“ในเมื่อวินอยู่กับเขาแล้วรู้สึกดี ทำไมวินถึงทำอะไรที่มันทำลายความรู้สึกดีๆ นั่นไปซะล่ะ เขาจะมองวินว่าเป็นอย่างไร ควรจะเปิดโอกาส จะให้ใจกับวินดีไหม มันก็ต้องดูที่การกระทำของวินด้วยนะ”
“ผม...” ทันตแพทย์หนุ่มเม้มปากแน่น
“ถ้าวินกับเขาแตกต่างกันมาก แต่สบายใจเวลาที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง นั่นไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนพิเศษสำหรับวินหรอกเหรอ คนเราน่ะ ไม่ได้สบายใจเวลาอยู่กับทุกคนหรอกนะ”
รวินท์ส่ายหน้าพลางยิ้มบาง “ผมกับเขา... เราเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้นละ”
“วินกับคนคนนั้นน่ะ อยู่ในระยะที่เรียกว่าระยะดูใจ รู้จักไหม... สำหรับวินที่มีแต่คนเข้ามาสารภาพรักคงจะไม่รู้ ว่าคนทั่วไปเขาต้องพยายามปรับปรุงตัว พยายามสั่งสมความกล้ามากขนาดไหน กับการที่จะเปิดรับใครสักคนเข้าไปในหัวใจ กับความพยายามที่จะเข้าหาเข้าไปใกล้ชิด กับการที่จะตัดสินใจบอกรักใครสักคน”
“ขวัญเองก็เหมือนกันเหรอ”
“เราเป็นเพื่อนกันเมื่อตอนปีหนึ่ง... ขวัญใช้เวลาทั้งปีเพื่อรวบรวมความกล้าเข้าไปบอกวิน”
“.....”
“ตอนนั้นคิดว่า... ช่างแม่ง ยังไงก็เรียนคนละคณะ” เธอหัวเราะเบาๆ “แต่อยากให้วินรู้... ว่าขวัญมองวินมาตลอด”
รวินท์ยิ้มบาง เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ยิ่งรู้สึกถึงความงี่เง่า โง่เขลาของตัวเอง เขามีผู้หญิงที่ดีที่สุดอยู่ในมือแท้ๆ แต่ไม่เคย... ไม่เคยเลยที่จะใส่ใจความรู้สึกของเธอ ตลอดเวลาห้าปีที่คบกัน เธอให้โอกาสเขามาไม่รู้กี่ครั้ง หากเขาก็ปัดมันทิ้งไปเสียทุกที
...แล้วครั้งสุดท้าย ก็ยังมีหน้าขอโอกาสจากเธออีก
“ผมขอโทษ”
“เรื่องมันผ่านไปแล้วน่ะวิน” ครั้งนี้เป็นขวัญข้าวเอง ที่เป็นฝ่ายเอื้อมมือไปกุมมือเขาไว้ “ขอบคุณนะ ที่เปิดใจคุยกับขวัญตรงๆ”
“ไม่หรอก ผมต้องขอบคุณขวัญมากกว่า ที่สอนอะไรผมหลายๆ อย่าง”
“วินเองก็ปรับปรุงตัวมากขึ้นแล้วนี่นา แบบนี้น่ารักขึ้นเป็นกอง ที่จริง... ขวัญไม่เคยคิดเลยว่าเราจะมานั่งพูดคุยกันด้วยเหตุผลแบบนี้ได้” เธอบีบมือเขาเบาๆ “เรื่องของเรา มันอาจสายไปแล้ว แต่วินกับเขายังมีโอกาสนะ”
รวินท์พลิกมือกลับไปกุมมือหญิงสาวไว้ เขาส่ายหน้าไปมาช้าๆ “ผมว่าเขาตัดผมขาดจากชีวิตเขาไปแล้วล่ะ และถ้าหากว่าเขามีใจให้ผมสักนิด เขาก็คงตัดใจไปแล้วด้วย เขาเกลียดคนแบบผมจะตายไป”
“เขาถอยออกไปเพราะวินทำตัวไม่ดีเองไม่ใช่เหรอ ถ้าวินรู้ตัวว่ามีใจให้เขา วินก็ต้องเป็นฝ่ายเข้าหา พิสูจน์ให้เขาเห็นว่าวินเป็นคนใหม่แล้วสิ เริ่มต้นใหม่ตอนนี้ก็ยังไม่สายหรอกนะ” ขวัญข้าวอมยิ้ม “อันที่จริง การได้รักใครสักคนข้างเดียว ตามจีบเขา มันก็สนุกดีเหมือนกันนะ ลุ้นดีด้วย เชื่อขวัญสิ ขวัญมีประสบการณ์มาแล้ว”
“ประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำเอาซะเลยน่ะสิ”
“บ้าน่ะ มาถึงตอนนี้แล้ว ขวัญว่ามันเป็นความทรงจำที่ดีออกนะ ขวัญดีใจ ไม่เคยเสียใจเลยที่ได้รักวิน”
หัวใจของทันตแพทย์หนุ่มอุ่นวาบ มีรอยยิ้มละมุนอย่างจริงใจปรากฎขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา เขาค่อยๆ ดึงมือที่เธอกุมไว้ออก
ขวัญข้าวทำหน้าดุพลางชูนิ้วขึ้น “แต่ถ้าวินไม่เลิกนิสัยเจ้าชู้ ใจง่าย ขี้อ่อย เป็นกันเองกับทุกคน ไม่ใส่ใจคนรอบตัว วินจะไม่มีวันได้รับความรักความจริงใจจากใครทั้งนั้น จำเอาไว้ให้ดี”
“ครับ”
“ถ้าไม่ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ เขาก็ไม่มีวันรู้หรอก ว่าวินคิดจริงจังกับเขา”
“ครับ”
“ว่านอนสอนง่ายแบบนี้ โคตรไม่คุ้นเลยอ่ะ”
“นั่นสิ ผมก็ไม่คุ้นตัวเองเหมือนกัน” เขาหัวเราะเจื่อนๆ
“ขวัญจะแอ๊ดเฟซวินใหม่ แล้วจะเลิกบล็อกวินทั้งหมดทุกโซเชียลนะ”
“เป็นพระคุณอย่างสูง” รวินท์ค้อมศีรษะลง
“แล้วขวัญจะมีโอกาสได้เจอเขามั้ย”
“ถ้าเขายังให้โอกาสผม ก็อาจจะมี”
“งั้นก็สู้ให้เต็มที่เลยนะ”
“ผมจะพยายาม”
ขวัญข้าวเท้าแขนลงกับโต๊ะแล้วเอี้ยวตัวเล็กน้อยเพราะรู้สึกเมื่อย “อืม... นั่งนานไปหน่อย”
“กี่เดือนแล้วล่ะ”
หญิงสาวหันขวับ พลางทำตาโตใส่ “ขวัญพุงโตมากเลยเหรอ”
“ไม่หรอก เหมือนกินอิ่มแล้วไม่ได้อึมาสักสองอาทิตย์”
“นั่นปากเรอะ!” เธอตีแขนเขาไปอย่างไม่เบาแรงนัก
“แล้วขวัญก็ขยับตัวช้าผิดปกติ ทั้งที่เมื่อก่อนทำอะไรว่องไวไปหมด แถมก็ดูจะระวังท้องมากๆ เลยด้วย อีกอย่าง...” รวินท์พยักพเยิดหน้าไปทางโต๊ะหนึ่งที่อยู่ห่างออกไป “เขาจ้องอยู่ตลอดเลย ท่าทางจะกังวลแล้วก็ห่วงขวัญมากๆ”
ขวัญข้าวแปลกใจไม่ใช่น้อย เพราะเมื่อก่อนรวินท์ไม่ใช่คนที่จะสังเกตอะไรแบบนี้ เธออ้าปากค้าง “วิน...”
ทันตแพทย์หนุ่มลุกขึ้น เดินฉับๆ ไปทางคนที่นั่งอยู่ แล้วยื่นมือเข้าไปหา “สวัสดีครับ ผมกับขวัญคุยกันเสร็จแล้ว เราไปนั่งด้วยกันดีกว่ามั้ย”
“อ่า... เอ่อ...” ชายหนุ่มยกมือขึ้นดันแว่น ก่อนจะลุกขึ้นพรวดแล้วยื่นมือที่เย็นเฉียบไปสัมผัสกับรวินท์ “สวัสดีครับ”
“ไปเถอะ ผมอยากรู้จักคนรักของขวัญนะ” รวินท์ยิ้ม เขาโอบไหล่อีกฝ่ายแล้วพาเดินไปยังโต๊ะเดิมที่เขานั่ง จากนั้นก็หันไปเรียกพนักงานให้นำเก้าอี้มาเสริม พร้อมกับสั่งน้ำเพิ่มอีก
“แนะนำตัวสิ” ขวัญข้าวอมยิ้มพลางใช้ข้อศอกสะกิดคนรักของเธอ
“ผมชื่อสาโรจน์ครับ เอ่อ... เราเรียนมาด้วยกัน”
“เราเป็นเพื่อนในคณะเดียวกันมาก่อนน่ะ”
“ผมเพิ่งเคยเจอคุณรวินท์ใกล้ๆ โห... ตัวจริงหล่อกว่าที่เขาลือกันซะอีก” แพทย์หนุ่มพูดเสียงสั่น แล้วใบหน้าของเขาก็ซับสีเลือดขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ไม่ต้องชมผมขนาดนั้นหรอก พูดแบบนี้เดี๋ยวขวัญเปลี่ยนใจนะเอ้า” ทันตแพทย์หนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ “เรียกผมแค่วินก็พอ ไม่ต้องเรียกเต็มยศขนาดนั้นหรอกคุณโรจน์”
“ครับ” สาโรจน์พยักหน้ารัว
สาโรจน์เป็นผู้ชายหน้าตี๋ๆ ใส่แว่นตาหนาเตอะ หวีผมเรียบแปล้ ท่าทางเรียบร้อย ดูเป็นเด็กเรียนสุดๆ ถ้าหากใครๆ มองเข้ามา ก็คงไม่อยากเชื่อว่าขวัญข้าวทิ้งรวินท์ไปเพื่อคบกับเขา
หากทันตแพทย์หนุ่มเข้าใจดี ถ้าให้เดาสาโรจน์ก็คงเหมือนขวัญข้าวเมื่อครั้งที่แอบชอบเขาตอนอยู่ปีหนึ่ง คนคนนี้คงเป็นเพื่อนคอยเคียงข้าง คอยดูแลเธอในยามที่หมองเศร้า... ในยามที่เขาทำให้เธอเสียใจ
“เอ่อ ผมเพิ่งคบกับขวัญตอนเรียนจบนะครับ ผมตามเขาไปอินเทิร์นที่โรงพยาบาลเดียวกัน ไม่ได้...”
รวินท์พยักหน้า “ขอบคุณนะครับ ที่อยู่ข้างๆ ขวัญตลอด” ทั้งที่เขาหมายความอย่างที่พูดจริงๆ ทว่าอีกฝ่ายกลับหน้าเสีย จ๋อยหนักขึ้นไปอีก เขาจึงเอื้อมมือไปตบไหล่เบาๆ “เฮ้ย! ทำไมทำหน้าเหมือนจะมาขอผ่อนผันหนี้ผมแบบนี้ล่ะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”
“คุณวิน...”
“รักขวัญให้มากๆ นะ ช่วยชดเชยที่ผมเคยทำให้เขาเสียใจด้วยนะครับ”
แพทย์หนุ่มยิ้มบาง “ทั้งชีวิตผม มีขวัญคนเดียวนี่ล่ะครับ เขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของผมแล้ว ผมจะรัก จะดูแลเขาให้ดีที่สุด ผมสัญญา”
นี่คงเป็นเหตุผลที่ขวัญข้าวเลือกสาโรจน์ มากกว่าผู้ชายที่มีดีแค่หน้าตาอย่างเขา
“วิน... รับนี่ไว้ได้มั้ย” หญิงสาวหยิบซองจดหมายสีชมพูขึ้นมาส่งให้ “ขวัญกับโรจน์อยากให้วินมานะ”
“อะไรอ่ะ ซองผ้าป่าเหรอ จะบวชหมู่รึไง”
“ทำไมเดี๋ยวนี้ปากจัด!”
รวินท์หัวเราะ เขารับซองนั้นมาเปิดออกดู กวาดสายตาอ่านข้อความไปอย่างคร่าวๆ อีกเดือนกว่าๆ ก็จะมีงานมงคลของขวัญข้าวและสาโรจน์ มาตอนนี้เขาชักจะอิจฉาขวัญข้าวกับคนรักของเธอซะแล้วสิ ความรักของพวกเขาผลิดอกออกผลแล้ว ในขณะที่ตัวเขา... แค่นึกถึงก็ร้อนวูบเหมือนยืนอยู่กลางทะเลทรายตามลำพัง
“ยินดีด้วยนะ ผมจะพยายามไป... เชียงราย? โอ้โห! ไกลโคตร!”
“ไกลอะไรน่ะ! นี่ก็เชียงใหม่แล้ว!”
“สถานที่แต่งก็อยู่ที่โรงพยาบาลที่ใช้ทุนน่ะครับ แล้วก็มีงานเลี้ยงใกล้ๆ ในพื้นที่ของโรงพยาบาลครับ”
“เออ ผมลืม ตกใจแรงไปหน่อย” รวินท์ยกมือขึ้นลูบท้ายทอยอย่างเขินๆ “เอาล่ะ งั้นวันนี้ผมกลับแล้วดีกว่า ขวัญกับคุณโรจน์จะได้พักผ่อนกัน” พอเขายืนขึ้น สาโรจน์ก็ลุกตามทันที
“ขอบคุณมากนะครับ” สาโรจน์เอื้อมมือไปจับมือรวินท์แล้วบีบเบาๆ พร้อมกับค้อมศีรษะลงเล็กน้อย สีหน้าเขาแสดงความรู้สึกที่มีอยู่ทั้งหมดออกมาอย่างจริงใจ “ถ้าหากคุณวินมีอะไรให้ช่วย ติดต่อมาได้เสมอนะครับ”
“ครับ ขอบคุณครับ แล้วเจอกัน ฟันผุเมื่อไหร่ก็มาหาผม จะเลาะออกให้ฟรี” รวินท์พูดพลางขยิบตาให้
“หวา~” สาโรจน์ยิ้มแหยๆ
“ขวัญเดินไปส่งวินที่รถนะ” เธอหันไปบอกกับว่าที่สามี จากนั้นก็เดินเคียงข้างทันตแพทย์หนุ่มไปช้าๆ
“ที่จริงไม่ต้องส่งก็ได้”
“อยากไปส่ง”
“ระวังคุณโรจน์จะหึง”
“ไม่หรอก เขาเข้าใจดี” ขวัญข้าวยื่นมือออกไปแตะท่อนแขนของรวินท์อย่างแผ่วเบา “วิน... ถ้ามีอะไรให้ช่วย โทรมาหาขวัญได้เสมอนะ”
“ขวัญจะมีเวลารับโทรศัพท์ผมมั้ยเนี่ย”
“มีสิ” เธอยิ้มอย่างน่ารัก “ส่วนเรื่องวินกับเขาคนนั้นน่ะ ขวัญจะเอาใจช่วยนะ อยากให้วินมีความสุขบ้าง”
“ขอบใจ” เขาตบลงบนหลังมือเธอเบาๆ
พอเดินไปถึงที่รถแล้ว ก่อนจะบอกลา รวินท์ก็หยุดยืนนิ่ง บางสิ่งบางอย่างผุดขึ้นมาในความคิด สิ่งที่เขาสงสัย... ค้างคาใจ มานาน “ขวัญ ผมขอถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไรเหรอ?”
“ขวัญรู้ได้ยังไงว่าผมไปไหนมาไหน ทำอะไรอยู่กับใคร รู้กระทั่งเรื่องผมมาทำคลินิกที่เชียงใหม่”
“เอ่อ...”
“ขวัญติดต่อกับเต้มาตลอดเลยใช่มั้ย”
“ใช่...ขวัญติดต่อกับเต้มาตลอด เพราะขวัญเป็นห่วงวิน” หญิงสาวตอบเสียงอ่อย
“เรื่องทั้งหมดตั้งแต่ตอนอยู่มหาลัย ไอ้เต้ก็เป็นคนบอกขวัญใช่รึเปล่า ที่ขวัญรู้ว่าผมนอกใจ ไปไหนมาไหนกับใคร...”
“วินอย่าโกรธเต้เลยนะ เขาหวังดี เพราะเต้ก็เป็นเพื่อนขวัญเหมือนกัน”
รวินท์ยิ้มบาง “นั่นสินะ” เขากุมมือเธอไว้แล้วบีบเบาๆ “กลับไปเถอะ แดดร้อนจะตาย แล้วก็รักษาตัวด้วยนะ”
“จ้ะ ขับรถกลับดีๆ ล่ะ”
*TBC*พี่วินนิสัยไม่ดีนักใช่ม้ายยย นี่ๆ ฮัสกี้ลงโทษชุดใหญ่ซะเรย คราวนี้แก้ตัวซะนะ ไปง้อน้องให้ได้ล่ะ หุหิ
/เกียมตะกร้ามาเก็บเกือกของทุกคน
หลายๆ คนคิดถึงขวัญข้าวใช่ม้อย หมอขวัญมาเคลียร์แร้วน้าาา หมอออกจะน่ารัก พี่วินของเรานิสัยไม่ดีเองกิงๆ นั่นแหละ 55555555555 /พี่วินบอกหยุดซ้ำเติมได้แร้ว
ตอนหน้าเรามาเช็กอาการน้องพิงค์กันนะคะ น้องจะเป็นยังไงบ้างน้าาาา~ เกียมโอ๋น้องกันรัวๆ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าน้าาาา 