ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-  (อ่าน 67811 ครั้ง)

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ   ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ 
 
 1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่ 
 
 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
 หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
 หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
 และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
 ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
 
 เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ 
 3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ 
 4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ 
 5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว 
 6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 
 7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
       7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
       7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
       7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
             - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ 
 8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง). 
 9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ 
 10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวปhttp://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป 
 11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
 
 บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
 นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป 
 12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด 
 13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ 
 14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 
 15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
 (1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
 (2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง ....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
 - ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
   (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
 - ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
 - ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
 - ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
 - ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail   
 16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข  17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
  เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ admin thaiboyslove.com.......................................                                                             
 วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7 วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย 
 
 
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2018 22:44:39 โดย GukakST »

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
❤️บทนำ❤️

“ไอ้ความรัก…มึงหายไปไหนเนี่ย โอ้ย วุ่นวายไม่พอใช่ไหม ไอ้ความรัก…ไอ้ความรักมึงโพล่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ”

หยุดความคิดที่ว่าผมบ้าเดี๋ยวนี้ ผมไม่ได้บ้ามานั่งตะโกนหาความรักในห้องรกๆ ของตัวเองหรอกผมสาบานได้ เพราะถ้าผมบ้า คงไม่มีใครปล่อยผมเอาไว้คนเดียวอย่างนี้แน่ แล้วที่ตะโกนถามหาความรัก ก็เพราะมันหายไป...อ่อ ผมลืมบอก ความรักของผมเป็นหมูครับ...

ผมเพิ่งย้ายมาที่คอนโดวันนี้เอง สดๆ ร้อนๆ ห้องรกๆ เหมือนรังหนูไม่ใช่รังหมู แต่ต้องเข้าใจนะว่าผมยังจัดของไม่เสร็จเลย แล้วแทนที่จะได้จัดของเข้าที่อย่างสบายอกสบายใจ ความรักของผมก็หนีหายไปเสียอย่างนั้น โฮ...ซื้อมาแพง

ผมนี่ล้มลงไปกอดแข้งกอดขาคุณพ่อผู้ประเสริฐเลยนะครับ ในการเอาเจ้าหมูสายพันธุ์พ๊อตเบลลี่เวียตนามมาเลี้ยง ตอนแรกจะเอาหมูอีกสายพันธุ์มา แต่แม่งหลักแสน โฮ้ก ไม่เลี้ยงก็ได้ แล้วถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นหมู...ผมเบื่อหมา ที่บ้านทำฟาร์มทำสุนัข เห็นหมามาตั้งแต่ลืมตาดูโลก โอ้โห....ดูจนเบื่อเลยครับผม ก็เลยอยากได้อะไรแปลกๆ มาเลี้ยง สิ่งนั้นได้แก่หมูแคระนั้นเอง

“ไอ้หมูไม่รักดี เลี้ยงดีๆ ไม่เชื่องใช่ไหม อย่าให้เจอนะมึง...จับทำหมูหันแดกซะเลยไอ้นี่” พยายามมองหาตามซอกตามหลืบ ไม่เห็นแม้เงา ไม่มีแม้เสียหายใจ มันไปไหนวะ...ผมเอามานะเว้ย กอดมันมาเลยนา

เอ๊ะ...ประตูแง้ม?

ตายแล้วมึง ไอ้ความรักกูหนีโดดตึกตายไปแล้วมั้งเนี่ย ผมชอบบอกกับมันว่าผมจะเอามันมาทำเป็นหมูหัน ผมชอบกินหมูไง...โดนเฉพาะสเต๊กพ๊อกชอป นึกแล้วก็หิว นี่ไม่ใช่ไอ้ความรักน้อยใจที่ผมจะกินมันจนดราม่าจะหนีจากผมไปจริงๆ หรอกใช่ไหมนะ เฮ้ย...จะทำตัวเป็นเด็กใจแตกแบบนี้ไม่ได้นะความรัก มึงอายุยังน้อย ออกไปโดนหมาตัวผู้สอยตตูดท้องกลับมากูจะสมน้ำหน้าให้ แง่ม...เพ้อเจ้อไปอีกอะชีวิต

ผมออกเดินตามหาเจ้าหมูน้อยหน้าดำหลังดำ อันเป็นเอกลักษณ์ของหมูสายพันธ์นี้ทั่วทั้งชั้น…ซะเมื่อไหร่ แค่ชะโงกหน้ามองไปตามทางเดินยาวๆ ของชั้นนี้เท่านั้นแหละ ผมอาศัยอยู่คอนโดของน้าเขย เช่าเขาอยู่ ซึ่งน้าเขยเนี่ยเปิดร้านกาแฟอยู่ในมหาลัยที่ผมสอบเข้าได้ ด้วยความที่มีลูกติด ผมจึงเลือกที่นี่เป็นที่อาศัยแล้วก็เอาลูกไปฝากน้าเลี้ยงตอนเข้าเรียน

แต่แล้วผมก็เห็นประตูห้องตรงข้ามแง้มอยู่...ไอ้ลูกทรพีหนีเข้าไปในนั้นปะวะ?

เอาวะ ไม่ลองไม่รู้ เคาะถามดูก็แล้วกัน ประตูแง้มแบบนี้คงมีคนอยู่ และมีความเป็นไปได้สูงที่ความรักของผมเล็ดรอดเข้าไปป่วนประชาชี ได้แต่ภาวนาว่ามันอย่าปล่อยระเบิดใส่ห้องเขานะ นี่กูต้องอยู่นี่ยันปีสี่นะโว้ย ประสบการ์แรกกับเพื่อนข้างห้องคงจะเลวร้ายไม่หยอกเลยทีเดียวเชียวแหละ

ก๊อกๆ

ผมตัดสินใจเคาะประตูที่แง้มอยู่ ไม่นานเจ้าของห้องก็ชะโงกหัวออกมา บอกได้คำเดียวว่าหล่อจนเกือบหน้าทิ่ม...ติดอย่างเดียว หน้าแม่งจะหงิกไปไหน หมูเหยียบหางเหรอครับ เจ็บไหมผมเป็นห่วง

“ขอโทษครับ...เห็นความรักไหม?” ทำใจกล้าส่งเสียงถาม พออีกฝ่ายได้ฟัง หน้าที่หงิกอยู่แล้วก็ยิ่งทวีความหงิกงอเข้าไปใหญ่ กูว่า...ไม่ใช่แค่หมูเหยียบหางแล้วแหละ พี่แกน่าจะโดนอะไรที่มันชวนหงุดหงิดกว่านี้

“ใครปล่อยคนบ้าเข้ามาวะ รปภ.เดี๋ยวนี้เขาบกพร่องในหน้าที่เร้อะ ไปๆ...กลับไปโรงพยาบาลของน้องเหอะ อย่ามารบกวน” โอ้โหว...น้ำเสียงฉุนเฉียวของพี่แม่งแทงจี๊ดเข้าขั้วใจ อยากจะลงไปกองกับพื้นแล้วร้องไห้ประหนึ่งโดนแฟนทิ้งเพื่อให้เห็นถึงความเจ็บช้ำ

“คือ...ผมไม่ได้บ้า”

“คนดีๆ ที่ไหนเขามาเคาะห้องคนอื่นแล้วถามหาความรักกันบ้างน้อง แล้วถ้าน้องสติดีนะ น้องก็จะรู้ว่าเขาไม่ทำอะไรแบบนี้กันหรอก นอกจากอยากมาก คันมากเลยมาเคาะห้องชาวบ้านแล้วเสนอตัวเองแบบน้องอะ จริงๆ...พี่ว่าน้องหน้าตาดีนะ ติดที่แม่งไม่บ้าก็ร่านอะ” เหยดดดดดด โดนแรงกว่าดอกแรกอีกสาด

“คือ...”

“พี่ไม่รู้หรอกว่าน้องเมายามาจากห้องไหน แต่พี่แนะนำให้น้องออกไปดีกว่า พี่กำลังหงุดหงิด...”

“ผมแค่มาถามหาความรัก” ผมรีบถียง พี่แกยกนิ้วชี้แตะริมฝีปากตัวเอง เพิ่งสังเกตว่าที่ไหล่ของเขามีรอยสักโลโก้อะไรสักอย่าง

“พี่ไม่มีความรักให้น้องหรอกนะครับ...มีแต่ตีน เอาไหมครับ” กำลังชื่นชมรอยสักสวยๆ อยู่ดีๆ อารมณ์ก็ขึ้น อยากส่งเท้าคู่เข้าสู่เบ้าหน้าหล่อๆ นี่จังเลยยยยย

“คือพี่...พี่ต้องฟังผมก่อน...” ด้วยความเป็นสุภาพชน ต้องพยายามอธิบาย แม้พี่มันจะทำท่าแคะขี้หูไม่สนใจใยดีผมก็ตาม

“ไม่ฟัง น้องต่างหากต้องฟังพี่...ออกไปจากหน้าห้องพี่ซะ พี่ไม่มีความรักให้คนแปลกหน้าและหน้าด้านอย่างน้องหรอกนะ พี่พูดตรงๆ...ถ้าน้องเมายาก็กลับบ้านไปพัก แต่ถ้าน้องไม่สบาย หรือป่วยทางจิตน้องก็ควรไปหาหมอ...ไม่ใช่มารบกวนคนอื่นเขาแบบนี้ เฮ้อ...วันนี้แม่งอะไรนักหนาก็ไม่รู้ เดี๋ยวต้องไปบอก รปภ.ละว่าคนบ้าเข้ามา...” ท้ายๆ แกบ่นพึมพัมคนเดียว และทำท่าจะปิดประตูใส่หน้า กูยังไม่ได้บอกเลยว่าความรักของกูคืออะไร...มึงติต่างเอาเอง มโนเอาเองเป็นเรื่องเป็นราว ด่ากูแม่งครบทุกอย่าง เข้าหน้ากูทุกดอก...เลววววว

“ที่ผมถามหามันคือ....”

ปัง!

“...หมู” โอ้ย ไอ้บ้า มึงอะบ้า กูถามหาหมูเว้ย ไม่ได้มาถามความรักอะไรอย่างที่มึงเข้าใจเล้ยยยย

ผมยืนหัวเสียด่าแง่มๆ อยู่คนเดียวหน้าห้องมัน เป็นความประทับใจที่กูไม่ประทับใจเลยเว้ย แบบนี้คงอยู่กันไม่รอดหรอกบอกตรงๆ คนอย่างไอ้สามนะ ฆ่าไม่ได้ หยามก็ไม่ได้ กูจะอยู่ยงคงกระพันธ์...เกี่ยวอะไรกับที่กูหงุดหงิดตอนนี้ไหมเนี่ย!

ต่อให้หงุดหงิดปานกินหัวหมูทั้งหัวได้ ผมก็ยังต้องอดทนไม่ระเบิดอารมณ์ออกไป เจ้าของห้องนี้มันตัวใหญ่มากครับ วงแขนกล้ามเป็นหมัดๆ เลยล่ะ โดนต่อยทีน่าจะไม่ได้นอนนับดาว น่าจะไปโลกหน้า ไปไหว้อาม่าของผมได้เลย

ก๊อกๆ

“พี่ครับ...ความรักของผมมันคือ” ยังพูดไม่ทันจบ พี่ท่านเปิดประตูผลัวะออกมา หน้าหงิกกว่าเดิม

“น้องจะไปดีๆ หรือจะให้พี่เอาน้ำร้อนมาสาดไล่” ไอ้เหี้ย กูไม่ใช่หมา

“หมู...พี่เห็นหมูไหมครับ” ด้วยวามกลัวน้ำร้อน กูถามแม่งแบบนี้ละกัน จะไล่กูอีกไหม...แล้วดูรูปประโยคคำถาม กูว่าแม่งแปลกยิ่งกว่าอันแรกของกูอีก โอ้ย ตายกูตาย...

“หมู?”

“ครับ หมู...ตะตัวเล็กๆ หน้าดำ ตาขวางๆ...” เหมือนคนตรงหน้ากูเนี่ย

ปัง!

เอิ่ม...ปิดประตูใส่หน้ารอบสอง เขาคิดว่าผมบ้าไปแล้วจริงๆ ใช่ไหมนะ ถึงทำกับผมแบบนี้ ถ้าเชื่อว่าผมบ้า ก็ควรสงสารคนบ้าแบบผมหน่อย ตอบคำถามผมสักนิดก็ยังดี ผมเป็นห่วงหมูผมนะครับ เจ้าความรักของผม...แอปเปิ้ลอันมากมายที่เอามาขุนมันทุกๆ วัน กะว่าเนื้อของมันจะต้องอบอวลไปด้วยกลิ่นแอปเปิ้ลเมื่อได้กินมันจริงๆ แต่ถ้ามันหายไป ที่ผมลงทุนขุนมันอยู่นานสองนานก็หมดประโยชน์อะสิ เงินหลายบาทหลายสตางค์ผมจะไปเอาคืนได้ที่ใคร โฮ...หมูหันของฉ้าน

“นี่ปะ” แต่แล้ว ในขณะที่ผมกำลังดราม่าอยู่กับลูกบิดประตู เจ้าของห้องก็เปิดออกมาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ประตูเปิดกว้างกว่าเดิม พร้อมกับตาขวางๆ และหน้าดำๆ ของไอ้ความรัก

“โอ้ นี่แหละความรัก....ผมขอคืนนะครับ” ผมรีบคว้าคืนอย่างไว แอปเปิ้ลที่ให้มันกินไปไม่สูญเปล่าแล้วเย้

“เดี๋ยวนะ ชื่อความรัก?” ละสายตาจากเจ้าความรักมองหน้าฉงนสุดใจของคนตรงหน้า ทำไมครับ ชื่อเท่อะสิ ใช่ม้าใช่ม้า

“ใช่ มันชื่อความรัก” ผมนำเสนอสุดๆ หน้าบานยิ่งกว่าจานใส่ข้าวหมู

“ควายเหอะ ใครให้ตั้งชื่อแบบนี้ กูก็นึกว่ามึงแม่งเกย์โรคจิตมาเคาะห้องกู” เขาเกาหัวแกรกๆ ทำไม...คันหัวขึ้นมาทันทีเลยเหรอครับ เมื่อกี้ยังจะแจกตีนให้ผมอยู่เลย ผมยู่ปากใส่เอาให้เหมือนหมูที่อุ้มเนี่ยแหละ

“...ชื่อน่ารักจะตาย”

“น่ารักของมึงคนเดียวเหอะ” แน่นอน น่ารักของผมคนเดียวอยู่แล้วเนอะ

“หึหึ ไอ้ความรัก...อุตส่าห์จะขุนให้อ้วนพีก่อนค่อยกิน สงสัยจะรีบสินะ....ได้เลยๆ เดี๋ยวเย็นนี้เอาเอ็งไปทำหมูหันแล้วกันเนอะ” ผมกระซิบใส่หูหมูยิ้มๆ
 
“คือ...” แต่ต้องชะงัก ลืมไป...ไม่ได้อยู่กันสองตัว ผมยิ้มให้เขา ก้มหัวเชิงขอบคุณถึงแม้แม่งจะด่าจนกูเสียหมูไปแล้วก็ตาม

“ไปละครับ” ผมเดินลั้นลาเข้าห้องตัวเอง

“น้องสามมีหมูอู๊ดๆ หมูอู๊ดๆ...หมูอู๊ดๆ...น้องสามจะกินหมูอู๊ดๆ หมูอู๊ดๆ” ผมเดินฮัมเพลงที่มีทำนองเดียวกับหนูมาลีมีลูกแมวเหมียว พลางมองหน้าเจ้าความรัก ส่งสายตาที่คิดว่าน่ากลัวที่สุดไปให้มัน จบท่อนสุดท้ายผมก็งับเข้าที่กลางตัว

เจ้าความรักร้องแล้วก็ดิ้นรนหนี ผมวางมันลงกับพื้น...มองดูมันที่ตั้งท่าจะเข้ามาขวิด เอาซี้ กล้าทำพ่อมันก็ลองดู ผมยกสองมือทำท่าจะจับมันขย้ำ จากนั้นสีหน้าที่เหมือนจะวางท่าว่าข้าเจ๋งก็หายไป พร้อมกับร่างเล็กวิ่งดุ๊กๆ เข้าซอกหลืบ ฮ่าๆ นึกว่าจะแน่

“ห้ามซนนะความรัก ห้ามออกไปข้างนอกด้วย เดี๋ยวป๊าจัดของเสร็จแล้วจะเอาของชอบมาให้” เจ้าตัวออกมาจากซอกตู้ นั่งมองหน้าผมตาปริบๆ รู้ดีนักละเรื่องของกิน สมแล้วกับที่เป็นหมูนะมึงเนี่ย

แล้วถ้าถามว่าทำไมผมต้องตั้งชื่อหมูตัวเองว่าความรัก ก็เพราะว่าเพื่อนผมเคยบอก...ความรักแม่งก็เหมือนกับตด ถึงมองไม่เห็นแต่ก็รู้ว่ามีอยู่จริง มึงเปรียบเทียบซะเหม็นเชียว นั่นแหละ...ผมอยากให้ความรักเป็นสิ่งที่เห็นได้จับต้องได้ เลยตั้งชื่อหมูตัวเองว่าความรัก ทีนี้เวลามันพูดว่าความรักเหมือนตดอีก ผมก็จะสวนมันได้ความรักของกูเหมือนหมู...แดกได้ อิ่มด้วย

เป็นไง...ปรัชญาโคตรๆ เล่นเอาพ่อกับแม่ที่รู้เรื่องนี้ขำไม่ออก พี่หนึ่งพี่สองหันมาปรึกษากันว่าควรพาน้องชายคนนี้ไปปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับสติปัญญาแทนที่จะส่งเสียให้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่ผมผ่านจุดที่โดนสายตาสงสารประดังเข้ามาได้ด้วยการโครงหัวไปมา แล้วบอกน้ำในหูไม่เท่ากัน...จากนั้นทุกคนก็พร้อมใจกันส่งลูกคนเล็กของบ้านเข้านอน

นี่แหละ...วิถีของเดอะสามผู้หน้ามึนเหมือนหมูที่ตัวเองเลี้ยง

.....100%.....

น้องสามจะกินหมูอูดๆ หมูอู๊ดๆ...น้องสามจะกินหมูอูดๆ หมูอู๊ดๆ~ เรามาปัญญาอ่อนไปด้วยกันเถอะค่ะ!

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :hao6: น้องสามอย่างเพี้ยนอ่ะ แต่น่ารักมากกก

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เข้าใจตั้งชื่อหมูอ่ะ พี่ห้องข้างๆๆใครอ่ะสาม รู้ยัง อิอิ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 1 [100%]<<

ผู้ชายที่หน้าเหมือนหมูแต่หุ่นเหมือนหมาคนนี้มีชื่อว่า...สาม เป็นชื่อที่แม่บอกผมด้วยความภาคภูมิใจว่า ‘ขี้เกียจคิด’ ผมนี่น้ำตาไหลเป็นสายธารด้วยความซาบซึ้งใจ ทำไมท่านแม่ของกระผมนั้นถึงได้เสียสละมากขนาดนี้ แต่ไม่ใช่แค่ผมที่มีชื่อเล่นสิ้นคิด พี่ชายทั้งสองของผมก็เช่นกัน ก็เล่นชื่อหนึ่ง สอง สาม เป็นไงล่ะ...เชื่อเถอะว่าไม่ใช่แค่ครอบครัวผมที่แม่ขี้เกียจตั้งชื่อ ครอบครัวอื่นต้องมีแน่นอน

ตอนนี้ผมกำลังนั่งมองหน้าหมูตัวเองอยู่ในร้านคอฟฟี่ชอปของน้า ซึ่งน้าผมเนี่ยเป็นเกย์...น้าเขยเลยเป็นผู้ชาย งงไหม ไม่อธิบายมันจะไม่งงผมเชื่อแบบนั้น แม่ชอบบอกว่าผมเหมือนน้าบอยน้องชายแม่นั่นแหละ แล้วน้าบบอยผมก็ตัวเล็กน่ารัก...ผมเหมือนอ่อวะ ผมว่าผมหน้าเหมือนความรัก ฮิ้ว....มุกหยอกตัวเองก็มา เอาความจริงคือผมคิดว่าหน้าผมเหมือนหมู ส่องกระจกทีไรรู้สึกหน้าเราคล้ายกันไปทุกที ผมเลยมักเรียกตัวเองกับความรักว่าตัว แบบ...อยู่กันสองตัวงี้

ช่วงนี้เป็นช่วงรับน้อง เหนื่อยมาก เหนื่อยจนแบบ...อยากลาตายสักสามสี่วัน แต่ถ้าตายแล้วมันฟื้นไม่ได้ไง ระหว่างที่ผมมาเรียนหรือทำกิจกรรมที่มหาลัยผมก็เอาความรักมาฝากน้าบอยเลี้ยง มันได้รับความเอ็นดูจากทุกผู้ทุกคนที่เข้ามาในร้าน เจ้าตัวชอบนั่งหน้าเคาน์เตอร์ เหมือนเกะกะ ทว่ากลับมีเสน่ห์ น้าภูมแฟนน้าบอยชอบมันมาก เลี้ยงมันด้วยแอปเปิ้ลลูกละสามสิบ โอ้ว...แดกดีกว่ากูอี้ก!

“ส่งงานแล้วชิ่งก่อนเลยนะมึงเนี่ย” เสียงแบบนี้ ไอ้วิ่งเพื่อนผมเอง ท่าทางกวนตีนและสีหน้ายียวนคือเอกลักษณ์ของมัน ตอนแรกจะเข้าไปต่อยกับมันด้วยซ้ำ แค่เห็นหน้าเท้าก็กระตุก ดีที่ผมเป็นสุภาพชนเลยได้มันมาเป็นเพื่อน

แต่...ผมติดใจกับชื่อมันมาก แม่กูขี้เกียจแล้วนะ ชื่อกูก็ยังดูดีกว่าไอ้วิ่งอะ มันบอกว่าพ่อมันอยากให้มันวิ่งเลยไม่ต้องเดิน ตรรกะอะไรวะ ข้างกายไอ้วิ่งที่ตัวสูงชะลูดเป็นเสาร์ไฟคือไอ้พีช เจ้านี้มีมาดนักวิชาการ ชอบใส่แว่นที่...ไม่มีแลนส์ ใส่ไปงั้นให้ดูเนิร์ด

“ไงจ้ะ...ความรัก” เต๊าะหมูกูอีกละพีชนี่ มันชอบหยอกหมูผม ไม่รู้คิดอะไรกับลูกชายผมเปล่า

“กูสังเกตมาหลายทีละ ไอ้ความรักไม่ชอบมึงแน่ๆ มันชอบมองมึงตาขวาง แต่มองไอ้พีชตาฉ่ำ” ไอ้วิ่งนั่งลงข้างผม ส่วนพีชแย่งหมูผมไปกอด

“มึงชอบกินหมู แล้วก็ชอบขู่ว่าจะกินมันด้วย เนอะ...ความรักกลัวใช่ไหมครับ โอ๋ๆ นะตัวนะ”

“กูชักสยองมึงแล้วอะพีช มึงเหมือนโรคจิตที่หมายตาตูดหมูกูอะ ไม่ได้นะเว้ย...มึงจะรักใครชอบใครกูไม่ว่า แต่มึงจะมารักมาชอบลูกกูไม่ได้ กูไม่อยากให้ลูกกูเสียตูดให้มึง เดี๋ยวเนื้อไม่อร่อย” กูจริงจังยิ่งกว่าสอบเข้าคณะอีกนะเนี่ย

“เอาหน่า....น้ำกูทำให้เนื้อมันนุ่มขึ้น” หน้ามึงน่ากลัวมากพีช หน้าหื่นๆ ไม่นะไม่...อย่าคิดอกุศลกับลูกกูนะ

“พอๆ กูสยองพวกมึงสองตัวละ อีกคนก็จะแดกลูกตัวเอง อีกคนก็จีบหมู สติดีกันไหมวะ” สติดีกว่ามึงแล้วกันไอ้วิ่ง

“แหม่ ก็ล้อกันเล่นไหมละ” พีชวางความรักลงกับโต๊ะ ซึ่งเจ้าลูกสุดที่รักก็เดินเข้ามาหาผมอย่างเร็ว เริ่มรู้ตัวแล้วใช่ไหมละว่ามึงกำลังโดนหมายตาเพื่อฟันแล้วทิ้งเนี่ย

“เออ เล่นกันพอแล้วก็ไปกินข้าวกัน กูจะไปดูชมรมที่จะเข้าด้วย” วิ่งมันจะเข้าชมรมบีบอย มันสองคนเนี่ยเต้นบีบอยกันมาตั้งแต่มอต้น แถมเลือกเรียนที่นี่เพราะที่นี่มีชมรมบีบอย เป็นชมรมไม่เป็นทางการ คือ...ไม่ใช่ชมรมจริงจัง แค่เป็นที่รวมตัวของนักเต้น และมีคนเก่งๆ มาสอน

“มีชมมคนเลี้ยงหมูไหม” ให้เต้นบีบอย หุ่นเหมือนหมาอดข้าวอย่างกูไม่ไหวแน่ๆ

“ไม่มี มึงต้องเข้ากับพวกกู เข้าไปนั่งดูก็ได้ พี่ๆ เขาไม่โหดหรอกมึง” ไอ้วิ่งก็พูดแบบนี้ตั้งแต่บอกผมว่าจะเข้าชมรมบีบอยนั่นแหละ มันเคยเข้ามาเต้นตอนเรียนมัธยมละนะ

“ใช่ แล้วเดี๋ยวกูจะสอนความรักของมึงเต้นบีบอย เนอะ...ความรักอยากเต้นใช่ไหมครับ” ไอ้พีชน่าจะโรคจิตจริงละวะ มึงคุยเป็นตุเป็นตะมาก

“ไม่ได้ กูไม่ให้ลูกกูเต้น เดี๋ยวแขนขาหักขึ้นมาทำไง ไม่ได้ไม่อนุญาต” แล้วดูคนไม่บ้าอย่างผม ก็เป็นตุเป็นตะเหมือนกันเลย

วิ่งได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอากับความบ้าบอของเราสองคน เราเดินมาจนถึงหน้าร้าน มีจักรยานสามคันจอดอยู่ เป็นฟิกเกียร์สองและจักรยานแม่บ้านหนึ่ง มันคือของเราสามคนเองครับ คันสีเขียวทรงแม่บ้านเป็นของผม ไม่ใช่ว่าหาเท่ๆ ไม่ได้นะ แต่ผมมักเอาความรักใส่ตะกร้าหน้ารถน่ะ ถ้าเป็นฟิกเกียร์มันก็ใส่ความรักลงไปไม่ได้ นี่ผมเลือกดูเชยแบบนี้ก็เพื่อมันเลยนะเนี่ย ส่วนของวิ่งสีเหลืองและของพีชสีแดง

บลูด้าเบลสมาเอง...ง่อว

ไม่ได้มีความบังเอิญอะไรขนาดนั้นหรอกนะครับ ตอนแรกของมันก็สีดำทั้งคู่ รุ่นเดียวกันอีก แล้วดันมาเห็นของผมสีเขียว ก็เลยพร้อมใจกันหาเหลืองกับแดงมาขับด้วยกัน ความเร้กเก้จึงบังเกิด แม้ว่าจะเต้นเร้กเก้กันไม่เป็นเลยก็ตาม ได้แต่หมอรำหน้าห้างน่ะสนใจบ่

ไอ้วิ่งขับนำไปคนแรก ผมเอาความรักใส่หน้ารถแล้วก็เริ่มปั่นตามๆ กันไป มุ่งไปที่อาคารเรียนคณะเราเองเพื่อซื้ออาหาร คณะที่ผมเรียนคนค่อนข้างเยอะ จอแจแต่ไม่มากเท่าโรงอาหารกลาง เราซื้อเพื่อเอาไปกินใกล้กับลานกิจกรรม ปกติผมมากินกันไม่เห็นมีคนมาเต้นบีบอยนะ อาจเพราะอยู่ในช่วงรับน้อง ตรงนี้เลยเต็มไปด้วยรุ่นพี่สันทนาการ แต่ตอนนี้การรับน้องอันทรหดก็ผ่านไปแล้ว กิจกรรมอื่นเลยเริ่มเข้าที่เข้าทาง อย่างวันนี้ แค่ปั่นจักรยานเข้ามาก็ได้ยินเสียงเพลงก่อนเลย

“คนเริ่มทยอยกลับมาเต้นล่ะ” พีชมองไปที่กลุ่มคน เรานั่งอยู่ด้านข้าง ยังได้ร่มของตัวอาคารอยู่ ไม่ต้องห่วง ไม่โหดพอมานั่งกินข้าวตากแดดหรอกครับ

“พวกมึงจะเข้าชมรมนี้เหรอ” ผมนั่งประจำที่ เอาความรักขึ้นมาวางบนโต๊ะหินอ่อนเหมือนทุกที พร้อมทั้งเอาแอปเปิ้ลของโปรดให้มันด้วยหนึ่งลูกถ้วน

“ใช่ มึงก็ต้องอยู่ด้วยไง นั่น...พี่ๆ รุ่นใหญ่มากันด้วยแหะ” อะไรคือพี่ๆ รุ่นใหญ่วะ ผมมองตามมือไอ้วิ่ง แล้วก็ต้องสะดุดสายตากับชายหนุ่มร่างสูง

เขาคือชายปากจัดห้องตรงข้ามผมเอง หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลย อาจเพราะเขาทำงานหรืออาจเพราะผมไม่ว่างก็ไม่รู้ แค่จะเฉียดผ่านกันยังไม่เฉียดอะคิดดู วันนี้พี่เขาใส่เสื้อแขนกุดกับกางเกงผ้าร่มสามส่วน สีดำทั้งตัว สะพายเป้ใบใหญ่ สวมรองเท้าแตะ แม่งหล่ออะ...หล่อจนใจละลาย

ผมไม่ใช่เกย์น้า...ผมแค่ฟรีกับทุกเพศทุกวัยเท่านั้นเอง ฮ่าๆ ด้วยความที่ทางบ้านเปิดโล่งเรื่องความชอบทางเพศละมั้ง ดูอย่างน้าชายผมสิ ก็ยังแต่งงงแต่งงานกับเพศเดียวกันเลย ผมและพี่ๆ ก็พลอยฟรีเรื่องพวกนี้ไปด้วย แบบ...ถ้าถูกใจ ชอบพอกัน เพศอะไรก็ไม่เกี่ยงประมาณนั้น แต่ผมมันเด็กติดเกม ไม่ได้สนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เท่าไหร่นัก ที่ผ่านมาคบมาทั้งหญิงและชาย แต่ไม่รอดสักราย ไม่เขาทิ้งผม ผมก็ทิ้งเขา ไลฟ์สไตล์มันเข้ากันไม่ได้ละมั้ง...

“นั่นพี่มะเดี่ยว...” ไอ้วิ่งชี้ไปที่ผู้ชายห้องตรงข้าม เพิ่งรู้ชื่อก็ตอนนี้แหละ

“พี่แม่งโหด เป็นสายพาวเวอร์มูฟที่โหดสลัดรัสเซียสัตว์ๆ เขาเป็นตัวแทนดูแลชมรมมาตั้งแต่ปีก่อนที่ยังเรียนที่นี่ ไม่คิดว่านี่ก็ยังโพล่เข้ามาสอนน้องๆ” ไอ้พีชทำหน้าทำตาชื่นชมเขาสุดๆ ไม่เห็นน่าชื่นชมเลยมึง วันก่อนด่ากูเสียหมาเลย

“อู๊ดๆ...” แต่ไอ้ความรัก...มึงไม่ได้มีเอี่ยวหรือเกี่ยวอะไรกับเขานะเว้ยเฮ้ย แหม มีเดินไปริมโต๊ะ เชิ่ดหน้าส่งเสียงประหนึ่งร้องเรียกเขาเลยนะ พ่อมึงนั่งอยู่นี่ นั่นไม่ใช่พ่อมึง

นั่งเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่หมูตัวเองอยู่ดีๆ เจ้าความรักไม่รักดีก็กระโดดลงจากโต๊ะมาที่นั่ง กระโดดจากที่นั่งไปพื้นแล้ววิ่งดุ๊กๆ ไปที่กลุ่มนักเต้นทันที ผมนี่กำลังยัดข้าวเข้าปากถึงกับวิ่งตามไม่ทัน เพื่อนๆ ผมเองก็แปลกใจที่มันวิ่งลิ่วไปนู้น

“ความรักวิ่งหนีมึงไปแล้ว” ยังมีหน้ามาขำอีกไอ้วิ่ง

“โว้ย...มึงตายแน่ไอ้ความรัก” ผมรีบดื่มน้ำอึกๆ ก่อนวิ่งเข้าไป

ความรักมันหยุดเมื่อพี่มะเดี่ยวนั่นหันมามอง เจ้าตัวยิ้มกับลูกหมูใส่ปลอกคอสีเขียว ความรักนี่มันก็กระแด๊ะอะนะ เขามองปุ้บล้มตัวนอนกลิ้งเข้าหาเขาทันที นี่มึงเป็นหมูหรือมึงเป็นหมา จะฉลาดไปไหน แล้วอีกอย่าง...พี่มะเดี่ยวไม่ใช่หมูตัวเมียนะมึงเอ้ย!

“เอ่อ...”

“...” พี่มะเดี่ยวหันมามองหน้า เขาอุ้มความรักขึ้นมาจากพื้นด้วยรอยยิ้มเอ็นดู หนอยแน่...มันอยากเป็นหมูหันจริงๆ อะผมว่า

“ขอความรักด้วยครับ...” ผมบอกเสียงเบา แล้วรอยยิ้มพี่ท่านก็ดูเจ้าเล่ขึ้นมาแปลกๆ

“อะไรนะครับ พี่ได้ยินไม่ชัด” หูมึงไม่ตึงกูเชื่อแบบนั้นเว้ยพี่

“ขอความรักคืนด้วยครับ....”  อะ ส่งเสียงดังขึ้นอีกหน่อย

“พี่ไม่ได้เอาความรักของเราไปนะครับ” เออ พี่ไม่ได้เอาไปเว้ย แต่มันแรดวิ่งมาหาพี่เองไง

“ก็รู้...แต่พี่อุ้มมันอยู่”

“ก็เดินเข้ามาเอาเองสิ” นี่พี่มึงต้องการอะไรครับ กูจะกลับไปกินข้าวต่อละนะโว้ย

“พี่...” ผมทำเสียงอ่อย แบบที่ชอบทำใส่พี่ชายเวลาแม่งแกล้งผม ส่วนขาก็เดินเข้าไปใกล้

“ครับ?” ไม่ต้องมยิ้มสุภาพ ไม่เข้ากับหน้าและรอยสักอะบอกเลย

“ขอความรักหน่อย...”

“อะไรนะ...” กูตบพี่แม่ง!

“ผมขอความรักครับ!!!” เอ้า เสียงดังขนาดนี้ยังจะเล่นลิ้นอยู่ไหม ฮึ้ย...ขึ้นเลยนี่ขึ้นเลย

“แล้วถ้าพี่ไม่ให้ละ” รู้สึกอ่อนแรง ทั้งที่เมื่อกี้ไฟลุกพรึ่บพรั่บจากทั่วทุกอนูผิว

“พี่คร้าบ...ผมขอเจ้าความรักเหอะน้า” จะเข้าไปแย่งก็กลัวลูกเจ็บ จะเตะตัดขาแม่งก็กลัวโดนสวน แล้วก็ไม่เข้าใจ พี่มึงกวนตีนกูทำมายยยยย กูไปทำอะไรให้พี่มึงเหรอครับ

“จะขอความรักจากคนอื่นอะนะ มันก็ต้องทำให้ดูโรแมนติกหน่อย คิดแบบนั้นไหมเจ้าความรัก”

“อู๊ดๆ” มึงไม่ต้องตอบ ไม่ต้องแรดเลยไอ้ลูกเลว

“พี่เล่นอะไรของพี่เนี่ย เร็ว...ผมหิวข้าวแล้ว” ผมไม่ได้งอแงนะ แต่เสียงงุ้งงิ้งมาก

“นี่ความรัก...เวลาเขาเขาแต่งงานเขายังไงนะ คุกเข่าปะ แล้วเอาดอกไม้หรือแหวนมายื่น ทำน้ำเสียงดีๆ ยิ้มหวานๆ อะไรแบบนี้ถูกปะ”

“อู๊ดๆ..อู๊ด” เหมือนมึงยิ้มอะไอ้ความรัก มึงกำลังแกล้งกูใช่ไหม มึงกับมันรวมหัวกันแกล้งกูใช่ไหมเนี่ย!!!

“นั่นแหละ ตามที่ความรักบอกเลย...ทำก่อนแล้วเดี๋ยวพี่ให้ความรัก” ผมว่าผมต้องเคยเดินไปเหยียบหางพี่แกแน่ๆ พี่แกถึงได้ทำกับผมเยี่ยงนี้

นี่ผมยังไม่ได้บอกเลยนะว่าตอนนี้ทุกคนหันมาสนใจเราเป็นตาเดียว สนใจตั้งแต่ผมตะคอกขอความรักจากพี่แม่งแล้วอะ...ผมไม่ได้ต้องการให้พี่มันมาคบเว้ย กูต้องการหมูตัวเองคืน รู้งี้นะแม่ง กูไม่ตั้งชื่อหมูตัวเองแบบนี้หรอก ต้องชื่ออื่นแทน อย่างอะไรดี...อย่าง....สัตว์ คิดไม่ออก บอกตามตรงว่าตอนนี้สมองมันตีบตัน อยากจะร้องไห้แทน อยู่บ้านร้องไห้แล้วแม่ปลอบ อยู่นี่ร้องไห้แล้วใครจะมาปลอบกรูววววว

ผมหันซ้ายหันขวา ไม่สนสายตาคนมอง พอดีหน้าด้านประมาณหนึ่ง ช่วงรับน้องแม่งอับอายกว่านี้เยอะ อีกอย่าง...คนอื่นจะเอาผมไปพูดยังไงก็ไม่เสียหายอยู่แล้ว แค่ขอความรักจากผู้ชายด้วยกันเองถูกมะ ผมตรงเข้าไปเด็ดดอกเข็มมาจากพุ่ม กลับมาคุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าพี่มะเดี่ยว ยื่นดอกไม้ไปข้างหน้า โปรยตาหวานซึ้งพร้อมกับความคิดที่ว่า...

...กูทำเพื่อ???

“พี่ครับ...ขอความรักหน่อยครับ” กูเห็นนะ ไอ้วิ่ง ไอ้พีชแม่งนั่งขำท้องขัดท้องแข็งไปหมดแล้ว ไหนจะยังมีคนอื่นถ่ายรูปเราเอาไว้อีก ไม่นานผมจะดังในโซเชียลแน่นอน กูฟันธงขาดสิบห้าท่อนเลยอะ

“ไม่ชอบดอกไม้อะ...ไม่เห็นสวยเลย” โอ้โห พูดงี้ผมนี่เหี่ยวตามดอกไม้ไปเลยครับ พี่อย่าแกล้งกูนักได้ไหม...

ผมเป็นคนไม่สู้คน ถึงจะกวนตีนอยู่บ้างแต่ก็ไม่กล้าหืออะไรกับใคร ที่สำคัญ...ผมเถียงคนไม่ค่อยเก่ง เวลาเขาพูดเขาว่าผมมักจะด่ากลับในใจแต่พูดออกไปจริงๆ ได้แค่ไม่กี่คำเท่านั้นเอง เหมือนตอนนี้ อยากด่าพี่มันฉิบหายเลย แต่ก็ด่าไม่ออก เลยหน้าเศร้าหงอยแบบนี้ไง...อายก็อาย นี่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะเว้ย

“ฮ่าๆ เอ็งนี่มันแกล้งง่ายจังวะ..เอ้า เอาไป” ขณะที่กำลังแอบดราม่าให้กับโชคชะตาอยู่ พี่แกก็มาดึงดอกเข็มไปจากมือแล้วส่งเจ้าความรักมาให้

“อ่า...ขอบคุณครับ”

“ไม่เป็นไร เห็นมันปลอดภัยก็ดีแล้ว...” พี่เขามองความรักเหมือนเป็นห่วง คงเพราะผมดูแลมันไม่ดี มันเลยชอบหนีไปบ่อยๆ นี่สองครั้งที่มันพุ่งเข้าหาพี่เขา

“ครับ ผมจะดูแลมันให้ดีกว่านี้ ผมเองก็ไม่อยากให้มันหายไปหรอก เลี้ยงด้วยแอปเปิ้ลอย่างดีขนาดนี้ ขืนหายไปที่ผมลงทุนขุนมันเอาไว้กินก็สูญเปล่าหมด” ว่าแล้วก็ยิ้มจนตาแทบปิด

“เอ่อ...จะกินมันจริงดิ”

“จริงดิพี่ แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอก รอให้มันโตกว่านี้ เลี้ยงเองกินเอง...มันคงให้ความรู้สึกภูมิใจพิลึกเนอะ” ผมขำเสียงเหี้ยมใส่ความรัก ตามันขวางขึ้นมาอีกแล้ว หึหึ แกต้องโดนแดกไอ้หมูบ้า ไอ้หมูไม่รักดี ไอ้หมูทรยศ

“ไม่ลองกินอย่างอื่นเหรอ...ปลางี้ อร่อยนะ” เงยหน้ามองพี่แกอย่างแปลกใจ คือเหมือนจะโน้มน้าวให้ไปกินปลา เห็นสายตาที่มองมาทางความรัก ไม่ใช่ว่าแกคิดว่าผมจะกินจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย

“ไม่อะพี่...ผมชอบกินหมู!” เหมือนทั้งคนทั้งหมูจะจ้องผมอยู่นะ ทำไม...ผมพูดอะไรผิด ไม่เลย ไม่ผิดสักนิดเดียว ผมชอบกินหมูมากๆ ทุกมื้อต้องมี อย่างที่ทิ้งไว้บนโต๊ะก็หมูทอดกับข้าวเหนียว อร่อยจะตาย

“ผมขอตัวไปกินข้าวก่อนนะพี่” โค้งงามๆ ประดุจได้รับรางวัลขวัญใจช่างภาพ ไอ้ความรักนี่ก็ดิ้นจัง จะดิ้นอะไรนักหนา ไม่ปล่อยให้มึงวิ่งโล่เข้าไปหาเขาหรอก...รู้จักกันก็เปล่า ยังมาด่ายังมาแกล้งกันอีก ไม่ดีๆ...คนแบบนี้อยู่ใกล้มีแต่กูที่โดนแกล้ง!

.....100%.....

จากประสบการณ์ตรงที่ได้ใกล้ชิดหนุ่มบีบอย ทำใหเรารู้ว่า...มันโคตรขี้แกล้ง! น้องสามซวยแล้วล่ะ อิอิ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ความรัก น่าร้ากกกก  :o8:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :o8:  :-[  ความรักนี้ก็สุดแสนจะฉลาดเนอะ... วิ่งหาถูกคนจริงๆ  :impress2:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 2 [100%]<<

“ฮ่าๆ ไอ้สัตว์ โคตรจี้...มึงแม่งเสือกตั้งชื่อหมูได้แบบ...เป็นกู กูก็แกล้งมึง” มาถึงโต๊ะ ผมเอาความรักยัดใส่กระเป๋า ปิดซิปให้โพล่ออกมาแต่หัว จากนั้นปล่อยให้มันมองผมด้วยสายตาอาฆาตแค้น สวนไอ้วิ่งแม่งยังขำไม่เลิก ไม่เว้นกระทั่งไอ้พีช

“พอเลยสัตว์ ขำกูอยู่นั่น อับอายฉิบ...กูไปทำไรให้พี่แกไม่พอใจวะ คราวก่อนนะเว้ย กูทำความรักหาย กูก็ไปเคาะห้องแล้วถาม พี่แกด่ากูเป็นชุดเลย ไม่ถามกูสักคำว่าความรักคืออะไร ไม่ฟังกูด้วย กว่าจะรู้ว่ากูมาตามหมูกูก็นู้น....ด่าจนกูตายไปหลายรอบ แม่ง...เจ็บใจ แต่ทำไรไม่ได้” นั่งยัดข้าวเหนียวเข้าปากด้วยความคับแค้น อยากร้องไห้ให้มันรู้แล้วรู้รอด

“ก็ดูชื่อหมูมึง...” พยายามหยุดขำให้ได้นะไอ้วิ่ง ไม่งั้นเตะเปรี๊ยงเลยฟาย

“อีกอย่างนะเว้ย พี่แม่งเป็นคนขี้แกล้งอยู่แล้ว...เด็กในฟลอโดนกันทุกคนแหละ มึงอย่าซีเรียส คนอื่นเขาก็มองขำๆ เด็กชมรมนี้แกล้งกันแรง” มึงกำลังพูดเพื่อไม่ให้กูคิดมากสินะพีช รักมึงจริงๆ เลยเพื่อนยาก

“จริง พวกบีบอยหน้าด้าน...ส่วนใหญ่แกล้งแบบนี้ไม่สะเทือนหนังหน้าหรอก แต่พอเป็นมึง มันเลยตลกอะ สีหน้าแบบ...กูตายแน่ๆ โคตรจี้นะจริงๆ” แล้วมึงก็ขำซ้ำเข้าไปอีกรอบ ผมละอยากฆ่าไอ้วิ่งทิ้ง

“พวกมึงไม่เป็นกู พวกมึงไม่รู้หรอก” ผมว่าอย่างน้อยอกน้อยใจ แต่ส่งสายตาเคืองขุ่นให้ความรัก

“เออ มึงไม่เป็นกูมึงก็ไม่เข้าใจหรอก ตอนกูเข้ามาเต้นที่นี่แล้วเล่นโฟล์คิงกับพวกพี่ๆ กูโดนสั่งเด้าพื้นเป็นชั่วโมง ไอ้เชี่ย....อายจนไม่รู้จะอายยังไง” ผมมองหน้าไอ้วิ่งอึ้งๆ มีงี้ด้วยเหรอวะ...สั่งเด้าพื้นท่ามกลางสายตาประชาชีเนี่ยนะ

“กูโดนสั่งให้ถอดรองเท้าข้างหนึ่งมาคุยต่างโทรศัพท์ แล้วคุยเสียงดังๆ เดินไปเดินมาเป็นชั่วโมงเหมือนกัน คนถ่ายรูปกูเพียบเลย” ผมเริ่มสยองแล้วล่ะ ไอ้พีชนี่ก็ได้ประสบการณ์เลวเหมือนกันนะ

“ทำไมต้องแกล้งกันอย่างนั้นวะ ทำให้คนอื่นอับอายเนี่ยนะ..ไม่ดีเลยวะ” ว่าไปอย่างที่คิด

“มองมุมคนนอกก็ใช่เว้ย แต่ถ้ามองมุมคนใน...มันก็เพื่อให้เด็กไม่กลัวคน ไม่อายคน เวลาเราเต้น เวลาเราขึ้นเวที มันก็จะสนุกสนานกับสิ่งที่ทำ ไม่มากังวลหรืออายจัง อายจังเลย...” ท่ามึงกระแด๊ะมากวิ่ง เกือบจะมีสาระอยู่แล้ว ถ้าไม่เอามือมาประกบหน้าตัวเองแล้วเอียงอายอยู่นั่นแหละ

“แต่กูไม่ได้เป็นบีบอย...”

“เขาอาจไม่รู้ไง ก็แกล้งไปตามประสานั่นแหละ มึงก็อย่าซีเรียส อย่างมากคนก็จิ้นกัน แค่นั้น แฟนคลับพี่ท่านไม่มาตบมึงหรอก” พีชบอกสบายๆ แต่กูเริ่มไม่สบายตรงคำว่าแฟนคลับ ไม่รู้ว่าคนนี้มีกะเขาด้วย

เคยเห็นในโซเชียลอะครับ พวกแฟนคลับแม่งโหดยิ่งกว่าซอมบี้บุกเมืองซะอีก เกิดโดนระรานทำไง ไปเรียกร้องค่าเสียหายจากพี่ท่านได้ไหมวะเนี่ย ฮึ้ย...เจ็บใจ อยากเอาคืน แต่ไม่รู้จะเอาคืนยังไง ตัวเองก็ไม่ใช่คนสู้คน แง่งๆ หันไปแค้นความรักแทน มันเนี่ยตัวดี ทำให้ผมต้องมาเจอคนอย่างพี่มะเดี่ยวแกล้ง ถ้าไม่ใช่เพราะมันหนีไปทางพี่มะเดี่ยว ผมก็ไม่โดนแกล้งแบบนี้หรอก

“ไปซ้อมเต้นกับกูปะ วันนี้เขาให้ซ้อมๆ กันไปก่อน พรุ่งนี้ถึงลงทะเบียน” วิ่งกับพีชกินเสร็จแล้ว ใช่สิ มันกินกันเอร็ดอร่อย ในขณะที่ผมโดนพี่เขาแกล้งอยู่นี่นา

“ไม่ละ กูเต้นไม่เป็น”

“เดี๋ยวพวกกูสอนก็ได้” พีชว่าเสริม แต่ผมก็ยังส่ายหน้า

“ขอนั่งดูเหอะ”

“ตามใจ” แล้วมันสองคนก็กอดคอกันเดินไปที่กลุ่ม ไม่ได้อยู่ไกลหรอกครับ นั่งตรงนี้ก็เห็นชัดทุกคนนั่นแหละ แล้วทุกคนก็สามารถมองมาทางนี้ได้ชัดเหมือนกัน

ผมยังกินข้าวอยู่ กินด้วยความเฉื่อยชาไม่เร่งรีบ สายตาก็จับจ้องเพื่อนๆ ไปด้วยกัน วิ่งและพีชเข้าไปหาพี่มะเดี่ยว พวกเขาคุยอะไรกันไม่รู้ แต่ดูเฮฮากันจริงๆ มีเมียงมองมาทางนี้ ต่อให้ไม่มีสัมผัสที่หก ผมก็รู้ว่าพวกเขากำลังนินทาผมอยู่แน่ๆ อย่าให้ผมต้องส่งความรักไปสอดแนมนะ ไม่ได้ดิ....ความรักมันเหมือนจะชอบๆ พี่มะเดี่ยว ขืนส่งไปก็เข้าข้างทางนั้นพอดี

“อู๊ดดดด”

“เงียบไปเลยนะ แกน่ะทำให้ป๊าต้องโดนแกล้ง เพราะฉะนั้นอยู่ในนั้นไปห้ามประท้วง” ชี้หน้าดำๆ ของความรัก แต่มันตาขวางใส่

“อู๊ดๆ อู๊ดดดดด”

“เถียงเหรอ เดี๋ยวนี้มีหัดเถียง ใครสั่งใครสอน ป๊าไม่เคยสอนให้เถียง...เป็นหมูให้อยู่เงียบๆ อยากโดนเฉือดไหมหืม อยากโดนย่างสดสินะ” ทำตาโหดๆ ใส่ความรัก มันพยายามหดคอเข้ากระเป๋า แต่เข้าไปไม่ได้ ติดซิป

“คร่อกๆ...” ถึงจะดุใส่ แต่ความรักไม่ย่อท้อในการโต้เถียง นี่ควรดีใจไหม หมูที่เลี้ยงมากับมือกำเริบเสิบสานใส่ขนาดนี้

“ฮึ่ม...” ผมหยิบมันขึ้นมาทั้งกระเป๋า วางความรักลงกับโต๊ะหินอ่อน ดึงตัวกระเป๋าลงแล้วงับลงไปที่กลางตัว ไม่ได้งับแรงนะอย่าตกใจ ผมชอบลงโทษมันแบบนี้ กัดมันแล้วมันก็หมอบลง

“ให้รู้สะบ้างใครเป็นใคร นี่ป๊านะ...ห้ามเถียงป๊ารู้ไหม” ความรักสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง มีงอน มีไม่มองหน้า แต่ผมไม่ง้อตอนนี้ ต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกหน่อยว่าไม่ควรเถียงกับคนที่เลี้ยงมันมา

ผมปล่อยความรักนอนหมอบอยู่ตรงหน้า ไม่ยอมหันหน้ามาทางผมด้วย แต่ท่าทางที่นิ่งสนิทแบบนี้คงจะหลับไปตามเคย กินกับนอนคือหมูจริงๆ ครับ...หมูล้วนไม่มีหมาผสมเลย ผมกลับมานั่งกินข้าวต่อ มัวแต่เล่นข้าวปลากินไม่หมดเสียที

กลุ่มบีบอยเขาซ้อมกันแปลกๆ กระจัดกระจายกันเป็นกลุ่มๆ บางจุดก็เต้นกันเป็นคู่ ส่วนเพื่อนผมสองคนนั้นตอนนี้กำลังซ้อมท่าอะไรอยู่ก็ไม่รู้ หมุนๆ กันใหญ่เลยแหะ ผมเคยดูบีบอยจากในคลิป หรือแม้กระทั่งดูเพื่อนในโรงเรียนเต้น ผมว่ามันก็น่าสนุกดี แต่ดูยากมาก เอาแต่หมุนๆ แค่ดูก็งงแล้ว ผมไม่มีความคิดที่จะเต้นอะไรอย่างนี้ นึกสภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าจะไปหัดเต้นแบบนั้นได้ยังไง...

พี่มะเดี่ยวแกยืนคุมเพื่อนผมทั้งสองคน ทำท่าทำทางและบางทีก็เต้นให้ดู พี่เขาเต้นสวยมาก ถึงผมจะไม่เข้าใจอะไรเลย ทว่ากลับรู้สึกชื่นชมในท่าทางการเต้น การออกลีลาของพี่เขามาก เมื่อกี้คิดว่าวิ่งกับพีชเต้นดีแล้ว พี่แกดีกว่ามากๆ อะ

ผมละสายตาจากพวกเขา เอาถุงและขยะเดินไปทิ้ง ถังมันอยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องกลัวว่าความรักของผมจะหายไป เสร็จแล้วกลับมานั่งมองดูเขาเต้นกันต่อ ความรักหลับใหลสบายใจเฉิบ อิ่มแล้วก็อยากนอนมั้งเหมือนกันนะเนี่ย ผมเอานิ้วเกลี่ยไปตามหน้าผากเจ้าความรัก ปากบอกจะกินมัน แต่จริงๆ ผมรักมันมากนะ ถ้าไม่มีมันผมคงเหงามากเลย อยู่กันมาก็พักใหญ่แล้ว...หกเดือนได้ละมั้ง ความรักมันโตขึ้นเรื่อยๆ และถึงมันจะตัวใหญ่ขึ้น มันก็ยังน่ารักอยู่ดีในสายตาของผม

เกลียดอย่างเดียว...น้ำลายมันอะ

เวลามันหิวน้ำลายมันจะเยิ้ม หรือมองแอปเปิ้ลอยู่ในมือผมดีๆ น้ำลายก็ยืดหนืดลงบนพรมในห้อง ผมนี่แทบจะเปลี่ยนพรมนุ่มๆ เป็นพรมผ้าใบเลย ดีที่ความรักเป็นสัตว์เลี้ยงง่ายกินง่าย แล้วก็รักสะอาดกว่าหมูที่เลี้ยงกันในฟาร์มทั่วไป ผมเลยไม่ได้ลำบากมากนักที่จะดูแลสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ตัวนี้ ที่สำคัญแล้วผมก็ชอบมาก มันไม่เห่า...

หมามันก็น่ารัก แต่คุณต้องมาลองอยู่กับหมาตั้งแต่เกิดอย่างผมสิ คุณจะรู้ว่ามันน่ารำคาญเหมือนกันนะ มันรักเราอะมันรัก รักมาก รักปานจะเดินตามดมตูดกันไปทุกที่ ซึ่งบางทีผมก็ไม่ได้ต้องการขนาดนั้น หมาที่ครอบครัวผมรักมากๆ และเลี้ยงประจำในบ้านมีหกตัว เป็นไซบีเรียและอลาสกัน หมาตัวใหญ่ ไซซ์เบิ้ม โดนหกตัวรุม ผมสูงร้อยเจ็ดสิบนิดๆ ก็แทบล้มนะครับ

นั่นแหละ...เลยเบื่อหมา แมวก็ไม่ชอบ เคยโดนแมวตบหน้าเลยแค้นมันตั้งแต่วันนั้นยันวันนี้ แต่น้าบอยค่อนข้างชอบแมว เพราะเบื่อหมาเหมือนผมเลย แค่หันไปชอบคนละสปีย์ชี่เท่านั้น

“มองมันแบบนั้น ไม่ใช่ว่ากำลังคิดเมนูที่จะเอามันไปทำหรอกนะ” โอ้ยตาย แทบสะดุ้งตกม้านั่ง ใครสั่งใครสอนให้พี่เข้ามาไม่สุ้มไม่ใช่เสียงวะเว้ยเฮ้ย

“ก็...ประมาณนั้น” พี่มะเดี่ยวแกนั่งลงฝั่งตรงข้าม คิดว่าแกเข้าใจผิด แถมยังเข้าใจผิดแบบเป็นตุเป็นตะอีกต่างหาก แต่ผมไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจของแกให้ถูกหรอกนะ อย่าลืม แกด่าผมไว้หลายชุด แถมยังแกล้งผมอีกต่างหาก ผมไม่ให้อภัยง่ายๆ หรอกบอกเลย

“ทำมันได้ลงจริงเหรอ” พี่ท่านรวบผมตัวเองมัด พี่มะเดี่ยวเนี่ยตัดผมแถข้างออกหมด มีผมแค่ตรงกลางหัวที่ค่อนข้างยาว เวลาปล่อย มันก็จะปรกศีรษะทั้งหมดเหมือนคนไว้ผมปกติ แต่ถ้ารวบมันขึ้นไปมัด...ก็จะเห็นว่าผมมีแค่นั้นแหละ

ฮ่าๆ...บรรยายแล้วดูตลกนะ แต่ตัวจริงแม่งโคตรเท่

“ลงดิพี่ บ้านผมทำฟาร์ม เรื่องแบบนี้เลยเป็นเรื่องธรรมด๊า....ธรรมดา” ได้ทีละเอาใหญ่ พี่เขาดูจะเป็นห่วงมึงนะไอ้ลูกพ่อ เหมือนที่ความรักมันระแวงผมจะกินมันนั่นแหละ

“โหดร้ายวะ พี่รับไม่ได้...มึงรู้มะ ว่าการที่มึงเลี้ยงมันแล้วกินมันเนี่ย เป็นเรื่องที่เลวร้ายยิ่งกว่ามึงไปซื้อปลาในตลาดอีกนะเว้ย คือเลี้ยงมัน มันก็ต้องรักมึง แล้วมันก็ต้องมาโดนคนที่มันรักฆ่าตายเนี่ยนะ มึงแม่ง...ใจดำ” อ่าว นี่กูโดนด่าอีกแล้ว?

“พี่นี่จริงจังเนอะ” ผมว่าเหวอๆ ไม่คิดว่าจะโดนสวดยับไปอีกดอกใหญ่

“กูจริงจังดิ ถ้ามึงเห็นมันเป็นแค่อาหารอะ มึงก็ทิ้งมันไปเหอะ หรือเอามาให้กู กูจะดูแลมันเอง” ส่ายหน้าให้ไว

“ไม่อะ ผมลงทุนไปแล้ว ผมไม่ยอมขาดทุนหรอก” ลงทุนความรักไง...รักมันไปแล้ว ใครจะยอมยกให้ ส่วนที่พี่เข้าใจผิด ก็ช่างมัน เอาให้พี่ท่านเครียดไปเลย!

นี่แหละ...วิธีแก้แค้นที่งดงามสมเป็นไอสามแห่งฟาร์มหมาน้อย

“ถือว่ากูขอ...”

“ผมไม่ให้” ตอนนี้คิ้วพี่มะเดี่ยวขมวดเป็นปม หน้าหงิก หงุดหงิดขึ้นมาทันตา กลัวก็กลัวนะ ไม่ต่อยผมใช่ไหมตอบ?!

เขาทอดสายตามองไอ้หมูที่หลับไม่รู้เรื่อง คิดหนักหัวจะระเบิดไหม ห้ามระเบิดตอนนี้นะ เดี๋ยวเลือดมันจะสาดกระเซ็นใส่หน้าผมเอา แล้วพี่เขาก็มองหน้าผมอีก มองเคืองๆ มองเหมือนผมไปฆ่าแมวบ้านพี่มันตาย เฮ้พี่...นี่หมูกู กูจะแดกมันก็เป็นสิทธิ์ของกูนะเนี่ยน้า...

แต่ว่า ท่าทางเป็นห่วงเป็นเจ้าหมูน้อยที่พี่มะเดี่ยวมีเนี่ย มันทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ พี่เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกับผมนะ ไม่ได้เป็นอะไรกับไอ้ความรักด้วย ความประทับใจแรกก็ไม่มี มีแต่คำด่าก้องสองหูกูอยู่เลย ตาขวางๆ หน้าโหดๆ แต่หวงหมูชาวบ้าน...เออ แปลกตาดีอะ ยิ่งมองก็ยิ่งเอ็นดู ใช่คำถูกไหม...ผมควรเอ็นดูชายหนุ่มรุ่นพี่ที่สูงเกือบเสาร์ฟ้าหน้าคอนโดไหม

“มึงจะไม่เปลี่ยนใจจริงๆ อะ”

“อื้อ” พยักหน้าอย่างไว ไม่เปลี่ยนใจเพราะผมไม่ได้จะแดกมันจริงๆ

“กูถามอีกที...”

“พอๆ ถามกี่ทีผมก็ตอบเหมือนเดิม ว่าแต่พี่เหอะ มาสนใจมันทำไม ความรักเนี่ยของผมนะ” เอาสองแขนโอบตัวเจ้าความรัก มันก็ซุกแขนผมอย่างรู้ดี ขยับตูดบวมๆ ของตนเองนิดหน่อยเพื่อให้นอนได้เข้าที่เข้าทาง ดูสิ...มันน่าแดกไหมล่ะ ไม่ติดว่ามันหลับ ผมจะงับตูดมันให้จมขี้ยวเลย

“ก็...สงสารมัน”

“มันไม่เจ็บหรอกพี่ ผมเฉือดนิ่มมาก...” แล้วก็ยิ้มหวานตาหยีใส่พี่มัน ซึ่งเจ้าตัวไม่ขำกับผมเลย หน้าเครียดกว่าเดิมอีก

“กูไม่คุยกับคนจิตใจชั่วร้ายแบบมึงแล้ว คนอะไร จ้องแต่จะกินสัตว์เลี้ยงของตัวเอง คนแบบมึงอะนะ...แม่ง แม่ง!” แล้วพี่แกก็ลุก เดินลิ่วๆ หนีไป แล้วแม่งๆ อะไรก็พูดไม่จบ กลัวพูดแล้วแรงไปเหรอ วันนั้นพี่ด่าผมโคตรแรงไม่เห็นกลัวเลย เอ้อ...แปลกคน

“เอ็งนี่เสน่ห์แรงจังน้าไอ้ความรัก ดูสิ...ที่รักแกหัวเหวี่ยงใหญ่เลย” กระซิบใส่หูหมูเบาๆ ซึ่งมันก็กระดิกนิดๆ เหมือนตอบรับแต่ไม่รับรู้ เห่อๆ

พี่มะเดี่ยวเดินเข้าหาเพื่อนทั้งสองของผม พูดๆ แล้วชี้มาทางนี้ พวกนั้นกอดคอกันเดินไปทางไหนสักทาง นี่พวกมึงมีความลับอะไรกับกู ไม่ใช่รวมหัวแกล้งกูใช่ไหม....แม่ง รู้สึกถึงลางหายนะ หรือผมควรบอกพี่มะเดี่ยวว่าจริงๆ ผมแค่หยอกเล่น ผมไม่ได้คิดกินหมูตัวเองนะเว้ย คนหน้าซื่อตาใสอย่างผม จิตใจไม่อำมหิตขนาดน้าน...

ผมนั่งร้อนรนกระวนกระวาย อย่างกับมีใครมาก่อไฟไว้ใกล้ๆ ตัว เหงื่อซึมทั้งที่มีลมพัด ผมเพิ่งโดนแกล้งไปแหม็บๆ ไม่อยากโดนแกล้งอีกนะ นี่อุตส่าห์หนีพี่ชายทั้งสองมาได้ ยังต้องมาเจอคนแกล้งแบบนี้อีก เอาไงดี...ไอ้สามเอาไงดีวะมึง

หนีดีกว่า...

ผมรีบเก็บของใส่กระเป๋า อุ้มเจ้าความรักเบาๆ ใส่ตะกร้าหน้าจักรยานแล้วรีบปั่นหนีจากที่นี่ไปสิงอยู่ร้านน้าทันที อยู่ใกล้พวกนั้นเปอร์เซ็นโดนแกล้งเยอะมาก พอมาถึงร้าน ผมก็ช่วยน้านิดหน่อยๆ ก่อนจะต้องไปเรียนคลาสบ่ายต่อ วันนี้เลิกค่อนข้างเย็น กะว่าเลิกคลาสแล้วผมจะรีบชิ่งให้เร็วที่สุด พวกนั้นน่าจะไปฟลอซ้อมเต้นต่อ ผมจะไม่มีทางไปกับพวกมัน เกิดพี่มะเดี่ยวแกล้งผมอีก ผมไม่ต้องมุดดินมาเรียนเลยเร้อะ!

“ทำไมมึงหนีมาก่อนวะ...” มาถึงคลาส ไอ้วิ่งก็ยิงคำถามใส่ทันที

“เปล๊า ไม่ได้หนีเล๊ย” แล้วนี่ก็ไม่ได้เสียงสูงด้วยนะ พูดเสียงปกติเลย เสียงปกติแม่งเป็นแบบนี้แหละเชื่อผมสิ

“หรา! ทำอะไรไว้ระวังโดนนะมึง” ไอ้พีชก็ดันมาพูดให้กูเหงื่อตกเข้าไปอีก

“กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะมึง”

“ไปพูดให้พี่เดี่ยวคิดว่ามึงจะกินหมูตัวเอง มึงยังกล้าบอกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกเหรอ” ไอ้วิ่งหันมาพูดหน้าเหี้ยม พวกมึงจริงจังกันเกินไปปะวะ

“กูก็พูดงี้ตลอด พี่แม่งอะคิดไปเอง” ไม่ใช่ความผิดผมเลยนะเนี่ย

“เห่อๆ งั้นก็ช่างมึง...โดนพี่เขาหมายหัวเพราะมึงไม่ได้ทำอะไรเล้ยยยยย” วิ่งลากเสียงยาว ไอ้พีชขำแต่กูหัวเราะไม่ออก ยิ้มแหยๆ ยังยากเลยให้ตาย นี่ไม่ใช่ความกูนะมึงนะ...กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ฮื่อ...ทำไมต้องมาเจออะไรอย่างนี้!

.....100%.....

ช่วงนี้ยังอัปแค่อาทิตย์ละตอน ไว้ของเหลือจบจะอัปถี่กว่านี้นะคะ สำหรับเรื่องหวั่นใจมาก...มันใสๆ และน่ารักแบบที่ไม่เคยเขียนเลยอะ ฮ่าๆ หวังว่าเราจะทำได้ไม่แย่เกินไป

ส่วนที่พีชกับวิ่งโดนแกล้งเราอยากบอกว่ามันแกล้งกันอย่างนี้จริงๆ ที่อิมพีเรียลสำโรง สมัยเมื่อเกือบสิบปีก่อน (ดูแก่ทันทีเลยเรา) เราเห็นรุ่นพี่เราเล่นกัน แกล้งกันแบบนั้นแหละ คนมองแม่งฮานะ แต่คนโดนคงขำไม่ออก ท่ามกลางผู้คนเดินไปเดินมา ชั้นโรงหนังบ้าง ชั้นศูนย์อาหารบ้าง โอ้โห...อายแทนเลยอะ ป้ายรถเมล์ก็ไม่เว้นนะ เด้าพื้นกันป้ายรถเมล์   :hao7:  :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
นังน้องหมู  จะบทน้อย แต่แย่งซีนแบบนี้ไม่ด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :laugh:  ดูแล้วพี่เดี่ยวของน้องก็คิดไปไกลเลยนะคะ  o18

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 3 [100%]<<

เมื่อวานผมชิ่งหอบเอาความรักกลับห้องทันทีที่เลิกคลาส พวกมแม่งจะไปซ้อมเต้นกันจริงอย่างที่คาด คะยั้นคะยอจะให้ไปด้วยกัน ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องเข้าชมรมเดียวกันอยู่แล้ว ไปคลุกอยู่กับพวกพี่ๆ จะได้คุ้นเคย แต่แบบ...กูไม่อยากโดนแกล้งไง นี่ก็คิดแล้วคิดอีกว่าจะไปเข้าชมรมกับพวกมันดีไหม ผมควรอยู่ให้ห่างจากพี่มะเดี่ยวนะ ไม่ควอยู่ใกล้พี่ท่านอะ เกิดพี่ท่านจะแกล้งผมขึ้นมา ผมก็ไม่สู้อีก ส่วนไอ้สู้ได้หรือไม่ผมไม่รู้ ที่แน่ๆ ผมไม่สู้แน่นอน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องโดนสวนอะ

“วันนี้เอ็งต้องอวยพรให้ป๊าไม่โดนแกล้งนะเว้ยไอ้ความรัก” ผมบอกกับหมูตัวน้อยในอ้อมแขน ตาขวางๆ และท่าทางเมินเฉยของมันโคตรน่าหมั่นเขี้ยว ไม่ติดว่าขอพรเอ็งอยู่ พ่อจะกัดให้เนื้อหลุดเลยหนิ

ผมเอาความรักใส่กระเป๋าเป้ทั้งที่มีหนังสือเรียนและแอปเปิ้ล สะพายไว้ด้านหน้าเหมือนจิงโจ้ ปล่อยให้ความรักได้มองนั้นมองนี่ของมันไปเรื่อยเปื่อย นี่ตอนออกมา ผมไม่มองห้องตรงข้ามเลยนะ ผมเชื่อว่าหากเรามองหรือจ้องอะไรนานๆ สิ่งนั้นจะรู้ตัว ประตูห้องพี่ท่านอาจจะเปิดผลัวะออกมาได้ แล้วผมก็จะหนีไม่ทัน

ในทุกวันผมต้องมาเช้ากว่านอื่นในคลาสนิดหน่อย นอกจากปั่นจักรยานมาเองแล้วผมยังต้องเอาความรักไปฝากน้าบอยกับน้าภูมดูแลอีก ผมมาถึงร้าน ยกมือไหว้น้าทั้งสองที่กำลังยืนคุยกระหนุงกระหนิงกัน แววตาของทั้งคู่ทำเหมือนโลกใบนี้มีเพียงเรา แต่น้าครับ...กูยืนหัวโด่อยู่นี่ และลูกจ้างอีกหลายชีวิตเลยครับน้า

“วันนี้เลือกชมรมหนิใช่ไหม” น้าบอยเท้าเคาน์เตอร์มองหน้า น้าภูมกำลังเอาแคร์รอทปรนเปรอเจ้าความรักอย่างเอ็นดู๊เอ็นดู

“ใช่ เพื่อนสามจะให้สามเข้าชมรมบีบอย แต่สามไม่อยากเข้าเลยอะ” ผมนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ขาเดียวตัวสูงหน้าเคาน์เตอร์ เอาหน้าแนบไปกับเคาน์เตอร์เย็นๆ

“ทำไมละ ที่นั่นดูสนุกดีนะ” น้าภูมหันมาถาม

“ก็มีพี่คนหนึ่งแกแกล้งผมอะสิ”

“มะเดี่ยว?” ทำไมน้าบอยรู้ อย่าบอกนะว่าชื่อเสียงในการกลั่นแกล้งชาวบ้านเขากระฉ่อนมาก

“น้ารู้ได้ไง บอกมานะว่าได้ค่าส่วยไปกี่บาท” หรี่ตาจับผิด ซึ่งน้าก็หัวเราะใส่

“ไม่มะเดี่ยวก็โซฮาน มีแค่นั้นแหละที่ฟลอนั้นน่ะ แต่มะเดี่ยวนิสัยดีนะ...ชอบแกล้งไปหน่อยแต่น่ารักเชียว” น่ารักแล้วน้ารักเขาไหม...น้ารักเขาหรือเปล่า ฮ่าๆ ถ้าน้ารักเขาน้าจะยังมีชีวิตอยู่เหรอครับ น้าภูมยืนอยู่ข้างๆ ทั้งคน

“เขาดูดังเนอะ ใครๆ ก็รู้จักไปหมด”

“ก็ดังนะ เด็กกิจกรรม สมัยที่เขาเรียนเขาก็ป่วนมันไปทุกคณะนั่นแหละ ยิ่งทีมเป็นแชมป์ระดับประเทศด้วยก็ยิ่งมีคนรู้จักเยอะ พอๆ กับมีแฟนเยอะเลยแหละ” น้าภูมเป็นคนเล่าให้ผมฟัง ความรักกัดกินแคร์รอทไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น นี่เวลากินข้า ใครก็ห้ามยุ่ง!

“ว้าว...หนุ่มฮอตน่ะเอง”

“อืม ฮอต เฟรนลี่ แต่...คบใครได้ไม่นาน” น้าบอยบอกแค่นั้นแล้วหันไปรับออเดอร์ลูกค้า ผมโครงหัวไปมา ที่น้าพูดเข้าหัวผมแค่หนึ่งเปอร์เซ็นเท่านั้น

จะคบเยอะ คบนาน หรืออะไรก็เรื่องของเขา ประเด็นอยู่ที่เขาแกล้งผมเว้ย...เอ้อ มันอยู่ตรงนั้นแหละ ผมเลยไม่อยากเข้าใกล้เขาไง ถ้าเขาไม่แกล้งผม แค่กวนๆ หรือแค่ด่าว่าผมร่านก็พอทำใจได้ แต่นี่อะไร...โฮ่ ยิ่งฟังวิ่งกับพีชเล่าเรื่องที่โดนแกล้งนะ ผมนี่หนาวยันไข่เลยแหะ มันดูน่าสยดสยองกว่าตอนรับน้องอีก

“ผมไปเรียนล่ะ ถ้าเลิกเร็วจะมาช่วยนะฮะ ป๊าไปแล้วนะ...ห้ามดื้อรู้ปะ” เคาะกะโหลกความรักป๊อกๆ เจ้าตัวเอาจมูกมาดุนๆ มือ อาจหมายถึงเอามือไปจากหัวกู แต่ผมจะตีความแบบที่ผมพอใจนั่นคือ รับทราบครับป๊า~

ไอ้วิ่งและไอ้พีชมานั่งเล่นอยู่หน้าห้องเรียน ไม่รู้มานานเท่าไหร่แล้ว ผมเข้าไปเสนอหน้าหล่อๆ ของตัวเอง ฟังเรื่องเต้นของพวกมันแบบไม่เข้าใจ ผมไม่ได้แทรกพวกมันพูดหรอก ถึงไม่เข้าใจ แต่แค่ฟังมันก็สนุกดี เม้าท์มอยตามประสาเด็กสรีทเสร็จก็พากันเข้าเรียน วันนี้เราเลิกคลาสเที่ยง วิชานี้วิชาเดียวนี่แหละครับ จบวันนี้หยุดอีกสองวัน จากนั้นทุกอย่างก็วนกลับเข้ามาในรูปแบบเดิม

ผมสามคนตรงไปซื้ออาหารเที่ยงที่โรงอาหารคณะ ไม่นั่งกินกันที่นี่หรอก หอบปั่นจักรยานไปกินข้างลานกิจกรรมเหมือนเดิมนั่นแหละ เพราะพอกินเสร็จเราก็จะลงทะเบียนเข้าชมรมเต้นบีบอยได้เลยทันที ผมไม่อยากไปเลย แต่ก็ไม่อยากกินข้าวคนเดียว เข้าเรียนที่นี่ก็มีแค่พวกมันนี่แหละ ส่วนวิ่งกับพีชเนี่ยเขาเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว แค่เรียนมัธยมคนละที่ เจอกันที่ฟลอเต้นบีบอย

“มึง...กูไม่อยากเข้าชมรมนี้อะ” กินเสร็จผมก็บอกพวกมัน

“กลัวพี่มะเดี่ยวเหรอวะ”

“กูกลัวทุกอย่างแหละไอ้วิ่ง ที่มึงบอกกูเมื่อก็เล่นกูสยองแล้วล่ะ” แม่นมากไอ้เรื่องเล่นโฟลคิงแล้วโดนให้เด้าพื้นกับเอารองเท้ามาคุยต่างโทรศัพท์ ผมไม่อยากโดนแบบน้านอ่า

“ไม่ดิ เป็นลูกผู้ชายก็อย่างป๊อด” พีชมันดูดน้ำอึกๆ แต่ก็เสือกพูดแทรกเข้ามา แช่งให้สำลักน้ำตายเลยไอ้ห่า

“กูเป็นตุ๊ด...” แล้วก็ทำท่าสะดีดสะดิ้งใส่ วิ่งแบบโบกหัวผมดังป๊าบ นี่ดีนะที่ไม่ได้หัวเกรียน ไม่งั้นแสบสันแน่นอน

“ตลกล่ะ มึงไม่เข้าชมรมเดียวกับพวกกูแล้วมึงจะไปเข้าชมรมอะไรวะ” ได้คำถามพีชผมก็นั่งนึกทบทวนถึงชมรมที่มันมี

“เกษตร น่าจะเข้ากับกูที่สุดแล้วล่ะ ผู้หญิงน่าจะเยอะด้วยละมึง” ยิ้มแป้นแล้น ตางี้หยีไปหมดเพราะบ้านเป็นคนจีนผสมเมกา แต่ตาผมตี๋หน่อยๆ ได้แม่โคตร

“ไม่ได้ พวกกูบังคับ ลองอยู่ไปสักพัก ไม่ใช่ค่อยว่ากัน เขาไม่ได้บังคับว่ามึงต้องซ้อมหนักอะไรขนาดนั้น แค่พวกที่ไม่เป็นเขาก็จะมีพี่เลี้ยงคอยสอน แต่พวกที่เป็นอยู่แล้วเขาจะปล่อยไปตามยถากรรม” วิ่งว่าชิวๆ แต่ปล่อยไปตามยถากรรมในความรู้สึกกูมันไม่ชิวเลยอะเพื่อน เหมือนลอยเคว้งคว้างกลางอากาศประมาณนั้นไหมนะ

“พวกพี่ๆ มาแล้ว ตาพี่เดี่ยวแม่งโหลมาเลย ไม่ได้นอนชัวร์” พีชมึงนี่รู้ดีเนอะ กูอยู่ห้องตรงข้ามกันกูยังไม่รู้เลย

“นอนดึกมั้ง” ผมพูดลอยๆ

“ก็น่าจะ พี่เขาเป็นนักวาดของสำนักพิมพ์ งานเข้าทีกูเห็นพี่แม่งตาดำเป็นแพนด้าทุกทีเลย” ขอบคุณมากวิ่ง ที่บอกในข้อมูลที่กูไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่นัก

ไอ้วิ่งและไอ้พีชยกมือไหว้พี่มะเดี่ยวและเพื่อนของเขาอีกหนึ่งคน ผมต้องยกมือไหว้ตามเพื่อนมัน อย่างน้อยนี่ก็รุ่นพี่ ผมจะเข้าชมรมนี้ก็เท่ากับเป็นรุ่นน้องเขาเต็มตัว เพื่อนพี่มะเดี่ยวตัวเล็ก สูงประมาณผมและผอมแห้ง หน้าตาดี เกาหลีนิดๆ ประมาณนั้น พี่มะเดี่ยวสอดส่ายสายตาเหมือนมองหาอะไรซักอย่าง แต่พอไม่เจอก็จ้องมาที่หน้าผม เอ้ยยยย อย่ามาจ้องหน้ากันแบบนั้นสิฟร้ะพี่ ผมสยอง

“ความรักไม่อยู่เหรอ” แล้วพี่มันก็ถาม ผมยิ้ม

“กินไปแล้วพี่” ทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียว ทำไม ผมแค่หยอกเล่นเองเหอะ

“ไหนว่าจะรอให้มันโตก่อนค่อยกินไงวะ นี่อะไร...มึงรีบกินมันทั้งที่มันยังเล็กๆ อยู่เลยเหรอ ใจมึงนี่จะดำไปถึงไหน ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ไหมกูอยากรู้” น้ำเสียงและท่าทางดุดันมาก ผมขนลุกขึ้นมาในทันที พี่มันจะเอาจริงไปไหนของมันวะ ผมว่าผมดูออกง่ายมากนะ แล้วที่พูดแม่งก็แค่พูดเล่นเอง

“ใจเย็นเว้ย มึงนี่...น้องกลัวหมด” เพื่อนพี่เขาตบบ่ากำยำนั่นเบาๆ

“ความรักมันอยู่ร้านบีพีคอฟฟี่พี่ ไอ้นี่มันกวนตีนไปงั้นแหละ” ขอบคุณมากวิ่ง กูเกือบจะโดนแดกหัวอยู่แล้ว

สรุป...ไอ้ความรักมันเป็นหมูของผมหรือเป็นหมูของพี่มันวะครับ แล้วแบบ ผมเป็นคนรับเลี้ยงชั่วคราวอะไรเงี้ย พี่เขาเลยต้องเป็นห่วงว่าหมูของเขาจะปลอดภัยดีไหม ไอ้พี่เลี้ยงใจมารไม่ได้จับมันกินใช่เปล่า

“แล้วไป ตอบมาดีๆ ก็จบ...ชอบโดนด่านะมึง” ผมไม่ได้ชอบโดนด่า พี่อะชอบด่าผม

“ผมตอบดีแล้วน้า” ว่าแล้วก็เบะปากหน่อยๆ โดนด่าทุกทีที่เจอเธอ~

“ดีแล้วของมึงคนเดียวสินะ ตั้งชื่อหมูก็โคตรปัญญาอ่อน แล้วยังมาชอบพูดจากวนตีนชวนคิดลึกอีก” คนคิดลึกมันพี่คนเดียวอะสิ

“ขอโทษครับ” อยากสวนแต่กลัวโดนตบ ตอบดีๆ เพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายไปละกันเนาะ

“เออ” พี่มะเดี่ยวเดินกอดคอกับเพื่อนเข้าไปที่กลุ่ม น้องๆ ในชมรมยกมือไหว้พี่เขากันทุกคน บางคนไม่รู้จักหรอก แต่น่าจะไหว้เพราะเพื่อนตัวเองก็ไหว้น่ะ

“ชอบหาเรื่อง” อ่าวพีช มึงก็เข้าข้างพี่เขาเหรอ กูไม่ได้หาเรื่องอะไรใครเลยนะเนี่ย

“กูไม่ได้หาเรื่อง อยู่ของกูดีๆ เหอะ ตอบก็ตอบดีๆ ไม่ได้กวนตีนเลยสักนิดนะเนี่ย” สาธยายทั้งที่หน้างอ พี่แม่งพูดไม่ดีใส่กู เพื่อนยังมาพูดไม่ดีใส่กูอีก เอาเข้าไปชีวิต ใครจะเชื่อว่าพอเข้ามหาลัยแล้ว...ผมจะยังโดนรังแกอยู่ร่ำไป

“จ้า...น้องสามผู้ไม่เคยกวนตีนใครเลย” วิ่งยื่นหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆ อย่างล้อเลียน ผมอยากสวนอะไรใส่มันไปสักกอย่าง แต่นึกไม่ออกก็เลยโดนมันล้อเลียนฟรีไปหนึ่งยก

กะจะเอาคืนหลังมันเอาหน้าตัวเองออกไป ทว่าพีชเข้ามาห้ามทัพก่อน โดยให้เราทั้งสามไปลงทะเบียนเข้าชมรมกันได้แล้ว ผมเลยต้องเดินเข้าไปในนั้นเหมือนคนป่วยใกล้ตาย ยิ่งเข้ามาในกลุ่ม ยิ่งรู้สึกแปลกแยกและรู้สึกว่าผมช่างไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้เอาเสียเลย

ให้ผมไปนั่งทำฟาร์มอยู่กับพ่อแม่และพี่หนึ่งพี่สองดีกว่า แบบนี้มันโดดเดี่ยวเกินไป ถึงวิ่งและพีชจะไม่ทิ้งผมไปไหนเลยก็เหอะ ไม่รู้ดิ ผมเต้นไม่เป็นอะ แล้วก็ไม่ได้มีความคิดอยากจะเต้นด้วย ดูเขาเต้นกันแล้วมันน่าจะยากนะ เดอะสามคนนี้ไม่เคยทำอะไรยากๆ ทรหดสุดก็คือข้อสอบ เท่านั้นแหละที่ผมพอจะทำได้บ้าง ใช้คำว่าได้บ้างนะ เพราะบางทีผมก็สอบตก ชะเอิงเงิงเอย~

บ่นในใจไปงั้นแหละ มือนี่เขียนชื่อและนามสกุลอันสวยสดงดงามลงไปในใบสมัคเรียบร้อยแล้ว พีชเป็นคนรวบรวมเอาไปส่ง มันสองคนดูจะรู้จักคนในนี้แทบทุกคน เด็กถิ่นของแท้ต้องวิ่งแอนด์เดอะพีชเลยครับ พอส่งใบลงทะเบียนเสร็จเขาก็ให้เราไปนั่งรวมกลุ่มรอคนอื่นๆ กันก่อน เพราะยังมีคนทยอยเข้ามาเขียนใบสมัคอยู่เรื่อยๆ บางคนไม่รู้จักคนในนี้หรอก แต่มากับเพื่อน เคยเต้นที่อื่นแล้วอยากเต้นที่นี่ บางคนก็รู้จักคนที่นี่อยู่แล้ว เหมือนไอ้วิ่งกับไอ้พีชนั่นแหละ ผมนั่งฟังพวกมันสาธยายนู้นนี่นั่นให้ฟัง บอกคนนั้นเต้นเก่งอย่างงี้คนนี้เต้นเก่งอย่างงั้น ไหนจะมีบางคนเข้ามาทักทายพวกมันอีก

มีเพื่อนเป็นคนฮอตอะนะครับ...ต้องเข้าใจในความป๊อปปูล่าของพวกมันนิสสสสสนึง

“พี่โซฮาน พี่มะเดี่ยวละคะ” พี่ที่รับใบสมัคเดินเข้ามาถามเพื่อนพี่มะเดี่ยว คนตัวเล็กๆ ที่เอาแต่วอร์มอัพอยู่หน้าเรานี่แหละครับ แต่ชื่อโซฮานนี่ผมได้ยินน้าพูดนะ บอกว่าชอบแกล้ง โหย...เป็นเพื่อนที่นิสัยเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขรุ่ยเลยสินะครับ

“ไปซื้อกาแฟ เดี๋ยวมา แล้วนี่เด็กลงทะเบียนครบยัง จะมีมาอีกไหม”

“ก็น่ะมีมาเรื่อยๆ นะคะพี่ ไม่รู้เหมือนกัน...ปกติเด็กชมรมเราก็ไม่เยอะเท่าไหร่หรอก” พี่ผู้หญิงบอก

“งั้นเดี๋ยวรอไอ้เดี่ยวมาค่อยเริ่ม”

“ค่ะ” พี่คนนั้นเดินกลับไปที่โต๊ะลงทะเบียน

“พี่ผู้หญิงคนนั้นเต้นเก่งปะวะ” ผมลองสอบถามไอ้วิ่งกับไอ้พีช

“พี่ออมอะนะ สไตล์เทพมาก โคตรโฟลสุดๆ ไปเลยล่ะ แต่เรื่องของสกิว ก็ธรรมดาของผู้หญิงนั่นแหละที่ไม่เล่นสกิวหนัก พี่เขาสายฟีต พวกแอร์แชร์ โพสต์เบบี้ฟีซ เออ...พี่แกโพสต์เกาหลีสวยมาก” เอาละครับ...คนไม่เข้าใจมารวมตัวอยู่กับผมเถอะ ผมไม่เข้าใจสักอย่าง อะไรคือสไตล์สวย อะไรคือสายฟีต อะไรคือโพสต์เบบี้ฟีต โพสต์เกาหลีวะครับ? ชูสองนิ้วแอ็บแบ๊วงี้ปะ ไม่ดิ...นั่นญี่ปุ่น

“ฮ่าๆ หน้ามึงเหมือนควายเลย” อ่าววว ด่ากูตะมัยพีช กูไปเหยียบหางมึงเหรอ

“ก็กูไม่รู้นี่หว่า ไอ้วิ่งก็พูดซะแบบ เหมือนกูเต้นมาแล้วสักปีสองปีงี้ กูเพิ่งเข้าชมรมนะโว้ย” ว่าแล้วก็เบะปาก

“เดี๋ยวก็รู้เองแหละ นั่น...พี่มะเดี่ยวมาแล้ว มาพร้อมกับ...” วิ่งทิ้งคำ เราหันไปมองพี่มัน แล้วผมก็ต้องอ้าปากค้าง

“ความรักของมึง ฮิ้ว....” พีชเติมคำที่ขาดหาย ส่วนผมจ้องหน้าไอ้ลูกชายผู้ไม่รักดี ออเซาะเขาซะอย่างกับเขาเป็นพร่องงงงงมึงอะ

แล้วผมควรทำยังไง เดินเข้าไปขอความรักงี้เหรอ เดี๋ยวพี่แม่งแกล้งผมเหมือนเมื่อวานอีก วันนี้คนเยอะกว่าเดิมประมาณสองเท่าเห็นจะได้ เพราะเป็นวันที่ให้ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ เห็นว่าเปิดวันเดียว แล้วก็เปิดแบบจำกัดเวลา จากเที่ยงครึ่งไปถึงบ่ายสองครึ่งเท่านั้น หลังจากนี้จะไม่รับสมาชิกชมรมเพิ่มแล้ว ผมมองความรักแล้วเจ็บใจ มันเชิ่ดหน้ามองต่ำมาที่ผม พี่มะเดี่ยวเดินมาหยุดตรงหน้า มองต่ำเหมือนหมูกูเลยพี่...แต่พี่แม่งดูน่ากลัวกว่า

ว่าแต่...น้ากูปล่อยหมูมากับพี่มันเนี่ยนะ โฮ~

“สวัสดีครับ...” พี่เขาพูแขึ้นกลางปล้อง ผมยังอาลัยอาวรณ์กับหมูน้อยผู้ไม่รักดีของตัวเองก็ต้องตั้งใจฟัง

“สวัสดีครับ” เด็กๆ ในชมรมต่างส่งเสียขานกลับ ผมไม่รู้ว่าต้องทำเลยไม่ได้พูดอะไร

“พี่ชื่อมะเดี่ยว เป็นที่ปรึกษาชมรมและเป็นผู้สอนหลักของชมรมนี้นะครับ นั่นพี่บอม...พี่ปีสี่หัวหน้าชมรมที่มีหน้าที่ทำตามพี่สั่ง ส่วนพี่ผู้หญิงนั่นคือพี่ออม พี่ปีสามที่จะรับหน้าที่ดูแลน้องๆ ที่ไม่มีพื้นฐานบีบอยกันเลย ว่าแต่ในนี้มีเยอะไหมครับ” พี่มันไม่ต้องตะโกนเสียงแม่งก็ดังอะ แดกลำโพงเป็นมื้อเที่ยงวันนี้ปะวะพี่ ในใจก็บ่นไปตามเรื่องอะเนาะ แต่ร่างกายตอนนี้ทำหน้าที่ยกมือสูงๆ เพื่อบอกว่าตัวเองไม่มีพื้นฐาน ซึ่งก็มีแบบผมอีก...สองคน

แม่มเอ้ย...ยังดีที่ไม่ใช่กูคนเดียว

“สามคน สบายแล้วออม” พี่มะเดี่ยวขำ

“สบายจริงๆ พี่” พี่ออมแกก็ยิ้ม ไม่ต้องสอนเยอะเลยไม่เหนื่อยมากสินะครับ

“นั่นแหละครับ พวกไม่มีพื้นฐาน พี่ออมจะเป็นคนสอน อย่าดูถูกว่าผู้หญิงเต้นบีบอยไม่เก่ง เพศไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความสามารถนะครับ ห้ามหือ ห้ามดื้อ ห้ามหน้ามึน ห้ามกวนตีน พี่เขาสอนให้ฟังและทำตามอย่างเคร่งครัด ส่วนคนที่เป็นแล้วให้เต้นกันไปตามมีตามเกิด สิ่งที่สำคัญของที่นี่คือ...ถ้าน้องอยากได้วิชา น้องต้องเข้ามาขอพี่ๆ เอง รุ่นพี่เก่งๆ มีเยอะมากในชมรมเรา พวกเขาจะซ้อมและฝึกกันโดยแชร์ทริกให้แก่รุ่นเดียวกันหรือเพื่อนกัน ส่วนน้อง เห็นพี่ทำแล้วอยากทำบ้างให้เดินเข้าไปขอให้เขาสอน อย่าเอาแต่รอคอยแล้วไปบ่นว่าพี่ไม่สอนน้อง ชมรมเราไม่นิยมเอาอาหารป้อนใส่ปากน้องๆ นะครับ อยากได้อยากมีอยากเก่งต้องพัฒนาตัวเอง พวกพี่ไม่หวงวิชา แต่พวกพี่ก็ไม่เดินเอาวิชาไปเสิร์ฟน้องๆ แน่นอน ที่สำคัญจำให้ขึ้นใจ...หนึ่ง ห้ามใส่รองเท้าแตะลงฟลอ ไม่มีรองเท้าใช้เท้าเปล่าเท่านั้น สองห้ามโอดโอย...บีบอยเกิดมาคู่กับความเจ็บปวด และสาม...หน้าน้องต้องด้าน เอาถูกับพื้นปูน พื้นปูนต้องสึกหลอไม่ใช่หน้าน้อง เข้าใจตรงกันนะครับ!!!”

“ครับ!!!” สาบานกับผม...ว่านั่นคือกฎ หน้าด้านเนี่ยนะ ปูนต้องสึกแทนหน้ากูเลยเนี่ยนะ โฮ้กกกกก ใครก็ได้เอากูออกไปจากที่นี่ที~

.....100%.....

นี่สินะที่เขาเรียกว่า...โจรปล้นความรัก ตัวจริงเสียงจริงคือพี่มะเดี่ยวคนนี้นี่เอง~

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 4 [100%]<<

พี่มะเดี่ยวแกพล่ามเสร็จก็แยกย้ายไป คนอื่นที่รู้หน้าที่ดีก็ย้ายไปตามมุมตัวเอง เหลือพวกเต้นไม่เป็นไม่มีพื้นฐานอย่างผมสามคนนั่งแหง่ว พี่ออมเดินมาหยุดอยู่แทนที่พี่มะเดี่ยว เธอยังคุยๆ กับเพื่อนอยู่ ทิ้งให้เราสามคนมองหน้ากันไปมา

“มา...เรามาแนะนำตัวกันก่อนเนาะ เริ่มจากคนแรกเลยครับ” พี่ออมชี้ไปทางคนซ้ายสุด ผมอยู่ขวาสุดเพราะงั้นคนแรกไม่ใช่ผม

“เอ่อ...ผมชื่อไทม์ครับ เรียนบริหาร” ดูไอ้ความรักสิครับ พี่มะเดี่ยวปล่อยให้มันเดิน มันก็เดินตามพี่มะเดี่ยวต้อยๆ อย่างกับเป็นลูกเขาเลยอ่า...มึงลูกกูน้า กูเป็นป๊ามึงน้า เห็นหัวกูไหม

“อะแฮ่ม...น้องสามคะ สนใจเพื่อนพูดหน่อยค่ะ ความรักจากพี่มะเดี่ยว น้องจะไปขอตอนไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะคะ” เวรกรรม ผมนี่หน้าบางขึ้นมาฉับพลันเลยให้ตาย

“ผมเปล่า...”

“พี่รู้ว่าเราชอบพี่มะเดี่ยว แต่ตอนนี้เราอยู่ในกิจกรรมที่ทำร่วมกับเพื่อนๆ พี่อยากให้น้องสนใจเพื่อนก่อนนะคะ”

“ครับ” แล้วกูก็เถียงไม่ออก คนอื่นจะคิดยังไง ฮื่อ เดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาชักจะอยากมุดดินเหมือนตุ่นแล้วล่ะ

“งั้นตอบมาซิว่า เพื่อนเขาแนะนำตัวว่าไง” นี่ข้อสอบใช่ไหม มองหมูอยู่จะไปรู้ได้ไงเล่า

“ชื่อ...ไม่รู้ครับ” ตามนั้น ไม่รู้บอกไม่รู้ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา

“หึหึ...ออกมานี่ครับ” ขนลุกแปลกๆ พี่เรียกผมออกไปทำไม จะแกล้งอะไรผมครับ เบะปากแล้วร้องไห้เลยได้ไหม เผื่อได้ความเห็นใจจากรุ่นพี่สาวสวยคนนี้

เรื่องดีตอนนี้มีเรื่องเดียว ไม่มีใครเขาสนใจผมนอกจากเพื่อนอีกสองคนที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเหมือนกัน นอกนั้นเขาซ้อมเต้นกันเป็นกลุ่มๆ เพลงเดียวกันเต้นแม่งบีทเดียวกันให้หมด พี่มะเดี่ยวเล่นกับความรัก นี่ที่ซ้อมเต้นไม่ใช่สนามหญ้าหน้าบ้านนะครับ แหม่...ทำอย่างกับเดินเล่นกันอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ เห็นแล้วหมั่นไส้

“ถอดรองเท้าครับ” มองหน้าพี่ออมอย่างไว ถอดทำไมครับ ผมไม่ถอดได้ไหมครับ...ผมรักคอนเวิร์สของผมมาก ขอร้องละครับอย่าพรากมันไปจากผมเลยครับ

“เอ่อ...”

“ถอดมาข้างเดียว”

“ครับ” ความรู้สึกของผมตอนนี้คือเหมือนผมเป็นไก่อะครับ ยังไงเหรอ งงเหรอ ก็พี่ออมกำลังจะเฉือดไก่ให้ลิงดูไงครับบบบ

“ทีนี้น้องก็คาบเชือกรองเท้าเอาไว้ ขาข้างที่ไม่มีรองเท้าให้งอไปด้านหลัง ยืนเป็นกระต่ายขาเดียว มือทั้งสองใส่ในกระเป๋ากางเกงเอาไว้ครับ” น้ำตาแทบไหลเป็นสายเลือด กูโดนอีกแล้วไง แค่ไม่ทันฟังเอง ผมเป็นห่วงหมูผมอะ ผมผิดอาราย...ทำไมชีวิตในรั้วมหาลัยของผมช่างรันทดยิ่งนักครับพี่

“คร้าบ...” แต่ก็ไม่เถียง ตอบเสียงอ่อย ทำตามอย่างว่าง่าย เดอะสามเป็นเด็กดีครับ ให้ทำไรผมทำหมด แต่ให้ผมไปตายผมไม่ไปนะ...ผมต้องได้กินความรักก่อนถึงยอมตาย

ผมจำใจคาบเชือกรองเท้าของตัวเอง สอดมือใส่กระเป๋ากางเกงและยืนกระต่ายขาเดียว ตอนแรกไม่มีใครสนใจพวกเราเลยครับ แต่ตอนนี้มีแล้ว มีเยอะด้วย ชี้โบ้ชี้เบ้มาทางนี้แล้วหัวเราะ ไม่มีใครชอบโดนหัวเราะเยาะหรอกครับ มันอับอายนะเนี่ย...อยากจะร้องไห้ให้รู้แล้วรู้รอด พี่ออมแกเดินมาหยุดตรงหน้า ถ่ายรูปผมเอาไว้แล้วหันไปบอกอีกสองคนว่า ถ้าหือกับพี่จะโดนอย่างนี้แหละ

เห็นไหม...ผมเป็นไก่

“อะ แนะนำตัวใหม่” ผมยังยืนอยู่ที่เดิมนะ พี่แกไม่ได้ใจดีแบบให้ทำท่าถ่ายรูปละก็จบ ให้ยืนไปงั้นแหละ

“ผมชื่อไทม์ครับ เรียนบริหาร” คนแรกทางซ้ายแนะนำ ตามด้วยอีกคน

“ผมชื่อโจ้เรียนบริหารครับ” เด็กคณะเดียวกันเหรอเนี่ย แล้วพื่อนกู...แม่งอยู่พู้นนนนน วิ่งไล่หมูกันอยู่นู้น โอ้ย ร่างเริงบันเทิงใจกันแท้น่อว

“เอ้า ตาเราแล้ว ใส่รองเท้าได้เลย พี่ให้อภัยละ” แทบทรุดลงไปกราบ ห้านาทีเหมือนห้าชาติได้ อับอายจริงจิ๊งงงง

“ครับ ขอบคุณครับ ผมชื่อสาม เรียนครุศาสตร์ครับ” ผมมีความฝันอยากเป็นครู แต่ไม่อยากทำงานราชการ คือ...จะออกไปสอนเด็กแบบฟรีๆ อะครับ

เข้าโหมดหล่อนะ...บ้านผมค่อนข้างมีเงิน มีทองมีอนาคตดีอยู่แล้วแน่นอน ดังนั้นผมเลยคิดที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง เช่นเป็นครูที่สอนให้เด็กยากไร้ฟรีๆ สอนพิเศษฟรีๆ ผมเลือกเรียนเอกภาษาอังกฤษ เพราะว่าวิชานี้เป็นวิชาที่คนเข้าถึงได้น้อย คนสอนดีๆ ก็เปิดเป็นเรียนพิเศษคลอสหนึ่งแพงๆ ผมอยากทำฟรีอะ คิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ต่อเด็กๆ แถวบ้านผมเองก็มีชุมชน คนแถวนั้นไม่ค่อยมีการศึกษาที่ดีนัก โรงเรียนเป็นโรงเรียนวัด อยากให้ลูกเรียนดีต้องเข้าไปเรียนในตัวเมือง ซึ่งผมกับพี่ๆ เรียนเอกชนในตัวเมือง

ตอนหลังผมเข้าวัดกับแม่ เจอเด็กๆ ที่ก็ไม่ใช่ว่าด้อยโอกาส เพียงแต่ทุนทรัพย์เขาไม่มี เขาก็ช่วยหลวงปู่หลวงตาทำวัด เพื่อแลกกับการเรียนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ ผมเคยถามแม่ทำไมเขาไม่ปเรียนที่ดีๆ แบบเรา แม่ก็ตอบว่าเขาไม่มีเงินขนาดนั้น แล้วพระท่านเองก็มีวิชาพอสอนไม่มากนัก ผมเลยอยากช่วย...อยากเป็นครูที่สอนพวกเขา โดยไม่ต้องมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

พอผมบอกความต้องการกับพ่อแม่ พ่อแม่เลยให้ผมเรียนที่ดีๆ เรียนสูงๆ โรงเรียนดังๆ หมดเงินไปเยอะ แต่ถ้าเราอยากจะเป็นบุคลากรที่ดีก็ต้องมีการศึกษาที่แน่นหนาพอ นั่นเป็นเหตุให้ผมเข้าเมืองใหญ่มาเรียนแบบนี้นี่แหละครับ

โอ้โห หล่อแบบจริงจังมากอะ!

ส่วนธุรกิจที่บ้านเนี่ยก็ไม่ต้องห่วง นอกจากมีพี่ชายสองคนดูแลแล้ว ผมยังอาศัยความเชี่ยวชาญหรือว่าประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าเรียนจากหนังสือ ยิ่งเราทำงานกับสิ่งมีชีวิตก็ยิ่งต้องใช้สัญาตญาณและประสบการณ์มากหน่อย บางทีหนังสือไม่ได้บอกเราทั้งหมดนะ ผมเลยไม่ห่วงเรื่องการช่วยงานที่บ้านเลย

“อนาคตคุณครูนี่เอง แต่เป็นคุณครูที่ดีได้ไหมนะ ไม่ตั้งใจเรียนเลยเนี่ย” พี่ออมอย่าดุผมดิ ผมหงอไปหมดแล้วเนี่ย

“ผมขอโทษครับ” ยกมือไหว้ขอโทษงามๆ พี่แกกลับหัวเราะผมเบาๆ ซะอย่างนั้น พี่แกล้งผมอีกแล้วอะ...ทุกคนชอบแกล้งผม

“วันนี้เราจะแนะนำพื้นฐานและสายการเต้นต่างๆ ก่อน ยังไม่เต้นจริง ไว้วันจันทร์เราถึงจะเริ่มซ้อมเนาะ” เราทั้งหมดขานรับ ผมอยากจะหันไปมองไอ้ความรัก แต่กลัวพี่ออมทำโทษอีกก็เลยไม่กล้าส่งสายตาไปเมียงมอง

รู้สึก...คิดถึงความรักจังเลย

พี่ออมให้เราเดินตามไปยังกลุ่มก้อนต่างๆ นักเต้นทุกคนคลุกดินคลุกฝุ่น ภารโรงบอก กูสบายแล้วววว ถือเป็นกรทำความสะอาดอย่างหนึ่งเลยทีเดียว มิน่า พื้นของใต้อาคารนี้ถึงได้มันเงาวาววับจับใจได้ขนาดนี้ มาถึงกลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่พี่มะเดี่ยวยืนมองน้องๆ อยู่ พร้อมกับความรักในมือ ไอ้นี้ออเซาะเขาไม่ยอมเลิกรา เขาให้อาหารมึงดีมากหรา ถึงได้ดูรักเขากว่าพ่อมึงแบบนี้หา!

“พี่ออม มีน้องมาขอสมัคเพิ่ม” แต่พี่หญิงของเรายังไม่ทันได้แนะนำ ก็มีคนเดินเข้ามาบอก ตรงโต๊ะรับสมัคมีคนมาออกันสี่ห้าคน เป็นเด็กผู้ชายล้วน ที่นี่หาผู้หญิงได้ยากยิ่งนัก

“ไปเถอะ เดี๋ยวพี่อธิบายเอง” พี่มะเดี่ยวอาสาอธิบายเกี่ยวกับกลุ่มนี้ ส่วนผมกำลังส่งกระแสจิตไปให้ความรัก บังอาจหนีไปกับคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง เป็นลูกที่ไม่รักดีเอาเสียเลยจริงๆ น่าตีให้ตาย เอาให้ตาย!

“ที่เราเห็นนี้เรียกว่าสายพาวเวอร์มูฟ น้องจะเรียกว่าหมุนๆ หรืออะไรแล้วแต่ แต่ภาษาของเราเรียกมันพาวเวอร์มูฟนะ เป็นสายที่ใช้แรงโน้มถ่วงของโลกในการทำให้เกิดท่วงท่า และพาวเวอร์ก็ยังมีทั้งหอล่างและหอบน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราจะเริ่มจากท่าพื้นฐานที่เป็นหอล่าง ชื่อท่าว่าวินด์มิล” แล้วพี่แกก็สั่งให้น้องคนหนึ่งทำท่าวินด์มิลให้เราดู ผมจะพยายามอธิบายให้เข้าใจละกัน เขาก็แบบ...เหมือนนอนคว่ำหน้าอะ มีมืออยู่ตรงท้อง แล้ว...ยังไงต่อวะ ทำไมเขาหมุนกลิ้งๆ แล้วอ่า โฮ...ผมไม่เข้าใจอะไรเลย

“แล้วท่าพื้นฐานนี้เต้นยากไหมครับ ปกติเขาใช้เวลาฝึกกันนานไหม” ไทม์ตั้งคำถามที่แสนจะมีประโยชน์ ส่วนผมคิดว่ากูจะแย่งความรักมาจากมือพี่เขาอย่างไรให้ไม่โดนเตะ

“แล้วแต่คนครับ บางคนสองชั่วโมงก็ทำได้ บางคนอาจใช้เวลาเป็นเดือนก็มี สิ่งสำคัญอยู่ที่ความชอบและการหมั่นฝึกฝน” พี่เขาหันมามองหน้าผมที่จ้องตากับความรัก จากนั้นยิ้ม...ยิ้มเพื่อ?!!

“แล้วพี่ทำท่านี้ได้ไหมครับ” โจ้ถามต่อ

“พี่ทำได้ครับ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้นะ บางคนก็ถนัดไปทางสายฝืน อย่างคนนั้นที่เล่นหกสูง” พี่มะเดี่ยวชี้ไปที่พี่คนหนึ่ง แกเล่นหกสูงแบบมือขวามือเดียว เอียงตัวไปทางขวา ร่างกายนี่ตรงเด๊ะ ปลายเท้าขวาเกือบจะถึงพื้น นี่เรียกว่าเป็นการบาลานซ์ร่างกายอย่างหนึ่งเลยชิมิ

“ดูยากเนอะ...” ผมพูดออกไปลอยๆ ผมไม่มีทางทำแบบนั้นได้แน่ๆ หกสูงผมยังทำไม่ได้เลย

“ไม่มีใครเกิดมาแล้วทำได้หรอกครับ สายฝืนนี่เป็นสายที่เล่นสกิวฝืนแรงโน้มถ่วงของโลก ต่างจากพาวเวอร์มูฟที่ใช้แรงโน้มถ่วงในการเล่นสกิว”

“แล้วอะไรมันยากกว่าอะครับ” ผมถามต่อ จะได้เลือกอะไรที่มันง่ายๆ

“ไม่มีครับ” ขอบคุณมาก กราบงามๆ สามทีให้กับคำตอบที่ไม่ช่วยให้ผมนั้นได้เลือกอะไรได้ง่ายขึ้นเลย เดอะสามอยากกลับบ้านไปเลี้ยงหมูแล้ว

“แล้วคนที่สามารถเล่นทั้งสองสายมีไหมครับ” ไทม์ถามต่อ ปล่อยให้ผมโอดโอยกับสิ่งที่เพิ่งรู้ไปเพียงลำพัง

“มีครับ และยังมีอีกสายเรียกว่าสายทริก สายนั้นจะเป็นพวกจั๊มพ์ อย่างคนนั้น” ชี้ไปที่พี่คนหนึ่งกำลังหกสูงสองมือ แล้วเขาก็ดีดขาจนตัวลอย มันก็เหมือนเรากระโดดแหยงๆ อะครับ แค่ใช้มือกระโดดเท่านั้นเอ๊งงงงง ไม่พอ...ดูไปอยู่ดีๆ พี่แกก็เอียงตัวนิดหน่อย ยกมือข้างหนึ่งขึ้น จากนั้นกระโดดต่อด้วยมือเดียว

โอ้มายก๊อดดดดดด เก่งไปไหนวะ มือพี่ทำด้วยอะไร เหล็กเร้อะ!

เห็นแต่ละอย่างแล้วผมก็สำนึกตัวเองว่า กูไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้จริงๆ นั่นแหละ ผมว่าผมเต้นแบบที่พวกเขาสอนหรือที่พวกเขาเต้นไม่ได้หรอก จะบอกว่าผมผอมแห้งแรงน้อยก็ไม่ได้ด้วยนะ พี่โซฮาน เพื่อนพี่มะเดี๋ยวตัวเล็กเหมือนผมเลย ผอมกว่าอีกมั้ง เขายังเต้นเก่งเลยอะ เห็นแล้วห่อเหี่ยว ส่งความรักมาให้แล้วผมกลับบ้านไปเลี้ยงหมูอยู่ห้องดีกว่า

“หน้าหงอเป็นหมาเลย” จู่ๆ พี่มะเดี่ยวก็หันมากระซิบ เพื่อนที่เต้นไม่เป็นอีกสองคนกำลังยืนดูพี่คนนู้นนนนจั๊มพ์อยู่

“ใจผมก็หมานะตอนนี้อะ ผมขอออกจากชมรมได้มะ เอาความรักคืนแล้วปล่อยผมกลับป่าเหอะเนอะ” ว่าแล้วก็เบะปาก ไม่ได้จะอ้อนนะ แค่อยากให้เห็นใจไอ้หมาแห้งตัวนี้หน่อย

“ฮ่าๆ ถามจริง เข้าชมรมนี้ทำไม”

“เพื่อนบังคับ” ชัดเจนไหมพี่ เพื่อนผมลากมา ผมไม่ได้อยากจะเข้าเล้ย

“ไอ้วิ่งกับไอ้พีชอะนะ มิน่าล่ะ...มึงถึงต้องมาทำหน้าหมาหงอยอยู่นี่ เออ แล้วเมื่อกี้ออมลงโทษมึงทำไม” แล้วพี่จะถามผมทำไมนักหนาละหนิ

“ผมไม่ได้ฟังเพื่อนแนะนำตัว ซึ่งต้นเหตุของอาการไม่ฟังเพื่อนพูดนั้นก็มาจากพี่นั่นแหละ พี่อะ ไปเอาความรักมันมาทำไม พี่รู้ไหมพี่ไม่ควรเอาความรักมาตากแดดตากลมแบบนี้ มันเกิดความเครียดแล้วเนื้อมันจะไม่อร่อยนะ” ผมจิ้มหน้าไอ้ความจึ้กๆ มันพยายามจะเอาจมูกมาดุนมือผมทิ้ง เดี๋ยวเถอะ..หือกับป๊านัก กัดหนังขาด!

“ก็ไม่ได้อยากเอามาหรอก แต่พี่ไปบอกพี่บอยว่าเราจะกินมัน พี่บอยเลยให้พี่ไงครับ เขาบอกไหนๆ เจ้าของมันก็ไม่รักมันแล้ว ยกให้คนอื่นไปเลยแล้วกัน” ตาค้างไปแล้วกู...เอาจริงดิ น้ากูทำกับกูแบบนี้จริงดิ โฮฮฮฮฮ

สารร่างของวิญญาณผมตอนนี้ทรุดเข่ากระแทกพื้นเข่าแตก น้ำตาไหลอาบหน้าไปเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ร่างจริงอย่างผมกำลังยืนนิ่งมองพี่มันเหมือนจะร้องไห้ ความรักมันเป็นของผมนะ คนอื่นไม่มีสิทธิ์ซี่

“พูดจริงดิพี่...”

“จริง พี่ไม่ใช่คนชอบโกหก” น้ำตาปริ่มล่ะ จากจิ้มหัวความรักก็กลายเป็นลูบหัวมันแทน มันจะจากผมไปเหรอ ไม่ได้..มันเป็นของผมนะ

“คือ...”

“แต่พี่ยินดีเลี้ยงมันนะ ไหนๆ เจ้าของมันก็ใจร้ายจะกินมันอยู่ทุกวัน สู้มาอยู่กับพี่ดีกว่า...พี่จะเลี้ยงมันให้ดี ไม่กินมันไม่ทำร้ายจิตใจมันเหมือนเจ้าของมันหรอก เนอะความรัก...อยากอยู่กับป๊าใช่ไหม” เรียกตัวเองป๊าเหมือนกูด้วย ไอ้ความรักก็ช่างแสนรู้ แม่งพยักหน้ารับอีก มึงเข้าใจที่เขาพูดใช่ไหม มึงเข้าใจจริงดิ...ไม่นะม่ายยยย

“พี่...” กูพูดไม่ออก จะร้องไห้ละ รู้สึกสะเทือนใจ น้ายินดีมอบมันให้คนอื่นด้วย ทำตัวเองใช่ไหมเนี่ยกู...ไม่น่าไปพูดว่าจะกินมันเลยอ่า พี่แม่งจริงจังจนฟ้องน้ากูไปละ

พี่มะเดี่ยวมองหน้าผมยิ้มๆ แกปัดมือผมออกจากหัวของไอ้ความรัก แล้วเดินหนีไปหาไทม์และโจ้ เหมือนกับว่าไม่สนใจใยดีผม ไอ้ความรักก็กระไร มึงเห็นดีเห็นงามกับการจากกูไปมากเลยเหรอ เศร้า...เดอะสามคนนี้เศร้ามาก

“พี่ครับ” ผมตัดสินใจเดินเข้าไปดึงแขนล่ำๆ ของพี่มันเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเดินไปต่อที่กลุ่มอื่น น้ำตาคลอไปหมดล่ะ

“ครับ?” พี่มึงทำเป็นเฉยชาใช่ไหม อย่าใจร้ายกับผมนักเลย โฮ่...

“ผมไม่ได้จะกินมัน ผมแค่...หยอกมันเล่น ผมขอมันคืนเถอะนะครับ” พูดไปเสียงก็สั่นไป คนอื่นหันมาสนใจเราสองคนอีกแล้ว ช่างแม่ง เอาหมูกูคืนก่อนนนน

“จริงดิ พี่ถามตั้งหลายรอบเราก็ยืนยันคำเดิม ไม่เอาหน่าสาม...อย่าเจ้าน้ำตา พี่ไม่คืนความรักให้เราหรอก เราไม่รักมัน เราก็ปล่อยมันให้อยู่กับพี่ที่รักมันดีกว่า ถ้าจะกินหมู ก็ไปกินตัวอื่น” แล้วพี่มันก็เดินหนีไปเหมือนไม่สนใจใยดีผมอีกครั้ง

ผมไม่กล้าเดินตาม ปาดน้ำตาตัวเองทิ้งแล้วมองเหมือนโดนหักอกจากความรัก หมูทิ้งผมอะ ทำไงดี...ผมไปคุกเข่าขอความรักคืนพี่มันจะยอมส่งความรักให้ผมไหม ผมบอกแล้วไง ถึงผมจะชอบขู่มัน แต่ผมก็รักมันนะ...ผมเลี้ยงมันมากับมือตั้งแต่ตัวยังแดงๆ อยู่เลยนะเว้ยเฮ้ย

“เฮ้ย...มึงเป็นอะไร” ไอ้วิ่งกับไอ้พีชที่เพิ่งสังเกตเห็นผมวิ่งเข้ามาหา ผมชี้ไปทางพี่มะเดี่ยว เขาอยู่ไม่ห่างมาก แต่ในสายตาผมช่างแสนไกล ลูกพ่อ...กลับมาเถอะ พ่อให้อภัยแล้ว

“ความรักจากกูไปแล้ว...ฮึก” น้ำตากูจะไหล ไม่...ไหลเลยแล้วกัน

.....100%.....

เราจะเริ่มมาอัปถี่ขึ้นน้า~

ในเรื่องของชื่อท่าการเต้นบีบอยนั้น เราเข้าใจว่ามันเข้าใจยากและจินตนาการยาก เราเลยเล่าผ่านสามที่ไม่มีรู้เกี่ยวกับการเต้นแนวนี้ ลองเรียนรู้ไปพร้อมกับสามนะ ละก็...เหตุการณ์ในฟลอ หลายๆ เหตุผลการณ์ในเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เราประสบมาเอง แต่สามและพี่มะเดี่ยวไม่ได้มีตัวตนน้า ^^

เรื่องนี้...เขียนไป ก็คิดถึงวันเก่าๆ ไป คิดถึงบรรยายกาศเดิมๆ ความวุ่นวาย เสียงเพลง และความซนของเหล่าเด็กผู้ชาย รวมถึงความเจ็บปวดจากการซ้อมเต้นด้วย การเต้นบีบอยคือความฝันของเรา...เราได้ทำมันแต่เราไม่เคยทำมันจนถึงฝันที่มุ่งหวัง แต่มันก็เป็นความทรงจำที่ดีของเรา ^^

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ถ้าเราเป็นสาม ในตอนนี้ เราคงเกรี้ยวกราด แบบ อะไรเนี้ยทำไมฉันต้องทำ บังคับก็ยังโดนบังคับมาลงชมรมอะไรก็ไม่รู้ แล้วยังต้องมาโดนแกล้งแถมเพื่อนก็ไม่สนใจเลยว่าเรากำลังเป็นอะไรโดนอะไร ไม่แคร์เลยมีแต่บังคับ เราคงปรี๊ดแตกไปแล้ว 555

ปล.แต่ถ้าเป็นตัวเราเอง คงไม่เข้าชมรมแต่แรกให้เสียอารมณ์ เพื่อนแวะมาเราก็จะแซะกลับ  o18 o18 o18

ปล.2 นังหมูความรัก หล่อนมันหมูสะดิ้ง !!

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
หรือเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของความรักกับพี่มะเดี่ยว ฮ่าๆ น้องสามน่าสงสารร :hao7:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เอ็นดูน้องสาม 555555

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 5 [100%]<<

ผมเล่าเรื่องพี่มะเดี่ยวขอความรักไปจากน้าของผมให้เพื่อนทั้งสองฟังหลังมันพามานั่งด้านข้างอาคารที่คนไม่เต้น  แต่แทนที่มันฟังแล้วจะเห็นใจผม มันกลับพากันหัวเราะ นี่ชอบใจอะไรกัน กูเศร้าจริงจังนะเนี่ย ผมมักหันไปมองทางความรักบ่อยๆ มันวิ่งเล่นอยู่รอบตัวพี่มะเดี่ยวที่กำลังทำท่าให้น้องดู ผมนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ไกลจากมัน มันยังไม่มาหาผมเลยอะ โดนหมูทิ้งนี่แม่งเจ็บกว่าอกหักอีกเหอะ...

“ทำไมมึงไม่โทรหาน้าบอยของมึงดูล่ะ แทนที่จะไปเชื่อพี่เขาเลย มึงควรถามน้ามึงก่อนไหม” เออ จริงของไอ้วิ่ง

“ก็มึงเอ๋อแบบนี้ไง เขาถึงชอบแกล้งมึงอะ” ไอ้พีชก็ซ้ำเติม ผมไม่สน โทรหาน้าเลยทันที

ก็รอสายอยู่นานอะกว่าน้าของผมจะรับ ผมนี่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ กลัวน้าบอกว่าที่พี่มะเดี่ยวพูดเป็นเรื่องจริง ถึงความรักจะเป็นของผม แต่ผมไม่ได้ซื้อมาด้วยเงินตัวเอง ครอบครัวก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจยกให้คนอื่นไปเลี้ยง พี่มะเดี่ยวเองก็ดันไปพูดว่าผมมีเป้าหมายในการกินความรักเป็นอาหาร น้าอาจเชื่อพี่เขาแล้วยกความรักให้เขาง่ายๆ ได้

“น้าบอย...น้ายกความรักให้พี่มะเดี่ยวเหรอครับ” พอน้ารับสายปุ้บ ผมก็ยิงคำถามทันทีด้วยความร้อนรน

(หืม...มะเดี่ยวบอกเราแบบนั้นเหรอ) ทำไมเสียงน้าสดใสจังล่ะ นี่ผมกำลังจะเสียหมูของตัวเองไปเลยนะ

“ก็ใช่อะสิ ไม่งั้นพี่เขาจะเอาความรักมาได้ไงถ้าน้าไม่ได้ยกให้พี่เขาอะ” พีชกับวิ่งนั่งอยู่ข้างๆ รอฟังคำตอบเหมือนกับผม

(เอ...เอาไงดีน้า)

“น้าบอย...อย่าแกล้งผมสิ” ผมรู้ ทุกคนชอบแกล้งผม เป็นอะไรกัน โรคจิตกันเหรอครับ

(ฮ่าๆ โอเค น้าไม่แกล้ง มะเดี่ยวเขาบอกจะเอาความรักไปหาเราที่ฟลอ น้าเลยให้ไป ไม่ได้ยกให้อย่างที่พี่เขาบอกหรอกหน่า ถึงมะเดี่ยวจะบอกว่าเราจ้องจับมันกินก็เหอะ) นั่น พี่มะเดี่ยวฟ้องน้าผมจริงๆ ด้วย

“พี่มะเดี่ยวเขายึดความรักของผมไปเลย ไอ้ความรักมันก็ไม่รักดี มันตามเขาต้อยๆ อย่างกับเขาเป็นพ่อมัน ฮึ้ย...เจ็บใจ” ผมบ่นงุ้งงิ้งใส่น้าไปตามประสา

(ก็เราชอบขู่มันนี่นา มันก็ต้องไปชอบคนอื่นที่ใจดีอะถูกแล้ว) น้าก็เห็นดีเห็นงามเหรอครับ เดอะสามเศร้ามากนะจุดๆ นี้

“ก็แค่ขู่เอง ผมรักมันจะตาย ขุนมันยิ่งกว่าอะไรดี เอาหมูให้มันกินได้ผมเอาให้มันกินแล้ว” พูดจริงนะ กินหมูจะได้อ้วนๆ ไง

(บ้า เอาหมูให้หมูกินเนี่ยนะ งั้นให้มะเดี่ยวยึดความรักเราไปเลยดีไหม)

“ไม่ดี!” ผมรีบตอบอย่างไว เรื่องไรจะยกมันให้กับเขา

(จ้าๆ งั้นไปเอาคืนเองนะ น้าทำงานก่อน)

“ครับ” สบายใจล่ะ น้าไม่ได้ยกให้พี่มะเดี่ยวอย่างที่เขาบอก

“มึงโดนพี่เขาแกล้งอีกแล้ว...” ไอ้วิ่งลุกขึ้น มันลากคอพีชเดินไปซ้อมเต้น นี่มึงจะทิ้งกูให้ไปเผชิญหน้ากับพี่มะเดี่ยวคนเดียวใช่ไหมเนี่ย

มองไปทางความรัก มันกำลังวิ่งหนีพี่มะเดี่ยวอย่างอารมณ์ดี โอ้โห...ทุ่งลาเวนเดอร์ชัดๆ เหอะ อย่างกับเนื้อคู่กำลังอ้อร้อกันอยู่เลย นี่กูยังมีความหมายสำหรับไอ้ความรักอยู่ไหมหือ แม่งทำเหมือนผมไม่มีตัวตนในสายตามันไปแล้วอะ ไม่เห็นค่าแอปเปิ้ลหลายร้อยหลายพันลูกที่กินของกูไปเลยหรือไง

ผมตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ความรัก ไทม์และโจ้นั่งมองเขาซ้อมอยู่กับเพื่อนของเขา ตอนนี้คนที่ไม่มีพื้นฐานเลยมีแค่เราสามคนอยู่ดี ไอ้กลุ่มที่มาลงทะเบียนใหม่เมื่อกี้โชว์ท่าเต้นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อนผมทั้งสองก็เอากับเขา มีเท่าไหร่ใส่เท่านั้นไม่มียั้ง ล้มทีดังอั้กๆ ไม่เจ็บกันเลยนะพวกมึง เห็นแล้วผมล่ะจุกแทน แต่ช่างมัน เอาความรักของเราคืนก่อน...นี่คือสิ่งสำคัญสำหรับผมในตอนนี้เลยจริงๆ

“พี่มะเดี่ยว...” พอผมเดินเข้าไปใกล้ พี่แกก็อุ้มเจ้าความรักขึ้นมากอดเอาไว้ ผมเหมือนคนทำความผิดแล้วกำลังโดนลงโทษ ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย

“ว่าไงครับน้องสาม” ทำไมสีหน้าพี่กวนตีนจังล่ะ ผมอยากเอาหน้าเท้านาบหน้าพี่จัง...โอ้โห ทำไมกูหยาบคาย

“พี่โกหกผม น้าบอยไม่ได้ยกความรักของผมให้พี่เลย” แทนที่รู้ว่าเขาจับได้แล้วจะสำนึก พี่แกกลับหัวเราะ

“ฮ่าๆ กว่าจะรู้ได้เนี่ยนานเนอะ โง่หรือโง่อะถามจริง” ฉิบผาย...โดนด่าไปอีกดอก

“ผมขอคืนด้วยครับ”

“ถ้าพี่ไม่ให้ล่ะ แล้วถ้าพี่ยึดเลยล่ะ เราจะทำยังไง” พี่มะเดี่ยวเดินเข้ามาใกล้ ผมกลับถอยหลังหนีทั้งที่ยื่นมือไปหมายจะแย่งความรักมาจากอ้อมกอดของพี่มัน

“ทำไมพี่ต้องแกล้งผมด้วยล่ะ” พี่ก็ไม่มีหางซะหน่อย ผมไม่มีทางไปเหยียบหางพี่เขาได้แน่นอนเลยล่ะ

“แล้วทำเราต้องน่าแกล้งล่ะ” เลิกคิ้วถามประหนึ่งว่าเอาซิ...เตะกูเลย!

“ผมไม่ได้น่าแกล้งนะ ผมก็อยู่ของผมเฉยๆ อะ...พี่อะมาแกล้งผมเอง” ยิ่งเถียงเสียงชักอ่อย ไม่ค่อยได้เถียงคนอื่นเท่าไหร่ อยู่กับพี่ๆ ผมอ้อนลูกเดียว ไม่งั้นมันแกล้ง

“น่าแกล้งจะตาย อยู่เฉยๆ ยังน่าแกล้งเลย อยากจะให้เด้าพื้นซักร้อยทีด้วยตอนนี้” โอ้โห....มึงแค้นอะไรกูครับพี่

“พี่ต้องแค้นอะไรผมแน่ๆ พี่บอกมาเลย...พี่แค้นอะไร” ทำใจกล้าสบตาอีกฝ่าย ผมเห็นแต่ความกวนตีนและความทะเล้นอยู่ในนั้น ถ้าไม่ติดว่าพี่มึงตัวสูงและใหญ่มาก อีนี่กระโดดเตะก้านคอไปล่ะ

“ก็ได้...พี่แค้นที่เราหลอกพี่ไง บอกว่าอะไรนะ จะกินหมูตัวเอง พูดเป็นตุเป็นตะเลย เห็นพี่กังวลแล้วสนุกเหรอครับ...พี่ก็เอามั้งไง รู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะครับน้องสาม” ความโหดในน้ำเสียงนี่คืออะไร พี่แม่งก็ยิ้มนะ แต่เหมือนจะฆ่ากูทิ้งเลยวะ

“ก็...ผมขอโทษ” ยกมือไหว้แบบป้อแป้ มือไม้อ่อนแรงมากตอนนี้ ก้มกราบเลยไหม...เอาไหม

“เลี้ยงข้าวแล้วพี่จะให้อภัย”

“โอ้โห ให้เด็กเลี้ยงข้าว อุ้บ...” ฮื่อออออ กูตายไปอีกสิบชาติ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดละกู ผมดันพลั้งปากพูดออกไปเนี่ยสิ จริงๆ มันควรอยู่ในความคิดนะ ไม่ควรหลุดออกไปแบบนี้ พี่มะเดี่ยวเล่นจ้องจนผมรู้สึกตัวหดเล็กลง ในหัวตอนนี้ตัวผมจะเท่าความรักแล้วครับ

“ได้ข่าวว่าเด็กบ้านรวยอะ เลี้ยงข้าวรุ่นพี่แค่นี้เพื่อความรัก ไม่ตายมั้ง...หืม ว่าไงล่ะ อ้อ แต่นี่ไม่ได้เหมารวมถึงจะคืนความรักให้นะ”

“ฮะ!!!” เอามีดมาแทงกูพี่...เอามีดมา!

แนะนำว่าเอามีดทื่อๆ มานะ อิอิ

“ก็...ตัดสินใจเอาเอง” พี่มันไหวไหล่ เตรียมจะเดินหนี

“พี่! คือ...ถ้าผมเลี้ยงข้าวพี่จะไม่แกล้งผมใช่ไหม”

“ไม่รับปาก” ไอ้ฉัต! ร้องไห้เอาน้ำตามาอาบได้เลยตอนนี้

“อะไรอ่า พี่ทำร้ายผมขนาดนี้ได้ยังไง...พี่ทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรพี่เลย แกล้งพี่นิดเดียวเอง พี่คร้าบ...ให้อภัยน้องสามเถอะคร้าบบบบ” เดินเข้าไปใกล้ เงยหน้าทำตาปริบๆ คิดว่าน่ารักที่สุดในชีวิตแล้ว ตอนอ้อนแม่อ้อนแบบนี้เลย แล้วแม่ก็ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง นี่เป็นมุกที่เด็ดที่สุด...ซะเมื่อไหร่ จะมีมุกถูไถไสลด์เดอร์อีกนะ

“ฮ่าๆ น่ารักวะ...” แทนที่จะตอบอะไรที่มันแบบ เข้ากับสิ่งที่เรากำลังเจรจากันอยู่ พี่มันเสือกหัวเราะแล้วยีหัวผมแทน หัวกูยุ่งแล้วพี่ เดี๋ยวนกแม่งมาทำรังหรอก โด่วววว

“อภัยแล้วจะแกล้งให้น้อยลง โอเคป่ะ...” พี่เขาก้มหน้ามาพูดใกล้ๆ กลัวผมหูตึงเหรอพี่ หูยังดี ใช้การได้ดีมาก ก.ไก่ล้านล้านล้านตัวเลย

“โอเค แล้วความรักล่ะ...พี่จะให้ผมไหม”

“ให้ แต่สัญญาก่อนว่าจะไม่ดุมัน ไม่ขู่ว่าจะกินมันอีก ถ้าน้องสามทำ...พี่จะทำกับน้องสามบ้าง” นี่หมูกูหรือหมูพี่มันวะ

“ครับ”

“ดี อะ...เอาไป” เย้ ในที่สุดพี่มันก็คืนความรักให้ผมแล้วครับ ผมก้มหน้าฟัดตัวเจ้าความรักด้วยความหมั่นเขี้ยว จนมันต้องร้องอู๊ดๆ เพื่อขอชีวิตมันคืน หึหึ...มึงเป็นของกูไอ้ความรัก มึงจะเป็นของกูตลอดไป

“ขอบคุณครับ”

“รอกลับพร้อมพี่นะ ต้องเลี้ยงข้าวพี่ด้วย”

“คร้าบ” กูยอมแพ้แล้วครับพี่ จะโขกจะสับ จะฆ่าจะแกง นุ้งสามคนนี้จะไม่ดื้อ จะไม่ซน เพราะแม้กระทั่งน้าบอยกูก็ยังเป็นพวกมัน...นี่ข้ามาอยู่ในดงศัตรูชัดๆ!

พี่มะเดี่ยวแกเดินไปหาพี่โซฮานพวกเขากอดคอกันหัวเราะ ผมรู้สึกได้ว่าที่พวกเขาหัวเราะนั้นเป็นเรื่องของผมอย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย ผมเดินเข้าไปหาไอ้วิ่งและไอ้พีช พวกมันยืนหอบแฮ่กๆ อยู่ข้างวงล้อม พวกนี้เต้นกันทีก็ชอบตั้งวนเป็นวงกลมกัน และมีหลายวงด้วย คงรวมพวกที่รู้ๆ จักกันนั่นแหละ ผมนั่งออกมาด้านหลังวงหน่อย ไม่ได้เต้นกับเขา เต้นก็ไม่เป็น

ชมรมนี้บอกฟรีสไตล์แม่งก็ฟรีสไตล์จริงๆ นะ ใครจะเต้นอะไร ซ้อมอะไรก็ทำไปเลย เห็นว่ามีชมรมโคฟเวอร์ด้วยหนิ ผมเข้าชมรมนั้นแทนดีไหม มีแต่ผู้หญิง เอาหมูจีบสาวเนี่ยแหละเด็ดโคตรๆ คนล่าสุดที่คบเป็นผู้ชาย ดังนั้นคนต่อไปต้องเป็นผู้หญิง

อะไรนะ...ตรรกะอะไรของมึงงั้นเหรอ?

ฮ่าๆ ผมคบเพศแบบสลับฟันปลาครับ ถึงจะบอกว่าถูกใจกันก็คบกันแค่นั้น แต่เอาจริงๆ พอเลิกผู้หญิงผมก็หาผู้ชายคบ เลิกกับผู้ชาย ผมก็หาผู้หญิงคบ แปลกใหม่ดีไง เราต้องตั้งเป้าหมายก่อนแล้วค่อยไปจีบเขา

แต่เอาจริงๆ ผมยังไม่เคยคบใครแล้วรู้สึกว่า...ผมอยากอยู่กับเขาไปตลอด การมีแฟนในความรู้สึกผมตอนนี้เป็นเรื่องฉาบฉวยอะ เหมือนหาคนมาสร้างโมเมนต์อินเลิฟไปด้วยกัน การคบแฟนกับเพื่อนมันอารมณ์ต่างกัน แล้วมนุษย์เราก็อยากได้อยากมีมันทุกอารมณ์นั่นแหละ มีเพื่อนที่ดี มีครอบครัวที่ดี แทนที่จะพอ เราก็ยังจะหาแฟนที่ดีมาเป็นตัวเสริมอารมณ์อีกด้านหนึ่ง

และเพราะเคยคิดว่า...เราไม่รู้สึกรักใครมากๆ ถึงขั้นอยากสร้างชีวิต เลยมีความกลัวว่าเราอาจจะไม่มีความรักที่แท้จริงเหมือนที่คนอื่นเขารู้สึก บางทีที่ผมตั้งชื่อหมูตัวเองว่าความรัก คงเป็นเพราะผมกลัวความรักหรือความรู้สึกถึงรักมันจะหนีหาย ทิ้งผมไป การตั้งชื่อมันแบบนี้น่าจะช่วยให้ผมอุ่นใจขึ้นได้บ้าง แต่มันก็แค่ช่วงอารมณ์หนึ่งที่คิดอย่างนั้น พอเวลาผ่านไป...ผมก็ยังมีความกังวลว่าเราจะไม่รักใครจริงจังอยู่ดี

อะอะ...ห้ามคิดว่าผมเป็นสายฟันแล้วทิ้งนะ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ชีวิตนี้จะครองความซิงไปจนตาย เวอร์...ฮ่าๆ สำหรับผมเรื่องบนเตียง ริมระเบียงหรือห้องครัวนั้นเป็นเรื่องรอง คบกันนานๆ ก็อาจมีบ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการมีแฟนและเลิกกับแฟนของผม แค่รู้สึกว่า...มีกับไม่มี ผมก็มีความสุขดี ไม่ได้แย่อะ เป็นคนไม่ขาดความรักครับ ก็เลยไม่โหยหามัน แต่อย่างที่บอก...บางที่เราเลือกคบกับใครสักคนเป็นเพราะเราเองอยากมีโมเมนต์หวานๆ กับแฟน อยากมีโมเมนต์ใจเต้นแรงจุงเบย...แบบนั้นอะ

“เฮ้อ....เหนื่อยวะ มึงไปซื้อน้ำให้หน่อยดิ” อ่าววิ่ง มาถึงก็ใช้กูเลยเหรอ

“มึงไปเองดิ”

“กูเหนื่อย...ไปซื้อให้หน่อย” วิ่งเอาหัวมาวางบนไหล่ จะให้กูไปซื้อน้ำ แต่เอนซบกูเนี่ยนะเพื่อน

“เผื่อกูด้วย” ดีจังเลย...ใช้กูกันทั้งสองคนเลย

“อะ ฝากความรักแป๊บ” เห็นว่าเต้นกันมาเหนื่อยหรอกนะ ถึงยอมเนี่ย

พีชรับความรักไปอุ้ม จากนั้นก็เริ่มอ้อร้อไอ้ความรักที่เป็นตัวผู้ เป็นบ้าอะไรชอบจีบหมูกูวะ อยากรู้จังว่าไอ้ความรักเนี่ยมันรู้สึกจั้กจี้ไหมที่โดนพีชจีบอยู่ทุกวี่ทุกวัน ผมฟังแล้วขนลุกฉิบหายเลยอะ เจอมุกแบบนั้นกับตัวเองจริงๆ ผมจะหนีไอ้พีชไปไกลๆ

ผมต้องปั่นจักรยานไปที่โรงอาหารของคณะ ซื้อน้ำขวดใหญ่มาห้าขวด เห็นว่าที่นั่นก็มีคนเยอะ ซื้อๆ ไปเผื่อ ยังไงซะน้ำมันก็คงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเต้นอยู่แล้ว ผมเห็นบางคนพกน้ำมากินเอง แต่ไม่นานมันก็ว่างเปล่า มีทางเดียวถ้าไม่อยากไปซื้อน้ำไกล คือมึงต้องเดินไปกรอกน้ำก๊อกในห้องน้ำมากินประทังชีวิต และนอกจากน้ำขวดใหญ่ห้าขวด ผมยังซื้อเกลือแร่มาอีกสาม ของผม พีชและวิ่ง คนอื่นไม่เกี่ยว ไม่ซื้อเผื่อใคร มันแพง....

ปั่น...ปั่นๆ จักยาน ปั่นๆ จักยาน~ ใส่ทำนองกันเอานะฮะ ผมเป็นคนไม่มีทำองในหัวใจ ชอบร้องมั่วๆ เวลารู้สึกถึงความชิว รถผมเองก็มีตะกร้าด้านหน้า แม่งเลยสบายเวลาไปซื้อของ ผมจอดรถข้างรถของพีชและวิ่งเหมือนตอนที่ออกไป ส่วนใหญ่มีแต่มอเตอร์ไซก์ทั้งนั้น เราเป็นส่วนน้อยที่น้อยมาก ฮะ...น้อยจริงๆ สามคันถ้วน ไม่ขาดไม่เกิน

“วิ่งเป็นแฟนเราอ่อ” ขณะกำลังยกถุงน้ำออกจากตะกร้า เสียงทุ้มคุ้นหูก็ดังขึ้นด้านหลัง ผมแทบโดดแล้ว ดีนะที่หันมาเจอพี่มะเดี่ยวมะช่ายผีที่ไหน

“เปล่าพี่ เพื่อนกัน ทำไมอ่อ” ผมตอบแบบไม่คิดอะไร แค่ตกใจที่พี่มันมาอยู่ตรงนี้

“มึงเป็นเกย์ปะ” ทำไมถามแปลก ผมอ้อนแอ้นสินะ ชิ...

“ผมเป็นคนพี่...” หลุดปากไปได้แค่นั้นแหละ พี่แม่งผลักหัวผมแทบทิ่มกับตะกร้าหน้ารถ

“กวนตีน ถามดีๆ”

“ไรอ่า รุนแรง...ใช้กำลัง นิสัยไม่ดี ชิๆ”

“กินตีนไหม...”

“ผมเป็นไบครับพี่ ได้หมดทุกเพศ...” ว่าจบแล้วกูวิ่งเลย!!! ตีนพี่มึงไซซ์ห้าสิบได้มั้ง ฟายยยยย ยัดใส่ปากกูนี่ปากกูต้องฉีกแน่นวล

.....100%....

น้องสามของเราแม้โดนแกล้งแค่ไหนก็ยังเข้มแข็งมากโคตร กล้าต่อล้อต่อเถียง ระวังนะ...สะดุด "ความรัก" ล้มไม่รู้ด้วย ฮ่าๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อีพี่มะเดี่ยววววว

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
>>ตอนที่ 6 [100%]<<

วิ่งกลับมาที่กลุ่มเพื่อนๆ ความรักมันเอาหน้ามุดเข้ากระเป๋าผมอยู่ เป็นอันว่ารู้กันว่ามันหาของกิน ผมส่งน้ำให้พีชและวิ่ง พร้อมกับให้มันเอาที่เหลือเผื่อแผ่คนอื่นด้วย ซึ่งคนอื่นก็ขอบคุณมันใหญ่ ไอ้เดอะสามหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาคนนี้ไม่มีใครแลเลยสักคนเดียว

“เกลือแร่นี่กูแดกนะ” มึงกินไปแล้วไอ้วิ่ง เปิดฝากรอกใส่ปากซะครึ่งขวดขนาดนั้นไม่ต้องขออนุญาตกูหรอก

“เออ กูซื้อมาให้แหละ พีชเอาปะ”

“เอา” มันหยิบไปดื่มอย่างไว ไม่ลีลาเล่นตัวใดๆ ทั้งสิ้น

แจกจ่ายน้ำให้เพื่อนๆ เสร็จ ผมก็วางเกลือแร่ของตัวเองไว้ตรงหน้า ดึงความรักออกมาจากกระเป๋า มันเงยหน้าขึ้นมามองอ้อนทันที แหงสิ แอปเปิ้ลมันอยู่ในกล่องพลาสติก หมูแกะกินเองไม่ได้ วางเจ้าความรักไว้บนตักแล้วหยิบแอปเปิ้ลออกมาผ่าครึ่งวางไว้บนมือให้มันกิน

“ค่อยๆ กินสิ เดี๋ยวสำลัก” ตายอดตายหยากมาจากไหนเอ้อ อยู่ร้านน้าบอย น้าขุนมันดีแน่ๆ แล้วพี่มะเดี่ยวก็ไม่น่าจะปล่อยให้มันอด มีแค่อย่างเดียวคือ...มันตะกละ

ถึงความรักจะกินมูมมามขนาดไหน แต่มันก็ไม่กินจนเลอะไปถึงพื้นนะ แอปเปิ้ลวางไว้บนมือก็กินอยู่แต่บนมือจนหมด จากหนึ่งลูกเป็นสองและสามตามด้วยน้ำ ผมมีถาดรองน้ำให้มันในกระเป๋า เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวก็แบบนี้แหละครับ เราต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้เสมอ ในกระเป๋านอกจากหนังสือเรียนยังมีอุปกรณ์เลี้ยงหมูอีก คือผมไม่อยากให้ความไม่พร้อมของผมทำให้คนอื่นๆ เดือดร้อนอะฮะ เราเลยต้องเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้ดี

“ขอนะ...” จู่ๆ ร่างสูงก็เดินมาโฉบเอาเกลือแร่ของผมไปต่อหน้าต่อตา เจ้าความรักเลียน้ำแพร่บๆ ผมเงยหน้ามองพี่มะเดี่ยว เขาเปิดฝากินแบบไม่ถามความสมัคใจของผมเลยสักคำเดียว ผมซื้อมากินนะนั่นน่ะ...

“เหลือให้ผมบ้าง” พอพี่ท่านก้มหน้าลงมา ก็เลยร้องขอ...ของๆ ผมแต่ผมต้องขอเขาอะคิดดู

“ได้” พี่ท่านรีบกระดกอึกๆ จนเหลือก้นขวดถึงเอามาให้

ผมได้แต่มองเกลือแร่ในขวดด้วยความชอกช้ำระกำใจ เปิดฝาดื่มอึกเดียวก็หมดแล้วอ่า...กินน้ำเปล่าไปสิกูเนี่ย พี่มะเดี่ยวกลับไปเต้นกับเพื่อนๆ ไม่หันมาเหลียวแลเด็กน้อยที่โดนแย่งน้ำกินคนนี้เลยสักกะติ้ดเดียว โอ้ย จิตใจพี่มันทำด้วยอะไร กับคนอื่นก็ไม่ค่อยเห็นพี่เขาไปยุ่งนะ พวกเด็กใหม่ที่เขาชมรมวันนี้อะ แต่กับผมนี่เข้ามาป้วนเปี้ยนจัง อ่อ ไม่ๆ...เขามาเพราะความรักต่างหาก

“อิ่มแล้วสิ” ความรักเอาจมูกดุนถาดใส่น้ำเปล่าๆ ไปทางกระเป๋า มันเงยหน้ามองผมด้วยสายตาปรือปรอย แดกเสร็จก็จะนอนเลยสิน้า ผมเก็บของให้เสร็จแล้วก็อุ้มความรักขึ้นมานอนที่ตัก มันซบหน้าขาผมหลับใหลด้วยความเร็ว

ดีนะที่วันนี้เขาปล่อยฟรีมากๆ สำหรับพวกต้องฝึกพื้นฐาน ไม่งั้นผมน่าจะโดนด่าเปิงเลยแหละ เอาหมูเข้ามาป้วนเปี้ยนในฟลอซ้อมเต้นแบบนี้ แต่เอ๊ะ...ผมไม่ได้เอามานี่หว่า พี่มะเดี่ยวต่างหากเป็นคนเอาความรักมาที่ฟลอ เพราะงั้นวันนี้ผมไม่ผิด ฮี่ๆ

“ดูๆ แล้วคิดได้ปะว่าอยากเต้นแบบไหน...” วิ่งเดินกลับมานั่งข้างๆ ตอนนี้พีชกำลังทำท่าอะไรก็ไม่รู้...ผมไม่รู้จักนี่นา

“คิด...คิดว่ากูเนี่ยไม่น่าเต้นได้รอด กูไม่มีความรู้สึกว่าอันไหนมันง่ายเลยนะเว้ย” วิ่งหันมามองหน้าแล้วขำ

“ก็ไม่ได้บอกว่ามันง่าย แต่หมายถึงมึงอะ รู้สึกชอบแบบไหนไหม อย่างท่าเต้นแนวไหน สกิวไหนที่มึงอยากเต้นอยากฝึกอะ” ส่ายหน้าให้ไว มันยากกูเลยไม่อยากสักอัน

“กูไม่น่าทำได้สักอัน กูเลยไม่มีความสนใจสักท่าเลยมึง” วิ่งเกาหัวแกรกๆ

“มึงหกสูงเป็นไหม” หกสูง...สมัยเรียนก็มีทำนะท่าเนี่ย

“พอได้มั้ง”

“หกสูงได้ก็เต้นได้เว้ย” อย่ามากล่อมกูเลยวิ่ง กูไม่เชื่อ

“เหรอ”

“เออ ไม่เชื่อมึงลอง มาเดี๋ยวกูสอน ฝึกท่าแก๊ปเนี่ยง่ายๆ” อะไรคือแก๊ปเว้ยเฮ้ย...

“วันจันทร์เหอะ ความรักแม่งนอนตักอยู่ ไม่อยากปลุกมัน” วิ่งพยักหน้ารับรู้ มันดื่มน้ำอีกสองสามอึกใหญ่ก็กลับไปเต้น

เปลี่ยนจากเข้าชมรมมาเต้นเป็นเข้าชมรมมาดูแลเรื่องสวัสดิการน้ำไหม ดูจะเข้าทางของผมที่สุดแล้วอ่ะ ผมนั่งมองทุกคนซ้อมเต้น เหงื่อไคลไหลย้อยอย่างกับโดนสาดน้ำในวันสงกรานต์ มันสนุกดี พวกเขาดูตลก เล่นอะไรฮาๆ กันอยู่บ่อยครั้ง อย่าง...พอมีคนทำท่าอะไรสักอย่างแล้วพลาดล้มเจ็บ ทุกคนจะตะโกนบอกว่า โอ้ววว สวย แบบนั้นสวยมาก มึงเท่มาก พร้อมกับขำขัน ผมก็ขำตาม ทั้งที่ดูแล้วแม่งน่าจะเจ็บฉิบหายวายป่วงเลย

ทว่า...ถึงพวกเขาจะล้มสักกี่ครั้ง พวกเขาก็ยังลุกขึ้นมาเต้นต่อ ราวกับความเจ็บปวดไม่อาจทำให้พวกเขาหยุดสนุกกับสิ่งที่ทำได้ ในสายตาผม...ผมว่ามันน่าทึ่ง ถ้าผมต้องทำหกสูงแล้วล้มลงมาดังอั้ก พื้นสะเทือน หัวโขก ผมคงร้องไห้และนั่งนิ่งอยู่นาน แต่พวกเขาไม่...พวกเขาแค่ลุก แล้วทำมันใหม่ ถึงจะล้มลงอีก ก็ยังลุกขึ้นมาทำอีกจนกระทั้งทำท่านั้นๆ ได้ อะไรคือแรงผลักดันพวกเขากันหนอ...ความสนุกหรือความใฝ่ฝันที่อยากจะทำได้ หรือเป็นเพียงอีโก้ที่มีต่อหน้าเพื่อนๆ

ผมตั้งข้อสงสัย คิดตามและพยายามตอบคำถามกับตัวเอง แล้วเมื่อต้องเห็นคนล้มอยู่แบบนั้นซ้ำๆ หลายต่อหลายรอบ ผมก็เลิกถาม...ผมหันมาชื่นชมพวกเขาจากใจจริงแทน ต้องมีความอดทนมากขนาดไหนถึงจะสามารถประสบความสำเร็จบนถนนสายนี้ ต้องใช้ความเจ็บปวดอีกเท่าไหร่ ถึงจะทำท่า ท่าหนึ่งได้ เวลาเต้น พวกเขาถามตัวเองแบบนี้หรือเปล่า หรือคิดเพียงสั้นๆ ว่า...ไม่เป็นไร ทำใหม่ กูต้องทำได้ กูต้องเต้นได้

“เอาล่ะ...ตั้งวง!!!” พี่มะเดี่ยวตบมือเสียงดัง พร้อมกับเสียงเพลงที่ดับลง เขาสั่งทุกคนตั้งวง ซึ่งเด็กๆ ก็ตามอย่างเคร่งครัด เห็นจะมีแต่พี่ๆ เท่านั้นที่ยืนจีบตั้งวงรำอยู่กับที่ มีมองพี่มะเดี่ยวด้วยสายตาวิ้งวับอีก...นี่มุกใช่ไหม ผมจะได้ฮา

“ไอ้สัตว์ ดีๆ ดิ้” พี่มะเดี่ยวฟาดหน้าแข้งใส่เพื่อนของเขา แต่ละคนก็เฮฮาราวกับโดนเตะแล้วอารมณ์ดี

“น้องที่ยังเต้นไม่เป็นนั่งดูก็ได้นะ ถึงชมรมเราจะปล่อยฟรีให้กับการซ้อม แต่ทุกครั้งต้องมีเล่นเอบีซีและเซอร์เคิลก่อนกลับ” บรื๋ยยยย ผมไม่รู้จัก

“ตอนนี้เราจะเล่นเอบีซีกัน น้องที่เล่นไม่เป็นก็ดูไว้ เอาขวดมาหมุน” พี่มะเดี่ยวหันไปบอกพี่โซฮาน จากนั้นรับขวดมาหมุนกลางวง

“เริ่มแรกเราจะเริ่มด้วยท่าสเต็ปเดียว ห้ามซ้ำรอบวง ใครทำไม่ได้...วิดพื้นสิบครั้ง” ตาเหลือกแป๊บ ถ้าผมต้องไปเล่นผมไม่วิดพื้นเป็นพันครั้งเลยเหรอ คนในฟลออย่างเยอะ หน้าใหม่เต้นไม่เป็นนี่ก็ทำไปเหอะ ยังไงถึงจะได้วะนั่น

“คนที่ยังไม่ถึงคิวเต้นนั่งลงล้อมเป็นวง อย่าวงแตก ส่วนใครต้องเต้น ให้เต้นกลางวง” พี่โซฮานอธิบายเพิ่ม ซึ่งผมคิดว่าคนอื่นๆ เขารู้กันหมดแล้วอะ

พี่มะเดี่ยวเดินมาตรงหน้าผม เขามองเหมือนหาเรื่อง ผมไม่ได้นั่งใกล้มากจนรบกวนวงซ้อมเต้นของเขาเลยนา...อย่ามองกันแบบน้าน ขนลุก กลัวโดนฉะ ไม่อะไรก็อะไรสักอย่างอะ พี่แม่งสรรค์หามาแกล้งกูจัง

“ฝากเสื้อหน่อยสิ” แล้วพี่ท่านก็ถอดเสื้อโชว์เรือนร่างอันขาวสะอาดและกำยำโคตรๆ ต่อหน้าต่อตา เป้าพี่มึงอยู่ตรงหน้ากูเลย~ ผมมองอึ้งๆ อยู่เสื้อชุ่มเหงื่อพี่แกก็หล่นใส่หัวจนความรักสะดุ้ง

“เฮ้ ความรักตกใจนะพี่” ผมส่งเสียงดุ พี่มันเลยนั่งยองๆ เอามือมาลูบหัวความรัก ไอ้นี่ก็ช่างรู้สึกไว มันเงยหน้ามองพี่เขาก่อนจะซบขาผมนอนต่อ

“มึงจะขี้เซาเหมือนความรักปะวะ ดูมันดิ...เสียงดังขนาดนี้มันยังหลับลึกได้อยู่เลย” ฟังแล้วก็โครงหัวไปมา

“ผมไม่เหมือนมันหรอก”

“เหรอ แค่หน้าก็เหมือนแล้วเหอะ” ว่าจบหัวผมก็โดนยีจนฟูอีกรอบ พี่มันกลับไปที่วง แต่ตำแหน่งนั่งของแกคือตรงหน้าผมเนี่ย อยากบอกว่า...พี่มึงตัวใหญ่ บังกูเต็มจอเลยครับ

และแล้วการเล่นเอบีซีเยี่ยงบีบอยชนก็ได้เริ่มต้นขึ้น หนุ่มๆ หลายคนถอดเสื้อตัวเองออก ซึ่งส่วนใหญ่เขาไม่ได้ใส่เสื้อนักศึกษาเต้นนะ เขาพกเสื้อยืดมาแทบทุกคน โถ ก็ใครจะอาจหาญพอ ใส่เสื้อขาวคลุกฝุ่นคลุกพื้นเนี่ยนะ ไม่เปื้อนก็ขาดวิ่น ไม่ก็เป็นทั้งสองอย่างเลย

เท่าที่ผมสังเกต รอบแรกมันจะเป็นเหมือนท่าง่าย เพราะทุกคนทำได้แทบหมด เขาบอกว่ามันจะเพิ่มสเต็ปไปตามรอบที่เพิ่มขึ้น รอบที่สอง สกิวเริ่มมีสองสเต็ปในการทำ รอบนี้คนส่วนใหญ่ก็ยังทำได้ ส่วนคนทำไม่ได้ พี่มะเดี่ยวแม่งบังคับให้ทำ ไม่ได้จริงๆ ค่อยวิดพื้น เรียกว่าทั้งเจ็บและเหนื่อย หากสุดท้ายคุณก็ทำไม่ได้อะนะ รอบที่สามนี่เริ่มมันขึ้นเยอะ ห้าสิบเปอร์เซ็นทำท่าวินด์มิลที่เขาให้ทำไม่ได้

ความโหดร้ายสำหรับมือใหม่เริ่มมาเยือนเมื่อรอบที่สี่มาถึง จากคนกลุ่มใหญ่แย่งกันทำ ตอนนี้เกี่ยงกันทำ พี่มะเดี่ยวก็โหดเกิ้นนนน บังคับเขาทำทั้งที่เขาพร้อมใจวิดพื้น ผมนั่งดูเกมวิดพื้นพลางตะลึงในความสามารถของพวกเขา จะว่าฮา มันก็ฮานะ แต่จะว่าโหด...มันก็โหดแหละ

“โหดแท้...” ผมเปรยเบาๆ รอบที่ห้าพี่มะเดี่ยวแกเป็นคนเริ่มสกิว ผมเห็นแล้วแทบจะอ้าปากค้าง ได้ยินพี่โซฮานตะโกนว่ามึงเล่นท่าแอร์แท็กเลยเหรอ พี่เขาทำเหมือนหกสูงอะ แต่อ้าขากว้างประมาณไหล่ จากนั้นก็เตะให้มันเป็นวงกลม อธิบายแบบนี้ถูกไหมวะ...แล้วมือมันก็ลอยขึ้น คล้ายๆ กับการกระโดดหมุนตัวทั้งที่อ้าขากว้างแค่สลับจากขาเป็นมือนั้นเอ๊งงงง  พี่เขาทำทั้งหมดห้ารอบ

“ต้องโหด ไม่งั้นพวกนี้ก็จะไม่มีวันเก่งขึ้น เราแค่มอง...แล้วบอกว่าทำไม่ได้ ไม่ได้ จนกว่าจะได้ลองทำจนถึงที่สุด ต้องอย่าถอดใจ” พี่ท่านเสือกได้ยิน หันมาอธิบายอย่างหล่อ ผมที่มัดเอาไว้หลุดหลุ่ยนิดหน่อยจากท่าเมื่อครู่ พี่เขาก็เลยต้องแกะหนังยางออกเพื่อรัดมันใหม่

“แต่ท่านั้นของพี่มันดูอันตรายนะ”

“บีบอยอยู่บนความอันตรายนะ กลัวทำไม...หัวโหม่งโลกมันไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก” ไม่เจ็บบ้านพี่ดิ เป็นผมนี่นอนตายเลย

“คอหักตายได้นะ”

“อืม ใช่..พลาดก็แค่ตาย” นี่แค่เต้นกันจริงเหรอ เหมือนออกรบเลยอ่ะ บ้าไปแล้วววว

ท่าที่ห้า แม้แต่พี่โซฮานที่ดูเก่งกาจก็ยังต้องวิดพื้น พี่เขาบ่นเพื่อนตัวเองว่าเล่นอะไรโหดเกินไป ท่านี้เก้าสิบเปอร์เซ็นที่ต้องวิดพื้น ต่อไปตาพี่โซฮาน พี่เขานั่งยองๆ เอามือวางไว้ข้างลำตัวเสร็จแล้วเอนข้าง เอาเอววางตรงศอก ยกตัวลอยก่อนจะดีดขาขึ้นเป็นการจั๊มพ์ เป็นหกครั้งที่เรียกเสียงฮือฮาให้ทุกคนรอบๆ พี่มะเดี่ยวก็ทำแล้วล้มระเนระนาด แต่เขาก็ทำจนผ่านไปได้ รอบนี้เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นวิดพื้น...

พอล่ะ...กูออกเถอะ อย่าอยู่ต่อเลย เห็นอนาคต ผมเห็นบางคนแม่งวิดพื้นแทบทุกตาอะ แบบพวกมือใหม่ไง ยังทำท่าโหดเหมือนพี่เขาไม่ได้ ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ยังไม่ไหว ถึงมันจะดีที่อย่างน้อยได้ลองทำก่อน แต่สุดท้ายมันก็เจ็บตัวตามๆ กันไป

ยิ่งรอบสูง ท่ายิ่งโหด ตัวใหญ่เป็นพวกเริ่มสกิวให้น้องๆ ในชมรมได้โหดครวญเล่น ดูพวกเขามีความสุข แล้วก็ดูเหมือนพวกเขาแกล้งกันเองในหมู่คนเก่งมากกว่า ทว่าพี่มะเดี่ยวเขากลับออกปากชมน้องๆ ทุกคนที่ได้ลองทำแล้ว ว่าดีมาก...ทำได้ดีแล้ว ทุกตาเลย

เออ...หล่อเนอะ

เอบีซีจบลงที่รอบที่สิบ ไม่ใช่ว่าสกิวหมด ไม่รู้จะเล่นอะไร แต่น้องๆ เริ่มไม่ไหวจะทำ แล้วท่ามันก็หลุดโลกเกินไป พี่มะเดี่ยวปล่อยให้น้องๆ ได้นอนพักหอบหายใจก่อน พี่ท่านดื่มน้ำที่วางอยู่ข้างๆ ตัวผม แล้วเอาเสื้อตัวเองไปเช็ดเหงื่อ

“เอาล่ะ...วันนี้ทุกคนทำได้ดีมาก แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าน้องๆ เจ็บปวดมากกว่านี้” เดี่ยวนะพี่...เจ็บกว่านี้ เจ็บจนตายไปเลยไหม นี่ซ้อมเต้นหรือซ้อมตาย

“ฮ่าๆ” พี่โซฮานหัวเราะอารมณ์ดี

“สำหรับวันนี้เราจะเลิกซ้อมกันเท่านี้ หรือถ้าใครอยากซ้อมต่อก็ให้ไปซ้อมเต้นกันที่ห้างคิวใกล้มหาลัย พี่ๆ ก็ไปซ้อมที่นั่นกัน แล้ววันจันทร์...เราค่อยมาซ้อมร่วมกันที่นี่ใหม่ รวมถึงพวกไม่มีพื้นฐานหรือพื้นฐานยังไม่แน่นต้องมาเน้นกันหน่อย โอเค...แยกย้าย!” เสียงสั่งย้ายที่สะเทือนขี้หูมากอยากบอก เสือกอยู่ใกล้พี่แกด้วยไง แล้วไอ้ความรักมันก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงพี่เขา

เสียงดนตรีดังลั่นขี้หูเต้นไม่ตื่น พอพี่เขาตะโกนแยกย้ายละเสือกตื่นนะไอ้หมู ความรักยกหน้าตัวเองขึ้นจากขา มองหน้าผมก่อนจะมองไปที่พี่มะเดี่ยว แกยังยืนบังทัศนียภาพของผมไม่ไปไหน จากนั้นมันก็พยุงตัวเองขึ้นยืนโงนเงน เดินเป๋เหมือนหมูเมาผลไม้ไปทางพี่เขาก่อนจะล้มแหมะที่ข้างเท้า

โอ้โห...เอาออสก้ามาให้มันที!

ความหมั่นเขี้ยวหมูตัวเองขั้นสิบ อะไรมันจะแสดงละครเก่งปานน้านนนน เขาไม่ใช่ญาติพี่น้องแกนะเว้ย อ้อนออเซาะเขาจัง คนเลี้ยงก็กูนี่ ไม่ใช่เขา มึงจะอ้อนมึงต้องอ้อนกูเว้ยไอ้ความรัก

“มึงไปไหนต่อปะวะสาม” วิ่งเดินมากอดคอ ไอ้พีชเข้าไปเล่นกับความรักที่อยู่ในอ้อมอกเปียกๆ ของพี่มะเดี่ยว

“ไม่อะ กลับห้อง พวกมึงล่ะ”

“กูไปซ้อมกันต่อ มึงน่าจะไปด้วย จะได้สอนให้” พี่มะเดี่ยวหันมามองผมกับวิ่ง สายตาแปลกๆ เหมือนสงสัยแต่ไม่ได้พูดอะไร

“กูขอทำใจก่อน วันจันทร์ค่อยซ้อม วันนี้ที่กูดูอย่างจริงจังแล้ว...ไม่ไหวแน่เลยวะ” ถึงพี่มะเดี่ยวจะพูดว่ามันต้องลองก่อนจะบอกว่าทำได้หรือไม่ได้ แต่ผมก็ยังว่าตัวเองทำไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ

“มึงอะคิดไปเอง มันต้องลองก่อนเนอะพี่เนอะ” แหมะ มีหันไปถามหาความห็นจากพี่เขาอีก แล้วไอ้พีชนี่ก็ไม่สนใจอะไรนอกจากแกล้งหมูผมไปวันๆ

“นั่นสิ เรายังไม่ลองเลย รู้ได้ไงว่าทำไม่ได้ เจ็บสักทีสองที เดี๋ยวก็เป็นเองแหละ” กูไม่อยากเจ็บตัวไงพี่

“ครับ แต่ขอวันจันทร์นะ”

“เคๆ งั้นพวกกูไปล่ะ กลับดีๆ” ไอ้วิ่งไม่ตื้อต่อ มันไหว้พี่มะเดี่ยวและลากไอ้พีชไปด้วยกัน ตอนนี้ในฟลอเองก็เริ่มเก็บอุปกรณ์อย่างลำโพงกันแล้ว ผมมองหน้าหมูตัวเองด้วยความชิงชัง แล้วก็มองพี่มะเดี่ยวที่ยืนจ้องผมอยู่

“ปะ...พี่หิวละ”

“อ่าว...นึกว่าพี่จะไปซ้อมต่อ”

“ไม่อะ วันนี้มีงาน” ผมพยักหน้าเข้าใจ คว้ากระเป๋าแล้วเดินนำไปที่รถจักรยานสีเขียวของตัวเอง

.....100%.....

เราไม่ถนัดแนวนี้นะ ถ้าเราเขียนไม่ดีเราต้องขออภัยจริงๆ

การเต้นบีบอยเราพยายามอธิบายเท่าที่อธิบายได้ อาจจะเข้าใจยากไปหน่อย ส่วนใหญ่มันเป็นศัพท์เฉพาะเนาะ งงไปพร้อมกับสามนั่นแหละ เอิ้กๆ...

ฝากคอมเมนต์ให้เราบ้างน้าาาาา

ออฟไลน์ BooJiRa_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หูยยยยยยยยย กินข้าวกันไป มองหน้ากันไป เลี้ยงหมูไป มีหมูเป็นตัวเชิ่อมความรัก  เอร้ยยยยยย ต่ออออออ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
หมูสื่อรักชัดๆ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด