รักแล้วบอก ชอบแล้วจีบ
ตอนที่ 3
“ซวยแล้ว...”
“หืม...”
“พวกมึง กูซวยแล้ว”
“มีอะไรวะ”
“มึง...”
“...” ผมที่กำลังนั่งจดจ่ออยู่กับกล้องตัวเดิมเพิ่มเติมคือรักมากขึ้นได้แต่ครางรับคำพูดของไอ้หลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นเพื่อมองมันก็ต้องตกใจกับสีหน้าบูดบึ้งของอีกฝ่ายที่ส่งมาอย่างเปิดเผย “ปะ...เป็นอะไรวะ...”
“พวกมึงไม่ฟังกู !”
“เฮือก !”
“ไอ้ตามใจเลิกแชทสาว ไอ้จั๊มมึงเงยหัวขึ้นมา ส่วนมึงไอ้เสือ !”
“...!”
“เลิกจับกล้องแล้วมารับฟังกูปรับทุกข์เดี๋ยวนี้ !”
ผมกับอีกสองคนที่เหลือที่โดนคนที่นั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์ตะโกนกรอกหู จนต้องหยุดการกระทำทั้งหมดที่ไอ้หลงมันร่ายมายาวๆ แล้วนั่งตัวตรงดิ่งฟังคนตรงหน้า ขนาดไอ้จั๊มที่ว่าไม่สนใจอะไรยังต้องดีดตัวขึ้นมานั่งหน้าตาสะลืมสะลือ
น่าสงสารเข้าไปอี๊ก...
“ดีมาก !”
“มีอะไรวะ”
“กูจะโดนคัดออกจากตัวจริง”
“กูรู้แล้ว” ผมตอบออกไปตามความจริง ซึ่งมันเคยบอกแบบนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ไอ้สองหน่อข้างๆ ก็ได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย
“เออ นั่นแหละ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น” ผม ไอ้ตามใจและไอ้จั๊มต่างหันมองหน้ากันอย่างงงงวยท่ามกลางสีหน้าเจ็บแค้นของคนพูด “มึงจำการแข่งบาสที่กูแข่งล่าสุดได้มั้ย”
ไอ้ตามใจมันพยักหน้าเป็นคำตอบพลางพูดขึ้น
“ที่มึงลากกูที่เล่นบาสเป็นน้อยนิดกับไอ้จั๊มที่เล่นบาสไม่เป็นเลยเข้าร่วมทีมใช่มั้ย ?”
“เออ นั่นล่ะ”
แล้วผมก็เสริม
“ที่แพ้ราบคาบไม่มีชิ้นดี”
“ไอ้...”
ตามด้วยไอ้จั๊ม
“ชัวร์...”
“...” แล้วในที่สุดไอ้หลงมันก็เงียบไปมีเพียงใบหน้าที่แสดงความไม่พอใจออกมาเท่านั้น พวกผมทั้งสามคนเลยได้แต่ก้มหัวงุด ก่อนจะสะดุ้งเฮือก “เออ นั่นล่ะ !”
คราวนี้คนที่เปิดประเด็นก็ทำหน้าอารมณ์เสียเต็มขั้น พร้อมกับหักนิ้วดังกร็อบๆ จนพวกผมที่เหลือได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ก่อนจะมองไอ้หลงที่ตอนนี้หายใจเข้าออกด้วยโทสะจนกระทั่งมันใจเย็นขึ้นและหันมามองทางพวกผมอีกครั้ง
เฮือก...!
“มึงรู้จักอ้อนรักใช่มั้ย”
“รู้” ผม
“เดือนวิศวะฯ อ่านะ” ไอ้ตามใจ
“ที่มาจีบไอ้เสือ...”
ผมหันไปมองขวับทางไอ้จั๊มก่อนที่มันจะแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้แต่นั่นก็ทำให้ไอ้ตามใจมันขำออกมา ก่อนจะดึงคนที่ทำท่าสะลึมสะลือเข้าไปยีหัวด้วยความหมั่นเขี้ยว
โอเค กูให้อภัยก็ได้ !
แดกลูกอมแป๊บ...
“นั่นล่ะ มันเป็นน้องรหัสไอ้ซันและไอ้ซันมันก็ชวนไอ้เด็กนั่นเข้าชมรม”
“อ่าหะ...”
ไอ้ตามใจมันขานรับขณะที่ผมแกะเปลือกลูกอมและเอาหัวใจสีชมพูเข้าไปในปาก
อ่า รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ กลิ่นหอมๆ ที่อบอวล...
ฟิน ~
“แต่ไอ้อ้อนรักมันไม่เข้า”
คำพูดของไอ้หลงทำให้ผมที่ตอนแรกกำลังจะตั้งใจรับรสชาติที่ดีเยี่ยมและกินไม่เบื่อกับของที่อยู่ในปากต้องชะงักและคิดว่าค่อยไปอิ่มเอมที่อื่นแล้วกลับมาตั้งใจฟังไอ้หลงปรับทุกข์ดีกว่า ก่อนที่ไอ้ตามใจที่ทำท่าสนอกสนใจตั้งใจฟังจะเป็นคนถามขึ้นในสิ่งที่ผมสงสัยเช่นกัน
“ทำไมวะ”
“ไม่รู้”
“...”
“และกูก็ต้องกลายเป็นคนที่ชักชวนไอ้อ้อนรักเข้าชมรม”
“ห๊ะ” ผมอุทานออกมาอย่างไม่เข้าใจ ใบหน้าคับแค้นใจของไอ้หลงตอนแรกเปลี่ยนเป็นเศร้าๆ ก่อนจะเงยหน้ามองมาทางพวกผม
“ไอ้ซันมันบอกว่าถ้าไม่อยากโดนคัดออกจากตัวจริง ให้กูทำยังไงก็ได้ให้ไอ้อ้อนรักเข้าชมรม เพราะเด็กนั่นมันเก่งมาก และถ้าเข้ามามันจะช่วย ‘แบก’ กูที่เล่นกากสุดๆ ในทีมได้”
ปั้ง !
“เฮ้ย มึงไม่ได้เล่นกากขนาดนั้นนะ !!” ผมที่นั่งฟังน้ำเสียงเศร้าๆ ของไอ้หลงก็ต้องลุกขึ้นทุบโต๊ะดังปั้งกับคำดูถูกที่มันเล่ามาอย่างเจ็บใจแทน ซึ่งไอ้จั๊มกับไอ้ตามใจที่นั่งขนาบข้างผมต้องกระตุกแขนยิกๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนที่ผมจะรู้ตัวก็หันไปหัวเราะแหะๆ กับพวกมันกับอารมณ์ที่ออกนอกหน้าจนคนอื่นๆ หันมามองแล้วนั่งลง พลางหันไปพูดกับไอ้หลงอีกครั้ง “มึงอย่าไปยอมนะเว้ย เหตุผลไร้สาระพันธุ์นั้น !”
“เสือ กูจะทำอะได้วะ...”
“ได้ดิ มันต้องได้ดิวะ !”
ผมพูดอย่างอารมณ์ขึ้นพลางทุบกำปั้นตัวเองดังตุบๆ โดยไม่ทันได้หันไปสังเกตไอ้สองคนข้างๆ ที่ตอนนี้นั่งหัวเราะคิกอยู่ พร้อมกับรอยยิ้มของไอ้หลงที่ปรากฎขึ้นมาชั่วพริบตาและแปลเปลี่ยนเป็นความเศร้าอีกครั้ง
“เสือ”
“ว่าไงวะ !”
“มึงต้องช่วยกูนะเว้ย”
“ห๊ะ”
ผมที่ตอนแรกอารมณ์ขึ้นก็ต้องชะงักกับคำพูดนั่น พร้อมกับคำพูดของไอ้ตามใจและไอ้จั๊มที่ดังขึ้นข้างๆ อย่างขบขัน
“เอ้าแล้วๆ”
“ไม้ตาย...”
“ช่วยอะไรวะ”
“เสือ...” เสียงแผ่วๆ พร้อมกับแววตาเศร้าๆ ทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่ไว้ใจ “มึงคิดว่าคนอย่างกูจะสามารถชวนไอ้อ้อนรักคนเก่งคนนั้นได้เหรอวะ ขนาดพี่รหัสของมันยังชวนไม่ได้เลย...”
“ไม่”
“ถูก กูชวนไม่ได้ !” เสียงไอ้หลงมันตอบอย่างแข็งขันก่อนที่สายตาเศร้าๆ ในตอนแรกจะปรับเปลี่ยนเป็นปกติและหันมาจ้องเขม็งที่ผม “เพราะงั้นกูถึงต้องการให้มึงช่วย”
“ห๊ะ ?”
“ไอ้จั๊มไอ้ตามใจ !”
“ครับ !”
“จับ !”
“เฮ้ยยยยยยยยยยยย !” แล้วในที่สุดผมก็ร้องเสียงหลงเมื่อไอ้คนตรงหน้ามันเผยธาตุแท้ออกมาหลังจากคำพูดนั้นจบลงพร้อมกับร่างของไอ้จั๊มกับไอ้ตามใจที่เข้ามาล็อกแขนผมไว้คนละข้างตามด้วยไอ้หลงที่ลุกขึ้นด้วยสายตาชั่วร้าย “พวกมึงทำเหี้ยอะไรกันเนี่ย !”
“หึหึ”
“ไอ้หลง ไอ้จั๊ม ไอ้ตวยคาม !”
“จับมันไว้อย่าให้หลุด !”
“ไอ้หลง ไอ้ง่าววววว ~!”
“ไอ้เสือ !”
“อะไรมึง ปล่อยกู !”
“มึงต้องช่วยกู”
“ช่วยห่าอะไรวะ !”
“ไปชักชวนไอ้เด็กอ้อนรักเข้าทีมบาส !” เสียงประกาศกร้าวของไอ้หลงทำให้ผมชะงักกึกก่อนจะตอบออกไปอย่างเต็มปากเต็มคำ
“ไม่เว้ย !”
ผมที่ตอนนี้พยายามดิ้นให้หลุดออกจากการจับกุมของไอ้สองคนที่ขนาบอยู่ข้างๆ ก็อยากจะร้องไห้โฮออกมาดังๆ เมื่อพบว่าตัวเองที่เป็น ‘ผู้ชาย’ แท้ๆ แต่ทำไมไม่สามารถสู้แรงไอ้พวกนี้ได้ซักนิด นี่ผมต้องก้มหน้ารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย
‘หน้าตาก็ไม่ได้ดีเด่ ตัวก็เตี้ยม้อต้อ’
เตี้ยม้อต้อ...
“กูไม่เตี้ยเว้ยยย กูสูงร้อยเจ็ดสิบแปด อีกสองเซ็นก็ร้อยแปดสิบ กูพลังกายเยอะดุจชายฉกรรจ์ ย้ากกกกกกกกกกก !!” ผมตะโกนเสียงดังพลางดิ้นสุดแรงโดยไม่อายคนรอบข้าง ก่อนจะต้องจบด้วยเสียงหอบหายใจของตัวเอง “แฮ่กๆ”
“เลิกพยายามหรือยังครับเพื่อนเสือดุ” รอยยิ้มของไอ้หลงที่มองมาทำให้ผมถึงกับเบะปาก ก่อนที่พวกมันทั้งสามตัวจะหัวเราะออกมา
“ถึงขนาดเอาส่วนสูงมาขู่เลยว่ะ”
“กูสูงร้อยเจ็บสิบเก้า...”
เออ จำไว้ จำไว้เลยพวกมึง !
กูโกรธ !
“ไอ้เสือ กูขอถามมึงอีกครั้ง ว่าจะช่วยกูมั้ย”
ส่ายหัวรัวๆ
“ไม่ !”
“ได้ !” ในที่สุดไอ้หลงมันก็ยิ้มเยาะออกมาหลังจากที่ผมปฏิเสธไป ก่อนที่คนตรงข้ามมันจะลุกออกจากเก้าอี้ตัวเองและเดินมาทางผมอย่างองอาจ จนผมที่พยายามถดตัวถอยหนีก็ทำได้แค่คิดเพราะมีไอ้สองหน่อที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นขี้ข้าไอ้หลงจับไว้อยู่
“มึงเลือกจุดจบแบบนี้เองนะเพื่อนเสือ”
“อะ...ไอ้หลง มึงจะทำอะไรกู...”
“หึหึ” เสียงหัวเราะชั่วร้ายของคนที่ก้าวเข้ามา โดยที่ตอนนี้ไอ้ตามใจและไอ้จั๊มมันจับผมให้เปลี่ยนท่าเป็นนอนลงกับม้านั่ง โดยที่ไอ้จั๊มนั่งทับขา ส่วนไอ้ตามใจจับแขนผมล็อกไว้โดยที่หัวของผมพิงอยู่ที่หน้าอกของมัน “เพื่อนเสือ ~”
“อะ...ไอ้หลง ไม่เอา ไม่เล่นแบบนี้”
“หืม มึงรู้เหรอว่ากูกำลังจะเล่นอะไร ?”
“มึง มึง...”
“ไอ้ตามใจ ถอดเสื้อมัน !”
“ว้ากกกกกกกกกกกกก !!” ผมร้องโวยวายออกมาอีกระลอกจนตอนนี้ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเมื่อดันไปเห็น ‘อาวุธ’ ลับที่ไอ้หลงมันเตรียมมาจัดการกับผม “ไม่เอา ปล่อยกู ฮื้ออออ !”
“เพื่อนเสือ กูรู้ว่ามึงต้องถูกใจของที่กูเตรียมมา ‘เล่นสนุก’ กับมึงแน่ๆ”
“อะ...ไอ้หลง...”
“หึหึ”
ในที่สุด ‘อาวุธ’ สุดโหดของไอ้หลงที่ทำให้ผมกลัวจนขาสั่นน้ำตาคลอเบ้าก็ปรากฏออกมา มันแกว่งสิ่งนั้นไว้ในมือและเดินเข้ามาหาผมอย่างเหี้ยมโหด ตัวเองที่ตอนนี้ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มได้แต่ส่งสายตาอ้อนวอนไปให้อีกฝ่ายอย่างสุดกำลัง
ไม่เอา
ไม่เอาขนนก !
“ไอ้หลง ไอ้จั๊ม ไอ้ตามใจ กูจะไม่ให้อภัยพวกมึงงงง !!”
“เสือดุ กูจะถามมึงอีกครั้งว่ามึงจะช่วยกูมั้ย”
“มึงจะให้กูช่วยยังไงวะ กูก็ไม่สนิทกับมัน คุยก็ไม่ได้คุย พี่มันก็ไม่ใช่ มึงคิดว่ากูช่วยมึงได้หรือไง !”
“...”
“ได้ๆ ไอ้หลง กูจะไม่ให้อภัยมึง แล้วแต่มึงเลย มึงจะใช้ขนนกอันเดียวมาทำลายความเป็นเพื่อนระหว่างเรา...”
“อึก...”
“ฮึก...ปล่อยกูไปเถอะ กูกลัวแล้ว” ผมพยายามดิ้นสู้แรงไอ้สองคนอีกครั้ง พลางส่งสายตาน่าสงสารไปหาคนที่ตอนนี้มีอาวุธอยู่ในมือ คนที่ตอนแรกปรับสีหน้าลงไปเพราะคำพูดของผมก็กลับกับมาฮึกเหิมอีกครั้ง
“ไอ้เสือ กูรู้ว่ามึงไม่กล้าเลิกคบพวกกูหรอก !”
“เออ กูไม่กล๊าาาา”
“เฮ้ย แวกเสื้อมันออก !”
“อ้ากกกกกกกกก ไอ้เหี้ย ไอ้หลง มึงไปตายซะไอ้ง่าววว !!”
ผมที่ตอนนี้ดิ้นสู้สุดแรงหลังจากสัมผัสได้ถึงขนนุ่มนิ่มและ ‘จั๊กจี้’ สุดๆ สัมผัสเข้าที่หน้าอกแล้วลากขึ้นมาบริเวณลำคอจนขนทั่วร่างกายลุกเกรียวแล้วระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่น
“ฮ่าๆๆๆๆๆ ไอ้...เหี้ย...ฮ่าๆๆๆๆ หลง ฮื้อ !”
เสียงผมฟังไม่ได้ศัพท์ คงจะมีแต่เสียงของไอ้ตามใจกับไอ้จั๊มเท่านั้นที่ดังประสานกันอย่างเมามันส์ ซึ่งผมตอนนี้น้ำตาไหลอาบแก้มไปเรียบร้อย
อย่ามายุ่งกับคอกู๊ !
“อะ...ฮ่าๆๆๆ ไอ้หลง...แค่กๆ ฮ่าๆๆๆ ลูกอม...ติด ฮ่าๆๆ คอ...แค่ก !”
“ฮะ...เฮ้ย !”
“แค่ก...อ๊อก ฮ่า...!”
“ไอ้เสือ !!”
ร่างของผมถูกไอ้สามหน่อที่ตอนนี้ทำหน้าตาตกใจสุดขีดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกมันช่วยดึงร่างผมขึ้นมาและเขย่าจนหัวสั่น จนในที่สุดลูกอมเม็ดโตที่ไหลลงคอไปกว่าครึ่งก็สำรอกออกมาจนได้
“อ๊อก แค่ก !”
“คายออกมาๆ !”
ตุบ ตุบ !
เสียงทุบหลังผมดังขึ้นเป็นพัลวันในขณะที่ปากอยากจะอ้าพูดว่าให้พอ แต่ตอนนี้กลับสำลักของในปากอย่างเอาเป็นเอาตาย จนในที่สุดลูกอมฮาร์ทบีสเม็ดโตที่ผมกินไปไม่ถึงครึ่งก็หล่นออกมาจากปากและลงไปตายบนพื้นไปอย่างอนาถ ผมที่มองของกินของโปรดตัวเองที่ตอนนี้คลุกขี้ฝุ่นไปเรียบร้อยก่อนจะเงยหน้ามองไอ้สามตัวที่เป็นต้นเหตุ
“พวกมึง !!”
“ไอ้เสือ !”
“ไอ้...ไอ้หลงงง ปล่อยยยย !”
ผมที่ยังไม่ทันจะอ้าปากด่าพวกมันก็โดนอีกฝ่ายกระโจนเข้ามาพร้อมกับคว้าหมับเข้าที่ต้นคอของผมจนตัวเองตัวแข็งหดคออัตโนมัติ จะบอกว่าจุดนี้เป็นจุดตายของผมเลยก็ว่าได้
อ๊ะ...อย่ากด จั๊กจี้สาดดดด !
“ไอ้หลง ไอ้เด็กเชี่ยยย”
“จะช่วยกูมั้ยห๊ะ ?”
คราวนี้ไอ้ตามใจกับไอ้จั๊มไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม พวกมันได้แต่มองมาทางพวกผมแล้วหัวเราะออกมาเท่านั้น คงจะมีแต่ไอ้หลงเท่านั้นที่ยังคงขยั้นขยอให้ผม ‘ช่วย’ เรื่องของมันเลิก ซึ่งผมเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะตัวเองก็ไม่ได้สนิทอะไรกับไอ้อ้อนรักขนาดนั้น
“ไอ้เสือแม่งน่าสงสารว่ะ”
“สงสารก็มาช่วยดิวะ !”
“กูแค่บ่นกับไอ้จั๊ม” ไอ้ตามใจมันหัวเราะร่าพลางหันไปพยักเพยิดกับไอ้จั๊มที่ตอนนี้คงจะตื่นเต็มตา มันได้แต่พยักหน้าหงึกๆ และหัวเราะออกมาเป็นครั้งคราว ผมเชื่อว่ามันคงอยากให้พวกผมเลิกเล่นเต็มทีเพราะเจ้าตัวจะได้นอนต่อ
ไอ้จั๊ม กูรู้นะมึงคิดอะไร
ว่าแต่ไอ้ห่าหลงนี่จะเอายังไงกับกูววววว !
“ไอ้หลงมึงปล่อยกูเถอะ ห่าเอ๊ย กูจะขาดใจแล้ว กูไม่สนิทกับไอ้อ้อนรักจริงๆ”
“มึงก็ลองดูก่อนดิวะ”
“เออๆ กูลองให้ก็ได้วะ !”
“จริงดิ !”
“ปล่อยเลยไอ้ง่าว !”
“อุ๊ นมขาว”
“ขาวพ่อง ไอ้เหี้ยหลง !”
“ไหนมาส่องหน่อยสิ ว่านมเสือมันมีกี่เต้า”
“ไอ้เหี้ยหลง กูจะไม่ช่วยมึงแล้วนะเว้ย !”
“โอ๋ๆ ฮ่าๆๆๆ”
ผมมองคนที่ตอนนี้หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังในขณะที่มือของมันกำลังแง้มคอเสื้อของผมอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งตอนนี้กลุ่มของผมกลายเป็นจุดเด่นไปแล้ว และพอหันไปหาไอ้สองคนที่เหลือก็เห็นว่าไอ้จั๊มมันอาศัยช่วงชุลมุนทิ้งหัวลงนอนบนตักไอ้ตามใจเรียบร้อย ตัวเองที่ก็ไม่ได้สนใจมันมากนักก็ได้แต่ภาวนาให้ไอ้คนที่จับผมอยู่มันยอมปล่อยผมซักที
ปล่อยคอกูเถ๊อะ
...
“พี่...”
ผมที่กำลังง่วนอยู่กับการแกะมือไอ้หลงออกก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงที่เหมือนจะคุ้นหูแต่ก็ไม่คุ้นดังขึ้น ตามด้วยไอ้คนข้างๆ ที่ตอนนี้มันเองก็ชะงักเช่นกัน รวมถึงไอ้ตามใจที่ยังคงมีตัวตนอยู่ด้วย พวกเราทั้งหมดหันไปทางเสียงปริศนา ทุกการกระทำที่ทำอยู่หยุดลงทั้งหมด ก่อนจะเห็นว่าไอ้ ‘อ้อนรัก’ มันมายืนทำหน้ามึนอยู่ใกล้ๆ พอรู้ตัวอีกทีร่างกายของผมก็ถูกไอ้หลงผลักไปทางร่างสูงเจ้าของเสียงที่เข้ามามีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
พร้อมกับเสียงกระซิบเบาๆ ที่ไล่ตามหลังมา
“ฝากด้วยนะมึง”
เออดี
ให้มันได้อย่างนี้สิ !
“งะ...ไงมึง มาทำอะไรวะ”
ผมที่เริ่มตั้งสติได้ก็เริ่มจัดเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ของตัวเองให้เข้าที่เข้าทางต่อหน้าคนบางคน ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้แต่มองการกระทำของผมแล้วมองไปด้านหลังที่พวกไอ้สามหน่อมันนั่งอยู่ โดยที่ตอนนี้ไอ้หลงมันเอาสมุดขึ้นมาวาดรูปเล่น ไอ้ตามใจก็กดแชทกับสาว ส่วนไอ้จั๊มนี่ไม่ต้องพูดถึง ปล่อยให้มันอยู่โลกของมันต่อไป
ว่าแต่กลับสู่สภาวะปกติไวเกินไปหรือเปล่าวะ !
“เสื้อ”
ไอ้อ้อนรักมันไม่ตอบคำถามของผมได้แต่ยกนิ้วขึ้นมาชี้ปกคอเสื้อของผมที่หลุดลุ่ยด้วยฝีมือของไอ้สามตัวที่ตอนนี้พยายามออกจากโลกของผมกับคนตรงหน้า ตัวเองเลยได้แต่ยกมือขึ้นมาจับมันให้เข้าที่อย่างลวกๆ ก่อนจะเริ่มพูดต่อเพื่อเข้าเรื่องที่ไอ้หลงมันเคยขอ
“อ้อนรัก...”
“เสื้อ”
และยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบคนตรงหน้ามันก็ขัดขึ้นมาคำเดิม ใบหน้าที่แสดงออกว่าขุ่นเคืองเล็กน้อยของมันทำให้ผมได้แต่เกาหัวงงๆ ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อมือหนายกขึ้นมาแล้วติดกระดุมคอเสื้อให้ผม
“เฮ้ยมึง ไม่เป็นไร...แค่กๆ ไอ้อ้อนรัก !”
ผมที่กำลังจะประท้วงก็โดนมือหนาที่ตอนนี้ติดกระดุมคอเสื้อให้ผมอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งถึงเม็ดบนสุดที่ติดยากสุด มันจะขยับมือขึ้นเพื่อที่จะให้ตัวเองติดถนัดจนร่างผมต้องเขย่งตาม เสื้อก็รัดคอจนอึดอัด ใบหน้าของไอ้อ้อนรักตอนนี้ก็ขมวดคิ้วแน่นคงจะหงุดหงิดเมื่อไม่สามารถติดกระดุมให้ผมได้ซักที ซึ่งสภาพตอนนี้ดูเหมือนว่ามันกำลังหาเรื่องผมยังไงยังงั้น
คือ...
กูหายใจไม่ออก !
ทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ กระซิกๆ
“อ่า...”
ในที่สุดขาที่เขย่งของผมก็กลับมายืนปกติ เมื่อไอ้อ้อนรักมันสามารถติดกระดุมคอเสื้อที่ผมไม่เคยติดเม็ดสุดท้ายนั่นจนได้ก่อนที่มันจะยิ้มออกเพื่อแสดงออกว่าเจ้าตัวพอใจในสิ่งที่ทำไปไม่น้อย
แต่มึงถามกูซักคำมั้ย
ไอ้หมีเด๋อ !
ผมจับคอเสื้อตัวเองอย่างไม่คุ้นชิน ใบหน้าตอนนี้คงอยากจะร้องไห้เต็มที พอหันไปหาไอ้สามคนที่นั่งนอนกันอยู่ก็เห็นพวกมันกลั้นขำกันอย่างเปิดเผยก่อนที่ตัวเองจะหันไปมองหน้าไอ้อ้อนรักอีกครั้ง
และยังไม่ทันพูดอะไรไอ้คนตรงหน้ามันก็หันหลังและเดินออกไปทันที
ฮะ...เฮ้ย มึงจะมาทำให้กูงงและจากไปแบบงงๆ ไม่ได้นะเว้ย !
“อ้อนรัก !” ผมรีบตะโกนเรียกชื่อของมันก่อนที่อีกฝ่ายจะหันกลับมา มันเอียงหัวเล็กน้อยแล้วทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“ลืม”
ห๊ะ...
คนตรงหน้าไม่รอให้ผมสงสัยกับคำพูดของมันมากนัก ก่อนที่มันจะล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบอะไรบางอย่างออกมาแล้วยื่นมาให้
“อะไรวะ...”
ผมมองของที่ถูกยื่นมาให้อย่างอึ้งๆ ก่อนจะรับมาแล้วมองดูอย่างพินิจ
จดหมาย ?
ผมมองซองจดหมายสีชมพูเรียบๆ ในมือพลางพลิกไปพลิกมาแล้วเงยหน้ามองคนให้อีกครั้ง ซึ่งมันก็มองตามของในมือผมแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผมเช่นกัน ก่อนที่คนตรงหน้ามันจะเบือนหน้าหนีแล้วเกาแก้ม ผมตัวเองด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ผมที่มองท่าทีของมันเลยได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆ เพราะทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ก่อนจะนึกได้ว่าตัวเองมีภารกิจอย่างอื่นเลยได้แต่พับซองจดหมายอันนั้นเข้ากระเป๋ากางเกงไป
“เออ อ้อนรัก !”
“หา...”
“เข้าชมรมบาสมั้ย ?”
คำถามของผมทำให้คนตรงหน้าค่อยๆ หยุดอาการประหม่า ก่อนจะมองมาทางผมด้วยสายตาที่แพรวพราวแล้วตอบออกมาทันที
“เข้า !”
“ขอลาออก”
“ห๊ะ”
“เฮ้ย เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ”
“ไอ้อ้อนรัก”
“จะลาออก”
เสียงเซ็งแซ่ที่ดังมาจากชมรมบาสทำให้ผมที่กำลังจะเดินออกจากโรงยิมและเพิ่งจะเอ่ยปากพูดกับคนที่สามารถพามาส่งถึงที่ได้สำเร็จว่า ‘จะไปชมรมถ่ายภาพ’ ก็ทำให้ไอ้อ้อนรักมันพูดว่าจะลาออกทันที ทำให้ผมแทบจะล้มคะมำลงไปกองกับพื้น เพราะกำลังไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนัก พอหันกลับไปอีกทีก็เห็นคนที่ตอนนี้ทำหน้าบูดบึ้งกำลังเดินตรงดิ่งมาทางผมตัวเองเลยต้องถอยหลังกูด โชคดีที่เพื่อนทั้งสองคนของมันคว้าตัวเอาไว้ก่อน
“ไอ้เชี่ยอ้อน อะไรของมึงเนี่ย” สาวผมสั้นเปรี้ยวถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ตามด้วยผู้ชายตัวเล็กข้างๆ
“นั่นดิ พวกกูอุตส่าห์พามึงมาส่งถึงที่”
“กูจะลาออก”
“ทำไม”
คำพูดที่ดูจะปกตินั่นหันไปตอบเพื่อนตัวเอง แต่ทุกคนกลับถามขึ้นพร้อมกันอย่างสงสัย เพราะไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ รวมถึงผมด้วย ก่อนที่คำตอบของมันจะทำให้ผมลมแทบจับ
“จะเข้าชมรมถ่ายภาพ”
เออดี...
สงสารกูหน่อยยย กูไม่ได้อยากเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องพวกนี้เล้ยยย
ไอ้หมีเอ๊ย !
“อ้อนรัก มึงไม่มีกล้อง !” แล้วเสียงแหลมๆ ก็พูดขึ้นพลางทุบไหล่ไอ้คนตัวสูงตุบๆ เพื่อเรียกสติ
“เดี๋ยวซื้อ”
และคำตอบที่แสนจะเรียบง่ายนั่นก็ทำให้ทุกคนแถบล้มไปกองรวมอยู่กับพื้น ผมที่ยืนมองอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ก็ได้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก อยากจะหยิบลูกอมขึ้นมากินให้ใจชื้นซะเหลือเกิน แต่ตอนนี้กลับทำได้แค่มองไปที่สถานการณ์ตรงหน้าที่มันไม่สมควรจะเกี่ยวกับผมซักนิดอย่างลำบากใจ ก่อนที่คราวนี้ผู้ชายร่างเล็กจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นเอง
“อ้อนรัก แต่มึงก็ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งด้วย...”
“...”
“มึงมันถ่ายรูปกาก ถ่ายหมายังได้แค่หาง เพราะงั้นมึงเข้าชมรมถ่ายรูปไม่ได้ !”
“อึก !”
แล้วผมก็แอบเห็นไอ้อาการสะดุ้งของมันน้อยๆ โดยที่ตอนนี้เจ้าตัวยอมเงียบแล้วก้มหน้าลงไปแล้วราวกับหมดหนทางต่อสู้ ซึ่งผมก็ได้แต่มองมันอย่างนึกสงสารใจก็อยากจะขำออกมา แต่ถ้าปล่อยออกมาตอนนี้คงกลายเป็นจุดเด่นไปอีกคนแน่ๆ
ไม่เอา เรื่องนี้เสือดุจะไม่ยุ่ง
“มึงจัดการหวานใจมึงเลย” อยู่ๆ ไอ้หลงมันก็เข้ามากระแซะผม
“หวานใจพ่อง...”
ผมที่กำลังกระซิบกระซาบด่ากันกับไอ้หลงก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงของใครบางคนดังขึ้น
“อ้อนรัก !”
“ครับพี่ซัน...” น้ำเสียงที่หดหู่ของไอ้อ้อนรักทำให้สาวหลายๆ คนที่ยืนมองอยู่คงอยากจะเข้าไปโอ๋มันเต็มทีแต่ก็ต้องอยู่กับที่เมื่อคราวนี้ไอ้ซันพี่รหัสของไอ้อ้อนรักและมีดีกรีเป็นพี่ว้ากออกโรงเอง
“อยู่ๆ มึงก็มาสมัครชมรม แล้วอยู่ๆ มึงก็จะออก มึงต้องการอะไรห๊ะ !” น้ำเสียงที่ดูยังไงก็ไม่พอใจคนตรงหน้ามากๆ ทำให้ทุกคนในโรงยิมต่างสะดุ้ง ยกเว้นแต่เจ้าของเรื่องที่ตอนนี้มันเงยหน้ามึนๆ ของมันมองไอ้ซันอย่างไม่สะทกสะท้าน “นี่มึงตั้งใจจะกวนตีนกูเหรออ้อนรัก !”
“เปล่าครับ”
“แล้วทำไมมึงไม่ตอบ !”
“กำลังเรียง”
“ห๊ะ”
“พี่ ใจเย็นๆ มันหมายถึงกำลังเรียงคำพูด” คราวนี้คนข้างๆ ไอ้อ้อนรักเป็นคนพูดขึ้น ซึ่งมันก็พยักหน้าตาม แต่ดูเหมือนไอ้ซันมันจะอารมณ์เสียไม่น้อย เพราะตอนนี้มันถึงกับกุมขมับ ผมเลยได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างเข้าอกเข้าใจ
ปวดหัวใช่มั้ยล่ะมึง
“โอเค อ้อนรัก มึงไม่ต้องเรียงแล้ว มึงพูดออกมาเลย คำตอบที่มึงคิดได้ตอนนี้” ในที่สุดดูเหมือนกัปตันทีมบาสจะทนไม่ไหวถึงกับตัดบทแล้วมองมาที่ไอ้อ้อนรักอย่างต้องการคำตอบ ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่รอให้คนตั้งคำถามรอนานเมื่อเขาอยากรู้คำตอบที่มันไม่ต้องเรียบเรียง
คำตอบที่อยู่ในใจของมันอยู่แล้ว
“เสือ”
“...”
“ที่มาสมัครชมรมบาส...”
“...”
“และลาออกเพื่อไปสมัครชมรมถ่ายภาพ”
“...”
“ก็เพราะอยากอยู่ใกล้”
“...”
“อยู่ใกล้...”
ไอ้อ้อนรักมันพูดซ้ำ ก่อนจะที่ใบหน้าของอีกฝ่ายมันจะขึ้นสีเรื่อขึ้นมา ทำให้เพื่อนมันที่อยู่ข้างๆ ต่างยกมือขึ้นมาพัดเพราะอาการของมันน่าเป็นห่วงพอสมควร ส่วนผมที่ยืนฟังก็มือเย็นเฉียบตั้งแต่ได้ยินคำตอบคำแรก ก่อนที่อีกฝ่ายมันจะพูดต่อเสียงเบา
...
“อยากอยู่ใกล้พี่เสือดุ”
ปุ้ง ~
ดูเหมือนเรื่องนี้เสือดุจะไม่ยุ่งไม่ได้แล้วแหละ...
ระเบิดไปแล้ว ใจกู...
----------------------------
ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นท์ค่ะ
