช้เวลามากกว่าปกติ เพราะอุณหภูมิในตอนนี้บอกได้คำเดียวว่า ‘ร้อนมากกกกกกก’ ผมนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง กำลังปฐมพบาบาลตัวเอง ซึ่งไม่ถนัดเอาเสียเลย ไหนจะต้องระวังไม่ให้เลือดไหล ไหนจะหยิบจับ หาผ้า หาน้ำ มาทำให้เลือดหยุด ในระหว่างที่มือยังเป็นระวิงอยู่นั้น ก็มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งซึ่งแต่ละคนเหมือนโจรป่ายิ่งกว่าพี่ภูซะอีก เดินเข้ามาอย่างหาเรื่อง ‘เอายังไงดีลูกข้าว หนี ไม่หนี หนี ไม่หนี แล้วถ้าหนีตอนนี้จะทันไหมนะ ก็มันเห็นเราแล้วนี่ โอ๊ย...ลูกข้าว คิดสิคิด’ ในระหว่างที่กำลังคิด ผู้ชายกลุ่มนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมแล้ว

“ว่าไงจ๊ะ...น้องสาว หลงทางอยู่หรือเปล่า ให้พี่ไปส่งไหม”

“เปล่าครับ ผมไม่ได้หลงทาง แค่นั่งพักเฉยๆ กำลังจะไปต่อแล้วครับ ขอตัวก่อนนะครับ”

“เดี๋ยวสิน้อง กว่าจะหลงมาแถวนี้น่ารักๆ แบบน้องสักคนนี่หายากนะ จะให้พวกพี่ปล่อยไปก็เสียดายนะ น้องว่าไหม มาเล่นอะไรสนุกๆ กันดีกว่านะ” พวกนั้นทำหน้าหื่นใส่ผม และเริ่มจะเดินเข้ามาหาผมเรื่อยๆ ผมเริ่มมองหาลู่ทางหนี แต่ไม่มีสักทาง พวกนั้นดักไว้หมด มากันประมาณ 4-5 คนได้มั้ง ผมไม่มีเวลามานั่งนับหรอก ต้องรักษาชีวิตตัวเองเสียก่อน หนี ลูกข้าว หนี...

“พี่ ผมเป็นผู้ชายนะ ไม่สนุกหรอก”

“เหอะ น้อง หน้าหวานซะขนาดนี้ หลอกพี่ไม่ได้หรอกนะ”

“พี่ ผมเป็นผู้ชายจริงๆ ปล่อยผมไปเถอะ”

“ผู้ชาย ก็ ผู้ชาย!! มาลองกันสักยกดีกว่านะ พวกพี่มีกัน 5 คนเอง รับรองพวกพี่จะทะนุถนอมน้องเป็นอย่างดี ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ” พวกมันหัวเราะกันอย่างสนุกปาก ...ผมมันอาภัพ หน้าหวานเหมือนผู้หญิง ตัวก็ยังเล็กอีก แล้วทำไมตอนนี้ผมคิดถึงแต่หน้าโจรป่าคนนั้นนะ คุณ..มาช่วยผมอีกสักครั้งเถอะนะ...นะ....พี่ภู

พวกมันล้อมผมเอาไว้ แล้วค่อยๆ เดินเข้าหาผม ผลักผมนอนราบกับพื้น ทั้งๆ ที่ผมเลือดกำเดายังไหลไม่หยุดเสียด้วยซ้ำ ไอ้พวกชิงหมามาเกิดจริงๆ ทำกับคนไม่มีทางสู้ น้ำตาผมเริ่มไหลเพราะมีคนมาตรึงแขนและขาทั้ง 2 ข้างไว้ ทำให้ผมขยับไปไหนไม่ได้เลย มีคนหนึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าพวกมัน เริ่มเข้ามาซุกไซร้ที่ซอกคอผม ผมปกป้องตัวเองไม่ได้เลยและเริ่มร้องไห้หนักขึ้นๆ อ้อนวอนก็แล้ว แต่พวกมันก็ยังไม่ยอมหยุด

“พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” “พี่ภู” ผมออกเสียงเรียกชื่อนั้นซ้ำๆ จนพวกมันเริ่มจะถอดเสื้อผ้าผม ผมตะโกนเรียกดังกว่าเดิม “พี่ภู ช่วยข้าวด้วย”


ผมเริ่มจะไม่ไหวแล้ว เลือดผมก็ไหลไม่หยุด ร้องไห้ปานจะขาดใจ เหนื่อยจนไม่มีแรงแล้ว ตาที่กำลังจะปิดก็ต้องฝืนอีกครั้ง เพราะเสียงนั้น...เสียงที่ผมคุ้นเคยเอามากๆ

“พวกมึง จะทำอะไรเมียกู” เสียงเน้นเข้มดังในระยะที่ใกล้มาก และตามมาด้วยเสียงปืน 4 นัด สำหรับคนที่จับแขนขาคนตัวเล็ก ตายคาที่ทั้งสี่คน

“เฮ้ย ไอ้ภู มึงมาได้ไงวะ” หัวหน้าพวกมันพูดขึ้น

“มาได้ยังไงไม่สำคัญหรอกมั้ง...แต่มึงกล้ามากที่แตะต้องเมียกู มึงคิดว่า กูควรจะทำยังไงกับคนจำพวกนี้ดี ห่ะ!!” ภูธิปไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ภาพแรกที่เห็นตอนมาถึง หัวใจของเขาบีบรัด จนไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาจะไม่ฆ่าใครถ้าไม่จำเป็น เขาไม่อยากมีปัญหากับใคร อยากอยู่อย่างสงบๆ มากกว่า แบบต่างคนต่างอยู่ ไม่ข้ามเขตธุรกิจกัน แต่แค่มีเรื่องของคนตัวเล็กตรงหน้าเข้ามาเกี่ยว เขาก็คุมตัวเองแทบไม่ได้

“เมียมึง!! นี่เมียมึงหรอ” มันหน้าเหวอทันที
 
“หึหึ มึงอยากตายว่างั้น”

“ไม่ เฮ้ย...กูขอโทษ กูไม่รู้จริงๆ ปล่อยกูไปเถอะ” มันอ้อนวอนก้มลงไหว้อย่างหมดทางไป

“กูควรจะให้อภัยมึงไหม เพราะนั่น...คนที่มึงทำ คือ ‘เมียกู’ ” คนตัวโตพูดอย่างคำราม

“กูไม่รู้จริงๆ กูจะไม่ทำ ไม่ยุ่งอีก ปล่อยกูไปเถอะ” มันไหว้อย่างอ้อนวอน

“แล้วตอนเมียกูขอร้องพวกมึง พวกมึงฟังกันไหม ห่ะ” เสียงเข้มพูดขึ้นอย่างคำรามอีกครั้ง ปากกระบอกปืนจ่ออยู่ที่หัวของคนที่อ้อนวอน

“คุณ...พี่ภู” เสียงเล็กของร่างที่นอนอย่างอ่อนแรงเอ่ยเรียก

“...” คนตัวโตหันไปมอง

“ก็ได้...ครั้งนี้ กูจะปล่อยมึงไป แต่ถ้ามีคราวหน้าอีก มึงเตรียมตัวไปอยู่ในนรกได้เลย ไป!!! ” มันรีบวิ่งออกไปทันที คนตัวโตรีบเข้ามาหาลูกข้าวอย่างรวดเร็ว ประคองร่างไว้กับตัวเอง

“เป็นไงบ้าง กลับบ้านกันนะ” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยน สอดมืออุ้มร่างเล็กขึ้นแล้วเดินไปที่รถ

“มาจริงๆ ด้วย” ในระหว่างทางที่เดิน มือเล็กยื่นไปประคองใบหน้าคนตัวโตไว้ จากนั้นร่างเล็กก็สลบไป

******************
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//



ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พี่ภูโผล่มายังกับพระเอกแน่ อุ๋ย... ก็พระเอกนี่เนอะ5555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 702
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
เอ้า ไล่หัวโจกแล้วลูกน้อง 4 ตัวใครมาเก็บล่ะนั่น แม่นซะ พี่ภู 4 นัด 4 ตัวเลย

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ชอบนิยายวานเเนวนี้มากๆๆๆๆๆๆๆ.
ขอร้องเเละอ้อนวอนผู้เเต่งนะให้มาต่อบ่อยๆอย่าหายไปย้าาาาาา

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ตามอ่านจ้า

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
ตอนที่ 3
By moggy
-----------------------

ณ บ้านภูธิป ในบริเวณไร่ราชัน รถนายหัวภูแล่นเข้ามาอย่างรวดเร็ว ผู้เป็นแม่ที่นั่งร้อยพวงมาลัยอยู่บริเวณชานบ้านถึงกับตกใจ กะว่าจะดุสักหน่อย ก็ต้องเก็บคำลง เมื่อเห็นลูกชายตัวเองอุ้มเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งไว้ ด้วยความทะนุถนอมและความหวงแหน ซึ่งไม่เคยเห็นลูกตัวเองเป็นแบบนี้มาก่อน จึงรีบเดินเข้าไปดู

“เกิดอะไรขึ้น ตาภู” ผู้เป็นแม่เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เพราะเห็นเลือดเลอะเต็มไปหมด

“เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังนะครับ แต่ตอนนี้แม่ช่วยให้คนเอาชุดปฐมพยาบาล ผ้ากับกะละมังใส่น้ำ ตามขึ้นไปที่ห้องผมด้วยนะครับ” ผู้เป็นลูกพูดอย่างร้อนใจและเดินขึ้นไปทันที



ก๊อกๆๆ ‘นายหัวคะ ขออนุญาตค่ะ’ แหวว แม่บ้านนำของที่สั่งไว้มาให้และกำลังจะช่วย ก็โดนไล่ออกจากห้องไปทันที ‘ไม่ต้อง ออกไป’



ภูธิปช่วยเช็ดคราบเลือดออกให้จนสะอาด และไล่เช็ดตามเนื้อตัวของคนตัวเล็กต่อ เสร็จแล้วจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ โดยใช้เสื้อผ้าของเขานั่นแหละ แค่เชิ้ตตัวเดียวก็คลุมไปถึงเหนือหัวเข่าแล้ว จากนั้นจึงปล่อยให้ลูกข้าวนอนพักผ่อนต่อ โดยที่เขาต้องออกมาอธิบายให้แม่ฟัง

“ว่าไง ตาภู เกิดอะไรขึ้น” ผู้เป็นแม่นั่งรอฟังอยู่


ภูธิปได้เล่าตั้งแต่ตอนเจอกัน จนถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้จนหมด เพราะเขาไม่เคยมีเรื่องปิดบังแม่อยู่แล้ว พ่อของเขาเกิดอุบัติเหตุตอนไปเจรจาทำธุรกิจที่กรุงเทพฯ เขาจึงอยู่กับแม่สองคน และมีแม่บ้านเพียง 2-3 คนเท่านั้น เพราะเขาไม่ชอบความวุ่นวาย เขาต้องขึ้นคุมธุรกิจทั้งหมดแทนพ่อตั้งแต่อายุยังน้อย ไม่ว่าจะเป็นไร่ราชันแห่งนี้ ที่มีทั้งสวนปาล์ม และสวนยางพารา รวมๆ แล้วก็หลายร้อยไร่ และไหนจะโรมแรมที่มีเครืออีกหลายที่

“เรื่องก็มีเท่านี้แหละครับ แม่”

“อืม...น่าสงสารเขาจังเลยนะ ที่มาเจอลูกเนี่ย ฮ่ะๆ” ผู้เป็นแม่เอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“น่าสงสารตรงไหนครับ ผมสิที่น่าสงสาร คนไม่รู้จักกัน ผมยังต้องช่วยอีก รบกวนผมไม่หยุดไม่หย่อน” นายหัวภูเอ่ยตอบผู้เป็นแม่

“เป็นภาระสินะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยอย่างรู้นิสัยลูกตัวเอง ที่ไม่ค่อยเข้าหาใคร ชอบเก็บตัว ไม่ยุ่งกับใคร และไม่ชอบให้ใครมายุ่ง แต่นี่อะไร เสนอตัวเข้าไปช่วยเสียเอง เรื่องแค่นี้ทำไมคนเป็นแม่จะดูไม่ออก

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” 

“ถ้าเขาหายดีแล้ว จะส่งกลับกรุงเทพฯ เลยหรือเปล่า”

“ก็...ไม่รู้สิครับ คงแล้วแต่เขา” คำถามของคุณหญิงจันทร์หรือนายแม่เสมือนหอกข้างแคร่ซะจริง

“ไหนๆ เขาก็มาเที่ยว ถ้าเขาหายดีแล้ว ก็ให้พักที่นี่ไปก่อน และก็ให้เที่ยวที่ไร่เราไปเลย หรือว่าลูกไม่สะดวกใจ เดี๋ยวแม่ให้คนนำเที่ยวเอง จะได้ไม่รบกวนลูก” ผู้เป็นแม่เอ่ยอย่างรู้ใจลูกชาย ก็คุณลูกชายปากแข็งซะขนาดนี้

“ชื่ออะไรนะ...หนูลูกข้าวใช่ไหม....ชื่อน่ารักจัง อยากได้มาเป็นลูกสะใภ้เสียจริง” คุณหญิงจันทร์เอ่ยแค่นั้น ก็ลุกเดินจากไป


‘ลูกสะใภ้หรอครับแม่ เขาก็อยากให้เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายหัวใจจะตรงกับเขาหรือเปล่านี่สิ...เฮ้ออ...นี่ถ้าลูกน้องรู้ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี่ย เรื่องธุรกิจ เรื่องลูกน้อง เรื่องในบ้าน เขาจัดการมาหมด แต่ต้องมาตกม้าตาย เพียงเพราะผู้ชายตัวเล็กที่นอนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้เนี่ยนะ’



“คุณ..ช่วยผมด้วย...ช่วยผมด้วย” คนตัวเล็กละเมอออกมา แขนก็ไขว่คว้าในอากาศ ภูธิปที่นั่งอยู่ข้างเตียง จึงรีบจับมือ และประโลมปลอบข้างหู ‘พี่อยู่นี่ครับ ไม่เป็นไรแล้วนะ’

“พี่ภู...” คนตัวเล็กรำพึงและสงบไป



นายหัวภูนั่งมองลูกข้าว ก็คิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวันนี้ ถ้าเขาไปไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่ติดงานด่วนที่เขาจะต้องเข้าออฟฟิศไปเซ็นเอกสารอนุมัติ 2-3 ฉบับ เขาคงไม่ปล่อยให้คนตรงหน้าเดินไปคนเดียวเป็นแน่ ที่จริงเขาก็รีบที่สุดแล้ว เซ็นเสร็จก็รีบขับรถออกมาเลย เพราะคิดว่ายังไงก็น่าจะทันคนตัวเล็ก แต่พอเกิดเหตุการณ์ในวันนี้ เขาคงจะปล่อยให้คนตัวเล็กคลาดสายตาเขาไปไม่ได้ซะแล้ว

“อยู่กับพี่ อยู่ด้วยกันที่นี่เถอะนะ” โดยที่คนตัวเล็กนอนไม่รู้เรื่อง ภูธิปเอ่ยพร้อมประคองมือข้างหนึ่งของคนที่หลับอยู่ขึ้นมาแล้วบรรจงจูบลงไป




เช้าวันรุ่งขึ้น...
ลูกข้าวลืมตาขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย โดยที่มือข้างหนึ่งของเขานั้นถูกกุมไว้ เขาหันไปมองก็เจอกับโจรป่า...อีกแล้ว ลูกข้าวยิ้มออกมาทันที ‘ก็บอกแล้วไง รู้สึกปลอดภัยมาก ที่มีคนๆ นี้อยู่ข้างๆ’ 

“คุณ” ผมเอ่ยเรียก เพราะตัวเองหิวน้ำมาก และผลที่ได้คือนิ่ง ไม่มีการขยับใดๆ

“พี่ภู” คนหน้าหนวดงัวเงียลืมตาทันที

“มีอะไร” คนตัวโตเอ่ย

“หิวน้ำ”

“แปปนะ” พี่ภูหยิบน้ำมาให้ ดื่มเสร็จผมจึงถามต่อ

“ที่นี่ที่ไหนครับ”

“บ้านพี่”

“หื้ม...บ้านคุณ เอ่อ...บ้านพี่ภูไม่ใช่ที่ต้นไม้นั่นหรอ”

“นั่นก็ใช่ นี่ก็ใช่”

“...” งงครับ ผมตามไม่ทันหรือเขาพูดไม่เข้าใจ

“บ้านต้นไม้ เวลาทำงานเช้าๆ หรือไม่ได้กลับก็จะนอนที่นั่น แต่ที่นี่บ้านใหญ่ นานๆจะกลับมาทีน่ะ”

“อ่อ ครับ...เรื่องเมื่อวานนี้ ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมไว้ พี่ภูผ่านไปแถวนั้นหรอ”

“ไม่ได้ผ่าน แต่ตั้งใจไปและก็ไปเจอ...แถวนี้อันตราย นายไม่ควรเดินซี้ซั้ว”

“ผมเดินไปตามทาง แต่ไม่คิดว่าคนพวกนั้น” ผมเอ่ยได้แค่นั้นก็ก้มหน้าลง และเริ่มเอามือถูตามแขน ขา และคอ น้ำอุ่นๆ ก็ไหลรินอีกครั้ง

“ผมขอนอนต่ออีกหน่อยนะครับ” ผมนอนตะแคงอีกข้างในทันที เพื่อไม่ให้คนตัวโตเห็น แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาเหยี่ยวไปได้

พี่ภูเดินอ้อมมาอีกฝั่งของเตียง นั่งลงบนเตียงและลูบหัวปลอบผมไปเรื่อยๆ แต่ผมก็ยังถูตามเนื้อตัวไม่เลิก จนพี่ภูต้องห้ามและดึงตัวผมมากอดไว้กับอก ตอนนี้ผมอ่อนแอเหลือเกิน

“ไม่เป็นไรแล้ว พี่อยู่นี่แล้ว เงียบซะนะ” ดูเหมือนว่าผมจะร้องหนักกว่าเดิมหรือเปล่าเนี่ย สักพักพี่ภูจูบเข้าที่ตา จมูก แก้ม และมาหยุดที่ริมฝีปากของผม แต่พี่ภูไม่ได้หยุดแค่นั้น จูบผมและจูบที่คอผมด้วย ผมรู้สึกเจ็บนิดหน่อย

“พี่ภู” ผมเอ่ยเรียกแบบไม่ค่อยจะมีสติเท่าไรนัก

“จำไว้ ว่าอย่าอยู่ห่างพี่” พี่ภูเอ่ยขึ้นและยิ้มให้ มือข้างหนึ่งก็ลูบที่ต้นคอผมไปด้วย แต่สติผมตอนนี้เตลิดไปหมดแล้วครับ “เดี๋ยวพี่ไปเอาข้าวต้มขึ้นมาให้”


พี่ภูออกจากห้องไปแล้ว แต่ยังทิ้งสัมผัสไว้ หัวใจผมแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว มันเต้นแรงมาก ในความรู้สึกของผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจสัมผัสของพี่ภูเลย กลับกันผมกลับรู้สึกดี ต่างจากเมื่อวานที่อยากจะลบมันออกไปให้หมด




3 วันต่อมา สภาพร่างกายของผมแข็งแรงดีแล้วครับ เหลือแต่สภาพจิตใจที่ติดจะกลัวๆ อยู่ ตอนนี้ผมอยู่ที่ชานบ้านครับ

“เป็นยังไงบ้าง...ลูก” นายแม่เอ่ยถามเมื่อเห็นผมเดินลงมาจากข้างบนบ้าน ตั้งแต่วันแรกตอนสายๆ นายแม่ก็ขึ้นไปเยี่ยมผม ตอนแรกก็งงว่าใคร ซึ่งก็มีโจรป่าที่ยืนอยู่แถวนั้นเฉลยให้ ผมแทบจะยกมือไหว้ไม่ทัน

“หายดีแล้วครับ นายแม่”

“หายแน่ๆ นะ เดี๋ยวตาภูมาแหกอกแม่เอา จะหาว่าแม่ดูแลไม่ดี” นายแม่เอ่ยอย่างมีเลศนัยแกมยิ้มๆ

“พี่ภูคงไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกครับ ก็นายแม่น่ารักขนาดนี้” จริงๆนะครับ นายแม่ยังดูไม่แก่เลย

“หนูยังไม่รู้จักตาภูดีน่ะสิ”

“แล้วพี่ภูไปไหนหรอครับ”

“ไปเคลียร์เอกสารที่ไร่น่ะ สงสัยจะอู้ไว้นาน เย็นๆ คงกลับ” นายแม่พูดและมองมาที่ผม สงสัยจะเป็นเพราะผมแน่ๆ เลย ตื่นมาผมก็เห็นเขาเป็นคนแรก จะหลับก็ยังเห็นเขาเป็นคนสุดท้ายอีก ผมเป็นตัวปัญหาของพี่ภูอีกแล้ว

“มานี่มา...ลูก...อย่าคิดมาก พี่ภูเขาทำด้วยความเต็มใจ” นายแม่เอ่ยอย่างรู้ความคิดของคนตัวเล็ก

“มาร้อยมาลัยกับแม่ดีกว่านะ ร้อยเป็นไหมลูก” คุณหญิงจันทร์เอ่ยต่อ

“ไม่เป็นครับ แต่ถ้านายแม่สอน...”

“มานั่งใกล้ๆ แม่มา เดี๋ยวแม่จะสอนให้” คุณหญิงจันทร์เอ่ยและยิ้มให้ สอนไปเรื่อยๆ ลูกข้าวค่อนข้างหัวไว และมือเบา ร้อยได้อย่างเป็นระเบียบ ดอกกุหลาบที่นำมาร้อยยังไม่มีดอกไหนแตกสักดอกเลย คุณหญิงนั่งดูการร้อยมาลัยของลูกข้าวไป สังเกตไป ดูก็รู้ว่าหนูคนนี้ต้องเป็นคนที่ใจเย็นและอ่อนโยน ถือว่าตาภูมองคนไม่ผิดจริงๆ คุณหญิงจันทร์ถือคติลูกรักใคร เขาก็จะรักด้วย แต่เจ้าตัวดีดันเป็นคนปากแข็งเสียนี่

“นายแม่ครับ เป็นยังไงบ้างครับอันนี้” ลูกข้าวร้อยเสร็จก็นำมาให้คุณหญิงจันทร์ดู

“ร้อยใช้ได้เลยนะเรา สนใจมาอยู่ที่นี่กับแม่ไหม จะให้ร้อยสัก 30 พวง”

“สา...ม...สิบ พวง เลยหรอครับ” ลูกข้าวเอ่ยพร้อมตาที่โตกว่าปกติ

“แม่ล้อเล่นน่ะ ฮึฮึ”

“เฮ้ออ!!” ผมถอนหายใจทันที นึกว่าจะต้องมานั่งร้อยพวงมาลัยตั้ง 30 พวงเสียแล้ว คือร้อยน่ะร้อยได้ครับ แต่หลังไม่เอื้ออำนวยนี่สิ....ปวดหลังมาก

“แต่ที่บอกว่าสนใจมาอยู่ที่นี่ไหม แม่พูดจริงนะ” นายแม่เอ่ยพร้อมแววตาที่อ่อนโยน

“อยู่ที่นี่หรอครับ นายแม่จะให้ผมไปกรีดยาง ปีนต้นปาล์มหรอครับ อย่างนั้นผมคงไม่ไหว”

“ฮึฮึ ถ้าแม่ทำอย่างนั้น ตาภูก็จะว่าแม่น่ะสิ”

“ทำไม พี่ภูต้องว่านายแม่ด้วยล่ะครับ” ผมเอ่ยถามอย่างสงสัย

“สักวัน หนูจะรู้จากพี่เขานะลูก”

“ครับ” ลูกข้าวตอบรับพร้อมกับเก็บความสงสัยไว้

“นายแม่ครับ ผมคิดว่าผมจะกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้นะครับ” ผมเอ่ยต่อ

“ทำไมล่ะ...ลูก”

“ผมแค่คิดว่า ผมน่าจะกลับไปเริ่มต้นใหม่น่ะครับ มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นตั้งแต่ผมมาเที่ยว”

“อยู่พัก อยู่เริ่มต้นใหม่เสียที่นี่แหละ เดี๋ยวแม่จะให้คนพาเที่ยว รับรองว่าปลอดภัย” นายแม่ยิ้มและเอ่ยอย่างใจดี

“คือ...มันจะเป็นการรบกวนหรือเปล่าครับ นายแม่...คือ...ผมคิดว่า...”

“ลองถามพี่เขาดูสิ ว่ารบกวนหรือเปล่า” นายแม่เอ่ยพร้อมกับบุ้ยหน้าไปในทิศทางที่คนตัวโตกำลังเดินเข้ามา

“เอ่ออ....คุณ....” ผมรู้สึกเขินจัง เห็นหน้าเขาแล้วพาลนึกถึงวันนั้น

“มีอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

“เอ่อ...ไม่มีอะไรครับ....งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ขอตัวก่อนนะครับนายแม่” ผมเอ่ยตอบคนตัวโตและบอกกับนายแม่ที่นั่งอยู่

“เดี๋ยวลูก เอาพวงมาลัยที่หนูร้อยไปวางไว้ในห้องพี่เขานะลูก ห้องจะได้มีกลิ่นหอม”

“เอ่อ...เอ่อ....”

“นะ..ลูก..นะ”

“ก็ได้ครับ” คือตอนนี้ผมย้ายไปนอนอีกห้องแล้วครับ หลังจากแย่งที่นอนโจรป่าไปตั้งสองวัน จนโจรป่าต้องระเห็จไปนอนที่พื้นแทน



“ตามไปสิ...ถ้าอยากให้น้องอยู่ต่อ...ฮึฮึ” ผู้เป็นแม่เอ่ยอย่างรู้ทัน ก็ลูกชายตัวดีน่ะสิ ทำเป็นเก๊กขรึมจนเขากลัว แล้วก็มองตามซะตาละห้อย


ภูธิปไม่ได้ตอบอะไรกลับ แค่เดินตามคนตัวเล็กไป ไปถึงห้องของเขาก็เห็นคนตัวเล็กกำลังวางพวงมาลัยไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ และกำลังจะเดินออกไป โดยที่มีคนตัวโตยืนขวางทางประตูอยู่ ภูธิปปิดประตู ลงกลอน แล้วค่อยๆ เดินเข้าหาลูกข้าว

“คุณ...ผมวางไว้ที่ตรงนั้นนะ ขอตัวก่อนครับ” ผมพยายามหลบหน้าคนตัวโต

“เป็นอะไรไป คุยกัน แล้วทำไมไม่มองหน้า”

“เอ่อ...ไม่มีอะไรครับ”

“ไม่มีแน่หรอ” คนตัวโตเหมือนจะรู้ทัน ค่อยๆ เดินเข้าหาผมและต้อนเข้ามุมกำแพงห้อง

“คุณ...จะทำอะไรน่ะ” ผมเอ่ยอย่างตกใจ

“ทำอะไรดีล่ะ หึหึ”

“ผมขอตัวก่อนครับ ผมไม่มีธุระในห้องนี้แล้ว”

“จะรีบไปไหน...หื้ม นายไม่มี แต่พี่มีนี่” โจรป่าพูดจายียวนเหลือเกิน

“พี่ภู ข้าวไม่เล่นนะ ขอทางให้ข้าวด้วย”

“อื้มมม พูดแบบนี้ฟังรื่นหูดีจัง....ลูกข้าว” ไม่ทันได้ตั้งตัว พี่ภูก็ฉกหอมที่แก้มข้างหนึ่งของผม

“ชื่นใจดีจัง ถ้ากลับมาแล้วมีแก้มให้หอมทุกวันแบบนี้น่าจะดีนะ นายว่าไหม” พี่ภูพูดอะไรน่ะ

“พี่ภูทำอะไร ปล่อยข้าว!”

“พี่จะบอกว่าไม่รบกวนหรอก อยู่ที่นี่เถอะ...นะ” พี่ภูพูดขึ้น

“พี่...ภู” ผมเอ่ยอย่างรำพึง ไม่คาดคิดว่าจะได้คำตอบแบบนี้กลับมา

“บอกแล้วไง ว่าอย่าอยู่ห่างพี่” ภูธิปเอ่ยและประทับริมฝีปากลงที่ปากบาง

******************
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//



ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
เอ้ยยยยยยยชอบบบบบบ
ฟีลกู้ดดดดมากกกกกก

ให้กำลังใจคนเเต่งนะรีบเเเต่งมาให้อ่านกันอีกน้าาาาาา

รออออออออออ

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
อยากอ่านอีกแล้ววว

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
ตอนที่ 4
By moggy
-----------------------

หลังจากที่พี่ภูบอกให้อยู่ที่นี่และไม่รบกวน ผมจึงตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นเที่ยวที่นี่ และคงจะรบกวนนายแม่ให้หาไกด์นำเที่ยวให้

“นายแม่ครับ ผมรบกวนหาคนนำเที่ยวให้ผมได้ไหมครับ ผมจะเริ่มต้นเที่ยวที่นี่ครับ และก็ขอรบกวนอยู่พักที่นี่ก่อนนะครับ” ตอนเช้าในวันรุ่งขึ้น ขณะรับประทานอาหาร ผมเอ่ยกับนายแม่

“แม่จัดให้ได้นะ แต่คนหัวโต๊ะจะยอมหรือเปล่า” คุณหญิงจันทร์เอ่ยแกมล้อลูกชายที่นั่งกินอย่างเงียบๆ

“ต้องยอมสิครับ ผมไม่อยากรบกวนพี่ภู แค่นี้พี่ภูก็งานเยอะแล้ว ผมไม่อยากเป็นภาระอีก” ผมเอ่ยตอบ

“งั้นก็ได้จ้า เดี๋ยวแม่จะหาคนนำเที่ยวให้ เอาแบบหล่อๆ ไหมลูก...ฮ่ะ ฮ่า” นายแม่เอ่ยอย่างอารมณ์ดีแล้วหัวเราะออกมา

“ยังไงก็ได้ครับ ขอแค่ปลอดภัยก็พอ” ผมเอ่ยแล้วยิ้มให้นายแม่ ตอนนี้เรานั่งทานอาหารกันอยู่สามคนนะครับ แต่บทสนทนามีแค่สองคน อีกคนนั่งกินอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำ

“แล้วนี่ทำไมหนูถึงมาที่นี่ล่ะจ๊ะ” นายแม่เอ่ยถาม

“พอดีผมได้วันพักร้อนครับ ก็เลยกะจะเที่ยวยาว อยากมาทะเลครับ เห็นว่ากันว่าทะเลอันดามันสวย ผมก็เลยเลือกมาที่นี่ก่อน อันที่จริงที่แพลนไว้ กะว่าจะเดินทางไปหลายๆ จังหวัด แต่พอมีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ผมเลยต้องเซฟตัวเองก่อนน่ะครับ”

“อุ้ย..เหมือนแม่สมัยสาวๆ เลยลูก อยากเที่ยวทั่วประเทศ แต่ก็ไม่ได้ไป ก็พ่อตาภูน่ะสิ จะหวงอะไรนักหนาก็ไม่รู้ แต่นี่ก็ยังดี ยังมีเวลาพาแม่ไปเที่ยวทุกปี” นายแม่เอ่ยอย่างมีความสุข พี่ภูได้บอกผมแล้วครับว่าคุณพ่อเสียแล้ว พอดีผมไปยืนอยู่หน้ารูปท่านน่ะสิครับ ก็เลยถามพี่ภูดู

“คุณพ่อน่ารักมากเลยนะครับ”

“ใช่จ้ะ ท่านน่ารักมากๆ แต่ไม่รู้คนแถวนี้ไปเอานิสัยไม่น่ารักมาจากไหนก็ไม่รู้ ไม่เหมือนคุณพ่อ” นายแม่ยิ้ม แต่ผมเห็นพี่ภูกับนายแม่กำลังปะทะสายตากันอยู่ ดูครึมๆ จัง



สายๆ คนที่นายแม่หามาให้ก็มาถึง เห็นว่าวันนี้จะพาไปดูสวนปาล์มก่อน ลูกข้าวเตรียมตัวไว้เรียบร้อยแล้ว เดินออกมาหน้าบ้าน แต่ที่เห็นกลับเป็นโจรป่าอีกแล้ว

“พี่ภู”

“ขึ้นรถ”

“ไปไม่ได้ครับ ผมรอคนนำเที่ยวอยู่”

“ก็พี่นี่แหละ”

“พี่ภูไม่ทำงานหรอ ผมไม่อยากกวน”

“ทำสิ แต่เรื่องนี้พี่ก็ต้องทำเหมือนกัน”

“ต้องทำ??” ผมสงสัย

“ใช่..จะขึ้นรถได้หรือยัง”

“แต่...”

“นายจะปลอดภัย ถ้าอยู่ข้างๆ พี่...ขึ้นรถ!!” คนตัวใหญ่เอ่ยเสียงเข้ม

ผมไม่อยากขัดอะไร จึงเดินไปขึ้นรถ…



ไร่ราชันสวยมากเลยครับ จัดไว้เป็นสัดส่วน สองข้างทางที่รถวิ่งก็จะมีปลูกดอกไม้ไว้ ที่ผมจะไปดูวันนี้เป็นสวนปาล์มครับ เห็นพี่ภูบอกว่าเป็นปาล์มน้ำมัน ลักษณะลำต้นเดี่ยว ขนาดลำต้นประมาณ 12 - 20 นิ้ว ลำต้นจะถูกหุ้มด้วยโคนกาบใบ แต่เมื่ออายุมากขึ้นโคนกาบใบจะหลุดร่วงเห็นลำต้นชัดเจน ผิวของลำต้นคล้ายๆ ต้นตาลครับ สามารถนำมาแปรรูปทั้งในรูปแบบของน้ำมันพืชที่ใช้ในการประกอบอาหาร และใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารต่างๆ พวกขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมข้นหวาน ครีมและเนยเทียม นอกจากนั้นก็ยังเป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานทดแทน อย่างไบโอดีเซล อีกทั้งยังจะช่วยลดปัญหาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย และยังสามารถแปรรูปเป็น สบู่ ผงซักฟอก เครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ต่างๆ และอาหารสัตว์ด้วย ใบมาบดเป็นอาหารสัตว์ กะลาปาล์มเป็นวัตถุดิบเชื้อเพลิง และกระทั่งการปลูกลงดินก็ช่วยในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย คร่าวๆ ก็ประมาณนี้แหละครับ แต่พี่ภูบรรยายเยอะกว่านี้นะครับ ผมมาพูดสรุปให้ฟัง วันนี้เหนื่อยทั้งวันเลยแต่ก็สนุกมาก พี่ภูให้ความรู้ไม่พอ ยังพาไปกินนู่นนี่อีก แต่ขอบอกว่าอร่อยทุกอย่างเลยครับ พรุ่งนี้พี่ภูไม่ว่าง บอกไว้วันอื่นจะพาไปสวนยางต่อ ให้อยู่กับนายแม่ไปก่อน และห้ามออกไปไหนเด็ดขาด


‘ข้าว’
‘ครับ’
‘พรุ่งนี้อยู่กับแม่พี่ก่อนนะ’
‘ครับ…พี่ภูไม่ว่างหรอ งั้นเดี๋ยวให้นายแม่หาคนนำเที่ยวให้ก็ได้นะครับ ไม่อยากรบกวนพี่ภู’
‘…’
‘เอ่อ…ก็ได้ครับ พรุ่งนี้จะอยู่กับนายแม่ทั้งวันเลย’ เห็นหน้าพี่ภูแล้ว ต้องรีบรับคำไว้ก่อน
‘ดีมาก…และก็ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด’
‘ครับ’

นี่คือเหตุการณ์ตอนกลับมาถึงบ้าน หลังจากทำอะไรเสร็จ พี่ภูก็มาเคาะที่ห้อง เรายืนคุยกันหน้าห้องผมนะครับ อย่าคิดไปไกล




เช้ารุ่งขึ้น ผมตื่นเช้าเป็นปกติอยู่แล้ว ลงมาก็เห็นนายแม่ทำครัวอยู่ จึงเดินเข้าไปหา

“นายแม่ ทำอะไรอยู่ครับ”

“แกงมัสมั่นไก่จ้ะ ตาภูเขาชอบทาน เห็นพักนี้บ่นว่าอยากทานน่ะ นี่แม่กะจะใส่ปิ่นโตให้ไปกินที่ออฟฟิศ”

“ผมช่วยนะครับ” อาหารตอนเช้าเป็นข้าวต้มไก่สับครับ เห็นว่ายังไม่เสร็จ ผมจึงอาสาทำต่อให้เพราะนายแม่กำลังดูแกงอยู่


คุณหญิงจันทร์ที่กำลังให้ความสนใจกับแกงมัสมั่นไก่อยู่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สังเกตอะไรเลย เท่าที่ดูนั้น ลูกของตนคงไม่อดตายง่ายๆ หรอก หึหึ ก็หนูข้าวจับมีด เขียง ทัพพี คล่องซะขนาดนั้น เหมือนคนที่ทำเป็นอยู่แล้ว แค่นี้ตนก็หายห่วงแล้ว ตาภูไม่ค่อยใส่ใจกับสุขภาพมากนัก บางทีทำงานจนลืมกินข้าวทั้งวันก็มี เห็นอย่างนี้แล้วก็ลดห่วงไปได้เปราะหนึ่ง คิดว่าตาภูยังไงๆ ก็ต้องเชื่อฟังหนูลูกข้าวแน่ ถ้าได้มาเป็นลูกสะใภ้น่ะนะ แล้วเมื่อไหร่น่ะหรอ...ก็เมื่อลูกชายตัวดีของตนเลิกปากแข็งน่ะแหละ ไม่รู้ไปได้นิสัยนี้มาจากไหน

“เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ นายแม่จะให้ผมยกออกไปเลยไหมครับ”

“ไม่ต้องลูก เดี๋ยวให้เด็กมายกออกไป หนูช่วยมาดูแกงต่อให้แม่หน่อยนะ เดี๋ยวแม่ไปเข้าห้องน้ำแปปนึง”

“ได้ครับ แล้วเหลืออะไรมั่งครับ”

“เหลือใส่หัวหอม แล้วเคี่ยวอีกหน่อยก็โอเคแล้วจ้ะ เดี๋ยวแม่มานะ”

“ครับ”



ภูธิปเดินเข้ามาในครัว โดยที่ลูกข้าวไม่ได้หันไปดูเลยเพราะมัวแต่สนใจกับแกงมัสมั่นที่อยู่ตรงหน้าตัวเองอยู่

“แหววหรอ หยิบถ้วยเล็กมาให้ทีครับ”

“…” ภูธิปยื่นให้ คนตัวเล็กก็รับไป

“อืม รสชาติกำลังดีเลย นายแม่นี่เก่งจริงๆ สงสัยต้องขอฝากตัวซะแล้ว อร่อยอ่ะ”


ลูกข้าวที่กำลังหันกลับมา ก็ต้องตกใจที่เจอหน้ากับโจรป่า

“คุณ…เอ้ย…พี่ภู มาทำอะไรตรงนี้ครับ” ผมถามขึ้นทันที มาไม่ให้สุ้มให้เสียง ตกใจหมด

“มาหาแม่ แต่เจอนายแทน”

“อ่อ ครับ นายแม่ไปเข้าห้องน้ำ พี่ภูไปรอข้างนอกเถอะ เดี๋ยวเสื้อผ้าติดกลิ่นนะ”

“กลิ่นอะไรหรอ กลิ่นนี้หรือเปล่า” โดยไม่ทันตั้งตัว แก้มข้างนึงโดนหอมอีกแล้ว

“พี่ภู อย่าครับ” ผมห้ามพี่ภูไว้ เมื่อเห็นคนตัวโตจะพุ่งเข้าหาตนอีก “เดี๋ยวมีคนมาเห็น จะแย่เอานะครับ” ผมเอ่ยเตือน

“ใครจะมาเห็น” พี่ภูตอบอย่างเอาแต่ใจ

“ไม่ได้ครับ น่าเกลียดและที่สำคัญเราไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย ไม่สมควรครับ” ผมเอ่ยเตือนอีกครั้ง มันไม่ควรเลยสำหรับเราทั้งสองคน ทั้งสถานะ เพศ และการกระทำ

“…”

“พี่ภู ไปรอข้างนอกนะครับ นายแม่คงไม่เข้ามาในนี้แล้ว เดี๋ยวให้เด็กตั้งโต๊ะเลยนะครับ วันนี้มีข้าวต้มไก่สับครับ” เมื่อเห็นคนตัวโตเงียบไม่พูดอะไร ผมจึงเอ่ยต่อทันที

“…” พี่ภูไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แค่หันกลับเดินออกไป

“เราพูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ” คนตัวเล็กเอ่ยรำพึง



บรรยากาศบนโต๊ะเหมือนเดิมครับ นั่งกันสาม เสวนากันสอง

“นายแม่ ทานได้นะครับ” ผมเอ่ยถามนายแม่

“อร่อยจ้ะ รสชาติกำลังดีเลย” นายแม่เอ่ยและยิ้มให้

“พี่ภูพอจะทานได้นะครับ”

“…” ภูธิปแค่เพียงพยักหน้าหนึ่งครั้ง แต่เติมไปสองชามแล้ว เห็นคนกินอร่อย ผมก็ปลื้มแล้ว



ที่จริงผมก็ไม่ได้เก่งอะไร ถึงขนาดทำอาหารได้หมดหรอกครับ เมื่อสมัยที่ผมยังเด็กๆ แม่ผมไม่ค่อยอยู่บ้าน ทำงานในแลป นอนในแลปซะส่วนใหญ่ ผมก็เลยต้องอยู่บ้านคนเดียว จะออกไปซื้ออาหารมากินทุกวันก็ไม่ไหว ก็เลยมาหยิบจับทำอาหารเอง ไปๆ มาๆ ก็เป็นความเคยชิน จนไม่ได้ออกไปซื้อมากินอีกเลย ก็ทำเอง รสชาติดีกว่าตั้งเยอะนี่ครับ อาจจะไม่ดีที่สุด แต่ถูกปากผมเป็นพอ


พี่ภูออกไปทำงานแล้ว นายแม่ก็ขอตัวไปเอนหลัง ส่วนผมเบื่อๆ ก็เลยมาเดินเล่นแถวๆ รอบรั้วบ้านนี่แหละครับ ในรอบรั้วบ้านปลูกดอกไม้ไว้เยอะเลย เน้นที่ดอกมะลิจะเยอะมากเป็นพิเศษ สงสัยนายแม่จะชอบ กลิ่นหอมอบอวล รู้สึกอบอุ่นชะมัด เดินไปเรื่อยๆ ทางด้านหลังของบ้านมีสวนเล็กๆ ไว้นั่งเล่น มองจากตรงนี้จะเห็นภูเขาด้วย สวยมากจริงๆ  ผมกำลังจะกลับเข้าบ้าน แต่ดันตกใจแมววิ่งผ่านหน้าก็เลยสะดุดก้อนหินล้มลง หินขูดเป็นทางยาวที่ท้องแขน “อ๊ะ เจ็บชะมัด ได้แผลอีกแล้วสิเรา”

“ตายแล้ว คุณข้าว ไปทำอะไรมาคะ มานั่งตรงนี้ค่ะ เดี๋ยวป้าทำแผลให้” ป้าสายครับ เห็นพี่ภูบอกว่าเป็นคนเก่าคนแก่

“พอดีล้มมาน่ะครับ ป้าสาย ข้าวไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวข้าวทำแผลเองก็ได้ครับ ป้าสายไปทำอย่างอื่นเถอะครับ” ผมบอกพร้อมกับยื่นมือออกไปรับกล่องยาที่ป้าสายเดินไปหยิบมาเมื่อสักครู่นี้

“ไม่ได้ค่ะ นายหัวให้ดูแลคุณข้าวให้ดี ไม่อย่างนั้นป้าจะโดนแกเอ็ดเอานะคะ”

“ไม่หรอกครับป้า ข้าวไม่เป็นไรอะไรจริงๆ เอาอย่างนี้ครับ ผมไม่พูด ป้าไม่พูด พี่ภูก็ไม่รู้แล้ว นะครับ”

“ไม่ได้ค่ะ คุณข้าว มาค่ะ ป้าทำแผลให้นะคะ” ผมเลยจำใจต้องยอมปล่อยให้ป้าสายทำแผลให้ ที่จริงผมไม่อยากให้ใครมาดูแลผมมากนักหรอกครับ กลัวจะรักคนที่นี่เข้า แล้วไม่อยากกลับบ้านตัวเองขึ้นมา ก็แย่น่ะสิครับ

“ทำอะไรกันน่ะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น ในขณะที่ป้าสายกำลังใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผลให้ผมอยู่ แต่ป้าสายดันตกใจ

“โอ๊ย!!” แสบครับ แสบมาก แสบถึงกระดูกเลยครับ

“นายหัว เอ่อ… คุณข้าวป้าขอโทษค่ะ แสบมากไหมคะ” ป้าสายเอ่ยอย่างรู้สึกผิด

“ไม่เป็นไรครับป้า”

“เอ่อ นายหัว ป้าขอโทษค่ะ”

“ป้าไปทำอย่างอื่นเถอะ ตรงนี้ผมดูเอง” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอีกรอบ


หลังจากป้าสายออกไป พี่ภูก็เดินเข้ามาทำแผลให้ มือเบามากเลยครับ ไม่เหมาะกับหน้าตาเลย ฮี่ๆ แอบนินทาในใจ

“เสร็จแล้ว ไหนบอกมาซิ ไปทำอะไรมาถึงได้แผล” ภูธิปเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น ทั้งที่ในใจอยากจะว่านัก ไปซนที่ไหนมา ถึงได้ทำตัวเองเจ็บตัวอีกแล้ว

“ผม..เอ่อ ซุ่มซ่ามเองครับ มีแมววิ่งตัดหน้าตอนจะเดินเข้าบ้าน ผมเลยหกล้มที่ด้านหลังบ้าน” ผมเอ่ยตอบความจริงไป

“แมว?  มาจากไหน” ภูธิปรำพึงในใจ

“ระวังๆ ตัวหน่อย พี่เป็นห่วง ให้อยู่ห่างไม่ได้เลยนะ” ภูธิปเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ในแววตาเจือความเป็นห่วง

“ครับ” เป็นห่วงอีกแล้ว…เขินเลย >///<

“แล้วทำไมพี่ภูกลับมาเร็วจัง เพิ่งจะบ่ายกว่าๆ เอง” ผมเอ่ยถามต่อ

“งานเสร็จเร็ว ก็เลยรีบกลับ คิดถึงคนแถวนี้”

“…” ผมไม่ใช่เด็กขนาดนั้นนะ ถึงจะดูไม่ออกว่าที่พี่ภูพูดถึงน่ะหมายถึงใคร แต่…แต่เขินอ่ะ

“เงียบเลย แก้มแดงหมดแล้ว” พี่ภูเอ่ยพร้อมกับลูบแก้มผม

“พี่ภูอย่าแกล้ง” 

“ฟอด…ฟอด ชอบทำตัวน่ารักอยู่เรื่อย ห้ามทำแบบนี้กับใครนะ พี่หวง” พี่ภูเอ่ยพร้อมกับหอมแก้มทั้งสองข้างของผม

******************
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
พี่ภูหลงเด็ก  :m20:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พี่ภูปากแข็งจัง :o8:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ติดตามจ้า  :L2:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
น่ารักกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
นี่คือพี่ภูจีบ แล้วลูกน้าวก็ยอมให้จีบ ใช่มั้ยคะ ^^

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โธ่ พี่ภูน้องข้าวเขาซื่อถ้าพี่ไม่บอกน้องคงไม่รู้หรือไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองแน่ๆ ค่ะ

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ moggy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
ตอนที่ 5
By moggy
-----------------------

นี่ก็จะสามอาทิตย์แล้ว ที่ผมมาอยู่ที่นี่ พี่ภูจะหอมแก้มผมทุกครั้งหลังจากกลับจากที่ทำงาน ตอนแรกผมก็ว่า ก็เตือน ไปๆ มาๆ ดันชิน วันไหนพี่ภูไม่เข้าหานี่ ถึงกับต้องเอะใจกันเลยทีเดียว เอ่อ..ผมลืมเรื่องรถไปเลย ถ้าที่อู่ไม่โทรมาแจ้ง ผมเลยบอกให้ลากมาส่งที่นี่ ถึงเอามาที่นี่ไม่ได้ใช้ แต่ลากกลับไปที่บ้านผมก็ไม่มีคนดูแลอยู่ดี เอามาไว้ที่นี่แหละครับ ถึงจะไม่ได้ขับก็เถอะ เพราะส่วนใหญ่พี่ภูจะเป็นคนพาไปที่ต่างๆ พี่ภูบอกแถวนี้อันตราย ยิ่งไม่ใช่คนในพื้นที่อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว อันตรายมาก


พอกลับมานั่งคิดดีๆ ผมรู้สึกสับสนขึ้นมา ตกลงผมชอบผู้ชายหรอ หรือแค่รู้สีกดีด้วย ก็เขาดูแลผมดีซะขนาดนั้น แต่ผมก็ไม่ได้พิศวาสเพื่อนผมนะ หรือต้องเป็นคนนี้เท่านั้น ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าพี่ภูจะเริ่มรุกหนักขึ้น ผมเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง รุกหนักขนาดนั้นจะไม่ให้รู้สึกอะไรเลย ผมก็ตายด้านแล้วครับ พี่ภูคนที่ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย เขาเป็นถึงนายหัวของไร่ราชัน เป็นผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งก็ว่าได้ ไม่มีใครไม่รู้จักนายหัวภูธิปแห่งไร่ราชันหรอกครับ เขาชอบความเงียบสงบ และรักความเป็นส่วนตัวมาก แต่จะเป็นไปได้หรอที่นายหัวแห่งไร่ราชันจะมาชอบคนอย่างผม นั่งคิดสักพักผมก็เลยโทรไปหาแม่ ปกติก็คุยกันทุกวันอยู่แล้ว แม่รู้เรื่องที่ผมอยู่ไร่ราชันแล้วครับ แม่ไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกให้ระวังตัวด้วย ผมไม่มีความลับกับแม่หรอกครับ


“แม่”

‘ว่าไงครับ คนดี’

“คิดถึงแม่จังเลย”

‘คิดถึงก็กลับมาหาแม่สิครับ’

“โธ่ แม่ครับ กว่าข้าวจะมีวันหยุด ขอเที่ยวก่อนน๊า แต่คิดถึงแม่จริงๆ นะครับ แม่อ่ะ อย่าโหมงานหนักนะครับ ข้าวเป็นห่วง”

‘นี่แม่ก็สบายๆ แล้วนะ ไม่โหมหรอก อยากอยู่กับลูกไปนานๆ’

“แม่ครับ เอ่อ…”

‘มีอะไรหรือป่าว ลูก’

“เอ่อ ถ้าข้าวไม่เป็นไปอย่างที่แม่หวัง แม่จะโกรธข้าวหรือเปล่า”

‘แม่หวังให้ลูกใช้ชีวิตของตัวลูกเองให้มีความสุขแค่นี้เท่านั้น ลูกเข้าใจที่แม่พูดใช่ไหม’

“แต่ถ้า…ถ้าข้าวชอบผู้ชายด้วยกันล่ะครับแม่” กว่าผมจะตัดใจพูดออกไปได้ ใช่...ผมว่าผมชอบพี่ภูแหละ หรือรัก?... การดูแล ความอบอุ่นใจที่มีพี่ภูอยู่ข้างๆ มันทำให้ผมปลงใจชอบโดยไม่ยากเลย เรื่องเวลาก็ไม่สำคัญอีกต่อไป มันคงคล้ายๆ ทฤษฎีแขวนล่ะมั้ง เวลาเราตกอยู่ในอันตรายแล้วมีใครมาช่วย เราก็จะตกหลุมรักคนๆ นั้น

‘ฮ่าๆ เรื่องนี้เองหรอเนี่ย ที่ทำให้ลูกแม่กังวลขนาดนี้’

‘ข้าว ฟังแม่นะ เรามีกันอยู่สองคน ลูกจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ ขอแค่ลูกแม่มีความสุข แค่นี้แม่ก็ไม่หวังอะไรอีกแล้ว แต่ว่า...ใครกันนะที่ทำให้ต้นไม้ของแม่เป็นไปได้ขนาดนี้’

“แม่อ่ะ ข้าวไม่ใช่ต้นไม้นะ”

‘อ้าวหรอ แม่ก็นึกว่าลูกแม่ไร้ความรู้สึกไปซะแล้ว ชักอยากจะเห็นหน้าพ่อหนุ่มคนนั้นเสียแล้วสิ ฮ่าๆ’

“ขอบคุณนะครับแม่ ข้าวรักแม่ที่สุดเลย”

‘แม่ก็รักลูกจ้ะ ระวังตัวด้วยนะลูก’

“ครับ…แม่”



หลังจากวางสายไป ผมก็ออกมานั่งรับลมตรงชานบ้าน ลมเย็นๆ ช่วยผมผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย จะเอายังไงดี พี่ภูก็ไม่ได้พูดอะไร ผมจะไปพูดก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวเขาจะหาว่าคิดไปเอง แค่แกล้งกันเล่นๆ เฮ้อ…เก็บไว้อย่างนี้แหละ เค้าเรียกว่าอาการ ‘แอบรัก’ รึเปล่านะ เฮ้อออ…


“เฮ้ออ……..เฮ้ออ…” ผมถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก

“เป็นอะไร” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น

“เฮ้ย…ตกใจหมดเลย ทำไมพี่ภูมาเงียบๆ”

“ไม่เงียบนะ นายนั่นแหละ ใจลอย แล้วก็นั่งถอนหายใจอยู่นั่นแหละ”

“ผมหรอ เปล่าซะหน่อย” ผมจะพูดอะไรได้ ก็ตัวการอยู่ตรงหน้าผมเนี่ย

“เป็นอะไรหรือเปล่า หื้ม” คนตัวโตเอ่ย จับผมขึ้นไปนั่งที่ตัก แล้วสอดแขนเข้าโอบรอบเอว เอาคางเกยไว้ที่ไหล่เล็ก
 
“พี่ภู รู้ใช่ไหมทำแบบนี้ไม่เหมาะสมนะ”

“อืม”

“แล้วทำไมยังทำอีก ข้าวไม่อยากโดนแกล้งแล้วนะ”

“พี่ก็ไม่ได้แกล้งนิ”

“แล้วพี่ภูทำแบบนี้ทำไม”

“เป็นแฟนกันไหม” พี่ภูไม่ตอบคำถามผม แต่กลับถามผมกลับ และผมค่อนข้างตกใจกับคำถามของพี่ภูไม่น้อยเลย

“พี่ภู รู้ตัวรึเปล่าว่าพูดอะไรออกมา”

“รู้สิ อยากพูดมานานแล้ว แต่พี่รอเวลาให้ข้าวพร้อมก่อน เวลาแค่นี้พอไหมนะ”

“พี่ภู...” ผมพูดไม่ออกเลย พี่ภูทำเพื่อผมขนาดนี้เลยหรอ

“ว่าไงครับคนดี เป็นแฟนกับพี่นะ”

“...” ผมเพียงแค่พยักหน้ารับแค่นั้น


แค่ลูกข้าวตอบรับภูธิปก็หัวใจพองโตแล้ว ขอแค่นี้จริงๆ เขาเลื่อนหน้าเข้าไปจูบคนตัวเล็กในทันที


“พี่ภู พอแล้ว ข้าวจะไปนอนแล้ว”

“พี่ไปส่งนะ”

“…” ผมเพียงพยักหน้า แค่เมื่อกี้ก็อายแล้ว ก็เล่นจูบมาราธอนซะขนาดนั้น

“ฝันดีนะครับ” ลูกข้าวกำลังจะปิดประตู แต่มีมือใหญ่มายันประตูเอาไว้เสียก่อน

“พี่ภะ…อื้ม อืม” เสียงหายไปพร้อมกับความหวานที่แทรกเข้ามาแทนที่ ไม่ว่าเท่าไรก็ไม่พอสำหรับภูธิป ก็กลิ่นประจำตัวของเจ้าตัวน่ะสิดึงดูดเขาซะขนาดนี้ จูบก็หวานไปหมด อยากจะชิมทั้งตัว ถ้าเจ้าตัวอนุญาตน่ะนะ

“พี่ภู” เรามาอยู่ที่เตียงนอนได้ยังไงก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีหลังของผมก็แตะอยู่ที่เตียงแล้ว

“หืม” เราทั้งคู่จูบกันอีกครั้งและอีกครั้ง

“หวานจัง” ภูธิปเอ่ยขณะที่ริมฝีปากยังแตะกันอยู่ แต่สติของลูกข้าวตอนนี้เหมือนว่าจะเบลอไปเสียแล้ว

“พี่ภู”

“ครับ” ภูธิปก้มลงจูบอีกครั้ง

“ข้าวรักพี่ภู” ภูธิปถึงกับสะดุดไปชั่วขณะ แต่ก็ระบายยิ้มออกมา

“พี่ก็รักข้าว” และก็จูบอีกครั้ง

“ข้าว” ภูธิปเอ่ยเรียกพร้อมกับมองลูกข้าวที่ตอนนี้ตาหวานเยิ้ม ดูเชิญชวนให้ชิมมาก แล้วอย่างนี้เขาจะทนไหวได้ยังไง ว่าจะไม่แล้วนะ แต่ไม่ไหวแล้วจริงๆ

“หื้ม” คนตัวเล็กเอ่ยรับ สมองก็ยังเบลอ สติกระเจิงไปหมด

“พี่ขอนะ”

“หือ...อืม พี่ภู” ลูกข้าวเอ่ยขึ้นอย่างเบลอๆ ภูธิปก็เดินเครื่องในทันที



ในช่วงเช้ามืด

“อ๊ะ” ผมกำลังจะลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ต้องลงไปนั่งตามเดิม ฮือ…เจ็บอ่ะ นี่ขนาดพี่ภูทำเบาแล้วนะเนี่ย เมื่อคืนพี่ภูอ่อนโยนกับผมมากจริงๆ ถามตลอดว่าเจ็บไหมและก็ช่วยจูบซับให้ แต่ถึงอย่างนั้นก็จัดไปตั้งสองรอบเชียวนะ พี่ภูเจ้าเล่ห์จริงๆ แล้วนี่ผมอนุญาตเขาไปได้ยังไงเนี่ย โอ๊ย…อายอ่ะ ผมพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ก็มีมือยื่นมาจับที่แขนซะก่อน

“จะไปไหน” คนที่นอนอยู่ข้างๆ ครับ

“อาบน้ำ ข้าวจะลงไปช่วยนายแม่เข้าครัว”

“วันนี้ ไม่ต้องหรอก พักซะ” แล้วแขนใหญ่ก็โอบรอบเอวเกี่ยวผมลงไปนอนอีกครั้ง

“แต่ว่า…”

“ไม่มีแต่ หลับซะ” สุดท้ายลูกข้าวก็หลับไปอีกรอบจริงๆ



“…” ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่เจอคนที่นอนด้วยแล้ว

“...” เจ็บอ่ะ...ผมลุกขึ้นจะเข้าห้องน้ำ พอลงยืน ก็ล้มลงไปที่พื้นทันที “โอ๊ย ฮือ..” 

“ข้าว เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่ภูเปิดประตูเข้ามาพอดี

“เจ็บ”

“เจ็บตรงไหน” ภูธิปเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

“…” ผมค้อนเข้าให้ พร้อมกับกำปั้นเข้าที่หน้าอกพี่ภูแต่ไม่หนักมาก

“หึหึ” พร้อมกับจุ๊บที่หน้าผากของลูกข้าว

“ป่ะ พี่พาไปห้องน้ำ” พี่ภูอุ้มผมขึ้น

“เฮ้ย…พี่ภู ไม่ต้องอุ้มก็ได้”

“อุ้มสิ ก็ข้าวเจ็บอยู่ พี่เป็นห่วง” พร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์

“ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่คิดว่าจะเป็นคนแบบนี้ เจ้าเล่ห์นัก”



“หนูข้าว วันนี้ไม่สบายหรอลูก ไม่เห็นลงมาเข้าครัวกับแม่เลย” นายแม่เอ่ย

“เอ่อ นิดหน่อยครับ” ผมตอบ แต่คนข้างๆ ผมนี่สิ ไม่ช่วยแล้วยังแอบอมยิ้มอีก นิสัยไม่ดี

“ตาภู ทำไมไม่บอกแม่ห่ะ ว่าน้องไม่สบาย เดี๋ยวแม่ทำข้าวต้มให้นะลูก รอแปปนะ” นายแม่เอ็ดพี่ภูเสร็จ ก็หันมาพูดกับผมต่อ

“เอ่อ นายแม่ เดี๋ยวข้าวทำเองก็ได้ครับ”

“ไม่ได้ ยิ่งป่วยๆ อยู่ ตาภูพาน้องไปนั่งตรงนั้น ไป”

“แต่ว่า...” คนข้างๆ ผมเอาแต่เงียบ ทีอย่างนี้ไม่พกปากมา

“ไม่มีแต่จ้ะ ไป ตาภูพาน้องไปนั่ง”

“ครับ” พี่ภูเอ่ยรับแค่นั้น



“เจ็บอยู่ไหม” อยู่ๆ พี่ภูก็ถามขึ้น

“ก็ อืม”

“ทายาให้ เอาไหม”

“ไม่ต้องเลย คนเจ้าเล่ห์” พร้อมกับกำปั้นเล็กทุบลงที่อก

“หึหึ อย่าทำตัวน่ารักนัก พี่หวง”

“คนบ้า”

“หนูข้าว กินข้าวได้แล้วลูก” นายแม่เอ่ยเรียก

“ครับ นายแม่”

“กินข้าวเสร็จก็พักซะนะ พี่ไปทำงานก่อน…ฟอด” นั่นไง หอมแก้มอีกแล้ว ตอนนี้คงว่าไม่ได้แล้ว ก็เราเป็น… นั่นแหละ อย่าให้พูดเลย อาย >///<

“อืม” ตอบได้แค่นั้นแหละครับ



ตกเย็นผมก็เข้าครัว วันนี้ต้องทำเองครับ นายแม่ไปเยี่ยมเพื่อนที่ต่างอำเภอ ไปกับป้าสายกับลุงยิ้มครับ ลุงยิ้มแกเป็นคนขับรถ กว่าจะกลับก็หัวค่ำๆ หน่อย ผมก็เลยอยู่กับแหววสองคน

ผมรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เหมือนจะไม่สบาย อยู่ๆ ก็เวียนหัว ผมเลยรีบๆ ทำ จะได้เสร็จ และวานให้แหววออกไปเก็บใบมะกรูดให้ พี่ภูกลับจากที่ทำงานจะได้กินเลย แต่จังหวะที่หันไปหยิบจานดันหน้ามืดซะงั้น ผมพยายามคว้าที่จับไว้แต่ไม่ทัน เลยล้มลงที่พื้นทันที จากนั้นการมองเห็นก็มืดลง


“คุณข้าว คุณข้าวคะ” แหววรีบโทรหานายหัวทันทีที่เข้ามาเห็นลูกข้าวนอนหมดสติอยู่ที่พื้น เพราะรู้ดีว่าไม่มีใครอยู่บ้าน
‘นายหัวคะ คุณข้าวเป็นลม’

“ค่ะ ได้ค่ะ”

“คุณข้าวคะ คุณข้าว” จากนั้นแหววก็หายาดมมาอังที่จมูก พร้อมกับเรียกคนตัวเล็กไปด้วย



สักพักภูธิปก็มาถึง หลังจากลงจากรถ ก็รีบตรงไปในบ้านทันที

“ข้าว!!” เสียงเข้มเอ่ยเรียก

“อยู่นี่ค่ะ นายหัว” ภูธิปรีบตรงไปที่ห้องครัวทันที

“ขอโทษค่ะ แหววอุ้มไม่ไหว ก็เลยต้องดูแลในนี้”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง ไปทำอะไรต่อเถอะ” จากนั้นภูธิปก็อุ้มคนที่หมดสติขึ้นห้องมาดูแลเอง



‘ปล่อยไว้ห่างตัวไม่ได้เลยนะ ไม่สบายทำไมต้องฝืนตัวเอง เฮ้อ...น้องนี่นะ’ หลังจากวางลูกข้าวลงที่เตียง ภูธิปก็บ่นเบาๆ จัดการเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แล้วปล่อยให้นอนพักผ่อน ส่วนตัวเขาเองก็ไปจัดการธุระของเขาต่อ

“อืม สืบมา อย่าให้พลาด” ภูธิปกรอกเสียงสั่งงานกับลูกน้องเรียบร้อยก็ไปดูแลคนรักต่อ



“อือ...พี่ภู” ผมลืมตาขึ้น ก็เห็นหน้าคนหน้าเข้มก่อนเลย

“ว่าไงครับ”

“ข้าวปวดหัว”

“สั่งให้แหววเอาข้าวต้มขึ้นมาแล้ว กินข้าวก่อนจะได้กินยา”

“แล้วพี่ภูกินข้าวยัง”

“เรียบร้อยแล้ว ก็ใครล่ะทำไว้ให้ ทีหลังอย่าฝืนทำอีกนะ ห่วงนะรู้ไหม ตอนเห็นข้าวนอนสลบอยู่น่ะ ใจพี่เจ็บนะ” พี่ภูลูบหัวผมไปมา

“ข้าวขอโทษ ข้าวขอโทษ” ผมพร่ำบอกแต่คำนี้ คงไม่มีคำไหนที่จะเหมาะกว่าคำนี้แล้ว น้ำตาผมไหลออกมาเอง

“อย่าร้อง เดี๋ยวปวดหัวมากขึ้นนะ” ภูธิปขยับเข้ามากอดและใช้นิ้วเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้

“...”

“…”

เรากอดกันอยู่อย่างนั้น โดยไม่ได้พูดอะไรกัน แต่ก็รับรู้ความรู้สึกของกันและกันได้เป็นอย่างดี

******************
TBC.

**คำผิดแจ้งได้เลยค่ะ//
 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด