รักแล้วบอก ชอบแล้วจีบ
ตอนที่ 1
“ไอ้เสือมึงทำอะไรอยู่วะ”
“นั่งขี้”
“พ่องมึงดิ”
ผมที่กำลังส่องรูปภาพในกล้องตัวเองก็โดนเบิดกะโหลกไปหนึ่งทีจากฝีมือของไอ้หลง จนตัวเองต้องเงยหน้าขึ้นมามองมันเคืองๆ แต่ก็ทำได้เท่านั้นเมื่อตอนนี้ไอ้สามหน่อมันเดินเข้ามานั่งร่วมโต๊ะกับผมด้วยสีหน้าท่าทางเป็นหมีกินผึ้งโดยเฉพาะไอ้หลงที่ทำท่าไม่สบอารมณ์ที่สุด
“เป็นอะไรพวกมึง โดนตุ๋ยตูดมาเหรอ”
“ตุ๋ยห่าอะไรล่ะ เดี๋ยวกูจะตุ๋ยปากมึงเนี่ย”
“เอ้า”
“ไอ้หลงมันจะโดนคัดออกจากตัวจริงอ่ะดิ” คราวนี้เป็นไอ้ตามใจที่พูดออกมาและนั่นก็ทำให้ไอ้คนที่นั่งฟึดฟัดอยู่ข้างๆ ผมยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่
ส่วนไอ้จั๊มฟุบหน้าหลับไปกับโต๊ะเรียบร้อยแล้ว...
“ทำไมวะ”
“ก็ไอ้กัปตันทีมดิกวนตีน” เสียงของคนเล่าแสดงออกว่าไม่พอใจอย่างชัดเจนเมื่อพูดถึงกัปตันทีมบาสที่ค่อนข้างจะไม่ถูกกับมันเท่าไหร่จนผมไม่รู้ว่าพวกมันไปมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมา “ช่างแม่งเถอะ ยิ่งพูดยิ่งเซ็ง”
ไอ้หลงมันยกมือขึ้นเท้าคางก่อนจะมองมาทางผมที่ตอนนี้ส่องรูปในกล้องต่อโดยไม่สนใจมัน ซึ่งไอ้ตามใจเองก็ไม่ต่างกันเพราะตอนนี้มันก็ฟุบหัวลงไปนอนข้างๆ ไอ้จั๊มแล้ว
“เบื่อว่ะ...” แล้วไอ้คนที่เพิ่งฟุบหัวไปแป๊บเดียวก็เงยหน้าขึ้นมา
“อืม ไม่มีอะไรทำ” ไอ้หลงเสริม
“วันนี้ไปดูเด็กปีหนึ่งรับน้องกันป้ะ...” แล้วเสียงเนือยๆ ของไอ้จั๊มก็ดังขึ้นพร้อมกับหัวที่ผงกขึ้นมา และความคิดนั้นก็ทำให้ไอ้สองคนที่บ่นๆ เมื่อซักครู่ตาลุกวาวทันที
“น่าสน”
“ไปเปล่าไอ้เสือ สาวน่าจะเยอะ” ไอ้หลงที่ทำตัวดี๊ด๊ากว่าเมื่อซักครู่หันมาถามผมแล้วมองไปทางไอ้ตามใจและไอ้จั๊มอย่างรู้กัน ซึ่งผมเองก็ควรจะดีใจที่รู้แบบนั้นถ้าไม่ติดว่าวันนี้ดันมีภารกิจบางอย่างเข้ามาซะก่อน
“ไอ้ดูมันก็ดูว่ะ แต่กูต้องไปดูที่คณะวิศวะฯ”
“อ้าว ทำไมวะ คณะตัวเองไม่มีหรือไง มึงนี่” ไอ้หลงมันถามผมพลางขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่แบบนั้น แต่พี่บีมให้กูช่วยไปถ่ายรูปกิจกรรมให้เขา” ผมตอบตามความจริงเมื่อตัวเองดันไปเผลอตอบรับปากอย่างหมั่นเหมาะมาจากรุ่นพี่ในชมรมถ่ายภาพ และจะให้เปลี่ยนใจตอนนี้ก็คงไม่ทัน แม้สาวๆ ในคณะนิเทศจะสวยงามตาท้องเรื่องก็เถอะ
เฮ้อ เศร้าเลยกู...
“เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน” เสียงของไอ้ตามใจที่ดังขึ้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองมันด้วยสายตาลุกวาว
“จริงดิ”
“เออ สาวคณะอื่นก็ดีต่อใจกูเหมือนกัน” ไอ้ตามใจมันยักคิ้วให้ทั้งผมและไอ้สองคนที่นั่งอยู่ ซึ่งมันก็พยักหน้าตาม ก่อนที่มันจะพูดกับไอ้สองคนที่เหลือ “ส่วนพวกมึงก็ส่องสาวคณะเราไปแล้วกัน เดี๋ยวค่อยมาแชร์กัน”
“เออ”
“แยกย้ายเว้ย”
สิ้นเสียงไอ้ตามใจหน้าหล่อ หน้าหม้อ และน่ากระทืบประจำกลุ่มทำให้พวกเราทั้งสี่คนลุกขึ้นยืนทันที จะมีแต่ไอ้จั๊มที่ดูเหมือนจะงัวเงียไม่เลิก จนไอ้หลงต้องฉุดกระฉากอยู่นานจนสามารถพามันลุกขึ้นและเดินไปที่คณะจนได้ เหลือแต่ผมกับไอ้ตามใจที่เดินมาอีกทาง ผมที่เช็คเลนกล้องก็ยกขึ้นมาถ่ายไอ้คนหน้าตาดีข้างๆ เผื่อหวังจะได้มุมเผลอของมัน แต่อีกฝ่ายกลับตอบรับโดยการหันมาชูสองนิ้วให้
เออ ให้มันได้อย่างงี้สิ
“หล่อป้ะวะ”
“ไม่เลย”
“กูไม่เชื่อ”
“เรื่องของมึง” ผมเลิกเล่นกล้องก่อนจะเดินเร็วขึ้นเพื่อทิ้งห่างไอ้คนหลงตัวเองที่เดินโบกมือให้สาวตามมาติดๆ บ้างก็แวะแลกไลน์กัน จนผมมองเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และในที่สุดทั้งผมและมันก็เดินมาถึงสถานที่รับน้องของคณะวิศวะกรรมศาสตร์จนได้ ซึ่งตอนนี้มีคนอยู่ไม่น้อยที่นั่งอยู่ในสนามทำให้ผมอ้าปากค้างกับบรรยากาศที่เหมือนจะตรึงเครียดตรงหน้า
“แจ่มแมว...”
แต่กลับมีเสียงและสายตาแพรวพราวของไอ้ตามใจเท่านั้นที่มองลงไปที่สนาม
ผมส่ายหัวกับคนที่ตอนนี้ไม่เห็นผมอยู่ในสายตาแล้วก่อนจะเดินไปหาพี่บีมสาวร่างท้วมที่เป็นคนขอให้ผมมาถ่ายรูปให้ เธอยืนอยู่ตรงมุมสนามทำให้ผมสามารถเข้าไปหาเธอได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะค่อยๆ สะกิดแล้วแกล้งจ๊ะเอ๋
“แฮร่ พี่บีม !”
“อ้าวไอ้เสือ มาแล้วเหรอ”
“โหพี่ ตกใจหน่อยดิ”
“อ้าว กูลืม ไหนขออีกรอบดิ”
ผมแกล้งหลบด้านหลังแกใหม่ ก่อนจะโผล่ขึ้นมาแล้วแบมือทั้งสองข้างอยู่ข้างแก้ม “แฮร่ !”
“ว๊ายยย ตายแล๊ว ตกใจ อกอิแป้นจะแตก !!”
และพี่เขาก็ยกมือทาบอกเล่นแอ๊คติ้งกลับมาล่ะนะ
ปัญญาอ่อนได้อีก
หมายถึงกูเนี่ย !
“โห พอเลยพี่ !” ผมขำออกมาก่อนจะโดนพี่บีมหยิกแก้มไปหนึ่งที เพราะเธอชอบทำแบบนี้กับผมจริงๆ ก่อนที่ตัวเองจะมองไปรอบๆ ที่ตอนนี้หลายๆ คนเหงื่อซึมด้วยแดดตอนสี่โมงเย็น “ทำอะไรกันอยู่เนี่ยพี่”
“สอดส่องคนหน้าตาดีอยู่”
“ห๊ะ” ผมหันไปทำหน้าสงสัยกับคนข้างๆ ที่ตอนนี้กำลังทำท่าสอดส่องอยู่จริงๆ “อ๋อ หาดาวเดือน ?”
“ฉลาด”
“แน่นอน”
“อย่าลืมถ่ายให้ครบทุกช็อตล่ะ”
“คร้าบ พี่อ้วน”
“เดี๋ยวเอานมตบปาก !”
คำที่ตวาดมาทำให้ผมหัวเราะและกระโดดหลบคนที่ทำท่าจะเข้ามาทำร้ายร่างกายผมจริงๆ ก่อนจะหยิบกล้องขึ้นมาเตรียมทำตามที่อีกคนขอ ซึ่งผมที่มองดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง เมื่อตอนนี้พี่บีมหันไปพยักเพยิดบางอย่างกับพี่แป๋มที่เป็นผู้ชายแต่ตัวแต่ใจนั้นหญิงแท้ๆ ซึ่งเขาก็พยักหน้ากลับก่อนจะเดินมาหน้าสนามทำให้หลายๆ คนที่ตอนแรกนั่งก้มหน้าหลบแดดอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมา
แปะ แปะ แปะ !!
“อ้าวเด็กๆ เงยหน้าขึ้นมาฟังพี่กันหน่อยจ้า !!” เสียงตะโกนพร้อมกับการตบมือเพื่อเรียกคนที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ขึ้นมา และเมื่อใบหน้าทุกคนจับจ้องมาตรงข้างหน้าก็ทำให้ผมสามารถกวาดสายตามองพวกนี้ได้เต็มๆ และสายตาของผมก็ดันไปสะดุดกับใครบางคนที่ตอนนี้กำลังนั่งทำหน้าไม่ทุกข์ร้อนอะไรอยู่บริเวณแถวหลังสุด ซึ่งเจ้าตัวก็หันมาสบตาเข้ากับผมพอดี
ไอ้นี่มันคนที่ถ่ายรูปผมระยะประชิดนี่หว่า
ผมจ้องหน้ามันกลับ ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคนหลบตาเสียเอง
เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ
“ตามที่เจ๊พูดไปในตอนแรกนะจ๊ะ วันนี้เราจะหาตัวแทนหญิงหนึ่งคนชายหนึ่งคนเพื่อไปเป็นหน้าเป็นตาประกวดดาวเดือนคณะของเรา ซึ่งการคัดเลือกครั้งนี้เจ๊จะไม่บังคับให้พวกหนูต้องอึดอัดใจ เอาเป็นว่าจะให้คนที่ ‘อาสา’ และ ‘เต็มใจ’ ที่จะลงประกวดลุกขึ้นยืนและเดินออกมาเลยจ้า”
เสียงประกาศและท่าทางสะดีดสะดิ้งของพี่แป๋มทำให้ภายในคณะคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ทุกคนต่างมองซ้ายมองขวากันซึ่งจนสุดท้ายก็มีสาวสวย ‘มาก’ ใช่ครับ เน้นคำว่า ‘มาก’ เลย เธอโดนเพื่อนทั้งผลัก ถีบ ส่งตัวออกมาข้างนอก จนเจ๊แกพอใจไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับเสียงโห่แซวของหนุ่มๆ ที่แซวสาวสวยประจำคณะ
เฮ ~
หวี๊ดหวิ่ววววว ~
ส่วนผมไอ้เสือ ทำได้แค่เก็บภาพอันงดงามนี่ไว้
รัวชัตเตอร์สิครับบบ !
“ในที่สุดเราก็ได้ดาวคณะกันแล้วนะจ๊ะ สวยจนเจ๊ยอมเลย แล้วไหนใครจะมาเป็นเดือนคู่กับสาวสวยคนนี้ลุกขึ้นมาเลยจ้าาาาา”
...
กริบ...
สัด ก็สมควรกริบอยู่ ดาวแม่งสวยขนาดนี้เดือนต้องขนาดไหนวะเนี่ย...
แต่ดูเหมือนจะมีคนที่พอได้อยู่นะ
ไม่สิ กินขาดเลยมากกว่า
“เอาล่ะ ขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือในกิจกรรมครั้งนี้มากนะจ๊ะ เจ๊น้ำตาจะไหลกับคนที่มาสมัครเป็นเดือนในปีนี้ มีแต่หล่อๆ ทั้งนั้น แต่ทางเจ๊ก็ต้องทำใจเลือกได้แค่คนเดียว กระซิก...”
“เฮ้ย พี่บีม ไม่เห็นมีใคร...”
“เงียบดิไอ้เสือ”
ผมที่กำลังงงว่าเจ๊แกดราม่าอะไร ในเมื่อตอนนี้ไม่เห็นมีใครลุกขึ้นซักคน
“แต่เจ๊ก็ทำใจไม่ได้จริงๆ นะที่จะให้ทิ้งทุกคน เอาเป็นว่าเจ๊จะเลือกคนที่เหมาะสมที่สุดแล้วกันเนอะ...” เจ๊แป๋มแกยกมือทาบอกและหายใจเข้าลึกๆ
เฮ้ยเจ๊ ไม่มีใครเลย !
...
“น้องอ้อนรัก ลุกเลยจ้า !”
ฮือฮา ~
กรี๊ดดดดดดดดดดดด ~
แล้วเสียงกรี๊ดกร๊าดชอบใจของสาวๆ ในคณะก็ทำให้ผมที่ยืนงงอยู่ต้องอุดหูอัตโนมัติ หลังจากชื่อที่คุ้นหูดังขึ้น และก็เป็นไปตามคาดเมื่อเจ๊แป๋มแกเดินไปหาไอ้ผู้ชายหน้าหล่อ ‘ฉิบหาย’ ขอเน้นคำว่า ‘ฉิบหาย’ เพราะมันหล่อมากจริงๆ ซึ่งคนที่โดนเอ่ยชื่อมันก็ลุกขึ้นมาด้วยหน้าตามึนๆ ราวกับยังไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่
แล้วทำไมกูขำ
“อ้าวไอ้เสือ รีบมาถ่ายรูปดิ เดือนคณะกูหล่อขนาดนี้”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ~
เจ้แป๋มที่กวักมือเรียกผมยิกๆ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดที่คราวนี้จะไม่ใช่แค่ในคณะแล้ว ยังมีสาวๆ คณะอื่นที่นั่งชมอยู่แถวๆ แสตนอีกด้วย ทำให้ผมที่ยืนขำกับท่าทางของมันอยู่ต้องรีบวิ่งเข้าไป
“เจ๊แม่งโคตรมัดมือชกเลย” ผมพูดออกมาขำๆ ก่อนจะยกกล้องขึ้นถ่ายรูปคนที่ตอนนี้ยืนทำหน้ามุ่ยผ่านเลนกล้อง แต่ก็ยังดูหล่อ ข้างๆ ก็มีเจ้แป๋ม ยืนเกาะแขนอยู่
คราวนี้ไม่รัว สองสามรูปพอ
“ไหนว่าอาสา...”
“ก็หนูไงจ๊ะ หน้าตาหล่อๆ อย่างนี้ ไหนจะสายตาที่ส่งมาหาเจ๊อีก หนูต้องอาสาแน่ๆ”
“ไม่ๆ ผมไม่อาสา” ไอ้เด็กที่ชื่ออ้อนรักมันส่ายหัวรัวๆ “ไม่เต็มใจด้วย”
“โอ๋ๆ ไม่งอแงนะจ๊ะ เดี๋ยวเจ๊เปย์ขนม”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ~
เสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเจ้แป๋มลูบตามกล้ามแขนและใบหน้าของไอ้เด็กปีหนึ่งแต่ร่างกายสูงชะลูด ทำให้ผมรีบถ่ายไอ้ท่าทางตลกๆ นั้นไว้
ดูหน้ามันดิ
ฮาว่ะ
“นี่เจ๊ขาาา อย่าทำร้ายเพื่อนหนูมากสิคะ หนูหวงนะ ~!” แล้วเสียงแหลมๆ เสียดแก้วหูก็ทำให้ผมต้องก้มไปมองสาวผมสั้นเปรี้ยวสุดๆ ที่ตอนนี้นั่งจีบปากจีบคอพูดกับเจ๊แป๋ม
“แรด”
และนี่ก็เป็นเสียงเล็กๆ ของผู้ชายตัวเล็กหน้าหวานที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กันแต่แค่มีไอ้หมีร่างสูงชื่ออ้อนรักนี่คั่นกลาง
แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา
อ้าว นี่เพื่อนกันเหรอวะ กูนึกว่าจะตบกันซะละ
“โอเคจ้ะ เจ้ไม่ลวนลามเพื่อนหนูๆ แล้วก็ได้ แต่เจ้ขอให้พี่เสือดุเขาถ่ายรูปไว้เป็นอนุสรก่อนนะจ๊ะ”
“ได้เลยค๊า ~”
ผมที่ยิ้มกับสถานการณ์ตรงหน้าซึ่งคึกคักพอสมควร ใครว่ารับน้องวิศวะเครียดวะ ไม่เห็นเครียดเลย...
“เฮ้ย ไอ้แป๋ม มึงคุยกับน้องเสร็จยัง พวกกูจะได้เข้าต่อ !!”
เฮือก !
...
“เออๆ เสร็จแล้วเว้ย เหลือแต่ถ่ายรูป รอไปก่อน”
“เออ ให้ว่อง !”
ผมที่ตอนแรกยิ้มกว้างก็ต้องหุบยิ้มลง ก่อนจะถ่ายรูปภาพเดี่ยวของไอ้อ้อนรักที่ตอนนี้ยังทำหน้ามุ่ยไม่เลิก จนดูเหมือนผมจะใช้เวลานานพอสมควรก็ไม่สามารถถ่ายรูปหล่อๆ ของมันได้เลย
ไม่ใช่ว่าไอ้หน้ามุ่ยๆ นั่นจะไม่หล่อ แต่อยากได้หล่อกว่านี้เว้ย
“นี่...”
“...”
“ยิ้มหน่อยดิ”
“...” มันไม่ตอบได้แต่ยิ้มตามที่ผมสั่ง และมันเป็นการฉีกยิ้มที่เหี้ยมาก
หาความจริงใจไม่ได้จริงๆ
ฝีมือถ่ายรูปขั้นเทพของกูทำไมต้องมาแปดเปื้อนเพราะไอ้ห่านี่ด้วยวะเนี่ย
อ้อนรัก !
#โรงอาหาร
“เป็นไงบ้างมึง”
“ก็ดี ตรึงเครียดดี สาวสวยดี ผู้ชายหล่อดี คู่ปรับมึงแม่งก็โหดดี”
“...”
“ที่สำคัญเด็กแม่งกวนตีนดี” ผมพูดขึ้นมาในขณะที่กำลังเลื่อนดูภาพที่ถ่ายออกมา และมันถึงภาพที่ไอ้อ้อนรักมันฉีกยิ้มออกมา ซึ่งมันยิ้มแบบตาไม่ยิ้ม มีเพียงปากเท่านั้นที่โชว์ฟันขาวๆ นั่นเป็นรูปสุดท้าย เพราะไอ้พวกพี่ว้ากมันดันเข้ามาซะก่อน
เออ หล่อ แต่ไม่ผ่าน !
“ไหนมาดูมั้งดิ เห็นไอ้ตามใจบอกดาวแจ่ม” ไอ้หลงและไอ้จั๊มมันชะโงกหน้าเข้ามาดูรูปภาพบนจอของผมในขณะที่ตัวเองกำลังเลื่อนกลับให้ และทันทีที่ถึงภาพสาวสวยพวกมันก็อุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน “เหยดแหม !”
“สวย...”
“เออ สวยสัส”
“น่ารักสุดๆ”
“ไอ้ตามใจ ติดต่อให้กูที !” แล้วไอ้หลงมันก็หันไปมองคนที่ตอนนี้นั่งกดแชทอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมกับไอ้ตามใจที่ยักคิ้วให้พร้อมกับโชว์โทรศัพท์เครื่องหรูที่กำลังแชทกับใครบางคน
“เสียใจ คนนี้กูจอง”
ไวสัด !!
“เชี่ยยยยย ~”
“ทำไมเขาหลุดจากไอ้อ้อนรักมาหามึงได้วะเนี่ย” ผมถามขึ้นแบบอึ้งๆ จะบอกว่าไอ้ตามใจก็หล่อ แบบหล่อมากสมกับเป็นรองเดือนมหาวิทยาลัยคนก่อน แต่ที่ผมเห็นว่าจะหล่อสูสีกับมันไม่สิ สูสีกับเดือนคนก่อนก็คงเป็นไอ้อ้อนรักนี่ล่ะ
“ก็กูไวกว่า” ไอ้ตามใจมันยักคิ้วแล้วกดแชทจึกๆ “หรือไม่มันก็เป็นเกย์เหมือนไอ้นั่น”
เสียงของไอ้ตามใจมันดังขึ้นขำๆ ถ้าถามว่าทำไมมันถึงได้เป็นขวัญใจสาวๆ ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่มีคนหล่อกว่ามันและขึ้นชื่อว่าเป็นเดือนมหาวิทยาลัย คงเป็นเพราะอีกฝ่ายดันไม่ชอบผู้หญิงล่ะมั้ง
สาวๆ ที่เหลือเลยตกมาอยู่ที่มันทั้งหมด
“ไอ้กะล่อนปิ้นป้อน”
“อ้าวเพื่อนเสือ ทำไมด่ากูงี้ล่ะ”
“หมั่นไส้”
ผมพูดไปตามความจริง ซึ่งไอ้หลงกับไอ้จั๊มก็พยักหน้าเห็นด้วย “จั๊ม มึงก็เห็นด้วยกับมันเหรอ”
“เออ...”
ไอ้จั๊มมันตอบเสียงเบา ก่อนจะจ้องมองแก้วน้ำตรงหน้า ท่าทางเหมือนจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ จนผมต้องคว้ากล้องขึ้นมาถ่ายภาพของมันเก็บไว้
เออ น่ารักดี
“เอ้อไอ้เสือ กูลืมเลย” อยู่ๆ ไอ้หลงมันก็พูดขึ้นราวกับนึกอะไรบางอย่างได้ พร้อมกับยื่นถุงเซเว่นเล็กๆ มาให้ทำให้ผมที่รออยู่ต้องยิ้มกว้างออกมา “หัวใจของมึง”
“ขอบใจว่ะ”
ผมพูดพลางรับถุงเซเว่นที่ข้างในมีลูกอมฮาร์ตบีสถุงละสิบบาทอยู่ พอดีถุงใหญ่ที่บ้านผมมันหมดกะทันหันเลยต้องฝากมันซื้อของประทังชีวิตมาให้
“อมขนาดนี้เพดานปากมึงไม่พังเหรอวะ”
“ไม่ อร่อยดี”
“เออๆ” ไอ้หลงมันส่ายหัวก่อนจะหยิบสมุดจดขึ้นมาพร้อมกับคว้าของไอ้จั๊มไปลอกเหมือนอย่างเคย เมื่อไอ้ตามใจมันเห็นเจ้าตัวก็รีบวางโทรศัพท์และย้ายมานั่งอีกฝั่งทันที ก่อนที่พวกมันทั้งคู่ก็เริ่ม ‘ลอก’ การบ้านอย่างเอาเป็นเอาตาย
แล้วกูจะรออะไรล่ะ ลอกบ้างดิวะ !!
ฮือฮา ~
‘เฮ้ยแก ดูดิ หล่ออ่ะ ~’
‘นั่นเด็กปีหนึ่งเหรอวะ หล่อสุดๆ’
‘นั่นมันอ้อนรักนี่นา !’
เสียงแว่วๆ ของสาวๆ ภายในโรงอาหารคณะนิเทศทำให้ผมที่ไม่สนใจในตอนแรกต้องเงยหน้าขึ้นมาเพราะสะดุดกับคำว่า ‘อ้อนรัก’ และก็เป็นไปตามคาดเมื่อตอนนี้ร่างสูงๆ บวกกับใบหน้าหล่อๆ ของใครคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในโรงอาหาร ทำให้ไอ้ตามใจที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมมันรีบขยับเข้ามาใกล้แล้วกระซิบ
“นั่นมันไอ้เดือนวิศวะฯ นี่หว่า”
“เออ มาทำอะไรวะ”
“สงสัยมาจีบสาวนิเทศ คณะเรามีแต่แจ่มๆ”
“เออ...”
ผมที่กำลังเห็นด้วยกับไอ้ตามใจก็ต้องเงยหน้าขึ้นสูงเมื่อตอนนี้คนที่คาดว่าจะเข้ามา ‘จีบ’ สาวนิเทศอย่างไอ้อ้อนรักมันกลับเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผมด้วยใบหน้ามึนๆ นั่น
อะไรวะ...
“พี่...”
“ห๊ะ...” ผมที่ตอบรับออกไปทันที หลังจากที่โดนยืนจ้องหน้า ยอมรับว่าตอนนี้ตัวเองกำลังงงและสงสัยว่าเคยไปทำอะไรให้มันไม่พอใจหรือเปล่า ก่อนที่ผมจะนึกอะไรขึ้นได้แล้วรีบคว้ากล้องประจำตัวลุกขึ้นยืนพลางพูดสั่งมัน “อ้อนรัก อยู่นิ่งๆ”
กึก...
ละมันก็นิ่งตามคำสั่งผมจริงๆ
แชะ...
เชดดด ต้องงี้ดิ...
ผมมองรูปภาพที่เพิ่งถ่ายได้สดๆ ร้อนๆ ซึ่งใบหน้าเรียบเฉยของมันไม่มีสีหน้าอื่นเข้ามาทำให้เจ้าตัวดูดีไม่น้อย แม้ปกติมันจะดูดีมากก็เถอะ
“พี่”
“เออๆ ว่าไงวะ” ผมที่นึกขึ้นได้ว่ามันยังอยู่ตรงหน้าก็เงยหน้าขึ้นมามอง ซึ่งไอ้อ้อนรักตอนก็ทำหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อยราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมทำเมื่อซักครู่ ก่อนที่ผมจะหยิบลูกอมฮาร์ตบีสของรักของหวงยื่นให้มันหนึ่งเม็ดเพื่อเป็นการปลอบใจใบหน้าที่ไม่เข้าใจนั่น “ไม่ต้องห่วง กูไม่เอารูปมึงไปทำอะไรแปลกๆ หรอก นี่ค่าจ้าง”
“...” ไอ้อ้อนรักมันไม่ได้ตอบก่อนจะทำตาลุกวาวกับของที่ผมยื่นให้ แล้วเอื้อมมือมารับไป
ซึ่งผมเองก็อดขำในใจกับไอ้ท่าทางที่แสดงออกมาอย่างซื่อตรงนั่นไม่ได้
“ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่า ?”
ผมที่นึกขึ้นได้กับจุดประสงค์แรกที่มันเข้ามาเลยถามขึ้น ก่อนที่ไอ้อ้อนรักมันจะหยิบกระดาษขนาดเอสี่ขึ้นมา มือก็จดอะไรยิกๆ ลงไป แล้วพลิกมันมาทางผม
แล้วก็ลำบากกูมั้ยล่ะ ที่ต้องมายืนอ่านตัวหนังสือกลับด้าน
ห่าเอ๊ย...
‘พี่ชื่อเสือ ?’
...
หลังจากจับใจความอยู่นานผมก็สามารถแกะคำตรงหน้าออก และก็ทำให้ผมคิดได้ว่าแค่นี้ทำไมมันไม่ถามตรงๆ วะ จะเขียนทำเพื่อ...
“ใช่ เสือ เสือดุ” ผมตอบชื่อเต็มๆ ออกไป ซึ่งคนตรงหน้าก็พยักหน้าสองสามครั้ง ก่อนจะคว้าเอสี่แผ่นใหม่ขึ้นมาแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงไปอีกครั้ง
‘พี่ชื่อเสือดุ แล้วดุมั้ย ?’
“ห๊ะ...” ผมมองสิ่งในกระดาษนั่นงงๆ พลางหันไปมองไอ้สามหน่อที่นั่งดูสถานการณ์ระยะประชิดที่หน้าตามันตอนนี้ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ก่อนที่ผมจะหันไปหาไอ้อ้อนรักอีกครั้ง “มึงเป็นใบ้หรือไงวะ กูอ่านไม่ออก”
และพอผมถามขึ้นมันก็พูดออกมาทันที
“พี่ดุมั้ย”
ให้มันได้อย่างนี้สิ
“กูไม่ดุ กูโคตรใจดี จบมั้ย”
“จบ”
เสียงตอบรับสั้นๆ นั่นยิ่งทำให้ผมงงงวยเข้าไปใหญ่ ก่อนที่ไอ้อ้อนรักมันจะเก็บกระดาษทั้งหมดแล้วควักเอากระดาษที่ถูกพับเป็นชิ้นเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยื่นมาให้ผม ซึ่งตัวเองก็รับมาอย่างไม่เข้าใจ และยังไม่ทันจะทักท้วงอะไรไอ้เด็กตัวเท่าหมีก็หันหลังและเดินหนีออกจากโรงอาหารไปแล้ว ผมเลยหันกลับไปมองหน้าเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้มันเองก็คงอยากจะเสือกสิ่งที่อยู่ในกระดาษไม่น้อย ทำให้ผมค่อยๆ คี่มันออกมาก่อนจะปรากฏตัวอักษรขยุกขยิกที่เหมือนจะบรรจงเขียนแต่ก็เละเทะอยู่ด้านใน และดูเหมือนมันจะถูกเตรียมมาสำหรับคำตอบของผมเมื่อซักครู่
เดี๋ยวนะ...
‘ถ้าไม่ดุ...
งั้นผมจีบนะ’
---------------------------------------------
ติชมได้นะคะ
