*✿❀ LOCK IT UP!❥ รับฝากใจ ❀✿**ใจแถมღ P.6☛ 16.03.18 [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *✿❀ LOCK IT UP!❥ รับฝากใจ ❀✿**ใจแถมღ P.6☛ 16.03.18 [END]  (อ่าน 167579 ครั้ง)

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ดีงามทั้งความน่ารักของพี่ภูและน้อง ร้อนแรงสมกับที่กักเก็บมานาน

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :m25: :m25: :m25:
ในที่สุดที่ภูก็ได้กินน้องแล้วววววว
เราชอบที่พี่ภูเรียกลินว่าน้อง แบบฟังแล้วเหมือนจะละลายแทนลิน
ยิ่งพี่ภูเรียกน้องว่าเมียยิ่งโคตรเขินแทนลินอ่ะ
ตอนยังไม่ได้กินน้องก็ทั้งรักทั้งหวง นี่ได้กินน้องสมใจแล้วทีนี้พี่ภูจะอาการหนักกว่าเดิมไหมเนี่ย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
พี่ภูน่ารักอะ ทั้งรักทั้งหลงปาลินมากๆ
แต่ก็กลัวใจ คนเจ้าชู้แบบพี่ภูจะมีกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม
กลัวว่าวันนึงจะทำน้องเสียใจ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :m25: นี่ขนาดเขียน(เรือ่งและnc) ครังแรกนะเนี่ย...ทำเอาเรา  :jul1:  :jul1:  :jul1:
ชอบค่ะ...เก่งมากๆเลยกับการเขียนเรื่องครั้งแรก...อ่านสนุกมาก..มีวินัยในการลงเรื่องให้เราอ่านอย่างมีความสุขทุกวันแบบสม่ำเสมอ... เลยกลายเป็นว่าทุกเช้า(ถ้าทำงานเช้า) ตื่นมาเปิดหาน้องลินพี่ภูก่อนไปbrewing my coffee อีก..... ชอบค่ะ ขอบคุณมากนะคะ... ขอให้มีตอนพิเศษมากๆหลายๆตอนนะค่ะ.  o13

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
พี่ภูน้องลิน ร้อนแรงทั้งคู่ ไม่มีใครยอมใครเลย หูยยย อ่านแล้วเขิน >////<
จริง ๆ ไม่ค่อยกล้าคอมเม้นท์เกี่ยวกับ nc น่ะค่ะ มันอ่านแล้วเขินจริง ๆ 555
จะบอกว่าคนเขียน เขียนฉากนี้ได้ดีเลยค่ะ นึกภาพตามได้เป็นฉาก ๆ เลย
มันเลยยิ่งทวีความเขินจริง ๆ นะ ขอบคุณมากเลยนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อยากรู้ว่าเขาคุยอะไรกันในรถอ่ะคับ แต่อ่านเอ็นซีแล้วเขินนิดๆ  :hao7:

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2

ออฟไลน์ Sugar_stack

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • Page FB Sugar_stack
❥・ใจดวงที่๑๘・❥



ใจดวงสุดท้าย



..ภูฟ้า..


ไม่รู้ว่าไอ้จั๊ดมันหลอกผม เมียเด็กของมันบอบบาง หรือมันทำรุนแรงกับน้องกันแน่ เพราะหลังจากที่เด็กจืดของผมกลายร่างเป็นเด็กช่างยั่ว ก็ถูกผมเอาแต่ใจไปไม่น้อย แต่ตอนนี้นอกจากแก้มแดงๆกับลมหายใจอุ่นๆ ก็ยังไม่เห็นว่าคนน่ารักของผม จะมีทีท่าว่าจะไม่สบายตรงไหนเลย มิหนำซ้ำยังดูหลับสบาย เสียจนผมอยากจะลักหลับใจจะขาดแล้วเนี่ย


ถึงแม้เมื่อคืนจะเอาเปรียบน้องจนดึกดื่น แต่เพราะความสุขที่แผ่ซ่านไปทั่วทุกตารางนิ้วของร่างกาย และเพราะกังวลว่าน้องจะไข้ขึ้น ผมจึงหลับไม่ค่อยสนิทนัก จนแล้วจนรอดเลยเปลี่ยนมาเป็นนอนกอดคนที่ผมรัก แล้วใช้โอกาสนี้ถ่ายภาพเขาไว้ด้วยสองตา ให้มากเท่าที่จะมากได้เสียเลย


ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าน้องรักผม ไม่ใช่เพราะคำว่ารักที่น้องบอก แต่เป็นเพราะการกระทำของน้อง น้องยอมก้าวออกมาจากกำแพงของตัวเองเพื่อผมหลายต่อหลายครั้ง น้องที่ไม่อยากเปิดใจรับเพื่อนใหม่ กลับยอมผูกมิตรกับเพื่อนหลายคนในคณะ โดยเฉพาะไอ้น้องดิว ที่ก็ดูจะเข้ากันได้ดีกับน้อง และกลายมาเป็นเงาตามตัวน้องอีกคน แต่ผีก็ยังเห็นผี ดูก็รู้ว่าไอ้น้องหล่อนี่คงจะชอบน้องแก้วตา สาวน้อยร่างอวบผู้เป็นความสดใสและเสียงหัวเราะประจำกลุ่ม แต่เรื่องนี้ผมจะไม่ยุ่ง เพราะผมอยากให้มันเผชิญความลำบากด้วยตัวเอง ฮ่าๆๆ


นอกจากเรื่องที่เห็นได้ชัดอย่างการยอมเปิดใจมากขึ้น เรื่องเล็กๆน้อยๆที่แสนน่ารักของน้องก็มีอีกมากมาย เช่นการที่น้องพยายามไม่ทานกุ้ง เพราะไม่อยากทานของอร่อยแค่คนเดียว จนผมต้องบังคับสั่งมาให้ทานหลายต่อหลายครั้ง การที่น้องยอมพูดความต้องการของน้อง เช่น การตั้งสเตตัสคบกันกับผมในเฟซบุ๊ค เอาจริงๆผมก็พึ่งรู้ ว่าน้องมีมุมเด็กขี้หวงไม่น้อยเหมือนกัน แน่นอนว่าผมดีใจและยิ้มหน้าบานไปหลายวัน


น้องมีเรื่องทำให้ผมประหลาดใจไม่หยุด ทั้งการบอกให้ผมย้ายมาอยู่ด้วยกัน และการที่น้องยอมให้ผมเป็นเจ้าของทั้งกายและใจ แค่คิดถึงเรื่องเมื่อคืน ก็ทำให้ผมหน้าร้อนขึ้นมาอีกแล้ว


“อื๊อ พี่ภู..พอแล้ว”


เสียงคนตัวขาวที่ยังเพลียประท้วงฝ่ามือผมที่เริ่มซุกซนอีกรอบ ถึงเมื่อคืนจะเอาแต่ใจไปแค่รอบเดียว แต่ผมก็พาน้องกลับมาแทะเล็มอยู่ที่เตียงเกือบทั้งคืน เรียกได้ว่า ไม่มีพื้นที่ไหนในร่างกายน้องที่ผมยังไม่ได้แสดงความรักใคร่


ฟอดดด


“พอแล้วก็ได้ครับ พี่ไปซื้อโจ๊กมาให้ทานก่อนนะ”


ผมหอมแก้มนุ่มของเด็กงอแงเพราะโดนปลุก น้องกระพริบตาถี่ๆ พยายามมองสู้แสงโคมไฟสีอุ่นที่เปิดเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน


“ไม่ให้ไป กอดๆ พี่ภูกอดๆ”


หลังจากเป็นแฟนกัน แฮปปี้ไทม์ของผมก็ขยายเวลามากขึ้นเรื่อยๆ การอ้อนตาใสของน้องก็มีให้เห็นเกือบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ยิ่งถ้าป่วยหรือพึ่งตื่น คนอายุน้อยกว่าก็ยิ่งสรรหาความน่ารักมาอ้อนผมเป็นพิเศษ จนแต่ละวันผมยิ่งรักยิ่งหลงน้องมากขึ้นเรื่อยๆ


หลายคนที่เคยปรามาสว่าเดี๋ยวผมก็เบื่อน้อง ก็เริ่มไม่กล้าออกมาวิจารณ์กันอีก ในเมื่ออาการหลงน้องจนโงหัวไม่ขึ้นของผม แนวโน้มมีแต่จะเพิ่มไม่มีลด จนเป็นที่เลื่องลือกันทั่วมหาลัย ถึงขั้นมีเพจภูฟ้าปาลินFC ซึ่งผมก็ว่าน่ารักดี ขนาดตัวผมยังตามไปกดไลค์และเซฟรูปบ่อยๆเลย ยิ่งในเพจ“มินนี่สสสสส์..มีเผือก”นี่ยิ่งทำให้คนสนใจคู่เรามากขึ้น มินนี่ขยันสรรหาเรื่องของผมและน้องไปลงทุกวัน เมื่อชาวเผือกชอบ เพจก็ยิ่งดัง ส่วนผมก็ได้แสดงความเป็นเจ้าของน้องในแบบของผม ตอนนี้เลยไม่มีใครกล้ามาจีบหรือระรานน้อง ช่วยให้ผมเบาใจไปได้เยอะเลย


“อะๆ กอดๆอีกครึ่งชั่วโมงนะ เดี๋ยวเจ็ดโมงแล้วต้องยอมให้พี่ออกไปซื้อข้าวมาให้ทานนะ”


ผมสอดตัวกลับเข้าไปในผ้าห่มผืนหนา ที่กว่าผมจะตัดใจยอมผละออกมาจากคนตัวนุ่ม ก็กินเวลาไปไม่น้อย


“อื้อๆ”


น้องขยับตัวเข้าหาอ้อมกอดของผม แล้วพูดอู้อี้อยู่กับอก จนผมต้องก้มไปหอมกลุ่มผมนุ่มของคนน่ารักเสียหลายที และไม่ลืมที่จะลูบหลังกล่อมเบาๆให้คนติดสัมผัสได้นอนหลับสบาย


“น้อง”


“อื้อ”


“ฝันดีนะครับ ถ้าตื่นแล้ว เล่าเรื่องในรถให้พี่ฟังหน่อยนะ”


ผมระบายยิ้มส่งให้คนง่วง ที่พยายามขับไล่ความงัวเงีย ก่อนจะช้อนตากลมใสขึ้นมาสบกันกับผม


“เล่าเลยก็ได้ครับ”


น้องกระชับอ้อมแขนที่กอดเอวผมไว้ให้แน่นขึ้น ก่อนจะยิ้มละลายใจส่งกลับมาให้กัน เห็นน้องยิ้มได้แบบนี้ ใจของผมก็รู้สึกสงบลงได้อย่างน่าประหลาด


“อืม ผมก็รู้ว่าพี่พอร์ชกลายเป็นนักร้องดังไปแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่Vela พอได้เจอกันหลังจากผ่านมาตั้งสามสี่ปี ก็อึ้งๆเหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าควรทำหน้ายังไงดี ถามว่าชอบพี่เขาอยู่มั้ย หลังจากได้เจอ ก็ตอบได้เลยว่าไม่ แค่รู้สึกว่าการจากกันแบบแย่ๆ มันทำให้กระอักกระอ่วนใจเวลาที่ได้เจอ”


น้องจับจ้องสีหน้าผมตลอดเวลาที่เริ่มเล่า ผมเลยกระชับอ้อมแขนให้น้องรู้ว่าผมยินดีจะฟังจริงๆ อย่างที่ผมเคยบอกไป ผมไม่คิดจะโปรโมทหรือโฆษณาถึงนักร้องคนนี้ให้ร้านผมเสียเครดิตอีก ทั้งน้องและผมจึงมีเรื่องที่ต่างคนต่างไม่รู้เกี่ยวกับการปรากฏตัวของพอร์ช พิชญุตม์อยู่ไม่น้อย ตัวน้อง ที่ไม่รู้ว่าจะได้มาเจอกับมันในสถานการณ์ที่ตัวเองเป็นคนรักของเจ้าของผับ กับมันที่กลายมาเป็นนักร้องคนพิเศษของค่ำคืนนั้น และตัวผม ที่พึ่งรู้ว่า“ไอ้เหี้ย”ที่ผมด่าในใจเป็นพันๆครั้ง จะเป็นคนเดียวกันกับทายาทไฮโซและศิลปินที่กำลังขึ้นหม้ออยู่ในเวลานี้


“ตลกดีนะครับ ที่พอได้เจอกันอีกครั้ง พี่เขากลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”


ผมเลิกคิ้วเป็นคำถาม ส่งกลับไปให้คนที่กำลังถ่ายทอดเรื่องราวที่เป็นสาเหตุให้ผมใจแกว่งในค่ำคืนที่ผ่านมา


“พี่เขาขอโทษกับเรื่องวันนั้น ขอโทษกับทุกเรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกแย่”


ผมรู้สึกตัวเองโตขึ้นมาก ก็เพราะเลือกที่จะไม่ใช้กำลังในการแก้ปัญหา อย่างตอนเพจแอนตี้น้องนั่น ผมก็แค่จัดการสั่งสอน ด้วยการตามหาตัวจากเลขIPอินเตอร์เน็ต และรวบรวมหลักฐานหมิ่นประมาทเตรียมเข้าแจ้งความพร้อมทนายความก็เท่านั้น แต่เพราะคนทำยังเป็นแค่เด็กปีหนึ่งที่ยังพอมีอนาคต และที่สำคัญคือถ้าเข้าแจ้งความ น้องก็ต้องรับรู้ ผมเลยเลือกที่จะบอกขอบเขตความสามารถของผมและแสดงให้ดูอีกเล็กน้อย เช่นการส่งหลักฐานทั้งหมดให้อาจารย์ที่ปรึกษาของเด็กคนนั้น และไม่ลืมจะย้ำให้ได้รู้ ว่าถ้าหากยังไม่วางมือจากน้อง จะได้เจอกับอะไรที่น่ากลัวกว่านี้มาก


และกับเรื่องนี้ ถึงผมจะอยากกระทืบไอ้นักร้องนั่นให้จมดิน แต่เพราะกลัวจะกลายเป็นคนขี้ขลาดยิ่งกว่าที่เคยด่ามัน ผมเลยกะแค่สั่งสอน ด้วยการพูดความจริง ก็แค่บอกถึงพฤติกรรมการเบี้ยวงานให้คนในแวดวงผมรู้ เชื่อแน่ว่านิสัยอย่างมัน คงมีคนเคยโดนเหมือนกันอยู่ไม่น้อย แล้วก็จะรอดู ว่าคนที่ขาดวินัยในอาชีพ จะไปได้ไกลสักแค่ไหน ในแวดวงที่คลื่นลูกใหม่มาแรงแซงคลื่นลูกเก่าจนเป็นวัฏจักรอยู่แบบนี้


“แล้วน้องโอเคมั้ย”


ผมอยากรู้ว่าน้องตอบมันไปว่ายังไง


“ผมก็บอกไปแล้ว ว่าไม่โอเค”


ผมขมวดคิ้วแทบจะทันทีที่ได้ยินแบบนั้น


“คนนิสัยแย่ที่ชอบเล่นกับความรู้สึกคนอื่น สมควรได้รับการให้อภัยจากแค่คำว่าขอโทษคำเดียวหรอครับ”


ผมไม่รู้ว่าควรจะตอบน้องว่าอะไรดี ความจริงผมควรสะใจที่น้องไม่ให้อภัยมัน แต่เพราะกลัวความโกรธจะผูกมัดให้น้องยังลืมมันไม่ได้ ผมก็เลยไม่แน่ใจนัก ว่าตัวเองควรรู้สึกอย่างไร


“ผมบอกพี่เขาไป ว่าผมคนที่โกรธทั้งพี่เขาและตัวเองก็ยังไม่ได้หายไปไหน แค่เลือกที่จะไม่เอามาถือไว้ให้หนัก แต่เลือกที่จะใช้เป็นบทเรียนในชีวิตก็เท่านั้น ถ้าร้องขอการอภัยจากผมตอนนี้ ผมยังไม่สามารถพูดได้จากใจ ว่าผมไม่โกรธเขา แต่ถามว่าผมมัวแต่คิดแค้นรึเปล่า ก็บอกเลยว่าไม่ ผมไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นแล้ว”


ผมยิ้มให้คนฉลาดตอบ ก่อนจะจุมพิตหน้าผากมนของคนที่ผมรัก เท่าที่ฟัง น้องก็ไม่ได้แยแสอะไรมันแล้ว แต่แค่ไม่อยากให้มันลืม ว่าตัวเองเคยทำเหี้ยไว้แค่ไหนสินะ


“แต่ตลกมากเลยนะพี่ภู วันนี้ที่พี่เขามีทุกอย่าง ความสามารถ ชื่อเสียง เงินทอง แต่กลับเหมือนไม่มีใครเลย ประกายตาร่าเริงก็หายไปแล้ว พี่เขาถึงกับถามผมว่าให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย จะยอมทิ้งพี่ภูมาหาเขาได้หรือเปล่า”


กึก


ไอ้เหี้ยพอร์ช


จากที่อยากทำตัวเป็นผู้ใหญ่ให้น้องพึ่งได้ ตอนนี้ผมชักคันตีนอยากตามไปกระทืบมันให้จมดินอีกแล้ว


“อย่าทำหน้าบึ้งขนาดนั้นสิครับ”


น้องชันตัวขึ้นมาจูบเบาๆที่ริมฝีปากผม ก่อนจะยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้


“ผมบอกพี่เขาไปแล้ว ว่าต่อให้พี่ภูไล่ ลินก็ไม่ไปไหนหรอก”


น้องหัวเราะร่วนกับหน้าบูดๆของผม ช่วยไม่ได้หรอก ก็ผมรักผมหวงของผมนี่นา


“แล้วก็บอกไปแล้วด้วยนะ ว่าต่อไปถ้าบังเอิญเจอกัน ไม่ต้องทักหรอก ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ให้เรียกชื่อเล่น ไม่ก็ชื่อจริงไปเลย เพราะชื่อ“ลิน”หน่ะ เก็บไว้ให้คนที่รักเรียกเท่านั้น”


ประโยคน่ารักของน้องทำให้ใจเหี่ยวๆของผมพองฟูจนแทบลอยได้ น้องใส่ใจผมเสมอ คนอื่นอาจจะคิดว่า เป็นผมที่เอาแต่วิ่งตามน้องอยู่ฝ่ายเดียว แต่สำหรับผม กลับรู้สึกว่าผมไม่ได้วิ่งอยู่ลำพัง แต่เป็นเราทั้งคู่ที่จูงมือกันก้าวผ่านแต่ละวันอย่างมีความหมาย ผมอาจจะแสดงออกมากมายในสายตาคนอื่น แต่เปล่าเลย ความใส่ใจของน้อง ก็แสดงออกมากมายในสายตาผมไม่ต่างกัน


จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ


ผมพรมจูบรัวๆไปทั่วผิวหน้าเนียนอย่างรักใคร่และมันเขี้ยวคนช่างพูด เรียกเสียงหัวเราะเพราะความจั๊กจี้จากคนใต้ร่าง จนบรรยากาศในห้องนอนของเราสดชื่นขึ้นเป็นกอง


“อื๊อออออ พี่ภู!”


อยากสดชื่นกว่านี้ เลยอุ้มคนน่ารักให้ขาเกี่ยวเอวผมไว้ ก่อนจะพาลุกขึ้นทั้งๆที่น้องยังประท้วงอยู่


“พี่ภู ลินเจ็บ”


เวรละไง เล่นไม่ดู เผลอทำเมียเจ็บ


“พี่ขอโทษครับ เจ็บมากมั้ย ลินเจ็บตรงไหน”


ผมรีบย่อตัวให้น้องนั่งลงกับเตียง ทั้งๆที่ขายังเกี่ยวเอวผมไว้


“ก็เจ็บตรงนั้นไงเล่า!”


ป้าบบบ


นั่นไง โดนคนขี้เขินทำร้ายร่างกายไปหนึ่งที โทษฐานอุ้มท่าที่ทำให้น้องเจ็บ โดนตีแต่มีความสุขแฮะ งานนี้ผมเลยหุบยิ้มไม่ได้ เรียกสายตาดุๆจากคนหน้าแดงที่มองคาดโทษมาทางนี้


“ครับผมๆ ไว้หายแล้วลองท่าเมื่อกี๊กันเนาะ”


ปึบบบ


แหะๆๆ คราวนี้เลยได้หมอนใบโต ฟาดเข้ามาจนเต็มหน้าเลยครับ


“ไม่คุยด้วยแล้ว!!”


งานนี้คนเขินจนงอนเลยเดินปึงปังด้วยความเก้ๆกังๆไปยังห้องน้ำ น่ารักเป็นบ้าเลยน้องครับ ใจพี่บางหมดแล้ว


“อาบด้วยกันนะจ๊ะเมียจ๋า”


ผมอาศัยความหน้ามึนรีบวิ่งตามและแทรกตัวเข้าไปก่อนที่น้องจะปิดประตู ถึงจะเข้าไปได้ แต่ก็โดนทั้งหยิกทั้งตีเลยคราวนี้ แหม ทีเมื่อคืนใครกันที่ไขกุญแจมายั่วเราให้ตบะแตกนะ ชิชะ สงสัยต้องทวนความจำซะแล้ว


“อื๊อออ พี่ภู แปรงฟันอยู่ อื๊ออ อ๊ะ ..อ.อ๊ะ”



..ปาลิน..


กว่าจะได้ทานข้าวเช้าก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง เป็นเพราะพี่ภูคนเดียวแท้ๆ แต่คนต้นเหตุกลับกำลังบ่นงึมงำไม่หยุด เรื่องที่ผมทานข้าวไม่ตรงเวลา ถึงแม้พี่เขาจะบ่นตัวเอง แต่ก็อดทำให้ผมอายไม่ได้นี่นา จะพูดซ้ำๆย้ำๆทำไม ว่าเอาเปรียบผมยังไงบ้าง


“หยุดบ่นเลยนะพี่ภู”


ทนความบ้าบอของพี่ภูไม่ได้ ก็เลยต้องห้ามเสียหน่อย คนหน้าไม่อาย บ้าบอที่สุด


“ครับผม แล้วลินเจ็บมากมั้ย”


พี่ภูหายงอนเรื่องชื่อผมแล้ว เลยยอมกลับมาเรียกผมว่าลินเหมือนเดิม


“เจ็บมากกกกกก ต่อไปห้ามพี่ภูทำอีกเลยนะ”


ผมเก๊กหน้าดุมองพี่ภู ซึ่งก็ทำให้คนที่รังแกผมอย่างเอาแต่ใจตลอดเช้านี้หน้าจ๋อยไปเลย สมน้ำหน้า มีอย่างที่ไหน พอรู้ว่าตื่นมาผมก็ยังแข็งแรงดี ไม่ได้เป็นอะไรมากมายแบบที่พี่ภูกลัว พี่แกก็จัดหนักจัดเต็ม แทบทำให้ผมลุกจากเตียงไม่ขึ้นเลยทีเดียว


“โถ่ ลินจ๋า คนดีของพี่ ให้พี่รักหนูนะ นะๆๆๆ”


บ้าบอใหญ่แล้วเดี๋ยวนี้ คำก็หนู สองคำก็เมียจ๋า


เปี๊ยะๆๆๆๆ


“โอ๊ยๆๆๆๆ เมียจ๋า ผัวเจ็บนะครับ”


นั่นไงหล่ะ พูดยังไม่ทันขาดคำ


ป้าบ!


“โอ๊ย ยอมแล้ว พี่แค่ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง”


คนโดนตียิ้มเผล่จนน่าโดนตีอีกรอบ


“ไปแต่งตัวเลย เดี๋ยวไปแคสงานสายนะ”


เดี๋ยวนี้พี่ภูขยันทำงานมาก มากจนบางทีผมก็อดห่วงไม่ได้ ไหนจะเรียน บริหารVela เล่นหุ้น และเดี๋ยวนี้ก็เริ่มรับงานถ่ายแบบถ่ายโฆษณาอีกด้วย ดีที่ตอนนี้มหาลัยอยู่ในช่วงปิดภาคเรียนที่หนึ่ง คนที่ไม่เคยได้พัก เลยมีเวลาหายใจหายคอได้บ้าง ส่วนผมที่พี่ภูมอบหมายหน้าที่ที่แสนสำคัญให้เพียงสองอย่าง ก็คือตั้งใจเรียนและมีความสุข เลยอดไม่ได้ที่จะช่วยเหลือพี่ภูบ้าง เช่น ตอนนี้พี่เขาก็ยอมให้ผมขับรถให้นั่งบ้างแล้ว หลังจากผมอ้อนให้พี่ภูสอนผมขับจนคล่องกว่าเดิม นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่จะทำให้พี่ภูมีความสุข นั่นก็คือการตามใจพี่ภูและอ้อนพี่เขาให้มากๆ





หลังจากไปส่งพี่ภูที่สตูดิโอสำหรับแคสติ้งงาน ผมก็มาทำภารกิจลับ ที่ผมแอบทำมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว


“น้องลิน”


“สวัสดีครับคนสวย”


เสียงทักทายของผม เรียกรอยยิ้มให้ประดับบนหน้าสวย ของคนที่กำลังเปิดประตูขึ้นมานั่งเคียงข้างกันกับผม


“ไปส่งพี่ภูเรียบร้อยแล้วหรอคะ”


“พี่ภูคือใครครับ ไม่เห็นรู้จักเลย ใจผมมีแต่คนสวยคนเดียวเลยนะ”


นาทีนี้ผมต้องแอบทิ้งพี่ภูไว้ก่อน เพราะอยากทำคะแนนกับคนที่ยิ้มทั้งปากทั้งตา ซึ่งกำลังหัวเราะถูกใจกับสิ่งที่ผมบอกเธอ


“ดีจังเลย วันนี้ได้ควงหนุ่มโสด ว่าแต่เราจะไปไหนกันดีคะ”


ตุ๊กตาหน้ารถของผมมีสีหน้าสดชื่น จนผมอดยิ้มตามไม่ได้


“ไปตลาดนัดสวนจตุจักรกันครับ”


ผมหัวเราะกับคนตาโตที่กำลังอ้าปากค้าง ก็แน่หล่ะ เห็นบ่นว่าอยากไปมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปสักที


“น้องลินน่ารักที่สุดเลย”


ฟอดดดด


ไม่ว่าอยู่กับใคร แก้มผมก็ต้องช้ำแน่ๆ ผมเลยได้แต่ยิ้มตอบคนที่ดีใจเหมือนเด็กๆ


ตลาดนัดสวนจตุจักรในเวลาเกือบบ่ายสอง คลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งไทยและต่างชาติ คนสวยของผมตื่นตาตื่นใจกับทุกอย่างเสียจนผมต้องจับมือเอาไว้ เพราะกลัวจะคลาดกัน


“ดูเครื่องแก้วนั่นสิคะน้องลิน สวยมากเลย”


“อุ๊ย โมบายแบบนั้นก็น่ารัก”


“ขนมอะไรคะนั่น น่าทานมากเลย”


“โหหห มีขายเพื่อนวู้ดดี้เต็มเลยค่ะ น่ารักจัง”


ผมที่มือหนึ่งถูกคนตื่นตาตื่นใจจับจูงไปจนทั่วตลาดนัด ส่วนอีกมือก็ถือของที่คนสวยเลือกสรรและจับจ่ายสินค้าจนแทบล้นอยู่นานสองนาน แต่กลับดูจะไม่รู้สึกเมื่อยเลยสักนิด


“ร้อนมั้ยครับ พักดื่มน้ำก่อนดีมั้ย”


เป็นผมที่ห่วงว่าร่างบอบบางของคนตรงหน้า จะทนความร้อนของแดดประเทศไทยไม่ได้เสียก่อน


“อุ๊ย ลืมไปเลย เราเดินกันมาจะสองชั่วโมงแล้วหรอคะเนี่ย น้องลินเหนื่อยมั้ยคะ ปะๆๆ พักกันค่ะ”


คนสวยยกนาฬิกาข้อมือเรือนหรูขึ้นมามองเวลา ก่อนจะทำหน้าไม่สบายใจหันมาทางผม


“ไม่เหนื่อยเลยครับ คนสวยนั่นแหละ เหนื่อยรึเปล่า”


“น้องลินนี่ปากหวานจนน้ำตาลสดแก้วนี้ต้องจืดไปแล้วแน่เลย”


คนยิ้มหวานที่พึ่งนึกได้ว่าเรายังไม่ได้ดื่มน้ำกันสักหยด หลังจากเดินเข้านอกออกในแต่ละซอยของตลาดนัดแห่งนี้เป็นเวลานาน จึงจัดการรีบซื้อน้ำตาลสดที่ตั้งแผงอยู่ไม่ห่างจากเราสองคนมากนัก ก่อนจะยื่นแก้วที่พึ่งรับมาจากคนขายยื่นมาตรงปากผม แล้วยังใจดีใช้มืออีกข้างจับหลอดให้ผมดื่มได้ถนัดๆอีก


“ขอบคุณครับ”


ฟอดดด


ผมยิ้มหวานและไม่ลืมจะหอมกลับคนใจดีอีกหนึ่งฟอด เรียกเสียงหัวเราะมีความสุขจากคนที่พึ่งเคยมาจตุจักรได้เป็นอย่างดี เห็นทีงานนี้ถ้าพี่ภูรู้ผมคงโดนงอนหนักแน่ๆ


พวกเราเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ จนตอนนี้ผมไม่สามารถจูงมือคนสวยได้แล้ว เพราะถุงมากมายถูกกำจนเต็มสองมือ


“ว้าย ของเต็มมือน้องลินเลย”


คนสวยที่หลังจากพักเหนื่อย ก็เดินต่อจนเกือบเย็น หันมาทำสีหน้าตกใจ หลังเห็นของในมือผม


เปล๊า ฉันไม่ได้รักเธอ

เปล๊า ฉันไม่ได้ชอบเธอ

รู้สึก นิดหน่อย แค่มีเธอเต็มหัวใจ

บอกว่าเปล๊า ฉันไม่ได้รักเธอ

เปล๊า ไม่ได้คิดอะไร ถ้ารู้สึกชัดไป

ก็ช่วยแกล้งทำเป็นเชื่อได้หรือเปล่า



เพราะถือของจนเต็มสองมือ เลยเป็นคนสวยที่ช่วยล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือของผม ที่กำลังแผดเสียงเพลงของคุณภูฟ้าเขาหล่ะ แน่นอนว่าพี่ภูเห็นผมตั้งเสียงรอสายเป็นออริจินอลเวอร์ชั่นเลยเกิดการยอมไม่ได้ เจ้าตัวเลยเอาไปอัดเป็นเสียงตัวเองแทนซะเลย บ้าบอ บอกแล้วว่าพี่ภูหน่ะบ้าบอที่สุด


“นี่หน้าไม่อายขนาดนี้เลยหรอคะเนี่ย”


คนสวยที่จำเสียงของเจ้าของเพลงรอสายได้ หัวเราะร่วนมองมาที่ผม


“รับเถอะครับ เดี๋ยวจะงอแงยิ่งกว่านี้”


ผมยิ้มขำคนที่กำลังอึ้งและขบขันกับความเป็นเอามากของพี่ภู


“สวัสดีค่ะ”


“ลิน? ไม่ทราบว่านั่นใคร? ผมขอสายเจ้าของโทรศัพท์หน่อยครับ”


เสียงที่ดังจากลำโพงที่คนสวยใจดีเปิดให้ผมได้ฟังด้วยกัน


“แหม คำก็ลิน สองคำก็ลิน แล้วยังจำเสียงกันไม่ได้อีก จะงอนแล้วนะคะเนี่ย”


ผมหัวเราะเมื่อเห็นว่าคนปลายสายนิ่งอึ้งไปแล้ว


“แม่? นั่นแม่หรอครับ? แม่ไปอยู่กับน้องได้ยังไงครับ”


พี่ภูดูจะตกใจเอามากๆกับภารกิจลับของผม


“ก็พี่ภูนั่นแหละ แอบเก็บน้องลินไว้คนเดียว เชอะ คุณแม่ก็เลยต้องมาขโมยสิคะ น่ารักขนาดนี้”


การสนทนาของเราเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ จนคนที่เดินไปเดินมาหันมามองกันใหญ่ แต่คุณแม่คุณลูกคู่นี้เขาเหมือนกันอย่างกับร่างโคลนนิ่ง แน่นอนว่านอกจากจะไม่อายแล้ว ยังมีความสุขกับภาษากายและการแสดงออกถึงความรักอันเปี่ยมล้นนี่ด้วย


หลังจากเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการเมื่อสองเดือนก่อน ผมก็พยายามเปิดใจกับหลายๆอย่างมากขึ้น โดยเฉพาะถ้าเรื่องนั้นมีพี่ภูเป็นตัวแปร ผมไม่สบายใจที่เป็นสาเหตุที่พี่ภูถูกไล่ออกจากบ้าน ถึงพี่ภูจะสบายใจที่จะเปิดเผยเรื่องระหว่างเราให้ทุกคนรับรู้ แต่สำหรับผู้ใหญ่ เรื่องของเราก็ยังยากที่จะยอมรับได้ ตัวผมโชคดีที่หลังจากโทรบอกที่บ้าน ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่ขอให้พาพี่ภูไปเยี่ยมพวกท่านที่เชียงใหม่บ้างก็เท่านั้น แต่เรื่องทางบ้านพี่ภูนี่สิที่ทำให้ผมหนักใจ


ผมปรึกษากับม่านแพงคิตตี้พี่จั๊ดและพี่ปาล์ม จนได้ข้อสรุปว่า ผมควรลองเข้าหาที่บ้านพี่ภูบ้าง เริ่มจากการไปสวัสดีและแนะนำตัวเองกับพี่พาฝัน พี่สาวของพี่ภู โชคดีที่ผมสามารถไปทำความคุ้นเคยและเข้าหาพี่ฝันได้บ่อย เพราะเธอมีร้านเสริมสวยและห้องเสื้อครบวงจรอยู่ที่ห้างไม่ไกลจากมหาลัย พี่ฝันเป็นคนสวย ใจดีและมีความคิดทันสมัย เธอไม่ได้ตกใจจนเกินไปกับเรื่องระหว่างผมและพี่ภู เธอบอกกับผมเพียงว่า


“ก็รักไปแล้วนี่เนอะ จะให้ทำยังไงได้หล่ะ จะเพศไหนถ้ารักก็คือรัก มีตั้งหลายคนที่แค่คิดจะรักยังไม่กล้าเลย พี่ภูมิใจในตัวภูนะ แล้วก็จะเป็นคนที่อยู่ข้างๆเราทั้งคู่เอง”


เพราะพี่ภูงานยุ่ง ผมเลยมีเวลามาขลุกอยู่กับพี่ฝันที่ร้านได้บ่อยๆ พี่ฝันกำลังท้อง ผมจึงอยากดูแลพี่เขาให้มากๆ เพราะสามีพี่ฝันต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำงานเป็นว่าเล่น พอเริ่มสนิทกัน พี่ฝันก็ชอบเล่าเรื่องต่างๆให้ผมฟัง สอนผมหลายอย่าง และสอนให้ผมอย่ากลัวที่จะรัก เพราะพี่ฝันเคยขี้ขลาด จึงไม่อยากให้ผมหรือพี่ภูเป็นแบบเธอ ผมไม่ได้ซักพี่ฝันมากนัก ถ้าพี่ฝันสบายใจที่จะเล่า วันหนึ่งพี่ฝันคงเล่าเรื่องที่ยังติดค้างอยู่ในใจของเธอเอง หรือไม่อย่างนั้น เธอคงเลือกที่จะฝังกลบมันเอาไว้ให้ลึกที่สุด เพื่อเลือกที่จะเดินไปข้างหน้าแทน


พี่ฝันช่วยผมหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่อยากจะเจอคุณพ่อคุณแม่ของเธอ แน่นอนว่าคุณพ่อที่เป็นคนไล่พี่ภูออกจากบ้าน ดูจะยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่ ผมจึงเริ่มจากการเข้าไปสวัสดีและแนะนำตัวกับคุณแม่พี่ภู ที่พี่ฝันนัดให้มาเจอกันที่ร้านของพี่ฝัน ตอนแรกก็กลัวมากว่าจะโดนต่อว่าไม่มากก็น้อย แต่ตรงกันข้าม เพราะคุณแม่ของพี่ภูท่านดีกับผมมาก คอยถามไถ่และชวนคุย ทำให้คนพูดน้อยอย่างผม ได้มีช่วงเวลาดีๆร่วมกับท่านเกือบจะทุกสัปดาห์


จากการเจอกันและทานอาหารที่ห้าง ตอนนี้ผมเลยอยากพาท่านมาเที่ยวในที่ที่ท่านไม่เคยมา อย่างตลาดนัดสวนจตุจักร ความจริงผมก็ยังไม่ค่อยโอเคกับสภาพตัวเองที่โดนพี่ภูเอาแต่ใจอยู่ไม่น้อย แต่นัดแล้วก็ไม่อยากให้ท่านรอเก้อ จึงทำตามแผนเดิมที่ตัวเองวางไว้ ถึงแม้จะต้องกัดฟันข่มความเจ็บบ้างก็ต้องทน พอนึกถึงตัวการแล้วก็อยากยื่นมือลอดสายโทรศัพท์ไปหยิกเสียจริงเชียว



“โถ่ แม่ครับ แม่กับน้องอยู่ไหนเนี่ย บอกผมมาเถอะ ผมร้อนใจจะแย่แล้ว เดี๋ยวผมไปหานะ”



เสียงร้อนรนของพี่ภูยิ่งทำให้คนสวยที่พิมพ์เดียวกันเป๊ะกับพี่ภูยิ้มถูกใจ



“พี่ภูจะต้องตกใจ ถ้าคุณแม่บอกว่าตอนนี้น้องลินพาคุณแม่มาเที่ยวที่ไหน”


คุณแม่ติดเรียกพี่ภูตามผมมาสักพักแล้ว จนผมต้องกลั้นขำ เมื่อได้ยินคนที่คงงงไม่น้อย ตอนถูกแม่ตัวเองเรียกแทนตัวต่างไปจากเดิม


“แม่ครับ อยู่ไหนครับ ขอผมคุยกับน้องได้มั้ย น้องไม่สบายอยู่นะแม่”



ฉ่าาาา



เสียงหน้าผมที่ร้อนแทบไหม้ คุณแม่พี่ภูมีสีหน้าตกใจ หันมามองหน้าผมทันที



“น้องลิน น้องลินไม่สบายทำไมไม่บอกแม่หล่ะลูก ปะๆๆ กลับกันนะคะ นี่แม่ก็มัวแต่เดินเพลินเลย”


คุณแม่หน้าเสียไปเลยเมื่อได้ยินพี่ภูพูดแบบนั้น จนผมอดคาดโทษตัวการที่เป็นต้นเหตุไม่ได้


“ผมสบายดีครับคุณแม่ ไม่ต้องไปฟังพี่ภูนะครับ”


ผมยิ้มส่งให้คุณแม่พี่ภูได้สบายใจ


“แม่ครับ ลินจ๋า อยู่ไหนกัน พี่อยากไปหา”


แต่ลูกชายของท่าน ดูจะไม่ยอมเลิกงอแงง่ายๆ


“พี่ภูไม่มีรถ รออยู่นั่นเลยครับ เดี๋ยวผมกับคุณแม่จะไปรับนะ”


ผมคุยนัดแนะกับพี่ภูอีกนิดหน่อยก่อนจะพาคุณแม่ไปรับพี่ภูที่สตูดิโอที่ผมไปส่งไว้เมื่อบ่าย ตอนแรกๆพี่เขาก็ชอบงอแงให้ผมไปอยู่ด้วยถ้าผมว่าง แต่พักหลังๆเริ่มจะไม่อยากให้ผมอยู่รอแล้ว เพราะชอบมีคนชวนผมให้แคสติ้งด้วย และบางคนก็เข้าหาเพราะเจตนาอื่น ซึ่งแน่นอนว่านั่นทำให้พี่ภูเลือกที่จะขับรถไปเอง หรือให้ผมไปรับไปส่งเพียงเท่านั้น




“ทำไมแม่ถึงอยู่กับน้องได้ครับเนี่ย”


พี่ภูถามทันทีที่ก้าวขึ้นรถ ดูท่าคนพึ่งเสร็จงานจะไม่ชินกับการต้องนั่งเบาะหลังของรถตัวเองสักเท่าไหร่ ตอนนี้ผมเลยได้เห็นหน้าตาน่าขำของพี่ภูที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก


“แม่ก็จะมาแย่งน้องลินจากพี่ภูไง”


“โถ่ แม่ครับ”


“ผมชวนคุณแม่ออกมาเที่ยวเองครับ โดยมีพี่ฝันเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ”


ผมหัวเราะขำคุณแม่คุณลูก ที่โยเยใส่กันตั้งแต่เห็นหน้า


ฟอดดดดด


ฟอดดดดด



คนหน้าไม่อายยื่นหน้ามาหอมแก้มแม่ตัวเองที่นั่งฝั่งซ้าย ก่อนจะหอมแก้มผมที่เป็นสารถีอยู่ฝั่งขวา


“พี่ภูครับ ทำอะไรเนี่ย”


ถึงจะรู้ว่าดุไปก็ไม่เป็นผล แต่ก็ต้องปรามกันบ้าง ยิ่งนับวันยิ่งหน้าไม่อายใหญ่แล้ว ระหว่างทางที่จะมารับพี่ภู ผมก็โดนคุณแม่พี่เขาซักถามอาการป่วย จนผมหน้าร้อนแล้วร้อนอีก กว่าจะบ่ายเบี่ยงที่จะลงรายละเอียดได้ก็แทบแย่ เพราะเข้าใจดีว่าคุณแม่ท่านเป็นห่วง แล้วดูลูกชายตัวการของคุณแม่สิ ยังมีหน้ามาหอมแก้มผมให้ต้องอายอีกแล้ว อันตรายต่อหัวใจจริงๆเลย ผู้ชายบ้าบออย่างพี่ภูเนี่ย แต่ถ้าจะให้ผมห้ามพี่ภูไม่ให้แสดงความรักต่อหน้าคนอื่นแบบจริงจัง ผมก็ไม่อยากทำ เพราะการได้เป็นคนรักและถูกรัก ทำให้ผมมีความสุขมาก  พี่ภูดูแล ให้เกียรติ และกล้าที่จะบอกใครต่อใครว่าผมคือคนรัก ไม่ต้องบอกก็รู้เลย ว่าตัวผมนั้นโชคดีมากแค่ไหน ที่ได้รักกับผู้ชายคนนี้ “ภูฟ้าของผม”


。☆✼★━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━★✼☆。

ขอโทษที่มาผิดเวลาค่ะ พยายามจะแต่งตอนนี้ให้จบ
แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สมบูรณ์อย่างที่ใจต้องการ
นับไปนับมาก็เกินหนึ่งพันคำแล้ว เลยขอเอาครึ่งแรกที่พอใจแล้วมาลงก่อน
ครึ่งหลังขอเกลาอีกนิด แต่งเพิ่มอีกหน่อย แล้วจะมาลงให้ได้อ่านภายในวันนี้นะคะ (❦ ᴗ ❦ ✿)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-09-2017 02:01:56 โดย Sugar_stack »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ krayfanxing

  • เออนั่นล่ะ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :hao5:สนุกมากค่ะ อ่านแล้วรู้สึกสบายใจยิ่มทั้งเรื่องเลย พอเห็นว่าเป็นตอนจบก็ใจหายนิดๆเราเพิ่งได้อ่านเมื่อสองวันก่อนเผลอแปบเดียวจบแล้ว เรื่องราวของภูฟ้าปาลินน่ารักมากเลยค่ะ มันสะท้อนให้เห็นถึงความรักที่เปลี่ยนให้ทั้งคนดีขึ้นมันอบอวลทั่วทั้งเรื่องเลยรักแบบนิยามไม่ได้แต่มีความสุขค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ภาษาอ่านง่ายเหมือนอ่านบันทึกจากความรู้สึกของคนสองคนที่รักกันมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
รักกันหวานชื่นจริง ๆ พี่ภูน้องลิน  :m1:
ชอบมากกับภารกิจลับของน้องลิน เอาชนะใจครอบครัวพี่ภู
ทั้งพี่ฝัน ทั้งคุณแม่ โดยเฉพาะคุณแม่เนี่ย ดูจะหลงลูกสะใภ้น่าดู น่ารักมาก
เหลือคุณพ่ออีกคน ถึงจะไม่ง่าย แต่มั่นใจ ว่าเมื่อพี่ภูพิสูจน์ตัวเองได้ขนาดนี้แล้ว
แถมยังมีกองหนุนอย่างคุณแม่และพี่ฝัน สุดท้ายความดีและจริงใจของน้องลิน
ยังไงก็ต้องทำให้คุณพ่อยอมรับได้แน่ ๆ เอาใจช่วยน้องลินกับพี่ภูจ้า
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
เขิน ดีจังเลยนะน้องง คุณแม่น่ารักมากเลย
ถ้าเป็นแบบตอนนี้ไปเรื่อยๆ
เราว่าเดี๋ยวคุณพ่อจะใจอ่อนเองล่ะค่ะ คิ
ชอบมากเลย คู่นี้หวานมากๆ
รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Sugar_stack

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • Page FB Sugar_stack
ใจดวงที่๑๘



ใจดวงสุดท้าย..(ครึ่งหลัง)



..ภูฟ้า..


ผมตกใจมากที่รู้ว่าน้องกับแม่และพี่สาวของผมสนิทสนมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่วงนี้ผมยุ่งกับการบริหารทั้งเงินและเวลา จนไม่ระแคะระคายเลยสักนิด ว่าคนน่ารักของผมได้ปฏิบัติภารกิจพิชิตใจคนที่บ้านผมอยู่ ผมอยากจะกอดและจูบจอมวางแผนที่ทำเพื่อผมขนาดนี้ให้หนำใจเลยเชียว ถ้าไม่ติดว่าแผนการวันนี้ที่คนน่ารักตั้งใจจะเฉลยมิชชั่นเกือบสองเดือนของตัวเองด้วยความภูมิใจกับผมนั้น มีไคลแมกซ์อยู่ที่การพาผมและแม่ไปทานข้าวที่บ้านสวนนนทบุรีของป้านาง


น้องอยากจะแนะนำท่านทั้งสองให้รู้จักกัน เพราะต่างฝ่ายต่างเคยได้ฟังน้องเล่าถึงกันและกันให้ฟังบ่อยๆ งานนี้เลยเป็นผมที่ยิ้มหน้าบานกับความแสนดีของน้อง ขนาดแม่ผมยังชมไม่ขาดปาก ว่าแม่โชคดีที่ได้น้องมาเป็นแฟนลูกชาย เพราะท่านจะได้หมดห่วงที่ผมลอยไปลอยมาเสียที


ผมรู้สึกแปลกใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ดีใจที่แม่รับได้ ผมเชื่อว่าเรื่องทุกอย่างต้องอาศัยเวลา และนึกขอบคุณที่น้องเป็นคนช่วยร่นระยะเวลานั้นจนแม่ผมเปิดใจ พอมาคิดๆดูแล้ว ก็หายแปลกใจ ที่น้องดูจะเดาใจว่าผมชอบหรือไม่ชอบอะไรได้เสียทุกอย่าง ทั้งเสื้อผ้า อาหารการกิน หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมที่ผมชอบทำเวลาอยู่ที่บ้าน เห็นทีงานนี้แม่สามีกับลูกชายคนใหม่ของเขา จะร่วมมือกันทำเสน่ห์ใส่ผมจนไปไหนไม่รอดแน่ๆ


ทันทีที่พวกเรามาถึงบ้านป้านางในเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม ป้านางก็ทำให้พวกผมประหลาดใจด้วยแขกของป้า


“พ่อ! แม่!”


คนตัวขาวที่พอเดินเข้าไปในบ้านป้านางได้ ก็รีบวิ่งปรู๊ดไปกอดพ่อแม่ตัวเองทันที ผมมั่นใจว่าถึงได้เจอกันข้างนอก ผมก็ยังสามารถบอกได้ว่าใครคือแม่ของเด็กจืด ผู้หญิงยิ้มใจดีที่ประพิมพ์ประพายคล้ายกันกับน้องราวกับพิมพ์เดียวกันนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นผู้ให้กำเนิดของคนรักผมแน่นอน ผมยกมือไหว้แม่น้องก่อนจะหันไปไหว้พ่อที่ยืนยีหัวเด็กขี้อ้อนอยู่ข้างๆกัน ท่านเป็นผู้ชายมาดสุขุม แววตามุ่งมั่นและผิวคร้ามแดด บอกได้เป็นอย่างดี ว่าเจ้าของฟาร์มกล้วยไม้ชื่อดังของประเทศ ทำงานหนักแค่ไหนในการก่อร่างสร้างตัว


“ไหว้พระเถอะจ้ะลูก”


แม่น้องยิ้มใจดีส่งมาให้กับผม


“ฮ่าๆๆ ตัวจริงลูกเขยเราหล่อกว่าในโทรศัพท์อีกนะแม่นะ”


ผมและน้องมีโอกาสวีดีโอคอลคุยกันกับพ่อและแม่น้องบ่อยๆ ส่วนมากพวกท่านก็มักเป็นฝ่ายถามไถ่ความเป็นอยู่และสุขภาพของผมกับน้อง ท่านสอนข้อคิดให้เรามากมาย โดยเฉพาะเรื่องการเอาใจเขามาใส่ใจเราและการถ้อยทีถ้อยอาศัย ผมมีความสุขที่พวกท่านรับเรื่องของเราได้ รู้สึกขอบคุณพวกท่านมากเหลือเกินที่เปิดใจให้กับผมมากมายขนาดนี้


หลังจากแนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการ แม่ผม แม่น้องและป้านาง ก็ดูจะคุยถูกคอกันไม่น้อย จนตอนนี้ถึงขั้นพากันไปคุยต่อในห้องนั่งเล่นด้านใน ส่วนเด็กน่ารักของผมที่บ่นงุ้งงิ้งเรื่องที่พ่อแม่ตัวเองมาโดยไม่บอกจนพอใจแล้ว ก็อาสาไปช่วยป้าแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารมื้อเย็น ในขณะที่ผมกับพ่อน้องจิบเบียร์กันอยู่ที่ห้องรับแขกด้านนอก


“กิจการเป็นยังไงบ้างหล่ะเรา”


เป็นพ่อน้องที่ถามขึ้นก่อน


“ยุ่งหน่อยครับพ่อ ตอนนี้ผมกำลังจะเปิดร้านอาหาร ก็เลยอยู่ในช่วงหาทำเลและติดต่อเรื่องจิปาถะ แล้วก็มีผับที่หุ้นกับรุ่นพี่ที่ต้องคอยไปดู”


อีกหนึ่งเรื่องที่พ่อแม่น้อง มักจะคอยถามไถ่ผมด้วยความเป็นห่วง ก็คือเรื่องเรียนและการทำธุรกิจ ท่านอยากให้ผมบริหารเวลาให้เป็น และไม่อยากให้วู่วามในการลงทุนจนเกินไปนัก


“การมีกิจการตั้งแต่อายุยังน้อยมันก็ดี แต่อย่าหักโหมจนเกินไปนะเรา สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญนะรู้มั้ย”


แน่นอนว่าเรื่องสุขภาพ คือเรื่องที่ท่านมักจะเป็นห่วงและถามถึงในทุกครั้งที่ได้คุยกันเสมอ


“ทราบครับพ่อ น้องก็ช่วยดูแลผมดีมากๆเลยครับ”


ผมยิ้มให้กับพ่อตา ที่เผื่อแผ่ความรักและเมตตาให้กับผมไม่ต่างจากลูกแท้ๆ


“สำหรับพ่อหน่ะนะ ลูกคือของขวัญ ให้เขาได้แค่ชีวิต ส่วนเรื่องอื่นก็ให้เขาได้เลือกเอง พ่อก็ทำได้แค่คอยเฝ้ามองและระวังไม่ให้เขาเดินในทางที่ไม่ปลอดภัย ไม่เคยคิดฝันว่า“ของขวัญที่มีชีวิต”นี้ จะต้องตอบแทนหรือให้อะไรกับพ่อหรอก แค่เขาเกิดมาเป็นลูกพ่อ พ่อก็ดีใจมากแล้ว ทุกวันนี้ก็แค่หวังให้ปริญมีสุขภาพแข็งแรง กินอิ่มนอนหลับ พ่อไม่ขออะไรมากไปกว่านี้ ดังนั้นตอนนี้ภูมาเป็นลูกพ่ออีกคน พ่อก็อยากเห็นภูมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขนะภูนะ”


ผมตื้นตันกับทัศนคติและความเป็นห่วงของพ่อน้อง อดปลื้มใจแทนเด็กดีของผมไม่ได้ พึ่งเจอตัวจริงและพูดคุยกันไม่กี่ประโยค ผมก็ทราบได้ทันที ว่าน้องมีพื้นฐานจิตใจดีมาจากใคร ถ้าไม่ใช่พ่อและแม่


ผมไม่ได้อิจฉาที่น้องมีพ่อแม่ที่เข้าใจ ในขณะที่พ่อผมไม่เข้าใจ และแม่ก็พึ่งจะเปิดใจรับได้ไม่นาน ความตื้นตันที่เกิดขึ้น มาจากการที่ผมสัมผัสได้ว่า ในเส้นทางอันยาวไกลต่อจากนี้ อย่างน้อยก็จะมีสายตาแห่งความห่วงใยและหวังดี คอยเฝ้ามองพวกเราอยู่เสมอ


“แล้วพ่อไม่คิดหรอครับ ว่าอยู่กับผม ผมอาจจะพาน้องไปในทางที่ผิด”


ผมสงสัยว่าอะไร ที่ทำให้ท่านยอมให้ลูกชายคนเดียวมีคนรักเป็นผู้ชายโดยไม่คัดค้าน


“พาน้องไปก็คือไปด้วยกันใช่มั้ยหล่ะ ขอแค่ภูไม่ปล่อยมือปริญ ต่อให้ทางที่เดินมันไกลหรือผิดทาง พอรู้ตัวว่ามันผิด ก็พากันหาทางเดินใหม่ก็พอ”


รอยยิ้มที่คล้ายกับของคนในหัวใจผมถูกส่งมาให้ แววตาอารีย์และคำพูดให้ข้อคิด ทำให้ผมพนมสองมือขึ้นเพื่อกราบท่านแนบตัก ผมรักและเคารพผู้ชายคนนี้จากใจ ไม่ใช่แค่ท่านเป็นผู้ให้กำเนิดคนที่ผมรัก แต่ท่านคือบุคคลต้นแบบที่ผมอยากดำเนินรอยตาม


“ขอบคุณมากนะครับพ่อ ผมจะจับมือน้องเดินด้วยความระมัดระวัง จะไม่ใช้อารมณ์และจะรับฟังน้องให้มาก จะเติมเต็มทุกวันและเวลาของเราด้วยรอยยิ้มและความสุขครับ”


ผมยิ้มตอบคนที่ยังลูบหัวผมอยู่ ไออุ่นจากอุ้งมือใหญ่ ทำให้หัวใจของผมอบอุ่น บทสนทนาบนโซฟาของเราดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง


“พ่อ!”


เป็นพ่อผมที่เดินเข้ามาในบ้านป้านาง


“อ้าว ไอ้รงค์”


ผมหันไปมองพ่อน้อง ที่เรียกชื่อพ่อผมด้วยความสนิทสนม ตอนนี้ผมมึนงงไปหมด อาจจะตั้งแต่ที่รู้ว่าน้องสนิทกับแม่ผมเลยนั่นแหละ แล้วพอมาเจอเรื่องที่ทำให้แปลกใจอีกรอบ ผมก็เลยไม่รู้ ว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไงก่อนดี


“ไอ้นันท์!!”


ยังไม่ทันที่สมองของผมจะได้ประมวลผม ก็มีเรื่องให้งงกว่าเดิม ที่อยู่ดีๆ ก็มาได้ยินพ่อตัวเอง เรียกคนอื่นว่า“ไอ้”


“มาแล้วหรอคะคุณรงค์”


สมองผมเลิกประมวลผลไปแล้ว เมื่อป้านางเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นด้านใน แล้วยังทำท่าว่าจะเป็นคนนัดพ่อผมมาด้วย


“คุณคะ​​!!”


ดีนะที่อย่างน้อย แม่ผมก็กำลังงงหนักไม่ต่างกันกับผม ทันทีที่เดินตามป้านางออกมาแล้วเห็นสามีตัวเอง






อาหารมื้อนี้รวบรวมคนที่มีความรู้สึกต่างกันแบบสุดขั้วเอาไว้ เด็กน้อยของผมประหม่าจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น จนผมต้องแอบบีบมือน้องใต้โต๊ะเพื่อให้กำลังใจ โต๊ะอาหารทรงกลม ทำให้เห็นสีหน้ากันและกันได้อย่างชัดเจน ฝั่งซ้ายของน้องคือแม่และพ่อของตัวเอง ถัดไปก็เป็นพ่อผม ตามด้วยแม่ผม และป้านางที่นั่งอยู่ระหว่างผมกับแม่


“วันนี้มีแต่เรื่องให้ผมแปลกใจไม่หยุดเลยนะครับ”


ผมหายใจเข้าลึกๆแล้วพยายามทำให้บรรยากาศบนโต๊ะไม่กระอักกระอ่วนมากไปกว่านี้ พ่อผมแทบจะไม่ชายตามองผมกับน้องสักนิด น้องเลยหน้าเศร้าลงอย่างสังเกตได้เลยทีเดียว


“ป้าเป็นคนชวนพ่อเรามาทานข้าวกับป้าเองลูก ตอนแรกก็ว่านามสกุลคุ้นๆ จนได้คุยกับคุณณรงค์ถึงได้รู้ว่ามีลูกชายลูกสาวชื่อ ภูฟ้ากับพาฝัน แต่เรื่องที่คุณณรงค์กับตานันท์เป็นเพื่อนเรียนอังกฤษกัน อันนี้ป้าก็พึ่งรู้ ดีเลยที่วันนี้ได้เจอกันพร้อมหน้า เพื่อนเก่าเพื่อนแก่นี่เนอะ คงได้คุยกันสนุกเลย”


ป้านางหัวเราะอย่างอารมณ์ดีกับเรื่องที่ตัวเองเล่า ตอนนี้ผมเลยเข้าใจแล้ว ว่าการเรียกที่สนิทสนมขนาดนี้ของพ่อผมกับพ่อน้องมาจากไหน


“ในที่สุดก็ได้รู้ ว่าเอ็งนี่เองไอ้รงค์ ที่เป็นพ่อไดโนเสาร์เต่าล้านปี แหมะ ถ้ารู้แต่แรกจะด่าเช้าแช่งเย็นเลยหว่ะ”


คราวนี้เป็นพ่อน้องที่หัวเราะขึ้นบ้าง ตลอดเวลาที่ผมคบกับน้อง ทั้งพ่อและแม่น้องไม่ได้ซักถามว่าผมเป็นลูกเต้าเหล่าใคร อาจจะเป็นเพราะผมสารภาพกับพวกท่านตั้งแต่แรกว่าที่บ้านผมยังรับเรื่องของเราไม่ได้ พวกท่านจึงเพียงรับฟังและไม่ได้วิจารณ์อะไรกับเรื่องนี้ เพียงแค่แนะนำให้คนเป็นลูกอย่างผมต้องคอยเข้าหาและพิสูจน์ให้พวกท่านได้เห็น แล้วสักวันพ่อแม่ผมคงเข้าใจ


“พูดมากเหมือนเดิมนะเอ็ง”


พ่อผมไม่ได้ตอบอะไรมากไปกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้โวยวายที่ป้านางใช้ประโยชน์จากตำแหน่งราชการที่พ่อผมเกรงใจ เชิญท่านมาทานข้าวกับพวกเราโดยไม่ทราบล่วงหน้า ดูท่าปาลินจะถอดแบบป้านางในเรื่องความเจ้าแผนการนี่แหละ น้องเซอร์ไพรส์ผมเรื่องแม่ผม ส่วนป้านางเซอร์ไพรส์พวกเราทุกคนเรื่องพ่อแม่น้องและพ่อของผม


บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อป้านางชวนพ่อผมคุยเรื่องธุรกิจใหม่ที่พ่อผมกำลังสนใจ พ่อน้องก็ต่อกันติดกับพ่อผมแทบจะในทันที ถึงแม้จะไม่ได้ติดต่อกันเป็นสิบๆปีแล้ว ส่วนแม่ผมกับแม่น้องก็คลายสีหน้ากังวลลงได้มาก เหลือก็แต่คนข้างตัวนี่แหละ ที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่


“อ้าว พี่ภู เล่าเรื่องธุรกิจเราบ้างสิลูก ปล่อยให้คนแก่พูดกัน คงจะกร่อยหมดแล้ว”


ป้านางเปิดทางให้ผมเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาขึ้นบ้าง หลังจากที่ผู้ใหญ่ผูกขาดบทสนทนาอยู่นานแล้ว ผมหันไปยิ้มให้ป้า แต่อีกมือก็ใช้บีบขาน้องเบาๆเพื่อให้กำลังใจ


“ผมหุ้นกับรุ่นพี่อีกสามคนเปิดผับครับ เปิดมาได้สามปีแล้ว ชื่อVela กิจการก็ไปได้ดี ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนนี้ผมอยากจะเริ่มธุรกิจของตัวเอง เลยคิดไว้หลายอย่าง ก็กะว่าจะเริ่มจากการเปิดร้านอาหารไทย แนวฟิวชั่นฟู้ด น่าจะเข้าที่เข้าทางเร็วๆนี้ครับ”


ผมยิ้มหลังจากจบการอัพเดตสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ ให้ผู้ใหญ่บนโต๊ะรวมไปถึงคนตัวขาวข้างๆฟัง ตอนแรกกะจะเอาไว้เซอร์ไพรส์เด็กจืด แต่เพราะความอยากอวดพ่อตา ผมที่โม้ไว้เรียบร้อยแล้ว จึงต้องหยิบยกแผนการในอนาคตของเรา ขึ้นมาพูดอีกครั้ง เรียกตาโตๆของน้องให้จ้องมาที่ผมอย่างคาดโทษทีเดียว


“น่าสนใจดีนะลูกนะ เนี่ยป้าว่า ไหนๆคุณณรงค์ก็กำลังสนใจธุรกิจผักออแกนิค พี่ภูก็ควรใช้ข้าวและผักของที่บ้านนะ แล้วตั้งชื่อร้านตามด้วยคำว่า by ข้าวธนานนท์ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะลูก ทั้งได้โปรโมทวัตถุดิบดีๆจากบ้านตัวเอง แล้วยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตัวร้านได้ด้วย”


จบวันนี้ผมคงต้องขอยกนิ้วให้ป้านางเลยครับ ทั้งเรื่องที่เชิญพ่อผมมา แล้วไหนจะวิธีการเจรจาของป้าอีก งานนี้เรียกได้ว่า ทั้งแนบเนียนและแยบยล ตอนนี้ถึงคุณณรงค์จะอยากปฏิเสธคำแนะนำ ก็คงจะทำได้ยาก เพราะไอเดียของป้านางนั้น มีแต่ข้อดีอย่างที่ท่านว่าจริงๆ


“ไอเดียคุณป้าดีมากเลยครับ แต่ผมคงต้องถามพ่อก่อน ว่าท่านจะยอมมั้ย”


ผมเลยได้แต่ยิ้มหน้าบาน ตอบรับคำแนะนำของป้าอยู่ตอนนี้


“เออ เอาแบบนี้สิไอ้รงค์ ที่พี่นางแนะนำเนี่ย เข้าท่าเลยนะเว้ย”


เป็นพ่อตาผมที่ช่วยกันเสริมทัพ


“แล้วผมจะลองคิดดูนะครับคุณวรางคณา”


แค่ได้ยินว่าพ่อผมแบ่งรับแบ่งสู้ และไม่ขัดคำแนะนำของป้านาง ใจผมก็ชื้นขึ้นเป็นกอง พ่อผมเป็นคนตรงไปตรงมา ถ้าท่านไม่เห็นว่าคำแนะนำนั้นมีประโยชน์ ป่านนี้ก็คงจะปฏิเสธตรงๆไปแล้ว ถึงแม้อาจจะทำให้ป้านางไม่พอใจก็ตาม


“เอาหล่ะๆ ยังไม่ได้แนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการเลย งั้นเริ่มจากฝั่งข้าก่อน นี่แม่เจ้าปริญ และนี่เจ้าปริญลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของข้า เอ็งจำได้มั้ยวะ”


ผมกับน้องหันไปจ้องพ่อตัวเองเป็นตาเดียว ถึงพวกท่านจะเป็นเพื่อนเก่ากัน แต่ผมก็ไม่นึกว่าพ่อผมจะเคยเจอน้องด้วย


“อื้ม จำได้”


หื้มมม


“พ่อเคยเจอน้องแล้วหรอครับ”


เป็นผมเองที่โพล่งถามออกไป โดยไม่ทันยั้งปาก


“ก็เจ้าลูกคนนี้หล่ะนะ กว่าจะได้มาก็ยากแสนยาก ทั้งบนบานศาลกล่าว ทั้งพึ่งหมอและวิทยาศาสตร์ พ่อเองกับแม่เจ้าปริญ นี่ทั้งเสียใจและเสียน้ำตาไปหลายปี๊บเลยหล่ะ ลงมาทำกิ๊ฟท์ที่กรุงเทพแต่ละที ก็ได้พ่อตาภูนี่แหละที่คอยมาเยี่ยม”


ความรู้ใหม่ที่พ่อน้องเป็นคนไขความกระจ่างแทนพ่อผมที่ยังเงียบ ทำให้ผมหันไปยิ้มให้น้องที่หันมองผมอยู่ก่อนแล้ว


“นี่ก็ผ่านมาเกือบยี่สิบปีแล้วสินะ ตอนนั้นขอบคุณมากๆนะคะคุณรงค์”


แม่น้องที่ผมพึ่งรู้ว่าเคยเจอพ่อของผม เป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง


“งั้นเพื่อนคุณรงค์ที่เคยเล่าก็คือคุณจันทร์กับคุณนันท์สินะคะ โถ น้องลินของแม่ บุญของหนูที่ได้มาอยู่กับคุณทั้งสองนะคะ”


แม่ผมออกตัวแรงต่อหน้าพ่อผม ด้วยการเรียกแทนตัวน้องว่าลูกเรียบร้อยแล้ว ดีมากครับแม่ พวกเราจะต้องช่วยกันก่อกบฏ ผมยิ้มกว้างกว่าเดิม ทับทิมกรอบที่ถูกวางลงตรงหน้า ดูจะน่าสนใจน้อยกว่าบทสนทนาของผู้ใหญ่ ที่ผมตั้งใจฟังอยู่ตอนนี้


“บุญของพวกเรามากกว่านะคะ ไม่รู้ว่าตาหนูเป็นลูกเทวดาที่ไหนมาเกิดรึเปล่า มาเกิดยากเกิดเย็น ขอพรแล้วขออีก บนก็แล้ว แท้งก็หลายรอบ จนสุดท้ายได้แกมาสมใจ ต้องเดินสายแก้บนอยู่เป็นปีๆ”


แม่น้องหัวเราะทันทีที่พูดจบ จนผมยังต้องแอบขำลูกเทพที่โดนแม่ตัวเองแซว น้องอายแต่ทำอะไรไม่ได้ เลยเผลอพองแก้มอย่างน่ารักน่ามันเขี้ยวอยู่ข้างๆผม จนเป็นผมเองที่ต้องยั้งตัวไว้ไม่ให้คว้าน้องมาฟัดแรงๆซักที


“เฮ้อ เอ็งก็เห็นเองกับตานะไอ้รงค์ อย่างชีวิตข้า กว่าจะได้เจ้าปริญมา เมียข้าก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด แท้งแล้วแท้งอีก ท้อก็ท้อ ลำบากลำบนยอมทนทุกอย่าง เงินก็เสียไปไม่น้อยกว่าจะได้เห็นหน้าลูก ตอนนั้นข้ากับเมียก็ถามกันอยู่ทุกวัน ว่าจะเลิกล้มความตั้งใจที่จะมีลูกได้หรือยัง จะดันทุรังกันไปถึงไหน แล้วถ้าได้แกมาแล้ว เราต้องการอะไรจากลูกกันแน่”


พอเล่าถึงตรงนี้ พ่อเด็กที่ต้องอาศัยทั้งแรงกายแรงใจและแรงเงินกว่าจะได้ลูกชายคนเดียวมาเชยชม ก็หันไปสบตากับพ่อผมตรงๆ


ผมพึ่งรู้ว่าเรื่องขำขันเมื่อสักครู่ แท้จริงแล้วแลกมาด้วยหยาดน้ำตาและความอดทนอดกลั้น น้องเกิดมาจากความรักความทุ่มเท เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่แสนมีค่าของครอบครัว


ผมหันไปมองเด็กที่กว่าจะมาเกิดบนโลกนี้ ก็ทำให้พ่อแม่ใจหายใจคว่ำอยู่หลายรอบ ด้วยความรู้สึกขอบคุณพ่อกับแม่น้องมากมายเหลือเกิน ที่ในวันนั้นท่านทั้งสอง ไม่ล้มเลิกความตั้งใจและให้กำเนิดเด็กชาย ผู้เป็นดั่ง“ของขวัญที่มีชีวิต” ให้กับครอบครัวน้องเองและให้กับชีวิตของผมด้วย


“แต่วินาทีที่เห็นหน้าเจ้าปริญ ข้ากับเมียก็ตอบตัวเองได้ทันที ว่าไม่เลยหว่ะ เราสองคนไม่ได้ต้องการอะไรจากลูกเลย ไม่มีเรื่องคาดหวังว่าลูกจะต้องเป็น หรือประสบความสำเร็จในด้านไหน แค่ลูกเกิดมา ก็เป็นเหมือนของขวัญล้ำค่า ขอแค่เขามีความสุขและแข็งแรง ก็ไม่ขออะไรอีกแล้ว”


น้องที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองล้ำค่าเพียงใด กำลังกอดแขนแล้วซบไปที่ไหล่ของแม่ตัวเองอย่างน่าเอ็นดู จนพ่อและแม่น้องยังอดที่จะเอามือมาลูบหัวเด็กน้อยของครอบครัวไม่ได้ ผมยิ้มให้กับภาพที่เห็น แล้วบังเอิญที่สบตากับพ่อตัวเอง ที่กำลังจ้องภาพนั้นอยู่เช่นกัน


“สุขภาพที่แข็งแรงเรายังสร้างให้ลูกได้นะเว้ยไอ้รงค์ แต่ความสุขหล่ะ ถึงเอ็งจะมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน แต่เอ็งก็ซื้อความสุขให้ลูกไม่ได้หรอก ถ้าเขาเจอความสุขของเขาแล้ว เราคนเป็นพ่อเป็นแม่ ยังจะต้องการอะไรอีกวะ”


ผมสะอึกกับคำพูดแบบเพื่อนถึงเพื่อนของพ่อน้อง ความเด็ดเดี่ยวและความคิดแบบนี้นี่เอง ที่ทำให้ผมได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ในการเข้ามาเป็นลูกชายอีกคนของครอบครัว แววตาวูบไหวของพ่อผม ทำให้ผมยังแทบกลั้นหายใจ ผมรู้ว่าสำหรับพ่อเรื่องนี้ยังต้องใช้เวลา แต่อย่างน้อยการที่พ่อยอมนั่งทานข้าวพร้อมหน้ากันแบบนี้ และยอมรับฟังการถ่ายทอดเรื่องในวันวานจากเพื่อนเก่า ก็ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับผมกับน้องแล้ว


พ่อของผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่เป็นแม่ผม ที่เลือกที่จะเปิดบทสนทนาขึ้นแทน


“ขอบคุณคุณนันท์และคุณจันทรามากนะคะ ที่มอบลูกชายที่แสนมีค่าอย่างน้องปริญ ที่ดิฉันติดเรียก“น้องลิน”ตามตาภูไปแล้ว ให้ตาภูได้รักและดูแล ตาภูนี่ก็ลูกหลงค่ะ เป็นลูกชายที่ห่างจากพี่สาวเขาตั้งหกปี เลยติดจะเอาแต่ใจตัวเองและดื้อรั้นไม่น้อย”


แม่ผมที่ทั้งพูดประโยคซึ้งๆและทั้งเผาลูกชายตัวเองจนเกรียม หันไปทางพ่อแม่น้องด้วยรอยยิ้มระบายเต็มหน้า ก่อนจะพูดต่อ


“ลูกชายดิฉันก็เคยเป็นเด็กเกเรไม่น้อย แต่ตั้งแต่เจอน้อง ตาภูก็ตั้งใจที่จะเป็นคนรักที่ดี จนคนเป็นแม่เองยังอดภูมิใจไม่ได้ และก็ขอบคุณที่คุณทั้งสอง รวมถึงพี่นางด้วยนะคะ ที่เอ็นดูตาภู ตัวดิฉันเองก็เอ็นดูและหลงรักน้องลินไม่ต่างจากตาภูเลยค่ะ ยิ่งรู้จักน้องลิน ดิฉันก็ยิ่งเข้าใจ ว่าทำไมตาภูถึงยืนยันว่าต้องเป็นคนนี้”


ประโยคขอบคุณครอบครัวน้องจากใจ ถูกเอ่ยออกมาจากปากผู้หญิงที่ผมรักที่สุด หัวใจผมบีบรัดและหดเกร็ง เมื่อสัมผัสได้ถึงความรัก ที่แม่มีให้กับเราสองคนอย่างมากมายเหลือเกิน ผมคว้ามือน้องมากุมไว้ที่หน้าขาตัวเอง ก่อนจะบีบกระชับถ่ายทอดความอบอุ่นจากใจผมไปยังเจ้าของมือขาว ที่บีบมือผมตอบกลับมาราวกับจะรับรู้ได้


ท้ายประโยคแม่ไม่ได้มองมาที่ผม แต่หันไปมองคนที่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาเกือบสามสิบปี ถึงจะไม่ได้เริ่มจากความรัก แต่ผู้ชายคนนี้ก็ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเคียงข้างกันมากับแม่ ผมไม่เคยถามว่าแม่รักพ่อมั้ย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจ คือความผูกพันที่พันธนาการท่านทั้งสองไว้อย่างแน่นหนา


ถ้าลูกคือโซ่ทองคล้องใจ ผมกับพี่ฝันก็คงเป็นโซ่สองเส้นที่รัดพันแขนขาพ่อแม่จนไม่อาจแยกจากกันได้ แต่สำหรับผมกับน้อง ถึงเราจะไม่มีโซ่เส้นที่ว่า แต่ใจผมที่อยู่กับน้องและใจน้องที่อยู่กับผม ก็ลงสลักเข้าล็อคกันอย่างแน่นหนาเรียบร้อยแล้ว


แม่ยกมือขึ้นไปวางทาบหลังมือคู่ชีวิตของท่าน ก่อนจะยิ้มอย่างเข้าอกเข้าใจส่งให้กับผู้ชายที่เต็มไปด้วยแววตาของคนที่ยังคิดไม่ตก


“ผมขอบคุณมากนะครับ สำหรับความรักที่ทุกคนมอบให้ผมและน้อง ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่ใช่ลูกที่ดีนัก แต่ผมสัญญาว่าผมจะพยายามเป็นลูกที่ดีขึ้น จะตั้งใจทำงาน มีความรับผิดชอบ ขยันอดทน และพิสูจน์ให้ได้เห็น ว่าผมสามารถดูแลทุกคนที่ผมรักได้เป็นอย่างดี ซึ่งทุกคนที่ผมรัก ก็หมายรวมถึงครอบครัวผม ครอบครัวน้อง และปาลินคนรักของผม”


เมื่อเห็นว่าบรรยากาศกำลังจะเงียบลงอีกครั้ง ผมจึงพนมมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทุกท่าน ผมเชื่อว่านี่คือโอกาสอันดีที่ผมจะได้พูดในสิ่งที่ผมต้องการ โดยเฉพาะข้อความที่ไม่ต่างจากคำสัญญาเหล่านั้น ผมอยากให้ทุกคนในที่นี้ได้มั่นใจ ว่าต่อให้อะไรจะเกิดขึ้น ผมก็จะพยายามเพื่อทุกคนที่ผมรัก ทั้งพ่อแม่ผม ป้านาง พ่อแม่น้อง และเด็กตัวขาวคนข้างๆ ที่กำลังยกมือขึ้นมาไหว้ผู้ใหญ่ไม่ต่างจากที่ผมทำก่อนหน้านี้


“ผมขอใช้โอกาสนี้ ขอบคุณพ่อกับแม่และป้านาง และขอโทษคุณพ่อคุณแม่พี่ภูนะครับ ถึงแม้ว่าผมจะยังเป็นคนที่บกพร่อง แต่ผมก็ยังอยากขอโอกาสที่จะได้อยู่เคียงข้างพี่ภู คนที่คอยเติมเต็มผมให้สมบูรณ์ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ คุณพ่อคุณแม่ยังไม่ต้องเปิดใจรับผมตอนนี้ก็ได้ครับ แค่ขออนุญาตรับฝากหัวใจดวงนี้ให้ผมได้ดูแล”


น้องมองมาที่ผมเพื่อสื่อความหมาย ของคำว่า“หัวใจดวงนี้” จนผมอดยิ้มให้กับความรักและความกล้าหาญของน้อง ที่มีให้ผมไม่ได้ เรียกริ้วแดงให้ปรากฏบนแก้มขาวอย่างน่าเอ็นดู


ประโยคหล่อๆที่น้องแย่งผมพูดไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ใจผมอุ่นซ่านขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ประโยคขอรับฝากหัวใจ ที่ครั้งนึงผมเคยใช้ขอโอกาสกับน้อง ตอนนี้กลับถูกน้องใช้เพื่อขอโอกาสจากพ่อแม่ผมบ้าง


“ได้สิจ๊ะลูก ฝากหัวใจแม่ด้วยนะจ๊ะน้องลิน”


เป็นแม่ผมที่น้ำตารื้นจากคำขอซื่อๆของเด็กซื่อๆ อารมณ์อ่อนไหวของแม่ผม คงยากจะเก็บซ่อนไว้ในเวลาแบบนี้


“ครับคุณแม่”


น้องยิ้มและตอบรับแม่ผมด้วยความมั่นใจเต็มล้น จนผมอดที่จะยิ้มตามไม่ได้


“ก็ล็อคไว้ให้ดีแล้วกัน เพราะโอกาสมีแค่ครั้งเดียว”


เป็นพ่อผมที่อยู่ดีๆก็พูดประโยคเท่ๆออกมา ด้วยสีหน้านิ่งๆ เรียกสีหน้าประหลาดใจจากทุกคนบนโต๊ะอาหาร ไม่เว้นแม้แต่ผมที่สมองเหมือนได้รับความกระทบกระเทือนไปชั่วขณะ นึกดีใจที่ตัวเองไม่เผลอทำช้อนหลุดมือ จนทำลายบรรยากาศอุ่นๆที่ถูกจุดขึ้นจากคนที่ยอมทิ้งมาดมาพูดอะไรแบบนี้


ผมหันไปยิ้มให้น้อง อยากให้น้องรู้สึกได้ถึงความสุขที่ล้นปรี่อยู่กลางใจผม เจ้าของมืออุ่นที่ผมกุมไว้หันมามองสบตากันด้วยความรู้สึกมากมายที่สะท้อนกลับมา หยาดน้ำใสแวววาวสะท้อนอยู่ในตาคู่สวย จนผมอดที่จะบีบมือนุ่มให้แน่นขึ้น ก่อนจะพยักหน้าให้คนที่พึ่งได้โอกาสจากพ่อผม ให้ตอบรับความเมตตานั้น


“ขอบคุณมากครับ”


ผมและน้องพนมมือไหว้ขอบคุณพ่อของผมที่ให้โอกาสเราทั้งคู่ ท่านเพียงพยักหน้ารับ แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้ผมกับน้องยิ้มได้แล้ว ป้านางและพ่อแม่ของน้องยิ้มให้กำลังใจส่งมาทางเรา ไม่ต่างจากแม่ของผม ที่ยิ้มไปก็เช็ดน้ำตาแห่งความดีใจไปด้วย ส่วนคนตัวขาวข้างๆ ก็บีบมือผมแน่นราวกับจะสื่อสารถึงความเต็มตื้นที่เอ่อล้นใจ ผมบีบมือตอบและไม่ลืมที่จะส่งความรู้สึกทั้งหมดของผมผ่านทางสายตาไปให้คนในหัวใจ


ตอนนี้คำว่าความสุขคงจะยังน้อยไปกับสิ่งที่ผมกำลังรู้สึก ถึงแม้จะไม่ใช่การยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเราอย่างเป็นทางการ แต่การยินยอมให้โอกาสตามที่น้องร้องขอ ก็บอกได้เป็นอย่างดี ว่าพ่อยอมเปิดใจในเรื่องที่ผมกับน้องคบกันแล้ว และผมเชื่อว่า จากนี้คงเป็นหน้าที่ที่เราสองคนต้องพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น ว่าต่อให้วันข้างหน้าจะมีอุปสรรคมากมายเพียงไหน คนที่เราเลือกจะ“รับฝากใจ”ก็ยังมีเพียงกันและกัน


。☆✼★━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━★✼☆。

มีแถมอีกนิดนึงนะคะ  (ꈍᴗꈍ)ε`*)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2018 11:12:32 โดย Sugar_stack »

ออฟไลน์ Sugar_stack

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-2
    • Page FB Sugar_stack
♡━━━━ ใจส่งท้าย ━━━━♡


"โห ไม่ค่อยจะเว่อร์เลยอะพี่ภู"

สาวสวยหุ่นดีเดินเข้ามาทักชายหนุ่มที่มีแต่รอยยิ้มประดับอยู่บนหน้า ถึงแม้ดูจะเหนื่อยกับการต้อนรับแขกและคนที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดีตลอดทั้งเช้า แต่เจ้าของดวงตาทรงเสน่ห์ ก็ยังไม่มีสีหน้าอิดโรยให้เห็น

"ฮ่าๆๆ ไม่เว่อร์ก็ไม่ใช่พี่หน่ะสิ นี่ยังคิดเลยว่าควรทำคัทเอาท์แล้วเอารูปขึ้นโชว์ด้วยดีรึเปล่า"

ป้าบบบบ

ฝ่ามือขาวของเจ้าของดวงตากลมใส ฟาดเข้าไม่แรงนักที่ต้นแขนชายคนรัก

"พี่ภูหยุดบ้าบอได้แล้ว"

คนสูงน้อยกว่าเอ่ยปราม ด้วยน้ำเสียงติดขุ่น

"อู่ยยย ลินจ๋า แหะๆๆ พี่ล้อเล่นจ้า"

คนโดนฟาด หางลู่หูตกไม่ต่างจากโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่ที่โดนเจ้าของเอ็ด เลยรีบหันไปทำตาปริบๆพะเน้าพะนอเอาใจคนรัก ก่อนจะเอื้อมมือไปรับกระเช้าดอกไม้จากสาวสวย ที่มองมาด้วยสายตาเอือมๆ

"เกลียดอะพี่ภู เห็นพี่แล้วหมั่นไส้จริงๆนะ ไม่รู้ลินโดนคุณไสยรึเปล่า ถึงยอมคบกับพี่"

หญิงสาวเบะปากใส่คนอายุมากกว่า แล้วไม่วายทำหน้าเอือมๆส่งให้อีกรอบ

"นั่นปากหรอครับน้องมาร ไปโน่นเลยไป พี่จัดโต๊ะVIPไว้ให้แล้ว"

ต่อกรยังไงก็มักจะแพ้ เพราะแม่สาวคนสวยมีแบ็คอัพดีอย่างคนตัวขาวที่เป็นเจ้าของงานอีกคน ดังนั้นชายหนุ่มจึงหวังสงบศึกโดยการขับไล่

"พี่ภู ลิน ยินดีด้วยนะ ขอให้มีแต่ความสุข เฮงๆรวยๆนะจ๊ะ"

สาวน่ารักตัวเล็กที่เอาแต่ยิ้มขำกับการลับฝีปากเมื่อครู่ เขย่งตัวขึ้นจุ๊บแก้มขาวของเพื่อนรัก ก่อนจะยิ้มหวานแล้วจูงมือแฟนสาวที่ตั้งท่าจะตีกับเจ้าของงานอีกคน ให้เดินไปยังโต๊ะที่เตรียมไว้

"พี่ปาล์ม พี่หวาย พี่จั๊ด พี่เท็น สวัสดีครับ"

คนมีลิปสติกสีชมพูติดแก้ม ที่กำลังถูกชายคนรักหน้างอใช้ผ้าเช็ดหน้าบรรจงเช็ดออกให้ พนมมือไหว้ชายหญิงที่เดินเข้ามาใหม่ด้วยประกายตาสดใส

"ยินดีด้วยนะน้องปริญ ต่อไปก็เก็บเงินทุกบาทเลยนะ เอาให้ไอ้ภูใช้แค่วันละร้อยพอ"

คนผิวแทนที่เดินเคียงข้างมากับชายหนุ่มหน้าตาน่ารัก พูดด้วยน้ำเสียงติดตลก

"เยอะไปไอ้จั๊ด ยี่สิบก็เหลือๆ ฮ่าๆๆ"

ผู้มาใหม่อีกคน ยังไม่วายหยอกเย้าเจ้าของงาน

"เงียบไปเลยไอ้ปาล์มไอ้จั๊ด ไปนั่งกับสองลิงที่โต๊ะVIPนู่นไป"

แต่ดูเหมือนเจ้าของงานขี้คร้านจะเล่นด้วย

"มันเป็นอะไรอะน้องลิน วันดีๆมัวหน้าบูดอยู่ได้"

คนหน้าตี๋ที่ควงมากับแฟนสาวเอ่ยทักคนที่พึ่งถูกเช็คความเรียบร้อยจากคนหน้าบูดจนเป็นที่พอใจแล้ว

"อ๋อ คิตตี้จูบแก้มผมหน่ะครับ พี่ภูเลยงอแง"

คนถูกงอแงใส่ เลยต้องเฉลยสาเหตุ พร้อมกับรับทั้งซองและกล่องของขวัญที่ถูกส่งมาจากคนน่ารักที่ใส่เหล็กดัดฟันกับสาวหน้าคมที่ไม่ค่อยได้เห็นหน้าบ่อยนัก

"ถุ้ยยย กูก็นึกว่าอะไร ถ้าน้องคิตตี้จูบแก้มไอ้ดื้อ กูนี่จะเอาปากตัวเองทาบไปตามรอยเลย บอกเลยว่าฟิน"

คนผิวแทนไม่วายเล่นมุกที่ทำให้ตัวเองเจ็บตัว

"โอ๊ยยยย ดื้อ! เจ็บนะเนี่ย หยิกมาได้"

ถึงจะประท้วง แต่ปากยังยิ้มให้กับคนใส่เหล็กดัดฟันที่กำลังพองแก้มงอน

"สมน้ำหน้ามึง กระทืบไอ้จั๊ดมันเลยครับน้องเท็น ไอ้คนไม่รักครอบครัว ไม่เหมือนพี่ สี่ห้องหัวใจมีแต่ปาลินคนเดียว"

คนหน้าบูดที่อารมณ์ดี จากมุกตลกเจ็บตัวของเพื่อน ได้ทีจึงรีบโฆษณาสรรพคุณตัวเอง

"หู้ยยยย เกลียดมึงหว่ะไอ้ภู ไปๆที่รักจ๋า ไอ้จั๊ดน้องเท็นไปเถอะหว่ะ อยู่ใกล้ไอ้ภูแล้วกูกลัวตีนกระตุก"

กลุ่มคนที่สร้างความครึกครื้นไม่น้อยได้เดินจากไป ไม่นานนักชายหนุ่มตัวสูงสวมแว่นสายตา ก็เดินมาคู่กันกับสาวน่ารักร่างอวบ

"พี่ภู ปริญ สวัสดีค่ะ"

"สวัสดีครับพี่ภู หวัดดีปริญ"

สองคนที่มาใหม่ เอ่ยคำทักทายและไม่ลืมจะยื่นกระเช้าดอกไม้แทนความยินดีส่งให้

"สวัสดีจ้าน้องแก้วตา ดีหว่ะ ไอ้ดิว"

เจ้าของงานที่อายุมากกว่าเอ่ยต้อนรับแขก

"ขอบคุณทั้งสองคนเลยนะ ดอกไม้สวยมากเลย"

คนตัวขาวที่ทำหน้าที่ต้อนรับแขกได้ดีกว่าอีกคน ยิ้มสดใสส่งให้เพื่อน ก่อนจะรับกระเช้าดอกไม้ในมือมาส่งให้ชายคนรักเอาไปเก็บ

"ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามานะคะ รักกันยืนยาว ร่ำรวยๆ"

"ฮ่าๆๆ พูดได้ดี ขอบคุณครับน้องแก้วตา"

เมื่อพออกพอใจกับคำอวยพร คนอายุมากที่สุดจึงยิ้มร่า

"มีโอกาสก็มองคนในงานแล้วนอกใจเลยนะปริญ"

ดูท่าคนขึ้นง่าย จะถูกกวนตลอดวัน

"อ้าวไอ้ดิว เดี๊ยะๆ น้องแก้วอย่ายอมเป็นแฟนมันง่ายๆนะ พี่ไม่ชอบขี้หน้ามัน"

พอเจอกวนมา อารมณ์เจ้าของงานเลยชักจะขุ่นอีกแล้ว

"พี่ภูก็ไปฟังดิวเนาะ แก้วตาพาดิวไปนั่งโต๊ะVIPทางนั้นได้เลยนะ ม่านกับคิตตี้อยู่นั่นแล้ว"

คนห้ามทัพส่งยิ้มและผายมือให้เพื่อนตัวเองเข้าไปด้านในงาน

“ยินดีด้วยเว่ยน้องเขยกับปริญคนหล่อของพี่”

คราวนี้เป็นตาผู้ชายสองคนและผู้หญิงอีกสองคนเดินเข้ามาแสดงความยินดีกับเจ้าของงาน

“ของกูมั้ยเอส ลินของกู”

ความหึงของเจ้าของงานดูจะอันตรายไม่น้อย

“เออๆ ถุ้ย น้องรหัสกูมั้ยเล่า”

คนที่เป็นน้องรหัสยกมือไหว้พี่รหัสตัวเองและพี่ปีสองสายคนโตกว่าด้วยหน้าแดงๆ

“สวัสดีครับพี่เอส พี่เป๋า พี่ผึ้ง และดาว ขอบคุณที่มากันนะครับ”

คนที่ยังเขินรับซองและกล่องของขวัญที่พี่รหัสมอบให้

“เออๆ ขอบคุณเว่ยที่มา ขอบคุณน้องๆทุกคนมากเลยนะ พี่เตรียมโต๊ะสายเรากับ287ไว้แล้ว ไปนั่งได้เลย”

เจ้าภาพเริ่มเป็นการเป็นงาน เมื่อหันไปคุยกับน้องรหัสตัวเอง และไม่ลืมที่จะหันมาส่งยิ้มให้คนรัก เมื่อเห็นว่าแขกเริ่มมากันครบแล้ว

"วรั้ยยยยย ซัมมีทั้งสองของมินนี่"

สาวไม่แท้คนสวย วิ่งมายังเจ้าภาพทั้งสองด้วยจริตนางงาม เธอจับมือถือแขนเจ้าภาพทั้งสองคนแล้วพยายามจะหอมแก้มทั้งคู่

"หยุดเลยมินนี่ เดี๊ยะๆ กล้าหอมลินของเราหรอ"

"พี่ภูของผม ผมก็หวงครับ"

เมื่อโดนพร้อมใจกันเบรค คนสวยที่แกล้งทำท่าแง่งอนก็ยื่นส่งผ้ากันเปื้อนคู่รักที่จัดอยู่ในตะกร้าส่งให้คนทั้งคู่

"ลำไยค่ะ แหม จะสามคนผัวเมียหน่อยก็ไม่ได้ ชิ"

สาวสวยสะบัดหน้าพรืดแล้วหันไปเกาะแขนสต๊าฟหล่อล่ำ ที่เข้ามาช่วยเชิญแขกไปนั่งในงาน เรียกเสียงหัวเราะจากเจ้าภาพได้เป็นอย่างดี

"พี่ภู น้องลิน จะได้ฤกษ์แล้วลูก มาเตรียมตัวเร็ว"

ผู้มีศักดิ์เป็นป้า เดินมาตามหลานทั้งสองให้ไปเตรียมตัวประกอบพิธีสงฆ์เพื่อความเป็นศิริมงคล



ตอนนี้แขกผู้มีเกียรติและนักข่าว ต่างก็รอเก็บภาพแห่งความประทับใจของพิธีเปิดร้านอาหารแนวฟิวชั่นฟู๊ด "ภูฟ้าปาลิน  by ข้าวธนานนท์"

ภายในงานถูกตกแต่งด้วยความเรียบหรู ดอกกล้วยไม้สีขาวถูกจัดเป็นซุ้มทิ้งตัวลงคล้ายหยาดฝนจนทั่วเพดาน กลิ่นหอมอบอวลของทั้งกล้วยไม้งามและอาหารที่ทยอยเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ส่งกลิ่นยั่วน้ำลายและสายตา จนแขกที่มาต่างดื่มด่ำกับทั้งบรรยากาศ อาหารตาและอาหารจานหลัก ที่อร่อยจนใครต่อใครพากันชมไม่ขาดปาก งานนี้เจ้าภาพที่มีสายสิญจน์พันจนรอบข้อมือคล้ายคนแต่งงานใหม่มากกว่าที่จะเป็นเจ้าของร้านจึงอดภูมิใจไม่ได้

คำชมของบรรดาเพื่อนฝูงและแขกเหรื่อ เทียบไม่ได้เลยกับคำชมจากบุพการี โดยเฉพาะกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทค้าส่งข้าวและผักออแกนิคชื่อดัง ที่อุตส่าห์ให้ยืมชื่อมาต่อท้ายชื่อร้าน โดยแลกกับการที่คนพี่ ต้องเข้าไปทำงานที่บริษัทของท่านในวันเสาร์อาทิตย์ ส่วนเจ้าของฟาร์มกล้วยไม้ก็ได้แต่ยิ้มหน้าบาน รับออเดอร์และคำชมถึงคุณภาพและความงามของดอกกล้วยไม้เสียจนหุบยิ้มไม่ได้  ด้านทางสามสาววัยกลางคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดพิธีสงฆ์ไม่ต่างจากการบายศรีสู่ขวัญบ่าวสาว ก็ยิ้มหน้าบานเมื่อมองภาพที่คนพี่กำลังเช็ดเหงื่อให้คนน้อง และคนน้องก็กำลังทำไม่ต่างกัน

การเปิดร้านอาหารที่มีชื่อไม่ต่างจากเจ้าของร้าน ไม่ใช่เพียงการเริ่มต้นธุรกิจ หากแต่เป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ของเจ้าของร้านอย่างเป็นทางการอีกด้วย แม้จะไม่ได้ป่าวประกาศ แต่แขกที่มาก็ย่อมสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอความรักที่ลอยกรุ่นอยู่ในอากาศ

"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับพี่ภู ขอบคุณที่ทำให้ผมมีความสุขและกลายเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก ลินรักพี่นะ"

เจ้าของร้านที่อายุน้อยกว่าเขย่งจูบที่ริมฝีปากของคนที่กอดประคองเอวตัวเองไว้ด้วยความรักล้นใจ

"พี่ก็ขอบคุณลินที่เกิดมาให้พี่ได้รัก ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่และทำให้พี่ได้มีโอกาสเป็นผู้ชายที่ดี ภูฟ้ารักปาลินนะครับ"

เจ้าของร้านอีกคนพูดบอกความรู้สึกในใจ ก่อนจะจูบตอบคนตัวขาว แต่คราวนี้กลับไม่ใช่สัมผัสเพียงแผ่วเบาอย่างในคราแรก

ความหวานล้ำซ่านสาดทั่วโพรงปากนุ่ม ลิ้นร้อนหยอกเย้าและทักทายลิ้นนุ่มด้วยความรักและโหยหา คนอายุน้อยกว่าตอบสนองการถูกชักจูงด้วยเสียงครางแหบปร่า ดวงตาปรือปรอยและแก้มแดง ต่างทำหน้าที่ยั่วเย้าใครอีกคนให้ไม่สามารถประคองสติไว้ได้อีกต่อไปแล้ว

มือใหญ่ลากเลื้อยไปตามผิวเนียนภายใต้เสื้อเชิ้ตพอดีตัว สะกิดหยอกเย้าตุ่มไตสีชมพูจนคนถูกกระตุ้นบิดเร่า

"พ.พี่ภู ม..ไม่ได้นะ ทุกคนรออยู่"

คนถูกหลอกให้ขึ้นมาหยิบของบนห้องนอนที่คนเจ้าเล่ห์ตั้งใจสร้างเป็นเรือนหอ เอ่ยประท้วงแผ่วเบา

"แป๊บเดียวนะคนดี นะครับนะ พี่อยากรักลินจะแย่อยู่แล้ว"

ไม่พูดเปล่า ฝ่ามืออุ่นยังปลดซิปกางเกงคนตัวขาวด้วยความเอาแต่ใจ เผยให้เห็นกายขาวนวลเนียนล้อแสงไฟ จนคนมองต้องลอบกลืนน้ำลาย

"พี่ภู อ๊ะ อื๊อออ ยังส่งแขกกลับไม่หมดเลย"

เจ้าของร้านตัวขาว ยังห่วงภารกิจการเปิดกิจการที่ยังไม่ลุล่วงดี ที่ชั้นหนึ่งและสองของตึกขนาดสามชั้นแห่งนี้

"รอไม่ไหวแล้วครับเมีย"

คนเจ้าเล่ห์อาศัยจุดอ่อนที่ใบหูสวยของคนรัก กระซิบเสียงพร่า คำเรียกสนิทสนมบอกถึงความสัมพันธ์ที่มักใช้พูดกันแค่สองคน บอกได้เป็นอย่างดีว่าไฟรักกำลังจะเผาไหม้ลามเลียสองร่างที่กำลังเคลิ้มกับรสสัมผัสได้มากแค่ไหน

"เบาๆนะพี่ภู มีAfter partyอีกนะ"

คนน้องที่ถูกคนพี่ล่อลวงกลางกายจนตกหลุมพราง เอ่ยบอกเสียงพร่า

"ครับผม พี่จะรักหนูเบาๆนะ"

หมาป่าเจ้าเล่ห์จ้องมองเหยื่อด้วยแววตาแสนรัก ก่อนจะเริ่มละเลียดชิมความหวานของลูกแกะตัวขาวอย่างย่ามใจ รอยยิ้มร้ายถูกจุดขึ้นเมื่อลูกแกะบิดเร่าด้วยไฟปรารถนา ดูท่าว่าลูกแกะผู้โชคร้ายจะยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง และไม่รู้ตัวเลยว่า เสียงครางเครือจากปากนุ่ม ยิ่งช่วยพัดโหมความคิดด้านมืดของเจ้าหมาป่าให้ยากที่จะระงับ แน่นอนว่าคืนนั้นเจ้าลูกแกะจึงถูกหมาป่าเจ้าเล่ห์จับกินอย่างเอาแต่ใจ ครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดทั้งคืน

。☆✼★━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━★✼☆。


THE END
ในที่สุด #ภูฟ้าปาลิน ก็ดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย ขอบคุณคนอ่านทุกคน ทุกคอมเมนท์ และทุกทวิตติดแท็ก
ที่ช่วยเป็นแรงใจและทำให้เราทำสิ่งที่ตั้งใจไว้สำเร็จ (^з^)-☆Chu!!
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันอย่างยาวนานกว่ายี่สิบวันนะคะ เพราะความเกเรของคนเขียน เลยทำให้สิบแปดตอน
แต่ใช้เวลายี่สิบวัน >< ไม่มีอะไรจะแก้ตัว นอกจากรักนะจุ๊บๆ
ขอบคุณที่ทำให้พี่ภูน้องลิน มีชีวิตในโลกจินตนาการของทุกคน
หวังว่าจะได้พบกันเร็วๆนี้ในตอนพิเศษ (*^3^)/~♡
แต่ขอลั้นลาปลดระวางความเครียดที่สะสมมาเกือบเดือนนี้ก่อนนะคะ แล้วจะพาพี่ภูน้องลินกลับมาให้หายคิดถึงกัน

ปล เรามีความง่อยในเรื่องพล็อตมากค่ะ อาศัยพลิ้วไหวไปตามแป้นพิมพ์ คิดสดก็พูด ฮ่าๆๆๆ
ดังนั้นใครอยากเห็นพี่ภูน้องลิน ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ลองรีเควสกันเข้ามานะคะ
ถ้าไม่เกินความสามารถ จะmade to orderของเมนท์ที่น่าสนใจเลยค่ะ
 


แฟนเพจ เพื่อติดตามเรื่องนี้ ตอนพิเศษ และนิยายในอนาคต
https://www.facebook.com/Sugarstackstory/

คอมเมนท์หรือพูดคุยในทวิตเตอร์
Twitter @Sugar_stack

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2018 22:08:59 โดย Sugar_stack »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
จบอย่างแฮปปี้ มีความสุขทุกคน ดีใจด้วยพี่ภูน้องลิน   :m1:
เพราะรักแท้ของทั้งคู่ ทำให้ในที่สุดก็สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนยอมรับได้แล้ว
เรื่องนี้ ที่ประทับใจที่สุด คือความรักที่พี่ภูมีต่อน้องลิน รักครั้งแรกที่ยอมเดิมพันกับทุกอย่าง
เพื่อให้ได้ใจน้อง แล้วในที่สุด ก็ได้รับความรักมากมายจากน้องลินคนดี
ความรักของพี่ภู คือสิ่งดี ๆ ที่เข้ามาในชีวิตของน้องลินจริง ๆ ไม่อย่างนั้น
น้องก็คงยังจมอยู่กับอดีตที่ขมขื่น และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ไม่เต็มที่
เราชอบทั้งคู่ ที่เมื่อรู้ตัวว่ารักอีกฝ่ายแล้ว ก็มั่นคงไม่มีหวั่นไหว
ทั้งพี่ภูที่เคยเจ้าชู้มาก่อน ทั้งน้องลิน ที่ไม่สนใจใด ๆ เมื่อเจอคนรักเก่าที่ทำให้เสียใจ
ชอบเพื่อน ๆ ของทั้งคู่มาก ๆ ที่คอยช่วยเหลือสนับสนุนเพื่อนในทางที่ดีเสมอ
ที่สำคัญ ประทับใจความขยันในการลงเรื่องของคนเขียนมากค่ะ สม่ำเสมอดีมาก
ไม่ทิ้งช่วงให้คนอ่านรอนาน ภาษาที่ใช้ก็ดี อ่านแล้วลื่นไหลไม่มีสะดุด คำผิดไม่มีเลย ชื่นชมจริง ๆ ค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารัก ๆ เรื่องนี้ พอจบแล้วก็ใจหายแปลก ๆ นะ 555
ถึงจะแค่ไม่กี่วัน แต่รู้สึกว่า เปิดเข้าเล้ามา ต้องมีเรื่องนี้มาอัพตอนใหม่ให้อ่านในทุกวัน
พอหายไปต้องคิดถึงพี่ภูน้องลินแน่เลย  ยังไงก็รอตอนพิเศษนะคะ อย่าลืมพาคู่รักมาให้หายคิดถึงน้า
ขอบคุณมาก ๆ อีกครั้งค่า  :กอด1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ตอนจบซึ้งมาก
ชอบตรงน้องลินลูกเทพนี่แหละ อิอิ

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 o13 โอ๊ยยยยยจบแล้ว...ไม่อยากให้จบเลยค่ะ...  :mew1: คิดถึง  :mew1: ขอบคุณมากนะค่ะ...ชอบมาก...ถ้าถามว่าอนพิเศษชอบแบบไหน..จะว่าอะไรไหมค่ะ...ถ้าขอแบบบ หวานนนนน จนเลือดทะลักล้นภูเลยค่ะ  :jul1:

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mint_852

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 733
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
สนุกมากเลยค่ะ
ชอบความบ้าบอของพี่ภู
โดยเฉพาะ "ดมครีม" 55555
ฮามากตอนที่ต้องพี้ครีม
มีความคลั่งสูงมาก
ลุคแบดๆ หายไปไหนหมด
มีตอนพิเศษอีกไหมคะ
อยากอ่านตอนพิเศษอ่ะ
จะมีมาให้อ่านไหมคะ

ออฟไลน์ ming88

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ทำไมเราเพิ่งเจอออออออออกรี๊ดดดดดดดดมันดีมากค่ะคุณโดยเฉพาะฉากสวนดอกไม้ ฮือออออพี่ภูคนหื่นกับหนูลินดาวยั่วเราเขินนนนนนนขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่ขีดเขียนมาให้อ่านกันนะคะ รอตอนพิเศษนะคะแอบอยากอ่านเรื่องพี่พอร์ชอยากจับนางเป็นผู้โดนกระทำมีซัมมีบ้างโผล่มานิดเดียวแต่ตราตึงคนนี้

ออฟไลน์ ShadeoftheMoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สนุกมาก ตอนแรกนึกว่าจะเหมือนเรื่องอื่นๆ ที่ดราม่าหนักๆ แต่อ่านๆ ไปฟิลกู๊ด ชอบตรงนี้แหล่ะเบาๆ มีดราม่าเล็ก อ่านแล้วฟินยิ้มๆ

ออฟไลน์ MissMay

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ให้ติดตาม
รอตอนพิเศษพี่ภู น้องลินนะคะ
และจะติดตามเรื่องต่อๆ ไปค่ะ

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สนุกมากกกกกก o13
เขียนดีค่ะ อ่านเพลินเลย :hao7:
รอตอนพิเศษนะคะ เอายาวๆๆๆๆ 5555 :laugh:
รอเรื่องใหม่ด้วย สู้ๆ :กอด1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น่ารักมากเลยยยย

ออฟไลน์ plearnly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากค่ะอ่านรวดเดียวจบเลย.

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
อ่านยาวรวดเดียวจบเลย
ฮาพี่ภูคนมุ้งมิ้ง

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด