พิมพ์หน้านี้ - ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: GukakST ที่ 01-09-2017 22:05:31

หัวข้อ: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-09-2017 22:05:31
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ   ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0) 
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0) 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ 
 
 1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่ 
 
 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
 หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
 หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
 และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
 ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
 
 เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ 
 3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ 
 4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ 
 5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว 
 6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 
 7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
       7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
       7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
       7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
             - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ 
 8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง). 
 9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ 
 10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวปhttp://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป 
 11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
 
 บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
 นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป 
 12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด 
 13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ 
 14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 
 15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
 (1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
 (2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง ....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
 - ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
   (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
 - ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
 - ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
 - ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
 - ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail   
 16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข  17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
  เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ admin thaiboyslove.com.......................................                                                             
 วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7 วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย 
 
 
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️บทนำ❤️ -01/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-09-2017 22:19:29
❤️บทนำ❤️

“ไอ้ความรัก…มึงหายไปไหนเนี่ย โอ้ย วุ่นวายไม่พอใช่ไหม ไอ้ความรัก…ไอ้ความรักมึงโพล่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ”

หยุดความคิดที่ว่าผมบ้าเดี๋ยวนี้ ผมไม่ได้บ้ามานั่งตะโกนหาความรักในห้องรกๆ ของตัวเองหรอกผมสาบานได้ เพราะถ้าผมบ้า คงไม่มีใครปล่อยผมเอาไว้คนเดียวอย่างนี้แน่ แล้วที่ตะโกนถามหาความรัก ก็เพราะมันหายไป...อ่อ ผมลืมบอก ความรักของผมเป็นหมูครับ...

ผมเพิ่งย้ายมาที่คอนโดวันนี้เอง สดๆ ร้อนๆ ห้องรกๆ เหมือนรังหนูไม่ใช่รังหมู แต่ต้องเข้าใจนะว่าผมยังจัดของไม่เสร็จเลย แล้วแทนที่จะได้จัดของเข้าที่อย่างสบายอกสบายใจ ความรักของผมก็หนีหายไปเสียอย่างนั้น โฮ...ซื้อมาแพง

ผมนี่ล้มลงไปกอดแข้งกอดขาคุณพ่อผู้ประเสริฐเลยนะครับ ในการเอาเจ้าหมูสายพันธุ์พ๊อตเบลลี่เวียตนามมาเลี้ยง ตอนแรกจะเอาหมูอีกสายพันธุ์มา แต่แม่งหลักแสน โฮ้ก ไม่เลี้ยงก็ได้ แล้วถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นหมู...ผมเบื่อหมา ที่บ้านทำฟาร์มทำสุนัข เห็นหมามาตั้งแต่ลืมตาดูโลก โอ้โห....ดูจนเบื่อเลยครับผม ก็เลยอยากได้อะไรแปลกๆ มาเลี้ยง สิ่งนั้นได้แก่หมูแคระนั้นเอง

“ไอ้หมูไม่รักดี เลี้ยงดีๆ ไม่เชื่องใช่ไหม อย่าให้เจอนะมึง...จับทำหมูหันแดกซะเลยไอ้นี่” พยายามมองหาตามซอกตามหลืบ ไม่เห็นแม้เงา ไม่มีแม้เสียหายใจ มันไปไหนวะ...ผมเอามานะเว้ย กอดมันมาเลยนา

เอ๊ะ...ประตูแง้ม?

ตายแล้วมึง ไอ้ความรักกูหนีโดดตึกตายไปแล้วมั้งเนี่ย ผมชอบบอกกับมันว่าผมจะเอามันมาทำเป็นหมูหัน ผมชอบกินหมูไง...โดนเฉพาะสเต๊กพ๊อกชอป นึกแล้วก็หิว นี่ไม่ใช่ไอ้ความรักน้อยใจที่ผมจะกินมันจนดราม่าจะหนีจากผมไปจริงๆ หรอกใช่ไหมนะ เฮ้ย...จะทำตัวเป็นเด็กใจแตกแบบนี้ไม่ได้นะความรัก มึงอายุยังน้อย ออกไปโดนหมาตัวผู้สอยตตูดท้องกลับมากูจะสมน้ำหน้าให้ แง่ม...เพ้อเจ้อไปอีกอะชีวิต

ผมออกเดินตามหาเจ้าหมูน้อยหน้าดำหลังดำ อันเป็นเอกลักษณ์ของหมูสายพันธ์นี้ทั่วทั้งชั้น…ซะเมื่อไหร่ แค่ชะโงกหน้ามองไปตามทางเดินยาวๆ ของชั้นนี้เท่านั้นแหละ ผมอาศัยอยู่คอนโดของน้าเขย เช่าเขาอยู่ ซึ่งน้าเขยเนี่ยเปิดร้านกาแฟอยู่ในมหาลัยที่ผมสอบเข้าได้ ด้วยความที่มีลูกติด ผมจึงเลือกที่นี่เป็นที่อาศัยแล้วก็เอาลูกไปฝากน้าเลี้ยงตอนเข้าเรียน

แต่แล้วผมก็เห็นประตูห้องตรงข้ามแง้มอยู่...ไอ้ลูกทรพีหนีเข้าไปในนั้นปะวะ?

เอาวะ ไม่ลองไม่รู้ เคาะถามดูก็แล้วกัน ประตูแง้มแบบนี้คงมีคนอยู่ และมีความเป็นไปได้สูงที่ความรักของผมเล็ดรอดเข้าไปป่วนประชาชี ได้แต่ภาวนาว่ามันอย่าปล่อยระเบิดใส่ห้องเขานะ นี่กูต้องอยู่นี่ยันปีสี่นะโว้ย ประสบการ์แรกกับเพื่อนข้างห้องคงจะเลวร้ายไม่หยอกเลยทีเดียวเชียวแหละ

ก๊อกๆ

ผมตัดสินใจเคาะประตูที่แง้มอยู่ ไม่นานเจ้าของห้องก็ชะโงกหัวออกมา บอกได้คำเดียวว่าหล่อจนเกือบหน้าทิ่ม...ติดอย่างเดียว หน้าแม่งจะหงิกไปไหน หมูเหยียบหางเหรอครับ เจ็บไหมผมเป็นห่วง

“ขอโทษครับ...เห็นความรักไหม?” ทำใจกล้าส่งเสียงถาม พออีกฝ่ายได้ฟัง หน้าที่หงิกอยู่แล้วก็ยิ่งทวีความหงิกงอเข้าไปใหญ่ กูว่า...ไม่ใช่แค่หมูเหยียบหางแล้วแหละ พี่แกน่าจะโดนอะไรที่มันชวนหงุดหงิดกว่านี้

“ใครปล่อยคนบ้าเข้ามาวะ รปภ.เดี๋ยวนี้เขาบกพร่องในหน้าที่เร้อะ ไปๆ...กลับไปโรงพยาบาลของน้องเหอะ อย่ามารบกวน” โอ้โหว...น้ำเสียงฉุนเฉียวของพี่แม่งแทงจี๊ดเข้าขั้วใจ อยากจะลงไปกองกับพื้นแล้วร้องไห้ประหนึ่งโดนแฟนทิ้งเพื่อให้เห็นถึงความเจ็บช้ำ

“คือ...ผมไม่ได้บ้า”

“คนดีๆ ที่ไหนเขามาเคาะห้องคนอื่นแล้วถามหาความรักกันบ้างน้อง แล้วถ้าน้องสติดีนะ น้องก็จะรู้ว่าเขาไม่ทำอะไรแบบนี้กันหรอก นอกจากอยากมาก คันมากเลยมาเคาะห้องชาวบ้านแล้วเสนอตัวเองแบบน้องอะ จริงๆ...พี่ว่าน้องหน้าตาดีนะ ติดที่แม่งไม่บ้าก็ร่านอะ” เหยดดดดดด โดนแรงกว่าดอกแรกอีกสาด

“คือ...”

“พี่ไม่รู้หรอกว่าน้องเมายามาจากห้องไหน แต่พี่แนะนำให้น้องออกไปดีกว่า พี่กำลังหงุดหงิด...”

“ผมแค่มาถามหาความรัก” ผมรีบถียง พี่แกยกนิ้วชี้แตะริมฝีปากตัวเอง เพิ่งสังเกตว่าที่ไหล่ของเขามีรอยสักโลโก้อะไรสักอย่าง

“พี่ไม่มีความรักให้น้องหรอกนะครับ...มีแต่ตีน เอาไหมครับ” กำลังชื่นชมรอยสักสวยๆ อยู่ดีๆ อารมณ์ก็ขึ้น อยากส่งเท้าคู่เข้าสู่เบ้าหน้าหล่อๆ นี่จังเลยยยยย

“คือพี่...พี่ต้องฟังผมก่อน...” ด้วยความเป็นสุภาพชน ต้องพยายามอธิบาย แม้พี่มันจะทำท่าแคะขี้หูไม่สนใจใยดีผมก็ตาม

“ไม่ฟัง น้องต่างหากต้องฟังพี่...ออกไปจากหน้าห้องพี่ซะ พี่ไม่มีความรักให้คนแปลกหน้าและหน้าด้านอย่างน้องหรอกนะ พี่พูดตรงๆ...ถ้าน้องเมายาก็กลับบ้านไปพัก แต่ถ้าน้องไม่สบาย หรือป่วยทางจิตน้องก็ควรไปหาหมอ...ไม่ใช่มารบกวนคนอื่นเขาแบบนี้ เฮ้อ...วันนี้แม่งอะไรนักหนาก็ไม่รู้ เดี๋ยวต้องไปบอก รปภ.ละว่าคนบ้าเข้ามา...” ท้ายๆ แกบ่นพึมพัมคนเดียว และทำท่าจะปิดประตูใส่หน้า กูยังไม่ได้บอกเลยว่าความรักของกูคืออะไร...มึงติต่างเอาเอง มโนเอาเองเป็นเรื่องเป็นราว ด่ากูแม่งครบทุกอย่าง เข้าหน้ากูทุกดอก...เลววววว

“ที่ผมถามหามันคือ....”

ปัง!

“...หมู” โอ้ย ไอ้บ้า มึงอะบ้า กูถามหาหมูเว้ย ไม่ได้มาถามความรักอะไรอย่างที่มึงเข้าใจเล้ยยยย

ผมยืนหัวเสียด่าแง่มๆ อยู่คนเดียวหน้าห้องมัน เป็นความประทับใจที่กูไม่ประทับใจเลยเว้ย แบบนี้คงอยู่กันไม่รอดหรอกบอกตรงๆ คนอย่างไอ้สามนะ ฆ่าไม่ได้ หยามก็ไม่ได้ กูจะอยู่ยงคงกระพันธ์...เกี่ยวอะไรกับที่กูหงุดหงิดตอนนี้ไหมเนี่ย!

ต่อให้หงุดหงิดปานกินหัวหมูทั้งหัวได้ ผมก็ยังต้องอดทนไม่ระเบิดอารมณ์ออกไป เจ้าของห้องนี้มันตัวใหญ่มากครับ วงแขนกล้ามเป็นหมัดๆ เลยล่ะ โดนต่อยทีน่าจะไม่ได้นอนนับดาว น่าจะไปโลกหน้า ไปไหว้อาม่าของผมได้เลย

ก๊อกๆ

“พี่ครับ...ความรักของผมมันคือ” ยังพูดไม่ทันจบ พี่ท่านเปิดประตูผลัวะออกมา หน้าหงิกกว่าเดิม

“น้องจะไปดีๆ หรือจะให้พี่เอาน้ำร้อนมาสาดไล่” ไอ้เหี้ย กูไม่ใช่หมา

“หมู...พี่เห็นหมูไหมครับ” ด้วยวามกลัวน้ำร้อน กูถามแม่งแบบนี้ละกัน จะไล่กูอีกไหม...แล้วดูรูปประโยคคำถาม กูว่าแม่งแปลกยิ่งกว่าอันแรกของกูอีก โอ้ย ตายกูตาย...

“หมู?”

“ครับ หมู...ตะตัวเล็กๆ หน้าดำ ตาขวางๆ...” เหมือนคนตรงหน้ากูเนี่ย

ปัง!

เอิ่ม...ปิดประตูใส่หน้ารอบสอง เขาคิดว่าผมบ้าไปแล้วจริงๆ ใช่ไหมนะ ถึงทำกับผมแบบนี้ ถ้าเชื่อว่าผมบ้า ก็ควรสงสารคนบ้าแบบผมหน่อย ตอบคำถามผมสักนิดก็ยังดี ผมเป็นห่วงหมูผมนะครับ เจ้าความรักของผม...แอปเปิ้ลอันมากมายที่เอามาขุนมันทุกๆ วัน กะว่าเนื้อของมันจะต้องอบอวลไปด้วยกลิ่นแอปเปิ้ลเมื่อได้กินมันจริงๆ แต่ถ้ามันหายไป ที่ผมลงทุนขุนมันอยู่นานสองนานก็หมดประโยชน์อะสิ เงินหลายบาทหลายสตางค์ผมจะไปเอาคืนได้ที่ใคร โฮ...หมูหันของฉ้าน

“นี่ปะ” แต่แล้ว ในขณะที่ผมกำลังดราม่าอยู่กับลูกบิดประตู เจ้าของห้องก็เปิดออกมาอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ประตูเปิดกว้างกว่าเดิม พร้อมกับตาขวางๆ และหน้าดำๆ ของไอ้ความรัก

“โอ้ นี่แหละความรัก....ผมขอคืนนะครับ” ผมรีบคว้าคืนอย่างไว แอปเปิ้ลที่ให้มันกินไปไม่สูญเปล่าแล้วเย้

“เดี๋ยวนะ ชื่อความรัก?” ละสายตาจากเจ้าความรักมองหน้าฉงนสุดใจของคนตรงหน้า ทำไมครับ ชื่อเท่อะสิ ใช่ม้าใช่ม้า

“ใช่ มันชื่อความรัก” ผมนำเสนอสุดๆ หน้าบานยิ่งกว่าจานใส่ข้าวหมู

“ควายเหอะ ใครให้ตั้งชื่อแบบนี้ กูก็นึกว่ามึงแม่งเกย์โรคจิตมาเคาะห้องกู” เขาเกาหัวแกรกๆ ทำไม...คันหัวขึ้นมาทันทีเลยเหรอครับ เมื่อกี้ยังจะแจกตีนให้ผมอยู่เลย ผมยู่ปากใส่เอาให้เหมือนหมูที่อุ้มเนี่ยแหละ

“...ชื่อน่ารักจะตาย”

“น่ารักของมึงคนเดียวเหอะ” แน่นอน น่ารักของผมคนเดียวอยู่แล้วเนอะ

“หึหึ ไอ้ความรัก...อุตส่าห์จะขุนให้อ้วนพีก่อนค่อยกิน สงสัยจะรีบสินะ....ได้เลยๆ เดี๋ยวเย็นนี้เอาเอ็งไปทำหมูหันแล้วกันเนอะ” ผมกระซิบใส่หูหมูยิ้มๆ
 
“คือ...” แต่ต้องชะงัก ลืมไป...ไม่ได้อยู่กันสองตัว ผมยิ้มให้เขา ก้มหัวเชิงขอบคุณถึงแม้แม่งจะด่าจนกูเสียหมูไปแล้วก็ตาม

“ไปละครับ” ผมเดินลั้นลาเข้าห้องตัวเอง

“น้องสามมีหมูอู๊ดๆ หมูอู๊ดๆ...หมูอู๊ดๆ...น้องสามจะกินหมูอู๊ดๆ หมูอู๊ดๆ” ผมเดินฮัมเพลงที่มีทำนองเดียวกับหนูมาลีมีลูกแมวเหมียว พลางมองหน้าเจ้าความรัก ส่งสายตาที่คิดว่าน่ากลัวที่สุดไปให้มัน จบท่อนสุดท้ายผมก็งับเข้าที่กลางตัว

เจ้าความรักร้องแล้วก็ดิ้นรนหนี ผมวางมันลงกับพื้น...มองดูมันที่ตั้งท่าจะเข้ามาขวิด เอาซี้ กล้าทำพ่อมันก็ลองดู ผมยกสองมือทำท่าจะจับมันขย้ำ จากนั้นสีหน้าที่เหมือนจะวางท่าว่าข้าเจ๋งก็หายไป พร้อมกับร่างเล็กวิ่งดุ๊กๆ เข้าซอกหลืบ ฮ่าๆ นึกว่าจะแน่

“ห้ามซนนะความรัก ห้ามออกไปข้างนอกด้วย เดี๋ยวป๊าจัดของเสร็จแล้วจะเอาของชอบมาให้” เจ้าตัวออกมาจากซอกตู้ นั่งมองหน้าผมตาปริบๆ รู้ดีนักละเรื่องของกิน สมแล้วกับที่เป็นหมูนะมึงเนี่ย

แล้วถ้าถามว่าทำไมผมต้องตั้งชื่อหมูตัวเองว่าความรัก ก็เพราะว่าเพื่อนผมเคยบอก...ความรักแม่งก็เหมือนกับตด ถึงมองไม่เห็นแต่ก็รู้ว่ามีอยู่จริง มึงเปรียบเทียบซะเหม็นเชียว นั่นแหละ...ผมอยากให้ความรักเป็นสิ่งที่เห็นได้จับต้องได้ เลยตั้งชื่อหมูตัวเองว่าความรัก ทีนี้เวลามันพูดว่าความรักเหมือนตดอีก ผมก็จะสวนมันได้ความรักของกูเหมือนหมู...แดกได้ อิ่มด้วย

เป็นไง...ปรัชญาโคตรๆ เล่นเอาพ่อกับแม่ที่รู้เรื่องนี้ขำไม่ออก พี่หนึ่งพี่สองหันมาปรึกษากันว่าควรพาน้องชายคนนี้ไปปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับสติปัญญาแทนที่จะส่งเสียให้เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่ผมผ่านจุดที่โดนสายตาสงสารประดังเข้ามาได้ด้วยการโครงหัวไปมา แล้วบอกน้ำในหูไม่เท่ากัน...จากนั้นทุกคนก็พร้อมใจกันส่งลูกคนเล็กของบ้านเข้านอน

นี่แหละ...วิถีของเดอะสามผู้หน้ามึนเหมือนหมูที่ตัวเองเลี้ยง

.....100%.....

น้องสามจะกินหมูอูดๆ หมูอู๊ดๆ...น้องสามจะกินหมูอูดๆ หมูอู๊ดๆ~ เรามาปัญญาอ่อนไปด้วยกันเถอะค่ะ!
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️บทนำ❤️ -01/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 01-09-2017 22:24:24
 :hao6: น้องสามอย่างเพี้ยนอ่ะ แต่น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️บทนำ❤️ -01/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-09-2017 22:39:57
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️บทนำ❤️ -01/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 03-09-2017 10:52:24
เข้าใจตั้งชื่อหมูอ่ะ พี่ห้องข้างๆๆใครอ่ะสาม รู้ยัง อิอิ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 1 [100%]❤️ -03/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 03-09-2017 21:52:43
>>ตอนที่ 1 [100%]<<

ผู้ชายที่หน้าเหมือนหมูแต่หุ่นเหมือนหมาคนนี้มีชื่อว่า...สาม เป็นชื่อที่แม่บอกผมด้วยความภาคภูมิใจว่า ‘ขี้เกียจคิด’ ผมนี่น้ำตาไหลเป็นสายธารด้วยความซาบซึ้งใจ ทำไมท่านแม่ของกระผมนั้นถึงได้เสียสละมากขนาดนี้ แต่ไม่ใช่แค่ผมที่มีชื่อเล่นสิ้นคิด พี่ชายทั้งสองของผมก็เช่นกัน ก็เล่นชื่อหนึ่ง สอง สาม เป็นไงล่ะ...เชื่อเถอะว่าไม่ใช่แค่ครอบครัวผมที่แม่ขี้เกียจตั้งชื่อ ครอบครัวอื่นต้องมีแน่นอน

ตอนนี้ผมกำลังนั่งมองหน้าหมูตัวเองอยู่ในร้านคอฟฟี่ชอปของน้า ซึ่งน้าผมเนี่ยเป็นเกย์...น้าเขยเลยเป็นผู้ชาย งงไหม ไม่อธิบายมันจะไม่งงผมเชื่อแบบนั้น แม่ชอบบอกว่าผมเหมือนน้าบอยน้องชายแม่นั่นแหละ แล้วน้าบบอยผมก็ตัวเล็กน่ารัก...ผมเหมือนอ่อวะ ผมว่าผมหน้าเหมือนความรัก ฮิ้ว....มุกหยอกตัวเองก็มา เอาความจริงคือผมคิดว่าหน้าผมเหมือนหมู ส่องกระจกทีไรรู้สึกหน้าเราคล้ายกันไปทุกที ผมเลยมักเรียกตัวเองกับความรักว่าตัว แบบ...อยู่กันสองตัวงี้

ช่วงนี้เป็นช่วงรับน้อง เหนื่อยมาก เหนื่อยจนแบบ...อยากลาตายสักสามสี่วัน แต่ถ้าตายแล้วมันฟื้นไม่ได้ไง ระหว่างที่ผมมาเรียนหรือทำกิจกรรมที่มหาลัยผมก็เอาความรักมาฝากน้าบอยเลี้ยง มันได้รับความเอ็นดูจากทุกผู้ทุกคนที่เข้ามาในร้าน เจ้าตัวชอบนั่งหน้าเคาน์เตอร์ เหมือนเกะกะ ทว่ากลับมีเสน่ห์ น้าภูมแฟนน้าบอยชอบมันมาก เลี้ยงมันด้วยแอปเปิ้ลลูกละสามสิบ โอ้ว...แดกดีกว่ากูอี้ก!

“ส่งงานแล้วชิ่งก่อนเลยนะมึงเนี่ย” เสียงแบบนี้ ไอ้วิ่งเพื่อนผมเอง ท่าทางกวนตีนและสีหน้ายียวนคือเอกลักษณ์ของมัน ตอนแรกจะเข้าไปต่อยกับมันด้วยซ้ำ แค่เห็นหน้าเท้าก็กระตุก ดีที่ผมเป็นสุภาพชนเลยได้มันมาเป็นเพื่อน

แต่...ผมติดใจกับชื่อมันมาก แม่กูขี้เกียจแล้วนะ ชื่อกูก็ยังดูดีกว่าไอ้วิ่งอะ มันบอกว่าพ่อมันอยากให้มันวิ่งเลยไม่ต้องเดิน ตรรกะอะไรวะ ข้างกายไอ้วิ่งที่ตัวสูงชะลูดเป็นเสาร์ไฟคือไอ้พีช เจ้านี้มีมาดนักวิชาการ ชอบใส่แว่นที่...ไม่มีแลนส์ ใส่ไปงั้นให้ดูเนิร์ด

“ไงจ้ะ...ความรัก” เต๊าะหมูกูอีกละพีชนี่ มันชอบหยอกหมูผม ไม่รู้คิดอะไรกับลูกชายผมเปล่า

“กูสังเกตมาหลายทีละ ไอ้ความรักไม่ชอบมึงแน่ๆ มันชอบมองมึงตาขวาง แต่มองไอ้พีชตาฉ่ำ” ไอ้วิ่งนั่งลงข้างผม ส่วนพีชแย่งหมูผมไปกอด

“มึงชอบกินหมู แล้วก็ชอบขู่ว่าจะกินมันด้วย เนอะ...ความรักกลัวใช่ไหมครับ โอ๋ๆ นะตัวนะ”

“กูชักสยองมึงแล้วอะพีช มึงเหมือนโรคจิตที่หมายตาตูดหมูกูอะ ไม่ได้นะเว้ย...มึงจะรักใครชอบใครกูไม่ว่า แต่มึงจะมารักมาชอบลูกกูไม่ได้ กูไม่อยากให้ลูกกูเสียตูดให้มึง เดี๋ยวเนื้อไม่อร่อย” กูจริงจังยิ่งกว่าสอบเข้าคณะอีกนะเนี่ย

“เอาหน่า....น้ำกูทำให้เนื้อมันนุ่มขึ้น” หน้ามึงน่ากลัวมากพีช หน้าหื่นๆ ไม่นะไม่...อย่าคิดอกุศลกับลูกกูนะ

“พอๆ กูสยองพวกมึงสองตัวละ อีกคนก็จะแดกลูกตัวเอง อีกคนก็จีบหมู สติดีกันไหมวะ” สติดีกว่ามึงแล้วกันไอ้วิ่ง

“แหม่ ก็ล้อกันเล่นไหมละ” พีชวางความรักลงกับโต๊ะ ซึ่งเจ้าลูกสุดที่รักก็เดินเข้ามาหาผมอย่างเร็ว เริ่มรู้ตัวแล้วใช่ไหมละว่ามึงกำลังโดนหมายตาเพื่อฟันแล้วทิ้งเนี่ย

“เออ เล่นกันพอแล้วก็ไปกินข้าวกัน กูจะไปดูชมรมที่จะเข้าด้วย” วิ่งมันจะเข้าชมรมบีบอย มันสองคนเนี่ยเต้นบีบอยกันมาตั้งแต่มอต้น แถมเลือกเรียนที่นี่เพราะที่นี่มีชมรมบีบอย เป็นชมรมไม่เป็นทางการ คือ...ไม่ใช่ชมรมจริงจัง แค่เป็นที่รวมตัวของนักเต้น และมีคนเก่งๆ มาสอน

“มีชมมคนเลี้ยงหมูไหม” ให้เต้นบีบอย หุ่นเหมือนหมาอดข้าวอย่างกูไม่ไหวแน่ๆ

“ไม่มี มึงต้องเข้ากับพวกกู เข้าไปนั่งดูก็ได้ พี่ๆ เขาไม่โหดหรอกมึง” ไอ้วิ่งก็พูดแบบนี้ตั้งแต่บอกผมว่าจะเข้าชมรมบีบอยนั่นแหละ มันเคยเข้ามาเต้นตอนเรียนมัธยมละนะ

“ใช่ แล้วเดี๋ยวกูจะสอนความรักของมึงเต้นบีบอย เนอะ...ความรักอยากเต้นใช่ไหมครับ” ไอ้พีชน่าจะโรคจิตจริงละวะ มึงคุยเป็นตุเป็นตะมาก

“ไม่ได้ กูไม่ให้ลูกกูเต้น เดี๋ยวแขนขาหักขึ้นมาทำไง ไม่ได้ไม่อนุญาต” แล้วดูคนไม่บ้าอย่างผม ก็เป็นตุเป็นตะเหมือนกันเลย

วิ่งได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอากับความบ้าบอของเราสองคน เราเดินมาจนถึงหน้าร้าน มีจักรยานสามคันจอดอยู่ เป็นฟิกเกียร์สองและจักรยานแม่บ้านหนึ่ง มันคือของเราสามคนเองครับ คันสีเขียวทรงแม่บ้านเป็นของผม ไม่ใช่ว่าหาเท่ๆ ไม่ได้นะ แต่ผมมักเอาความรักใส่ตะกร้าหน้ารถน่ะ ถ้าเป็นฟิกเกียร์มันก็ใส่ความรักลงไปไม่ได้ นี่ผมเลือกดูเชยแบบนี้ก็เพื่อมันเลยนะเนี่ย ส่วนของวิ่งสีเหลืองและของพีชสีแดง

บลูด้าเบลสมาเอง...ง่อว

ไม่ได้มีความบังเอิญอะไรขนาดนั้นหรอกนะครับ ตอนแรกของมันก็สีดำทั้งคู่ รุ่นเดียวกันอีก แล้วดันมาเห็นของผมสีเขียว ก็เลยพร้อมใจกันหาเหลืองกับแดงมาขับด้วยกัน ความเร้กเก้จึงบังเกิด แม้ว่าจะเต้นเร้กเก้กันไม่เป็นเลยก็ตาม ได้แต่หมอรำหน้าห้างน่ะสนใจบ่

ไอ้วิ่งขับนำไปคนแรก ผมเอาความรักใส่หน้ารถแล้วก็เริ่มปั่นตามๆ กันไป มุ่งไปที่อาคารเรียนคณะเราเองเพื่อซื้ออาหาร คณะที่ผมเรียนคนค่อนข้างเยอะ จอแจแต่ไม่มากเท่าโรงอาหารกลาง เราซื้อเพื่อเอาไปกินใกล้กับลานกิจกรรม ปกติผมมากินกันไม่เห็นมีคนมาเต้นบีบอยนะ อาจเพราะอยู่ในช่วงรับน้อง ตรงนี้เลยเต็มไปด้วยรุ่นพี่สันทนาการ แต่ตอนนี้การรับน้องอันทรหดก็ผ่านไปแล้ว กิจกรรมอื่นเลยเริ่มเข้าที่เข้าทาง อย่างวันนี้ แค่ปั่นจักรยานเข้ามาก็ได้ยินเสียงเพลงก่อนเลย

“คนเริ่มทยอยกลับมาเต้นล่ะ” พีชมองไปที่กลุ่มคน เรานั่งอยู่ด้านข้าง ยังได้ร่มของตัวอาคารอยู่ ไม่ต้องห่วง ไม่โหดพอมานั่งกินข้าวตากแดดหรอกครับ

“พวกมึงจะเข้าชมรมนี้เหรอ” ผมนั่งประจำที่ เอาความรักขึ้นมาวางบนโต๊ะหินอ่อนเหมือนทุกที พร้อมทั้งเอาแอปเปิ้ลของโปรดให้มันด้วยหนึ่งลูกถ้วน

“ใช่ มึงก็ต้องอยู่ด้วยไง นั่น...พี่ๆ รุ่นใหญ่มากันด้วยแหะ” อะไรคือพี่ๆ รุ่นใหญ่วะ ผมมองตามมือไอ้วิ่ง แล้วก็ต้องสะดุดสายตากับชายหนุ่มร่างสูง

เขาคือชายปากจัดห้องตรงข้ามผมเอง หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลย อาจเพราะเขาทำงานหรืออาจเพราะผมไม่ว่างก็ไม่รู้ แค่จะเฉียดผ่านกันยังไม่เฉียดอะคิดดู วันนี้พี่เขาใส่เสื้อแขนกุดกับกางเกงผ้าร่มสามส่วน สีดำทั้งตัว สะพายเป้ใบใหญ่ สวมรองเท้าแตะ แม่งหล่ออะ...หล่อจนใจละลาย

ผมไม่ใช่เกย์น้า...ผมแค่ฟรีกับทุกเพศทุกวัยเท่านั้นเอง ฮ่าๆ ด้วยความที่ทางบ้านเปิดโล่งเรื่องความชอบทางเพศละมั้ง ดูอย่างน้าชายผมสิ ก็ยังแต่งงงแต่งงานกับเพศเดียวกันเลย ผมและพี่ๆ ก็พลอยฟรีเรื่องพวกนี้ไปด้วย แบบ...ถ้าถูกใจ ชอบพอกัน เพศอะไรก็ไม่เกี่ยงประมาณนั้น แต่ผมมันเด็กติดเกม ไม่ได้สนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เท่าไหร่นัก ที่ผ่านมาคบมาทั้งหญิงและชาย แต่ไม่รอดสักราย ไม่เขาทิ้งผม ผมก็ทิ้งเขา ไลฟ์สไตล์มันเข้ากันไม่ได้ละมั้ง...

“นั่นพี่มะเดี่ยว...” ไอ้วิ่งชี้ไปที่ผู้ชายห้องตรงข้าม เพิ่งรู้ชื่อก็ตอนนี้แหละ

“พี่แม่งโหด เป็นสายพาวเวอร์มูฟที่โหดสลัดรัสเซียสัตว์ๆ เขาเป็นตัวแทนดูแลชมรมมาตั้งแต่ปีก่อนที่ยังเรียนที่นี่ ไม่คิดว่านี่ก็ยังโพล่เข้ามาสอนน้องๆ” ไอ้พีชทำหน้าทำตาชื่นชมเขาสุดๆ ไม่เห็นน่าชื่นชมเลยมึง วันก่อนด่ากูเสียหมาเลย

“อู๊ดๆ...” แต่ไอ้ความรัก...มึงไม่ได้มีเอี่ยวหรือเกี่ยวอะไรกับเขานะเว้ยเฮ้ย แหม มีเดินไปริมโต๊ะ เชิ่ดหน้าส่งเสียงประหนึ่งร้องเรียกเขาเลยนะ พ่อมึงนั่งอยู่นี่ นั่นไม่ใช่พ่อมึง

นั่งเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่หมูตัวเองอยู่ดีๆ เจ้าความรักไม่รักดีก็กระโดดลงจากโต๊ะมาที่นั่ง กระโดดจากที่นั่งไปพื้นแล้ววิ่งดุ๊กๆ ไปที่กลุ่มนักเต้นทันที ผมนี่กำลังยัดข้าวเข้าปากถึงกับวิ่งตามไม่ทัน เพื่อนๆ ผมเองก็แปลกใจที่มันวิ่งลิ่วไปนู้น

“ความรักวิ่งหนีมึงไปแล้ว” ยังมีหน้ามาขำอีกไอ้วิ่ง

“โว้ย...มึงตายแน่ไอ้ความรัก” ผมรีบดื่มน้ำอึกๆ ก่อนวิ่งเข้าไป

ความรักมันหยุดเมื่อพี่มะเดี่ยวนั่นหันมามอง เจ้าตัวยิ้มกับลูกหมูใส่ปลอกคอสีเขียว ความรักนี่มันก็กระแด๊ะอะนะ เขามองปุ้บล้มตัวนอนกลิ้งเข้าหาเขาทันที นี่มึงเป็นหมูหรือมึงเป็นหมา จะฉลาดไปไหน แล้วอีกอย่าง...พี่มะเดี่ยวไม่ใช่หมูตัวเมียนะมึงเอ้ย!

“เอ่อ...”

“...” พี่มะเดี่ยวหันมามองหน้า เขาอุ้มความรักขึ้นมาจากพื้นด้วยรอยยิ้มเอ็นดู หนอยแน่...มันอยากเป็นหมูหันจริงๆ อะผมว่า

“ขอความรักด้วยครับ...” ผมบอกเสียงเบา แล้วรอยยิ้มพี่ท่านก็ดูเจ้าเล่ขึ้นมาแปลกๆ

“อะไรนะครับ พี่ได้ยินไม่ชัด” หูมึงไม่ตึงกูเชื่อแบบนั้นเว้ยพี่

“ขอความรักคืนด้วยครับ....”  อะ ส่งเสียงดังขึ้นอีกหน่อย

“พี่ไม่ได้เอาความรักของเราไปนะครับ” เออ พี่ไม่ได้เอาไปเว้ย แต่มันแรดวิ่งมาหาพี่เองไง

“ก็รู้...แต่พี่อุ้มมันอยู่”

“ก็เดินเข้ามาเอาเองสิ” นี่พี่มึงต้องการอะไรครับ กูจะกลับไปกินข้าวต่อละนะโว้ย

“พี่...” ผมทำเสียงอ่อย แบบที่ชอบทำใส่พี่ชายเวลาแม่งแกล้งผม ส่วนขาก็เดินเข้าไปใกล้

“ครับ?” ไม่ต้องมยิ้มสุภาพ ไม่เข้ากับหน้าและรอยสักอะบอกเลย

“ขอความรักหน่อย...”

“อะไรนะ...” กูตบพี่แม่ง!

“ผมขอความรักครับ!!!” เอ้า เสียงดังขนาดนี้ยังจะเล่นลิ้นอยู่ไหม ฮึ้ย...ขึ้นเลยนี่ขึ้นเลย

“แล้วถ้าพี่ไม่ให้ละ” รู้สึกอ่อนแรง ทั้งที่เมื่อกี้ไฟลุกพรึ่บพรั่บจากทั่วทุกอนูผิว

“พี่คร้าบ...ผมขอเจ้าความรักเหอะน้า” จะเข้าไปแย่งก็กลัวลูกเจ็บ จะเตะตัดขาแม่งก็กลัวโดนสวน แล้วก็ไม่เข้าใจ พี่มึงกวนตีนกูทำมายยยยย กูไปทำอะไรให้พี่มึงเหรอครับ

“จะขอความรักจากคนอื่นอะนะ มันก็ต้องทำให้ดูโรแมนติกหน่อย คิดแบบนั้นไหมเจ้าความรัก”

“อู๊ดๆ” มึงไม่ต้องตอบ ไม่ต้องแรดเลยไอ้ลูกเลว

“พี่เล่นอะไรของพี่เนี่ย เร็ว...ผมหิวข้าวแล้ว” ผมไม่ได้งอแงนะ แต่เสียงงุ้งงิ้งมาก

“นี่ความรัก...เวลาเขาเขาแต่งงานเขายังไงนะ คุกเข่าปะ แล้วเอาดอกไม้หรือแหวนมายื่น ทำน้ำเสียงดีๆ ยิ้มหวานๆ อะไรแบบนี้ถูกปะ”

“อู๊ดๆ..อู๊ด” เหมือนมึงยิ้มอะไอ้ความรัก มึงกำลังแกล้งกูใช่ไหม มึงกับมันรวมหัวกันแกล้งกูใช่ไหมเนี่ย!!!

“นั่นแหละ ตามที่ความรักบอกเลย...ทำก่อนแล้วเดี๋ยวพี่ให้ความรัก” ผมว่าผมต้องเคยเดินไปเหยียบหางพี่แกแน่ๆ พี่แกถึงได้ทำกับผมเยี่ยงนี้

นี่ผมยังไม่ได้บอกเลยนะว่าตอนนี้ทุกคนหันมาสนใจเราเป็นตาเดียว สนใจตั้งแต่ผมตะคอกขอความรักจากพี่แม่งแล้วอะ...ผมไม่ได้ต้องการให้พี่มันมาคบเว้ย กูต้องการหมูตัวเองคืน รู้งี้นะแม่ง กูไม่ตั้งชื่อหมูตัวเองแบบนี้หรอก ต้องชื่ออื่นแทน อย่างอะไรดี...อย่าง....สัตว์ คิดไม่ออก บอกตามตรงว่าตอนนี้สมองมันตีบตัน อยากจะร้องไห้แทน อยู่บ้านร้องไห้แล้วแม่ปลอบ อยู่นี่ร้องไห้แล้วใครจะมาปลอบกรูววววว

ผมหันซ้ายหันขวา ไม่สนสายตาคนมอง พอดีหน้าด้านประมาณหนึ่ง ช่วงรับน้องแม่งอับอายกว่านี้เยอะ อีกอย่าง...คนอื่นจะเอาผมไปพูดยังไงก็ไม่เสียหายอยู่แล้ว แค่ขอความรักจากผู้ชายด้วยกันเองถูกมะ ผมตรงเข้าไปเด็ดดอกเข็มมาจากพุ่ม กลับมาคุกเข่าข้างหนึ่งตรงหน้าพี่มะเดี่ยว ยื่นดอกไม้ไปข้างหน้า โปรยตาหวานซึ้งพร้อมกับความคิดที่ว่า...

...กูทำเพื่อ???

“พี่ครับ...ขอความรักหน่อยครับ” กูเห็นนะ ไอ้วิ่ง ไอ้พีชแม่งนั่งขำท้องขัดท้องแข็งไปหมดแล้ว ไหนจะยังมีคนอื่นถ่ายรูปเราเอาไว้อีก ไม่นานผมจะดังในโซเชียลแน่นอน กูฟันธงขาดสิบห้าท่อนเลยอะ

“ไม่ชอบดอกไม้อะ...ไม่เห็นสวยเลย” โอ้โห พูดงี้ผมนี่เหี่ยวตามดอกไม้ไปเลยครับ พี่อย่าแกล้งกูนักได้ไหม...

ผมเป็นคนไม่สู้คน ถึงจะกวนตีนอยู่บ้างแต่ก็ไม่กล้าหืออะไรกับใคร ที่สำคัญ...ผมเถียงคนไม่ค่อยเก่ง เวลาเขาพูดเขาว่าผมมักจะด่ากลับในใจแต่พูดออกไปจริงๆ ได้แค่ไม่กี่คำเท่านั้นเอง เหมือนตอนนี้ อยากด่าพี่มันฉิบหายเลย แต่ก็ด่าไม่ออก เลยหน้าเศร้าหงอยแบบนี้ไง...อายก็อาย นี่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนะเว้ย

“ฮ่าๆ เอ็งนี่มันแกล้งง่ายจังวะ..เอ้า เอาไป” ขณะที่กำลังแอบดราม่าให้กับโชคชะตาอยู่ พี่แกก็มาดึงดอกเข็มไปจากมือแล้วส่งเจ้าความรักมาให้

“อ่า...ขอบคุณครับ”

“ไม่เป็นไร เห็นมันปลอดภัยก็ดีแล้ว...” พี่เขามองความรักเหมือนเป็นห่วง คงเพราะผมดูแลมันไม่ดี มันเลยชอบหนีไปบ่อยๆ นี่สองครั้งที่มันพุ่งเข้าหาพี่เขา

“ครับ ผมจะดูแลมันให้ดีกว่านี้ ผมเองก็ไม่อยากให้มันหายไปหรอก เลี้ยงด้วยแอปเปิ้ลอย่างดีขนาดนี้ ขืนหายไปที่ผมลงทุนขุนมันเอาไว้กินก็สูญเปล่าหมด” ว่าแล้วก็ยิ้มจนตาแทบปิด

“เอ่อ...จะกินมันจริงดิ”

“จริงดิพี่ แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอก รอให้มันโตกว่านี้ เลี้ยงเองกินเอง...มันคงให้ความรู้สึกภูมิใจพิลึกเนอะ” ผมขำเสียงเหี้ยมใส่ความรัก ตามันขวางขึ้นมาอีกแล้ว หึหึ แกต้องโดนแดกไอ้หมูบ้า ไอ้หมูไม่รักดี ไอ้หมูทรยศ

“ไม่ลองกินอย่างอื่นเหรอ...ปลางี้ อร่อยนะ” เงยหน้ามองพี่แกอย่างแปลกใจ คือเหมือนจะโน้มน้าวให้ไปกินปลา เห็นสายตาที่มองมาทางความรัก ไม่ใช่ว่าแกคิดว่าผมจะกินจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย

“ไม่อะพี่...ผมชอบกินหมู!” เหมือนทั้งคนทั้งหมูจะจ้องผมอยู่นะ ทำไม...ผมพูดอะไรผิด ไม่เลย ไม่ผิดสักนิดเดียว ผมชอบกินหมูมากๆ ทุกมื้อต้องมี อย่างที่ทิ้งไว้บนโต๊ะก็หมูทอดกับข้าวเหนียว อร่อยจะตาย

“ผมขอตัวไปกินข้าวก่อนนะพี่” โค้งงามๆ ประดุจได้รับรางวัลขวัญใจช่างภาพ ไอ้ความรักนี่ก็ดิ้นจัง จะดิ้นอะไรนักหนา ไม่ปล่อยให้มึงวิ่งโล่เข้าไปหาเขาหรอก...รู้จักกันก็เปล่า ยังมาด่ายังมาแกล้งกันอีก ไม่ดีๆ...คนแบบนี้อยู่ใกล้มีแต่กูที่โดนแกล้ง!

.....100%.....

จากประสบการณ์ตรงที่ได้ใกล้ชิดหนุ่มบีบอย ทำใหเรารู้ว่า...มันโคตรขี้แกล้ง! น้องสามซวยแล้วล่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 1 [100%]❤️ -03/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-09-2017 01:17:36
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 1 [100%]❤️ -03/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 04-09-2017 03:12:01
ความรัก น่าร้ากกกก  :o8:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 1 [100%]❤️ -03/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 04-09-2017 03:57:53
 :o8:  :-[  ความรักนี้ก็สุดแสนจะฉลาดเนอะ... วิ่งหาถูกคนจริงๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 2 [100%]❤️ -10/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 10-09-2017 19:00:58
>>ตอนที่ 2 [100%]<<

“ฮ่าๆ ไอ้สัตว์ โคตรจี้...มึงแม่งเสือกตั้งชื่อหมูได้แบบ...เป็นกู กูก็แกล้งมึง” มาถึงโต๊ะ ผมเอาความรักยัดใส่กระเป๋า ปิดซิปให้โพล่ออกมาแต่หัว จากนั้นปล่อยให้มันมองผมด้วยสายตาอาฆาตแค้น สวนไอ้วิ่งแม่งยังขำไม่เลิก ไม่เว้นกระทั่งไอ้พีช

“พอเลยสัตว์ ขำกูอยู่นั่น อับอายฉิบ...กูไปทำไรให้พี่แกไม่พอใจวะ คราวก่อนนะเว้ย กูทำความรักหาย กูก็ไปเคาะห้องแล้วถาม พี่แกด่ากูเป็นชุดเลย ไม่ถามกูสักคำว่าความรักคืออะไร ไม่ฟังกูด้วย กว่าจะรู้ว่ากูมาตามหมูกูก็นู้น....ด่าจนกูตายไปหลายรอบ แม่ง...เจ็บใจ แต่ทำไรไม่ได้” นั่งยัดข้าวเหนียวเข้าปากด้วยความคับแค้น อยากร้องไห้ให้มันรู้แล้วรู้รอด

“ก็ดูชื่อหมูมึง...” พยายามหยุดขำให้ได้นะไอ้วิ่ง ไม่งั้นเตะเปรี๊ยงเลยฟาย

“อีกอย่างนะเว้ย พี่แม่งเป็นคนขี้แกล้งอยู่แล้ว...เด็กในฟลอโดนกันทุกคนแหละ มึงอย่าซีเรียส คนอื่นเขาก็มองขำๆ เด็กชมรมนี้แกล้งกันแรง” มึงกำลังพูดเพื่อไม่ให้กูคิดมากสินะพีช รักมึงจริงๆ เลยเพื่อนยาก

“จริง พวกบีบอยหน้าด้าน...ส่วนใหญ่แกล้งแบบนี้ไม่สะเทือนหนังหน้าหรอก แต่พอเป็นมึง มันเลยตลกอะ สีหน้าแบบ...กูตายแน่ๆ โคตรจี้นะจริงๆ” แล้วมึงก็ขำซ้ำเข้าไปอีกรอบ ผมละอยากฆ่าไอ้วิ่งทิ้ง

“พวกมึงไม่เป็นกู พวกมึงไม่รู้หรอก” ผมว่าอย่างน้อยอกน้อยใจ แต่ส่งสายตาเคืองขุ่นให้ความรัก

“เออ มึงไม่เป็นกูมึงก็ไม่เข้าใจหรอก ตอนกูเข้ามาเต้นที่นี่แล้วเล่นโฟล์คิงกับพวกพี่ๆ กูโดนสั่งเด้าพื้นเป็นชั่วโมง ไอ้เชี่ย....อายจนไม่รู้จะอายยังไง” ผมมองหน้าไอ้วิ่งอึ้งๆ มีงี้ด้วยเหรอวะ...สั่งเด้าพื้นท่ามกลางสายตาประชาชีเนี่ยนะ

“กูโดนสั่งให้ถอดรองเท้าข้างหนึ่งมาคุยต่างโทรศัพท์ แล้วคุยเสียงดังๆ เดินไปเดินมาเป็นชั่วโมงเหมือนกัน คนถ่ายรูปกูเพียบเลย” ผมเริ่มสยองแล้วล่ะ ไอ้พีชนี่ก็ได้ประสบการณ์เลวเหมือนกันนะ

“ทำไมต้องแกล้งกันอย่างนั้นวะ ทำให้คนอื่นอับอายเนี่ยนะ..ไม่ดีเลยวะ” ว่าไปอย่างที่คิด

“มองมุมคนนอกก็ใช่เว้ย แต่ถ้ามองมุมคนใน...มันก็เพื่อให้เด็กไม่กลัวคน ไม่อายคน เวลาเราเต้น เวลาเราขึ้นเวที มันก็จะสนุกสนานกับสิ่งที่ทำ ไม่มากังวลหรืออายจัง อายจังเลย...” ท่ามึงกระแด๊ะมากวิ่ง เกือบจะมีสาระอยู่แล้ว ถ้าไม่เอามือมาประกบหน้าตัวเองแล้วเอียงอายอยู่นั่นแหละ

“แต่กูไม่ได้เป็นบีบอย...”

“เขาอาจไม่รู้ไง ก็แกล้งไปตามประสานั่นแหละ มึงก็อย่าซีเรียส อย่างมากคนก็จิ้นกัน แค่นั้น แฟนคลับพี่ท่านไม่มาตบมึงหรอก” พีชบอกสบายๆ แต่กูเริ่มไม่สบายตรงคำว่าแฟนคลับ ไม่รู้ว่าคนนี้มีกะเขาด้วย

เคยเห็นในโซเชียลอะครับ พวกแฟนคลับแม่งโหดยิ่งกว่าซอมบี้บุกเมืองซะอีก เกิดโดนระรานทำไง ไปเรียกร้องค่าเสียหายจากพี่ท่านได้ไหมวะเนี่ย ฮึ้ย...เจ็บใจ อยากเอาคืน แต่ไม่รู้จะเอาคืนยังไง ตัวเองก็ไม่ใช่คนสู้คน แง่งๆ หันไปแค้นความรักแทน มันเนี่ยตัวดี ทำให้ผมต้องมาเจอคนอย่างพี่มะเดี่ยวแกล้ง ถ้าไม่ใช่เพราะมันหนีไปทางพี่มะเดี่ยว ผมก็ไม่โดนแกล้งแบบนี้หรอก

“ไปซ้อมเต้นกับกูปะ วันนี้เขาให้ซ้อมๆ กันไปก่อน พรุ่งนี้ถึงลงทะเบียน” วิ่งกับพีชกินเสร็จแล้ว ใช่สิ มันกินกันเอร็ดอร่อย ในขณะที่ผมโดนพี่เขาแกล้งอยู่นี่นา

“ไม่ละ กูเต้นไม่เป็น”

“เดี๋ยวพวกกูสอนก็ได้” พีชว่าเสริม แต่ผมก็ยังส่ายหน้า

“ขอนั่งดูเหอะ”

“ตามใจ” แล้วมันสองคนก็กอดคอกันเดินไปที่กลุ่ม ไม่ได้อยู่ไกลหรอกครับ นั่งตรงนี้ก็เห็นชัดทุกคนนั่นแหละ แล้วทุกคนก็สามารถมองมาทางนี้ได้ชัดเหมือนกัน

ผมยังกินข้าวอยู่ กินด้วยความเฉื่อยชาไม่เร่งรีบ สายตาก็จับจ้องเพื่อนๆ ไปด้วยกัน วิ่งและพีชเข้าไปหาพี่มะเดี่ยว พวกเขาคุยอะไรกันไม่รู้ แต่ดูเฮฮากันจริงๆ มีเมียงมองมาทางนี้ ต่อให้ไม่มีสัมผัสที่หก ผมก็รู้ว่าพวกเขากำลังนินทาผมอยู่แน่ๆ อย่าให้ผมต้องส่งความรักไปสอดแนมนะ ไม่ได้ดิ....ความรักมันเหมือนจะชอบๆ พี่มะเดี่ยว ขืนส่งไปก็เข้าข้างทางนั้นพอดี

“อู๊ดดดด”

“เงียบไปเลยนะ แกน่ะทำให้ป๊าต้องโดนแกล้ง เพราะฉะนั้นอยู่ในนั้นไปห้ามประท้วง” ชี้หน้าดำๆ ของความรัก แต่มันตาขวางใส่

“อู๊ดๆ อู๊ดดดดด”

“เถียงเหรอ เดี๋ยวนี้มีหัดเถียง ใครสั่งใครสอน ป๊าไม่เคยสอนให้เถียง...เป็นหมูให้อยู่เงียบๆ อยากโดนเฉือดไหมหืม อยากโดนย่างสดสินะ” ทำตาโหดๆ ใส่ความรัก มันพยายามหดคอเข้ากระเป๋า แต่เข้าไปไม่ได้ ติดซิป

“คร่อกๆ...” ถึงจะดุใส่ แต่ความรักไม่ย่อท้อในการโต้เถียง นี่ควรดีใจไหม หมูที่เลี้ยงมากับมือกำเริบเสิบสานใส่ขนาดนี้

“ฮึ่ม...” ผมหยิบมันขึ้นมาทั้งกระเป๋า วางความรักลงกับโต๊ะหินอ่อน ดึงตัวกระเป๋าลงแล้วงับลงไปที่กลางตัว ไม่ได้งับแรงนะอย่าตกใจ ผมชอบลงโทษมันแบบนี้ กัดมันแล้วมันก็หมอบลง

“ให้รู้สะบ้างใครเป็นใคร นี่ป๊านะ...ห้ามเถียงป๊ารู้ไหม” ความรักสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง มีงอน มีไม่มองหน้า แต่ผมไม่ง้อตอนนี้ ต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกหน่อยว่าไม่ควรเถียงกับคนที่เลี้ยงมันมา

ผมปล่อยความรักนอนหมอบอยู่ตรงหน้า ไม่ยอมหันหน้ามาทางผมด้วย แต่ท่าทางที่นิ่งสนิทแบบนี้คงจะหลับไปตามเคย กินกับนอนคือหมูจริงๆ ครับ...หมูล้วนไม่มีหมาผสมเลย ผมกลับมานั่งกินข้าวต่อ มัวแต่เล่นข้าวปลากินไม่หมดเสียที

กลุ่มบีบอยเขาซ้อมกันแปลกๆ กระจัดกระจายกันเป็นกลุ่มๆ บางจุดก็เต้นกันเป็นคู่ ส่วนเพื่อนผมสองคนนั้นตอนนี้กำลังซ้อมท่าอะไรอยู่ก็ไม่รู้ หมุนๆ กันใหญ่เลยแหะ ผมเคยดูบีบอยจากในคลิป หรือแม้กระทั่งดูเพื่อนในโรงเรียนเต้น ผมว่ามันก็น่าสนุกดี แต่ดูยากมาก เอาแต่หมุนๆ แค่ดูก็งงแล้ว ผมไม่มีความคิดที่จะเต้นอะไรอย่างนี้ นึกสภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าจะไปหัดเต้นแบบนั้นได้ยังไง...

พี่มะเดี่ยวแกยืนคุมเพื่อนผมทั้งสองคน ทำท่าทำทางและบางทีก็เต้นให้ดู พี่เขาเต้นสวยมาก ถึงผมจะไม่เข้าใจอะไรเลย ทว่ากลับรู้สึกชื่นชมในท่าทางการเต้น การออกลีลาของพี่เขามาก เมื่อกี้คิดว่าวิ่งกับพีชเต้นดีแล้ว พี่แกดีกว่ามากๆ อะ

ผมละสายตาจากพวกเขา เอาถุงและขยะเดินไปทิ้ง ถังมันอยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องกลัวว่าความรักของผมจะหายไป เสร็จแล้วกลับมานั่งมองดูเขาเต้นกันต่อ ความรักหลับใหลสบายใจเฉิบ อิ่มแล้วก็อยากนอนมั้งเหมือนกันนะเนี่ย ผมเอานิ้วเกลี่ยไปตามหน้าผากเจ้าความรัก ปากบอกจะกินมัน แต่จริงๆ ผมรักมันมากนะ ถ้าไม่มีมันผมคงเหงามากเลย อยู่กันมาก็พักใหญ่แล้ว...หกเดือนได้ละมั้ง ความรักมันโตขึ้นเรื่อยๆ และถึงมันจะตัวใหญ่ขึ้น มันก็ยังน่ารักอยู่ดีในสายตาของผม

เกลียดอย่างเดียว...น้ำลายมันอะ

เวลามันหิวน้ำลายมันจะเยิ้ม หรือมองแอปเปิ้ลอยู่ในมือผมดีๆ น้ำลายก็ยืดหนืดลงบนพรมในห้อง ผมนี่แทบจะเปลี่ยนพรมนุ่มๆ เป็นพรมผ้าใบเลย ดีที่ความรักเป็นสัตว์เลี้ยงง่ายกินง่าย แล้วก็รักสะอาดกว่าหมูที่เลี้ยงกันในฟาร์มทั่วไป ผมเลยไม่ได้ลำบากมากนักที่จะดูแลสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ตัวนี้ ที่สำคัญแล้วผมก็ชอบมาก มันไม่เห่า...

หมามันก็น่ารัก แต่คุณต้องมาลองอยู่กับหมาตั้งแต่เกิดอย่างผมสิ คุณจะรู้ว่ามันน่ารำคาญเหมือนกันนะ มันรักเราอะมันรัก รักมาก รักปานจะเดินตามดมตูดกันไปทุกที่ ซึ่งบางทีผมก็ไม่ได้ต้องการขนาดนั้น หมาที่ครอบครัวผมรักมากๆ และเลี้ยงประจำในบ้านมีหกตัว เป็นไซบีเรียและอลาสกัน หมาตัวใหญ่ ไซซ์เบิ้ม โดนหกตัวรุม ผมสูงร้อยเจ็ดสิบนิดๆ ก็แทบล้มนะครับ

นั่นแหละ...เลยเบื่อหมา แมวก็ไม่ชอบ เคยโดนแมวตบหน้าเลยแค้นมันตั้งแต่วันนั้นยันวันนี้ แต่น้าบอยค่อนข้างชอบแมว เพราะเบื่อหมาเหมือนผมเลย แค่หันไปชอบคนละสปีย์ชี่เท่านั้น

“มองมันแบบนั้น ไม่ใช่ว่ากำลังคิดเมนูที่จะเอามันไปทำหรอกนะ” โอ้ยตาย แทบสะดุ้งตกม้านั่ง ใครสั่งใครสอนให้พี่เข้ามาไม่สุ้มไม่ใช่เสียงวะเว้ยเฮ้ย

“ก็...ประมาณนั้น” พี่มะเดี่ยวแกนั่งลงฝั่งตรงข้าม คิดว่าแกเข้าใจผิด แถมยังเข้าใจผิดแบบเป็นตุเป็นตะอีกต่างหาก แต่ผมไม่คิดจะแก้ไขความเข้าใจของแกให้ถูกหรอกนะ อย่าลืม แกด่าผมไว้หลายชุด แถมยังแกล้งผมอีกต่างหาก ผมไม่ให้อภัยง่ายๆ หรอกบอกเลย

“ทำมันได้ลงจริงเหรอ” พี่ท่านรวบผมตัวเองมัด พี่มะเดี่ยวเนี่ยตัดผมแถข้างออกหมด มีผมแค่ตรงกลางหัวที่ค่อนข้างยาว เวลาปล่อย มันก็จะปรกศีรษะทั้งหมดเหมือนคนไว้ผมปกติ แต่ถ้ารวบมันขึ้นไปมัด...ก็จะเห็นว่าผมมีแค่นั้นแหละ

ฮ่าๆ...บรรยายแล้วดูตลกนะ แต่ตัวจริงแม่งโคตรเท่

“ลงดิพี่ บ้านผมทำฟาร์ม เรื่องแบบนี้เลยเป็นเรื่องธรรมด๊า....ธรรมดา” ได้ทีละเอาใหญ่ พี่เขาดูจะเป็นห่วงมึงนะไอ้ลูกพ่อ เหมือนที่ความรักมันระแวงผมจะกินมันนั่นแหละ

“โหดร้ายวะ พี่รับไม่ได้...มึงรู้มะ ว่าการที่มึงเลี้ยงมันแล้วกินมันเนี่ย เป็นเรื่องที่เลวร้ายยิ่งกว่ามึงไปซื้อปลาในตลาดอีกนะเว้ย คือเลี้ยงมัน มันก็ต้องรักมึง แล้วมันก็ต้องมาโดนคนที่มันรักฆ่าตายเนี่ยนะ มึงแม่ง...ใจดำ” อ่าว นี่กูโดนด่าอีกแล้ว?

“พี่นี่จริงจังเนอะ” ผมว่าเหวอๆ ไม่คิดว่าจะโดนสวดยับไปอีกดอกใหญ่

“กูจริงจังดิ ถ้ามึงเห็นมันเป็นแค่อาหารอะ มึงก็ทิ้งมันไปเหอะ หรือเอามาให้กู กูจะดูแลมันเอง” ส่ายหน้าให้ไว

“ไม่อะ ผมลงทุนไปแล้ว ผมไม่ยอมขาดทุนหรอก” ลงทุนความรักไง...รักมันไปแล้ว ใครจะยอมยกให้ ส่วนที่พี่เข้าใจผิด ก็ช่างมัน เอาให้พี่ท่านเครียดไปเลย!

นี่แหละ...วิธีแก้แค้นที่งดงามสมเป็นไอสามแห่งฟาร์มหมาน้อย

“ถือว่ากูขอ...”

“ผมไม่ให้” ตอนนี้คิ้วพี่มะเดี่ยวขมวดเป็นปม หน้าหงิก หงุดหงิดขึ้นมาทันตา กลัวก็กลัวนะ ไม่ต่อยผมใช่ไหมตอบ?!

เขาทอดสายตามองไอ้หมูที่หลับไม่รู้เรื่อง คิดหนักหัวจะระเบิดไหม ห้ามระเบิดตอนนี้นะ เดี๋ยวเลือดมันจะสาดกระเซ็นใส่หน้าผมเอา แล้วพี่เขาก็มองหน้าผมอีก มองเคืองๆ มองเหมือนผมไปฆ่าแมวบ้านพี่มันตาย เฮ้พี่...นี่หมูกู กูจะแดกมันก็เป็นสิทธิ์ของกูนะเนี่ยน้า...

แต่ว่า ท่าทางเป็นห่วงเป็นเจ้าหมูน้อยที่พี่มะเดี่ยวมีเนี่ย มันทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ พี่เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกับผมนะ ไม่ได้เป็นอะไรกับไอ้ความรักด้วย ความประทับใจแรกก็ไม่มี มีแต่คำด่าก้องสองหูกูอยู่เลย ตาขวางๆ หน้าโหดๆ แต่หวงหมูชาวบ้าน...เออ แปลกตาดีอะ ยิ่งมองก็ยิ่งเอ็นดู ใช่คำถูกไหม...ผมควรเอ็นดูชายหนุ่มรุ่นพี่ที่สูงเกือบเสาร์ฟ้าหน้าคอนโดไหม

“มึงจะไม่เปลี่ยนใจจริงๆ อะ”

“อื้อ” พยักหน้าอย่างไว ไม่เปลี่ยนใจเพราะผมไม่ได้จะแดกมันจริงๆ

“กูถามอีกที...”

“พอๆ ถามกี่ทีผมก็ตอบเหมือนเดิม ว่าแต่พี่เหอะ มาสนใจมันทำไม ความรักเนี่ยของผมนะ” เอาสองแขนโอบตัวเจ้าความรัก มันก็ซุกแขนผมอย่างรู้ดี ขยับตูดบวมๆ ของตนเองนิดหน่อยเพื่อให้นอนได้เข้าที่เข้าทาง ดูสิ...มันน่าแดกไหมล่ะ ไม่ติดว่ามันหลับ ผมจะงับตูดมันให้จมขี้ยวเลย

“ก็...สงสารมัน”

“มันไม่เจ็บหรอกพี่ ผมเฉือดนิ่มมาก...” แล้วก็ยิ้มหวานตาหยีใส่พี่มัน ซึ่งเจ้าตัวไม่ขำกับผมเลย หน้าเครียดกว่าเดิมอีก

“กูไม่คุยกับคนจิตใจชั่วร้ายแบบมึงแล้ว คนอะไร จ้องแต่จะกินสัตว์เลี้ยงของตัวเอง คนแบบมึงอะนะ...แม่ง แม่ง!” แล้วพี่แกก็ลุก เดินลิ่วๆ หนีไป แล้วแม่งๆ อะไรก็พูดไม่จบ กลัวพูดแล้วแรงไปเหรอ วันนั้นพี่ด่าผมโคตรแรงไม่เห็นกลัวเลย เอ้อ...แปลกคน

“เอ็งนี่เสน่ห์แรงจังน้าไอ้ความรัก ดูสิ...ที่รักแกหัวเหวี่ยงใหญ่เลย” กระซิบใส่หูหมูเบาๆ ซึ่งมันก็กระดิกนิดๆ เหมือนตอบรับแต่ไม่รับรู้ เห่อๆ

พี่มะเดี่ยวเดินเข้าหาเพื่อนทั้งสองของผม พูดๆ แล้วชี้มาทางนี้ พวกนั้นกอดคอกันเดินไปทางไหนสักทาง นี่พวกมึงมีความลับอะไรกับกู ไม่ใช่รวมหัวแกล้งกูใช่ไหม....แม่ง รู้สึกถึงลางหายนะ หรือผมควรบอกพี่มะเดี่ยวว่าจริงๆ ผมแค่หยอกเล่น ผมไม่ได้คิดกินหมูตัวเองนะเว้ย คนหน้าซื่อตาใสอย่างผม จิตใจไม่อำมหิตขนาดน้าน...

ผมนั่งร้อนรนกระวนกระวาย อย่างกับมีใครมาก่อไฟไว้ใกล้ๆ ตัว เหงื่อซึมทั้งที่มีลมพัด ผมเพิ่งโดนแกล้งไปแหม็บๆ ไม่อยากโดนแกล้งอีกนะ นี่อุตส่าห์หนีพี่ชายทั้งสองมาได้ ยังต้องมาเจอคนแกล้งแบบนี้อีก เอาไงดี...ไอ้สามเอาไงดีวะมึง

หนีดีกว่า...

ผมรีบเก็บของใส่กระเป๋า อุ้มเจ้าความรักเบาๆ ใส่ตะกร้าหน้าจักรยานแล้วรีบปั่นหนีจากที่นี่ไปสิงอยู่ร้านน้าทันที อยู่ใกล้พวกนั้นเปอร์เซ็นโดนแกล้งเยอะมาก พอมาถึงร้าน ผมก็ช่วยน้านิดหน่อยๆ ก่อนจะต้องไปเรียนคลาสบ่ายต่อ วันนี้เลิกค่อนข้างเย็น กะว่าเลิกคลาสแล้วผมจะรีบชิ่งให้เร็วที่สุด พวกนั้นน่าจะไปฟลอซ้อมเต้นต่อ ผมจะไม่มีทางไปกับพวกมัน เกิดพี่มะเดี่ยวแกล้งผมอีก ผมไม่ต้องมุดดินมาเรียนเลยเร้อะ!

“ทำไมมึงหนีมาก่อนวะ...” มาถึงคลาส ไอ้วิ่งก็ยิงคำถามใส่ทันที

“เปล๊า ไม่ได้หนีเล๊ย” แล้วนี่ก็ไม่ได้เสียงสูงด้วยนะ พูดเสียงปกติเลย เสียงปกติแม่งเป็นแบบนี้แหละเชื่อผมสิ

“หรา! ทำอะไรไว้ระวังโดนนะมึง” ไอ้พีชก็ดันมาพูดให้กูเหงื่อตกเข้าไปอีก

“กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะมึง”

“ไปพูดให้พี่เดี่ยวคิดว่ามึงจะกินหมูตัวเอง มึงยังกล้าบอกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกเหรอ” ไอ้วิ่งหันมาพูดหน้าเหี้ยม พวกมึงจริงจังกันเกินไปปะวะ

“กูก็พูดงี้ตลอด พี่แม่งอะคิดไปเอง” ไม่ใช่ความผิดผมเลยนะเนี่ย

“เห่อๆ งั้นก็ช่างมึง...โดนพี่เขาหมายหัวเพราะมึงไม่ได้ทำอะไรเล้ยยยยย” วิ่งลากเสียงยาว ไอ้พีชขำแต่กูหัวเราะไม่ออก ยิ้มแหยๆ ยังยากเลยให้ตาย นี่ไม่ใช่ความกูนะมึงนะ...กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ฮื่อ...ทำไมต้องมาเจออะไรอย่างนี้!

.....100%.....

ช่วงนี้ยังอัปแค่อาทิตย์ละตอน ไว้ของเหลือจบจะอัปถี่กว่านี้นะคะ สำหรับเรื่องหวั่นใจมาก...มันใสๆ และน่ารักแบบที่ไม่เคยเขียนเลยอะ ฮ่าๆ หวังว่าเราจะทำได้ไม่แย่เกินไป

ส่วนที่พีชกับวิ่งโดนแกล้งเราอยากบอกว่ามันแกล้งกันอย่างนี้จริงๆ ที่อิมพีเรียลสำโรง สมัยเมื่อเกือบสิบปีก่อน (ดูแก่ทันทีเลยเรา) เราเห็นรุ่นพี่เราเล่นกัน แกล้งกันแบบนั้นแหละ คนมองแม่งฮานะ แต่คนโดนคงขำไม่ออก ท่ามกลางผู้คนเดินไปเดินมา ชั้นโรงหนังบ้าง ชั้นศูนย์อาหารบ้าง โอ้โห...อายแทนเลยอะ ป้ายรถเมล์ก็ไม่เว้นนะ เด้าพื้นกันป้ายรถเมล์   :hao7:  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 2 [100%]❤️ -10/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 13-09-2017 01:08:05
นังน้องหมู  จะบทน้อย แต่แย่งซีนแบบนี้ไม่ด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :laugh:  ดูแล้วพี่เดี่ยวของน้องก็คิดไปไกลเลยนะคะ  o18
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 2 [100%]❤️ -10/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-09-2017 11:16:12
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 3 [100%]❤️ -17/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 17-09-2017 20:49:24
>>ตอนที่ 3 [100%]<<

เมื่อวานผมชิ่งหอบเอาความรักกลับห้องทันทีที่เลิกคลาส พวกมแม่งจะไปซ้อมเต้นกันจริงอย่างที่คาด คะยั้นคะยอจะให้ไปด้วยกัน ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องเข้าชมรมเดียวกันอยู่แล้ว ไปคลุกอยู่กับพวกพี่ๆ จะได้คุ้นเคย แต่แบบ...กูไม่อยากโดนแกล้งไง นี่ก็คิดแล้วคิดอีกว่าจะไปเข้าชมรมกับพวกมันดีไหม ผมควรอยู่ให้ห่างจากพี่มะเดี่ยวนะ ไม่ควอยู่ใกล้พี่ท่านอะ เกิดพี่ท่านจะแกล้งผมขึ้นมา ผมก็ไม่สู้อีก ส่วนไอ้สู้ได้หรือไม่ผมไม่รู้ ที่แน่ๆ ผมไม่สู้แน่นอน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องโดนสวนอะ

“วันนี้เอ็งต้องอวยพรให้ป๊าไม่โดนแกล้งนะเว้ยไอ้ความรัก” ผมบอกกับหมูตัวน้อยในอ้อมแขน ตาขวางๆ และท่าทางเมินเฉยของมันโคตรน่าหมั่นเขี้ยว ไม่ติดว่าขอพรเอ็งอยู่ พ่อจะกัดให้เนื้อหลุดเลยหนิ

ผมเอาความรักใส่กระเป๋าเป้ทั้งที่มีหนังสือเรียนและแอปเปิ้ล สะพายไว้ด้านหน้าเหมือนจิงโจ้ ปล่อยให้ความรักได้มองนั้นมองนี่ของมันไปเรื่อยเปื่อย นี่ตอนออกมา ผมไม่มองห้องตรงข้ามเลยนะ ผมเชื่อว่าหากเรามองหรือจ้องอะไรนานๆ สิ่งนั้นจะรู้ตัว ประตูห้องพี่ท่านอาจจะเปิดผลัวะออกมาได้ แล้วผมก็จะหนีไม่ทัน

ในทุกวันผมต้องมาเช้ากว่านอื่นในคลาสนิดหน่อย นอกจากปั่นจักรยานมาเองแล้วผมยังต้องเอาความรักไปฝากน้าบอยกับน้าภูมดูแลอีก ผมมาถึงร้าน ยกมือไหว้น้าทั้งสองที่กำลังยืนคุยกระหนุงกระหนิงกัน แววตาของทั้งคู่ทำเหมือนโลกใบนี้มีเพียงเรา แต่น้าครับ...กูยืนหัวโด่อยู่นี่ และลูกจ้างอีกหลายชีวิตเลยครับน้า

“วันนี้เลือกชมรมหนิใช่ไหม” น้าบอยเท้าเคาน์เตอร์มองหน้า น้าภูมกำลังเอาแคร์รอทปรนเปรอเจ้าความรักอย่างเอ็นดู๊เอ็นดู

“ใช่ เพื่อนสามจะให้สามเข้าชมรมบีบอย แต่สามไม่อยากเข้าเลยอะ” ผมนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ขาเดียวตัวสูงหน้าเคาน์เตอร์ เอาหน้าแนบไปกับเคาน์เตอร์เย็นๆ

“ทำไมละ ที่นั่นดูสนุกดีนะ” น้าภูมหันมาถาม

“ก็มีพี่คนหนึ่งแกแกล้งผมอะสิ”

“มะเดี่ยว?” ทำไมน้าบอยรู้ อย่าบอกนะว่าชื่อเสียงในการกลั่นแกล้งชาวบ้านเขากระฉ่อนมาก

“น้ารู้ได้ไง บอกมานะว่าได้ค่าส่วยไปกี่บาท” หรี่ตาจับผิด ซึ่งน้าก็หัวเราะใส่

“ไม่มะเดี่ยวก็โซฮาน มีแค่นั้นแหละที่ฟลอนั้นน่ะ แต่มะเดี่ยวนิสัยดีนะ...ชอบแกล้งไปหน่อยแต่น่ารักเชียว” น่ารักแล้วน้ารักเขาไหม...น้ารักเขาหรือเปล่า ฮ่าๆ ถ้าน้ารักเขาน้าจะยังมีชีวิตอยู่เหรอครับ น้าภูมยืนอยู่ข้างๆ ทั้งคน

“เขาดูดังเนอะ ใครๆ ก็รู้จักไปหมด”

“ก็ดังนะ เด็กกิจกรรม สมัยที่เขาเรียนเขาก็ป่วนมันไปทุกคณะนั่นแหละ ยิ่งทีมเป็นแชมป์ระดับประเทศด้วยก็ยิ่งมีคนรู้จักเยอะ พอๆ กับมีแฟนเยอะเลยแหละ” น้าภูมเป็นคนเล่าให้ผมฟัง ความรักกัดกินแคร์รอทไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น นี่เวลากินข้า ใครก็ห้ามยุ่ง!

“ว้าว...หนุ่มฮอตน่ะเอง”

“อืม ฮอต เฟรนลี่ แต่...คบใครได้ไม่นาน” น้าบอยบอกแค่นั้นแล้วหันไปรับออเดอร์ลูกค้า ผมโครงหัวไปมา ที่น้าพูดเข้าหัวผมแค่หนึ่งเปอร์เซ็นเท่านั้น

จะคบเยอะ คบนาน หรืออะไรก็เรื่องของเขา ประเด็นอยู่ที่เขาแกล้งผมเว้ย...เอ้อ มันอยู่ตรงนั้นแหละ ผมเลยไม่อยากเข้าใกล้เขาไง ถ้าเขาไม่แกล้งผม แค่กวนๆ หรือแค่ด่าว่าผมร่านก็พอทำใจได้ แต่นี่อะไร...โฮ่ ยิ่งฟังวิ่งกับพีชเล่าเรื่องที่โดนแกล้งนะ ผมนี่หนาวยันไข่เลยแหะ มันดูน่าสยดสยองกว่าตอนรับน้องอีก

“ผมไปเรียนล่ะ ถ้าเลิกเร็วจะมาช่วยนะฮะ ป๊าไปแล้วนะ...ห้ามดื้อรู้ปะ” เคาะกะโหลกความรักป๊อกๆ เจ้าตัวเอาจมูกมาดุนๆ มือ อาจหมายถึงเอามือไปจากหัวกู แต่ผมจะตีความแบบที่ผมพอใจนั่นคือ รับทราบครับป๊า~

ไอ้วิ่งและไอ้พีชมานั่งเล่นอยู่หน้าห้องเรียน ไม่รู้มานานเท่าไหร่แล้ว ผมเข้าไปเสนอหน้าหล่อๆ ของตัวเอง ฟังเรื่องเต้นของพวกมันแบบไม่เข้าใจ ผมไม่ได้แทรกพวกมันพูดหรอก ถึงไม่เข้าใจ แต่แค่ฟังมันก็สนุกดี เม้าท์มอยตามประสาเด็กสรีทเสร็จก็พากันเข้าเรียน วันนี้เราเลิกคลาสเที่ยง วิชานี้วิชาเดียวนี่แหละครับ จบวันนี้หยุดอีกสองวัน จากนั้นทุกอย่างก็วนกลับเข้ามาในรูปแบบเดิม

ผมสามคนตรงไปซื้ออาหารเที่ยงที่โรงอาหารคณะ ไม่นั่งกินกันที่นี่หรอก หอบปั่นจักรยานไปกินข้างลานกิจกรรมเหมือนเดิมนั่นแหละ เพราะพอกินเสร็จเราก็จะลงทะเบียนเข้าชมรมเต้นบีบอยได้เลยทันที ผมไม่อยากไปเลย แต่ก็ไม่อยากกินข้าวคนเดียว เข้าเรียนที่นี่ก็มีแค่พวกมันนี่แหละ ส่วนวิ่งกับพีชเนี่ยเขาเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว แค่เรียนมัธยมคนละที่ เจอกันที่ฟลอเต้นบีบอย

“มึง...กูไม่อยากเข้าชมรมนี้อะ” กินเสร็จผมก็บอกพวกมัน

“กลัวพี่มะเดี่ยวเหรอวะ”

“กูกลัวทุกอย่างแหละไอ้วิ่ง ที่มึงบอกกูเมื่อก็เล่นกูสยองแล้วล่ะ” แม่นมากไอ้เรื่องเล่นโฟลคิงแล้วโดนให้เด้าพื้นกับเอารองเท้ามาคุยต่างโทรศัพท์ ผมไม่อยากโดนแบบน้านอ่า

“ไม่ดิ เป็นลูกผู้ชายก็อย่างป๊อด” พีชมันดูดน้ำอึกๆ แต่ก็เสือกพูดแทรกเข้ามา แช่งให้สำลักน้ำตายเลยไอ้ห่า

“กูเป็นตุ๊ด...” แล้วก็ทำท่าสะดีดสะดิ้งใส่ วิ่งแบบโบกหัวผมดังป๊าบ นี่ดีนะที่ไม่ได้หัวเกรียน ไม่งั้นแสบสันแน่นอน

“ตลกล่ะ มึงไม่เข้าชมรมเดียวกับพวกกูแล้วมึงจะไปเข้าชมรมอะไรวะ” ได้คำถามพีชผมก็นั่งนึกทบทวนถึงชมรมที่มันมี

“เกษตร น่าจะเข้ากับกูที่สุดแล้วล่ะ ผู้หญิงน่าจะเยอะด้วยละมึง” ยิ้มแป้นแล้น ตางี้หยีไปหมดเพราะบ้านเป็นคนจีนผสมเมกา แต่ตาผมตี๋หน่อยๆ ได้แม่โคตร

“ไม่ได้ พวกกูบังคับ ลองอยู่ไปสักพัก ไม่ใช่ค่อยว่ากัน เขาไม่ได้บังคับว่ามึงต้องซ้อมหนักอะไรขนาดนั้น แค่พวกที่ไม่เป็นเขาก็จะมีพี่เลี้ยงคอยสอน แต่พวกที่เป็นอยู่แล้วเขาจะปล่อยไปตามยถากรรม” วิ่งว่าชิวๆ แต่ปล่อยไปตามยถากรรมในความรู้สึกกูมันไม่ชิวเลยอะเพื่อน เหมือนลอยเคว้งคว้างกลางอากาศประมาณนั้นไหมนะ

“พวกพี่ๆ มาแล้ว ตาพี่เดี่ยวแม่งโหลมาเลย ไม่ได้นอนชัวร์” พีชมึงนี่รู้ดีเนอะ กูอยู่ห้องตรงข้ามกันกูยังไม่รู้เลย

“นอนดึกมั้ง” ผมพูดลอยๆ

“ก็น่าจะ พี่เขาเป็นนักวาดของสำนักพิมพ์ งานเข้าทีกูเห็นพี่แม่งตาดำเป็นแพนด้าทุกทีเลย” ขอบคุณมากวิ่ง ที่บอกในข้อมูลที่กูไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่นัก

ไอ้วิ่งและไอ้พีชยกมือไหว้พี่มะเดี่ยวและเพื่อนของเขาอีกหนึ่งคน ผมต้องยกมือไหว้ตามเพื่อนมัน อย่างน้อยนี่ก็รุ่นพี่ ผมจะเข้าชมรมนี้ก็เท่ากับเป็นรุ่นน้องเขาเต็มตัว เพื่อนพี่มะเดี่ยวตัวเล็ก สูงประมาณผมและผอมแห้ง หน้าตาดี เกาหลีนิดๆ ประมาณนั้น พี่มะเดี่ยวสอดส่ายสายตาเหมือนมองหาอะไรซักอย่าง แต่พอไม่เจอก็จ้องมาที่หน้าผม เอ้ยยยย อย่ามาจ้องหน้ากันแบบนั้นสิฟร้ะพี่ ผมสยอง

“ความรักไม่อยู่เหรอ” แล้วพี่มันก็ถาม ผมยิ้ม

“กินไปแล้วพี่” ทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียว ทำไม ผมแค่หยอกเล่นเองเหอะ

“ไหนว่าจะรอให้มันโตก่อนค่อยกินไงวะ นี่อะไร...มึงรีบกินมันทั้งที่มันยังเล็กๆ อยู่เลยเหรอ ใจมึงนี่จะดำไปถึงไหน ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ไหมกูอยากรู้” น้ำเสียงและท่าทางดุดันมาก ผมขนลุกขึ้นมาในทันที พี่มันจะเอาจริงไปไหนของมันวะ ผมว่าผมดูออกง่ายมากนะ แล้วที่พูดแม่งก็แค่พูดเล่นเอง

“ใจเย็นเว้ย มึงนี่...น้องกลัวหมด” เพื่อนพี่เขาตบบ่ากำยำนั่นเบาๆ

“ความรักมันอยู่ร้านบีพีคอฟฟี่พี่ ไอ้นี่มันกวนตีนไปงั้นแหละ” ขอบคุณมากวิ่ง กูเกือบจะโดนแดกหัวอยู่แล้ว

สรุป...ไอ้ความรักมันเป็นหมูของผมหรือเป็นหมูของพี่มันวะครับ แล้วแบบ ผมเป็นคนรับเลี้ยงชั่วคราวอะไรเงี้ย พี่เขาเลยต้องเป็นห่วงว่าหมูของเขาจะปลอดภัยดีไหม ไอ้พี่เลี้ยงใจมารไม่ได้จับมันกินใช่เปล่า

“แล้วไป ตอบมาดีๆ ก็จบ...ชอบโดนด่านะมึง” ผมไม่ได้ชอบโดนด่า พี่อะชอบด่าผม

“ผมตอบดีแล้วน้า” ว่าแล้วก็เบะปากหน่อยๆ โดนด่าทุกทีที่เจอเธอ~

“ดีแล้วของมึงคนเดียวสินะ ตั้งชื่อหมูก็โคตรปัญญาอ่อน แล้วยังมาชอบพูดจากวนตีนชวนคิดลึกอีก” คนคิดลึกมันพี่คนเดียวอะสิ

“ขอโทษครับ” อยากสวนแต่กลัวโดนตบ ตอบดีๆ เพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายไปละกันเนาะ

“เออ” พี่มะเดี่ยวเดินกอดคอกับเพื่อนเข้าไปที่กลุ่ม น้องๆ ในชมรมยกมือไหว้พี่เขากันทุกคน บางคนไม่รู้จักหรอก แต่น่าจะไหว้เพราะเพื่อนตัวเองก็ไหว้น่ะ

“ชอบหาเรื่อง” อ่าวพีช มึงก็เข้าข้างพี่เขาเหรอ กูไม่ได้หาเรื่องอะไรใครเลยนะเนี่ย

“กูไม่ได้หาเรื่อง อยู่ของกูดีๆ เหอะ ตอบก็ตอบดีๆ ไม่ได้กวนตีนเลยสักนิดนะเนี่ย” สาธยายทั้งที่หน้างอ พี่แม่งพูดไม่ดีใส่กู เพื่อนยังมาพูดไม่ดีใส่กูอีก เอาเข้าไปชีวิต ใครจะเชื่อว่าพอเข้ามหาลัยแล้ว...ผมจะยังโดนรังแกอยู่ร่ำไป

“จ้า...น้องสามผู้ไม่เคยกวนตีนใครเลย” วิ่งยื่นหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆ อย่างล้อเลียน ผมอยากสวนอะไรใส่มันไปสักกอย่าง แต่นึกไม่ออกก็เลยโดนมันล้อเลียนฟรีไปหนึ่งยก

กะจะเอาคืนหลังมันเอาหน้าตัวเองออกไป ทว่าพีชเข้ามาห้ามทัพก่อน โดยให้เราทั้งสามไปลงทะเบียนเข้าชมรมกันได้แล้ว ผมเลยต้องเดินเข้าไปในนั้นเหมือนคนป่วยใกล้ตาย ยิ่งเข้ามาในกลุ่ม ยิ่งรู้สึกแปลกแยกและรู้สึกว่าผมช่างไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้เอาเสียเลย

ให้ผมไปนั่งทำฟาร์มอยู่กับพ่อแม่และพี่หนึ่งพี่สองดีกว่า แบบนี้มันโดดเดี่ยวเกินไป ถึงวิ่งและพีชจะไม่ทิ้งผมไปไหนเลยก็เหอะ ไม่รู้ดิ ผมเต้นไม่เป็นอะ แล้วก็ไม่ได้มีความคิดอยากจะเต้นด้วย ดูเขาเต้นกันแล้วมันน่าจะยากนะ เดอะสามคนนี้ไม่เคยทำอะไรยากๆ ทรหดสุดก็คือข้อสอบ เท่านั้นแหละที่ผมพอจะทำได้บ้าง ใช้คำว่าได้บ้างนะ เพราะบางทีผมก็สอบตก ชะเอิงเงิงเอย~

บ่นในใจไปงั้นแหละ มือนี่เขียนชื่อและนามสกุลอันสวยสดงดงามลงไปในใบสมัคเรียบร้อยแล้ว พีชเป็นคนรวบรวมเอาไปส่ง มันสองคนดูจะรู้จักคนในนี้แทบทุกคน เด็กถิ่นของแท้ต้องวิ่งแอนด์เดอะพีชเลยครับ พอส่งใบลงทะเบียนเสร็จเขาก็ให้เราไปนั่งรวมกลุ่มรอคนอื่นๆ กันก่อน เพราะยังมีคนทยอยเข้ามาเขียนใบสมัคอยู่เรื่อยๆ บางคนไม่รู้จักคนในนี้หรอก แต่มากับเพื่อน เคยเต้นที่อื่นแล้วอยากเต้นที่นี่ บางคนก็รู้จักคนที่นี่อยู่แล้ว เหมือนไอ้วิ่งกับไอ้พีชนั่นแหละ ผมนั่งฟังพวกมันสาธยายนู้นนี่นั่นให้ฟัง บอกคนนั้นเต้นเก่งอย่างงี้คนนี้เต้นเก่งอย่างงั้น ไหนจะมีบางคนเข้ามาทักทายพวกมันอีก

มีเพื่อนเป็นคนฮอตอะนะครับ...ต้องเข้าใจในความป๊อปปูล่าของพวกมันนิสสสสสนึง

“พี่โซฮาน พี่มะเดี่ยวละคะ” พี่ที่รับใบสมัคเดินเข้ามาถามเพื่อนพี่มะเดี่ยว คนตัวเล็กๆ ที่เอาแต่วอร์มอัพอยู่หน้าเรานี่แหละครับ แต่ชื่อโซฮานนี่ผมได้ยินน้าพูดนะ บอกว่าชอบแกล้ง โหย...เป็นเพื่อนที่นิสัยเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขรุ่ยเลยสินะครับ

“ไปซื้อกาแฟ เดี๋ยวมา แล้วนี่เด็กลงทะเบียนครบยัง จะมีมาอีกไหม”

“ก็น่ะมีมาเรื่อยๆ นะคะพี่ ไม่รู้เหมือนกัน...ปกติเด็กชมรมเราก็ไม่เยอะเท่าไหร่หรอก” พี่ผู้หญิงบอก

“งั้นเดี๋ยวรอไอ้เดี่ยวมาค่อยเริ่ม”

“ค่ะ” พี่คนนั้นเดินกลับไปที่โต๊ะลงทะเบียน

“พี่ผู้หญิงคนนั้นเต้นเก่งปะวะ” ผมลองสอบถามไอ้วิ่งกับไอ้พีช

“พี่ออมอะนะ สไตล์เทพมาก โคตรโฟลสุดๆ ไปเลยล่ะ แต่เรื่องของสกิว ก็ธรรมดาของผู้หญิงนั่นแหละที่ไม่เล่นสกิวหนัก พี่เขาสายฟีต พวกแอร์แชร์ โพสต์เบบี้ฟีซ เออ...พี่แกโพสต์เกาหลีสวยมาก” เอาละครับ...คนไม่เข้าใจมารวมตัวอยู่กับผมเถอะ ผมไม่เข้าใจสักอย่าง อะไรคือสไตล์สวย อะไรคือสายฟีต อะไรคือโพสต์เบบี้ฟีต โพสต์เกาหลีวะครับ? ชูสองนิ้วแอ็บแบ๊วงี้ปะ ไม่ดิ...นั่นญี่ปุ่น

“ฮ่าๆ หน้ามึงเหมือนควายเลย” อ่าววว ด่ากูตะมัยพีช กูไปเหยียบหางมึงเหรอ

“ก็กูไม่รู้นี่หว่า ไอ้วิ่งก็พูดซะแบบ เหมือนกูเต้นมาแล้วสักปีสองปีงี้ กูเพิ่งเข้าชมรมนะโว้ย” ว่าแล้วก็เบะปาก

“เดี๋ยวก็รู้เองแหละ นั่น...พี่มะเดี่ยวมาแล้ว มาพร้อมกับ...” วิ่งทิ้งคำ เราหันไปมองพี่มัน แล้วผมก็ต้องอ้าปากค้าง

“ความรักของมึง ฮิ้ว....” พีชเติมคำที่ขาดหาย ส่วนผมจ้องหน้าไอ้ลูกชายผู้ไม่รักดี ออเซาะเขาซะอย่างกับเขาเป็นพร่องงงงงมึงอะ

แล้วผมควรทำยังไง เดินเข้าไปขอความรักงี้เหรอ เดี๋ยวพี่แม่งแกล้งผมเหมือนเมื่อวานอีก วันนี้คนเยอะกว่าเดิมประมาณสองเท่าเห็นจะได้ เพราะเป็นวันที่ให้ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ เห็นว่าเปิดวันเดียว แล้วก็เปิดแบบจำกัดเวลา จากเที่ยงครึ่งไปถึงบ่ายสองครึ่งเท่านั้น หลังจากนี้จะไม่รับสมาชิกชมรมเพิ่มแล้ว ผมมองความรักแล้วเจ็บใจ มันเชิ่ดหน้ามองต่ำมาที่ผม พี่มะเดี่ยวเดินมาหยุดตรงหน้า มองต่ำเหมือนหมูกูเลยพี่...แต่พี่แม่งดูน่ากลัวกว่า

ว่าแต่...น้ากูปล่อยหมูมากับพี่มันเนี่ยนะ โฮ~

“สวัสดีครับ...” พี่เขาพูแขึ้นกลางปล้อง ผมยังอาลัยอาวรณ์กับหมูน้อยผู้ไม่รักดีของตัวเองก็ต้องตั้งใจฟัง

“สวัสดีครับ” เด็กๆ ในชมรมต่างส่งเสียขานกลับ ผมไม่รู้ว่าต้องทำเลยไม่ได้พูดอะไร

“พี่ชื่อมะเดี่ยว เป็นที่ปรึกษาชมรมและเป็นผู้สอนหลักของชมรมนี้นะครับ นั่นพี่บอม...พี่ปีสี่หัวหน้าชมรมที่มีหน้าที่ทำตามพี่สั่ง ส่วนพี่ผู้หญิงนั่นคือพี่ออม พี่ปีสามที่จะรับหน้าที่ดูแลน้องๆ ที่ไม่มีพื้นฐานบีบอยกันเลย ว่าแต่ในนี้มีเยอะไหมครับ” พี่มันไม่ต้องตะโกนเสียงแม่งก็ดังอะ แดกลำโพงเป็นมื้อเที่ยงวันนี้ปะวะพี่ ในใจก็บ่นไปตามเรื่องอะเนาะ แต่ร่างกายตอนนี้ทำหน้าที่ยกมือสูงๆ เพื่อบอกว่าตัวเองไม่มีพื้นฐาน ซึ่งก็มีแบบผมอีก...สองคน

แม่มเอ้ย...ยังดีที่ไม่ใช่กูคนเดียว

“สามคน สบายแล้วออม” พี่มะเดี่ยวขำ

“สบายจริงๆ พี่” พี่ออมแกก็ยิ้ม ไม่ต้องสอนเยอะเลยไม่เหนื่อยมากสินะครับ

“นั่นแหละครับ พวกไม่มีพื้นฐาน พี่ออมจะเป็นคนสอน อย่าดูถูกว่าผู้หญิงเต้นบีบอยไม่เก่ง เพศไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความสามารถนะครับ ห้ามหือ ห้ามดื้อ ห้ามหน้ามึน ห้ามกวนตีน พี่เขาสอนให้ฟังและทำตามอย่างเคร่งครัด ส่วนคนที่เป็นแล้วให้เต้นกันไปตามมีตามเกิด สิ่งที่สำคัญของที่นี่คือ...ถ้าน้องอยากได้วิชา น้องต้องเข้ามาขอพี่ๆ เอง รุ่นพี่เก่งๆ มีเยอะมากในชมรมเรา พวกเขาจะซ้อมและฝึกกันโดยแชร์ทริกให้แก่รุ่นเดียวกันหรือเพื่อนกัน ส่วนน้อง เห็นพี่ทำแล้วอยากทำบ้างให้เดินเข้าไปขอให้เขาสอน อย่าเอาแต่รอคอยแล้วไปบ่นว่าพี่ไม่สอนน้อง ชมรมเราไม่นิยมเอาอาหารป้อนใส่ปากน้องๆ นะครับ อยากได้อยากมีอยากเก่งต้องพัฒนาตัวเอง พวกพี่ไม่หวงวิชา แต่พวกพี่ก็ไม่เดินเอาวิชาไปเสิร์ฟน้องๆ แน่นอน ที่สำคัญจำให้ขึ้นใจ...หนึ่ง ห้ามใส่รองเท้าแตะลงฟลอ ไม่มีรองเท้าใช้เท้าเปล่าเท่านั้น สองห้ามโอดโอย...บีบอยเกิดมาคู่กับความเจ็บปวด และสาม...หน้าน้องต้องด้าน เอาถูกับพื้นปูน พื้นปูนต้องสึกหลอไม่ใช่หน้าน้อง เข้าใจตรงกันนะครับ!!!”

“ครับ!!!” สาบานกับผม...ว่านั่นคือกฎ หน้าด้านเนี่ยนะ ปูนต้องสึกแทนหน้ากูเลยเนี่ยนะ โฮ้กกกกก ใครก็ได้เอากูออกไปจากที่นี่ที~

.....100%.....

นี่สินะที่เขาเรียกว่า...โจรปล้นความรัก ตัวจริงเสียงจริงคือพี่มะเดี่ยวคนนี้นี่เอง~
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 3 [100%]❤️ -17/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-09-2017 01:24:23
 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 4 [100%]❤️ -24/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 24-09-2017 22:18:43
>>ตอนที่ 4 [100%]<<

พี่มะเดี่ยวแกพล่ามเสร็จก็แยกย้ายไป คนอื่นที่รู้หน้าที่ดีก็ย้ายไปตามมุมตัวเอง เหลือพวกเต้นไม่เป็นไม่มีพื้นฐานอย่างผมสามคนนั่งแหง่ว พี่ออมเดินมาหยุดอยู่แทนที่พี่มะเดี่ยว เธอยังคุยๆ กับเพื่อนอยู่ ทิ้งให้เราสามคนมองหน้ากันไปมา

“มา...เรามาแนะนำตัวกันก่อนเนาะ เริ่มจากคนแรกเลยครับ” พี่ออมชี้ไปทางคนซ้ายสุด ผมอยู่ขวาสุดเพราะงั้นคนแรกไม่ใช่ผม

“เอ่อ...ผมชื่อไทม์ครับ เรียนบริหาร” ดูไอ้ความรักสิครับ พี่มะเดี่ยวปล่อยให้มันเดิน มันก็เดินตามพี่มะเดี่ยวต้อยๆ อย่างกับเป็นลูกเขาเลยอ่า...มึงลูกกูน้า กูเป็นป๊ามึงน้า เห็นหัวกูไหม

“อะแฮ่ม...น้องสามคะ สนใจเพื่อนพูดหน่อยค่ะ ความรักจากพี่มะเดี่ยว น้องจะไปขอตอนไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะคะ” เวรกรรม ผมนี่หน้าบางขึ้นมาฉับพลันเลยให้ตาย

“ผมเปล่า...”

“พี่รู้ว่าเราชอบพี่มะเดี่ยว แต่ตอนนี้เราอยู่ในกิจกรรมที่ทำร่วมกับเพื่อนๆ พี่อยากให้น้องสนใจเพื่อนก่อนนะคะ”

“ครับ” แล้วกูก็เถียงไม่ออก คนอื่นจะคิดยังไง ฮื่อ เดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาชักจะอยากมุดดินเหมือนตุ่นแล้วล่ะ

“งั้นตอบมาซิว่า เพื่อนเขาแนะนำตัวว่าไง” นี่ข้อสอบใช่ไหม มองหมูอยู่จะไปรู้ได้ไงเล่า

“ชื่อ...ไม่รู้ครับ” ตามนั้น ไม่รู้บอกไม่รู้ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา

“หึหึ...ออกมานี่ครับ” ขนลุกแปลกๆ พี่เรียกผมออกไปทำไม จะแกล้งอะไรผมครับ เบะปากแล้วร้องไห้เลยได้ไหม เผื่อได้ความเห็นใจจากรุ่นพี่สาวสวยคนนี้

เรื่องดีตอนนี้มีเรื่องเดียว ไม่มีใครเขาสนใจผมนอกจากเพื่อนอีกสองคนที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเหมือนกัน นอกนั้นเขาซ้อมเต้นกันเป็นกลุ่มๆ เพลงเดียวกันเต้นแม่งบีทเดียวกันให้หมด พี่มะเดี่ยวเล่นกับความรัก นี่ที่ซ้อมเต้นไม่ใช่สนามหญ้าหน้าบ้านนะครับ แหม่...ทำอย่างกับเดินเล่นกันอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ เห็นแล้วหมั่นไส้

“ถอดรองเท้าครับ” มองหน้าพี่ออมอย่างไว ถอดทำไมครับ ผมไม่ถอดได้ไหมครับ...ผมรักคอนเวิร์สของผมมาก ขอร้องละครับอย่าพรากมันไปจากผมเลยครับ

“เอ่อ...”

“ถอดมาข้างเดียว”

“ครับ” ความรู้สึกของผมตอนนี้คือเหมือนผมเป็นไก่อะครับ ยังไงเหรอ งงเหรอ ก็พี่ออมกำลังจะเฉือดไก่ให้ลิงดูไงครับบบบ

“ทีนี้น้องก็คาบเชือกรองเท้าเอาไว้ ขาข้างที่ไม่มีรองเท้าให้งอไปด้านหลัง ยืนเป็นกระต่ายขาเดียว มือทั้งสองใส่ในกระเป๋ากางเกงเอาไว้ครับ” น้ำตาแทบไหลเป็นสายเลือด กูโดนอีกแล้วไง แค่ไม่ทันฟังเอง ผมเป็นห่วงหมูผมอะ ผมผิดอาราย...ทำไมชีวิตในรั้วมหาลัยของผมช่างรันทดยิ่งนักครับพี่

“คร้าบ...” แต่ก็ไม่เถียง ตอบเสียงอ่อย ทำตามอย่างว่าง่าย เดอะสามเป็นเด็กดีครับ ให้ทำไรผมทำหมด แต่ให้ผมไปตายผมไม่ไปนะ...ผมต้องได้กินความรักก่อนถึงยอมตาย

ผมจำใจคาบเชือกรองเท้าของตัวเอง สอดมือใส่กระเป๋ากางเกงและยืนกระต่ายขาเดียว ตอนแรกไม่มีใครสนใจพวกเราเลยครับ แต่ตอนนี้มีแล้ว มีเยอะด้วย ชี้โบ้ชี้เบ้มาทางนี้แล้วหัวเราะ ไม่มีใครชอบโดนหัวเราะเยาะหรอกครับ มันอับอายนะเนี่ย...อยากจะร้องไห้ให้รู้แล้วรู้รอด พี่ออมแกเดินมาหยุดตรงหน้า ถ่ายรูปผมเอาไว้แล้วหันไปบอกอีกสองคนว่า ถ้าหือกับพี่จะโดนอย่างนี้แหละ

เห็นไหม...ผมเป็นไก่

“อะ แนะนำตัวใหม่” ผมยังยืนอยู่ที่เดิมนะ พี่แกไม่ได้ใจดีแบบให้ทำท่าถ่ายรูปละก็จบ ให้ยืนไปงั้นแหละ

“ผมชื่อไทม์ครับ เรียนบริหาร” คนแรกทางซ้ายแนะนำ ตามด้วยอีกคน

“ผมชื่อโจ้เรียนบริหารครับ” เด็กคณะเดียวกันเหรอเนี่ย แล้วพื่อนกู...แม่งอยู่พู้นนนนน วิ่งไล่หมูกันอยู่นู้น โอ้ย ร่างเริงบันเทิงใจกันแท้น่อว

“เอ้า ตาเราแล้ว ใส่รองเท้าได้เลย พี่ให้อภัยละ” แทบทรุดลงไปกราบ ห้านาทีเหมือนห้าชาติได้ อับอายจริงจิ๊งงงง

“ครับ ขอบคุณครับ ผมชื่อสาม เรียนครุศาสตร์ครับ” ผมมีความฝันอยากเป็นครู แต่ไม่อยากทำงานราชการ คือ...จะออกไปสอนเด็กแบบฟรีๆ อะครับ

เข้าโหมดหล่อนะ...บ้านผมค่อนข้างมีเงิน มีทองมีอนาคตดีอยู่แล้วแน่นอน ดังนั้นผมเลยคิดที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง เช่นเป็นครูที่สอนให้เด็กยากไร้ฟรีๆ สอนพิเศษฟรีๆ ผมเลือกเรียนเอกภาษาอังกฤษ เพราะว่าวิชานี้เป็นวิชาที่คนเข้าถึงได้น้อย คนสอนดีๆ ก็เปิดเป็นเรียนพิเศษคลอสหนึ่งแพงๆ ผมอยากทำฟรีอะ คิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ต่อเด็กๆ แถวบ้านผมเองก็มีชุมชน คนแถวนั้นไม่ค่อยมีการศึกษาที่ดีนัก โรงเรียนเป็นโรงเรียนวัด อยากให้ลูกเรียนดีต้องเข้าไปเรียนในตัวเมือง ซึ่งผมกับพี่ๆ เรียนเอกชนในตัวเมือง

ตอนหลังผมเข้าวัดกับแม่ เจอเด็กๆ ที่ก็ไม่ใช่ว่าด้อยโอกาส เพียงแต่ทุนทรัพย์เขาไม่มี เขาก็ช่วยหลวงปู่หลวงตาทำวัด เพื่อแลกกับการเรียนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ ผมเคยถามแม่ทำไมเขาไม่ปเรียนที่ดีๆ แบบเรา แม่ก็ตอบว่าเขาไม่มีเงินขนาดนั้น แล้วพระท่านเองก็มีวิชาพอสอนไม่มากนัก ผมเลยอยากช่วย...อยากเป็นครูที่สอนพวกเขา โดยไม่ต้องมีเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง

พอผมบอกความต้องการกับพ่อแม่ พ่อแม่เลยให้ผมเรียนที่ดีๆ เรียนสูงๆ โรงเรียนดังๆ หมดเงินไปเยอะ แต่ถ้าเราอยากจะเป็นบุคลากรที่ดีก็ต้องมีการศึกษาที่แน่นหนาพอ นั่นเป็นเหตุให้ผมเข้าเมืองใหญ่มาเรียนแบบนี้นี่แหละครับ

โอ้โห หล่อแบบจริงจังมากอะ!

ส่วนธุรกิจที่บ้านเนี่ยก็ไม่ต้องห่วง นอกจากมีพี่ชายสองคนดูแลแล้ว ผมยังอาศัยความเชี่ยวชาญหรือว่าประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าเรียนจากหนังสือ ยิ่งเราทำงานกับสิ่งมีชีวิตก็ยิ่งต้องใช้สัญาตญาณและประสบการณ์มากหน่อย บางทีหนังสือไม่ได้บอกเราทั้งหมดนะ ผมเลยไม่ห่วงเรื่องการช่วยงานที่บ้านเลย

“อนาคตคุณครูนี่เอง แต่เป็นคุณครูที่ดีได้ไหมนะ ไม่ตั้งใจเรียนเลยเนี่ย” พี่ออมอย่าดุผมดิ ผมหงอไปหมดแล้วเนี่ย

“ผมขอโทษครับ” ยกมือไหว้ขอโทษงามๆ พี่แกกลับหัวเราะผมเบาๆ ซะอย่างนั้น พี่แกล้งผมอีกแล้วอะ...ทุกคนชอบแกล้งผม

“วันนี้เราจะแนะนำพื้นฐานและสายการเต้นต่างๆ ก่อน ยังไม่เต้นจริง ไว้วันจันทร์เราถึงจะเริ่มซ้อมเนาะ” เราทั้งหมดขานรับ ผมอยากจะหันไปมองไอ้ความรัก แต่กลัวพี่ออมทำโทษอีกก็เลยไม่กล้าส่งสายตาไปเมียงมอง

รู้สึก...คิดถึงความรักจังเลย

พี่ออมให้เราเดินตามไปยังกลุ่มก้อนต่างๆ นักเต้นทุกคนคลุกดินคลุกฝุ่น ภารโรงบอก กูสบายแล้วววว ถือเป็นกรทำความสะอาดอย่างหนึ่งเลยทีเดียว มิน่า พื้นของใต้อาคารนี้ถึงได้มันเงาวาววับจับใจได้ขนาดนี้ มาถึงกลุ่มแรก เป็นกลุ่มที่พี่มะเดี่ยวยืนมองน้องๆ อยู่ พร้อมกับความรักในมือ ไอ้นี้ออเซาะเขาไม่ยอมเลิกรา เขาให้อาหารมึงดีมากหรา ถึงได้ดูรักเขากว่าพ่อมึงแบบนี้หา!

“พี่ออม มีน้องมาขอสมัคเพิ่ม” แต่พี่หญิงของเรายังไม่ทันได้แนะนำ ก็มีคนเดินเข้ามาบอก ตรงโต๊ะรับสมัคมีคนมาออกันสี่ห้าคน เป็นเด็กผู้ชายล้วน ที่นี่หาผู้หญิงได้ยากยิ่งนัก

“ไปเถอะ เดี๋ยวพี่อธิบายเอง” พี่มะเดี่ยวอาสาอธิบายเกี่ยวกับกลุ่มนี้ ส่วนผมกำลังส่งกระแสจิตไปให้ความรัก บังอาจหนีไปกับคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง เป็นลูกที่ไม่รักดีเอาเสียเลยจริงๆ น่าตีให้ตาย เอาให้ตาย!

“ที่เราเห็นนี้เรียกว่าสายพาวเวอร์มูฟ น้องจะเรียกว่าหมุนๆ หรืออะไรแล้วแต่ แต่ภาษาของเราเรียกมันพาวเวอร์มูฟนะ เป็นสายที่ใช้แรงโน้มถ่วงของโลกในการทำให้เกิดท่วงท่า และพาวเวอร์ก็ยังมีทั้งหอล่างและหอบน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราจะเริ่มจากท่าพื้นฐานที่เป็นหอล่าง ชื่อท่าว่าวินด์มิล” แล้วพี่แกก็สั่งให้น้องคนหนึ่งทำท่าวินด์มิลให้เราดู ผมจะพยายามอธิบายให้เข้าใจละกัน เขาก็แบบ...เหมือนนอนคว่ำหน้าอะ มีมืออยู่ตรงท้อง แล้ว...ยังไงต่อวะ ทำไมเขาหมุนกลิ้งๆ แล้วอ่า โฮ...ผมไม่เข้าใจอะไรเลย

“แล้วท่าพื้นฐานนี้เต้นยากไหมครับ ปกติเขาใช้เวลาฝึกกันนานไหม” ไทม์ตั้งคำถามที่แสนจะมีประโยชน์ ส่วนผมคิดว่ากูจะแย่งความรักมาจากมือพี่เขาอย่างไรให้ไม่โดนเตะ

“แล้วแต่คนครับ บางคนสองชั่วโมงก็ทำได้ บางคนอาจใช้เวลาเป็นเดือนก็มี สิ่งสำคัญอยู่ที่ความชอบและการหมั่นฝึกฝน” พี่เขาหันมามองหน้าผมที่จ้องตากับความรัก จากนั้นยิ้ม...ยิ้มเพื่อ?!!

“แล้วพี่ทำท่านี้ได้ไหมครับ” โจ้ถามต่อ

“พี่ทำได้ครับ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้นะ บางคนก็ถนัดไปทางสายฝืน อย่างคนนั้นที่เล่นหกสูง” พี่มะเดี่ยวชี้ไปที่พี่คนหนึ่ง แกเล่นหกสูงแบบมือขวามือเดียว เอียงตัวไปทางขวา ร่างกายนี่ตรงเด๊ะ ปลายเท้าขวาเกือบจะถึงพื้น นี่เรียกว่าเป็นการบาลานซ์ร่างกายอย่างหนึ่งเลยชิมิ

“ดูยากเนอะ...” ผมพูดออกไปลอยๆ ผมไม่มีทางทำแบบนั้นได้แน่ๆ หกสูงผมยังทำไม่ได้เลย

“ไม่มีใครเกิดมาแล้วทำได้หรอกครับ สายฝืนนี่เป็นสายที่เล่นสกิวฝืนแรงโน้มถ่วงของโลก ต่างจากพาวเวอร์มูฟที่ใช้แรงโน้มถ่วงในการเล่นสกิว”

“แล้วอะไรมันยากกว่าอะครับ” ผมถามต่อ จะได้เลือกอะไรที่มันง่ายๆ

“ไม่มีครับ” ขอบคุณมาก กราบงามๆ สามทีให้กับคำตอบที่ไม่ช่วยให้ผมนั้นได้เลือกอะไรได้ง่ายขึ้นเลย เดอะสามอยากกลับบ้านไปเลี้ยงหมูแล้ว

“แล้วคนที่สามารถเล่นทั้งสองสายมีไหมครับ” ไทม์ถามต่อ ปล่อยให้ผมโอดโอยกับสิ่งที่เพิ่งรู้ไปเพียงลำพัง

“มีครับ และยังมีอีกสายเรียกว่าสายทริก สายนั้นจะเป็นพวกจั๊มพ์ อย่างคนนั้น” ชี้ไปที่พี่คนหนึ่งกำลังหกสูงสองมือ แล้วเขาก็ดีดขาจนตัวลอย มันก็เหมือนเรากระโดดแหยงๆ อะครับ แค่ใช้มือกระโดดเท่านั้นเอ๊งงงงง ไม่พอ...ดูไปอยู่ดีๆ พี่แกก็เอียงตัวนิดหน่อย ยกมือข้างหนึ่งขึ้น จากนั้นกระโดดต่อด้วยมือเดียว

โอ้มายก๊อดดดดดด เก่งไปไหนวะ มือพี่ทำด้วยอะไร เหล็กเร้อะ!

เห็นแต่ละอย่างแล้วผมก็สำนึกตัวเองว่า กูไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้จริงๆ นั่นแหละ ผมว่าผมเต้นแบบที่พวกเขาสอนหรือที่พวกเขาเต้นไม่ได้หรอก จะบอกว่าผมผอมแห้งแรงน้อยก็ไม่ได้ด้วยนะ พี่โซฮาน เพื่อนพี่มะเดี๋ยวตัวเล็กเหมือนผมเลย ผอมกว่าอีกมั้ง เขายังเต้นเก่งเลยอะ เห็นแล้วห่อเหี่ยว ส่งความรักมาให้แล้วผมกลับบ้านไปเลี้ยงหมูอยู่ห้องดีกว่า

“หน้าหงอเป็นหมาเลย” จู่ๆ พี่มะเดี่ยวก็หันมากระซิบ เพื่อนที่เต้นไม่เป็นอีกสองคนกำลังยืนดูพี่คนนู้นนนนจั๊มพ์อยู่

“ใจผมก็หมานะตอนนี้อะ ผมขอออกจากชมรมได้มะ เอาความรักคืนแล้วปล่อยผมกลับป่าเหอะเนอะ” ว่าแล้วก็เบะปาก ไม่ได้จะอ้อนนะ แค่อยากให้เห็นใจไอ้หมาแห้งตัวนี้หน่อย

“ฮ่าๆ ถามจริง เข้าชมรมนี้ทำไม”

“เพื่อนบังคับ” ชัดเจนไหมพี่ เพื่อนผมลากมา ผมไม่ได้อยากจะเข้าเล้ย

“ไอ้วิ่งกับไอ้พีชอะนะ มิน่าล่ะ...มึงถึงต้องมาทำหน้าหมาหงอยอยู่นี่ เออ แล้วเมื่อกี้ออมลงโทษมึงทำไม” แล้วพี่จะถามผมทำไมนักหนาละหนิ

“ผมไม่ได้ฟังเพื่อนแนะนำตัว ซึ่งต้นเหตุของอาการไม่ฟังเพื่อนพูดนั้นก็มาจากพี่นั่นแหละ พี่อะ ไปเอาความรักมันมาทำไม พี่รู้ไหมพี่ไม่ควรเอาความรักมาตากแดดตากลมแบบนี้ มันเกิดความเครียดแล้วเนื้อมันจะไม่อร่อยนะ” ผมจิ้มหน้าไอ้ความจึ้กๆ มันพยายามจะเอาจมูกมาดุนมือผมทิ้ง เดี๋ยวเถอะ..หือกับป๊านัก กัดหนังขาด!

“ก็ไม่ได้อยากเอามาหรอก แต่พี่ไปบอกพี่บอยว่าเราจะกินมัน พี่บอยเลยให้พี่ไงครับ เขาบอกไหนๆ เจ้าของมันก็ไม่รักมันแล้ว ยกให้คนอื่นไปเลยแล้วกัน” ตาค้างไปแล้วกู...เอาจริงดิ น้ากูทำกับกูแบบนี้จริงดิ โฮฮฮฮฮ

สารร่างของวิญญาณผมตอนนี้ทรุดเข่ากระแทกพื้นเข่าแตก น้ำตาไหลอาบหน้าไปเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ร่างจริงอย่างผมกำลังยืนนิ่งมองพี่มันเหมือนจะร้องไห้ ความรักมันเป็นของผมนะ คนอื่นไม่มีสิทธิ์ซี่

“พูดจริงดิพี่...”

“จริง พี่ไม่ใช่คนชอบโกหก” น้ำตาปริ่มล่ะ จากจิ้มหัวความรักก็กลายเป็นลูบหัวมันแทน มันจะจากผมไปเหรอ ไม่ได้..มันเป็นของผมนะ

“คือ...”

“แต่พี่ยินดีเลี้ยงมันนะ ไหนๆ เจ้าของมันก็ใจร้ายจะกินมันอยู่ทุกวัน สู้มาอยู่กับพี่ดีกว่า...พี่จะเลี้ยงมันให้ดี ไม่กินมันไม่ทำร้ายจิตใจมันเหมือนเจ้าของมันหรอก เนอะความรัก...อยากอยู่กับป๊าใช่ไหม” เรียกตัวเองป๊าเหมือนกูด้วย ไอ้ความรักก็ช่างแสนรู้ แม่งพยักหน้ารับอีก มึงเข้าใจที่เขาพูดใช่ไหม มึงเข้าใจจริงดิ...ไม่นะม่ายยยย

“พี่...” กูพูดไม่ออก จะร้องไห้ละ รู้สึกสะเทือนใจ น้ายินดีมอบมันให้คนอื่นด้วย ทำตัวเองใช่ไหมเนี่ยกู...ไม่น่าไปพูดว่าจะกินมันเลยอ่า พี่แม่งจริงจังจนฟ้องน้ากูไปละ

พี่มะเดี่ยวมองหน้าผมยิ้มๆ แกปัดมือผมออกจากหัวของไอ้ความรัก แล้วเดินหนีไปหาไทม์และโจ้ เหมือนกับว่าไม่สนใจใยดีผม ไอ้ความรักก็กระไร มึงเห็นดีเห็นงามกับการจากกูไปมากเลยเหรอ เศร้า...เดอะสามคนนี้เศร้ามาก

“พี่ครับ” ผมตัดสินใจเดินเข้าไปดึงแขนล่ำๆ ของพี่มันเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเดินไปต่อที่กลุ่มอื่น น้ำตาคลอไปหมดล่ะ

“ครับ?” พี่มึงทำเป็นเฉยชาใช่ไหม อย่าใจร้ายกับผมนักเลย โฮ่...

“ผมไม่ได้จะกินมัน ผมแค่...หยอกมันเล่น ผมขอมันคืนเถอะนะครับ” พูดไปเสียงก็สั่นไป คนอื่นหันมาสนใจเราสองคนอีกแล้ว ช่างแม่ง เอาหมูกูคืนก่อนนนน

“จริงดิ พี่ถามตั้งหลายรอบเราก็ยืนยันคำเดิม ไม่เอาหน่าสาม...อย่าเจ้าน้ำตา พี่ไม่คืนความรักให้เราหรอก เราไม่รักมัน เราก็ปล่อยมันให้อยู่กับพี่ที่รักมันดีกว่า ถ้าจะกินหมู ก็ไปกินตัวอื่น” แล้วพี่มันก็เดินหนีไปเหมือนไม่สนใจใยดีผมอีกครั้ง

ผมไม่กล้าเดินตาม ปาดน้ำตาตัวเองทิ้งแล้วมองเหมือนโดนหักอกจากความรัก หมูทิ้งผมอะ ทำไงดี...ผมไปคุกเข่าขอความรักคืนพี่มันจะยอมส่งความรักให้ผมไหม ผมบอกแล้วไง ถึงผมจะชอบขู่มัน แต่ผมก็รักมันนะ...ผมเลี้ยงมันมากับมือตั้งแต่ตัวยังแดงๆ อยู่เลยนะเว้ยเฮ้ย

“เฮ้ย...มึงเป็นอะไร” ไอ้วิ่งกับไอ้พีชที่เพิ่งสังเกตเห็นผมวิ่งเข้ามาหา ผมชี้ไปทางพี่มะเดี่ยว เขาอยู่ไม่ห่างมาก แต่ในสายตาผมช่างแสนไกล ลูกพ่อ...กลับมาเถอะ พ่อให้อภัยแล้ว

“ความรักจากกูไปแล้ว...ฮึก” น้ำตากูจะไหล ไม่...ไหลเลยแล้วกัน

.....100%.....

เราจะเริ่มมาอัปถี่ขึ้นน้า~

ในเรื่องของชื่อท่าการเต้นบีบอยนั้น เราเข้าใจว่ามันเข้าใจยากและจินตนาการยาก เราเลยเล่าผ่านสามที่ไม่มีรู้เกี่ยวกับการเต้นแนวนี้ ลองเรียนรู้ไปพร้อมกับสามนะ ละก็...เหตุการณ์ในฟลอ หลายๆ เหตุผลการณ์ในเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เราประสบมาเอง แต่สามและพี่มะเดี่ยวไม่ได้มีตัวตนน้า ^^

เรื่องนี้...เขียนไป ก็คิดถึงวันเก่าๆ ไป คิดถึงบรรยายกาศเดิมๆ ความวุ่นวาย เสียงเพลง และความซนของเหล่าเด็กผู้ชาย รวมถึงความเจ็บปวดจากการซ้อมเต้นด้วย การเต้นบีบอยคือความฝันของเรา...เราได้ทำมันแต่เราไม่เคยทำมันจนถึงฝันที่มุ่งหวัง แต่มันก็เป็นความทรงจำที่ดีของเรา ^^
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 4 [100%]❤️ -24/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 24-09-2017 23:46:55
ถ้าเราเป็นสาม ในตอนนี้ เราคงเกรี้ยวกราด แบบ อะไรเนี้ยทำไมฉันต้องทำ บังคับก็ยังโดนบังคับมาลงชมรมอะไรก็ไม่รู้ แล้วยังต้องมาโดนแกล้งแถมเพื่อนก็ไม่สนใจเลยว่าเรากำลังเป็นอะไรโดนอะไร ไม่แคร์เลยมีแต่บังคับ เราคงปรี๊ดแตกไปแล้ว 555

ปล.แต่ถ้าเป็นตัวเราเอง คงไม่เข้าชมรมแต่แรกให้เสียอารมณ์ เพื่อนแวะมาเราก็จะแซะกลับ  o18 o18 o18

ปล.2 นังหมูความรัก หล่อนมันหมูสะดิ้ง !!
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 4 [100%]❤️ -24/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 25-09-2017 00:21:51
 :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 4 [100%]❤️ -24/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 25-09-2017 01:14:49
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 4 [100%]❤️ -24/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 25-09-2017 06:14:50
หรือเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของความรักกับพี่มะเดี่ยว ฮ่าๆ น้องสามน่าสงสารร :hao7:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 4 [100%]❤️ -24/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 25-09-2017 09:09:45
 :m20:  :m20:  :m20:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 4 [100%]❤️ -24/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-09-2017 00:01:07
เอ็นดูน้องสาม 555555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 5 [100%]❤️ -26/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 26-09-2017 22:25:16
>>ตอนที่ 5 [100%]<<

ผมเล่าเรื่องพี่มะเดี่ยวขอความรักไปจากน้าของผมให้เพื่อนทั้งสองฟังหลังมันพามานั่งด้านข้างอาคารที่คนไม่เต้น  แต่แทนที่มันฟังแล้วจะเห็นใจผม มันกลับพากันหัวเราะ นี่ชอบใจอะไรกัน กูเศร้าจริงจังนะเนี่ย ผมมักหันไปมองทางความรักบ่อยๆ มันวิ่งเล่นอยู่รอบตัวพี่มะเดี่ยวที่กำลังทำท่าให้น้องดู ผมนั่งอยู่ตรงนี้ไม่ไกลจากมัน มันยังไม่มาหาผมเลยอะ โดนหมูทิ้งนี่แม่งเจ็บกว่าอกหักอีกเหอะ...

“ทำไมมึงไม่โทรหาน้าบอยของมึงดูล่ะ แทนที่จะไปเชื่อพี่เขาเลย มึงควรถามน้ามึงก่อนไหม” เออ จริงของไอ้วิ่ง

“ก็มึงเอ๋อแบบนี้ไง เขาถึงชอบแกล้งมึงอะ” ไอ้พีชก็ซ้ำเติม ผมไม่สน โทรหาน้าเลยทันที

ก็รอสายอยู่นานอะกว่าน้าของผมจะรับ ผมนี่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ กลัวน้าบอกว่าที่พี่มะเดี่ยวพูดเป็นเรื่องจริง ถึงความรักจะเป็นของผม แต่ผมไม่ได้ซื้อมาด้วยเงินตัวเอง ครอบครัวก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจยกให้คนอื่นไปเลี้ยง พี่มะเดี่ยวเองก็ดันไปพูดว่าผมมีเป้าหมายในการกินความรักเป็นอาหาร น้าอาจเชื่อพี่เขาแล้วยกความรักให้เขาง่ายๆ ได้

“น้าบอย...น้ายกความรักให้พี่มะเดี่ยวเหรอครับ” พอน้ารับสายปุ้บ ผมก็ยิงคำถามทันทีด้วยความร้อนรน

(หืม...มะเดี่ยวบอกเราแบบนั้นเหรอ) ทำไมเสียงน้าสดใสจังล่ะ นี่ผมกำลังจะเสียหมูของตัวเองไปเลยนะ

“ก็ใช่อะสิ ไม่งั้นพี่เขาจะเอาความรักมาได้ไงถ้าน้าไม่ได้ยกให้พี่เขาอะ” พีชกับวิ่งนั่งอยู่ข้างๆ รอฟังคำตอบเหมือนกับผม

(เอ...เอาไงดีน้า)

“น้าบอย...อย่าแกล้งผมสิ” ผมรู้ ทุกคนชอบแกล้งผม เป็นอะไรกัน โรคจิตกันเหรอครับ

(ฮ่าๆ โอเค น้าไม่แกล้ง มะเดี่ยวเขาบอกจะเอาความรักไปหาเราที่ฟลอ น้าเลยให้ไป ไม่ได้ยกให้อย่างที่พี่เขาบอกหรอกหน่า ถึงมะเดี่ยวจะบอกว่าเราจ้องจับมันกินก็เหอะ) นั่น พี่มะเดี่ยวฟ้องน้าผมจริงๆ ด้วย

“พี่มะเดี่ยวเขายึดความรักของผมไปเลย ไอ้ความรักมันก็ไม่รักดี มันตามเขาต้อยๆ อย่างกับเขาเป็นพ่อมัน ฮึ้ย...เจ็บใจ” ผมบ่นงุ้งงิ้งใส่น้าไปตามประสา

(ก็เราชอบขู่มันนี่นา มันก็ต้องไปชอบคนอื่นที่ใจดีอะถูกแล้ว) น้าก็เห็นดีเห็นงามเหรอครับ เดอะสามเศร้ามากนะจุดๆ นี้

“ก็แค่ขู่เอง ผมรักมันจะตาย ขุนมันยิ่งกว่าอะไรดี เอาหมูให้มันกินได้ผมเอาให้มันกินแล้ว” พูดจริงนะ กินหมูจะได้อ้วนๆ ไง

(บ้า เอาหมูให้หมูกินเนี่ยนะ งั้นให้มะเดี่ยวยึดความรักเราไปเลยดีไหม)

“ไม่ดี!” ผมรีบตอบอย่างไว เรื่องไรจะยกมันให้กับเขา

(จ้าๆ งั้นไปเอาคืนเองนะ น้าทำงานก่อน)

“ครับ” สบายใจล่ะ น้าไม่ได้ยกให้พี่มะเดี่ยวอย่างที่เขาบอก

“มึงโดนพี่เขาแกล้งอีกแล้ว...” ไอ้วิ่งลุกขึ้น มันลากคอพีชเดินไปซ้อมเต้น นี่มึงจะทิ้งกูให้ไปเผชิญหน้ากับพี่มะเดี่ยวคนเดียวใช่ไหมเนี่ย

มองไปทางความรัก มันกำลังวิ่งหนีพี่มะเดี่ยวอย่างอารมณ์ดี โอ้โห...ทุ่งลาเวนเดอร์ชัดๆ เหอะ อย่างกับเนื้อคู่กำลังอ้อร้อกันอยู่เลย นี่กูยังมีความหมายสำหรับไอ้ความรักอยู่ไหมหือ แม่งทำเหมือนผมไม่มีตัวตนในสายตามันไปแล้วอะ ไม่เห็นค่าแอปเปิ้ลหลายร้อยหลายพันลูกที่กินของกูไปเลยหรือไง

ผมตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ความรัก ไทม์และโจ้นั่งมองเขาซ้อมอยู่กับเพื่อนของเขา ตอนนี้คนที่ไม่มีพื้นฐานเลยมีแค่เราสามคนอยู่ดี ไอ้กลุ่มที่มาลงทะเบียนใหม่เมื่อกี้โชว์ท่าเต้นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อนผมทั้งสองก็เอากับเขา มีเท่าไหร่ใส่เท่านั้นไม่มียั้ง ล้มทีดังอั้กๆ ไม่เจ็บกันเลยนะพวกมึง เห็นแล้วผมล่ะจุกแทน แต่ช่างมัน เอาความรักของเราคืนก่อน...นี่คือสิ่งสำคัญสำหรับผมในตอนนี้เลยจริงๆ

“พี่มะเดี่ยว...” พอผมเดินเข้าไปใกล้ พี่แกก็อุ้มเจ้าความรักขึ้นมากอดเอาไว้ ผมเหมือนคนทำความผิดแล้วกำลังโดนลงโทษ ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย

“ว่าไงครับน้องสาม” ทำไมสีหน้าพี่กวนตีนจังล่ะ ผมอยากเอาหน้าเท้านาบหน้าพี่จัง...โอ้โห ทำไมกูหยาบคาย

“พี่โกหกผม น้าบอยไม่ได้ยกความรักของผมให้พี่เลย” แทนที่รู้ว่าเขาจับได้แล้วจะสำนึก พี่แกกลับหัวเราะ

“ฮ่าๆ กว่าจะรู้ได้เนี่ยนานเนอะ โง่หรือโง่อะถามจริง” ฉิบผาย...โดนด่าไปอีกดอก

“ผมขอคืนด้วยครับ”

“ถ้าพี่ไม่ให้ล่ะ แล้วถ้าพี่ยึดเลยล่ะ เราจะทำยังไง” พี่มะเดี่ยวเดินเข้ามาใกล้ ผมกลับถอยหลังหนีทั้งที่ยื่นมือไปหมายจะแย่งความรักมาจากอ้อมกอดของพี่มัน

“ทำไมพี่ต้องแกล้งผมด้วยล่ะ” พี่ก็ไม่มีหางซะหน่อย ผมไม่มีทางไปเหยียบหางพี่เขาได้แน่นอนเลยล่ะ

“แล้วทำเราต้องน่าแกล้งล่ะ” เลิกคิ้วถามประหนึ่งว่าเอาซิ...เตะกูเลย!

“ผมไม่ได้น่าแกล้งนะ ผมก็อยู่ของผมเฉยๆ อะ...พี่อะมาแกล้งผมเอง” ยิ่งเถียงเสียงชักอ่อย ไม่ค่อยได้เถียงคนอื่นเท่าไหร่ อยู่กับพี่ๆ ผมอ้อนลูกเดียว ไม่งั้นมันแกล้ง

“น่าแกล้งจะตาย อยู่เฉยๆ ยังน่าแกล้งเลย อยากจะให้เด้าพื้นซักร้อยทีด้วยตอนนี้” โอ้โห....มึงแค้นอะไรกูครับพี่

“พี่ต้องแค้นอะไรผมแน่ๆ พี่บอกมาเลย...พี่แค้นอะไร” ทำใจกล้าสบตาอีกฝ่าย ผมเห็นแต่ความกวนตีนและความทะเล้นอยู่ในนั้น ถ้าไม่ติดว่าพี่มึงตัวสูงและใหญ่มาก อีนี่กระโดดเตะก้านคอไปล่ะ

“ก็ได้...พี่แค้นที่เราหลอกพี่ไง บอกว่าอะไรนะ จะกินหมูตัวเอง พูดเป็นตุเป็นตะเลย เห็นพี่กังวลแล้วสนุกเหรอครับ...พี่ก็เอามั้งไง รู้สึกเป็นยังไงบ้างล่ะครับน้องสาม” ความโหดในน้ำเสียงนี่คืออะไร พี่แม่งก็ยิ้มนะ แต่เหมือนจะฆ่ากูทิ้งเลยวะ

“ก็...ผมขอโทษ” ยกมือไหว้แบบป้อแป้ มือไม้อ่อนแรงมากตอนนี้ ก้มกราบเลยไหม...เอาไหม

“เลี้ยงข้าวแล้วพี่จะให้อภัย”

“โอ้โห ให้เด็กเลี้ยงข้าว อุ้บ...” ฮื่อออออ กูตายไปอีกสิบชาติ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดละกู ผมดันพลั้งปากพูดออกไปเนี่ยสิ จริงๆ มันควรอยู่ในความคิดนะ ไม่ควรหลุดออกไปแบบนี้ พี่มะเดี่ยวเล่นจ้องจนผมรู้สึกตัวหดเล็กลง ในหัวตอนนี้ตัวผมจะเท่าความรักแล้วครับ

“ได้ข่าวว่าเด็กบ้านรวยอะ เลี้ยงข้าวรุ่นพี่แค่นี้เพื่อความรัก ไม่ตายมั้ง...หืม ว่าไงล่ะ อ้อ แต่นี่ไม่ได้เหมารวมถึงจะคืนความรักให้นะ”

“ฮะ!!!” เอามีดมาแทงกูพี่...เอามีดมา!

แนะนำว่าเอามีดทื่อๆ มานะ อิอิ

“ก็...ตัดสินใจเอาเอง” พี่มันไหวไหล่ เตรียมจะเดินหนี

“พี่! คือ...ถ้าผมเลี้ยงข้าวพี่จะไม่แกล้งผมใช่ไหม”

“ไม่รับปาก” ไอ้ฉัต! ร้องไห้เอาน้ำตามาอาบได้เลยตอนนี้

“อะไรอ่า พี่ทำร้ายผมขนาดนี้ได้ยังไง...พี่ทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรพี่เลย แกล้งพี่นิดเดียวเอง พี่คร้าบ...ให้อภัยน้องสามเถอะคร้าบบบบ” เดินเข้าไปใกล้ เงยหน้าทำตาปริบๆ คิดว่าน่ารักที่สุดในชีวิตแล้ว ตอนอ้อนแม่อ้อนแบบนี้เลย แล้วแม่ก็ให้ทุกสิ่งทุกอย่าง นี่เป็นมุกที่เด็ดที่สุด...ซะเมื่อไหร่ จะมีมุกถูไถไสลด์เดอร์อีกนะ

“ฮ่าๆ น่ารักวะ...” แทนที่จะตอบอะไรที่มันแบบ เข้ากับสิ่งที่เรากำลังเจรจากันอยู่ พี่มันเสือกหัวเราะแล้วยีหัวผมแทน หัวกูยุ่งแล้วพี่ เดี๋ยวนกแม่งมาทำรังหรอก โด่วววว

“อภัยแล้วจะแกล้งให้น้อยลง โอเคป่ะ...” พี่เขาก้มหน้ามาพูดใกล้ๆ กลัวผมหูตึงเหรอพี่ หูยังดี ใช้การได้ดีมาก ก.ไก่ล้านล้านล้านตัวเลย

“โอเค แล้วความรักล่ะ...พี่จะให้ผมไหม”

“ให้ แต่สัญญาก่อนว่าจะไม่ดุมัน ไม่ขู่ว่าจะกินมันอีก ถ้าน้องสามทำ...พี่จะทำกับน้องสามบ้าง” นี่หมูกูหรือหมูพี่มันวะ

“ครับ”

“ดี อะ...เอาไป” เย้ ในที่สุดพี่มันก็คืนความรักให้ผมแล้วครับ ผมก้มหน้าฟัดตัวเจ้าความรักด้วยความหมั่นเขี้ยว จนมันต้องร้องอู๊ดๆ เพื่อขอชีวิตมันคืน หึหึ...มึงเป็นของกูไอ้ความรัก มึงจะเป็นของกูตลอดไป

“ขอบคุณครับ”

“รอกลับพร้อมพี่นะ ต้องเลี้ยงข้าวพี่ด้วย”

“คร้าบ” กูยอมแพ้แล้วครับพี่ จะโขกจะสับ จะฆ่าจะแกง นุ้งสามคนนี้จะไม่ดื้อ จะไม่ซน เพราะแม้กระทั่งน้าบอยกูก็ยังเป็นพวกมัน...นี่ข้ามาอยู่ในดงศัตรูชัดๆ!

พี่มะเดี่ยวแกเดินไปหาพี่โซฮานพวกเขากอดคอกันหัวเราะ ผมรู้สึกได้ว่าที่พวกเขาหัวเราะนั้นเป็นเรื่องของผมอย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย ผมเดินเข้าไปหาไอ้วิ่งและไอ้พีช พวกมันยืนหอบแฮ่กๆ อยู่ข้างวงล้อม พวกนี้เต้นกันทีก็ชอบตั้งวนเป็นวงกลมกัน และมีหลายวงด้วย คงรวมพวกที่รู้ๆ จักกันนั่นแหละ ผมนั่งออกมาด้านหลังวงหน่อย ไม่ได้เต้นกับเขา เต้นก็ไม่เป็น

ชมรมนี้บอกฟรีสไตล์แม่งก็ฟรีสไตล์จริงๆ นะ ใครจะเต้นอะไร ซ้อมอะไรก็ทำไปเลย เห็นว่ามีชมรมโคฟเวอร์ด้วยหนิ ผมเข้าชมรมนั้นแทนดีไหม มีแต่ผู้หญิง เอาหมูจีบสาวเนี่ยแหละเด็ดโคตรๆ คนล่าสุดที่คบเป็นผู้ชาย ดังนั้นคนต่อไปต้องเป็นผู้หญิง

อะไรนะ...ตรรกะอะไรของมึงงั้นเหรอ?

ฮ่าๆ ผมคบเพศแบบสลับฟันปลาครับ ถึงจะบอกว่าถูกใจกันก็คบกันแค่นั้น แต่เอาจริงๆ พอเลิกผู้หญิงผมก็หาผู้ชายคบ เลิกกับผู้ชาย ผมก็หาผู้หญิงคบ แปลกใหม่ดีไง เราต้องตั้งเป้าหมายก่อนแล้วค่อยไปจีบเขา

แต่เอาจริงๆ ผมยังไม่เคยคบใครแล้วรู้สึกว่า...ผมอยากอยู่กับเขาไปตลอด การมีแฟนในความรู้สึกผมตอนนี้เป็นเรื่องฉาบฉวยอะ เหมือนหาคนมาสร้างโมเมนต์อินเลิฟไปด้วยกัน การคบแฟนกับเพื่อนมันอารมณ์ต่างกัน แล้วมนุษย์เราก็อยากได้อยากมีมันทุกอารมณ์นั่นแหละ มีเพื่อนที่ดี มีครอบครัวที่ดี แทนที่จะพอ เราก็ยังจะหาแฟนที่ดีมาเป็นตัวเสริมอารมณ์อีกด้านหนึ่ง

และเพราะเคยคิดว่า...เราไม่รู้สึกรักใครมากๆ ถึงขั้นอยากสร้างชีวิต เลยมีความกลัวว่าเราอาจจะไม่มีความรักที่แท้จริงเหมือนที่คนอื่นเขารู้สึก บางทีที่ผมตั้งชื่อหมูตัวเองว่าความรัก คงเป็นเพราะผมกลัวความรักหรือความรู้สึกถึงรักมันจะหนีหาย ทิ้งผมไป การตั้งชื่อมันแบบนี้น่าจะช่วยให้ผมอุ่นใจขึ้นได้บ้าง แต่มันก็แค่ช่วงอารมณ์หนึ่งที่คิดอย่างนั้น พอเวลาผ่านไป...ผมก็ยังมีความกังวลว่าเราจะไม่รักใครจริงจังอยู่ดี

อะอะ...ห้ามคิดว่าผมเป็นสายฟันแล้วทิ้งนะ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ชีวิตนี้จะครองความซิงไปจนตาย เวอร์...ฮ่าๆ สำหรับผมเรื่องบนเตียง ริมระเบียงหรือห้องครัวนั้นเป็นเรื่องรอง คบกันนานๆ ก็อาจมีบ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการมีแฟนและเลิกกับแฟนของผม แค่รู้สึกว่า...มีกับไม่มี ผมก็มีความสุขดี ไม่ได้แย่อะ เป็นคนไม่ขาดความรักครับ ก็เลยไม่โหยหามัน แต่อย่างที่บอก...บางที่เราเลือกคบกับใครสักคนเป็นเพราะเราเองอยากมีโมเมนต์หวานๆ กับแฟน อยากมีโมเมนต์ใจเต้นแรงจุงเบย...แบบนั้นอะ

“เฮ้อ....เหนื่อยวะ มึงไปซื้อน้ำให้หน่อยดิ” อ่าววิ่ง มาถึงก็ใช้กูเลยเหรอ

“มึงไปเองดิ”

“กูเหนื่อย...ไปซื้อให้หน่อย” วิ่งเอาหัวมาวางบนไหล่ จะให้กูไปซื้อน้ำ แต่เอนซบกูเนี่ยนะเพื่อน

“เผื่อกูด้วย” ดีจังเลย...ใช้กูกันทั้งสองคนเลย

“อะ ฝากความรักแป๊บ” เห็นว่าเต้นกันมาเหนื่อยหรอกนะ ถึงยอมเนี่ย

พีชรับความรักไปอุ้ม จากนั้นก็เริ่มอ้อร้อไอ้ความรักที่เป็นตัวผู้ เป็นบ้าอะไรชอบจีบหมูกูวะ อยากรู้จังว่าไอ้ความรักเนี่ยมันรู้สึกจั้กจี้ไหมที่โดนพีชจีบอยู่ทุกวี่ทุกวัน ผมฟังแล้วขนลุกฉิบหายเลยอะ เจอมุกแบบนั้นกับตัวเองจริงๆ ผมจะหนีไอ้พีชไปไกลๆ

ผมต้องปั่นจักรยานไปที่โรงอาหารของคณะ ซื้อน้ำขวดใหญ่มาห้าขวด เห็นว่าที่นั่นก็มีคนเยอะ ซื้อๆ ไปเผื่อ ยังไงซะน้ำมันก็คงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเต้นอยู่แล้ว ผมเห็นบางคนพกน้ำมากินเอง แต่ไม่นานมันก็ว่างเปล่า มีทางเดียวถ้าไม่อยากไปซื้อน้ำไกล คือมึงต้องเดินไปกรอกน้ำก๊อกในห้องน้ำมากินประทังชีวิต และนอกจากน้ำขวดใหญ่ห้าขวด ผมยังซื้อเกลือแร่มาอีกสาม ของผม พีชและวิ่ง คนอื่นไม่เกี่ยว ไม่ซื้อเผื่อใคร มันแพง....

ปั่น...ปั่นๆ จักยาน ปั่นๆ จักยาน~ ใส่ทำนองกันเอานะฮะ ผมเป็นคนไม่มีทำองในหัวใจ ชอบร้องมั่วๆ เวลารู้สึกถึงความชิว รถผมเองก็มีตะกร้าด้านหน้า แม่งเลยสบายเวลาไปซื้อของ ผมจอดรถข้างรถของพีชและวิ่งเหมือนตอนที่ออกไป ส่วนใหญ่มีแต่มอเตอร์ไซก์ทั้งนั้น เราเป็นส่วนน้อยที่น้อยมาก ฮะ...น้อยจริงๆ สามคันถ้วน ไม่ขาดไม่เกิน

“วิ่งเป็นแฟนเราอ่อ” ขณะกำลังยกถุงน้ำออกจากตะกร้า เสียงทุ้มคุ้นหูก็ดังขึ้นด้านหลัง ผมแทบโดดแล้ว ดีนะที่หันมาเจอพี่มะเดี่ยวมะช่ายผีที่ไหน

“เปล่าพี่ เพื่อนกัน ทำไมอ่อ” ผมตอบแบบไม่คิดอะไร แค่ตกใจที่พี่มันมาอยู่ตรงนี้

“มึงเป็นเกย์ปะ” ทำไมถามแปลก ผมอ้อนแอ้นสินะ ชิ...

“ผมเป็นคนพี่...” หลุดปากไปได้แค่นั้นแหละ พี่แม่งผลักหัวผมแทบทิ่มกับตะกร้าหน้ารถ

“กวนตีน ถามดีๆ”

“ไรอ่า รุนแรง...ใช้กำลัง นิสัยไม่ดี ชิๆ”

“กินตีนไหม...”

“ผมเป็นไบครับพี่ ได้หมดทุกเพศ...” ว่าจบแล้วกูวิ่งเลย!!! ตีนพี่มึงไซซ์ห้าสิบได้มั้ง ฟายยยยย ยัดใส่ปากกูนี่ปากกูต้องฉีกแน่นวล

.....100%....

น้องสามของเราแม้โดนแกล้งแค่ไหนก็ยังเข้มแข็งมากโคตร กล้าต่อล้อต่อเถียง ระวังนะ...สะดุด "ความรัก" ล้มไม่รู้ด้วย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 5 [100%]❤️ -26/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 26-09-2017 23:09:41
 :laugh: o13 :laugh:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 5 [100%]❤️ -26/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 27-09-2017 00:19:46
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 5 [100%]❤️ -26/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 29-09-2017 08:40:07
อีพี่มะเดี่ยววววว
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 6 [100%]❤️ -29/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 29-09-2017 21:01:35
>>ตอนที่ 6 [100%]<<

วิ่งกลับมาที่กลุ่มเพื่อนๆ ความรักมันเอาหน้ามุดเข้ากระเป๋าผมอยู่ เป็นอันว่ารู้กันว่ามันหาของกิน ผมส่งน้ำให้พีชและวิ่ง พร้อมกับให้มันเอาที่เหลือเผื่อแผ่คนอื่นด้วย ซึ่งคนอื่นก็ขอบคุณมันใหญ่ ไอ้เดอะสามหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาคนนี้ไม่มีใครแลเลยสักคนเดียว

“เกลือแร่นี่กูแดกนะ” มึงกินไปแล้วไอ้วิ่ง เปิดฝากรอกใส่ปากซะครึ่งขวดขนาดนั้นไม่ต้องขออนุญาตกูหรอก

“เออ กูซื้อมาให้แหละ พีชเอาปะ”

“เอา” มันหยิบไปดื่มอย่างไว ไม่ลีลาเล่นตัวใดๆ ทั้งสิ้น

แจกจ่ายน้ำให้เพื่อนๆ เสร็จ ผมก็วางเกลือแร่ของตัวเองไว้ตรงหน้า ดึงความรักออกมาจากกระเป๋า มันเงยหน้าขึ้นมามองอ้อนทันที แหงสิ แอปเปิ้ลมันอยู่ในกล่องพลาสติก หมูแกะกินเองไม่ได้ วางเจ้าความรักไว้บนตักแล้วหยิบแอปเปิ้ลออกมาผ่าครึ่งวางไว้บนมือให้มันกิน

“ค่อยๆ กินสิ เดี๋ยวสำลัก” ตายอดตายหยากมาจากไหนเอ้อ อยู่ร้านน้าบอย น้าขุนมันดีแน่ๆ แล้วพี่มะเดี่ยวก็ไม่น่าจะปล่อยให้มันอด มีแค่อย่างเดียวคือ...มันตะกละ

ถึงความรักจะกินมูมมามขนาดไหน แต่มันก็ไม่กินจนเลอะไปถึงพื้นนะ แอปเปิ้ลวางไว้บนมือก็กินอยู่แต่บนมือจนหมด จากหนึ่งลูกเป็นสองและสามตามด้วยน้ำ ผมมีถาดรองน้ำให้มันในกระเป๋า เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวก็แบบนี้แหละครับ เราต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้เสมอ ในกระเป๋านอกจากหนังสือเรียนยังมีอุปกรณ์เลี้ยงหมูอีก คือผมไม่อยากให้ความไม่พร้อมของผมทำให้คนอื่นๆ เดือดร้อนอะฮะ เราเลยต้องเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้ดี

“ขอนะ...” จู่ๆ ร่างสูงก็เดินมาโฉบเอาเกลือแร่ของผมไปต่อหน้าต่อตา เจ้าความรักเลียน้ำแพร่บๆ ผมเงยหน้ามองพี่มะเดี่ยว เขาเปิดฝากินแบบไม่ถามความสมัคใจของผมเลยสักคำเดียว ผมซื้อมากินนะนั่นน่ะ...

“เหลือให้ผมบ้าง” พอพี่ท่านก้มหน้าลงมา ก็เลยร้องขอ...ของๆ ผมแต่ผมต้องขอเขาอะคิดดู

“ได้” พี่ท่านรีบกระดกอึกๆ จนเหลือก้นขวดถึงเอามาให้

ผมได้แต่มองเกลือแร่ในขวดด้วยความชอกช้ำระกำใจ เปิดฝาดื่มอึกเดียวก็หมดแล้วอ่า...กินน้ำเปล่าไปสิกูเนี่ย พี่มะเดี่ยวกลับไปเต้นกับเพื่อนๆ ไม่หันมาเหลียวแลเด็กน้อยที่โดนแย่งน้ำกินคนนี้เลยสักกะติ้ดเดียว โอ้ย จิตใจพี่มันทำด้วยอะไร กับคนอื่นก็ไม่ค่อยเห็นพี่เขาไปยุ่งนะ พวกเด็กใหม่ที่เขาชมรมวันนี้อะ แต่กับผมนี่เข้ามาป้วนเปี้ยนจัง อ่อ ไม่ๆ...เขามาเพราะความรักต่างหาก

“อิ่มแล้วสิ” ความรักเอาจมูกดุนถาดใส่น้ำเปล่าๆ ไปทางกระเป๋า มันเงยหน้ามองผมด้วยสายตาปรือปรอย แดกเสร็จก็จะนอนเลยสิน้า ผมเก็บของให้เสร็จแล้วก็อุ้มความรักขึ้นมานอนที่ตัก มันซบหน้าขาผมหลับใหลด้วยความเร็ว

ดีนะที่วันนี้เขาปล่อยฟรีมากๆ สำหรับพวกต้องฝึกพื้นฐาน ไม่งั้นผมน่าจะโดนด่าเปิงเลยแหละ เอาหมูเข้ามาป้วนเปี้ยนในฟลอซ้อมเต้นแบบนี้ แต่เอ๊ะ...ผมไม่ได้เอามานี่หว่า พี่มะเดี่ยวต่างหากเป็นคนเอาความรักมาที่ฟลอ เพราะงั้นวันนี้ผมไม่ผิด ฮี่ๆ

“ดูๆ แล้วคิดได้ปะว่าอยากเต้นแบบไหน...” วิ่งเดินกลับมานั่งข้างๆ ตอนนี้พีชกำลังทำท่าอะไรก็ไม่รู้...ผมไม่รู้จักนี่นา

“คิด...คิดว่ากูเนี่ยไม่น่าเต้นได้รอด กูไม่มีความรู้สึกว่าอันไหนมันง่ายเลยนะเว้ย” วิ่งหันมามองหน้าแล้วขำ

“ก็ไม่ได้บอกว่ามันง่าย แต่หมายถึงมึงอะ รู้สึกชอบแบบไหนไหม อย่างท่าเต้นแนวไหน สกิวไหนที่มึงอยากเต้นอยากฝึกอะ” ส่ายหน้าให้ไว มันยากกูเลยไม่อยากสักอัน

“กูไม่น่าทำได้สักอัน กูเลยไม่มีความสนใจสักท่าเลยมึง” วิ่งเกาหัวแกรกๆ

“มึงหกสูงเป็นไหม” หกสูง...สมัยเรียนก็มีทำนะท่าเนี่ย

“พอได้มั้ง”

“หกสูงได้ก็เต้นได้เว้ย” อย่ามากล่อมกูเลยวิ่ง กูไม่เชื่อ

“เหรอ”

“เออ ไม่เชื่อมึงลอง มาเดี๋ยวกูสอน ฝึกท่าแก๊ปเนี่ยง่ายๆ” อะไรคือแก๊ปเว้ยเฮ้ย...

“วันจันทร์เหอะ ความรักแม่งนอนตักอยู่ ไม่อยากปลุกมัน” วิ่งพยักหน้ารับรู้ มันดื่มน้ำอีกสองสามอึกใหญ่ก็กลับไปเต้น

เปลี่ยนจากเข้าชมรมมาเต้นเป็นเข้าชมรมมาดูแลเรื่องสวัสดิการน้ำไหม ดูจะเข้าทางของผมที่สุดแล้วอ่ะ ผมนั่งมองทุกคนซ้อมเต้น เหงื่อไคลไหลย้อยอย่างกับโดนสาดน้ำในวันสงกรานต์ มันสนุกดี พวกเขาดูตลก เล่นอะไรฮาๆ กันอยู่บ่อยครั้ง อย่าง...พอมีคนทำท่าอะไรสักอย่างแล้วพลาดล้มเจ็บ ทุกคนจะตะโกนบอกว่า โอ้ววว สวย แบบนั้นสวยมาก มึงเท่มาก พร้อมกับขำขัน ผมก็ขำตาม ทั้งที่ดูแล้วแม่งน่าจะเจ็บฉิบหายวายป่วงเลย

ทว่า...ถึงพวกเขาจะล้มสักกี่ครั้ง พวกเขาก็ยังลุกขึ้นมาเต้นต่อ ราวกับความเจ็บปวดไม่อาจทำให้พวกเขาหยุดสนุกกับสิ่งที่ทำได้ ในสายตาผม...ผมว่ามันน่าทึ่ง ถ้าผมต้องทำหกสูงแล้วล้มลงมาดังอั้ก พื้นสะเทือน หัวโขก ผมคงร้องไห้และนั่งนิ่งอยู่นาน แต่พวกเขาไม่...พวกเขาแค่ลุก แล้วทำมันใหม่ ถึงจะล้มลงอีก ก็ยังลุกขึ้นมาทำอีกจนกระทั้งทำท่านั้นๆ ได้ อะไรคือแรงผลักดันพวกเขากันหนอ...ความสนุกหรือความใฝ่ฝันที่อยากจะทำได้ หรือเป็นเพียงอีโก้ที่มีต่อหน้าเพื่อนๆ

ผมตั้งข้อสงสัย คิดตามและพยายามตอบคำถามกับตัวเอง แล้วเมื่อต้องเห็นคนล้มอยู่แบบนั้นซ้ำๆ หลายต่อหลายรอบ ผมก็เลิกถาม...ผมหันมาชื่นชมพวกเขาจากใจจริงแทน ต้องมีความอดทนมากขนาดไหนถึงจะสามารถประสบความสำเร็จบนถนนสายนี้ ต้องใช้ความเจ็บปวดอีกเท่าไหร่ ถึงจะทำท่า ท่าหนึ่งได้ เวลาเต้น พวกเขาถามตัวเองแบบนี้หรือเปล่า หรือคิดเพียงสั้นๆ ว่า...ไม่เป็นไร ทำใหม่ กูต้องทำได้ กูต้องเต้นได้

“เอาล่ะ...ตั้งวง!!!” พี่มะเดี่ยวตบมือเสียงดัง พร้อมกับเสียงเพลงที่ดับลง เขาสั่งทุกคนตั้งวง ซึ่งเด็กๆ ก็ตามอย่างเคร่งครัด เห็นจะมีแต่พี่ๆ เท่านั้นที่ยืนจีบตั้งวงรำอยู่กับที่ มีมองพี่มะเดี่ยวด้วยสายตาวิ้งวับอีก...นี่มุกใช่ไหม ผมจะได้ฮา

“ไอ้สัตว์ ดีๆ ดิ้” พี่มะเดี่ยวฟาดหน้าแข้งใส่เพื่อนของเขา แต่ละคนก็เฮฮาราวกับโดนเตะแล้วอารมณ์ดี

“น้องที่ยังเต้นไม่เป็นนั่งดูก็ได้นะ ถึงชมรมเราจะปล่อยฟรีให้กับการซ้อม แต่ทุกครั้งต้องมีเล่นเอบีซีและเซอร์เคิลก่อนกลับ” บรื๋ยยยย ผมไม่รู้จัก

“ตอนนี้เราจะเล่นเอบีซีกัน น้องที่เล่นไม่เป็นก็ดูไว้ เอาขวดมาหมุน” พี่มะเดี่ยวหันไปบอกพี่โซฮาน จากนั้นรับขวดมาหมุนกลางวง

“เริ่มแรกเราจะเริ่มด้วยท่าสเต็ปเดียว ห้ามซ้ำรอบวง ใครทำไม่ได้...วิดพื้นสิบครั้ง” ตาเหลือกแป๊บ ถ้าผมต้องไปเล่นผมไม่วิดพื้นเป็นพันครั้งเลยเหรอ คนในฟลออย่างเยอะ หน้าใหม่เต้นไม่เป็นนี่ก็ทำไปเหอะ ยังไงถึงจะได้วะนั่น

“คนที่ยังไม่ถึงคิวเต้นนั่งลงล้อมเป็นวง อย่าวงแตก ส่วนใครต้องเต้น ให้เต้นกลางวง” พี่โซฮานอธิบายเพิ่ม ซึ่งผมคิดว่าคนอื่นๆ เขารู้กันหมดแล้วอะ

พี่มะเดี่ยวเดินมาตรงหน้าผม เขามองเหมือนหาเรื่อง ผมไม่ได้นั่งใกล้มากจนรบกวนวงซ้อมเต้นของเขาเลยนา...อย่ามองกันแบบน้าน ขนลุก กลัวโดนฉะ ไม่อะไรก็อะไรสักอย่างอะ พี่แม่งสรรค์หามาแกล้งกูจัง

“ฝากเสื้อหน่อยสิ” แล้วพี่ท่านก็ถอดเสื้อโชว์เรือนร่างอันขาวสะอาดและกำยำโคตรๆ ต่อหน้าต่อตา เป้าพี่มึงอยู่ตรงหน้ากูเลย~ ผมมองอึ้งๆ อยู่เสื้อชุ่มเหงื่อพี่แกก็หล่นใส่หัวจนความรักสะดุ้ง

“เฮ้ ความรักตกใจนะพี่” ผมส่งเสียงดุ พี่มันเลยนั่งยองๆ เอามือมาลูบหัวความรัก ไอ้นี่ก็ช่างรู้สึกไว มันเงยหน้ามองพี่เขาก่อนจะซบขาผมนอนต่อ

“มึงจะขี้เซาเหมือนความรักปะวะ ดูมันดิ...เสียงดังขนาดนี้มันยังหลับลึกได้อยู่เลย” ฟังแล้วก็โครงหัวไปมา

“ผมไม่เหมือนมันหรอก”

“เหรอ แค่หน้าก็เหมือนแล้วเหอะ” ว่าจบหัวผมก็โดนยีจนฟูอีกรอบ พี่มันกลับไปที่วง แต่ตำแหน่งนั่งของแกคือตรงหน้าผมเนี่ย อยากบอกว่า...พี่มึงตัวใหญ่ บังกูเต็มจอเลยครับ

และแล้วการเล่นเอบีซีเยี่ยงบีบอยชนก็ได้เริ่มต้นขึ้น หนุ่มๆ หลายคนถอดเสื้อตัวเองออก ซึ่งส่วนใหญ่เขาไม่ได้ใส่เสื้อนักศึกษาเต้นนะ เขาพกเสื้อยืดมาแทบทุกคน โถ ก็ใครจะอาจหาญพอ ใส่เสื้อขาวคลุกฝุ่นคลุกพื้นเนี่ยนะ ไม่เปื้อนก็ขาดวิ่น ไม่ก็เป็นทั้งสองอย่างเลย

เท่าที่ผมสังเกต รอบแรกมันจะเป็นเหมือนท่าง่าย เพราะทุกคนทำได้แทบหมด เขาบอกว่ามันจะเพิ่มสเต็ปไปตามรอบที่เพิ่มขึ้น รอบที่สอง สกิวเริ่มมีสองสเต็ปในการทำ รอบนี้คนส่วนใหญ่ก็ยังทำได้ ส่วนคนทำไม่ได้ พี่มะเดี่ยวแม่งบังคับให้ทำ ไม่ได้จริงๆ ค่อยวิดพื้น เรียกว่าทั้งเจ็บและเหนื่อย หากสุดท้ายคุณก็ทำไม่ได้อะนะ รอบที่สามนี่เริ่มมันขึ้นเยอะ ห้าสิบเปอร์เซ็นทำท่าวินด์มิลที่เขาให้ทำไม่ได้

ความโหดร้ายสำหรับมือใหม่เริ่มมาเยือนเมื่อรอบที่สี่มาถึง จากคนกลุ่มใหญ่แย่งกันทำ ตอนนี้เกี่ยงกันทำ พี่มะเดี่ยวก็โหดเกิ้นนนน บังคับเขาทำทั้งที่เขาพร้อมใจวิดพื้น ผมนั่งดูเกมวิดพื้นพลางตะลึงในความสามารถของพวกเขา จะว่าฮา มันก็ฮานะ แต่จะว่าโหด...มันก็โหดแหละ

“โหดแท้...” ผมเปรยเบาๆ รอบที่ห้าพี่มะเดี่ยวแกเป็นคนเริ่มสกิว ผมเห็นแล้วแทบจะอ้าปากค้าง ได้ยินพี่โซฮานตะโกนว่ามึงเล่นท่าแอร์แท็กเลยเหรอ พี่เขาทำเหมือนหกสูงอะ แต่อ้าขากว้างประมาณไหล่ จากนั้นก็เตะให้มันเป็นวงกลม อธิบายแบบนี้ถูกไหมวะ...แล้วมือมันก็ลอยขึ้น คล้ายๆ กับการกระโดดหมุนตัวทั้งที่อ้าขากว้างแค่สลับจากขาเป็นมือนั้นเอ๊งงงง  พี่เขาทำทั้งหมดห้ารอบ

“ต้องโหด ไม่งั้นพวกนี้ก็จะไม่มีวันเก่งขึ้น เราแค่มอง...แล้วบอกว่าทำไม่ได้ ไม่ได้ จนกว่าจะได้ลองทำจนถึงที่สุด ต้องอย่าถอดใจ” พี่ท่านเสือกได้ยิน หันมาอธิบายอย่างหล่อ ผมที่มัดเอาไว้หลุดหลุ่ยนิดหน่อยจากท่าเมื่อครู่ พี่เขาก็เลยต้องแกะหนังยางออกเพื่อรัดมันใหม่

“แต่ท่านั้นของพี่มันดูอันตรายนะ”

“บีบอยอยู่บนความอันตรายนะ กลัวทำไม...หัวโหม่งโลกมันไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก” ไม่เจ็บบ้านพี่ดิ เป็นผมนี่นอนตายเลย

“คอหักตายได้นะ”

“อืม ใช่..พลาดก็แค่ตาย” นี่แค่เต้นกันจริงเหรอ เหมือนออกรบเลยอ่ะ บ้าไปแล้วววว

ท่าที่ห้า แม้แต่พี่โซฮานที่ดูเก่งกาจก็ยังต้องวิดพื้น พี่เขาบ่นเพื่อนตัวเองว่าเล่นอะไรโหดเกินไป ท่านี้เก้าสิบเปอร์เซ็นที่ต้องวิดพื้น ต่อไปตาพี่โซฮาน พี่เขานั่งยองๆ เอามือวางไว้ข้างลำตัวเสร็จแล้วเอนข้าง เอาเอววางตรงศอก ยกตัวลอยก่อนจะดีดขาขึ้นเป็นการจั๊มพ์ เป็นหกครั้งที่เรียกเสียงฮือฮาให้ทุกคนรอบๆ พี่มะเดี่ยวก็ทำแล้วล้มระเนระนาด แต่เขาก็ทำจนผ่านไปได้ รอบนี้เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นวิดพื้น...

พอล่ะ...กูออกเถอะ อย่าอยู่ต่อเลย เห็นอนาคต ผมเห็นบางคนแม่งวิดพื้นแทบทุกตาอะ แบบพวกมือใหม่ไง ยังทำท่าโหดเหมือนพี่เขาไม่ได้ ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ยังไม่ไหว ถึงมันจะดีที่อย่างน้อยได้ลองทำก่อน แต่สุดท้ายมันก็เจ็บตัวตามๆ กันไป

ยิ่งรอบสูง ท่ายิ่งโหด ตัวใหญ่เป็นพวกเริ่มสกิวให้น้องๆ ในชมรมได้โหดครวญเล่น ดูพวกเขามีความสุข แล้วก็ดูเหมือนพวกเขาแกล้งกันเองในหมู่คนเก่งมากกว่า ทว่าพี่มะเดี่ยวเขากลับออกปากชมน้องๆ ทุกคนที่ได้ลองทำแล้ว ว่าดีมาก...ทำได้ดีแล้ว ทุกตาเลย

เออ...หล่อเนอะ

เอบีซีจบลงที่รอบที่สิบ ไม่ใช่ว่าสกิวหมด ไม่รู้จะเล่นอะไร แต่น้องๆ เริ่มไม่ไหวจะทำ แล้วท่ามันก็หลุดโลกเกินไป พี่มะเดี่ยวปล่อยให้น้องๆ ได้นอนพักหอบหายใจก่อน พี่ท่านดื่มน้ำที่วางอยู่ข้างๆ ตัวผม แล้วเอาเสื้อตัวเองไปเช็ดเหงื่อ

“เอาล่ะ...วันนี้ทุกคนทำได้ดีมาก แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าน้องๆ เจ็บปวดมากกว่านี้” เดี่ยวนะพี่...เจ็บกว่านี้ เจ็บจนตายไปเลยไหม นี่ซ้อมเต้นหรือซ้อมตาย

“ฮ่าๆ” พี่โซฮานหัวเราะอารมณ์ดี

“สำหรับวันนี้เราจะเลิกซ้อมกันเท่านี้ หรือถ้าใครอยากซ้อมต่อก็ให้ไปซ้อมเต้นกันที่ห้างคิวใกล้มหาลัย พี่ๆ ก็ไปซ้อมที่นั่นกัน แล้ววันจันทร์...เราค่อยมาซ้อมร่วมกันที่นี่ใหม่ รวมถึงพวกไม่มีพื้นฐานหรือพื้นฐานยังไม่แน่นต้องมาเน้นกันหน่อย โอเค...แยกย้าย!” เสียงสั่งย้ายที่สะเทือนขี้หูมากอยากบอก เสือกอยู่ใกล้พี่แกด้วยไง แล้วไอ้ความรักมันก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงพี่เขา

เสียงดนตรีดังลั่นขี้หูเต้นไม่ตื่น พอพี่เขาตะโกนแยกย้ายละเสือกตื่นนะไอ้หมู ความรักยกหน้าตัวเองขึ้นจากขา มองหน้าผมก่อนจะมองไปที่พี่มะเดี่ยว แกยังยืนบังทัศนียภาพของผมไม่ไปไหน จากนั้นมันก็พยุงตัวเองขึ้นยืนโงนเงน เดินเป๋เหมือนหมูเมาผลไม้ไปทางพี่เขาก่อนจะล้มแหมะที่ข้างเท้า

โอ้โห...เอาออสก้ามาให้มันที!

ความหมั่นเขี้ยวหมูตัวเองขั้นสิบ อะไรมันจะแสดงละครเก่งปานน้านนนน เขาไม่ใช่ญาติพี่น้องแกนะเว้ย อ้อนออเซาะเขาจัง คนเลี้ยงก็กูนี่ ไม่ใช่เขา มึงจะอ้อนมึงต้องอ้อนกูเว้ยไอ้ความรัก

“มึงไปไหนต่อปะวะสาม” วิ่งเดินมากอดคอ ไอ้พีชเข้าไปเล่นกับความรักที่อยู่ในอ้อมอกเปียกๆ ของพี่มะเดี่ยว

“ไม่อะ กลับห้อง พวกมึงล่ะ”

“กูไปซ้อมกันต่อ มึงน่าจะไปด้วย จะได้สอนให้” พี่มะเดี่ยวหันมามองผมกับวิ่ง สายตาแปลกๆ เหมือนสงสัยแต่ไม่ได้พูดอะไร

“กูขอทำใจก่อน วันจันทร์ค่อยซ้อม วันนี้ที่กูดูอย่างจริงจังแล้ว...ไม่ไหวแน่เลยวะ” ถึงพี่มะเดี่ยวจะพูดว่ามันต้องลองก่อนจะบอกว่าทำได้หรือไม่ได้ แต่ผมก็ยังว่าตัวเองทำไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ

“มึงอะคิดไปเอง มันต้องลองก่อนเนอะพี่เนอะ” แหมะ มีหันไปถามหาความห็นจากพี่เขาอีก แล้วไอ้พีชนี่ก็ไม่สนใจอะไรนอกจากแกล้งหมูผมไปวันๆ

“นั่นสิ เรายังไม่ลองเลย รู้ได้ไงว่าทำไม่ได้ เจ็บสักทีสองที เดี๋ยวก็เป็นเองแหละ” กูไม่อยากเจ็บตัวไงพี่

“ครับ แต่ขอวันจันทร์นะ”

“เคๆ งั้นพวกกูไปล่ะ กลับดีๆ” ไอ้วิ่งไม่ตื้อต่อ มันไหว้พี่มะเดี่ยวและลากไอ้พีชไปด้วยกัน ตอนนี้ในฟลอเองก็เริ่มเก็บอุปกรณ์อย่างลำโพงกันแล้ว ผมมองหน้าหมูตัวเองด้วยความชิงชัง แล้วก็มองพี่มะเดี่ยวที่ยืนจ้องผมอยู่

“ปะ...พี่หิวละ”

“อ่าว...นึกว่าพี่จะไปซ้อมต่อ”

“ไม่อะ วันนี้มีงาน” ผมพยักหน้าเข้าใจ คว้ากระเป๋าแล้วเดินนำไปที่รถจักรยานสีเขียวของตัวเอง

.....100%.....

เราไม่ถนัดแนวนี้นะ ถ้าเราเขียนไม่ดีเราต้องขออภัยจริงๆ

การเต้นบีบอยเราพยายามอธิบายเท่าที่อธิบายได้ อาจจะเข้าใจยากไปหน่อย ส่วนใหญ่มันเป็นศัพท์เฉพาะเนาะ งงไปพร้อมกับสามนั่นแหละ เอิ้กๆ...

ฝากคอมเมนต์ให้เราบ้างน้าาาาา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 6 [100%]❤️ -29/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 30-09-2017 11:40:56
หูยยยยยยยยย กินข้าวกันไป มองหน้ากันไป เลี้ยงหมูไป มีหมูเป็นตัวเชิ่อมความรัก  เอร้ยยยยยย ต่ออออออ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 6 [100%]❤️ -29/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-09-2017 11:59:12
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 6 [100%]❤️ -29/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 30-09-2017 13:02:13
หมูสื่อรักชัดๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 6 [100%]❤️ -29/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-09-2017 18:20:51
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 7 [100%]❤️ -30/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 30-09-2017 22:09:18
>>ตอนที่ 7 [100%]<<

“พี่มีรถมะ...” ผมหันไปถาม ความรักมันเอนตัวซบอกพี่มะเดี่ยวอย่างน่าหมั่นไส้ โอ้ย...อะไรจะขนาดนั้นวะ

“ไม่มีอะ เดินเอา ถือว่าเป็นการออกกำลังกาย”

“งั้นพี่เดินไปเนอะ”

“ตลก” หัวผมโดนโบกไปหนึ่งทีไม่แรงนัก เพราะถ้าแรง ผมคงขำไม่ออก

“งั้นพี่ขี่นะ ผมไม่ปั่นให้พี่ซ้อนหรอก...ไม่น่าไหว” ตัวใหญ่อย่างกับอะไรดี หน่องปูดพอดีอะผมว่า

“เออ แต่จักรยานมึงแม่บ้านโคตรๆ”

“แหม่ เพื่อความสะดวกสบายของความรักไงพี่” ว่าแล้วยิ้มกว้างๆ พี่มะเดี่ยวยิ้มตามก่อนจะโยนกระเป๋าตัวเองมาให้ผมถือ

พี่เขาเป็นคนเอารถออกมาจากที่จอด ขยับกลับด้าน เอาความรักใส่ตะกร้าด้านหน้าหลังตัวเองคร่อมอานเรียบร้อย ผมขึ้นตามแล้วก็ให้พี่เขาปั่นไปยังร้านที่เขาจะกิน และเพื่อความปลอดภัย ผมจับเสื้อตรงเอวทั้งสองข้างของพี่เขาเอาไว้กันตก อะไรจะเกิดขึ้นเราไม่รู้นี่จริงไหมครับ ผมไม่ได้แต๊ะอั๋งพี่มะเดี่ยวเลยนา...จริงนา...

แต่ว่า...เหงื่อโชกกายขนาดนี้ กลิ่นตัวพี่เขายังไม่เหม็นเลยเลยแหะ นี่กินน้ำหอมเข้าไปเป็นเครื่องดื่มทุกคืนก่อนนอนใช่ไหมครับ เป็นพี่ชายผมนะ กลิ่นนี่หึ่งไม่อยากเข้าใกล้พวกมันเลย แต่พวกมันก็ชอบเอาสารร่างชุ่มเหงื่อตัวเองมาถูไถกับผม หรือไม่ก็รวบร่างผมเข้าไปกอดจนผมเหม็นตามพวกมันทุกที

“ทำไมมึงมาเรียนนี่วะ...” ปั่นไปตามทางอยู่ดีๆ พี่เขาก็เอ่ยถามขึ้น มันได้ยินไม่ชัดหรอกแต่ก็ได้ยิน

“อยากได้วิชาแน่นๆ เลยมาเรียนนี่น่ะพี่” ผมชะโงกหน้าไปด้านขวาเพื่อบอก กลัวพี่มะเดี่ยวได้ยินไม่ชัดไง

“เรียนครู...อยากเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ ครูมันเหนื่อยนะเว้ย เจอกับเด็กเพียบเลย แค่คิดก็ปวดหัวแล้วเนี่ย” ผมขำ มันจริงอย่างที่พี่เขาว่าแหละ เด็กๆ น่าปวดหัว

“แต่ก็น่าเอ็นดูนะ ผมก็ไม่เชิงอยากเป็นครูหรอก...แต่สงสารเด็กๆ ที่ไม่มีโอกาสได้เรียนดีๆ อะพี่ เลยว่าจะเปิดสอนแบบการกุศลไรงี้”

“โอ้โห...บ้านรวย”

“ก็นะ...มีอันจะกินอะ” ว่าแล้วผมก็ขำออกมาเสียงดัง พี่มะเดี่ยวแม่งไม่ขำกับผม เขาเล่นปั่นแบบซอกแซก เอียงซ้ายเอียงขวาจนน่าหวาดเสียว จากที่จับแค่ชายเสื้อก็ต้องกอดเอวพี่มันเอาไว้เดี๋ยวตก

ทันทีที่เอามือโอบรอบเอวหนา พี่มันก็เป็นฝ่ายหัวเราะบ้าง เห่อๆ...ผมโดนแกล้งอีกแล้ว นี่ แกล้งผมมากๆ อะ มันไม่ได้ทำให้พี่เต้นเก่งขึ้นนะครับ แล้วก็ไม่ได้ทำให้พี่มะเดี่ยวสุดหล่อคนนี้รวยขึ้นเน้อ

“พี่แม่ง...อย่าแกล้งดิ” ต่อว่าได้แค่ในใจ เศร้ามากมาย ใครเล่าจะรู้นอกจากผมเองคนเดียว

“แกล้งมึงแล้วมีความสุขดี...”

“ผมไม่ได้มีความสุขด้วยหนิ”

“ก็ถ้ามึงมีความสุข จะเรียกว่าโดนแกล้งไหมละควาย!” น่านนนน โดนด่าอีกแล้ววว

“เป็นหมูแทนได้ปะ ไม่เป็นควายอะ มันดูโง่”

“ก็มึงดูโง่” จบ...จบแล้วชีวิตเดอะสาม กูหมดคำจะเถียงกับพี่มึงแล้วล่ะ

ผมนั่งหน้าบึ้งแทนที่จะต่อปากต่อคำพี่มะเดี่ยว พี่ท่านหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่รู้ป่านนี้กรามค้างไปหรือยัง หรือว่าผมควรคิดเสียว่า...ทำบุญ ก็ทำให้คนอื่นมีความสุขมันคือการทำบุญทำทานอย่างหนึ่งเหมือนกันนะครับ พี่แกคงทำงานมากไปเลยเครียดอะเนอะ ก็เลยได้แต่ลงกับคนอื่นเขาไปวันๆ

“พี่ควรหาแฟนไว้แกล้งสักคน” พูดออกไปลอยๆ

“งั้นเอามึงเป็นไง...แกล้งสนุกดี”

“ม่ายยยยยย” ถ้าต้องเป็นแฟนพี่มึงเพื่อนโดนแกล้ง กูไม่มีวันเป็นครับพี่ ชิ...เจ็บใจ เถียงไรต่อไม่ได้

พี่มะเดี่ยวปั่นจักรยานยาวไปยังคอนโดที่เราอาศัย จอดรถไว้ที่ที่เขาจัดให้ เสร็จก็พากันเดินไปที่ร้านอาหารใต้คอนโด พี่มะเดี่ยวอุ้มความรักเหมือนมันเป็นลูกพี่เขาไปแล้ว แล้วความรักก็อ้อนเขาเหมือนเขาเป็นพ่อมัน ส่วนพ่อตัวจริงอย่างผมทำอะไรครับ...เดินถือกระเป๋า หึ..เบ๊คนนี้หล่อที่สุดในจักรวาลเลยล่ะ

“มึงไปซื้อดิ้ เอาไรก็ได้” พี่ท่านนั่งได้ก็สั่งผมต่อทันที ผมวางกระเป๋า เดินหงกๆ ไปสั่งอาหาร

สิ่งที่ผมสั่งนั้นดูโง่เง้าในสายตาทุกๆ คน แต่สำหรับผม...นี่แหละสุดยอดของอาหารไทยแล้ว เดาออกไหมอะไร ผมควรให้เวลาคิดหรือเปล่า หรือผมควรเฉลยเลยดีล่ะ ไม่ดีเนอะ คิดกันต่อไป ผมว่าเมนูนี้เดาไม่ยากหรอก แล้วเชื่อว่าเวลาเร่งรีบทุกคนก็มักสั่งเมนูนี้ เป็นเมนูที่สั่งแล้วได้กินเร็วที่สุดด้วย...

“กะเพราหมูสับไข่ดาวได้แล้วค่ะ” หึหึ...เดาถูกกันถ้วนหน้า ผมชอบเมนูนี้มาก เพราะมันมีหมู!

ผมตักพริกน้ำปลาราดลงไปบนไข่ดาวยางมะตูม เน้นพริกนิดหน่อย เพราะว่ามันจะอร่อยมากๆ แค่เห็นและได้กลิ่นน้ำลายก็สอได้ แหง่มๆ...ตักกินเลยได้ไหม ขี้เกียจเดินไปที่โต๊ะแล้วอะ ผมหิวมากๆ เหมือนกัน

“อะพี่ มาแล้ว...รวดเร็วทันใจ ได้ไวเหมือนโกหก” ผมวางกะเพราหมูลงตรงหน้าพี่เขา ไอ้ความรักมันอยู่ที่เก้าอี้ว่าง กินกล้วยของ..น่าจะพี่มะเดี่ยวละมั้ง ผมไม่พกกล้วยอะ เสร็จแล้วก็นั่งลง ยิ้มแป้นแล้นให้กับ...เอ่อ ทำไมหน้ากระอักกระอ่วนแบบนั้นละพี่

“เอาจานมึงมานี่” ไม่พูดเปล่า ดึงจานผมไปแหล่ว

ผมมองดูปฏิกิรยาพี่มะเดี่ยวด้วยความสนใจ พี่เขาค่อยๆ เขี่ยหมูสับมาโปะใส่จานของผมอย่างละเมียดละไม ตั้งใจประหนึ่งนี่คือข้อสอบแห่งชีวิต แถมยังมีการเขี่ยถั่วฟักยาวแยกออกจากหมูสับไว้ในจานตัวเองอีกด้วยนะ

“พี่ไม่กินหมู?” ทำขนาดนี้ไม่น่าถามอะ แต่ที่น่าแปลกคือ...อิสลามเขาจะทิ้งจานนี้เลยนะ ไม่เขี่ยหมูทิ้งแบบนี้นี่นา

“อืม พี่ลืมบอก...พี่ไม่กินหมูอะนะ”

“อิสลาม?”

“เปล่า ไม่กินเฉยๆ เนี่ยแหละ” พี่มันเขี่ยจนแทบไม่เหลือหมูในจาน มันอาจมีปนๆ เป็นชิ้นเล็กๆ ที่เขี่ยไม่ออกบ้าง พี่มันหน้าเบ้หนักมาก...คือกูไม่รู้ไงพี่

“ผมสั่งให้ใหม่ไหมพี่ ผมขอโทษ...ไม่รู้อะ” ผมรู้สึกผิดขึ้นมาเฉยเลย

“ไม่เป็นไร กินได้แค่ไม่กิน ตอนเด็กๆ บ้านอยู่ใกล้โรงเฉือดหมู กูได้ยินเสียงหมูโดนเฉือดทุกวัน...กูเลยสะเทือนใจวะ ไม่กินอีกเลย” พี่มันดันจานกลับมาให้ ตัวเองกินแค่ถั่วฟักยาวและไข่ดาวราดพริกน้ำปลา

“ถึงว่าพี่ดูห่วงความรัก”

“เออดิ กูกลัวมึงจะฆ่ามันจริงๆ” มองจานเขาแล้วจานตัวเอง...น่าสงสารอะพี่เอ้ย

“อะพี่ ผมให้” เอาวะ ไข่ดาวเพิ่มขึ้นน่าจะช่วยเรื่องสารอาหารได้ พี่มันก็ไม่ปฏิเสธนะ คงหิวแหละ ซ้อมเต้นโหดซะขนาดนั้น ป่านนี้ไส้ใกล้ขาดยังหนอ

“ใจ” เอ...หรือที่ความรักมันชอบพี่มะเดี่ยวมากเป็นเพราะพี่มะเดี่ยวไม่กินหมูวะ

สัญชาตญาณสัตว์มันดีนะ เห็นว่าถ้าเราไม่กินเนื้อสัตว์เลยจะมีกลิ่นตัวอีกแบบ หรือถ้าชอบกลิ่นเนื้อวัวมากๆ ก็จะมีกลิ่นตัวอีกแบบ ยิ่งพวกกินหมานี่กลิ่นตัวจะแรง อันนี้ไม่รู้จริงไหมนะ ผมเคยอ่านผ่านๆ เมื่อนานมาแล้ว ทีนี่พี่มะเดี่ยวไม่กินหมู ก็เลยไม่มีกลิ่นตัวแบบคนกินหมูอย่างผม ไอ้ความรักมันก็เลยรักเขามากอะไรแบบนี้อะ นี่ความคิดผมคนเดียว...มโนล้วนๆ

ไอสไตล์บอกว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ดังนั้นผมจึงสรุปสาเหตุที่ทำให้ความรักวิ่งเข้าหาพี่มะเดี่ยวด้วยวิธีจินตนาการ เอ้า...ก็จะให้ผมถามมันยังไงอะ มันตอบผมได้ที่ไหนจริงไหม ถ้ามันพูดได้ขึ้นมาสิ เออนั่นน่ะน่ากินมันซะ ก่อนที่มันจะกินเรา...หมูปีศาจ วะฮะฮ่า...

บ้าไปแล้วกู

“นั่งยิ้มอะไรของมึง บ้าไปแล้วอ่อ หรือว่ากะเพราเดี๋ยวนี้เขาใส่กัญชา” ฮื่อ...ทำไมต้องว่ากันแบบนั้น ผมแค่ตลกตัวเองเฉยๆ อะ

“เปล่า แค่...ขำอะไรในหัวนิดหน่อยอะ”

“อะไรล่ะ”

“ไม่บอกได้ปะละ” เถียงทันที ผมไม่พูดหรอก...ความคิดของผมมันบ้าบอคอแตกฉิบผายเลยนะเว้ย เกิดเล่าไปนะ พี่มะเดี่ยวแม่งต้องคิดว่าผมบ้าจริงอย่างแน่นอน

“บอกกูมา...” ไม่เห็นต้องมาโหมดโหดเลย

“อย่าดุดิ แค่คิดว่าถ้าความรักมันพูดได้เฉยๆ...”

“ก็แค่นั้น แล้วนี่มึงจะไม่กินหมูตัวเองจริงๆ ใช่ไหม” นี่พี่ยังไม่เลิกคิดเรื่องนี้อีกเหรอเนี่ย ผมว่าพี่มะเดี่ยวจริงจังกับเรื่องไร้สาระแบบนี้มากเกินไปนะ

“ไม่หรอก ผมไม่กิน อีกอย่าง...ขุนมันไปมันก็โตได้แค่หกสิบกิโลเอง” หันไปมองหน้ามัน ดูหน้าซื่อตาขวางๆ นั่นสิ...โอ้ย น่ารักสุดใจขาดดิ้นเลย แบบนี้อะนะผมจะกินได้ลง แค่ลองคิดว่าต้องฆ่ามันเองกับมือแล้วน้ำตาพานจะไหล

“ก็ดี นึกว่ามึงแม่งโรคจิตจริงจังอะ เลี้ยงหมูเพื่อจะเฉือดกินเอง เหี้ย...คนที่ทำแบบนั้นได้นะแม่งต้องเหี้ยมากอะ” พี่เขาพูดเหมือนบ่น ผมเลยหันไปมองหน้าเขา ปรากฏว่าข้าวพี่ท่านหมดล่ะ ผมกินไปได้แค่ไม่กี่คำเอง

“พี่อะจริงจังเกิ้น”

“ก็ใครจะไปรู้ เกิดวันดีคืนดี ห้องตรงข้ามกูมีเสียงร้องของหมูขึ้นมาทำไง กูรับไม่ได้ จิตใจอ่อนไหว” ตอแหล...อุ้ย ผมไม่ควรคิดอะไรหยาบคายสินะ แต่แบบ สีหน้าของพี่แกมันเหมาะกับคำนี้จริงๆ นะเว้ย เอามือทาบอกอีก ประหนึ่งอกอีแป้นจะแตก ต๊ายยยยย ตัวก็เป็นเหรอ

“อาจจะมีนะ...ผมแกล้งมันอะ” รีบกระซวกตามพี่เขา ถึงจะรู้ว่าตัวเองต้องโดนทิ้งให้จ่ายค่าข้าวก็ตาม

“แล้วกูก็แกล้งมึงต่อ ดีๆ แกล้งมันเลย...เอาให้เยอะๆ” โอ้โห...สายตาคือฆ่ากูไปแล้วอ่ะ พี่ใจเย็นดิวะ อย่าโหดกับอะไรแบบนี้เลยเถอะ

“ล้อเล่นเอง” ว่าเสียงอ่อยแล้วกินข้าวต่อ

“แต่กูทำจริงนะ”

“ไม่ต้องก็ได้พี่ ผมเกรงใจอะ แฮ่...” เอ็นดูหน้าตาน่ารักของผมหน่อยสิพี่เอ้ย

เอ๊ะ...หรือเพราะผมหน้าเหมือนความรักวะ ก็เลยโดนแกล้งบ่อย เวลาผมมองหน้าไอ้ความรักอะนะ ผมจะรู้สึกหมั่นเขี้ยวมันมาก ทั้งรักทั้งเอ็นดูจนอยากขย้ำมันอะ ชอบแกล้งมัน เห็นมันโอดโอยแล้วมีความสุขยังไงบอกไม่ถูก พี่มะเดี่ยวแกล้งผมแล้วรู้สึกแบบนั้นปะวะ...น่าจะ

นี่เป็นวันแห่งการค้นพบข้อเท็จจริงของท่านมะเดี่ยว...ไม่กินหมูเพราะบ้านอยู่ใกล้โรงเฉือดหมู ความรักชอบพี่มะเดี่ยวเพราะพี่มะเดี่ยวไม่กินหมู แล้วพี่เขาชอบแกล้งผมเพราะหน้าผมเหมือนหมู อยากแกล้งความรักแหละ แต่สงสารไง เลยแกล้งผมแทน ปั๊ดโถ้ะ เดี๋ยวปั๊ดเอาโพเดียมทุ่มแม่ม

ความรักถูกอุ้มขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ มันนั่งหันหน้าเข้าหาพี่มะเดี่ยวและหันตูดนวลๆ ของตัวเองให้ผม แม่ง...น่าหมั่นเขี้ยว ผมชอบกัดตูดความรักนะ ไอ้ตรงสะโพกมันอะ เนื้อแน่นๆ เน้นๆ งับเข้าไปเต็มคำ จากนั้นมันก็จะร้องแล้วดีดผมหนึ่งที วิ่งดุ๊ดๆ ตูดส่ายไปส่ายมาหนีผมทั่วห้อง ฮ่าๆ....แค่คิดก็น่ารักแล้ว

“ทำไมถึงเลี้ยงหมูวะ” คิดอะไรเพลินๆ พี่เขาก็ถาม ผมรีบยัดคำสุดท้ายเข้าปาก

“เบื่อหมาอะพี่” จากนั้นตอบเหมือนที่เคยตอบทุกคนนั่นแหละ

“แค่เนี้ยอะนะ...”

“อื้อ แค่นี้เลย”

“ปัญญาอ่อน” อ่าว อยู่ดีๆ ก็โดนด่าไปอีกดอก ไหน...มีใครได้นับไหมว่าเดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาคนนี้โดนพี่มะเดี่ยวด่าไปแล้วกี่ดอก แค่เจอกันครั้งแรกผมก็พลุนแล้วอะ ดีนะผมไม่ใช่คนเข้าคิดเจ้าแค้น ไม่งั้นจะทำเมียไปล่ะ...

โปรดดูสารร่างแห้งๆ เหมือนหมาอดข้าวอย่างผมกับพี่มะเดี่ยวที่หุ่นล่ำเหมือนกระทิงถึก แล้ววิเคราะห์สิว่าการที่ผมจะเอาพี่มะเดี่ยวทำเมียนั้น มีเปอร์เซ็นสำเร็จเท่าไหร่กัน อะไรนะ จะบอกว่าผมไม่มีทางทำได้ตั้งแต่ความคิดแล้วใช่ไหม...โห โคตรดูถูกอะ!

ใช่ไง...คุณดูถูก ถูกแล้ว ไม่ได้ตั้งแต่ความคิดแล้ว แล้วใครแคร์...ความคิดผม โลกของผม ผมจะคิดอะไรก็ได้!

.....100%.....

มีความมุ้งมิ้งงุ้งงิ้งกันสองต่อสอง ความรักก็มองไป มองมา อยากเป็นความรัก...อยากอยู่ตรงกลางเขาสองคน ฮิ้วววว

คอมเมนต์ให้เค้าบ้างน้าาาา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 7 [100%]❤️ -30/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 01-10-2017 03:49:53
พี่มะเดี่ยวมีมุมน่ารักอ่ะ ไม่กินหมูเพราะสงสารมัน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 7 [100%]❤️ -30/09/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-10-2017 08:32:56
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 8 [100%]❤️ -02/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 02-10-2017 21:21:29
>>ตอนที่ 8 [100%]<<

ผมแยกกับพี่มะเดี่ยวหน้าห้อง เขากลับห้องเขาและผมก็ต้องกลับห้องผม ก่อนจะเข้าห้องตัวเอง ผมจับขาหน้าความรักบ๊ายบายพี่เขาเล็กน้อย ซึ่งพี่เขาก็ยิ้มให้และบ๊ายบายกลับมาให้ ไม่ทำเพื่อผมแต่อย่างใด พี่แกทำเพื่อหมู เห็นหมูดีกว่าคน...

“ภูมิใจซะเถอะไอ้ความรัก มีคนหล่อกว่าไอ้พีชเอ็นดูมึงแล้ว” น่าอิจฉานะเนี่ย...ใครๆ ก็หลงรักหัวปักหัวปำกันทั้งนั้น ผมวางความรักลงที่พื้นพรม มันวิ่งขึ้นโซฟาตัวไม่สูงมากกลางห้องทันที ผมเดินตามไปเอารีโมตขึ้นมาจ่อปากยาวๆ ของความรัก

“ไม่ทราบว่า...คุณความรักไปทำเสน่ห์ที่ไหนมาครับ” เก๊กเสียงหล่อ ไม่ใช่แค่เสียงนะ ทั้งหน้าเลยเนี่ยแหละ

“อ๋อ ไม่ได้ทำหรอก....เกิดมาก็มีเสน่ห์แรงเลย” จากนั้นดัดเสียงความรักแบบกระเด๊ะๆ ตอบตัวเอง

“รบกวนแบ่งเสน่ห์ของความรักมาให้ผมบ้างได้ไหมครับ เผื่อพี่มะเดี่ยวจะเลิกแกล้งผมแล้วไปแกล้งความรักแทน” ดึงรีโมตมาจ่อปากตัวเองแล้วพูด กล่าวเสียงหล่อจบจ่อปากหมูอีกครั้ง

“ไม่ได้หรอก...อยากได้มากก็ตายแล้วเกิดเป็นหมูสิครับ” พากย์เสียงมันจบ ความรักก็สะบัดหน้าหนี ไรแว้...ยังเล่นไม่สะใจเลย

“ไม่เล่นแล้วๆ ไปอาบน้ำกัน” ถามความเห็นไปงั้นแหละ มันตอบผมได้แค่อู๊ดๆ ผมอุ้มความรักเข้าห้องน้ำไปด้วยกัน

อีกอย่างที่สบายเวลาเลี้ยงหมูคือเวลาอาบน้ำ หมาจะขนยาว อาบแล้วต้องมานั่งเป่าขนจนเหนื่อย กว่าจะได้ทำอะไรเสียเวลามากๆ แต่หมูนะ อาบเสร็จ เอาผ้าเช็ดตัวถูๆ ไถๆ ตัวมันแป๊บเดียวตัวมันก็แห้งแล้ว ผมเลยสามารถเอามันอาบน้ำด้วยทุกวันได้ ไม่ได้อาบเช้าเย็นนะ แค่เย็นรอบเดียว กลัวมันไม่สบาย

ความรักนี่ก็ชอบเล่นน้ำ จะว่าขี้ร้อนก็ไม่น่าใช่นะ ห้องผมมีแอร์ แต่มันชอบเล่นน้ำมาก ผมเลยต้องเปิดน้ำใส่อ่างอาบระดับหนึ่งให้มันนอนแช่ ส่วนผมนั่งอาบอยู่นอกอ่าง เรียกว่าเป็นเจ้านายที่ดูต่ำต้อยกว่าลูกน้อง ใครบอกว่าแมวจะครองโลก...หมูตัวนี้ครองโลกแล้วต่างหาก

โลกของผมคนเดียวนะ อิอิ

วันเสาร์อาทิตย์เป็นวันที่ผมชื่นชอบเพราะสามารถเล่นเกมโต้รุ่งได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องไปเรียน ระหว่างเล่นก็มีความรักนอนอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆ กลางคืนเจ้านี่จะหลับยาวไม่ตื่นมาก่อกวน มันจึงเป็นช่วงเวลาที่ดีอีกช่วงเวลาหนึ่ง ผมชอบเวลาที่ได้หันไปเห็นมันนอนหลับ ซุกผ้าห่มผืนสีเขียวอ่อนใบตอง หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม บางครั้งจะอดใจไม่ไหวต้องก้มลงไปหอมหน้าผากมันทีสองทีเบาๆ ไม่ให้มันรู้ตัว

ผมรักมันยิ่งกว่าแฟนทุกคนที่เคยคบ...ถ้าถามว่าใครเป็นตัวจริงสำหรับผม ผมตอบอย่างไม่ต้องคิดเลยว่า ตัวๆ นั้นคือความรักนี่เอง ฮ่าๆ มนุษย์ผู้มีคบหมูเป็นแฟน ง่อวววว โคตรเท่ ไม่มีใครเหมือนผม

ตอนเช้า ผมกะว่าผมให้อาหารความรักแล้วผมจะหนีไปนอนบ้าง ทว่า...ความต้องการของผมเป็นอันตรธานหายไปเมื่อแม่โทรมาบอกให้ผมไปช่วยงานน้าที่ร้าน ผมไม่รู้ว่าน้าเปิดร้านวันเสาร์อาทิตย์ด้วย  ผมงอแงไม่อยากจะไปเพราะง่วงเต็มที แต่แม่บังคับ ไม่งั้นจะไม่จ่ายค่าเช่าห้องของเดือนนี้ให้ผม แล้วผมก็ต้องเป็นคนเจียดค่าขนมจ่ายเอง เอาง่ายๆ เรียกว่าหักค่าขนมเลยก็ได้นะ ไม่ต้องเรียกว่าไม่จ่ายค่าห้องให้หรอก มันไม่ต่างกัน

เมื่อมารดาต้องการ คนเป็นลูกก็ต้องทำตามอย่างมิอาจขัด เพราะค่าขนมที่ลดลงอาจทำให้ผมเอาเงินไปเปย์หมูตัวเองไม่ได้ ดังนั้นผมจึงต้องไปอาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งที่ตาปรือเหมือนใกล้หลับเต็มที คว้าความรักใส่กระเป๋าเป้ สะพายไว้ด้านหน้าแล้วก็ออกเดินทางไปที่มหาลัย

อย่าคิดว่าวันเสาร์อวาทิตย์ที่มหาลัยจะเงียบเหงา ไม่เลย...มันมีทั้งคนมาทำกิจกรรมและมาใช้ห้องสมุด บางคนมีเรียนวันนี้หรือมีทำรายงานในวันนี้ ทำให้ร้านบีพีคอฟฟี่เต็มไปด้วยผู้คน เห็นความรักนั่งๆ นอนๆ บนเคาน์เตอร์แล้วก็อิจฉา ผมอยากนอนบ้าง ง่วงมาก เจอแสงเข้าไปอีกรู้สึกตัวเองเป็นแวมไพร์ขึ้นมาทันใด แสงอาจฆ่าผมได้ ผมควรบอกน้าบอยว่าผมกำลังจะตายในอีก...สาม...สอง...หนึ่ง

“อ่าวมะเดี่ยว” หันคอขวับไปทางเคาน์เตอร์ แล้วสิ่งที่ได้เจอก็คือพี่มะเดี่ยวคนดีคนเดิมของสามนี่เอง พี่ท่านกำลังลูบหัวความรักและยิ้มแย้มให้น้าๆ เขาใส่เสื้อยืดสีดำแขนยาวตัวใหญ่ และใส่กางเกงยีนส์รัดรูปยาวแค่เข่า รองเท้าผ้าใบสีดำ ดูเซอร์ขึ้นไปอีกเมื่อพี่ท่านไม่มัดผม

“เอาเครื่องดื่มเข้มๆ มากระแทกปากทีครับ” พี่ท่านหยอกเย้าใส่น้าผม บ่งบอกเป็นอย่างดีว่าพวกเขารู้จักและสนิทกัน

“วิสกี้ไหมล่ะ เข้มถึงใจ” น้าภูมบอกกับอีกฝ่าย ซึ่งพี่เขาก็หัวเราะ

“ล้อเล่นเหอะพี่ กาแฟสิกาแฟ ผมง่วงจะตายแล้วเนี่ย งานเข้าโคตรเยอะ ใกล้งานหนังสือทีไรนะสั่งอย่างกับนักวาดเป็นเครื่องจักร สั่งปุ้บเอาปั้บ นี่ละอยากให้มาทำเองจริง” เดอะสามเปล่าเสือก เดอะสามแค่เดินมาหาความรักเท่านั้นเอง ก็เลยได้ยินที่เขาพูดกับน้าๆ ของผม

“ก็แบบนี้ทุกปี ไม่ชินอีกเหรอ” น้าบอยเท้าคางยิ้มๆ ด้วยความที่น้าบอยเป็นแคชเชียร์ ทำให้ไม่ต้องขยับสารร่างไปไหน นั่งเฝ้าได้เลยทั้งวัน ส่วนบาริสต้าก็มีน้าภูมและพี่จุน

“ไม่ชินอะ ว่าแต่...น้องสามจะนั่งฟังเลยก็ได้นะ ไม่ต้องด้อมๆ มองๆ หรอก...เหมือนโรคจิต” พี่หันหน้ามาทางผมที่ยืนอยู่ด้านหลัง อยากจะร้องอุต๊ะ แต่ร้องไม่ได้...เดี๋ยวคนมองเยอะ

“ผมแค่จะมาหาความรัก...” แล้วผมก็เอาร่างตัวเองขึ้นไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวสูงหน้าเคาน์เตอร์เหมือนพี่มะเดี่ยว พยายามจะดึงความรักมาทางตัวเอง แต่มันไม่ยอมมา จะลากขามันก็ไม่ได้ ทุกสายตาจะจับจ้องมาที่ผมทันที ผมก็เลยทำได้แค่นั่งลูบตูดหมูของตัวเองป่อยๆ

“เหรอ อะเคๆ...หาความรักก็หาความรัก ว่าแต่ได้นอนปะเนี่ย ตาโหลเชียว” พี่มันนั่งเท้าคางมองหน้าผม แล้วพี่มึงตาไม่โหลเลยอะ สภาพไม่ต่างจากกูเท่าไหร่อะพี่

“พี่ก็เป็น”

“พี่ทำงาน”

“อ่า...”

“เราละ”

“ทำง๊าน...” ผมเปล่าเสียงสูง ผมไม่มีพิรุทใดๆ ทั้งสิ้น แต่ว่านะ ผมจะโกหกพี่มันทำไมวะ บอกความจริงก็ไม่เสียหายปะ

“โกหกต้องตกนรก” น้าบอยพูดลอยๆ

“ง่า สามเล่นเกม” แล้วก็ต้องสารภาพออกไปเสียงอ่อยจนได้ ผมแค่เล่นเกมยันเช้า ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลยนะ

“มึงรู้ปะ...การอดนอนหรือการนอนไม่พออะ มันจะทำให้สมองมึงฟ่อ แล้วมึงก็จะโง่เว้ย” แล้วพี่มึงไม่ได้อดนอนเลยสินะ ไม่ได้นอนเลยสิ โอ้โห...ว่าเราแต่อิเหนาเป็นเอง

“รู้ แค่วันเดียวเอง” เพราะวันนี้คงโต้รุ่งไม่ไหว นี่ยังไม่ได้นอนเลย กลับไปต้องหลับเป็นตายแน่ๆ

น้าภูมเอากาแฟมาเสิร์ฟพี่มะเดี่ยว ผมตั้งใจจะนั่งฟัง...เอ้ย นั่งพัก แต่ไม่ได้ ลูกค้าเข้าพอดี ผมเลยต้องเดินไปรับออเดอร์ให้น้าภูมก่อนจะไปเก็บโต๊ะที่ลูกค้าออกไปแล้ว พี่มะเดี่ยวแกคุยอะไรกับน้าทั้งสองไม่รู้อยู่นาน เสร็จปุ้บ คว้ากระเป๋าใบโตของตัวเองไปยังมุมหนึ่งของร้าน โต๊ะนั้นผมเพิ่งจะเก็บและเช็ดไปเมื่อกี้

ก็ไม่ได้ตั้งใจมอง สายตามันกวาดๆ ไปเองอะเนาะ พี่เขาเอาไอแพดโปรออกมาพร้อมกับดอทเพน ปากกาเขียนไอแพดแหละ มองมือที่ขยุกขยุยวาดๆ เขียนๆ อะไรสักอย่าง พี่เขาดูตั้งใจนะ ดูตัดโลกทั้งใบออกเพื่ออยู่กับสิ่งที่ตัวเองทำ แล้วผมก็ยังยืนยันว่าผมไม่ได้ยืนมองพี่เขาเลย ผมแค่เช็ดโต๊ะอยู่ใกล้เท่านั้นแหละ ก็เลยเห็นชัดแบบนี้

ชะอุ่ย!!!

หนีดีกว่า...พี่ท่านดันเงยหน้ามาสบตาพอดี หัวใจจะวายตาย มันตกใจไงละ กำลังสำรวจนู้นนี่นั่นของพี่มะเดี่ยวเพลินๆ เงยมาป๊ะ...อุต๊ะ ตกกะจุยเลยไง ผมเดินออกด้านข้างเป็นปูไปโต๊ะอื่นๆ จบลงที่หน้าเคาน์เตอร์ นั่งเล่นกับความรักด้วยความนุ่มละมุนละไม กัดซ้าย กัดขวา ฮ่าๆ...มีความสุขอะ

เล่นไปเล่นมา ผมก็ซุกพุงความรักหลับคาเคาน์เตอร์ไป ก็มันง่วงไง ก็คนมันยังไม่ได้นอนไง แม้จะปวดคอไปหน่อย แต่ผมทนไม่ไหวจริงๆ ความรักมันนอนให้ผมหนุนหลับอย่างรู้งาน เดี๋ยวตื่นมาผมจะให้รางวัลมันอย่างดีเชียวแหละ

“กลับไปนอนบ้านไหม...ไอ้ครูติดเกม” ผมแทบสะดุ้งเมื่อเสียงทุ้มดังขึ้นด้านข้าง เป็นพี่มะเดี่ยวคนเดิมเพิ่มเติมคือกวนตีน...ไม่สิ กวนตีนอยู่แล้ว

“ก็ดีนะ...” ผมลุกขึ้นอย่างงัวเงีย นี่เพิ่งบ่ายกว่าๆ เอง

“กลับไปนอนเหอะ พรุ่งนี้ค่อยมาช่วยน้าใหม่” โอ้ ผมอยากกราบน้าบอยสามทีด้วยความเทิดทูลและบูชา

“งั้นผมกลับนะ...รักน้า จุ้บๆ” ผมรีบถอดผ้ากันเปื้อนอย่างไว ไม่รีบกลับบ้านเท่าไหร่นะเอาจริงๆ

เอาความรักลงกระเป๋า เก็บทุกอย่างด้วยความว่องไวดุจพายุเฮอริเคน เสร็จแล้วก็ร่ำราน้าๆ พี่ๆ ทุกคนในร้าน มุ่งสู่จักรยานสีเขียวทรงแม่บ้าน ทว่าผมยังไม่ทันได้ก้าวขาขึ้นคร่อม แฮนด์จักรยานของผมก็โดนมือหนาแย่งไปเสียก่อน ผมเงยหน้ามองพี่มะเดี่ยวด้วยความแปลกใจ ทำไมครับ อยากได้เหรอ ซื้อสิ ไม่กี่พันเองนะ

“กลับด้วยดิ ขี้เกียจเดินวะ”

“อ่าว...แล้วพี่มาทำไร”

“มากินกาแฟ” พี่มึงมากินไกลเนอะ ใต้คอนโดเราก็มีร้านกาแฟ สั่งที่นั่นกินก็ได้เหอะ ไม่เห็นต้องถ่อมาถึงนี่เลย

“ใกล้ๆ ก็มี”

“ไม่อร่อย ไม่ชอบ อยากมากินนี่...ปะ กลับกันเถอะความรัก” ไม่ถงไม่ถามความสมัคใจกูสักคำเลยพี่เอ้ย แต่ก็นะ ถือเสียว่าผมไม่ต้องปั่นเองก็แล้วกัน

แต่เมื่อพี่มะเดี่ยวคร่อมจักรยานเตรียมปั่น ผมก็ต้องขึ้นไปซ้อน จับเสื้อตรงเอวเขาเอาไว้เหมือนอย่างเคย พี่มันปั่นช้าๆ ค่อยๆ ปั่นไปเรื่อยตามทาง สายลมเอื่อยโคตรสบายสำหรับคนง่วงนอนอย่างผมมาก เพราะงั้น...ขอยืมหลังงีบหน่อยแล้วกันนะพี่นะ ไม่ถือว่าแตะอั๋งเน้อ ผมแค่ยืมอะ เหมือนพี่ยืมจักรยานผมนั่นแหละ

รู้ตัวอีกทีก็ตอนพี่มันจอดจักยานเข้าที่เรียบร้อยแล้วขยับตัวนั่นแหละ ผมสลึมสลือ ปรือตามองรอบด้าน เย้...ใกล้ถึงที่นอนแล้วล่ะ ที่นอนจ๋า รอข้าก่อนนะ ข้ากับความรักกำลังทยานขึ้นไปหาเจ้าด้วยความคิดถึงอันแรงกล้า

“น้ำลายไหลใส่เสื้อกูปะเนี่ย” หมดมู้ดเลย...เซ็ง

“ไม่ไหลหรอกหน่า”

“แน่ใจนะ ถ้าขึ้นห้องไปเจอคราบน้ำลายกูเอาคืนมึงแน่ เตรียมค่าซักรีดไว้ได้เลยล่ะ” ทำไมต้องดุอีกแล้วล่ะ ดุแอนด์ขู่กูตลอดเลยพี่

“คร้าบๆ” ผมจัดการล็อกรถจักรยานของตัวเอง พี่มะเดี่ยวสะพายกระเป๋าตัวเอง อุ้มความรักเดินนำไปที่ลิฟต์ ผมก็ต้องเดินตาม ดีที่วันนี้ผมไม่ได้ถือกระเป๋าให้พี่เขา ไม่งั้นกลายเป็นเบ๊จริงๆ ไม่ต้องสงสัยเลยล่ะครับ

ระหว่างรอลิฟต์และเข้าไปยืนในลิฟต์ ผมโครงหัวตลอดเวลา เป็นพวกยืนนิ่งๆ แล้วมันแปลกๆ ยังไงไม่รู้ ปกติจะยืนเล่นกับความรัก ทว่าวันนี้ผมไม่ได้เล่นกับมัน ไม่ได้อุ้มมัน ความรักกำลังทำคะแนนกับพี่มะเดี่ยวอยู่ มันคงอยากไปเป็นลูกเขาเต็มแก่แล้วแต่พูดกับผมไม่ได้เท่านั้นเอง

“จะนอนเลยใช่ไหม” มาถึงหน้าห้อง แทนที่จะคืนหมูให้กลับตั้งคำถามผมแทน ผมก็พยักหน้าสิครับ ผมง่วงอะ ผมต้องการการพักผ่อน

“ครับ”

“งั้นเอาความรักไว้ที่กูก่อนแล้วกัน มึงจะได้นอนหลับสบายๆ โอเคนะ...”

“อ่า...”

ปัง!

ครับ...ตามนั้นครับพี่ครับ ผมยังไงก็ได้ เอาที่พี่มึงสบายใจเลยอะครับ คนบ้าอะไร ถามกูแต่ไม่ฟังความเห็นกูเลย อนุญาตแล้วก็ยังไม่ได้พูดสักคำ อุ้มหมูชาวบ้านเขาเข้าห้องตัวเองหน้าด้านๆ โอ้โห...ผมละอยากจะด่าให้เสียคน ติดที่ว่าผมเป็นสุภาพชน ผมเลยไม่ด่าใคร

ที่สำคัญ เดอะสามคนนี้ง่วงครับ!

แต่ถึงจะง่วงแค่ไหน ผมก็ต้องอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อยก่อนที่จะเข้าไปนอน ล้มตัวลงที่นอนทั้งที่หัวยังเปียก แต่ว่านะ...น้ำเย็นๆ นี่มันทำตาผมสว่างเลยวะ ผมหยิบมือถือมาเล่นอะไรนิดหน่อยเพราะไม่ง่วงเท่าตอนแรก แล้วก็ต้องได้พบกับข้อความในไลน์ เด้งรัวๆ ดีนะมือถือแพงมันเลยไม่ค้าง

“บ๊ะ....เดอะสามดังแล้วบ่หนิ” วิ่งเอาลิ้งก์หนึ่งมาให้ดู พอกดเข้าไปก็เจอกับภาพของผมคุกเข่าเอาดอกเข็มให้พี่มะเดี่ยว ท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย พร้อมข้อความี่ว่า เดี๋ยวนี้ผู้ชายเขาขอความรักกันด้วยดอกเข็มนะรู้ยัง

ไม่รู้...เพิ่งรู้ตอนนี้เลย ผมเป็นคนติดเกม แต่ไม่ติดโซเชียลเท่าไหร่ วิ่งแชร์มาให้ตั้งแต่เมื่อวาน มัวแต่เคลียด่านคอลออฟดิวตี้อยู่ก็เลยไม่ได้เข้ามาอ่าน มีคนมาเมนต์เป็นจำนวนมากมายมหาศาล พร้อมถามหาเฟซบุ๊กของผมและพี่มะเดี่ยวกันให้ขวัก

หาทำไม เอาไปก็กินไม่ได้นะเฮ้ย แล้วดูผู้หญิงสมัยนี้เขาเมนต์ ผมตาเหลือกตาลาน ประหนึ่งเป็นคนมาจากอดีตกาล มาเจอคนยุคปัจจุบันแล้วเซ้นซิทีฟ เดอะสามรับไม่ด้ายยยย เดอะสามไม่ปลื้มที่เหล่านางน้อยคอมเมนต์อยากเลียผู้ชายแบบเน้!

ถึงบอกว่าไม่มีอะไรเสียหายที่เขาเอามาแชร์กันอย่างนั้น แต่ผมสะเทือนใจกับคอมเมนต์พวกนั้นอ่า หนูๆ ไม่เอาไม่เมนต์อยากกินผู้ชายแบบนั้นสิ...เกิดความรักผมเป็นแบบนี้นะ ผมจะตีมันให้ตายเลย เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ต้องรักนวลสงวนตัว ไม่ใช่พูดจงพูดจาล่อเสือล่อตะเข้แบบน้านนะ

แล้วยังมีพวกที่อวยคู่ผมกับพี่มะเดี่ยวกันเป็นตุเป็นตะอีก อะไรนะ...มาค่ะ มาลงเรือลำเดียวกับเรา อันนี้คืออะไรผมไม่เห็นจะเข้าใจเลย จะลงเรือไปไหน ลงเรือต้องไปท่าน้ำนะรู้ยัง ลงเรือในเฟซบุ๊กไม่ได้หรอก พยายามไขข้อข้องใจของตัวเอง จนรู้ว่า...ลงเรือหมายถึงมโนเรื่องคู่นี้ เขาต้องเป็นแฟนกัน เขาต้องรักกัน เราจะพายเรือลำนี้ไปให้ถึงฝั่งฝันด้วยกัน!

ผมแม่งนอนอ่านทุกคอมเมนต์ อ่านจนตาลาย อ่านจนกระทั่ง...หลับไป

.....100%.....

มีการดูแลความรักแทนกันด้วย~ เอ็นดูหมูหรือเอ็นหชดูเจ้าของหมูคะพี่มะเดี่ยว?

อ่านแล้วคอมเมนต์ให้เค้าหน่อนน้า ^^
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 8 [100%]❤️ -02/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 02-10-2017 22:53:35
ลงเรือด้วยคนสิคะ -///-
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 8 [100%]❤️ -02/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-10-2017 02:29:02
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 8 [100%]❤️ -02/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-10-2017 08:13:37
เดอะสามสายเกรียนอ่ะ 55555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 8 [100%]❤️ -02/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-10-2017 08:54:06
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 8 [100%]❤️ -02/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 03-10-2017 11:42:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 8 [100%]❤️ -02/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Tipin ที่ 03-10-2017 20:09:07
พึ่งได้อ่านเรื่องนี้ สนุกกกกกกกกกกกก
สามน่ารัก ความรักก็อ้อร้อจริง ๆ อีหมูนี่
 
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 9 [100%]❤️ -04/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 04-10-2017 20:30:53
>>ตอนที่ 9 [100%]<<

พี่มะเดี่ยวเอาความรักมาส่งผมตอนสองทุ่มได้มั้ง เขารีบเอามาให้แล้วก็ออกไปข้างนอก เห็นว่ามีธุระต้องไปทำ ที่จริงไม่ต้องบอกผมก็ได้แหละ การที่พี่เอาความรักมาคืนผมตอนสองทุ่มก็ถือว่าดึกมากแล้วสำหรับการเอาลูกคนอื่นไป ผมก็รับมาเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร แค่ครับๆ จบ หนีเข้าห้องนอนต่อ ข้าวเย็นเหรอ...ช่างมันเหอะ ความรักกินแล้วผมก็สบายใจ ปล่อยมันวิ่งเล่นในห้องไป มันง่วงเมื่อไหร่มันก็จะหนีขึ้นมาซุกนอนบนเตียงกับผมเองแหละ

วันอาทิตย์ผมก็ไปช่วยงานที่ร้านน้าบอยเช่นเคย ความรักตามติดผมเป็นเงาเลยครับวันนี้ ไม่รู้อารมณ์ไหนของมัน ผมเดินไปทางไหน ก็เดินตาม ผมจะถูพื้นก็ยังจะเดินตาม เสิร์ฟน้ำก็เดินตาม เช็ดโต๊ะก็เดินตาม คนที่เห็นพากนเอ็นดูมันเป็นแถว ดูเป็นหมูแสนรู้ที่พยายามจะช่วยเจ้าของทำงานร้าน แต่ผมคิดว่ามันกำลังทำเหมือนตัวเองเป็นเจ้านายที่คอยจับตาดูลูกน้องทำงานมากกว่า

ผมอยู่ช่วยงานน้าบอยตั้งแต่เปิดจนกระทั่งปิดร้าน วันนี้ไม่เห็นพี่มะเดี่ยวมาที่ร้านเหมือนเมื่อวาน ถ้าไม่กินกาแฟบนห้องก็กินใต้คอนโด หรือไม่ก็หลับเป็นตายอยู่ ขนาดกลับมาที่คอนโดแล้ว ผมก็ยังไม่เจอเขา

เอ้า...ไปเจอได้ไง เขาอยู่คนละห้องกับผมนะเอ้อ

คืนนี้ผมไม่ง่วงเท่าเมื่อวาน พออาบน้ำอาบท่าเสร็จผมก็นั่งจ๋องอยู่หน้าคอมพ์ทันที ไอ้เรื่องราวในโซเชียลนั่นน่ะ ผมไม่สนใจแล้ว...เพื่อนผมแซ็วจนผมหน้าบางไปหมด มันก็รู้ทั้งรู้อะนะว่าผมโดนแกล้ง ก็ยังจะมาแกล้งผมซ้ำเติมไปอีก ผมเลยตัดปัญหาด้วยการทำตัวเงียบๆ ไม่ตอบโต้อะไร ไม่โพสต์อะไรและไม่เล่นอะไรโซเชียลเลยครับ เล่นเกมในคอมพ์แทน อิอิ

ก๊อกๆ!

ขณะกำลังคิลศัครูมันๆ ประตูห้องโดนใครบางคนมาเคาะเอาในเวลาอย่างนี้ โอ้ย...ผมละอยากจะด่าจริงๆ ว่ามากวนคนอื่นเขาทำไม นี่ถ้าไม่มีธุระอะไรพีคๆ นะ พ่อจะเตะเปรี๊ยงก่อนจะจับทุ่มพื้นให้พื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ เลย

“คร้าบ...” ส่งเสียงเสร็จก็เปิดประตู พลันนึกขึ้นได้ว่าแม่ห้ามเปิดประตูให้คนแปลกหน้า ชิบล่ะ...กูลืม!!!

“นอนยัง ซื้อของกินมาเผื่อ...” เงยหน้านิดๆ มองพี่มะเดี่ยว ก่อนจะลดสายตาลงมามองผักในมือพี่ท่าน...

“เผื่อความรัก” แล้วแกก็ยิ้มหวาน

“อ่า...” ไม่ทันได้หันไปมองหาความรัก เจ้าหมูอ้วนตัวสองสีก็วิ่งดุ๊กๆ ออกมาคลอเคลียที่ขาพี่เขา แหม...รู้ดีนักนะมึงเนี่ย

พี่มะเดี่ยวก้มลงไปอุ้มไอ้ความรัก ไม่วายยัดเอาถุงผักใส่มือผมอีกต่างหาก ผมไม่ใช่เบ๊นะเนี่ย ได้แต่ส่งสายตาจิกกัดไปให้ความรัก ตอนนี้มันกำลังโดนพี่มะเดี่ยวคลอเคลียอยู่ แต่คลอเคลียอีท่าไหนไม่รู้ถึงเดินเข้ามาในห้องของผมได้หน้าตาเฉยเลย ไอ้ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง ไม่มีเหตุผลมากพอที่จะไล่พี่เขาออกไปจากห้องด้วย

“ในนั้นมีถุงก๋วยเตี๋ยวอยู่ เอาไปแกะใส่ชามมาสิไป” มีออกคำสั่งโดยไม่มองหน้า นี่ถือโอกาสมาใช้งานผมถึงที่ห้องหรืออย่างไรครับท่านพี่ เราเป็นแค่พี่น้องในชมรมกันเองนะขราบพ่วงด้วยพี่สนิทกันน้าผมเท่านั้นเอ๊ง....

“ครับ” แต่ผมก็ขานรับออกไป

มันเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำใสที่มีแต่ลูกชิ้นปลา ผมพยายามพลิกถุงดูซ้ายขวาแล้วนะ ก็พบเจอแต่ลูกชิ้นปลา เส้น ผัก แค่เนี้ย เขาสั่งมาสองถุง ทั้งสองแม่งเหมือนกันเดี้ยะเลย คือพี่มึง...พี่มึงจะไม่คิดสั่งหมูให้กูเหรอ เอ๊ะ...เขาไม่ได้บอกว่าซื้อมาให้ผมนี่หว่า เออ งั้นนี่ก็ของพี่เขาคนเดียวสิเนอะ โอ้โห...ดีเหลือเกิน มากินห้องคนอื่น ใช้ถ้วยชามคนอื่นแล้วคนอื่นต้องมาล้างให้อย่างแน่นอน

“อ่าว ไมเอามาชามเดียวล่ะ มึงไม่กินเหรอ” ทันทีที่วางชามลงตรงหน้า พี่มะเดี่ยวก็ยิงคำถามใส่

“นั่นของผมเหรอ”

“เออดิ ซื้อมาเผื่อมึงด้วย ใช่...กูไม่ได้ถามเลยว่ามึงกินไรยัง แต่ช่างเหอะ กินๆ ไปซะ ไปเอาอีกถุงใส่ชามมากินกับกูเนี่ย” พูดเอง เออเองเสร็จสรรพเลยเว้ยเฮ้ยคนเรา

“พรุ่งนี้อย่าลืมเอาเสื้อกับรองเท้าไปเปลี่ยน หรือจะใส่คู่เน่าๆ ของมึงซ้อมเต้นก็ได้นะ แต่กูไม่แนะนำให้มึงใส่ รองเท้าคอนเวิร์สมันแข็ง เจ็บตีน” พี่มะเดี่ยวพูดทั้งที่ผมยังเทก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว มันไม่ได้ไกลกันไง มองมาก็เห็นกันได้

“เอาจริงดิ ผมไม่รอดหรอก”

“ไม่ลองไม่รู้เว้ย ออมมันสอนเก่ง ไม่ต้องห่วงหรอก เริ่มเต้นไม่มีใครเขาให้มึงหมุนหัวตีลังกาหรอกหน่า กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง ผู้ชายซะเปล่า” เขาก็พูดๆ ไป ผมนี่มองก๋วยเตี๋ยวในชาม...ทำไมไม่มีหมูวะ หันไปมองความรัก ตอนนี้มันกำลังกินกล้วยอยู่บนตักพี่มะเดี่ยว ส่วนพี่เขาปรุงเตี๋ยวอยู่

“ครับๆ” ตอบผ่านๆ ใช่...ให้มันผ่านเลยไปนั่นแหละ นี่ผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำนะว่าพรุ่งนี้ถึงเวลาที่ต้องซ้อมเต้นกับพวกเขาแล้ว แถมยังมีคุณพี่ที่เต้นโหดมาอยู่ห้องข้างๆ นักเต้นด้วยกันน่าจะชอบ แต่ผมไม่ชอบเท่าไหร่เลย ไม่ได้ว่าพี่มะเดี่ยวนะ...ผมกลัวโดนแกล้ง

ในหัวผมมีแค่เรื่องนั้นแหละ อะไรก็ได้...แค่พี่เขาไม่แกล้งผม ผมยอมหมดเลย หนีพี่หนึ่งพี่สองมาแล้วอย่าต้องมาเจอพี่มะเดี่ยวแกล้งกันเลยเถอะ อยู่นั่นแม่ยังคอยเข้าข้าง อยู่นี่ไม่รู้จะให้ใครมาเข้าข้างผมดี เพื่อนแต่ละคนก็ช่วยกันทับถมซ้ำเติมผมสุดๆ จากการที่ผมและพี่เขาโด่งดังในเพจสาววาย

“มึงเห็นที่เขาแชร์ภาพมึงขอความรักจากกูยัง โคตรน่ารัก...คนถ่ายนี่เก่งมากเลย เดี๋ยวกูจะไปขอรูปจากเขา เอามาอัดเป็นโปสเตอร์แปะไว้ที่หน้าประตูห้อง เวลามึงเดินเข้าเดินออกมึงจะได้เห็นภาพที่ตัวเองคุกเข่าขอความรักจากกู ดีปะ...” กูรู้เว้ย ว่าพี่มึงกำลังแกล้งกันอยู่ ผมส่ายหน้าเบาๆ ส่ายแรงไม่ได้เดี๋ยวก๋วยเตี๋ยวหกใส่ตรีน

“จ้องแต่จะหาเรื่องแกล้งผม” บ่นลอยๆ ไม่ได้จงใจให้ใครได้ยินเลยนะ จริงๆ นะไม่เชื่อผมเหรอ   

“ฮ่าๆ ก็มึงน่าแกล้ง แล้วนั่นจะไม่ปรุงเหรอ” เห็นผมตักลูกชิ้นปลาเข้าปากก็เอ่ยถาม พี่ไม่ต้องซอกแซกเรื่องผมก็ได้เถอะ

“ไม่อะพี่ แต่พี่น่าจะซื้อเตี๋ยวหมูให้ผมนะ” ผมไม่ชอบลูกชิ้นปลาเลยอะ กลิ่นมันคาว แหวะ...

“หัดกินปลาบ้างมึงอะ กินแต่หมู หน้าเหมือนหมูไปหมดแล้ว” ก็ไม่ซีเรียสที่หน้าเหมือนหมูไง ถ้าซีเรียสจะกินทำไมละจริงไหม เอ้อ

“ไก่ก็ได้ ไม่ชอบปลา” ปลาที่ผมกินได้มีแค่ปลากระป๋องตราโรซ่าเท่านั้น มันไม่เหม็นคาวอะ แต่ถ้าเจอสามแม่ครัวผมบายเลย แม่งมีเกร็ด โอ้โห...คอดเกร็ดให้กูหน่อยคร้าบ

“ทำไมวะ คงไม่ใช่ที่บ้านทำฟาร์มปลานะ เลยไม่กินปลา” ผมส่ายหัว

“เปล่า มันคาว”

“อ่อ” แล้วแกก็กระซวกก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงเสร็จแล้ว

ความรักมันเดินไปเดินมาบนโซฟา หาของกินอีกละสิ กล้วยลูกเดียวมันจะไปพอยาไส้มันที่ไหนละจริงไหม ผมเลยวางถ้วย เดินไปเอาแอปเปิ้ลผ่าครึ่งมาให้มันอีกสองลูก ใส่จานพลาสติกสีเขียวพร้อม พี่มะเดี่ยวก็มองเงียบๆ อะแหละ ไม่ได้พูดอะไร มาเพื่อกินข้าวกับหมูโดยเฉพาะ

“อิ่มล่ะ ฝากล้างด้วย กูไปแล้วนะความรัก...รักวังโดนแดกละมึง” น่าน! กูว่าแล้ว...มากินห้องเขา มาใช้ถ้วยชามเขาและก็ให้เขาล้างให้ ถึงจะเอาก๋วยเตี๋ยวมาให้ผมตั้งถุงหนึ่งแต่ผมไม่สำนึกในบุญคุณบ้าบอหรอกนะ นี่มันทรมานผมชัดๆ ต่างหาก ต้องมากินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่มีกลิ่นคาว

“ครับ” บ่นในใจเป็นร้อย แต่พูดได้แค่นั้นแหละ แฮ่ๆ เดอะสามขี้ป๊อดด้วยนะรู้ไว้ซะ

ความรักมันหยุดกิน กระโดดลงพื้นเดินนำพี่มะเดี่ยวไปที่ประตู เป็นไงล่ะลูกชายผม...ดูแลแขกดีซะ แค่เขาไม่กินเผ่าพันธุ์มึงหน่อยนี่มึงก็ดูจะรักจะหลงเขาเหลือเกินนะ พี่มะเดี่ยวก้มเล่นกับหมูผมนิดหน่อยก่อนเปิดประตูแล้วโบกมือให้ความรัก ซึ่งมันก็ยังดีที่ไม่ออกไปข้างนอกกับเขา แค่นั่งรอส่งเขาเท่านั้น

“มาที่มึงได้แล้วความรัก” เมื่อประตูถูกปิดด้วยฝีมือพี่มะเดี่ยวผมก็เรียกความรักกลับมานั่งที่ตัวเองทันที

ซึ่งที่ของมันก็คือบนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา ผมขยับเอาจานแอปเปิ้ลมาวางให้ เลื่อนชามเหลือแต่น้ำซุปของพี่มะเดี่ยวมาวางฝั่งนี้ เดี๋ยวความรักมันจะเผลอไปกิน ผมกลัวหมูตัวเองท้องเสีย ถึงจะหมั่นไส้อยากให้มันลองท้องเสียสักทีก็เหอะ แม่ง...หมูอะไรรู้ดีจริง

“ดูระริกระรี้กับพี่เขาจังนะมึงเนี่ย นี่กูยังเป็นป๊ามึงอยู่ไหมหือ” จิ้มหัวหมูสองทีจึ้กๆ

“อู๊ดๆ” มีการสบัดหน้าหนีมือ

“นี่แหนะ” เลยโขกหัวเจ้าความรักเบาๆ ไปหนึ่งดอก มันเงยหน้ามองตาขวาง

“จะหือกับป๊าเหรอความรัก เออจริงเปล่า...นอนพื้นนะไม่ต้องมานอนข้างป๊าเลยนะ แล้วป๊าก็จะไม่เอาแอปเปิ้ลมาให้กินแล้วด้วย ซื้อผักที่ทิ้งตามตลาดมาให้กินน่ะเอาไหม...เอาเปล่า” ขู่หมูเป็นวักเป็นเวร มีใครทำอย่างผมบ้าง...ต้องมีสิเนอะ ทุกคนต้องมีโมเมนต์ขู่สัตว์เลี้ยงตัวเองแบบนี้แน่นอน

ความรักส่งเสียงร้องอู้ดๆ พร้อมเดินเข้ามาเอาจมูกดุนมือผมไปวางบนหัวตัวเอง ทีงี้ละอ้อน ทีงี้ละทำเป็นตัวน่ารักขึ้นมาเชียวนะ เคยได้ยินเขาบอกว่าหมูสายพันธ์นี้ฉลาด มารู้ว่าจริงก็ตอนได้อยู่กับมันเนี่ยแหละ...มึงหมูหรือหมา เอ๊ะ หรือเป็นหมาที่เหมือนหมู

“ไปกินของตัวเองให้หมดเลย แล้วอย่าเถียงอีก ดุต้องนิ่งเฉย...ฟังและทำตาม โอเคไหม พยักหน้าสิโอเคไหม” ความรักพยักหน้าเบาๆ เอ้อ...ให้มันได้อย่างนี้ ให้มันฉลาดหลักแหลมแบบนี้สิลูกพ่อ

ผมก้มไปจุ้บหน้าผากมันหนึ่งที ปล่อยให้มันกลับไปกินแอปเปิ้ลที่เจ้าตัวชอบให้หมด ส่วนผมเองก็ต้องกินก๋วยเตี๋ยวชามนี้ให้หมดเช่นกัน เห็นชามเปล่าด้านข้างแล้วมีอาการขัดใจนิดหน่อย พ่วงด้วยความหมั่นไส้ขึ้นอีกนิด พี่มันกวนตีนผมดีจริงๆ...แต่ก็...ไม่รู้สิ

เป็นความรู้สึกหมั่นไส้ที่ชวนยิ้มอะ...

แล้วก็ไม่รู้อะไรดลจิตดลใจ ผมดันหยิบมือถือขึ้นมาโพสต์ข้อความลงไป เป็นข้อความสั้นๆ ที่น่าจะตีความยากนะ...โพสต์ลอยโคตรๆ อะว่า...ใต้ความกวนตีนมีความน่ารัก เสร็จแล้วก็วางมันทิ้งไว้ กินก๋วยเตี๋ยวของตัวเองให้เรียบร้อย จากนั้นก็เก็บกวาดทำความสะอาดทุกสิ่งทุกอย่าง เผื่อการเล่นเกมของผมจะได้ราบรื่นไม่มีอุปสรรคใดมาขวางกั้น ความรักนี่ไม่ต้องห่วง มันชอบมานอนเล่นอยู่บนตักผมเสมอ

ชีวิตหมูอะครับ...กินกับนอน

ช่วงเวลาเล่นเกมคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด ผมว่ามันคือไทม์แมชชีนที่มีไว้ใช้นั่งไปอนาคต ยังไงน่ะเหรอ ก็แค่นั่งลงเล่น แป็บเดียวมันก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้วน่ะสิครับ อย่างตอนนี้...เที่ยงคืนกว่า อุต๊ะ! ผมจำได้ว่าเพิ่งเล่นเองไม่ใช่เหรอ ตายๆ พรุ่งนี้ไม่ต้องตงไม่ต้องตื่นไปเรียนกันละม้างงงง

“ความรักไปนอนกัน” ได้ข่าวว่ามันก็นอนอยู่นะ

ผมสะกิดความรักเบาๆ ให้มันลุกขึ้น ปิดคอมพ์เสร็จเดินเข้าห้อง คือผมไม่ได้เปิดไฟเล่นเกมอะ แต่ก็ไม่ลืมตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนนอนหรอกนะ ล้มตัวลงนอนได้ความรักก็รีบมุดมานอนที่อกผมทันที

“ฝันดีล่ะมึง” จุ้บหน้าผากสากๆ ของมันหนึ่งทีด้วยความเอ็นดู

“อู๊ด...” ด้วยความมโนล้วนๆ ผมคิดว่ามันบอกฝันดีผมเช่นกัน ฮ่าๆ

ช่วงเวลาตัดวาบมาถึงอีกครั้ง ผมสะดุ้งตื่นเมื่อเสียงมือถือดังลั่นหู ด้วยความที่เดอะสามคนนี้กลัวนอนยาวไม่ตื่น ก็เลยเอามือถือมาวางปลุกใกล้ๆ อย่างนี้ แล้วเป็นไง...ขี้หูเต้นแต่เช้าเลย แม้กระทั่งไอ้ความรัก มันก็สะดุ้งเพราะผมเนี่ยแหละ

ผมเดินเอื่อยๆ ออกมาเอามื้อเช้าให้ความรักก่อนจะอาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนชุดนักศึกษาอย่างถูกระเบียบ ต้องเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เดอะสามไม่หล่อมากแต่น่าแดกนะครับ ฮุ่ย...หยาบคาย อ้อที่ลืมไม่ได้เลยคือผมต้องเอาเสื้อยืดไปเปลี่ยนด้วย กางเกงนี่ใส่ยีนส์สีดำ ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่เหมาะเท่าไหร่หรอกนะ ควรใส่สแล็กมากกว่า ดีที่ทางมหาลัยไม่เข้มงวดขนาดนั้น แค่เป็นสีดำถือว่าโอเค ส่วนรองเท้า...ไอ้เน่าคู่เดิม

ผมไม่มีรองเท้าเยอะแบบนั้น ไม่ได้จะเต้นด้วยเลยไม่ได้เตรียมความพร้อมอะไรสักอย่างในชีวิต มีความพร้อมสุดๆ ด้านเดียว คือเลี้ยงลูกหมูตัวนี้ให้เจริญเติบโตพร้อมเข้าโรงเชือด เอิ้กๆ ล้อเล่น...พูดให้พี่มะเดี่ยวได้ยินไม่ได้เลยเนี่ย มีหวังโดนแกล้งยันความรักบวช

ก็ถ้ามันบวชได้อะนะ...

ผมเอาความรักไปฝากน้าบอยแต่เช้า พร้อมเอาของกินและของใช้อื่นๆ ด้วย เหมือนเอาลูกมาเข้าเนิร์สเซอร์รี่อะครับ อะไรๆ มันก็ต้องพร้อมนิดหนึ่ง ไม่งั้นมันจะสร้างความเดือดร้อนให้น้า ไหนๆ น้าก็ดูแลความรักให้ผมฟรีแล้ว

ปั่นจักรยานสีเขียวเชยๆ เข้ามาจอดใต้คณะ ข้างๆ กันที่ประจำมีรถของวิ่งกับพีช พวกนี้สายส่องสาว มันเลยชอบมาเช้าๆ คณะเราผู้หญิงเรียนเยอะกว่าผู้ชายมากทีเดียว ผมตรงไปที่โต๊ะประจำใกล้ถังขยะ ดี๊ดี นั่งดมกลิ่นหอมชื่นจายแบบนี้แทบทุกวัน ดีนะที่กลิ่นมันไม่แรงมาก

“ไง...เดอะสามคนดัง” ดังบ้านมึงสิวิ่ง กูไม่ได้เปิดลำโพงติดกับตัวนะ

“โพสต์เมื่อคืนนี่เหมือนมีความนัยซ่อนอยู่...” พีชหรี่ตาจับผิด แต่อย่าคิดว่าเดอะสามคนนี้จะสะทกสะท้าน ความมึนเอาชนะทุกสิ่ง อ่อ...ยกเว้นตีน

“หิววะ...หาไรกินแป๊บ” วางกระเป๋าได้ผมก็ชิ่งก่อน ตรงไปยังร้านขายข้าวขาหมู สั่งมาเลยเน้นหมูพูนๆ หนึ่งจานถ้วน

“ไม่ต้องมาตีมึนเลยมึง โพสต์นั้นหมายถึงใคร”

“ถึง...” วิ่งไม่ยอมจบ มาถึงก็ซักต่อ ผมเลยลยทิ้งคำยาวๆ เพื่อให้พวกมันตั้งใจฟัง

“ถึงอะไรวะ ยึกยักจัง...” กูเพิ่งยึกยักได้สองวิเองสาดวิ่ง

“ถึง...”

“ถึงอีกทีกูโบกหัวทิ่ม” เลว ใช้ความรุนแรงกับกูได้ไง กูเพื่อนมึงนะเนี่ยนะ

“ถึงดินฟ้าอากาศและ...ความรัก” โอ้โห...ติดแฮชแท็กเดอะสามโคตรหล่อรัวๆ!

.....100%....

ถึงดินฟ้า อากาศ และ (___) จงเติมชื่อที่ถูกต้องในช่องว่าง~ อิอิ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 9 [100%]❤️ -04/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 04-10-2017 21:48:31
อยากได้ความรักมาไว้ที่บ้านเลยยยยย :mew3:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 9 [100%]❤️ -04/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-10-2017 00:29:53
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 9 [100%]❤️ -04/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-10-2017 00:38:02
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 9 [100%]❤️ -04/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-10-2017 00:52:39
พี่มะเดี่ยวอยากได้ความรักหรือเจ้าของความรักกันแน่คะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 10 [100%]❤️ -06/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 06-10-2017 20:44:50
>>ตอนที่ 10 [100%]<<

“ความรักหรือพี่มะเดี่ยว จำได้นะว่ามึงกับเขาอยู่ห้องตรงข้ามกันอะ” พีชไม่ต้องมารู้เรื่องกูดีเลย

“เอ้า อยู่ห้องตรงข้ามกันแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันนะมึง” ถูกมะ เพราะงั้นโพสต์ลอยๆ ของผมก็ไม่จำเป็นต้องหมายถึงพี่มัน แม้ว่าความจริงจะเป็นอย่างนั้นก็ตามที

“เหรอ...” วิ่งส่งเสียงกวนตีน

“แน่นอน” ตีหน้ามึนแล้วกินข้าวต่อไม่สนใจเสียงหมูเสียงหมาสองตัว

พีชกับวิ่งพูดแต่เรื่องที่ผมดังในโซเชียล เย้าแหย่กันอยู่นั่น แต่ด้วยความมึนที่มีอยู่เต็มหัวใจ ทำให้ผมเมินพวกมันอย่างสิ้นเชิง ซ้ำยังพูดเรื่องอื่นขึ้นมาดื้อๆ มันถามเรื่องนี้กูตอบเรื่องนั้น เป็นไงล่ะ...ชั้นเชิงชวนกินบาทาเท่ไหม ไม่แน่จริงอย่างเดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาทำไม่ได้นะบอกเลย

เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมพูดเรื่องพวกนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว พวกมันก็ตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุย คราวนี้ผมสามารถร่วมวงสนทนาได้อย่างไม่อิดออด มันไม่เข้าตัวผมแล้วไงล่ะ ผมก็เลยคุยได้ จนกระทั่งเข้าเรียนและเรียนเสร็จในตอนเที่ยง ช่วงเวลาที่เรียน ผมตั้งใจกว่าพวกมันสองตัว เพราะผมต้องการเก็บความรู้ให้ได้มากที่สุด เพื่ออนาคตของผมเอง ผมอยากเป็นครูที่ดี...มีความรู้มากๆ เพื่อป้อนให้เด็กน้อยเหล่านั้น

ตอนบ่ายเรามีเรียนแค่ชั่วโมงเดียว เลิกคลาสเสร็จมุ่งหน้าไปที่ชมรมทันที ยกเว้นผมที่ขอตัวไปหาความรักที่ร้านน้าก่อน เขาไม่บังคับว่าต้องมาเวลานี้เวลานั้นนี่นา เพราะงั้นผมขอไปหาสุดที่รักสักครู่ไม่มีใครตายหรอกเนอะ ถูกไหม

“ไง...คิดถึงป๊าเปล่า” มาถึงผมก็โผเข้ากอดความรักเต็มอ้อมแขน มันก็เอาหน้ามาซุกๆ ไซ้ๆ ที่คอเหมือนคิดถึง...เหมือนน่ะเหมือน มโนเองล้วน

“เดี๋ยวป๊าไปซ้อมเต้น เอามึงไปไม่ได้นะ...รออยู่นี่ เป็นเด็กดีนะเข้าใจไหม” จ้องตาแล้วบอก ความรักจ้องตาตอบแต่ไม่พยักกหน้า

“เข้าใจแล้วพยักหน้าสิ เร็วๆ เลย” มันก็ยังนิ่ง

“พยักหน้าแบบนี้” ทำให้ดู ความรักก็นิ่งอยู่ดี

“ยังอีก...เร็วเดี๋ยวจุ้บแหม่งน้อยหนึ่งที” คราวนี้เอาของมาล่อ มันกลับหันหน้าไปทางอื่น อ่าว....นี่คือไม่ชอบ ไม่อยากให้จุ้บแหม่งมึงใช่ไหมความรัก นี่กูป๊ามึงน้า...มึงจะมาเมินป๊ามึงแบบนี้ไม่ได้

“ไม่งั้นกัดนะ” เอานี่แหละ ขู่ที่แสนจะดุร้าย ความรักหันมามองหน้าผม ดูตาขวางๆ ขึ้นมา แต่มันก็ยอมพยักหน้าให้ ฮ่าๆ...หมูใครนะ แสนรู้จริงๆ

“ดีมาก น่ารักที่สุดเลย...ความรักของใครก็ไม่รู้เนอะ” ลอยหน้าลอยตาใส่หมูตัวเอง เหมือนเป็นคนบ้าที่หลุดออกมาจาโรงพยาบาล หรือไม่ก็ขาดยามาเป็นเวลานาน ท่ามกลางสายตาของผู้คน ผมไม่สนใจใครเลย เอาแต่ฟัดหมูดุ้กดิ้กของตัวเองอย่างมีความสุข

ตัวมันก็ห๊อมมมมหอมอะนะ ดูแลดีก็เงี้ย น่าเย้ายวนไปหมดทุกสัดส่วน ฮ่าๆ ผมไม่ได้โรคจิตอยากตั้มหมูนะเว้ยเฮ้ย อย่าคิดมาก ก็แค่น่าฟัดเล่นด้วยความเอ็นดูเท่านั้นเอง พอชื่นใจแล้วผมก็สั่งโกโก้เย็นหนึ่งแก้ว รับมาดื่มฟรีไม่ยอมเสียตังค์ เดินออกมาจากร้านแบบหน้าด้านๆ

“กินมั้ง” มาถึงก็แย่งกูเลยนะวิ่ง

“อย่าหมดนะมึง กูยังกินไปได้ไม่กี่อึกเอง”

“เออ แค่อึกเดียว...” แล้วมันก็ดูดปื้ดดดดดดด สัตว์ อึกเดียวแต่หมดแก้ว!

“เฮ้ย....ทำอย่างงี้กูได้ไงวะ โอ้ย โกโก้กู โกโก้กู้ววววว” อยากจะทรุดแล้วร้องไห้ให้เหมือนพระเอกเอ็มวีโดนแฟนทิ้ง แต่ไม่ทำ...มันน่าอาย

“ฮ่าๆ รอน้ำแข็งมันละลายเอานะมึงนะ น้ำร้านน้าบอยมึงโคตรอร่อย กูชอบ” มึงชอบแต่ไม่ควรมาแย่งของกูปะวะ นี่ของกูนะ...มันของกูอะ ฮื่อๆ

โอดครวญให้ตายแต่ไม่มีใครเข้าใจมันรู้สึกอย่างไร...เดอะสามผู้นี้รู้ดีเป็นที่สุดเลยขอรับ

“ไอ้วิ่งมันหวังดีกับมึงนะ กลัวมึงกินน้ำเยอะแล้วจะเต้นไม่ได้” เหรอพีช...ใช่เหรอพีช

“ใช่ๆ พีชพูดถูก” มีคนเข้าข้างยิ่งยิ้มแป้นแล้นเข้าไปใหญ่เลยไอ้วิ่ง

“มึงไปซื้อคืนมาให้กูเลย”

“เลิกซ้อมเดี๋ยวซื้อคืนละกันนะ ปะ...เราไปซ้อมกัน พี่ออมรอสอนอยู่นู้นแล้ว พวกกูก็จะไปซ้อมกับพี่โซฮาน” เอาล่ะ ช่วงเวลาแห่งการโดนปล่อยเคว้งคว้างมาถึงแล้ว

“เปลี่ยนเสื้อก่อนนะมึง” พีชทักเมื่อเราสามคนกอดคอกันจะเดินเข้าสู่ฟลอเต้น

และด้วยความเป็นผู้ชายกันหมดเนี่ยแหละครับ ก็เลยถอดเสื้อนักศึกษาออกตรงที่วางกระเป๋า จากนั้นก็รื้อหาเสื้อยืดมาสวม ไม่ต้องไปอายอะไร คนที่นี่ถอดเสื้อเต้นเป็นปกติ วิ่งกับพีชเอาผมมาฝากพี่ออมก่อนจะแยกไปยังที่ของตัวเอง

“ลายเสื้อน่ารักเชียว นี่ใช่เจ้าความรักหรือเปล่าเนี่ย” พี่ออมแกทักขึ้นเมื่อมองลายเสื้อที่ผมสั่งสกรีนมาเป็นพิเศษ

“ใช่ครับพี่ มันน่ารักก็เลยเอามาสกรีน”

“น่ารักจริง แถมหน้าเหมือนเราด้วย” แล้วพี่แกก็ขำ ครับ...ผมรู้ตัวว่าผมหน้าเหมือนหมูฝุดๆ

“แฮ่ๆ” ยิ้มแป้นแล้นใส่

“มะ..อย่างแรกเราจะวอร์มร่างกายก่อน เป็นสิ่งแรกที่เราต้องทำก่อนจะซ้อมเต้นหรือแม้แต่ออกกำลังกายชนิดอื่น ดูจากรูปร่างเรา เราคงไม่ค่อยออกกำลังกายแน่เลยใช่ไหม” ผมวิ่งไล่กับหมาและหมูบ่อยๆ นี่เรียกว่าออกกำลังกายไหม...ไม่สินะ

“ครับ ไม่ค่อยได้ออก”

“งั้นครั้งแรกมันจะเจ็บมาก...” แต่เสียงที่ตอบกลับมากลับเป็นเสียงพี่มะเดี่ยว ผมรีบยกมือไหว้เป็นมารยาทเหมือนกับที่พี่ออมทำ

“นั่นสินะ...ทำบ่อยๆ มันก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ น้องสามก็ไม่ต้องกลัว” ผมไม่กลัวเรื่องเจ็บตอนวอร์มหรอก กลัวเจ็บตอนเต้นมากกว่าอะ

“เดี๋ยวพี่พาวอร์ม พี่ก็เพิ่งมาถึง...” พี่มะเดี่ยวเดินเอากระเป๋าไปวางกองๆ รวมกัน เสร็จแล้วก็เอารองเท้าออกมาเปลี่ยน ปกติแกใส่อีแตะเข้ามาน่ะครับ

“ตายล่ะ...สู้ๆ นะ” พี่ออมโบกมือหย่อยๆ เดินหนีไปไม่รอให้ผมยิงคำถาม ผมก็แค่อยากรู้ว่าผมจะตายยังไงเอง หันไปมองพี่มะเดี่ยว เอ...พี่มันจะแกล้งผมปะวะ!

“อ่าว ไมหน้าซีดแบบนั้นล่ะ กลัวเจ็บเหรอ...พี่จะทำเบาๆ นะไม่ต้องกลัว” รอยยิ้มพี่มึงอะน่ากลัวมาก เหมือนโรคจิตจะจับกูปล้ำเลยพี่ มองซ้ายแลขวา ขอคนอื่นมาช่วยวอร์มได้ไหม ไอ้พวกที่เต้นไม่เป็นก็ไม่เห็นโพล่หัวมา มีผมคนเดียวแบบนี้เศร้าใจมาก

“พี่อย่าแกล้งผมนะ...” ผมบอกเสียงหวาด อ้อนวอนขอร้องเอาไว้ก่อน ทำหน้าตาน่าร้ากกกก น่าสงสารใส่ ผมจะได้รับความเห็นใจ ทว่า...พี่แกกลับหัวเราะหึหึ

“พี่ไม่แกล้ง...” กูเชื่อพี่มึงก็บ้าแล้วเฮ้ย!

“หน้าพี่ไม่น่าเชื่อ”

“ใครๆ เขาก็เชื่อพี่ทั้งนั้น มีเราคนเดียวแหละไม่เชื่อ...นั่งลงมา เรามาวอร์มร่างกายกันดีกว่าเนอะ” ไม่พูดเปล่า ดึงมือผมนั่งกับเขาอีกต่างหาก

เรานั่งตรงข้ามกัน ตาสบตา สายตาก็จ้องมองกัน...เห่อๆ ไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่ พี่เขาหล่อ แต่น่ากลัวอะ พี่มะเดี่ยวเอาหนังยางรัดผมตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะให้ผมนั่งท่าเดียวกับเขา คือนั่งอ้าขา...ครับ อย่าคิดลึก แค่อ้าขากว้างๆ ไปด้านข้างแต่ละด้าน คล้ายๆ จะให้กว้างแบบร้อยแปดสิบองศาอะ แต่คนเคยทำจะรู้ว่า...มันไม่ไหว แม่งเจ็บ ผมทำได้แค่อ้าเลยช่วงไหล่ตัวเองไปหน่อยเดียว คนไม่ค่อยออกกำลังกายก็งี้แหละ

แต่เออ...ผมสะกิดใจไรนิดหน่อย เวลาอยู่ฟลอพี่มะเดี่ยวไม่กูมึงกับผมแหะ

“วันนี้พี่พูดเพราะ...” ผมเปรยเบาๆ พี่เขากำลังลังขยับเข้ามาใกล้ เอาล่ะ...จู่ๆ ความสยองพองขนก็เริ่มจู่โจมผมอย่างรุนแรง

“อยู่ในฟลอเลยต้องเพราะหน่อย หรือชอบให้พูดแบบนี้ตลอด” พี่เขาเอาเท้าตัวเองยันที่ข้อเท้าของผม ข้างละข้าง...งงไหมนั่งอ้าขาชนกัน...หันหน้าเข้าหากัน ไม่ซึ้งเลยบอกตามตรง ยิ่งพี่แกเริ่มถีบขาผมให้อ้าออกอีกผมก็เริ่มหน้าเบ้

“ก็ชอบ...จะจะเจ็บ” ความเจ็บเริ่มมาแล้วมึงเอ้ย...รับรู้ได้เลยว่ากล้ามเนื้อต้นขาด้านในมันกำลังยืดออก โอ้ย...

“ทนหน่อยสิ ไม่ค่อยทำก็แบบนี้ เจ็บไม่นานหรอกนะ...” รอยยิ้มพี่มึงเหมือนฆาตกรมาก พี่มะเดี่ยวดึงมือทั้งสองของผมไปจับไว้ ซ้ำร้ายคือดึงผมเข้าหาตัวเขาในจังหวะที่ขาเขาก็ถีบขาผมอ้าออก

“โอ้ย...พี่ครับ ผมเจ็บ” นี่ค่อยๆ ทำนะ...นี่ไม่ได้รุนแรงเลย แค่ค่อยๆ ถีบขาผมออกทีละน้อยเท่านั้นเอง

“หายใจลึกๆ...” เสียงทุ้มนุ่มดูชวนเคลิ้ม...ซะเมื่อไหร่ล่ะ!!!

“อื้อ...ผมเจ็บอะ...พี่ครับ....” เสียงกระท่อนกระแท่นมากตอนนี้ ผมแทบจะฝุ่บหน้าปล่อยน้ำตาไหล มือดึงขาถีบแบบนี้...ตายกูตาย

“นี่พี่ทำเบาๆ แล้วนะ...เอาหน่า สู้หน่อย ถ้าไม่ทำแบบนี้กล้ามเนื้อเราก็จะไม่ยืดหยุ่น” ไม่เอาไม่ยืดหยุ่นอะไรแล้ว พอทีเถอะ จากกลัวซ้อมเต้นแล้วตาย กลัววอร์มแล้วตายมากกว่าเนี่ยตอนนี้

“อ๊ะ...จะจะเจ็บ เจ็บ...บะเบาพี่ เบาหน่อย” ดึงช่วงตัวเข้าหากันแบบนี้ขายิ่งฉีกสิครับ

“อึ้บทีเดียวเลยนะ”

“จะบ้าเหรอ! มะไม่เอาสิ...ผมเจ็บ นะคร้าบ...ไม่เอาแล้วเจ็บ” หน้าอ้อนวอนในระยะที่ใกล้มาก พี่มะเดี่ยวยิ้มกว้างเต็มแก้ม กูเจ็บจะตายแล้วพี่...ใครให้พี่มีความสุขบนความทุกทรมานของผมกัน

“ก็ได้...ตึงหมดแล้วใช่ไหม” พี่มะเดี่ยวจับมือผมทั้งสองข้างด้วยมือเดียว ส่วนอีกมือเอื้อมมาบีบๆ ที่ต้นขาของผมสลับทั้งสองข้างเพื่อดูว่ากล้ามเนื้อมันตึงแล้วจริงไหม จั้กจี้นิดๆ ปนเจ็บหน่อยๆ

“ตึงแล้ว...จะขาดแล้วเนี่ย”

“เวอร์เหอะ ยืดได้อีกนิดนะ” ตาเหลือกแป๊บ

“ไม่เอา พอก่อน พอก่อน พอก่อนพอก่อนนนน” ระรัวลิ้นพันกัน พี่แกเลยขำออกมา

“พูดเล่นแค่นี้เอง อะ...เอามือซ้ายไปแตะปลายเท้าขวา” พี่มะเดี่ยวปล่อยมือผม ให้ผมทำตามที่เขาบอกโดยยังยันขาผมเอาไว้ ไม่ได้กว้างถึงร้อยแปดสิบองศา น่าจะแค่ร้อยเดียว..แต่เจ็บนี้เท่าไหร่ก็ไม่สามารถระบุได้

ผมพยายามจะเอื้อมมือไปจับปลายเท้า ทว่ามันเจ็บและตึงเปรี๊ยะไปหมด ก็เลยไปไม่ถึง พี่มะเดี่ยวแม่งจัดการกับผมยังไงรู้ไหม...มันจับหลังผมดันไปทางปลายเท้า ผมนี่ร้องจ๊ากลั่นฟลอ ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกูก่อนเล้ยยยย

“ฮึก...เจ็บ” ยืดกลับมานั่งตัวตรง มองหน้าพี่มะเดี่ยวน้ำตาคลอ ไม่เชื่อว่าเจ็บ คุณลองทำดิ...อ่านไปทำไปอะ แน่จริงก็ทำเลย เดอะสามคนจริงขอท้า

“เหวย ขี้แยวะ แค่นี้ร้องห่มร้องไห้ ไม่เอาห้ามร้อง เจ็บแค่นี้ไม่ตาย มาทำต่อ พี่ไม่กดเราละ...เอาเท่าที่ทำได้อะ แตะปลายให้มากที่สุดข้างล่ะสิบครั้ง” จะไม่ว่าอะไรเลย ถ้าพี่มะเดี่ยวไม่หยิกแก้มจนเจ็บไปด้วย

ผมเบ้ปากใส่ แต่ก็ยอมทำตาม พี่มะเดี่ยวไม่กดหลังอย่างที่บอก ให้ผมทำเท่าที่ทำได้ซึ่งแค่เข่าผมก็โอดครวญออกมาเบาๆ แล้ว ร่างกายผมแข็งกระทื่อขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เด็กเรียนคนอื่นเป็นอย่างผมไหม หรือมีผมคนเดียวที่เป็น

พอผมทำครบ พี่มะเดี่ยวก็ให้ผมทำแบบเดียวกันกับพี่เขาบ้าง ด้วยการเอาขาตัวเองไปถีบข้อทั้งสองข้างให้แหวกออก แต่ด้วยขาผมสั้นและพี่มะเดี่ยวขายาว ผมเลยต้องถีบตรงน่องของเขาแทน จากนั้นจับมือหนาๆ ของพี่มะเดี่ยว ดึงเข้าหาตัวเอง กล้ามเนื้อพี่เขามันยืดหยุ่นดีอะ ดึงพรืดเดียวขาแทบฉีกเกือบร้อยแปดสิบองศา ไม่พอ...หน้ายังใกล้จนลมหายใจเราตกกระทบกันอีกต่างหาก

“หน้าใกล้มากเลยเนอะ” ผมอุตส่าห์จะก้มหน้าหนี พี่เขาดันมากระซิบบอกอีก ยอมรับตรงๆ...เขิน

“พี่เงยหน้าสิ เหงยหน้ามองฟ้า” ผมบอก ใจแม่งเต้นระรัวไปหมด ลองมาอยู่ใกล้คนหล่อระยะประชิดแบบผมดูสิ ชายแท้ก็มีหวั่นอะบอกเลย

“ไม่เอา มองหน้าน้องสามดีกว่าเยอะ” หยึย...

“เสี่ยว”

“ฮะ...น้องสามเสียว!” อ๊ากกกกกกก ไอ้พี่มะเดี่ยว พี่จะตะโกนทำมายยยย คนอื่นแม่งหันมามองหมดเลยทีนี้ มันเป็นแค่การวอร์มอัพ แต่พอพี่พูดแบบนี้ในท่าทางแบบนี้ปุ้บ แม่งดูล่อแหลมขึ้นมาทันทีเลยเว้ยพี่

“ฮ่าๆ หน้าเราอย่างตลกอะ น่ารัก” หน้ากูเอ๋อตลกตรงไหน พี่แม่งบ้า ผมหันหน้าหนีไปทางอื่น แต่เสือกต้องสบตาคนรอบด้าน เลยเปลี่ยนมามองต่ำแทน...โอ๊ะ ต่ำกว่าหน้าพี่มะเดี่ยวก็เจอเป้าแหะ

พอ...กูพอล่ะ หลับหูหลับตาไม่มองสิ่งใดอีกต่อไป พี่มะเดี่ยวแม่งก็วอร์มไปขำไป เอาเข้าไปเถิดคนเรา...ผมไม่ใช่แจ๊สชวนชื่นนะ แค่เห็นหน้าก็ขำแล้วอะไรแบบนั้นน่ะ ฮึ้ย...เกลียดความกวนตีนของพี่มันจังโว้ย!

......100%......

หลับตาฟังเสียงไม่มองภาพมันคงแบบ...สยิวพิลึกเนอะ >_<
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 10 [100%]❤️ -06/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-10-2017 22:04:59
นี่ถ้าฟังเสียงอย่างเดียว นี่คิดไปไกลแล้วนะ ฮ่าาาา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 10 [100%]❤️ -06/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 06-10-2017 22:25:13
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 10 [100%]❤️ -06/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-10-2017 22:28:38
ขี้แกล้งอะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 10 [100%]❤️ -06/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 06-10-2017 22:38:40
พี่เริ่มรุกแล้วว หยอดน้องอีกก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 10 [100%]❤️ -06/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-10-2017 03:18:57
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 11 [100%]❤️ -09/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 09-10-2017 22:21:08
>>ตอนที่ 11 [100%]<<

พี่มะเดี่ยวแตะปลายเท้าทั้งสองข้างของตัวเองได้อย่างสบายๆ เห็นแล้วก็ทึ่งอะ เขาคงทำบ่อย ถึงขนาดก้มเอาหน้าผากแตะเข่าตัวเองได้อะ โอ้โห...ขอโอ้โหหลายๆ รอบ ความยืดหยุ่นนี้ท่านได้แต่ใดมาขอรับ กระผมอยากทำได้บ้าง แต่กระผมนั้นกลัวเจ็บเหลือเกิน พอทำท่านี้เสร็จ พี่มะเดี่ยวก็ให้ผมนั่งขัดตะหมาด ทว่ามันไม่เหมือนคนนั่งปกติหรอกนะ เอาฝ่าเท้าทั้งสองข้างชนกัน ทีนี้เข่ามันก็จะลอยอะครับ นึกออกไหม...ไม่ออกให้ทำตามเดอะสามกันนะครับ เอ้าทำ!

“โอ้ยยยยยย” ไอ้แสรสสสสสส พี่มึง...พี่ทำอะไรพี่บอกกูก๊อน เล่นมาใช้สองมือกดเข่าของผมลงชิดพื้นทั้งที่สองมือของผมจับเท้าตัวเองเอาไว้

“ร้องอะไรขนาดนั้นเฮ้ย เจ็บแค่นี้เอง กดหัวลง เอาหัววางไว้บนหลังมือเราอะ” พี่มะเดี่ยวปล่อยมือจากเข่า เขาอ้อมไปด้านหลังให้ดันหัวผมให้กดลงไปที่เท้า ผมก็ทำตามแหละ แล้วใครจะรู้ว่าพี่มันจะกดเข่าผมอีกรอบ

“อ๊า เจ็บบบบบ” เงยหน้าร้องเป็นหมูโดนเชือดเลยสาส

“กล้ามเนื้อเราแข็งมาก หัดออกกำลังกายมั้งนะเรา แค่นี้ทำร้อง” ไม่ว่าเปล่า กดหัวผมลงไปอีก

“ผมเจ็บ...”

“นับหนึ่งถึงสิบ ดังๆ” แม่งไม่ฟังกูเลย

“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ!” กูนับรัวเป็นแร็ปเปอร์เลย

“นับช้าๆ เอาใหม่” พี่คร้าบ...ต้องทำอย่างไรพี่ถึงจะอ่อนโยนกับผม ไม่ทำร้ายผมแบบนี้ ไม่รุนแรงและทำให้ผมเจ็บแบบนี้ละครับพี่ ฮื่อออออ

“หนึ่ง...สอง...สาม...”

“เออ นับแบบนั้นแหละ”

“หก...เจ็ด...แปด...เก้า...สิบ แฮ่กๆ เจ็บอะ...เจ็บ” เงยหน้าได้ก็ครวญครางด้วยความเจ็บปวด

“ทีนี้นั่งเขย่าเข่าให้มันแตะพื้นทุกรอบ” พี่มะเดี่ยวเดินอ้อมมานั่งตรงหน้า เขาทำเหมือนที่ผมทำไปเมื่อกี้ ส่วนผมก็เขย่าเข่าให้โดนพื้นตามที่พี่แกบอก มันไม่เจ็บล่ะครับ...ไม่ได้โดนกดค้างเอาไว้ไง กล้ามเนื้อเลยไม่ตึงจนเกินไป

พี่มะเดี่ยวทำแบบผมโดยไม่ต้องให้ใครมากดเข่า เขาดึงเข้าชิดเป้า จับปลายเท้าตัวเองเอาไว้แล้วโน้มหน้าแตะเท้าได้อย่างสบายๆ นี่คือความต่างของคนทำเป็นประจำกับคนไม่ค่อยทำแบบผมน่ะครับ เขาไม่รู้สึกรู้สาอะไร ในขณะที่ผมร้องโอดโอยมันทุกท่าที่เขาให้ทำ

“หกสูงเป็นไหม...” ถามมาแบบนี้ผมก็ส่ายหน้าสิครับ

“ไม่ครับ”

“ทำอะไรเป็นบ้าง”

“ข้าวไข่เจียว...โอ้ย” หัวลั่นดังแป๊ะ ผมคิดว่าพี่เขาตบหัวผมเบาแล้วแต่มันก็แรงในความรู้สึกของผมอยู่ดี

“งั้นยืนขึ้น แล้วทำท่าหกสูง เดี๋ยวพี่จับขาให้ คิดว่าไม่ต้องบอกนะว่าหกสูงทำยังไง” เออ ไม่ต้องบอก ทำได้เหอะ แค่ทรงตัวไม่ได้เท่านั้น

ผมทำตามพี่มะเดี่ยวบอก กะระยะที่พื้น เอามือวางแล้วเตะขาแรงๆ ดีดตัวให้ตั้งตรงแบบกลับหัวกลับหาง พี่มะเดี่ยวรีบคว้าขาของผมเอาไว้ เกือบร่วงลงไปอีกรอบแล้วด้วยซ้ำ พี่เขาจัดให้ตัวผมตรง

“ทีนี้ก็วิดพื้น”

“ฮะ!!!” ความตกใจนี้ทำเอาเกือบล้มโครมใหญ่

“ทำสิครับ ทำเลย สิบทีปฏิบัติ!” ทำก็ทำ แขนกูสั่นพั่บๆ เลยให้ตาย

วิดพื้นแบบหกสูงหนักหนาสาหัสกว่าการวิดพื้นธรรมดา เพราะมันต้องรับน้ำหนักทั้งตัว ในขณะที่วิดพื้นปกติยังมีขารับน้ำหนักร่วมด้วย อันที่จริงพี่มึงควรให้กูวิดพื้นเหมือนมนุษย์มนาเขานะ ไม่น่าทำแบบนี้อะพูดจริงๆ ผมเริ่มทำได้สามทีแขนก็สั่นพั่บๆ พยายามฝืนต่อไป ดีที่มีคนดึงขาให้ ไม่งั้นผมหน้ากระแทกพื้นแน่นอน

“แฮ่กๆ....แฮ่กๆ...โอ้ย” ครบสิบได้เกือบตาย นี่แค่วอร์ม...บอกตัวเองซ้ำๆ ว่านี่มึงแค่วอร์มนะไอ้สาม

“ด๋อยวะ” ว่าจบ พี่ท่านก็หกสูง ขาตรงแด่วมาก ไม่ต้องมีใครมาจับให้เลย เสร็จก็วิดฮึ้บๆ โอ้มาย...ก๊อด!

คือแบบ...พี่มึงเก่งอยู่แล้วไง จะมองว่าคนไม่เก่ง เต้นไม่เป็นแบบผมด๋อยไม่ได้นะเว้ย เรามันคนละระดับกันอะนะ เพราะงั้นพี่ต้องสำเนียกตัวเองนิดหนึ่ง ว่าเดอะสามคนนี้มีดีแค่หน้าตาดีและน่ารักไปวันๆ เท่านั้น ไม่มีความสามารถอื่นใดเพื่อมาลบความด๋อยของพี่ได้ คำว่าด๋อยนี้นะ...ขอซื้อไปทิ้งมหาสมุทรแปสิฟิกเหอะวะ เอาไปทิ้งไกลๆ แม่งจะได้เอามาใช้กับผมแบบนี้ไม่ได้อีก

“ไม่เห็นเหนื่อย” เออ...พี่มึงไม่เหนื่อย แต่กูเหนื่อยไงพี่ แล้วพี่มะเดี่ยวแกทำยี่สิบครั้งด้วยนะ ไม่ใช่แค่สิบแบบผม

“ก็ผมเหนื่อย”

“ทำบ่อยๆ จะได้ไม่เหนื่อย...เราจะกินกับนอนแบบหมูไม่ได้ คนก็ต้องใช้ชีวิตแบบคน เข้าใจไหม มาทำต่อ...” ยังมีอีกเร้อะ!!!

แต่อย่างอื่น ไม่หนักเท่าตอนแรกแล้ว ให้กระโดดเชือกอากาศหนึ่งร้อยที เสร็จก็ก้มหน้ากอดเข่าตัวเองในท่ายืน แน่นอนว่าผมทำไม่ได้ เจ็บไปหมด เหนื่อยใจจะขาด ร้องไห้ในใจไปหลายรอบ อยากจะกลับไปกอดความรักแล้วโอดครวญให้ความรักฟังว่าพี่มะเดี่ยวของมันทำกับผมอย่างไรบ้าง พี่แม่งนะ...ทำแต่ละอย่างผมเจ็บไปหมดเลย ไม่มีความอ่อนโยน อะไรๆ ก็ใช้แต่ความรุนแรง

“แฮ่ก...เสร็จยังอะ”

“เรียบร้อย ซ้อมเต้นได้” พี่มะเดี่ยวยีหัวผมเบาๆ ผมไม่ได้หลบ ถึงหัวจะยุ่งเป็นรังนกแล้วก็ตาม

พี่มะเดี่ยวตั้งใจจะสอนท่าเต้นเบสิกให้ผม แต่พี่โซฮานเข้ามาตามพี่เขาก่อน พี่ออมจึงเป็นคนเข้ามาสอนผมเต้นด้วยตัวเอง คนที่ไม่มีพื้นฐานแบบผมก็ยังไม่มีใครมาเลยสักคน ผมต้องเผชิญหน้าคนเดียวหรือนี่ โฮ...

“ท่าแรกไม่ยาก เราเรียกกันว่าท็อปร็อกหรือฟุตเวิร์ก กีฬาทุกชนิดมีฟุตเวิร์กทั้งนั้น บีบอยก็ด้วย” พี่ออมอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟุตเวิร์กโดยทำตัวอย่างให้ผมดู อย่างเทควันโด้ก็มีฟุตเวิร์กแบบกระโดดด้วยปลายเท้าไปหน้าหลัง มวยไทยก็มี โดดเบาๆ ด้วยปลายเท้าอะไรงี้ มันทำให้เราสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้รวดเร็ว

“โดดขึ้นนับหนึ่ง แตะปลายเท้าด้านหน้านับสอง” พี่ออมทำตัวอย่าง มันไม่ยากครับ เท้าขวาเราแตะปลายเท้าด้านหน้าเท้าซ้าย เหมือนไขว่กันอะ เวลาแตะปลายเท้าด้านหลังก็ไขว่เหมือนกัน มีทั้งหน้า หลัง ซ้ายและขวา

“มือนี่ยนะ...ปกติคนไม่เป็นพี่จะให้เราทำแบบตายตัว คือนับหนึ่งตอนที่เรากระโดดให้กุมไว้ที่เป้า และพอแตะเท้านับสองให้กางแขนออกเหมือนกางปีกแบบนี้” พยักหน้ารับอย่างเดียวอะตอนนี้ ก็เข้าใจนะ ไม่ยาก ง่ายกว่าที่คิด แต่ทำไม...คนอื่นท็อปร็อกเขาสวยจังเลยเนอะ ต้องเต้นเก่งๆ ก่อนละมั้ง

“มาลองกัน...มันมีจังหวะกลองอยู่ แต่เราทำแบบนับเลขไปก่อน ไว้ชินแล้วจะเริ่มตามจังหวะกลอง” จังหวะกลองคือเพลงบีทที่พวกขาเปิดกันเนี่ยแหละ เท่าที่ฟังและสังเกต มันจะมีจังหวะแบบ ตึก ตึก โป๊ะ กระโดดขึ้นตึก ลงมาอีกทีก็ตึกแล้วแตะเท้าด้าหน้าในจังหวะโป๊ะ...ง่อววววว โคตรหล่อ

“โอ้...ทำตามจังหวะได้นี่ เก่งมาก เอาล่ะ...ทำไปเรื่อยๆ หน้าสองหลังสองแล้วก็ซ้ายขวาอย่างละสอง สลับไปมาอย่างนี้ ให้ลงตามจังหวะเพลง เดี่ยวพี่ไปดูเพลงที่บีทช้ากว่านี้ให้” คงเพราะผมทำได้เข้าจังหวะบ้าง ไม่ทันบ้างนั่นแหละ

ตอนแรกที่เริ่มทำ มันจะเกร็งเก้ๆ กังๆ ไปหมด สักพักผมก็เริ่มปล่อยมือให้ไปตามจังหวะเพลงแบบสบายๆ ดูบ้าง มันไม่ยากเท่าไหร่ แกว่งมือไปแกว่งมือมา ครู่เดียวมันก็ดูจะดีขึ้นมาบ้าง เห็นแว้บๆ ว่าพี่มะเดี่ยวหันมามอง...แต่พี่ออมให้ผมทำ ผมก็ทำต่อไป

และเหมือนจะซื่อไปหน่อย...ทำไม่หยุดถึงแม้มันจะจบเพลงไปแล้วสามเพลง ไอ้แสรส...เหนื่อย ใครว่าฟุตเวิร์กอย่างเดียวไม่เหนื่อยวะเนี่ย เหงื่อโทรมกายไปหมด หอบหายใจทางปาก แต่พี่ให้ทำ ผมก็ทำไง ไม่มีใครบอกให้หยุดกูก็ไม่หยุดอะ ที่จริงเอาท่านี้เป็นท่าวอร์มอัพก็ได้นะเว้ย กูว่าแม่งใช้ได้เหมือนกัน...เหนื่อยเหมือนกัน ไอ้เลวววว

“พอได้แล้วมั้งมึง จะท็อปร็อกเอาโล่เหรอ” โฮ....ในที่สุด วิ่งสุดที่รักก็เดินมาบอกให้ผมหยุด

“พี่ออมให้ทำไปเรื่อยๆ”

“ฟาย เหนื่อยก็พักได้เหอะ นั่งพักก่อน กูไปซื้อน้ำให้”

“โอ้ ขอบพระคุณท่านมากขอรับ” พนมมือไหว้งามๆ หนึ่งที

“ไม่เป็นไร ป๋าเลี้ยงเอง” พูดมาได้ป๋าเลี้ยงเอง มึงกินน้ำกูหมดแก้ว กูจำได้ไม่ลืมเลือนเลยเพื่อนยาก

ไอ้วิ่งไปไอ้พีชมานั่งพักข้างๆ มันเองก็ซ้อมจนเหงื่อท่วมเหมือนกัน พอนั่งลงข้างผม เจ้าตัวก็ถอดเสื้อยืดชุ่มเหงื่อของตัวเองออก แล้วก็เอามือเนี่ยแหละปัดเหงื่อที่ท่วมร่างกายอยู่ออก หุ่นมันดี๊ดี ดีแบบ น่าอิจฉาเลยล่ะครับ

“ทำไมซ้อมคนเดียวเลยวะ ไอ้อีกสองคนไม่เห็นมา”

“ไม่รู้วะ กูก็ไม่เห็นเนี่ยเลยต้องซ้อมคนเดียว แต่แม่งเหนื่อยเหมือนกันเนอะ พวกมึงแม่งบ้าเต้นเข้าไปได้ไงขนาดนั้น กูแค่นี้ก็หอบแล้วเนี่ย” ผมเอาเสื้อตัวเองกระพือพัดให้ความเย็นตัวเอง

“โอ้ย ท็อปร็อกไม่หยุดขนาดมึงกูก็เหนื่อย ขาอ่อนไปแล้วมั้ง เห็นเต้นกันโหดๆ อะ มันก็เต้นๆ หยุดๆ ถ้าทำรัวๆ ไม่หยุดแบบที่มึงทำอะ...มันต้องเหนื่อยอยู่แล้วเว้ย” พีชกอดคอผม...ซะเมื่อไหร่ เอาหน้ามาเสือกไสเสื้อกูซะงั้น จะเช็ดหน้าก็เสื้อตัวเองสิวะ

“สาม!” กำลังจะหันไปบ่นเพื่อนตัวเอง พี่มะเดี่ยวแม่งก็เสือกเรียกเสียงดังจนผมสะดุ้ง

“ครับ”

“มานี่หน่อย” พี่มะเดี่ยวแกนั่งอยู่ที่มุมใกล้ลำโพง มีโต๊ะหินอ่อนตั้งอยู่ พวกรุ่นใหญ่สิงอยู่ตรงนั้นแหละ แต่เมื่อพี่เขาเรียกผมก็ต้องไป พีชโบกมือไล่อีกต่างหาก

เดินเข้าไปใกล้พี่มันก็ให้ผมนั่งที่ม้าหินอ่อน จากนั้นเจ้าตัวหายไปไหนก็ไม่รู้ พี่โซฮานเข้ามาคว้าขวดน้ำบนโต๊ะดื่มอึกๆ เขาดูน่ารักนะ...หน้าหวานๆ ตัวเล็กๆ แต่ตาดุอะ ไม่ค่อยยิ้มให้รุ่นน้องเรื่อยเปื่อยเหมือนพี่มะเดี่ยว

“หิวปะ” หันขวับไปมองคนเรียก หายไปแต่ดันกลับมาพร้อมข้าวเปล่าพูนๆ จานเนี่ยนะ?

“ไม่อะพี่” เพิ่งจะซ้อมได้ไม่เท่าไหร่ มื้อเที่ยงก็ยัดไปแล้ว ไม่หิวเลยล่ะ นอกจากน้ำตอนนี้ผมไม่ต้องการสิ่งใดทั้งสิ้น

“อ่อ หิว งั้นกินกัน...” เดี๋ยว...หูพี่มึงยังดีอยู่ไหม

“มึงยังไม่กินข้าวเหรอวะ” พี่โซฮานถามเพื่อนตัวเอง พี่มะเดี่ยวส่ายหน้า เขาเอากับข้าวที่ผมสงสัยอยู่สักพักแล้วว่าเขาจะกินกับอะไรวางลงบนโต๊ะ

ปลากระป๋อง...

“ปลากระป๋องไม่คาว กินได้ไม่ตาย เชื่อพี่ มะ...กินกัน เอาช้อนมาเผื่อด้วยนะเนี่ย” เออ เห็นแล้วล่ะว่าเอาช้อนมาสองคัน

“ไม่เป็นไรพี่ ผมไปซื้อกินเอาก็ได้”

“รวยว่างั้น พ่อแม่เลี้ยงดีเนอะ...เอาหน่า กินเหอะ ประหยัดไปอีกมื้อ” เอ้า...มีว่ากระทบกระเทียบกันอีก ผมไม่อยากกินกับพี่เขาอะ เกรงใจ ไม่อยากแย่งคนตัวใหญ่กิน อีกอย่าง...นั่นปลากระป๋อง มันไม่แย่เท่าลูกชิ้นปลาหรือปลาชิ้น แต่เลี่ยงได้ก็ไม่อยากกินอะนะ

“เป็นรุ่นน้องก็อย่าดื้อกับรุ่นพี่ เข้าใจไหมครับน้องสาม” พี่มะเดี่ยวนั่งข้างๆ แกยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วพูดเสียงต่ำข่มขู่

“เอ้า...อย่าแกล้งน้องสิวะ” ดีมากพี่โซฮาน พี่ควรปกป้องผมอย่างนั้นแหละ เพื่อนพี่จ้องแต่จะแกล้งผม ทำไมก็ไม่รู้...แค่เรื่องจะกินหมูที่เลี้ยงไว้เท่านั้นเอง

“เออหน่า มะ...กิน”

“ครับ” โอดครวญได้แค่ในใจเท่านั้นแหละไอ้สามคนนี้น่ะ สุดท้ายก็ต้องนั่งกินข้าวกับปลากระป๋องยี่ห้องโรซ่า แถมผักสามสี เห่อๆ...วิตามินในนี้มีน้อยมาก น้อยจนแทบไม่เรียกว่ามีเลยด้วยซ้ำ

กินด้วยกันไม่พอ กินจานเดียวกันอีก แบ่งข้าวกันเป็นสองฝั่ง พี่มะเดี่ยวแกกินเร็ว คำหนึ่งโตๆ ส่วนผมเหรอ...กินเหมือนแมวกินมากอะ ทั้งที่ปกติเป็นคนกินเหมือนหมูแท้ๆ มันไม่ชอบนี่นา...เกรงใจไม่อยากแย่งแกด้วย ผมเนียนๆ เขี่ยข้าวเปล่าไปทางฝั่งพี่มะเดี่ยวที่คุยกับเพื่อน กินอยู่ก็ยังจะคุยกัน เอาผมมานั่งกินด้วยทำไมอันนี้สงสัยสุดๆ แต่สงสัยไปก็เท่านั้นแหละ ผมต้องกิน แค่นั้น...แค่กินเข้าไป

“อิ่ม ที่เหลือกินให้หมดด้วยนะ ไม่หมดกูเตะ” พูดคำว่ากูเตะใกล้ๆ เพื่อรักษาความสุขภาพเอาไว้ให้หยั่งยืน

“อ่า...” ข้าวที่ผมเขี่ยให้พี่เขาเหลือเพียบเลย ไหนว่าแบ่งเหมือนต่างคนต่างรับผิดชอบฝั่งตัวเอง แล้วไหงจบแบบนี้ได้ล่ะ

“กับก็ห้ามเหลือเข้าใจปะ เนี่ย...เงินๆ ทองๆ ทั้งนั้น แล้วนี่ก็น้ำ กินเสร็จแล้วเอาไว้นี่แหละเดี๋ยวมีคนมาเก็บ” พี่มะเดี่ยวยีหัวผมเบาๆ เขากอดคอพี่โซฮานเดินเข้าฟลอ

จะไม่อาลัยอาวรณ์เลยถ้าพี่เขาไม่ได้เหลือข้าวเอาไว้ให้ผมเยอะขนาดนี้ เห็นตัวแค่นี้แล้วจะกินจุเหมือนความรักเหรอ บ้าเหอะ...ผมตัวเล็กก็กินน้อยตามขนาดตัวนั่นแหละเฮ้อ แค่กินบ่อย เอิ่ม...กินจุบจิบอะครับ แฮ่...

.....100%.....

พระเอกคนอื่นเขาเลี้ยงข้างหรูๆ พี่มะเดี่ยวเราก็หรู...หรา ปลากระป๋องนี่หรูมากเลยนะแหม

ทอร์คหน่อย...สมัยเราเต้นอะ เราจะมีรุ่นพี่คนหนึ่งที่สนิทมาก แกเป็นอาจารย์คนแรกและก็เต้นด้วยกันนานมาก หลายปี พี่แกเป็นคนประสาท พูดจารู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เป็นคนไม่มีความอ่อนโยนอะไรเลย แต่ในเวลาที่เราไม่มี...คือเราไปใช้ชีวิตอยู่กับเขาอะนะ นอนกลางดินกินกลางทรายตามประสาเด็กสรีทอะ แต่ไม่ได้ไปเปิดหมวก เงินมีแค่สามสิบบาท พี่เขาก็ไปซื้อข้าวมากับปลากระป๋อง เราก็ไม่มีเงิน ไม่ได้กินข้าว พี่เขาเอามาให้ มากินด้วยกันเพราะต่างก็ไม่มี ช้อนหนึ่งคันพี่เขาสละให้ ส่วนตัวเองใช้บัตรพนักงานตักข้าวกิน แกกินแบบรีบมาก ยัดๆ แล้วก็กินแต่น้ำ เราก็งงๆ จนมาเข้าใจตอนที่พี่เขาบอกอิ่ม ปลาเหลือเต็มกระป๋องและข้าวเหลือเยอะ พี่เขาบังคับเรากินให้หมด ไม่หมดกูเตะ...

เพราะมื้อนั้นจะเป็นมื้อเดียวของวันนี้ แล้วพี่เขาก็สละมันให้เราได้อิ่ม...มันเป็นความประทับใจ เราก็เลยอยากเอามันมาใส่ไว้ในนี้ มันคงดูไม่อ่อนโยน แต่มันมีความหมาย...น้ำเน่าเนอะ ฮ่าาาาา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 11 [100%]❤️ -09/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-10-2017 23:06:24
 :man1:

 :3123: :pig4: :3123:

หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 11 [100%]❤️ -09/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-10-2017 03:46:08
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 11 [100%]❤️ -09/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-10-2017 22:51:06
 :L2: :L1: :pig4:

น่ารักน่าขำ
อิพี่เดี่ยวดูมีหยอด มีหวง
theสามจับพี่ทำเมีย(ในมโนแลนด์)เลย 55
รออ่านต่อ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 12 [100%]❤️ -11/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 11-10-2017 21:14:04
>>ตอนที่ 12 [100%]<<

การกินเป็นความทุกข์ทรมานทันทีเมื่อ...ผมอิ่ม ผมอิ่มจริงๆ ขึ้นคอเลยอะตอนนี้ แต่ยังเหลืออีกหลายคำ ยัดมันเข้าไป ยัดเหมือนว่าหลังจากนี้ผมจะไม่มีโอกาสได้กินข้าวอีกแล้ว ทั้งที่ความจริง เลิกชมรมก็ไปหาไรกินอีกอยู่ดีอะ แต่หลังจากหมดจาน...ผมคงไม่กินมื้อเย็นล่ะ

และด้วยความกลัวโดนพี่มะเดี่ยวเตะคอหัก แม้กระทั่งน้ำที่พี่ท่านเหลือเอาไว้ให้ผมก็กินหมดไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว เงยหน้า อ้าปาก เอาขวดน้ำมาเขย่า บีบและรีดดดด มันออกมาให้หมด นี่ผมไม่ได้ประชดประชันอะไรพี่เขาเลยนะเว้ย ทำไปทั้งหมดเนี่ยเพราะความกลัวล้วนๆ

จัดการทุกอย่างเรียบร้อย ผมก็กลับไปโดนเพื่อนทั้งสองแซ็ว วิ่งส่งโกโก้เย็นมาให้ จากที่อยากกิน...ตอนนี้จุกจนไม่อยากเอาอะไรยัดใส่เข้าไปในท้องตัวเองอีกแล้วอะ ผมวางเอาไว้แบบนั้นก่อน นั่งเล่นนั่งย่อยอยู่พักใหญ่ พี่ออมเดินเข้ามาตามให้ไปซ้อม อยากจะบอกว่าถ้าพี่ให้ผมซ้อมตอนนี้ผมอาจจุกตายก็ได้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

ไทม์และโจ้กำลังวอร์ม ส่วนผม พี่ออมสอนท่าใหม่ เรียกว่าซิกสเต็ป เป็นการเต้นแบบหอล่าง พี่ออมบอกว่าหอล่างกับหอบนต่างกันที่ความสูง เออ อันนั้นเข้าใจ อันอยู่ล่างมันก็เตี้ยเป็นเรื่องธรรมดา เห็นผมทำหน้าเอ๋อๆ ใส่พี่แกก็หัวเราะ คนที่นี่ชอบแกล้งเหรอ...โรคจิตกันเหรอครับถึงได้มากลั่นแกล้งเดอะสามคนนี้บ่อยนัก แต่พี่ออมไม่หัวเราะนาน ให้ผมทำตามพี่เขาด้วยการนั่งยองๆ ต้องยองโดยไม่ลงส้นด้วยนะ เสร็จก็เอามือทั้งสองเนี่ยวางไว้บนพื้นเป็นหลักค้ำ จากนั้นยืดขาไปด้านหลังเหมือนจะทำซิดอัพแต่ไม่ยืดตัวมากขนาดนั้น ตามด้วยยกมือซ้ายขึ้นสูงๆ สอดขาขวามาทางขาซ้าย...

พอๆ...อธิบายละงง ผมทำก็งง เอางี้นะ คุณต้องคิดถึงนาฬิกาที่เป็นวงกลมอะ เออ นาฬิกาไหนเดินเป็นทางตรงบ้างล่ะจริงไหม นี่ก็ทำเหมือนนาฬิกาครับ มือเนี่ยค้ำร่างทีละข้าง ส่วนขาให้ย้ายเป็นจังวะเหมือนนาฬิกามันเดินอะ เป็นวงกลม นาฬิกามีสิบสองจังหวะ...คือสิบสองชั่วโมง แต่ท่านี้ทำแค่หกจังหวะครับ มือต้องอยู่ติดพื้นตลอดด้วย

ทำครั้งแรกมันก็เงอะๆ งะๆ เก้งก้างตลกไปหมด พี่ออมสอนไปขำไป ผมก็ก้มหน้าก้มตาทำตาม ทั้งที่แม่งจุกข้าวแบบ บรรลัยวายป่วงมาก เริ่มคล่องให้เพิ่มความเร็ว ตอนทำท็อปร็อกผมลงจังหวะได้ แต่พอเป็นซิกสเต็ปปุ้บ...ตึกตึกโป๊ะอะไรกูไม่รู้จัก! โอ้ย...มันลงจังหวะไม่ได้เลย เข้งขามันสอดไปสอดมาพันกันเบิ้ดดดด

ทำๆ หยุดๆ เต้นเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักประมาณนั้นครับ พี่ออมต้องสอนไทม์กับโจ้ด้วยด้วย แต่พวกนั้นทำตามมาเร็วมาก ท็อปร็อกกันแป๊บเดียวก็ได้ ก็มันง่ายยิ่งกว่าข้อสอบเด็กปอสี่เสียอีก พอมาซิกสเต็ปแม่งก็สภาพเดียวกับผมเนี่ยและครับ ฮ่าๆ อย่างน้อยเดอะสามคนนี้ก็ไม่ด๋อยคนเดียว

“เริ่มจะคร่องแล้วสอนโพสต์เลยออม” เป็นพี่มะเดี่ยวที่โพล่งขึ้นมา ผมหยุดทำท่าเหมือนงมหากบเป็นวงกลมของตัวเองละนั่งหอบ ทำนานๆ ก็ทั้งเหนื่อยทั้งจุก

“ได้พี่ เอาล่ะ…เดี๋ยวท่าโพสต์แรกที่พี่จะสอนนั้นมีชื่อว่าเบบี้ฟีดนะ” พี่ออมนั่งคุกเข่า เอามือข้างขวาวางที่เอวด้านขวา แต่มือซ้ายวางตำแหน่งสูงขึ้นมามาก จากนั้นพี่เขาก็กดหัวลงวางกับพื้น เป็นจังหวะเดียวกับที่ขาทั้งสองข้างลอยขึ้น!!!

โอ้ววววว ถ้ากูทำ ข้าวกับปลากระป๋องในท้องกูพุ่งแน่!

“ท่ามันก็ประมาณนี้ ไม่ยากหรอก ทริกของท่าอยู่ที่เราต้องทำฐานให้เป็นสามเหลี่ยม ซึ่งก็มีมือขวาและซ้ายและหัว” เออ อันนี้ผมเข้าใจ ดูจากที่พี่เขาทำ ก็เห็นอยู่ว่าพอมันวางลงหมดแล้วมันจะเป็นสามเหลี่ยมพอดี แต่ประเด็นมันอยู่ที่ผมอิ่มมากไงล่ะ

แต่เมื่อเขาให้ทำก็ต้องทำครับ ไทม์และโจ้เริ่มทำตามพี่ออมบอก ผมเองก็เช่นกัน โดยมีพี่มะเดี่ยวยืนอยู่ตรงหัวผมเนี่ย พี่จะรู้ไหมว่าพี่ได้ทำให้กระเพาะของผมนั้นอัดแน่นไปด้วยข้าวและน้ำจำนวนมหาศาล เรียกได้ว่า โน้มตัวลงไปปุ้บนะ...ข้าวนี่ขึ้นมาอยู่ที่คอของผมเลยล่ะครับ

ทำไปทำมาผมก็เกิดหลงรักพื้นซีเมนส์ แขนนี่พับหักหน้าทิ่มปูนเข้าเต็มรัก โอ้ย...ไอ้ความรักเอ้ย ป๊ามึงจะตายไหมวันเนี้ย เหนื่อยก็เหนื่อย แขนก็ล้า ตอนทำซิกสเต็ปมันกินพลังงานแขนไปไม่ใช่น้อยๆ พอทำเบบี้ฟีดอีก ก็ยิ่งบั่นทอนกำลังผมเข้าไปอีก นอนแผ่มันเลยล่ะกัน...เหนื่อยละถือว่าพักสักแป๊บ

“แอ๊ก....” พักบ้าบออะไร พี่มะเดี่ยวแม่ง...นั่งทับเฉยเลย!

“อ่าว พี่นึกว่ามีคนมาปูเสื่อให้นั่ง” ปูเสื่อบ้านพี่มึงเด่ ข้าวทะลักขึ้นคอเกือบพุ่งออกมาแหนะ

“หนักพี่...” ตัวโคตรหนัก หนักมากเหมือนโดนช้างเหยียบเอาไว้เลยอะ

“ไหน ซิดอัพซิ” ซิดบ้าซิดบออะไรของพี่มึง กูหนัก…ออกป๊ายยยย

“พี่ลุกดิ”

“ไม่ลุกอะ สามนิ่มดี…อยากนั่งนานๆ” แต่ไส้กูจะทะลุออกมาทางปากล่ะพี่

“ฮื่อออออ พี่ลุก”

“อ้อนวอนก่อน ไหนอ้อนวอนเขาทำกันยังไงน้า...” ไอ้พี่เลว มึงแกล้งกูอีกแล้วอะ ทำไมเป็นคนแบบนี้ หาเรื่องแกล้งกันได้ตลอดเวลา

“พี่มะเดี่ยวคร้าบ...ลุกจากตัวน้องสามทีนะครับ น้องสามหนักมากเลย” พูดไปก็อึดอัดไป คือ...ลองไปโดนช้างล้มทับอาจจะเข้าใจความรู้สึกของสามคนนี้ก็เป็นได้

“ฮ่าๆ” อ่าว หัวเราะเฉย แต่ดีนะที่หัวเราะแล้วยังลุกจากตัวผมด้วย พี่มะเดี่ยวดึงให้ผมนั่งดีๆ

“หัดแรกๆ อย่าโหมมาก อย่าฝืนเกินไปมันจะบาดเจ็บ แล้วกินข้าวมาอิ่มๆ ให้นั่งพักก่อนอย่าเต้นเลย จุกตายขึ้นมาพี่ไม่รับผิดชอบนะครับน้องสาม” พี่มะเดี่ยวนั่งยองๆ ผมมองหน้า...ได้ข่าวว่าพี่ก็ยืนกดดันให้ผมทำนี่ครับ

“รู้แล้วครับ”

“รู้แล้วต้องทำตาม อะ...กินน้ำแล้วนั่งพักก่อน สามโพสต์ได้แล้วแค่ยังไม่แข็ง ของแบบนี้ต้องใช้เวลา สำคัญอยู่ที่ข้อมือ ชักบ่อยๆ มันจะได้แข็งแรง...” ยักคิ้วหลิ่วตา...ตลกล่ะ! ชักบ้าชักบออะไรพี่วะ โอ้ยเนาะ แล้วมาพูดใกล้ๆ สีหน้าเจ้าเล่แบบนี้...เสือไบอย่างผมจะไม่ทน เสหน้าหลบแป๊บ

“ครับ”

“ครับนี่คือจะทำตาม?” พยักหน้า

“ฮ่าๆ เออเว้ย...หน้าเหมือนพี่บอย แต่ซื่อบื้อผิดพี่บอยเลยอะ” แล้วพี่มันก็ยีหัวให้นกมาทำรังอยู่

“ก็พี่ให้ทำ...”

“ทำอะไร ชัก? ชักอะไรอะรู้ไหม” ส่ายหน้า ไม่รู้ แต่พูดว่าจะทำตามไปงั้นแหละ

“ไม่รู้ครับ”

“อยากรู้ปะ...มาหาพี่ที่ห้องคืนนี้ดิ เดี๋ยวพี่บอก” เดี๋ยวตบปากแตกเลยไอ้พี่บ้า แล้วดูสายตา...เจ้าเล่มาก เจ้าเล่ยิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ที่ผมได้พบได้เจอมาอีก ผมขยับถอยหลังเล็กน้อย ให้ตัวเองออกห่างจากพี่มะเดี่ยว

“ไม่อะ น่ากลัว”

“ฮ่าๆ...ล้อเล่น ซ้อมไป แต่ถ้าเอาจริงก็มาหาได้นะ” พี่เขาจับหัวผมโยกซ้ายโยกขวาก่อนจะทิ้งรอยยิ้มหวานเอาไว้แล้วจากไป

คือ...พี่มันเป็นยังไงอะผมไม่รู้หรอก แต่บอกได้ว่าพี่ไม่ควรหยอดเสือไบอย่างผม เพราะมันทำให้คิดลึกและ...ใจเต้นแรงมาก ให้ตายเหอะ ให้ตายเหอะ ไอ้สามคนนี้อยากจะถึ้งหัวตัวเองชะมัด ติดที่ว่าคนอื่นมองมามันจะน่าเกลียดมาก

ผมสลัดเรื่องพี่มะเดี่ยวออก เอาน้ำที่พี่เขาให้มากิน ไม่อยากไปคิดมาก...เขาดูขี้เล่นอะ ดูเฟรนลี่ สนุกสนานไปงั้นเอง ผมอาจฟรีกับทุกเพศที่เข้ามาหา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพี่เขาจะเป็นเช่นกัน ดูแล้วพี่มะเดี่ยวก็แค่เล่นๆ เป็นชายแท้ที่ชอบแกล้งชอบหยอดน้องๆ เพราะงั้นผมไม่ควรคิดอะไรเกินเลยกับพี่เขา ชอบชายแท้ความผิดหวังมีสูงมาก เห็นเดอะสามเบ๊อะบ๊ะแบบนี้แต่สามก็ไม่ชอบทำร้ายตัวเองนะคร้าบผม

นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วก็เริ่มซ้อมกันต่อ พี่ออมไม่ไปไหนไกล เธอคอยดูน้องๆ ซ้อมแล้วก็สอนให้เราทำคอมโบ คือเริ่มจากท็อปร็อก ลงมาซิกสเต็ปและจบด้วยโพสต์ มือใหม่อย่างเราๆ นั้นทำให้ลงจังหวะเป๊ะๆ ไม่ได้เลย อาจจะท็อปร็อกลงจังหวะ แต่อย่างอื่นก็แถๆ ไปนั่นแหละครับ

สำหรับผม...วันนี้ถือว่าได้อะไรมาเยอะทีเดียว ผิดจากที่คาดการณ์เอาไว้ว่า ผมจะไม่สามารถเต้นได้แบบที่พวกเขาเต้น แต่แค่วันแรก ท่าพื้นฐานก็ได้มาเยอะทีเดียว พี่ออมบอกว่ามันมีท่าโพสต์พื้นฐานอีกหลายท่า แต่ยังไม่สอน น้องๆ ยังข้อมือไม่แข็งพอ แล้วก็มีสอนให้เราทำท่าหกกบ เป็นท่าบริหารข้อมือนี่แหละ

โดยการเอามือวางไว้ข้างหน้า เอาเข่ามาวางบนศอกตัวเองแล้วโน้มตัวไปด้านหน้าให้ขาลอย ท่าแม่งทำแล้วตลกมากอะ แต่ต้องทำเพื่อให้เราสามารถต่อยอดท่าอื่นๆ ได้ พี่ออมค่อนข้างพอใจกับผลการสอนในครั้งนี้มากทีเดียว

ก่อนแยกย้ายก็เหมือนวันศุกร์ที่ต้องเล่นเอบีซี วันนี้ไม่มีข้อแม้สำหรับหน้าใหม่และพวกอ่อนด๋อยทั้งหมด ครับ...เมื่อไม่มีการประนีประนอม ก็วิดพื้นกันไป วิดแบบ...วิดแม่งทุกรอบ ทำได้แค่ที่เรียนรู้ไปวันนี้เท่านั้นเองอะ พี่มะเดี่ยวเองก็พยายามให้ผม ไทม์และโจ้ทำท่าที่พวกเขาตั้งโจทย์ เท่านั้นแหละ...ล้มระเนระนาดหมด

“เชี่ย...เหนื่อยอะ” เล่นเอบีซีเสร็จก็นั่งพัก ผมนี่นอนแผ่หลาประหนึ่งพ่อเป็นเจ้าของที่ทันที แต่ครับแต่...คนอื่นก็ทำเว้ย ไม่ใช่แค่เดอะสามผู้หน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาคนเดียว

“สนุกปะวะ” วิ่งถาม ผมก็พยักหน้า

“หนุกดี แต่แม่งเหนื่อยวะ...กูระบมไปหมดเลย” พรุ่งนี้ผมลุกไม่ขึ้นก็ไม่ต้องสงสัยนะ แค่ฝึกโพสต์เบบี้ฟีด เอวผมก็เขียวแล้วล่ะ

“พรุ่งนี้ไปเรียนไม่ไหวโทรบอกพวกกูนะเว้ย” ไอ้พีชเอนมานอนทับพุง

“เอาละครับ…วันนี้เราจะปิดชมรมกันแค่นี้ สำหรับใครที่อยากซ้อมต่อให้ไปที่ห้างครับ แล้วถ้าใครจะกลับก็สามารถกลับได้เลย เราจะซ้อมกันตั้งแต่เที่ยงไปถึงห้าโมงเย็นแบบนี้ทุกวัน แล้ววันนี้ก็ถือว่าทุกคนตั้งใจซ้อมเป็นอย่างดี ปรบมือให้ตัวเองครับ” เสียงปรบมือดังระงม แต่ผมนี่แค่เปาะแปะเท่านั้น

“มึงไปกับพวกกูปะ ไปซ้อมกันต่อ แต่ถ้าไม่ไหวไปนั่งเล่นก็ได้ เอาความรักไปด้วย” วิ่งหันมาถาม ผมพยักหน้า ยังไงก็ไม่รีบกลับไปทำอะไรอยู่แล้วนอกจากเล่นเกม

“เอาดิ”

ตกลงกันเสร็จก็เก็บของ แต่ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เราไปกันทั้งชุดนี้เลยครับ เหงื่อท่วมกายนี่แหละคือเสน่ห์ของชายหนุ่ม แต่ก่อนจะปั่นจักรยานไปร้านบีพีคอฟฟี่ ผมขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน อยากล้างหน้าล้างมือให้เรียบร้อยแล้วค่อยไปอุ้มเจ้าความรัก พอเข้ามาที่ห้องน้ำ ก็เจอพี่โซฮานกำลังล้างหน้าอยู่ ผมยิ้มแล้วก็ก้มหัวให้พี่เขา

“เป็นไง…สนุกไหม” พี่เขาถาม แต่ก็ไม่ได้ยิ้มให้ผม แค่ถามไปงั้น

“ก็สนุกดีครับ”

“อืม…ได้เต้นได้เล่นกับเพื่อนๆ มันต้องสนุกอยู่แล้วละเนอะ ว่าแต่เราชอบมะเดี่ยวเหรอ” พี่เขาหันมามองหน้า แล้ว…ผมควรตอบว่ายังไง คือไม่คิดว่าจะเจอคำถามนี้อะ ผมลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า

“ก็ชอบนะครับ...” ไม่รู้หรอกว่าถามแบบนี้หมายความแบบไหนบ้าง แต่สำหรับผม...คำตอบนี้ก็หลายทางเลยล่ะ ชอบทั้งหน้าตาและความอบอุ่นกวนตีน ไม่ชอบอย่างเดียว...แกล้งกันบ่อยไป

“เราเป็นเกย์เหรอ?” เขายิงคำถามมาอีก ผมไหวไหล่...ไม่สะทกสะท้านเท่าไหร่เพราะว่าคำถามแบบนี้โดนมาบ่อยแล้ว ผมยิ้มให้พี่โซฮาน

“ผมเป็นไบครับ” อยากต่อว่าไบเบิล แต่เดี๋ยวหัวแตกก็เลยไม่ตอบ แล้วก็บอกพี่เขาอย่างภาคภูมิใจ สำหรับผม…การที่ผมเป็นแบบนี้ไม่เดือดร้อนใคร เพราะงั้นเลยภูมิใจในตัวเอง

“...” พี่โซฮานฟังแล้วก็เงียบ เขาเดินออกไปทั้งแบบนั้นเลย อะไรอ่า...ผมตอบอะไรผิดไปเหรอ ผมว่าผมไม่ได้กวนตีนอะไรพี่เขาเลยนะครับ

ผมเดินกลับมาที่กลุ่มเพื่อนๆ  พกความงงและไม่เข้าใจมาด้วย พี่มะเดี่ยวยืนหัวเราะกับวิ่งและพีช ผมพยายามแทรกตัวไปตรงกลางของวิ่งกับพีช ไม่ยืนใกล้พี่มะเดี่ยวเพราะเดี๋ยวเขาจะแกล้งผม ก็ไม่รังเกียจ...แต่ก็ไม่อยากโดนแกล้งปะละ

“เราจะไปรับความรักก่อนใช่ไหม”

“ครับ” พี่มะเดี่ยวถามแบบนี้จะเป็นถามใครไม่ได้นอกจากผม

“งั้นพี่ไปด้วย อยากกินกาแฟ”

“ครับ”

พี่มะเดี่ยวเอากระเป๋าตัวเองใส่ตะกร้าหน้ารถผมอย่างกับมันเป็นรถของพี่แกเอง ผมก็เลยตามเลยนั่นแหละ วางทับลงไปด้วย นี่แหนะ...ได้อยู่เหนือพี่แม่งแล้วโว้ย โคตรเท่ โคตรหล่อ บอกเลยว่าคนที่ทำแบบนี้ได้มีแค่เดอะสามคนนี้คนเดียว และคนที่จะมาภาคภูมิใจกับการเอากระเป๋าวางทับกระเป๋าคนที่ชอบแกล้งเราได้ก็มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น โถ...ก็ใครมันจะบ้าแบบผมกันละจริงไหม

ผมซ้อนท้ายพี่มะเดี่ยว คนขับรถของผมหล่อมาก หล่อลากดิน หล่อจนสาวๆ ต้องเหลียวหลังมองแล้ว...มองอีก มองจ้องเข้าไปให้ลึกลงจนถึงเนื้อหนังมังสา กับกล้ามเนื้อแน่นๆ หึหึ เดอะสามเห็นมาแล้ว...แน่นจริง

นั่งเชิดหน้าอยู่บนจักรยานได้ไม่นาน รถมาจอดหน้าร้านกาแฟของน้าผมเรียบร้อย พี่มะเดี่ยวรอให้ผมลงก่อนจะลงตาม พีชกับวิ่งมันจอดได้ก็ลิ่ววววว เข้าไปสั่งน้ำก่อนใครพวก ผมเดินตามหลังพี่มะเดี่ยวเข้าร้าน และก็ต้องชอกช้ำระกำใจเมื่อ...ความรักมันโผเข้าหาพี่มะเดี่ยวก่อนผม

นี่...ป๊ามึงยืนหัวโด่อยู่นี่ หันมาสนใจป๊ามึงหน่อยเฮ้ย แล้วพี่มะเดี่ยวก็อุ้มมัน จุ้บแหม่งมัน แล้วทำเหมือนความรักเป็นสัตว์เลี้ยงของพี่เขาแต่เพียงผู้เดียว ทั้งที่มันเป็นของผมเว้ย ของผม...

“ความรักดูป๊าเราสิ...หน้ายักษ์เชียวแหละ” ถ้าจะกระซิบให้ได้ยินขนาดนี้ พูดปกติก็ได้นะครับพี่มะเดี่ยว

“ผมอุ้มบ้างหงิ...” อ้าแขนขอหมูตัวเองจากคนอื่น คิดดูแล้วกันชีวิตสามอาภัพขนาดไหน

“อุ้มพี่เหรอ ได้ๆ เอาสิ...เข้ามาอุ้มพี่เลย” โอ้ยยยย เอาเก้าอี้ทุบหัวแม่ง ใครจะไปอุ้มพี่มึงไหววะ ตัวอย่างกับหมี โอ้ย เพลียจิตเพลียใจกับพี่มะเดี่ยวจริงโว้ยยยย ตบแล้วจับกดแม่ม!

.....100%.....

น้องสามเราโดนแกล้งจนดูเกรี้ยวกราด นี่ละอยากเชียร์ให้ทำจริงๆ ไอ้ตบแล้วจับกดเนี่ย...กล้าเปล่าตัว กล้าก็ทำเล้ยวย เอาเล้ยยยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 12 [100%]❤️ -11/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-10-2017 22:20:51
น้องสามน่าเอ็นดูจริงๆ หมูยังเมิน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 12 [100%]❤️ -11/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 11-10-2017 23:11:26
คนพี่ขี้แกล้งงง :hao7:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 12 [100%]❤️ -11/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 11-10-2017 23:34:57
"ตบแล้วจับกดแม่ม!"

สามเป็นคนที่คิดการใหญ่นะ :katai5:

  :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 12 [100%]❤️ -11/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-10-2017 00:04:00
 :z1:

 :L1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 12 [100%]❤️ -11/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 12-10-2017 00:25:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 12 [100%]❤️ -11/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-10-2017 03:05:35
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 12 [100%]❤️ -11/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-10-2017 07:00:11
น้องสามที่โดนแกล้งตลอดเวลา 55555
ขนาดความรักยังไม่นักเลย อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 12 [100%]❤️ -11/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-10-2017 17:00:49
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 13 [100%]❤️ -14/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 14-10-2017 22:20:02
>ตอนที่ 13 [100%]<<

“พี่บ้า รถเคนเท่านั้นแหละที่เอาพี่ขึ้นได้อะ”

“พี่บ้าเราก็เวอร์แหละ อะ...” เย้ ในที่สุดหมูก็มาอยู่ในมือผม

ผมเดินหลบเข้ามาตรงคนไม่ค่อยเดินผ่าน แล้วก็ฟัดความรักเหมือนตายอดตายอยากมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ จนความรักมันร้องโอดโอยจะเป็นจะตาย อะไรกัน แค่ฟัดเองนะ แค่ฟัดไม่ได้จับเชือดเสียหน่อย ผมขยับจ้องตาขวางๆ ของความรัก ส่งยิ้มเหี้ยมให้แล้วงับไปตามตัวของมันจนมันดิ้นหนี

“ฮ่าๆ...ฮ่าๆ ฮ่าๆ” ตั้ลลั้กกกกกก จุ้บๆ ชอบอะ...มันน่ารักดี มีความสุขเวลาได้เล่นกับมัน แต่มันคงมีความทุกข์ที่ได้เล่นกับผม

“สงสารความรักวะ ต้องมีป่าป๊าแบบมึงเนี่ยคงสยองไปทั้งชีวิตความเป็นหมูของมัน” วิ่งเดินเอาชานมมาวางที่โต๊ะ ตามด้วยพีชถือ...อะไรวะ กาแฟมั้ง

“มาความรัก...โผเข้ามาซบที่อกเรา เราจะปกป้องความรักเอง” แหวะ ไม่เคยเข้าใจไอ้พีชที่มาเต๊าะหมูชาวบ้านเขาแบบนี้

“หยุดเลย ถ้ามึงไป...กูกัด” เห็นความรักเตรียมโผหาคนโรคจิตอย่างพีช ผมก็ขู่ทันที

“ความรักอย่าไปสนใจป๊าแบบนั้น ป๊าอย่างนั้นไม่รักความรักจริงหรอก เราต่างหากที่รักความรักจริง...มาหาเราเถอะความรัก” คือ...มันก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมอะ แต่เล่นใหญ่เหมือนอยู่กันคนละฟากโลก

“ปัญญาอ่อน” คำนี้พูดเบาๆ ก็เจ็บ...ฉึก เอื้อะ...ซะเมื่อไหร่

“มึงสติดีตายอะ” ผมจุ้บแหม่งความรักอีกทีถึงได้ปล่อยให้มันวิ่งไปหาพีช

เล่นกับพีชมากๆ ระวังประตูหลังไว้นะลูกนะ...ให้มันใส่ถุงยางด้วย ไม่ว่ายังไงก็ต้องใส่ ไม่งั้นเราอาจจะติดเชื้อบ้าจากมันได้ แถมเชื้อจากพีชนี่ก็ไม่รู้เป็นเชื้อตัวไหน...รักษาลำบากแน่นอนถ้าเกิดไปติดขึ้นมา แล้วก็ห้ามใช้ปาก ใช้ลิ้น ใช้จุ้กกรู้กับมันด้วย ห้ามแลกน้ำลาย...ห้ามสัมผสของเหลว ห้าม ห้าม ห้าม...กูเนี่ยห้ามคิดอะไรพิเรนถ์ได้แล้วปั๊ดโถ่ว

“ไงหลานรัก เต้นบีบอยวันแรกเป็นไงมั้ง” ผมนั่งลงที่เคาน์เตอร์ปุ้บ น้าบอยก็ถามปั้บ เมื่อกี้นี่ยังคุยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับพี่มะเดี่ยวอยู่เลย

“เจ็บครับ” ตอบละยิ้มหวาน...ยิ้มให้เห็นถึงความออดอ้อนขอน้ำหวานกินฟรี

“สามโคตรด๋อยเลยพี่บอย” อ่าว พี่มะเดี่ยว มึงอย่าฟ้องน้าผมแบบนั้นสิวะ

“ฮ่าๆ ด๋อยสิ...อยู่บ้านอย่างกับคุณชาย ที่บ้านทำฟาร์มแต่ไม่เคยช่วยเลย เอาแต่เล่นเกม กิน แล้วก็นอน มีดีอย่างเดียวคือเรื่องเรียน นอกนั้น...ห่วยมาก” จู่ๆ ก็เหมือนโดนค้อนทุบลงกลางกะบาล มันมึนอย่าบอกใครเชียวครับ เล่นเผากันต่อหน้าต่อตา

“น้าบอยอ่า...”

“ตอนอยากได้ความรักนะ กอดขาพ่อ พร่ำพรรณนาอะไรก็ไม่รู้ อย่างกับบทสวด พ่อเลยซื้อให้ ไม่งั้นไม่ยอมหรอก” มานั่งให้เขานินทาโดยแท้เหลา พี่มะเดี่ยวก็มารยาทดีนะ หัวเราะไม่ไว้หน้ากูเลยอะ

“พอแล้ว...”

“ฉายาตัวเองอะไร...เดอะสามผู้หน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมา ฮ่าๆ” จบกันชีวิตนี้ แม้แต่น้าภูมที่เดินเข้ามาพร้อมกาแฟของพี่มะเดี่ยวก็ขำครืน อยากมีความสามารถพิเศษในการมุดดินหนีไม่ก็ลบความทรงจำของผู้คน จะได้ลบความจำพี่มะเดี่ยวซะ เดี๋ยวแกต้องเอาเรื่องพวกนี้มาแกล้งผมหรือมาล้อผมแน่ๆ เลยอ่า...

อ๊ากกกกก กรีดร้อง พ่นไฟ เกี้วกราดและฉุนเฉียว ฮึ่มๆ...ทุกอย่างล้วนอยู่แค่ในใจ สีหน้าเหรอ ซีดเจื่อน...ไม่น่ามองเลยตอนนี้ คิดในแง่ดี ผมก็เป็นคนที่ดีมากๆ คนหนึ่ง สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้คนได้ดีขนาดนี้ โอ้โห...ภูมิใจขึ้นมาเลย ถุ้ย!

“อยากเห็นอะ ทำให้ดูหน่อยดิ...กอดขาอ้อนวอนอะ” พี่มะเดี่ยวเอาศอกมาสะกิด แต่สะกิดอีท่าไหนไม่รู้กูเกือบตกเก้าอี้

“เหวอ!” ตัวนี่เอียงจะหล่น ดีที่มือปริศนาของบุคคลไม่ปริศนารับเอวเอาไว้เสียก่อน นั่นคือคนที่สะกิดผมด้วยความรุนแรงประหนึ่งผมเป็นหุ่นยนต์ เบาๆ ไม่ได้ เดี๋ยวไม่รู้ตัว

“ฮ่าๆ อะไร...สะกิดแค่นี้ทิ้งดิ่งเลยเหรอ” ใช่ ทิ้งดิ่ง เอาหัวทิ่มพื้นเผื่อจะหลับไป ตื่นมาวันใหม่แสนสดใส ทุกคนลืมเรื่องในนี้ไปแล้ว อ่า...สบายใจ

ได้ที่ไหนล่ะ!

“พี่อะสะกิดแรง คนอะไรแรงควายชิบ” บ่นงุบงิบคนเดียว แต่คนข้างๆ มันได้ยิน เลยเสนอหน้าเข้ามาใกล้...ทิ่มพรวดเข้ามา เล่นเอาผมผงะจะตกเก้าอี้ทรงสูงอีกรอบ

“ว่าพี่เหรอครับ...” กรี๊ดดดดดด อย่านะ อย่าฆ่ากระผม

“ปะ...เปล่าครับ” ซีดกว่าหน้าผมก็กระดาเอสี่อะครับตอนนี้

“แล้วเมื่อกี้อะไรควายๆ”

“ความๆ...ผมพูดถึงความ” แถด้วยความไวแสง ไม่ได้คิดไว้เลยว่ารูปประโยคนั้นควรแถเต็มๆ ว่าอะไร เปลี่ยนควายเป็นความก่อนเพื่อชีวิตตัวเอง

“โกหกตกนรก...” น้าบอยพูดลอยๆ เป็นอีกครั้งหลังจากเรื่องเล่นเกมโต้รุ่ง ฮื่อ...ทำไมทุกคนรักผมขนาดนี้ล่ะครับ

“ขอโทษครับ” คิดอะไรไม่ออก ยกมือไหว้ขอโทษน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ แต่คิดว่าพี่มะเดี่ยวจะยอมง่ายๆ เดอะสามออกจะน่าสงสารขนาดนี้แล้วแท้ๆ พี่เขาใช้มือที่ว่างจากการโอบเอวผมมาบี้จมูกอย่างแรง!

“โอ้ยยยย เจ็บๆ สามเจ็บครับ” น้ำตาคลอไปเป็นที่เรียบร้อย เจ็บมาก...เจ็บเหมือนจมูกหลุดติดมือพี่ท่านไปแล้ว

“ดีครับ สมน้ำหน้า” สมใจอยากแล้วจากไป ผมขยับนั่งดีๆ สองมือกุมจมูกตัวเองเอาไว้ ตอนนี้มันต้องแดงมาก แดงเหมือนลูกมะเขือเทศแน่เลย

“ฮ่าๆ ดูสนิทกันดีเนอะ เหมือนคู่เราแรกๆ เลยอะ” น้าภูมโอบเอวน้าบอย ถึงอยู่หลังเคาน์เตอร์แต่ผมมองออก แล้วการบอกว่าเหมือนคู่เราแรกๆ นี่มันอะไร...มีมองตากันอีก ปิ๊งเลยไหม ปิ๊งปั๊งเสร็จก็ตั้ม!

“ถ้าเหมือนจริง น้าบอยต้องโรคจิตแน่ๆ” ผมบ่นงุบงิบ โดนแกล้งขนาดนี้ยังไปรักอีก...

“ใช่ บอยโรคจิต...ชอบแกล้งน้า” อ่าว ไหงมันสลับกันล่ะ หน้าเหวอๆ ของผมทำเอาทุกคนขำครืน เห่อๆ...ไม่เหวออย่างผมบ้างก็แล้วไป

ผมหยิบโกโก้ที่น้าภูมเอามาวางเมื่อกี้ขึ้นมาดูด แล้วลงจากเก้าอี้ ตรงไปที่ไอ้พีชและไอ้วิ่ง พวกมันนั่งหัวเราะผมอยู่ก่อนแล้ว…หัวเราะเยาะเย้ยกันมาตั้งแต่ผมโดนเผาอะ ด้วยความที่โต๊ะมันไม่ไกล มันเลยได้ยินทุกช็อตเลย อยากจะงอนมันทุกคน...แต่งอนไปพวกมันก็ไม่ง้อเหมือนพี่ๆ ผม ก็เลยไม่งอนดีกว่าเปลืองพลังงาน

พี่มะเดี่ยวคุยกับน้าผมอีกสักพักถึงได้เดินออกมาบอกพวกเราที่กำลังคุยเรื่องเกมว่าจะไปแล้ว ผมเลยจะเอาความรักใส่กระเป๋า แต่ความรักดันเดินไปที่ขอบโต๊ะ เงยหน้ามองพี่มะเดี่ยว อ้อนกันเข้าไป...ออเซาะกันไม่ไว้หน้าเจ้าของอย่างกูเล้ยยยย ความรักหนอความรัก

“ขี้อ้อนดีวะหมูมึง” เขาอุ้มความรักมาอย่างที่เจ้าหมูทรยศต้องการ

“จะกูจะมึงหรือจะพี่จะน้องก็สักอย่างอะพี่” บางทีกูสับสนไง เดี๋ยวเพราะ เดี๋ยวหยาบ

“ชอบแบบไหนละ...” พี่มะเดี่ยวเงยหน้าจากความรักมาสบตา

“กูมึงกับมันได้เต็มที่พี่ ผมอนุญาต” เดี๋ยวนะวิ่ง...มึงมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจเรื่องนี้วะ

“เอาเพราะๆ สิ” คนเราชอบคนพูดเพราะถูกไหมล่ะ ผมก็ชอบนะเอ้อ

“หึ…ครับน้องสาม” ทำไมมันเพราะแบบประชดวะครับ

พี่มะเดี่ยวอุ้มความรักออกจากร้าน ทิ้งกระเป๋าตัวเองไว้ที่โต๊ะ พีช วิ่ง คว้าของตัวเองแล้วรีบตามพี่มะเดี่ยวไป เห็นไหม...ใครๆ ก็รักผม สนใจใยดีผมมากกกกก สึด! แล้วไง ผมก็ต้องเอากระเป๋าพี่มันไปด้วยไง สะพายของตัวเองไว้ข้างหลัง และเอาของพี่มะเดี่ยวไว้ข้างหน้า

ความรักประจำที่หน้ารถ คนขับสุดหล่อพร้อมคนซ้อนที่หล่อกว่าก็พร้อม เดินทางสิครับ รออะไร ไม่มีใครมาผูกริบบิ้นให้ตัดนะเอ้อ พี่มะเดี่ยวปั่นนำไปทางจักรยาน ตามด้วยวิ่งและพีชปิดท้าย ห้างอยู่ไม่ไกลากมหาลัยเรานัก ปั่นแค่สิบนาทีก็มาถึง เขามีที่จัดเอาไว้ให้นักศึกษาเอาจักรยานมาจอด ผมชอบตรงนี้แหละ ด้วยความมันใกล้มหาลัย มันเลยมีนักศึกษาสายปั่นเยอะ ยิ่งพวกใช้ชีวิสโลว์ไลฟ์นะ ปั่นแต่ฟิกเกียร์ทั้งนั้น

บางทีนะ...มันก็สโลว์ไปอะ

ผมสายปั่น ผมไม่เดือดร้อนห้องอยู่ใกล้ แต่บางคนนะห้องอยู่ไกลแต่เสือกปั่นมาเรียน เข้าเรียนเก้าโมงมาถึงสิบโมง พออาจารย์ถามทำไมมาสาย มันบอกปั่นจักรยานมา คิดว่าอาจารย์เห็นใจไหมล่ะ ก็ไม่อะสิ...คนเราอะต้องมีความรับผิดชอบเว้ย ชอบปั่นอะเข้าใจ แค่มาให้ทันเข้าเรียนหน่อยสิวะ

“โห...คนเยอะแหะ” ไม่เคยเดินมาที่เปิดท้ายหลังห้าง ไม่รู้ว่ามันมีลานเต้นบีบอยและคนเยอะแบบนี้

“เออ คนเยอะเป็นปกติ มึงหิวไรปะ...พวกกูว่าจะไปหาอะไรกิน” วิ่งเดินมาถาม ผมส่ายหัว...ข้าวกับปลากระป๋องยังทำกูอิ่มอยู่เลยเพื่อน

“มึงไปกินกันเหอะ กูยังอิ่มอยู่เลย เออ แต่ซื้อลูกชิ้นมาฝากบ้าง เอาลูกชิ้นหมูอะ”

“ได้ๆ เงินมา” แบมือขอตังเชียว นึกว่าจะเลี้ยงโถ่

ผมให้เงินวิ่งไปห้าสิบบาทสำหรับลูกชิ้นหมูล้วนที่ผมอยากกิน มันรับไปก็กอดคอพีชเดินลิ่วมุ่งหน้าสู่โซนของกิน ผมมองไปรอบๆ สำรวจที่ที่ไม่เคยมา ตื่นตาตื่นใจนิดหน่อย อยู่แถวบ้านผมชอบเดินที่ถนนคนเดินมาก ของถูกและเปิดตอนเย็น แดดไม่ร้อน ทว่าพอหันมาข้างตัวอีกทีกลับพบกับสายตาของพี่มะเดียวและความรักที่จ้องมองมาอย่างอาฆาตแค้น

“อะ...อะไรครับ” เห็นแล้วตกใจอะ ผมทำอะไรผิดเหรอ?

“น้องกินเพื่อนความรักได้ไง…” สีหน้าพี่มึงเหมือนจะเรียกจะผมว่ามึงอะ แล้ว...ผมไม่ได้กินเพื่อนความรักนะ ผมแค่กินลูกชิ้นหมู

“เปล่าซะหน่อยพี่”

“เปล่าอะไร น้องสั่งลูกชิ้นหมู น้องไม่คิดบ้างเหรอว่าหมูที่ถูกเอามาทำลูกชิ้นอาจจะเป็นเพื่อนของความรักก็ได้ แทนที่เพื่อนของความรักจะได้ใช้ชีวิตเยี่ยงหมูปุถุชนธรรมดาตัวหนึ่ง กลับต้องมาตายเพราะน้องสั่งลูกชิ้นหมู...” กูว่ากูเพ้อเจ้อละนะ ลืมไปได้ยังไงว่าพี่มันก็เพ้อเจ้อและคิดอะไรเป็นตุเป็นตะบ้าบอเหมือนกัน

ที่สำคัญ...หมูที่ผมกินไม่มีทางเป็นเพื่อนความรักแน่ๆ เพราะหมูสายพันธุ์เดียวกับความรักเขามีเอาไว้เลี้ยงเป็นหมูบ้าน ไม่ได้มีไว้ทำเป็นอาหาร ตัวก็เล็ก แพงก็แพง ใครที่จะลงทุนหมูพันธุ์นี้มาทำอาหาร บ้าไปแล้ว!

“คืองี้นะพี่...ความรักมันหมูแคระ”

“น้องจะบอกว่าคนเขาไม่เอาหมูแคระมาทำอาหารใช่ไหม แล้วไม่คิดเหรอว่าเพื่อนของความรักมันจะไม่ใช่หมูแคระ” แล้วถ้ามันไม่ใช่หมูแคระแล้วมันจะเป็นเพื่อนกันได้ยังไงละวะ ก็มันถูกเลี้ยงมาในฟาร์ม

“แต่ว่า...”

“น้องเลี้ยงหมู น้องน่าจะเข้าใจความรู้สึกของหมู ดูมันสิ...ไม่สงสารมันเหรอ” ก้มมองความรัก แหมะ ทำตาปรือ...สงสารดีไหมอะ

“ก็...สงสาร”

“สงสารแล้วทำไมต้องกิน” เหมือนกูทำผิดมหันต์อะ เหมือนการกินหมูทำให้คนตายไปหลายร้อยคนทั้งที่ผมก็แค่กินลูกชิ้นหมูอะ

“เคๆ ผมไม่กินแล้ว โอเคไหมครับ” จากหน้าเหี้ยมดุดันก็แปรเปลี่ยน ยิ้มออกแล้วเหรอครับ

“โอเค” ว่าจบก็ก็เดินอาดๆ เข้าฟลอไปเลย ทิ้งผมไว้ท่ามกลางความสับสนอลม่าน คือพี่มึงไม่กินหมูไง...แต่ผมกิน แล้วยังไงอะ…คนละกระเพาะกันนะโว้ยยย

พี่มะเดี่ยวเอาความรักไปอวดทุกๆ คนในฟลอ แล้วพวกเขาก็ชอบมันด้วยนะ ชื่อความรัก เป็นที่รักของทุกคน แหม...มันน่าเอ็นดูขนาดนั้นนี่นะ แต่ผมไม่เดินเข้าไปหรอก ผมตัดสินใจโทรหาวิ่ง ถามว่ามันอยู่ไหนจะตามมันไป

ในเมื่อไม่ให้ผมกิน...ให้พี่เห็น

ผมก็จะไม่กิน...ให้พี่เห็น!

ลั้นลาไปสิ เดินฮัมเพลงเข้าตลาดเปิดท้าย ผมไม่ห่วงความรักหรอก พี่มะเดี่ยวดูรักดูหวงมัน ผมเลยวางใจฝากความรักเอาไว้ที่พี่เขา เดินตามหาวิ่งไม่นานก็เจอ มันซื้อลูกชิ้นหมูล้วนเอาไว้ให้เรียบร้อย ห้าสิบบาทหมดห้าสิบบาทนั่นแหละ

“ทำไมมาวะ...” พีชกอดคอแย่งลูกชิ้นกิน

“พี่มะเดี่ยวไม่ให้กินลูกชิ้นหมู” บอกแม่งตรงๆ นี่แหละ

“มึงเลยแอบกิน” พยักหน้ารับคำวิ่ง

“ฮ่าๆ อย่างกับแอบผัวมาทำผิดเลยมึง....” ผัวพ่องงงงง แค่ส่อง ยังไม่ใช่ผัว อุ้ยยยย!

.....100%....

ทำลับๆ ล่อๆ แบบนี้เหมือนแอบแฟนมาทำผิดเลยอะเนาะ...แต่สามไม่ได้แอบแฟนมาทำผิดสักหน่อยอะเนาะ~ ย่องไปฟ้องพี่มะเดี่ยวแพร่บ!  :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 13 [100%]❤️ -14/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-10-2017 04:15:15
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 13 [100%]❤️ -14/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 15-10-2017 05:14:23
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 13 [100%]❤️ -14/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-10-2017 13:01:59
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 13 [100%]❤️ -14/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 15-10-2017 18:59:30
อยากเป็นควารัก -///-
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 13 [100%]❤️ -14/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 17-10-2017 18:23:19
ฮ่าๆ คือเรื่องนี่ความรักเป็นตัวหลัก ส่วนน้องสามเป็นตัวประกอบ สงสารน้องเค้านะคะ :hao7:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 14 [100%]❤️ -17/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 17-10-2017 21:17:43
>>ตอนที่ 14 [100%]<<

กินอะไรกันเสร็จเรียบร้อย เราสามคนก็ถือน้ำเปล่าคนละขวดเข้าฟลอ คนค่อนข้างเยอะ แล้วก็ไม่ใช่แค่นักศึกษาที่มหาลัยเท่านั้น แต่ยังมีคนอื่นๆ ที่เข้ามาเต้นด้วยมากหน้าหลายตา แต่ละคนหน้าเหี้ยมหน้าโหดทั้งน้านนน ผมไม่แปลกที่คนมองบีบอยเถื่อน ก็ถ้าพวกเขาดูแลตัวเองดีหน่อยมันก็จะไม่มีคนมองแบบนั้นหรอก

“นั่งนี่ดิ” กำลังยืนมองรอบด้าน พี่มะเดี่ยวก็ชี้ๆ ไปที่...ความรัก เจ้าหมูน้อยหน้าดำนั่งเชิดหน้าเฝ้าที่ให้ ข้างๆ มันมีกระเป๋าของพี่มะเดี่ยว จำได้ สะพายมา

“ไปมึง” วิ่งดันหลังให้เดินอ้อมฟลอเต้น ที่นี่ไม่ใช่พื้นที่กว้างขวางเหมือนใต้อาคาร มันมีพื้นที่จำกัด แถมยังเต้นกันอยู่หน้าแม็กโดนัล ข้างๆ มีเซเว่น พร้อมสรรพโคตรๆ แต่คนมันเยอะกว่าพื้นที่ที่มีอีกนะ

พื้นอะมันยื่นออกมาจากร้านแม็กโดนัลเป็นลักษณะครึ่งวงกลม ไม่ใหญ่มาก จอดมอเตอร์ไซก์สักห้าหกคันก็เต็มแล้ว ส่วนที่พี่มะเดี่ยวให้ผมนั่งเป็นม้านั่งยาว มีหุ่นตัวตลก มาสคอตของร้านแม็กนั่งอยู่

“เต้นกันพอเหรอครับ ที่มีแค่นี้เอง” เข้ามาใกล้ ผมก็อดที่จะถามพี่มันด้วยความอยากรู้ไม่ได้ พี่มะเดี่ยวป้อนมะม่วงให้ความรัก นี่ลงทุนซื้อมาเลยสินะ

“เต้นได้ดิ ผลัดกันลงฟลอ ที่นี่เหมาะจะเต้นแบทเทิลแต่ไม่เหมาะที่จะเอาไว้ใช้ซ้อมเต้นอะ บีบอยมีความโรคจิตนิดๆ คือชอบเต้นให้คนอื่นดู…อยากอวดอยากโชว์นั่นแหละ” พยักหน้าเข้าใจ หัดเต้นก็เพื่อโชว์คนนี่เนาะ มันก็ต้องอยากให้คนมุงเยอะๆ

“ซึ่งบางวันเราก็จะเปิดหมวกไปในตัว มีคนให้เราก็เอามาแชร์มาหารกัน หรือซื้อน้ำซื้อของกินมากินร่วมกัน อ่อใช่…มีแข่งที่นี่ปีละครั้งด้วยนะ”

“อ๋อ…” ผมอุ้มความรักขึ้นมาก่อนจะนั่งลง แล้วเอามันวางบนตัก ที่ข้างๆ ติดกับมาสคอตตัวใหญ่เป็นที่วางกระเป๋า วิ่ง พีช โยนทับกระเป๋าพี่มะเดี่ยวเป็นที่เรียบร้อย

มะเดี่ยวยีหัวความรักแล้วหันหน้าเข้าฟลอเต้น พวกเปิดเพลงสนั่นกันตั้งนานแล้วและวิ่งมันก็โดดตีลังกาลงฟลอดังตับ! ไม่ใช่เอาหลังลงนะ เท้าลงเนี่ยแหละ เสร็จแล้วก็เต้นแบบกวาดฟลอโคตรๆ กินพื้นที่ก่อนจะใส่สกิวที่ตัวเองมีอย่างมั่นอกมั่นใจ ผมต้องชะโงกหน้านิดหน่อย มันติดหลังใหญ่ของพี่มะเดี่ยยวเขา พอเพื่อนผมใส่โครมๆ จบหนึ่งคอมโบ พี่คนหนึ่งตัวสูงๆ ผิวเข้ม ใส่เสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีน้ำตาลดำก็ลงบ้าง เขาทำท่าอะไรไม่รู้ เหมือนหกสูงแต่สองมือวางทับกันแล้วหมุนติ้วๆ ผมเคยเห็นเขาซ้อม ตื่นตาตาทุกรอบ ทว่ารอบนนี้...ตื่นตากว่า พี่แม่งล้มลงมาดื้อๆ ทั้งที่ขายังตรงแด่ว พื้นงี้สะเทือนไปหมด

“สัตว์! เจ็บเชี่ย!!!” เสียงด่าหลุดออกมาอย่างดัง ล้มเอง ด่าเอง...ฉุนเฉียวเอง คนมองแบบผมก็งงไปตามระเบียบ ดูโมโหมากเหมือนคนอื่นเขาถีบ ทั้งที่ตัวเองล้มแล้วไม่เซฟตัวเองอะ

“หยาบคายวะไอ้แน มึงควรพูดจากเพราะๆ นะครับแน...” พี่มะเดี่ยวลงฟลอบ้าง เข้าไปอย่างมีสเต็ป โยกซ้ายขวาพร้อมกับฟุตเวิร์ก เขาเท่มาก...หรือควรใช้คำว่ามันน่ามองมากๆ เวลาเขาเต้นดีล่ะ ตอนอยู่ที่มหาลัยมันแค่ซ้อมๆ แต่นี่มันเป็นการเต้นจริงจังกว่า

“ค...วย!!” ครับ...เพราะมาก พี่แนตอบกลับเสียงดังใส่หน้าพี่มะเดี่ยว แต่คนสุภาพของเราไม่สะทกสะท้านหรอกครับ พี่ท่านหกสูง งอตัวทั้งที่อยู่ท่านั้นและมีเพียงมือเดียวรับน้ำหนัก อีกมือเหรอ...ชูนิ้วกลางใส่หน้าพี่แนไง

“เถื่อนเนอะความรัก” ผมก้มลงไปกระซิบกับความรัก มันนั่งมองเขาเต้น นิ่งมาก...นิ่งเหมือนสนใจอยากร่วมฟลอทั้งที่มึงเป็นหมูอะ

“ไม่น่ารักเลย...ทั้งคู่อะ” พี่โซฮานเอามือดันพี่มะเดี่ยวและพี่แนให้พ้นทางเต้นของตนเอง จากนั้นใช้สไตล์ในการกวดเตะทุกคน...พี่ก็ไม่น่ารักครับ

เมื่อเหล่าบีบอยเต้นกันจริงจัง คนที่เดินอยู่รอบๆ ก็หยุดดูพวกเขา เสียงเพลงดังๆ และสายตาคนทำให้พวกเขามีแรงใจฮึกเฮิมขึ้นมา พี่มะเดี่ยวและเพื่อนทั้งสองของผมก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น พวกเขาลงฟลอ ผลัดกันเต้น ผลัดกันทำท่าและลงคอมโบกันรัวๆ ยามที่ร่างล้มลงกระแทกพื้นดังอึก ไม่มีใครแสดงความเจ็บปวดออกมาให้เห็นเลย อ๋อ...ยกเว้นพี่แนเหอะ เจ้านั้นเบ้หน้าด่ากราด ใครยืนอยู่ตรงหน้าแกนะ แกด่าหมด

ผมไม่เก่ง...แต่ผมก็มีความสุขกับการได้นั่งดูพวกเขาเต้นกันนะ บ้าๆ บวมๆ ดีอะ...ถ้าผมเต้นได้อย่างพวกเขาผมจะยิ่งมีความสุขมากกว่านั่งดูใช่ไหมนะ แต่การทำอะไรโหดๆ แบบนั้นมันต้องใช้เวลาขนาดไหน ต้องนานแน่เลยอะ...

ผมละสายตาจากพี่มะเดี่ยวไปทางหญิงสาวสองคนที่เดินมา คนหนึ่งคือพี่ออมแต่อีกคนผมไม่รู้ ก็ทักทายกันปกติ ดูไม่มีอะไรพิเศษมากมายนัก มองเผินๆ ก็คล้ายเป็นแค่แฟนของใครสักคน แต่ที่ทำให้ผมสนใจคือพี่ออมที่เห็นเอาแต่เดินไปเดินมาลงสเต็ปที่ฟลอแล้ว

“ไอ้สัตว์...ฟลอโคตรเดือด” พีชมันยืนอยู่ใกล้ๆ มันพูดขึ้นมาพลางโห่แซ็วพี่ออม

พี่ออมเป็นหญิงสาวตัวเล็ก เธอยิ้มรับคำพูดล่อแหลมและเสียงแซ็วของผู้ชายทุกคนที่รายล้อมรอบเธอ ผมไม่เข้าใจคำว่าฟลอเดือดจนกระทั่งพี่ออมเริ่มใส่จังหวะที่รุนแรงขึ้น แข็งแรง ดุดันแบบที่ผมไม่เคยเห็นที่มหาลัย เป็นผู้หญิง...ไม่ได้หมายความว่าเธอจะแบทเทิลกับผู้ชายไม่ได้

“โอ้วววววว!!!!” ท่าจบคือพี่อออมแกผมก็ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร มันเหมือนหกสูงแต่โพสต์พ้อยขา ทรงตัวมือเดียวเหมือนพี่มะเดี่ยว จากนั้นแกก็ร่วงวูบ ผมคิดว่าจะตก แต่เปล่า...พี่ออมลงมาจบที่แอร์แชร์ อันนี้ผมรู้เพราะว่าพีชมันทำ ทรงตัวแนวนอนตะแคงบนศอก รับน้ำหนักด้วยแขนข้างเดียว มันสวยมาก...และผู้ชายแทบทุกคนก็โห่ร้องพร้อมลุกขึ้น

“โคตรคิลบีท...ยอมๆ”

“ฟลอแตกๆ เอ้าเชี้ย…ฟลอแตกแล้วรอไรล่ะ แยกย้ายสิสัตว์” เสียงรอบด้านอื้ออึง ผมนี่นั่งปรบมือเปาะแปะๆ อยู่ด้านหลังพวกเขาทั้งหมด

จบจากพี่ออม เพื่อนพี่ออมที่เป็นผู้หญิงอีกคนก็ลงบ้าง คนนี้ไม่โหดแต่สไตล์สวย พลิ้ว...เห็นเอวแล้วสามอยาก ฮ่าๆ สามล้อเล่นน่ะโอเคไหม สามจะไม่หื่น...ไม่อยากอะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่เชื่อเหอะว่าผู้ชายในฟลอเต้นทุกคนต้องคิดไม่ต่างจากผมเท่าไหร่

“น้ำลายหกแล้ว” พี่มะเดี่ยวเอามือมาปาดปาก นอกจากตกใจแล้วยังเค็มด้วยฟายยยย

“แหวะ...เล่นไรของพี่เนี่ย”

“ฮ่าๆ ก็ดูมึงจ้อง...จะบอกให้ นั่นน่ะ...กะเทย” ปากกูค้างยิ่งกว่าเดิม กะเทยจริงดิ สวยขนาดนี้ หุ่นเซี้ยะขนาดนั้น กะเทยจริงอ่อ...โอย กะเทยกูก็เอา!

“ก็ได้อยู่นะ” ผมบอกตรงๆ พี่มะเดียวหันขวับมามอง

“ได้...อะไรได้ เอากะเทยได้หรือให้พี่เอาได้” เดี๋ยวๆ เราคุยกันก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับให้พี่เอาเลยนะเว้ยเฮ้ยยยย

“กะเทยเอาได้...”

“ไม่ได้หรอก มีผัวแล้ว” โอเค จบ…เหนือกว่าความเป็นกะเทยโสดงดงามแล้วคือผัวของเธอตัวใหญ่มาก พี่มะเดี่ยวชี้ไปให้ดูผู้ชายตัวใหญ่ๆ ด้านหลัง สูงชะลูด พร้อมด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ

“ครับ” รับทราบท่านพี่ ผมไม่คิดยุ่งย่ามกับเธออยู่แล้ว ปกติกะเทยไม่ชอบผู้แบบผมเท่าไหร่...หน้าติดหวาน มีแค่สาวแท้ๆ ที่ชอบ

พี่มะเดี่ยวแกออกไปเต้นอีกสองสามรอบก็กลับเข้ามานั่งตรงพื้นด้านหน้าผม ก็ไม่มีอะไรพิเศษครับ...ถ้าพี่เขาหันหน้าเข้าฟลอเต้นไม่ใช่เข้าหาผมแบบนี้ ผมนั่งบนม้านั่งยาวก็จริงอะ แต่มันก็แปลกๆ ยังไงไม่รู้ มีแค่ความรักบนตักเท่านั้นที่ดี้ด้าออกหน้าออกตา พี่มะเดี่ยวก็เลยเล่นกับมันโดยเอาสองแขนของตัวเองมาวางไว้หน้าขาผม เออ คือกูไม่ใช่โต๊ะไงพี่ นี่คนไงพี่คน...คนชื่อสามด้วยเนี่ยเห็นไหม

โอย...เล่นอะไรไม่ถนอมหัวใจกูเล้ย!

“พี่อยากได้ความรักอะ” พี่มะเดี่ยวเงยหน้าสูงมองหน้าผม

“พี่ก็ซื้อเอาสิฮะ” ใช่…พี่ต้องซื้อเว้ย แต่ก็ต้องแสดงความเสียใจด้วยที่พี่จะไม่มีทางได้แบบไอ้ความรักแป๊ะๆ นอกจากลายดำบนตัว

“เอาตัวนี้ไม่ได้อ๋อ เอาทั้งความรักทั้งเจ้าของมันเลย”

“พี่จะเอาผมไปเป็นเบ๊ใช่ไหม...” ไม่ต้องคิดเยอะ พูดมาแบบนี้เอากูไปเป็นเบ๊ชัวร์ๆ แล้วก็จริง พี่มะเดี่ยวหัวเราะเสียงดัง

“ใช่ ขี้เกียจทำความสะอาดห้องวะ อยากได้คนช่วย ไปช่วยหน่อยดิ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวความรัก” ใช้แรงคนแต่ให้ค่าจ้างกับหมู เอาเถอะคนเรา...

“ม่าย..ห้องผม ผมยังขี้เกียจทำเลย”

“ซกมกวะ” กรรม จะเอาอะไรกับผมล่ะเอ้อ ผมก็เป็นชายโสดซิงที่ชอบสิงอยู่กับเกมนี่นา

“เต๊าะเด็กอ่อวะ” พี่โซฮานเดินเข้ามาตบไหล่พี่มะเดี่ยว ไอ้คนนั่งพื้นเลยต้องเงยหน้ามองเพื่อนตัวเอง

“เต๊าะคือจีบ แต่อย่างกูเนี่ย...เรียกอ่อย” เออพี่ มึงลืมไปเปล่าว่ากูนั่งอยู่นี่ หรือว่าเล่นแบบนี้กันเป็นปกติ? น่าจะ...ไม่งั้นก็คงไม่พูดอะไรใส่กันแบบนี้ง่ายๆ หรอกมั้ง

มันจะไม่น่าคิดอะไรมากถ้าพี่เขาไม่มองตาผมแบบนี้ ผมเสหน้าหลบ มองนกมองไม้ไปตามเรื่อง ผมรู้ว่า...เวลาผู้ชายแท้ๆ เขาเล่นกัน เขาก็เล่นกันประมาณนี้ นี่ไม่เรียกจีบหรอก จับตงจับตูด เด้าตูดกันเล่นก็มีถมเถไปอะถูกมะ เพราะงั้นผมต้องไม่คิดอะไรกับคำพูดพี่มันเยอะ

“อ่าว...เด็กน็อกเลยมึง ฮ่าๆ คิดมากน้อง มันล้อเล่น” พี่โซฮานหัวเราะ ผมไม่คิดมากนะ ผมคิดจริงจังเลยเนี่ยแหละ แหม่...

“ครับ” รับทราบ ไม่คิดมาก

“งั้นพี่ขอตัวไอ้เดี่ยวหน่อยนะ” เอาไปสิครับ มาขอผมทำไมไม่ได้ล่ามโซ่พี่ท่านเอาไว้กับตัวเสียหน่อย

พอพี่มะเดี่ยวไป ผมก็นั่งกอดความรักดูเพื่อนๆ พี่ๆ เต้นกันต่อ ไอ้วิ่งกับไอ้พีชนี่แย่งกันลงฟลอมาก ผมหัวเราะกับภาพของพวกมันยื้อแย่งกันเต้น พวกรุ่นพี่เห็นมันไม่ลงกันสักทีก็เลยลงก่อน อดแดก...ยื้อแย่งกันเป็นเด็กๆ เต้นๆ หยุดๆ เหนื่อยก็เดินมาพักข้างๆ ผม รับกำลังใจจากความรักแล้วฮึกเหิมเต้นต่อ ซึ่งมันก็แค่ไอ้พีชนะ ไอ้วิ่งนี่นั่งหอบเป็นหมาหอบแดดเลย

นั่งดูไปสักพักก็อยากเดินเล่นบ้าง ไม่ใช่ตรงนี้ไม่สนุก แต่สงสารความรักที่ต้องอยู่กับเสียงดังๆ แบบนี้ตลอด คืออยู่ฟลอเราคุยกันแบบตะโกนเลยล่ะครับ เข้าใจว่าเปิดดังๆ มันเร้าใจ แต่บางทีพาคววามรักไปพักหูหน่อยก็ดี ผมอุ้มความรักไปเดิยเล่นที่ตลาดเปิดท้าย มันก็หันซ้ายหันขวามองนั่นมองนี่ไปเรื่อยเปื่อย

เดินมาเจอร้านขายเสื้อผ้าและของใช้สัตว์เลี้ยงผมก็หยุด เลี้ยวเข้าไปดูนั่นดูนี่ทันทีด้วยความสนใจขั้นสุด งานอดิเรกอีกอย่างคือจับความรักแต่งตัว พี่สองเคยแซ็วว่าเล่นเหมือนเด็กผู้หญิง แต่พอเห็นหมูน้อยใส่เสื้อผ้าแล้วก็พากันชมใหญ่ว่าน่ารักงั้นน่ารักงี้ ถ้าไม่มีเดอะสามคนนี้คอยแต่งตัวให้มันจะน่ารักอย่างนี้ไหมล่ะเอ้อ

“พี่ครับ ชุดนี้มีไซซ์เบอร์หนึ่งไหม” ผมหยิบชุดเทควันโด้สำหรับน้องหมามาให้พี่เขาดู เห็นแล้วน่ารัก จับทาบความรักแล้วน่าเอ็นดูสุดๆ

“มีครับ รอแป๊บหนึ่ง..เดี๋ยวผมหาให้”

“ขอบคุณครับ” นอกจากชุดก็มีหมวก รองเท้านี่ผมไม่ซื้อนะ เห็นความรักใส่รองเท้าเดินแล้วตลกอะ เข้าใจปะว่ามันเป็นสัตว์ มันไม่คุ้นชินกับการใส่รองเท้าเหมือนมนุษย์

นอกจากชุดเทควันโด้ก็ยังมีชุดโงกุน ชุดนารูโตะ ชุดสูท ชุดผึ้งและชุดแตงโม โอ้โห...น่ารักทุกชุด ผมนี่กวาดเรียบ ได้ยินเสียงแม่ด่ามาไกลๆ ว่าไอ้สาม...เรานี่ชักจะใช้เงินมือเติบเกินไปล่ะนะ ฮ่าๆ แหม แค่นิดหน่อยเอง ผมทุ่มให้กับเกมและการแต่งตัวความรักด้วยเงินค่าอาหารของตัวเอง จะว่าไป...ช่วงนี้สตรีมมีลดราคาเกมอยู่ ผมต้องเติมไปสอยเกมใหม่เสียหน่อยแล้ว

เลือกของให้ความรักจนพอใจก็เดินออกมา ผมเปลี่ยนความรักจากหมูน้อยไร้เสื้อผ้าเป็นชีเปลือยเป็นหมูน้อยนักเทควันโด้เรียบร้อย อ้อ ที่ไม่ซื้ออีกอย่างคือปลอกคอ ที่ความรักใส่อยู่เป็นปลอกคอถักสีเขียว ห้อยจี้สั่งทำ สลักว่าความรักของน้องสาม แล้วที่ไม่คิดเปลี่ยนก็เพราะแม่เป็นคนถักปลอกคอนี้ให้อะ

“หล่อมาก...ดูเก่งกาจเกินหน้าหมูทุกตัวบนโลกเลยมึง” ผมกระซิบข้างหูความรัก

“อู๊ดดดด” ดีมาก รับคำกันแบบนี้น่ารักที่สุดเลย ยืนยิ้มอยู่หน้าร้านเหมือนคนบ้าที่คุยกับหมูรู้เรื่อง ทั้งที่ไม่รู้เรื่อง พอเงยหน้ามาจะเดินต่อก็ต้องนิ่งไปเมื่อพี่มะเดี่ยวมาอยู่ตรงหน้า

“น่ารัก...” แก้พูดแล้วจิ้มไปที่หน้าผากความรัก ตาอะตา...มองความรักสิไม่ใช่มองหน้าผม

“ช่าย…มันน่ารักสุดๆ เลยล่ะครับ” ผมยิ้มแป้นให้พี่เขา

“เปล่า มึงอะน่ารัก” นี่ไม่เรียกอ่อยแล้ว…นี่เรียนเต๊าะแบบที่พี่โซฮานเขาพูดนั่นแหละถูกต้องที่สุด

“อ่า...”

“อะ กูซื้อมาให้ เผื่อหิว” พี่มะเดี่ยวส่งถุงร้านแม็กโดนัลมาให้ ข้างในมีเบอร์เกอร์กับน้ำผัก

“ขอบคุณครับ”

“ไม่เป็นไร กูพามาก็ต้องดูแล แล้วนี่รีบกลับเปล่า…ฟลอแม่งเลิกดึกอยู่นะ พวกไอ้โซฮานก็จะไปเต้นตรอกข้าวสารกันต่อด้วย แต่มึงไม่ต้องไป พรุ่งนี้มีเรียนถูกไหม” พี่มะเดี่ยวเดินนำ ผมเดินตาม

“ครับ เดี๋ยวสักพักค่อยกลับก็ได้ พี่ไปกับเขาด้วยใช่ปะ” คิดว่าต้องใช่ แต่ไม่…พี่แกส่ายหน้า

“ไม่อะ เดี๋ยวกลับห้อง กูสายทำงานกลางคืน ถ้าไม่รีบก็กลับพร้อมกัน ตัวมึงยิ่งเล็กๆ น่ารักเดี๋ยวคนฉุด” โอ้ย ใครจะมาฉุด

“ผมมีความรักเป็นองค์รักษ์พี่ไม่ต้องห่วง เจ้านี้ทำงานได้ดีไม่ข้อบกพร่องเลยครับ” ว่าจบก็โดนโบกหัวลั่นไปหนึ่งที

“ตลก ความรักมันจะเผ่นก่อนอะสิ ใส่ชุดเทควันโด้แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูเก่งขึ้นเลย ดูด๋อยเหมือนมึง...อ้อ ต้องด๋อยเหมือนกันสิเนอะ พ่อลูกกัน” แล้วท่านก็ขำเหมือนนั่งดูตลกคาเฟ่ หึ...การแหน็บแนมผมมันคงเป็นความสุขของพี่จริงๆ สินะ

แต่รอยยิ้มของพี่เขาก็พอจะทำให้ผมไม่รู้สึกงอนได้ล่ะนะ...

พี่มะเดี่ยวพาผมกลับไปที่ฟลอ นั่งดูทุกคนซ้อมเต้นและเล่นแผลงๆ กันต่อ โดยเขามักมายืนอยู่ตรงหน้าผมเสมอ ผมไม่อยากคิดไปเอง...ไม่อยากวาดฝันไปคนเดียวว่าที่พี่เขาทำแบบนี้คือพี่เขาชอบผม เราไม่คาดหวังกับชายแท้ เปอร์เซ็นเจ็บสูง และผมก็ไม่ชอบความเจ็บแบบนั้นเท่าไหร่ ทว่า...การห้ามความคิดนั้นเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่าหัดเต้นบีบอยเสียอีก ผมได้แต่มองหน้าความรัก...ถอนหายใจแล้วกอดมันเอาไว้อยู่ด้านแผ่นหลังกว้างของพี่มะเดี่ยว

.....100%.....

ตั้งใจจะอัปตั้งแต่เมื่อวานแต่ยุ่งกับงานเลยลืม ขออภัยด้วยนะคะ เราจะอัปทุกวันจนกระทั่งถึงวันที่ 20 หลังจากนั้นขออนุญาตหยุดอัปจนถึงสิ้นเดือนนะ

ขอพูดถึงพี่แน...สมัยเราเต้น เรามีรุ่นพี่คนหนึ่งแบบนี้ คนอื่นเขาซ้อม เขาเจ็บเขาก็เฉยๆ แต่พี่แนเป็นสายบ้าพลัง เขาเต้นที่โครมๆ ล้มเจ็บก็ด่าหยาบคายเสียงดัง ระบมจนพอใจก็จะหายไปเลย สองสามชั่วโมงกลับมาใหม่ เราว่าพี่เขาน่ารักดี...เป็นผิวเข้มตัวสูงใหญ่ หน้าตาดี แต่มีคาแรกเตอร์แปลกๆ จำได้ตลอดไม่ลืมเลยคนอย่างนี้

ว่าแต่...พี่มะเดี่ยวจะรู้ไหมว่าน้องมันหวั่นไหว >\\\<
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 14 [100%]❤️ -17/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-10-2017 21:35:18
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 14 [100%]❤️ -17/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-10-2017 22:32:50
เอ็นดูเดอะสาม 555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 14 [100%]❤️ -17/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 17-10-2017 22:39:18
#ทีมเมียหลวงพี่มะเดี่ยว พี่จะอ่อยน้องสามสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะคะ แหมมมมม
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 14 [100%]❤️ -17/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-10-2017 01:04:06
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 14 [100%]❤️ -17/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 18-10-2017 10:55:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 14 [100%]❤️ -17/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-10-2017 16:31:48
โซฮานชอบมะเดี่ยวใช่ไหม :hao4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 18-10-2017 19:59:11
>>ตอนที่ 15 [100%]<<
พวกพี่โซฮานแยกย้ายไปตอนทุ่มนิดๆ พวกเขาจะไปเต้นเปิดหมวกที่ตรอกข้าวสาร เห็นอยู่ว่าพยายามชวนพี่มะเดี่ยวไปด้วย แต่พี่มะเดี่ยวปฏิเสธ บอกว่าคืนนี้มีงานต้องทำ มันใกล้งานหนังสืออะไรของเขาเนี่ยแหละ ผมก็ไม่เคยถามพี่เขาจริงจังว่าพี่เขาทำงานอะไร ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันนอกจากรุ่นพี่รุ่นน้องและห้องอยู่ตรงข้ามกันนี่นา จะไปถามละลาบละล้วง ผมคิดว่ามันไม่เหมาะสมเท่าไหร่

พอรุ่นใหญ่ไปกันหมด จากที่คนแน่นฟลอตอนแรกก็เริ่มซาลง เด็กหลายคนอายุยังไม่ถึงสิบแปดพากันร่ำลารุ่นพี่เพื่อกลับบ้าน พี่มะเดี่ยวรับไหว้น้องๆ ทุกคน เท่าที่เห็น พี่เขาเป็นคนเฟรนลี่นะ ดูแลน้องๆ ในฟลอดีแล้วก็เป็นคนยิ้มเก่งยิ้มง่าย แกดูใจดี ไม่เห็นแกแกล้งใครเลยเนี่ยนอกจากผม...

“มึงมาซ้อมปะ กูสอน” ไอ้วิ่งเดินมาหยุดตรงหน้า

“เอาจริงดิ”

“เออ เดี๋ยวกูสอนแก็ป”

“เออๆ” จำต้องวางความรักลงบนม้านั่งยาว เดินออกไปที่ริมๆ ฟลอเพื่อให้ไอ้วิ่งมันสอนเต้น

แก็ปเป็นท่าที่ทำด้วยการหกสูงขึ้นก่อน พอหกสูงได้นิ่งแล้วก็จะหักเอวเข้าหาตัว ปล่อยมือข้างหนึ่งเพื่อแตะปลายเท้าข้างใดข้างหนึ่งที่พับลงมานี่แหละ ส่วนสำคัญคือการบิดเอวลงมา เปิดแขนเงยหน้า

วิ่งอธิบายและทำให้ดูทีละสเต็ป มันหกสูงได้นิ่งมาก แก็ปแล้วขึ้นไปอยู่ท่าหกสูงต่อได้โดยไม่ต้องเอาเท้าลงมาแตะที่พื้นเลย ผมก็ลองทำบ้างเมื่อมันสั่งให้ทำ แต่ขอโทษ...การทำจริงไม่เหมือนกับทฤษฎีหรอกนะครับ ฟังเหมือนเข้าใจ พอทำ...ไม่เข้าใจอะไรเลย ผมหกสูงได้ไม่นิ่งด้วยซ้ำ

“ไม่ไหววะ”

“ไม่เว้ย มึงไม่ต้องรอให้มึงหกสูงตรง มึงขึ้นให้ตรงแล้วงอเอวเข้าหาตัวเอง แตะปลายเท้าปุ้บก็จบ ดีดตัวยืนได้” มึงอธิบายเสียง่ายอะ แต่ทำจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้น

วิ่งไม่เหมือนพี่มะเดี่ยวที่จะจับขาผมให้ตอนหกสูง มันให้ผมทำด้วยตัวผมเอง ไม่ยุ่ง ยืนดูใกล้ๆ คนอื่นก็ไม่มีใครมาสนใจผมหรอก พวกเขาต่างเต้น ต่างฝึกท่ากันไป พีชเดินมานั่งใกล้ๆ มาช่วยเชียร์และให้กำลังใจ อยากบอกว่าแค่หกสูงผมก็เหวอแล้วอะ

“มึงอย่ากลัวสิวะ เตะแรงๆ” คงเพราะขาไม่ตรงสักทีเนี่ยแหละ โอ้ย...ยากอะไรแบบนี้เว้ย

ลองอีกที...เตะให้แรงขึ้น พอรู้สึกว่ามันตรง...คือมันจะรู้สึกถึงสิ่งนี้ได้ยากมากอะ ดีที่ผมจำความรู้สึกตอนพี่มะเดี่ยวจับขาผมให้วิดพื้นหกสูงได้ ก็เลยรีบเกร็งข้อมือเอาไว้ให้มันตั้งตรง จากนั้นก็หักเอวเข้าหาตัว...หักตรงๆ ไม่ได้นะ ต้องเอียงตัวนิดหนึ่งอะ...กำลังจะแตะปลายเท้าได้ก็ดัน...

ตุ้บ!!

“อึ้ก...” ผมล้ม หัวโขกพื้นดังป๊อก! ผมนอนแผ่เลย กุมหัวตัวเองที่เต้นตุ้บๆ

“เอาใหม่ๆ เมื่อกี้สวยแล้วมึง อีกนิดเดียว” วิ่ง...มึงเห็นไหมว่าหัวกูโขก

“หัวโขกครั้งแรกมันก็จะเจ็บนิดหนึ่งอะนะสาม เดี๋ยวพอโดนโขกมากๆ มึงก็จะเลิกเจ็บแล้วเสียวแทน...” เดี๋ยวนะ...หัวโขกบ้านมึงเสียวได้อะ!!!

“ตลก...เจ็บ” ลุกขึ้นมานั่ง สะบัดหัวนิดหน่อยเพื่อไล่ความมึนเบลอ

รู้สึกเจ็บน้อยลงก็ทำต่อ รอบนี้ทำได้นะ...แตะขาตัวเองได้ แต่เสี้ยวนาทีผมก็ล้มโครมลงมาอีก หัวไม่โขก ทว่า...ทั้งร่างเนี่ยอัดกับพื้นเต็มๆ แม่งเจ็บมากอะ นอนมองท้องฟ้า...ดูดวงดาวที่วิ่งแล่นรอบหัวผมสักพัก หน้าพี่มะเดี่ยวก็ลอยเข้ามา

“เฮ้ย...โอ้ย!” เพราะตกใจเลยรีบเด้งตัวลุกขึ้น แหม่งเลยปะทะกับแหม่งเข้าอย่างจัง ทีนี้แหละ ต่างคนต่างกุมหน้าผากตัวเอง

“ฮ่าๆ...ตลกวะ พี่ก็เสือกเอาหน้าไปใกล้มันเนาะ เป็นไง กะโหลกร้าวไปยังวะสาม” วิ่งเข้ามาดูระยะประชิด ผมส่ายหน้า แต่มึน

“ทำไมเล่นแก็ปแบบไม่เซฟตัวเองเลยอะ ปล่อยร่วงแบบนั้นโครมๆ กระดูกร้าวไม่รู้ด้วยนะเว้ย” พี่มะเดี่ยวหายเจ็บก่อน เขาแค่เอามือถูๆ ตรงที่โดนกระแทก

“ก็...ผมไม่รู้” ไม่รู้ว่าต้องเซฟตัวเองแบบไหน เพิ่งหัดเต้นนี่หว่า

“ให้มันเจ็บเองเยอะๆ นั่นแหละพี่ เดี๋ยวมันก็เซฟตัวเองเป็น ของงี้ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของสัญชาตญาณ” กูนี่มองหน้าวิ่งทันทีด้วยความเคือง คือมึงควรบอกควรสอนกูไง ของแบบนี้เซฟตัวเองได้มันก็ควรทำใช่ไหมล่ะ

“เออ ก็จริง ตามนั้นแหละมึง สู้ๆ” พี่มะเดี่ยวชู้สองนิ้วสู้ตาย เสร็จเดินไปอุ้มความรักที่กำลังกินแอปเปิ้ลมานั่งให้กำลังใจข้างๆ พีช

“เอ้าทำต่อ! เป็นลูกผู้ชายต้องสู้ตายเว้ย” โหวิ่ง กูตายก่อนได้ไหมล่ะ

“กูตุ๊ด!” โพล่งแม่งออกไปแบบนั้นก่อนลุกขึ้นเตรียมทำท่าแก็ปต่อ

“ตุ๊ดคนนี้อยากได้สามีไหมครับ...” พี่มะเดี่ยวส่งเสียงยอกออกมา ทำเอาผมที่กำลังทุ่มกายวางมือเพื่อเตะขึ้นแก็ปต้องเงิบหน้าทิ่ม...ทิ่มจริง ทิ่มแบบหน้ากระแทกพื้นเลยอะครับ!

“เฮ้ย...เป็นไรไหมนั่น!” พี่มะเดี่ยวกับวิ่งรีบเข้ามาดู ผมเอามือทั้งสองขึ้นมากุมหน้าทั้งที่ยังนอนคว่ำอยู่

“เจ็บไง...” น้ำตาคลอเลยฮรึก...เจ็บมากๆ!

“ไหนลุกมาดูซิ” ร่างของผมโดนดึงขึ้นนั่ง สิ่งแรกที่ได้สบตาคือสายตาเป็นห่วงของพี่มะเดี่ยว มองต่ำลงไปก็เจอความรักข้างๆ ร่างใหญ่ เป็นห่วงป๊าด้วยเว้ย โอ้โห...อันนี้ปลื้มใจ!

“ไม่บุบสลาย แต่กูว่ามึงหาอะไรกินก่อนไหมวะ ลูกชิ้นหมูน่าจะย่อยหมดแล้วแขนเลยอ่อนหน้าทิ่มแบบนี้” อ้าปากค้างเลยล่ะครับ...วิ่ง มึงพูดอะไรออกมา กูอุตส่าห์แอบไปกิน มึงพูดมาหมดแบบนี้ที่กูแอบไปโซ้ยลูกชิ้นหมูมาก็ไร้ความหมายสิวะเฮ้ย!

“อ๋อ...หายไปกินลูกชิ้นนี่เอง” นั่นไง หายนะกูมาแล้วไง ดูไอ้วิ่ง...มันไม่สะทกสะท้านและก็ไม่รู้สึกถึงรางร้ายที่กำลังคลืบคลานเข้าสู่ชีวิตของผม

คือ...ผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะเว้ย ผมแค่กินลูกชิ้นหมูอะ แต่ไม่รู้สิ ผมคิดว่าพี่มะเดี่ยวแม่งต้องโกรธแน่ๆ เล่นไซโคให้ผมไม่กิน ผมเองก็รับปากแต่เสือกแอบไปกิน โอ้ย....หลังจากนี้โดนแกล้งบ่อยๆ กูจะไม่แปลกใจในชีวิตตัวเองเลย แค่หลอกพี่มันว่าจะกินหมูที่ตัวเองเลี้ยงผมยังโดนไปหลายดอก นี่โกหกพี่มัน...พี่มันไม่เล่นจนผมยับคาฟลอเต้นไปเลยอ่อวะ

“ใช่พี่ กินไปแค่ห้าไม้เอง มันไม่อิ่มหรอก มึงหาอะไรกินก่อนก็น่าจะดีแล้วค่อยซ้อมต่อ ยังไม่ดึกเท่าไหร่ด้วย” วิ่งพูดจ้อไปเรื่อย แต่กูนี่กินอะไรไม่ลงแล้วล่ะ...พี่มะเดี่ยวจ้องหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ นั่นไง โกรธ...กูโดนโกรธซะไหมล่ะ

“วิ่ง...มานี้ดิ้” พีชกวักมือเรียก ไอ้วิ่งก็เดินไปหางงๆ ส่วนความรักมันนั่งหน้าซื่อตาใสมองผมกับพี่มะเดี่ยวสลับกันไปมา

“คือ...ผมหิวน่ะ”

“แต่ก็โกหกปะ” คนโกหกต้องตกนรก แล้วนรกแม่งก็อยู่ตรงหน้าผมแล้วนี่ไง

“พี่โกรธอ๋อ ผมขอโทษ...” ยกมือไหว้ปลกๆ พีชกับวิ่งมันจะมองแล้วขำก็ช่างมัน

“พี่ไม่ชอบคนโกหก” ง่า...แล้วพี่จะให้ผมทำยังไงเล่าวะ ก็ผมอยากกินนี่นา ผมก็แค่กินเองนะเว้ยแค่กินอะ แค่กิน!

“อ่า...ผมขอโทษ”

“พูดเป็นคำเดียวเหรอ ตอนทำคิดปะว่าจะทำให้คนอื่นรู้สึกยังไง คิดว่าคำขอโทษมันทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้เหรอ...เห่อๆ สาม พี่จะบอกให้นะว่า...ไม่เลย เราเป็นคนที่แย่มาก เราคุยกับพี่แล้วแต่เราก็ยังทำ พี่ผิดหวังในตัวเราโคตรๆ” พี่มะเดี่ยวลุกขึ้น แกอุ้มความรักไปกับแกด้วย ซึ่งก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก...แค่อุ้มไปคว้ากระเป๋าแล้วออกจากฟลอเท่านั้นเอง

ฮื่ออออออ พี่มึงเล่นใหญ่รัชดาลัยมากอะ กูแค่กินลูกชิ้นอะพี่...แค่กินลูกชิ้นเท่านั้นไม่ได้ไปฆ่าใครที่ไหนตาย ผมมองตามความรักและพี่มะเดี่ยวไปจนลับสายตา เจ็บก็เจ็บ ระบมแม่งหมดไปทั้งร่าง ยังต้องมาปวดใจกับความเล่นใหญ่ของพี่ท่านอีก

นี่...พี่มึงไม่ใช่แฟนกูนะโว้ย!!

“อ่าว...โกรธจริงจังเลย” พีชเอ่ยขึ้นลอยๆ แต่วิ่งนี่หน้าจ๋อยสนิท

“กูลืมวะ...โทษที พี่เขาไม่โกรธมึงนานหรอก กูไม่เห็นพี่มะเดี่ยวโกรธใครเท่าไหร่ ห้องอยู่ตรงข้ามกันเองด้วย ไปง้อหน่อยเดี๋ยวก็หาย” มึงพูดง่ายอะวิ่ง แต่กูดิ...กูจะง้อพี่เขายังไง ไม่ได้สนิทชิดเชื้อขนาดที่รู้ว่าพี่มันชอบอะไรไม่ชอบอะไร จะซื้อของไปเซ่นไหว้ให้หายโกรธก็ไม่ได้...ที่สำคัญ พี่มึงเอาความรักของกูไป ฮรึก...เดอะสามอยากร้องไห้ เอะอะพรากหมูกูไปทุกทีเลยไอ้พี่เลว

“มึงต้องรับผิดชอบ มึงต้องไปง้อพี่เขากับกู” ผมชี้หน้าไอ้วิ่ง เพราะมันแหละหลุดพูดออกมา ไม่งั้นพี่มันจะรู้ได้ไง

“อ่าว เรื่องไร...กูไม่ได้เป็นคนแอบไปกินลูกชิ้นหมูนะมึง”

“แต่แปลกเนาะ แค่มึงกินลูกชิ้นหมูเอง ทำไมพี่มะเดี่ยวต้องโกรธอะไรขนาดนี้วะ เขาไม่ได้เป็นอะไรกับมึงหนิ” มึงพูดถูกพีช...พูดถูกใจกูที่สุด มาให้กูกอดและหอมแก้มที ตามหาคนเข้าใจผมมานานแล้ว

“เออวะ ก็จริงของมึงนะพีช เอางี้ ก่อนมึงง้อนะ…มึงก็ถามไปเลยว่าพี่จะมาโกรธทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกัน” วิ่งนั่งลงข้างๆ เอามือตบหลังเบาๆ

“โกรธที่กูโกหกอะสิ” ห่อเหี่ยวเหลือเกินชีวิต...ถ้าสนิทกัน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมานานแล้วผมโกหก จะโกรธก็ไม่แปลก

“ก็ใช่อีก สรุป…ยังไงมึงก็ต้องขอโทษ” พีชพูดไม่ทุกข์ร้อน

ผมเออออไปตามนั้น จากนั้นก็ไม่มีอารมณ์จะซ้อมเต้นต่อ ขอตัวพวกมันกลับห้องเลยก็แล้วกัน เดินไปเอากระเป๋าก็เจอถุงน้ำและเบอร์เกอร์ที่พี่มันซื้อมาให้ ผมถืออกมาจากฟลอด้วย โบกมือลาเพื่อนและคนอื่นๆ หน้าจ๋องสนิท ยิ้มทีนี่จืดชืดยิ่งกว่าต้มจืดในตลาดอีกอะบอกตามตรง

ผมเดินมาที่จอดรถจักรยาน กะว่าจะปั่นมันกลับคอนโด แล้วผมก็ได้พบกับอีกสิ่งที่พี่มะเดี่ยวได้ทำไว้ นั่นก็คือ...มันเอาจักรยานผมไปด้วย!!! แกล้งกันชัดๆ อะ นี่มันคือการแกล้งผมชัดๆ ต่อให้ที่นี่ไม่ไกลจากคอนโดมากนักแต่ก็ไกลไง นี่แหละ ผมไม่อยากให้พี่แกโกรธหรือไม่พอใจผมก็เพราะพี่ท่านเป็นแบบนี้ไงล่ะ

แล้วพอจะค้นหาเงินนั่งรถกลับห้อง ผมก็เจอเซอร์ไพร์สชิ้นที่สาม ฮื่ออออออ กระเป๋าตังค์กูพี่มึงเอาไปตอนไหนวะ! ผมเห็นพี่มันยุ่มย่ามกับตรงที่เก็บกระเป๋าแต่คิดว่ารื้อเอากระเป๋าตัวเองไง เพราะตรงนั้นมันก็มีหลายใบที่ถมๆ กันเอาไว้อะ

แต่...ไม่เป็นไร เรามีเพื่อน ยืมเงินเพื่อนกลับบ้านก็ได้ ผมตัดสินใจกลับไปที่ฟลอเพื่อจะไปขอยืมเงินไอ้วิ่งหรือไม่ก็ไอ้พีช ปรากฏว่า พวกมันก็ไม่มีเงินแล้วเหมือนกัน ซื้อของกินหมดแล้ว หอพวกมันอยู่ใกล้ๆ เหมือนผมนี่แหละ เลยไม่จำเป็นต้องพกเงินเยอะ แต่ไม่รู้สิ...ผมว่าพวกมันโกหกผมอะ

“มึงเดินกลับเอาก็ได้ เดินๆ ไปเดี๋ยวก็เจอสิ่งที่ตามหาเองแหละ” มึงพูดแปลกๆ อะพีช...สิ่งที่กูตามหากลับห้องไปแล้ว

“เออๆ” เดินก็เดิน พี่มันต้องการแบบนี้แน่นอน ไม่งั้นไม่เอาจักรยานและกระเป๋าเงินผมไปหรอก

ได้...ในเมื่ออยากให้ผมทำผมก็ทำ ผมตัดสินใจเดินออกมาจากฟลอ มุ่งตรงไปที่ถนน จริงๆ มีป้ายรถเมล์และก็มีรถสองแถววิ่งผ่านเยอะอยู่ ที่ไม่อยู่คือเงินครับ...ไม่มีเงินจ่าย ผมหันกลับไปมองที่ฟลอเล็กน้อย ตงิดใจว่าเพื่อนทั้งสองของผมมันต้องโกหกแน่ๆ

มีอะไรอยู่ในกอไผ่ใช่ไหมนะ...

“อะไรนะ...ความรักสมน้ำหน้าผู้ชายคนนั้นเหรอ ไม่เอาหน่า ไม่ดี เราอย่าไปสมน้ำหน้าเขาเลย เราต้องทับถมเขาต่างหากล่ะความรัก” เดินไปได้สักพัก ผ่านซอยเปลี่ยวใกล้ห้างมาปุ้บ เสียงทุ้มคุ้นหูก็ดังออกมาปั้บ...

ชัดเลย...สิ่งที่กูตามหา

“พี่แกล้งผม” ผมหยุด พี่เขาก็หยุดจักรยาน ความรักอยู่ในตะกร้าหน้ารถที่ประจำของมัน

“ไหนใครแกล้งสาม ไม่มีเลยนะ...พี่ไม่เห็นใครแกล้งสามเลย” พี่มึงก็ส่องกระจกสิ พี่มึงจะได้เห็นไงว่าคนที่แกล้งผมมันคือใคร

“ถ้าผมเดินกลับ พี่จะหายโกรธผมไหมครับ” แต่ต่อให้รู้ว่าเขาแกล้ง ผมก็ยังจะทำตามพี่เขาอยู่ดี ก็ผม...ไม่อยากให้พี่มะเดี่ยวโกรธนี่หว่า โกรธนานๆ บางทีการแกล้งผมอาจจะรุนแรงกว่านี้ก็ได้

“นั่นแหละสิ่งที่พี่ต้องการ” พี่มะเดี่ยวยักคิ้วใส่แบบท้าทาย ไม่ต้องท้าหรอก...ไอ้นี่ไม่กล้าหืออยู่แล้วเหอะ

“ครับ...” หันหลังกลับไปยังทางคอนโดหลังจากหันกลับมาคุยกับพี่มะเดี่ยว

ขากูลากแน่ๆ....ขึ้นห้องได้นี่กูจะไม่เดิน กูจะคลานเข้าห้องอาบน้ำแล้วลากตัวเองมาบนเตียง แค่นึกก็เห็นสภาพตัวเองแล้วอะ มันน่าอนาถใจอย่าบอกใครเลยนะครับ ด้วยความที่ซ้อมก็เยอะ เต้นทีก็เจ็บตัว ยังต้องมาเดินลากขาอีก...ผมไม่อยากนึกถึงพรุ่งนี้เช้าเลยจริงๆ

พี่มะเดี่ยวปั่นจักรยาอยู่เยื้องไปด้านหลัง ผมอยู่ด้านในของทางเท้าแต่พี่เขาอยู่ด้านนอก รถวิ่งผ่านไปคันแล้วคันเล่า หันไปมองก็เจอเขามองอยู่ ผมเก้ๆ กังๆ ทำตัวไม่ถูก เลยต้องเดินก้มหน้าก้มตาต่อไป อึดใจเดียวเว้ยสาม...ไม่นานเราก็จะถึงห้องของเราแล้วเราก็จะได้พักผ่อนเสียที

คิดแง่ดี…พี่เขาก็ไม่โกรธจนทิ้งผมไป เดี๋ยว…ไม่ได้ทิ้งความหมายเชิงนู้นนนนน นะ แค่แบบ ไม่ทิ้งให้ผมเดินคนเดียวอะ!

......100%......

ความรักไม่เข้าข้างสามฉันใด โชคก็ไม่เข้าข้างสามฉันนั้น...ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-10-2017 22:03:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 18-10-2017 23:26:23
ไปโกรธเค้า บังคับเค้า  เอาหมูเค้าไป เป้นผัวเค้าอ่อ????   :hao6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 18-10-2017 23:42:46
วงวารสาม ฮ่าๆ พยายามเข้านะ :sad4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-10-2017 00:20:30
นี่คือพี่มะเดี่ยวจีบน้องอยู่?
ถ้าใช่คงต้องถาม... ทำได้ดีสุดแค่นี้เหรอ
ถ้าไม่ใช่... แล้วไปยุ่งอะไรกับเขา จะกินหมูจะกินอะไรก็เรื่องของเขาไหม
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-10-2017 03:49:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-10-2017 04:22:05
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-10-2017 08:46:27
พี่มะเดี่ยวดาราใหญ่ เล่นใหญ่มากกกก 5555555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 19-10-2017 08:49:27
แกล้งเอาจักรยาน กระเป๋าตังค์ไปโดยไม่ถามเจ้าตัวเลยถึงจะรอน้องก็เถอะ  :mew5:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-10-2017 10:33:44
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 16 [100%]❤️ -19/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 19-10-2017 20:28:14
>>ตอนที่ 16 [100%]

เดินไปสักพัก จากที่พี่มะเดี่ยวปั่นจักรยานตามอยู่ด้านหลังก็เคลื่อนมาด้านข้าง ขี่ขนาบกันไป ส่วนความรัก เจ้านี้สบายที่สุดของที่สุด สองเท้าหน้าเกาะอยู่ขอบตะกร้า เงยหน้ารับลม หลับตาพริ้ม ฟินไปเลย

สลับที่กับป๊าไหมความรัก...ป๊าอยากฟินแบบนั้นบ้างอ่า

พี่มะเดี่ยวคอยหหันมามองอยู่บ่อยๆ เราไม่ได้พูดอะไรกันเลย ผมเอาแต่เดินก้มหน้าก้มตา อยากให้ถึงห้องไวๆ เพราะเหนื่อยแล้วก็เพลียมากจริงๆ โหมเต้นมาตั้งแต่กี่โมง แล้วนี่กี่โมงแล้ว ร่างกายต้องการการพักผ่อนอยากมากมายมหาศาล นี่ถ้าเร่งฝีเท้าไหวผมก็จะเร่ง อยากอาบน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจ จากนั้นกินให้อิ่มแล้วนอนหลับปุ๋ย ตื่นอีกทีเช้าวันใหม่อันสดใส...

“หิวก็กินที่ซื้อให้สิ” ที่พูดแบบนี้เพราะทนเห็นสภาพเหมือนผักของผมไม่ไหวละใช่ไหมครับ

“อยากซ้อนพี่มากกว่า...” หันไปมองอ้อน เห็นใจผมเถอะ ขาลากหมดแล้วอ่า อีกตั้งหลายป้ายรถเมล์กว่าจะถึงคอนโด

“ไม่ครับ เดินไปเลย...โกหกพี่ดีนัก หลายครั้งแล้วด้วยนะ นิสัยไม่ดีเลยอะ” เบะปากแป๊บ ผมไม่ได้ตั้งใจจะโกหกนะ...แต่ให้ทำไง โกหกไปแล้วก็ต้องรับผลแห่งการกระทำ

พี่มะเดี่ยวไม่สนหน้าตาน่าสงสารของผม เขาหันไปตั้งใจปั่นจักรยานพลางฮัมเพลงสบายใจ ดูสิ ทั้งคนทั้งหมู มีความสุขกันจนออกนอกหน้านอกตา เห็นแล้วความอิจฉาพุ่งปี๊ด ตาร้อนผะผ่าว ไม่ได้จะร้องไห้ แต่ไฟกำลังจะลุกท่วมดวงตาทั้งสองข้าง...ก็ถ้ามันเป็นไปได้อะนะ

เสียงเพลงเบาๆ กับสายลมเย็นๆ ไม่ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาได้ เริ่มเห็นคอนโดแวมๆ แล้วแต่ก็เริ่มหิวจัดจนไม่มีแรงแล้ว ผมจำต้องล้วงมือเอาแฮมเบอร์เกอร์ที่พี่มะเดี่ยวซื้อมาให้ออกมากิน แกะๆ แล้วงับ...สัตว์ ปลา!

น้ำตาจะไหล...เนื้อปลาเน้นๆ ของเขาดีมีคุณภาพ แต่ผมรู้สึกถึงความคาวหน่อยๆ ครีมซอสเปรี๊ยวๆ หวานๆ ไม่ช่วยให้รสชาติมันดีขึ้นเท่าไหร่ พี่มะเดี่ยวจ้องมองดูปฏิกิริยาของผมอยู่ไม่ห่าง แหงสิ ปั่นขนาบข้างอยู่นี่หนินา หันไปมองหน้าแก...อ้อนวอนทางสายตาหน่อยๆ

“พี่กินไหมครับ” ช่วยกูกินที ไม่ชอบปลา...มันคาว

“ไม่ครับ พี่ซื้อมาให้เราเลยนะ กินให้หมดเลย อร่อยมาก” อร่อยของพี่คนเดียวสิวะ คนไม่ชอบปลาก็คือไม่ชอบอะพี่

“ความรักกินเปล่า” พี่ไม่ช่วยไม่เป็นไร ความรักช่วยผมได้แน่ๆ มันได้กลิ่นหอมก็ยื่นจมูกฟุดฟิด แต่พี่มะเดี่ยวกลับปัดมือผมออกจากวามรัก

“ห้ามครับ ให้ความรักกินแต่ผักผลไม้พอ” เศร้าซ้ำเศร้า

“ครับ” ก็รู้ว่าหมูเป็นสัตว์กินพืช แต่...มันกินเนื้อได้นะ ไม่ใช่กระต่ายที่จะกินพวกเนื้อไม่ได้อะ อีกอย่าง ปลาย่อยง่าย ไม่มีผลกระทบต่อระบบย่อยอาหารของพวกมันหรอก

เถียงได้แค่ในใจ...ใครเล่าจะเข้าใจความรู้สึกของผม มองแฮมเบอร์เกอร์ปลาอีกครั้ง น่าเศร้า กินก็ได้ ขืนปาทิ้งตอนนี้พี่มะเดี่ยวแดกหัวกูแน่นอน ไม่ต้องให้หมอลักษณ์มาฟันธงผมก็รู้อนาคต กัดคำใหญ่ๆ มันจะได้หมดเร็วๆ จากนั้นรีบเอาน้ำที่พี่เขาซื้อมาให้เปิดดื่ม...เจอน้ำผักเข้าไปอีก โถ...ชีวิตเดอะสาม ไม่เชิงว่ากินไม่ได้ แต่ไม่ค่อยชอบน้ำผักเท่าไหร่อะ มันเหม็นเขียวหน่อยๆ เนาะ อ่อย...

“อร่อยไหม...” ยังมีหน้ามาถาม

“ไม่ครับ ผมไม่ชอบปลา...ไม่ชอบน้ำผักด้วย” พูดเสียงอ่อย เชื่อว่าพวกนี้พี่มะเดี่ยวชอบ ซึ่งมันสวนทางกับผมไง

“แต่พี่ชอบนะ อร่อยจะตาย”

“ครับ” อยากบอกว่าพี่ชอบก็เรื่องพี่ พี่ไม่ควรมายัดเยียดสิ่งที่ตัวเองให้คนอื่นที่ไม่ชอบ แต่ก็ไม่กล้าพูด...ไม่รู้ทำไม กลัวพี่เขาโกรธมั้ง หรือกลัวพี่เขาจะว่า ทั้งที่หวังดีซื้อของกินไว้ให้ แต่กลับไปว่าเขาแบบนั้นเงี้ย

ประมาณสิบนาทีต่อมาเราก็มาถึงคอนโด พี่มะเดี่ยวให้ผมไปจอดจักรยานพร้อมกับเขา ความรักอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงนั้น ส่วนผมถือกระเป๋าสองใบ หน้าที่เบ๊ดีๆ นี่เอง พี่มะเดี่ยวเดินขึ้นลิฟต์สีหน้าลั้นลามีความสุข ต่างจากผมที่มีความทุกข์หน่อยๆ ไอ้แฮมเบอร์เกอร์นั่นมันก็ทำให้มีแรงขึ้นมาหน่อยหรอกนะ แต่รสชาติมันไม่ถูกปาก มันเลยทำให้ผมรู้สึกไม่อิ่มเอมอะ ร่างกายอ่อนล้าไปหมด เข้ามาในลิฟต์ได้ผมนี่ขอนั่งพื้นเลยอะ

“เหนื่อยมากเลยเหรอไง” พยักหน้ารัวๆ

“มากครับ”

“อ่อนจริงๆ ฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น ร่างกายยังไม่ชิน” มือหนาลูบหัวผมเบาๆ ทั้งที่ผมนั่งอยู่ที่พื้นเนี่ยแหละ

“ครับ”

ประตูลิฟต์เปิดชั้นที่เราอาศัย ผมฮึ้ด งัดเอาเรี่ยวแรงที่ตัวเองมีขึ้นมาพุ่งไปที่หน้าห้อง ลืมความรักของตัวเองไปเสียสนิท คือรีบมาก...อยากอาบน้ำ อยากนอนแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ ตอนนี้ ทว่าถึงเปิดประตูได้ ผมก็ยังต้องรอพี่มะเดี่ยวที่เดินอย่างอ้อยอิ่งอยู่ดี กระเป๋าเขาอยู่กับผม และความรักผมอยู่กับเขา แล้วพอเห็นเรารอนะ ก็ยิ่งเดินช้า เดินไป เล่นกับหมูไป โอ้ยยยยย พี่เอ้ย เดินเร็วๆ หน่อยได้บ่หนิ

“พี่คร้าบ...ไวหน่อย”

“พี่เหนื่อยอะ เลยอยากเดินช้าๆ” หรา…กูสิเหนื่อย เหนื่อยมาก เหนื่อยสายตัวแทบขาด

จากประตูลิฟต์มาถึงห้องเราทั้งคู่มันยาวแค่สามร้อยเมตร...มั้ง คำนวณจากสายตาก็ราวๆ นี้แหละ แต่พี่ท่านเหมือนกินลมชมหวิว แม่งไม่มีอะไรให้ชมทั้งนั้นแหละ นอกจากประตูห้องที่เรียงรายกันอยู่สองข้างทางแคบๆ เนี่ย ผมหนีเข้าไปอาบน้ำก่อนได้ไหม เชื่อว่าออกมาคงพอดีกับท่านพี่เดินมาถึงตรงนี้อะ ส่วนกระเป๋านี่วางไว้หน้าห้อง ไม่หายหรอก มีแค่เราสองคนตอนนี้

คิดไปต่างๆ นาๆ ในที่สุดครับในที่สุด...พี่มะเดี่ยวก็มาถึงหน้าห้อง พี่เขาวางความรักลง โบกมือลาความรักเพื่อให้มันเดินกลับมาหาผม ส่วนผมยื่นกระเป๋าให้พี่เขาจะได้หนีเข้าห้องตัวเอง ทว่า...ไม่มีอะไรง่ายเลยสำหรับเดอะสามคนนี้ ไอ้ความรักมันไม่ยอมเดินมาหาผม กลับงับชายกางเกงวอร์มของพี่มะเดี่ยวแล้วลากมาทางผมเสียอย่างนั้น...

“เอ่อ...ไอ้ความรัก เขาไม่ใช่ป๊ามึงนะเว้ย” ผมทรุดลงไปดึง แต่ความรักไม่ยอมคายขากางเกงครั้นจะใส่แรงมากไปก็กลัวมันเจ็บ

“สงสัยความรักมันอยากได้พี่เป็นเจ้าของมันมากกว่าสามนะครับ” พี่มะเดี่ยวขำเบาๆ แต่ผมอยากร้องไห้...พี่อย่าพูดแบบนั้นสิครับ สามช้ำใจ

“อ่า...เจ็บจี๊ดเลยครับ” มือผมโดนพี่เขาปัดออก เพื่อจะได้อุ้มความรัก พอเป็นมือพี่มะเดี่ยวปุ้บ ความรักมันยอมคายขากางเกงปั้บ อยู่อ้อมแขนเขามันมีความสุขมากสินะ ชิ ความอิจฉาที่พุ่งสูงนี้คืออารายยยย

“ไปส่งที่ห้องเนาะ ปะ...สามเปิดประตู” อ่า...แม่ตบนะเนี่ยพาผู้ชายเข้าห้อง

ผมลังเลนิดหน่อยที่จะให้พี่มเดี่ยวเข้ามาในห้องตัวเอง ทั้งรกและสกปรกอย่างไม่น่าให้อภัย แต่พอมองหน้าตาที่รอคอยของความรักและพี่มะเดี่ยว ผมก็จำใจเปิดประตูให้ทั้งสองเข้ามาในห้องของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าที่ยอมไปเนี่ย...ยอมเพราะคนหรือหมูกันแน่นะ

“โห...ห้องรกไปปะเนี่ย หัดเก็บข้าวของบ้างนะน้อง อี๋ กางเกงใน” ว๊ากกกกก อย่าเอาตีนไปเกี่ยวมันขึ้นมาเซ่! เดอะสามรีบพุ่งตัวไปเอากางเกงในจากเท้าของพี่มะเดี่ยว แสงก็แสงเถอะ…เดอะสามเร็วกว่าอย่างเทียบไม่ติด!!

“แฮ่ๆ...อยู่คนเดียวก็งี้แหละครับ ชายโสดไง ชายโสด” ยิ้มเข้าไว้…เหงื่อแตกทั้งหน้าก็ยิ้ม

“เหรอ พี่ก็ชายโสดนะ แต่ห้องพี่สะอาดกว่าห้องสามอีก จริงๆ เราแค่ขี้เกียจเท่านั้นแหละ หัดเก็บจัดห้องให้ดีๆ บ้าง สกปรกเชื้อโรคเยอะ”

“คร้าบๆ” บ่นเป็นแม่คนที่สองเลยครับ อยากบอกแบบนี้แต่กลัวโดนเตะเปรี๊ยงติดข้างฝา

“ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวดูความรักให้”

“คือ...จริงๆ มันอาบพร้อมผม” พี่มะเดี่ยวเดินไปนั่งที่โซฟา เอาความรักวางบนตัก

“งั้นเดี๋ยวพี่อาบให้มันทีหลังเองก็ได้” ดูท่าจะยังอาลัยอาวรณ์กันอยู่

“เอางั้นก็ได้” งั้นผมไปอาบน้ำดีกว่า

ผมเข้าไปเอาเสื้อผ้าออกมาจากห้องนอน แล้วเดินมาอาบน้ำ ซึ่งห้องน้ำมันอยู่นอกห้องนอนน่ะครับ พี่มะเดี่ยวกำลังลูบหัวความรัก อีกมือก็เลื่อนมือถือ จิ้มๆ พิมพ์ๆ อะไรอยู่ไม่รู้เขา มองเสี้ยวหน้าด้านข้างยังหล่ออะ คนอะไรดูดีไปหมด ความรักมันพยายามจะเสือกดูว่าพี่เขาทำอะไรด้วยการชะโงกคอสั้นๆ ของตัวเองขึ้น น่ารักดีเหมือนกันแหะ

จัดการอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยก็ออกมานั่งเล่นอยู่ใกล้กับพี่มะเดี่ยว คือมันมีโซฟายาวแค่ตัวเดียวเองไงห้องผม แล้วตรงหน้าก็เป็นเกมคอนโซล ปกติผมมักเล่นมันก่อนนอน แต่วันนี้เห็นทีจะเล่นไม่ไหว ง่วงเกินบรรยายมาก พี่มะเดี่ยวก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปไหนเลย เขายังจิ้มหน้าจอมือถืออย่างตั้งใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำอะไร แต่ตอนนี้นะ...หนังตาของผมมันฝืนต่อไม่ไหวแล้วอ่า

หันไปอีกที...หลับซะงั้น

แล้วจะอาบน้ำความรักยังไง ข้าวของเก็บไว้ไหนจะรู้ไหมเนี่ย มะเดี่ยวมองสามนั่งหลับ คอพับ ตัวอ่อนอยู่ใกล้แค่เอื้อม ท่าทางจะเพลียจัดมากจริงๆ นอนอ้าปากค้างเชียว จะว่าน่าเกลียดมันก็น่าเกลียดอะ แต่ในความน่าเกลียดมันมีความน่ารักน่าเอ็นดู

จำได้ว่าเจอครั้งแรกก็ประทับใจในหน้าตาเด็กคนนี้อยู่หรอกนะ ถ้าไม่ติดว่ามาขอความรักโต้งๆ คิดว่าเกย์อดอยากมาจากไหนเสียอีก เลยด่าซะกะให้เสียหมาไปข้าง ไหนจะมีหมูหลงเข้ามาในห้องสร้างความปั่นป่วนให้เขาอีก อารามโมโหเลยไม่ได้ยับยั้งช่างใจ ฟังที่อีกฝ่ายจะพูด

นึกแล้วก็ตลกดี...

แล้วรู้ทั้งรู้นะว่าตัวเองผิดที่ไปด่าเขาแบบนั้น แต่มะเดี่ยวก็ไม่คิดจะขอโทษ เขาไม่ได้คิดอะไรเลยมากกว่านอกจากเป็นห่วงหมูตัวน้อย สามเล่นพูดว่าจะกินหมูตัวเอง เขาเลยเป็นห่วงอะสิ

ด้วยความที่ตอนเด็กๆ มีบ้านอยู่ใกล้โรงเชือดหมู มะเดี่ยวกินหมูเป็นปกติมาตั้งแต่เด็กจนมารู้ว่าเสียงร้องที่ตัวเองได้ยินบ่อยๆ มันคือเสียงหมูที่ตัวเองกิน ตอนที่รู้ความจริงมะเดี่ยวร้องไห้ สงสารหมูที่ตายแล้วกลายมาเป็นอาหารให้ตนเอง แม่กับพ่ออธิบายยังไงมะเดี่ยวก็ไม่ฟัง เขาเชื่อว่าหมูที่โดนเชือดเหล่านั้นคือหมูที่ตัวเองกินอยู่ทุกมื้อ เขาไม่กินมันอีกเลย และแทบจะไม่กินเนื้อสัตว์ใหญ่ด้วยซ้ำ

พอมาเจอสามที่หมายมาดจ้องจะกินหมูที่ตัวเองเลี้ยง...เขาเลยเป็นห่วงมาก เคยคิดขโมยหมูมาจากสาม แต่ไม่มีโอกาส ทั้งงานและเวลาที่ว่างมาเจอสามไม่ตรงกันเลย กระทั่งวันที่สามปรากฏตัวอยู่กับเด็กรุ่นน้อง ความรักวิ่งตรงมาหาเขา...ตามติดมาด้วยเด็กนั่น

มะเดี่ยวไม่ลังเลที่จะแกล้งสามเลย เมื่อสามเอ่ยปากขอความรัก เขาก็เล่นให้เต็มที่เห็นหน้าเหมือนจะร้องไห้ของอีกฝ่ายแล้วรู้สึกชอบ...น้ำตาคลอๆ น่ารักเป็นบ้า มองไปมองมามะเดี่ยวก็ชักชอบเด็กคนนี้ แต่ความห่วงหมูตัวน้อยยังคงมีอยู่เต็มหัวใจ ลองพูดเกลี่ยกล่อมเด็กนี่ดู มันก็ไม่มีทีท่าจะเปลี่ยนใจ มันพูดหน้าซื่อตาใสว่าสามารถฆ่าหมูที่ตัวเองเลี้ยงได้ง่ายๆ คิดดูเถอะ...ใจดำขนาดไหน เขาแทบจิตตกไปเลย ดีที่มารู้ความจริงจากเพื่อนของสาม ไม่งั้นวันนั้นคงเครียดมากแน่ๆ

เมื่อสามแกล้งเขา...มะเดี่ยวกต้องเอาคืน

ชอบ...เขาชอบเวลาสามไปไม่เป็น ชอบเห็นสามงอแงเหมือนเด็กๆ ชอบที่สามบ่นงุบงิบคนเดียว ชอบที่สามมองเขาเหมือนแค้นแต่ทำอะไรเขาไม่ได้...มะเดี่ยวสรุปรวมๆ กับตัวเองว่า เออ...เขาชอบสาม

“ป๊าแกหลับแล้วความรัก อาบน้ำแกยังไงล่ะทีนี้” มะเดี่ยวพูดกับเจ้าหมูบนตัก ทว่าตากลับจ้องเด็กข้างๆ ไม่ใช่ความรักที่มองป๊ามันอยู่

“ห้องน้ำมีอุปกรณ์อาบน้ำของแกไหม...” คราวนี้เขาหันมาสบตาความรัก ซึ่งมันก็พยักหน้าเหมือนเข้าใจว่าคนๆ นี้พูดอะไรกับมัน

ความรักโดดลงไปที่พื้น เดินดุ้กดิ้กเลี้ยวเข้าห้องน้ำไป มะเดี่ยวไม่อยากละสายตาจากสาม แต่ก็จำต้องเดินตามความรักไปเพื่ออาบน้ำให้กับมัน อย่างที่ได้บอกกับเจ้าตัวเอาไว้ว่าจะอาบน้ำหมูให้ เมื่อเข้าไปถึงก็เห็นแชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่ของหมู แต่เป็นของหมา มะเดี่ยวมองหน้าความรักยิ้มๆ

“ป๊าแกเห็นแกเป็นหมาเหรอความรัก” ซึ่งความรักไม่ได้ตอบโต้อะไร มันพยายามจะงัดเอาชุดเทควันโด้ที่สามใส่ให้ออก

มะเดี่ยวจัดการถอดให้เรียบร้อย จากนั้นก็ค่อยๆ อาบน้ำให้หมูน้อย มีเสียงร้องของความรักและเสียงหัวเราะของมะเดี่ยวลอดออกมาเบาๆ ทว่าเจ้าของห้องตอนนี้ไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวอะไรเลย สามไถลตวลงนอนไปบนโซฟาโดยขาทั้งสองข้างยังอยู่บนพื้นพรม หลับสนิทอย่างที่ไม่เคยเป็น

ร่างสูงถือโอกาสเอาผ้าขนหนูของเจ้าของห้องมาเช็ดตัวให้หมูน้อย มันเชิดหน้าปล่อยให้มะเดี่ยวทำอย่างสบายอกสบายใจ ความรักชอบอาบน้ำ ชอบเล่นน้ำ และมันก็ชอบเวลาที่คนอื่นปฏิบัติตัวต่อมันดีๆ

โดยเฉพาะมะเดี่ยว…มันรับรู้ได้ว่าคนๆ นี้อ่อนโยน มันถึงชอบมะเดี่ยวมากกว่าสามที่ขู่กินมันอยู่ตลอด มันรักเจ้านายมัน แต่มันก็ชอบทำให้สามปวดหัวกับความเป็นมัน ต่างกับมะเดี่ยว อาจเพราะร่างสูงคนนี้ไม่ใช่เจ้าของ มันเลยยิ่งอ้อนเพื่อให้เขาอยู่ใกล้ๆ อยากออเซาะเพราะชอบเวลาที่เขาลูบหัวลูบตัว แถม...มันได้เห็นป๊ามันทำหน้าละห้อยเพราะมันด้วยแหละ

“แกนอนไหนล่ะ...” มะเดี่ยวเอ่ยถามความรักเมื่อเช็ดตัวมันแห้งเรียบร้อย ความรักวิ่งดุ้กๆ ไปหาสาม มันกระโดดขึ้นไปนอนซุกเจ้าของันด้วยความรัก

“นอนกับสามเหรอ แต่สามควรนอนในห้องนะว่าไหม” ร่างสูงตรงเข้าไปอุ้มความรักออกจากตัวเด็กหนุ่ม จากนั้นค่อยๆ ช้อนตัวหอมสบู่ของสามขึ้นมาในอ้อมแขนแข็งแรง

มะเดี่ยวทำอย่างเบามือ เพื่อไม่ให้รบกวนสามที่หลับใหล เขารู้ดีว่าการซ้อมเต้นบีบอยครั้งแรกมันหนักหนาสาหัสแค่ไหน วันนี้สามเจ็บตัวเยอะ ในสายตาคนเต้นมานานมันเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่รู้สิ...เขาเป็นห่วงสาม เขาไม่ได้อยากให้สามเจ็บตัวมากขนาดนี้ แต่มันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากเลือกจะเต้นบีบอย การเจ็บตัวนั้นเป็นของคู่กัน สามดูอ่อนแอ สามดูไม่ใช่คนออกกำลังกาย เพราะงั้นการให้สามได้ใช้แรงงานเยอะๆ มันจะทำให้เขาแข็งแรงขึ้น กำลังกายมาได้ด้วยการออกกำลัง เพราะงั้นต่อให้สงสารก็ต้องผลักดันให้สามอดทน

ร่างของเด็กหนุ่มถูกวางลงบนเตียง ความรักกระโดดขึ้นมาที่เตียงเตี้ยๆ มันค่อนข้างเตี้ยกว่าเตียงทั่วไปเพราะว่าสามอยากให้ความรักขึ้นลงมันได้ง่ายๆ ไม่ลำบากกับพุงพลุ้ยๆ มะเดี่ยวห่มผ้าให้ ปรับระดับแอร์ไม่เย็นจนเกินไป จากนั้นเขาก็หอมหัวความรักเบาๆ ทั้งที่ใจจริงก็อยากจะหอมเด็กคนนี้ด้วย ทว่าเขาไม่ได้ทำแบบนั้น...เขายังไม่ได้เป็นอะไรกันนี่นา

“ฝันดี...ทั้งสองตัวเลย” ถึงไม่ฝากสัมผัสนุ่มนิ่มของริมฝีปากไว้ แต่ก็ลูบหัวอีกฝ่ายแผ่วเบาก่อนจะเดินออกมาปิดไฟทั้งห้อง ล็อกให้ดีโดยไม่ลืมเอากระเป๋าตัวเองออกมาด้วย มะเดี่ยวเดินเข้าห้องตัวเองด้วยรอยยิ้ม คืนนี้...เขามีแรงทำงานเหลือเฟือเลยล่ะ...

.....100%.....

แม้กระทั่งตอนนี้ เดอะสามของเราก็ยังเป็นได้แค่ตัวประกอบฉากที่นอนหมดสภาพอยู่ตรงโซฟา~ พี่มะเดี่ยวควรจับน้องปล้ำนะคะ...ฮา มันน่าอะ มันน่านัก!
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 15 [100%]❤️ -18/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 19-10-2017 20:43:09
บางทีสามก็ยอมไปไง

ว่าแต่ความรักน่าฟัดอ่ะ เราขอยืมบ้างได้ไหมอ่าาาาา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 16 [100%]❤️ -19/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-10-2017 22:29:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 16 [100%]❤️ -19/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-10-2017 23:32:43
แม้แต่หมูยังแกล้ง คิดดู
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 16 [100%]❤️ -19/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-10-2017 02:43:52
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 16 [100%]❤️ -19/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-10-2017 06:36:30
ชอบเขา ไม่ต้องแกล้งเขาหนักก็ได้ค่าพี่มะเดี่ยว
สงสารน้องสามคนมึน 555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 16 [100%]❤️ -19/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 20-10-2017 12:31:43
พี่มะเดี่ยวนี่นะ.... ทำน้องสามหวั่นไหวเพราะใจตัวเองก็หวั่นไหวเช่นกัน เฮ้ออ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 16 [100%]❤️ -19/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-10-2017 15:16:02
ทำไมสามยอมพี่มะเดี่ยวจัง ขัดใจป้าเหลือเกิน :serius2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 16 [100%]❤️ -19/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-10-2017 22:32:04
 :L2: :pig4:

ข่มกันเห็นๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 16 [100%]❤️ -19/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 21-10-2017 15:12:23
พี่มะเดี่ยวชอบน้อง แต่ก้แกล้ฝน้หนักมากกกอะ
แถมรุกตีบเนียนขนาดนี้ยังไม่พูดให้ชัดๆอีกกกก
แอบสงสารสามเบาๆใครๆก้แกล้ง
แม่แต่ความรักยังแกล้งสามเลย
รอค่าาา ไม่ค่อยเจอนิยายที่เลี้ยงหมูแบบนี้เลยย
น่ารักจนอยากเลี้ยงตามม
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 21-10-2017 21:45:36
>>ตอนที่ 17 [100%]<<

เมื่อได้พักผ่อนจากการเต้นอันหนักหน่วง เช้านี้จึงแสนสดใส...เสียเมื่อไหร่!!!

“โอ้ย...ฮื่อเจ็บ” ไม่ๆ ไม่มีใครทำอะไรผมทั้งนั้น...ผมแค่พลิกตัว

“ป๊าทำแกตื่นเหรอ โทษๆ” เอื้อมมือไปลูบหัวความรักด้วยความลำบากลำบน แขนนี่สั่นพั่บๆ เลยครับ ไม่ได้ป่วยเป็นสันนิบาตแต่มันปวดมากอะ

เออ...ว่าแต่ผมมานอนเตียงได้ไงวะ?

ขยับคอได้ หันซ้ายหันขวา เออ ผมนอนอยู่บนเตียง ละเมอมานอนเหรอ เป็นไปไม่ได้อะ ผมไม่ใช่คนนอนละเมอบ้าบอขนาดนั้น พี่มะเดี่ยวแกต้องอุ้มมาแน่ๆ ฮุ่ยยยย เป็นคนหล่อดีมีน้ำใจนะเนี่ย หรือว่าควรบอกว่าเขามีความรับผิดชอบดีล่ะ ก็เล่นแกล้งผมหลายอย่าง ทั้งทำผมล้ม ทั้งให้ผมเดิน ผมอ่วมหมดแรงนอนพังพาบอยู่บนโซฟา แกเลยอนาถใจ เอามานอนบนเตียงให้เพราะคิดว่าผมอาจจะตกลงมาเจ็บช้ำกว่าเดิมได้งี้

แต่ว่านะ สภาพนี้ผมไปเรียนไม่ได้แน่ๆ อะ ผมลองขยับตัวเพื่อจะนั่ง อื้อหือ...รถทับกูมาเหรอเนี่ย เมื่อวานนี้กูไปนอนให้รถทับมาใช่ไหม! ปวดตั้งแต่ฝ่าเท้ายันน้าอกอะ สุดท้ายนอนต่อ ไม่ไหวๆ ผมลุกขึ้นไม่ไหวจริงๆ

“แค่ก...อุ๊ก!” ฮื่ออออ พ่อจ๋าแม่จ๋า หนูจะตายแล้ว แค่ล้มตัวนอนก็เกิดอาการไอแห้งขึ้นมา แค่นั้นแหละ...รู้เรื่อง ไอทีเดียวตับไตไส้พุงกูพัง!

เจ็บแน่นที่หน้าอกอย่างแรงมาก เกร็งท้องตอนไอนั่นแหละแม่งสะเทือน ทำไมไม่มีใครเตือนผมเลยว่าซ้อมเต้นแล้วจะมีสภาพเหมือนโดนรถทับแบบนี้เนี่ย ในหัวนี่แต่เจ็บ มีแต่ปวด มันช่างรวดร้าวระบมตรมใจจริงๆ แฟนทิ้งไม่เจ็บเท่านี้เลยอ่า นี่เหมือนช้ำในใกล้ตายเต็มทีแล้ว

ก๊อกๆ!

ฮ่วย! คนกำลังจะตาย ใครมาเคาะอีกวะเนี่ย...ความรักไปเปิดประตูดิ้ อยากพูดแบบนี้มาก แต่ถึงความรักไปหน้าประตูมันก็เปิดประตูไม่ได้อยู่ดีอะ สุดท้ายจากที่คิดว่าจะนอนนิ่งๆ เป็นผักหรือปลาตายแล้วก็ต้องลุกขึ้นมาอยู่ดี เจ็บนี้อีกนาน...เจ็บนี้ไม่ลืม~ จริงๆ ผมจะไม่มีวันลืมเลยว่าหลังจากซ้อมเต้นบีบอยแล้วจะมีอาการเหมือนโดนรถสิบล้อทับแบบนี้ มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลานเลยล่ะ

ก๊อกๆ

“ตายยังสาม…” นั่น รู้แล้วใครมาเคาะ คุณพี่แสนดีของผมนี่เอง อ่อ ไม่ใช่ของผม…พี่มะเดี่ยวไม่ใช่ของผม

“ใกล้แล้วครับ” เปิดประตูเสร็จก็บอกอีกฝ่าย พี่มะเดี่ยวใส่ชุดนอนอยู่เลยอ่า ใส่สลิปเปอร์มาด้วย ตื่นมาทำไรครับคุณพี่?

“เออ สภาพใกล้ตายแล้วจริงด้วยวะ ฮ่าๆ ไปเรียนไหวไหม” พี่มะเดี่ยวแทรกตัวเข้ามาในห้อง ถามผมก่อนว่าผมต้อนรับพี่ไหม ช่างเหอะ...เอาที่พี่สบายใจเลยจ้ะ

“ไม่ไหว...ทำไมพี่ไม่บอกก่อนว่ามันจะอ่วมขนาดนี้” ผมเดินตามไปนั่งที่โซฟา เพิ่งสังเกตว่าพี่มะเดี่ยวถือขวดยาอะไรมาด้วย

“ไม่ได้ สามต้องไปเรียน เจ็บปวดแค่นี้อย่าให้มันมาบั่นทอนเราได้สิ” ตลกเหอะพี่ เหมือนโดนกระทืบแบบนี้จะให้ผมฝืนต่อไปยังไง

“แค่นี้ที่ไหน ไอทีสะเทือนยันไข่...” ปล่อยร่างไถลไปกับโซฟา แต่ไม่ได้นอนนะ นอนไม่ได้ พี่มะเดี่ยวนั่งอยู่

“ปกติออก ครั้งแรกก็แบบนี้แหละสาม เราต้องฝืนหน่อย มา...พี่ทายาให้”

“โอ้ย...เบาครับพี่” จับไหล่ผมพลิกไปหาพี่รุนแรงแบบนี้ไม่ได้นะ ผมเจ็บ ผมปวด ผมอยากจิร้องไห้

“ไม่ได้ดิ สามต้องอาบน้ำก่อน ไปๆ…รีบไปอาบน้ำ เดี๋ยวพี่ทายาแล้วก็นวดคลายกล้ามเนื้อให้” แกเกิดเปลี่ยนใจดันหลังผมให้ลุก ก็บอกอยู่เบาๆ แตะตรงไหนก็ระบมหมดอะ บอกตรงๆ ไม่อยากให้อะไรมาโดนตัว และไม่อยากจะขยับทำอะไรเลย

“ว่าแต่พี่มาทำไร...” กำลังจะลุก แต่ขอถามก่อน

“ก็มาดูเราไง พี่รู้อยู่ว่าครั้งแรกมันจะเป็นแบบนี้ก็เลยจะมาดูแล...” ไม่ต้องส่งสายหวานซึ้ง ไม่ได้ขนลุก...แต่คิดลึก

“อ่า...ขอบคุณครับ งั้นผมไปอาบน้ำแล้ว” เดินกะแผลกๆ ไปเนี่ยแหละ แม้แต่เท้าผมก็ยังเจ็บเลยอะ เมื่อวานขาพลิกบ้างบางที บางหน แต่ไม่ได้เจ็บ ณ ตอนนั้นเลยน่ะครับ แม่งมาออกฤทธิ์ตอนนี้เนี่ยแหละ

ผมเข้าไปเอาเสื้อผ้าออกมาอาบน้ำเปลี่ยนชุด แต่ก็ใส่แค่บ็อกเซอร์กับเสื้อกล้าม ก็ถ้าพี่เขาจะทายาให้ ใส่ทั้งชุดนักศึกษาเลยก็คงไม่เหมาะเท่าไหร่ พอออกมาก็เห็นพี่มะเดี่ยวกำลังผ่าแอปเปิ้ลให้ความรักกินอยู่ ดูแลดีทั้งคนทั้งหมูเลยวุ้ยคนเรา

“ดูแลคนอื่นดีแบบนี้ ทำไมพี่ไม่มีแฟนล่ะครับ” เดินเช็ดหัวมานั่งบนโซฟา ความรักมันนั่งอยู่บนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา

“ก็ยังไม่เจอคนที่อยากดูแลน่ะ” พี่ท่านว่ายิ้มๆ แล้วผมก็คิดไปไกล...ตีความหมายว่าผมเป็นคนที่พี่อยากดูแลได้ใช่ไหมเนี่ย เขินแป๊บ

“อ่า..งั้นเหรอครับ”

“ใช่ ถอดเสื้อออก จะได้ทายา” ผมพยักหน้ารับคำง่ายๆ ส่วนใหญ่ที่เจ็บก็เป็น…ทั้งตัว

ผมถอดเสื้อกล้ามออก วางมันเอาไว้ที่โต๊ะข้างๆ ความรัก มันหันมองนิดหน่อยแล้วก็เดินไปนั่งทับเสื้อ เออ เอาเถอะ...ความรักพอใจแบบไหนป๊าตามใจหนูเลยจ้ะ ทายาเสร็จป๊าจะกัดให้เนื้อขาดเลย!

“อะ...เอ่อ ผมทาเองก็ได้” มัวแต่มองความรัก พอหันมาเจอพี่มะเดี่ยวจ้องลำตัวของตัวเองอยู่ก็เลยรีบบอก คือถ้าทาช่วงตัวอะ ผมทาเองได้

“ไม่เป็นไร ทาได้แต่เรานวดไม่ได้” ก็จริงของพี่เขา มันต้องนวดยังไงก็ไม่รู้

พี่มะเดี่ยวให้ผมเอนหลังลงไปทางพนักเท้าแขนด้านขวา เหมือนจะให้นอนราบลงไปเลยแต่ก็แค่กึ่งนั่งกึ่งนอน พี่มะเดี่ยวเอายาเทลงมาที่หน้าท้อง มันเป็นน้ำมันมวยอะ กลิ่นนี่อย่างแรง จากนั้นฝ่ามือหนาโคตรสากก็แปะลงที่หน้าท้องของผม ลูบไล้ไปมา...อย่าคิดลึก เขาแค่ทายา

ไม่...ผมไม่ได้บอกใครนะ ผมเนี่ยบอกตัวเอง ทำไมกูต้องเป็นคนแบบนี้ เขาทายาให้เฉยๆ ก็แค่ทายา! ลูบไปลูบมาที่หน้าท้องวนๆ กดบ้าง บีบบ้างเป็นจังหวะนุ่มนวล แม้มือพี่มันจะโคตรสากเพราะเป็นนักเต้น แต่พี่มะเดี่ยวก็ระวังเรื่องความรุนแรงในการนวดให้ผมมาก โดยเฉพาะตรงหน้าท้องด้านขวาที่ผมเล่นท่าเบบี้ฟีต พี่ท่านเน้นเป็นพิเศษ นวดจนตรงนั้นร้อน...ตรงนั้น ตรงที่เขานวดเฟ้ย!!!

อนาถใจตัวเองตงิดๆ ทำไมแค่เขานวดแล้วผมต้องคิดลึกบ้าบออยู่คนเดียวแบบนี้ด้วยวะเนี่ย น้ำมันลื่นๆ ทำให้ฝ่ายมือลากไล้ไปทั่วหน้าท้องได้ง่ายดาย พี่มะเดี่ยวดูตั้งใจมาก กดเป็นจุด เน้นที่ดูช้ำ ไม่มีวอกแวกอะไรเลยยกเว้นกูเนี่ยยยย กลิ่นยาตีเข้าจมูกจนแสบ เย็นตาด้วย ตาปรือหน่อยๆ มองหน้าพี่มะเดี่ยวไป...หอบหายใจไป บางครั้งแรงกดเหล่านั้นทำเอาผมเจ็บจนต้องครางออกมาเบาๆ เกร็งในบางหน นั่นเป็นเหตุทำให้ลมหายใจขาดห้วง...

“สบายปะ” พยักหน้าอย่างไว สบายมันก็สบาย แต่เจ็บนิดๆ และคิดลึก...

“สบายครับ” อารมณ์ป๋าหน่อยๆ เอนหลังพิงพนักเท้าแขน ศอกทั้งสองค้ำร่างตัวเองอยู่ที่พนักนั่นแหละ ส่วนขาเนี่ยผมยืดยาวอยู่ด้านในโซฟาเพื่อให้พี่มะเดี่ยวสามารถนั่งได้สบายๆ

ความร้อนจากน้ำมันมวยน่าจะทำให้กล้ามเนื้อมันเริ่มคลายตัว ผมรู้สึกสบายขึ้นทีละน้อย เจ็บอะเท่าเดิมแค่ไม่ขยับทีก็ปวดไปหมดทั้งตัวแบบตอนแรกแล้ว ต้องยกความดีความชอบให้พี่มะเดี่ยวเขาแหละนะ ผมกำลังจะบอกว่าเออ ผมดีขึ้นแล้ว พอได้แล้ว จะได้ไปแต่งตัว ทว่ายังไม่ทันได้พูดเล้ยยยย

“เฮ้ย พี่...คือ...” พี่มะเดี่ยวยกขาขวาผมออกมาจากด้านโซฟา เจ้าตัวนั่งหันหน้าปะทะสายตากับผมโดยแทรกตัวเข้ามากลางหว่างขา

ไม่เคยคบผู้ชาย...ไม่เคยอ่านโดจินวาย...ไม่เคยดูจีวี กูจะไม่เป็นแบบนี้เว้ย!!!

หน้าเน้อ หูเหอตอนนี้แดงไปหมด...ผมใส่แค่บ็อกเซอร์ที่สั้นมากลายสก็อตสีดำแดง ข้างมีกางเกงในแต่มันก็...มันก็ล่อแหลมปะ ผมพยายามจะยื้อขาตัวเองออกจากหน้าขาของพี่มะเดี่ยว พี่เขาเองก็ใส่ชุดนอนที่ไม่ได้มิดชิดอะไรนักหรอก กางเกงวอร์มขาสั้นกับเสื้อยืดน่ะ เนื้อสัมผัสเนื้อไหมล่ะมึง!

“น้องสามอย่าดิ้นสิ ดิ้นมากๆ มัน...ล่อแหลมน่ะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ของพี่อะล่อแหลมกว่าท่าทางอีก

“คะ...ครับ” ได้ เดอะสามไม่ดิ้นแล้วครับ ถ้ามันจะล่อแหลมมากกว่าที่เป็นอยู่ ผมขออยู่เฉยๆ เนี่ยแหละ

พี่มะเดี่ยวแกจับเอวเล็กของผมดึงเบาๆ ร่างผมก็นอนราบบนโซฟา หัวหนุนอยู่กับที่เท้าแขน เอาแล้ว...ท่าโคตรน่าเสียตัว แต่เฮ้ย ไม่ใช่แบบนั้นสิ ผมมองพี่มะเดี่ยวหวาดๆ พี่เขาก็ยังเอาแต่อมยิ้ม ส่วนผมไม่กล้าขยับตัว ไม่เป็นเดอะสามไม่รู้หรอกว่า...ของพี่แม่งงบึ้มขนาดไหน!

“ฮะ...?!” สะดุ้งสุดตัว พี่มะเดี่ยวแกลูบหน้าขาอ่อนของผม แววตาเจ้าเล่ซุกซนช้อนขึ้นมอง มัน...ล่อแหลมกว่ากว่าเดิมปะ!

“ตกใจเหรอ ไม่ต้องกลัว ไม่ทำอะไรหรอกหน่า” โอเค ผมเชื่อ...แต่ผมห้ามความคิดลึกของตัวเองไม่ได้อยูดีอะ

ผมเลื่อนสายตาไปมองฝ่ามือพี่มะเดี่ยวตรงขา เห็นว่ามีน้ำมันมวยอยู่ก็เลยพอจะเข้าใจว่าที่เขาลูบขาเนี่ย เพราะกำลังทายาแอนด์นวดให้ผมอยู่ แต่ขอโทษ...มันจั้กจี้เหมือนกันนะ ฝ่ามือสากๆ ออกแรงบีบนวดเบาๆ เน้นบริเวณที่มีกล้ามเนื้อเยอะ ในความปวดแปล๊บมีความเสียวจี๊ดซ่อนอยู่...

ทำไมฉากในจีวีต้องแว็บเข้าหัวกูวะ!!!

“ขาเราเล็กเนาะ ขาว....ด้วย” เขาก็พูดปกติแหละ แต่ผมว่ามันชวนให้คิดไปถึงไหนต่อไหน...คิดไปถึงแบบว่าแบบว่า....

“ครับ”

“ฮ่าๆ เขินพี่เหรอ...หน้าแดงหมดแล้วรู้เปล่า แดงลามที่คอแล้วด้วย ทำไมครับ...เดอะสามคิดว่าพี่จะทำอะไรสามเหรอครับ” ไอ้นี่สั่นหัวปฏิเสธดิกๆ เลยจ้า

“ปะ....ฮะ?!” ฮื่ออออ พี่จ๋า พี่อยากพุ่งขึ้นคร่อมผมแบบนี้ ผมไปไม่เป็น...ผมทำอะไรไม่ถูก

“สามคิดอะไรอยู่เหรอ...เรื่องลามกหรือเปล่าอะ สารภาพกับพี่มาเลยนะว่าสามคิดอะไรอยู่” ไม่มีทาง ผมไม่มีทางสารภาพสิ่งที่คิดอยู่ตอนนี้ให้พี่มะเดี่ยวรู้หรอก เพราะมันดูน่าอายมากๆ แค่นี้ก็อายมากอยู่แล้ว แถม...ท่าแบบนี้มันอันตรายนะ

“เปล่าครับ...ผมแค่...แค่อาย” ไม่บอกความคิด แต่ไม่โกหก เดี๋ยวตายอีก

“แน่ใจนะ...” พี่มะเดี่ยวยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ปลายจมูกเราแทบจะชนกันอยู่รอมร่อ

“ครับ ผมไม่กล้าโกหกแล้ว...” อ้อนๆ เข้าไว้ ปล่อยผมเถอะ อย่าให้ผมบอกในสิ่งที่ผมคิดเลย

ผมไม่ได้คุ้นเคยเรื่องแบบนั้นนะ เคยคบผู้ชายแต่ไม่มีมากกว่าการกอดหรือจูบ พอมาโดนถึงเนื้อถึงตัวทั้งที่ไม่เคยมีใครโดนมาก่อนนอกจากพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหาย...เออ นั่นแหละ แค่คนใกล้ชิด มันก็เลยตื่นเต้นแล้วก็เผลอคิดไปไกล ด้วยรูปร่างหน้าตาพี่มะเดี่ยวก็พาฝันพออยู่แล้ว มาเจอแบบนี้อีก...เผลอคิดไปบ้างก็ให้อภัยผมเถอะ อีกอย่างที่ไม่อยากให้พี่เขารู้...ผมกลัวพี่เขารังเกียจผม

“ดีมากครับ อย่าโกหกพี่นะ...พี่ไม่ชอบเวลาน้องสามโกหกเท่าไหร่ ไม่น่ารักเลย แบบนี้สิน่ารักกว่า” แต่พี่ทำตัวแบบนี้ใส่ผมก็ไม่น่ารักเหมือนกันครับ...เพราะมันทำให้ผมคิดลึกแล้วก็วาดฝัน ทั้งที่พี่เขาก็แค่เล่นไปตามประสาผู้ชายคนหนึ่ง

“ครับ” พี่มะเดี่ยวมองตา ผมไม่กล้าสบตอบหรอก...เบี่ยงสายตาหนีคือสิ่งที่ผมทำ อย่าให้ต้องพูดเลยว่าหัวใจตอนนี้มันเต้นแรงขนาดไหน

“เอ...หัวใจเต้นแรงจัง” พี่มะเดี่ยววางมือทาบลงที่หน้าอกข้างขวา รอยยิ้มแบบนั้นผมไม่ชอบ...มันเจ้าเล่ มันเหมือนคนจ้องจะแกล้งกัน แล้วก็ใช่...พี่มันสะกิดหัวนมน้อยๆ ของผมหนึ่งทีก่อนจะขยับร่างนั่งตรงๆ

พี่มึงสร้างความเสียววูบให้กับกูแล้วกจากไป...

ช่างมัน รีบลุกขึ้นนั่งก่อน หน้าเหน่อร้อนฉ่าเหมือนจะเอาไข่มาเจียวได้แล้วอะ ส่วนคนทำเหรอ นั่งหัวเราะต่อกระซิกกับความรักหน้าตาเฉย ก็ทั้งทายา ทั้งบีบทั้งนวดให้ผมจนผมรู้สึกดีขึ้นแล้วนี่นา หมดหน้าที่เขาแล้วนั่นแหละ

“เอาผ้าเช็ดยาออกหน่อยนะสาม แล้วค่อยใส่เสื้อผ้า วันนี้ไปฟลอด้วยถ้าเรียนเสร็จแล้ว” แกหันมาบออก

“ครับ”

“อ่อ เอาความรักไปด้วยสิ”

“ไม่ดีมั้งพี่ เดี๋ยวมันจะวุ่นวายคนอื่นเขา” ก็พูดไปเถอะ ใจยังสั่นอยู่เลยกู...เฮ้อ สามหนอสาม อย่าหวั่นไหวนะมึง อย่านะ...ห้ามเด็ดขาด ชายแท้คือของต้องห้าม ท่องเอาไว้ให้มั่น!

“ไม่หรอก ความรักไม่ดื้อ เดี๋ยวพี่ดูแลความรักเอง...อยากให้มันไปเล่นด้วย นั่งเฝ้าอยู่แต่ในร้านกาแฟน่าเบื่อออกเนาะ”

“อ่า...ก็ได้ครับ” พอเริ่มสงบลงได้บ้างผมก็เอาเสื้อนอนนั่นแหละมาเช็ดน้ำมันมวยออกจากตัวเอง ไม่เชิงเช็ดให้หมดไปเลยนะ แค่ไม่ให้มันเยิ้มเปื้อนเสื้อผ้าอะ แต่ต้องให้มีติดตัวเอาไว้บ้าง

“อืม งั้นพี่ไปก่อน เจอกันที่ฟลอ ไปละความรัก...เจอกันจุ้บๆ” แกทำปากจู๋ๆ ส่งจุ้บให้ความ แล้วลูกที่แสนดีของผมก็ทำตามเขา ส่งเสียงชุ่บๆ ตอบกลับ เล่นเอาพี่มะเดี่ยวเดินกลับไปทั้งเสียงหัยวเราะเลยล่ะ เห่อๆ...มันก็น่าตลกจริงๆ นั่นแหละ คนทำปากเลียนแบบหมูแต่หมูก็ทำเลียนแบบคนอีกที

“เฮ้อ...ป๊าแกหวั่นใจชะมัดเล้ยไอ้ความรัก” หน้าตาดี...นิสัยน่ารัก เทคแคร์เก่ง ยิ้มเก่ง...เฟรนลี่ มีเสน่ห์ ครบขนาดนี้ บอกที...ต้องทำไงถึงจะตัดใจได้

ตัดใจตั้งแต่ไม่เริ่มเพราะรู้สึกว่า...ความหวังมันมีน้อยอะนะ เวลาเล่นเกม มันมักมีตัวเลือกขึ้นมาให้เราเลือก ซ้ายกับขวาพร้อมข้อมูลและความเป็นไปได้ ต้องคิดดีๆ เลือกผิดเกมก็โอเวอร์ กรณีพี่มะเดี่ยวในความรู้สึกผมเป็นแบบนั้น...ผมแค่ต้องเลือกว่าจีบหรือไม่จีบ แล้วผมก็คาดคะเนจากความเป็นมิตรของแกว่าไม่ควรจีบ ผมไม่อยากให้เกมมันโอเวอร์ ได้เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันนี่แหละ...ดีสุดละ

แต่...อึดอัดใจเนอะ

.....100%.....

ที่จริงเราจะอัปวันสุดท้ายคือวันที่ 20 คือเมื่อวานนี้แล้วจะหยุดอัปเพื่อไว้อาลัยในพ่อหลวง แต่เมื่อวานเราหลับไปก่อน วันนี้จึงมาอัปชดเชยให้ก่อนหยุดอัปยาวจนถึงพฤศจิกายนนะคะ

ถ้าสามอ่อยกลับ...รับรองว่าไม่ต้องจีบพี่มะเดี่ยวก็ตกเป็นของน้องแล้วจ้ะ ฮาาาา ถึงเนื้อถึงตัวกะนละเกินนนนน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-10-2017 22:15:22
รู้สึกว่าสงสารน้องสาม ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 22-10-2017 00:24:45
 :z1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 22-10-2017 02:30:17
 :L2: :pig4:

บอกเราหน่อยว่าเรื่องนี้ไม่จบเศร้าใช่ไหม
เรากลัว

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-10-2017 04:30:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 22-10-2017 21:51:27
พี่มะเดี่ยวขี้แกลงจนไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนเล่น  :hao3:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 22-10-2017 22:23:54
พี่มะเดี่ยวลอบน้องมันนี่ก้มท้นียนใหญ่เลย
แต่ไม่นอมพูดให้ชัดๆนี่สิ
น้องมันอึดอัดใหญ่แล้วว ระวังดราม่าย่อมๆเลยเนี่ย
อยากให้น้องสามอ่อยกลับบ
ทำเป็นเล่นๆก้ได้ เอาแบบรถอ้อยคว่ำเลยย
อยากเห็นพี่แดดิ้นนนบ้าง
รอค่าา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 23-10-2017 12:56:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 23-10-2017 20:03:32
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 24-10-2017 17:31:01
รุกเยอะ ๆ หน่อยค่ะพี่มะเดี่ยว  :hao6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 17 [100%]❤️ -21/10/60-
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 24-10-2017 22:43:33
ขอแบบชัดเจนไปเลย นะพี่มะเดี่ยว
เดี๋ยวสามจะได้ไม่ต้องวุ่นวายใจ
คิดอะไรไปเองคนเดียว  :mew2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 18 [100%]❤️ -1/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-11-2017 21:44:28
>>ตอนที่ 18 [100%]<<

ผมสลัดเรื่องพี่มะเดี่ยวออกจากหัว ต้องเดินทางไปเรียนด้วยจักรยานซึ่งวันนี้เป็นวันที่ผมไม่อยากขี่มันมากที่สุด ขนาดพี่มะเดี่ยวนวดคลายกล้ามเนื้อให้แล้วผมยังรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างอยู่เลยอ่า ปั่นทีนี่น้ำตาจะไหล ได้แต่ฝืนสังขาลไปเรียนด้วยความลำบากลำบน

“นึกว่ามึงจะมาไม่ไหวแล้ว...” มาถึงก็เจอวิ่งกับพีชนั่งกินกาแฟอยู่ที่ร้าน ผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ อีกมืออุ้มความรัก

“เกือบล่ะ...เกือบตาย” แล้วเดินไปสั่งกาแฟของน้าบ้าง จากนั้นเอาความรักให้น้าไว้ แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันเท่าไหร่ เช้าๆ แบบนี้ลูกค้าค่อนข้างเยอะ

“เออ กูเข้าใจอารมณ์นั้นดี แต่ก็มาไหว นับถือ นับถือ” พีชว่ายิ้มๆ

“ที่จริงควรบอกกูก่อนว่าหลังจากซ้อมแล้วจะมีสภาพเป็นแบบนี้ ว่าแต่ทำไมพวกมึงไม่เป็นอะไรเลยวะ” พวกมันดูปกติโคตรๆ ทั้งที่เล่นท่ายากกว่าแล้วก็โหมกว่าผม

“ร่างกายพวกกูชินแล้วไง ถึงบอกว่าของแบบนี้มันต้องใช้เวลาในการอยู่ร่วมกับมัน มึงซ้อมติดกันสักอาทิตย์ก็ไม่เจ็บหนักแบบนี้แล้ว” ไม่เจ็บหนักแบบนี้แสดงว่าจะยังเจ็บไปเรื่อยๆ สินะวิ่ง

“แล้วกลิ่นยานี่มาจากตัวมึงใช่ไหม น้ำมันมวยใช่เปล่า ฟุ้งตัวเชียว ทาหรืออาบอะถามจริง...” พีชยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำจมูกฟุดฟิดๆ ปกติผมมีกลิ่นตัวเหมือนความรัก ซึ่งก็คือกลิ่นสมบู่เหลวที่ผสมน้ำหอมลงไป ไอ้แชมพูอาบน้ำหมานั่นน่ะผมไม่ได้ใช้อาบความรักหรอก ซื้อมาแล้วไม่อยากใช้อะ

“พี่มะเดี่ยวแกทาให้อะ นวดให้ด้วย” บอกเนือยๆ เพลีย อยากนอน ยังปวดระบมอยู่ ผมขอลาตายสักสองนาที

“เดี๋ยวนะ...พี่มะเดี่ยวทาให้ ฮั่นน่อววววววว” แล้วพีชกับวิ่งก็ส่งเสียงแซ็ว ผมไม่รู้เรื่องด้วยเลย...ทำไมถึงต้องแซ็วละ?

“อะไรวะ” แค่ทายากับนวดนะ ยังไม่ได้นาบ อุ่ยยยย

“แค่ทาจริงๆ เหรอ มีอะไรมากกว่านั้นเปล่า” ไม่ต้องมาส่งสายตาเสือกแบบนั้นเลยไอ้วิ่ง

“ไม่มี แค่ทายา ทำไม...คิดว่าทำอะไรกัน?”

“เปล๊า...” วิ่งยังไม่เลิกส่งสายตาล้อเลียน ก็ไม่เข้าใจ ล้อเลียนเพื่อ...

“นวด...ปกติพี่เดี่ยวแกไม่เคยนวดให้ใครเลยนะ หรือว่าเขาคิดอะไรกับเอ็ง” พีชพูดเสียงปกติ

“ไม่หรอก แค่สงสารมั้ง” ไม่น่ามีอะไรในกอไผ่

“ไม่มั้ง”

“ช่างเหอะ” ตัดบทมันดื้อๆ แบบนี้นี่แหละ อย่ามาตั้งข้อสงสัยอะไรกับผมเลย ผมตอบคำถามพวกมันไม่ได้อยู่แล้ว

พีชกับวิ่งอาจจะรู้จักพี่มะเดี่ยวดีเพราะเป็นรุ่นน้องกันมานาน แต่ผมไม่ใช่ไง ถามผมไปก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอยู่ดี หากต้องตอบก็บอกได้แค่พี่เขาเข้ามาในห้องแล้วก็ดูแลผมเอง โดยที่ผมไม่ได้ร้องขออะไรเลยสักอย่าง อันที่จริงผมต่างหากที่ต้องคิดมาก เพราะการกระทำของเขาที่ทำเหมือนผมพิเศษกว่าใครๆ มันทำให้ใจของผมเต้นแรงยิ่งกว่าหกสูงซิดอัพอีก...

แล้วการที่พวกมันพูดเรื่องนี้เป็นธรรมชาติก็เพราะเรามันสายพันธุ์เดียวกันไงครับ...พีช วิ่งและผมต่างก็ไม่ได้จำกัดคำว่าเพศ เราคุยเรื่องนี้กันตั้งแต่คบเป็นเพื่อนกันแรกๆ แล้วล่ะ แถมยังมีการบอกว่ามึง มึงและมึงไม่ตรงสเป็กกูอีก แหม...พวกมึงก็ไม่ตรงกับสิ่งที่กูต้องการเหมือนกันแหละเพื่อน ไม่มีทางเอาพวกมันมาทำแฟนแน่ๆ อะ ไม่มีเหตุผลอะไรมากมายด้วยนะ มันเป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ยิ่งรู้จักกันก็ยิ่งรักกันแบบเพื่อนมากขึ้น ไลฟ์สไตล์เราอาจไม่คล้ายกัน แต่ทัศนคติหลายๆ อย่างของเราเหมือนกัน ถึงอยู่กันได้ไง

เราเข้าเรียนกันตอนสิบโมง พากันปั่นจักรยานไปด้วยกันสามหน่อนี่แหละครับ ระหว่างทางก็ตะโกนคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับข่าวบ้านเมืองในวันนี้ รสนิยมเราแปลกๆ นิดหน่อยตรงที่ชอบวิเคราะห์ข่าวแล้วก็หาทางแก้กันเอง มันช่วยอะไรใครไม่ได้นะ แต่มันเป็นเรื่องราวที่พวกเราชอบคุยกันอะ พีชกับวิ่งมันจะวางเรื่องข่าวก็ต่อเมื่อเริ่มซ้อมเต้นนั่นแหละ ช่วงเวลานั้นคือช่วงเวลาที่พวกมันไม่คิดเรื่องเครียด แค่สนุกกับการเต้นเท่านั้น

เรื่องฮาๆ ของพวกมันก็คงจะเป็นสมัยมันเรียนมัธยมกันมั้ง มันชอบวิเคราะห์ข่าวใช่ไหมล่ะ คนอื่นเลยไม่ค่อยคบพวกมัน เพราะคุยกับพวมันไม่รู้เรื่อง ตอนแรกที่มันเข้ามาทักผม มันถามผมว่า....มึงได้อ่านข่าวแม่ฆ่าลูกสาวตัวเองปะ ผมติดเกมนะ แต่ผมก็ติดข่าวเหมือนกัน ปกติถ้าไม่ตื่นสาย ไม่อ่วมแบบวันนี้ก็จะเปิดข่าวดูตอนเช้า ว่างๆ ก็อ่านข่าวในเฟซบุ๊กงี้ ก็เลยตอบคำถามพวกมันได้ ทีนี้ยาวเลยครับ คุยกันยาวถึงทุกวันนี้แหละ

มีช่วงเวลาคุยข่าวเครียดๆ แต่ก็มีช่วงเวลาไร้สาระสำหรับเรื่องเกมอยู่นะ เรียกว่ามีสมดุลในตัวเอง แต่ครับแต่…พวกนี้ก็ไม่เล่นเกมเหมือนชาวบ้านเขา แล้วผมก็เสือกเล่นเกมเดียวกับพวกมัน เราเกิดมาเพื่อเป็นของกันแหละกันจริงๆ

“มึงเห็นข่าวที่ว่าเกย์เล่นเซ็กส์กับคู่ขาจนคู่ขาตายปะ” บ่ายสามเพิ่งเลิกคลาส วิ่งเปิดประเด็นอีกประเด็นของวันนี้ออกมาหลังจากเมื่อเที่ยงเราโต้เรื่องการเมืองกันดุเดือด เรื่องการเมืองผมสายกลางนะ แต่พวกมันไม่ใช่ วิ่งเป็นสาย...อื้ม ไม่พูดดีกว่า ของแบบนี้ไม่ควรจุดประเด็น ผมว่าการเมืองเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

“เห็น ที่ว่าเอาศพคู่ขาไปซ่อนอะนะ เออ...ที่จริงมันก็ไม่เชิงเป็นความผิดนะกูว่า มันเป็นเรื่องที่สมรู้ร่วมคิดกันนี่ ถูกปะ” พีชแสดงความคิดเห็น ไอ้ข่าวนี้ก็อ่านไป แต่ในเนื้อหาไม่ระบุเหตุการณ์ชัดเจน

“ฆ่าคนตายมันก็คือฆ่าอยู่ดีอะมึง ครอบครัวไม่ได้มารับรู้ด้วยนี่ว่าเฮ้ย...นี่รสนิยมมึงเป็นแบบนี้นะ โอเค พลาด ตาย ช่างมัน” ผมว่าออกมาบ้างตามความคิดเห็น

“จริงของไอ้สาม เพราะครอบครัวแม่งไม่รับรู้ด้วยเนี่ยแหละ มันเลยเกิดเป็นการเอาเรื่องเอาราวกัน แล้วงี้….เขียนพินัยกรรมเอาไว้เลยมึงว่าดีปะ” วิ่งหันมาถามความคิดเห็น สองมือจับแฮนด์เตรียมขึ้นคร่อม ส่วนผมขึ้นเรียบร้อย พร้อมปั่นเต็มที่

“ใครเขาจะไปเขียนพินัยกรรมกันเลยละวะ ไม่ใช่คนรวยนะเว้ย ก็แค่ฐานะปานกลาง คนประมาณนี้ไม่คิดกันหรอกว่าวันนี้พรุ่งนี้เราจะตายอะ” จริงของพีช อันนี้ผมเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็น

“คนรวยๆ ที่เขียนพินัยกรรมกันมันก็เพราะกลัวโดนฆ่าโดนแย่งชิงสมบัติ ชนชั้นกลางมีอะไรให้แย่งวะ ถูกมะ” วิ่งหันมายกนิ้วให้ ปั่นจักรยานมือเดียว

“ถูกวะ แต่กูว่า…กูจะเขียนไว้ เผื่อกูเอากับคู่ขาหนักหน่วงไปหน่อย”

“ฮ่าๆ เอาเลยเว้ย กูสนับสนุน น้องอะไรนะ….น้องโก้ปะที่เต๊าะอยู่ คนนี้มึงรุกหรือรับ ไหนบอกกูซิเพื่อนยาก” ปิดช่องว่างให้พีชมันเสียบเอง อันนี้กูไม่ช่วยนะวิ่งน้า

ผมรีบปั่นหนีพวกมันสองคน คือเอาให้ตัวเองนำหน้าไปก่อน เราไม่ค่อยคุยเรื่องอะไรแบบนี้กันหรอก แต่พอคุยขึ้นมา ผมก็ไม่อยากตกเป็นหัวข้อสนทนานั้น พวกมันเคยตั้งคำถามแล้วซักไซ้ผม ด้วยรูปร่างและหน้าตาของผมเอง พวกมันเลยอยากรู้ว่าตอนที่ผมคบกับผู้ชายน่ะ ผมรุกหรือผมรับ ผมตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เคยเลย แต่เอาจริงๆ...ผมรุกได้นะเว้ย แค่ต้องสอนกันหน่อย อิอิ

ชีวิตของเดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมา ทำเป็นแค่ปทุศร้ายอุ้งมือตัวเองเท่านั้นครับ....

พูดไปอายคนอื่นเขาตาย อายุสิบแปดแล้ว สามน้อยยังไม่เคยใช้งานกับใครนอกจากมือตัวเองเลย จะว่าไปเพราะแบบนี้ผมเลยตอบไม่ได้ว่าระหว่างหญิงกับชายผมชอบอะไรมากกว่ากัน เปรียบได้แค่ภายนอกกับความรู้สึกที่ได้คบ ผมว่าก็คล้ายๆ กัน แค่กับผู้หญิงเราต้องดูแลเขา แต่ผู้ชายเราจะโดนดูแล ผมแยกได้แค่นั้นแหละ นอกนั้นความรู้สึกของคำว่าแฟน...ผมว่าเหมือนกันหมดนะ

เราพากันมาที่ร้านบีพีคอฟฟี่ก่อนจะไปหาข้าวกินที่ฟลอ ผมมารับความรัก แล้วก็มาเอาโกโก้สักแก้ว สองคนนั้นอยากได้กาแฟจะได้กระปรี้กระเปร่า ผมกินกาแฟมากไม่ได้ ใจสั่น เป็นเด็กอนามัยประมาณหนึ่ง จอดรถหน้าร้านได้ก็พากันเดินกอดคอเข้าร้านอย่างกับบอยแบรนด์ แค่ไม่ได้หน้าตาดีกันขนาดนั้นเท่านั้นเอง โต๊ะส่วนใหญ่มีคนจับจองเต็มหมด ขายดิบขายดีมาก เอ๊ะ...หรือว่าพวกนี้มานั่งเล่นแต่ไม่สั่งกันละ

“น้าคร้าบ..ความรักผมล่ะ” ผมพุ่งเข้าหน้าเคาน์เตอร์ มองหาความรักรอบร้านแต่ไม่เห็นเลย

“มะเดี่ยวเอาไปฟลอเต้นล่ะ”

“พี่มะเดี่ยวอีกแล้ว...ทำไมไว้ใจพี่เขาจัง เกิดเขาเอาความรักผมไปขายทำไง” กรอกตาเบาๆ เห็นหรอกว่าดูสนิทกันแต่แบบ...เกินไปอะ

“เดี่ยวไม่ทำแบบนั้นหรอก แล้วที่สนิทก็เพราะสมัยเขาเรียนเขามาทำงานที่ร้านนี้ทุกวันน่ะ เลิกเรียนทำงาน ตกดึกก็ไปเปิดหมวก หาเงินเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง เก่งใช่ไหมล่า…” เออเก่ง อย่าให้ผมเก่งบ้างก็แล้วกัน

“มิน่า…สนิทกันจัง” น้าบอยก็เปิดร้านนี้มาตั้งนาน เห็นว่าเปิดตั้งแต่ตัวเองยังเรียนไม่จบเลย ตากับยายหรือแม้กระทั่งปู่กับย่าผมรวยอะ ใครอยากทำอะไร ลงทุนอะไรพวกท่านก็ให้ทำหมด เข้มงวดแค่ช่วงเรียนมั้ง จบแล้วก็ปล่อย น้าบอยขอเงินมาเปิดร้านนี้และหาเลี้ยงตัวเองด้วยร้านนี้มาตลอด ปู่ย่าตายายเลยรักน้ามาก~

ผม พีชและวิ่งพากันสั่งเครื่องดื่ม เรียบร้อยแล้วมุ่งไปซื้อข้าวเหนียวหมูทอดร้านประจำก่อนจะพากันไปนั่งกินข้างๆ ฟลอเต้น นี่กว่าจะปั่นจักรยานไปซื้อน้ำซื้อข้าวกันมาได้ ก็ปาไปสี่โมงเศษๆ แล้วล่ะ สิ่งแรกที่ผมทำเมื่อมาฟลอคือจอดจักรยาน...แน่ล่ะ ไม่จอดก่อนแล้วจะขึ้นไปใต้อาคารยังไงล่ะแหม่ ยกล้อขึ้นไปงี้เหรอ โดนด่าเช็ดเลยถ้าทำแบบนั้น

“ความรัก....” นี่แหละสิ่งที่ผมคิดถึง มันเดินคลอเคลียอยู่ข้างเท้าพี่มะเดี่ยว พี่เขาดูน้องๆ ซ้อมอยู่ พอความรักเห็นผม มันก็วิ่งมาหา ดีมาก...ดีมากๆ นึกว่ามึงไม่รักป๊าแล้วนะเนี่ยทุกวันนี้

“อ่าวมาแล้วเหรอ มาๆ...วอร์มอัพ” โอ้โห...ผมยังไม่ทันได้ฟัดความรักให้ชุ่มปอดเลย เรียกซ้อมแล้ว

“ผมยังเจ็บอยู่เลยอ่า...” นั่งกอดความรักเอาไว้เต็มอ้อมแขน เงยหน้ามองพี่มะเดี่ยว อ้อนทางสายตา...เห็นใจเดอะสามคนนี้เถอะ กว่าจะผ่านพ้นวันมาได้ลำบากแค่ไหนรู้ไหม ดีนะที่การเรียนไม่ได้บั่นทอนร่างกายผมขนาดนั้นน่ะ แต่ถ้าต้องมาซ้อมหนักๆ อีก...อ่วมแน่ ไม่ก็ ตายแน่ๆ!

“ไม่ได้ ถ้าเราหยุด...ร่างกายก็จะคืนสภาพเดิม ทีนี้พอเรากลับมาซ้อม เราก็จะเจ็บแบบนี้อีก เราต้องฝืนซ้อมหน่อย ไม่ต้องซ้อมหนักมาก แต่ต้องซ้อมให้ร่างกายมันจำว่าเราต้องทำแบบนี้ๆ เป็นปกตินะ” พี่มะเดี่ยวนั่งยองๆ มองหน้าผม

“แต่ผมเจ็บ...”

“รู้หน่าว่าเจ็บ เคยเจ็บมาก่อนทำไมจะไม่รู้ เพราะงั้นถึงบอกว่าต้องฝืน เดี๋ยวพี่สอนให้เองวันนี้...” พี่มึงสอนกูนี่ยิ่งตายแน่นอน ไม่โดนซ้อมโหดก็ต้องโดนแกล้งล่ะว้า

“อ่า...ก็ได้ ผมขอกินข้าวก่อน”

“ไปสิ” พี่มะเดี่ยวยื่นมือมาตรงหน้า นี่คือจะดึงให้ผมลุกสินะ โอเค...จับก็จับ

ลุกขึ้นยืนเต็มสองขา แทนที่จะปล่อยพี่มะเดี่ยวกลับจูงผมไปทางเพื่อนๆ ทั้งสอง อีกมือของผมอุ้มความรักเอาไว้ คนหันมามองเราเยอะเหมือนกัน น่าจะมองที่พี่มะเดี่ยวจูงมือผมอยู่มั้ง อายไหมก็นิดหน่อย ความไม่เข้าใจมันมีมากกว่านั้นอะ ระหว่างที่เดิน...ผมมองแผ่นหลังกว้างของเขาแล้วก็เกิดคำถาม ผมอยากได้ความชัดเจนอะ ถ้าไม่คิดอะไรก็คือไม่คิด แต่การที่พี่เขาทำแบบนี้น่ะ...มันชวนให้คิดไง

“พี่…” แต่ผมไม่ถามหรอกนะว่าชอบผมเปล่า มันดูเป็นคำถามน่าอาย

“อะไร”

“พี่เกลียดเกย์ปะ…” ทำไมต้องใช้คำว่าเกย์ ดูเข้าใจง่ายสุดมั้งว่าเป็นพวกไม้ป่าเดียวกัน พี่มะเดี่ยวหันมามองหน้า ผมคิดว่าเขาจะคิ้วขมวดไม่พอใจ ทำหน้าโหดพร้อมปาดคอผมทิ้งอะไรงี้ แต่เปล่าเลย...พี่เขายิ้ม

“กูโอเคกับทุกเพศนั่นแหละ ใครชอบพี่ พี่ก็ให้โอกาสหมด แต่จะเล่นเคาะห้องแล้วเสนอตัวแบบนั้นเลยอะ พี่ไม่โอเคอย่างแรงนะ มันดูแรดไป...” ฉิบผายยยย โดนด่าไปอีกดอก แต่เฮ้ย เรื่องนั้นเราเคลียร์กันแล้วนี่ว่าผมมาหาความรักอะ

“ผมแค่หาหมู...”

“เออ รู้แล้วไง แค่ยกตัวอย่างอะ เข้าใจปะ...ถ้าชอบพี่ก็บอก จะจีบก็เอาเลย…” เดี๋ยว…หลงตัวเองอะ ผมยังไม่ได้แสดงออกว่าชอบหรือว่าอยากจีบเลยเหอะ เป็นคนแบบนี้เหรอเรา แล้วกูเนี่ยอะไร…หน้าแดงทำไม ใจเต้นแรงทำไม ปั๊ดตบหัวตัวเองทิ่มเลยหนิ ฮุ่ย…สรุปสั้นๆ ผมเขินแหละ

“พูดจริงดิ...จีบได้งี้” แต่เพื่อความชัวร์ ตีมึนแล้วถามย้ำ หน้าไหม้หมดแล้วววววว

“อ่าฮะ…ได้หมดเลยครับน้อง” พี่ท่านเคลื่อนหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆ ผมแทบผงะถอยหลัง มองนกมองไม้แก้เก้อกันไปตามเรื่องตามราว

“ฮ่าๆ...รู้ตัวปะ” รู้ตัวอะไร หันไปมองอย่างฉงน

“ครับ?”

“เราอะ...น่ารัก” ว่าจบก็จูงมือผมเดินไปที่โต๊ะม้าหินข้างอาคาร พีชกับวิ่งนั่งยิ้มเย้าอยู่ หน้าบานมาก...บานไม่เกรงใจกูเล้ย!!!!

ผมวางความรักลงบนโต๊ะ เลี่ยงสายตาเสือกๆ ของเพื่อนแล้วกินข้าวของตัวเอง ระหว่างกินก็เอาแอปเปิ้ลให้ความรักไปด้วย มันไม่ค่อยเข้ามาใกล้ผมเท่าไหร่เพราะว่าผมกินหมูทอดอยู่แหละ แฮ่ๆ พี่มะเดี่ยวก็จ้องนะ แต่ไม่ได้ว่าหรือห้ามอะไร ดีแล้ว...อย่าให้ผมต้องไปหาอะไรอย่างอื่นมากินตอนนี้เลย ผมขี้เกียจแล้วอะ

“สวีทอะไรกันเหยอ...” ในสุดความเสือกก็ไม่เข้าใครออกใคร วิ่งเปิดปากอันมันแพร่บถาม

“ยังไม่ได้สวีทเลยนะ...” พี่มะเดี่ยวตอบกลับ ยักคิ้วหลิ่วตาน่าเตะมาก

“เขาเห็นกันทั้งฟลอเหอะ ยังจะมาพูด...อ่อยสามอยู่ก็บอกพี่” พูดแบบนี้คือรู้กันอยู่แล้วเหรอว่าพี่มะเดี่ยวแกฟรีเพศเนี่ย? เอาแล้ว ผมมองซ้ายมองขวา มองหน้าวิ่ง หน้าพีชสลับกันทั้งที่ข้าวยังแน่นกระพุ้งแก้ม

“เออไง อ่อยอยู่...ติดละด้วย” ฉิบล่ะ ฉิบหายล่ะ!!!

“น่าน....ถึงว่าล่ะ มีนงมีนวดกันด้วย จริงๆ ถ้าพี่บอกพวกผมแต่แรกก็ได้ซิงไอ้สามไปครองแล้ว” วิ่งวางท่าอวดอ้างสรรพคุณ แต่ช่วยดูหน้ากูหน่อย...พอดีสามหน้าไม่ด้านนะ สามแค่หน้ามึน

ผมงัดเอาวิธีที่ได้ผลเสมอมาใช้ นั่นคือตีหน้ามึนฟังพวกเขาหยอกกันไปแบบไม่ทุกข์ร้อน โครงหัวซ้ายขวา ทำแบบนี้นานๆ หน่อยมันจะมึน แล้วทีนี้จะเกิดอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน ผมก็สามารถหลุดพ้นจากอาการเขินตัวแทบแตกมาได้อย่างง่ายดาย...

“อุ้ยน้ำหก....ไปซื้อน้ำก่อนนะ” ปัดขวดน้ำทิ้งเห็นๆ แต่ช่างแม่ง...ตั้งหลักแป็บ!!!

.....100%....

วู้ฮูวววว คิดถึงความรักไหมเอ่ย เค้าเอาความรักร้อนๆ มาเสิร์ฟแล้วน้า หอมกรุ่นจนเผลอปัดน้ำเลยค่ะ ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 18 [100%]❤️ -1/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-11-2017 22:10:39
 :L2: :L1: :pig4:

ดีใจที่ความมรักกลับมาแล้ว
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 18 [100%]❤️ -1/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-11-2017 23:26:15
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 18 [100%]❤️ -1/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 02-11-2017 04:59:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 18 [100%]❤️ -1/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 02-11-2017 05:42:56
เค้าจีบกันแล้วค่ะแม่  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 18 [100%]❤️ -1/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 02-11-2017 05:56:24
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 18 [100%]❤️ -1/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-11-2017 08:02:35
ทำไมรู้สึกหมั่นไส้พี่มะเดี่ยว
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 19 [100%]❤️ -4/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 04-11-2017 06:24:46
>>ตอนที่ 19 [100%]<<

ต่อให้น้ำในหูไม่เท่ากันแค่ไหน เขินก็คือเขิน ทนไม่ไหวจนต้องปัดแก้วน้ำแข็งเปล่าตัวเองทิ้งมันหน้าด้านๆ นี่แหละ เหมือนกับพีชและวิ่งรู้อยู่แล้วว่าพี่มะเดี่ยวเป็นแบบไหน เห็นพูดเห็นมันหยอกแล้วหน้าร้อนอะ ทุกคนรู้...ทุกคนควรบอกสามนะครับ สามตั้งหลักไม่ทันเลยจริงๆ เอ...หรือผมผิดที่ไม่ถามพวกมันเองนะ นั่นสิ ผมน่าจะถามพวกมันได้ ก็พวกมันรู้จักพี่มะเดี่ยวมาก่อนผมนานแล้วนี่นา

งั้น...นี่เท่ากับว่าที่ผ่านมาพี่แกอ่อยอยู่จริงมาตลอดเลยสิใช่ไหม ไอ้ที่ทำให้ผมคิดลึกน่ะ ผมก็คิดว่าเขาเล่นๆ ตามประสาคนชอบแกล้งเท่านั้นเอง โห...เราเซ้นแรงเหมือนกันนะเนี่ย แล้วการที่เขาอ่อยผมแบบนี้นี่ผมยังต้องจีบอยู่ไหม?

บอกก่อนว่าไม่เคยจีบผู้ชาย เคยจีบแต่ผู้หญิงและรู้ว่าจะจีบผู้หญิงยังไงให้ติด เล่นเกมมาเยอะ ได้ประสบการณ์จากการเล่นเกมเฮ็น...แค่กๆ ไม่มีอะไร ผมเล่นเกมทั่วๆ ไปนั่นแหละ ส่วนผู้ชายปกติก็โดนเขาเข้ามาจีบเองอะ มาแบบ...นายมีแฟนปะ คบกับเราปะ แบบนี้เลย เออ...สามเจอแต่แบบนี้ละครับ ไม่เคยมาแบบอ้อมค้อมเท่าไหร่ ไม่รู้เพราะแม่งคือผู้ชายหรือเปล่า แต่ถ้าผู้หญิงมาจีบเรานะ เธอจะก็แบบ...อ้อมแอ้มถาม เนียนคุยกันไปก่อนงี้

แล้วผมควรเอายังไงดี...คือก็ชอบพี่แกอะ จีบได้ก็อยากได้นะ ฮ่าๆ ทำไมรู้สึกแรด

อ่า...นี่แหละความรู้สึกที่อยากมีแฟน โมเมนต์บางอย่างไม่เหมือนกับการเล่นกับเพื่อน กับพี่กับน้องหรือคนในครอบครัว บรรยากาศและความรู้สึกมันต่างกันมากจริงๆ มันเป็นความรู้สึกดีๆ ตื่นเต้น...ใจเต้นแรง ผมชอบช่วงเวลาแบบนี้ ทั้งที่อีกนัยหนึ่งมันก็น่ากลัว...เพราะถ้าหมดโมเมนต์นี้แล้ว การเลิกราก็จะมาถึงได้ง่ายดายเลยล่ะ

ช่างเหอะ...ผมไม่ควรตัดสินอนาคตอะเนาะ อายุแค่นี้เองชอบคิดอะไรเป็นคนแก่ หรือเพราะว่าเสพข่าวบ้านเสพข่าวเมืองมากเกินไปก็เลยมีความคิดอย่างนี้ก็ไม่รู้ ผมควรใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไปบ้าง เดี๋ยวๆ...นี่ไม่วัยรุ่นตรงไหน โอ้ย ปวดหมอง คิดมากๆ แล้วเหมือนไข้จะขึ้น ทำหน้าเดียวกับลูฟี่แป็บ...

“ซื้อน้ำบ้านมึงนานเป็นชาติเลย...คิดดอะไรอยู่วะ หน้าเครียดๆ” วิ่งมาจากไหนไม่รู้ มาถึงกอดคอพร้อมยิงคำถาม ผมยังอึนๆ มึนๆ ก็เลยเผลอหลุดปากออกไป

“กำลังคิดว่าจะจีบพี่เขายังไงดี...” นั่นแหละ หน้าตาล้อเลียนมาอย่างไว

“ทำไมต้องจีบ เขาก็อ่อยเอ็งอยู่ ที่เหลือเอ็งก็แค่ตอบสนอง” อย่าพูดเหมือนเจนจัดเรื่องแบบนั้นกับกูได้ไหมวะ พอดีกูใสๆ อะเพื่อน

“ถามจริง พี่แกรสนิยมงี้จริงๆ ดิ ไม่ได้แกล้งกันอยู่ใช่ปะ” หันไปมองหน้าวิ่ง มันพยักหน้าเบาๆ

“เขารู้กันทั้งฟลอ...แต่พี่มะเดี่ยวโลกส่วนตัวสูง ที่ผ่านมาเลยคบใครได้ไม่นาน ไหนจะซ้อมเต้น ไหนจะทำงาน ไหนจะเรียน หาเวลานอนได้ไหมยังไม่รู้เลย แล้วจะเอาเวลาไหนไปเทคแคร์คนอื่น บางทีก็มีตุ๊ดน้อยกรอยใจมาโวยวายที่ฟลอว่าพี่มะเดี่ยวไม่สนใจเขาบ้างล่ะ ทอดทิ้งเขาบ้างล่ะ ไม่ก็โดนว่าไปสนใจคนอื่น มีคนอื่น” ฟังดูแล้วลำบากเหมือนกันเนาะ ถ้าผมโดนแบบนั้นบ้าง ผมคงอยากจะมุดดินหนี

“เขาทำไงอะ”

“พี่เขาก็แค่เดินหนีอะ พี่มะเดี่ยวแกไม่ค่อยทะเลาะกับใคร ยิ่งอีกฝ่ายใจร้อนแกยิ่งไม่อยากคุยด้วย เคยได้ยินแกบ่นๆ ว่าเดี๋ยวนี้หาคนดีๆ ที่นิสัยน่ารักๆ สักคนยากจัง” อันนี้ผมโนคอมเมนต์แหะ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองนิสัยน่ารักเปล่า แต่หน้าตาน่าจะได้อยู่เพราะหน้าผมเหมือนความรักมาก แล้วความรักมันก็น่ารักโคตรๆ

โฮ่ๆ มโนชนะทุกสิ่งครับจำไว้

“เหรอ...”

“เออ มึงก็ไม่ต้องไปคิดมาหรอก อยู่ใกล้ชิดกับพี่ท่านบ่อยๆ เดี๋ยวก็จีบติด ดูแลแกบ้าง อ้อนแกบ้าง ใจอ่อนง่ายจะตาย” ง่ายตรงไหน แกล้งกูประจำไม่เห็นจะใจอ่อนเลย อ้อนจนแทบจะก้มลงกราบเท้าอยู่แล้วเหอะ

“เออๆ”

“ว่าแต่...จริงจังปะ?” มันหันมาถาม

“ไม่รู้ดิ” แล้วกูก็ตอบกลับง่ายๆ เนี่ยแหละ

ต้องเข้าใจก่อนว่ารู้สึกดี รู้สึกชอบพี่เขา ได้เป็นแฟนก็คงดี แต่ไม่ใช่ความรักแบบ...รักลุ่มหลงอะไรอย่างนั้นนะ ผมยังโงหัวขึ้น ยังสามารถตัดใจได้หากไม่ได้เจอกัน หรือว่าเกิดเขาบอกตามตรงว่า อ่อ ที่ผ่านมาพี่แค่แกล้งเรา ก่อนที่แกจะบอกว่าให้จีบได้อะนะ เออนั่นแหละ ผมก็ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ไม่เศร้าขนาดนั้น ไม่ดราม่าบ้าบออะไรเพราะผมมีความรักเป็นของตัวเอง

ถึงบอกไง...บางครั้งผมก็กลัวว่าผมจะรักใครไม่เป็น กลัวว่าเราจะไม่มีความรักเหมือนคนอื่นๆ ในชีวิตนี้คบแฟนมา ไม่เคยรู้สึกขาดใครแล้วอยากตาย หรืออยากร้องไห้ เลิกคือเลิก หมดรักคือหมดรัก แค่นั้นเอง...จบแล้ว การมีแฟนเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งของชีวิต เป็นเพียงความรู้สึกหนึ่งที่มนุษย์อย่างเราโหยหา อยากได้อยากมี ทว่าไม่มีมันก็ไม่ตาย ผมอิ่มเอมกับสิ่งที่มี ถ้ามีเพิ่ม...มันก็ดี แค่นั้น

ไม่รู้หรอกว่าคนอื่นจะมองผมไร้หัวใจไหม จะคิดว่าผมเป็นคนเย็นชาหรือเปล่า จะบอกว่าเห็นหน้าซื่อตาใสแบบนี้ร้ายนะเราอะไรแบบนี้หรือเปล่า ผมแค่คิดว่าผมไม่อยากเอาคำว่าแฟนมาเป็นหลักในชีวิตอะ ผมมีความฝัน...ผมอยากทำประโยชน์ให้กับเด็กๆ ในชุมชนของผม นั่นคือเป้าที่ผมเห็นคุณค่าของมันที่สุด ความรักที่ผมมีคือพ่อแม่ ญาติๆ และพี่น้องของผม อ่อ มีหมูตัวหนึ่ง แน่นอนคนเหล่านั้นจะไม่มีวันทิ้งให้ผมเจ็บปวด...นอกจากล้มหายตายจาก ไม่น่ามาง่ายๆ หรอก จะไม่มีใครตายจากผมง่ายๆ ส่วนเพื่อน...ก็นี่ไง ไอ้วิ่ง ไอ้พีช

ผมเป็นคนที่มีครบ...ผมเชื่อแบบนั้น ไม่รู้สึกขาด ไม่รู้สึกโหยหา อาจมีบ้างสำหรับเรื่องบนเตียงซึ่งเรื่องนั้นมันใช้ทำกับแฟน แต่เมื่อคุณวางความอยากกระหายในส่วนนั้นของตัวเองลงได้ คุณจะพบว่ามันไม่ใช่แรงขับของมนุษย์หรอกนะ

กับพี่มะเดี่ยว...ผมชอบเขา ก็น่ารักดี ขี้แกล้ง เฟรนลี่ ยิ้มสวยและรูปหล่อ มนุษย์เราชอบคนที่ภายนอกก่อนเสมอ อย่าปฏิเสธเลย ผมชอบที่เขาดูแลผมดีนะถึงแกล้งแต่ก็เทคแคร์อะ ผมก็เลยชอบ...มันเริ่มจากความรู้สึกแบบนี้ ไม่มีโอเวอร์วะเฮ้ย รักมาก รักโคตร รักปานจะกลืนกิน ไม่...ก็แค่ชอบ

เอ...จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองมีสาระเนอะ ฮ่าๆ

“มึงควรบอกทัศนะคติของมึงกับพี่เขาด้วย...ไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบมึงนะสาม” วิ่งตบบ่าเบาๆ มันตรงเข้าไปสั่งน้ำ มีสั่งเผื่อผมด้วยแหละ แค่ผมต้องเป็นคนจ่ายเงินเท่านั้นเอง โห...หลอกแดกไอ้เลว

“เออ เดี๋ยวบอก” ไม่ใช่แค่สั่งเผื่อผม มันสั่งเผื่อคนในฟลอเต้นและพีชและมะเดี่ยว...กูเป็นกระเป๋าตังค์ของทุกคนงี้เหรอ?

“ค่าน้ำนอกเหนือจากของกูกับพีชเดี๋ยวพี่มะเดี่ยวเขาจ่าย” ดีมาก นึกว่าต้องออกเองทั้งหมด พยักหน้าแล้วจ่ายเงิน

มาถึงพี่มะเดี่ยวก็ไล่พวกเราไปวอร์มอัพได้แล้ว ใกล้ได้เวลาปิดฟลอเต็มที แต่พีชกับวิ่งมันไม่ได้สนใจหรอก มันไปซ้อมที่ตลาดเปิดท้ายกันต่อ เห็นทีว่าผมก็ต้องไป พี่มะเดี่ยวพาผมวอร์มเหมือนเมื่อวานเด๊ะ ไม่ขอบอกเล่าความเจ็บชวนน้ำตาไหลซ้ำรอบสองหรอกนะ แม่ง...เจ็บกว่าเดิมมากๆ เพราะกล้ามเนื้อมันระบมอยู่ไง พี่มะเดี่ยวบังคับให้ทำตามโปรแกรมแกเป๊ะๆ เท่าเมื่อวานเลยนั่นเอง เหตุผลคือ...ร่างกายจะได้ชิน

ก่อนชินกูน่าจะตายก่อน!

“ซ้อมคอมโบท่าที่เราทำได้เมื่อวาน...” วอร์มอัพเสร็จก็ไม่ให้พัก หน้าป่วยมากผม

“ครับ” ก็ต้องทำตามไป

ยืนจับจังหวะบีทสักพักก็เริ่มท็อปร็อก ลงซิกสเต็ปแล้วก็โพสต์ ยืนขึ้นอีกรอบ ทำแบบเดิมวนไปสลับกับโพสต์เบบี้ฟีตและแก็ป พี่มะเดี่ยวยืนดูไม่ห่าง คนอื่นจะถามทริกถามเรื่องท่าเต้นต้องเดินเขามาถามพี่ท่านเอง ส่วนความรัก...นั่งเสนอหน้าอยู่ข้างขาพี่มะเดี่ยวนั่นแหละ

ตุ้บ!!

ทำวนไปได้หกรอบผมก็หน้าทิ่มดินด้วยท่าแก็ปอีกครั้ง แขนสั่นไปหมด ปวดระบมยันกระดูก ขอนอนคว่ำหน้าเอาแรงก่อนแล้วกันนะ เจ็บอะ...เกิดมาไม่คิดว่าต้องมาทำอะไรที่มันเจ็บตัวขนาดนี้เลยอ่ะ

“ไหวไหมสาม...”

“ไม่ไหวพี่จะปล่อยผมไปไหม...” พี่มะเดี่ยวนั่งลงข้างกาย ผมจ้องหน้าแกแต่ความรักเสือกเดินมานั่งบังหน้าผมเสียมิดเลย

“ฮ่าๆ หน้าเหมือนหมูจริงๆ แล้ว” มือใหญ่ดันความรักออกด้านข้างหน่อย แต่ความรักมันไม่ยอม ถึงขนาดนอนทับหน้าผมเลย...เพื่อ?

“โอ้ย ไอ้ความรัก นอนทับหน้าป๊าทำไมเนี่ย” เป็นผมต้องดึงมันออก ลุกขึ้นนั่งแล้วกอดมันเอาไว้ รัดแน่นจนมันร้องประท้วงและดิ้นแด่วๆ

“พอแล้ว...แกล้งมันทำไม มันคงอยากให้กำลังใจเราเท่านั้นแหละ”

“ไม่...มันแคไม่อยากให้ผมเห็นหน้าพี่มากกว่า” มึงหวงพี่มะเดี่ยวใช่ไหมความรัก หึหึ กูจะแย่งพี่มะเดี่ยวของมึงล่ะ

“หูย...พูดอะไรเนี่ย พี่เขินอะ” แค่น้ำเสียงดัดๆ ก็น่าเตะพอและ ยังจะมาเอาสองมือประกบหน้าเอียงอายอีก...ตลกล่ะไอ้พี่มะเดี่ยว

“เห่อๆ แต่ผมขอพักนะ” ยกมือขึ้นมาดู ข้อมือบวมหน่อยๆ พี่มะเดี่ยวดึงมือผมไปบีบๆ นวดๆ ตรงที่มันบวมขึ้นมา

“มันจะช้ำ สามไม่ค่อยออกกำลังกายเลย พอมาเจอแบบนี้ร่างกายก็เลยรับภาระหนักไปหน่อย อดทนเข้าล่ะรู้ไหม มันต้องใช้เวลาถึงจะชิน” พยักหน้ารับเบาๆ ไม่กล้าสบตาแกเท่าไหร่หรอกเพราะมันมีแต่ความเป็นห่วง

“พี่อ่อนโยนแบบนี้ บรรดาแฟนพี่ต้องชอบมากแน่ๆ เลย” ก็ขนาดผมยังชอบเลย คนอื่นก็ต้องชอบ ได้คนดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้มาดูแล...สุดยอดไปเลยนะ

“เหรอ ไม่รู้สิ ก็ถ้าเขาชอบ เขาคงไม่ทิ้งพี่จริงปะ” เออ อันนี้ก็จริงอะนะ

“อืม...จะว่าไงดี ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่างนะ” อันนี้ความคิดผมนะ สาเหตุอาจมาทั้งจากตัวเราและตัวเขา มันสรุปรวบรัดตัดตอนไม่ได้หรอกว่าเพราะอะไรถึงเลิก และใครเป็นคนผิด

“แล้วอย่างสามล่ะ สามเลิกกับแฟนเก่าเพราะอะไร” พี่มะเดี่ยวจ้องหน้า เหมือนตั้งใจฟังส่วนมือก็ยังคงบีบคลึงข้อมือของผมอยู่

“อืม...เพราะรู้สึกเฉยๆ ต่อกันมั้งครับ ผมจำไม่ได้แล้ว มันเริ่มห่างกัน แล้วเราก็จบกัน”

“เสียใจไหม” ผมส่ายหน้า นึกถึงครั้งสุดท้ายที่เลิกรากับแฟนผู้ชาย

“ไม่อะ มีรักก็ต้องมีเลิกปะครับ”

“ก็จริง มีรักต้องมีเลิก แต่ดูเราพูดมันออกมาง่ายๆ แบบนี้แล้วพี่หวั่นใจจัง เกิดพี่เสียตัวให้สามแล้วสามทิ้งพี่ พี่จะทำไงอะ จะไปเรียกร้องเอาอะไรจากใครได้ ในเมื่อสามหมดรักพี่แล้ว...” เอิ่ม...ความเล่นใหญ่รัชดาลัยนี้ น่าหมั่นไส้เสมอต้นเสมอปลายมากๆ เลยครับพี่ครับ

“ผมคงคอนเฟิร์มอะไรให้พี่ไม่ได้หรอก...แต่ผมชอบพี่นะ” อ่า หน้าไหม้แล้ว ใครก็ได้เอาถังดับเพลิงมาฉีกใส่หน้าสามที ใกล้ชิดกับแฟนเก่ายังไม่เขินเท่านี้เลย ไม่สิ…เคยๆ ผมเคยเขินขนาดนี้ตอนที่มีแฟนครั้งแรกแหละครับเธอเป็นผู้หญิง น่ารัก...อยู่ใกล้แล้วใจเต้นแรง แต่สุดท้ายเราก็เลิกกันเพราะเธอไปชอบคนใหม่ เสียใจสุดแล้วมั้งคนนั้น

“ถ้าหน้าสามไม่แดงพี่จะไม่เชื่อเลยนะเนี่ย ฮ่าๆ...เอาเถอะ พี่เข้าใจ มันเริ่มจากชอบก็ดีกว่าเริ่มจากใคร่…” พูดปุ้บก็คิดลึกปั้บ ผมอดอยากหรือว่าพี่มันน่า…โน ผมจะไม่คิดอะไรแบบนั้น บ้และน่าอายที่สุดเลยไอ้สาม!

“ทำอย่างกับเคยเริ่มจากใคร่...” พี่มะเดี่ยวก้มหน้ามองข้อมือ ตรงตักผมมีความรักนั่งอยู่ ผมคิดว่าเขาจะปฏิเสธ ทว่าพี่มะเดี่ยวกลับพยักหน้า

“เคย...แล้วมันก็จบง่ายๆ เหมือนตอนที่มันเริ่มขึ้นมาง่ายๆ นั่นแหละ” พี่เขาไม่ได้มองหน้าผม แต่ผมเข้าใจคำพูดนั้น ผมอาจไม่เคยเสียตัวให้ใคร แต่คบกันง่ายๆ และเลิกกันง่ายๆ น่ะผมก็เคยผ่านมา

“อ่า...ผมเข้าใจ” พี่เขาเลิกนวดแล้วกุมมือผมไว้แทน

“คราวนี้พีจะเล่นตัวมากๆ ให้สามจีบยากๆ เผื่อเราจะคบกันได้นานๆ...”

“อ่าว ไหงความซวยตกลงที่ผมล่ะ!” เดอะสามไม่ควรซวยสิเอ้อ วันแรกที่เจอกันผมก็ซวยโดนด่า ครั้งที่สองที่เจอกันก็ซวยโดนแกล้ง นี่จะจีบ..ยังต้องซวยจีบยากอีกเหรอ โฮ..สามเศร้า

“ฮ่าๆ ช่วยไม่ได้...ไปโทษแฟนเก่าพี่สิ”

“ตลก” ผมดึงมือออก อุ้มความรักขึ้นมาอยู่ตรงหน้า หันหน้ามันเข้าหาพี่มะเดี่ยว

“พี่จะทำกับป๊าผมแบบนี้ไม่ได้นะฮ้าฟ…” ดัดเสียงเล็กๆ ประหนึ่งความรักมันพูดของมันเอง ผมไม่ได้ขยับปากอยู่หลังตัวอ้อวนๆ ของมันเลยน้า

“ฮ่าๆ โอ้ย…ปัญญาอ่อน” โดนไปหนึ่งดอกครับเดอะสาม!

“ผมมีดีที่น่ารักพอแล้วฮ้าฟ” แต่ผมก็ยังไม่เลิก

“อืม น่ารักจริงๆ ด้วยแหละ” พี่มะเดี่ยวทำให้สิ่งที่ผมไม่คาดคิด

เขา...ใช้สองมือประกบเข้าที่หน้าผมด้านหลังความรัก แล้วจูบหน้าผากความรักเบาๆ ทว่า...ตำแหน่งมันเหมือนเขาจูบหน้าผากผมเลยล่ะครับ ทำไงดี เหมือนมีควันออกจากหูด้วยล่ะ หน้าผมไหม้...เกรียมสุดๆ กินไม่ได้แล้วเพราะมันดำเป็นตอตะโก

พี่เขาค่อยๆ คลายมือออกจากแก้มร้อนผ่าวของผม แล้วนั่งยิ้มให้กับผมที่เอาแต่ก้มหน้า มือยังยกความรักค้างอยู่แบบนั้นเพื่อให้มันช่วยบดบังใบหน้าแดงๆ ของตัวเอง หัวใจผมเต้นเร็วมาก เร็วกว่าบีทที่เขาเปิดเต้นกันตอนนี้เสียอีก แค่นั่งเฉยๆ...ผมยังเหนื่อยที่มันดิ้นเร่าๆ อยู่ข้างในรุนแรงเลยล่ะ

“ถึงจีบยาก...แต่สามจีบได้แน่ๆ” ยังอ่อยกันอีก ไม่เอาสิ ไม่ทำกับสามแบบนี้...หัวใจวายตายคาฟลอ ใครจะรับผิดชอบผมล่ะครับ ผมไม่อยากเป็นผีเฝ้าฟลอเต้นบีบอยหรอกนะ

“เป็นไปได้…อยากจีบง่ายๆ มากกว่าอะครับ” ผมตอบเสียงอ่อย ยังไม่กล้ามองหน้าเขา ทว่ารับรู้ได้ถึงร่างใหญ่ที่เคลื่อนเข้ามาใกล้

“ยกความรักพี่สิ รับรองว่าสามจะจีบพี่ติดอย่างง่ายดายเลยล่ะครับ” อ๊ากกกกก พี่มันกระซิบข้างหู ฮื่อ ผมไปไม่เป็นแล้วครับ มุดดินหนีกลับห้องได้ไหม…ทั้งเขิน ทั้งอาย หน้าไหม้ตัวไหม้ ไหม้ๆ แม่งให้หมด!!!

.....100%.....

เมื่อวานเค้าหลับเลยไม่ได้มาอัป หาได้เที่ยวเตร่ลอยกระทงกับชายใดไม่ ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 19 [100%]❤️ -4/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 04-11-2017 07:04:45
น้องสามคนจริง vs พี่มะเดี่ยวคนขายอ้อย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 19 [100%]❤️ -4/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-11-2017 07:11:16
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 19 [100%]❤️ -4/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 04-11-2017 07:16:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 19 [100%]❤️ -4/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-11-2017 08:39:11
รถอ้อยคว่ำแถวฟลอร์รึเปล่าคะ 555555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 19 [100%]❤️ -4/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 05-11-2017 00:14:51
คนพี่ก็อ่อยให้จีบอยู่นั่นไม่จีบเองล่ะเนี่ยย แกล้งน้องง :laugh:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 19 [100%]❤️ -4/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-11-2017 02:00:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 19 [100%]❤️ -4/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 05-11-2017 02:04:53
โอ้ยยยมดกัดดค่ะ
หวานอะไรกันเบอร์นี้
พี่มะเดี่ยวจะต้องอ่อยจนรถอ้อยคว่ำขนาดนี้เลยหรออคะ
น้องมันเขินจนตัวบิดดจนจะระเบิดตัวเองอยู่แล้วว
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 19 [100%]❤️ -4/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 05-11-2017 09:34:28
 :z1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 20 [100%]❤️ -5/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 05-11-2017 20:14:08
>>ตอนที่ 20 [100%]<<

ใครจีบใครอยู่กันแน่เนี่ยโอ้ย...ขยันทำให้ผมหวั่นใจเสียจริงนะคุณพี่ชาย!

ผมเอาพุงความรักดันหน้าพี่แกออกห่างจากตัว เสร็จวางความรักลง ทำท่าเต้นต่อ จะได้ไม่โดนพี่แกแกล้ง ถึงเป็นแบบนั้นแต่พี่มะเดี่ยวแกก็ยังนั่งขำผมอยู่ดีแหละครับ แค่เต้นผิดจังหวะ ขาพันกันนิดหน่อย มือไม้เก้งก้างเงอะๆ งะๆ แค่นั้นเองเหอะ ไม่เห็นจะตลกอะไรตรงไหนเลย

“สามเป็นแบบนี้ พี่คิดตอนสามคบผู้หญิงไม่ออกเลยแหะ...” จู่ๆ ก็โพล่งคำถามขึ้นมา เขาอุ้มความรักเอาไว้ในอ้อมแขนซึ่งผมก็มองหน้าความรักแทนหน้าพี่เขาเนี่ยแหละครับ

“ก็คบเหมือนปกตินั่นแหละครับ” พูดจริง มันก็มีเขินมีอายบ้าง แต่ผู้หญิงเขาไม่มารุกผมแบบนี้ ถ้าจะอ่อยก็อ่อยเนียนกว่านี้อะ

“จริงดิ เขินหน้าแดงขนาดนี้ด้วยปะ” เขาจิ้มหน้าตัวเอง ทั้งที่ผมไม่อยากมองหน้าเขาแต่ก็ดันมองอยู่ดี

“ก็...เป็น” โทษแม่กับพ่อโน้นที่ขาวเกินไป ลูกบ้านนี้ขาวโอโม่ทุกคนครับ น้าบอยยังไม่ใช่ข้อยกเว้น

“อ่อ อยากรู้ว่าเวลาหน้าแดงแล้วส่วนอื่นๆ แดงตามปะ” หยุดเลย...หยุดเต้น เดี๋ยวขาพันกันหน้าทิ่มขึ้นมาหมอไม่รับรักษาแน่ๆ ถามบ้าถามบอกอะไรวะเฮ้ย

“คือ...” ผมตอบไม่ถูก

“แดงดิ เมื่อเช้าที่พี่ทายาให้ สามแดงไปทั้งตัวเลย” ว่าจบก็เลียริมฝีปากตัวเอง พี่เป็นหมา...เหรอครับ

“ตามนั้นแหละครับพี่” ว่าปัดๆ แล้วก็เต้นต่อ

“ฮ่าๆ…แกล้งง่ายเสมอต้นเสมอปลาย” พี่ท่านเดินเข้ามาลูบหัว “หยุดซ้อมก่อนก็ได้ เดี๋ยวเลิกฟลอที่นี่แล้ว ค่อยไปซ้อมตรงตลาดเปิดท้าย”

“ครับ” พี่มะเดี่ยวส่งความรักมาให้ เขาเดินไปที่กลางฟลอเต้น

บางคนอาจสนใจมองมาทางเรา แต่บางคนเขาก็สนใจแต่เรื่องซ้อมของตัวเอง กลุ่มคนหลังไม่นับวิ่งกับพีชนะ มันสองตัวมองผมอยู่บ่อยๆ เพื่อนกันนะ รู้เลยว่าสองคนนั้นต้องซุบซิบเรื่องผมด้วยแน่นอน อย่าให้รู้ว่ามึงเต๊าะใครกันอยู่นะ พ่อจะล้อให้แม่งมุดดินกลับหอตัวเองแทบไม่ทัน

ผมเดินไปกินน้ำอึกใหญ่หลายอึกจนเกือบหมดขวด เสร็จมานั่งข้างพีชกับวิ่งโดยมีความรักดิ้นดุ๊กดิ้ดอยู่ในอ้อมแขน มันจะออกไปหาพีชไง ไอ้นี่มันพิศวาสทุกคน เป็นกับทั้งผู้หญิงและผู้ชายยกเว้น...ผมเอง

รับรู้ได้เลยล่ะว่าความรักมันไม่ค่อยชอบอยู่กับผมนัก เพราะผมชอบแกล้งมันเป็นชีวิตจิตใจ วันว่างๆ นี่ไม่ได้แกล้งความรักผมจะอยู่ไม่สุข การเห็นมันทุรนทุรายหนีผมแล้วมันแฮปปี้อย่างบอกไม่ถูก คิดแล้วก้มลงไปงับก้นมันทันทีทั้งที่มันกำลังเดินไปหาพีช!

“อู๊ดดดด” ร้องแล้วหันมามองหน้า ตาขวางๆ จ้องอย่างกับแค้นเคือง

“ไอ้นี่หนิ แกล้งที่รักกูอีกและ” แหมพีช ที่รักมึงก็ลูกกูไหมล่ะ

“ไมอะ กูจะแกล้งความรักของกูก็เป็นสิทธิ์ของกูนา”

“แต่ความรักมันเป็นที่รักของกู กูไม่อนุญาตให้มึงแกล้งที่รักของกูนะเว้ย ความรักไม่ชอบเลยเนอะๆ...คราวหลังมันแกล้งนะ ขวิดมันให้ไส้แตกเลยนะความรัก” อ่าวพีช ทำไมมายุยงลูกกูแบบนี้ล่ะ แต่เอาเถอะ...ยุแค่ไหนความรักก็ทำอะไรผมไม่ได้หรอก

“ก็ลองขวิดป๊าสิ ป๊าจะให้งดอาหาร จับออกกำลังกาย พาเข้าฟิดเน็ตแล้วให้เทรนเนอร์เฉพาะมาดูแล...ดีไหม” ทำน้าโหดใส่ความรัก มันจ้องหน้าผมได้ครู่เดียวก็เดินเข้ามาเอาหัวถูขา

“คร่อกๆ...”

“เป็นไง ศิโรราบต่อกูแล้ว ฮ่าๆ” แล้วก็อุ้มมันขึ้นมากอด หอมซ้ายหอมขวาจนมันรำคาญแล้วดิ้นรนอีกครั้ง

“ไอ้บ้า…” ไอ้วิ่งพูดเบาๆ แต่เจ็บนี้เข้าลึกถึงทรวงมากๆ

ผมกับพีชเตรียมโต้วาทีกับวิ่ง ทว่าพี่มะเดี่ยวแกประกาศให้รวมพลก่อน ก็เล่นเอบีซีเหมือนเดิมนั่นแหละครับ หน้าใหม่ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ไทม์กับโจ้ คนที่ไม่มีพื้นฐานเหมือนผมเดินเข้ามารวมกลุ่ม เห็นแว็บๆ ว่าพวกมันพัฒนาไปกันเร็วมาก รู้สึกจะทำท่าวินด์มิลกันได้แล้ว เป็นท่าพาวเวอร์มูฟพื้นฐาน ซึ่งต่อยอดมาจากเบบี้ฟีตนั่นแหละครับ เห็นแล้วก็อึ้งเหมือนกัน ผมยังโพสต์ได้ไม่แข็งเลย ทำไมพวกมันไปกันเร็วแบบนี้

เอบีซีวันนี้ยังโหดเหมือนเดิม วิดพื้นวนไปครับ วนแม่งทุกรอบจนแขนล้า แทบยกตัวเองไม่ขึ้นแล้วด้วย ความรักรู้หน้าที่ดี มันนั่งอยู่ข้างกายผมไม่ไปไหน ไม่เดินต้วมเตี้ยมเกะกะคนอื่นซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดี เกิดเขาทำท่ากันแล้วมาโดนมัน มีหวังมันปลิวออกนอกโลกพุ่งทะลุชั้นบรรยากาศ เหาะด้วยความเรวแสงแล้วไปโพล่ที่ดาวอังคาร อาจเจอกลุ่มมนุษย์ที่ไปทดลองอาศัยที่นั่นและอาจโดนพวกเขาเอาไปขุนให้มันอ้วนก่อนจับกิน...

แค่คิดตามก็ฮาแล้ว...ความรักวิ่งแบบลอยๆ อยู่บนดาวอังคาร เห่อๆ แต่ที่บ้ากว่าหมูลอยก็ผมเนี่ยแหละ จินตนาการไปไกลเกิ้นนน สงสัยหัวโขกพื้นรุนแรงมากไปหน่อย สติสตางค์ก็เลยไม่สมประกอบอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้

เล่นเอบีซีเสร็จก็แยกย้าย พี่มะเดี่ยวจะปั่นจักรยานผมไปเหมือนอย่างเมื่อวาน ทว่าพี่โซฮานจะไปด้วย แล้วเราก็ไม่สามารถอัดสามไปได้ รถของพีชกับวิ่งมันเป็นฟิกเกียร์ ไม่มีเบาะซ้อน พี่มะเดียวเลยต้องตัดใจไปรถสองแถวกับพี่โซฮาน แล้วปล่อยให้สามหน่อเดินทางไปกันเอง

ก่อนออกถนนใหญ่ ผมแวะเข้าไปหาน้าบอยและน้าภูมก่อน ไปปล้นโกโก้กินเนี่ยแหละครับ ส่วนสองคนนั้นก็สั่งกาแฟเหมือนเดิม ติดคาเฟอีนกันประมาณนั้น จริงๆ เด็กในฟลอแทบทุกคนชอบโด๊ปนะ พวกเครื่องดื่มชูกำลังอะ พี่มะเดี่ยวหรือพี่โซฮานก็กิน พี่ออมก็ด้วย ดื่มแล้วมันกระปรี้กระเปร่ามั้ง ไม่รู้ดิ...ผมกินไม่ค่อยได้หรอก กาแฟหนึ่งแก้วต่อวันถือว่าโอเคที่สุดสำหรับร่างกายผม อ่อ...โกโก้ก็มีคาเฟอีกนี่นะ

“เหวอ...พวกโรมิโอมาวะ” มาถึงฟลอ วิ่งก็ชะงักตาค้าง ไอ้พีชกอดคอผมส่วนผมก็อุ้มความรักที่อยู่กระเป๋าเป้

“นั่นทีมพี่มะเดี่ยวก็มา เออ จะว่าไปก็ใกล้งานแข่งประจำปีแล้วหนิ” หันไปมองหน้าพีช

“งานอะไรวะ” เพราะไม่ได้อยู่ในวงการก็ลยไม่รู้

“งานโบตี้ งานแข่งบีบอยระดับประเทศ ที่หนึ่งจะได้ไปแข่งโบตี้ระดับเอเชียร์ด้วย เมื่อสองปีก่อนทีมดิสทินีย์ก็ชนะได้แชมป์ระดับประเทศ แล้วก็ได้ที่สองของเอเชียร์ อ่อ ดิสทินีย์เป็นทีมของพี่มะเดี่ยวอะ เห็นรอยสักที่แขนปะละ…นั่นล่ะโลโก้ทีม” วิ่งเป็นคนอธิบายให้ผมฟัง ก็ว่าอยู่รอยสักที่หัวใหล่ขวาเขาเหมือนโลโก้ของทีม ตัวอักษรแบบกราฟิตี้มันอ่านยากเลยไม่รู้ว่ามันเขียนว่าอะไร วันนี้แหละรู้แล้ว

“แล้วปีที่แล้วล่ะ...เขาไม่ชนะเหรอ”

“ไม่ ปีที่แล้วแพ้ให้กับโรมิโอซีเรียส” ว่าจบวิ่งก็เดินเข้าฟลอ โรมิโอซีเรียสว่าจะเป็นทีมที่มันพูดตอนแรกว่ามาฟลอด้วย พวกไม่เต็มนั่นสินะ แต่เดี๋ยว

“โรมิโอจูเลียตไม่ใช่เหรอวะ” ผมกับพีชเดินกอดคอตามวิ่งเข้ามา

“โรมิโอซีเรียสอะถูกแล้ว พวกนี้แม่งบ้า...จริงจังมันทุกอย่าง ไม่เชื่อเดี๋ยวมึงดู” คราวนี้พีชเป็นคนตอบ

พี่มะเดี่ยวเห็นเราก็กวักมือเรียกให้ไปนั่งบนม้านั่งตัวเดิม เพิ่มเติมคือวันนี้พี่แม็กโดนัลใส่หมวกด้วยแหละ หล่อนะครับ...หลอนด้วยอะอยากบอก ผมเอาความรักวางลงบนตักของพี่แม็กโดนัลแก แต่มันไม่ยอมออกง่ายๆ พยายามเอาหัวมุดกลับเข้าไปในกระเป๋าที่มีแอปเปิ้ลอยู่ เออ...รู้แล้วว่าหิวจะกินอีก

“อะ...กินดีๆ อย่าเลอะ” เอากล่องแอปเปิ้ลออกมาให้ มันกินแบบมูมมามของมันอะ ก็แหม่...ความรักเป็นหมูนะครับ

ระหว่างที่มองความรักกิน ผมก็โดนพี่มะเดี่ยวเบียด ม้านั่งยาวมันไม่ได้ยาวมาก นั่งสองคนก็เต็ม แต่ที่นั่งได้คนเดียวเนี่ยเพราะกระเป๋าหลายใบข้างพี่แม็กนั่นแหละครับ ผมหันไปมองหน้าเขา เจ้าตัวยิ้มๆ มือแกะหนังยางรัดผมตัวเอง

“ผมรัดให้ปะ” มีช่องว่างให้ทำคะแนนก็ต้องทำ ตอนจีบผู้หญิงผมก็ทำแบบนี้แหละ

“เอาสิ” พี่เขายื่นหนังยางสีดำให้

“หนังยางเก่าแล้วนะพี่ ซื้อใหม่เหอะ”

“สามซื้อให้พี่สิ” งกอีกละ เออ...พี่มะเดี่ยวยังไม่จ่ายค่าน้ำ!

“ซื้อให้ได้นะครับ แต่พี่ต้องจ่ายค่าน้ำที่ให้วิ่งไปซื้อวันนี้ก่อน ผมออกไปหมดเป๋าเลย” ว่าพลางยืดตัวรวบผมพี่มะเดี่ยว ชุ่มเหงื่อเหมือนเพิ่งออกมาจากห้องอาบน้ำ เปียกชนิดที่ว่าบีบแล้วน้ำไหลอะ

“เออลืมเลย เดี๋ยวเลิกซ้อมแล้วพี่ไปกดเงินมาให้ สามรอได้ปะละ”

“รอได้ดิ...” มัดเสร็จก็นั่งดีๆ ตามเดิม เวลาแกไม่หยอดไม่แซ็ว การนั่งข้างพี่แกทำให้ผมรู้สึกดีเหมือนกันนะ...

“วันนี้สามอาจซ้อมยากหน่อย คนล้นฟลอไปหมด มีที่ว่างตรงไหนก็ฝึกท่าเอาเลยนะ รู้ไหม”

“คร้าบ ท่านอาจารย์” พี่มะเดี่ยวจับหัวผมโยกนิดหน่อย แล้วหันไปมองที่ฟลอ

“ได้ยินว่าใกล้งานแข่งระดับประเทศแล้ว...” ผมเองก็มองไปที่ฟลอเหมือนกัน

“ใช่ คู่แข่งตัวเก็งมาเยือนถิ่นด้วยดูสิ” มิน่าล่ะ เอาแต่จ้องอีกฝ่ายที่กำลังออกท้วงท่าอยู่

“พี่ชนะเขาได้ปะ”

“ได้อยู่แล้ว...ยังไงปีนี้ก็ต้องเอาแชมป์คืน” เขาดูมุ่งมั่นดีนะ ปกติค่อนข้างขี้เล่น ทว่าตอนนี้เขาดูตั้งมั่นอย่างแปลกประหลาด

“อื้อ ผมจะรอดูพี่คว้าแชมป์นะ” พี่เขาหันมามองหน้ายิ้มๆ

“พูดแบบนี้แล้วอยาก…เลย” นั่นไง...สกิลคำพูดชวนคิดลึก แทบจะตบปากแก แต่ไม่กล้า

“อ่า…” หันหนีแป๊บ

“ฮ่าๆ ล้อเล่นหน่า ขอบใจนะ แต่ถ้าไปเชียร์ด้วยจะดีมากเลยล่ะ”

“อื้อ ผมจะไป”

“สัญญา” ไม่ว่าเปล่า ยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าผมด้วย แล้วผมก็บ้าตามเขา...ยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกันไว้

“สัญญาครับ” ผมเผลอสบตากับพี่เขา เหมือนช่วงเวลาหนึ่งทุกอย่างรอบข้างมันหยุดนิ่ง ระยะที่ใกล้ขนาดนี้...พานเอาหัวใจผมเต้นแรงมากๆ เลย เสียงตึกๆ ที่อยู่ในใจไร้จังหวะ ทว่ามันกลับสามารถกลบบีทอันหนักหน่วงโดยรอบได้ชะงัก

หน้าผมแดงใช่ไหม...แสงไฟสีส้มๆ ของร้านแม็กกลบมันได้หรือเปล่า แล้ว...พี่มะเดี่ยวจะแซ็วไหม ที่เอะอะผมก็หน้าแดงง่ายแบบนี้ ที่จริงมันเป็นความผิดของพี่ ที่ทำให้ผมรู้สึกเก้อเขินจนชีพจรเต้นเร็ว เลือดมันเลยขึ้นไปเลี้ยงที่หน้าเยอะมาก...

พี่มะเดี่ยวยีหัวผมอีกครั้งด้วยรอยยิ้มหวานๆ ถ้าตาไม่ฝาด...ผมว่าเขาก็ล่อกแล่กไปเหมือนกัน นี่ผมไม่ได้เขินคนเดียวสินะ พี่เองก็เขินเหมือนกับผมล่ะสิใช่ไหม ฮ่าๆ...รู้สึกดีจัง ถึงพี่มะเดี่ยวจะเบนสายตาไปมองคนบนฟลอ แต่ผมก็รับรู้ได้ว่านั่นคือการกลบเกลื่อน

“เราสัญญากันแล้วนะ...”

“ครับ เราสัญญากันแล้ว” มันเป็นเสียงที่ค่อนข้างเบา แต่อยู่ใกล้ผมมาในความรู้สึก

พี่เขาเดินเข้าฟลอ แบทเทิลกับคนจากทีมโรมิโอซีเรียส ส่วนผมหันมาหาน้ำให้ความรักกิน มันอิ่มแล้วเพราะมันหมดแล้ว นี่เล่นไม่เหลือเอาไว้เผื่อหิวเลยหรือไงเนี่ยไอ้หมูบ้า ซัดซะเกลี้ยงกล่องเลยแหะ ไม่เป็นไร เราอยู่ที่ตลาด เดี๋ยวมันหิวก็ค่อยพามันไปซื้อกินเอาก็ได้ ผมจับความรักนั่งที่ตัก มันไม่นั่ง มันนอนขดตัวอยู่บนหน้าขาของผม อิ่มแล้วนอน เลี้ยงไขมันชัดๆ เลยไอ้ความรักเอ้ย

ละสายตาจากความรักไปมองรอบๆ กลับต้องคิ้วขมวดกับฉากที่เห็นแล้ว...ขนลุก! เขาเป็นผู้ชายตัวเล็ก ตัดผมแบบเกาหลีสุดๆ ย้อมสีขาว ผิวขาวกระจ่างมากและดูดีมากๆ ทว่าสิ่งที่เขาทำคือ...จูบกับผู้ชาย!!!

อ้าปากค้างจะน่าเกลียดปะ ผู้ชายคนนั้นรูปร่างสูงใหญ่ นั่งอยู่ข้างฟลอเต้น จูบกันนี่ก็แลกลิ้นดูดดื่ม ระยะของผมกับเขาก็ไม่ห่างกันมากอะครับ ไม่กี่ช่วงแขน เห็นจะๆ คาตาเลยว่าน้ำลายซึมออกมาทางมุมปากด้วย โอ้วชิท! จูบเสร็จ แลกลิ้นแลกน้ำลายกันเรียบร้อย พี่ผู้ชายผมขาวคนนั้นก็เดินเข้าฟลอ จากนั้นทำคอมโบเซ็ทใหญ่ ท่าสุดท้ายนี่หมุนติ้วๆ ด้วยมือข้างเดียว เหมือนเรายืนหมุนตัวเร็วๆ ด้วยขาข้างเดียวอะครับ แต่ที่เขาทำคือกลับหัวกลับหาง คนธรรมดาใช้ขา เขาใช้มือ ทำอยู่นาน เรียกเสียงเฮจากผู้คนโดยรอบ จบท่าปุ้บเดินไปจูบกับผู้ชายคนนั้นต่อ...

อ้าปากค้างไปสิกู!

“ฮ่าๆ มองขนาดนั้นนี่อยากจูบบ้างเหรอครับน้องสาม” แทบสะดุ้งเมื่อพี่มะเดี่ยวโพล่หน้าเข้ามาใกล้

“เปล่า...ก็แค่...แค่มอง”

“จริงอะ ไม่ได้อยากจูบบ้างจริงเหรอ...จูบพี่ได้นะ เติมพลังน่ะเติมพลัง”

“คนหมดแรงอย่างผม จูบอย่างเดียวก็เติมพลังไม่ได้...” อุ้บ! ฉิบผายยยย หลุดปาก!!!

.....100%....

เดอะสามก็ไม่ค่อยจะอ่อยเท่าไหร่เลยอ่านะ...
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 20 [100%]❤️ -5/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-11-2017 07:47:02
สามไม่อ่อย สามแค่หมดแรงเฉยๆ :z1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 20 [100%]❤️ -5/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 06-11-2017 12:22:12
น้องสามอ่อยน้อย ๆ แต่อ่อยนาน ๆ นะลูก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 21 [100%]❤️ -6/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 07-11-2017 21:14:45
>>ตอนที่ 21 [100%]<<

“งั้น...ต้องทำยังไงถึงเติมพลังได้ล่ะครับ” ใบหน้าหล่อทว่าชุ่มเหงื่อของพี่เขายื่นเข้ามาใกล้ จะถอยหลังหนีก็ไม่ได้อะ ผมติดพนักพิงอยู่แล้วไง

“นอนครับ เติมพลังดีสุดๆ”

“จริงเหรอ”

“จริงดิ พี่อะ...อย่าแกล้งผม” มันใกล้เกินไปแล้วเฮ้ย แบบนี้ไม่ต่างจากคู่นั้นนะเนี่ย

“ฮ่าๆ ก็เคยบอกแล้วว่าสามน่าแกล้ง” พี่เขานั่งเบียดเหมือนเคย “เฮ้ย! ไอ้หม่อมน้อย...จะแลกลิ้นก็ไปที่โรงแรมเว้ย หรือไม่มึงก็ถามคนอื่นหน่อยว่าเขาอยากเห็นฉากเติมพลังของมึงเปล่า” นั่งได้ก็ตะโกนใส่พี่ผู้ชายผมขาวเสียงดัง

“เสือก กูจะทำไรก็ไม่เกี่ยวกับคนอื่น...จะปี้ตรงนี้ก็เรื่องของกู” ฉิบหาย...แรงงะ

“ฟลอเต้นไม่ใช่เตียงคิงไซซ์ห้องมึง” คนข้างกายตอบกลับ

“ฟลอเต้นก็ไม่ได้มีแค่มึงกับมันเหมือนกันแหละ!” น่าน...โดนกูด้วย ผมกับพี่มะเดี่ยวหันมามองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย เขาอะขำ แต่ผมอะ...มีแค่รอยยิ้มแหยๆ

“ไอ้สัตว์ ตีกันเลยไหมพวกมึง” พี่คนหนึ่งเดินเข้ามาตรงกลางระหว่างพี่มะเดี่ยวที่นั่งและพี่หม่อมน้อยที่ยืนเท้าเอว เขาห้อยกระเป๋าใบเล็กรูปโดราเอมอน แล้วใส่กางเกงทับเสื้อยืดเอวสูงถึงลิ้นปี่ ใส่แว่นหนาๆ ดูแล้วเหมือนเด็กออทิสติก แต่หน้าแก่...อุ้ย สามเปล่าด่าเขานะ

“ไม่อะ กูไม่ตีกับตุ๊ด...” พี่มึงกวนตีนมาก! สีหน้าลอยหน้าลอยตาของพี่มึงน่าโดนตีนโคตรๆ

“เพราะกูสปีย์ชี่เดียวกับเมียมึงใช่ปะละ สัตว์ ด่ากูตุ๊ด เมียมึงไม่สาวเลย...” สงครามน้ำลายมันลามมาทางผมแล้วอ่า ผมไม่สาวนะ ผมแมน แค่หน้าหวาน...แค่นั้นจริงๆ นะเว้ย ไม่งั้นจะมีแฟนเป็นหญิงได้ไง แต่เออ...เขาไม่รู้

“เหมือนผัวเมียทะเลาะกันเลยวะ” แล้วพี่โซฮานก็โพล่งขึ้นมาขำๆ

“ถ้ามันผัวกู กูจะเอาค...วยยัดปากให้มันเงียบ” ไม่ใช่แค่พูดทำท่าแอ่นสะโพกมาด้านหน้าเป็นการประกอบคำ เสียงเฮดังลั่นเหมือนว่าคนชื่อหม่อมน้อยได้ชนะพี่มะเดี่ยวไปแล้วในสงครามน้ำลาย

“แล้วมึงก็ครางอะนะ...ฮ่าๆ” เอ้า ไอ้คนโดนด่ามันกลับขำ หัวเราะเอิ้กอ้ากสะใจเป็นบ้าเป็นบอ ผมอยู่กับคนปกติใช่ไหม...

“ใช่...อ๊า อ๊า อ๊า...” ดีๆ เสียงครางรื่นหูดี เอ้ยยยย มันใช่เรื่องไหมเนี่ย

ตอนแรกดูท่าทางเหมือนจะทะเลาะกันเดือด ทำไมตอนนี้มันดูเรื้อนๆ ไปได้วะ พี่หม่อมน้อยไรนั่นครางเสร็จก็เดินไปดึงแฟนเขาขึ้นมาบดปากจูบกลางฟลอ แลกลิ้นกันจะๆ ดีนะไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์ คนไม่เยอะเท่าไหร่ แล้วแบบ..ยิ่งจูบยิ่งดูดดื่ม โอ้โห...เหมือนคลิปจีวีที่ผมดูเลยอะ

“โว้ยยยย” แล้วพี่มะเดี่ยวแกก็ไม่ทนดู ใส่สเต็ปเท้าตั้งแต่ยืนจนกระทั่งเข้าสู่กลางฟลอ ทุกคนต้องหลบ ไม่งั้นโดนแข้งแกฟาดร่วงแน่นอน

หลังจากนั้นก็เป็นการแบทเทิลหนักหน่วง ชนิดที่เด็กน้อยๆ อย่างเราไม่ต้องลงฟลอกันเลยครับ พีชกับวิ่งที่ว่าโหดๆ ยังต้องถอยมานั่งอยู่กับผม ซึ่งมันสองคนนั่งพื้น ไม่ได้นั่งบนที่ว่างกระตึ๋งหนึ่งข้างๆ ส่วนที่น่าตื่นตาตื่นใจคือพวกเขามีท่าทีมกันแหละครับ โอ้โหเลยอ่า...ไม่ขอพูดถึงท่า บางท่าอธิบายไม่ถูก และบางท่าอธิบายไปก็งงใจตัวเอง รู้แต่ผมโคตรชอบ บีทที่ว่าระรัวพวกพี่ๆ เขาลงแบบเป๊ะๆ

“เหยดดดดด คิลบีทรัวๆ เลยวะ” เสียงวิ่งแว่วเข้ามา

“อะไรคือคิลบีทวะ” ผมก้มลงถาม อันนี้ไม่รู้จริงๆ

“ก็คือลงบีทเป๊ะไง...พวกเทพๆ แล้วสเต็ปของพวะเขาจะลงบีทหมด มึงดูพี่เดี่ยวดิ...” ผมก็จ้องมองพร้อมกับเงี่ยหูฟังบีทไปด้วย พี่มันไม่ปล่อยให้บีทตัวไหลหลุดออกไปเลยแม้แต่ตัวเดียว เก็บแบบรัวๆ มากทั้งที่พี่แกใส่สกิวไม่ใช่สไตล์ที่เล่นกับจังหวะของเพลงได้ง่าย จบของคอมโบสุดโหดของแกแม่งตรงจังหวะเพลงในท่อนสุดท้ายพอดีเหมือนพี่ท่านเอามือจับวาง

“โอ้วววววววว!!!!” มีหมวกปาหมวกครับ แต่มีรองเท้าอย่าปารองเท้านะครับ เสียงเฮลั่นจนหูแทบดับไปเลย ผมอาจไม่เข้าใจความเจ๋งในส่วนนั้นแต่ผมก็ยังมองว่ามันเท่จนเผลอตบมือ เอ...คนอื่นเขาไม่ตบมือแบบผมนะ เขาจะทำท่าเหมือนโย่วๆ อะ นึกออกปะ โบกรถเมล์แต่มืออยู่แค่ระดับอกผมเคยสังเกตหลายครั้งแล้วว่าเวลาใครทำท่าดีทำท่าได้เขาจะใช้สัญลักษณ์มือแบบนี้ให้กัน คงเป็นการชมนั่นแหละ

“โหดฉิบหาย…” พีชเปรยเบาๆ มีอ้าปาค้างไปด้วยแหละมัน

ผมเฝ้ามองพี่มะเดี่ยวยืนเชียร์อัพให้เพื่อนๆ หรือคู่ต่อสู้ ตอนนี้มันเป็นการปะทะเดือดของสองทีม ไม่ได้แข่งระดับประเทศแต่โคตรจริงจัง ถ้าเปรียบเทียบมันเป็นกีฬา ผมก็ว่าอารมณ์มันคล้ายๆ ต่อยมวยแล้วมีดนตรีร่วมด้วยอะ แม่งมันมาก สนุกจนผมยิ้มตามและหัวเราะไปกับการแหน็บด้วยท่าที่โหดกว่า หรือล้อเลียนด้วยท่าทะลึ่งตึงตังตามประสาเด็กผู้ชาย

แต่ละคนมีสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน แค่ท็อปร็อกแบบพื้นฐานยังสามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้เลย มันมีความเป็นตัวเองแล้วเราก็เอาความเป็นตัวเราเนี่ยแหละมาประชันกัน ฝั่งดิสทินีย์จะดูซนๆ กวนบาทา ล่อเท้าฝ่ายตรงข้ามมากๆ ส่วนโรมิโอซีเรียส...ผมว่าเขาซีเรียสสมชื่อของเขานะ เพราะเขาเหมือนกับจะกระทืบคนฝั่งนี้ด้วยท่าทางและสกิวที่ดุเดือดคุกคาม ทว่าการแบทเทิลมันมีกฎของมันอยู่คือห้ามโดนตัวของอีกฝ่ายน่ะ ไม่งั้นแพ้ฟาวด์

ด้วยไม่มีกรรมการในการัดสิน ก็แบทมันเข้าไปครับ จบหนึ่งเพลงก็แล้ว สองเพลงก็แล้ว...สามเพลงก็ยังมุมานะซัดกันต่อ สี่เพลงเริ่มยืนค้ำเข่า ห้าเพลง...เริ่มมีนั่งแล้ว ลากจนมาเพลงที่เจ็ด...ไม่มีใครยืนขึ้นแล้วล่ะครับ ขนาดหม่อมน้อยที่ว่าแน่ยังนอนแอ้งแม้งหมดสภาพเลยล่ะ ฮ่าๆ พวกบ้า....ไอ้พวกบ้าเอ้ย!

“ความรัก...เอาน้ำไปให้พี่มะเดี่ยวไป” เพราะมันยังไม่หลับก็เลยใช้มัน ที่จริงมันนั่งดูเขาเต้นด้วย ไม่รู้เข้าใจเปล่า ผมส่งถุงที่มีน้ำอยู่หนึ่งขวดไปให้หลังวางมันลงที่พื้น มันคาบแล้วก็ลากแท่ดๆ ไปทางพี่มะเดี่ยวที่นั่งหอบ...

“เหวยๆ มีส่งน้ำ” แน่นอนสิวิ่ง กูจีบเขา กูต้องเทคแคร์ถูกปะละ

“เฮ้ย หมูแม่งไม่ยุติธรรมเว้ย ส่งน้ำให้เดี่ยวคนเดียวได้ไง คนเกือบสิบเนี่ย!” พี่ที่เหมือนเด็กออทิสติกเอ่ยเสียงดังจนผมสะดุ้ง ดังกว่าบีทเพลงแล้วก็ท่าทางเดือดจัดมาก ไอ้เชี่ยยย น่ากลัว

“เออ แม่ง...กวนส้นตีน จับแดกแม่ง!!!” อีกคนก็เข้ามาสมทบ พี่มะเดี่ยวรีบอุ้มหมู อีกมือถือน้ำ

“อ่าวๆ หาเรื่องเหรอสาด หิวก็หาแดกเอาเด้ เสือกอะไรกับความรักกูวะ”

“ก็แม่งไม่ยุติธรรม”

“ยุติธรรมเหี้ยไร ไม่ใช่หมูมึง” แล้วพี่แกก็เดินดื่มน้ำมานั่งข้างผม

“เอ่อ...ตรงนี้มีน้ำอีกนะครับ” ผมว่าท่าทางกล้าๆ กลัว คือพวกพี่แม่งดูโหดกันหมด แล้วก็แข็งแรงมาก โดนเตะทีเดอะสามขาดสองท่อนแน่นอน

“มึงก็เอามาเสิร์ฟพวกกูดิ” คนใส่หมวกเหมือนต้อยหมวกแดงแต่สีดำเอ่ย

“อยากแดกมาหยิบเอง” แต่พี่มะเดี่ยวแกตัดบท ไม่ให้ผมทำตามที่เขาคนนั้นบอก ซึ่งเขาคนนั้นก็แค่ไหวไหล่แล้วเดินเข้ามาหยิบน้ำขวดใหญ่ไปแจกจ่ายกัน

“น่ากลัวอะ....” ผมบ่นเบาๆ

“งี้แหละ พวกแม่งไม่เต็ม อย่าไปสนใจเลย วางท่าไปงั้น เอาเข้าจริงมันก็ต๊องๆ บวมๆ กันทั้งนั้นแหละ ขอบคุณสำหรบน้ำนะความรัก…” แล้วเขาก็จูบหน้าผากความรักหนึ่งที เป็นการให้รางวัล ดูหน้ามันสิ…หน้ามันอย่างฟิน

“ผมเป็นคนให้เถอะ”

“งั้นต้องจูบคนให้ด้วยสิเนอะ” แล้วก็หันมาหมายจะจูบแหม่งผม แต่ผมหลบ

“ใช่ที่ไหนล่ะ แค่พูดเฉยๆ”

“อ่าวเหรอ นึกว่าอยากได้แบบความรักบ้าง” ตอบว่าถ้าได้ก็ดีเดอะสามจะดูใจง่ายปะ ฮ่าๆ

พี่มะเดี่ยวแกดื่มน้ำจนเกือบหมดขวด แล้ววางเอาไว้ที่พื้น เล่นกับความรักนิดหน่อยแล้วเดินลงฟลอต่อ ทางทีมโรมิโอซีเรียสเขาเริ่มพักกันแล้ว รวมถึงทีมของพี่มะเดี่ยวด้วย ดังนั้นพื้นที่โดยรอบนอกจากกลางฟลอก็ว่าง พีชกับวิ่งชวนผมไปซ้อมเต้นต่อ ทั้งที่ไม่อยากซ้อมเพราะยังเจ็บแต่ก็ต้องไป ปล่อยให้ความรักนั่งอยู่กับพี่แม็ก ขืนเอามาใกล้ๆ คนซ้อมมันจะเตะปลิวได้น่ะ

“พี่ๆ...ช่วยดูท่าให้หน่อยสิครับ” ขณะนั่งพักจากซ้อมแก็ปก็เห็นคนน่าจะอายุพอๆ กับผมเนี่ยแหละเดินเข้าไปหาพี่ที่ใส่หมวกพี่ต้อย ธรรมดาที่จะขอให้ดูท่าให้ เพราะที่ฟลอมหาลัยเด็กๆ ก็ทำแบบนี้ พอบอกพี่แกเสร็จ เขาก็ทำท่าโคตรโหดมาหนึ่งท่า แต่พี่ท่านกลับไม่มอง ซ้ำยังแคะขี้มูกไม่สนใจอีก...

“เออดีเว้ย นั่งอยู่เฉยๆ ก็มีคนมาเช็ดพื้นให้” ตาย เป็นกูนะหน้าแตกหมอไม่รับศัลยกรรมแน่นอน ซึ่งคนๆ นั้นก็ยืนเก้อ ดีที่พี่มะเดี่ยวแกเข้าไปบอก ไปพูดคุยเรื่องท่า ส่วนคนที่ถูกขอให้ดูนั้นไม่สนใจเลย

“เขาเย็นชาจังวะ...” พูดเบาๆ

“ตาเอกี้ก็แบบนี้แหละมึง ไม่สนใจโลกหรอก จะว่าหยิ่งก็ไม่เชิง...พี่มันไม่สนใจคนอื่นเลยมากกว่า” วิ่งเป็นคนอธิบาย

“อ่อ เออ...แล้วคนชื่อหม่อมน้อยนี่เขาเป็นหม่อมเหรอวะ” อันนี้สงสัยเป็นการส่วนตัว เห็นคนเรียกแต่หม่อมๆ

“ใช่ เป็นหม่อมจริงๆ นะมึง...แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น หม่อมน้อยเป็นเกย์ ซื้อผู้ชายกิน เปลี่ยนคนควงทุกอาทิตย์ เขาว่าร่านมาก แต่ก็นั่นแหละ...หม่อมเจ้านี่ มีเงิน” ดูดาร์กไซส์เนอะ

“มีแต่คนแปลกๆ”

“คนปกติที่ไหนเขาเต้นบีบอย มึงดูอย่างไอ้พีช...จีบแต่หมู” เอิ่ม...ยกตัวอย่างซะกูเห็นภาพชัดเลยอะเพื่อนยาก

“มึงปกติตายอะ ว่าวใส่รูปโงกุน” ฮั่นน่อววววว พีชไม่ยอมโดนด่าฝ่ายเดียวเว้ย

“อ่าวๆ มึงหาเรื่องกูเหรอ มึงเอาไง มึงพูดมาเลย มาๆ” แล้วก็พากันไปที่กลางฟลอ จากนั้นสงครามของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดก็เริ่มขึ้น

ผมได้แต่นั่งขำอยู่คนเดียว ดูมันสองคนแบทเทิลกันแล้วฮามาก พวกมันคงไม่ฮาแบบผมเพราะต่างคนต่างงัดสกิวออกมาสู้กันอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช สุดท้ายก็ไม่รู้หรอกใครแพ้ใครชนะ เหนื่อยหมดแรงกันก่อน ส่วนผมน้านนนน ก็ซ้อมไปคนเดียวครับ ทำเท่าที่ทำได้ เจ็บมากก็พัก เหนื่อยมากก็นั่งก่อน

วันนี้พี่มะเดี่ยวไม่เข้ามาหาผมบ่อยนัก เขาดูมีเรื่องต้องคุยกับคนในทีม ซึ่งทีมพี่มะเดี่ยวมีทั้งหมดเจ็ดคน ที่รู้จักก็พี่มะเดี่ยวกับพี่โซฮานเท่านั้น นอกนั้นผมไม่รู้จักและไม่เคยเจอเขาที่ฟลอของมหาลัย แล้วถ้าถามว่ารู้ได้ยังไงว่าคนไหนทีมพี่มะเดี่ยว ก็คงเป็นเสื้อทีมที่ลายเหมือนกันนั่นแหละครับ

“สามเดี๋ยวพี่กลับรถสองแถวนะ...จักรยานกลับคนเดียวเป็นไรปะ” ก่อนจะแยกย้ายพี่เขาก็เดินเข้ามาหา ผมเงยหน้ามองแล้วส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่เป็นไรพี่ ยังไงผมก็ผู้ชาย...ใครจะมาทำอะไรจริงไหม”

“ไม่จริง ผู้ชายก็โดนฉุดได้นะ”

“ก็บอกแล้วไงว่าผมมีความรักเป็นองครักษ์ พี่ไม่ต้องห่วงหรอก” ว่าแล้วก็ยิ้มหวานส่งให้ พี่เขายีหัวผมนิดหน่อย

“ต้องห่วงสิ สามจีบพี่อยู่นะ” เกี่ยวอะไรกับผมจีบพี่วะครับ “ถ้าสามเป็นอะไรไป ใครจะจีบพี่ล่ะ”

“เอ่อ…ผมไม่เป็นไรจริงๆ อยู่จีบพี่จนติดแน่นอน”

“ให้มันจริง”

“ชัวร์” ทำหน้าตั้งมั่นใส่ แต่พี่แกกลับขำ

พี่มะเดี่ยวยีหัวผมแล้วก้ดึงให้ผมลุกไปเก็บของ เราจะแยกย้ายกันแล้ว ทุกคนก็พูดคุยนู้นนี่นั่นกันไปตามเรื่องตามราว เพื่อนพี่มะเดี่ยวรายล้อมผมไปหมด แต่ผมไม่ได้พูดอะไรกับใครเลย ก้มหน้าก้มตาเก็บของอย่างเดียว เสร็จก็อุ้มความรักแล้วเดินออกมาพร้อมพีชและวิ่ง เพื่อจะเอารถจักรยานกลับห้องใครห้องมัน

ระหว่างปั่นผมก็ฟังเพลงไปด้วย ความรักยืนสองขา ส่วนอีกสองขาค้ำตะกร้าเอาไว้ เชิ่ดหน้ารับลมสบายใจเฉิบ อย่าว่าแต่มันสบายใจเลย ผมเองก็ทั้งสบายใจและมีความสุข อย่างน้อยๆ วันนี้ก็ไม่อึดอัดสิ่งที่พี่มะเดี่ยวเป็นเหมือนอย่างที่ผ่านมา เพราะมันชัดเจนว่าพี่เขาอ่อยผมจริงไม่ได้แกล้งกัน ตอนแรกผมห่วงว่าพี่เขาจะเป็นแบบนี้เพราะนิสัยของเขา เลยไม่อยากหวังกลัวจะผิดหวัง ที่ไหนได้...กลับกันเลยนี่นา

แหม ใครจะไปรู้ล่ะ ครั้งแรกเจอกันด่าผมเสียหมาเลย ว่าผมเป็นเกย์ร่านงั้นงี้ หาว่าผมอยากมากคันมาก โอ้โห แต่ละคำด่า สะเทือนตับไตไส้พุงอย่างรุนแรง ผมก็เลยหวาดระแวงนิดหน่อยเป็นเรื่องธรรมดาเป็นคนอื่นก็ต้องรู้สึกแบบผมเชื่อสิ เขาดูไม่ชอบเพศทางเลือกขนาดนั้นเนาะ

“แกช่วยป๊าจีบพี่มะเดี่ยวหน่อยสิความรัก...” เห็นพี่มะเดี่ยวชอบความรักมาก เอาความรักเป็นตัวล่อน่าจะดีนะ

“คร่อกๆ...” มันหันมาพูดอะไรสักอย่าง ผมไม่เข้าใจ ผมแค่หน้าเหมือนหมู แต่ผมไม่ใช่หมูนะคร้าบ

“จีบไงดี?” ตั้งคำถามนะ แต่ถ้ามันตอบเป็นคำพูดผมจะทิ้งจะจักรยานแล้วเผ่นให้เร็วที่สุด ฮ่าๆ แค่คิดก็ฮาแล้ว เดอะสามเผ่นตัวปลิวหนีหมูตัวเล็ก ความรักหันไปมองทาง ส่วนผมก็ครุ่นคิดเรื่องพี่มะเดี่ยวไปด้วย เอาจริงๆ…ผมไม่ซีเรียสเรื่องจีบติดไม่ติดขนาดนั้นหรอก เขาอ่อยผมขนาดนี้ ยังไงก็ต้องติด…ผมโคตรมั่นใจ เพราะความมโนของเดอะสาม ผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาคนนี้แรงกล้าโคตรๆ!

....100%....

สปอยล์ ตอนหน้ามีดราม่า....มั้งนะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 21 [100%]❤️ -6/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-11-2017 21:36:12
 :a5: อะไรคือไรรรร ทิ้งท้ายแบบเน้



 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 21 [100%]❤️ -6/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 08-11-2017 05:57:53
พี่มะเดี่ยวก็อ้อยสุดฤทธิ์เกิ้นนนน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 21 [100%]❤️ -6/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-11-2017 11:29:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 22 [100%]❤️ -9/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 09-11-2017 21:07:09
>>ตอนที่ 22 [100%]<<

จอดจักรยานเข้าที่ปั้บ ก็เดินอุ้มความรักเข้ามาในล็อบบี้คอนโด เมื่อกี้แวะซื้อข้าวไข่เจียวร้านหน้าซอยมาด้วยเพราะว่าผมหิวมากๆ ด้วยความที่ฟลอวันนี้ดุเดือดมาก ผมเลยไม่ยอมออกไปเดินเล่นในตลาด มัวแต่ดูเขาซ้อมกันอยู่นั่นแหละ

“อ่าว...ยังไม่ขึ้นไปเหรอพี่” จะใครซะอีกล่ะ ก็พี่มะเดี่ยวมุกเสี่ยวคนเดิมกับพี่โซฮานนั่งเล่นกันอยู่ที่ล็อบบี้อะสิ

“ยังอะ รอความรัก...” รอผมก็บอก ไม่ต้องอ้างความรักหรอก ฮ่าๆ

“อะ...” เดินเข้าไปใกล้ก็ส่งความรักให้พี่เขาอุ้ม

“แล้วทำไมมาช้าอะ พี่รอตั้งนาน นึกว่าใครฉุดเข้าข้างทางไปละเนี่ย” เราเริ่มเดินไปที่ลิฟต์

“แวะซื้อข้าวอะพี่ ผมหิว”

“ข้าวอะไร...” พี่ท่านมองมาที่ถุงกล่องข้าว กลิ่นไข่เจียวฟุ้งมาก จริงๆ ผมอยากกินหมูทอดกระเทียมแต่ว่าหมูมันหมด

“ข้าวหมูทอด” ผมโกหกพลางโยกหัวไปมาเบาๆ

“หมูอีกละ อะไรๆ ก็หมู...ไม่คิดกินอย่างอื่นเลยเหรอไง รู้ปะ เสียงหมูตอนมันโดนเชือดอะบาดใจมากเลยนะเว้ย แล้วกว่ามันจะตาย สามคิดดูว่ามันจะดิ้นทุรนทุรายขนาดไหน เลือดทะลักเต็มพื้นที่ไปหมดอย่างกับหนังสยองขวัญ...น่าสงสารจะตาย” พี่บรรยายซะไม่อยากกินหมูเลย

“แหม ข้าวไข่เจียวก็ได้” ผมว่าขณะเดินเข้าลิฟต์พร้อมๆ กับพี่เขา

“จริงดิ”

“จริง หมูหมด ฮ่าๆ” ขำมันอยู่คนเดียว คนอื่นไม่เห็นขำไปกับผมเลยอ่า...อารมณ์ไม่ดีกันเหรอ พี่โซฮานนี่ก็เอาแต่มอง ไม่แสดงสีหน้าอะไรลย

“ตลกตายล่ะ” ไม่ตลกผมจะขำเหรอ ผมโยกหัวไปมาเหมือนเคย ทำเมินคำพูดของเขา

พี่มะเดี่ยวบ่นผมให้ความรักฟัง บอกว่าผมโหดร้ายที่กินแต่พวกของความรัก หาว่าผมใจร้าย ไม่มีจิตใจที่เมตาปรานีต่อสัตว์โลก โอ้โห...ลามปามไปไกลนู้นนน สงสัยที่วิ่งบอกท่าจะจริง บีบอยแม่งไม่เต็ม หัวโขกพื้นบ่อยจะป้ำๆ เป๋อๆ ก็คงเป็นเรื่องปกติ

แต่ว่า...ถ้าผมเต้นบีบอยมากๆ ผมก็ต้องแบบนี้อะสิ ม่ายน้า...สามไม่อยากต๊องแบบนี้!

ผมยืนฟังพี่มะเดี่ยบ่นจนกระทั่งมาถึงห้อง เราตั้งท่าจะแยกย้ายไปไขกุญแจห้องใครห้องมัน แต่ติดที่ว่าความรักของผมยังอยู่กับพี่มะเดี่ยว เกือบจะเข้าแล้วทิ้งความรักแล้วไงล่ะ ดีนะที่ความจำดี จำได้...ซะเมื่อไหร่

“มึงไม่เอาหมูคืนน้องมันล่ะ” ก็ถ้าพี่ไม่ทักผมก็จะเดินลิ่วเข้าห้องแล้วเพราะตอนนี้หิวมาก

“เออ ความรักผม” หันขวับไปหา ยื่นมือทั้งสองข้างไปข้างหน้าเผื่อรับมันมาด้วย แต่พี่มะเดี่ยวกลับกอดมันเอาไว้แน่น

“ไม่ให้อะ ยืมก่อน…”

“ยืมไปทำไร”

“สร้างสีสันให้กับห้อง” ว่าแล้วพี่ท่านก็ยิ้ม ผมยิ้มตอบ

“ก็ได้...ดูแลความรักของผมดีๆ นะครับ” ถ้าหน้าด้านหน่อยสามจะทำท่าซารางเฮโยเพื่อสื่อความนัยแบบเสี่ยวๆ ติดที่หน้าไม่หนาขนาดนั้น ก็เลยแค่ยิ้มกว้างให้

“ฮ่าๆ...น่ารักวะ ได้ดิ พี่จะดูความรักของสามอย่างดีเลย” พูดไม่พอ มีจงมีจุ้บแหม่งความรักโชว์อีก ฮุ่ยยยย เขินแทนหมู

ผมรีบพลิกสารร่างแห้งๆ ของตัวเองเข้าประตู พลักแล้วพุ่งเข้าห้องอย่างไว เวลาพี่มะเดี่ยวยิ้มปนขำแบบนั้นน่ะน่ารักฉิบผายเลยล่ะ มันเพิ่มทั้งเสน่ห์ชวนมองแล้วก็ทำให้รู้สึกเก้อเขินได้ง่ายมักๆ เดอะสามคนนี้โยนกระเป๋าตัวเองลงพื้น ก้มเอากล่องแอปเปิ้ลเปล่าๆ ออกมาก่อนจะเข้าครัว เอามันวางไว้ในซิ้งก์ล้างจาน จากนั้นถึงเอาช้อนมาหนึ่งคันเพื่อกินข้าวไข่เจียวแบบรีบเร่ง

ไม่ได้รีบไปไหน แค่หิว!

ระหว่างที่กระซวกข้าวเข้าปาก ผมก็ไถลหน้าจอมือถือเล่นไปด้วย อัปเดตข่าวสารบ้างเป็นเรื่องดีแก่ชีวิต ในขณะที่ไล่สายตาอ่านข่าวเมฆบิน ไอ้วิ่งกับไอ้พีชก็ทักมาที่แชตกลุ่ม วิ่งเป็นคนเปิดประเด็นข่าวที่ผมอ่านขึ้นมาพอดี เรียกว่าเราใจตรงกัน อ่านข่าวเดียวกันแล้วก็มานั่งฝอยกันเรื่องนี้ ข้าวก็จะกิน ข่าวก็จะอ่าน เพื่อนก็จะคุย ทีนี้แทนที่จะได้กินข้าวหมดเร็วมันก็เลยล่าช้ากว่ากำหนดไปหลายนาทีดีดัก

ข้าวหมดแล้ว แต่ประเด็นร้อนฉ่าในโซเชียลยังไม่จบ ก็เร่งนิ้วพิมพ์แข่งกันไป แม่งไม่ค่อยทันใจผมเท่าไหร่ ผมเลยตัดสินใจเปิดคอมแล้วพิมพ์ตอบโต้กับแม่งในนั้นแทน ทีนี้ล่ะระรัวนิ้วกันมันเลย น้ำเนิ้มไม่ได้อาบ เสื้อผ้าไม่ได้เปลี่ยนสักที ไอ้เสื้อยืดของผมก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ เหม็นตุๆ เหมือนกันนะเนี่ย แต่เอาไว้ก่อน ตอนนี้กำลังมันได้ที่ คือข่าวมันก็เป็นเรื่องที่เขาโฆษณาเวอร์วังเกินจริง เกี่ยวกับน้ำมันล่อลื่น แล้วที่มันน่าหมั่นไส้ก็เพราะมันไม่ยอมรับ แต่แถไปเรื่อยเปื่อย...ไม่อยากด่าหรอกนะ แต่ผมว่ามันโชว์ความฉลาดน้อยของตัวมันเองสุดๆ

นู้นนนนน กว่าจะแยกย้ายกันไปทำอย่างอื่นก็สี่ทุ่มกว่า กลับถึงบ้านก็เกือบสามทุ่มแล้วอะนะ ผมเข้าเกมรอเอาไว้เพราะพวกมันนัดกันไปล่าเกรียน จากนั้นรีบแยกไปอาบน้ำ ผมถอดเสื้อผ้าเดินโทงๆ เข้าห้องน้ำไป แต่ไม่ลืมเอาผ้าขนหนูไปด้วยหรอก ด้วยความที่เกมมันรอเราอยู่อะครับ การอาบน้ำสระผมก็เลยใช้เวลาไปแค่ห้านาที ผมรีบนุ้งผ้ามานั่งหน้าคอม วิ่งและพีชเตรียมพร้อมกันเรียบร้อย

จากนั้นทำอารายยยย การบ้านเหรอ ตลกเหรอ เล่นเกมสิครับ!!! เด็กไทยไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างเดอะสามหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาคนนี้นะ ทุกคนควรทำการบ้านให้เสร็จเรียบร้อยก่อนค่อยมาเล่นเกมอะรู้เปล่า

เอ...อนาคตครูนี่ดูไม่สดใสเท่าไหร่แหะ ครูคือแม่พิมพ์ของชาติ แล้วดูแม่พิมพ์อย่างผมสิ นั่งตีเกรียนกันกับเพื่อนอย่างเมามัน การบ้านนอนแอ้งแม้งอยู่ในกระเป๋า ถามว่าตอนนี้สนใจไหม ไม่...หูยยยยย อีกฝ่ายแม่งคริผมตู้มๆ ผมไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนการบ้านตอนนี้หรอกบอกเลย!!!

ฆ่าแม่งให้หมด!!!

ก๊อกๆ!

มีคนเคาะประตู ผมได้ยิน แต่ขอแป๊บหนึ่ง ผมกำลังจะฆ่ามันได้แล้ว วิ่งใช้สกิวตรึงอีกฝ่าย ผมกับพีชก็รุมทุบมัน ตัวเวรอะไรแม่งถึกฉิบ คนข้างนอกใจเย็นๆ นะ สามคนนี้ขอฆ่าเกรียนก่อน

ก๊อกๆ

“น้องสามครับ!” เอ๊ะ...เสียงพี่โซฮานนี่หว่า ผมรีบพิมพ์บอกเพื่อนๆ แล้วรีบเดินลิ่วๆ ไปเปิดประตู

“มาแล้วคร้าบ” หน้าพี่แม่งหงิกจัง…ผมขอโทษ นึกว่าพี่มะเดี่ยว พี่โซฮานมองผมตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นมาถึงใบหน้า สองมือพี่เขามีความรักอยู่ในนั้น

“ขอเข้าไปได้ปะ” เอ๋? อะไรอะ...ทำไม มีอะไรเหรอ ปกติพี่เขาไม่คุยกับผมเลยนะ แล้วทำไมจู่ๆ มาขอเข้าห้องตอนนี้ล่ะเนี่ย ผมลองเหลือบมองนาฬิกา โอ้...จะเที่ยงคืนแล้ว

“อ่าครับ...” รีบคุยรีบแยกกันเถอะ การบ้านตรู...จะเสร็จไหมวันนี้

พี่โซฮานปล่อยความรักลงกับพื้นห้อง ซึ่งมันกวิ่งดุ้กๆ ไปที่โซฟาตัวเตี้ยของผม กระโดดขึ้นไปนอนซุกหมอนอิง ง่วงแล้วล่ะมันน่ะ ปกติมันจะนอนราวๆ สี่ทุ่มกว่าหรือห้าทุ่ม เป็นเวลาเดียวกับผมนอนเนี่ยแหละ ติดที่ว่าวันนี้มันไปเล่นกับพี่มะเดี่ยวแล้วผมก็ติดคุยกับเรื่องข่าวกับเพื่อนมันเลยดึก

“พี่มะเดี่ยวแกนอนเหรอครับ” ก็ถ้าไม่นอนคงเอาความรักมาส่ง

“เปล่า มันทำงาน ก็เลยเอามาส่งเอง พี่ขอถามตรงๆ นะ” หลังจากสำรวจห้องผมด้วยสายตา พี่โซฮานก็หันมามองหน้า

“ครับ”

“เราจะจีบมะเดี่ยวเหรอ” เออ ตรงจริงๆ นั่นแหละ

“ครับ ก็...พี่เขาให้จีบได้หนิ” ทำไมพี่ต้องถามแบบนี้ เป็นเพื่อนกันทำไมไม่ถามกันล่ะครับ เอ้อ แปลกคนนะเนี่ย

“อืม มันบอกว่าอะไร ชอบก็บอก จะจีบก็จีบเลยงี้ปะ” เอ้า พี่มันก็รู้หนิ ผมพยักหน้าเอ๋อๆ ของตัวเอง

“ใช่ครับ ทำไมเหรอ” แล้วก็ไม่เดินเข้าไปนั่งด้วยนะ มายืนคุยอยู่หน้าประตูเนี่ย แล้วจะเข้ามาทำไมล่ะครับผม

“พี่ไม่อยากดับฝันเราหรอกนะ มะเดี่ยวอะมันเสน่ห์แรง...ใครๆ ก็ชอบมัน ถูกมะ เราเองยังชอบเลยหนิ แต่พี่เห็นว่าเราดูไม่ทันคน เลยอยากเตือนเอาไว้ว่า...มะเดี่ยวไม่ใช่คนดีแบบที่สามเห็นหรอกนะ” เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วล่ะครับ...ทำเหมือนจะมีเรื่องไม่ดียังไงไม่รู้

“ยังไงครับ”

“บอกไปจะรับได้เหรอ” มาขนาดนี้แล้วยังจะมาถามอีกเหรอ

“ได้สิครับ” ผมยิ้มทั้งที่ใจค่อนข้างสั่นทีเดียว

“มะเดี่ยวอะมันก็แค่สนุกกับความรู้สึกคนเท่านั้นแหละ...”

“อ่า....” มันเป็นประโยคที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินเลยจริงๆ

“พี่รู้ว่ามันมีนิสัยเสียที่ชอบให้ความหวังคนอื่น ใครชอบมัน มันก็บอกให้จีบได้ แต่จริงๆ มันไม่จริงจังกับใครหรอกน้องสาม...พี่ไม่อยากให้น้องสามต้องมาเจ็บกับมันนะ ไอ้ที่มันหยอดน่ะ มันก็แค่ทำไปเพราะรู้สึกสนุกเท่านั้นแหละ พี่ถึงบอกว่ามะเดี่ยวไม่ใช่คนดี...สามอย่าเอาตัวเองไปยุ่งกับมันดีกว่านะ พี่เห็นมันเล่นกับความรู้สึกคนแบบนี้แล้วพี่ก็รู้สึกแย่อะ” ยิ่งกว่าที่พี่รู้สึกแย่คือกูรู้สึกอยากร้องไห้...

“งั้นเหรอครับ...”

“ใช่ อยู่ห่างๆ จากมันไว้ ตัดใจจากมันเถอะ สามน่ารักนะ สามหาคนที่ดีกับสามจริงๆ ได้ไม่ยาก อย่าไปเล่นกับมะเดี่ยวเลย...มีแต่เราที่เจ็บนะ” พี่โซฮานตบบ่าเปลือยของผมเบาๆ

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”

“อืม งั้นคืนนี้ฝันดีนะ”

“ครับ” พี่โซฮานเดินจากไป ผมล็อกห้องแล้วเดินกลับไปนั่งที่โซฟาไม่ใช่หน้าคอมพ์

เข้าใจอารมณ์ผมไหม...เข้าใจความช็อกนี้ของผมหรือเปล่า ผมไม่เข้าใจ...ผมไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากสมองว่างเปล่า หัวใจเต้นแรงมากและมันก็บีบรัดจนเจ็บไปหมด เจ็บจนน่ารำคาญเลยล่ะครับ ผมเอนหลังพิงพนักโซฟา เหม่อมองหลอดไฟบนเพดานด้วยความรู้สึกที่อธิบายยาก

ก็ใช่…ผมยังไม่ได้รักพี่มะเดี่ยว ไม่ได้หลงหัวปักหัวปำอะไร แต่ชอบไปแล้ว ก็คือชอบไปแล้วอะ…แล้วสิ่งที่มารู้นี่คืออะไร ไม่สิ ผมล่ะเชื่อท่าทางเฟรนลี่ของเขาได้ยังไง ที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกช็อกกับเรื่องแบบนี้เลย ไม่คิดด้วยว่าจะมาเจอแบบนี้อะ ตอนนี้ผมก็เลยไม่รู้ว่าควรรู้สึกแบบไหน...เจ็บไหม ผมเจ็บ แต่มันไม่ได้มากพอจะทำให้ร้องไห้

มันช็อก...มันผิดหวัง

เพราะมันเชื่อไปแล้วไง...เพราะเชื่อว่าพี่เขาโอเคกับผมจริงๆ เชื่อว่าที่พี่เขาทำอยู่ตอนนี้ก็คือชอบผมเหมือนกัน เชื่อจนสนิทใจเลยล่ะครับ อยากจะโทษเขาที่มาทำให้ผมรู้สึกดีแล้วก็...หักหลังกัน แต่คิดไปคิดมา เราเองไม่ใช่เหรอวะที่คิดเป็นตุเป็นตะไปเอง พี่เขาจะพูดอะไรก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ของเขา แต่เราดิ...เราจะเชื่อหรือไม่มันก็สิทธิ์ของเรา แล้วผมดันเชื่อไง...

จะไม่บอกว่าตัวเองโง่ ผมไม่โง่ ความรู้สึกของมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่โง่เง่า แล้วผมก็จะไม่โทษอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือว่าพี่มะเดี่ยว คิดแง่ดีสิ...ผมรู้แบบนี้ก็ดีจริงไหม ยังไม่ได้ถลำตัวเข้าไปขนาดนั้นเสียหน่อย ที่เหลือผมก็แค่ถอยออกมาจากเขา ไม่เจอกันสักพัก ไม่พูดคุยกันสักระยะ เดี๋ยวความรู้สึกเหล่านี้ก็จะกลับมาเป็นแบบเดิม

ใช่...เดี๋ยวมันก็กลับมาเป็นแบบเดิม

“ที่รักของมึงทำร้ายป๊า...” หันไปพูดกับความรัก มันโงหัวขึ้นมาจากหมอนอิง ตาปรือๆ ง่วงนอนเต็มที พอผมแตะต้องมัน ความรักก็กระดื้บขึ้นมานอนที่หน้าตัก

“คิดว่าป๊าจะใช้เวลาตัดใจนานปะวะ...สามวันพอไหม” ก้มมองหน้ามัน ซึ่งมันก็แค่มองตอบเท่านั้น

“เฮ้อ...เกลียดความรู้สึกนี้วะความรัก เกลียดเวลาที่ต้องเจ็บอยู่ลึกๆ มันปวดหนึบๆ ทรมานมาก...แต่ก็ระบายออกไม่ได้ มึงเข้าใจปะ” มันจะไปเข้าใจได้ยังไงวะ มันเป็นหมูไอ้เชี่ย!

“มึงไม่เข้าใจสินะ ก็รู้อยู่แล้วว่ามึงไม่เข้าใจ ป๊าไม่น่าถามมึงเลยเนอะ...” เหมือนว่าความช็อกจากสิ่งที่พี่โซฮานบอกจะเริ่มจางลง แล้วนั่นทำให้ความเสียใจมันชัดเจนขึ้น

ก็อยากร้องไห้...แต่มันไม่ร้อง มันร้องไม่ออกไม่มีน้ำตาไม่มีอะไรเลย นอกจากเจ็บอยู่ข้างในลึกๆ เนี่ย ผมโน้มตัวเอาหน้าผากตัวเองวางลงบนหน้าผากความรัก ไม่ได้มองสบตามันเพราะผมกำลังหลับตาตั้งสติอยู่ ทว่าการหลับตาลงเหมือนการปล่อยให้ทุกความรู้สึกเข้ามาโจมตีเราได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ก็ดี...ซัดมาทีเดียวนั่นแหละ ใช้เวลาไม่นานหรอกมันก็จะหยุดเอง

ไม่มีอะไรยาก…แค่เลิกชอบ ง่ายจะตาย!

....100%....

งานเป่าหูก็มา ทำแบบนี้ได้ไง...สามยิ่งอ่อนต่อโลกอยู่เอ้อ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 22 [100%]❤️ -9/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-11-2017 21:36:15
พี่โซฮานมาไม้ไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 22 [100%]❤️ -9/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 09-11-2017 21:54:26
จะเก็บไว้กินเองละเส้ นิสัยเสียยย  o18
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 22 [100%]❤️ -9/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 09-11-2017 22:17:39
เข้าใจความรู้สึกของสามเลย  ขอให้พี่โซฮานแค่แกล้ง ฮรือออออออ :ling1: :sad4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 22 [100%]❤️ -9/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-11-2017 22:26:36
แอบรักเพื่อน?
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 22 [100%]❤️ -9/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-11-2017 23:04:46
 :3125:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 22 [100%]❤️ -9/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 10-11-2017 00:06:41
ถามตรงๆไปเลยเชื่อคนอื่นได้ไงถ้าเชื่อก็แสดงว่าสามไม่รักมะเดีี่ยวจริง

ยังงั้นก็เลิกไปเหอะ  :m16: :m31:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 22 [100%]❤️ -9/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 10-11-2017 00:36:47
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 22 [100%]❤️ -9/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 10-11-2017 03:04:12
ว่าแล้วว่าไม่ได้มาดีแน่ๆ
สามใจเยนก่อนนน
เคลียก่อนนน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 11-11-2017 22:07:34
>>ตอนที่ 23 [100%]<<

ก๊อกๆ

“คร้าบ...” เสียงเคาะห้องมาแต่เช้า ผมวางชามมาม่าหมูสับของตัวเองก่อนเดินไปเปิดประตู  เมื่อคืนนี้แทบไม่ได้นอน...ไม่ใช่นอนไม่หลับ นั่งทำการบ้าน ฮ่าๆ

“ตื่นไวนะวันนี้ พี่คิดว่ายังไม่ตื่นก็เลยเดินมาปลุก” หัวพี่มะเดี่ยวยุ่งเหยิง สีหน้าเหมือนคนง่วงงุนเต็มที่ ผมยิ้ม...ยิ้มบางๆ แค่นั้น

“ครับ ผมตื่นแล้ว…พี่ไปนอนต่อเถอะ” ข้างหลังพี่มะเดี่ยว ผมเห็นพี่โซฮานยืนพิงประตูอยู่

“จะไปเรียนเลยปะอะ เอาความรักไว้กับพี่ไหม เดี๋ยวพี่เอาไปที่ฟลอด้วย สามเลิกเรียนแล้วจะไปได้เจอมันที่นั่นเลย” พี่เขาก็ยังเป็นพี่เขาอะนะ...

“ไม่ครับ เดี๋ยวฝากน้าบอยไว้นั่นแหละ ขอบคุณพี่มาก” ทำตัวปกติที่สุด พี่มะเดี่ยวพยักหน้าแล้วยีหัวผมเบาๆ

“เออๆ งั้นเจอกันที่ฟลอนะ ตั้งใจเรียน”

“ครับ...” กว่าพี่มันจะไปได้ ไอ้ที่งอนิ้วตัวเองไว้เพื่อตั้งสติเนี่ย...เจ็บฉิบผายเลยแหะ

เดินมองนิ้วแดงๆ ของตัวเองขณะเข้ามานั่งที่โซฟา ความรักยังไม่ตื่น มันนอนดึกแล้วมันก็จะตื่นสาย ผมเหม่อมองทีวี ดูข่าวช่วงเช้า เสียงผู้รายงานเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา มาม่าที่ยังกินไม่หมดก็วางทิ้งไว้ไม่คิดหยิบมากินต่อ

จะว่าไงดีอะ...อยากตัดใจ สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องห่างจากคนที่เราอยากตัดใจถูกมะ แต่ห้องอยู่ตรงข้ามกัน มาปลุกกันอีก เจอกันที่ฟลออีก จะห่างยังไง...ไอ้เรื่องย้ายห้องหนี ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำที่สุด ไร้สาระโคตรๆ บ้านรวยแล้วไง เงินพ่อเงินแม่ปะวะ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของตัวเองไม่ควรทำให้พ่อแม่เดือดร้อนอะผมคิดแบบนั้น เพราะงั้นเรื่องต้องอยู่ห้องข้ามพี่เขาแบบนี้คงเลี่ยงไม่ได้

ที่ทำได้ตอนนี้คงงดไปฟลอเต้นสักพัก ถือว่าผมพักรักษาตัวก็แล้วกันนะ วันนี้อาการดีกว่าเมื่อวานมากแต่ก็ยังไม่หายดี เอานี่แหละเป็นข้ออ้างในการโดดซ้อม ผมนั่งดูข่าวรอเวลา ดูแบบเหม่อๆ เพราะคิดอีกเรื่องคือ...อยากลองไปขอวิ่งหรือพีชนอนด้วยจังแหะ แต่กลัวรบกวนมัน หอพวกมันห้ามเอาสัตว์เลี้ยงเข้าไปด้วย ขืนโดนจับได้เพื่อนผมจะซวยเอาอะนะ

นั่งคิดฟุ้งซ่านแป๊บเดียวก็ได้เวลาไปเรียน ผมจำต้องอุ้มความรักขึ้นมาทั้งที่มันยังหลับอยู่ ต้องเบามือที่สุด ไม่อยากให้มันรู้สึกตัว เลี้ยงความรักนี่เหมือนผมเลี้ยงลูกของตัวเองเลยแหะ แม้ไม่รู้ว่าการเลี้ยงลูกมันเป็นยังไงก็เถอะ จากนั้นหยิบกระเป๋าที่เตรียมของเอาไว้ขึ้นมาสะพายที่บ่าข้างหนึ่ง ตรวจเช็กนั่นนี่ ปิดฟงปิดไฟ ถอดปลั๊กต่างๆ ให้เรียบร้อยแล้วถึงเดินออกมา

สถานที่แรกที่ผมไปก็คือร้านบีพีคอฟฟี่ นั่งจ๋องอยู่หน้าเคาน์เตอร์ น้าบอยยังไม่ว่าง น้าภูมก็ด้วย ผมก็เลยนั่งแกล้งความรักไปเรื่อยเปื่อยเพื่อรอเวลาเพื่อนมาถึงได้เข้าเรียน ทุกอย่างดูปกติดี ที่ไม่ปกติคือลึกๆ ของผมมันค่อนข้างหดหู่...

มันเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อเรารู้สึกไปแล้ว ความรู้สึกเราก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว จะให้กลับมาอยู่จุดเดิมที่เคยอยู่ก็ต้องให้เวลามันสักพักละนะ ผมพยายามไม่คิดอะไรมาก หลังจากแกล้งความรักได้พักหนึ่งผมก็เริ่มเอาหนังสือเรียนในวันนี้ออกมานั่งอ่าน ดูเป็นเด็กตั้งใจเรียนใช่ไหม...แน่นอน ผมโคตรตั้งใจเรียน เดอะสามเป็นคนดีที่โลกใบนี้ต้องจารึกชื่อเอาไว้เชียวล่ะ ฮ่าๆ

พีชกับวิ่งเข้ามาในร้านพร้อมเสียงโต้เถียง พวกมันพากันนั่งข้างผมทั้งที่ยังเถียงกันไม่เลิกเรื่องสาวไลฟ์สดโชว์เปลื้องผ้า ก็ไม่ได้ดูกับมันเลยไม่รู้จะพูดอะไรออกไป แค่นั่งฟัง งดออกความคิดเห็นใดๆ ผมไม่ใช่คนหื่นกามขนาดนั้น นานๆ จะดูคลิปโป๊สักทีเพราะเอาแต่ทุ่มเวลาให้กับเกม

“มึงตัดสินดิ้ว่า ระหว่างความคิดของกูกับพีชคนไหนดีสุด...” ในที่สุดวิ่งก็หันมาถามความคิดเห็น เรื่องที่แม่งคุยกันเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปแล้ว ผมนี่ถึงกับไม่รู้จะตอบยังไงออกไปดีเลย

“ไม่รู้ดิ ไม่มีความคิดเห็น” ในเมื่อไม่รู้ก็ตอบว่าไม่รู้เนี่ยแหละดีสุดละ

“ใม่ได้เว้ย มึงต้องตัดสิน” วิ่งไม่ยอม

“เอ้า ก็กูไม่รู้ ตัดสินกันเอาเองสิวะ”

“เป็นไปได้ไงที่มึงไม่รู้...” พีชตั้งข้อสงสัย

“กูง่วง...เบลอ แค่นั้น” แล้วก็เบนสายตาไปมองแก้วต่างๆ ที่เรียงรายอยู่บนชั้นวาง

รู้สึกว่าพวกมันจะเงียบไปเหมือนกัน หยุดเถียงกันเพื่ออะไรครับ...อันนี้สามไม่เข้าใจจริง แต่ผมก็ไม่คิดจะหันไปถามหรอกนะ ในเมื่อไม่คุยกันต่อก็เรื่องของพวกมึง ผมนั่งเล่นจนใกล้เวลาเข้าเรียนก็คว้ากระเป๋า ชวนพวกมันเข้าคลาส

อาจจะเป็นวันที่ผมเงียบที่สุด...เพราะมันเป็นวันที่ผมอยู่กับตัวเองมากไปหน่อย ไม่ว่าพีชกับวิ่งจะคุยเรื่องอะไร ข่าวแบบไหน ผมก็งดออกความเห็นทุกอย่าง เห็นผมเลื่อนหน้าจอเฟซบุ๊กไปมา แต่ผมไม่ได้สนใจอะไรเลยสักยอย่างในนั้น แค่เลื่อนไปเรื่อยๆ ไม่ให้นิ้วมันว่าง ตอนเที่ยงวันนี้ก็กินข้าวได้น้อย...หมูทอดกระเทียมไม่อร่อยอย่างทุกวัน แม่ค้าคงทะเลาะกับแฟนมา ก็เลยขี้เกียจทำ อาหารตามสั่งจานนี้เลยดูจืดชืดและไร้รสชาติไปหน่อย

“กูกลับก่อนนะ...” เลิกคลาสช่วงบ่ายผมรีบบอกพวกมัน วันนี้จะไม่เข้าซ้อม พูดเสร็จก็สาวเท้าออกมาเลย ไม่ปล่อยให้เพื่อนทั้งสองตั้งคำถามอะไรกับผมทั้งนั้น เพราะผมไม่มีอะไรจะพูดหรืออธิบาย

ผมกลับมารับความรักที่ร้านน้าบอย จากนั้นขอโกโก้หนึ่งแก้วแล้วกลับมานั่งทำการบ้านอยู่ที่ห้อง ระหว่างที่ทำผมไม่คิดอะไรเลย นอกจากตั้งใจอ่านชีทที่อาจารย์ได้ให้มา อย่างน้อยๆ มันก็ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย การตั้งใจทำอะไรสักอย่างมันช่วยเรื่องดึงดูดความสนใจจากสิ่งๆ หนึ่งได้ดีเชียว หลังจากทำการบ้านเสร็จ ผมก็ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมานั่งเล่นเกม

เล่นเกม...กินแล้วก็นอน

ความรักเอาจมูกตัวเองมาดุนที่แก้มตอนนอน ผมหันไปมองหน้ามันแล้วเลิกคิ้วเหมือนตั้งคำถาม อย่างกับมันจะพูดได้งั้นแหละ ว่าที่มันทำแบบนี้น่ะเพื่ออะไร นี่หมูนะเฮ้ย…หมูก็คือหมูไง มันพูดไม่ได้

“เป็นอะไรมึง…หรือว่าวันนี้ไม่ได้เล่นกับมึงเลยหงอยเหรอ” ลูบหัวความรักเบาๆ มันซบลงที่อก นอนทับผมแล้วจ้องหน้า

“ขอโทษที คิดอะไรนิดหน่อย ขอเวลาสักสองสามวัน เดี๋ยวก็ดีขึ้น โอเคปะ” ทำไมมองตาไม่กระพริบแบบนั้นเล่า ผมจูบที่หน้าผากมันหนึ่งครั้ง

“นอนเถอะ...” แล้วก็หลับตาลง

อาจเพราะไม่เหนื่อยก็เลยหลับยาก...

อาจเพราะคิดมากก็เลยหลับไม่ลง...

อาจเพราะคิดถึงบางคนก็เลย…เป็นแบบนี้

หลังจากโดดซ้อมครั้งแรก...ก็มีครั้งที่สองและครั้งที่สามตามมา ผมไม่ไปที่ฟลอ ไม่กลับไปสนใจเรื่องซ้อมเต้นแม้ว่าสภาพร่างกายจะกลับมาปกติดีแล้วก็ตาม เพื่อไม่ให้เจอพี่มะเดี่ยวอีก พีชกับวิ่งก็เอาแต่ถามว่าทำไมถึงไม่ไป ผมอ้างนั่นอ้างนี่ทุกอย่าง ตอนนี้ช่วงเช้าผมจะรีบตื่นแล้วออกมาก่อนที่พี่มะเดี่ยวจะมาเคาะห้อง หลังจากกลับมาก็รีบนอนเลยทั้งที่ยังไม่สามทุ่มเพื่อไม่ต้องได้ยินเสียงเคาะประตู...

ตลกใช่ไหม...ผมว่าผมตอนนี้ดูตลกมาก เอาแต่หลบหน้า ไม่ยอมเจอเขาเลย แล้วก็ไม่ยอมรับรู้เรื่องของเขาด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่เพื่อนพูดถึงเรื่องที่ฟลอ ผมจะหาอะไรทำไปตามเรื่องตามราวเพื่อไม่ต้องฟังสิ่งที่พวกนั้นกำลังจะพูด แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รับรู้ได้ว่าพี่มะเดี่ยวกำลังซ้อมกับทีมตัวเองเพื่องานแข่งที่จะมาถึงในอีกไม่ช้านี้ อ่อ ได้ยินแว่วๆ ด้วยว่าพี่มะเดี่ยวดูหงุดหงิดอะไรบางอย่างเป็นพิเศษในช่วงนี้

ผมไม่อยากคิดว่าที่แกหงุดหงิดเป็นเพราะผม ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองแบบนั้นเพราะมันจะเหมือนกับที่ผ่านมา ผมเคยคิดว่าเขาชอบผม...คิดว่าเขาโอเคกับผม ทั้งที่มันเป็นผมที่คิดไปเองคนเดียว ส่วนเขาก็แค่สนุกกับความรู้สึกคนอื่น ผมไม่อะไรนะ ไม่โกรธ ไม่เกลียด...แค่อยากไม่รู้สึกอะไรต่อเขาก่อนที่จะกลับไปเผชิญหน้า หรือไม่ก็หยุดเต้นไปเลย ก็ไม่ได้อยากเต้นอยู่แล้วนี่ ที่นั่นมันอาจสนุก...แต่มันอาจไม่เข้ากับคนอย่างผมก็ได้

ผมใช้ชีวิตไปวันๆ เหมือนตอนแรกที่มาเรียนที่นี่ คุยเรื่อเกมได้บ้าง...คุยเรื่องข่าวได้บ้าง แค่ไม่คุยเรื่องฟลอเท่านั้นเอง ความห่อเหี่ยวที่เคยมีหลังจากได้รับรู้เรื่องพี่มะเดี่ยวยังคงมีอยู่ไม่หายไป มันเป็นความเสียใจลึกๆ...นี่ยังไม่ถลำลึกนะเนี่ย ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามีความรู้สึกต่อเขามากกว่านี้ผมจะรู้สึกแย่มากขนาดไหน

แต่ที่น่าเครียดคือ...ความรักมันไปนั่งอยู่หน้าประตูห้องตั้งแต่วันพุธแล้วอ่ะ ผมจะทำอะไร เล่นเกม ดูทีวี หรือกินข้าว มันก็ไม่เข้ามาป้วนเปี้ยนเลย เอาแต่จ้องลูกบิดอยู่แบบนั้น แถมช่วงนี้กินได้น้อย ท่าทางซึมลงไปเยอะ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะผมที่ไม่ร่าเริงเท่าเดิม หรือเพราะมันคิดถึงใครหรือเปล่า...

“มึงโอเคปะวะ…” วันนี้ศุกร์...พรุ่งนี้ผมต้องมาทำงานที่ร้านของน้าบอย ขี้เกียจวะ อยากจะนอนอยู่ห้องโง่ๆ นั่งดูรายการที่เอาดารามาใส่หน้ากากร้องเพลงแล้วให้ทายว่าเป็นใครจังแหะ แบบดูย้อนหลังเอาอะนะ ไม่มีเวลามานั่งดูแบบเรียลไทม์หรอก หรือเอาง่ายๆ...ต่อให้มีเวลาก็ไม่ดู เกลียดโฆษณา

“ไม่รู้…”

“มึงรู้ตัวปะ หลายวันนี้มึงพูดว่าไม่รู้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว” มีคนเดินเข้ามาในร้าน ผมหันไปมองเขาที่ใส่เสื้อผ้าเหมือนนักเต้นครู่หนึ่งก่อนหันมามองหน้าพีชที่พูดเมื่อกี้

“ก็ไม่รู้อีกอะ”

“สาม มึงอย่าทำเป็นมึน...มึงเป็นอะไร” เป็นคน ตอบแบบนี้เพื่อนกระโดดถีบกูออกนอกร้านแน่นอน ต่อให้น้าบอยก็คงช่วยผมไม่ได้

“ความรักมันซึมๆ” เอาเรื่องนี้แหละ นี่ก็เรื่องน่าเครียดเรื่องหนึ่ง แต่ผมไม่ได้บอกกับใครว่ามันดูเปลี่ยนไป คือคนอื่นเหมือนดูไม่ออกว่าความรักมีการเปลี่ยนไปนิดหน่อยเมื่อกลับห้อง ตอนอยู่ที่นี่มันก็ดูร่าเริงดี ยังกินได้และนอนหลับแค่อาจจา...นอนหงอยๆ มากไปหน่อย

“เออ กูก็นึกว่ากูคิดไปเอง มันกินน้อยลงปะวะ...” พีชกันไปมองความรักบนเคาน์เตอร์ เรานั่งกันอยู่โต๊ะใกล้ๆ กับประตูทางเข้า

“ใช่ มันกินน้อยลง”

“มึงก็กินน้อยลง พูดน้อยลง ความรักซึมตามมึงหรือเปล่าสาม” แปลกที่วันนี้มึงไม่กวนตีนเท่าวันไหนๆ นะวิ่ง

“ไม่รู้” ว่าจบก็ก้มลงกดเกมหน้าตาเฉย เดอะสามคนนี้เก่งเรื่องตีมึน

“เอาดีๆ ดิ้...มึงเป็นอะไร” วิ่งใช้มืองัดคางผมจนต้องเงยหน้ามองมัน

“กูเป็นคน”

“ไอ้สาม กูถามดีๆ เนี่ย จะกวนตีนกูหาป้า....มึงเหรอ” ขอบคุณสำหรับความสุภาพของมึงนะวิ่ง รู้สึกดีมากเลยล่ะอยากจะบอก

“มึงหลบหน้าพี่มะเดี่ยวปะ...ที่ช่วงนี้ไม่ไปฟลอเลยเพราะพี่เขาใช่ไหม กลับบ้านก่อน นอนก็เร็ว ไม่อยากเจอพี่เขาอะสิ เกิดอะไรขึ้นวะ ทำท่าจะจีบกันอยู่เลยเมื่อวันอังคารอะ” ไอ้พีชนี่เงียบๆ แต่คำพูดนี่ฟาดเปรี๊ยงเข้ากลางหน้ากูเลยครับ

“ตอบไม่รู้อีกกูตบหัวทิ่มเลยอะ” วิ่งรีบขู่ โหดกันจริงนะพวมึงเนี่ย นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องเข้าเรียนอีกวิชานะ ผมคงได้ชิ่งไอ้วิ่งกับไอ้พีชกลับห้องไปละ ปกติวันนี้เราเลิกเที่ยง แต่วันนี้ดันมีแทรกวิชาหนึ่งเข้ามาอะนะ

“จะไม่จีบแล้วไง”

“เลิกชอบแล้วเหรอ ถ้ามันจะเลิกง่ายแบบนั้นก็ไม่น่าไปสนิทสนมกันขนาดนั้นนี่หว่า หรือว่าบอกเรื่องทัศนคติเกี่ยวกับความรักไปแล้วเขารับไม่ได้...” วิ่งวิเคราะห์เป็นตุเป็นตะ คือถ้าเราได้คุยเกี่ยวกับเรื่องความรักกัน การตกลงคบหรืออะไรเถือกนี้ต้องมีบอกไว้ก่อนเลยว่า ถ้าเกิดเราไม่ใช่ ไม่รู้สึกว่าอยากไปต่อ เราจะต้องบอกกันประมาณนั้น...ผมเป็นคนแบบนี้อะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใจง่าย หมดรักง่ายหรอกนะ

ลองคิดสิ...ถ้าเราคบคนที่เรารู้สึกไม่ใช่ขึ้นมา มันก็จะอึดอัดถูกไหม เมื่อเราอึดอัดแล้ว ระหว่างเรามันก็จะระหองระแหงกัน สู้บอกกับอีกฝ่ายตรงๆ น่าจะดีที่สุด แต่ผมยังไม่ได้คบกับเขา ยังแค่จีบ ไม่สิ...ยังแค่วางแผนจะจีบเอง ก็เลยยังไม่ได้มานั่งคุยกันในเรื่องแบบนี้

“ไม่เชิง...จะว่าไงดี พี่เขาก็แค่แหย่เล่น” ปัดมือวิ่งออกแล้วบอกไปเสียงเรียบ ผมยังมีรอยยิ้มบางๆ ไม่ได้หน้าบูดหน้าบึ้งอะไรนะ

“รู้ได้ไงวะ? เขาบอกมึงเหรอ...พี่มะเดี่ยวนี่นะเล่นๆ กับมึง ถึงพี่เขาจะมีแฟนมาเยอะ แต่เขาก็ไม่เคยคบใครเล่นๆ นะเว้ย” กูจะไปรู้เหรอวิ่ง กูไม่ได้รู้จักพี่เขามานานแบบนั้นนะ

“พี่โซฮานบอก” ผมต้องเชื่อเพื่อนสนิทเขาสิถูกไหม เพราะเพื่อนกันมันรู้กันอยู่แล้วไง

“เขาบอกมึงว่าอะไร” พีชถาม

“ก็บอกว่าอย่าเชื่อพี่มะเดี่ยวมาก พี่มะเดี่ยวเขาชอบให้ความหวังคนอื่น ประมาณเนี้ย” จิ้มเกมต่อไป ประหนึ่งว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีผลอะไรต่อผมทั้งนั้น ซึ่งมันไม่จริง มันมี แค่ไม่มากพอจะให้ดราม่า

“แต่มึงเชื่อเขา...” พีชคิ้วขมวด ผมมองหน้ามันก่อนพยักหน้า

“ก็เพื่อนสนิทกัน” ตัวละครในเกมผมตายพอดี ผมก้มมองหน้าจอแล้วกดเซ็ทติ้งเกมใหม่

“ควาย! หน้าเหมือนหมู หุ่นเหมือนหมา สมองเหมือนควาย!” อ่าวๆ แดกดันกันแบบนี้ผมนี่เงยหน้ามองไอ้วิ่งอย่างไว

“อะไรวะ มึงมาด่ากูทำเชี่ยไรเนี่ย”

“มึงไม่เชื่อพี่มะเดี่ยวแต่มึงเชื่อเพื่อนเขา ถามจริง อนาคตนี่จะเป็นครูสอนเด็กๆ หรือจะกลับไปบ้านไถนาครับเพื่อน” พีชก็แรงนะเนี่ย เอาหอกมาปักอกกูเลยถ้างั้นอะ

“ก็เขาเพื่อนสนิทกัน ก็ต้องเชื่อเขาสิ เขารู้ทันกันอะ”

“กูจะเปิดเพลงน้ำลายกรอกหูให้มึงฟัง รู้จักไหม เพลงน้ำลายของซิลลิฟูลอะมึง แทนที่มึงจะถามพี่มะเดี่ยว มึงกลับไปตัดสินเขาทั้งที่มึงฟังเรื่องนี้มาจากคนอื่น อนาคตมึงต้องเป็นครูสอนคน แล้วเรื่องที่มึงต้องตัดสินใจมันจะเข้ามาอีก ระหว่างเด็กสองคนมีเรื่องกัน…มึงรู้ใช่ไหม ว่ามึงต้องฟังความทั้งสองฝ่ายก่อนตัดสินผิดถูก แต่นี่...มึงฟังความฝ่ายเดียวแล้วตัดสินพี่เขา การศึกษาไม่ช่วยพัฒนาสมองเหรอเพื่อน?” เจ็บสุดตั้งแต่โดนด่ามาก็อันนี้นี่แหละ...ป๊าลาตายก่อนนะความรัก

....100%...

การศึกษาไม่ช่วยพัฒนาสมอง...แรงมากคร้าบ ดาเมจแรงจนสามกระอักเลือดตายแหล่ววววว

ตอนต่อไป...พาร์ทของพี่มะเดี่ยว ถ้าได้ 5 คอมเมนต์พรุ่งนี้เราจิอัปให้รุย~
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: tararatart ที่ 11-11-2017 22:30:48
 :laugh: :m16:กรี๊ดดดดดดดดด   อิป๊าความรัก หนูอย่านางเอกก อย่างโซฮานต้องแบบปั่นมาปั่นกลับไม่โกง. คนเดียว5เม้นเลยได้ไหม   :m20:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 11-11-2017 22:38:37
 :katai1:ขออีก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-11-2017 22:56:26
ด่าแรง แต่ก็กระชากสติเดอะสามกลับมาได้นะ สามมีเพื่อนดี
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 11-11-2017 23:29:13
เดอะสามเจ็บไหมลูก โดนเพื่อนด่า 5555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-11-2017 23:47:48
เอ้าาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 12-11-2017 00:59:18
มึนแบบนี้มันต้องโดนของแรงซะทีจริงๆอะสามมม
สงสารพี่มะเดี่ยวเลยอะ
นี่มองโซฮานติดลบไปแล้ว ไม่แน่ส่าแฟนคนก่อนๆก้อาจจะโดนงี้ด้วย
ไปเคลียบัดเดี๋ยวนี้นะะะ!!
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 12-11-2017 01:26:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-11-2017 01:44:20
 :เฮ้อ:

 :L1: :pig4: :L1:

หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 12-11-2017 06:12:17
ตะเตือนไตมาก  ด่าเจ็บอ่าาา :katai1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Kaamnutt ที่ 12-11-2017 07:03:01
ปรบมือ รัวๆๆๆ ให้ น้องวิ่ง  :katai2 :katai2-1:-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 23 [100%]❤️ -11/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-11-2017 09:42:41
 :L2: :pig4: :L1:

พี่วิ่งมาอรกแซงทางโค้ง สามมันระแวงมาแต่แรก เจออีโซหานเข้าไป ใส่เชื้อขนาดนั้นเลยเป๋
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 24 [100%]❤️ -12/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 12-11-2017 20:47:32
>>ตอนที่ 24 [100%]<<

(มะเดี่ยว)
“อ่าว ความรักอะมึง” ด้วยความง่วงจัด ผมเดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะไล่อาการง่วง ทว่าพอออกมาก็เห็นโซฮานนั่งกดรีโมตทีวี แต่ไม่เห็นความรัก

“กูเอาไปคืนน้องมันแล้ว”

“ซะงั้น กูเอามากูต้องเอาไปคืนสิวะ” แล้วก็จะได้อ่อยสามต่อ อดเลย...อดจริง

“อยากไปคืนเองหรืออยากเจอน้องเขาวะ ไหนว่าจะขออยู่เป็นโสดจนกว่าจะทำงานเก็บเงินสร้างบ้านได้ค่อยมีแฟนไง นี่อะไร อ่อยเช้าอ่อยเย็น อยากได้เขาเหรอ” ไม่อยากได้กูจะอ่อยเขาไหมล่ะ ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน

“น่ารักดีไม่เห็นเหรอ”

“เห็น...แค่น่ารัก” มันว่าเสียงเรียบ รู้สึกว่ามันจะไม่พอใจอะไรหน่อยๆ ผมไม่สนใจไอ้โซหรอก มันก็เป็นของมันแบบนี้แหละ ตอนนี้แค่เสียดายที่ไม่ได้ไปอ่อยสามก่อนนอน

เจอกันครั้งแรกผมประทับใจในหน้าตาสะอาดสะอ้าน ดูเรียบร้อยของสามมากเลยนะแต่พอเขาบอกว่าเขามาหาความรัก...ผมก็เลยนึกไปถึงสมัยอยู่ตรอกข้าวสารกับพัทยา พวกนี้มีศัพท์แปลกๆ บ่อย แต่แปลได้ว่ามาหาคนเอาด้วยน่ะแหละ จากที่ประทับใจหน้าตาก็เกิดไม่ชอบขึ้นมา บวกกับที่มีหมูที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาในห้อง ผมกำลังวาดรูปอยู่ตกใจมาก ต้องรีบส่งวันนั้นเลย แค่ตกใจไม่พอ...แม่งวิ่งชนปลั๊กผมจนคอมดับ หายนะมาก งานหาย กำลังจะจับมันมาฆ่าทิ้งเลยก็มาโดนเคาะห้องเสียก่อน

สามโคตรซวย...ผมด่าเสียหมาเลยล่ะ ด่าไม่บันยะบันยัง แต่แปลกที่เด็กตรงหน้าทำแค่อึกๆ อักๆ ไม่เถียงผมฉอดๆ เหมือนเกย์น้อยทั่วๆ ไป ทว่าอารมณ์นั้นไม่มีการฉุกคิดอะไรทั้งนั้นอะครับ ต้องการไล่ให้ไปอย่างเดียว จนมารู้ว่ามาหาหมูตัวเองเท่านั้นแหละ...หน้าแตกยับ ด่าเขาเสียแรงเลย ด้วยกลัวความเสียหน้า ผมก็ใม่ขอโทษ กะตีหน้าเครียดหนีเข้าห้อง แล้วทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น

ทว่า...คำพูดที่ว่าจะกินหมูตัวเองมันทำให้ผมเป็นห่วง

คือผมเป็นคนไม่กินหมู ไม่ใช่อิสลามแต่สงสารมัน เคยได้ยินเสียงมันร้องตอนโดนเชือดตั้งแต่เด็กๆ ไง แถมคนเชือดเขาก็ไม่มีท่าทีสะทกสะท้านอะไร เจอหน้ากันก็ทักทาย ยิ้มแย้มแจ่มใส ผมเลยเผลอกลัวว่าเด็กนี่มันจะฆ่าหมูตัวเองจริงๆ แม้ไม่เข้ากับหน้าตาใสๆ ของมันเลยก็เหอะ

หลังจากนั้นผมก็เป็นกังวลเกี่ยวกับหมูตัวนั้น ถึงขนาดหาจังหวะไปขโมยมันมาจากเจ้าของเลยนะ ติดที่ผมไม่ว่างแล้วก็ไม่มีช่วงเวลาที่ได้เจอเด็กนั่นเลย จนกระทั่งเจ้าหมูตัวน้อยวิ่งเข้ามาหาที่ฟลอ พร้อมกับร่างเล็กในชุดนักศึกษา...อย่างน้อยในตอนนั้นผมก็เบาใจมากว่ามันยังไม่ฆ่าหมูตัวเอง แต่ด้วยความหมั่นเขี้ยวอะนะ...ผมเลยแกล้งมัน เห็นหน้าตาตอนโดนแกล้งของมันแล้วรู้สึกว่าตัวเองชอบอะไรแบบนี้โคตรๆ เลยอะ

เอ่อ...ได้ข่าวว่าชอบอยู่แล้ว

ฮ่าๆ ปกติก็แกล้งเด็กๆ ในฟลอเต้นเป็นประจำ ได้เห็นพวกมันอับอายแล้วสนุกดี สมัยกูเป็นเด็ก กูโดนยังไงมึงก็ต้องโดนอย่างนั้น อะไรแบบนี้ ผู้ชายนะ ต่อให้แม่งแมนแค่ไหน แต่พอโดนแกล้งให้อาย มันก็มีปฏิกิริยาไม่ค่อยต่างกัน แต่สาม...มันน่ามองวะ

เห็นมันเป็นเพื่อนกับรุ่นน้องที่เต้นด้วยกันมานาน ผมก็เลยลองสอบถามเรื่องของสามจากพีชและวิ่ง เลยได้รู้ว่าที่จริงแล้วแม่งชอบพูดแบบนั้นกับหมูมัน หนำซ้ำยังมาพูดพานให้ผมรู้สึกเป็นกังวลอีก ทีนี้แหละ...แผนการแกล้งเต็มหัวผมไปหมดเลย

เห็นหน้าซื่อตาใสแบบสาม ลึกๆ ผมสัมผัสได้ถึงความกวนส้นตีนและซนซ่ามากๆ มันแค่ไม่แสดงออก เวลาอยู่ต่อหน้าคนเยอะๆ หรือผมเอง ไม่ว่าให้มันทำอะไรมันก็ทำ ไม่เถียง มีแค่โอดครวญเล็กๆ น้อยๆ ตามประสานั่นแหละ ยิ่งเห็นมันขมุบขมิบแอบด่าผมในใจแล้วก็ยิ่งชอบ...

อาจจะเป็นวันไหนสักวัน...ที่ผมเริ่มอ่อยมันเพราะอยากได้มัน คำว่าผีเห็นผีใช้ได้กับคนจำพวกเดียวกัน ผมมีความรู้สึกว่าสามไม่ใช่ชายแท้หรอก เขาไม่ตุ้งติ้งนะ...แต่เขาน่ารักแบบเด็กๆ อะ ทว่าเพื่อความชัวร์ ผมได้หลอกถามเพื่อนๆ ของสามอย่างพีชกับวิ่ง ทีนี้สิ่งที่ผมเชื่อมันก็เป็นจริง...พวกเดียวกันมันคบกันได้อะนะ

โห่...น่ารักขนาดนั้น ถามจริง มีใครไม่อยากได้มันบ้าง พวกประเภทเดียวกันอะ อยากได้มันทั้งนั้นแหละเชื่อเถอะ...สามเหมือนลูกหมูตัวน้อยที่ต้องอยู่ต่อหน้าหมาป่าอะ มันเนียม มันอาย แต่มันก็ยังมีความแข็งกร้าวอยู่ลึกๆ มีความกวนส้นตีนซ่อนอยู่ในดวงตา

ตอนที่รู้ว่าพี่บอยเป็นน้าของสาม ผมนี่ก็ไปตะล่อมถามบ่อยๆ ว่าเด็กคนนี้นิสัยยังไง มันไม่ต่างจากที่ผมคิดเท่าไหร่ พี่บอยบอกว่าตอนอยู่ที่บ้านมันซนมาก เปรี๊ยวจี๊ดสุดๆ ไม่ใช่การชกต่อยมีเรื่องอะไรกับใคร แต่การกวนตีนชาวบ้านและแกล้งชาวบ้านนี่มันก็ไม่ใช่ย่อยนะ

หึหึ...แค่แววตาของมันก็บอกทั้งหมดนั่นแล้ว

“นอนเหอะมึง...” กำลังคิดถึงสามเพลินๆ ไอ้โซฮานเพื่อนซี้ก็เรียก ผมมองนาฬิกานิดหน่อยแล้วก็พยักหน้า

“เสียดาย ไม่ได้อ่อยเด็กห้องตรงข้ามเลย” ถึงสามจะจีบ ผมก็ยังอยากอ่อยให้มันไปไหนไม่รอดอะ เพื่อความชัวร์ว่าจะไม่มีหมาตัวไหนคาบสามไปแดกต่อหน้าต่อตา เอาจริงๆ นะ...อยากได้มันอะ

ผมกล้าพูดว่าผมชอบเด็กคนนี้...เด็กอะไร แกล้งสนุกชิบเป๋ง เวลาทำหน้าอ้อนๆ เสียงงุ้งงิ้งๆ แม่งโคตรน่าหมั่นเขี้ยว สามไม่เหมือนตุ๊ด...เขาเหมือนเด็ก เด็กแบบเด็กเลยอะ คงเพราะเป็นลูกคนสุดท้องแล้วก็มีพี่ชายสองคนละมั้ง นิสัยขี้อ้อนเพื่อเอาตัวรอดเลยติดตัวมา ผมก็มีพี่สาวไง ผมก็อ้อนพี่สาวเหมือนกัน แม้มันจะเป็นเมื่อนานมาแล้วก็ตาม

“เยอะไปละมึง อยู่กับกูก็พูดแต่เรื่องน้องเขา...”

“เอ้า ก็กูชอบน้องเขาหนิ แปลกอะไรที่จะพูดถึบ่อยๆ”

“ชอบมากไม่บุกไปจับทำเมียเลยล่ะ ไม่ยากนี่มึง...ห้องอยู่แค่นี้เอง” ไอ้เลวนี่ก็เถื่อนจริง โซฮานเป็นผู้ชายตัวเล็ก เขากับสามตัวเท่ากันแล้วเมื่อยืนเทียบกับผมที่เป็นลูกครึ่ง สองคนนี้เหมือนเด็ก สูงแค่ไหล่ผมเองมั้ง แต่โซฮานต่างจากสามตรงที่ถึงตัวจะเล็กนิดเดียว ทว่ากำลังของมันเยอะไม่ใช่เล่นๆ ส่วนสามนี่...ด๋อย ได้คำเดียวจริงๆ

เมื่อก่อน สมัยที่ผมยังหัวเลี้ยวหัวต่อก็ตลอนอยู่กับมันเนี่ยแหละ ช่วงวันหยุดจากมหาลัยเราจะไปที่ตรอกข้าวสารบ้าง พัทยาบ้าง ไปเต้นเปิดหมวกหาเงิน บางครั้งที่ต้องไปเต้นในบาร์เกย์ก็มักได้คนที่เขาสนใจเรากลับมาบ้าง ช่วงนั้นนี่ฟรีเซ็กส์เลยล่ะครับ แล้วการที่ผมเป็นคนไม่สนเพศก็มาจากสมัยนั้นแหละ โซฮานก็ใช่ย่อย ไปนั่งให้เขาใช้ปากบ่อยๆ แค่มันน้ำแตกเขาก็ให้แล้วสามพัน เงินดีใช่ไหมล่ะ...ผมก็เคย จากนั้นถึงได้ค้นพบว่ามันไม่แย่นะ เพศไหน เรื่องบนเตียงมันก็พอๆ กันแหละ

“เขามีพ่อมีแม่นะมึง น้องพี่บอยอีก ขืนพี่บอยรู้นะ...กูตายอะ” เห็นพี่บอยดูนุ่มนิ่มแบบนั้น แต่พอมีเรื่องขึ้นมา พี่แกเป็นคนที่แบบ...เอามีดแทงคนได้ไม่รู้สึกอะไรอะ เอ่อ แค่ยกตัวอย่างนะ แกไม่เคยทำ หน้าตาแกเอาเรื่องมากและผมก็ไม่อยากมีปัญหากับผู้มีพระคุณด้วย ก็ถ้าผมไม่ได้พี่บอยแกให้งานทำ ผมก็อาจจะขอเงินพ่อแม่ใช้ไปเรื่อย

ไอ้การเต้นเปิดหมวกหาเงินของบีบอยอะ มันไม่ได้ได้เงินดีขนาดนั้นนะครับ ทุกฟลอมีเจ้าถิ่น มีเฮดฟลอคอยจัดการเรื่องการแชร์เงิน ก็ดูเหมือนเท่าเทียม...ซะเมื่อไหร่ ในฟลอจะมีสองประเภทหลัก อันนี้ไม่ใช่สายการเต้นนะ แต่มันคือความมีอำนาจและเก่งกาจ เราเรียกตัวเก่งๆ เท่ๆ แล้วมีอำนาจในฟลอว่า ‘ตัวแรร์’ ตัวพวกนี้ได้เงินหลักพันถึงหมื่นทุกคืน ย้ำว่าทุกคืนจริงๆ วันไหนได้เยอะ พวกนี้ก็จะยิ่งได้เยอะ

แต่สมัยที่ผมเต้นน่ะ ผมเป็นแค่ ‘ตัวซัพ’ เป็นเด็กๆ ละอ่อน ไม่มีฐานอำนาจในฟลอ คนรู้จักน้อยและไม่เก่งเท่าพวกนั้น เต้นแม่งเป็นสิบรอบ ก็ได้ไม่เคยเกินรอบละหนึ่งร้อยบาท คืนหนึ่งได้สามร้อยถือว่าสุดยอดแล้ว...เห็นไหมว่า มันเป็นชนชั้น เรามองด้วยตาเปล่า เราคิดว่าคนที่ลงฟลอบ่อยๆ ในแต่ละรอบจะได้เงินเยอะตามรอบที่ลงใช่ไหม ไม่เลย ตัวแรร์ แม่งลงแค่รอบเดียว...แต่รอบนั้นมันได้ห้าร้อยถึงพัน

แย่ปะ…แย่ แต่แล้วไง ระบบสังคมเขาเป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ผมไต่เต้ามาจากตัวซัพขึ้นมาเป็นตัวแรร์เป็นที่เรียบร้อย อยู่มานาน มีคนรู้จักเยอะ เก่ง มีฐานอำนาจ…ประมาณนั้น และด้วยความสมัยนั้นเป็นแค่ตัวซัพ ได้คืนหนึ่งร้อยสองร้อยมันไม่พอกินไม่พอใช้ เลยต้องมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านนี้โดยพี่บอยเนี่ยแหละที่เป็นคนเอ่ยปากชวน

“น้องมันชอบมึง มันไม่เอาไปฟ้องใครหรอก” อยู่สังคมง่ายๆ แบบนี้มานานสินะ ความคิดนี่...ไม่อยากด่าเลยว่าเลว เพราะเคยคิดเหมือนมันเมื่อนานมาแล้ว

“ก็ไม่ดีอยู่ดี กูต้องให้เกียรติน้องเขาและพี่บอย”

“เออๆ พ่อคนดี...อ่อยต่อไป อ่อยจนกว่าน้องแม่งจะจีบมึงติดแล้วยอมให้มึงแดกนั่นแหละ” ไม่ปฏิเสธว่าอยากแดก แต่ก็ไม่ได้หวังขนาดนั้นหรอกนะเว้ยเฮ้ย กูเป็นคนดีแล้วนะตั้งแต่ขึ้นปีสามมาเนี่ย เพราะตั้งแต่ปีสามมาผมก็ช่วยงานทางบ้านเต็มตัว ด้วยการเป็นนักวาดให้กับสำนักพิมพ์ของที่บ้าน

“จริงๆ กูโคตรอยากบอกน้องมันเลยว่า ไม่ต้องจีบ แค่อ่อยพี่ตอบพี่ก็ยอมแล้ว...” ผมเอนหลังลงนอนข้างโซฮาน วันนี้มันเหนื่อยเลยไม่ไปเปิดหมวก แล้วก็เสือกไม่กลับห้องตัวเองด้วย บอกทะเลาะกับแฟน แต่...ผมไม่เคยเจอแฟนมันเลย

“อยากบอกก็บอกสิ”

“ไม่เอา ง่ายๆ...ไม่สนุก” อยากแกล้งน้องสามต่อ มันก็ต้องเล่นตัวแบบนี้สิเนอะ

“เห่อๆ ชอบน้องเขาจริงหรือแค่สนุกกับเขาวะ” โซฮานปิดไฟแล้วนอนตะแคงมองหน้าผม

“ชอบดิ ชอบมาก...เลยอยากแกล้ง ทำไมวะ มึงไม่เคยมีโมเมนต์แบบนี้หรอ แบบรักหรอกจึงหยอกเล่นอะ” มันส่ายหัว

“ไม่อะ มีแต่โมนเมนต์เอาแล้วทิ้ง...” ไอ้สัตว์นี่ยิ้มหวานเชียว ผมส่ายหัวกับความเถื่อนของเพื่อนตัวเอง

ก็นะ...เห็นโซฮานมันตัวเล็กๆ อ้อนแอ้นแบบนี้ แต่มันก็ผู้ชายทั้งแท่งนะครับ ให้ผู้ชายใช้ปากได้ เสียบผู้ชายได้ ความเบดในตัวมันมีสูงทีเดียว ยกเว้นเวลาเต้นหรือเล่นกับน้องๆ ในฟลอ มันยังมีความเป็นพี่อยู่ ดูแลน้อง สอนน้องเต้น แค่ติดโหดไปหน่อยเท่านั้น

“เออๆ เอาที่มึงสบายใจเถอะ” ตัดบทมันแค่นี้แหละ...ง่วงจะตาย

พอปิดเปลือกตาตัวเองลง ผมก็หลับลึกทันที ด้วยความซ้อมหนัก แถมยังแบทเทิลเดือดกับคู่อริ แต่ที่ทำให้ผมหลับแล้วมีความสุขมากไม่ใช่เพราะเรื่องเหนื่อยเรื่องเดียวหรอกนะ มันเป็นเพราะเดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมามากกว่า ไม่คิดว่าเราจะพูดเรื่องจีบกันแล้ว...ไม่คิดว่าน้องมันจะตกหลุมอ่อยของผมเข้าเต็มเปาแบบนี้ บอกตามตรง วันนี้ผมโคตรมีความสุขเลยล่ะครับ

ร่างสูงลุกจากที่นอน...เดินไปเปิดประตูห้องฝั่งตรงข้ามอย่างถือวิสาสะ แล้วก็พบกับร่างบางกำลังนอนกอดหมอนข้างใบเปื่อยของตัวเองอย่างมีความสุข เสื้อยืดใส่นอนถลกขึ้นนิดหน่อย ผมขึ้นไปบนเตียง...คร่อมทับร่างของสามเอาไว้

“สามครับ...” กระซิบเสียงพล่าข้างหู เจ้าตัวดิ้นน้อยๆ ก่อนพลิกกายนอนราบ ดวงตาคนด้านใต้ปรือขึ้นสบกับผมในระยะประชิด

“พี่...อื้ม” แค่ปากเล็กๆ ขยับเรียกผมแผ่วเบา ผมก็ตัดสินใจประกบปากตัวเองลงไปบนปากของสาม

นุ่มมาก...นุ่มโคตรๆ มันทั้งหยุ่นจูบมันปากจนอดใจให้ถนอมไม่ไหว ความเป็นเสือในตัวตื่นขึ้น แล้วผมก็ตะโบมจูบสามอย่างดุเดือดมากขึ้น ฟังเสียงหอบหายใจกระเส่าที่คลออยู่ข้างหูพร้อมกับแผ่นอกที่กระเพื่อมขึ้นลง

มือสอดเข้าไปด้านใต้ของเสื้อ สัมผัสกับผิวกายที่นุ่มละเอียด แค่ลูบก็ลื่นขึ้นไปถึงตุ่มไตบนอก ผมแตะมันเบาๆ สามสะดุ้งเฮือกจนเผลอกันริมฝีปาก ซึ่งริมฝีปากที่เขากัดมันคือของผม ราวกับไฟมันได้เชื้อเพลิงอะ…ผมดึงปากตัวเองออกแล้วกัดเขาบ้าง พร้อมทั้งบดขยี้ยอดอกเล็กอย่างมันนิ้ว

“อื้มพี่ครับ…อ๊ะ...สะสามหายแฮ่กใจ ไม่ค่อยทัน พะพี่...ช้า..หน่อยนะ” น้ำเสียงอ้อนๆ บอกในระยะที่ประชิด ผมกดจูบย้ำที่ปากสีนู้ดหนักๆ หนึ่งหน

“ถ้าไม่ได้ละ...ถ้าพี่ไม่อออมแรงละ”

“พี่ไม่สงสารสามเหรอครับ...อ้ะ อื้อพี่ครับ” เพราะเลื่อนมือไปที่จุดกลางกายของสาม กอบกุมมันเบาๆ สามผวาโอบกอดรอบคอของผมพร้อมทั้งร่างเล็กเบียดเข้าหา

“พี่ไม่สงสารสามเลย พี่ชอบเห็นสามทรมาน”

“บ้า...ไม่เอา อื้อ พี่ครับ...อ๊ะ อ๊ะ...พี่มะเดี่ยว” โหย....เสียงเรียกที่ระโหยแบบนั้นทำน้องชายผมลุกพรึ่บแบบดุดัน แล้วมันก็เสียดสีที่หน้าท้องของสาม

“ดูของพี่สิ ของพี่มัน...แข็งมากเลย” คนฟังกัดปากมองผมหน้าแดงก่ำไปหมด

“มะมันใหญ่...”

“ไม่เป็นไร พี่จะทำเบาๆ...” ผมมอบจูบร้อนฉ่าให้สามอีกครั้ง

ส่วนมือก็บีบนวดสามน้อย ละมุนบ้าง ดุเดือดบ้าง มองร่างเขาดิ้นเร่าอยู่ใต้ตัวของผมเอง ผมถลกเสื้อของสามขึ้น ทอดสายตาจับจ้องไปยังเรือนร่างขาวผ่องที่กำลังขึ้นสีแดง เขาหอบหายใจหนักๆ ร่างกายเลยสั่นไหวไปหมด...ผมชอบ ผมเหมือนคลั่งไปแล้ว

ริมฝีปากก็ชอบ แต่เนื้อตัวยิ่งชอบกว่า ผมใช้ปากตัวเองไล่สัมผัสเรือนกายของสามอย่างหื่นกระหาย ทุกปฏิกิริยาในร่างกายของเขามันเร้าอารมณ์ผมมากเหลือเกิน เผลอแป๊บเดียวผมก็ถอดทุกชิ้นออกจากร่างของเขาแล้วก็ตัวเอง

เนื้อแนบเนื้อ แอร์เย็นฉ่ำก็ไม่อาจดับความร้อนรุ่มในตัวผมและสามในเวลานี้ได้ ผมกอดรัดเขาขณะที่เอาส่วนนั้นของตัวเองถูไปกับช่องทาง ฟังเสียงครางหวานๆ หวิวๆ ให้หัวใจกระหน่ำเต้นรุนแรง...

คงได้เวลาที่ผมต้องการ...

“สามเป็นของพี่...โอ้ย!!!!”

WTFFFFFFFF!!!

แขนโซฮานแม่งฟาดเข้าหน้ากูเต็มๆ ไอ้เชี่ยยยยย ฝันที่แสนหวานของกูดับสลายเพราะดั้งกูเกือบหักด้วยแขนมัน นี่แขนคนหรือเหล็กแป๊บฮะ เชี่ย เชี่ย เชี่ย!!! แม่งกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มสุดๆ น้องสามแม่งน่าแดก...น่าเลียไปทั้งตัว โอย นอนแล้วฝันต่อได้ไหมวะ

เซ็ง...

ผมเหลือบตามองนาฬิกาบนผนังไม่ได้อยากตื่น แต่เห็นเวลาแล้วผมลุกก็ได้วะ ถือว่ายังมีเรื่องดีอยู่บ้างที่แขนโซฮานฟาดมาที่หน้าผมพอดี เพราะนี่เป็นเวลาที่สามน่าจะตื่นแล้ว หรือเปล่า...ขี้เซาขนาดนั้นน่าจะยังไม่ตื่น แต่นั่นแหละเรื่องดี เพราะผมจะได้ไปปลุกเขา ให้เขาเห็นเป็นคนแรกของวัน...ได้อ่อยแต่วัน ดีไม่ดีความฝันผมอาจจะเป็นจริงเร็วขึ้น!

ผมรีบเด้งตัวลุกขึ้นแบบไม่สนใจเลยว่าไอ้โซฮานมันจะรู้สึกตัวตื่นตามขึ้นมาไหม ไม่สนใจแม้กระทั่งหัวผมจะฟูและยุ่งเหยิงมากเท่าไหร่ ตอนนี้นะ ดิ่งในสภาพคนเพิ่งตื่นสุดๆ ไปที่หน้าประตู เปิดมันออกแล้วก็ก้าวยาวๆ สามก้าวหยุดยืนที่หน้าห้องของไอ้หมูน้อย...
พี่มะเดี่ยวคนดีของน้องสามมาอ่อยถึงห้องแล้วนะคร้าบ…

....100%....

มาแล้วววววว เอ็นซีเบาๆ ก็มา...เอ๊ะ นั่นเรียกเบาหรือเปล่า ร้อนแรงอยู่นาแม้อยู่ในความฝันเท่านั้นก็ตาม ฮา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 24 [100%]❤️ -12/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-11-2017 23:34:35
ตลกพี่มะเดี่ยว ถึงขั้นเอาไปฝันเลยนะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 24 [100%]❤️ -12/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 13-11-2017 03:40:47
โซฮานนี่ชัดเจนมากกกนะ ทั้งสองมุมเลยอะ
พี่มะเดี่ยวอาการหนักมากกอะ ถึงขั้นเก็บไปฝัน
ท่าทางเก็บกดจริงๆ555 แล้วมาเจอน้องหลบหน้าหลังจากที่ใันแบบนั้นอีก
น่าสงสารเข้าไปอีกกกก
นี่ถ้าสามรุ้ว่าพี่มันฝันอะไรคงเลิกเครียดไปได้เลยทันทีอะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 24 [100%]❤️ -12/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-11-2017 09:29:31
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 24 [100%]❤️ -12/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-11-2017 09:39:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 24 [100%]❤️ -12/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-11-2017 11:28:05
 :serius2:

โซฮานเป็นเพื่อนซี้ หรือเพื่อนไม่ซื่อกันแน่ ไม่ได้บอกเพราะหวังดีกับสาม แล้วว่าเพื่อนตัวเองเลวอีก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 24 [100%]❤️ -12/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: yewlyz ที่ 13-11-2017 18:56:18
วอททททททททโซต้องการอัลไลลลลล ทำไม่สร้างความอตกแยก :mew5:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 24 [100%]❤️ -12/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 13-11-2017 19:55:02
พี่มะเดี่ยว สู้ สู้  :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 24 [100%]❤️ -12/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-11-2017 02:16:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 24 [100%]❤️ -12/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Sky ที่ 14-11-2017 20:57:24
 :กอด1: :กอด1: :mew1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 25 [100%]❤️ -14/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 14-11-2017 22:47:28
>>ตอนที่ 25 [100%]<<

ก๊อกๆ

“คร้าบ...” เสียงขานตอบกังแว่วมาเบาๆ แสดงว่าเขาตื่นแล้ว เออ ตื่นเร็วดีเหมือนกัน

“ตื่นไวนะวันนี้ พี่คิดว่ายังไม่ตื่นก็เลยเดินมาปลุก” พอเจ้าตัวเปิดประตูผมก็เอ่ยทัก แต่...ตามึงโหลอะสาม นี่นอนดึกหรือยังไม่ได้นอนวะ

“ครับ ผมตื่นแล้ว…พี่ไปนอนต่อเถอะ” เจ้าตัวเหลือบมองไปทางด้านหลัง แต่ผมไม่ได้สนใจ สำรวจหน้าโทรมๆ ของมัน ชุดใส่เป็นระเบียบดีแต่หน้าไม่ได้มากเลยอะสาม ตาโหลเป็นแพนด้า หรือเล่นเกมยันเช้า...

“จะไปเรียนเลยปะอะ เอาความรักไว้กับพี่ไหม เดี๋ยวพี่เอาไปที่ฟลอด้วย สามเลิกเรียนแล้วจะไปได้เจอมันที่นั่นเลย” สามอึกอัก มอหน้าผมบ้างไม่มองหน้าผมบ้าง นอกจากเขาดูไม่ได้นอน เขายังแปลกๆ ไป

“ไม่ครับ เดี๋ยวฝากน้าบอยไว้นั่นแหละ ขอบคุณพี่มาก” หรือผมจะคิดไปเอง ทำไมรู้สึก...ห่างเหินกว่าเดิมนะ

“เออๆ งั้นเจอกันที่ฟลอนะ ตั้งใจเรียน” ผมอาจจะคิดมากละมั้ง ผมยีหัวสามเบาๆ

“ครับ...” มองหน้าเขาด้วยความแครงใจอีกที แต่ก็ต้องถอยทัพกลับก่อน

เหมือนมีอะไรแปลกๆ...แต่อะไรวะ?

โซฮานยังนอนอุตุอยู่ที่เดิม ส่วนผมไม่มีอารมณ์จะนอนต่อ วันนี้สามดูไม่เหมือนเดิม ท่าทางและแววตามันสะกิดใจแปลกๆ เรียกว่าเป็นรางสังหรณ์อะไรประมาณนั้นละมั้ง ผมเดินไปเปิดคอมพ์ ในเมื่อนอนต่อไม่หลับก็ทำงาน เรื่องของสามยังวนเวียนอยู่หัว ผมสรุปกับตัวเองว่าวันนี้จะเข้าไปถามเขาที่ฟลอ ยังไงเราก็ต้องซ้อมเต้นด้วยกันอยู่ดี

ทว่า...เมื่อผมไปฟลอ ผมกลับไม่เจอสามเลย

ผมลองถามวิ่งกับพีชที่ซ้อมเต้นกันอย่างตั้งอกตั้งใจ คำตอบที่ได้รับทำเอาผมขมวดคิ้วมุ่นเลยล่ะ สามกลับไปแล้ว...ไม่มาซ้อม เพราะป่วยเหรอ ผมเห็นโทรมนะ แต่ไม่เห็นทีท่าว่าจะป่วยเลย ดูแค่อดนอน หรือนอนไม่หลับอะไรแบบนั้น ผมลองไปที่ร้านพี่บอย ไปดูว่าสามกลับไปแล้วจริงไหม ซึ่งก็จริง ความรักไม่อยู่แล้ว อยากลองตามกลับไปที่ห้องสามเหมือนกัน แต่ผมมีหน้าที่ของผมและผมจะทิ้งมันไม่ได้

ก็ถือว่าเป็นันที่มีสมาธิซ้อมน้อย เมื่อวานสามอาการดีขึ้นแล้ว วันนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าอาการจะหนักลง เพราะงั้นการที่สามบอกว่าเขาป่วยมาซ้อมไม่ไหวมันน่าจะเป็นข้ออ้าง ไม่กลับไปนอนก็ต้องมีอะซักอย่างที่ผมไม่รู้ ผมอยากรีบกลับไปหาเขา ถ้าป่วยจริงก็อยากดูแล...

“เฮ้ย...เหม่อะไรวะ” เซย์เรย์ หรือไอ้เรย์เพื่อนอีกคนในทีมเดินเข้ามากอดคอ แล้วเรื่องทีมนี่แหละที่ทำให้ผมกลับห้องเร็วๆ ไม่ได้ ผมยังต้องซ้อมเต้นสำหรับงานแข่งระดับประเทศ

“มันคิดถึงเด็กที่อ่อยอยู่อะดิ” โซฮานเป็นคนตอบก่อนที่มันจะออนฟลอไป

“อ่อ ไอ้เด็กหมูเมื่อวานนี่ปะ น่ารักดีนะ นึกว่าเป็นแฟนมึง...สรุปอ่อยอยู่”

“เออ ยังอ่อยๆ กันอยู่ แล้ววันนี้แม่งก็ไม่มาบอกว่าป่วย...กูว่ามันไม่น่าป่วยอะ แต่ทำไมไม่มาก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“น้องมันอาจไม่อยากเจอมึงเปล่า...” โซฮานไหวไหล่เหมือนมันก็เป็นแค่เรื่องธรรมดา แต่กับกูมันไม่ธรรมดาเพราะกูชอบน้องเขาไง

“ทำไมต้องไม่อยากเจอกูล่ะ กูยังไม่ได้ไปเหยียบหางน้องมันเลยนะ” แค่บอกว่าน้องมันหลบหน้าก็เริ่มจะมีน้ำโหหน่อยๆ

“เอ้า ก็จะไปรู้เหรอ มึงอาจจะคิดไปเองว่าน้องชอบมึง แต่จริงๆ น้องมันก็แค่แกล้งมึงก็ได้...มึงก็เคยแกล้งน้องเขานี่ถูกไหม คนอะเว้ยคน มึงดูหน้าแล้วรู้ไปถึงสันดานหรือไงล่ะ มันอาจจะแค่ชอบเล่นกับความรู้สึกคนก็ได้ หน้าตาน่ารักขนาดนั้น ไม่มีแฟน...เป็นไปได้เหรอมึง คิดดูดีๆ มึงไม่โง่นะเดี่ยว” คำพูดโซฮานแม่งแทงเข้าอกกูทุกดอกเลยสัตว์

“ก็จริงของไอ้โซนะมึง อย่าคิดมากเลย ซ้อมๆ” คงเพราะผมยังไม่รู้จักสามดี เราไม่ได้สนิทกัน เราเพิ่งจะมาคุยกันและรู้จักกันแค่ไม่กี่วันที่ผ่านมาเท่านั้น ทั้งคนอื่น และตัวผมเองก็ไม่เชิงเชื่อใจมัน...ดังนั้นคำพูดของโซฮานเลยแทงทะลุเข้าสู่ความรู้สึกของผม

นั่นสิ...ผมเพิ่งเจอนน้องเขา เพิ่งได้พูดคุยกันแล้วผมก็ชอบที่น้องเขาเป็นแบบนั้น แต่ใครจะรู้ว่าแท้ที่จริงน้องมันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมเห็น เป็นวิธีแกล้งกันล่ะ ถ้าน้องมันเอาคืนที่ผมทำให้มันอับอายล่ะ บางทีมันกลับมาอีกทีมันก็คงมาบอกว่าพี่ ผมล้อพี่เล่นแบบนั้นก็ได้หนิใช่ไหม

เออ เจ็บ...แค่คิดก็เจ็บแล้วอะ มันเป็นความรู้สึกที่ช็อกแล้วก็ผิดหวัง ผมไม่เคยคิดในแง่นั้น เพราะเชื่อว่าน้องมันน่ารักในแบบที่มันเป็น น้องมันใสๆ ดูแกล้งง่าย ดูชอบคนง่าย แต่ผมลืมไปไงว่า คนเราอะมันดูกันที่ภายนอกไม่ได้หรอกจริงไหม

ผมไม่มีสมาธิเต้นอีกเลยหลังจากโซฮานพูดแบบนั้นกับผม ขนาดเราเดินทางมาซ้อมที่หลังห้าง ตรงตลาดเปิดท้ายกันแล้ว ผมยังนับจังหวะผิดไปบ้าง เต้นดีเลกว่าคนอื่นในทีมไปบ้าง ปกติผมเป็นคนยิ้มง่ายและร่าเริง...ทว่าวันนี้ผมยิ้มยากกว่าทุกวัน ในใจมันมีคำถามแล้วผมก็อยากได้คำตอบจากสาม ถ้าสามบอกกับผมตรงๆ แล้วมันใช่อย่างที่โซฮานบอก ผมก็จะตัดใจ เลิกยุ่งเลิกอ่อยน้องมัน เพราะทำต่อไปผมก็เป็นฝ่ายเจ็บปวด...

ผมอาจจะรักๆ เลิกๆ กับคนอื่นมามากมาย แต่ผมกล้าพูดว่าทุกคนที่ผมคบ...ผมคบเขาด้วยใจทั้งนั้น มันอาจไม่ใช่รักแบบทุ่มทั้งหัวใจแต่ผมก็รักพวกเขานะ เพียงแค่เราไปกันไม่ได้ ด้วยเวลาของผม ด้วยงานของผมและสิ่งที่ผมเป็น หลายคนเข้ามาเพราะผมหน้าตาดี ผมเต้นบีบอยเก่ง ผมดูโดดเด่นเมื่อลงไปเต้นกับคนอื่นๆ หรือแม้กระทั่งเพราะผมได้แชมป์ระดับประเทศมา พอชอบผมที่เป็นแบบนั้นเข้า ตอนเจอความจริงที่ว่าผมไม่ได้มีเวลามากมายมาเทคแคร์พวกเขา...คนเหล่านั้นก็เบื่อและบอกเลิกผมไป

ผมมีงานต้องทำ หลังจากงานผมให้เวลาที่ฟลอก่อนจะให้เวลาแฟน แรกๆ พวกเขาโอเค แต่คนเราอะ...พอรักกันแล้ว คบกันแล้ว จากที่แรกเริ่มโอเคมันก็คล้ายๆ ว่าต้องการมากขึ้น อยากให้ผมพาไปเที่ยวมากขึ้น อยากให้ผมมีเวลาให้มากขึ้น อยากสวีตหวานเหมือนคนอื่นเยอะๆ อยากถ่ายรูปโชว์คนเยอะๆ หรืออะไรอีกมากมายเต็มไปหมด แล้วผมก็ตอบสนองมันไม่ไหว...สุดท้ายจบด้วยการเลิกรา

มีใครอยากให้รักเราสิ้นสุดลงบ้าง...ไม่มีหรอก ทุกคนอยากรักษาคนที่เรารักเอาไว้ให้นานที่สุด แต่เมื่อมันไปกันต่อไม่ได้ มันก็ต้องจบ แค่นั้น...ไม่มีอะไรยากหรือมากไปกว่านั้น เช่นกัน...ผมชอบสาม ผมอยากได้เขา อยากคบเขา...ผมก็ต้องอยากให้เราไปต่อด้วยกันได้ ไม่ใช่แบบนี้

“โอ้ย...!!” เชี่ยยยย ไนกี้ดั้งก์ลงดั้งกูเต็มๆ ผมนี่กุมจมูกตัวเองอย่างไวเพราะรองเท้าของไอ้เรย์แม่งปะทะเข้าจมูกผม

“นั่งเหม่ออยู่ได้ ซ้อมเว้ยซ้อม เป็นเฮดทีมก็ช่วยทำตัวให้เป็นเฮดทีมหน่อยสัตว์ แชมป์อะจะเอาไหม...หรือจะแพ้ให้แม่งหยามอีก” กูเพิ่งพักแป๊บเดียวเองนะเว้ยเนี่ย

“แต่กูเพิ่งพัก...”

“แต่กูคุยกับมึงเรื่องบีทอยู่ ฟังกูด้วย พี่ฟูมันจะทำบีท...จะเอาไหมบีทเต้นอะสัตว์” กรรม ไม่ได้ยินจริงๆ อันนี้

“เออๆ โทษๆ เอาใหม่ดิ้...”

“งั้นมึงตั้งสติแล้วฟังกูนะ...ไม่งั้นอีกข้างของกูจะลงแหม่งมึง”

“ครับ” กูจะตั้งใจฟังครับเพื่อน รองเท้ามึงไม่คู่ควรกับหน้ากูเลยแม้แต่น้อย

เรย์เปิดบีทให้ผมฟัง แล้วบอกว่าต้องการเอาบีทนี้และจังหวะเข้าแทรกช่วงที่เราตั้งเฮดสปิน ซึ่งช่วงเวลามันจะได้พอดิบพอดี ผมเห็นด้วยก็เลยตกลงตามนั้น ทว่าการทำทีมแข่งไม่ใช่แค่นั้นก็จบ เราต้องลองทำดูก่อนว่าได้ไหม ไหวไหมกับสิ่งที่ตั้งสมมุติฐานเอาไว้ ผมต้องตั้งสมาธิอยู่กับสิ่งตรงหน้า มันคืออนาคตของผมแล้วผมต้องการให้มันออกมาดีที่สุดเพื่อจะคว้าแชมป์ปีนี้มาครอง

ไม่ใช่แค่โรมิโอซีเรียสที่น่ากลัว ยังมีอีกหลายๆ ทีม ทั้งบีทฮีโร่ที่เป็นแชมป์ติดกันหลายสมัย ทั้งเด็กหน้าใหม่อย่างสาคูลที่รวมเด็กปี๊ดๆ เอาไว้ในทีมหลายคน ไหนจะร็อกฟลอไลฟ์ ไหนจะ...เมโทลกรูฟเวอร์ซึ่งเป็นเด็กพัทยา มีแต่พวกกเก่งๆ มารวมตัวกัน แล้วเด็กพวกนี้มีความคิดครีเอตมาก คู่แข่งยิ่งเยอะ เรายิ่งต้องทำมันออกมาให้ดี

หลังจากโดนรองเท้าไอ้เรย์เรียกสติ ผมก็กลับมาทำหน้าที่หัวหน้าทีมอย่างเต็มความสามารถ กว่าเราจะซ้อมกันเสร็จก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน ยามไม่มาไล่พวกเราก็ยังไม่กลับ ด้วยความที่ผมเหม่อก็เลยโดนลงโทษให้ไปเปิดหมวกกับพวกมันที่ตรอกข้าวสาร จากนั้นเราจะหาที่ซ้อมเต้นกันต่อ เรียกว่าคืนนี้ทั้งคืนผมต้องอยู่กับทีมตัวเอง ไม่มีเวลากลับห้องจนกระทั่งพระอาทิตย์เคลื่อนขึ้นมาอยู่บนท้องฟ้า...

สามไปเรียนแล้ว...ผมไม่ได้เจอเขา เคาะห้องไปก็ไม่มีเสียงตอบรับ ความเหนื่อยอ่อนทำให้ผมเลือกที่จะนอนก่อนไปตามหา ยังไงซะสุขภาพเราต้องมาก่อนน่ะนะ ผมนอนอยู่แบบนั้นทั้งวันจนกระทั่งบอมโทรมาตามให้เข้าฟลอ ซ้อมมาทั้งคืน กลางวันก็ยังต้องไปสอนน้องๆ อีก เห็นไหม...เวลาที่ผมจะเจียดให้ใครสักคนมันมีน้อยมากจริงๆ แต่ที่ผ่านมาผมก็พยายามมาตลอด สามเองก็เริ่มจะเต้น เขาอยู่ในฟลอด้วย ผมคิดว่าถ้าเป็นเขา...เขาน่าจะเข้าใจผมได้มากที่สุด

ผมรีบไปฟลอ หวังว่าจะเจอสามที่นั่น เฝ้ารออยู่กระทั่งเจอเจอวิ่งกับพีช แต่ผมไม่เจอสาม หนำซ้ำวันนี้ผมยังไม่รู้เหตุผลที่เขาไม่มาซ้อมด้วย แม้กระทั่งเพื่อนเรียนด้วยกันยังไม่รู้เลยว่าสามรีบกลับทำไม แล้วผมเป็นใครจะไปรู้ได้ยังไง

มันเกิดเป็นความหงุดหงิด...เพราะความไม่รู้ทำให้เราไม่มีกะจิตกะใจจะซ้อม ผมตัดสินใจไปที่ร้านพี่บอย เผื่อสามจะมาช่วยงาน แต่พอไปถึงพี่บอยก็บอกว่าสามกลับไปแล้วพร้อมความรัก พี่เขาก็ถามแหละว่าสามไม่ได้ไปซ้อมเหรอ หรือว่ามีปัญหาอะไรกัน แต่ผมไม่ได้พูด แค่รีบบอกเขาว่าสามไม่ไปซ้อมแค่นั้น

คำพูดของโซฮานวนเวียนอยู่ในหัว วันนี้ซ้อมหนีไปมันก็ยิ่งเพิ่มเติมความน่าเชื่อถือ บางทีคงคิดว่าตัวเองไม่น่ามาเล่นแบบนั้นกับผม เพราะเหมือนผมจะเอาจริงก็ได้ สามไม่ได้ชอบผมงั้นเหรอ...แล้วทำไมถึงเล่นกับความรู้สึกของผมล่ะ

ไม่ดิ...สามก็แค่เป็นตัวเอง ผมต่างหากที่ใช้ความรู้สึกตัดสินเขาจากสิ่งที่ผมเห็น ถ้าสามหลอกผมจริง คนที่ผิดคือผมนะ ผมโง่ไง...ผมเชื่อเขา สามไม่ได้ผิดอะไรเลย เหมือนที่เรามักพูดกันเสมอว่าความรักไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่คนเราต่างหากที่ทำให้มันดูเป็นแบบนั้น ผมคิดว่าเราจะไปกันได้ดีเสียอีก...

แต่ถึงแบบนั้น ผมก็ยังอยากได้ยินมันจากปากของสามที่สุด...อยากให้เขาพูดว่าจริงๆ แล้วที่เขาทำแบบนี้มันหมายถึงอะไรกันแน่ ไม่อยากฟังคำคนอื่นแล้วตัดสินเขาเลย ถึงเขาจะหลบหน้าผมจริงๆ ก็เหอะ

“อย่าคิดมากเลยเว้ย ก็แค่เด็กคนหนึ่ง” โซฮานตบบ่าผมเบาๆ เมื่อผมกลับมาจากร้านพี่บอยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“เด็กคนนั้นคือคนที่กูชอบไงโซ” ผมตอบกลับเสียเรียบ ไม่มีอารมณ์ร่าเริงหรืออยากจะเล่นจะหยอกอะไร มันหันมามองหน้า เลิกคิ้วเหมือนเห็นตัวประหลาด

“มึงจริงจังเหรอไง แล้วมึงดูที่น้องเขาทำ มันดูจริงจังกับมึงไหมล่ะ กูว่ามันก็คงเล่นๆ แกล้งมึงคืนจริงๆ ไม่งั้นไม่หายตัวไปเหมือนไม่เคยมีตัวตนแบบนี้หรอก” จะว่าคำพูดเพื่อนไม่ส่งผลกระทบต่อผมก็ไม่ได้ มันส่งผลมากแล้วผมก็เครียดมากขึ้น

“แต่กูก็ยังอยากได้ยินน้องมันพูดชัดๆ”

“แล้วถ้ามันเล่นกับความรู้สึกมึงจริง มันจะมาบอกมึงให้โมโหมันไหมล่ะ สมองมีก็คิดหน่อยเว้ย กูเชื่อ ต่อให้มึงไปกระชากคอเสื้อน้องมันถาม มันก็ไม่บอกหรอก มันจะอ้างนู้นอ้างนี่ไปเรื่อยเพื่อให้ตัวมันรอด” ก็จริงของโซฮาน

“แต่ก็อยากได้ยินอยู่ดี”

“แล้วแต่มึงเลย ถ้าน้องมันมาให้มึงถามอะนะ หรือจะไปเคาะห้องจนน้องแม่งต้องออกมาเปิดล่ะ เป็นกูนะ กูก็ไม่เปิดให้มึงหรอก คิดจะหนีหน้า แล้วหมาที่ไหนจะเดินออกมาเผชิญหน้าวะ” แม่ง...ยิ่งพูดกูก็ยิ่งเครียด ผมคิดตามโซฮาน มีแต่ความจริงที่หนีไม่พ้น แล้วมันก็ช่างน่าหงุดหงิด...

ผมเดินหนีเพื่อน ลงฟลอซ้อมเต้นด้วยท่าโหดๆ ใช้แรงเยอะๆ เพื่อให้ตัวเองเลิกฟุ้งซ่าน แม้บางทีมันจะพลาดจนล้มลงมาเจ็บจนกระอัก แต่ผมก็แค่ลุกขึ้นแล้วซ้อมต่อเท่านั้น ไม่อยากหยุด เพราะไม่อยากคิดถึงสิ่งที่โซฮานบอก มันดูมีความเป็นไปได้สูงที่สามจะเป็นอย่างที่โซฮานพูด ใจจริงไม่อยากให้เป็นแบบนั้น อยากให้น้องเขาเป็นคนดีกว่าที่ผมกลัว แต่จะทำยังไงล่ะ...ต้องทำแบบไหนถึงจะได้เจอน้องเขา

ผมแค่ต้องการคุย...อยากจะเคลียร์ให้มันรู้เรื่อง ไม่ใช่หลบหน้ากันไปหลบหน้ากันมาแบบนี้ ความเงียบมีแต่ทำให้เราคิดมากและคิดไปเอง ถ้าได้คุย ให้รู้ๆ กันไปเลย มันจะดีขึ้นเยอะ จะเอายังไงก็แค่บอกกัน...แค่นั้น

พอใกล้เลิกซ้อมที่มหาลัย เพื่อนๆ ในทีมผมก็ยกโขยงมา เราจะไปซ้อมต่อที่ตลาดเปิดท้ายเหมือนเมื่อวานนั่นแหละครับ แล้วมันก็จะเป็นแบบนี้วนไปอีกสักระยะ ช่วงนี้เป็นช่วงฟอร์มทีม อะไรๆ ก็ยังไม่ลงตัว เราจะมูฟแบบไหน ลงสกิวยังไง พวกเราไม่ใช้แผนผังในการซ้อมแต่ใช้ประสบการณ์แล้วก็ความจำของเราในการจดจำรูปแบบการเต้น ตกดึกไปต่อที่ตรอกข้าวสาร กลับเช้าวนไป...

ถึงห้องก็หลับเป็นตายนั่นแหละ ไม่ไหวหรอก จะไปก่อกวนใครในเวลานี้สภาพแม่งไม่ให้จริงๆ ผมมองประตูห้องตรงข้าม ลองเคาะแล้วไม่มีเสียงตอบรับกลับมา เบอร์โทรน้องเขาผมก็ไม่มี ไลน์หรืออะไรที่ติดต่อน้องเขาได้ไม่มีสักอย่างเลย แล้วไอ้ความอยากถามนี่รุมเร้ามากโคตร

ผมว่า...ผมต้องทำอะไรสักอย่าง

แต่นอนก่อนนะ

“เดี๋ยว...นั่นมึงจะไปไหน มึงต้องซ้อมนะเว้ยเดี่ยว” เสียงโซฮานตะโกนเมื่อผมคว้ากระเป๋าออกมาหลังจากซ้อมให้น้องๆ เสร็จ ไม่ยอมไปซ้อมทีมต่อ ก็บอกแล้วต้องทำอะไรสักอย่าง ที่ผมคิดไว้คือไปหาพี่บอย ขอความช่วยเหลือจากพี่เขา น่าจะได้ เพราะผมว่าผมเป็นคนดีพอที่เขาทั้งคู่จะไว้ใจอะนะ

“ไปหาสาม...”

“เดี๋ยวๆ มึงเห็นเด็กนั่นดีกว่าทีมเหรอ” ไอ้แนเดินเข้ามา มันตัวสูงพอกับผม ผิวเข้มหน้าโหด มันเองก็เป็นหนึ่งในทีม

“ทีมต้องสำคัญกว่าเด็กนั่นปะวะ ถึงมันจะเป็นผู้ชายแต่มันก็เข้าตำราเห็นหญิงดีกว่าเพื่อนนะเว้ย” ไอ้เรย์เสริม แม่งโคตรกดดันกูเลยไอ้ห่า กูแค่อยากจะไปเคลียร์ให้มันจบๆ จะได้ไม่ต้องมารู้สึกค้างคาอย่างที่เป็น ว่าจะเคาะห้องตอนกลับไปแม่งก็เช้าแล้วทุกที วนเป็นลูปแบบนี้เมื่อไหร่กูจะได้เจอน้องเขาวะแม่ง

“เดี๋ยวกูตามไปซ้อม” ว่าแล้วสะพายกระเป๋าเตรียมตัวเดินออกไป ทว่าโซฮานมันดันรั้งแขนผมเอาไว้ก่อน

“มึงให้ค่ากับเด็กคนนั้นมากไปนะ…นี่ทีมมึง นี่คือสิ่งที่มึงต้องให้ความสำคัญนะเว้ย มึงจะทิ้งพวกกูซ้อมแล้วไปตามง้อเด็กนั่นอะนะ ได้อะไรวะกูถาม...คนเอาด้วยอะแม่งมีเยอะแยะ ไปตรอกกูหาให้ก็ได้” เอ้าไอ้เหี้ย จู่ๆ มาพูดอะไรแบบนี้ ผมดึงแขนตัวเองออกจากมือเพื่อน

“สามไม่เหมือนคนอื่น...กูไม่ได้อ่อยน้องเขาเพื่อเรื่องอย่างว่า แล้วกูก็ไม่ได้ทิ้งทีม อย่าพูดเหมือนขาดกูแล้วพวกมึงซ้อมกันไม่ได้ พวกมึงมันระดับไหนกันแล้ว กูแค่ไปไม่กี่ชั่วโมงแล้วจะตามไปซ้อม แค่นี้เองเว้ย แล้วก็...มึงอาจจะเจอคนแย่ๆ มาเยอะ กูเองก็เยอะ แต่กูไม่อยากให้มึงตัดสินน้องมันแบบนั้น อย่าว่ามันทั้งที่มึงและกูก็ไม่ได้รู้จักน้องมันดีพอ...โอเคปะ เพราะถ้าเป็นมึงหรือกู ก็คงไม่อยากให้ใครมาตัดสินเราจากสิ่งที่เขาเห็นแล้วก็คำพูดของคนอื่นหรอกเว้ย” ผมว่าสีหน้าจริงจัง เพราะคำพูดมันว่าร้ายสามมากเกินไป วัดจากสิ่งที่ผมเห็น...ผมว่าสามเป็นเด็กน่ารักคนหนึ่ง ดังนั้นผมถึงอยากคุยกับเขาไง ไม่อยากคิดไปเองเพราะคำพูดไม่ดีของเพื่อน

ผมรีบเดินออกมา เป้าหมายคือร้านของพี่บอย พี่ภูมเป็นเจ้าของห้อง เขาน่าจะมีกุญแจสำรองห้องนั้น แล้วผมก็เชื่อว่า ถ้าผมเล่าเรื่องนี้ให้พี่เขาฟัง พี่เขาน่าจะยอมให้กุญแจสำรองกับผม แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ผมจะเคาะจนประตูแม่งพังเลยคอยดู!

....100%....

บอกตามตรงว่าชั่ววูบหนึ่งเราไม่มั่นใจที่จะอัป นักรบย่อมมีบาดแผล นักเขียนย่อมโดนปฏิเสธงานเป็นเรื่องธรรมดา ฮาาาา ประเด็นอยู่ที่เหตุผลการปฏิเสธละเนาะ เรารู้สึกงานเราแย่จัง... ตอนนี้ก็นอยด์อยู่ แต่เราเต๋มที่หัวงานนี้นะ...เราเต็มที่กับมันจริงๆ ^^
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 25 [100%]❤️ -14/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-11-2017 22:59:47
รักพี่เดี่ยวเลย
โซฮานเป็นเพื่อนที่เ-ี้ยมากอะ เสี้ยมทุกฝ่ายเพื่อ?

เป็นกำลังใจให้คุณคนเขียน :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 25 [100%]❤️ -14/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 14-11-2017 23:16:45
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 25 [100%]❤️ -14/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 15-11-2017 00:04:14
เกลียดโซฮานอะ
จะมาพูดที่หลังว่าหวังดี เข้าใจผิด หรืออะไรก้ฟังไม่ขึ้นทั้งนั้นอะ
เพื่อนแย่ๆเราก้ไม่นับว่าเป็นเพื่อนอะ
ไปค่ะพี่มะเดี่ยว ไปเคลียร์
หลังจากน้องสามโดนเพื่อนจูนสติไปแล้ว
น่าจะอยากคุย อยากเคลียร์ อยากถามแล้วแหละ
ถ้าเค้าเปิดอกคุยกันตรงๆ โซฮานนี่หมาเลยอะ
แต่อยู่ทีมเดียวกันพี่เดี่ยวจะจัดการยังไงอะ
ปล.เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
การที่ผลงานเราไม่ได้รับเลือกไม่ได้แปลว่ามันไม่ดี หรือเราไม่พยายามนะคะ
มันอาจจะแค่ ยังไม่พอ ในสายตาเค้าก้ได้ค่ะ
เราทำอะไรไม่ได้เพราะเราอยู่ในสถานะผู้ถูกเลือก ไม่ใช่ผู้เลือก
เราทำได้แค่พยายามมองหาจุดที่มันยังไม่พอ แล้วแก้ไขให้มันดีพอนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ เราชอบเรื่องนี้นะ ไม่เคยอ่านเรื่องไหนที่เล่าเรื่องในวงการนี้มาก่อนเลย
เหมือนเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่อาจจะไม่ได้ดูเท่ห์เท่าวงการรถแข่ง หรืออะไรพวกนั้น
แต่มันแปลกใหม่มากๆเลยค่ะ ถือเป็นประสบการณ์การอ่านที่ดีของเราเลย ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 25 [100%]❤️ -14/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Sky ที่ 15-11-2017 01:11:26
ยังดีที่พี่มะเดี่ยวขอเราไม่เชื่อเพื่อนมากเกินไป
ถึงจะหวังดีแค่ไหนแต่ยังไงคุยกับน้องสามก็ดีที่สุด
ในทางร้องสามก็ผิดที่ฝังคนอื่นมากกส่าตัวต้นเหตุ
แต่เราก็ให้อภัยนะน้องยังเด็กผู้ใหญ่เตือนก้ฟัง
ในทางของโซฮานไม่ชอบเลยหวงก้างอย่าทำให้ความเป็นเพื่อนกับพี่มะเดี่ยวหายไปเลยทางที่ดีคนแต่งควรรีบหาคู่ให้โซฮานอย่างด่วนจี๋จะดีมากเป็นกำลังใจนะจ้ะ :mew1:  :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 25 [100%]❤️ -14/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 15-11-2017 14:52:47
 อยากรู้จุดประสงค์ของโซฮาน
ชอบมะเดี่ยวใช่ไหมเลยมาปั่นหัว

ชอบคำพูดสุดท้ายของมะเดี่ยวมาก
ไม่รู้จักดีอย่ามาว่าร้าย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 25 [100%]❤️ -14/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 15-11-2017 16:44:08
 :z6: โซฮาน  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 25 [100%]❤️ -14/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 15-11-2017 22:03:35
 :hao7: คิดถึงความรักก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 26 [100%]❤️ -15/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 15-11-2017 22:34:32
>>ตอนที่ 26 [100%]<<

“ไง...ทำไมหน้าเครียดมาเลยล่ะ” พี่ภูมเอ่ยทักเมื่อผมเดินเข้ามาด้านใน

“เครียดดิ หลานพี่บอยเล่นหายหัวไปตั้งแต่วันพุธ นี่วันศุกร์ล่ะยังไม่ยอมเข้าฟลอมาซ้อมเต้นเลย” ผมนั่งลงที่เก้าอี้ขาเดียวทรงสูงหน้าเคาน์เตอร์ พี่บอยเดินมาจากล้างถ้วยมองหน้าผม

“เอ้าจริงดิ เห็นมารับความรักเร็วทุกวันก็นึกว่ามารับไปซ้อมเต้นด้วยซะอีก มีอะไรหรือเปล่า ได้ถามพีชกับวิ่งไหม” ผมส่ายหัว

“ถามแล้ว แต่พวกนั้นตอบไม่ได้ มันว่ามันถามแล้วแต่สามไม่บอกอะไร ทำเป็นมึนเปลี่ยนเรื่องตลอด แต่วันนี้ผมยังไม่ได้ถาม มัวแต่หงุดหงิด” วันนี้ดูนาฬิกามากกว่าทุกวันด้วย อยากจะเลิกซ้อมเร็วๆ เพราะมันคาใจ ยิ่งปล่อยไว้นาน ก็ยิ่งคิดมากแล้วก็หงุดหงิดมากขึ้น

เสียงเปิดประตูร้านดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา ผมถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะรับรู้ว่าข้างๆ มีคนเดินเข้ามานั่งด้วย พอหันไปมองก็เจอวิ่งกับพีชที่เหงื่อโซมกาย นี่พวกมึงวิ่งมาจากลานกิจกรรมกันหรือไง สภาพแม่งอย่างกับตากฝนมา

“นั่นไง ถามวิ่งกับพีชสิ...ไหน บอกน้าหน่อยทำไมสามไม่มาซ้อมเต้น” พี่บอยเป็นคนตั้งคำถามกับพวกมัน

“ผมมาก็เพราะเรื่องนี้อะ ว่าจะบอกพี่ตอนอยู่ที่ฟลอแล้วแต่เห็นพี่มะเดี่ยวอารมณ์ไม่ดีเลยไม่กล้าเข้าไป กลัวโดนเตะคอขาด” ไอ้วิ่งนี่พูดจากวนตีนตลอด

“งั้นตอนนี้ก็พูดดิ” หันไปจ้องหน้ามันทั้งสองตัว

“เอ่อ...ผมต้องถามพี่ก่อนว่า พี่เล่นๆ กับไอ้สามมันปะ” คำพูดพีชทำเอาทุกสายตาหันมาจ้องมองที่ผม ก็พี่บอยพี่ภูมเป็นน้าไอ้สามมันนี่ เฮ้ย...หัวกูจะแตกก่อนได้เคลียร์กับน้องมันเปล่าเนี่ย

“อ่าวเดี่ยว หมายความว่าไง มีอะไรกันพี่ไม่รู้เหรอ” พี่บอยเสียงเข้มขึ้นมาทันที

“ถึงว่าสามซึมๆ ที่แท้เพราะมะเดี่ยวเหรอ” เอาแล้ว...งานเข้ากูแล้ว พี่ภูมเองก็มีท่าทีเอาเรื่องเหมือนกัน

“เฮ้ย เปล่านะ ผมยังไม่ได้เล่นๆ อะไรกับน้องมันเลย เออ ถ้าแกล้งอะว่าไปอย่าง”

“นั่นไง แกล้งอะไรน้อง ไหนมึงพูด” เหมือนเดินอยู่ดีๆ ก็มีกระถางต้นไม้หล่นใส่หัวดังตุ้บ พี่บอยจะไม่เอามีดมาแทงกูใช่ไหม

“ก็แค่แกล้งปกติ...” ก็ถ้าถามว่าแกล้งอะไรทำไมน้องมันหนีหน้าผมแบบนี้ผมไม่รู้จริงๆ นะเว้ย วันนั้นเราก็ยิ้มกันอยู่เลยอะ ไม่ได้มีอะไรที่ผิดใจกันแน่ๆ

“ที่พี่บอกว่าให้สามจีบพี่ได้...คือแกล้งมันใช่ปะ อ่อ สรุปว่าสามมันก็เข้าใจถูกแล้วดิที่พี่เล่นกับความรู้สึกมันอะ” เดี๋ยวๆ เรื่องเหี้ยไรวะเนี่ย...ผมมองทั้งหมดด้วยสายตาตกใจ คือพวกเขาไม่ตกใจกับผมนะ แต่หน้าตาเอาเรื่องผมมากอะตอนนี้

“หมายความว่าไงวะมะเดี่ยว!” ฉิบหายแล้ว...ฉิบหายแล้วกู!

“เดี๋ยว พี่ฟังผมก่อน...เรื่องให้น้องมันจีบอะผมไม่ได้ล้อเล่นนะเว้ย ผมไม่ได้แกล้งมันเรื่องนั้น” รีบยกมือปฏิเสธจนมือแทบจะพันกัน ผมนับถือพี่บอยพี่ภูมเหมือนพี่แท้ๆ อะ ถ้าพวกเขาโกรธหรือเอาเรื่องผมนี่ผมจะรู้สึกแย่มาก

“ถ้าไม่ได้แกล้งสามมันจะโดดซ้อมเหรอ เอาดีๆ...พูดมาตรงๆ ถ้ามึงไม่อยากหัวแตกออกจากร้าน” เอามาดีๆ อะไรละเว้ย กูยังไม่รู้เรื่องเชี่ยไรเลยเนี่ย ก็...เมื่อคราวก่อนที่ไปปลุกน้องมันอะ มันก็ยังดีๆ อยู่เลย ก่อนแยกกันไปมันก็ยังยอมให้ผมเอาความรักไปเล่นด้วยอยู่ เออ แล้วความผิดผมมันอยู่ตรงไหนล่ะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเว้ยเนี่ย!

“ผมไม่รู้พี่…แต่ผมไม่ได้แกล้งมันเรื่องนั้นแน่ๆ แล้วผมก็ไม่รู้ว่าทำไมน้องมันถึงหนีหน้าผมแบบนี้ จำได้ว่าผมยืมความรักไปเล่นที่ห้อง ตอนเช้าก็ยังไปปลุกน้องมันอยู่เลยอะ ก็ยังคุยกันปกติ แต่วันนั้นมันก็ไม่มาซ้อม นี่ผมไม่รู้จริงๆ นะพี่ ถ้ารู้ผมจะเครียดเหรอ” รีบพูดทันทีเพื่อไม่ให้หัวแตก ต่อให้ซ้อมเต้นมาหัวแข็งแค่ไหน เจอของที่แข็งกว่ายังไงแม่งก็แตก

“ก็พี่โซฮานบอกว่าพี่อะก็แค่พูดแหย่เล่นไปงั้น” คิ้วกูขมวดเป็นปมผูกโบแล้วเนี่ย

“โซฮาน?”

“เออ ไอ้สามมันบอกว่าพี่โซฮานบอกว่าอย่าเชื่อพี่มาก พี่อะแค่แหย่เล่น” พีชจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง กูสิต้องเครียด ไม่ใช่พวกมึงนะเว้ย

“เพื่อนผมมันชอบพี่นะ แล้วพี่มาทำแบบนี้ได้ไงวะ...เลว” วิ่งด่าผมอีกคน แต่ผมยังไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไร คอเสื้อยืดแขนกุดก็โดนร่างเล็กๆ ของพี่บอยที่อยู่อีกด้านของเคาน์เตอร์กระชากเข้าให้เต็มแรง

“เมื่อก่อนมึงจะสำมะเลเทมายังไงกูไม่เคยว่า นั่นมันชีวิตมึง...แต่มึงจะมาทำตัวเหี้ยๆ ใส่หลานกูแบบนี้ กูยอมไม่ได้ มึงรู้ไหม..ทั้งสามทั้งความรักมันซึมเพราะมึงอะ มึงคิดบ้างไหม...คิดไหมว่าใอ้การแหย่เล่นของมึงมันทำร้ายคนอื่นน่ะหา!”

“ใจเย็นบอย” พี่ภูมรีบจับมืออีกข้างของพี่บอยเอาไว้ ผมบอกแล้ว อย่าทำให้คนๆ นี้โกรธ ตัวเล็กแต่ไม่อ่อนแอนะครับ

“พี่ พี่ฟังผมก่อน..ผมไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ”

“มึงไม่ได้พูดแล้วไอ้โซฮานมันพูดได้ไง มันก็เพื่อนมึงอะ!” ก็กูงงอยู่นี่ไงพี่ ว่าทำไมไอ้โซฮานมันถึงไปพูดกับสามแบบนั้น ต้องเป็นตอนที่มันเอาความรักไปให้สามแน่ๆ เลย เพราะหลังจากนั้นผมก็รู้สึกว่าสามแปลกๆ ไป แสดงว่าเช้าวันนั้นที่ผมรู้สึกมันเป็นเรื่องจริงสินะ

“ก็ผมไม่รู้ ผมไม่รู้จริงๆ ว่ามันไปพูดกับน้องแบบนั้นได้ยังไง แต่พี่ต้องเชื่อผมนะว่าผมไม่ได้พูดแบบนั้นเลย...ผมไม่เคยคิดเล่นๆ กับสามนะพี่ ที่ผมบอกมันอะ ผมพูดจริง”

“กูไม่เชื่อ!” ทั้งที่ตัวเล็กมากแต่ดึงผมเข้าหาตัวเองจนหน้าอกกระแทกเข้ากับเคาน์เตอร์หินอ่อนอย่างแรง คนในร้านเขาตกใจตั้งแต่พี่บอยขึ้นเสียงแล้วล่ะครับ บางคนหนีไปแล้วด้วย แต่ผมก็ไม่มีเวลาสนใจ ไม่มีใครสนใจรอบด้านทั้งนั้นในตอนนี้

“บอยใจเย็นๆ....”

“ไม่เย็นแล้วภูม ดูแม่งทำกับหลานเราดิ นี่กูไว้ใจมึงนะ...กูช่วยเหลือมึงมาตลอด แต่มึงทำกับหลานกูแบบนี้อะนะ” น้ำเสียงของพี่บอยทั้งโกรธทั้งผิดหวังในตัวผม แต่ในความรู้สึกของผมตอนนี้มึนงงไปหมด ทุกอย่างมันบานปลาย...ผมเองก็ตามหาสาม ผมเองก็ถูกพูดว่าสามมันแค่เล่นๆ กับความรู้สึกผม...ถูกพูดเหรอ

คนที่พูดก็โซฮาน...แล้วคนที่บอกสามว่าผมเล่นๆ กับความรู้สึกสามก็โซฮาน เพื่ออะไร...มันทำแบบนี้เพื่ออะไร ผมไม่เข้าใจ ผมไม่รู้เลยว่าสิ่งที่มันทำลงไปนี้มันจะได้อะไรกลับมา แน่นอนว่าผมต้องไปถามเอาความจริงจากมันแน่ๆ แต่ตอนนี้อะนะ ผมต้องเคลียร์กับพี่บอยก่อน

“พี่บอย...พี่บอยฟังผมนะ ผมไม่เคยคิดเล่นๆ กับหลานพี่บอย ผมชอบสาม...ผมชอบน้องเขานะพี่” ผมอยากให้พี่เขาเชื่อผม แต่ไม่เลย พี่บอยยังคงมองหน้าผมแบบกินเลือดกินเนื้อ

“ถ้ามึงชอบสามแล้วโซฮานไปพูดแบบนั้นได้ยังไง”

“ผมไม่รู้อะพี่ ผมไม่รู้จริงๆ อย่างที่ผมบอกอะ...ตอนเช้าวันพุธผมก็ปลุกน้องอยู่เลย แต่แบบ...น้องมันก็แปลกๆ ไปแล้วสามก็ไม่มาซ้อมเต้นตั้งแต่วันนั้น ผมก็เครียดมาตลอด ไม่ว่างไปเคาะห้องเลย นี่ก็ว่าจะมาขอกุญแจพี่เพื่อไปเคลียร์กับสามให้รู้เรื่อง พี่เชื่อผมเหอะ...ผมชอบน้องเขาจริงๆ ผมไม่ได้มาหลอกนะ ผมไม่กล้าทำแบบนั้นกับหลานชายของพี่หรอก...ผมรักและนับถือพี่มากพี่ก็น่าจะรู้อะ" พี่บอยเริ่มนิ่ง มองผมอย่างจับผิด รวมถึงคนอื่นๆ ด้วย

“พี่...เชื่อผมเหอะนะ” ยกมือไหว้หวังให้พี่มันให้อภัยกับสิ่งที่ผมไม่ได้ทำ เออ...ผมไม่ได้ทำจริงๆ นะเว้ย เกิดเรื่องแบบนี้ได้ไงผมยังไม่รู้เลยเนี่ย

“กูจะเชื่อมึงได้ยังไง...”

“พี่ก็รู้จักผมดี ผมเปลี่ยนแฟนบ่อย...แต่ผมไม่เคยหลอกใครนะพี่” ได้โปรด ให้อภัยผมเถอะ...รู้สึกผิดมากอะ เพราะพี่เขามีบุญคุณกับผมมากจริงๆ

พี่บอยมองหน้าผมนิ่งก่อนจะคลายมือตัวเองออกจากคอเสื้อของผม หายใจโล่งขึ้นเยอะ แต่สีหน้าและท่าทางเอาเรื่องของพี่ท่านยังอยู่ เอาง่ายๆ ว่ายังไม่เชื่อผมร้อยเปอร์เซ็นนั่นแหละ แต่คงรู้ดีว่าผมเป็นคนยังไง ตอนนี้พี่เขาน่าจะโกรธผมมาก...โกรธที่มารู้ว่าผมหลอกหลานรักเขา

“แล้วเรื่องโซฮานพูดอะ มึงจะอธิบายว่าไง” ผมส่ายหน้า

“ผมไม่รู้...ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันพูดแบบนั้นทำไม” แล้วผมก็ไม่กล้าบอกด้วยว่ามันเองก็พูดทำนองเดียวกันนั้นกับผมด้วย ผมไม่อยากขายเพื่อน ไม่อยากให้พี่บอยที่ผมเคารพรักต้องมาเกลียดเพื่อนซี้ผม

“งั้นมึงไปเคลียร์กับสาม แล้วเอาคำตอบจากไอ้โซฮานมาให้กูด้วย ไม่งั้นนะ...มึงไม่ต้องมายุ่งกับหลานกูอีกเลย” เวรกรรมแล้วไง แล้วถ้าไอ้โซฮานมันไม่ยอมบอกผมล่ะ

“สรุปพี่ไม่ได้หลอกไอ้สามใช่ปะ” นี่พวกมึงไมได้ฟังกูเหรอวิ่ง กูอธิบายจนน้ำลายฟูมปากแล้วเนี่ย

“ไม่อะ อ่อยมันอยู่ทุกวันนี้ก็อยากได้มาเป็นแฟนนี่แหละ”

“เล่นของสูงด้วยนะ” ไอ้พีชบ่นลอยๆ แต่ผมเข้าใจ...ของสูงของมันหมายถึงพี่บอยกับพี่ภูมนี่ไงล่ะ เกิดทำสามเจ็บขึ้นมานี่กูตายอย่างเดียว

“ก็...ทำไงได้ ใครให้มันน่ารัก พี่บอย…คือผมขอกุญแจห้องสามทีได้ไหม”

“ไม่ ไปเคาะห้องเอาเอง กูยังเคืองมึงอยู่…เดี๋ยวๆ กูคุยกับสามเมื่อไหร่มึงโดนเคลียร์อีกรอบแน่” แล้วพี่บอยก็เดินหนีไป เหลือทิ้งไว้แค่พี่ภูม ผมส่งสายตาอ้อน แต่พี่เขาก็ไม่เห็นใจ

“พี่ไม่รู้นะว่าใครพูดจริง ใครโกหก แต่พี่ก็อยากเชื่อว่าเราพูดจริงนะ...สู้ๆ” พี่ภูมตบไหล่ผมนิดหน่อย พอหันมาหมายจะขอความช่วยเหลือจากพีชกับวิ่ง พวกมันก็พากันตบไหล่ผมคนละทีสองที

“สู้ตายวะพี่ ไปซ้อมล่ะ” พีชเดินออกไปก่อน

“ขอให้ได้ขอให้โดนนะ ผมไปละ” ตามด้วยวิ่ง สรุป...กูจะมาขอความช่วยเลือกลับโดนสวดยับ เกือบโดนต่อยอีกต่างหาก

แต่นั่งคิดมากอยู่ตรงนี้ต่อไปก็ไม่ช่วยให้ผมหายข้องใจหรอกนะ รู้แล้วว่าสามหนีหน้าผมทำไม แต่เสือกมีเรื่องใหม่ที่ทำให้ผมเครียด โซฮานมันไปพูดแบบนั้นกับน้องสามทำไมวะ น้องมันก็ไม่ได้ทำอะไรให้มันนี่หว่า หรือว่าจะแกล้ง...ผมคิดออกได้แค่นั้น เพราะนอกจากผมจะขี้แกล้ง แกล้งชาวบ้านเขาไปทั่วแล้ว แต่โซฮานมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผมเลยนะ ติดที่ว่าทำไมต้องแกล้งกันแบบนี้วะ นี่มันสะเทือนถึงความสัมพันธ์คนสองคนเลยนะเว้ย

อืม...คิดอีกแง่ก็อาจจะทำให้เรารู้ใจกันงี้ หรือว่าทดสอบความรัก นี่กูเป็นคนโลกสวยตั้งแต่เมื่อไหร่ คือผมมองเพื่อนตัวเองในแง่ร้ายไม่ออกอะ ปกติมันก็ไม่เคยเข้ามายุ่มย่ามกับความสัมพันธ์ของผมกับแฟนผมนะ แล้วทำไมรอบนี้ถึงยุ่ง...

แม่ง อยากจับมานั่งรวมกันกับสามจริงๆ กูจะได้ถามแม่งทีเดียวทั้งหมดแล้วคลายปัญหาคาใจให้เกลี้ยงในทีเดียวไปเลย แต่คงไม่ได้ โซฮานมันไปซ้อมแล้ว โทรตามยังไงมันก็ไม่น่ามาหรอกนอกจากผมโดนกระทืบนู้นแหละ

ผมรีบนั่งวินมอเตอร์ไซก์กลับมาที่คอนโด ขายาวๆ ของตัวเองนอกจากจะสวยมากตอนเต้นแล้ว ยังมีประโยชน์ในการเดินเร็วมากอีกต่างหาก ตอนนี้ผมกระวนกระวาย นี่สามยังไม่ตัดใจจากผมใช่ไหม อ่อยใหม่นี่เหนื่อยมาเลยนะเว้ย...แต่ถ้าต้องอ่อยใหม่จริงก็คงยังดีกว่าการตัดขาดกันไปอะ นานๆ มาเจอคนถูกใจก็อยากเก็บเอาไว้คนเดียวไหมล่ะ

ผมรีบสาวเท้าไปตามทางเดินที่ทอดยาว ระยะมันค่อยๆ ใกล้เข้ามาทีละน้อย ผมอยากให้พรึ่บ! ถึงเลยงี้มากกว่าอะ แต่มันไม่ได้ จะวิ่งก็เดี๋ยวเสียงดัง...อดทนเดินไปเรื่อยๆ ให้ถึงหน้าห้องที่ผมอยากเคาะมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา

“ความรักมานี่ ไปนั่งอะไรหน้าประตู...เขาไม่มาหรอก มาหาป๊าเถอะ” นั่นเสียงสาม แล้วความรักนั่งหน้าประตูเหรอ..เขาเหรอ เขาคือผมใช่ไหม ต้องใช่ ยังไงก็ผมชัวร์ๆ งานนี้จะว่าหลงตัวเองก็ได้แต่ผมเชื่อแบบนั้น

“ไม่เอาหน่า แกอย่าซึมงี้สิวะ ไปเหอะ...ไปกินข้าวกัน”

“คร่อก...คร่อกๆ” เอาหูแนบประตูก็ได้ยินเสียงความรักเบาๆ

“ความรักแกอย่าเป็นแบบนี้สิ ป๊าเป็นห่วงนะรู้ไหม...ไปกินข้าวกับป๊านะ ผอมลงไปเยอะแล้วรู้เปล่า ไขมันน้อยมันไม่อร่อยน้า” ดูมัน ยังจะมาขู่ความรักอีก

“อู๊ดดดดดด” จู่ๆ ความรักก็ร้องเสียงดังและยาว…

“ฮรึก...ไปเอา ไปกินข้าว ไปกินข้าวกับป๊า แกจะมาอดข้าวประท้วงแบบนี้ไม่ได้ นะๆ ความรัก กินข้าวกับป๊าเถอะป๊าขอร้อง...” เสียงของสามสั่นเครือ มันอาจจะได้ยินไม่ชัด แต่ผมคิดว่าเขาน่าจะร้องไห้

เจ็บที่อกไปหมด...ทั้งหมูทั้งคนเป็นเอามากนะเนี่ย ผมจำได้ว่าพี่บอยบอกทั้งคนทั้งหมูซึมไปตามๆ กัน สามคงเสียความรู้สึกมากที่โซฮานบอกกับสามแบบนั้นแล้วเพราะแบบนั้นมันก็เลยลามไปถึงความรักด้วย สัตว์เลี้ยงมักจะรับรู้อารมณ์ของเจ้าของได้ และบางครั้งมันก็จะซึมซับอารมณ์ของเจ้าของจนตัวเองก็พลอยเป็นไปด้วย

“เขาไม่ใช่พ่อแกนะความรัก ป๊าสิป๊าเป็นพ่อแก ไปกินข้าวกันเถอะ...ไปเถอะนะ แล้วเราก็ไปอาบน้ำด้วยกัน นอนด้วยกันไงความรัก” สามยังคงเกลี้ยกล่อมวามรักไม่เลิกรา

“อย่าเป็นแบบนี้...อย่าเป็นแบบนี้ความรัก นั่งเฝ้าหน้าประตูทุกวันก็ไม่ได้เจอกันหรอก”

“เปิดประตูสิ...แล้วจะได้เจอกันไง” ผมพูดขึ้นเสียงปกติ แต่มันดังพอสมควร

“อู๊ดๆ....คร่อก..คร่อก....” เสียงความรักตอบกลับมาก่อนใคร ตามด้วยเสียงตะกุยประตูที่ค่อนข้างดัง ต่างกับสามที่เงียบหายไปเลย เขาคิดอะไรอยู่ผมไม่รู้หรอก ผมไม่ใช่เทวดานางฟ้าที่จะรู้ความรู้สึกคนที่อยู่อีกฝากของประตูได้ กลับกัน...ผมได้แต่ขอให้ดนใจสาม ให้สามเปิดประตูให้กับผม อย่าเชื่อคนอื่นมากจนไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูดเลยเถอะ

“ไม่อยากเจอกันจริงเหรอ...พี่อยากเจอสามนะ อยากเจอความรักด้วย...ความรักอยู่ในนั้น เปิดประตูให้พี่เจอหน่อยสิ” เสียงตะกุยประตูดังขึ้นไม่หยุดหย่อน แต่คนด้านในก็ยังไม่ยอมเปิด

“สามจะปล่อยให้ความรักตรอมใจตายเหรอครับ” ไม่รู้หรอกว่าอาการความรักมันมากขนาดนั้นไหม ขู่ไว้ก่อน สามจะได้เปิดประตู

“ไม่ครับ” คำขู่ได้ผลเสมอกับเด็กคนนี้ สามค่อยๆ เปิดประตูออกมา ความรักมันเอาหน้าดันประตูให้อ้าออกก่อนวิ่งหลุนๆ เข้ามาคลอเคลียที่ขาของผม

“ขอเข้าไปหน่อยนะ” สามไม่ตอบ แค่พยักหน้า ผมเลยเดินเข้ามาในห้องที่ยัง...รกเหมือนเดิม

....100%....

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ เราดีขึ้นแล้วล่ะ อย่างน้อยก็เต็มที่สุดๆ เราไม่ถนัดอะไรแบบนี้เลยล่ะค่ะ พยายามมาก ตอนนี้ที่หวังก็คงไม่อยากให้นักอ่านผิดหวังกับงานชิ้นนี้ ^^
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 26 [100%]❤️ -15/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-11-2017 22:50:21
 :sad11:

สงสารทุกคนเลย ความรักด้วย
เป็นใครก็งงที่ซี้ทำแบบนี้ แต่ต่อให้มีเหตุผลดีดี มันก็ไม่โอเคไหม

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 26 [100%]❤️ -15/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-11-2017 00:07:54
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 26 [100%]❤️ -15/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 16-11-2017 01:05:41
ความรักมาแล้วววว
แต่ยังไม่เคลียร์
ขอเคลียร์ๆนะโซฮาน
หวังไม่ดีมีตัดเพื่อนแน่
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 26 [100%]❤️ -15/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 16-11-2017 02:34:45
เรามองโซฮานในแง่ดีไม่ออกจริงๆอะ
เคลียกันให้เรียบร้อยนะ จะได้ไม่มีอะไรมาแทรกได้อีก
สงสารทุกคนเลย ทั้งคนทั้งหมูด้วย
รอนะคะะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 26 [100%]❤️ -15/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 16-11-2017 06:59:32
พี่มะเดี่ยวของน้องงงงง  ฮรืออออออ ไปเคลียกะนไวๆนะคะ  อย่าทำแบบในฝันล่ะ  -///-
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 27 [100%]❤️ -17/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 17-11-2017 20:56:59
>>ตอนที่ 27 [100%]<<

ความรักเอาหัวซุกและดุนดุ๊กดิ้กอยู่ตรงอกของผม มันดิ้นแรงมากเหมือนกันนะ ผมเลยต้องพยายามอุ้มมันเอาไว้แน่นๆ พาไปนั่งที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง โต๊ะเล็กตรงหน้ามีผลไม้ของความรักและมาม่าอืดจนน้ำแห้ง ทั้งสองอย่างไม่มีอะไรพร่องจากการกินเลย พอเงยหน้ามองสามที่ยืนอยู่ไม่ห่างก็เห็นตาแดงๆ ของคนตัวเล็ก เสียงสั่นเครือนนั้นคือสามร้องไห้เพราะความรักไม่กินอาหารสินะ

“มาม่าไม่ดีต่อสุขภาพนะรู้ปะ...” ผมเปรยขึ้นลอยๆ มือก็เอื้อมไปคว้าเอาถ้วยผลไม้มาให้ความรักบนตัก มันกระซวกตั้งแต่ผมยังวางไม่ดี เกือบหกเทกระจาดแล้วไหมล่ะ

“ครับ”

“แต่ดีต่อกระเป๋าเงิน มานั่งกินดิ อืดหมดแล้วเนี่ย” สามลังเลนิดหน่อยแต่ยอมเดินมานั่งใกล้ๆ สีหน้าปั้นยากของเขาพานให้ผมพลอยอึดอัดไปด้วย

“พะ..พี่ คือ…ช่วงนี้ผม ผม…ผม…” หาข้อแก้ตัวที่โดดซ้อมสินะ ผมปล่อยให้ความรักกินของๆ มันไป แล้วเงยหน้าจ้องคนข้างๆ

“ผมโดดซ้อมเพราะไม่อยากเจอหน้าพี่มะเดี่ยวครับ” ผมเป็นฝ่ายพูดออกไป สามตกใจเงยหน้าสบตาผมทันควัน แต่ผมกลับยิ้มบางๆ ให้เขาเท่านั้น

“พี่...พูดอะไรอะ ไม่มี..ไม่มีใครหลบหน้าพี่เลย...”

“สาม!” กดเสียงต่ำเพื่อให้เขาหยุด สามชะงัก ก้มหน้ามองมาม่าในมือตัวเอง

“ขอโทษครับ”

“ขอโทษเหรอ สามโดดซ้อมเพราะไม่อยากเห็นหน้าพี่ ทำให้พี่เสียความรู้สึกแล้วมาบอกขอโทษง่ายๆ แบบนี้เหรอ พี่ว่ามันไม่แฟร์เลยนะ สามมาทำเหมือนจะจีบพี่แล้วก็ทิ้งพี่ไปง่ายๆ แบบนี้ ปล่อยให้พี่คิดไปเองคนเดียว สามคงสนุก แต่พี่ไม่สนุกเลย” เออ อย่าเพิ่งด่าผมนะ ที่ผมใส่แรงขนาดนี้เพราะต้องการกดดันสามเท่านั้นแหละ ดูสีหน้าเขาสิ...สับสน กังวลแต่ก็มีควาไม่พอใจอยู่หน่อยๆ

“ผมเปล่า...ผม...”

“แกล้งพี่คืนเหรอครับ สนุกไหมครับ พี่เจ็บมากเลย...” สามเงยหน้าขึ้นมาสบตา

“พี่ต่างหากที่เล่นกับความรู้สึกของผม” แล้วเขาก็โพล่งขึ้น อยากยิ้มให้กับท่าทางที่ดูห้าวหาญผิดลุ๊กปกติ แต่เราจะไม่ทำลายบรรยากาศที่ผมอุตส่าห์บิ้วขึ้นมาหรอกนะ

“รู้ได้ไงว่าพี่เล่นกับความรู้สึกสาม... หืม รู้ได้ไง”

“ผมรู้แล้วกัน”

“ได้ไงก็บอกมาดิ พี่ยังไม่เห็นรู้เลยว่าพี่ทำแบบนั้นกับสามอะ...ไหนพูด มีใครมันรู้ดีไปกว่าตัวพี่เองบ้าง” ถึงจะไม่ได้ตะเบ็งเสียง ทว่าผมเป็นคนข้างเสียดังอยู่แล้ว คนตรงหน้าตอนนี้เลยแทบจะหดเหลือแต่หัว

“พี่โซฮาน...” จากที่ดูดุเดือดเมื่อกี้ กลายเป็นคำพูดของเด็กหงอๆ คนหนึ่ง หึหึ...ตัดสินคนจากคำพูดคนอื่นต้องโดนแกล้งเสียบ้าง

“แล้วมันใช่พี่เป็นคนพูดหรือเปล่า? สามตัดสินพี่จากคำพูดคนอื่นงี้เหรอ”

“แต่เขาเป็นเพื่อนพี่”

“เพื่อนแต่ไม่ใช่พี่ไง…” ผมรีบสวน เขาอ้าปาก..กระพริบตาปริบๆ หาคำพูดตัวเองไม่เจอ

“สามได้ยินอะไรมาพี่ไม่รู้หรอกนะ แต่พี่รอเจอสามทุกวัน...พี่อาจไม่ได้ว่างมีเวลาเข้ามาคุยสาม แต่สามควรจะเข้ามาหาพี่ เข้ามาถามความจริงจากพี่ ไม่ใช่ตัดสินพี่จากคำพูดของคนอื่น ถ้าเป็นสามโดนบ้าง...สามจะรู้สึกยังไง” ดราม่าเข้าว่าล่ะวะงานนี้ แต่เอาจริงๆ ผมก็รู้สึกตามนี้แหละ แต่ไม่ได้โกรธน้องมันหรอกนะ ผมเข้าใจ น้องไม่ได้รู้จักผมดีพอ ดังนั้นคำพูดของเพื่อนสนิทก็ทำให้ไขว่เขวได้

“เขาบอกว่าพี่แค่แหย่ผมเล่น...ผม…”

“สามเชื่อเขา” เด็กน้อยพยักหน้า เห่อๆ...ดีจริงชีวิต

“พี่ไม่กล้าแหย่สามเล่นหรอก เพราะพี่ยังไม่อยากตายด้วยน้ำมือพี่บอยกับพี่ภูม สามคงลืมไปว่าน้าของสามคือรุ่นพี่ของพี่…” ได้ยินดังนั้น เจ้าตัวก็เบิกตาโพลงขึ้นมา ประหนึ่งว่าอ๋อ...เออกูลืมไปวะ

“แล้วทำไมพี่โซฮานต้องพูดแบบนั้น”

“แกล้งเราเล่นมั้ง ดูว่าเราจะเชื่อคนง่ายหรือเปล่า…เออ เชื่อคนง่ายจริงๆ ด้วย เป็นไงล่ะ หมูเกือบตายกลายเป็นอาหารเย็นแล้วไหม” ดีดหน้าผากนวลๆ นั่นไปหนึ่งที

“แต่…ถ้ามันไม่จริงพี่เขาคงไม่พูดหรอก” เอ้า สรุปนี่จะเชื่อกันหรือไม่เชื่อกันวะเนี่ย

“สามก็พิสูจน์สิ...”

“พิสูจน์ยังไงอะ”

“เป็นแฟนพี่ไง...ทีนี้ก็จับตาดูพี่ตลอดเลยเป็นไง จะได้รู้ว่าโซฮานมันพูดจริงหรือมันแค่แกล้งเราเล่น แต่เพื่อนพี่อะ พี่รู้จักนิสัยมันดี มันก็ขี้แกล้งเหมือนพี่นั่นแหละ มันอาจจะแกล้งเราแรงไปหน่อย...พี่ขอโทษแทนมันด้วยนะครับ” เคลื่อนเข้าไปพูดขอโทษใกล้ๆ สามถอยหลบไม่ทัน เราเลย...สบตากันในระยะชิดมาก

“ไม่เป็นไร...ผม...ผมก็ขอโทษด้วยที่ไม่ถามพี่ก่อน” สามก้มหน้านิดหน่อย ดูอายๆ...น่ารักชะมัด น่ารักจนลืมไอ้ความรักไปแล้วเนี่ย

“อืม พี่จะยกโทษให้สามก็ต่อเมื่อตกลงเป็นแฟนพี่...” หยิกแก้มนิ่มนั่นเบาๆ แล้วหันมาเอาน้ำให้ความรัก หิวจัดเลยกินหมดอย่างไว ไม่รู้พอไหมแต่เอาน้ำให้ก่อนแล้วกัน ไม่อิ่มเดี๋ยวกินใหม่ก็ได้เนาะ

“แต่...ไหนว่าให้จีบก่อน”

“ขี้เกียจอ่อยแล้ว เป็นแฟนเลยเนี่ยแหละ”

“ง่ายจัง”

“ไม่ดีอ๋อ ไม่ดีก็ต้องดี พี่ตัดสินใจแล้ว...ใช่ พี่บอยโกรธพี่ใหญ่เลย หาว่าพี่ทำสามซึม เกือบโดนต่อยแหนะ ความผิดใครละเนี่ย...” ให้น้ำความรักเสร็จพอดี เลยหันไปจ้องหน้าสามอีกหน

“โทษตัวเองสิ...”

“สาม...” กดเสียงต่ำข่มขู่ เจ้าตัวยิ้มแห้งๆ

“ขอโทษครับ เดี๋ยวผมคุยกับน้าเอง” อย่าว่าแต่สามต้องคุยเลย ผมเองก็ต้องคุยด้วยเหมือนกัน ที่จริงที่ผมไม่ได้บอกสามอีกอย่างคือโซฮานก็ว่าสามแค่เล่นๆ กับความรู้สึกผม ตอนนี้มันดูจะดีอยู่บ้างที่สามไม่ได้เชื่อเป็นตุเป็นตะขนาดไม่ยอมกลับมาสนใจกันอีก แต่ลึกๆ..ผมยังคงค้นหาคำตอบในสิ่งที่โซฮานทำอยู่

“เรื่องนี้พี่ไม่ยกโทษให้ง่ายๆ หรอกนะ”

“อ่า...ทำไมล่ะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจนี่ ก็พี่โซฮานเขาบอก” เด็กน้อยหน้าเริ่มยู่แล้ว งอแงเพื่อเอาตัวรอดเหรอครับ

“หอมแก้มก่อน...เดี๋ยวยกโทษให้” ยื่นแก้มเข้าไปให้ใกล้ๆ แต่สามผงะถอย มองมาเหวอๆ แถมหน้ายังขึ้นสีอีกต่างหาก

“เอ่อ...”

“เร็วๆ เดี๋ยวจับกดเลยนะ”

“ก็ได้ๆ” ต้องเจอขู่ทุกที เป็นอะไรทำดีๆ เลยไม่ได้หืม แต่ก็นะ...น่ารักดี

ฟอด...

สามขยับมาหอมแก้มผมเร็วๆ ในจังหวะที่เขายังไม่ทันถอยหน้าออก ผมก็แย่งหอมแก้มนุ่มนิ่มของสามคืนบ้าง เจ้าตัวผอมแห้งไปนิดแต่เป็นคนมีแก้มละนะ ความนุ่มนี้ติดตราตรึงจริงๆ สามหน้าแดงลามไปยันหู เกิดเป็นคนขาวจัดก็ต้องทำใจแบบนี้แหละ เขินนิดเขินหน่อยก็ดูออกจนหมดเลย

“ชื่นใจ...”

“อื้อ” เจ้าตัวก้มน้าไปสนมาม่าที่เย็นชืดไม่ใช่ผม ก็เขินไง...เลยหาอะไรทำแก้เขินกันไป

ผมหันมาสนใจความรักที่มองดูเราอยู่เงียบๆ เรียกว่าเป็นลูกที่ดีที่ไม่ขัดขวางการสวีตหวานของป๊าตัวเอง ผมมอบความรักให้ความรักบ้างด้วยการจับมันขึ้นมาหอมซ้ายหอมขวา ยีหัวเกรียนเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ไม่ได้เจอมันก็คิดถึงเหมือนกันนะ คิดถึงทั้งคนทั้งหมูเลยล่ะ...

“อร่อยไหม” พอถาม สามส่ายหน้า

“ไม่เลยพี่ แหวะ” ไม่ต้องหันมาทำท่าให้ดูก็ได้ เส้นมาม่าเต็มปากเลยไอ้นี่

“งั้นเอาไปเททิ้งไป เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรกินข้างนอก” หน้าลั้นลาขึ้นทันทีที่ได้ยิน

“พี่เลี้ยงนะ พี่ยังไม่จ่ายค่าน้ำผมเลย” ยิ้มได้แล้วเหรอไอ้หมู แหม่ ทีค่าน้ำละจำแม่นเชียวนะ

“เออเลี้ยง แต่อยู่กับพี่ด้วยนะ....พี่ต้องไปซ้อม”

“ซ้อมเต้นอะเหรอ ที่ต้องลงแข่งระดับประเทศปะ” ผมพยักหน้า

“ใช่ จะไปปะละ...”

“ไปดิ รอแป๊บ” สามรีบเอาถ้วยมาม่าอืดๆ ไปเททิ้ง แล้วกลับมาเอ้าชามใส่ผลไม้ของความรักไปล้างด้วย ถึงห้องจะรกไปหน่อย แต่เรื่องจานชามสามมันก็ไม่ได้ทิ้งให้เน่าคาอ่างล้าง

ผมเอนหลังนอนลงบนโซฟา ปล่อยให้ความรักเอาจมูกมาดุนอ้อนที่หน้า สามไม่เห็นขี้อ้อนเท่าความรักเลยอะ ถ้าสามขี้อ้อนได้เท่านี้นะ มีบ้านหมดบ้าน มีรถหมดรถ แต่มีเขือคงหมดแต่เขือ...เอ่อ มุกติดเรตไปปะ ฮ่าๆ แหม่ บางทีผมก็คิดลึกบ้างอะไรบ้างเป็นเรื่องธรรมดาอะจริงไหมครับ

ล้างจานชามเสร็จเจ้าตัวขอเวลาแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ซึ่งสามไม่ได้ใช้เวลาตรงนี้นานนักหรอก เขาเป็นผู้ชายไง ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์กับรองเท้าผ้าใบก็เรียบร้อยแล้ว ผมตัดสินใจว่าไม่ให้สามเอาจักรยานไป เผื่อผมต้องตามไปซ้อมที่ตรอกข้าวสาร จะได้ไม่ลำบากเอาจักรยานมาไว้ที่คอนโดก่อน นั่งรถไปเลยมันง่ายดี ซึ่งเด็กดีก็เชื่อฟังครับ สามไม่ดื้อ...สามน่ารัก

เราเดินมาขึ้นรถสองแถวหน้าปากซอย ผมเป็นคนอุ้มความรักเอาไว้ โดยสามสะพายแค่กระเป๋าที่มีของสำหรับความรักอยู่ เวลาไปไหนมาไหนเขาพกของพร้อมเสมอ แถมยังใส่ชุดให้ความรักซะน่ารักเชียว เป็นชุดนักบิน...สามบอกว่าความรักจะบินได้แล้ว เห่อๆ...ดีนะไม่ใส่ชุดนกมีปีกแล้วโยนความรักขึ้นหวังให้มันบินเอง ดูแล้วก็ต๊องๆ ดี

เขาเป็นธรรมชาติอะ...เป็นแบบที่ตัวเองเป็น ไม่เยอะเรื่องนอกจากการกิน...สามชอบกินหมู นี่แหละติดใจผมอย่างเดียว นอกนั้นผมชอบทุกอย่างที่เขาเป็นเลยล่ะ นี่ถ้าเป็นแฟนคนก่อนๆ มีเรื่องแบบนี้แล้วเจอผมกดดันอย่างนี้คงทะเลาะกันบ้านแตกไปแล้ว นี่เป็นสามไง อยากเถียงแค่ไหนก็แค่นั่งเงียบ เถียงคนไม่เก่ง...ไม่สู้คนด้วย นึกไม่ออกเวลาสามแกล้งคนอื่นมันเป็นยังไง

“นี่...เรามีแฟนเยอะปะ” ผมยืนชานรถสองแถว ส่วนสามนั่งที่นั่งติดกับราวกั้น

“อืม...ไม่อะพี่ ทำไมอะ” ความรักนั่งเงยหน้ามองเราสองคนสลับไปมา

“ก็อยากรู้…”

“ผมไม่ค่อยมีแฟนหรอกเพราะผมติดเกม สมัยเรียนมัธยมนอกจากเรียนหนักแล้วก็เล่นเกมนี่แหละ พี่หนึ่งพี่สองถึงชอบแกล้งผม อีกอย่าง...เวลามีแฟน ยังไม่เคยผ่านคำว่าชอบไปถึงรักก็เลิกกันก่อน” ผ่านคำว่าชอบไปถึงรัก?

“หมายความว่าไงอะ พี่ไม่เข้าใจ” จ้องหน้าสามแต่มือยังเล่นอยู่กับความรัก

“พี่เข้าใจคำว่า...ชอบง่ายแต่รักยากปะ คือผมว่าผมเป็นคนแบบนั้นอะ แบบว่า คบกับใครอะผมคบง่าย บางทีคบก็แค่รู้สึกชอบๆ แล้วคบเลยเงี้ย แต่พอเอาเข้าจริงผมก็ไม่ได้รักเขา แล้วเขาก็ไม่ได้รักผม…เราเลยแยกทางกันได้ง่าย” แววตาของสามมีความกังวลเต็มไปหมด ในขณะที่ผมรู้สึกดีที่เขาพูดเรื่องแบบนี้ออกมาตรงๆ ไม่ได้ปรุงแต่งให้ความเป็นตัวเองสวยหรู ปกติอะนะ เราคบคนใหม่ เราก็อยากสร้างภาพให้คนใหม่เชื่อว่าเรารักเขาใช่ปะ แต่สามดูไม่ใช่แบบนั้น...เขาก็แค่เขา แค่นั้นเลย

“งั้นเหรอ...” ผมลากเสียงยาวหน่อย คล้ายกดดันเจ้าตัวนิดๆ

“ครับ พี่...โอเคหรือเปล่าอะ แต่ว่าถ้ารู้ไม่ใช่ผมก็บอกเลยนะ ผมไม่เคยคบซ้อนหรือคบใครหลายคนนะพี่” อันนี้เรียกแก้ตัวปะ ฮ่าๆ ท่าทางลนๆ ดูเอ็นดูจัง...

“อืม…จะว่าไงล่ะ ตอนนี้สามรักพี่ไหม” ผมขอเล่นตัวหน่อย ปล่อยให้สามกังวลไป คงกลัวว่าผมจะรู้สึกแย่ รู้สึกไม่โอเคแล้วก็บอกเลิกดีกว่าอะไรแบบนั้น ก็ถ้าเป็นคนอื่นก็ไม่แน่นะ ทัศนะคติมันดูแบบ เห็นแก่ตัวไปหน่อย ทว่าในความรู้สึกผม...การที่เขาบอกออกมาแบบนี้นี่แหละคือความจริงใจที่คนๆ หนึ่งมอบให้กับคนๆ หนึ่ง

“ไม่...ผมไม่ได้รักพี่”

....100%....

ตั้งใจจะอัปเมื่อวานด้วย เผอิญง่วงจัด หลับคาไอแพดไปเลยจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 27 [100%]❤️ -17/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 17-11-2017 21:12:11
 :L2: :pig4:

ดีอะ เริ่มที่ความใจ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 27 [100%]❤️ -17/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 17-11-2017 21:41:13
เขาเป็นแฟนกันแล้วค่ะแม่  -///-
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 27 [100%]❤️ -17/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-11-2017 22:03:29
 :mc4:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 27 [100%]❤️ -17/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 17-11-2017 22:28:53
น่าย้ากกก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 27 [100%]❤️ -17/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 18-11-2017 10:14:35
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 27 [100%]❤️ -17/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 18-11-2017 10:48:23
ชอบความเข้าใจกันของคู่นี้
พูดเปิดอกกันให้เคลียร์ให้หมด
จะได้ไม่มีใครมาแทรกกลางได้
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 27 [100%]❤️ -17/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-11-2017 18:13:12
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 27 [100%]❤️ -17/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 20-11-2017 12:20:00
ดีกันแร้วๆ

 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 28 [100%]❤️ -20/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 20-11-2017 21:01:05
>>ตอนที่ 28 [100%]<<

เสียงลมพัดผ่านไป...พร้อมกับความเจ็บจี๊ดที่เข้ามาในหัวใจของผมอย่างหนัก เออ รู้แล้วว่าตรงไปตรงมาอะนะ แต่แบบ...หาคำพูดที่ดูดีกว่านี้หน่อยได้ไหมเนี่ย ที่จริงเมื่อกี้ก็คิดไว้ต่างๆ นาๆ ว่าสามจะหาทางบอกสิ่งที่เขารู้สึกกับผมยังไง เพราะผมเชื่อว่าขาไม่มีทางรักผมได้เลยเพียงเพราะเราเพิ่งคบกันหรอกนะ แบบนั้นก็เวอร์ไปอะ

“เฮ้ย...พี่ๆ พี่ฟังผมก่อนนะ...อย่าเพิ่งโกรธ” สามรีบเอามือมาถูแขนผมเบาๆ แต่ผมเลือกจะเบือนหน้าหนี

“เราเพิ่งคบกันวันนี้เอง แล้วผมก็เพิ่งรู้จักพี่ได้ไม่นาน...ผมชอบพี่นะ แต่มันก็ไม่ใช่ว่ารักเลยแบบนั้นอะ พี่คร้าบ...พี่ฟังผมหน่อยสิ” สามเขย่าแขนผมเบาๆ จนผมต้องตีหน้านิ่งหันกลับมามอง

“เจ็บอะ”

“อ่า...ผมขอโทษ ผมก็แค่...ไม่อยากโกหกอะ หรือว่าพี่รักผมแล้ว?” เจ้าตัวถามหน้าซื่อ ผมเลยพยักหน้า

“ใช่สิ...ไม่รักจะอยากได้เป็นแฟนเหรอ” ก็ว่าไปนั่น...รักไหม ก็คงรัก แต่ไม่ใช่รักที่แบบขาดเธอไปฉันตายแน่นะ แต่มันเป็นรักที่พอได้อยู่ด้วยแล้วมีความสุขอะ...ได้มองเขา ได้เห็นเขายิ้มเห็นเขาหัวเราะ โลกทั้งใบมันคงไม่สดใสขึ้นหรอก แต่มันก็ดีต่อใจคนมองอย่างผมจริงๆ นะ

“อ่า...แต่ว่าเราเพิ่งจะคบกัน”

“ความรักไม่ใช่เรื่องของเวลานะสาม มันเป็นเรื่องของความรู้สึก”

“แต่ผม...ผมว่าความรักมันเป็นเรื่องของความผูกพันน่ะ ผมขอโทษน้า ผมอาจมองมันคนละมุมกับพี่” เจ้าตัวยิ้มแหย คงหาคำแก้ตัวอะไรมาใช้ไม่ได้ สามไม่ใช่คนเถียงเก่งอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับการหาคำนั้นคำนี่มาพูดให้ผมรู้สึกว่าเขาแสนวิเศษล่ะ

“ฮ่าๆ...เออหน่า แกล้งเฉยๆ พี่โอเค แล้วมันก็ดีที่เราเป็นแบบนั้น ชอบง่ายก็ดีกว่ารักง่ายๆ มุมแบบที่เราว่า...พี่ว่ามันก็ดี แล้วมันก็แน่นแฟ้นกว่าในมุมของพี่ สำหรับพี่นะ ความผูกพันมันจะเกิดต่อเมื่อเรารักใครสักคนแล้วเราก็ได้อยู่กับเขาทุกๆ วัน แต่สำหรับเรามันคงได้อยู่กับคนที่เราชอบทุกๆ วันจนเกิดความผูกพันแล้วมันก็ต่อยอดเป็นความรัก ถูกไหม” สามตาวาว

“โอ้ว...สุดยอดมาก พี่เก่งนะเนี่ย ผมไม่เคยเจอคนเข้าใจแบบพี่เลย เจอแต่แบบ...เหรอ งั้นสามก็ไปหาคนที่สามรักเอาเองเถอะ เงี้ย...โดนทิ้งเสย” ทำหน้าดีใจยกใหญ่เมื่อเจอคนที่เข้าใจความคิดของตัวเอง

“วัยแบบสามมีคิดอย่างนี้ที่ไหน เราอะมันแก่แดด”

“ไม่ๆ สามไม่แก่แดด…สามไม่ค่อยโดนแดดเลยไม่แก่” ปากดีนัก หมั่นไส้เลยเขกหัวเข้าให้หนึ่งที

“คร่อกๆ…” แม้แต่หมูที่เจ้าตัวเลี้ยงยังหัวเราะชอบใจ เป็นไง...ใครๆ ก็รักสาม อยากเห็นสามโดนแกล้งกันทั้งนั้นอะ

สามเตรียมแกล้งความรักโทษฐานที่หัวเราะเยาะตนเอง แต่ว่ามันถึงที่หมายเสียก่อน ผมเดินลงไปจ่ายค่ารถของสองคน จากนั้นเดินไปจับมือนิ่มๆ ของสามเอาไว้พลางก้าวเท้าเข้าไปที่ฟลอเต้น สามเดินตามต้อยๆ ว่าง่าย คนที่ฟลอเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นคนของทีมผมที่พากันซ้อมหนัก เห็นไหม...ไม่มีผมพวกมันก็ซ้อมเต้นกันได้ ไม่เป็นง่อยเสียหน่อย แล้วไม่ต้องมาว่าผมไม่มีความรับผิดชอบฐานหัวหน้าทีมเลยนะ บางทีพวกมันก็โดดซ้อมสำคัญๆ เพียงเพื่อไปจีบหญิงบ้าง ไปง้อเมียบ้าง แล้วทำไมผมจะทำมั้งไม่ได้ นี่เป็นแค่ไม่กี่ครั้งที่ผมทำเองด้วย

“กี่โมงกี่ยามแล้วเพิ่งมา...” ไอ้เรย์ยืนเท้าเอวมองผมกับสาม คนตัวเล็กข้างกายหวาดกลัวไอ้เรย์แล้วล่ะ ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน...บ้าจะตายมันอะ

“สองทุ่ม ทำไม...มาช้าก็ไม่มีใครตายนี่”

“อ่าวๆ เป็นหัวหน้าทีมแล้วพูดอะไรก็ได้เหรอวะ ไปเลยไอ้สัตว์...หกสูงจนกว่ากูจะสั่งให้พอ” ไอ้เรย์ยักคิ้วส่งมา

“ทำไมกูต้องทำ เวลามีน้อยก็รีบซ้อมสิควาย” แต่ผมกลับผลักหัวมันแล้วเดินไปที่ม้านั่งยาว

“เอ่อ...ผมไปหาไรกินก่อนนะ หิว” สามทำหน้าอ้อนๆ

“อื้อ หาอะไรมาเผื่อพี่มั้งสิ”

“ครับผม” เจ้าตัวตะแบ๊ะแล้วเอาความรักยัดใส่กระเป๋าเดินลิ่วๆ ไปหาวิ่งกับพีช

สามไปแล้วผมก็วอร์มอัพรอ ถึงจะเต้นช่วงเย็นไปแต่ก็วอร์มสักหน่อยเพื่อความปลอดภัยของกล้ามเนื้อ โซฮานมองมาบ่อยๆ ท่าทางเหมือนมีเรื่องคาใจ หึ...กูเปล่าที่ต้องคาใจจะถามอะ แต่ที่ผมยังไม่ยอมเข้าไปพูดกับมันตอนนี้เพราะอยากรู้ว่ามันจะเข้ามาพูดกับผมเมื่อไหร่ วอร์มอัพจนเหงื่อซึมแล้วแนก็เข้ามาบอกเรื่องแพตเทิลที่เราจะใช้ พร้อมกับบีทที่พี่ฟู คนมิกส์ซาวด์เอามาให้เรา

ผมต้องฟังบีททั้งหมดรอบหนึ่งก่อน เพื่อจะได้จับจังหวะว่าช่วงไหนเราจะเล่นอะไร คิลบีทแบบไหน แล้วใช้สกิวยังไงทำให้เกิดเสียงเฮโลได้ ในวงการบีบอย การแข่งขันเหล่านี้ส่วนสำคัญไม่ใช่แค่ฝีมือของนักเต้นหรอก แต่คนมิกส์ซาวด์นี่คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทีมไหนได้คนเก่งๆ ไปก็เหมือนคว้าชัยไปแล้วสี่สิบเปอร์เซ็น อีกหกสิบเปอร์เซ็นคือลูทีม จะว่ายังไงดี...การเต้นทุกอย่างต้องมีแพตเทิลของมันอะนะ บีบอยไม่ใช่ข้อยกเว้นอะ ยิ่งครีเอต ความคิดเจ๋งและสวยงาม ชัยชนะไม่ไกลเลย

หลังจากฟังเพลงจบ ผมยกนิ้วให้พี่ฟูหนึ่งทีเพื่อยกย่องความสามารถในการทำซาวด์เหล่านี้ จากนั้นเริ่มเข้าสู่แพตเทิลการเต้น เริ่มตั้งแต่บีทแรก...ไปจนบีทสุดท้ายของเพลง ซ้อมก็คือซ้อมอะครับ ครั้งแรกยังไงก็ต้องพลาด เราแค่เริ่มทำใหม่ บางคนรับตำแหน่งโหดๆ พลาดก็เจ็บตัวกันไป แต่ไม่มีสิทธิ์โอดโอยอะไร ที่ทำได้คือลุกขึ้นมาซะ...

สามเดินหัวเราะเข้ามาพร้อมเพื่อนอีกสอง มือป้อนมะม่วงสุกกับความรักสลับกินเองเข้ามาในฟลอ ในมือของเขามีของเต็มไปหมด โดยรวมก็ของกินจุกจิก ไม่ได้มีพวกข้าวที่มันหนักท้อง แล้วก็น้ำขวดใหญ่กับเกลือแร่ ผมยังไม่ว่างเข้าไปนั่งกินด้วย สามเลยต้องกินกับพีชแล้วก็วิ่ง

เขามักมองมาที่ผม...เฝ้าดูผมเต้นท่าทางต่างๆ สายตาชื่นชมของเขาทำให้ผมรู้สึกคึกและมีฟิลในการเต้นมากขึ้น ราวกับโด๊ปเอ็มร้อยไปสักสามสี่ขวด ยืนนิ่งฟังแนเสนอความคิดเห็นผมยังโดดเบาๆ มันอยู่นิ่งไม่ได้ พลังเหลือเฟือมากในตตอนนี้

“แหม...มีส่งสายตา” ไอ้แนผลักหัวผมเบาๆ

“ไรอะ แค่ส่งสายตา ไม่ได้ส่งน้ำกาม” อย่าคิดว่าตบหัวผมแล้วผมจะไม่สวนคืน ผมนี่เตะป๊าบเข้าตูดมันเต็มแรงจนไอ้แนเซเกือบล้ม แบบว่าต่างคนต่างก็แรงเยอะกันทั้งนั้นอะ

“ทำไมมันต้องพกหมูมาตลอดวะ” เรย์พูดขึ้นลอยๆ

“ไว้อ่อยผู้ชายมั้ง...” โซฮานตอบแล้วเดินหนี ทว่าผมไม่ยอม รั้งแขนเล็กๆ ของมันเอาไว้ไม่ให้มันไปไหน โซฮานหันมามองคิ้วขมวด

“พูดเชี่ยไรให้เกียรติน้องมันบ้าง มึงก็รู้ว่าน้องมันไม่มีคนเลี้ยงความรัก” จะว่าผมปกป้องสามก็ได้ ทำไมอะ..แฟนผมปะ

“แตะต้องไม่ได้เลยน้า...” โซฮานปัดมือผมออก

“เออ แล้วมึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกัน” มันมองหน้าผมไม่พอใจ คนที่ต้องเคืองคือคนฝั่งนี้ปะวะ

“เรื่องไร…เรื่องที่กูเคยพูดเหรอ หึ…กูก็แค่สันนิฐานไปเรื่อย ทำไม เชื่อมันมากกว่าเพื่อนอย่างกูงั้นสิ” รอบด้านเรามีแต่คนซ้อมเต้นไม่ได้สนใจตรงนี้ ทว่าระหว่าผมกับโซฮานเกิดบรรยากาศมาคุขึ้น ไม่ใช่ผมไม่เชื่อมันหรือเชื่อสามมากกว่ามัน เพียงแต่ผมไม่เห็นประโยชน์ที่สามจะมาโกหกผม แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าที่โซฮานมันพูดกับสามแบบนั้นน่ะมันเพื่ออะไร

“เฮ้ยๆ...อย่ามาทะเลาะกันเว้ย ทีมเดียวกันแตกกันได้ไง” เรย์รีบปราม

“กูไม่ได้จะทะเลาะ กูแค่มีเรื่องจะถาม”

“แต่หน้ามึงสองคนอย่างกับจะต่อยกัน ไปๆ ซ้อมต่อเลยสัตว์...หรือมึงจะไปกินข้าวกับแฟนมึงก่อนก็ไป” ไอ้เรย์ผลักผมให้ห่างจากโซฮาน ซึ่งผมก็ไม่ดื้อดึงที่จะอยู่ต่อ ไปกินข้าวกับสามก็ได้…แต่ว่า นั่นมันเรียกข้าวได้เหรอ

ผมเดินเข้าไปนั่ง พีชกับวิ่งมองแบบล้อเลียนก่อนจะขอตัวไปซ้อมเต้นต่อ พวกมันก็มีทีมเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยปล่อยสามเอาไว้ให้โดดเดี่ยว ผมชอบตรงนี้นะ ไม่งั้นสามอาจจะได้เต้นกับความรักจริงๆ

“มีอะไรมากินบ้างเนี่ย”

“ลูกชิ้นปลา…ผมคิดออกแค่นี้ ไม่รู้พี่กินอะไรได้บ้าง” สามส่งถุงลูกชิ้นปลาถุงโตมาให้ ผมรับมากิน

“จริงๆ พวกข้าวไข่เจียวในตลาดก็โอเคนะ ไม่แพงด้วย” ในถุงลูกชิ้นมีผัก ผมเอาผักเหล่านี้ให้ความรักกินซึ่งมันก็กินอย่างกับหิวโหย นี่..กินยังไม่หยุดปากเลยไอ้หมู

“คิวยาวอ่า ผมขี้เกียจรอ” ผลักหัวคนขี้เกียจหนึ่งที

“ขี้เกียจแล้วต้องมากินอะไรที่ไม่อิ่มท้องแบบนี้เนี่ยนะ”

“ผมกินข้าวเหนียวหมูปิ้งไปแล้วอะ...แฮ่ๆ อย่าโกรธน้า มันซื้อง่าย” สามรีบเอาหัวซบไหล่ผมทันที

“เดี๋ยวโดนๆ…”

“ไรอ่า ไม่ได้บังคับให้พี่กินด้วยนี่นา ผมแค่กินของผมเอง”

“ก็ยังไม่ได้ว่าอะไร”

“ไม่ว่าเลยคร้าบ แค่ขู่กันเท่านั้นเอ๊งงงง” ผมก็ขู่ไปงั้นแหละ จะทำอะไรได้นอกจากหาเรื่องแกล้งกันไปเรื่อยเปื่อย แต่ผมไม่กล้าแกล้งแรงๆ หรอกนะ กลัวมันจะทนไม่ไหว เลิกกับผมไปเสียก่อน นานๆ จะมีคนที่ถูกใจโพล่มาสักคนหนึ่งอะเนาะ

“เออพี่ เมื่อกี้เห็นพี่กับพี่โซฮานเหมือนจะทะเลาะกันเลยอะ มีอะไรหรือเปล่า” เอ...มีอะไรหรือเปล่า ควรบอกไหมล่ะ

“ไม่มีไรหรอก ทะเลาะกันเรื่องซ้อมนิดหน่อย ความเห็นไม่ตรงกัน” ไม่บอกดีกว่า อย่างน้อยๆ มันก็จะได้ไม่เกลียดขี้หน้าเพื่อนของผม อีกอย่าง ยังไม่รู้เลยว่าโซฮานทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร

“เหรอ ดูพวกพี่ซ้อมกันจริงจังมากเลยเนอะ ท่าทางจะเหนื่อยกันน่าดู ผมซ้อมนิดๆ หน่อยๆ ยังเหนื่อยเลยอ่า” ปกติไม่ใช่คนพูดมากแบบนี้นี่ หรือว่านี่คือปกติของสาม แต่ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยได้สัมผัสส่วนนี้กันนะ

“เหนื่อยดิ เลยอยากได้คนดูแล”

“เดี๋ยวผมดูแลเอง...” เขาตอบกลับมาพลางยิ้มกว้าง

“ถ้าผมไม่ติดล่าเกรียนนะ ฮ่าๆ” กวนตีน!

“เป็นว่าที่คุณครูยังไง ทำไมติดเกม” สามโครงหัวเบาๆ

“คุณครูเป็นคนชอบเล่นเกมไม่ได้เหรอครับ ผมว่ามันสนุกนา...เรียนมาเครียดๆ ได้ระบายกับเกมบ้างมันก็ช่วยเติมพลังให้เรานะพี่ แล้วพี่ล่ะ…ไม่เคยติดเกมเหรอ ผู้ชายส่วนใหญ่ติดเกมทั้งนั้นแหละ” สามนั่งแกะน้ำขวดส่งมาให้เพราะเห็นว่ายัดลูกชิ้นหมดแล้ว พอผมรับน้ำเปล่ามาเขาก็เปิดเกลือแร่ให้อีก

“นี่อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนตัวเองสิคร้าบ...พี่ไม่ได้ติดเกมแบบสามแน่นอน” ผมจิบน้ำไปแค่นิดเดียว แล้วรับเกลือแร่มาดื่มไปครึ่งขวด สามรับเอาที่ผมดื่มเสร็จแล้วไปปิดฝา เก็บใส่ถุงให้เรียบร้อย

“ง่ะ ลงเต้นหมดเหรอพี่” พยักหน้ารับ

“ใช่ ว่างก็เต้น ไม่ว่างก็ช่วงทำงาน”

“แหงล่ะ ทำงานน่ะมันก็ต้องเรียกว่าไม่ว่างสิ ไปซ้อมเต้นต่อได้แล้วครับ เพื่อนๆ พี่รอพี่มาตั้งนานแล้ว...สู้ๆ” สามจับเท้าหน้าความรักขึ้นมาโบกๆ ตัวความรักเอี้ยวไปเอี้ยวมาดูแล้วน่ารักดี

“อื้ม เบื่อก็บอกนะ”

“ครับ” ยีหัวคนตัวเล็กนิดหน่อยแล้วเดินเข้าฟลอซ้อมเต้นต่อ

การซ้อมเต้นในแต่ละรอบจะเริ่มดุเดือดขึ้น ต้องเต็มที่ให้มากเพื่อผลงานที่ดี แล้วทุกคนก็ตั้งใจกันมาก ผมในฐานะหัวหน้าทีมค่อยข้างภูมิใจกับผลลัพธ์ในวันนี้พอสมควร อาจเพราะผมมีกำลังใจที่ชื่อสามมานั่งดูด้วยก็ได้ แต่ว่า...เราทำกันได้ดีนะ

ทุกคนก็เหมือนจะรู้ว่าเราทำกันได้ดี ความดุเดือดเข้มข้นของการซ้อมเลยเริ่มลดลง มันไปหนักเอาที่การแกล้งกันอะดิ ซ้อมกันไป แหย่กันไป บางคนหนักถึงขั้นถีบกันล้ม ผมฮามาก ส่วนสามนั่งเหวอเพราะเขาไม่คุ้นเคยกับอะไรอย่างนี้ ประมาณสี่ทุ่มก็ซ้อมที่นี่ไม่ได้แล้ว ดังนั้นเราจึงต้องย้ายไปซ้อมที่ตรอกข้าวสารต่อ
“สามมึงไปกับพี่เขาใช่ปะ” วิ่งมันถามเพื่อนตัวเอง ส่วนสามกำลังพยายามจะเอาความรักเข้ากระเป๋าเบาๆ เพราะความรักมันสลึมสลือจะหลับแล้ว สัปหงกเชียว

“อืม มึงไปปะ”

“ไปดิ วันหยุดทั้งที...” แล้วมันก็ทำหน้าดี้ด้า เต้นส่ายสะโพกเลียนแบบโคโยตี้ใส่สาม ซึ่งไอ้เด็กหน้าหมูนี่ก็หัวเราะไปกับเขา

“สนใจดื่มกับพวกพี่ไหมจ้ะ...” ไอ้เรย์โพล่เข้ามากลางวง

“สนครับ” พีชตอบไวมาก ผมจ้องหน้าสาม ซึ่งเจ้าตัวก็มองตอบยิ้มๆ หมายความว่าไง...รอยยิ้มอ่อนๆ แบบนั้นคือจะดื่มกับเขา หรือไม่ต้องห่วง ผมไม่ดื่มอะไรแบบนี้

“สามล่ะ สนปะ”

“แฮ่มๆ...” ส่งเสียงกระแอมไอเล็กน้อยเพื่อนเตือนกลายๆ

“อะไร ตีนคาคอเหรอเพื่อนเดี่ยว” ไอ้นี่ก็หยาบคายตลอด

“เปล่า”

“อ่อ...ไม่อยากให้น้องมันดื่ม แหม่ มึงไม่ต้องห่วงหรอก น้องมันก็ดื่มข้างๆ มึงไง พอมันเมานะ...มึงก็....” เรย์กระซิบกระซาบทำหน้าหื่นหืดหาดใส่หูผม เสียงลมหายใจแม่งจั๊กจี้มาก แต่ที่ผมขำอะเพราะหน้าสามมากกว่า เหลอหลาไปไม่ถูกแล้วนั่น....

....100%....

เรากลัวทุกคนเบื่อจังเลยยยย เลยไม่ถนัดแนวนี่เลยไม่มีความมั่นใจมากนัก แต่เราก็อยากเล่าให้เห็นถึงบรรยากาศของฟลอเต้นให้มากที่สุดแล้วก็ความรักแบบสบายๆ ของทั้งคู่ด้วย ^^

ช่วงนี้เรามาช้า เราว่าเรานะอัปบ่อยๆ แต่ก็หลับเพราะไม่สบาย อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย พายุเข้าด้วย ยังไงก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 28 [100%]❤️ -20/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-11-2017 21:15:49
 :L2: :L1: :pig4:

เราก็อินกะเรื่องนะ แต่เราไม่เคยรู้เรื่องเต้นสักกะนิด
เขามารอทุกวันอะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 28 [100%]❤️ -20/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 20-11-2017 21:47:36
 :กอด1:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 28 [100%]❤️ -20/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 20-11-2017 22:01:10
สามจะกล้าดื่นมั้ยละทีนี้5555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 28 [100%]❤️ -20/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 21-11-2017 06:14:07
รู้สึกตะหงิดๆใจกับโซฮาน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 28 [100%]❤️ -20/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 21-11-2017 08:47:12
ไม่เบื่อนะ เรื่อยๆ เราเข้ามาเพราะความรัก 555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 28 [100%]❤️ -20/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 21-11-2017 13:22:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 29 [100%]❤️ -21/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 21-11-2017 19:29:43
>>ตอนที่ 29 [100%]<<

“ว่าไงสาม ดื่มด้วยกันไหม...” กระซิบกระซาบกับผมเสร็จ มันก็หันไปถามน้องต่อ

“ไม่ครับ...ผมไม่ดื่ม” เจ้าตัวยิ้มแห้งๆ กลัวอะเซ่ ไม่ใจเลยวะ ฮ่าๆ ดีแล้ว...อย่าให้น้องมันดื่มเลย ผมก็ไม่ดื่มเหมือนกัน

ปกติเวลาไปสถานที่พวกนี้ ถ้าลูกค้าในบาร์ไม่ให้ผมดื่ม ผมก็ไม่ดื่มหรอกครับ เวลาเมาหรือมีแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดแล้วมันจะเต้นได้ไม่ดีเท่าเดิม แต่ถ้าดื่มกันอยู่บ้าน อยู่ห้อง นัดดื่มกันไปเลยแบบเนี่ยผมดื่มอยู่ แล้วก็ดื่มหนักมากทั้งที่ตัวเองคอค่อนข้างอ่อน เห็นล่ำสันแบบนี้ผมก็ไม่ได้ดื่มเก่งอะไรนะ เพราะไม่ค่อยได้ดื่มเหมือนคนอื่นเขาไงครับ เลยเป็นแบบนี้ อีกอย่างนะ...ผมกลับมาทำงานต่อด้วย เมากลับสิ งานพังยับหมดพอดี

เรานั่งรถสองแถวไปลงแถวห้างๆ หนึ่ง จากนั้นต่อรถเมล์ จากนี้ไปตรอกข้าวสารน่ะค่อนข้างไกลเหมือนกัน แต่ก็ต้องไป แถวนี้ไม่มีสถานบรรเทิงที่เหมาะแก่พวกเราเท่าที่นั่น นอกจากคนในทีมผมเจ็ดคนก็ยังมีพวกของสาม สามคน แล้วก็เด็กในฟลออีกสี่ รวมๆ แล้วสิบสี่คนเดินทางมันไปด้วยกัน เสียงพูดคุยเลยเจี๊ยวจ๊าวไปหน่อย แต่ที่กังวลคือผมกลัวว่าเด็กๆ หรือแม้แต่คนในทีมตัวเองจะเล่นแผลงๆ รบกวนชาวบ้านเขา

สามนั่งเบาะหลังริมหน้าต่าง ในอ้อมแขนมีความรักนอนหลับพิงแขนเล็กๆ นั่น ส่วนผมยืนอยู่ข้างหน้าเขาแล้วเพื่อนสามอีกสองคนนั่งข้างสาม หลังรถเมล์นี่แหล่งรวมเสียงเจี๊ยวจ๊าว เพราะทุกคนแย่งกันพูดคุย หัวเราะเอิ๊กอ๊ากไม่เกรงใจใครเลย

“เสียงดังเนอะ”

“อืม มากครับ” สามว่าขำๆ ผมนั่งลงที่พื้นตรงหน้าสาม ไม่ต้องห่วง เวลานี้รถเมล์แทบไม่มีคนแล้ว นี่รถเที่ยวสุดท้ายด้วยแหละ โซฮานยืนอยู่ข้างผม

“จะหลับในปะเรา พวกพี่ซ้อมกันดึกเลยล่ะ” เอาแขนทั้งสองข้างเท้าไปที่ขาอ่อนของเดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมา ฮ่าๆ สโลแกนนี้ผมจำแม่นมาก

“กาแฟสักป๋องผมตาค้างยันเช้าแล้วล่ะพี่ อีกอย่าง อดนอนเพราะเล่นเกมบ่อย น่าจะอยู่ยาวๆ ได้” เจ้าตัวคลายแขนข้างหนึ่งจากหมูตัวเองมาสางเส้นผมให้

“ต้องสระผมทุกวันเลยสินะครับเนี่ย” เหนียวอะสิใช่ไหม

“ช่าย...ส่วนสามก็ไม่ต้องสระ นอนเน่ากับหมูตัวเอง” เจ้าตัวเบะปากหน่อยๆ

“ตลก ผมสระเหอะ เห็นอย่างนี้ก็ดูแลตัวเองดีนะโด่ว...”

“มึงบอกกูว่ามึงไม่ได้สระผมมาอาทิตย์หนึ่งแล้วอะสาม” วิ่งแทรกขึ้นยิ้มๆ เล่นเอาสามปากคว่ำเพราะโดนเพื่อนแฉ

“ยี๋ เน่าอะ” ผมร่วมสมทบ

“เฮ้ยๆ ผมสระเหอะ สระทุกวัน กูก็พูดไปงั้นๆ ไหมล่ะ” สามแทบจะกระโดดงับหัวเพื่อนตัวเอง แต่วิ่งไม่ได้สะทกสะท้านต่อท่าทางดุดันเหมือนลูกหมูของสาม

“ฮ่าๆ...สงสัยกลับห้องพี่ต้องไปดูแล้วล่ะมั้งว่าสระผมจริงเปล่า” สามละมือออกจากเส้นไปกอดความรักเหมือนเคย

“ไม่ต้อง...ก็ได้มั้ง” แล้วเขาก็โครงหัวเหมือนที่ชอบทำ

“ต้องดิ แฟนพี่หัวเหม็นไม่ได้นะ”

“วู้วววววว ไปหนุงหนิงกันไกลๆ ดิ้ เกะกะลูกตาวะ แม่ง..คนโสดนะเนี่นคนโสด!” ไอ้เรย์โอดครวญขึ้นมากลางปล้อง

“มึงอะไปเห่าหอนที่อื่น ไปชิ่วๆ” แค่ไล่พร้อมทำท่า หัวถึงกับโดนโบก แต่ครับแต่...ตรงหน้าผมเป็นตักสามไง ถึงเรย์จะโบกไม่แรงแต่ผมก็โอเวอร์แอ็กติ้งไว้ก่อน เอาให้หน้าทิ่มลงหน้าขาไปเลย!

สามสะดุ้งนิดหน่อยเมื่อผมหน้าทิ่มลงบนตัก ไอ้เรย์แม่งก็ร่วมมือดี้ดี บี้หัวผมหน้าขาของสามอย่างไม่บันยะบันยัง แนบจนแทบจะจมไปกับขา ไม่พอ...ถูไถไปอีก โอ้ย...ขาเปลือยพี่จะฟินมาก แล้วจะตบรางวัลไอ้เรย์อย่างงาม นี่ถ้ารู้ว่าจะมีช็อตแบบนี้เข้ามานะ ผมจะให้สามใส่ขาสั้น

“พอแล้วม้างงงงงง จะมุดไข่กันอยู่แล้ว” ไอ้แนแม่งสาระแนเข้ามาหยุดมือไอ้เรย์ ผมเลยต้องโงหัวขึ้น

“ฮ่าๆ...แหม่ ไม่น่าห้าม กูกำลังมัน” ไม่ใช่ผมพูดนะ ไอ้เรย์นู้นนนน ผมไม่เกี่ยว

“ขอโทษแทนเพื่อนพี่ด้วยนะ”

“ทำเป็นขอโทษ…” อ่าวสาม อย่ารู้ทันพี่สิ สามหันหน้าแดงๆ ออกไปมองวิวข้างทาง ผมเลยไม่ได้สบตาเขา ได้แค่มองเสี้ยวหน้าขึ้นสีนั้นยิ้มๆ

แต่ว่านะ...ความรักมึงไม่สะทกสะท้านต่อแรงสั่นสะเทือนนั้นบ้างเลยเหรอ มีแค่ขยับพลิกตัวนิดหน่อย แล้วหลับต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเฉยเลยอ่ะ เออ ความเป็นหมูนี่มันน่าทึ่งนะ หรือว่าเป็นเฉพาะไอ้ความรักตัวเดียว อาจเป็นไปได้ว่าเวลาสามนอนสามดิ้นแรง ความรักมันเลยเคยชินกับการโดนแรงนู้นนี่นั่นเสียดสีตัวมันเองตลอดเวลา

เหล่าบีบอยกรูกันลงเมื่อรถเมล์มาจอดที่ป้าย เดี๋ยวเราต้องเดินข้ามถนนไปเข้าตรอกข้าวสารฝั่งนู้น แต่ก่อนไป ต้องยกโขยงไปโกยของกินในเซ่เว่นตรงป้ายรถเมล์ก่อน ของกินในตรอกส่วนใหญ่ไม่ค่อยอิ่ม ราคาสูงเพราะเน้นขายให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผมคว้ามมือสามมาจับไว้ขณะเดินเลือกของกิน ส่วนใหญ่จะเป็นนมกับขนมปัง มันกินง่าย อยู่ท้องแล้วก็ราคาประหยัดดี

“พี่ไม่เอาเกลือแร่ไปเพิ่ม อันนี้หมดแล้วนะ” สามท้วงขึ้นตอนที่ผมนำไปยังเคาน์เตอร์

“เออเนอะ สามเอากาแฟด้วยเลยปะ”

“ไม่เอาอ่า...ไม่ไหวจริงๆ ค่อยกิน เดี๋ยวตาค้าง”

“ลูกคุณหนูจริง…” โซฮานเปรยขึ้น มันเดินผ่านหลังเราทั้งคู่ไป สามหันมอง เจ้าตัวเม้มปากนิดหน่อยแล้วก็หันมามองผม

“ช่างมันเหอะ ปากหมาเป็นนิสัย”

“เขาพูดถึงผมเหรอ...” อ่าว นี่ไม่รู้เหรอว่าเขาพูดถึงตัวเองเนี่ย เออ เอ๋อดีวะ

“ฮ่าๆ ซื่อบื้อ” ยีหัวสามเบาๆ แล้วพาไปที่ตู้เครื่องดื่ม

เราช่วยกันเลือกเครื่องดื่ม โดยน้ำเปล่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ผมมาปล่อยมือสามก็ตอนที่ต้องจ่ายเงิน คือผมเนี่ยเป็นคนถือตะกร้า ให้สามเป็นคนหยิบ ทว่าตอนนี้ผมต้องจ่ายตังไง จะให้น้องมันมาล้วงกระเป๋ากางเกงผมก็ไม่ใช่เรื่องไหมล่ะ จ่ายเสร็จก็ออกมารอคนอื่นๆ นอกร้าน ตอนนี้ความรักตื่นแล้วตื่นไม่เต็มตาด้วยนะ สลึมสลือ สามพยายามลูบหัวให้หมูน้อยนอนต่อ

ชอบบอกว่าจะกินมัน แต่แววตาที่มองมันคือทั้งรักและเป็นห่วง ผมเชื่อว่าสามรักความจริงตั้งนานแล้วเพราะสามมักดูแลความรักเป็นอย่างดี ข้าวของเครื่องใช้ความรักในห้องค่อนข้างเยอะ อ่อ มีรูปโพลาลอยด์ความรักติดอยู่ที่ผนังห้องด้านหนึ่งด้วยยนะ สามทำเหมือนมันเป็นแกลอรี่เลยล่ะ ดูแล้วน่ารักดี

เมื่อทุกคนซื้อของเสร็จเราก็มุ่งไปที่เปิดหมวก เรามักจะเต้นเริ่มต้นที่ร้านเคก่อนจะขยับไปเรื่อยๆ ร้านนี้เฮดฟลอเขาสนิท คือเรียกว่าเราเต้นกันจุดนี้เป็นประจำ นอกจากเราจะเปิดหมวกได้เงิน ร้านก็จะได้ลูกค้าที่มามุงดูพวกเราไปในตัว ได้กันทั้งสองฝ่ายก็เลยอยู่ด้วยกันรอด เด็กที่ตรอกข้าวสารค่อนข้างเยอะ บางคนเป็นเด็กที่นี่เลยและบางคนบางกลุ่มก็มาจากที่อื่น อย่างพวกเราเป็นต้น

“โห...มากันตรึมเลยเว้ย” ทัศ ชายหนุ่มผิวเข้มร่างสูงและกำยำเอ่ยทักเรา เขาเป็นคนที่นี่ เรามักเรียกว่ากลุ่มเจ้าถิ่น ทัศจะเต้นอยู่ที่นี่และซ้อมอยู่ที่พระประแดง

“ก็นะ ต้องซ้อมทีมไง”

“เออๆ แต่มาซ้อมให้พวกกูเห็น ไม่คิดว่าพวกกูจะลอกบ้างเหรอวะ” ทัศตรงเข้ามากอดคอไอ้แน

“ไม่อะ พวกมึงคงไม่หมาขนาดนั้น” ผมว่ายิ้มๆ ซึ่งคนฟังก็หัวเราะชอบใจ

สามมองทางกลุ่มและคนอื่นๆ โดยรวม เขาสำรวจสิ่งรอบด้านเหมือนกำลังเก็บข้อมูลไว้ในสมอง ท่าทางแบบสามเนี่ยไม่น่ามายังสถานที่แบบนี้บ่อยๆ ก็เท่าที่คุยเขาค่อนข้างติดเกม ไม่มีกิจกรรมแบบนี้ให้ทำ ก็ไม่น่าจะมาที่แบบนี้หรอก

“เดี๋ยวสามนั่งตรงนี้ก็ได้นะ” ผมพาสามเดินลึกเข้ามาหลังฟลอเต้นที่เป็นพื้นปูน นี่ก็เป็นพื้นที่ร้าน เจ้าของยกให้โต๊ะหนึ่งเพื่อให้เด็กๆ ในนี้นั่ง

“ครับ แต่จะซ้อมกันยังไง...” มันไม่มีพื้นที่มากเหมือนที่ฟลอเรานี่นะ

“ก็ซ้อมมันตรงนี้เลยนี่แหละ”

“ไม่ถลอกปอกเปิกกันหมดเหรอพี่ ดูพื้นดิ...พื้นปูนแบบปูนแบบปูนเลยนะ” นี่น้องติดอ่างเหรอครับ ฮ่าๆ

“เอาหน่า พวกพี่เต้นชินแล้ว หนังด้าน” ยีหัวเจ้าตัวเบาๆ

“อ่อๆ เคๆ สู้ๆ ครับ…” สามยิ้มให้ เขานั่งมองนั่นมองนี่ต่อไปเรื่อย

นอกจากสามก็ยังมีผู้หญิงที่แต่งตัววับๆ แวมๆ อีกหลายคน ส่วนใหญ่เป็นแฟนของเหล่าบีบอยในกลุ่มนี่แหละครับ มานั่งเฝ้าแฟน แล้วก็ถือโอกาสมาเที่ยว ผมไม่ค่อยชอบเด็กเหล่านี้เท่าไหร่ บางคนอายุน้อยกว่าสามอีก แต่ดูเจนโลกมากว่า แล้วก็แต่งตัวโป๊ไปหน่อย ผมเคยคบกับเด็กๆ พวกนี้นะ...ตอนมาซ้อมแล้วเธอมาจีบอะ แต่พอคบแล้วรู้เลยว่าเธอจีบเพื่อเรียกเรตติ้งให้ตัวเอง แบบว่าเอาไปอวดได้ว่าฉันเป็นแฟนกับพี่มะเดี่ยวด้วยนะ แล้วดันไปได้ยินพวกเธอคุยกันเรื่องไอ้นั่นของผู้ชาย ผมสยองเลยอะ ผมยังไม่ได้มีอะไรกับเธอ ซึ่งเธอก็บอกว่ายังไม่เห็นเลยวะ อยากรู้เหมือนกันว่าจะใหญ่และลีลาดีไหม...เอาเป็นว่าหลังจากได้ยินเธอพูดกับเพื่อนๆ แบบนั้นผมก็ขอเลิกเลย

รับไม่ได้เท่าไหร่...หญิงแกร่งไม่กลัวโลกคือดีนะ แต่กร้านแบบนั้น ผมไม่โอเค คบได้แค่เพื่อเรื่องอย่างว่าแล้วจบอะได้ ครั้นจะหวังให้สานต่อในระยะยาวผมคงไม่เอา จะไม่ขอต่อว่าผู้หญิงเหล่านั้นแล้วกัน เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเธอ จะทำยังไงก็เป็นสิทธิ์ของพวกเธอนั่นแหละ

ทัศเป็นคนเปิดฟลอในฐานะเฮดฟลอ ตามด้วยลูกทีมของเขาและพวกผม ทีมผมเองยังไม่ซ้อมลูทีมในตอนนี้เพราะว่าเรายังต้องทำให้ร่างกายชินกับสกิวก่อน เหมือนวอร์มนอกรอบนั่นแหละ หยุดซ้อมไปเกือบชั่วโมง เราต้องเร่งเครื่องให้ร้อนนิดหน่อย

พวกบีบอยชอบเสียงเพลงดังๆ และคนมุงเยอะๆ ผมก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ตอนนี้เครื่องร้อนได้ที่มากๆ สามเองก็จับจ้องอยู่ ผมใส่ทุกอย่างลงฟลอเต็มที่แทบไม่มีกั้ก แบทเทิลเล่นกับคนในกลุ่มด้วยความสนุกสนาน เสียงเพลง ท่าเต้นและเสียงหัวเราะดังรายล้อมพวกเราอยู่ มันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ผมคิดว่ามันน่าหลงใหล คนมองไม่มีทางสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของเรา ถึงอย่างเราก็ยังอยากจะโชว์ อยากให้พวกเขาทึ่งในความสามารถของพวกเรา

เราแค่ต้องการพื้นที่...ที่ที่เราสามารถโชว์ความเก่งกาจของเราได้ เราอยากอวดให้คนอื่นได้รู้ว่าเฮ้ย กูทำท่านี้ได้นะ อันนี้กูก็ทำได้ เราฝึกฝน เราเหนื่อย เราเจ็บปวดกับการทำท่าทางต่างๆ กว่าจะได้ขนาดนี้ เราก็อยากได้เสียงปรบมือจากผู้ชม พร้อมกับเสียงโห่ร้องที่ชื่นชมเรา

ยิ่งเจ็บกับมันมากเท่าไหร่...คำชื่นชมเหล่านั้นก็ยิ่งมีผลต่อความรู้สึกเรามากเท่านั้น

เหนื่อยเหรอ เออ พวกเราเหนื่อย

เจ็บเหรอ เออ พวกเราเจ็บ

แต่...อย่าบอกให้พวกเราหยุด เลือดตกยางออกพวกเราก็ไม่หยุดหรอก สนุกขนาดนี้ มันขนาดนี้ เต้นแบบพลีชีพกันไปข้าง เอาให้เดี้ยงแล้วลากเข้าโรงพยาบาลนั่นแหละถึงจะหยุดพวกเราในตอนนี้ได้

ฟลอเต้นร้อนเป็นไฟ ไม่มีใครยอมใครและไม่มีใครยอมปล่อยให้ฟลอว่างเว้นแม้แต่วินาทีเดียว ไอ้นั่นขึ้นไอ้นี่ลง ผมเองก็แย่งกับเขาลงสกิวยิกๆ เหมือนกัน บางทีดึงเสื้อเพื่อนตัวเองเอาไว้แล้วเต้นเองด้วยซ้ำ เกือบโดนถีบหัวทิ่ม ดีที่เพื่อนยังยั้งตีนไม่เอามาปะทะผมที่กำลังใช้มือเดียวในการกระโดด หรือเรียกว่าจั๊มพ์วันแฮนด์ ถ้าเกิดโดนตีนเพื่อนผมปลิวแน่นอน เพราะเคยมาก่อนอันนี้รู้ดี และถึงจะแย่งกันลงดุเดือดแค่ไหน แต่เสียงหัวเราะก็ยังไม่หายไป

ผมหันไปมองสามบ่อยๆ ดูว่าเขาเบื่อไหม หลับหรือเปล่า ทว่าทุกครั้งที่หันไปเราจะสบตากัน แล้วใบหน้าน่ารักนั้นก็จะส่งยิ้มหวานเจือหัวเราะมาให้เสมอ สามมักจับมือความรักโบกหย็อยๆ มาให้กำลังใจ ต้นกำเนิดพลังงานของผมคือ...แฟน!

เพื่อนรู้หัวหลุดแน่นอน เพราะงั้นเราจะไม่ให้ใครรู้ครับผม แล้วแต่ละคนน้อยหน้ากันที่ไหน ขนาดหอบเป็นหมาหอบแดดก็ยังซัดใส่กันโครมๆ ไอ้แนเล่นท่าแล้วล้มหัวกระแทกพื้นสะเทือนมันยังกระดื้บไปท่าต่อไปทั้งที่ตะโกนด่าแม่ตัวเองอยู่ เห็นความไม่ยอมแพ้ของลูกผู้ชายอย่างเราๆ ไหมครับ...

แต่ว่าการเต้นทุกรอบมันจะมีช่วงหยุดพักครับ...ประมาณครึ่งชั่วโมงเราจะโค้งคำนับคนดู แล้วก็ให้เด็กเดินหมวกไปรับเงินจากพวกเขา ซึ่งพวกเขาก็จะให้เราตามความพึงพอใจหรือชื่นชมเรานั่นแหละ ระหว่างนั้นฟลอก็ยังมีคนลงไปซ้อมเต้น เป็นซ้อมท่าใดท่าหนึ่งไปประมาณนั้น

“แฮ่ก...” ผมไม่สนหรอก ผมเดินโซเซมาหาสาม เจ้าตัวเปิดขวดน้ำรอไว้อยู่แล้ว

“เหงื่อท่วมเลย ฟลอเดือดมาก...ตื่นเต้น” สามยิ้มไม่หุบ

“ชอบปะละ”

“ก็ชอบนะ แต่ผมเต้นไม่ได้ขนาดนั้นหรอก แค่นั่งดูก็สนุกแล้ว...เนอะความรัก พี่มะเดี่ยวของแกเต้นเก่งมาก” ตาเขาไม่ได้มองความรัก แต่มองผม...หมายความว่ายังไงไม่ต้องอธิบายหรอกนะ

“น่าฟัด...”

“ผมเหรอ”
“เปล่า ความรักอะ...ฟัดที” แถไปงั้น อยากฟัดคนอยู่แล้ว ใครจะอยากฟัดหมู แต่เอาเถอะ…หมูมันอยู่บนตักสาม ฟัดความรักก็เหมือนฟัดสามนั่นแหละ ถือว่าหยวนๆ กันไป

ผมโน้มหน้าเข้าใกล้คนตัวเล็ก แกล้งให้เจ้าตัวตกใจเล่นๆ ก่อนจะเคลื่อนลงไปไซ้หัวน้อยๆ ของความรัก มันเงยหน้ารับสัมผัสอย่างว่าง่าย เป็นเด็กดียิ่งกว่าป๊าของมันอีกนะ แบบนี้ใครเขาถึงได้รักและหลงมันไงล่ะ ใช้สองมือประกบหน้าเล็กๆ ขยี้ขนที่ค่อนข้างแข็งของมันเหมือนเล่นกับหมานั่นแหละครับ ถึงมันเป็นหมู แต่มันก็ทำหน้าฟินไม่แพ้หมาเลยนะ มองหน้าพริ้มๆ ของความรักแล้วก็ขอมองหน้าป๊ามันหน่อย...ใกล้แค่นี้เอง ใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจอ่อนๆ ซึ่งมันก็เป็นกลิ่นตัวของเขานั่นแหละ ถ้าขยับเข้าใกล้กว่านี้และสูงอีกหน่อย...ผมน่าจะเอาปากแนบแก้มนวลนั่นได้น้า

“แฮ่มมมมม” แฮ่มบ้านมึงอะ! โอ้ยไอ้สารเลวเรย์ ขัดจังหวะ...ชิ

....100%....

เอาจริงๆ ถ้าได้เขียนด้านดาร์กของบีบอยคงสนุกดีนะ ฮาาาา พี่ทัศ...ตัวประกอบนอกสายตาของเรานั้นมีอยู่จริง เขาเป็นเด็กพระประแดง และเป็นหนึ่งในอาจารย์ของเราเอง พี่เขาไม่โดดเด่น ไม่ได้ไปไกลมากนักในเส้นทางความฝัน แต่พี่ทัศก็ไม่เคยย่อท้อเลย

อันที่จริง...ตัวละครส่วนใหญ่มีอยู่จริงๆ แหละ แฮ่
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 29 [100%]❤️ -21/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-11-2017 21:22:26
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 29 [100%]❤️ -21/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-11-2017 21:44:33
 o13   เขียนได้น่าอ่านมากครับ น้องสามและความรัก น่าฟัดๆฝุดๆ   o13

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 29 [100%]❤️ -21/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 22-11-2017 09:17:39
โซฮานสงสัยอยากตาย เสี้ยมจังดีออก คนแบบนี้ต้องแบนมัน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 29 [100%]❤️ -21/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 22-11-2017 10:13:37
ฟินอ่ะ

 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 29 [100%]❤️ -21/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 22-11-2017 20:02:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 30 [100%]❤️ -22/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 22-11-2017 20:57:59
>>ตอนที่ 30 [100%]<<

“คือ...กูก็แบบ แบบ...ไม่ได้อยากขัดจังหวะอะไรหรอกน้า แต่ว่าแบบ...คือแบบ...” ยืนกระมิดกระเมี้ยนเหมือนสาวสองแล้วเอานิ้วชี้จิ้มกันจึ้กๆ แบบ แบบ แบบบ้านมึงอะเนี่ย โอ้ย เห็นมันทำท่าแล้วอยากเตะ

“คิก..ฮ่าๆ ผมขอโทษ” สามพยายามเอามือปิดปากกลั้นขำเต็มที่ เออ มันก็ตลกจริงๆ นั่นแหละ เพียงแค่ผมเห็นมันบ่อยแล้วไง

“หัวเราะเยาะรุ่นพี่ต้องโดนทำโทษนะน้องสาม” พอน้องหัวเราะ ไอ้เรย์ก็หาเรื่องทันที

“ง่า...ผมขอโทษ ผมไม่หัวเราะแล้ว” แต่ก็ยังหุบยิ้มไม่ลง

“ไม่ให้อภัย...” ว่าแล้วเรย์มันก็เดินไปไหนสักที่ ผมกับสามมองหน้ากัน

“พี่เขาโกรธผมเปล่าอ่ะ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ

“ไม่หรอก ไอ้เรย์มันกวนตีนเองแหละ ชอบทำตัวอย่างนั้น ทุกคนก็ขำมันหมด เราไม่ต้องคิดมาก แค่ระวังว่ามันจะแกล้งอะไรเราก็พอ” เด็กใสซื่อแกล้งง่ายคือของหวานสำหรับเหล่าบีบอยครับผม

“อะไรอ่า....หาเรื่องแกล้งผมอีกแล้วเหรอ โหย ทำไมใครๆ ก็ชอบแกล้งผม” สามเอาหน้าซบกับความรัก บ่นงุบงิบอยู่กันสองตัว

“ก็สามน่าแกล้ง” เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมามอง

“ไม่...ผมไม่ยอมให้แกล้งแล้ว” เรย์มันเดินเข้ามาพอดี พร้อมกับเบียร์หนึ่งขวดและแก้วพลาสติกใส

“อะไรมึง” ผมถาม เริ่มระแวงแล้ว นึกภาพต่อไปออกเลยว่ามันจะแกล้งอะไรสาม เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันแกล้งคนอื่นอย่างนี้

“เปล่า กูแค่อยากดูว่าสามสำนึกผิดแค่ไหนเท่านั้นเอง” ผมหันไปมองสาม ซึ่งเจ้าตัวก็ต้องรับขวดเบียร์จากเรย์มาอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ให้ผมเทใส่แก้วเพื่อดูปริมาณความสำนึกผิดใช่ไหมครับ” เจ้าตัวถามเสียงซื่อ

“ถูกต้อง น้องสามฉลาดนะ อะ...เท”

“ครับ” สามลังเลนิดหน่อย เห็นว่าแก้วอยู่ในมือไอ้เรย์ เจ้าตัวเลยเทมันซะเต็มแก้วเพื่อแสดงความสำนึกผิดต่อการหัวเราะเยาะท่าทางตุ้งติ้งจอมปลอมของไอ้เรย์

“โห สามสำนึกผิดมากเลยนะเนี่ย” เรย์ยิ้มกว้าง

“ครับ ผมสำนึกผิดมากๆ เลย พี่ยกโทษให้ผมนะ” เจ้าตัวเงยหน้าอ้อนวอน มันก็นิสัยของเขาแหละนะ…แต่ผมหวงหน้าตาน่ารักนี่จังวะ แล้วดูไอ้เรย์มันยิ้มดิ...อย่างกับจะแดกน้องเข้าไปทั้งตัว เฮ้...แฟนกู!

“ได้สิ ดื่มให้หมดเลย แล้วพี่จะยกโทษให้ ถือว่าสามสำนึกผิดต่อพี่จริงๆ” นั่นไงล่ะ ไอ้เลว ผมเตรียมอ้าปากแย้ง แต่เรย์ชี้หน้าผม

“หยุดเลย ความผิดน้องมัน น้องมันต้องรับผิดชอบเว้ย” แล้วมากดเสียงขู่แบบนี้ สามก็หงอหมดสิวะ

“อ่า...” สามจำต้องรับแก้วเบียร์ที่เต็มไปด้วยเบียร์เน้นๆ ไม่มีน้ำแข็งผสมมาถือเอาไว้ ปกป้องน้องมันตอนนี้ไอ้เรย์มันต้องหาทางแกล้งน้องอีกแน่ๆ อีกอย่าง..เบียร์แก้วเดียวไม่เป็นอะไรมั้ง

สามจิบไปคำหนึ่งก็เบ้หน้า มันขมแหละเพราะว่าไม่ได้ใส่น้ำแข็ง เห็นว่ามีไอเย็นอยู่ น่าจะไม่เท่าไหร่ เจ้าตัวค่อยๆ ดื่มมันทีละน้อย สีหน้ากะอักกระอ่วนโคตรๆ เหมือนคนไม่เคยดื่มเบียร์มาก่อนในชีวิต แล้วไอ้เรย์ก็เอาแต่อมยิ้มกับปฏิกิรยาของน้องมัน อารมณ์ดีนักแหละเวลาได้แกล้งชาวบ้านชาวช่องเขานะ ผมเตรียมเปิดขวดน้ำเอาไว้เผื่อสามอยากจะล้างปาก ไม่งั้นความขมมันติดลิ้นเหมือนกัน

“ฮ่า....แหวะ” สามรีบส่งแก้วคืนเรย์อย่างไว ผมเองก็ส่งน้ำตาม

“ฮ่าๆ...เห็นไหม อร่อย” ไอ้เรย์ยกขวดดื่ม ส่วนสามก็จิบน้ำเปล่า

“ไม่เห็นอร่อยเลยพี่ ขม” ซื่อจริง

“ทำอย่างกับไม่เคยกิน” สามส่ายหน้าทันที

“ผมไม่เคยกิน เคยกินแต่สไปย์” โอ้โห...ใสไปอีก ผมกับเรย์มองหน้ากันแทบไม่ได้นัดหมาย คือการจะหาเด็กผู้ชายสักคนที่ไม่ดื่มอะไรพวกนี้เนี่ยมันค่อนข้างยากนะ แล้วสามเองก็อายุปามาสิบแปดแล้วด้วย ปกติผ่านการดื่มเหล้าดื่มเบียร์มาหมดแล้ว

“บ้านเลี้ยงมาแบบไหนวะเนี่ย คุณหนูอย่างไอ้โซว่าจริงๆ”

“ก็...ที่บ้านไม่มีคนกินอะฮะ” อ่อ ถึงว่าไม่เคยดื่ม

“แล้วกับเพื่อนๆ”

“ไม่อะครับ เพื่อนผมติดเกม...เล่นเกมกันส่วนใหญ่” ตามนั้น ไม่ใช่คุณหนู แค่เด็กติดเกมนั่นแหละหนา

เรย์พยักหน้ารับ แล้วก็ตบบ่าผมก่อนเดินจากไป สามยังทำปากแจ็บๆ อยู่ รสชาติขมฝาดคอน่าจะยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น แต่ตอนนี้...หน้าสามเริ่มแดงแล้ว เออ เล่นเอาเชื่อเลยว่าไม่เคยดื่ม

“จะเมาปะเนี่ย” เขาส่ายหน้า

“ไม่หรอกพี่ แก้วเดียวเอง” ใช่ มันแค่แก้วเดียวเอง

“พี่ไปซ้อมต่อเถอะ เพื่อนพี่เริ่มซ้อมแล้วน่ะ...” สามพยักหน้าไปทางฟลอ พวกมันกำลังวางตำแหน่งลูทีมกันอยู่ ผมเองก็ต้องไปซ้อมด้วยไม่งั้นมาคืนนี้ก็เปล่าประโยชน์

“เคๆ เมาให้บอกนะรู้เปล่า”

“รู้หน่า ผมไม่เมาง่ายขนาดนั้นหรอก พี่อะเวอร์” หน้ามึงก็แดงเวอร์อะสามเอ้ย ไม่ให้ห่วงได้ไง ลามไปยันคอแล้วนั่น

ในเมื่อสามบอกไม่เมาก็คือไม่เมาละกัน ผมต้องออกมาซ้อมลูทีมกับเพื่อนต่อ ที่จริงมันยังมีเวลาอีกนาน มันเป็นเพราะผมเองที่อยากให้ทุกอย่างมันออกดี ออกมาเพอร์เฟ็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทีมอื่นๆ เขาก็ทุ่มเทแบบนี้ทั้งนั้นแหละ มัวแต่เล่นๆ คุณก็ไม่ต้องมาลงระดับประเทศ เวทีเล็กๆ มีเยอะแยะมากมาย ที่นี่มีแต่คนที่มากไปด้วยความฝันและความตั้งใจ ผมเอง...ผมอยากให้เกียรติคู่ต่อสู้ด้วยการเต็มที่กับท่าทีมและการซ้อมมากที่สุด เพราะบางทีมเขาทุ่มเทมาก แล้วต้องมาแพ้ทีมที่มาแค่เล่นๆ ผมรู้สึกว่ามันไม่แฟร์

จริงที่ว่าเรื่องของความสามารถมันเป็นเรื่องที่คุณต้องยอมรับ พวกเก่งกับไม่เก่งมันวัดกันด้วยสกิวไปแล้วไง ในด้านความรู้สึกนะ...ผมว่าคนที่แม่งเก่ง แม่งไปเล่นๆ อะ แม่งหยามพวกที่ทุ่มเทมากๆ แม้เขาไม่เก่งเกินไป อย่างน้อย เมื่อเรามองเขาเป็นคู่แข่ง ก็ควรเต็มที่กับเขา อย่าบอกว่าเฮ้ย ไอ้ทีมนี่แม่งอ่อน ออมๆ ให้แม่งเหอะ แบบนี้เหมือนโดนตบหน้าด้วยรองเท้าฝ่ายตรงข้ามเลยนะ เขาไม่เก่งแต่เขาพยายาม ความพยายามของเขาจะต้องมาโดนดูถูกจากพวกที่แม่งเก่งอยู่แล้วงี้เหรอ ไม่แฟร์...นี่เป็นเหตุที่ผมตั้งใจทุกครั้งสำหรับการแข่งขัน

เราเต็มที่ คนอื่นก็เต็มที่...เมื่อเราหรือเขาแพ้ เราหรือเขาก็จะไม่เสียใจกับผลงาน เพราะเราเต็มที่กับมันจริงๆ แล้วมันมาได้แค่นี้ก็คือสามารถยอมรับได้ แน่นอนว่าคิดแบบนี้เนี่ยมาจากเคยเจ็บกับกรณีแบบนี้ เคยลงเวทีแล้วแม่งพูดว่า...น่าสงสารเนอะ นี่ขนาดออมให้แล้วยังแพ้ ใช่ ทีมเขาออม ผมแบทเทิลผมก็บอกไม่ต้องออมหรอก พวกเขาหัวเราะแล้วว่าเด็กอย่างน้องให้พี่ออมให้อะดีแล้ว จะได้ไม่ขายขี้หน้ามากเวลาแพ้ จำแม่งขึ้นใจ...สมาชิกทีมผมเองก็จำเหตุการณ์นั้นแม่นเหมือนกัน

พีชกับวิ่งเข้าไปนั่งเล่นอยู่กับสาม พวกนี้แม่งถือเบียร์กันด้วย...กร้านนะเรา สามคงไม่ดื่มกับพวกมันหรอกมั้ง ผมซ้อมไปก็แอบลอบมองพวกมันไปด้วย ก็เป็นห่วงนี่ครับ นี่สถานอโคจรนะ คนไม่ดีหรือคนมักมากเยอะ ระแวงระวังไว้หน่อยก็ไม่เสียหาย

แต่นอกจากสาม ผมยังมองโซฮานอยู่ตลอด กำลังหาจังหวะลากมันออกมาคุย ผมไม่ลืมเรื่องที่มันได้ทำเอาไว้หรอกนะ ยังไงผมก็ต้องรู้เหตุผลที่มันทำแบบนี้ให้ได้ มันทำให้ผมกับสามเข้าใจผิดซึ่งกันและกัน และเกือบทำให้ผมกับสามตัดความสัมพันธ์ที่จะก้าวหน้าต่อไป หาจังหวะอยู่นานมาก ในที่สุดโซฮานมันก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ลอบมองไปทางสามนิดหน่อย เจ้านั้นยังหัวเราะอยู่กับเพื่อนๆ ของตัวเอง ผมก็เลยเดินตามโซฮานไป

“กูรู้แล้วว่าทำไมจู่ๆ สามถึงหายไป” พอมันทำธุระส่วนตัวเสร็จ เดินมาล้างมือหน้ากระจกผมก็เปิดประเด็น

“มันบอกมึง?” โซฮานมองหน้าผมผ่านกระจก

“ใช่ สามบอกกูแล้ว มึงทำไปเพื่ออะไรวะ”

“ก่อนที่จะถามกูว่ากูทำไปเพื่ออะไร อยากถามมึงว่ามึงเชื่อมัน?” หน้าตามันเอาเรื่อง

“แล้วน้องมันจะโกหกกูทำไม” กูก็เอาเรื่องนะโซฮาน

“กลับมาหลอกควายอย่างมึงต่อมั้ง กูเคยบอกแล้วไง...คนมันทำเลวอะ มันจะสารภาพกับมึงเหรอว่ามันเลว กูนี่...กูเพื่อนมึง แทนที่จะเชื่อเพื่อนอย่างกู มึงเสือกไปเชื่อเด็กที่เพิ่งเข้ามาในชีวิตมึงเนี่ยนะ” มันหันมาเผชิญหน้ากับผมตรงๆ รู้ว่าคำพูดมันมีเหตุผล...แล้วผมก็ควรจะเชื่อมัน แต่หันไปมองสาม...ดูเด็กคนนั้นสิ เขาจะหลอกผมทำไม สนุกเหรอ? สามดูไม่ใช่คนที่ทำแบบนี้เพื่อความสนุก อีกอย่าง ผมรู้สึกว่าน้องเขาไม่ได้โกหกผม

“บ้านรวย หน้าตาดี เพื่อนรัก ครอบครัวอบอุ่น...ไม่ขาดอะไรเลย ไหนเหตุผลที่มาหลอกกูละ”

“สนุกไง”

“มึงคิดไปเองหรือเปล่าว่าสามเล่นสนุกกับความรู้สึกกู”

“เห็นมันหน้าซื่อตาใสเข้าหน่อยมึงก็เชื่อมันหมดใจ…เออ เอาเลย มึงจะเชื่อยังไงก็แล้วแต่มึง เพื่อนอะ…แม่งมีค่าน้อยกว่าว่าที่เมียอยู่แล้ว” โซฮานเดินเข้ามาใกล้ ผมขวางทางออกเอาไว้แล้วมันก็ต้องผ่านผมไปมันถึงจะออกได้

โซฮานมันคงลืมไปว่าผมมีนิสัยอย่างไร...คิดว่าคุยกันค้างไว้แล้วมันจะหนีได้เหรอ ฝันไปได้เลย ผมไม่ใช่คนที่ยอมทิ้งปัญหาให้ค้างคา ผมคว้าแขนมันเอาไว้แล้วลากมันเข้ากำแพง โซฮานมองตาขวาง มันไม่พอใจ แล้วไง...ผมก็ไม่พอใจปะ คิดว่าไม่รู้เหรอว่าที่ทำเหมือนโมโหอยู่เมื่อกี้น่ะ มันก็แค่แถให้ตัวเองรอด โซฮานไม่ยอมบอกว่าทำไมมันถึงต้องทำแบบนั้นกับผมและสาม

“กูเป็นยังไง...มึงก็รู้ดีปะวะ หืม...ว่าไง รู้จักกูดีใช่ไหม” โซฮานกวาดสายตาไปทางอื่น

“อืม”

“งั้นมึงก็ต้องรู้ว่าสิ่งที่มึงพูดมาเมื่อกี้อะ หลอกกูไม่ได้ไง มันยากเหี้ยอะไรแค่มึงบอกกูมาว่ามึงทำไปเพื่ออะไร!!” ผมเริ่มขึ้นเสียงใส่โซฮาน ผมมีวิธีเอาคำตอบในแบบของผม กดดันแล้วจี้ให้มันจนตรอก เดี๋ยวมันก็ต้องสารภาพออกมา มีคนจำนวนไม่มากหรอกครับที่ทนแรงกดดันจากคนๆ หนึ่งได้

“กูบอกมึงไปแล้ว”

“บอก...ตลก มึงจะบอกไหม มึงจะยอมพูดไหม”

“มึงไม่ต้องมากดดันกู มึงรู้ทันกูคนเดียวเหรอ...วิธีของมึงมันใช้ได้แค่กับเด็กโง่นั่นเท่านั้นแหละ” โซฮานว่าสามอีกแล้ว สังเกตมานิดหน่อยนะ มันชอบแซะสาม ดูไม่พอใจสาม

“มึงว่าน้องมันอีกแล้ว มึงไม่พอใจอะไรน้องมันใช่ไหม มันไปทำอะไรให้มึง...”

“มันขวางหูขวางตา” นี่แหละ คำพูดที่แท้จริง...แววตาโกรธเคืองตรงหน้าผมตอนนี้ไม่ใช่เรื่องโกหก

“น้องมันอยู่เฉยๆ มันไปขวางหูขวางตามึงตั้งแต่เมื่อไหร่” เหมือนมันพยายามอดทน พยายามจะสู้กับความกดดันที่ผมได้มอบให้ ผมเลยคว้าเสื้อยืดของมัน ดึงขึ้นจนโซฮานต้องสบตาในระยะประชิด

“ไม่ใช่ว่ามึงอยากได้น้องมัน แต่น้องมันไม่สนใจมึงใช่ไหม...” ส่งความเกรี้ยวโกรธจอมปลอมให้คนตรงหน้า โซฮานอาจประครองสติตัวเองได้ไม่มาก มันขาดผึงได้ง่าย แขนเล็กที่มากไปกำลังออกแรงผลักผมจนคอเสื้อมันหลุดออกจากมือ

“กูไม่สนน้องแม่งหรอก แต่ที่มันขวางหูขวางตากูอะ เพราะมันเอาแต่อ่อยมึงไง...มันอ่อยคนที่กูชอบ เหตุผลกูมากพอที่จะกำจัดมันไหม!!” เออ เกินความคาดหมายไปไกลเหมือนกัน เอ...ผมต้องบอกว่าผมไม่ได้คาดหวังอะไรเอาไว้มากกว่าแค่แกล้งกันนะ

แต่คำสารภาพรักของเพื่อนสนิทไม่ได้สะเทือนความรู้สึกผมเท่าไหร่นัก ไม่รู้ทำไม ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ติดเสียดายนิดหน่อย ไม่ใช่เสียมันหรอกนะ แต่เสียดายแทนมัน...ถ้ามันบอกกับผม สารภาพกับผมก่อนที่สามจะเข้ามา มันก็คงได้โอกาสไปแล้ว นี่มาอะไร...หมาหวงก้างเหรอ ผมไม่เคยขีดเส้นว่าเฮ้ย มึงเพื่อนกู มึงห้ามรักกูนะ สำหรับผมอะ ถ้าชอบก็บอกชอบ จะจีบก็เข้ามาจีบ...แค่เนี้ย ยากตรงไหน

“พูดมาแต่แรกก็จบ...ให้กูเล่นบทโหดอยู่นั่น” ผมว่าเสียงเรียบ ไม่ได้โกรธจริง ก็เลยดูเหมือนปกติสุดๆ ต่างจากโซฮานที่ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ มันรู้จักผมดีพอๆ กับที่ผมรู้จักมันนั่นแหละ แต่...ตอนนี้ผมอาจไม่รู้จักมันดีจริงๆ ก็ได้ เพราะผมไม่เคยรู้เลยว่ามันแอบชอบผมอยู่

“มึงอยู่ข้างกู...มึงบอกกับกูได้เสมอว่ามึงชอบกู โอกาสของมึงอะ อยู่ตรงนี้ ตรงหน้ามึง แต่มึงไม่คว้าไว้ ทีนี้จะมาเสียดาย จะมาหวงก้าง กูว่าไม่ใช่วะ มึงก็รู้ว่ากูไม่แอนตี้เรื่องเพศ ไม่แอ้นตี้เรื่องคนในจะรักจะชอบกันเอง กูบอกเสมอว่าเรื่องของความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ แต่มึงก็ไม่จำคำที่กูเคยพูด คนที่พลาดคือมึง...หมูคาบกูไปแดกแล้ว เสียใจด้วย” ตบบ่ามันเบาๆ แล้วก็เดินแยกออกมา

สิ่งที่ผมรู้สึก...ความคิดของผม ผมบอกมันไปหมดแล้วในประโยคนั้น ที่เหลือมันก็ต้องทบทวนตัวเองเอาเอง มันเป็นคนพลาด มันจะมาพานคนอื่นแบบนี้ไม่ถูก น้องมันไม่ได้ผิดอะไรเลย ผมต่างหากที่เป็นฝ่ายชอบน้องมันเพราะผมโสด

ผมกับโซฮานเราเข้ากันได้ดี ถ้าคบกัน ผมก็เชื่อว่ามันจะเป็นคนที่เข้าใจผมได้มากกว่าใครๆ เพราะเราเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน ความรักที่เกินเลยคำว่าเพื่อนสำหรับผมไม่ได้สร้างความรู้สึกแย่ๆ หรอก กลับกัน...เราเป็นเพื่อนกัน เราเข้าใจกันดีกว่าการเริ่มต้นใหม่กับคนที่เจอแล้วชอบเสียอีก ผมแค่ไม่ได้ชอบไอ้โซฮานในรูปแบบนั้นก่อน ทว่ามันไม่ได้หมายความว่าผมจะพัฒนาความรู้สึกไม่ได้หากมันเป็นฝ่ายสารภาพความในใจ

แต่ตอนนี้มันค่อนข้างสายไปแล้ว…เพราะผมชอบสาม

(จบมะเดี่ยว)

....100%....

พอดีพี่มะเดี่ยวเราเป็นคนเด็ดเดี่ยวมากอะนะ แม้แต่เพื่อนพี่มันก็กดดันได้ ก็อย่างว่า...ใครให้ตุกติกก่อนละถูกไหม ชอบมาก...หมูคาบกูไปแดกแล้ว ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 30 [100%]❤️ -22/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 22-11-2017 21:45:51
หมูปาดหน้าเค้ก555555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 30 [100%]❤️ -22/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 22-11-2017 22:00:24
 :L2: :L1: :pig4:

ตัวเองไม่ได้เรื่องแล้วพาล
ขี้ขลาดชวนตีว่ะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 30 [100%]❤️ -22/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 22-11-2017 22:39:31
หมูคาบไปแดก  :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 30 [100%]❤️ -22/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 23-11-2017 00:25:50
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 30 [100%]❤️ -22/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 23-11-2017 00:36:53
หวานนนนน
คนรักกันก้หวานนนกันซะ
ส่วนคนเสี้ยมก้ขยันเหมือนกันอะ
รอค่าา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 30 [100%]❤️ -22/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 23-11-2017 05:42:24
"หมูคาบไปแดก" จึกเลย  555555555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 30 [100%]❤️ -22/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: สาว801 ที่ 24-11-2017 21:47:15
ลั่น55 :m20:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 31 [100%]❤️ -24/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 24-11-2017 22:03:05
>>ตอนที่ 31 [100%]<<

ใครจะไปคิดว่าแค่ไม่เจอกับพี่มะเดี่ยวไม่กี่วันความรักจะผอมลงไปขนาดนี้...

ผมพยายามตัดใจจากพี่เขา ทว่าความรักเอาแต่โหยหา มันไม่เข้าใจคำว่าตัดใจเหมือนกับคน แค่เฝ้ารอและหวังว่าเขาจะมาเคาะประตูห้อง ความรักเอาแต่นั่งอยู่หน้าประตู เงยหน้ามองมันอยู่แบบนั้นแม้ว่าจะเรียกมันให้มากินข้าวหรือนอนมันก็ไม่ค่อยตอบสนอง อาหารพร่องลงน้อยลงไปทุกวัน เออ...กูกินไม่ลงก็ไม่ได้หมายความมึงจะกินไม่ลงเหมือนกูนะเว้ย

แล้ววันนี้มันก็หนักขึ้น วันทั้งวันความรักแทบไม่กินอะไรเลย...ผมเห็นมันทรมานแล้วผมทรมานยิ่งกว่า ผมพยายามอธิบาย ทว่ามันจะเข้าใจในสิ่งที่ผมอธิบายได้สักเท่าไหร่ล่ะ ในเมื่อมันไม่ใช่คนแบบผม

อันที่จริงผมเริ่มจะทนสงสารมันไม่ไหวแล้วล่ะ กะว่าพรุ่งนี้หรือวันจันทร์จะลองไปหาพี่มะเดี่ยว ลองถามพี่เขาดู ต้องขอบคุณเพื่อนที่ชี้ทางสว่างให้ แหม...กูนี่ฉลาดมาตั้งนานเสือกมาโง่อะไรเอาเรื่องแบบนี้ ไม่ๆ...ผมไม่โง่เว้ย ผมแค่ไม่มั่นใจสิ่งที่รู้มา พี่มะเดี่ยวเป็นคนมีเสน่ห์มาก ใครๆ ก็ชอบเขา น้าบอยเองก็บอกว่าเขามีแฟนเยอะพอๆ กับเลิกเยอะนั่นแหละ ถ้าเป็นแบบนั้นเพราะเขาคบเล่นๆ...มันก็ฟังขึ้นนะ ผมเชื่อว่าคนแบบนี้มี ผมก็เลยเชื่อพี่โซฮานหมดใจเลยอะดิ ผมไม่ผิดนะเว้ย นั่นเพื่อนสนิทเขาอะ

แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังร้องไห้เพราะสงสารความรัก...เขาก็โพล่มา

ไม่คิดว่าเราจะได้คุยกันเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ผมทำตัวไม่ถูก กลัวพี่เขาโกรธด้วย พี่มะเดี่ยวแม่งมาถึงก็กดดันกันโครมๆ ผมนี่แทบหายใจหายคอไม่ออก เขาน่ากลัวเสมอเวลาพูดด้วยโทนเสียงทุ้มต่ำแบบนั้น บางครั้งผมก็เผลอของขึ้น ก็เล่นมาหาว่าผมเล่นกับความรู้สึกคนอื่นทั้งที่เขาเองนั่นแหละที่ทำ แต่แล้วก็เอะใจขึ้นมาว่า...ผมตัดสินไปเองเพราะฟังคนอื่นนะ ก็เลยสงบลง แล้วเราถึงได้คุยกันดีๆ...จบลงแบบนี้ คบกันเสย

ความรักกลับมากินเก่ง...กินแบบว่าชดเชยในหลายวันที่ผ่านมา ท้องมึงมีแค่นั้นเว้ยไอ้ลูกหมู มึงจะกระซวยเข้าไปมากกว่านั้นมันก็ย่อยไม่ทันสิวะ ผมก็เลยต้องคอยควบคุมไม่ให้กินมากจนเกินไป ค่อยๆ ให้กิน รอย่อยแล้วกินใหม่ เข้าใจว่าหลายวันมานี้มันอดอาหารมาไง คงหิวมาก...ผมก็...เพิ่งจะรู้สึกหิวเหมือนกัน

อย่าถามเลยว่าตอนที่พี่มะเดี่ยวบังคับให้คบกันเลยน่ะรู้สึกยังไง...ผมคิดว่าไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้นะ ถูกปะ ลองคุณมีคนที่ชอบสิ แล้วไอ้คนที่คุณชอบอยู่มาบอกกับคุณว่าเฮ้ย มึงอะ มาคบกับกูมา คุณจะรู้สึกยังไงล่ะ...แหม หาความโรแมนติกไม่มีเลยอะตัวเอง ฮ่าๆ บ้าเหรอ มันก็ต้องรู้สึกดีใช่ปะ เออ ผมก็รู้สึกแบบนั้น แล้วก็รู้สึกเบาใจที่ได้รู้ว่าพี่เขาไม่ได้เล่นกับความรู้สึกของผมอย่างที่ผมเข้าใจในตอนแรก

แต่ว่า...พอมาที่ฟลอท้ายตลาด จากที่ไม่กังวลอะไรแล้วก็เกิดกังวลขึ้นมา พี่มะเดี่ยวกับพี่โซฮานเหมือนจะทะเลาะกัน ผมไม่กล้าคิดว่าเป็นเรื่องตัวเองแต่ก็คิดเป็นเรื่องอื่นไม่ออก ถ้าพี่โซฮานแค่แกล้งผมจริง เขาสองคนคงไม่ทะเลาะกันหรอก พี่มะเดี่ยวน่าจะรู้ทันเพื่อนตัวเอง

ส่วนวิ่งกับพีช...ไม่ต้องห่วง มันเสือกเรื่องของผมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันเล่าด้วยว่าเมื่อเย็นน้าบอยเกือบต่อยพี่มะเดี่ยว ผมนึกว่าพี่เขาพูดเล่นเสียอีก วิ่งเล่ามาเป็นฉากๆ ตื่นเต้นมาก หน้าตาโคตรได้อารมณ์ เหมือนดูเขาพากย์หนังอย่างไรอย่างนั้นเลย แต่ผมไม่คิดเลยว่าน้าบอยจะห้าวเป้งขนาดนั้น เขาตัวเล็กๆ เหมือนผมเหมือนพี่โซฮานนี่แหละครับ ผอมบาง ไม่ได้มีรูปร่างแบบล่ำบึ้กอะไร

“มา...ดื่มกัน” นั่งมองพี่เขาเต้นเพลินๆ ขวดเบียร์ก็มาจ่อตรงหน้าผมเฉย

“ไม่เอาได้ปะวะ”

“ไม่ได้ ดื่มกับพวกกูนี่แหละ ไม่ต้องห่วง...ไม่เมาหรอก” ก็อยากเชื่อมึงนะวิ่ง แต่คนอย่างเดอะสามเนี่ยเมาได้ด้วยสไปย์สี่ขวดนะเว้ย...สี่ขวดเลยเป็นไงล่ะ โคตรเทพ ฮื่อออออ อย่าตอกย้ำสามนะว่าสามมันอ่อนแค่ไหน ที่บ้านผมมไม่ค่อยดื่มของแบบนี้กันจริงๆ ครับ อาจจะมีบ้างประปรายเวลาสังสรรค์ในครอบครัว วันพิเศษเปิดไวน์บ้าง ดื่มเบียร์บ้าง เอาแค่หอมปากหอมคอ ไม่มีใครดื่มเอาเป็นเอาตาย เอาเมามายสักคนเดียว...หรือเขาแอบไปเมากันแล้วผมไม่รู้อันนี้ก็ไม่รู้นะครับ

“จริงดิ เคยกินแค่สไปย์นะมึง”

“แอลกอฮอล์มันเท่าสไปย์ 7%” อ่อ งั้นผมก็กินได้...ไม่ถึงสี่ ขนาดมันเท่ากัน

“เคๆ” ดื่มก็ดื่มครับ ไหนๆ มาเที่ยวกับเพื่อนฝูงทั้งที เมื่อกี้พี่เรย์แม่งเล่นเอาผมแทบอ้วก ขมติดปากเลย

“แหวะ...ขม” อืม มันขม ผมไม่ชอบเลยอะ

“เดี๋ยวก็ชินเอง” พีชว่ายิ้มๆ มึงชิน แล้วรู้ได้ยังไงว่าคนอย่างกูจะไปชินเหมือนพวกมึงวะ

“แล้วไม่ซ้อมแล้วเหรอ ดื่มงี้เดี๋ยวก็ซ้อมไม่ได้หรอก”

“ใสไปไหนมึง เบียร์แค่นี้ไม่เมาจนซ้อมไม่ได้หรอก ตอนนี้พวกนั้นเขาใช้พื้นที่กันอยู่ เราก็พักไป เดี๋ยวเขาก็จะเริ่มเปิดหมวดรอบที่สองแล้ว” ออ ผมพยักหน้ารับ เห็นเปิดหมวกรอบแรกซัดกันมันหยดเลย พี่มะเดี่ยวเองก็เต็มที่กับการเต้นมาก เหงื่อโซมกาย ยืนค้ำเข่าหอบก็ยังลงโครมๆ

ผมอาจจะเพิ่งเข้ามาในจุดนี้ เพิ่งเคยเห็น แต่ผมชอบมัน...ผมว่าพวกเขาดูมีความสุข แล้วความสุขของพวกเขา เสียงหัวเราะหรือแม้แต่การหยอกเอินเหล่านั้นมันทำให้คนมองอย่างคนนอกมีความสุขตามไปด้วย หัวเราะตาม ได้ขำขันกับท่าทางบ๊องๆ ตลกของพวกผู้ชายตัวใหญ่กว่าหมีควายแกล้งกันเป็นเด็กๆ หรือเล่นทะลึ่งตึงตังไม่อายฟ้า ไม่อายดิน

เมื่อก่อนเคยคิดว่าบีบอยมันเน้นเท่เนอะ แค่เต้นนิดๆ หน่อยๆ มันก็ดูดีแล้ว...มีแต่มุมหล่ออะ มาอยู่ตรงนี้ เออ มันไม่ใช่แค่หล่อนะ มันเกินด้วยแหละ...จะว่าไม่เต็มก็ไม่ได้ ผมว่าคนเหล่านี้ล้นมากกว่า ผมเชื่อแล้วว่าหน้าพวกเขาด้านกว่าปูน...ครูดปูน ปูนต้องถลอก ไม่ใช่หน้าพวกเขา ฮ่าๆ ผมไม่ได้ด่า ผมกำลังชม...เพราะการแสดงออกในทางที่ถูกถือเป็นเรื่องน่าชื่นชมครับ

“ทำไมพี่คนนั้นเขาไม่ใส่รองเท้าวะ...” ผมสังเกตมาสักพักแล้ว ว่าจะถามพี่มะเดี่ยว แต่ว่าพี่เขาไม่ว่าง เอ...ไม่ว่างไม่พอ หายไปแล้วด้วยอะ?

“อ่อ พี่เบียร์...บีบอยรองเท้าแก้ว” คิ้วมขมวดแป๊บ

“บีบอยรองเท้าแก้ว?”

“ใช่ ฉายาเขา บีบอยรองเท้าแก้ว พี่เขาไม่ใส่รองเท้าเต้นอะนะ เอกลักษณ์เฉพาะตัว สายสตรีทจริง...เน้นสกิวโหด แบทกับพี่มันเหมือนกำลังจะต่อยกัน” เออ อันนั้นผมเห็นด้วย พี่เขาดูดุ...นักเลงหัวไม้ แบบพร้อมต่อยมึงตายอะ ไม่ใช่แค่ร่วงนะ เอาตายไปเลย

“แปลกดีเนอะ...”

“หน้ามึงฟินๆ นะ...เมาปะเนี่ย” วิ่งจับหัวผมหันไปหามัน ตาลายนิดหน่อยแต่ผมยังไม่ได้เมานะ

“เปล่า แค่...จะว่าไงดีละ กูว่ามันเจ๋งดี มีอะไรแปลกๆ เต็มไปหมด” อันนี้พูดจริง มันตื่นตาตื่นใจอะ ผมยกเบียร์ไอ้วิ่งดื่มต่ออีกหลายอึก

“มันแปลก เพราะมึงเป็นคนนอกที่เริ่มเข้ามาเป็นคนใน เดี๋ยวสักพักมันก็จะไม่แปลก กลายเป็น…ขาดฟลอไม่ได้แทน” พีชว่ายิ้มๆ

“อืม แต่กูอยากเล่นเกมเหมือนกันนะ เมื่อบ่ายอะ กูไปล่าอริที่ริม่ามาเว้ย นึกว่าแม่งบอทกัน ที่ไหนได้ กรูมาสามตี้รุมกูเฉย” ว่าแล้วก็ขำ ผมโดนรุมยำในเกมเละเลยล่ะครับเมื่อเย็นน่ะ ไปอย่าหล่อ ตายอย่างหมา

“มึงไม่รอกูไง วันหลังน้องก็อย่าซ่าไปคนเดียวนะจ้ะนะจ้ะ” วิ่งลูบหัวผมป่อยๆ ผมไม่เคือง ผมฮา

“กูตีมันตายตั้งหนึ่งตัว” โคตรน่าอวดเลยไหมล่ะเนี่ย

“ฮ่าๆ ตัวเดียวทำคุย...” พีชหัวเราะดังกว่า ทำไมวะ...ตัวเดียวแต่ผมตีตัวเทพมากเลยนะเว้ย

“คนตีใครไม่เคยตายอย่างมึงอะหุบปากไป” พูดไปงั้นแหละ มันก็ตีคนอื่นตายเหมือนกัน

พีชไม่ยอมให้ผมทับถม เจ้าตัวรีบงัดเอาวีรกรรมตัวเองออกมาอวดอ้าง วิ่งแม่งสั่งเบียร์เพิ่มแต่เสือกเอาเงินผมจ่าย ดีจ้า...ดีมากเพื่อน กูโคตรรักมึงเลย ผมไม่ได้ต่อว่าอะไร มัวแต่เอาจำนวนการฆ่าคนในเกมมาต่อสู้กับพีชอย่างดุเดือด ดุมากขนาดดื่มเบียร์ไปอย่างลืมตัว ไอ้วิ่งเห็นเราเย้วๆ กันสองคนมันก็ร่วมแจม ทีนี้ละมึงเอ้ย...แย่งกันเก่ง แย่งกันอวดอ้างสรรพคุณที่เวอร์วังเกินจริง จากฆ่าได้หนึ่งปาร์ตี้ที่มีหกตัว เริ่มเป็นสองและสาม สี่ห้าหกเจ็ด...สิบเถอะ โม้ไง มันคือการโม้อวดกันมันเลยเวอร์ไปหน่อย

“เถียงอะไรกันวะ...เชี่ยกูนึกว่าเพื่อนตีกันเอง” พี่แนแกเดินผ่านเข้ามาเอาน้ำที่โต๊ะ เจ้าตัวมองมาทางเรางงๆ เกาหัวแกรกๆ ถึงหัวจะเกรียนแต่เหงื่อแม่งก็กระจายออกมาจากหัวแกโดนพวกเรา

“คุยเรื่องเกมพี่ แล้วเลิกซ้อมทีมละอ๋อ” วิ่งเป็นคนตอบ ผมนั่งลูบหัวความรักนิ่งๆ

“เปล่า พัก” ว่าแค่นั้นแล้วนั่งลงที่พื้นปูน ชุดมันไม่เปื้อนไปมากกว่านี้แล้วล่ะครับ

พี่เรย์เดินเข้ามานั่งข้างกับพี่แน แย่งน้ำในมือพี่แนไปดื่มอึกๆ จนหมดขวด พี่แนโมโห คว้าขวดเปล่าตีหัวพี่เรย์ดับปั้บๆ โอ้ กูเจ็บแทนเลยอะ พี่เรย์เขาก็ไม่ยอมหรอกนะ เขาพยายามเอาขวดเปล่าอีกขวดไปตีคืน ทีนี้ก็เกิดสงครามขวดน้ำของเพื่อนสองคน ตีกันจริงจังอย่างกับจะฆ่ากันตาย ได้ข่าวว่ามาพักเหนื่อยไม่ใช่เหรอเมื่อกี้นี้อะ

“โอ้ยยยยย ไปตีกันไกลๆ เว้ยพี่” ไอ้วิ่งก็ไม่ธรรมดา มันเอาตีนขี้นมากันยันผู้ชายร่างควายสองคนเอาไว้ ขามึงเล็กกว่าตัวพี่เขามาก ล้มมาจริงนี่ขาหักแน่นอน

พี่เรย์หยุดตีพี่แน พี่แนก็หยุดตาม เขาทั้งสองมองหน้าวิ่ง จากนั้นขวดในมือของพี่เขาก็ฟาดลงบนหัววิ่งคนละที...สงสารเพื่อนตัวเองอะ สงสารที่มันโคตรตลกเลย ตาแทบไหลล่ะสิ ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าพี่แกตีแรงขนาดไหน

พวกเขายืนเล่นกันตรงหน้า ผมดื่มเบียร์กับวิ่งและพีชไปเรื่อยๆ พี่เรย์แกก็แซ็วนะว่าผมหน้าแดงก่ำไปหมดแล้ว แต่ผมไม่ได้สนใจอะไร แค่ยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ อย่าว่าแต่หน้าแดง ตอนนี้มึนด้วย...สองขวดเอง ฮ่าๆ คออ่อนกว่าสามก็เด็กทารกแล้วมั้งเนี่ย ผมพยายามไม่ดื่มมาก พอมึนแล้วรู้เลยว่าอีกหน่อยมันจะเข้าขั้นเมา ไม่อยากเป็นภาระคนอื่นลากกลับห้องอะ อีกอย่าง ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองเมาแล้วจะเป็นยังไง...

แต่ละคนเวลาเมาจะไม่เหมือนกัน บางคนเมาแล้วร้องไห้ บางคนเมาแล้วพล่าม บางคนเมาแล้วเงียบ หรือบางคนก็โวยวาย และอีก..บลาๆ เยอะมาก คนเมาแล้วสำแดงฤทธิ์เดชมันมีให้เห็นอยู่เนืองๆ ผมไม่รู้ตัวเองจะเป็นแบบไหนเพราะงั้นเซฟตัวเองไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ผมกวาดตามองไปรอบๆ พวกพี่ทั้งสองคนนั่งตรงหน้าเราซึ่งก็คือพื้น จากที่เอาขวดตีกันเหมือนจะฆ่ากันตอนนี้กำลังหัวเราะกับมุกในการ์ตูนที่พวกเขาดู หูผมได้ยินแค่แว่วๆ เสียงมันดัง แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจฟังสักเท่าไหร่ด้วย กวาดตาไปสักพัก สะดุดกับร่างสูงกำลังเดินออกมาจากตรอกมืดฝั่งตรงข้าม มีป้ายติดผนังร้านบาร์เอาไว้ว่าสุขา ถึงว่าพี่เขาหายไปไหน พี่เขามองตรงมาทางนี้ก่อนจะหันกลับไปด้านหลัง พี่โซฮานเอามือวางไว้บนไหล่พี่มะเดี่ยว เหมือนรั้งเอาไว้ ทั้งคู่ยืนหลบทางแต่ก็อยู่ตรงหน้าทางเข้าห้องน้ำ

เสียงรอบข้างมันคงดังไปใช่ไหม...เขาถึงได้กระซิบกระซาบกันใกล้ชิด หรือเพราะว่ามุมมองจากตรงนี้ที่เห็นว่าใบหน้าของทั้งสองมันใกล้กันเกินไป แล้วเพลงบีทมันก็คงดังเกินไปจนหัวใจผมเต้นรัวไปตามบีทนั้น...

ทั้งคู่ขยับออกจากกันนิดหน่อยพร้อมรอยยิ้ม พี่มะเดี่ยวกอดคอพี่โซฮานแล้วกระซิบอะไรสักอย่างใกล้ใบหน้าหล่อเหลา พี่โซฮานพยักหน้าสองสามทีทั้งคู่มองหน้ากันอีกครั้งก่อนจะเดินมาฝั่งนี้ ผมรีบเบี่ยงสายตาหลบ คว้าขวดเบียร์พีชมายกดื่มเพราะไม่รู้จะทำอะไร ความรักหลับไปอีกหนแล้วผมก็ไม่อยากจะรบกวนมันมากนัก แค่เสียงเพลงรอบข้างนี่ก็ดังมากพออยู่แล้ว

“อ่าว ทำไมยกขวดขนาดนั้นละเนี่ย” พี่มะเดี่ยวว่าอย่างตกใจ

“แฮ่ๆ...” แต่ผมไม่คำพูดอะไร พี่โซฮานจ้องมอง สายตาเขายังคงราบเรียบ ต่างจากเวลาที่เขามองพี่มะเดี่ยวที่มันดูมีชีวิตชีวา

จะว่า...พวกเขาก็ดูเหมาะสมกันนะ

“เมาปะเนี่ย หน้าแดงไปหมดแล้ว” แขนล่ำละจากคอเพื่อนเพื่อเอื้อมแตะหน้าผากผม มันร้อน...เพราะเลือดลมสูบฉีดหนัก

“ไม่เมา ถามเพื่อนผมได้” พยายามจดจ้องไปที่ใบหน้าของพี่มะเดี่ยวแทนพี่โซฮาน ผมรู้สึกอึดอัดเวลาเขามองผมน่ะ ไม่รู้หรอกว่าผมทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า หรือว่าการที่ผมมาจะทำให้เขารู้สึกรำคาญก็ได้ เพราะผมไม่มีประโยชน์อะไรที่แห่งนี้

“จริงพี่ สามไม่เมา สามแค่ไม่เหมือนเดิม”

“ไอ้วิ่ง” หันไปเอ็ดเพื่อน ไม่เหมือนเดิมตรงไหน ผมยังเหมือนเดิมทุกอย่างเลย

“เออ ไม่เหมือนเดิมจริง...ยกดื่มลืมขมเลย” พี่เขาเท้าเอวจ้อง คิ้วได้รูปขมวดแทบจะเป็นปม

“ไม่ลืม มันยังขมอยู่ แต่ก็...กินได้นะ” ยกขวดยื่นให้ คิดว่าพี่เขาจะรับเอาไว้แต่ไม่ พี่มะเดี่ยวปัดมันออก

“พี่ไม่ดื่มครับ เราก็น่าจะพอได้แล้ว เดี๋ยวเมานะ”

“อื้อ” เอาขวดวางไว้บนโต๊ะ

“สาม”

“ครับ” จู่ๆ พี่โซฮานก็เรียกขึ้นมา ผมสะดุ้งนิดหน่อยเพราะไม่ได้คาดคิดเอาไว้

“เรื่องที่พี่เคยพูดอะ พี่ขอโทษ...พี่โกหกไปงั้นแหละ อยากรู้ว่าเราจะทำยังไง” เขาดูเหมือนพูดแบบปกติ แต่แววตาที่มองผมมัน..แปลก ไม่ใช่แววตาที่ให้ความรู้สึกดี แต่ช่างเหอะ มันคงไม่มีอะไรหรอก หรือถ้าเขาจะบอกเป็นนัยว่าผมโง่...ผมไม่ซีเรียส

“ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มกว้างให้ หวังว่ามันจะเป็นมิตรมากพอให้พี่เขาพอใจ

“เราไม่โกรธสินะ งั้นพี่เอาตัวมะเดี่ยวไปซ้อมก่อน พวกมึงด้วย ลุก…” ผมไม่อะไรเลย...ไม่คิดอะไรกับมือที่จับแขนล่ำนั่นเอาไว้สักนิดเดียว

“พี่ซ้อมก่อนนะ อย่าดื่มเยอะ...อย่าเมารู้ไหม”

“ครับ ผมรู้แล้ว” มันไม่มีอะไร...มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้วนี่เนอะ

พี่มะเดี่ยวยีหัวผมเบาๆ แล้วเดินเข้าฟลอเต้นพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขา ตอนแรกพี่เขากับพี่โซฮานแทบไม่ยืนใกล้กัน ไม่คุยกัน แต่ตอนนี้ทั้งคู่กลับมาคุยกันเป็นปกติ หัวเราะด้วยกันและพี่โซฮานก็มักจะโอบไหล่กว้างของพี่มะเดี่ยวบ่อยๆ ถึงเขาจะตัวเล็กกว่ามาก แต่โอบก็คือโอบอะ...ไม่รอบแล้วยังไง ค่ามันไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากเดิมอยู่ดี

ไม่มีอะไร...เขาเพื่อนกัน

เพื่อนกันแล้วไงวะ...กูหึงได้ปะละ!

....100%....

ตอนแรกสามก็ดูใสๆ แต่ตอนท้ายสามดูเหมือนจะกลายร่างนะคะ!
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 31 [100%]❤️ -24/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-11-2017 22:30:14
 :L2: :L1: :pig4:

ภาวะที่โคตรเกลียด เพื่อนสนิทที่คิดมากกว่าเพื่อนของแฟน :z6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 31 [100%]❤️ -24/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 24-11-2017 22:56:51
หึงตอนเมาด้วย  -//-
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 31 [100%]❤️ -24/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-11-2017 23:03:50
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 32 [100%]❤️ -26/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 26-11-2017 19:11:17
>>ตอนที่ 32 [100%]<<

ตีสองเราทุกคนต่างเริ่มแยกย้าย...แต่กว่าจะมาถึงเวลานี้ได้ ผมแทบจะท่องตารางธาตุกล่อมตัวเองเลยอะ ฮ่าๆ ผมรู้ว่าพี่โซฮานกันพี่มะเดี่ยวเป็นเพื่อนสนิทกันและตัวติดกันแบบนี้มานานแล้ว ผมไม่ควรคิดมาก แต่เพราะสถานะที่เปลี่ยนไปหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ ผมถึงได้มองแล้วตงิดๆ จี๊ดๆ ในความรู้สึก อ๋อ แล้วไม่ต้องห่วงว่าสามหึงแล้วสามจะยกเบียร์ซดอึ้กๆ

ผมแยกระหว่างอารมณ์กับเหตุผลออกจากกันได้ครับ...^^

อย่าลืมว่าผมไม่เคยเมามาก่อน ผมไม่รู้ว่าพอเมาแล้วจะเป็นยังไง พี่มะเดี่ยวอยู่ ไม่ได้หมายความว่าเราจะเอาตัวเองไปเป็นภาระให้พี่เขาได้ แค่เขาต้องซ้อมเต้นหนักแบบนี้ก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว อีกทั้งความรักที่หลับอยู่ในกระเป๋านักเรียน ผมรักมันเหมือนลูก นั่นคือผมต้องทำตัวเป็นป๊าที่ดี ไม่เมาเป็นหมาทิ้งมันให้เดือดร้อนคนอื่น

พ่อผมบอกไว้ตอนที่ผมขอให้พ่อซื้อความรักให้ การที่เราจะรับเลี้ยงชีวิตใครสักชีวิต เราต้องมีความรับผิดชอบต่อมันมากพอ จะมาเลี้ยงทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่ได้เด็ดขาด ด้วยความที่บ้านเราเป็นฟาร์มสุนัขด้วย หลายคนซื้อไปเพราะตอนเด็กมันน่ารัก แล้วก็ทอดทิ้งมันเมื่อมันโตหมดความน่ารักไป พ่อไม่อยากให้ผมเป็นแบบนั้นและผมก็จะไม่เป็นแบบนั้น ที่ผ่านมา หลังจากได้ความรักมาครอบครอง ผมก็ดูแลมันอย่างดี ไม่ให้มันเป็นภาระคนอื่น เพราะนี่คือสัตว์เลี้ยงของผม...ผมต้องดูแลมันเอง ต้องรับผิดชอบมันทุกๆ อย่าง ทั้งความปลอดภัยทางกาย และความสงบสุขทางใจของมัน

ฮิ้วววววว สามดูหล่อขึ้นไหมอะ!

“ไม่ไปต่อจริงอ่อวะ” พี่โซฮานถามพี่มะเดี่ยวที่กำลังดื่มน้ำและเช็ดหน้าไปพร้อมกัน ผมเก็บของส่วนอื่นๆ อย่างเสื้อที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของพี่เขา คือพี่มะเดี่ยวเอาเสื้อมาเปลี่ยนด้วยน่ะ

“ไม่อะ”

“สามล่ะ ไปด้วยกันไหม” มาถามผมแบบนี้ผมต้องตอบว่าอะไร ผมไม่อยากเอาความรักไปทรมานแล้ว อีกอย่าง...เบียร์กับความง่วงมาปะทะกัน มันชวนนอนจริงๆ นะฮะ

“ไม่ไป สามกลับกับกูเนี่ย น้องมันง่วงแล้วอีกอย่าง...มึงจะเอาเด็กกับหมูเข้าผับเนี่ยนะ” อ่อ ไปผับบาร์กันนี่เอง ดีแล้ว...ผมไม่อยากไป ความรักควรกลับไปนอนบ้านอะ

“เซ็ง มึงละไอ้วิ่งไอ้พีช”

“ไปดิ ผมไป...สู้ตายอยู่แล้ว” ชู้สองนิ้วด้วยนะ แหม สู้ตายจริงๆ ด้วยแหละไอ้วิ่ง

ก็ตามนั้น ส่วนใหญ่ไหลไปกับพวกรุ่นพี่กันหมด ยกเว้นผมกับพี่มะเดี่ยวที่เลือกจะกลับห้อง เก็บของเสร็จพี่เขาก็สะพายกระเป๋า คว้ามือผมไปกุมแล้วเดินตามหลังกลุ่มเพื่อนๆ ไป เดี๋ยวพวกเขาจะส่งเราขึ้นรถ ส่วนเรื่องเงินค่ารถเราได้จากที่เปิดหมวก พี่มะเดี่ยวได้มาสามพันเหนาะๆ เห็นว่าคนในทีมได้เท่ากันหมดมั้ง ถือว่าได้ทั้งซ้อมเต้นทีม ได้เต้นกับเพื่อน แล้วก็ได้เงินด้วย ดูมันได้เงินง่ายนะ...แต่กว่าจะเต้นเก่งจนสามารถโชว์ได้ขนาดนี้ก็ต้องทุ่มเททั้งเวลา แรงกายและแรงใจไมใช่เล่นเลยอะ

พี่มะเดี่ยวโบกรถแท็กซี่ เวลานี้ไม่มีรถเมล์สายไหนสามารถกลับถึงห้องของเราได้แล้ว ผมเข้ามาก่อน นั่งติดหน้าต่างอีกฝั่ง พี่มะเดี่ยวลาเพื่อนๆ เสร็จถึงตามขึ้นมานั่งข้างกัน กระเป๋าใบโตที่ใส่ทั้งรองเท้า เสื้อและขวดน้ำดื่มถูกนำมาวางไว้ที่พื้น พี่เขาบอกจุดหมายปลายทางกับคนขับก่อนจะเอนหลังมองหน้าผม

“เบื่อปะ...”

“ไม่ครับ สนุกดี ว่าแต่พี่อะ...ไม่อยากไปต่อกับเขาเหรอครับ” คือถ้าผมกลับเองได้ ผมก็ไม่อยากให้พี่เขากลับด้วยหรอก ไม่อยากเป็นคนที่ทำให้พี่เขาห่างเพื่อนๆ หรือสังคมที่เขาอยู่อะ คนเราเป็นแฟนกันมันต้องเคารพในโลกส่วนตัวของอีกฝ่ายด้วย

“ไม่นะ มันก็เที่ยวผับ...ดื่มกิน เต๊าะผู้หญิง พี่ทำบ่อย เบื่อแล้ว” พี่แกดูสบายๆ กับเรื่องนี้มาก

“ไม่ได้เป็นเพราะผมใช่ไหม” ถามย้ำอีกครั้ง พี่มะเดี่ยวหันมาพร้อมกับรั้งคอผมให้นอนหนุนตัก

“ด้วย...พี่อยากกลับบ้านกับเรา ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่ทิ้งเพื่อนมาหรอกหน่า คิดมาก พี่เบื่ออะไรแบบนั้นจริงๆ อีกอย่าง...สามลืมปะว่าพี่มีงาน” ไม่ได้ลืมเว้ย แต่ก็ไม่รู้ไงว่างานพี่เขาเสร็จหรือยังไม่เสร็จ

“จะรู้เหรอ ทำงานอะไรบ้างผมไปรู้ด้วยที่ไหน”

“งั้นพี่จะบอกแล้วกัน ตอนนี้พี่ต้องวาดสี่ปกและภาพประกอบอีกยี่สิบภาพ ส่งภายในเดือนนี้” เอิ่ม...งานเยอะไปปะครับ

“แล้วพี่มาเถลไถลแบบนี้ได้ไงอะ ไม่รีบล่ะครับ” มองหน้าพี่เขาด้วยความสงสัย ความรักนอนอยู่บนอก และหลับสบายกว่าเดิมมาก แหงสิ แอร์ฉ่ำขนาดนี้นี่

“ก็ต้องทำท่าทีมให้เข้าที่ก่อนถึงจะปล่อยให้พวกมันซ้อมกันเอง อีกอย่าง...พี่เพิ่งส่งงานไปสามงาน จะขอพักหน่อยไม่ได้เลยเหรอครับ” พี่มะเดี่ยวโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ผมส่ายหน้าเบาๆ

“ได้สิครับ ผมแค่กลัวว่าจะทำให้พี่ไม่ได้ไปสนุกกับเพื่อนๆ”

“พี่สนุกกับพวกมันมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก”

“โอเค...” ทำมือประกอบให้พร้อม พี่เขายีหัวผมเบาๆ

ผมหลับตาลงเมื่อสบายใจแล้วว่าตัวเองไม่ทำให้พี่มะเดี่ยวทอดทิ้งเพื่อน ก็อาจมีส่วนแต่พี่เขาไม่เดือดร้อนผมก็เบาใจ นี่เกือบตีสามแล้ว ปกติผมอาจจะยังไม่ง่วงเท่าไหร่ ทว่าไอ้เบียร์บ้านั่นเล่นผมปรือตาต่อไม่ไหว พี่เขาก็ดันลูบแก้มผมเล่นอีก อืมดี...เพลินดี

มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พี่มะเดี่ยวกำลังจะอุ้มผมลงจากรถ มีสติรับรู้ แต่ง่วงมากก็เลยให้พี่เขาพามาที่ห้อง เอิ่ม...ไม่ใช่ห้องตัวเองมั้ง กลิ่นไม่คุ้นเท่าไหร่ ผมพลิกตัวนิดหน่อย เหมือนจะทับความรัก มันดิ้นเบาๆ เพื่อกระเสือกกระสนออกจากตัวของผม ออกได้ก็นอนแม่งตรงหน้าผมเนี่ย หายใจทีก็รดพุงมันที อย่างน้อยๆ นี่ก็เป็นความคุ้นชินที่ทำให้ผมสามารถหลับต่อได้อย่างง่ายดาย

ขอโทษนะพี่...ถ้าผมจะนอนกินที่พี่ไปหน่อย เวลานี้ไม่ขอตื่นแล้วล่ะ นอนต่อมันทั้งแบบนี้เลย ถือว่าช่วงเย็นผมอาบน้ำแล้ว เพราะงั้นผมไม่สกปรกนา ผมสะอาดพอๆ กับความรัก แถมกลิ่นตัวยังหอมกรุ่นด้วยเหงื่อและฝุ่น

แสงไฟจากด้านนอกสว่างวาบขึ้นมา ผมหลับตาปี๋ไปหน่อยเพราะแสบนิดๆ แต่ก็ยังไม่ยอมลืมตามองออยู่ดี แสงเข้ามาแบบนี้ได้แสดงว่าพี่เขาไม่ได้ปิดประตู เสียงกุกกักดังขึ้นเบาๆ คนด้านนอกน่าจะทำธุระส่วนตัวอยู่ ผมก็นอนฟังมันไปเรื่อยๆ ทั้งเข้ามาเปิดตู้ ปิดตู้และเสียงน้ำแว่วๆ...

“สาม...สามตื่นได้แล้ว” อารายอ่า…ผมเพิ่งนอนเอง แก้มสัมผัสเข้ากับความเย็นที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นมือ หรี่ตามองนิดหน่อยก็เห็นหน้าพี่มะเดี่ยวอยู่ใกล้มาก ตกใจไปสิครับ ผมสะดุ้งลืมตาโพลงแถมกระถดตัวถอยหลังไปหน่อย

“เอ่อ...กี่โมงแล้วครับ” ถามเบาๆ ก่อนจะหาววอด

“เจ็ดโมง แต่พี่บอยโทรมาแหนะ...” พี่มะเดี่ยวยกมือถือที่มีเบอร์น้าบอยเด่นหรา

“อ่า...ขอบคุณครับพี่” ผมรีบเอามากดรับสาย

“ครับน้า...ตื่นแล้วๆ เดี๋ยวผมไป ครับๆ” ฮื่อ...วันหยุดของเดอะสามก็ยังมีงานรอเราอยู่สินะ

“ไปช่วยงานที่ร้านใช่ไหม” พยักหน้า ผมค่อยๆ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ

“ไม่ไปทำไม่ได้ แม่จะหักค่าขนม” นึกแล้วเศร้าใจ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยทำไมต้องหักค่าขนมผมล่า...

“ฮ่าๆ งั้นสามไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่เขาเอื้อมมือมาจัดหัวที่ยุ่งเหยิงของผมเบาๆ

“ครับ งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ” พี่มะเดี่ยวพยักหน้า

ผมลุกขึ้น คว้าความรักและกระเป๋าตัวเองออกมาจากห้องของพี่มะเดี่ยว จากนั้นก็รีบอาบน้ำให้ตัวเองและความรักด้วยความไว ที่น้าโทรมาตามเพราะว่าผมไปร้านสายแล้วน่ะสิครับ ปกติร้านบีพีคอฟฟี่จะเปิดเช้ามากเพื่อให้นักศึกษาที่มีงานแต่เช้าตรู่มานั่งจิบกาแฟ

พี่มะเดี่ยวทำอะไรเสร็จก่อน เขายืนรออยู่หน้าห้องได้สักพักแล้ว เราเดินลงไปข้างล่างพร้อมกับคุยไปด้วยว่าเช้านี้จะกินอะไรดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่โต้เถียงกันยาวนาน ผมอยากกินข้าวเหนียวหมูปิ้งเรพาะมันกินง่ายแล้วก็สะดวก แต่พี่มะเดี่ยวไม่โอเค เถียงไปพักใหญ่มันก็จบที่ข้าวผัดไก่...เอาเถอะเพื่อความสบายใจของพี่เขาละนะ

ระหว่างผมกับพี่มะเดี่ยว คบกันแล้วก็ไม่ได้หวือหวาอะไร เขาไม่อ่อยหนักเหมือนตอนแรกและไม่ได้กวนตีนหนักแบบนั้น ออกจะเทคแคร์ผมเสียมากกว่า แล้วผมเองก็พยายามจะเทคแคร์เขากลับ เขาน่ะน่าเป็นห่วงและน่าจะมีคนดูแลมากกว่าผม คนทำงานนี่ครับ มันต้องหนักหนาสาหัสกว่าพวกนักศึกษาอย่างผมอยู่แล้ว

แต่ว่า...เวลาอยู่กับเขามันสบายใจจังเลยครับ

ผมไม่เคยสร้างตัวตนอีกตัวตนเวลาที่คบใคร ก็เป็นตัวของตัวเองมาตลอดนั่นแหละ พี่เขาไม่ได้พิเศษกว่าใครๆ ที่ผ่านมา ภายนอกหรือแม้แต่เวลาดูแลกันและกันมันก็คล้ายๆ ที่ผมเคยคบนั่นแหละ แต่ในด้านความรู้สึกอะ...พี่มะเดี่ยวเป็นคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด ลึกๆ มันมีความสุขอย่างแปลกประหลาด อาจเพราะเขามักมีมุกมาหยอดหรือว่ารอยยิ้มที่น่ารักและทะเล้นอยู่ในที

ก็พยายามหาเหตุผลว่าทำไมพี่เขาถึงทำให้ผมรู้สึกแตกต่างจากคนอื่นที่เคยคบมา แต่ผมยังหาไม่เจอ ความรู้สึกในตอนนี้เลยเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยากมาก แต่ถ้าเปรียบ...มันก็คงเหมือนเราได้อยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัว

หรือไม่...นี่มันก็แค่ความรู้สึกของคนที่หลงกันนั่นแหละครับ

“มากันทั้งคู่เลย…” น้าบอยอยู่รออยู่หน้าโต๊ะข้างๆ เคาน์เตอร์ ซึ่งมุมนี้เป็นมุมที่พนักงานชอบนั่งพัก มันไม่ค่อยมีคนเข้ามาตรงนี้เท่าไหร่

“พี่เอาความรักไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า” น้าภูมเข้ามาเอาความรักจากมือของผมไป

ผมและพี่มะเดี่ยวนั่งลงที่โต๊ะ น้าบอยไม่ได้บอก แต่สายตาค่อนข้างกดดันให้ผมทำแบบนั้น พี่มะเดี่ยวเองก็น่าจะได้รับความกดดันจากน้าผมเหมือนกัน เขาสนิทกันนี่ ต้องรู้ทันซึ่งกันและกันไม่ใช่น้อยแหละ

“เคลียร์กันโอเคแล้วว่างั้น ถึงมาพร้อมกันแบบนี้” อย่าดุสิคร้าบ สามรู้สึกไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรเลย

“ครับ เคลียร์กันแล้ว...มันแค่เรื่องเข้าใจผิดน่ะน้า” นี่กำลังทำข้อสอบระดับโลกอยู่หรือไงวะกู ทำไมมันตื่นเต้นขนาดนี้

“ผิดใจกันเพราะโซฮาน แล้วไอ้โซมันพูดหรือยังว่าทำไปทำไม”

“พี่เขามาขอโทษผมแล้ว เขาแค่แกล้งผมเฉยๆ...” ว่าแล้วหันไปมองพี่มะเดี่ยว เจ้านั้นก็นั่งนิ่งเหมือนกูเลย ไม่ใช่ข้อสอบแล้วล่ะ...นี่มันสอบสวนคดีฆาตกรรมยกครัวชัดๆ

“จริงเหรอ” น้าบอยหันไปทางพี่มะเดี่ยว

“จริงครับ ผมไปคุยกับมันมาแล้ว...”

“ถ้าแค่นั้นก็ดีไป แล้วสรุปยังไง...เรื่องความสัมพันธ์” มาถึงก็โดนดอกสำคัญเลยวะ

“ก็คบกันแล้วครับ” อยากกรี๊ดแตกเหมือนสาวน้อยในดงดอกไม้ ไม่คิดไม่ฝันมาว่าต้องมาประกาศให้คนในครอบครัวรู้ว่ากำลังคบกับใคร ผมไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน คบกันก็คบเงียบๆ มาตลอดเลย คงเพราะพี่มะเดี่ยวกับน้าเองก็สนิทกันละมั้งครับ ไม่บอกมันก็ดูไม่เกียรติผู้ใหญ่งี้ปะ

หลังจากพี่มะเดี่ยวบอกไปแบบนั้น ร่างทั้งร่างของผมก็เหมือนโดนสตั้นไป มันเป็นความกดดันอะครับ ไม่รู้ว่าน้าจะว่ายังไงกับเรื่องนี้ คงไม่แอนตี้หรอกเพราะน้าก็เป็น แล้วถึงผมไม่เคยประกาศคนที่บ้านว่าเคยคบใครๆ แต่ไม่ใช่คนในครอบครัวจะไม่รู้กันเสียหน่อย

“สามไปทำงานเถอะ น้าขอคุยกับเดี่ยวมันหน่อย” อ่าว ผมกังวลตั้งนาน สุดท้ายน้าไล่ผมเฉย ผมหันไปมองพี่มะเดี่ยว..จะซีดก็ไม่ซีด แต่เหงื่อตกหน่อยๆ นะพี่ แอร์เพิ่มไหม จะได้หายร้อน ฮ่าๆ

ภาวนาให้พี่แกรอดก็แล้วกันเนอะ...

ผมไปทำงานของตัวเอง น้าภูมเป็นคนคุมเคาน์เตอร์อยู่คนเดียวเพราะน้าบอยยังคุยกับพี่มะเดี่ยวไม่เสร็จ สามล่ะอยากจะเฉี่ยวไปใกล้ๆ จัง..แอบฟังน่ะ ก็อยากรู้เป็นธรรมดาปะล่ะ ว่าเขาคุยอะไรกัน ยังไงมันก็ต้องเป็นเรื่องของผมแน่นอนอยู่แล้ว ผมจะอยากรู้เรื่องตัวเองนี่ไม่เรียกว่าเสือกเนอะ...

แต่ให้ตาย ไม่มีจังหวะเข้าไปใกล้เลยแหะ จะเสนอหน้าโง่ๆ ของตัวเองไปฟังโต้งๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องอะ ลูกค้าไม่มีแท้ๆ ไม่น่าไล่ผมเลย…ผมอยากรู้นะเว้ยเนี่ย เดินเข้าไปนั่งหน้าเคาน์เตอร์เพราะลูกค้าไม่ค่อยมี ความรักมันนอนหายใจแฮ่กๆ มองผมตาแป๋ว...

“เขาคุยอะไรกันอะน้าภูม” เล่นหัวความรัก แต่ปากก็หาทางถาม

“เดาสิ” น้าภูมเท้าเครื่องมองผมยิ้มๆ

“โหย ให้สามเดายังไงอะ มันต้องเป็นเรื่องของสามแน่ๆ สามจะคลานเข้าไปสืบ น้าภูมอย่าเอ็ดไปนะ...” เสร็จก็ทำหน้าเหมือนตัวเองเป็นทหารที่กำลังจะเข้าไปเป็นสไปย์ในค่ายข้าศึก

“ฮ่าๆ ไอเอ๋อ...ร้านโล่งขนาดนี้ น้าไม่บอกเขาก็เห็นเหอะ” ผมก็รู้เหอะ พูดเล่นไปงั้นแหละ ใครจะไปทำ หน้าไม่ด้านพอหรอกบอกตามตรง

“น้าก็...” เบะปากร้องไห้ เรียกร้องความสนใจอาจเป็นทางที่ดี ที่นี้พอเขาหันมาสนใจเราก็บอกเราอยากรู้มากว่าพวกเขาคุยอะไรกันจนเกิดเป็นความเครียด ปวดหัวหนักเพราะเอาแต่ครุ่นคิดไม่หายเสียที และ...แล้วผมก็ช่างน่าเศร้าเพราะผมปวดหัวจนทนไม่ได้ต้องร้องไห้ออกมา...คิดว่าเขาจะเชื่อปะ?

“คิดไงไปคบกับเขา” อ่าว น้าภูมดับดราม่าผมเฉยเลย แต่ในเมื่อถาม ผมก็จะหาคำตอบให้...อืม...ทำไมผมถึงคบกับเขาล่ะ

“เขาก็น่ารักดีนะน้า อาจไม่สุขุมเพราะเป็นคนล้นๆ...บ้าๆ บวมๆ แต่ก็ไม่เลวร้ายนี่ครับ...” ลึกลงไปหน่อยคืออ่อยผมจนผมเผลอชอบอะนะ แล้วนั่นน้าบอยยิ้มอะไร

….100%….

ผิดหวังหันไหมหว่าที่น้องสามเก็บอารมณ์เก่ง ฮ่าๆ ยังหรอก...ยังไม่ถึงเวลาสามเหวี่ยงนะ ^^
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 32 [100%]❤️ -26/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 26-11-2017 21:03:49
อยากเห็นน้องสามเหวี่ยงนังโซค่ะ อย่าไปหงอนะลูก ถ้ามีอีกต้องจัดการรร :katai4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 32 [100%]❤️ -26/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 26-11-2017 21:17:01
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 32 [100%]❤️ -26/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 27-11-2017 09:24:36
น้องสามสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 32 [100%]❤️ -26/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-11-2017 10:48:41
อยากเห็นสามเหวี่ยงจังเลย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 32 [100%]❤️ -26/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 27-11-2017 11:58:56
น้องสามสู้ๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 33 [100%]❤️ -28/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 28-11-2017 21:47:38
>>ตอนที่ 33 [100%]<<

“แล้วถ้าโซฮานมันไม่ได้ล้อสามเล่นล่ะ แต่กลายเป็นเดี่ยวที่โกหก” เอาละ คำถามระดับโลกมาละฮะ นี่ผมต้องเครียดประหนึ่งทำข้อสอบเลยไหมอะ

“ก็คงเจ็บอะ แล้วก็คงเลิกไปเลย...ไม่ยากครับ” ใช่ พูดไม่ยาก แต่เรื่องทำ...เดี๋ยวว่ากันอีกที ช่วงที่พี่โซฮานมาบอกผมแบบนั้นแล้วผมพยายามตัดใจ มันก็ไม่แย่นะ มีแต่ความรักที่แย่ลง ผมอาจรู้สึกเฟล รู้สึกซึมและเศร้าอยู่ลึกๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าตัดใจไม่ได้นะ

“ง่ายขนาดนั้นเลย”

“ไม่ง่ายหรอกน้า แต่ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของมนุษย์หรอก”

“แต่ที่ผ่านมานี่ซึมไปเลยนะ” โหยน้า ปล่อยให้ผมหล่อเสียหน่อยก็ไม่ได้

“เป็นธรรมดาของคนตัดใจไหหมล่ะ...น้าก็”

“ฮ่าๆ ล้อเล่น...มะเดี่ยวมันก็เป็นคนดี แต่เอาเข้าจริงๆ มันเป็นคนไม่ค่อยมีเวลาให้คนอื่นมากนัก ถ้าเราโอเค น้าก็ไม่มีอะไรจะเตือนแล้วล่ะ” น้าภูมลูบหัวผมหนึ่งทีพลางยิ้มบางๆ

“ผมเข้าใจครับน้า” ผมยิ้มตอบ และจริงๆ...ผมเข้าใจดีกับคำว่าไม่มีเวลาให้

อันที่จริง...เราทั้งคู่ต่างก็เลิกรากับคนเก่าด้วยเหตุผลนี้แหละ

ทุกคนมีโลกส่วนตัวที่ให้คนอื่นเข้าไปไม่ได้อยู่ มันเป็นโลกที่เราครอบครองแต่เพียงลำพัง การที่คนสองคนจะคบกันมันก็ต้องเคารพในส่วนนั้น แล้วแต่ละฝ่ายก็ต้องปรับตัวเองเพื่ออีกฝ่ายด้วย ไม่ใช่ว่าพออีกคนรับได้ก็หลงระเริงอยู่กับความรับได้นั้นจนเอาตัวเองอยู่กับตัวมากเกินไป โดยลืมไปว่าอีกฝ่ายก็ต้องการเวลาจากเรา เรื่องนี้ผมเข้าใจดี แต่ความเข้าใจกับการทำได้มันคนละเรื่องกัน...

โห่...ถ้าทำได้ป่านนี้คบกับคนเก่าไม่เลิกกันหรอกครับ จริงมะ แต่ก็อย่างว่า มันขึ้นอยู่กับเคมีของแต่ละคนด้วยว่าเข้ากันได้มากแค่ไหน เปลี่ยนได้แค่ไหน และพื้นฐานนิสัยที่เข้าอกเข้าใจคนอื่นด้วย ที่ผ่านมา ผมชอบคนอื่น...ช่วงแรกให้เวลาเขา สักพักก็ปล่อยทิ้งขว้าง เขาเองก็เหมือนกันแทบไม่เคยทะเลาะกับแฟนเก่า เพราะเราตัดสินใจเลิกกันไปเลยง่ายกว่า

ส่วนกับพี่มะเดี่ยวนั้น ผมยังไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง...จากความชอบมันจะกลายเป็นรักและผูกพันกันได้ไหม มันเป็นเรื่องของความรู้สึกและการปฏิบัติตัวต่อกันหลังจากที่เราคบกัน ผมไม่ใช่ผู้หยั่งรู้ เพราะงั้นอนาคตผมก็ไม่มีทางรู้มันได้อยู่ดี

ก็เอาเป็นว่า...ศึกษากันไปแล้วกัน

เราเพิ่งรู้จักกัน แล้วก็จีบกันคบกันในระยะที่ค่อนข้างสั้น ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของอีกฝ่ายนักสักเท่าไหร่ แล้วไม่อยกาจะบอกเลยว่าไอ้นิสัยคนเนี่ย แม่งโคตรต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจเลยอะ พ่อกับแม่ผมแต่งงานอยู่กินกันมาตั้งนานยังทะเลาะกันอยู่บ้าง มีความเห็นไม่ตรงกันอยู่บ้าง และก็ยังมีส่วนที่ไม่เข้าใจกันอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังอยู่ด้วยกัน...ผมไม่รู้หรอกว่าอะไรยังไง แค่คิดว่ามันเป็นความรักน่ะ

รักเลยทน...รักเลยมองข้ามบางสิ่งบางอย่าง น่าจะประมาณนั้นมั้ง ขึ้นอยู่กับมุมมองคนอีกปะ ส่วนผม...ไม่เข้าใจมันท่องแท้หรอก ไม่ต้องถามเลย

ผมอยู่คุยกับน้าภูมต่ออีกหน่อย น้าบอยเดินเข้ามาแล้วไล่ให้ผมไปทำงานเพราะลูกค้าเข้ามาพอดี โอเค ทำก็ทำครับ สามไม่ดื้อ...สามเป็นเด็กดี ฮ่าๆ วันเสาร์อาทิตย์แบบนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ จากที่ต้องเดินไปรับออเดอร์นที่เข้ามาเมื่อกี้ผมก็ว่างเลย แต่ผมไม่ได้เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์หรอก เดินเข้าหาแฟนหมาดๆ ของตัวเองแทน เขากำลังนั่งวาดรูปอยู่ที่โต๊ะโดยมีกาแฟวางเอาไว้อยู่หนึ่งแก้ว

“ทำไมไม่กลับไปทำที่ห้องละครับ” ผมนั่งลงฝั่งตรงข้าม ผมว่าการทำงานที่ห้องสะดวกแล้วก็สบายกว่าการนั่งทำงานข้างนอกนะ หรือว่าผมคิดแบบนั้นคนเดียว

“ทำงานไปดูแฟนตัวเองไปไม่ได้เหรอ” ไม่ต้องมาส่งยิ้มกรุ่มกริ่มเลยเหอะ คบกันแล้วอ่อยมากนี่ผมตีความเป็นเรื่อง....เซ็นเซอร์แป๊บ ฮ่าๆ

“เอาดีๆ...”

“เอาดีแน่นอน” ตบปากคนตรงหน้าผมจะโดนสวนด้วยตีนเขาไหม

“พี่อ่า...” เบะปากใส่ทั้งที่หมั่นเขี้ยวอยากทำอะไรเขาสักอย่างกับการกวนตีนคนอื่นแบบนี้

“พูดจริงนะเนี่ย ไม่เชื่อเหรอ อีกอย่าง...ทำงานอยู่ห้องมากๆ มันก็น่าเบื่อนะ บรรยากาศมันไม่ดีเท่าข้างนอกหรอก” เชิญมองออกไปข้างนอกรับ แดดแรงขนาดนี้...บรรยากาศดีเหรอ?

“แล้วแต่”

“แล้วสามล่ะ มาอู้อะ ไม่กลัวคุณน้าตีหัวแตกเหรอครับ” พี่เขาวางไอแพดลงแล้วประสานมือเพื่อวางคางตัวเองลงไป

“คนไม่มีเหอะ ลูกจ้างคนอื่นเขาก็นั่งเล่นกันหมด” ไม่เชื่อหันไปดูได้เลย ผมไม่ได้โม้แล้วผมก็ไม่ได้อู้คนเดียว เจ้าของร้านอย่างน้าบอยกับน้าภูมยังนั่งคุยกันกระหนุงหนิงเลยอะ

“เออเนอะ”

“แล้วเมื่อกี้คุยอะไรกันเหรอครับ?” ขอเสือกหน่อยนะ เรื่องของผม ผมก็ต้องอยากรู้ไว้บ้างอะเนอะ

“ไม่ถามน้าล่ะ”

“ถามพี่แหละ น้า...บอกผมหน่อย” ลูกอ้อนของผมใช้ได้เสมอ พี่มะเดี่ยวยิ้มๆ

“ก็คุยเรื่องโซฮานแหละ แล้วก็เรา…นี่โดนข่มขู่เอาไว้ด้วยนะว่า ถ้าทำให้หลานเขาเสียใจพี่จะโดนดักตีหัว”

“เวอร์” พูดเบาๆ กับตัวเอง

“พูดจริง เราอะไม่รู้จักน้าเราดีพออะสิ..พี่บอยอะ พอเป็นเรื่องของคนใกลัตัวเขาจะไม่ยอมเด็ดขาดเลยนะ” มองไปที่น้าบอย ผมว่าน้าผมออกสาวนิดๆ ด้วยนะ ไม่น่าจะโหดอะไรหรอก

“พี่กลัวไปเอง ผมไม่เคยเห็นน้าผมโหดใส่ใครเลย”

“ไม่เคยเห็นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เป็นแบบนั้นนะ” เออ เข้าใจแล้ว

“คร้าบๆ แล้ว...วาดอะไรอยู่” ชะโงกหน้าไปมองหน่อยๆ แล้วก็ผงะ...

รูปโป๊!!!

“ฮ่าๆ...ดูปะละ” พี่ท่านเปิดภาพให้ดูแบบเต็มๆ ก็เป็นรูปผู้ชายสองคนกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะที่เรียกว่ารำกะบี่กะบองอะฮะ...

“เอ่อ...พอแล้ว” เอามือดันมันหลบ

“อะไร ทำอย่างกับไม่เคย” ส่งสายตาซ่อกแซ่กแบบนั้นหมายความว่ายังไงครับ เดอะสามคนนี้น่ะซิงนะจ้ะ

“ก็ไม่เคย…” พูดแล้วเบนสายตาไปทางอื่น

“หืม…ไม่เคยดูรูปโป๊อะไรแบบนี้เลยเหรอ” อ่าว ถามถึงดูรูปเหรอ ฮ่าๆ…ผมนึกว่าเรื่องแบบนั้น

“อ่อ เคย”

“แล้วเมื่อกี้ที่บอกไม่เคยนี่ยังไง” โดนจับผิดอีกแล้ว แต่ด้วยความแมนที่มีอยู่เต็มหัวใจ ผมยืดอกเชิดหน้าพร้อมสูดหายใจลึกๆ…แมนแต่ตื่นเต้นเชี่ยๆ

“ก็คิดว่าหมายถึง…เอ่อ…เรื่องแบบนั้น” ชี้ๆ ไปที่ภาพในไอแพด

“อ่อ จริงดิ...” อะไรวะ ก็จริงอะสิ ทำไมต้องทำหน้าตาตื่นด้วยอะ

“จริงครับ”

“ไม่น่าเชื่อ แล้วเวลาคบกับแฟนนี่ทำอะไรกันบ้าง...” อืม ทำอะไรเหรอ...แฟนกันก็ไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลงอะไรงี้ไง

“เที่ยวเล่นกัน ปกตินี่นา”

“อย่างว่านี่ไม่เคยเลยหรอ...มากสุดนี่อะไรล่ะ”

“กับเพศไหนอะ” ผมคบสองเพศ เพราะงั้นผมต้องถามเจาะจงนะ

“อืม...ทั้งสองเลย”

“ก็จับมือ กอด...จูบ” ไม่กล้ามองหน้าเขา ผมเบนสายตาไปมองความรักบนโต๊ะเคาน์เตอร์ ซึ่งมันก็มองมาทางนี้ด้วยเหมือนกัน อยากมาล่ะซี่...

“แค่นั้นเหรอ?” เอ้า ทำไมถามย้ำล่ะ คำพูดผมไม่น่าเชื่อเหรอไง

“ครับ คำพูดผมไม่หนักแน่นพอเหรอ?” อันนี้สงสัยจริงจังนะ

“เปล่า ไม่เคยเจอใครไม่เคยมาก่อนแบบเราน่ะ ก็เลยแปลกใจ...เดี๋ยวนี้เด็กเสียตัวกันตั้งแต่สิบขวบแล้วนะ”

“ผมก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเด็กพวกนั้นปะละ” ก็บ้านมีคนอยู่ตลอดอะ ฮ่าๆ แล้วก็ผมไม่กล้าหรอก ไม่คิดว่าการคบใครสักคนมันต้องทำแบบนั้นอะ ความรู้สึกส่วนนั้นมันมีอยู่แล้วเวลาคบแฟน แต่ผมไม่ได้เอามาเป็นประเด็นสำคัญอะนะ

“ดีแล้ว...”

“แล้วพี่อะ ไม่ถามกับผู้หญิงหรอก…แต่กับผู้ชายนี่?” กับผู้หญิงผมว่าพี่มันเคย พี่มันเรียนจบแล้วนะ เรื่องแบบนี้คงเป็นเรื่องธรรมดาของวัยผู้ใหญ่

“หาคนลองด้วยอยู่อะ สนปะ” ส่ายหน้าให้ไว

“ไม่เอา”

“ฮ่าๆ ล้อเล่น แต่เคยหรือเปล่า...พี่ไม่บอกหรอก ให้สามไปคิดต่อเอาเอง”

“งั้นช่างมันเหอะ”

“อ่าว ไม่สนใจแล้วเหรอ”

“สน แต่ผมว่ามันไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร” แล้วเดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาก็แจกยิ้มหวานละลายใจคนตรงข้ามไปหนึ่งดอก พี่มะเดี่ยวยิ้มตอบแล้วก็ยีหัวผมเบาๆ

“ไปรับลูกค้าไป”

“คร้าบ” ลูกค้าเข้ามาพอดี แล้วทำไมต้องเป็นสามที่ลุกมารับ คนอื่นเขาไม่ว่างกันเหรอครับ แหม่...

พี่มะเดี่ยวไม่กลับห้องเลย นั่งวาดรูปอยู่ตรงนั้นทั้งวันไม่ไปไหน น้าบอยเอาความรักไปวางไว้กับพี่มะเดี่ยว ปล่อยให้มันเล่นอยู่กับพี่เขา ส่วนผมก็เข้าไปนั่งด้วยทุกครั้งที่ลูกค้าไม่เข้า แล้วเราก็คุยในเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย ไม่ได้ลึกซึ้งขนาดนั้นหรอกนะ เรื่องความชอบผิวเผินอะ แล้วรูปเรตที่ผมเห็นน่ะก็คืองานของพี่เขา ซึ่งงานวาดพวกนี้เนี่ยมันขึ้นอยู่กับสำนักพิพ์ว่าจะให้วาดอะไร

พี่มะเดี่ยวบอกว่าช่วงนี้นิยายแนวชายรักชายกำลังตีตลาด ปกส่วนใหญ่ที่เขาวาดในช่วงนี้ไม่แฟนตาซีก็เป็นปกชายรักชาย พร้อมทั้งภาพประกอบที่อาจจะล่อแหลมบ้าง น่ารักบ้าง ปะปนกันไป ด้วยความที่บ้านเป็นสำนักพิมพ์นั่นแหละครับ งานพวกนี้เขาปฏิเสธไม่ได้ ซ้ำยังทำทั้งสำนักพิมพ์บนดินและใต้ดินด้วย ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เขาเล่าให้ฟังผมก็ฟัง

แต่ถ้าถามมาทางผมบ้าง ผมไม่มีอะไรเท่าไหร่ ที่บ้านทำฟาร์มสุนัขอันนี้พี่มะเดี่ยวรู้แล้ว รู้ตอนที่รู้ว่าผมเป็นหลานน้าบอยเนี่ยแหละครับ งานอดิเรกเรารู้กันแล้วเนอะ พี่เขาเต้นบีบอยเป็นชีวิตจิตใจมาตั้งแต่มัธยมต้นแล้วล่ะ ส่วนผมเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ อ่านการ์ตูน ดูหนังอะไรแบบนี้มากกว่า เรียกว่าพี่เขามีจุดเด่นเรื่องเต้น แต่ผม...ไม่มี

ผมเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาที่มีความรักเป็นสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือเป็นคนเรียบร้อยมากครับ แต่อย่ามารู้เรื่องราวในหัวของผม แต่ถ้าให้หาเด่นจริงๆ ก็คงเป็นเกมโรฮานที่เล่นอยู่ ผมเทพมาก...เทพขนาดที่ว่าผมใช้ชื่อนี้มาทุกเซิร์ฟ หน้าเก่ารู้จักผมหมด เป็นตัวท๊อปๆ ของเซิร์ฟมาตลอดเลยล่ะ ทว่ามันเป็นเรื่องเด่นที่เอามาอวดใครไม่ค่อยได้อะเนาะ

“พี่ครับ...กลับกัน” วาดรูปอยู่แหม็บๆ ปิดร้านแป๊บเดียวพี่มะเดี่ยวก็นั่งหลับพร้อมกับความรักไปแล้ว นี่เพิ่งจะสามทุ่มเองเฮ้ย

“หิวอะ ไปหาไรกินกัน” หาอะไรกินกับพี่เขาเนี่ยไม่พ้นไม่มีหมูบนโต๊ะแน่เลย

“กินสเต๊กหมูได้ปะครับ...” ลองบอกอ้อนๆ ส่งสายตาหวานวิ้งที่สุดเท่าที่เคยใช้มาเพื่อให้พี่เขายอมใจอ่อน ทว่า...ความฝันก็คือความฝันอะครับ

“ไม่ครับ” เฮ้อ...ผมชอบพี่มันทุกอย่าง ไม่ชอบตรงเนี่ย!!!

….100%….

มันอาจไม่หวือหวานัก เราไม่เก่ง ไม่ถนัดแนวใสๆ เท่าไหร่ หวังว่าจะเป็นนิยายอ่านฆ่าเวลาได้บ้างสำหรับทุกคนนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 33 [100%]❤️ -28/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-11-2017 22:13:46
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 33 [100%]❤️ -28/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 28-11-2017 22:39:53
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 33 [100%]❤️ -28/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-11-2017 00:27:59
 :กอด1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 33 [100%]❤️ -28/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-11-2017 06:58:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 33 [100%]❤️ -28/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 29-11-2017 13:19:57
เรื่อยๆดีค่ะ
ยังข้องใจกับโซฮานอยู่ว่าจะไม่โดนไรเลยหรอ
รอว่าเมื่อไหร่จะโดนน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 33 [100%]❤️ -28/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 29-11-2017 17:09:44
เกลียดไอ้โซฮานมาก ก่อนหน้านั้นไมไม่จีบมะเดี่ยวละวะ ไมต้องรอให้คบกับคนอื่นก่อน ทุเรศอะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 34 [100%]❤️ -29/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 29-11-2017 20:27:42
>>ตอนที่ 34 [100%]<<

“เออ วันนี้พี่ไม่มีซ้อมเหรอ” ระหว่างเดินกลับห้อง ผมก็หันไปถาม สรุปมื้อเย็นผมเป็นสเต๊กปลากะพงขาวราดซอสเลม่อนครับ ไม่ใช่สเต๊กหมูอย่างที่อยากกิน

“บอกพวกมันแล้วว่าพี่ติดงาน พรุ่งนี้เย็นพี่ถึงไปซ้อม พรุ่งนี้สามไปด้วยกันนะ...ซ้อมที่ตลาดเปิดท้าย” พี่เขากอดคอผม หันหน้ามามองซึ่งก็ยิ้มตอบแล้วพยักหน้า

“ผมตามไปหลังปิดร้านนะพี่”

“ครับ”

“งั้น...พักผ่อนนะ” โบกมือบ๊ายบาย...อยู่ห้องตรงข้ามกันเองนะเนี่ย

“ไม่สนไปนอนเล่นที่ห้องพี่เหรอ” ส่ายหน้าเลย

“ไม่อะ” เดี๋ยวพี่ปล้ำผม! อยากตอบแบบนี้แต่กลัวพี่มันหาว่าผมทะลึ่งคิดแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ลามกที่สุด!

“เออ พี่ขอเบอร์กับไลน์ก่อน คบกันแล้วยังไม่มีเลยอะ” เออ อันนี้ผมก็ลืมไปเหมือนกันนะ

ผมแลกเบอร์ ไลน์และเฟซบุ๊กกับพี่มะเดี่ยวเรียบร้อยถึงย้ายกันเข้าห้อง จับขาหน้าความรักโบกมือบ๊ายบายด้วย จะว่าไป...พี่มะเดี่ยวแกดูเพลียๆ เนอะ เห็นมาตั้งแต่เดินออกมาจากร้านกาแฟแล้วล่ะฮะ การวาดรูปนี่มันกินแรงงานมากสินะ หรือว่าพี่มันไม่ได้นอนกัน

คิดเรื่องพี่มะเดี่ยวไปก็อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมใส่แค่กางเกงขาสั้น ไม่ใส่กุงเกงใน...อึดอัด แบบนี้สบายกว่า ส่วนความรักมันใส่แค่กางเกงในตัวเดียว มันไม่ได้อยากใส่หรอก แต่ผมใส่ให้เองล่ะ มันน่ารักดีอ่า...ตัวสีดำสลับสีเนื้อใส่กางเกงในสีแดงแปร๊ดเลยไปเดินมาบนโซฟา

“ฮ่าๆ ป๊านี่ตกหลุมรักแกเลยความรัก” แล้วก็จับมันมาฟัดจนมันร้องและดิ้นรน

เรื่องของพี่มะเดี่ยวหายไปจากหัวเมื่อผมเริ่มวิ่งไล่ความรักไปทั่วห้อง ต้อนลำบากเวลาที่มันหนีเข้าไปตามซอกหรือใต้เตียง ไม่ต้องห่วง...ระดับสามแล้ว มีไม้กวาดเอาไว้เขี่ยครับผม ดูมันวิ่งดุ้กเข้าตรงนั้นทีตรงนี้ทีแล้วก็สนุก ทุกครั้งที่จับได้มันจะโดนฟัดและกัดไปหลายงับ ผมไม่ได้ทำมันเจ็บน้า...อย่าคิดว่าผมทารุนสัตว์จนแจ้งตำรวจมาจับล่ะ สามไม่เอาคุกเน้อ~

เล่นกับความรักจนเหนื่อยก็นั่งปะจำที่โต๊ะคอมพ์ เปิดและเข้าเกมอย่างว่องไว มือถือถูกตั้งเอาไว้บนแท่นชาจ ผมชอบชาจแบบนี้เพราะมันสามารถเปิดอย่างอื่นเล่นไปด้วยได้ พอเข้ามาก็เจอพีชกับวิ่งกำลังออนอยู่พอดี ผมทักเพื่อนๆ และรวมตัวกันไประรานชาวบ้านชาวช่องเขา ระรานยังไงน่ะเหรอ...คือเขาก็เล่นกันดีๆ ตีมอนกันไปเนี่ยแหละครับ แต่พวกผมน่ะจะเข้าไปฆ่าเขา ทำให้พวกเขาเหล่านั้นเล่นเกมไม่ได้นั่นเอง...

อยากบอกว่ามันเป็นความมันเฉพาะตัวของเกมนี้เลยนะ เกมอื่นไม่ให้อารมณ์แบบนี้เพราะปกติการจะฆ่าตัวผู้เล่นคนอื่นได้นั้น ผู้เล่นต้องเปิดโหมดบลาๆ หรืออะไรก็ตามแต่ซึ่งเป็นกฎของเกมนั้นๆ ทว่าเกมนี้มันไม่มีโหมดที่ว่า มีแค่พื้นที่ที่ห้ามตีอย่างในเมือง พื้นที่เซฟโซน นอกนั้นมันสามารถฆ่ากันได้เสมอ

ประมาณเที่ยงคืน ช่วงเวลาแห่งความเมามันของเหล่าเกรียนอย่างเราๆ กำลังดำเนินไปด้วยความสนุกสนาน จู่ๆ ผมก็คิดถึงพี่มะเดี่ยวขึ้นมา...ป่านนี้แกจะนอนยังวะ มองไปที่มือถือ จิ้มไปยังหน้าไลน์ ซิงก์ไลนพี่เขาด้วยเบอร์โทรศัพท์ ตั้งใจจะลองส่งไปถามดูว่านอนหรือยัง ทว่ามือกลับไปโดน...

“เอ่อ...” วิดีโอคลอ

“ฮั่นแน่...กี่โมงกี่ยามแล้วทำไมไม่นอนครับ” เสียงทุ้มเข้มลอดมาตามสาย จะว่าไป...เสียงพูดกับเสียงที่ผ่านการโทรนี่มันคนละเสียงกันเลยเนอะ

“แฮ่ๆ พี่ก็ยังไม่นอน”

“พี่ทำงานนี่ครับ แล้วนั่นไม่ใส่เสื้อ ไม่หนาวเหรอ...สามอะเปิดแอร์ฉ่ำมาก ระวังไม่สบายนะ” พี่ก็ไม่ใส่ปะวะ แล้วนี่เขาก็ไม่ได้มัดผมด้วย แต่คาดผมแทน ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบเนอะ

“พี่ก็ไม่ใส่”

“พี่ไม่ได้เปิดแอร์แรงนี่ครับ แล้วนั่นทำอะไร...เล่นเกม?” พยักหน้าพร้อมยิ้มหวาน

“กำลังล่าเกรียนอยู่เลยพี่ เล่นกับผมไหมล่ะ…เอาเปล่าเดี๋ยวผมพาเล่น” พี่มะเดี่ยวส่ายหน้า

“ไม่อะ…พี่ทำงาน เราเล่นเถอะ”

“เอ่อ…ผมกวนหรือเปล่า”

“เปล่า เออ...โทรไลน์ไว้แบบนี้แหละ ไม่ต้องปิดหรอก”

“เอางั้น?”

“ใช่” พี่มะเดี่ยวละสายตาไปมองหน้าจอคอมพ์ใกล้ๆ เขาเอามือถือวางไว้บนฐานตั้งเหมือนผมแน่นอน

ไอ้วิ่งส่งข้อความมาเร่งผมยิกๆ หาว่าผมเผลอหลับทั้งที่ผมไม่ได้หลับเสียหน่อย ก็แค่คุยกับพี่มะเดี่ยวอยู่ เมื่อมันเร่งก็ต้องออกล่าไปกับพวกมัน เรามีตัววิ่งเร็วอยู่ วิ่งข้ามแผนที่ยังสบายมากๆ เวลาตีใครมันๆ ผมจะอินมาก ชนะแล้วยิ้กว้างเหมือนฆาตรกรอยู่คนเดียว ลืมไปเลยว่าตอนนี้คลออยู่กับพี่มะเดี่ยว เราอยู่ในโลกของเรา แค่มีอีกคนเห็นเราเท่านั้นเอง...

แปลกที่ผมไม่รู้สึกเก้อเขินอะไร...แบบนี้ก็ดีนะ

“เมื่อไหร่จะนอนละนั่น” คนอีกฝั่งส่งเสียงถาม

“พี่นอนตอนไหนละ” ไม่ได้หันไปมอง ตอนนี้กำลังร่วมตะลุมบอลกับชาวบ้านอยู่

“ไม่รู้ดิ”

“งั้นผมก็ไม่รู้...โอ้ยเชี่ย” ไอ้หลาบอีกแล้ว...คู่อริผมเอง ตัวโหดพอกัน ผิดที่ผมพลาดเอง ผมรีบพิมพ์ด้วยความไวแสงด่ากับอีกฝ่าย ตัวจริงเป็นคนน่ารักครับ แต่ในเกมผมเป็นคนน่าถีบ...ฮ่าๆ

“หยาบคายวะ” แหม พ่อคนสุภาพ...พ่อคนพูดเพราะ

“ครั้งแรกที่พูดกับผม...” เปรยเบาๆ แล้วหันไปสบตาเขาผ่านหน้าจอ

“เข้าใจผิดปะละ ไม่ตั้งใจ...”

“ครับ” โอเค เข้าใจผิด

“แค่เข้าใจผิดนะ...ผมถึงกับเป็นคนร่านเลยอะ” ปกติไม่กล้าพูดอะไรแบบนี้กับพี่เขาเท่าไหร่ อาจเพราะเราคุยกันผ่านมือถือ ต่อให้เห็นหน้า...ความเก้อมันก็มีน้อยกว่ายืนเคียงกัน

“จำแม่นจัง ฝังปะเนี่ย...พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ แค่เจตนา” ครับ ผมรู้สึกดีมาก...ดีจนแทบลอยขึ้นฟ้าไปเลยล่ะครับ

“ไม่เป็นไรพี่ ดีนะ...ผมคงจำไม่มีวันลืมเลย” อันนี้ไม่ได้ประชดนะ เพราะผมคงไม่มีวันลืมเรื่องราวในวันนั้นแน่นอน

“ก็ดี ถือว่าสามจะไม่มีวันลืมพี่ พี่ก็ไม่มีวันลืมเรา…” อาจเพราะผมไม่ได้เปิดไฟทั้งห้อง พี่เขาก็ด้วย มีแค่แสงจากคอมพ์ส่องให้เราเห็นกัและกัน...มันโรแมนติกนะในความรู้สึกผม เรายิ้มให้กันผ่านหน้าจอก่อนจะหัวเราะเบาๆ ให้กับความทรงจำครั้งแรกของเราทั้งคู่

ผมเล่นเกมกับเพื่อนจนถึงตีสามก็หนีไปนอน พี่มะเดี่ยวยังไม่ยอมละมือจากงานของเขา ผมเลยไม่ยอมวางสาย พี่ก็ไล่ให้ผมนอนไปแหละ แต่ผมตีมึน บอกพี่นอนเมื่อไหร่ผมก็นอนตอนนั้นแหละ มือหนึ่งถือมือถือเดินเข้าห้องในความมืด อีกมือก็อุ้มความรักที่หลับสนิท มาถึงเตียงวางมือถือใต้โคมไฟก่อนเพื่อเอาความรักนอนดีๆ จากนั้นผมก็เอามือถือพิงกับโคมไฟที่ถูกเปิดให้เห็นหน้าตัวเอง

“ไปนอนเถอะ”

“นอนอยู่” ก็จริงตอนนี้ผมไม่ได้นั่งนะ

“กวนตีน เดี๋ยวโดน” มีชี้หน้าขู่ ผมหัวเราะเบาๆ

“ทำงานไปเถอะ ผมไม่กวนหรอก” เพราะผมจะนอนมองเงียบๆ รับรองไม่เป็นการกวนพี่เขาแน่นอน

“เราหลับแล้วต่างหากถึงจะถือว่าไม่กวน...” น่าน้อยใจจัง แฟนไล่ไปนอน

“งั้นผมจะกวนพี่จนกว่าพี่จะนอนเลยล่ะครับ” ยิ้มบางๆ

“สาม...”

“ไม่ต้องขู่เลย” ผมไม่สนหรอก

พี่มะเดี่ยวส่ายหน้าเบาๆ เขาหันไปทำงานของตัวเองต่อโดนไม่ได้พูดอะไรอีก ผมก็มองมันไปเพลินๆ นั่นแหละครับ ตาปรือลงเรื่อยๆ ตามความง่วงงุน พยายามจะฝืนถ่างเอาไว้เพื่อรักษาคำพูดที่ว่าพี่เขานอนเมื่อไหร่ผมถึงจะนอนเมื่อนั้น อันที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจจะล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของเขาหรอกนะ  ที่ผมก่อกวนอยู่นี่เป็นเพราะอยากแกล้งเขาล้วนๆ ไม่มีหมูผสมเลยล่ะ

“สามหลับยัง” เสียงอีกฝ่ายถามมาแว่วๆ

“อืม ยังครับ” แล้วผมก็ตอบทั้งที่ตาเปิดไปได้แค่นิดเดียว

“งั้นเหรอ งั้นพี่ถามไรหน่อยดิ”

“อืม” จะเปิดตาเพื่อมองหน้าอีกฝ่าย ทว่าผมไม่มีสติสตางค์พอจะทำแบบนั้น ง่วงจริงง่วงจัง นี่กี่โมงแล้ววะเนี่ย...

“ที่สามว่าสามไม่เคยกับใครนั่นน่ะ สามพูดจริงปะ” พยักหน้าหงึกๆ

“จริงครับ” ขานตอบเหมือนไม่รู้ตัวแต่รู้ตัวดีทุกอย่าง แค่ผมสู้ความง่วงไม่ไหว มันใส่ของท๊อปเกิ้นนนน

“เหรอ”

“อืม” ขานละขยับตัวนิดหน่อย ดึงผ้าห่มให้คลุมถึงคอ ผมค่อนข้างหนาวน่ะนะ

“วางสายไหม ตาปิดแล้วนะ” ปิดบ้าไร ยังเห็นรางๆ ว่าพี่มองมาที่ผมอยู่เลย

“ไม่เอา”

“โอเค ไม่เอาก็ไม่เอา พรุ่งนี้ตื่นไม่ไหวพี่ไม่รับผิดชอบนะ” ไม่รับผิดชอบก็ต้องรับผิดชอบอยู่ดี เพราะผมจะไม่ยอมเป็นคนผิดคนเดียว

“ก็พี่ไม่นอน” ผมไม่จริงจังกับการนอนของเขาขนาดนั้นหรอก...เหรอ ฝืนอยู่นี่ไม่จริงจังสินะ ก็บอกว่าแกล้งเขาอยู่น่ะครับ เพียงแค่แกล้งเองก็ทรมานเอง

“สามดื้อเหมือนกันนะ ระวังโดนพี่แกล้งสั่งสอนนะรู้เปล่า” ส่ายหัวเบาๆ

“ไม่แกล้ง” คือห้ามแกล้งแต่พูดรวบรัด ปากหนักเพราะง่วงเกิ้น

“แล้วถ้าพี่แกล้งล่ะ”

“งอน” ใช่ ผมจะงอน แล้วพี่ต้องมาง้อผมด้วย ไม่งั้นผมก็จะไม่หายงอน

“คิดว่าพี่กลัวเหรอ...” ไม่อะ ผมส่ายหน้าเบาๆ

“สาม...”

อืม

“พี่อยากเปิดซิงสามจัง”

ไม่เอา

“ถ้าพี่ชนะโบตี้ได้ พี่ขอนะ...”

ผมขอคิดดูก่อนนะ....

“หึ…ไอ้หมูเอ้ย”

….100%….

พี่มะเดี่ยวเราเป็นคนชอบตามความฝัน ยิ่งความฝันที่เห็นสามนอนใต้ร่างนี่ยิ่งอยากตาม เพราะงั้น…สามต้องทำให้พี่เขาสมหวังนะ ฮ่า~!
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 34 [100%]❤️ -29/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-11-2017 21:51:17
 :hao3:

พี่มะเดี่ยวมีความฝันที่หื่นด้วย

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 34 [100%]❤️ -29/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 29-11-2017 21:59:42
ยอมพี่มะเดี่ยวเดี๋ยวนี้นะเดอะสาม!!!


 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 34 [100%]❤️ -29/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 29-11-2017 22:34:20
อื้อหือออออออออออออ  การแข่งขันนี้ช่างน่าสนุกเสียจริง
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 34 [100%]❤️ -29/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-11-2017 00:11:41
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 34 [100%]❤️ -29/11/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-11-2017 00:22:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 35 [100%]❤️ -1/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-12-2017 20:57:47
>>ตอนที่ 35 [100%]<<

“คร่อกๆ....” อืม...อะไรแต่เช้าเนี่ย

RrrrrRrrr!

เอาเข้าไป ทั้งความรัก ทั้งโทรศัพท์ ใครมันโทรมาอะไรเอาตอนนี้ คนจะหลับจะนอนเนี่ยรู้กันบ้างหรือเปล่า โอ้ยยยย ผมง่วง ผมอยากนอน ความรักแม่งกระชากผ้าห่มผมออกไปจากตัว ไม่พอยังมานั่งทับอกกันอีก หกโมงห้าสิบ..ให้ตายเถอะซาร่า นี่มันไม่ยอดเลย ผมคว้ามือถือขึ้นมากดรับสายหลังเห็นเวลาบนฝาผนัง

(ตื่นยัง) เสียงคุ้น ใครวะ…อ่อ น้าบอย

“ครับ….กำลังจะตื่น” เพราะน้าโทรมาปลุกผมเนี่ยแหละ ผมเลยต้องตั้งตาตื่น

(ดีมาก น้าฝากซื้อของหน่อยนะ เดี๋ยวส่งรายการให้ในไลน์)

“ครับ” ว่าจบน้าบอยก็วางสายไป

“ป๊าขอนอนต่อนะ...” ตั้งท่าจะหลับตานอนต่อ แต่ความรักยอมซะที่ไหน มันเอาจมูกตัวมาดันแก้มซ้ำๆ ย้ำอยู่หลายทีจนผมรำคาญ อยากจะปัดมันทิ้งเหมือนปัดแมลง ติดที่ว่ามันไม่ใช่แมลง ปัดแบบนั้นมันก็ไม่ไปไหนอยู่ดี อาจทำมันเจ็บด้วย ทางเดียวของผมก็คือลืมตามองหน้ามัน รู้ไหม...ในขณะที่ความรักหลับสบายใจเฉิบ เดอะสามได้นอนตอนเกือบจะเช้าแล้ว

เออ แล้วเมื่อคืนผมหลับไปตอนไหนวะ จำได้รางๆ ว่าพี่มันพูดอะไรสักอย่าง ผมได้ยินแว่วๆ รู้สึกจะคุยโต้ตอบด้วย แต่เอ...พี่แกคุยอะไรกับผมวะ ผมจำไม่ค่อยได้เลยแฮะ เดี๋ยวไปถามพี่เขาเอาแล้วกัน ตอนนี้ต้องลุกไปอาบน้ำอาบท่าก่อน

อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย ใส่เสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนกับกางเกงยีนส์สั้นเข่า ได้เวลาให้อาหารความรักและก็อาหารผมเองด้วย แต่ว่า...ผมไปปลุกพี่มะเดี่ยวมากินด้วยกันดีกว่าไหม หรือควรปล่อยให้พี่เขานอนต่อไปดีอะ

ก๊อกๆ

กำลังลังเลอยู่ว่าจะเอายังไง เสียงเคาะห้องก็ดังขึ้น ผมเดาไม่ผิดคงมีคนเดียวนั่นคือพี่มะเดี่ยว ผมรีบลุกไปเปิดประตู ปล่อยให้ความรักมันกินอาหารของมันอย่างเอร็ดอร่อยแทน เมื่อเปิดประตูปุ้บ ผมก็เจอคนที่คาดทันที พี่มะเดี่ยวตาโหลมา เขายีหัวที่มีผมยาวอยู่แค่ตรงโซนกลางหัวเข้ามานั่งบนโซฟา

“พี่ได้นอนปะเนี่ย...” ผมเดินตามไปนั่งใกล้ พี่มะเดี่ยวหันมามอง

“ไม่อะ เดี๋ยวนอนกลางวันเอา แล้วนี่ตื่นนานยัง พี่คิดว่าป่านนี้สามยังไม่ตื่นเสียอีก”

“เพิ่งตื่นสักพักเองพี่ น้าโทรมาปลุกอะ ให้ผมซื้อของเข้าไปให้เขาหน่อย เออ เมื่อคืนอะ พี่ถามอะไรผมบ้างนะ...ผมจำไม่ได้อะ ไอ้ตอนที่โบตี้ๆ โบตี้ไรสักอย่าง” ถือโอกาสถามเลยแล้วกัน จ้องหน้าด้วยเนี่ยแหละ พอดีเป็นคนอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเอง

“อ่าวสามจำไม่ได้เหรอ” ส่ายหัวไวๆ

“ไม่อะ”

“งั้นที่พี่บอกไปแล้วเราไม่ตอบนี่คือ...หลับ” ผมลองนึก...ผมจำได้ว่าผมตอบนะ พี่เขาถามมาตอบหมดอะ

“ผมตอบพี่นะ ผมจำได้ว่าผมตอบทุกคำอะ...แต่จำไม่ได้แล้วว่าโบตี้ๆ เนี่ยมันอะไร” พี่มะเดี่ยวส่ายหัวเบาๆ

“ตอบในฝันคนเดียวอะดิ พี่ถามเราก็เอาแต่เงียบ”

“จริงดิ”

“เออดิ”

“แฮ่ๆ...ผมขอโทษ ว่าแต่พี่ถามใหม่สิ เดี๋ยวผมตอบ” พี่เขาส่ายหน้าเบาๆ หันไปเล่นกับความรัก

“ไม่ล่ะ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก เรารีบกินแล้วไปทำงานได้แล้ว พี่บอยฝากซื้อของด้วยหนิ เดี๋ยวสายนะ” ก็จริงของพี่แกละ

“พี่กินกับผมไหม มีข้าวผัดไก่อยู่ในตู้ เดี๋ยวผมเวฟให้” ที่จริงไม่ได้อยากซื้อมาหรอก แต่ตอนนั้นไม่มีข้าวผัดหมูเลยก็เลยซื้อเอาไว้

“เอาสิ” ได้รับการตอบรับ ผมก็เดินไปเอาข้าวกล่องเข้าเวฟให้พี่มะเดี่ยว รูปร่างใหญ่โตขนาดนั้นไม่น่าอิ่มอะ ก็เลยเอาเกี๊ยวกุ้งมาเวฟด้วย เผื่อจะอยู่ท้องขึ้นมาบ้าง ระหว่างรออาหารสุก ผมก็เปิดตู้เย็นเพื่อเอานมมาเทใส่แก้ว ไม่ได้ให้ตัวเองนะ ผมกินก่อนนอน ตื่นนอนผมไม่ค่อยกิน แค่คิดว่ามันน่าจะทำให้พี่เขาอิ่มมากขึ้นอะ

ผมทยอยเอาอาหารมาวางไว้บนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา ความรักมันกินเสร็จก่อนใครพวกเพราะมันเริ่มกินก่อนคนอื่นเขาเลย แต่ดีอย่างนะ ความรักไม่เคยมาระรานอาหารของผมหรืออาหารอื่นที่ไม่ใช่ของมันเลยสักครั้งเดียว เมื่อจัดวางครบแล้วก็นั่นกินกัน พี่มะเดี่ยวเงียบๆ ไปหน่อย อดนอนมันจะเป็นแบบนี้ครับ อึมครึม ไม่สดใสร่าเริงเท่าไหร่ แต่ก็ยังนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ นั่นแหละ ไม่ถึงกับต่างคนต่างกินอะไร

“พี่ไม่ต้องไปส่งผมก็ได้นะ นอนพักเถอะ” เราออกนอกห้อง พี่ขาทำท่าจะไปส่งผมแต่หน้าโทรมมากอะ

“ไม่เอา เดี๋วหาว่าไม่มีเวลาดูแลแฟน” ใครเขาจะไปพูดแบบนั้นกัน

“จะดูแลแฟนได้พี่ต้องดูแลตัวเองให้พร้อมก่อนนะ อีกอย่างตอนเย็นพี่มีซ้อม เดี๋ยวซ้อมเต้นไม่ไหวนะพี่”

“สามเป็นห่วง?” ไม่ต้องมายิ้มเลยเหอะ ดูสภาพดิ น่าห่วงปะละ

“อืม ผมเป็นห่วง พักผ่อนเถอะครับ”

“ก็ได้...แต่พี่ลงไปส่งนะ”

“ครับ” พูดง่ายๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย

พี่มะเดี่ยวอุ้มความรักแทน ยังคว้ามือไปจับจูงอีก รู้สึกว่าตั้งแต่ตกลงคบ ไปไหนมาไหนพี่มันจับมือผมไว้ตลอดเลย แล้วผมก็รู้สึกดีที่พี่เขาทำแบบนี้ เพราะไม่งั้นผมว่าเราก็ดูจะเหมือนก่อนที่คบกัน ไม่ได้มีอะไรพิเศษขึ้นเท่าไหร่นัก คงแพราะต่างก็เป็นผู้ชายละมั้งครับ...ไม่รู้สิ คู่อื่นที่เป็นเพศเดียวกันก็มีนะไอ้คู่หวานๆ หมั่นเซอร์ไพรส์กันอะ

แต่ผมไม่ซีนะ ผมไม่ใช่คนโรแมนติก แล้วก็ไม่โอเคถ้าแฟนของผมจะเป็นพวกโรแมนติกเวอร์อะ มันน่าอายแล้วก็...แปลกๆ ผู้ชายก็ไม่อยากถูกปฏิบัติตัวเหมือนผู้หญิงหรอกถูกไหม ให้เป็นแบบนี้...เป็นธรรมชาติอย่างที่เราต่างก็เคยเป็นนี่แหละดีสุดแล้วในความรู้สึกผม

พี่มะเดี่ยวส่งผมที่จักรยานสีเขียวแม่บ้าน รอจนผมกับความรักปั่นกันออกไปเขาถึงได้เดินกลับขึ้นไปที่ชั้นบน ผมแวะที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ ซื้อขอตามรายการที่น้าบอยสั่ง ค่อนข้างเยอะเลยพะรุงพะรังพอสมควร แฮนด์ทั้งสองข้างเต็มไปด้วยของ ความรักยึดตะกร้าหน้ารถเอาไว้แล้ว ใส่ของได้น้อยลงเพราะมันกินพื้นที่ไปแล้วเก้าสิบเปอร์เซ็น อยากจะรีบปั่นให้ถึงร้านไวๆ ไม่ไหว…อะไรจะลำบากขนาดนี้

พอมาถึงร้านได้ผมนี่โล่งใจเลยครับ เอาของให้น้าบอยพร้อมใบเสร็จ น้าบอยเอาเงินส่วนที่ผมออกมาให้ ผมเก็บใส่กระเป๋าแล้วก็เริ่มทำงานที่ร้าน วันอาทิตย์เงียบกว่าวันเสร์มากโข ก็เลยนั่งเล่นอยู่กับความรักเสียส่วนใหญ่ ผมไม่ได้ส่งข้อความหรือโทรไปกวนพี่มะเดี่ยว ปล่อยให้เขาได้นอนพักผ่อนไปแบบนั้นแหละดีแล้วครับ ไม่งั้นเย็นนี้จะซ้อมเต้นไม่ไหว

ทำงานไปเล่นเกมไป...โอ้โห เพลินมากอยากจะบอก ลูกจ้างร้านไหนจะสบายเท่าลูกจ้างร้านนี้ แต่ว่าวันธรรมดาคงไม่สบายเท่านี้ ผมเห็นคนเข้าร้านอยู่ตลอด พนักงานนี่พากันเดินขวักไขว่เชียวแหละ อย่างว่ามันเป็นร้านใหญ่นี่ครับ ทั้งนักศึกษาและอาจารย์ต่างก็พามาสั่งกาแฟร้านนี้กันทั้งนั้น บางทีก็พากันมานั่งทำรายงาน อย่างวันนี้ก็มีคนมาติวที่ร้านหลายโต๊ะ

เออ...จะว่าไปผมก็ใกล้สอบแล้วนี่นะ เผลอแป๊บเดียวก็จะหมดเทอมเสียแล้ว ดีนะที่ผมรู้สึกว่าผมเก็บเกี่ยวบทเรียนได้เต็มที่ ไม่รู้สึกว่าตัวเองพลาดอะไร และก็ยังเข้าใจบทเรียนเป็นส่วนมาก ผมไม่ใช่คนเรียนเก่ง...แต่เป้าหมายที่ผมตั้งใจจะทำมันผลักดันให้ผมตั้งใจเรียนมากขนาดนี้ ก่อนจะเป็นครูที่ดี ก็ต้องเริ่มจากการเป็นนักเรียนที่ดีก่อนถูกไหมล่ะครับ

ตอนบ่ายสามพี่มะเดี่ยวส่งข้อความมาหาว่าออกจากห้องแล้ว เดี๋ยวจะไปซ้อมเต้นที่ตลาดเปิดท้าย ผมก็คุยกับพี่เขานิดหน่อย อย่างได้นอนไหม กินอะไรหรือยัง ผมเลิกร้านประมาณสองทุ่มเดี๋ยวจะตามไป ยังดีที่พี่เขานอนแล้ว แต่ข้าวไม่ได้กิน กำลังจะไปหากินที่นู้น ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเวลานี้ตรงลานซ้อมเต้นจะร่มหรือยัง เพราะว่าตรงนั้นน่ะมันไม่มีหลังคาหรืออะไรยื่นออกมาบดบังแสงแดด กลางแจ้งโคตรๆ เต้นตอนกลางวันไม่ได้แน่นอนเพราะแดดคงเล่นนักเต้นเป็นลมไปเป็นแถบๆ

พี่มะเดี่ยวอยู่แชตคุยกับผมได้ไม่นาน ข้อความสุดท้ายของพี่เขาคือพี่ถึงที่ฟลอเต้นแล้ว เป็นอันว่ารู้กันอะครับ นอกจากจะต้องซ้อม ก่อนหน้านั้นยังต้องวอร์มอัพก่อนด้วย ไม่งั้นกล้ามเนื้ออาจได้รับบาดเจ็บจากการเต้นอย่างหนักหน่วงได้ ผมก็ส่งกลับไปแค่สู้ๆ แค่นั้น เขาไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งคุยแชตเล่นกับผมเนอะ

เขาซ้อมเต้นเพื่องานแข่งอันสำคัญ ผมก็ทำงานหงกๆ ไปเพื่อเงินค่าขนมที่แสนสำคัญไม่แพ้กัน แหม...ลองแม่ลดค่าขนมผมดิ ผมไม่มีทางใช้เงินเปลืองได้อย่างตอนนี้ที่ทำอยู่หรอก จริงๆ ผมมีเงินสำหรับค่าอาหารมื้อละร้อยเลยนะ แต่บางทีกินมาม่าเพราะความขี้เกียจของตัวเองล้วนๆ แล้วถ้าแม่ผมลดค่าขนม ผมคงได้กินมาม่าเป็นมื้อหลักแน่นอน ไม่ได้ปากเดียวท้องเดียวนะอย่าลืม ผมยังมีความรักอีกหนึ่งตัวที่ต้องการผลไม้เป็นอย่างมาก มื้อหนึ่งของมันบางทีแพงกว่าผมกินอีกอะ

แล้วผลไม้เมืองไทย ไม่เข้าใจมันจะแพงอะไรนักหนา มาจากสวนแม่งก็ไม่เท่าไหร่ พอเอามาขายปุ้บแพงปั้บ แล้วผมก็ไม่มีเวลาไปเดินตลาดสดเพื่อซื้อของราคาถูกด้วย พึ่งแต่ซูเปรอ์มาร์เก็ตที่ราคาสูง จากมีกินมื้อละร้อยก็เหลือมื้อไม่กี่บาท เพราะความรักเอาไปแดกหมดแล้วครับ แล้วดูหน้ามัน...ดูพุงมัน มึงกินแต่ผลไม้ทำไมมึงอ้วนอย่างนี้วะฮะ!

ความรักทำให้ผมรู้สึกว่า...คนที่ลดความอ้วนแม่งไม่จำเป็นต้องกินแต่ผักและผลไม้ก็ได้ เพราะความรักของผมมันไม่เคยกินเนื้อสัตว์ ไข่ ของมัน มันก็ยังอ้วนเป็นหมูอยู่เลยดูดิ ฮ่าๆ...ก็มันเป็นหมูใช่ไหมล่ะ

ทุ่มกว่าผมเริ่มเก็บร้าน เก็บของแล้วก็ขอตัวกลับก่อน ไม่ได้ค่าจ้างนะ...ผมทำนี่ผมทำฟรี ไม่ได้เงินสักบาท พ่อแม่ให้เยอะแล้วก็เลยไม่เดือดร้อนถ้าทำงานแล้วไม่ได้เงิน แต่แหม...ผมก็เสียดายวันหยุดของผมปะล่ะ ผมไม่สามารถนอนตื่นสายอย่างที่หมายมาดเอาไว้ มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่สุดในชีวิคเลย...ดราม่าแป๊บ

เค...หายละ

“เฮ้ยๆ...ดูดิ้ใครมา” แค่เดินเข้ามาที่ฟลอ เสียงเย้วๆ ก็ดังลั่นไปหมด ตัวต้นเสียงก็พี่เรย์เลย...จะตะโกนทำไมพี่ กลัวพี่มะเดี่ยวไม่รู้เหรอว่าผมมาน่ะ แหม...เขาบอกกันแล้วเหอะว่าจะมาหา

“สวัสดีครับ...” ผมยกมือไหว้รุ่นพี่ทุกคนรอบฟลอ เป็นแฟนคนเก่งในฟลอไม่ได้หมายความว่าจะไม่เคารพใครก็ได้ครับ ยังไงพวกนี้ก็รุ่นพี่ผมทั้งนั้น

“ไหว้พระเถอะ” พี่เรย์ยืนตรงเก๊กหล่อ...ไม่เข้ากับหน้าตากวน...เลยอะครับ

“ครับ” อยากบอกว่าผมไหว้พวกพี่อะ ไม่ใช่ไหว้พระที่ไหน แล้วอายุแค่นี้ไม่เหมาะจะใช้รูประโยคคนั้นเลยนะนั่น

พี่มะเดี่ยวเดินเข้ามาจูงผมไปนั่งที่เดิมข้างพี่แม็กสุดหล่อตัวใหญ่กว่าควาย ไอ้พีชกับไอ้วิ่งก็มาซ้อมเต้นเหมือนกัน นี่ถ้าผมไม่ติดทำงานที่ร้านน้าก็คงมาซ้อมกับพวกมันแล้วล่ะมั้ง แต่เพราะเห็นว่าผมอยู่กับพี่มะเดี่ยว เพื่อนทั้งสองก็เลยไม่เข้ามาหา

“กินไรมายังหืม” มือลูบหัวความรักแต่ตาจ้องมองผม

“ยังเลยพี่ รอพี่ซ้อมเสร็จค่อยไปหาไรกิน”

“ไม่หิว?”

“ไม่อะ”

“ถึงว่า ทำไมหุ่นเหมือนหมา” อ่าว...ไหงวกมาเสียดแทงผมงี้ล่ะพี่

“อ่า...” อยากด่าอะ แต่ไม่กล้า ก็เลยแค่ยิ้มบางๆ แล้วก็เพิกเฉยต่อคำพูดนั้นไป

“นั่งเฝ้าของไปนะ ฮ่าๆ” พี่ครับ...หุ่นกูเหมือนหมาพี่ แต่กูไม่ได้เป็นหมานะเว้ยเฮ้ย! เคือง...เดี๋ยวพ่อกินหมูโชว์เลยหนิ

เขาเดินจากไปด้วยรอยยิ้ม มีแต่ผมที่หน้าเบ้เพราะหมั่นไส้ในความทะเล้นของเขา เมื่อเช้ายังหน้ามึนเพราะอดหลับอดนอนอยู่เลย ตอนนี้พลังเต็มแล้วงั้นสิ ถึงได้ส่งสายตาอย่างนั้นมาได้เนี่ย

แม้จะทำงานทั้งคืน ได้นอนกลางวันไปไม่กี่ชั่วโมง ทว่าความบ้าพลังของพี่เขาไม่ได้หายไปไหนเลย เมื่อร่างสูงย่ำเท้าเข้าฟลอ เขาก็สามารถเรียกเสียงเฮลั่นจากผู้คนรอบด้านได้ด้วยความเก่งกาจของเขา ในความโฟลของสไตล์การเต้น ทั้งลื่นไหล เท่บวกกวนตีนอยู่ในตัวเอง

ถึงผมจะไม่ได้ลงไปเต้นกับเขา...แต่ผมมีความสุขที่ได้นั่งมองพี่เขาอยู่ตรงนี้ ฟังเสียงดังๆ และดูท่าทางการเคลื่อนไหวร่างกายอันร้ายกาจ หยอกล้อกันบ้าง เล่นทะลึ่งตึงตังตามภาษาเด็กผู้ชายกันบ้าง สนุกดี...มีความสุขดีนั่นแหละ

ผมโอเคกับทุกอย่างที่พี่เขาเป็น ติดอย่างเดียว...พี่โซฮานนี่ถึงเนื้อถึงตัวพี่มะเดี่ยวมากขึ้นปะนะ เมื่อวานยังโอบไหล่..แต่วันนี้โอบเอว คิดแง่ดี พี่เขาก็แค่เตี้ยเลยโอบไหล่พี่มะเดี่ยวไม่ค่อยไหว แต่ถ้าคิดแง่ร้าย...พี่แม่งต้องเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อแน่ๆ

ไม่ได้จับผิดน้า ก็มองพี่มะเดี่ยวและคนรอบด้านปกตินั่นแหละ แค่สายตามันไปโฟกัสพี่โซฮานเอง เวลาเขาคุยกับพี่มมะเดี่ยวอะ รอยยิ้มนี่น่ารักเป็นบ้าเลย ทำไมไม่ทำแบบนั้นให้คนอื่นบ้างล่ะ? อย่างผมนี่เจอแต่ตาดุๆ ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรให้เขา

“มึงรู้ปะว่าพี่โซฮานเขาเกลียดอะไรป๊า” ผมกระซิบกระซาบกับความรัก ซึ่งมันก็เงยหน้ามองผม...

“คร่อก...คร่อกๆ”

“อ้อๆ อย่างงี้นี่เอง ป๊าเข้าใจแล้วล่ะ...” เข้าใจก็บ้าแล้วล่ะ แกล้งมันเฉยๆ...ผมไม่อยากให้ความรักน้อยใจที่ป๊าไม่เข้าใจมัน

“คร่อกๆ”

“จ้าๆ ป๊าเข้าใจ”

….100%….

มะวานเผลอหลับแหละ แฮ่ๆ งานเยอะมากรุยเนอะสิ้นเดือนเนี่ย ยังไงจะพยายามมาทุกวันน้า ^^
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 35 [100%]❤️ -1/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-12-2017 21:20:37
 :เฮ้อ: โซฮาน คือจะแย่ง ว่างั้น สารภาพไปแล้วนี้


 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 35 [100%]❤️ -1/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 01-12-2017 21:53:56
ไม่ได้คิดในแง่ร้ายลูก คิดในแง่ความเป็นจริง รอน้องสามจัดการนังโซ :katai1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 35 [100%]❤️ -1/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 01-12-2017 23:32:24
กลุ้มถึงขนาดไปนั่งคุยกะความรักเลยนะเนี่ย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 35 [100%]❤️ -1/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 02-12-2017 00:44:52
น้องสามให้พี่เดี่ยว  :z6: โซฮานสักทีก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 35 [100%]❤️ -1/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-12-2017 01:41:44
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 35 [100%]❤️ -1/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 02-12-2017 05:47:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 35 [100%]❤️ -1/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 02-12-2017 13:19:02
โซฮานนางก็น่าจะหาแฟนได้นะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 36 [100%]❤️ -2/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 02-12-2017 19:20:55
>>ตอนที่ 36 [100%]<<

การซ้อมเต้นเข้มข้นขึ้นเมื่อใกล้เวลาแยกย้าย ตอนนี้ที่กลางฟลอไม่มีพื้นที่ว่างให้เด็กหัดซ้อมกันแล้ว พีชกับวิ่งมานั่งเล่นอยู่กับผม ถือเป็นการพักเหนื่อยก่อนจะแยกย้ายกันไป เพราะตรงนั้นถูกสละให้ทีมดิสทีนิย์สเต็ปได้ฝึกท่าทีม

เห็นพี่มะเดี่ยวเป็นคนขี้แกล้ง ชอบเล่นซน แต่พอเอาเข้าจริงๆ พี่แกดุมากครับ เสียงของเขาที่ขึ้นเสียงหน่อยๆ ไม่ถึงกับตะโกนยังดังกดดันคนได้ นับประสาอะไรกับเมื่อแกได้ตะโกนออกมา ใครทำพลาด ใครทำได้ไม่ดีหรือใครเอาแต่เล่น ไม่ตั้งใจ พี่แกจะตะคอกใส่ไม่ไว้หน้าแม้นั่นจะคือเพื่อนเขาก็ตาม

นี่เป็นอีกมุมที่ผมเพิ่งเคยเห็น ปกติผมจะเห็นพี่เขาเล่นๆ แล้วมีแต่เพื่อนเขาเท่านั้นที่มักมาตาม มาดุว่าพี่เขาไม่สนใจการซ้อมเต้น แท้ที่จริงแล้วพี่เขานี่แหละคือที่สุดของคนในทีม ไม่มีใครกล้าหือกล้าอือกับพี่มะเดี่ยวเลยแม้แต่พี่เรย์ที่เป็นคนกวนๆ

“ไอ้เรย์ กูบอกแล้วไง เวลาเตะโทมัสอะให้มึงแตะแรงๆ มึงจะยั้งแรงไว้ทำเชี่ยไรวะ...ฮะ!” นึกสภาพตัวเองเป็นคนโดนดุ กูว่า..กูร้องไห้แน่เลย

“กูก็เตะแล้วไง มึงจะเอาไรวะ ไอ้เหี้ย ซ้อมกันมาตั้งกี่โมง แรงกูจะน้อยลงบ้างไม่ได้เลยไง” พี่เรย์ก็โต้ เมื่อกี้ว่าไม่มีคนหือ...แต่เพราะเหนื่อย อารมณ์ก็เลยขึ้นง่าย

“ไม่ได้ มึงเอาใหม่เลย...ตั้งท่าใหม่ให้หมด!” ไม่ใช่แค่พี่เรย์ที่ซวย แต่คำว่าตั้งท่าทีมใหม่ให้หมดหมายถึงทุกคนซวยไปตามพี่เรย์ด้วย

“กูคบคนผิดปะวะ” ก้มลงไปกระซิบกระซาบกับเพื่อน

“ฮ่าๆ…หงอเลยมึง เก่งไม่ใช่เหรอเรื่องตีมึน กูบอกเลยว่าพี่กูเก่งเรื่องกดดันคน” เรื่องนั้นกูไม่เถียง กูโดนมาเยอะกูเลยรู้ดีประมาณหนึ่งเลยล่ะเพื่อนยาก

“จะไม่ต่อยกันใช่ปะวะ” ผมถามอีก เพราะพี่แกดุมากไง ก็เลยกลัวมีปัญหาเหมือนกัน

“ไม่หรอก ทุกทีที่มีการแข่งก็แบบนี้ ทุกคนรู้ อยู่กันมาตั้งแต่สมัยไหนแล้วมึง” กูจะไปรู้ไหมละว่าเขาอยู่กันมาตั้งแต่สมัยไหน กูไม่ได้อยู่กับเขามาตั้งแต่ต้นนะเว้ยเฮ้ย

ฟลอยังคงดังไปด้วยเสียงเพลงและเสียงดุว่าของพี่มะเดี่ยวไปจนถึงห้าทุ่มกว่า ตลาดปิดหมดตั้งแต่สี่ทุ่ม พร้อมกับที่เด็กๆ หลายคนกลับห้องของตัวเอง ไม่เว้นแม้กระทั่งเพื่อนๆ ของผมทั้งสองคน เข้าใจฮะ มันดึกแล้วและพรุ่งนี้พวกผมมีเรียนเช้า แต่ผมก็ยังนั่งรอพี่เขาจนกว่าพี่เขาจะเสร็จแล้วกลับกันนั่นแหละ

ช่วงท้ายๆ ทีมแน่นมาก ทุกคนเต็มที่กับมันเพื่อจะได้พักอย่างสบายอกสบายใจเสียที การเต้นพลาดเลยแทบไม่มีให้พี่มะเดี่ยวต้องดุหรือสั่งเต้นใหม่อีกเลย พอจบทุกคนก็ตบบ่ากันและกันเพื่อให้กำลังใจและเป็นการบอกว่าวันนี้ทำได้ดีมาก ตอนนี้ไม่เหลือเด็กๆ แล้วครับ เหลือแค่คนในทีมกับผมและความรัก

“รอนนานปะ...” ไม่นานเลยพี่เอ้ย นั่งแม่งตั้งแต่สองทุ่มจนเนี่ยห้าทุ่มกว่าแล้ว

“ไม่อะ” แค่หิว...เออ อันนี้พูดจริง ข้าวมื้อสุดท้ายของวันนี้คือมื้อเที่ยงที่กินกับน้า

“โทษที...พี่รีบซ้อมเอาให้แน่นๆ น่ะ เดี๋ยวพี่จะไม่ว่างระยะหนึ่งเลย”

“เรื่องงานเหรอครับ” พี่เขาพยักหน้า

“เพิ่งได้งานเพิ่มมา” เท่าที่มีก็อดนอนทำแล้ว ยังรับงานมาเพิ่มอีก

“อ่า...ครับ ไปหาอะไรกินกัน” แต่ผมไม่มีสิทธิ์ไปว่าเรื่องงานพี่เขา จำให้ขึ้นสมอง...งานคือเงิน และเงินคือปัจจัยสำคัญที่สุดของชีวิต

“เออ พี่ลืมเลยว่าเรารอกินข้าว โกรธปะเนี่ย...โกรธก็บอกนะ เดี๋ยวให้ลงโทษ” ทั้งที่เหนื่อยจนเหงื่อท่วมกาย พี่เขาก็ยังส่งสายตาซุกซวนมาให้อยู่ดี

“ลงโทษยังไงอะ”

“ก็เดี๋ยวให้หอมแก้มทีหนึ่ง” ฮ่าๆ...อยากบอกว่ามันไม่ทำให้ผมหายหิวนะเอาจริงๆ

“เปลี่ยนเป็นกินพี่ดีกว่าไหมอะ มันดูจะอิ่มกว่า” คิดดู...เอาพี่มะเดี่ยวยัดเข้าเตาอบขนาดยักษ์! เดี๋ยวๆ...ทำไมมันดูโหดร้ายล่ะ

“เอาดิ ไปกินกันที่ห้อง...”

“โอเค...” ยกมือทำท่าประกอบ หน้าตาใสซื่อโคตรๆ เพราะพี่เขาจะให้ผมกิน...เดี๋ยว...ขอเดี๋ยวหลายๆ รอบเลย

“พี่เป็นคนดิ ผมกินพี่ได้ที่ไหน บ้า” หรือว่าผมเข้าใจอะไรผิด ผม...หรือพี่เขา

“ฮ่าๆ กินได้ แก้ผ้าก็กินได้แล้ว” น่านนนน งานติดเรตก็มา

“ผมว่าเราเข้าใจอะไรกันผิดแล้วล่ะพี่ กินข้าวเหอะ เนอะ” เอาตัวรอดไอ้สาม กูว่ามึงกับพี่เขา..ยังไงมึงก็โดนแดก

“อะไรอ่า...นึกว่าจะติดกับพี่แล้วซะอีก อดเลย” มาองมาอดอะไร เอ้อ...ชวนเด็กทำแบบนี้ไม่ดีไม่งามนะ เดอะสามคนนี้อายุเพิ่งผ่านผู้เยาว์มาแค่ตึ๋งเดียวเท่านั้น

พี่โซฮานเดินเข้ามาหา เขาเก็บข้าวของเสร็จกันหมดแล้ว นี่ก็มาเพื่อชวนไปกินข้าวด้วยกันก่อนจะแยกย้ายกันไปห้องใครห้องมัน ตลอดเวลาที่เขาพูดกับพี่มะเดี่ยวตรงหน้าผม เขาไม่มองหน้าผมเลยล่ะครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน…ผมไม่อยากคิดเองเออเองเสียด้วยสิ ไม่อยากมองหน้า ก็ไม่ต้องมองหน้า ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วถ้าจะมีใครสักคนไม่ชอบผมน่ะนะ แต่ที่ผมแว้บคิดขึ้นก็คือ...ถ้าพี่โซฮานไม่ชอบผมจริงๆ ผมกับพี่มะเดี่ยวจะมีปัญหาอะไรตามมาไหม เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เพื่อนเราไม่ถูกกับแฟนเรา นั่นหมายถึงการทะเลาะของคู่รักเลยน่ะ อันนี้ผมอ่านในพันทิปมา ฮ่าๆ

ทั้งกลุ่มเจ็ดคนพากันไปกินร้านข้าวต้มโต้รุ่ง ไม่ต้องห่วงความรักครับ ผมไม่ทำให้มันอด กระเป๋าโดเรมอนของผมมีอาหารเหลือเฝือสำหรับการพามันออกมาข้างนอก ตอนนี้ห่วงแค่มันจะง่วงเกินไปเท่านั้น พี่มะเดี่ยวแย่งความรักไปอุ้ม แต่ไม่ได้โยนกระเป๋าตัวเองมาให้ผมอย่างเคย ผมก็เลย...แย่งมาสะพายให้

“ผมถือให้”

“ไม่หนักอ๋อ” ส่ายหน้า...ไม่หนักบ้านพี่ดิ โคตรหนัก

“ไม่ครับ” แต่อยากช่วย ก็เลยบอกไปแบบนั้น

พี่มะเดี่ยวอุ้มความรักด้วยมือเดียว มืออีกข้างจูงผมอยู่ เขาไม่ค่อยได้คุยกับผมเท่าไหร่เพราะต้องคุยเรื่องทีมกับทุกคนที่เดินร่วมกันอยู่ อีกข้างของพี่มะเดี่ยวเป็นพี่โซฮานเดินตามติด ชนิดที่ไหล่ชนกันเลยครับ

ก็...หึงแหละ

แต่เข้าใจว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ทำตัวแบบนี้กันมานานแล้ว ถึงพี่มะเดี่ยวจะมีแฟน แต่ไม่ได้หมายความว่าความเป็นเพื่อนของพวกเขาจะต้องเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น ต่อให้ลึกๆ ผมอยากให้เปลี่ยนสักหน่อยก็เถอะนะ...ช่างมันเหอะ ผมคงคิดมากไปเองนั่นแหละ

“เฮ้ยๆ...สั่งหมูมาเยอะๆ” พี่เรย์ยกมือขึ้นสั่งพี่แนที่ถือเมนู ผมอยากจะกดไลก์ให้พี่เขาหนึ่งทีด้วยความชื่นฉ่ำหัวใจ เดอะสามอยากแล่กหมูคร้าบบบบ

“สั่งมาก็ไว้ด้านมึงนู้นเลย”

“เฮ้ยไรวะ มียงมีแยกวางได้ไง โต๊ะเดียวกัน แดกด้วยกัน มันต้องวางด้วยกันสิวะ...ถูกปะ” เพราะพี่โซฮานแย้งขึ้น พี่มาร์ช หนึ่งในทีมก็แย้งบ้าง

“แต่ไอ้เดี่ยวมันไม่กินหมู”

“กูรู้เหอะ พูดอย่างกับพวกกูไม่รู้ แล้วไง...มันไม่เคยเดือดร้อนนะ วันนี้มึงมาเดือดร้อนแทนมันทำไมวะ” หันซ้าย...หันขวา แล้วก็มองหน้ากับพี่มะเดี่ยวงงๆ ปกติกินข้าวกันต้องโต้กันขนาดนี้ไหมวะ

“สั่งเร็วๆ เหอะ หิวแล้วเนี่ย” พี่มะเดี่ยวแกตัดบท พี่โซฮานหันมามองผมกับพี่มะเดี่ยว แต่มองผมแบบไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นะ

บรรยากาศมาคุเริ่มจะซาลงเมื่อทุกคนแย่งกันสั่งอาหาร ยกเว้นผมกับพี่มะเดี่ยว คือ...เราเอาแต่นั่งคุยกันจนไม่ได้สนใจสั่งอาหารน่ะครับ ผมได้ยินอยู่แหละว่าเขาสั่งอะไรกันบ้าง อย่างน้อยก็มีเมนูหมูเยอะเชียว...งานนี้ลาภปากเดอะสามแล้ว

“น้ำลายหกแล้ว” ผัดผักคะน้าหมูกรอบคือจานแรก...กลิ่นแม่งแบบ โอ้ย ไส้จะขาดแล้วเว้ย

“ก็ผมหิวนี่ ผมรอพี่ตั้งแต่หัวค่ำเลยน้า”

“หิวหรือเพราะมันเป็นหมู” ฮุ่ยยยย อย่ามารู้ทันเค้า แบบนี้ไม่ดีไม่เอา

“แฮ่...หิวสิหิว” ไม่ทันได้เช็ดน้ำลายที่มุมปาก เมนูต่อไปก็เริ่มมาเสิร์ฟ โอ้ยๆ...คอหมูย่างก็มา ต้มกระดูกหมูก็น่ากิน...

ความรักเอ้ย...เพื่อนมึงเต็มโต๊ะเลยเนี่ย!

“เชี่ย...แยกโต๊ะดีกว่าไหม” ไม่เอาสิพี่มะเดี่ยว ไม่แยกโต๊ะสิ นี่แหละ…นี่คือสวรรค์ชั้นเจ็ดของสาม

“เห็นไหม กูบอกแล้วให้เอาที่มีหมูไปไว้ฝั่งมึงให้หมดเลย” อ่าวพี่โซฮาน แบบนี้กูก็อดแดกดิพี่

ว่าแต่พี่โซฮานนี่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพี่มะเดี่ยวจริงๆ ด้วยนะ ผมยังไม่เห็นพี่มะเดี่ยวแกว่าอะไรเลย แกยังเอาแต่เล่นกับความรักแล้วก็แหย่ผมอยู่เนี่ย ไอ้คนข้างตัวรู้ดีที่สุดว่าเมนูเหล่านั้นเรียกน้ำลายผมมากแค่ไหน แล้วที่ว่าจะย้ายโต๊ะที่ต้องแกล้งผมอย่างแน่นอน ข้ารู้...ข้าเห็น ข้าเข้าใจดี

“ไม่ต้องหรอกโซ น้องมันจะกิน ไว้นี่แหละ”

 “แต่เมื่อกี้...”

“กูแหย่น้องมันเล่น มึงนี่จริงจังเนอะ” แหม่ ว่าพี่โซฮานไม่ดูตัวเองเลย แต่ก่อนใครกันนะที่กลัวผมกินหมูตัวเองเป็นตุเป็นตะ

“น้องสามก็ชอบกินหมูเหรอ ดีๆ...กินยั่วไอ้เดี่ยวมัน ไอ้คนไม่รู้จักรสชาติแห่งความอร่อยของเนื้อหมู” ฮ่า ถูก...พี่เรย์พูดถูกใจผมมากๆ

“ผมเห็นด้วยโคตรๆ เลยครับผม” แล้วผมก็แท็กมือกับพี่เรย์ไปหนึ่งที พี่มะเดี่ยวได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ

ทุกคนดูมีความสุข ยกเว้นพี่โซฮานที่ไม่ค่อยแฮปปี้เพราะแกเข้าข้างพี่มะเดี่ยวเต็มร้อยมากๆ แต่ก็ไม่มีใครสนแก เมื่อข้าวถูกนำมาเสิร์ฟ เหล่าบีบอยผู้กระหายหิวทั้งหลายแหล่ก็จ้วงกินกันอย่างไม่สนเพื่อนพ้องอีกต่อไป ประมาณท้องกูสำคัญกว่า ไม่เว้นแม้แต่ผมที่หิวมาตั้งแต่เย็น โถ...ใครจะรู้ว่าเลิกเต้นกันเกือบเที่ยงคืนแบบนี้ล่ะครับ ถ้ารู้ ระหว่างทางผมคงหาอะไรมายัดใส่ท้องก่อนแล้วล่ะ

ระหว่างที่ทุกคนกระซวกกันอย่างเอร็ดอร่อย ก็มีพี่โซฮานนี่แหละที่ไม่ห่วงกินของตัวเอง เพราะพี่เขาเอาแต่ตักกับข้าวให้พี่มะเดี่ยวที่กินไป ป้อนความรักไป เอาผักในจานกับข้าวที่ไม่เผ็ดเนี่ยแหละป้อน ผมทำเป็นไม่เห็นทั้งที่ตัวเองมีตาตั้งสองข้างเหอะ...อืม เพื่อนกัน

เพื่อนกันมันดีปะครับ?

เห็นสามไม่สู้คน หงิมๆ...ไม่หือไม่อือ ไม่ได้หมายความว่าสามโอเคกับสิ่งที่พี่แกทำนะ ผมคบกับใคร ผมก็ไม่ชอบหรอกที่คนอื่นมายุ่งกับแฟนของผม ลับหลังไม่ว่า...ต่อหน้ากูไม่ยอมนะครับ! นี่เห็นเป็นเพื่อนเลยไม่คิดมากนะ...ตอนนี้ห้ามความคิดไม่ได้ล่ะ

ผมตักผัดคะน้าหมูกรอบมาใส่ที่จาน เขี่ยหมูออกเอาให้เหลือแต่ผักคะน้าแล้วก็เอาน้ำมันราดๆ ให้ชุ่ม ทุกคนไม่ได้สนใจการกระทำนี้...แต่เมื่อผมตักจัดคำให้พอดีขึ้นจ่อปากพี่มะเดี่ยว สายตาหลายคู่ก็หันมามองด้วยความสนใจ โดยเฉพาะพี่โซฮาน

“สาม ไอ้เดี่ยวมันไม่กินหมู” อะไรๆ พี่มะเดี่ยวยังไม่พูดสักคำเลยเหอะ

“ไม่มีหมูนะฮะ...มีแต่ผัก” ว่าแล้วก็ยิ้ม พี่มะเดี่ยวมองในช้อนผมดีๆ แกยิ้มบางก่อนจะอ้าปากกินคำที่ผมป้อน

“อูย...สงสารคนโสดบ้าง” ผมก็สงสารนะ แต่ผมหมั่นไส้คนตรงข้ามนิดหน่อย ฮ่าๆ

อย่าว่าผม...ผมเป็นคนใสๆ

“คิดไงมาป้อนเนี่ย” พี่เขาถามขณะที่ตักข้าวเข้าปากตัวเอง

“แค่คิดว่ามันอร่อยดี พี่ไม่กินมันเลยอะ ที่จริง…พี่ควรคิดกลับกันแบบนี้นะว่า หมูอะ ในเมื่อมันต้องตายแล้ว…เราก็ควรทำให้มันตายอย่างมีค่า เมินมันแบบนี้ มันก็ตายเปล่าดิ” ตรรกะบ้าไรเนี่ย ผมก็พูดไปงั้นแหละ...คือถ้าคนเราไม่กินมันก่อน มันก็ไม่ต้องมาตายเป็นอาการเราหรอกถูกไหมล่ะ แต่แบบ...ผมก็หาเรื่องพูดไปเรื่อยนั่นแหละ

“เหรอ...ไม่มีคนกินมัน มันก็ไม่ต้องตายหรอก แต่คิดแบบสามมันก็ไม่แย่หรอก ก็ทำให้เห็นค่าของสิ่งที่ได้มานะ” พี่มะเดี่ยวยกความรักขึ้นมาจ่อหน้าผม

“อะ...กราบมันซะ กินเพื่อนมันอะ ขอโทษมันเลย” เอ้า...นี่ไม่ใช่เพื่อนมันนะเว้ยพี่ มันคนละสายพันธุ์กันเหอะเนี่ย

“ครับ...กราบ” แต่กูก็กราบ เออ เอาเข้าไปชีวิต

ผมกับพี่มะเดี่ยวหัวเราะกับสิ่งที่เราเล่นกันไปเมื่อครู่ แล้วเมื่อป้อนคำแรก ผมก็เอากับข้าวอย่างอื่นเขี่ยหมูออกป้อนพี่มันอีก เขาก็กินนะ เห็นว่าไม่มีหมูก็กินได้ พอดีจำได้ว่าตอนนั้นที่กินข้าวกับพี่เขา แล้วผมสั่งกะเพราหมูสับไข่ดาวมา พี่เขาเขี่ยหมูมาให้ผมแต่ยังสามารถกินพวกผักแล้วก็ไข่ที่รวมมากับกะเพราได้ เลยเชื่อว่าพี่มะเดี่ยวต้องกินอย่างอื่นได้ด้วย

หลังจากอาหารมื้อใหญ่ที่วุ่นวายตอนจ่ายตังผ่านพ้นไป พี่โซฮานก็แยกย้ายไปคนแรกไม่พูดไม่จา พี่มะเดี่ยวก็ไม่ได้อะไรกับพี่เขานัก เราร่ำรากันนิดหน่อยกับพวกพี่ๆ ในทีมที่เหลือ มีนัดแนะการซ้อมวันต่อๆ ไปอีก ซึ่งพี่มะเดี่ยวก็บอกแหละว่าหลังจากนี้เขาจะงานยุ่งมาก ฝากให้พี่เรย์กับพี่แนคอยดูการซ้อมให้ดีๆ รับปากกันเสร็จสรรพก็ได้เวลาปั่นจักรยานกลับห้อง ผ่านความมืด...ผ่านถนนที่แทบร้างรารถยนต์ สายลมอ่อนๆ และอากาศเย็นๆ กับสองข้างทางที่มีแค่แสงไฟริบรี่...ถ้าผมกลับคนเดียว มันคงวังเวงมาก แต่เมื่อกลับกับพี่เขา...มันดูโรแมนติกขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก...

....100%....

น้องสามเราเป็นคนใสๆ จริง...ไม่เชื่อเหรอ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 36 [100%]❤️ -2/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: สาว801 ที่ 02-12-2017 22:56:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 36 [100%]❤️ -2/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 03-12-2017 01:33:53
น้องสามทำดีมากลูกกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 36 [100%]❤️ -2/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Sky ที่ 03-12-2017 08:41:51
เดอะสามสู้ๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 36 [100%]❤️ -2/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-12-2017 09:29:43
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 36 [100%]❤️ -2/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-12-2017 15:59:39
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 37 [100%]❤️ -4/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 04-12-2017 18:37:17
>>ตอนที่ 37 [100%]<<

ผมคิดว่าการฝากฝังงานให้พี่เรย์และพี่แนนั้นก็แค่พูดไปงั้นแหละ...ยังไม่ถึงเวลาโหมงานของพี่เขาหรอก ที่ไหนได้ พี่มะเดี่ยวเล่นโหมงานหนักทันทีเลย ผมวิดีโอคอลคุยกับพี่เขาตอนกลางคืน พี่มะเดี่ยวอาบน้ำเสร็จเขาก็ประจำที่ตัวเอง นั่งวาดรูปไปคุยกับผมไปเรื่อยเปื่อย...

ผมนอนดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา คืนนี้ผมก็เลยไปไวกว่าทุกวัน ทว่าช่วงเช้าที่ผมลืมตาตื่น สิ่งแรกที่ผมเห็นก็คือพี่มะเดี่ยวกำลังกินกาแฟที่มีควันลอยกรุ่น ตาโหลและเขาก็ต้องใส่แว่นกันแสง ผมพอเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น การทำงานหน้าคอมพ์นานๆ จะทำให้ดวงตาล้าและรับแสงได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น พี่เขายังไม่เห็นว่าผมตื่น ผมเองก็นอนมองเขาเงียบๆ ยังมีเวลาอีกหน่อยก่อนจะไปอาบน้ำแต่งตัวไปเรียน

“พี่ยังไม่ได้นอนเลยใช่ไหมครับ...” ในที่สุดก็ทนสงสัยไม่ได้ ไม่เชื่อว่าเขาจะหลับไปแล้วตื่นขึ้นมาทำงานแน่ๆ อะ

“อ่าว สามตื่นแล้วเหรอ...เช้าแล้วเหรอเนี่ย” เห็นไหมล่ะ

“พี่ก็หัดเปิดม่านบ้าง จะได้รู้ว่านี่มันเช้าหรือกลางคืน นั่งวาดรูปทั้งคืน...ไม่เหนื่ยเหรอครับ” ผมกระชับผ้าห่มให้แน่น เป็นเหตุให้ความรักรู้สึกตัวและตื่น แต่มันก็ยังไม่ยอมลืมตา แค่ดิ้นขลุกๆ มาเบียด

“ไม่เหนื่อยนะ แต่เพลีย เราเหอะ ลุกไปอาบน้ำอาบท่าไปเรียนได้แล้ว เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“โน! ไม่ต้องเลย...พี่อยู่นอนไปนั่นแหละ วางงานแล้วพักผ่อนได้แล้วครับ” เห็นตาโหลๆ นั่นแล้วสงสารอะ

“ดุจัง...” ทำเป็นพูด ท่าทางเหมือนกลัวผมตายอะ

“งั้นผมไปอาบน้ำ แล้วจะเข้าไปกินข้าวด้วยนะ” ว่าจบก็ไม่รอคำตอบ แต่กดตัดสายที่เปิดทิ้งไว้ทั้งคืนทิ้ง เห็นระยะเวลาวิดีโอคอลแล้วอดยิ้มไม่ได้...เป็นคนแรกจริงๆ ที่ผมทำแบบนี้ด้วย

ผมถือวิสาสะอุ้มความรักไปอาบน้ำด้วยกัน แต่ปรับน้ำเป็นน้ำอุ่นนะ ผมกลัวความรักมันจะหนาว เสร็จแล้วก็แต่งตัวให้มันก่อนแต่งตัวให้ตัวเอง วันนี้ความรักใส่ชุดเชอร์รี่ สีแดงสดใสมากและมันก็โคตรจะน่ารักเลย หลังจากนั้นก็เอาอาหารในตู้เย็นซึ่งเป็นอาหารแช่แข็งเนี่ยไปเวฟ เช็กของนิดหน่อย เดี๋ยวผมต้องเอาข้าวมาเติมเพราะจากที่คาดการณ์เอาไว้กินคนเดียวนั้นมันผิดคาด ตอนนี้มีเผื่อแผ่ห้องตรงข้ามด้วยเลยไม่พอแล้ว

ระหว่างรออาหารสุก ผมดูตารางเรียนและจัดของนิดหน่อย เสียงติ๊งของไมโครเวฟดัง ผมสะพายกระเป๋า เดินไปเอาข้าวทั้งสองกล่องออกมาวางบนถาดไม้ น้ำเปล่าคงไม่ต้อง ห้องพี่เขาคงมีแหละ

“ไปห้องพี่มะเดี่ยวกัน...” หันไปบอกความรักที่ชะเง้อคอมองอาหาร ทันทีที่บอก มันก็เดินไปที่หน้าประตู ยืนรอให้ผมเปิด รู้เกินไปล่ะ...แค่ลองพูดดูไม่คิดว่าจะรู้ขนาดนี้เหอะ

เปิดให้มันและผมออกไปก่อน ปิดล็อกห้องอย่างดี กลับหลังหัน เคาะห้องพี่เขาเบาๆ สองสามทีพี่มะเดี่ยวก็เปิดประตูให้ผมเดินเข้าไป ตามติดด้วยความรัก มันไม่ได้ตามผมมานั่งที่โต๊ะเล็กหน้าโซฟา แต่กลับเดินคลอเคลียอยู่ที่ขาของพี่มะเดี่ยว

มุมเดียวกันใกล้ระเบียงที่ผมไว้ใช้เล่นเกม ของพี่มะเดี่ยวกลับโต๊ะสำหรับทำงาน คราวก่อนที่ผมมานอนที่ห้องนี้ผมไม่ได้สังเกตอะไรในห้อง ตอนนี้ได้เห็นแล้วว่ามุมนั้นของพี่เขามันค่อนข้างใหญ่ และมีอุปกรณ์สำหรับการทำงานพร้อม ผมแม่งกลับเห็นแต่...ภาพของเกม หน้าจอใหญ่กว่าของผม เล่นเกมต้องโคตรมันเลย แล้วนี่มันก็ค้างหน้าที่วาดรูปอยู่...

“งานยังไม่ใกล้เสร็จเลยเหรอพี่” ดูมันเพิ่งตัดเส้นเองอะ

“เสร็จไปสองงานแล้ว นี่อีกงาน...เดี๋ยวเสร็จนี่พี่ถึงจะนอน” เขานั่งลงข้างผมบนโซฟา ความรักถูกวางไว้ที่พื้นเพื่อกินในส่วนของมัน

“เมื่อไหร่เสร็จอะ”

“เที่ยงมั้ง...ลายละเอียดยิบเลย งานแฟนตาซี ทำไม..เป็นห่วงเหรอ” ไม่ห่วงเลย แค่เสือกเรื่องชาวบ้านเขาไปงั้นแหละ ฮ่าๆ ซะเมื่อไหร่เล่า

“ก็ต้องห่วงไหมล่ะ พี่เป็นแฟนผมนะ” พูดไปก็รู้สึกเขินแปลกๆ...แต่มันจริงนะ ผมต้องห่วงแฟนผมสิ

“ฮุ่ย...น่ารักอะ” พี่แกยีหัวผมเบาๆ

“ไม่ต้องหยอดเลย รีบกินแล้วไปปั่นงานต่อเถอะครับ จะได้เสร็จแล้วพัก” ซ้อมเต้นมาโคตรเหนื่อย ป่านนี้ยังไม่หลับไม่นอน คนหรือหุ่นยนต์วะเนี่ย เป็นผม ผมคงน็อกไปแล้วอะ

“จุกจิกเหมือนกันนะเราอะ” อ่าว ไมมาว่าผมแบบนี้

“ผมไม่จุกจิกก็ได้ ถ้าพี่รำคาญ” ปกติก็ไม่ใช่คนจุกจิกอะไรกับใครอยู่แล้ว แต่เพิ่งเคยเจอคนโหมงานขนาดนนี้อะ

“บ้า ไม่ได้รำคาญ แค่หยอกเองเหอะ แล้ววันนี้จะไปซ้อมเต้นต่อไหม หรือไม่เอาแล้ว…” พี่เขาเริ่มกินอาหารที่ค่อนข้างเย็นแล้ว

“คงเต้นแหละ ไหนๆ ก็เต้นไปแล้ว” ผมเจ็บตัวไปแล้วนะอย่างลืม ทรมานไปตั้งหลายวัน จะปล่อยให้มันสูญเปล่าได้ยังไง

“พี่คงไปซ้อมให้เราไม่ได้นะ พี่ต้องซ้อมทีม”

“ไม่เป็นไร มีหน้าที่ก็ทำหน้าที่ตัวเองไปเหอะครับ” ไม่ได้หลอกด่านะ ผมพูดจริงๆ รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดีก่อน ผมเป็นแค่คนที่เพิ่งคบ ไม่ควรมาเป๋เพราะผมอะนะ

ผมค่อนข้างรีบกิน ไม่ได้เพราะว่าไม่อยากอยู่กับพี่เขานะ ผมไม่อยากรบกวนเวลา พี่เขาทำงานเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งได้พักเร็วเท่านั้น พี่มะเดี่ยวให้ผมไปเรียนได้เลย ที่เหลือเดี๋ยวเขาเก็บเอง ผมก็โอเคตามนั้น ถือว่าผมอุ่นมาให้กินแล้ว หน้าที่เก็บทิ้งก็ให้เป็นของเขาไป

ฟอด…

“เจอกันที่ฟลอ” ไอ้...พี่แม่งฉวยโอกาส ผมก้าวขาออกมานอกห้องพี่แกก็ชิงหอมแก้มผมเฉย แถมยังโบกมือหย่อยๆ พร้อมรอยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยอีก น่าตีนักนะ...

“ขโมยหอมแก้ม เดี๋ยวโดน” ก็พูดไปงั้น พี่เขากลัวที่ไหน แลบลิ้นใส่อีก ผมเอาจมูกความรักไปครูดลิ้นแกชะมัดแต่ทำไม่ทัน...มันหวืดเป็นจุ้บปากพี่แกแทน

“อื้ม...คราวหลังพี่ขอปากสามแทนปากความรักนะ” ดูดิ สะเทือนที่ไหนละ ยังยิ้มระรื่นได้อยู่เลย

“ฝัน” ใช่ ในฝันอะ...จูบสามในนั้นไปก่อน เพราะตอนนี้ผมต้องไปเรียนแล้ว

“ไม่เอาฝันอะ ในนั้นพี่ทำบ่อยแล้ว...มากกว่าจูบปากอีก” โอ้ยยยย มาเลียปงเลียปาก อ่อยกันเกินไปแล้วครับ

“ไปเรียนแล้ว...” ตัดบทมันดื้อๆ เนี่ยแหละ

ผมเดินหนีมาจากหน้าห้องของพี่เขา มีเสียงหัวเราะเบาๆ แว่วตามหลัง แต่ผมไม่ได้หันกลับไปมองหรอก...ตอนนี้สามเขิน สามหลบหน้าก่อนนะ ฮ่าๆ บอกแล้วหน้ามึนไม่ได้หมายถึงหน้าด้านนะครับ โดนหยอกแบบนั้นก็ต้องมีหน้าม่านกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา

ผมปั่นจักรยานไปที่ร้านน้า เอาความรักฝากน้าไว้แล้วรีบไปเข้าคลาสเรียนของวันนี้ ระหว่างที่เรียนก็เพิ่งนึกได้ว่าชมรมผมมันเริ่มซ้อมกันตั้งแต่เที่ยงวัน ปกติพี่เขาก็มาเวลานั้นแทบทุกวันเลย แม้ว่าน้องๆ แต่ละคณะจะเลิกคลาสไม่เท่ากัน แต่รุ่นพี่เขามาซ้อมรอกันก่อนแล้วทุกที แล้วถ้างานพี่เขาเสร็จเที่ยงวันจริง พี่เขาก็ไม่ได้นอนดิวะ...

มานึกได้เอาตอนนี้ ส่งข้อความไปถามก็ไม่ได้รับการตอบรับเที่ยงแล้วด้วย ไม่ใช่ว่าออกมาจากห้องแล้วหรอกนะ ผมเลิกบ่ายสอง กว่าจะไปฟลอได้ก็ต้องรอเลิกคลาสก่อน มีเวลาพักชั่วโมงเดียวเพื่อนผมไม่ไปซ้อมเต้นกันหรอกครับ ข้าวแม่งยังไม่ย่อยเลย ขืนเต้นตอนนี้มีหวังข้าวแม่งพุ่งออกทางจมูกและปากพอดีอะดิ

ผมเฝ้ารอพี่เขาตอบข้อความตั้งแต่เที่ยงยันเลิกคลาส โพล่มาที่ฟลอก็แล้วยังไม่ได้รับการอ่านเลยข้อความของผมน่ะ แล้วพี่เขาก็ไม่อยู่ที่ฟลอด้วย จะโทรไปก็กลัวว่าเกิดพี่เขาหลับอยู่ผมจะรบกวน คิดว่าไม่มาก็ดี...พี่เขาพักผ่อนอยู่จะได้มีแรงออกมาซ้อมหรือทำงานต่ออะไรประมาณนี้

ทีมพี่มะเดี่ยวยังคงการซ้อมอย่างดุเดือด ผมเองก็ซ้อมในส่วนของผม พีชและวิ่งคอยประกบการซ้อมอย่างใกล้ชิด ผมได้รู้จักเพื่อนอีกสามคนซึ่งเป็นเพื่อนในฟลอของพีชกับวิ่ง พวกมันก็เป็นคนตลกโปกฮาปกติทั่วไป ผมไม่ได้ใส่ใจส่วนนั้นเท่าไหร่ แค่ฟังบีทแล้วซ้อมก็เหนื่อยแล้วครับ แถมพวกวิ่งยังไม่ค่อยปล่อยให้ผมพักสักเท่าไหร่ด้วย คือเต้นห้านาทีติดจะได้พักแค่สองนาทีแล้วซ้อมต่อเลย

ผ่านไปสองชั่วโมง...ผมหอบแดกเป็นหมาหอบแดดเลยครับ ต้องขอตัวออกไปซื้อน้ำมากินปะทังชีวิต โดยมีวิ่งไปเป็นเพื่อนซื้อน้ำมาไว้ที่ฟลอด้วยกัน ระหว่างทางเราก็คุยเรื่องเต้นเนี่แหละ วันนี้ผมยังคงทำท่าเดิมๆ ไม่ได้อะไรใหม่ เพราะหยุดซ้อมไประยะหนึ่งเลยต้องกลับมาฟื้นสกิว หนักหนาสาหัสเหมือนกัน แต่ไม่เท่าครั้งแรกที่ได้หัดเต้น เหมือนเรามีประสบการณ์ครั้งแรกไปแล้ว ครั้งต่อๆ มามันก็จะง่ายขึ้นประมาณนั้น

กลับมาจากซ้อน้ำก็นั่งพักอยู่ข้างฟลอกับเพื่อนๆ พวกมันไม่เชิงพักจริงจังหรอก แค่เต้นน้อยลง แต่ยังเต้นเรื่อยๆ หายเหนื่อยก็ลงสกิวกันโครมๆ เมามันกันไปตามประสา ไทม์กับโจ้เพื่อนที่เต้นไม่เป็นกลุ่มแรกของผมพัฒนาไปไกลแล้ว พวกนั้นมาที่ฟลอทุกวัน ไม่มีวันไหนไม่มาซ้อมเพราะพวกมันเองก็มีเพื่อนอยู่ในนี้เหมือนกัน พี่ออมจากที่ต้องคอยสอนน้อง ก็เลยได้ซ้อมของตัวเองอย่างเต็มที่

ตอนแรกผมคิดว่าพี่ออมแกจะอยู่ทีมเดียวกับพี่มะเดี่ยวเสียอีก ที่ไหนได้ พี่เขามีอีกทีมของตัวเอง ไม่ได้อยู่ทีมดิสทินีย์สเต็ปของพี่มะเดี่ยว ดูพี่ออมแล้วก็ทึ่งนะ...เธอเป็นผู้หญิงที่เต้นเก่งไม่แพ้ผู้ชายจริงๆ สไตล์ของพี่แกโดดเด่นกว่าผ็ชายบางคนเสียอีก เวลาดูพี่ออมเต้นมักจะตะลึงและทึ่งทุกครั้ง พร้อมความคิดที่ว่า...ผู้หญิงยังทำได้ขนาดนี้ ผมเป็นผู้ชายผมก็ต้องทำได้สิวะ...

“สาม...” นั่งมองรอบๆ เพลินตา เสียงไม่สบอารมณ์หนึ่งก็ดังพร้อมกับร่างของพี่โซฮาน

“ครับ?” อย่าว่าแต่เสียงไม่สบอารมณ์เลย หน้าตาก็สบอารมณ์เหมือนกัน

“มะเดี่ยวละ”

“ไม่รู้ครับ”

“ไม่รู้ได้ไง เป็นแฟนมันก็ต้องรู้ดิ” อ่าว...กูเป็นแฟนพี่ กูไม่ใช่แฝดอินจันทร์เว้ย จะได้ไปรู้ว่าพี่เขาอยู่ไหนหรือทำอะไรอยู่

“พี่เป็นเพื่อนสนิทพี่ยังไม่รู้เลย แฟนที่มาทีหลังแบบผมจะไปรู้ได้ไงอะครับ” แล้วผมก็มีชีวิตของตัวเองนะเว้ย ต้องเรียน ต้องมาซ้อม ไม่ได้มีเวลาไปนั่งเฝ้าคนๆ หนึ่งปะ

“พูดแบบนี้หมายความว่าไงวะ...น้องจะหาเรื่องเหรอ?” เดี๋ยวๆ ฟังยังไงเป็นหาเรื่องวะพี่

“อ่า...ก็...ผมไม่รู้นี่” ท่าทางหาเรื่องกันขนาดนี้ จะไม่ต่อยกูใช่ไหม บอกเลยตอนนี้กลัววะ

“เออ พูดอะไรก็ดูด้วย นี่รุ่นพี่ไมใช่เพื่อน แล้วกูไม่ได้ใจดีเหมือนไอ้เดี่ยวมัน ใช่ว่าเป็นแฟนมันแล้วมึงจะพูดอะไรแบบไหนกับพวกกูก็ได้ แล้วถ้ากูติดต่อมันได้ กูไม่มาถามมึงหรอก” อ่าว...ผมหาเรื่องพี่เขาเหรอ? ผมว่าผมพูดปกติมากเลยนะเว้ยแล้วก็ไม่ได้ใช้น้ำเสียงแดกดันอะไรเลย

อายุไม่บอกว่าคนๆ นั้นมีวุฒิภาวะที่ดีนี่ของจริงสินะ...

พี่แกมองหน้าเหมือนหาเรื่องแล้วก็เดินจากไป ผมเพิ่งเห็นว่าทุกคนหันมามองผมเป็นตาเดียว คงเพราะเมื่อกี้พี่โซฮานค่อนข้างพูดใส่ผมเสียงดัง ท่าทีก็คุกคาม คนอื่นเลยให้ความสนใจ เรียกง่ายๆ ว่าเสือกกันนั่นแหละครับ ส่วนเพื่อนผมมันก็รีบเข้ามาหา เห็นตอนที่พี่โซฮานขึ้นเสียงใส่นั่นแหละ

“มีอะไรวะ” วิ่งถามเป็นนแรก มันนั่งข้างซ้ายส่วนพีชนั่งข้างขวา

“เขามาถามหาพี่มะเดี่ยวอะ แล้วกูไม่รู้ กูก็ตอบว่ากูไม่รู้…” พีชกอดคอผม

“แค่นั้นเองอะนะ แล้วไมพี่มันต้องหัวเสียใส่มึงล่ะ” วิ่งยังยิงคำถาม กูเองก็ยังงงอยู่เลยปะวะ

“กูบอกว่า…พี่เป็นเพื่อนสนิทยังไม่รู้เลย กูเป็นแฟน มาทีหลังจะไปรู้ได้ไง พี่แกก็หัวเสียใส่กูเลยอะ” ตอนนี้พี่โซฮานแกเดินออกจากฟลอไปแล้ว เพื่อนๆ เขาก็ดูจะงงกับอาการนั้นอะ

“อืม...คำพูดมึงก็ปกตินี่หว่า แล้วไมพี่แกต้องอารมณ์เสีย เออ แล้วไมไม่รู้ว่าพี่มะเดี่ยวไปไหน” พีชเป็นฝ่ายถามบ้าง

“กูก็อยู่กับพวกมึงปะ กูไม่ได้ตัวติดกับพี่มะเดี่ยวนะเว้ย พี่เขาก็ต้องทำงาน...เมื่อคืนยังไม่ได้นอนเลย กูทักไปไม่ตอบ น่าจะหลับอะแหละ แต่กูยังไม่ทันได้บอกพี่โซฮานเขาแบบนั้นเลย เขาก็หัวเสียใส่กูละอะ” เกาหัวแกรกๆ เพื่อนได้แต่ตบบ่าด้วยความเห็นใจ น้องสามช่างน่าสงสารเสียจริงจริ๊ง...กูผิดอะไรวะ?

“พี่โซฮานแม่งอารมณ์ไม่ดีมาจากไหนปะวะ แม่งเลยเอามาลงใส่มึงเนี่ย” กูจะไปรู้ไหมล่ะ ส่ายหัวไป

“นั่นสิ ฉุนเฉียวใส่รุ่นน้องเฉย ปกติพี่มันก็ไม่เป็นงี้นี่หว่า...” อืม พวกมึงอยู่ที่นี่มาก่อนกู มึงยังไม่รู้เลย กูจะไปรู้ได้ไง...

“ช่างแม่งเหอะ” คิดมากไปก็ไม่รู้อยู่ดีว่าพี่แม่งเป็นอะไร

“แล้วมึงไปซ้อมที่ตลาดกับพวกกูปะ”

“ไม่อะ…หมดรม” ไปก็ต้องไปเจอพี่โซฮานอีก เดี๋ยวเหวี่ยงกูกลางฟลอขึ้นมา กูก็ทำไรไม่ได้อีกอะนะ

ตอนนี้ต้องบอกว่าเฟลไปเลยก็ได้ จู่ๆ โดนสาดอารมณ์ใส่ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่มันไม่ดีเลยนะ ผมอยากสวนฉิบหาย แต่ทำไปก็มีแต่ต่อความยาวสาวความยืด อีกอย่าง...มันจะอยู่ที่นี่ไม่สงบสุขอะดิ พี่โซฮานอะมันจะเป็นอย่างที่ผมคิดปะวะ...

ผมคิดว่าพี่มันชอบพี่มะเดี่ยว...

จะว่าผมคิดมากก็ได้นะ แต่จากที่เห็นๆ มา พี่เขาชอบมองพี่มะเดี่ยวด้วยสายตาเจือความสุขอยู่ตลอด แถมยังดูแลกันดี สนิทกันขนาดนั้นอีก บางทีคำว่าสนิททของพี่เขาอาจไม่มีอะไร อาจเป็นแค่เรื่องปกติของพวกเขาก็ได้ ผมมาทีหลัง ผมไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นแบบนี้กันมานานแค่ไหนแล้ว ทว่าด้วยความรู้สึกจากที่ได้ใกล้ชิดอะนะ ผมว่า..พี่โซฮานแม่งเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อชัดๆ อะ แล้วถ้าไม่ใช่อย่างที่ผมรู้สึกมันจะดีมาก อยากให้แบบ...กูแม่งคิดไปเอง มโนบ้าบอไปเอง เขาก็แค่เพื่อนกันเท่านั้นแหละ ไมมีอะไรร้อกกกกก แบบเนี่ย

….100%….

พี่โซฮานหาเรื่องน้องตอนพี่มะเดี่ยวไม่อยู่งี้ได้ไง นิสัย เดี๋ยวเฮอะๆ  :z6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 37 [100%]❤️ -4/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-12-2017 18:53:41
นึกว่าเคลียร์กับเพื่อนแล้วจะดีขึ้นนะโซฮาน เพื่อนนายไม่ได้บอกให้ออกมาแสดงตัวตอนนี้เสียหน่อย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 37 [100%]❤️ -4/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-12-2017 19:02:09
 :z6: คนขี้อิจฉา
พี่เดี่ยวต้องอบรมเพื่อนละ
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 37 [100%]❤️ -4/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 04-12-2017 19:10:04
เมื่อไหร่โซฮานจะโดนจัดการซักทีนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 37 [100%]❤️ -4/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 04-12-2017 19:55:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 37 [100%]❤️ -4/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 04-12-2017 22:07:28
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 37 [100%]❤️ -4/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-12-2017 12:34:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 37 [100%]❤️ -4/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 05-12-2017 15:16:06
คือโซฮานทำไมพึ่งแสดงตัวตอนนี้ล่ะ คือเวลาที่มะเดี่ยวไม่มีแฟนทำไมไม่จีบ หน้าเตะฉิบหายคนแบบนี้
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 06-12-2017 21:27:23
>>ตอนที่ 38 [100%]<<

ผมปั่นจักรยานกลับมาที่ร้านน้าเพื่อมารับความรัก แต่เพราะยังเฟลอยู่ก็เลยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่ สั่งโกโก้ไปหนึ่งแก้วเพื่อให้ช็อกโกแลตทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ระหว่างรอก็ให้อาหารความรักไปด้วย

“มะเดี่ยวล่ะ”

“ทำไมทุกคนต้องถามหาพี่เขาจากผมนะ...” แค่น้าบอยถาม ผมก็บ่นทันที

“อ่าว สามเป็นแฟนเขา ไม่ถามสามแล้วจะถามใคร โซฮานเหรอ” นอยด์แป๊บ...เออ ไปถามพี่โซฮานอะ

“ผมติดต่อเขาไม่ได้ พี่มะเดี่ยวแกทำงานทั้งคืนอะ เมื่อเช้าแกบอกว่าถ้าทำงานเสร็จจะออกมา แต่ก็ไม่มา” ผมหัวเสียหน่อยๆ แต่จะให้ใส่อารมณ์กับน้ามีหวังโดนเตะตูดหัก

“อ๋อ เออ...ไปดูมันหน่อย ช่วงนี้มันเหมือนศพทุกทีอะ” น้าบอยยีหัวผมเบาๆ

“ครับ งั้นสามไปก่อนนะ” คว้าแก้วโกโก้กับความรัก น้าโบกมือให้ ผมก็โบกตอบก่อนแยกย้ายไป

ระหว่าทางที่ปั่นจักรยานมาผมก็คิดเรื่องพี่โซฮานอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้หยุดพักสมองเลยล่ะฮะ ไม่ชอบเวลาที่เราคิดมากกับอะไรสักอย่าง อารมณ์มันจะขุ่นๆ มัวๆ ไม่สดใส แม้ความรักจะมองเหมือนตั้งคำถาม ผมก็เมินเฉยต่อมัน แค่ลูบหัวมันเบาๆ เท่านั้นเพื่อให้มันรู้ว่าเออ...ผมเห็นแล้วนะที่มันมองผมอยู่

แวะซื้อข้าวกล่องใต้คอนโด ผมส่งข้อความไปหาพี่เขาอีกครั้งแล้วล่ะ แต่ไม่ได้รอดูหรอกนะว่าเขาตอบว่าอะไร พอดีข้าวเสร็จแล้วเลยมัวแต่จ่ายตัง มีของผมและของพี่มะเดี่ยวอย่างละกล่อง รับของเรียบร้อยถึงได้เดินมึนๆ ขึ้นลิฟต์มายังชั้นที่อยู่ ผมเลือกเคาะห้องพี่มะเดี่ยวก่อนจะเป็นห้องตัวเอง

“...” แต่พอเห็นหน้าคนเปิดเท่านั้นแหละ กูอยากลับห้องตัวเองเลยล่ะ

“มะเดี่ยวอาบน้ำอยู่” พี่โซฮานบอก

“งั้นฝากข้าวให้พี่เขาด้วยครับ”

“เอาไปกินเหอะ พี่ซื้อมาให้มันล่ะ” เป็นคุณ...คุณจะรู้สึกยังไงนะ

“ครับ” ผมเหรอ...ผมเฟลมากเลยล่ะ ผมก็เลยเดินกลับเข้าห้องตัวเองทั้งแบบนั้น

แต่ว่า...อย่าคิดว่าสามหงอสิครับ

ไม่อยากบอกหรอกนะ แต่พี่มะเดี่ยวเป็นแฟนผมครับ…แฟนผม เพื่อนคนอื่นแล้วยังไง เพื่อนส่วนเพื่อน คนละหน้าที่กัน แล้วเพื่อนที่กันท่าออกนอกหน้าออกนอกตาขนาดนี้ สามคนนี้ไม่ยอมหรอกนะครับผม เมื่อวานแกล้งป้อนข้าวพี่มะเดี่ยว วันนี้...ผมจะดราม่าใส่!

“ความรัก..ป๊ามึงจะร้ายแล้วนะ” ว่ายิ้มๆ แล้วลงมือถ่ายรูปข้าวกล่องในถุงทั้งสอง

จากนั้นเหรอ...โพสต์ลงเฟซ ผมกับพี่มะเดี่ยวก็เป็นเพื่อนในเฟซกัน ติดตามกันไว้ พี่เขาเล่นโซเชี่ยลมากกว่าผมเพราะเรื่องงาน ต่างจากผมที่เอาไว้ตามเพจการ์ตูนและเพจเกม จั่วหัวรูปว่า...

‘ตั้งใจซื้อมาให้ แต่เขาไม่ต้องการ’

พี่โซฮานอาจมาก่อนผม ดีไม่ดีแอบชอบมาก่อนผมด้วยซ้ำ แต่ผม...คือคนปัจจุบันของพี่มะเดี่ยวนะ อย่างน้อยๆ คุณก็ควรจะให้เกียรติแฟนเพื่อนตัวเองบ้าง ถึงแฟนเพื่อนมันจะรุ่นน้องก็เหอะ แต่เพื่อนไม่ควรรุกล้ำมาเกินขนาดนี้ คิดดู...ให้ผมเข้าห้องพี่มะเดี่ยวยังไม่ให้เลย แถมยังใช้คำพูดและท่าทางเหมือนไล่ผมอีก

ผมปล่อยให้ภาพนั้นทำหน้าที่ของมันไป หันมากินข้าวพร้อมกับความรักของตัวเอง ซึ่งมันก็เอาแต่มองไปที่ประตูเหมือนกัน ประจำแหละมัน ไม่ได้เจอหน้าพี่เขามันจะตายเลยหรือไงล่ะ

“กินๆ ไปเหอะ พี่เขาไม่ว่าง…พี่เขาทำงาน” จิ้มหน้าผากความรักเบาๆ มันก็เงยหน้าเถียงด้วยเสียงหมูๆ ของมันนั่นแหละ

“แกจะไปกวนเขาไม่ได้ นี่เวลากินข้าวแก...กินไป ถ้าไม่กินป๊าจะเก็บ” ความรักส่งเสียงเถียงต่อ แต่แค่แป๊บเดียวมันก็กลับไปก้มหน้าก้มตากิน หึ…กินไปส่งเสียงไป

“กินอยู่อย่าพูดดิ้” ตีตูดให้ซ้า…

ความรักมองค้อนหนึ่งดอกใหญ่ ผมลอยหน้าลอยตาใส่มัน เคืองแล้วไง...ก็น่าตีจริงๆ ไหมล่ะ กินอยู่ยังจะมาส่งเสียงประท้วงอีก ผมสอนมารยาทบทโต๊ะอาหารไปแล้วนะเว้ย อ๋อ ไม่ต้องมาแบบ...สามมึงบ้า มึงสอนมารยาทบนโต๊ะอาหารให้หมูเลยนะ มันเป็นลูกผม มันต้องมีมารยาทดิ ไม่งั้นคนอื่นจะมาพูดได้ว่าป๊าบ้านนี้เลี้ยงลูกตัวเองไม่ดี

ตรึ๊ง!

มาแล้วหนึ่งข้อความ...สามกลับมาแล้วเหรอ แน่นอน กลับมาแล้วดิวะ กี่โมงกี่ยามแล้วไอ้พี่บ้า

ตรึ๊ง!

ตามด้วยข้อความที่สอง...พี่เพิ่งตื่น ขอโทษที่ไม่ได้บอกนะ มาหาหน่อยสิ ตลก…ไปให้พี่โซฮานไล่เหรอไง

ตรึ๊ง!

ข้อความที่สามมาพร้อมรูปแคปหน้าจอจากเฟซบุ๊ก อู้ว...รู้แล้วเหรอ พี่เขาถามกลับมาว่าหมายความว่ายังไง ใครไม่ต้องการกัน หึ...ก็ไม่รู้สินะ

ผมปล่อยข้อความต่างๆ ทิ้งไว้แบบนั้น ผมไม่ต้องการกดดันพี่มะเดี่ยว ไม่ได้เล่นสงครามประสาทกับพี่เขาแต่อย่างใด เพราะคนที่ผมเล่นด้วยคือพี่โซฮานต่างหาก ผมไม่สู้คนนะ แต่ไม่ได้หมายความผมเป็นคนไม่เอาคืนใครเลย ทำเท่าที่ทำได้เท่านั้นแหละ

ก๊อกๆ!

มาแล้ว...ผมหันไปมองทางประตูที่มีคนเคาะ ความรักมันวิ่งแจ้นไปที่หน้าประตูแล้วเรียบร้อย นี่มึงไม่รีบเท่าไหร่เลยนะ แล้วรู้ได้ยังไงว่าคนที่มาเคาะใช่คนที่มึงต้องการน่ะ อาจเป็นป้าแม่บ้านมาเคาะห้องก็ได้

“สาม...เปิดประตูหน่อย” พี่เขาเคาะอีกรอบเมื่อเห็นว่าไม่ตอบรับอะไร ความรักได้ยินเสียงพี่มะเดี่ยวมันก็เอาเท้าหน้าทั้งสองตะกุยประตู เออ...ดีจังเลยนะแหม

“ครับ” ส่งเสียงนำก่อนจะเดินไปเปิดให้ เจอหน้าพี่มะเดี่ยวแล้วแบบ...โอ้ย พี่มึงควรพักผ่อนอย่างแรง

“ทำไมไม่อ่านข้อความ”

“ผมกินข้าวอยู่ แล้วก็ป้อนความรักด้วย” พี่โซฮานยืนอยู่ด้านหลัง เขาใส่ชุดเดิมที่ใส่ไปฟลอนั่นแหละ มีแต่พี่มะเดี่ยวที่อยู่ในชุดกางเกงยายาวกับเสื้อกล้ามใส่นอน

“เหรอ แล้วในรูปนี่คือ...ใครไม่เอา” มีการเอามือถือเปิดหน้าเฟซนั้นค้างส่งมาให้ดูด้วย

“ก็...พี่โซฮานบอกให้ผมเอามากิน เพราะเขาซื้อมาให้พี่แล้วอะ” นี่สามไม่ได้หาเรื่องนะ ผมพูดเป็นธรรมชาติสุดๆ แล้วไม่ต้องการฟ้องใครด้วย…ก็แค่พูดความจริง ถูกมะ พี่โซฮานมองตาขวาง แต่มันก็หายไปเมื่อพี่มะเดี่ยวหันกลับไปมองหน้าเขา

“อืม มันซื้อมาให้ แต่พี่ไม่ได้บอกสักคำว่าจะไม่เอาที่สามซื้อมาให้ด้วย” ยิ้มแหยๆ ใส่พี่เขาหนึ่งที

“ก็ไม่รู้นี่...ผมไม่เห็นพี่ตอบอะไรผมเลย”

“พี่เพิ่งตื่น โซฮานมันมาปลุกเนี่ยแหละ เผลอหลับยาวเลยอะ กะว่าจะเอนหลังเองนะ...โซ เอาข้าวมากินกับน้องกันปะ” บอกกับผมเสร็จก็บอกกับคนด้านหลัง ผมเลยจำเป็นต้องเดินกลับมานั่งที่เดิม พี่มะเดี่ยวอุ้มความรักตามเข้ามานั่งข้างกัน

โซฟาห้องผมมันมีตัวยาวตัวเดียว พอพี่โซฮานถือถุงอาหารเข้ามาผมก็เลยเลือกจะมานั่งด้านตรงข้ามกับโซฟาบนพื้น พี่มะเดี่ยวก็มองแหละ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร มัวแกะกล่องข้าวที่ผมซื้อมาให้อยู่

“จานชามอยู่ไหนล่ะ” อยู่ในครัวไงเพ่ อยากตอบแบบนี้กับพี่โซฮานฉิบเป๋ง ถ้าไม่กลัวเท้าเขากระตุกใส่หน้าเอาอะนะ

“เดี๋ยวผมใส่ถ้วยให้ครับ” เดอะสามเป็นคนดี ผมรับของจากพี่โซฮานมา เขาก็เลยนั่งลงข้างพี่มะเดี่ยวสบายใจเฉิบ เจ้าของห้อง...คือเบ๊ของทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมเยียน

“ทำไมมึงไม่บอกกูว่าสามมาวะ” เสียงพี่มะเดี่ยวกระซิบกับพี่โซฮานเบามากๆ พี่ครับ...ห้องกูก็เงียบมากครับ เลยได้ยินแว่วๆ

“นึกว่ามึงรู้อยู่แล้ว”

“กูเพิ่งตื่นตอนมึงมาปลุกเนี่ยนะจะรู้ คราวก่อนนั้นก็ทีหนึ่งแล้ว...มึงอย่าทำแบบนี้ดิวะ” ฮั่นแน่...มีอะไรในกอไผ่แน่ๆ ไม่ใช่แค่แกล้งผมแล้วล่ะแบบนี้

“ทำอะไร กูไม่ได้ทำอะไรเลย...พวกมึงต่างหาก เป็นแฟนกันยังไง ไม่รู้เรื่องอะไรของกันและกันสักอย่าง” พี่โซฮานเร่งเสียงตัวเองขึ้นมาอีกหน่อย ตั้งใจให้ผมได้ยินสินะครับ ผมก็อยากจะบอกอะ...ผมเป็นแฟน ผมไม่ได้เป็นแฝด ไม่ได้รู้ทุกสิ่งทุกอย่างเว้ย...ตัวไม่ติดกันเข้าใจปะ

“ไอ้โซ…” เสียงพี่มะเดี่ยวกดต่ำ เบามาก นี่ถ้าไม่เดินมาพอดีก็ไม่ได้ยินหรอก

“เสร็จแล้วครับ” อะๆ…สามส่งเสียงให้หน่อย จะได้รู้ว่ามีคนที่สามอย่างเดอะสามคนนี้อยู่ด้วยนะครับ

“ขอบใจนะ” พี่มะเดี่ยวแกช่วยรับไปวางบนโต๊ะ ผมเดินอ้อมไปนั่งพื้นฝั่งตรงข้ามของทั้งคู่ ความรักนั่งอยู่บนโซฟา มันกินผลไม้ของมันอย่างสบายใจเฉิบ

“ครับ กินเถอะ…เย็นแล้วเดี๋ยวไม่อร่อย” ว่าแล้วก็กินข้าวของตัวเองต่อ เป็นมื้อที่ปราศจากหมูโดยสิ้นเชิง ส่วนใหญ่เป็นไก่ทั้งนั้นแหละ

พี่มะเดี่ยวชวนคุยด้วการถามว่าวันนี้เป็นไงบ้าง ทำอะไรบ้าง ประมาณนี้ ทั่วๆ ไป จะให้มาเต๊าะกันมาหยอดมุกเหมือนเวลาเราคุยกันตอนกลางคืนคงไม่ได้ เพราะมีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ด้วย เฮ้...ผมเปล่าหยาบคาย แต่ผมก็ไม่ได้เชิญพี่เขามานะเว้ย พี่เขามาเอง มาพร้อมกับพี่มะเดี่ยว นี่ผมคบหนึ่งแถมหนึ่งหรือเปล่า...ต้องสามพีไหม? บ้าเหอะ ผมไม่ชอบนะ...ถึงจะเคยดูจีวีแบบสามพีก็ตาม

อุ้ย..ดูหื่นขึ้นมาเลยอะ

“แล้วงานมึงถึงไหนละ ไหวปะวะ...” พี่โซฮานถามแทรกขึ้นมาหลังจากพี่มะเดี่ยวถามเรื่องการบ้านผมในวันนี้ ซึ่งผมมีรายงานสองวิชา ส่งอาทิตย์หน้า

“ไหว แต่คงไม่ได้ไปซ้อมสักระยะเลยวะ ซ้อมไปทำงานไปแม่งเพลียฉิบ” น่าเพลียอยู่หรอก ซ้อมหนักร่างกายบาดเจ็บ มันก็ต้องการการเยียวยาถูกปะ แต่นี่เล่นนั่งทำงานมันทั้งคืนจนไม่เป็นอันพักผ่อน

“ซ้อมอะมึงไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงตัวมึงเหอะ สุขภาพมึงสำคัญนะเว้ย...” นี่กูเป็นมือที่สามเปล่าวะ กูมีตัวตนตรงนี้มะ...

“เออ กูรู้แล้ว” พี่มะเดี่ยวทำเป็นไม่สนใจ พี่โซฮานตักกับข้าวให้พี่เขาอีกอย่าง ทั้งที่พี่มะเดี่ยวยังกินในจานไม่หมด

“พวกพี่ดูแลกันดีจังเลย...” เปรยเบาๆ และล่องลอยมากๆ

“อืม ธรรมดา...ปกติพี่ก็ดูแลมะเดี่ยวแบบนี้อยู่แล้ว” พี่โซฮานเป็นคนตอบ ส่วนพี่มะเดี่ยวมองหน้าผมด้วยสายตากังวล

“เหรอครับ น่าอิจฉาอะ…สามไม่เคยมีเพื่อนคนไหนดูแลสามดีแบบนี้เลยล่ะครับ ขนาดแฟน…ยังไม่เท่านี้เลย” ไม่ได้แฝงความนัยเลยน้า...จริงน้า ฮ่าๆ พูดไปใครจะเชื่ออะถามจริง

“สามคงโชคไม่ดี ไม่มีเพื่อนดีๆ กับแฟนดีๆ มั้ง”

“คงเป็นแบบนั้นแหละฮะ” ว่าแล้วก็ยิ้มหวานให้พี่มะเดี่ยว พี่เขาน่ะ...ยิ้มไม่ออกเลยล่ะครับ

“ผมอิ่มแล้วนะ...” ลุกเอากล่องข้าวเปล่าๆ ของตัวเองไปทิ้งลงถังขยะ

ผมตัดสินใจเดินเข้าห้องนอนของตัวเอง ปล่อยเขาสองคนนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม...บรรยากาศตรงนั้นน่ะ มาคุโคตรๆ แล้วก็เป็นพี่มะเดี่ยวด้วยที่ดูจะเคืองพี่โซฮาน ผมไม่ได้ต้องการสร้างความแตกแยกให้เพื่อนสนิทกันหรอกนะ ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น ก็แค่อยากรู้ปฏิกิริยาจากทั้งสองคน แล้วก็...อยากจะบอกเป็นนัยๆ ว่าพี่โซฮนทำอะไรล้ำหน้าแฟนอย่างผมไปหน่อย

ใช่เว้ย...เมื่อก่อนเขาดูแลกันและกันเองเพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ตอนนี้...คือผมเป็นแฟนปะ ดูแลกันได้ ไว้หน้าผมบ้าง เป็นรุ่นน้องไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรแบบไม่เห็นหัวกันได้ อีกอย่าง...พี่โซฮานแม่งใส่อารมณ์กับผมมากเกินไป ทำอย่างกับผมไปเป็นชู้พี่มะเดี่ยว ทั้งที่เขาต่างหากที่ทำเหมือนตัวเองจะแย่งแฟนคนอื่น

“มึงชอบกู อันนี้กูรู้ แต่ตอนนี้กูไม่โสด...เห็นแก่แฟนกูบ้าง” เพราะห้องมันเงียบมาก เสียงจากข้างนอกเลยแว่วเข้าหูที่แนบอยู่กับประตู แฮ่ๆ...ผมตั้งใจแอบฟังแหละ

พี่โซฮานแม่ง...ชอบพี่มะเดี่ยวอย่างที่ผมสังหรณ์ใจเลยวะ

“แฟนที่ไม่รู้ว่ามึงอยู่ไหน มึงทำอะไร เป็นยังไง...เรียกแฟนได้เหรอวะ มันดูไม่ใส่ใจมึงเลย” คนนอกรู้ดีกว่าคนในวะ

“เฮ้ย...แฟนนะเว้ย ตัวไม่ได้ติดกัน กูไม่ตอบน้องมันเองเพราะกูหลับ น้องมันจะรู้ได้ไง” เสียงพี่มะเดี่ยวดูจะห้วนขึ้นมา หวังว่าจะไม่ทะเลาะกันนะ

“ก็กูจะไปรู้ไหม กูถาม...มันก็ตอบกวนตีนกู ทั้งที่กูถามมันดีๆ แต่มันมาชักสีหน้าใส่...” เดี๋ยวนะ ไปชักสีหน้าใส่ตอนไหน ตลกเหอะ พูดทีก็ให้มันเป็นหนังเรื่องเดียวกันหน่อยได้ปะ พูดซะกูร้ายเลยนะแหม่...

….100%….

เขาจะตีกันไหมคะ…ไม่เนาะ ห้ามมาตีกันต่อหน้าความรีกนะคะ!
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-12-2017 21:39:41
 :L2: :pig4: :L1:

ชอบมากที่สามดูไม่โง่
ลุ้นพี่มะเดียวนี่แหละ ทำไงดีละ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 06-12-2017 21:46:41
 :3125:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 06-12-2017 21:50:11
ตีกันๆๆ พี่มะเดี่ยวจัดการเองท่าจะสะใจกว่า ค้างงงงง :katai1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 06-12-2017 23:19:54
พี่โซฮานนี่นิสัยไม่ดีขึ้นทุกวันเลยนะคะ

 :fire: :fire: :fire:

หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 06-12-2017 23:29:15
โซฮานทำแบบนี้ยิ่งแย่อ่ะ พาลมากๆ

 :angry2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 07-12-2017 01:13:36
รำคาญคนพูดไม่รู้เรื่อง โซฮานนี่พาลแล้วก็ทอแหลเก่งมั่กกก ขี้ขลาดแล้วยังนิสัยแย่อีก  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 07-12-2017 01:35:08
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 07-12-2017 04:10:46
โซฮานนี่เเถมมากับพี่มะเดี่ยวตลอดเลยนะะะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 07-12-2017 07:04:05
น้อนนนนนนความรักกกก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 07-12-2017 13:14:57
ตบเลยค่าาา ความรักสู้เค้า ลูกกกก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 38 [100%]❤️ -6/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 07-12-2017 16:35:01
บักฮานเอ็งนี่ทำตัวน่าสงสารนะสมองใช้บ้างก็ได้คนเขารักกันมุงยุ่ง
ไรฟะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 39 [100%]❤️ -7/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 07-12-2017 19:17:46
>>ตอนที่ 39 [100%]<<

“...”

“มึงไม่เจออย่างกู มึงไม่รู้หรอก มึงมองว่ามันน่ารัก...แต่มึงแน่ใจเหรอว่ามันจะเป็นแบบที่มึงคิด” เอาแล้วไง งานไซโคก็มา มีการเร่งวอลุ่มเพื่อให้คนในห้องอย่างผมได้ยินด้วยนะ

“ใช่ กูไม่รู้...แต่ที่กูคบกันก็เพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกันไม่ใช่เหรอวะ มึงพูดได้หนิ กูเป็นยังไงมึงรู้ดี เพราะมึงเองเป็นเพื่อนสนิทกูไง...ไม่ใช่สามที่เพิ่งมารู้จักกู ตอนนี้ไม่ใช่เวลาของมึงแล้วเว้ย มันเป็นเวลาของกูกับสามที่ต้องดูใจกัน มึงเข้าใจใช่ปะ...กูไม่โสดแล้ว ไม่มีช่องว่างมาให้มึงทำแต้มในตอนนี้” โด้...พี่โซฮานตายไปยังครับ โดนดาเมจแรงขนาดนี้ เป็นสามหน้าหงายไปแล้ว

“นี่มึงแคร์มันมากกว่ากูเหรอ”

“ใช่ ตอนนี้กูต้องแคร์เขา เพราะเขาเป็นแฟนกู...ในขณะที่มึงทำเหมือนจะแทรกแซงความรักของกู ถ้ากูกับสามจะเลิกกัน มันต้องไม่เป็นเพราะมึงเว้ย หยุดยื่นมือมาขวาง...หยุดหาเรื่องทำลายความรักของกู ขอร้อง...ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนกูอยู่” ฉิบหาย ถ้าผมโดนช็อตนี้ ผมคงตายแบบไม่มีวันฟื้นแน่นอน

“ทั้งที่กูมาก่อน...” พี่โซฮานเอ่ยเสียงเบาและเศร้ามาก

“แต่มึงไม่คว้ากูเอาไว้ก่อน ถูกปะ...กูอยู่กับมึงมาตลอด มึงมีโอกาสมาตลอด แต่มึงไม่เอาไว้เอง ตอนนี้จะมาอยากได้...ไม่ได้วะ มันต้องไม่ใช่ตอนที่กูมีแฟนแล้ว”  ไม่รู้เลยว่าการใช้คำพูดที่อ่อนโยนกว่านี้เพื่อถนอมน้ำใจเพื่อน กับคำตรงๆ ให้ตัดใจ แบบไหนมันดีต่ออีกฝ่ายมากกว่ากัน

ผมนั่งหันหลังพิงประตูด้วยความแผ่วเบา สิ่งที่ผมทำลงไปนั้นมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเพื่อดึงพี่มะเดี่ยวมาเท่านั้นเอง ไม่คิดหรอกว่าจะกลายเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกแย่นิดหน่อย เหมือนทำให้เพื่อนทะเลาะกัน แต่พอได้รู้ว่าพี่โซฮานแกชอบพี่มะเดี่ยว ผมคิดว่าที่ผมทำลงไปน่ะมันถูกแล้ว ผมคิดเหมือนพี่มะเดี่ยวนะ...ถ้าเราจะต้องเลิกกัน ผมไม่อยากให้เป็นเพราะมือที่สาม หรือเพราะผู้ไม่หวังดี

แต่พี่มะเดี่ยวก็รู้ว่าพี่โซฮานชอบนี่...เหนือคาดวะ

พี่เขารู้ก่อนจะคบกับผม หรือมารู้หลังคบผมแล้วล่ะ...ผมไม่มั่นใจเท่าไหร่ อาจจะต้องรอถาม และคิดว่าการถามออกไปเลยน่าจะดีที่สุดในสถานการณ์แบบนี้ ไหนๆ ก็แอบฟังมาขนาดนี้แล้ว จะปล่อยให้มันคาใจทำไมจริงไหม มีอะไรก็จะได้รับมือทัน ยกเว้นโดนตีนอะ...อันนั้นน่าจะรับมือไม่ไหว

เรื่องชกต่อยผมไม่สู้ รู้ตัวว่าสู้ใครไม่ได้ทั้งนั้น เรื่องโต้เถียง...เรื่องฝีปากกล้า ผมก็ไม่อาจหาญพอจะโต้กับใคร ยิ่งอีกฝ่ายใช้อารมณ์ในการด่า...ผมยิ่งไม่เอาด้วยเด็ดขาด ไม่อยากพูดแบบนี้หรอกนะ แต่ที่บ้านสอนมาดี อย่าไปเถียงกับคนที่เข้ามาด่าเราหรือใช้อารมณ์กับเรา เพราะมันหมายถึงการต่อความยาวและอาจบานปลายไปถึงการใช้กำลัง หมาที่บ้านผมยังสู้แรงมันไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับแรงคนล่ะ

แต่การที่ผมไม่สู้...ใช้กำลังไม่เป็น เถียงไม่ทัน ไม่ได้หมายถึง...ผมเป็นคนยอมคน

คนเรามีสองด้านอะฮะ ผมก็ด้วย...อาจไม่เก่งเท่าคนอื่นหรอก แต่ถ้าต้องสู้เพื่ออะไรสักอย่าง ผมก็ทำได้นะ ดีไม่ดีไม่รู้ สู้เพื่อตัวเองไว้ก่อนก็ถือว่าไม่แย่ แล้วการที่ผมสู้เนี่ย...หมายถึงผมกำลังปกป้องตัวเอง กรณีพี่โซฮานจะเข้ามาตัดความสัมพันธ์ของพี่มะเดี่ยวกับผมเนี่ย ก็เป็นอีกเรื่องที่...ถ้าผมไม่ทำอะไรเลย ผมก็จะโดนถีบออกมาได้ง่ายๆ ผมไม่รู้หรอกว่าพี่มะเดี่ยวจะปกป้องผมได้แค่ไหน จะไหลไปตามคำยั่วยุของเพื่อนตัวเองมากเท่าไหร่

เพื่อนมันสามารถเอาความสนิทสนมมาเป็นตัวยึดได้ แต่ผมมาทีหลัง...ขืนผมนิ่งๆ มึนๆ ปล่อยมันไว้อย่างนั้นเลยไม่ทำอะไร แล้วยังไง...สุดท้ายก็จะต้องหลังเดาะเพราะคนอื่นที่ไม่ใช่เราทั้งคู่เงี่ยเหรอ?

ผมอาจไม่เคยจริงจังกับใคร...แต่ทุกคนที่ผมเลิกด้วยไม่เคยมีเรื่องมือที่สามเข้ามาแทรกให้ผมเห็นนะ ขอย้ำว่าไม่เห็น ไม่รู้ ลับหลังเป็นไง...ช่างหัวมัน นั่นคืออีกฝ่ายเลือกแล้วว่าจะไปหาคนที่ดีกว่าเรา อันนั้นเราไม่ว่า แต่ต่อหน้า...อย่า!

ปัง!

เสียงปิดตูห้องเล่นเอาผมสะดุ้งโหยงขึ้นมา ก็มันดังนี่ ประตูห้องผมไม่พังใช่ไหม แล้วพี่โซฮานหรือเปล่าที่ออกไป ผมไม่คิดว่าเป็นพี่มะเดี่ยวอะ เขาไม่มีเหตุจำเป็นให้ออกจากห้องของผม รู้สึกผิดอะ...แต่ถ้าไม่ทำก็เหมือนไอ้โง่ ไม่รู้ดิ บางทีเหตุผลต่างๆ นาๆ ที่เราเอามาพูดกับตัวเองเนี่ยมันก็เพื่อปกป้องตัวเองไม่ให้รู้สึกแย่ไปกับสิ่งที่ได้ทำลงไปก็ได้

“น้องสาม...” เสียงทุ้มดังขึ้นมาเหนือประตูที่ผมนั่งพิง

“ครับ” ผมขานตอบ แต่ก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม

“ได้ยินอะไรปะ...” ถามแปลกๆ หูไม่หนวกอะนะ

“พี่คิดว่าไงล่ะครับ” เปล่ากวนกลับนะ ก็แค่รอฟัง

“เรามาคุยกันหน่อยไหมครับ” เพราะไม่ได้ล็อกห้อง พอพี่มะเดี่ยวหมุนลูกบิด ประตูก็เปิดออก ผมเกือบหงายเงิบเพราะประตูมันเปิดออกด้านนอกห้องไง ความรักวิ่งเข้ามาก่อน มันกระโดดขึ้นที่นอนแล้วมองเราทั้งคู่ตาแป๋ว

ผมลุก เดินไปนั่งข้างกับความรัก พี่มะเดี่ยวปิดประตู จากนั้นถึงได้นั่งอีกข้างของความรัก กลายเป็นระหว่างเราถูกคั่นกลางด้วยหมูน้อยแสนเสือกตัวหนึ่ง ฟังภาษาคนก็ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จะเสนอหน้าดำๆ ของตัวเองทำไม แต่ผมก็ลูบหัวของมันเล่นระหว่างรอพี่มะเดี่ยวแกคิดว่าจะพูดอะไร

“มีอะไรจะถามไหม...” นี่คือการเปิดประเด็นเหรอ ให้ผมถามเนี่ยนะ ไม่ล่ะ...

“พี่มีอะไรจะบอกไหมดีกว่า...” ผมหันไปยิ้มให้ พี่เขายิ้มไม่ออก ถอนหายใจแล้วจ้องตาผมนิ่ง

“พี่มารู้ว่าโซฮานชอบพี่ก็ตอนที่เราไปตรอกข้าวสารกันวันนั้น” อ๋อ วันนั้นผมจำได้ดี เราเพิ่งกลับมาคุยกันอีกครั้ง

“เมื่อไม่นานนี้...”

“ใช่ เพราะเรื่องที่มันไปพูดกับสามทำให้สามเข้าใจพี่ผิด ที่จริงมันก็พูดในทำนองเดียวกันกับพี่เหมือนกัน แต่มันก็เพื่อนพี่อะ...พี่ไม่อยากขายมัน สามเข้าใจใช่ไหม” พยักหน้าให้ สามดูโง่หรือไงวะเฮ้ย อนาคตครูนะเนี่ย เรื่องแค่นี้ผมเข้าใจอยู่แล้วล่ะ

“ครับ ผมเข้าใจ”

“ก็กดดันจนมันสารภาพออกมา แต่พี่ตัดสินใจคบสามแล้วไง มันมาบอกตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ วันนั้นมันขอโทษพี่...ขอให้เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม พี่ไม่เคยโกรธอยู่แล้ว ก็เลยปล่อยเลยตามเลย จนมาวันนี้...ที่พี่รู้สึกว่ามันใช้คำพูดไม่ค่อยดีกับสาม แล้วยังไม่ยอมบอกพี่ด้วยว่าสามซื้อข้าวมาให้ มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แหละ แต่มันทำเพื่ออะไรก็ใช่จะดูไม่ออกอะ”

“ผมเข้าใจนะ พี่เขามาก่อนผม...”

“ไม่เกี่ยวหรอกสาม มาก่อนมาหลังมันไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่า...เราเป็นอะไรกัน ถ้าพี่โสดแล้วมันสารภาพกับพี่แบบนี้ พี่ก็ยอมรับนะว่าอาจจะลองคบกับมันดู มันไม่ใช่คนที่แย่อะ ก็คนดีคนหนึ่งนั่นแหละ แต่ตอนนี้พี่มีสามแล้วไง...มันเลยเป็นไปไม่ได้”

“พี่เขาก็พยายามทำให้มันเป็นไปได้อยู่ไง” รอยยิ้มผมใสซื่อนะ พี่มะเดี่ยวกระตุกยิ้มตอบ

“โดยการทำให้เราทะเลาะกันอีกเงี่ยเหรอ...”

“เปล่า ด้วยการทำให้ผมไม่มีที่ยืน...ทำให้ผมรู้สึกแย่ที่ต้องอยู่คั่นกลางระหว่างพี่สองคน ซึ่งมันได้ผลนะ” ผมถึงได้หาทางสู้แบบเนียนๆ นี่ไงล่ะ

“สาม...” พี่มะเดี่ยวลูบหัวขณะสบตากับผม

“พี่อยากให้สามเชื่อใจพี่นะ” เชื่อใจพี่แต่ไม่เชื่อใจพี่โซฮานได้ไหมล่ะ

“ครับ...” ยิ้มตอบบางๆ

“โซฮานมันน่าจะเลิกยุ่งแหละ พูดไปขนาดนั้นแล้ว” นั่นแหละส่วนที่ไม่น่าไว้ใจ เลิกยุ่งก็ดี อย่ามาแว้งกัดผมทีหลังแล้วกัน…อันนี้ผมกลัวนะ กลัวการใช้กำลังในการตัดสินปัญหาน่ะ

“อื้อ พูดแรงเชียว...”

“ปกติหนิ” ปกติบ้านพี่คนเดียวเหอะ ยังมีหน้ามายิ้มกว้างอีก

“ครับ ปกติก็ปกติ ตามนั้นเลย” ผมไม่เถียง...เพราะผมจะไม่สู้

“สาม...”

“ครับ?” ก็มองหน้ากันอยู่ จะเรียกกันทำไมละ?

พี่มะเดี่ยวเลื่อนมือจากหัวมาไล้ที่ผิวแก้ม ก็ไม่ได้อยากเขิน แต่ขอเขินได้ปะละ นิ้วโป้งอันหยาบกระด้างเหมือนกระดาษทรายของพี่เขาเกลี่ยที่ริมฝีปากของผมเบาๆ ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะเคลื่อนเข้ามาใกล้ ลมหายใจเจือกลิ่นยาสีฟันอ่อนๆ ตกกระทบจมูก พร้อมกับภาพดวงตาระยะประชิดและ...

...ริมฝีปากนุ่ม

เรายังคงสบตากันแม้ว่าสัมผัสนุ่มนวลจะเคลื่อนออกไปช้าๆ หน้าร้อนฉ่าเหมือนกับเตาไฟฟ้าที่ถูกเปิด ทว่าถึงจะตื่นเต้นแต่ผมก็ไม่สามารถละสายตาจากดวงตาของพี่เขา รอยยิ้มบางบนใบหน้าคร้ามคมของอีกฝ่ายถูกหยิบยื่นมาให้กับผมที่นิ่งงันราวกับโดนแช่แข็ง

“อะเอ่อ...เราออกไปเก็บของที่โต๊ะกันเถอะครับ” เพราะความรักมันดิ้นแด่วๆ อยู่ระหว่างเรา ผมเลยได้สติขึ้นมา

“เอาสิ แต่พี่ยังไม่อิ่มนะ...”

“งั้นไปกินต่อ”

“ไม่ จูบยังไม่อิ่มอะ...”

“ฮะ...อื้ม” ดีครับดี...เมื่อกี้ที่นุ่มนวลคือหลอกกันใช่ไหม

พี่มะเดี่ยวจู่โจมริมฝีปากผมอีกครั้งด้วยความรุนแรง ก็ไม่เชิงดุเดือดขนาดช่วงชิงลมหายใจ แต่มันก็รุกเร้ามากกว่าครั้งที่แค่สัมผัสกันเบาๆ เท่านั้น ร่างบางๆ ของผมถูกรวบด้วยวงแข็งแรง ความรัก...มึงไปโทษพี่มะเดี่ยวนะที่ทำให้แกโดนบีบเป็นหมูแผ่นแบบนี้ ป๊าไม่เกี่ยวนะโว้ย

ลิ้นชุ่มชื้นเลาะเล็มที่ริมฝีปาก พยายามสอดใส่เข้ามาจนผมไม่อาจต้านได้ ต้องเปิดปากรับมันอย่างจำยอม...ความวุ่นวายเกิดขึ้นในร่างกายของผม มันเป็นอารมณ์ที่มนุษย์ทุกคนล้วนมี และตอนนี้มันก็ช่างปั่นป่วนเพียงเพราะพี่มะเดี่ยวใช้ลิ้นของตัวเองป้วนเปี้ยนไปตามไรฟันและหยอกล้อลิ้นเล็กกว่าของผม ก็อยากจะตอบโต้อยู่หรอก...แต่ไม่เชี่ยวชาญขนาดนั้น ก็เลยทำได้แค่เงอะๆ งะๆ ไปตามประสาของเดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาเท่านั้น

“อื้อ...” ลมหายใจแทบจะหมดอยู่รอมร่อ แต่พี่เขากยังเอาแต่ใจไม่ยอมคลายผมออกเสียที ผมพยายามใช้มือดันอกแกร่งของพี่เขาออกหน่อยเพื่อให้เขารู้ว่าผมหายใจไม่ค่อยจะทัน พี่มันกลับรวบมือของผมเอาไว้ด้วยมือเดียว

พี่โว้ย...พี่มึงจะฆ่ากูหรือไงวะพี่!

“แฮ่ก...อื้อ” แหนะ พอให้หายใจก็ให้หายใจได้อยู่เฮือกเดียว นี่กะเอาให้อิ่มหนำสำราญไปเลยใช่ไหม

ความรักดิ้นจนสามารถหลุดออกไปจากผมสองคนได้ มันไปอยู่ไหนไม่รู้ สัมผัสได้แค่วนอยู่รอบเนี่ยแหละ แล้วตอนนี้ร่างของผมก็แนบชิดกับพี่มะเดี่ยวไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับความเลอะเทอะที่มุมปาก น้ำลายมันซึมหน่อยๆ จากการโหมจูบดุเดือดของพี่เขาเนี่ยแหละ ถ้ายืนอยู่...ผมว่าผมคงยืนอยู่กับที่ได้ไม่นาน อะไรจะโหยหิวขนาดนั้นครับ ผมนี่อิ่มจนท้องใกล้แตกอยู่แล้วนะ...

“แฮ่กๆ...ไอ้...พี่บ้า” กว่าจะปล่อยให้เป็นอิสระได้ ผมแทบหายใจไม่เป็นอยู่แล้วเนี่ย

“ก็ใครให้เราปากนิ่มกินอร่อยขนาดนี้” นี่ความผิดผมเหรอ...ตลกเหอะ มันคือความตะกละตะกลามของพี่มากกว่าไหมล่ะ

พี่มะเดี่ยวใช้นิ้วสากๆ ของตัวเองเช็ดที่มุมปากเปื้อนน้ำลายให้กับผม ก่อนจะกดย้ำริมฝีปากตัวเองมาอีกครั้งเบาๆ ราวกับต้องการย้ำและตีตราว่าปากนี้ข้าได้ครองแล้ว พี่...คนอื่นก็ได้ครองมาแล้ว แค่ไม่ดุเดือดเท่าพี่เท่านั้นอะนะ ตอบไปแบบนี้หัวหลุดแน่นอน...โดนตบหัวกระเด็นข้อหากวนตีนไม่รู้เวล่ำเวลา

แหม...สามก็หาเรื่องแก้เขินไหมล่ะ

“ปะ ออกไปเก็บโต๊ะกัน”

“กว่าจะออก นึกว่าต้องเสร็จพี่ก่อนแล้ว…” เปรยแผ่วเบากับตัวเอง ลืมไป…ไม่ได้อยู่กับความรักสองตัว

“ก็อยากนะ…เอาปะละ”

“ไม่ๆ พอเลย..ไม่หื่นดิ” รีบเอามือทั้งสองยันอกพี่แกออก เพราะเขาตั้งท่าจะโถมน้ำหนักใส่ร่างของผม

“ไม่หื่นได้ไง ผู้ชายไม่หื่นนี่ก็พิการแล้ว” จริงดิวะ ไม่หื่นนี่เท่ากับพิการเลยเหรอ? แต่ผมก็หื่นนะ...แฮ่ๆ

“เวอร์” คิดก็หน้าแดง บ้าไปแล้ว...ไม่เอาดิ ฉากบนเตียงมันควรอยู่ตอนพิเศษปะวะ ตอนนี้ไม่ควรดิ้ เพิ่งคบกัน...รีบไม่ได้ รักนวลสงวนตัวคือสิ่งที่เดอะสามคนนี้ต้องทำถูกปะ

แต่ว่า...ก็อยากลองนะ!

….100%….

พี่มะเดี่ยวเป็นคนตรงมาก…ไล่ตรงๆ ความวงความหวังอะไรไม่ให้เพื่อนทั้งนั้น โอ้ยยยยย แอบฮุ้บพี่มะเดี่ยวไว้คนเดียวได้มิได้มิได้มี๊~!!!
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 39 [100%]❤️ -7/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-12-2017 19:40:24
 :L2: :L1: :pig4:

พี่มะเดี่ยวสามารถเปลี่ยนความมาคุเป็นหื่นได้
เก่งจริงๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 39 [100%]❤️ -7/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 07-12-2017 20:29:44
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 39 [100%]❤️ -7/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-12-2017 22:38:12
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 39 [100%]❤️ -7/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 07-12-2017 22:47:58
หล่อ ปากจัด หุ่นดี หื่น เอาการเอางาน มีความรับผิดชอบ พูดตรงๆ  จริงใจ มาเป็นสามีอิฉันเถิดค่ะ  #ทีมเมียน้อย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 39 [100%]❤️ -7/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 08-12-2017 01:38:49
รักพี่มะเดี่ยว :-[
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 39 [100%]❤️ -7/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 08-12-2017 05:32:18
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 39 [100%]❤️ -7/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 08-12-2017 08:22:49
 :z1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 39 [100%]❤️ -7/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 08-12-2017 12:51:22
พลังงานความหื่นจงอยู่กับสามอิอิ :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 40 [100%]❤️ -9/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 09-12-2017 20:37:37
>>ตอนที่ 40 [100%]<<

พอๆ ไม่คิดอะไรไม่ดีไม่งาม ผมลุก คว้าเอาความรักมากอดแล้วเดินนำออกมาก่อน ไม่ยอมสบตาซุกซนของพี่มะเดี่ยวหรอก แล้วก็จะไม่ยอมให้เห็นด้วยสามน้อยตุงน่ะ...ต๊ายยยย เสียงแม่ลอยเข้าหูกูเลย เคยแบบ แม่เข้ามาปลุกตอนเช้าแล้วเจอสามน้อยเคารพธงชาติอะ เสียงแม่แบบนี้เลย บอกแล้ว คนที่บ้านชอบแกล้งผมเป็นชีวิตจิตใจ แต่กับคนในครอบครัวผมก็ไม่อายอะ...อายทำไม มันเป็นเรื่อธรรมดา แต่พี่มะเดี่ยวไม่ใช่คนในครอบครัวนะ แถมเขาคือคนอันตรายที่พาเสี่ยงเสียตัว

ถึงอยากลอง...แต่ไม่หรอก ยังๆ รีบไม่ได้ ไม่ดี

พี่มะเดี่ยวเดินไปนั่งที่เดิม พร้อมกับตบที่ข้างๆ ให้ผมนั่งด้วย เขายังกินข้าวไม่หมดแล้วก็เพิ่งมาเริ่มกินต่อ อาหารเย็นชืดไปหมด พี่มะเดี่ยวชวนผมกิน ติดที่อิ่มแล้วไม่งั้นก็จะกินด้วยอยู่หรอก เรานั่งคุยนั่งเล่นกันอยู่จนกระทั่งพี่เขาอิ่ม ผมถึงได้ลุกเก็บขยะ เช็ดตงเช็ดโต๊ะ บอกแล้วไง...เจ้าของห้องคือเบ๊ของผู้มาเยี่ยมเยียนเสมอ

“แล้วพี่ต้องไปทำงานต่อเลยปะ”

“จริงๆ ก็ต้องนะ...แต่แคะหูให้หน่อยดิ มีไม้แคะปะ” ก็ต้องมีปะวะ ผมเดินไปเอาไม้แคะหูบนหลังตู้เย็นมานั่งที่เดิม

“อะพี่”

“บอกว่าแคะให้หน่อย” พี่มะเดี่ยวเอนตัวนอนหนุนตัก เขาจับความรักนอนอยู่บนอกตัวเอง

“จะดีอ๋อพี่ เกิดผมทำแรงพี่จะเจ็บนะ”

“สามก็ทำเบาๆ สิครับ เร็ว…คัน” พี่แกเอานิ้วใหญ่ๆ ยัดเข้าหูตัวเอง หมุนไปหมุนมาอยู่สักพัก

“เอาแต่ใจ”

“เอาแต่ใจกับแฟนไม่ได้ไงล่ะ” จบ...หมดคำเถียง

จับหัวพี่มะเดี่ยวให้เอียงเข้าหาพุงน้อยๆ ของตัวเองเพื่อจะได้แคะได้ถนัดๆ ก็ต้องค่อยๆ แหละครับ ไม่ใช่หูตัวเองจะได้แคะเหมือนเอารถเคนไปขุดดินน่ะนะ ด้วยความที่หน้าพี่เขาอยู่ตรงหน้าท้องผม ก็เลยไม่เห็นว่าทำสีหน้าอย่างไร แต่นอนนิ่งมากเลยนะ หลับหรือเปล่าวะเนี่ย

นอกจากแคะแล้วก็ยังปั่นหูเอาขลุยๆ ออกให้ด้วย พี่เขาท่าจะเพลินนะ นอนนิ่งเป็นท่อนไม้เลยเนี่ย ความรักเองมันก็นอนซบอกพี่เขานิ่งเหมือนกัน เพราะนี่มันก็เริ่มค่ำแล้วด้วย บรรยากาศเงียบๆ จะกล่อมความรักได้ดีครับ...หมูกินง่ายนอนง่าย เหมือนเด็กน้อยอยู่ตลอดเวลา ยกเว้นปริมาณอาหารที่กินในแต่ละช่วงวัย

“พี่ครับ...หลับปะเนี่ย” ทำเสร็จข้างหนึ่งก็เลยเรียก

“เกือบละ” พี่เขาขยับเปลี่ยนข้างให้อย่างรู้หน้าที่

ผมก็ทำเหมือนที่ทำกับข้างนั้น คราวนี้ได้เห็นหน้าพี่มะเดี่ยว เขานอนหลับตาพริ้มดูมีความสุข ผมก็ตั้งใจทำให้ กลัวเขาเจ็บ กลัวทำแล้วจะไปโดนจุดที่เปราะบางในหูอะ คือถ้าเป็นหูเรา เราจะรู้ว่าตรงไหนเราไม่เจ็บ ตรงไหนเราแคะแรงได้ไง แต่นี่ไม่ใช่...ระวังมากหน่อย

พอทุกอย่างเรียบร้อยผมก็เรียกพี่เขา แต่พี่มะเดี่ยวแกนิ่งไปแล้วครับ...หลับนั่นเอง เอาง่ายๆ ไม่ต้องตีความมากเลยล่ะ ผมลังเลว่าจะปลุกดีไหม งานมันก็สำคัญถ้าต้องรีบทำให้มันเสร็จเรียบร้อยเพื่อส่งให้ลูกค้า แต่สุขภาพพี่เขามันก็สำคัญเหมือนกันนะ

ตอนนี้สามทุ่มกว่า...ผมตัดสินใจเอนหลังพิงพนัก เดี๋ยวสักห้าทุ่มหรือสี่ทุ่มกว่าผมค่อยปลุกพี่มะเดี่ยวก็ได้ ให้พี่เขาพักผ่อนไปก่อน สมองจะได้โล่งและปลอดโปร่ง เวลาทำงานมันจะง่ายขึ้นเยอะเลยล่ะครับ

ระหว่างรอเวลาเดินหน้าไปเรื่อยๆ ผมก็เอามือถือตัวเองที่ยัดอยู่บนโต๊ะมาเข้าเกม ไม่ได้เล่นแค่ในคอมพ์เท่านั้นนะผม ในมือถือนี่ก็มีเกมที่หมั่นเล่นอยู่เรื่อยๆ หนึ่งถึงสองเกม แต่เห็นพี่มะเดี่ยวนอนหลับสบายใจเฉิบแบบนี้แล้วมันอดไม่ได้ ขอเก็บภาพเอาไว้เสียหน่อยเถอะ ผมถ่ายหน้าพี่มะเดี่ยวในมุมสูง ซึ่งมันมองเห็นหน้าขาของผม และย้ายไปถ่ายความรักที่มันหลับอยู่บนอกของพี่มะเดี่ยว

นั่งมองสองรูปที่ถ่ายเอาไว้ ยิ้มแม่งอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้าอะครับ คือ...กำลังเลือกอยู่ว่าผมจะอัปรูปไหนลงเฟซดี ดูไปดูมา เอาแค่ความรักกับอกของพี่มะเดี่ยวก็พอแล้วมั้งครับ มือข้างหนึ่งของพี่เขาก็วางอยู่บนอกด้วย ผมเลือกรูปนั้นไปใส่ฟิวเตอร์ให้ดูสวยขึ้นก่อนจะอัปมันลงเฟซบุ๊กของผมเอง

‘ความรักของผม...’

ปกติภาพของความรักไม่เคยมีความหมายมากไปกว่าการโชว์หมูของตัวเอง หนนี้แตกต่างออกไปนิดหน่อย เพราะว่ามันมีความนัยแฝงอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องอธิบายนะว่าความหมายที่ซ่อนอยู่นั้นคืออะไร บางอย่างก็ต้องปล่อยให้คนเขาคิดกันไปเองบ้าง นโนที่ปนกับความจริงมันมีสีสันดีนะครับ...

[เอ๋วิ่งดิเอ๋ : เฮ้ยๆ....นั่นใครกันน้า] ไอ้เชี่ยวิ่งทักไลน์อย่างไว

[ลูกพีชลูกนี้หวานเจี๊ยบ : ถามควายๆ พี่มะเดี่ยวไง จะใครล่ะ] แล้วพีชก็ส่งสติ้กเกอร์ฮาร์ตร็อกเกอร์รูปเก็กหล่อมาให้

[เดอะสามหน้าเหมือนหมู : หูย...เก่งกันขนาดนี้ มีลูกขอลูกไว้เลี้ยงเฝ้าบ้านสักตัวนะเพื่อน] ส่งแล้วก็ขำ

[เอ๋วิ่งดิเอ๋ : ไม่ใช่หมา! ว่าแต่...นี่ออกแนวประกาศเปิดตัวปะวะ พี่มะเดี่ยวคือของเดอะสามนะคร้าบบบบ] อ่าววิ่ง มึงไม่โง่หนิ คิดว่าโง่มาตลอดเลยะเอาจริงๆ

[ลูกพีชลูกนี้หวานเจี๊ยบ : เออวะ ความรักของผม...พี่มะเดี่ยวของผมหรือเปล่าน้า]

[เดอะสามหน้าเหมือนหมู : ก็ไม่รู้สินะ...] ฮ่าๆ ก็บอกแล้ว ตีความกันเอาเอง ของแบบนี้ให้เรื่องการมโนเป็นตัวทำงานบ้างเนอะ

[เอ๋วิ่งดิเอ๋ : มึงต้องทำหน้ากวนตีนอยู่แน่ๆ] พร้อมสติ้กเกอร์หมีโกรธจนไฟลุกท่วม

[เดอะสามหน้าเหมือนหมู : หูยยยยย รู้ดีกว่าตัวกูอีกอะ] ได้แดกไปอีกหนึ่งดอกกกก

[ลูกพีชลูกนี้หวานเจี๊ยบ : มันว่ามึงเสือกอะวิ่ง]

[เอ๋วิ่งดิเอ๋ : ไม่ต้องขยายความครับเพื่อน กูเข้าใจ แต่คิดไม่ถึงเลยนะว่าเดอะสามของเราจะขี้หวงแบบนี้...ประกาศเพื่อไม่ให้คนอื่นมายุ่งเหรอจ๊ะเพื่อน]

[ลูกพีชลูกนี้หวานเจี๊ยบ : คนมันจะจีบพี่มะเดี่ยวนะ ประกาศไปมันก็จีบ] พูดซะกูเห็นภาพเลยอะ...เหมือนพี่โซฮานไง รู้ว่าผมคบกับพี่มะเดี่ยวก็ยังจะสอดมือเข้ามา

[เดอะสามหน้าเหมือนหมู : ไม่ได้จะประกาศอะไรหรอก...ภาพมันสวย ก็แค่อยากแชร์] ตอบแบบเอาหล่อไว้ก่อน

[เอ๋วิ่งดิเอ๋ : เออ กูเชื่อ...เชื่อมากครับเพื่อน เชื่อแบบไม่เคยเชื่ออะไรเท่านี้มาก่อนเลยคร้าบบบบ] ประชดกันเข้าไปเถอะ ไม่ครณามือข้าหรอก ฮ่าๆ

ผมส่งสติ้กเกอร์กระต่ายกับแคร์รอตหัวเราะเฮาะๆ ไปให้ ละกดออกมาจากแชตไลน์ เข้าไปดูหน้าไทม์ไลน์ในเฟซบุ๊กบ้าง ก็มีวิ่งกับพีชเข้าไปแซ็วเป็นที่เรียบร้อย แล้วก็ยังมีคนอื่นเข้ามากดไลก์อีกหลายคน น้าบอยเป็นหนึ่งในคนที่แซ็วผม ผมก็แค่ส่งสติ้กเกอร์ตอบกลับทุกคนไปตามเรื่องตามราว อินบ็อกคุยกับน้าบอยบ้าง ส่องเฟซบุ๊กคนอื่นบ้าง

บังเอิญเห็นเฟซพี่มะเดี่ยวบนหน้าฟีดข่าว เป็นรูปการ์ตูนที่เขาวาดนั่นแหละครับ เสร็จไปอีกงาน...ประมาณนี้ แล้วก็มีคนนั้นคนนี้เข้ามาคอมนต์ในรูปภาพนักรบพร้อมดาบและเอฟเฟ็กตระกรานตา ผมสะดุดกับคอมเมนต์หนึ่งซึ่งน่าจะเป็นพี่โซฮาน ชื่อเฟซเขาเป็นชื่อจริงอะ รู้ว่าเป็นเขาเพราะเขาเมนต์ว่า...มึงอย่าทำงานมากสิวะ พักผ่อนเยอะๆ ด้วย ภาพนี้อัปเมื่อตอนเกือบเที่ยง และพี่โซฮานก็เมนต์เป็นคนแรก...ไวเนอะ

ผมแค่กดเลิฟโพสต์นั้นเฉยๆ แล้วก็จิ้มเข้าไปดูหน้าฟีดของพี่โซฮานด้วยความเสือกที่มีอยู่เต็มหัวใจ ดีที่เขาเปิดเฟซเป็นสาธารณะ ก็เลยสามารถดูโพสต์ต่างๆ ของพี่เขาได้เลยโดยไม่ต้องเป็นเพื่อน และโพสต์ล่าสุดก็คือ...เจ็บ สั้นๆ แค่คำเดียว แต่ผมที่รู้ดีถึงเหตุการณ์ที่พี่เขาเจอเข้าใจได้เลยว่า มันเป็นคำเดียวที่เต็มไปด้วยความหมายจริงๆ

ไม่อยากทำให้ใครเจ็บหรอกครับ ถ้าผมมาทีหลังในขณะที่เขากับพี่มะเดี่ยวคบกันอยู่ ผมก็ไม่ยุ่งหรอก ไม่มีทางเฉียดเข้าใกล้มากเกินกว่ารุ่นน้องในฟลอแน่ๆ แต่เผอิญว่าผมไม่ได้อยู่ในฐานะรุ่นน้องธรรมดาคนหนึ่ง เห็นใจน่ะเห็นใจครับ...ทว่าผมก็ต้องปกป้องตัวผมเองไหมล่ะ?

ผมสลัดความรู้สึกแย่ๆ ที่ทำให้คนๆ หนึ่งต้องช้ำใจออกจากหัว แล้วออกมาเลื่อนหน้าเฟซดูนั่นดูนี่ไปตามเรื่อง ถือว่าเป็นการฆ่าเวลาระหว่างรอพี่มะเดี่ยวแกนอนนั่นแหละนะ เล่นไปมองเสี้ยวหน้าแกไป ถึงวันนี้ผมจะไม่ได้ไปไล่ฆ่าเกรียนในเกมอย่างทุกวัน แต่มันก็มีความสุขดีเหมือนกันนะ...

“พี่มะเดี่ยวครับ...” โงหัวขึ้นอีกทีก็ปาไปห้าทุ่มเศษแล้ว ผมรีบปลุกพี่มะเดี่ยวที่ดูท่านะหลับสบายเกินไป ถึงได้นอนยาวไม่ยอมตื่นแบบนี้ ไม่หรอก...ที่จริงพี่เขาก็แค่เพลียเพราะเอาแต่ทำงานนั่นแหละนะ

“อืม...พี่หลับเหรอ” เออ พี่หลับ งีบเองแล้วยังมีหน่ามาถามผมอีกนะคนเรา

“ครับ ห้าทุ่มแล้ว พี่ต้องทำงานต่อไหม” พี่เขายังไม่ยอมลืมตา แต่ขยับหัวนิดหน่อย

“ทำครับ เฮ้อ...อยากนอนตักสามต่อจัง” เจ้าตัวลืมตามองหน้า ผมเลยยิ้มให้

“แต่พี่ต้องทำงานไง รีบทำจะได้รีบพักดีไหม”

“ไม่ได้พักง่ายหรอก หมดงานวาดก็มีงานเต้นอีก” แล้วก็บิดขี้เกียจเบาๆ หนึ่งทีด้วยความกลัวความรักตื่น

“นั่นสิ...งานพี่เต็มเลย”

“เบื่อปะละ คนบ้างานแบบนี้...” เบื่อดีไหมละ อันที่จริงผมก็บ้าเกมนะ

“คนเราบ้ากันไปคนละอย่างพี่ ส่วนรับความบ้านั้นได้มากแค่ไหนมันต้องรอดูกันไปนะ” มันไม่ใช่แค่พี่มันจะไม่ค่อยมีเวลาให้ผมเพราะทำแต่งาน ซ้อมแต่เต้น แต่ผมเองก็มีเกม ในอนาคตก็จะมีเรื่องการสอนเด็กที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตผมอีก

“นั่นสิ หวังว่าเราจะรับพี่ได้นะ...”

“ไม่รู้...” ทิ้งเสียงกวนตีน คนด้านล่างเลยหมั่นไส้ กระตุกต้นคอผมอย่างแรงจนปากกระแทกกับปากเขา ดีนะ...ไม่โดนฟัน

“ทำพี่หมั่นเขี้ยวมากๆ ระวังไม่โดนแค่จูบปากนะ”

“จะโดนไรอีกอะ”

“โดนจูบทั้งตัว...” เรียวลิ้นแลบเลียริมฝีปาก เล่นเอาขนลุกอย่างไม่ทราบสาเหตุ ต้องมีมวลสารพลังงานบางอย่างอยู่ในตัวพี่มะเดี่ยวเป็นแน่!

“โอเค ผมจะระวัง”

“ดี แต่พี่ว่ายาก...แค่นั่งเฉยๆ พี่ยังหมั่นเขี้ยวเลย” พูดเฉยๆ ไม่ต้องจูบปากผมอีกก็ได้ โอ้ย...โหยหิวมาจากไหน

“พอแล้ว...ปากเปื่อยหมดแล้วครับ”

“ยัง แดงกำลังดีเลย” มันแดงเพราะมันช้ำปะครับเพ่!!

“ไปทำงานก็ไปเลยครับ...”

“ฮ่าๆ ก็ได้…พี่ไปละ อาบน้ำอาบท่าแล้วนอนนะเรา”

“อื้อ” พี่มะเดี่ยวค่อยๆ ลุก ผมอุ้มความรักเอาไว้ด้วยสองแขน ถนอมไม่ให้มันตื่น

เดินไปส่งพี่มะเดี่ยวหน้าห้อง กลับมาวางความรักลงบนเตียงแล้วไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้า ที่จริงผมต้องอาบให้ความรักด้วย แต่เห็นมันหลับแล้วก็เลยก็ไม่อยากจะปลุกมันสักเท่าไหร่ ระหว่างเดินไปที่ห้องนอนก็เหลือบมองคอมพ์นิดหน่อย วันนี้ผมไม่ได้เข้าเกมเลย ไม่รู้ป่านนี้อริทั้งหลายในนั้นจะคิดถึงผมไหม ผมว่าพวกเขาต้องคิดถึงผมมาก เพราะผมมักป่วนพวกเขาทุกวัน พอไม่มีคนป่วนต้องเหงาแน่นอน

เอาวะ...ขอป่วนชาวบ้านเขาหน่อย ไม่โดนด่าแล้วนอนไม่หลับ ฮ่าๆ

ชื่อเสีย...ชื่อเสียครับ ไม่ผิด ในเกมของผมนั้นกระฉ่อนมาก ทุกคนไม่ชอบที่ผมไปไล่ฆ่าพวกเขาทั้งที่พวกเขาเก็บเลเวลกันอยู่อย่างสงบสุข เมื่อใดก็ตามที่ผมออนเกม เมื่อนั้นความปั่นป่วนในเกมจะเริ่มต้นขึ้น ฆ่าหนึ่งปาร์ตี้ก็จะโดนด่าสาดเสียเทเสีย ผมทำไงเหรอ ผมก็พิมพ์หน้ายิ้มให้พวกมันแล้วก็หัวเราะส่งท้าย ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ต้องตายด้วยน้ำมือของสาม ไม่ต้องแปลกใจถ้าจะเห็นคำด่าสารพัดสัตว์ในหน้าจอของผม

สะดวกจะด่าก็ด่าไปเถอะ...พอดีผมสะดวกฆ่าคนน่ะ ฮี่ๆ

ไอ้เกรียนตัวนี้ ใครเล่าจะคิดว่านออกจอมันจะเจี๋ยมเจี๊ยมขนาดนี้กันนะ ผมไม่ได้กดดันจนต้องไประบายในเกมนะ ผมเป็นแบบนี้มานานแล้ว และก็เกรียนมันแต่เกมนี้แหละ ผมคุ้นชินอยู่เกมเดียว เทพมันอยู่เกมเดียวอีกต่างหาก พอก่อกวนชาวบ้านเขาจนหนำใจก็เผลอเห็นเวลาที่ปามาตีหนึ่งกว่า รีบปิดคอมพ์แล้วคว้าโทรศัพท์เข้าห้อง นอนดึกจะตื่นสายไหมตรู

แต่...ทั้งที่รู้ว่าการนอนดึกจะทำให้ตื่นสาย แต่ผมก็เสือกวีดีโอคลอหาพี่มะเดี่ยว คำแรกที่เขาบอกคือนึกว่าผมหลับไปแล้วเสียอีก พี่มะเดี่ยวคาดผมด้วยที่คาดสีดำ มีแสงแค่จากหน้าจอคอมพ์ของเขาเท่านั้น

ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากหรอกครับ พี่มะเดี่ยวถามเรื่องภาพในเฟซบุ๊กเท่านั้น ผมไม่อธิบายอะไรมากมาย แค่ทำมึนไม่รู้ไม่ชี้ ง่วงจังเลยแล้วก็หลับตาลง พี่มะเดี่ยวยังคงหยอกล้อเบาๆ ถือว่ามันเป็นเสียงกล่อมนอนที่ดีไม่ธรรมดา

ผมคว้าความรักมากอดเอาไว้บนอก ฟังเสียงพี่มะเดี่ยวที่เปลี่ยนจากล้อเป็นฮัมเพลง ผมไม่ค่อยคุ้นหูกับเพลงที่พี่เขาฮัมอยู่ มันเพราะดีนะ...แปลกหูดีด้วย อาจเพราะเรามันคนละสไตล์กัน เพลงพวกนั้นผมเลยไม่รู้จัก

สักเพลงที่สาม...เดอะสามก็ไม่สามารถตั้งสติให้ฟังเสียงหรือรับรู้สิ่งอื่นได้อีกแล้วนอกจากความมืดมิด ก็...หวังว่าพรุ่งนี้ผมจะไม่ตื่นสายนะ

….100%….

เมื่อวานเน็ตบ้านมีปัญหาใช้การไม่ได้เลยไม่ได้มาอัป ต้องขออภัยที่ให้รอนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 40 [100%]❤️ -9/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-12-2017 21:32:06
 :L2: :L1: :pig4:

รักกันเบาๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 40 [100%]❤️ -9/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-12-2017 23:20:01
 :man1:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 40 [100%]❤️ -9/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 10-12-2017 12:31:55
เขาหนุงหนิงกันดีจัง
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 40 [100%]❤️ -9/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 10-12-2017 13:19:24
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 40 [100%]❤️ -9/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 10-12-2017 15:24:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 40 [100%]❤️ -9/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 10-12-2017 19:44:34
เปิดตัวเลยเดอะสาม  :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 40 [100%]❤️ -9/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-12-2017 03:48:06
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 40 [100%]❤️ -9/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 11-12-2017 10:40:49
พี้มะเดี่ยวมาเป็นผัวหนูเถอะ #ทีมเมียน้อย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 40 [100%]❤️ -9/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 11-12-2017 10:49:02
อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 41 [100%]❤️ -11/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 11-12-2017 19:05:36
>>ตอนที่ 41 [100%]<<

รู้ตัวอีกที...เราก็วีดีโอคลอคุยกันทุกวัน

ช่วงนี้พี่มะเดี่ยวไม่ค่อยได้ไปที่ฟลอ นอนตอนกลางวันและทำงานตอนกลางคืน เมื่อวันพุธที่ผ่านมาพี่เขาไปซ้อมอยู่ ท่าทางอ่อนเพลียมากแต่ยังคงความเก่งกาจเอาไว้ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม วันนั้นเป็นวันที่ผมแทบไม่ซ้อมของตัวเองเลย เอาแต่นั่งดูพี่มะเดี่ยว คอยหาน้ำหาขนมมาให้กิน แปลกใจตัวเองนิดหน่อยเพราะเมื่อก่อนไม่เคยเป็น...ผมสรุปกับตัวเองว่าเพราะผมโตขึ้นและใส่ใจคนอื่นมากขึ้น

พี่โซฮานยังคงไม่ไปไหน เขายังอยู่ที่ฟลอและทำตัวเหมือนเรื่องราวในวันนั้นไม่เคยเกิดขึ้น เขาเข้ากับพี่มะเดี่ยวได้ดีเหมือนเดิม ยังหัวเราะ ยังเล่นกัน แต่สัมผัสตัวกันน้อยลงจนเห็นได้ชัด เขาไปตัวติดกับพี่เรย์และพี่มาร์ช คนในทีมมากกว่าพี่มะเดี่ยวที่เอาแต่มาเล่นอยู่กับผม

พูดตามตรง...คบกับพี่มะเดี่ยว นอกจากวีดีโอคลอคุยกัน เจอกันตอนเย็นและกินข้าวด้วยกันตอนเช้า ผมก็ไม่ค่อยได้เจอพี่เขาเลยล่ะครับ ถามว่าน้อยใจไหม...ผมไม่รู้สึกแบบนั้นเลย ไม่รู้สิ…มันต้องรู้ไหมอะ พี่เขาทำงาน และพี่เขาก็ทุ่มเทให้กับงานและการเต้น

เรามักต่างคนต่างทำสิ่งที่ตัวเองชอบ โดยที่เรายังคงนั่งคุยกันอยู่ เห็นห้องตรงข้ามกัน เข้าไปหากันได้ง่ายๆ แต่ส่วนใหญ่พี่เขาจะมาเคาะห้องผมตอนเช้าเพื่อชวนกินมื้อเช้า และผมก็จะแยกออกมาเรียน มาซ้อมเต้นเงอะๆ งะๆ ของตัวเอง เย็นผมจะซื้อข้าวแล้วไปเคาะห้องเขาพร้อมกับความรักที่ยืนเสนอหน้าแป้นแล้น กินเสร็จนั่งเล่นกันนิดหน่อย ผมไม่อยากรบกวนเวลาของเขา อยากให้พี่มะเดี่ยวได้ทำงานของตัวเองอย่างเต็มที่

ก็...เขานั่งทำงาน ผมนั่งเล่นเกม มือถือวีดีโอคลอหากันตั้งอยู่ข้างๆ หน้าจอ เป็นอย่างนี้ทุกวันเลยล่ะครับ เผลอแป็บเดียว...มันก็กลายเป็นเรื่องเคยชินที่ต้องทำ ก็มีความสุขดีนะ...มันก็เป็นโมเมนต์ โมเมนต์หนึ่งที่ทำให้หัวใจเราชุ่มชื่น

แล้วนี่ก็เพิ่งมารู้ว่างานที่พี่มะเดี่ยวมักวาดเนี่ย...เป็นงานวาย งานแบบ...ชายๆ หญิงๆ งี้อะครับ ถึงว่าคราวก่อนนู้นผมเห็นภาพชายกับชายในไอแพดของเขา มันคืองานที่เขาวาดนั่นแหละ พี่มะเดี่ยวบอกว่าช่วงนี้งานประเภทนี้มาแรงมาก และทุกสำนักพิพ์ก็หันมาจับงานแนวนี้กันเยอะ เพราะมันกำลังตีตลาด นักวาดจากที่วาดชายหญิงน่ารักๆ หรือเซ็กซี่ก็ต้องเปลี่ยนมารับงานแนวนี้กันมากขึ้น

ผมไม่เข้าใจเรื่องวงการวาดหรอก ได้รับฟังแล้วก็ได้ความรู้ดีเหมือนกันครับ นอกจากวาดภาพประกอบ ภาพปก พี่มะเดี่ยวยังวาดโดจินด้วย...โอ้โห สายหื่นตัวพ่ออยู่นี่นี่เอง พี่มะเดี่ยวเขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นโอตาคุ แต่ที่ทำอยู่มันคืองาน...โอเค ผมเชื่อ

ส่วนผมเหรอครับ...นอกจากตั้งใจอ่านหนังสือเรียนและทำการบ้านแล้ว ก็มีเกมเนี่ยแหละที่ขาดไม่ได้เลย ผมเล่นทุกวัน เกรียนชาวบ้านเขาทุกวัน แม้ว่าผมจะใกล้เข้าช่วงสอบแล้วก็ตามที มันอดไม่ได้ ไม่ได้ฆ่าคนแล้วมันคันไม้คันมืออย่างไรบอกไม่ถูกจริงๆ ฮะ ฮ่าๆ...

มันเป็นช่วงเรียนรู้ซึ่งกันและกันจริงๆ นอกจากจะทำกิจกรรมที่ทำเป็นประจำให้อีกฝ่ายได้เห็น ได้รู้แล้วนอกนั้นก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ โปรโมชั่นสำหรับเราแทบจะไม่มีเลย ไอ้โมเมนต์แบบ ไปดินเนอร์ ไปดูหนัง ไปเที่ยว ชอปปิงอะไรแบบนี่อะ เพราะพี่มะเดี่ยวแกอยู่แต่ที่ห้องกับที่ฟลอครับ ผมเองก็อยากเห็นธรรมชาติของพี่เขา เลยไม่เคยเรียกร้องเอาอะไรสักอย่างนอกจาก...นอนบ้างเถอะครับ

เรื่องนอนผมซีเรียสนะ ล่าสุดคือ...ไม่นอนมันสองวันติด ปกตินอนเช้าหรือกลางวัน แต่เมื่อวันพุธที่กลับมาจากฟลอ พี่มะเดี่ยวก็ไม่นอนอีกเลยจนลากมาเนี่ย...วันศุกร์แล้ว และดูท่าพี่เขาก็จะยังไม่นอนง่ายๆ ด้วย ดูจากการตั้งหน้าตั้งตาวาดรูปอยู่นี่อะ

“สามว่ากางเกงสีอะไรดีอะ..”

“สีเขียวใบตอง” ผมเงยหน้าจากรายงานที่ต้องพิมพ์เพื่อบอก ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องพี่มะเดี่ยวและเราเพิ่งกินข้าวกันเสร็จไปเมื่อสิบนาทีก่อนนี่เอง ดูเอาว่าบ้างานขนาดไหน กินเสร็จปุ้บก็อุ้มความรักไปวาดรูปต่อเลย

“ไม่เอาสีอื่นบ้างอะ ปกที่แล้วก็สีเขียว” ก็พี่ถามผม ผมก็ตอบสีนี้อะ...ผมชอบสีนี้นี่หว่า ปกที่แล้วเป็นภาพแบบผู้ชายสองคนในร้านหนังสืออะครับ โทนเขียวใบตองทั้งปกหน้าปกหลังเลยอะ เพราะผมเองไงจะใครล่ะ

“ก็ผมชอบสีนี้” พี่มะเดี่ยวหันมามองหน้านิดหน่อย

“เอาสีเขียวเข้มบ้างดีมะ”

“ไม่เอา” ชอบสีเขียวอ่อนใบตอง

“งั้นเอาสีน้ำเงิน” ไม่พูดเปล่า แต่ลงสีน้ำเงินลงไปเรียบร้อย...พี่มึงจะถามกูทำแป๊ะอะไรครับ?

ผมได้แต่ส่ายหน้าระอาใจกับพี่เขา พี่มะเดี่ยวหันกลับไปตั้งใจวาดปกผู้ชายสองคนบนเตียงนอน กางเกงที่ว่าก็เป็นกางเกงใส่นอนนั่นแหละครับ เห็นพี่เขาตั้งใจทำงานแล้วก็หันมาสนรายงานของตัวเองบ้าง วันจันทร์หน้าผมต้องส่ง ไม่งั้นเอาไข่ไปกินเลยล่ะครับ

งานนี้เป็นงานเดี่ยว วิ่งกับพีชเองก็ต้องรีบกลับห้องไปปั่นเหมือนกัน มีเวลาแค่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้เท่านั้น มันยังมีเวลากลางวันกันนะ แต่ผมเนี่ยกลางวันไปทำงานที่ร้านน้าบอย สงสัยได้หอบเอางานนี่ไปทำด้วยแน่นอนเลย

ด้วยความที่เข้าใจบทเรียนบทนี้ค่อนข้างมาก ผมเลยเจาะหาข้อมูลไม่นานและสามารถลุยพิมพ์เลย สกิวพิมพ์ไวปานสายฟ้าแล่บนี้ท่านได้แต่ใดมา อ๋อ...ข้าฝึกมาจากเกมน่ะท่านทั้งหลาย คิดดูนะ ไปฆ่าเขาตายใช่ไหม แล้วเขาด่ามางี้..เราต้องด่าตอบให้รวดเร็วและว่องไว บวกกับผมเป็นคนชอบเถียงในเกมการล้อเลียนเรื่องพิมพ์ภาษาไทยไม่ถูกต้อง

เกียน...เกียนบ้านมึงอะเขาเรียกเกรียน แบบนี้ ไอ้สัส ไม่ใช่...ไอ้สัตว์ พิมพ์คำถูกในเกมจนป็นนิสัยพอสมควร ไหนจะพวกสกิวต่างๆ และคีย์ลัดเข้ากระเป๋าเอย หน้าโปรไฟล์เอย ผมจึงชินกับการใช้คีย์เป็นอย่างมาก นี่ข้อดีของการติดเกมนะครับ ส่วนข้อเสีย อย่าถามเลย ดีไม่ดีต้องร่ายยาวเป็นหน้าๆ เอสี่

“วันนี้พี่จะนอนไหม” ทำงานไปสักพักก็เอ่ยถาม ที่จริงวันนี้ผมมีเป้าหมายนะ...ที่มานั่งสลอนอยู่ในห้องพี่เขาทั้งที่ปกติกินเสร็จผมจะรีบไปอาบน้ำ แล้วใช้วีดีโอคลอคุยกับพี่เขาเอา ไม่ค่อยมานั่งอยู่นานแบบนี้หรือเอางานมาทำแบบนี้หรอก

“ไม่รู้สิ...เดดไลน์พี่วันอาทิตย์นี้แล้วอะ เหลืออีกสามงาน น่าจะได้นอนมั้ง…” มั้งคือไม่ได้นอนครับ ตีความไปแบบนี้ ไม่ต้องคิดให้มากความ

“สามงานนี้ปกหมดเลยเหรอ?” รู้สึกปกจะเสร็จง่ายกว่า

“ใช่ มีอะไรเปล่า” พี่เขาหันมาถาม ดีใจที่ยอมละสายตาจากหน้าจอมามองผม

“มีดิ อยากให้พี่นอน”

“แต่พี่ติดงาน”

“แต่พี่ไม่นอนมาหลายวันแล้ว เดี๋ยวงานแม่งก็ไม่เสร็จเพราะคนตายก่อน” อุ้บ...ขออภัยในคำหยาบที่หลุดอกไป ผมไม่ใช้น้ำเสียงที่แย่อะไร ก็พูดปกติเนี่ยแหละ

“สามเป็นห่วงพี่เหรอ”

“ไม่มั้งพี่...” ผมละมือออกจากงาน ทางที่ได้ผลดีที่สุดเมื่อต้องขออะไรกับใครสักคนคือ...อ้อน ดังนั้นสามคิดมาแล้วว่าวันนี้จะอ้อนขอให้พี่มันนอนให้ได้เลยล่ะฮะ

เขารีบทำงานของเขาน่ะมันก็ดีอยู่แล้ว แฟนที่ดีต้องไม่ถ่วงกันดิ! จะคิดอย่างนั้น...ไม่ผิดนะ ผมก็คิดแบบนั้นมาเป็นระยะเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ได้คบกัน แล้วไงฮะ...เห็นตาแฟนโหลลงทุกวันๆ คุณจะรู้สึกยังไง จากเป็นห่วงมันก็ชักจะเริ่มขุ่นเคืองในความดื้อด้านและไม่พอใจอะ แต่ผมไม่ใช่คนใช้อารมณ์ เพราะงั้นจึงไม่บ่นไม่ว่าพร่ำเพื่อ พี่เขาโตแล้ว พี่เขาจัดการชีวิตตัวเองและงานของตัวเองได้ อันนั้นผมเข้าใจนะ...ผมเข้าใจดี ผมแค่อยากให้พี่เขาพักผ่อนสักหน่อย ไม่งั้นพี่เขาเองนั่นแหละจะแย่เอา

“วันนี้นอนเถอะนะครับ” ผมเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างพี่มะเดี่ยว เขาเงยหน้ามองสบตา

“แต่พี่รีบนะสาม”

“รีบยังไงก็ควรนอนบ้างนะพี่ แบบนี้ร่างกายจะพังเอานะ” พยายามทำหน้าอ้อนๆ คิดว่าน่ารักที่สุดแล้ว หลังได้พิสูจน์มากับแม่และพี่ชาย

“ถ้าพี่ทำสามงานนี้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้ เราจะได้มีเวลาด้วยกันไงครับ ไม่ดีเหรอ” ไม่ต้องเอาเรื่องนั้นมาอ้างเลยเถอะ แม่ง...อยากจะนั่งตักพี่ท่านแล้วออเซาะ แต่ผมเลือกจะอุ้มความรักขึ้นมาในระดับใบหน้าของตัวเองแทน

“นอนเถอะ...เดี๋ยวผมนอนด้วยนะดีไหม” ดัดเสียงเล็กๆ เสมือนความรักเป็นตัวพูด ไม่ใช่ผม

“ฮ่าๆ...ไม่เอา ความรักตัวนิดเดียว กอดไม่อุ่น” ได้ยินอย่างนั้นเลยลดตัวความรักลงแล้วส่งยิ้มหวานให้

“งั้นผมนอนด้วย...ผมกอดอุ่นนะ” โคตรทุ่มทุน แม่รู้แม่ตีตายเลย

“พูดอะไรรู้เปล่าเนี่ย”

“รู้ดิ…พูดเองจะไม่รู้ได้ไง” ตอนแรกว่าจะไม่เขินอะไร แต่พอเจอสายตากะลิ้มกะเหลี่ยของพี่มันแล้วผมก็เขินขึ้นมาดื้อๆ

“ข้อเสนอน่าสนใจมากเลยรู้ปะ แต่ไม่ดีกว่า...พี่ยอมไม่นอนกอดสามวันนี้เพื่อจะได้พาเราไปเที่ยววันอาทิตย์นี้ดีกว่า พี่ขอพี่บอยแล้วด้วยนะ” มันก็น่าดีใจอยู่หรอกนะที่จะพาไปเที่ยวอะ เหมือนจะเก็บเอาไว้เซอร์ไพร์สกันด้วย ถ้าผมไม่อ้อนขอก็คงบอกนู้นเลยวันอาทิตย์

“ผมยอมไม่ไปเที่ยววันอาทิตย์เพื่อให้พี่ได้นอนคืนนี้แทนได้ปะ...”

“เที่ยวเลยน้า...” ตลกเหอะ ไม่ใช่เด็ก

“ไม่สนอะ น้า...พี่นอนหน่อยเถอะ ตาโหลหมดหล่อแล้ว”

“ไม่จริง พี่ยังหล่ออยู่” ความหลงตัวเองก็มาวะงานนี้

“พูดแบบนี้คือไม่สนว่างั้น จะทำงานสินะครับ” ก็ยังยิ้มอยู่นะ แต่ผมรู้สึกว่า…พี่มันจะไม่ยอมทำตามที่ขอ

นี่ลูกอ้อนของเดอะสามผู้มีหน้าเหมือนหมูหุ่นเหมือนหมาคนนี้ไม่ได้ผลงั้นเหรอครับ? ปกติผมใช้ได้ผลเสมอเลยนะตอนอยู่กับที่บ้านอะ แล้วผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าพี่มันจะยอมทำตามด้วย ผิดคาดมาก...เฟลด้วย

“อยากพาเราไปเที่ยวนี่ ไม่ดีเหรอ เดี๋ยวพี่ก็ต้องโหมซ้อมเต้นต่ออาทิตย์หน้า ลากยาวไปยันถึงวันแข่งเลยนะ” เออ กูเชื่อแล้วว่าพี่มึงเป็นคนไม่มีเวลาเผื่อแผ่ใครจริงๆ ปั่นงานเพราะใกล้งานหนังสือ เสร็จก็โหมซ้อมยาวยันงานแข่ง...ชีวิตปกติอยู่ตรงไหน

ไม่สิ...นี่แหละชีวิตปกติของพี่เขา

“อ่า...ครับ” ผมอุ้มความรักเดินออกมานั่งที่โซฟา วางมันลงบนตักแล้วก็นั่งพิมพ์งานของตัวเองต่อไป

ลึกๆ...ก็รู้สึกแย่แหละครับ ผมไม่เคยขออะไรพี่มันสักอย่างเดียว พอได้ขอครั้งแรกก็ดันไม่สำเร็จแบบนี้ เป็นใครจะรู้สึกดีมั้งล่ะครับ ผมรู้นะว่างานของพี่เขามันสำคัญ ทั้งงานวาดและงานเต้นนั่นแหละ ผมไม่ได้จะมาแย่งความสำคัญนั้น แค่เป็นห่วงที่พี่เขาไม่ให้ความสำคัญกับตัวเอง

“สามเคืองเหรอ?” จู่ๆ พี่มันก็เดินมานั่งข้างๆ เอาแขนหนักอึ้งของตัวเองคล้องคอของผมเอาไว้ ผมไม่ได้เงยหน้ามองเขา กลับยังพิมพ์งานต่อเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาถึงการมา

“เปล่านี่ครับ ผมไม่เคืองเลย...” ผมแค่รู้สึกแย่เท่านั้นเองแหละ

“ไม่จริง...”

“ไม่ต้องสนใจมากก็ได้ครับ พี่รีบไปทำงานเถอะ”

“สามกำลังงอแงอะรู้ตัวไหม พี่นึกว่าสามจะเข้าใจพี่เสียอีก...” ทำไมจู่ๆ ผมถึงดูแย่ขึ้นมาละ

จากที่แค่รู้สึกเฟลแล้วกะจะปล่อยให้พี่มันทำอย่างที่อยากทำไป ตอนนี้ผมกลับรู้สึกน้อยใจขึ้นมา ผมไม่ได้งอแง ผมแค่ไม่อยากพูดถึงเรื่องความรู้สึกในส่วนนี้ ใช่...มันดูงี่เง่านั่นแหละ ก็เลยไม่อยากบอก แต่คำพูดพี่เขาเหมือนว่าผมเป็นคนไม่มีเหตุผล หาว่าผมเอาแต่ใจ...แบบนั้นอะ

“อะไรที่ทำให้พี่คิดว่าผมไม่เข้าใจพี่ครับ?” ผมยอมละมือจากงานตรงหน้ามองเขา

“ก็เราบึ้งตึงใส่อยู่นี่ไง พี่รู้...พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้เรา แต่พี่ก็พยายามเคลียงานต่างๆ ของพี่เพื่อเจียดเวลาให้เราอยู่นี่ไง อย่างอแงเลยนะ เดี๋ยววันอาทิตย์พี่จะพาไปเที่ยว...ไปหาอะไรกินกัน หรือว่าจะไปดูชุดให้ความรักดี” พี่แม่งเข้าใจไปคนละเรื่องกับที่กูต้องการจะสื่อเลยวะ

“พี่...ผมต้องการให้พี่พักผ่อน ไม่ได้พูดหรือชวนเพื่อให้พี่มาให้เวลากับผมนะ แล้วถ้าพี่ไม่อยากนอน...โอเค ไม่นอน ไม่ต้องทำตามที่ผมขอก็ได้ไง ผมก็มานั่งทำงานต่อ ก็แค่นั้น...ผมบึ้งตึงตรงไหน” เราสบตากันนิ่ง ไม่ได้ใช้อารมณ์ แค่พูดเฉยๆ...พูดแบบพูดธรรมดาเลยเนี่ยแหละ

ผมเห็นพี่เขาเอาแต่เงียบไม่พูดอะไรออกมา ผมก็เลยหันมาให้ความสำคัญกับงานในคอมพ์ของตัวเองต่อ ไม่เชิงรีบขนาดนั้นหรอกนะ ผมคำนวณเวลาไว้แล้วว่างานนี้จะทำอะไรยังไงตอนไหนบ้าง และน่าจะเสร็จทัน ยิ่งพรุ่งนี้ลูกค้าน้อย รายงานของผมก็อาจจะเสร็จขึ้นไปอีก

“สามจะนอนกับพี่ใช่ปะ...” จู่ๆ คนข้างตัวก็พูดขึ้น

“ไม่ล่ะ เดี๋ยวผมเขียนบทนี้ก่อนล้วจะกลับห้อง” ก็พี่เขาไม่ได้จะนอน ผมอยู่ไปเพื่ออะไรล่ะ วีดีโอคอลคุยกันเอาก็ได้ ก็ถ้าวันนี้ผมมีอารมณ์จะคุยนะ อาจเล่นเกมสักพักใหญ่นู้นแหละ...ผมยังรู้สึกเฟลๆ อยู่เลย

“อ่าว ไหนบอกถ้าพี่นอนจะนอนกับพี่ไง” คราวนี้หันไปมองหน้า เลิกคิ้วนิดหน่อย

“ก็พี่ไม่นอนนี่”

“นอนสิ...นอนก็ได้” เอ๊ะ...เอาจริงดิ ยอมแล้วจริงดิ โอ้มายก๊อดดดด ผมถึงกับเผลอยิ้มบางๆ ออกมา...ผิดแผนไปหน่อยเพราะอ้อนไม่ได้ผล มาได้ผลเพราะเหตุผลที่ผมต้องการให้นอนสินะ หรือว่า...เพราะเห็นผมนิ่งๆ กัน?

“ยอมนอนเนี่ยเพราะอะไร”

“เพราะสามเป็นห่วงพี่ไงครับ” แล้วเขาก็ใช้แขนที่คล้องคอผผมอยู่ดึงให้ผมไปรับจูบเบาๆ

….100%….

มาแล้ววววว มาช้าไปหน่อยค่า มะวานนอนอุตุทั้งวันเลย ฮ่าๆ ตอนนี้มีความเถียงกันเบาๆ งุ้งงิ้งใส่กันบ้างอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 41 [100%]❤️ -11/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-12-2017 21:08:37
 :man1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 41 [100%]❤️ -11/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-12-2017 22:26:39
 :hao7:  :hao7:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 41 [100%]❤️ -11/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-12-2017 23:46:49
น่ารัก  :m1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 41 [100%]❤️ -11/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 12-12-2017 09:07:58
พี่มะเดี่ยวก็บ้างานเกิ้น
 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 41 [100%]❤️ -11/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-12-2017 18:41:12
ดีนะที่เคลียร์กันได้ มีอะไรก็พูดกันตรงๆนะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 41 [100%]❤️ -11/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Timtimtim ที่ 12-12-2017 20:21:45
ความรักน่ากอด เดอะสามน่ารัก พี่มะเดี๋ยวหน้าหื่น :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 42 [100%]❤️ -12/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 12-12-2017 21:31:07
>>ตอนที่ 42 [100%]<<

จากที่รู้สึกเฟลๆ เมื่อกี้นี้แม่งหายไปเหมือนโดนพัดลมพัดปลิวเลยอะ พอพี่มะเดี่ยวถอนริมฝีปากออก ผมก็หุบยิ้มไม่ลง ได้แต่เหลือบตามองนั่นมองนี่ไปก่อนเพราะเขินนิดหน่อย

“แต่พี่ขอวาดปกนี้ก่อนนะ...” ว่าแล้วชะโงกหน้ามองปกที่ยังค้างอยู่

“ที่ยังค้างอยู่นั่นใช่ไหมครับ?”

“ใช่ครับ”

“โอเค พี่นอนตอนไหนผมก็นอนตอนนั้นแหละ” เอนหัวพิงไหล่ พี่มะเดี่ยวยีหัวผมเบาๆ

“งั้นเราก็ไปอาบน้ำอาบท่าก่อน” พยักหน้ารับง่ายๆ

“ครับ” แล้วผมก็ทำตามง่ายๆ เช่นกัน

เมื่อพี่พูดง่าย...สามก็พูดง่าย เห็นไหม อะไรๆ ก็ง่ายไปหมดนั่นแหละเนอะ

ผมพาความรักกับตัวเองไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย ใช้เวลาในส่วนนี้ไม่นานหรอกครับ ผมสั้นนิดเดียว ยีสองทีก็สะอาด เอาแชมพูเนี่ยถูตัวไปด้วยเลย แล้วค่อยเอาสบู่เหลวถูซ้ำอีกทีเพื่อความสะอาดโคตรๆ อย่าคิดว่าสามขัดสีฉวีวรรณแบบนี้เพื่อผู้ชายนะ ไม่เอาๆ ไม่ดี ไม่งาม พอดีผมเป็นคนอาบน้ำแบบนี้น่ะ ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนผมหรือเปล่านะ ส่วนความรักน่ะ มันก็ถูด้วยแชมพูของผมเนี่แหละ ผมอาบยังไง..มันก็อาบอย่างนั้น เพราะมันเป็นลูกผมไง...

เรียบร้อยก็เช็ดตัว แต่งตัว ใส่กางเกงขายาวกับเสื้อยืดหลวมๆ หนึ่งตัว ส่วนความรักกลางคืนนี่ผมไม่ได้ใส่ชุดให้มันนะ สัตว์มันคงนอนไม่ถนัดหากมันต้องมีนู้นนี่นั่นพันเนื้อตัวมันหรอกเนอะ ติดอย่างเดียว...ผมอยากลากคอมพ์ตั้งโต๊ะของตัวเองไปด้วยจัง เวลาเล่นเกมมันจะลื่นมากๆ ไม่เป็นไร...วันนี้ผมเล่นในแล็ปท็อปไปก็ได้เนอะ

ล็อกห้องตัวเองเรียบร้อยถึงได้เดินเข้าห้องของพี่มะเดี่ยว พี่เขายังนั่งหน้าคอมพพ์วาดรูปอยู่ หันมามองทางนี้นิดหน่อยแล้วก็กลับไปทำงานตัวเองต่อ ผมปล่อยความรักไว้ที่นั่งข้างๆ มันเอาหัวเกยต้นขาของผมแล้วนอนหายใจจมูกดิ้นดุ้กดิ้ก สภาพแบบนี้...สักพักมันน่าจะหลับ

“งานวาดพี่จะมีเข้ามาอีกไหมอะ...” สักพักผมก็ถาม เห็นเขาโหมงานวาดเยอะก็เลยอยากรู้

“หมดช่วงนี้ไปก็เรื่อยๆ คิวไม่แน่นแล้ว ทำไม…รับไม่ได้เหรอที่พี่บ้างานขนาดนี้”

“จะรับไม่ได้ที่ไม่ยอมหลับยอมนอนเนี่ยแหละครับ พี่เคยว่าผมครั้งหนึ่งว่า…นอนดึกจะโง่ สมองฟ่อ แล้วดูตัวเองดิ” แทนที่โดนว่าเขาจะเนียมๆ ไม่เถียง กลับหัวเราะเยาะมีความสุขซะอย่างนั้น

“จำแม่นเนอะเราอะ”

“ใช่ เพราะผมไม่ได้นอนดึกเหมือนพี่ สมองเลยยังทำงานได้ดีและความจำดีมากโคตร” ก็เวอร์นิดหน่อย บางอย่างผมก็จำไม่ได้ อย่างเช่น...ผมเป็นใครนะ? เอิ่ม ใช่เวลาเล่นปะ

“พูดได้ละเอาใหญ่ เดี๋ยวไม่ได้นอนเฉยๆ หรอก”

“ขู่อีกละ” หลังจากเราวีดีโอคอลหากันทุกค่ำคืน ก็นี่แหละครับ…มีความกล้าเถียงขึ้นมาบ้าง

“อาจจะไม่แค่ขู่น้า นี่ๆ...เอาให้เลือกเลยว่าคืนนี้อยากได้แบบไหน” ยังงงๆ ไม่เข้าใจ จู่ๆ ข้อความในเฟซบุ๊กที่เปิดทิ้งเอาไว้ก็เด้งขึ้น พี่มะเดี่ยวแกนั่นแหละครับ ผมเปิดเข้าไปอ่าน ไม่มีข้อความใดๆ มีแต่ภาพทั้งหมดสามภาพ...

ภาพแรก...กูตาย

ภาพที่สอง...กูก็ตาย

ภาพที่สาม...เอื๊อะ...ฝากความรักข้าด้วย

ทำไมพี่มึงส่งภาพโป๊โดจินมาให้ตรูแบบนี้ล่า ผมไม่ได้หื่นเหมือนพี่นะเว้ย แม่ง อันแรกที่ก็ท่ามาตรฐานอะครับ แค่เห็นชัดแม่งทุกสัดส่วนเลย...สีหน้าคนเสียบที่มองคนโดนเสียบนี่แบบว่า เซ็กซี่โคตร ภาพที่สองเราเรียกกันว่า...ท่าหมาน้อยบ็อกๆ ฮื่อ...ไม่คิดว่าชีวิตต้องมาติดเรตแบบนี้ อันที่หนักสุดคือสาม...เชือกน่ะมัดเป็นอะไรเลยเนี่ย ข้าวต้มมัดเขายังไม่มัดอีรุงตุงนังขนาดนี้ ไอ้คนโดนก็ช่างทำหน้าฟินเสียเหลือเกิน มัดอย่างเดียวโดยไม่มีเสื้อผ้าก็ว่าเรตแล้ว...แม่งยังโดนเสียบอยู่ด้วย น้ำเนิ้มนี่กระจัดกระจายตามเนื้อตัวไปหมดเลย

“เอ่อ...ไม่เอาสักอันอะ” สมองแม่งสั่งให้ปิดทิ้ง แต่ตายังจ้องอยู่เลยเว้ย

“ไม่เอาจริงเหรอ?”

“ม่ายยยยย ไอ้พี่หื่น” ปิดก็ได้เว้ย อย่าดูต่อเลย...เดี๋ยวของขึ้นขี้เกียจเอาของลงนะ

ขอโทษที่ผมเผลอหื่นนะครับ...ผมก็ผู้ชายวัยขบเผาะอะเนาะ มันต้องมีบ้างอะไรบ้างเป็นเรื่องธรรมดาของมวลมนุษยชาติ ถ้าไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ใช่เกย์...เดี๋ยวๆ มันคนละประเด็นกัน แฮ่...ผมอยากหาเรื่องเบี่ยงประเด็นนี้ทิ้งอะ ภาพติดตาโคตรๆ เลยให้ตาย นี่ผมอุตส่าห์ไม่ค่อยคิดเรื่องใต้สะดือพวกนี้นะเนี่ย จีวีหรือเอวีก็ไม่ดูมาพักใหญ่แล้วด้วย ดันมาเจอแบบนี้เข้าให้ซะงั้น

“มีแฟนน่ารัก จะหื่นก็ไม่แปลกน้า...” ผมเงยหน้าไปมองแผ่นหลังกว้าง

“น่ากลัว ไม่เอาๆ...เลิกๆ ผมไปนอนห้องผมดีกว่า”

“ลองดู...” พี่เขาหันมาสบตา ขนลุกซู่ตั้งแต่ปลายเท้าทันใด

“ล้อเล่นฮะ แต่ไม่หื่นเนาะ...เนาะๆ” ไม่ไปก็หยอกล้อให้เลิกคิดเรื่องนั้นซะ ไม่งั้นผมจะไม่ปลอดภัย จากการมานอนด้วยเพื่อให้พี่เขาได้นอน มันจะกลายเป็นการทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันเสียก่อน ไอ้กิจกรรมเข้าจังหวะช่วงเนี่ยให้มันอยู่แค่ที่ฟลอก็พอแล้ว

“ฮ่าๆ…คงไม่ได้” ว่าสบายๆ แล้วหันกลับไปทำงานต่อ

“แหงะ...” เขาไม่สนใจผมแล้ว นั่งหัวเราะเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียว พี่รู้ไหมครับ...พี่ทำให้ผมคิดมากนะเว้ย

ผมก็นั่งทำงานหน้าบูดหน้าบึ้งไปสิ คืนนี้ผมจะไม่เสียตัวให้ใคร...ไม่มีทางเดอะสามหวงตัวมากบอกเลย ไม่เอาแม่มาขอสามก็ไม่ยอมให้เจาะหรอกนะ ฮ่าๆ เอาเข้าจริงผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก ถามว่าอยากลองไหมก็อยาก แต่มันกลัวนะ...แล้วคิดว่ามันคงเร็วไปสำหรับเราสองคนที่เพิ่งคบกัน

นี่ผมหัวโบราญเนอะ

เอาเถอะ ใครจะคิดยังไงก็ได้ แต่ผมคิดว่าถึงผมจะคบเพศเดียวกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรรุ่มร่ามกันนู้นนี่ได้เลยอะนะ ก็เหมือนเราคบต่างเพศนั่นแหละ มันมีเวลาที่เหมาะสมของมันและผมก็คิดว่าระหว่างเรายังไม่ถึงเวลานั้นมั้ง

ผมใช้เวลาคีย์รายงานจนตาลายไปหมด คิดว่าคืนนี้คงพอแล้วแต่พี่มะเดี่ยวก็ยังทำงานไม่เสร็จ ความรักหลับไปกอ่นใครเพื่อน แหงสิ มันไม่ต้องทำอะไรเลยนี่นานอกจากกินแล้วก็นอน อาจมีเล่นนั่นเล่นนี่บ้างแต่วันนี้มันก็เล่นมาเยอะแล้วนะ

“พี่เสร็จยังอ่า...” ผมออกจากหน้าจอรายงานแล้ว ตอนนี้กำลังรอเกมโหลด ที่ถามเนี่ยก็เพราะจะได้รู้ว่าเหลือเวลามากแค่ไหนที่จะได้เล่นเกม

“เสร็จพอดีเลยครับ” กรรม...เสร็จแล้วเหรอ นึกว่าจะนานกว่านี้อีกหน่อย เดี๋ยวผมขอเข้าไปเกรียนสักสองสามศพพี่เขาคงไม่ว่าอะไรมั้ง นั่งเล่นอยู่หน้าคอมพ์แบบนั้นคงยังมีอะไรต้องทำอีกนิดหน่อยแหละ ผมคิดว่างั้นนะ

พอดีกับหน้าจอเลือกตัวละครปรากฏขึ้น ผมรีบเลือกตัวธนูทันทีแล้วก็รอโหลดอีกสักแป๊บหนึ่ง ตัวของผมหลบอยู่ที่ซอกหินใกล้กับส่วนที่คนเขาชอบเวลกัน แต่วันนี้เวลาผมมีน้อย ผมเลยวาปไปที่ๆ หนึ่ง จากนั้นรีบบับให้ตัวเองแล้วเข้าไปในดันเพื่อล่าคน...

“ไปนอนกัน” ยังไม่ทันได้บับเสร็จพี่มะเดี่ยวก็มานั่งข้างๆ อะเด๊ะ..ไม่เล่นอะไรต่อเหรอ รีบนอนจังเลย

“แป๊บหนึ่งได้ไหมอ่า...” หันไปมองอ้อนนิดหน่อย แล้วก็กลับมาบับต่อจนเสร็จ

“เร่งพี่ให้นอน แต่ดูเราดิ...สนเกมเฉยเลย”

“ผมเพิ่งเข้าเอง ทำรายงานอยู่ตั้งนานนะ” เอาแล้ว..กดบับวิ่งเร็วซึ่งมีแค่ตัวนี้เท่านั้นที่มี

“แต่พี่ง่วงแล้วนะ” พี่มะเดี่ยวซบหน้าลงกับไหล่ ผมไม่ได้หันไปสนใจ เลี้ยวเข้าห้องแรกแล้วหลบๆ ซ่อนๆ ไม่ให้คนในนั้นเห็น เดี๋ยวพวกตั้งตัวทันมันจะหนีผมเสียก่อน

“แป๊บหนึ่งพี่” เก็บพระก่อนเลย พระแม่งชุบตัวคนอื่นได้…ผมยิงพระไปสองทีก็ตัวลอยคว้างในอากาศ วะฮะฮ่า ตามด้วยสายเวทและแอสที่มันหายตัวได้แถมยังตีแรง นอกนั้นไม่มีใครสู้ผมได้อีก ห้องแรกราบคาบภายในเวลาไม่เกินห้านาที

“สาม...เลิกเล่นได้แล้ว”

“แป๊บๆ” โอ้ย ขอล้างดันแป๊บหนึ่งสิคร้าบ ห้องเมื่อครู่พิมพ์ด่ามาตามทาง เล่นไปฆ่ามันทิ้งก็ต้องด่าสิครับ ผมไม่สน เข้าห้องที่สองแล้วไล่ฆ่ามันทันที

“ถ้าสามไม่เลิกเดี๋ยวนี้พี่จะโกรธนะ” เหมือนเขาพูดอะไรสักอย่าง ผมไม่ทันฟังเพราะมีคนตะโกนในห้องแชตใหญ่ว่าเกรียนมา แถมยังบอกชื่อเกรียนอีกด้วย

“สาม...”

“แม่งเอ้ย...” พวกล่าแม่งมาแล้ว คือถ้ามีคนแจ้งเตือนว่ามีเกรียนมาอะ เขาก็จะบอกต่อๆ กันแล้วบางตัวมันก็มีพรรคมีพวกอยู่กิลใหญ่ใช่ม้า ทีเนี่ยพวกตัวเลเวลสูงๆ ของท็อปๆ ก็จะมาล่าผม ตอนนี้ผมเลยต้องวิ่งหนีแล้วก็เอาตัวรอด

ความนัวเนียอีรุงตุงนังเกิดขึ้นพร้อมกับคำด่าทอมากมายก่ายกอง มันด่าผมเองไงจะใครล่ะ..เห่อๆ บางตัวใช้สกิวจับขา ล็อกผมไม่ให้หนี ผมก็ไม่หนี ยิงสู้ เอาซี่...เอาเลย คิดว่าผมอ่อนนักเหรอ อ่อนมากผมไม่มาเกรียนชาวบ้านเขาแบบนี้หรอก

“เฮ้ย!” จู่ๆ พี่มะเดี่ยวก็แย่งแล็ปท็อปของผมไปต่อหน้าต่อตา กำลังนัวเนียนกับกิวใหญ่สองปาร์ตี้เป็นอันชะงัก

“พี่โกรธแล้วล่ะ” อ่าว...พี่โกรธผมทำไมอีกอะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเนี่ย

ผมไม่ทันได้อ้าปากถาม พี่มะเดี่ยวเอาความรักที่คั่นกลางระหว่างเราออก จากนั้นก็บดจูบลงมาหนักๆ ทั้งยังโถมร่างใส่จนผมต้องนอนตะแคงข้างไปกับโซฟา พี่มะเดี่ยวจับให้ผมนอนราบดีๆ แล้วสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปาก รู้เลยว่าไม่พอใจ แต่ไม่พอใจอะไรอ่า...ผมทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ แค่เกรียนอยู่ในเกมแป็บเดียวเองนี่

“แฮ่กๆ...ฮะ...อื้มพี่อย่า” ริมฝีปากเป็นอิสระแต่ไม่ใช่ต้นคอและยอดอก ผมโดนโจมตีจากปากกับนิ้วของพี่เขาอย่างไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ตะลึงตะลาน...ไม่เคยมาถึงขั้นสอดมือเข้ามาในเสื้อของผมแบบนี้มาก่อน

“พี่บอกว่าอะไร” จะไปรู้ไหมนี่ย...แล้วทำผมแบบนี้ทำไมอ่า

“บอกอะไร” ผมถามเสียงกระท่อนกระแท่น พี่มะเดี่ยวแม่งกัดคอผม อย่าทำรอยนะเว้ย เคยเห็นคอผู้หญิงที่เป็นรอยดูดแล้วสยองอะ

“บอกว่าถ้าไม่เลิกเล่นพี่จะโกรธ...แล้วถ้าพี่โกรธสามต้องโดนลงโทษ”

“ฮะ...อื้อๆ....” ถึงกับไม่เป็นเมื่อมือของพี่เขาเลื่อนไปลูบไล้ลงต่ำเข้าใกล้จุดนั้น หน้าเน้อผมแดงก่ำไปหมด ความอายตีขึ้นมาจนไม่กล้าจะมองอะไรทั้งนั้น แต่ไอ้การไม่มอง มันกลับทำให้ผมรับรู้ถึงสัมผัสหลายๆ อย่างได้ดี

“ผมขอโทษ...อื้อ...พี่อย่า” มือมันป้วนเปี้ยนอยู่ตรงนั้นหลาวววว อย่านะพี่ อย่าพรวดเข้าไปด้านในนะเว้ย

ความเสียวมันวูบวาบไปทั้งร่างกาย ตรงนั้นตื่นแน่นอนไม่ต้องสงสัยอยู่แล้วล่ะ ก็ผมไม่ได้ตายด้านนี่นา พี่มะเดี่ยวย้ายปากตัวเองไปที่หน้าอก เสื้อโดนถลกขึ้นจนท่อนบนเกือบเปลือยเปล่า แล้วจากที่โดนแค่นิ้วขยี้ขย้ำก็กลายเป็นลิ้นสีแดงสดแทน ฮื่อ....สามเสียวอ่า อย่าทำแบบนั้น

“ไม่เอาอย่าแกล้ง...อื้อแบบนี้” ร่างกายมันเกร็งจนบิดไปมาน้อยๆ เอง พยายามแล้วที่จะไม่ขยับเขยื้อน..แต่มันไม่ได้ ไม่ไหวจริงๆ

“อ๊ะ....อื้ออ๊ะพี่อื้อ” ทั้งดูดทั้งเลียแบบนั้น...ความเสียวเวียนวนอยู่ที่ท้องน้อยไม่หยุด จนเริ่มปวดที่ส่วนนั้นขึ้นมานิดๆ ผมอยากให้พี่มันหยุดก่อนที่อะไรๆ จะเลยเถิดไป...

“คราวหลังพุดต้องฟังรู้ไหม...” พี่มันหยุด เงยหน้าขึ้นมอง

“ครับ...”

“ไม่งั้นรอบหน้าพี่จะไม่หยุด” ผมพยักหน้าขึ้นลงเบาๆ ตอนนี้ทั้งอายทั้งเขิน...อะไรก็ไม่รู้มั่วซั่วอยู่ในหัวไปหมด เหมือนตัวอักษรของคำต่างๆ นับล้านกระจัดกระจายอยู่ในหัว และมันไม่สามารถเอามาเรียงเป็นอะไรได้ในตอนนี้

พี่มะเดี่ยวจูบปากผมเบาๆ หนึ่งทีก่อนจะลุกไปนั่ง ผมค่อยๆ ลุกตาม ตอนนี้สติสตางค์ยังมาไม่ครอบ แถม…ไอ้นั่นยังตื่นนะฮะ เขินวะ มันต้องยังไงต่อ นั่งกันนิ่งๆ แบบนี้จนกว่าจะเช้าเลยหรือเปล่าอะ

“ไปนอนกันไป พี่โคตรง่วง” กลายเป็นพี่มะเดี่ยวที่อุ้มเจ้าความรักขึ้นมา ผมเพิ่งมารู้นี่แหละว่า...ความรักแม่งเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ทุกอย่าง ขอโทษนะลูก...ป๊ามึงไม่มีสมาธิมาสนใจมึงจริงๆ

ผมถูกจูงเข้ามาในห้องนอนมืดๆ พี่มะเดี่ยวจัดที่นอนนิดหน่อย เรียบร้อยผมถึงได้นอนอยู่ข้างเขา บนตัวผมมีความรักที่ตาปรือพร้อมหลับอีกรอบ ว่าจะไม่รู้สึกอะไรมากมาย...ทว่าในความเป็นจริงแล้ว มันตื่นเต้นเหมือนกัน พี่มะเดี่ยวนอนตะแคงกอดเอวซ้ำยังซุกหน้ากับซอกคอของผมด้วย คำว่าฝันดีเบาๆ ลอยออกมา ผมหันไปมองก็เลยโดนจูบไปหนึ่งที สีหน้าพี่มะเดี่ยวเหนื่อยอ่อนมาก...จากที่ความคิดวุ่นวายอยู่ก็กลายเป็นสงบลง ผมจูบปากพี่เขาบ้าง พร้อมทั้งบอกฝันดีโดยหวังว่าคือนนี้พี่เขาจะฝันดีจริงๆ...

….100%….

มาดึกเลยวันนี้แฮ่ๆ มีแต่คนถามหาเอ็นซี เค้ามะมีมาเสิร์ฟ มีแต่เอามาหยอก อิอิ น้องสามเราใสๆ นะ พี่มะเดี่ยวเราก็ใสๆ ไม่มีใครหื่นเลยเห็นไหมล้า เน้อออออ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 42 [100%]❤️ -12/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-12-2017 22:22:40
 :hao3: :hao3:

ใสใส
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 42 [100%]❤️ -12/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 12-12-2017 22:48:45
น้องสามดีแล้วลูก อย่าให้เขากินเราง่ายๆ
พี่มะเดี่ยวน้องเป็นห่วงหาว่าน้อง งอแง เดี๋ยวเถอะๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 42 [100%]❤️ -12/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 13-12-2017 12:20:18
น่าร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 42 [100%]❤️ -12/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 13-12-2017 16:14:16
เลวเนอะเดอะสามเนีย ไม่ได้เล่นเกมออนไลน์แบบนั้น แค่คิดตามก็ไม่ไหวละ คนอื่นเขาเล่นกันสงบๆ มาเกรียนใส่เขา สร้างบรรยากาศสังคมที่ทุเรศ ๆ ไม่ดีอ่ะ พวกนักเลงคีบอร์ด ชั่วเลย -*-
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 42 [100%]❤️ -12/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-12-2017 18:49:20
 :z1:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 42 [100%]❤️ -12/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-12-2017 18:53:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 43 [100%]❤️ -13/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 13-12-2017 19:31:09
>>ตอนที่ 43 [100%]<<

ผมตื่นก่อนเสียงนาฬิกาในมือถือจะปลุก เพราะมีนาฬิกาที่เรียกว่าความรักเอาจมูกถูไถใบหน้าของผมไม่ยอมหยุด ผมจำต้องลุก แบบนี้คือมันหิวแล้วและต้องการสารอาหารเสียที พี่มะเดี่ยวยังหลับอยู่ และผมไม่ปลุกเขา

ผมไปทำนั่นทำนี่อย่างอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เอาอาหารให้ความรักแล้วก็ลงไปข้างล่างเพื่อซื้อข้าวมาให้ วันนี้อาจไม่ได้กินข้าวด้วยกัน แต่มันเพื่อให้พี่เขาได้นอนหลับให้เต็มที่ ผมเอาข้าวกล่องวางไว้ที่โต๊ะทำงานของพี่มะเดี่ยวพร้อมทั้งโน้ตหนึ่งใบ รอความรักกินเสร็จผมก็ไปทำงานที่ร้านบีพีคอฟฟี่

เป็นดังคาดมากๆ ว่าต้องเอางานมาทำ ผมก็ทำทั้งงานที่ร้านและว่างก็มาพิมพ์งานต่อ วันนี้ไอ้พีชและวิ่งเสือกเสนอหน้ามาที่ร้าน งานมันงานเดี่ยว แต่สมองน้อยๆ ของพวกมันไม่สามารถทำได้ไง ก็เลยต้องมาพึ่งสมองของเดอะสามคนนี้ เป็นไง...จากงานตัวเองที่ทำสบายๆ ไม่เครียดมาก ต้องมานั่งปวดหัวกับพวกแม่งเนี่ย

ไม่มีข้อความจากพี่มะเดี่ยวเลยทั้งวัน น่าจะนอนยาวเลย ว่าแต่นอนยาวขนาดนี้ไม่กินข้าวมันจะดีเร้อ กะพงกระเพาะไม่พังไปแล้วหรือไงวะนั่น อยากรู้เรื่องของพี่เขา อยากรู้ว่าตื่นมากินข้าวไหมด้วยการโทรไปถาม แต่อีกใจก็กลัวว่ามันจะทำให้พี่เขาตื่นขึ้นมา พี่มะเดี่ยวอดนอนหลายคืนมาก ผมไม่อยากให้พี่เขาต้องตื่นขึ้นมาแล้วก็เอาแต่ปั่นงาน ถ้าเขานอนอยู่จริงๆ ก็ให้นอนต่อไปจนกว่าจะอิ่มกันไปข้างนั่นแหละ

ผมเองก็สลับรางทำงานรายงานบ้างไปเสิร์ฟกาแฟบ้าง เช็ดโต๊ะบ้าง จากที่มันเป็นวันว่างๆ กลับวุ่นงายขึ้นมาไม่น้อย เมื่อมีวิ่งกับพีชอยู่ด้วยแล้ว..บอกเลยว่าเวลาผมเดินไปทำงานในร้านเนี่ย พวกมันจะไม่ยอมทำรายงานครับ มันจะนั่งเล่น กดเกมเล่นเกมกันไปตามเรื่อง ผมกลับมานั่งโต๊ะนั่นแหละพวกมันถึงได้พิมพ์รายงานกันต่อ

โรคจิต...

ดีที่เที่ยงวันนี้พวกมันเลี้ยงผมด้วยพิซซ่า นับว่าคุ้มกับแรงกายแรงใจในการช่วยพวกมันทำรายงานหน่อย ถ้ามันมาให้ช่วยแล้วไม่เลี้ยงข้าวเลยเนี่ย ผมคงค่อนคอดมันไปสักระยะเลยล่ะ ฮ่าๆ...แหม ผมก็ไม่ใช่พ่อพระปะล่ะ
 
พีชกับวิ่งขอตัวไปซ้อมเต้นต่อที่ตลาดเปิดท้ายตอนห้าโมงกว่า ผมยังต้องทำงานต่อจนกว่าร้านจะปิด ไม่มีพวกมันสองคนก็สามารถทำรายงานได้อย่างสบายใจ ไม่มีตัวกวนไหนแล้วนอกจากความรักที่เอาแต่เดินไปเดินมาบนโต๊ะที่ผมใช้ทำงาน

ผมไม่รำคาญหรอกนะ ผมชอบที่จะมองมันด้วยซ้ำ...บางคนอาจชอบมองทิวทัศรอบด้าน บางคนชอบมองต้นไม้ใบหญ้า แต่ผมชอบมองความรักเวลาต้องการพักสายตาและสมอง มันคือความชุ่มชื่นของผม รวมถึงเป็นความสบายตาสบายใจที่สงบที่สุดที่ผมมี

ดวงตาใสแจ๋วทอดมองมา จมูกขยับแผ่วเบาเวลาหายใจเข้าออก พอผมมองมันตอบ...มันจะเสหน้าไปทางอื่น หรือในบางทีมันก็จะเดินมานอนใกล้ๆ กับมือของผมที่กำลังพิพม์งาน ความรักไม่ก่อกวน...ไม่ยุ่มย่ามและทำตัวดีเวลาที่ผมยุ่ง ใครบอกว่าสัตว์ไม่ฉลาด...ใครว่ามันโง่มันคิดไม่ได้ ผมจะเถียงให้ขาดใจตายเลยว่ามันไม่จริง มันรู้ในสิ่งที่คนรู้นั่นแหละ...แค่บางอย่าง บางการกระทำมันคงไม่เข้าใจ

ผมชอบที่มันเป็นตัวสะท้อนหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต...ดูความรักแล้วผมมักคิดว่า คนเรามันก็แค่นี้นะ เกิดมากิน นอน สืบพันธุ์ ไม่มีอะไรมากมายเท่าไหร่...สัญชาตญาณของสัตว์มันบริสุทธิ์กว่าคน เห็นความรักก็จะเห็นว่าตัวเองเป็นแบบไหน...ดีเท่ามันหรือเปล่า ผมพยายามมีความสุขให้ได้เท่ามัน มีแบบที่มันมีแค่นั้นแหละง่ายๆ แต่ผมเชื่อว่าความเป็นคนของมนุษย์เรามันเป็นอะไรที่...เหมือนแก้วรั่ว กิน นอน รักหรือใคร่...เติมเท่าไหร่มันก็ไม่มีวันเต็มได้

นี่ผมเข้าโหมดปรัชญาหรือเปล่า?

ฮ่าๆ...เวลามองมันผมชอบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย มองเข้าไปในดวงตาของมันแล้วปล่อยสมองได้แล่นในแบบที่มันอยากแล่น ความคิดไหลไปเรื่อยเหมือนสายน้ำ ไม่ได้หยุดกับอะไรอย่างใดอย่างหนึ่ง คิดเรื่องมันบ้าง คิดเรื่องอนาคตบ้าง หรือแม้แต่คิดเรื่องพี่มะเดี่ยวบ้าง...

ก็นะ คนนี่...ความคิดมีหยุดด้วยเหรอ ทั้งชีวิตที่ผ่านมา เราคิดอยู่ตลอดเวลา ต่อให้ว่างแค่ไหนสมองก็ยังคงคิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยอยู่ดี เราห้ามไม่ได้ นอกจากเราหลับไป ขนาดหลับ สมองยังทำงานออยู่เลย ความฝันไง...ความฝันก็คือความคิดของเราในอีกรูปแบบหนึ่ง นั่นหมายถึงสมองยังคงไม่หยุดทำงาน

ดีแล้ว...มันหยุดทำงานก็เท่ากับตายดิเฮ้ย เฮ้อ...ผมควรกลับมาพิมพ์รายงานต่อ

“แฮ่มๆ...” เย้ย!! สะดุ้งทั้งตัวเพราะเสียงกระแอมไอของร่างสูงเบื้องหน้า

“ไอ้พี่มะเดี่ยว” มาไม่ให้สุ่มให้เสียงแบบนี้ตกใจหมด นี่ไม่ใช่คนขวัญอ่อน แต่เวลาคิดอะไรเพลินๆ อยู่อย่างทำแบบนี้หัวใจจะวาย

“ฮ่าๆ นั่งเหม่ออะไรอยู่ พี่เห็นตั้งแต่เดินเข้ามาแล้วเนี่ย” อ่าวเหรอ...ก็ไม่รู้ปะละ

“นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแหละ พี่อะ…ตื่นนานยัง” สีหน้าดูโอเคขึ้นแล้ว คงตื่นนานแล้วมั้ง

“ตื่นตั้งแต่สามออกมาแล้ว พี่รีบปั่นงานอยู่เลยไม่ได้ติดต่อมา...โกรธปะ” ส่ายหน้า

“โกรธทำไม กินไรยังอะ หิวเปล่าพี่ ผมอีกสักพักเลยกว่าจะเลิกงาน” พี่มะเดี่ยวแกใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงวอร์มสีดำเหมือนกัน แกเป็นคนชอบแต่งตัวแบบนี้อะเนาะ

“หิวมาก...กินแค่ที่สามซื้อไว้ให้เมื่อเช้า” โห...กินแค่นั้นมันจะไปอยู่ท้องอะไร

“เฮ้ย พี่ไปหาอะไรกินก่อนเลย”

“ไม่เอา รอกินพร้อมสามเนี่ยแหละ” ปากบอกรอกินพร้อมสาม แต่แย่งแอปเปิ้ลความรักที่ผมเก็บไว้นกล่องไปกิน ความรักก็เลยนั่งมองพี่มะเดี่ยวตาปริบๆ ซึ่งมันก็ได้ส่วนแบ่งมาหนึ่งเสี้ยว

“กินพร้อมกัน...ครับ” พี่เขาหัวเราะเบาๆ กับสีหน้าสีตาของผม

ก็นั่นแหละ ถ้าเท่านั้นมันอิ่มก็กินไปเหอะ ผมก้มหน้าก้มตาพิมพ์รายงานก่อนเพราะอีกไม่กี่สิบย่อหน้า ส่วนของวันนี้ก็จะเสร็จ นั่นเท่ากับคืนนี้ผมจะสามารถเล่นเกมได้อย่างสบายอกสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่ารายงานของตัวเองจะเสร็จไม่ทัน

ถึงผมจะติดเกม ผมก็จัดเวลาเป็นนะฮะ จริงๆ ชีวิตของวัยรุ่นที่มีนั่นนี่ให้ทำมากมายแบบนี้เนี่ย สำคัญอยู่ที่การจัดสรรเวลาเลยอะ ถ้าเราไม่สามารถจัดเวลาให้ลงตัวได้ บางอย่างมันก็เสียสมดุลไป โดยเฉพาะการเรียนนี่แหละ

“เอ้า แย่งความรักกินนะแก” จู่ๆ น้าบอยก็เดินเอาขนมเค้กมาให้พี่มะเดี่ยว ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เขา

“ขอบคุณครับพี่”

“เออ ไม่เป็นไร เราก็ไม่ยอมหาอะไรให้พี่เขากิน” อ่าว ทำไมน้าวกมาว่าผมล่ะ ผมไม่ว่างนะเนี่ย

“ไม่เป็นไรพี่ น้องมันทำงานแหละ” ขอบคุณพี่มะเดี่ยวมากที่เข้าข้างผมนะขอรับ

ผมเหลือบตามองพี่มะเดี่ยวกับน้าบอยคุยกันนิดหน่อยแล้วเร่งมือสำหรับงาน แล้วงานก็ชะงักเพราะน้าภูมเรียกให้ไปช่วยกัน สองคนที่โต๊ะนั้นก็คุยกันเพลิดเพลิน เห็นหัวเราะด้วยกัน ยิ้มด้วยกัน ไม่ต้องห่วง...ผมไม่หึงพร่ำเพื่อ นั่นน้าผมนะ จะหึงได้ไงจริงปะ...แฟนน้าผมอยู่นี่

แต่ผมว่านะ เขาต้องคุยเรื่องผมแน่นอน มีกระซิบกระซาบอะไรก็ไม่รู้งุ้งงิ้งๆ อยากเดินเข้าไปเสือก ติดที่เริ่มเก็บร้านแล้ว วันนี้น้าภูทำบัญชีแทนน้าบอยที่ยังเอาแต่คุยอยู่กับรุ่นน้องตัวเอง ผมก็วุ่นเดินเช็ดพื้นไปเช็ดพื้นมา พี่ที่ร้านมีชวนคุยนู้นนี่นั่นนิดหน่อยไปตามประสา บางคนถามถึงพี่มะเดี่ยวว่าเขามาทำไมเหรอเขาไม่ค่อยมาที่ร้านเนอะช่วงนี้ อาทิตย์นี้ไม่มาเลย บลาๆ เป็นพนักงานผู้หญิงอะพูด

เขาทำงานที่นี่มานาน เจอพี่มะเดี่ยวบ่อย ก็มีคุยกันบ้างอะไรกันบ้าง แต่เธอไม่เคยให้พี่มะเดี่ยวรู้ว่าตัวเองปลื้มเขามากแค่ไหน สาวๆ เขาหวีดชายหนุ่มเงียบๆ ทำไมไม่จีบอันนี้ไม่รู้...จีบแล้วไม่ติดหรือเปล่าผมก็ไม่รู้อีกอะ

“เสร็จยางงงงง” พี่มะเดี่ยวอุ้มความรักเดินตามหลัง ผมตกใจนิดหน่อย หันไปมองเหวอๆ

“อะไรอ่า ยังไม่เสร็จเลย ใจเย็นดิ”

“หิวแล้วอะ” เออ ผมก็หิว รีบทำความสะอาดอยู่เนี่ย

“แป๊บดิ”

“กินที่ไหนดี พี่อยากกินเตี๋ยวไก่มะระ ตรงไอ้หน้ามินิมาร์ทอะ ไปกินกันปะ” ไก่...ไก่มะระ ครับ

“มีก๋วยเตี๋ยวหมูมะระไหม” หยุดมือแล้วหันไปถามยิ้มๆ มีความหวังหน่อยๆ แต่พี่แม่งส่งสายตาแบบ...=_=

“ไก่ตุ๋นอร่อยกว่า เชื่อพี่ดิ” ผมไม่เถียงเลยนะว่ามันไม่อร่อยอะ

“แต่อยากกินหมู...” ว่าจบก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ความรัก อ้าปากงับ! มันหนึ่งที

เพี้ยะ!

พี่มะเดี่ยวแม่งตีมือผมอย่างแรงดังเพี้ยะ เรียกว่ากัดปุ้บพี่ท่านตีปั้บ ผมนี่สะดุ้งไปดิ...ปกติเขาไม่ทำแบบนี้นี่ ไม่ตีผม วันนี้ตีผมได้ไง ผมแค่กัดความรักเอง ไม่ได้ทำอะไรมันสักหน่อยนะเนี่ย

“ตีไมเนี่ย ผมเจ็บ...”

“เราแกล้งความรักก่อน บอกแล้วห้ามแกล้ง”

“โหย การแกล้งมันคือสีสันของชีวิตนะพี่”

“งั้นพี่แกล้งสามเพื่อสีสันในชีวิตพี่บ้าง” เอาอีกละ…ขู่กันอีกล่ะ

“เออ ขอโทษ” หันไปทำความสะอาดต่อเนี่ยแหละ ไม่เถียงแล้ว…งอน

แต่ชายหนุ่มผู้มีนามว่ามะเดี่ยวยังคงเดินตามผมต้อยๆ ไม่ยอมกลับไปนั่งที่ของตัวเองดีๆ หันไปมองทีพี่แกก็ก้มหน้าเล่นกับความรักที พี่ครับ...ไม่ทราบว่าพี่เป็นอะไรครับ ก่อกวนเพื่ออะไรเนี่ย แทนที่ผมจะรีบทำให้มันเสร็จไวๆ ดันต้องมารู้สึกแปลกประหลาดเพราะพี่เดินตามเสียอย่างนั้น

“ทำไมไม่ไปนั่งรอครับ” ทนไม่ไหวละ ขอถามเลยแล้วกัน

“พี่นั่งทำงานมาทั้งวันแล้วนะ ยังจะให้พี่นั่งอีกอ๋อ”

“สั้นๆ ว่าเมื่อยตูด?”

“Yes!” โอเค เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วขอรับ

ผมก้มหน้าก้มตาเช็ดพื้นร้านงกๆ โดยไม่คิดมากอะไรอีก อาจรู้สึกแปลกๆ ไปบ้างแต่ช่างมันเถอะ รีบทำรีบเสร็จดีกว่า ผมเป็นคนเช็ดพื้นร้าน ส่วนพนักงานหญิงเนี่ยเขาจะเช็ดโต๊ะ ดันเก้าอี้เข้าใต้โต๊ะให้เรียบร้อย พอทุกคนช่วยกันมันก็ไวอะครับ ครึ่งชั่วโมงก็เก็บร้านส่วนนี้เสร็จแล้ว น่าจะเหลืองานหลังเคาน์เตอร์ที่น้าๆ ต้องอยู่ช่วยกันทำ

พี่มะเดี่ยวเดินไปเก็บของที่ผมเอามา อย่างกระเป๋า แล็ปท็อปหรือกล่องแอปเปิ้ลอันว่างเปล่าของความรัก ในขณะที่ผมเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อถอดผ้ากันเปื้อนเก็บ พนักงานประจำจะมีชุดยูนิฟอร์ม แต่พวกเด็กๆ พาร์ทไทม์จะใส่ชุดนักศึกษาบวกผ้ากันเปื้อนเท่านั้น

ออกมาอีกทีพี่มะเดี่ยวก็สะพายกระเป๋าของผมและอุ้มความรักไว้ เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ใครนี่ไม่รู้ ไม่ได้มีหูอันเดียวกัน ผมเดินเข้าไปลาน้าทั้งสอง ด้วยความที่น้าผมนั้นใจดีที่สุดในโลก ผมก็เลยได้โกโก้ของโปรดมาหนึ่งแก้วถ้วน!

แบบว่า...ฟินเลยอะ ฮ่าๆ

มองหน้าพี่มะเดี่ยวนิดหน่อย พี่เขาพยักหน้าให้เดินออก พี่เขาเดินตามแต่ยังคุยโทรศัพท์อยู่ เอาล่ะ...เนียนเดินข้างๆ ทำเป็นลูบหัวความรักเพื่อแอบฟังว่าพี่เขาคุยอะไรกับใคร ผมไม่ได้จะจับผิดอะไรน้า แค่อยากเสือก...เท่านั้นเอง แฮ่

“เออๆ เดี๋ยวกูไปก็ได้...แต่กูคงไม่ซ้อมนะ กูใส่รองเท้าแตะมา” เออ วันนี้พี่เขาใส่แตะหูหนีบ

“เหี้ย ไอ้กูพักบ้างไม่ได้เหรอไง ไม่รู้อะ กูแค่ไปดู กูไม่ซ้อม...กูจะซ้อมวันจันทร์ แค่นี้นะ…หิวแล้ว” แล้วพี่มันก็วางสายดื้อๆ ผมได้ยินเสียงคนฝั่งนั้นตะโกนอะไรสักอย่างแว่วๆ พี่มะเดี่ยวแกไม่ฟังด้วย

“เดี๋ยวกินเสร็จไปที่ฟลอกัน” พี่มะเดี่ยวเก็บมือถือเข้ากระเป๋าแล้วกอดคอของผมเอาไว้

“จะซ้อมเหรอครับ พี่น่าจะพักก่อน...” ไม่อยากจู้จี้เลยให้ตาย

“เปล่า ไปดูเขาซ้อม...ไอ้โซฮานมันอยากให้พี่ไปดูลูทีมหน่อย”

“อ่อ” พี่โซฮานอีกแล้ว เออ...คนในทีมเดียวกัน เพื่อนกัน แล้วก็แค่แอบชอบแฟนผมเท่านั้นเอง...ไม่มีอะไรเลย จริ๊งงงงง

“คืนนี้นอนห้องพี่อีกปะ” มองหน้าพี่แล้วอยากจะเอาหัวโหม่งพี่แม่งจริงๆ...อะไรจะทะเล้นได้ขนาดนั้น

“ไม่เอาอะ...”

“งั้นพี่ไม่นอน” เอ้า ไหงมันเป็นแบบนี้ละเหวย

“เคๆ นอนก็นอน...ห้ามทำไรผมนะ”

“อืม…ไม่ทำน้อยๆ ได้ปะ” แล้วแก้มก็โดนหอมแม่งกลางที่สาธารณะ ไอ้พี่นี่ก็ อายคนอื่นบ้าง…อ๋อไม่ดิ พี่มันหน้าด้าน

“ตลกล่ะพี่ อยากทำกันอะไรๆ กับผมอะ พี่ต้องให้แม่มาขอก่อน” ยักคิ้วให้หนึ่งทีหล่อๆ

“เอาให้ท้องก่อนค่อยบอกได้ปะ” เดี๋ยวๆ...พี่ กูไม่ท้อง!

“ฮ่าๆ ล้อเล่น...ไว้ให้แม่มาขอ แล้วค่อยจัด...จัดหนักด้วย พี่จะทำให้สามครางให้พี่ฟังทั้งคืนเลย” หน้าพี่มึงฟินมาก ฟินจนผมขนลุกอะ…

….100%….

โอยยยย เขาหวานกันไม่เกรงใจความรักเลยเค่อะ มียงมีหยอด ตายๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 43 [100%]❤️ -13/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-12-2017 21:12:56
 :laugh:จิ้นไปก่อนนะพี่มะเดี่ยว

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 43 [100%]❤️ -13/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-12-2017 00:22:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 43 [100%]❤️ -13/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 14-12-2017 01:54:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 43 [100%]❤️ -13/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 14-12-2017 10:44:09
ช่วงหลังความรักไม่เด่นเลยอ่ะ คิดถึงความรักกกกกกกกก

 :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 43 [100%]❤️ -13/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 14-12-2017 23:01:38
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 43 [100%]❤️ -13/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 15-12-2017 00:15:21
ทำไมพี่หื่นจัง 55555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 44 [100%]❤️ -15/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 15-12-2017 22:53:21
>>ตอนที่ 44 [100%]<<

เรามาถึงฟลอเต้นเกือบสามทุ่ม พี่เรย์นี่ผมเห็นเด่นกว่าใครเนื่องจากหัวพี่ท่านเป็นสีชมพูแปร๋น เขากำลังทำท่าเด้าพื้นอยู่ตอนผมเดินเข้าฟลอพร้อมพี่มะเดี่ยว แต่พอพี่เรย์เห็นพี่มะเดี่ยวแกก็เริ่มวางมาดหล่อเท่ ประหนึ่งว่าเมื่อครู่กูไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ทั้งที่พี่แนแกฟ้องใหญ่ว่าพี่เรย์ไม่ตั้งใจซ้อม เอาแต่จับน้องๆ มาเล่นโฟลคิง แล้วเป็นไง...ตัวเองโดนเองไง ก็เลยต้องมาเด้าพื้นท่ามกลางสายตาประชาชีแบบนั้น พี่มะเดี่ยวได้รับรู้วีรกรรมก็จัดหนักลงโทษพี่เรย์ไปอีกดอกก่อนให้เพื่อนๆ ที่เหลือซ้อมท่าทีมให้ดู

เดินไปนั่งกับวิ่งและพีช พวกมันก็แปลกใจที่ผมมา แต่รู้ไงว่าคบกับพี่มะเดี่ยวก็เลยไม่ได้อะไรมากมาย ไม่มีคำแซ็วจากปากพวกมันมีแต่ชวนซ้อมเต้นซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธ เราสามคนอาศัยพื้นที่เล็กๆ ข้างฟลอในการซ้อมท่าที่ไม่ยากอะไร วิ่งกับพีชเป็นเพื่อนที่ดีมาก เห็นผมทำไม่ได้ก็บังคับให้ทำให้ได้ เล่นเอาอ่วมไปเลย ความรักนอนมองความวุ่นวายอยู่ข้างฟลอ มันไม่เดินป้วนเปี้ยน ไม่ขยับออกจากกระเป๋าของผมเหมือนกับว่ามันกำลังนอนเฝ้ากระเป๋าให้ป๊ามัน

“ไอ้เด็กนั่นหรอที่เป็นแฟนพี่มะเดี่ยวอะ...” จู่ๆ เสียงซุบซิบนินทาจากอีกกลุ่มก็แว่วเข้าหู ไม่ใช่แค่ผม พีชกับวิ่งก็ได้ยินเหมือนกัน

“เออ...เห็นว่าตามจีบพี่มะเดี่ยว”

“เห่อๆ กูไม่คิดว่าพี่มะเดี่ยวจะเอาตุ๊ดแบบนี้ทำแฟน ท่าทางเต้นไม่ได้เรื่องเลยแม่ง...โคตรอ่อน ดีไม่ดีจับพี่มะเดี่ยวเพื่อให้ตัวเองดูดีละมั้ง” เฮ้พวก...กูได้ยิน แล้วกูก็ไม่ได้จับพี่มะเดี่ยวด้วยนะเว้ย

“ธรรมดา แกดังจะตาย เก่งด้วย กูเป็นผู้หญิงกูก็จีบ” นั่นไง…คนเรามักเป็นแบบนี้ ตัวเองคิดทรามแบบไหนก็เชื่อว่าคนอื่นจะคิดทรามตามเรา มึงบ้าเปล่า…ชีวิตกูโคตรดีกูอยากบอก กูไม่ต้องเกาะใคร ไม่ต้องมาคบกับคนดังๆ เพื่ออัปเกรดตัวเองหรอกฟาย

พีชกับวิ่งมองหน้าผมเพื่อดูว่าผมจะเป็นอะไรไหม ผมก็แค่ยิ้มแล้วซ้อมเต้นต่อ…กูไม่เก่งแล้วยังไง กูไม่ได้เต้นมานานเหมือนๆ พวกมึงนะเว้ย นี่ที่ผมทำได้ขนาดนี้ พี่ๆ หลายคนในฟลอก็ชมว่าผมเก่งแล้ว เพราะผมสามารถทำท่าวินด์มิลได้ในระยะเวลาแค่ไม่นาน บางคนใช้เวลาหลายเดือนด้วยซ้ำ แต่ผมไม่อยากเอาไปพูดอวดใครหรอกครับ ไม่ใช่นิสัย…การทำแบบนั้นจะทำให้ตัวเองดูต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากกว่าสูงส่ง

“ตบแม่ง...” วิ่งพูดเบาๆ แล้วเหลือบตามองไปกลุ่มนั้น

“มึงจะกัดกับหมาทำไมวะ เป็นคน...อยู่อย่างคนสิวะ” แต่ผมกลับพูดคำนี้ค่อนข้างดัง บอกแล้วไง...ให้ต่อยคน ผมไม่ต่อย ให้เถียง...ผมไม่เถียง แต่...ไม่ได้หมายความว่าผมยอมคน

พวกมันได้ยินก็มีท่าทีโกรธเคือง แต่ป๊อดไง...ไม่มีใครกล้าเข้ามาหาเรื่อง ส่วนหนึ่งเพราะผมเป็นแฟนพี่มะเดี่ยวละมั้ง ก็เลยกลัวกัน ต่อให้ไม่มีพี่มะเดี่ยว ผมก็มั่นใจว่าพวกมันไม่กล้าเข้ามาหาเรื่องผมหรอก เคยได้ยินคำที่ว่าหมาเห่ามักไม่กัดไหมครับ นั่นแหละ...พวกปากดีทั้งหลายส่วนใหญ่ไม่ค่อยกล้าหรอกเวลาเขาเอาจริง มันต้องมีพรรคพวกก่อนมันถึงกล้ากัน ก็เหมือนหมานั่นแหละ...ชอบรุม

ผมซ้อมเต้นต่อโดยไม่สนใจพวกมันที่เดินหนีไปทางอื่น พี่มะเดี่ยวจากที่บอกว่าไม่เต้น ไม่ซ้อม ตอนนี้ถอดอีแตะเอาไว้แล้วลงฟลอไปเป็นที่เรียบร้อย ผมนั่งพักเหนื่อย มองเขาเต้นด้วยท่าทางที่คล่องแคล้วแล้วก็ชำนาญ

“ทำไมไม่เอาเรื่องพวกแม่งวะ” วิ่งนั่งอยู่ข้างๆ มันพูดเคืองๆ

“ก็รู้นี่ว่ากูไม่สู้คน” ผมบอกมันทั้งที่ตายังจ้องอยู่ที่กลางฟลอ

“ดีแล้ว อย่ามีเรื่องเลย” พีชมันกอดคอมองพวกพี่ๆ เต้นเหมือนกัน

สักพัก จากที่นั่งมอง พวกมันทั้งสองก็พากันลงฟลอ ไม่พอ...แม่งลากผมไปด้วย ผมก็ไม่เก่ง เต้นเงอะๆ งะๆ แล้วยังรู้สึกอายสายตาผู้คน แต่เมื่อโดนขยั้นขยอมากเข้ามันก็ต้องเต้นอย่างช่วยไม่ได้ ถือว่าเล่นเอบีซีกับพวกเขาก็แล้วกัน ทว่าผมไม่เก่งไง...ผมได้แค่ท่าพื้นฐานไม่มาก พี่ๆ ก็ชมแหละ บอกให้พยายามเข้า สไตล์ผมสวยแล้ว เหลือแค่หาความเป็นตัวเองให้เจอ ผมไม่เข้าใจ...

พี่คนหนึ่งเคยบอกเอาไว้ว่า...สิ่งที่ยากที่สุดของบีบอยไม่ใช่บการทำสกิวต่างๆ แต่เป็นการหาเอกลักษณ์และสไตล์เป็นของตัวเองต่างหาก ท็อปร็อกที่เป็นท่าพื้นฐานใครๆ ก็ทำได้ แต่จะทำยังไง...ให้ท่าพื้นฐานเบสิกแบบนั้นมันเป็นของเรา แล้วคนอื่นไม่สามารถเลียนแบบความเป็นเราได้ ตอนนั้นผมแค่ฟัง ผมไม่เข้าใจ และคิดว่าอาจจะทำไม่ได้ ผมพยายามมองดูรุ่นพี่ที่เต้นเก่งๆ สังเกตจนเห็นว่าเออ...สไตล์ของพวกพี่เขามันต่างกันนะ แค่ท็อปร็อก แค่แตะเท้าลงบนพื้นตามบีทธรรมดาๆ ยังสวยและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้

นั่นละมั้ง...คือความเก่งกาจ

จากจุดเริ่มที่ว่าแค่มาดูท่าทีม กลายเป็นว่าตอนนี้ปาไปเที่ยงคืนแล้ว...ตลาดเขาปิดไปตั้งแต่สี่ทุ่ม ในฟลอก็เหลือแค่คนในทีมกับเพื่อนผมสองคน ผมนั่งอยู่กับพี่แม็ก มองหน้าแกแล้วแบบ...เกิดวันหนึ่งพี่มันหันมาขยิบตาให้ผมจะทำยังไงวะ

“เหนื่อย...” หัวหนักๆ ของพี่มะเดี่ยวงลงบนไหล่ ผมละสายตาจากพี่แม็กไปมองพี่มะเดี่ยว เหงื่อนี่ชุ่มโชกไปหมด

“กินน้ำก่อนไหมพี่” ซื้อมาไว้ให้แล้ว เตรียมพร้อมากมายเพราะตัวเองก็หิว...ฮ่าๆ

“ขอบคุณครับ มีแค่สามเลยนะที่อยู่ดูพี่ซ้อมจนดึกดื่นขนาดนี้” หมายความว่ายังไง คนอื่นเขาไม่อยู่รอพี่กันเหรอ

“หมายถึงแบบไหน”

“ก็คนที่เคยคบกัน...ส่วนใหญ่งอแงกลับบ้านแล้ว และพี่ก็ต้องไปส่ง” อ๋อ ผมก็ซ้อมเต้นด้วยไงก็เลยอยู่ได้

“ถ้าผมงอแงบ้างล่ะ” ก็แค่ลองถามนะ ผมไม่ใช่คนงอแงหรอกบอกเลย...สามโตแล้วไม่ใช่เด็กน้อย

“ก็คง...ไปส่ง”

“แล้วกลับมาซ้อมต่อ” ผมต่อคำอย่างรู้ทัน พี่มะเดี่ยวโงหัวขึ้น เขาหอมแก้มผมแล้วยิ้มกว้าง

“รู้ทันวะ”

“อืม...ก็พี่รักมันนี่ ไม่แปลกที่พี่จะให้ความสำคัญกับมันนะ” เพราะถ้าเป็นผม ผมก็จะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตัวเองรักเหมือนกัน

“ขอบใจนะที่เข้าใจ”

“ไม่เป็นไรครับ...แล้วนี่เลิกกันกี่โมง”

“สามง่วงแล้วเหรอ” ผมส่ายหน้า ผมเปล่าง่วง

“เปล่า ผมอยากเล่นเกม...” ว่าจบก็ยิ้มตาหยี พี่มะเดี่ยวยีหัวผมแรงๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ติดเกมจัง อยากให้ติดพี่เหมือนติดเกมบ้าง”

“ทุกวันนี้ไม่เรียกว่าติดพี่อีกเหรอ” พูดไปก็เขินไป ก็เรากินข้าวกันทุกเช้า วีดีโอคอลกันทุกคืนจนกว่าจะหลับกันไป

“อยากให้ติดมากกว่านั้นอีก”

“ไม่ดีมั้งครับ ถึงจะเป็นแฟนกัน…แต่ผมว่าการมีช่องว่างให้อีกฝ่ายได้มีโลกส่วนตัวบ้างก็เป็นเรื่องที่ควรทำนะ” พูดได้หล่อมาก ใครก็ได้เอาหมูปิ้งมาเป็นรางวัลให้ผมหนึ่งไม้ใหญ่ๆ

“ฮ่าๆ…อยากมีเวลาเล่นเกมก็พูด ไม่ต้องมาเก๊กหล่อเลยไอ้หมู” แหงะ อะไรกัน...อย่ามารู้ทันแบบนี้ ไม่เอา ไม่น่ารักเลย

“ชิ” ลอยหน้าลอยตาใส่ไปหนึ่งที พี่มะเดี่ยวถลึงตาใส่ก่อนจะหยิกแก้มทั้งสองข้างของผม

“โอ้ยยยย เอ็บ!”

“หมั่นเขี้ยว” มั่นเขี้ยวได้ แต่อย่าทำผมแรงสิ...ผมเปราะบางนะเว้ยเฮ้ย

พี่มะเดี่ยวมองผมลูบแก้มแดงๆ ของตัวเบาพลางดื่มน้ำไปด้วย พวกในทีมยังซ้อมกันอยู่ ผมกวาดตามองรอบๆ แล้วเผลอสบตาเข้ากับพี่โซฮาน เรียกว่าเขาจ้องมาทางนี้ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วเพราะเพิ่งจะเห็นเนี่ยแหละ ผมละสายตาจากเขา พี่โซฮานจะได้ไม่รู้ตัวว่าผมเห็นเขามองมา

การมารู้ว่าได้ทำให้ใครคนหนึ่งเจ็บเพราเรามันแย่นะ...มันไม่ได้รู้สึกดีอะ เป็นไปได้ผมก็ไม่อยากให้เจ็บปวดกับเรื่องที่ผมคบกับพี่มะเดี่ยว แต่มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้จริงๆ นี่เนอะ ผมคงต้องทำใจแล้วก็ปล่อยเบลอความรู้สึกของพี่โซฮาน

“อีกประมาณชั่วโมงหนึ่งก็เลิกแล้ว รอได้ไหม” พี่มะเดี่ยววางขวดลงบนพื้นแล้วหันมาถาม

“ไหวครับ ไม่เป็นไร ผมไม่รีบ” ยิ้มให้บางๆ พี่มะเดี่ยวลูบหัวผมแล้วเดินไปซ้อมต่อ

การซ้อมอันหนักหน่วงมาพร้อมกับความบ๊องของคนในทีม พวกเขาก็ดูเครียดแหละ แค่ไม่มากเท่าไหร่ เพราะเสียงหัวเราะยังคงอบอวลอยู่รอบๆ ผมเองก็พลอยสนุกไปกับพวกเขาทั้งที่ผมเป็นแค่คนนั่งมองจากมุมๆ หนึ่งเท่านั้น

ผมอาจไม่ได้รักหรือชอบการเต้นบีบอย แต่ที่นี่ก็ให้อะไรกับผมได้เยอะเหมือนกันนะ...สังคมเล็กๆ มองผิวเผินอบอุ่นดี ทว่าลึกๆ...มันก็เหมือนสังคมอื่นทั่วไป ที่มีดีและเลวปะปนกัน ผมชอบมองด้านที่ดี และผมก็เก็บเกี่ยวความอบอุ่นจากที่นี่ บางที...ถ้าผมได้กลับไปสอนเด็กอย่างที่หวังไว้ ผมอาจไม่ได้สอนเขาแค่วิชาการ แต่อาจได้สอนพวกเขาเต้นบีบอยด้วย

น่าสนใจนะ หากเด็กมีกิจกรรมสนุกๆ และสร้างสรรค์เอาไว้ทำกัน พวกเขาก็น่าจะมีความสุขแล้วก็ห่างไกลจากพวกยาเสพติดได้ เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายาเสพติดมันกระจายตัวอยู่เยอะ และมันก็ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของชุมชนบางชุมชน ที่บ้านผมไม่เป็นแบบนั้นในตอนนี้...ส่วนอนาคตก็ไม่รู้เหมือนกัน

ถ้างั้น...ผมตั้งใจซ้อม ตั้งใจเรียนรู้เหมือนที่ตั้งใจเรียนด้านวิชาการก็ดีเนอะ คนจะเป็นครูต้องเก่งและมีความรู้มากพอที่จะถ่ายถอดให้คนอื่น ไอ้เรื่องความเข้าใจในตัวนักเรียน มันเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้กับตัวนักเรียนเอง ที่ทำได้ตอนนี้คือเก็บเกี่ยวสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้

ผมตัดสินใจเอาความรักที่หลับสนิทอยู่บนตักวางบนกระเป๋า แล้วลุกไปซ้อมเต้นกับพีชและวิ่งต่อ อาจต้องลงฟลอกับพวกเขาบ้าง มันก็สนุกดี...พี่ๆ หลายคนช่วยสอนผม ลองให้ผมทำท่านั้นทำท่านี้ดู เผื่อว่าจะได้ ผมก็ทำตาม โดยเฉพาะพี่มะเดี่ยวที่ดูจะหันมาใส่ใจผมแทนทีมตัวเองเสียแล้ว

ไหนการซ้อมทีมที่แสนจะดุเดือดเลือดพล่าน นี้มันการทรมานรุ่นน้องอย่างผมชัดๆ ล้มลุกคุกคลานอยู่บนพื้นจนเหนื่อยหอบ แล้วอย่าลืม...ผมใส่ชุดนักศึกษามา เสื้อขาวไม่ขาวอย่างที่เคย เครื่องปั่นที่ห้องจะเอาอยู่ไหมก็ไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้มันมาก..และสนุกมากจริงๆ

เรี่ยวแรงของผม พีชและวิ่งหมดตอนตีหนึ่ง เต้นรัวๆ ไม่หยุดก็เลยนอนแผ่หลาหมดสภาพอย่างตอนนี้ พวกพี่ๆ ยังคงเต้นอยู่บ้าง บางคนนั่งดื่มน้ำ บางคนเริ่มเก็บกระเป๋ากันแล้ว แหงล่ะ...กี่โมงกี่ยามแล้ว ดีที่ตรงนี้มันอยู่ติดถนนใหญ่ แล้วก็ไม่ได้มีใครมาไล่ให้เราไป ก็เลยอยู่ได้ดึกแบบนี้ อาจมีลุงยามปั่นจักรยานมาบ้าง พวกพี่ๆ เขาก็รู้จัก ทักทาย พูดคุยกันก่อนที่ลุงยามจะปั่นไป

“เออไอ้เดี่ยว” พี่เรย์เดินมานั่งข้างๆ พี่มะเดี่ยวที่เอนกายนอนข้างผม พื้นนี้เขามีไว้เดินเล่น เดินเหยียบ ตอนนี้พวกเรานอนประหนึ่งมีคนปูเสื่อให้

“อะไรวะ”

“แดกเหล้ากัน”

“เออ แดกเหล้ากัน...” พี่แนเสริมด้วยอีกคน

“เซเว่นเลิกขายแล้วมึง” พี่มะเดี่ยวว่า

“กูมี” ว่าแล้วพี่เรย์ก็เดินไปที่กระเป๋าตัวเอง ซึ่งเป็นกระเป๋าหมีลักลิคุมะ ผมก็ว่ากระเป๋าใคร...แบ๊วซะไม่มีอะ พี่...พี่ก็เป็นเหรอครับ?

“นี่..สองกลม เมาแน่นอนมึง” เห็นใบเล็กๆ เก็บได้เยอะเหมือนกันเนอะ พี่เรย์แม่งหยิบเหล้าสองแปดห้าออกมาจากกระเป๋า

“ฮ่าๆ...เอาจริงดิ”

“เออ เอาจริง กินห้องมึงเนี่ยแหละ ไป...ฉลองมึงเสร็จงาน พรุ่งนี้เย็นยังไงก็ซ้อมไหว” นี่เรียกว่าเกลี้ยกล่อมปะครับพี่เรย์

“สามว่าไง”

“ฮั่นแน่...มีถามเมีย” เมียบ้านพี่มึงดิครับ ยังไม่ได้เป็นเมียเลย

“แล้วแต่พี่สิ” ผมไม่เกี่ยว ผมจะกลับห้องไปฆ่าคน! ชีวิตเดอะสามมีแต่การเกรียนเท่านั้นครับพี่

“เออๆ งั้นกลับกัน” สรุป...กินเหล้ากัน เหนื่อยขนาดนี้ยังจะกินกัน ไม่เหนื่อยกันเหรอครับพวกพี่

พีชกับวิ่งก็ไปด้วย ตามติดเป็นวิญญาณเลยไอ้ห่า ก็สังเกตมาสักพักแล้วล่ะว่าเพื่อนทั้งสองของผมค่อนข้างสนิทกับพี่ๆ ในทีม แต่มันไม่ได้อยู่ในทีมเขา พวกพี่ๆ เองก็ให้ความเอ็นดูพวกมันทั้งคู่ด้วยการยัดสกิวต่างๆ ให้จนแทบอ้วก ซ้อมแบบ...ลากเลือดกันเลยทีเดียวเชียว เพื่อนผมมันเก่งขึ้นทุกๆ วัน ทั้งสไตล์การเต้น ทั้งสกิว...บอกเลยว่าพวกมันเทพพอๆ กับพวกรุ่นพี่เขานั่นแหละครับ

พี่มะเดี่ยวดึงผมให้ลุกขึ้น จูงมือไปเก็บกระเป๋า ซึ่งมีแค่กระเป๋าผมอะครับ...พี่มะเดี่ยวไม่ได้เอากระเป๋ามา แล้วนี่เขาก็เพิ่งจะกลับมาใส่อีแตะ เต้นเท้าเปล่ามาตลอด ผมจำได้ว่าเขามีกฎห้ามใส่รองเท้าแตะลงฟลอ คือถ้าใส่มาให้ถอดซะ ผมคิดเองนะว่า...มันน่าจะเป็นเพราะมันหลุดเท้าได้ ปลิวโดนหน้าชาวบ้านอะไรเถือกๆ นี้

“สามง่วงปะ ถ้าสามง่วง...สามนอนก่อนก็ได้นะ” พี่เขาเป็นคนสะพายกระเป๋าให้ ความรักหลับคอพับไม่ยอมตื่นอยู่ในกระเป๋าเนี่ยแหละ

“ไม่ง่วงอะ...เดี๋ยวนั่งเล่นเกม”

“งั้นเอาเกมมานั่งเล่นห้องพี่ เคปะ”

“โอเค” ทำมือให้ประกอบด้วย เหลือบมองไปทางพี่โซฮาน...เขานั่นแหละที่ทำให้ผมอยากนั่งเล่นอยู่ด้วย ส่วนกินไหม...ไม่รู้

….100%….

ต้องขอโทษที่มาดึก ขอโทษที่มะวานหายหัว ขอโทษที่บทความรักน้อยลงเพราะความไม่ชำนาญงานสไตล์นี้ ขอโทษที่เดอะสามเป็นสายเกรียนในเกม ขอโทษที่เอ็นซียังไม่มาเสียที ขอโทษที่มันอาจจะน่าเบื่อไปนิ้สสสสส งุมๆ… :hao5:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 44 [100%]❤️ -15/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 15-12-2017 23:19:30
ไม่เป็นไรค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งน้าา
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 44 [100%]❤️ -15/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-12-2017 23:22:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 44 [100%]❤️ -15/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-12-2017 23:48:44
 :L2: :pig4:

เราก็ชอบอ่านนะ รอทุกวัน

หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 44 [100%]❤️ -15/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 16-12-2017 10:35:42
สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 45 [100%]❤️ -16/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 16-12-2017 19:41:43
>>ตอนที่ 45 [100%]<<

แต่การจะกลับกันเวลานี้มีปัญหาครับ...ไม่มีรถกลับ กี่โมงแล้ว...ตีหนึ่งกว่าจะตีสองแล้วครับผม รถที่ไหนมันจะมาวิ่ง รถแท็กซี่นี่ยังไม่เห็นโพล่มาสักคัน แต่พวกพี่เขาไม่มีอาการสะทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีจริงๆ นะ...เดินกันชิวเลยล่ะ แม้แต่พีชกับวิ่งก็ยังกอดคอกันเดิน

พี่มะเดี่ยวก็เดินจับมือผมพร้อมคุยกับเพื่อน ไม่แน่ใจว่าคนนี้ชื่อก้องหรือเปล่า…หรือเบิร์ด คนในทีมพี่เขาน่ะแหละครับ สองคนนี้อายุสิบแปดสิบเก้า พอๆ กับผมแต่เขาไม่ค่อยเข้ามาเล่นใกล้ๆ ผมไม่คุ้นเคยเท่ากับพี่เรย์หรือพี่โซฮานที่ซ้อมอยู่ฟลอมหาลัย แต่ตอนนี้เขาไม่ได้คุยกันเรื่องทีมนะ คุยกันเรื่องแฟน...เหมือนก้องเนี่ยจะมีปัญหากับแฟนน่ะ

“ไปๆ ไปลงนรกซะเถอะที่รัก...ฉันจะลงโทษเธอ” คุยกันอยู่ดีๆ พี่เรย์แม่งก็ร้องเพลงขึ้นมา เข้ากับบรรยากาศมากพี่เอ้ย สองข้างทางเงียบสงบ ปรกคลุมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และพงหญ้า รถรานานๆ โพล่มาสักคันหรือสองคัน

“รีบเมานะมึง” พี่มะเดี่ยวส่งเสียงด่าขำๆ

“อ่าว ก็เห็นน้องมันเศร้า กูอยากช่วยไง”

“ครับพี่ ช่วยได้ดี” ผมรู้ว่าก้องมันประชดอะนะ

“เออสาม” ทำไมจู่ๆ ผมขนลุกกับเสียงเรียกของพี่เรย์วะ?

“ครับพี่?” ผมถาม แต่เผลอกระชับมือพี่มะเดี่ยวจนพี่มันต้องหันมามอง

“พี่ถามจริงๆ นะ” เขาเดินถอยหลัง ทำหน้าโหดๆ คนด้านหน้ามีพี่มาร์ช พี่โซฮานและก็พี่แน พวกเราอยู่กลางๆ ข้างหลังเป็นเบิร์ด พีช และวิ่ง

”อ่า...อย่ายากนะ” ยาก...คือตอบได้ยาก คือหาคำตอบลำบาก นั่นคือยากครับ...

“ไม่ยากหรอก แต่ต้องตอบ ได้ปะ” น่ากลัวอะ...แต่ต้องพยักหน้า

“ครับ”

“สามเคยมีไรกับผู้ชายปะ” คำถามนี้พี่มะเดี่ยวเคยถามแล้วถึงจะน่าอายไปหน่อยที่จะตอบ...แต่ก็ไม่ยาก

“ไม่อะพี่ ไม่เคยกับใครทั้งนั้นอะ”

“เฮ้ยยยย จริงดิ ไหนๆ...กูขอดูคนซิงหน่อยดิ” พี่เรย์เข้ามาเดินวนๆ รอบตัวผมที่ยังเดินไปข้างหน้า ตอนแรกไม่อะไรหรอกนะ…ตอนนี้เริ่มรู้สึกแปลกๆ แล้วล่ะ

“เกินไปละไอ้เรย์” พี่มะเดี่ยวผลักหัวเพื่อนตัวเองออก

“อะไรอ่า...ก็แค่ไม่เคยเจอ กูเลยสงสัยว่าคนซิงกับไม่ซิงแม่งต่างกันตรงไหน ก็ไม่เห็นต่าง…แม่งก็คน เนอะ” ว่าจบพี่เรย์ก็เดินมาขนาบข้างแล้วกอดคอผม

“แฮ่มๆ...” พี่มะเดี่ยวส่งเสียง

“อย่างก ไม่แย่งหรอกฟาย” พี่เรย์แม่งก้มหน้าอัปสเตตัส ผมไม่เห็นเพราะเดินอยู่

ครับ...จากนั้นก็เดินมันแบบนี้จนกระทั่งถึงคอนโดจริงๆ ก็มีคุยนั่นคุยนี่กันไปเรื่อยเปื่อย พี่เรย์เป็นคนพูดเก่งมากนะครับ แล้วเขาก็เป็นคอเกมอีกคนหนึ่งเลย ติดที่ผมเล่นคนละเกมกับพี่เขาก็เลยคุยเรื่องเกมกับเขาไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ พี่เรย์ชักชวนให้ลองไปเล่นเกมนู้นนี่นั่นดูบ้าง สนุกนะ อย่างนั้นนะ อย่างนี้นะ ซึ่งผมก็แค่เออออไปตามเรื่องตามราว ไม่ได้สนใจอยากจะเล่นจริง

ใต้คอนโดมีร้านมินิมาร์ทอยู่ พวกพี่เขาแวะซื้อน้ำแข็งและโซดา พี่มะเดี่ยวไม่ช่วยอะไรเพื่อนทั้งนั้น เขายืนจับมือทั้งสองของผมแกว่งไปมาอยู่หน้าร้านรอเพื่อนๆ มันก็ขำๆ อะ ไม่มีประโยชน์อะไร แต่ทำให้เรายิ้มให้แก่กันได้...สบตากัน หัวเราะกัน ก่อนจะโดนคนอื่นแซ็วว่าสวีทออกหน้าออกตาไปหน่อย

“ผมไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวผมตามไป” มาถึงหน้าห้อง ผมก็ขอแยกออกมาก่อนเพราะอยากอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย

“งั้นพี่เอาความรักไปนอนที่ห้องนะ”

“ครับพี่” ห้องเขานั่นแหละ ไม่ใช่ห้องผม แล้วก็ไม่ใช่แค่ความรัก แต่เป็นกระเป๋าของผมเลย

ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแค่ไม่นาน ใส่ขาสั้นกับเสื้อยืดไป หัวก็ยังเปียกๆ อยู่เนี่ยแหละครับ ตากแอร์ห้องพี่เขาสักพักก็น่าจะแห้งไปได้เอง ผมล็อกห้องตัวเองอย่างดี แล้วเคาะห้องพี่มะเดี่ยวสองสามทีพี่แนก็ออกมาเปิด โต๊ะเล็กกลางโซฟาโดนรายล้อมด้วยหนุ่มๆ เก้าคน...รวมผมจะเป็นสิบ เหล้านี่ได้เพิ่มมาจากร้านใต้คอนโดอีก...โอ้โห วันนี้เมาเป็นหมาแน่นอน

“สามมานั่งนี่มา” พี่มะเดี่ยวตบพื้นข้างๆ ตัว บนโซฟาตัวยาวอัดเพื่อนทั้งสองของพี่เรย์และพี่มาร์ชเอาไว้แน่น อีกข้างของพี่มะเดี่ยวเป็นพี่เรย์ ต่อด้วยพี่โซฮาน ก้อง เบิร์ดเป็นวงกลมเลย

“ครับ พี่คอมพ์ผมอะ”

“เรียกหาเกมเลยนะมึง เมื่อวานนี้ก็ไปเกรียนเขา...กูเห็นคนวิ่งไปล่ามึงอยู่ แล้วจู่ๆ มึงก็ตาย เรียกยังไงก็ไม่ตอบ เปลืองใบชุบกูเลย” วิ่งว่ายาว ที่มันมาตอนนั้นผมโดนแย่งคอมพ์ไปแล้วแน่นอน

“พี่แย่งคอมพ์ไปเองอะ ก็เลยตอบเราไม่ได้ เกรียนกันเป็นประจำเลยนะพวกมึง” พี่มะเดี่ยวไขข้อสงสัย

“แฟนพี่อะตัวดี ตบแม่งตั้งแต่เด็กเวลามสิบยันพวกเวลตัน อริมันอะทั้งเซิร์ฟ” ขอบคุณนะวิ่ง ที่แฉกู

“ฮั่นแน่ เห็นเรียบร้อยแบบนี้เกรียนเหรอเราอะ” พี่มาร์ชว่าขึ้นมา ผมก็ได้แต่ยิ้มแฮ่ๆ

“มาก มันอะที่สุดของที่สุด...เล่นจนคนจำมันได้” วิ่งยังไม่หยุดเผา แม้เหล้าจะถูกเบิร์ดเอามาเสิร์ฟคนละแก้วแล้วก็ตาม

“จริงดิ” พี่มะเดี่ยวเหลือบตามอง กูก็ยิ้มตอบไป

“ใช่พี่ เรียกว่าในเกมไม่มีใครชอบมันสักตัว เจอหน้ามันเมื่อไหร่เขาประกาศต่อๆ กันหมด ไม่ถึงห้านาทีมันก็ต้องวิ่งดุ้กๆ หนีชาวบ้านเขา” เรื่องเทพๆ ของกูนี่มึงไม่พูดถึงเลยนะวิ่ง ฝอยแต่เรื่องอนาถของกูเนี่ย

“หนักสุดก็ทั้งกิลมาไล่ฆ่ามันตัวเดียว” จากที่นิ่งไปสักพัก พีชก็เสริม

“กูเก่งอะ” ไม่เป็นไร เราต้องชื่นมื่นกับความเกรียนของเรา พี่มะเดี่ยวคล้องคอผมเอาไว้

“เก่งมาก...ไล่ฆ่าคนในเกมนี่เก่งโคตรเลยเนอะคุณครู” แหงะ พี่อย่ามาว่าผมซี่ ผมก็หาไรทำไปตามเองตามราว

“เท่ออก เวลาเด็กมันเกรียนใส่ก็ท้ามันเจอกันในเกมเลยงี้” ผมจะตบให้ร่วงเลย...ต่อให้ตีผมก่อนด้วย

“เออๆ ความคิดมึงดีมากสาม กำหราบนักเรียนด้วยเกม”

“เนอะ…” ผมยิ้มหวานให้พี่เรย์ที่เข้าอกเข้าใจเดอะสามอย่างผม

พี่เรย์ยกนิ้วโป้งให้ก่อนจะยกแก้วตามเพื่อให้ทุกคนได้ชนแก้วกัน ถึงเวลาตอนนี้จะดึกดื่นมากแค่ไหน ก็ไม่มีใครมีท่าทีที่ง่วงนอน ทันทีที่จิบเหล้า ผมถึงกับต้องเบ้หน้าหนักมากเพราะแม่งโคตรเข้ม ขอมองเหล้าในแก้วแป๊บ...นี่กะกินเพียวกันเหรอครับ แล้วแบบ...แม่งให้หมดแก้ว ผมก็ต้องจำทนดื่มให้หมดรวดเดียว อื้มมมม แทบพุ่ง

“ฮ่าๆ...มึงดูหน้าไอ้สามดิ” เรย์แม่งชี้หน้าผมแล้วหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง คนอื่นก็พานหัวเราะตาม ไม่เว้นแม้กระทั่งพี่มะเดี่ยว

“แก้วแรกมันก็อย่างนี้แหละ เดี๋ยวมันจะอร่อย” พี่มะเดี่ยวว่าขำๆ ผมไม่เห็นทางที่มันจะอร่อยได้เลยนะไอ้รสชาติอย่างเนี่ย

“ครับ” ก็รับคำแล้วขอตัวไปเอาคอมพ์ที่ถูกชาจแบตมาเล่น

ผมเข้าเกมอย่างไม่รีรอ ผมต้องการเวลานี้มาเนิ่นนานเหลือเกิน เข้าสองจอ เน้นตัวเกรียนอย่างแอสซินกับแว้น ในขณะที่คนอื่นเขาพูดคุยเรื่องผู้หญิงกันอยู่ จากเข้าหูแว่วๆ พอตัวละครโหลดเสร็จทั้งคู่ผมก็ไม่ได้ยินเสียงพวกเขาอีกเลย ตอนนี้กำลังวิ่งไปตามทาง เจอคนเมื่อไหร่ก็ยิงมันตายทันที แอสผมเทพกว่าแว้น เอาไว้ชนกับพวกที่ของถึงๆ ส่วนแว้นนี่เอาไว้วิ่งกับยิงตามทาง เด็กน้อยทั้งหลายโดนคนละทีสองทีก็นอนตายแล้วล่ะ

“ไอ้สาม!” จู่ๆ เสียงวิ่งก็ตะโกนขึ้น

“ฮะ?” คนข้างตัวผมเอาแต่หัวเราะ เหล้ารึกัญชาน่ะถามจริง

“พี่เขาถามว่าเคยคบใครมาบ้าง” พีชอธิบาย

“ถามทำไมอะ” จะรู้ไปทำไมครับ? รู้แล้วเต้นเก่งปะ...เต้นเก่งขึ้นแล้วจะบอกได้ไหม

“แฟนมึงอยากรู้”

“เอ้า มาโยนใส่กูเฉย” พี่เรย์ว่าปุ้บพี่มะเดี่ยวสวนปั้บ อ่าว...สรุปใครอยากรู้ครับผม

“เออหน่า ช่างเหอะ...ตอบมา” เมื่อโยนใส่ใครไม่ได้ พี่เรย์ก็เลยปัดๆ ออกแล้วถามย้ำ

“เคยคบใครมาบ้างเหรอ...บอกไปพี่จะรู้จักไหมล่ะ? ผมก็คบกับผู้หญิงและผู้ชายปนๆ กันอะ แต่ส่วนใหญ่ไปกันไม่รอด...”

“เพราะอะไร” พี่เรย์ถามต่อ

“มันติดเกม” ไอ้วิ่งเสือกตอบ

“ก็ประมาณนั้น” แล้วผมก็ไม่ปฏิเสธ แม้ว่าที่จริงแล้วมันจะมีหลายปัจจัยมากก็เถอะ แต่ไม่รู้บอกไปแล้วจะได้อะไร ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องรักๆ เลิกๆ ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ผมชอบพวกเขา...คบกันแต่ก็อย่างที่เคยบอก ผมไม่เคยรู้สึกรักใครแล้วขาดเขาไม่ได้ ทุกคนมีดีนะ แต่ยังไม่มากพอให้จดจำแบบ...ตลอดไป

“มะเดี่ยวจะโดนทิ้งเพราะมึงติดเกมปะ” พี่โซฮานโพล่งขึ้นถาม ผมยิ้ม…

“ผมไม่รู้...ผมไมใช่นักพยากรณ์” เดอะสามเปล่าพูดหาเรื่องคนนะ ก็จริงนี่ ผมจะไปรู้ได้ไงว่าอนาคตผมกับพี่มะเดี่ยวจะเลิกกันด้วยเหตุผลอะไร เรื่องของเวลาที่ไม่ตรงกันและไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันอาจเป็นประเด็นสำคัญก็ได้ ไม่รู้สิ...ผมพูดไม่ถูก

“กวนส้นตีน” น้ำเสียงเคืองขุ่นของพี่โซฮานลอยเข้าหู ผมไม่สนใจ ก้มหน้าวิ่งหาคนฆ่าต่อ

ฆ่าไปได้สองคน เหล้าแก้วใหม่ก็ถูกนำมาเสิร์ฟ ผมต้องดื่มไปเรื่อยๆ มีคุยกับพวกเขาบ้างเป็นระยะๆ พี่มะเดี่ยวยังคงนั่งกอดคอผมไม่ยอมไปไหนแล้วก็ไม่ยอมละมือออกด้วย บางครั้งเขาจะชะโงกหน้ามามอง มักเป็นจังหวะเดียวกับที่คำด่าสารพัดสัตว์เต็มหน้าแชตไปหมด

เสียงเพลงฮิปฮอปถูกเปิดด้วยฝีมือของพี่แน เป็นเพลงที่เข้ากับวงเหล้ามากๆ แต่ผมไม่ได้ตั้งใจฟัง รู้ว่าเพลงฮิปฮอปเพราะจังหวะของมัน แถมตอนนี้ผมก็เริ่มจะตาลายหน่อยๆ กินไปได้สี่ห้าแก้วเองด้วยซ้ำ คำที่เด็กในเกมด่าผมกลายเป็นตัวหนังสือเลือนราง ผมพยายามอ่านแล้ว แต่อ่านไม่ออกจริงๆ

“พี่...มันอ่านว่าไรวะ” ผมสะกิดคนข้างตัวให้ช่วยอ่าน รู้แค่อีกฝ่ายยืนอยู่ในเซฟโซนไม่กล้าออกมา ผมยืนดักฆ่ามันอยู่ไง

“มันบอกว่ามึงอะกาก...ฆ่าแต่กับเด็ก” พี่มะเดี่ยวอ่านให้ฟัง

“ถุยเถอะ...เก่งกว่าแม่งกูก็ฆ่ามาแล้ว อ่อนเองแล้วจะมาเรียกร้อง” ว่าแล้วผมก็พิมพ์ตอบกลับไปอย่างดุเดือด

“เดี๋ยวๆ มึงพิมพ์ผิดเยอะมาก...มานี่ พิมพ์ให้” พี่มะเดี่ยวแย่งผมพิมพ์ อยากบอกว่าดีมากเพราะผมมองคีย์บอร์ดไม่ชัด รู้แน่ๆ แค่อันไหนสกิว

“เมาแล้วปากหมานะมึง...” พี่เรย์เอ่ยขึ้นลอยๆ ผมเงยหน้ามองพร้อมยิ้ม

“สุภาพแล้วนะเนี่ย” ว่าลอยหน้าลอยตา

“เหรอ…เมียมึงเมาแล้วเอาไปเก็บดิ้” ผมเงยหน้ามองพี่มะเดี่ยว ซึ่งเขาก็แค่ยิ้มแล้วโยกหัวผมเบาๆ พี่เอ้ย…แค่นี้ก็เวียนหัวจะแย่แล้ว ยังจะมาโยกหัวกันอีก

ผมเอนหัวพิงพี่มะเดี่ยวไว้เพราะรู้สึกหนักหัวตัวเองมาก เกมก็ช่างหัวมันเหอะ ตาลายวะ เล่นไม่ไหวแล้ว แต่เหล้านี่ยังยกอยู่นะ นั่งฟังพวกพี่ๆ เขาคุยกันไป หัวเราะกันไปหรือแม้แต่แกล้งกันนิดๆ หน่อยก็มี เรื่องส่วนมากที่คุยก็เป็นเรื่องใต้สะดือเสียส่วนใหญ่ ยิ่งหนังโป๊นี่ใครๆ ก็แย่งกันพูดประหนึ่งตัวเองเป็นกูรูด้านนั้น ผมละอยากจะบอกว่าหนังจีวีก็แซบไม่แพ้หนังเอวีนะพี่นะ ฝ่ายรับผิวขาวตัวเล็กน่าร้ากกกกกน่ารัก ครางทีนี่ก็เสียวไข่เหมือนกัน...

อืม...ผมเริ่มทะลึ่งแล้วแหละ ไม่ดีไม่งาม ผมยกเหล้าต่อเพื่อดับความคิดบ้าบอในหัว แล้วนี่คนชงเขาเมาเหมือนกันเหรอ ทำไมเหล้ามันเข้มกว่าเดิมอีกวะ แล้วไอ้ที่ว่ายิ่งกินจะยิ่งอร่อยเนี่ย...ไม่จริงเลยอะ แม่งไม่เห็นอร่อย ไหนๆ ชิมใหม่…อืม ไม่อร่อย

“ไปนอนไหมสาม” พี่มะเดี่ยวก้มมาถาม ผมพยักหน้านิดหน่อย...นอนก็ดี

“ไปนอนห้องผมนะ” เสียงมันดังอะ แล้วห้องนี้เผื่อพี่ๆ เขานอนกันด้วย

“เอางั้นเหรอ...”

“อืม เอางั้น”

“งั้นปะ…เดี๋ยวกูพาน้องนอนก่อนนะเว้ย” เหล้าหมดไปเท่าไหร่ไม่รู้ กี่โมงกี่ยามก็ไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้โคตรมึนเลยวะ…เหมือนตัวเองไม่เป็นตัวเอง พี่มะเดี่ยวดึงผมให้ยืนขึ้นก่อนจะจูงมือกันออกมาจากห้อง

กุญแจห้องก็อยู่ในกระเป๋ากางเกงผมเนี่ย ผมหยิบออกมาด้วยท่าทางเงอะงะ กว่าจะล้วงได้พี่มะเดี่ยวแทบจะล้วงให้แล้วไหมละ ผมพยายามเพ่งมองทางในห้อง มันมืดมากเพราะผมไม่ได้เปิดไฟเอาไว้ พี่มะเดี่ยวปิดประตู คิดว่าเขาจะเปิดไฟ ที่ไหนได้...

“อื้ม...” พี่เขากลับรวบร่างของผมเอาไว้พร้อมทั้งป้อนจูบรสเหล้า ร่างเราซวนเซเรื่อยๆ...รู้ตัวอีกทีก็พบกับความนุ่มและกลิ่นห้องนอนที่คุ้นเคย

….100%….

ขนาดนี้แล้ว…งานเสียตัวต้องมาค่ะ!

แต่ว่าน้า………อยากเขียนดราม่าจังเลยค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 45 [100%]❤️ -16/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-12-2017 20:41:55
 o22 o22

แง่งงงงงง อย่าดราม่าาาาาเลย


 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 45 [100%]❤️ -16/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 17-12-2017 01:02:04
น้องสามจะโดนพี่จับกินไหมนะ  :hao7:
อย่าดราม่าเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 45 [100%]❤️ -16/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-12-2017 01:49:58
 :hao7: o13 :hao7:



 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 45 [100%]❤️ -16/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 17-12-2017 09:00:37
รอสามโดนกดอิอิ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 45 [100%]❤️ -16/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 17-12-2017 19:41:30
 :-[
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 46 [100%]❤️ -18/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 18-12-2017 18:58:24
>>ตอนที่ 46 [100%]<<

“แฮ่ก...” เราสบตากันผ่านความมืด ทั้งที่มึนเบลอไปหมดเพราะเมา...แต่ก็เห็นดวงตาหื่นกระหายของพี่เขาอย่างชัดเจน

ฝ่ามือหนาลูบไล้กรอบหน้าผมแผ่วเบา ตามด้วยริมฝีปากไล่จูบ ความนุ่มนิ่มและร้อนผ่าวของเขาปัดเป่าสติที่มีน้อยนิดให้ปลิวกระจายออกไปจากหัว ผมทำได้แค่นอนอยู่ใต้ร่าง รับสัมผัสวาบหวิวจากพี่มะเดี่ยว ไม่อาจต้านทานได้เพราะร่างกายเองก็มากไปด้วยความต้องการ

นิ้วโป้งหยุดที่ริมฝีปาก เกลี่ยไปมาเบาๆ ขณะที่เราสบตากันผ่านความมืดมิดของห้องนอน ความเย็นของแอร์ที่เพิ่งถูกเปิดโรยตัวลงมาช้าๆ เพื่อดับความร้อนของร่างกาย มันก็ดับได้แค่ด้านนอกนั่นแหละ ด้านในมันกลายเป็นไฟโหมกระพือไปแล้ว...

อะไรไม่รู้ทำให้ผมแลบลิ้นเลียนิ้วโป้งของพี่เขาเบาๆ แล้วมันก็หยอกเย้าผมก่อนที่ลิ้นของอีกคนจะแตะลงมา เรามอบจูบให้กันอีกครั้ง ความสากของมือไล้ลงไปด้านลำตัวเบาๆ แทบไม่รู้สึกถึงมันเลยจนกระทั่งจุดอ่อนไหวบนอกได้รับการกระตุ้น

“อื้อ...” มันเป็นไปเอง...ร่างกายมันขยับไปเอง ผมแอ่นอกเข้าหาสัมผัสนั้นพร้อมทั้งยังตอบสนองพี่เขาด้วยเรียวลิ้น

“พี่ขอนะ...” มันเป็นคำพูดเบาๆ ผมตีความไม่ค่อยได้ แต่ลึกๆ ผมรู้สึกว่า...ผมคงหนีวันนี้ไปไม่พ้น

พี่มะเดี่ยวละริมฝีปากออก เขาแนบมันกับแก้ม สันกรามและไล้ต่ำลงไปเรื่อยๆ ขนในกายผมลุกชันด้วยความหวิวที่โถมเข้ามา มันเสียววูบไปหมดแล้วก็เกร็งจนสั่น ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง...กลัวแต่ก็เต็มไปด้วยความอยากและต้องการ

“ฮะ...อื้อ....พี่มะเดี่ยว” จากสองมือตรึงอยู่ไหล่ ผมละแล้วจับที่หัวของพี่เขาแทน...ความสยิวจุดเล็กบนอกนั้นระรัวเกินไป ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้...ไม่เคยโดนทำให้รู้สึกมากแบบนี้

เสื้อยืดถูกจับถอดออกจากร่างกายพร้อมๆ กับกางเกงและชั้นใน มันอาย...แต่มันต้านทานอะไรไม่ได้ ผมทอดสายตาพล่าเบลอมองพี่มะเดี่ยวที่กำลังเปลือยกายไม่ต่างกัน หัวใจเต้นรุนแรง มันระรัวอยู่ในอก อึดอัดแต่ก็รู้สึกดี...

ร่างใหญ่ทาบทับลงมาที่ตัวของผมอีกครั้ง ผิวเรียบลื่นที่สัมผัสกันและกันเพิ่มความร้อนรุ่มได้อย่างมหาศาล พี่มะเดี่ยวป้อนจูบหวานๆ ให้พร้อมกับใช้มือตัวเองสำรวจร่างกายของผม มันไม่ใช่จูบที่ยาวนานนัก ครู่เดียวก็เลื่อนไปยังจุดอื่นๆ ในร่าง...

ผ้าปูกับศรีษะของพี่เขาเท่านั้นที่ผมพอจะยึดเอาไว้เป็นหลักให้ร่างกายตัวเองได้ ดวงตาพล่าพยายามจับจ้องการกระทำของพี่มะเดี่ยวทุกอย่าง ตั้งแต่เขาจูบซับที่แผ่นอก เล่นกับยอดอกเล็กทั้งสองก่อนจะลากลิ้นตัวเองลงไปจนเกือบถึงตรงนั้น ความหวิวชวนขนลุกขนชันทำให้ผมรีบหุบขาตัวเองเหมือนหนี แต่ไม่ได้ พี่เขากดต้นขาของผมเอาไว้แล้วหยอกล้อบริเวณรอบๆ...นั้น

“อื้อ...พี่” ไม่รู้แล้วว่าตอนนี้มีส่วนไหนในร่างกายไม่เกร็งอยู่บ้าง ผมปวดไปหมด…อยากถึงจุดหมาย ทว่าเมื่อเอื้อมมือไปจับของตัวเอง พี่มะเดี่ยวกลับปัดมือผมออก เขารวบมือทั้งสองของผมขึ้นตรึงเหนือหัว

“พี่แกล้งผม...” น้ำตาคลอหน่วง

“อืม พี่แกล้งเรา” แล้วลิ้นสีแดงสดนั้นก็ซอกซอนเข้ามาในปากของผมอีกครั้ง

“ฮะ...อื้มพี่...อื้มๆ” ถึงจะแกล้งแต่ก็เอ็นดู พี่มะเดี่ยวใช้มือตัวเองลูบไล้ไปตามความยาวก่อนจะกำมันและรูดรั้งเบาๆ

“ทำให้พี่บ้าง” เสียงกระซิบชิดริมฝีปากเหมือนมนต์สะกด ผมเอื้อมมือไปจับส่วนร้อนฉ่านั้นเอาไว้ในมือตัวเองแล้วก็ทำเหมือนที่เคยทำกับตัวเอง

ทว่ามือมันไม่ค่อยมีแรงเลย ยิ่งพี่มะเดี่ยวปรนเปรอสัมผัสแสนสยิวนั้นให้มากเท่าไหร่ ผมก็มีแต่จะแอ่นร่างเข้าหา...แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสะโพกบางของผมนั้นตอบสนองพี่มะเดี่ยวได้น่าอายขนาดไหน ด้วยความเขินอาย...ผมใช้มือที่ยังว่างคล้องคอพี่มะเดี่ยวเอาไว้แล้วบดปากจูบไม่ยอมคลาย

ไม่อยากให้มอง...ไม่อยากให้เห็น ผมกลัวว่าตอนนี้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความต้องการของมันจะน่าเกลียด ผมกลัวพี่มะเดี่ยวไม่พอใจ กลัวพี่เขาไม่ประทับใจ และอะไรอีกหลายอย่าง...มันอาจมีความต้องการมากกว่าความกังวล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมก็กังวลอยู่ดี

ผมยิ่งกอดรัดร่างของพี่เขาแนบขึ้นไปอีกเมื่อผมรู้ว่าตัวเองกำลังจะไปถึงในอีกไม่ช้านี้ ทว่าริมฝีปากของผมกลับหยุดนิ่ง ตอบสนองพี่เขาต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ มันมีแต่จะถึง...จะไม่ไหวแล้วเต็มหัวไปหมด แล้วในที่สุดผมก็ปล่อยน้ำตัวเองใส่มือพี่เขา....

สมองอันว่างเปล่าแทบจะดับไปแล้วถ้าไม่ได้รู้สึกถึงนิ้วที่ลูบอยู่ช่องทางนั้น นี่เป็นอีกความกลัวของผม...แต่ผมไม่มีสิทธิ์ได้บอก พี่มะเดี่ยวสอดนิ้วเข้ามาในร่างของผมเสียก่อน

“อื้อ...มะไม่เอา”

“นะ...พี่ขอนะครับ” แล้วก็พูดไม่ออกอีก แววตาเว้าวอนกับความต้องการที่มันเอ่อล้นออกมาของเราทั้งคู่ ทำให้ผมจำยอม...

พี่มะเดี่ยวคลอเคลียริมฝีปากป้วนเปี้ยนอยู่ที่หน้าและตาของผมไม่ไปไหน เสียงหายใจถี่ๆ ของเขาปะปนกับของผมอย่างช่วยไม่ได้ ผมรู้สึกแปลกๆ...มันไม่ได้แย่แต่มันก็บรรยายไม่ถูก ได้แต่อดทน ปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปเรื่อยๆ ตามทางที่ควรจะเป็น...

ผมใช้สมองให้น้อยที่สุด เพราะมันก็ใช้การไม่ค่อยได้มากนัก กลายเป็นร่างกายร้อนๆ และความรู้สึกล้วนๆ ที่ทำงานอย่างหนัก มันทั้งทรมานเหมือนจะจมลงไปในน้ำ...อึดอัด ทรมานแต่มันก็มีความสุข สัมผัสของวงแขนแข็งแรงโอบกอดรัดร่างของผมเอาไว้ไม่ยอมคลาย เหมือนจะทะนุถนอมผมเอาไว้ในขณะที่เขาเองก็กำลังชำแรกเข้ามาในร่างกายของผม

ปากคลอเคลียกันไม่ห่างเป็นเหมือนยาชั้นดีที่คลายทุกความกังวล มันค่อยๆ เจือจางลงแล้วก็ซึมซับแต่ความรู้สึกมีความสุขจากการได้กอดก่ายกันเอาไว้แบบนี้ เนื้อแนบเนื้อ...มอบความอุ่นร้อนให้กันและกัน ทำตัวเองให้เหมือนผ้าห่มหรือเครื่องทำความอุ่น...มันอาจจะร้อนไป เหงื่อกาฬถึงได้ซึมไหลตามมัดกล้ามเนื้อได้ขนาดนี้ แต่แปลก...มันเป็นความร้อนที่หอมหวานเหลือเกิน

อาจเป็นเหล้าก็ได้...ที่ทำให้เรามากันไกลขนาดนี้

ผมแทบไม่รู้สึกเลยว่าพี่มะเดี่ยวสอดเข้ามาในร่างผมเท่าไหร่...หรือทำยังไงกับส่วนนั้นของผมบ้าง สมาธิเพียงอย่างเดียวของผมตอนนี้ก็คือลิ้นของเราที่พัวพันกันไม่ยอมห่าง ตาสบตาแม้มันจะมืดแค่ไหนในห้อง....แล้วเรียวนิ้วของมือข้างหนึ่งที่กำลังสอดประสานกัน

ไม่มีคำหวาน...ไม่มีคำกล่อม มีแต่สัมผัส และความรู้สึกเท่านั้นที่อบอวลอยู่ในสมองและร่างกาย ผมรับรู้ได้ถึงความต้องการอันมากมายของตัวเองและพี่เขา รับรู้ถึงความอยากกระหายในร่างกายของกันและกันอย่างแจ่มชัด มันน่าอายเหลือเกิน...แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้ ผมต้องการพี่เขา

“ฮะ...อ๊า....” บางสิ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าและร้อนกว่าชำแรกเข้ามาในตัวของผมช้าๆ สร้างความเจ็บปวดและตึงเครียดให้กับผม...แต่พี่มะเดี่ยวก็ช่วยดึงสติให้กลับมาอยู่ที่ริมฝีปากของเขา

จูบที่ถูกป้อนให้ไม่ขาด ไม่ได้ทำให้ผมรับรู้ถึงตัวตนของเขาน้อยลงแต่อย่างใด กลับกัน...ผมสามารถรับรู้ถึงมันได้ดี เข้ามาถึงไหนและตัวเองเจ็บปวดแค่ไหน ทว่าพี่มะเดี่ยวประคับประครองผมผ่านจุดนั้นมาได้อย่างดีแม้ไม่ต้องพูดอะไรเลยก็ตาม

เรากอดกันและกัน...โอบวงแขนไปที่ตัวแล้วรัดมันเอาไว้เหมือนเชือกหนาๆ เส้นหนึ่ง มันเป็นเชือกที่ไม่ได้สร้างความร้าวราน แต่มันสร้างความอบอุ่นใจให้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดและรู้สึกดีอาบไหล พี่มะเดี่ยวผละริมฝีปากเพื่อเลียมันจนกระทั่งจุมพิตเข้าที่เปลือกตาบางทั้งสองข้างของผม รับรู้ได้ถึงความเอ็นดูและรักใคร่...รับรู้ได้ถึงความหวงแหนและต้องการไปพร้อมๆ กัน

มันเริ่มเคลื่อนไหว...เชื่องช้าเหมือนตอนที่มันเข้ามา เมื่อมันออกแล้วย้ำหนักในร่างกายอีกครั้ง ผมกลับรับรู้ได้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่ไม่ใช่แค่เจ็บปวด...มันเป็นความวาบหวิวเอ่อท้นร่างกายจนผมเองตอบสนองกลับไปอย่างไม่อาจทานได้

ไม่เร่งเร้าแต่หนักหน่วง พี่มะเดี่ยวสอดประสานเข้ามาหนักแน่นและมั่นคงเสมอ น้ำตาเหือดหาย กลายเป็นลมหายใจเข้าออกถี่รัว ริมฝีปากที่จากไปเมื่อครู่ย้อนกลับมาหาผมอีกครั้ง เราจูบกัน...ในขณะที่ร่างกายหลอมรวมเป็นของกันและกัน

“อ๊า...อื้ออ๊ะ...อ๊า...” เสียงครางผะแผ่วหลุดออกเพราะไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น ผมพยายามสบตากับพี่เขา มองดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนานั้น

“อื้ม...พี่รักเรานะครับ...รัก...อ่า...เรานะ” มันเริ่มรุนแรงขึ้น...เหมือนจังหวะเพลงที่กำลังเข้าท่อนฮุกไปทุกที...

“ครับ...ผมรักอึ้ก...พี่” แล้วผมก็ตอบกลับ พี่มะเดี่ยวดึงร่างของผมขึ้นนั่งทั้งที่เรายังคงขยับไหว

สองมือของสองเราสอดประสานไปตามเส้นผมของกันและกัน มันมั่วซั่วและเละเทะในความรู้สึกผม ทว่ามันกลับเพิ่มความต้องการที่มีมาก...เหมือนมันเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งว่าเรารู้สึกอย่างไร ผ่านการสัมผัส ผ่านการเสียดสีและโอบรัด

ในที่สุดผมก็ขึ้นมาอยู่บนตักของพี่เขา ร่างไหวขึ้นลงถี่ๆ ผมกอดคอหนาเอาไว้พลางซบหน้าลงที่ศรีษะอีกฝ่าย  พี่มะเดี่ยวทั้งกัด...ทั้งจูบบริเวณคอของผมและบางครั้งเขาจะบดขยี้ยอดอกด้วยเรียวลิ้นที่เกร็งแข็ง

เขากำลังบีบบี้ขยี้อารมณ์และความต้องการในตัวผมให้แหลกสลาย ฝ่ามือสากกอบกุมความเป็นชายผมเอาไว้ในจังหวะที่มันระรัวขึ้น ผมหอบฮัก หายใจแทบไม่ทันเพราะทุกอย่างกระชั้นเหลือเกิน มันเป็นความอึดอัดที่รู้สึกดี...แล้วผมก็ต้องการให้มันรุนแรงขึ้น มากขึ้นไปอีก...เพื่อจะได้ไปถึงจุดที่ตัวเองแตกพล่าน

พี่มะเดี่ยวกอดร่างของผมแน่นขึ้น กล้ามเนื้อทุกส่วนที่เสียดสีกันนั้นเกร็งไปหมดผมรับรู้ได้...เหมือนกับที่ผมเองก็กำลังเป็นอยู่ บางอย่างที่รู้สึกดีภายในโดนกระตุ้นย้ำๆ ซ้ำๆ พร้อมกับภายนอก ผมไม่ไหวแล้ว...ผมรู้สึกอ่อนแรงที่จะทนทานมันอีกต่อไป

“ฮึ้ก...พี่...ผม...อ๊า...อ๊ะ...ไม่ไหว...แฮ่ก...ผมจะไป...อื้ม” พี่มะเดี่ยวรั้งหัวผมให้ก้มลง เขาเอาลิ้นตัวเองสอดเข้ามาทันทีพร้อมกับความรุนแรงที่ถาโถม

ผมปล่อยร่างกาย...ปล่อยทุกอย่างให้ไหลไปกับคลื่นของอารมณ์ ในที่สุดความร้อนรุ่มในกายก็แตกพล่านเหมือนกับมีอะไรระเบิดอยู่ในตัว มันเป็นจังหวะเดียวกับที่เรากอดกันแน่นมากๆ...ร่างกายเราสั่นระริกทั้งคู่ ลมหายใจอันหอบหนักค่อยๆ ผ่อนลง...ทีละน้อย...ทีละน้อย

ร่างผมถูกประครองให้นอนลงบนที่นอนนุ่ม พี่มะเดี่ยวไม่ได้จากไปไหน ยังคงกอดผมเอาไว้และคลอเคลียปากด้วยปาก รับรู้ถึงความเหนอะหนะ...มันเหนียวตัวไปหมดแล้วก็น่ารำคาญมาก ทว่าผมไม่อาจลุกไหว...ดวงตาหนักอึ้ง แต่ยังเห็นใบหน้าและแววตาของพี่มะเดี่ยวอย่างชัดเจน

“เป็นของพี่แล้วนะ” เสียงทุ้มเอ่ยบอก...

“พี่ก็เป็นของผม...” และผมก็ตอบกลับ

แอลกอฮอล์ในร่างอาจยังไม่หมดไป เพียงจูบหวานๆ กลับทำให้ความต้องการตื่นขึ้นได้อีกครั้ง ผมเพลีย พี่เขาก็เพลีย แต่เรากลับไม่ห้ามความอยากที่เริ่มเกาะกินสมองและความคิด พี่มะเดี่ยวลูบไล้ส่วนนั้นของผมอีกครั้ง จับมันบีบนวดไปพร้อมกับสะโพกที่สาวเข้าออกเบาๆ เพียงเท่านั้นสติของผมก็เตลิดเปิดเปิงไปอีกครั้งแล้ว

“ต่อนะ...”

“อื้อ” ความนุ่มนวลอ่อนหวานในคราแรกเจือจางไป ตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยความร้อนแรงที่แผดเผา

พี่มะเดี่ยวจับยึดสะโพกของผมเอาไว้ ดวงตาแพรวพราวนั้นจับจ้องมาที่ผม...ผมที่นอนดิ้นพล่าน จิกผ้าปูที่นอนด้วยอารมณ์ล้นทะลัก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันรู้สึกดีเหลือเกิน ความเสียวซ่านที่โถมใส่นั้นรุนแรงและเกรี้ยวกราด

เสียงเฉอะแฉะของน้ำ...และเสียงครวญครางของผมปะปนกันไปกับแอร์ที่เย็นฉ่ำ ทุกส่วนในร่างกายมีความสุข...ไม่เว้นแม้กระทั่งจิตใจของผมเอง ยิ่งได้มองดูใบหน้าของพี่มะเดี่ยว ยิ่งได้ยินเสียงพ่นลมหายใจกระหายหื่นนั้น ผมก็ยิ่งรู้สึกมีความสุข...รู้สึกได้รับความรักที่มากล้นจากเขา

มันก็คงเป็นแค่อารมณ์หนึ่ง...แต่ผมชอบอารมณ์เหล่านี้

ครั้งนี้ทั้งที่ถนอมแต่กลับเร่งเร้าเอาแต่ใจไปพร้อมกัน ผมแทบดิ้นพล่าน...แทบขาดอากาศหายใจตายเพราะความสุขที่ได้รับมา ผมชอบที่ไม่ว่าครั้งไหนที่ผมเอื้อมมือไปหาเขา ผมจะได้รับร่างกายกำยำเข้าอ้อมกอด พี่มะเดี่ยวกอด หอมและจูบปากผมย้ำๆ อยู่อย่างนั้นทุกครั้งที่ผมต้องการ

เสียวซ่านจนเหนื่อย...

ครางจนเสียงแหบ...

เกร็งทั้งร่างจนอ่อนแรง...

แต่เคยไหม...ที่เหนื่อยแค่ไหนก็หยุดมันไม่ได้เลย

“ฮึ้ก…พี่ครับ…อ๊ะ…อ๊า…” จำไม่ได้ว่าผมไปครั้งที่เท่าไหร่...แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ผมไม่อาจลืมตาไหว พี่มะเดี่ยวเร่งตัวเองอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ทิ้งตัวลงมากอดผมเอาไว้แนบแน่น...

“พี่รักเรา…”

“ครับ…ผมรักพี่” พยายามปรือมองเขา เราสบตากันพร้อมจูบนุ่มนวลเบาๆ

มือสากไล้แก้มผมเบาๆ จูบหน้าผากผมอีกทีแล้วถึงได้ย้ายร่างมานอนเคียงข้าง พี่มะเดี่ยวจับผมนอนหนุนแขนของเขาเอาไว้แล้วโอบกอด ผมกอดตอบ...เหนื่อยอ่อนจนคิดอะไรไม่ออก

“นอนซะ…พี่ไม่ทำแล้ว” ผมพยายามเงยหน้ามองเขา

“แหงสิ พี่ทำผมจนอ่วมแล้ว” ถึงเหนื่อยแต่ก็ยังไม่วายบ่นเขานิดหน่อยเบาๆ

“หึหึ...นี่แค่เบาะๆ เองนะน้องสาม”

“ผมไม่อยากคิดว่าถ้าไม่เบาะมันจะเป็นยังไง” ผมค่อยๆ หลับตาลง

“อยากลองไหมล่ะ...” พี่เขากลับกระซิบที่ใบหู ผมขนลุก..หดคอหนี

“ไม่เอาครับพี่...”

“ว้า เสียดายจัง ฝันดีนะครับ…” สัมผัสนุ่มแตะลงที่หน้าผากผมแผ่วเบา

“ฝันดีครับ” ผมฝืนเงยหน้าจูบปากเขาบ้าง รับรู้ถึงรอยยิ้ม แต่ไม่อาจมองมันได้ไหว เพราะตอนนี้ผม…ง่วงจังครับ

….100%….

จงบอกความรู้สึกของคุณ…?

เอร้อยยยยยเขินอะ!  :ruready
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 46 [100%]❤️ -18/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-12-2017 20:12:48
 :m25:

อันความหื่นนั้น พอกันเลย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 46 [100%]❤️ -18/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 18-12-2017 20:31:37
โดนกินจนได้ ><
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 46 [100%]❤️ -18/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 18-12-2017 20:32:30
 :impress2: :man1: :impress2:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 46 [100%]❤️ -18/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-12-2017 08:51:49
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 46 [100%]❤️ -18/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 19-12-2017 11:18:52
 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 47 [100%]❤️ -19/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 19-12-2017 19:42:28
>>ตอนที่ 47 [100%]<<

เสียงพูดคุยของคนด้านนอกดังแว่วเข้ามาในห้อง ผมปรือตาขึ้นนิดหน่อยก่อนจะต้องหลับตาลงอีกครั้งเพราะความรักมันปีนขึ้นมาดมที่หน้าที่ตา ผมพยายามปัดมันออก อยากจะบ่นเบาๆ ด้วยซ้ำแต่รู้สึกเจ็บคอเป็นบ้า...

เมื่อคืนนี้...มันเลือนรางทว่าชัดเจน

ผมกับพี่มีอะไรกันแล้ว...อ่า หัวใจเต้นแรงไปหมดเลย จะมองหน้ากันติดไหม ผมต้องทำหน้ายังไงเมื่อพี่เขากลับเข้ามาหา รู้สึกทำตัวไม่ถูก คนรักที่เพิ่งมีค่ำคืนแรกเขาทำอะไรกันในเช้าวันถัดไปเหรอ...

“ตื่นแล้วเหรอครับ” อ่า...ให้ผมทำใจก่อนค่อยโพล่มาได้ไหมพี่

พี่มะเดี่ยวเดินเข้ามานั่งข้างเตียงฝั่งที่ผมนอน มือสากที่จำได้ดีว่าลูบไล้ร่างกายไปทั่วทั้งร่างของผมกำลังแตะลงตรงหน้าผาก เขาเสยเส้นผมปรกใบหน้าออกให้ด้วยความอ่อนโยน ผมแทบไม่กล้ามอง แต่มันอดไม่ได้...มันเผลอเงยหน้าสบตาเขา

“หน้าแดงไปหมดเลย เขินอะดิ” ไม่ว่าเปล่า จิ้มจมูกผมด้วย

“ครับ” ก็ไม่มีเหตุจำเป็นต้องโกหก ผมเขินก็บอกว่าเขินไง

“ฮ่าๆ น่ารักจัง...” พี่มะเดี่ยวโน้มมาหอมแก้มทั้งซ้ายและขวาก่อนจะจูบปากผมเบาๆ

มือสากหนาสอดเข้ามาที่ท้ายทอย เขาประครองมันเอาไว้ขณะสอดลิ้นตัวเองเข้ามาในโพรงปาก ผมไม่ชินหรอกแต่ก็จูบตอบเขาไป ถ้าพี่มะเดี่ยวทำแบบนี้เพื่อผ่อนคลายควมตื่นเต้น ผมบอกเลยว่ามันไม่ได้ผลเพราะตอนนี้ผมตื่นเต้นยิ่งกว่าเก่าเสียอีก หัวใจระรัวอยู่ในอก เต้นหนักถึงขนาดที่ผมเหมือนจะหายใจไม่ออก

“ลุกไหวไหมครับ...” ก่อนจะขาดอากาศ พี่มะเดี่ยวถอนริมฝีปากออกอ้อยอิ่งแล้วถามเบาๆ หน้าเห่อร้อนไปหมด...พูดแบบนี้มันน่าอายนะ

“ไหวครับ” มั้งนะ…ไม่รู้ดิ ทำกันครั้งแรกแล้วมันจะลุกไม่ขึ้นหรอ

“งั้นลุกมากินข้าวกัน เที่ยงแล้ว” หา...เที่ยงแล้วจริงดิ

“แล้วงานผม”

“พี่ลางานไว้ให้แล้วไง กะว่าจะพาเราไปเที่ยว...คงไม่ได้ไปแล้วล่ะ” พี่มะเดี่ยวลูบหัวผมอยู่ตลอดระหว่างที่อธิบาย ผมพยักหน้าเบาๆ นึกออกแล้วล่ะที่พี่เขาพยายามเร่งงานเพื่อจะได้พาผมไปเที่ยววันอาทิตย์นี้

ผมตั้งท่าจะลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะยืนต้องนั่งก่อนใช่ไหมล่ะ...เพียงขยับเท่านั้น ผมรู้เลยว่าผมลุกไม่ไหวแล้วล่ะ ฮื่อ ทำไมมันปวดสะโพกขนาดนี้ล่ะ ผมลองเอามือตัวเองสอดเข้าไปบีบๆ นวดๆ...ปวดมาก และผมก็อยู่ในชุดนอนไม่ได้เปลือย

“พะ....พี่...”

“พี่เช็ดตัวแล้วก็ใส่เสื้อผ้าให้ไง...กลัวเรานอนไม่สบาย แล้วนี่ลุกไม่ไหวอะสิ พี่ขอโทษน้า...” เอ่อ ไม่ต้องขอโทษก็ได้มั้งพี่ ยิ่งพูดก็ยิ่งอายวะ

“ไม่เป็นไรครับ”

“เดี๋ยวครั้งหน้าพี่จะพยายามเบากว่านี้” น่าน...โอ้ย ทำไมมันต้องเขินบ้าเขินบออะไรขนาดนี้วะไอ้สาม หน้ามึงไหม้หมดแล้วเนี่ย

“อ่า...”

“ฮ่าๆ เรายังไม่ชินพี่เข้าใจ ลุกไม่ไหวก็ไม่เป็นไร...เดี๋ยวพี่เอาข้าวมาให้ รับรองว่ามื้อนี้สามจะกินอย่างชื่นใจ”

“นั่นข้าวหรือไอติม” ก็ไอติมกินแล้วชื่นใจ

“บ้า ข้าวดิ” อ่า...ไมต้องเขกหัวผมด้วยล่ะ

พี่มะเดี่ยวเดินออกไปข้างนอก ไอ้ความรักผู้รักป๊ามันดั่งดวงใจก็รีบกระโดดลงจากที่นอน วิ่งตามเขาไปด้วยสองขาสั้นๆ นี่...ป๊ามึงนอนแหง่กอยู่นี่นะโว้ย ฮึ้ยยยย ขัดใจกับความรัก ผมต้องจับมันมาอบรมสั่งสอนเสียหน่อยละมั้งแบบนี้ คือบางทีผมก็น้อยใจที่มันรักผมน้อยกว่าพี่มะเดี่ยวอะ จริงว่าพี่มะเดี่ยวเป็นแฟนผม...แต่ผมเข้ามาในชีวิตความรักก่อนพี่มะเดี่ยวถูกปะ แบบนี้ไม่แฟร์...งอน

พี่เขาเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมถาดใส่อาหาร ผมไม่เห็นของกิน ตอนนี้มองความรัก มันคาบมะม่วงครึ่งดิบครึ่งสุกเข้ามาในห้อง สีหน้ามีความสุขมาก...ไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลยว่างั้นเถอะไอ้หมูบ้า

“เอ๊ะ...” แต่แล้วความสนใจของผมก็หลุดออกจากความรักมาที่ของกิน แพ่งมองดีๆ แล้วจะเห็น...นั่นมันซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง!!!

“น้ำลายไหลแล้ว” หน้าผากโดนจิ้มไปหนึ่งที พี่มะเดี่ยวเอาถาดอาหารวางไว้ข้างเตียง จับผมให้ค่อยๆ นั่งพิงหัวเตีงก่อนจะเอาถาดอาหารมาวางไว้

“เอามาจากไหน”

“ไปขโมยมา” กวนตีน...พี่เป็นแฟนผมก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ด่าพี่ในใจนะฮ่าๆ

“ก็ไปซื้อมาเนี่ยแหละ เราน่าจะชอบก็เลยเอามาด้วย” ชอบดิ หมูเลยนะเว้ย...หมูเลยนะ!

ทุกครั้งที่เรากินข้าวด้วยกันผมจะไม่ซื้ออะไรที่มีหมูมา ยิ่งพี่มะเดี่ยวเป็นคนซื้อด้วยยิ่งไม่ต้องมองหาเมนูหมูเลยครับ มันจะมีแต่ไก่ ปลาอาหารทะเลประมาณนั้น แล้วเราก็กินข้าวด้วยกันเสียส่วนใหญ่ นอกจากมื้อเที่ยงที่ผมจะไปกินกับเพื่อน นั่นล่ะถึงมีสิทธิ์หาเมนูหมูมากิน

“ปลอบใจคนป่วยหน่อย”

“ผมเปล่าป่วยนะ”

“ก็ลุกไม่ขึ้นปะละ” เออ ไม่เถียง...อายด้วย

ก้มหน้าก้มตากินข้าวไปเดอะสาม อย่าไปโต้เรื่องพวกนี้เลย เรามีแต่เสียกับเสียเพราะผมไม่รู้จะไปเถียงสู้แกยังไง แค่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็หน้าร้อนไปหมด รู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของคู่รัก แต่แบบ...มันก็อายอะ

ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้งอร่อยมาก พี่มะเดี่ยวไม่แย่งผมกินเพราะเขากินแต่กะเพราไก่และไข่ลูกเขย กับข้าวเรามีแค่นี้แหละครับ แป๊บเดียวข้าวในจานผมก็หมด ผมยังไม่หยุดกิน แทะกระดูกหมูเนี่ยแหละเล่น ส่วนกับอันอื่นปล่อยเอาไว้ เผื่อจะเอาไว้กินมื้ออื่นอีก พอเรียบร้อยทุกอย่างแล้วพี่มะเดี่ยวก็เอายามาให้กิน ผมก็ไม่เข้าใจทำไมต้องกิน...เป็นยาแก้อักเสบอะ อาจจะ...ส่วนนั้นอักเสบ

อ๊ากกกกกก แค่คิดก็แทบบึ้มตัวเองให้ตายกลายเป็นไอน้ำลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ

พี่มะเดี่ยวเอาทุกอย่างไปเก็บล้าง ความรักตามไปเช่นเคย ไม่อยู่กับป๊ามันเลยถ้าพี่มะเดี่ยวไม่อยู่ด้วย ช่างหัวแม่ง งอน ผมไถลตัวลงนอน เอาผ้าห่มคลุมจนถึงริมฝีปากล่าง ทอดสายตามองเพดานปริบๆ สภาพร่างกายตอนนี้ก็ปวดเมื่อยอะ เจ็บเสียดตรงนั้นด้วย...มันไม่เชิงว่ามากจนถึงขั้นจะเป็นจะตายอะไรนะ เป็นความรู้สึกที่ทนได้แหละ

“แล้ว...คนอื่นๆ ล่ะครับ” พอพี่มะเดี่ยวเข้ามาอีกครั้งผมก็ถามถึงเพื่อนเขา

“ยังไม่ตื่นเลยมั้ง พวกมันเมามากแหละ…เหล้าตั้งขนาดนั้น แต่เรานี่ไปก่อนใครเลย” พี่เขาขึ้นมานอนข้างๆ ดึงผมให้นอนหนุนแขน ก็เลยต้องเงยหน้าเวลาคุย

“ผมคออ่อนนี่ ไม่ค่อยได้กิน”

“แล้วจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง…” มียักคิ้วท้าทาย ผมไม่ตอบด้วยคำพูดหรอก แค่พยักหน้าก็เข้าใจ

“รักเราจัง...” พี่เขาจูบที่หน้าผากแล้วกอดผมแนบแน่น

ก็ไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่อะนะ...แค่หัวใจมันพองฟูคับอกไปหมดแล้ว นึกว่าตัวเองมีนมโตๆ เหมือนผู้หญิงไปแล้วด้วยซ้ำ ไหนจะยังยิ้มอยู่กับอกของพี่มะเดี่ยวไม่หุบอีก นี่คืออาการของคนไม่ชอบอะนะ เห่อๆ...ถามจริง ใครไม่ชอบมั้งวะ

“เรารู้สึกแย่ปะ” เขาถามทั้งที่ยังกอดผมแนบแน่น

“อ่า...ไม่ครับ” มันรู้สึกดีจะตายไป...พูดไปผมคงอายจนไม่รู้จะหาทางออกให้ตัวเองยังไงดีเลย

“พี่ก็โคตรรู้สึกดีเลยครับ” แล้วก็รู้สึกว่าพี่เขาจูบศรีษะผมอีก

โอ้ย...อารมณ์ตอนนี้มันเป็นอะไรที่แบบว่า มันดีไปหมดอะ ดีไปทุกสิ่งทุกอย่าง ดีจนไม่น่าเชื่อว่ามมันจะดีได้ขนาดนี้ ผมเคยเสพโมเมนต์หวานแหววของการมีแฟน แต่มันไม่มากเท่านี้ ไม่มากขนาดที่ว่าผมหวงแหนและไม่อยากให้มันถูกพรากไป

“ผมก็รู้สึกโคตรดี” บอกเสียงอู้อี้อยู่กับอก พี่มะเดี่ยวขยับตัวออกนิดหน่อย เราสบตากันแล้วก็จูบกันอีก...

“ทำอีกดีปะ...” เสียงทุ้มนั้นกระซิบถามแผ่วๆ ชิดริมฝีปาก

“อื้ม…” ผมไม่ได้ตอบเพราะลิ้นของเขาสอดเข้ามาเสียก่อน

มันดูบ้าปะ...ที่แค่จูบกันไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกอยากขึ้นมาอีก เราทำกันหนักมากเหมือนกันนะเมื่อคืน แต่ตอนนี้ก็เหมือนจะเกิดประกายไฟขึ้นในตัวของเราอีกแล้ว มือของพี่มะเดี่ยวข้างหนึ่งสอดเข้ามาในเสื้อ ลูบไล้แผ่นหลังของผมเบาๆ สลับกับขย้ำบ้างในบางครั้ง ส่วนผมนี่แทบจะจิกแผ่นหลังของพี่มะเดี่ยวเอาไว้ เพราะแค่นั้น...แค่ที่เขาทำอยู่นี่ผมก็รู้สึกหวิวไปทั้งร่างกายแล้ว

พี่มะเดี่ยวไม่ใช่คนทำไปพูดไป…อย่างที่เคยดูในจีวี เขาทำกันไปก็พูดกันไป ความจริงมันต่างจากในนั้นเยอะมากเลยล่ะครับ ยังอยู่ในท่าเดิม..น่าแปลกที่มันกลับสัมผัสตัวได้มากไม่ต่างจากท่าอื่นๆ ร่างกายของเรานัวเนียกันอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนาที่ใช้ห่มคลุมกาย

ส่วนนั้น...มันเสียดสีกัน

กางเกงขวางกั้น ทว่าความรู้สึกที่ได้รับมันก็ยังชัดเจนอยู่ดี ขาที่ถูไถกันไปมานั่นแหละที่ทำให้ส่วนนั้นเราบดเบียดกัน นี่มันกลางวันนะ...มีแสงรอดผ้าม่านเข้ามารำไรๆ และความรักมันก็ยังป้วนเปี้ยนอยู่บนที่นอน ผมไม่แน่ใจมันนอนอยู่ตรงไหน แม่งมีตัวตนก็เหมือนไม่มีเลยล่ะตอนนี้...

พี่มะเดี่ยวจับมือผมให้ล้วงไปใต้ผ่าห่ม เขาสัมผัสผม...ผมสัมผัสเขา ความร้อนแผ่กระจายไปตามร่องนิ้ว แทบเป็นจังหวะเดียวกันที่เราจับและชักมันเบาๆ ผมทั้งอายทั้งตื่นเต้น...นี่ไม่เหมือนเมื่อคืนเพราะสติเรามีกันครบถ้วน

แต่มันหยุดยังไง...

ผมจะหยุดสิ่งที่ถูกเริ่มนี่ยังไง...ในเมื่อผมก็ต้องการ

“พี่บอยรู้...หัวพี่จะแตกไหมนะ” เขาว่าปนเสียงหอบ จมูกผมถูกงับเบาๆ...

“แฮ่กๆ...แตก...อื้อ...แฮ่ก...หัวพี่แตกอ๊ะแน่” ใบหน้าเราแทบชิดกัน ลมหายใจคลอเคลียกันไม่ห่าง มือทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อชักนำความสุขมาให้

พี่มะเดี่ยวถลกกางเกงเราลงทั้งคู่ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจจนกระทั้งผมสัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่ม พี่เขาเอามือผมกำทั้งสองเอาไว้ก่อนพี่เขาจะกำทับลงมา หัวใจระรัวแรง...พอๆ กับที่ผมได้ยินเสียงหัวใจของพี่มะเดี่ยว มือทั้งสองค่อยๆ ขยับไหวไปพร้อมกับที่ส่วนนั้นเสียดสีกันไปมา ทั้งที่ไม่ได้สอดใส่...แต่มันหวิวไปทั้งกาย

เราทำจากช้าๆ...จูบกันไป จนกระทั่งเริ่มขยับเร็วขึ้น...เร็วขึ้น เวลาผมใกล้ถึงจุดหมาย ผมจะเกร็งไปหมดแล้วก็ไม่สามารถตอบสนองพี่มะเดี่ยวได้ เขาเป็นฝ่ายบดจูบหนักและเอาลิ้นของผมไปดูดเลียเล่น ขณะที่มือก็ถูกเขาควบคุมให้หนักหน่วงขึ้นทุกที...

“ฮึ้ก...”

“อื้อ...” สองเสียงเปล่งออกมาพร้อมๆ กัน น้ำอุ่นทั้งสองสายพุ่งรดมือผมและพี่มะเดี่ยว...

“พี่จะทำเบาๆ” มันไม่ได้จบที่เสร็จสินะ

พี่มะเดี่ยวยังคงจูบหนักหน่วง...เขาเคลื่อนร่างตัวเองขึ้นมาคร่อมทับผมเอาไว้ ผ้าห่มถูกถีบทิ้งไป ตามติดด้วยกางเกงและเสื้อของเรา ยิ่งกว่าอับอาย...การได้มาเห็นร่างเปลือยเปล่าของพี่มะเดี่ยวทั้งที่สติยังอยู่ครบ แถมห้องสว่างแบบนี้...ผมไม่รู้เลยว่าควรทำตัวแบบไหน ทำหน้ายังไง

แต่พี่มะเดี่ยวเขาคงรู้ เขายิ้มบางๆ แล้วเป็นฝ่ายเริ่มป้อนความซาบซ่านให้กับร่างกายของผม มีดีอย่างหนึ่ง ผมเห็นความต้องการผ่านแววตาของพี่เขาได้ชัดเจน ถึงมันจะน่าอาย ทว่าเมื่อความต้องการอาบไล้ไปทั่วร่างกายและจิตใจ มันก็คือความสุขดีๆ อย่างหนึ่งของคู่รัก

มันเป็นเรื่องพิเศษที่คนเป็นคู่รักกันเท่านั้นที่จะมอบให้กันได้...

ไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดแล้วทำให้ผมสัมผัสทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจนขึ้น มันอาจจะเจ็บปวดไปบ้าง แต่ความต้องการที่มีมันมากกว่ามันก็สามารถผ่านพ้นไปได้ไม่ยากเย็น พี่มะเดี่ยวทะนุถนอมเหมือนเมื่อคืน....อาจมากกว่าเมื่อเขาเตรียมความพร้อมมากกว่า อยากจะค่อนขอดที่แอบไปซื้อเจลมา แต่ก็...ทำไม่ได้

ช่วงเวลาที่เราเชื่อมต่อกัน...เรามองตากัน

ช่วงเวลาที่เราเดินหน้าไปด้วยกัน...เราจูบกัน

และเมื่อเราถึงจุดหมายไปด้วยกัน…เรากอดกันพร้อมกับคำว่ารักเบาๆ…

คำว่ารักพี่มะเดี่ยวมอบให้ผมนับครั้งไม่ถ้วน ในช่วงที่เขามีสติหรือเหมือนไม่สติผมก็ยังได้ยินคำนี้อยู่เสมอ และผมก็จะตอบกลับไปด้วยคำๆ เดียวกันกับที่เขาได้ให้มา...เราพากันก้าวข้ามความอ่อนโยนไปสู่ความเร่าร้อน ผ้าปูนอนยับยู่ไปตามจังหวะการเสือกไสกาย...พร้อมเสียงหายใจที่กระชั้นถี่เหมือนส่วนที่สอดประสาน

.…100%.…

มันเป็นช่วงข้าวใหม่ปลามัน มันก็จะหวานๆ เลี่ยนๆ นิสสสสนุงอ่านะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 47 [100%]❤️ -19/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-12-2017 20:05:42
 :man1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 47 [100%]❤️ -19/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 19-12-2017 21:19:48
อ้ากกกกกกกกกกกเลือดจะหมดตัวแล้ว

 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 47 [100%]❤️ -19/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-12-2017 21:24:02
 :L2: :pig4: :L1:

หวานกว่าเมื่อวานอีก
ปล เรื่องนี้จะไม่ดรามาใช่ไหม กลัวว
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 47 [100%]❤️ -19/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 19-12-2017 21:50:48
น้องสามตัวช้ำไปหมดแล้วมั้งพี่มะเดี่ยว :hao7:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 47 [100%]❤️ -19/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 20-12-2017 08:12:40
เลือดหมดตัว :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 47 [100%]❤️ -19/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 20-12-2017 10:54:01
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 47 [100%]❤️ -19/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-12-2017 10:58:02
 :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 47 [100%]❤️ -19/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 20-12-2017 15:27:01
อื้มมมมมมม :hao6: :hao6: :jul1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 47 [100%]❤️ -19/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 20-12-2017 21:24:17
 :jul1:ฟินมั่ก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 48 [100%]❤️ -21/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 21-12-2017 20:51:39
>>ตอนที่ 48 [100%]<<

“วันนี้นอนพักก็ได้มั้ง...ไม่ต้องไปเรียนหรอก” พี่มะเดี่ยวพยายามรั้งผมอาไว้กับที่นอน ไม่ยอมให้ผมลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งที่อ่อนเพลียไปหมด

ที่มีสภาพแบบนี้เหรอ...เห่อๆ เมื่อวานนี้เล่นทำกันทั้งวัน ไม่มีสภาพแบบนี้ก็ไม่ใช่คนละมั้งครับ ผมหลับไปตอนไหนยังไม่รู้เลย มารู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้วเนี่ยแหละครับ ไม่อยากจะนึกถึงด้วยว่าเมื่อวานมันเป็นวันที่บ้าขนาดไหน ทำอย่างว่ากันไม่หยุดไม่หย่อน อาจแค่พักกินข้าวกินน้ำบ้างแค่นั้น...นี่ผมกับพี่เขาไปอดอยากปากแห้งมาจากไหน

พี่มะเดี่ยวนี่ไม่ต้องพูดถึง การเป็นนักเต้นบีบอยทำให้เขามีกำลังมหาศาล ทำกันขนาดนั้นพี่แกยังอยากจะทำต่อไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่ผมไม่ได้เป็นนักเต้นมานานแบบพี่เขานะ ไม่กี่ยกผมก็ไม่ไหวแล้ว...

หนักหน่วงขนาดที่ผมว่าไข้ขึ้นอะคิดดู...แล้วนี่แหละที่เป็นเหตุของการไม่ให้ผมไปเรียน

“ไม่ได้พี่ วันนี้อาจารย์เรียกเก็บรายงาน ผมยังทำไม่เสร็จเลย” มัวแต่ออกกำลังกาย ดูเป็นคนรักสุขภาพไหมล่ะหืม...เห่อๆ ไอ้บ้า แบบนั้นไม่เรียกรักสุขภาพ แบบนั้นเรียกบ้าเว้ย

“อ่า...พี่ขอโทษ”

“ไม่ๆ ไม่ต้องขอโทษหรอก ผมรีบทำก็เสร็จ เหลือไม่เยอะ” แต่ตอนนี้ผมต้องไปอาบน้ำอาบท่าก่อน ทำกันจนหลับทั้งสภาพเหนอะหนะทั้งตัว

“ลุกไหวไหม...”

“ต้องไหว” ทำหน้ามุ่งมั่นมากกู ขอให้ไหวเถอะมึงเอ้ย

ผมพยายามฝืนตัวเองลุกขึ้นนั่ง พี่มะเดี่ยวคอยประครองเผื่อว่าผมจะล้มโครมอะไรเถือกนั้น แต่แหม...ผมก็ผู้ชายอะ ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอกนะ มันก็ปวดเมื่อยและเจ็บเสียดไปหมดเหมือนกัน ทว่ามันไม่ใช่ความเจ็บปวดที่ทนไม่ได้อะไร พอนั่งได้ผมก็คว้าเอากางเกงที่ถูกถอดทิ้งไว้ตรงพื้นมาสวม ไม่กล้าเดินโทงๆ ออกไปแบบนั้น หน้ามึนครับ ไม่ได้หน้าด้านอะนะ

“งั้นพี่ไปเตรียมมื้อเช้าให้นะ มีอะไรเรียกพี่รู้ปะ...”

“ครับ” พี่มะเดี่ยวประครองผมมาส่งถึงหน้าห้องน้ำ สายตาดูเป็นห่วงเป็นใยมาก นี่แค่ตั้มกันพี่...ไม่ได้โดนรถชนมา

เข้ามาในห้องน้ำได้ผมรีบถอดกางเกงออก น้ำนั่น...อ่า ทำไมมันต้องอายวะกูเนี่ย เออ เอาเป็นว่าน้ำนั่นของพี่เขามันไหลออกมา ฮื่อ แค่มองก็อยากจะบึ้มตัวเองตาย ทำกันหลายรอบไม่ได้ทำให้หน้าผมด้านมากขึ้นเลย ผมพยายามเมิน เงยหน้ามองกระจก...บึ้มตัวเองตายจริงๆ ก็รอบนี้แหละกูเนี่ย

โอ้ยยยยยย รอยอะไรมันจะเยอะปานนั้น!

ที่คอมีประปรายไม่มาก และก็แค่จางๆ แต่ช่วงอกเนี่ย...โอ้โหย นึกว่าตัวเองเป็นโรค อย่างว่าอะนะ อารมณ์นั้นทำอะไรไม่ทันได้คิดกันหรอก ขึ้นชื่อว่าเซ็กมันก็คือการเอาอารมณ์นำทางเหตุและผลอยู่แล้วนี่เนอะ แค่ไม่น่าเกลียดเวลาคนอื่นมองมาก็โอเคแล้วล่ะ

ผมเดินเข้าไปอาบน้ำอาบท่า ขอผ่านจุดที่ต้องเอาน้ำนั้นออกนะ ไม่คิดว่าชีวิตนี้ต้องมีโมเมนต์แบบนี้เลยอะเอาจริงๆ ผมก็ทำได้แค่เงอะๆ งะๆ อะนะ ไม่ได้ชำนาญ นี่ครั้งแรกนะเว้ย...ไม่ได้มีมาแล้วเป็นสี่ซ้าห้าคน

พออกมาก็เห็นชุดนักศึกษาของตัวเองวางเตรียมไว้อยู่บนที่นอนซึ่งถูกจัดเอาไว้เรียบร้อย ดูพี่เขาเป็นคนมีระเบียบมากกว่าที่เห็นแค่ภายนอกจริงๆ ห้องพี่เขาก็ไม่รกนะ สะอาดสะอ้านกว่าห้องผมมาก แล้วก็ข้าวของเครื่องใช้ไม่เยอะ

“ไปไหวแน่นะ เราตัวร้อนอะ...พี่ไม่อยากให้ไป” มาถึงโซฟาใช้กินข้าวพี่เขาก็รีบดัก เสื้อไม่ใส่ เห็นหมดเลยว่าตัวพี่เขาก็มีรอย...แน่นอนผมทำ ฮื่อออออ อับอาย

“ไหวพี่ แค่นี้เอง ชิวๆ”

“เอ้า ชิวเหรอ ไม่บอกพี่จะได้ทำต่อ...” ผมรีบยกมือแบรกพี่เขาอย่างไว

“หยุดความคิดของพี่เลย หมายถึงแค่ไปเรียนอะผมชิว แต่ทำต่อผมคงไม่ชิวแล้วล่ะครับพี่” ผมคงนอนเดี้ยง หยอดน้ำข้าวต้มเหมือนคนป่วยใกล้ตาย แค่นี้ก็เหมือนร่างกายสูญเสียน้ำไปอย่างมหาศาลแล้ว

“ฮ่าๆ ล้อเล่น”

“ถ้าได้ก็เอาจริงอะดิ”

“แน่นอน” จบ...ไม่เป็นห่วงสุขภาพแฟนพี่เลยอะครับ

พี่มะเดี่ยวไม่ได้ทำกับข้าวอะไรนะ ที่ว่าเตรียมมือเช้านี่คือเอาข้าวกล่องแช่เย็นเนี่ยไปอุ่นในไมโครเวฟแล้วเทใส่จานเตรียมไว้ ซึ่งส่วนใหญ่ผมเก็บแต่เมนูหมู มาเปลี่ยนเกือบหมดก็ตอนคบพี่มะเดี่ยวเนี่ยแหละ เน้นไปที่ไก่และกุ้งเป็นหลัก หาซื้อง่าย ยิ่งหาสัญลักษณ์ฮาลานจะยิ่งแจ่มแมวมาก พี่มะเดี่ยวแกไม่ใช่อิสลามแต่ก็เหมือนคนอิสลามไปแล้วอะครับ

ความรักยืนกินผลไม้อยู่ที่พื้น โซฟาห้องผมมีตัวยาวตัวเดียว นั่งสองคนนี่ก็เต็มแล้ว ดังนั้นหมูผู้เป็นส่วนเกินจึงถูกเนรเทศให้ลงไป เราก็กินข้าวกันไป ถามไถ่สิ่งที่ต้องทำในวันนี้กันไป สำคัญคือผมเนี่ยเข้าสู่การสอบแล้วครับ ยังไม่สอบใหญ่แต่จะมีเทสเก็บคะแนนเรื่อยๆ ทุกวัน ส่วนพี่มะเดี่ยวก็จะมีซ้อมหนักทั้งที่มหาลัยแล้วก็ที่ตลาดเปิดท้าย มันกลายเป็นเราเข้าสู่ช่วงที่ไม่มีใครว่างมากนักนอกจากเวลานอน

ผมไม่รู้เลยว่าพอเข้าสอบผมจะมีเวลานอนไหม พี่มะเดี่ยวงานเริ่มน้อยลงไปแล้ว หนักแค่ซ้อม นอกนั้นก็มีเวลานอน มีเวลาพักผ่อน ส่วนผมเวลาพวกนั้นกำลังจะหมดไป ตอนนี้มาไม่สบายไข้ขึ้นเพราะโหมทำเรื่องแบบนั้นอีก ก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ หวังว่าตัวเองจะมีสมาธิเรียนให้รู้เรื่องแล้วกันนะ

“แบบนี้เราก็ไม่ค่อยมีเวลาให้กันแล้วดิ” พี่มะเดี่ยวเปรยขึ้นมาลอยๆ ข้าวหมดไปแล้วทั้งผมและเขา

“ครับ ก็ประมาณนั้นแหละพี่ ให้ทำไงล่ะ...” ผมก็ไม่ได้อยากงานยุ่งอะนะ

“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจ ช่วงนี้เราก็ตั้งใจเรียน…พี่จะดูแลเราเองดีปะ” พูดไปก็ลูบหัวผมไป

“ก็ดี…” แล้วผมก็ไม่ปฏิเสธ มีคนมาคอยดูแลบ้างมันไม่แย่นี่ ตอนอยู่ที่บ้านพี่ๆ ก็คอยดูแล

“แล้วนี่รายงานจะไปทำเพิ่มที่ไหน”

“ที่ร้านน้าบอยอะพี่ เอาความรักไปฝากไว้ด้วย”

“เอาความรักไว้กับพี่ไหม พี่ดูแลให้...”

“แต่พี่ต้องซ้อมเต้นหนิ”

“มันไม่ได้ดื้อขนาดนั้นนี่นา เอามันไปด้วย ถือว่าเป็นตัวเพิ่มกำลังใจ มองหน้าความรักเหมือนมองหน้าสามไง เพราะสามกับความรักหน้าเหมือนกัน โดยเฉพาะน่ารัก…”อ่า…รอยยิ้มกว้างๆ ที่แสนเอ็นดูกันนี่มันพาหัวใจสั่นไหวจริงๆ

“ก็ได้ครับ”

“งั้น พี่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ครับ” พี่มะเดี่ยวต้องกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องตัวเอง

ระหว่างที่รอผมก็เอาแล็ปท็อปของตัวเองออกมาพิมพ์งานรอ ความรักกินเสร็จหมดแล้วและกำลังนอนหลับตาพริ้ม นี่เพิ่งกี่โมงเอง กินแล้วจะหลับเลยเพื่อเลี้ยงพุงอย่างเดียวเลยไอ้หมูนี่ ผมมองความรักนิดหน่อย ดูให้สบายใจแล้วละเลงนิ้วลงบนคีย์บอร์ดรัวๆ งานผมเหลือไม่เยอะเพราะเคลียร์ไปได้มากแล้ว...

พี่มะเดี่ยวใช้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อกล้ามกับกางเกงสามส่วนไม่น่าเกินสิบห้านาที ผมพิมพ์งานไปได้ไม่กี่หน้าเองพี่เขาก็เข้ามารับ เสียดาย นึกว่าจะนานกว่านี้ ต้องตัดใจแล้วเอางานไปทำที่ร้านน้าบอย พี่มะเดี่ยวเอากระเป๋าผมไปสะพายให้รวมทั้งอุ้มความรักด้วยมือหนึ่ง อีกมือจับจูงผม ก็อยากแซ็วอะนะว่าผมไม่ใช่เด็กๆ ที่จะมากลัวหลงทาง ติดที่มันก็รู้สึกดีเลยไม่แซ็วดีกว่า...

ช่วงเช้าของฤดูนี้ไม่ค่อยมีแดด ผมนั่งกอดเอวพี่มะเดี่ยวปั่นจักรยานไปร้านน้าบอย มองสองข้างทางไปตามเรื่องตามราว สักพักพี่เขาก็เปิดประเด็นเรื่องปิดเทอมขึ้นมา ก็แบบว่าเราจะไปเที่ยวไหนกันดี ผมก็เสนอที่ที่ผมอยากไปเช่น...ขึ้นเขา น้ำตก อะไรเถือกนี้ ผมไม่อยากไปทะเลเท่าไหร่ วิวมันสวยแต่ไปบ่อยแล้วเลยค่อนข้างเบื่อประมาณหนึ่ง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปตั้งแคมป์ดูดาว พี่มะเดี่ยวก็เห็นด้วย เขาชอบเหมือนกัน...และเราก็ตัดสินใจว่าหลังจากพี่มะเดี่ยวแข็งเสร็จเราจะไปนอนดูดาวด้วยกันสองคน

นักศึกษาในร้านน้าบอยวันนี้เยอะเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าเพราะใกล้สอบแล้วหรือเปล่า คนถึงได้มารวมตัวกันที่ร้านกาแฟเพื่อติวหนังสือ อ่านหนังสือหรือแม้แต่ทบทวนบทเรียน ร้านนี้จะอยู่ใกล้คณะที่ผมเรียน ดังนั้นนักศึกษาในนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นว่าที่ครูในอนาคตทั้งนั้น หน้าดำคร่ำเครียดกันเชียว ผมอยากบอกว่า...อย่าเครียดกับมันมาก ตั้งใจเกินไปมันจะทำให้เราเหนื่อยง่าย ผมทำรายงานได้นาน หรือเรียนหนังสือได้ไม่ดูเหนื่อยเพราะว่าผมไม่เครียดกับมัน ค่อยๆ ซึมซับบทเรียนและทำความเข้าใจกับมันช้าๆ ไม่รีบเร่งไม่งั้นจะหอบเหมือนไปวิ่งสี่คูณร้อย

“เอ๊ะ...” มาถึงน้าบอยของผมก็จ้องอย่างกับผมไปทำอะไรผิดมา ผมนั่งเก้าอี้ทรงสูงหน้าเคาน์เตอร์พร้อมพี่มะเดี่ยวมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ

“อะไรครับน้า” ผมถาม ความรักเดินอวดก้นบนเคาน์เตอร์เป็นที่เรียบร้อย

“หน้าโทรมจัง ไปเที่ยวหรือไปทำอะไรกันมา...” ไอ้หยา...ไปทำอะไรกันมาครับน้า ตอบแบบนี้ได้ปะ หัวทิ่มปะให้ทาย

“เดี๋ยวๆ” หน้าบอยดันหน้าผมให้หันข้าง โชว์ต้นคอขาวๆ ที่มีรอยอยู่บ้างจางๆ

“เอ่อ...” น้าบอยคิ้วขมวด เขาจ้องไปทางพี่มะเดี่ยวที่ดูหงอเป็นพิเศษ เห็นสายตาน้าตัวเองตอนนี้ผมก็หงอเหมือนกันวะ

“กินข้าวกินไรกันมายัง” ผมคิดว่ามันต้องมีเรื่องแน่ๆ ปรากฏว่าไม่เป็นอย่างที่คาด น้าแค่ส่งสายไม่พอใจนิดๆ มาให้

“กินมาแล้วครับ สามขอโกโก้แก้วหนึ่ง...สามจะพิมพ์รายงานต่อ”

“ทำกันจนงานไม่เสร็จเลยเหรอไง” จุก...คำนี้สามเล่นเอาจุก

น้าบอยหันไปชงโกโก้เข้มๆ มาให้ ผมเองก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรได้แต่มองหน้าพี่มะเดี่ยวหวาดๆ พี่มะเดี่ยวส่งยิ้มให้เหมือนบอกสู้ๆ อะ ตอนนี้ไม่อยากสู้ กลัวน้าฆ่าหมกร้านกาแฟชะมัด ผมหงอลงไปมาก จากที่ซึมอยู่แล้วยิ่งไม่กล้าพูดกล้าทำเข้าไปใหญ่ ได้โกโก้แล้วผมถึงกับรีบเดินไปหาโต๊ะว่างนั่งพิมพ์งานของตัวเอง พี่มะเดี่ยวยังอยู่ที่เดิมพร้อมความรัก เขาคุยอยู่กับน้าผมนั่นแหละ

น้าบอยจะไม่ตีหัวพี่มะเดี่ยวใช่ไหมอ่า...

พี่มะเดี่ยวก็ไม่ได้ผิดคนเดียวหรอกครับ ผมเองที่ไม่ปฏิเสธอะไรเลยก็ผิดเหมือนกัน ผมอยากช่วยนะ เลยพยายามสอดสายตาเข้าไปดูว่าสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง ก็เห็นพี่มะเดี่ยวนั่งยิ้มแห้งๆ ขานรับคำบ่นของน้าบอย แล้วน้าผมก็บ่นเบามาก เบาจนผมไม่ได้ยิน เห็นแค่ปากที่ขมุบขมิบ นั่นเรียกบ่นหรือกระซิบครับสามอยากรู้  ไว้ผมค่อยไปถามพี่มะเดี่ยวเอาเองก็ได้ หรือไม่น้าบอยอาจจะด่าผมหลังจากบ่นพี่มะเดี่ยว

ผมต้องพยายามสลัดสองคนนั้นออกจากหัว มีเวลาไม่มากกับรายงานที่เหลืออยู่ไม่กี่หน้า มันค่อนข้างยากครับ เพราะอยากรู้อยากเห็นเรื่องที่พวกเขาคุยกันเป็นที่สุดเลย พิมพ์ผิดบ้าง พิมพ์ถูกบ้างตอนนี้ปะปนกันไปหมด

“อะแฮ่ม...” เชี่ยยยยยย ตกใจหมด มัวแต่สนใจสองคนนั้นจนไม่ได้สนใจสองคนที่สะเหล่อเสนอหน้าเข้ามา

“กูตกใจหมด” อยากจะปาแก้วโกโก้ใส่หน้าแม่ง ติดที่เสียดาย กินไปได้นิดเดียวเอง

“สองคนนั้นดูเครียดๆ เนอะ...ทำไมวะ พี่มะเดี่ยวแกชิงสุกก่อนห่ามเหรอ” อื้อหือ...วิ่ง ทำไมมึงแม่นแบบนี้ นี่มึงสอบผ่านมาได้ขนาดนี้เพราะมึงเดาเก่งแบบนี้ใช่ไหม

“อุ้ย...ท่าจะใช่วะ” แล้วไอ้พีชตาไวก็จ้องคอผมเป็นมัน

“อู้วววววว”

“หุบปากเลย ไม่ต้องล้อไม่ต้องแซ็ว” ชี้หน้าห้ามแม่ง แต่พวกมันกลับหัวเราะชอบใจ

“เออๆ ไม่ล้อ...ไม่แซ็ว ว่าแต่ โทรมไปเยอะนะเนี่ย หนักอ่อ” ไหนว่าไม่ล้อไม่แซ็ว

“ห้ามถามด้วย”

“อะไรวะ ถามแค่นี้ทำอาย...หน้าแดง โอ๊ะ” วิ่งว่ายิ้มๆ ยิ้มแบบกะลิ้มกะเหลี่ยด้วยแหละประเด็น หันไปทางพีช ไอ้นี่ก็ไม่ต่างอะไรเล้ย

ผมก้มหน้าก้มตาพิมพ์รายงานของตัวเองต่อไป อยากหนีพวกแม่งสองคนก็เลยยิ่งมีสมาธิเข้าไปใหญ่ เผลอแป๊บเดียวผมก็สามารถทำรายงานที่เหลือเสร็จได้ทันเวลา ต่างจากวิ่งกับพีชที่พยายามปั่นแทบตายแต่ไม่ทัน

เราสามคนเดินไปลาน้าบอยและพี่มะเดี่ยว ผมต้องตีมึนเหมือนไม่รู้ไม่ชี้สิ่งใดทั้งสิ้น ไม่เคยทำผิด ไม่เคยมีเรื่องน่าอายเกิดขึ้น พี่มะเดี่ยวเดินมาส่งผมที่รถจักรยานสีเขียว ถามเสียงเบาว่าไหวไหม ไปส่งเปล่าจนผมเก้อไปหมด มันดีที่เขาเป็นห่วง แต่มันก็อายนิดๆ เมื่อพีชกับวิ่งเอาแต่จับจ้องมาทางเราสองคน

“ผมไหวครับ ไม่เป็นไร...เดี๋ยวก็หายแล้ว”

“พี่เป็นห่วงนะ มีไรโทรมา เดี๋ยวพี่มารับกลับ พีชกับวิ่ง พี่ฝากดูสามด้วยนะเว้ย” ไม่ต้องไปฝากคนอื่นก็ได้...โอ้ยพี่เอ้ย พี่ทำผมหน้าร้อนไปหมด

“รับทราบครับท่านพี่ ข้าทั้งสองจะดูแลภรรยาของท่านพี่ให้อย่างดี” แล้วดูไอ้วิ่งตอบ ผมอยากเอาหน้าตัวเองฝังดินไว้...แต่มันทำไม่ได้ เลยต้องแบกหน้าแดงๆ ของตัวเองต่อไป พี่มะเดี่ยวลูบหัวผมนิดหน่อย ให้กำลังใจด้วยการบอกให้สู้ๆ จากที่อาย...มันก็รู้สึกดีจนต้องยิ้มตอบกลับ ไม่ใช่แค่ผมที่ต้องสู้...พี่เขาก็เหมือนกันนั่นแหละ การซ้อมเต้นคงหนักหนาสาหัสกว่าผมที่เรียนเยอะเนอะว่าไหม...

….100%….

เบื่อความหวานใสของคู่นี้กันหรือยางน้าาาาา?

เมื่อวานไม่ได้อัปเพราะหนาวมาก หนาวจนสั่น หนาวจนมือแข็ง หนาวจนไม่อยากลุกออกมาจากผ้าห่มเลยค่ะ! อีกอย่าง…เรื่องนี้ผ่านพิจารณาแล้วนะคะ เย้! ดีใจมากค่ะ แฮ่ๆ ดีใจจนไม่อัปนิยายเลยยยย น่าตี เพี้ยะๆ เลย ><
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 48 [100%]❤️ -21/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-12-2017 22:24:33
 :L2: :L1: :pig4:

ดีใจด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 48 [100%]❤️ -21/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-12-2017 22:39:06
อิพี่ก็เกินไปจริง ๆ นะ น้องไม่ห้ามนี่กินตะกรุมตะกรามเชียว
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 48 [100%]❤️ -21/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-12-2017 23:13:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 48 [100%]❤️ -21/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 22-12-2017 00:47:37
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 48 [100%]❤️ -21/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-12-2017 02:20:48
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 48 [100%]❤️ -21/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 22-12-2017 09:58:37
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 48 [100%]❤️ -21/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-12-2017 10:55:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 49 [100%]❤️ -23/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 23-12-2017 21:08:56
>>ตอนที่ 49 [100%]<<

การเรียนช่วงจะสอบไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ให้รายงานไปหามาทำแล้วก็รวบรวมส่งก่อนเวลาที่กำหนด แล้วมันไม่ใช่น้อยๆ ฟังแล้วก็อยากจะโอดครวญออกไปแต่อาจารย์คงไม่สนใจเสียร่ำร้องของนักศึกษา ดังนั้นช่วงเวลานี้คลาสเรียนก็จะลดลงไปเยอะเพราะปล่อยให้นักศึกษาได้ทำรายงานหรือแม้แต่ค้นคว้าหางานมาส่ง

ช่วงเที่ยงพี่มะเดี่ยวมารับไปกินข้าว เราก็ไปกันหมด ทั้งพีชและวิ่ง มีเอาความรักมาด้วย แล้วนอกจากมื้อเที่ยงพี่มะเดี่ยวยังหิ้วยาแก้ไข้มาฝาก ผมดีขึ้นมาแล้วแต่ก็ต้องกินเพื่อจะได้หายเสียที หลังจากนี้มีการอ่านหนังสือแบบโหมรอเราอยู่ นี่คือเหตุผลสำคัญเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พีชกับวิ่งไม่ได้ฟรอ์มทีมแข่งระดับประเทศ ทั้งที่พวกมันมีความสามารถมากพอที่จะเข้าแข่งขัน

พอผมเข้าเรียน พี่มะเดี่ยวก็เอาความรักไปซ้อมเต้นที่ฟลอ รู้สึกคนจะเริ่มน้อยแล้ว...ไม่มีใครมาทุ่มเวลาให้กับกิจกรรมพวกนี้มากนัก ผมเองคงต้องหยุดซ้อมเหมือนกัน เลิกคลาสผม วิ่งและพีชตรงไปที่ห้องสมุดเพื่อหาหนังสือมาทำรายงาน แต่ผมไม่ลืมที่จะบอกพี่มะเดี่ยวเอาไว้หรอกนะครับว่าจะไปไหนหรือทำอะไร มีการไถ่ถามเรื่องสุขภาพนิดหน่อย ซึ่งผมโอเคขึ้นมากแล้ว ติดที่ยาทำให้ง่วง มันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญนะ...อ่านหนังสือไปจะหลับไปเนี่ย หงุดหงิดเป็นบ้า

“มึงกลับห้องไปทำรายงานเลยปะ” หลังจากหาหนังสือที่ต้องการครบแล้ว วิ่งก็ถาม

“ไม่อะ เดี๋ยวไปหาพี่มะเดี่ยวก่อน...” กะว่าจะไปนั่งอ่านหนังสืออยู่กับพี่เขาอะนะ

“แหม ตัวติดกันจัง...พี่เขาไม่หายหรอก” พีชแซ็ว

“ความรักกูอยู่กับพี่เขาไง”

“ถ้าพูดแบบนี้เมื่อก่อนก็คงไม่คิดอะไรเท่าไหร่ แต่ตอนนี้กูรู้สึกว่าชื่อหมูมึงสื่ออะไรได้เยอะเลยวะ มึงว่างั้นปะพีช...ฟังแล้วหวานๆ เลี่ยนๆ ยังไงก็ไม่รู้” แหนะ ไม่วายแซ็วเข้าจนได้ไหมล่ะ เอาเถอะ...หน้ามึนอย่างผมไม่รู้สึกเท่าไหร่

“ก็นะ...” พีชยิ้มๆ มันไม่แซ็วเหมือนไอ้วิ่ง ซึ่งดีมาก

เราแยกกันตรงที่จอดจักรยาน พวกมันหัวช้ากว่าผมก็เลยจะกลับไปทำรายงานที่ห้องตัวเอง อีกอย่างถ้าไปฟลอ พวกมันกลัวห้ามใจไม่ไหวจนได้ซ้อมเต้นเสียลืมเวลาทำรายงาน ต่างจากผมที่ไม่ได้ติดเต้นอะไรเหมือนพวกมันน่ะนะ

“หาหนังสือครบแล้วเหรอ” พี่มะเดี่ยวตรงเข้ามาหา ผมยังไม่ทันลงจากจักรยานเลย

“ครับพี่ หาครบแล้ว” กองเบอเริ่มเลยล่ะ

“โห เยอะเหมือนกันนะ เห็นแล้วนึกถึงสมัยเข้าปีหนึ่งเลย...ไหนจะรับน้อง ไหนจะกิจกรรมต่างๆ นาๆ ของเฟรชชี่ เสร็จแล้วยังมาเจอสอบอีก...ตายกับตายเลยพี่”

“แล้วพี่รอดมาได้ไง”

“มั่วเอา ก็เลยผ่านมาได้” ว่าแล้วพี่แกก็ขำ แต่ผมไม่เชื่อหรอกว่าแค่เดามั่วๆ แล้วจะผ่านห้องสอบได้ พี่เขาก็ต้องทุ่มเทพอตัวแหละกว่าจะจบมาเนี่ย

“มั่วเก่งเนอะ สอนผมมั่วบ้างดิ”

“ไม่ได้ จะเป็นคุณครูห้ามมั่วครับ” พี่มะเดี่ยวช่วยถือหนังสือและกระเป๋า เดินนำไปที่โต๊ะหินอ่อนข้างลำโพง ความรักกำลังนั่งดูพวกพี่ๆ ทีมดิสทินีย์ซ้อมเต้นกันขะมักเขม้น

“อยากมั่วมั้งหนิ เห็นรายงานแล้วเหนื่อย”

“เอาหน่า สู้ๆ...พี่เป็นกำลังใจให้” มือหนาลูบหัวผมเบาๆ

“ครับ ไปซ้อมเถอะพี่”

“โอเค มีไรก็เรียกนะ...” ผมพยักหน้า...มันจะมีอะไรได้ล่ะ

ผมนั่งดูพี่ๆ เขาซ้อมเต้นกันอยู่พักใหญ่ กว่าจะมารวมสมาธิอยู่ที่หนังสือต้องอ่านได้ มองแล้วมันเพลินดีอะครับ พี่มะเดี่ยวยังคงดุเหมือนเคย เพิ่มเติมคือเสียงดังกว่าเก่า ทุกคนดูตั้งใจ และจริงจังกับการซ้อม...นิดหน่อย ครับ ใช้คำถูกแล้ว เต้นๆ เล่นๆ ผสมปนเปกันมั่วไปหมด ไอ้หัวหน้าทีมอย่างพี่มะเดี่ยวก็เอากับเขาด้วยเหมือนกัน

รู้สึกว่าจะเต้นอยู่ที่นี่ได้อีกไม่กี่วัน เพราะมหาลัยเข้าช่วงสอบแล้วจะมาเปิดเพลงเสียงดังแบบนี้มันไม่เหมาะ น้องๆ ส่วนใหญ่ก็เอาเวลาไปอ่านหนังสือด้วย พี่เขาก็ย้ายไปเต้นที่ตลาดเปิดท้ายกันนั่นแหละครับ ไม่มีที่นี่ให้ซ้อมก็ยังมีที่อื่นที่ให้ใช้พื้นที่อยู่

อ่านไป...ดูพี่มะเดี่ยวเต้นไปเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวก็เย็นแล้ว ผมเงยหน้าขึ้นมาจากคอมพ์ตัวเองหลังเสียงเพลงหายไป พี่ออมแกเก็บลำโพงและสายไฟ ส่วนพี่มะเดี่ยวเดินตรงมาหาผมพร้อมกับคนในทีม เหงื่อท่วมกายกันหมด บางคนถอดเสื้ออกเพราะมันร้อนแล้วก็เหนอะหนะ อยู่นี่เห็นผู้ชายถอดเสื้อเป็นว่าเล่น ก็คงไม่ต่างจากสนามกีฬาประเภทอื่นๆ ล่ะมั้งเนอะ

“น้ำครับพี่” รู้ว่ามันไม่เท่าเทียมกัน แต่ผมสามารถหยิบน้ำส่งให้พี่มะเดี่ยวได้แค่คนเดียวอะนะครับ

“ขอบคุณครับ ทำรายงานไปถึงไหนละ” พี่มะเดี่ยวนั่งลงข้างๆ หลังหยิบน้ำจากมือผมไป

“ได้นิดเดียวเองพี่ อีกเยอะเลย...” คิดว่าคืนนี้ก็คงโต้รุ่งไปตามระเบียบ เวลามีไม่มาก อาทิตย์นี้เตรียมตัวอาทิตย์หน้าสอบจริง มันดูเหมือนเวลาเยอะนะ...ทว่ารายงานของหลายวิชามารวมกันนี่ มีเวลาเท่าไหร่ก็ไม่พอ

“เดี๋ยวพี่ต้องไปซ้อมต่อ ไปด้วยกันไหม”

“พี่อยากให้ไปเปล่า” ผมถามยิ้มๆ

“อยากให้ไปสิ แต่ก็อยากให้เรากลับไปพักผ่อนนะ ตัวยังอุ่นๆ อยู่ด้วยเนี่ย” มือหนาแนบเข้าที่หน้าผากเพื่อวัดอุณภูมิ

“อ่า...แต่ผมไม่เป็นไรแล้วนะ”

“อยากไปว่างั้น” พยักหน้าสิรออะไร

“ดื้ออะเรา แต่ก็ดี...งั้นเราไปกินข้าวกันก่อนนะ แล้วค่อยไปที่ฟลอ พวกมึงไปรอที่นู้นก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวกูไปกินข้าวกับน้องก่อน” พี่มะเดี่ยวพูดกับผมก่อนจะหันไปบอกเพื่อน

ไม่มีใครโต้แย้งอะไร เราพากันเก็บข้าวของและอุปกรณ์ ที่จริงผมค่อนข้างจะวุ่นวายกว่าคนอื่น ไหนจะหนังสือเรียน ไหนจะความรักที่เอาแต่ดิ้นดุ้กดิ้ก กว่าจะเก็บทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จเล่นเอาเบื่อเลยล่ะ นี่ถ้าพี่มะเดี่ยวไม่ช่วย ผมคงยังวุ่นวายไปอีกสักพัก

เราแยกไปเอาจักรยาน ปั่นไปตลาดเปิดท้าย ส่วนคนอื่นในทีมนั้นเขาไปรถสองแถวกัน ระหว่างที่พี่มะเดี่ยวแกปั่นอยู่นั้นผมก็เอาชีทภาษาอังกฤษมาอ่านไปพลางๆ ดูเนิร์ดใช่ไหมล่ะ ก็ใช่อะสิ ที่จริงผมเด็กเนิร์ดนะ...ตั้งใจเรียนมากๆ แล้วก็ทำคะแนนได้ค่อนข้างดีมาโดยตลอด นี่เป็นการสอบแรกของผมในรั้วมหาลัย ผมก็ยิ่งตั้งใจเข้าไปใหญ่ มันอาจไม่ได้ยากอะไรมากมายนักเพราะเทอมแรกเรายังเน้นไปที่การปูพื้นฐาน แต่ผมอยากทำมันออกมาให้ดีที่สุด

“รู้ไหมว่าการทำคะแนนให้ได้ดีน่ะ มันต้องผ่อนคลายตัวเอง...อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ไม่งั้นอ่านไปมันก็ไม่เข้าหัวนะครับ” เสียงทุ้มของพี่เขาลอยมาตามลม ผมลดชีทในมือ ชะโงกหน้าไปด้านข้าง

“ผมรู้แล้ว...ผมแค่อยากทำให้ตัวเองมั่นใจ” เพราะอยากให้ได้ยินที่ผมพูดชัดๆ ถึงได้ทำแบบนี้

“คร้าบ...ไม่อยากให้เราหักโหมนะ”

“แหม มาห่วงผมกลัวผมหักโหม ไม่ดูตัวเองตอนทำงานเลยอะ พี่อะยิ่งกว่าอีก” ไม่อยากจะบ่นหรอกนะ พี่เขาอะบ้างาน...เอาแต่ทำงานจนไม่หลับใม่นอน

“ก็เป็นแค่บางช่วงเท่านั้นเอง”

“ผมก็แค่บางช่วงเท่านั้นเอง” สวนกลับทันทีพร้อมทั้งลอยหน้าลอยตา พี่มะเดี่ยวเอื้อมมือมาเขกหัว

“เถียง...เดี๋ยวเถอะ”

“เจ็บ...” ลูบหัวตัวเองป่อยๆ ทั้งที่เขาก็ไม่ได้เขกแรงอะไร แต่พี่เขาคงลืมไปว่าพี่เขามือหนักไม่ใช่เล่น

พี่มะเดี่ยวหัวเราะเบาๆ กับเสียงโอดครวญเล็กๆ ของผม เอาเถอะ...พี่จะมีความสุขบนความเจ็บผมก็เรื่องของพี่เลยแล้วกัน ผมหันกลับมานั่งอ่านชีทต่อไปเรื่อยๆ หยุดอ่านตอนที่เรามาถึงร้านอาหารข้างทาง พี่มะเดี่ยวแกเป็นคนเลือกแถมยังเป็นคนสั่งให้ผมอีก ระหว่างรอแม่ค้านำอาหารมาเสิร์ฟ พี่มะเดี่ยวก็ถามถึงรายงานที่ผมนั่งทำตอนอยู่ที่ฟลอ ผมก็เลยเล่าให้ฟังว่ามีอะไรบ้างและอาจารย์ให้หาอะไร ด้วยความที่เขาเรียนคนละอย่างกับผม พี่มะเดี่ยวก็เลยไม่สามารถบอกอะไรผมได้มากมายนัก

ข้าวผัดไก่พูนๆ โปะไข่ดาวสองจานถูกนำมาวางไว้ตรงหน้าของเราสองคน เป็นเมนูง่ายๆ ที่ตอนนี้ยั่วยวนน้ำลายมาก เล่นยังไม่ได้กินอะไรอีกเลยตั้งแต่เที่ยงมันก็ต้องหิวเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนความรักมันกินแค่แตงกวาที่เขาวางประดับจานนั่นแหละครับเดี๋ยวไปซื้อผลไม้ที่ตลาดให้มันกินอีกที

กินไปคุยไปเป็นเรื่องปกติของเราสองคน ไม่รู้มีเรื่องอะไรให้คุยกันนักหนา...ทั้งเรื่องวีรกรรมในฟลอของพี่มะเดี่ยวและเพื่อนของเขาในวันนี้ หรือแม้แต่เรื่องของเพื่อนสุดเนิร์ดร่วมชั้นเรียนของผม เราคุยมันแทบทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิตของเราในแต่ละวัน เรื่องเล็ก เรื่องน้อย แต่เป็นเรื่องที่ผ่านตาเราหรือสนใจ เราก็จะบอกกันและกัน

บางครั้งก็ถามถึงแฟนเก่าที่เคยคบบ้าง...หรือแม้แต่เจอเพื่อนคนนี้ได้ยังไง สนิทกันได้ยังไงประมาณนี้ รู้ตัวกันอีกที...เราก็แทบจะเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้กันและกันฟัง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องสะเทือนอารมณ์อะไร พี่เขาไม่อยากพูดหรือเปล่าอันนี้ผมไม่รู้ แต่ผมอะไม่ค่อยมีเรื่องเศร้าในชีวิตเท่าไหร่

พี่มะเดี่ยวจ่ายค่าข้าวทั้งสองจานรวมถึงน้ำอัดลมให้ แล้วเราก็ปั่นจักรยานไปที่ตลาดเปิดท้าย ผมนั่งกับพี่แม็กคนเดิม...ไม่มีเพิ่มเติมเพราะเขาเป็นแค่หุ่น  พื้นที่มันไม่เหมาะแก่การเอาคอมพ์ออกมาตั้งเพื่อพิมพ์รายงาน ดังนั้นผมจึงทำแค่นั่งอ่านชีทและมาร์กส่วนสำคัญเอาไว้

เสียงรอบข้างดังอื้ออึงไปหมด ทั้งดนตรีและเสียงพูดคุย ความรักวิ่งเล่นอยู่ที่ฟลอ มันชอบเดินไปรอบๆ บ้างก็หยุดนั่งดู บ้างก็เดินเข้าไปหาพี่มะเดี่ยวเป็นครั้งคราว ต่างจากผมที่มันแทบไม่เฉียดเข้ามาใกล้เลย...เศร้า

ผู้คนยังขวักไขว่เช่นเคย เด็กมหาลัยอย่างเราเข้าสู่ช่วงสอบ แต่คนที่มาซ้อมที่นี่ไม่ได้เข้าช่วงสอบนี่ครับ บางคนอยู่ในชุดนักเรียนมอต้นหรือมอปลายปะปนกัน รวมถึงเด็กปวช. ปวส. หรือแม้แต่คนที่เรียนจบไปแล้ว

“มาเกะกะเปล่าๆ...” พี่โซฮานเปรยขึ้น...อีกแล้ว ผมเงยหน้ามองพี่เขายิ้มๆ เหมือนเป็นมารยาททั้งที่ไม่ได้รู้สึกอยากยิ้มอะไรให้เขา ผมว่าเราต่างคนต่างอยู่มาพักใหญ่แล้วนะ ไม่วายมาแขวะกันอีกเนาะคนเรา

ผมเลือกที่จะไม่ตอบโต้อะไร นั่งก้มหน้าก้มตาตั้งใจอ่านสิ่งที่อยู่ในมือ เข้าใจว่าพี่เขาก็อยากได้พี่มะเดี่ยว…แต่พี่มะเดี่ยวไม่เอาพี่เขาไง แถมยังไปว่าอะไรพี่เขาไม่ได้ พี่โซฮานจึงเหลือทางออกเดียวคือมาแขวะผม เล็กๆ น้อยๆ ก็เอาว่างั้นเถอะ ทั้งที่มันไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย

พี่มะเดี่ยวแวะเวียนมานั่งเล่นด้วย ถามไถ่ไปตามเรื่องตามราว กว่าจะเลิกซ้อมก็นู้น...สี่ห้าทุ่ม พวกเขาไม่ได้ซ้อมจริงจังกันขนาดนั้นนะ ซ้อมไปเล่นไป เล่นบ้าบอปัญญาอ่อนด้วยอะประเด็น แต่พอเลิกซ้อมเราก็แยกย้ายทันที พี่มะเดี่ยวเป็นคนปั่นจักรยานเช่นเคย ผมเลิกอ่านชีทแล้ว...ตอนนี้แค่นั่งกินลมชมวิวพร้อมทั้งทบทวนสิ่งที่อ่านไป

“ไปนอนห้องพี่ปะ” พี่เขาถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

“ไม่ ได้ไหมครับ ผมจะทำรายงานต่อสักหน่อยอะ”

“งั้น...วิดีโอคอลนะ”

“อื้อ เอาสิ” ผมตอบกลับทันที

เราแวะเซเว่นเพื่อซื้อของกินเล่นนิดหน่อย รวมถึงข้าวกล่องด้วยเพราะพี่มะเดี่ยวแกหิวอีกแล้ว เล่นเต้นหนักขนาดนั้นก็ต้องหิวเป็นเรื่องธรรมดา พี่เขาอุ้มความรักบวกถือกระเป๋าให้ ส่วนผมก็ถือหนังสือและของกิน

อยู่กินมื้อดึกด้วยกันแป็บเดียวพี่มะเดี่ยวก็กลับห้องไป พี่เขาพรากเอาความรักผมไปเลี้ยงดูให้...เห็นว่างานผมเยอะนั่นแหละเลยกลัวความรักจะเป็นตัวป่วนคอยทำลายสมาธิ ผมก็ไม่ว่า อีกอย่าง...มองตาพี่เขาแล้วรู้เลยว่าพี่มะเดี่ยวอยากอยู่ด้วย แกแค่ไม่อยากรบเร้าผมเท่านั้น

“เราจะนอนดึกไหม...” แยกกันไปไม่เท่าไหร่ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็วิดิโอคอลหากันทันที

“ไม่รู้ดิพี่ พี่ง่วงพี่นอนก่อนเลย” ผมหันไปบอกอีกคน ตอนนี้พี่มะเดี่ยวนอนกอดความรักอยู่บนเตียง ต่างจากผมที่นั่งอยู่หน้าคอมพ์

ตำแหน่งของเรามันสลับกันนิดหน่อยเนอะ...

“พี่จะนอนก็ต่อเมื่อเรานอน” พูดมาแบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ผมอยากนอนเร็วขึ้นหรอก

“แต่ถ้าพี่ไม่ยอมนอนผมจะงอนนะ...” ส่งยิ้มมุมปากที่คิดว่าเจ้าเล่โคตรๆ ไปให้เขา

“สามขู่พี่ไม่ได้หรอก” ใช่สิ พี่มันคนจอมขู่โดยแท้นี่นา

“งั้นให้น้าบอยจัดการ...”

“โอเค เดี๋ยวพี่นอน” ทีนี้ละเร็วเลย ผมหัวเราะกับความจำยอมของพี่เขา เวลาพูดถึงน้าบอย พี่มะเดี่ยวจะดูอ่อนข้อลงอย่างเห็นได้ชัดมาก นั่นเท่ากับพี่เขากลัวน้าผมมากเลยไงล่ะ

“อื้อ พี่ต้องพักผ่อนเยอะๆ...เผื่อผมไง”

“ไม่อะ พี่อยากจะเข้าไปห้องเราแล้วรวบเรามานอนกอด นอนเผื่ออะมันไม่ได้ทำให้สามรู้สึกเหมือนได้หลับสักหน่อย” ผมไหวไหล่ไม่สนใจ

“ไม่ทันละ ผมล็อกห้องเรียบร้อย” ยักคิ้วหนึ่งที พี่มะเดี่ยวหรี่ตาจ้อง โหดมากครับ…โหดจนผมสยองไหล่สั่นเลยล่ะ ฮ่าๆ

เราโต้เถียงกันอีกนิดหน่อย หน้าพี่มะเดี่ยวแกดูอิดโรยลงเรื่อยๆ ผมก็เลยไม่ค่อยเถียงเขามากเท่าตอนแรก ส่วนตัวเองกินยาแล้วก็ง่วงเหมือนกันอะ ติดที่งานมันรอไม่ได้ เกิดผมทำไม่ทันขึ้นมาอาจารย์เขาไม่ช่วยเรื่องคะแนนอย่างตอนเรียนมัธยม ก็เลยต้องฝืนทน เอาให้สุดๆ ก่อนจะไปหยุดที่การดื่มกาแฟ...

….100%….

เราตั้งใจจะอัปตั้งแต่มะวาน แต่เค้าหลับ ฮื่ออออ เผลอหลับตั้งแต่สองทุ่ม สะดุ้งตื่นเที่ยงคืนนึกว่าสายแล้วไปทำงานไม่ทันอีกแหนะ โอยยยย อากาศเย็นทำเราเพี้ยนได้นะเค่อะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 49 [100%]❤️ -23/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-12-2017 21:56:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 49 [100%]❤️ -23/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 23-12-2017 22:53:13
สามน่ารักมากอิอิ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 49 [100%]❤️ -23/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-12-2017 00:20:11
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 49 [100%]❤️ -23/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-12-2017 09:01:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 49 [100%]❤️ -23/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 25-12-2017 10:11:26
พี่โซฮานนิสัยไม่ดีอีกแร้ว :m16: :m16: :3125: :3125:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 25-12-2017 22:52:18
>>ตอนที่ 50 [100%]<<

ในขณะที่ผมเริ่มเขาสู่การสอบอย่างจริงจังไปทุกที พี่มะเดี่ยวเองก็ซ้อมหนักขึ้นทุกวันเช่นกัน...

ตอนพี่เขาโหมงานว่าไม่ค่อยมีเวลาแล้ว ตอนนี้พี่เขายิ่งไม่ค่อยมีเวลาเข้าไปใหญ่ ผมเองก็จะไปหาไปนู้นนี่นั่นเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ได้ ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือทำหน้าที่ตัวเองให้ดีก่อน ผมเสียดายนะ...ทั้งที่เราเป็นของกันและกันแล้ว แต่กลับไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเท่าที่คาดหวัง

เอ่อ...ผมไม่ได้หมายถึงช่วงเวลาตั้มนะ ฮ่าๆ

ไอ้จะให้พี่เขามานอนด้วยช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ หนึ่งเลยผมชอบอ่านหนังสือเงียบๆ คนเดียว สองคือผมกลัวว่าพอได้อยู่ด้วยกันแล้วจะไม่มีสมาธิในการทำรายงานและอ่านหนังสือ ก็เลยเลือกที่จะต่างคนต่างอยู่กันไปก่อน

ทว่า...พี่มะเดี่ยวก็ยังเจียดเวลามาให้เสมอ แม้ว่าผมเองจะไม่ค่อยมีเวลาให้เขาก็ตาม

ช่วงเช้าพี่เขาจะพยายามตื่นมากินข้าวด้วย และเที่ยงและเย็น...ถือเป็นสามมื้อที่เราจะอยู่ด้วยกัน กับช่วงที่พี่เขาซ้อมเต้นเสร็จก็จะวีดีโอคอลกันทุกคืน จากช่วงพี่เขาโหมงาน ผมมักหลับก่อน ตอนนี้กลายเป็นพี่เขาที่น็อกไปก่อนผมตลอด ส่วนผมเหรอ...นู้น...อยู่โยงยันเช้าทุกวัน

ไม่แปลกที่หน้าตาผมจะโทรมขนาดนี้ พี่มะเดี่ยวเริ่มรู้ว่าผมไม่นอน เขาก็พยายามไม่นอนบ้าง ต่อให้ไล่ยังไงก็มักฝืนอยู่กับผมใกล้เช้าแทบทุกที ผมเป็นห่วงพี่เขานะที่ทำแบบนี้น่ะ ก็การเต้นมันต้องใช้พลังงานค่อนข้างสูง เกิดอดหลับอดนอนมากเข้ามันก็จะไม่มีแรงไปเต้นแล้วก็จะทำได้ไม่ดี

“พี่เองก็อยากมีเวลาอยู่กับสามให้มากที่สุดเหมือนกันนะ...ถึงแม้เราต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำก็เถอะ”

พอได้ยินพี่เขาพูดมาแบบนี้ ผมก็ไม่ว่าอะไรเขาอีก ตอนนี้พี่มะเดี่ยวไม่ได้มาเต้นที่มหาลัยแล้ว ชมรมต่างๆ ก็พากันหยุดทำกิจกรรมเพราะเด็กๆ ใกล้สอบ ต้องทุ่มเวลาให้กับการอ่านหนังสือ เคลียร์รายงานที่มากมายมหาศาล

มันเป็นหนึ่งอาทิตย์สุดท้ายก่อนสามวัยนรกที่โหดหินที่สุด ยิ่งกว่าตอนสอบแอดมิชชั่นอีกอะ นอนบ้างไม่ได้นอนบ้าง ความรักถึงกับอดตาหลับขับตานอนไปพร้อมกับผม ที่จริงพี่มะเดี่ยวจะเอามันไปดูแลให้ แต่ผมเกรงใจอะก็เลยเลือกดูแลความรักเอง อาจมีบางวันอย่างเมื่อวันพุธกับพฤหัสที่ผมเอาความรักไว้ที่พี่มะเดี่ยว สองวันนั้นไม่ได้นอนเลยสักงีบเดียวเพราะงานมันกระชั้นชิดแล้วจริงๆ...

“กี่โมงละวะ...” พีชเอ่ยถามเสียงเพลีย แหงสิ พวกเราโหมงานกันมาทั้งสัปดาห์แล้ว มีห้องนอน ห้องเรียนและห้องสมุดเป็นที่พักพิงหลักเลยครับ

“สองทุ่มแล้วมึง กลับยังวะ...ง่วงฉิบหาย” ว่าจบวิ่งก็หาววอดใหญ่ เมื่อวานได้งีบนะ...งีบไปตอนตีสามตื่นหกโมงมารวบรวมรายงาน

“เอาดิ น่าจะไม่มีอะไรแล้วมั้ง...เหลืออ่านทบทวนปะ” ผมว่าลอยๆ เสาร์อาทิตย์นี้ต้องทบทวนวิชาที่เราจะสอบ แล้ววันจันทร์ถึงวันพุธคือนรกที่แท้ทรู

“ใช่ เหลือแค่นั้นแหละ ปะ...กลับเหอะ กูจะนอนให้อิ่มเลยแม่ง พรุ่งนี้ค่อยอ่านละกันหนังสือเนี่ย” วิ่งเก็บของก่อนเป็นคนแรก ตามด้วยผมและพีช

ระหว่างเก็บผมก็ไลน์ไปหาพี่มะเดี่ยว กะจะถามว่าพี่เขาอยู่ไหนจะได้ไปหา พอดีเมื่อเย็นเราไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันครับ...ผมเนี่ยแหละที่ไม่ว่างไปกิน นี่ก็ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยตั้งแต่เที่ยง พี่แกบ่นๆ อยู่ตอนผมบอกว่าผมไม่ได้ออกไปกินข้าวด้วย อยากสรุปงานเพื่อจะเอาไปอ่านทวนเสาร์อาทิตย์นี้ไงครับ ก็เลยทุ่มเทเวลาให้กับห้องสมุดอย่างหนักหน่วงแบบนี้

พี่มะเดี่ยวไม่ยอมตอบไลน์ คงซ้อมเต้นอยู่ที่ตลาดเปิดท้าย เขาสิงที่นั่นทุกวัน กลับห้องก็ห้าทุ่มเที่ยงคืนซึ่งผมยังไม่หลับไม่นอน เร็วสุดที่ขึ้นเตียงหลับในอาทิตย์นี้ก็...ตีสามนั่นแหละ แม่รู้แม่ตีตายเลย

ผมกับเพื่อนปั่นจักรยานแยกกันไปคนละทาง มันกลับห้อง ผมไปตลาดเปิดท้าย ความรักอยู่กับพี่มะเดี่ยว เขาไปรับมาจากน้าบอยเมื่อเที่ยงนี้เนี่ยแหละ มันเป็นหมูบีบอยไปแล้วล่ะครับทุกวันนี้...เต้นไม่เป็น กลิ้งหลุนๆ แทน

ฟลอเต้นยังคงเป็นสถานที่ที่ครึกครื้นอยู่เสมอ เสียงเพลงดังสนั่นและผู้คนโยกย้ายใส่เสต็ปกันอย่างเมามัน เห็นแล้วก็อยากไปเต้นกับเขาบ้างเนอะ ไม่ได้มาตั้งหลายวันแหนะ ถึงจะไม่ได้รักชอบในการเต้นเท่าคนอื่น แต่มันสนุกและก็มีความสุขไม่ใช่เล่นเหมือนกัน

“อ่าวไอ้สาม” พี่เรย์เป็นคนแรกที่ทัก ผมยกมือไหว้พี่เขาเป็นมารยาทก่อนจะมองหาพี่มะเดี่ยวกับความรัก

“ไอ้เดี่ยวมันไปซื้อของกินกับความรักอะ” พี่เรย์แกไขข้อข้องใจให้

“อ่อ เหรอครับ...”

“เออ แต่มึงดูเหมือนซอมบี้มากอะตอนนี้ ถามจริง...เรียนหนักขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ผมเดินเข้าไปหยุดใกล้ๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ข้างฟลอเต้น

“นิดหนึ่งพี่ วันจันทร์ผมจะสอบแล้วไง..ก็เลยต้องเร่งทำรายงานกับอ่านหนังสืออะ” ตอบยิ้มๆ พี่เรย์พยักหน้าเข้าใจ

“สอบผ่านไปก็สบายละมั้ง เทอมสองก็เน้นเรียน” แหงสิ เทอมแรกเล่นกิจกรรมกับรับน้องก็หมดเทอมแล้วอะ

ผมคุยกับพี่เรย์อีกเล็กน้อย เขาโชว์ท่าที่หัดใหม่ให้ผมดู ธรรมดาครับ บีบอยค่อนข้างขี้อวด ไม่งั้นจะชอบเต้นต่อหน้าคนเยอะๆ เหรอ สมใจพี่แกแล้วผมถึงได้เดินไปนั่งข้างพี่แม็กซึ่งมีกระเป๋าของพี่มะเดี่ยววางอยู่ พี่โซฮานเดินเข้ามาหยิบน้ำตรงพื้นหน้าม้านั่ง

“เราไม่น่ามาหรอก เดี๋ยวไอ้เดี่ยวแม่งก็ไม่มีสมาธิจะซ้อม แค่นี้มันก็เหนื่อยเทียวไปเอาใจบ่อยๆ จะแย่…” พี่เขาพูดพลางจ้องหน้าผมเขม็ง

“อ่า...”

“เป็นแฟนกันอะ มันต้องไม่ถ่วงกันปะวะ...เดี่ยวแม่งตาโหลทั้งที่งานก็ไม่มีแล้วช่วงนี้ แค่ซ้อมกลับดึกหน่อยเดียวมันไม่น่าเหมือนคนอดนอนหรอก เพราะมึงอะที่ทำให้มันเป็นแบบนั้น ถ้ามันอาการแย่แล้วซ้อมพลาดเจ็บตัวขึ้นมา มึงจะรับผิดชอบได้ไหม...” เขาว่าเสียงเรียบแต่เกี้ยวกราด ไม่ได้พูดดังให้คนอื่นได้ยิน ว่าง่ายๆ...ด่าผมให้ผมรู้คนเดียวอะนะ

“แต่ผมไม่ได้บังคับพี่เขานะครับ” พี่มะเดี่ยวอยากคุยด้วย...อยากอยู่ด้วยกัน เราถามไถ่กันทุกอย่าง..โดยเฉพาะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของกันและกัน

เพราะผมรู้ว่าการอดนอนไม่ใช่เรื่องดี พี่มะเดี่ยวเคยอดหลับอดนอนมาแล้วตอนที่งานเขาเยอะจัดๆ ผมเป็นห่วงมาก เหมือนที่ตอนนี้เขาเป็นห่วงผมมาก แล้วยังไง...ผมไล่เขาแล้ว บอกแล้วว่าผมไม่เป็นอะไร แต่พี่เขาห่วงนี่...ความผิดผมเหรอ?

“ไอ้สาม! มึงพูดเหมือนจะไม่รับผิดชอบต่อสุขภาพไอ้เดี่ยว มึงเป็นแฟนยังไง...มึงก็รู้ว่ามันต้องซ้อมหนักขนาดไหน เหนื่อยขนาดไหน มึงอะต้องดูแลมัน ไม่ใช่มาใช้คำพูดง่ายๆ เพื่อปัดความรับผิดชอบ” เดี๋ยวนะ...ผมไปปัดความรับผิดชอบตรงไหน

“แล้วผมต้องรับผิดชอบยังไง”

“ก็ดูแลมันให้ดีๆ สิ ถ้าดูแลไม่ได้...ก็เลิกเหอะ ให้คนอื่นที่เขาดูแลไอ้เดี่ยวได้ดีกว่ามึงดีกว่า”

“พี่อะเหรอ” ผมถามสั้นๆ โปรยมาขนาดนี้ก็รู้แล้วปะละ

“เออ” นั่นไง…กล้ารับด้วย โคตรแมน ผมชอบ แต่…พอดีนั่นแฟนผมอะ

“พี่โซฮาน…ผมกับพี่มะเดี่ยวใช้เวลาร่วมกันเยอะมากครับ เรารู้กัน ในขณะที่คนนอกอย่างพี่ไม่รู้” ดอกนี้มึงตาย! แล้วก็ใช่...คนนอกมันจะไปรู้อะไรล่ะวะ แหมแฟนกันต้องให้ผมดูแล...พี่มะเดี่ยวไม่ต้องดูแลผมบ้างเลยงี้เหรอ ตลก มันต้องดูแลกันและกันไง จับมือกันผ่านความเหนื่อยยากอะเข้าใจปะ

เออ ผมรู้นะว่าพี่โซฮานแกเป็นห่วงพี่มะเดี่ยว อยากให้ผมดูแลพี่มะเดี่ยวให้ดีๆ คิดแค่นั้นไง...เห็นพี่มะเดี่ยวโทรมหน่อย ตาโหลหน่อยก็ว่าผมทำหน้าที่ไม่ดี ทั้งที่ผมก็ไล่แล้วไง แต่เขาไม่ไป...เขาอยากคุย อยากอยู่ด้วย อยากดูแลผมบ้าง...นั่นก็หน้าที่แฟนที่เขาต้องทำไหมครับ ไม่มีใครเรียกร้องอะไรใครทั้งนั้นอะ เราต่างก็มอบสิ่งนี้ให้กันเอง แต่คนนอกเนี่ย...แม่งคนนอกจริงๆ วะ

“มึง...”

“สามมาได้ไงเนี่ย ไม่เห็นบอกพี่ก่อนพี่จะได้ไปรับ” ก่อนพี่โซฮานจะสติแตกฆ่าผมหมกพี่แม็ก พี่มะเดี่ยวก็เดินเข้าฟลอมาพร้อมความรักและของกินในมือ

“พี่อย่าไปรับผมมากสิ เดี๋ยวเพื่อนก็หาว่าเห็นแฟนดีกว่าหรอก” ยิ้มหวานๆ...ให้พี่โซฮานชื่นใจ ฮ่าๆ เขาคงอยากกระทืบผมมากกว่าอะนะ

“ก็โดนนะ ฮ่าๆ...” พี่แกเดินตัดผ่านหน้าพี่โซฮานมานั่งข้างผม เบียดจนกระเป๋าทั้งหมดทั้งมวลแทบจะเกยขึ้นไปกองอยู่บนตัวพี่แม็กแล้วครับ

พี่มะเดี่ยวส่งความรักมาให้ผมอุ้ม พี่โซฮานมองอยู่สักพักก็เดินหายไปไหนไม่รู้ พอดีไม่ได้มองตามก็เลยไม่เห็นขนาดนั้น ตอนนี้สายตาของผมจับจ้องอยู่ที่ข้าวเหนียวไก่ย่างมือพี่มะเดี่ยวมากกว่า

“หิวจังเลย...” เอนหัวซบอ้อนแป๊บ

“เอาสิ พี่ซื้อมาเผื่อ กะว่าจะโทรถามเราว่าจะเลิกตอนไหนจะได้ไปรับพร้อมข้าวเนี่ยแหละ แล้ววันนี้เป็นไงมั้ง...สรุปงานที่จะเอาไว้อ่านเสาร์อาทิตย์นี้ได้ไหมล่ะ” เห็นไหมว่าพี่มะเดี่ยวแกรู้เรื่องผมดี เพราะผมเล่าให้ฟังเสมอ เราอาจไม่ได้ตัวติดกันขนาดนั้น แต่เรารู้เรื่องของกันและกันตลอด อย่างพี่มะเดี่ยวเองก็จะแข่งในอาทิตย์หน้านี้แล้ว...ไม่งั้นจะโหมขนาดนี้เหรอครับ

“สรุปทันพี่ คืนนี้น่าจะได้นอนบ้าง ผมง่วงโคตรเลยอะ กินกาแฟจนมึนไปหมด” โดนพี่เขาบ่นเหมือนกันว่ากินเยอะ ทำไงได้ อยากถึกอยาทนก็ต้องโด๊ปอะจริงไหม

“พี่ควรจุดพลุฉลองปะที่เราได้นอน”

“โหย ไม่ขนาดนั้นเหอะ ตอนพี่ทำงานก็ไม่ต่างจากผมหรอก...กว่าจะยอมนอนได้ ต้องเอาตัวเข้าแลกอะคิดดู” อย่าคิดลึก แค่เอาตัวไปให้เขานอนกอด พี่มะเดี่ยวโยกหัวผมเบาๆ เขาหัวเราะกับหน้าตาบึ้งตึงไม่จริงจังของผม

“พี่ไม่เถียง”

“เถียงไม่ได้อะดิ โด่...”

“กินๆ ไปเลยปะ หมั่นเขี้ยววะ…อยากฟัด ไหนๆ คืนนี้ก็ได้นอน ขอฟัดสักคืนได้ปะ”

“แค่ฟัดแก้มปะ” ยิ้มหวานใส่

“หึ…ฟัดทั้งตัวอะ” ไอหยา…มาพร้อมดวงตาแพรวพราวอีกต่างหาก ก็แหม…ทุกวันนี้มีแค่จูบหวานๆ ตอนเช้านิดหน่อยแล้วก็ย้ายกันไปทำหน้าที่ใครหน้าที่มันแล้วนี่นา

“สอบเสร็จก่อนได้ปะ”

“อืม...นานอะ”

“ไม่กี่วันเอง”

“แต่ได้ฟัดแน่ใช่ปะ...” พยักหน้าเบาๆ

“อื้อ”

“โอเค...งั้นรอ แต่ว่าขอไปนอนด้วยนะ อยากกอด คิดถึง” ว่าจบพี่เขาก็โอบไหล่ผมให้เข้าใกล้ก่อนจะหอมศรีษะเบาๆ

“ครับพี่” ก็ยิ้มตอบแหละ ไม่ปฏิเสธหรอก...ไม่ได้มีอะไรเสียหาย มีพี่เขาให้นอนกอดมันก็อบอุ่นดีนี่ครับ

เราพากันนั่งกินข้าวเหนียวไก่ย่าง ท่ามกลางผู้คนและเสียงดนตรี พี่มะเดี่ยวบ่นเจ็บข้อมือนิดหน่อย วันนี้เขาพลาดแล้วก็ล้ม ชักแขนตัวเองออกไม่ทันก็เลยทับเต็มเหนี่ยว ผมนี่ถึงกับย่นคิ้วเลย เพราะเขาไม่ยอมบอกผมตั้งแต่แรก พี่มะเดี่ยวกลัวผมจะเป็นห่วงจนไม่เป็นอันเรียนอะครับ แกเลยเก็บเงียบไม่ยอมบอก

“เป็นเพราะพี่ไม่ได้นอนหรือเปล่า”

“ไม่หรอก เต้นแบบนี้มันก็พลาดกันได้นะ” พี่มะเดี่ยวยีหัว ผมคิดว่า....ที่พี่โซฮานมาว่าผมเมื่อกี้นี้อาจเพราะพี่มะเดี่ยวล้มเนี่ยแหละ

“แล้วเมื่อกี้โซมันพูดอะไรกับเรา” ผมนึกว่าพี่จะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเสียอีก

“ก็...ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่บอกให้ผมดูแลพี่ดีๆ หน่อย” ใจความมันก็ประมาณนั้น แค่มีอีกส่วนสำคัญที่ไม่พูดเท่านั้นเอง

“แค่นั้น?”

“แค่นั้นแหละ คงเพราะพี่ล้มมั้ง แล้วเป็นไงมั้งอ่า...เจ็บมากปะ ซ้อมไหวไหมเนี่ย” ผมบีบนวดตรงข้อมือของพี่เขาด้วยมือข้างที่ไม่มีไก่ย่าง พี่มะเดี่ยววางมือทับลงมา

“ไหว แค่นี้เอง...ไม่เจ็บเท่าไหร่ เดี๋ยวนวดยากับพันผ้าไว้ก็หายแล้ว เราต่างหากที่น่าห่วง…” รู้...ผมรู้ว่าพี่ห่วงที่ผมไม่ได้หลับไม่นอน

“ผมก็ไหว ผมถึกมาก” ทำหน้าแบบมั่นใจในคำพูดตัวเองโคตรๆ พี่มะเดี่ยวหัวเราะ

จากนั้นเราก็หยอกก็ล้อกันไปตามเรื่องตามราวอะครับ ปัญญาอ่อนบ้าง มีสาระบ้างปะปนกันไป พี่มะเดี่ยวอยู่รอจนผมกินอิ่มแล้วถึงได้ออกไปซ้อมเต้นต่อ ผมได้เห็นพวกเขาในโหมดจริงจังกว่าครั้งไหนๆ โดยเฉพาะพี่มะเดี่ยวเนี่ย...ใส่ใจกับทุกรายละเอียดของการเต้นเลยจริงๆ

“ได้นั่งดูพี่เขาทุกวันแบบแกนี่มันน่าอิจฉาชะมัดเลยนะไอ้ความรัก...” เพราะมันสนุกแล้วก็มีความสุข มีทั้งเสียงเพลง มีทั้งเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของพี่เขาอยู่รอบๆ ความรักน่าอิจฉาที่สุดแล้ว...ผมสิ ต้องตรากตรำอ่านตำราเรียนต่อไปจนกว่าจะสอบผ่านอะนะ

….100%….

คนนอกที่พยายามจะเป็นคนในนี่มัน…น่ารำคาญนิดๆ นะเนี่ยน้า
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-12-2017 23:16:28
 :L2: :L1: :pig4:


ขอให้ความพยายามของโซนั้นไม่สำเร็จ นะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 25-12-2017 23:52:25
พซฮยังไม่ละความพยายามอีก  :beat:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-12-2017 00:03:09
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 26-12-2017 00:18:04
 :3125:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 26-12-2017 18:47:05
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-12-2017 22:23:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 27-12-2017 01:14:33
ไม่ได้เข้ามาแป้ปเดียว เค้าไปกันขนาดนี้แล้วว ฮ่าๆ ยังชอบน้องสามเหมือนเดิม มองโลกในเเง่ดีตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 27-12-2017 10:19:05
ลำไยโซฮาลอ่ะ  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 27-12-2017 17:00:09
โซฮานเป็นตัวละครที่น่ารำคาญแต่เราชอบซะงั้น ชอบแบบรำคาญๆ ลุ้นว่านางจะทำอะไรจะจิกจะแขวะอะไรสามอีก อ่านไปคันมือไป55555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 50 [100%]❤️ -25/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 27-12-2017 19:33:12
โฮซานเอ้ยยย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 51 [100%]❤️ -28/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 28-12-2017 21:15:23
>>ตอนที่ 51 [100%]<<

เดอะสามผู้ขยันเรียมากไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า ผมนั่งมองพี่มะเดี่ยวซ้อมกับทีมพลางอ่านสรุปงานของตัวเองไปด้วย ทุกอย่างถูกมาร์กเอาไว้หมดแล้ว แค่ทำความเข้าใจและท่องจำอีกหน่อย เวลารู้สึกว่าตัวเองตาลาย ไม่ไหวและจะไล่ตามตัวหนังสือก็พักด้วยการมองท่วงท่าการเต้นแทน

ทีมดิสทินีย์กินพื้นที่ตรงกลางฟลอเอาไว้ เด็กๆ แทบจะซ้อมไม่ได้แต่ก็ไม่มีใครทักท้วงอะไร ในเมื่อทีมนี้คือเจ้าถิ่น เดิมทีที่นี่ไม่มีคนมาซ้อมเต้นหรอก เป็นแค่ตลาดโทรมๆ เท่านั้นเอง พวกพี่มะเดี่ยวกับรุ่นพี่อีกคนสองคนมั้งมาเปิดฟลอที่นี่ หลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มทยอยมาเต้นกันมากขึ้น คนเปิดฟลอคนแรกเราเรียกกันว่าเฮดฟลอ แล้วต่อให้เฮดเด็กกว่าหรือเก่งน้อยกว่ายังไง คนอื่นก็ต้องเคารพเขาและให้เกียติเขา คล้ายๆ ธรรมเนียมที่ปฏิบัติต่อๆ กันมาอะครับ

 “เดี๋ยว...” จู่ๆ ไอ้ความรักที่นอนสงบอยู่บนตักผมก็กระโดดลงไป จะลุกตามทันทีก็ไม่สะดวกเพราะมีของอยู่

ตั้งใจจะหยิบเอากระเป๋าตัวเองออกเพื่อตามความรักกลับมา ไม่อยากให้มันลงไปป้วนเปี้ยนรบกวนคนอื่น แต่ต้องชะงักเพราะมันเดินไปหยุดอยู่ตรงขาพี่มะเดี่ยว ข้างกายใหญ่มีร่างเล็กของพี่โซฮานยืนขนาบ ทั้งคู่คุยอะไรกันสักอย่างเสียงเพลงดังผมไม่ได้ยิน พี่โซฮานเหมือนจะจับมือพี่มะเดี่ยวดู...ก็เจ็บข้อมืออยู่นี่นะ ทว่าความรักมันเอาจมูกดุนขาพี่เขาก่อน พี่มะเดี่ยวมองต่ำที่ความรัก พี่โซฮานมองตาม กลายเป็นจุดสนใจในทันทีเลยนะไอ้หมู

ผมไม่ยอมลุกแล้ว...นั่งอ่านชีตแต่เหลือบมองพี่มะเดี่ยวยอบตัวลงอุ้มความรักเอาไว้ในอ้อมแขน จากที่พี่โซฮานจะดูข้อมือพี่มะเดี่ยวก็ไม่ได้ดูแล้ว ก็พี่เขาเล่นอุ้มความรักเดินมาหาผมแล้วอะสิ

นี่...ความรักแกร้ายนะ

“อ่านจนความรักหนีแล้ว” พี่เขายีหัวผมเบาๆ ด้วยมือข้างหนึ่ง

“มันแค่ไปหาพี่ ไม่ได้หนีผมไปไหนสักหน่อยนี่นา...มันรบกวนหรือเปล่าครับ” เงยหน้ามองสบตาที่แสดงออกถึงความสุขของเขา

“ไม่เลย มันน่ารักเหมือนเจ้าของมันนั่นแหละ...” งุย...ไม่เขินหรอก ฮ่าๆ

“งั้นก็ต้องรักมันมากๆ นะครับ” ว่าแล้วก็เม้มปากแน่น พี่เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้แล้วจูบที่หน้าผากผมเบาๆ ชั่ววินาที

“คงยากนะ เพราะพี่รักเจ้าของมันมากกว่า” ถึงขนาดนี้ควรเขินได้แล้วล่ะ...ไม่มีใครว่าที่ผมจะหน้าแดงใช่ไหมนะ

“ฮ่าๆ...พี่ก็ อายคนอื่นเขา มองมาที่เราหมดแล้ว” ผมโครงหัวเล่นนิดหน่อยแก้เก้อ

“ช่างมันสิ นานๆ จะมีคนมาให้สวีตถึงฟลอ”

“พูดอย่างกับคนเก่าๆ ของพี่ไม่มา”

“ก็มา...มาเหวี่ยงอะ” แล้วเขาก็ขำ

พี่เขาเคยเล่าให้ฟังอยู่ว่าแฟนเก่าๆ ของเขาไม่พอใจที่เขาให้เวลากับการเต้นและงานมากเกินไป จนละเลยพวกเขา บางทีก็อยากไปเที่ยวแต่พี่มะเดี่ยวกลับเอาแต่เต้น ไม่รู้สิ ผมไม่คิดว่าส่วนนี้ของพี่มะเดี่ยวเป็นปัญหานะ ก็เขาชอบของเขาอะ...นี่คือที่ที่เขาอยู่แล้วมีความสุข ผมเองยังมีความสุขกับการได้อยู่ที่นี่เลย

“เดี๋ยวพี่ซ้อมอีกสักพักก็จะแยกย้ายแล้ว รอหน่อยนะ...” พี่มะเดี่ยวยื่นความรักให้ ผมรับไว้

“ครับ รอได้พี่...ตั้งใจซ้อมเถอะ” เขาทำสิ่งที่ชอบคือยีหัวผมแล้วก็เดินเข้าฟลอยิ้มๆ

แน่นอนว่าคนอื่นต้องล้อและแซ็วกันเป็นเรื่องปกติ พี่มะเดี่ยวก็ตอกกลับไปเหมือนกัน...ก็นะ พวกมึงไม่มีแฟนมาหานี่ อะไรประมาณนี้แหละ เขาล่ะหน้าชื่นตาบานเป็นที่สุดเลย ทั้งที่ค่อนข้างจะอดนอนไม่ต่างกับผม แต่พี่เขาดูสนุกสนานและมีชีวิตชีวาเมื่อได้อยู่ท่ามกลางเสียงดนตรี ความอ่อนเพลียทำอะไรเขาไม่ได้จริงๆ นั่งพักแป๊บเดียวก็ฟื้นคืนพลังได้อย่างง่ายดาย นั่นแหละพี่มะเดี่ยวแห่งทีมดิสทินีย์สเต็ป...

เกือบเที่ยงคืนเราทั้งหมดก็แยกย้าย ก่อนจะกลับกันก็มีการประชุมทีม ผมที่เป็นคนนอกก็ได้ฟังร่วมกับพวกเขาด้วยเหมือนกัน พี่มะเดี่ยวนั่งอยู่ข้างกาย ในขณะที่คนอื่นนั่งพื้น โห...โคตรไม่มีความยุติธรรม เห่อๆ ไม่ใช่ไรหรอกครับ มันมีม้านั่งแค่ตัวเดียวไง แล้วพี่เขาก็อยากนั่งข้างผมเท่านั้นเอง เรื่องที่ประชุมกันมีเรื่องของการซ้อมในวันพรุ่งนี้ พวกเขาจะซ้อมเต้นเช้าหน่อยเพราะใกล้เวลาที่ต้องแข่งขัน แล้วก็ไม่ได้จะซ้อมที่นี่แต่จะไปที่สยามเพื่อพบปะทีมอื่นๆ บ้าง

ไม่เชิงไปข่มขวัญศัตรูหรอก ไปแบบ...ไปส่องๆ แล้วก็เต้นร่วมกับพวกเขานั่นแหละ ซึ่งคนเสนอเป็นพี่เรย์ พี่มะเดี่ยวเห็นด้วยที่จะทำแบบนั้น เมื่อนัดซ้อมแล้วก็ยังมีติติงเรื่องการทำสกิวต่างๆ บางคนยังทำได้ไม่ดี บางคนพลาดบ่อยแล้วพี่มะเดี่ยวไม่อยากให้มีการพลาดเกิดขึ้นเมื่อต้องขึ้นเวที ที่นี่นอกจากซ้อมหนักให้ท่าแน่นแล้วยังต้องคิดด้วยว่าถ้าเกิดพลาด...จะแก้สถานการณ์ยังไง

พี่มะเดี่ยวมีความเป็นผู้นำสูงมาก จากประสบการณ์การทำทีมมานาน ทำให้เขาชี้เป้าให้คนมีจุดอ่อนได้เห็นและหาวิธีแก้ ทุกคนตั้งใจฟังมาก ทั้งที่ปกติก็กวนประสาทกันไปกวนประสาทกันมา ดีเนอะ...เมื่อถึงเวลาต้องเอาจริง พวกเขาไม่กะโหลกกะลาเลย

ประชุมเสร็จเที่ยงคืนเศษ ได้เวลาแยกย้ายของจริง พี่มะเดี่ยวถึงจะเหนื่อยกับการซ้อมเต้นก็ยังคงอาสาปั่นจักรยานให้ ความรักเท้าตะกร้าหน้ารถเงยหน้ากินลมเหมือนอย่างเคย เราแวะซื้อของกินที่เซเว่น...ร้านกันตายของเราก่อนจะมุ่งหน้าสู่ห้อง

วันนี้ผมจะนอน!

“ถึงแล้วววววว” มาถึงห้องได้ผมตรงเข้าไปที่โซฟาเลย ทิ้งตัวเอนหลังนอนทันที พี่มะเดี่ยวถือของและอุ้มความรักตามเข้ามาในห้อง

“ห้ามนอน ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเลย พี่ก็จะไปอาบน้ำก่อน...” พี่เขาเอาของทั้งหมดไปจัดเรียงในครัว

“คร้าบ ความรักมานี่ ไปอาบน้ำกัน” พอโดนเรียกก็ทำหน้ามึน ไม่สนใจ

“ไปอาบน้ำครับความรัก” แต่พี่มะเดี่ยวพูดคำเดียว มันเดินมาหาผมเลย...ดีเนอะ เชื่อฟังคนอื่นดี๊ดีอะ ลูกใครวะแม่ง

ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จัดการธุระส่วนตัวจนเรียบร้อยแล้วถึงมาเจอกันที่หน้าทีวี ผมนั่งอ่านชีตรออยู่ก่อนแล้ว ความรักนี่อาบน้ำเสร็จมันนอนตักผมหลับไปเลย ง่วงจัดมากอะ น่าสงสาร...ขอโทษที่ชีวิตช่วงนี้มันวุ่นวายนะเว้ยไอ้ความรัก

“ตอนพี่เรียนอะ พี่ไม่ตั้งใจขนาดเราเลยรู้ปะ...” พี่มะเดี่ยวล็อกห้องแล้วเดินมานั่งข้างกัน วางแขนพาดคอผมเอาไว้ด้วย

“ก็นั่นพี่อะ นี่ผม...”

“เออ หนอย...หมั่นเขี้ยวจริง” หมั่นเขี้ยวได้แต่อย่าฝังเขี้ยวนะเว้ยยยยย

“อดทนไว้พี่ กัดผมตายตอนนี้นี่งานระเนระนาดหมดเลยน้า” ก็เวอร์ไปงั้นแหละ

“จริงปะ ลองดูได้ไหมอะ อยากรู้ว่ามันจะระเนระนาดขนาดไหน” ไม่ว่าเปล่าแต่ดันแก้มผมให้หันไปเผชิญหน้าด้วย

“ง่า...ไม่เอา”

“นะ…ลองนะ” ยิ้มแบบนี้คือแกล้งแน่นอน หนอย คบกันแล้วก็ยังแกล้งกันดีจริงๆ

“ไม่!” ผมตอบกลับเสียงแข็ง หนักแน่นและมั่นคง แต่มันน่าจะกระตุ้นความหมั่นไส้ที่มีมากอยู่แล้วให้เดือดขึ้น พี่มะเดี่ยวแม่งเลยบดปากตัวเองลงมาที่ปากผมเสียอย่างนั้น

มือที่เคยดันแก้มเปลี่ยนเป็นประครองใบหน้าของผมเอาไว้แทน พี่มะเดี่ยวค่อยๆ ใช้ลิ้นเลาะตามริมฝีปากผมก่อนจะสอดเข้ามาด้านใน กลิ่นยาสีฟันอ่อนๆ เป็นสิ่งแรกที่ผมรู้สึก ตามด้วยความนุ่มยุ่นของลิ้น...มันต้อนและกวาดเอาลิ้นของผมไปนัวเนียนกับมัน ทั้งที่พื้นที่ด้านในนั้นมีน้อย แต่เพราะความมีน้อยเนี่ยแหละถึงได้ดิ้นหนีไปไหนไม่ได้ ผมค่อยๆ หาช่องทางให้ตัวเองหายใจหายคอ...บางครั้งจูบที่เร่าร้อนปนอบอุ่นของพี่เขามันก็ทำให้ผมหาลมหายใจตัวเองไม่เจอ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ...จูบสามารถสร้างอารมณ์พลุ่งพล่านให้เกิดขึ้นได้ ผมขย้ำเสื้อยืดใส่นอนตรงอกของพี่มะเดี่ยวไว้แน่นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนี้สติสตางค์ชักจะเลือนราง สมองเป็นอัมพาตคิดอะไรไม่ออก กลายเป็นความรู้สึกล้วนๆ ที่นำทางผมไป...ทำให้ผมตอบสนองกลับด้วยปลายลิ้นและลูบไล้แผ่นอกเขาเบาๆ ร่างกายช่วงบนและร่างเราใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น มันไม่ได้กระโตกกระตากเพราะว่าความรักอาจจะตื่นได้ มันค่อยเป็นค่อยไปจนเราแทบไม่รู้ตัวเลยว่า..เราอาจจะยั้บยั้งสิ่งที่จะเกิดนี้ไม่ได้

“แฮ่ก...” พี่มะเดี่ยวละริมฝีปากออก ผมรีบโหยอากาศให้เต็มปอดทันที

“อยากต่ออะ” มันเป็นคำพูดบางเบาทว่าหนักหน่วงราวกับหมัดฮุก

“หลังสอบไง...”

“ไม่รอแล้วได้ปะ พี่จะทำเบาๆ...นะ” อย่าอ้อนในระยะประชิดแบบนี้สิ ภูมิต้านทานของผมไม่แข็งแรงเท่าไหร่

“อื้อ...” พี่มะเดี่ยวไม่รอให้ผมตอบ แกเคลื่อนเข้ามาสูดดมกลิ่นกายจากซอกคอของผม

โอ้...ชีตจ๋าข้าลาก่อน!

ขนในกายผมลุกซู่ขึ้นมาทันทีพร้อมกับความหวิวไหว ทั้งที่ความรักยังอยู่ตรงตัก...ผมไม่ควรทำอะไรก็ตามอันเป็นเหตุให้มันตื่นขึ้นมากลางดึก ผมนั่งตัวแข็งทื่อ ทั้งที่ใบหน้าเชิดขึ้นให้พี่มะเดี่ยวได้จูบเบาๆ ที่ผิวอ่อนบริเวณคออย่างง่ายดาย

“พี่...เดี๋ยวความรักตื่น” ผมกระซิบบอก

“งั้น...” พี่เขาทิ้งคำ ร่างใหญ่ละออกจากการกกกอด เจ้าตัวลุกขึ้น อุ้มความรักออกจากตักผมแผ่วเบาโดยที่ผมยังนั่งหน้าแดงอยู่ที่เดิม

พี่มะเดี่ยวเอาความรักวางไว้บนโซฟา มันขยับตัวนิดหน่อยแต่ไม่ตื่น สายตาแพรวพราวคู่นั้นหันกลับมาหาก่อนร่างผมจะลอยหวืดเพราะโดนอุ้มขึ้นมากะทันหัน ชีตงานมันหลุดจากมือผมไปตั้งแต่โดนจูบกระชากวิญญาณแล้วล่ะ พี่มะเดี่ยวพาเข้ามาในห้องที่เปิดไว้แค่แอร์ไม่ได้เปิดไฟ ร่างผมถูกวางเบาๆ พร้อมกับพี่เขาที่ทาบทับลงมา

“เอ...เจลอยู่ไหนน้า” มาถามอะไรผมล่า...โอ้ย ถามแบบนี้ก็เขินนะเนี่ย

“ลิ้นชักบนอะพี่” แต่กูรู้ไง ฮ่าๆ...โอ้ย ร้อนทั้งหน้าทั้งตัวแหละตอนนี้

ไม่อยากบอกเลยว่า...มันก็มีทั้งเจลและถุงยาง

พี่มะเดี่ยวเอื้อมไปเปิดลิ้นชักข้างเตียง ชั้นบนสุดเลยล่ะที่เก็บของแบบนั้นเอาไว้ เสียงกุกกักดังขึ้นเบาๆ แล้วพี่เขาก็กลับมาคร่อมทับผมเอาไว้อีกครั้ง ประตูไม่ได้ปิดเอาไว้เลยมีแสงไฟจากด้านนอกโพล่เข้ามา ที่ไม่ปิดก็เพราะความรักไงครับ...มันนอนอยู่ข้างนอก เกิดมันตื่นมันจะได้หาพวกเราเจอ คราวก่อนนู้นนนน มันคงมองผมกับพี่มะเดี่ยวเยิ้บๆ กันจนตาแฉะแล้วก็หนีออกไปตอนไหนสักตอน

“เหมือนเรากำลังแอบทำตอนลูกหลับเลยเนอะ...” พี่เขาว่าขำๆ พี่ไม่พูดผมก็ไม่มีทางคิดนะแบบนี้เนี่ย แต่ก็...ความรักมันลูกผมไง

อุปรกรณ์ถูกวางทิ้งเอาไว้ไม่ไกลมือ พี่มะเดี่ยวแทรกตัวเข้ามาที่กลางหว่างขาของผมพร้อมทั้งโน้มร่างเข้ามากอดผมเอาไว้ ริมฝีปากเราแนบกันนุ่มๆ ดูละมุนละไม แต่มันแค่แป๊บเดียวเท่านั้น...เมื่อมือไม้ของพี่มะเดี่ยวเริ่มเคลื่อนไหวไปมาใต้เสื้อนอนของผม เรียวลิ้นของพี่เขาก็ดูจะดุดันขึ้น ผมตามตอบสนองจนแทบลืมหายใจหายคอ ร่างใหญ่ทับอยู่ทำให้ได้ยินเสียงหัวใจของพี่เขาที่เต้นระรัว...ผมก็เหมือนกันแหละ มันตื่นเต้นนะ

“อื้อ...อะ แฮ่ก…แฮ่ก…” ลิ้นฉ่ำๆ ลากจากมุมปากของผมผ่านลำคอและเสื้อนอนที่ถูกถลกลงไปฉกยอดอกเล็กๆ…

กางเกงของผมถูกถีบออกไปจากตัวด้วยเท้าของพี่มะเดี่ยว แม้แต่ผมที่นอนหอบก็ยังเอื้อมมือไปดึงเสื้อใส่นอนของพี่เขาออกจากตัวเหมือนกัน เราค่อยๆ ผลัดกันถอดทั้งที่พี่เขาไม่ได้ละริมฝีปากออกจากตัวของผมเลย

ทั้งยอดอกลามลงไปยังท้องน้อย ผมเกร็งจนปวดเพราะมันค่อยๆ ลากไล้ลงไป เชื่องช้าและวาบหวิวมาก ยิ่งปรือตามองการกระทำของพี่เขาไปด้วย หัวใจก็ยิ่งกระหน่ำหนักๆ อยู่ในอก เหมือนเกิดฝนพายุอยู่ในนั้น เสียงน้ำสาดอื้ออึงจนเกิดเสียงหึ่งๆ เจือด้วยเสียงครางเบาๆ ของตัวเองในลำคอ

พี่มะเดี่ยวเล่นจูบผมไปทุกส่วน ช่วงท้องแกเล่นย้ำหนักจากซ้ายไปขวา และทุกครั้งมันจะต่ำลงไปเรื่อยๆ ใกล้เข้าส่วนนั้นเท่าไหร่...ผมก็เริ่มกลั้นหายใจรอลุ้นมากเท่านั้น แต่พี่เขาแทบไม่แตะต้อง เล่นเลยไปที่ขาอ่อนด้านใน กัดกับขบมันเล่นจนกล้ามเนื้อสั่นระริก...จะหดขาหนีความสยิวนั้นก็ไม่ได้ พี่มะเดี่ยวแกแรงเยอะมากนะ...ผมสู้แรงนั้นไม่ไหวจริงๆ

“อื้อ...อ๊ะ” แต่แล้วช่วงที่กำลังคิดว่าพี่เขาน่าจะหยุดแล้วขึ้นมาจูบ ส่วนนั้นของผมดันโดนความร้อนรุ่มโอบเข้าไป

ฮื่อออออ พี่อย่าทำแบบนี้ ผมกลั้นไม่ไหวเสร็จคาปากทำไงล่ะ...ผมมองพี่มะเดี่ยวด้วยดวงตาคลอน้ำ พี่เขายิ้มทั้งที่คาบส่วนนั้นของผมเอาไว้ ไม่พอ...ไอ้พี่แม่งชอบยั่วชอบแกล้ง เขารูดปากตัวเองออกเกือบหลุด ลิ้นสีสดแลบออกมาเลียเน้นๆ ที่ส่วนปลาย...กูตายยย

“อื้ออออ พี่อย่า...อึ้ก...มัน...แฮ่กๆ..เสียว” มันก็ทำให้เสียวไม่ใช่เหรอ คือมันเหมือนจะเสร็จอะ

“พี่…ไม่…อ๊ะ..ไม่เอาฮื่อ พอ” เริ่มดิ้นพล่านเข้าไปทุกวินาที แต่พี่มะเดี่ยวก็แกล้งผมไม่เลิกรา จากเอาลิ้นดุนเล่นกลายเป็นครอบปากลงมาอีก ทีนี้ไอ้ความเสียววาบมันก็ผลักดันไอ้ที่อดทนไว้ในตอนแรกให้แตกกระเจิง...

“อ๊ะ….อื้อ….” คาปากเลยเป็นไงล่ะ ฮื่อ พี่แกล้งผมก่อนนะ ผมไม่ผิด

“ไวไปน้า...” ก็ใครให้พี่เก่ง ผมไม่กล้าตอบหรอก พยายามจะเบี่ยงหน้าหลบด้วย สายตาเขาหยอกล้อผมโดยที่พี่มะเดี่ยวไม่ต้องพูดอะไรเลยอะสิ

แกล้งผมหนำใจแล้วก็ได้เวลาพี่เขาเอาจริง น้ำที่ผมได้ปล่อยเอาไว้ถูกคายใส่ช่องทางตามด้วยเจลจากหลอด พี่มะเดี่ยวค่อยๆ ทำให้ผมพร้อมสำหรับการสอดใส่...ทำไมต้องเขินก็ไม่รู้แหละ แต่ผมไม่กล้ามองภาพนั้นเลย ช่วงแรกมันก็อึดอัดไปหมด...กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็ใช้เวลาไปครู่ใหญ่

ถุงยางถูกแกะออกมาใช้ทั้งที่ก่อนหน้านี้พี่เขาไม่ได้ใส่มัน...พี่มะเดี่ยวโน้มลงมากอดผมเอาพร้อมอบจูบหนักหน่วงขณะสอดใส่เข้ามา ผมอึดอัด...และแน่นตึงที่ส่วนนั้นยากที่มันชำแรกเข้ามาเชื่องช้า ลมหายใจของเราสะดุดเป็นห้วงๆ และในบางครั้งมันก็หอบกระเส่า...

บีทเพลงในฟลออาจเริ่มด้วยความหนักหน่วงและรวดเร็ว ทว่าบีทเพลงของเรายามอยู่บนเตียงมันเริ่มจากนุ่มนวลอ่อนหวานคล้ายเพลงรัก ก่อนที่จังหวะและท่วงทำนองจะเร่งเร้าและรุ่มร้อนขึ้นในแต่ละวินาทีที่ผ่านพ้นไป ไม่มีเนื้อร้อง...มีแต่เสียงต่างๆ ประกอบกันเป็นถ้อยคำ สัมผัสอ่อนหวานที่หนักแน่นเปรียบได้กับคำบอกรักย้ำลงในความรู้สึก พี่มะเดี่ยวบดขยี้ผมที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยความถนอมอันร้อนรุ่ม...และผมก็เผาไหม้ตัวเองหลอมรวมกับพี่เขา


….100%….
หายไปหลายวันเลย เค้าไม่ได้หนีเที่ยวนะ แต่เค้าหลับแต่หัววันเลย อาจเพราะงานเยอะละมั้ง ส่วนเมื่อวานนี้หนักกว่าง่วงหลับคือ…มะวานเค้าเมาล่ะ แง่มๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 51 [100%]❤️ -28/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-12-2017 22:02:08
 :man1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 51 [100%]❤️ -28/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-12-2017 22:43:28
 :-[

 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 51 [100%]❤️ -28/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 29-12-2017 00:09:22
เลือดหมดตัวแล้วว
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 51 [100%]❤️ -28/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-12-2017 00:37:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 51 [100%]❤️ -28/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-12-2017 02:29:41
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 52 [100%]❤️ -29/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 29-12-2017 20:55:37
>>ตอนที่ 52 [100%]<<

เฮ้โย่ว...สามวันนรกมาแล้วครับ

กราบสวัสดีสามวันแห่งการสอบ ไม่เคยเกลียดเลขสามเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย...เมื่อก่อนเกลียดไม่ได้เพราะมันคือชื่อตัวเอง ตอนนี้ล่ะขอเกลียดหน่อยเหอะ สอบทีนี่กะฆ่านักศึกษาตายคาห้องไปเลยใช่ไหมครับ...

เช้าสอบยันเที่ยง หลังเที่ยงสอบยันเย็น กลางคืนอ่านหนังสือเรื่องที่ต้องสอบในวันพรุ่งนี้ ไอ้กากบาทอะไม่เท่าไหร่ ไอ้ข้อเขียนเนี่ย...มึงเอ้ยยยยย มีแต่ข้อเขียนเรียงราย ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นของข้อสอบมันเป็นแบบนั้นเสียด้วย จะไม่อ่านหนังสือก็ไม่ได้ บอกตามตรง...อ่านแม่งทั้งที่ตาลายไปหมดเนี่ยแหละครับ

ผมเริ่มอ่านหนังสือพลางรำรึกถึงบุญคุณของผู้คิดค้นกาแฟขึ้นมาบนโลกใบนี้ หากไม่มีกาแฟผมก็คงไม่สามารถโต้รุ่งยาวๆ ยันวันที่สามแบบนี้ได้หรอก ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือเพื่อจะเข้าสอบก๊อกสุดท้าย หมดนี่ผมก็จะเป็นไทแล้ว...อยากจะให้เวลามันผ่านไปเร็วๆ ไม่...ไม่ดี เวลาผ่านไปเร็วผมจะไม่สามารถเขียนข้อสอบได้ทัน แค่ต้องมาเรียบเรียงประโยคที่อ่านมาให้ถูกต้องที่สุดก็ยากจะตายห่านแล้ว

“กูอยากนอน...” วิ่งวางหนังสือลงแล้วเอนตัวไปกับพื้น ทุกคนเป็นคนขยันก่อนเวลาเข้าสอบเสมอครับ ไม่น่าแปลกที่หน้าห้องจะมีแต่คนนั่งอ่านชีต ปากขมุบขมิบ ตาเหลือกตาลานเพื่อทบทวนสิ่งที่ได้อ่าน

แต่มันก็จะมีคนบางจำพวกที่ไม่สะทกสะท้านอะไร เสมือนว่าห้องสอบเป็นมิตรที่ดีของตนเอง ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คนส่วนใหญ่เขากลัวกัน ที่จริงก็น่าอิจฉานะที่ดูเหมือนสบายๆ กับการสอบอะ ผมอยากเป็นแบบนั้นบ้าง แต่ขี้กังวลในเรื่องเรียนไงครับก็เลยตั้งใจกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา กลัวทำคะแนนได้ไม่ดี กลัวเก็บความรู้ได้ไม่หมด หรือกลัวทำอะไรบางสิ่งบางอย่างตกหล่นไป

“ทุกคนอยากนอน รวมถึงกู” พีชนวดขมับตัวเองเบาๆ การอัดข้อมูลจำนวนมากใส่หัวในช่วงเวลาเร่งรีบมันหนักหนาสาหัสมากครับ

พี่มะเดี่ยวก็พยายามบอกตลอดว่าไม่ต้องโหมอ่านขนาดนั้น ให้เราอ่านให้สนุกและลองมีความสุขกับข้อมูลต่างๆ แล้วมันจะดีเอง แต่แหม...พูดง่ายอะครับ ทำจริงมันทำยากนะ อาจเพราะนิสัยผมเป็นแบบนี้ด้วยแหละ

“รวมกูด้วย” สอบเสร็จจะไปหาพี่มะเดี่ยว...หรือนอนดีวะ ไปหาเหอะ คือไม่ค่อยได้เจอกันเลยอะนอกจากตอนกลางคืนที่วิดีดอคอลคุยกัน พี่เขาก็ซ้อมหนักมาก เลิกตีหนึ่งตีสองแทบทุกคืนเหมือนกันอะ

โอดครวญกันไปก็เท่านั้น ไม่กี่นาทีต่อมาก็นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมือต่อไป นี่ผมแอบเอายาทาแก้ปวดมานวดต้นคอของตัวเองด้วยนะ ก้มหน้าอ่านอะไรมากๆ หรือนานๆ มันจะปวดกล้ามเนื้อช่วงนี้ไปหมด ดังนั้นยาบรรเทาอาการปวดเมื่อยถือเป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้เรามีสมาธิกับการอ่านได้มากขึ้น

โค้งสุดท้ายของการสอบเริ่มขึ้นหลังจากเราตั้งหน้าตั้งตาอ่านกันอีกไม่นาน ข้อสอบไม่ยาก...แต่คำตอบอะยาก ช่วงแรกของการอ่านคำตอบในกระดาษเอสี่สีขาวตรงหน้ายังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ผมต้องอ่านวนไปวนมาสักพักใหญ่ถึงสามารถเข้าใจและเริ่มทำได้ กินเวลามากกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาเกือบสิบนาที เพราะง่วงไงครับ...สมองเบลอหน่อยๆ ทำให้ความรู้ความเข้าใจของเรากระจัดกระจายไปหมด

ผมออกจากห้องเป็นคนเกือบสุดท้าย หลังจากเขียนคำตอบทั้งหมดลงไปก็อ่านทวนอีกครั้งเพื่อความไม่ประมาท ผมไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองพลาดเพราะรีบร้อนไปเองอะ พีชกับวิ่งแม่งออกไปนั่งรอด้านนอกกันแล้ว ก็ไม่เชิงว่าพวกมันทำเร็วนะ มันแค่ไม่ได้ทวนอะ เขีนเสร็จก็ส่งอาจารย์ออกไปเลย...

“ไปหาอะไรกินกันเหอะ หิวจะตายห่า...ง่วงด้วย มึงคอยดูนะ กูจะหลับแม่งแบบข้ามวันข้ามคืนกันไปข้างเลยไอ้สัตว์” หยาบคายอะวิ่ง ปลดปล่อยอารมณ์กันหน่อยงี้เหรอเพื่อน

“เออ หิว...ปะ” ผมตอบกลับทันที ตอนนี้สมองไม่ทำงานเท่าไหร่

“แล้วพี่มะเดี่ยวมึงอะ” พีชถามดักขึ้นมาก่อน

“เออ...” ผมลืมอ่านไลน์ของพี่เขาอะ มัวแต่สนใจเรื่องเรียนไง เมื่อเที่ยงกินข้าวด้วยกันอยู่ แล้วพี่เขาบอกอะไรสักอย่างวะ..ผมลืม

“พี่เขาไม่ได้บอกอะไรไว้เหรอ ปกติเลิกสอบต้องมารับมึงนี่” ถูกของวิ่ง ปกติพี่มะเดี่ยวมารับผมทุกเย็นเลย

“เออ เขาก็บอกว่าจะมารับนะ” ใช่ๆ ผมจำได้แล้ว แต่ไหนล่ะ ผมกับเพื่อนร่วมกันช่วยกันมองหาพี่มะเดี่ยว แกมักมารอตรงจักยานของผมอะนะ นี่ผมก็อยู่จักรยานแต่ไม่ยักเห็นพี่เขาเลย

“โทรถามแป็บ...” ตัดสินใจโทรออกเพื่อจะถามว่าพี่เขาอยู่ไหน ผมไม่ได้เครียดกับการที่ไม่มารับหรอก เพราะว่าผมน่ะยังไงก็ได้ แค่อยากให้บอกกันบ้าง พี่เขาแค่ซ้อมเต้นดึกยันดื่น แถมมาอยู่เกือบโต้รุ่งเป็นเพื่อนผมนี่ก็แย่แล้วอะ โทรมเป็นแฟนกันเลยล่ะฮะ...น่อวววว

“ไม่รับวะ ทิ้งไลน์ไว้ล่ะกัน” ส่งข้อความไปบอกแกว่าผมเลิกแล้วนะ พี่อยู่ไหน เขาอาจซ้อมเต้นอยู่ก็เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์

จัดการเรื่องตัวเองเรียบร้อยเราทั้งหมดก็พากันไปหาอะไรกิน ซึ่งไม่ได้ไปไหนไกลกันเลยครับ เหนื่อยอะ เพลียด้วย เจออะไรอยู่ข้างทาง คนไม่เยอะก็นั่งแล้วสั่งอาหารโลด รสชาติสำหรับเราสามคนตอนนี้เป็นเรื่องรองจากความหิวและง่วงนอนครับผม

“มึง..ข้อสามมึงตอบไรวะ” ระหว่างรออาหาร วิ่งก็ถาม

“ข้อสามกูตอบสามหล่อที่สุดในโลก” ตอบมันทั้งที่ทำหน้านิ่งตาปรืปรอย

“พ่องงงงตาย”

“แล้วพ่อมึงสบายดีไหมล่ะ” อย่านะ…อย่ามาชวนทะเลาะกับกูตอนนี้ กูสู้คนนะเว้ย

“แน่นอน พ่อกูสบายดี” วิ่งลอยหน้าลอยตาตอบ

“อืม...แสดงว่าโรงเขาอย่างดีอะเนอะ” ป้าบ...ตบเข้าไปอีกดอก ไอ้วิ่งถึงกับเอื้อมมือมาหมายจะตบหัวผม แต่ผมหลบทัน

“ฝากไว้ก่อนเหอะมึง”

“รีบมาเอานะ มันเกะกะชีวิตกู” ยักคิ้วให้สองจึ้ก วิ่งนี่แทบจะถลาเข้ามาจับผมกดลงกับพื้นปูนข้อหาหมั่นไส้เกินพิกัดกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ

เอ๊ะ...ทำไมพีชนิ่งเหรอ อ่อ มันนั่งหลับในครับ

“อ่าวเฮ้ย ไอ้พีชตื่นเว้ย...ข้าวมาแล้ว” ผมเอาไหล่กระแทกเพื่อนด้วยความรักอันเปี่ยมล้น พีชสะดุ้งเฮือกทั้งที่มันเกือบจะตกเก้าอี้ เรียกเสียงฮาจากผมและวิ่งได้เป็นอย่างดี

เรารีบโซ้ยข้าวที่แม่ค้านำมาเสิร์ฟ หิวโหยเหมือนปอบลงมากเลยเรา ตอนเที่ยงกินเยอะนะ สงสัยเราใช้พลังงานไปกับความคิดมากไปหน่อยก็เลยมีสภาพเป็นอย่างนี้ ระหว่างที่กินข้าวกันอยู่ผมก็ได้รับข้อความไลน์จากพี่มะเดี่ยวว่าอยู่ห้อง...เอ เขาไม่ไปซ้อมเหรอ

ผมถามเขาเรื่องซ้อมแต่พี่มะเดี่ยวกลับอ่านแล้วไม่ตอบ นี่เป็นอะไรอ่า ไม่น่าจะโกรธหรืองอนอะไรผมได้นะ...ก็เรายังไม่ได้มาทะเลาะหรือผิดใจอะไรกันเลยนี่นา เมื่อเที่ยงก็ยังดีๆ กันอยู่ พี่เขาบอกว่าจะไปซ้อมที่ฟลอเปิดท้ายเหมือนเคยอะแหละ นี่ไปโพล่ห้องเฉย...มีอะไรหรือเปล่าวะ

“เป็นอะไรคิ้วขมวดเชียว” พีชหันมาถาม มันมองไลน์ผมนิดหน่อย

“พี่มะเดี่ยวบอกว่าอยู่ห้องวะ กูเลยว่ามันแปลกๆ...”

“ไม่แปลกมั้ง เนี่ย...พี่เรย์แม่งโพสต์รูปแก้วเหล้าเมื่อตอนบ่ายโมง ไม่ใช่ไปกินเหล้ากันเหรอ” วิ่งมันเปิดหน้าเฟซพี่เรย์ให้ผมดู เล่นแท็กครบทีมโดยมีข้อความบอกว่า...พักเหนื่อยหนึ่งวัน อ่าว...ไม่เห็นรู้เรื่องเลยกู

“พี่เขาไม่เห็นบอกกูเลย”

“กะจะบอกตอนมารับมึงมั้ง” เออ ก็อาจจะเป็นอย่างที่พีชมันพูดก็ได้เนาะ

“พี่ๆ เขาก็อย่างนี้...บทจะทำอะไรขึ้นมาก็ไม่บอกไม่กล่าวหรอก อยากทำก็ทำเลย”

“อืม” ผมเฉยๆ อะแหละ แค่สงสัย ตอนนี้ไม่สงสัยแล้ว เดี๋ยวกลับไปหาที่ห้องก็ได้

ภาพฝันที่ว่าสอบเสร็จแล้วเราจะปาร์ตี้ เราจะไปเที่ยวไปดื่มไปผ่อนคลายต่างๆ นาๆ ตอนก่อนสอบมลายหายไป ผมกับเพื่อนกินข้าวกันเสร็จปุ้บก็แยกย้ายกันปั้บ ไม่มีใครมีอารมณ์อยากปาร์ตี้ตอนนี้ทั้งนั้นอะ ผมปั่นจักรยานไปรับความรักที่ร้านน้าบอย พูดคุยกับน้านิดหน่อยก่อนขอตัวกลับเพราะง่วงมากอยากพักผ่อน ซึ่งน้าผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ความรักไม่เกาะหน้ารถเช่นทุกวัน มันนอนมอบอยู่ในตะกร้าเหมือนง่วงทั้งที่นี่แค่ช่วงเย็น หรือเพราะอากาศครึ้มฝนแบบนี้มันถึงได้อยากนอนนะ...

“แกต้องอิ่มมากแน่เลยความรัก ถึงไม่ยอมชูคอออกนอกรถรับลมเนี่ย” เอื้อมมือไปยีหัวมันเบาๆ ความรักช้อนตามองก่อนจะซบกระเป๋าผมแล้วหลับไป

เอ...ไม่สบายปะวะ

รู้สึกเป็นห่วงความรักขึ้นมาตงิดๆ เดี๋ยวไปหาพี่มะเดี่ยวแล้วลองดูอาการมันสักพักค่อยพาไปหาหมอแล้วกัน โรงพยาบาลที่รักษาสัตว์ส่วนใหญ่มักจะมีหมอเฉพาะทางของหมากับแมว ประเภทนอกเหนือจากนั้นมีเป็นบางที่แล้วก็หายากนิดหน่อย แต่ผมรู้นะ...ผมไปถูก มีพี่แท็กซี่พาไปได้ทุกที่นั่นแหละ ฮา...

เอารถจักรยานจอดที่ประจำแล้วสะพายกระเป๋า ค่อยๆ อุ้มความรักที่ยังหลับด้วยความแผ่วเบา ไม่อยากให้มันตื่น ง่วงมากก็พักผ่อนไปนั่นแหละดีแล้ว วัยกำลังกินกำลังนอน เห็นหน้าตาหลับพริ้มของความรักแล้วก็รู้สึกชื่นใจยังไงไม่รู้...ชอบอะ

ผมตรงขึ้นห้องเลยไม่แวะซื้อของ กินมาอิ่มแล้วและพี่มะเดี่ยวก็น่าจะดื่มกับเพื่อนๆ ไม่ต้องการอะไรล่ะมั้ง คือถ้ามีใครสักคนหิวก็ค่อยลงมาซื้อของกินเอาก็ได้ ไม่เดือดร้อนอะไร ลองหยิบมือถือขึ้นเช็กดูว่าพี่มะเดี่ยวได้ตอบคำถามผมหรือยัง ซึ่งก็มีแต่ที่อ่านแล้วไม่ได้ตอบกลับ แปลก...วันนี้แปลกจริงๆ แฮะ หรือว่าพี่เขาจะเมาก็เลยตอบไม่ได้ ผมไม่เคยเห็นพี่เขาเมาเลยนะ ตั้งแต่คบกันมาก็ไม่ค่อยดื่มด้วยซ้ำ เรียกว่าเป็นคนดื่มเหล้าได้มีสติมากอะ

ช่างเหอะ...ถึงห้องล่ะ

ก๊อกๆ

“พี่มะเดี่ยวคร้าบ…” เสียงเคาะห้องทำให้ความรักตื่นขึ้นมา มันเงยหน้ามองประตูสีดำเหมือนกับผม ข้างในมีเสียงเพลงดังแว่วๆ ห้องค่อนข้างเก็บเสียง แต่ที่รอดออกมาได้แบบนี้แสดงว่าต้องเปิดเพลงกันดังมาก ซ้อมเต้นเครียดจัดหรือไงนะ...

ผมลองเคาะอีกสองสามครั้งก็ไม่มีคนมาเปิดประตู เคาะให้ดังมากก็ไม่ได้ เกรงใจคนในชั้นที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ดังนั้นนี่จึงเป็นเวลาที่เหมาะแก่การใช้กุญแจสำรองที่ได้มา คือเราสองคนแลกกุญแจกันเอาไว้อะครับ พี่เขามีของผม และผมก็มีของพี่เขาเผื่อจะเข้าออกห้องของอีกฝ่าย ตอนแรกไม่เห็นด้วยหรอกแต่มีไว้ก็ไม่เสียหาย

ไขเข้ามาสิ่งแรกที่เจอเลยคือเสียงเพลงที่ดังสนั่น แม้จะกินเหล้ากันก็ยังเปิดเพลงบีทที่เต้นในฟลอ พี่ๆ ไม่เบื่อกันเหรอครับเนี่ย ผมรีบปิดประตูก่อนจะมองคนในห้อง เพราะเสียงมันดังออกไปข้างนอกน่ะ จากนั้นเดินเข้ามา...โอ้โห หลายศพเลยเว้ย สภาพหนักกว่าพวกสอบเสร็จอย่างผมอีก ทั้งพี่เรย์ พี่แน เบิร์ดก้องและพี่มาร์ชเมาหลับกันคาวงเหล้า

เอ้า...แล้วพี่มะเดี่ยวกับพี่โซฮานอะ

ผมก้มหน้ามองความรัก มันกำลังสำรวจห้องที่อยู่ในสภาพเละเทะระเนระนาดด้วยเสื้อผ้า กางเกง อืม...กลิ่นถุงเท้าแรงมาก พวกพี่คิดจะซักถุงเท้ากันไหมครับ หรือคิดว่าจะใส่มันอาทิตย์ล่ะคู่เลยงี้ ตาย...คือเวลาเต้นเหงื่อมันออกใช่ปะล่ะ รองเท้าและถุงเท้าที่อับมันก็เลยมีกลิ่นรุนแรงพอสมควร

ผมเดินหลบๆ เลาะๆ ไปทางห้องนอน ก็ไม่รู้หรอกว่าจะอยู่ในนั้นกันไหม...แค่เดาเอาอะ จะเจอไม่เจอก็อีกเรื่อง คิดว่าถ้าผมไม่เจอพี่เขาก็จะกลับไปนอนก่อน ตื่นมาค่อยว่ากันอีกที เพราะตอนนี้ผมเองก็อยากพักผ่อนเหมือนกันอะนะ

“พี่มะเดี่ยว...” เคาะแล้วลองเรียกดู

“อื้อ...” มีเสียงตอบกลับแฮะ สงสัยจะอยู่ในห้อง

“โซฮาน....” เอ๊ะ...พี่โซฮานก็อยู่ในนั้นเหรอ

ผมลองบิดลูกบิดประตู ปรากฎว่ามันไม่ได้ล็อก เอาจริงๆ...ตอนนี้ใจไม่ดีเท่าไหร่ แต่ไม่คิดมาก ผมผลักประตูเข้าไปด้านใน ห้องมืดสลัวด้วยผ้าม่านและไฟไม่ได้เปิด แอร์ฉ่ำกับกลิ่นเหล้าเบาบาง ร่างสูงของพี่มะเดี่ยวกำลังพยายามลุกขึ้นนั่ง มือยกขึ้นกุมหัวตัวเอง แต่ข้างกาย...คือพี่โซฮาน

เพิ่งจะเห็นว่าเสื้อผ้ามันเกลื่อนกราดอยู่บนพื้นห้อง...มีทุกชิ้นที่มันควรอยู่บนร่างของเขาทั้งคู่ ตอนนี้หัวใจผมมันสั่นระรัวไปหมด...สะเทือนยิ่งกว่าการตกหลุมรักใครสักคน และมันก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกดี...กลับกัน มันแย่มาก

แย่มากจริงๆ...

“สาม...นี่เราสอบเสร็จแล้วเหรอครับ เฮ้ย พี่เมาอะ พี่...” เขายังไม่รู้ตัวจนกระทั่งพี่โซฮานลุกขึ้นนั่ง นั่นแหละ...พี่มะเดี่ยวถึงได้เห็นว่าสภาพตัวเองและรอบด้านเป็นอย่างไร

“ครับ ผมสอบเสร็จแล้ว” ผมตอบกลับ เป็นเสียงสั่นเกินควบคุมมากๆ แต่ผมก็ยังยืนอยู่ ยังมองพวกเขาบนเตียง มีผ้าห่มคลุมกายแต่ภายใต้ผ้าผืนหนากลับมีแค่ร่างเปลือยเปล่า

มีก้อนบางอย่างตีตื้นขึ้นมาในคอ ผมพยายามกลืนมันลงไปแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อน้ำตาล้นทะลักออกมา มีคนเคยบอกว่าเราอย่าเชื่อในภาพที่เราเห็นมากเกินไป...ในภาพหนึ่งภาพมีหลายสิ่งหลายอย่างซ่อนอยู่

แต่ภาพนี้...ความรู้สึกที่โคตรจริงนี้ผมเชื่อไม่ได้เหรอ

“สาม คือ...มันไม่ใช่อย่างที่สามคิดนะ” พี่มะเดี่ยวทำท่าจะลุก เขาดูมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมกอดความรักเอาไว้แน่น...เอามันเป็นหลักยึดเพียงหลักเดียวในความรู้สึกตอนนี้

“ครับ…” ผมถอยหลังออกมาจากห้องช้าๆ มองใบหน้าสับสนของพี่มะเดี่ยวทั้งน้ำตา พี่โซฮานมองพี่มะเดี่ยวด้วยสายตาปวดร้าว แม้ว่ามันจะอยู่ในความมืดและถูกเบลอให้เลือนลางด้วยน้ำตา ทว่าผมเห็นมันได้ชัดเจน
“เดี่ยวอย่าไป” พี่เขาไม่ปล่อยให้พี่มะเดี่ยวเดินมาหาผม วงแขนเล็กๆ ที่แข็งแรงโอบรอบเอวหนาเอาไว้ พี่มะเดี่ยวหันไปมองหน้าเพื่อนตัวเอง มันเป็นวินาทีที่ผมตัดสินใจหันหลังกลับออกมา

หึ...เป็นเซอร์ไพรส์สอบเสร็จที่เด็ดดวงเป็นบ้า!

….100%….

โซฮานผู้ไม่เคยย่อท้อไลในการแย่งแฟนชาวบ้าน… :katai1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 52 [100%]❤️ -29/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 29-12-2017 21:18:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 52 [100%]❤️ -29/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-12-2017 21:48:37
เวรกรรมยังไม่จบ :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 52 [100%]❤️ -29/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 29-12-2017 21:57:34
อะไรขนาดนั้นอ่ะแบบตอนมีโอกาสให้ศึกษากันก็ไม่ทำแต่พอเขามีแฟนก็พยายามทุกทางอ่ะนะโคตรขี้แพ้อ่ะโซฮาน แล้วก็พี่มะเดี่ยวนะถ้ายังคิดไม่ได้ก็เลิกกันไปเลยเด้ออออถ้าเห็นแก่ความเป็นเพื่อนแล้วยังเป็นแบบนี้ก็เกลียดกันไปเลย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 52 [100%]❤️ -29/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 29-12-2017 22:10:04
 :z3: สามต้องจัดการแล้ววว
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 52 [100%]❤️ -29/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-12-2017 22:20:12
 :m16: :3125: :m16:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 52 [100%]❤️ -29/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 29-12-2017 23:48:00
น้องสามผิดอะไรอ่ะ ทำไมต้องมาเสียใจด้วย  :a5: :a5: :a5: แล้วต่อไปไอ้พี่มะเดี่ยวแมร่งจะคบอีโซนี่ต่อป่าวว่ะ ถ้าคบต่อนี่น่าสงสารสามนะ :hao4: ส่วนอีโซน้องสามค่ะบวกเลยค่ะลูก ปล่อยให้มันลูบคมมานานแล้วอย่าไปยอม  :m16: :m31: :fire:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 52 [100%]❤️ -29/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 30-12-2017 00:54:13
อ่านละเดือด
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 52 [100%]❤️ -29/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-12-2017 18:53:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 52 [100%]❤️ -29/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 30-12-2017 20:16:48
อ้าว ทำไมเป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 53 [100%]❤️ -31/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 31-12-2017 20:42:49
>>ตอนที่ 53 [100%]<<

ผมไปไหนไม่ได้ไกล ปิดประตูห้องของตัวเองได้ขามันก็อ่อนแรงลงทันที...ผมทรุดกายอยู่ตรงนั้น กอดความรักเอาไว้แล้วร้องไห้เมือนเด็กๆ ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกันที่ทำให้ผมร้องเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้ เป็นความเสียใจ เป็นความผิดหวัง...ผมรู้แค่ผมเจ็บปวดกับมัน

แปลกนะ...มีแฟนมาทั้งชีวิตไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยคิดด้วยว่าวันหนึ่งเราจะเปิดประตูมาเจอแฟนเรานอนอยู่กับคนอื่น เป็นภาพที่...ผมไม่เคยจินตนาการเอาไว้เลยจริงๆ ชีวิตผมมีความสุขมาก...มีความสุขมาโดยตลอด ต่อให้ต้องเลิกรากับใครไป ผมก็ไม่เคยเสียใจขนาดนี้ เราต่างเข้าใจเหตุและผลของการจากกันดี แต่นี่...มันเป็นความไม่เข้าใจ

มันแน่นไปทั้งอก..ปวดร้าวอยู่ข้างในลึกๆ แล้วก็ทำอะไรกับมันไม่ได้เลยนอกจากร้องไห้เพื่อระบายความรู้สึกเหล่านั้น เนื้อตัวสั่นไหวไปหมด...เป็นอาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงๆ ในชีวิตของผมคนนี้ แล้วผมควรจัดการกับมันยังไง แก้ไขความรู้สึกที่เหมือนแตกสลายไปแล้วนี้ยังไงดี...

“สาม...สามเปิดประตูมาคุยกับพี่ก่อน” เสียงประตูแบบไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องดังขึ้น แผ่นหลังของผมสะเทือนเพราะแรงกระทำนั้น แต่ผมยิ่งร้องไห้หนักเมื่อได้ยินเสียงคนที่ผม...รัก

ผมชอบคนง่าย...แต่ผมรักคนยาก

และผม...รักพี่เขา

“สามพี่ขอร้อง ออกมาคุยกับพี่ก่อน มันไม่ใช่อย่างที่สามคิด...พี่กับโซฮานไม่ได้มีอะไรกัน” เสียงเคาะห้องเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อผมไม่ยอมเปิดประตูออกไป ผมลุกไม่ไหว...ผมทำใจไม่ได้

แต่พี่มะเดี่ยวไม่ก็ยอมจากไป เอาแต่เรียกอยู่แบบนั้นแล้วก็เคาะห้องอยู่อย่างนั้น ไม่นานนักเพื่อนๆ ของเขาก็ออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น มีอะไรเหรอ...พี่มะเดี่ยวไม่ตอบคำถามของใคร ได้แต่ขอให้คนเหล่านั้นกลับไปเพราะตอนนี้เขาอยากอยู่คนเดียว เขาอยากคุยกับผม เพื่อนๆ จำต้องจากไปอย่างเสียไม่ได้ พี่มะเดี่ยวมุมานะในการเรียกผมต่อไปพร้อมทั้งเคาะประตูห้องแรงมากขึ้นไปอีก

ความรักหวาดกลัวเสียงประตูเดือดดาน มันวิ่งลงจากวงแขนของผมไปหลบที่โซฟา ผมอยากตามไปบ้าง แต่ถ้าเราไม่คุยกัน พี่เขาก็อาจจะเคาะอยู่อย่างนี้ไม่ยอมหยุด สุดท้ายไม่ว่ายังไงเราก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี ผมตัดสินใจลุกขึ้นโดยใช้มือเหนี่ยวลูกบิดเพื่อดึงร่างอ่อนแรงของตัวเอง ปาดน้ำอันมากมายทิ้งแล้วพยายามยิ้มเมื่อเปิดประตูไปเจอหน้าพี่มะเดี่ยว

“ครับ...” พี่เขามองหน้าผมนิ่ง เหมือนที่ผมก็จ้องเขานิ่งเช่นกัน อะไรบางอย่างข้างในใจมันเอ่อท้นไปหมด...แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ดี สิ่งที่มอบความรู้สึกดีๆ ให้กับเรามันหายไป

“พี่กับโซฮานไม่ได้มีอะไรกันนะสาม” เขาเหมือนพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ในหัว

“ครับ” ผมขานรับรู้

“เราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ก็ไมรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง...แต่เราไม่ได้มีอะไรกันแน่ๆ สาม” พี่เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วพี่จะมายืนยันได้ยังไงว่ามันไม่มีอะไร

“อืม ผมรู้แล้ว”

“ไม่จริง สามไม่ได้รู้...สามไม่ได้เข้าใจ พี่ขอโทษ แต่พี่อยากให้สามเชื่อพี่ว่า...พี่ไม่ได้นอกกายหรือนอกใจสามเลยนะครับ” พี่มะเดี่ยวดึงร่างผมเข้าไปกอด กลิ่นเหล้ายังคงอบอวลไปหมด...และวงแขนของเขาก็สั่นมากทีเดียว

“ผมเข้าใจจริงๆ มันอาจเป็น...อุบัติเหตุ”

“ไม่ มันไม่ใช่อุบัติเหตุ พี่กับโซฮานเราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ” ก็พูดได้ไง...ใครก็พูดได้จริงไหมล่ะ

“ครับ” แต่ในเมื่อจะยืนยันแบบนั้น ผมก็จะรับเอาไว้

“โซฮานชวนกินเหล้าเมื่อบ่าย ทุกคนเห็นด้วยแม้พี่จะแย้ง แต่เห็นลูกทีมเหนื่อยก็เลยปล่อยไป พี่ไม่ได้ดื่มเยอะ แต่...พี่กลับเมา พี่จำเรื่องหลังจากนั้นมากไม่ได้ พี่ขอตัวไปนอนห้อง...น่าจะแบบนั้น แล้วที่ไม่ได้บอกเราเพราะว่าพี่ไม่ได้กะจะเมาไง พี่แค่ดื่มกับพวกมันไม่กี่แก้วเอง...” จู่ๆ พี่มะเดี่ยวก็เล่าเรื่องวันนี้ให้ผมฟัง...

“ไม่เป็นไรพี่...” แต่เพราะผมไม่รับรู้อะไร มันเข้าหูนะ แต่มันไม่เข้าใจ ผมค่อยๆ ดันอกพี่เขาออกจากตัว

“พี่อยากให้สามเชื่อพี่”

“ผม...เชื่อพี่” ทว่าน้ำตาที่มันไหลมันไม่ได้หมายความว่าผมไม่เชื่อเขา ผมแค่เจ็บ...

“สาม...” พี่มะเดี่ยวยื่นมือมาหมายเช็ดน้ำตาให้ แต่ผมกลับถอยเท้าหนี ผมมองหน้าเขา...ผมยิ้มให้แม้น้ำตาจะร่วงหล่น

“ผมเชื่อพี่ครับ แต่ผม...ยังทำใจไม่ได้ ผมรู้...ผมพยายามเข้าใจ แต่ผมรับไม่ได้ ผมขอโทษ...ผมขอเวลานะ” ตัดสินใจถอยเท้าเข้าห้องตัวเอง พี่มะเดี่ยวตั้งใจจะเอื้อมมือมารั้งตัวผมเอาไว้แต่ไม่ทัน

สีหน้าพี่เขาเจ็บปวด...แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเสียใจแม้ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเลยแม้แต่หยดเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกความรู้สึกเหล่านี้ว่าอะไร จะจัดการกับมันยังผมก็ไม่รู้ พยายามเข้าใจและผมไม่คิดว่าพี่จะโกหกในเรื่องที่พูด แต่ลึกๆ....ข้างในนี้มันรับไม่ได้

เราเจ็บเพราะเรารัก…ความรู้สึกตอนนี้กำลังนำทางเหตุผล น่าจะใช่นะ เพราะในหัวของผมมันเต็มไปด้วยคำว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องทำแบบนี้ ทั้งที่พี่มะเดี่ยวอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ผมได้ฟังแล้ว มันเป็นเรื่องง่ายๆ เข้าใจไม่ยาก...แต่ผมกลับไม่เข้าใจมัน

ผมเดินไปอุ้มความรัก พามันเข้ามาในห้อง กอดมันเอาไว้แล้วร้องไห้อยู่กับมัน...ความรักของผมอาจเมินเฉยต่อผมบ้าง อาจไม่รักดีไปบ้าง แต่มันไม่เคยทำให้ผมเจ็บปวดได้ลึกขนาดนี้ ความรักพยายามจะเลียน้ำตาออกให้ ความใส่ใจเล็กๆ ที่ไม่คิดว่ามันจะมอบให้กับผมทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาบางๆ

อย่างน้อย...ผมก็มีมัน

“ป๊าไม่ร้องแล้ว...พอแล้วไม่ต้องเลีย เดี๋ยวท้องเสียอะแก” เอาปากคลอเคลียกับหัวความรักเบาๆ มันเริ่มสงบเมื่อผมสงบ

ก็ยังเจ็บ...แต่สงสารมันที่เอาแต่เลียน้ำตาผมอยู่แบบนั้นไม่เลิก ผมกอดความรักเอาไว้แน่นๆ ไม่อยากให้มันหายไป ไม่อยากรู้สึกโดดเดี่ยวแล้วหวนกลับไปร้องไห้เพราะเรื่องจากภาพที่เห็น ความอ่อนเพลียจากการสอบทำให้ผมค่อยๆ จมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความฝันได้อย่างง่ายดาย...

ก่อนผมจะหลับ...ผมคิดว่าผมควรจะไปตั้งหลักก่อน

ผมปิดทุกช่องทางการติดต่อ เปิดโหมดเครื่องบินให้ไม่มีใครสามารถติดต่อะไรผมได้ทั้งนั้น เสื้อผ้าถูกเก็บจนหมดแล้ว...เตรียมตัวเพื่อจะเดินทางกลับบ้านในเช้ามืดของวันต่อมา คือตื่นปุ้บผมก็เก็บของเลย

แน่นอน...ความเจ็บปวดยังคงอยู่ที่เดิม มีมากเท่าเดิม และก็หาทางออกไม่ได้เหมือนเดิม...แต่การทำตัวให้จมอยู่กับความเศร้าไม่ใช่นิสัยของผมเลย ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่รู้หรอกว่าทางออกของเรื่องนี้อยู่ตรงไหน...ผมก็แค่ทำเหมือนไม่คิด ไม่ใส่ใจ ไม่อะไรกับมันทั้งนั้น

เจ็บสุด...ผมโดนพี่ด่า

ผมตีเจ้าแรมโบ้เพราะมันทำให้คอมพ์ของผมดับในวันหนึ่ง แล้วพี่ก็ดุด่า ผมร้องไห้...เสียใจที่ว่าพี่เห็นหมาดีกว่าน้องตัวเอง แล้วผมก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง เครียดมาก ร้องไห้จนไข้ขึ้น มันไม่มีอะไรดีเลย...ผมเลยหันไปเล่นเกม คลายเครียดด้วยการทำอะไรก็ได้เพื่อไม่ต้องคิด แล้วเมื่อตัวเองเย็นลง ผมก็สำนึกได้ว่าผมต่างหากที่ผิด...ผมเห็นของและความสุขของตัวเองสำคัญกว่าความรู้สึกของแรมโบ้ ผมตีมัน ทั้งที่มันแค่อยากเล่นกับผม

ผมไม่รู้ว่าการแก้ไขของผมในตอนนั้นจะเอามาใช้กับเหตุการณ์นี้ได้ไหม...ก็แค่ต้องลองดู

อย่างน้อยๆ ถ้าทำใจกับมันได้...อารมณ์เย็นขึ้น อะไรๆ ก็คงจะดีขึ้นมาบ้าง

ตอนนี้ผมเจ็บปวด...ผมเสียใจ ผมเลยไม่ฟังอะไรและไม่คิดจะสนใจในเหตุผลที่ได้ฟังมา ก็รู้ตัวนะ แต่เคยเป็นไหมล่ะ...ที่เรารู้ดีว่าต้องทำยังไง แต่กลับทำไม่ได้น่ะ ผมเป็นแบบนั้นในตอนนี้

ไม่อยากให้รักของเราต้องจบลงแบบนี้ ไม่อยากให้เราต้องจากกันเพราะความบาดหมาง ระหว่างเรามีเรื่องดีๆ มากมายให้จดจำ...มันเป็นเรื่องที่สวยงามและมีแต่ความสุข ยอมรับว่าเพราะคบกันแล้วมีความสุขมาก เรื่องแบบนี้ถึงได้ทำร้ายผมได้มากทีเดียว...

หรือเพราะว่าผมไม่เคยเจ็บกับความรัก...ก็คงแบบนั้น

“เฮลโหล....เดอะสามปรากฏตัวแล้วคร้าบ” เสยผมตัวเองหนึ่งทีเมื่อมายืนอยู่ตรงล็อบบี้ของฟาร์มหมาน้อย ท่ามกลางสายตาของพี่หนึ่งและพี่สอง พ่อกับแม่ไม่อยู่แฮะ

“รปภ.ครับ มาเอาคนบ้าออกไปที” แล้วดูการต้อนรับอันอบอุ่นของพี่หนึ่งผม

“เดี๋ยวผมเอาออกไปให้ ไม่รู้เขาปล่อยคนบ้าออกมาเดินเพ่นพ่านแบบนี้ได้ไง” พี่สองเดินเข้ามาจับที่แขนเพื่อจะลากผมออกไป แต่ผมกลับหันไปสวมกอดร่างหนาของพี่ชายแทน

“...” พูดไม่ออกอะ...จู่ๆ ก็จุกที่อก ทุกความเจ็บตีตื้นขึ้นมาอีก...

“อ่าว ใบ้แดกเฉย” พี่สองพยายามจะดึงผมออกจากตัวเอง พี่หนึ่งเดินเข้ามาหา

“เป็นอะไรนั่น”

“อ๋อ เปล่าพี่...ตัวพี่เหม็นวะ” ก่อนที่จะร้องไห้ ผมดึงตัวเองออกมาจากกอดของพี่ชาย ยิ้มกว้างๆ ที่คิดว่ามันน่ารักที่สุดให้พี่ทั้งสอง

“ผมขอตัวก่อนดีกว่า” แล้วก็หันหลังกลับไปทางบ้านหลังไม่ใหญ่นักของตัวเอง

โชคดีที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ ผมเอาความรักทิ้งไว้ที่ล็อบบี้แล้ว ไม่ต้องห่วงเพราะมันก็เล่นอยู่ที่นั่นบ่อยๆ ทุกคนรักและเอ็นดูมันเป็นอย่างดี เพราะงั้นช่วงเลานี้คือช่วงเวลาที่ผมจะได้อยู่กับตัวเองจริงๆ จังๆ

ผมเข้ามาในห้องที่ยังสะอาดเอี่ยม ฝีมือแม่คอยเข้ามาดูแลนั่นแหละ ทิ้งตัวเองลงบนที่นอนนุ่มๆ สั่งทำพิเศษเพราะผมเรื่องมากไม่อยากนอนที่นอนแข็งๆ กับผ้าปูเตียงและผ้านวมที่เป็นลายของเจ้าความรักในสมัยที่ตัวมันยังแดงๆ แน่นอนว่าสั่งทำพิเศษ...

เหม่อมองเพดานห้อง...หลอดไฟดวงเดิมที่เคยขาดไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ไม่เคยได้เปลี่ยนเพราะมันไม่จำเป็น ผมอยู่ได้ด้วยแสงไฟจากคอมพ์ ผ้าม่านบดบังแสงอาทิตย์ด้านนอกจนเกือบหมด...แอร์เย็นๆ กับความมืดสลัว

ดูเหงาเนอะ...

เหงาจนเผลอคิดถึงอีกคนเลยอะ

อืม...ผมคิดถึงพี่มะเดี่ยว และผมอยากให้เรื่องเมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้น บางที...แค่บางทีอะนะ ถ้าผมกลับห้องไปนอนเลย ไม่รู้ ไม่เห็นเรื่องนั้น วันนี้เราอาจได้ไปเที่ยวกัน ไปดูหนังฟังเพลงหรือแม้แต่ไปซ้อมเต้นด้วยกัน...คิดถึงมื้อเช้าที่มีแต่ปลาและไก่ คิดถึงคำที่คอยพร่ำอยู่เสมอว่ากินหมูมากๆ มันไม่ดี สงสารมันนะ คิดถึงรอยยิ้ม...คิดความห่วงใยที่มีให้

แล้วในความคิดถึงมากมายเหล่านี้ก็ล้วนมีความเจ็บแปล๊บแทรกอยู่...

ผมปล่อยให้ตัวเองอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ นึกทบทวนเรื่องราวต่างๆ แม้ว่าภาพนั้นจะวนเวียนไม่ห่างหาย ผมก็ไม่พยายามไล่มันออกไป เพราะความพยายามนั้นมันไร้ประโยชน์ ยิ่งลอกให้ตัวเองเลิกคิด ก็จะยิ่งคิดถึง...มันเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันนะ

ป่านนี้พี่เขาจะคิดถึงผมไหม...จะเคลียร์เรื่องที่เกินขึ้นกับพี่โซฮานได้หรือยัง หรือว่าเป็นยังไงบ้าง ไปซ้อมเต้นหรือเปล่า ปกติก็รู้ทุกอย่าง...รู้มันแทบทุกการเคลื่อนไหวของเขาเพราะพี่เขามักบอกผมเสมอ ต่อให้เราไม่ว่าง ต่อให้เราต้องหมกมุ่นอยู่กับหน้าที่ของเรา แต่ก็ไม่เคยลืมกัน...

อะไรก็ตามที่ทำเป็นประจำจนซึมซาบเข้าสู่กิจวัตรประวันแล้ว พอไม่ได้ทำมันก็จะรู้สึกแปลกๆ เหมือนทุกเช้าตื่นนอนเราต้องแปลงฟัน ล้างหน้าอาบน้ำ วันไหนไม่ทำ...วันนั้นเราก็จะรู้สึกว่าตัวเองสกปรกมากโคตร อารมณ์ตอนนี้ก็คงคล้ายๆ แบบนั้น...จากที่ตื่นเช้ามาก็จะเห็นหน้าจอมือถือแสดงใบหน้าของอีกฝ่ายหลับอยู่ หรือบางทีก็ตื่นมองเราผ่านหน้าจอ วันนี้ไม่เห็น...มันกลายเป็นขาดบางสิ่งบางอย่างไป

ข้าวเช้าเราจะกินด้วยกัน ก็ไม่ใช่มื้ออาหารที่หรูหราอะไร อาจเป็นโจ้กโง่ๆ ที่ซื้อมาจากเซเว่นเมื่อคืนนี้ แน่นอนเป็นโจ้กไก่ กุ้ง ไข่ อะไรก็ว่าไปที่ไม่ใช่หมู เสียงพูดคุยเจือเสียงหัวเราะของเราและความปั่นป่วนกวนการกินของความรัก เจ้าตัวกลมมักขึ้นไปซุกตักพี่มะเดี่ยว กินแอปเปิ้ลที่ตัวเองชอบจนเปื้อนขาของพี่เขา บางทีปื้อนไปยันกางเกง จนพี่เขาต้องกลับไปเปลี่ยนมันก่อนจะลงไปส่งผมไปเรียน

ก่อนเที่ยงจะมีข้อความเข้ามาหา พี่รอตรงนี้นะ กินอะไร พี่จะซื้อรอเรา...ผมมักรีเควสเมนูหมูทุกมื้อ ซึ่งสิ่งที่ได้มันก็ใกล้เคียง แค่เปลี่ยนเป็นไก่เท่านั้น ผมไม่ชอบน้ำอัดลม ก็เลยมีโกโก้หรือน้ำผลไม้รอเอาไว้ ต่างพี่เขาที่มักดื่มกาแฟอยู่เป็นประจำ

พี่มะเดี่ยวไม่ค่อยเล่นเกม ว่างมากก็จะวาดคอมมิกลงเพจตัวเอง มันเป็นช่วงวุ่นวายของชีวิต ผมก็เลยไม่ได้เข้าไปดูมันเลย ตอนนี้ก็อยากจะเข้าไปส่อง แต่ไม่กล้า...กลัวใจตัวเองเนี่ยแหละ

“เฮ้อ....ทำไมมันทรมานจังนะ”

การที่เรามีเรื่อทะเลาะกับคนที่เรารักเนี่ย…มันอึดอัดขนาดนี้เลยเหรอ ทรมานไปหมด อะไรๆ ก็ไม่ทำให้รู้สึกดี เอาแต่คิดถึงเขา...เอาแต่ถามว่าทำไม โง่อะ แม่งเป็นคำถามโง่ๆ แต่ก็ยังถามอยู่นั่น คำตอบก็มีอยู่แล้วแท้ๆ บ้าบอ...

เออ…จู่ๆ ก็นึกอะไรออกมาได้ พี่โซฮานชวนกินเหล้า…พี่มะเดี่ยวกินแค่ไม่กี่แก้วก็เมา

งั้นเหรอ…

เท่าที่เคยกินด้วยกัน พี่มะเดี่ยวแกไม่ได้คออ่อนขนาดนั้นนะ แล้วก็อย่างที่เคยบอก...พี่มะเดี่ยวเป็นคนกินเหล้าที่มีสติดีมาก ไม่รู้เพราะตัวองเป็นหัวหน้าทีมเต้นหรือเปล่า แต่พี่เขาแทบไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเมา เป็นไปได้ไหมที่เหนื่อยมากก็เลยเมาเร็ว...

หรือ...นี่เป็นแค่แผนของพี่โซฮาน

….100%….

เรามาค้างข้ามปีกันค่ะ ฮ่าาาา เจอกันอีกทีปีหน้านะคะ คืนนี้อขอให้มีความสุขกับการเคานต์ดาวน์น้า
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 53 [100%]❤️ -31/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 31-12-2017 21:10:03
 :เฮ้อ:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 53 [100%]❤️ -31/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: absolutepoison ที่ 31-12-2017 21:21:25
เมื่อไหร่จะคิดได้นะโซฮาน ไม่สงสารเพื่อนบ้างเลยรึไง โกรธแทนน้องสามอะ แงงงงงงง

/สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 53 [100%]❤️ -31/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 31-12-2017 21:29:25
 :z6: :a5:

พี่มะเดี่ยวโดนวางยาใช่ไหม ถ้าใช่ก็เคลียเลยนะ

สวัสดีปีใหม่ ขอบคุณมากสำหรับการลงเรื่องให้พวกเราอ่านกัน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 53 [100%]❤️ -31/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 01-01-2018 01:31:24
เป็นแผนของโซฮานอย่างที่สามคิดรึป่าว
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 53 [100%]❤️ -31/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-01-2018 04:59:29
มะเดี่ยวจัดการกับโซฮานให้เด็ดขาดกว่านี้เถอะ :m16:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 53 [100%]❤️ -31/12/60-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 01-01-2018 08:28:31
นั่นล่ะลูกสาม  มีสติแล้วกลับไปทวงของเราคืนนะลูก
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-01-2018 20:23:40
>>ตอนที่ 54 [100%]<<

(มะเดี่ยว)
แม่งเกิดเรื่องบ้าอะไรกับชีวิตผมวะ...

ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมซ้อมเต้นหนักมาก เพื่อนในทีมเองก็ทุ่มเทให้กับการซ้อมไม่แพ้หัวหน้าทีมแบบผม มีแต่ผมเสียอีกที่บางครั้งชอบดอดออกไปหาสามอยู่บ่อยๆ จนเพื่อนล้อ เพื่อนแซ็ว เพราะปกติแล้ว...ธรรมชาติของผม ผมต้องการคนที่เข้าใจในกิจวัตรของผม ดังนั้นผมจะไม่ไปเทคแคร์ใครมากมายแบบที่ทำกับสาม เพราะอยากให้เขาได้รู้ว่าเออ...ผมไม่ใช่คนมีเวลามากขนาดนั้น อีกอย่าง คนบางคนให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ

แต่สามไม่เคยเรียกร้อง...

สามเหนื่อยจากการเรียนสามก็ยังเจียดเวลามาหา มาอ่านหนังสืออยู่ข้างฟลอแม้เสียงมันจะดังรบกวนสมาธิ เขาไม่เคยว่าที่ผมทุ่มเวลาให้กับการเต้นและงานวาดของตัวเอง กลับกัน...เวลาเขาขอ คือขอให้ผมได้พักผ่อนเท่านั้น ไม่มีเวลาให้เขาก็ไม่เป็นอะไร แต่อยากให้ดูแลตัวเอง เพราะแบบนี้ไง...ผมถึงอยากให้เวลากับเขาบ้าง เลยทุ่มเทให้ได้เท่าที่ให้ไหว

“มึงมีแฟนได้...แต่มึงจะละเลยทีมไม่ได้” โซฮานมันว่าแบบนั้นในวันหนึ่ง เพราะผมมักโดดซ้อมช่วงเย็นไปรับสาม กินมื้อเย็นกับน้องแล้วถึงกลับมาซ้อมต่อ แล้วผมก็ไม่คิดว่าการที่ผมดอดออกไปนิดหน่อยจะทำให้ทีมของเราเสียรูปแบบ

“กูละเลยทีมตรงไหน...กูยังทำหน้าที่ของกูอยู่” เพราะทีมก็ยังคงทำได้ดีเสมอ ผมไม่อยากเข้มงวดเกินไป ทั้งกับตัวเองแล้วก็สมาชิกทีมนั่นแหละ

“แต่เดี๋ยวนี้มึงหายไปทุกเย็น”

“แต่กูก็กลับมา แค่กูไปกินข้าวกับแฟน...มันอะไรขนาดนั้นเลยอ๋อวะ” ผมส่ายหัวนิดหน่อย เดินหนีโซฮานเข้าฟลอไปซ้อมเต้นต่อ

ไม่ใช่ผมไม่ใส่ใจ และไม่ฟังคอมเมนต์ของลูกทีม แต่อันนี้มันไร้สาระเกินจะฟัง คนอื่นเข้าใจผมหมด อาจมีล้อๆ ผมบ้างในบางที นี่ยังไม่นับรวมที่โซฮานมันพูดประมาณว่าสามไม่ยอมมาดูแลผม ไม่ยอมใส่ใจผมเหมือนที่ผมใส่ใจน้อง ตอนนั้นผมเหนื่อย ผมไม่ได้พูดออกไปหรอกว่า...น้องมันแทบไม่ได้นอนเลย มันจะเอาเวลาไหนมาดูแลกูนักหนา อย่างว่า...เรื่องของผมกับสาม เรื่องที่เราทำด้วยกันนั้นผมไม่ได้ไปเที่ยวประกาศบอกใคร

เวลาเราอยู่ด้วยกัน เราไม่ค่อยเล่นโซเชียลนัก ผมอะแทบไม่จับมือถือเลย แต่สามมีบ้างที่จะเข้าเกม เขาเป็นคนติดเกม เวลาพักสิบนาทียี่สิบนาทีตอนกินข้าวเราก็จะนั่งด้วยกันแล้วเขาก็ขอเล่นเกมนิดหนึ่ง เป็นการคลายเครียดของเขาผมก็ยอม แล้วจะเวลาที่ไหนไปนั่งป่าวประกาศเรื่องของเรากันล่ะ...กินข้าวด้วยกันยังไม่มานั่งโพสต์เลย หิวปุ้บกินปั้บ

“เดี๋ยววันนี้กูอยู่ซ้อมแค่ถึงเย็นนะ...ถือว่าพักวันหนึ่ง” ผมประกาศบอกทุกคนในทีม วันนี้สามสอบเสร็จ ผมกะจะไปรับน้องไปหาอะไรกิน...กะเลี้ยงสิ่งที่น้องมันชอบเต็มที่ เพื่อเป็นรางวัลให้กับความพยายามตลอดหลายวันที่ผ่านมาของน้อง

“ไมวะ…” ไอ้เรย์ถามขึ้น มันนั่งยืดขาอยู่ที่พื้นฟลอ

“กูจะไปรับสามอะ วันนี้น้องมันสอบวันสุดท้าย…”

“ฮั่นแน่…จะพาน้องไปดินเนอร์สุดหรูชิมิ” เกรงว่ามันจะเป็นดินเนอร์ในห้องนอนอะดิ แค่คิดก็สยิวแล้ว...

ก็...สามแม่งน่ารักฉิบผาย

“เอางี้มะ เลิกซ้อมเลยก็ได้...ไปกินเหล้ากัน ไหนๆ ก็จะพักแล้ว...” โซฮานเสนอขึ้น

“เออๆ เอาดิ...กินห้องมึงนะ” แนหันมามองหน้าผม

“ก็ได้ แต่เย็นกูไม่อยู่นะ” ทุกคนพยักหน้ารับรู้

เราแยกย้ายกันเก็บของ โซฮานขอตัวไปไหนก่อนสักที่เดี๋ยวตามไปทีหลัง จากซ้อมก็เลยกลายเป็นกินเหล้าที่ห้องผมแทน ผมไม่ห่วงหรอก ผมไม่ค่อยดื่มอยู่แล้ว ยังไงก็ไปรับสามไหว แล้วที่วันนี้ผมไม่เอาความรักมาก็เพราะว่าวันนี้จะพาน้องมันไปเที่ยวไปหาอะไรกินเนี่ยแหละ เตรียมไว้แล้วเป็นอย่างดี

โซฮานตามมาทันพวกผมขึ้นคอนโดพอดี โดยมีเหล้าและกลับแกล้มมาด้วย ไอ้เรย์กับไอ้แนก็ซื้อ หารเงินกับคนอื่นๆ ในทีมซึ่งผมก็ช่วยมันออกเหมือนกัน ถึงไม่ค่อยดื่ม แต่ของอย่างนี้มันควรแฟร์กันทุกฝ่าย

แล้วพอมาถึงห้อง...ก็จัดกันเลย ไม่ต้องพูดมาก เหมือนตายอดตายอยากมานาน ผมไม่ค่อยดื่ม อันนี้ทุกคนจะรู้ดี ยิ่งเย็นนี้ผมมีนัด เหล้าที่ถูกชงก็เลยจะบางกว่าปกติเข้าไปอีก ไม่อยากเมาไปรับแฟนหรอกนะเว้ย

แต่แปลก..ทำไมผมเมา

“กูว่า...เมาวะ กูไปนอนพักก่อนนะ” ผมลุกขึ้น จำได้ว่าดื่มไปแค่สามสี่แก้วเท่านั้น โซฮานเป็นคนชงให้ แล้วทำไม...ถึงเมาวะ

“อ่อนวะมึง ไปเลย...ไปไหนก็ไปเลย” ไม่สนคำไล่ของไอ้มาร์ช เดินโซเซเข้ามาในห้อง ทิ้งตัวลงนอนแผ่หลา ผมอาจจะไม่ค่อยได้นอน พักผ่อนน้อยเลยเมาเร็วเปล่านะ...แต่ไม่ชอบเลยวะ เหมือนสติมันจะเลือนรางลงไปทุกที

นี่กูจะอ่อนก็ให้มีความพอดีหน่อยได้ไหมนะ...

“มึงโอเคปะวะ” เสียงโซฮานเอ่ยถาม ไม่รู้อยู่ตรงไหน แค่ได้ยิน

“กูโอเคเว้ย” ตอบแค่นั้น ตั้งใจจะนอน ตื่นมาคงดีขึ้น ผมอยากไปรับสาม...อยากจะพาน้องไปเที่ยวให้ได้

สติผมเลือนรางลงเรื่อยๆ ทว่ายังคงรับรู้อยู่บ้าง เหมือนมีใครสักคนเดินเข้ามาหา นั่งลงบนเตียงแล้วลูบหัวของผม มันแกะหนังยางที่รัดผมออกให้ จากนั้นก็ลูบไล้ใบหน้าและลำคอ พอมือนั่นถึงอก...ผมก็ตะครุบเอาไว้

“อย่า...” จับสะบัดทิ้ง รู้ว่าไม่น่าใช่สาม...แต่จะใครไม่รู้ อย่ามายุ่งกับผม

สิ่งนั้นหยุดอย่างที่ผมต้องการ ก็นิ่งไปเลยไม่เคลื่อนไหวอะไรอีก ไม่ออกไปจากห้องด้วย ผมฝืนตัวเองไม่ค่อยไหว หลับไปทั้งที่ยังเวียนหัวอยู่ไม่ใช่เล่นๆ นี่ผมเมาเหล้าหรือเมาอะไรวะ...

เรื่องมันมีแค่นั้น...ที่ผมจำได้

ตอนนี้ผมยิ่งกว่าช็อก…ผมจำอะไรไม่ได้มาก แต่ผมรู้ว่าผมไม่ได้ทำอะไรกับใครแน่นอน ส่วนนั้นไม่ได้ถูกใช่งานแน่ๆ อะ คือคนเป็นเจ้าของมันต้องรู้อะถูกไหม ถ้าถูกใช้งานต้องมีคราบมีอะไรหรือต้องมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่ แต่นี่ไม่มีอะไรเลย...

ผมอธิบายกับสาม...พยายามบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่รับรู้และจำได้ด้วยความลนลาน มันคงเป็นคำพูดที่ไม่ได้เรื่องแน่ๆ แต่ผมคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ในตอนนั้น น้องเอาแต่ครับ...ผมรู้ ผมเข้าใจ แต่แววตาคือเจ็บปวดอย่างที่สุด...

เวรเอ้ย...ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดขึ้นกับผมวะ!

“ทำไมมึงยังไม่กลับไป” ผมเดินกลับเข้าห้อง เห็นโซฮานนั่งอยู่ที่ปลายเตียงนอน ผมเหลือบตามองแล้ว มันไม่มีแม้คราบอะไร ที่นอนก็ไม่ได้ยับยู่เหมือนผ่านอะไรมา เหมือนคนนอนด้วยกันสองคนมากกว่า

“ทำไมมึงต้องพูดกับกูแบบนี้วะ เพราะน้องเขามาเห็นกูกับมึงนอนเปลือยกายกอดกัน กูเลยต้องเป็นคนผิดงี้เหรอ” สีหน้ามันเจ็บปวด…ผมรู้ว่ามันเจ็บ แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่แค่มันที่เจ็บปะวะ

“มึงกับกูรู้ดีว่ามันไม่มีอะไร...”

“มึงรู้ได้ไง” โซฮานขึ้นเสียง ผมองหน้ามัน...มองเข้าไปในดวงตาของมัน

“มึงคิดว่ากูเป็นเด็กเหรอ...”

“มึงไม่ใช่เด็กหรอก แต่มึงก็แค่ไม่อยากยอมรับความจริงว่าเราสองคนมีอะไรกันไปแล้ว” หึ...ผมรู้แล้วว่าทำไมตัวเองถึงเมา

ที่จริงก็อาจจะไม่รู้อะไรเลยถ้าโซฮานกลับไป แต่พอมันพูดแบบนี้ผมก็รู้ทันที...บอกแล้วไง ไม่มีร่องรอยอะไรบนที่นอนทั้งนั้น ถ้าผมทำผ้ามันคงไม่อยู่สภาพนี้ แล้วคราบน้ำต่างๆ ก็ต้องเยอะ รวมถึง...ร่องรอยบนตัวไอ้โซฮาน

ผมทำกับสามที...ผมยังอดไม่ทำรอยไม่ได้เลย ถึงจะไม่ทำมากจนน่าเกลียด แต่มันต้องมีอะ มันเป็นความหมั่นเขี้ยวของผม...อารมณ์แบบนั้นห้ามตัวห้ามใจยาก แล้วเพราะทำรอยมากไปหน่อย ทั้งที่คิดว่านิดเดียวแล้วอะนะ พี่บอยถึงได้ด่าผมยับเยิน ต่อว่าที่ทำกับหลานเขาแบบนั้น อีกทั้งเรายังเพิ่งคบกันอีก...ผมรู้ผมผิดที่ชิงสุกก่อนห่าม อารมณ์นั้นมันแบบ..กูไม่ไหวแล้วโว้ยยยย แบบนั้นอะ

“เฮ้อ...บอกกูมาตามตรงโซ มึงทำอะไรกันแน่” จ้องหน้ามันนิ่ง ไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันมาหลายปีผมคงมีออกมวยกับมัน

“มึงยังกล้ามาถามกูอีกเหรอ...กูต่างหากที่ต้องถามว่ามึงทำแบบนี้ทำไม” ทำไมถึงยังหน้าด้านวะ

“กูไม่คิดเลยนะว่า...มึงจะเป็นคนอย่างนี้อะโซ กลับไปเหอะ ถ้ามึงให้ความจริงกูไม่ได้มึงก็กลับไป มึงกับกูเป็นเพื่อนกันมานานแค่ไหน อย่าให้มันต้องจบเพราะกูทนฟังคำโกหกของมึงไม่ไหวเลย” ผมโกรธนะ...แต่พยายามระงับอารมณ์เพราะคิดว่ามันจะยอมสารภาพเหมือนครั้งที่ผ่านมา

ผมไม่ได้คออ่อน...ทุกคนรู้ และผมไม่ดื่มหนักหากมีธุระหรือต้องทำอะไรต่อ...ทุกคนก็รู้ เพราะงั้นการที่ผมเมาไม่ได้สติ ไม่ใช่เพราะเหล้า และก็ไม่มีทางที่เราสองคนจะมีอะไรกัน จะว่าผมใจร้ายกับเพื่อนก็ได้...แต่ผมไม่พอใจกับการที่มันทำแบบนี้ ไม่ว่ามันจะทำอะไรลงไปบ้าง แต่เจตนาร้ายของมันสั่นคลอนความสัมพันของผมกับสามอย่างร้ายแรง

“มึงไม่รู้หรอกว่ากูเสียใจแค่ไหน...” โซฮานเปรยเบาๆ ในห้องที่เงียบเฉียบ...ผมได้ยินมันชัดเจน

“มึงก็ไม่รู้หรอกว่ากูเสียใจแค่ไหน ที่เพื่อนของกูกำลังทำลายความรักของกู...มันยิ่งกว่าโดนเอามีดมาแทงข้างหลังอีกมึง เพราะกูไว้ใจ เพราะกูเชื่อใจมึง...แต่ดูสิ่งที่มึงทำดิ”

“กูทำอะไร มึงพูดมาเลยเดี่ยว...มึงจะกล่าวโทษกูแบบนี้ไม่ได้ คิดถึงใจกูบ้างปะ” ยังคงใส่หน้ากากต่อไป...พอกันที กูไม่เก็บอารมณ์แล้ว ผมตรงเข้าไป จับไหล่ทั้งสองข้างของมันแล้วดันลงกับเตียง พร้อมคร่อมตัวมันที่ยังไม่ใส่เสื้อผ้าเอาไว้

“แล้วมึงทำอะไรมึงคิดถึงใจกูบ้างปะ! มึงโกหกทั้งที่รู้ว่ายังไงกูก็จับได้ ที่นอนสภาพนี้ ตัวมึงสภาพนี้...มึงจะมีหน้ามาบอกว่ากูกับมึงมีอะไรกันอีกเหรอ หลักฐานล่ะ มีหลักฐานไหม เอามาโชว์สิแล้วกูจะยอมรับคำที่มึงพูด!!!” ผมตะคอกใส่หน้ามันอย่างเดือดดาน โซฮานนิ่งงันก่อนน้ำตาจะไหล...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันร้องไห้ แต่มันไม่ได้ช่วยชะล้างความรู้สึกของผมให้ดีขึ้นเลย

สามก็กำลังร้องไห้...

“ปล่อยกู” มันพูดออกมาเบาๆ

“ตอนกูให้มึงไป ทำไมมึงไม่ไป...ตอนนี้เสือกอยากจะไป ทำไม หนีความจริงเหรอ มึงหนีไม่พ้นหรอกโซ โดยเฉพาะความจริงที่ว่า...กูรักสามไม่ใช่มึง!” อยากจะต่อยหน้ามัน...อยากจะกระทืบมัน แต่ทำไม่ลง

ผมปล่อยแขนทั้งสองข้าง ลุกออกมาจากตัวของเพื่อนสนิทตัวเอง...ใช่ มันเป็นเพื่อสนิทผมเว้ย เป็นคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผมมาตั้งแต่สมัยผมเข้ามหาลัยใหม่ๆ มันเป็นเพื่อนคนแรกที่ฟลอเต้น...ผมบอกแล้วไง ถ้ามันพูดกับผมตั้งแต่ทีแรกว่ามันชอบผม เราคงลงเอยกันไปแล้ว ไม่ใช่มาทำทุกวิถีทางเพื่อจะแย่งผมมาจากสาม

ผมพูดเสมอ...ผมให้โอกาสทุกคนที่กล้าเข้ามาสารภาพรัก ผมชอบที่เขาใช้ควากล้าเข้ามาหา ผมให้โอกาสหมดไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะเคยสาภาพรักมาก่อน รู้ดีว่ามันต้องใช้ความกล้ามากขนาดไหน ก็เลยอยากให้โอกาส...และนับถือทุกความกล้านั้น

แต่มันไม่มีความกล้ามาสารภาพกับผม...เสือกมีความกล้าในการแย่งผมมาด้วยวิธีการเลวๆ

โซฮานลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าด้วยท่าทีที่อ่อนแรง ไม่ใช่เพราะร่างกายโดนกระทำ แต่เป็นที่ใจของมันมากกว่า ผมรู้ว่ามันเจ็บ ผมก็เจ็บ...ผมจะรู้สึกยังไงที่โดนเพื่อนที่สนิทที่สุดหักหลังแบบนี้ ผมคิดว่ามันน่าจะคิดได้แล้วหลังจากเห็นผมทุ่มเทให้กับสามมากแค่ไหน เห็นกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ก็เลยเบาใจ ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายมันจะแว้งกลับมากัดผมแบบนี้ นี่เหรอวะ..เพื่อน?

ภาพที่สามร้องไห้...คำที่สามพูดกับผมยังคงก้องอยู่ในหัว เข้าใจ เชื่อใจ แต่...ทำใจไม่ได้ ผมไม่เข้าใจมันมากนักหรอก แต่ผมรู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน วันนี้เป็นอีกวันที่สามน่าคาดหวังได้เจอกัน เขากำลังจะได้พักผ่อนจากการสอบที่หนักหนาสาหัส แล้วกลับมาเจอเรื่องแบบนี้...

คิดกลับกันว่าเป็นผม...ผมคงไม่หันหลังเดินจากไปง่ายๆ แบบนั้น แต่ผมจะกระทืบไอ้คนที่นอนอยู่เคียงข้างสามไม่ให้เหลือชิ้นดีเลย แต่เขากลับยิ้ม เขากลับเดินจากไปง่ายๆ แบบนั้นมันเจ็บปวดไม่ใช่เหรอ...แบบนั้นทรมารมากกว่าการด่ากราดหรือระบายอารมณ์ใส่ผมไม่ใช่หรือไงกัน

ผมอยากอธิบายกับสามให้ได้มากกว่าคำว่า...ผมไม่ได้มีอะไรกับโซฮาน อยากมีหลักฐานยืนยันให้ได้มากกว่าคำพูดลอยๆ ของตัวเอง สามเหมือนจะไม่อยากฟังอะไรแล้ว เขาเองก็โดนความเสียใจปกคลุม...เหตุผลใช้กับสามตอนนี้ไม่ได้ เพราะเป็นผม...ผมก็ไม่ฟังเหมือนกัน

ผมทิ้งร่างตัวเองลงกับที่นอน คิดหาวีธีเพื่อจะปรับความเข้าใจกับสามให้ได้ ผมไม่รู้ว่าที่สามขอเวลาน่ะ...มันนานแค่ไหน ผมไม่อยากห่างเขา ไม่อยากให้รักของเราจบ...ผมรักสามนะ รักที่เขาเป็นแบบนี้...

เขาน่ารัก...

เขาใจกว้าง...และเขาเข้าใจผมดี

สามไม่เคยพยายามก้าวล้ำเส้นเข้ามาในโลกของผม เขาอยู่มองมันจากรอบนอกและส่งยิ้มบางๆ มาให้ เสมือนกำลังใจที่อยู่ใกล้ไม่ห่างหาย สามไม่เคยทำให้ผมอึดอัด มีแต่ผมด้วยซ้ำที่พยายามจะแทรกตัวเข้าไปในโลกของเขา แต่สามไม่เคยว่า...ไม่เคยขับไล่ไสส่งผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ขอให้เราไม่จบกันด้วยเรื่องนี้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยกลัวการเลิกรา อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้กันและกันเต็มที่แล้ว พอถึงจุดหนึ่งที่มันไปต่อไม่ได้ มันก็ต้องจากกันไปเป็นเรื่องธรรมดา มีรักมีเลิก มีพบมีจากผมเข้าใจ แต่มันต้องไม่ใช่กับคนนี้...

ผมอยากมีเขาอยู่ในชีวิตของผม…ตลอดไป


….100%….

บางทีก็สงสารโซฮานนะ…แต่ก็แบบ ความยึดติดของนาง อคติของนางมันทำให้นางทำอะไรไม่สร้างสรรค์จนโดนด่าซ้ำไป ซ้ำมา

❤️❤️สวัสดีปีใหม่นะคะนักอ่านที่รักทุกคน ขอให้ทุกคนมีความสุขมากกว่าปีที่แล้วมานะคะ สุขภาพแข็งแรง โรคภัยไม่กล้ำกลาย ร่ำรวยๆ น้าาาาาาา❤️❤️
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 01-01-2018 20:31:42
โซฮานไม่เหนื่อยบ้างเหรอ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-01-2018 21:09:09
 :เฮ้อ:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 01-01-2018 21:39:29
เข้าใจโซฮานนะ  แต่ทำแบบนี้มันไม่ถูกอ่ะ  คนจริงเขาไม่ทำแบบนี้ หาใหม่ไม่ง่ายกว่าหรอ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-01-2018 21:41:04
เฮ้อออ โซเห็นแก่ตัว ยึดติดแต่ตัวเองนะ ไม่ได้รักมะเดี่ยวอะ รักตัวเองจนน่ารังเกียจ เลิกแข่งเหอะ ไม่ได้มีน้ำใจนักกีฬาเลย

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-01-2018 21:44:50
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 02-01-2018 06:27:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: firstlove ที่ 02-01-2018 06:33:26
แล้วสามจะรู้ความจริงได้ไงหละทีนี้
สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 02-01-2018 09:20:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-01-2018 09:20:59
สงสารโซฮานเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: bewitchz ที่ 03-01-2018 00:29:10
แปะไว้นะคะ เดี๋ยวตามมาอ่านอิอิ ชอบพล็อตเรื่องมาก แหวกแนวดี55555  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 54 [100%]❤️ -1/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 03-01-2018 11:50:43
ฮือๆๆๆ ดราม่าอ่ะ


 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 55 [100%]❤️ -4/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 04-01-2018 19:57:35
>>ตอนที่ 55 [100%]<<

...หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้

สองวันแล้วนับจากที่สามเดินกลับเข้าห้องไป…ผมไม่สามารถติดต่อกับเขาได้ ไขกุญแจสำรองเข้าห้องของเขาก็ไม่พบอะไรเลย เสื้อผ้ายังอยู่ ผมไม่เคยดูว่ามันมีมากขนาดไหน ถ้ามันจะหายไปบ้าง ผมคงไม่รู้อยู่ดี ผมเฝ้าเวียนอยู่ไปไหน หวังว่าจะได้เจอเขาไม่วันใดก็วันหนึ่ง ทว่า...แม้แต่เงาของเขาผมก็ไม่เห็น

อีกไม่กี่วันจะถึงวันแข่งขันบีบอยระดับประเทศ ทีมที่ผมฟอร์มมาอย่างหนักจะมาพังเพราะเรื่องส่วนตัวไม่ได้ โซฮานมาซ้อมตามปกติ แต่มันไม่ได้เข้ามาคุยกับผม และผมก็ไม่มีอารมณ์จะคุยกับมัน ตอนนี้ถึงผมจะยังซ้อมเต้น...ยังใส่ใจทุกลายละเอียด แต่ผมกลับไม่สนุกสนานกับมันเลย

บทเพลงที่เคยชอบเล่นท่าบ่อยๆ กลายเป็นเพลงหงอยๆ ที่ผมปล่อยมันผ่านเลยไป ทุกครั้งที่ว่าง ไม่ว่าจะมีเวลาเท่าไหร่ ผมจะโทรหาสาม ส่งข้อความ อธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นให้สามฟัง หวังให้วันหนึ่งเขาเปิดมือถือแล้วได้รับรู้มัน

ผมรอการติดต่อกลับจากสามทุกวัน...ทว่ามือถือตัวเองกลับเงียบเฉียบ ไร้ซึ่งวี่แววของเขา เชื่อไหมว่า กว่าเวลาจะผ่านไปได้ในความรู้สึกของผมตอนนี้คือนานมาก ผมเพิ่งโทรหาสามเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน พอพักอีกครั้งก็โทรอีก วนเวียนอยู่แบบนี้ตั้งแต่ตื่นยันหลับ...อันที่จริงก็ไม่ค่อยหลับหรอก

ผมหลับไม่สนิทเลย...

“โอ้ย....กูไม่ไหวแล้วเว้ย อีกคนก็เอาแต่โทร อีกคนก็เอาแต่หงอ...พวกมึงสองตัวเป็นเห้อะไรครับ” จู่ๆ ไอ้เรย์ก็โพล่งขึ้น เสียงดังยิ่งกว่าบีทเพลง

“เออ นั่นดิ กูทนมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว พวกมึงเป็นอะไรกัน ทะเลาะเชี่ยไรกันวะ...มีไรคุยกันดิ้ นี่ทีมนะเว้ย มึงจะพาทีมหงอยๆ แบบนี้ลงแข่งอ๋อวะ แม่ง แพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงสนามเลย” ไอ้แนโวยขึ้นบ้าง ผมไม่สนใจอะ นั่งกดมือถือเพื่อส่งข้อความไปง้อรอบที่เท่าไหรก็ไม่รู้ ไม่มีการอ่านสักข้อความ ใจไม่ดี ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“แหนะ พวกกูว่าก็ยังนั่งกดมือถืออยู่นั่น มึงเป็นหัวทีมนะเว้ย มึงต้องมีใจให้ทีมหน่อยสิวะ นี่อะไร...เอาแต่ง้อเมีย” หรือเวลาพวกมึงทะเลาะกับแฟนพวกมึงไม่ง้อแฟน

“ง้อยิ่งกว่าคนไหนๆ เลยด้วย ถามจริงๆ พวกมึงทะเลาะอะไรกัน ไหนพูดซิ...ช่วยได้จะช่วย มึงจะได้ไม่หงอยแบบนี้” เรย์เดินเข้ามาจะแย่งมือถือไปอ่าน แต่ผมไม่ยอม

“กูจะไม่ทะเลาะกับน้องมันเลยถ้าคนบางคนมันไม่ทำอะไรเลวๆ ลงไป” ผมเปรยขึ้น ตาจ้องไอ้โซฮาน

“มึงหมายความว่าไงวะ” ไอ้แนเท้าเอวจ้อง คนอื่นก็พลอยจ้องมองผมเช่นกัน ตอนนี้เหมือนกับว่าเรากำลังประชุมทีมกันอยู่ทั้งที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม

“กูทะเลาะกับน้องเขาเพราะเพื่อนเลวๆ คนหนึ่งเว้ย เรารักกันดีๆ...แต่แม่งเสือกไง นี่กูก็รอดูนะ ว่ามันจะทำอะไรบ้างหรือเปล่า จะสำนึกไหมในสิ่งที่มันทำไป แต่ก็ไม่...กูไม่เห็นมันทำเหี้ยไรเลย ความเป็นเพื่อนของเรามันคง...ใกล้สิ้นสุดแล้วล่ะ บางทีแข่งครั้งนี้จบ กูคงเลิกคบมันเป็นเพื่อน” ทุกอย่างรอบด้านนิ่งหมด...

“มึง...ล้อเล่นปะวะ เรามาแตกคอกันเองเพราะเด็กของมึงเนี่ยนะ” ไอ้แนพูดเหวอๆ หลังได้สติ

“มึงจะมองแบบนั้นก็ได้ แต่ระหว่างกูกับมันอะ...คงรู้กันดีว่าเราแตกกันเพราะอะไร กูไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้หรอกนะ แต่กูให้อภัยคนที่แทงข้างหลังกูแบบนี้ไม่ได้วะ” ผมลุกขึ้น ตั้งใจจะเดินไปหาอะไรดื่มให้กระชุ่มกระชวย ไม่ใช่แอลกอฮอล์แน่ๆ ไม่ชอบ

“เดี๋ยว...” แต่โซฮานมันรั้งต้นแขนผมไว้ก่อน ผมดึงมือมันออกแล้วมองหน้า

“อะไร”

“มึงพูดจริงเหรอ”

“กูคิดว่ากูพูดจริง...”

“ไม่หรอก มึงแค่กดดันกู” ผมเค้นยิ้มส่งไปให้

“นี่ไม่ใช่เวลาเล่นวะโซ...ที่มึงทำลงไปก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เหมือนกัน ถ้ามึงยังอยากให้เราเป็นเพื่อนกัน...ยังรักความสัมพันที่มีมายาวนานนี้ มึงก็ควรทำอะไรบ้าง ไม่ใช่ลอยหน้าลอยตาไม่ทุกข์ร้อนอะไร ปล่อยให้กูและคนที่กูรักเจ็บปวดแบบนี้ มึงรู้ปะ...กูเฝ้ารอวันที่น้องมันสอบเสร็จใจจะขาด กูอยากให้น้องมันได้พักผ่อนหลังจากที่อดหลับอดนอนมานาน กูพยายามดูแลน้องเขาให้เท่ากับตอนที่น้องเขาเทียวมาดูแลกูช่วงกูโหมงาน แล้วมึงดูดิ...มึงดูน้องเขาต้องเจอกับอะไร วันอาทิตย์นี้คือวันแข่ง...เราตั้งใจไปด้วยกัน น้องมันตั้งใจจะไปเชียร์กูข้างเวที...แล้วมึงดู...มึงดูสิตอนนี้มันเป็นยังไง” ยิ่งพูดเสียงผมก็ยิ่งสั่น...ปากคอมัน...มันควบคุมไม่อยู่อะ

ผมพยายามเก็บอาการเหล่านี้นะ ไม่อยากนึกถึงเรื่องที่มันสะเทือนเท่าไหร่ แค่พยายามง้อต่อไปเรื่อยๆ แต่พอมันไม่มีวี่แววจะสำเร็จผมก็ชักกลัว...ผมเป็นผู้ชายแต่ผมหวั่นไหวเป็นนะเว้ย!

“กู...”

“กูไม่ต้องการคำขอโทษ กูต้องการให้สามกลับมา…กูรักน้องเขา ทำให้กูได้ปะละ” โซฮานหลุบสายตาลง ผมอาศัยช่วงนั้นเดินหนีมันออกมา

ตอนนี้ทุกคนก็คงเดาออกแล้วว่าทำไมระหว่างผมกับโซฮานถึงตึงเครียด เรามีเรื่องทะเลาะกันเพราะผู้หญิงบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เคยแย่ขนาดนี้ เพราะทุกครั้งมันจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนถอย เรารักทีมมากกว่าตัวเราเอง...เรารักเพื่อนมากกว่าแฟนที่เพิ่งเข้ามา

แต่ว่า...ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน

ถ้าผมทอดทิ้งสาม เอาทีม เอาโซฮานเป็นหลัก นั่นเท่ากับว่าผมนอกกายเขาจริงๆ...ผมทำเลวกับเขาทั้งที่ผมไม่ได้ทำ เราทะเลาะกันเพราะมันเป็นคนก่อเรื่อง มันต้องแก้ไขร่วมกับผมดิ ผมพยายามอยู่คนเดียว เพื่อจะให้ได้คนที่ผมรักกลับมา ส่วนมัน...มันทำอะไร มันก่อเรื่องแล้วมันก็ทำเหมือนไม่เคยทำอะไรเลยแบบนี้เหรอ

เลิกกับสามไป...ผมก็ไม่คบมันหรอก ทำกันขนาดนี้...ผมจะกล้าคบมันอยู่ไหม เกิดวันหนึ่งผมรักใครคนใหม่ มันก็จะเข้ามาทำเรื่องแบบนี้กับผมอีกอะเหรอ ไม่ไหวปะ เพื่อนกันอะ...เขาไม่ทำร้ายเพื่อนแบบนี้หรอก

ผมเดินออกไปหากาแฟดื่ม ช่วงนี้ติดคาเฟอีนหนักเพราะนอนไม่หลับ พวกเครื่องดื่มชูกำลังเอาไม่ค่อยอยู่ ผมไม่ถูกกับของพวกนั้นเท่าไหร่ ไอ้จะไปซื้อกาแฟร้านพี่บอยผมก็ไม่กล้า เอาตรงๆ คือกลัวหลายอย่างหากพี่เขารู้เรื่องนี้ ก็เลยต้องหาร้านอื่นกินซึ่งยังดีที่ตลาดเปิดท้ายมีร้านถูกปากอยู่ร้านหนึ่ง

ได้กาแฟโบราญใส่ถุงกระดาษก็เดินกลับมาที่ฟลอ ไม่มีคนซ้อม ทุกคนนั่งเป็นกลุ่มรวมกัน โซฮานไม่อยู่แล้ว...คาดว่าคำพูดของผมคงทำร้ายความรู้สึกมันอะ แต่ความบ้าชั่วนาทีของมันทำลายความสัมพันของผมกับสาม กระทั่งตอนนี้ผมไม่รู้เลยว่าผมกับน้องเขาจะปรับความเข้าใจกันได้ไหม ในเมื่อน้องมันไม่ยอมเปิดมือถือ ไม่ยอมอ่านข้อความ เรียกว่าไม่เปิดโอกาสให้ผมได้อธิบายอะไรเลย

แม่ง...แค่คิดก็หงุดหงิด จะทิ้งทีมไปตามก็ไม่ได้ ผมมีเวลาไม่นานในการซ้อมให้ทุกอย่างมันแน่นขึ้น ผมเองเป็นฝ่ายพูดเสมอว่าเราต่างมีหน้าที่ที่เราต้องทำ และเราต้องทำให้ดีที่สุด สามเป็นคนมีความคิดคล้ายๆ กับผม ในเรื่องเรียนน้องมันตั้งใจมาก น้องพยายามทำให้ตัวเองมั่นใจว่าจะสามารถทำคะแนนออกมาได้ดี และจะไม่ผิดหวังกับผลที่จะออกมา

“มึง...ปล่อยไว้แบบนี้มันจะแย่นะเว้ย มึงไม่น่าพูดแรงๆ กับไอ้โซ ขาดมันไปคนทีมก็เป๋นะ” มาร์ชเอ่ยขึ้นเมื่อผมเดินเข้าไปนั่งตรงม้านั่ง

“แล้วพวกมึงจะให้กูทำยังไง...ให้กูทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งเราแข่งอะเหรอวะ” ตอนแรกก็ตั้งใจแบบนั้นหรอกนะ แต่เรย์มันจุดประเด็นไง ก็เลยระเบิด

“น่าสงสารมัน”

“แต่มึงไม่สงสารกู?” ผมถามแน ก็ใช่...โซฮานน่าสงสาร แต่มันทำตัวเองปะวะ

“เออ แต่ไม่คิดว่าพี่เขาจะทำแบบนี้นะ งงไปเลยอะ” ก้องเอ่ยขึ้น ผมคิดเหมือนมันนั่นแหละ ใครจะไปนึกว่ามันจะเล่นมุกนี้วะ...

พวกเราต่างก็เงียบ ผมเหลือบไปเห็นกระเป๋าของโซฮานซึ่งยังวางอยู่ที่เดิม แสดงว่าเดี๋ยวสักพักมันก็กลับมา ผมนั่งดูดกาแฟในถุง พลางโทรหาสามเผื่อว่าน้องมันจะเปิดเครื่องแล้ว แต่ก็เหมือนเดิม ไม่ว่าจะกี่ครั้ง...ก็ยังได้ยินเสียงผู้หญิงคนเดิม ประโยคเดิมๆ วนไปวนมา รู้ไหม...การมานั่งฟังอะไรแบบนี้ทุกวี่วันมันน่ารำคาญขนาดไหน เมื่อวานตอนดึก ผมเหนื่อย ผมท้อ...ผมแทบจะปามือถือทิ้งเพราะเสียงบ้านี่แหละ แต่ต้องหักห้ามใจเอาไว้

กาแฟไม่ทันหมดถุงดีโซฮานก็เดินกลับเข้ามาที่ฟลอ หน้าแดงและตาก็แดงก่ำไปหมด ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไปร้องไห้มา ช่างหัวแม่งเหอะ...ดีที่ยังกลับมาซ้อมเต้นแหละ ผมวางกาแฟในมือลงแล้วเรียกให้ทุกคนเริ่มซ้อมอีกครั้ง

บทเพลงที่พวกเราพยายามตัดต่อถูกเปิดย้ำวนไปเรื่อยๆ ทุกคนพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดโดยเฉพาะโซฮาน ผมอยู่กับมันมานาน ยามที่มันตั้งใจมันเป็นยังไงผมรู้ดี แล้วก็คิดว่ามันคงไม่อยากทำให้ผมผิดหวังในตัวมันมากไปกว่านี้ แต่ทางที่ดี...มันควรหาทางช่วยผมให้น้องกลับมา

การแข่งโบตี้หรือการคว้าแชมป์ระดับประเทศไม่ใช่ความฝันของผมหรอก มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น แต่เมื่อคุณยืนอยู่ในจุดสูงสุดของทีม...คุณคือแบกรับความคาดหวังของทุกคนในทีม นั่นคือหน้าที่ความรับผิดชอบที่ผมต้องมี สำหรับผม...การแข่งขันคือความสนุกสนานอย่างหนึ่ง ได้ออกไปแบทเทิลกับคนอื่นๆ ได้เจอผู้คน พบปะผู้คน เราแลกเปลี่ยนความสุขกันผ่านการเต้น ผ่านเสียงเพลงและลีลาท่าทาง

สามเคยไม่ชอบการเต้น...เขาว่ามันยาก แต่พอเขาได้เต้น ได้อยู่รวมกับพี่ๆ น้องๆ ในฟลอ เขาก็ดูมีความสุขและสนุกไปกับมัน นี่คือเสน่ห์ที่ผมเองก็หลงใหล และสามน่าจะเริ่มหลงมันเหมือนกับผม เขาอาจไม่เก่งเลย เขาก็พยายาม เหนื่อยแล้วพัก...พักแล้วซ้อมต่อ

ผมชอบที่ได้สอนน้องเต้น ชอบที่จะได้แกล้งจนเขาเบะปากทำหน้างอแงเหมือนเด็กๆ แต่สามไม่เคยงอนผมจริงๆ เลยสักครั้ง เขาก็แค่...ทำเหมือนจะอะนะ การมีแฟนมานั่งรอเราทุกวัน อยู่กับเรายามเราได้ทำในสิ่งที่เรารัก มองกลับไปกี่ทีก็เห็นเขามองมาพร้อมรอยยิ้ม มันคือสิ่งที่ดีมากๆ...มีความสุข และบทเพลงไร้คำร้องกลับมีความหมาย ผมจำเพลงแรกที่สามหัดท็อปร็อกได้...

บีทช้าๆ แต่ชัดเจนนั้นผมเป็นคนเปิด เพลงเก่าแล้วล่ะ ผมเองก็เริ่มมาจากเพลงๆ นี้เช่นกัน เขาคงไม่ได้สังเกตเห็นผมที่คอยจับจ้องมองเขาขยับตัวไปตามจังหวะ คิ้วขมวดหน่อยๆ เวลาที่ตัวเองมึนงงสับสนกับร่างกายตัวเอง แล้วไม่นานเขาก็เริ่มยิ้มเมื่อจับจังหวะได้ ไลน์การเต้นของสามสวยนะ...อาจไม่โดดเด่นแต่ถ้าฝึกเยอะๆ เขาเป็นอีกคนที่น่าจับตามอง

ผมเคยคิดด้วยว่า...ปีหน้าจะเอาเขาลงงานแข่งระดับประเทศด้วยกัน

คนอื่นๆ อาจกลัวที่จะทำงานร่วมกับคนรักของตัวเอง การมีทีมแล้วมีแฟนอยู่ด้วยดูเป็นปัญหาและคนส่วนใหญ่เลี่ยงมัน เพราะมันทะเลาะกันง่าย ผมไม่คิดว่าเป็นแบบนั้น กลับกันเลย...ผมอยากให้เขาอยู่ในทีมเดียวกัน ไปไหนไปด้วยกัน ซ้อมด้วยกัน

ผมอยากเดินจับมือกับเขาไปในทุกๆ ที่ที่ได้ไป

สามอยากเป็นคุณครูที่ไม่ต้องรับราชการ แค่สอนเด็กๆ ให้มีความรู้ เป็นเหมือนครูสอนพิเศษตามสถาบันต่างๆ แต่สถานบันของสามคือวัดแถวบ้าน...เด็กน้อยมาดคุณหนูอย่างเขา ใครจะไปคิดว่ามีความฝันแบบนั้น แถมยังติดเกมอีกต่างหาก ตอนแรกก็ไม่คิดว่าเขาจะเอาดีได้หรอก ทว่าพอเห็นเขาตั้งใจเรียนขนาดนั้นแล้ว...ผมคิดว่าความฝันของสามอยู่แค่เอื้อมเท่านั้นเอง

เขาเคยบอกว่า…เขาอยากเต้นบีบอยเก่งๆ เขาจะเอาไปสอนเด็กๆ ที่บ้านเขา เด็กๆ จะได้มีกิจกรรมที่สนุกสนานแบบนี้ เรื่องยาเสพติดหรือเรื่องการมั่วสุมก็จะได้ห่างไกลพวกเขา นั่นคือความคิดของเด็กอายุสิบแปดปี...เด็กวัยรุ่นซนๆ คนหนึ่ง มันยิ่งใหญ่ ผมเคยค่อนคอดสามว่า...สามเกิดมารวยไง สามมีทุกอย่าง ไม่คิดว่าโตไปอยากหาทุกอย่างด้วยตัวเองหรือไงอะแบบนั้น ผมเองก็เกิดมามีครบนะ…แต่อยากเติบโตด้วยตัวเองก็เลยพยายามเองทุกอย่าง สามนี่เขาขอพ่อแม่หมด

สามกลับคิดว่า...เรามีเยอะ เราก็แบ่งปัน สิ่งที่สามจะแบ่งปันผู้คนคือ...สติปัญญาและความรู้ ไม่ใช่เงินทอง ที่บ้านมีกินมีใช้ อาจมีจุดที่ย่ำแย่ในอนาคต แต่เขาสามารถรับราชการได้ทุกเมื่อถ้าอยากรับ ไม่มีอะไรต้องห่วงหรือกังวล...คิดแค่เราจะแบ่งปัญอะไรให้ได้มากที่สุดก็พอ

เฮ้อ...ผมคิดถึงเขา

“ไอ้โซฮานอะ” เรานัดซ้อมกันตั้งแต่เช้ายันดึกดื่นทุกวัน ยิ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้ซ้อม ยิ่งต้องเข้มงวดกว่าเคย แต่ปรากฏว่า...โซฮานหายไป

“โทรตามแล้วมันไม่รับวะ เดี๋ยวคงตามมาสายๆ มั้ง” เรย์เป็นฝ่ายตอบ ตาปรือไปหมดเพราะเลิกซ้อมกันตอนตีสอง แล้วนี่เพิ่งแปดโมงเช้า

“ปกติมันไม่เคยสายนะ” โซฮานเป็นคนตรงต่อเวลา ยิ่งวันสำคัญแบบนี้มันไม่น่าสายได้ดิ

“ช้ำใจตายไปล่ะมั้ง ก็เลยไม่มา” ไอ้แนแหน็บแนม ผมมองมันตาขวางๆ

“มันบอกมันไปธุระ เดี๋ยวตามมาซ้อมเที่ยงๆ” ไอ้มาร์ชเดินเข้ามาพร้อมเอ็มร้อย

“ไปไหนของมันวะ พรุ่งนี้แข่งแล้วนะเว้ย” ผมหัวเสียนิดหน่อย

“จะไปรู้ไหมละ ก็มันส่งข้อความมาบอกงี้อะ มึงก็โทรไปหามันดูดิ บางทีนะเว้ย...มันอาจช้ำใจมากจนไม่สบายเลยมาซ้อมไม่ไหว” แนยังย้ำเรื่องช้ำใจ แต่ผมไม่แคร์วะ

ผมลองโทรหาไอ้โซฮาน รอสายอยู่นานคิดว่าไม่รับสายแล้วแต่มันก็รับ น้ำเสียงไม่เหมือนคนเป็นไข้อะไร มันไม่พูดมาก ไม่อธิบาย แค่เดี๋ยวตามไปซ้อม ต้องไปธุระด่วนเท่านั้น เสือกมามีธุระเอาวันนี้อีก เออดี...วันนี้ผมจะเลิกเร็วด้วย กะว่าเย็นๆ จะแยกย้ายห้องใครห้องมันแล้ว เพราะว่าพรุ่งนี้งานแข่งมีตั้งแต่เก้าโมงเช้า เกิดโหมหนักไปจะตื่นกันไม่ไหว ไม่มีแรงแข่งพอดี

“เออ...วอร์มกันได้ล่ะ” วางสายจากโซฮานก็สั่งคนอื่นๆ วอร์ม ส่วนผมต้องไปหากาแฟดื่มหน่อย เมื่อคืนนอนไม่หลับเหมือนเดิมงีบไปหน่อยเดียวช่วงตีห้ามั้ง วาดรูปง้ออยู่ในเพจน่ะ...ไม่เห็นสามมากดไลก์สักอันเลย เศร้าฉิบเป๋ง

ระหว่างรอกาแฟที่สั่ง ผมก็หาข้าวเช้ากินไปด้วย เผลอเหลือบไปเจอร้านข้าวเหนียวหมูปิ้ง...แม่ง ภาพสามงอแงจะกินหูปิ้งลอยแว้บเข้ามาเลยแฮะ ผมตัดสินใจเดินเข้าไป…ไม่ได้สั่งหมูนะ สั่งไก่ คิดถึงแค่ไหนแต่ไม่กินหมูคือไม่กินครับ แค่แบบ...โอ้ย อยากได้ยินเสียงเว้ย

ถ้าผมไม่สามารถติดต่อเขาได้...ซึ่งดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นภายในวันอาทิตย์นี้ แข่งเสร็จผมตั้งใจจะไปหาพี่บอย ไปถามหาบ้านสามที่ต่างจังหวัด ต่อให้พี่บอยจะตีผมหัวแตกก็เหอะ แต่ผมต้องรู้ให้ได้...ผมจะไปง้อน้องถึงที่เลย ไม่กลัวด้วยว่าที่นั่นจะมีพ่อแม่หรือพี่ชายสามอยู่ ผมจริงจังมาก...อยากคุย อยากปรับความเข้าใจ ไม่ชอบที่มันเงียบแบบนี้...

เราวิดีโอคอลคุยกันทุกคืนเพราะน้องเขาไม่ยอมให้ผมไปนอนด้วย...เห็นเขานั่งอ่านหนังสือจนผมหลับ ตื่นมาบางครั้งเห็นน้องเขานอน บางครั้งน้องเขาก็แต่งตัวเตรียมไปเรียน หรือบางครั้งก็ยังนั่งทำงาน อ่านหนังสืออยู่ที่เดิม มันเป็นภาพชินตา...เรากินข้าวด้วยกัน ไปส่งน้องเขา ไปรับน้องเขา

อึดอัดชะมัด...พูดไปแล้วไม่เชื่อ เถียงมา ด่ามาอะไรแบบนี้ยังดีกว่าการไม่รู้ ไม่รับฟังผมแบบนี้อะ...เหมือนเราตะโกนให้ดัง ดังที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้วแต่น้องเขาก็ไม่ได้ยินมัน ผมเหนื่อย...แต่เพราะรักเขา อยากได้เขากลับมา เลยต้องพยายามต่อไป

มันอาจเป็นความพยายามโง่ๆ นะ แต่ตอนนี้ผมทำได้เท่านี้ก่อน ไม่แน่ ผมอาจจะเอาแชมป์โบตี้ของปีนี้ไปง้อเขาก็ได้ มันจะช่วยให้เขาหายโกรธผมไหม...จะช่วยให้เราดีกันหรือเปล่า หรือ...ผมควรเอาสเต็กหมูไปง้อดีล่ะ

บอกตรงๆ…เอาอะไรไปง้อแล้วเราดีกันได้ ตอนนี้ผมยอมหมดเลย

(จบมะเดี่ยว)

….100%….

หายไปหลายวันต้องขออภัยจริงๆ ค่ะ ถือว่าเราอู้รับปีใหม่เนอะ แฮ่ๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 55 [100%]❤️ -4/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 04-01-2018 20:54:26
 :เฮ้อ:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 55 [100%]❤️ -4/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-01-2018 21:09:35
 :เฮ้อ:มันคือความเหนื่อยใจของการมีเพื่อนไม่โอเค

 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 55 [100%]❤️ -4/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-01-2018 21:48:02
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 55 [100%]❤️ -4/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-01-2018 22:14:09
ถูกของมะเดี่ยวนะ คนก่อเรื่องจะมาทำเฉยเมยกับสิ่งที่ตัวเองก่อไม่ได้ ต้องมารับผิดชอบร่วมกัน ยิ่งกับเพื่อนมาทำแบบนี้ก็ตัดเพื่อนได้ง่ายๆเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 55 [100%]❤️ -4/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 04-01-2018 22:17:47
เพื่อนเดี่ยวแต่ละคนน่ากวาดลงถังให้หมด
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 55 [100%]❤️ -4/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 04-01-2018 22:47:40
โซฮานน่าจะพูดอะไรซักหน่อย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 55 [100%]❤️ -4/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 04-01-2018 23:00:05
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 55 [100%]❤️ -4/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 04-01-2018 23:23:54
ลำไยโซฮาน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 55 [100%]❤️ -4/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-01-2018 08:35:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 56 [100%]❤️ -5/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 05-01-2018 19:36:37
>>ตอนที่ 56 [100%]<<

“สาม...ใครโทรมาเต็มเลยวะ มะเดี่ยวทั้งนั้นเลยนี่....” เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ ไอ้พี่สองงงงง

“จริงดิ ผมไม่เห็นมีสายเข้าเลยนะ ไม่ได้ยินเสียงไรเลย”

“จะไปได้ยินได้ไงวะ มึงเปิดโหมดเครื่องบินไว้เนี่ย” ตาโตแป๊บ

“ผมลืมอะ” เออ จริงๆ นะ ผมลืมปิดโหมดเครื่องบิน ก็ว่า…ทำไมพี่เขาไม่โทรมาง้อ

คืองี้…วันที่ผมมาผมก็นอนคิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย พอสรุปเรื่องราวในหัวตัวเองได้ว่าน่าจะเป็นแผนพี่โซฮาน ผมก็เริ่มสบายใจขึ้น แล้วเกี่ยวอะไรกับการที่แกไม่ปิดโหมดเครื่องบิน...เกี่ยวดิ สบายใจแล้วก็หิวดิ เออ สบายใจแล้วหิว ไปหาข้าวหาปลากิน จากนั้นก็โดนพี่ๆ ใช้งานให้ไปดูหมาน้อยทั้งหลายแหล่ในฟาร์ม พ่อกับแม่เข้ามาช่วงบ่าย เลยอยู่ด้วยกันยาว ทำนั่นทำนี่ไปเรื่อยเปื่อยจนแทบไม่ได้คิดถึงเรื่องมือถือเลย

ไอ้คิดถึงน่ะมันคิดถึงนะ...แต่เพราะไม่ได้กลับบ้านมานานมั้ง ก็เลยมีเรื่องเล่าจากผมสู่ครอบครัวมากมาย พี่ผมกลับมาแกล้งน้องเต็มที่ ประหนึ่งไม่มีน้องให้แกล้งมาสามสี่ชาติเศษ นี่แค่หนีพี่ตัวเองไปวันๆ ก็เหนื่อยจะตายแล้ว นี่ยังคิดอยู่เลยว่าทำไมพี่มะเดี่ยวไม่โทรหาผมสักที ผมก็เปิดมือถือไว้นะ เสียบสายชาจเก็บไว้เรียบร้อย แต่ไม่เห็นสายเรียกเข้า นี่เลยงอนไม่กลับไปทั้งที่อาทิตย์นี้พี่มะเดี่ยวแกจะลงแข่งระดับประเทศแล้ว

สรุป...กูเล่นตัวเพราะกูลืมปิดโหมดเครื่องบิน

โอ้ยยยยย เบ๊อะอะไรแบบนี้วะเนี่ย แล้วพี่สองก็ถือวิสาสะเข้ามาที่ห้องผมแต่เช้าเลยนะ ผมยังไม่ลุกจากที่นอนเลยอะ ความรักวิ่งเข้าหาพี่สอง ในขณะที่พี่ผมแม่งเสือกมือถือผมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“แฟนอ๋อ” แกเปิดภาพวาดที่ดูเหมือนภาพสีน้ำ เป็นพี่มะเดี่ยวอุ้มความรักพร้อมข้อความว่า...ดีกันนะ น่ารักวะ ทำไมกูไม่ปิดโหมดบ้านั่นให้เร็วกว่านี้จะได้กลับไปหา

“อื้อ”

“ทะเลาะไรกัน” พี่สองเดินมานั่งข้างเตียง

“เข้าใจผิดกันนิดหน่อยอะพี่ ที่จริงรอเขาง้ออยู่”

“แต่ลืมปิดโหมดเครื่องบิน” ยิ้มหวานส่งให้เป็นการบอกว่า...ช่ายเลยพี่ชาย

“ไม่ใช่แค่หน้าเหมือนหมูนะ สมองก็เหมือน...” นี่คือแปลได้ความว่ายังไง ไหนบอกหน่อย โง่หรือเปล่า หรือยังไง...ผมว่าความรักมันไม่โง่นะ มันก็ฉลาดอะ

“สามมีคนมาหา” จู่ๆ พี่หนึ่งก็เดินเข้ามา

“หืม…ใคร”

“ไปดูเอง รออยู่ที่ล็อบบี้ ล้างหน้าแปรงฟันก่อนไปด้วยนะ เน่า…” ครับพี่ชายสุดที่รัก

พี่สองวางมือถือไว้ข้างหมอน แกอุ้มความรักเดินไปพร้อมพี่หนึ่ง ไม่ปิดประตูให้ด้วย ผมต้องเดินไปปิดก่อนจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว อยากจะเปิดมือถือดูนั่นดูนี่ที่พี่มะเดี่ยวส่งมาให้จังเลย...

ผมว่าพี่มะเดี่ยวก็น่าจะรู้แล้วมั้งว่าต้องเป็นฝีมือพี่โซฮาน อีกเรื่องที่ผมรอดูคือพี่เขาจะบอกไหมว่าเป็นใครทำ หรือว่าจะบอกว่าเมาแล้วไม่รู้เรื่องเหมือนครั้งที่แกบอกผมในวันนั้น มันน่าเจ็บใจนะ...ผมในวันนั้นมีสติไม่มากไง ก็เลยเชื่ออะไรได้ง่ายไปหน่อย ผมแค่คิดว่า...พี่โซฮานแกชอบพี่มะเดี่ยว แล้วเกิดทั้งคู่เมาจนเลยเถิดจริงๆ มันก็ไม่แปลกอะไรไง ผมคิดถึงหลายๆ กรณีนะ...ถ้าเขามีอะไรกันจริงๆ ผมก็ต้องรอดูว่าพี่มะเดี่ยวจะว่ายังไง

ตรงๆ เลยคือมีความมั่นใจมากว่า…พี่มะเดี่ยวต้องเลือกผม

ฮ่าๆ บ้าบอไหมล่ะ ก็ไม่รู้ดิ ไม่งั้นวันนั้นเขาจะอ้อนวอนผมขนาดนั้นเหรอ ผมรู้ว่าพี่เขารักและเอ็นดูผมขนาดไหน เขาไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก มันเป็นความเชื่อใจละมั้ง นี่แหละ หายโกรธแล้วสติมันก็กลับมา..อีกอย่าง ผมไม่ทุกข์ใจมากนักเพราะครอบครัวของผมอบอุ่นมาก...

ผมทุกข์แค่วันที่มาวันเดียวนั่นแหละ คิดได้ปุ้บเลิกทุกข์ปั้บ เหมือนเราไม่ได้ทะเลาะอะไรกันร้ายแรง แค่งอนๆ กันนิดหน่อยเดี๋ยวก็คืนดีกัน ยิ่งมีพี่ๆ พ่อแม่และสัตว์เลี้ยงอยู่รายล้อม ก็ยิ่งบรรเทาอะไรหลายๆ อย่างในความรู้สึกของผมได้ บอกแล้วว่า...ผมเป็นคนที่มีความสุขมากนะ มีพร้อมแล้วทุกอย่างอะ ยกเว้นเรื่องแฟน...รักพี่มะเดี่ยวมาก แต่เชื่อมั่นมากว่าพี่เขาต้องไม่ทำร้ายผมแน่ๆ ไอ้ไม่กลับไปเพราะงอนเขาไม่ง้อ

ที่ไหนได้...ลืมปิดโหมดเครื่องบิน

เออๆ ช่างมันเหอะ เดี๋ยวผมมาอ่านก็ได้ ไปเจอคนที่มาหาก่อน...ใครมาก็ไม่รู้ เพื่อนผมเปล่านะ เพื่อนที่เรียนที่เก่าเข้ามหาลัยแถวนี้เยอะเหมือนกันอะครับ ผมกลับมาหลายวันแล้วพวกมันน่าจะรู้บ้างแหละว่าผมมา พ่อแม่ก็เพื่อนๆ กันทั้งนั้น

“เอ่อ...” เดี๋ยวนะ ผิดคาดไปไกลวะ เพื่อนบ้าเพื่อนบออะไรวะ

นี่ผมจากมานานจนอะไรๆ เพี้ยนไปเยอะเหรอครับ...หรือเพราะไม่ยอมปิดโหมดเครื่องบินก็เลยตามอะไรไม่ทันโลกเสียแล้ว คอมพ์นี่ผมก็ไม่ได้ใช้ไง พี่ยึด...ฮ่าๆ เศร้าใจ เขาว่าผมชอบเล่นแต่เกม กลับบ้านมาทั้งทีไม่อยากให้เล่นเกมมากๆ อยากให้อยู่ด้วยกันพี่น้องพ่อแม่ลูกเยอะๆ ผมยอมเพราะนานๆ มาทีจริงอย่างที่พี่ว่าอะครับ

“เชิญนั่งก่อนครับ...” ผมผายมือเชิญพี่เขานั่งตรงโต๊ะไม่ห่างจากเคาน์เตอร์ล็อบบี้ พี่เขาก็เดินไปง่ายๆ

หน้าตาแบบนี้นี่...ร้องไห้มาใช่ไหม ไม่ได้นอนด้วยอะดิ คิดมากแน่เลยผมรู้ ผมเห็น ผมเข้าใจดี...ผมทุกข์ไม่มากเท่าเขา เพราะผมรู้แล้วว่ามันเป็นเพราะอะไรที่ทำให้ผมกับพี่มะเดี่ยวผิดใจกัน เอ่อ ไม่เชิงผิดใจปะ...เรียกว่าผมเข้าใจพี่เขาผิดคงจะถูกต้องกว่า แล้วคนที่ทำให้ผมเข้าใจแฟนผมผิดก็คือคนนี้...

ไม่คิดจริงๆ ว่าจะมาด้วยตัวเอง แค่คาดเอาไว้คร่าวๆ ว่าเขาส่งข้อความมาขอโทษ...อะไรนะ ว่าสามเป็นจอมวางแผนเหรอ บ้า ผมไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย งอนพี่มะเดี่ยวไม่โทรมาง้อล้วนๆ ส่วนที่คิดว่าพี่คนนี้จะส่งข้อความมาขอโทษนี่คิดไปเองล้วนๆ

“ดูเราสบายดีนี่” ผมยิ้มรับ พยักหน้า

“ก็สบายดีครับ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร” น้ำเสียงร่าเริงของผมทำให้เขาคิ้วขมวด

“ไอ้เดี่ยวมันแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ..เราไม่รับรู้เลยเหรอ” ไม่รู้อะ นี่ก็รอเขาง้อไง...เขาไม่มาง้อ ต้องย้ำอีกกี่รอบ ว่าลืมปิดโหมดเครื่องบิน

“เหรอครับ เขาทำตัวเองนี่” ทำเป็นไม่รู้ไว้ก่อน

“สำหรับผมนะ...ผมไม่ชอบที่แฟนผมนอกใจ นอกกายอะไรแบบนี้อะ มันสื่อถึงความไม่ซื่อสัตย์ ถ้าพี่เขาจะแย่ มันก็เพราะพี่เขาทำตัวเขาเอง ว่าแต่...พี่โซฮานมาหาผมมีอะไรหรือเปล่า” เข้าเรื่องเนียนๆ พี่เขาสีหน้าไม่ดีเลย...ก็เดาไม่ออกหรอกว่ามีอารมณ์ไหนบ้าง คร่าวๆ ที่แน่ใจคือเขาไม่พอใจในคำพูดผมนัก

“เราคิดง่ายๆ แค่นี้อะเหรอ ไม่คิดจะฟังมะเดี่ยวอธิบายหรือไง” คำพูดในเชิงให้ผมเห็นใจพี่มะเดี่ยวเหรอ...อืม ก็เหมือนก่อนที่เขาชอบพูดทำนองนี้ ให้ผมดูแลพี่มะเดี่ยว ให้ผมเอาแต่ตามพี่มะเดี่ยว เห่อๆ...

“พี่คิดว่าการคิดง่ายๆ นี่ทำง่ายเหรอครับ...พี่คิดว่าผมไม่เจ็บปวดเหรอ การที่ผมต้องฟังพี่มะเดี่ยวอธิบายโดยรู้สึกว่ามันเป็นคำโกหกนี่เท่ากับผมเอาตัวเองเข้าไปเจ็บนะ” ทำตาเศร้าแป๊บ...นี่แหละ ผมรู้พี่เขาไม่ชอบผม แต่คำพูดที่ดูเหมือนจะว่าร้ายพี่มะเดี่ยวน่าจะบีบอะไรในความรู้สึกพี่โซฮานได้บ้างละนะ

“มะเดี่ยวไม่ได้โกหกหรอก...”

“พี่หมายความว่าไง...พี่จะเข้าข้างคนผิดเหรอ”

“คนผิดคือพี่เอง!” เขาตะเบ็งเสียงขึ้นมา จ้องตาผมอย่างแน่วแน่ และดูท่าก็ไม่ได้อยากพูดแบบนี้เท่าไหร่

เขาเจออะไรมาน้า...อยากรู้จังว่าอะไรทำให้พี่โซฮานมาอยู่ตรงนี้ ตรงหน้าผมพร้อมกับออกตัวแทนพี่มะเดี่ยว เขาทำแบบนี้เพื่อให้ผมกับพี่มะเดี่ยวเลิกรากันไม่ใช่เหรอ เพื่อจะได้พี่มะเดี่ยวไปเป็นของตัวเอง คิดว่า...คนที่ทำให้พี่เขามาหาผมได้น่าจะเป็นคนที่เขาอยากได้มาตลอดนั่นแหละมั้ง

“ผมไม่เข้าใจ...” เขาเหมือนจะด่าผมโง่ในแว้บหนึ่ง แล้วหายใจเข้าลึกๆ

“รู้จักโซแลมไหม” โซแลมคือแอลกอฮอล์อัดเม็ด นิยมใช้มอมสาวตามผับบาร์ ผมรู้…ผมเรียนมา

“ไม่รู้จักครับ” โง่อีกคำในแววตาของเขา

“มันเป็นแอลกอฮอล์อัดเม็ด พี่แอบใส่ในแก้วมะเดี่ยวเอง...กูเป็นคนมอมมันแล้วจัดฉากเอง ชัดพอไหมล่ะ!” เขาไม่มองหน้าผม แต่มองฝ่ามือที่สั่นไหวของตนเอง ในที่สุด...ความจริงก็ออกมาจากปากเขาจนได้

“มึงยิ้มอะไร!” อุ้ย...โทษที มาดหลุดอะ

“ก็...ดีใจมั้งครับ ที่พี่มีความกล้าขนาดนี้ นึกว่าจะกล้าแต่ลับหลังเสียอีก...” คำพูดของผมทำให้โกรธ พี่โซฮานมองออกแล้วว่าผมตีหน้าซื่อหลอกเขา อ่าว...ผมไม่เคยบอกเหรอ ว่าผมไม่สู้คน...แต่ผมไม่ยอมคนน่ะ

“ผมรู้อยู่แล้วล่ะ รู้ตั้งแต่พี่มะเดี่ยวบอกว่าพี่ชวนกินเหล้า...ผมก็แค่รอว่าพี่จะกล้ายอมรับไหม หรือว่าพี่มะเดี่ยวจะจัดการเรื่องนี้ยังไง”

“งั้นที่มึงไม่ยอมทำอะไรเลยเพราะต้องการทำให้มะเดี่ยวมันช้ำใจใช่ไหมล่ะ มึงแม่ง...มึงรู้ไหมมะเดี่ยวมันแย่ขนาดไหนตอนนี้” ผมรีบยกมือห้าม

“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรทั้งนั้นแหละ...พี่มะเดี่ยวเป็นแบบนั้นเพราะนั่นคือผลพวงมาจากการกระทำของพี่เอง พี่เป็นคนทำร้ายพี่มะเดี่ยวไม่ใช่ผม ผมรู้ว่าพี่รักพี่มะเดี่ยวมาก มากเกินคำว่าเพื่อน...รู้มาสักพักแล้ว แต่ไม่คิดว่าพี่จะกล้าหักหลังเพื่อนตัวเองแบบนี้ ผมมาทีหลังครับ ผมจะไปพูดอะไรมันก็ไม่เหมาะ...แต่ไหนๆ มันก็มาขนาดนี้แล้ว ผมไม่ได้อยากเข้ามาแย่งความรักพี่นะ ไม่อยากทำให้พี่ต้องเจ็บ แต่พี่ต้องยอมรับนะครับว่า...ตอนนี้พี่เป็นแค่เพื่อน และผมกับพี่มะเดี่ยวคบกันอยู่ หากเราเลิกกันด้วยตัวพวกเราเอง แล้วพี่จะเข้ามาเสียบ มาแทรก ผมก็จะไม่อะไรเลย...นั่นเป็นสิทธิ์ของพี่ แต่ในเมื่อมันไม่เป็นแบบนั้น พี่ก็ไม่มีสิทธิ์มาแทรกแซงระหว่างเรา...ถูกไหมครับ” ผมพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงที่สุภาพที่สุด การที่พี่โซฮานมาอยู่ตรงนี้คงหมายถึงโดนอะไรมาจากที่นั่น ผมก็ไม่อยากทำร้ายซ้ำเติมแต่อยากให้พี่เขาเข้าใจและเคารพในความเป็นส่วนตัว

เราทั้งสองนั่งมองหน้ากันนิ่ง พี่โซฮานคงอยากเถียงอะไรสักอย่างแต่หาคำที่เหมาะสมไม่เจอ เป็นผม ผมก็คงเถียงไม่ออกหรอก ผมเผยแล้วว่าผมรู้มาตลอดเรื่องความรู้สึกพี่เขา ไม่ได้โง่นะ...แสดงออกน้อยไปหน่อยเท่านั้น เพราะการที่พี่โซฮานจะรักหรือชอบพี่มะเดี่ยวเกินเพื่อนมันก็เป็นสิทธิ์ของเขาอะ เรื่องของหัวใจมันห้ามกันไม่ได้อันนั้นผมรู้ แต่อยากให้พี่เขาอยู่ในเขตของเขาไม่ล้ำเส้นมาแบบนี้

“เข้าใจแบบนี้มึงจะกลับไปไหม...” หลังผ่านไปหลายอึดใจ พี่โซฮานก็ถามขึ้น ทว่าผมยังไม่ทันตอบ พี่สองก็เดินเข้ามาพร้อมถาดใส่ไอศกรีมกะทิสดฝีมือแม่

“อะ…แม่ให้เอามาให้” พี่แกวางห้วนๆ มองหน่าพี่โซฮานแว้บหนึ่งแล้วจากไป

“ทานก่อนสิครับ ฝีมือแม่ผมอร่อยนะ…” ผมหยิบส่งให้พี่เขาตรงหน้าถ้วยหนึ่ง

“ไม่อะ...”

“นะครับ ทานกับผม อร่อยมากผมคอนเฟิร์ม ส่วนเรื่องกลับไป ยังไงก็คงกลับครับ...” พี่โซฮานจำใจรับถ้วยอย่างเสียไม่ได้ เขามองหน้าผมนิดหน่อยก่อนมองไอศกรีมในถ้วย

พี่เขาจำใจตักชิม ส่วนผมจ้วงเอาจ้วงเอา อร่อยอย่าบอกใคร ผมชอบมากที่แม่ผมทำ อยากทำเองเป็นบ้างแต่คงได้แค่ในฝันเท่านั้น การทำไอศกรีมเป็นอะไรที่ยุ่งยากและต้องมีเครื่องไม่เครื่องมืออะ

“โกรธกูปะ” จู่ๆ พี่โซฮานก็ถามขึ้น

“อืม..จะว่าไงดี มันไม่ถึงกับโกรธ แต่ก็ไม่พอใจในการกระทำของพี่เท่าไหร่ ผมรู้พี่ไม่ชอบผม แต่ไม่เป็นไรฮะ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ผมไม่มีซีเรียสหรอก” พูดจริง เพราะผมไม่โฟกัสที่คนไม่ชอบผมไง เราอยู่ห่างเขา ไม่แสดงตัวเป็นศัตรูกับเขาก็พอแล้ว ที่ผ่านมาผมก็เลยไม่ค่อยมีคนเกลียดนัก

“มึงมองโลกในแง่ดีไปนะ” พี่โซฮานบอกเบาๆ

“ก็คงงั้นมั้งครับ พี่ก็ลองมองอะไรแง่บวกดูบ้าง...มันดีกับตัวเรานะฮะ” ผมยิ้มหวานให้พี่โซฮาน ถึงแม้เขาจะเป็นตัวการในการทำให้ความรักของผมสั่นคลอนก็เหอะ ไม่สิ ความรักของผมไม่สั่นคลอน มันยังอยู่ดีมีสุข กินอิ่มนอนหลับและดูท่าจะสบายมากเสียด้วย

พี่โซฮานนั่งกินไอศกรีมเงียบๆ อยู่จนหมด เขามองผม มองรอบๆ แล้วก็ขอตัวกลับไปโดยไม่พูดอะไรอีก ผมก็ไม่รั้งพี่เขาเอาเพราะว่าผมมีเรื่องที่อยากจะทำ อะไรเหรอ...โห่ เช็กมือถือสิครับ!

คว้าถ้วยทั้งสองใบวิ่งโล่ไปเก็บในครัว จากนั้นตรงกลับห้องตัวเอง ความรักมันอยู่กับพี่ๆ ผม ปล่อยมันไปเถอะ นี่คือช่วงเวลาของผมกับการได้เสพข้อความต่างๆ ของพี่มะเดี่ยว ตลอดสามวันที่ผ่านมา พี่เขาจะเป็นยังไงบ้างนะ

สามร้อยเกือบสี่ร้อยสาย...กับอีกเกือบหกร้อยข้อความ!!!

กลิ้งแป๊บ ทุ่มทุนอะ เอาเวลาว่างทั้งหมดมาโทรหา มาส่งข้อความเลยปะเนี่ย ไม่ได้อยากยิ้มหรอกนะ...แต่ริมฝีปากมันฉีกไปเอง ผมรู้ช่วงนี้พี่เขาซ้อมหนักมาก แล้วยังเทียวโทรหา มาส่งข้อความหาตลอดแบบนี้มันก็คงเหนื่อยไม่น้อย

ผมไล่อ่านตั้งแต่ข้อความแรกซึ่งเป็นรูปความรัก ทำหน้าอ้อนๆ พี่มะเดี่ยวแกอธิบายเรื่องวันนั้นยาวยืด เล่าแทบทุกอย่างที่พอจะจำได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องเป็นราวกว่าตอนที่เขากอดผมแล้วอธิบาย หลังจากนั้นก็ถามทำอะไร อยู่ไหน พี่คิดถึง พี่ขอโทษ พี่ขอโอกาส...มันวนๆ อยู่แต่แบบนี้ไม่มีอะไรมากนัก ที่สำคัญ...พี่เขาไม่ขายเพื่อนตัวเองเลยแม้แต่ประโยคเดียว ถ้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นหน่อยผมก็คงโกรธไปแล้ว เพื่อนแบบนั้นจะปกป้องทำไม แต่อย่างว่า...เขาก็คงหาทางทำอะไรสักอย่างในแบบของเขาโดยที่ไม่ต้องเอาเพื่อนมาแฉ ซึ่งพี่โซฮานก็ได้มาพูดกับผมแล้ว

พี่มะเดี่ยวเรียบเรียงคำพูดหวานๆ ไม่เก่ง แต่วาดรูปง้ออะเก่งครับ...ผมนี่เซฟมันทุกรูป มีรูปที่ผมหลับคาโต๊ะคอมพ์ด้วย ไม่รู้ตอนไหนเหมือนกัน น่าจะช่วงเขาทำงาน ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เพิ่งจะมาเห็นนี่แหละ...ชื่นใจจัง ถึงมันจะไม่ใช่ความพยายามที่เลิศเลออะไร แต่ก็คือได้พยายามที่จะทำอะไรสักอย่าง พี่มะเดี่ยวถ่ายรูปที่ฟลอส่งมาด้วย บอกด้วยว่าเขาตั้งใจซ้อมขนาดไหน เขากำลังพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ผมรู้...นั่นคือสิ่งที่พี่รัก ส่วนข้อความและทุกเวลาว่างที่พี่ได้มอบให้นั้นก็คือเพื่อคนที่พี่รัก...

ไม่อยากจะบอกเลยว่าผมหายงอนพี่ตั้งแต่รูปแรกที่พี่ส่งมาแล้ว แต่ที่เพิ่งเห็นน่ะ…เพราะเพิ่งปิดโหมดเครื่องบิน ผมหัวเราะอยู่กับความบ้าบอของตัวเอง ตาก็ไล่อ่านและตอบข้อความเขาในใจไปด้วย

“พรุ่งนี้...ผมจะไปเชียร์นะ แต่วันนี้น่ะ รอไปก่อน...” บอกกับตัวเองยิ้มๆ ใกล้จะเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที...โถ ซึมมาตั้งหลายวัน ของยิ้มทั้งวันหน่อยจะเป็นไรไปเนอะ


….100%….

ความเปิ่นของน้องทำให้พี่มะเดี่ยวใจแทบขาดรอนๆ แต่นี่นับเป็นความแมนเพียงครั้งเดียวของโซฮาน ปรบมือ~  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 56 [100%]❤️ -5/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-01-2018 20:04:13
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 56 [100%]❤️ -5/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 05-01-2018 20:05:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 56 [100%]❤️ -5/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-01-2018 20:09:06
 :เฮ้อ:  โถววววพี่มะเดี่ยว ดันมีแฟนเอ๋อ 55

คนที่น่าสงสารที่สุดคือพี่มะเดี๋ยวสินะ

 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 56 [100%]❤️ -5/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 06-01-2018 05:47:40
สามลูก  หยุดเล่นตัวแล้วส่งข้อความหาพี่เขาซะนะตอนนี้เลย 
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 56 [100%]❤️ -5/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 06-01-2018 07:42:00
โถ่เอ้ย ที่แท้ก็ลืมปิดโหมดเครื่องบิน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 56 [100%]❤️ -5/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-01-2018 14:35:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 57 [100%]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 08-01-2018 18:46:47
>>ตอนที่ 57 [100%]<<

ดูเหมือนการที่โทรศัพท์ของผมใช้ได้แล้วจะทำให้พี่มะเดี่ยวยิ่งโทรหาและส่งข้อความมามากขึ้น มันโทรติดแล้วก็มีการอ่านข้อความไปแล้ว แต่ผมก็ยังนิ่งนอนใจ ไม่ยอมตอบกลับไปสักช่องทาง เรียกว่าเล่นตัวก็ได้ แต่ผมอยากให้เราเจอกันที่เดียววันพรุ่งนี้

ผมวางมือถือทิ้งไว้ ไปเก็บข้าวของต่างๆ ให้เรียบร้อยเพื่อจะได้เดินทางกลับพรุ่งนี้เช้า เสร็จแล้วก็ไปหาพ่อกับแม่เพื่อบอกว่าจะกลับ ท่านทั้งสองก็บ่นๆ แหละ มาไม่กี่วันก็จะไปแล้ว ยิ่งพี่สองนี่ยิ่งหนัก แซะว่าผมเห็นแฟนดีกว่าครอบครัว

ทีนี้อธิบายกันยาว..

ผมมานี่ผมไม่ได้บอกพ่อกับแม่ว่าผมมีแฟนแล้วอะนะ ตอนนี้เลยต้องมาเล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่าผมมีแฟนแล้วและแฟนผมเป็นใคร เรื่องเพศไม่ใช่ปัญหาของครอบครัวผม พ่อกับแม่รู้ดีอยู่แล้วว่าผมเป็นคนแบบไหน คบคนยังไง แต่แปลกที่ครั้งนี้ผมดูใส่ใจเขามากกว่าคนอื่น ก็เลยนั่งคุยกันยาว

ตอนเย็นเหมือนเกิดงานเลี้ยงขนาดย่อมๆ มานี่ก็ยังไม่ได้เลี้ยงอะไรกัน รวบยอดมันเอาวันนี้ไปเลยในวันเดียว ซึ่งปาร์ตี้บ้านผมก็เล็กๆ อะครับ ไม่ได้ใหญ่โต ไม่มีแอลกอฮอล์ตามประสาผู้ชายชอบดื่มเท่าไหร่นัก มีแต่การนั่งคุย นั่งเล่าเรื่องราวต่างๆ ผมก็มีเรื่องของฝั่งผม...อย่างรับน้อง การเต้นบีบอย หรือแม้แต่เรื่องที่ความรักมันไปออเซาะจนผมได้แฟนมาหนึ่งคน ส่วนที่นี่ก็เป็นเรื่องลูกค้าแปลกๆ งานที่มากขึ้นและออเดอร์น้องหมาที่เริ่มเยอะ

เราเลิกกินกันตอนสามทุ่มกว่าๆ ข้อความและสายเรียกเข้าคาหน้าจออยู่เยอะทีเดียว ผมอุ้มความรักไว้บนตัก เปิดภาพที่พี่มะเดี่ยววาดสดส่งมาให้มันดู เป็นภาพของผมกับความรักนั่นแหละครับ แต่ละภาพน่ารักมาก...เซฟแม่งให้หมด มีโอกาสจะเอาไปใส่กรอบรูปเก็บไว้แม่งเลย หรือผมควรทำเป็นแกรอรี่ดีล่ะ เปิดให้คนทั่วไปได้เข้ามาชม นี่คือการ...ง้อแฟนของบีบอยมะเดี่ยววววว

ฮ่า...คิดแล้วคงน่ารักพิลึก

ตอนนี้ผมมีความสุข...มีความสุขมากๆ น่าจะสวนทางกับพี่มะเดี่ยวนะ พี่เขาคงไม่แฮปปี้เลย ข้อความหลังๆ พี่มะเดี่ยวบอกว่าโซฮานไปหาสามใช่ไหม มันไปพูดอะไรบ้าง มันบอกพี่ว่ามันไปอธิบายเรื่องทั้งหมดให้สามฟังแล้ว แล้วก็ง้อให้ผมกลับไป...ผมอยากตอบกลับนะ แต่เล่นตัวมาขนาดนี้แล้ว รออีกหน่อยก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้งครับ

เชื่อว่าถ้าเราเจอกัน...เราคงมีเรื่องมากมายที่จะคุยกัน ปกติต้องคุยกันทุกวัน แชร์เรื่องราวที่เราเจอในแต่ละวันให้กันและกันฟัง พี่มะเดี่ยวยังคงทำเหมือนตอนเราดีกันอยู่ มีแค่ผมฝ่ายเดียวที่ไม่ได้ทำแบบนั้น ไม่ได้ส่งข้อความหา ไม่ได้ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยหรือเปล่าเหมือนอย่างเคย แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่ห่วงนะ...ผมเป็นห่วงเขา พี่มะเดี่ยวก็เหมือนผมตอนสอบนั่นแหละ ทุ่มเทกับการทำทีมอย่างกับอะไรดี บางทีบาดเจ็บจากการซ้อมพี่เขายังไม่ยอมพักเลย

ตอนนี้ผมก็อยากจะถามว่าพี่ได้พักหรือยัง...เหนื่อยมากไหม นอนพอหรือเปล่า ทว่าคำถามเหล่านั้นในหัวผมล้วนถูกตอบมาหมดแล้ว พี่มะเดี่ยวนอนไม่พอ เลิกซ้อมตีหนึ่งตีสองทุกวัน ไม่กล้าไปร้านน้าบอยเพื่อซื้อกาแฟ กลัวน้าบอยรู้จะเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนวันนี้เลิกซ้อมเร็ว จะต้องเซฟร่างกายเอาไว้เพื่อวันพรุ่งนี้...

‘พี่ไม่อยากเลิกซ้อมเร็วเลย ไม่มีสามอยู่ด้วยก็ไม่อยากกลับห้อง...เราเปิดมือถือแล้ว อ่านข้อความพี่แล้วแต่ก็ไม่ตอบกลับมา มันทำให้พี่ร้อนใจยิ่งกว่าเคย โซฮานมันไปอธิบายเรื่องจริงใช่ไหม ไม่ได้ไปโกหกอะไรเพิ่มใช่หรือเปล่า พี่ห่วง...พี่กังวลไปหมด อ่านแล้วตอบข้อความพี่บ้างสิครับ สามอยากให้พี่นอนไม่หลับแล้วไม่มีแรงไปซ้อมเต้นเหรอ...’

โหย...เรียกร้องความสนใจขั้นสุด ผมอ่านไปยิ้มไป พี่เขาดูลนลานจริงๆ นั่นแหละ ส่งข้อความมาถี่ขนาดนี้ ผมนอนคิดอยู่นานว่าควรจะทำยังไงดี...ถ้าพี่เขานอนไม่หลับจริงๆ พรุ่งทำได้ไม่ดีทีมอาจจะแพ้ได้ ทั้งที่ทุ่มเทมามากขนาดนี้แล้วแท้ๆ

เอาวะ...แค่สติ้กเกอร์ก็ได้

ผมส่งสติ้กเกอร์บอกว่าฝันดีไปให้เขาหนึ่งตัว ทั้งที่ตั้งใจจะไม่ส่งอะไรกลับไปให้เขาเลย...แต่มันอดไม่ได้ เป็นห่วง กลัวนอนไม่พอ กลัวไม่มีแรง พี่มะเดี่ยวแกอ่านแล้วก็นิ่งไปพักใหญ่ ก่อนส่งสติ้กเกอร์กลับมา เป็นรูปดีใจและก็ฝันดี...

พี่อาจคิดว่าผมโกรธพี่อยู่ อาจกังวลว่าพี่โซฮานจะมาพูดจาไม่ดีใส่ผม และคงกลัวมากด้วยว่าระหว่างเราจะไม่เหมือนเดิม...แต่ที่พี่ไม่รู้คือ ผมมีความสุขโคตรเลยในเวลานี้ ไม่ได้มีความสุขเพราะพี่มีความทุกข์ แต่มีความสุขเพราะว่าพี่รักและเป็นห่วงความรู้สึกของผม...

ตอนเช้าผมรีบเดินทางโดยมีพี่หนึ่งมาส่ง ตอนแรกจะขึ้นทัวร์มาเองแต่พี่ไม่ยอม แกก็หน้ามึนๆ ขับกะบะมาส่งที่หน้าคอนโดนั่นแหละครับ เวลาตอนนี้คือเก้าโมงกว่า...จำได้ว่านักแข่งต้องไปลงทะเบียนตั้งแต่แปดโมงเช้า งี้พี่มะเดี่ยวก็ไม่อยู่สินะ ดีมาก รีบเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้อง ระหว่างเดินผมก็โทรหาวิ่งกับพีช

“พวกมึงอยู่ไหนวะ”

(อยู่ห้อง ว่าจะไปงานแข่ง…มึงอะ) พีชตอบเสียงเหนือยๆ

“กูเพิ่งกลับมาจากบ้าน จะไปงานแข่งเหมือนกัน” ผมถึงห้องแล้ว เอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บก่อนจัดกระเป๋าใบใหม่เพื่อความรัก

(เออ ไปเจอกันที่บีทีเอสแล้วกันมึง) วิ่งบอก

“เคๆ” พวกมันดูงัวเงียนะ ไม่รู้ว่าได้นอนไหม หรือไม่ได้นอนเลย

ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ลงมาข้างล่าง เดินไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ไกลคอนโดเพื่อซื้อผลไม้เก็บเอาไว้ให้ความรัก จากนั้นโบกรถสองแถวไปที่บีทีเอส ระหว่างทางก็ไลน์คุยกับวิ่งและพีช จนได้รู้ว่าที่ผ่านมาพวกมันก็กลับบ้านไปเหมือนกัน ไม่ได้อยู่ที่นี่ เพิ่งกลับมาเมื่อวานกันหมดเพราะจะไปงานแข่งเนี่ยแหละ สภาพเดียวกันเลย

วิ่งกับพีชวันนี้แต่งตัวสบายๆ ไนกี้ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ ปกติมันก็แต่งแบบนี้อะ...ผมด้วย เราพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ถามประสาเพื่อนที่หายหน้าหายตากันไปตั้งสามวัน เออ...สามสี่วันอะประมาณนั้น

“กูนึกว่ามึงจะไปพร้อมพี่มะเดี่ยวแล้วนะ” วิ่งมันถามขณะเดินเข้ารถไฟฟ้า

“เปล่า ที่จริงเข้าใจผิดกันนิดหน่อย กูเลยไม่ได้ติดต่อกับเขามาตั้งแต่วันสอบเสร็จอะ” ก็บอกไปตามตรง

“เข้าใจผิดกันเรื่องอะไรวะ” พีชแย่งความรักไปอุ้ม

“ไม่บอก...” ลอยหน้าลอยตาเสร็จก็มึนเข้าไว้

พีชกับวิ่งค่อนคอดว่าผมใจร้าย ไม่ยอมเล่าให้เพื่อนอย่างพวกมันฟัง ทั้งที่เราเป็นเพื่อนกันแต่ทำแบบนี้กับพวกมันได้ยังไง โห...เพื่อน กูเข้าใจว่าเพื่อนเว้ย แต่มึง...กูจะมีความลับบ้างไม่ได้เลยเหรอไง ผมขี้เกียจเล่าด้วยอะ เรื่องแม่งยาว ลากมาตั้งแต่วันพุธที่เราเข้าใจผิดกัน จนกระทั่งนี่วันอาทิตย์ผมยังไม่ยอมคุยกับพี่มะเดี่ยวเลย

ตรึ๊งงงง

เสียงไลน์ของผมดังขึ้นอีกแล้ว มันดังเมื่อเช้าหลายครั้งอยู่ พี่มะเดี่ยวตื่นและลงไปกินข้าว ถ่ายรูปข้าวมาให้ดูด้วยว่าเช้านี้กินข้าวผัดไก่เพิ่มไข่ดาว จะได้มีพลังเยอะๆ ในการแข่งขันวันนี้ บวกด้วยกาแฟ อยากจะบ่นเหลือเกินว่ากาแฟทำให้ใจสั่น กินมากๆ ไม่ดี แต่ก็ทำไม่ได้...ปล่อยเขาไป ส่วนตอนนี้ที่เข้ามาเป็นข้อความเสียง

(พี่กับทีมลงทะเบียนเสร็จแล้วนะ คนเยอะมาก…ทีมแข่งในวันนี้ก็เยอะ พี่เป็นทีมที่สาม ลักกี้เนอะ...เลขสวย แต่มันจะลักกี้กว่านี้ถ้าเราตอบข้อความพี่บ้าง หรือไม่ก็มาให้กำลังใจพี่ข้างเวที)

อยากกดสติ้กเกอร์ส่งไปสักตัว แต่ช่างใจไม่กดส่ง กลายเป็นกดออกจากหน้านั้นแทน...เล่นตัวเข้าไป พี่เขาจะเลิกกับผมเพราะผมมันง้อยากแบบนี้นี่แหละแม่ง ฮ่าๆ เดี๋ยวผมก็ไปถึงงานแล้ว...เดี๋ยวเราก็ได้เจอกัน

ใช่ว่าพี่เขารอเจอผมฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่ ผมเองก็รอจะเจอเขาเหมือนกันนะ...เหตุผลของเราก็คงเหมือนกันนั่นแหละ

คิอถึง...

“พี่มะเดี่ยวส่งไรมาวะ ฮั่นแน่...หยอดคำหวานกันแต่เช้า” ไม่เอาสิวิ่ง ไม่เสือกสิ

“มึงก็หาคนหยอดคำหวานมั้งดิ” ผมกอดคอวิ่ง และมันก็กอดคอผมตอบ

“กูชอบวันไนท์แสตนด์” ดาร์กไปเพื่อน

“ทำเป็นพูด อกหักมาสดๆ ร้อนๆ ก็บอกเพื่อนไป...” พีชตบหัววิ่งเบาๆ นี่ผมพลาดข่าวอะไรไปอีกแล้วเหรอ

“บอกมันทำไม มันผิดใจกับพี่มะเดี่ยวมันยังไม่บอกเราเลย” นั่น...มีน้อยจงน้อยใจ

“งี่เง่านะมึงเนี่ย...” มันเชิดหน้าใส่ มองออกไปทางอื่นทั้งที่เรายังกอดคอกันอยู่

ความรักในชุดเสื้อกล้ามของนักบาสหมายเลขสามประดับหราอยู่บนหลัง ตัวเสื้อเป็นตาข่ายสีเขียว ผมไปหามาตั้งนานกว่าจะหาให้มันได้ เด็กบีบอยส่วนหนึ่งก็ชอบใส่เสื้อบาสแบบนี้แหละครับ ผมก็เลยพามันแต่งตัวแบบนี้เพื่อจะได้เข้ากับสถานที่ในวันนี้นั่นเอง มีหมวกด้วยนะ...หมวกทรงต้อยหมวกแดงอะ มันชื่อทรงอะไรก็ไม่รู้ เรียกมันแบบนี้แหละ ชินปาก

รถไฟฟ้าเคลื่อนที่ไม่นานก็ถึงสถานนีที่ต้องลง จากนี้ไปก็พึ่งรถสองแถวครับ...อย่าคิดว่าที่ที่เราจะไปมันกันดานนะ มันก็ไม่กันดานหรอกแต่ด้วยเส้นทางที่พวกเรามามันจำเป็นต้องต่อสองแถวอะ ไม่งั้นก็รถเมล์ ไม่มีรถเป็นของตัวเองนี่นา

ระหว่างรอสองแถวผม พีชและวิ่งได้พึ่งร้านขายข้าวเหนียวข้างทางประทังท้องน้อยๆ ให้หายหิว พร้อมกับน้ำหนึ่งขวดกินกันสามคน ไม่ได้จนขนาดนั้นแค่ขี้เกียจถือ ฮ่าๆ จะเอาอะไรกับพวกเราล่ะจริงไหม กระเป๋าผมก็ใส่ของความรัก ส่วนใหญ่เป็นของกินด้วยสิ

“ถึงล่ะ...” มองจากภายนอกไม่รู้เลยว่าภายในห้างซีนี้จะมีการแข่งขันบีบอยระดับประเทศ

“คนเยอะวะ” ผมบ่นเบาๆ นักเต้นแต่งตัวกันสุดฤทธิ์สุดเดชเดินกันขวักไขว่ไปหมด เน้นไปที่ผู้หญิงนะ ผู้ชายบางคนก็แต่งตัวมอซอไปวะ

“ผู้หญิงเยอะดี...” วิ่งมองตามหญิงสาวกลุ่มหนึ่งเดินผ่านหน้าเราไป เธอใส่เสื้อเอวลอยและกางเกงวอร์มเอวต่ำจนเห็นขอบบ็อกเซอร์ แซะซี่อ่า....

“อ่าว ไม่คิดว่าจะมาเจอกันที่นี่นะเนี่ย” คนมาใหม่ทักทาย พวกเราสามคนหันไปเจอก็พากันยกมือไหว้

“หวัดดีครับพี่ออม” วันนี้พี่ออมใส่เต็มมาก เสื้อกล้ามครึ่งตัวทรงสปอร์ทกับกางเกงวอร์มเอวต่ำเหมือนผู้หญิงกลุ่มเมื่อกี้แต่สีแดง มีสนับกันศอกทั้งสองข้างและผมถักเปียคู่ เซ็กซี่อีกแล้ว...

“มาเชียร์ทีมดิสทินีย์อะสิ นู้นน่ะ...เขาเตรียมตัวกันอยู่ตรงนู้น” พี่ออมแกชี้ให้พวกเราดู

พี่มะเดี่ยวกำลังหกสูงวิดพื้น...ขนาดกลับหัวกลับหางผมยังมองแกในระยะไกลออกอะ ความคิดถึงคนเรามีอำนาจมากมายขนาดนั้นเลยนะคิดดู พี่มะเดี่ยวใส่เสื้อกล้ามของนักบาสหมายเลขสามสีดำ กับกางเกงวอร์มเนื้อผ้าร่มสีดำ ปกติแกก็ชอบใส่แบบนี้แหละ...เต้นถนัดแก

“ขอบคุณครับ แล้วพี่แข่งด้วยปะเนี่ย” ผมละสายตาจากพี่มะเดี่ยวมาที่พี่ออม

“ไม่อะ ไม่ได้แข่ง แต่มาโชว์แทนอะ...” ก็ไม่เข้าใจแต่ไม่ได้ถาม

“เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อน แล้วเจอกัน” พวกผมยกมือไหว้พี่ออมก่อนพี่แกจะเดินจากไป

“ไปหาพวกพี่ๆ กัน” วิ่งเตรียมเดินเข้าไป แต่ผมกลับแย่งความรักมากจากพีช

“เดี๋ยวกูตามไป...” พวกมันก็ทำหน้างงๆ

“อะไร ยังไม่หายโกรธกันเหรอ”

“เปล่า ไม่มีไร เดี๋ยวไป ไม่ต้องบอกพี่เขาว่ากูมานะ…” ผมปฏิเสธวิ่ง

“ทำไมอะ ฮั่นแน่…จะเซอร์ไพรส์พี่เขาอ๋อ” รู้ดีไปหมดเลยไอ้วิ่ง

“เออ เสือกจริง” ผมโบกมือให้พวกมันแล้วเดินแยกไปทางอื่น ไปทางไหนก็ได้ที่พี่มันจะไม่เห็นผมอะ

เดินหาทางที่สงบอยู่สักพัก ก็เจอมุมที่เขาจัดเอาไว้ให้ลูกค้าได้นั่งพักผ่อน คนส่วนใหญ่ไปมุงอยู่ที่การแข่งขัน ส่วนนี้เลยมีคนแค่ประปราย ผมเอาความรักมาวางไว้บนตักหลังนั่งลง ค้นเอามือถือตัวเองที่มีข้อความของพี่มะเดี่ยวส่งมาบอกว่าพวกพี่กำลังวอร์มอัพกันอยู่ รายงานตลอดเลยวุ้ย...

แฟนใครวะ...น่ารักเป็นบ้า!

งานอวยแฟนตัวเองก็มา เห่อๆ ปล่อยคนบ้าอย่างผมไปเหอะ ตอนนี้ผมตื่นเต้นมาก หัวใจระส่ำไปหมด มือยังสั่นด้วย แต่เพราะมีสิ่งที่ตั้งใจจะทำก็เลยต้องฮึ้ดขึ้นมา เปิดกล้องหน้าแล้วกดอัดวิดีโอ...

“ผมเห็นพี่แล้วนะ...อยากเข้าไปให้กำลังใจใกล้ๆ แต่คนเยอะเป็นบ้าเลย อ่า...ตื่นเต้นเนอะ ไม่เคยทำอะไรแบบนี้อะ พี่สู้ๆ นะ...ผมไม่รู้หรอกว่าถ้าพี่ได้แชมป์แล้วผมจะเอาอะไรให้พี่ดี พี่ก็ไม่เคยขอด้วยอะเนอะ เอาเป็นว่า...ตอนนี้ที่เท่าไหร่มันก็ไม่สำคัญหรอก แต่พี่ต้องทำให้เต็มที่แล้วกลับมาดูแลความรักร่วมกับผมนะ...”

อ๊า....เขินเป็นบ้า ผมเซฟวิดีโอเสร็จก็ส่งมันเข้าไปในข้อความไลน์ มืองี้สั่นไปหมด หน้าตาไม่ได้น่าเกลียดไปใช่ไหมนะ เผลอแป๊บเดียวพี่มะเดี่ยวก็กดอ่าน ผมไม่กล้าดูอะไรต่ออะ ปิดหน้าจอมือถือแล้วนั่งหายใจเข้าลึกๆ

ให้ตาย...วิดีโอคอลด้วยกันมันยังไม่ตื่นเต้นแบบนี้เลยแหะ

“ป๊าแกทำบ้าอะไรวะ...” ผมเอาหน้าผากตัวเองวางแนบชิดกับหน้าผากความรักแล้วกระซิบเบาๆ

“คร่อกๆ…”

“ไม่ได้หัวเราะป๊าใช่ไหม ฮ่า…ช่างเหอะ วันนี้เราจะได้เจอพี่มะเดี่ยวแล้ว แกดีใจปะ ดีใจให้ส่งเสียง...”

“คร่อกกกกก” ฮ่าๆ...น่ารักเป็นบ้า ผมเลื่อนปากไปฟัดที่พุงความรัก มันดิ้นรนแถมร้องหนักกว่าเดิมอีก อย่างน้อยเล่นกับมันก็ทำให้หายตื่นเต้นไปได้บ้าง มองตาขวางๆ และหน้าดำๆ แล้วน่าชังชะมัด...กี่ทีก็ไม่เบื่อเลย

….100%….

ขอสักห้าคอมเมนต์แล้วจะรีบเอาตอนจบมาเสิร์ฟฟฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 57 [100%]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-01-2018 19:10:44
 :กอด1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 57 [100%]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-01-2018 19:27:08
 :L2: :L1: :pig4:

รอออออออออออออ พี่มะเดี๋ยวน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 57 [100%]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-01-2018 19:52:28
รอ :z3:
 :z2:
 :z10:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 57 [100%]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: มะม่วงแรด ที่ 08-01-2018 20:15:22
รอออออออออออ :z3:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 57 [100%]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 08-01-2018 20:23:35
หมั่นไส้สามมากอ่ะ บอกเลย โคตรเล่นตัว :hao3:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 57 [100%]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-01-2018 21:06:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 57 [100%]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: absolutepoison ที่ 08-01-2018 21:10:24
สามมาให้ง้อถึงเวทีอย่างนี้พี่มะเดี่ยวต้องชนะแล้วแหละ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 57 [100%]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-01-2018 21:17:48
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 57 [100%]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 08-01-2018 22:15:27
รออออออ  เขาดีกัน
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 08-01-2018 22:45:39
>>ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]<<

ผมเดินอ้อมๆ รอบนอกไปยังหน้าเวที หาจุดที่คนไม่เยอะมากนั่งเชียร์ ใกล้ไปเสียจะดังมากครับ...ดังมากกว่าตอนอยู่ที่ฟลออีก กลัวความรักมันจะรับเสียงจนปวดหัวอะ ส่วนหน้าๆ เวทีจะมีเหล่าเด็กบีบอยไปสุมกันอยู่...อย่าว่าแต่เด็กบีบอยเลยครับ ทั้งทีมงาน ทั้งตากล้องอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด

พีธีกรเริ่มดำเนินการ โดยวันนี้เป็นการแข่งประเภททีม โดยมีทีมจากระดับภูมิภาคต่างๆ มารวมกันซึ่งเอาที่หนึ่งของแต่ละที่มารวมกันในงานนี้ ส่วนทีมรองแชมป์อันดับสอง รองแชมป์อันดับหนึ่งและแชมป์ของปีก่อน จะได้สิทธิ์พิเศษในการเข้าสู่รอบนี้โดยไม่ต้องแข่งในระดับภูมิภาคอีก

ผมพอรู้คร่าวๆ มาบ้างแต่ไม่เคยถามถึงรายละเอียดการแข่งขัน ด้วยความที่มันชนกับช่วงผมสอบไง ผมเองก็เพิ่งจะเข้ามาในวงการนี้ ยังไม่รู้อะไรมากมายเท่าไหร่นัก นี่เป็นงานแข่งแรกที่ผมได้มาเห็นด้วยตัวเอง ดันเป็นงานแข่งระดับประเทศอีกต่างหาก

การแข่งขันเริ่มที่การโชว์ท่าทีม ลำดับจะได้จากตอนลงทะเบียน พี่มะเดี่ยวเคยบอกว่าที่เราต้องตั้งใจมาก...เพราะเราเป็นถึงรองแชมป์ปีก่อน จะเสียฟอร์มไม่ได้เด็ดขาด แต่ละทีมมีเวลาห้านาทีในการโชว์ สิบทีมที่ได้คะแนนมากสุดจะได้เข้าสู่รอบแบทเทิ่ลในวันนี้ ผมจำได้ว่าพี่มะเดี่ยวว่าเขาได้ลำดับที่สาม...

ผมกำลังนั่งรอเขาขึ้นเวลาที...

“มึงมาอยู่นี่เอง กูหาตั้งนาน ไหนบอกจะตามเข้าไปไงวะ” พีชกับวิ่งโพล่มาจากไหนไม่รู้ มันมานั่งข้างผม

“เสียงด้านในๆ มันดังวะ...กูเป็นห่วงความรัก”

“เหรอ พี่มะเดี่ยวแม่งชะเง้อคอมองหามึงจนคอจะยืดเป็นยีราฟอยู่แล้ว” นึกตามแล้วฮาแฮะ

“เหรอ…เอาหน่า เดี๋ยวก็ได้เจอกัน” ผมจับจ้องอยู่ที่หน้าเวที

ทีมแรกขึ้นแล้ว...ก็มองมันแบบสนุกๆ ไปงั้นแหละครับ ไม่ได้สนใจเพราะคนที่ผมเชียร์นั้นไม่ได้อยู่ในทีมนี้ ห้านาทีผ่านไปไวมาก ทีมที่สองตามมา ทีมนี้เล่นบีทรุนแรงและหนักหน่วง ท่วงท่าของพวกเขาก็ดุดันไม่ใช่เล่นๆ งั้นๆ แหละ...ผมเชียร์พี่มะเดี่ยวคนเดียวอยู่ดี

“แล้วทีมที่สามของวันนี้...เป็นทีมที่ได้รองแชมป์เมื่อปีที่แล้วนะครับ เอาล่ะ...ทุกคนต้องรู้แล้วแน่นอนว่าทีมนี้คือทีมอะไร!” สิ้นเสียงพิธีกรก็เกิดเสียงโห่แซ็วและเสียงปรบมือดังสนั่น

“ดิสทินีย์! ดิสทินีย์! ดิสทินีย์!” มากด้วยเสียงเรียกชื่อทีมดังก้อง ผมเองก็เป็นไปกับเขาด้วยเหมือนกัน...อารมณ์มันได้จริงครับ

ท่าทีมของพี่มะเดี่ยวผมเห็นจนไม่รู้จะเห็นยังไง...สเต็ปไหนมาก่อน ตามด้วยสเต็ปไหนแทบจะจำได้หมด โดยเฉพาะ...จังหวะที่พี่มะเดี่ยวได้โชว์สกิวขั้นเทพของตัวเอง พวกเขาเป็นทีมที่เก็บบีทได้แน่นมาก และหาจุดที่พลาดแทบไม่เจอ

เอ่อ...ถ้าจะบอกว่าผมอวยทีมแฟนตัวเองมากไปก็...ตามนั้นครับ เรื่องจริง ผมไม่เถียง

“สมเป็นรองแชมป์วะ...เก็บทุกบีทเนียนกริบเลย” เสียงปรบมือดัสนั่นเมื่อทีมดิสทินีย์แสดงโชว์เสร็จ พวกเขาโค้งคำนับคนดูก่อนจะลงไป

ผมนี่จับมือเจ้าความรักปรบมือเปาะแปะๆ ให้พี่เขาเหมือนกัน...จากที่ซ้อมมา ทำได้อย่างนี้นับว่ายอดเยี่ยม หลังจากพี่มะเดี่ยวลงไปก็มีทีมอื่นๆ ขึ้นไปอีก ค่อนข้างเยอะครับ แต่ทีมพี่เขาก็ไม่ได้เดินมาเฉียดทางผมนะ เราต่างแยกกันอยู่ในช่วงเลานี้...

กว่าจะการแสดงโชว์ของแต่ละทีมจะหมด ผมก็ชักหิว...นี่มันเที่ยงกว่าจะบ่ายโมงแล้ว เราสามคนตัดสินใจสละที่เพื่อไปหาอะไรกินกัน โดยผมเนียนจะเดินเลี่ยงตรงที่พวกพี่มะเดี่ยวแกอยู่ ก็ไม่เชิงว่าเห็นพวกเขาชัดเจนหรอก แต่น่าจะอยู่ใกล้ๆ หน้าเวที...หวังว่าเขาจะกินเมื้อเที่ยงอิ่มนะ หลังจากนี้ยังมีการแบทเทิลทีมอีก

ช่วงบ่ายเป็นการประกาศผลของทีมที่จะได้เข้าสู่รอบแบทเทิล โดยระหว่างรอการลงคะแนนจะมีบีเกิร์ลขึ้นมาเต้น ในนั้นมีพี่ออมด้วย ถึงว่าพี่เขาบอกมาโชว์ไม่ได้มาแข่ง ปกติพี่ออมอยู่ฟลอจะดูแมนๆ ทว่าวันนี้โยกย้ายส่ายสะโพกได้เซ็กซี่เร้าใจมากฮ้าฟฟฟฟ เดอะสามคนนี้โคตรจะตื่นเต้นเลยให้ตาย เสียงวี้ดแซ็วของชายฉกรรจ์ด้านล่างดังกระหึ่มเป็นระยะๆ ยามที่ท่ามันค่อนข้างล่อแหลม

ผมเอาความรักทำท่าเลียนแบบดูบ้าง ส่ายตูด...ส่ายสะโพก ไม่เห็นมันจะสวยเลย มีแต่ตูดกับตูด เอวก็ไม่มี ดีนะ...สะโพกน่ากิน ว่าแล้วก็กัดมันเล่นฆ่าวลา เอาจริงๆ ผมไม่ใช่คนมานั่งดูอะไรแบบนี้ได้ทั้งวี่ทั้งวันอะ ผมก็เลยต้องหาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อยเพื่อให้มันถึงช่วงเวลามันๆ ได้

จบการแสดงคั่นเวลา เหล่ากรรมการประกาศรายชื่อผู้ที่จะเข้าสู่รอบแบทเทิล โอ้ย...จะไม่สนใจแบบตอนแรกไม่ได้แล้วครับ เพราะว่าทีมดิสทินีย์ก็เป็นหนึ่งในทีมที่ต้องลุ้นเหมือนกัน ทีมแรกผ่านไป...ไม่ใช่ ทีมที่สองผ่านไป…ก็ไม่ใช่ ลุ้แม่งอยู่นั่นแหละ เข้าแข่งได้แค่สิบทีมสุดท้ายด้วยอะ จากตอนแรกผมสามคนค่อนขะชิว...ตอนนี้ลุ้นกนยิ่งกว่าลุ้นหวยอีก

เอ่อ...ผมไม่เคยเล่นหวยนะ แค่เปรียบให้ดูลุ้นละทึกอะ

“และทีมที่เก้า...ทีมดิสทินีย์สเต็ป!”

“เฮฮฮฮฮ!!!” โดดเลยแล้วกัน...ความรักนะ ไม่ใช่ผม ฮ่าๆ

“ยังไงก็ต้องผ่านอยู่แล้ว...” พีชเปรยเบาๆ

“แหม เมื่อกี้ยังลุ้นอยู่กับกูจนเหงื่อแตกเลยเหอะ” ผมตีไหล่พีชเบาๆ ไอ้วิ่งนี่นั่งยิ้มร่าหน้าบาน

“ต่อไปสิของจริง...ตัวเก็งเข้ารอบหมดเลย ทั้งดิสทินีย์สเต็ป โรมิโอซีเรียสและบีทฮีโร่คูล” โรมิโอรู้จัก...แต่อีกทีมไม่แน่ใจ อาจต้องไปรื้อในเสี้ยวของความทรงจำ แต่น่าจะเป็นทีมที่ได้แชมป์กันเมื่อปีที่แล้วล่ะนะ

พอได้สิบทีมสุดท้ายก็จบฉลากกันว่าใครจะได้แบทเทิลกับใครก่อนคนแรก ทุกทีมมีโอกาสแค่ทีมละสามครั้ง...อืม ผมจะว่ายังไงดีล่ะ มันคือได้คนละสามราวด์ ผลัดกันเต้นอะครับ กรรมการมีทั้งหมดห้าคน ต้องได้สามเสียงจากห้าเสียงถึงจะผ่านเข้ารอบ

ทีมแรกเป็นทีมที่ผมโคตรจะลุ้น...แน่นอน ทีมแฟนผมครับ แฮ่...อวยแฟนออกหน้าออกตาคนจะแตะสามไหมวะเนี่ย ซึ่งทีมดิสทินีย์สเต็ปจะเจอกับทีมสาคูล ซึ่งแต่ละคนในทีมนั้นนี่ดูปรี๊ดๆ เป็นเด็กแนวทั้งนั้น ต่างจากทีมพี่มะเดี่ยวที่ดูโตกว่าและ...เก๋าเกมกว่า

ทันทีที่การเป่ายิงฉุบสิ้นสุดลง ทีมสาคูลได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน คนเชียร์อย่างเราก็เริ่มเดือดขึ้นมา พวกแบทเทิลผมได้ดูบ่อยๆ ตอนอยู่ฟลอเต้น แต่นี่มันกว่า...ด้วยจำนวนคน ด้วยความเอาจริงเอาจังของทุกๆ คนที่อยู่บนเวทีหรือการแข่งขัน

บนใบหน้าของพี่มะเดี่ยวประดับรอยยิ้มอยู่เสมอ แม้ว่าเขาจะได้ออกสเต็ปหรือไม่ก็ตามที บางช่วงจังหวะ...ถึงเราจะอยู่ห่างกันมาก แต่ผมรับรู้ได้ว่าพี่เขามองมาทางนี้ และเราก็สบตากัน ผมโบกมือให้กำลังใจ และส่งเสียงเชียร์ให้เขาคว้าแชมป์มาให้ได้ พี่เขาเก่งอยู่แล้ว...ยังไงพี่เขาก็ต้องได้เข้ารอบ

แต่ละราวด์ผ่านไปด้วยความเมามันของคนดู ทุกอย่างรอบด้านกระหึ่มไปหมดจนผมเป็นห่วงความรักตงิดๆ เลยกลายเป็นเชียร์ไป ดูความรักไป มันเอาหน้ามุดเข้ากระเป๋า ผมก็ต้องปล่อยมัน ถ้าในนั้นเสียงเบาลงหน่อยก็คงจะดี

ก่อนที่เสียงเชียร์ของคนดูจะหมดไป...ในที่สุดรอบตัดเชือกก็มาถึง ผมไม่สนแม้กระทั่งเวลาตอนนี้จะกี่โมงกี่ยามแล้ว สิ่งสำคัญคือพี่มะเดี่ยวและทีมเขากำลังจะแข่งรอบรองชนะเลิศ...

“เอาล่ะครับ...คู่สุดท้าย คู่ชิงของเราในวันนี้นี่เล่นเอาเดือดจริงๆ ไม่รู้เลยว่าปีนี้...จะมีการสลับตำแหน่งแชมป์หรือเปล่า” ทีมโรมิโอซีเรียสกำลังเผชิญหน้าอยู่กับทีมดิสทินีย์สเต็ปแม่งเป็นคู่หยุดทุกสิ่งทุกอย่างโดยรอบของจริง

“เราอย่ามามัวเสียเวลาเลยครับ...ตัดสินกันเลยดีกว่า!” สิ้นเสียงกรรมการ บีทเพลงก็เริ่มขึ้น...

แต่ละราวด์จะมีเวลาจำกัดในการเต้น และรอบชิงได้เวลาในการออกสเต็ปเยอะกว่ารอบอื่นๆ เรียกว่าทุกคนในทีมได้โชว์ความสามารถกันอย่างเต็มที่ จากที่ผมนั่งดู ก็ต้องเปลี่ยนเป็นยืนขึ้นเพราะ...มีคนบัง ครับ ตอนนี้ทุกคนยืนเชียร์ทีมในดวงใจกันอย่างเมามันและลุ้นละทึกอย่างที่สุดของที่สุด ผมเองก็พยายามส่งเสียงเย้วๆ กับเขาเหมือนกัน ไม่น่าดังถึงพี่เขาหรอก เพราะเสียงคนอื่นๆ ก็ดังไม่แพ้ผมเช่นกัน

เวทีเดือดมากขึ้นทุกขณะ ยิ่งกรรมการนับเวลาถอยหลังก็ยิ่งออกลวดลายแบบไม่มีใครยอมใคร อารมณ์แบบ...กูตายตอนนี้ไม่ได้! ต้องชนะเท่านั้น ผมดูไม่ออกเลยว่าใครจะชนะหรือใครจะแพ้ เพราะผมไม่ได้เก่งมากขนาดที่จะสามารถตัดสินการเต้นของใครได้ แต่พี่มะเดี่ยวทำเต็มที่มาก...มากกว่าทุกครั้งที่เขาซ้อม อยู่ห่างทว่าเห็นชัดถึงความตั้งใจและสนุกสนานในคราวเดียวกัน...

ผมไม่อยากหวัง...แต่ผมก็หวังว่าพี่เขาจะชนะในการแข่งขันครั้งนี้

“ฮู้ว....พูดยากนะพูดยาก การแข่งนี้เดือดจริงๆ เรารักพี่นะ…แต่เราก็เสียดายน้อง กรรมการเราพร้อมมากๆ แล้วเรา...มาลุ้นกันครับว่าใครจะได้แชมป์โบตี้ครั้งนี้ไปครอง!” หน้าที่ทั้งหมดถูกย้ายไปให้กรรมทั้งห้า รวมถึงสายตาของพวกเราทุกคนด้วย...

กรรมการคนแรกให้...โรมิโอซีเรียส ฮื่ออออ ทำไมเปิดมาไม่ดีแบบนี้ล่ะ อีกสี่เสียง...

คนที่สอง...โรมิโอซีเรียส ตอนนี้เสียงฝั่งโรมิโอซีเรียสกระหึ่มไปหมด แต่ฝั่งดิสทินีย์กำลังหงอย...

คนที่สาม...ดิสทินีย์สเต็ป อ๊ายยยยยย กรีดร้องแบบโหยหวนสุดใจ

คนที่สี่...ดิสทินีย์สเต็ป อ๊ากกกกกก กรี๊ดให้ดังกว่าเดิม

“ดิสทินีย์ ดิสทินีย์ ดิสทินีย์ ดิสทินีย์...” เสียงเชียร์ทีมดิสทินีย์ดังกระหึ่มขึ้นมาอีกหน พร้อมเสียงของทีมโรมิโอซีเรียสก็ไม่แพ้กัน ตอนนี้เท่ากันสองสอง คนสุดท้ายจะเป็นคนตัดสิน

“และทีมที่จะชนะได้แก่...” พวกเราแทบหยุดหายใจ คำพูดกรรมการทำให้ทุกคนในฮอลเงียบเสียง

“ทีม....” โอ้ยยยยย ประกาศเร็วๆ สิวะ หัวใจจะวายตายแล้วเนี่ย!!!

“ทีม...ดิสทินีย์สเต็ปครับ!!!!”

“เฮฮฮฮฮ!!!!!” กรี๊ด...งานนี้กูกรี๊ด กูลุ้นมาทั้งวันว่าทีมแฟนกูต้องชนะ

ผมจับความรักโยนดึ้งๆ ปล่อยให้มันร้องเพราะผมดีใจมาก เหล่าสมาชิกทีมเองก็กระโดดจนตัวลอย พี่เรย์นี่แม่งถอดเสื้อปาทิ้งพื้นกันเลทีเดียว แหงสิ...ที่สุดของการซ้อมหนัก มันสำเร็จแล้วในวันนี้นี่นา...

กรรมการส่งถ้วยรางวัลให้กับพี่มะเดี่ยวซึ่งเป็นหัวหน้าทีม พี่มะเดี่ยวรับแล้วชูมันขึ้นสูงๆ ท่ามกลางเสียงร้องอย่างยินดีของคนที่มาเชียร์ ทีมโรมิโอก็เดินเข้าไปจับมือเช็กแฮนด์กับทีมดิสทินีย์สเต็ปเหมือนกัน...ผมก็มองอะนะ มองไปดิ้นไป ฮ่าๆ...มีความสุขวะ โคตรมีความสุขเลย

แล้วจู่ๆ...พี่มะเดี่ยวแกก็แย่งไมค์ไปจากกรรมการ

“น้องสามครับ...เดินมาหาพี่หน่อยดิ” ทุกอย่างเริ่มอยู่ในความสงบอีกครั้ง ทั้งที่เมื่อกี้นี้ดิ้นจะเป็นจะตาย ผมก็เอ๋อนะ...เดินเข้าไปหาแบบเอ๋อๆ อะ

เหล่าผู้คนแหวกทางให้เดินมาหยุดอยู่หน้าเวที พี่มะเดี่ยวคืนไมค์ ส่งถ้วยรางวัลให้เพื่อนถือก่อนเขาจะกระโดดลงมากอดผมที่อุ้มความรักเอาไว้แนบแน่น ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมาย

“เอาแชมป์มาง้อแล้วนะ...” เสียงเขากระซิบอยู่ที่ข้างหู ผมใช้มือหนึ่งกอดเขาเอาไว้

“ผมหายโกรธแล้ว...”

“ดีใจอะ ไม่มีเราอยู่...เหงามากเลย” พี่มะเดี่ยวคลายกอด เขามองสบตากับผมในระยะประชิด

“อื้อ เหมือนกันครับ” พี่เขายิ้มกว้าง...ก่อนภาพตรงหน้าเลือนรางลงเพราะพี่เขาเข้ามาใกล้เกินไป

“ฮิ้วววว วี้ดวิ้ววววว”

“โห่....โอ้ยยยยยย ไอ้คนมีคู่” เสียงพี่เรย์ตะโกนลั่นมาก แม้จะมีเสียงเป่าปากแซ็วดังแค่ไหนก็ตามที

ผมอายนะ...แต่ผมแสดงออกอะไรไม่ได้มาก เพราะปากของผมถูกพี่มะเดี่ยวยึดครองไว้ เขาไม่ได้จาบจ้วงขนาดนั้น แต่ก็ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความรู้สึกคิดถึงมากมาย อ้อมกอดที่รัดแน่นทว่าอบอุ่น...ทำให้รู้ว่าเขาโหยหาผมขนาดไหน

แต่พี่ครับ...ความรักจะแบนตายไหม

“คร่อกๆ....” ไม่ทันไร ความรักก็ส่งเสียงออกมา พี่มะเดี่ยวผละกายออก เขาแย่งความรักไปอุ้ม จูบที่หน้าผากมันแล้วมองสบตาผม

“พี่มาดูแลความรักของเราแล้วนะ...” เขาต่อคำในวิดีโอ เอาเถอะ...เขินยังไงก็บึ้มตัวเองตายไม่ได้

“ต้องดูแลมันให้ดีมากๆ...นะครับ”

“แน่นอน พี่จะดูแลมันด้วยหัวใจของพี่เลยครับ” แล้วพี่มะเดี่ยวก็จูบปากผมอีก...พี่ไม่อายคนอื่นเหรอ

เออ ถ้าอายจะจูบผมแบบนี้ไหม...งั้น ผมก็ไม่อายละนะ

ผมโอบกอดรอบคอพี่มะเดี่ยว…สัมผัสถึงเรียวลิ้นและริมฝีปากที่ฉีกยิ้มหวาน เขามีความสุขจนน่าหมั่นไส้ หนำซ้ำผมยังรู้สึกมีความสุขมาตามเขาไปด้วย ผมตอบสนองต่อลิ้นของเขาราวกับตอนนี้คือช่วงเวลาของเราสองคน เสียงอื้ออึงด้านนอกมันดังจนเงียบไปเองในความรู้สึกของผม...ในตอนนี้กลายเป็นมีแค่เรากำลังแสดงความรัก ความโหยหาต่อกันและกันเท่านั้น

มันยังไม่พอหรอก...แต่เราค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก ผมไม่กล้ามองรอบด้าน ได้แต่เบี่ยงตาหาความรักที่อยู่ในแขนของพี่มะเดี่ยว มันทำจมูกฟุดฟิด ซุกไซ้แขนพี่เขาทั้งที่พี่เขากำลังสนใจผมอยู่แค่คนเดียว

เริ่มต้นจากมันไปเข้าห้องเขา…

เริ่มต้นจากเขาเข้าใจผมผิดเพราะเป็นห่วงมัน…

แต่ขอโทษนะ…ที่สุดท้ายเขาก็รักผมมากกว่ามัน

เอาเป็นว่ายังไงก็ขอบคุณที่ความรักชักนำพี่มะเดี่ยวเข้ามา...ผมไม่รู้ว่าอนาคตเราจะไปกันได้ตลอดไหมหรอกนะ แต่ความรักพาพี่มะเดี่ยวเข้ามาทำให้ผมรู้จักคำว่ารักจริงๆ มันเป็นยังไง มันไม่ลึกซึ้งอะไรเลย...มันแค่เป็นสิ่งที่คำพูดไม่สามารถอธิบายได้

ผมรู้แล้วรู้ว่า...ความรักก็เหมือนตด แม้ไม่เห็นแต่เรารู้ว่ามันมีอยู่จริงน่ะ...มันเป็นแบบนั้นจริงๆ นะ

….TheEnd….
เรื่องนี้เป็นฟิวกู๊ดเพียวๆ คือก่อนหน้านี้เราเขียนฟิวกู๊ดแต่มีสืบสวนมาปนๆ ตอนแรกกลัวมากว่าจะเขียนไม่ได้ แต่ในที่สุดมันก็สำเร็จลุล่วงมาได้ด้วยดี ทุกครั้งที่ได้เขียน…มันคือทุกครั้งที่เราได้หวนนึกถึงความทรงจำเก่าๆ เราเลิกเต้นมานานแล้วด้วยเหตุผลหลายอย่าง หลักๆ คือดูแลพ่อ คือถ้าทำงานด้วยเต้นด้วยเราจะไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ตอนหลังพ่อป่วยเราเลยทิ้งความฝันตัวเองเพื่ออยู่กับท่าน

การลงแข่งขันโบตี้คือความฝันของเรา แม้ว่าเราจะไปไม่ถึงฝันแต่วันนี้…เราเป็นนักเขียน เราไปถึงฝันได้แม้จะแค่จินตนาการ ขอบคุณพี่มะเดี่ยวที่น่ารัก ขอบคุณน้องสามที่น่าเอ็นดู และขอบคุณความรักตัวจุดประกายความคิดเรา

ขอบคุณทุกๆ คอมเมนต์มากค่ะ นิยายเรื่องนี้อาจจะไม่หวือหวา ไม่น่าตื่นเต้นและเรียบง่ายไปเสียหน่อย เราอยากเขียนความรักที่มันเข้าอกเข้าใจกัน จุดเริ่มต้นเราคือตอนอินโทรเรื่อง…เรามีแค่นั้นในตอนแรกที่คิดเรื่องนี้ ฮ่าๆ ขอบคุณนักอ่านทุกคนจริงๆ มีอะไรติติงได้นะคะ อะไรเราเอาไปปรับได้เราจะปรับ อะไรเราเอาไปพัฒนาต่อได้เราจะเอาไปพัฒนา

แล้วพบกันใหม่เรื่องหน้านะคะ ^^
เลิฟยูทุกคนเลยยยยย <3
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-01-2018 22:59:16
 :katai2-1: o13 o13 o13 :katai2-1:

 :กอด1: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-01-2018 23:01:09
 :L2: :L1: :pig4:

ความรักดีดี
มีความสุข
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 08-01-2018 23:11:08
ขอบคุณนิยายความรักดีๆนะคะ คงจะคิดถึงเดอะสาม กับดี่มะเดี่ยวแน่ๆ แอบมาต่อตอนพิเศษบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: tararatart ที่ 09-01-2018 00:49:46
 :L1: :a5: ขอบคุณค่ะ ชอบเรื่องนี้มากนะ  คอยอ่านทุกวันเลยเห็นผ่านตา ก๊อกๆต้องรีบกดเข้ามาอ่าน เป็นเรื่องที่ชิวๆนะ มีความเรื่อยๆของตัวละคร แต่มันน่ารัก ใจหายเน้อออออติดตามผลงานเรื่องต่อไปอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 09-01-2018 01:17:24
ขอบคุณไรท์มากๆนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 09-01-2018 01:50:41
ขอบคุณที่แต่งนะคะ เรื่องน่ารักมากๆเลย จะไปติดตามเรื่องใหม่เด้อ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 09-01-2018 03:41:54
โอ้โห อ่านจบตอนสุดท้ายนี่ถึงกับอุทานดังๆ ว่า เฮ้ย ไอ้หน้าด้าน 5555 จูบกันกลางฝูงประชาชีกันเลยเรอะ เอ้ยยยย ไทยแลนด์ 4.0 ไหมล่ะ ไม่เกรงใจใครทั้งนั้นแม้แต่ความรัก โถ่ววว น่าสงสารลูกหมูหน้าดำๆ ตัวนั้นจัง 5555
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-01-2018 05:55:56
 :pig4: :pig4: o13 o13 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-01-2018 06:11:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-01-2018 06:36:29
 :pig4: :pig4:
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-01-2018 07:51:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 09-01-2018 08:10:57
รู้สึกไม่ผิดหวังที่ตามอ่านจนจบ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-01-2018 09:36:24
 :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 09-01-2018 23:06:53
ชอบนิยายเรื่องนี้มาก ตอนแรกก็อ่านในธัญ(ส่วนมากก็เม้นแต่ในนั้น)จนถึงตอนที่28 พอกลับมาอ่านอีกทีในเล้า อ่าวจบซะล่ะทำไมดูเร็ว ชอบเรื่องนี้เพราะน้องหมูเลย แล้วได้ความรู้เรื่องเต้น จนอยากจะลุกขึ้นมาเต้นบีบอยมั้งแล้วเนี่ย(ฮาาาาา) ขอคุณสำหรับนิยายดีนะคะ จะติดตามผลงานเรื่องต่อๆไป :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Akanasan ที่ 13-01-2018 14:44:14
จบแร้ว แอบคิดถึงความรักอ่ะ อู้ดๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-01-2018 17:12:09
 :L2:

มีตอนพิเศษไหม คิดถึงสามจัง
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 13-01-2018 20:04:00
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 14-01-2018 16:14:49
อ่านยาวๆรวดเดียวเลย ขอบคุณมากน้าค้า
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: MoMoKoJaNg ที่ 16-01-2018 21:23:17
เข้าใจโซฮานนะ ถ้าเรารักใครสักคน เราจะอยากครอบครองเค้า แม้ตลอดเวลาตอนมีเค้าอยู่ข้างๆเราจะไม่ใส่ใจ จะมาเรียกร้องตอนเค้ามีคนของเค้าอะ แต่ที่ทำมันคือสิ่งไม่ถูกต้อง มันคือสิ่งที่ทำให้คนที่โซฮานบอกว่าโซฮานรักเค้าเจ็บปวดอะ ความรักคือการเห็นคนที่เรารักมีตวามสุข แม้จะไม่ได้ครอบครองเค้าก็ตาม...แต่มันก็ไม่ใช่กับทุกคนเสมอไปอะนะ


ขอบคุณที่แต่งเรื่องราวดีๆแบบนี้ ขอบคุณที่ทำให้ได้เห็นความน่ารักของสาม ขอบคุณที่ทำให้ได้เห็นพี่มะเดี่ยวในมุมต่างๆ ขอบคุณคนแต่งที่ทำให้เราได้รู้จักพี่มะเดี่ยว น้องสาม และความรัก ..... :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 24-01-2018 00:47:51
ขอบคุณมากค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: b2friend ที่ 24-01-2018 09:55:18
จบได้น่ารักมากกกกกกก   :mew1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 29-01-2018 19:11:31
ฝากนิยายเรื่องใหม่หน่อยนะค้าาาาา จากน้องหมูสายอ่อย ไปหาน้องแมวสายโหดกันบ้าง อิอิ

>…ปฏิบัติการณ์รักของพ่อเหมียว…<  รอทุกคนมาอ่านอยู่น้า~

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65843.0
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 02-02-2018 10:04:07
 o13
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 07-02-2018 20:18:51
ขอบคุณนิยายฟีลกู้ดดีดีอีกเรื่องค่า
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 16-02-2018 06:53:58
อ้ายยยยย รักพี่มะเดี่ยวกับน้องสามมากกก :impress2:
ความรักเป็นพ่อสื่อนะเนี้ย ทำให้สองคนนี้ได้มารักกัน อยากเลี้ยงสักตัวมั้งจัง 55555 ขอบคุณนิยายน่ารักๆดีๆนะค่าาา  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 19-02-2018 06:20:27
ความรัก(น้องหมูแคระ)น่ารักและน่าสงสารมาก โดนเจ้าของแกล้งตลอด 555

เวลาสามพาความรักไปซ้อมด้วย เราลุ้นมาก กลัวเวลาคนเยอะๆชุลมุนๆแล้วน้องหมูจะโดนเหยียบตาย อู๊ดดดดด

แอบจบห้วนไปนิดนึง น่าจะมีอีกสักตอนเพื่อส่งท้าย เช่น น้องสามจะฝึกเต้นต่อมั้ย พี่เดี่ยวกับพี่โซจะเป็นเพื่อนกันต่อหรือเปล่า ทีมชนะแล้วยังไงต่อ(มันเหมือนกีฬาอื่นไหมหว่า ที่ได้ไปแสดงตามงานต่างๆ หรือไปแข่งในระดับนานาชาติ) ฯ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 19-02-2018 21:51:08
โอ้ยน่ารัก ถึงจะมีมารผจญก็เหอะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 25-02-2018 11:01:56
โซฮานทำขนาดนี้ยังจะหวังความเป็นเพื่อนอีกหรอ โกหกตอแหล ใส่ร้าย ไม่ว่าจะเพราะอะไรไม่ควรทำกับเพื่อน ถ้ายังคบกันต่อเกิดมันทำแบบนี้อีกทำไง ไม่โอเคนะ ในส่วนของพระนายให้ผ่าน ทุกอย่างคือดี ขอบคุณนักเขียนที่แต่งให้อ่านจ้า
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 25-02-2018 21:09:34
ความรัก(น้องหมูแคระ)น่ารักและน่าสงสารมาก โดนเจ้าของแกล้งตลอด 555

เวลาสามพาความรักไปซ้อมด้วย เราลุ้นมาก กลัวเวลาคนเยอะๆชุลมุนๆแล้วน้องหมูจะโดนเหยียบตาย อู๊ดดดดด

แอบจบห้วนไปนิดนึง น่าจะมีอีกสักตอนเพื่อส่งท้าย เช่น น้องสามจะฝึกเต้นต่อมั้ย พี่เดี่ยวกับพี่โซจะเป็นเพื่อนกันต่อหรือเปล่า ทีมชนะแล้วยังไงต่อ(มันเหมือนกีฬาอื่นไหมหว่า ที่ได้ไปแสดงตามงานต่างๆ หรือไปแข่งในระดับนานาชาติ) ฯ

ขอบคุณคอมเมนต์มากนะคะ ส่วนนั้นเรากะว่าจะเอาไว้ในตอนพิเศษน่ะค่ะ แฮ่…ส่วนเรื่องการแข่งขันมันมีต่อในระดับต่อไป มีทิศทางของโซฮานและคู่พระนายแน่นอนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 11-03-2018 16:24:42
ความรักน่ารักมาก น่ารักจนอยากจะเลี้ยงหมูตามน้องสามเลย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 09-05-2018 18:03:29
ชุดเชื่อมโยงความรักครั้งนี้้
แสนจะน่ารักเหลือเกิน
ต้องขอบคุณความรักนะที่ซนเหลือใจ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 23-07-2018 22:02:30
ประชาสัมพันธ์สักเล็กน้อยนะคะ ตอนนี้เจ้าความรักเปิดพรีออเดอร์อย่างเป็นทางการแล้วค่า สามารถกดสั่งพรีออเดอร์ได้ในลิงก์ที่แนบมานะคะ ราคาเต็มอยู่ที่ 515บาท แต่ซื้อรอบพรีออเดอร์นะได้ในราคา 495บาทเองน้าาาาา อิอิ

ลิงก์พรีออเดอร์ค่ะ http://mazenovels.lnwshop.com/product/14/ก๊อกๆๆ-ขอโทษครับ-เห็นความรักไหม
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-08-2018 09:47:25
 :L2: :L1: :pig4:

ต้องนั่งสักษาก่อน
ทำไม่เป็น :ling1:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 22:36:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 24-12-2020 11:19:16
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 26-12-2020 19:41:48
น่ารักมาก
อ่านรวดเดียวจบเลย
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 30-12-2020 19:48:37
 :m3: :give2: :-[

น่ารัก~~~

สามร้ายลึกมากจัดการได้สุดอ่ะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 02-01-2021 22:55:21
เรื่องนี้น่ารักมากเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ก๊อกๆ ขอโทษครับ เห็นความรักไหม? ❤️ตอนที่ 58 [จบบริบูรณ์]❤️ -8/1/61-
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 08-01-2021 21:02:25
น่ารักมากๆเลยครับ  โคตรชอบ