ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภูสอยเดือน [Chapter 58 : ชื่นมื่นกันทั่วหน้า][END]  (อ่าน 614156 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
สมควรโดน พี่วินโคตรเจ้าชู้อ่ะ อ่อยไปทั่วไปเรื่อยไม่พอยังทำเรี่ยราดแบบนี้อีก โอยยยย งอนนานๆ เลยน้องพิ้งค์

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เต้ชอบหมอวิน รึป่าวเนี่ยยยยย

ส่วนเจ้าของเรื่องสะเทือนขวัญ กรุณาตั้งสติ และไปง้อน้องด่วน !!!!

ลด ละ เลิก อ่อยไปทั่ว น้องมันไม่ปลื้มมมม #ทีมพิงค์(ตอนนี้)

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
นึกว่าจะเจอเพื้อนรักหักเหลี่ยมโหดแล้วอะ แต่รู้สึกได้ว่าเต้ชอบวิน ยังไงวินก็รีบง้อพิงค์ละ อย่าปล่อยให้หลุดมือนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ตัองตีอีพี่หมอเนี่ย นิสัย!!

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
หมอขวัญน่ารัก แต่หมอวินน่าตี รีบไปง้อน้องพิงค์เร็วๆนะ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
พี่วินไม่น่าเลย โธ่ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Mariinariiz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ขอให้พิงค์งอนนานๆเลย หมอวินทำอะไรไม่รู้จักคิด น่าตี

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ตามง้อพิงค์เลยพี่วิน น้องเจ็บ

ออฟไลน์ Namnamboy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เต้คะเต้ หวังเคลมแบบนี้ ไม่โอเคนะ มาเหนือไปอีก

พังมากค่ะ สงสารภูพิงค์ หอบของหอบใจมาไกล
เจอช็อตนี้ไป ถึงกับยอมตัดใจ

วินท์คะ พลาดเองนะ รีบเคลียร์เลย
วินท์ต้องขอบคุณขวัญนะ รักเก่าที่ยังหวังดีน่ะ




ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :m16: โมโหแทนพิงค์

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
 ได้รู้อดีตจากหมอขวัญ รักหมอขวัญจัง หนูภูพิงค์ ตัดใจเถอะนะ พี่หมอของหนู คงปรับปรุงนิสัยขี้อ่อยไม้ได้แล้วล่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ TheGraosiao

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คนแบบพี่หมอนี่เปลี่ยนยาก

แต่ใช่ว่าจะเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าพิงค์ทำให้พี่หมอเปลี่ยนได้

ก็หวังเป็นคนสุดท้ายของพี่หมอได้เลย (ก็แน่ซิยะ เรื่องนี้พระนายเค้าก็ต้องคู่กันอยู่แล้ว 55)

เอาเป็นว่า เชียร์ทั้งคู่เลยน้าาาาา ง้อพิงค์ให้ได้นะพี่หมอ  :mew1:

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
วินทำกับน้องแบบนี้ไงงงงงงง

ไปง้อเลยนะ ปรับปรุงตัวด้วย เฮ้อ!!!!

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
จะโทษพี่วินก็ไม่ถูก  ภิงค์ไม่ไม่ได้ชัดเจนอะไร พี่หมอก็เศร้าคิดว่าตัวเองคิดไปคนเดียว
ถึงแม้การกระทำจะไปทางนั้น แต่ไม่มีใครอย่างคิดไปคนเดียวหรอก อย่างน้อยพี่หมอก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีแล้ว มีสติคิดได้ พี่หมอเก่งมาก o13

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 30 : ฟันคุดพาทรุด


“ไอ้พิงค์ ไปแดกข้าวกัน” แซนดี้เคาะประตูห้องเบาๆ แบบที่เรียกว่ากลัวคนข้างในจะได้ยิน เบื้องหลังของเขามีเพื่อนอีกสามคนยืนเบียดกันอยู่

ขิง ซันและดิวไม่กล้าถามว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างไอ้พิงค์เพื่อนของพวกเขากับพี่หมอในวันนั้น และอีกฝ่ายก็ไม่เอ่ยปากพูดถึงเลยเสียด้วย ภูพิงค์ทำตัวเป็นปกติเกือบทุกอย่าง ยกเว้นก็แต่มันไม่ค่อยร่าเริงและสุงสิงกับพวกเขาเหมือนเคย พอกลับจากมหาวิทยาลัยก็เดินขึ้นห้อง ถึงเวลากินข้าวมันก็ลงมากินแล้วกลับขึ้นไปใหม่ ซันเล่าว่าขนาดนอนห้องเดียวกัน ไอ้พิงค์ยังไม่คุยกับเขาเลย มันเอาแต่นอนอ่านหนังสือเรียน ทำแบบฝึกหัดไปเรื่อยๆ จนกระดาษกองท่วมหัว

นี่แหละที่ประหลาดสุด! ปกติแล้วพวกเขาจะนั่งติวด้วยกันสี่คนเสมอ หรือไม่ก็ไปสุมหัวติวกับเพื่อนในคณะ มักจะอ่านไปบ่นไปโวยวายด้วยกันไป ไอ้พิงค์มันจะไม่ปลีกวิเวกมานั่งอ่านหนังสือคนเดียวเงียบๆ แบบนี้

“คนอื่นเขาระบายความเครียดกันด้วยการเล่นกีฬา ดูหนัง ฟังเพลง เป็นติ่ง แต่ไอ้ห่าพิงค์นี่... มันระบายความเครียดด้วยการทำแบบฝึกหัดเหรอวะเนี่ย อะเมซซิ่ง” สี่หนุ่มซุบซิบกัน

สักพักประตูห้องก็เปิดออก “ยืนสุมหัวทำห่าไรกันวะ”

“พวกกูจะชวนมึงออกไปกินหมูกระทะว่ะ เดี๋ยวเอารถกูไป” แซนดี้ยิ้มกว้างรับ

“เออ ไปก็ไป” ภูพิงค์ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขานั่งทำแบบฝึกหัดแบบไม่หยุดเลยมาสองชั่วโมงแล้ว ระบายความอึดอัดไปได้เยอะ ตอนนี้จึงอารมณ์ดีขึ้นบ้าง

แต่ตลอดทางที่ไปกิน จนกระทั่งกลับมาที่บ้านเช่าอีกครั้งในตอนค่ำๆ เด็กหนุ่มก็แทบไม่ได้เปิดปากคุยกับใครเลย เขามักจะมองเหม่อไปทางอื่นอยู่ตลอดเวลา

พอถึงบ้านเช่าเขาก็เดินแยกขึ้นห้องไปอย่างเคย

ภูพิงค์หยิบแล็ปท็อปมากดเปิด พอเปิดเฟซบุ๊กเท่านั้นก็เห็นข้อความส่งมาถึงตนมากมาย เขากดดูไปแบบเซ็งๆ จนไปเห็นข้อความหนึ่งที่ส่งมาพร้อมกับรูปหลายรูปเข้า

‘ไอ้พิงค์ เจอพี่หมอของมึงกับใครไม่รู้’

เขากดปิดไปทันที พยายามจะไม่ใส่ใจ ทว่าก็อดใจไม่ได้นาน สักพักก็เปิดขึ้นมาดูใหม่

“กูต้องเป็นมาโซฯ แน่ๆ” ภูพิงค์บ่นกับตัวเอง จากนั้นก็กดดูภาพ พี่วินอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่คนที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยซึ่งเขาพบในห้องของอีกฝ่าย ดูท่าทางสวีตกันมากๆ นั่งจับมือกันในร้านอาหาร เดินควงแขนกัน สถานที่คือโรงแรม ในอกของเด็กหนุ่มเจ็บหน่วงราวกับถูกคมมีดแทงซ้ำลงไปที่แผลเก่า เขาถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา “มีความสุขดีก็ดีแล้ว”

ไม่ต้องมีเขาอยู่ใกล้ๆ พี่วินก็หัวเราะได้ “เจ็บฉิบหาย”

สีหน้าตกใจของพี่วินในวันนั้น ก็แค่เพราะถูกขัดจังหวะเท่านั้นเอง อย่าสำคัญตัวผิดเลยไอ้พิงค์เอ๊ย ดูเอาเหอะ แค่ไม่กี่วันพี่วินแม่งก็ควงสาวคนใหม่ไปจิ๊จ๊ะที่โรงแรมแล้ว ไม่คิดแม้แต่จะโทรมาหาเขาสักครั้งเลยด้วยซ้ำ เขาคงไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาอีกฝ่าย
พี่วินตอนที่อยู่ลำพูน ก็คงเป็นพี่วินคนเดิมเหมือนที่ผ่านมานั่นแหละ เขามันโง่เองที่คิดว่าระหว่างพวกเขามีความรู้สึกพิเศษให้กัน ทั้งที่พี่วินอาจจะทำตัวเช่นนี้กับทุกคน


“ผมมีบทเรียนจากอดีตแล้วนะ ผมจะปรับปรุงตัว” คำพูดของรวินท์แวบเข้ามาในความคิด


“โกหกทั้งเพ กูหนอ~ ไม่น่าหลงเชื่อเลยแม่ง!”

เด็กหนุ่มวางแล็ปท็อปลงข้างตัว พร้อมกับเอนหลังลงนอนแล้วยกมือขึ้นกุมใบหน้า

“ทำไมกูยังตัดใจไม่ได้สักทีวะ ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ เห็นชัดๆ จะๆ มาก็หลายทีแล้ว แม่ง... ชอบเจ็บๆ เหรอไอ้เหี้ย”

ใช่... เขาคงอยากเจ็บมากขนาดที่ไปโรงพยาบาลทันตกรรมของคณะทันตแพทย์มาเรียบร้อย และก็มีนัดผ่าฟันคุดแล้วด้วย เป็นประสบการณ์ที่บ้าบิ่นที่สุดในชีวิตสำหรับคนที่กลัวหมอฟันที่สุดแบบเขา แต่ก็สะใจดี ไอ้ตอนแรกเขาก็จะไปทำกับนักศึกษาทันตแพทย์ตามที่พี่วินแนะนำอยู่หรอกนะ แต่เขาไม่อยากรอ อยากเจ็บตัวไวๆ อยากเจ็บให้เยอะๆ เจ็บซะให้พอ

ภูพิงค์ปิดตาลงแล้วนอนนิ่งอยู่สักพักใหญ่ แต่ไม่ว่าจะลืมตาหรือหลับตาก็มีค่าเท่ากัน เขายังคงนึกถึงแต่พี่วินตลอด สุดท้ายแล้วก็ลุกขึ้นควานหาแบบฝึกหัดมาทำอีก เพราะนี่คงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาหยุดคิดถึงอีกฝ่ายไปได้บ้าง


วันเสาร์วนเวียนมาถึงอีกครั้ง ภูพิงค์นั่งหมดแรงอยู่ในห้องของตัวเอง ที่ข้างตัวมีผ้าก็อซชุ่มเลือดและน้ำลายวางอยู่ มือข้างหนึ่งถือถุงประคบเย็นประกบไว้ที่แก้ม ศีรษะตื้อไปหมด จำอะไรที่ทันตแพทย์บอกก็ไม่ได้ จำได้แค่ประโยคแรกที่ว่ากลับมาถึงบ้านให้ประคบเย็นๆ ที่แก้มเนี่ยแหละ เขาเพิ่งไปผ่าฟันคุดมาเมื่อเช้าหลังจากที่กังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายคืน โดนทันตแพทย์จับโยกเสียจนคอแทบหัก ตอนนี้ก็ยังคอเคล็ดๆ อยู่ เอาจริงๆ วินาทีนั้นนึกว่าจะไม่รอดแล้ว เลือดก็ออกเยอะมากเสียจนเขาสงสัยว่าในตัวเขายังมีเลือดเหลืออยู่บ้างไหม แถมตลอดเวลาที่นอนอยู่บนเก้าอี้ทำฟันยังรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของไอ้พี่วินดังมาแว่วๆ ด้วย พอกลับมาถึงห้อง ยาชาหมดฤทธิ์ก็มานั่งเจ็บปากหมดสภาพอยู่แบบนี้นี่ล่ะ

แม่ง ทำไมไอ้พี่วินยังตามมาหลอนกันอยู่ได้ เวลาที่ห่างกันไป ไม่ได้ทำให้ความเจ็บปวด ความหงุดหงิดงุ่นง่าน และความคิดถึงของเขาเบาบางลงไปเลย

แล้วไงล่ะ... อาการปวดปากไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความมาโซคิสต์ของเด็กหนุ่ม เขานั่งสตอล์คเฟซบุ๊กของรวินท์ต่อ จะได้เจ็บปวดเสียให้พอ เผื่อว่าเจ็บมากๆ แล้วจะได้ตัดใจได้เสียที

เฟซบุ๊กของรวินท์ไม่มีการอัปเดตใดๆ นอกจากเพิ่มเพื่อนใหม่สองคนเมื่อหลายวันก่อน คนหนึ่งก็คือหญิงสาวที่เขาเห็นในภาพกับพี่วินเมื่อวันก่อน

หือ...

“ขวัญข้าว?” เด็กหนุ่มกดตามชื่อเข้าไปดูในโพรไฟล์ของเธอทันที แล้วก็เปรียบเทียบรูปของเธอกับรูปที่เคยมีคนส่งมาให้ดู ในแฟ้มรูปมีรูปที่นั่งกันอยู่สามคนเสียด้วย สรุปวันนั้นพวกเขาไปกันสามคนอย่างนั้นเหรอ? “นี่คือพี่ขวัญข้าวของพี่วินเหรอเนี่ย”

ผิดจากที่คิดไว้มากโข เธอดูเป็นผู้หญิงแนวใสๆ หวานๆ น่ารักบ้องแบ๊ว แต่ที่แน่ๆ ผู้ชายอีกคนในรูป คือแฟนของเธอชัวร์ๆ

โอ้โห... แฟนเก่ากับแฟนใหม่ตรงข้ามกันแบบฟ้ากับนรกเลยเถอะ แต่ที่นรกน่ะ พี่วินนะ

ด้วยความเสือกที่มีอยู่ใน DNA ภูพิงค์จึงเลื่อนลงไปดูไทม์ไลน์ของเธอที่เปิดเป็นสาธารณะไว้ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมากนัก มีโพสต์รูปปกนิตยสารทางการแพทย์ภาษาอังกฤษที่เธอสนใจ แชร์เคสศึกษาต่างๆ จากแพทย์นานาชาติ สลับกับโพสต์รูปโรงพยาบาล รอบๆ โรงพยาบาล เด็กๆ แล้วก็แฟนบ้าง ไลฟ์สไตล์จริงจังต่างกับพี่วินแบบโคตรๆ

แวบหนึ่งเด็กหนุ่มรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย ที่ผู้หญิงที่ควงแขนพี่วินเป็นพี่ขวัญข้าวแฟนเก่า ไม่ใช่ผู้หญิงคนใหม่อย่างที่เขาคิดในตอนแรก

แต่จะว่าไปเขาก็นึกทึ่งพี่วินเหมือนกันแฮะ ทั้งที่ตอนอกหักร้องไห้จะเป็นจะตาย แต่กลับยอมไปพบกับเธอและแฟนใหม่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแบบนั้น เวลายังผ่านไปไม่นานเลยแท้ๆ

ภูพิงค์ถอนหายใจเฮือกใหญ่

ก็คงเพราะนิสัยไม่จริงจังอะไรกับใครจริงๆ นั่นล่ะมั้ง นึกถึงแล้วก็เจ็บดีฉิบหาย

“โอย... กูหนอ..” เขายกมือขึ้นทุบศีรษะตัวเองรัวๆ

สักพักเด็กหนุ่มก็เงยหน้าขึ้น กดกลับไปที่หน้าไทม์ไลน์ของรวินท์ แล้วก็พบว่ามีคนพร้อมใจกันแท็กอีกฝ่ายเรียงเป็นตับ ชนิด ที่เขารีเฟรชเสือกได้แบบเรียลไทม์

“เกิดอะไรขึ้นวะ”

พอกดรูปขึ้นมาดู ก็พบว่าสิ่งที่อยู่ในรูปนั้นคือการ์ดแต่งงานของขวัญข้าว

ข้อความของแต่ละคนที่แนบมากับรูปช่างร้ายกาจ ต่อว่าเหน็บแนมขวัญข้าวและว่าที่สามีของเธอด้วยถ้อยคำแรงๆ แล้วยังเอาว่าที่สามีของเธอไปเปรียบเทียบกับพี่วินด้วยสารพัด

น่าสงสาร... บางคนถึงกับต่อว่าไปถึงรูปร่างหน้าตา เขาคิดว่ามันแรงเกินไป

พี่วินจะทำยังไงนะ ป่านนี้จะรู้ตัวหรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่บอกว่ารักนักหนา


เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ภูพิงค์จึงรีบปิดหน้าจอแล็ปท็อปลง “เข้ามาดิ ทำไมต้องเคาะด้วยวะ”

“เผื่อมึงชักธงอยู่ จะได้ไม่ค้าง” แซนดี้เปิดประตูผาง เดินเข้ามาพร้อมชามใส่โจ๊ก “เอ้า แดก กูเอามาบริการถึงห้องเลยนะ เห็นว่ามึงเพิ่งผ่าฟันมา อาจจะเดินไม่ไหว แดกอะไรลำบาก นี่กูบอกคนขายขอโจ๊กแบบแหลกๆ สุดเพื่อมึงเลยนะเว้ย”

“เออๆ ขอบใจ” เขารับชามโจ๊กมาถือไว้ ใจไม่อยากกินแต่ท้องร้องจ๊อกๆ เขาจึงจำใจต้องตักโจ๊กขึ้นมาชิม หากอีกฝ่ายยังละล้าละลังอยู่ในห้อง “มีอะไรจะพูดก็พูด นั่งดิ ปิดประตูด้วย”

“กูจะเสียหายมั้ยอะ ปิดประตูอยู่กับผู้ชายสองต่อสองในห้องนอนเนี่ย”

“มึงยังเหลืออะไรให้เสียหายอีกเหรอ คิดว่ากูอยากแกว่งจู๋ในถ้ำที่รถไฟเหาะเข้าไปตีลังกาได้หรือไง”

“อีเหี้ย~ ปากแบบนี้ไม่เป็นไรมากแล้วดิ” แซนดี้เตะขาอีกฝ่ายไปที ทั้งที่ในใจอยากจะเตะปากมันให้สลบแล้วลากไปให้หมอเย็บปาก จากนั้นจึงทิ้งตัวลงนั่ง “มึงแดกไปก่อน”

“แดกไปคุยไปก็ได้” ภูพิงค์พูดพลางตักโจ๊กใส่ปาก เขาก็รู้อยู่แก่ใจแหละว่าเพื่อนๆ เป็นห่วง และต้องการจะคุยอะไรกับเขา “ไอ้พวกนั้นไม่มาด้วยล่ะ”

“แม่งปอดแหกไง เลยส่งกูมาเป็นทัพหน้า”

เด็กหนุ่มถอนหายใจหนักๆ แล้วกินโจ๊กต่อ

“กูนึกไม่ถึงเลยว่าชาตินี้มึงจะไปผ่าฟันคุดด้วยตัวเองแบบแมนๆ เหี้ยๆ แถมไม่ได้เรียกพวกกูให้ไปเป็นกำลังใจให้อีก ถ้ามึงไม่ได้เดินหน้าซีดถือถุงประคบเย็นกุมปากกลับมาเนี่ย พวกกูก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามึงไปผ่าฟันมา”

ภูพิงค์พยักหน้าช้าๆ “อือ กูอยากเจ็บไง ที่เจ็บอยู่ตอนนี้แม่งไม่พอ”

แซนดี้สะอึก พูดต่อไม่ออกเลยทีนี้

“จะคุยอะไร ไม่คุยแล้วรึไง”

“เอ่อ... มึงมีอะไรกับพี่หมอ...วะ” แซนดี้ถามเสียงอ่อย พยายามพูดให้เสียงเบากว่าเสียงกลืนโจ๊กของอีกฝ่าย เผื่อแม่งจะไม่ได้ยิน

“ไม่มี”

อ้าว เสือกได้ยินอีก! “อือ โอเค” แซนดี้ลุกขึ้นพรวด ไม่ถงไม่ถามแม่งแล้ว

กูต้องรีบชิงหนีก่อนที่ไอ้เพื่อนเวรมันจะแดกหัวกูแทนโจ๊ก!

“เดี๋ยว!”

“จะให้รอเอาชามไปเก็บเหรอจ๊ะพ่อ”

“เออ นั่งรอก่อน”

แซนดี้นั่งลงพับเพียบเรียบร้อยทันที เขาชำเลืองมองเพื่อนละเลียดกินโจ๊กไปเรื่อยๆ แล้วทอดถอนใจ “ไอ้พิงค์ พวกกูเป็นเพื่อนมึงนะ มีปัญหาอะไรก็ปรึกษากันได้”

“ขอบใจ”

เสียงของภูพิงค์อ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย ทำให้แซนดี้พอมีความกล้าขึ้นบ้าง เขาจึงลองถามใหม่ “มึงโกรธอะไรพี่หมอเหรอ วันนั้นมีเรื่องอะไร”

เด็กหนุ่มชะงักกึก เงยหน้าขึ้นมองคนพูดทันที

“ว้าย! กูขอโทษค่า! กูไม่ถามแล้ว!”

“กู... มีสิทธิ์ไปโกรธอะไรพี่เขาด้วยเหรอ ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”

ว้าย! มีดึงดราม่าด้วยเว้ย! แซนดี้อุทานในใจ “เอ้า ไอ้ห้าปึ้ด ทำไมจะไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็อย่างน้อย... ตอนนี้มึงกับพี่เขาก็เป็นเพื่อนกันไง เพื่อนกันทำไมจะโกรธกันไม่ได้วะ”

“นั่นสินะ” ภูพิงค์ทำหน้าเศร้า

แซนดี้จ้องมองท่าทีของเพื่อนรัก แล้วค่อยๆ ตะล่อมถามต่อ “แต่ที่มึงเป็นแบบนี้ เพราะมึงไม่ได้คิดกับพี่หมอแค่เพื่อนใช่มั้ย”

คนถูกถามเบือนหน้าหลบสายตาอีกฝ่าย “.....”

“กูเคยบอกมึงแล้วใช่มั้ยล่ะ ถ้าคิดจะคบกับพี่หมอมึงต้องอดทนให้มากๆ”

“กูต้องอดทนขนาดไหนวะ มันเจ็บว่ะมึง นิสัยพี่เขาตรงข้ามกับกูแทบทุกอย่าง แล้วพี่เขาก็ไม่เป็นอย่างที่กูหวังอยากให้เขาเป็น มึงเข้าใจกูไหม” ภูพิงค์ยกมือขึ้นขยี้เส้นผมตนเองเบาๆ “แต่ที่จริงเขาจะเป็นยังไงมันก็เป็นสิทธิของเขานั่นล่ะ”

“แต่กูว่านะ มึงอยากให้พี่เขาเป็นยังไง มึงก็ควรจะไปคุยกับพี่เขาให้เข้าใจมั้ยวะ บอกพี่เขาไปสิว่ามึงไม่พอใจอะไร โกรธอะไร ดีกว่ามานั่งดราม่าอยู่แบบนี้”

กูเคยพูดแล้ว และพี่เขาก็บอกว่าจะปรับปรุงตัวด้วย แต่นั่นเป็นคำโกหกทั้งนั้น อีแซนดี้เอ๊ย เพื่อนมึงก็โง่หลงเชื่อไง หลงมีหวัง คิดเข้าข้างตัวเอง ถึงได้มานั่งเจ็บเจียนตายอยู่แบบนี้

เด็กหนุ่มตอบอีกฝ่ายอยู่ในใจเท่านั้น เพราะถ้าเอ่ยปากพูดไปก็กลัวว่าจะทำให้พี่วินดูไม่ดีในสายตาคนอื่น เขานั่งนิ่งเป็นรูปปั้นหิน สายตาทอดมองไปทางบานหน้าต่าง

“ไอ้พิงค์... ไปคุยกับพี่หมอเหอะนะ เชื่อกู พี่เขาอาจจะรอมึงอยู่ก็ได้นะเว้ย”

เจ้าของชื่อเรียกส่ายหน้าไปมาช้าๆ

อีแซนดี้เอ๊ย เพื่อนมึงไม่ได้มีความสำคัญอะไรในสายตาของพี่วินเลย ขาดกูไปพี่เขาก็ยังมีคนอีกมากมายรายล้อม กูจะไม่ชอบใจ ไม่พอใจอะไร เจ็บจนกินไม่ได้นอนไม่หลับแค่ไหน พี่เขาก็ไม่สนใจหรอก

เขาไม่ได้พบกับพี่วินมาจะสองสัปดาห์แล้ว ไม่ได้คุยโทรศัพท์ ไม่มีการส่งข้อความใดๆ ถึงกัน ไม่ได้ติดต่อกันเลย พวกเขาก้าวออกห่างจากกันไปทุกที แบบนี้คงจะไม่มีโอกาสกลับไปเป็นเหมือนอย่างเดิมได้อีกแล้ว

แซนดี้เห็นภูพิงค์เงียบไปนาน จะตื๊อต่อก็ไม่กล้า “เอ่อ งั้น... กูไปดีกว่านะ เดี๋ยวให้ไอ้ซันเอาน้ำมาให้ อยากแดกน้ำไร”

“เอาน้ำเปล่าอุ่นๆ ได้มั้ยวะ”

“ได้ๆ แต่กูว่าหน้ามึงแดงๆ แปลกๆ ว่ะ นั่งพักไปก่อนนะ”

“เออๆ ขอบใจเว้ย”

เมื่ออีกฝ่ายลุกออกจากห้องไปได้สักพัก ภูพิงค์ก็หันไปเปิดแล็ปท็อปขึ้นมาดูอีกครั้ง พอกดรีเฟรชเท่านั้นก็เห็นสเตตัสใหม่ล่าสุดของรวินท์ หัวใจเขาเต้นสั่นรัว

รวินท์โพสต์รูปถ่ายตัวเองกับการ์ดแต่งงานของขวัญข้าว ใบหน้ายิ้มแย้ม รอยยิ้มแบบที่เด็กหนุ่มคิดว่าน่ารักที่สุด

“พี่วิน...”


ข้อความของทันตแพทย์หนุ่มเขียนไว้ว่า ‘ขอบคุณทุกคนที่แท็กมา แต่ผมรู้ก่อนพวกคุณอีกนะ แล้วก็ได้รับการ์ดจากพวกเขาด้วยตัวเองด้วย ผมกับขวัญเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว คุณโรจน์เป็นคนที่โชคดี ได้รับหน้าที่ดูแลเขา ผมดีใจกับพวกเขาทั้งสองคนอย่างจริงใจ และสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะบอกกับทุกคน ใครก็ตามที่โพสต์ข้อความไม่ให้เกียรติขวัญกับคุณโรจน์ ผมจะไม่นับคุณเป็นเพื่อนอีก ขอให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่าสำหรับผมแล้ว ความรู้สึกของขวัญและคุณโรจน์สำคัญที่สุด’


“โอ้โห!” ภูพิงค์แทบจะยืนขึ้นตบมือ พี่วินออกมาปกป้องแฟนเก่ากับว่าที่สามีของเธอ เขานึกไม่ถึงจริงๆ นะ ว่าคนที่ไม่เคยสนหินสนแดดใดๆ อย่างพี่วิน จะทำอะไรเพื่อคนอื่น... คนที่เคยรัก ขนาดนี้ เขาเข้าใจพี่วินผิดไปจริงๆ

คิดแล้วอิจฉาพี่ขวัญข้าวชะมัด

ถึงพี่วินจะทำตัวแย่ นอกใจพี่ขวัญข้าว แต่เธอก็ยังเป็นที่หนึ่งในใจของพี่วินเสมอ แม้กระทั่งตอนนี้ ทั้งที่เธอก็มีคนใหม่ไปแล้ว

เขายังจำใบหน้าเศร้ากับน้ำตาของพี่วินในคืนนั้นได้ชัดเจน

เมื่อเทียบกับตัวเขาแล้ว เขามีค่าแค่คนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตพี่วินเท่านั้นเอง

“เจ็บฉิบหายเลยกู”

เป็นไงล่ะ อยากส่องเฟซบุ๊กพี่เขานัก ได้เจ็บหนักสมใจเลยมึง

เด็กหนุ่มหมดอารมณ์จะส่องต่อ เขาปิดแล็ปท็อปแล้วนอนแผ่หลา ครั้งนี้รู้สึกเจ็บหนักกว่าตอนแรกที่เห็นรูปพี่วินกับพี่ขวัญข้าว เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แต่ตอนนี้รู้จริงเห็นแจ้งแล้วว่าเธอเป็นคนสำคัญสำหรับพี่วินมากขนาดไหน

ภูพิงค์ทอดถอนใจ เจ็บทั้งที่หัวใจและที่ปาก เจ็บจนไม่รู้จะโฟกัสความเจ็บไปที่ไหนก่อน เจ็บเหี้ยๆ ปากก็ปวดไปหมด เพราะเขากินโจ๊กเมื่อกี้เหรอวะ?

เด็กหนุ่มลุกขึ้น เดินโซเซไปที่ห้องน้ำเพื่อส่องกระจก เขายังอ้าปากไม่ได้กว้างมากนัก แต่แค่อ้านิดเดียวก็ยังเจ็บฉิบหาย คิดไปคิดมาก็สงสัยว่า หรือบางทีเขาอาจจะเผลอข่วนหน้าตัวเองตอนเอามือกุมแก้ม หนวดเคราก็เริ่มยาวจนมองไม่ค่อยถนัด เขาจึงเอื้อมมือไปหยิบปัตตาเลียนมาโกนออก หากพอปัตตาเลียนสัมผัสถูกแก้มก็รู้สึกเจ็บอีก เด็กหนุ่มหันไปมองกระจกอย่างงงๆ “อะไร...” คราวนี้เริ่มรู้สึกถึงรสเลือดในปาก เขาจึงก้มลงถุยน้ำลายดู

“ฉิบหาย!” นัยน์ตาคมกริบเบิกโพลงเมื่อเห็นเลือดตรงหน้า เขารีบบ้วนปาก ทว่าครั้งนี้มีน้ำผสมเลือดไหลออกมาจากทางจมูกด้วย “เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้นกับกูวะเนี่ย! กำเดาไหลหรือมีแผลตรงไหนรึเปล่าวะ!” เด็กหนุ่มหันไปรื้อตู้เก็บของอย่างงงๆ หยิบที่โกนหนวดกับโฟมโกนหนวดมาได้ก็จัดการโกนหนวดเคราบนซีกหน้าที่ไปผ่าฟันมาออก

“ก็ไม่มีแผลนี่หว่า”

เขารู้สึกตื้อๆ ตัวร้อนแบบแปลกๆ ทั้งที่เมื่อตอนผ่าฟันคุดเสร็จใหม่ๆ ก็ยังดีๆ อยู่เลย หากถ้าจะกลับไปนอนตอนนี้ ก็เกรงใจหน้าที่มีหนวดเคราหรอมแหรมอีกครึ่งหน้า เขาจึงรีบๆ โกนแม่งให้หมด เลือดออกซิบๆ ประปรายเพราะมือสั่น แต่ก็ช่างมัน

พอก้มลงล้างหน้าและลองบ้วนปากอีกรอบก็มีน้ำปนเลือดไหลออกมาจากจมูกอีก

“ไอ้พิงค์ กูเอาน้ำอุ่นมาให้แล้ว มึงอยู่ไหนเนี่ย” ซันเปิดประตูห้องออกพร้อมร้องเรียก

“อยู่ในห้องน้ำ”

เสียงของเพื่อนรักฟังดูอ่อนแรงชอบกล เพื่อนรักของเด็กหนุ่มจึงเดินไปดู “เฮ้ย! ตายห่า!” เขาถลาเข้าไปประคองภูพิงค์ไว้

“กูยังไม่ตาย...”

“ตอนนี้ยังไม่ตายแต่ก็ใกล้แล้วแหละมึง! เลือดเต็มเสื้อมึงเลยอ้ะ! แล้วที่จมูกนี่อะไร กำเดาไหลเรอะ!”

“สัส มึงจะแหกปากหาพ่อมึงเหรอ” ภูพิงค์พูดเสียงแห้ง “เหมือนมีเลือดออกในปากนิดหน่อยว่ะ เดี๋ยวกูบ้วนน้ำอีกทีก่อนค่อยเปลี่ยนเสื้อ แล้วไปนอนสักหน่อยดีกว่า”

“เดี๋ยวกูช่วยพยุงมึงเอง”

เด็กหนุ่มก้มลงรองน้ำมาอมไว้ในปาก หากพอบ้วนปาก อาการก็เหมือนเดิม น้ำที่บ้วนออกมามีเลือดไหลปนออกมาด้วย และก็ยังมีไหลออกมาจากจมูกอีก

“เฮ้ย ไอ้พิงค์!”

ภูพิงค์หน้าเสีย เพราะชักรู้สึกแสบจมูกด้วย “แสบจมูกด้วยว่ะมึง เอาไงดีวะ”

ซันพยายามควบคุมสีหน้าให้ไม่ดูวิตกกังวลมากนัก “ไม่ต้องบ้วนแล้วมึง ไปนอนพักเหอะ”

“อ่างล้างหน้าเลอะเทอะหมดเลยว่ะ”

“ไอ้เหี้ย เดี๋ยวกูล้างให้ มึงห่วงตัวเองก่อน ไปๆ ไปนอน” ซันรีบพยุงเพื่อนรักไปนอน เขาเปลี่ยนเสื้อให้อีกฝ่าย จากนั้นจึงหยิบผ้าหมาดๆ มาเช็ดหน้าให้ เขาไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เขาว่าไอ้พิงค์มันตัวร้อนแบบแปลกๆ ไม่นานนักคนที่นอนระทดระทวยอยู่บนที่นอนก็ปิดตาลง ดูท่าจะเพลียจนหลับไป “มึงนอนไปก่อนนะ เดี๋ยวกูมานั่งเป็นเพื่อน” เขาเดินออกจากห้องไปอย่างใจเย็น หากเมื่อบานประตูปิดลง สีหน้าก็เปลี่ยนไป ก่อนจะวิ่งห้อแรดไปหาเพื่อนๆ ที่นั่งรวมกันอยู่ในห้องนั่งเล่น

“แย่แล้วพวกมึง กูว่าไอ้พิงค์มันโคม่า!”

“มีอะไรใหม่กว่านี้มั้ยวะมึง”   

“ไม่ใช่เว้ย! กูว่ามันไม่สบายหนักเว้ย ตัวร้อนฉ่าเลยมึง มีเลือดออกมาจากปากจากจมูกด้วย”

“เฮ้ย! หรือว่าไอ้พิงค์จะตกเลือด!” ทุกคนลุกพรวดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงด้วยความตกใจ ก่อนแซนดี้จะพูดขึ้น “เออ ก็ว่าหน้ามันแดงๆ สงสัยตอนนั้นกำลังเลือดขึ้นหน้า!”

“ใช่เหรออีห่า” ขิงขมวดคิ้ว “แต่กูว่าพามันไปหาหมอดีกว่า”

ดิวถามด้วยความสงสัย “แบบนี้ต้องไปหาหมอฟันหรือหมออะไรวะ”

“ต้องไปหาหมอที่มันไปผ่าฟันด้วยรึเปล่าวะ แล้วมันไปผ่าหมอไหนเนี่ย”

“แต่มันเพิ่งนอนหลับ ท่าทางมันเปลี้ยมาก รอมันตื่นก่อนค่อยพาไปดีมั้ยวะ มันนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วนะเว้ย” ซันพูดบ้าง

“มันจะไม่ตายก่อนเหรอวะ”

“ตอนนี้เลือดมันเหมือนจะหยุดไหลไปแล้วนะ”

“พวกมึงหยุด” แซนดี้ยกมือขึ้นห้ามสามหนุ่มที่กำลังตื่นตูม “กูว่าไปพาหมอฟันมาดูลาดเลาที่นี่ก่อนดีกว่า”

สามหนุ่มชะงัก “มึงหมายถึง... พี่หมอวินของไอ้พิงค์น่ะเหรอวะ เขาจะยอมมาเหรอ”

“ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของกูกับพวกมึงแล้วล่ะ ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว พี่หมอน่าจะพักพอดี”


(มีต่อค่ะ)


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


และแล้ว รถ BMW ก็เคลื่อนออกจากบ้านไป แซนดี้ออกไปกับซัน ให้อีกสองคนที่เหลือรออยู่ที่บ้าน ใช้เวลาไม่นานก็ถึงคลินิกที่หมาย พวกเขาบุกกันเข้าไปที่ประตูทางเข้าด้านหน้า พุ่งหลาวเข้าไปด้วยสีหน้าขมึงทึงราวกับจะปล้นร้าน จนคนไข้ที่นั่งรออยู่สองคนลุกจากที่นั่งพรวดพร้อมทั้งชูมือขึ้น

“ว้าย จะเอาอะไรก็เอาไปเลยค่า ไว้ชีวิตป้าด้วย!”

แซนดี้และซันรีบหันไปยกมือไหว้ “ขอโทษครับป้า พวกผมแค่มีเรื่องด่วน ไม่ได้จะมาปล้น!” จากนั้นก็หันไปตะปบเคาทน์เตอร์ “พี่ครับ หมอวินอยู่มั้ย พวกผมขอพบพี่หมอหน่อย”

หญิงสาวหันซ้ายขวาเลิกลั่ก “ใจเย็นๆ นะคะ หมอวินมีคนไข้อยู่ รอสักครู่”

พอรวินท์ได้ยินเสียงเข้า เขาพูดคุยกับคนไข้อีกเล็กน้อย แล้วจึงโผล่หน้าผ่านประตูด้านหลังเคาทน์เตอร์ออกมาดู “เสร็จแล้วล่ะครับ มีอะไรรึเปล่า อ้าว แซนดี้ ซัน...”

“พี่หมอ ไอ้พิงค์แย่แล้ว! มันตกเลือด!”

“ฮะ!” ทุกคนในร้านอุทานพร้อมกัน

รวินท์ขมวดคิ้ว “ตกได้ยังไง เขาเป็นผู้ชาย!” 

“มันไปผ่าฟันคุดมาเมื่อเช้าน่ะพี่หมอ! ช่วยด้วยเถอะค่ะ มันเป็นไข้สูงมาก เลือดออกนองเต็มไปหมด จะตายแน่แล้ว!” แซนดี้พูดไปบีบน้ำตาไป ห่วงเพื่อนก็ห่วงนะ แต่ความตอแหลมีมากกว่า

ทันตแพทย์หนุ่มหน้าเสียจนเห็นได้ชัด หากก็ยังพยายามเก็บอาการไว้ “เลือดนองเลยเหรอ ไหนเล่าอาการมาอีกซิ แล้วทำไมไม่พาเขามาด้วยล่ะ”

“มันอ่อนแอ สิ้นหวัง ระทดระทวย หมดแรง ตอนนี้หลับอยู่ครับ” ซันใส่ต่อเป็นชุด แล้วเล่าถึงอาการของเพื่อนแบบโอเวอร์ขึ้นไปอีกสิบเท่า “มันมีเลือดไหลจากปากจากจมูกพี่ ไหลเป็นท่อแตก ออกเยอะมากจนนองไปหมด เสื้อมันงี้ชุ่มเลือดเลย อย่างกับในฉากฆาตกรรม มันยืนเองยังไม่ไหวเลย ผมต้องแบกมันอ่ะพี่ ตัวมันร้อนเหมือนโดนย่าง หน้างี้แดงแป๊ด!”

“นี่ไปผ่าฟันมาหรือไปคลอดลูกมากันแน่เนี่ย” สิงหาโผล่หน้าตามออกมาอีกคน “แต่ว่าวินไปดูน้องเขาหน่อยเถอะ ดูท่าอาจจะฉุกเฉินนะ เดี๋ยวพี่ดูคนไข้วินให้เอง มีอีกคนเดียวใช่มั้ย”

“ใช่ครับ ผมฝากหน่อยนะครับ” รวินท์ยกมือไหว้ เขารีบรุดไปขอโทษคนไข้ที่ทำให้ต้องรอนานขึ้น แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามแซนดี้และซันออกจากคลินิกไป


เมื่อไปถึงบ้านเช่า สองหนุ่มที่ยืนรออยู่ก็ถลาออกมาฟูมฟาย พูดจาฟังไม่ได้ศัพท์ ทำให้ทันตแพทย์หนุ่มกังวลหนักขึ้นไปอีก ใจเขาอยากเรียกรถพยาบาลแล้วตอนนี้ “พิงค์อยู่ไหน”

“ห้องข้างบนครับ” แล้วพวกเขาก็วิ่งนำทีมขึ้นไปออกันอยู่ที่ในห้องของภูพิงค์ ซึ่งเจ้าตัวหลับปุ๋ยไปแล้ว

สี่หนุ่มยืนเรียงกันเป็นแผงอยู่ที่ข้างที่นอนที่ปูอยู่บนพื้น

“ไอ้เหี้ย นอนนิ่งสัส มันตายห่าแล้วรึยัง!”

“จองวัดเลยมั้ยวะ”

“เฮ้ย พวกมึงนี่!” แซนดี้หันไปดุ ก่อนทุกคนจะเหล่ไปทางรวินท์กันอย่างพร้อมเพรียง “เอ่อ คนเยอะเดี๋ยวพี่หมอจะทำอะไรไม่สะดวก พวกผมลงไปรอข้างล่างนะ”

เมื่อบานประตูปิดลง รวินท์จึงนั่งลงบนพื้นข้างๆ เด็กหนุ่มซึ่งที่ตรงข้างหมอนหนุนมีผ้าก็อซและกระดาษทิชชูเปื้อนสีเลือดวางกองๆ กันอยู่ เขาก้มลงตรวจดูคนไข้ตรงหน้าอย่างเบามือที่สุด หากก็ไม่ได้เห็นมีเลือดออกจากปากหรือจมูกอย่างที่เพื่อนๆ ของเด็กหนุ่มโวยวาย ทันตแพทย์หนุ่มผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกพลางวางมือแตะหน้าผากของคนที่นอนอยู่อย่างแผ่วเบา

“ตัวร้อนแฮะ ได้กินยาอะไรรึเปล่าเนี่ย” รวินท์หันมองไปรอบๆ เห็นถุงที่มีชื่อของโรงพยาบาลวางอยู่ใกล้ๆ กระเป๋าเป้ของเด็กหนุ่มจึงหยิบมาดู ซองยาข้างในยังไม่มีรอยแกะเลยแม้แต่น้อย เขาพอจะเดาได้เลย อีกฝ่ายคงเห็นว่าตอนผ่าเสร็จใหม่ๆ ไม่มีอาการอะไรก็เลยไม่ได้สนใจจะกินยา เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วส่ายหน้าไปมา จากนั้นจึงหยิบผ้าที่อยู่ในกะละมังข้างที่นอนไปชุบน้ำมาใหม่ เขาช่วยเช็ดใบหน้า ซอกคอและแขนให้อย่างใจเย็น เช็ดไปเรื่อยๆ จนอุณหภูมิร่างกายลดลงบ้าง

“พี่วิน”

ทันตแพทย์หนุ่มเลิกคิ้วขึ้น อีกฝ่ายเรียกเขา แต่ดวงตาปิดสนิท ละเมองั้นหรือ?

“ว่าไง”

“พี่นี่มันแย่ชะมัด ใจง่ายฉิบหาย นอนกับใครก็ได้รึไงวะ”

รวินท์ยิ้มบาง ขนาดป่วยยังอุตส่าห์ละเมอด่าเขาได้ คงจะโกรธและผิดหวังในตัวเขามากจริงๆ สินะ “ผมไม่ได้ใจง่ายนะเว้ย บอกแล้วไงว่ายังไม่ได้ทำอะไร”

ภูพิงค์ส่ายหน้าไปมา “คำพูดของพี่มันเชื่อไม่ได้...”

“ผมขอโทษ”

หลังจากได้ละเมอด่าไป เด็กหนุ่มก็เงียบไปอีกสักพักใหญ่ แล้วจู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น “ซัน หิวน้ำว่ะ”

“คุณควรจะกินยาด้วย ผมจะป้อนให้นะ โอเคมั้ย”

“อือ”

ทันตแพทย์หนุ่มเอื้อมไปหยิบยา เขาประคองศีรษะของภูพิงค์ขึ้นเพื่อป้อนยาและน้ำให้ “ค่อยๆ ดื่มนะ” ก่อนจะวางศีรษะอีกฝ่ายลงบนเตียงอีกครั้งอย่างระมัดระวัง

ภูพิงค์พึมพำเสียงเบา “ทำไมมึงหน้าเหมือนพี่วินจังวะ” คนอ่อนวัยกว่ากะพริบตาปริบๆ เบลอหนักจนแยกไม่ออกระหว่างความจริงกับความฝัน “หึ ไม่อยากมองหน้าแม่ง”

หัวใจของทันตแพทย์หนุ่มกระตุกวูบ “โกรธผมมากเลยเหรอ”

“เออ” คนพูดเบือนหน้าหนีไปอีกทาง

รวินท์นั่งนิ่งอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงเอื้อมมือไปแตะหน้าผากเด็กหนุ่มอีกครั้งเพื่อจะตรวจดูว่าตัวยังร้อนอยู่หรือไม่ ทว่าอีกฝ่ายปัดมือเขาออก

“อย่ามายุ่งกับผม”

ทันตแพทย์หนุ่มถอนหายใจ “กินยาไปแล้ว เดี๋ยวคงดีขึ้น ถ้างั้นผมกลับก่อนดีกว่า” หากพอเขาทำท่าจะลุกขึ้น ภูพิงค์กลับเอื้อมมือมารั้งแขนเขาไว้

“เดี๋ยวสิ อยู่กับผมก่อนนะ”

“อยากให้อยู่หรือไปกันแน่”

“อยากให้อยู่” เด็กหนุ่มตอบเสียงแผ่ว

“ไหนว่าไม่อยากมองหน้าไง”

คนอ่อนวัยกว่าค่อยๆ หรี่ตาลง “โกหกน่ะสิ ที่จริง... ผมคิดถึงพี่ อยากเจอพี่...จะตายไป” แล้วก็หลับสนิทไปอีกครั้ง

รวินท์ดึงมือออกช้าๆ แล้วเอื้อมมือข้างเดียวกันนั้นไปลูบศีรษะเด็กหนุ่ม เขาถอนหายใจหนักๆ นั่งอยู่เป็นเพื่อนอีกฝ่ายต่อไปอีกครู่หนึ่ง จากนั้นจึงลุกเดินออกจากห้องไป

พอเดินลงไปถึงชั้นล่างก็เห็นว่าสี่หนุ่มนั่งเรียงกันหน้าขรึม เขาจึงเดินเข้าไปหา “ผมยังไม่ได้ตรวจในปากละเอียด เลือดหยุดไหลไปแล้ว แต่เท่าที่ดูเขามีไข้น่ะนะ ผมให้กินยาไปเมื่อกี้”

“มันจะรอดใช่มั้ยพี่หมอ”

“รอดสิ แค่ผ่าฟันคุดเท่านั้นเอง”

“แต่มันมีเลือดไหลจริงๆ นะพี่หมอ แล้วพอมันบ้วนน้ำก็มีน้ำไหลออกมาจากจมูก มันว่าแสบๆ ด้วย”

“อืม ที่จริงหลังผ่าฟันใหม่ๆ ยังไม่ควรบ้วนน้ำลายหรือบ้วนน้ำนะ รอสักสิบสองชั่วโมงก่อนค่อยบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ยังไงเดี๋ยวเย็นนี้ ผมจะมารับเขาไปตรวจเอง ตอนนี้ให้เขาพักผ่อนไปก่อน ผมจะกลับไปทำงานล่ะ”

“ขอบคุณครับ แต่พี่หมอยังไม่ได้กินอะไรเลย มากินอะไรสักนิดสิพี่ กินเร็วๆ ไม่เสียเวลามากหรอก”

สี่หนุ่มล้อมหน้าล้อมหลัง พาทันตแพทย์หนุ่มเข้าไปในครัว ตักข้าวราดแกงที่ทำไว้ไปอุ่นในไมโครเวฟ แล้วนำมาส่งให้

“ขอบใจ” รวินท์ยิ้มบาง ยังดีนะที่เพื่อนของพิงค์ยังดีกับเขาอยู่ เขาตักข้าวในจานใส่ปาก รีบเคี้ยวรีบกลืน หมดไปได้ครึ่งจานก็รีบกลับไปยังคลินิก


*TBC*


โอ๋น้องพิงค์กันค่ะ โถ ลู้กกกกก เป็นมาโซคิสต์ก็ไม่บอก 5555555

น้องเจ็บปากเจ็บใจขนาดนี้ พี่วินดูแลน้องดีๆ ล่ะ เดี๋ยวตอนหน้าฮัสกี้จะพาพี่วินมาง้อน้องหนักๆ เลยนะคะ อิอิ

ตอนนี้ต้องขอขอบคุณพี่สาวหมอฟันที่ฮัสกี้ไปหลอกถามข้อมูลมาเล็กน้อย 555555 และขอบคุณคุณหมอมิ้นต์มากๆ ที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำกับฮัสกี้นะคะ พอเอามาแต่งเพิ่มก็อาจจะมีมั่วบ้างอะไรบ้าง กราบขออภัยไว้ล่วงหน้าก่อนเลย 55555555

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่ะ เอาใจช่วยพี่วินกันน้าาาา  :mew1:


ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เลือดสาดทั้งตอนเลยน้องพิงค์ 555

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
น้อยใจพี่วินอยู่  ง้อน้องมันเยอะๆนะพี่วิน

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
โอ้ยยย สงสารภูพิงค์จังงง อยากให้พี่หมอง้ออ่ะ พี่หมอไม่เห็นทำอะไรเลย ปล่อยเบลอสองอาทิตย์เลยเนี่ยนะ พิงค์ลูกโกรธอิพี่หมอนานๆเลยลูก

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
จะสงสารหรือขำก่อนดี อันที่จริงถ้าเป็นพิงค์ คงไม่ตลก แต่คนอ่านนี่ก็แอบขำไม่ได้ ยังไงก็ดีกันไวๆเด้อ

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ถถถถ น่าสงสารน้องพิงค์ อกหัก(?)ผ่าฟันคุด  :monkeysad:
ดูแลน้องดีๆเลยพี่วิน เปิดโอกาสให้เต็มที่ อย่าปล่อยให้หลุดมือ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ถถถถถถถถถ น้องพิงค์น่าฉงฉาน เลือดสาดเลย
เดี๋ยวพี่วินท์เลิกงานแล้วมาโอ๋ๆน้า

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
น้องตกเลือดพี่วินต้องรับผิดชอบนะ  :m20:
 :L1:  :pig4:  :L1:

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
สมควรง้อ
อย่ายอมง่ายนะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ไม่อยากให้พิงค์ง้อก่อนเลยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด